The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คุ่มือครู ม2 วิทยาการคำนวณ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suksanti.h, 2024-04-29 02:33:47

คุ่มือครู ม2 วิทยาการคำนวณ

คุ่มือครู ม2 วิทยาการคำนวณ

3. การแก้ไขปัญหาด้านฮาร์ดแวร์เบื้องต้น เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งำนเกิดมีปัญหำ โดย เฉพำะในส่วนของฮำร์ดแวร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องใช้ไฟฟ้ำ จึงควรเป็นช่ำงหรือบุคคล ที่มีควำมรู้และควำมช�ำนำญโดยเฉพำะ เพรำะอำจจะท�ำให้เกิดควำมเสียหำยเกิดขึ้นกับฮำร์ดแวร์ มำกกว่ำเดิมได้ ดังนั้นผู้ใช้งำนควรจะแค่ส�ำรวจหรือตรวจสอบ แทนที่จะลงมือซ่อมอุปกรณ์นั้น ๆ ด้วยตนเอง ตัวอยาง ปัญหำที่เกิดขึ้นทำงด้ำนฮำร์ดแวร์ และกำรแก้ไขปัญหำเบื้องต้นที่เกิดขึ้น เมื่อเปดคอมพิวเตอร์แล้วเครื่องไม่ท�างาน หรือเครื่องท�างานแต่หน้าจอไม่ติด • สาเหตุ : ไม่ได้ต่อสำยไฟเข้ำกับเต้ำเสียบ ไม่ได้ต่อสำยพ่วงระหว่ำง จอคอมพิวเตอร์กับตัวเครื่อง หรือสำยไฟที่ต่อหลวมเกินไป • การแก้ปัญหา : ตรวจสอบกำรต่อสำยไฟระหว่ำงตัวเครื่องกับเต้ำเสียบ และ สำยพ่วงระหว่ำงตัวเครื่องกับจอคอมพิวเตอร์ว่ำ ได้ต่อหรือไม่ ถ้ำต่อแล้วก็ให้ตรวจสอบดูว่ำ หลวมหรือไม่ เมื่อเปดเครื่องแล้วได้ยินเสียง Beep หลายครั้ง • สาเหตุ : มีชิปที่ติดอยู่กับเมนบอร์ด หรืออุปกรณ์ที่เสียบอยู่กับเมนบอร์ด มีปัญหำ เช่น กำร์ดเสียบไม่แน่น กำร์ดสกปรก RAM มีปัญหำ เป็นต้น • การแก้ปัญหา : สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจำกภำยในของตัวเครื่อง เมื่อไม่มีควำมรู้ควำม ช�ำนำญควรติดต่อช่ำงหรือผู้ที่สำมำรถแก้ไขปัญหำเฉพำะทำง และแจ้งอำกำรที่เกิดขึ้นให้ครบถ้วนเพื่อหำทำงแก้ไข เปดเครื่องติด แต่เมาส์หรือคีย์บอร์ดใช้ไม่ได้ • สาเหตุ : เสียบสำยเมำส์หรือคีย์บอร์ดไม่แน่น • การแก้ปัญหา : ปิดเครื่องแล้วขยับเสียบสำยให้แน่น แล้วเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง 84 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน สํารวจคนหา 4. นักเรียนสังเกตปญหาทางดานฮารดแวรที่เกิดขึ้น และการแกปญหาจากตัวอยางในหนังสือเรียน อธิบายความรู 1. ครูสุมนักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายถึงปญหา ที่เกิดกับคอมพิวเตอรและวิธีการแกปญหา คอมพิวเตอรที่นักเรียนพบในเบื้องตน พรอมกับ อภิปรายรวมกันในชั้นเรียน เชน ลําโพงไมมีเสียง ใชวิธีการตรวจสอบสายลําโพงและชองเสียบสาย มีอาการหนาจอสีฟา ใหจดรหัสโคดหนาจอสีฟา มาสืบคนขอมูล เมาสใชการไมได ตรวจสอบ เมาสกับชองเสียบ USB เครื่องทําการรีสตารต เอง สงศูนยบริการใหชางซอม เกร็ดแนะครู ครูอาจจะสอนเสริมความรู เรื่อง Blue Screen Code คือ หนาจอสีฟา ที่แสดงรหัสขอผิดพลาดจากปญหาในดานตางๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร เพื่อฝกใหนักเรียนสามารถประเมินหรือทํานายปญหาของเครื่องคอมพิวเตอร ในเบื้องตนได กอนที่จะสงใหชางซอมหรือทําการแกไข เพื่อชวยประหยัดเวลา ในการคนหาสาเหตุของปญหาที่เกิดขึ้น ใหนักเรียนคนหาขอมูลรหัสหนาจอสีฟาคนละ 10 รหัส แลว ทําการตรวจสอบความหมายของแตละรหัสเพื่อแบงกลุมออกเปน 3 กลุม คือ 1. รหัสที่แสดงวา เปนปญหาดานฮารดแวร 2. รหัสที่แสดงวา เปนปญหาดานซอฟตแวร 3. รหัสที่แสดงวา อาจจะเปนปญหาดานฮารดแวรหรือ ซอฟตแวรอยางใดอยางหนึ่ง หรือทั้ง 2 อยาง (ไมแนนอน) นํา สอน สรุป ประเมิน T94


ขอสอบเนน การคิด ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 1. ทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 2. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา 3. ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว 1. ให้นักเรียนบอกชื่อฮาร์ดแวร์ที่รู้จักที่เป็นองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์มาให้มากที่สุด พร้อมอธิบายว่า ฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้น ๆ ท�าหน้าที่อะไร 2. ให้นักเรียนบอกชื่อซอฟต์แวร์ทุกชนิดที่รู้จักในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่รู้จักมาให้มากที่สุด พร้อมอธิบาย ว่า ซอฟต์แวร์ตัวนั้น ๆ ท�าหน้าที่อะไร 3. ถ้ามีความจ�าเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะเพื่อติดต่อสื่อสาร ท�าธุรกรรมทางการเงิน หรือเข้าใช้งาน เฟซบุ๊กด้วยรหัสส่วนตัว นักเรียนคิดว่า ปลอดภัยหรือไม่ อย่างไร แล้วถ้าจ�าเป็นต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ สาธารณะ นักเรียนคิดว่า ต้องท�าอย่างไรหลังเลิกใช้งาน ระบบคอมพิวเตอร์ Com Sci activity 4. การแก้ไขปัญหาด้านซอฟต์แวร์เบื้องต้น ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้งานซอฟต์แวร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งในส่วนของซอฟต์แวร์ ระบบหรือระบบปฏิบัติการ และส่วนของซอฟต์แวร์ประยุกต์ สามารถแยกเป็น 2 กรณี ได้ดังนี้ 1) กรณีที่พบปัญหาหลังการติดตั้งซอฟต์แวร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนมากมัก จะเกิดจากการติดตั้งที่ไม่สมบูรณ์หรือติดตั้งเวอร์ชัน (Version) ของซอฟต์แวร์ไม่ตรงหรือไม่สามารถ ใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันได้แนวทางการแก้ไขปัญหาในกรณีนี้คือให้ผู้ ที่มีความรู้ในการติดตั้งซอฟต์แวร์ท�าการติดตั้งซอฟต์แวร์ทับลงไปใหม่ แต่หากยังพบปัญหาอยู่อีก อาจจะต้องท�าการถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ตัวนั้นออกจากเครื่องและท�าการติดตั้งซอฟต์แวร์ตัวนั้น ใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ในการติดตั้งซอฟต์แวร์ต้องระวังเรื่องข้อมูลลบหายควรมีการส�ารองข้อมูล (Backup) เก็บไว้ก่อนทุกครั้งที่มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ทับลงไปใหม่ หรือก่อนการถอนซอฟต์แวร์ตัวใดก็ตาม ออกจากเครื่อง 2) กรณีที่พบปัญหาหลังจากการใช้งานซอฟต์แวร์มาสักระยะเวลาหนึ่งส่วนมากมักเกิด จากไฟล์ที่เป็นองค์ประกอบของซอฟต์แวร์นั้น ๆ มีปัญหา เช่น อาจจะเผลอลบไฟล์ทิ้งไป หรือเกิด จากไวรัสคอมพิวเตอร์ ดังนั้น การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น คือ ต้องระมัดระวังในการลบไฟล์ และควร หาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสมาติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือการแก้ปัญหาสุดท้ายคือการส�ารอง ข้อมูลและท�าการถอนการติดตั้ง จากนั้นท�าการติดตั้งซอฟแวร์ใหม่ 85 ขอสอบเนน การคิด ขั้นสอน อธิบายความรู 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับปญหาและการแกไข การใชงานระบบคอมพิวเตอรวา นอกจากจะมี ปญหาดานฮารดแวรและซอฟตแวรแลว ยังมี ปญหาดานไวรัสที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร ดังนั้น ถาพบวาคอมพิวเตอรทํางานชาลง กวาปกติ คอมพิวเตอรหยุดการตอบสนอง หรือติดขัดบอยครั้ง คอมพิวเตอรขัดของแลว เริ่มใหมทุกสองสามนาที โปรแกรมประยุกต ในคอมพิวเตอรทํางานไมถูกตอง ซึ่งปญหา ดังกลาวนี้ อาจเกิดจากการมีไวรัสที่ฝงอยูใน คอมพิวเตอร ดังนั้น จึงควรติดตั้งโปรแกรม ตรวจสอบไวรัสและหมั่นตรวจสอบอยูเสมอ เพื่อความปลอดภัยของขอมูล ขยายความเขาใจ 1. นักเรียนทํากิจกรรมที่สอดคลองกับเนื้อหา โดย การตอบคําถามเพื่อพัฒนาความรูและทักษะ การเรียนรู (Com Sci Activity) เกี่ยวกับระบบ คอมพิวเตอรลงในสมุด 2. นักเรียนทําใบงาน เรื่อง การแกปญหา คอมพิวเตอร 3. ครูสุมนักเรียน 2-3 คน ออกมานําเสนอหนา ชั้นเรียน พรอมทั้งอภิปรายรวมกันภายใน ชั้นเรียน การสํารองขอมูลในรูปแบบใดมีความเสี่ยงมากที่สุด 1. สํารองไวในไดรฟ D 2. สํารองไวในแฮนดีไดรฟ 3. สํารองไวในพื้นที่แบบออนไลน 4. สํารองไวในคอมพิวเตอรเครื่องอื่น (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา การสํารองขอมูลไวในไดรฟ D จะมีความเสี่ยง คือ ขอมูลอยู บนฮารดดิสกตัวเดียวกันแตคนละไดรฟ กรณีที่เกิดปญหาดาน ฮารดแวร คือ ฮารดดิสกเสีย จะสูญเสียทั้งขอมูลหลักและขอมูล สํารอง ขอ 2. ขอ 3. และขอ 4. เปนการสํารองขอมูลไวที่แหลง เก็บขอมูลภายนอกจึงมีความเสี่ยงนอยกวา ดังนั้น ตอบขอ 1.) นํา สอน สรุป ประเมิน เกร็ดแนะครู ครูอาจจะใหความรูเพิ่มเติมวา ในปจจุบันเรามีการใชเทคโนโลยีการควบคุม ระยะไกล (Remote control) ซึ่งสามารถใชคอมพิวเตอรเครื่องหนึ่งเขาไปควบคุม หนาจอของอีกเครื่องที่อยูในเครือขายเดียวกันได โปรแกรมในการรีโมตที่รูจัก ทั่วไป คือ Remote Desktop ของระบบปฏิบัติการวินโดวส ซึ่งในหลายหนวยงาน จะมีผูดูแลระบบที่ทําหนาที่ตั้งคาเครื่องคอมพิวเตอรทุกเครื่องในองคกร ใหผูดูแล สามารถเขาไปแกปญหาดวยวิธีการควบคุมเครื่องจากระยะไกลได โดยไมตอง เสียเวลาเดินทางไปที่ตัวเครื่องหลังจากไดรับแจงปญหา ซึ่งเปนเทคโนโลยีที่มี ประโยชนมาก T95


ระบบคอมพิวเตอร์ Summary หลักการทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสาร เป็นกำรส่งข้อมูลข่ำวสำรจำกผู้ส่งสำรไปยังผู้รับสำร โดยอำศัยสื่อกลำงกำรสื่อสำร ทั้งสื่อกลำง ที่มีสำยและสื่อกลำงไร้สำยในทิศทำงต่ำง ๆ การประยุกต์ใช้งานและการแก้ปัญหาเบื้องต้น คอมพิวเตอร์กลำยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจ�ำวันของบุคคลทั่วไป ทั้งกำรท�ำงำน กำรเรียน หนังสือ ให้ควำมบันเทิงต่ำง ๆ ทั้งนี้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำมำรถช�ำรุดเสียหำย หรือหมดสภำพกำรใช้งำนได้ หำกพบควำมผิดปกติของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้งำน ตั้งแต่แรกไม่ควรปล่อยทิ้งไว้หรือละเลยควำมผิดปกติที่เกิดขึ้น ควรรีบแก้ไขในเบื้องต้นอย่ำงทัน ท่วงที เพรำะอำจท�ำให้เกิดควำมเสียหำยจนไม่สำมำรถแก้ไขได้ องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะสำมำรถท�ำงำนได้ จะต้องประกอบไปด้วยส่วนประกอบที่ส�ำคัญ 5 ประกำร คือ 1) ฮำร์ดแวร์ 2) ซอฟต์แวร์ 3) บุคลำกร 4) ข้อมูลและสำรสนเทศ 5) กระบวนกำร หนวยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) หนวยความจําสํารอง (Secondary Storage) หนวยความจําหลัก (Primary Storage) หนวยรับข้อมูล (Input Unit) หนวยแสดงผลข้อมูล (Output Unit) 86 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การท างานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วิธีการน าเสนอผลงาน 4 การน าไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ขั้นประเมิน ตรวจสอบผล ตารางการวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑการประเมิน ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน แบบทดสอบ หลังเรียน รอยละ 60 ผานเกณฑ ตรวจใบงาน ใบงาน รอยละ 60 ผานเกณฑ ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมิน ชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ ประเมิน การนําเสนอ ผลงาน แบบประเมิน การนําเสนอ ผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางาน รายบุคคล แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางานกลุม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตการนําเสนอผลงาน พฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และการทํางานกลุมของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก แบบประเมินการนําเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และแบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุมที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู ที่ 4 หนวยการเรียนรูที่ 3 ขั้นสรุป ตรวจสอบผล 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบ คําถาม การนําเสนอหนาชั้นเรียน และการทํา ใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกตองของผลการทําใบงาน 3. นักเรียนและครูรวมกันสรุปเกี่ยวกับการ ประยุกตใชงานและการแกปญหาเบื้องตน 4. นักเรียนตรวจสอบความรูความเขาใจดวย ตนเองจากหนังสือเรียน 5. นักเรียนทําแบบฝกหัดประจําหนวยการเรียนรู ที่ 3 และทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) และ นํามาสงในชั่วโมงถัดไป 6. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวยการเรียนรู ที่ 3 เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร กิจกรรม สรางเสริม ครูอธิบายใหนักเรียนรูจัก safe mode บนคอมพิวเตอรและ ใหนักเรียนทดลองทําการเขา safe mode จากนั้นใหครู ตรวจสอบหนาจอครบทุกคน ใครที่ยังทําไมไดใหเพื่อนที่นั่งติดกัน ชวยสอนให เมื่อทําสําเร็จครบทุกคนแลว ครูสรุปประโยชนในการ เขา safe mode ใหนักเรียนฟง แลวใหนักเรียนออกจาก safe mode พรอมกัน ขั้นตอนสุดทาย คือ ใหเวลา 5 นาที ใหนักเรียนคนหา คลิปวิดีโอวิธีการแกปญหาคอมพิวเตอรดวยการเขา safe mode มาศึกษา จากนั้นครูสุมเรียกนักเรียนใหอธิบายตัวอยางในคลิป วา เปนการใช safe mode เพื่อแกปญหาในลักษณะใด นํา สอน สรุป ประเมิน T96


จงอธิบำยขั้นตอนกำรท�ำงำนของระบบคอมพิวเตอร์ ในกำรท�ำงำนของระบบคอมพิวเตอร์ องค์ประกอบใดเป็นส่วนที่ส�ำคัญที่สุด ในกำรสื่อสำรข้อมูลจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบอะไรบ้ำง จงอธิบำย กำรท�ำงำนของระบบคอมพิวเตอร์ มีหลักกำรท�ำงำนอย่ำงไร จงอธิบำย เครือข่ำยระดับประเทศ มีลักษณะอย่ำงไร เมื่อคอมพิวเตอร์ของนักเรียนเกิดปัญหำไม่สำมำรถใช้งำนได้ นักเรียนควรท�ำอย่ำงไร 1 2 3 4 5 6 Unit Question 3 ให้นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจ โดยพิจารณาข้อความว่าถูกหรือผิด แล้วบันทึกลงในสมุด หากพิจารณาข้อความไม่ถูกต้อง ให้กลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวข้อที่ก�าหนดให้ ถูก/ผิด ทบทวนหัวข้อ 1. คอมพิวเตอร์จะสำมำรถท�ำงำนได้ต้องประกอบด้วยฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูลและสำรสนเทศ บุคลำกร และกระบวนกำร 1 2. เมื่อรับข้อมูลมำแล้วข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยัง หน่วยประมวลผลกลำง 2 3. กำรสื่อสำรทำงเดียวเป็นกำรสื่อสำรตอบโต้กันระหว่ำงผู้ส่งสำร กับผู้รับสำร 3 4. สื่อกลำงกำรสื่อสำรข้อมูล มี 2 ประเภท คือ สื่อกลำงประเภท มีสำยและไร้สำย 3 5. ถ้ำนักเรียนจะพิมพ์รำยงำนส่งคุณครู นักเรียนจะเลือกใช้ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 4 Self Check บั น ทึ ก ล ง ใ น ส มุ ด 87 แนวตอบ Self Check 1. ถูก 2. ผิด 3. ผิด 4. ถูก 5. ถูก เฉลย Unit Question 1. มี 4 ขั้นตอน คือ 1) การรับขอมูล คือ การนําเขาขอมูลผานอุปกรณฮารดแวรเขาสูเครื่อง 2) การประมวลผลขอมูล คือ การนําขอมูลที่รับเขามาเก็บไวแลว นํามาประมวลผล เสร็จแลวนําไปเก็บอีกครั้ง 3) การจัดเก็บขอมูล ขณะประมวลผลจะเก็บในหนวยความจําหลัก เวลาปกติจะเก็บในหนวยความจําสํารอง และ 4) การแสดงผลขอมูล คือ การนําขอมูลที่ผานการประมวลผลแลวมาแสดงผลผานฮารดแวรตางๆ 2. CPU เปนตัวประมวลผลขอมูล ซึ่งเปนหนาที่ที่สําคัญที่สุดของคอมพิวเตอร 3. มีองคประกอบสําคัญ 5 ประการ คือ 1) ขอมูลขาวสาร (Message) คือ ขอเท็จจริงที่ผูสงตองการถายทอดไปยังผูรับ 2) ผูสงสาร (Sender) บุคคล กลุม บุคคล หรืออุปกรณที่ทําหนาที่เปนแหลงกําเนิดขอมูลขาวสาร 3) สื่อกลาง (Medium) ตัวกลางในการสงขอมูลขาวสารไปยังผูรับ 4) ผูรับสาร (Receiver) บุคคล กลุมบุคคล หรืออุปกรณที่ทําหนาที่เปนตัวรับขอมูลขาวสาร และ 5) โปรโตคอล (Protocol) กฎหรือขอตกลงที่ใชในการสื่อสารขอมูล 4. แบงเปน 3 หนวย คือ หนวยรับขอมูล ทําหนาที่รับขอมูลเขามาเก็บไวในเครื่องคอมพิวเตอร หนวยประมวลผลขอมูล ทําหนาที่นําขอมูลมาประมวลผล และหนวยแสดงผลขอมูล ทําหนาที่นําขอมูลที่ประมวลผลเสร็จแลวมาแสดงผล 5. เปนการเชื่อมตอเครือขายคอมพิวเตอรระยะไกล ขามทวีปครอบคลุมทั่วโลก โดยใชอุปกรณแปลงสัญญาณเชื่อมตอกับระบบสื่อสารขององคการโทรศัพท 6. นักเรียนแสดงความคิดเห็นตามประสบการณของตนเอง เชน นักเรียนอาจหาขอมูลจากอาการเสียเบื้องตนกอน หากปญหาไมซับซอนและเขาใจวิธีการ แกไขแลว นักเรียนสามารถลงมือแกไขเองได หากไมแนใจใหติดตอชางหรือผูเชี่ยวชาญเทานั้น นํา สอน สรุป ประเมิน T97


แผนการจัด การเร�ยนรู สื่อที่ใช จ�ดประสงค ว�ธ�สอน ประเมิน ทักษะที่ได คุณลักษณะ อันพึงประสงค แผนฯ ที่ 1 การใช เทคโนโลยี สารสนเทศ 2 ชั่วโมง - แบบทดสอบก่อนเรียน - หนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค�านวณ) ม.2 - ใบงาน เรื่อง คุณประโยชน์และโทษ จากการใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศ 1. อธิบายคุณประโยชน์ และโทษจากการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศได้ ถูกต้อง (K) 2. สืบค้นปัญหาที่เกิดจาก เทคโนโลยีสารสนเทศได้ (P) 3. สนใจใฝเรียนรู้ในการ ศึกษาและน�าไปใช้ในชีวิต ประจ�าวัน (A) แบบสืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - ตรวจใบงาน - ประเมินการ น�าเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�างานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�างานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการท�างาน ร่วมกัน - ทักษะการสืบค้นข้อมูล - มีวินัย - ใฝเรียนรู้ - มุ่งมั่นใน การท�างาน แผนฯ ที่ 2 การ ปฏิบัติตนเมื่อ พบเนื้อหาที่ ไมเหมาะสม 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค�านวณ) ม.2 - ใบงาน เรื่อง การปฏิบัติตน เมื่อพบเนื้อหา ที่ไม่เหมาะสม 1. อธิบายรูปแบบของเนื้อหา ต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมได้ ถูกต้อง (K) 2. บอกวิธีการปฏิบัติตนเมื่อ พบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ได้ถูกต้อง (K) 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมที่พบ ในขณะที่ใช้งาน อินเทอร์เน็ต (P) 4. สนใจใฝเรียนรู้ในการ ศึกษาและน�าไปใช้ในชีวิต ประจ�าวัน (A) แบบสืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจใบงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�างานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�างานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสื่อสาร - ทักษะการแลกเปลี่ยน ข้อมูล - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการท�างาน ร่วมกัน - ทักษะการสืบค้นข้อมูล - มีวินัย - ใฝเรียนรู้ - มุ่งมั่นใน การท�างาน แผนฯ ที่ 3 ความรับผิดชอบ ตอการใชงาน เทคโนโลยี สารสนเทศ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค�านวณ) ม.2 - ใบงาน เรื่อง ความรับผิดชอบต่อ การใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศ 1. อธิบายความหมาย ของความรับผิดชอบ ต่อตนเอง ต่อบุคคลอื่น และต่อสังคมเมื่อมีการ ใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศได้ถูกต้อง (K) 2. สืบค้นวิธีการกระท�า เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ต่อตนเอง ต่อบุคคลอื่น และต่อสังคมเมื่อมีการใช้ งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ (P) 3. สนใจใฝเรียนรู้ในการ ศึกษาและน�าไปใช้ในชีวิต ประจ�าวัน (A) แบบสืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจใบงาน - ประเมินการ น�าเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�างานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�างานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสื่อสาร - ทักษะการแลกเปลี่ยน ข้อมูล - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการสังเกต - ทักษะการท�างาน ร่วมกัน - ทักษะการสืบค้นข้อมูล - มีวินัย - ใฝเรียนรู้ - มุ่งมั่นใน การท�างาน Chapter Overview T98


แผนการจัด การเร�ยนรู สื่อที่ใช จ�ดประสงค ว�ธ�สอน ประเมิน ทักษะที่ได คุณลักษณะ อันพึงประสงค แผนฯ ที่ 4 ทรัพยสิน ทางปญญา 2 ชั่วโมง - แบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค�านวณ) ม.2 - ใบงาน เรื่อง ประเภทของลิขสิทธิ์ - ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. อธิบายความหมายของ ทรัพย์สินทางปัญญา ได้ถูกต้อง (K) 2. บอกประเภทของงาน ที่มีลิขสิทธิ์ได้ถูกต้อง (K) 3. บอกความแตกต่าง ประเภทของสิทธิบัตร ได้ถูกต้อง (K) 4. สืบค้นข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน ทางปัญญาได้ (P) 5. สนใจใฝเรียนรู้ในการ ศึกษาและน�าไปใช้ในชีวิต ประจ�าวัน (A) แบบสืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - ตรวจใบงาน - ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการ น�าเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�างานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสื่อสาร - ทักษะการแลกเปลี่ยน ข้อมูล - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการท�างาน ร่วมกัน - ทักษะการสืบค้นข้อมูล - มีวินัย - ใฝเรียนรู้ - มุ่งมั่นใน การท�างาน Chapter Concept Overview หนวยการเรียนรูที่ 4 T99


ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจ�าวันของผู้คนในหลายด้าน แต่เทคโนโลยีนั้นสร้างทั้งคุณประโยชน์และโทษให้กับ ผู้ใช้หลายลักษณะ ตัวอย่างของคุณประโยชน์และโทษจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีดังนี้ 1. คุณประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีผลต่อการด�ารงชีวิตของทุกคนโดยไม่รู้ตัว เช่น ท�าให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใช้อ�านวยความสะดวกในด้านการศึกษา ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา ท�าให้เกิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น 2. โทษจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มักเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจ ความขาดสติ ความคึกคะนอง รวมถึงต้องเปนที่สนใจ ของสังคม เช่น ปัญหาการติดเกมจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ปัญหาสังคม เสื่อมจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ปัญหาอาชญากรรมทางข้อมูลจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ปัญหาการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจาก การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ปัญหาอาชญากรรมที่มีผลต่อชีวิตจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. ความรับผิดชอบต่อตนเองเมื่อใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เปนสิ่งที่ควรกระท�า เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือท�าให้ผู้อื่นเดือดร้อน เช่น ไม่พยายามใช้งานบัญชีของผู้อื่น ไม่ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมาย 2. ความรับผิดชอบต่อบุคคลอื่นเมื่อใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เปนการให้ความเคารพต่อสิทธิของแต่ละคน เปรียบได้กับมารยาททาง สังคมที่พึงกระท�า เช่น ไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาแอบอ้างเปนของตนเอง ไม่ข่มขู่ หลอกลวง ท�าสิ่งใด ๆ ให้ผู้อื่นเดือดร้อน 3. ความรับผิดชอบต่อสังคมเมื่อใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เปนความรับผิดชอบที่ทุกคนพึงมีและต้องปฏิบัติทั้งในระดับบุคคลและองค์กร เช่น ไม่น�าข้อมูลภายในองค์กรไปเผยแพร่ คัดลอก หรือดัดแปลงแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต เคารพกฎระเบียบส่วนรวม ความรับผิดชอบตอการใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศ รูปแบบของเนื้อหา เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร มีวัตถุประสงค์เพื่อเร้าอารมณ์ทางเพศ ซึ่งอาจจะน�าไปสู่ปัญหาอาชญากรรม ต่างๆ เมื่อพบเนื้อหาดังกล่าว ควรแจ้ง ผู้ใหญ่ หรือเจ้าหน้าที่ต�ารวจ และ ควรติดตั้งโปรแกรมที่ใช้ส�าหรับ ปองกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมลงบน เครื่องคอมพิวเตอร์ รูปแบบของเนื้อหา เกี่ยวกับการหลอกลวง เปนการแอบอ้างหรือน�าข้อมูลของ ผู้อื่นไปใช้ท�าให้เกิดความเสียหาย ข้อปฏิบัติที่ส�าคัญ คือ ไม่ควร เปดเผยข้อมูลส่วนตัวเปนสาธารณะ ถ้ามีใครชวนลงทุนหรือให้โอนเงิน ควรปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน รูปแบบของเนื้อหา เกี่ยวกับการคุกคามหรือขมขู เปนสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนร�าคาญ กระทบสิทธิส่วนบุคคล และอาจน�า ไปสู่ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ซึ่ง จะปองกันได้โดยการไม่เปดอ่าน อีเมล ที่ไม่มีการระบุตัวตน ควรรีบ แจ้งผู้ใหญ่ หรือเจ้าหน้าที่ต�ารวจ เมื่อได้รับข้อความที่คิดว่าเปนการ ข่มขู่ รูปแบบของเนื้อหา เกี่ยวกับการพนัน เปนการชักจูงให้เข้ามาเล่นโดยใช้ ผลตอบแทนล่อใจ ส่วนใหญ่เล่น แล้วจะติดไปเรื่อย ๆ เพราะอยาก ได้เงินกลับคืนมา เมื่อพบเนื้อหา ดังกล่าวไม่ควรเข้าไปดู และควร แจ้งผู้ใหญ่ หรือเจ้าหน้าที่ต�ารวจ การปฏิบัติตนเมื่อพบกับเนื้อหาที่ไมเหมาะสม Chapter Overview T100


Chapter Concept Overview หนวยการเรียนรูที่ 4 ทรัพย์สินทางปญญา คือ ผลงานอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เปนทรัพย์สินที่นอกเหนือจากสังหาริมทรัพย์และ อสังหาริมทรัพย์ 1. ประเภทของทรัพย์สินทางปัญญา 1) ลิขสิทธิ์ คือ สิทธิ์แต่ผู้เดียวที่ทางกฎหมายรับรองให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานสามารถท�าซ�้า ดัดแปลง หรือน�าออกโฆษณาได้ มีอายุ การคุ้มครอง 50 ป หลังผู้สร้างสรรค์คนสุดท้ายเสียชีวิต โดยเปนการให้ความคุ้มครองอัตโนมัติแก่ทายาทด้วย - ประเภทของงานที่มีลิขสิทธิ์ กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์ 9 ประเภท ตามที่กฎหมายก�าหนด ดังนี้ งานวรรณกรรม เช่น หนังสือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ งานนาฏกรรม เช่น การเต้น การท�าท่า งานศิลปกรรม เช่น จิตรกรรม ประติมากรรม งานดนตรีกรรม เช่น ค�าร้อง ท�านอง งานโสตทัศนวัสดุ เช่น วิดีโอ ดีวีดี งานภาพยนตร์ เช่น ภาพยนตร์ รวมทั้งเสียงประกอบภาพยนตร์ งานสิ่งบันทึกเสียง เช่น เทปเพลง ซีดี งานแพร่เสียงแพร่ภาพ เช่น รายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนก วิทยาศาสตร์ หรือศิลปะ - การได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ จะมีผลทันทีที่ผู้สร้างได้สร้างสรรค์ผลงานเสร็จโดยไม่ต้องจดทะเบียน เจ้าของลิขสิทธิ์ควรปกปองคุ้มครอง สิทธิของตนเอง ควรเก็บหลักฐานในการพิสูจน์ความเปนเจ้าของไว้ด้วย - เจ้าของลิขสิทธิ์ ได้แก่ ผู้สร้างสรรค์ผลงาน ผู้สร้างสรรค์ในฐานะพนักงานหรือลูกจ้าง ผู้ว่าจ้างกรณีว่าจ้างให้บุคคลอื่นสร้างสรรค์ ผลงาน ผู้ดัดแปลง หน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวง ทบวง กรม และผู้รับโอนลิขสิทธิ์ - เอกสารที่ใช้ประกอบการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ ส�าเนาบัตรประชาชน ส�าเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล หนังสือมอบอ�านาจ ผลงานหรือภาพถ่ายงานลิขสิทธิ์ ส�าเนาหนังสือแต่งตั้งผู้บริหาร (กรณีหน่วยงานรัฐ) ส�าเนาบัตรประชาชนผู้ยื่นค�าขอ - ประโยชน์ของลิขสิทธิ์ เจ้าของลิขสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย มีสิทธิ์ในการท�าซ�้า ดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณชน สามารถอนุญาตให้ผู้อื่นใช้ลิขสิทธิ์ของตนโดยได้รับค่าตอบแทนที่เปนธรรม 2) สิทธิบัตร คือ หนังสือที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์หรือการออกแบบ - ประเภทของสิทธิบัตร แบ่งเปนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ และอนุสิทธิบัตร - ความแตกต่างระหว่างอนุสิทธิบัตรและสิทธิบัตรการประดิษฐ์ อนุสิทธิบัตรเปนการคุ้มครองการประดิษฐ์ที่มีเทคนิคที่ไม่สูง มากนัก ส่วนสิทธิบัตรจะมีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น - ประโยชน์ของสิทธิบัตร ท�าให้เห็นความเปนมา พัฒนาการ และข้อบกพร่องของสิ่งประดิษฐ์ ก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ ในการ พัฒนาตามมาในทางธุรกิจ ช่วยให้สามารถคาดการณ์แนวโน้มของเทคโนโลยีที่ก�าลังเกิดขึ้น และประเมินความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้ 2. ข้อดี-ข้อเสียของทรัพย์สินทางปัญญา - ข้อดี ให้ความเปนธรรมแก่ผู้คิดค้นในเรื่องค่าตอบแทน คุ้มครองเจ้าของผลงาน - ข้อเสีย การตั้งราคาไม่เปนธรรมท�าให้ลิขสิทธิ์นั้นมีราคาแพง ก�าลังซื้อผู้บริโภคมีไม่พออาจส่งผลต่อชีวิต เช่น ยารักษาโรคร้ายแรง ทรัพยสินทางปญญา T101


หนวยการเรียนรูที่ ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.2/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการเผยแพร่ผลงาน การใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศมีทั้งประโยชนและโทษ ดังนั้น ผูใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศจะตองมีความรับผิดชอบ และรูจักการปฏิบัติตนในการเขาใชงานอยางเหมาะสม 4 การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ อยางปลอดภัย เกร็ดแนะครู เนื้อหาในบทเรียนนี้ เปนการกลาวถึงเหตุการณที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงและ สามารถพบเห็นไดทั่วไป ครูสามารถหาขอมูลตัวอยางกรณีศึกษามาประกอบ การสอน เพื่อใหนักเรียนไดเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงจากการใชเทคโนโลยี ผิดทาง ตลอดจนบทลงโทษที่ผูกระทําผิดไดรับ วิธีการปฏิบัติตนเพื่อปองกันและ หลีกเลี่ยงปญหาเหลานี้ รวมถึงคุณประโยชนจากการนําเทคโนโลยีไปใชแกปญหา อยางสรางสรรค หนวยการเรียนรูนี้จึงเปนหนวยการเรียนรูที่ควรใหนักเรียน ไดเรียนรูจากเหตุการณ กรณีศึกษา เพื่อใหสามารถนําความรูที่ไดไปใชในชีวิต ประจําวันไดจริง ขั้นนํา กระตุนความสนใจ 1. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 4 เรื่อง การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ อยางปลอดภัย เพื่อวัดความรูเดิมของนักเรียน กอนเขาสูกิจกรรม 2. ครูถามคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียน วา ปญหาที่เกิดจากการใชเทคโนโลยีมีอะไร บาง (แนวตอบ นักเรียนตอบตามประสบการณของ ตนเอง โดยคําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ ครูผูสอน เชน การละเมิดลิขสิทธิ์ การนําขอมูล สวนบุคคลมาเผยแพร การนําผลงานของผูอื่น มาแอบอางเปนของตน) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T102


ขอสอบเนน การคิด 1 การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิต ของผู้คนในหลากหลายด้าน และถือเป็นเครื่องมือที่มีความ ส�าคัญอย่างยิ่งต่อการด�าเนินชีวิตของคนในสังคมปัจจุบัน โดยเราสามารถใช้เทคโนโลยีในการเข้าถึงข้อมูลจากผู้อื่น รวมถึงสามารถแชร์ข้อมูลของตนเองไปสู่ผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต ที่ต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการได้แล้ว เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับการพัฒนาให้มีรูปแบบที่มีความน่าสนใจและอยู่ใกล้ชิดกับ ชีวิตของมนุษย์มากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีจึงสร้างทั้งคุณประโยชน์และโทษให้กับผู้ใช้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันเกิดปัญหาทางสังคมจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งโดยตั้งใจหรือไม ่ตั้งใจใน หลากหลายลักษณะ ตัวอย่างของคุณประโยชน์และโทษของการใช้เทคโนโลยี มีดังนี้ 1. คุณประโยชนจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ มีประโยชน์มากมายและมีผลต่อการด�ารงชีวิตของทุกคนโดยไม่รู้ตัว เช่น • ท�าให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นจากสิ่งอ�านวยความ สะดวกต่าง ๆ • ใช้อ�านวยความสะดวกในด้านการศึกษา เช่น ระบบการลงทะเบียน ระบบการจัด ตารางสอน นอกจากนี้ ยังใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ของผู้ใช้งาน เช่น การสืบค้น ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต สื่อการสอน หรือบทเรียน • ประหยัดค ่าใช้จ ่ายและเวลา สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันอย่างสะดวก รวดเร็ว โดยใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรือ แหล่งอื่น ๆ • ท�าให้เกิดการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น เช่น การรวบรวมข้อมูล เรื่องคุณภาพในแม่น�้าล�าคลองสายต่าง ๆ เพื่อ น�ามาตรวจวัดมลภาวะ แล้วด�าเนินการแก้ไข ปัญหา เป็นต้น เราสามารถหลีกเลี่ยง ปญหาของการถูกขโมย ขอมูลหรือหลอกลวงให หลงเชื่อจากการใชเทคโนโลยี สารสนเทศไดอยางไรบาง ภาพที่ 4.1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อขอความช่วยเหลือ 89 แนวตอบ คําถามสําคัญประจําหัวขอ นักเรียนตอบตามประสบการณของตนเอง โดย คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ใส เครดิตที่ผลงานของตนเองเพื่อปองกันการดัดแปลง แกไข หรือปลอมแปลง ใชเทคโนโลยีสารสนเทศ อยางมีสติ ไมใหขอมูลสวนตัวกับหนวยงานที่เชื่อถือ ไมได เกร็ดแนะครู ครูอาจจะนําตัวอยางขาวสารที่มีเนื้อหาตรงกับหัวขอคุณประโยชนของ เทคโนโลยีในแตละดานในปจจุบันมานําเสนอใหนักเรียนไดศึกษาจากเหตุการณ จริงจากทั้งในประเทศและทั่วโลก เพื่อเชื่อมโยงความรูและความเขาใจของ นักเรียนใหมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรืออาจใหนักเรียนแบงกันสืบคนขอมูล ตามหัวขอดังกลาว แลวออกมานําเสนอหนาชั้นเรียนก็ได ขอใดจัดเปนเทคโนโลยีที่มีคุณประโยชนในดานประหยัดทั้ง คาใชจายและเวลา 1. หุนยนตสํารวจทะเลลึก 2. เตียงไฟฟาสําหรับผูปวยอัมพาต 3. ระบบเตือนภัยสึนามิในทะเลลึก 4. โทรศัพทดาวเทียมสําหรับสื่อสารไดทุกที่บนโลก (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา เทคโนโลยีที่ประหยัดทั้งคาใชจายและเวลา คือ เทคโนโลยีการ สื่อสาร ดังนั้น ตอบขอ 4.) ขั้นนํา กระตุนความสนใจ 3. จากนั้นครูถามคําถามสําคัญประจําหัวขอวา นักเรียนรูหรือไมวา เราสามารถหลีกเลี่ยง ปญหาของการถูกขโมยขอมูลหรือหลอกลวง ใหหลงเชื่อจากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศได อยางไรบาง ขั้นสอน สํารวจคนหา 1. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน เพื่อศึกษา และอภิปรายรวมกันถึงประโยชนจากการใช เทคโนโลยีสารสนเทศในหนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ม.2 หรือสืบคนขอมูลจากอินเทอรเน็ตที่เครื่อง คอมพิวเตอรของตนเอง จากนั้นใหนักเรียน แตละกลุมออกมานําเสนอเกี่ยวกับคุณประโยชน จากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ พรอม อภิปรายรวมกับเพื่อนในชั้นเรียน โดยครูคอย บันทึกคําตอบของนักเรียนแตละกลุมลงบน กระดาน 2. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย และครูใหความรูเพิ่มเติมในสวนนั้นหรือ เปดโอกาสใหนักเรียนศึกษาความรูเพิ่มเติม จากอินเทอรเน็ต 3. ครูและนักเรียนรวมกันจัดอันดับคุณประโยชน จากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศจากคําตอบ ของนักเรียนบนกระดาน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T103


ขอสอบเนนการคิด 2. โทษจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มักจะเกิด ขึ้นจากความตั้งใจและไม่ตั้งใจ ซึ่งมักจะขาดสติความยั้งคิดต่อ การรับรู้ข่าวสาร หรือเกิดจากการหลงเชื่อสิ่งที่มีการโฆษณา หลอกลวงท�าให้เกิดเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต ่อผู้คนหรือตัว ผู้ใช้ได้ โดยส่วนใหญ่สาเหตุที่เกิดขึ้นมักจะเกิดจากตัวผู้รับข่าวสาร ขาดความรู้ความเข้าใจ หรือเกิดความคึกคะนอง รวมถึงต้องการ ให้เป็นที่สนใจของสังคม 1) ปญหาการติดเกมจากการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน และยังเป็นปัญหาที่ เกิดขึ้นในวัยเด็กไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ และยังก่อให้เกิดปัญหาสังคม บ่อยครั้ง เช่น การซื้อของในเกม การเล่นเกมเป็นเวลานานจน เสียชีวิต การควบคุมอารมณ์ไม่ได้ การท�าลายทรัพย์สินของผู้อื่น หรือของตนเอง 2) ปญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จากการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งเกิดจากผู้ที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ in Real Life Com Sci Com Sci o_O การเข้าถึงสารสนเทศในยุค ดิจิทัลเนื่องจากเป็นยุคที่มีการ ติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและยัง สามารถเข้าถึงได้ง่ายมาก จึง ท�าให้ระบบการรักษาความ ปลอดภัยนั้นไม่สามารถท�าได้ 100% และปัจจุบันปัญหานี้ได้ เพิ่มขึ้นตลอดเวลา เนื่องจาก การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ไปในทางที่ผิด ดังนั้น การใช้ สารสนเทศจึงควรระวังในเรื่อง ของการกระท�าในทางสื่อสาร หรือเผยแพร่ เพื่อปองกันการ ถูกล ่อลวงหรือขโมยข้อมูล ส่วนตัว ภาพที่ 4.2 ปัญหาการติดเกม ภาพที่ 4.3 ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ จนน�ามาซึ่งปัญหาการเรียกร้องค่าเสียหายต่อผู้ที่กระท�าผิด เช่น การดาวน์โหลด หรือคัดลอก ข้อความ ภาพ ผลงาน และอื่น ๆ โดยไม่ได้รับการอนุญาตให้เผยแพร่หรือครอบครองก่อนได้รับ อนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ 90 ขอใดจัดเปนการแกปญหาที่ดีที่สุดหลังจากตรวจพบภายหลัง วาไดเผยแพรขาวสารขอมูลที่เปนเท็จลงไปในโซเชียล 1. ลบโพสตทิ้ง 2. แกไขโพสตแจงใหทราบวาเปนขอมูลเท็จ 3. สืบคนขอมูลที่ถูกตองมาโพสต พรอมอธิบายเพิ่มเติม 4. ทําทั้งขอ 2. และขอ 3. (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา การ แกไขโพสตเพื่อชี้แจงความจริงจะชวยใหคนที่มาอานหรือเผยแพร ขอมูลตอจากเราไปแลว ไดรับทราบวาเปนขอมูลที่เปนเท็จ และการ สืบคนขอมูลที่ถูกตองมาโพสตก็จะชวยใหผูที่เขาใจผิดไดศึกษา ทําความเขาใจความจริง เพื่อที่จะไดชวยกันเผยแพรขอมูลที่ถูกตอง ไปใหคนอื่นไดรับทราบแทนขอมูลเดิม ซึ่งมีประโยชนมากกวา การลบโพสตทิ้งไป ดังนั้น ตอบขอ 4.) เกร็ดแนะครู ครูอาจจะนําตัวอยางขาวสารขอมูลในปจจุบันที่ตรงกับโทษของการใช เทคโนโลยีในทางที่ผิดในแตละดานมานําเสนอใหนักเรียนไดศึกษาจากเหตุการณ จริงจากทั้งในประเทศและทั่วโลก เพื่อใหเห็นผลลัพธที่เกิดขึ้น แลวรวมกันอภิปราย ถึงแนวทางในการปองกันแกไขปญหาดวย ขั้นสอน สํารวจคนหา 4. นักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอเกี่ยวกับโทษ จากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ พรอมอภิปราย รวมกับเพื่อนในชั้นเรียน โดยครูคอยบันทึก คําตอบของนักเรียนแตละกลุมลงบนกระดาน อธิบายความรู ครูอธิบายเชื่อมโยงความรูสูชีวิตประจําวัน (Com Sci in Real Life) วา การเขาถึงสารสนเทศ ในยุคดิจิทัลเนื่องจากเปนยุคที่มีการติดตอสื่อสาร ที่รวดเร็วและยังสามารถเขาถึงไดงายมาก จึงทําให ระบบการรักษาความปลอดภัยนั้นไมสามารถ ทําได 100% และปจจุบันปญหานี้ไดเพิ่มขึ้นตลอด เวลา เนื่องจากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศไปใน ทางที่ผิด ดังนั้น การใชสารสนเทศจึงควรระวัง ในเรื่องของการกระทําในทางสื่อสารหรือเผยแพร เพื่อปองกันการถูกลอลวงหรือขโมยขอมูล นํา สอน สรุป ประเมิน T104


ขอสอบเนน การคิด 3) ปญหาสังคมเสื่อมจากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ การใชเทคโนโลยีในทางที่ ภาพที่ 4.5 ขอมูลหลอกลวง ภาพที่ 4.6 การปลอมแปลงขอมูล ภาพที่ 4.4 การใชเทคโนโลยีในวัยเด็กควรมีผูใหญให คําแนะนําหรือหลีกเลี่ยงการรับขอมูลที่ไมเหมาะสม 4) ปญหาอาชญากรรมทางขอมูลจากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ เปนปญหาที่มี ผลกระทบรุนแรง เพราะเปนการนําขอมูลสวนบุคคล หรือองคกร มาดัดแปลง แกไข ปลอมแปลง หรือทําการขโมยโดยใชเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใหไดขอมูลมา ทําใหเกิดการสูญเสียทรัพยสิน ตอผูที่ถูกกระทํา เชน ขอมูลทางการเงิน ขอมูลบัตรเครดิต ขอมูลบัตรประจําตัวประชาชน หนังสือเดินทาง (Passport) การบิดเบือนขาวสารจากความเปนจริง ผิดกําลังเปนปญหาในสังคมไทย จากการเผยแพร หรือแสดงพฤติกรรมเลียนแบบที่ไมเหมาะสม ซึ่งปจจุบันเด็กเล็กก็สามารถเขาไปรับชม รับฟง ไดงาย ทําใหเด็กเกิดอยากรูอยากลองเปน การกระทําที่เปนพฤติกรรมเลียนแบบ กอให เกิดปญหาอาชญากรรมจากการใชเทคโนโลยี มากขึ้นในวัยเด็ก เพราะเด็กยังไมมีวิจารณญาณ ในการคิดวิเคราะหสิ่งที่เห็นหรือรับฟง ซึ่งเปน ปญหาใหญที่ทําใหสังคมเสื่อมจากการใช เทคโนโลยี ดังนั้น ตองรีบแกไขโดยการปลูกฝง การใชเทคโนโลยีสารสนเทศในทางที่ถูกตอง 91 ขั้นสอน ขยายความเขาใจ 1. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย โดยครูใหความรูเพิ่มเติมในเรื่อง โทษจากการ ใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. นักเรียนทําใบงาน เรื่อง คุณประโยชนและโทษ จากการใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศ YouTube Kids เปนแอปรวมวิดีโอที่เหมาะสมสําหรับเด็กและ ครอบครัว เปนแอปที่ไมมีพิษภัย ผูปกครองสามารถควบคุมการ ใชงานได จากขอความขางตน เปนการปองกันปญหาการเกิดโทษ จากการใชงานเทคโนโลยีในดานใด 1. ปญหาการติดเกมจากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ปญหาสังคมเสื่อมโทรมจากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ 3. ปญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ 4. ปญหาอาชญากรรมทางขอมูลจากการใชเทคโนโลยี สารสนเทศ (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา จากตัวอยางในโจทยเปนการใชเทคโนโลยีปองกันเด็กจากการ เขาถึงสื่อภาพและเสียงที่ไมเหมาะสม เพื่อไมใหเกิดพฤติกรรม เลียนแบบที่ไมเหมาะสมตามมา ดังนั้น ตอบขอ 2.) เกร็ดแนะครู ครูอาจจะจัดการเรียนการสอนเปนกิจกรรมบทบาทสมมติ โดยคิด สถานการณที่สื่อถึงโทษของการใชเทคโนโลยีทั้ง 6 ขอ มาใหนักเรียนจับสลาก ออกมาแสดงละครสั้นจากสถานการณที่ครูกําหนดใหทั้ง 6 สถานการณ ขอละ ประมาณ 3-5 นาที โดยใหนักเรียนที่เปนฝายนั่งชมชวยกันสรุปในตอนทายของ ละครสั้นแตละเรื่องวาตรงกับโทษของการใชงานเทคโนโลยีในขอใด นํา สอน สรุป ประเมิน T105


ขอสอบเนนการคิด 5) ปญหาการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการคุกคาม ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ถูกด�าเนินคดีมากมาย จากการ ก่อความร�าคาญ หรือท�าให้ผู้อื่นได้รับความ เดือดร้อนทั้งตั้งใจและไม ่ตั้งใจ เนื่องจาก ขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายทาง เทคโนโลยีสารสนเทศ และมาจากการที่ขาด จริยธรรมและมารยาทในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ เช ่น การน�าภาพบุคคลอื่นมา แอบอ้างเป็นของตน ดัดแปลงแก้ไขข้อมูลของ ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต การเข้าไปดูข้อมูล ภาพที่ 4.7 การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ผู้อื่นในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาต ภาพที่ 4.8 การก่ออาชญากรรมไซเบอร์ 6) ปญหาอาชญากรรมที่มีผลต่อชีวิตจากเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นอาชญากรรม ที่ร้ายแรงและมีผลกระทบร้ายแรงในวงกว้างตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับโลก ซึ่งปัญหานี้เกิด จากการน�าความสามารถทางเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด หรือเพื่อแสวงหาผลก�าไร จนท�าให้ผู้อื่น เดือดร้อน ส่งผลต่อชีวิตของผู้ที่โดนกระท�าและส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ท�าให้มีผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจของโลกในที่สุด เช่น การท�าลาย เปลี่ยนแปลง ขโมยข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่ง เราจะรู้จักกันดีในรูปของการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ (Cyber Crime) อาชญากรที่ก่ออาชญากรรม ประเภทนี้ มักเรียกว่า แครกเกอร์ (Cracker) ซึ่งมีอยู่หลายระดับความสามารถและมีความ มุ่งหมายในการก่ออาชญากรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งมีทั้งผู้ที่เริ่มต้น (Novice) พวกวิกลจริต (Deranged Persons) กลุ่มอาชญากรที่กระท�า ผิด (Organized Crime) อาชญากรระดับอาชีพ (Career) ผู้ที่มีความรู้ความสามารถและทักษะ ด้านคอมพิวเตอร์ระดับสูง (Hacker/Cracker) 92 ขั้นประเมิน ตรวจสอบผล ตารางการวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑการประเมิน ตรวจแบบทดสอบ กอนเรียน แบบทดสอบ กอนเรียน ประเมินตาม สภาพจริง ตรวจใบงาน ใบงาน รอยละ 60 ผานเกณฑ ประเมิน การนําเสนอ ผลงาน แบบประเมิน การนําเสนอ ผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางาน รายบุคคล แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางานกลุม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ นักเลงคอมพิวเตอรเยาวชนอายุ 16 ป เจาะระบบของบริษัทไอที ดานระบบรักษาความปลอดภัย ขโมยขอมูลไฟลไปกวา 70 GB ถูกจับกุมและสงฟองศาลเด็ก ขอความขางตนเกี่ยวของกับโทษ จากการใชงานเทคโนโลยีในดานใดตอไปนี้มากที่สุด 1. ปญหาสังคมเสื่อมจากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ปญหาการติดเกมจากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ 3. ปญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จากการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ 4. ปญหาอาชญากรรมที่มีผลตอชีวิตจากการใชเทคโนโลยี สารสนเทศ (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา เมื่อ บริษัทถูกเจาะระบบขโมยขอมูล ความนาเชื่อถือของบริษัทก็จะ ลดลง อาจสงผลเสียหายตามมาในหลายดาน เชน ทําใหหุนของ บริษัทตกลงมา บริษัทอาจถูกลูกคาฟองรองได ดังนั้น ตอบขอ 4.) ขั้นสอน ขยายความเขาใจ 3. นักเรียนและครูรวมกันจัดลําดับโทษจากการ ใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศ จากคําตอบของ นักเรียนบนกระดาน ขั้นสรุป ตรวจสอบผล 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการ ตอบคําถาม ความสนใจในการเรียน การทํา กิจกรรมกลุม และการทําใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกตองของการทําใบงาน 3. นักเรียนและครูรวมกันสรุปเกี่ยวกับการใช เทคโนโลยีสารสนเทศ แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตการนําเสนอผลงาน พฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และการทํางานกลุมของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก แบบประเมินการนําเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และแบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุมที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูที่ 4 หนวยการเรียนรูที่ 4 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง:ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วิธีการน าเสนอผลงาน 4 การน าไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การท างานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T106


2 การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหา ที่ ไมเหมาะสม การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบหนึ่งที่มี ผู้ใช้งานมากที่สุด คือ อินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นเครือข่าย คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์หลายเครือข่ายทั่วโลก เข้าด้วยกัน และเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านเครื่องเมื่อนักเรียนพบวาระหวาง ใชงานอินเทอรเน็ต มี ขอความขึ้นวา “คุณคือ ผูโชคดี” นักเรียนควรทํา อยางไรตอไป คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต โดยในการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตของ แต่ละคนก็มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อต้องการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อต้องการ ค้นหาข้อมูล เพื่อต้องการส ่งเอกสาร หรือแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกัน เพื่อ ต้องการเข้าสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อต้องการ ซื้อสินค้า เพื่อต้องการท�าธุรกรรมทาง การเงิน ภาพที่ 4.9 การใช้งานอินเทอร์เน็ตในที่สาธารณะ ภาพที่ 4.10 การใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนบุคคล โดยจะเห็นว่า การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใด เราสามารถที่จะพบ ข้อมูลหรือเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่เหมาะสมได้ โดยเนื้อหาที่พบอาจท�าให้เกิดความเสียหาย ทั้งต่อตนเอง คนรอบข้าง และสังคมได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อสื่อสังคมออนไลน์ที่เข้ามามี บทบาทอย่างมากกับคนในสังคมไทยในทุกเพศ ทุกวัย เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมมีทั้งที่อยู่ในรูปแบบ ของข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือ เสียง เช่น เนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน เนื้อหา เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร เนื้อหาเกี่ยวกับการ คุกคาม เนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวงหรือ ข่มขู่ต่าง ๆ 93 เกร็ดแนะครู ครูอาจจะใหนักเรียนลองชวยกันยกตัวอยางเนื้อหาที่ไมเหมาะสมในรูปแบบ ตางๆ ที่นักเรียนเคยพบเจอระหวางใชงานอินเทอรเน็ตมาประมาณ 6-8 ตัวอยาง ใหครูเขียนแตละตัวอยางลงบนกระดาน เสร็จแลวใหนักเรียนลองชวยกันจัดกลุม ดูวา มีตัวอยางใดบางที่สามารถจัดอยูในกลุมเดียวกันได ขั้นนํา กระตุนความสนใจ ครูถามคําถามสําคัญประจําหัวขอกับนักเรียน เพื่อกระตุนความสนใจวา เมื่อนักเรียนพบวา ระหวางใชงานอินเทอรเน็ตอยู แลวมีขอความ ขึ้นมาวา คุณคือผูโชคดี นักเรียนควรทําอยางไร ขั้นสอน สํารวจคนหา 1. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน เพื่ออภิปราย รวมกันถึงเนื้อหาตางๆ ที่ไมเหมาะสมและ พบเจอในขณะที่ใชงานอินเทอรเน็ต จากนั้น ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนออกมานํา เสนอเกี่ยวกับเนื้อหาตางๆ ที่ไมเหมาะสม และ พบในขณะที่ใชงานอินเทอรเน็ตหนาชั้นเรียน 2. นักเรียนแตละกลุมสืบคนขอมูลจากอินเทอรเน็ต เกี่ยวกับเนื้อหาตางๆ ที่ไมเหมาะสม และพบใน ขณะที่ใชงานอินเทอรเน็ตเพิ่มเติม กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนเขียนรายชื่อเว็บไซตที่นักเรียนใชงานอยูใน ชีวิตประจําวันที่มีชองทางนําไปสูเนื้อหาที่ไมเหมาะสม บนอินเทอรเน็ตที่นักเรียนเคยพบมาคนละ 4-5 เว็บไซต พรอมอธิบายวา มีชองทางนําไปสูเนื้อหาที่ไมเหมาะสมในรูปแบบ ใดบาง และนักเรียนควรปฏิบัติตนอยางไร เมื่อใชงานเว็บไซต ดังกลาว แนวตอบ คําถามสําคัญประจําหัวขอ นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ไมควรคลิกเขาไปชม ควรแจงเจาหนาที่หรือ แจงไปยังผูดูแลเว็บไซต นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T107


1. รูปแบบของเนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน หรือการเสี่ยงโชค มักพบอยู ่ในรูปแบบของ เนื้อหาในการชักจูงบุคคลต่าง ๆ ให้เข้ามาเล่น ภาพที่ 4.11 เว็บไซต์การพนัน โดยแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนที่สูงกับการ ลงทุนที่น้อย หรืออาจเป็นในลักษณะของการ เล่นเพื่อความบันเทิงที่ต้องมีการเสียค่าใช้จ่าย และจะได้ผลตอบแทนกลับมา มีทั้งที่อยู ่บน เว็บไซต์ หรือในสังคมออนไลน์ต่าง ๆ บ่อยครั้ง ที่บุคคลเข้าไปในเนื้อหาที่เกี่ยวกับการพนันโดย ไม่ได้ตั้งใจ อาจจะเป็นการแนะน�าจากเพื่อน ภาพที่ 4.12 ปดกั้นการรับข้อมูลการพนัน • เมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการพนันในระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ต ควรแจ้งผู้ใหญ่ หรือ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ต�ารวจ เจ้าหน้าที่ฝายปกครอง เป็นต้น การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน • ไม่ควรโอนเงินให้ใคร จากเนื้อหา ที่มีการกล่าวอ้างว่าจะมีผลตอบแทนจากเงิน ที่เราโอนไป เพราะจะเข้าข่ายว่าเป็นเนื้อหา เกี่ยวกับการพนัน • เมื่อพบเห็นโฆษณาที่ไม่เหมาะสม หรือเข้าข่ายว่าเป็นการโฆษณาเชิญชวนให้ เข้าไปเล่นการพนัน ไม่ควรคลิกเข้าไปชมควร แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือแจ้งไปยังผู้ดูแลเว็บไซต์ หรือเจ้าของแอปพลิเคชันที่โฆษณานั้น ปรากฏขึ้นมา หรือจากโฆษณาที่มีการแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนต่าง ๆ ที่สูง โดยคนส่วนใหญ่เมื่อเข้าไปแล้ว ก็จะเห็นว่าได้เงินจริง แต่เมื่อมีการเล่นจนติดและเมื่อเสียเงินจะท�าให้อยากได้เงินกลับคืนมา จึงลงทุนเล่นเพิ่มขึ้นอีกท�าให้เสียเงินจ�านวนมากขึ้นเรื่อย ๆ 94 เกร็ดแนะครู ครูอาจจะหาตัวอยางขาวเกี่ยวกับผูกระทําความผิดที่กอคดีตางๆ ที่เกี่ยวของ กับการติดหนี้การพนัน โดยเฉพาะการพนันออนไลนใหนักเรียนไดดูเปนตัวอยาง หลายๆ คดี แลวจึงพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงผลเสียจากการพนันกับนักเรียน เพื่อให เกิดความตระหนักในปญหาและรูจักระวังตัวไมเขาไปเกี่ยวของ กิจกรรม สรางเสริม ขอมูลสาเหตุสําคัญที่คนไทยติดหนี้พนันบอลจากนิดาโพล ป 2560 มีดังนี้ 31% เกิดจากคานิยมที่ชอบเลนการพนัน 26.4% เกิดจากชองทางการพนันที่งายขึ้น 20.21% เจาหนาที่รัฐรับสินบน 10.98% กฎหมายลาสมัย 6.28% มีการถายทอดสดฟุตบอลตลอด 3.68% การวิเคราะหทํานายผลของกูรู ใหนักเรียนแบงเปน 4 กลุม กําหนดเวลา 5 นาที ใหสมาชิกกลุมรวมกันวิเคราะหวา ควรจะ แกปญหาการติดหนี้พนันบอลจากสาเหตุใดเปนอันดับแรก เพราะอะไร และจะมีแนวทางอยางไรในการแกปญหาดังกลาว ใหตัวแทนแตละกลุมออกมานําเสนอหนาชั้นเรียน ขั้นสอน อธิบายความรู 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนออกมา นําเสนอเนื้อหาเพิ่มเติมหนาชั้นเรียน โดย แตละกลุมจะตองนําเสนอเนื้อหาที่พบและ ไมซํ้ากับกลุมอื่นๆ พรอมอภิปรายรวมกันใน ชั้นเรียน 2. ครูอธิบายกับนักเรียนวา เมื่อสังคมออนไลน ที่เขามามีบทบาทอยางมากกับคนในสังคม ไทยในทุกเพศทุกวัย เนื้อหาที่ไมเหมาะสม มีทั้งที่อยูในรูปแบบของขอความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง เชน เนื้อหาเกี่ยวกับ การพนัน เนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร เนื้อหาเกี่ยวกับการคุกคาม เนื้อหาเกี่ยวกับการ หลอกลวงหรือขมขูตางๆ 3. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัยและ ครูใหความรูเพิ่มเติมในสวนนั้น 4. ครูอธิบายรูปแบบเนื้อหาที่เกี่ยวของกับการพนัน ที่แฝงอยูในเว็บไซตตางๆ ใหนักเรียนฟง โดยมีภาพตัวอยางประกอบ และนําขอมูลขาว เกี่ยวกับโทษของการเลนการพนันออนไลนมา นําเสนอใหนักเรียนไดศึกษาตัวอยางผลการ กระทําของผูที่หลงผิดเขาไปใชบริการเว็บไซต ดังกลาว เพื่อเชื่อมโยงใหเห็นโทษของการพนัน จากเหตุการณจริงและการปฏิบัติตนเมื่อพบ เนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน นํา สอน สรุป ประเมิน T108


ขอสอบเนน การคิด ภาพที่ 4.13 เว็บไซต์ลามกอนาจาร ภาพที่ 4.14 ปดกั้นการรับสื่อลามกอนาจาร 2. รูปแบบของเนื้อหาเกี่ยวกับสื่อ ลามกอนาจาร หรือบางครั้งเรียกว่า สื่อส�าหรับ ผู้ใหญ่ มักเป็นสื่อที่มีการแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับ เรื่องเพศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเร้าอารมณ์ ทางเพศ ท�าให้ผู้ที่รับข้อมูลเกิดอารมณ์ทาง เพศได้ง่าย เนื้อหาข้อมูลจะถูกส่งมาในรูปแบบ ของภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางเพศต ่าง ๆ ที่เป็นของเทียม เนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารมักถูกแสดง อยู่ในรูปของเว็บไซต์และสื่อโฆษณา ซึ่งปัญหา • เมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามก อนาจาร ควรแจ้งผู้ใหญ ่ หรือเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ต�ารวจ เจ้าหน้าที่ ฝายปกครอง เป็นต้น • ควรติดตั้งโปรแกรมในการบล็อก เว็บไซต์ที่แปลกปลอม หรือแอปพลิเคชันที่ มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม • ควรตั้งค่าความปลอยภัยในโปรแกรม หรือระบบปฏิบัติการเพื่อไม่ให้เข้าถึงเนื้อหา ที่ไม่เหมาะสม การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร ของสื่อลามกอนาจารบ่อยครั้งอาจจะน�าไปสู่ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ที่ผิดต่อศีลธรรมได้ 95 ขอสอบเนน การคิด จับกุมเจาของเว็บไซตลามกอนาจารเด็ก สารภาพทํามาแลว 1 ป มีรายไดจากการขายโฆษณาเว็บไซตพนันบอล จากขอความ พาดหัวขาวขางตน นักเรียนคิดวา เว็บไซตดังกลาวมีการนําเสนอ รูปแบบเนื้อหาที่ไมเหมาะสมในรูปแบบใดบาง 1. เนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร 2. เนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารและการพนัน 3. เนื้อหาเกี่ยวกับการพนันและการคุกคามหรือการขมขู 4. เนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารและการคุกคาม หรือการขมขู (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา จาก ตัวอยางในโจทยเว็บไซตดังกลาวถือเปนสื่อลามกอนาจาร สวน โฆษณาในเว็บไซตเกี่ยวของกับการพนัน ดังนั้น ตอบขอ 2.) เกร็ดแนะครู ครูอาจจะหาตัวอยางขาวเกี่ยวกับการจับกุมผูกระทําความผิดคดีเกี่ยวกับ สื่อลามกอนาจารมาใหนักเรียนไดศึกษาจากขาวจริง โดยใหมีการแสดงความ คิดเห็น หาแนวทางในการระวังปองกันตนเองและคนใกลชิดจากการเขาไป เกี่ยวของกับเนื้อหาที่ไมเหมาะสมจนอาจจะกลายเปนเหยื่อหรือเปนผูกระทํา ความผิดคดีเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารในภายหลังได ขั้นสอน อธิบายความรู 5. ครูอธิบายรูปแบบเนื้อหาที่เกี่ยวของกับสื่อ ลามกอนาจารที่แฝงอยูในเว็บไซตตางๆ ให นักเรียนฟง โดยนําขาวเกี่ยวกับโทษของการ เขาไปยุงเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารมานําเสนอ ใหนักเรียนไดศึกษาตัวอยางผลการกระทําของ ผูที่หลงผิดเขาไปใชบริการเว็บไซตดังกลาว หรือเปนผูเผยแพร เพื่อเชื่อมโยงใหเห็นโทษ ของสื่อลามกอนาจารจากเหตุการณจริง และ การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามก อนาจาร นํา สอน สรุป ประเมิน T109


ขอสอบเนนการคิด 3. รูปแบบของเนื้อหาเกี่ยวกับการ หลอกลวง การเติบโตของสื่อสังคมออนไลน์ หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน เช่น เฟซบุก ไลน์ ทวิตเตอร์ เว็บบล็อก ท�าให้คน ในสังคมสามารถท�าความรู้จักกัน และเปดเผย ข้อมูลส่วนตัวได้ง่ายทั้งรูปภาพ วิดีโอของตนเอง มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และความสนใจ ร ่วมกัน และมีการสร้างเป็นกลุ ่มคนหรือ เครือข ่ายของชุมชนเพื่อวัตถุประสงค์ต ่าง ๆ มากมาย เช ่น เพื่อการศึกษา เพื่อการค้า เพื่อการเมือง เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยในสิ่งที่ คิดเห็นเหมือนกันหรือต ่างกันก็ตาม โดยลืมตระหนักไปว ่าข้อมูลส ่วนตัวที่ได้เปดเผยไปนั้น กลุ ่มบุคคลที่อยู ่ในเครือข ่ายที่ไม ่ประสงค์ดีอาจน�าข้อมูลของเราไปใช้ เพื่อหาช ่องในการ เข้ามาหลอกลวงท�าให้เกิดความเสียหายแก่ตนเองหรือน�าไปหลอกลวงผู้อื่นได้ เช่น หลอกลวง ให้โอนเงิน หลอกลวงให้ร่วมลงทุน หลอกลวงให้ออกมาพบปะและกระท�าการไม่สมควรกับตัวเรา รวมถึงครอบครัว ภาพที่ 4.15 เว็บไซต์หลอกลวง ภาพที่ 4.16 ปดกั้นการรับสื่อข้อมูลที่หลอกลวง • ไม่เปดเผยข้อมูลส่วนตัวให้เป็น สาธารณะ • เมื่อมีใครบอกให้โอนเงิน ร่วมลงทุน หรือนัดเจอ ควรรีบแจ้งหรือปรึกษาผู้ใหญ่ ทันที • ไม ่ควรเขียนข้อความที่บ ่งบอก ถึงความเป็นตัวตนของเรา หรือเกี่ยวกับ ครอบครัวของเราต่อสาธารณะ การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวง 96 สาวหนาตาดีโรแจงความ ถูกหนุมหลอปลอมโพรไฟล อางเปน เจาของธุรกิจ มีรถหรูขับ แชตลวงชวนรวมลงทุนกอนหลอกให โอนเงิน พบเหยื่อกวา 100 ราย สูญเงินกวา 2 แสน จากขอความพาดหัวขาวขางตน นักเรียนคิดวา มีความเกี่ยวของ กับรูปแบบเนื้อหาที่ไมเหมาะสมรูปแบบใด 1. เนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน 2. เนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวง 3. เนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร 4. เนื้อหาเกี่ยวกับการคุกคามหรือการขมขู (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา จากตัวอยางในโจทยคนรายใชวิธีการปลอมแปลงขอมูลใหนาเชื่อถือ จนเหยื่อหลงเชื่อ แลวจึงชักชวนลงทุนเพื่อทําการฉอโกง เปนการ สรางเนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวง ดังนั้น ตอบขอ 2.) เกร็ดแนะครู ครูอาจจะหาตัวอยางขาวเกี่ยวกับผูกระทําความผิดคดีหลอกลวงผูอื่น ใหเสียทรัพย การปลอมแปลงขอมูลทําใหเกิดความเสียหายมาใหนักเรียน ไดศึกษาจากขาวจริง และใหมีการแสดงความคิดเห็น หาแนวทางในการระวัง ปองกันตนเองและคนใกลชิดจากการเขาไปเกี่ยวของกับเนื้อหาที่ไมเหมาะสม จนอาจจะกลายเปนเหยื่อหรือเปนผูกระทําความผิดคดีหลอกลวงผูอื่นให เสียทรัพยในภายหลังได ขั้นสอน อธิบายความรู 6. ครูอธิบายรูปแบบเนื้อหาที่เกี่ยวของกับการ หลอกลวงที่แฝงอยูในเว็บไซตตางๆ ให นักเรียนฟง โดยมีเว็บไซตตัวอยางใหดู และ นําขอมูลจากขาวที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการหลอก ลวงรูปแบบตางๆ มานําเสนอใหนักเรียนได ศึกษาขอมูลจากผูกระทําการหลอกลวงและ ผูที่ตกเปนเหยื่อ เพื่อเชื่อมโยงใหเห็นโทษของ สื่อลามกอนาจารจากเหตุการณจริง และการ ปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวง นํา สอน สรุป ประเมิน T110


ขอสอบเนน การคิด 4. รูปแบบของเนื้อหาเกี่ยวกับการ คุกคามหรือการข่มขู่ ถือเป็นปัญหาหนึ่ง ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ใช้งาน คอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก นอกจากจะสร้าง ความเดือดร้อนและความร�าคาญแล้ว ก็ยังมี ผลกระทบถึงสิทธิส ่วนบุคคล รวมถึงความ เป็นอยู่ในชีวิตประจ�าวัน ทั้งจิตใจและอารมณ์ ทรัพย์สิน ตลอดจนร่างกายและชีวิต ซึ่งอาจ น�าไปสู ่ปัญหาอาชญากรรมต ่าง ๆ ได้ โดย การคุกคามหรือข ่มขู ่ส ่งมาในรูปแบบที่เป็น ข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง ภาพที่ 4.17 เว็บไซต์คุกคามหรือข่มขู่ โดยการใช้ระบบออนไลน์ เช่น อีเมล (E-mail) เว็บบอร์ด (Web Board) ห้องสนทนา (Chat Room) หรือผ่านสื่อสังคมออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ ซึ่งรูปแบบในการคุกคามอาจจะเป็นการคุกคามต่อผู้ใช้ โดยตรง หรือการคุกคามโดยการยุยง ปลุกปันต่อบุคคลที่สามก็ได้ ภาพที่ 4.18 ปดกั้นการรับสื่อข้อมูลที่คุกคามหรือข่มขู่ • ไม่เปดอ่านอีเมลใด ๆ ที่ไม่รู้จักหรือ ระบุตัวตนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงจากคนที่ไม่รู้จัก • เมื่อมีการพูดคุยกับบุคคลอื่นผ่าน เว็บบอร์ด หรือห้องสนทนา กรณีมีการถามถึง ข้อมูลส่วนตัว ครอบครัว หรือคนรู้จัก ให้ หยุดพูดคุยทันที • เมื่อมีข้อความใด ๆ ที่คิดว่าเป็นการ คุกคาม ข่มขู่ ให้รีบแจ้งผู้ใหญ่ หรือเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ต�ารวจ เจ้าหน้าที่ ฝายปกครอง เป็นต้น การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการขมขู 97 ขั้นสรุป ตรวจสอบผล 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการ ตอบคําถาม การนําเสนอหนาชั้นเรียน การทํา กิจกรรมกลุม และการทําใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกตองของการทําใบงาน 3. นักเรียนและครูรวมกันสรุปเกี่ยวกับการปฏิบัติ ตนเมื่อพบเนื้อหาตางๆ ที่ไมเหมาะสมจากการ ใชงานอินเทอรเน็ต ขั้นประเมิน ตรวจสอบผล ตารางการวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑการประเมิน ตรวจใบงาน ใบงาน รอยละ 60 ผานเกณฑ ประเมิน การนําเสนอ ผลงาน แบบประเมิน การนําเสนอ ผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางาน รายบุคคล แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางานกลุม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ ขยายความเขาใจ ครูใหนักเรียนทําใบงาน เรื่อง การปฏิบัติตน เมื่อพบเนื้อหาที่ไมเหมาะสม แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตการนําเสนอผลงาน พฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และการทํางานกลุมของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก แบบประเมินการนําเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และแบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุมที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูที่ 4 หนวยการเรียนรูที่ 4 การรังแกในพื้นที่ไซเบอรของวัยรุนหญิงไทยพบวา วัยรุน หญิงไทยเคยถูกรังแกในพื้นที่ไซเบอรรอยละ 45.4 ซึ่งแบงเปน การรังแกในลักษณะการโจมตีขมขูออนไลนรอยละ 41.4 ถูกคุกคาม ทางเพศออนไลนรอยละ 5.3 และถูกบันทึกและเผยแพรขอมูล ออนไลนในลักษณะใหรายรอยละ 16.3 จากขอความขางตน นักเรียนคิดวามีความเกี่ยวของกับรูปแบบเนื้อหาที่ไมเหมาะสม รูปแบบใด และนักเรียนจะมีวิธีการปฏิบัติตนอยางไรเมื่อพบเจอ สถานการณนั้น (วิเคราะหคําตอบ จากตัวอยางในโจทยการถูกรังแกในพื้นที่ ไซเบอรผานการใชเทคโนโลยีเปนลักษณะของเนื้อหาเกี่ยวกับการ คุกคามหรือการขมขู การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาที่ไมเหมาะสม ดังกลาว คือ ใหรีบแจงผูใหญหรือเจาหนาที่ที่เกี่ยวของ) แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง:ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วิธีการน าเสนอผลงาน 4 การน าไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การท างานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง ขั้นสอน อธิบายความรู 7. ครูอธิบายรูปแบบเนื้อหาที่เกี่ยวกับการคุกคาม หรือการขมขูที่แฝงอยูในสื่อสังคมออนไลน และการปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการ คุกคามหรือการขมขู นํา สอน สรุป ประเมิน T111


ขอสอบเนนการคิด 3 ความรับผิดชอบตอการใชงาน เทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันมีทั้ง การใช้งานเพื่องานส่วนตัว หรือใช้งานเพื่อส่วนรวม และ ขณะใช้งานมีทั้งการใช้งานโดยตัวเราคนเดียว หรือการ ใช้งานร่วมกับบุคคลอื่น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบใดหรือลักษณะใดก็ตามล้วนแล้ว แต่ต้องมีจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งสิ้น คือ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อบุคคลอื่น และต่อสังคม เมื่อตองใชคอมพิวเตอร รวมกับผูอื่น จะตองทํา อยางไร เพื่อรักษาความ เปนสวนตัว และไมสราง ความเดือดรอนตอสวนรวม ภาพที่ 4.19 การใช้เทคโนโลยีร่วมกับบุคคลอื่น ภาพที่ 4.20 การใช้งานเทคโนโลยีส่วนบุคคล Log in และ Password เป็นสิ่งส�าคัญในการระบุตัวตนเพื่อใช้งานในส่วนที่ต้องการปกปด ข้อมูลส่วนตัว หรือท�าธุรกรรมทางการเงินทางอินเทอร์เน็ต ดังนั้น รหัสที่ใช้ในส่วน Log in และ Password ต้องเป็นความลับอย่างยิ่ง ซึ่งยากต่อการจดจ�า หรือคาดเดาได้และควรจดจ�าได้แค ่เพียงเจ้าตัวคนเดียว เท่านั้น โดยไม่ท�าการบันทึกหรือเขียนทิ้งไว้ และหมั่นเปลี่ยน รหัสอยู่เสมอ และสิ่งที่ส�าคัญที่สุดที่เป็นความลับมาก เช่น การ ท�าธุรกรรมทางการเงิน ไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่เป็นสาธารณะ Com Sci Focus Log in áÅÐ Password 98 เกร็ดแนะครู ครูอาจจะลองสํารวจขอมูลจากนักเรียน และใหนักเรียนออกมาเลา ประสบการณการถูกละเมิดขอมูลสวนบุคคล เชน การถูกเปลี่ยนรหัสอีเมล ให เพื่อนรวมชั้นฟง 2-3 คน แลวใหพูดถึงแนวทางการปองกันการถูกละเมิด และ การไมไปทําการละเมิดขอมูลสวนบุคคลของผูอื่นดวย ขั้นนํา กระตุนความสนใจ ครูถามคําถามสําคัญประจําหัวขอกับนักเรียนวา เมื่อตองใชคอมพิวเตอรรวมกับผูอื่น จะตอง ทําอยางไร เพื่อรักษาความเปนสวนตัวและไมสราง ความเดือดรอนตอสวนรวม ขั้นสอน สํารวจคนหา 1. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน เพื่อพูดคุย กันถึงความรับผิดชอบตอตนเองเมื่อมีการใช เทคโนโลยีสารสนเทศ แตละกลุมสงตัวแทน ออกมานําเสนอเกี่ยวกับความรับผิดชอบตอ ตนเองเมื่อมีการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ พรอมอภิปรายรวมกันในหองเรียน 2. นักเรียนศึกษาความรูเสริม (Com Sci Focus) จากเนื้อหาเพื่อขยายความรูของผูเรียน เรื่อง Log in และ Password 3. นักเรียนศึกษาความรับผิดชอบตอตนเองเมื่อ ใชเทคโนโลยีสารสนเทศ จากหนังสือเรียน ขอใดเปนขอควรปฏิบัติเมื่อตองใชเครื่องคอมพิวเตอรของผูอื่น 1. ติดตั้งโปรแกรมใหมๆ ใหเพื่อน 2. เขาไปลบไฟลขยะในอีเมลใหเพื่อน 3. เปลี่ยนรหัสผานเขาเครื่องคอมพิวเตอรใหจดจําไดงาย 4. หากจําเปนตองเขาสูระบบอีเมล ตองไมใหเครื่องคอม พิวเตอรจดจํารหัสผานของเรา (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา ใน การใชงานเครื่องคอมพิวเตอรของผูอื่นไมควรเขาไปยุงกับแฟม ขอมูลของเจาของเครื่องคอมพิวเตอรหรือทําอะไรโดยที่ไมไดรับ อนุญาตจากเจาของเครื่องคอมพิวเตอร และหากจําเปนตองเขาสู ระบบอีเมล ไมควรใหเครื่องคอมพิวเตอรจดจํารหัสผานของเรา ดังนั้น ตอบขอ 4.) แนวตอบ คําถามสําคัญประจําหัวขอ นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดย คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ตอง มีจริยธรรมและความรับผิดชอบตอการใชงาน เทคโนโลยีสารสนเทศ ตอตนเอง บุคคลอื่น และ สังคม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T112


ขอสอบเนน การคิด 1. ความรับผิดชอบต่อตนเองเมื่อใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นสิ่งที่พึงควรกระท�า เพื่อ ปองกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือส่งผลกระทบที่ท�าให้ผู้อื่นเดือดร้อน และตระหนักถึงความ รับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองได้กระท�าไประหว่างการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศด้วย ภาพที่ 4.21 การใช้รหัสผ่านเข้าระบบตนเองเพียงคนเดียว ตัวอย่างความรับผิดชอบต่อตนเองที่เราสามารถท�าได้ เช่น • ใช้งานบัญชีผู้ใช้เฉพาะของตนเองเท่านั้น การมีบัญชีในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการระบุตัวตนของตนเองในการติดต่อสื่อสาร ดังนั้น เราจ�าเป็นต้องมีความรับผิดชอบที่จะไม่ พยายามเข้าไปใช้งานบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บัญชีของตนเอง • ไม่ติดตั้ง หรือใช้ซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมาย เมื่อต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์แล้วจ�าเป็น ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทางในคอมพิวเตอร์ ไม่ควรน�าซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมายมาติดตั้งลงบน คอมพิวเตอร์ซึ่งจะท�าให้เสี่ยงต่อการติดไวรัสหรือติดสแปมได้ • ไม่แจกจ่ายข้อมูลส่วนตัวในรูปแบบใด ๆ ให้บุคคลอื่นที่ไม่ต้องการ การส่งข้อมูลไปยัง บุคคลอื่นที่ไม่รู้จัก และผู้รับไม่ได้ต้องการข้อมูลนั้น เป็นการสร้างความร�าคาญแก่ผู้อื่นและยัง เป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคลด้วย • ไม่แสดง หรือไม่เข้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ควรตั้งค่าเพื่อบล็อกเว็บไซต์ ดังกล่าวเอาไว้ • หมั่นตรวจสอบ ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เป็นสิ่งที่เจ้าของควรกระท�าเพื่อจะได้ทราบถึงสิ่งผิดปกติจะได้รีบแก้ไขเบื้องต้นไว้ก่อน 99 ขอใดจัดวาเปนผูมีความรับผิดชอบตอตนเองในการใช เทคโนโลยี 1. โจทดลองใชบริการเว็บไซตพนันบอลออนไลน 2. จาสรางบัญชีไมระบุตัวตนเอาไวคุยกับคนที่ไมรูจัก 3. เจมสติดตั้งโปรแกรมปองกันเว็บไซตที่มีเนื้อหาไมเหมาะสม 4. จอมติดตั้งซอฟตแวรเถื่อนลงในเครื่องคอมพิวเตอรของ ตนเอง (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา การติดตั้งโปรแกรมปองกันเว็บไซตที่มีเนื้อหาไมเหมาะสม จัดเปน ความรับผิดชอบตอตนเองในการใชเทคโนโลยี ดังนั้น ตอบขอ 3.) เกร็ดแนะครู ครูอาจจะสอนแนวทางและขั้นตอนการแกปญหากรณีการถูกแอบอาง นํารูปหรือขอมูลสวนตัวไปใชใหกับนักเรียน เชน การรีพอรตเฟซบุก การสราง แฟนเพจปลอม วิธีการปองกันไมใหคนอื่นมาทําการคัดลอกรูปภาพในโซเชียล ของเราไปใช เชน การตั้งคาความเปนสวนตัวในโซเชียล การทําลายนํ้าบนรูปภาพ ขั้นสอน สํารวจคนหา 4. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน (กลุมเดิม) เพื่อพูดคุยกันถึงความรับผิดชอบตอบุคคลอื่น และตอสังคมเมื่อมีการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยนักเรียนศึกษาเนื้อหาจากหนังสือเรียนหรือ สืบคนเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 5. นักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอเกี่ยวกับ ความรับผิดชอบตอบุคคลอื่นและตอสังคม พรอมอภิปรายรวมกันในชั้นเรียน อธิบายความรู 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรับผิดชอบ ตอการใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศวา ผูใช คอมพิวเตอรควรมีจรรยาบรรณในการใชงาน ดังนี้ ตองไมใชคอมพิวเตอรทํารายหรือละเมิด ผูอื่น ตองไมรบกวนการทํางานของผูอื่น ตองไม สอดแนมหรือเปดดูแฟมขอมูลของผูอื่น ตองไม ใชคอมพิวเตอรเพื่อการโจรกรรมขอมูลขาวสาร ตองไมใชคอมพิวเตอรสรางหลักฐานที่เปนเท็จ ตองไมคัดลอกโปรแกรมผูอื่นที่มีลิขสิทธิ์ นํา สอน สรุป ประเมิน T113


ขอสอบเนนการคิด 2. ความรับผิดชอบต่อบุคคลอื่นเมื่อใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นสิ่งที่ควรกระท�าในการใช้ ชีวิตร่วมกับบุคคลอื่น เช่น ผู้ร่วมงาน ครอบครัว เพื่อน เป็นต้น เป็นการให้ความเคารพต่อสิทธิ ของแต่ละคน ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรกระท�า คือ การกระท�าที่เป็นการคุกคาม สร้างความร�าคาญแก่ผู้อื่น อันเปรียบได้กับมารยาททางสังคมที่บุคคลพึงกระท�า ตัวอย่างความรับผิดชอบต่อบุคคลอื่นที่เราสามารถท�าได้ เช่น • ไม่พยายามที่จะใช้งานบัญชีผู้ใช้ของบุคคลอื่น เมื่อพบเจอว่ามีคนลืมออกจากระบบ คอมพิวเตอร์ที่ก�าลังใช้งาน ควรแจ้งให้เจ้าของบัญชีได้ทราบเพื่อให้เจ้าของบัญชีได้ท�าการออกจาก ระบบการใช้งานก่อน • ไม่คัดลอก หรือน�าเสนอผลงานของผู้อื่นที่ไม่ใช่ของตนเอง สิ่งที่เราน�าลงไปในเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่ต้องมาจากการคิดเองหรือท�าขึ้นมาเอง ไม่ควรคัดลอกผลงานผู้อื่นแล้วแอบอ้างเป็นของ ตนเอง • ไม่เปลี่ยนแปลง ย้าย หรือลบไฟล์ของผู้อื่น เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันย่อมต้องมีงาน หลาย ๆ คนรวมอยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ซึ่งไม่ควรที่จะเปดเข้าไปในพื้นที่ของคนอื่น • ไม่ข่มขู่ คุกคาม หลอกลวงผู้อื่นด้วยข้อมูลใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านสื่อสังคม ออนไลน์ ไม่แสดงสิ่งที่ท�าให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือกระท�าด้วยความคึกคะนอง • ไม่ส่งอีเมลที่ไม่เหมาะสม ไม่ส่งสิ่งที่อาจเกิดอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ หรือสแปม ให้กับบุคคลอื่น ควรมีการพูดคุยตกลงกันก่อนในการส่งข้อมูลไปสู่ผู้รับ ภาพที่ 4.22 การไม่แอบดูหรือใช้งานรหัสผ่านของผู้อื่น 100 ขอใดจัดวาเปนผูมีความรับผิดชอบตอบุคคลอื่นในการใชเทคโนโลยี 1. บอลสงสแปมเมลใหเพื่อน 2. บีมพยายามโจรกรรมรหัสผานอีเมลของเพื่อนสนิท 3. บาสทําการออกจากระบบบัญชีใหเพื่อนที่ลืมออกจากระบบ 4. โบคัดลอกภาพถายของเบนซไปโพสตและอางวาเปนผลงาน ของตน (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา บาส ทําการออกจากระบบบัญชีใหเพื่อนที่ลืมออกจากระบบ โดยที่ไม แอบดูบัญชีของเพื่อน และชวยไมใหเพื่อนถูกแอบดูบัญชี เปนการ แสดงความรับผิดชอบตอบุคคลอื่นในการใชเทคโนโลยี ดังนั้น ตอบขอ 3.) ขั้นสอน อธิบายความรู 2. ครูอธิบายตัวอยางความรับผิดชอบตอบุคคลอื่น เมื่อใชเทคโนโลยีที่นักเรียนสามารถทําได เชน ไมใชงานบัญชีของเพื่อนที่ลืมออกจาก ระบบ ไมลบไฟลงานของเพื่อนที่อยูบนเครื่อง คอมพิวเตอรของโรงเรียน ขยายความเขาใจ 1. นักเรียนทําใบงาน เรื่อง ความรับผิดชอบตอ การใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ครูสุมนักเรียน 2-3 คน ออกมานําเสนอหนา ชั้นเรียน พรอมกับอภิปรายรวมกันในหองเรียน 3. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย และ ครูใหความรูเพิ่มเติมในสวนนั้น เกร็ดแนะครู ครูอาจจะหาตัวอยางขาวเกี่ยวกับผูกระทําความผิดคดีเกี่ยวกับการปลอมแปลง ขอมูลบนโซเชียลมาใหนักเรียนไดศึกษาจากขาวจริง และใหมีการแสดงความ คิดเห็น สรุปพฤติกรรมที่ควรและไมควรกระทําในการแสดงความรับผิดชอบ ตอบุคคลอื่นเมื่อใชเทคโนโลยีสารสนเทศ นํา สอน สรุป ประเมิน T114


3. ความรับผิดชอบต่อสังคมเมื่อใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นความรับผิดชอบทั้งในระดับ บุคคลและองค์กร เป็นสิ่งที่ทุกคนพึงมีและต้องปฏิบัติ ไม่ว่าจะต้องไปปฏิบัติงาน ประกอบอาชีพ รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสังคม ภาพที่ 4.23 มีความซื่อสัตย์ต่องานที่ได้รับมอบหมาย ไม่เปดรับหรือส่งต่อข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต ตัวอย่างความรับผิดชอบต่อสังคมที่เราสามารถท�าได้ เช่น • ไม่พยายามเข้าถึงเครือข่ายใด ๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือปกปดซ่อนเร้นข้อมูลที่จะ ต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่สังกัดอยู่ • ปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือข้อบังคับขององค์กรในการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ เคารพการใช้กฎระเบียบร่วมกับผู้อื่น • ไม่เปดอีเมล ไฟล์ หรือโปรแกรมที่ได้รับมาจากแหล่งที่ไม่รู้จัก เพราะอาจมีไวรัสหรือ สแปมที่มีผลกระทบต่อระบบขององค์กร • ไม่น�าข้อมูลสารสนเทศขององค์กรไปเผยแพร่ เพราะข้อมูลทุกอย่างถือเป็นข้อมูลของ องค์กรที่ไม่ให้มีการน�าออกไปสู่บุคคลภายนอก หรือไม่น�าออกจากองค์กรก่อนได้รับอนุญาต • ไม่พยายามเจาะระบบ เข้าสู่ระบบงาน ขโมย คัดลอก โอนย้าย หรือแก้ไข ปลอมแปลง ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต จรรยาบรรณในการเขียนบล็อก 101 ขั้นสรุป ตรวจสอบผล 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบ คําถาม การนําเสนอหนาชั้นเรียน การทํา กิจกรรมกลุม และการทําใบงาน 2. ครูตรวจสอบความถูกตองของการทําใบงาน 3. นักเรียนและครูรวมกันสรุปเกี่ยวกับความ รับผิดชอบตอการใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ขั้นสอน ขยายความเขาใจ 4. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางความรับผิดชอบ ตอสังคมเมื่อใชเทคโนโลยีเพิ่มเติม โดยให สแกน QR Code เรื่อง จรรยาบรรณในการ เขียนบล็อก จากหนังสือเรียน โดยใหนักเรียน สรุปประเด็นสําคัญที่ไดดูคลิปวิดีโอลงในสมุด กิจกรรม สรางเสริม ครูแบงกลุมนักเรียนเปนเลขคูจํานวน 4 หรือ 6 กลุม ตามความ เหมาะสม ใหเวลา 5 นาที โดยใหกลุมเลขคี่ชวยกันคิดพฤติกรรม ที่ควรปฏิบัติในการใชงานเครื่องคอมพิวเตอรของโรงเรียน สวน กลุมเลขคูชวยกันคิดพฤติกรรมที่ไมควรปฏิบัติในการใชงานเครื่อง คอมพิวเตอรของโรงเรียน แลวออกมานําเสนอ โดยคุณครูเปนผูชวย สรุปขอมูลบนกระดาน แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตการนําเสนอผลงาน พฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และการทํางานกลุมของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก แบบประเมินการนําเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และแบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุมที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูที่ 4 หนวยการเรียนรูที่ 4 ขั้นประเมิน ตรวจสอบผล ตารางการวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑการประเมิน ตรวจใบงาน ใบงาน รอยละ 60 ผานเกณฑ ประเมิน การนําเสนอ ผลงาน แบบประเมิน การนําเสนอ ผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางาน รายบุคคล แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางานกลุม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง:ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วิธีการน าเสนอผลงาน 4 การน าไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การท างานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T115


ขอสอบเนนการคิด 4 ทรัพยสินทางปญญา ทรัพยสินทางปญญา คือ ผลงานอันเกิดจากความคิด สร้างสรรค์ของมนุษย์ เป็นทรัพย์สินอีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือ จากสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น นาฬกา รถยนต์ เป็นต้น และอสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น บ้าน ที่ดิน 4.1 ประเภทของทรัพยสินทางปญญา 1. ลิขสิทธิ์ คือ สิทธิแต่ผู้เดียวที่กฎหมายรับรองให้ผู้สร้างสรรค์กระท�าการใด ๆ เกี่ยวกับ งานที่ได้ท�าขึ้น อันได้แก่ สิทธิที่จะท�าซ�้า ดัดแปลง หรือน�าออกโฆษณา กฎหมายลิขสิทธิ์ได้ให้ ความคุ้มครองถึงสิทธิของผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านเทคโนโลยี มีอายุการคุ้มครอง 50 ป หลัง ผู้สร้างสรรค์คนสุดท้ายเสียชีวิต โดยเป็นการให้ความคุ้มครองอัตโนมัติแก่ทายาทด้วย 1) ประเภทของงานที่มีลิขสิทธิ์ กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์ 9 ประเภทตามที่กฎหมายก�าหนด ได้แก่ • งานวรรณกรรม เช่น หนังสือ จุลสาร สิ่งเขียน สิ่งพิมพ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ • งานนาฏกรรม เช่น งานที่เกี่ยวกับการร�า การเต้น การท�าท่า • งานศิลปกรรม เช่น งานจิตรกรรม งานประติมากรรม ภาพพิมพ์ งานสถาปัตยกรรม • งานดนตรีกรรม เช่น ค�าร้อง ท�านอง การเรียบเรียงเสียงประสาน • งานสิ่งบันทึกเสียง เช่น เทปเพลง ซีดี • งานโสตทัศนวัสดุ เช่น วิดีโอ เทป วีซีดี ดีวีดี แผ่นเลเซอร์ดิสก์ที่บันทึกข้อมูล • งานภาพยนตร์ เช่น ภาพยนตร์ รวมทั้งเสียงประกอบของภาพยนตร์ • งานแพร่เสียงแพร่ภาพ เช่น การกระจายเสียงวิทยุ หรือ ภาพทางโทรทัศน์ • งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือ แผนกศิลปะ นักเรียนอยากสรางสิ่งใด ที่จะเปนลิขสิทธิ์ของตนเอง บาง เพราะเหตุใดจึงตอง มีลิขสิทธิ์เปนของตนเอง ภาพที่ 4.24 งานแกะสลักไม้ 102 เกร็ดแนะครู นอกจากการขอลิขสิทธิ์แลว ครูอาจจะใหความรูเกี่ยวกับขั้นตอนการ ขออนุญาตใชลิขสิทธิ์จากเจาของที่ถูกตอง หรือการใหเครดิตรูปภาพที่นํามา ใชงาน การอางอิงขอมูลความรูจากตนฉบับ และใหนักเรียนไดทดลองทํากิจกรรม จําลองเพื่อใหเขาใจขั้นตอนตางๆ ไดมากขึ้นดวย ขั้นนํา กระตุนความสนใจ 1. ครูถามคําถามสําคัญประจําหัวขอวา นักเรียน อยากสรางสิ่งใดที่จะเปนลิขสิทธิ์ของตนเอง บางหรือไม และเพราะเหตุใดจึงตองมีลิขสิทธิ์ เปนของตนเอง 2. ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงเขาสูบทเรียนวา ทรัพยสิน ทางปญญา คือ ผลงานอันเกิดจากความคิด สรางสรรคของมนุษย เปนทรัพยสินอีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือจากสังหาริมทรัพย คือ ทรัพยสินที่ สามารถเคลื่อนยายได เชน นาฬกา รถยนต และอสังหาริมทรัพย คือ ทรัพยสินที่ไมสามารถ เคลื่อนยายได เชน บาน ที่ดิน ขั้นสอน สํารวจคนหา 1. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน เพื่ออภิปราย รวมกันถึงประเภทของงานตางๆ ที่จําเปนตอง มีการจดลิขสิทธิ์ซึ่งกฎหมายลิขสิทธิ์ใหความ คุมครองแกงานสรางสรรค 9 ประเภท ตามที่ กฎหมายกําหนด แนวตอบ คําถามสําคัญประจําหัวขอ นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ไดสิทธิ์ความเปนเจาของผลงานตางๆ เพื่อปองกัน การคัดลอก ทําซํ้า หรือดัดแปลง โปรแกรมคอมพิวเตอร ถือเปนงานลิขสิทธิ์ประเภทใด 1. งานนาฏกรรม 2. งานศิลปกรรม 3. งานวรรณกรรม 4. งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร หรือ แผนกศิลปะ (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา โปรแกรมคอมพิวเตอรเปนงานที่มีลิขสิทธิ์ประเภทงานวรรณกรรม ดังนั้น ตอบขอ 3.) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T116


ขอสอบเนน การคิด 2) การไดมาซึ่งสิทธิ์ สิทธิในลิขสิทธิ์จะเกิดขึ้นโดยทันทีนับตั้งแตผูสรางไดสรางสรรค ผลงานเสร็จโดยไมตองจดทะเบียน ดังนั้น เจาของลิขสิทธิ์จึงควรปกปองคุมครองสิทธิของตนเอง ภาพที่ 4.25 การสรางสรรคผลงานเพื่อจดเปนลิขสิทธิ์ in Real Life Com Sci Com Sci o_O ปจจุบันประเทศไทยมีหนวย งานที่ทําหนาที่ดูแลรับผิดชอบ เกี่ยวกับทรัพยสินทางปญญา และใหคําปรึกษา แนะนําแกผูที่ สรางสรรคผลงานจดเปนลิขสิทธิ์ ของตนเอง คือ กรมทรัพยสิน ทางปญญา (Department of Intellectual Property: DIP) โดยมีภาระกิจสําคัญ ไดแก การ ใหความคุมครองทรัพยสินทาง ปญญาและสงเสริมการปกปอง สิทธิในทรัพยสินทางปญญาทั้ง ในประเทศและตางประเทศ โดยการเก็บรวบรวมหลักฐานตาง ๆ ที่แสดงวา ไดทําการสรางสรรคผลงานนั้นขึ้นเพื่อประโยชน ในการพิสูจนสิทธิหรือความเปนเจาของใน โอกาสตอไป 3) เจาของลิขสิทธิ์ คือ ผูที่มีสิทธิ ในการจัดการกับงานลิขสิทธิ์ของตนเอง ไดแก บุคคลดังตอไปนี้ ผูสรางสรรคผลงาน ผูสรางสรรคในฐานะพนักงานหรือลูกจาง ผูวาจาง ในกรณีวาจางใหบุคคลอื่นใหเปนคนสรางสรรค งาน ผูดัดแปลง กระทรวง ทบวง กรม หนวย งานของรัฐหรือทองถิ่น และผูรับโอนลิขสิทธิ์ 4) เอกสารที่ใชประกอบการแจงขอมูลลิขสิทธิ์ • สําเนาบัตรประชาชน พรอมรับรองสําเนา ถูกตอง (กรณีเปนบุคคลธรรมดา) • สําเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลที่นายทะเบียน ออกใหไมเกิน 6 เดือนของเจาของลิขสิทธิ์ (กรณีเปนนิติบุคคล) • หนังสือมอบอํานาจ พรอมสําเนาบัตรประชาชน ของผูรับมอบอํานาจ (รับรองสําเนาถูกตอง) • ผลงานหรือภาพถายงานลิขสิทธิ์ จํานวน 1 ชุด ของเจาของสิทธิ (กรณีเปนนิติบุคคล) • หนวยงานหรือองคกรของรัฐบาลใชสําเนา หนังสือแตงตั้งผูบริหารหนวยงานหรือองคกร รวมทั้งสําเนาบัตร ประชาชนของผูยื่นคําขอ (รับรองสําเนาถูกตอง) 103 ขั้นสอน สํารวจคนหา 2. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนมานําเสนอ เกี่ยวกับงานประเภทตางๆ ที่ตองมีการจด ลิขสิทธิ์ พรอมอภิปรายรวมกันภายในชั้นเรียน 3. นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือเรียน เกี่ยวกับการไดมาซึ่งสิทธิ์ เจาของสิทธิ์ เอกสาร ใชประกอบการแจงขอมูลลิขสิทธิ์ และประโยชน ของลิขสิทธิ์ 4. นักเรียนศึกษาการเชื่อมโยงความรูสูชีวิต ประจําวัน (Com Sci in Real Life) เกี่ยวกับ หนวยงานที่ทําหนาที่ดูแลรับผิดชอบทรัพยสิน ทางปญญา และใหคําปรึกษาหรือคําแนะนําแก ผูที่สรางสรรคผลงานจดเปนลิขสิทธิ์ของตนเอง ขอใดสําคัญที่สุดในการปองกันการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ 1. การจดลิขสิทธิ์ผลงาน 2. การใสเครดิตในผลงานทุกครั้งที่เผยแพร 3. การมีพยานยืนยันความเปนเจาของลิขสิทธิ์ 4. การเก็บรวบรวมหลักฐานในการพิสูจนความเปนเจาของ ผลงานเอาไว (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา ขอ 1.) ลิขสิทธิ์เกิดขึ้นตั้งแตผูสรางสรางสรรคผลงานแลว ไมวาจะจดทะเบียน หรือไมก็ตาม แตการเก็บรวบรวมหลักฐานในการพิสูจนความเปน เจาของผลงานเอาไวจะเปนสิ่งยืนยันความเปนเจาของลิขสิทธิ์ไดดี ที่สุด ดังนั้น ตอบขอ 4.) เกร็ดแนะครู ครูอาจจะหาตัวอยางผลงานลิขสิทธิ์ของคนไทยที่มีชื่อเสียงมาใหนักเรียน ศึกษาในแตละประเภทของลิขสิทธิ์ เพื่อใหนักเรียนไดศึกษาตัวอยางของจริง และสามารถระบุไดวาผลงานแตละชิ้นถือเปนลิขสิทธิ์ประเภทใด รวมถึงใหขอมูล ความรูเกี่ยวกับตัวอยางผลประโยชนจากการเก็บคาลิขสิทธิ์ที่มีอยูในปจจุบัน เชน ขอมูลผลประโยชนจากการซื้อ-ขายแฟรนไชสธุรกิจที่มีอยูในประเทศไทย เพื่อให นักเรียนไดเชื่อมโยงความรูจากหนวยการเรียนกับขอมูลจริงในปจจุบัน เพื่อให เปนแนวทางในการตัดสินใจประกอบอาชีพในอนาคตไดดวย นํา สอน สรุป ประเมิน T117


ขอสอบเนนการคิด 5) ประโยชนของลิขสิทธิ์ เจ้าของ ลิขสิทธิ์ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ลิขสิทธิ์ และมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระท�า การใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ท�าขึ้น หรือผลงานตามข้อใดข้อหนึ่งตามที่กล ่าวไว้ ข้างต้น ดังนั้น เจ้าของลิขสิทธิ์จะมีสิทธิในการ ท�าซ�้า ดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณชน และให้ เช่าต้นฉบับหรือส�าเนางานอันมีลิขสิทธิ์ของตน รวมทั้งให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น หรืออนุญาตให้ผู้อื่นใช้ลิขสิทธิ์ของตนทั้งหมด หรือบางส่วนก็ได้ โดยเจ้าของลิขสิทธิ์ย่อมได้รับ ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม 2. สิทธิบัตร คือ หนังสือส�าคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ หรือการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายก�าหนด 1) ประเภทของสิทธิบัตร • สิทธิบัตรการประดิษฐ คือ ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับองค์ประกอบ โครงสร้าง หรือกลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิต และการเก็บรักษา เช่น กลไกของเครื่องยนต์ ยารักษาโรค มีอายุคุ้มครอง 20 ป • สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ คือ ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปร่างลักษณะ ภายนอก องค์ประกอบของลวดลายหรือสีของผลิตภัณฑ์ที่มองเห็นได้จากภายนอก เช่น การ ออกแบบแก้วน�้า มีอายุคุ้มครอง 10 ป • อนุสิทธิบัตร คือ หนังสือส�าคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ที่มีลักษณะ เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ และเป็นการประดิษฐ์ที่สามารถประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรมได้ มีอายุ คุ้มครอง 6 ป เงื่อนไขในการขออนุสิทธิบัตรต้องเป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม และยัง ไม่เคยมีการใช้ หรือแพร่หลายก่อนวันยื่นขอ หรือยังไม่เคยมีการเปดเผยสาระส�าคัญของการประดิษฐ์ นั้นก่อนวันยื่นขอทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรมได้ 2) ความแตกต่างระหว่างอนุสิทธิบัตรและสิทธิบัตรการประดิษฐ อนุสิทธิบัตรและสิทธิบัตร การประดิษฐ์มีขอบเขตให้ความคุ้มครองการประดิษฐ์เช่นเดียวกัน แต่อนุสิทธิบัตรเป็นการคุ้มครองการ ประดิษฐ์ที่มีเทคนิคที่ไม่สูงมากนัก อาจจะเป็นการปรับปรุงเพียงเล็กน้อย ส่วนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ จะต้องมีการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของสิ่งที่มีมาก่อนหรือที่เรียกว่ามีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น ภาพที่ 4.26 ผู้สร้างสรรค์ผลงานจะเป็นผู้ที่มีลิขสิทธิ์ใน ผลงานนั้น 104 ในการยื่นขออนุสิทธิบัตร ขอใดตอไปนี้ไมควรทํา 1. นําสิ่งประดิษฐไปเผยแพรกอนยื่นขออนุสิทธิบัตร 2. ทดสอบคุณภาพสิ่งประดิษฐใหผานเกณฑมาตรฐาน ที่กําหนดไว 3. ตรวจสอบคุณสมบัติของสิ่งประดิษฐใหตรงกับเงื่อนไข ในการขออนุสิทธิบัตร 4. ตรวจสอบขอมูลวามีสิ่งประดิษฐที่มีความคลายหรือ ใกลเคียงสิ่งประดิษฐของเราที่จดอนุสิทธิบัตรกอนแลว หรือไม (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา ในการ ยื่นขออนุสิทธิบัตรไมควรนําสิ่งประดิษฐไปเผยแพรกอนทําการ ยื่นขออนุสิทธิบัตร ดังนั้น ตอบขอ 1.) เกร็ดแนะครู ครูอาจจะหาตัวอยางสิ่งประดิษฐที่ไดรับการจดสิทธิบัตรแตละประเภท มาเปรียบเทียบใหนักเรียนไดเขาใจความแตกตางของเงื่อนไขในการจดทะเบียน ในแตละประเภทไดมากขึ้น และควรใหความรูเพิ่มเติมถึงหลักเกณฑในการ ขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐเพิ่มเติม ไดแก 1. เปนสิ่งประดิษฐใหม 2. มีขั้นการประดิษฐที่สูงขึ้น 3. สามารถใชในอุตสาหกรรมได ใหนักเรียนเขาใจดวย ขั้นสอน อธิบายความรู 1. ครูทบทวนเนื้อหาการเรียนเมื่อชั่วโมงที่แลว เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ 2. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-4 คน (กลุมเดิม) เพื่ออภิปรายรวมกันถึงความหมายและประเภท ของสิทธิบัตร จากหนังสือเรียน ตามหัวขอ ดังตอไปนี้ 1) ความหมายของสิทธิบัตร 2) ประเภทของสิทธิบัตร ไดแก สิทธิบัตรการ ประดิษฐ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ และอนุสิทธิบัตร 3) ความแตกตางระหวางอนุสิทธิบัตรกับสิทธิ บัตรการประดิษฐ 4) ประโยชนของสิทธิบัตร 3. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนออกมานําเสนอ เกี่ยวกับความหมายและประเภทของสิทธิบัตร พรอมอภิปรายรวมกันในหองเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T118


ขอสอบเนน การคิด ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 1. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา 2. ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3. ความมีวินัย คุณธรรม จริยธรรม 1. จงบอกข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ควรเปดเผยเป็นสาธารณะมา 5 ข้อมูล พร้อมเหตุผลประกอบของแต่ละข้อมูลว่า เพราะอะไร 2. นักเรียนคิดว่า เมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาประเภทใดก็ตาม นักเรียนควรจะแจ้งใคร ให้ทราบเป็นอันดับแรก เพราะอะไร 3. บัญชีผู้ใช้งานที่เข้าระบบต่าง ๆ นักเรียนคิดว่า มีความส�าคัญมากน้อยเพียงใด เพราะเหตุใด 4. จงบอกถึงความรับผิดชอบต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียน อย่างน้อย 5 ข้อ 5. เมื่อพบเห็นการละเมิดลิขสิทธิ์ นักเรียนจะมีวิธีการอย่างไร จงยกตัวอย่าง พร้อมค�าอธิบาย การจัดการขอมูลสารสนเทศ Com Sci activity 3) ประโยชนของสิทธิบัตร นอกจากประโยชน์เชิงวิชาการที่เราจะได้เรียนรู้ความเป็นมา หรือพัฒนาการของความคิดและการประดิษฐ์นั้น ๆ ท�าให้เราเห็นข้อบกพร่อง หรือส่วนที่ควรปรับปรุง พัฒนาต่อให้เกิดความคิดใหม่ ๆ ตามมาในทางธุรกิจ ข้อมูลจากเอกสารสิทธิบัตรยังท�าให้เห็น แนวโน้มของเทคโนโลยีที่ก�าลังเกิดขึ้น ตลอดจนสามารถประเมินความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้ 4.2 ขอดี ขอเสียของทรัพยสินทางปญญา ข้อดี ข้อเสีย 1. ช่วยให้ผู้ที่คิดค้นเกิดความเป็นธรรม เพราะหาก ผู้ประกอบการรายใดต้องการน�าไปใช้ ควรมีการ ขออนุญาตและจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้คิดค้น 1. การตั้งราคาอาจไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ส่งผลต่อ การซื้อแบบถูกลิขสิทธิ์ต้องเสียเงินแพง 2. ช ่วยคุ้มครองเจ้าของผลงานที่เป็นผู้คิดและ กลั่นกรองออกมาจนเป็นผลงานที่หลายคน ต้องการ 2. ฐานะและก�าลังซื้อของผู้บริโภคในแต ่ละประเทศ แตกต่างกัน อาจจะแพงต่อผู้บริโภคในประเทศที่ยากจน ที่ไม่มีรายได้มากพอจะซื้อทรัพย์สินทางปัญญาจากต่าง ประเทศมาใช้ได้ และในบางกรณีอาจมีผลกระทบต่อชีวิต เช่น ยาต้านมะเร็ง 105 ขั้นสอน อธิบายความรู 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความจําเปนในการ จดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรวา หากเราเปนผูผลิต อะไรก็ตามไมวาจะเปนสิ่งของเครื่องใช หรือ แมแตความคิดที่เราคิดวาเราสามารถขาย เพื่อสรางรายได หรือเพื่อใหเกิดประโยชนตอ ตัวเราและคนอื่นๆ ได หากเราไมไดไปทําการ จดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร และมีคนมา ลอกเลียนแบบการออกแบบของเรา หรือ ความคิดของเรา แลวนําไปจดสิทธิบัตรหรือ อนุสิทธิบัตรกอนเรา จะสงผลใหเราไมสามารถ ผลิต หรือจําหนายสินคาหรือความคิดนั้นๆ ไดอีก ขยายความเขาใจ 1. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย และ ครูใหความรูเพิ่มเติมในสวนนั้น หรือใหนักเรียน ศึกษาความรูเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมที่สอดคลองกับเนื้อหา โดยการตอบคําถามเพื่อพัฒนาความรูและ ทักษะการเรียนรู (Com Sci Activity) เกี่ยวกับ การจัดการขอมูลสารสนเทศลงในสมุด 3. นักเรียนทําใบงาน เรื่อง ประเภทของลิขสิทธิ์ การคิดคนทํานองเพลงสําหรับเลนดนตรีในนํ้ากับการคิดคน เครื่องดนตรีสําหรับเลนในนํ้า จัดเปนทรัพยสินทางปญญาประเภท ใด 1. จัดเปนลิขสิทธิ์ทั้งคู 2. จัดเปนสิทธิบัตรทั้งคู 3. ทํานองเพลงสําหรับเลนดนตรีในนํ้าจัดเปนลิขสิทธิ์ เครื่องดนตรีสําหรับเลนในนํ้าจัดเปนสิทธิบัตร 4. ทํานองเพลงสําหรับเลนดนตรีในนํ้าจัดเปนสิทธิบัตร เครื่องดนตรีสําหรับเลนในนํ้าจัดเปนลิขสิทธิ์ (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา ทํานอง เพลงสําหรับเลนดนตรีในนํ้าจัดเปนลิขสิทธิ์ประเภทงานดนตรีกรรม สวนเครื่องดนตรีสําหรับเลนในนํ้าเปนสิ่งประดิษฐที่สรางขึ้นมา ใหมจัดเปนทรัพยสินทางปญญาที่สามารถจดสิทธิบัตรได ดังนั้น ตอบขอ 3.) เกร็ดแนะครู ครูอาจจะหาขอมูลคดีความฟองรองกรณีละเมิดลิขสิทธิ์ที่เจาของลิขสิทธิ์ ชนะคดีมาใหนักเรียนไดศึกษาถึงประโยชนจากการไดรับความคุมครองในฐานะ เจาของผลงานจากเหตุการณจริงประมาณ 2-3 คดี และใหนักเรียนรวมกัน อภิปรายถึงประโยชนที่ไดรับจากการเปนเจาของลิขสิทธิ์ดวย นํา สอน สรุป ประเมิน T119


ขอสอบเนนการคิด การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ อยางปลอดภัย Summary การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ การใชเทคโนโลยีสารสนเทศมีทั้งคุณประโยชนในการดํารงชีวิตของมนุษยใหมีความ สะดวกสบายขึ้น ซึ่งมาพรอมกับโทษพวกมีการใชโดยไมคํานึงถึงผลเสียจากการใชเปนเวลานาน และละเลยถึงความพอดีในการนําเทคโนโลยีสารสนเทศเขามาเปนสวนหนึ่งของชีวิต การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาที่ ไมเหมาะสม การใชเทคโนโลยีในบางครั้งอาจพบเจอกับเนื้อหาที่ไมเหมาะสม ซึ่งเราควรมีทักษะพิจารณา ถึงขอมูลที่ไมเหมาะสม รวมถึงรูจักวิธีแกปญหา พรอมรับมือหรือหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่ไมเหมาะสม ดังกลาว อันเปนวิธีปองกันตนเอง ความรับผิดชอบตอการใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศ การใชเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นตองมีความรับผิดชอบตอตนเอง บุคคลอื่น และสังคมได อยางถูกตอง และตองรูจักกฎระเบียบในการใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศของแตละองคกร เพื่อไม ใหเกิดการรั่วไหลขอมูลสวนตัวของบุคคลหรือองคกรออกไปสูบุคคลภายนอกได ทรัพยสินทางปญญา ทรัพยสินทางปญญา คือ ผลงานอันเกิดจากความคิดสรางสรรคของมนุษย เปนทรัพยสิน อีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือจากสังหาริมทรัพยและอสังหาริมทรัพย ทรัพยสินทางปญญาที่ควรรูจัก ไดแก ลิขสิทธิ์ และสิทธิบัตร 106 ขั้นสรุป ตรวจสอบผล 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการ ตอบคําถาม การนําเสนอหนาชั้นเรียน การทํา กิจกรรมกลุม และการทําใบงาน 2. นักเรียนตรวจสอบความรู ความเขาใจดวย ตนเอง จากหนังสือเรียน 3. นักเรียนทําแบบฝกหัดประจําหนวยการเรียนรู ที่ 4 โดยใหบันทึกลงในสมุด และทําชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การใชเทคโนโลยี สารสนเทศอยางปลอดภัย เพื่อตรวจสอบความ เขาใจ และนํามาสงในชั่วโมงถัดไป 4. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวยการ เรียนรูที่ 4 เรื่อง การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ อยางปลอดภัย ขั้นประเมิน ตรวจสอบผล ตารางการวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑการประเมิน ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน แบบทดสอบ หลังเรียน รอยละ 60 ผานเกณฑ ตรวจใบงาน ใบงาน รอยละ 60 ผานเกณฑ ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมิน ชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ ประเมิน การนําเสนอ ผลงาน แบบประเมิน การนําเสนอ ผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ สังเกตพฤติกรรม การทํางานกลุม แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผานเกณฑ แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตการนําเสนอผลงาน พฤติกรรมการทํางานกลุมของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงาน และ แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุมที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูที่ 4 หนวยการเรียนรูที่ 4 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง:ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วิธีการน าเสนอผลงาน 4 การน าไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ตัวอยางการประดิษฐขอใดตอไปนี้สามารถนํามายื่นจดสิทธิบัตร การประดิษฐได 1. การคนพบจํานวนเฉพาะจํานวนใหม ขนาด 23 ลานหลัก 2. การคนพบวิธีการรักษาและยับยั้งโรคกระดูกพรุนและ ขอเสื่อมแบบไมตองใชยา 3. เครื่องพนยามะพราวสําหรับติดตั้งกับรถไถเล็กที่ควบคุม ปริมาณและทิศทางของนํ้ายาได 4. โปรแกรมฐานขอมูลที่เพิ่มจํานวนหมวดหมูไดไมจํากัด (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา ฐาน ขอมูล โปรแกรมคอมพิวเตอร ทฤษฎีหรือกฎวิทยาศาสตร หรือ คณิตศาสตร วิธีการวินิจฉัยและรักษาโรคใหกับมนุษยและสัตว ไมสามารถนํามายื่นจดสิทธิบัตรการประดิษฐได ดังนั้น ตอบขอ 3.) นํา สอน สรุป ประเมิน T120


ให้นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจ โดยพิจารณาข้อความว่าถูกหรือผิด แล้วบันทึกลงในสมุด หากพิจารณาข้อความไม่ถูกต้อง ให้กลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวข้อที่ก�าหนดให้ ถูก/ผิด ทบทวนหัวข้อ 1. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเวลานาน ท�าให้เราติด และให้โทษ 1 2. เราควรมีรหัสผ่านเอาไว้ใช้เล่น ๆ และบอกคนอื่นได้ 2 3. เมื่อใช้คอมพิวเตอร์เสร็จแล้วเราควรออกจากระบบการใช้งาน ให้เรียบร้อย 3 4. เมื่อเราอยากรู้จักเพื่อนคนอื่น เราจึงจดรหัสผ่านของเพื่อน แล้วน�าไปเข้าระบบของเพื่อนเพื่อดูข้อมูล 3 5. สิทธิการเป็นเจ้าของผลงาน คือ คนที่น�าชิ้นงานนั้นมาจากคน อื่นที่เป็นคนสร้างสรรค์ 4 Self Check บั น ทึ ก ล ง ใ น ส มุ ด เทคโนโลยีสารสนเทศมีความส�าคัญอย่างไรในยุคปัจจุบัน ชิ้นงานที่มีลิขสิทธิ์ชิ้นใดบ้างที่เราสามารถน�ามาใช้ได้ ยกตัวอย่างมา 5 ชิ้นงาน เมื่อเราพบเห็นว่า เครื่องคอมพิวเตอร์มีการเข้าระบบค้างไว้โดยคนใช้งานคนเดิมยังไม่ได้ ออกจากระบบ เราควรท�าอย่างไร เมื่อพบเห็นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมปรากฏขึ้นมา แต่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่บริเวณใกล้เคียง เราจะ ปฏิบัติอย่างไร จงเขียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีต่อตัวเอง บุคคลอื่น และสังคม มาอย่างละ 1 ข้อ นักเรียนจะน�าความรู้เรื่อง การใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย ไปใช้ในชีวิตประจ�าวันอย่างไร ได้บ้าง 1 2 3 4 5 6 Unit Question 4 107 แนวตอบ Unit Question 1. ใชในการรับ-สง และเผยแพรขอมูลผานเครือขาย ใชอํานวยความสะดวกในการสื่อสารผานระบบที่มีทั้งภาพและเสียง การเขาถึงแหลงขอมูลที่ตองการ ไดอยางรวดเร็ว และอํานวยความสะดวกในชีวิตประจําวันไดอีกหลายดาน 2. ขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน เชน การรวบรวมโปสเตอรความละเอียดสูงของวัตถุตางๆ ในระบบสุริยะจักรวาลที่ถายโดยนักบินอวกาศและยานอวกาศ โดยทีมงาน Spaceth.co ของ NASA มาแจกใหดาวนโหลดนําไปใชงานไดฟรี 3. แจงใหเจาของบัญชีทราบ หากไมรูจักหรือหาเจาของบัญชีไมเจอ ใหทําการออกจากระบบแทนเจาของบัญชี 4. ปดหนาเว็บไซตที่มีเนื้อหาไมเหมาะสมนั้น และเตือนเพื่อนใหระวังเว็บไซตที่มีเนื้อหาไมเหมาะสมดังกลาว 5. การติดตั้งซอฟตแวรผิดกฎหมาย การคัดลอกผลงานของผูอื่นมาแอบอางเปนผลงานของตนเอง การพยายามเจาะระบบเพื่อเขาถึงขอมูลสวนตัวของผูอื่น โดยที่ไมไดรับอนุญาต 6. ระวังปองกันตนเองจากการถูกละเมิดและขโมยขอมูลสวนบุคคล การหลอกลวงผานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบตางๆ และเตือนคนใกลตัวให ระวังภัยจากการใชเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในปจจุบัน แนวตอบ Self Check 1. ถูก 2. ผิด 3. ถูก 4. ผิด 5. ผิด นํา สอน สรุป ประเมิน T121


ชนินทร เฉลิมสุข และอภิชาติ ค�ำปลิว. 2562. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำนวณ) ม.2. พิมพ์ ครั้งที่ 2. นนทบุรี : ไทยร่มเกล้า. ชาตรี เกิดธรรม. 2542. การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ : เซ็นเตอร์ ดิสคัฟเวอรี. ทิศนา แขมมณี. 2556. ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 17. กรุงเทพฯ : ส�ำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พิมพันธ์ เดชะคุปต์. 2544. การจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการสอนแบบสืบสวน. กรุงเทพฯ : เดอะมาสเตอร์กรุ๊ปแมเนจเม้นท์. . 2544. การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ : แนวคิดวิธีและเทคนิคการสอน 1. กรุงเทพฯ : เดอะมาสเตอร์ กรุ๊ปแมเนจเม้นท์. ภพ เลาหไพบูลย์. 2542. แนวการสอนวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. วรรณทิพา รอดแรงค้า และจิต นวนแก้ว. 2542. การพัฒนาการคิดของนักเรียนด้วยกิจกรรมทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : เดอะมาสเตอร์กรุ๊ปแมเนจเม้นท์. วราภรณ์ ชัยโอภาส. 2521. การพัฒนาสมรรถภาพในการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ประเสริฐศิริ. วิจารณ์ พานิช. 2555. วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : ตถาตา พับลิเคชั่น. วิชาการและมาตรฐานการศึกษา ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, ส�ำนัก. 2555. แนวทาง การจัดการกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษา (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย. ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ, สถาบัน. 2560. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. สมบัติ การจนารักพงค์. 2545. เทคนิคการสอนให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิด. กรุงเทพฯ : ธารอักษร. สรศักดิ์ แพรด�ำ. 2544. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์. อุบลราชธานี : สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี. ส�ำนักบริหารวิชาการ วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์, แผนกบริหารหลักสูตร. 2557. เอกสารเผยแพร่ความรู้วิชาการศึกษา : วิธีการสอน (Teaching Methodology). กรุงเทพฯ : วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์. สุวิทย์ มูลค�ำ และอรทัย มูลค�ำ. 2547. 21 วิธีการจัดการเรียนรู้ : เพื่อพัฒนากระบวนการคิด. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์. อํานวย รุ่งรัศมี. 2525. การสอนวิทยาศาสตร์แบบก้าวหน้า. มหาสารคาม : ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. บรรณาน ุ กรม T122


คู่มือครู บร. วิทยาศาสตร์ ม.2 ล.1 300.- 8 858649 121349 ราคานี้เป็นของฉบับคู่มือครูเท่านั้น >> ราคาเล่มนักเรียนโปรดดูจากใบสั่งซื้อของ อจท. คู่มือครู นร.เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 300.- 8 858649 144072 สร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับโลก บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. 0 2622 2999 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย) ID Line: @aksornkrumattayom www.aksorn.com อักษรเจริญทัศน์ อจท.


Click to View FlipBook Version