The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูอาร์ม, 2022-11-19 03:17:26

หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการจัดการอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง เล่ม 3 การพัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติมและการขออนุมัติเปิดสอน

เล่ม 3

2 3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่มิ เตมิ และการขออนุมตั เิ ปิดสอน

3 การพฒั นาหลกั สตู รเพิ่มเติมและการขออนมุ ตั ิเปดิ สอน 3

หลักเกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ัตกิ ารจัดการอาชีวศึกษา

ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ
และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชน้ั สงู

3

การพัฒนาหลักสตู รเพมิ่ เตมิ และการขออนมุ ตั เิ ปิดสอน

สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ

4 3 การพฒั นาหลกั สูตรเพิม่ เตมิ และการขออนมุ ัตเิ ปิดสอน

หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการจดั การอาชวี ศกึ ษา
ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ และระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชน้ั สูง
เรอ่ื งท่ี 3 การพัฒนาหลกั สูตรเพ่ิมเตมิ และการขออนุมัตเิ ปิดสอน

พมิ พ์ครงั้ ท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ลขิ สทิ ธ์ิ สำนกั มาตรฐานการอาชวี ศึกษาและวชิ าชพี
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

คณะทีป่ รกึ ษา : ดร. ประชาคม จนั ทรชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
นางสาววลั ลภา อยทู่ อง ผู้ชำนาญการด้านการจดั การเรียนการสอน
อาชวี ศึกษาและกระบวนการเรยี นรู้
เรอื อากาศโทสมพร ปานดำ ผอู้ ำนวยการสำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษา
และวิชาชพี
ดร. ผ่องพรรณ จรสั จินดารัตน์ หวั หน้าหนว่ ยศึกษานิเทศก์

คณะทำงาน : นายชาตรี ชนานาฎ หน่วยศึกษานิเทศก์
นายสธุ าดา อาภาประเทอื ง สำนักมาตรฐานการอาชวี ศึกษาและวชิ าชพี
นางสาวจุติมา เกรยี งเดชาสนั ติ สำนักมาตรฐานการอาชวี ศึกษาและวิชาชีพ
นายศรัทธา บุญรอด สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวชิ าชพี
นายสมชาติ บุญศรี วทิ ยาลัยเทคนคิ อุตสาหกรรมยานยนต์

บรรณาธกิ ารและรปู เล่ม : อยู่ทอง ผูช้ ำนาญการดา้ นการจัดการเรยี นการสอน
นางสาววลั ลภา อาชวี ศึกษาและกระบวนการเรียนรู้

นางสาวพรรษชล ทองคุย่ สำนกั มาตรฐานการอาชีวศกึ ษาและวิชาชีพ
นางสาวอารี โอสถจันทร์ สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวชิ าชีพ
นายณฐั พงศ์ แดงหลา้ สำนักมาตรฐานการอาชีวศกึ ษาและวชิ าชพี
นายพศิ าล บญุ มาวาสนาสง่ สำนกั มาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชพี
นายธนสาร รุจิรา หนว่ ยศึกษานิเทศก์

พิมพ์ที่ วิทยาลยั เทคนิคมนี บุรี เลขที่ 57 ถนนสหี บุรานุกจิ แขวงมนี บรุ ี เขตมนี บุรี
กรงุ เทพมหานคร 10510

3 การพฒั นาหลกั สตู รเพิม่ เตมิ และการขออนมุ ัติเปิดสอน 5

คำนำ

หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การจดั การอาชวี ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี และระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกาศ
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
พ.ศ. 2562 เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. 2562 และ
เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ พ.ศ. 2562 ได้
กำหนดเป้าหมายการจัดการอาชีวศึกษาเพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุกระดับคุณวุฒิ ประเภทวิชาและ
สาขาวิชา มีคุณภาพอย่างน้อย 4 ด้าน คือ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้าน
ความรู้ ดา้ นทักษะและด้านความสามารถในการประยุกต์ใช้และความรับผดิ ชอบ พรอ้ มทั้งกำหนดให้การ
พัฒนาหลักสตู รหรอื ปรบั ปรงุ หลักสตู ร ฐานสมรรถนะ การพฒั นาการจดั การเรยี นการสอนและการพฒั นา
คุณภาพการจัดการอาชีวศึกษาในแต่ละระดับคุณวุฒิ ต้องเป็นไปตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาตรฐาน
อาชพี หรอื ตามความต้องการของสถานประกอบการและตลาดแรงงาน ทงั้ น้ี เพอ่ื ประโยชนต์ อ่ การรับรอง
หลักสูตรและคณุ วฒุ กิ ารศกึ ษาของผสู้ ำเร็จการศกึ ษา

ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนและการจัดการอาชีวศึกษา
ทุกระดับคุณวุฒิอาชีวศึกษาเป็นไปอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานที่สาขาวิชาและสาขางานกำหนด
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยสำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ ร่วมกับหน่วย
ศึกษานิเทศก์ จึงไดจ้ ดั ทำหลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏิบตั เิ ก่ยี วกบั การจดั การอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตร
วิชาชพี และระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้นั สูง ในลกั ษณะของชดุ เอกสารและเอกสารออนไลน์ จำนวน
10 เรื่อง ประกอบด้วย การจัดการอาชีวศึกษา การพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ การพัฒนาหลักสูตร
เพมิ่ เติมและการขออนุมัติเปดิ สอน การนำหลกั สตู รไปใช้ การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพและการ
จัดโครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร การวัดและประเมินผลอาชีวศึกษา
การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี การเทียบโอนผลการเรียนรู้ และการประกันคุณภาพของหลักสูตร
และการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้หรือปรับใช้ในการ
พฒั นาการจดั อาชวี ศึกษาเพอ่ื ใหผ้ ู้สำเรจ็ การศกึ ษามีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาขอขอบคุณผู้ทรงคุณวฒุ ิ ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหาร ครู
นักวชิ าการศึกษาและผูม้ สี ่วนเก่ยี วข้องในการจัดทำเอกสารฉบับนี้ มา ณ โอกาสนี้

สำนักงานคณะการการการอาชวี ศึกษา
กรกฎาคม 2562

6 3 การพฒั นาหลกั สตู รเพิ่มเตมิ และการขออนมุ ตั ิเปิดสอน

สำรบญั หน้า

หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การจัดการอาชวี ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชพี และระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชนั้ สงู 1
2
• คำชแี้ จงการนำไปใช้ 3
• แนวคดิ 5
• แนวปฏบิ ัติในการพฒั นาหลักสตู รอาชวี ศกึ ษา 7
7
- ส่ิงที่ควรทราบเก่ยี วกับหลกั สตู รอาชีวศึกษา 8
- เง่อื นไขการพฒั นาปรบั ปรุง อนมุ ตั ิ ประกาศใชแ้ ละรับรองหลกั สตู ร 11
• แนวปฏบิ ตั ใิ นการพัฒนาหลักสตู รสาขาวิชาเพ่ิมเตมิ 11
- ขอ้ พิจารณาในการพัฒนาหลักสตู รสาขาวชิ าเพิม่ เติม 12
- กระบวนการในการพฒั นาหลกั สตู รสาขาวชิ าเพ่ิมเติม 14
• แนวปฏิบัติในการพฒั นาหลกั สตู รสาขางานเพิม่ เตมิ 14
- ขอ้ พิจารณาในการพฒั นาหลักสตู รสาขางานเพม่ิ เตมิ 14
- กระบวนการในการพฒั นาหลักสูตรสาขางานเพ่ิมเตมิ 14
• แนวปฏิบตั ิในการพฒั นาหลักสตู รรายวิชาเพม่ิ เตมิ 16
- กรณีปรับปรุงเพิ่มเตมิ รายละเอยี ดของรายวชิ าทม่ี อี ยู่แล้วในหลกั สตู ร 19
- กรณพี ัฒนาหลกั สตู รรายวชิ าใหมเ่ พิ่มเติมในหลกั สตู ร 19
20
➢ ข้อพจิ ารณาในการพฒั นาหลกั สตู รรายวชิ าใหมเ่ พม่ิ เติมในหลักสตู ร 21
➢ กระบวนการในการพฒั นาหลักสตู รรายวชิ าเพิ่มเตมิ 23
• แนวปฏบิ ัติในการเปิดสอนและขออนมุ ตั เิ ปดิ สอนหลกั สตู ร 25
- หลกั เกณฑ์ในการเปดิ สอนหลักสูตรของสถานศกึ ษา 25
- แนวปฏบิ ัติในการขอเปดิ สอนหลักสตู รของสถานศกึ ษา 26
- ขน้ั ตอนการขออนุมตั เิ ปดิ สอนของสถานศกึ ษา 27
- ขนั้ ตอนการอนุมัติให้สถานศกึ ษาเปิดสอน 50
- การขออนมุ ตั ิเปดิ สอนของสถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษาเอกชน
- การเปดิ สอนหลักสูตรการอาชีวศึกษาของสถานศึกษาสังกัดองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน
• บรรณานุกรม
• ภาคผนวก
• คำส่ัง

3 การพัฒนาหลกั สตู รเพม่ิ เตมิ และการขออนุมัติเปิดสอน ก7

คำชแ้ี จงกำรนำไปใช้

หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั การจัดการอาชวี ศกึ ษาระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี และระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู

หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และ
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง นี้ได้เรียบเรียงขึ้นโดยยึดประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบ
คุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐาน
คณุ วฒุ อิ าชวี ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี พ.ศ. 2562 และประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เร่อื ง เกณฑม์ าตรฐานคณุ วุฒิอาชวี ศกึ ษาระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสงู พ.ศ. 2562 ซ่งึ สอดคล้องกับ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และมาตรฐาน
การศึกษาของชาติ นอกจากนี้ ยังได้พจิ ารณานำข้อมลู ที่เก่ยี วข้องกับการจัดการอาชีวศึกษาท้ังสองระดับ
ได้แก่ ระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ แนวปฏิบัติ ฯลฯ มาเรียบเรียงนำเสนอ เพื่อเผยแพร่แกส่ ถานศึกษา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้สนใจได้ศึกษาและนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการจัดการ
อาชีวศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพตามมาตรฐาน โดยชุดเอกสารและเอกสารออนไลน์นี้
ประกอบด้วย 10 เรื่อง ดงั น้ี

เรื่องท่ี 1 การจดั การอาชีวศกึ ษา
เรื่องท่ี 2 การพฒั นาหลกั สูตรฐานสมรรถนะ
เร่อื งที่ 3 การพฒั นาหลักสตู รเพ่มิ เตมิ และการขออนมุ ตั เิ ปดิ สอน
เรอ่ื งที่ 4 การนำหลกั สูตรไปใช้
เรื่องที่ 5 การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพและการจัดโครงงานพฒั นาสมรรถนะวิชาชีพ
เรื่องท่ี 6 การจดั กิจกรรมเสริมหลกั สตู ร
เร่ืองท่ี 7 การวัดและประเมินผลอาชวี ศกึ ษา
เรื่องท่ี 8 การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี
เรือ่ งที่ 9 การเทยี บโอนผลการเรยี นรู้
เรื่องที่ 10 การประกนั คณุ ภาพของหลักสตู รและการจัดการเรียนการสอน

เอกสารแต่ละเรื่องจะประกอบด้วยแนวคิด นิยามศัพท์ รายละเอยี ดของเนื้อหาสาระและหรือ
แนวปฏิบัติซึ่งสอดคล้องกับกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ บรรณานุกรมและภาคผนวก ซึ่งแนะนำ
แบบฟอร์ม ตัวอย่าง และแหล่งข้อมูลที่สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้ สถานศึกษา หน่วยงาน
หรือผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลหรือเนื้อหาสาระทุกเรื่องตามที่ได้จัดเรียงลำดับเรื่องที่ควรรู้ก่อน-หลัง
หรือจะเลอื กศึกษาเฉพาะเร่ืองทีส่ นใจกไ็ ด้



3 การพฒั นาหลกั สูตรเพิ่มเตมิ และการขออนมุ ัติเปดิ สอน 1

กำรพฒั นำหลกั สตู รเพมิ่ เตมิ

หลักเกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การจัดการอาชวี ศกึ ษาระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี และระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู

แนวคดิ

“หลักสูตร (Curriculum)” หมายถึง ประมวลวิชาและกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ใน
สถานศึกษา เพื่อวัตถุประสงค์อยา่ งใดอย่างหนึ่ง ส่วน “หลักสูตรอาชีวศึกษา (Vocational Education
Curriculum)” หมายถึง หลักสูตรเพื่อการจัดการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพตามที่คณะกรรมการ
การอาชีวศึกษากำหนด ซึ่งได้จากการนำความรู้ในทางทฤษฎีอันเป็นสากลและภูมิปัญญาไทยมาพัฒนา
เพื่อให้ผู้รับการศึกษามีความรู้ความสามารถในทางปฏิบัติและมีสมรรถนะจนสามารถนำไปประกอบ
อาชีพในลักษณะผปู้ ฏิบตั หิ รือประกอบอาชพี โดยอสิ ระได้

การพัฒนาหลักสูตรจะต้องพิจารณาถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเหมาะสมตาม
สภาพแวดล้อมและสังคมในปัจุบันและอนาคต เพื่อให้สามารถกำหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตร เนื้อหา
สาระและประสบการณ์การเรียนรู้ของหลักสูตรแต่ละระดับได้อย่างชัดเจน และนำไปพัฒนาผู้เรียนท้ัง
ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ เจตคติ กิจนสิ ัยและทกั ษะความชำนาญได้ตามเจตนารมณข์ องหลักสูตร อย่างไร
ก็ตามเมื่อสถานศึกษานำหลักสูตรไปใช้ ก็ต้องมีการประเมินผลหลักสูตรเพื่อหาข้อดแี ละขอ้ บกพรอ่ งของ
หลักสูตรเพื่อพัฒนาและปรับปรงุ หลักสตู รใหเ้ หมาะสมยิ่งขึน้ การพฒั นาหลักสตู รจงึ สามารถดำเนินการได้
ใน 2 กรณี คือ การพัฒนาหลักสตู รทไี่ มเ่ คยมีอยเู่ ลยขึน้ มาใหม่ และการปรบั ปรงุ แกไ้ ขหลกั สูตรเดิมที่มีอยู่
ใหด้ ีข้ึน ซ่ึงมนี ักการศกึ ษาได้กล่าวถงึ ความหมายของการพัฒนาหลกั สูตรเอาไว้ ดังน้ี

การพัฒนาหลักสูตรเป็นกระบวนการพัฒนาประสบการณ์การเรียนรู้ที่สถานศึกษาแต่ละแห่ง
กำหนดเป็นกรอบหรือแนวทางการพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถ มีทักษะกระบวนการและ
คุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามความต้องการของผู้เรียน ชุมชน ท้องถิ่น รวมถึงความต้องการของสถาน-
ประกอบการ (เบญจวรรณ ก่ีสขุ พนั ธ์. 2558 : 9-10)

Taba (1962 : 454) กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตร หมายถึง การเปลี่ยนแปลงและปรับปรุง
หลักสูตรเดิมให้ได้ผลดียิ่งขึ้นทั้งในด้านการวางจุดมุ่งหมาย การจัดเนื้อหาวิชา การเรียนการสอน
การวัดผลและการประเมินผลอืน่ ๆ เพื่อให้บรรลถุ ึงจุดมุ่งหมายอันใหม่ทว่ี างไว้ การเปล่ียนแปลงหลักสูตร
เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบหรือเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ตั้งแต่จุดมุ่งหมายและวิธีการ และการ
เปลี่ยนแปลงหลักสูตรนี้จะมีผลกระทบทางด้านความคิดและความรู้สึกผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ส่วนการ

2 3 การพฒั นาหลกั สตู รเพ่ิมเตมิ และการขออนุมัตเิ ปดิ สอน

ปรับปรุงหลกั สตู ร หมายถึง การเปลี่ยนแปลงหลกั สตู รเพียงบางส่วน โดยไม่เปลี่ยนแปลงแนวคิดพ้นื ฐาน
หรือรปู แบบของหลกั สตู ร

Good (1973 : 157-158) กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตรเกิดขึ้นได้ใน 2 ลักษณะ คือ การ
ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงหลักสูตร การปรับปรุงหลักสูตรเป็นวิธีการพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้เหมาะกับโรงเรียนและระบบโรงเรียน จุดมุ่งหมายของการสอน วัสดุอุปกรณ์ วิธีสอน รวมทั้งการ
ประเมินผล ส่วนคำว่าการเปลีย่ นแปลงหลกั สูตร หมายถึง การแก้ไขหลักสูตรให้แตกต่างไปจากเดิมเปน็
การสร้างโอกาสทางการเรียนใหม่

Oliva (1992 : 13) กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตรเป็นกระบวนการวางแผนการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ทุกประเภท เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามความมุ่งหมายและจุดประสงค์
ที่กำหนดไว้ และยังต้องวางแผนประเมินผลให้ทราบชัดว่าการเปลี่ยนแปลงในตัวผู้เรียนนั้นได้บรรลุตาม
ความมุ่งหมายและจุดประสงค์จริงหรือไม่ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้รับรู้และแก้ไขปรับปรุงต่อไป
หลักสูตรที่ดีจะต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของการเวลา เศรษฐกิจ สังคม
การเมือง ตลอดจนความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยตี ่าง ๆ

จากความหมายของการพัฒนาหลักสูตรดังกล่าวข้างต้น สามารถสรุปได้ว่าการพัฒนา
หลักสูตรเพิ่มเติมเป็นการพัฒนาหลักสูตรเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึน้ หรือเป็นการจัดทำหลักสตู รใหม่เพิ่มเตมิ
ให้สอดคลอ้ งกับการเปล่ยี นแปลง โดยสามารถพัฒนาไดท้ งั้ หลกั สตู รระดบั สาขาวชิ า หลักสูตรระดับสาขา
งานและหลักสตู รระดับรายวชิ า โดยผู้เกีย่ วขอ้ งกบั การพฒั นาหลกั สตู รเป็นผู้ดำเนินการ

แนวปฏิบัติในการพฒั นาหลักสตู รอาชีวศึกษา

การพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาเป็นการนำสมรรถนะในงานอาชีพของมาตรฐานอาชีพหรือ
มาตรฐานสมรรถนะ (Occupational Standards /Competency Standards) ตามระดับคุณวุฒิ
วิชาชีพ มากำหนดเป็นมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพของสาขาวิชาและสาขางานในหลักสูตรแต่ละระดับ
คุณวุฒิอาชีวศึกษา แล้วพัฒนารายวิชาตามโครงสร้างหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานสมรรถนะท่ี
กำหนดเพือ่ เป็นหลกั สูตรฐานสมรรถนะ ทั้งนี้ เนื่องจากนโยบาย ยุทธศาสตร์ สภาพเศรษฐกิจ สังคมและ
เทคโนโลยี รวมทั้งความต้องการกำลังคนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงต้องมีการพัฒนาหลักสูตร
อย่างต่อเน่ืองอย่างน้อยในทุก 5 ปี นอกจากนี้ ก็อาจจำเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไขและพฒั นาหลักสูตร
เพิ่มเติมในระหวา่ งวงรอบของการใช้หลักสตู รน้ัน ๆ เพื่อใหท้ นั ตอ่ การเปลีย่ นแปลงและความต้องการของ
งานอาชีพไดเ้ ช่นกนั

3 การพฒั นาหลกั สตู รเพิม่ เตมิ และการขออนุมัติเปดิ สอน 3

สำหรับการพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาเป็นหลักสูตรใหม่และพุทธศักราชใหม่ เพื่อเป็น
หลักสูตรแกนกลางที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ
เป็นไปตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาตรฐานการศึกษาของชาติ กรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ และ
เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ รวมทั้งการอนุมตั ิ ประกาศใช้และรับรองคุณวุฒผิ ู้สำเรจ็
การศึกษาตามหลักสูตร ได้นำเสนอไว้ในเอกสาร “หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการจัดการอาชีวศึกษา
ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ และระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสูง เรอื่ งท่ี 2 การพัฒนาหลักสูตร
ฐานสมรรถนะ” แล้ว ในเอกสารเล่มนี้จะนำเสนอถึงหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในการดำเนินการพัฒนา
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เพิ่มเติม ซึ่ง
ประกอบด้วย การพัฒนาหลักสูตรสาขาวิชาเพิ่มเติม การพัฒนาหลักสูตรสาขางานเพิ่มเติม และการพัฒนา
หลกั สูตรรายวชิ าหรอื กลมุ่ วชิ าเพิม่ เตมิ ซึ่งมีข้อควรทราบและขอ้ พิจารณาทีเ่ ก่ยี วข้อง ดงั น้ี

• สิง่ ท่ีควรทราบเกีย่ วกับหลกั สูตรอาชวี ศกึ ษา

1. หลักสูตรอาชีวศกึ ษาจะจดั หมวดหมตู่ ามลักษณะงานอาชพี ออกเปน็ ประเภทวิชา ในแต่ละ
ประเภทวชิ าจำแนกออกเป็นสาขาวิชา และในแตล่ ะสาขาวชิ าจำแนกออกเปน็ สาขางาน

2. หลักสูตรอาชีวศึกษาแต่ละระดับจะมีหลักการของหลักสูตรและจุดหมายของหลักสูตร
เหมือนกันทุกประเภทวิชา กรณีสาขาวิชาที่มีข้อกำหนดเฉพาะของงานอาชีพ สามารถเพิ่มส่วนที่เป็น
ขอ้ กำหนดเฉพาะนน้ั ในหลักการและจุดหมายของหลกั สูตรสาขาวิชานน้ั ได้

3. จดุ ประสงคส์ าขาวิชาจะเปน็ ข้อกำหนดเฉพาะโดยภาพรวมของสาขาวชิ า สะท้อนให้เห็นว่า
การที่จะพัฒนาให้ผู้เรียนบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามจุดประสงค์สาขาวิชานั้น ๆ ผู้เรียนจะต้องศึกษาและปฏิบัติ
รายวิชาในหมวดวิชา กลุ่มและหรือกลุ่มวิชาใดตามโครงสร้างหลักสูตร เพื่อนำไปสู่คุณภาพของผู้สำเร็จ
การศึกษาตามจุดหมายของหลักสูตร ซึ่งโดยทั่วไปจะมีกรอบการเขียนในบางส่วนเหมือนกันเพื่อให้
สอดคล้องกับโครงสร้างหลักสูตรตามระดับคุณวุฒิ และมีส่วนที่แตกต่างเพื่อแสดงลักษณะเฉพาะของ
สาขาวิชา

4. มาตฐานการศึกษาวิชาชีพจะเป็นการกำหนดผลสัมฤทธ์ิของผู้เรียนในด้านคุณธรรม
จริยธรรมและคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านความสามารถในการประยุกต์ใช้
และความรบั ผดิ ชอบ จำแนกตามสมรรถนะแกนกลางและสมรรถนะวชิ าชพี ที่สอดคล้องกับเกณฑม์ าตรฐาน
คณุ วฒุ อิ าชวี ศึกษาและมาตรฐานอาชีพตามระดับคุณวุฒวิ ชิ าชีพ โดยจะระบุถึงคุณลกั ษณะและสมรรถนะ
ที่ต้องการที่ละเอียดและชัดเจนมากขึ้น ทั้งสมรรถนะบังคับและสมรรถนะเลือก เพื่อนำไปสู่การกำหนด
รายวิชาบังคับและรายวิชาเลือกตามเงื่อนไขที่กำหนดในหมวดวิชา กลุ่มและกลุ่มวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตร
ฐานสมรรถนะทม่ี คี วามสอดคลอ้ งกับมาตรฐานอาชีพและความต้องการของสถานประกอบการ

4 3 การพฒั นาหลกั สูตรเพิม่ เตมิ และการขออนุมตั ิเปดิ สอน

5. โครงสรา้ งหลักสูตรแตล่ ะสาขาวิชา ประกอบด้วย 3 หมวดวิชาและกิจกรรมเสริมหลักสูตร
โดยมีกรอบของจำนวนหน่วยกิตในแต่ละหมวดวิชา กลุ่ม กลุ่มวิชา และจำนวนหน่วยกิตรวมเป็นไปตาม
เกณฑม์ าตรฐานคุณวุฒอิ าชีวศกึ ษาแต่ละระดับ

ทั้งนี้ การจัดรายวิชาในหมวดวิชา กลุ่มและกลุ่มวิชาในแต่ละประเภทวิชา สาขาวิชาและ
สาขางานจะต้องพิจารณากำหนดจำนวนหน่วยกิตในแต่ละหมวดวิชา กลุ่มและกลุ่มวิชาไม่น้อยกว่าท่ี
กำหนดไวใ้ นกรอบโครงสรา้ งของหลกั สูตรแกนกลาง

กรอบโครงสร้างหลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พุทธศักราช 2562

โครงสร้างหลักสูตร เกณฑม์ าตรฐานฯ ปวช. หลักสตู รแกนกลาง สอศ.

1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ไม่น้อยกว่า 21 นก. ไม่นอ้ ยกว่า 22 นก.
1.1 กลมุ่ วชิ าภาษาไทย ไม่น้อยกวา่ 3 นก.
1.2 กลุ่มวชิ าภาษาต่างประเทศ ไม่นอ้ ยกว่า 69 นก. ไม่น้อยกว่า 6 นก.
1.3 กลุม่ วิชาวทิ ยาศาสตร์ ไมน่ ้อยกวา่ 19 นก. ไม่น้อยกว่า 4 นก.
1.4 กล่มุ วชิ าคณติ ศาสตร์ ไมน่ ้อยกวา่ 24 นก. ไม่น้อยกว่า 4 นก.
1.5 กลุ่มวิชาสงั คมศกึ ษา ไมน่ ้อยกว่า 18 นก. ไม่น้อยกวา่ 3 นก.
1.6 กลุ่มวชิ าสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ไม่น้อยกวา่ 2 นก.
4 นก. ไมน่ ้อยกว่า 71 นก.
2. หมวดวิชาสมรรถนะวชิ าชีพ 4 นก.
2.1 กลุ่มสมรรถนะวชิ าชพี พืน้ ฐาน ไม่น้อยกวา่ 10 นก. 21 นก.
2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชพี เฉพาะ - นก. 24 นก.
2.3 กล่มุ สมรรถนะวชิ าชีพเลือก 100-110 นก. ไมน่ ้อยกวา่ 18 นก.
2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชพี 4 นก.
2.5 โครงงานพัฒนาสมรรถนะวชิ าชีพ 4 นก.
ไม่นอ้ ยกวา่ 10 นก.
3. หมวดวชิ าเลือกเสรี - นก.
4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร
103-110 นก.
รวมระหว่าง

3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่มิ เตมิ และการขออนุมตั ิเปดิ สอน 5

กรอบโครงสรา้ งหลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2563

โครงสร้างหลกั สูตร เกณฑ์มาตรฐานฯ ปวส. หลักสตู รแกนกลาง สอศ.

1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ไมน่ อ้ ยกว่า 18 นก. ไมน่ ้อยกว่า 21 นก.
1.1 กลมุ่ วิชาภาษาไทย ไม่น้อยกว่า 3 นก.
1.2 กลมุ่ วชิ าภาษาตา่ งประเทศ ไม่น้อยกว่า 56 นก. ไมน่ ้อยกว่า 6 นก.
1.3 กลมุ่ วิชาวทิ ยาศาสตร์ ไม่น้อยกวา่ 15 นก. ไมน่ ้อยกวา่ 3 นก.
1.4 กลมุ่ วชิ าคณิตศาสตร์ ไมน่ ้อยกว่า 21 นก. ไม่น้อยกว่า 3 นก.
1.5 กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ ไม่น้อยกวา่ 12 นก. ไม่น้อยกวา่ 3 นก.
1.6 กล่มุ วิชามนุษยศาสตร์ ไมน่ ้อยกว่า 3 นก.
4 นก. ไมน่ อ้ ยกว่า 56 นก.
2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ 4 นก.
2.1 กลุ่มสมรรถนะวชิ าชพี พืน้ ฐาน ไม่นอ้ ยกวา่ 6 นก. 15 นก.
2.2 กลุ่มสมรรถนะวชิ าชีพเฉพาะ - นก. 21 นก.
2.3 กลมุ่ สมรรถนะวิชาชพี เลอื ก 80-90 นก. ไมน่ ้อยกวา่ 12 นก.
2.4 ฝึกประสบการณส์ มรรถนะวชิ าชพี 4 นก.
2.5 โครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ 4 นก.
ไมน่ ้อยกว่า 6 นก.
3. หมวดวชิ าเลอื กเสรี - นก.
4. กิจกรรมเสริมหลักสตู ร
83-90 นก.
รวมระหว่าง

6. การจัดรายวิชาในหมวดวิชา กลุ่มและกลุ่มวิชา ทั้งรายวิชาบังคับและรายวิชาเลือกใน
หลักสตู รจะตอ้ งมคี วามสัมพนั ธส์ อดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาวชิ าชีพของสาขาวิชาและสาขางาน โดย
แต่ละรายวิชาจะมีองค์ประกอบสำคัญตามรูปแบบและเกณฑ์การเขียนทีห่ ลักสูตรฐานสมรรถนะกำหนด
คือ รหัสวิชา ชื่อวิชาภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ชั่วโมงเรียนภาคทฤษฎี (ท) ชั่วโมงเรียนภาคปฏิบตั ิ (ป)
จำนวนหน่วยกิต (น) รายวิชาที่ต้องเรียนก่อน (ถ้ามี) จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและ
คำอธบิ ายรายวิชา

• เง่อื นไขการพัฒนาปรบั ปรงุ อนุมัติ ประกาศใชแ้ ละรบั รองหลักสูตร

1. ประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ. 2562 และประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐาน
คุณวุฒิอาชวี ศึกษาคุณวฒุ อิ าชีวศกึ ษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สูง พ.ศ. 2562 ได้กำหนดเงื่อนไข
ในการพัฒนา ปรับปรุง อนุมัติ ประกาศใชแ้ ละรบั รองหลกั สูตร ซึง่ สรปุ ไดด้ งั นี้

6 3 การพัฒนาหลกั สูตรเพมิ่ เตมิ และการขออนมุ ัติเปดิ สอน

กระบวนการดำเนินการ ผรู้ บั ผิดชอบ
การพัฒนาหลกั สตู รหรือการปรับปรงุ หลักสตู ร
ระดับ ปวช. และระดบั ปวส. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษา
และสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการ
การอนุมตั ิหลกั สตู ร ปวช. และ ปวส. อาชวี ศกึ ษา
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
การประกาศใชห้ ลักสตู ร ปวช. และ ปวส. (โดย คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง
การรบั รองคณุ วฒุ ิผสู้ ำเร็จการศึกษาตาม อนมุ ัติหลักสตู ร...)
หลกั สตู ร ปวช. และ ปวส. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(โดย ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่อื ง ใหใ้ ชห้ ลักสูตร...)
การพฒั นาสาขาวิชาเพ่ิมเตมิ สำนักงาน ก.พ.

การพัฒนาสาขางานเพ่ิมเตมิ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษา
และหรือสถานศึกษา และรายงานสำนักงานคณะกรรมการ-
การพฒั นาหรือปรับปรงุ รายวิชาหรือกลุ่มวิชา การอาชีวศึกษา เพื่อดำเนินการพิจารณาเห็นชอบ อนุมัติ
เพ่มิ เตมิ ประกาศใช้ และรับรองคณุ วุฒิผู้สำเรจ็ การศึกษา
การข้ึนทะเบยี นหลักสตู ร ปวช. และ ปวส. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษา
ทีไ่ ด้รับการอนุมัตแิ ละประกาศใช้ และหรือสถานศึกษา และรายงานสำนักงานคณะกรรมการ-
การอาชวี ศึกษา เพ่อื พจิ ารณาอนมุ ัติ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษา
และหรือสถานศึกษา และรายงานสำนักงานคณะกรรมการ-
การอาชวี ศึกษาทราบ
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(โดย หน่วยงานท่เี กี่ยวข้อง)

2. การพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาเป็นหลักสูตรใหม่และพุทธศักราชใหม่ เพื่อเป็นหลักสูตร
แกนกลางที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ เป็นไปตาม
กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาตรฐานการศึกษาของชาติ กรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ และเกณฑ์
มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ รวมทั้งการอนุมัติ ประกาศใช้และรับรองคุณวุฒิผู้สำเร็จ
การศึกษาตามหลักสูตร ได้นำเสนอไว้ในเอกสาร “หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการจัดการอาชีวศึกษา
ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ และระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพชั้นสูง เรอื่ งที่ 2 การพัฒนาหลักสูตร
ฐานสมรรถนะ” แล้ว

3. การพัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติมสามารถทำได้ภายใต้หลักสูตรแกนกลางพุทธศักราชที่อนุมัติ
และประกาศใช้ในปัจจุบัน โดยต้องพิจารณากำหนดจำนวนหน่วยกิตของสาขาวิชา กลุ่มและกลุ่มวิชา
ไม่น้อยกว่าที่หลักสูตรแกนกลางในแต่ละประเภทวิชา สาขาวิชาและสาขางานกำหนด ส่วนการพัฒนา
รายวิชาและกลุ่มรายวิชาเพ่ิมเติมในหลักสูตร จะต้องพิจารณาว่าสามารถทำได้ในกลุ่มหรือกลุ่มวิชาใด
ตามเงือ่ นไขของหลักสูตร

3 การพฒั นาหลกั สูตรเพม่ิ เตมิ และการขออนมุ ตั ิเปิดสอน 7

ทั้งนี้ เอกสารเล่มนี้จะนำเสนอถึงหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในการพัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติม
ซึ่งประกอบด้วย การพัฒนาหลักสูตรสาขาวิชาเพิ่มเติม การพัฒนาหลักสูตรสาขางานเพ่ิมเตมิ และการพัฒนา
หลักสูตรรายวชิ าหรือกลุ่มวชิ าเพ่ิมเติม

แนวปฏบิ ัติในการพัฒนาหลักสูตรสาขาวชิ าเพิม่ เตมิ

การพัฒนาหลักสูตรสาขาวิชาเพิ่มเติม เป็นการพัฒนาสาขาวิชาใหม่ที่ยังไม่เคยมีในหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงพุทธศักราชปัจจุบันท่ีมีการใช้
หลกั สตู ร มขี อ้ พจิ ารณาและกระบวนการดำเนินการ ดงั นี้

• ข้อพิจารณาในการพฒั นาหลักสตู รสาขาวชิ าเพ่มิ เติม

การพฒั นาหลกั สูตรสาขาวชิ าเพ่ิมเติม มขี อ้ พจิ ารณาดังนี้
1. สาขาวิชาที่จะพัฒนาเพิ่มเติมควรอยู่ในหลักสูตรระดับใด ประเภทวิชาใด โดยต้องไม่ซ้ำซ้อน
หรือใกล้เคียงกับสาขาวิชาท่ีมีอยู่เดิม และต้องมีระดับเท่ากันกับสาขาวิชาอื่นในหลักสูตรนัน้ นอกจากน้ี
จะต้องมอี ย่างนอ้ ย 1 สาขางาน ซึ่งอาจชือ่ เดียวกับช่อื สาขาวชิ าและมีเงื่อนไขการเลือกเรยี นทีช่ ัดเจน
2. การกำหนดมาตรฐานการศกึ ษาวิชาชพี ของสาขาวิชา ช่ือสาขาวิชาและรายวชิ าชีพบังคับท่ี
จะพัฒนาเพ่ิมเติมต้องสามารถอิงกับข้อมูลอาชีพ มาตรฐานอาชีพและความต้องการกำลงั คนจากผลการวิจยั
การสำรวจ ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สภาอุตสาหกรรม และหรือสภาวิชาชีพ
ฯลฯ เนื่องจากรายวิชาชีพบังคับในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐานและกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ คือ
ส่วนที่ ก.พ. รับรองความเป็นสาขาวิชา และควรจัดเรียงลำดบั รายวชิ าท่คี วรเรยี นก่อน-หลงั ดว้ ย
3. ต้องมีข้อมูลสนับสนุนถึงเหตุผลความจำเป็นเกี่ยวกับความต้องการหรือการจ้างงาน และ
การศึกษาต่อทั้งในปัจจุบันและอนาคตท่ีเชื่อถือได้ และมีปริมาณเพียงพอต่อการวางแผนและลงทนุ ผลติ
กำลังคนในสาขาวิชาที่จะพัฒนาเพิ่มเติม รวมทั้งต้องมีข้อมูลจำนวนความต้องการของผู้ที่จะสมัครเข้า
ศึกษาทแี่ นน่ อนและเพียงพอตอ่ การเปดิ สอนสาขาวิชาทจี่ ะพฒั นาเพิ่มเติมนั้น
4. ผู้ที่จะพัฒนาหลักสูตรสาขาวิชาเพม่ิ เติมตอ้ งมอี ำนาจ หรอื ไดร้ บั มอบอำนาจ หรอื ได้รับอนุญาต
ตามกฎหมาย ข้อบงั คับจากองค์กรวิชาชพี ในการจดั การศึกษาหรอื ฝกึ อบรมบคุ คลเพอื่ เขา้ สูอ่ าชพี นัน้
5. ต้องมีข้อมูลของสถานศึกษาที่จะเปิดสอนหลักสูตรสาขาวิชาที่จะพัฒนาเพิ่มเติมนั้น
เกี่ยวกับจำนวนและคุณสมบัติ ความรู้ ความชำนาญและความพร้อมของครูผู้สอน ความพร้อมของ
สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ อาคารสถานที่ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ สื่อและแหล่งเรียนรู้สนับสนุน
การจัดการศกึ ษาที่มจี ำนวนเพียงพอ หรือสามารถจัดหามาได้ครบเมื่อจะเปดิ หลักสูตร

8 3 การพัฒนาหลกั สูตรเพิ่มเติมและการขออนุมัติเปิดสอน

• กระบวนการในการพฒั นาหลกั สตู รสาขาวิชาเพ่มิ เติม

กระบวนการในการพฒั นาหลักสตู รสาขาวชิ าเพ่ิมเติม มลี ำดบั ขัน้ ตอนดังนี้
1. สถานศึกษาอาชีวศึกษาทำหนงั สือขออนุญาตพัฒนาสาขาวิชาเพิ่มเติมเสนอต่อสำนกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยแนบโครงการ แผนงานและผลการศึกษาความต้องการและความ
จำเป็นในการพัฒนาหลักสูตรสาขาวิชานั้น ทั้งนี้ การศึกษาความต้องการและความจำเป็นในการพัฒนา
หลักสูตรสาขาวชิ าเพ่มิ เตมิ ประกอบดว้ ย

1.1 การวเิ คราะห์งาน (Job Analysis) หรือการวิเคราะหห์ น้าท่ี (Functional Analysis)
1.2 การสำรวจความต้องการกำลังคนของตลาดแรงงาน สถานประกอบการ
1.3 การประเมินความพร้อมของสถานศึกษาอาชีวศึกษาในการดำเนินการจัดการเรียน
การสอน ทัง้ ดา้ นผสู้ อน ผู้เรยี นและทรัพยากรสนบั สนนุ การจัดการเรยี นการสอน
2. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาพิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร
สาขาวิชาเพม่ิ เตมิ
3. สถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษาดำเนนิ การแต่งตัง้ คณะกรรมการพัฒนาหลกั สูตรสาขาวชิ าเพ่ิมเติม
จากภาครัฐและภาคเอกชน อย่างน้อย 7 คน ประกอบด้วย ครู คณาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตร
ผเู้ ช่ยี วชาญจากสถานประกอบการทม่ี คี วามรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในสาขาอาชพี
4. สถานศึกษาอาชีวศึกษาดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการเพื่อยกร่างและบรรณาธิการ
หลักสูตรสาขาวิชาที่พัฒนาเพิ่มเติม ทั้งนี้ การกำหนดจุดประสงค์สาขาวิชา มาตรฐานการศึกษาวิชาชีพ
สาขาวชิ า การพัฒนารายวชิ าจะต้องสอดคล้องกับสภาพการปฏบิ ัตงิ านจริงของอาชีพนนั้ ๆ หรอื ตามมาตรฐาน
อาชีพและระดับคุณวุฒิวิชาชีพของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มาตรฐานฝีมือแรงงาน และหรือมาตรฐานอื่น
ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนั้น ๆ และเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ โดยกำหนดรหัส
วิชา ชื่อวิชา จำนวนชั่วโมง จำนวนหน่วยกิต จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา
ตามรปู แบบทกี่ ำหนด
5. สถานศึกษาอาชีวศึกษาดำเนินการจัดประชุมผู้แทนและผู้เกี่ยวข้องจากภาครัฐและ
ภาคเอกชนเพื่อวิพากษ์หลักสูตรทีพ่ ฒั นา ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ผ้ทู รงคุณวุฒ/ิ ผู้เช่ยี วชาญจากสถานประกอบการทีม่ คี วามรู้ ความสามารถและประสบการณ์ตามสาขาอาชีพ
6. สถานศึกษาอาชีวศึกษาเสนอการพัฒนาสาขาวิชาต่อคณะกรรมการวิทยาลัยพิจารณา
เพื่อให้ความเหน็ ชอบ กรณีคณะกรรมการวิทยาลัยพิจารณาแล้วไม่เห็นชอบ ให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข
แล้วนำเสนอใหม่ หากคณะกรรมการวิทยาลัยพิจารณาแล้วเห็นชอบ ให้ดำเนินการเสนอสำนักงาน
คณะกรรมการการอาชวี ศึกษาตอ่ ไป

3 การพฒั นาหลกั สูตรเพมิ่ เติมและการขออนมุ ัติเปิดสอน 9

7. สถานศึกษาอาชีวศึกษาเสนอเอกสารหลักสูตรสาขาวิชาที่พัฒนาเพิ่มเติม พร้อมแผนการ-
เรียน สำเนาคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาสาขาวิชา สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการ
วทิ ยาลัยที่เห็นชอบการพัฒนาสาขาวิชา และรายงานผลการศึกษาความต้องการและความจำเป็นในการพัฒนา
สาขาวิชาเพ่ิมเติมตอ่ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพ่ือเขา้ สู่กระบวนการพิจารณาอนมุ ตั ิ

8. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องของการ
พัฒนาสาขาวิชาให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิ
อาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ. 2562 หรือประกาศคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา เรื่อง
เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. 2562 กรณีตรวจสอบ
เบื้องตน้ แลว้ พบขอ้ บกพรอ่ ง ใหด้ ำเนนิ การสง่ คืนสถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษาเพื่อปรับปรงุ แกไ้ ขให้ถูกต้องแล้ว
นำเสนอใหม่ หากตรวจสอบแล้วถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ให้ดำเนินการเสนอคณะอนุกรรมการการ
อาชีวศึกษาซ่งึ ทำหนา้ ที่พจิ ารณากลนั่ กรองหลกั สูตรต่อไป

9. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพเสนอหลักสูตรสาขาวิชาที่พัฒนาเพิ่มเติม
ต่อคณะอนุกรรมการการอาชีวศึกษาซึ่งทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองหลักสูตร กรณีคณะอนุกรรมการ
การอาชีวศึกษาพิจารณาแล้วไม่เห็นชอบ ให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง
แล้วนำเสนอพิจารณาอีกครั้ง หากคณะอนุกรรมการการอาชีวศึกษาเห็นชอบแล้ว ให้ดำเนินการเสนอ
คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษาพิจารณาตอ่ ไป

10. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพเสนอหลักสูตรสาขาวิชาที่ผ่านการพิจารณา
กลั่นกรองหลักสูตรจากคณะอนุกรรมการการอาชีวศึกษาแล้วต่อคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อ
พิจารณาให้ความเห็นชอบหลักสูตร กรณีคณะกรรมการการอาชีวศึกษาพิจารณาแล้วไม่เห็นชอบ ให้
สถานศึกษาอาชีวศึกษาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องแล้วนำเสนอตามกระบวนการอีกครั้ง หาก
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษาพจิ ารณาแลว้ เหน็ ชอบ ให้ดำเนนิ การตามข้นั ตอนต่อไป

11. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพเสนอเลขาธิการคณะกรรมการการ -
อาชวี ศึกษาเพอื่ ทราบ อนุมตั ิและลงนามในคำสง่ั เพิ่มเติมสาขาวิชาในหลกั สูตร

12. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพทำหนังสือแจ้งการเพิ่มเติมสาขาวิชาใน
หลักสูตรแก่สถานศึกษาอาชีวศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ พร้อมทั้งจัดทำฐานข้อมูล และ
ดำเนนิ การแจง้ สำนักงาน ก.พ. เพ่อื ขอรับรองคุณวุฒิ

10 3 การพัฒนาหลกั สูตรเพ่มิ เติมและการขออนุมตั ิเปดิ สอน

สถานศึกษาดำเนินการศึกษา สำรวจ วิเคราะห์ ทำหนังสือขออนุญาต
พฒั นาสาขาวิชาเพิ่มเตมิ เสนอตอ่ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

เลขาธิการฯ พจิ ารณาอนุญาต
ใหด้ ำเนินการพัฒนาสาขาวิชา

สถานศกึ ษาแต่งตง้ั คณะกรรมการพัฒนาสาขาวิชา
คณะกรรมการดำเนนิ การพัฒนาสาขาวิชา

คณะกรรมการวทิ ยาลัยพจิ ารณา ไมเ่ ห็นชอบ ดำเนินการ
ให้ความเห็นชอบการพัฒนาสาขาวิชา ปรับปรุง/แกไ้ ข

เหน็ ชอบ

สถานศกึ ษาเสนอการพฒั นาสาขาวิชา
ต่อสำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

สมอ. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ไมผ่ า่ น สถานศกึ ษาดำเนนิ การ
ของการพฒั นาสาขาวชิ า ปรับปรุง/แกไ้ ข

ผา่ น ไมเ่ ห็นชอบ

คณะอนุกรรมการฯ พจิ ารณา ไมเ่ หน็ ชอบ
กล่นั กรองการพัฒนาสาขาวชิ า

เหน็ ชอบ

คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษาพิจารณา
ให้ความเห็นชอบการพัฒนาสาขาวิชา

เหน็ ชอบ
สมอ. เสนอเลขาธิการฯ ลงนามในคำส่งั เพ่ิมเติมสาขาวิชา

สมอ. แจง้ การอนมุ ัติเพิ่มเตมิ สาขาวชิ าในหลักสตู รแกส่ ถานศึกษา
หนว่ ยงานที่เกี่ยวข้อง ทำฐานข้อมลู และแจง้ สำนกั งาน ก.พ. เพื่อขอรบั รอง

คุณวุฒิ

แผนภาพที่ 1 แสดงกระบวนการพัฒนาสาขาวชิ าเพิ่มเติม

3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่มิ เติมและการขออนมุ ัติเปิดสอน 11

แนวปฏบิ ตั ิการพัฒนาหลกั สูตรสาขางานเพมิ่ เติม

การพัฒนาหลักสูตรสาขางานเพิ่มเติม เป็นการพัฒนาสาขางานใหม่ที่ยังไม่เคยมีในหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงพุทธศักราชปัจจุบันที่มีการใช้
หลกั สูตร มีข้อพิจารณาและกระบวนการดำเนินการ ดังนี้

• ข้อพจิ ารณาในการพัฒนาหลักสตู รสาขางานเพม่ิ เติม

การพัฒนาหลกั สตู รสาขางานเพ่มิ เติม มขี ้อพิจารณาดังน้ี
1. สาขางานถอื เปน็ งานย่อยภายใต้สาขาวชิ า จึงต้องพจิ ารณาว่าสาขางานที่จะพัฒนาเพ่ิมเติมน้ัน
ควรอยใู่ นหลักสูตรสาขาวชิ าใด โดยต้องสมั พันธก์ ับสาขาวชิ า ไม่ซ้ำซ้อนหรอื ใกล้เคยี งกบั สาขางานทม่ี อี ยู่เดิม
และต้องมีระดับเท่ากันกับสาขางานอื่นในสาขาวิชานั้นด้วย เนื่องจากผู้เรียนต้องมีสมรรถนะพื้นฐานและ
สมรรถนะวชิ าชีพของสาขาวชิ านน้ั ก่อนเลือกเรียนสาขางานภายใตส้ าขาวชิ า
2. การกำหนดมาตรฐานการศึกษาวิชาชพี ของสาขางาน ช่อื สาขางานและรายวชิ าชีพเลือกที่
จะพัฒนาเพิ่มเติมตอ้ งสามารถอิงกับข้อมูลอาชีพ มาตรฐานอาชีพและความต้องการกำลงั คนจากผลการวิจัย
การสำรวจ ขอ้ มลู ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสรมิ การลงทุน สภาอุตสาหกรรมและหรือสภาวชิ าชพี ฯลฯ

ทั้งนี้ กลุ่มรายวิชาชีพเลือกต้องสะท้อนความเป็นสาขางานนั้น ไม่ใช่เกิดจากการนำ
รายวิชาจากสาขางานอื่น ๆ มารวมเป็นสาขางานใหม่ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด นอกจากนี้จะต้องมี
รายวิชาให้เลือกเกินกว่าจำนวนหน่วยกิตทีก่ ลุม่ สมรรถนะวิชาชีพเลือกกำหนดไว้อย่างน้อย 2-3 รายวิชา
โดยควรจัดลำดับรายวิชาที่ควรเรียนก่อน-หลังไว้ด้วย สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่จัดรายวิชาไว้มากเกินไปจน
ไมส่ ะทอ้ นความเป็นสาขางานและไม่สอดคล้องกบั มาตรฐานการศกึ ษาวชิ าชีพของสาขางานที่กำหนดไว้

3. ต้องมีข้อมูลสนับสนุนถึงเหตุผลความจำเป็นเก่ียวกับความต้องการหรือการจ้างงานอาชพี
ทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่เชื่อถือได้ และมีปริมาณเพียงพอต่อการวางแผนและลงทุนผลิตกำลังคน
ในสาขางานที่จะพัฒนาเพิ่มเติม รวมทั้งต้องมีข้อมูลจำนวนความต้องการของผู้ที่จะสมัครเข้าศึกษาที่
แนน่ อนและเพียงพอตอ่ การเปิดสอนสาขางานทจ่ี ะพัฒนาเพ่มิ เตมิ

4. ผู้ท่ีจะพัฒนาหลักสูตรสาขางานเพิ่มเติมต้องมอี ำนาจ หรอื ได้รบั มอบอำนาจ หรอื ได้รับอนุญาต
ตามกฎหมาย ข้อบงั คบั จากองค์กรวชิ าชีพในการจัดการศึกษาหรอื ฝกึ อบรมบุคคลเพ่อื เขา้ สอู่ าชีพนน้ั

5. ต้องมีข้อมูลของสถานศึกษาที่จะเปิดสอนหลักสูตรสาขางานที่จะพัฒนาเพิ่มเติมนั้น
เกี่ยวกับจำนวนและคุณสมบัติ ความรู้ ความชำนาญและความพร้อมของครูผู้สอน ความพร้อมของ
สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ อาคารสถานที่ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ สื่อและแหล่งเรียนรู้สนับสนุน
การจดั การศึกษาท่ีมจี ำนวนเพียงพอ หรือสามารถจัดหามาไดค้ รบเมื่อจะเปิดหลกั สูตร

12 3 การพฒั นาหลกั สตู รเพม่ิ เติมและการขออนุมัตเิ ปดิ สอน

• กระบวนการในการพัฒนาหลกั สูตรสาขางานเพมิ่ เตมิ

กระบวนการในการพัฒนาหลกั สูตรสาขางานเพิ่มเติม มลี ำดับขน้ั ตอนดังน้ี
1. สถานศึกษาอาชวี ศกึ ษาดำเนนิ การศึกษา สำรวจ วเิ คราะห์ความต้องการและความจำเป็น
ในการพัฒนาหลักสูตรสาขางานเพ่ิมเตมิ ในหลกั สูตร ประกอบดว้ ย

1.1 การวิเคราะห์งาน (Job Analysis) หรือการวเิ คราะหห์ น้าท่ี (Functional Analysis)
1.2 การสำรวจความต้องการกำลังคนของชมุ ชน สังคม ตลาดแรงงาน สถานประกอบการ
1.3 การประเมินความพร้อมของสถานศึกษาอาชีวศึกษาในการดำเนินการจัดการเรียน
การสอน ทง้ั ด้านผู้สอน ผ้เู รียนและทรพั ยากรสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน
2. สถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษาดำเนนิ การแตง่ ตัง้ คณะกรรมการพัฒนาหลักสตู รสาขางานเพ่ิมเติม
จากภาครัฐและภาคเอกชน อย่างน้อย 7 คน ประกอบด้วยครู คณาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาน
ประกอบการทม่ี ีความรู้ ความสามารถและประสบการณต์ ามสาขาอาชพี ทง้ั จากภาครฐั และภาคเอกชน
3. สถานศึกษาอาชีวศึกษาดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการเพื่อยกร่างและบรรณาธิการ
หลักสูตรสาขางานที่พฒั นาเพิ่มเติม ทั้งนี้ การกำหนดมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพของสาขางาน และการ
พฒั นารายวชิ าในกลมุ่ สมรรถนะวชิ าชีพเลือกหรือสาขางานต้องมีความสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตาม
ระดับคุณวุฒิ และเป็นไปตามกรอบโครงสร้างหลักสูตร โดยกำหนดรหัสวิชา ชื่อวิชา จำนวนชั่วโมง
จำนวนหน่วยกิต จดุ ประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และคำอธบิ ายรายวิชาตามรูปแบบที่กำหนด
4. สถานศึกษาอาชีวศึกษาเสนอการพัฒนาสาขางานเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการวิทยาลัย
เพือ่ ให้ความเหน็ ชอบ กรณีคณะกรรมการวิทยาลยั พจิ ารณาแล้วไม่เหน็ ชอบ ใหด้ ำเนนิ การปรับปรุงแก้ไข
แล้วนำเสนอใหม่ หากคณะกรรมการวิทยาลัยพิจารณาแล้วเห็นชอบ ให้ดำเนินการเสนอสำนักงาน
คณะกรรมการการอาชวี ศึกษาตอ่ ไป
5. สถานศึกษาอาชีวศึกษาเสนอเอกสารหลักสูตรสาขางานที่พัฒนาเพิ่มเติม พร้อมแผน-
การเรียน สำเนาคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาสาขางาน สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการ
วิทยาลัยที่เห็นชอบการพัฒนาสาขางาน และรายงานผลการศึกษาความต้องการและความจำเป็นในการ
พฒั นาสาขางานเพิม่ เตมิ ต่อสำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา เพ่อื เขา้ สูก่ ระบวนการพจิ ารณาอนุมัติ
6. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพจัดประชุมคณะทำงานกลั่นกรองการพัฒนา
รายวิชาหรือกลุ่มวิชาเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องในการพัฒนาสาขางานเพิ่มเติม
ในหลักสูตร กรณีคณะทำงานกลั่นกรองการพัฒนารายวิชาหรือกลุ่มวิชาเพิ่มเติมพิจารณาแล้วพบ
ข้อบกพร่อง ให้ดำเนินการส่งคืนสถานศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องแล้วนำเสนอใหม่
หากตรวจสอบแล้วถกู ต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ให้ดำเนนิ การตามขน้ั ตอนต่อไป

3 การพัฒนาหลกั สูตรเพม่ิ เตมิ และการขออนุมัตเิ ปดิ สอน 13

7. สำนกั มาตรฐานการอาชวี ศึกษาและวชิ าชีพเสนอเลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เพื่อทราบ อนมุ ัติและลงนามในคำสั่งเพ่มิ เติมสาขางานในหลักสตู ร

8. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพทำหนังสือแจ้งการเพิ่มเติมสาขางานใน
หลกั สตู รแก่สถานศกึ ษาอาชวี ศึกษาและหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งทราบ พรอ้ มท้ังจัดทำฐานข้อมูล

สถานศกึ ษาดำเนินการศึกษา สำรวจ วิเคราะห์
สาขางานที่ต้องการพฒั นาเพิ่มเตมิ ในหลักสตู ร

สถานศกึ ษาแต่งตงั้ คณะกรรมการพัฒนาสาขางาน

คณะกรรมการดำเนนิ การพฒั นาสาขางาน

คณะกรรมการวทิ ยาลยั พิจารณา ไมเ่ หน็ ชอบ ดำเนินการ
ให้ความเห็นชอบการพัฒนาสาขางาน ปรบั ปรุง/แก้ไข

เหน็ ชอบ

สถานศึกษาเสนอการพัฒนาสาขางาน
ตอ่ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

คณะทำงานกลัน่ กรองฯ พจิ ารณา ไมผ่ ่าน สถานศึกษาดำเนนิ การ
การพัฒนาสาขางาน ปรับปรุง/แกไ้ ข

ผ่าน

สมอ. นำเสนอเลขาธกิ ารฯ ลงนาม
ในคำส่ังเพ่มิ เตมิ สาขางาน

สมอ. แจ้งการอนมุ ัติเพิ่มเตมิ สาขางานในหลักสตู รแก่สถานศึกษา
และหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ ง พร้อมท้ังจัดทำฐานข้อมลู

แผนภาพท่ี 2 แสดงกระบวนการพฒั นาสาขางานเพมิ่ เตมิ

14 3 การพัฒนาหลกั สตู รเพิม่ เติมและการขออนมุ ตั ิเปิดสอน

แนวปฏิบตั ิในการพฒั นาหลกั สตู รรายวิชาเพม่ิ เตมิ

การพัฒนารายวชิ าในหลกั สูตรมี 2 กรณี คือ การปรับปรงุ เพ่ิมเติมรายละเอียดของรายวิชาทมี่ ี
อยู่แล้วในหลักสูตร และการพัฒนารายวิชาใหม่เพิ่มเติมในหลักสูตร โดยมีข้อพิจารณาและกระบวนการ
ดำเนินการ ดังนี้

• กรณปี รบั ปรงุ เพ่ิมเติมรายละเอียดของรายวชิ าทม่ี ีอยแู่ ล้วในหลกั สตู ร

การปรบั ปรุงเพิ่มเติมรายละเอยี ดของรายวชิ า มีขอ้ พิจารณาและกระบวนการ ดงั น้ี
1. สามารถดำเนินการได้ทุกรายวิชาในหลักสูตร โดยครูผู้สอนต้องวิเคราะห์เหตุผลและ
ความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงเพิ่มเติมรายละเอียดของรายวิชาให้ทันสมัยหรือสอดคล้องกับการ
เปล่ยี นแปลงทเ่ี กดิ ขึ้น ท้ังนี้ ต้องพจิ ารณาใหเ้ หมาะสมกับระดับของหลักสูตรและไมซ่ ำ้ ซอ้ นกับรายวิชาอื่น
2. สามารถดำเนินการเพิ่มเติมรายละเอียดของรายวิชาได้ในแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา
เท่านั้น ไม่สามารถแก้ไข เพิ่มเติมหรือตัดทอนรายละเอียดของรายวิชาในส่วนของจุดประสงค์รายวิชา
สมรรถนะรายวิชาและคำอธิบายรายวิชา รวมทั้งไม่สามารถปรับเปล่ียนรหัสวิชา ชื่อวิชา เวลาเรียนและ
จำนวนหนว่ ยกิตของรายวชิ า เนอื่ งจากหลักสตู รไดร้ ับการอนุมัติ ประกาศใชแ้ ละรบั รองคณุ วุฒแิ ล้ว
3. รายละเอยี ดของรายวชิ าที่พัฒนาเพ่มิ เตมิ ในแผนการจัดการเรียนรูร้ ายวชิ าท่ีสอน สามารถ
ทำได้โดยการเพิ่มหน่วยการเรียนรู้ หัวข้อการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้รายหน่วย สมรรถนะประจำ
หน่วย และหรือสาระการเรียนรู้
4. ครูผสู้ อนนำเสนอเหตผุ ลความจำเปน็ และรายละเอยี ดของรายวชิ าทม่ี ีการปรับปรงุ เพิม่ เตมิ
ต่อผู้อำนวยการสถานศกึ ษาเพือ่ พจิ ารณาให้ความเห็นชอบตามลำดับขนั้ ตอน

• กรณพี ฒั นาหลกั สตู รรายวชิ าใหม่เพม่ิ เติมในหลกั สูตร

ข้อพจิ ารณาในการพัฒนาหลกั สูตรรายวิชาใหมเ่ พม่ิ เติมในหลักสูตร

การพฒั นาหลกั สตู รรายวชิ าใหม่เพ่ิมเตมิ ในหลกั สูตร มีข้อพิจารณาดังน้ี
1. การพัฒนารายวิชาเพิ่มเติมในหลักสูตร ต้องเป็นการพัฒนารายวิชาใหม่ที่ยังไม่เคยมี
ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงพุทธศักราชปัจจุบันที่มี
การใช้หลกั สตู ร และตอ้ งไม่ซ้ำซ้อนหรอื ใกล้เคยี งกับรายวิชาเดิมทม่ี ีอยู่ในหลกั สูตร
2. สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันที่มีความประสงค์จะพัฒนารายวิชาเพิ่มเติมในหลักสูตร
จะต้องศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างหลักสูตรว่าสามารถดำเนินการได้ในหมวดวิชา และกลุ่มหรือ
กล่มุ วชิ าใด ดังน้ี

3 การพัฒนาหลกั สตู รเพิ่มเติมและการขออนุมัติเปดิ สอน 15

2.1 หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถพัฒนา
รายวิชาเพ่ิมเติมในแต่ละกลมุ่ วชิ า เพือ่ เลือกเรียนนอกเหนอื จากรายวิชาท่กี ำหนดใหเ้ ปน็ วิชาบงั คบั ได้ โดย
สามารถพัฒนาเป็นรายวิชาหรือลักษณะบูรณาการ ผสมผสานเนื้อหาวชิ าที่ครอบคลุมสาระของกลุ่มวิชา
ภาษาไทย กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ กลุ่มวิชาวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวิชาสังคมศึกษา
(ระดับ ปวช.) หรือกลุ่มวิชามนุษยศาสตร์ (ระดับ ปวส.) กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา (ระดับ ปวช.)
หรือกลุ่มวิชามนุษยศาสตร์ (ระดับ ปวส.) ในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากมาตรฐานการเรียนรู้
ของกลมุ่ วชิ าน้ัน ๆ เพอ่ื ใหบ้ รรลจุ ดุ ประสงคข์ องหมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง

2.2 หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถพัฒนา
รายวิชาเพิ่มเติมได้เฉพาะในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก ตามความต้องการของสถานประกอบการหรือ
ยุทธศาสตร์ของภูมิภาคเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาให้
สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์สาขาวิชาและสมรรถนะวชิ าชีพสาขางาน

2.3 หมวดวิชาเลือกเสรี สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถพัฒนารายวิชา
เพิ่มเติมได้ ตามความต้องการของสถานประกอบการ ชุมชน ท้องถิ่น หรือยุทธศาสตร์ของภูมิภาคเพื่อ
เพม่ิ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ และหรือเพื่อการศกึ ษาตอ่

3. ต้องมีข้อมูลสนับสนุนถึงเหตุผลความจำเป็นเกี่ยวกับความต้องการหรือความจำเป็นที่เชื่อถือ
ได้ และหากเป็นรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับข้อบังคับขององค์กรวิชาชีพหรือสภาวิชาชีพ ต้องได้รับอนุญาตตาม
กฎหมายก่อน

4. ต้องมีข้อมูลความพร้อมของสถานศึกษาที่จะเปิดสอนหลักสูตรรายวิชาที่พัฒนาเพิ่มเติมนั้น
เกี่ยวกับจำนวน คุณสมบัติ ความรู้ ความชำนาญและความพร้อมของครูผู้สอน ความพร้อมของสิ่งอำนวย-
ความสะดวก ได้แก่ อาคารสถานท่ี เครือ่ งมอื วัสดุ อุปกรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้สนบั สนนุ การจัดการศึกษาท่ีมี
จำนวนเพยี งพอ

5. การเขียนรายละเอียดของรายวิชาต้องมีองค์ประกอบตามรูปแบบและเกณฑ์ท่ีกำหนด
ประกอบด้วย รหัสวิชา ชื่อวิชา เวลาเรียนภาคทฤษฎี-เวลาเรียนภาคปฏิบัติ-หน่วยกิต (ท-ป-น) จุดประสงค์
รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและคำอธบิ ายรายวชิ า

6. การกำหนดรหัสวิชาต้องเป็นไปตามที่หลักสูตรกำหนด คือ รหัสรายวิชาที่สถานศึกษา
อาชวี ศึกษาหรือสถาบันพัฒนาเพ่ิมเติมในหลักสูตร ต้องใช้สญั ลักษณ์ “ดอกจัน” (*) แทนสัญลักษณ์ “ขีด” (-)
ส่วนลำดับที่ของรายวิชาที่พัฒนาเพิ่มเติมนั้น (ตัวเลขรหัสวิชาลำดับที่ 8-9) ให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือ
สถาบันแต่ละแห่งเริ่มต้นตั้งแต่รายวิชาลำดับที่ 01 ไปตามลำดับและจัดทำฐานข้อมูลไว้ให้เป็นระบบ
ตวั อย่างเชน่ 20000*1101, 20101*2201, 20101*2202

16 3 การพฒั นาหลกั สตู รเพิ่มเตมิ และการขออนมุ ตั ิเปดิ สอน

กระบวนการในการพฒั นาหลกั สตู รรายวิชาเพ่มิ เติม

กระบวนการในการพัฒนารายวชิ าเพ่ิมเติมในหลกั สูตร มลี ำดบั ข้ันตอนดังนี้
1. สถานศึกษาอาชีวศึกษาดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนารายวิชา โดยคัดเลือกจาก ครู
คณาจารย์ หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในรายวิชาที่ต้องการพฒั นาเพิม่ เติมใน
หลกั สตู ร
2. สถานศึกษาอาชีวศึกษาจัดประชุมคณะกรรมการเพื่อดำเนินการพัฒนารายวิชาเพิ่มเติม โดย
จัดทำรายละเอียดของรายวิชา ประกอบด้วยการกำหนดรหัสวิชา ชื่อวิชา จำนวนชั่วโมง จำนวนหน่วยกิต
จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และคำอธบิ ายรายวิชา
3. สถานศึกษาอาชีวศึกษาเสนอการพัฒนารายวิชาเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการวิทยาลัยเพื่อให้
ความเห็นชอบ กรณีคณะกรรมการวิทยาลัยพิจารณาแล้วไม่เห็นชอบ ให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง
แลว้ นำเสนอเขา้ มาอกี คร้ัง หากคณะกรรมการวทิ ยาลยั พิจารณาแลว้ เห็นชอบ ใหด้ ำเนินการตามขน้ั ตอนตอ่ ไป
4. สถานศึกษาอาชีวศึกษาเสนอการพัฒนารายวิชาเพิ่มเติมให้สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษา
และวิชาชีพพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องของการพฒั นารายวชิ าในหลักสูตร ท้ังน้ี ต้องระบุรายละเอียดของ
รายวิชาที่ต้องการพัฒนาเพิ่มเติมให้ชัดเจนว่าได้ดำเนินการพัฒนารายวิชาเพิ่มเติมในหลักสูตร ประเภทวิชา
สาขาวชิ า หมวดวิชาและกลุ่ม/กล่มุ วชิ าใด
5. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพดำเนินการจัดประชุมคณะทำงานกลั่นกรองการ
พัฒนารายวิชาหรือกลุ่มวิชาเพิ่มเติม พิจารณาตรวจสอบความถูกต้องของการพัฒนารายวิชาในหลักสูตร
ประกอบด้วย การกำหนดรหัสวิชา ชื่อวิชา จำนวนชั่วโมง จำนวนหน่วยกิต จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะ
รายวิชา และคำอธิบายรายวิชา กรณีตรวจสอบในเบื้องต้นแล้วพบข้อบกพร่อง ให้สถานศึกษาอาชีวศึกษา
ดำเนินการปรับปรงุ แก้ไข หากไมพ่ บขอ้ บกพรอ่ งให้ดำเนนิ การในข้นั ตอนต่อไป
6. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพทำหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบ
ความถูกต้องของการพัฒนารายวิชาให้สถานศึกษาอาชีวศกึ ษาทราบ
7. ผอู้ ำนวยการสถานศึกษาอาชวี ศึกษาลงนามในคำสัง่ เพมิ่ เติมรายวิชาในหลักสตู ร
8. สถานศึกษาอาชีวศึกษารายงานการพัฒนารายวิชาเพิ่มเติมให้สำนักงานคณะกรรมการ
การอาชีวศึกษาทราบ โดยตอ้ งแนบเอกสารสำเนาคำส่ังแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนารายวิชา และสำเนาคำสั่ง
เพิม่ เตมิ รายวชิ าในหลักสตู ร พรอ้ มท้งั จัดเกบ็ ข้อมลู การพัฒนารายวชิ าในฐานข้อมลู สถานศึกษา
9. สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพทำหนังสือเสนอเลขาธิการคณะกรรมการ
การอาชีวศกึ ษาเพอ่ื ทราบ พร้อมท้งั จดั ทำฐานข้อมูล

3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่มิ เตมิ และการขออนมุ ตั ิเปดิ สอน 17

สถานศกึ ษาดำเนินการศึกษา สำรวจ วิเคราะห์ ไม่เห็นชอบ ดำเนินการ
รายวิชาทตี่ อ้ งการพฒั นาเพม่ิ เติมในหลกั สูตร ปรบั ปรุง/แก้ไข

สถานศกึ ษาแตง่ ต้ังคณะกรรมการพัฒนารายวิชา

คณะกรรมการดำเนนิ การพฒั นารายวชิ า

คณะกรรมการวิทยาลยั พิจารณา
ให้ความเหน็ ชอบการพัฒนารายวิชา

เห็นชอบ
สถานศกึ ษาเสนอการพัฒนารายวิชา

ให้ สมอ. ตรวจสอบความถูกต้อง

คณะทำงานฯ ตรวจสอบ พบข้อบกพร่อง สถานศกึ ษาดำเนินการ
ความถูกต้องของการพฒั นารายวิชา ปรบั ปรุง/แกไ้ ข

ไมพ่ บข้อบกพรอ่ ง
สมอ. แจ้งผลการตรวจสอบความถูกต้อง
ของการพฒั นารายวิชาใหส้ ถานศึกษาทราบ

ผู้อำนวยการสถานศึกษาลงนาม
ในคำส่ังเพิ่มเติมรายวิชาในหลักสตู ร

สถานศกึ ษารายงานการพัฒนารายวิชาให้ สอศ. ทราบ
และจดั ทำฐานขอ้ มลู

สมอ. ทำหนังสอื เสนอเลขาธิการฯ เพ่อื ทราบ
และจดั เก็บข้อมลู การพัฒนารายวิชาในฐานข้อมูล

แผนภาพท่ี 3 แสดงแนวปฏิบตั ิการพฒั นารายวชิ าเพิม่ เตมิ ในหลกั สตู ร

18 3 การพฒั นาหลกั สตู รเพมิ่ เติมและการขออนุมัติเปดิ สอน

สรปุ การดำเนนิ การพัฒนาหลักสตู รเพิ่มเติม

การดำเนนิ การ หลักสูตร หลกั สตู ร หลักสตู ร
สาขาวิชา สาขางาน รายวิชา
 ศึกษา สำรวจ วิเคราะห์ข้อมลู ความต้องการและความจำเป็นใน
การพฒั นาหลักสูตรเพิ่มเตมิ ✓ ✓ ✓

 ขออนุญาต สอศ. เพอื่ พฒั นาหลักสตู รเพิม่ เติม ✓ - -
 แต่งต้ังคณะกรรมการพฒั นาหลักสตู รเพ่มิ เติม ✓ ✓ ✓
 จดั ประชมุ คณะกรรมการพัฒนาหลกั สตู รเพิ่มเตมิ ✓ ✓ ✓
 ขอความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการวิทยาลัย ✓ ✓ ✓
 ตรวจสอบความถูกต้อง โดยสำนักมาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา
✓ ✓ ✓
และวิชาชพี
 กลัน่ กรองหลกั สูตร โดยคณะอนกุ รรมการการอาชวี ศกึ ษา ✓ - -
 ตรวจสอบความถกู ต้อง โดยคณะทำงานกลนั่ กรองฯ - ✓ ✓
 เหน็ ชอบหลกั สูตร โดยคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ✓ - -
 อนมุ ตั หิ ลกั สูตรเพม่ิ เตมิ โดยเลขาธิการการอาชวี ศกึ ษา ✓ ✓ -
 อนมุ ตั หิ ลกั สูตรเพิ่มเตมิ โดยผูอ้ ำนวยการสถานศกึ ษา - - ✓
 รายงานการพัฒนาหลกั สูตรเพม่ิ เตมิ ให้ สอศ. ทราบ - - ✓
 แจง้ ผลใหส้ ถานศกึ ษาและหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วขอ้ งทราบ ✓ ✓ ✓
 แจ้งสำนักงาน ก.พ. เพอ่ื ขอรับรองคุณวฒุ ิ ✓ ✓ -
 จัดทำฐานข้อมูล ✓ ✓ ✓

3 การพฒั นาหลกั สูตรเพม่ิ เตมิ และการขออนุมัตเิ ปิดสอน 19

แนวปฏบิ ัติในการเปิดสอนและขออนมุ ัติเปิดสอนหลกั สูตร

ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา พ.ศ. 2552
ข้อ 12 วรรคสอง กำหนดว่า “แผนกวิชาชีพให้เปิดทำการสอนตามความต้องการของตลาดแรงงาน
สภาพเศรษฐกิจ ท้องถิ่นและผู้เรียน และตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กำหนด ในกรณีที่แผนกวิชาใดไม่มีความจำเป็นต้องเปิดทำการสอนในสถานศึกษาอาชีวศึกษาต่อไป ให้
ดำเนินการยุบ เลิกแผนกวิชานั้น” และข้อ 12 วรรคสาม กำหนดว่า “การเปิดสอนแผนกวิชาใหม่และการ
ยุบ เลิกแผนกวิชาชีพ ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อำนวยการวิทยาลัยโดยความเห็นชอบจากคณะ-
กรรมการบรหิ ารสถานศกึ ษา”

อยา่ งไรก็ตาม ภารกิจของสถานศกึ ษาอาชีวศึกษาโดยทว่ั ไปจะจดั การเรยี นการสอนเฉพาะทาง
ตามประเภทของสถานศกึ ษา เช่น กลุ่มสถานศกึ ษาประเภทวทิ ยาลยั เทคนิคจะเปิดสอนด้านอุตสาหกรรม
กลุ่มสถานศึกษาประเภทวิทยาลัยอาชีวศึกษาจะเปิดสอนด้านธุรกิจและบริการ และกลุ่มสถานศึกษา
ประเภทวทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีจะเปิดสอนดา้ นเกษตรกรรมและประมง เปน็ ต้น เมอื่ มีการพัฒนา
หลักสูตรพุทธศักราชใหม่ ก็สามารถเปิดสอนในประเภทวิชา สาขาวิชาและสาขางานที่เคยเปิดสอนใน
หลักสูตรระดับนั้น ๆ ต่อไปได้ แต่หากเป็นหลักสูตรสาขาวิชาหรือสาขางานที่สถานศึกษายังไม่เคยเปิด
สอน ก็จะต้องพิจารณาถึงเหตผุ ลความจำเป็น ความต้องการ รวมทั้งความพร้อมและศักยภาพ ตลอดจน
ต้องดำเนินการขออนุมัติเปิดสอนให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อนเปิดรับสมัครและเปิดทำการสอน ซึ่งจะได้มี
การจดั เขา้ สารบบและฐานขอ้ มลู ทีเ่ กีย่ วข้องดว้ ย

ดังนั้น เพื่อให้การผลิตและพฒั นากำลังคนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและ
การประกอบอาชีพอิสระ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการ
พัฒนาคุณภาพการจัดการอาชีวศึกษาและการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาของสถานศึกษา
อาชีวศึกษาหรือสถาบัน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจึงกำหนดหลักเกณฑ์ในการเปิดสอน
และแนวปฏิบัตใิ นการขออนุมัติเปดิ สอนหลักสูตรการอาชวี ศึกษาไว้ดังต่อไปน้ี

• หลักเกณฑใ์ นการเปดิ สอนหลักสตู รของสถานศึกษา

หลกั เกณฑใ์ นการเปดิ สอนหลักสูตรการอาชวี ศึกษาของสถานศกึ ษา มดี ังน้ี
1. หลักสูตรท่ีเปิดสอนต้องสอดคล้องกับแผนการผลิตนักเรียน นักศึกษา ตามนโยบายของ
สํานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา และความตอ้ งการกําลงั คนของตลาดแรงงาน สังคมและชุมชน
2. หลกั สูตรท่ีเปิดสอนต้องผา่ นความเห็นชอบจากคณะกรรมการบรหิ ารสถานศกึ ษา

20 3 การพัฒนาหลกั สูตรเพม่ิ เติมและการขออนุมัตเิ ปดิ สอน

3. หลักสูตรที่เปิดสอนต้องผา่ นความเห็นชอบจากคณะกรรมการอาชีวศึกษาจงั หวัดตามเขต
พื้นทีบ่ ริการของสถานศึกษา โดยหลักสตู รที่เปิดสอนตอ้ งไม่เปน็ สาขาวิชาที่ซ้ำซ้อนกบั สถานศึกษาในเขต
พื้นท่บี รกิ ารเดยี วกนั ทัง้ นี้ ใหเ้ ปน็ ไปตามดลุ พินิจของคณะกรรมการอาชวี ศึกษาจังหวดั

4. สถานศึกษาหรือสถาบันการอาชีวศึกษาต้องมีศักยภาพและความพร้อมในการเปิด
ดําเนนิ การสอนตามหลักสตู ร ทงั้ ดา้ นผสู้ อน ทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนและปัจจัยเกื้อหนุนอืน่ ๆ

• แนวปฏิบัติในการขอเปดิ สอนหลักสูตรของสถานศกึ ษา

ในการเปดิ สอนหลักสูตรอาชวี ศึกษา สถานศกึ ษาควรทราบแนวปฏิบตั ิในการขอเปดิ สอนหลักสูตร
ตามทส่ี ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากำหนด ดังตอ่ ไปน้ี

1. สถานศกึ ษาจะขออนุมัตเิ ปดิ สอนได้เฉพาะสาขาวิชาและหรือสาขางานท่มี ีในหลกั สตู รปัจจุบัน
2. สถานศึกษาเปิดสอนหลักสูตรสาขาวิชานั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องดำเนินการขออนุมัติเปิดสอน
สาขาวิชาน้ันอกี
3. สถานศึกษาที่ได้เปิดสอนสาขาวิชาและสาขางานในหลักสูตรอยู่แล้ว แต่ประสงค์จะเปิด
สอนสาขางานเพิ่มภายใต้สาขาวิชานั้น ให้ดำเนินการขออนมุ ัติเปิดสอนต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา และ
แจ้งผลการขออนมุ ตั ิเปดิ สอนใหส้ ำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษาทราบดว้ ย
4. สถานศกึ ษาท่ีประสงคจ์ ะเปิดสอนหลกั สูตรสาขาวชิ าที่ยังไมเ่ คยเปดิ สอน หรอื เคยเปิดสอน
แล้วแต่ระงับการจัดการเรียนการสอนต่อเนื่องกันเป็นเวลาเกินกว่า 5 ปีการศึกษา ต้องทำโครงการขอ
อนุมตั ิเปดิ สอนสาขาวิชานนั้ ต่อสำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
5. สถานศึกษาท่ีพัฒนาสาขาวิชาใหม่เพิ่มเติมในหลักสูตร ต้องเสนอขออนุมัติหลักสูตรให้
เสรจ็ สิ้นก่อน แลว้ จงึ ดำเนินการขออนุมัตเิ ปิดสอนสาขาวชิ าใหม่
6. สถานศึกษาท่ีพัฒนาสาขางานใหม่เพิ่มเติมในหลักสูตรสาขาวิชาที่เปิดสอนอยู่แล้ว เม่ือ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาไดม้ ีคำสง่ั ใหเ้ พมิ่ หลักสูตรสาขางานนน้ั ในหลักสูตร สถานศกึ ษาที่
ประสงคจ์ ะเปดิ สอนสาขางานน้ัน ให้ดำเนนิ การขออนุมตั เิ ปิดสอนตามข้อ 3
7. สถานศึกษาต้องดำเนินการขออนุมัติเปิดสอนหลักสูตรตามขั้นตอนที่กำหนดและยื่นขอ
อนมุ ัติตอ่ สาํ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษาก่อนเปดิ ภาคเรียนท่ี 1 ของปกี ารศกึ ษาที่จะดําเนินการ
เปิดสอน ไม่น้ อยกว่า 120 วนั นับต้งั แต่วันทส่ี าํ นักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษาไดรบั เรื่อง
8. ใหค้ ณะกรรมการอาชีวศึกษาจังหวดั พิจารณาให้ความเหน็ ชอบการขออนมุ ัติเปิดสอนตาม
แบบประเมินความพร้อมและศักยภาพในการขออนุมัติเปิดสอนที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กำหนด

3 การพัฒนาหลกั สูตรเพม่ิ เติมและการขออนุมตั เิ ปดิ สอน 21

อนึ่ง แนวปฏิบัตินี้ใช้สำหรับการจัดการศึกษาในระบบแบบเต็มเวลา หากสถานศึกษาใด
จำเป็นต้องขออนุมัติเปิดสอนหลักสูตรด้วยระบบหรือรูปแบบอื่น ให้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติข้างต้น
โดยยดึ มาตรฐานการจดั การศึกษาท่เี กี่ยวข้องควบคดู่ ้วย

• ข้นั ตอนการขออนมุ ัติเปดิ สอนของสถานศกึ ษา

การขออนมุ ัตเิ ปดิ สอนหลักสูตรของสถานศึกษา มีข้นั ตอนในการดำเนนิ การดังนี้

1. การสำรวจรวบรวมขอ้ มูลเพื่อเปน็ เหตผุ ลสนบั สนุนในการขออนุมัติเปดิ สอน ซงึ่ ไดแ้ ก่
1.1 ข้อมลู ความตอ้ งการของตลาดแรงงาน สถานประกอบการ สังคมและหรือชุมชน ท่ีจะ

รว่ มจดั การอาชีวศึกษาในสาขาวิชาท่เี ปดิ สอน
1.2 ข้อมูลโอกาสการมีงานทำ ความต้องการกำลังคนและแหล่งงานในชุมชนท้องถิ่น

ตลอดจนความสอดคล้องกับนโยบายและทศิ ทางการพฒั นาสงั คมและประเทศ
1.3 ข้อมลู ความตอ้ งการของกล่มุ เป้าหมายท่จี ะรับเขา้ ศกึ ษาในหลักสูตรทจี่ ะเปิดสอน และ

ข้อมลู การศึกษาต่อในระดบั ทส่ี ูงขึน้ ในสาขาวิชาทจ่ี ะเปดิ สอน
1.4 ขอมูลสาขาวชิ าทเี่ ปดสอนของสถานศึกษาในเขตพ้นื ทบี่ ริการเดียวกัน โดยสาขาวิชท่ี

จะขออนุมตั ิเปดสอนน้นั ตอ งไมซ่ ้ำซอ นกบั ทีส่ ถานศึกษาอนื่ ในเขตพ้นื ทีบ่ ริการเดียวกันเปิดสอน

2. การจัดทำรายงานเหตุผลความจำเป็นในการขออนุมัติเปิดสอนประกอบเอกสาร
“โครงการขออนมุ ตั เิ ปิดสอน” โดยจัดทำรปู เล่มตามแบบฟอรม์ ในภาคผนวก ประกอบดว้ ยหัวข้อตอ่ ไปนี้

2.1 ช่อื โครงการ
2.2 ช่ือหลักสตู รทข่ี ออนมุ ตั เิ ปดิ สอน
2.3 ชื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยระบุชื่อคณะวิชา/แผนกวิชา หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ
หลักสตู ร
2.4 ความสําคัญของปัญหา/หลักการและเหตุผล โดยระบุหลักการและเหตุผลความ
จาํ เป็นของการขออนมุ ตั ิเปดิ สอนหลกั สตู รดังกล่าว และหรือปัญหาอปุ สรรคที่เกดิ ขึน้ หากไม่ได้ดําเนินการ
เปิดสอน โดยอา้ งองิ ข้อมูลจากรายงานเหตผุ ลความจำเป็นในการขออนมุ ตั ิเปดิ สอน
2.5 วัตถุประสงคข์ องโครงการ
2.6 ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั
2.7 กาํ หนดการเปิดสอน

22 3 การพัฒนาหลกั สูตรเพ่ิมเตมิ และการขออนมุ ตั เิ ปิดสอน

2.8 ครผู ้สู อน โดยจําแนกเปน็ ครผู ู้สอนประจําหลักสูตร อาจารย์พิเศษหรือผู้ทรงคุณวุฒิ และ
ครูผู้สอนสาขาวิชาอ่ืนที่เกีย่ วข้อง ระบุช่อื ตําแหนง่ ทางวิชาการ วฒุ ิการศกึ ษาและสาขาวชิ าเอกทีส่ ำเร็จการศึกษา
และอาจจำเปน็ ตอ้ งเสนอข้อมลู ภาระการสอนทงั้ ทม่ี ีอยูแ่ ล้วและทจ่ี ะมีในหลกั สตู รที่เปดิ สอนใหม่ด้วย

2.9 จํานวนนกั เรียน นักศึกษา โดยระบจุ าํ นวนนักเรียน นักศึกษาที่จะรับเขา้ ศึกษาและท่ี
คาดว่าจะสําเร็จการศกึ ษาในระยะเวลา 5 ปี นบั จากปกี ารศึกษาท่ีจะเรมิ่ เปิดดาํ เนนิ การ

2.10 ทรัพยากรประกอบการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่
2.10.1 อาคารสถานที่ โดยระบอุ าคารสถานทท่ี ีจ่ ดั เตรยี มไว้สำหรับใช้ในการจัดการ

เรียนการสอนในสาขาวิชาที่ขออนุมัติเปิดสอน ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงความสอดคล้องและเหมาะสมกับ
จำนวนผเู้ รยี นและการจดั การเรียนรใู้ นสาขาวิชานนั้

2.10.2 ครุภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ประกอบการสอน โดยระบุรายละเอียดของ
ครุภัณฑ์และอุปกรณ์การสอนตามมาตรฐานครุภัณฑ์ขั้นพื้นฐานที่สอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชาในสาขาวชิ าทขี่ ออนมุ ตั ิเปิดสอน ท้งั ทม่ี อี ยู่แล้วและท่ีตอ้ งการเพมิ่ ในอนาคต

2.11 แผนงบประมาณรายจ่าย โดยประมาณการแผนงบประมาณรายจ่ายเฉพาะในสว่ นท่ี
เก่ียวขอ งกบั สาขาวิชาทข่ี ออนมุ ตั เิ ปิดสอนในระยะเวลา 5 ปี นับจากปก ารศกึ ษาทจี่ ะเริม่ เปด ดําเนินการ
โดยแยกรายละเอียด ดังน้ี

2.11.1 งบบคุ ลากร โดยระบุคาจางชว่ั คราว (ครูจางสอน) และหรือคา ตอบแทน
พนักงานราชการ เฉพาะในสว นทเี่ กีย่ วขอ งกับสาขาวิชาทีข่ ออนุมตั ิเปดสอน

2.11.2 งบดําเนินงาน โดยระบคุ าตอบแทน คา ใชส อย คาวสั ดุและคา สาธารณปู โภค
เฉพาะในสว นท่เี ก่ยี วขอ งกบั สาขาวชิ าที่ขออนมุ ตั ิเปดสอน

2.11.3 งบลงทนุ โดยระบคุ าครภุ ัณฑและหรอื คา ท่ีดนิ และสง่ิ กอสรางเฉพาะในสว น
ท่เี กีย่ วของกบั สาขาวิชาทข่ี ออนุมัตเิ ปด สอน

2.11.4 คาใชจ า ยเฉลี่ยตอ หัว โดยคาํ นวณจากยอดรวมงบประมาณในแตละปการ
ศึกษา จากขอ 2.11.1 - 2.11.3 แลว นาํ มาหารดว ยจาํ นวนนักเรียน นกั ศกึ ษาทั้งหมดในสาขาวชิ าทีข่ อ
อนุมตั ิเปดิ สอน

2.12 ความรว่ มมือกับสถานประกอบการ โดยระบุชื่อของสถานประกอบการ ลักษณะการ
ดำเนนิ งานของกจิ การ ทีอ่ ยแู่ ละจำนวนนกั เรยี น นักศกึ ษาทีร่ บั เข้าฝึกงานและหรือฝกึ อาชีพในหลักสูตรที่
ขอเปดิ สอน

2.13 แผนการเรยี นตลอดหลกั สตู รทข่ี อเปดิ สอน

3 การพฒั นาหลกั สูตรเพ่ิมเตมิ และการขออนุมตั ิเปิดสอน 23

3. การขออนุมัติเปดิ สอน ใหส้ ถานศกึ ษาดำเนินการดังนี้
3.1 เสนอรายงานเหตุผลความจำเป็นและโครงการขออนุมัติเปิดสอน ให้คณะกรรมการ

บรหิ ารสถานศึกษาพิจารณาใหค้ วามเห็นชอบ
3.2 เสนอรายงานเหตุผลความจำเปน็ และโครงการขออนมุ ัติเปิดสอนท่ผี ่านความเหน็ ชอบ

จากคณะกรรมการบรหิ ารสถานศกึ ษา ให้คณะกรรมการอาชวี ศึกษาจังหวดั พิจาณาใหค้ วามเหน็ ชอบ ตาม
แบบประเมินความพรอมและศกั ยภาพในการขออนุมัตเิ ปดสอน

3.3 เสนอเอกสารโครงการขออนุมัติเปิดสอนที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ-
อาชวี ศึกษาจงั หวดั ตอ่ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษาเพ่อื พิจารณาอนมุ ัตเิ ปิดสอน ประกอบดว้ ย

3.3.1 หนังสือราชการนำเรียนเลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ขออนมุ ัติเปิดสอน
หลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ/ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช .. ประเภทวิชา ..
สาขาวิชา ..

3.3.2 โครงการขออนุมัตเิ ปิดสอน จาํ นวน 2 เลม่
3.3.3 รายงานความจาํ เปน ในการขออนุมตั ิเปดสอน
3.3.4 สําเนารายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาที่มีมติเห็นชอบให้

เปิดสอนหลกั สตู รน้นั
3.3.5 สาํ เนารายงานการประชมุ คณะกรรมการอาชวี ศกึ ษาจังหวัดที่มมี ตเิ หน็ ชอบให

เปด สอนหลกั สูตรนนั้
3.3.6 แบบประเมนิ ความพรอมและศกั ยภาพในการขออนุมตั เิ ปดสอน
3.3.7 เอกสารประกอบอ่ืนหรือท่ีอางถึง (ถาม)ี โดยใหจัดทาํ เปนเอกสารผนวกแนบ

ทา ยเอกสารโครงการขออนุมตั ิเปด สอน

• ขัน้ ตอนการอนุมัติใหส้ ถานศึกษาเปดิ สอน

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะพิจารณาการขออนุมัติเปิดสอน ของสถานศึกษา
ตามลำดบั ขน้ั ตอนดงั นี้

1. สำนักมาตรฐานการอาชวี ศึกษาและวชิ าชพี ดำเนนิ การพจิ ารณาเอกสารโครงการขออนุมัติ
เปิดสอนของสถานศึกษา หากเอกสารไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่สมบูรณ์ จะแจ้งสถานศึกษาเพ่ือ
ดำเนนิ การปรบั ปรุงแกไ้ ข

กรณีตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และสถานศึกษามีศักยภาพ
และความพร้อมในการเปิดดำเนินการสอนตามหลักสูตร สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพจะ
ดำเนินการนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษาเพื่อพจิ ารณาอนุมตั เิ ปิดสอนต่อไป

24 3 การพฒั นาหลกั สูตรเพิ่มเตมิ และการขออนุมัติเปดิ สอน

2. เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาอนุมัติให้เปิดสอนแล้ว สำนักนโยบายและ
แผนการอาชีวศึกษาจะจัดทำประกาศสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาอนุมัติการเปิดสอน
หลกั สตู รระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.)/ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) พทุ ธศักราช ..
ประเภทวิชา .. สาขาวชิ า .. ในสถานศึกษา พร้อมแจ้งผลการอนมุ ัติเปิดสอนหลกั สูตรให้สถานศกึ ษาทราบ

สถานศึกษาสำรวจความตอ้ งการและความจำเปน็

สถานศกึ ษาจัดทำเอกสารรายงานและโครงการขออนมุ ัตเิ ปิดสอน
เสนอต่อคณะกรรมการบรหิ ารสถานศึกษา

คณะกรรมการบรหิ ารสถานศึกษา ไม่เห็นชอบ ปรับปรุง/แกไ้ ข
พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบ ปรับปรุง/แก้ไข
ปรบั ปรุง/แกไ้ ข
เหน็ ชอบ ไม่เห็นชอบ

สถานศึกษานำเสนอรายงานและโครงการขออนมุ ัตเิ ปดิ สอน
ต่อคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจังหวดั พิจารณาความพรอ้ มและศักยภาพ

เห็นชอบ

คณะกรรมการอาชวี ศกึ ษาจังหวัด ไม่เห็นชอบ
พจิ ารณาให้ความเห็นชอบ

เห็นชอบ

สถานศกึ ษานำเสนอเอกสารโครงการขออนุมตั เิ ปดิ สอน
ต่อสำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

สำนกั มาตรฐานการอาชีวศึกษาและวชิ าชีพ ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถว้ น ปรับปรุง/แก้ไข
พิจารณาเอกสารโครงการ ไม่สมบรู ณ์

ถูกต้อง ครบถว้ น สมบรู ณ์

สำนกั มาตรฐานการอาชีวศกึ ษาและวชิ าชพี
เสนอเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาอนุมตั ิเปดิ สอน

สำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษาจัดทำประกาศ สอศ.
อนุมัติเปดิ สอนหลกั สตู ร และแจ้งสถานศึกษาทราบ

แผนภาพที่ 4 แสดงขัน้ ตอนการขออนมุ ตั เิ ปิดสอนหลักสตู ร

3 การพัฒนาหลกั สูตรเพ่มิ เติมและการขออนมุ ตั ิเปดิ สอน 25

• การขออนุมตั ิเปิดสอนของสถานศึกษาอาชีวศกึ ษาเอกชน

การขออนุมัติเปิดสอนของสถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน ให้สถานศึกษาดำเนินการตาม
หลกั เกณฑ์ในการเปิดสอนและแนวปฏบิ ตั ิในการขออนมุ ัติเปดิ สอนหลักสตู รของสำนักงานคณะกรรมการ
การอาชีวศึกษา รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการหรือแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติโรงเรียน
เอกชน พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ภายใต้การกำกับดูแลและประสานงานของสำนักบริหารการ
อาชีวศึกษาเอกชน

• การเปิดสอนหลักสูตรการอาชีวศึกษาของสถานศึกษาสังกัดองค์กร
ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ

การเปิดสอนหลักสูตรการอาชีวศึกษาของสถานศึกษาอาชีวศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น ให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาดำเนินการขออนุมัติเปิดสอนและรับการประเมินความพร้อมในการ
จัดการอาชีวศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการใน
กฎกระทรวงกำหนดการประเมินความพร้อมในการจัดการอาชีวศกึ ษาขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2555
และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ตัวชี้วัดและระดับคุณภาพการประเมินความพร้อมในการจัดการ
อาชีวศึกษาขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน

สำหรับเอกสารแบบฟอรม์ เกยี่ วกับการอนมุ ัติเพ่มิ เติมหลกั สตู รและขออนุมตั ิเปดิ สอนหลกั สูตร
ไดใ้ สไ่ ว้ในภาคผนวกของเอกสารฉบบั น้ี

26 3 การพฒั นาหลกั สูตรเพิ่มเติมและการขออนุมตั ิเปิดสอน

บรรณานกุ รม

กฎกระทรวง กำหนดการประเมินความพร้อมในการจัดการอาชีวศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.
2555. (2555, 21 สิงหาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ 129 ตอนท่ี 80 ก. หนา้ 38-41.

เบญจวรรณ ก่สี ขุ พันธ์. 2558. หลกั สูตร : การออกแบบและพฒั นา. กรงุ เทพฯ : ซเี อด็ ยูเคช่ัน จำกดั (มหาชน)

ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เรอ่ื ง ตัวชีว้ ัดและระดบั คุณภาพการประเมนิ ความพร้อมในการจัดการอาชวี ศกึ ษา
ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น. (2557, 9 มกราคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ 131 ตอนพเิ ศษ 4
ง. หน้า 9.

ประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง กรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2562. (2562, 6
มนี าคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ 136 ตอนท่ี 56 ง. หน้า 9-11.

ประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตร
วิชาชีพ พ.ศ. 2562. (2562, 22 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 136 ตอนพิเศษ 130 ง.
หนา้ 3-18.

ประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตร
วิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. 2562. (2562, 22 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 136 ตอนพิเศษ
130 ง. หนา้ 19-24.

ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา เรื่อง หลักเกณฑใ์ นการเปดิ สอนและแนวปฏิบัติในการ
ขออนมุ ตั ิเปดิ สอนหลักสตู รการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2564

พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550. (2551, 11 มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 125 ตอนท่ี 7 ก.
หน้า 29.

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2552, 23 เมษายน). ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการ-
การอาชวี ศกึ ษา ว่าด้วยการบรหิ ารสถานศกึ ษา พ.ศ. 2552.

Good, Carter V. 1973. Dictionary of Education. 3rd ed. New York : McGraw-Hill.

Oliva, Peter. 1992. Developing the Curriculum. 3rd ed. New York : Harper Collins.

Taba, Hilda. 1962. Curriculum Development: Theory and Practice. New York :
Harcourt, Brace & World.

3 การพฒั นาหลกั สูตรเพ่มิ เตมิ และการขออนุมตั เิ ปดิ สอน 27

ภาคผนวก



3 การพัฒนาหลกั สูตรเพิม่ เติมและการขออนมุ ตั เิ ปดิ สอน 29

แบบฟอร์มโครงการขออนมุ ัตเิ ปิดสอนและเอกสารประกอบ

โครงการขออนมุ ตั เิ ปิดสอน

หลักสตู ร พุทธศักราช

ประเภทวิชา
สาขาวิชา

วทิ ยาลัย
สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

30 3 การพฒั นาหลกั สูตรเพิ่มเติมและการขออนมุ ัตเิ ปดิ สอน

โครงการขออนมุ ัติเปิดสอน

หลกั สูตร พทุ ธศกั ราช

ประเภทวชิ า

สาขาวชิ า

1. ช่ือหลกั สตู รท่ีขออนุมตั ิเปิดสอน พุทธศกั ราช
หลักสตู ร
ประเภทวชิ า สาขาวชิ า

2. หนว่ ยงานท่ีรบั ผดิ ชอบ

(ระบุชอื่ แผนกวิชาหรอื หน่วยงานท่รี บั ผิดชอบ)

3. ความสำคัญของปัญหา/หลกั การและเหตุผล

(ระบุหลักการและเหตผุ ลความจำเป็นของโครงการขออนมุ ัติเปิดสอนหลกั สูตรดังกล่าว และ
หรือปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นหากไม่ได้ดำเนินการโครงการ ซึ่งต้องชี้ให้เห็นข้อมูลที่ระบุถึงความ ต้องการของ
ตลาดแรงงานและหรือสังคม ความสอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการพัฒนาสังคมและประเทศ รวมทั้งระบุ
กลมุ่ เปา้ หมายของผู้ทีจ่ ะรบั เข้าศกึ ษาในหลกั สตู ร โดยใช้ขอ้ มูลอา้ งอิงจากรายงานความจำเป็นในการขออนุมัติ
เปิดสอน)

4. วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ
4.1 (ระบุกลมุ่ เปา้ หมาย คณุ ภาพ ความตอ้ งการกำลังของกลุม่ เป้าหมายทจี่ ะผลติ )
4.2 (ระบุความร่วมมอื ในการผลติ กำลงั คนของสถานประกอบการ หนว่ ยงาน)
4.3 (ระบจุ ดุ เดน่ และหรอื วตั ถุประสงคส์ ำคัญอื่น ๆ ในการเปดิ สอนหลักสตู ร)

3 การพฒั นาหลกั สตู รเพ่ิมเติมและการขออนมุ ัตเิ ปิดสอน 31

5. ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ

(ระบุว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการจะมีผลกระทบใดในทางที่ดีที่คาดวา่ จะเกดิ ขึ้นโดยตรงและโดยออ้ ม
โดยระบุให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากโครงการบ้าง ได้รับประโยชน์อย่างไร ทั้งในเชิงปริมาณและ
คณุ ภาพในแง่การสรา้ งมลู คา่ เพ่มิ มิใช่คดั ลอกวัตถปุ ระสงคห์ รอื เป้าหมาย)

6. กำหนดการเปดิ สอน ปกี ารศึกษา
จะเร่ิมเปดิ ดำเนนิ การสอนตั้งแตภ่ าคการศกึ ษา

7. ครูผสู้ อน

7.1 ครผู ูส้ อนประจำหลกั สตู ร

ลำดับ ชอื่ – ช่ือสกลุ ตำแหนง่ วฒุ กิ ารศกึ ษา สาขาวชิ าเอก ประสบการณ์
ที่ สอน (ป)ี

1

2

3

4

7.2 อาจารยพ์ เิ ศษ/ผู้ทรงคุณวฒุ ิ

ลำดับ ชอ่ื – ชอ่ื สกลุ ตำแหน่ง วุฒิการศกึ ษา สาขาวิชาเอก
ที่

1

2

3

4

32 3 การพฒั นาหลกั สูตรเพ่ิมเติมและการขออนมุ ตั เิ ปดิ สอน

7.3 ครผู ู้สอนสาขาวชิ าอน่ื ท่เี ก่ยี วข้อง

ลำดับ ชอ่ื – ชอ่ื สกลุ ตำแหน่ง วฒุ ิการศึกษา สาขาวิชาเอก
ท่ี

1

2

3

4

5

8. จำนวนนกั เรยี น/นักศกึ ษา

(ระบุจำนวนนกั เรยี น/นักศึกษาทจ่ี ะเขา้ ศึกษาในแตล่ ะปกี ารศกึ ษา หรอื แผนการรับนกั เรยี น/นักศกึ ษา)

นักเรียน/นักศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา
25.. 25.. 25.. 25.. 25..
หลักสตู ร

ประเภทวชิ า สาขาวชิ า

ชนั้ ปีที่ 1

ช้นั ปที ่ี 2

ช้นั ปที ่ี 3

รวมทัง้ หมด

จำนวนผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา

หมายเหตุ
- กรณีขออนุมัตเิ ปดิ สอนหลกั สูตรในระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชพี (ปวช.) ให้ใชค้ ำว่า “นกั เรยี น” และ
ใช้ระยะเวลาในการศกึ ษา 3 ปีการศึกษา
- กรณีขออนมุ ัตเิ ปิดสอนหลกั สตู รในระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สงู (ปวส.) ให้ใชค้ ำวา่ “นักศกึ ษา”
และใช้ระยะเวลาในการศกึ ษา 2 ปกี ารศึกษา

3 การพัฒนาหลกั สูตรเพมิ่ เติมและการขออนมุ ตั เิ ปดิ สอน 33

9. ทรพั ยากรประกอบการเรียนรู้
9.1 อาคารสถานท่ี

(ระบุอาคารสถานท่ี ห้องเรียนทฤษฎี/ปฏิบัติ ห้องปฏิบัติการ โรงฝึกงาน ฯลฯ ซึ่งจัดเตรียมไว้
สำหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาที่ขออนุมัติเปิดสอน โดยให้พิจารณาถึงความ
สอดคล้องและเหมาะสมกบั จำนวนผู้เรยี นและการจัดการเรียนรู้ในสาขาวิชาท่ีขออนมุ ัติเปดิ สอน)

ที่ รายการ จำนวน หมายเหตุ

9.2 ครภุ ณั ฑ์และวสั ดอุ ปุ กรณก์ ารสอน
(ระบุรายละเอียดครุภัณฑ์และวัสดุอปุ กรณ์ประกอบการสอนตามมาตรฐานครุภัณฑ์ข้ันพ้ืนฐานที่
สอดคล้องกบั แผนการจัดการเรียนรู้ในสาขาวิชาทีข่ ออนุมตั เิ ปดิ สอน ท้งั ท่ีมีอยู่แล้วและท่ีต้องการ
เพม่ิ ในอนาคต)

ท่ี รายการ จำนวน หมายเหตุ
รายการครภุ ณั ฑแ์ ละอปุ กรณ์ประกอบการสอนท่ีมอี ย่แู ลว้

รายการครุภณั ฑแ์ ละอปุ กรณ์ประกอบการสอนที่ต้องการเพิ่ม

34 3 การพัฒนาหลกั สตู รเพิ่มเติมและการขออนุมตั เิ ปิดสอน

10. แผนงบประมาณรายจ่าย

(ให้ประมาณการแผนงบประมาณรายจ่าย 5 ปี เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่ขออนุมัติ
เปดิ สอนและคา่ ใช้จา่ ยเฉลยี่ ต่อหวั ในการผลติ บคุ ลากรตามหลกั สูตร)

หมวดค่าใชจ้ ่าย ปงี บประมาณ
25.. 25.. 25.. 25.. 25..
งบบคุ ลากร
1. ค่าจา้ งชวั่ คราว (ครูจา้ งสอน)
2. คา่ ตอบแทนพนกั งานราชการ
งบดำเนนิ การ
1. คา่ ตอบแทน
2. คา่ ใชส้ อย
3. คา่ วัสดุ
4. ค่าสาธารณปู โภค
งบลงทุน
1. ค่าครภุ ณั ฑ์
2. ค่าทด่ี ินและสง่ิ กอ่ สร้าง

รวม
จำนวนนักเรยี น/นักศกึ ษา

คา่ ใช้จา่ ยเฉล่ยี ตอ่ หัว

11. ความรว่ มมอื กับสถานประกอบการ

ลักษณะการ จำนวนนกั เรยี น/
ดำเนินงานของ
ที่ ชือ่ สถานประกอบการ ทอ่ี ยู่ นักศกึ ษา
กจิ การ ท่รี ับเขา้ ฝกึ งาน/

ฝกึ อาชีพ

3 การพัฒนาหลกั สูตรเพม่ิ เติมและการขออนมุ ตั ิเปิดสอน 35

12. แผนการเรียนตลอดหลักสูตร

(แนบตัวอย่างแผนการเรียนตามจำนวนระยะเวลาและจำนวนหน่วยกิตของการศึกษาตามโครงสร้าง
หลักสูตรที่ขอเปิดสอน ทั้งนี้ ให้สถานศึกษาจัดแผนการเรียนโดยถือปฏบิ ัติตามหลักเกณฑ์การใช้หลักสูตรแต่ละ
ระดับ)

36 3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่มิ เตมิ และการขออนุมตั ิเปดิ สอน

แผนการเรียน หลักสูตร พุทธศักราช

ประเภทวชิ า สาขาวชิ า สาขางาน

ภาคเรยี นท่ี ปีการศกึ ษา

รหสั วชิ า รายวิชา ท ป น ช่วั โมง/
สปั ดาห์

......................... 1. หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง ....... ....... ....... ..........
......................... 1.1 กลมุ่ วชิ า……………………….. ....... ....... ....... ..........
......................... ....... ....... ....... ..........
......................... .................................................................................. ....... ....... ....... ..........
......................... 1.2 กล่มุ วชิ า……………………….. ....... ....... ....... ..........
......................... ....... ....... ....... ..........
..................................................................................
......................... 1.3 กลุม่ วชิ า……………………….. ....... ....... ....... ..........
......................... ....... ....... ....... ..........
......................... ..................................................................................
......................... 1.4 กลมุ่ วชิ า……………………….. ....... ....... ....... ..........
......................... ....... ....... ....... ..........
......................... ..................................................................................
......................... 1.5 กลมุ่ วิชา……………………….. ....... ....... ....... ..........
.........................
......................... .................................................................................. ....... ....... ....... ..........
1.6 กลมุ่ วิชา………………………..
....... ....... ....... ..........
..................................................................................
2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ ....... ....... ....... ..........

2.1 กล่มุ สมรรถนะวิชาชพี พื้นฐาน ....... ....... ....... ..........
.................................................................................. ...... ....... ....... ..........
..................................................................................

2.2 กลมุ่ สมรรถนะวชิ าชพี เฉพาะ
..................................................................................
..................................................................................

2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชพี เลอื ก
..................................................................................

2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชพี
..................................................................................

2.5 โครงงานพัฒนาสมรรถนะวชิ าชพี
..................................................................................
3. หมวดวชิ าเลือกเสรี
..................................................................................
4. กจิ กรรมเสริมหลักสตู ร
..................................................................................

รวมทั้งส้นิ

3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่ิมเตมิ และการขออนุมัติเปิดสอน 37

รายงานความจำเปน็ ในการขออนุมตั เิ ปดิ สอน

ให้แนบเอกสาร “รายงานความจำเป็นในการขออนุมัติเปิดสอน” โดยมีรายละเอียด
ครอบคลุมประเดน็ ดงั ต่อไปน้ี

1. ความต้องการของตลาดแรงงานหรือสถานประกอบการที่จะร่วมจัดการอาชีวศึกษา
และสถานประกอบการเปา้ หมายที่ตอ้ งการกำลงั คนในสาขาวชิ าทจี่ ะเปิดสอน

2. ข้อมูลโอกาสการมีงานทำ ความต้องการและแหล่งงานในชุมชนท้องถิ่น รวมถึงความ
สอดคลอ้ งกับนโยบายและทศิ ทางการพฒั นาสังคมและประเทศ

3. ความต้องการของผูท้ ่ีจะรับเข้าศึกษาในหลักสูตรที่จะเปิดสอน และข้อมูลการศึกษาต่อ
ในระดับท่สี ูงข้นึ ในสาขาวชิ าท่ีจะเปิดสอน

38 3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่ิมเติมและการขออนมุ ัตเิ ปดิ สอน

รายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา

ใหแ้ นบเอกสาร “รายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา” โดยมรี ายละเอยี ด
ครอบคลุมประเด็นดงั ต่อไปนี้

1. ระเบยี บวาระการประชมุ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การขอเปดิ สอนหลกั สูตร
2. บันทึกรายงานการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการขอเปิดสอนหลักสูตร เหตุผลความจำเป็น

และมติที่ประชุม

3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่มิ เติมและการขออนุมตั เิ ปิดสอน 39

รายงานการประชุมคณะกรรมการอาชีวศกึ ษาจังหวดั

ใหแ้ นบเอกสาร “รายงานการประชุมคณะกรรมการอาชีวศกึ ษาจงั หวดั ” โดยมีรายละเอียด
ครอบคลมุ ประเดน็ ดังตอ่ ไปนี้

1. ระเบยี บวาระการประชุมทเี่ ก่ยี วข้องกบั การขอเปดิ สอนหลกั สตู ร
2. บันทึกรายงานการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการขอเปิดสอนหลักสูตร การประเมินความ

พรอ้ มและศักยภาพของสถานศกึ ษาทข่ี ออนุมตั ิเปิดสอน และมติทป่ี ระชมุ

40 3 การพฒั

แบบประเมินความพรอ้ มและศกั ย
หลักสูตร................................................ ประเภทวิชา.....................

วิทยาลยั ..............................................................

รายการ รายละเอยี ดประกอบการพจิ ารณา

1. ช่ือหลักสตู รทขี่ ออนุมัติ ก. ช่อื หลักสูตร/พุทธศักราช
เปิดสอน ข. ช่อื ประเภทวชิ า
ค. ชอ่ื สาขาวิชา

2. หน่วยงานทีร่ ับผิดชอบ ชอื่ แผนกวิชา/หน่วยงานท่ีรบั ผดิ ชอบหลกั สูตร

3. ความสำคญั ของปญั หา/ ก. หลักการและเหตุผลความจำเป็น/ ปัญหาอุปสรรคที่
หลกั การและเหตผุ ล* หากไม่ไดด้ ำเนินการ

ข. ข้อมูลความต้องการของตลาดแรงงานค. ข้อมูลความต
ของสังคมและชุมชน/ความสอดคล้องกับนโยบายแ
ทางการพัฒนาสังคมและประเทศ

ง. ความต้องการของผู้ท่ีจะรับเข้าศึกษา

ฒนาหลกั สตู รเพ่ิมเติมและการขออนมุ ัติเปิดสอน 40 3 การพฒั นาหลกั สตู รเพ่มิ เตมิ และการขออนุมตั เิ ปิดสอน

ยภาพในการขออนุมัตเิ ปดิ สอน
............................. สาขาวชิ า...................................................
...... จังหวัด..................................................

ระดับความพรอ้ มและศักยภาพ เกณฑ์การให้คะแนน
123
1 = ไมร่ ะบุ ก. - ค. /ระบผุ ิดทุกข้อ
2 = ระบุไม่ครบ/ไมถ่ กู ต้องบางขอ้
3 = ระบุครบถ้วน/ถกู ต้องสมบรู ณ์

1 = ไม่ระบขุ ้อมูล
2 = ระบขุ อ้ มูลไมถ่ ูกตอ้ ง
3 = ระบขุ ้อมลู ถูกต้องสมบูรณ์

เกิดขึ้น 3 = ระบคุ รบถ้วน/ถูกต้องสมบรู ณ์

ต้องการ
และทิศ

นำคะแนนทปี่ ระเมินได้คณู ด้วย 2

3 การพฒั นาหลกั สูตรเพ่มิ เติมและการขออนุมตั เิ ปดิ สอน

รายการ รายละเอียดประกอบการพิจารณา

4. วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ ก. ชดั เจน ปฏบิ ตั ไิ ด้ วดั ได้
ข. สอดคลอ้ งกบั ความสำคัญของปัญหา/หลกั การและเหตผุ

5. ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ ก. ผลกระทบในทางท่ีดีที่คาดว่าจะเกิดข้ึนโดยตรงและโดยออ้
6. กำหนดการเปิดสอน ข. ผู้ได้รับผลประโยชน์จากโครงการ ได้รับประโยชนอ์ ยา่ ง

ในเชิงปริมาณและคุณภาพในแง่การสร้างมูลค่าเพิ่
คดั ลอกวัตถปุ ระสงคห์ รอื เป้าหมาย)
ระบภุ าคเรยี นและปีการศึกษาท่ีจะเร่มิ เปดิ ดำเนนิ การสอน

7. ครผู สู้ อน* ครูผู้สอนประจำหลักสูตรอย่างน้อย 2 คนมีวุฒิการศึกษา
วิชาเอก หรือประสบการณ์การสอนไม่ต่ำกวา่ 5 ปี ท่สี อดค
สาขาวิชาที่ขออนมุ ตั ิเปดิ สอน

41

ระดบั ความพร้อมและศักยภาพ เกณฑ์การให้คะแนน 3 การพัฒนาหลกั สตู รเพ่มิ เติมและการขออนมุ ัตเิ ปดิ สอน
123
1 = ไม่ระบุ ก. - ข. /ระบุผดิ ทุกขอ้
ผล 2 = ระบุไม่ครบ/ไมถ่ ูกตอ้ งบางข้อ
3 = ระบคุ รบถ้วน/ถูกต้องสมบรู ณ์
อม 1 = ไม่ระบุ ก. - ข. /ระบุผิดทุกข้อ
งไร (ทั้ง 2 = ระบไุ ม่ครบ/ไม่ถกู ตอ้ งบางข้อ
ม มิใช่ 3 = ระบคุ รบถ้วน/ถูกตอ้ งสมบรู ณ์

า/สาขา 1 = ไมร่ ะบขุ ้อมูล
คลอ้ งกับ 2 = ระบขุ อ้ มูลไมถ่ กู ต้อง
3 = ระบขุ ้อมูลถกู ตอ้ งสมบรู ณ์
2 = ครูผู้สอนบางคน ไม่มีวุฒิการศึกษา

/สาขาวิชาเอกและหรือประสบการณ์
การสอนท่ีสอดคล้องกับสาขาวิชา
ทขี่ ออนมุ ัตเิ ปดิ สอน
3 = ครูผู้สอนทุกคน มีวุฒิการศึกษา
/สาขาวิชาเอกและหรือประสบการณ์
การสอนที่สอดคล้องกับสาขาวิชา
ทขี่ ออนุมัติเปิดสอน
นำคะแนนทีป่ ระเมินไดค้ ณู ด้วย 2

41


Click to View FlipBook Version