คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
ท 1๒๒01 เสริมทักษะภาษาไทย ๒ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ เวลา ๔0 ชว่ั โมง/ปี
ฝึกการอ่านสะกดคำอักษรควบกล้ำ การผันวรรณยุกต์ อักษรสูง อักษรกลาง และอักษรต่ำ การอ่านออกเสียง
ได้ถูกต้องตามอักขรวิธี อ่านได้คล่องและเร็ว จำคำได้แม่นยำ เข้าใจความหมายของคำและข้อความที่อ่าน การใช้
แผนภาพโครงเรื่องหรือแผนภาพความคิดพัฒนาความเข้าใจในการอ่าน และอ่านออกเสียงทั้งบทร้อยแก้วและร้อย
กรองทัง้ การอา่ นออกเสยี งธรรมดาและทำนองเสนาะ การทอ่ งจำบทร้อยกรองท่ีไพเราะท่ีเป็นบทอาขยานและไม่ใช่บท
อาขยาน การเลือกอ่านหนงั สือทั้งเป็นประโยชน์ประเภทความรู้และประเภทความบันเทิง มีมารยาทการอ่านและนิสัย
รกั การอา่ น
ฝึกการปฏิบัติเขยี นตามคำบอกจากบทเรียน เขียนคำตามความหมาย และตัวสะกดการันต์ การเรียงประโยค
จากคำที่กำหนด การแต่งประโยคจากภาพที่กำหนด การเขียนประโยคและข้อความสั้น ๆ มีมารยาทและนิสัยรักการ
เขยี นการจดบันทึกความรู้ ประสบการณ์
ฝึกการฟัง การดู และการพูดการจับใจความสำคัญสิ่งที่ฟังและดู การเข้าใจเนื้อเรื่อง การใช้ถ้อยคำน้ำเสียง
และกิริยาท่าทาง การตั้งคำถาม การตอบคำถาม การสนทนา การแสดงความคิดเห็น การเล่าเรื่องถ่ายทอดความรู้
ความคิด ความรูส้ กึ และประสบการณ์ การใชถ้ อ้ ยคำเหมาะแก่เรื่อง มีมารยาททดี่ ใี นการฟัง การดู และการพูด เพื่อให้
เขา้ ใจสิ่งทฟ่ี งั ดู และพดู สามารถจับใจความสำคัญอย่างถูกต้อง แสดงความคดิ เหน็ จากเร่อื งท่ีฟงั พูดเล่าเร่ืองได้รวมถึง
การตั้งคำถาม การตอบคำถามจากสิ่งที่ฟังและดู สนทนาโต้ตอบและพูดถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก และ
ประสบการณจ์ ากสงิ่ ทไ่ี ดฟ้ งั และดไู ด้ มีมารยาทในการฟงั การดูและการพูดที่ดี
ผลการเรียนรู้
๑. ผ้เู รียนสามารถสะกดคำอกั ษรควบกลำ้ ได้
๒. ผู้เรยี นสามารถผนั วรรณยกุ ต์ อักษรสงู อักษรกลาง และอกั ษรตำ่ และอา่ นออกเสยี งถูกตอ้ งตามอักษรวธิ ี
๓. ผู้เรียนสามารถเข้าใจความหมายของคำและข้อความท่อี ่าน
๔. ผู้เรยี นสามารถเขียนตามคำบอกและบอกความหมายของคำได้อย่างถกู ต้อง
๕. ผู้เรียนสามารถฟงั ดู และพดู การจับใจความสำคัญจากสงิ่ ทีฟ่ งั และดูได้
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
44
โครงสรา้ งรายวชิ าเพ่ิมเติม
ท 1๒๒01 เสรมิ ทักษะภาษาไทย ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๔0 ชัว่ โมง /ปี
หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ เวลา สดั สว่ น
ท่ี เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
๑ ครอบครวั ผาสุก ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ๑. บทดอกสร้อย ไกแ่ จ้ และไก่แก้ว ๖ ๑๑
ป. ๒/๒, สอนให้ขยัน มีวินัย รู้จักหน้าที่ของ ๖ ๑๑
๗ ๑๒
ป. ๒/๔, ตนเอง และเห็นคณุ ค่าของเวลา
๗ ๑๒
ป. ๒/๕, ๒. เพลงค่าน้ำนม ปลูกฝังความ
ป. ๒/๘ กตัญญูกตเวทีให้ระลึกถึงพระคุณ
ท ๕.๑ ป. ๒/๑, อันยิ่งใหญ่ของแม่ที่ลูกทุกคนต้อง
ป. ๒/๓ ทดแทน
๓. เพลงหน้าที่เด็ก สอนให้รู้จัก
หน้าที่ที่ต้องทำและปล ู กฝัง
คณุ ธรรม จรยิ ธรรมทีด่ ีงาม
๒ สนกุ กบั นทิ าน ท ๑.๑ ป. ๒/๑, นิทานเรื่อง ยายกะตา ให้ข้อคิดใน
ป. ๒/๒, เรื่องความรับผิดชอบต่อหน้าที่ท่ี
ป. ๒/๓, ได้รับมอบหมาย รู้จักช่วยทำงานใน
ป. ๒/๔, บา้ นเท่าที่จะทำไดแ้ ละไมใ่ ห้เกดิ
ป. ๒/๕, ความเสยี หาย
ป. ๒/๘
ท ๕.๑ ป. ๒/๑
๓ ทนั ข่าวเหตุการณ์ ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ๑. ข่าวเป็นเรื่องราวรอบตัวที่มี
ป. ๒/๒, ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต การ
ป. ๒/๔, รับรู้ข่าวจากสือ่ ต่าง ๆ อาจเป็นการ
ป. ๒/๖, อ่านจากหนังสือพิมพ์ การฟังและดู
ป. ๒/๘ จากโทรทัศน์หรือวิทยุอยู่เสมอ ทำ
ท ๕.๑ ป. ๒/๑, ให้เป็นผู้ทนั เหตุการณ์ ได้รับความรู้
ป. ๒/๒, และข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ใน
ป. ๒/๓ ชวี ติ ประจำวัน
๒. บทอาขยาน กาดำ ปลูกฝัง การ
มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนรอบ
ข้าง
๔ สบื สานมารยาท ท ๑.๑ ป. ๒/๑, ๑. นิทานอีสปเรื่อง ราชสีห์กับหนู
ไทย ป. ๒/๒, ให้ข้อคิดวา่ อย่าดถู กู ผู้อน่ื แต่ละคน
ป. ๒/๓, มีความสามารถแตกต่างกัน ซ่ึง
ป. ๒/๔, สามารถอยู่ร่วมกันและช่วยเหลือ
ป. ๒/๕, กันได้
45
หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา สัดส่วน
ที่ เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
ป. ๒/๖, ๒. สถานที่และเครื่องใช้ที่เป็นของ
๕ ธรรมชาตแิ สน ๗ ๑๒
งาม ป. ๒/๗, ส่วนรวม ทุกคนต้องช่วยกันดูแล
ป. ๒/๘ รกั ษา และเคารพสิทธซิ ่งึ กันและกนั ๗ ๑๒
๖ เมืองไทยเมือง
ทอง ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ๔๐ ๗๐
๓๐
ท ๕.๑ ป. ๒/๓ บทอาขยาน รักษาป่า ปลูกฝัง ๑๐๐
จิตสำนึกให้ช่วยกันรักษาป่าไม้
เพราะป่าไม้เป็นต้นกำเนิดของ
แหล่งน้ำ ทำให้อากาศบริสุทธิ์และ
ดินชุ่มชื้น ทุกชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์
ล้วนตอ้ งพ่งึ พาป่าไม้
ท ๕.๑ ป. ๒/๑, ปริศนาคำทาย บทร้องเล่น และ
ป. ๒/๒ สักวา เป็นรูปแบบของการใช้ภาษา
ที่ไพเราะมีเสียงสัมผัสคล้องจอง ใช้
ร้องหรือประกอบการละเล่นท่ี
สนุกสนาน สะท้อนความเป็นไทย
บางบทสอดแทรกข้อคิดท่ีดี
คะแนนระหว่างปี
คะแนนสอบปลายปี
รวม
46
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง
สาระที่ 1 การอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต
และมนี ิสยั รกั การอ่าน
ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ป.3 ท 1.1 ป.3/1 ➢ การอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของคำ คำ
อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้น ๆ คล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ท่ีประกอบดว้ ย
และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถูกต้อง คำพนื้ ฐานเพิม่ จาก ป.2 ไม่น้อยกวา่ 1,200 คำ รวมทงั้
คล่องแคล่ว
คำทเ่ี รียนรใู้ นกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื ประกอบดว้ ย
ท 1.1 ป.3/2
- คำทม่ี ีตัวการันต์
อธบิ ายความหมายของคำและข้อความที่ - คำทมี่ ี รร
อา่ น - คำทมี่ พี ยัญชนะและสระไม่ออกเสียง
- คำพอ้ ง
- คำพเิ ศษอนื่ ๆ เชน่ คำท่ีใช้ ฑ ฤ ฤๅ
ท 1.1 ป.3/3 ➢ การอา่ นจับใจความจากสือ่ ต่าง ๆ เช่น
ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล - นทิ านหรือเรื่องเก่ยี วกับท้องถิน่
เกย่ี วกบั เร่อื งทีอ่ า่ น
- เรือ่ งเล่าสัน้ ๆ
ท 1.1 ป.3/4
- บทเพลงและบทรอ้ ยกรอง
ลำดับเหตกุ ารณ์และคาดคะเนเหตุการณ์ - บทเรยี นในกล่มุ สาระการเรียนรอู้ น่ื
จากเรอ่ื งท่อี า่ นโดยระบุเหตผุ ลประกอบ - ข่าวและเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันในท้องถิ่นและ
ท 1.1 ป.3/5
ชุมชน
สรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน
เพอ่ื นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
ท 1.1 ป.3/6 ➢ การอา่ นหนังสือตามความสนใจ เช่น
อ่านหนังสือตามความสนใจอย่าง - หนงั สอื ที่นกั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย
สมำ่ เสมอและนำเสนอเรอ่ื งทีอ่ ่าน
- หนังสือท่คี รแู ละนักเรยี นกำหนดร่วมกัน
ท 1.1 ป.3/7 ➢ การอ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือ
อ่านข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏิบัติตาม ขอ้ แนะนำ
คำสง่ั หรือข้อแนะนำ
- คำแนะนำตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั
- ประกาศ ปา้ ยโฆษณา และคำขวญั
ท 1.1 ป.3/8 อธิบายความหมายของ ➢ การอา่ นข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ
ข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภมู ิ
47
ชน้ั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
ท 1.1 ป.3/9 ➢ มารยาทในการอา่ น เชน่
มมี ารยาทในการอ่าน
- ไมอ่ า่ นเสยี งดังรบกวนผูอ้ น่ื
- ไมเ่ ลน่ กนั ขณะที่อา่ น
- ไมท่ ำลายหนังสือ
- ไม่ควรแย่งอ่านหรือชะโงกหน้าไปอ่านขณะที่ผู้อ่ืน
กำลังอา่ น
สาระที่ 2 การเขียน
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
ช้นั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ป.3 ท 2.1 ป.3/1 ➢ การคดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตามรูปแบบการ
คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด เขียน ตวั อักษรไทย
ท 2.1 ป.3/2 ➢ การเขียนบรรยายเก่ียวกับลกั ษณะของ คน สตั ว์ สิ่งของ
เขียนบรรยายเกย่ี วกบั สิง่ ใดส่งิ หนึ่ง ได้ สถานท่ี
อย่างชัดเจน
ท 2.1 ป.3/3 ➢ การเขียนบันทึกประจำวนั
เขียนบันทกึ ประจำวนั
ท 2.1 ป.3/4 ➢ การเขยี นจดหมายลาครู
เขียนจดหมายลาครู
ท 2.1 ป.3/5 ➢ การเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการจากคำ ภาพ และหัวข้อท่ี
เขียนเร่ืองตามจินตนาการ กำหนด
ท 2.1 ป.3/6 ➢ มารยาทในการเขียน เชน่
มีมารยาทในการเขียน - เขยี นใหอ้ ่านงา่ ย สะอาด ไม่ขดี ฆ่า
- ไม่ขีดเขยี นในที่สาธารณะ
- ใช้ภาษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานท่ี และบุคคล
- ไมเ่ ขยี นลอ้ เลียนผู้อ่ืนหรือทำใหผ้ ู้อน่ื เสียหาย
48
สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สกึ ในโอกาสต่าง ๆ
อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
ชน้ั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ป.3 ท 3.1 ป.3/1 ➢ การจบั ใจความและพูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก
เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู จากเรื่องทฟี่ ังและดูทง้ั ท่เี ปน็ ความรแู้ ละความบนั เทิง เช่น
ท้ังที่เป็นความรูแ้ ละความบันเทิง
- เร่ืองเล่าและสารคดสี ำหรับเด็ก
ท 3.1 ป.3/2
- นทิ าน การ์ตนู เร่ืองขบขัน
บอกสาระสำคญั จากการฟงั และการดู
- รายการสำหรับเด็ก
ท 3.1 ป.3/3
- ข่าวและเหตกุ ารณใ์ นชวี ิตประจำวัน
ตงั้ คำถามและตอบคำถามเกยี่ วกับเรื่องท่ี - เพลง
ฟังและดู
ท 3.1 ป.3/4
พดู แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจาก
เรอ่ื งท่ฟี ังและดู
ท 3.1 ป.3/5 ➢ การพูดสื่อสารในชวี ิตประจำวนั เช่น
พดู สือ่ สารไดช้ ัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ - การแนะนำตนเอง
- การแนะนำสถานทใ่ี นโรงเรยี นและในชมุ ชน
- การแนะนำ/เชิญชวนเกี่ยวกับการปฏิบัติตนในด้าน
ต่างๆ เช่น การรกั ษาความสะอาดของร่างกาย
- การเลา่ ประสบการณ์ในชวี ติ ประจำวนั
- การพูดในโอกาสต่างๆ เช่น การพูดขอร้อง การพูด
ทักทาย การกลา่ วขอบคุณและขอโทษ การพดู ปฏเิ สธ และ
การพดู ชกั ถาม
ท 3.1 ป.3/6 ➢ มารยาทในการฟัง เช่น
มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด - ตั้งใจฟงั ตามองผู้พดู - ไม่รบกวนผู้อื่นขณะท่ฟี ัง
- ไม่ควรนำอาหารหรือเครื่องดื่มไปรับประทานขณะ
ทฟ่ี ัง
- ไม่แสดงกิรยิ าท่ีไมเ่ หมาะสม เชน่ โห่ ฮา หาว
- ใหเ้ กยี รตผิ พู้ ดู ดว้ ยการปรบมือ
- ไม่พดู สอดแทรกขณะท่ีฟัง
➢ มารยาทในการดู เชน่
- ตัง้ ใจดู
- ไมส่ ่งเสียงดังหรือแสดงอาการรบกวนสมาธิของผู้อื่น
➢ มารยาทในการพูด เช่น
- ใชถ้ ้อยคำและกิริยาท่ีสภุ าพ เหมาะสมกับกาลเทศะ
- ใช้นำ้ เสียงนมุ่ นวล
- ไม่พดู สอดแทรกในขณะท่ีผู้อน่ื กำลังพูด
- ไมพ่ ูดล้อเลยี นให้ผู้อนื่ ไดร้ บั ความอบั อายหรอื เสยี หาย
49
สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญา
ทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ
ชนั้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.3 ท 4.1 ป.3/1 ➢ การสะกดคำ การแจกลกู และการอา่ นเป็นคำ
เขียนสะกดคำและบอกความหมายของ ➢ มาตราตัวสะกดท่ตี รงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา
คำ ➢ การผันอกั ษรกลาง อกั ษรสงู และอักษรต่ำ
➢ คำที่มีพยญั ชนะควบกล้ำ
➢ คำที่มีอกั ษรนำ
➢ คำทป่ี ระวิสรรชนยี แ์ ละคำท่ไี ม่ประวสิ รรชนีย์
➢ คำทมี่ ี ฤ ฤๅ
➢ คำท่ีใช้ บนั บรร
➢ คำทใ่ี ช้ รร
➢ คำทม่ี ตี ัวการนั ต์
➢ ความหมายของคำ
ท 4.1 ป.3/2 ➢ ชนดิ ของคำ ได้แก่
ระบุชนิดและหนา้ ทขี่ องคำในประโยค - คำนาม
- คำสรรพนาม
- คำกริยา
ท 4.1 ป.3/3 ➢ การใช้พจนานุกรม
ใช้พจนานุกรมคน้ หาความหมายของคำ
ท 4.1 ป.3/4 ➢ การแตง่ ประโยคเพื่อการสื่อสาร ไดแ้ ก่
แตง่ ประโยคง่ายๆ - ประโยคบอกเล่า
- ประโยคปฏิเสธ
- ประโยคคำถาม
- ประโยคขอร้อง
- ประโยคคำสงั่
ท 4.1 ป.3/5 ➢ คำคล้องจอง
แต่งคำคลอ้ งจองและคำขวัญ ➢ คำขวญั
ท 4.1 ป.3/6 ➢ ภาษาไทยมาตรฐาน
เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษา ➢ ภาษาถิน่
ถน่ิ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ
50
สาระท่ี 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ
ชนั้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.3 ท 5.1 ป.3/1 ➢วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพ้นื บ้าน
ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรม - นิทานหรอื เรื่องในท้องถน่ิ
เพือ่ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
- เรือ่ งสั้นง่าย ๆ ปริศนาคำทาย
ท 5.1 ป.3/2
- บทร้อยกรอง
รู้จักเพลงพื้นบ้านและเพลงกล่อมเด็ก - เพลงพ้ืนบ้าน
เพื่อปลูกฝังความชื่นชมวัฒนธรรม - เพลงกลอ่ มเดก็
ท้องถิ่น - วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรียนและตามความ
ท 5.1 ป.3/3
สนใจ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวรรณคดีท่ี
อ่าน
ท 5.1 ป.3/4 ➢ บทอาขยานและบทร้อยกรองทม่ี ีคณุ ค่า
ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบท - บทอาขยานตามที่กำหนด
ร้อยกรองทีม่ คี ณุ คา่ ตามความสนใจ
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
51
คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ท 13101 ภาษาไทย 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลา 160 ช่วั โมง/ปี
ศึกษาและฝึกอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำพื้นฐาน คำที่ใช้เรียนรู้ในกลุ่มสาระ
การเรียนรู้อื่น คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ อ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ แล้วสามารถ ตั้งคำถาม
และตอบคำถามเชิงเหตุผล ลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์ โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิด
จากเรอ่ื งที่อ่าน เพอื่ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเร่ืองท่ีอ่าน อ่าน
ข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ อ่านข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ และมีมารยาท
ในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนบรรยายเกีย่ วกับลกั ษณะของคน
สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ได้อย่าง ชัดเจน เขียนบันทึกประจำวัน เขียนจดหมายลาครู เขียนเรื่องตามจินตนาการจากคำ
ภาพ และหัวข้อที่กำหนด และมีมารยาทในการเขียน จับใจความจากเรื่องที่ฟงั และดูทั้งที่เป็นความรู้และความบันเทงิ
โดยสามารถเล่ารายละเอยี ด บอกสาระสำคัญ ต้ังคำถาม ตอบคำถาม พดู แสดงความคิดเห็น และความรู้สึกจากเรื่องที่
ฟังและดู พูดแนะนำตนเอง พูดแนะนำสถานที่ในโรงเรียนและในชุมชน พูดแนะนำเชิญชวนเกี่ยวกับการปฏิบัติตนใน
ด้านต่าง ๆ เล่าประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน พูดในโอกาสต่าง ๆ เช่น ขอร้อง ทักทาย ขอบคุณ ขอโทษ ปฏิเสธ
ซักถาม และมีมารยาทในการฟัง การดู และ การพูด เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ ใช้พจนานุกรมค้นหา
ความหมายของคำ ระบชุ นดิ และหน้าที่ของคำนาม คำสรรพนาม และคำกริยาในประโยค แตง่ ประโยคเพ่ือการสื่อสาร
ได้แก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำถาม ประโยคขอร้อง ประโยคคำสั่ง แต่งคำคล้องจองและ คำขวัญ
และเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณคดีและ
วรรณกรรมเพือ่ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวันและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อา่ น รู้จักเพลงพืน้ บา้ นและเพลงกล่อม
เด็กเพื่อปลูกฝังความชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่น และท่องจำบทอาขยาน ตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตาม
ความสนใจ
กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ให้ผู้เรียนฝึกทักษะการใช้ภาษา ทง้ั การอ่าน การเขยี น การฟัง การดู และการพูด ที่อยู่
บนพื้นฐานของหลักภาษา โดยใช้กระบวนการกลมุ่ และการระดมสมองเป็นหลกั
เพื่อให้เกิดความเข้าใจหลักภาษา เกิดทักษะในการใช้ภาษาเพือ่ การสื่อสาร สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ได้ มคี วามช่ืนชม เห็นคุณคา่ ภมู ปิ ัญญาไทยและภูมิใจในภาษาประจำชาติ
รหสั ตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙
ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
รวม 5 มาตรฐาน 31 ตวั ช้ีวัด
52
โครงสร้างรายวชิ า
ท 13101 ภาษาไทย 3 กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลา ๑๖0 ชว่ั โมง/ปี
หนว่ ย ชือ่ หน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา สดั สว่ น
ที่ เรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
๑ ส ร ะ ไ ท ย . . . ใ ช้ ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. สระใช้ประสมกับพยัญชนะและ ๗ ๓
๓
ประสมคำ ๓/๒ ว ร ร ณ ย ุ ก ต ์ ใ ห ้ เ ป ็ น ค ำ ท ี ่ มี ๓
๓
ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ความหมายเพื่อใช้สื่อสารใน ๓
ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ชีวติ ประจำวนั ๓
๒ มาตรา ก กา... ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. คำที่ไม่มีตัวสะกดทุกคำจัดเป็นคำ ๗ ๓
ร้วู ่าไม่มตี วั สะกด ๓/๒ ในมาตรา ก กา
ท ๒.๑ ป. ๓/๑
ท ๔.๑ ป. ๓/๑
๓ มาตรา กง กม เกย ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. คำในมาตรา กง กม เกย และ ๗
เกอว มีตัวสะกดตรงตามเสียง ๗
เกอว...ตวั สะกด ๓/๒ เพยี งตัวเดียว ๗
กำหนดเสียง ท ๒.๑ ป. ๓/๑ คำในมาตรา กก กด กน และกบ ๗
เป็นคำที่มีตัวสะกดหลายตัว ซ่ึง
ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ออกเสยี งเหมือนกนั ๗
๔ มาตรา กก กด กน ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. วรรณยุกต์เป็นระดับสูงต่ำของ
เสียงที่ปรากฏในพยางค์หรือคำ
ก บ . . . ต ั ว ส ะ ก ด ๓/๒ วรรณยุกต์มี ๔ รูป ๕ เสยี งเม่ือนำ
วรรณยุกต์เขียนบนพยัญชนะต้น
หลายตัว ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ของคำจะทำให้เสียงและ
ความหมายของคำเปลยี่ นไป
ท ๔.๑ ป. ๓/๑ พยัญชนะควบกล้ำจะควบกับ ร ล
หรือ ว บางคำออกสียงพยัญชนะ
๕ วรรณยุกต์...สนุก ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. ต้นทั้ง ๒ ตัว พร้อมกัน บางคำ
ออกเสียงเฉพาะพยัญชนะต้นตัว
กับการผันอกั ษร ๓/๒ แรก และบางคำออกเสียง ทร
เปน็ เสยี ง ซ
ท ๒.๑ ป. ๓/๑ คำที่มีอักษรนำจะมีพยัญชนะต้น
๒ ตัว ประสมสระเดียว กั น
ท ๔.๑ ป. ๓/๑ พยัญชนะต้นทั้ง ๒ ตัวพร้อมกัน
บางคำออกเสียงเฉพาะพยัญชนะ
๖ ควบกล้ำ...คำที่มี ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. ตน้ ตวั แรกจะเป็นอักษรสูง หรือ
ร ล ว ๓/๒
ท ๒.๑ ป. ๓/๑
ท ๔.๑ ป. ๓/๑
๗ อักษรนำ...ทำให้ ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป.
เสียงตา่ งไป ๓/๒
ท ๒.๑ ป. ๓/๑
ท ๔.๑ ป. ๓/๑
53
หนว่ ย ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้ เวลา สดั สว่ น
ท่ี เรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
อักษรกลาง ส่วนพยัญชนะต้นตัว ๓
๓
ที่ ๒ ต้องเป็นอักษรต่ำเดี่ยว
๓
เท่านั้น บางคำออกเสียงพยางค์ ๓
๓
เดียว บางคำออกเสยี งสองพยางค์ ๓
๓
๘ คำท่ีประ ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. คำท่ีออกเสียง อะ บางคำมรี ูป ๗
วิสรรชนยี แ์ ละคำ ๓/๒ –ะ และออกเสียงอะ เต็มเสียง
ท่ไี มป่ ระวสิ รรชนยี ์ ท ๒.๑ ป. ๓/๑ บางคำไม่มีรูป –ะ และออก
ท ๔.๑ ป. ๓/๑ เสียงอะ กง่ึ เสียง
๙ คำที่ใช้ บัน บรร ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. คำที่ใช้ รร ไม่มีตัวสะกด จะออก ๘
รร ๓/๒ เสียงสระเป็นเสียง อะ และเสียง
ท ๒.๑ ป. ๓/๑ ตัวสะกดเป็นเสียงในมาตรา กน
ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ส่วนคำที่ใช้ รร มีตัวสะกด จะ
ออกเสียงสระเป็นเสียง อะ และ
เสยี งตัวสะกดตามมาตราตัวสะกด
ของคำนั้น ส่วนคำที่ใช้ บัน บรร
เป็นการเขยี นเฉพาะของแต่ละคำ
๑๐ คำทม่ี ีตวั การนั ต์ ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. ตัวอักษรที่มีไม้ทัณฑฆาต ( -์ ) ๘
๓/๒
ท ๒.๑ ป. ๓/๑ เขียนอยู่ข้างบนทำใหต้ ัวอักษรนัน้
ท ๔.๑ ป. ๓/๑
ไม่ออกเสียง เรียกว่าตัวการันต์
ตัวการันต์อาจอยู่กลางคำหรือ
ทา้ ยคำ
๑๑ คำทพ่ี ยญั ชนะและ ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. ก า ร อ ่ า น แ ล ะ เ ข ี ย น ค ำ ท ี ่ มี ๘
สระไมอ่ อกเสียง ๓/๒
ท ๒.๑ ป. ๓/๑ พยัญชนะและสระไม่ออกเสียง
ท ๔.๑ ป. ๓/๑
ต้องสังเกตและจดจำตัวอักษร
เหล่านั้น เพื่อให้อ่านและเขียนคำ
ได้ถกู ตอ้ ง
๑๒ คำที่ใช้ ฑ ฤ ฤๅ ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป. ตัวอักษรบางตัวในภาษาไทย ๘
๑๓ คำพอ้ ง ๓/๒
ท ๒.๑ ป. ๓/๑ สามารถออกเสียงได้หลายแบบ
ท ๔.๑ ป. ๓/๑
ตอ้ งสังเกตจากการประสมคำ
ท ๑.๑ ป. ๓/๒,ป.
๓/๒ คำพ้องรูปจะเขียนเหมือนกัน แต่ ๘
ท ๒.๑ ป. ๓/๑ อ่านออกเสียงและมีความหมาย ๘
ท ๔.๑ ป. ๓/๑ ต่างกัน ส่วนคำพ้องเสียงเป็นคำท่ี
อ่านออกเสียงเหมือนกัน แต่การ
๑๔ ชนิดของคำ...ทำ ท ๔.๑ ป. ๓/๒ เขียนและความหมายตา่ งกนั
หลายหน้าที่
ประโยคประกอบด้วยคำหลาย
ชนิดซึ่งทำหน้าที่ในประโยค
แตกตา่ งกนั
54
หน่วย ชือ่ หน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้ เวลา สดั สว่ น
ที่ เรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
๑๕ การใช้พจนานุกรม ท ๔.๑ ป. ๓/๓ พจนานุกรมเป็นหนังสือที่ใช้ ๘ ๓
๓
สำหรบั ค้นหาคำในภาษาไทย เพอื่ ๓
ตรวจสอบการเขียนสะกดคำการ ๔
๕
อ่านคำ ความหมายและชนิดของ
๕
คำ
๕
๑๖ การแต่งประโยค ท ๔.๑ ป. ๓/๔ ประโยคเกดิ จากการนำคำมาเรียง ๘
เพื่อการสอ่ื สาร กันเพื่อบอกเล่า ปฏิเสธ ถาม ส่ง
ขอร้อง ซึ่งเป็นการสื่อสารใน
ชวี ติ ประจำวนั
๑๗ คำคล้องจองและ ท ๔.๑ ป. ๓/๕ คำคล้องจองทำให้ถ้อยคำไพเราะ ๘
คำขวญั มีเสียงของคำเชื่อมโยงกัน ซึ่งเป็น
เอกลักษณ์ของภาษาไทย คำขวัญ
เป็นข้อความสั้น ๆ ที่มีเสียงคล้อง
จองกนั ใหค้ ตสิ อนใจหรือให้ทำสิ่ง
ดีงาม
๑๘ ภ า ษ า ไ ท ย ท ๔.๑ ป. ๓/๔ ภาษาไทยมาตรฐานเป็นภาษาที่ ๘
มาตรฐานและ ใช้สื่อสารกันทั่วประเทศ ส่วน
ภาษาถน่ิ ภาษาถิ่นเป็นภาษาที่กลุ่มคนใน
แต่ละท้องถิ่นใช้สนทนากัน ควร
เลอื กใช้ให้เหมาะสมกบั กาลเทศะ
๑๙ การอา่ น ท ๑.๑ ป. ๓/๗, ป. การอ่านเป็นเครื่องมือในการ ๘
๓/๘, ค้นคว้าและแสวงหาความรู้เรื่อง
ป. ๓/๙ ต่าง ๆ ทำให้ได้แนวคิดที่เป็น
ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต การ
ฝึกฝนทักษะการอ่านอย่าง
สม่ำเสมอ ทำให้มีความรู้เพ่ือ
พัฒนาตนมากย่งิ ขึน้
๒๐ การเขียน ท ๒.๑ ป. ๓/๑,ป. การเขียนเป็นการสื่อสารอย่าง ๘
๓/๒, หนึ่งเพื่อให้ผู้อื่นรับรู้เรื่องราว
ป. ๓/๓, ตามที่ผู้เขียนต้องการในการเขียน
ป. ๓/๔, จะต้องเขียนด้วยลายมือบรรจง
ป.๓/๕, และสะอาดเรียบรอ้ ย
ป. ๓/๖
๒๑ การฟัง การดู และ ท ๒.๑ ป. ๓/๑,ป. การฟัง การดู และการพูด เป็น ๘
การพูด ๓/๒, ทักษะพื้นฐานที่สำคัญอันจะ
ป. ๓/๓, นำไปสู่การอ่านและการเขียน
ป. ๓/๔, นักเรียนควรมีมารยาทในการฟัง
ป.๓/๕, และการดเู พ่ือใหส้ ามารถจบั
55
หน่วย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรู้ เวลา สดั ส่วน
ท่ี เรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
ใจความ นำไปใช้ประโยชน์ใน
ป. ๓/๖ ชีวิตประจำวัน และสามารถพูด
สื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง
และมีมารยาทตามความเปน็ ไทย
คะแนนระหว่างปี 70
คะแนนสอบปลายปี 30
รวม ๑๖0 100
56
คำอธิบายรายวชิ าเพิม่ เติม
ท 1๓๒01 เสริมทกั ษะภาษาไทย ๓ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๔0 ชวั่ โมง/ปี
ฝึกการอ่านสะกดคำที่ไม่ตรงตามมาตราตัวสะกดอ่าน และเขียนคำที่ใช้การันต์ อักษรควบกล้ำและอักษรนำ
การผันวรรณยุกต์ อักษรควบกล้ำ และอักษรนำ การอ่านออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธี อ่านได้คล่องและเร็ว จำคำ
ได้แม่นยำ และกวาดสายตาในการอ่าน เข้าใจความหมายของคำและข้อความที่อ่าน เข้าใจความสำคัญและ
รายละเอยี ดของเรือ่ งท่ีอา่ น
ฝึกการฟัง การดู และการพูด การจับใจความสำคัญสิ่งที่ฟังและดู การเข้าใจเนื้อเรื่อง การใช้ถ้อยคำน้ำเสียง
และกริ ิยาทา่ ทาง การแสดงทรรศนะเรอื่ งท่ีฟังและดู การต้งั คำถามการตอบคำถาม การสนทนา การแสดงความคิดเห็น
การเลา่ เรือ่ งถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ การใชถ้ ้อยคำเหมาะแก่เรื่องอย่างสร้างสรรค์ตาม
หลักการพดู มมี ารยาททด่ี ใี นการฟงั การดู และการพูด
ผลการเรียนรู้
๑. ผู้เรยี นสามารถสะกดคำท่ไี ม่ตรงตามมาตราตวั สะกดได้
๒. ผู้เรียนสามารถอ่าน และเขยี นคำท่ีใชก้ ารนั ต์ อักษรควบกล้ำและอักษรนำได้
๓. ผเู้ รียนสามารถเขา้ ใจความหมายของคำและข้อความท่ีอ่าน
๔. ผ้เู รียนสามารถฟัง ดู และพูดการจับใจความสำคัญจากสิ่งท่ีฟังและดูได้
รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรยี นรู้
57
โครงสร้างรายวิชาเพิม่ เติม
ท 1๓๒01 เสรมิ ทกั ษะภาษาไทย ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๔0 ชั่วโมง/ปี
หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา สัดสว่ น
ท่ี เรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
๑ นิทานสอนใจ ท ๑.๑ ป. ๓/๑, ๑. นิทานสุภาษิต เรื่อง กระต่าย ๕ ๘
ป. ๓/๒, ตื่นตูมให้ข้อคิดว่า ควรใช้ปัญญา ๕ ๘
ป. ๓/๓, ในการไตร่ตรองเรื่องต่าง ๆ ไม่ ๕ ๙
๕ ๙
ป. ๓/๔, หลงเช่ือสงิ่ ใดง่าย ๆ
ป. ๓/๕, ๒. นิทานสุภาษิต เรื่อง เด็กเลี้ยง
ป. ๓/๙ แกะให้ข้อคิดว่า ไม่ควรพูดโกหก
ท ๕.๑ ป. ๓/๑ หลอกลวงผู้อื่นเพราะนอกจากจะ
ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนแล้วอาจจะ
ส่งผลให้ตนเองและครอบครัว
เดือดร้อนด้วย
๒ หลกี ไกลคนพาล ท ๑.๑ ป. ๓/๑, ๑. นิทานอีสป เรือ่ ง กระตา่ ยแหย่
ป. ๓/๒, เสือให้ข้อคิดว่า ไม่ควรแกล้งผู้อ่ืน
ป. ๓/๓, โดยเฉพาะผู้ที่มีนิสัยพาล เกเร
ป. ๓/๔, เพราะจะทำให้คนเดอื ดรอ้ น
ป. ๓/๕, ๒. นิทานอีสป เรื่อง หมาป่ากับ
ป. ๓/๙ ลูกแกะให้ข้อคิดว่า ควรหลีกเลี่ยง
ท ๕.๑ ป. ๓/๑ หรอื ไม่อยู่ใกล้คนท่ีมนี ิสยั พาลเกเร
เพราะจะนำภัยมาสู่ตนเองและคน
ที่มีนิสัย เกเร จะทำให้ไม่มีใคร
อยากคบหา
๓ ความสขุ จากการ ท ๑.๑ ป. ๓/๑, หนงั สือ ประถม ก กา เป็นหนงั สือ
อ่าน ป. ๓/๒, ที่มีประโยชน์การฝึกอ่านจะทำให้
ป. ๓/๕, อ่านออก เขยี นได้ และใชค้ ำได้ถูก
ป. ๓/๙ ความหมาย
ท ๕.๑ ป. ๓/๔
๔ สืบสานบทกลอน ท ๑.๑ ป. ๓/๑, ๑. บทดอกสร้อยสุภาษิต เรื่อง
ป. ๓/๒, มดแดงเป็นบทกลอนที่มีความ
ป. ๓/๓, ไพเราะ สอนให้รู้จักการมีความ
ป. ๓/๕, กล้าหาญและอดทน
ป. ๓/๖, ๒. บทดอกสร้อยสุภาษิต เรื่อง
ป. ๓/๙ นกกระจาบเป็นบทกลอนที่สอน
ท ๕.๑ ป. ๓/๑, ให้ใช้ความละเอียดรอบคอบ รู้จัก
ป. ๓/๔ คดิ ไตรต่ รองในการทำงาน
58
หนว่ ย ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา สัดสว่ น
ที่ เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
๓. บทอาขยาน เด็กน้อย สอนให้
๕ บทเพลงท่ีขบั เด็กเห็นความสำคัญของการเรียน ๕ ๙
ขาน หนังสือ ที่จะทำให้มีอนาคตที่ดี ๕ ๙
ไม่ลำบาก ๕
๖ ศรศิลป์ไม่กินกนั ๔. บทอาขยาน วชิ าหนาเจ้า สอน ๕ ๙
ให้เห็นความสำคัญของการมีวิชา ๙
๗ ปริศนาพาสนุก ความรู้ ซึ่งจะทำให้ชวี ิตมคี วามสขุ ๔๐
เปน็ ท่เี ชดิ หนา้ ชตู าได้ ๗๐
๘ ความสขุ จากการ ๓๐
ทำความดี ท ๕.๑ ป. ๓/๒ เ พ ล ง ก ล ่ อ ม เ ด ็ ก แ ล ะ เ พ ล ง ๑๐๐
พวงมาลัยเป็นบทเพลงพื้นบ้าน ที่
ใช้ถ้อยคำไพเราะ ผู้ขับร้องต้องใช้
น้ำเสียงที่อ่อนหวานในการร้อง
เพ่ือใหบ้ ทเพลงน่าฟังมากขน้ึ
ท ๑.๑ ป. ๓/๑, ศรศิลป์ไม่กินกัน เป็นสำนวนไทย
ป. ๓/๒, ทมี่ าจากวรรณคดี เรอ่ื ง
ป. ๓/๓, พระไชยเชษฐ์ ปัจจุบันสำนวนนี้มี
ป. ๓/๔, ความหมายว่าไม่ถูกกัน ไม่ลงรอย
ป. ๓/๕, กัน
ป. ๓/๙
ท ๕.๑ ป. ๓/๑
ท ๕.๑ ป. ๓/๔ ปริศนาคำทาย เป็นเกมที่ฝึกการ
ใช้ความคิดฝึกการอ่านภาษาไทย
อย่างถูกต้อง สร้างความ
สนุกสนาน และส่งเสริมเชาวน์
ปัญญา
ท ๑.๑ ป. ๓/๑, นิทานชาดก เรื่อง คนพาลย่อม
ป. ๓/๒, สำคัญผิดคิดว่าบาปนั้นเป็น
ป. ๓/๕, ความลับ ให้ข้อคิดได้ว่าความลับ
ป. ๓/๙ ไม่มีในโลก การทำสิ่งใดแม้ไม่มี
ท ๕.๑ ป. ๓/๑ ใครเห็น แต่ตนเองย่อมรู้ดีอยู่แก่
ใจ เกิดความทุกข์ การเป็นคนที่
ซื่อสัตย์จะทำให้ได้รับการยกย่อง
และไวว้ างใจจากผอู้ ืน่
คะแนนระหว่างปี
คะแนนสอบปลายปี
รวม
59
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
ตวั ช้ีวัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
สาระท่ี 1 การอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต
และมนี ิสยั รกั การอา่ น
ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.4 ท 1.1 ป.4/1 ➢ การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อย
อ่านออกเสียง บทร้อยแก้วและบทร้อย แก้วและบทรอ้ ยกรองทปี่ ระกอบดว้ ย
กรองไดถ้ ูกตอ้ ง
- คำที่มี ร ล เป็นพยญั ชนะต้น
ท 1.1 ป.4/2
- คำทีม่ ีพยัญชนะควบกลำ้
อธิบายความหมายของคำ ประโยค และ - คำทมี่ อี ักษรนำ
สำนวนจากเร่อื งท่ีอา่ น
- คำประสม
ท 1.1 ป.4/3
- อักษรยอ่ และเครอื่ งหมายวรรคตอน
อ่านเรื่องสั้นๆ ตามเวลาที่กำหนดและ - ประโยคที่มีสำนวนเป็นคำพังเพย สุภาษิต ปริศนาคำ
ตอบคำถามจากเรือ่ งทีอ่ า่ น
ทาย และเคร่ืองหมายวรรคตอน
ท 1.1 ป.4/4 ➢ การอ่านบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ
แยกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่ ➢ การอา่ นจบั ใจความจากส่อื ตา่ ง ๆ เชน่
อ่าน
ท 1.1 ป.4/5 - เรอ่ื งสัน้ ๆ
คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านโดย - เร่อื งเล่าจากประสบการณ์
ระบุเหตผุ ลประกอบ - นิทานชาดก
ท 1.1 ป.4/6 - บทความ
สรุปความรู้และขอ้ คิดจากเร่อื งท่ีอา่ น - บทโฆษณา
เพือ่ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั - งานเขยี นประเภทโนม้ นา้ วใจ
- ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน
- สารคดีและบันเทงิ คดี
ท 1.1 ป.4/7 ➢ การอ่านหนังสือตามความสนใจ เช่น
อ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจ - หนงั สอื ท่นี กั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย
อย่างสม่ำเสมอและแสดงความคิดเห็น - หนงั สือท่คี รแู ละนักเรียนกำหนดรว่ มกนั
เก่ยี วกบั เร่ืองทอี่ า่ น
ท 1.1 ป.4/8 ➢ มารยาทในการอา่ น
มีมารยาทในการอา่ น
60
สาระที่ 2 การเขยี น
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ป.4 ท 2.1 ป.4/1 ➢ การคัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่งึ บรรทัดตาม
คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและคร่งึ รูปแบบการเขียนตวั อกั ษรไทย
บรรทดั
ท 2.1 ป.4/2 ➢ การเขียนสอื่ สาร เชน่
เขยี นสื่อสารโดยใช้คำไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจน
และเหมาะสม - คำขวัญ
- คำแนะนำ
ท 2.1 ป.4/3 ➢ การนำแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดไป
เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ
ความคิดเพอ่ื ใช้พัฒนางานเขยี น พัฒนางานเขียน
ท 2.1 ป.4/4 ➢ การเขียนย่อความจากสือ่ ต่างๆ เช่น นิทาน ความเรียง
เขยี นย่อความจากเรื่องส้นั ๆ
ประเภทต่างๆ ประกาศ จดหมาย คำสอน
ท 2.1 ป.4/5 ➢ การเขยี นจดหมายถงึ เพ่อื นและบดิ ามารดา
เขียนจดหมายถึงเพื่อนและบิดามารดา
ท 2.1 ป.4/6 ➢ การเขียนบนั ทึกและเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า
เขยี นบนั ทึกและเขียนรายงานจาก
การศกึ ษาค้นคว้า
ท 2.1 ป.4/7 ➢ การเขยี นเรื่องตามจินตนาการ
เขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการ
ท 2.1 ป.4/7 ➢ การเขียนเรื่องตามจินตนาการ
เขียนเรื่องตามจินตนาการ
ท 2.1 ป.4/8 ➢ มารยาทในการเขยี น
มมี ารยาทในการเขียน
61
สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ
อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
ชน้ั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.4 ท 3.1 ป.4/1 ➢ การจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องทีฟ่ ังและ
จำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจาก ดู ในชีวิตประจำวัน
เร่ืองท่ีฟงั และดู ➢ การจับใจความ และการพูดแสดงความรู้ ความคิดใน
ท 3.1 ป.4/2 เร่ืองท่ฟี ังและดู จากส่อื ตา่ งๆ เชน่
พดู สรปุ ความจากการฟังและดู - เรื่องเล่า
ท 3.1 ป.4/3 - บทความสน้ั ๆ
พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และ - ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจำวัน
ความรสู้ กึ เกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ังและดู
- โฆษณา
ท 3.1 ป.4/4
- ส่ืออิเล็กทรอนิกส์
ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล - เรื่องราวจากบทเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จากเรอ่ื งที่ฟังและดู
และกลุ่มสาระการเรียนร้อู ื่น
ท 3.1 ป.4/5 ➢ การรายงาน เชน่
รายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษา - การพูดลำดบั ขนั้ ตอนการปฏิบัติงาน
ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ - การพดู ลำดับเหตุการณ์
สนทนา
ท 3.1 ป.4/6 ➢ มารยาทในการฟงั การดู และการพดู
มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู
สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.4 ท 4.1 ป.4/1 ➢ คำในแม่ ก กา
สะกดคำและบอกความหมายของคำใน ➢ มาตราตัวสะกด
บรบิ ทต่างๆ ➢ การผันอกั ษร
➢ คำเปน็ คำตาย
➢ คำพ้อง
ท 4.1 ป.4/2 ➢ ชนดิ ของคำ ไดแ้ ก่
ระบชุ นดิ และหนา้ ท่ีของคำในประโยค - คำนาม
- คำสรรพนาม
- คำกรยิ า
- คำวิเศษณ์
62
ชนั้ ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ท 4.1 ป.4/3 ➢ การใช้พจนานุกรม
ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของ
คำ
ท 4.1 ป.4/4 ➢ ประโยคสามญั
แต่งประโยคไดถ้ ูกต้องตามหลักภาษา - สว่ นประกอบของประโยค
- ประโยค 2 ส่วน
- ประโยค 3 ส่วน
ท 4.1 ป.4/5 ➢ กลอนสี่
แต่งบทร้อยกรองและคำขวญั ➢ คำขวญั
ท 4.1 ป.4/6 ➢ สำนวนทีเ่ ปน็ คำพงั เพยและสุภาษิต
บอกความหมายของสำนวน
ท 4.1 ป.4/7 ➢ ภาษาไทยมาตรฐาน
เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับ ➢ ภาษาถิน่
ภาษาถ่นิ ได้
สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นำมาประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง
ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
ป.4 ท 5.1 ป.4/1 ➢ วรรณคดีและวรรณกรรม เช่น
ระบุข้อคิดจากนิทานพื้นบ้านหรือ - นทิ านพนื้ บ้าน
นทิ านคติธรรม
- นทิ านคตธิ รรม
ท 5.1 ป.4/2
- เพลงพน้ื บ้าน
อธิบายข้อคิดจากการอ่านเพื่อนำไปใช้ - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและตามความ
ในชวี ิตจริง
สนใจ
ท 5.1 ป.4/3 ➢ เพลงพ้ืนบ้าน
ร้องเพลงพน้ื บา้ น
ท 5.1 ป.4/4 ➢ บทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า
ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และ - บทอาขยานตามที่กำหนด
บทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ
63
คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน
ท 14101 ภาษาไทย 4 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 160 ชั่วโมง/ปี
ศกึ ษาและฝกึ อ่านออกเสียงและอธบิ ายความหมายของบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรอง อา่ นจบั ใจความจากส่ือ
ต่าง ๆ ตามเวลาที่กำหนด แล้วสามารถตอบคำถามจากเร่ืองท่ีอ่าน แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็น คาดคะเนเหตุการณ์
โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจ
อย่างสม่ำเสมอและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน และมีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด
และครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนคำขวัญและคำแนะนำ โดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจน และ
เหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน เขียนย่อความจากเรื่องสั้น ๆ เขียน
จดหมายถงึ เพอื่ นและบิดามารดา เขียนบนั ทกึ และเขียนรายงานจากการศกึ ษาค้นคว้า เขียนเรือ่ งตามจินตนาการ และ
มมี ารยาทในการเขยี น จำแนกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ จากเรื่องที่ฟงั และดูในชีวิตประจำวัน จบั ใจความของเรื่องท่ีฟัง
และดูจากสื่อต่าง ๆ แล้วพูดสรุปความ พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และความรู้สึก ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิง
เหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู รายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู การสนทนาและมีมารยาทใน
การฟัง การดู และการพูด สะกดคำและบอกความหมายของคำในบริบทต่าง ๆ ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของ
คำ ระบุชนิดและหน้าที่ของคำนาม คำสรรพนาม คำกริยา และคำวิเศษณ์ในประโยค แต่งประโยค ๒ ส่วน และ
ประโยค ๓ ส่วนได้ถูกต้องตามหลักภาษา แต่งกลอนสี่และคำขวัญ บอกความหมายของคำพังเพยและสุภาษิตและ
เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถน่ิ ได้ ระบุขอ้ คดิ จากนทิ านพื้นบ้านหรอื นิทานคติธรรม อธิบายข้อคดิ จากการ
อ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริง ร้องเพลงพื้นบ้านและท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบท
รอ้ ยกรองทมี่ คี ุณค่าตามความสนใจ
กิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้ผู้เรียนประมวลคำ แต่งประโยค เขียนข้อความ และสร้างสรรค์ผลงานหลากหลาย
รูปแบบ ฝึกให้สังเกตคำ ประโยค และข้อความ เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีการแสดงบทบาทสมมุติเพื่อฝึก
ทกั ษะการใช้ภาษา และการเรยี นรู้ด้วยเกม เพื่อฝึกการทำงานกลุ่ม การวางแผน และพฒั นากระบวนการคดิ
เพื่อให้เกิดความเขา้ ใจหลักภาษา เกิดทักษะในการใช้ภาษาเพือ่ การสื่อสาร สามารถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
ได้ มีความชน่ื ชม เห็นคณุ ค่าภมู ปิ ัญญาไทยและภมู ิใจในภาษาประจำชาติ
รหสั ตัวช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗
ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
รวม 5 มาตรฐาน 33 ตวั ชว้ี ดั
64
โครงสรา้ งรายวชิ า
ท 14101 ภาษาไทย 4 กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย
ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี 4 เวลา 160 ช่วั โมง/ปี
หน่วย ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้ เวลา สดั ส่วน
ที่ (ชัว่ โมง) คะแนน
๑ มาตรา ก กา...จำไว้ ท ๔.๑ ป.๔/๑ คำที่ไม่มีตัวสะกดทุกคำ ๘ ๓
๓
หนาไม่มตี วั สะกด จดั เปน็ คำในมาตรา ก กา
๓
๒ มาตราตัวสะกด... ท ๔.๑ ป.๔/๑ ตัวสะกดเป็นส่วนประกอบ ๘
๓
มที ้ังหมด ๘ มาตรา หนึ่งของคำ เสียงตัวสะกดมี
๓
๘ ม า ต ร า บ า ง ม า ต ร า มี
พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัว
เดียว บางมาตรามีพยัญชนะ
ท่เี ป็นตัวสะกดหลายตัว
๓ ไตรยางศ์...สรา้ งคำ ท ๔.๑ ป.๔/๑ พยัญชนะไทย ๔๔ ตัว แบ่ง ๘
ตามระดับเสียงของพยัญชนะ
ได้เป็นอักษรสูง อักษรกลาง
แ ล ะ อ ั ก ษ ร ต ่ ำ ซ ึ ่ ง เ ป็ น
หลักเกณฑ์หนึ่งที่ใช้ในการผนั
อักษร
๔ คำเป็น คำตาย... ท ๔.๑ ป.๔/๑ คำที่ไม่มีตัวสะกดและประสม ๘
ดูง่ายไมย่ าก
ส ร ะ เ ส ี ย ง ส ั ้น ก ั บค ำ ที่มี
ตัวสะกดอยู่ในมาตรา กก กด
กบ ทุกคำเรียกว่า คำเป็น
ส่วนคำที่ไม่มีตัวสะกดและ
ประสมสระเสียงยาวรวมทั้ง
คำที่ประสมสระ -ำ ใ- ไ- เ-า
กับคำที่มีตัวสะกดอยู่ใน
มาตรา กง กม เกย เกอว กน
ทุกคำเรียกว่า คำตาย
๕ วรรณยุกต.์ ..สิ่งสำคัญ ท ๔.๑ ป.๔/๑ วรรณยุกต์มีทั้งเสียงและรูป ๘
ผันอักษร
คำทุกคำ มีเสียงวรรณยุกต์แม้
จะไม่มีรูปวรรณยุกต์ ปรากฏ
การผนั คำตามเสียงวรรณยุกต์
จะทำให้คำเดิมมีเสียง
เปลี่ยนไป และความหมายก็
เปลีย่ นไปดว้ ย
65
หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้ เวลา สัดสว่ น
ที่ (ช่วั โมง) คะแนน
๖ คำพ้อง... ท ๔.๑ ป.๔/๑ คำพ้องมีทั้งคำที่เขียน ๘ ๓
ต้องพจิ ารณา เหมือนกันและอ่านออกเสียง ๔
๔
เหมือนกัน การฝึกอ่านและ
๔
เขียนเป็นประจำจะทำให้อ่าน
๔
เขียน และใช้คำต่าง ๆ สือ่ สาร
๔
ได้ถกู ต้อง
๗ คำนาม...ใชเ้ รียก ท ๔.๑ ป.๔/๒ คำที่ใช้เรียกชื่อคน พืช สัตว์ ๘
ตามชอ่ื ท ๔.๑ ป.๔/๒
สิ่งของ สถานที่และสิ่งต่าง ๆ
๘ คำแทนชื่อ...น้ีคือ
สรรพนาม จัดเป็นคำนาม
คำที่ใช้เรียกแทนคำนามใน ๘
การสนทนา จัดเป็นคำสรรพ
นาม ซึ่งมีทั้งคำสรรพนาม
สำหรับใชแ้ ทนผพู้ ูด ผฟู้ งั และ
ผู้ที่กล่าวถึงคำสรรพนามช่วย
ให้การสื่อสารกระชับ เพราะ
ไมต่ ้องกล่าวคำนามนนั้ ซำ้
๙ คำกริยา...สอื่ อาการ ท ๔.๑ ป.๔/๒ คำที่แสดงอาการหรือการ ๘
กระทำของนามและสรรพ
นามซึ่งเป็นประธานของ
ประโยค เรียกว่า คำกริยา
คำกริยาบางคำมีใจความ
สมบูรณ์ในตัว ไม่ต้องมีกรรม
มาต่อท้าย แต่คำกริยาบางคำ
ต้องมกี รรมมาต่อท้ายจึงจะได้
ใจความสมบูรณ์
๑๐ คำวเิ ศษณ.์ .. ท ๔.๑ ป.๔/๒ คำที่ทำหน้าที่ขยายคำกริยา ๘
ขยายคำจำใหแ้ มน่ ให้มีความหมายชัดเจนขึ้น
เรียกว่า คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์
มักจะอยู่หลังคำกริยาที่ขยาย
ถ้าเป็นคำกริยาสกรรม คำ
วิเศษณ์ จะอยู่หลังคำนามทีท่ ำ
หน้าที่เป็นกรรมของคำกริยา
นัน้
๑๑ อ่านเขียนอย่างไร... ท ๔.๑ ป.๔/๓ พจนานุกรมใช้อ้างอิงการ ๘
ต้องใช้พจนานุกรม
เขียนสะกดคำ การอ่านคำ
ความหมายของคำ รวมทั้ง
ชนิดและท่มี าของคำ
66
หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้ เวลา สดั สว่ น
ที่ (ชั่วโมง) คะแนน
๑๒ ภาษาไทยน่าเรียน... ท ๔.๑ ป.๔/๔ ประโยคเกิดจากการนำคำ ๙ ๔
๔
ฝกึ เขียนดว้ ยประโยค หรือกลุ่มคำ มาเรียบเรียงให้
๔
ไดใ้ จความเพือ่ ใช้สือ่ สาร ๔
๔
๑๓ กลอนสี่...วรรคละ ท ๔.๑ ป.๔/๕ กลอนส่ีเป็นบทร้อยกรองทมี่ ี ๙
สี่คำ จำไดง้ า่ ย ๔
๔ วรรค วรรคละ ๔ คำ บท
ร้อยกรองจะมีสัมผัสระหว่าง
วรรคและระหว่างบททำให้
เกดิ ความไพเราะ
๑๔ คำขวัญเตอื นใจ... ท ๔.๑ ป.๔/๕ คำขวัญเป็นถ้อยคำที่มีเสียง ๙
ให้ทำความดี
คล้องจอง ทำให้ไพเราะ และ
๑๕ ค ำ พ ั ง เ พ ย แ ล ะ ท ๔.๑ ป.๔/๖
สุภาษิต...ให้ข้อคิด มีความหมายกินใจ สามารถ
สอนใจ
จดจำไดง้ ่าย
๑๖ ภาษาไทยมาตรฐาน- ท ๔.๑ ป.๔/๗
ภาษาถิ่น...บอกความ คำพังเพยและสุภาษิตเป็น ๙
เป็นไทย
สำนวนที่ให้ข้อคิด คติสอนใจ
ในการดำเนินชีวิต ถ้อยคำมี
ลกั ษณะกระชบั กินใจ ไพเราะ
ภาษาถิ่นเป็นภาษาที่ใช้ ๙
สื่อสารเฉพาะท้องถิ่นคำที่มี
ค ว า ม ห ม า ย อ ย ่ า ง เ ด ี ย ว กั น
อาจใช้คำแตกต่างกันในแต่ละ
ถ่ิน การเข้าใจความหมายของ
ภาษาถนิ่ ทำใหก้ ารสื่อสารกับ
คนในท้องถนิ่ ดขี ้ึน
๑๗ อา่ นได้คล่อง... ท ๑.๑ ป.๔/๑, การอ่านบทร้อยแก้วได้ ๙
ต้องรูว้ ธิ ี ป.๔/๒,
ป.๔/๔, ถูกต้องชัดเจน จะทำให้การ
ป.๔/๘
อ่านมีประสิทธิภาพ ผู้อ่าน
ท ๓.๑ ป.๔/๑
สามารถจับใจความได้ถูกต้อง
การอ่านออกเสียงบทร้อย
ก ร อ ง ต ้ อ ง แ บ ่ ง จ ั ง ห ว ะ ใ ห้
ถูกตอ้ ง การอา่ นตอ้ งมีเสยี งสูง
ต่ำ หนักเบา เอื้อนเสียงเพื่อ
ความไพเราะ การแยก
ข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็นได้
อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เป็น
คนมเี หตผุ ล ไม่หลงเชื่อส่งิ ตา่ ง
ๆ ได้ง่าย การมีมารยาทใน
การอ่าน ช่วยใหเ้ ป็นผูอ้ ่านท่ดี ี
และการอ่านมปี ระสิทธิภาพ
67
หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้ เวลา สดั สว่ น
ท่ี (ช่ัวโมง) คะแนน
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒,
๑๘ เขยี นชำนาญ... ป.๔/๓, การคัดลายมือได้ถูกต้องตาม ๙ ๔
ป.๔/๔,
งานสรา้ งสรรค์ ป.๔/๕, หลักการเขียนตัวอักษรไทย ๔
ป.๔/๖,
ป.๔/๗, และสวยงามช่วยให้อ่านง่าย
ป.๔/๘
และเป็นการเชิดชูภาษาไทย
การเขียนสื่อสารต้องใช้คำให้
ถูกต้องเหมาะสม สามารถส่ือ
ความหมายได้ชัดเจน การ
เขียนแผนภาพโครงเร่ือง และ
แผนภาพความคิด เป็นการ
จัดข้อมูลอย่างมีระบบ ทำให้
เข้าใจเรื่องราวได้ดียิ่งขึ้น การ
เขียนย่อความเป็นการสรุป
ใจความสำคัญจากเรือ่ งที่อ่าน
จะทำให้เข้าใจเนื้อเรื่อง
ชัดเจน การเขียนจดหมายถึง
เพื่อนและบิดามารดา ควรใช้
ภาษาให้ถูกต้องเหมาะสม
การเขียนบันทึกจาก
การศึกษาค้นคว้า ช่วยให้มี
ความรู้และประสบการณ์ใน
การเขียนเพิ่มมากขึ้น การ
เขียนรายงานเป็นการ
นำเสนอข้อมูลจากการศึกษา
ค้นคว้า การเขียนได้ถูกต้อง
ครบถ้วนจะทำให้รายงานมี
ความน่าเชื่อถือ ผู้อ่านเข้าใจ
ได้ง่าย การเขียนเรื่องตาม
จ ิ น ต น า ก า ร เ ป ็ น ก า ร ฝึ ก
ความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ และ
จินตนาการ การมีมารยาทใน
การเขียนจะช่วยให้การ
ถา่ ยทอดความรู้ และความคิด
ของผู้เขียนไปสู่ผู้อ่านอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ
๑๙ ฟัง ดู ร้สู นทนา... ท ๓.๑ ป.๔/๒, ป.๔/๓, การพูดสรุปความจากการฟัง ๙
ภาษาสอื่ สาร ป.๔/๔,
ป.๔/๕, และดู เป็นการพูดใจความ
ป.๔/๖
สำคัญของเรื่อง ซึ่งผู้พูดต้อง
ฟังและดเู ร่อื งนัน้ อย่างตงั้ ใจ
68
หน่วย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา สัดสว่ น
ที่ (ชั่วโมง) คะแนน
และมวี ิจารณญาณจึงจะทำให้ ๗๐
๓๐
พดู สรุปความไดด้ ี การพดู ๑๐๐
แสดงความรู้ ความคิดเหน็
และความร้สู ึกเกี่ยวกับเร่ืองที่
ฟังและดู ต้องพูดอย่างมี
เหตผุ ล สุภาพ และมีมารยาท
จึงจะเกดิ ประโยชน์ต่อผู้พูด
และผู้ฟัง การตั้งคำถาม และ
ตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจาก
เรื่องที่ฟงั และดู ทำให้
วิเคราะหค์ วามน่าเช่อื ถือ และ
สรุปใจความสำคญั ของเรื่อง
ได้ การพูดรายงานเป็นการ
นำเสนอข้อมูล ท่ีได้จาก
การศึกษาค้นคว้าอย่าง
ถูกต้องให้ผู้ฟังเขา้ ใจ ผู้พดู
รายงานต้องมีทักษะในการ
พดู การพูดรายงานนน้ั จงึ จะ
สัมฤทธผ์ิ ล และได้รับ
ประโยชนอ์ ยา่ งเต็มที่ การมี
มารยาทในการฟัง การดู และ
การพูด ทำให้ไดร้ ับความรทู้ ด่ี ี
มปี ระโยชน์ในการดำเนิน
ชวี ิตประจำวัน
รวมคะแนนระหวา่ งปี ๑๖๐
คะแนนทดสอบปลายปี
รวม
69
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม
ท 1๔๒01 เสรมิ ทักษะภาษาไทย ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๔0 ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาเรียนรู้การอ่านออกเสียงและอธิบายความหมายของบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอ่านบทร้อย-
กรองเปน็ ทำนองเสนาะ การจบั ใจความจากส่ือตา่ ง ๆ การแยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ คาดคะเนเหตกุ ารณ์ การสรุป
ความรแู้ ละขอ้ คิดจากเร่อื งทอ่ี ่าน การอ่านหนงั สือตามความสนใจ หนังสือที่ครูและนกั เรยี นกำหนดร่วมกนั
ศึกษาเรียนรู้การจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู การจับใจความและพูดแสดงความรู้
ความคิดในเรื่องที่ฟังและดูจากสื่อต่าง ๆ การรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูและการ
สนทนา
โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูดอย่างมีวิจารณญาณ และสร้างสรรค์ มีความรู้
ความเข้าใจ เกี่ยวกับการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและ
การพดู มีนิสยั รกั การอา่ นเหมาะสมกบั ระดับชน้ั
ผลการเรียนรู้
๑. ผู้เรยี นสามารถอา่ นออกเสียงและอธบิ ายความหมายของบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้
๒. ผู้เรียนสามารถอ่านจบั ใจความจากส่อื ต่าง ๆ แยกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเห็นได้
๓. ผ้เู รยี นสามารถเขา้ ใจความหมายของคำและข้อความทอ่ี ่าน
๔. ผู้เรยี นสามารถฟัง ดู และพูดการจบั ใจความสำคัญจากสง่ิ ท่ฟี งั และดูได้
รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรยี นรู้
70
โครงสร้างรายวชิ าเพ่ิมเติม
ท 1๔๒01 เสรมิ ทักษะภาษาไทย ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๔0 ชัว่ โมง /ปี
หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้ เวลา สดั ส่วน
ที่ (ชัว่ โมง) คะแนน
๑ บทละครเรื่อง ท ๑.๑ ป.๔/๓, บทละครเรื่อง เงาะป่า พระราช- ๔ ๗
เงาะป่า ป.๔/๕, นิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระ ๔ ๗
ป.๔/๖, จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนี้ มีเค้า ๔ ๘
ป.๔/๗, เรื่องจริงของเงาะซาไก ซึ่งอาศัย ๔ ๘
ท ๕/๑ ป.๔/๒, อยู่แถบจังหวัดพัทลุง ในเนื้อเรื่อง ๔ ๘
ป.๔/๔ มีการใช้ภาษาก็อยที่เป็นภาษา
เงาะดว้ ย
๒ พระอภัยมณี ท ๑.๑ ป.๔/๓, เรื่องพระอภัยมณี เป็นนิทานคำ
ตอน กำเนดิ สุดสาคร ป.๔/๕, กลอนที่สุนทรภู่แต่งได้อย่าง
ป.๔/๖, สนุกสนาน เรื่องราวการผจญภัย
ป.๔/๗ ล้วนน่าตื่นเต้นชวนให้ติดตาม
ท ๕/๑ ป.๔/๒, และตื่นตาตื่นใจไปกับจนิ ตนาการ
ป.๔/๔ ของกวี
๓ นิทานเทียบสุภาษิต ท ๑.๑ ป.๔/๓, นิทานเทียบสุภาษิตเรื่อง น้ำผ้ึง
เรื่อง น้ำผึ้งหยดเดยี ว ป.๔/๕, หยดเดียวก่อเหตุ แสดงถึงสาเหตุ
กอ่ เหตุ ป.๔/๖, เพียงเล็กน้อยที่ทำให้เกิดเรื่องราว
ป.๔/๗ ใหญโ่ ตเพราะความขาดสตยิ ั้งคิด
ท ๕/๑ ป.๔/๑,
ป.๔/๒
๔ บทเหก่ ล่อม ท ๑.๑ ป.๔/๓, บทเห่กล่อมพระบรรทม เห่เรื่อง
พระบรรทมเห่เร่อื ง ป.๔/๕, จบั ระบำ เป็นผลงานประพันธข์ อง
จับระบำ ป.๔/๖, สุนทรภู่ เนื้อเรื่องกล่าวถึงนาง
ป.๔/๗ เมขลากับรามสูร ซึ่งเป็นตำนาน
ท ๕.๑ ป.๔/๑, การเกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และ
ป.๔/๒, ฟา้ ผา่ ตามความเชือ่ ของไทย
ป.๔/๔
๕ นิราศเดือน ท ๑.๑ ป.๔/๓, นิราศเดือนของนายมี เป็น
ป.๔/๔, วรรณคดี ที่กล่าวถึงประเพณีไทย
ป.๔/๖, ทั้ง ๑๒ เดือน โดยบรรยายให้เห็น
ป.๔/๗ ถงึ วิถชี วี ิตและความเป็นไทย
ท ๕.๑ ป.๔/๒,
ป.๔/๔
71
หนว่ ย ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้ เวลา สัดส่วน
ท่ี (ชว่ั โมง) คะแนน
๖ คำประพันธ์สุภาษิต ท ๑.๑ ป.๔/๓, ความดีที่เรากระทำไว้ จะทำให้ ๕ ๘
...ให้ขอ้ คิดสอนใจ ป.๔/๕, ผู้อื่นจดจำเราตลอดไป ๕ ๘
ป.๔/๖, ๕ ๘
๕ ๘
ป.๔/๗
๔๐ ๗๐
ท ๕.๑ ป.๔/๒, ๓๐
๑๐๐
ป.๔/๔
๗ บทละครพดู คำกลอน ท ๑.๑ ป.๔/๓, บทละครพูดคำกลอนเรือ่ ง
เรื่อง พระร่วง ป.๔/๕, พระร่วง พระราชนิพนธ์ใน
ป.๔/๖, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
ป.๔/๗ เจา้ อยู่หัว เป็นวรรณคดที ่ีมีเนื้อหา
ท ๕.๑ ป.๔/๑, ยกย่องวีรบุรุษ ปลูกฝังความรัก
ป.๔/๒, ชาติและแสดงให้เห็น พลังของ
ป.๔/๔ ความสามคั คี
๘ เพลงพนื้ บา้ น ท ๕.๑ ป.๔/๓ เพลงพื้นบ้านจะใช้คำภาษาถ่ิน
เป็นเนื้อร้อง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์
ประจำถ่นิ
๙ บทอาขยาน ท ๕.๑ ป.๔/๔ การท่องจำบทอาขยาน นอกจาก
จะช่วยฝกึ ความจำแลว้ ยังเป็นการ
ปลูกฝังความคิดและคำสอนดี ๆ
ให้ฝงั แนน่ อยูใ่ นตวั เราด้วย
คะแนนระหว่างปี
คะแนนสอบปลายปี
รวม
72
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง
สาระท่ี 1 การอา่ น
มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคดิ เพื่อนำไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปญั หาในการ
ดำเนินชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น
ช้นั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.5 ท 1.1 ป.5/1 ➢ การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อย
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อย แก้วและบทร้อยกรองที่ประกอบดว้ ย
กรองได้ถกู ตอ้ ง
- คำท่มี ีพยญั ชนะควบกลำ้
ท 1.1 ป.5/2
- คำทม่ี อี ักษรนำ
อธิบายความหมายของคำ ประโยค - คำทมี่ ีตวั การนั ต์
และข้อความที่เป็นการบรรยาย และ - อกั ษรย่อและเครือ่ งหมายวรรคตอน
การพรรณนา
- ข้อความทเ่ี ปน็ การบรรยายและพรรณนา
ท 1.1 ป.5/3
- ขอ้ ความที่มคี วามหมายโดยนยั
อธิบายความหมายโดยนัย จากเรื่องที่ ➢ การอา่ นบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ
อ่านอยา่ งหลากหลาย
ท 1.1 ป.5/4 ➢ การอ่านจับใจความจากส่อื ต่างๆ เชน่
แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากเรื่อง - วรรณคดใี นบทเรยี น
ที่อ่าน - บทความ
ท 1.1 ป.5/5
- บทโฆษณา
วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น - งานเขียนประเภทโนม้ นา้ วใจ
เกี่ยวกับเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในการ - ข่าวและเหตุการณป์ ระจำวัน
ดำเนินชวี ิต
ท 1.1 ป.5/6 ➢ การอ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำสั่ง ข้อแนะนำ และ
อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำสั่ง ปฏิบัตติ าม เชน่
ข้อแนะนำ และปฏิบตั ติ าม
- การใชพ้ จนานกุ รม
- การใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์
- การอ่านฉลากยา
- คู่มอื และเอกสารของโรงเรียนท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั นกั เรยี น
- ขา่ วสารทางราชการ
ท 1.1 ป.5/7 ➢ การอ่านหนงั สือตามความสนใจ เช่น
อ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจ - หนังสือทนี่ กั เรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วยั
อย่างสม่ำเสมอและแสดงความคิดเห็น - หนังสือที่ครแู ละนักเรียนกำหนดรว่ มกนั
เกยี่ วกบั เรื่องทอ่ี ่าน
ท 1.1 ป.5/8 ➢ มารยาทในการอ่าน
มมี ารยาทในการอ่าน
73
สาระท่ี 2 การเขียน
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ช้ัน ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
ป.5 ท 2.1 ป.5/1 ➢ การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและ ครึ่งบรรทัด
คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด และ ตามรูปแบบการเขยี นตวั อักษรไทย
คร่ึงบรรทัด
ท 2.1 ป.5/2 ➢ การเขียนสื่อสาร เช่น
เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้องชัดเจน - คำขวญั
และเหมาะสม
- คำอวยพร
- คำแนะนำและคำอธิบายแสดงขนั้ ตอน
ท 2.1 ป.5/3 ➢ การนำแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดไป
เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพ พฒั นางานเขยี น
ความคดิ เพอื่ ใช้พัฒนางานเขยี น
ท 2.1 ป.5/4 ➢ การเขียนย่อความจากสื่อต่างๆ เช่น นิทาน ความเรียง
เขยี นย่อความจากเรื่องที่อ่าน
ประเภทต่างๆ ประกาศ แจง้ ความ แถลงการณ์ จดหมาย คำ
สอน โอวาท คำปราศรัย
ท 2.1 ป.5/5 ➢ การเขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ
เขียนจดหมายถงึ ผปู้ กครองและญาติ
ท 2.1 ป.5/6 ➢ การเขียนแสดงความรูส้ กึ และความคดิ เหน็
เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น
ได้ตรงตามเจตนา
ท 2.1 ป.5/7 ➢ การกรอกแบบรายการ
กรอกแบบรายการตา่ งๆ
- ใบฝากเงนิ และใบถอนเงนิ
- ธนาณตั ิ
- แบบฝากสง่ พสั ดไุ ปรษณียภณั ฑ์
ท 2.1 ป.5/8 ➢ การเขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ
เขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ
ท 2.1 ป.5/9 ➢ มารยาทในการเขียน
มมี ารยาทในการเขียน
74
สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกใน
โอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
ชน้ั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.5 ท 3.1 ป.5/1 ➢ การจับใจความ และการพูดแสดงความรู้ ความคิด
พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และความ ในเร่ืองทฟ่ี งั และดู จากสอ่ื ต่างๆ เชน่
รู้สกึ จากเรื่องทฟี่ ังและดู
- เรือ่ งเลา่
- บทความ
- ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจำวัน
- โฆษณา
ท 3.1 ป.5/2 - สอ่ื สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์
ตงั้ คำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลจาก
เรอื่ งท่ีฟงั และดู ➢ การวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากเรื่องที่ฟังและดูใน
ท 3.1 ป.5/3
ชีวติ ประจำวนั
วิเคราะห์ความน่าเชอ่ื ถือจากเรือ่ งที่ฟงั และดู
อยา่ งมีเหตผุ ล
ท 3.1 ป.5/4 ➢ การรายงาน เช่น
พดู รายงานเรื่องหรือประเดน็ ทศ่ี กึ ษาค้นควา้ - การพดู ลำดบั ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
จากการฟงั การดู และการสนทนา
- การพดู ลำดบั เหตุการณ์
ท 3.1 ป.5/5 ➢ มารยาทในการฟงั การดู และการพูด
มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด
สาระที่ 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญา
ทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ
ช้ัน ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.5 ท 4.1 ป.5/1 ➢ ชนิดของคำ ได้แก่
ระบชุ นิดและหน้าท่ขี องคำในประโยค
- คำบพุ บท
- คำสนั ธาน
- คำอุทาน
ท 4.1 ป.5/2 ➢ ประโยคและส่วนประกอบของประโยค
จำแนกส่วนประกอบของประโยค
ท 4.1 ป.5/3 ➢ ภาษาไทยมาตรฐาน
เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษา ➢ ภาษาถน่ิ
ถิน่
75
ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ท 4.1 ป.5/4 ➢ คำราชาศพั ท์
ใช้คำราชาศพั ท์ ➢ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ท 4.1 ป.5/5
บอกคำภาษาต่าง ➢ กาพย์ยานี 11
ประเทศในภาษาไทย ➢ สำนวนท่เี ปน็ คำพงั เพยและสุภาษติ
ท 4.1 ป.5/6
แตง่ บทร้อยกรอง
ท 4.1 ป.5/7
ใช้สำนวนไดถ้ กู ต้อง
สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จริง
ช้ัน ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.5 ท 5.1 ป.5/1 ➢ วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่
สรุปเรื่องจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่ - นทิ านพ้ืนบ้าน
อา่ น - นทิ านคตธิ รรม
ท 5.1 ป.5/2
- เพลงพืน้ บา้ น
ระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่านวรรณคดี - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและตามความ
และวรรณกรรมที่สามารถนำไปใช้ในชีวิต สนใจ
จรงิ
ท 5.1 ป.5/3
อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรม
ท 5.1 ป.5/4 ➢ บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณค่า
ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบท - บทอาขยานตามที่กำหนด
รอ้ ยกรองทีม่ ีคุณค่าตามความสนใจ
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
76
คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ท 15101 ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 160 ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาและฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง พร้อมทั้งอธิบายความหมาย ของคำ
ประโยคและข้อความที่เปน็ การบรรยายและการพรรณนา อธบิ ายความหมายโดยนยั จากเร่ือง ทอ่ี า่ นอย่างหลากหลาย
อ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ แล้วสามารถแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำสั่ง ข้อแนะนำและปฏิบัติตาม อ่านหนังสือที่มี
คุณคา่ ตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอ และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับเรื่องที่อ่าน และมีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือ
ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนคำขวัญ คำอวยพร คำแนะนำและ
คำอธิบาย แสดงขั้นตอนโดยใช้คำได้ถกู ต้องชัดเจน และเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพือ่
ใชพ้ ัฒนางานเขยี น เขยี นยอ่ ความจากเรื่องที่อ่าน เขียนจดหมายถงึ ผ้ปู กครองและญาติ เขยี นแสดงความรู้สึกและความ
คิดเห็นได้ตรงตามเจตนา กรอกแบบรายการ ได้แก่ ใบฝากเงิน และใบถอนเงิน ธนาณัติ แบบฝากส่งพัสดุ
ไปรษณียภัณฑ์ เขียนเรื่องตามจินตนาการ และมีมารยาทในการเขียน จับใจความของเรื่องที่ฟังและดูจากสื่อต่าง ๆ
แล้วสามารถพูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น ความรู้สึก ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือ
จากเรื่องที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผล พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู การสนทนา และมี
มารยาทในการฟัง การดู และการพูด ระบุชนิดและหน้าที่ของคำบุพบท คำเชื่อม และคำอุทานในประโยค จำแนก
ส่วนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่น ใช้คำราชาศัพท์ บอกคำภาษา
ต่างประเทศในภาษาไทย แต่งกาพย์ยานี ๑๑ และใช้สำนวนได้ถูกต้อง สรุปเรื่อง อธิบายคุณค่า ระบุความรู้และข้อคิด
จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมที่สามารถนำไปใช้ในชวี ิตจริง และท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อย
กรองทีม่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ
กิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้ผู้เรียนสังเกตและตอบคำถามที่กระตุ้นความคิด เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาสร้างองค์
ความรู้ด้วยตนเอง ฝึกประมวลคำ และนำคำไปใช้อย่างถูกต้อง ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทยจากสื่อต่าง ๆ ใน
ชีวิตประจำวัน และมงุ่ พฒั นาการทำงานด้วยกระบวนการกลมุ่ และการระดมความคดิ
เพื่อให้เกิดความเข้าใจหลักภาษา เกิดทักษะในการใช้ภาษาเพื่อการสือ่ สาร สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั
ได้ มีความชนื่ ชม เห็นคณุ ค่าภมู ปิ ัญญาไทยและภูมิใจในภาษาประจำชาติ
รหัสตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗, ป. ๕/๘
ท ๒.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗, ป. ๕/๘, ป. ๕/๙
ท ๓.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕
ท ๔.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗
ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔
รวม 5 มาตรฐาน 33 ตัวชีว้ ดั
77
โครงสร้างรายวชิ า
ท 15101 ภาษาไทย 5 กลุมสาระการเรยี นรูภาษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 5 เวลา 160 ช่วั โมง/ปี
หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้ เวลา สดั ส่วน
๑ ชว่ั โมง คะแนน
บุพบท...นำหน้าคำ ท ๔.๑ ป. ๕/๑ คำบุพบทอยู่หน้าคำนามหรือคำ ๑๓
๒ สือ่ สมั พนั ธ์ สรรพนามในประโยคเพื่อบอก ๕
๓ เวลา บอกตำแหน่งที่ต้ัง ๑๓
๔ คำเช่ือม... ท ๔.๑ ป. ๕/๑ สถานท่ี บอกความเปน็ เจ้าของ ๕
สะพานประสาน บอกความเกีย่ วข้อง บอกผรู้ ับ ๑๓
๕ ความหมาย ผล บอกความมุ่งหมาย บอก ๑๓ ๖
สาเหตุ ทำให้ประโยคสื่อสาร ๖
คำอุทาน...ส่อื สาร ท ๔.๑ ป. ๕/๑ นนั้ มใี จความสมบรู ณย์ ่ิงขนึ้ ๑๓
อารมณ์ ๖
คำสันธานใช้เชื่อมคำ กลุ่มคำ
ภาษาไทยน่าเรยี น... ท ๔.๑ ป. ๕/๒ ห ร ื อ ป ร ะ โ ย ค เ ข ้ า ด ้ ว ย กั น
ฝึกเขยี นประโยค เพื่อให้แสดงความหมาย
คลอ้ ยตามกนั แตกต่างกัน ให้
ภาษาถนิ่ ... ท ๔.๑ ป. ๕/๓ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ
เป็นเหตุเป็นผลกันตาม
บอกความเป็นไทย จุดประสงคข์ องผู้ส่งสาร
คำอุทานเป็นเสียงที่เปล่ง
ออกมาแตกต่างจากเสียงของ
คำทั่ว ๆ ไปทำให้ทราบ
อารมณ์ความรู้สึกของผู้พดู ได้
ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยไม่เน้น
ความหมายของคำ
การสื่อสารในชีวิตประจำวัน
ต ้ อ ง ใ ช ้ ป ร ะ โ ยค เ พ ื ่อส่ือ
ความหมาย ดังนั้น การรู้จัก
จำแนกและเรียบเรียง
ป ร ะ โ ย ค ใ ห ้ ถ ู ก ต ้ อ ง มี
ส่วนประกอบของประโยค
ครบถ้วนสมบรู ณจ์ ะทำให้การ
ส่อื สารมีประสทิ ธิภาพ
ภาษาไทยในแต่ละท้องถิ่นมี
การใช ้ถ้อยคำสำนว นท่ี
แตกต่างกนั การรแู้ ละเข้าใจ
78
หน่วยท่ี ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้ เวลา สัดสว่ น
ชัว่ โมง คะแนน
๖ ใชใ้ หถ้ กู พงึ จำ... ท ๔.๑ ป. ๕/๔ ความหมายของคำจะทำให้ ๑๓
คำราชาศัพท์ การสอ่ื สารดียิ่งขนึ้ ๑๓ ๖
ท ๔.๑ ป. ๕/๕ ๖
๗ คำในภาษาไทย... คำราชาศัพท์เป็นคำใน ๑๓
ทน่ี ำมาใชจ้ าก ท ๔.๑ ป. ๕/๖ ภาษาไทยที่ต้องเลือกใช้ให้ ๖
ภาษาตา่ งประเทศ เหมาะสมกับบุคคลระดับต่าง ๑๓
ท ๔.๑ ป. ๕/๗ ๆ ๑๓ ๖
๘ กาพยย์ านีลำนำ... ๖
สิบเอ็ดคำจำได้งา่ ย ท ๑.๑ ป. ๕/๑, ภาษาไทยมีการนำคำจาก
ป. ๕/๒, ภาษาต่างประเทศมาใช้เป็น
๙ สำนวน คำพังเพย ป. ๕/๓, จำนวนมากเราควรทราบท่ีมา
สุภาษิต...ใหข้ อ้ คดิ ป. ๕/๔, ของคำ เรียนรู้ การอ่าน การ
สอนใจ ป. ๕/๕, เขียน และการใช้คำเหล่านั้น
ป. ๕/๖, ใหถ้ กู ต้อง
๑๐ อ่านได้คล่อง... ป. ๕/๗,
ต้องรูว้ ิธี ป. ๕/๘ กาพย์ยานี ๑๑ นิยมใช้ในการ
แต่งพรรณนาเรื่องต่าง ๆ
ลักษณะของคำประพันธ์ทำ
ให้บทร้อยกรองมีความ
ไพเราะ งดงาม สละสลวย
ผู้อ่านจดจำได้ง่ายและเกิด
จินตนาการตามเนื้อเรื่องเป็น
อยา่ งดี
การใชส้ ำนวนไดถ้ ูกตอ้ งทำให้
สื่อความหมายชัดเจน ได้
เรียนรู้ความงดงามของ
ภาษาไทยและเป็นการ
อนรุ กั ษ์ภาษาไทย
๑. การอ่านออกเสียงบทร้อย
แก้วได้ถูกต้องตามอักขรวิธี
โวหารและประเภทของงาน
เขียน จะทำให้เกิดความ
ไ พ เ ร า ะ ก า ร อ ่ า น มี
ประสิทธิภาพ ผู้ฟังสามารถ
เข้าใจไดช้ ัดเจน
๒. การอ่านออกเสียงบทร้อย
กรองเป็นทำนองเสนาะได้
ถูกต้องตามอกั ขรวิธีและ
ฉนั ทลกั ษณ์ของบทร้อยกรอง
นั้น ๆ รู้จักทอดจังหวะ เอื้อน
เสยี งแสดงอารมณ์ตามเนื้อหา
79
หน่วยท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา สัดสว่ น
ชัว่ โมง คะแนน
๑๑ เขยี นชำนาญ... ท ๒.๑ป. ๕/๑, จะทำให้ผู้ฟังเข้าใจเรื่องได้
งานสรา้ งสรรค์ ป. ๕/๒, ชัดเจน และบทรอ้ ยกรอง ๑๕ ๖
ป. ๕/๓, นั้นมีความไพเราะยง่ิ ข้นึ
ป. ๕/๔, ๓. การอ่านจับใจความโดย
ป. ๕/๕, ส า ม า ร ถ แ ย ก ข ้ อ เ ท ็ จ จ ริ ง
ป. ๕/๖, ข้อคิดเห็น และสรุปความ
ป. ๕/๗, จ า ก ก า ร อ ่ า น ท ำ ใ ห ้ เ ร า มี
ป. ๕/๘, เหตุผลไม่หลงเชื่อสิ่งต่าง ๆ
ป. ๕/๙ ไดง้ า่ ย ซ่งึ กอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์
รู้จักเลือกพิจารณานำความรู้
ที่ได้จากการอ่านไปใช้ในการ
ดำเนนิ ชวี ติ
๔. การอ่านงานเขียนเชิง
อธิบายคำสั่ง ข้อแนะนำ ให้
เข้าใจชัดเจนเสียก่อนจะทำ
ให้ปฏิบัติตามได้ถูกต้อง
ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
และปลอดภัยในการใชง้ าน
๕. การเลือกอ่านหนังสือให้
เหมาะสมกับความต้องการ
และวัยทำให้ได้รับคุณค่า
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
อย่างแท้จริง
๖. การมีมารยาทในการอ่าน
ทำให้เป็นที่น่าชื่นชมต่อผู้พบ
เห็น
๑. การคัดลายมือเป็นการฝึก
เขียนตวั อกั ษรไทยให้สวยงาม
และถูกตอ้ ง
๒. การเขียนสื่อสารควร
เ ล ื อ ก ใ ช ้ ถ ้ อ ย ค ำ ส ำ น ว น ใ ห้
ถูกต้องเหมาะสมกับงานเขียน
ประเภทนั้น ๆ จึงจะส่ือ
ความหมายไดช้ ดั เจนตรงตาม
วัตถปุ ระสงค์
๓. แผนภาพโครงเรื่องใช้ใน
การวางโครงเรื่องที่มีการ
ดำเนนิ เรอ่ื งเปน็ ไปตามลำดับ
80
หน่วยท่ี ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้ เวลา สดั สว่ น
ช่ัวโมง คะแนน
เหตุการณ์ ส่วนแผนภาพ
ความคิดใช้ในการวางโครง
เรื่องที่มีความคิดรวบยอด
เป็นสำคัญ การนำแผนภาพ
โครงเรื่องและแผนภาพ
ความคิดมาใช้ในงานเขียนทำ
ให้งานเขียนมีคุณภาพ และ
ไดค้ วามครบถว้ นสมบูรณ์
๔. ย่อความเป็นการนำ
ใจความสำคัญของแต่ละตอน
จากเรื่องที่อ่านมาเรียบเรียง
ใหม่เพื่อให้เข้าใจเรื่องที่
ต้องการส่ือสารไดง้ ่ายยิ่งข้ึน
๕. การเขียนจดหมายถึง
ผู้ปกครองและญาติ ต้องใช้
ภาษาที่สุภาพ แสดงถึงความ
เคารพใหเ้ หมาะสมกับบคุ คล
๖. การเขียนแสดงความรู้สึก
และความคิดเห็น เป็นการ
นำเสนอข้อเท็จจริงที่ได้จาก
การตรวจสอบโดยใช้เหตุผล
ประกอบ ซึ่งทำใหผ้ อู้ า่ นได้รับ
ทราบข้อมูลและข้อคิดเห็นท่ี
เป็นประโยชน์
๗. การกรอกแบบรายการ
ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ใช้
ภาษาที่กระชับ ชัดเจน ทำให้
สื่อสารได้ตรงตาม
วัตถุประสงค์และสะดวกใน
การตดิ ตอ่ ทำธรุ ะ
๘. การเขียนเรื่องตาม
จินตนาการได้ดี ต้องหมั่นฝึก
การคิด การสังเกต และมี
ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์
๙. การมมี ารยาทในการเขียน
จะทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจ
สารที่ผู้เขียนถ่ายทอดได้ง่าย
และมีประสิทธิภาพยงิ่ ข้ึน
81
หน่วยท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ เวลา สดั สว่ น
ชั่วโมง คะแนน
๑๒ ฟงั ดู รสู้ นทนา... ท ๓.๑ป. ๕/๑, ๑. การพดู แสดงความรู้ ความ ๑๕
ภาษาสอื่ สาร ป. ๕/๒, คิดเห็น และความรู้สึกจาก ๖
ป. ๕/๓, เรือ่ งที่ฟังและดู ควรพิจารณา 160
ป. ๕/๔, อย่างรอบคอบก่อนพูดเพ่ือ 70
ป. ๕/๕ ไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับ 30
ผู้อื่น เพราะในเรื่องเดียวกัน 100
แต่ละคนอาจมีมุมมองและ
ความคิดเหน็ แตกต่างกนั ได้
๒. การตั้งคำถามและตอบ
คำถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่
ฟังและดู ทำให้สามารถ
วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของ
เรื่อง และนำความรู้หรือ
ข ้ อ ค ิ ด ท ี ่ ไ ด ้ ร ั บ ไ ป ใ ช ้ เ ป็ น
ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน
๓. การวิเคราะห์ความ
น่าเชือ่ ถือจากเรื่องท่ีฟังและดู
ใ น ช ี ว ิ ต ป ร ะ จ ำ ว ั น ต ้ อ ง ใ ช้
เหตุผล มีข้อเท็จจริงและ
หลกั ฐานมาประกอบ
๔. การพูดรายงานตาม
หลักการที่ถูกต้องจะทำให้
การนำเสนอข้อมูลมีความ
น ่ า ส น ใ จ แ ล ะ ผ ู ้ ฟ ั ง ไ ด ้ รั บ
ประโยชนจ์ ากการฟงั น้นั
๕. การมีมารยาทในการฟัง
การดู และการพูด ทำให้การ
ติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพ
และเป็นมารยาททางสังคมท่ี
พงึ ปฏบิ ตั ิ
คะแนนระหวา่ งปี
คะแนนสอบปลายปี
รวม
82
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม
ท 1๕๒01 เสริมทักษะภาษาไทย ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๔0 ช่วั โมง /ปี
ศึกษาเรียนรู้การอ่านออกเสียงและอธิบายความหมายของบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอ่านบทร้อย-
กรองเปน็ ทำนองเสนาะ การจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ ง ๆ การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ คาดคะเนเหตกุ ารณ์ การสรุป
ความรแู้ ละขอ้ คิดจากเร่อื งที่อ่าน การอ่านหนงั สือตามความสนใจ หนงั สือท่คี รูและนักเรียนกำหนดร่วมกนั
ศึกษาเรียนรู้การจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู การจับใจความและพูดแสดงความรู้
ความคิดในเรื่องที่ฟังและดูจากสื่อต่าง ๆ การรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูและการ
สนทนา
โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูดอย่างมีวิจารณญาณ และสร้างสรรค์ มีความรู้
ความเข้าใจ เกี่ยวกับการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและ
การพดู มีนิสยั รกั การอ่านเหมาะสมกบั ระดบั ชน้ั
ผลการเรียนรู้
๑. ผ้เู รียนสามารถอา่ นออกเสียงและอธบิ ายความหมายของบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้
๒. ผเู้ รียนสามารถอ่านจบั ใจความจากส่อื ต่าง ๆ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นได้
๓. ผ้เู รียนสามารถเขา้ ใจความหมายของคำและข้อความทอ่ี ่าน
๔. ผู้เรียนสามารถฟัง ดู และพูดการจับใจความสำคัญจากสิ่งท่ฟี งั และดูได้
รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรยี นรู้
83
โครงสรา้ งรายวิชาเพ่มิ เติม
ท 1๕๒01 เสริมทกั ษะภาษาไทย ๕ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา ๔0 ช่วั โมง/ปี
หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ สาระการเรยี นรู้ เวลา สัดส่วน
ท่ี ตวั ชีว้ ดั (ช่วั โมง) คะแนน
บทละครนอก เรื่อง สังข์ทอง
๑ บทละครนอก ท ๑.๑ ป. ๕/๑, ตอน ๕ ๘
กำเนิดพระสังข์ แสดงให้เห็นถึง
เร่อื ง สงั ขท์ อง ป. ๕/๕, ความรกั ของแม่ท่ีมีต่อลูกไม่ว่าลูก ๕ ๘
จะเกิดมาเป็นเช่นไรก็ย่อมเป็นที่
ตอน กำเนิดพระสังข์ ป. ๕/๗ รักดั่งดวงใจของแม่เสมอ ๕ ๙
นอกจากนั้นยังแสดงถึงความ
ท ๕.๑ ป. ๕/๑, กตัญญูกตเวทีของพระสังข์ที่รู้จัก
ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของแม่
ป. ๕/๒, เท่าที่เด็กจะทำได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลกู
ทุกคนควรประพฤติปฏบิ ัติตาม
ป. ๕/๓, เรื่อง ราชาธิราช ตอน กำเนิดมะ
กะโท แสดงให้เห็นถึงคุณธรรม
ป. ๕/๔ และคุณลักษณะพิเศษของมะกะ
โท ซึ่งจะเป็นผู้นำในภายหน้า
๒ ราชาธิราช ท ๑.๑ ป. ๕/๑, เช่น ความกตัญญูความจงรกั ภักดี
ความเมตตา ความมานะ
ตอน กำเนิดมะกะโท ป. ๕/๕, อุตสาหะ สติปัญญาไหวพริบอัน
ชาญฉลาด มองเห็นการณ์ไกล
ป. ๕/๗ และรู้จักแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุ
ยุ่งยากต่าง ๆ นอกจากจะได้รับ
ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ความเพลิดเพลินจากเนื้อเรื่อง
แล้ว ยังได้รับความรู้เกี่ยวกับ
ป. ๕/๒, เรอ่ื งราวในประวตั ศิ าสตร์ วถิ ชี ีวติ
ความเป็นอยู่ของคนไทยในอดีต
ป. ๕/๓ รวมทั้งข้อคิดต่าง ๆ ที่นำไปใช้ใน
ชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่าน้ี
๓ กระเช้าสดี า ท ๑.๑ ป. ๕/๑, คือประโยชน์หลายประการท่ี
ป. ๕/๕, ได้รบั จากวรรณคดี
ป. ๕/๗
นิทานเรื่อง กระเช้าสีดา มีเนื้อ
เรอื่ งสนุกสนาน ใชภ้ าษาบรรยาย
ได้สละสลวย ชัดเจน อ่านเข้าใจ
84
หนว่ ย ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ สาระการเรยี นรู้ เวลา สัดสว่ น
ที่ ตัวช้วี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
ง่าย เหมาะสำหรับเด็ก แฝง
ท ๕.๑ ป. ๕/๑, แนวคิดในเรื่องผลของการทำ ๕ ๙
ความดี คือ การเชื่อฟังผู้ใหญ่ ๙
ป. ๕/๒, ความมีน้ำใจ และความสุภาพ
อ่อนโยน ซึ่งนักเรียนควรนำไป ๙
ป. ๕/๓ ประพฤตปิ ฏิบัตใิ นชีวติ ประจำวนั
ใหส้ มำ่ เสมอจนเป็นนสิ ัย ๙
๔ บทประพนั ธ์ ท ๑.๑ ป. ๕/๑, บทประพันธ์ร้อยกรองสุภาษิตมี
รอ้ ยกรองสุภาษติ ป. ๕/๕, คุณค่าด้านวรรณศิลป์และให้คติ
ป. ๕/๗ ส อ น ใ จ เ พ่ื อ ป ร ะ พ ฤ ต ิ ใ น ส ิ ่ ง ที่
๕ โคลงโลกนติ ิ ถูกต้องดีงาม ผู้นำไปปฏิบัติย่อม
ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ประสบความสุขความเจริญใน
ป. ๕/๒, การดำเนนิ ชวี ติ
ป. ๕/๓,
ป. ๕/๔ คำสอนจากโคลงโลกนิติ ๕
พระนิพนธ์ของสมเด็จฯ ๕
ท ๑.๑ ป. ๕/๑, กรมพระยาเดชาดิศร ที่กรม ๕
ป. ๕/๕, วิชาการกระทรวงศึกษาธิการได้
ป. ๕/๗ รวบรวมไว้นั้นล้วนเป็นคำสอนที่
เหมาะสมจะนำไปใช้เป็นหลัก
ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ปฏิบัติในการดำเนินชีวิตปัจจุบัน
ป. ๕/๒, ได้อย่างดี ทั้งให้ข้อคิดเตือนใจ
ป. ๕/๓, สำหรับตนเอง หรือใช้แนะนำส่ัง
ป. ๕/๔ สอนผู้อื่น คำสอนในโคลงโลกนิติ
จึงทรงคุณค่าเสมอสำหรับผู้ที่
๖ นทิ านคติธรรม ท ๑.๑ ป. ๕/๑, ประพฤติปฏิบตั ติ าม
เรอ่ื ง พญาชา้ ง ป. ๕/๕,
ผูเ้ สยี สละ ป. ๕/๗ นิทานคติธรรม เรื่อง พญาช้างผู้
เสียสละ ให้คติว่า “ทำดีได้ดี ทำ
ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ชั่วได้ชั่ว” ในสังคมย่อมมีทั้งคนดี
ป. ๕/๒, และคนช่วั เราจึงควรนำคณุ ธรรม
ป. ๕/๓ ของคนดีมาเปน็ แบบอยา่ ง พร้อม
ทั้งใช้สติปัญญาพิจารณาให้รู้ทัน
๗ เพลงชาตไิ ทย ท ๑.๑ ป. ๕/๕ เล่ห์เหลี่ยมของคนชั่ว เพื่อ
ท ๕.๑ ป. ๕/๑, หลีกเลี่ยงการคบหาอันอาจจะนำ
ภยั มาสู่ตนเอง
เพลงชาตเิ ป็นเพลงประจำชาติ ท่ี
แสดงถึงความเป็นชาติ เอกราช
ศลิ ปวฒั นธรรม และลักษณะนิสยั
85
หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ สาระการเรยี นรู้ เวลา สัดส่วน
ที่ ตวั ชีว้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
ป. ๕/๒, ของชนในชาติ เราจึงควรร้ปู ระวตั ิ ๙
ป. ๕/๓, ตระหนักถึงความสำคัญของเพลง ๗๐
๓๐
ป. ๕/๔ ชาติ และร้องเพลงชาติไทยอย่าง ๑๐๐
ภาคภมู ิ
๘ บทอาขยาน ท ๕.๑ ป. ๕/๔ การท่องจำบทอาขยานสามารถ ๕
นำไปใช้อ้างอิงและนำข้อคิดไป
เป็นแนวทางในการดำเนนิ ชีวิต
คะแนนระหว่างปี
คะแนนสอบปลายปี
รวม ๔๐
86
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6
ตวั ช้ีวัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง
สาระที่ 1 การอา่ น
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต
และมนี ิสัยรักการอา่ น
ชน้ั ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.6 ท 1.1 ป.6/1 ➢ การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อย
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อย แกว้ และบทรอ้ ยกรอง ประกอบด้วย
กรองได้ถูกต้อง
- คำท่ีมีพยัญชนะควบกลำ้
ท 1.1 ป.6/2
- คำทม่ี อี ักษรนำ
อธิบายความหมายของคำ ประโยค - คำทีม่ ีตัวการันต์
และขอ้ ความทเ่ี ป็นโวหาร
- คำทีม่ าจากภาษาต่างประเทศ
- อกั ษรย่อและเครื่องหมายวรรคตอน
- วนั เดอื น ปีแบบไทย
- ขอ้ ความทเี่ ปน็ โวหารต่าง ๆ
- สำนวนเปรียบเทียบ
➢ การอา่ นบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ
ท 1.1 ป.6/3 ➢ การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ งๆ เชน่
อ่านเรื่องสั้น ๆ อย่างหลากหลาย โดย - เร่ืองสั้น ๆ
จบั เวลาแลว้ ถามเกยี่ วกับเร่อื งที่อา่ น
- นิทานและเพลงพื้นบ้าน
ท 1.1 ป.6/4
- บทความ
แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ จากเร่ือง
ท่อี ่าน
ท 1.1 ป.6/5 - พระบรมราโชวาท
อธิบายการนำความรู้และความคิด - สารคดี
จากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา - เร่ืองสั้น
ในการดำเนินชีวิต - งานเขยี นประเภทโน้มน้าว
- บทโฆษณา
- ขา่ ว และเหตกุ ารณ์สำคัญ
➢ การอา่ นเร็ว
ท 1.1 ป.6/6 ➢ การอ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำสั่ง ข้อแนะนำ และ
อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำส่ัง ปฏบิ ตั ิตาม
ขอ้ แนะนำ และปฏิบตั ิตาม
- การใช้พจนานุกรม
- การปฏิบตั ิตนในการอยู่ร่วมกนั ในสงั คม
- ข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันในโรงเรียน และการใช้
สถานที่สาธารณะในชุมชนและทอ้ งถนิ่
87
ชนั้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ท 1.1 ป.6/7 ➢
อธบิ ายความหมายของข้อมลู จากการ การอ่านขอ้ มลู จากแผนผงั แผนท่ี แผนภมู ิ และกราฟ
อา่ นแผนผงั แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ
ท 1.1 ป.6/8 ➢ การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ เช่น
อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ และ
อธิบายคณุ ค่าที่ได้รับ - หนงั สือทน่ี ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วัย
- หนงั สืออ่านที่ครูและนักเรยี นกำหนดรว่ มกัน
ท 1.1 ป.6/9
มีมารยาทในการอ่าน ➢ มารยาทในการอา่ น
สาระท่ี 2 การเขยี น
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ชัน้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.6 ท 2.1 ป.6/1 ➢ การคัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดและครึง่ บรรทัดตาม
คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด และ รปู แบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย
ครึ่งบรรทดั
ท 2.1 ป.6/2 ➢ การเขียนสอ่ื สาร เช่น
เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้องชัดเจน - คำขวญั
และเหมาะสม
- คำอวยพร
- ประกาศ
ท 2.1 ป.6/3 ➢ การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคิด
เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพ
ความคิดเพือ่ ใชพ้ ฒั นางานเขยี น
ท 2.1 ป.6/4 ➢ การเขียนเรยี งความ
เขยี นเรยี งความ
ท 2.1 ป.6/5 ➢ การเขียนย่อความจากสื่อต่างๆ เช่น นิทาน ความเรียง
เขยี นย่อความจากเรอื่ งทีอ่ า่ น ประเภทต่างๆ ประกาศ แจ้งความ แถลงการณ์ จดหมาย
คำสอน โอวาท คำปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน ระเบียบ
คำสัง่
ท 2.1 ป.6/6 ➢ การเขียนจดหมายส่วนตัว
เขยี นจดหมายสว่ นตวั - จดหมายขอโทษ
- จดหมายแสดงความขอบคณุ
- จดหมายแสดงความเห็นใจ
- จดหมายแสดงความยินดี
ท 2.1 ป.6/7 ➢ การกรอกแบบรายการ
กรอกแบบรายการต่าง ๆ
- แบบคำร้องต่าง ๆ
88
ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- ใบสมคั รศึกษาต่อ
- แบบฝากสง่ พัสดุและไปรษณยี ภัณฑ์
ท 2.1 ป.6/8 ➢ การเขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์
เขียนเรื่องตามจินตนาการและสร้าง
สรรค์
ท 2.1 ป.6/9 ➢ มารยาทในการเขียน
มมี ารยาทในการเขียน
สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรูส้ กึ ในโอกาสต่าง ๆ
อยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
ชน้ั ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.6 ท 3.1 ป.6/1 ➢ การพดู แสดงความรู้ ความเขา้ ใจในจุดประสงค์ของเรื่อง
พดู แสดงความรู้ ความเขา้ ใจ จดุ ประสงค์ ทฟ่ี ังและดจู ากส่ือต่าง ๆ ได้แก่
ของเรอ่ื งทฟี่ งั และดู
- สื่อส่งิ พิมพ์
ท 3.1 ป.6/2
- สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์
ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล
จากเรอ่ื งที่ฟังและดู
ท 3.1 ป.6/3 ➢ การวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูสื่อ
วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากการฟัง โฆษณา
และดสู ือ่ โฆษณาอยา่ งมเี หตผุ ล
ท 3.1 ป.6/4 ➢ การรายงาน เช่น
พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษา - การพูดลำดับขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน
ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ - การพดู ลำดบั เหตกุ ารณ์
สนทนา
ท 3.1 ป.6/5 ➢ การพูดโนม้ นา้ วในสถานการณต์ า่ ง ๆ เชน่
พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผล และ - การเลอื กต้ังกรรมการนักเรียน
น่าเชือ่ ถอื
- การรณรงค์ด้านตา่ ง ๆ
- การโต้วาที
ท 3.1 ป.6/6 ➢ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด
มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด
89
สาระที่ 4 หลกั การใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญา
ทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
ชั้น ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ป.6 ท 4.1 ป.6/1 ➢ ชนิดของคำ
วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำใน - คำนาม
ประโยค
- คำสรรพนาม
- คำกรยิ า
- คำวเิ ศษณ์
- คำบพุ บท
- คำเช่อื ม
- คำอทุ าน
ท 4.1 ป.6/2 ➢ คำราชาศพั ท์
ใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและ ➢ ระดับภาษา
บุคคล ➢ ภาษาถน่ิ
ท 4.1 ป.6/3 ➢ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
รวบรวมและบอกความหมายของคำ
ภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย
ท 4.1 ป.6/4 ➢ กลมุ่ คำหรือวลี
ระบลุ ักษณะของประโยค ➢ ประโยคสามญั
➢ ประโยครวม
ท 4.1 ป.6/5 แตง่ บทร้อยกรอง ➢ ประโยคซ้อน
➢ กลอนสุภาพ
ท 4.1 ป.6/6 ➢ สำนวนทีเ่ ปน็ คำพงั เพย และสภุ าษติ
วิเคราะห์และเปรียบเทียบสำนวนที่เป็น
คำพงั เพย และสภุ าษิต
90
สาระท่ี 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง
ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
ป.6 ท 5.1 ป.6/1 ➢ วรรณคดีและวรรณกรรม เชน่
แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือ - นิทานพืน้ บา้ นท้องถนิ่ ตนเองและท้องถ่ินอ่นื
วรรณกรรมท่อี า่ น
- นทิ านคตธิ รรม
ท 5.1 ป.6/2
- เพลงพื้นบา้ น
เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเอง และ - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและตามความ
นทิ านพ้ืนบา้ นของท้องถ่นิ อ่ืน
สนใจ
ท 5.1 ป.6/3
อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และ
วรรณกรรมที่อ่านและนำไป ประยุกต์ใช้
ในชีวติ จรงิ
ท 5.1 ป.6/4 ➢ บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคณุ ค่า
ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และ - บทอาขยานตามท่ีกำหนด
บทร้อยกรองท่มี คี ุณค่าตามความสนใจ - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ
91
คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน
ท 16101 ภาษาไทย 6 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 160 ชั่วโมง/ปี
ศึกษาและฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง พร้อมทั้งอธิบายความหมายของคำ
ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร อ่านจับใจความเรื่องอย่างหลากหลายจากสื่อต่าง ๆ โดยจับเวลาแล้วถามเกี่ยวกับ
เรื่องที่อ่าน แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น อธิบายการนำความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาใน
การดำเนินชีวติ อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำสง่ั ขอ้ แนะนำและปฏิบัตติ าม อ่านข้อมลู จากแผนผัง แผนท่ี แผนภูมิ และ
กราฟ อา่ นหนงั สือตามความสนใจและอธบิ ายคุณค่าที่ได้รับ และมมี ารยาทในการอ่าน คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด
และครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตวั อกั ษรไทย เขียนคำขวัญ คำอวยพร และประกาศ โดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจน
และเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน เขียนเรี ยงความ ย่อความ
จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการ ได้แก่ แบบคำร้อง ใบสมัครศึกษาต่อ แบบฝากส่งพัสดุและไปรษณียภัณฑ์ เขียน
เรื่องตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ และมีมารยาทในการเขียน พดู แสดงความรู้ ความเขา้ ใจจุดประสงค์ของเร่ืองที่ฟัง
และดู ตั้งคำถาม และตอบคำถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากการฟัง และดูโฆษณา
อย่างมีเหตุผล พูดรายงานเรื่อง หรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้า จากการฟัง การดู และการสนทนา พูดโน้มน้าวอย่างมี
เหตุผลและน่าเชื่อถือ และมีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค ใช้คำได้
เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคลทั้งคำราชาศัพท์ ระดับภาษา และภาษาถิ่น รวบรวมและบอกความหมายของคำ
ภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยคสามัญ ประโยครวม ประโยคซ้อน รวมทั้งกลุ่มคำหรือวลี
แต่งกลอนสุภาพ และวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ สำนวนที่เปน็ คำพงั เพย และสุภาษิต เล่านิทานพ้ืนบ้านทอ้ งถ่ินตนเองและ
นิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่น แสดงความคิดเห็นและอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน และนำไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตจรงิ และทอ่ งจำบทอาขยานตามทีก่ ำหนด และบทรอ้ ยกรองที่มีคุณคา่ ตามความสนใจ
กิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้ผู้เรียนสังเกตและตอบคำถามที่กระตุ้นความคิดอย่างเป็นลำดับ เพื่อนำไปสู่การ
สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ฝึกประมวลคำและนำคำไปใช้อย่างถูกต้อง ส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลงานหลากหลาย
รปู แบบ และเรยี นรภู้ าษาไทยทใ่ี ช้ในชวี ิตประจำวันจากส่ือต่าง ๆ รวมทงั้ มุ่งพฒั นากระบวนการกลุ่ม การวางแผน และ
กระบวนการคดิ
เพื่อให้เกิดความเข้าใจหลักภาษา เกิดทักษะในการใช้ภาษาเพื่อการสือ่ สาร สามารถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
ได้ มคี วามชน่ื ชม เหน็ คุณคา่ ภมู ปิ ญั ญาไทยและภมู ใิ จในภาษาประจำชาติ
รหัสตัวช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
รวม 5 มาตรฐาน 34 ตัวชีว้ ดั
92
โครงสร้างรายวชิ า
ท16101 ภาษาไทย 6 กลุมสาระการเรยี นรูภาษาไทย
ชั้นประถมศกึ ษาปที่ 6 เวลา 160 ชว่ั โมง/ปี
หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้ เวลา สดั ส่วน
๑ คำนาม...ใช้เรยี กตาม (ชว่ั โมง) คะแนน
ช่อื
ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำนามเป็นคำชนิดหนึ่งที่ใช้ ๑๐ ๔
๒ คำแทนชื่อ...
นีค้ ือสรรพนาม เรียก คน พืช สัตว์ สิ่งของ ๔
๓ คำกรยิ า...ส่อื อาการ และสถานที่ คำนามทำหน้าที่ ๔
๔ ขยายคำ...ควรจำ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม ๔
คำวิเศษณ์ ๔
ในประโยคซึ่งใช้สื่อสารใน
๕ บุพบท...จดจำ
นำหนา้ คำหรือ ชวี ติ ประจำวนั
ขอ้ ความ
ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำสรรพนามเป็นคำที่ใช้แทน ๑๐
คำนามเพื่อไม่ต้องกล่าว
คำนามนั้นซ้ำอีก คำสรรพ
นามเป็นคำที่ต้องใช้ในการ
สนทนาในชีวิตประจำวัน จึง
ต้องเลือกใช้กับบุคคลต่าง ๆ
ให้ถูกตอ้ งและเหมาะสม
ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำกริยาเป็นคำที่แสดงอาการ ๑๐
หรือสภาพ หรือการกระทำ
ของประธานในประโยค ซ่ึง
เป็นคำนามหรือคำสรรพนาม
ประโยคทุกประโยคจะต้องมี
คำกรยิ า
ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำวิเศษณ์เป็นคำที่ใช้ขยาย ๑๐
หรือประกอบคำอ่นื คอื คำนาม
คำสรรพนาม คำกริยา หรือ
คำวิเศษณ์ด้วยกันเองเพื่อให้
ไดใ้ จความชดั เจนย่ิงข้นึ
ท ๔.๑ ป. ๖/๑ คำบุพบททำหน้าที่แสดง ๑๐
ความสัมพันธ์ระหว่างคำหรือ
กลุ่มคำเพื่อบอกเวลา
ตำแหน่ง ที่ตั้ง สถานที่ ความ
เป็นเจ้าของ ความเกี่ยวข้อง
หรือความประสงค์ จึงควร
เลือกใช้คำบุพบทแต่ละชนิด
ให้ถกู ตอ้ งและเหมาะสม
93