The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nunpat.2014, 2022-06-09 03:31:59

แผน ป.1

แผน ป.1

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น

ชื่อนกั เรยี น................................................................ชั้น..............ภาคเรยี นท่ี...........ปีการศึกษา..............

ค�ำชี้แจง การบนั ทึกใหใ้ สเ่ ครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรมท่เี กดิ ข้นึ จริง

ท่ี พฤตกิ รรม เปน็ ประจ�ำ ระดับการปฏิบัติ ไม่ท�ำเลย/
(๓) บางครงั้ น้อยครง้ั ไม่ชัดเจน

(๒) (๑) (๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหนา้ ท่กี ารงาน
๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัตหิ น้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย
๓ ทำ� งานดว้ ยความเพียรพยายาม
๔ รู้จักแกป้ ัญหาในการท�ำงานเมื่อมอี ปุ สรรค
๕ อดทนเพือ่ ให้งานส�ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
๖ ปรับปรงุ และพัฒนาการท�ำงานให้ดขี ึน้ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ

ลงชื่อ............................................ผู้ประเมนิ
(..........................................)

เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตัดสิน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึง
ระดบั คุณภาพ ต�่ำกวา่ ๒ คะแนน
ดีเย่ยี ม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมิน ข้อใดขอ้ หนง่ึ
ต่ำ� กว่า ๐ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมิน ขอ้ ใดข้อหน่ึง
ตำ่� กว่า ๐ คะแนน
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

ไม่ผ่าน

44 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกนั การทุจรติ ”

แบบประเมินลักษณะอนั พึงประสงค์

ชือ่ -นามสกุลผู้เรยี น....................................................................ชนั้ .............................เลขที่.....................

ค�ำช้ีแจง ให้ครสู งั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น ๓๒๑๐
อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง
๑. ใช้ทรัพยส์ ินและส่ิงของโรงเรยี นอย่างประหยัด

๒. ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คณุ คา่

๓. ใชจ่ ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ

๔. ไมเ่ ห็นแกต่ ัว

คะแนน

สรปุ ผลคะแนน

ลงช่อื .....................................................ผปู้ ระเมนิ
(....................................................)
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิชดั เจนและสม�ำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัติบางคร้ัง ให้ ๑ คะแนน
พฤติกรรมที่ไม่ปฏิบตั ิ ให้ ๐ คะแนน

สรุปเกณฑก์ ารประเมิน
£ ดมี าก ได้ ๑๐-๑๒ คะแนน

£ ด ี ได้ ๗-๙ คะแนน
£ พอใช ้ ได้ ๔-๖ คะแนน
£ ปรบั ปรุง ได ้ ๐-๓ คะแนน

ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ 45

แผนการจดั การเรียนรู้

หน่วยท่ี ๑ ชื่อหน่วย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ เรอ่ื ง ระบบคดิ ฐานสอง : การประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจำ� วนั เวลา ๒ ชั่วโมง
(ภายในบ้าน, ห้องเรยี น)
๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
๑.๒ สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมได้
๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
นักเรียนสามารถนำ� ระบบคิดฐานสอง ไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจ�ำวัน (ภายในบ้าน,หอ้ งเรยี น) ได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
ระบบการคิดฐานสอง เป็นวิธีคิดท่ีส่งผลถึงพฤติกรรม มุมมอง และทัศนคติของมนุษย์
ซ่ึงวิธีการน�ำมาปรับใช้ในชีวิตประจ�ำวันของระบบคิดฐานสอง เช่น ไม่แทรกแถวเพ่ือรับอาหารหรือนม
ไมข่ ดี เขยี นตามฝาผนังในหอ้ งเรยี น ไมเ่ ลน่ ของเล่นแลว้ ไม่ต้องเก็บเขา้ ที่ เปน็ ต้น
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ
๑) ความสามารถในการสื่อสาร
๑.๑ การสนทนาถาม-ตอบ
๑.๒ การท�ำใบงาน
๒) ความสามารถในการคิด
การบอกวิธีการนำ� ระบบคดิ ฐาน ๒ ไปใช้ในชวี ิตประจำ� วนั
๓.๓ คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์
อยู่อย่างพอเพียง
๔. กิจกรรมการเรยี นรู้
๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้
ชวั่ โมงท่ี ๑
๑) ครเู ปิดคลปิ วีดโี อ เรอ่ื ง ไม่แซงควิ กเ็ รว็ ได้ ของส�ำนกั งานผตู้ รวจการแผน่ ดนิ ใหน้ กั เรียนดู
แลว้ สนทนาร่วมกนั โดยใชค้ �ำถาม ดังต่อไปนี้
๑.๑ เรอื่ งที่นกั เรยี นดเู กดิ ข้ึนที่ไหน
๑.๒ เกดิ เหตุการณ์อะไรขึ้นบา้ ง
๑.๓ นกั เรยี นอยากเป็นเหมอื นตวั ละครนนั้ ไหม เพราะอะไร
๑.๔ ถา้ นักเรียนโดนกระท�ำเหมอื นในคลิปวดี โี อดงั กล่าวจะรสู้ ึกอย่างไร

46 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การปอ้ งกนั การทุจริต”

๒) ครใู หน้ ักเรียนแบง่ เป็นกลุ่ม ๆ ละ ๓-๔ คน พร้อมแจกใบความรู้ เรื่องตัวอยา่ งระบบคิด
ฐานสอง ใหร้ ่วมกันคิด ตวั อยา่ งพฤตกิ รรมทบ่ี ง่ ช้ีของระบบคดิ ฐาน ๒ จากเรือ่ งของตวั เองหรือคนใกล้ตัว
ตามความเข้าใจของนกั เรยี น ๓ เหตุการณ์ และครูเขียนตัวอย่างดงั กล่าวบนกระดาน
๓) ครแู จกใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง ส�ำรวจระบบคดิ ฐานสอง ใหน้ ักเรียนทำ� และร่วมกันสรปุ ส่งิ ที่
เรียนไปในวันน้ี
ชัว่ โมงที่ ๒
๑) ครูยกตัวอย่างสถานการณ์เรื่องการเรียนตอนลูกสอบไม่ติดท�ำอย่างไรดี ให้นักเรียนฟัง
แล้วสนทนารว่ มกนั ดงั น้ี

ในวันนเี้ ปน็ การเลือกต้งั หวั หนา้ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ มีผ้ลู งสมัคร ๒ คน คือ เด็กหญิง
พอเพียง เกง่ การคิด และเด็กชายเพิม่ พูน ทวสี ขุ สองคนน้ีมลี กั ษณะนิสยั ท่ีแตกต่างกัน เด็กหญิง
พอเพยี ง เก่งการคดิ เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน เช่อื ฟังคณุ ครู ส่วนเด็กชายเพม่ิ พูน ทวสี ขุ ไมต่ ง้ั ใจเรยี น
ชอบแกลง้ เพ่อื น กอ่ นการเลือกตง้ั หนึ่งวนั เดก็ ชายเพ่ิมพูนน�ำของขวัญมาจากเพ่อื น ๆ ในหอ้ งคนละ
๑ ชน้ิ แตเ่ พ่ือน ๆ ทุกคนไมย่ อมรบั ของขวญั นน้ั เพราะคิดว่าเด็กชายเพม่ิ พูนน�ำมาแจกเพราะอยาก
ให้เลอื กตนเปน็ หวั หน้าจึงปฏเิ สธไป เด็กชายเพม่ิ พูนรู้สึกผิดหวังกับสิง่ ท่ีตนเองทำ� มาก เพราะท�ำให้
ไมม่ เี พอ่ื นคนไหนเลอื กตนเองเปน็ หวั หนา้ เลย สรปุ ผลการเลอื กตงั้ ออกมาเดก็ หญงิ พอเพยี ง เกง่ การ
คดิ เปน็ ผูช้ นะการคัดเลือกเป็นหวั หน้าชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑
๑.๑ ถา้ นักเรียนเป็นเด็กชายเพมิ่ พนู ทวสี ุข นกั เรยี นจะท�ำเชน่ นหี้ รือไม่ เพราะอะไร
๑.๒ เพราะอะไรเพ่ือน ๆ ถงึ ไม่รบั ของขวัญจากเดก็ ชายเพมิ่ พูน ทวสี ขุ
๑.๓ นักเรียนมวี ธิ กี ารแกไ้ ขพฤตกิ รรมของเดก็ ชายเพิ่มพนู ทวสี ุข อย่างไร
๒) นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภิปราย และสรุปเก่ยี วกับสถานการณต์ วั อย่าง
๓) นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สนทนาและหาสถานการณ์ ตัวอยา่ งใกลต้ ัวของอืน่ ๆ ของระบบ
คิดฐานสอง
๔) ใหน้ กั เรยี นเขยี นสง่ิ ทค่ี วรปฏบิ ตั ลิ งในใบงานที่ ๒ เรอ่ื งประยกุ ตใ์ ชร้ ะบบคดิ ฐานสอง คนละ
๑ ขอ้ แล้วตดิ ทีป่ ้ายนเิ ทศหนา้ หอ้ งเรียน
๕) นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ตวั อยา่ งของระบบคดิ ฐานสอง จากการนำ� เสนอ วา่ สง่ิ ใดควร
หรอื ไม่ควรปฏบิ ตั ิ และมีผลกระทบกับคนรอบขา้ งอยา่ งไรบ้าง
๔.๒ สื่อการเรยี นรู้
๑) คลิปวีดีโอ เร่ือง ไม่แซงคิวก็เร็วได้ จาก https://www.youtube.com/watch?v
=AYbjiII02JE
๒) ใบความรู้ เรื่อง ตัวอยา่ งระบบคดิ ฐานสอง
๓) ตวั อยา่ งสถานการณ์

ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ 47

๔) ป้ายนเิ ทศ
๕) ใบงานที่ ๑ เรอื่ ง ส�ำรวจระบบคิดฐานสอง
๖) ใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง ประยกุ ต์ใชร้ ะบบคดิ ฐานสอง
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมิน
๑) ตรวจใบงาน
๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น
๕.๒ เครื่องมือทใ่ี ช้ในการประเมิน
๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน
๕.๓ เกณฑ์การประเมิน
นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ถอื ว่า ผ่าน
๖. บันทึกหลังสอน
........................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ................................................ครูผู้สอน
(.................................................)

48 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

๗. ภาคผนวก ใบความรู้

เรื่อง ตวั อยา่ งระบบคิดฐานสอง

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 49

ใบงานท่ี ๑

เร่ือง ส�ำรวจพฤติกรรมระบบคดิ ฐานสอง
ค�ำชี้แจง ให้นักเรยี นใสเ่ คร่ืองหมาย  ในขอ้ ที่นกั เรยี นเคยพบเจอหรือเคยมีประสบการณ์มาแล้ว

ข้อ รายการพฤติกรรม การปฏิบตั ิ
เคย ไม่เคย
๑ นำ� ไม้กวาดของโรงเรียนไปใช้ทบ่ี า้ น
๒ หยบิ ของเล่นในห้องเรยี นกลบั ไปเล่นที่บา้ นโดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาตจากครู
๓ น�ำส่ิงของเพอ่ื นมาเป็นของตนเอง
๔ ชอบท�ำของใชส้ ่วนรวมพงั เสียหาย
๕ ชอบขีดเขยี นตามฝาผนังในห้องเรียน

รวมคะแนน
สรปุ

ชอื่ กลุม่ ที ่ ชน้ั เลขท่ี

50 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพิม่ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจริต”

ใบงานที่ ๒

เรือ่ ง ประยกุ ต์ใชร้ ะบบคิดฐาน ๒
ค�ำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นพฤตกิ รรมทพี่ งึ ปฏบิ ตั ใิ นการนำ� ระบบคดิ ฐานสอง ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั (๑๐ คะแนน)

ตอ่ ไปนี้ หนจู ะ.................................... ตอ่ ไปนี้ หนจู ะ....................................
.......................................................... ..........................................................
.......................................................... ..........................................................
.......................................................... ..........................................................
.......................................................... ..........................................................
.......................................... ..........................................

ชือ่ ช้นั เลขท่ี
ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 51

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนท่ีได้ สรปุ ผล
สรปุ (๑๐ ค�ำแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน

๒ ลงชอ่ื .........................................ผูต้ รวจ
๓ (........................................)






๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐





เกณฑ์การประเมนิ
ได้คะแนนรวม ๘ คะแนนขึ้นไป ถือว่า ผ่าน (ขอ้ ละ ๒ คะแนน)

52 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเติม การป้องกนั การทุจรติ ”

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น

ช่อื นกั เรยี น................................................................ชนั้ ..............ภาคเรียนที.่ ..........ปกี ารศึกษา..............

ค�ำช้แี จง การบนั ทึกใหใ้ ส่เครื่องหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤติกรรมทเ่ี กิดขน้ึ จรงิ

ท่ี พฤติกรรม เปน็ ประจ�ำ ระดบั การปฏิบัติ ไมท่ �ำเลย/
(๓) บางครัง้ น้อยครงั้ ไม่ชดั เจน

(๒) (๑) (๐)

๑ มีความรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ีการงาน
๒ ตัง้ ใจและเอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทีท่ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย
๓ ท�ำงานดว้ ยความเพียรพยายาม
๔ รู้จักแกป้ ญั หาในการท�ำงานเมอื่ มีอุปสรรค
๕ อดทนเพื่อใหง้ านส�ำเร็จตามเปา้ หมาย
๖ ปรับปรุงและพฒั นาการทำ� งานใหด้ ีข้นึ ดว้ ยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงชอื่ ............................................ผู้ประเมนิ
(..........................................)

เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตดั สิน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมิน ขอ้ ใดข้อหนึ่ง
ระดบั คณุ ภาพ ต�ำ่ กว่า ๒ คะแนน
ดีเยย่ี ม ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ
ตำ่� กว่า ๐ คะแนน
ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมิน ขอ้ ใดขอ้ หนึง่
ต�่ำกว่า ๐ คะแนน
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

ไม่ผา่ น

ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 53

แบบประเมนิ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ชอื่ -นามสกุลผ้เู รียน....................................................................ชัน้ .............................เลขท่.ี ....................

ค�ำชแ้ี จง ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พึงประสงค์ด้าน ๓๒๑๐
อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๑. ใช้ทรัพยส์ นิ และสิ่งของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด
๒. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ คา่
๓. ใชจ่ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
๔. ไม่เห็นแกต่ ัว

คะแนน
สรุปผลคะแนน

ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมิน
(....................................................)
เกณฑก์ ารให้คะแนน
พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติชัดเจนและสมำ่� เสมอ ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน
พฤติกรรมทไี่ ม่ปฏบิ ัต ิ ให้ ๐ คะแนน

สรุปเกณฑก์ ารประเมนิ
£ ดีมาก ได้ ๑๐-๑๒ คะแนน

£ ด ี ได้ ๗-๙ คะแนน
£ พอใช้ ได้ ๔-๖ คะแนน
£ ปรบั ปรุง ได้ ๐-๓ คะแนน

54 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

แผนการจัดการเรยี นรู้

หน่วยท่ี ๑ ชื่อหน่วย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรื่อง ระบบคดิ ฐานสิบ : ความหมายและพฤตกิ รรม เวลา ๒ ชั่วโมง
แบบระบบคิดฐานสบิ (ภายในบ้าน, ห้องเรยี น)

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมได้
๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกความหมายระบบคดิ ฐานสบิ (ภายในบ้าน,หอ้ งเรียน) ได้
๒.๒ นักเรยี นสามารถบอกพฤติกรรมแบบระบบคิดฐานสิบ (ภายในบา้ น,หอ้ งเรียน) ได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
“ระบบคดิ ฐานสบิ (Analog)” คอื โอกาสทม่ี ที างเลอื กหลายทาง มกั เหน็ แกป่ ระโยชนส์ ว่ นตน
มากกวา่ ประโยชนส์ ว่ นรวม แยกแยะไม่ออกว่าสิง่ ใดควรปฏบิ ัตสิ ิง่ ใดไมค่ วรปฏิบัติ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก
ของระบบคดิ ฐาน ๑๐ เชน่ เปดิ พดั ลมแลว้ ลอ็ กไวค้ นเดยี วไมใ่ หผ้ อู้ น่ื เอาผลงานของเพอื่ นมาเปน็ ของตนเอง
รับส่งิ ของเพ่ือแลกกบั คะแนนเสียงเลือกต้งั ต่าง ๆ เปน็ ตน้
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ
๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร
๑.๑ การสนทนาถาม-ตอบ
๑.๒ การทำ� ใบงาน
๒) ความสามารถในการคิด
การบอกพฤติกรรมท่ีแสดงออกของระบบคดิ ฐาน ๑๐
๓.๓ คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
อยู่อย่างพอเพียง
๔. กจิ กรรมการเรียนรู้
๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้
ช่วั โมงที่ ๑
๑) ครูให้นักเรียนดูวีดีโอเร่ือง “เด็กดี Vs เด็กไม่ดี” จากน้ันสนทนาร่วมกันโดยใช้ค�ำถาม
ดังต่อไปนี้
๑.๑ จากเร่ือง นักเรียนอยากเปน็ เดก็ คนไหน เพราะเหตุใด
๑.๒ ทำ� ไมนกั เรยี นจึงไมอ่ ยากเปน็ เด็กไม่ดี
๑.๓ เด็กไมด่ ใี นเร่อื งทำ� พฤติกรรมอะไรบา้ ง

ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 55

๒) ครเู ขยี นความหมายของค�ำวา่ ระบบคิดฐานสิบ บนกระดาน จากนน้ั ให้นักเรียนช่วยกนั
อ่านความหมายของคำ� วา่ ระบบคิดฐาน ๑๐ พร้อมอธิบายความหมายของคำ� เพมิ่ เติม
๓) ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างพฤติกรรมท่ีแสดงออกของระบบคิดฐานสิบ และเขียนบน
กระดาน
๔) ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ กลุม่ ๆ ละ ๕-๖ คน จากนัน้ ครูแจกใบงานที่ ๑ เร่อื ง ระบบคิดฐานสบิ
โดยให้นักเรยี นบอกพฤติกรรมใกล้ตัวทแี่ สดงออกของระบบคดิ ฐานสิบ
ชัว่ โมงท่ี ๒
๑) ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้ท่ีได้เรียนไปในช่ัวโมงท่ีแล้วเกี่ยวกับความหมาย
และพฤติกรรมระบบคดิ ฐานสิบ
๒) ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนนำ� เสนอผลงานเกย่ี วกบั พฤตกิ รรมทแี่ สดงออกถงึ ระบบคดิ ฐานสบิ
๓) ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความหมายจากการนำ� เสนอ เรอ่ื งความหมายของระบบคดิ
ฐานสบิ
๔) ครยู กตวั อยา่ งสถานการณใ์ กลต้ วั ของระบบคดิ ฐานสบิ แลว้ สนทนารว่ มกนั โดยใชค้ ำ� ถาม
ดงั น้ี

เดก็ ชายน�ำโชค พาสขุ เป็นนกั กฬี าของโรงเรียน ทกุ เย็นเดก็ ชายน�ำโชคจะนำ� ฟตุ บอลของ
โรงเรียนไปเล่นท่บี า้ นเป็นประจ�ำทกุ วัน บางวนั กล็ ืมเอามาสง่ คืน
๔.๑ นกั เรียนคิดวา่ เดก็ ชายนำ� โชคท�ำถกู ต้องหรือไม่ เพราะอะไร
๔.๒ นกั เรียนจะทำ� แบบเดก็ ชายน�ำโชคหรือไม่ เพราะอะไร
๕) ให้นักเรียนแจกกระดาษให้นักเรียนคนละ ๑ แผ่น เพ่ือให้นักเรียนร่วมกันเขียนข้อ
ความพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกของระบบการคิดฐานสบิ ท่ไี ม่ควรปฏิบัติ พร้อมกับตกแต่งใหส้ วยงาม
๖) ครนู ำ� ปา้ ยรณรงคท์ คี่ รเู ตรยี มไว้ ในหัวข้อ “ระบบคิดฐานสิบ เปน็ อย่างไรใครรูบ้ า้ ง” จาก
นั้นใหน้ กั เรยี นท�ำปา้ ยของตนเองมาติดตามทปี่ า้ ยหนา้ หอ้ งเรียน เช่น น�ำไม้กวาดของโรงเรียนไปใชท้ ี่บา้ น
ชอบลอกการบ้าน น�ำผลงานของเพอื่ นมาเปน็ ของตนเอง แซงควิ ในการรับอาหาร เป็นตน้
๗) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับความหมายและพฤติกรรมท่ีแสดงออก
ของระบบคิดฐาน ๑๐
๔.๒ สื่อการเรียนรู้
๑) วดี ีโอเรื่อง “เด็กดี Vs เดก็ ไม่ดี”
๒) ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง ระบบคดิ ฐานสบิ
๓) สถานการณ์ใกลต้ วั
๔) กระดาษ
๕) ปา้ ยรณรงค์
56 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพ่มิ เตมิ การปอ้ งกันการทุจริต”

๕. การประเมินผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมิน
๑) ตรวจใบงาน
๒) สงั เกตพฤติกรรมนักเรียน
๕.๒ เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ
๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน
๕.๓ เกณฑก์ ารประเมนิ
นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ถือว่า ผ่าน
๖. บันทกึ หลงั สอน
........................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงช่ือ................................................ครูผู้สอน
(.................................................)

ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 57

๗. ภาคผนวก

เพลง เด็กดี Vs เดก็ ไม่ดี

ท่มี า : https://www.youtube.com/watch?v=-PJ8ypPRmbE


58 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเตมิ การป้องกนั การทจุ รติ ”

ใบงานท่ี ๑

เร่อื ง ระบบคดิ ฐานสิบ
ค�ำช้ีแจง ให้นักเรียนบอกพฤตกิ รรมใกลต้ ัวท่ีแสดงออกของระบบคดิ ฐานสิบ

พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก
ของ

ระบบการคดิ ฐาน ๑๐

ชอ่ื ชั้น เลขท่ ี
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 59

แบบตรวจให้คะแนนใบงาน

เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ คะแนนทไี่ ด้ สรปุ ผล
สรุป (๑๐ ค�ำแนน) ผ่าน ไมผ่ า่ น

๒ ลงช่ือ.........................................ผู้ตรวจ
๓ (........................................)






๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐





เกณฑ์การประเมิน
นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น (ตอบถกู ๕ ขอ้ ๆ ละ ๒ คะแนน)

60 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกันการทุจริต”

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น

ช่อื นกั เรยี น................................................................ชนั้ ..............ภาคเรียนที.่ ..........ปกี ารศึกษา..............

ค�ำช้แี จง การบนั ทึกใหใ้ ส่เครื่องหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤติกรรมทเ่ี กิดขน้ึ จรงิ

ท่ี พฤติกรรม เปน็ ประจ�ำ ระดบั การปฏิบัติ ไมท่ �ำเลย/
(๓) บางครัง้ น้อยครงั้ ไม่ชดั เจน

(๒) (๑) (๐)

๑ มีความรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ีการงาน
๒ ตัง้ ใจและเอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทีท่ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย
๓ ท�ำงานดว้ ยความเพียรพยายาม
๔ รู้จักแกป้ ญั หาในการท�ำงานเมอื่ มีอุปสรรค
๕ อดทนเพื่อใหง้ านส�ำเร็จตามเปา้ หมาย
๖ ปรับปรุงและพฒั นาการทำ� งานใหด้ ีข้นึ ดว้ ยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงชอื่ ............................................ผู้ประเมิน
(..........................................)

เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตดั สิน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมิน ขอ้ ใดข้อหนึ่ง
ระดบั คณุ ภาพ ต�ำ่ กว่า ๒ คะแนน
ดีเยย่ี ม ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ
ตำ่� กว่า ๐ คะแนน
ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมิน ขอ้ ใดขอ้ หนึง่
ต�่ำกว่า ๐ คะแนน
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

ไม่ผา่ น

ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 61

แบบประเมนิ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ชอื่ -นามสกุลผ้เู รียน....................................................................ชัน้ .............................เลขท่.ี ....................

ค�ำชแ้ี จง ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พึงประสงค์ด้าน ๓๒๑๐
อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๑. ใช้ทรัพยส์ นิ และสิ่งของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด
๒. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ คา่
๓. ใชจ่ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
๔. ไม่เห็นแกต่ ัว

คะแนน
สรุปผลคะแนน

ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมิน
(....................................................)
เกณฑก์ ารให้คะแนน
พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติชัดเจนและสมำ่� เสมอ ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ ๑ คะแนน
พฤติกรรมทไี่ ม่ปฏบิ ัต ิ ให้ ๐ คะแนน

สรุปเกณฑก์ ารประเมนิ
£ ดีมาก ได้ ๑๐-๑๒ คะแนน

£ ด ี ได้ ๗-๙ คะแนน
£ พอใช้ ได้ ๔-๖ คะแนน
£ ปรบั ปรุง ได้ ๐-๓ คะแนน

62 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

แผนการจดั การเรียนรู้
หนว่ ยท่ี ๑ ชอ่ื หน่วย การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๘ เรือ่ ง ระบบคดิ ฐานสิบ : สถานการณใ์ กลต้ วั เวลา ๒ ชวั่ โมง
(ภายในบ้าน, หอ้ งเรยี น)

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมได้
๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ นกั เรยี นรจู้ กั คดิ แยกแยะพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกแบบระบบคดิ ฐานสบิ (ภายในบา้ น, หอ้ งเรยี น) ได้
๒.๒ นักเรยี นยกตัวอยา่ งพฤติกรรมทแี่ สดงออกแบบระบบคิดฐานสิบ (ภายในบา้ น,ห้องเรยี น) ได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
การคิดแยกแยะพฤติกรรมทไ่ี มค่ วรปฏบิ ัติของ “ระบบคดิ ฐานสิบ (Analog)” นนั้ คือ โอกาส
ทมี่ ีทางเลอื กหลายทาง มกั เหน็ แกป่ ระโยชน์สว่ นตนมากกว่าประโยชนส์ ่วนรวม แยกแยะไม่ออกว่าสง่ิ ใด
ควรปฏบิ ตั สิ งิ่ ใดไมค่ วรปฏบิ ตั ิ พฤตกิ รรมทแี่ สดงออกของระบบคดิ ฐานสบิ ทไี่ มค่ วรปฏบิ ตั ิ เชน่ นำ� ไมก้ วาด
ของโรงเรยี นไปใชท้ ีบ่ า้ น ไมป่ ดิ กอ๊ กน�้ำหลังจากเลกิ ใช้ เอาผลงานของเพ่ือนมาเปน็ ของตนเอง รับสิ่งของ
เพอ่ื แลกกบั คะแนนเสยี งเลอื กตัง้ ตา่ ง ๆ เป็นตน้
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ
๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร
๑.๑ การสนทนาถาม-ตอบ
๑.๒ การท�ำใบงาน
๒) ความสามารถในการคดิ
การคิดแยกแยะพฤตกิ รรมท่ีไม่ควรปฏิบัติของ “ระบบคิดฐานสิบ (Analog)”
๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์
มุง่ ม่ันในการท�ำงาน
๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้
๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้
ช่วั โมงที่ ๑
๑) ครูน�ำเข้ากจิ กรรมดว้ ยการบรหิ ารสมองโดยใชก้ ิจกรรม Brain Gyms เพลง จำ� จำ� จ�ำ
๒) ครทู บทวนเกย่ี วกบั ความหมายและพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกของระบบคดิ ฐานสบิ ทไ่ี ดเ้ รยี น
ไปเมือ่ ชวั่ โมงที่แลว้

ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ 63

๓) ครูน�ำภาพ ๒ ภาพ (ภาพท่ี ๑ ชว่ ยคณุ แม่ล้างจาน , ภาพที่ ๒ เลน่ เกม) มาให้นกั เรยี นดู
แลว้ สนทนารว่ มกนั โดยใชค้ �ำถาม ดังน้ี
๓.๑ ภาพที่นกั เรยี นเห็นนี้เปน็ ภาพอะไร
๓.๒ พฤติกรรมทีแ่ สดงออกเปน็ อยา่ งไร
๓.๓ นักเรียนคิดวา่ ภาพใดไม่ควรปฏิบัติ และภาพใดควรปฏิบัติ เพราะเหตุใด
๓.๔ ภาพใดส่ือถงึ ระบบการคิดฐานสิบ
๔) ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างพฤติกรรมท่ีแสดงของระบบคิดฐานสิบ ภายในห้องเรียน
แลว้ เขียนลงบนกระดาน เชน่
๔.๑ ลอกการบา้ นเพ่ือน
๔.๒ นำ� ผลงานเพอ่ื นมาเป็นของตนเอง
๔.๓ หยบิ ของเลน่ ในหอ้ งเรียนกลับไปเล่นทบ่ี า้ นไดโ้ ดยไม่ไดร้ ับอนุญาตจากครู
๔.๔ แซงแถวสง่ งานครู
๕) ครูแจกใบความรู้ เร่อื งระบบการคดิ ฐานสิบ ให้นักเรยี นศึกษา
๖) ครใู ห้นักเรยี นท�ำใบงานที่ ๑ เร่อื ง ระบบคิดฐานสิบ โดยใหบ้ อกพฤติกรรมใดเป็นระบบ
คิดฐานสิบที่ไมค่ วรปฏบิ ัติ
ช่วั โมงท่ี ๒
๑) ครสู มุ่ นกั เรยี นเพอ่ื ออกมานำ� เสนอหนา้ ชนั้ เรยี น และรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกบั การนำ� เสนอ
๒) ครแู จกรปู สตกิ๊ เกอรด์ าวสแี ดง และดาวสเี ขยี ว ใหก้ บั นกั เรยี นคนอยา่ งละ ๑ อนั
๓) ครูจัดทำ� ภาพท่แี สดงพฤตกิ รรมระบบคิดฐานสบิ จ�ำนวน ๑ ภาพ มาติดบนกระดาน
๔) ให้นักเรียนน�ำรูปสติ๊กเกอร์ดาวท่ีได้รับไปมาติดบนกระดาน โดยถ้าคิดว่าเป็นตรง
พฤติกรรมระบบคดิ ฐานสิบ ทไ่ี ม่ควรปฏบิ ตั ิ ให้ตดิ ดาวสีแดง และถ้าคิดพฤตกิ รรมระบบคดิ ฐานสิบ
ที่เห็นนั้นควรปฏบิ ตั หิ รือปฏบิ ัติได้ให้ตดิ ดาวสีเขียว (ให้นักเรียนตดิ ดาวได้เพียงดวงเดยี วเท่านนั้ )
๕) จากนน้ั ครนู บั จำ� นวนดาวแตล่ ะสวี า่ มจี ำ� นวนเทา่ ใด พรอ้ มทง้ั อธบิ ายถงึ การตดิ ดาวแตล่ ะดวง
ว่าดาวสีแดงคือพฤติกรรมระบบคิดฐานสิบ ที่นักเรียนไม่ควรปฏิบัติ ส่วนดาวสีเขียวคือพฤติกรรมระบบ
การคดิ ฐานสบิ ท่ีนักเรียนคิดว่าปฏิบัตไิ ด้
๖) ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนว่าสามารถแยกแยะภาพได้หรือไม่ ว่าภาพท่ีเห็นเป็น
ระบบการคิดฐานสิบ หรือไมใ่ ช่ระบบการคดิ ฐานสิบ
๗) ครูแจกใบงานที่ ๒ เรื่องระบบคิดฐานสอง ให้นักเรียนท�ำแลว้ นำ� มาสง่
๘) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปองค์ความรูเ้ รอื่ งพฤตกิ รรมตัวอยา่ งระบบการคดิ ฐานสิบ

64 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกนั การทจุ ริต”

๔.๒ สื่อการเรียนรู้
๑) เพลงจำ� จ�ำ จ�ำ จาก https://www.youtube.com/watch?v=๐iT37Xx_RUE
๒) ภาพเด็กช่วยคณุ แมล่ ้างจาน และเด็กเลน่ เกม
๓) ใบความรู้ เร่ืองระบบการคดิ ฐานสบิ
๔) ใบงานที่ ๑ เรื่อง สำ� รวจพฤตกิ รรมระบบคิดฐานสิบ
๕) ใบงานท่ี ๒ เรอ่ื งระบบคิดฐานสบิ
๖) สต๊กิ เกอรด์ าวสีแดง และดาวสเี ขียว
๗) ภาพทแ่ี สดงพฤตกิ รรมระบบคิดฐานสิบ
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ
๑) ตรวจใบงาน
๒) สงั เกตพฤติกรรมนักเรียน
๕.๒ เครื่องมอื ทีใ่ ช้ในการประเมิน
๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น
๕.๓ เกณฑก์ ารประเมิน
นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไป ถือว่า ผา่ น
๖. บันทกึ หลงั สอน
........................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
................................................... ..............................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงช่ือ................................................ครผู ้สู อน
(.................................................)

ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ 65

๗. ภาคผนวก เพลงจ�ำ จ�ำ จ�ำ


Brain Gym for kid Brain Based Learning
จ�ำ จ�ำ จ�ำ บอกให้จำ� ทำ� ไมถึงลมื
ลืม ลืม ลืม บอกให้ลมื ท�ำไมถึงจำ�
มันชั่งน่าข�ำ มันชั่งนา่ ข�ำ บอกใหจ้ ำ� ทำ� ไมถงึ ลมื
บอกใหล้ มื ท�ำไมถงึ จ�ำ

แหล่งข้อมูล : https://www.youtube.com/watch?v=๐iT37Xx_RUE

66 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การป้องกันการทุจริต”

ภาพเดก็ ช่วยคณุ แมล่ า้ งจาน
ภาพเล่นเกม

ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 67

ใบงานท่ี ๑

เรื่อง ระบบคดิ ฐานสิบ
ค�ำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นระบายสแี ดงลงใน ใหต้ รงกบั ขอ้ ความพฤตกิ รรมการแสดงออกของระบบคดิ ฐาน
สบิ และระบายสีเขียวใน ตรงกับข้อความพฤตกิ รรมทีไ่ มใ่ ช่ระบบคดิ ฐานสบิ

ไมป่ ิดก๊อกนำ�้ ทุกครง้ั หลังใช้งาน หยิบของเล่นในหอ้ งไปเลน่ ที่บา้ น

เข้าแถวรอส่งการบ้านอยา่ งเป็นระเบียบ ไม่ทิง้ ขยะลงในถงั ขยะ

เปดิ พดั ลมแลว้ ไม่ปดิ ลอกการบ้านเพอื่ น

ติดเกม แกล้งเพอื่ น

นำ� กบเหลาดนิ สอของหอ้ งเรยี นไปใชท้ ่ีโตะ๊ ตนเอง ท�ำลายโตะ๊ เก้าอ้ี ของโรงเรียน

ชื่อ ชนั้ เลขท่ ี

68 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เติม การปอ้ งกนั การทุจริต”

ตวั อย่างสติ๊กเกอรด์ าว
ดาวสีแดง
ดาวสเี ขยี ว

ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 69

ใบความรู้

เร่อื ง ตวั อย่างระบบคิดฐานสบิ

นกั เรียนอยา่ ท�ำนะครบั
เพราะไม่น่ารักเลย

70 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพิม่ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริต”

ใบงานท่ี ๑

เรือ่ ง ส�ำรวจพฤตกิ รรมระบบคิดฐานสอง
ค�ำชีแ้ จง ให้นักเรียนใส่เครื่องหมาย  ในข้อท่นี กั เรียนเคยพบเจอหรือเคยมีประสบการณ์มาแลว้

ข้อ รายการพฤติกรรม การปฏบิ ตั ิ
เคย ไมเ่ คย
๑ แทรกแซงแถวเพอื่ รบั อาหาร
๒ ใช้รถโรงเรียนเพ่ือไปเท่ียวในวนั หยดุ สดุ สปั ดาห์
๓ นำ� ของเล่นกลบั บ้านโดยไม่ขออนุญาตจากครู
๔ ให้เพอื่ นทำ� การบ้านให้โดยมขี นมเป็นการแลกเปล่ยี น
๕ มาโรงเรยี นสายเพือ่ หลีกเลี่ยงการท�ำเวรประจ�ำวัน

รวมคะแนน
สรปุ

ชอื่ กลุ่มที ่ ช้นั เลขท่ี

ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ 71

ใบงานที่ ๒

เรือ่ ง ระบบคดิ ฐานสิบ
ค�ำชแี้ จง ให้นกั เรยี นบอกพฤติกรรมระบบคิดฐานสบิ ท่ีนักเรยี นไม่ควรปฏบิ ตั ิ (๑๐ คะแนน)

..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................

..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................................
..........................................................
........................................

ช่ือ ชน้ั เลขที่
72 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขท่ี ชื่อ-สกุล คะแนนทไ่ี ด้ สรปุ ผล
สรปุ (๑๐ ค�ำแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน

๒ ลงชือ่ .........................................ผู้ตรวจ
๓ (........................................)






๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐





เกณฑ์การประเมนิ
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไปถือว่า ผ่าน (ตอบถกู ๘ ขอ้ )

ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 73

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น

ชอื่ นกั เรยี น................................................................ชั้น..............ภาคเรยี นท่ี...........ปีการศึกษา..............

ค�ำชี้แจง การบนั ทึกใหใ้ สเ่ ครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรมท่เี กดิ ข้นึ จริง

ท่ี พฤตกิ รรม เปน็ ประจ�ำ ระดับการปฏิบัติ ไม่ท�ำเลย/
(๓) บางครงั้ น้อยครง้ั ไม่ชัดเจน

(๒) (๑) (๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหนา้ ท่กี ารงาน
๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัตหิ น้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย
๓ ทำ� งานดว้ ยความเพียรพยายาม
๔ รู้จักแกป้ ัญหาในการท�ำงานเมื่อมอี ปุ สรรค
๕ อดทนเพือ่ ให้งานส�ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
๖ ปรับปรงุ และพัฒนาการท�ำงานให้ดขี ึน้ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ

ลงชื่อ............................................ผู้ประเมนิ
(..........................................)

เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตัดสิน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึง
ระดบั คุณภาพ ต�่ำกวา่ ๒ คะแนน
ดีเย่ยี ม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมิน ข้อใดขอ้ หนง่ึ
ต่ำ� กว่า ๐ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมิน ขอ้ ใดข้อหน่ึง
ตำ่� กว่า ๐ คะแนน
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

ไม่ผ่าน

74 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกนั การทุจรติ ”

แบบประเมินลักษณะอันพึงประสงค์

ชอ่ื -นามสกุลผเู้ รียน....................................................................ช้ัน.............................เลขที.่ ....................

ค�ำชแี้ จง ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ า้ น ๓๒๑๐
มงุ่ มนั่ ในการท�ำงาน
๑. มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทำ� งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

๒. มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสำ� เรจ็

คะแนน

สรุปผลคะแนน

ลงชอื่ .....................................................ผูป้ ระเมิน
(....................................................)
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่�ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติบางครงั้ ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมทไ่ี มป่ ฏิบัต ิ ให้ ๐ คะแนน

สรุปเกณฑ์การประเมนิ
£ ดีมาก ได ้ ๕-๖ คะแนน

£ ดี ได้ ๓-๔ คะแนน
£ พอใช้ ได ้ ๑-๒ คะแนน
£ ปรบั ปรุง ได้ ๐ คะแนน

ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ 75

หน่วยที่ ๒

ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ

แผนการจัดการเรียนรู้

หน่วยท่ี ๒ ชอื่ หนว่ ย ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ เรื่อง ความหมายของความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ เวลา ๒ ช่วั โมง
๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ
๑.๒ ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ละอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทกุ รปู แบบ
๒. จุดประสงค์การเรียนรู้
๒.๑ นกั เรียนบอกความหมายของคำ� ว่า ทุจริตได้
๒.๒ นักเรียนบอกความหมายของคำ� วา่ “ละอาย” ได้
๒.๓ นกั เรียนบอกความหมายของความไมท่ นต่อการทุจริตได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
- ทจุ รติ หมายถึง ความประพฤตชิ ัว่ ถ้าเปน็ ความประพฤติช่วั ทางกายเรียกว่า กายทจุ ริต
ถ้าเปน็ ความประพฤตชิ ่ัวทางวาจา เรียกวา่ วจีทจุ รติ ถา้ เป็นความประพฤติช่ัวทางใจ เรยี กว่า มโนทุจริต
เชน่ ทจุ รติ ในการสอบ คดโกง ฉ้อโกง
- ความละอาย หมายถงึ การรู้จกั อายที่จะท�ำในสิ่งท่ไี มถ่ กู ไม่ควร
- ความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต หมายถึง การไม่ยอม ไมเ่ หน็ ดว้ ย ต่อการกระท�ำทจุ ิต
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ
ความสามารถในการสอื่ สาร
๓.๓ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์
มีความซอ่ื สตั ย์
๔. กิจกรรมการเรยี นรู้
๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้
ชัว่ โมงที่ ๑
๑) ครใู หน้ ักเรียนดู วิดโิ อ เร่อื ง “เดก็ ดี เด็กไม่ดี ๒”
๒) ครถู ามคำ� ถามเชอ่ื มโยงเขา้ ส่บู ทเรียน เชน่
๒.๑ จากเรือ่ ง นักเรยี นอยากเปน็ เด็กคนใด เพราะเหตุใดถึงอยากเป็นเดก็ คนน้นั
๒.๒ เดก็ ทไี่ ม่ดีมีพฤตกิ รรมอย่างไร
๓) นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ถึง พฤตกิ รรมของเดก็ ทไี่ ม่ดวี ่า สิง่ นน้ั คือ ความทจุ รติ
๔) ครเู ขยี นคำ� นยิ ามของความทุจรติ นกั เรียนอา่ นพรอ้ มกันอกี ครง้ั บนกระดาน
๔) ครนู ำ� บตั รภาพเกยี่ วกบั พฤตกิ รรมในบา้ นและหอ้ งเรยี นทส่ี อ่ื ถงึ ความทจุ รติ ใหน้ กั เรยี นดู
ซง่ึ บัตรภาพนน้ั มคี ำ� บรรยายภาพประกอบดว้ ย นักเรียนดูบัตรภาพและอ่านข้อความเหล่านั้น
76 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพมิ่ เตมิ การป้องกันการทจุ ริต”

๕) นักเรียนแครูร่วมกันสรปุ ความพฤติกรรมตามบตั รภาพเหล่านน้ั คือการทจุ ริต
๖) ครยู อ้ นถามถงึ พฤติกรรม ของเดก็ ดจี ากคลปิ วดี โิ อ วา่ พฤติกรรมอะไรบา้ ง ครูอธบิ ายให้
นกั เรียนเขา้ ใจว่าน้ันคือการกระทำ� ที่เกดิ จากความละอาย
๗) ครเู ขยี นค�ำนยิ ามของความละอาย และให้นักเรยี นอา่ นความหมายของความละอายบน
กระดานอีกครั้ง
๘) ครูให้นักเรียนวาดภาพ การทุจริต ๑ ภาพ และออกมาน�ำเสนอว่า หากนักเรียนเป็น
ผู้กระทำ� ทุจรติ ตามภาพน้นั นักเรียนจะรู้สกึ อย่างไร
ชวั่ โมงท่ี ๒
๑) ครูทบทวนความหมายของค�ำวา่ ทจุ ริต และความละอาย ที่ไดส้ อนในชัว่ โมงท่ผี ่านมา
๒) ครนู ำ� ภาพวาดของนกั เรยี นมาตดิ ลงบนกระดานดำ� และถามนกั เรยี นวา่ หากพบเจอเพอื่ น ๆ
ท�ำการทจุ รติ ตามภาพท่พี วกเราได้ชว่ ยกนั วาด นักเรยี นจะท�ำเชน่ ไร
๓) ครใู หค้ ำ� นยิ ามของคำ� วา่ ไมท่ น และอธบิ ายวา่ เมอ่ื นกั เรยี นเหน็ เพอื่ นกระทำ� ทจุ รติ นกั เรยี น
ตอ้ งไม่ทน นักเรยี นอาจจะเตอื นเพือ่ น หรือไม่ก็ตอ้ งบอกครู
๔) ครูใหน้ กั เรยี นจับกลมุ่ ๕ คน และใหห้ นงั สือการ์ตนู กลุม่ ละ ๑ เลม่ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่
อา่ นหนงั สอื ทก่ี ลมุ่ ของตนเองไดร้ บั และใหส้ รปุ วา่ ตวั ละครใดมพี ฤตกิ รรมทจุ รติ บา้ ง และหากเปน็ นกั เรยี น
นักเรยี นจะทำ� เช่นนั้นหรอื ไม่ และหากนกั เรียนพบตัวละครจะท�ำการทุจรติ นกั เรยี นจะท�ำอย่างไร
๕) แต่ละกล่มุ ออกมานำ� เสนอ ครชู ่วยถามคำ� ถามเพอ่ื การสรปุ กจิ กรรมของแต่ละกลุ่ม
๔.๒ สื่อการเรียนรู้
๑) วดิ ีโอ เดก็ ดี และเดก็ ไม่ดี ๒
๒) บัตรภาพ
๓) หนงั สือการต์ ูน
๕. การประเมินผลการเรยี นรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมนิ
สังเกตจากกจิ กรรม
๕.๒ เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ในการประเมิน
แบบสังเกต
๕.๓ เกณฑ์การประเมนิ
นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ถอื ว่า ผ่าน
๖. บนั ทึกหลังสอน
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงชื่อ................................................ครผู ้สู อน
(.................................................)

ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ 77

๗. ภาคผนวก

วิดโี อ เด็กดี และเดก็ ไม่ดี ๒

ที่มาจาก : https://www.youtube.com/watch?v=ERXMNe-HTm๐

78 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเติม การปอ้ งกันการทจุ ริต”

บัตรภาพ

แซงควิ /จองควิ ให้เพอ่ื น

ลอกการบา้ นเพื่อน
ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ 79

แกล้งเพื่อน

ขโมยของ
80 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพมิ่ เตมิ การป้องกนั การทุจรติ ”

ไม่ชว่ ยเพ่อื นท�ำเวร

เปดิ ไฟในหอ้ งเรียนทิ้งไว้
ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 81

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น

ชอื่ นกั เรยี น................................................................ชั้น..............ภาคเรยี นท่ี...........ปีการศึกษา..............

ค�ำชี้แจง การบนั ทึกใหใ้ สเ่ ครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรมท่เี กดิ ข้นึ จริง

ท่ี พฤตกิ รรม เปน็ ประจ�ำ ระดับการปฏิบัติ ไม่ท�ำเลย/
(๓) บางครงั้ น้อยครง้ั ไม่ชัดเจน

(๒) (๑) (๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหนา้ ท่กี ารงาน
๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัตหิ น้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย
๓ ทำ� งานดว้ ยความเพียรพยายาม
๔ รู้จักแกป้ ัญหาในการท�ำงานเมื่อมอี ปุ สรรค
๕ อดทนเพือ่ ให้งานส�ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
๖ ปรับปรงุ และพัฒนาการท�ำงานให้ดขี ึน้ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ

ลงชื่อ............................................ผู้ประเมนิ
(..........................................)

เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตัดสิน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึง
ระดบั คุณภาพ ต�่ำกวา่ ๒ คะแนน
ดีเย่ยี ม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมิน ข้อใดขอ้ หนง่ึ
ต่ำ� กว่า ๐ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมิน ขอ้ ใดข้อหน่ึง
ตำ่� กว่า ๐ คะแนน
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

ไม่ผ่าน

82 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกนั การทุจรติ ”

แบบประเมนิ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ชื่อ-นามสกุลผเู้ รยี น....................................................................ชนั้ .............................เลขที่.....................

ค�ำชแ้ี จง ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น ๓๒๑๐
ซือ่ สัตย์ สุจรติ ๑. ให้ขอ้ มูลที่ถกู ต้อง และเปน็ จรงิ
๒. ปฏิบัตใิ นส่ิงทีถ่ กู ต้อง คะแนน
สรุปผลคะแนน

ลงชอ่ื .....................................................ผ้ปู ระเมิน
(....................................................)
เกณฑก์ ารให้คะแนน
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ�่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัติบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมทไ่ี ม่ปฏบิ ัติ ให้ ๐ คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ารประเมนิ
£ ดมี าก ได ้ ๕-๖ คะแนน

£ ด ี ได้ ๓-๔ คะแนน
£ พอใช้ ได้ ๑-๒ คะแนน
£ ปรับปรุง ได ้ ๐ คะแนน

ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 83

แผนการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยท่ี ๒ ช่อื หน่วย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่ือง การประยุกต์ ใช้ความรู้เร่ืองความละอาย เวลา ๑ ชั่วโมง
และความไม่ทนต่อการทจุ ริตกับกจิ กรรมภายในบา้ น
หอ้ งเรียน การทำ� การบ้าน

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ
๑.๒ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผูล้ ะอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทุกรปู แบบ
๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสำ� คัญของการต่อตา้ นและปอ้ งกนั การทุจรติ
๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ นักเรียนบอกความหมายของการบา้ นได้
๒.๒ นกั เรียนยกตวั อย่างการบ้านทคี่ ณุ ครใู หท้ �ำได้
๒.๓ นกั เรยี นสามารถวางแนวทางการปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ในการทำ� การบา้ น
๒.๔ นักเรียนไม่ทจุ รติ ในการท�ำการบา้ น
๒.๕ นักเรยี นไมท่ นเมอ่ื เหน็ เพอ่ื นทุจริตในการท�ำการบ้าน
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
๑) ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต (การทำ� การบ้าน)
๑.๑ การบ้าน หมายถงึ งานทีค่ รใู ห้นกั เรียนทำ� ให้ส�ำเรจ็ นอกเวลาเรียน
๑.๒ ตวั อยา่ งการบา้ นทคี่ รใู ห้ เชน่ ใหน้ กั เรยี นทำ� แบบฝกึ หดั ภาษาไทย การเขยี นสะกดคำ�
ให้นักเรยี นทำ� คณิตศาสตรก์ ารบวกเลข จากแบบฝึกหดั วิชาคณติ ศาสตร์ จำ� นวน ๕ ข้อ ฯลฯ
๑.๓ วิธีปฏบิ ัตติ นในการทำ� การบ้านของตนเอง เชน่ ท�ำด้วยตนเอง ไมเ่ ขา้ ใจถามครูหรือ
ผู้ปกครอง หรือถามเพอื่ น ห้ามลอกการบา้ นเพือ่ น การลอกการบ้านเพอ่ื นถอื เป็นการทุจรติ
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ
ความสามารถในการสื่อสาร
๓.๓ คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์
มีความซอื่ สตั ย์
๔. กิจกรรมการเรยี นรู้
๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี ๑
๑) นกั เรยี นอ่านความหมายของค�ำว่า “การบา้ น”จากแผนภูมิ
การบา้ น หมายถงึ งานท่คี รูใหน้ กั เรียนทำ� ให้สำ� เรจ็ นอกเวลาเรียน

84 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การป้องกันการทุจรติ ”

๒) นกั เรยี นยกตวั อยา่ ง “การบา้ น” ทค่ี รสู ง่ั ใหน้ กั เรยี นทำ� ในแตล่ ะวชิ า (คณุ ครใู หท้ ำ� การบา้ น
วชิ าคณติ ศาสตร์ จำ� นวน ๒ ขอ้ /คุณครใู ห้คดั ลายมอื ตามแบบ ฯลฯ)
๓) ครูถามนกั เรยี นวา่ นักเรียนละอายไหมถ้าครจู บั ได้ว่านักเรยี นแอบลอกการบา้ นเพือ่ น
๔) นักเรียนชว่ ยกันบอกว่า “การลอกการบา้ นไมด่ ีอยา่ งไร”
๕) ให้นกั เรยี นช่วยกนั บอกวิธีการทำ� การบา้ นของตนเอง
๖) ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั วางแนวทางการทำ� การบา้ น โดยไมท่ จุ รติ และไมท่ นเมอ่ื เหน็ เพอ่ื น
ทุจริตในการท�ำการบา้ น
๗) นักเรียนท�ำใบงานท่ี ๑ เรื่อง “สิง่ ทไ่ี ม่ควรท�ำเกย่ี วกบั การทำ� การบ้าน”
๘) ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เรื่องความละอายต่อการท�ำการบ้าน
๔.๒ ส่อื การเรียนรู้
๑) แผนภมู ิความหมายของการบ้าน
๒) ใบงานท่ี ๑ เรื่อง “ส่ิงทไี่ ม่ควรท�ำเก่ยี วกับการท�ำการบา้ น”
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมนิ
ตรวจใบงาน
สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน
๕.๒ เคร่อื งมือท่ีใช้ในการประเมิน
แบบตรวจให้คะแนนใบงาน
แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน
๕.๓ เกณฑ์การประเมิน
นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถอื ว่า ผา่ น
๖. บันทึกหลงั สอน
........................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงช่ือ................................................ครผู สู้ อน
(.................................................)

ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ 85

๗. ภาคผนวก

ใบงานท่ี ๑

เรื่อง “ส่งิ ทีไ่ มค่ วรท�ำเกี่ยวกับการท�ำการบ้าน”
ชอื่ -สกลุ ..........................................................................ชน้ั ..............เลขท.ี่ ..........โรงเรยี น...........................
ค�ำช้แี จง นักเรยี นทำ� เคร่อื งหมาย หน้าขอ้ ท่ถี กู และทำ� เครือ่ งหมาย O หน้าข้อที่ผิด
.......... ๑. การบ้าน คือ งานทค่ี รใู หน้ กั เรยี นทำ� นอกเวลาเรยี น
.......... ๒. ความละอาย คือ รู้สึกอายที่ท�ำใหส้ ิ่งทไ่ี มถ่ กู
.......... ๓. นกั เรยี นรีบมาโรงเรียนเพ่ือมาลอกการบ้านเพื่อน
.......... ๔. นักเรียนมาโรงเรียนและรบี สง่ การบา้ นท่ีโต๊ะครู
.......... ๕. เม่อื นักเรยี นเหน็ เพ่ือนลอกการบ้านกนั นกั เรียนต้องไปบอกครูใหท้ ราบ

เฉลย

๑
๒
๓O
๔
๕

(ขอ้ ละ ๒ คะแนน)

86 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเตมิ การป้องกันการทุจริต”

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน

เลขท่ี ชื่อ-สกุล คะแนนทไ่ี ด้ สรปุ ผล
สรปุ (๑๐ ค�ำแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน

๒ ลงชือ่ .........................................ผู้ตรวจ
๓ (........................................)






๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐





เกณฑ์การประเมนิ
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไปถือว่า ผ่าน (ตอบถกู ๘ ขอ้ )

ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 87

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น

ชอื่ นกั เรยี น................................................................ชั้น..............ภาคเรยี นท่ี...........ปีการศึกษา..............

ค�ำชี้แจง การบนั ทึกใหใ้ สเ่ ครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรมท่เี กดิ ข้นึ จริง

ท่ี พฤตกิ รรม เปน็ ประจ�ำ ระดับการปฏิบัติ ไม่ท�ำเลย/
(๓) บางครงั้ น้อยครง้ั ไม่ชัดเจน

(๒) (๑) (๐)

๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหนา้ ท่กี ารงาน
๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัตหิ น้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย
๓ ทำ� งานดว้ ยความเพียรพยายาม
๔ รู้จักแกป้ ัญหาในการท�ำงานเมื่อมอี ปุ สรรค
๕ อดทนเพือ่ ให้งานส�ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
๖ ปรับปรงุ และพัฒนาการท�ำงานให้ดขี ึน้ ด้วยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ

ลงชื่อ............................................ผู้ประเมนิ
(..........................................)

เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตัดสิน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึง
ระดบั คุณภาพ ต�่ำกวา่ ๒ คะแนน
ดีเย่ยี ม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมิน ข้อใดขอ้ หนง่ึ
ต่ำ� กว่า ๐ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมิน ขอ้ ใดข้อหน่ึง
ตำ่� กว่า ๐ คะแนน
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

ไม่ผ่าน

88 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกนั การทุจรติ ”

แบบประเมนิ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ชื่อ-นามสกุลผเู้ รยี น....................................................................ชนั้ .............................เลขที่.....................

ค�ำชแ้ี จง ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น ๓๒๑๐
ซือ่ สัตย์ สุจรติ ๑. ให้ขอ้ มูลที่ถกู ต้อง และเปน็ จรงิ
๒. ปฏิบัตใิ นส่ิงทีถ่ กู ต้อง คะแนน
สรุปผลคะแนน

ลงชอ่ื .....................................................ผ้ปู ระเมิน
(....................................................)
เกณฑก์ ารให้คะแนน
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ�่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัติบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมทไ่ี ม่ปฏบิ ัติ ให้ ๐ คะแนน

สรปุ เกณฑก์ ารประเมนิ
£ ดมี าก ได ้ ๕-๖ คะแนน

£ ด ี ได้ ๓-๔ คะแนน
£ พอใช้ ได้ ๑-๒ คะแนน
£ ปรับปรุง ได ้ ๐ คะแนน

ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 89

แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยที่ ๒ ชอ่ื หน่วย ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เร่ือง การประยกุ ต์ ใช้ความรเู้ รือ่ งความละอาย เวลา ๒ ชว่ั โมง
และความไม่ทนต่อการทุจริต กับกิจกรรมภายในบ้าน
ห้องเรียน การท�ำเวร

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ
๑.๒ ปฏบิ ัตติ นเป็นผ้ลู ะอายและไมท่ นต่อการทุจรติ ทกุ รูปแบบ
๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความส�ำคัญของการต่อต้านและปอ้ งกนั การทจุ รติ
๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๒.๑ นกั เรียนบอกความหมายของการท�ำเวรได้
๒.๒ นกั เรยี นบอกเหตุผลของการทีต่ ้องทำ� เวรได้
๒.๓ นกั เรยี นสามารถวางแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นใหเ้ ปน็ ผลู้ ะอาย และไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ในการทำ� เวร
๒.๔ นกั เรยี นมีความละอาย เมอื่ ไม่ช่วยเพอ่ื นทำ� เวร
๒.๕ นักเรยี นไม่ทนเมอ่ื เหน็ เพ่อื นทจุ รติ ในการท�ำเวร
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ การทำ� เวร หมายถงึ การผลดั เปลย่ี นเวรกนั ทำ� งาน
โดยเฉพาะทำ� ความสะอาดห้องเรยี นของนกั เรียนและการท�ำเวรตามเขตท่รี ับผดิ ชอบ บรเิ วณต่าง ๆ ของ
โรงเรยี น เหตผุ ลทน่ี กั เรยี นตอ้ งทำ� เวร คอื เพอื่ ฝกึ เสยี สละใหส้ ว่ นรวม มคี วามรบั ผดิ ชอบ รกั ษาความสะอาด
ของห้องเรียนและบรเิ วณโรงเรยี น
กจิ กรรมในการทำ� เวร คือ กวาดหอ้ งเรยี น ถูหอ้ งเรยี น ยกเกา้ อขี้ ึน้ วางบนโตะ๊ ลบกระดาน
กวาดใบไมใ้ นสวนหยอ่ ม เก็บขยะบริเวณโรงเรียน เป็นต้น
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ
ความสามารถในการคดิ
๓.๓ คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์
ม่งุ มั่นในการท�ำงาน
๔. กจิ กรรมการเรียนรู้
๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้
ชว่ั โมงท่ี ๑
๑) ให้นักเรียนดูภาพ “การท�ำความ
สะอาดหอ้ งเรยี น”

90 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เตมิ การป้องกันการทุจริต”

๒) ครนู ำ� นกั เรยี นสนทนาวา่ ภาพทนี่ กั เรยี นเหน็ เปน็ ภาพอะไร (นกั เรยี นกำ� ลงั ทำ� ความสะอาด
ห้องเรยี น)
๓) ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นความหมายของการทำ� เวรจากแผนภมู ิ เร่อื ง การท�ำเวร ตามครู

การท�ำเวร
การท�ำเวร หมายถึง ผลดั เปลี่ยนเวรกันทำ� งาน
โดยเฉพาะทำ� ความสะอาดห้องเรยี นของนกั เรียนและการทำ� เวร
ตามเขตทรี่ ับผดิ ชอบ บริเวณต่าง ๆ ของโรงเรยี น

๔) นักเรียนแตล่ ะคนบอกครวู ่านกั เรยี นอยูเ่ วรวนั อะไร
๕) ให้นักเรียนระบายสีรูปภาพการท�ำความสะอาดห้องเรียนพร้อมท้ังตั้งช่ือภาพ และ
ร่วมกนั สนทนา ดังตอ่ ไปน้ี

๕.๑ ในภาพเป็นการท�ำกิจกรรมใด
๕.๒ นกั เรยี นแต่ละคนมีหน้าทอ่ี ย่างไร
๕.๓ ถ้าบางคนไม่ท�ำตามหนา้ ทข่ี องตนเอง จะเกดิ อะไรขึ้น
๕.๔ นกั เรยี นจะมวี ิธแี ก้ไขอย่างไร
๖) นักเรียนสรุปความหมายของการท�ำเวร โดยครูถามน�ำว่า การท�ำเวรหมายถึงอะไร
(การท�ำเวร หมายถงึ ผลดั เปลี่ยนเวรกันท�ำงานโดยเฉพาะทำ� ความสะอาดห้องเรียนของนกั เรียนและการ
ท�ำเวรตามเขตทรี่ ับผดิ ชอบ บริเวณต่าง ๆ ของโรงเรยี น)
ชวั่ โมงที่ ๒
๑) ครูให้นักเรียนอา่ นแถบประโยค “ท�ำไมคุณครจู งึ ตอ้ งใหน้ ักเรียนท�ำเวร”

เหตุผลทน่ี ักเรยี นตอ้ งทำ� เวร คอื
๑. เพอ่ื ฝึกเสยี สละใหส้ ว่ นรวม
๒. เพ่ือฝึกให้นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบ
๓. เพอ่ื รกั ษาความสะอาดของห้องเรียน
๔. เพอื่ รกั ษาความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น

ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 91

๒) นกั เรยี นบอกกจิ กรรมทีน่ ักเรียนปฏบิ ัตขิ ณะท�ำเวรแตล่ ะวันว่าทำ� อะไรบา้ ง เช่น
กิจกรรมในการทำ� เวร คือ
๑. กวาดหอ้ งเรียน
๒. ถูหอ้ งเรยี น
๓. ยกเก้าอ้ีข้ึนวางบนโต๊ะ
๔. ลบกระดาน
๕. กวาดใบไม้ในสวนหย่อม
๖. เกบ็ ขยะบรเิ วณโรงเรยี น

๓) นกั เรียนท�ำใบงานที่ ๒ เรือ่ ง ความละอายและไม่ทนตอ่ การทุจริต (การท�ำเวร)
๔) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปองคค์ วามรู้เก่ยี วกับความละอายตอ่ การทำ� เวร
๔.๒ สือ่ การเรียนรู้
๑) ภาพ “การท�ำความสะอาดห้องเรียน”
๒) แผนภมู ิ เรือ่ ง การท�ำเวร
๓) แถบประโยค “ท�ำไมคุณครจู ึงตอ้ งใหน้ กั เรียนทำ� เวร
๔) ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง “ระบายสีรปู ภาพการทำ� ความสะอาดห้องเรยี น”
๕) ใบงานที่ ๒ เรือ่ ง ความละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ ริต (การทำ� เวร)
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมิน
๑) ตรวจใบงาน
๒) สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น
๕.๒ เครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมนิ
๑) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน
๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน
๕.๓ เกณฑก์ ารประเมิน
ผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน
๖. บนั ทกึ หลงั สอน
........................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงชือ่ ................................................ครูผู้สอน
(.................................................)

92 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพิม่ เติม การปอ้ งกนั การทุจรติ ”

๗. ภาคผนวก

ภาพ “การท�ำความสะอาดหอ้ งเรยี น”

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 93


Click to View FlipBook Version