The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สวนและต้นไม้ 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sillatecho35, 2022-09-01 21:22:33

สวนและต้นไม้ 2564

สวนและต้นไม้ 2564

2สว5น6แ4ละตน ไม



สาร...ผู้้�ว่่าราชการกรุุงเทพมหานคร
พลตำำ�รวจเอก อััศวิิน ขวััญเมืือง

กรุุงเทพมหานคร เป็็นศููนย์์กลางของการ พื้้น� ที่ส�่ีีเขีียวเพิ่่ม� ขึ้น�้ 632 ไร่่ 3 งาน 31.85 ตารางวา
ขัับเคลื่่�อนกิิจกรรมทางเศรษฐกิิจและสัังคม ที่่�มีี คิิดเป็็นอััตราส่่วนพื้้�นที่่�สีีเขีียวต่่อประชากรเฉลี่่�ย
การพัฒั นาและขยายตัวั ของเมืืองตลอดเวลา เพื่อ�่ 7.08 ตารางเมตรต่่อคน สำำ�หรัับในปีีต่่อไป
รองรัับประชากรในเมืืองที่�ม่ ีีแนวโน้้มเพิ่่�มขึ้�น้ อย่่าง กรุงุ เทพมหานครมีีนโยบายที่จ�่ ะพัฒั นาพื้้น� ที่ส�่ ีีเขีียว
ต่อ่ เนื่�่อง ส่่งผลให้้พื้้�นที่�ส่ ีีเขีียวในกรุุงเทพมหานคร ตามแนวคลอง เพื่อ�่ สร้า้ งภูมู ิทิ ัศั น์ต์ ลอดแนวคลอง
เมื่อ�่ เทีียบกับั จำ�ำ นวนประชากรแล้ว้ ต่ำ��ำ กว่า่ มาตรฐาน ให้้มีีความสวยงามสอดคล้้องกัับสภาพแวดล้้อม
สากลที่อ�่ งค์ก์ ารอนามัยั โลกกำ�ำ หนด คณะผู้�บริหิ าร และเป็็นอััตลัักษณ์์ของพื้้น� ที่่�นั้้น� ๆ
กรุุงเทพมหานครตระหนัักดีีว่่าพื้้�นที่่�สีีเขีียวเป็็น การจััดทำำ�หนัังสืือสวนและต้้นไม้้ประจำำ�ปีี
สิ่่�งสำำ�คััญที่�่มีีผลต่่อสภาพแวดล้้อมของเมืืองและ 2564 จึึงเป็็นโอกาสอัันดีีที่่�จะได้้บอกเล่่าถึึงผล
ระดับั คุณุ ภาพชีีวิติ ของประชาชน จึึงมีีนโยบายเพิ่่ม� การดำำ�เนิินงานด้้านการเพิ่่�มพื้้�นที่่�สีีเขีียวของ
พื้้น� ที่ส�่ ีีเขีียวอย่า่ งต่อ่ เนื่อ�่ ง เพื่อ�่ ให้ก้ รุงุ เทพมหานคร กรุุงเทพมหานคร พร้อ้ มทั้้�งเผยแพร่บ่ ทความทาง
มีีพื้้น� ที่ส�่ีีเขีียวตามมาตรฐานสากล โดยในปีที ี่ผ�่ ่า่ นมา วิิชาการเกษตรที่�่น่่าสนใจให้้ประชาชนได้้รัับทราบ
กรุงุ เทพมหานครได้ม้ีีการเปิดิ สวนสาธารณะเพิ่่ม� จำ�ำ นวน และตระหนัักถึึงความสำำ�คััญของการมีีส่่วนร่่วม
4 แห่ง่ ได้แ้ ก่่ สวนวนาภิริ มย์ร์ ่ม่ เกล้า้ เขตลาดกระบังั ในการเพิ่่�มพื้้�นที่่�สีีเขีียว และช่่วยกัันดููแลรัักษา
สวนปิยิ ะภิริ มย์์ เขตบางกะปิิ สวนสันั ติพิ ร เขตพระนคร พื้้�นที่่�สีีเขีียวอัันเป็็นสาธารณสมบััติิ เพื่่�อผลัักดััน
และสวนสาธารณะพื้้�นที่่�ใต้้ทางด่่วนฉลองรััช กรุุงเทพมหานครสู่่�มหานครสีีเขีียวอย่่างยั่่�งยื่่�น
ซอยปรีีดีีพนมยงค์์ 2 ระยะที่�่ 1 เขตวัฒั นา นอกจากนี้้� ต่อ่ ไป
ยังั มีีโครงการ “มอบล้า้ นกล้า้ สู่่�ล้านต้น้ จากล้า้ นคน
สู่�สังั คมเมืือง” และโครงการปลูกู ต้น้ โกงกาง จำ�ำ นวนกว่า่
1,000 ต้้น บริิเวณพื้้�นที่่�ป่่าชายเลนบางขุุนเทีียน พลตำำ�รวจเอก
ซึ่�งผลจากการดำ�ำ เนิินงานที่�ไ่ ด้้รัับความร่่วมมืือเป็็น (อััศวินิ ขวัญั เมืือง)
อย่า่ งดีีจากทุุกภาคส่ว่ น ทำ�ำ ให้้กรุุงเทพมหานครมีี ผู้้�ว่า่ ราชการกรุุงเทพมหานคร

สาร...ปลััดกรุุงเทพมหานคร
นางศิิลปสวย ระวีีแสงสููรย์์

กรุุงเทพมหานคร มีีหน้้าที่่�บริิหารจััดการ สำำ�นักั สิ่่ง� แวดล้้อม ได้้จัดั ทำำ�หนังั สืือสวนและ
ด้้านสิ่่�งแวดล้้อมเพื่่�อให้้ประชาชนมีีคุุณภาพชีีวิิต ต้้นไม้้ ประจำำ�ปีี 2564 ขึ้้�น ถืือเป็็นโอกาสอัันดีีที่่�
ที่ด�่ ีี โดยมีีนโยบายหลักั ที่ส�่ ำ�ำ คัญั คืือ การเพิ่่ม� พื้้น� ที่�่ กรุงุ เทพมหานคร จะได้เ้ ผยแพร่ผ่ ลการดำ�ำ เนินิ งาน
สีีเขีียวให้ก้ ระจายทั่่ว� ทุกุ พื้้น� ที่ข�่ องเมืือง และมุ่�งมั่่น� การเพิ่่�มพื้้�นที่่�สีีเขีียวของกรุุงเทพมหานคร และ
ผลักั ดันั การเพิ่่ม� พื้้น� ที่ส�่ ีีเขีียวที่ม�่ ีีคุณุ ภาพอย่า่ งยั่่ง� ยืืน ความรู้�ทางวิิชาการเกษตรที่�่น่่าสนใจให้้ประชาชน
ตามมาตรฐานองค์์การอนามััยโลก ซึ่่�งระบุุไว้้ว่่า ทั่่�วไปได้้ทราบ เพื่่�อเกิิดการสร้้างจิิตสำำ�นึึกที่่�ดีีใน
พื้้�นที่่�สีีเขีียวชุุมชนขนาดใหญ่่ควรมีีพื้้�นที่่�สีีเขีียว การดููแลรักั ษาสิ่่�งแวดล้อ้ มร่่วมกันั ต่่อไป
ไม่่น้อ้ ยกว่า่ 9 ตารางเมตรต่อ่ คน การดำ�ำ เนิินการ
ดังั กล่า่ วจะส่ง่ ผลทำ�ำ ให้ก้ รุงุ เทพมหานครสามารถเข้า้ ถึงึ
และใช้้ประโยชน์์จากพื้้�นที่่�สีีเขีียวได้้อย่่างทั่่�วถึึง
เช่น่ เป็น็ สถานที่พ่� ัักผ่อ่ นหย่่อนใจ ออกกำ�ำ ลัังกาย (นางศิิลปสวย ระวีีแสงสููรย์)์
เสริิมสร้้างสุุขภาพร่่างกายและจิิตใจให้้แข็็งแรง ปลัดั กรุุงเทพมหานคร
สร้า้ งพื้้น� ที่ก�่ ิจิ กรรมทางสังั คม มีีคุณุ ภาพชีีวิติ ที่ด�่ ีีขึ้น�้
เป็น็ ต้น้

สาร...ผู้้�อำำ�นวยการสำำ �นัักสิ่� ่งแวดล้้อม
นายวิิรััตน์์ มนััสสนิิทวงศ์์

กรุุงเทพมหานครมีีนโยบายในการเพิ่่�มพื้้�นที่�่ หนังั สืือสวนและต้น้ ไม้ป้ ระจำ�ำ ปีี 2564 เล่ม่ นี้้�
สีีเขีียว โดยเปลี่่�ยนพื้้�นที่่�รกร้้างว่่างเปล่่า ให้้เป็็น ได้้รวบรวมผลงานของสำำ�นัักงานสวนสาธารณะ
พื้้น� ที่ส�่ ีีเขีียวในรูปู แบบสวนสาธารณะ ซึ่ง� ในปัจั จุบุ ันั สำำ�นักั สิ่่ง� แวดล้้อม รวมถึึงบทความวิชิ าการเกษตร
กรุุงเทพมหานครมีีสวนสาธารณะหลัักจำำ�นวน เกร็ด็ เกษตร ซึ่�งเหมาะสำ�ำ หรัับเป็็นแนวทางในการ
40 แห่ง่ กระจายทั่่ว� พื้้น� ที่�่กรุุงเทพมหานคร และ ปฏิิบััติิงานทางด้้านการเกษตร และเพื่�อ่ ต้้องการ
ยัังคงดำำ�เนิินการเพิ่่�มพื้้�นที่่�สีีเขีียวอย่่างต่่อเนื่่�อง เผยแพร่่สู่่�สาธารณชนให้้เกิิดประโยชน์์ร่่วมกััน
ให้เ้ พีียงพอต่อ่ จำ�ำ นวนประชากรในเขตเมืือง ในการ ในการเพิ่่ม� และอนุรุ ัักษ์์พื้้น� ที่ส�่ ีีเขีียวต่่อไป
พักั ผ่อ่ นหย่อ่ นใจ ผ่อ่ นคลายความตึึงเครีียด ทำ�ำ ให้้
มีีทััศนีียภาพที่่�สวยงาม ร่่มรื่่�น มีีสภาพแวดล้้อม (นายวิิรััตน์์ มนััสสนิทิ วงศ์)์
ที่ด�่ ีี เป็น็ เมืืองที่น�่ ่า่ อยู่� ตลอดจนช่ว่ ยบรรเทาปัญั หา ผู้้�อำำ�นวยการสำำ�นัักสิ่่�งแวดล้้อม
มลพิษิ ทางสิ่่�งแวดล้อ้ ม และเพื่่�อคุุณภาพชีีวิิตที่�ด่ ีี
ของคนกรุุงเทพมหานคร

คำำ�นำำ�

ส�ำ นกั งานสวนสาธารณะเปน็ หนว่ ยงานหนง่ึ ท่ี ต่่าง ๆ เช่่น การพัักผ่่อนหย่่อนใจเพื่่�อผ่่อนคลาย
ดแู ลพน้ื ที่สีเขียวและภมู ทิ ศั นข์ องกรงุ เทพมหานคร ความเครีียด การออกกำำ�ลัังกาย เป็็นห้้องเรีียน
เพ่ือให้กรุงเทพมหานครมีความร่มรื่นในการเพิ่ม ธรรมชาติิ อีีกทั้้�งยัังช่่วยกรองมลพิิษเสริิมสร้้าง
พน้ื ที่สีเขียว และการฟน้ื ฟอู นรุ กั ษพ์ น้ื ที่สีเขียวเดมิ สุุขภาพกาย สุุขภาพจิิตที่่�แข็็งแรงให้้กัับคนเมืือง
ให้สวยงาม โดยรว่ มมือกับทกุ ภาคสว่ นในพืน้ ทใ่ี ห้ มีีคุณุ ภาพชีีวิิตที่�่ดีียั่่ง� ยืืนต่อ่ ไป
ตระหนักถึงความสำ�คัญของทรัพยากรธรรมชาติ หนัังสืือสวนและต้้นไม้้ 2564 ได้้รวบรวบ
ในชุมชน ให้ช่วยกันรักษาและอนุรักษ์ไว้ เพื่อมี บทความ สาระความรู้� เกร็ด็ ความรู้�เกษตร อีีกทั้้ง�
ส่ิงแวดลอ้ มท่ีดี กิิจกรรมภายในสำ�ำ นัักงานสวนสาธารณะตลอดปีี
สวนสาธารณะนัับว่่าเป็็นพื้้�นที่�ส่ ีีเขีียวที่�น่ ัับวััน ที่่�ผ่่านมา เพื่่�อประชาสััมพัันธ์์ เผยแพร่่ให้้เป็็นที่่�
จะทวีีความสำำ�คััญต่่อการใช้้ชีีวิิตของคนเมืือง รู้้�จัักมากขึ้้�น เกิิดการสร้้างจิิตสำำ�นึึกให้้ประชาชน
สำำ�นัักงานสวนสาธารณะ ได้้ดำำ�เนิินการเพิ่่�มพื้้�นที่�่ เห็น็ คุุณค่า่ ของพรรณไม้้ และพื้้�นที่�ส่ ีีเขีียวนำ�ำ ไปสู่่�
สีีเขีียวอย่่างต่่อเนื่่�องในรููปแบบสวนสาธารณะ การรักั ษาสิ่่ง� แวดล้อ้ มในอนาคตต่อ่ ไป
ให้้กระจายอย่่างทั่่�วถึึงตามความต้้องการในด้้าน

สำ�นักงานสวนสาธารณะ

Knowledge ในรว้ั สาธารณะ : Allelopathy................................................................................................. 6
ไมก้ ลาย...ดว้ ยรงั สี......................................................................................................................................... 11
ตน้ ไมด้ ูดซบั สารพษิ ......................................................................................................................................... 22
พืชแคมชว่ ยเพ่มิ ความสดชน่ื ในห้องพกั ผ่อน................................................................................................... 31
สสี รรของวสิ เทอเรยี ....................................................................................................................................... 50

11 22 31

50 79 89
ชีวิตวิถีใหม.่ ..กนิ สมนุ ไพรต้านโควิด-19.......................................................................................................... 55
ปลูกผักเลีย้ งปลาดว้ ยอควาโปนกิ ส.์ ............................................................................................................... 79
โครงการ Green Bangkok 2030 ความทา้ ทายใหมใ่ นการเพ่มิ พนื้ ทส่ี เี ขยี วของกรุงเทพมหานคร :
โครงการกอ่ สร้างสวนสาธารณะภายในซอยวดั หัวล�ำ โพง........................................................................... 89
สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา.................................................................................................................................... 97
กิจกรรมส�ำ นกั งานสวนสาธารณะ................................................................................................................. 104

นางสาวเพชรพรรณ นามวฒั น์
นักวิชาการเกษตรปฏบิ ตั ิการ

สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิตฯิ์
ส่วนสวนสาธารณะ 1 สำ�นกั งานสวนสาธารณะ

วัชพืช คือหนึ่งในปัจจัยทางด้านชีวภาพ (Biological factors) ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
เปน็ ศตั รใู นการแกง่ แยง่ น�ำ้ อาหาร แรธ่ าตุ ความชน้ื และเเสงสวา่ งแกพ่ ชื ทเ่ี ราปลกู เปน็ ตน้ นอกจากน้ี
ผลกระทบทางอ้อมของวัชพืชต่อพืชปลูกอื่น คือ การปลดปล่อยสารบางชนิดออกมาสู่สิ่งแวดล้อม
ส่งผลต่อการงอกและการเจริญเติบโตของพืชอื่น เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า อัลลิโลพาธี (Allelopathy)
จากปรากฏการณด์ งั กลา่ วนเี้ อง ทำ�ให้ในปจั จุบนั นมี้ กี ารประยุกต์ใชอ้ ลั ลิโลพาธีในควบคุมก�ำ จัดวัชพชื
ในการปลูกพืชอื่นๆ จำ�นวนมาก ซึ่งการประยุกต์ใช้วิธีนี้เป็นการควบคุมวัชพืชโดยการใช้ชีวินทรีย์
(Biological weed control) เนอ่ื งจากไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ เกษตรกรหรือผใู้ ชง้ านเพราะเปน็ สารธรรมชาติ
สามารถยอ่ ยสลายในสง่ิ แวดลอ้ มไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ในวนั นเ้ี ราจะมาท�ำ ความรจู้ กั ถึงปรากฏการณอ์ ลั ลโิ ลพาธี
และกลไกการทำ�งานทีเ่ กดิ ข้ึน เพ่อื น�ำ ไปประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในชวี ติ ประจ�ำ วนั

สวนและตน้ ไม้ 2564 6

Allelopathy คือื ปรากฏการณ์ท์ ี่ส�่ ารชีวี โมเลกุลุ กลุ่�มแทนนิิน (Tannins) เป็น็ ต้้น โดยสารสามารถ
จากพืืชรวมไปถึึงจุุลิินทรีีย์์ที่่�ปลดปล่่อยออกมา สร้้างขึ้ �นได้้จากทุุกส่่วนของพืืช เช่่น ราก ลำำ�ต้้น
แล้ว้ มีีผลต่อ่ การเจริญิ เติบิ โตของพืชื ข้า้ งเคีียง เพื่่อ� ใบ ดอก ผล และเมล็็ด ซึ่่�งสารเหล่่านี้้�ออกมาสู่่�
เป็น็ การควบคุมุ ประชากรของพืชื ให้เ้ กิดิ ความสมดุลุ สิ่่�งแวดล้้อมได้้โดย วิิธีีการระเหย (Volatilization)
โดยสารชีวี โมเลกุลุ ที่พ�่ ืชื ปล่อ่ ยออกมานั้น�้ เรีียกว่า่ การชะล้า้ ง (Leaching) การปลดปล่อ่ ยออกทางราก
สารอััลลิโิ ลเคมิคิ ััล (Allelochemicals) เช่น่ กลุ่�มของ (Exudation from root) และการย่่อยสลายของ
กรดอินิ ทรีีย์ท์ ี่ล�่ ะลายน้ำ��ำ ได้้ (Water soluble organic ซากพืชื (Decay of plant) (Rice, 1974; Rizvi and
acids) กลุ่�มควิโิ นน (Quinones) กลุ่�มฟีนี อล (Phenols) Rizvi, 1992)

กลไกการท�ำ ลายของสารอลั ลิโลเคมิคัล

มผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและเปลี่ยนแปลงทางดา้ นสรรี วทิ ยาของพชื (Gniazdowska and Bogatek,
2005) ดงั นี้

1. ยับยั้งการงอกของเมล็ด
2. ยับยั้งกระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง และกระบวนการหายใจ
3. การดดู ซึมไอออนและการเจรญิ เติบโต
4. โครงสรา้ งภายในเซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลง
5. สร้างสภาวะเครียดจากปฏิกิริยาออกซเิ ดชัน

ผลของอัลลโิ ลพาธีต่อวชั พืชและพืชปลูก
ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา มงี านวิจัยที่ศึกษาผลของอลั ลิโลพาธีตอ่ วัชพืชและพชื ปลกู
มากมายทั้งในและตา่ งประเทศ ดงั น้ี
ดาวเรือื ง
สารสกััดด้ว้ ยน้ำ��ำ ของใบดาวเรือื งพบว่า่ ที่ร�่ ะดัับ
ความเข้้มข้้น 100 มิิลลิิกรััมต่่อมิิลลิลิ ิติ ร สามารถ
ยัับยั้้�งการงอกของหญ้้าปล้้องละมานได้้ (ภััทริิน
และคณะ, 2555)

7 สวนและตน้ ไม้ 2564

ต้้อยติ่�่ง ที่มา : https://images.search.yahoo.com/search/images
สารสกัดั ด้ว้ ยน้ำ�ำ�จากส่่วนราก ลำำ�ต้น้ และใบ
ของต้้อยติ่่�ง ที่่�ระดัับความเข้้มข้้น 100 %v/v
สามารถยับั ยั้้ง� การงอกของเมล็ด็ วัชั พืืชที่ใ�่ ช้ท้ ดสอบ
ทั้้ง� 3 ชนิดิ คืือ ไมยราบ ผักั เสี้ย� นผีี และผักั โขมหินิ
(อััญชลีี และ อมรทิิพย์,์ 2556)

ทานตะวััน

สารสกดั ดว้ ยน�ำ้ จากใบของทานตะวนั 2 สายพนั ธ์ุ
คอื สายพนั ธ์ุ Lech และ Ogrodowy พบวา่ สารสกดั
สามารถยบั ยง้ั การงอกของเมลด็ มสั ตารด์ ไดอ้ ยา่ ง
สมบูรณ์ (Bogatek et al., 2006)

ข้้าว
สารสกัดด้วยน้ำ�จากใบ แกลบและฟางของ
ข้าวมีผลทำ�ให้การงอกและการเจริญเติบโตของ
หญา้ ข้าวนกลดลง และสารสกดั จากฟางขา้ วพันธ์ุ
ชัยนาท 1 สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของ
ตน้ กลา้ ไมยราบยกั ษไ์ ด้ (Chung, 2006 และ พทิ วสั ,
2555)

ธูปู ฤๅษีี

สารสกััดด้้วยน้ำำ��จากใบ และลำำ�ต้้นใต้้ดิิน
ของธููปฤๅษีี มีีผลในการลดความยาวยอดและ
ความยาวรากของต้้นกล้้าไมยราบยัักษ์์ได้้อย่่าง
มีีนััยสำำ�คัญั ทางสถิิติิ (เพชรพรรณ, 2560)

สวนและตน้ ไม้ 2564 8

ภาพแสดงผลของสารสกัดจากลำ�ตน้ ใต้ดินและใบของธูปฤๅษีตอ่ ความยาวยอด
และความยาวรากของไมยราบยกั ษท์ ี่ระดบั ความเขม้ ขน้ 0, 25, 50, 75 และ 100 กรมั ตอ่ ลิตร

บทสรปุ
อััลลิิโลพาธีีเป็็นปรากฏการณ์์ทางธรรมชาติิที่่�เกี่่�ยวข้้องกัับการปลดปล่่อยสารจากสิ่่�งมีีชีีวิิต
โดยเฉพาะพืืช ที่ผ�่ ่า่ นมามีีงานวิจิ ัยั หลายเรื่อ� งแสดงให้เ้ ห็น็ แนวทางการใช้ป้ ระโยชน์ห์ รืือผลจากปรากฏการณ์์
อัลั ลิโิ ลพาธีีกับั การควบคุมุ วัชั พืืช ซึ่ง� การประยุกุ ต์ใ์ ช้อ้ ัลั ลิโิ ลพาธีีของพืืชอาจยังั ไม่เ่ ป็น็ รู้�ที่จ� ักั หรืือกว้า้ งขวาง
มากนักั ดัังนั้้น� วัันนี้้�หากบ้้านไหนที่�่มีีเศษพืืชที่่�เหลืือจากการทำ�ำ สวน สามารถสกัดั สารไว้้ใช้้สำำ�หรับั กำำ�จััด
วัชั พืืชได้้ ทั้้ง� สะดวกแถมประหยัดั และยังั ปลอดภัยั ต่อ่ สุขุ ภาพของคนในครอบครัวั และสิ่ง� แวดล้อ้ มอีีกด้ว้ ย

ข้ันตอน การเตรียมสารสกัด
หลายๆ ทา่ นอาจยงั ไมร่ วู้ ธิ หี รือขน้ั ตอนในการสกดั สารจากเศษพชื ทเ่ี หลอื ใช้ หรือใชว้ ชั พชื ทพ่ี บได้
ในบริเวณโดยรอบพน้ื ทีอ่ าศัย วนั น้ีเรามขี น้ั ตอนและวิธีการงา่ ย ๆ มาแนะนำ�ใหท้ ุกทา่ นได้ทราบกัน

9 สวนและตน้ ไม้ 2564

เอกสารอา้ งอิง

พทิ วสั วชิ ยั ดษิ ฐ. 2555. ผลของสารสกดั จากฟางขา้ วตอ่ กระบวนการทางสรรี วทิ ยาบางประการในพชื
บางชนดิ . วิทยานิพนธป์ ริญญาโท, มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.

เพชรพรรณ นามวฒั น์. 2560. กลไกการท�ำ ลายของสารสกดั จากธูปฤๅษใี นไมยราบยกั ษ์.
วิทยานิพนธป์ รญิ ญาโท, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ภทั รนิ วจิ ติ รตระการ, มณทนิ ี ธีรารกั ษ,์ พชั นี เจรญิ ยง่ิ และ จ�ำ รญู เลา้ สนิ วฒั นา. 2555. ผลในการ
ยบั ยง้ั การงอกของสารสกดั น�ำ้ จากดาวเรืองและการแยกกลมุ่ สารออกฤทธ.์ิ วารสาร
เกษตรพระจอมเกล้า 30 (3): 87-94.

อัญชลี จาละ และ อมรทพิ ย์ วงค์สารสนิ . 2556. ผลของสารอัลลโิ ลพาธจี ากต้อยตงิ่ ท่ีมีตอ่ การงอก
ของเมลด็ ไมยราบ ผกั เสี้ยนผี และผกั โขมหนิ . วารสารวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
21 (6): 558-564.

Bogatek,R.,A. Gniazdowska, W. Zakrzewska, K. Oracz and S.W. Gawronski. 2006. Allelopathic
effects of sunflower extracts on mustard seed germination and seedling
growth. Biology Plantarum 50 (1): 156-158.

Chung, K. H. Kim, J. K. Ahn, S. B. Lee, S. H. Kim and S. J. Hahn. 2003. Comparison of
allelopathic potential of rice leaves, straw, and hull on barnyard grass.
Agronomy Journal 95: 1063-1070.

Gniazdowska, A. and R. Bogatek. 2005. Allelopathic interaction between plants. Multi site
action of allelochemicals. Acta Physiologiae Plantarum 27 (3B): 395-407.

Rice,E.L. 1974. Allelopathy. Academic Press, INC., New York.
Rizvi, S.J.H. and V. Rizvi. 1992. Allelopathy Basic and Applied Aspects. Chapman & Hall,

London.

สวนและตน้ ไม้ 2564 10

นางสาวจารุวรรณ จยุ กระจาย
นกั วชิ าการเกษตรปฏิบัตกิ าร
กลมุ่ งานวชิ าการ ส�ำ นักงานสวนสาธารณะ

ในปัจจบุ นั ไมด้ อกไม้ประดบั นนั้ น�ำ มาใช้ประโยชน์มากมาย เช่น ปลูกเปน็ รายไดเ้ สริม ใช้เป็นยา
รักษาโรค ใช้ประดับในงานพิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความยินดีหรือนำ�มาจัดตกแต่งสถานที่
เพื่อให้มีความสวยงามและมีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเยียวยาและบำ�บัดความตึงเครียดได้
ซึ่งการผลิตไม้ดอก - ไม้ประดับในประเทศไทยมีการขยายตัวและพัฒนาการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อ
การสง่ ออกมากข้นึ จงึ จำ�เป็นที่ตอ้ งอาศัยเทคโนโลยีตา่ งๆ การเพม่ิ ประสิทธิภาพการผลติ ท่ีเหมาะสม

การปรบั ปรงุ พนั ธเ์ุ พอ่ื สรา้ งไมด้ อก - ไมป้ ระดบั ทแ่ี ปลกใหม่ จงึ เปน็ ทางเลอื กหนง่ึ และมคี วามส�ำ คญั
ต่อการผลติ ไม้ดอก - ไม้ประดับ

การใช้รังสีในการเหนี่ยวนำ�ให้พืชเกิดการกลายพันธุ์ เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการ
ปรบั ปรงุ พนั ธ์ุ เพอ่ื ใหเ้ กดิ พนั ธใ์ุ หมท่ ี่สวยงามและมคี ณุ สมบตั ดิ กี วา่ เดมิ ในระยะเวลาอนั สน้ั โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในไม้ดอก - ไม้ประดับมักจะเกิดความแปลกใหม่ทั้งดอกและใบ ทั้งสี เพื่อให้เป็นที่นิยมของ
ผูบ้ ริโภคมากข้นึ

ปกตแิ ลว้ การกลายพนั ธข์ุ องพชื เกดิ ขน้ึ ไดเ้ องตามธรรมชาตซิ ง่ึ มอี ตั ราการเกดิ คอ่ นขา้ งต่�ำ แตอ่ ยา่ งไร
ก็ตามเราสามารถเพิ่มอัตราการกลายพันธุ์ให้สูงขึ้นด้วยวิธีวิทยาศาสตร์ โดยการเหนี่ยวนำ�หรือชักนำ�
ให้เกดิ การกลายพันธ์ุ

11 สวนและตน้ ไม้ 2564

ตัวอย่างลกั ษณะการกลายพันธุ์ของพืชเกิดขน้ึ ได้เองตามธรรมชาติ

การเหนี่ยวนำ�ใหไ้ มด้ อก - ไม้ประดบั เกิดการกลายพันธ์ุมีหลายวธิ ี เช่น การเหนี่ยวน�ำ โดยการใช้
รังสี การใช้สารเคมี เทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือแมก้ ระทัง่ การสอดแทรกชน้ิ สว่ น DNA แต่ใน
บทความนจ้ี ะขอนำ�เสนอการกลายพนั ธ์ุไมด้ อก - ไมป้ ระดบั โดยการเหนี่ยวนำ�ดว้ ยการใช้รังสี ซ่ึงรังสี
ท่นี ยิ มใชใ้ นการปรบั ปรุงพันธ์ุพชื คอื รังสีแกมมา

รังสแี กมมาท�ำ ให้เกดิ การกลายพันธ์ุได้อย่างไร ???

รังั สีีในระยะเวลาสั้้�น และอีีกวิธิ ีี ควบคุุมอยู่�เกิิดการเปลี่�ย่ นแปลง
หนึ่่ง� คืือ การฉายรังั สีีแบบเรื้อ� รังั ไปด้ว้ ย เมื่อ�่ เซลล์น์ั้้น� แบ่ง่ ตัวั พัฒั นา
(chronic irradiation) ใช้้อััตรา เป็็นต้้นพืืชก็็จะได้้ลัักษณะที่�่ต่่าง
รังั สีีปริมิ าณต่ำ��ำ แต่ใ่ ช้เ้ วลาในการ ไปจากเดิิมที่่�เรีียกว่่า เกิิดการ
ฉายรังั สีีเป็น็ ระยะเวลานาน โดย กลายพันั ธุ์� พืืชที่ม�่ ีีการกลายพันั ธุ์�
รัังสีีจะถ่่ายเทพลัังงานให้้กัับ เกิิดขึ้้�น จะเรีียกว่่า พัันธุ์�กลาย
เซลล์พ์ ืืช ก่อ่ ให้เ้ กิดิ การเปลี่ย�่ นแปลง ซึ่่�งสามารถขยายพัันธุ์ �เป็็นพืืช
ทางชีีวเคมีีขึ้�้นกัับองค์์ประกอบ พัันธุ์�ใหม่ไ่ ด้้
ต่่างๆ ภายในเซลล์์ โดยเฉพาะ
เมื่�่อนำ�ำ ชิ้้�นส่่วนของพืืชที่�่ใช้้ อย่่างยิ่่�งกัับสารพัันธุุกรรมหรืือ
ขยายพันั ธุ์�ได้้ เช่น่ เมล็ด็ หน่อ่ ใบ ที่เ�่ รีียกว่า่ ยีีน ซึ่ง� เป็น็ ตัวั กำ�ำ หนด
ราก เหง้า้ หรืือทั้้ง� ต้น้ พืืชมาฉาย ลัักษณะต่่างๆ ของพืืช ควบคุมุ
รังั สีีแกมมา ซึ่ง� มีีวิธิีีการฉายรังั สีี 2 กิจิ กรรมต่า่ งๆ ของเซลล์พ์ ืืช เมื่อ�่
วิธิีี คืือการฉายรังั สีีแบบเฉีียบพลันั สารพันั ธุกุ รรมเกิดิ การเปลี่ย�่ นแปลง
(acute irradiation) ใช้อ้ ััตรารัังสีี เนื่่�องจากได้้รัับพลัังงานจาก
ปริมิ าณสููง และสิ้้น� สุุดการฉาย รัังสีีแกมมาก็็จะทำำ�ให้้หน้้าที่่�ที่่�
สารพัันธุุกรรมนั้้�นทำำ�อยู่ �หรืือ
สวนและต้นไม้ 2564
12

ทราบไดอ้ ย่างไรวา่ พืชเกิดการกลายพนั ธ์แุ ลว้

ลัักษณะเปลี่่�ยนแปลงที่่�เกิิดจากรัังสีีจะไม่่ ทมี่ า : Mutant Flowers - Bing images
แตกต่่างไปจากการกลายพัันธุ์์�ที่่�เกิิดขึ้้�นเองตาม
ธรรมชาติิ ให้ด้ ูลู ักั ษณะการเปลี่่ย� นแปลงที่ป่� รากฏ นำำ�มาใช้ป้ ระโยชน์์ และไม้ด้ อกไม้ป้ ระดัับก็็อยู่�ใน
ให้้เห็น็ ที่�เ่ รีียกว่า่ ฟีโี นไทป์์ (Phenotype) ของพืืช กลุ่ �มของพืืชที่่�เกิิดการเปลี่่�ยนแปลงทางฟีีโนไทป์์
ลัักษณะที่่�ปรากฏอาจเห็็นได้้ด้้วยตาเปล่่า เช่่น จะสามารถใช้้ประโยชน์์ได้้ง่่าย เนื่่�องจากไม้้ดอก
การเปลี่ย�่ นแปลงของสีีดอก สีีใบ รูปู ทรงดอก รูปู ทรงใบ ไม้้ประดัับส่่วนใหญ่่คุุณค่่าของพืืชอยู่่�ที่�่ลัักษณะที่่�
ความสูงู ของต้น้ พืืชเปลี่ย�่ นแปลงไป มีีอายุกุ ารออกดอก ปรากฏแก่ส่ ายตา ไม่ว่ ่า่ จะเป็น็ ลักั ษณะการเปลี่ย�่ นแปลง
ติิดผลเร็็วขึ้้�นหรืือช้้าลง ซึ่่�งง่่ายต่่อการคััดเลืือก ของสีีหรืือรูปู ร่า่ งที่ม�่ ีีความทนทานหรืือมีีคุณุ ลักั ษณะ
ที่่�โดดเด่น่ ความแปลกและแตกต่่างจากพันั ธุ์�เดิิม
สามารถนำ�ำ มาขยายพัันธุ์�เพิ่่�มจำ�ำ นวนเป็็นพัันธุ์�ใหม่่
ได้้ทัันทีี

ตวั อย่างพืชทเ่ี กิดจากการกลายพันธุ์โดยการฉายรังสี

กุหุ ลาบหนูู (Rosa chinensis Jacq.) httbpus:ll/e/tw-nweww.ste-tcohdnaoylo/agryticchlea_o1b0a1n2.c4o5m/
วงศ์ : Rosaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ตน้ : ไมพ้ มุ่ สงู 20 – 50 เซนตเิ มตร ล�ำ ตน้ มหี นาม
ใบ : ใบประกอบ แบบขนนกปลายคี่ เรียงเวียน
ใบยอ่ ย 5 ใบ รปู รี ปลายแหลม โคนมน ขอบหยกั
หใู บตดิ กบั ก้านใบ สีเขียวเขม้
ดอก : ดอกเดี่ยว ออกตามปลายยอด ดอกมี
หลายสี เช่น ดอกสีแดง ดอกสีขาว ดอกสีชมพู
หรือมี 2 สีในดอกเดียว กลีบดอกมีทั้งชั้นเดียว
และหลายชน้ั เกสรเพศผจู้ �ำ นวนมาก เกสรเพศเมียมี
หลายคารเ์ พลๆ แยก ออกดอกเกอื บตลอดทง้ั ปมี ี
กลิ่นหอม

13 สวนและตน้ ไม้ 2564

ลักษณะการกลายพันธ์ุหลงั จากการฉายรังสีแกมมา
ต้้นกุุหลาบหนููที่่�ได้้รัับรัังสีีแกมมาที่่�ระดัับ และสีีลายชมพููปนกัับสีีขาว และในขณะเดีียวกันั
ความเข้้มข้้น 10 - 30 เกรย์์ มาชัักนำำ�ให้เ้ กิดิ ดอก ต้น้ กุหุ ลาบหนูทู ี่ไ�่ ด้ร้ ับั รังั สีีแกมมาที่ร�่ ะดับั ความเข้ม้ ข้น้
ในสภาพปลอดเชื้อ� บางดอกพบว่า่ มีีใบเจริญิ แทนที่�่ 40 เกรย์์ มีีการพัฒั นาดอกปกติแิ ละให้จ้ ำ�ำ นวนชั้น� กลีีบ
ส่ว่ นของกลีีบดอกหรืือเกสร ชั้น� ของดอกมีีจำ�ำ นวน เพิ่่ม� ขึ้น�้ จากต้น้ ควบคุมุ จาก 2 ชั้น� เป็็น 5 ชั้น� และ
ลดลง (ต้้นควบคุุมจาก 2 ชั้้�น เป็็น 1 ชั้้�น) ดอก สีีดอกเปลี่ย�่ นแปลงจากสีีชมพูเู ป็น็ สีีส้ม้ ดังั ภาพที่�่ 1
เปลี่่�ยนแปลงจากสีีชมพูอู มส้้ม เป็็นสีีม่่วง สีีชมพูู (ภิิญญารััตน์,์ 2560)

ABC

DEF
ภาพท่ี 1 : Aท) ี่สปรณั ิมฐาณาน2วทิ0ยเกาขรอย,์งกCหุ ) ลแาลบะหDน)โู ดสยัณใชฐร้ างั นสีวททิ ี่ยปราิมขาอณงก1ุห0ลเากบรหยน์, ูโBด)ยสใชณั ร้ ฐังาสีนทวี่ิทปรยมิ าาขณอง3ก0ุหเลการบยห,์ นโู ดยใชร้ งั สี
E) สัณฐานวิทยาของกหุ ลาบหนูโดยใชร้ งั สีที่ปรมิ าณ 40 เกรย,์ F) สณั ฐานวิทยาของกุหลาบหนูโดยใชร้ งั สีที่ปริมาณ 0 เกรย์

ไทรย้้อยใบทู่่� (Ficus microcarpa L.f.)
วงศ์ : Moraceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำ�ต้น : ไม้ตน้ สูง 12 - 25 เมตร
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับหรือรูปไข่แกมรูปรี
โคนใบกลม ปลายใบแหลมแตไ่ มม่ ีตง่ิ ยาว เนอ้ื ใบหนา
สีเขียวเปน็ มัน
ดอก : ดอกช่อ่ ช่่อย่่อยเป็็นแบบดอกมะเดื่�่อ รูปู
ค่่อนข้้างกลมหรืือรููปไข่่ ออกเป็็นคู่�จากข้้างกิ่่�ง
ดอกขนาดเล็็ก ดอกแยกเพศ ไม่่มีีกลีีบดอกเมื่่�อ
ติดิ ผล
ผล : ทรงกลม ไม่มีก้านผล ผลออกเป็นคู่ติดกัน
อยู่ตรงซอกใบ ผลมีสีเขียวอ่อน แก่เปน็ สีเหลือง

สวนและต้นไม้ 2564 14

ลกั ษณะการกลายพันธุ์หลงั จากการฉายรังสีแกมมา
ไทรยอ้ ยใบทมู่ ลี กั ษณะขอบใบดา่ ง หลงั จากฉายรงั สีแกมมาแบบเฉียบพลนั ที่ปรมิ าณรงั สีท่ี 50 เกรย์
ดงั ภาพท่ี 2 (สุทธาสินี, 2559)

B

AC

ภาพที่ 2 : การเปรียบเทียบหลงั การได้รับปรมิ าณรังสีท่ี 50 เกรย์ (B, C) และ ชดุ ควบคุม (A)

เฟื่อ่� งฟ้า้ พันั ธุ์์ส� าวิิตรี (Bougainvillea ‘Sawitree’)

วงศ์ : Nyctaginaceae
ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์
ตน้ : ไมร้ อเลอ้ื ย สีน�ำ้ ตาลเขม้ เนอ้ื แขง็ และเหนียว
ไม่มีหนาม
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงเวียน รปู รีถึงรปู ไข่ ปลายเรียวแหลม
โคนมน
ดอก : ออกดอกเป็็นช่่อกระจุุกแน่่น ออกตาม
ซอกใบและปลายกิ่่�ง ดอกสีีขาว ใบประดัับคล้า้ ย
กลีีบดอก 3 ใบ มีีหลายสีี เช่่น ม่่วง ชมพูู ส้้ม
เหลืืองอมส้ม้ โคนกลีีบดอกเชื่อ�่ มติดิ กันั เป็น็ หลอดยาว
ปลายแยก 5 แฉก ออกดอกเป็น็ ระยะ ตลอดทั้้ง� ปีี

ลกั ษณะการกลายพนั ธ์ุหลังจากการฉายรงั สแี กมมา

เกิดิ ลักั ษณะการกลายโดยเกิดิ การเปลี่ย�่ นแปลง ใหญ่ข่ ึ้น�้ พบสีีใบประดับั เป็น็ สีีแดงอมส้ม้ ด้ว้ ยการ
รููปแบบการด่่างของใบ สีีของใบประดัับ ขนาด ฉายรังั สีีแกมมาเฉีียบพลันั ที่�่ 20 - 40 เกรย์์ ดังั ภาพที่�่ 3
ของใบเกิิดสีีงาช้้าง ด่่างขอบเหลืือง ด่่างครึ่�งใบ (วรุณุ ยุุพา, 2559)
และมีีขนาดใหญ่ข่ ึ้น�้ ในส่ว่ นของใบประดับั มีีขนาด

15 สวนและต้นไม้ 2564

AB

C

ภาพที่ 3 : A) ตน้ ทีไ่ ดร้ บั ปรมิ าณรังสี 20 เกรย์ มีการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างใบเป็นรปู หัวใจปลายใบแหลม
ใบรูปไขก่ ลับปลายใบเวา้ และใบมว้ นเขียว B) ต้นที่ได้รับปริมาณรังสี 20 เกรย์ ใน รนุ่ M1V2 พบลักษณะใบและใบประดับ

มีขนาดใหญ่ข้ึน สีใบเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีงาชา้ งทั้งใบ ดา่ งครึ่งใบ และดา่ งขอบขาว
C) ตน้ ที่ไดร้ บั ปรมิ าณรงั สี 30 เกรย์ ใน รุ่น M1V2 พบลักษณะใบด่างขอบเหลือง ดา่ งครึ่งใบ และใบประดบั สีแดงอมส้ม

ปทุมุ มา Curcuma hybrid แตกต่่างจากใบประดัับปกติิ และจะไม่่มีีดอกจริิง
วงศ์ : Zingiberaceae อยู่ �ภายใน
ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ผล/เมลด็ : ไม่มี (ดอกเปน็ หมัน ไม่ตดิ ผล)
ต้น้ : ไม้ล้ ้ม้ ลุกุ อายุหุ ลายปีี มีีลำ�ำ ต้น้ ใต้ด้ ินิ เป็น็ เหง้า้
(Rhizome) ทำำ�หน้้าที่่�สะสมน้ำ�ำ� และอาหาร ตาข้า้ ง ท่มี า : กรมวชิ าการเกษตร
ของเหง้้าจะเจริิญเติิบโตไปเป็็นลำำ�ต้้นเทีียม
(pseudostem) ที่่�เห็น็ อยู่�เหนืือดินิ
ราก : มีรากจำ�นวนมาก ปลายรากสะสมอาหาร
เป็นรปู ไข่ หรือรูปกระสวย
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงสลบั กาบใบซอ้ นกนั เปน็ ล�ำ ตน้ เทียม
(pseudostem)
ดอก/ช่่อดอก : ช่่อดอก แบบช่่อเชิงิ ลด (spike) มีี
ใบประดับั (bract) เรีียงเวีียน ทำ�ำ ให้เ้ ห็น็ ใบประดับั
เรีียงซ้อ้ นกันั เกิดิ เป็น็ ช่อ่ ที่ม�่ ีีลักั ษณะเป็น็ ทรงกระบอก
ออกที่่�ปลายลำำ�ต้้นเทีียม มีีช่่อดอกย่่อยที่่�ซอก
ใบประดัับ ประกอบด้้วยดอกย่่อย 2 - 7 ดอก
ใบประดับั ย่อ่ ยปลายช่อ่ มีีลักั ษณะรูปู ร่า่ งและสีีสันั

สวนและตน้ ไม้ 2564 16

ชอ่ ดอก (Inflorescence) ใบประดับ (Bract)
ดอกจริง (Flower)

ใบ (Leaf) ก้านช่อดอก (Flower Stalk)
ล�ำ ต้นเทียม (Pseudostem)

รากสะสมอาหารเรมิ่ ต้น เหง้า (Rhizome)
รากฝอย (Fibrous Root) รากสะสมอาหารทเี่ กิดขึ้นใหม่

สว่ นประกอบโดยทวั่ ไปของต้นปทุมมา

ลกั ษณะการกลายพันธุห์ ลงั จากการฉายรงั สแี กมมา

ปริมิ าณรังั สีแี กมมาที่�่ 20 เกรย์์ สามารถชักั นำ�ำ ก็็หายไป เนื่่�องจากการเกิิดไคเมอรานั้้�นเป็็นการ
ให้้เกิดิ การเปลี่่�ยนแปลงของสีีใบประดัับ ช่่อดอก เปลี่ย�่ นแปลงที่ไ�่ ม่ม่ ีคี วามสม่ำ��ำ เสมอที่เ�่ กิดิ กับั เซลล์ใ์ ด
เป็็นสีีชมพูู และชมพููอ่อ่ น และนอกจากนี้้ย� ัังพบ เซลล์์หนึ่่�งหรืือหลายเซลล์์ เป็็นการทำำ�ลายทาง
การเกิิดไคเมอราที่�่ใบของต้้นปทุุมมาพัันธุ์์�ลููกผสม สรีรี ะเพียี งอย่า่ งเดียี วจะไม่ถ่ ่า่ ยทอดไปยังั รุ่่�นต่อ่ ไป
แต่่เมื่่�อเวลาผ่่านไประยะหนึ่่�งลัักษณะการด่่าง ดัังภาพที่่� 4 (ภคกุุล, 2563)

AB C

ภาพท่ี 4 : A) ตน้ ปทุมมาพนั ธ์ุลกู ผสม (Curcuma hybrid) (ก) ท่ีไมไ่ ด้รับรงั สี (ข และ ค) ตน้ ทไี่ ดร้ ับรังสี 20 เกรย์
B) ลักษณะใบปทมุ มาพนั ธุ์ลกู ผสมไดร้ บั รังสี 20 เกรย์ ทเี่ กิดลักษณะไคเมอรา

C) สีใบประดบั (bract) ช่อดอกปทมุ มาพันธุล์ ูกผสม (Curcuma hybrid) วดั ด้วยแผน่ เทยี บสีมาตราฐาน
(ก) ตน้ ท่ไี มไ่ ด้รับรงั สีมีสมี ่วง (red-purple group 70A)

(ข) ต้นที่ไดร้ บั รงั สี 20 เกรย์ มสี ีชมพู (red-purple group 74C)
(ค) ต้นท่ีได้รับรงั สี 20 เกรย์ มีสชี มพอู ่อน (red-purple group 74D)

17 สวนและตน้ ไม้ 2564

พลููฉีกี (Monstera deliciosa Liebm.)

ชอ่ื สามญั : Herricane plant, Swiss cheese plant, howท-t่ีมoา-g:rohwttp-ms:o//nwswtewra.-thdeeslicpirouscae-.5c0o7m2/671
Window plant
ชอ่ื อนื่ : พลูแฉก, มอนสเตอร่า
วงศ์ : Araceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ตน้ : ไมเ้ ลอ้ื ย ล�ำ ตน้ มขี อ้ เลอ้ื ยไดไ้ กลถึง 4 เมตร
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียว รูปหัวใจ
หรือรปู ไขก่ วา้ ง ปลายเรียวแหลม โคนเวา้ รปู หวั ใจ
เมอ่ื ยงั เลก็ ใบหยกั เวา้ เปน็ แฉกและไมม่ ชี อ่ งระหวา่ ง
เสน้ ใบ เมอ่ื โตเตม็ ทใ่ี บเปลี่ยนรปู และมชี อ่ ง แผน่ ใบ
หนาเปน็ มันคลา้ ยแผ่นหนัง ผิวเรียบ กา้ นใบทรง
กระบอก
ดอก : ออกดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดมีกาบ ที่
ซอกใบ

ลักษณะการกลายพันธ์ุหลังจากการฉายรงั สีแกมมา
ฉายรงั สีแกมมาทเ่ี มลด็ พนั ธร์ุ ะหวา่ ง 10 - 25 เกรย์ สามารถชกั น�ำ ใหเ้ กดิ การกลายพนั ธข์ุ องพลฉู กี
(Monstera deliciosa Liebm.) ใหแ้ สดงใบมีสีขาว เหลอื ง จนถึงสีเขียวอ่อน (Huang et al., 2017)

ภาพที่ 5 ลักษณะการกลายพนั ธขุ์ องพลฉู ีก (Monstera deliciosa Liebm.)

ลกั ษณะทีส่ ามารถใชว้ ิธีการปรับปรุงพันธ์ุโดยการกลายพันธ์ุ

ผลผลิต
อายกุ ารออกดอกและการสกุ แก่
การปรบั ตัวของพชื
ลกั ษณะทรงต้นและการเติบโต
ตา้ นทานตอ่ การหกั ลม้
ตา้ นทานตอ่ การแตกหรือหลดุ รว่ งของเมลด็
ทนทานต่่ออุุณหภููมิิต่ำำ�� แห้้งแล้้ง ร้้อน
และความเค็็ม
ตา้ นทานต่อโรค
คณุ ภาพ

สวนและตน้ ไม้ 2564 18

ขอ้ สงั เกต..... พชื ที่ไดห้ ลงั จากการกลายพนั ธุด์ ้วยการฉายรังสี

1. การเปลี่ยนแปลงเฉพาะสีดอก ลักษณะสี ไปด้้วย พัันธุ์�กลายที่่�มีีลัักษณะเปลี่�ยนแปลง
ทไ่ี ด้จะมีสจี างกว่าพนั ธ์เุ ดมิ หลายๆ อย่่างพร้้อมกัันอาจไม่่สวยงามพอที่�จะ
เป็็นพัันธุ์ �ใหม่่ให้้สัันนิิษฐานว่่าปริิมาณรัังสีีที่ �ใช้้ใน
2. การเปลี่�ยนฟอร์ม์ ของดอก โดยขนาดของ การฉายรัังสีสี ููงเกิินไป ทำ�ำ ให้้เกิดิ การเปลี่�ยนแปลง
ดอกและกลีบี ดอกเล็็กกว่่าพัันธุ์�เดิมิ ต่่อยีีนที่�ควบคุุมลัักษณะต่่างๆ หลายยีีนด้้วยกััน
ดัังนั้้�นปริิมาณรัังสีีที่�ใช้้ต้้องไม่่สููงเกิินไปที่�จะทำ�ำ ให้้
3. การเปลยี่ นแปลงของสีใบและทรงตน้ ของ พืืชพิิกลพิิการ และปริิมาณรัังสีีต้้องไม่่ต่ำำ��เกิินไป
สีของใบและก้านใบเปลี่ยนไปด้วย จนพืืชไม่่เกิิดการเปลี่ �ยนแปลง

4. การเปลี่�ยนแปลงหลายๆ ลัักษณะ เช่่น
ต้น้ เตี้ย� ใบด่า่ งลาย ฟอร์ม์ ดอกเปลี่�ยน สีดี อกเปลี่�ยน

แหลง่ ท่ีมา

ข้อมลู พนั ธไุ์ ม้ ระบบฐานข้อมลู เกษตรดิจทิ ัล. 2561. กหุ ลาบหน.ู สบื คน้ เมื่อ 26 มกราคม 2564
จาก https://data.addrun.org/plant/archives/690-rosa-chinensis-jacq-var-minima-voss

ขอ้ มลู พนั ธไ์ุ ม้ ระบบฐานขอ้ มลู เกษตรดจิ ทิ ลั . 2561. เฟอ่ื งฟา้ สาวติ ร.ี สบื คน้ เมอ่ื 27 มกราคม 2564
จาก https://data.addrun.org/plant/archives/701-bougainvillea-hybrid

ขอ้ มูลพนั ธไ์ุ ม้ ระบบฐานขอ้ มลู เกษตรดจิ ทิ ัล. 2561. มอนสเตอร่า. สบื คน้ เม่อื 28 มกราคม 2564
จาก https://data.addrun.org/plant/archives/609-monstera-deliciosa-liebm

ชเนษฎ์ ม้าล�ำ พอง. ม.ป.ป. การปรับปรุงพันธุ์โดยวธิ กี ารกลายพนั ธ.ุ์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์
ฐานข้อมลู พนั ธ์ุพชื พนั ธุ์สัตว์มหาวิทยาลยั แม่โจ้. 2557. ปทุมมา. สบื คน้ เมือ่ 28 มกราคม 2564

จาก https://researchex.mju.ac.th/dbplant/index.php/horticulture/flower/curcuma/item/
maejo-impress

19 สวนและต้นไม้ 2564

ณัฏฐา ผดุงศิลป,์ ธัญญะ เตชะศีลพทิ กั ษ์, เฌอมาลย์ วงศ์ชาวจนั ท์ และณัฐพงค์ จันจฬุ า. 2558.
การชักนำ�ใหเ้ กิดการกลายในต้นแพงพวยโดยการฉายรงั สีแกมมาแบบเฉียบพลัน. Thai
Journal of Science and Technology. 4(1) : 95-103

ธราธร ทีรฆฐติ และคณะ. 2559. คู่มือสง่ เสริมการเรียนรดู้ ้านพืช “การเพาะเล้ยี งเนอ้ื เยอื่ ไม้ดอก
ไม้ป้ ระดับั ” สืบื ค้น้ เมื่�อ 9 มีนี าคม 2564 จาก https://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2020/
20200604-plant-tissue-culture.pdf

ภคกลุ วีระบริรกั ษ์ และคณะ. 2563. ผลของรังสีแกมมาตอ่ ลกั ษณะสณั ฐานในปทุมมาพันธล์ุ กู ผสม.
Thai Journal of Science and Technology. 9(2) : 243-250

ภญิ ญารตั น์ กงประโคม และ นทั ทรยี า จติ บ�ำ รงุ . 2560. การใชร้ งั สแี กมมาชกั น�ำ ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง
ทางสัณฐานวิทยาในกุหลาบหน.ู แก่นเกษตร 45 ฉบบั พเิ ศษ 1: หนา้ 1296-1302

วรุณยุพา จุ้ดศรี และคณะ. 2559. การปรับปรงุ พนั ธเ์ุ ฟ่ืองฟ้าสาวติ รโี ดยการใช้รงั สแี กมมา.
ว. วิทยาศาสตรเ์ กษตร.47(3) : 429-440

สถาบนั ปลกู ปา่ ปตท. มปป. ข้อมูลพนั ธ์ุไมท้ อี่ ยู่ในแปลงปลกู ปา่ ปตท. ไทรยอ้ ยใบทู.่ สบื คน้ เม่ือ
26 มกราคม 2564 จาก http://www.pttreforestation.com/Plantview.cshtml?Id=31&language=en

สทุ ธาสนิ ี ปิ่นทอง และคณะ. 2559. การปรบั ปรุงพนั ธไ์ุ ทรยอ้ ยใบทูแ่ ละไทรย้อยใบแหลมโดยการใช้
รังสแี กมมา. ว. วทิ ยาศาสตร์เกษตร.47(3) : 441-451

อรณุ ี วงศป์ ยิ ะสถติ ย,์ สริ นชุ ลามศรจี นั ทร์ และพรี นชุ จอมพกุ . 2543. เอกสารประกอบการฝกึ อบรม
หลกั สตู ร การสรา้ งพนั ธไ์ุ มด้ อก-ไมป้ ระดบั ใหส้ วยดว้ ยรงั สี ส�ำ หรบั เกษตรกรผปู้ ลกู ไมด้ อกไมป้ ระดบั
เปน็ อาชพี . ศนู ยบ์ รกิ ารฉายรงั สแี กมมาและวจิ ยั นวิ เคลยี รเ์ ทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์

Huang, Y. L., Yuan, S. C., Chang, K. W. and Chen, F. C. 2017. Gamma irradiation mutagenesis
in Monstera deliciosa. ISHS Acta Horticulturae 1167: I International Symposium on Tropical
and Subtropical Ornamentals. https://www.actahort.org/books/1167/1167_32.htm
gardeningknowhow. What Is Plant Mutation – Learn About Mutation In Plants.

https://c.pxhere.com/photos/ac/01/daisy_mutant_mutated_flower-676569.jpg!d
https://www.gardeningknowhow.com/garden-how-to/info/what-is-plant-mutation.htm
https://de.wikipedia.org/wiki/Mutation
https://www.lp-yaem.com/amazing-plants/
https://seedtocrop.net/2020/02/what-is-fasciation-what-causes-fasciation-of-flowers/
https://lh3.googleusercontent.com/kxL6Epospo16WJc6W7UzwFHRmjLH4XICMqAQjpoWf2T2fso

CrwBXqqqhJZKdBEP6Jsa4YQ=s111

สวนและตน้ ไม้ 2564 20

21 สวนและต้นไม้ 2564

นางสาวฌชั ฌา วิทยานกุ ลู กิจ
นักวชิ าการเกษตรปฏบิ ตั กิ าร
ฝา่ ยปลกู บำ�รงุ รกั ษา สำ�นักงานสวนสาธารณะ

ในปจั จบุ นั กรงุ เทพมหานครเผชญิ กบั ปญั หามลพษิ ทางอากาศ ทง้ั ฝนุ่ ควนั ตา่ ง ๆ รวมถึงสารพษิ ในอากาศ
ตทเ่ะี กกดิ ่ัวจา(Pกbก)จิ ,กเรบรนมซในีนช(วี Bติ eปnรzะeจn�ำ eว),นั โทเชลน่ อู นี กา๊(Tซoคluาeรบ์neอ)น, มฟออนรอ์มกัลไดซไี ดฮ์ ด(C์ (FOo),rmกaา๊ lซdคehาyรบ์deอ)นเไปด็นอตอน้กไซซด่ึงส์ า(CรOพ2ิษ),
เหลา่ น้ีล้วนสง่ ผลเสียตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจและร่างกายของมนุษย์ ซึ่งสารพิษท่กี ล่าวมาน้นั ล้วนมี
สาเหตุมาจากวถิ ีชวี ิตของเราในปัจจบุ ัน ทั้งการคมนาคม การก่อสรา้ งอตุ สาหกรรมต่าง ๆ ตลอดจน
การด�ำ เนนิ กิจกรรมในส�ำ นกั งานหรือท่อี ยู่อาศยั

การใช้ตน้ ไม้เพอื่ ลดสารพษิ

จากงานวิิจัยั ของ ดร. บีีซีี ไม้้ประดัับในห้้องปิดิ โดยปล่อ่ ย สามารถในการดููดซัับสารพิิษ
วูฟู เอร์ต์ ันั นักั วิทิ ยาศาสตร์ป์ ระจำ�ำ สารเคมีี 3 ชนิดิ คืือ ฟอร์ม์ ัลั ดีีไฮด์,์ เฉพาะอย่่าง และแต่่ละชนิิดมีี
สถาบันั วิจิ ัยั อวกาศ องค์ก์ ารนาซ่า่ ไตรคลอโรเอทิิลีีน, และเบนซีีน ความสามารถในการลดสารพิิษ
ประเทศสหรัฐั อเมริกิ า ได้ท้ ำ�ำ การ เข้า้ ไปเป็น็ เวลา 24 ชั่ว� โมง พบว่า่ แตกต่า่ งกันั ไป
ทดลองการดููดซัับสารพิิษของ ไม้้ประดัับแต่่ละชนิิดมีีความ

สวนและต้นไม้ 2564 22

ทำ�ไมต้นไม้ถึงดูดซบั สารพษิ ได้
ไม้้ประดัับสามารถดููดซัับ ของพืืชดึึงดููดมาอยู่่�รอบ ๆ และ เจริิญเติิบโตได้้ดีีในที่่�แสงน้้อย
สารพิิษได้้ เนื่่�องจากใบของพืืช ย่อ่ ยสลายต่อ่ ไปได้้ นอกจากนี้้� จะดูดู ก๊า๊ ซพิษิ ที่อ�่ ยู่่�รอบๆ ลงสู่่�ดิน
สามารถดููดซัับสารอิินทรีีย์์ที่่� กระบวนการคายน้ำ�ำ�ก็็เป็็นวิิธีีที่่� และจุลุ ินิ ทรีีย์ท์ ี่อ�่ ยู่่�รอบๆ จะเป็น็
อยู่�ในรูปู ของก๊า๊ ซ และย่อ่ ยสลาย พืืชใช้ใ้ นการเคลื่อ�่ นย้า้ ยสารที่เ�่ ป็น็ ตััวย่่อยสลายสารพิิษนั้้�นให้้เป็็น
ถ่่ายโอนของเสีียไปยัังรากเพื่่�อ มลพิิษไปที่�่รากได้้อย่่างรวดเร็็ว อาหารของพืืชต่่อไป
เป็็นอาหารของจุุลิินทรีีย์์ ที่่ร� าก พืืชที่่�เป็็นไม้้ประดัับสามารถ

ตวั อย่างสารพษิ ในชวี ติ ประจ�ำ วัน

สารพษิ แหลง่ ก�ำ เนิด ผลกระทบตอ่ ร่างกาย

ไตรคลอโรเอทิลนี หมึกเครื่องพมิ พ์, ทำ�ให้มนึ งง คล่ืนไส้ อาเจียน หมดสติ
เฟอรน์ เิ จอร์ ผวิ หนงั อักเสบ หากไดร้ บั ทลี ะน้อย
เปน็ ระยะเวลานาน จะท�ำ ให้มีอาการงว่ งซึม

ไมม่ ีสมาธิ และอาจเปน็ หมนั

ฟอร์มัลดีไฮด์ กระดาษ, ไม้อัด, ผา้ ใย ทำ�ใหแ้ สบจมกู ไอ เจบ็ คอ ไปจนถึงหายใจไมอ่ อก
สงั เคราะห์ แนน่ หนา้ อก และเสียชวี ติ ในที่สดุ
เกดิ ผน่ื คนั ผื่นแดง
หากรับประทานอาหารที่มีการปนเปือ้ น
ฟอร์มัลดไี ฮด์ปริมาณมาก จะทำ�ใหม้ ีอาการปวดทอ้ ง
อาเจียน ทอ้ งรว่ ง ระบบหมุนเวียนโลหติ ล้มเหลว
และอาจเสียชีวติ ได้

เบนซนี อุตสาหกรรมพลาสตกิ , ปวดศีรษะ มึนงง ระคายเคอื งต่อจมูก
สียอ้ ม, ควนั จากทอ่ ไอเสีย, เกดิ ผนื่ แดง ผิวหนังอักเสบ
กดการทำ�งานของไขกระดกู
เฟอร์นิเจอร์

ไซลีน อตุ สาหกรรมเครื่องหนงั , หากสมั ผัสไซลนี เกนิ 200 ppm ทำ�ใหเ้ กดิ อาการ
ยาสูบ, เครื่องพมิ พ์, วงิ เวียนศีรษะ อาเจียน ไอ น�้ำ มูกไหล ปวดทอ้ ง
ควนั จากทอ่ ไอเสีย ทำ�ให้ผิวหนงั ไหม้ ทำ�ลายไขมันใตผ้ ิวหนัง

แอมโมเนีย น�้ำ ยาทำ�ความสะอาด, เกดิ การระคายเคืองเยื่อบตุ า
เกษตรกรรม น�้ำ ตาไหล หนงั ตากระตุก
มอี าการปวดศีรษะ น้�ำ ลายออกมาก
ปวดแสบปวดรอ้ นบรเิ วณทรวงอก

คล่นื ไส้ อาเจียน

23 สวนและต้นไม้ 2564

ไม้ประดบั ทีส่ ามารถดูดซบั สารพิษ

1. หมากเหลืือง Yellow Palm (Chrysalidocarpus lutescens)

วงศ์: Palmae http://seventeenthailand.com/2016/air-purifying-plants
ลักั ษณะทั่�วไป: ลำ�ำ ต้น้ ตั้้ง� ตรง แตกหน่อ่ เป็น็ กอใหม่่
รอบต้น้ แม่่ มีีข้อ้ ปล้อ้ งชัดั เจน ผิวิ ลำ�ำ ต้น้ เรีียบ โคนลำ�ำ ต้น้
มีีสีีเหลืืองส้้มหรืือเหลืืองอมเขีียว มีีนวลสีีขาว
ปกคลุมุ ใบเป็น็ ใบประกอบแบบขนนก กาบใบสีีเหลืือง
อมส้ม้ แผ่น่ ใบเรีียวแหลม สีีเขีียว คล้า้ ยใบมะพร้า้ ว
ออกดอกใต้ก้ าบใบ
ความตอ้ งการแสงแดด: ชอบแดดจดั แตส่ ามารถ
ปลกู ในอาคารได้
การดแู ล: ตอ้ งการความชื้นสูง
ความสามารถในการดูดสารพิษ: ดดู ซับสารพษิ
ไดม้ าก

2. โกสน Croton (Codiaeum variegatum)

วงศ:์ Euphorbiaceae
ลกั ษณะทว่ั ไป: ไมพ้ มุ่ สงู 1 - 3 เมตร ใบมีรปู ทรง
และสีสันหลากหลาย เช่น เขียว เหลอื ง แดง มว่ ง
ด�ำ รปู แบบใบขอบเรียบ เปน็ เกลียว ใบแคบเรียวยาว
หรือมลี ักษณะหยักเวา้ ข้ึนอยกู่ ับพนั ธ์ุ
ความตอ้ งการแสงแดด: แดดรำ�ไร - กลางแจง้
การดูแล: ชอบความช้นื ปานกลาง
ความสามารถในการดูดสารพษิ : ดูดซับสารพิษ
ไดน้ อ้ ย

3. จั๋๋�ง Lady Palm (Rhapis excelsa) ความสามารถในการดูดสารพิษ: ดูดสารพิษ
วงศ์: Palmae ประเภทฟอร์มัลดไี ฮด์ ไซลนี และแอมโมเนีย
ลกั ษณะทว่ั ไป: พชื ตระกลู ปาลม์ ขนาดเลก็ แตกกอ
สงู 30 - 80 เซนตเิ มตร ใบเดี่ยวรปู พดั แยกเปน็ แฉก
แผน่ ใบสีเขียว คอ่ นหนาเปน็ มนั มกี ารเจรญิ เตบิ โต
ช้า ทนโรคและแมลงไดด้ ี
ความตอ้ งการแสงแดด: แดดเตม็ วนั หรือกง่ึ แดด
สามารถปลกู ในอาคารไดแ้ ตต่ อ้ งมแี สงแดดสอ่ งถึง
การดูแล: เจริญเติบโตไดด้ ใี นดนิ รว่ น - ดนิ ร่วน
ปนดนิ เหนียว ต้องการน�ำ้ พอประมาณ

สวนและต้นไม้ 2564 24

4. เศรษฐีีเรือื นใน Spider Plant (Chlorophytum comosum)
วงศ์: Asparagaceae
ลัักษณะทั่่�วไป: ไม้้พุ่่�มขนาดเล็็ก สููงประมาณ
20 - 30 เซนติเิ มตร แตกกอ มีไี หล ใบสีเี ขียี วกลางใบ
สีีขาวครีีม ปลายใบเรียี วแหลม
ความต้้องการแสงแดด: ร่่มรำ��ไร ถ้้าแดดจััด
จะเกิิดใบไหม้้
การดแู ล: ชอบดนิ รว่ น ระบายนำ้ �ไดด้ ี ไม่ทนนำ้ �ขงั
จะทำ�ใหร้ ากเนา่
ความสามารถในการดูดสารพิษ: สามารถดูด
https://mylittlejungle.com/spider-plant/ สารพษิ ในอาคารได้ดมี าก

5. ปาล์์มไผ่่ Bamboo Palm (Chamaedorea erumpens)

วงศ์: Palmae https://toptropicals.com/catalog/uid/CHAMAEDOREA_SEIFRIZII.htm
ลักษณะทั่วไป: พืชตระกูลปาล์ม ลำ�ต้นแตกกอ
สูง 3 - 4 เมตร ใบคลา้ ยใบไผ่สีเขียวเขม้
ความตอ้ งการแสงแดด: เตบิ โตไดด้ ใี นทแ่ี สงนอ้ ย
การดแู ล: ชอบดนิ รว่ น ตอ้ งการนำ้ �ปานกลาง - มาก
หากปลกู ในอาคารรดน้ำ�สปั ดาหล์ ะ 1 ครง้ั
ความสามารถในการดดู สารพษิ : สามารถดดู ซบั
สารพิษประเภทเบนซนี ไตรคลอโรเอทิลนี และ
ฟอรม์ ัลดีไฮดไ์ ดด้ ี

6. เดหลีี Peace Lily (Spathiphyllum cannifolium)

https://www.miraclegro.com/en-us/library/ วงศ์: Araceae
indoor-gardening/how-grow-peace-lilies ลัักษณะทั่่�วไป: ไม้้พุ่่�มเตี้�ย สููงประมาณ 30 - 70
เซนติิเมตร แตกกอ ใบสีีเขีียวเข้้ม เห็็นร่่องตาม
เส้้นใบชััดเจน ปลายใบโค้้งเล็็กน้้อย ดอกเป็็น
ดอกช่่อ ออกตามซอกใบ ก้า้ นดอกยาว มีกี าบหุ้้�ม
ช่่อดอกสีีขาว คล้า้ ยดอกหน้า้ วััว
ความตอ้ งการแสงแดด: ร่มรำ�ไร สามารถปลูก
ในอาคาร รับแสงจากหลอดไฟได้
การดแู ล: เปน็ พชื ทต่ี อ้ งการความชน้ื สงู ควรใหด้ นิ ชน้ื
สม่ำ�เสมอ
ความสามารถในการดดู สารพษิ : สามารถดดู ซบั
สารพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน ไตรคลอโรเอทิลิีน
เบนซนี และฟอร์มลั ดไี ฮด์ไดม้ าก

25 สวนและตน้ ไม้ 2564

7. ออมทอง (Syngonium spp.)
วงศ์: Araceae
ลักั ษณะทั่�วไป: เป็็นไม้้เลื้้อ� ยคลุุมดินิ มีีรากออกตามข้้อ เมื่่�อยัังเล็ก็ มีีใบรููปหัวั ใจ เมื่�อ่ โตใบรูปู หัวั ลูกู ศร
ปลายใบแหลมติ่่�ง แผ่่นใบสีีเขีียวอ่่อนเส้้นใบสีีขาว
ความตอ้ งการแสงแดด: แดดร�ำ ไร สามารถปลูกในอาคารได้ แต่ควรมแี สงแดดสอ่ งถึง
การดูแล: ต้องการนำ�้ มาก สามารถปลูกแช่นำ�้ ในแจกนั ได้
ความสามารถในการดดู สารพิษ: ดูดซบั สารพษิ ได้น้อย - ปานกลาง

https://home.kapook.com/view80204.html

8. ยางอิินเดียี Rubber Plant (Ficus elastic) วงศ:์ Moraceae
ลกั ษณะทว่ั ไป: ไมย้ ืนตน้ สงู 25 - 30 เมตร มนี �ำ้ ยาง
10-hinttdposo:/r/-wpwlawnt.sh-afoprp-gyfrreeasth-a.ctmo.oths/pbhloegre/l-ifiens-ctyolen/do/ มีรากอากาศหอ้ ยยอ้ ย ใบเดี่ยวกลมรีปลายใบแหลม
ใบหนาสีเขียวเขม้ เปน็ มนั ปจั จบุ นั มกี ารกลายพนั ธ์ุ
ใบด่างสวยงาม
ความตอ้ งการแสงแดด: ชอบแดด แต่สามารถ
เจริญเตบิ โตในทแ่ี สงน้อย เชน่ ในอาคารได้
การดแู ล: ชอบดินร่วนระบายน้ำ�ได้ดี ไม่ต้องการ
น้ำ�มาก ควรหมั่นเช็ดใบให้มันวาวเสมอด้วยผ้า
ชุบน้ำ�
ความสามารถในการดูดสารพิษ: ดูดสารพิษ
ไดม้ าก

สวนและต้นไม้ 2564 26

9. คริิสต์์มาส Poinsettia (Euphorbia pulcherrima) https://decor.mthai.com/garden/38487.html
วงศ์: Euphorbiaceae
ลกั ษณะทว่ั ไป: ไมพ้ มุ่ สงู 1 - 4 เมตร ใบสีเขียวรปู ไข่
ปลายใบแหลม ใบประดับสีขาว เหลือง แดง
และชมพู ดอกสีเหลอื ง ออกเป็นช่อที่ปลายยอด
ความต้องการแสงแดด: ชอบแดดจัด
การดูแล: ชอบดินร่วนระบายน้ำ�ดี ต้องการน้ำ�
พอประมาณ ชอบอากาศเย็น
ความสามารถในการดดู สารพษิ : ดูดสารพษิ ได้
เล็กนอ้ ย

10. พลููด่่าง Golden Pothos / Devil’s ivy (Epipremnum aureum)
วงศ์: Araceae
ลกั ษณะทว่ั ไป: ไมอ้ งิ อาศยั เลอ้ื ยไปตามพน้ื หรือ
เกาะพันต้นไมห้ รือผนงั ใบสีเขียวออ่ นปนเหลอื ง
แผน่ ใบหนา
ความตอ้ งการแสงแดด: รม่ ร�ำ ไร สามารถปลกู เลี้ยง
ในบ้านได้
การดแู ล: ตอ้ งการน�ำ้ มาก สามารถปลกู เลี้ยงไดง้ า่ ย
ความสามารถในการดูดสารพิษ: สามารถดูด
สารพษิ พวกไนไตรต์ได้ดี

11. เฟิินบอสตันั Boston Fern (Nephrolepis exaltata)
วงศ์: Lomariopsidaceae
ลกั ษณะท่ัวไป: ล�ำ ตน้ แตกกอกลม ออกใบหนาทบึ ใบสีเขียว ก้านใบแขง็ โคง้ ออก ไมม่ ดี อก
ความต้องการแสงแดด: แดดรำ�ไร ปลกู ในอาคารได้
การดูแล: ตอ้ งการความช้ืนปานกลาง - มาก ปลูกในดนิ ที่ระบายน้ำ�ไดด้ ี ไม่ขงั แฉะ
ความสามารถในการดดู สารพิษ: ดดู ซบั ฟอร์มัลดีไฮด์ได้มาก

27 สวนและตน้ ไม้ 2564

12. ซุ้ม้� กระต่่าย Lily Turb (Ophiopogon jaburan)

วงศ์: Asparagaceae https://www.baanlaesuan.com/
ลักษณะทว่ั ไป: ไม้คลุมดนิ สูงประมาณ 0.5 เมตร แตกกอ ใบยาว plants/annual/138440.html
ปลายใบแหลม ออ่ นโคง้ สีเขียว ดอกเปน็ ชอ่ ชตู ง้ั ขน้ึ สีขาวหรือมว่ ง
ความต้องการแสงแดด: แดดร�ำ ไร สามารถปลกู ในบา้ นได้
การดแู ล: ชอบความช้นื ปานกลาง
ความสามารถในการดูดสารพษิ : ดดู ซบั สารแอมโมเนียได้ดี

13. วาสนาอธิิษฐาน Dracaena (Dracaena fragrans)

วงศ์: Asparagaceae
ลักษณะทั่วไป: ลำ�ต้นตั้งตรง ใบเดี่ยวเรียวยาว
ปลายแหลม ขอบใบเปน็ คลน่ื แผน่ ใบสีเขียวเปน็ มนั
มีลายคาดเหลือง ดอกเป็นช่อ มีกลน่ิ หอม
ความตอ้ งการแสงแดด: ชอบแดดจดั แตส่ ามารถ
อยู่ในรม่ ร�ำ ไรได้
การดแู ล: เจรญิ ไดด้ ใี นดนิ รว่ นปนทราย ระบายน�ำ้
ได้ดี
ความสามารถในการดูดสารพิษ: ดูดซับสาร
ประเภทฟอร์มลั ดไี ฮดไ์ ด้ดีมาก

14. หนวดปลาหมึึก Umbrella Tree (Schefflera arboricola)
วงศ์: Araliaceae
ลกั ษณะทว่ั ไป: ไมพ้ มุ่ สงู 1 - 2 เมตร ใบประกอบแบบ
นว้ิ มอื ใบยอ่ ยรปู ไข่ แผน่ ใบหนาเปน็ มนั สีเขียวเขม้
หรือมีดา่ งเหลือง หรือครีม
ความตอ้ งการแสงแดด: ชอบแดดปานกลาง - ร�ำ ไร
ทนรม่ สามารถปลูกในอาคารไดด้ ี
การดูแล: ต้องการความชื้นสูง ดูแลง่าย
ความสามารถในการดดู สารพษิ : ดดู ซบั สารพษิ
ได้มาก

สวนและต้นไม้ 2564 28

15. ไทรย้อ้ ยใบแหลม Weeping Fig (Ficus benjamina L.)
วงศ:์ Moraceae
ลัักษณะทั่่�วไป: ไม้้ยืืนต้้น สููง 5 – 10 เมตร ทรงพุ่่�มแผ่่กว้้าง ใบรููปไข่่ ปลายใบแหลม แผ่่นใบหนา
สีีเขีียวเป็็นมััน
ความต้องการแสงแดด: แดดเต็มวัน
การดแู ล: ตอ้ งการน�ำ้ ปานกลาง – มาก ทนตอ่ สภาพแวดลอ้ มตา่ งๆ ปลกู เปน็ ไมก้ ระถางในอาคารไดด้ ี
ความสามารถในการดูดสารพิษ: ดูดซบั สารประเภทฟอร์มัลดีไฮดไ์ ดด้ ี

16. เสน่่ห์์จันั ทร์์แดง King of Hearts (Homalomena rubescens)
วงศ์: Araceae
ลัักษณะทั่่�วไป: ไม้้ล้้มลุุกสููงประมาณ 30 - 50
เซนติเิ มตร มีีลำ�ำ ต้น้ ใต้ด้ ินิ ใบเป็น็ ใบเดี่ย�่ ว รูปู หัวั ใจ
แผ่น่ ใบสีีเขีียว ก้า้ นใบสีีม่ว่ งแดง
ความตอ้ งการแสงแดด: แดดร�ำ ไร
การดแู ล: ปลกู ในดนิ รว่ น ระบายน�ำ้ ไดด้ ี ตอ้ งการ
ความช้นื ปานกลาง สามารถปลกู ในอาคารได้
ความสามารถในการดดู สารพิษ: ดูดซบั สารพษิ
ประเภทแอมโมเนียไดม้ าก

17. สิิบสองปันั นา Dwarf Date Palm (Phoenix roebelinii O’Brien)
วงศ์: Palmae
ลักษณะทั่วไป: พืชวงศ์ปาล์ม สูง 1 - 3 เมตร
ใบเปน็ รปู ขนนก แผก่ ระจาย กา้ นใบมีหนาม
ความต้องการแสงแดด: ตอ้ งการแดดเต็มวนั
การดแู ล: ปลกู ในดนิ รว่ นปนทราย ตอ้ งการความชน้ื
สม่ำ�เสมอ ทนนำ�้ ขงั สามารถปลูกเปน็ ไม้ประถาง
ในอาคารได้
ความสามารถในการดดู สารพษิ : ดดู ซบั สารประเภท
ไซลนี ได้มาก

29 สวนและต้นไม้ 2564

การอา้ งอิง

กรมอนามยั . (2561). อยอู่ ยา่ งไรภายใตภ้ าวะมลพษิ ตอน ไมป้ ระดบั ดดู สารพษิ . นนทบรุ ี: กรมอนามยั .
โครงการการสร้างระบบฐานขอ้ มลู เกษตรดจิ ทิ ัลเพ่ือการตัดสินใจของกลุ่มเกษตรกรในการผลิต

ไม้ดอกไมป้ ระดับในเขตทงุ่ รังสติ (โครงการยอ่ ยที่ 2). (2559). ข้อมลู พันธไ์ุ ม้. เข้าถึงได้จาก
เว็บไซตเ์ กษตรดิจทิ ัล: https://www.addrun.org
ภวดล ศภุ นนั ทนานนท์. (2563). ไมใ้ บ Foliage Plants. กรุงเทพ: บริษัทอมรนิ ทร์พริ้นติ้ง แอน
พบั ลชิ ช่งิ จำ�กัด (มหาชน).
ส�ำ นกั พมิ พบ์ ้านและสวน. (ม.ป.ป.). Plant library. เข้าถึงได้จาก บา้ นและสวน: https://www.
baanlaesuan.com
สกุ ญั ญา ทิพย์โอสถ, ชนาธปิ เวียงคำ�, และ รงุ่ อินทร์ จิตราวดี กนั กา. (2562). การจดั การพ้ืนท่ี
สำ�นักงานสีเขียวขนาดกลางด้วยการใชพ้ รรณไม้ประดบั ก�ำ จัดสารพิษ. การประชมุ วิชาการ
สำ�หรับนกั ศึกษาระดบั ชาติ ครง้ั ท่ี 2 (หน้า 9-17). กรงุ เทพ: คณะเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม
มหาวทิ ยาลับราชภฏั สวนสุนันทา.
อไุ ร จริ มงคลการ. (2563). รวมพันธ์ไุ ม้ดอก Flowering Plants. กรงุ เทพ: บริษทั อมรนิ ทรพ์ ริ้นตงิ้
แอนด์ พับลิชช่ิง จำ�กดั (มหาชน).
เอือ้ มพร วีสมหมาย, ศศยิ า ศริ พิ านชิ , อลศิ รา มนี ะกนษิ ฐ, และ ณัฏฐ พิชกรรม. (2556). พรรณไม้
ในงานภูมสิ ถาปัตยกรรม 1. กรุงเทพ: โรงพมิ พ์ เอช เอน็ กร๊ปุ จำ�กดั .
B.C. Wolverton, Anne Johnson, และ Keith Bounds. (1989). Interior Landscape Plants for
Indoor Air Pollution Abatement.

สวนและตน้ ไม้ 2564 30

พืชื แคม

ช่่วยเพิ่่�มความสดชื่่�น
ในห้้องพัักผ่่อน

ในปััจจุุบัันวิิถีีคนรุ่่�นใหม่่ที่่�ทำำ�งานในเมืือง นายพัชรพงษ์ สามพันพวง
มัักเลืือกที่่�พัักอาศััยอยู่่�ใกล้้ที่่�ทำำ�งาน เพื่่�อที่่�จะได้้ นักวชิ าการเกษตรปฏบิ ตั ิการ
ไม่่ต้อ้ งตื่่�นเช้า้ แล้้วใช้้ชีีวิติ ไปกัับการเดิินทาง ดัังนั้้น� กลมุ่ งานวิชาการ สำ�นกั งานสวนสาธารณะ
ที่่�พัักอาศััยของคนรุ่่�นใหม่่ก็็จะเป็็นห้้องสี่่�เหลี่่�ยม
มีีพื้้�นที่่�ไม่่มากนััก เช่่น คอนโด อพาร์์ทเม้้นท์์ และการดำ�ำ รงชีวี ิติ ที่ไ�่ ม่่ค่่อยมีเี วลาดููแล นอกจากนี้้�
เป็็นต้้น แต่่ด้้วยความเป็็นมนุุษย์์ที่่�จะดำำ�รงชีีวิิต ยังั มีคี วามเชื่อ� ว่่าถ้า้ ปลููกต้น้ ไม้ใ้ นห้อ้ ง ต้น้ ไม้จ้ ะแย่่ง
แบบไหนก็็คงยัังต้้องการใช้้ชีีวิิตใกล้้ชิิดธรรมชาติิ ออกซิเิ จนหายใจ ทำ�ำ ให้อ้ ึดึ อัดั แต่่ในความเป็น็ จริงิ
เพื่่อ� บำ�ำ บัดั ความอ่่อนล้า้ จากการทำ�ำ งาน และสร้า้ ง ยังั มีพี ืชื กลุ่ม� หนึ่่ง� ที่น�่ ่่าสนใจ เข้า้ กับั วิถิ ีชี ีวี ิติ คนรุ่น� ใหม่่
บรรยากาศให้้สดชื่่�นยามพัักผ่่อน ดัังนั้้�นจึงึ จำำ�เป็็น ได้้อย่่างลงตััว กล่่าวคืือใช้้พื้้�นที่่�น้้อยการดููแล
ต้อ้ งเลือื กพืชื ที่ป�่ ลููกให้เ้ หมาะสมกับั สภาพที่อ�่ ยู่อ�่ าศัยั รัักษาน้้อยและไม่่แย่่งออกซิิเจนหายใจ แถมลด
ปริิมาณก๊๊าซคาร์์บอนไดออกไซด์์เวลากลางคืืน
ที่่�นอนหลัับได้้ด้้วย พืชื กลุ่่�มนี้้เ� รียี กว่่า พืืชแคม

31 สวนและตน้ ไม้ 2564

พืชื แคม (CAM plant) คำ�ำ ว่่า ที่ม�่ ีแี สงแดดจัดั และแห้ง้ แล้ง้ ซึ่ง� ในเวลากลางวันั ปากใบปิดิ ปฏิกิ ิริ ิยิ า
CAM ย่่อมาจาก Crassulacean ในเวลากลางวัันสภาพแวดล้้อม ใช้้แสงจะเกิิดการสร้้างสารให้้
Acid Metabolism หมายถึึง จะมีีความชื้้�นต่ำ��ำ และอุุณหภููมิิสููง พลัังงานสููงแก่่เซลล์์ สำำ�หรัับ
เมแทบอลิิซึึมของกรดอิินทรีีย์์ พืชื พวกนี้้จ� ะปิดิ ปากใบเพื่่อ� ป้อ้ งกันั นำำ�ไปใช้้ในวััฏจัักรเคลวิิน และ
ในพืชื วงศ์์Crassulaceaeซึ่ง� เป็น็ พืชื การสููญเสียี น้ำ��ำ และปิดิ ปากใบใน คาร์บ์ อนไดออกไซด์ท์ ี่ส�่ ร้า้ งสะสม
กลุ่่�มแรกที่่�ค้้นพบวิิธีีการตรึึง เวลากลางคืืน เมื่่�อปากใบเปิิด ไว้ใ้ นรููปสารอินิ ทรียี ์ต์ อนกลางคืนื
คาร์์บอนไดออกไซด์์ เพื่่�อใช้้ใน การตรึึงคาร์์บอนไดออกไซด์์ จะถููกปล่่อยออกมาทำ�ำ ให้ว้ ัฏั จักั ร
ขบวนการสังั เคราะห์แ์ สงของพืชื จะเกิิดขึ้้�น โดยการรวมตััวกัับ เคลวิินสร้้างน้ำำ��ตาลได้้และถููก
รููปแบบนี้้� ซึ่่�งเป็็นการปรัับตััว สารอินิ ทรียี ์แ์ ล้ว้ เปลี่่ย� นไปเป็น็ กรด เปลี่่�ยนไปเป็็นแป้้งเพื่่�อสะสมไว้้
ของพืืชที่�่เจริิญเติิบโตในสภาวะ นำ�ำ ไปเก็็บสะสมอยู่�่ในแวคิิวโอล ใช้ใ้ นกิิจกรรมต่่าง ๆ ของพืืช

ภาพกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพืชซเี อเอม็ (CAM PLANT)
(ถอื วา่ กำ้�ก่งึ ระหว่างพืช C3 และพชื C4 )

ทมี่ า:https://slideplayer.com/slide/7522489/24/images/25/CAM+Plants+Cactus+Crassulacean+Acid+Metabolism.jpg

สวนและต้นไม้ 2564 32

พชื กลุ่ มนน้ี อกจากดูดคารบ์ อนไดออกไซดต์ อนกลางคนื แลว้ การเปดิ ปากใบเวลากลางคนื กจ็ ะท�ำ ให้
เกดิ การคายน้ำ�และออกซเิ จนออกมาท�ำ ให้รูส้ ึกสดชื่น นอกจากน้กี ารดูแลพืชกลุ่ มนก้ี ท็ ำ�ไดง้ ่ายไม่ต้อง
ดูแลรดน้ำ�ทุกวันเนื่องจากเป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้ง หรือให้น้ำ�ในปริมาณน้อยทำ�ให้พื้นที่ใช้เลี้ยง
ไม่เปยี กชนื้ จนเกิดเช้ือราในบริเวณท่ีเลย้ี ง

ที่มา: https://www.sanook.com/home/26873/

มารจู้ ักพืชชนิดนีก้ ันว่ามีอะไร
พชื ส่วนใหญจ่ ะเปน็ พชื ทอ่ี ยใู่ นทแ่ี หง้ แลง้ พวกซโี รไฟต์ (xerophyte) มกั เปน็ พชื อวบน�ำ้ (succulent)
เช่น วงศ์กระบองเพชร Cactaceae วงศ์กหุ ลาบหิน Crassulaceae วงศ์ Asparagaceae เช่น ล้ินมังกร
อะกาเว วงศ์ Asphodelaceae เช่น ว่านหางจระเข้ เปน็ ตน้ รวมถงึ พชื ท่ี มใี บสวยงามอย่าง วงศส์ บั ปะรดสี
Bromeliaceae และดอกหลากหลายสอี ย่าง วงศ์กลว้ ยไม้ Orchidaceae ก็อยใู่ นพืชแคมเช่นกนั

ท่ี มา: https://www.pinterest.com/pin/
356628864242729439/

33 สวนและต้นไม้ 2564

พืชแคมปลูกง่ายเหมาะกับห้องพักผอ่ น

ล้นิ มังกร (Snake Plant)
ลิ้นมังกร (Snake Plant) เดิมจัดอยู่สกุล Sansevieria ปัจจุบันเป็นสกุล Dracaena อยู่ในวงศ์
Asparagaceae สกลุ เดยี วกบั จนั ทนผ์ า วาสนา พชื ในกลุ่ มลน้ิ มงั กร เปน็ ไมล้ ม้ ลกุ อายหุ ลายปี มลี �ำ ตน้
ใต้ดนิ เป็นเหง้า (rhizome) ใบเดยี่ ว เรียงเวยี นหรอื เรียงสลบั ระนาบเดียวกนั มรี ูปร่างแตกต่างกันมาก
ใบเป็นแท่งกลมยาวหรอื แบนกวา้ ง ปลายแหลม เนอ้ื ใบอวบน�้ำ เป็นพชื อวบน้�ำ จงึ ไม่ต้องรดน้ำ�บ่อย
ปรมิ าณน�ำ้ นอ้ ยถงึ ปานกลาง มคี วามทนทานต่อโรคและแมลง ดนิ ทใ่ี ชป้ ลูกเปน็ ดนิ ร่วนหรอื ดนิ ปนทราย
ระบายนำ�้ ดี ชอบแสงแดด ควรอยใู่ กลห้ นา้ ต่างมีแสงส่องถึงบา้ งอย่างนอ้ ยครง่ึ วัน นอกจากช่วยดูดซับ
คาร์บอนไดออกไซดเ์ วลากลางคืนแล้ว ยงั ช่วยดูดสารพิษอ่ืนด้วย เช่น สารเบนซนี สารฟอร์มาลดีไฮด์
เป็นตน้
พันธท์ุ นี่ ยิ มปลกู ไดแ้ ก่
ลิ้้�นมัังกรแคระ
ช่อื อ่ืน : หูเสอื เกล็ดมังกร เลบ็ มังกร
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dracaena trifasciata (Prain) Mabb. ‘Hahnii’
ลน้ิ มงั กรแคระเปน็ ไมล้ ม้ ลกุ อายหุ ลายปี สูง 10 - 15 เซนตเิ มตร ใบเดย่ี ว เรยี งเวยี น รูปรี รูปไขแ่ กมรี
กวา้ ง 4 - 5 เซนตเิ มตร ยาว 10 - 12 เซนตเิ มตร ปลายใบเรยี วแหลม เนอ้ื ใบหนา้ แขง็ แผ่นใบหอ่ งมุ้ เลก็ นอ้ ย
คลา้ ยกบั S. trifasciata ‘Golden Hahnii Green’ แต่มีแถบด่างกระจายท่ั วใบไม่สม่�ำ เสมอ

ลิ้้�นมัังกรใบยาว

ชอ่ื อ่ืน : ลิ้นมงั กร ล้นิ แม่ยาย หอกพระอนิ ทร์ ว่านลิ้นมังกร ท่ี มา https://brainstudy. info/images
ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Dracaena trifasciata (Prain) Mabb.

ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 40 - 60 เซนติเมตร มีลำ�ต้นใต้ดิน
เปน็ เหงา้ ทอดเลอ้ื ย ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั ใบรูปใบหอกแกมขอบขนาน
ปลายใบเรยี วแหลม ขอบใบเรยี บ เนอ้ื ใบหนาแขง็ ตง้ั ตรง ใบสเี ขยี วเขม้
มีลายตามขวางสีเขียวอ่อนช่อดอกคล้ายช่อเชิงลดออกจากลำ�ต้น
ใต้ดนิ ดอกสีขาวมีกลน่ิ หอม

สวนและตน้ ไม้ 2564 34

ลิ้้�นมัังกรใบกลม
ชอ่ื อน่ื : ว่านงาชา้ งเขยี ว หอกสรุ กาฬ ว่านงาชา้ งลาย
หอกสรุ โกฬ
ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Dracaena angolensis (Welw.
ex Carrière) Byng & Christenh.

ไม้้ล้้มลุุกอายุุหลายปีี สููงประมาณ 60
เซนติเิ มตร ลำ�ำ ต้น้ ใต้ด้ ินิ เป็น็ เหง้า้ ใบเดี่ย� ว เรียี งสลับั
รููปทรงกระบอก เส้้นผ่่านศููนย์ก์ ลาง 3 เซนติิเมตร
ยาว 40 - 60 เซนติเิ มตร ปลายใบแหลม เป็น็ ร่่อง
ตื้้น� ตามยาว สีเี ขียี ว อาจมีหี รือื ไม่่มีแี ถบสีเี ขียี วเข้ม้
พาดตามขวาง เดิิมนิิยมปลููกประดัับนอกบ้้าน
ตามแนวรั้้�ว โดยปลููกพัันธุ์�ใบเขีียวล้้วน ช่่อดอก
คล้้ายช่่อเชิิงลด ช่่อย่่อย เป็็นช่่อกระจุุก ออกที่่�
ซอกใบ ดอกสีขี าว มีีกลิ่่น� หอม

ลิ้�้นมัังกรงาช้้างบอนเซล

ที่มา https://fr-fr.facebook.com/ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Dracaena angolensis (Welw. ex
1671868743057340/posts/2203544703223072/ Carrière) Byng & Christenh. ‘Boncel’

ไมล้ ม้ ลกุ อายหุ ลายปี สูง 40 - 50 เซนตเิ มตร
ล�ำ ตน้ ใตด้ นิ เปน็ เหงา้ มปี ลอ้ งสน้ั และอว้ น ใบเดย่ี ว
เรยี งสลบั ระนาบเดยี ว ใบรูปทรงกระบอก ปลายแหลม
เปน็ ร่องตน้ื ตามยาว สเี ขยี วอมเทา มลี วดลายตาม
ขวางเปน็ สเี ขยี วเขม้ ช่อดอกแบบช่อกระจกุ ออกท่ี
ซอกใบ ดอกสขี าว มกี ลิ่นหอมอ่อน

ลิ้้น� มัังกรครีบี ปลาวาฬ

ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Dracaena masoniana (Chahin.) ท่ี มlnาwhstthpo:p//.acnonmo/pagrtaicrdlee/n1ss.
Byng & Christenh.

ไมล้ ม้ ลกุ อายหุ ลายปี สูง 40 – 70 เซนตเิ มตร
ล�ำ ตน้ ใตด้ นิ เปน็ เหงา้ ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั รูปรแี กม
กระสวย กวา้ ง 10 – 12 เซนตเิ มตร ยาว 50 – 60
เซนติเมตร ปลายใบแหลมถึงป้าน โคนใบสอบ
ขอบใบเรยี บเปน็ คลน่ื เลก็ นอ้ ย แผ่นใบแขง็ และบดิ
สเี ขยี วคล้�ำ อมเทา มลี ายตามขวางสเี ทา และมนี วล
สขี าวปกคลมุ ช่อดอกแบบช่อกระจะ ยาวประมาณ
30 เซนติเมตร ดอกเรียงอัดกนั แนน่ สีขาว

35 สวนและตน้ ไม้ 2564

สบั ปะรดสี (Bromeliad)

สับั ปะรดสีี (Bromeliad) อยู่�่ มากนััก แต่่คุุณสมบััติิเด่่นของ และการมีปริมาณเม็ดสีหรือ
ในวงศ์์ Bromeliaceae มีปี ระมาณ สัับปะรดสีีอยู่่�ที่่�เป็็นพืืชที่่�คาย รงควัตถทุ ี่แตกต่างกนั
60 สกุลุ และมากกว่่า 2,000 ชนิดิ ออกซิิเจนออกมาตอนกลางคืืน
สัับปะรดสีีเป็็นไม้้ที่่�เจริิญเติิบโต และดููดคาร์บ์ อนไดออกไซด์เ์ ข้า้ ไป ดอก ช่อดอกมีช่อกระจะ
ช้้า ดููแลง่่าย หลายชนิิดทนแล้ง้ จึงึ เหมาะที่จ�่ ะปลููกไว้ใ้ นห้อ้ งนอน และช่อแยกแขนง โดยมใี บประดบั
ได้ด้ ีี มีใี บสีสี ัันสดใส มีลี วดลาย รองรบั ช่อดอกหรอื ดอก กลบี รวม
มีีประ บางชนิิดมีีช่่อดอกหรืือ ลำ�ต้น ล�ำ ต้นแขง็ บางชนิด 6 กลบี เกสรเพศผู้ 6 เกสร รงั ไข่
ดอกเด่่นสะดุุดตานานหลาย มีลำ�ต้นยาว บางชนิดล�ำ ต้นสน้ั เหนือวงกลบี หรือใต้วงกลบี
สััปดาห์์หรืืออยู่่�ได้้หลายเดืือน มาก ต้นสูงตั้งแต่ 2 นิ้ว จนถึง
เมื่่�อแตกหน่่อตััดแยกไปปลููก 9 เมตร ลักษณะต้นมที ง้ั ตัง้ ตรง วััสดุุปลููก ควรเป็็นวััสดุุที่่�
เป็น็ ต้น้ ใหม่่ สับั ปะรดสีสี ามารถ และเลือ้ ย ระบายน้ำำ��ดีี มีีความโปร่่งและ
ทนทานอยู่�่ได้้ทั้้�งในที่�่มีีแสงมาก ร่่วนซุยุ ไม่่มีนี ้ำ��ำ ขังั มีคี ่่า pH อยู่�่
และแสงน้อ้ ย แต่่ถ้า้ ได้ร้ ับั แสงมาก ใบ ใบเดย่ี ว เรยี งเวยี น หรอื ระหว่่าง 4.5 - 5.5 วััสดุุปลููก
จะทำ�ำ ให้ใ้ บมีสี ีสี ันั สวยงามน่่ามอง เรยี งสลบั ระนาบเดยี วเปน็ 2 แถว ดิินร่่วน, ทรายหยาบ, ใบไม้้ผุุ,
ยิ่ง� ขึ้น� ถึงึ แม้ค้ ุณุ สมบัตั ิใิ นการดููด อดั กนั แน่น ใบเป็นรูปแถบและ ปุ๋๋ย� หมักั หรือื ปุ๋๋ย� คอก, กาบมะพร้า้ ว
สารพิิษของสัับปะรดสีีจะไม่่ ขอบใบมีหนาม ใบท่ี มลี วดลาย อัตั ราส่่วน 2:1:1:1:1 หรือื ดินิ ร่่วน,
สวยงามเกดิ จากการเรยี งตวั แบบ ทรายหยาบ, เวอร์ม์ ิคิููไมท์,์ พีที มอส
สลบั กนั ของไทรโคม (trichome) อััตราส่่วน 1:1:1:1

พนั ธุ์ทน่ี ิยมปลูกได้แก่
เอคเมีียชานทิินิิอายแบล็ก็ Aechmea chantinii (Carr) Baker ‘Black’

ท่ี มา https://data.addrun.org/plant/archives/ ไม้้ล้ม้ ลุุกอายุุหลายปีี ต้้นสููง 0.50 – 1 เมตร
713-aechmea-chantinii-carriere-baker ใบเรียี งเวียี นแน่่นเป็น็ ทรงดอกกุกุ ลาบ ใบค่่อนข้า้ งตั้ง�
ด้า้ นบนใบสีเี ขียี วมีแี ถบขาวสีเี ทาอมเขียี ว ด้า้ นล่่างใบ
นีีโอเรเจลยาฟรัังกา Neoregelia ‘Franca’ สีเี ขียี ว มีีแถบสีีขาว สีมี ่่วงอมเขียี ว ช่่อดอกแบบ
ช่่อแยกแขนงออกที่ป�่ ลายยอด ใบประดับั สีสี ้ม้ แดง
มัักพลิิกลงแนบก้้านช่่อดอก มีีถิ่่�นกำำ�เนิิดใน
โคลอมเบีีย เปรูู เวเนซุเุ อลา และบราซิิล

เป็น็ ไม้ล้ ้ม้ ลุกุ อายุหุ ลายปีี เส้น้ ผ่่านศููนย์ก์ ลาง ท่ี มา https://tavoei.perfectbath.co.th/bromeliad.html
ทรงพุ่่�มประมาณ 35 เซนติิเมตร ลำำ�ต้้นสั้้�น สููง
ประมาณ 30 เซนติิเมตร ใบรููปแถบสีีเขีียวเข้้ม
สลัับแถบสีีเขีียวอ่่อนถึึงขาว ขอบสีีขาว ใบอ่่อน
สีีชมพููแดงอมเขีียว

สวนและต้นไม้ 2564 36

สับั ปะรดสีี สกุลุ Cryptanthus แถบสีีเขีียว สีีเหลืือง สีีแดงหรืือสีีขาว ด้้านล่่าง
เมื่่อ� ปลููกในสภาพห้อ้ งความสููงไม่เ่ กินิ 35 - 40 ของแผ่น่ ปกคลุมุ ด้ว้ ยเกล็ด็ ช่่อดอกแบบช่่อกระจุกุ
เซนติเิ มตร ใบเรียี งเวียี นกันั แน่่นคล้า้ ยดอกกุหุ ลาบ ออกที่่�ปลายยอด พื้้�นที่่�ปลููกต้้องได้้รัับแสงแดด
ขนาดใหญ่่ที่่�มีีรููปร่่างเป็็นดาว ใบกว้้าง 3 - 4 ครึ่ �งวััน ขยายพัันธุ์�โดยวิิธีีแยกหน่่อ เติิบโตเร็็ว
เซนติเิ มตร มีคี วามยาว 10 - 40 เซนติเิ มตร ขึ้น� อยู่ก�่ ับั พืืชสกุุลนี้้�พบเฉพาะในประเทศบราซิิล
ชนิดิ ของพืชื ใบสีเี ขียี วหรือื มีหี ลายสีซีึ่ง� ประกอบด้ว้ ย

Cryptanthus zanatus (Vis.) Vis – เปน็ ชนดิ Cryptanthus bivittatus (Hook.) Regel ‘Red star’
ท่ี มขี นาดใหญ่ท่ี สดุ มคี วามสูงประมาณ 35 เซนตเิ มตร เป็นสับปะรดสีขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางของ
ใบยาวประมาณ 40 เซนตเิ มตร มีขอบหยกั เปน็ ทรงพุ่ม ประมาณ 15 เซนติเมตร ใบสีแดงเข้ม
หนาม ใบสนี �ำ้ ตาลแดงและแถบขวางสเี งนิ ซกิ แซก สดใส มีแถบกลางใบสีแดงคล้ำ� ขอบใบมีหนาม
ตลอดแผ่นใบ เปน็ คล่นื

ท่ี มา: https://th.farmforage.com/7942-cryptanthus- ที่มา: https://th.farmforage.com/7942-cryptanthus-
and-principles-of-care-for-him-at-home.html and-principles-of-care-for-him-at-home.html

Cryptanthus bivittatus (Hook.) Regel ‘Arlety’ ทth่ี uมาs:-ahrtlteptsy:-/%/dEa0ta%.aBd8d%ruAn5.o%rgE/0p%lanBt8/a%rcBh9iv%esE/02%98B-8c%ryp8t1a%n-
ไม้้ล้้มลุุกอายุุหลายปีี ลำำ�ต้้นสั้้�น มีีกาบใบเวีียน E0%B8%9C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%82
รอบต้้น เส้้นผ่่านศููนย์์กลางทรงพุ่่�ม 15 - 20
เซนติเิ มตร ใบสีีชมพูู มีีแถบกลางใบสีีน้ำำ�� ตาลเข้ม้ %E0%B8%AD%E0%B8%87-c-marginatus
ผสมสีีน้ำ��ำ ตาลอ่่อน

สับั ปะรดสีี บิิลเบอร์์เกีีย (Billbergia)
ถิ่่�นกำำ�เนิิดทางตะวัันออก ช่่อดอกแบบช่่อกระจะห้้อยลง
ของประเทศบราซิิล เป็็นพืืช ใบประดัับที่่�ก้้านช่่อยาวใหญ่่
อิงิ อาศัยั บนคาคบไม้้ แต่่มักั พบว่่า สีชี มพูู - แดง ดอกสีมี ่่วง - น้ำ��ำ เงินิ
เจริิญงอกงามอยู่่�ตามโขดหิิน จะบานไม่่ทนอยู่ป�่ ระมาณ 3 - 5
พืืชสกุุลนี้้�มีีใบเพีียง 5 - 8 ใบ วันั ก็็จะเริ่ม� โรย
เท่่านั้้น� กาบใบซ้้อนกัันเป็น็ ทรง
กระบอกสููงดููคล้้ายกรวย ใบ
รููปแถบอาจมีีลวดลายเป็็นริ้ �ว
สีีเทาเงิินคาดเป็็นระยะ หลาย
ชนิิดมีีจุุดประกระจายบนพื้้�นใบ https://shopee.co.th/ขายหน่อสับปะรดส-ี ตระกูล-billbergia-i.391005.1998941033

37 สวนและต้นไม้ 2564

กระบองเพชร (cactus) แบ่่งออกเป็็นหนามกลางและ ส่่วนผสม เช่่น ดิิน : ถ่่านป่่น :
กระบองเพชร (cactus) หนามข้า้ ง จำ�ำ นวนสีสี ันั และรููปร่่าง ทราย อััตราส่่วน 1:1:1 หรืือ
อยู่�ใ่ นวงศ์์ Cactaceae ปััจจุุบันั ลักั ษณะต่่างกันั ไป ดิินร่่วนทราย : ทรายหยาบ :
มีีประมาณ 144 สกุลุ มากกว่่า ใบไม้ผ้ ุุ : ถ่่านร่่อนเป็น็ ก้อ้ นเล็ก็ :
2,000 ชนิิด เป็น็ พืืชใบเลี้้�ยงคู่่� ใบ กระบองเพชรไม่่มีีใบ อิิฐหััก อััตราส่่วน 4:2:1:2:7
กระบองเพชรมีีถิ่่�นกำำ�เนิิดใน ที่่แ� ท้้จริิง เพราะใบลดรููปเปลี่่�ยน
ทวีปี อเมริกิ าใต้้ ปัจั จุบุ ันั กระจาย เ ป็็ น ห น าม ห รืื อข น เ พื่่� อ ลด การจััดการแสง ควรให้้
ไปทั่่ว� โลกนิยิ มปลููกเป็น็ ไม้ป้ ระดับั การคายน้ำำ��ของต้้น แต่่ในบาง ร่่มเงาหรืือพรางแสงแก่่บริิเวณ
ทั่่�วโลก มีีเพีียงชนิิดเดีียวที่่�พบ สกุุลเช่่น กุหุ ลาบพุกุ าม กุหุ ลาบ ที่�ป่ ลููกเลี้�ยงแคคตััสให้้เหลืือแสง
ในแอฟริิกาด้้วยคืือ Rhipsalis เมาะลำำ�เลิิง ยัังคงมีีใบแท้้ให้้เห็น็ ผ่่านลงมา 70 - 80 เปอร์์เซ็น็ ต์์
baccifera ในการปลููกประดัับ อยู่�่ และจััดวางกระถางให้้ได้้รัับแสง
ซึ่่�งพัันธุ์์�ดั้้�งเดิิมพบได้้ในพื้้�นที่่� จากธรรมชาติิอย่่างเหมาะสม
ทะเลทรายแห้ง้ แล้ง้ ก่่อนจะมีกี าร ดอก เป็น็ แบบไม่่มีกี ้า้ นดอก คืือช่่วงเช้้าหรืือช่่วงบ่่ายที่่�แดด
พััฒนาสายพัันธุ์�ให้้ปลููก และ มัักเกิิดที่่�บริิเวณตุ่่�มหนาม มีี ไม่่แรงเกินิ ไปนักั
เติบิ โตได้ใ้ นสภาพร้อ้ นชื้น� ต้น้ มีี ลักั ษณะ รููปร่่าง ขนาด และสีสี ันั
ลักั ษณะอวบน้ำ��ำ ภายในประกอบ ต่่า ง กัั น ไ ปตามชนิิ ด แ ล ะ พัั น ธุ์ � การให้้น้ำำ�� รดน้ำำ��ให้้ชุ่่�ม
ไปด้ว้ ยน้ำ��ำ ประมาณ 95 เปอร์เ์ ซ็น็ ต์์ กลีีบดอกและเกสรเพศผู้้�มัักมีี ถึึงรากและรดครั้ �งต่่อไปเมื่่�อ
โดยปริิมาตร จำำ�นวนมาก รัังไข่่อยู่่�ใต้้วงกลีีบ วััสดุุปลููกเริ่�มแห้้ง ระวัังอย่่าให้้
ลำ�ำ ต้น้ มีรี ููปร่่างต่่างกันั ไป มีี (inferior ovary) น้ำำ��ขัังหรืือวััสดุุปลููกแฉะ เพราะ
ทั้้�งที่่�เป็็นต้้นเดี่่�ยว ๆ และที่่�ขึ้�น จะทำ�ำ ให้้รากและต้้นเน่่าตายได้้
รวมกัันเป็็นกลุ่่�ม ขนาดต่่างกััน ผล ส่่วนใหญ่่ผลมักั มีสี ีสี ดใส
ตั้ง� แต่่ขนาดเล็ก็ ไปจนถึงึ ขนาดใหญ่่ สะดุุดตา รููปร่่างเป็็นทรงกลม การให้้ปุ๋๋�ย หากต้้องการ
ผิิวต้้นคล้้ายเคลืือบด้้วยขี้้�ผึ้้�ง ทรงกระบอก หรืือรููปไข่่ ผิิวเป็น็ ให้้ปุ๋๋�ยแก่่ต้้น ควรเลืือกให้้ปุ๋๋�ย
มีสี ่่วนประกอบที่เ�่ รียี กว่่า ตุ่ม� หนาม มันั เรียี บ มีขี นหรือื หนามแข็ง็ แรง ละลายช้า้ โรยรอบกระถาง 3 - 5 เม็ด็
(areole) ซึ่่�งเป็็นบริิเวณที่่�จะพบ ปกคลุุมหรือื มีีลัักษณะเป็็นเกล็ด็ ทุกุ สามเดืือน
กลุ่่�มหนามหรืือขนแข็็งขึ้ �นเรีียง ซ้อ้ นทัับกััน
ไปตามแนวสันั สููงของต้น้ หนาม
วััสดุุปลููกกระบองเพชร
มีหี ลายสููตรตามความเหมาะสม
และแหล่่งของวััสดุุที่่�ใช้้เป็็น

พันธทุ์ ่ีนยิ มปลูกไดแ้ ก่

แอสโตรไฟตััม (Sand Dollar Cactus)

หรืือเรีียกสั้้�น ๆ ว่่า แอสโตร (Astro) มีีชื่่�อวิิทยาศาสตร์์ว่่า
Astrophytum asterias (Zucc.) Lem. มีีต้้นกำำ�เนิิดมาจากแถบ
อเมริกิ ากลาง ลักั ษณะลำ�ำ ต้น้ กลม มีพี ูู 5 - 13 พูู สีเี ขียี วเข้ม้ ผิวิ เรียี บ
มีีจุุดหรืือดอทสีีขาว และมีีขนสีีขาวปกคลุุมแต่่ละตุ่่�มเนิินหนาม
เมื่่�ออายุุได้้ปีีกว่่าๆ จะเริ่�มออกดอก โดยดอกมีีสีีเหลืืองหรืือสีีส้้ม
อมแดง ออกดอกได้ต้ ลอดทั้้ง� ปีี โดยเฉพาะช่่วงหน้า้ ร้อ้ น นิยิ มขยายพันั ธุ์�
ด้ว้ ยการเพาะเมล็ด็ ชอบดินิ ร่่วนปนทราย ชอบน้ำ��ำ น้อ้ ยถึงึ ปานกลาง
ชอบแสงแดดจััด และทนแล้้งได้ด้ ีี

สวนและตน้ ไม้ 2564 38

แมมมิิลลาเรีีย พลูโู มซา
หรืือที่่�รู้้�จัักในชื่่�อ แมมขนนกขาว (Feather Cactus) มีีชื่่�อ

วิิทยาศาสตร์์ว่่า Mammillaria plumosa F.A.C.Weber ต้้นกำำ�เนิิด
มาจากแถบอเมริกิ ากลาง ลักั ษณะลำ�ำ ต้น้ เป็น็ ทรงกลม มีพี ููแต่่มองเห็น็
ไม่่ชััดมีีหนามอ่่อนสีีขาวอ่่อนรอบต้้นคล้้ายพู่่�ขนนก ดอกมีีสีีขาว
อมเหลืืองหรืือสีีชมพูู มัักออกดอกช่่วงฤดููหนาวนิิยมขยายพัันธุ์�
ด้้วยการเพาะเมล็็ดและปัักชำำ� ชอบดิินร่่วนปนทราย ชอบน้ำำ��น้้อย
ถึงึ ปานกลาง ชอบแสงแดดและทนแล้ง้ ได้้ดีี
ตะบองพ่อ่ เฒ่า่ หรือื แมมพ่อ่ เฒ่่า (Old Man Cactus)
มีีชื่่�อวิิทยาศาสตร์์ว่่า Cephalocereus senilis (Haw.) Pfeiff.
ต้น้ กำ�ำ เนิดิ มาจากประเทศเม็ก็ ซิโิ กเป็น็ ไม้อ้ วบน้ำ��ำ อายุหุ ลายปีี อาจสููง
ได้ถ้ ึงึ 15 เมตร ลำ�ำ ต้น้ เป็น็ ทรงกระบอก มีี 20 - 30 พูู สีเี ขียี วเข้ม้ สวย
มีีขนสีีขาวและหนามกลางสีีเหลืืองอ่่อนปกคลุุมทั่่�วลำำ�ต้้น มีีดอก
สีีขาวอมชมพูู แต่่ออกดอกยากส่่วนใหญ่่นิิยมขยายพัันธุ์�ด้้วย
เพาะเมล็ด็ มักั จะปลููกเป็น็ ไม้ก้ ระถางในอาคาร ชอบดินิ ร่่วนปนทราย
ชอบน้ำ��ำ น้้อย และชอบแสงแดดจััด
ถังั ทอง (Golden Barrel Cactus)

มีชีื่อ� วิทิ ยาศาสตร์ว์ ่่า Echinocactus grusonii Hildm. ต้น้ กำ�ำ เนิดิ
จากเม็ก็ ซิโิ กและอเมริกิ ากลาง ลำ�ำ ต้น้ ลักั ษณะกึ่ง� ทรงกลมแป้น้ สีเี ขียี วอ่่อน
ถึงึ สีเี ขียี วเข้ม้ ปกคลุมุ ด้ว้ ยหนามสีขี าวอมเหลือื งลักั ษณะแตกออกเป็น็ รัศั มีี
เมื่่อ� ต้น้ โตส่่วนบนสุดุ ของลำ�ำ ต้น้ จะเว้า้ ลงมาคล้า้ ยปากถังั และออกดอก
บริเิ วณยอดของลำ�ำ ต้น้ สีเี หลือื งทอง ส่่วนใหญ่่นิยิ มขยายพันั ธุ์�ด้ว้ ยการ
เพาะเมล็็ด เหมาะสำำ�หรัับปลููกในดิินร่่วนปนทราย ระบายน้ำำ��ได้้ดีี
ชอบน้ำ��ำ ปานกลาง และชอบแสงแดดจััด ทนแล้ง้ ได้้ดีี

เรนโบว์์ (Rainbow Hedgehog Cactus)
มีชีื่อ� วิทิ ยาศาสตร์ว์ ่่า Echinocereus rigidissimus (Engelm.) Rose

ต้น้ กำ�ำ เนิิดมาจากประเทศสหรััฐอเมริิกาและเม็ก็ ซิโิ ก ลัักษณะลำำ�ต้้น
ทรงกระบอกเมื่่อ� โตจะมีคี วามสููงประมาณ 6 - 20 เซนติเิ มตร หนามราบ
ไปกัับลำำ�ต้้น มีีจุุดเด่่นอยู่่�ที่ห่� นามสีีแดง - ชมพููเข้ม้ ไล่่เฉดสีีคล้้ายรุ้�ง
ส่่วนดอกออกสีชี มพููสดที่ป�่ ลายยอด บานช่่วงพฤษภาคม - กรกฎาคม
นิิยมขยายพัันธุ์�ด้้วยการเพาะเมล็็ด โตช้้า ชอบดิินที่่�ระบายน้ำำ��ดีี
และมีีความเป็็นกรดเล็ก็ น้้อย ชอบแสงแดดจ้า้ ต้้องการน้ำ��ำ เล็ก็ น้้อย
ลดการให้น้ ้ำ��ำ ช่่วงหน้า้ ฝน พร้อ้ มระวังั น้ำ��ำ ขังั เพราะอาจจะทำ�ำ ให้ร้ ากเน่่า
ได้้ง่่ายด้้วย

39 สวนและตน้ ไม้ 2564

คลื่่�นสมอง
มีชีื่อ� วิทิ ยาศาสตร์์ Stenocatus phyllacanthus
(A.Dietr. & Otta) A.Berger มีถีิ่น� กำ�ำ เนิดิ ในประเทศ
เม็็กซิิโก เป็น็ กลุ่่ม� ไม่่แตกกอลำ�ำ ต้้นรููปกึ่่�งทรงกลม
พููหยัักคล้้ายสมอง หนามยาวสีีขาว - น้ำำ��ตาล
ดอกสีชี มพููอมขาว ออกที่ป�่ ลายยอด บานช่่วงฤดููร้อ้ น
นิิยมขยายพัันธุ์�ด้้วยการเพาะเมล็ด็ ชอบดิินทั่่�วไป
ที่่�ระบายน้ำำ��ดีี ชอบแสงแดดจััด ทนร้้อน ทนแล้้ง
ได้ด้ ีี แต่่ไม่่ทนความเย็น็ ต้้องการน้ำ�ำ�ไม่่มาก ให้้รด
ตอนดินิ แห้ง้
เทอร์์บิินิิคาร์์ปัสั

มีชีื่อ� วิทิ ยาศาสตร์ว์ ่่า Kadenicarpus pseudomacrochele subsp.
krainzianus (Gerhart Frank) Vázquez – Sánchez เป็น็ ต้น้ ไม้ป้ ลููกง่่าย
ขนาดเล็็ก มีีหััวใต้้ดิิน ลำำ�ต้้นสีีเขีียวเข้้ม ขึ้ �นเป็็นกอ ปกคลุุมด้้วย
หนามสีขี าว มีดี อกสีคี รีมี ขึ้้น� ปลายยอดสีเี หลือื งครีมี และสีเี ขียี วอ่่อน
นิิยมขยายพัันธุ์�ด้้วยการเพาะเมล็็ด ชอบดิินร่่วนระบายน้ำำ��ได้้ดีี
ชอบน้ำำ�� และชอบแสงแดดจััด ทนแล้ง้ ได้ด้ ีี

ฮาโวเทีย (Haworthia)

ฮาโวเทีีย (Haworthia) เป็็นพืืชในวงศ์์ เลืือกต้้นแก่่อายุุประมาณ 3 - 5 ปีี และการ
Asphadelaceae ซึ่่�งเป็็นพืืชในวงศ์์เดีียวกัันกัับ เพาะเมล็็ด การจััดการแสง อย่่าให้้ถููกแสงแดด
ว่่านหางจระเข้้ เป็็นพืืชที่่�มีีถิ่่�นกำำ�เนิิดอยู่่�ทาง โดยตรงให้้ถููกแสงแดดครึ่ง� วันั เช้้า
ตอนใต้ข้ องทวีปี แอฟริกิ า ลักั ษณะที่ส�่ ำ�ำ คัญั ของพืชื
ในวงศ์์นี้้� คืือ โดยมากเป็็นไม้้ล้้มลุุกขนาดเล็็ก วัสดุปลูก เป็นเคร่ืองปลูกที่โปร่ง ระบายน�้ำ
ใบเดี่่ย� ว เรียี งเวียี นแน่่นเป็น็ ทรงคล้า้ ยดอกกุหุ ลาบ ไดด้ ี แนะนำ�ว่าควรเปน็ ขยุ มะพรา้ ว : แกลบดิบ :
ใบมีีลัักษณะแตกต่่างกััน อาจเรีียวแหลม รููปไข่่ แกลบเผา : หินภูเขาไฟ เบอร์ 00 และควรผ่าน
ทรงกลม มัักอวบน้ำำ�� มีีหรืือไม่่มีีลวดลาย มีีหรืือ การฆ่าเชอ้ื ดว้ ยวธิ ีน่ึงกอ่ นเพือ่ กำ�จดั วชั พืชต่าง ๆ
ไม่่มีบี ริเิ วณที่โ�่ ปร่่งแสง ต่่างจากบริเิ วณอื่่น� ของใบ ท่อี าจตดิ มากบั เครอ่ื งปลูก
ที่เ�่ รียี กว่่า window ดอกออกเป็น็ ช่่อยาว อาจบอบบาง
ช่่อกระจะหรือื ช่่อแยกแขนง ผลแห้ง้ แตก อาจจะเป็น็ การรดน�ำ้ ควรรดใหช้ ุ่ มถึงราก และจนกว่า
ช่่อเดี่่�ยวหรืือแตกออกเป็น็ กิ่่ง� ก้า้ น การขยายพัันธุ์� วัสดุปลูกแห้งจึงรดน้ำ�ครั้งต่อไป ใหน้ �้ำ สัปดาห์ละ
โดยการแยกหน่่อ การทำำ�ลายยอด ปักั ชำำ�ใบ โดย 1 ครั้งในตอนเช้า การให้ปุ๋ยใช้ปุ๋ยละลายช้าสูตร
เสมอเฉพาะช่วงเร่ิ มปลูกโดยใช้ป๋ยุ รองก้นกระถาง
หลงั จากน้นั เปลย่ี นมาฉีดพ่นทางใบ

สวนและตน้ ไม้ 2564 40

พนั ธ์ุทีน่ ิยมปลกู ได้แก่
หยดน้ำ�ำ� Haworthia cooperi Baker
ไม้ล้ ้ม้ ลุกุ อายุหุ ลายปีี ขนาดเส้น้ ผ่่านศููนย์ก์ ลาง
7.5 - 12.5 เซนติิเมตร ใบเดี่่�ยว ใบสั้้�นกลมมน
เรีียงเวีียนแน่่นเป็็นทรงดอกกุุหลาบ ใบอวบน้ำำ��
สีีเขีียวอ่่อนมีีปลายใบโปร่่งแสง ปััจจุุบัันได้้รัับ
ความนิิยมในกลุ่่�มผู้้�ที่่�ชื่่�นชอบแคคตััส ใบจะมีี
ลัักษณะคล้้ายกัับหยดน้ำำ�� มีีหลายสีี เช่่น เขีียว
และดำ�ำ

ม้้าตััด Haworthia truncata Schönland
ลกั ษณะปลายใบเรยี บคลา้ ยถูกตดั ล�ำ ตน้ สน้ั เจรญิ เปน็ พุ่ มแผ่ออกระนาบเดยี ว ขนาด 4 – 7 เซนตเิ มตร
ใบคลา้ ยรูปชอ้ น ออกเรยี งสลบั ระนาบเดยี ว กวา้ ง 1.5 – 2 เซนตเิ มตร ยาว 4 – 5 เซนตเิ มตร ปลายใบตดั
และมีลายริ้วสีขาว แผ่นใบหนาประมาณ 5 มิลลเิ มตร สีเขียวเข้ม ผวิ สากคาย ช่อดอกเปน็ ช่อกระจะ
ออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ก้านช่อดอกยาว กลบี ดอกเชือ่ มติดกันเปน็ หลอด

https://data.addrun.org/plant/archives/
569-haworthia-limifolia-marloth

ม้า้ ลาย Haworthia fasciata (Willd.) G. D. Rowley

ไม้้ล้้มลุกุ อายุุหลายปีี อวบน้ำำ�� ลำ�ำ ต้น้ เตี้้�ย แผ่่
ออกเป็น็ รััศมีี ใบเดี่่ย� ว เรีียงเวียี น รููปสามเหลี่่ย� ม
ปลายเรีียวแหลม สีีเขีียวเข้้ม มีีแถบสีีขาวพาด
ตามแนวขวางตลอดทั้้�งใบ ช่่อดอกแบบกระจะ
ก้้านช่่อดอกออกที่่�ซอกใบยาวเรีียว ขนาดเล็็ก
ก้้านดอกยาว ออกดอกตลอดทั้้ง� ปีี มากที่ส�่ ุุดช่่วง
ฤดููร้อ้ น ผลแห้ง้ แตกรููปรีี เมล็ด็ 5 - 10 เมล็ด็ สีดี ำ�ำ

41 สวนและตน้ ไม้ 2564

ม้า้ เวียี น Haworthia limifolia (Marloth) G. D. Rowley

https5:6//9d-ahtaaw.aodrdthriuan-l.iomrgifo/pliala-nmt/aarrlocthhives/ ไม้้ล้้มลุุกอายุุหลายปีี อวบน้ำำ�� ลำำ�ต้้นเตี้้�ย
เป็น็ ต้น้ เดี่่�ยวหรือื แตกกอ ใบเดี่่�ยว เรียี งเวีียน รููป
สามเหลี่ย� มแคบยาว ขอบใบห่่อตั้ง� ปลายเรียี วแหลม
หนาแข็็ง สีีเขีียวเข้้ม มีีลายนููนตามขวางทั่่�วทั้้�งใบ
ช่่อดอกแบบช่่อกระจะ ก้า้ นช่่อดอกออกที่ซ�่ อกใบ
ยาวเรียี วขนาดเล็ก็ ออกดอกตลอดทั้้ง� ปีี แต่่มาก
ที่ส�่ ุดุ ช่่วงฤดููร้อ้ น ผลแห้ง้ แตกรููปรีี มีเี มล็ด็ อยู่ภ�่ ายใน
5 - 10 เมล็็ด สีดี ำำ�

กหุ ลาบหนิ

กุหลาบหิน อยู่ในวงศ์ Crassulaceae เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ใบอวบน้ำ� พบได้ทั่วโลก แต่มักพบใน
ซกี โลกเหนอื และแอฟรกิ าใต้ โดยเฉพาะในพน้ื ทแ่ี หง้ และหนาวเยน็ ทน่ี ยิ มเรยี กว่า กหุ ลาบหนิ มอี ยู่ 2 สกลุ
ไดแ้ ก่ สกลุ Kalanchoe และสกลุ Echeveria

กุหุ ลาบหิินสกุุล Kalanchoe

สกุลนี้มีมากกว่า 150 ชนิด มีถิ่นกำ�เนิดใน ปลายกลีีบเรีียวแหลมสีีเขีียวหรืือเขีียวแกมแดง
มาดากสั การ์ แอฟรกิ า และเอเชยี เปน็ ไมพ้ ุ่ มอวบน�ำ้ กลีบี ดอกโคนติดิ กันั เป็น็ หลอดยาว 7 - 8 มิลิ ลิเิ มตร
อายหุ ลายปี ใบเปน็ ใบเดย่ี ว ปลายมนขอบใบหยกั มน โคนหลอดพองออกเล็็กน้้อยสีีเขีียว ปลายแยก
การจัดเรียงใบเป็นแบบตรงกันข้ามสลับตั้งฉาก เป็น็ กลีบี 4 กลีบี รููปไข่่กลับั ปลายแหลมเป็น็ ติ่่ง� สั้น� ๆ
ออกดอกเป็นช่อเหนือพุ่มใบ กว้้างประมาณ 3 มิิลลิิเมตร ยาวประมาณ 4
มิลิ ลิเิ มตร สีแี ดง เกสรเพศผู้้� 8 เกสร ติดิ บนหลอด
กุุหลาบหิิน ชื่่�อวิิทยาศาสตร์์ Kalanchoe กลีีบดอกเรีียงเป็็น 2 วงสลัับกัับกลีีบดอก 4 อััน
blossfeldiana Poellnitz มีีถิ่่�นกำำ�เนิิดในแอฟริิกา และอยู่่�ตรงข้้ามกัับกลีบี ดอก 4 อััน ก้า้ นชููอัับเรณูู
เป็็นไม้้ล้้มลุุก อายุุหลายปีี ลำำ�ต้้นสููง 20 - 50 สั้้�นมาก เกสรเพศเมีีย 4 เกสรแยกกััน รัังไข่่เหนืือ
เซนติเิ มตร ใบเดี่ย� วเรียี งตรงข้า้ มสลับั ตั้้ง� ฉาก สีเี ขียี ว วงกลีบี สีเี ขียี ว ก้า้ นยอดเกสรเพศเมียี สีเี หลือื งอ่่อน
หรืือเขีียวอมแดงรููปรีีหรืือรููปไข่่ กว้้าง 2 - 6.5 ยอดเกสรเพศเมียี สีนี ้ำ��ำ ตาล ผลเป็น็ ผลกลุ่ม� ผลย่่อย
เซนติิเมตร ยาว 3.5 - 9 เซนติิเมตร ปลายมน เป็็นผลแห้้งแตกแนวเดีียวมีีเมล็็ดจำ�ำ นวนมาก
โคนตััดหรืือมน ขอบหยัักห่่างๆ แบบซี่่�ฟัันตื้้�นๆ
แผ่่นใบหนาและอวบน้ำำ�� ขอบใบและก้้านใบ วัสั ดุปุ ลูกู ใช้เ้ หมือื นวัสั ดุปุ ลููกไม้ด้ อกทั่่ว� ๆ ไป
สีคี ่่อนข้า้ งแดง เส้น้ ใบเห็น็ ไม่่ชัดั ก้า้ นใบยาว 1 - 2.5 คืือระบายน้ำำ��ดีี และมีีค่่า pH ประมาณ 6.0 - 7.0
เซนติิเมตร ช่่อดอกเป็็นแบบช่่อกระจุุกแยกแขนง วััสดุปุ ลููกชั้น� บน ใช้้ในช่่วงระยะการปักั ชำ�ำ ให้้ราก
ออกที่่�ปลายยอด ยาว 10 - 20 เซนติเิ มตร มีีใบ ที่่�งอกใหม่่แข็็งแรง ชอนไชดิินได้้ง่่ายก่่อนจะ
ประดัับขนาดเล็็ก รููปไข่่หรืือรููปรีี ก้้านดอกยาว เจริิญเติิบโตต่่อไป ประกอบด้้วย แกลบดำำ� :
2 - 3 มิลิ ลิเิ มตร กลีบี เลี้ย� ง 4 กลีบี โคนกลีบี กว้า้ ง ทรายหยาบ : อิิฐมอญทุุบละเอีียด อััตราส่่วน
ประมาณ 1 มิลิ ลิเิ มตร ยาวประมาณ 5 มิลิ ลิเิ มตร 1:1:1 และวััสดุุปลููกชั้้�นล่่าง เป็็นส่่วนที่่�รากจะ

สวนและต้นไม้ 2564 42

หยั่ง�่ ลึกึ เพื่อ�่ เจริญิ เติบิ โตต่อ่ ไป ควรปลูกู ในระดับั ตื้้น� ตััดออกทีีละใบให้ม้ ีีก้า้ นใบยาว 1.25 - 2.5 เซนติเิ มตร
ให้เ้ ฉพาะส่ว่ นรากอยู่�ในดิินเท่่านั้้น� ประกอบด้ว้ ย วััสดุุที่่�ใช้้ปัักชำำ�อาจใช้้ทรายอย่่างเดีียว หรืือทราย
ดินิ ร่ว่ น : ทรายหยาบ : ปุ๋ย�๋ คอก : ใบไม้ผ้ ุุ : ถ่า่ นป่น่ ผสมถ่่านแกลบ อััตราส่่วน 1:1
อััตราส่ว่ น 4:2:1:1:3
การให้น้ ้ำำ�� อาจรดน้ำำ�� สััปดาห์ล์ ะ 1 - 2 วััน
การขยายพัันธุ์์� การเพาะเมล็็ดหว่่านเมล็็ด หรืือวัันเว้้นสองวััน การใช้้ปุ๋๋�ยระยะที่่�ต้้นกำำ�ลััง
ลงบนวััสดุุที่่�ใช้้เพาะโดยไม่่ต้้องกลบ ใช้้เวลา เจริิญเติิบโตใช้้สููตร 20-20-20 จำำ�นวน 6 กรััม
ประมาณ 5 - 15 วััน เมล็ด็ จะงอก การปักั ชำ�ำ ยอด ละลายน้ำำ�� 10 ลิิตร ฉีีดพ่่นทางใบหรืือรดต้้นก็็ได้้
และใบ ตััดยอดยาว 2.5 - 3.75 เซนติิเมตร ระยะใกล้้ออกดอกใช้้ปุ๋�๋ยอิินทรีีย์์ผสมกัับปุ๋�๋ยยููเรีีย
โดยตััดใบทางด้า้ นล่า่ งของยอดออกบ้า้ ง หากมีีดอก (46-0-0) อััตราส่ว่ น 2:1 โดยวิธิ ีโี รยบางๆ ต้น้ ก็จ็ ะ
ให้้ตััดทิ้้�ง ส่ว่ นใบควรใช้้ใบจากต้้นที่่�ออกดอกแล้้ว ให้้ดอกสวยงามสม่ำ��ำ เสมอและให้้ดอกทนทาน

พัันธุ์์�ที่�ม่ ีีดอกสีีแดง
ได้แก่ พันธุ์ Ramona และ พันธุ์ Tetra

thinttcpesr:a/m/piecocponletsafilnoewr-e1rs7.0im91g3ix1.n1e2t1/i3m0a.jgpegs?/wite=m9/5k0a&laanucthoo=efoprlmana-t https://kasettumkin.com/herb/article_11665

พัันธุ์์�ที่่�มีีดอกสีีชมพูู
ไดแ้ ก่ พันธุ์ Adagio และ Largo

https://www.estopolis.com/article/creative/decoration http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=775657
สวนและต้นไม้ 2564
43

พัันธุ์�ที่่ม� ีดี อกสีีเหลืือง
ได้แก่ พันธ์ุ Yellow Tom Thum และ Morning Sun

https://www.estopolis.com/article/creative/decoration https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=intoone-
web&month=17-02-2015&group=31&gblog=19
พัันธุ์�ที่�่มีดี อกสีีส้้ม
ไดแ้ ก่ พนั ธุ์ Exotica, Nugget, Pixie และ Rhumba

htktpasla:n//c1h5o0ek-.pnluarnstesr/yklaivlea.nccohmo/ee-no/rpanlagnets-p/fllaonetrsin-gin--pinladniats/ https://www.diyinspirenow.com/in-%E0%B8%A7%E0%B8%
%B4E%0%E0B%8%B8B%9%98E%0%E0B%8B%88%1%B5E%0%E0B%8%B88%1%9BE%0%E0B%8%B8B%8%A5E
0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%

B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99/

แพนด้้า Kalanchoe tomentosa Baker แผ่นใบหนาอวบ สีเขียวอ่อน ขลิบสีน้ำ�ตาลเข้ม
แพนดา้ ไมล้ ม้ ลกุ อายหุ ลายปี เสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง มขี นนุ่ มสขี าวปกคลมุ ทกุ ส่วน ไม่มกี า้ นใบ ออกดอก
เป็นช่อ บริเวณปลายยอด ดอกสีเขียวอมเทา
10 – 12 เซนตเิ มตร สูง 15 - 30 เซนตเิ มตร ใบออก หรอื ดอกสเี ขยี วอมเหลอื ง มถี น่ิ ก�ำ เนดิ ในมาดากสั การ์
ตรงขา้ มรูปรแี กมรูปขอบขนาน ออกตรงขา้ ม กวา้ ง
1.5 – 1.8 เซนติเมตร ยาว 2 – 2.5 เซนติเมตร
ปลายใบมนโคนใบสอบ ขอบใบหยักเป็นคลื่น

https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/136821.html/ https://succulentcity.com/kalanchoe-tomentosa-panda-plant/

สวนและตน้ ไม้ 2564 44

กลีีบไข่่นกกระทา Kalanchoe humilis Britten
กลบี ไขน่ กกระทา ไมล้ ม้ ลกุ อายหุ ลายปี สูง 5 - 10 เซนตเิ มตร เสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 10 – 12 เซนตเิ มตร

ใบเดย่ี วรูปรี ใบสเี ขยี วออ่ น มลี ายปะขวางสนี �ำ้ ตาลแกเ่ หมอื นเปลอื กไขน่ กกระทา ช่อดอกเปน็ ช่อกระจกุ
แยกแขนงยาว 20 - 25 เซนตเิ มตร ดอกเลก็ สีขาวอมชมพู ถนิ่ กำ�เนดิ แทนซาเนียถงึ โมซมั บกิ

https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/136825.html https://worldofsucculents.com/kalanchoe-humilis/

กุหุ ลาบหิิน สกุลุ Echeveria
พืชสกุลนี้ มีถิ่นกำ�เนิดมาจาก อเมริกาใต้ และอเมริกาเหนือ เป็นไม้อวบน้ำ�ล้มลุกอายุหลายปี

ใบเดย่ี ว เรยี งเวยี งเปน็ กระจกุ แบบกหุ ลาบซอ้ น ช่อดอก ช่อแบบช่อกระจะ ออกท่ี ซอกใบ การดูแลรกั ษา
ต้องการแสงแดดคร่ึงวัน น�ำ้ ปานกลาง ดนิ ร่วนระบายน้�ำ ดี ขยายพนั ธโุ์ ดยการปกั ช�ำ กง่ิ หรอื ใบ

กุหุ ลาบหินิ Echeveria purpusorum A. Berger กุหุ ลาบหิิน Echeveria elegans Rose
ใบหนามขี อบบาง ปลายใบเรยี วแหลม สเี ปน็ ใบรููปไข่่กลมแถบยาว กว้้าง 5 เซนติิเมตร

สเี ขยี วมะกอกมปี ะสมี ่วงเขม้ ถน่ิ ก�ำ เนดิ ในประเทศ ความยาว 6 เซนติเิ มตร ปลายแหลม สีเี ขียี วอ่่อน
เม็กซิโก มีีแว๊๊กเคลืือบสีีเงิิน มีีถิ่่�นกำำ�เนิิดทางตะวัันออก
เฉีียงเหนือื ของประเทศเม็็กซิิโก

hstttopnse:/-/fltohw.faerrm-tyfopreasg-eo.fc-oecmh/e1v5e1r8ia1-a-an-dv-atrhieet.yh-tomf-l https://th.farmforage.com/15181-a-variety-of-
stone-flower-types-of-echeveria-and-the.html

45 สวนและต้นไม้ 2564

กุุหลาบหิิน Echeveria pulvinata Rose
ใบรูปไขห่ อกกลบั ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ขอบของปลายใบมสี ีแดง ใบหนา สเี ขียว มีขนสน้ั

สีขาว ช่อดอกสแี ดง - เหลือง มีถิน่ ก�ำ เนิดในประเทศเม็กซิโก

https://th.farmforage.com/15181-a-variety-of- https://th.farmforage.com/15181-a-variety-of-
stone-flower-types-of-echeveria-and-the.html stone-flower-types-of-echeveria-and-the.html

กุุหลาบหิิน Echeveria lilacina Kimnach & Moran
เส้นผ่านศูนย์กลางทรงพุ่ม 15 – 20 เซนตเิ มตร ใบ รูปไขแ่ กมรูปแถบ กวา้ ง 2 – 2.5 เซนติเมตร

ยาว 4 – 5 เซนตเิ มตร ปลายใบเปน็ ตง่ิ หนาม โคนใบสอบเรียว แผ่นใบโคง้ เวา้ สฟี า้ อมเทาเจอื สชี มพู
มีนวลสีขาว ช่อดอกเป็นช่อกระจะ ก้านดอกสแี ดง ดอกสชี มพู มีถน่ิ ก�ำ เนดิ ในประเทศเม็กซโิ ก

https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/136891.html https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/136891.html

พืชแคมยังมีอีกมากที่สามารถนำ�มาปลูกเป็นไม้ประดับในห้อง ในอาคารได้ แต่การปลูกในห้อง
ในอาคาร อาจจะส่งผลใหไ้ มม้ สี ีสันสดใสน้อยลง หรอื ทำ�ใหต้ น้ ไมย้ ืดตน้ ขนึ้ ทรงพุ่มไม่เปน็ ไปตามทรง
ท่ี สวยงาม อาจแกไ้ ขโดยการนำ�ต้นไม้ออกไปรบั แสงออ่ น ๆ ในตอนเช้าบา้ งอย่างน้อยสปั ดาห์ละครง้ั
อย่าให้ตน้ ไม้รับแสงแดดแรงโดยตรงเด็ดขาดจะทำ�ใหต้ ้นไมเ้ ฉา และใบไหม้ได้

สวนและต้นไม้ 2564 46

เอกสารอ้างองิ

ข้อมูลพนั ธไ์ุ ม้ ระบบฐานข้อมูลเกษตรดิจิทลั . 2561. ว่านงาช้าง. สบื ค้นเมอ่ื 8 กุมภาพนั ธ์ 2564 จาก
https://data.addrun.org/plant/archives/617-sansevieria-cylindrica-bojer-ex-hook

ขอ้ มูลพันธไ์ุ ม้ ระบบฐานข้อมูลเกษตรดจิ ิทัล. 2561. สบั ปะรดสี ดาวลูกไก่ Cryptanthus sp.
สบื คน้ เมอ่ื 17 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 จาก https://data.addrun.org/plant/archives/655-cryptanthus-sp

ขอ้ มูลพนั ธ์ไุ ม้ ระบบฐานข้อมูลเกษตรดิจิทัล. 2561. สับปะรดสี เอคเมยี ชานทินีอาย. สืบคน้ เมื่อ 9
กมุ ภาพนั ธ์ 2564 จาก https://data.addrun.org/plant/archives/713-aechmea-chantinii-
carriere-baker

คนรักกระบองเพชร. (ม.ป.ป.). คนรักกระบองเพชร. สบื คน้ เม่ือ 4 มีนาคม 2564 จาก
https://sites.google.com/site/khnrakkrabxngphechr/say-phanthu-thi-niym-pluk

มุกดา สขุ สวัสด์.ิ 2547. วสั ดุปลูกไม้ดอกไม้ประดับ: วสั ดแุ ละการปลูกบรอมมีเลียด. ส�ำ นกั พิมพบ์ ้าน
และสวน. กรงุ เทพฯ. 264 หนา้

วชั วลั ย์ ครฑุ ไชยนั ต.์ (ม.ป.ป.). กลไกการเพ่ิ มความเขม้ ขน้ ฯ (CAM). สบื คน้ เมอ่ื 5 กมุ ภาพนั ธ์ 2564
จาก http://watchawan.blogspot.com/2010/05/cam.html

สรุ ตั น์ วณั โณ. 2552. พรรณไม้สะสมของ สรุ ัตน์ วณั โณ 2:วงศ์ BROMELIACEAE. ส�ำ นักพิมพบ์ า้ น
และสวน. กรงุ เทพฯ. 271 หนา้

อทพิ ฒั น์ บญุ เพิ่มราศรี. 2552. ความหลากหลายของสายพันธลุ์ ิ้นมงั กร. สืบค้นเม่อื 8 กมุ ภาพันธ์
2564 จาก https://www.thaigreenagro.com/ความหลากหลายของสายพนั ธ์แกว้ มงั กร

baanlaesuan. 2559. ลน้ิ มงั กรแคระ ฮานิอายใบด่าง. สืบคน้ เมื่อ 8 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 จาก
https://www.baanlaesuan.com/plants/biennial/137606.html

baanlaesuan. 2559. ลิ้นมังกร มาโซเนียนา. สบื คน้ เม่อื 9 กุมภาพนั ธ์ 2564 จาก https://www.
baanlaesuan.com/plants/biennial/137656.html

baanlaesuan. 2559. อชิ เิ วเรยี ไลลาซนิ า. สบื คน้ เมอ่ื 11 มนี าคม 2564 จาก https://www.baanlaesuan.com/
plants/perennial/136891.html

Balloon Cactus ของขวญั จากกระบองเพชร. 2020. กหุ ลาบแพนดา้ . สบื คน้ เมอ่ื 11 มนี าคม 2564 จาก
https://www.facebook.com/434588897108143/posts/783451642221865/

Estopolis. 2560. สับปะรดสี พชื ทนแล้ง ดูแลไม่ยาก. สบื ค้นเมอ่ื 5 กุมภาพันธ์ 2564 จาก
https://www.estopolis.com/article/creative/decoration

Kapook. 2562. 10 สายพนั ธ์ุแคคตสั สวยๆ ทนี่ ่ามไี วค้ รอบครอง!. สืบคน้ เม่อื 4 มนี าคม 2564 จาก
https://home.kapook.com/view211495.html

47 สวนและตน้ ไม้ 2564

Linetoday. 2563. 13 ตน้ ไมป้ ลูกในหอ้ งนอน ปลูกแบบไหน เลอื กตน้ อะไรด.ี สบื คน้ เมอ่ื 8 กมุ ภาพนั ธ์
2564 จาก https://today.line.me

mefarmsook . (ม.ป.ป.). ลนิ้ มงั กรงาช้าง งาชา้ งแคระบอลเซล. สืบค้นเม่อื 9 กุมภาพันธ์ 2564 จาก
https://www.mefarmsook.com/product/ลนิ้ มงั กรงาชา้ ง งาช้างแคระบอลเซล

Palangkaset. 2560. แคคตสั การปลูกเลย้ี ง ฮาโวเทยี haworthia ไมอ้ วบน�ำ้ ส่งตลาดญ่ี ปนุ่ &ต่างประเทศ.
สืบคน้ เมื่อ 5 มนี าคม 2564 จาก https://www.palangkaset.com

Palangkaset. 2560. สบั ประรดสพี นั ธต์ุ ่างๆ ตน้ ทนุ ต่�ำ ปลูกสบั ประรดสงี ่าย. สบื คน้ เมอ่ื 23 กมุ ภาพนั ธ์ุ
2564 จาก https://www.palangkaset.com/ไม้ดอกไมป้ ระดับ/สบั ประรดสีพนั ธ์ุต่างๆ

panmai. (ม.ป.ป.). ไมป้ ระดบั ดูดสารพษิ สบั ปะรดส.ี สืบคน้ เม่อื 9 กุมภาพนั ธ์ 2564 จาก
https://www.panmai.com/Pollution/Pollution_46.shtml

prayod. 2560. ลนิ้ มงั กร. สืบค้นเม่ือ 8 กมุ ภาพันธ์ 2564 จาก https://prayod.com/ลน้ิ มงั กร
Ratchaneekorn J. (ม.ป.ป.). Cactus สวรรคค์ นรักกระบองเพชร. สืบค้นเม่อื 2 มนี าคม 2564 จาก

https://sites.google.com/site/swrrkhkhnrakkrabxngphechr/home
rprp.hwt.co.th. (ม.ป.ป.). รายละเอยี ดพรรณไม้ : RPRP-02153. สบื ค้นเม่อื 9 มนี าคม 2564 จาก

http://rprp.hwt.co.th/Plants/2156
rspg.or.th. (ม.ป.ป.). กุหลาบหิน. สบื ค้นเมื่อ 8 มนี าคม 2564 จาก http://rspg.or.th/plants_data/

plantdat/crassula/kbloss_2.htm
sanook. 2563. “ต้นคลาสซูล่า” ตน้ ไม้มงคลเพิ่มพลงั บวก ดูดเงินเข้าบา้ น. สืบคน้ เมอ่ื 5 กุมภาพันธ์

2564 จาก https://www.sanook.com/home/26873/
tavoei.perfectbath. (ม.ป.ป.). สบั ปะรดสี Neoregelia. สืบค้นเม่อื 17 กุมภาพันธ์ 2564 จาก

https://tavoei.perfectbath.co.th/bromeliad.html
th.farmforage. (ม.ป.ป.). ความหลากหลายของ ‘ดอกไมห้ ิน’ ประเภท Echeveria และรูปถ่ายของ

พวกเขา. สบื คน้ เมื่อ 10 มีนาคม 2564 จาก https://th.farmforage.com/15181-a-variety-
of-stone-flower-types-of-echeveria-and-the.html
uncle-chorn. (ม.ป.ป.). howorthia. สืบค้นเมอ่ื 5 มนี าคม 2564 จาก
http://www.uncle-chorn.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=126667&Ntype=5
ขอบคณุ รา้ นคา้ ท่เี อ้ือเฟ้ือสถานท่ี ถ่ายภาพ
รา้ นคณุ จอย (กระบองเพชร) ตลาดนดั จตจุ กั ร โครงการ 5 (081-1136611)
รา้ นคุณศริ ิมาลย์ (ฮาโวเทีย กุหลาบหิน) ตลาดนดั จตุจักร โครงการ 5 (086-6680023)
ร้านคณุ ฝน (แม่กลองกระบองเพชร) ตลาดนัดจตุจกั ร โครงการ 5 (094-4599266)

สวนและต้นไม้ 2564 48


Click to View FlipBook Version