หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6
ประจำเดือน ธันวาคม
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564
แผนการจัดการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ รหสั วชิ า อ15101 เวลา 8 ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรอ่ื ง Feelings เวลา 1 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 …………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นรชู้ ว่ งชัน้ /ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาส่งั คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ท่ีฟังและอ่าน
ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสยี งประโยค ข้อความและบทกลอนส้ัน ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา
และนทิ านง่าย ๆ หรือเรอ่ื งสั้น ๆ
ต 1.2 ป.5/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขียน แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกยี่ วกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตวั
ต 1.3 ป.5/1 และกิจกรรมต่าง ๆ พรอ้ มทัง้ ให้เหตุผลสน้ั ๆ ประกอบ
พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเองและเร่อื งใกลต้ ัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
ต 2.1 ป.5/1 ใช้ถอ้ ยคา นา้ เสียง และกริ ยิ าทา่ ทางอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสงั คมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พันธ์กบั ชมุ ชนและโลก
ต 4.1 ป.5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณต์ ่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคญั
มนษุ ยม์ ีความรู้สึก เพ่ือบอกอารมณ์ ความรูส้ กึ อาการตา่ ง ๆ คาทบ่ี อกความรสู้ ึก เชน่ ตื่นเต้น
เบ่อื เหนื่อย
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคาศัพท์ รู้จักความหมายคาศัพท์ของความรู้สึกได้
ถกู ต้อง
2. นักเรียนสามารถบอกความรู้สึกของตนเองได้
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process)
3. นกั เรียนทางานรว่ มกนั เป็นกลุ่มได้
4. นกั เรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดใหม้ าประยุกต์ใช้ในการสนทนาได้
5. นักเรียนสรา้ งบทสนทนาจากประสบการณ์และการเรยี นรู้ในชนั้ เรยี นได้
3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (Attribute)
6. นกั เรยี นมรี ะเบียบวินัยและมุ่งม่นั ในการทางาน
7. นักเรียนมคี วามใฝ่รู้โดยหาความรเู้ พมิ่ เติมจากแหล่งตา่ ง ๆ ได้
3.4 สมรรถนะสำคัญ
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
3.5 ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 (3Rs&8Cs)
3Rs = Reading (การอ่านออก) Writing (การเขียนได)้ Arithmetic (การคิดคำนวณ)
8Cs = Collaboration Teamwork and Leadership : ความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทมี
และภาวะผนู้ ำ Communication Information and Media Literacy : ทกั ษะในการสอ่ื สาร และการรู้เท่า
ทนั สอื่
3.6 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ซ่ือสตั ย์สุจริต 2. มีวินยั 3. ไฝ่เรยี นรู้ 4. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
4. สาระการเรยี นรู้
คาศพั ท/์ กล่มุ คา
excited, tired, interested, worried, bored, amazed, confused, embarrassed
โครงสรา้ งประโยค
I’m tired.
I’m worried.
I’m amazed.
I’m embarrassed.
ช้ินงาน / ภาระงาน
ช้ินงาน - แบบฝึกหดั ใน Workbook หน้า 69
ภาระงาน - จบั คฝู่ ึกคาศัพท์ , สะกดคาศพั ทท์ ลี ะคา
5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
ขน้ั นาเตรียมความพร้อม (Warm up)
1. ครูทักทายนักเรียนและติดบัตรคาศัพท์ความรู้สึกต่าง ๆ Feelings บนกระดาน
2. ครูให้นักเรียนอ่านตาม 2 รอบ พร้อมสะกดคาให้ถูกต้องพร้อมกัน จากนั้นครูบอกความหมาย
ของคาศัพท์ให้นักเรียน
ขัน้ ดาเนนิ การสอน (Presentation)
3. จากนั้นครตู ดิ บตั รภาพหลาย ๆ ภาพ บนกระดาน ครูชีไ้ ปท่ีภาพแลว้ ถามนักเรียนว่า How do
they feel? ใหน้ กั เรยี นตอบเปน็ ภาษาอังกฤษ
4. ครใู ห้นักเรียนเปดิ หนังสือเรยี นหนา้ 96 ครอู ่านคาศัพท์ให้นักเรยี นอา่ นออกเสยี งตามทีละคา ให้
นกั เรียนอ่านตาม 2 รอบ
5. จากน้ันให้นักเรียนสะกดคาศัพทท์ ีละคาพร้อมกัน
6. ครูอธบิ ายความหมายของคาศพั ทท์ ลี ะคาพร้อมทาท่าทางประกอบ
ขั้นการฝึก (Practice)
7. ครูให้นักเรียนจับคู่ฝึกคาศัพท์ โดยให้นักเรียนสะกดคาศัพท์ทีละคา จากนั้นครูเรียกอาสาสมัครมา
ทาทา่ ทางประกอบคาศัพท์ทีค่ รชู ีบ้ นกระดาน
ขน้ั นาไปใช้ (Production)
8. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 97-98 ให้นักเรียนจับคู่ประโยคกับรูปภาพให้ถูกต้องและ
สอดคลอ้ ง ตัวอยา่ งเชน่
1. I’m tired.
2. I’m bored.
9. ครูสอนนกั เรียนอ่านทลี ะประโยคและอธิบายความหมาย ครูอา่ นประโยคท่ี 1-8 2 รอบ
พรอ้ มทาท่าทางประกอบ
1. I’m tired.
2. I’m worried.
3. I’m amazed.
4. I’m embarrassed.
5. I’m confused.
6. I’m excited.
7. I’m bored.
8. I’m interested.
10. ครูเฉลยคาตอบแบบฝึกหัดในหนังสอื เรียนหน้า 97-98
เฉลยคาตอบ:
1. I’m tired. = รปู ที่ 3
2. I’m worried. = รปู ที่ 2
3. I’m amazed. = รูปที่ 1
4. I’m embarrassed. = รปู ที่ 4
5. I’m confused. = รปู ท่ี 8
6. I’m excited. = รูปท่ี 5
7. I’m bored. = รูปที่ 6
8. I’m interested. = รปู ที่ 7
ขนั้ สรปุ (Wrap up)
11. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาในบทเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
12. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หัดใน Workbook เป็นการบ้าน หน้า 69 ใหน้ กั เรยี นจบั คู่คาศัพท์และ
ความหมายของคาให้ถูกต้อง หน้า 70 ใหน้ กั เรียนประโยคใตภ้ าพเพื่ออธิบายความหมายของภาพให้ถูกต้องและ
สอดคล้อง
6. สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้
สอ่ื บตั รคาศัพท์ / บัตรภาพ
แหลง่ เรียนรู้
3. หนังสือเรยี นภาษาองั กฤษ Smart English ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หนา้ 94-97
4. แบบฝึกหดั ภาษาอังกฤษ Smart English ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 หนา้ 69-70
7. การวดั และประเมนิ ผล น้าหนัก นา้ หนกั คะแนน วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมือ
แนวทางการประเมิน คะแนน K P A ประเมิน
สงั เกต-ประเมินพฤติกรรมการ
ผลการเรยี นรู้ 10 10 อา่ นออกเสยี ง และ แบบสงั เกต-
บอกความหมายของคาศัพท์ท่ี แบบประเมิน
ด้านความรู้ กาหนดให้ พฤติกรรม
(Knowledge) การ
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกด สงั เกต-ประเมนิ พฤติกรรมการ
คาศัพท์ รู้จกั ความหมายคาศัพทข์ อง ถบอกความรูส้ กึ ของตนเองได้
ความร้สู ึกได้ถูกต้อง ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรสู้ ึกของ 10 10
ตนเองได้
ด้านกระบวนการ
(Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ ได้ แบบสังเกตการทางานกล่มุ แบบสงั เกต-
แบบประเมินผลงาน แบบประเมนิ
4. นักเรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดให้มา พฤติกรรม
ประยกุ ต์ใชใ้ นการสนทนาได้ การ
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจาก 10 แบบประเมนิ ผลงาน
ประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นช้นั เรยี นได้ 10
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมีระเบยี บวินยั แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต-
และมุง่ ม่ันในการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ
พฤติกรรม
7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ การ
รวม 30 10 10 10 - -
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ รหสั วชิ า อ15101 เวลา 8 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอ่ื ง Feelings เวลา 1 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 2 …………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นรูช้ ่วงชัน้ /ตัวช้วี ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ที่ฟังและอ่าน
ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสยี งประโยค ข้อความและบทกลอนสนั้ ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา
และนทิ านง่าย ๆ หรือเร่อื งสั้น ๆ
ต 1.2 ป.5/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขียน แสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกับเร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ ัว
ต 1.3 ป.5/1 และกจิ กรรมต่าง ๆ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตผุ ลสัน้ ๆ ประกอบ
พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตวั
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
ต 2.1 ป.5/1 ใช้ถอ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ิยาท่าทางอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสงั คมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชุมชนและโลก
ต 4.1 ป.5/1 ฟัง พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ที่เกดิ ขึน้ ในหอ้ งเรยี นและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคญั
มนุษย์มคี วามรู้สึก เพื่อบอกอารมณ์ ความรู้สึก อาการตา่ ง ๆ คาท่บี อกความรสู้ ึก เชน่ ตนื่ เตน้
เบอื่ เหนอื่ ย
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคาศัพท์ รู้จักความหมายคาศัพท์ของความรู้สึกได้
ถูกตอ้ ง
2. นกั เรียนสามารถบอกความรู้สึกของตนเองได้
3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
3. นักเรียนทางานรว่ มกนั เป็นกลุ่มได้
4. นกั เรียนนาขอ้ มูลท่กี าหนดใหม้ าประยุกตใ์ ชใ้ นการสนทนาได้
5. นกั เรยี นสรา้ งบทสนทนาจากประสบการณ์และการเรยี นรู้ในช้ันเรียนได้
3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute)
6. นกั เรียนมีระเบียบวินยั และมุ่งมน่ั ในการทางาน
7. นักเรียนมคี วามใฝ่รูโ้ ดยหาความรเู้ พ่ิมเตมิ จากแหล่งต่าง ๆ ได้
3.4 สมรรถนะสำคญั
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
3.5 ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 (3Rs&8Cs)
3Rs = Reading (การอ่านออก) Writing (การเขยี นได)้ Arithmetic (การคดิ คำนวณ)
8Cs = Collaboration Teamwork and Leadership : ความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทมี
และภาวะผนู้ ำ Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการส่อื สาร และการร้เู ท่า
ทันสอ่ื
3.6 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต 2. มีวินัย 3. ไฝเ่ รยี นรู้ 4. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
4. สาระการเรยี นรู้
คาศัพท/์ กลุ่มคา
excited, tired, interested, worried, bored, amazed, confused, embarrassed
โครงสรา้ งประโยค
What makes you feel excited?
Riding my bike down a hill!
ชน้ิ งาน / ภาระงาน
ช้ินงาน - แบบฝกึ หดั ในหนังสือเรยี นหน้า 100-101
ภาระงาน - เขียนตามคาบอก (Dictation)
เขยี นบรรยายความรสู้ กึ
จับคฝู่ ึกบทสนทนา
5. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
ขน้ั นาเตรียมความพร้อม (Warm up)
1. ครูทบทวนคาศัพท์ความรู้สึกต่าง ๆ Feelings โดยครูอ่านออกเสียง ให้นักเรียนออกเสียงตาม
ข้ันดาเนนิ การสอน (Presentation)
2. จากน้นั ครูให้นักเรียนเปดิ หนังสือเรียนหนา้ 99 และติดแถบประโยค ดงั น้ี
What makes you feel excited? What makes you feel worried?
3. ครูเขยี นคาศัพท์ตามหนงั สือเรียนหน้า 99 ใตแ้ ถบประโยค
4. ครูอ่านและอธิบายความหมายแถบประโยคและคาตอบให้นกั เรยี นฟงั
5. จากนั้นครูตดิ บัตรภาพบนกระดาน ใหค้ รูอ่านออกเสยี งคาและชี้ไปทีร่ ปู ภาพ แล้วถามนักเรียนวา่
How do they feel? ให้นักเรยี นตอบเป็นภาษาอังกฤษ
6. ครูเขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน
It’s been a long day. I’m tired.
7. ครูอธิบายประโยคในหนังสอื เรียนหน้า 100-101 ครูให้นักเรียนดูว่าแต่ละรปู มีความหมายอยา่ งไร
สอดคล้องกนั อยา่ งไร และลองใหน้ กั เรียนตอบคาถาม
ขั้นการฝกึ (Practice)
8. ครูให้นักเรยี นจบั ค่ฝู ึกบทสนทนา ดงั นี้
Student1: What makes you feels excited?
Student2: Riding my bike down a hill. tired
interested
worried
amazed
9. ครใู หน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหัดในหนงั สือเรยี นหน้า 100-101 ให้นกั เรียนเขียนบรรยายความรูส้ ึก ตาม
รูปภาพประกอบ จากนน้ั ครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคาตอบ:
1. I’m bored.
2. I’m confused.
3. I’m amazed.
4. I’m tired.
5. I’m worried.
6. I’m excited.
7. I was embarrassed.
8. We’re interested.
ขน้ั นาไปใช้ (Production)
10. ครูให้นักเรียนเขียนตามคาบอก (Dictation) ดงั นี้
1. excited
2. tired
3. interested
4. worried
5. bored
6. amazed
7. confused
8. embarrassed
11. ครูใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หัดใน Workbook หน้า 72
ขัน้ สรปุ (Wrap up)
12. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาในบทเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
6. สื่อและแหล่งเรียนรู้
สอ่ื
1. บตั รภาพ
2. บัตรคาศัพท์
3. แถบประโยค
แหลง่ เรียนรู้
4. หนงั สอื เรียนภาษาอังกฤษ Smart English ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้า 99-101
5. แบบฝกึ หดั ภาษาอังกฤษ Smart English ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 หนา้ 72
7. การวดั และประเมนิ ผล น้าหนัก นา้ หนกั คะแนน วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมือ
แนวทางการประเมิน คะแนน K P A ประเมิน
สงั เกต-ประเมินพฤติกรรมการ
ผลการเรยี นรู้ 10 10 อา่ นออกเสยี ง และ แบบสงั เกต-
บอกความหมายของคาศัพท์ท่ี แบบประเมิน
ด้านความรู้ กาหนดให้ พฤติกรรม
(Knowledge) การ
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกด สงั เกต-ประเมนิ พฤติกรรมการ
คาศัพท์ รู้จกั ความหมายคาศัพทข์ อง ถบอกความรูส้ กึ ของตนเองได้
ความร้สู ึกได้ถูกต้อง ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรสู้ ึกของ 10 10
ตนเองได้
ด้านกระบวนการ
(Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ ได้ แบบสังเกตการทางานกล่มุ แบบสงั เกต-
แบบประเมินผลงาน แบบประเมนิ
4. นักเรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดให้มา พฤติกรรม
ประยกุ ต์ใชใ้ นการสนทนาได้ การ
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจาก 10 แบบประเมนิ ผลงาน
ประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นช้นั เรยี นได้ 10
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมีระเบยี บวินยั แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต-
และมุง่ ม่ันในการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ
พฤติกรรม
7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ การ
รวม 30 10 10 10 - -
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ รหสั วชิ า อ15101 เวลา 8 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอ่ื ง Feelings เวลา 1 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 3 …………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นรูช้ ่วงชัน้ /ตัวช้วี ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ที่ฟังและอา่ น
ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสยี งประโยค ข้อความและบทกลอนสนั้ ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา
และนทิ านง่าย ๆ หรือเร่อื งสั้น ๆ
ต 1.2 ป.5/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขียน แสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกับเร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว
ต 1.3 ป.5/1 และกจิ กรรมต่าง ๆ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตผุ ลสั้น ๆ ประกอบ
พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตวั
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
ต 2.1 ป.5/1 ใช้ถอ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ิยาท่าทางอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชุมชนและโลก
ต 4.1 ป.5/1 ฟัง พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ที่เกดิ ขึ้นในห้องเรียนและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคญั
มนุษย์มคี วามรู้สึก เพื่อบอกอารมณ์ ความรู้สึก อาการตา่ ง ๆ คาท่บี อกความรู้สกึ เช่น ตื่นเตน้
เบอื่ เหนอื่ ย
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคาศัพท์ รู้จักความหมายคาศัพท์ของความรู้สึกได้
ถูกตอ้ ง
2. นกั เรียนสามารถบอกความรู้สึกของตนเองได้
3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
3. นักเรียนทางานรว่ มกนั เป็นกลุ่มได้
4. นกั เรียนนาขอ้ มูลท่กี าหนดใหม้ าประยุกตใ์ ชใ้ นการสนทนาได้
5. นกั เรียนสร้างบทสนทนาจากประสบการณ์และการเรยี นรใู้ นช้นั เรียนได้
3.3 ด้านคณุ ลักษณะ (Attribute)
6. นักเรียนมีระเบียบวนิ ยั และมุ่งมั่นในการทางาน
7. นกั เรียนมคี วามใฝร่ ู้โดยหาความรเู้ พิ่มเติมจากแหลง่ ต่าง ๆ ได้
3.4 สมรรถนะสำคัญ
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
3.5 ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3Rs&8Cs)
3Rs = Reading (การอา่ นออก) Writing (การเขยี นได)้ Arithmetic (การคิดคำนวณ)
8Cs = Collaboration Teamwork and Leadership : ความร่วมมอื การทำงานเป็นทีม
และภาวะผู้นำ Communication Information and Media Literacy : ทกั ษะในการสื่อสาร และการรูเ้ ท่า
ทันสอื่
3.6 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ 2. มีวนิ ยั 3. ไฝ่เรียนรู้ 4. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
4. สาระการเรียนรู้
คาศัพท/์ กล่มุ คา
Interesting, exciting, amazing, boring
โครงสร้างประโยค
This is interesting! Very interesting!
This is exciting! Really exciting!
ช้ินงาน / ภาระงาน
ชิ้นงาน - แปลเนือ้ เพลง จดคาแปลลงในสมดุ
ภาระงาน - ฝกึ รอ้ งเพลงพร้อมกัน ออกเสยี ง
5. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
ข้นั นาเตรียมความพร้อม (Warm up)
1. ครูเขียนคาศัพท์ที่สาคัญในเน้ือเพลงบนกระดาน
2. จากนั้นครูอธิบายความหมายและให้นักเรียนออกเสียงตามทีละคาให้ถูกต้อง
ข้นั ดาเนนิ การสอน (Presentation)
3. จากนนั้ ครใู หน้ ักเรียนเปดิ หนังสอื เรยี นหนา้ 102 ครูร้องเพลงตามหนงั สอื เรียนให้นกั เรียน
ฟงั ก่อน 1 รอบ
4. ครใู ห้นักเรยี นขีดเสน้ ใตค้ าท่ีบอกความรู้สึกต่าง ๆ ในหนังสือเรยี นหน้า 102
5. ครูรอ้ งเพลงใหน้ ักเรียนทงั้ ห้องฟังอีกครัง้ แลว้ ให้นักเรยี นร้องเพลงพร้อมกนั
ข้ันการฝึก (Practice)
6. ครูสุ่มนักเรียนแปลเนือ้ เพลง จากน้ันครูสรปุ การแปลอีกคร้งั และใหน้ ักเรียนจดคาแปลลงในสมดุ
7. ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั นกั เรยี นในกลมุ่ ฝกึ รอ้ งเพลงพร้อมกัน ออกเสยี ง
ใหถ้ กู ตอ้ ง
ข้ันนาไปใช้ (Production)
8. ครใู หต้ ัวแทนหอ้ งจานวน 3 กลมุ่ ออกมาร้องเพลงหนา้ หอ้ งเรียน แล้วใหน้ ักเรียนแต่ละคนปรบมอื
ให้กกลมุ่ ดังกลา่ ว กล่มุ ใดเสียงปรบมือดังสุด เปน็ ผูช้ นะ
9. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั ใน Workbook หน้า 78
ขั้นสรปุ (Wrap up)
10. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาในบทเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
6. สอื่ และแหล่งเรยี นรู้
สอ่ื บัตรคาศัพท์ / บตั รภาพ
แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นภาษาอังกฤษ Smart English ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หน้า 102
2. แบบฝกึ หดั ภาษาอังกฤษ Smart English ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 หน้า 78
7. การวัดและประเมนิ ผล น้าหนัก นา้ หนกั คะแนน วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมือ
แนวทางการประเมิน คะแนน K P A ประเมิน
สงั เกต-ประเมินพฤติกรรมการ
ผลการเรยี นรู้ 10 10 อา่ นออกเสยี ง และ แบบสงั เกต-
บอกความหมายของคาศัพท์ท่ี แบบประเมิน
ด้านความรู้ กาหนดให้ พฤติกรรม
(Knowledge) การ
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกด สงั เกต-ประเมนิ พฤติกรรมการ
คาศัพท์ รู้จกั ความหมายคาศัพทข์ อง ถบอกความรูส้ กึ ของตนเองได้
ความร้สู ึกได้ถูกต้อง ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรสู้ กึ ของ 10 10
ตนเองได้
ด้านกระบวนการ
(Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกนั เป็นกลุ่มได้ แบบสังเกตการทางานกล่มุ แบบสงั เกต-
แบบประเมินผลงาน แบบประเมนิ
4. นักเรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดให้มา พฤติกรรม
ประยกุ ต์ใชใ้ นการสนทนาได้ การ
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจาก 10 แบบประเมนิ ผลงาน
ประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นชนั้ เรียนได้ 10
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมีระเบยี บวินยั แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต-
และมุง่ ม่ันในการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ
พฤติกรรม
7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ การ
รวม 30 10 10 10 - -
แผนการจัดการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รหสั วิชา อ15101 เวลา 8 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เรื่อง Feelings เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 4 …………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นรูช้ ว่ งช้ัน/ตวั ชวี้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอื่ สาร
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ท่ีฟังและอา่ น
ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความและบทกลอนส้ัน ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา
และนทิ านงา่ ย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ
ต 1.2 ป.5/1 พดู /เขยี นโต้ตอบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขียน แสดงความรู้สึกของตนเองเกยี่ วกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัว
ต 1.3 ป.5/1 และกจิ กรรมต่าง ๆ พรอ้ มทงั้ ให้เหตผุ ลสนั้ ๆ ประกอบ
พูด/เขยี นให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ ัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
ต 2.1 ป.5/1 ใช้ถ้อยคา นา้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธก์ ับชมุ ชนและโลก
ต 4.1 ป.5/1 ฟงั พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคญั
มนษุ ยม์ ีความรู้สึก เพื่อบอกอารมณ์ ความรสู้ กึ อาการต่าง ๆ คาทบ่ี อกความรู้สกึ เช่น ต่นื เต้น
เบ่อื เหนื่อย
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคาศัพท์ รู้จักความหมายคาศัพท์ของความรู้สึกได้
ถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถบอกความรู้สึกของตนเองได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
3. นกั เรียนทางานรว่ มกันเปน็ กลุ่มได้
4. นักเรียนนาข้อมลู ที่กาหนดใหม้ าประยุกต์ใช้ในการสนทนาได้
5. นกั เรียนสร้างบทสนทนาจากประสบการณ์และการเรียนรู้ในช้นั เรยี นได้
3.3 ด้านคุณลกั ษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมรี ะเบียบวินัยและม่งุ มน่ั ในการทางาน
7. นักเรียนมีความใฝ่รู้โดยหาความรู้เพมิ่ เตมิ จากแหล่งตา่ ง ๆ ได้
3.4 สมรรถนะสำคญั
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
3.5 ทักษะในศตวรรษท่ี 21 (3Rs&8Cs)
3Rs = Reading (การอ่านออก) Writing (การเขียนได)้ Arithmetic (การคดิ คำนวณ)
8Cs = Collaboration Teamwork and Leadership : ความร่วมมอื การทำงานเป็นทีม
และภาวะผนู้ ำ Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการสอ่ื สาร และการรู้เท่า
ทนั สอื่
3.6 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต 2. มีวินยั 3. ไฝ่เรยี นรู้ 4. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
4. สาระการเรียนรู้
คาศพั ท/์ กลมุ่ คา
tired, bored, excited, amazed, tiring, boring, exciting, amazing
โครงสร้างประโยค
They are tired. The game is tiring.
ชิ้นงาน / ภาระงาน
ชนิ้ งาน - แบบฝกึ หดั ภาษาอังกฤษ Smart English ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หนา้ 75
ภาระงาน – แต่งประโยค , แปลประโยค
5. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ นาเตรยี มความพร้อม (Warm up)
1. ครูเขียนคาศัพท์บนกระดาน
tired tiring
bored boring
excited exciting
amazed amazing
2. จากน้ันครูอธิบายไวยากรณ์เพ่ิมเติม
ขัน้ ดาเนนิ การสอน (Presentation)
3. จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นเปดิ หนงั สือเรียนหนา้ 103-104
4. ครูอา่ นประโยคให้นักเรยี นฟงั ทลี ะประโยค พร้อมอธบิ ายความหมาย
5. ครเู ขียนประโยคตอ่ ไปนบี้ นกระดาน
A: They are tired.
B: The game is tiring.
6. จากนน้ั ครูอธิบายความหมายของการใชค้ า tired และ tiring ขอ้ งทั้ง 2 ประโยคใหน้ ักเรียนฟงั
ข้นั การฝกึ (Practice)
7. ครแู บ่งนักเรยี นออกเป็น 2 กลมุ่ กลมุ่ ละ เท่าๆ กนั กลุ่ม A และ กลุ่ม B
8. ครใู ห้นักเรยี นฝึกอ่านพร้อมกันทลี ะกลุม่ ตามประโยคท่ีครชู ้ีให้ถกู ต้อง
9. จากนน้ั ครูสุ่มนกั เรียนในแต่ละกลมุ่ แปลประโยค
ขั้นนาไปใช้ (Production)
10. ครูให้นักเรียนจับคู่ จากนั้นให้นักเรียนแต่งประโยคใหม่ โดยใช้โครงสร้างประโยคในหนังสือเรียน
หนา้ 103-104 และคาศพั ทท์ ่ีนกั เรยี นไดม้ า
11. จากน้นั ครสู มุ่ นักเรียนแตล่ ะคอู่ อกมาสนทนาหน้าชั้นเรยี น
12. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดใน Workbook หนา้ 75 ขอ้ C
ขัน้ สรุป (Wrap up)
13. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาในบทเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
และร่วมกันเฉลยคาตอบใน Workbook 75 ข้อ C
6. ส่ือและแหลง่ เรยี นรู้
สอ่ื บตั รคาศัพท์ / บัตรภาพ
แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นภาษาองั กฤษ Smart English ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 หนา้ 103-104
2. แบบฝกึ หดั ภาษาองั กฤษ Smart English ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 หน้า 75
7. การวดั และประเมนิ ผล น้าหนัก นา้ หนกั คะแนน วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมือ
แนวทางการประเมิน คะแนน K P A ประเมิน
สงั เกต-ประเมินพฤติกรรมการ
ผลการเรยี นรู้ 10 10 อา่ นออกเสยี ง และ แบบสงั เกต-
บอกความหมายของคาศัพท์ท่ี แบบประเมิน
ด้านความรู้ กาหนดให้ พฤติกรรม
(Knowledge) การ
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกด สงั เกต-ประเมนิ พฤติกรรมการ
คาศัพท์ รู้จกั ความหมายคาศัพทข์ อง ถบอกความรูส้ กึ ของตนเองได้
ความร้สู ึกได้ถูกต้อง ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรสู้ ึกของ 10 10
ตนเองได้
ด้านกระบวนการ
(Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ ได้ แบบสังเกตการทางานกล่มุ แบบสงั เกต-
แบบประเมินผลงาน แบบประเมนิ
4. นักเรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดให้มา พฤติกรรม
ประยกุ ต์ใชใ้ นการสนทนาได้ การ
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจาก 10 แบบประเมนิ ผลงาน
ประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นช้นั เรยี นได้ 10
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมีระเบยี บวินยั แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต-
และมุง่ ม่ันในการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ
พฤติกรรม
7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ การ
รวม 30 10 10 10 - -
แผนการจดั การเรียนรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ รหัสวชิ า อ15101 เวลา 8 ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 เรอ่ื ง Feelings เวลา 1 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 5 …………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรียนร้ชู ่วงชั้น/ตัวชวี้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ท่ีฟังและอ่าน
ต 1.1 ป.5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความและบทกลอนส้ัน ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา
และนิทานง่าย ๆ หรือเรอื่ งส้ัน ๆ
ต 1.2 ป.5/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.5/5 พูด/เขยี น แสดงความร้สู กึ ของตนเองเกีย่ วกับเร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั
ต 1.3 ป.5/1 และกิจกรรมตา่ ง ๆ พร้อมทั้งใหเ้ หตุผลสนั้ ๆ ประกอบ
พูด/เขยี นให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
ต 2.1 ป.5/1 ใช้ถอ้ ยคา นา้ เสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ บั ชมุ ชนและโลก
ต 4.1 ป.5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคัญ
มนุษย์มีความรสู้ ึก เพื่อบอกอารมณ์ ความรู้สึก อาการต่าง ๆ คาทบี่ อกความรู้สกึ เช่น ตื่นเตน้
เบือ่ เหนือ่ ย
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคาศัพท์ รู้จักความหมายคาศัพท์ของความรู้สึกได้
ถกู ต้อง
2. นักเรียนสามารถบอกความรสู้ ึกของตนเองได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
3. นกั เรียนทางานร่วมกนั เปน็ กลุ่มได้
4. นกั เรียนนาข้อมูลทก่ี าหนดใหม้ าประยุกตใ์ ชใ้ นการสนทนาได้
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจากประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นชน้ั เรียนได้
3.3 ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรียนมรี ะเบียบวินัยและมุง่ มั่นในการทางาน
7. นักเรียนมีความใฝร่ ู้โดยหาความรเู้ พ่มิ เตมิ จากแหล่งตา่ ง ๆ ได้
3.4 สมรรถนะสำคญั
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
3.5 ทักษะในศตวรรษท่ี 21 (3Rs&8Cs)
3Rs = Reading (การอา่ นออก) Writing (การเขยี นได)้ Arithmetic (การคดิ คำนวณ)
8Cs = Collaboration Teamwork and Leadership : ความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทมี
และภาวะผู้นำ Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการสอื่ สาร และการรเู้ ท่า
ทนั ส่อื
3.6 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ซื่อสตั ย์สุจรติ 2. มวี ินัย 3. ไฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งม่ันในการทำงาน
4. สาระการเรยี นรู้
คาศัพท/์ กล่มุ คา
tired, tiring, amazed, amazing, confused, confusing, embarrassed, embarrassing,
interested, interesting, worried, worrying, excited, exciting, bored, boring
โครงสรา้ งประโยค
How do they feel?
ชน้ิ งาน / ภาระงาน
ชิ้นงาน - แบบฝกึ หดั ใน Workbook หน้า 69
ภาระงาน - จับคู่ฝึกคาศพั ท์ , สะกดคาศพั ทท์ ลี ะคา
5. กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้
ขั้นนาเตรยี มความพร้อม (Warm up)
1. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 106 ครูทบทวนคาศัพท์
-ing -ed
tiring tired
amazing amazed
confusing confused
embarrassing embarrassed
interesting interested
worrying worried
exciting excited
boring bored
ข้ันดาเนินการสอน (Presentation) feel?
2. จากนัน้ ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
A: How do/does we, they, you, he, she, it
B: are, is, am bored.
They, We, You, He, She, It, I tired.
amazed.
confused.
embarrassed.
interested.
worried.
excited.
3. ครอู ธบิ ายคาถามและคาตอบของโครงสร้างประโยค
4. จากน้ันครเู ขยี นโครงสรา้ งประโยคต่อไปนี้บนกระดาน
A: Why?
B: (Something) is/are tiring.
amazing.
confusing.
embarrassing.
interesting.
worrying.
exciting.
boring.
5. จากนนั้ ครูอธบิ ายโครงสรา้ งประโยค
ขั้นการฝึก (Practice)
6. ครใู ห้นักเรยี นอ่านออกเสียงตามหนังสอื เรยี นหนา้ 105 ทลี ะประโยค พรอ้ มกนั 2 รอบ
7. ครอู ธิบายไวยากรณ์เพม่ิ เติม
8. จากนั้นครูสุ่มนักเรียนแตล่ ะคนตอบคาถามทค่ี รสู รา้ งขนึ้ จากโครงสรา้ งประโยคหนา้ 106
ขั้นนาไปใช้ (Production)
9. ครใู หน้ ักเรียนจบั คู่แตง่ ประโยค โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยคและคาศัพท์ในหน้า 106
10. จากนนั้ ครสู มุ่ นักเรียนออกมาอา่ นประโยคหนา้ ชั้นเรียน
11. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั ใน Workbook หนา้ 79 จากน้นั ครเู ฉลยคาตอบ
ขน้ั สรุป (Wrap up)
12. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาในบทเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
กิจกรรมเสนอแนะ
ครสู อนการถามความรูส้ กึ เพม่ิ เตมิ นอกจากคาว่า How do you feel?
How are you? How’s it going? How are you feeling?
6. ส่ือและแหล่งเรียนรู้
สอ่ื บตั รคาศัพท์ / บัตรภาพ
แหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นภาษาองั กฤษ Smart English ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หนา้ 105-106
2. แบบฝึกหัดภาษาองั กฤษ Smart English ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 หนา้ 79
7. การวัดและประเมนิ ผล น้าหนัก นา้ หนกั คะแนน วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมือ
แนวทางการประเมิน คะแนน K P A ประเมิน
สงั เกต-ประเมินพฤติกรรมการ
ผลการเรยี นรู้ 10 10 อา่ นออกเสยี ง และ แบบสงั เกต-
บอกความหมายของคาศัพท์ท่ี แบบประเมิน
ด้านความรู้ กาหนดให้ พฤติกรรม
(Knowledge) การ
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกด สงั เกต-ประเมนิ พฤติกรรมการ
คาศัพท์ รู้จกั ความหมายคาศัพทข์ อง ถบอกความรูส้ กึ ของตนเองได้
ความร้สู ึกได้ถูกต้อง ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรสู้ กึ ของ 10 10
ตนเองได้
ด้านกระบวนการ
(Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกนั เป็นกลุ่มได้ แบบสังเกตการทางานกล่มุ แบบสงั เกต-
แบบประเมินผลงาน แบบประเมนิ
4. นักเรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดให้มา พฤติกรรม
ประยกุ ต์ใชใ้ นการสนทนาได้ การ
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจาก 10 แบบประเมนิ ผลงาน
ประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นชนั้ เรียนได้ 10
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมีระเบยี บวินยั แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต-
และมุง่ ม่ันในการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ
พฤติกรรม
7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ การ
รวม 30 10 10 10 - -
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ รหัสวชิ า อ15101 เวลา 8 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เร่อื ง Feelings เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 6 …………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ชว่ งชนั้ /ตัวชวี้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสือ่ สาร
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ัตติ ามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ท่ีฟังและอ่าน
ต 1.1 ป.5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความและบทกลอนส้ัน ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา
และนิทานงา่ ย ๆ หรือเรอ่ื งสั้น ๆ
ต 1.2 ป.5/1 พดู /เขียนโต้ตอบในการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขยี น แสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกย่ี วกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัว
ต 1.3 ป.5/1 และกิจกรรมตา่ ง ๆ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตผุ ลสัน้ ๆ ประกอบ
พูด/เขยี นให้ข้อมูลเกยี่ วกับตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
ต 2.1 ป.5/1 ใชถ้ ้อยคา นา้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
ต 4.1 ป.5/1 ฟงั พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรียนและ
สถานศกึ ษา
2. สาระสำคญั
มนุษย์มคี วามร้สู กึ เพ่ือบอกอารมณ์ ความรู้สึก อาการตา่ ง ๆ คาทีบ่ อกความรูส้ ึก เชน่ ตื่นเต้น
เบอื่ เหนือ่ ย
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคาศัพท์ รู้จักความหมายคาศัพท์ของความรู้สึกได้
ถกู ตอ้ ง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรู้สึกของตนเองได้
3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
3. นกั เรียนทางานรว่ มกนั เปน็ กลุ่มได้
4. นกั เรยี นนาขอ้ มลู ทีก่ าหนดใหม้ าประยุกต์ใช้ในการสนทนาได้
5. นักเรยี นสร้างบทสนทนาจากประสบการณ์และการเรียนรใู้ นชน้ั เรียนได้
3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ (Attribute)
6. นกั เรียนมีระเบียบวนิ ยั และมุง่ มั่นในการทางาน
7. นักเรยี นมคี วามใฝร่ ้โู ดยหาความรเู้ พ่ิมเติมจากแหล่งตา่ ง ๆ ได้
3.4 สมรรถนะสำคญั
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
3.5 ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3Rs&8Cs)
3Rs = Reading (การอา่ นออก) Writing (การเขียนได)้ Arithmetic (การคดิ คำนวณ)
8Cs = Collaboration Teamwork and Leadership : ความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทีม
และภาวะผู้นำ Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการส่ือสาร และการรู้เทา่
ทันส่อื
3.6 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ 2. มวี ินัย 3. ไฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งม่นั ในการทำงาน
4. สาระการเรยี นรู้
คาศพั ท/์ กลมุ่ คา
worried, exciting, amazing, boring, interesting, tired
โครงสร้างประโยค
Past simple tense
Subject + V2 + Object
ชน้ิ งาน / ภาระงาน
ชิ้นงาน - แบบฝกึ หัดใน Workbook หนา้ 80-81
ภาระงาน - เขียนตามคาบอก (Dictation) , ฝึกอา่ นเนื้อเรื่อง A Busy Day
5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
ข้ันนาเตรียมความพร้อม (Warm up)
1. ครูสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตประจาวันและถามความรู้สึกของนักเรียน เช่น
เวลารถติดตอนเช้านักเรียนรู้สึกอย่างไร เวลาได้ไปเที่ยวนักเรียนมีความรู้สึกอย่างไร
ข้ันดาเนินการสอน (Presentation)
2. จากนนั้ ครูให้นักเรยี นเปิดหนังสอื เรยี นหนา้ 107-108 โดยครูอา่ นออกสียงคาศัพท์ในเน้ือเรื่อง
(worried, exciting, amazing, boring, interesting, tired) ให้นกั เรยี นฟัง 2 รอบ และให้นักเรียนอา่ นออก
เสียงตาม
3. ครูอา่ นให้นักเรยี นฟังทลี ะประโยคและให้นักเรยี นอ่านตาม
4. ครอู า่ นให้นักเรยี นฟังทีละ 1 ยอ่ หนา้ และใหน้ ักเรยี นอ่านตามจนครบทุกยอ่ หนา้
5. ครูอ่านเนื้อเร่ืองใหน้ กั เรยี นฟังอีกคร้ังจนจบ
6. ครูอธบิ ายโครงสรา้ งประโยค Past simple tense โดยกริยาทใี่ ช้จะต้องเปน็ กรยิ าช่องท่ี 2 ซง่ึ อยใู่ น
รูปอดีต เช่น go-went, play-played, have-had ซงึ่ มที ้งั กริยาทีเ่ ปลย่ี นรูปและกรยิ าทเี่ ติมดว้ ย –ed
Subject + V.2 + Object
ขั้นการฝกึ (Practice)
7. ครใู ห้นักเรยี นจบั คู่กัน โดยใหน้ ักเรียนฝกึ อ่านเนอื้ เร่อื ง A Busy Day
8. ครูคอยเดนิ ใหค้ วามชว่ ยเหลือนกั เรยี น ในกรณที น่ี กั เรียนตอ้ งการความช่วยเหลือ
ข้ันนาไปใช้ (Production)
9. ครใู ห้นักเรียนแต่ละคอู่ อกมาจบั ฉลากย่อหน้าจากเรื่อง A Busy Day คู่ละ 1 ย่อหนา้
10. ครูให้นักเรยี นแต่ละคอู่ อกมาอ่านย่อหนา้ ท่ีจับฉลากได้จากเร่ือง A Busy Day
11. ครูกลา่ วคาชมเชยนกั เรยี นและแก้ไขคาท่ีนักเรยี นอ่านผิด เพ่อื ใหน้ ักเรยี นออกเสียงได้ถูกตอ้ ง โดย
ไมต่ าหนผิ เู้ รียน
ขนั้ สรุป (Wrap up)
12. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาในบทเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
13. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หดั ใน Workbook หน้า 80-81 เปน็ การบ้าน
กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูใหน้ กั เรยี นเขียนตามคาบอก (Dictation) โดยใชค้ าศัพท์จากหนงั สอื เรยี นหน้า 107-108
6. สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้
สอ่ื บตั รคาศัพท์ / บตั รภาพ
แหล่งเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียนภาษาองั กฤษ Smart English ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หนา้ 107-108
2. แบบฝกึ หัดภาษาองั กฤษ Smart English ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 หนา้ 80-81
7. การวัดและประเมนิ ผล น้าหนัก นา้ หนกั คะแนน วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมือ
แนวทางการประเมิน คะแนน K P A ประเมิน
สงั เกต-ประเมินพฤติกรรมการ
ผลการเรยี นรู้ 10 10 อา่ นออกเสยี ง และ แบบสงั เกต-
บอกความหมายของคาศัพท์ท่ี แบบประเมิน
ด้านความรู้ กาหนดให้ พฤติกรรม
(Knowledge) การ
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกด สงั เกต-ประเมนิ พฤติกรรมการ
คาศัพท์ รู้จกั ความหมายคาศัพทข์ อง ถบอกความรูส้ กึ ของตนเองได้
ความร้สู ึกได้ถูกต้อง ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรสู้ กึ ของ 10 10
ตนเองได้
ด้านกระบวนการ
(Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกนั เป็นกลุ่มได้ แบบสังเกตการทางานกล่มุ แบบสงั เกต-
แบบประเมินผลงาน แบบประเมนิ
4. นักเรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดให้มา พฤติกรรม
ประยกุ ต์ใชใ้ นการสนทนาได้ การ
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจาก 10 แบบประเมนิ ผลงาน
ประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นชนั้ เรียนได้ 10
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมีระเบยี บวินยั แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต-
และมุง่ ม่ันในการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ
พฤติกรรม
7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ การ
รวม 30 10 10 10 - -
แผนการจัดการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ รหสั วชิ า อ15101 เวลา 8 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง Feelings เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7 …………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรียนร้ชู ่วงชนั้ /ตวั ชว้ี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ัติตามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ที่ฟังและอา่ น
ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสยี งประโยค ข้อความและบทกลอนส้นั ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา
และนิทานงา่ ย ๆ หรือเร่อื งส้ัน ๆ
ต 1.2 ป.5/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป.5/5 พูด/เขียน แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั
ต 1.3 ป.5/1 และกิจกรรมตา่ ง ๆ พรอ้ มทัง้ ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
พูด/เขยี นให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเองและเรื่องใกล้ตวั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
ต 2.1 ป.5/1 ใชถ้ ้อยคา น้าเสียง และกริ ิยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธก์ ับชมุ ชนและโลก
ต 4.1 ป.5/1 ฟงั พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ที่เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรียนและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคัญ
มนุษยม์ คี วามรู้สกึ เพ่ือบอกอารมณ์ ความรู้สึก อาการตา่ ง ๆ คาที่บอกความรูส้ ึก เชน่ ตืน่ เต้น
เบ่อื เหนอ่ื ย
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคาศัพท์ รู้จักความหมายคาศัพท์ของความรู้สึกได้
ถูกตอ้ ง
3. นกั เรียนสามารถบอกความรู้สึกของตนเองได้
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกันเป็นกลุ่มได้
4. นกั เรยี นนาข้อมูลทีก่ าหนดใหม้ าประยุกตใ์ ชใ้ นการสนทนาได้
5. นักเรยี นสร้างบทสนทนาจากประสบการณ์และการเรียนรูใ้ นชนั้ เรียนได้
3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ (Attribute)
6. นักเรียนมรี ะเบียบวินยั และมุ่งม่นั ในการทางาน
7. นกั เรียนมีความใฝร่ โู้ ดยหาความรูเ้ พิม่ เตมิ จากแหล่งตา่ ง ๆ ได้
3.4 สมรรถนะสำคัญ
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
3.5 ทักษะในศตวรรษท่ี 21 (3Rs&8Cs)
3Rs = Reading (การอ่านออก) Writing (การเขยี นได)้ Arithmetic (การคดิ คำนวณ)
8Cs = Collaboration Teamwork and Leadership : ความร่วมมอื การทำงานเป็นทมี
และภาวะผูน้ ำ Communication Information and Media Literacy : ทกั ษะในการส่อื สาร และการรเู้ ทา่
ทันส่อื
3.6 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 2. มวี นิ ยั 3. ไฝ่เรียนรู้ 4. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
4. สาระการเรียนรู้
คาศพั ท์/ กลมุ่ คา
confused, amazed, tired, embarrassed, interesting, boring, tiring
โครงสร้างประโยค
Past simple tense
They were confused.
It was really interesting.
ช้ินงาน / ภาระงาน
ชน้ิ งาน - แบบฝึกหัดใน Workbook หนา้ 74
ภาระงาน – ออกเสียงคาศัพท์ ค้นหาคาศัพท์ทีล่ งท้ายดว้ ย ed
5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
ขั้นนาเตรยี มความพร้อม (Warm up)
1. ครูทบทวนคาศัพท์ต่อไปนี้
-ing -ed
interesting interested
boring amazed
tiring embarassed
confusing bored
embarrassed tired
ขั้นดาเนนิ การสอน (Presentation)
2. จากนัน้ ครูใหน้ ักเรียนเปิดหนงั สอื เรยี นหน้า 109 Part A ให้นักเรยี นลองสังเกตภาพท่ี 1-6 แล้ว
ตอบครวู ่า บคุ คลในภาพนา่ จะรู้สกึ อย่างไร
3. จากนั้นครเู ปิด Class Audio CD ให้นกั เรียนฟัง แล้วเติมคาใต้ภาพใหถ้ ูกต้อง จากนั้นครูเฉลย
เฉลยคาตอบ:
1. tiring 2. amazing 3. boring
4. embarrassing 5. interesting 6. confusing
4. จากนั้นครใู ห้นักเรียนทาแบบฝกึ หดั ในหนังสอื เรยี นหน้า 109 Part B
5. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านออกเสยี งประโยคทไี่ ม่สมบรู รพื ร้อมกัน
6. จากนน้ั ครเู ปิด Class Audio CD ใหน้ กั เรยี นฟัง 2 รอบ เพ่ือทาให้ประโยคสมบรู ณ์ จากน้ันครู
เฉลยคาตอบ:
1. They were confused.
2. It was really interesting.
3. They were amazed.
4. It was really boring.
5. He was embarrassed.
6. I was tired.
7. ครเู ขียนคาต่อไปน้ีบนกระดาน -ed(d) - ed(t) -ed(ed)
8. จากนั้นครเู ขียนคาต่อไปน้ีบนกระดาน
bored -ed = d
embarrassed -ed = t
excited -ed = ed
ครสู อนอ่านออกเสยี งพรอ้ มกัน 3 รอบ โดยอา่ นทีละคา
9. ครใู ห้นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรียนหน้า 110 แล้วครอู ่านออกเสียงคาท่ีเตมิ ed แตอ่ อกเสงี d, t และ
ed ให้นกั เรยี นฟังทลี ะกลุ่ม จากนั้นให้นักเรียนอา่ นออกเสียงตาม
ข้ันการฝกึ (Practice)
10. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดใน Workbook หน้า 73 ให้นักเรียนเติมคาในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์
จากน้ันครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ
11. ครูให้นักเรียนฝึกออกเสียงคาศัพท์ที่ลงท้ายด้วย ed จากนั้นครูสุ่มนักเรียนออกมารับบัตรคาศัพท์
แล้วอา่ นออกเสียง
ข้นั นาไปใช้ (Production)
12. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดใน Workbook หนา้ 74 เปน็ การบ้าน
13. ครูให้นักเรียนจบั คู่ จากนั้นให้นักเรียนค้นหาคาศัพท์ทีล่ งทา้ ยด้วย ed เพิ่มเติม จากนั้นให้นกั เรยี น
แต่ละคูอ่ อกมาออกเสียงคาศัพท์ทน่ี ักเรยี นหาเพ่ิม โดยให้นักเรยี นแต่ละคู่ห้ามค้นหาคาศัพท์ที่ซ้ากนั
14. ครูกล่าวคาชมเชยนกั เรยี นและแก้ไขคาท่นี ักเรียนอ่านผิด เพือ่ ใหน้ ักเรียนออกเสียงได้ถูกตอ้ ง โดย
ไม่ตาหนผิ ู้เรยี น
ข้ันสรุป (Wrap up)
15. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาในบทเรียนและเปิดอากาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
16. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั ใน Workbook หน้า 80-81 เป็นการบ้าน
กจิ กรรมเสนอแนะ
ครสู อนขอ้ แตกต่างของคาคณุ ศพั ท์ (Adjective) ทีล่ งท้ายดว้ ย -ed และ-ing เพมิ่ เติมหลกั เกณฑ์การใช้
1. เมอื่ คาคุณศพั ท์ (Adjective) ลงทา้ ยดว้ ย -ing หมายถึง บุคคลหรอื สิ่งน้นั เป็นตวั ทก่ี ่อใหเ้ กิดผล
เชน่ น้ัน เวลาแปลคาคุณศัพท์รูปน้ี จะหมายถงึ “นา่ ....”
2. เมื่อคาคณุ ศพั ท์ (Adjective) ลงท้ายดว้ ย –ed หมายถึง บุคคลหรอื ส่ิงนน้ั ประสบกบั ความรู้สกึ นั้น
โดยตรง เวลาแปลคาคุณศัพท์รปู น้ี จะหมายถงึ “ร้สู ึก....”
6. สื่อและแหลง่ เรียนรู้
สอ่ื
1. Class Audio CD
2. บัตรคาศพั ท์
แหลง่ เรียนรู้
3. หนงั สอื เรยี นภาษาอังกฤษ Smart English ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 หนา้ 109-110
4. แบบฝึกหดั ภาษาอังกฤษ Smart English ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หน้า 73-74
7. การวดั และประเมนิ ผล น้าหนัก นา้ หนกั คะแนน วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมือ
แนวทางการประเมิน คะแนน K P A ประเมิน
สงั เกต-ประเมินพฤติกรรมการ
ผลการเรยี นรู้ 10 10 อา่ นออกเสยี ง และ แบบสงั เกต-
บอกความหมายของคาศัพท์ท่ี แบบประเมิน
ด้านความรู้ กาหนดให้ พฤติกรรม
(Knowledge) การ
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกด สงั เกต-ประเมนิ พฤติกรรมการ
คาศัพท์ รู้จกั ความหมายคาศัพทข์ อง ถบอกความรูส้ กึ ของตนเองได้
ความร้สู ึกได้ถูกต้อง ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรสู้ ึกของ 10 10
ตนเองได้
ด้านกระบวนการ
(Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ ได้ แบบสังเกตการทางานกล่มุ แบบสงั เกต-
แบบประเมินผลงาน แบบประเมนิ
4. นักเรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดให้มา พฤติกรรม
ประยกุ ต์ใชใ้ นการสนทนาได้ การ
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจาก 10 แบบประเมนิ ผลงาน
ประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นช้นั เรยี นได้ 10
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมีระเบยี บวินยั แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต-
และมุง่ ม่ันในการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ
พฤติกรรม
7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ การ
รวม 30 10 10 10 - -
แผนการจัดการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รหสั วิชา อ15101 เวลา 8 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เรื่อง Feelings เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 8 …………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นรูช้ ว่ งช้ัน/ตวั ชวี้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอื่ สาร
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ท่ีฟังและอา่ น
ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความและบทกลอนส้ัน ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา
และนทิ านงา่ ย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ
ต 1.2 ป.5/1 พดู /เขยี นโต้ตอบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขียน แสดงความรู้สึกของตนเองเกย่ี วกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ ัว
ต 1.3 ป.5/1 และกจิ กรรมต่าง ๆ พรอ้ มทงั้ ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบ
พูด/เขยี นให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัว
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
ต 2.1 ป.5/1 ใช้ถ้อยคา นา้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธก์ ับชมุ ชนและโลก
ต 4.1 ป.5/1 ฟงั พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคญั
มนษุ ยม์ ีความรู้สึก เพื่อบอกอารมณ์ ความรสู้ กึ อาการต่าง ๆ คาทบ่ี อกความรู้สกึ เช่น ต่นื เต้น
เบ่อื เหนื่อย
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคาศัพท์ รู้จักความหมายคาศัพท์ของความรู้สึกได้
ถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถบอกความรู้สึกของตนเองได้
3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
3. นกั เรียนทางานรว่ มกันเปน็ กลุ่มได้
4. นักเรียนนาข้อมลู ที่กาหนดใหม้ าประยุกต์ใช้ในการสนทนาได้
5. นักเรยี นสรา้ งบทสนทนาจากประสบการณ์และการเรียนรใู้ นชั้นเรยี นได้
3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ (Attribute)
6. นักเรียนมรี ะเบียบวินยั และมุ่งมน่ั ในการทางาน
7. นักเรยี นมคี วามใฝ่รู้โดยหาความรู้เพม่ิ เตมิ จากแหล่งตา่ ง ๆ ได้
3.4 สมรรถนะสำคัญ
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
3.5 ทักษะในศตวรรษท่ี 21 (3Rs&8Cs)
3Rs = Reading (การอ่านออก) Writing (การเขียนได)้ Arithmetic (การคดิ คำนวณ)
8Cs = Collaboration Teamwork and Leadership : ความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม
และภาวะผูน้ ำ Communication Information and Media Literacy : ทกั ษะในการสื่อสาร และการรเู้ ทา่
ทนั ส่ือ
3.6 คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ซือ่ สตั ยส์ ุจริต 2. มวี ินยั 3. ไฝ่เรยี นรู้ 4. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
4. สาระการเรียนรู้
คาศพั ท/์ กลมุ่ คา
called, listened, played, asked, watched, walked, wanted, needed, ended
โครงสร้างประโยค
Past simple tense
He called his friend and asked them to meet him at the park.
ช้ินงาน / ภาระงาน
ชิ้นงาน - หนังสอื เรยี นหน้า 111
ภาระงาน - อ่านและแปลประโยค
5. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
ข้นั นาเตรยี มความพร้อม (Warm up)
1. ครูทบทวนอ่านออกเสียงคาศัพท์ โดย ครูติดคาศัพท์เหล่าน้ีบนกระดาน
called asked wanted
listened watched needed
played walked ended
ขัน้ ดาเนนิ การสอน (Presentation)
2. จากนน้ั ครูอ่านเน้ือเรื่องย่อหน้าแรกในหนังสือเรียนหนา้ 111 ใหน้ กั เรยี นฟังและเติมคาลงใน
ช่องว่าง
3. จากนั้นครอู ่านเนอื้ เร่ืองย่อหน้าที่สองและสามในหนงั สือเรียนหน้า 111 ตามลาดับ ใหน้ ักเรียน
ฟงั และเตมิ คาลงในช่องวา่ ง
4. จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ
เฉลยคาตอบ:
ย่อหนา้ ที่ 1
1. called 2. played 3. walked
ยอ่ หนา้ ท่ี 2
1. listened 2. asked 3. wanted
ยอ่ หนา้ ที่ 3
1. watched 2. ended 3. needed
ขั้นการฝกึ (Practice)
5. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านออกเสียงเนือ้ เรื่องทั้งหมด 3 รอบดังนี้
รอบที่ 1 นักเรียนฟังครอู ่านออกเสยี ง
รอบที่ 2 นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งตามครทู ีละประโยค
รอบท่ี 3 นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งเนอ้ื เรอื่ งท้งั หมด
6. ครสู มุ่ เลือกนักเรยี นอ่านออกเสียงทงั้ 3 ยอ่ หนา้
ขัน้ นาไปใช้ (Production)
7. ครูให้นกั เรยี นจบั คู่ ครูใหน้ ักเรียนแต่ละคูส่ ง่ ตวั แทนออกมาจับฉลากย่อหน้าของเน้ือเร่ือง จากน้นั ให้
นักเรยี นแปลประโยค
8. ครสู ่มุ นกั เรียนแต่ละคู่ออกมาอา่ นและแปลประโยค
9. จากนัน้ ครสู รปุ การแปลอกี ครัง้ พร้อมทั้งสอนไวยากรณ์และคาศัพทเ์ พิ่มเติม
ข้ันสรปุ (Wrap up)
10. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาในบทเรียนและเปิดอากาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
6. สือ่ และแหล่งเรยี นรู้
สอ่ื บัตรคาศัพท์ / บตั รภาพ
แหล่งเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นภาษาองั กฤษ Smart English ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หน้า 111
7. การวัดและประเมนิ ผล น้าหนัก นา้ หนกั คะแนน วิธปี ระเมนิ เคร่อื งมือ
แนวทางการประเมิน คะแนน K P A ประเมิน
สงั เกต-ประเมินพฤติกรรมการ
ผลการเรยี นรู้ 10 10 อา่ นออกเสยี ง และ แบบสงั เกต-
บอกความหมายของคาศัพท์ท่ี แบบประเมิน
ด้านความรู้ กาหนดให้ พฤติกรรม
(Knowledge) การ
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกด สงั เกต-ประเมนิ พฤติกรรมการ
คาศัพท์ รู้จกั ความหมายคาศัพทข์ อง ถบอกความรูส้ กึ ของตนเองได้
ความร้สู ึกได้ถูกต้อง ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถบอกความรสู้ กึ ของ 10 10
ตนเองได้
ด้านกระบวนการ
(Process)
3. นกั เรยี นทางานร่วมกนั เป็นกลุ่มได้ แบบสังเกตการทางานกล่มุ แบบสงั เกต-
แบบประเมินผลงาน แบบประเมนิ
4. นักเรยี นนาขอ้ มูลที่กาหนดให้มา พฤติกรรม
ประยกุ ต์ใชใ้ นการสนทนาได้ การ
5. นักเรียนสร้างบทสนทนาจาก 10 แบบประเมนิ ผลงาน
ประสบการณ์และการเรยี นรูใ้ นชนั้ เรียนได้ 10
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
6. นักเรยี นมีระเบยี บวินยั แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต-
และมุง่ ม่ันในการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ
พฤติกรรม
7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ การ
รวม 30 10 10 10 - -
คาชีแ้ จง แบบสังเกตการตอบคาถาม
ทาเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งระดับคะแนนพฤติกรรมทน่ี ักเรยี นปฏบิ ัตดิ ังน้ี
ระดับ 3 หมายถึง แสดงพฤติกรรมใหเ้ หน็ มาก
ระดับ 2 หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง
ระดับ 1 หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมให้เหน็ นอ้ ย
พฤติกรรม/ การ
ระดบั คะแนน สนใจและตงั้ ใจ ตอบคาถามได้
ลาดบั ฟังคาถาม ตรงประเดน็ ตอบคาถาม รวม ประ
ท่ี อย่างสม่าเสมอ คะ
แนน เมิน หมายเหตุ
321
ผล
ช่ือ-สกุล 321321 ผ่าน ไม่
ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ
คะแนนตั้งแต่ 4-9 ผา่ น
8-9 = ดี
6-7 = ปานกลาง
4-5 = พอใช้
คะแนนต่ากว่า 4 ไม่ผ่าน
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม
ชน้ั .................... จานวน ................... คน
สังเกตพฤตกิ รรมวันที่ .............. เดือน ........................... พ.ศ. ......................
พฤติกรรมการทางานกลมุ่
เลขท่ี ชอื่ -สกลุ ช่วยเห ืลอ ้ดานกา ัลงความคิด รวม
การแนะนา แนวทางโดยการ ูพด
ในสิ่ง ่ีทเ ็ปนประโยชน์
การ ูพดในสิ่ง ่ีทเ ็ปนประโยชน์พยายาม
ช่วยเห ืลอสมาชิกในก ุ่ลม
ไม่น่ิง ูดดาย
เอาใจใ ่สกับงาน ่รวม ักนแก้ไข ัปญหา
พยายามทางานให้สาเ ็รจ
5 5 5 5 20
เกณฑก์ ารประเมินในการสังเกตพฤตกิ รรม มีดังน้ี
คะแนน 18 – 20 ดมี าก
คะแนน 14 – 17 ดี
คะแนน 10 – 13 พอใช้
คะแนน 0 – 9 ควรปรับปรงุ
มเี กณฑใ์ ห้คะแนนจากการสังเกตพฤตกิ รรม คือ
เกณฑ์การให้คะแนน 5 คะแนน เม่ือนกั เรยี นแสดงพฤติกรรมตามทีต่ ้องการเป็นประจาสม่าเสมอ
เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน เม่อื นักเรียนแสดงพฤตกิ รรมตามทต่ี ้องการเปน็ ประจา
เกณฑ์การให้คะแนน 3 คะแนน เมอื่ นกั เรยี นแสดงพฤติกรรมตามทต่ี ้องการค่อนข้างจะสม่าเสมอ
เกณฑ์การให้คะแนน 2 คะแนน เมื่อนักเรียนแสดงพฤตกิ รรมตามทต่ี ้องการค่อนขา้ งน้อย
เกณฑ์การให้คะแนน 1 คะแนน เม่อื นักเรียนแสดงพฤติกรรมตามท่ตี ้องการน้อย
แบบประเมนิ ผลงานนกั เรียน
ชนั้ .................... จานวน ................... คน
สงั เกตพฤติกรรมวนั ท่ี .............. เดอื น ........................... พ.ศ. ......................
รายการประเมนิ คะแนน ระดับ สรปุ ผล
ผลงาน ความ ทางาน ความคดิ รวม คณุ ภาพ ผ่าน ไม่ผา่ น
เลขที่ ช่ือ-นามสกุล ถกู ตอ้ ง สะอาด ตาม สรา้ งสรรค์ (12)
ตามสาระ สวยงาม ขั้นตอน
(3) (3) (3) (3)