The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูอาร์ม, 2022-11-19 03:17:32

หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการจัดการอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง เล่ม 4 การนำหลักสูตรไปใช้

เล่ม 4

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 1

2 4 การนำหลกั สตู รไปใช้

หลักเกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั กิ ารจัดการอาชวี ศกึ ษา

ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ
และระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้ันสูง

4

การนำหลักสูตรไปใช้

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
กระทรวงศึกษาธกิ าร

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 3

หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏิบัติการจดั การอาชวี ศกึ ษา
ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี และระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้นั สงู
เร่อื งที่ 4 การนำหลกั สตู รไปใช้

พมิ พค์ รัง้ ท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ลิขสิทธ์ิ สำนักมาตรฐานการอาชีวศกึ ษาและวิชาชพี
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

คณะท่ปี รกึ ษา : ดร. ประชาคม จนั ทรชิต รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
นางสาววลั ลภา อยทู่ อง ผชู้ ำนาญการดา้ นการจดั การเรยี นการสอน
อาชีวศึกษาและกระบวนการเรยี นรู้
เรอื อากาศโทสมพร ปานดำ ผอู้ ำนวยการสำนักมาตรฐานการอาชีวศกึ ษา
และวิชาชพี
ดร. ผ่องพรรณ จรสั จินดารตั น์ หัวหน้าหนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์

คณะทำงาน : นายประพนธ์ จุนทวิเทศ หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์
นางสาวโสภี นิลรกั ษ์ หน่วยศึกษานิเทศก์
นางสาวโสภดิ า ล้ิมวัฒนาพนั ธ์ หน่วยศกึ ษานิเทศก์
นายณฐั พงศ์ แดงหล้า สำนักมาตรฐานการอาชวี ศกึ ษาและวิชาชีพ

บรรณาธิการและรปู เลม่ : อยูท่ อง ผชู้ ำนาญการดา้ นการจดั การเรยี นการสอน
นางสาววัลลภา อาชีวศกึ ษาและกระบวนการเรยี นรู้

นางสาวพรรษชล ทองคุ่ย สำนกั มาตรฐานการอาชวี ศึกษาและวชิ าชีพ
นางสาวอารี โอสถจนั ทร์ สำนกั มาตรฐานการอาชีวศึกษาและวชิ าชพี
นายณฐั พงศ์ แดงหลา้ สำนักมาตรฐานการอาชวี ศึกษาและวิชาชีพ
นายพิศาล บญุ มาวาสนาส่ง สำนักมาตรฐานการอาชีวศกึ ษาและวิชาชีพ
นายธนสาร รจุ ริ า หน่วยศึกษานิเทศก์

พิมพ์ที่ วิทยาลัยเทคนคิ มีนบุรี เลขที่ 57 ถนนสหี บุรานุกิจ แขวงมนี บรุ ี เขตมนี บรุ ี
กรงุ เทพมหานคร 10510

4 4 การนำหลักสูตรไปใช้

คำนำ

หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การจดั การอาชวี ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี และระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกาศ
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
พ.ศ. 2562 เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. 2562 และ
เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ พ.ศ. 2562 ได้
กำหนดเป้าหมายการจัดการอาชีวศึกษาเพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุกระดับคุณวุฒิ ประเภทวิชาและ
สาขาวิชา มีคุณภาพอย่างน้อย 4 ด้าน คือ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้าน
ความรู้ ด้านทักษะและดา้ นความสามารถในการประยุกต์ใช้และความรับผิดชอบ พร้อมท้ังกำหนดให้การ
พัฒนาหลักสูตรหรือปรบั ปรงุ หลักสตู ร ฐานสมรรถนะ การพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนและการพัฒนา
คุณภาพการจัดการอาชีวศึกษาในแต่ละระดับคุณวุฒิ ต้องเป็นไปตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาตรฐาน
อาชพี หรอื ตามความตอ้ งการของสถานประกอบการและตลาดแรงงาน ทง้ั น้ี เพ่ือประโยชนต์ ่อการรบั รอง
หลกั สูตรและคณุ วฒุ กิ ารศึกษาของผสู้ ำเร็จการศึกษา

ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนและการจัดการอาชีวศึกษา
ทุกระดับคุณวุฒิอาชีวศึกษาเป็นไปอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานที่สาขาวิชาและสาขางานกำหนด
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยสำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ ร่วมกับหน่วย-
ศกึ ษานิเทศก์ จึงได้จดั ทำหลักเกณฑ์และแนวปฏบิ ัติเก่ียวกับการจัดการอาชวี ศึกษาระดบั ประกาศนียบัตร
วิชาชีพ และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ในลักษณะของชุดเอกสารและเอกสารออนไลน์ จำนวน
10 เรื่อง ประกอบด้วย การจัดการอาชีวศึกษา การพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ การพัฒนาหลักสูตร
เพิ่มเติมและการขออนุมัติเปิดสอน การนำหลักสูตรไปใช้ การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพและการ
จัดโครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร การวัดและประเมินผลอาชีวศึกษา
การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี การเทียบโอนผลการเรียนรู้ และการประกันคุณภาพของหลักสูตร
และการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้หรือปรับใช้ในการ
พัฒนาการจดั อาชีวศึกษาเพอื่ ใหผ้ สู้ ำเรจ็ การศึกษามคี ุณภาพตามมาตรฐานท่ีกำหนด

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิ ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหาร ครู
นกั วิชาการศึกษาและผ้มู ีส่วนเกี่ยวขอ้ งในการจัดทำเอกสารฉบับนี้ มา ณ โอกาสนี้

สำนกั งานคณะการการการอาชีวศึกษา
กรกฎาคม 2562

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 5

สำรบญั หน้า

หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การจัดการอาชวี ศกึ ษาระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี และระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชนั้ สงู 1
2
• คำช้แี จงการนำไปใช้ 3
• แนวคิด 4
• ความรู้เบือ้ งตน้ เกย่ี วกบั หลักสตู ร 5
7
- หลกั การของหลกั สูตร 11
- จุดหมายของหลักสตู ร 13
- จดุ ประสงคส์ าขาวชิ า 14
- มาตรฐานการศกึ ษาวชิ าชพี 16
- โครงสร้างหลกั สูตร 19
- รายละเอยี ดของรายวชิ า 19
- รหัสวชิ า 20
- การคิดหนว่ ยกติ 22
• หลกั เกณฑก์ ารนำหลักสตู รไปใช้ 23
- ผ้เู รยี น 26
- การจดั การเรยี นการสอนตามหลกั สตู ร 32
- การจดั การศกึ ษาและเวลาเรียน 35
- การจดั แผนการเรยี นเน้นสมรรถนะ 36
- การจดั การศึกษาระบบทวิภาคี 37
- การจดั ตารางสอน ตารางเรียน ตารางการใชห้ อ้ งเรียน/หอ้ งปฏิบัติการ 37
- การจดั ตารางสอบปลายภาคเรยี น 38
- การจดั ฝกึ ประสบการณส์ มรรถนะวชิ าชีพ 39
- การจดั โครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ 41
- การจดั กิจกรรมเสรมิ หลักสูตร
- การจดั การเรยี นการสอนรายวชิ าปรับพน้ื ฐานวิชาชีพ
- การประเมินผลการเรียน
- การสำเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสตู ร

6 4 การนำหลักสตู รไปใช้

สำรบญั (ตอ่ ) หนา้
42
หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ัตเิ กยี่ วกบั การจดั การอาชวี ศกึ ษาระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี และระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู 42
42
• การปรบั ปรงุ แก้ไข พฒั นาและอนมุ ัติรายวิชาในหลักสูตร 43
- การพัฒนารายวชิ าในหลักสูตร 44
- การปรบั ปรงุ แกไ้ ข พฒั นารายวิชา กลุ่มวิชาและการอนุมัตหิ ลักสตู ร 45
47
• การจัดการเรียนการสอนรายวชิ าม่งุ เน้นสมรรถนะ 68
• การประกนั คณุ ภาพของหลกั สตู รและการจดั การเรยี นการสอน
• บรรณานกุ รม
• ภาคผนวก
• คำสงั่ สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ที่ 430/2562

ลงวนั ที่ 14 มนี าคม พ.ศ. 2562

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ ก7

คำชแ้ี จงกำรนำไปใช้

หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ัตเิ กยี่ วกบั การจดั การอาชวี ศกึ ษาระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี และระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู

หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และ
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง นี้ได้เรียบเรียงขึ้นโดยยึดประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบ
คุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐาน
คุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พ.ศ. 2562 และประกาศคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
เรอื่ ง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒอิ าชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพชั้นสงู พ.ศ. 2562 ซงึ่ สอดคล้องกับ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และมาตรฐาน
การศึกษาของชาติ นอกจากนี้ ยังได้พิจารณานำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการอาชีวศึกษาทั้งสองระดับ
ได้แก่ ระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ แนวปฏิบัติ ฯลฯ มาเรียบเรียงนำเสนอ เพื่อเผยแพร่แก่สถานศึกษา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้สนใจได้ศึกษาและนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการจัดการ
อาชีวศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพตามมาตรฐาน โดยชุดเอกสารและเอกสารออนไลน์น้ี
ประกอบด้วย 10 เรอ่ื ง ดังน้ี

เรอ่ื งที่ 1 การจัดการอาชวี ศึกษา
เรอ่ื งที่ 2 การพฒั นาหลักสตู รฐานสมรรถนะ
เรื่องท่ี 3 การพัฒนาหลักสตู รเพิ่มเตมิ และการขออนุมัตเิ ปิดสอน
เร่อื งท่ี 4 การนำหลักสตู รไปใช้
เรอื่ งท่ี 5 การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชพี และการจัดโครงงานพฒั นาสมรรถนะวชิ าชีพ
เรอ่ื งที่ 6 การจดั กิจกรรมเสริมหลกั สูตร
เรื่องที่ 7 การวัดและประเมินผลอาชวี ศกึ ษา
เรือ่ งที่ 8 การจดั การอาชีวศกึ ษาระบบทวภิ าคี
เร่อื งท่ี 9 การเทียบโอนผลการเรยี นรู้
เร่อื งที่ 10 การประกันคุณภาพของหลกั สตู รและการจดั การเรียนการสอน

เอกสารแตล่ ะเรื่องจะประกอบด้วยแนวคิด นิยามศัพท์ รายละเอียดของเน้ือหาสาระและหรอื
แนวปฏิบัติซึ่งสอดคล้องกับกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ บรรณานุกรมและภาคผนวก ซึ่งแนะนำ
แบบฟอร์ม ตัวอย่าง และแหล่งข้อมูลที่สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้ สถานศึกษา หน่วยงาน
หรือผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลหรือเนื้อหาสาระทุกเร่ืองตามที่ได้จัดเรียงลำดับเรื่องที่ควรรู้ก่อน-หลัง
หรอื จะเลือกศกึ ษาเฉพาะเร่อื งทสี่ นใจกไ็ ด้



4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 1

กำรนำหลกั สตู รไปใช้

หลักเกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การจดั การอาชวี ศกึ ษาระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี และระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู

แนวคิด

กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศ เรื่อง กรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2562 เพื่อ
กำหนดเป้าหมายของการจัดการศึกษาให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุกระดับคุณวุฒิและสาขาวิชามีคุณภาพตาม
เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ สำหรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรหรือปรับปรุง
หลักสูตรฐานสมรรถนะให้เป็นไปตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาตรฐานอาชีพ หรือตามความต้องการของ
สถานประกอบการและตลาดแรงงาน นอกจากน้ยี ังใชเ้ ปน็ แนวทางในการพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน
การพัฒนาคุณภาพการจัดการอาชีวศึกษา และเพื่อประโยชน์ต่อการรับรองหลักสูตรและคุณวุฒิ
การศกึ ษาของผสู้ ำเร็จการศึกษา โดยไดก้ ำหนดให้ผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษาทกุ ระดับคณุ วุฒิอาชีวศึกษา ประเภท
วิชาและสาขาวิชาต้องมคี ุณภาพครอบคลมุ อยา่ งน้อย 4 ด้าน คือ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและคณุ ลักษณะ
ท่พี ึงประสงค์ ด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นความสามารถในการประยกุ ตใ์ ช้และความรับผิดชอบ

จากกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติดังกล่าว คณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้มีประกาศ
เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ. 2562 เกณฑ์มาตรฐาน
คุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. 2562 และเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิ
อาชีวศึกษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ พ.ศ. 2562 ซึ่งได้กำหนดคุณภาพของ
ผู้สำเร็จการศึกษาแต่ละระดับคุณวุฒิครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับระดับคุณวุฒิตามกรอบคุณวุฒิ
แห่งชาติ เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ
มาตรฐาน ทั้งรูปแบบการจัดการศึกษา การคิดค่าหน่วยกิต จำนวนหน่วยกิตและระยะเวลาการศึกษา
โครงสร้างหลักสูตร การจัดอัตราส่วนของเวลาการเรียนรู้ คุณสมบัติของผู้เรียนและผู้สอน การพัฒนา
คุณภาพการจัดการอาชีวศึกษาและกระบวนการเรียนการสอน การจัดการศึกษา การประเมินผลการ
เรียนและการสำเร็จการศึกษา การประกันคุณภาพของหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ตลอดจน
การพฒั นา ปรบั ปรงุ อนมุ ตั แิ ละประกาศใช้หลกั สูตร

หลักสูตรถือเป็นกรอบในการจัดการศึกษาเพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษามีคุณภาพมาตรฐานตาม
ระดับคุณวุฒิอาชีวศึกษา สาขาวิชาและสาขางานท่ีกำหนด แต่การนำหลักสูตรไปใช้ก็ถือเป็นขั้นตอน
สำคัญที่จะทำให้การจัดการศึกษาและการพัฒนาผู้เรียนบรรลุตามจุดประสงค์และมาตรฐานการศึกษา
วชิ าชพี ของสาขาวิชาและสาขางานที่เรียน การนำหลักสูตรไปใชจ้ ึงเป็นงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกับบุคคลหลายฝ่าย

2 4 การนำหลกั สูตรไปใช้

ได้แก่ หน่วยงานส่วนกลางรับผดิ ชอบการพฒั นา อนุมัติและประกาศใช้หลักสูตร การจัดทำระเบียบ มาตรฐาน
และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง การชี้แจงแนะนำการใช้หลักสูตร การนิเทศและติดตามประเมินผลการนำ
หลักสูตรไปใช้ ในส่วนของสถานศึกษารับผิดชอบการบริหารหลักสูตร การจัดครูผู้สอน ทรัพยากรและ
สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ประกอบการจัดการศึกษาในสถานศึกษา การทำความร่วมมือกับสถานประกอบการ
เพ่ือร่วมจดั ฝึกประสบการณส์ มรรถนะวชิ าชพี และหรอื ร่วมจัดฝกึ อาชพี ในการจัดอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าการนำหลักสูตรไปใช้เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญยิ่ง สถานศึกษา
และผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้บริหาร หัวหน้างาน หัวหน้าแผนกวิชา รวมทั้งครูผู้สอนจะต้องทำความเข้าใจ
เกี่ยวกับหลักการของหลักสูตร จุดหมายของหลักสูตร หลักเกณฑ์การใช้หลักสูตร การกำหนดรหัสวิชา
จุดประสงค์สาขาวิชา มาตรฐานการศึกษาวิชาชีพสาขาวิชาและสาขางาน โครงสร้างหลักสูตรและ
รายละเอียดของรายวิชา กระบวนการจัดการเรียนการสอนและวัดประเมินผล ตลอดจนระเบียบ ประกาศ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดการศึกษาตามหลักสูตรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและ
มีประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะการจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ
พทุ ธศกั ราช 2562 และหลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สูง พทุ ธศกั ราช 2563

ความรูเ้ บอ้ื งต้นเกี่ยวกับหลกั สตู รอาชวี ศึกษา

หลักสูตรอาชีวศึกษาเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ คือหลักสูตรที่นำความรู้ความสามารถที่
จำเป็นสำหรบั การทำงานซึ่งกำหนดเป็นมาตรฐานสมรรถนะหรอื มาตรฐานอาชีพตามระดบั คณุ วุฒิวิชาชีพ
มาเป็นฐานในการพัฒนาหลักสูตรแต่ละระดับ เพื่อให้ผู้เรียนหรือผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรนั้น ๆ มี
ความรู้ สมรรถนะและพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ตามมาตรฐานทีก่ ำหนด

การจัดการศึกษาตามหลักสูตรฐานสมรรถนะเพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุ
วัตถุประสงค์ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีความรู้ สมรรถนะ ประสบการณ์ในสาขาวิชา สาขางาน
ทีเ่ รียน รวมท้งั มพี ฤติกรรมทพ่ี งึ ประสงค์ สามารถประยกุ ต์ใชส้ ิ่งท่ไี ดเ้ รยี นรใู้ นการประกอบอาชีพในสถาน-
ประกอบการ ประกอบอาชพี อิสระ และหรือศกึ ษาต่อได้อย่างม่ันใจ สถานศกึ ษาและผเู้ กยี่ วข้องในการนำ
หลกั สตู รไปใช้ ตอ้ งทำความเข้าใจในเรอื่ งตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วข้องกบั หลกั สตู ร ไดแ้ ก่ หลกั การและจุดหมายของ
หลกั สูตร หลักเกณฑก์ ารนำหลักสตู รไปใช้ การกำหนดรหสั วิชา มาตรฐานการศึกษาวชิ าชีพของสาขาวิชา
และสาขางาน โครงสร้างหลักสูตร และรายละเอียดของรายวิชา รวมทั้งประกาศ ระเบียบ แนวปฏิบัติ
และหลกั เกณฑท์ ี่เกยี่ วขอ้ ง

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 3

• หลกั การของหลักสูตร

เป็นการนำเสนอโดยภาพรวมของหลักสูตรว่าเป็นหลักสูตรระดับใด จัดให้กับใคร ลักษณะ
หลักสูตรและการจัดการศึกษาเป็นอย่างไร การพัฒนาหลักสูตรยึดโยง สอดคล้องกับสิ่งใด และใครที่มี
ส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรและจัดการศึกษา ทั้งนี้ หลักสูตรระดับเดียวกันและพุทธศักราชเดียวกัน
จะมีหลักการเหมือนกันทุกประเภทวิชา ดังหลักการของหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช
2562 และหลักการของหลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชน้ั สงู พุทธศักราช 2563 ต่อไปน้ี

หลักการของหลักสูตร ปวช. 2562 หลกั การของหลกั สูตร ปวส. 2563

1. เป็นหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหลังมัธยม- 1. เป็นหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง เพ่ือ

ศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่าด้านวิชาชีพที่สอดคล้องกับ พฒั นากำลังคนระดบั เทคนิคใหม้ ีสมรรถนะ มคี ุณธรรม

แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ แผนการศึกษา จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ สามารถประกอบ

แห่งชาติ เป็นไปตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาตรฐาน อาชีพได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานและ

การศึกษาของชาติ และกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ การประกอบอาชีพอิสระ สอดคล้องกับแผนพัฒนา

เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนระดับฝีมือให้มีสมรรถนะ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ

มีคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ สามารถ เป็นไปตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มาตรฐานการศึกษา

ประกอบอาชีพได้ตรงตามความต้องการของสถาน- ของชาติ และกรอบคณุ วฒุ อิ าชีวศึกษาแห่งชาติ

ประกอบการและการประกอบอาชพี อิสระ 2. เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้เลือกเรียนได้อย่าง

2. เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้เลือกเรียนได้อย่างกว้างขวาง กว้างขวาง เน้นสมรรถนะเฉพาะด้านด้วยการปฏิบัติ

เน้นสมรรถนะเฉพาะด้านด้วยการปฏิบัติจริง สามารถ จริง สามารถเลือกวิธีการเรียนตามศักยภาพและโอกาส

เลือกวิธีการเรียนตามศักยภาพและโอกาสของผู้เรียน ของผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเทียบโอนผล

เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเทียบโอนผลการเรียน การเรียน สะสมผลการเรียน เทียบโอนความรู้และ

สะสมผลการเรียน เทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ประสบการณ์จากแหล่งวิทยาการ สถานประกอบการ

จากแหล่งวิทยาการ สถานประกอบการและสถาน- และสถานประกอบอาชีพอสิ ระ

ประกอบอาชพี อสิ ระ 3. เป็นหลักสูตรท่ีมุ่งเนน้ ใหผ้ ู้สำเร็จการศึกษามีสมรรถนะ

3. เป็นหลักสูตรที่สนับสนุนการประสานความร่วมมือ ในการประกอบอาชีพ มีความรู้เต็มภูมิ ปฏิบัติได้จริง

ในการจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างหน่วยงานและ มีความเป็นผู้นำและสามารถทำงานเปน็ หมู่คณะได้ดี

องค์กรทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ทั้งภาครฐั และเอกชน 4. เป็นหลักสูตรที่สนับสนุนการประสานความร่วมมือใน

4. เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้สถานศึกษา สถาน- การจดั การศึกษารว่ มกนั ระหวา่ งหนว่ ยงานและองค์กร

ประกอบการ ชุมชนและท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการพัฒนา ท่เี ก่ียวขอ้ ง ทง้ั ภาครฐั และเอกชน

หลักสูตรให้ตรงตามความต้องการ โดยยึดโยงกับ 5. เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้สถานศึกษา สถานประกอบการ

มาตรฐานอาชีพ และสอดคล้องกับสภาพยุทธศาสตร์ ชุมชนและทอ้ งถิ่น มีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรให้ตรง

ของภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตามความต้องการและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ

ของประเทศ ภูมภิ าค เพอื่ เพิ่มขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ

4 4 การนำหลักสตู รไปใช้

• จดุ หมายของหลกั สูตร

เป็นการนำเสนอเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของหลักสูตรแต่ละระดับคุณวุฒิในภาพรวม เพื่อ
เป็นกรอบในการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการศึกษาตามหลักสูตรทุกประเภทวิชาในพุทธศักราช
เดียวกันว่าจะต้องพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพเป็นอย่างไร ทั้งด้านความรู้ ทักษะ ความสามารถในการ
ประยุกต์ใช้ รวมทั้งเจตคติและกิจนิสัยหรือพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ดังจุดหมายของหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
พทุ ธศักราช 2563 ต่อไปน้ี

จดุ หมายของหลกั สูตร ปวช. 2562 จุดหมายของหลกั สูตร ปวส. 2563

1. เพื่อให้มีความรู้ ทักษะและประสบการณ์ในงานอาชพี 1. เพื่อให้มีความรู้ทางทฤษฎีและเทคนิคเชิงลึกภายใต้

สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพ สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ ขอบเขตของงานอาชีพ มีทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

ในการปฏิบัติงานอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือก และการสื่อสารเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตและงานอาชีพ

วิถกี ารดำรงชวี ิต และการประกอบอาชพี ได้อยา่ งเหมาะสม สามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมหรือศึกษาต่อในระดับที่

กับตน สร้างสรรค์ความเจริญต่อชุมชน ท้องถิ่นและ สูงขึ้น

ประเทศชาติ 2. เพื่อให้มีทักษะและสมรรถนะในงานอาชีพตาม

2. เพื่อให้เป็นผู้มีปัญญา มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ใฝ่ มาตรฐานวิชาชีพ สามารถบูรณาการความรู้ ทักษะจาก

เรียนรู้ เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และการประกอบอาชพี ศาสตร์ต่าง ๆ ประยุกต์ใช้ในงานอาชีพ สอดคล้องกับ

มีทักษะการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทักษะ การเปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยี

การเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะการคิด วิเคราะห์และการ 3. เพื่อให้มีปัญญา มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถ

แก้ปัญหา ทักษะด้านสุขภาวะและความปลอดภัย ในการคิด วิเคราะห์ วางแผน บริหารจัดการ ตัดสินใจ
ตลอดจนทักษะการจัดการ สามารถสร้างอาชีพและ แก้ปัญหา ประสานงานและประเมินผลการปฏิบัติงาน
พฒั นาอาชีพใหก้ ้าวหน้าอยเู่ สมอ อาชีพ มีทักษะการเรียนรู้ แสวงหาความรู้และแนวทาง
3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ มีความมั่นใจและภาคภูมิใจ ใหม่ ๆ มาพัฒนาตนเองและประยุกต์ใช้ในการสร้าง

ในวิชาชพี ที่เรียน รกั งาน รกั หน่วยงาน สามารถทำงาน งานให้สอดคล้องกับวิชาชีพและการพัฒนางานอาชีพ

เป็นหมู่คณะได้ดี โดยมีความเคารพในสิทธิและหน้าท่ี อยา่ งต่อเน่ือง

ของตนเองและผ้อู ่ืน 4. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ มีความมั่นใจและภาคภูมิใจ

4. เพื่อให้เป็นผู้มีพฤติกรรมทางสังคมที่ดีงาม ทั้งในการ ในงานอาชพี รกั งาน รักองค์กร สามารถทำงานเปน็ หมู่คณะ

ทำงาน การอยู่ร่วมกัน การต่อต้านความรุนแรงและ ไดด้ ี และมคี วามภาคภูมิใจในตนเองต่อการเรยี นวชิ าชีพ

สารเสพตดิ มีความรบั ผดิ ชอบต่อครอบครวั หน่วยงาน 5. เพ่อื ให้มีบุคลิกภาพที่ดี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ซอ่ื สตั ย์ มี

ท้องถิ่นและประเทศชาติ ดำรงตนตามหลักปรัชญา วินัย มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ

ของเศรษฐกิจพอเพียง เข้าใจและเห็นคุณค่าของการ เหมาะสมกบั การปฏิบตั ิในอาชพี นั้น ๆ

อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น มีจิต- 6. เพื่อให้เปน็ ผ้มู ีพฤตกิ รรมทางสังคมทีด่ งี าม ตอ่ ตา้ นความ

สาธารณะและจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร- รุนแรงและสารเสพติด ทั้งในการทำงาน การอยู่ร่วมกัน

ธรรมชาตแิ ละสรา้ งส่งิ แวดล้อมทดี่ ี มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว องค์กร ท้องถิ่นและ
ประเทศชาติ อุทิศตนเพื่อสังคม เข้าใจและเห็นคุณค่าของ

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 5

จุดหมายของหลักสตู ร ปวช. 2562 จดุ หมายของหลกั สตู ร ปวส. 2563

5. เพื่อให้มีบุคลิกภาพที่ดี มีมนุษยสัมพันธ์ มีคุณธรรม ศิลปวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตระหนักในปญั หา

จริยธรรม และวินัยในตนเอง มีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์ และความสำคญั ของสิง่ แวดลอ้ ม

ทัง้ รา่ งกายและจิตใจ เหมาะสมกบั งานอาชีพ 7. เพื่อให้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ไข

6. เพื่อให้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเป็นกำลังสำคัญใน

เศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศและโลก มีความ ดา้ นการผลติ และใหบ้ รกิ าร

รกั ชาติ สำนึกในความเปน็ ไทย เสียสละเพ่ือสว่ นรวม ดำรง 8. เพื่อให้เห็นคุณค่าและดำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา

รกั ษาไวซ้ ง่ึ ความมนั่ คงของชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และ และพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนในฐานะพลเมืองดี

การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรง

ทรงเป็นประมขุ เปน็ ประมขุ

• จดุ ประสงค์สาขาวิชา

เป็นส่วนที่นำเสนอภาพรวมของผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ในสาขาวิชาที่เลือก
เรียนทั้งด้านความรู้ ทักษะ ประสบการณ์และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยสะท้อนให้เห็นว่าเพื่อให้
บรรลุจุดประสงค์ของสาขาวิชานั้น ๆ ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติและพัฒนาตนเองอย่างไรบ้าง
โครงสร้างหลักสูตรจะต้องประกอบด้วยหมวดวิชา กลุ่มวิชาอะไร นอกจากนี้ ยังเป็นแนวทางสำหรับ
สถานศกึ ษาและครูผูส้ อนในการจดั การศึกษาในสาขาวชิ าน้ันดว้ ย ตวั อยา่ งเช่น

ระดบั จุดประสงค์สาขาวิชา สิ่งที่ต้องเรียนรู้
ฝึกปฏิบัติและพัฒนา
ปวช. 1. เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะด้านภาษาและการสื่อสาร ทักษะ
รายวชิ าในหมวดวิชา
การคดิ และการแกป้ ญั หา และทักษะทางสงั คมและการดำรงชวี ิตในการพัฒนา สมรรถนะแกนกลาง
ตนเองและวชิ าชพี

ปวส. 2. เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะด้านภาษาและการสื่อสาร ทักษะ

การคดิ และการแกป้ ญั หา และทักษะทางสังคมและการดำรงชีวติ ในการพัฒนา
ตนเองและวชิ าชีพ

6 4 การนำหลักสตู รไปใช้

ระดับ จดุ ประสงค์สาขาวิชา สิ่งที่ต้องเรียนรู้
ฝึกปฏิบตั ิและพัฒนา

ปวช. 3. เพื่อให้มีความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้หลักการบริหารและจัดการ

วิชาชีพ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และหลักการงานอาชีพที่สัมพันธ์

เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวิชาชีพ ................. ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและ รายวิชาในหมวดวิชา
ความก้าวหนา้ ของเศรษฐกิจ สงั คมและเทคโนโลยี สมรรถนะวชิ าชีพ

4. เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานและดำรงชีวิตโดยประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ (กล่มุ สมรรถนะวิชาชีพ
พื้นฐาน และบูรณาการ
เศรษฐกิจพอเพียง หลักการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างคุ้มค่า คำนึงถึง ในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพ
ความปลอดภัยตอ่ ตนเอง ผู้อืน่ และการอนุรกั ษส์ ่ิงแวดล้อม เฉพาะ-วิชาชีพเลอื ก ฝกึ

5. เพ่อื ให้มีความเขา้ ใจในหลกั การและกระบวนการทำงานในกล่มุ งานพื้นฐานดา้ น ...

ปวส. 6. เพื่อให้มีความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้หลักการบริหารและจัดการวิชาชีพ ประสบการณส์ มรรถนะ

การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและหลักการของงานอาชีพท่ีสัมพันธเ์ กี่ยวข้องกับ วิชาชพี และโครงงาน
การพัฒนาวิชาชีพ ................. ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้า พฒั นาสมรรถนะวชิ าชพี )

ของเศรษฐกิจ สงั คมและเทคโนโลยี

7. เพ่ือใหม้ คี วามเข้าใจในหลกั การและกระบวนการทำงานในกลมุ่ งานพ้นื ฐานด้าน ...

ปวช. 8. เพ่อื ใหส้ ามารถ .................................................................................................. หมวดวิชา

ปวส. 9. เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และเทคโนโลยีด้าน ........ ในการพัฒนา สมรรถนะวชิ าชีพ
(กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพ
ตนเองและวิชาชีพ
เฉพาะ-วชิ าชีพเลือกและ
10. เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานวิเคราะห์ แก้ปัญหา สร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีมา โครงงานพฒั นาสมรรถนะ

ใชใ้ นการพฒั นางาน ...................................................................................... วิชาชพี )

ปวช. 11. เพื่อให้สามารถปฏิบัติงาน ...... ในสถานประกอบการและประกอบอาชีพ

อิสระ รวมทั้งการใช้ความรู้ และทักษะเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อใน หมวดวิชา

ระดบั สงู ข้ึนได้ สมรรถนะวิชาชีพ

ปวส. 12. เพื่อให้สามารถปฏิบัติงาน ...... ในสถานประกอบการและประกอบอาชีพ (ฝึกประสบการณ์

อิสระ รวมทั้งการใช้ความรู้และทักษะเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อใน สมรรถนะวชิ าชพี )

ระดับสูงข้นึ ได้

ปวช. 13. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ซื่อสัตย์สุจริต

ปวส. มีระเบียบวนิ ัย มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ต่อต้านความรุนแรง กิจกรรมเสริมหลกั สูตร
สารเสพติดและการทุจรติ
(บรู ณาการในรายวิชา
14. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ซื่อสัตย์สุจริต มี ทุกหมวดวิชา)

ระเบยี บวนิ ยั เปน็ ผู้มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม สิ่งแวดล้อม ตอ่ ตา้ นความรุนแรง

และสารเสพตดิ

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 7

• มาตรฐานการศกึ ษาวิชาชพี

เป็นผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวังว่าผู้สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชานั้น ๆ จะบรรลุและมีคุณภาพตาม
เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ และสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพหรือความต้องการของ
งานอาชีพ ประกอบดว้ ย

1. ด้านคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์
2. ดา้ นสมรรถนะแกนกลาง
3. ด้านสมรรถนะวชิ าชพี

ซึ่งนอกจากมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพ จะเป็นกรอบในการพัฒนารายวิชาตามโครงสร้าง
หลักสูตรแล้ว ยังใช้เป็นกรอบในการพัฒนาการจัดการศึกษาของสาขาวิชาและสาขางาน ตั้งแต่การจัด
แผนการเรียนท่เี นน้ สมรรถนะ การจดั ทำมาตรฐานครภุ ณั ฑ์ของสาขาวชิ าและสาขางาน การจดั การเรยี นรู้
และวัดประเมินผลในแต่ละรายวิชา รวมทั้งการกำหนดกรอบ เกณฑ์และเครื่องมือประเมินมาตรฐาน
วิชาชีพเพ่อื การสำเรจ็ การศกึ ษาของผเู้ รยี นในสาขาวชิ าและสาขางานดว้ ย ตวั อย่างเชน่

มาตรฐานการศึกษาวชิ าชพี ระดับประกาศนียบตั รวิชาชพี

1. ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
1.1 ด้านคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ได้แก่ ความเสียสละ ความซื่อสัตย์สุจริต ความ

กตัญญูกตเวที ความอดกลั้น การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนัน การมีจิตสำนึกและเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพและ
สังคม ภูมิใจและรักษาเอกลักษณ์ของชาติไทย เคารพกฎหมาย เคารพสิทธิของผู้อื่น ประพฤติปฏิบัติตาม
บทบาทหน้าที่ของตนเองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข มีจิตสาธารณะ และ
จิตสำนกึ รกั ษ์สิ่งแวดล้อม

1.2 ด้านคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ได้แก่ ความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ ความรักสามคั คี มีมนุษย-สมั พันธ์
ความเชื่อมั่นในตนเอง สนใจใฝ่รู้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ขยัน ประหยัด อดทน พึ่งตนเองต่อต้านความ
รุนแรงและการทจุ รติ ปฏิบตั ติ นและปฏิบัตงิ านโดยคำนงึ ถึงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ความปลอดภัย
อาชีวอนามัย การอนรุ ักษ์พลังงานและสง่ิ แวดล้อม

2. ดา้ นสมรรถนะแกนกลาง
2.1 ด้านความรู้ ไดแ้ ก่
2.1.1 หลกั การใชภ้ าษาและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การส่ือสาร
2.1.2 หลกั การใชเ้ หตผุ ล คิดวเิ คราะห์ แก้ปัญหาและการจัดการ
2.1.3 หลกั การดำรงตนและอยู่รว่ มกบั ผู้อ่นื ในสังคม
2.1.4 หลกั การปรับตวั และดำเนนิ ชวี ิตในสงั คมสมยั ใหม่

8 4 การนำหลักสตู รไปใช้

2.2 ด้านทกั ษะ ไดแ้ ก่
2.2.1 ทกั ษะการสือ่ สารโดยใชภ้ าษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ
2.2.2 ทักษะการคดิ และการแกป้ ญั หาโดยใชห้ ลักการและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์
2.2.3 ทักษะทางสังคมและการดำรงชีวิตตามหลักศาสนา วัฒนธรรมและความเป็นพลเมือง และ

หลักการพัฒนาบุคลกิ ภาพและสุขอนามัย
2.3 ดา้ นความสามารถในการประยกุ ต์ใชแ้ ละความรบั ผดิ ชอบ ไดแ้ ก่
2.3.1 สื่อสารโดยใช้ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศและเทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิต ประจำวันและใน

งานอาชีพ
2.3.2 แก้ไขปัญหาในงานอาชีพโดยใช้หลกั การและกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์
2.3.3 ปฏิบัติตนตามหลกั ศาสนา วฒั นธรรม ค่านิยม คณุ ธรรม จริยธรรมทางสงั คมและสิทธิหนา้ ที่พลเมือง
2.3.4 พัฒนาบคุ ลิกภาพและสุขอนามัยโดยใช้หลกั การและกระบวนการดา้ นสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา

3. ดา้ นสมรรถนะวชิ าชพี
3.1 ด้านความรู้ ไดแ้ ก่
3.1.1 หลักการทวั่ ไปของงานอาชีพเฉพาะและการวเิ คราะหเ์ บ้อื งตน้
3.1.2 หลกั การตดั สินใจ วางแผนและแก้ไขปญั หา
3.1.3 หลักการเลอื กใชเ้ ครื่องมือ วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นงานอาชพี
3.1.4 หลักการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
3.1.5 หลกั การจดั การงานอาชีพ
3.2 ด้านทักษะ ไดแ้ ก่
3.2.1 ทกั ษะการเลอื กและประยุกตใ์ ชว้ ิธกี าร เครอ่ื งมือและวสั ดุข้นั พื้นฐานในการปฏิบัติงาน
3.2.2 ทักษะการปฏิบตั งิ านพื้นฐานอาชีพและงานเฉพาะตามแบบแผนท่กี ำหนด
3.2.3 ทักษะการคิด วเิ คราะหแ์ ละแก้ปัญหาในการปฏิบัตงิ าน
3.2.4 ทักษะการใช้คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การเรยี นรู้ตลอดชวี ติ
3.2.5 ทกั ษะดา้ นสขุ ภาวะและความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิงาน
3.3 ดา้ นความสามารถในการประยุกตใ์ ชแ้ ละความรบั ผิดชอบ ได้แก่
3.3.1 วางแผน ดําเนินงานตามหลักการและกระบวนการ โดยคำนึงถึงการบริหารงานคุณภาพ การ

อนุรักษ์พลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม หลกั อาชีวอนามัยและความปลอดภยั และกฎหมายทีเ่ กีย่ วขอ้ ง
3.3.2 ปฏบิ ัตงิ านพน้ื ฐานอาชีพ ……………….. ตามหลักการและกระบวนการ
3.3.3 เลือก ใช้และบำรุงรักษาเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ในงานอาชีพตามหลักการและกระบวนการ

โดยคำนึงถึงความประหยัดและความปลอดภัย

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 9

3.3.4 ประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพอื่ พัฒนาและสนบั สนุนงานอาชีพ
3.3.5 ……………………………………………………………………………………………………………………………………
สาขางาน ....................
3.3.6 ตัดสินใจ วางแผนและแก้ไขปัญหาในงานอาชพี ............. ท่ีไม่อย่ภู ายใตก้ ารควบคมุ ในบางเรื่อง
3.3.7 ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะทางวิชาชีพ เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารในการแก้ปัญหา
และการปฏบิ ตั งิ าน ............................
3.3.8 ให้คำแนะนำพ้ืนฐานที่ต้องใช้การตดั สินใจและการปฏิบตั งิ านแก่ผู้รว่ มงาน
3.3.9 …………………………………………………………………………………........................................................

มาตรฐานการศึกษาวชิ าชพี ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูง

1. ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์
1.1 ด้านคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ได้แก่ ความเสียสละ ความซื่อสัตย์สุจริต ความ

กตัญญูกตเวที ความอดกลั้น การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนัน การมีจิตสำนึกและเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพและ
สังคม ภูมิใจและรักษาเอกลักษณ์ของชาติไทย เคารพกฎหมาย เคารพสิทธิของผู้อื่น ประพฤติปฏิบัติตาม
บทบาทหน้าที่ของตนเองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจิตสาธารณะและ
จติ สำนกึ รักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม

1.2 ดา้ นคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ได้แก่ ความมีวนิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความรกั สามคั คี มีมนษุ ย-สมั พันธ์
ความเชื่อมั่นในตนเอง สนใจใฝ่รู้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ขยัน ประหยัด อดทน พึ่งตนเองต่อต้านความ
รุนแรงและการทุจริต ปฏิบตั ิตนและปฏบิ ตั งิ านโดยคำนงึ ถึงหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความปลอดภัย
อาชีวอนามยั การอนุรกั ษพ์ ลงั งานและสงิ่ แวดลอ้ ม

2. ด้านสมรรถนะแกนกลาง
2.1 ดา้ นความรู้ ได้แก่
2.1.1 หลักการใช้ภาษาและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การสือ่ สาร
2.1.2 หลกั การใช้เหตุผล การคดิ วิเคราะห์ การแก้ปญั หาและการจดั การ
2.1.3 หลกั การดำรงตนและอยู่ร่วมกับผอู้ น่ื ในสังคม
2.1.4 หลกั การปรบั ตวั และดำเนนิ ชีวิตในสังคมสมยั ใหม่
2.2 ด้านทกั ษะ ไดแ้ ก่
2.2.1 ทกั ษะการส่อื สารและการเรยี นร้โู ดยใชภ้ าษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ
2.2.2 ทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและการจัดการ โดยใช้หลักการและกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์

10 4 การนำหลักสตู รไปใช้

2.2.3 ทักษะทางสังคมและการดำรงชีวิตตามหลักศาสนา วัฒนธรรมและความเป็นพลเมือง และ
หลักการพฒั นาบุคลกิ ภาพและสขุ อนามัย

2.3 ดา้ นความสามารถในการประยุกต์ใชแ้ ละความรับผิดชอบ ได้แก่
2.3.1 สื่อสารโดยใช้ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศและเทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิต ประจำวันและใน

งานอาชพี
2.3.2 แก้ไขปญั หาและพัฒนางานอาชพี โดยใชห้ ลกั การและกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์
2.3.3 ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ศาสนา วฒั นธรรม ค่านิยม คณุ ธรรม จริยธรรมทางสังคมและสิทธิหน้าที่พลเมือง
2.3.4 พัฒนาบุคลิกภาพ สุขอนามัยและคุณลักษณะเหมาะสมกับการปฏิบัติงานอาชีพและการอยู่ร่วม

กับผอู้ ่ืน

3. ดา้ นสมรรถนะวิชาชพี
3.1 ดา้ นความรู้ ไดแ้ ก่
3.1.1 หลกั ทฤษฎแี ละเทคนคิ เชงิ ลกึ ภายใตข้ อบเขตของงานอาชพี
3.1.2 หลกั การคดิ วิเคราะห์ ตัดสนิ ใจ วางแผนและแกไ้ ขปัญหา
3.1.3 หลักการประสานงาน ประเมนิ ผลการปฏิบัติงานและบรหิ ารจัดการงานอาชพี
3.1.4 หลักการดา้ นความปลอดภัยและข้อกำหนดกฎหมายทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การงานอาชีพ
3.1.5 หลักการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการเรียนรแู้ ละพัฒนางานอาชีพ
3.2 ดา้ นทกั ษะ ได้แก่
3.2.1 ทักษะการเลอื กและประยกุ ตใ์ ช้วธิ กี าร เครอ่ื งมือและวัสดอุ ปุ กรณใ์ นการปฏิบัตงิ าน
3.2.2 ทักษะการคดิ วิเคราะหแ์ ละแก้ปัญหาในการปฏบิ ัตงิ าน
3.2.3 ทักษะการวางแผน การบรหิ ารจัดการ การประสานงานและการประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านอาชพี
3.2.4 ทกั ษะการใช้คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต
3.2.5 ทักษะดา้ นสุขภาวะและความปลอดภัยตามระเบยี บข้อบงั คบั ที่เชื่อมโยงกนั ในการปฏิบตั ิงาน
3.3 ด้านความสามารถในการประยุกตใ์ ชแ้ ละความรับผิดชอบ ไดแ้ ก่
3.3.1 วางแผน ดําเนินงานตามหลักการและกระบวนการ โดยคำนึงถึงการบริหารงานคุณภาพ การ

อนุรกั ษ์พลงั งาน ทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม หลกั อาชีวอนามัยและความปลอดภยั และกฎหมายทีเ่ กีย่ วขอ้ ง
3.3.2 ปฏิบัติงานอาชีพ ……………….. ตามหลักการและแบบแผนที่กำหนด โดยใช้/เลือกใช้/ปรับใช้

กระบวนการปฏบิ ตั ิงานทีเ่ หมาะสม
3.3.3 เลือก ใช้และบำรุงรักษาเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ในงานอาชีพตามหลักการและกระบวนการ

โดยคำนึงถงึ ความประหยัดและความปลอดภัย
3.3.4 ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ เพอ่ื พัฒนาและสนับสนุนงานอาชพี
3.3.5 ……………………………………………………………………………………………………………………………………

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 11

สาขางาน ....................
3.3.6 ตัดสินใจ วางแผนและแก้ไขปัญหาที่ไม่คุ้นเคยหรือซับซ้อนและเป็นนามธรรมในงานอาชีพ
............................ ท่ีไม่อยภู่ ายใต้การควบคมุ ในบางเรอ่ื ง
3.3.7 ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะทางวิชาชีพ เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารในการแก้ปัญหา
และการปฏบิ ตั ิงาน ............................
3.3.8 บรหิ ารจดั การ ประสานงานและประเมินผลการปฏบิ ัติงานอาชีพ ...............ด้วยตนเอง
3.3.9 …………………………………………………………………………………........................................................

ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรแต่ละระดับคุณวุฒิ สาขาวิชาและสาขางาน สามารถเพิ่ม
สมรรถนะวิชาชีพท่ีงานอาชพี ต้องการนอกเหนอื จากท่กี ำหนดไว้ได้

• โครงสร้างหลักสูตร

เป็นกรอบในการจัดการศึกษาของแต่ละระดับคุณวุฒิ ประเภทวิชา สาขาวิชาและสาขางาน
ประกอบด้วย 3 หมวดวิชา และกิจกรรมเสริมหลักสูตร โดยในหมวดวิชาประกอบด้วยกลุ่มและกลุ่มวิชา
ซึ่งมีทั้งรายวิชาบังคับหรือต้องเรียน รายวิชาที่มีเงื่อนไขว่าต้องเลือกหรือต้องเรียนรายวิชาใดก่อน-หลัง
รายวิชาที่ให้เลือกเรียนได้เฉพาะในกลุ่มวิชาที่กำหนด รายวิชาที่สามารถเลือกเรียนได้โดยอิสระ
สถานศึกษาจึงต้องทำความความเข้าใจกรอบโครงสร้างหลักสูตร รายวิชาและรายละเอียดรายวิชา
จำนวนหน่วยกติ ที่กำหนดในแต่ละหมวดวิชา จำนวนหน่วยกิตรวมเพือ่ การสำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาที่
จัดการศึกษาและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนจัดทำแผนการเรียน จัดตารางเรียน ตารางสอน ตาราง
การใช้ห้องเรียน-ห้องปฏิบัติการ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้และการประเมินผล รวมทั้งประสานงาน
หนว่ ยงานและสถานประกอบการทีร่ ว่ มจัดการศึกษา

ทั้งนี้ เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และเกณฑ์มาตรฐาน
คุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ได้กำหนดโครงสร้างหลักสูตร จำนวนหน่วยกิต
ของแต่ละหมวดวิชา รวมทัง้ จำนวนหนว่ ยกติ รวมขนั้ ต่ำของหลกั สตู รแต่ละระดับไว้เพ่ือเป็นกรอบแนวทาง
ในการพัฒนาหลักสูตร ซึ่งคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้เห็นชอบให้กรอบโครงสร้างหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 และโครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
พทุ ธศกั ราช 2563 สำหรับการพัฒนาหลกั สตู รแต่ละระดับ สาขาวิชาและสาขางาน เป็นดงั น้ี

12 4 การนำหลกั สตู รไปใช้

โครงสรา้ งหลกั สตู ร ปวช. 2562 โครงสรา้ งหลักสตู ร ปวส. 2563

1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง 1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง
(ไม่นอ้ ยกว่า 22 หนว่ ยกิต) (ไม่น้อยกวา่ 21 หนว่ ยกิต)
1.1 กลุ่มวชิ าภาษาไทย 1.1 กลมุ่ วชิ าภาษาไทย
1.2 กลุ่มวชิ าภาษาตา่ งประเทศ 1.2 กลมุ่ วิชาภาษาต่างประเทศ
1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ 1.3 กลมุ่ วิชาวิทยาศาสตร์
1.4 กล่มุ วิชาคณติ ศาสตร์ 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์
1.5 กลมุ่ วิชาสังคมศกึ ษา 1.5 กลมุ่ วิชาสงั คมศาสตร์
1.6 กลมุ่ วชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา 1.6 กลุ่มวชิ ามนุษยศาสตร์

2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ 2. หมวดวชิ าสมรรถนะวชิ าชพี
(ไมน่ ้อยกวา่ 71 หนว่ ยกิต) (ไมน่ ้อยกว่า 56 หนว่ ยกิต)
2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชพี พื้นฐาน 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชพี พื้นฐาน
2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชพี เฉพาะ 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชพี เฉพาะ
2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลอื ก 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก
2.4 ฝกึ ประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ 2.4 ฝกึ ประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ
2.5 โครงงานพฒั นาสมรรถนะวชิ าชีพ 2.5 โครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ

3. หมวดวิชาเลือกเสรี 3. หมวดวชิ าเลอื กเสรี
(ไม่น้อยกว่า 10 หนว่ ยกิต) (ไม่นอ้ ยกว่า 6 หนว่ ยกติ )

4. กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตร (2 ชวั่ โมง/สปั ดาห)์ 4. กจิ กรรมเสริมหลักสูตร (2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์)
(- หนว่ ยกิต) (- หนว่ ยกิต)
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสตู ร จำนวนหน่วยกติ รวมตลอดหลักสตู ร
ไมน่ อ้ ยกว่า 103 หน่วยกติ ไม่น้อยกวา่ 83 หนว่ ยกติ

ทั้งนี้ โครงสร้างหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงที่กำหนดนี้ สำหรับผู้สำเร็จ
การศึกษาระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ ในประเภทวิชาและสาขาวิชาที่กำหนด หรือเทียบเท่า หากผู้เขา้
เรียนสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่าในสาขาวิชาอื่น หรือผู้เข้าเรียนที่สำเรจ็
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือเทียบเท่า ที่ไม่มีพื้นฐานวิชาชีพ จะต้องเรียนรายวิชา
ปรับพ้นื ฐานวิชาชีพตามท่ีหลกั สตู รสาขาวชิ ากำหนด โดยสถานศึกษาจะตอ้ งจดั แผนการเรียนรายวชิ าปรบั
พ้ืนฐานวิชาชพี ใหก้ ับผเู้ รยี นใหค้ รบตามท่กี ำหนด ซ่ึงจะไดก้ ล่าวรายละเอยี ดทเ่ี กย่ี วขอ้ งต่อไป

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 13

• รายละเอยี ดของรายวชิ า

เปน็ กรอบสำหรับการวางแผนการจัดการเรยี นรู้และการวัดประเมินผลของครผู ู้สอน ว่าในการ
จัดการเรียนการสอนรายวิชานั้นมีต้องการให้ผู้เรียนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างไรบ้าง ทั้งในด้าน
พุทธิพิสัยหรือด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัยหรือด้านทักษะ และด้านจิตพิสัยหรือด้านเจตคติและกิจนิสัย
นอกจากนี้ยังกำหนดสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดขึ้น รวมทั้งเนื้อหาที่จะต้องเรียนรู้และหรือฝึกปฏิบัติ
เพ่ือให้ครูผู้สอนนำไปจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยกำหนดหน่วยการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้
สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งเนื้อหาสาระ กิจกรรมการเรียนรู้ การวัดประเมินผลและเวลาทีใ่ ช้
ในการจัดการเรียนรู้ในแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้

กรอบรายละเอยี ดของรายวชิ า

(รหัสวิชา) (ชอ่ื วิชา) ท-ป-น
..……-…….. …………………………………………….……….. .. - .. - ..
(...........................................................................................)
วิชาบงั คับกอ่ น : .…….-…….. ........................................... (ถ้ามี)

จุดประสงคร์ ายวชิ า เพอ่ื ให้

1. เขา้ ใจ……………………………………....…………………………………………………………………………………..
2. สามารถ………………………………………………………………………………………………………………………..
3. มเี จตคติและกจิ นสิ ัยท่ดี ตี อ่ การศึกษาเรียนรู/้ การปฏิบตั ิงานดว้ ยความ…………….…….……………..

สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงความร้เู กยี่ วกับ………………………………………………………………………………………………………
2. …………………………….............…………………………………………………………………………………………..
3. …………………………………………………………………………………….....................................................
4. …………………………………………………………………………………….....................................................

คำอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษา/ศกึ ษาและปฏิบัติ/ปฏบิ ตั เิ กีย่ วกบั ….…………………………………………………….….…………………

…………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………...……………………………………………………………….………………………………

14 4 การนำหลักสูตรไปใช้

• รหัสวชิ า

รายวิชาแต่ละรายวิชาในหลักสูตรประกอบด้วย รหัสวิชา ชื่อวิชา ชั่วโมงเรียนภาคทฤษฎีต่อ
สัปดาห์ ชั่วโมงเรียนภาคปฏิบัติต่อสัปดาห์ และจำนวนหน่วยกิต สำหรับรหัสวิชานั้นจะใช้ในการจำแนก
ให้รู้ว่ารายวิชานั้นอยู่ในประเภทวิชา สาขาวิชา สาขางาน หมวดวิชา กลุ่มและกลุ่มวิชาใด ตลอดจนเป็น
เป็นรายวิชาลำดับที่เท่าไรในแต่ละกลุ่มและกลุ่มวิชา ซึ่งสถานศึกษาและครูผู้สอนจะต้องทำความเข้าใจ
และใหค้ วามสำคญั กับเกณฑก์ ารกำหนดรหัสวิชาเพอื่ ใชป้ ระโยชน์ในการจัดแผนการเรยี น การลงทะเบียน
เรียนและบันทึกผลการเรียนในเอกสารหลักฐานการศึกษาของผู้เรียนได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้หาก
สถานศึกษาประสงค์จะดำเนินการพัฒนารายวิชาหรือกลุ่มวิชาเพิ่มเติมในส่วนที่อนุญาตให้เพิ่มเติมได้จะ
กำหนดรหัสวิชาอยา่ งไร

รหัสวิชาในหลักสูตรอาชีวศึกษา ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 และ
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2563 ประกอบด้วยตัวเลข 9 ตัว โดยมีเครื่องหมาย
“-” คั่นระหว่างตัวเลขลำดับที่ 5 และลำดับที่ 6 แต่หากเป็นรายวิชาที่พัฒนาโดยสถานศึกษา จะใช้
เครื่องหมาย “*” แทน สำหรบั ความหมายของตัวเลขในรหสั วิชา เป็นดงั น้ี

ตัวเลขลำดบั ที่ ความหมาย

1 ระดับของหลักสตู ร
2 = หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.)
2 และ 3 3 = หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ช้นั สูง (ปวส.)

ประเภทวิชา
01 = ประเภทวิชาอตุ สาหกรรม
02 = ประเภทวชิ าพาณชิ ยกรรม/บริหารธุรกิจ
03 = ประเภทวชิ าศิลปกรรม
04 = ประเภทวชิ าคหกรรม
05 = ประเภทวิชาเกษตรกรรม
06 = ประเภทวิชาประมง
07 = ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
08 = ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมสง่ิ ทอ
09 = ประเภทวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร
10 = ประเภทวิชาอตุ สาหกรรมบนั เทิงและดนตรี
11 = ประเภทวชิ าพาณิชยนาวี

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 15

ตัวเลขลำดบั ที่ ความหมาย

4 และ 5 สาขาวิชา
6 และ 7 00 = วชิ าเรยี นร่วม
01 = สาขาวชิ าท่ี 1
8 และ 9 02 = สาขาวิชาที่ 2
XX = สาขาวิชาท่ี ..

หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง หมวดวชิ าเลอื กเสรี กิจกรรมเสรมิ หลกั สตู ร
X0000-11… = กลมุ่ วิชาภาษาไทย
X0000-12… = กล่มุ วชิ าภาษาต่างประเทศ
X0000-13… = กลุม่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์
X0000-14… = กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์
X0000-15… = กลมุ่ วิชาสังคมศึกษา (ปวช.) /กลมุ่ วชิ าสังคมศาสตร์ (ปวส.)
X0000-16… = กลุม่ วชิ าสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา(ปวช.) /กลมุ่ วิชามนุษยศาสตร์ (ปวส.)
X0000-17… = กลมุ่ วชิ าบูรณาการ
X0000-20… = กจิ กรรมเสริมหลกั สูตร
X0000-9X… = วชิ าเลือกเสรี

หมวดวิชาสมรรถนะวชิ าชีพ กลมุ่ สมรรถนะวชิ าชพี พน้ื ฐาน
X0001-10… = กลมุ่ วชิ าเรยี นรว่ มหลกั สตู ร (การจดั การอาชพี )
X0001-20... = กลุ่มวชิ าเรยี นรว่ มหลกั สตู ร (เทคโนโลยสี ารสนเทศ)
3XX00-00… = วิชาปรบั พืน้ ฐานวชิ าชพี ประเภทวิชา (ปวส.)
XXX00-10… = วิชาเรยี นรว่ มประเภทวิชา
XXX00-0X… = วิชาเรยี นร่วมกลุ่ม/สาขาวชิ า

หมวดวชิ าสมรรถนะวิชาชพี
3XXXX-00… = วิชาปรับพนื้ ฐานวชิ าชีพสาขาวชิ า (ปวส.)
XXXXX-10… = กลุ่มสมรรถนะวชิ าชีพพ้ืนฐาน
XXXXX-20… = กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ
XXXXX-21-49… = กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก
XXXXX-51-79… = กลุ่มสมรรถนะวชิ าชพี เลอื ก (ทวิภาค)ี
XXXXX-80… = ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชีพ
XXXXX-85… = โครงงานพฒั นาสมรรถนะวิชาชพี
XXXXX-9X… = วิชาเลือกเสรี

ลำดับท่ีรายวชิ า (01-99)

16 4 การนำหลกั สตู รไปใช้

• การคดิ หนว่ ยกติ

1. จำนวนหนว่ ยกติ ตลอดหลกั สตู ร
- ระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี กำหนดไม่น้อยกวา่ 103-110 หน่วยกิต
- ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สงู กำหนดไมน่ อ้ ยกว่า 83-90 หนว่ ยกติ

2. การคดิ คา่ หน่วยกติ ถอื เกณฑ์ดังน้ี

ประเภทของรายวิชา เวลาที่ใช้ การคดิ ค่าหนว่ ยกิต

รายวิชาทฤษฎีที่ใช้เวลาในการ 1 ชม. ต่อสัปดาห์ หรือ 18 ชม. ตอ่ ภาคเรยี น 1 หน่วยกติ
บรรยายหรอื อภปิ ราย รวมเวลาการวัดผล 1 หน่วยกติ
รายวิชาปฏบิ ตั ิทใี่ ช้เวลาในการทดลอง 1 หนว่ ยกิต
หรอื ฝึกปฏิบตั ใิ นหอ้ งปฏิบัติการ 2 ชม. ต่อสัปดาห์ หรือ 36 ชม. ตอ่ ภาคเรียน 1 หนว่ ยกิต
รายวิชาปฏิบัติที่ใช้เวลาในการฝึก รวมเวลาการวดั ผล 1 หนว่ ยกติ
ปฏิบัตใิ นโรงฝกึ งานหรือภาคสนาม 1 หน่วยกิต
การฝึกอาชีพในการศึกษาระบบ 3 ชม. ต่อสัปดาห์ หรอื 54 ชม. ตอ่ ภาคเรยี น
ทวภิ าคี รวมเวลาการวดั ผล
การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ
ในสถานประกอบการ 3 ชม. ต่อสัปดาห์ หรอื 54 ชม. ต่อภาคเรยี น
การทำโครงงานพัฒนาสมรรถนะ รวมเวลาการวดั ผล
วิชาชีพ
ไม่นอ้ ยกวา่ 54 ชม. ตอ่ ภาคเรียน
รวมเวลาการวดั ผล

ไม่น้อยกวา่ 54 ชม. ต่อภาคเรยี น
รวมเวลาการวัดผล

ตัวอยา่ งรายวิชาที่ 1

รหสั วชิ า ชอ่ื วชิ า ท-ป-น
20000-1201 ภาษาอังกฤษในชวี ติ จรงิ 0-2-1

2 00 00 - 12 01 หมายถงึ หลกั สูตรระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี
2 00 00 - 12 01 หมายถงึ วิชาเรยี นรว่ ม
2 00 00 - 12 01 หมายถึง วิชาเรยี นรว่ ม
2 00 00 - 12 01 หมายถึง รายวิชาทีพ่ ฒั นาโดยคณะกรรมการสว่ นกลาง
2 00 00 - 12 01 หมายถึง หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง กลุ่มวชิ าภาษาต่างประเทศ
2 00 00 - 12 01 หมายถึง รายวิชาลำดบั ที่ 1
เปน็ รายวิชาทีม่ เี ฉพาะภาคปฏิบตั ิ 2 ชม. ต่อสัปดาห์ จำนวน 1 หนว่ ยกติ

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 17

ตัวอยา่ งรายวิชาท่ี 2

รหสั วิชา ชือ่ วิชา ท-ป-น
20001-1003 ธุรกจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ 1-2-2

2 00 01 - 10 03 หมายถงึ หลักสตู รระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี
2 00 01 - 10 03 หมายถึง วิชาเรียนร่วม
2 00 01 - 10 03 หมายถงึ กลุม่ สมรรถนะวิชาชพี พน้ื ฐาน
2 00 01 - 10 03 หมายถึง รายวชิ าท่พี ัฒนาโดยคณะกรรมการสว่ นกลาง
2 00 01 - 10 03 หมายถงึ วิชาเรียนรว่ มหลักสูตร (การจัดการอาชพี )
2 00 01 - 10 03 หมายถงึ รายวชิ าลำดบั ท่ี 3
เป็นรายวชิ าท่มี ีภาคทฤษฎี 1 ชม.ตอ่ สัปดาห์ ภาคปฏบิ ตั ิ 2 ชม.ต่อสัปดาห์
จำนวน 2 หนว่ ยกติ

ตวั อยา่ งรายวชิ าที่ 3

รหัสวิชา ชอื่ วิชา ท-ป-น
30104-8501 โครงงาน 1 *-*-4

3 01 04 - 80 01 หมายถงึ หลกั สตู รระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สงู
3 01 04 - 80 01 หมายถึง ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม
3 01 04 - 80 01 หมายถึง สาขาวชิ าไฟฟ้า
3 01 04 - 80 01 หมายถึง รายวชิ าทพ่ี ัฒนาโดยคณะกรรมการสว่ นกลาง
3 01 04 - 80 01 หมายถึง กลุ่มโครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ
3 01 04 - 80 01 หมายถงึ รายวชิ าลำดับที่ 1
เป็นรายวิชาทีม่ ีภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ริ วมไมน่ ้อยกว่า 54 ชม.ต่อ
สปั ดาห์ จำนวน 4 หน่วยกิต

18 4 การนำหลักสตู รไปใช้

ตวั อยา่ งรายวชิ าที่ 4

รหัสวิชา ชือ่ วชิ า ท-ป-น
30503-2005 อาหารและการใหอ้ าหารสัตว์ 2-3-3

3 05 03 - 20 05 หมายถงึ หลักสูตรระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง
3 05 03 - 20 05 หมายถึง ประเภทวชิ าเกษตรกรรม
3 05 03 - 20 05 หมายถึง สาขาวิชาสัตวศาสตร์
3 05 03 - 20 05 หมายถงึ รายวิชาที่พัฒนาโดยคณะกรรมการสว่ นกลาง
3 05 03 - 20 05 หมายถึง กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ
3 05 03 - 20 05 หมายถึง รายวิชาลำดับที่ 5
เป็นรายวิชาทมี่ ีภาคทฤษฎี 2 ชม.ตอ่ สปั ดาห์ ภาคปฏิบตั ิ 3 ชม.ต่อสปั ดาห์
จำนวน 3 หน่วยกติ

ตวั อย่างรายวิชาท่ี 5

รหัสวิชา ชื่อวชิ า ท-ป-น
30202-2103 การตลาดอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 2-2-3

3 02 02 - 21 03 หมายถงึ หลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี ชัน้ สงู
3 02 02 - 21 03 หมายถึง ประเภทวชิ าบรหิ ารธรุ กิจ
3 02 02 - 21 03 หมายถึง สาขาวชิ าการตลาด
3 02 02 - 21 03 หมายถงึ รายวิชาที่พัฒนาโดยคณะกรรมการสว่ นกลาง
3 02 02 - 21 03 หมายถึง กลุ่มสมรรถนะวิชาชพี เลือก สาขางานการตลาด
3 02 02 - 21 03 หมายถงึ รายวชิ าลำดบั ที่ 3
เปน็ รายวชิ าทีม่ ภี าคทฤษฎี 2 ชม.ต่อสปั ดาห์ ภาคปฏิบตั ิ 2 ชม.ต่อสปั ดาห์
จำนวน 3 หนว่ ยกติ

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 19

หลกั เกณฑ์การนำหลักสูตรไปใช้

เป็นการนำเสนอแนวทางในการนำหลักสูตรแต่ละระดับคุณวุฒิไปใช้ ทั้งเรื่องการจัดการเรียน
การสอน การจัดการศึกษาและเวลาเรียน การคิดค่าหน่วยกิตและโครงสร้างหลักสูตร การจัดแผนการ
เรียน การจัดฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพและโครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ การจัดกิจกรรม
เสริมหลักสูตร การปรับพื้นฐานวิชาชีพ (เฉพาะระดับ ปวส.) การศึกษาระบบทวิภาคี การประเมินผลการ
เรียน การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร การพัฒนารายวิชาในหลักสูตร การปรับปรุงแก้ไข พัฒนา
รายวิชา กลุ่มวิชาและการอนุมัติหลักสูตร รวมทั้งการประกันคุณภาพของหลักสูตรและการจัดการเรียน
การสอน ซึ่งสอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการ
เรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัด
การศึกษาและการประเมนิ ผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพช้ันสูง (ปวส.) ดังนี้

• ผูเ้ รียน

1. พ้ืนความรขู้ องผู้เขา้ เรียน
- ผู้เข้าเรียนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ต้องสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา

ตอนตน้ (ม.3) หรือเทียบเทา่
- ผู้เข้าเรียนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ต้องสำเร็จการศึกษาระดับ

ประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า ในสาขาวิชาที่กำหนด หรือสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอน
ปลาย (ม.6) หรือเทียบเทา่

2. คุณสมบตั ขิ องผู้เข้าเรยี น
- ผเู้ ขา้ เรียนในระดับประกาศนยี บัตรวิชาชีพและระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพชนั้ สูง ต้อง

มคี ณุ สมบัติตามทก่ี ำหนดในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการ
เรียนตามหลักสูตรทีเ่ ข้าเรยี น

- ผู้เข้าเรียนตามโครงการต่าง ๆ ของสถานศึกษา ให้สถานศึกษากำหนดคุณสมบัติ
เพิ่มเติมไดต้ ามความเหมาะสมของโครงการนัน้

3. การรับผ้เู ขา้ เรียน
- ผเู้ ข้าเรียนในระบบ สถานศึกษาสามารถทำการสอบคดั เลือกหรอื คัดเลือกไดต้ ามทก่ี ำหนด
- ผู้เข้าเรียนในการศึกษาระบบทวิภาคี สถานประกอบการจะเป็นผู้สอบคัดเลือกหรือ

คัดเลือกผู้เข้าเรียนเองตามคุณสมบัติที่กำหนดและตามจำนวนท่ีตกลงร่วมกับสถานศกึ ษา หรือจะมอบให้
สถานศกึ ษาเปน็ ผู้ดำเนนิ การ หรือดำเนนิ การรว่ มกันก็ได้

20 4 การนำหลักสตู รไปใช้

- ผู้เข้าเรียนตามโครงการต่าง ๆ ของสถานศึกษา ให้สถานศึกษาคัดเลือกผู้เข้าเรียนตาม
คุณสมบตั ทิ ี่กำหนดตามความเหมาะสมของโครงการน้นั

4. การพ้นสภาพ การคนื สภาพ การพักการเรยี นและการลาออกของผเู้ รยี น
การพ้นสภาพ การคืนสภาพ การพักการเรียนและการลาออกของนักเรียน ระดับ

ประกาศนียบัตรวิชาชีพ และนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ให้เป็นไปตามระเบียบ
กระทรวงศกึ ษาธิการว่าด้วยการจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรยี นตามหลกั สตู รแต่ละระดบั

5. การสำเร็จการศึกษาของผเู้ รยี น
การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และ

นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ให้ถือตามเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย
การจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรยี นตามหลกั สูตรแตล่ ะระดับ ดังน้ี

5.1 ได้รายวิชาและจำนวนหน่วยกิตสะสมในทุกหมวดวิชา ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ใน
หลกั สตู รแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา และตามแผนการเรียนทสี่ ถานศกึ ษากำหนด

5.2 ไดค้ า่ ระดบั คะแนนเฉลย่ี สะสมไมต่ ำ่ กว่า 2.00
5.3 ผ่านเกณฑ์การประเมนิ มาตรฐานวชิ าชีพ
5.4 ได้เข้าร่วมปฏิบัติกจิ กรรมเสริมหลักสูตรตามแผนการเรียนที่สถานศึกษากำหนด และ
“ผา่ น” ทกุ ภาคเรียน

• การจัดการเรยี นการสอนตามหลกั สูตร

การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 และ
หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง พุทธศกั ราช 2563 ให้ดำเนินการดงั นี้

1. การกำหนดรปู แบบการจดั การศกึ ษา
สถานศกึ ษาสามารถกำหนดรปู แบบในการจดั การศึกษาตามหลักสูตร ได้ 3 รูปแบบ คอื
1.1 การศึกษาในระบบ เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่เน้นการศึกษาในสถานศึกษา

อาชีวศึกษาหรือสถาบันเป็นหลัก โดยมกี ารกำหนดจดุ มงุ่ หมาย วธิ กี ารศึกษา หลักสตู ร ระยะเวลา การวัด
และการประเมนิ ผลซึง่ เป็นเง่ือนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน

1.2 การศึกษานอกระบบ เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนด
จุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการศึกษา ระยะเวลา การวัดและการประเมินผลที่เป็นเงื่อนไขของการสำเร็จ
การศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหา และความ
ต้องการของบคุ คลแต่ละกลุ่ม

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 21

1.3 การศึกษาระบบทวิภาคี เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่าง
สถานศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐในเรื่องการจัดหลักสตู ร
การเรียนการสอน การวัดและการประเมินผล โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหนึ่งในสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือ
สถาบนั และเรียนภาคปฏิบัตใิ นสถานประกอบการ รัฐวสิ าหกจิ หรอื หน่วยงานของรฐั

ทั้งนี้ สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถจัดการศึกษาในหลายรูปแบบรวมกัน
ก็ได้เพื่อประโยชน์ในการผลติ และพฒั นากำลงั คน โดยสถานศึกษา อาชีวศึกษาหรือสถาบันนั้นต้องมุ่งเน้น
การจัดการศกึ ษาระบบทวิภาคีเป็นสำคญั

2. การลงทะเบยี นเรียน
สถานศึกษาสามารถจัดให้ผู้เรียนลงทะเบียนเรียนได้ทุกวิธีเรียนที่กำหนด และนำผลการ

เรียนแต่ละวิธีมาประเมินผลร่วมกันได้ สามารถขอเทียบโอนผลการเรียน และขอเทียบโอนความรู้และ
ประสบการณ์ได้ โดยปฏิบัติตามระเบียบฯ ดงั นี้

2.1 ผู้เรียนต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาในแต่ละภาคเรียนด้วยตนเอง ตามวันและเวลาที่
สถานศกึ ษากำหนด โดยไดร้ ับความเห็นชอบจากครทู ่ปี รึกษา

2.2 ผู้เรียนลงทะเบียนรายวิชาได้ไม่เกินภาคเรียนละ 12 หน่วยกิต สำหรับการเรียนแบบ
เต็มเวลา และไม่เกินภาคเรียนละ 12 หน่วยกิต สำหรับการเรียนแบบไม่เต็มเวลา ส่วนการลงทะเบียน
รายวิชาในภาคเรียนฤดูร้อน ให้ลงทะเบียนได้ไม่เกิน 12 หน่วยกิต เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า
สถานศึกษา

2.3 สถานศึกษาอาจอนุญาตให้ผู้เรียนลงทะเบียนรายวิชาแตกต่างไปจากเกณฑ์ข้างต้นได้
หากมเี หตผุ ลและความจำเปน็ แต่ตอ้ งไมก่ ระทบต่อมาตรฐานและคุณภาพการศกึ ษา

2.4 ผเู้ รียนท่ขี อโอนผลการเรยี นรายวชิ า ตอ้ งลงทะเบียนเรยี นรายวิชาในสถานศึกษาที่ขอ
สำเร็จการศึกษา ไมน่ อ้ ยกว่า 1 ภาคเรยี น

2.5 ผู้เรียนที่ขอเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาใน
สถานศึกษาที่ขอสำเร็จการศึกษาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยกิตที่ระบุไว้ในหลักสูตรแต่ละ
ประเภทวชิ าและสาขาวิชา และตามแผนการเรียนทีส่ ถานศกึ ษากำหนด

2.6 ผูเ้ รียนสามารถขอเปลย่ี น ขอเพิม่ ขอถอนรายวิชา ขอลงทะเบยี นเรียนซ้ำรายวิชาทไี่ ด้
ระดับผลการเรียนต่ำกว่า 2.0 เพื่อประเมินปรับค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมให้สูงขึ้น รวมทั้งขอ
ลงทะเบียนเรียนรายวิชาโดยไม่นับจำนวนหน่วยกิตมารวมเพื่อการสำเร็จการศึกษาได้ โดยปฏิบัติตาม
ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการวา่ ดว้ ยการจัดการศึกษาและการประเมนิ ผลการเรยี นตามหลักสตู รนั้น

22 4 การนำหลักสูตรไปใช้

3. วธิ ีจัดการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนให้เน้นการปฏิบัติจริง โดยสามารถจัดได้หลากหลายรูปแบบ

เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ ความสามารถในการประยุกต์ใช้ รวมทั้งคุณธรรม จริยธรรมและ
คุณลักษณะที่พึงประสงค์เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานอาชีวศึกษาแต่ละระดับคุณวุฒิ สาขาวิชาและ
สาขางาน คอื

- ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ให้เข้าใจในหลักการ วิธีการและการดำเนินงาน มีทักษะ
การปฏิบัติงานตามแบบแผนในขอบเขตสำคัญและบริบทต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กันซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานประจำ
ให้คำแนะนำพ้นื ฐานท่ตี ้องใชใ้ นการตัดสินใจ วางแผนและแก้ไขปัญหาโดยไม่อยภู่ ายใต้การควบคมุ ในบาง
เรื่อง สามารถประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ ทกั ษะทางวิชาชีพ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการแกป้ ัญหา
และการปฏิบัติงานในบริบทใหม่ รวมทั้งรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น ตลอดจนมีคุณธรรม จริยธรรม
จรรยาบรรณวชิ าชีพ เจตคติและกจิ นิสยั ทเ่ี หมาะสมในการทำงาน

- ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ให้มีความรู้ความเข้าใจในทฤษฎีและเทคนิควิธีการ
ดำเนินงาน มีทักษะการปฏิบตั ิงาน ตามแบบแผนและปรบั ตัวได้ภายใต้ความเปล่ียนแปลง สามารถบูรณา
การและประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะทางวิชาการที่สัมพันธ์กับวิชาชีพ เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร ในการตัดสินใจ วางแผน แก้ปัญหาบริหารจัดการ ประสานงานและประเมินผลการดําเนินงานได้
อย่างเหมาะสม มีส่วนร่วมในการวางแผนและพัฒนา ริเริ่มสิ่งใหม่ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่นและ
หมคู่ ณะ รวมท้งั มีคณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี เจตคติและกิจนสิ ัยทเี่ หมาะสมในการทํางาน

• การจัดการศึกษาและเวลาเรยี น

1. การจดั การศึกษาในระบบปกติ
- ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ กำหนดให้ใชร้ ะยะเวลา 3 ปีการศึกษา
- ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สำหรับผู้เข้าเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับ

ประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า ในประเภทวิชาและสาขาวิชาตามที่หลักสูตรกำหนด ใช้ระยะเวลา
2 ปีการศึกษา ส่วนผู้เข้าเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า และผู้เข้า
เรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า ต่างประเภทวิชาและสาขาวิชาที่
กำหนด ใชร้ ะยะเวลาประมาณ 3 ปกี ารศึกษา

2. การจดั เวลาเรียน
ในปีการศึกษาหนึ่ง ๆ ให้แบ่งภาคเรียนออกเป็น 2 ภาคเรียนปกติหรือระบบทวิภาค ภาค

เรียนละ 18 สัปดาห์ รวมเวลาการวัดผล โดยมีเวลาเรียนและจำนวนหน่วยกิตตามที่กำหนด และ
สถานศึกษาอาชวี ศึกษาหรอื สถาบนั อาจเปิดสอนภาคเรียนฤดรู อ้ นไดอ้ กี ตามที่เหน็ สมควร

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 23

3. การเรยี นในระบบชัน้ เรยี น
ให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันเปิดทำการสอนไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 5 วัน ๆ ละ

ไมเ่ กนิ 7 ชัว่ โมง โดยกำหนดให้จัดการเรียนการสอนคาบละ 60 นาที

• การจดั แผนการเรยี นเนน้ สมรรถนะ

เป็นการกำหนดรายวิชาตามโครงสร้างหลักสูตรที่จะดำเนินการเรียนการสอนในแต่ละภาค
เรียนเพื่อให้ผู้เรียนในสาขาวิชาเดียวกันมีสมรรถนะในแต่ละชั้นปีเป็นมาตรฐานเดียวกันและเป็นไป
ตามลำดบั ความง่ายไปหายาก เพื่อนำไปสกู่ ารประเมินมาตรฐานวิชาชีพในแต่ละช้นั ปีจนจบหลกั สตู ร การ
จัดกลุ่มรายวิชาหลักเพื่อให้เกิดสมรรถนะตามที่กำหนดนั้น จะเอื้อต่อการบูรณาการการเรียนรู้ในรูปงาน
ช้นิ งาน ผลงาน ภาระงาน โครงงานและหรอื โครงการตามเงื่อนไขการจัดการเรยี นรู้และการวดั ประเมนิ ผล
ส่งผลให้การเรียนรู้ของผู้เรียนในแต่ละภาคเรียนและแต่ละปีการศึกษามีความหมาย ผู้เรียนมองเห็น
ผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมซึ่งสามารถนำร่องรอยหลักฐานเหล่านั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการประเมิน
มาตรฐานวชิ าชีพ และเก็บสะสมเปน็ ผลงานเพ่ือการทำงานหรอื การศึกษาต่อได้เป็นอย่างดี

1. แนวปฏบิ ตั ใิ นการจัดแผนการเรยี นของสถานศกึ ษา

การจัดทำแผนการเรียนถอื เปน็ ขัน้ ตอนสำคัญสำหรบั สาขาวชิ าและสาขางานที่สถานศกึ ษา
เปิดสอน เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนจัดครูผู้สอน จัดทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอน จัดการเรียน
การสอนและวัดประเมินผล ตลอดจนการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาของผู้เรียนทั้งในระบบปกติ
และในระบบทวิภาคี ทั้งนี้ การจัดแผนการเรียนตลอดหลักสูตรของสถานศึกษาควรเป็นการดำเนินการ
ร่วมกันในรูปคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้รับผิดชอบหรือตัวแทนของงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รอง
ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ งานพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน งานทะเบียนและวัดผล แผนกวิชาและ
สถานประกอบการทร่ี ว่ มจดั ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชีพและหรอื จัดฝกึ อาชพี โดยปฏิบัติ ดงั นี้

1.1 ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรที่จัดการศึกษา ได้แก่ หลักการของหลักสูตร
จุดหมายของหลักสูตร หลักเกณฑ์การใช้หลักสูตร การกำหนดรหัสวิชา จุดประสงค์สาขาวิชา มาตรฐาน
การศกึ ษาวิชาชพี โครงสร้างหลกั สูตรและคำอธิบายรายวชิ า

1.2 ประชุมคณะกรรมการจัดแผนการเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อกำหนดสมรรถนะของ
ผเู้ รยี นรายภาคและรายปีตามมาตรฐานและเงอื่ นไขที่กำหนด

1.3 จัดกลุ่มรายวิชาหลักที่ทำให้เกิดสมรรถนะรายภาคและรายปีตามมาตรฐานที่กำหนด
และจัดรายวิชาอื่น ๆ ในแผนการเรียนแต่ละภาคเรียนให้ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมทั้งตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งครบถ้วน

24 4 การนำหลกั สตู รไปใช้

1.4 ในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี สถานศึกษาอาจเชิญสถานประกอบการในแต่ละ
สาขาวิชามาร่วมจัดหรือร่วมวิพากษ์แผนการเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการฝึกอาชีพ
เพอื่ ให้ผเู้ รียนมสี มรรถนะตามมาตรฐานสาขาวิชาและสาขางานท่ีเรยี น

1.5 นำเสนอผู้บริหารสถานศึกษาอนุมัติแผนการเรียน และนำไปใช้ในการจัดตารางเรียน
ตารางสอน จัดทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน กำหนดผู้สอน วางแผนการจัดการเรียนการสอน
และการวดั ประเมินผลต่อไป

อนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้กำหนดให้นำโปรแกรม
งานทะเบียนมาใช้ในการปฏิบัติงาน สถานศึกษาแต่ละแห่งจะต้องป้อนข้อมูลการจัดแผนการเรียนเข้าระบบ
ดังนั้นหากมีการปรับเปลี่ยนรายวิชาในแผนการเรียนที่ได้อนุมัติไปแล้ว จะต้องดำเนินการขออนุมัติปรับ
แผนการเรียนเสนอผู้บริหารสถานศึกษาอนมุ ตั ิใหม่ และประสานขอปรบั แกไ้ ขขอ้ มูลทน่ี ำเขา้ ระบบใหม่

2. ข้อพิจารณาในการจดั แผนการเรยี น

ในการจัดแผนการเรยี นมขี อ้ พิจารณา ดงั นี้
2.1 จัดรายวิชาในแต่ละภาคเรียน โดยคำนึงถึงรายวิชาที่ต้องเรียนตามลำดับก่อน-หลัง
ความง่าย-ยากของรายวิชา ความต่อเนื่องและเชื่อมโยงสัมพันธ์กนั ของรายวิชา รวมทั้งรายวิชาที่สามารถ
บูรณาการจัดการเรยี นรู้รว่ มกนั ในลักษณะของงาน โครงงานและหรือชิน้ งานในแต่ละภาคเรียนเพ่ือให้เกิด
สมรรถนะรายภาคและรายปตี ามมาตรฐานท่ีกำหนด
2.2 จัดให้ผู้เรียนเรียนรายวิชาบังคับในหมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง หมวดวิชา
สมรรถนะวิชาชีพในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐานและกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ และกิจกรรมเสริม
หลักสตู รให้ครบตามทกี่ ำหนดในโครงสร้างหลกั สูตร โดย

2.2.1 การจดั รายวชิ าในหมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง ควรจัดกระจายทุกภาคเรียน
2.2.2 การจัดรายวิชาในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน โดยเฉพาะรายวิชาที่เป็น
พน้ื ฐานของการเรียนวิชาชีพ ควรจัดใหเ้ รยี นในภาคเรียนที่ 1
2.2.3 การจัดรายวิชาในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ ควรจัดให้เรียนก่อนรายวิชาใน
กลุ่มสมรรถนะวิชาชพี เลอื กและรายวชิ าในหมวดวิชาเลอื กเสรี
2.3 จัดให้ผู้เรียนได้เลือกเรียนรายวิชาชีพเลือกและรายวิชาเลือกเสรี ตามความถนัด
ความสนใจ เพือ่ สนับสนุนการประกอบอาชพี หรือศกึ ษาตอ่
2.4 จัดรายวิชาทวิภาคีที่นำไปเรียนและฝึกในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือ
หน่วยงานของรัฐ โดยประสานงานร่วมกับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ
เพื่อพิจารณากำหนดภาคเรียนที่จัดฝึกอาชีพ รวมทั้งกำหนดรายวิชาหรือกลุ่มวิชาที่ตรงกับลักษณะงาน
ของสถานประกอบการ รฐั วิสาหกจิ หรอื หนว่ ยงานของรฐั ท่ีนำไปรว่ มฝึกอาชพี ในภาคเรียนนน้ั ๆ

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 25

2.5 จัดรายวิชาฝึกงานในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ในภาคเรียนที่ 5 และหรือภาค
เรียนท่ี 6 ส่วนในหลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชีพช้นั สงู จัดในภาคเรยี นที่ 3 และหรอื ภาคเรยี นท่ี 4 รวม
4 หน่วยกิต ตามเงื่อนไขของหลักสูตรสาขาวิชานั้น ๆ สำหรับการจัดฝึกงานในภาคฤดูร้อนสามารถทำได้
โดยต้องพิจารณาระยะเวลาในการฝึกให้ครบตามทห่ี ลกั สตู รกำหนด

ทั้งนี้ สถานศึกษาควรพิจารณากำหนดรายวิชาหรือกลุ่มวิชาที่ตรงกับลักษณะงาน
ของสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อนำไปเรียนและฝึกปฏิบัติในภาคเรียนท่จี ัด
ฝึกงานด้วย

2.6 จัดรายวิชาโครงงานในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ในภาคเรียนที่ 5 และหรือ
ภาคเรียนท่ี 6 ส่วนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง จัดในภาคเรียนที่ 3 และหรือภาคเรียนท่ี 4
รวม 4 หน่วยกิต ตามเงอ่ื นไขของหลกั สตู รสาขาวิชานน้ั ๆ

2.7 จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรในแต่ละภาคเรียน ภาคเรียนละไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง
ตอ่ สัปดาห์

2.8 จัดจำนวนหน่วยกิตรวมในแต่ละภาคเรียนไม่เกิน 22 หน่วยกิต สำหรับการเรียนแบบ
เต็มเวลา และไม่เกิน 12 หน่วยกิตสำหรับการเรียนแบบไม่เต็มเวลา ส่วนภาคเรียนฤดูร้อนจัดได้
ไม่เกิน 12 หน่วยกิต ทั้งนี้ เวลาในการจัดการเรียนการสอนในภาคเรียนปกติและภาคเรียนฤดูร้อน
โดยเฉลยี่ ไม่ควรเกิน 35 ชว่ั โมงตอ่ สัปดาห์ สว่ นการเรียนแบบไม่เต็มเวลาไมค่ วรเกิน 25 ชวั่ โมงตอ่ สัปดาห์

ทั้งนี้ หากสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันมีเหตุผลและความจำเป็นในการจัด
หน่วยกิตและเวลาในการจัดการเรียนการสอนแต่ละภาคเรียนที่แตกต่างไปจากเกณฑ์ข้างต้น อาจทำได้
แต่ต้องไม่กระทบต่อมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา

26 4 การนำหลกั สตู รไปใช้

กรอบการจัดแผนการเรยี นเน้นสมรรถนะ

หลักสตู ร ............................ พทุ ธศักราช .........

ประเภทวชิ า .............................. สาขาวชิ า ........................... สาขางาน .............................

ปกี ารศกึ ษาท่ี ... ภาคเรียนท่ี ... ปีการศกึ ษาท่ี ... ภาคเรียนที่ ...

(สมรรถนะงาน .................) (สมรรถนะงาน .................)

รหัสวิชา ช่อื วชิ า ท-ป-น รหสั วิชา ชอ่ื วิชา ท-ป-น
(...)
หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง (...) หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง x-x-x

......-...... ................................................. x-x-x ......-...... .................................................

......-...... หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ (...) หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ (...)
......-...... กลมุ่ ........................................ กลมุ่ ........................................ x-x-x
................................................. x-x-x
กลุม่ ........................................ x-x-x ......-...... .................................................
................................................. กลมุ่ ........................................

x-x-x ......-...... .................................................

หมวดวิชาเลอื กเสรี (...) หมวดวิชาเลอื กเสรี (...)
......-...... ................................................. x-x-x ......-...... ................................................. x-x-x

กจิ กรรมเสริมหลักสตู ร (...) กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร (...)
......-...... ................................................. x-x-x ......-...... ................................................. x-x-x

รวม รวม
จำนวน ชวั่ โมง/สัปดาห์ จำนวน ช่วั โมง/สัปดาห์

• การจัดการศึกษาระบบทวภิ าคี

การจัดการศึกษาระบบทวิภาคีเป็นรูปแบบการจัดการศึกษาที่เกิดจากข้อตกลงร่วมกัน
ระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ
โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหนึ่งในสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบัน และเรียนภาคปฏิบัติในสถาน -
ประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้การจัดการศึกษาระบบทวิภาคีสามารถเพิ่มขีด
ความสามารถด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนตรงตามความต้องการของผู้ใช้และเป็นไปตามจุดหมาย
ของหลักสตู ร สถานศกึ ษาอาชวี ศึกษาหรือสถาบันต้องดำเนินการดงั นี้

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 27

1. นำรายวิชาทวิภาคีในกลุ่มสมรรถะวิชาชีพเลือก คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชา รวม
ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชั้นสูง รวมไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต ไปร่วม
กำหนดรายละเอียดของรายวิชากับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐที่ร่วมจัด
การศกึ ษาระบบทวิภาคี ได้แก่ จุดประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า คำอธบิ ายรายวชิ า เวลาท่ใี ชฝ้ กึ
และจำนวนหน่วยกิต ให้สอดคล้องกับลักษณะงานของสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงาน
ของรัฐ รวมทั้งสมรรถนะวิชาชีพของสาขางาน ทั้งนี้ การกำหนดจำนวนหน่วยกิตและจำนวนชั่วโมงที่ใช้
ฝึกอาชีพของแต่ละรายวิชาทวิภาคีให้เป็นไปตามที่หลักสูตรกำหนด และให้รายงานการพัฒนารายวิชา
ดงั กลา่ วใหส้ ำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทราบดว้ ย

2. ร่วมจัดทำแผนฝึกอาชีพ พร้อมแนวการวัดและประเมินผลในแต่ละรายวิชากับสถาน-
ประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐที่ร่วมจัดการศึกษาระบบทวิภาคี เพื่อนำไปใช้ในการฝกึ
อาชพี และดำเนนิ การวัดและประเมนิ ผลเป็นรายวชิ า

3. จัดแผนการเรียนระบบทวิภาคีตามความพร้อมของสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือ
หน่วยงานของรัฐที่จัดการศึกษาระบบทวิภาคีร่วมกัน โดยอาจนำรายวิชาอื่นที่สอดคล้องกับลักษณะงาน
ของสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐนั้น ๆ ไปจัดร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งสามารถจัดได้
หลายรูปแบบ ดงั น้ี

3.1 ภายใน 1 สัปดาห์ จัดให้เรียนในสถานศกึ ษาบางวัน (1-2 วัน) และฝึกอาชีพในสถาน-

ประกอบการบางวัน (3-4 วัน) ต่อเนื่องตลอดภาคเรียน โดยในช่วงปีการศกึ ษาแรกควรจัดให้เรียนและฝึก

ปฏิบัติทักษะพื้นฐานในสถานศึกษามากกว่าการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ แล้วค่อยเพิ่มจำนวนวันท่ี

ฝึกอาชีพในสถานประกอบการในปกี ารศึกษาถดั ไป

กรอบการจดั แผนการเรยี นระบบทวภิ าคี แบบเรียนในสองสถานที่ภายในหน่งึ สัปดห์

จันทร์ อังคาร พุธ พฤหสั บดี ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์

เรียนในสถานศกึ ษา ฝกึ อาชีพ -
ในสถานประกอบการ

จันทร์ องั คาร พุธ พฤหสั บดี ศุกร์ เสาร์ อาทติ ย์
-
เรียนในสถานศกึ ษา ฝึกอาชีพในสถานประกอบการ

จนั ทร์ อังคาร พุธ พฤหสั บดี ศกุ ร์ เสาร์ อาทิตย์
เรยี นใน ฝกึ อาชพี ในสถานประกอบการ
สถานศึกษา -

28 4 การนำหลกั สูตรไปใช้

ขอ้ ดี
1) เหมาะสมกบั สถานประกอบการที่อยูใ่ กล้กับสถานศกึ ษา
2) ผเู้ รยี นสามารถประยกุ ตใ์ ชค้ วามร้สู กู่ ารปฏิบตั ติ ามสภาพจริง
3) เกดิ ความร่วมมือในการพัฒนาการเรียนการสอนอยา่ งใกลช้ ดิ
ขอ้ เสยี
1) ยากต่อการจดั การในกรณีท่สี ถานประกอบการอยูห่ ่างไกลจากสถานศกึ ษา

3.2 จัดให้เรียนในสถานศึกษาบางภาคเรียน และฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
บางภาคเรียน ทั้งนี้ การฝึกอาชีพทั้งในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ชั้นสงู ตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ 2 ภาคเรยี น ซ่ึงสามารถทำได้ 3 รูปแบบย่อย ดงั นี้

3.2.1 เรียนในสถานศึกษาสลับกับฝึกอาชีพในสถานประกอบการ โดยระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ เรียนในสถานศึกษาในภาคเรียนที่ 1, 3 และ 5 และฝึกอาชีพในสถาน-
ประกอบการในภาคเรียนที่ 2, 4 และ 6 ส่วนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง เรียนในสถานศึกษา
ในภาคเรียนท่ี 1 และ 3 และฝกึ อาชีพในสถานประกอบการในภาคเรยี นที่ 2 และ 4

กรอบการจัดแผนการเรยี นระบบทวภิ าคี ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ

วนั จนั ทร์ องั คาร พุธ พฤหสั บดี ศุกร์ เสาร์
ภาคเรยี น
เรยี นในสถานศึกษา
ภาคเรยี นท่ี 1

ภาคเรยี นที่ 2 ฝึกอาชีพในสถานประกอบการ

ภาคเรียนที่ 3 เรียนในสถานศึกษา
ภาคเรียนท่ี 4 ฝึกอาชพี ในสถานประกอบการ

ภาคเรยี นที่ 5 เรียนในสถานศึกษา

ภาคเรยี นที่ 6 ฝกึ อาชีพในสถานประกอบการ

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 29

กรอบการจัดแผนการเรยี นระบบทวิภาคี ระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี ชน้ั สูง

วนั จันทร์ องั คาร พธุ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์
ภาคเรียน
เรียนในสถานศกึ ษา
ภาคเรียนที่ 1

ภาคเรียนท่ี 2 ฝกึ อาชีพในสถานประกอบการ

ภาคเรยี นที่ 3 เรียนในสถานศกึ ษา

ภาคเรียนท่ี 4 ฝึกอาชีพในสถานประกอบการ

ขอ้ ดี
1) สถานศึกษาได้มีการเตรียมความพร้อมผู้เรียนในภาคที่ 1 ให้มีพื้นฐานความรู้และ
ทักษะที่จำเป็นในการฝึกอาชพี
2) ผเู้ รียนสามารถเรยี นรไู้ ด้อย่างตอ่ เน่ืองในการเรยี นและการฝึกอาชีพ
3) ง่ายต่อการบริหารจดั การของสถานศกึ ษา
4) สร้างความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผูเ้ รยี น สถานศกึ ษา และสถานประกอบการ
5) มีการพฒั นาความร่วมมือระหวา่ งสถานศกึ ษาและสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสีย
1) ขาดความต่อเนื่องในการพัฒนาทกั ษะการปฏบิ ตั ิงานในขัน้ สงู
2) ยากต่อการบรหิ ารจดั การของสถานประกอบการ

3.2.2 เรียนในสถานศึกษาช่วงครึ่งแรกของหลักสูตร คือ ภาคเรียนที่ 1-3 ในระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือภาคเรียนที่ 1-2 ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และฝึกอาชีพ
ในสถานประกอบการในช่วงครึ่งหลังของหลักสูตร คือ ภาคเรียนที่ 4-6 ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
หรอื ภาคเรียนท่ี 3-4 ในระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้นั สูง

30 4 การนำหลักสูตรไปใช้

กรอบการจัดแผนการเรยี นระบบทวภิ าคี ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชพี

วัน จันทร์ องั คาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์
ภาคเรียน
เรียนในสถานศึกษา
ภาคเรียนที่ 1

ภาคเรียนท่ี 2 เรียนในสถานศกึ ษา

ภาคเรียนท่ี 3 เรยี นในสถานศึกษา

ภาคเรยี นท่ี 4 ฝกึ อาชีพในสถานประกอบการ

ภาคเรียนที่ 5 ฝึกอาชพี ในสถานประกอบการ

ภาคเรียนที่ 6 ฝึกอาชพี ในสถานประกอบการ

กรอบการจดั แผนการเรียนระบบทวิภาคี ระดับประกาศนยี บัตรวิชาชีพช้นั สูง

วัน จนั ทร์ อังคาร พธุ พฤหสั บดี ศกุ ร์ เสาร์
ภาคเรียน
เรยี นในสถานศกึ ษา
ภาคเรียนท่ี 1

ภาคเรียนท่ี 2 เรียนในสถานศึกษา

ภาคเรยี นท่ี 3 ฝกึ อาชพี ในสถานประกอบการ

ภาคเรียนท่ี 4 ฝึกอาชีพในสถานประกอบการ

ขอ้ ดี
1) ง่ายต่อการบรหิ ารจดั การ
2) ผูเ้ รียนได้มีการพฒั นาความรพู้ ืน้ ฐานไดอ้ ยา่ งครบถ้วน
3) ผเู้ รยี นสามารถการพฒั นาทักษะการปฏบิ ัตงิ านในขน้ั สงู ไดอ้ ย่างต่อเนอ่ื ง
4) ผู้เรียนมโี อกาสได้งานทำในสถานประกอบการมากขน้ึ
ขอ้ เสยี
1) ผเู้ รียนทีม่ ผี ลการเรยี นไมผ่ ่านในบางรายวชิ าไมส่ ามารถลงทะเบียนเรียนแก้ไขได้
2) ผเู้ รยี นมคี วามผูกพนั กบั สถานศกึ ษาน้อยลง
3) ผู้เรยี นต้องกลับสถานศกึ ษาเพ่อื เข้ารบั การประเมินมาตรฐานวิชาชพี ตามหลักสูตร
และทดสอบความรรู้ ะดบั ชาตดิ ้านอาชีวศึกษา (V-NET)

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 31

3.2.3 เรียนในสถานศึกษา 2 ภาคเรียนแรกและภาคเรียนสุดท้าย (ภาคเรียนที่ 1, 2
และ 6) และฝกึ อาชีพในสถานประกอบการในภาคเรยี นท่ี 3-5 สำหรับระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี และ
เรียนในสถานศึกษาภาคเรยี นที่ 1 และ 4 ฝกึ อาชพี ในสถานประกอบการในภาคเรยี นที่ 2 และ 3 สำหรบั
ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชน้ั สูง

กรอบการจัดแผนการเรียนระบบทวิภาคี ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี

วัน จนั ทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศกุ ร์ เสาร์
ภาคเรยี น
เรียนในสถานศึกษา
ภาคเรยี นที่ 1

ภาคเรียนท่ี 2 เรียนในสถานศกึ ษา

ภาคเรียนที่ 3 ฝึกอาชพี ในสถานประกอบการ

ภาคเรียนที่ 4 ฝกึ อาชพี ในสถานประกอบการ

ภาคเรยี นท่ี 5 ฝกึ อาชีพในสถานประกอบการ

ภาคเรียนที่ 6 เรยี นในสถานศึกษา

กรอบการจัดแผนการเรยี นระบบทวภิ าคี ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชนั้ สูง

วนั จนั ทร์ องั คาร พุธ พฤหสั บดี ศุกร์ เสาร์
ภาคเรียน

ภาคเรียนท่ี 1 เรียนในสถานศึกษา

ภาคเรยี นท่ี 2 ฝึกอาชีพในสถานประกอบการ

ภาคเรยี นที่ 3 ฝกึ อาชีพในสถานประกอบการ

ภาคเรยี นที่ 4 เรียนในสถานศกึ ษา

ขอ้ ดี
1) ง่ายตอ่ การบริหารจัดการ
2) ผเู้ รยี นได้มีการพฒั นาความร้พู ้นื ฐานได้อย่างครบถว้ น
3) ผเู้ รียนสามารถการพฒั นาทกั ษะการปฏิบตั งิ านในขน้ั สงู ได้อย่างตอ่ เน่อื ง
4) ผเู้ รยี นมคี วามผูกพนั กบั สถานศกึ ษามากขึน้
5) ผู้เรียนสามารถลงทะเบียนเพ่ือแกไ้ ขผลการเรยี นได้

32 4 การนำหลักสตู รไปใช้

ขอ้ เสีย
1) ผูเ้ รียนเสียโอกาสในการไดง้ านทำในสถานประกอบการ

• การจัดตารางสอน ตารางเรยี น ตารางการใชห้ อ้ งเรยี น/หอ้ งปฏบิ ตั ิการ

การจัดตารางเรียน ตารางสอนและตารางการใช้ห้องเรียน/ห้องปฏิบัติการ เป็นส่วนหนึ่งของ
การบริหารจัดการหลักสูตรในสถานศึกษา ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับอาคารสถานที่ จำนวนและวุฒิการศึกษา
ของครูผู้สอน จำนวนกลุ่มผู้เรียนแต่ละชั้นปี ตลอดจนเวลาเรียนภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติของรายวิชา
ต่าง ๆ ตามแผนการเรียนในแต่ละภาคเรียน ดังนั้นหลังจากการจัดแผนการเรียนตลอดหลักสูตรแล้ว
คณะกรรมการวิชาการ แผนกวิชา งานอาคารสถานที่ของสถานศึกษาจะต้องร่วมกันพิจารณาการจัด
ตารางเรียนของผู้เรียนในแต่ละสาขาวิชา ทุกกลุ่ม ทุกระดับชั้นปี การจัดตารางสอนของผู้สอนแต่ละคน
และตารางการใชห้ อ้ งเรียน/หอ้ งปฏิบัตกิ ารในแตล่ ะวัน แต่ละสปั ดาห์ ตามแนวทางดังนี้

1. การจัดตารางสอน

การจัดตารางสอนของครูผู้สอนรายบุคคลในแต่ละสัปดาห์ มีแนวทางในการดำเนินการ
ดงั น้ี

1.1 พิจารณาข้อมูลรายวิชาที่แต่ละแผนกวิชารับผิดชอบในแต่ละภาคเรียนจากแผนการ
เรียนทุกชั้นปีของสถานศึกษา

1.2 แผนกวิชากำหนดหรือมอบหมายรายวิชาและชั่วโมงสอนแก่ครูผู้สอนในแผนกวิชา
ให้เหมาะสมกับคุณวุฒิ ความรู้ความสามารถ ความถนัดและประสบการณ์ รวมทั้งภาระงานสอนและ
ภาระงานท่รี บั ผดิ ชอบนอกเหนือจากการสอน

1.3 ขออนมุ ัตกิ ารมอบหมายการสอนรายวิชาของครผู ู้สอนรายบุคคล
1.4 จัดรายวิชาและจำนวนชั่วโมงสอนในแต่ละภาคเรียนแก่ครูผู้สอนแต่ละคนตาม
ระเบยี บทเ่ี ก่ียวขอ้ ง และเหมาะสมกับบรบิ ทของสถานศึกษา
1.5 จัดชั่วโมงสอนของครูผู้สอนในแต่ละวันให้มีช่วงเวลาว่างบ้าง สำหรับการศึกษา
ค้นคว้า วางแผนและเตรียมการสอน เตรียมส่ือและการวัดประเมนิ ผล ตรวจข้อสอบและงานที่มอบหมาย
รวมท้งั การปฏิบตั งิ านอ่นื ๆ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายนอกเหนือจากภาระงานสอน

4 การนำหลกั สตู รไปใช้ 33

(ตัวอยา่ ง) ตารางสอนรายบุคคล วิทยาลัย ...........................................
ภาคเรียนที่ .............. ปกี ารศกึ ษา ...............

ชอื่ ผู้สอน .................................................................... วฒุ ิการศกึ ษา .....................................................................
แผนกวชิ า ................................................................... หนา้ ที่พเิ ศษ ......................................................................

เวลา 08.30- 09.30- 10.30- 11.30- 12.30- 13.30- 14.30- 15.30-
วนั /คาบ 09.30 10.30 11.30 12.30 13.30 14.30 15.30 16.30
จันทร์
12 34 567
องั คาร
รายวชิ า 1 (ท) รายวิชา 2 (ท) รายวิชา 1 (ป)
พธุ ช้นั ป/ี กลุ่ม … ชัน้ ป/ี กลุม่ … ช้นั ปี/กลุ่ม …

หอ้ ง ... หอ้ ง … หอ้ ง ...
รายวิชา 3
รายวิชา 3 (ป) รายวิชา 2 (ท)
(ท) ช้นั ปี/กล่มุ … ชัน้ ปี/กล่มุ …
ชั้นป/ี กลุ่ม..
หอ้ ง ... ห้อง …
ห้อง …
รายวิชา 4 (ป) รายวิชา 4
ชั้นปี/กลุ่ม … (ท)ัพกกลาง ัวน

หอ้ ง ... ช้ันป/ี กลมุ่ ..
หอ้ ง

พฤหสั บดี

รายวิชา 4 รายวชิ า 5 (ท) รายวิชา 5 (ป)
ชัน้ ป/ี กลุ่ม … ชนั้ ป/ี กลุ่ม …
ศกุ ร์ (ท)
ชน้ั ป/ี กล่มุ .. หอ้ ง ... ห้อง ...

หอ้ ง …

รหัสวชิ า ช่อื วิชา ท-ป-น รหสั วิชา ชื่อวิชา ท-ป-น
xxxxx-xxxx ………………………………. x-x-x
xxxxx-xxxx ………………………………. x-x-x xxxxx-xxxx ………………………………. x-x-x
xxxxx-xxxx ……………………………….
x-x-x xxxxx-xxxx ……………………………….

x-x-x

รวม ระดบั ปวช. ......................... ชม. ระดบั ปวส. ........................ ชม. รวมชว่ั โมงสอน .......................... ชม.

34 4 การนำหลักสตู รไปใช้

2. การจดั ตารางเรยี น

การจัดตารางเรียนของผู้เรียนในแตล่ ะสัปดาห์ มีแนวทางในการดำเนินการดงั นี้
2.1 คำนวณจำนวนช่ัวโมงเรยี นภาคทฤษฎแี ละภาคปฏิบัติจากแผนการเรียนเพื่อจดั ช่ัวโมง
เรียนเฉลีย่ ในแต่ละวันในหนึ่งสัปดาห์ โดยจัดให้มีจำนวนชว่ั โมงใกลเ้ คยี งกนั ในแตล่ ะวนั
2.2 แต่ละวันจัดให้มีทั้งรายวิชาทฤษฎีและปฏิบัติ โดยรายวิชาที่มีทั้งภาคทฤษฎีและ
ภาคปฏิบตั ิ อาจจดั ไวต้ ่อเนื่องในวนั เดียวกัน หรอื จัดแยกกนั คนละวัน ทงั้ นี้ ขึ้นอยกู่ ับลกั ษณะของรายวิชา
และจำนวนห้องเรียน/หอ้ งปฏบิ ตั ิการ
2.3 จัดรายวิชาที่เรียนต่อกันโดยพิจารณาเวลาและความสะดวกท่ีผู้เรียนต้องใช้ในการ
เปลีย่ นห้องเรยี น เปลี่ยนชดุ แตง่ กาย และหรอื เตรยี มเครอื่ งมอื อุปกรณใ์ นการเรียนการฝกึ ปฏิบตั งิ าน
2.4 จัดชั่วโมงเรียนในตารางเรียนให้มีชั่วโมงว่างบ้าง เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ในการเปลี่ยน
ห้องเรียน เปล่ียนชุดแต่งกาย และหรือเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ในการเรียนการฝึกปฏิบัติงาน รวมท้ัง
เพื่อให้มีเวลาทำงานมอบหมายและศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ทั้งนี้ การจัดชั่วโมงว่างในตารางเรียนแต่ละวัน
ไม่ควรใหม้ ีชัว่ โมงที่เวน้ ว่างติดตอ่ กนั มากเกินไป

(ตัวอย่าง) ตารางเรียน วทิ ยาลยั ...........................................
ภาคเรียนที่ .............. ปกี ารศกึ ษา ...............

ระดบั ชัน้ ..................................................................... สาขาวิชา ..........................................................................
สาขางาน .................................................................... ครูที่ปรกึ ษา .......................................................................

เวลา 08.30- 09.30- 10.30- 11.30- 12.30- 13.30- 14.30- 15.30-
วนั /คาบ 09.30 10.30 11.30 12.30 13.30 14.30 15.30 16.30
จันทร์
12 34 567
อังคาร
รายวชิ า 1 (ท) รายวชิ า 2 (ท) รายวิชา 1 (ป)
ครู … ห้อง ... ครู … ห้อง … ครู … หอ้ ง ...
รายวิชา 3
(ท) รายวิชา 3 (ป) รายวิชา 4 รายวิชา 2 (ท)
ครู... ห้อง … ครู … หอ้ ง ... ครู... หอ้ ง … ครู … หอ้ ง …

พุธ รายวชิ า 5 รายวิชา 6 (ป) ัพกกลาง ัวน รายวชิ า 6 กจิ กรรม
ครู... หอ้ ง … ครู … ห้อง ... (ท)
รายวิชา 9
ครู... หอ้ ง... ครู... หอ้ ง…

พฤหสั บดี รายวิชา 4 รายวิชา 7 รายวิชา 5 รายวชิ า 8
ศกุ ร์ ครู... ห้อง … ครู... หอ้ ง… ครู... ห้อง … ครู... ห้อง…
รายวชิ า 6
รายวชิ า 3 (ท) รายวิชา 3 (ท)
(ท) ครู ... หอ้ ง … ครู ... หอ้ ง …
ครู... หอ้ ง …

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 35

3. การจดั ตารางการใชห้ ้องเรยี น หอ้ งปฏบิ ัติการ สถานทฝี่ ึกปฏบิ ตั ิงาน

การจัดตารางการใช้ห้องเรยี น ห้องปฏิบัตกิ ารและสถานท่ีฝึกปฏบิ ัติงาน มีแนวทางดงั น้ี
3.1 สำรวจข้อมลู ห้องเรียนท่ีใช้ในการจดั การเรยี นการสอนภาคทฤษฎีและหอ้ งปฏิบัติการ
ที่ใชใ้ นการเรียนภาคปฏิบัติตามแผนการเรยี นแต่ละสัปดาห์ แต่ละภาคเรียน ซึ่งรวมถึงโรงฝกึ งาน สถานท่ี
เรียนและฝึกปฏิบัติงานภาคสนาม
3.2 จัดห้องเรียน ห้องปฏิบัติการและสถานที่ฝึกปฏิบัติงาน ให้เหมาะสมกับลักษณะของ
รายวชิ าที่เรียนหรืองานทป่ี ฏิบัติ และจดั ขนาดหอ้ งเรยี นใหเ้ หมาะสมกับจำนวนผ้เู รยี น
3.3 พิจารณาการใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างคุ้มค่าของห้องเรียน ห้องปฏิบัติการและ
สถานที่ฝึกปฏิบัติงานภายในแผนกวิชาและระหว่างแผนกวิชา โดยเฉพาะวิชาที่เรียนร่วมกันทุกสาขาวิชา
หรอื จำเปน็ ตอ้ งใชค้ รภุ ณั ฑก์ ารเรยี นการสอนชดุ เดียวกนั เชน่ หอ้ งปฏบิ ตั ิการคอมพิวเตอร์ ห้องปฏบิ ัติการ
วทิ ยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการภาษาตา่ งประเทศ โรงฝกึ งาน เป็นต้น

• การจดั ตารางสอบปลายภาคเรยี น

เป็นการเตรียมการสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการจัดการเรียนการสอนในแต่ละภาคเรียน คือ การ
วัดและประเมินผลการเรียนรายวิชาเมื่อสิ้นสุดภาคเรียน หรือสิ้นสุดการเรียน หรือการฝึกปฏิบัติงานใน
ทุกรายวิชา เพื่อเป็นการตรวจสอบการเรียนรู้ในแต่ละรายวิชา ซึ่งเป็นภาระงานที่ต้องดำเนินการ
ร่วมกัน ทั้งงานวัดผลและประเมินผล ครูผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษา ทั้งนี้ เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิ
อาชีวศึกษาแต่ละระดับได้กำหนดให้ใช้เวลาในการจัดการเรียนการสอนในแต่ละภาคเรียน รวมเวลาการ
วัดผล 18 สัปดาห์ ดังนั้น การจัดทำตารางสอบเพ่ือการประเมินผลปลายภาคเรียน ในสัปดาห์ที่ 18 ควร
ดำเนนิ การดงั น้ี

1. กำหนดวันสอบปลายภาคเรียนวิชาทฤษฎี และเฉพาะภาคทฤษฎีของรายวิชาที่มีทั้ง
ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ส่วนวิชาปฏิบัติและภาคปฏิบัติของรายวิชาที่มีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
ให้ครูผ้สู อนดำเนินการประเมนิ ผลเอง โดยให้แจง้ กำหนดวนั และเวลาของการทดสอบดว้ ย

2. สำรวจรายวิชาทฤษฎีและรายวิชาที่มีภาคทฤษฎีในทุกหลักสูตร ทุกชั้นปีและทุกกลุ่มใน
ภาคเรียนที่จะจัดตารางสอบรวม รวมทั้งชั่วโมงเรียนภาคทฤษฎีต่อสัปดาห์ของวิชาเหล่านั้น เพื่อนำมา
กำหนดเปน็ ชวั่ โมงท่จี ะจัดสอบของแต่ละรายวิชา

3. จัดตารางสอบรวมของรายวชิ าทีไ่ ดจ้ ากการสำรวจในขอ้ 2 โดยกำหนดวนั เวลาและห้องสอบ
4. แจ้งครูผู้สอนให้ดำเนินการออกข้อสอบภาคทฤษฎี พร้อมเฉลยและเกณฑ์การให้คะแนน
จัดส่งภายในเวลาท่ีกำหนด ทั้งนี้ ลักษณะของข้อสอบและจำนวนข้อสอบ ควรสอดคล้องสัมพันธ์กับ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เวลาและคะแนน

36 4 การนำหลักสตู รไปใช้

5. ฝา่ ยวชิ าการเสนอผบู้ ริหารสถานศึกษาอนุมตั ิตารางสอบและคำสงั่ แต่งต้งั กรรมการสอบ
6. แจ้งประชาสมั พันธ์ตารางสอบ วนั เวลาและหอ้ งสอบแก่แผนกวชิ า ครผู ู้สอน และผเู้ รียน
ทั้งน้ี รายวิชาที่ไม่มีชั่วโมงทฤษฎี เช่น รายวิชาในหมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง สามารถจัด
ลงตารางสอบรวมปลายภาคได้ตามความประสงคข์ องครผู ูส้ อน

• การจดั ฝกึ ประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ

การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพเป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยความร่วมมือ
ระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันกับภาคการผลิตและหรือภาคบริการ หลังจากที่ผู้เรียนได้
เรียนรู้ภาคทฤษฎีและการฝึกหัดหรือฝึกปฏิบัติเบื้องต้นในสถานศึกษาแล้วระยะเวลาหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อเปิด
โอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้สัมผัสกับการปฏิบัติงานอาชีพ เครื่องมือ เครื่องจักร
และอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมทั้งบรรยากาศการทำงานร่วมกัน ส่งเสริมการฝึกทักษะ กระบวนการคิด การ
จัดการ การเผชิญสถานการณ์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนทำได้ คิดเป็น ทำเป็นและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง
ตลอดจนเกิดความมั่นใจและเจตคติที่ดีในการทำงานและการประกอบอาชีพอิสระ โดย การจัดฝึก
ประสบการณส์ มรรถนะวิชาชพี สถานศึกษาต้องดำเนนิ การดงั นี้

1. จัดให้มีการฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพในรูปของการฝึกงานในสถานประกอบการ
แหล่งวิทยาการ รฐั วิสาหกจิ หรือหนว่ ยงานของรฐั โดยใช้เวลารวมไม่นอ้ ยกวา่ 320 ชัว่ โมง จำนวน 4 หนว่ ยกติ

2. เลือกจัดรายวิชาฝึกงาน 4 หน่วยกิต ไม่น้อยกว่า 320 ชั่วโมง จำนวน 1 รายวิชา หรือ
เลือกจัดรายวิชาฝึกงาน 2 หน่วยกิต ไม่น้อยกว่า 160 ชั่วโมง จำนวน 2 รายวิชา รวม 4 หน่วยกิต ก็ได้
โดยในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ให้จัดในภาคเรียนที่ 5 และหรือภาคเรียนที่ 6 ส่วนระดับ
ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชั้นสูง ใหจ้ ัดในภาคเรียนท่ี 3 และหรอื ภาคเรียนที่ 4

3. กรณีสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันต้องการเพิ่มพูนประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ
สามารถนำรายวิชาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับลักษณะงานไปเรียนหรือฝึกในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ
หรอื หน่วยงานของรัฐในภาคเรียนทีจ่ ดั ฝกึ ประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชพี ได้

4. การตัดสินผลการเรยี นและให้ระดับผลการเรียน ใหป้ ฏบิ ัตเิ ชน่ เดยี วกบั รายวิชาอ่ืน

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 37

• การจดั โครงงานพัฒนาสมรรถนะวชิ าชีพ

โครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพเป็นรายวิชาที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า บูรณาการ
ความรู้ ทักษะและประสบการณ์จากสิ่งทีไ่ ด้เรยี นรู้ ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัดและความสนใจ
ตั้งแต่การเลือกหัวข้อหรือเรื่องที่จะศึกษา ทดลอง พัฒนาและหรือประดิษฐ์คิดค้น โดยการวางแผน
กำหนดขั้นตอนกระบวนการ ดำเนินการ ประเมินผล สรุปและจัดทำรายงานเพื่อนำเสนอ ซึ่งอาจทำเป็น
รายบุคคลหรือกลุ่มก็ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการนั้น ๆ โดยการจัดทำโครงงานพัฒนาสมรรถนะ
วชิ าชีพสถานศกึ ษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันตอ้ งดำเนนิ การ ดงั นี้

1. จัดให้ผู้เรียนทำโครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพที่สัมพันธ์หรือสอดคล้องกับสาขาวิชา
สาขางานทเี่ รยี น

2. เลือกจัดรายวิชาโครงงาน 4 หน่วยกิต ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 216 ชั่วโมง จำนวน 1 รายวิชา
หรือเลือกจัดรายวิชาโครงงาน 2 หน่วยกิต ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 108 ชั่วโมง จำนวน 2 รายวิชา รวม 4
หนว่ ยกิต กไ็ ด้ โดยในระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ให้จัดในภาคเรยี นที่ 5 และหรอื ภาคเรียนท่ี 6 ส่วนใน
ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชน้ั สูง ใหจ้ ดั ในภาคเรียนที่ 3 และหรือภาคเรียนที่ 4

3. การจัดตารางสอน-ตารางเรียนรายวิชาโครงงาน 4 หน่วยกิต ให้จัดชั่วโมงเรียน 4 ชั่วโมง
ต่อสัปดาห์ และจัดให้ผู้เรียนทำโครงงานนอกเวลา 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนการจัดตารางสอน-ตาราง
เรยี นรายวชิ าโครงงาน 2 หนว่ ยกิต คือ โครงงาน 1 และโครงงาน 2 ใหจ้ ดั ชวั่ โมงเรียน 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
และจดั ใหผ้ ูเ้ รียนทำโครงงานนอกเวลา 4 ช่วั โมงตอ่ สปั ดาห์

4. การตดั สินผลการเรียนและใหร้ ะดบั ผลการเรยี น ให้ปฏิบัติเชน่ เดียวกับรายวชิ าอน่ื

• การจดั กิจกรรมเสรมิ หลกั สตู ร

กิจกรรมเสริมหลักสูตรมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมสมรรถนะแกนกลางและหรือสมรรถนะ
วิชาชีพ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ระเบียบวินัย การต่อต้านความรุนแรง สารเสพติดและการ
ทุจริต เสริมสร้างการเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ในด้านการรักชาติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ ส่งเสริม
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะ
วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย ปลูกฝังจิตสำนึกและจิตอาสาในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทำประโยชน์ต่อ
ชุมชนและทอ้ งถิน่ ดังนัน้ สถานศกึ ษาอาชีวศกึ ษาหรอื สถาบันตอ้ งจดั ดำเนนิ การดงั น้ี

1. จัดให้มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ทุกภาคเรียน ทั้งนี้
โดยใชก้ ระบวนการกล่มุ ในการวางแผน ลงมอื ปฏิบตั ิ ประเมินผลและปรับปรงุ การทำงาน

2. สำหรบั ผเู้ รยี นอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี ให้เขา้ รว่ มกิจกรรมทสี่ ถานประกอบการจัดขน้ึ

38 4 การนำหลกั สตู รไปใช้

3. การประเมินผลกิจกรรมเสริมหลักสูตร ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ ารว่าด้วย
การจดั การศึกษาและการประเมนิ ผลการเรยี นตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี

• การจัดการเรยี นการสอนรายวิชาปรบั พื้นฐานวชิ าชีพ

สำหรับผู้เข้าเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา
ตอนปลายหรือเทียบเท่า และผู้เข้าเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า
ต่างประเภทวิชาและสาขาวิชาที่กำหนด จะต้องเรียนรายวิชาปรับพื้นฐานวิชาชีพตามที่สาขาวิชากำหนด
เพื่อเตรียมความพร้อมผู้เข้าเรียนให้มีความรู้และทักษะพื้นฐานวิชาชีพที่จำเป็น สำหรับการเรียนใน
สาขาวิชานัน้ โดยสถานศกึ ษาต้องจดั ดำเนนิ การสำหรบั ผู้เขา้ เรียนกลมุ่ ดังกล่าว ดังน้ี

1. จัดให้เรียนรายวิชาปรับพื้นฐานวิชาชีพที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแต่ละประเภทวิชา สาขาวิชา
กอ่ นที่จะเรียนรายวชิ าชีพตามโครงสร้างหลักสูตรระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชั้นสูง

2. การจัดการเรียนการสอนและการประเมินผลการเรียนรายวิชาปรับพื้นฐานวิชาชีพ ให้
เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตาม
หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชนั้ สงู คือ

2.1 ผู้เรียนที่ได้ระดับผลการเรียนรายวิชาปรับพื้นฐานวิชาชีพตั้งแต่ 1.0 ขึ้นไป ถือว่าผ่าน
ให้บันทกึ “ผ.” ในระเบียนแสดงผลการเรียนช่อง “ผลการเรยี น”

2.2 ผู้เรียนที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาปรับพื้นฐานวิชาชีพต้องเรียนให้ได้ระดับผลการ
ประเมนิ “ผ่าน” ทกุ รายวิชา

2.3 ให้สถานศึกษาระบุหน่วยกิตของรายวิชาปรับพื้นฐานวิชาชีพที่เรียนลงในระเบียน
แสดงผลการเรียน โดยไม่ต้องนำจำนวนหน่วยกิตมารวมเป็นหน่วยกิตที่ได้เพื่อการสำเร็จการศึกษา แต่ให้
นำหน่วยกิตไปรวมกบั จำนวนหน่วยกติ ท่ีไดข้ องสาขาวิชาท่ีเรียนในชอ่ ง “หนว่ ยกติ ที่เรยี น”

3. ผูเ้ ขา้ เรยี นทีม่ ีความรู้และประสบการณ์ในรายวิชาปรับพ้ืนฐานวิชาชพี ที่หลักสูตรกำหนดมา
ก่อนเขา้ เรยี น จากการเรยี นรายวิชาในระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี หรือเทียบเท่า จากการฝกึ อบรม หรือ
จากประสบการณ์การทำงาน การฝึกอาชีพ สามารถขอเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เพื่อขอยกเว้น
การเรยี นรายวชิ าที่ประเมินผา่ นได้ ส่วนผเู้ รยี นท่ีมีความรู้และประสบการณใ์ นการเรยี นรายวิชาในระดบั ที่
สูงกว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สามารถขอเทียบโอนผลการเรียนได้ ทั้งนี้ โดยปฏิบัติตาม
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชนั้ สูง

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 39

• การประเมนิ ผลการเรียน

การประเมินผลการเรียน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัด
การศกึ ษาและการประเมนิ ผลการเรยี นตามหลักสูตร โดยมีหลักในการดำเนินการ ดงั น้ี

1. สถานศึกษามีหน้าที่และรับผิดชอบในการประเมินผลการเรียนรายวิชาที่เรียนและฝึก
ปฏิบัติในสถานศึกษา ส่วนรายวิชาที่เรียนและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการให้สถานศึกษาและสถาน-
ประกอบการ โดยครนู เิ ทศกแ์ ละครูฝึกมีหน้าทแี่ ละรบั ผิดชอบร่วมกันในการประเมินผลการเรยี น

2. ให้ประเมินผลการเรียนเป็นรายวิชาตามระบบหน่วยกิต โดยจำนวนหน่วยกิตของแต่ละ
รายวชิ าให้ถอื ตามทีก่ ำหนดไวใ้ นหลักสตู ร

3. ให้ดำเนินการประเมินตามสภาพจริงต่อเนื่องตลอดภาคเรียน ทั้งด้านความรู้ ความ
สามารถและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ซึ่งครอบคลุมจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและ
เนื้อหาวิชาจากกิจกรรมการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ งานที่มอบหมายและพฤติกรรมลักษณะนิสัย
เพื่อเป็นคะแนนระหว่างภาค

4. ให้มีการวัดประเมินผลรายวิชาปลายภาคเรียน เมื่อสิ้นภาคเรียน หรือเมื่อสิ้นสุดการเรียน
หรือการฝึกปฏิบัติงานในทุกรายวิชา โดยพิจารณาตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและ
เนื้อหาวิชา โดยใช้เครื่องมือและวิธีการหลากหลายตามความเหมาะสม ทั้งน้ี การประเมินรายวิชาทฤษฎี
และภาคทฤษฎีของรายวิชาทมี่ ีท้ังภาคทฤษฎแี ละปฏิบัติ ควรจัดประเมนิ พร้อมกันตามตารางสอบกลางใน
สัปดาห์ที่ 18 ส่วนรายวิชาปฏิบัติ และภาคปฏิบัติของรายวิชาที่มีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ครูผู้สอน
สามารถนัดหมายการประเมินปลายภาคเรียนได้ หรือหากประสงค์จะขอจัดสอบในลักษณะข้อเขียนใน
ตารางสอบกลางก็สามารถทำได้

5. ให้นำคะแนนระหว่างภาคเรียนรวมกับคะแนนที่ได้จากการวัดประเมินผลรายวิชาปลาย
ภาคเรยี น เพ่อื ตัดสินผลการเรียนรายวิชาและใหร้ ะดับคะแนน โดยพจิ ารณาตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้

ร้อยละ ระดบั ผลการเรียนท่ีได้ ความหมาย
80 ขนึ้ ไป 4.0 ผลการเรียนอยูใ่ นเกณฑด์ ีเยย่ี ม
75-79 3.5 ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
70-74 3.0 ผลการเรยี นอยูใ่ นเกณฑ์ดี
65-69 2.5 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์คอ่ นขา้ งดี
60-64 2.0 ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑ์พอใช้
55-59 1.5 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑอ์ อ่ น
50-54 1.0 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑอ์ ่อนมาก
ต่ำกวา่ 50 0 ผลการเรียนต่ากว่าเกณฑ์ (ตก)

40 4 การนำหลักสตู รไปใช้

6. กรณที ีไ่ มส่ ามารถทีแ่ สดงระดบั ผลการเรยี นรายวชิ าใดได้ ให้ใชต้ วั อักษรต่อไปนี้

อักษรย่อ ความหมาย

ข.ร. ขาดเรียน ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากมีเวลาเรียนต่ำกว่าร้อยละ 80 โดย

สถานศึกษาพจิ ารณาแลว้ เห็นวา่ ไมม่ ีเหตผุ ลสมควร

กรณนี ใี้ หร้ ะดับผลการเรียนเปน็ 0 (ศนู ย์) เฉพาะรายวิชา

ข.ป. ขาดการปฏิบัติงาน หรือปฏิบัติงานไม่ครบ โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลสมควร

สำหรับรายวิชาทีเ่ รยี นหรือฝกึ ปฏิบตั ิในสถานประกอบการ

กรณนี ใ้ี หร้ ะดับผลการเรยี นเป็น 0 (ศูนย์) เฉพาะรายวชิ า

ข.ส. ขาดการวดั ผลปลายภาคเรยี น โดยสถานศกึ ษาพจิ ารณาแล้วเห็นว่าไม่มเี หตผุ ลสมควร

กรณนี ใ้ี หร้ ะดบั ผลการเรยี นเป็น 0 (ศนู ย์) เฉพาะรายวชิ า

ถ.ล. ถอนรายวิชาภายหลังกำหนด โดยสถานศกึ ษาพจิ ารณาแล้วเห็นวา่ ไมม่ เี หตุผลสมควร

กรณนี ใ้ี หร้ ะดับผลการเรียนเป็น 0 (ศนู ย์) เฉพาะรายวิชา

ถ.น. ถอนรายวิชาภายในกำหนด

ท. ทุจรติ ในการสอบ หรืองานที่มอบหมายใหท้ ำ

กรณีน้ใี ห้ระดับผลการเรียนเป็น 0 (ศูนย์) เฉพาะรายวชิ า

ม.ส. ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน โดยได้รับอนุญาตจากหัวหน้า

สถานศกึ ษา หรือไม่ส่งงานอนั เป็นส่วนประกอบของการเรียนรายวชิ าตามกำหนด

ม.ท. ไมส่ ามารถเขา้ รบั การวดั ผลปลายภาคเรียนทดแทนภายในเวลาทสี่ ถานศกึ ษากำหนด

กรณนี ี้ให้ระดับผลการเรียนเปน็ 0 (ศนู ย์) เฉพาะรายวชิ า

ผ. ไดเ้ ข้าร่วมกิจกรรมตามกำหนด หรือผลการประเมินผา่ น

ม.ผ. ไม่เข้าร่วมกจิ กรรม หรอื ผลการประเมินไมผ่ ่าน

ม.ก. การเรียนโดยไม่นับจานวนหน่วยกิตมารวมเพื่อการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรและผลการประเมิน

ผา่ น

7. ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนในแต่ละรายวิชาไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนการนับเวลา
สำหรับรายวิชานั้น จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน แต่หากมีความจำเป็นอย่างแท้จริง
หัวหนา้ สถานศึกษาอาจพิจารณาผ่อนผนั ให้เปน็ ราย ๆ ไป

8. การขอรับการประเมินใหม่สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ การประเมินผล
รายวชิ าทีเ่ รยี นซ้ำ เรยี นแทน ให้ปฏิบัติตามระเบียบฯ

9. ให้ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา โดยรายวิชาที่มีระดับผลการเรียนตั้งแต่ 1.0 ขึ้นไป ถือ
ว่าประเมินผา่ นและใหน้ ับจำนวนหน่วยกิตของรายวชิ าน้ันเป็นจานวนหน่วยกิตสะสม

4 การนำหลักสตู รไปใช้ 41

10. ผู้เรียนต้องเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่สถานศึกษา หรือสถานประกอบการ
จัดไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ครบทุกภาคเรียนตามแผนการเรียนที่สถานศึกษากำหนด โดยมีเวลา
เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของเวลาที่จัดกิจกรรมในแต่ละภาคเรียน เมื่อผู้เรียนได้เขา้
ร่วมปฏิบัติกิจกรรมครบถ้วนตามเกณฑ์ในภาคเรียนใดถือว่าประเมินผ่าน ให้บันทึกชื่อกิจกรรมและ
ตัวอักษร “ผ.” ในระเบียนแสดงผลการเรียน ช่อง “ผลการเรียน” หากผู้เรียนดำเนินการไม่ครบถ้วน ถือ
ว่าประเมนิ ไมผ่ ่าน ใหบ้ ันทกึ ช่อื กจิ กรรมและตัวอกั ษร “ม.ผ.”

11. ผู้เรียนจะสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรได้ จะต้องเข้ารับการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ
และผลการประเมินผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ดังนั้นสถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนเข้ารับการประเมินมาตรฐาน
วิชาชีพ เมื่อผู้เรียนได้ลงทะเบียนรายวิชาครบทุกรายวิชาตามหลักสูตรแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา
หรือตามระยะเวลาที่คณะกรรมการประเมินมาตรฐานวชิ าชีพกำหนด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และ
วิธีการท่ีสำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษากำหนด

12. ให้หน่วยงานต้นสังกัดร่วมกับสถานศึกษา ดำเนินการส่งเสริมคุณภาพและควบคุม
มาตรฐานการจัดการเรียนการสอน การวดั ผลและการประเมินผลการเรียน

• การสำเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสตู ร

การสำเร็จการศึกษาของผู้เรียนตามหลักสูตรทุกระดับ สาขาวิชาและสาขางาน ให้พิจารณา
ตามเกณฑ์ ดังน้ี

1. ได้รายวชิ าและจำนวนหน่วยกติ สะสมในทกุ หมวดวชิ า ครบถ้วนตามท่ีกำหนดไวใ้ นหลกั สูตร
2. แต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา และตามแผนการเรียนทสี่ ถานศกึ ษากำหนด
3. ไดค้ า่ ระดบั คะแนนเฉลย่ี สะสมไมต่ ่ำกว่า 2.00
4. ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมาตรฐานวชิ าชีพ
5. ได้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมเสริมหลักสูตรตามแผนการเรียนที่สถานศึกษากำหนด และ
“ผา่ น” ทกุ ภาคเรยี น

42 4 การนำหลกั สตู รไปใช้

การปรับปรุงแก้ไข พัฒนาและอนมุ ัติรายวิชาในหลกั สตู ร

• การพัฒนารายวิชาในหลกั สตู ร

สถานศึกษาอาชวี ศกึ ษาหรือสถาบนั สามารถพัฒนารายวชิ าเพ่มิ เตมิ ในหลักสูตรได้ โดยปฏิบัติดังน้ี
1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถพัฒนา
รายวิชาเพ่ิมเตมิ ในแตล่ ะกลุ่มวชิ า เพือ่ เลือกเรยี นนอกเหนือจากรายวิชาที่กำหนดให้เป็นวชิ าบังคบั ได้ โดย
สามารถพัฒนาเป็นรายวิชาหรือลักษณะบูรณาการ ผสมผสานเนื้อหาวิชาที่ครอบคลุมสาระของกลุ่มวิชา
ภาษาไทย กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวิชาสังคมศึกษา
หรือกลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพลศึกษาหรือกลุ่มวิชามนุษยศาสตร์ ในสัดส่วนที่
เหมาะสม โดยพิจารณาจากมาตรฐานการเรียนรู้ของกลุ่มวิชานั้น ๆ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของหมวด
วชิ าสมรรถนะแกนกลาง
2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถเพิ่มเติม
รายละเอียดของรายวชิ าในแตล่ ะกลุม่ วิชาในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และสามารถพัฒนารายวิชา
เพิ่มเติมในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือกได้ ตามความต้องการของสถานประกอบการหรือยุทธศาสตร์ของ
ภูมิภาคเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับ
จดุ ประสงคส์ าขาวชิ าและสมรรถนะวิชาชีพสาขางานดว้ ย
3. หมวดวิชาเลือกเสรี สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถพัฒนารายวิชาเพิ่มเติม
ได้ตามความต้องการของสถานประกอบการ ชุมชน ท้องถิ่นหรือยุทธศาสตร์ของภูมิภาคเพื่อเพิ่มขีด
ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ และหรอื เพ่อื การศึกษาตอ่

ทั้งนี้ การเขียนรายละเอียดรายวิชา การกำหนดรหัสวิชา จำนวนหน่วยกิตและจำนวนชั่วโมง
เรียนของรายวชิ าทีพ่ ฒั นาเพ่ิมเติม ใหเ้ ป็นไปตามทห่ี ลักสูตรกำหนด

• การปรบั ปรุงแกไ้ ข พฒั นารายวชิ า กลุ่มวิชาและการอนมุ ัติหลักสตู ร

สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถปรับปรุงแก้ไข พัฒนารายวิชา กลุ่มวิชาและขอ
อนุมัตหิ ลกั สตู รได้ โดยปฏิบตั ดิ งั น้ี

1. การพัฒนาหลกั สตู รหรือการปรับปรงุ สาระสำคญั ของหลกั สูตรตามเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิ
อาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
สถาบันการอาชวี ศึกษาและสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

2. การอนุมตั หิ ลกั สตู ร ใหเ้ ปน็ หน้าที่ของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา


Click to View FlipBook Version