Notre Dame De Luxembourg หรือ The Cathedral of The Blessed Virgin เป็นอาสน วิหารในสไตล์ โกธิค และ บาโรค สร้างขึ้นใน ระหว่างปี ค.ศ. 1613-1621 โดยพระสงฆ์คณะ เยซูอิต เพื่อเป็นโบสถ์ของโรงเรียน ออกแบบ โดย สถาปนิก Jean Du Blocq ตั้งอยู่ทางตอน ใต้ของประเทศลักเซมเบิร์ก Notre Dame, Luxembourg
เป็นอาสนวิหารในสไตล์โกธิค สร้างขึ้นเพื่อถวายอุทิศ แด่นักบุญ บาโว องค์อุปถัมภ์ของเมือง ฮาเรม ก่อสร้างในระหว่างปี ค.ศ. 1895-1930 ออกแบบโดย สถาปนิก Joseph Cuypers Saint Bavo Cathedral, Halem, The Netherlands
เป็นโบสถ์ที่ได้รับการเสกในปี ค.ศ. 1027 และได้ยกฐานะขึ้นเป็น Minor Basilica ในปี ค.ศ. 1922 นับเป็นโบสถ์ที่มีผู้มาแสวงบุญ เป็นจ านวนมากที่สุดในเบลเยี่ยม เนื่องจากความศรัทธาใน อัศจรรย์ของพระแม่มารีย์ สถาปนิกและวิศวกร Wenceslas Cobergher เป็นผู้ออกแบบโบสถ์และยังได้วางผังเมืองเชอร์เปน เฮอเวลด้วย โดยวางผังเป็นรูปเจ็ดเหลี่ยม (Heptagon) มีโดม เป็นศูนย์กลางตั้งบนเสาเจ็ดต้น Notre Dame de Scherpenheuvel, Belgium
อาสนวิหาร นักบัญเซอร์วาติอุส เป็ นโบสถ์ศาสนา โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่ เซอร์วาติอุส มิชชันนารีชาวอาร์เมเนียน ซึ่งเสียชีวิตและฝังในเมือง Maastricht ส ร้ า ง ขึ้น ใ น ศ ต ว ร ร ษ ที่ 11 ใ น ส ไ ต ล์ Romanesqueอยู่ใกล้เคียงกับโบสถ์ St.Johnซึ่งเป็นสไตล์ Gothic ในจัตุรัส Vrijhof ของเมือง Maastricht ประเทศ เนเธอร์แลนด์ Cathedral de Saint Vatius, Masstricht, The Netherlands
เสาพระแม่มารีย์ (Mariensaule) องค์อุปถัมภ์ของเมืองมิวนิค ตั้งอยู่ กลางจตุรัส มารีนพลัทซ์ (Marienplatz) เป็นรูปปั้นทองค ารูปพระแม่มา รีย์อุ้มพระบุตร ประดิษฐานบนยอดเสาหินอ่อนสีแดง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1638 สมัยพระเจ้าแมกซิมิเลียนที่ 1 โดยมีรูปปั้นที่ฐานทั้งสี่ด้านเป็น สัญญลักษณ์ของการสิ้นสุดสงคราม โรคระบาด ความอดยากและพวก นอกรีต ศาลากลางเมืองหลังใหม่ (Neues Rathaus) สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1867-1908 เป็นอาคารในรูปแบบสถาปัตยกรรม Neo Gothic มี หอระฆังปลายแหลมสูง 85 เมตร มีระฆังติดตั้งอยู่ 43 ใบ มีนาฬิกา ตุ๊กตากล (Glock Enspiel) อยู่ช่วงกลาง ทุก ๆ วันเวลา 11:00 น.และ 12:00 น. จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบ าประกอบกับเสียงระฆัง เป็นตุ๊กตา ของเหล่าอัศวินประลองยุทธ ในพิธีอภิเษกสมรสของดยุค วิลเฮล์มที่ 5 กับเจ้าหญิงแห่งลอร์แรนอยู่ในแถวบน ส่วนแถวล่างเป็นตุ๊กตาเต้นร า ของชาวมิวนิค ฉลองการสิ้นสุดของกาฬโรค Mariensaule and New Rathaus, Munich, Germany
โบสถ์แห่งนี้ นับเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบบาโรคในช่วงต้น สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1646-1660 ภาพวาดผนังปูนเปียก ภายในส่วนมาก ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้ง ใหญ่ในเมืองลุบลิยานา (Ljubljana) เมื่อปี ค.ศ. 1895 ภาพที่เห็นอยู่ บนผนังโบสถ์ในปัจจุบัน เป็นผลงานของ Matej Sternen ศิลปินอิม เพรสชั่นนิสม์ชาวสโลวีนส์ ที่เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1936 Franciscan Church of Anunciation, Slovenia
บราติสลาวา เป็นเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย อยู่ทาง ตะวันตกของประเทศ ไม่ไกลจากกรุงเวียนนาของออสเตรีย อยู่ริมฝั่งแม่น ้าดานูป โดยแบ่งตัวเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง โดยมี เขตเมืองเก่า (Stare Nanestie) อยู่ทางฝั่ งเหนือ มีสะพาน New Bridge (Novy Most) เชื่อมไปยังตัวเมืองฝั่ งใต้มี ศูนย์กลางเมืองอยู่ที่จตุรัสกลาง (Hlavne Namestie) มี ศูนย์ศิลปะและหัตถกรรมพื้นเมืองอยู่ทางด้านเหนือ มีรูป ปั้นตัวตลกล้อเลียนบุคคลต่างๆ อยู่มากมาย Bratislava, Slovakia
Cinlometodska Road, Zagreb, Croatia
Cathedral Dubrovnik, Croatia Cathedral de Dubrovnik หรือชื่อเป็นทางการว่า The Cathedral of Assumption เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิก ในเมืองดูบรอฟนิค ประเทศโครเอเชีย หลังปัจจุบัน เป็นโบสถ์หลังที่ 3 ซึ่งสร้างบนที่ดินเดิมของอาสนวิหาร 2 หลังแรกถูกท าลายโดย แผ่นดินไหว และการล้อมโจมตีเมืองดูบรอฟนิคในปี ค.ศ. 1991 โบสถ์หลังแรกเป็น สไตล์ ไบซานทีน สร้างขึ้นในสตวรรษที่ 6 และ 7 หลังต่อมาเป็นแบบ โรมาเนสก์ สร้างในศตวรรษที่ 12 และพังทลายลงในปี ค.ศ. 1667
Cathedral of Saint James, Sibenik, Croatia อาสนวิหารนักบุญเจมส์ หรือ ยาคอป สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ. 1431-1535 บนชายฝั่ ง Dalmatian ออกแบบโดยสถาปนิก 3 คน ได้แก่ Francesco Di Giacomo, Georgius Ma Thei Dalmaticus และ Niccolo Di Giovanni Fiorentinoในสไตล์ที่เป็นการผสมผสาน แบบอิตาลีทางตอนเหนือ แบบดัลมาเชีย และแบบ ทัสคานี มีภาพ ปฏิมากรรมรูปหน้าของชาย หญิงและเด็ก จ านวน 71 รูป ที่แสดงให้ เห็นถึงการหลอมรวมศิลปะแบบ โกธิค กับ เรอเนสซองส์เข้าด้วยกัน
Zagreb Cathedral, Zagreb, Croatia เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ซึ่งไม่เป็นแต่เพียงอาคารที่สูงที่สุด แต่ยัง เป็นอาคารทางศาสนาในสไตล์โกธิคที่โดดเด่นที่สุดในโครเอเชีย สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ของพระแม่มารีย์ Assumption of Mary แด่นักบุญสตีเฟนท์ และนักบุญ Ladislaus มียอดแหลม 2 ยอด สูง 108 เมตร ซึ่งเป็นเสมือนจุดเด่น เพราะ มองเห็นได้จากทุกมุมเมือง หอคอยยอดแหลมนี้ได้เคยพังทลายลง มา 1 หอจากเหตุแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 2020 สถาปนิกผู้ออกแบบ คือ Hermann Bulle สร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 13 และสร้าง ขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1880-1906
แผนทก ี่ร ุ งโรม
Saint Peter Basilica, Vatican, Rome กรุงวาติกัน นครหลวงแห่งศาสนจักรคาทอลิก เป็นรัฐที่ เล็กที่สุดในโลก มีพื้นที่เพียง 106 เอเคอร์ ล้อมรอบด้วย ก าแพงสูงปกป้องโดย Vatican guard เป็ นสถานที่ที่ นักบุญเปโตร ได้ถูกประหารเป็นมรณสักขีและถูกฝังไว้ ที่ Necropolis ในปี AD 64ใกล้ ๆ กันนั้น เคยเป็นสนาม กีฬา Circus of Nero ต่อมาจักรพรรดิ Constantineได้ สร้างวิหารเหนือหลุมศพ และต่อมา วิหารได้ถูกสร้างขึ้น ใหม่ในศตวรรษที่ 15 มีการต่อเติมในศตวรรษที่ 16 และ 17 โดยสถาปนิกและศิลปินจ านวนมาก มหาวิหารใน ปัจจุบัน ได้รับการสถาปนาในปี ค.ศ. 1626 Vatican ได้ กลายเป็นที่ประทับของพระสันตปาปาสืบต่อกันมา โดย วังที่ประทับอยู่ถัดจากวิหารไปทางเหนือ และเป็นที่ตั้ง ของ Sistine Chapel และ Vatican Museum ด้วย
Saint Peter Basilica, Rome, Italy อ า ส น วิ ห า ร นัก บุญ เ ป โ ต ร เ ดิ ม เ ป็ น โ บ ส ถ์ที่ จัก ร พ ร ร ดิ Constantine ได้ให้สร้างขึ้นทับหลุมศพของนักบุญเปโตร ในปี ค.ศ. 323 ต่อมา Constantius บุตรของ Constantine ได้ สร้างโบสถ์นักบุญเปโตร หลังแรกขึ้น และใช้เป็ นสถานที่ สถาปนาจกัรพรรดิห์ลายพระองค์เช่น Charlemagne, Louis 2, Federick 3 เป็นต้น จากนั้นนับเป็นเวลากว่า 1000 ปี โบสถ์ได้ ทรุดโทรมลง พระเจ้า Nicholas 5 จึงได้ปรับปรุงและขยายโดย ค า แ น ะ น าข อ ง Leon Battisa Alberti แ ล ะ อ อก แ บบ โ ด ย Bernado Rossellino ต่อมาในปี ค.ศ. 1506 เมื่อ Julius2 Della Rovere ได้รับการสถาปนาเป็นพระสันตปาปา โบสถ์เดิมได้ถูก รื้อออก โดยเจตนาจะสร้างโบสถ์ใหม่ในแบบ Modern in Classic Style โดยวางผังเป็นรูปกางเขนแบบกรีกจนถึงสมัย Paul 5 จึงมีการตัดสินใจกลับมาใช้แปลนเป็นรูปกางเขนแบบ ลาติน โดยมีศิลปินรับช่วงงานต่อกันหลายท่าน เช่น Giocondo, Raphael, Giuliano, Michael Angelo และสืบทอดต่อมาโดย Vignola, Pirro Ligoro,และ Dominico Fontana โดยเริ่มงานใน ปี ค.ศ. 1607 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1612
Saint Peter Basilica มหาวิหารนักบุญเปโตร มีรูปด้านหน้าที่ใช้เสา Corinthianขนาดใหญ่ซ้อนบนผนังและ มี Pilasters เป็นกรอบเน้นโถงทางเข้าโดยมี Arch โค้งอยู่ 2 ด้าน ด้านบนมีระเบียงเรียง เป็นแนว 9 ระเบียง บนสุดประดับด้วยรูปปั้น 13 รูป แทนสาวกของพระเยซู ยกเว้น St.Peterและ St.John The Baptist บนสุดเป็นโดมของ Michael Angelo ซึ่งแสดง แนวสันรวมขึ้นสู่ยอดอย่างเด่นชัด 2 ด้านเป็นโดมขนาดเล็กของวัดน้อย Gregoriana และ Clementina ซึ่งออกแบบโดย Giacomo Barozzi Da Vignola ในปี ค.ศ. 1629 Gianlorenzo Bernini ก็เข้ามาเป็นผู้อ านวยการโครงการแทน โดยใช้สไตล์ Baroque เช่นในส่วนหลังคาคลุมพระแท่นองค์กลาง (Baldacchino) ซึ่งออกแบบโดย Bernini เอง Piazza San Pietro หริอจัตุรัสหน้ามหาวิหาร ออกแบบโดย Bernini เป็นโค้งวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 240 เมตร โอบล้อมด้วยทางเดิน(Porticoes) ซึ่งมีเสาแบบ Tuscan Doricขนานกัน 4 แถว แบ่งทางเดินเป็น 3 ช่อง ศูนย์กลางจัตุรัส มีเสา Obeliskขนาบ ด้วยน ้าพุ 2 ด้าน
Castel Sant Angelo, Rome, Italy ป้อมปราการแห่งนี้ ได้ชื่อตามอัครเทวดามีคาแอล ซึ่งพระสันตะปาปา Gregory The Great ได้ทรง เห็นปรากฏมาในขณะที่ทรงน าขบวนแห่เดินข้าม สะพาน ในพิธีขอพรให้พระเจ้าทรงเมตตายุติ การระบาดของโรคในศตวรรษที่ 6 ป้อมปราการ แห่งนี้ปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในปี ค.ศ. 139 เพ่ื อใชเ้ป็นสสุานของพระจกัรพรรดิ์Hadrian และ ก็กลายเป็นปราการด่านแรกของเมืองในยุคกลาง เคยใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ และเป็นที่หลบภัยของ พระสันตปาปา หากเกิดความไม่สงบ โดยมี ทางเดินลับเชื่อมกับพระราชวังวาติกัน
Spanish Steps, Piazza DI Spagna ,Rome, Italy บันไดสเปน (Spanish Steps) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1720 เพื่อเชื่อมจัตุรัส Piazza Di Spagna กั บ โ บ ส ถ์ฝ รั่ ง เ ศ ส Santissima Trinita Dei Monti ซึ่งสร้างอยู่บนเนินเขา เป็นย่านที่ได้รับ ความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วย ร้านขายสินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร และร้าน กาแฟ ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ที่น่าสนใจ อีกหลายแห่ง
Santissima Trinita Dei Monti, Spanish Steps, Rome เป็นโบสถ์ฝรั่งเศส สมัยศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ด้านบนของบันไดสเปน ในช่วงต้น ฝรั่งเศสต้องการประดิษฐานพระบรมรูปของกษัตริย์ หลุยส์ที่ 14 บนยอด แต่ได้รับการคัดค้านจากพระสันตะปาปา จนกระทั่งปี ค.ศ. 1720 สถาปนิกชาวอิตาเลียนชื่อ Francesco De Sanctis ได้เสนอให้ใช้สไตล์แบบ Rococo ซึ่งเป็ นที่พอใจและ ยอมรับจากทั้ง 2 ฝ่าย
The Pantheon, Piazza Rotonda, Rome, Italy The Pantheonเป็นวิหารโรมันที่อุทิศแด่บรรดาเทพเจ้า สร้างขึ้นในปีคศ 118 ออกแบบโดยจกัรพรรดิ์Hadrian ด้านหน้าเป็นหลังคาจั่วบดบังอาคาร รูปทรงกระบอก ซึ่งมีรัศมีวงกลมเท่ากับความสูงของอาคาร ท าให้เกิดสัดส่วนที่สวยงาม ครอบด้วยหลังคารูปโดม ซึ่งมีช่องแ สงรูปกลม (Oculus) อยู่กึ่งกลางให้แสงผ่านเข้ามาภายใน และมีรูระบายน ้าที่พื้นเพื่อระบายน ้าฝน ในศตวรรษที่ 7 ชาวคริสต์กล่าวหาว่า ภูตผีปีศาจในวิหารนี้ท าให้เกิด โรคระบาด จึงได้เปลี่ยนเป็นโบสถ์ ปัจจุบันใช้เป็นที่ฝังศพของราชวงศ์และรวมถึงศิลปิน Raphael ด้วย The Pantheon เดิมสร้างโดย Marcus Agripaในช่วงของจกัรพรรดิ์Augustus มีโดมขนาดใหญ่ที่สุดในยุคนั้น มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 เมตร และสูง 22 เมตร
อนุสาวรีย์ วิคเตอร์ เอมมานูเอล เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1885 และท าพิธีเปิดในปี ค.ศ. 1911 เพื่อเป็นเกียรติแด่ Victor Emmanuel 2 กษัตริย์พระองค์แรกของอิตาลี ด้านหลังเป็นเมืองโบราณของกรุงโรม ซึ่งออกแบบใหม่โดย Michael Angeloในศตวรรษที่ 16 ซึ่งประกอบด้วย Piazza Del Campidoglio, Palazzo Dei Conservatoriซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ Capitolineจัดแสดงภาพเขียนและปฏิมากรรมซึ่งอุทิศให้โดย Pope Sixtus4
Santa Maria Della Maggiore, Rome, Italy ในศตวรรษที่ 4 Pope Libelius ได้ให้สร้างโบสถ์หลังหนึ่งขึ้นใน สถานที่ที่เคยมีหิมะตกลงมาปกคลุมอย่างคาดไม่ถึง ในฤดูร้อน ของปี ค.ศ. 352 ต่อมาได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นใหม่เป็น Santa Maria Della Maggioreในปี ค.ศ. 432-440 โดยพระสันตปาปา Sixtus2และมีการปรับปรุงต่อเติมหลายครั้ง จนเป็นโบสถ์ที่รวม สไตล์ทางสถาปัตยกรรมหลายยุคเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ตั้งแต่คริสเตียนยุคแรก ปลายยุคบาโรค ยุคกลาง และ โกธิค
Piazza Del Campidoglio, Rome, Italy เป็นจัตุรัสขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก อยู่ด้านหลังของ อนุสาวรีย์ วิคเตอร์ เอมมานูเอล มีลวดลายพื้นแบบเลขาคณิตซึ่งออกแบบโดย Michael Angelo ล้อมรอบด้วย Palazzo Nuovo ซึ่งปั จจุบันเป็ น Capitoline Museum จัดแสดงภาพเขียนและปฏิมากรรมซึ่งอุทิศให้โดย Pope Sixtus 4 มีPalazzo Senatorio อาคารในสไตล์เรอเนสซองส์ ซึ่งเคยใช้ เป็นที่ประชุมของ City Government ที่มุมด้านซ้ายของอาคารหลังนี้ จะ มีปฏิมากรรมรูปสุนัขป่ าก าลังให้นมเด็กชาย 2 คน ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ ของพี่น้องฝาแฝด Romurusและ Remus ผู้สร้างกรุงโรม
The Colosseum, Rome, Italy เป็นสนามกีฬาแบบ Amphetheatre ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม สร้างโดยจักรพรรดิ Vespatian ในปี ค.ศ. 72 บนที่ดินซึ่งเคย เป็ นพระราชวังของ Nero จักรพรรดิจอมเผด็จการผู้ที่ ประชาชนเกลียดชัง สามารถจุผู้ชมได้กว่า 55,000 คน สร้าง ขึ้นเพื่อให้ความบันเทิงแก่ชาวโรมันด้วยการชมการต่อสู้ ระหว่าง Gladiators หรือระหว่างคนกับสัตว์ร้ายต่างๆ เชื่อกันว่ามีทั้งคนและสัตว์ถูกฆ่าตายเป็นจ านวนมากใน สนามแห่งนี้ Colosseum แบ่งเป็น 4 ชั้น 3 ชั้นล่างประดับ ด้วยเสาแบบ DoricIonicและ Corinthianขึ้นมาตามล าดับ มีหลังคาผ้าใบซึ่งเลื่อนปิด-เปิดได้ ที่นั่งของผู้ชมถูกจัดแบ่ง ตามล าดับชนชั้น ใต้ลานต่อสู้มีชั้นใต้ดินซึ่งแบ่งเป็นห้อง ส าหรับ Gladiatorและกรงขังสัตว์ต่างๆ มีระบบล าเลียงสัตว์ ขึ้นสู่ลานต่อสู้ด้วยลิฟท์ซึ่งใช้กว้านแรงคน ทั้งยังสามารถ ปล่อยน ้าเข้าท่วมเพื่อแสดงการสู้รบทางเรือได้ด้วย ผังรูปไข่ของ Colosseum นับเป็นต้นแบบของผังสนามกีฬา ในปัจจุบัน เพราะผู้ชมสามารถมองเห็นการแสดงในสนามได้ อย่างทั่วถึง
เป็นวิหารสไตล์บาโรคขนาดใหญ่ สร้างบนปากทางเข้าของ Grand Canal เพื่อเป็นการขอบคุณพระเจ้า ที่ได้โปรดให้พ้น จากโรคระบาดร้ายแรงในปี ค.ศ. 1630 (ค าว่า Salute หมายถึง สุขภาพ การกอบกู้ และการไถ่บาป) เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1630 โดย Baldassare Longhena ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 32 ปี และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1687 ห้าปี ภายหลัง Baldassare เสียชีวิต ภายในเป็นพื้นที่รูป 8 เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีวัดน้อย (Chapel) 6วัด ประติมากรรมที่พระแท่นเป็นรูปแม่พระและ พระกุมารปกป้องเมืองเวนิสจากโรคร้าย ออกแบบโดย Giusto Le Corte ภาพวาดที่จัดว่าสวยงามที่สุดอยู่ในห้องแต่งตัว พระสงฆ์ ( Sacristy) เป็นรูปการสถาปนานักบุญหลายองค์ บน เพดานเป็นเรื่องราวของ กาอินและอาเบล การบูชายัญอิซาอัก บุตรชายของอาบราฮัม ดาวิดและโกไลแอท และงานแต่งงานที่ เมืองคานา เป็ นผลงานของ Jacopo Tintorettoวิหารแห่งนี้ สร้างอยู่บนฐานรากซึ่งมีเข็มไม้ซุงรองรับจ านวนกว่า 1 ล้านต้น Santa Maria della Salute, Grand Canal, Venice, Italy
Santa Maria Del Fiore, Florence, Italy Duomo Santa Maria Del Fiore เป็นวิหารขนาดใหญ๋จนเป็นสัญลักษณ์ ที่โดดเด่นของเมืองฟลอเรนซ์และเป็นโบสถ์ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของ ยุโรป มีโดมที่ออกแบบโดย Brunelleschi สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1463 นับเป็นโดมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุคนั้น มีเปลือกนอกเป็นผนัง 2 ชั้น บุด้วยกระเบื้องสีส้ม มีหอระฆัง (Campanile ) สูง 85 เมตร แต่ก็ยังต ่า กว่าโดมถึง 6 เมตร ผนังภายนอกบุด้วยหินอ่อน Tuscan Marble สีขาว เขียว และชมพู Baptistry หรือหอส าหรับโปรดศีลล้างบาป สร้างขึ้นใน ศตวรรษที่ 4 นับเป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่สุดในฟลอเรนซ์มีประตูด้าน ทิศเหนือเป็นโลหะบรอนซ์สลักนูน ได้รับการขนานนามว่าเป็นประตูสู่ สวรรค์ “Gate of Paradise” ฝี มือของ Lorenzo Ghiberti ซึ่งชนะการ ประกวดแบบระหว่างศิลปิน 7 คนในปี ค.ศ. 1401 เขาใช้เวลาท างานชิ้น นี้ถึง 21 ปี แบ่งพื้นที่บานประตูทั้ง 2 เป็น 10 ส่วน สลักรื่องราวใน พระคัมภีร์ เช่น อาดัมกับเอวา อาบราฮัมกับการถวายอิซาอักเป็นยัญ บูชา และโซโลมอนกับชีบา เป็นต้น
The Palazzo Vecchio, Florence, Italy The Palazzo Vecchio ตั้งอยู่ในจัตุรัส Piazza Della Signoria ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเมืองและการสังคม ของเมืองฟลอเรนซ์มาหลายศตวรรษ พระราชวังแห่งนี้ ถูกใช้เป็นศาลากลางมาตั้งแต่เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1322 มีระฆังขนาดใหญ่ ใช้ตีเรียกให้ประชาชนมาประชุม ร่วมกัน หรือเพื่อเตือนแจ้งเหตุเพลิงไหม้ หรือมีข้าศึกศัตรู รุกราน พระราชวังมีลักษณะของอาคารในยุคกลาง ภายในถูกตกแต่งเพื่อ Duke Cosimoi ในปี ค.ศ. 1563- 156 5 โ ด ย Vasari มีรู ปปั้ น David (จ าล อง) เป็ น สัญญลักษณ์ของชัยชนะต่อระบบเผด็จการ ตั้งอยู่บริเวณ ทางเข้า มีป้ายตัวอักษรเหนือประตูเขียนว่า “Christ is the King” ซึ่งมีความหมายว่า ไม่มีผู้ปกครองที่เป็ น มนุษย์ผู้ใด จะมีอ านาจสูงสุด
Leaning Tower of Pisa, Pisa, Italy หอเอนเมืองปิซา เป็นหอระฆังของโบสถ์ Piazza Dei Miracoli นับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างด้วยหินอ่อน มี 8 ชั้น น ้าหนักรวมประมาณ 14,453 ตัน แต่มีฐานรองรับกว้างเพียง 65 ฟุต และฝังดินลึกเพียง 10 ฟุต มีความสูง 55 เมตร ( 180 ฟุต ) มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 19.58 เมตร ( 66 ฟุต ) มีบันไดขึ้นถึงชั้น ดาดฟ้าจ านวน 295 ขั้น เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1173 และแล้ว เสร็จในปี ค.ศ. 1370 ที่ใช้เวลาเนิ่นนานมาก สันนิษฐานว่า เพื่อ รอดูระดับแนวเอียง และการรับน ้าหนักของดิน
TheTorre Del Mangia, Piazza Del Campo, Siena, Italy Torre Del Mangia หรือ Palazzo Pubblico เป็นศาลากลาง สไตล์โกธิค สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1342 มีหอระฆังสูง 102 เมตร นับเป็นหอในยุคกลางที่สูงที่สุดในอิตาลี สร้างอยู่ใน Piazza Del Campoในเมือง Siana ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน The Sienese Palio หรือเทศกาลเฉลิมฉลองประจ าปี มีกิจกรรม ส าคัญคือการแข่งม้าหลังเปล่า โดยผู้แข่งขันซึ่งเป็นตัวแทนของ 10 จาก 17 เขตในเมือง Siena ม้าทุกตัวจะได้รับการอวยพรโดย พระสงฆ์จากโบสถ์ในท้องถิ่น ผู้ชนะจะได้รับธงผ้าไหมเป็น รางวัล การแข่งขันนี้คาดว่าเกิดมาจากการฝึกทหารในกองทัพ โรมันในอดีต อาคารที่โดดเด่นที่สุดในจตุรัสแห่งนี้คือ Duomo ซึ่งเป็นอาสนวิหารที่ยิ่งใหญ่ในสไตล์Romanesque- Gothic มี งานศิลปะชิ้นเยี่ยมอันเป็นผลงานของศิลปินหลายท่าน เช่น Nicola Pisano , Donatello, c]t Michael Angelo
Arena, Verona, Italy เป็นสนามกีฬาโรมัน ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจาก Colosseum ในกรุ งโรม และ Amphitheatre at Santa Maria Capua Vetere ใกล้เมือง Naple สร้างแล้วเสร็จใน ปี AD 30 สามารถรองรับผู้ชมทั้งเมือง Veronaและใน Veneto Region เพื่อเข้า ชมการต่อสู้ของ Gladiator ปัจจุบันใช้เป็น สถานที่จัดงานเทศกาล การต่อสู้วัว การ แสดงคอนเสิร์ต และ Opera
แผนท ี่ Asia and Oceania เริ่มจากประเทศไทย กัมพูชา อินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่ น จีน และ ออสเตรเลีย แต่ละ ประเทศต่างก็มีงานสถาปัตยกรรมและสถานที่ ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
Chakri Maha Prasat, Grand Palace, Bangkok, Thailand พระบรมมหาราชวังเดิมมีพื้นที่ 132 ไร่ และได้ขยายเป็น 152 ไร่ 2 งาน ในเวลา ต่ อ ม า โ ด ย ใ ช้แ ผ น ผัง พ ร ะ ร า ช วัง ห ล ว ง แ ห่ ง ก รุ ง ศ รีอยุธ ย า เ ป็ น ต้น แ บ บ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ได้โปรด เกล้าให้สร้างขึ้น เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2325 ภายในบริเวณประกอบด้วย พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2332 เป็นที่นั่งองค์ประธาน พระที่นั่ง อาภรณ์พิโมข์ปราสาท ใช้เป็นที่ประทับทรงพระราชพาหนะ และประทับเปลื้องเครื่อง ในงานพระราชพิธีที่มีขบวนแห่ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท( Chakri Maha Prasat) ซึ่งรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นท้องพระโรง เมื่อ พ.ศ. 2418 เป็น สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะไทยและยุโรปไว้ด้วยกันอย่างงดงาม และสง่า ภูมิฐาน นอกจากนั้น ยังมีพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระที่นั่ง บรมพิมาน และอื่นๆ ที่ส าคัญคือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระ พุทธมหามญีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) มีปรางค์และเจดีย์อีกเป็นจ านวนมาก
Ayuttaya Historical Park, Ayuttaya, Thailand พระเจ้าอู่ทอง (สมเด็จ พระรามาธิปดีที่ 1) ได้ทรงยกก าลังพลลงมาจากทางเหนือ เพื่อตั้งฐานที่มั่นแห่งใหม่ ภายหลังจากอาณาจักรสุโขทัยเริ่มเสื่อมอ านาจ ณ บริเวณต าบลหนองโสน (บึงพระราม ) และสถาปนาเป็นราชธานี เมื่อวันศุกร์ ขึ้น 6 ค ่า เดือน 5 ปีขาล จุลศักราช 712 (ตรงกับวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 1893 ) เป็น บริเวณที่เป็ นชัยภูมิ เรียกว่า เกาะเมือง มีแม่น ้าล้อมรอบ คือ แม่น ้าลพบุรี แม่น ้าป่ าสัก และแม่น ้าเจ้าพระยา กรุงศรีอยุธยามีอายุยืนนาน 417 ปี มี พระมหากษัตริย์ 33 พระองค์ โดยพระเจ้าเอกทัศน์เป็นกษัตริย์องค์สุดท้าย อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา รวมโบราณสถานไว้มากกว่า 210 แห่ง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ โบราณสถานในเกาะเมือง เช่น วิหารพระมงคลบพิตร วัด พระศรีสรรเพชร เป็นต้น และโบราณสถานนอกเกาะเมือง ได้แก่ วัดภูเขาทอง วัดพนัญเชิง และวัดใหญ่ชัยมงคล กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงครั้งสุดท้าย (ครั้งที่ 2 ) เมื่อปี พ.ศ. 2310
Phanom Rung Historical Park, Burirum, Thailand ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานส าคัญและสวยงามอย่างยิ่งแห่งหนึ่ง ของประเทศไทย อยู่ในเขตบ้านดอนหนองแหน ต าบลตาเป็ก อ าเภอเฉลิม พระเกียรติ จังหวัดบุรึรัมย์ ค าว่า พนมรุ้ง มีรากศัพท์มาจากภาษาเขมร แปลว่า ภูเขาใหญ่ ได้แก่ภูเขาอันเป็นที่ตั้งของปราสาท สูงจากน ้าทะเลปาน กลางประมาณ 200 เมตร บริเวณเชิงเขามีหนองบัวบารายเป็นที่รองรับน ้า จากภูเขา ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในระหว่าง พ.ศ.ที่ 15-18 โดยนเรทราทิตย์เจ้าแห่ง ราชวงศ์ มหิธรปุระซึ่งปกครองดินแดนในแถบนี้ การวางผังมีสัดส่วนลงตัว ของหมู่ปราสาท ท าให้เกิดปรากฏการธรรมชาติที่หาชมได้ยาก เกิดขึ้นปีละ 4 ครั้ง คือดวงอาทิตย์จะตกตรงกับ 15 ช่องประตูของปราสาท 2 ครั้ง ระหว่าง วันที่ 5-7 มีนาคม และวันที่ 5-7 ตุลาคม และขึ้นตรงช่องประตูทั้งหมดอีก 2 ครั้ง ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน และวันที่ 8-10 กันยายน ทับหลังนารายณ์ บรรทมสินธุ์ที่ถูกโจรกรรมไป ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งของปราสาทแห่งนี้
นครวัต ตั้งอยู่ในเขตเมืองเสียมราฐหรือเสียมเรียบ มีอาณาเขตประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร โดยบริเวณปราสาทมีความยาว 1.5 กิโลเมตร กว้าง 1.3 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยคูน ้ากว้าง 190 เมตร ผังการก่อสร้าง แบ่งเป็น 3 ส่วน ก าแพงชั้นนอกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 800 เมตร คูณ 1025 เมตร ภายในมีสะพานเป็ นช่วงๆ มีราวสะพานเป็ นรูป พญานาคต่อเชื่อมกับเขตชั้นกลาง มีซุ้มพระปรางค์ 3 ยอด เป็นช่อง ทางเข้าสู่เขตชั้นในซึ่งก็คือฐานองค์ปราสาท “เขาพระสุเมรุ” องค์ปราสาทเป็นพระปรางค์ 5 ยอด แบ่งฐานเป็น 2 ระดับ ยกพื้นสูง 10 และ 15 เมตรตามล าดับ มีบึงขนาดใหญ่ขนาบทั้ง 2ด้านขององค์ ปราสาทนครวัตได้รับการยกย่องเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นเพราะ ผลงานแกะสลักหินตามก าแพง เป็นลวดลายวิจิตรและนางอัปสรหลาย พันรูปบนก าแพงทุกชั้น รวมทั้งที่เป็นเรื่องราวทางศาสนา ทั้งชาดกของ พุทธศาสนา ต านานศาสนาฮินดูและพราหมณ์ Angkor Wat, Krong Siem Reap, Cambodia
Burobudu, Yogyakartar, Indonesia สถูปบรมพุทโธ มีรูปทรงคล้ายพีรามิดแบบขั้นบันได คือมีฐานสี่เหลี่ยม สูงใหญ่ลดหลั่นกันขึ้นไป มีเจดีย์ตรงยอดบนสุดเป็นสัญญลักษณ์ของ สถูปแบบศรีวิชัย สร้างจากหินลาวาภูเขาไฟเกือบ 2 ล้านก้อน มีพื้นที่ รวมประมาณ 55,000 ตารางเมตร ส่วนฐานเป็นจตุรัสมีขนาด 120 คูณ 140 เมตร สูง 28 เมตร แต่ละด้านมีบันไดและซุ้มประตูขึ้นสู่เจดีย์ ช่วง ต้นพุทธศักราช 18 เป็นยุคเสื่อมของอาณาจักรศรีวิชัย มีชาวโปรตุเกส เข้ามายึดครองหมู่เกาะต่างๆ และมีอิทธิพลของศาสนาอิสลามแผ่เข้ามา จนกลายเป็นศาสนาประจ าชาติ บรมพุทโธจึงถูกทิ้งร้างเป็นเวลาหลาย ร้อยปี จนกระทั่งเซอร์โทมัส สแตนฟอร์ด ราฟเฟิ ล ข้าหลวงชาวอังกฤษ เข้ามาปกครองอินโดนีเซีย มีการค้นพบพระเจดีย์ในสภาพปรักหักพัง จึง เริ่มการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2448 ต่อมาใน พ.ศ.2516 รัฐบาลอินโดนีเซียจึงได้เริ่มต้นโครงการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ โดยได้รับ การสนับสนุนจากยูเนสโก โดยใช้เวลาถึง 8 ปี
The Tajmahal, Mumbai, India ทัชมาฮาล เป็นสุสานซึ่งกษัตริย์ ชาร์ ชะฮาน (Shah Jahan) แห่งราชวงศ์โมกุล ทรงมีด าริให้สร้างเป็นสุสานฝังพระศพ พระราชินี มุมทัช มาฮาล (Mumtaz Mahal)หรือพระนามเดิมว่า อรชุมันด์ พานุเพกุม มเหสีที่พระองค์ทรงโปรดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง สิ้นพระชนม์จากอาการตกเลือดหลังการให้ก าเนิดพระธิดา ใน การคลอดครั้งที่ 14 เมื่อปี ค.ศ.1630 ขณะมีพระชนมายุได้ 37 พรรษา ทัชมาฮาลเป็นงานออกแบบตามความเชื่อทางศาสนา อิสลาม มีขนาดกว้างยาว ด้านละ 39 ฟุต ตรงกลางเป็นโดม ขนาดใหญ่ตามแบบสถาปั ตยกรรมเปอร์เซีย มีเส้นผ่าน ศูนย์กลาง 50 ฟุต สูง 200 ฟุต มีหอคอยทั้ง 4 มุมสถาปนิก ผู้ออกแบบได้แก่ อุสทัต อาห์หมัด ลาฮอร์ มีอิสมาเอล ข่าน อาฟริดี้ จากตุรกีเป็นผู้ก่อสร้างโดมและมีโมฮัมหมัด ฮานิฟ เป็น ผู้ควบคุมการก่อสร้าง ใช้เวลาก่อสร้างรวม 22 ปีใช้คนงานและ ช่างฝีมือประมาณ 20,000 คน และใช้งบประมาณ 30 ล้านรูปี
Kiyomizu Dera, Kyoto, Japan วัดคิโยมิซึ เป็นวัดพุทธศาสนาอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปีตั้งอยู่ทาง ตะวันออกของนครโตเกียว บริเวณเนินเขา ฮิงาชิมายะ สร้างขึ้นใน ค.ศ.798 มีอายุมากกว่านครโตเกียว แต่สิ่งปลูกสร้างที่ปรากฏใน ปัจจุบันหลายส่วนสร้างขึ้นใหม่ในช่วงที่มีการบูรณะในปี ค.ศ.1633 วัดคิโยมิซึ รู้จักกันในชื่อ “วัดน ้าใส” ตามสภาพน ้าในล าธารที่อยู่ ใกล้เคียง ค าว่า Kiyomizu หมายถึง น ้าใสหรือน ้าบริสุทธ์ วิหารใหญ่ (Hon-Do) สร้างบนไหล่เขา มีเฉลียงกว้าง ยื่นออกไป เหนือหุบเหว โดยใช้เสาไม้ซุงขนาดใหญ่หลายร้อยต้นรองรับการ ก่อสร้างใช้วิธีการเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่ น โดยไม่ต้อง ใช้ตาปูแมแ้ต่ตัวเด ี ยว ผูไ้ปสักการะส่ิงศักดิ์สิทธิ์ มักจะไปดื่มน ้า ขอพรให้สุขภาพอนามัยแข็งแรง เชื่อกันว่า น ้าจากสถานที่แห่งนี้ เป็นยาอายุวัฒนะ
The Itsukushima Shrine, Miyajima, Japan เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโต ตั้งอยู่บนเกาะ Miyashimaซึ่งในอดีต เคยได้รับนับถือว่าเป็นเกาะแห่งศรัทธา เด่นชัดด้วยประตูโทริอิ (Torii) ขนาดใหญ่ในทะเล เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 593 โดย Saeki No Kuramoto และต่อมาก็ได้รับการสนับสนุนด าเนินการโดย Taira No Kiyomori ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1996
Hall of Supreme, Forbidden City, Beijing, China Forbidden City หรือเมืองต้องห้าม ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง เป็นสถานที่ที่ แสดงใหเ้ห็นถ ึ งพลานุภาพขององคจ์ักรพรรดิ์วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ของประเทศจีนซึ่งมีมากว่า 1,000 ปี ในปี 1402 Yong Lee แห่งราชวงศ์หมิง ได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นจักรพรรดิและได้ย้ายเมืองหลวงมาที่ปักกิ่ง ในปี 1406 ได้มีรับสั่งให้สร้างพระราชวังที่ประทับซึ่งเรียกว่า ZiJin Cheng ซึ่ง หมายถึงเมืองสวรรค์ต้องห้าม อันเป็นศูนย์กลางของจักรวาล พระราชวังมีห้อง รวมกันถึง 9,999 ห้อง ตามประเพณีความเชื่อที่ว่า พระราชวังแห่งสรวงสวรรค์ จะมีผู้อยู่อาศัยไม่เกิน 10,000 คน จึงต้องเว้นที่ส ารองให้เป็นที่ประทับของบุตร แห่งสวรรค์ พระราชวังมีหลังคาซ้อนกัน 2 ชั้น สูง 35.50 เมตร มีพื้นที่ 23,770 ตารางเมตร โดยรอบมีก าแพงสูง 10 เมตร ความยาว 3.4 กิโลเมตรปิดล้อม มี ป้อมทั้ง 4 มุม และมีประตูทางเข้าเพียง 4 ประตู นอกก าแพงยังมีคูน ้ากว้าง 52 เมตรล้อมรอบ สมเด็จพระจักรพรรดิปกครองและประทับในเมืองต้องห้ามจนถึง ปี 1912 เมื่อพระจักรพรรดิองค์สุดท้าย Pu Yi ได้ถูกคุมขังในพระราชฐานชั้นใน โดยกองก าลังสาธารณรัฐน าโดย Chiang Kai Shec จนยุคสูญสิ้นราชวงศ์ พระราชวังต้องห้ามจึงถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์
The Sydney Opera House, Sydney, Australia โรงละคอนโอเปร่าของนครซิดนีย์ เป็นอาคาร ทันสมัยในรู ปแบบศิลปะแบบ Expressionist Modern ออกแบบโดย โจเอิร์น อุทชอน แห่ง ประเทศเดนมาร์ก ผู้ชนะการประกวดแบบ ตั้งอยู่ บ น แ ห ล ม Bennelong Point อ่ า ว ซิ ด นี ย์ แบบของโจเอิร์น ถูกปรับแก้ไขอยู่เป็นเวลานาน จนที่สุด เขาต้องลาออกจากโครงการ รัฐบาล ออสเตรเลีย จึงว่าจ้างสถาปนิกชุดใหม่เข้ารับ ด าเนินงานต่อ มีปัญหาระหว่างการก่อสร้าง มากมาย งบประมาณเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า (จาก 7 ล้านเป็ น 120 ล้านเหรียญ แต่ก็กลายเป็ น สัญลักษณ์ของเมืองซิดนีย์
The world ต่อจากนี้ไป เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และ งานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ จาก นานาประเทศทั่วโลก
The Great Sphink Of Giza, Giza, Egypt The Great Sphink สร้างจากหินปูนขาวบนทุ่งราบ กิซ่า ทางฝั่งตะวันตก ของแม่น ้าไนล์มีหน้าตาเหมือนกับฟาโรห์ Khafre มีความยาว 73 เมตร สูง 19 เมตร เป็นปฏิมากรรมเก่าแก่ซึ่งเป็นที่รู้จักและจดจ ามากที่สุดในโลก เชื่อกันว่า สร้างในสมัยอาณาจักรของฟาโรห์Khafre
Abu Symbel, Nubia, Egypt อาบูซิมเบล เป็นวิหารขนาดใหญ่ อยู่ที่เมืองวาวัต เขตนูเบีย ทาง ภาคใต้ของอียิปต์ เป็นวิหารของฟาโรห์ แรมเสสที่ 2 (Ramses 2) ก่อสร้างเมื่อ 1,257 ปีก่อนคริสตกาล โดยการตัดหินภูเขาสลักเป็น ปฏิมากรรมของแรมเสสที่ 2 ไว้ด้านหน้าจ านวน 4 รูป และขุดเจาะ ภูเขาเข้าไป เป็นอุโมงค์วิหาร ภายในมีรูปสลักขนาดใหญ่ของแรมเส สอีก 8 รูป แต่ละรูปมีความสูง 10 เมตร รวมทั้งยังมีงานสิลปะภาพ สลักอีกมากมาย วิหารแห่งนี้ถูกย้ายจากสถานที่เดิมในปีค.ศ. 1964 เนื่องจากมีโครงการสร้างเขื่อนอัสวัน (Aswan Dam)กั้นแม่น ้าไนล์ ซึ่งจะท าให้โบราณสถานแห่งนี้ต้องถูกน ้าท่วม มีการเคลื่อนย้ายวิหาร ให้อยู่ในท าเลที่สูงกว่าเดิม 200 ฟุต และห่างจากที่เดิม 600 ฟุต โดย การสนับสนุนจากยูเนสโก ตามข้อเสนอของผู้เชี่ยวชาญชาวอิตาลี
มหาพิรามิดแห่งกิซ่า เป็นหมู่พิรามิด 3 องค์ ประกอบด้วย พิรามิดคีเฟรน (Chephren) ไมเซอร์รินุส (Myserrinus) และ คูฟู(Khufu) ซึ่งเป็นพิรามิดองค์ใหญ่ที่สุด พิรามิดทั้ง 3 องค์สร้างด้วยหินปูนสีเหลือง เสริมความแข็งแกร่งภายในด้วยหินแกรนิต สกัดจากภูเขาเมืองอัสวัน ซึ่งอยู่ห่างออกไป 800 กิโลเมตร พิรามิดคูฟู ใช้หินสี่เหลี่ยมวางซ้อนกันประมาณ 2.5 ล้านก้อน แต่ละก้อนหนัก 2-5 ตัน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 30 ไร่โดยมีฐานกว้าง 756 ฟุต ความสูงเดิม 481 ฟุต แต่ผุพัง ไปบ้าง คงเหลือความสูงเพียง 450 ฟุตในปัจจุบัน พิรามิดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานเก็บพระศพของฟาโรห์ รวมทั้งเครื่องใช้และทรัพย์สินต่างๆเพื่อน าไปใช้ในชีวิตหน้า ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ
The Temple Of Luxor, Luxor, Egypt วิหารแห่งลักซอร์ เป็นวิหารขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในสมัยฟาโรห์อะเมนโนฟิ ส ที่ 3 หรือ อะเมนโฮเทน ที่ 3 โดยสร้างแล้วเสร็จภายใน 3 รัชการ เริ่มจากสมัยฟาโรห์อะเมนโนฟิ ส ที่ 3 แต่เว้นช่วงไประยะหนึ่ง ในสมัยที่ปกครองโดยอะเคนะเตน บุตรของอะเมนโนฟิ ส ซึ่งนอกจากจะไม่สานงานต่อแล้ว ยังย้ายนครหลวงไปจากธีบิส ไปสร้างเมืองใหม่และ เปลี่ยนศาสนาไปบูชาเทพเจ้าองค์ใหม่ด้วย ภายหลังเมื่อตุตันคาเมนขึ้นเป็นฟาโรห์ จึงได้ หวนคืนสู่ถิ่นเดิม ท าให้ธีบิสเป็นราชธานีของอียิปต์อีกครั้งหนึ่ง และท าการสร้างวิหาร ลักซอร์ต่อไป แต่มาแล้วเสร็จในสมัยฟาโรห์แรมเสสที่ 2 โดยสร้างขนานเรียบฝั่งแม่น ้าไนล์ ด้านหน้าเป็นหอขนาดใหญ่ สูงประมาณ 213 ฟุต มีความยาวประมาณ 850 ฟุต ประตู ทางเข้าถูกขนาบสองด้านด้วยรูปแกะสลักจากหินแกรนิตของแรมเสสที่ 2 ในท่านั่งบัลลังก์ สูง 51 ฟุต ผ่านเข้าไปเป็นระเบียงทางเดินยาว 170 ฟุต มีเสาเรียงราย 2 แถว แถวละ 7 ต้น แต่ละต้นสูง 52 ฟุต หัวเสาสลักเป็ นรูปดอกบัวบาน ถัดไปเป็ นโถงขนาดใหญ่ ประกอบด้วยเสา 4 แถว แถวละ 8 ต้น เคยถูกดัดแปลงใช้เป็นโบสถ์ของคริสตศาสนาด้วย
Temple of Hatshepsut, Valley of The King Luxor, Egypt วิหารฮัตเชพซุต เป็นอนุสรณ์สถานของฟาโรห์สตรีผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์แรกของอียิปต์ เป็นสตรีที่ครองราชย์นานที่สุด ตั้งอยู่ ฝั่งตะวันตกของแม่น ้าไนล์ตรงข้ามเมืองลักซอร์ โอบล้อมด้วย ภูเขา เดอีร์ เอลบาฮาร์(Deir Elbahari) หรือหุบเขากษัตริย์ ส ถ า น ที่ ฝั ง พ ร ะ ศ พ ฟ า โ ร ห์ผู้ยิ่ ง ใ ห ญ่ ห ล า ย พ ร ะ อ ง ค์ ออกแบบโดยสถาปนิก ซิเนนมุต ใช้เวลาก่อสร้างนาน 15 ปี มีเสาระเบียงซ้อนกัน 3 ชั้น มีทางลาดและบันไดขึ้นเป็น 2 ช่วง สร้างด้วยหินปูนขาวนวล ตัดกับสีของหุบเขาด้านหลังซึ่ง เป็นหินทรายสีแดง ทางเดินสู่วิหารมีความยาว 1 กิโลเมตร มี แถวสฟิ งซ์ตั้งเรียงรายหันหน้าเข้าหากัน ในวิหารมีรูปสลัก แสดงภาพพระนางสวมชุดของบุรุษและสวมเคราปลอม ซึ่ง เป็นที่มาของชื่อ “ราชินีเครา “
ทั้ง 3 ภาพนี้ ไม่ทราบสถานที่มา (จ าไม่ได้ ) คาดว่าอยู่แถวยุโรปตะวันออก แต่โดมรูปหัวหอมในภาพที่ 3 บอกว่าเป็นรัสเซียแน่ๆ