SNOWY OWL นกเค้าแมวหิมะ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bubo scandiacus สปีชีส์: B. scandiacus อาณาจักร: Animalia
นกเค้าแมวหิมะ Snowy owl นกเค้าแมวหิมะเป็นนกเค้าแมวที่ มีขนาดใหญ่มีลักษณะเด่นคือ ขน ตามลำ ตัวเป็นสีขาวล้วนสะอาด มี หัวกลมสีเหลือง ดวงตากลมโตสี ดำ , สีฟ้า หรือสีเหลือง เท้ามีขน มาก ขนตามลำ ตัวโดดเด่นด้วยสี ขาวแต้มด้วยบางส่วนสีดำ ในแถบ แนวนอนหรือลายจุด นกตัวเมีย และนกวัยที่ยังไม่โตเต็มที่จะมีจุด ดำ ขึ้นตามลำ ตัวมากกว่าในขณะที่ ตัวผู้เป็นสีขาวเกือบทั้งหมด และ สีขนอาจเปลี่ยนไปได้ตามฤดูกาล เพียงเล็กน้อยนกเค้าแมวหิมะนั้น พบกระจายพันธุ์ได้ในแถบซีกโลก ทางตอนเหนือ ในเขตทุนดราทาง ตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ และยุโรปตอนเหนือบริเวณที่ใกล้ กับขั้วโลกเหนือ, วงกลมอาร์กติก หรือตรงสแกนดิเนเวีย หากินช่วง กลางวันตั้งแต่เช้าถึงค่ำ จะมีความ แข็งแรง และมั่นมั่คงบินพวกมันมี ประสิทธิภาพ และรวดเร็วบินสั้น ๆใกล้กับพื้นดินนกเค้าแมวหิมะมี ความก้าวร้าวเมื่อทำ รังวางไข่ การทดสอบทางพันธุกรรม พบ ว่ามีพันธุกรรมที่แตกต่างกันพอ สมควรสำ หรับนกฮูกหิมะที่เป็น พันธุกรรมที่แตกต่างจากอื่นๆฝี มะม่วงนก จะให้ความเชื่อถือให้ กับผู้ที่นับสายพันธุ์ ที่แยกออก อย่างไรก็ตาม ต้นกำ เนิดร่วมกัน ที่ค่อนข้างไม่นานประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการได้แสดงให้เห็นผ่าน ทำ การศึกษาทางพันธุกรรมและ การทบทวนฟอสซิลร่วมและก็มี เพียงเล็กน้อยเท่านั้น วางไข่ครั้งละ 6–8 หรือ 10 ฟอง โดยไข่ฟองแรกจะฟักเป็นตัวก่อน ฟองสุดท้ายในประมาณ 2สัปดาห์ ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันดูแล ไข่ และลูกนกพ่อแม่นกก็จะฉีก เหยื่อเป็นชิ้นๆก่อนจะนำ ป้อนให้ จนกว่าลูกนกจะโตพอ แล้วจึงจะ กลืนกินทั้งตัวไปจนกระทั่งทั่ลูกนก อายุได้อยู่ที่6สัปดาห์จึงพอจะช่วย เหลือตัวเองได้ นกเค้าแมวหิมะมี พฤติกรรมที่มีการเลี้ยงลูกนกต่าง จากนกล่าเหยื่อชนิดอื่นๆ มันมีพฤติกรรมในการล่าเหยื่อ ด้วยการเฝ้ารอ หรือจนกระทั่งทั่ ติดตามที่เหยื่อส่วนใหญ่มักล่า เหยื่อในเวลากลางวัน เหยื่อมี ทั้งถูกจับบนพื้นและในอากาศ เหยื่อขนาดเล็ก ก็ถูกกลืนกิน ทั้งหมดเหยื่อขนาดใหญ่จะถูก ฉีกเป็นชิ้นใหญ่และกินอาหาร จำ พวก สัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสัตว์ ที่เลือดอุ่นขนาดเล็ก เช่นนก, หนูเลมมิ่ง, กระรอก, กระต่าย, เป็ด, ห่าน หรือ แม้แต่กระทั่งทั่ลูกของหมาป่า หรือหมาจิ้งจอกขนาดเล็ก แต่ จะไม่ล่าใกล้รังของนกชนิดอื่น แต่ขณะเดียวกันไข่นกหรือลูก นกจะถูกรังควาญ จากหมาป่า หรือหมาจิ้งจอกด้วยเช่นกัน นกเค้าแมวหิมะมีพฤติกรรมการ เลี้ยงลูกนกต่างจากที่นกล่าเหยื่อ ชนิดอื่นๆ ตรงที่จะดูแลลูกนกตัว ที่อ่อนแอที่สุดด้วยโดยไม่ทอดทิ้ง เมื่อลูกนกค่อยๆโตขึ้น จะมีขนสี เทาขึ้นปกคลุมลำ ตัว และพ่อแม่ นกก็จะทิ้งลูกนกให้อยู่ตามลำ พัง มากขึ้นลูกนกเค้าแมวหิมะจะเริ่ม หัดบินก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว 98
นกเค้าแมวหิมะไม่เป็นที่รู้จักในการผสมพันธุ์กับนกเค้าแมวชนิดอื่นในป่า ดังนั้นจึงไม่มีลูกผสมของนกเค้าแมว หิมะและนกเค้าแมวชนิดอื่นในป่า อย่างไรก็ตามนักเหยี่ยวเหยี่ยวงานอดิเรกในเมืองKollnburgประเทศเยอรมนี ได้ผสมพันธุ์ลูกผสมจากนกเค้าแมวหิมะตัวผู้และนกเค้าแมวยูเรเซียนเพศเมีย(Bubobubo)ในปี2013นกเค้าแมว ลูกผสมเพศผู้สองตัวที่เกิดขึ้นนั้นมีกระจุกหูที่เด่นชัด(โดยทั่วทั่ไปจะไม่ปรากฏอยู่ในหิมะ)นกฮูก)ขนาดเล็กนัยน์ตา สีส้ม และลวดลายสีดำ บนขนนกจากแม่นกเค้าแมวยูเรเชียนของพวกมัน ขณะที่ยังคงสีขนนกโดยทั่วทั่ไปจากพ่อ นกฮูกหิมะของพวกมัน ลูกผสมถูกขนานนามว่า"Schnuhus"จากคำ ภาษาเยอรมันสำ หรับนกเค้าแมวหิมะและนก เค้าแมวยูเรเซียน ( Schnee-EuleและUhuตามลำ ดับ) ในปี 2014 99
ในเพศชายที่โตเต็มที่ส่วนบนจะเป็นสีขาว ล้วนโดยปกติ มักจะมีจุดสีดำ เล็กน้อยบน กระจุกหูขนาดเล็กเกี่ยวกับศีรษะและส่วน ปลายของไพรมารี และรองลงมาบางส่วน ในขณะที่ด้านล่างมักเป็นสีขาวบริสุทธิ์แธิ์ม้ ชื่อเสียงของพวกเขาจะเป็นสีขาวล้วน แต่ ตัวอย่างผู้ชาย ในพิพิธภัณฑ์รัสเซียเพียง 3จาก129 ตัวอย่างแสดงให้เห็นว่าไม่มีจุด มืดเกือบสมบูรณ์ตัวเมีย ที่โตเต็มวัยมักจะ พบเห็นมากกว่าและก็มักมีหนามสีน้ำ ตาล เข้มเล็กน้อยบนมงกุฎตรงส่วนล่างขนหาง และขนหางของเธอ จะเป็นสีน้ำ ตาลจางๆ ขณะที่ส่วนใต้ของลำ ตัว มีสีขาวเป็นสีพื้น มีจุดสีน้ำ ตาล และยกเว้นที่สีข้างและอก ส่วนบนในนกเค้าแมวหิมะที่มีขนปกคลุม อย่างสับสนเพศสามารถกำ หนดได้โดยรูป ร่างของเครื่องหมายปีก ซึ่งจะปรากฏเป็น แท่งมากกว่าในเพศหญิงจุดในเพศชาย นกเค้าแมวหิมะเป็นนกเค้าแมวที่มีขนาด ใหญ่มากเป็นนกนักล่า ที่ใหญ่ที่สุดของไฮ อาร์คติก และยังเป็นหนึ่งในนกเค้าแมวที่ ใหญ่ที่สุดในโลกโดยเฉลี่ยแล้วนกเค้าแมว หิมะเป็นนกเค้าแมว ที่จะมีชีวิตหนักที่สุด ประมาณหนึ่งในหกหรือเจ็ดโดยเฉลี่ยแล้ว จะมีปีกที่ยาวที่สุดอันดับห้า และอาจมีปีก ที่ยาวที่สุดเป็นอันดับสามนกเค้าแมวชนิด นี้นกเค้าแมวที่มีปีกที่หนักและยาว (ยาว ที่สุดเป็นอันดับสอง) ของอเมริกาเหนือ นกเค้าแมวจะมีปีกที่หนักที่สุดเป็นอันดับ สองของในยุโรป(และยาวที่สุดเป็นอันดับ สาม) แต่ก็จะมีขนาดเกินปกติจำ นวนมาก ประมาณ 3ถึง4สายพันธุ์อื่นๆในเอเชียแม้ ก็จะมีบางครั้งถูกอธิบายว่าขนาดใกล้เคียง กัน , นกฮูกหิมะตกจะค่อนข้างใหญ่ในทุก ด้านของขนาดเฉลี่ยกว่านกเค้าใหญ่ที่ดีใน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในทำ นองเดียวกัน นก ฮูกสีเทามีความยาวรวมทั้งหมด และจะมี ขนาดใกล้เคียงกันในการวัดมาตรฐา 100
ปีกของนกเค้าแมว แม้จะมีการศึกษาหนึ่งอ้างว่านกเค้าแมวหิมะมีปีกสูงสุด(เช่นกรัมต่อตารางเซนติเมตรของพื้นที่ปีก)ของนกเค้าแมว ที่รู้จักกันดี 15 สายพันธุ์การสุ่มตัวอย่างที่กว้างขวางมากขึ้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการรับน้ำ หนักของปีก ของ นกเค้าแมวหิมะนั้นต่ำ กว่านกเค้าแมวยูเรเชียนและเขาใหญ่อย่างเห็นได้ชัดรายละเอียดผงาดยาวปีกของนกฮูกหิมะ ตกบินเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้อาจทำ ให้บางส่วนเพื่อเปรียบเทียบรายละเอียดเที่ยวบินของพวกเขา เป็นรุ่น bulkier ของมหาศาลทีโอหรือมีขนาดใหญ่เหยี่ยว การรับน้ำ หนักของปีก ของนกเค้าแมวหิมะนั้นต่ำ กว่านกเค้าแมวยูเรเชียนและเขาใหญ่อย่างเห็นได้ชัด รายละเอียด ผงาดยาวปีกของนกฮูกหิมะตกบินเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ อาจทำ ให้บางส่วนเพื่อเปรียบเทียบราย ละเอียดเที่ยวบินของพวกเขาเป็นรุ่นbulkierของมหาศาลทีโอหรือมีขนาดใหญ่เหยี่ยวมวลกายในเพศชายจะสามารถ เฉลี่ยได้ตั้งแต่ 1,465 ถึง 1,808.3 ก. (3.230 ถึง 3.987 ปอนด์) 101
นกเค้าแมวหิมะเป็นหนึ่งในนกเค้าแมว ที่ไม่ผิด เพี้ยนมากที่สุดในโลก (หรือแม้แต่สัตว์)ไม่มีสาย พันธุ์อื่นใดที่มักจะมีลักษณะเป็นลายจุดสีขาวมีสี น้ำ ตาลดำ จางๆ ของนกเหล่านี้ ซึ่งเป็นสีที่ทำ ให้ ดวงตาสีเหลืองสดใสของพวกมันก็สามารถตรวจ จับได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และไม่มีขนที่ยาวมากอย่าง เห็นได้ชัดของพวกมัน นกเค้าแมวที่คล้ายคลึงกันมากขึ้น เช่น นกเค้า แมวยูเรเชียนและนกเค้าแมวเขาใหญ่จะมีสีค่อน ข้างซีดบางครั้งดูขาวซีดในเผ่าพันธุ์ทางเหนือสุด ของพวกมันโดยปกติสปีชีส์เหล่านี้มักจะไม่ผสม พันธุ์เกือบจะเท่ากับนกเค้าแมวหิมะแต่มักจะทับ ซ้อนกันแน่นอน ในเมื่อนกเค้าแมวหิมะตกเมื่อ นกเค้าแมวตัวหลังบางครั้งมาทางใต้ในฤดูหนาว 102
นกเค้าแมวมีการแพร่กระจาย อยู่ทั่วทั่โลกตั้งแต่ในสภาพแห้ง แล้งของทะเลทรายเขตหนาว ที่มีหิมะปกคลุม ป่าดิบชื้นที่มี ฝนตกชุก ยกเว้นที่ไม่พบคือ บริเวณขั้วโลกใต้ รวมทั้งหมด ทั่วทั่โลกมี168 ชนิดโดยจะแบ่ง ออกเป็น2วงศ์(Family)นั่นนั่คือ วงศ์ของนกแสก หรือ(Family Tytonidae)และก็จะมีวงศ์ของ นกเค้าแมว(Family Strigidae ปัจจุบัน พบทั้งหมดราว 200 ชนิด แบ่งได้ เป็น 25 สกุล ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว 4 (ดูใน ตาราง)พบได้ทุกทวีปทั่วทั่โลกไม่เว้นแต่บริเวณ ขั้วโลกเหนือ พบได้ในหลากหลายภูมิประเทศ ตั้งแต่ในป่าดิบ ที่มีความสูงจากระดับน้ำ ทะเล 200กว่าเมตรจนถึงชุมชนมนุษย์ในเมืองใหญ่ สำ หรับในประเทศไทยพบได้ทั้งหมด17 ชนิด สายพันธุ์นกเค้าแมว วงศ์นกเค้าแมวหรือวงศ์นกเค้าแมวแท้ (อังกฤษ trueowl,typicalowl, วงศ์Strigidae)เป็นวงศ์ของ นกล่าเหยื่อในอันดับStrigiformesนกเค้าแมว ใช้ ชื่อวงศ์ว่าStrigidaeซึ่งแบ่งออกได้เป็น2วงศ์ (อีก วงศ์หนึ่งนั่นนั่คือTytonidaeซึ่งเป็นวงศ์นกแสก) 103
นกเค้าแมวนั้นมักจะออกหากินในเวลากลางคืน ทำ ให้มีเล็บโค้งแหลมและมีปากงุ้มแหลมสำ หรับ จับสัตว์กิน และมักจะอาศัยอยู่ในโพลงต้นไม้ แต่ถ้าเป็นนกเค้าแมวหิมะ พวกมันก็จะไม่อยู่ใน โพลงต้นไม้ เนื่องจากบรรยากาศท่ามกลางหิมะ แทบจะไม่มีต้นไม้ พวกมันเลยโบยบินไปเรื่อยๆ เพื่อหาอาหารหรือจะอยู่บนพื้นดินหรือท่อนไม้ เหตุที่หากินในเวลากลางคืนเป็นเพราะนกเค้าไม่ อาจสู้กับนกล่าเหยื่อในเวลากลางวันอย่างเหยี่ยว หรืออินทรีได้ บางครั้งยังถูกนกที่มีขนาดเล็กกว่า อย่างนกเอี้ยงหรือนกกิ้งโครงไล่จิกตีอีกต่างหาก ที่อยู่อาศัยนกเค้าแมว 104
ตามอนุสัญญา ว่าด้วยเรื่องการค้าระหว่างประเทศชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ การค้าสัตว์ป่าพืชป่า และระหว่างประเทศจะถูกควบคุม โดยในระบบก็จะได้ให้อนุญาต (Permit) ซึ่งสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาควบคุม จะต้องมีใบอนุญาตการเข้า (Import) ส่งออก (Export) นำ ผ่าน (Transit)และส่งกลับออกไป (Re-Export)โดยชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาควบคุม จะระบุไว้เลข 1,2,3(AppendixI,II,III)ของอนุสัญญา ซึ่งนกเค้าที่มีในแต่ละโซนก็แตกต่างกันออกไป มีความเชื่อที่แตกต่างออกไปในบางวัฒนธรรมนกเค้าแมวหมายถึงสติปัญญา ในศาสนาฮินดูนั้นนกเค้าแมวเป็นพาหนะของพระแม่ลักษมีคือเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และพรรณข้าว ด้วยเชื่อว่าพระนางก็จะขี่นกเค้าแมวออกไปตรวจนาข้าว ในเวลากลางคืนซึ่งก็คล้ายคลึงกับคติของกรีกในโบราณ ที่นกเค้าแมวขนาดเล็กเป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับอะธีนาเทพีแห่งสติปัญญาดังนั้นในทางวิทยาศาสตร์ ชื่อสกุลของนกเค้าจุดจึงใช้คำ ว่าAthene ซึ่งก็หมายถึงเทพีอธีนานั่นนั่เอง 105
Snowy owl Bubo scandiacus Animalia Bubo scandiacus Animalia
เเที่ที่ยยที่ที่ ววภูภูเเ ภูภูก็ก็ตต ก็ก็ ใให้ห้ ห้ ท ห้ ทะะเเลลเเยียียียยียววยยาาหัหัหัวหัวใใจจ เที่ย ที่ วทะเล ดำ น้ำ ดูป ดู ะการัง รั ชมตะวันวัตกดินดิ +123-456-7890 [email protected] www.reallygreatsite.com สุดคุ้ม 3 วัน 2 คืน ราคาพิเศษ 1,500 บาท/ท่าน
ARCTIC เมืองนี้โด่งดังในฐานะสถานที่ชมแสงเหนือนอกจากนี้ยังมีการผจญภัยแบบเอ็กซ์ตรีมมากมาย เช่นสโนว์ไคท์ และ การแข่งจักรยานน้ำ แข็งเมืองในรัฐอะแลสกาแห่งนี้มีจุดชมแสงเหนือหลายแห่งอีกทั้งยังมีกีฬาเอ็กซ์ตรีมสำ หรับรัก การผจญภัย ทิวทัศน์ที่งดงาม และโอกาสในการสัมผัสสัตว์ป่าท้องถิ่น เช่น หมีกวางมูส ค่ำ คืนดาวระยิบระยับของ Anchorage เป็นพื้นหลังชั้นยอดสำ หรับการชมแสงเหนือเต้นระบำ ถ้าคุณจะมาชมแสงเหนือ ให้วางแผนพักที่นี่ สัก2-3วันเพราะแสงนี้คาดการณ์ได้ยากฤดูใบไม้ร่วงฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่น่าจะเห็นแสงเหนือได้มาก Anchorage อุณหภูมิของที่นี่แทบจะไม่เคยเกิน 19 องศาเซลเซียสแม้แต่ในฤดูร้อน และมีหิมะตกเกือบตลอดทั้งปี ถ้าการใส่ เสื้อผ้าหลายๆ ชั้นไม่เป็นปัญหาสำ หรับคุณ นี่เป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้เห็นสัตว์ป่า เช่นหมีกวางมูส หมาป่า และ ตัวบีเวอร์ ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่ธรรมดาของ Anchorage ทำ ให้ที่นี่เหมาะจะเป็นที่อยู่ของสัตว์เหล่านี้ 108
POLAR BEAR หมีขั้วโลก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ursus maritimus ชั้น: Mammalia อันดับ: Carnivora
หมีขั้ว ขั้ โลก Polar Bear หมีถือได้ว่าเป็นสัตว์กินเนื้อที่บน พื้นดินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2รองจากหมีกริซลีU.arctos ที่พบ ในทวีปอเมริกาเหนือ ตัวผู้เต็มวัย อาจสูงได้ถึง 3 เมตร น้ำ หนักตัว อาจมากได้ถึง350–680 กิโลกรัม (770–1,500 ปอนด์) อายุขัยโดย เฉลี่ย 30 ปี[3] หมีขาวมีรูปร่างที่ แตกต่างจากหมีชนิดอื่นๆ ที่เห็น ได้ชัดเจนก็คือมีส่วนคอที่ยาวกว่า ขณะที่ใบหูก็มีขนาดเล็ก อุ้งเท้ามี ขนาดใหญ่ และที่เป็นจุดเด่นเห็น ได้ชัด คือสีขนที่เป็นสีขาวครีมอม เหลืองอ่อนๆ อันเป็นที่มาของชื่อ เรียกเนื่องจากผลของเกลือในน้ำ ทะเลซึ่ง ก็ขนสีครีมนี้ทำ ให้พราง ตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ที่เต็มไปด้วยหิมะ และ น้ำ แข็งได้ เป็นอย่างดี หมี เป็นหมีที่ถือได้ว่ากินอาหาร มากกว่าหมีชนิดอื่นๆ ซึ่งอาหาร ของหมีขาวมีมากมา ยอทิเช่น แมวน้ำ หรือวอลรัสด้วยการย่อง เข้าไปเงียบๆ หรือหลบซ่อนตัว ตามก้อนหิน หรือก้อนน้ำ แข็ง นอกจากนี้ แล้วบางครั้งยังอาจ จับนกทะเลทั้งไข่มันและลูกนก บางครั้งก็จับปลากินหรืออาจจะ กินซากของวาฬที่จะตายเกยตื้น หรือแม้แต่ ซากหมีขาวด้วยกัน หรือลูกหมีที่ตายได้ด้วย[หมีขาว มีประสาทสัมผัสการรับรู้กลิ่น ที่ ดีมาก โดยสามารถได้กลิ่นลูกๆ แมวน้ำ ที่ซ่อนตัวอยู่ในใต้พื้นน้ำ แข็งได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร หมีขาวกระจายพันธุ์อยู่เฉพาะซีก โลกทางเหนือบริเวณขั้วโลกเหนือ หรืออาร์กติกเท่านั้น จัดได้ว่าเป็น สัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน ซีกโลกนี้ อุ้งเท้าของหมีขาวมีขน รอง ช่วยให้ไม่ลื่นไถลไปกับความ ลื่นของพื้นน้ำ แข็งหมีขาวถือเป็น สัตว์ที่เดินทางไกลมาก โดยบาง ครั้ง อาจจะใช้วิธีการนั่งนั่บนแผ่น หรือก้อนน้ำ แข็ง ลอยตามน้ำ ไป หรือไม่ก็ว่ายน้ำ หรือดำ น้ำ ไป ซึ่ง หมีขาวจัดเป็นหมีที่ว่ายน้ำ และดำ น้ำ เก่งมากโดยใช้ขาหน้าพุ้ย หรือ บางครั้งก็ใช้ทั้ง 4 ขา เคยมีผู้พบ หมีขาว ว่ายอยู่ในทะเลที่ห่างจาก ชายฝั่งไกลถึง 200 ไมล์ หมีในช่วงเวลานี้จะเป็นเวลาที่ ให้กำ เนิดลูก โดยการขุดโพรง ในน้ำ แข็ง หรือใต้ก้อนหินเมื่อ หิมะตกทับถมมาผนังถ้ำ มักจะ หนาขึ้นและก็จะมีความอบอุ่น คล้ายกับอิกลูของชาวเอสกิโม แม่หมี คลอดลูกภายในถ้ำ นั้น ลูกหมีเกิดใหม่ จะมีความยาว ราว20นิ้วเท่านั้นและมีน้ำ หนัก ตัวไม่ถึงกิโลกรัมดีซึ่งครั้งหนึ่ง แม่หมีจะออกลูกได้ราว 2 ตัว ในบางครั้งอาจมากถึง 4 ตัว ลูกหมีเกิดใหม่ ตาจะยังไม่ลืม และยังไม่มีขนปกคลุมตามลำ ตัวและจะลืมตาได้เมื่ออายุราว 33 วันแต่เลนส์ตาจะยังใช้การ ไม่ได้เต็มที่จนเมื่อมันจะมีอายุ ประมาณ 47 วัน เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในเขตอาร์กติก ราว เดือนธันวาคม-มกราคมดวง อาทิตย์จะค่อยๆคล้อยต่ำ ลงเรื่อย ๆจนไม่ปรากฏอีกเลยที่เส้นขอบ ฟ้าตลอดฤดูกาลซึ่งในช่วงเวลานี้ นับได้ว่า เป็นช่วงที่โหดที่สุดของ ภูมิภาคนี้ เพราะจะไม่มีแสงสว่าง กลางวัน ก็จะมืดเหมือนกลางคืน อาหารก็จะขาดแคลน พร้อมด้วย พายุหิมะที่ตกติดต่อกันเป็นเวลา หลายเดือน 110
วงจรชีวิตหมีขั้วโลก ผสมพันธุ์ (Mating): Summer: ช่วงนี้เป็นช่วงที่ อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นกลางวันมีระยะนานขึ้นน้ำ แข็ง เริ่มละลายหมีขั้วโลกเพศผู้อายุ6-10ปีจะเริ่มเดิน ทางตามหาเพศเมียที่อายุ4-6ปีผ่านกลิ่นการเดิน ทางที่รอยเท้าของเพศเมียได้ทิ้งเอาไว้ เมื่อผสมพันธุ์แล้วทั้งสองจะอยู่ด้วยกันไม่ กี่วันแล้วตัวผู้ก็ไปตามทางของตัวเอง ต่อ ไป ส่วนตัวเมียไข่ที่ผสมแล้วจะยังไม่เกิด การฝังตัว (Delayed Implantation) แต่ จะเริ่มตั้งท้องเมื่อถึงฤดูFall และเมื่อเธอ มีไขมันเพียงพอที่จะทำ ให้ตัวเอง และลูก สามารถอยู่รอดได้เก็บตัว(denning)มันจึง ต้องออกเดินทางหาอาหาร เพื่อสะสมไข มันสร้างตัวFall&Winterแม่หมีจะทำ การ สร้างที่เก็บตัวโดยหาที่เหมาะๆเพื่อทำ การ ขุดน้ำ แข็ง ให้เป็นโพรงที่มีขนาดพอดีกัน กำ เนิด(Birthing):Winterส่วนใหญ่ลูกหมี มักจะคลอดออกมา ในช่วงเดือนธันวาคม ปกติแล้วแม่หมีจะให้กำ เนิดลูกประมาณ1 หรือ 3 ตัว โดยมักจะได้ลูกแฝด 111
ความเป็นอยู่ของหมีขั้วโลกถูกมองเป็นมาตรวัดว่าตอนนี้โลกเรามีปัญหาแค่ไหนมีการค้นพบว่าArcticมีอัตราการเพิ่ม ขึ้นของอุณหภูมิเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยโลกการที่Arcticมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนทำ ให้น้ำ แข็งละลายมากขึ้นจะส่งผลมาถึง คนทั้งโลก เนื่องจากการละลายจะทำ ให้มีน้ำ ทะเลปริมาณมากขึ้นมีโอกาสเกิดน้ำ ท่วมพื้นดินได้และอุณหภูมิของน้ำ ที่ เปลี่ยนแปลงไป ทำ ให้การเดินทางของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ต้องเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกับสัตว์อื่นที่กินเป็นอาหาร (รวมถึง มนุษย์เช่นกัน) เมื่ออยู่ในน้ำ หมีขั้วโลกเป็นหมีชนิดเดียวที่ใช้เท้าหน้าเท่านั้นในการทำ หน้าที่เป็นไม้พายขับเคลื่อนตัวเองส่วนเท้าหลัง ทำ หน้าที่เป็นหางเสือในการเท้าหมีมีขนาดที่ใหญ่ได้ถึง 30ซนติเมตรการที่มีเท้าที่ใหญ่จะช่วยในการทรงตัวบนพื้นน้ำ แข็งบางๆเพราะสามารถกระจายน้ำ หนักได้ดี ถึงจะบอกว่ามีแหล่งย่อยๆแต่การเดินทางของหมีขั้วโลกไม่มีพรมแดนเพราะ1.พวกมันสามารถเดินทางไกลได้ก็เพื่อ หาที่อยู่และอาหาร 2.แผ่นน้ำ แข็งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเพิ่งขึ้นลดลงหรือเคลื่อนย้ายตัว 3.มีการพบว่าเมื่อลูกหมี ต้องห่างจากแม่ มันจะเดินทางหาบ้านใหม่ในระยะทางที่ไกลกว่า 1000 กิโลเมตร 112
หมีขั้วโลกชอบเคลื่อนไหวน้อย แม้ว่าจะสามารถวิ่งได้เร็วเท่าม้า (40 กม./ชม.) แต่ชอบเดินช้าๆมากกว่า ส่วนหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะมันใช้พลังงานเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิตอื่น และใช้พลังงานมากกว่า 13 เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่อยู่นิ่งๆเพราะฉะนั้นเราเลยชอบเห็นมันอยู่นิ่งๆรอคอยอย่างใจเย็นให้อาหารหรือแมวน้ำ โผล่ ขึ้นมาจากช่องน้ำ แข็งเองมากกว่าที่จะไล่ตามปกติจะอยู่บนแผ่นน้ำ แข็ง แต่เมื่อน้ำ แข็งละลายมากขึ้น ทำ ให้มันต้อง เดินทางไปอยู่บนพื้นดินมากขึ้น (ซึ่งในหลายที่เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ด้วย)อาหารโปรดคือแมวน้ำ เต็มไปด้วยไข มันและให้แคลอรี่เยอะพอในการอยู่รอด วิธีการล่าคือมันจะดมหาตำ แหน่งของแมวน้ำ ที่จะขึ้นมาหายใจผ่านรูที่เจาะ ไว้ แล้วไปดักรอ บางทีอาจจะนานเป็นชั่วชั่โมงหรือเป็นวัน ปกติหมีขั้วโลกจะเลือกกินเฉพาะส่วนไขมันของแมวน้ำ ปล่อยให้ซากที่เหลือถูกจัดการโดยนักจัดการซาก เช่น หมาป่าหรือแร้ง 113
หมีขั้วโลกสถิติเท้าใหญ่ที่สุดในบรรรดาตระกูลหมีทั้งหมดอุ้งเท้าขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบมาพิเศษสำ หรับน้ำ แข็ง เท้าของมันปกคลุมไปด้วยปุ่มคล้ายนิ้วที่เรียกกันว่าพาพิเลซึ่งช่วยทำ ให้ฝ่าเท้า มีลักษณะเหมือนกระดาษทรายทำ ให้มีแรงฝืดบนน้ำแข็งอันแสนลื่นได้ เท้าพังพืดทำ ให้สามารถ จะว่ายน้ำ ได้อย่างง่ายดายอุ้งเท้าหนาทำ หน้าที่ เปรียบเสมือนไม้พายที่ผลักดันร่างกายอันใหญ่โตผ่านน้ำ ฝ่าเท้าหลังบังคับทิศทางเสมือนหางเสือกรงเล็บจะจิกลงไปบนแผ่นน้ำ แข็งช่วยให้มันยกตัวขึ้นจากน้ำ ได้พวกมันไม่มีปัญหาในการเกาะแพน้ำ แข็งเพื่อเดินเช่นกันหมีขั้วโลกจะกินเกือบทุกสิ่งมันกินวอลรัสสุนัขจิ้งจอกนกทะเล ในบางครั้งฝูงวาฬเบลูก้าจะว่ายเข้ามาติดในช่องว่างระหว่างแพน้ำ แข็งทำ ให้หมีหาอาหารง่ายได้หมีขาวร่างใหญ่กินอาหารหลากชนิด แต่สัตว์หลากชนิดเหล่านั้น ต้องอาศัยหมีเหมือนกัน เช่นสุนัขจิ้งจอกขั้วโลกมันก็จะคอยติดตามหมีอยู่เสมอเพื่อหาเศษอาหารที่ เหลือนอกจากหมีขั้วโลกจะกินเนื้อสัตว์แล้วต้องหาแหล่งแร่ธาตุ และวิตามินเพื่อพวกมันจะได้กินอาหารครบหมู่ แม่หมีก็จะคอยแสดงให้ลูกเห็น ถึงประโยชน์ของการกินผักเขียวตั้งแต่อายุยังน้อยในบางครั้งขนหนาและละเอียดของมันรวมถึงชั้นไขมันอาจทำ ให้ความร้อนในตัวสูงเกินไปจนอาจเสียชีวิตได้ ทำ ให้พวกมันต้องใช้ชีวิตอย่างเชื่องช้างานวิจัยต่างๆ แสดงว่าการเดินช้าๆจะช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายของพวกมันได้ และเจ้าหมีจะเดินไปบนน้ำ แข็ง และหิมะด้วยความเร็วเพียง3–4ไมล์ ต่อชั่วชั่โมงเท่านั้น แต่การปรับตัวบางอย่างถูกคิดค้นมา จะหลอกเราได้อย่างชาญฉลาดเช่นขนสีขาวราวหิมะอันแสนสวยที่แลดูขาวสะอาด และละเอียดของมันนั้นแท้จริงแล้ว ขนของมันไม่ใช่สีขาวเลยแม้แต่น้อย 114
หมีจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ปัจจุบันได้ มีการจำ แนกหมีออกเป็นทั้งหมด8ชนิด(ไม่นับชนิดย่อย) โดยมีการกระจายพันธุ์ไปทั่วทั่ในทุกภูมิภาคของโลกตั้งแต่ ไซบีเรียหรือขั้วโลกเหนือ อเมริกาเหนือ,ทวีปอเมริกาใต้, เอเชียใต้,เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่พบที่ทวีปแอฟริกาและโอเชียเนีย ในประเทศไทยมี 2 ชนิดคือหมีควาย ตัวใหญ่ ขนยาวดำ ที่อกมีขนสีขาวรูปง่ามพบได้ในป่าทั่วทั่ประเทศ มีหมีหมา หรือหมีคนตัวเล็กกว่า หมีควายขนสั้นดำ ที่อกมีขนสีขาว รูปคล้ายเกือกม้า พบได้ตั้งแต่คอคอดกระลงไป หมีแพนด้าหรือแพนด้ายักษ์(Ailuropoda melanoleuca) หมีแว่น (Tremarctos ornatus) หมีดำ (Ursus americanus) หมีสีน้ำ ตาลหรือหมีกริซลีย์ (Ursus arctos) หมีหมาหรือหมีคน (Helarctos malayanus) หมีขั้วโลกหรือหมีขาว (Ursus maritimus) หมีควาย (Ursus thibetanus) หมีสล็อธ (Melursus ursinus) พวกมันจัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยง ลูกด้วยนมและมีอันดับสัตว์กินเนื้อจัดอยู่ในวงศ์Ursidae ออกลูก เป็นตัวสามารถยืนและเดินด้วยขาหลังประสาท การดมกลิ่นดีกว่าประสาทตาและหู กินได้ทั้งพืชและสัตว์ เป็นอาหาร 115
Arcticคือมีพื้นที่ใน5ประเทศ คือ Canada, Alaska (USA), Russia,Greenland Denmark และIcelandโดยกว่า60% อยู่ ในแคนาดา มันกระจายพันธุ์ เฉพาะซีกโลกเหนือบริเวณขั้ว โลกเหนือหรืออาร์กติก จัดได้ ว่าเป็นสัตว์กินเนื้อ ที่มีขนาด ใหญ่ที่สุดในซีกโลกนี้ โดยบางครั้งก็อาจใช้วิธีการนั่งนั่ บนแผ่นหรือก้อนน้ำ แข็งลอย ตามน้ำ ไป หรือไม่ก็จะว่ายน้ำ หรือดำ น้ำ ไปซึ่งหมีขาวนั้นจัด เป็นหมีที่จะว่ายน้ำ และดำ น้ำ เก่งมากโดยใช้ขาหน้าหรือใน บางครั้งก็ใช้ทั้ง 4 ขา เคยมีผู้ พบหมีขาว ว่ายอยู่ในทะเลที่ ห่างจากชายฝั่งไกลจนถึง200 ไมล์ ทุกฤดูหนาว น้ำ แข็งที่ทะเล อาร์กติก ก็จะขยายตัวรอบขั้ว โลก กิ่งก้านเยือกแข็งของมัน แผ่ขยาย ไปตามแนวชายฝั่ง ทางเหนือขณะนี้น้ำ แข็งทะเล เพิ่งผ่านจุดที่จะขยายตัวมาก ที่สุดในรอบปี และจะเริ่มหด ตัว เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงเป็น ช่วงเวลาสำ คัญของหมีขั้วโลก ซึ่งมีแหล่งอาหารเกี่ยวพันกับ น้ำ แข็งทะเลอย่างไม่อาจแยก ขาดจากกันได้ ฤดูใบไม้ผลิที่หนาวเย็นทำ ให้ น้ำ แข็งที่คงตัวอยู่ได้ซึ่งทำ ให้ หมีขั้วโลกสามารถเข้าถึงหนึ่ง ในอาหารโปรด อย่างแมวน้ำ ได้ง่ายขึ้นแต่ฤดูใบไม้ผลิที่อุ่น ขึ้นทำ ให้ มีเส้นทางหาอาหาร สำ คัญของพวกมัน ขาดหาย ไปสำ หรับ หมีขั้วโลกหมีตัวที่ อ้วนที่สุดคือตัวที่อยู่รอด 116
หากคุณนั้นกำ ลังจินตนาการถึงขา กรรไกรขนาดยักษ์ที่จะขบเคี้ยวมื้อ อาหารอันเยือกเย็นและกรุบกรอบ ซึ่งปกคลุมไปด้วยเมือกสีเขียว คุณ กำ ลังคิดผิดเพราะหมีขั้วโลกไม่กิน น้ำ แข็งทะเล โดยตรงกันข้ามมีนัก วิจัยค้นพบว่าโภชนาการ ส่วนใหญ่ ของหมีขั้วโลกประกอบไปด้วยสิ่งมี ชีวิตที่มันพึ่งพาสาหร่ายบนน้ำ แข็ง ทะเลในฐานะแหล่งอาหารได้ศึกษา หมีขั้วโลกจากบริเวณอ่าวแบฟฟิน อ่าวฮัดสันตะวันตก , อ่าวฮัดสันใต้ หมีขั้วโลกกินแมวน้ำ และวาฬเบลูก าในบางพื้นที่เป็นจำ นวนมาก ทั้ง แมวน้ำ และวาฬกินปลา และสัตว์ น้ำ อื่นๆ ซึ่งได้รับพลังงานจากสิ่งมี ชีวิตขนาดเล็กๆ ที่เรียกว่าแพลงก์ ตอนสัตว์ (Zooplankton) ซึ่งกิน สาหร่ายบนน้ำ แข็งทะเลไปอีกทอด หนึ่งอาหารโปรดอย่างหนึ่งของหมี ขั้วโลกอย่าง Ringed Seal ที่กิน ปลาและกุ้งหลากหลายชนิดซึ่งกิน แพลงก์ตอนในขณะที่แพลงก์ตอน เหล่านั้นกินสาหร่ายทะเล หากอยู่แยกกัน สาหร่ายแต่ละต้น มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมเสียอีก คุณ โทมัสบราวน์ (ThomasBrown)นัก นิเวศวิทยาทางทะเล จากที่สมาคม เพื่อวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งใน สกอตแลนด์(Scottish Association forMarineScience)ได้กล่าวแต่เมื่อ รวมตัวกันสาหร่ายต้นเล็กๆ บนน้ำ แข็งทะเล ส่งผลกระทบอย่างใหญ่ หลวงระบบนิเวศในบริเวณขั้วโลก หลังฤดูหนาวที่มืดมิด แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิจะกระตุ้นการเติบโดของสาหร่าย ซึ่งกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีสำ หรับสิ่ง มีชีวิตขนาดจิ๋วจิ๋ที่เรียกว่า โคพีพอด (Copepod) แอมฟิพอด (Amphipod) และแพลงก์ตอนสัตว์ ซึ่งมีแหล่งอาหารใน บริเวณใต้น้ำ แข็งทะเล เมื่อน้ำ แข็งละลายในฤดูร้อน สาหร่ายเหล่านี้จมลงใต้ทะเล ทำ ให้ปลาที่กินสาหร่ายเหล่านี้ และ แมวน้ำ ที่กินปลา กลายเป็นส่วนประกอบของห่วงโซ่อาหารที่ไล่ลำ ดับขึ้นไปถึงหมีขั้วโลกตลอดหลายปีมานี้ บราวน์ได้ สำ รวจระบบนิเวศในบริเวณขั้วโลกจากล่างขึ้นบน ขณะที่เขาศึกษาปลาดาวและเม่นทะเลบนพื้นทะเล เขาพบว่าร่างกาย ของพวกมันมีสารเคมีแบบเดียวกับที่พบในสาหร่ายบนน้ำ แข็งทะเล สิ่งนี้ที่บ่งชี้ว่าพวกมันกินสาหร่ายจากบริเวณด้านบน ของทะเล 117
Polar Bear Mammalia Carnivora
PROMOTION 9.9 SHOP NOW โปรโมชั่น ชั่ สุด สุ พิเพิศษ ลดสูง สู สุด สุ 40%
ARCTIC โรงละครโอเปร่าออสโลเป็นที่ตั้งของโรงละครโอเปร่าและบัลเลต์แห่งชาตินอร์เวย์ และโรงละครโอเปร่าแห่งชาติใน นอร์เวย์ อาคารตั้งอยู่ในย่าน Bjørvika ใจกลางออสโล ตรงส่วนหัวของ Oslofjord ดำ เนินการโดย Statsbygg ซึ่ง เป็นหน่วยงานรัฐบาลที่จัดการทรัพย์สินของรัฐบาลนอร์เวย์ โครงสร้างประกอบด้วยห้อง 1,100 ห้องในพื้นที่รวม 49,000 ตารางเมตรออสโลโอเปร่าเฮาส์ (Oslo Opera House) สร้างเสร็จและเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2008 แต่ก่อนที่จะได้สร้างนั้น โดนนักวิจารณ์ถล่มเละค่ะ ว่าใช้งบประมาณการสร้างสูงเกินไป เถียงกันไปเถียงกันมา Oslo Opera House แรกเริ่มเลยรัฐบาลและคนนอร์เวย์ฝันอยาก จะสร้างโรงโอเปร่าแห่งชาติตั้งแต่ฝนช่วงหลัง สงครามโลกครั้งที่ 1 ว่ากันว่า นี่เป็นโครงการความฝันที่ลอยอยู่ใน อากาศมาเกือบศตวรรษจนท้ายที่สุดรัฐสภาที่ นอร์เวย์ลงมติจะให้สร้างโรงละครโอเปร่าแห่ง ชาติขึ้นที่ย่านบะเยอร์วิก้า ในปี 1999 แนวคิดหลักในการออกแบบคือต้องการให้โอ เปร่าเฮาส์แห่งนี้มีหน้าตาเหมือนภูเขาน้ำ แข็ง หลังคาทำ เป็นทางลาดมีลักษณะเหมือนแผ่น น้ำ แข็ง ใช้วัสดุหินแกรนิตสีขาว ที่สำ คัญหลังคาที่เป็นทางลาด และทางเชื่อม ลาดต่อลงไปยังทะเลในฝั่งอ่าวนั้นสามารถใช้ เป็นพื้นที่สาธารณะให้กับชาวเมือง และก็นัก ท่องเที่ยว หากใครต้องการเยี่ยมชมภายใน สามารถเดิน เข้าไปดูได้เองบางส่วน ตรงพื้นที่ส่วนกลางมี คาเฟ่ มีร้านอาหาร มีร้านขายของที่ระลึก ให้ เข้าไปดื่มด่ำ บรรยากาศ 120
NORTH POLETE ANIMAL 129.- ANIMAL IN THE NORTH POLE สัตสัว์ใว์นขั้วขั้โลกเหนือ สำ นักพิมพิพ์ ราชมงคลธัญธับุรี ราคา 129 บาท