The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chuthidechsuccess, 2024-05-12 01:16:48

จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.

จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.

Keywords: จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.

ภ�พที่ 58 ผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชั่น “Brown Tiger Tie Dye” ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ชุดแฟชั่นผู้หญิง เช่น เดรส เสื้อ ก�งเกง และเครื่องประกอบก�รแต่งก�ย เช่น หน้�ก�ก กระเป�ใบเล็ก และกระเป�ใบใหญ่ สร้อยคอ พวงกุญแจ ผ้�พันคอ ภ�พที่ 59 นำ�เสนอลุคที่ 1 เป็นเดรสย�วแขนกุด มีก�รตัดแพทเทิร์นแบบไล่ชั้น โดยใช้ผ้�คนละโทนสี เพื่อทำ�เป็นลูกเล่น และใช้ล�ยผ้�ตัดแปะ สร้�งเป็นล�ยเสือ เย็บแบบไล่ระดับช่วงบนของชุด 099


ภ�พที่ 60 นำ�เสนอลุคที่ 2 เป็นชุดเสื้อแขนสั้น กับก�งเกงลำ�ลอง โดยตัวเสื้อออกแบบให้ก�รตัดผ้�คนละสีม�เย็บเป็นแพทเทิร์น และสร้�งลูกเล่นด้วยล�ยผ้�ตัดแปะ ส่วนก�งเกง 5 ส่วน ใช้ผ้�พลิ้วทรงหลวม ภ�พที่ 61 นำ�เสนอลุคที่ 3 เป็นชุดเสื้อคลุม เพิ่มลูกเล่นด้วยก�รถักเชือกผ้� ร้อยลูกปัดเป็นลูกเล่น ลงบนชุด ส�ม�รถมิกซ์แอนด์แมทช์กับเดรสและเสื้อแขนกุดได้ โดยมีเดรสย�วท�งหลวมที่เพิ่มลูกเล่นตรงขอบระบ�ยด้วยผ้�ถัก 0100 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ภ�พที่ 62 นำ�เสนอลุคที่ 4 เป็นชุดเสื้อสั้นเอวลอย เพิ่มลูกเล่นด้วยระบ�ยของผ้�ถัก ส�ม�รถใส่กับก�งเกงผ้�บ�งพริ้วแพทเทิลเป�หลวม หรือก�งเกงข�ย�วมีลวดล�ยของผ้�ตัดแปะ ภ�พที่ 63 นำ�เสนอลุคที่ 5 เป็นชุดเสื้อสั้นเอวลอย สีพื้นอ่อน เพิ่มลูกเล่นด้วยระบ�ยของผ้�ถัก ส�ม�รถใส่กับก�งเกงผ้�บ�งพริ้วย�วสีโทนอ่อนคู่กัน 0101


ภ�พที่ 64 กระเป�ทรงสี่เหลี่ยมและทรงส�มเหลี่ยม มีลูกเล่นเป็นลวดล�ยของผ้�ตัดแปะ ภ�พที่ 65 ลูกจ�กแห้ง นำ�ม�ทำ�เป็นเครื่องประดับ ต่�งหู สร้อยคอ และพวงกุญแจ 0102 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ภ�พที่ 66 หน้�ก�กผ้�มัดย้อม ทำ�จ�กผ้�ชินมัย ภ�พที่ 67 ผ้�พันคอพริ้วบ�ง 0103


อางอิง ปรัชญ� กฤษณะพันธ์. (2564). การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ชีวภาพจากองค์ประกอบของต้นจาก ที่เหลือทิ้งสู่การจัดจําหน่ายเชิงพาณิชย์ นครศรีธรรมราช: โครงก�รอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องม�จ�ก พระร�ชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด�ฯ สย�มบริมร�ชกุม�รี มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. รุ่งรวี จิตภักดี และ น�ยปรัชญ� กฤษณะพันธ์. 2560. ร�ยง�นก�รวิจัยโครงก�ร พัฒน�ผลิตภัณฑ์ จ�ก “ต้นจ�ก” สู่ก�รสร้�งอัตลักษณ์สินค้�ของที่ระลึกชุมชนขน�บน�ก อำ�เภอป�กพนัง จังหวัดนครศรีธรรมร�ช. สำ�นักง�นกองทุนสนับสนุนก�รวิจัย ร่วมกับ มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. วิยด� กว�นเหียน จิตรบรรจง ตั้งปอง และมรกต ช�ต�ธิคุณ. (2564). ศึกษาฤทธิ์ทางเวชสําอางชีวภาพ ของ “นํ้าส้มสายชูหมักจากนํ้าตาลจาก” เพื่อผลิตเป็นเวชสําอาง นครศรีธรรมร�ช: โครงก�รอนุรักษ์ พันธุกรรมพืชอันเนื่องม�จ�กพระร�ชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด�ฯ สย�มบริมร�ชกุม�รี มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. สิริโสภ� จุนเด็น ตันยมน เพชรรัตน์ และปวิธ ตันสกุล. (2565). การใช้ประโยชน์ของผลจากในผลิตภัณฑ์ เยลลี่พร้อมดื่ม นครศรีธรรมร�ช: โครงก�รอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องม�จ�กพระร�ชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด�ฯ สย�มบริมร�ชกุม�รี มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. สุวิต� แก้วอ�รีล�ภ. (2565). การสร้างสรรค์เทคนิคการออกแบบลวดลายลงบนผืนผ้ามัดย้อมจากผลิตภัณฑ์ ต้นจาก เพื่อพัฒนาเป็นรูปแบบคอลเลคชั่นผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่นลุ่มนํ้าปากพนัง นครศรีธรรมร�ช: โครงก�รอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องม�จ�กพระร�ชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด�ฯ สย�มบริมร�ชกุม�รี มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. ภ�พที่ 68 รวมแฟชั่นก�รนำ�เสนอ ภ�พรวม 10 ลุค 0104 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


4.1 การประเมินมูลคาเพิ่มและความคุมคาในการแปรรูป ผลิตภัณฑจากพื้นที่ลุมน้ําปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช (วิลาวัณย ดึงไตรยภพ) พื้นที่ลุ่มนำ้�ป�กพนังมีคว�มอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย�กรธรรมช�ติและภูมิปัญญ�ท้องถิ่น มีผลิตภัณฑ์ ที่เป็นอัตลักษณ์สะท้อนคว�มเป็นตัวตนของชุมชนลุ่มนำ้�ป�กพนังหล�กหล�ยชนิดจ�กก�รนำ�พืชท้องถิ่น และภูมิปัญญ�ท้องถิ่นม�ใช้ในแปรรูปผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์อย่�งหนึ่งของชุมชนลุ่มนำ้� ป�กพนังคือ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจ�กต้นจ�ก เนื่องจ�กพื้นที่ของลุ่มแม่นำ้�ป�กพนังบ�งส่วนติดช�ยฝั่งทะเล มีสภ�พดินเป็นดินเปรี้ยว ก่อให้เกิดระบบนิเวศป่�ช�ยเลน มีทั้งนำ้�เค็ม นำ้�กร่อย และนำ้�จืด จึงทำ�ให้ มีสภ�พภูมิประเทศเหม�ะต่อก�รทำ�ป่�จ�กหรือไร่จ�กโดยเฉพ�ะในตำ�บลขน�บน�กที่มีพื้นที่ปลูกจ�ก ม�กที่สุดของป�กพนังจำ�นวน 4,567 ไร่ (สำ�นักง�นเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมร�ช, 2559) ชุมชนใน ลุ่มนำ้�ป�กพนังมีวิถีชีวิตและก�รประกอบอ�ชีพเกี่ยวข้องกับป่�จ�ก มีก�รใช้ฐ�นองค์คว�มรู้และภูมิปัญญ� ท้องถิ่นที่สืบทอดม�จ�กบรรพบุรุษไปแปรรูปต้นจ�กเป็นผลิตภัณฑ์ได้หล�กหล�ยชนิดทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อก�รบริโภคและอุปโภค โดยนำ�ส่วนต่�ง ๆ ของต้นจ�กม�แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จักส�นเพื่อก�รอุปโภค ได้แก่ ใบอ่อนนำ�ม�ทำ�ภ�ชนะตักนำ้� เรียกว่� “หม�จ�ก” ก้�นใบอ่อน ใช้ทำ�เป็นเชือกสำ�หรับนำ�ม�เย็บ ตับจ�กมุงหลังค� เรียกว่� “ตอกบิด” และนำ�ม�ส�นเป็นที่รองก้นหม้อข้�ว เรียกว่� “กันหม้อ” หรือ “เสวียนหม้อ” งวงจ�กนำ�ม�ใช้ทำ�เป็นไม้กว�ด หรือทำ�เป็นแส้สำ�หรับปัดแมลง หรือทำ�ชดหรือแปรงล้�ง กระบอกต�ล ผลมีลักษณะที่สวยง�ม ใช้ปลูกเป็นไม้กระถ�งประดับได้ และต้นจ�กที่เหลือใช้ส�ม�รถ นำ�ม�ใช้ทำ�เป็นเชื้อเพลิง อีกทั้งมีก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�กเพื่อก�รบริโภค โดยนำ�ผลอ่อนม�ประกอบ เป็นอ�ห�รค�วและอ�ห�รหว�น นำ้�หว�นของต้นจ�ก (ปล�ยช่อดอก) หรือที่เรียกว่� “นำ้�ต�ลจ�ก” ยังส�ม�รถนำ�ไปเคี่ยวเพื่อทำ�เป็น “นำ้�ผึ้งจ�ก” และจะได้ “นำ้�ต�ลปก” และนำ�นำ้�หว�นไปหมักเพื่อเป็น “นำ้�ส้มจ�ก” จะเห็นได้ว่�ภูมิปัญญ�ท้องถิ่นส�ม�รถใช้ประโยชน์จ�กทุกส่วนของต้นจ�กเพื่อก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�ก ได้หล�กหล�ยชนิด โดยผลิตภัณฑ์แปรรูปต้นจ�กที่ต้องก�รของตล�ดม�กที่สุดก็คือ นำ้�ผึ้งจ�กหรือนำ้�ผึ้งโซม (มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์, 2561) และผลิตภัณฑ์จ�กที่เกษตรกรแปรรูปม�กที่สุดร้อยละ 91 คือ นำ้�ส้มจ�ก และนำ้�ต�ลจ�ก อีกร้อยละ 6 เป็นผลิตภัณฑ์จักส�น (รุ่งรวี จิตภักดี และ สุขุม�ล กลำ่�แสงใส, 2562) ผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลจ�กสร้�งร�ยได้ให้กับเกษตรกร เฉลี่ยประม�ณ 11,808 บ�ทต่อครัวเรือนต่อปี หรือ 94,464 บ�ทต่อครัวเรือนต่อปี (สำ�นักง�นเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมร�ช, 2559) และในก�รจัดทำ�แผน พัฒน�เศรษฐกิจชุมชนของมห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์พบว่� อ�ชีพก�รทำ�ไร่จ�กจะสร้�งร�ยได้ประม�ณ 12 ล้�นบ�ทจ�กต้นทุนก�รผลิตเพียง 1 ล้�นบ�ทต่อชุมชนต่อปี ก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�กจึงเป็นอ�ชีพ ที่ส�ม�รถสร้�งร�ยได้หลักให้แก่เกษตรหรือชุมชนได้อย่�งเพียงพอ แต่สภ�พสังคมและเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง ไปทำ�ให้เย�วชนรุ่นหลังในชุมชนลุ่มนำ้�ป�กพนังกลับมองว่�ก�รทำ�ไร่จ�กเป็นอ�ชีพที่ต้องทำ�ง�นหนัก ร�ยได้ที่ได้รับไม่คุ้มค่�กับแรงง�นที่ทำ�ไป จึงหันไปประกอบอ�ชีพอื่นที่สร้�งร�ยได้ที่สูงกว่� อีกทั้งชุมชน หรือเกษตรกรรุ่นดั้งเดิมเองก็ไม่ได้มีก�รจดบันทึกข้อมูลต้นทุนก�รผลิตในก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�ก 4. งานวิจัยเพื่อชุมชนท้องถิ่น และสร้างประโยชน์แท้แก่มหาชน 0106 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


อย่�งเป็นระบบ จึงทำ�ไม่ทร�บต้นทุนในก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�กที่แท้จริงที่จะนำ�ไปใช้ในก�รว�งแผน ปริม�ณก�รผลิต ก�รว�งแผนลดต้นทุน ก�รเลือกชนิดผลิตภัณฑ์ในก�รแปรรูปที่ส�ม�รถสร้�งมูลค่�เพิ่ม และมีคว�มคุ้มค่�ในก�รแปรรูปที่จะเป็นแรงจูงใจให้เย�วชนรุ่นหลังได้สืบต่ออ�ชีพที่ใช้ภูมิปัญญ�ท้องถิ่น ในก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�กต่อไป 1. กระบวนการแปรรูปผลผลิตจากตนจาก พื้นที่ตำ�บลขน�บน�กประกอบอ�ชีพหลัก 4 อ�ชีพ คือ 1. ก�รประกอบอ�ชีพเกี่ยวกับป่�จ�ก 2. ก�รประกอบอ�ชีพเพ�ะปลูกน�ข้�ว 3. ก�รประกอบอ�ชีพก�รทำ�ประมงลุ่มนำ้�และช�ยฝั่ง 4. ก�รประกอบอ�ชีพก�รทำ�น�กุ้งในพื้นที่ตำ�บลขน�บน�กมี 10 หมู่บ้�น มีจำ�นวนครัวเรือนที่ปลูกจ�ก ทั้งสิ้น 476 ครัวเรือน และมีพื้นที่จ�กทั้งหมด 4,567 ไร่ (สำ�นักง�นเกษตรจังหวัด นครศรีธรรมร�ช, 2559 - 2562) ผลผลิตจ�กต้นจ�กในพื้นที่ตำ�บลขน�บน�กมีก�รแปรรูปเป็น 6 ผลิตภัณฑ์ เรียงลำ�ดับ จ�กม�กไปห�น้อยในก�รเลือกแปรรูปผลิตภัณฑ์ ดังนี้ 1. นำ้�ต�ลปีบ 2. นำ้�ส้มจ�ก 3. นำ้�ผึ้งจ�กหรือนำ้�ต�ลเหลว 4. ตับจ�กมุงหลังค� 5. นำ้�ต�ลผงหรือนำ้�ต�ลเกล็ด 6. ใบจ�กสำ�หรับสูบ และจ�กผลง�นวิจัยที่เกี่ยวข้องในโครงก�รช่องท�งก�รตล�ดของผลิตภัณฑ์ทรัพย�กรต้นจ�กในพื้นที่ ตำ�บลขน�บน�ก อำ�เภอป�กพนัง จังหวัดนครศรีธรรมร�ช (บุณฑรี จันทร์กลับ และอรอนงค์ เฉียบแหลม, 2563) พบว่� ผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิตจ�กต้นจ�กที่มีศักยภ�พท�งก�รตล�ดมี 4 ชนิด ได้แก่ นำ้�ผึ้งจ�ก (นำ้�ต�ลจ�กชนิดข้น) นำ้�ต�ลปีบ (นำ้�ต�ลจ�กชนิดก้อน) นำ้�ต�ลเกล็ด (นำ้�ต�ลจ�กชนิดผง) และนำ้�ส้มจ�ก ผู้วิจัยจึงเลือกศึกษ�กระบวนก�รในก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�กทั้ง 4 ชนิด โดยก�รลงพื้นที่ศึกษ�ดูง�น กระบวนก�รแปรรูปผลผลิตจ�กตัวแทนผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์จ�ก ได้แก่ - น�ยโกวิทย์ จันทรังษีและน�ยกวี จันทษี เป็นตัวแทนก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์นำ้�ผึ้งจ�ก - น�งส�วระพี นนท์ทอง เป็นตัวแทนก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลปีบ - น�งวรรณี น�คร�ช และน�งบุญศรี เพชรเกตุ เป็นตัวแทนก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลผง - น�ยทวน แก้วนิน และน�ยเสรี นำ้�ข�วเป็นตัวแทนก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์นำ้�ส้มจ�ก หลังจ�กก�รลงพื้นที่ศึกษ�ดูง�นกระบวนก�รแปรรูปผลผลิตจ�ก ทำ�ให้ทร�บกระบวนก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์ ทั้ง 4 ชนิดในภ�พรวมดังภ�พที่ 69 0107


ภ�พที่ 69 ก�รลงพื้นที่ภ�คสน�มครั้งที่ 1 - 3 ศึกษ�ดูง�นกระบวนก�รแปรรูปผลผลิตจ�กต้นจ�กทั้ง 4 ผลิตภัณฑ์ 0108 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ภ�พที่ 70 กระบวนก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ชนิดในภ�พรวม กระบวนก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ชนิดโดยละเอียดและร�ยก�รต้นทุนก�รผลิตของผลิตภัณฑ์จ�ก ทั้ง 4 ชนิด ดังนี้ 1. กระบวนการแปรรูปนํ้าผึ้งจาก (นํ้าตาลจากชนิดขน) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้ม�จ�กก�รนำ�นำ้�หว�นจ�กจ�กต้นจ�กม�เคี่ยวให้ข้นจนงวดลงระดับที่เป็นนำ้�เชื่อม (ต�ร�งที่ 24) มีลักษณะมีกลิ่นหอม ส�ม�รถใช้ประกอบอ�ห�ร เช่น กุ้งต้มนำ้�ผึ้งจ�ก หมึกต้มหว�น ขนมจ�ก และขนมล� 0109


การเลือกงวงจาก การปาดงวงจาก เก็บนํ้าหวานจาก การนํานํ้าหวาน จากเทลงกระทะ การเคี่ยว นํ้าหวานจาก 1. เลือกงวงจ�กที่สมบูรณ์ จ�กนั้นตัดแต่งกิ่งงวงให้เรียบร้อย แล้วนวดงวงโดยก�รทุบและใช้ไม้ หนีบประม�ณ 6 - 7 วัน 2. ป�ดแบบเฉียงประม�ณ 45 องศ� แล้วนำ�กระบอกไม้ไผ่ ม�รองนำ้�หว�น 3. เก็บกระบอกไม้ไผ่ที่รองรับ นำ้�หว�นจ�ก เพื่อนำ�ม�ตวงให้ได้ จำ�นวน 5 ปีบ หรือประม�ณ 60 ลิตร 4. นำ�นำ้�หว�นจ�กเทลงใส่กระทะ โดยผ่�นภ�ชนะกรอง เพื่อกรอง ไม้เคี่ยมและสิ่งเจือปน โดยใช้ ไฟอ่อนและใช้มอครอบลงบน กระทะเพื่อปองกันนำ้�หว�นล้นออก นอกกระทะ 5. ตักฟองออกจ�กกระทะ แล้วเคี่ยวนำ้�หว�นจ�กให้เดือด ประม�ณ 30 น�ที โดยใช้ไฟแรง ตลอดเวล� จนนำ้�หว�นมีลักษณะ เป็นสีนำ้�ต�ล เหนียวข้น หรือ เหลือประม�ณ 1 ส่วน 3 ของนำ้�หว�นจ�ก ต�ร�งที่ 24 กระบวนก�รผลิตนำ้�ผึ้งจ�ก 0110 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


การเลือกงวงจาก การบรรจุ นํ้าผึ้งจาก การปาดงวงจาก 1. เลือกงวงจ�กที่สมบูรณ์ จ�กนั้นตัดแต่งกิ่งงวงให้เรียบร้อย แล้วนวดงวงโดยก�รทุบและใช้ไม้ หนีบประม�ณ 6 - 7 วัน 6. นำ�นำ้�ผึ้งที่เคี่ยวได้ที่แล้วม�กรอง กับผ้�ข�วและบรรจุขวด 2. ป�ดแบบเฉียงประม�ณ 45 องศ� แล้วนำ�กระบอกไม้ไผ่ ม�รองนำ้�หว�น ต�ร�งที่ 25 กระบวนก�รผลิตนำ้�ต�ลปีบ 2. กระบวนการแปรรูปนํ้าตาลปบ (นํ้าตาลจากชนิดกอน) ได้จ�กก�รเคี่ยวนำ้�หว�นจ�กต้นจ�กต่อเนื่องจนงวด และมีลักษณะที่หนืด แล้วจึงยกกระทะที่เคี่ยว นำ้�ต�ลลงจ�กเต�เพื่อทำ�ก�ร “โซม” (ก�รตีนำ้�ต�ลด้วยไม้ที่มีเหล็กขดเพื่อเพิ่มอ�ก�ศเข้�ไปในนำ้�ต�ล และทำ�ให้นำ้�ต�ลเย็นลง) (ต�ร�งที่ 25) ปองกันก�รเน่�เสียง่�ยของนำ้�ต�ลโดยใช้เหล็กสปริงขดเป็น วงกลมคล้�ยที่ตีไข่เป็นเครื่องมือ นิยมนำ�ไปเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในก�รทำ�สุร�พื้นบ้�น หรือประกอบอ�ห�ร ประเภทต่�ง ๆ 0111


เก็บนํ้าตาลจาก การนํานํ้าหวานจาก เทลงกระทะ การเคี่ยวนํ้าหวาน การโซมนํ้าตาล การบรรจุ นํ้าตาลปบ 3. เก็บกระบอกไม้ไผ่ที่รองรับ นำ้�หว�นจ�ก เพื่อนำ�ม�ตวงให้ได้ จำ�นวน 5 ปีบ 4. นำ�นำ้�หว�นจ�กเทลงใส่กระทะ โดยผ่�นภ�ชนะกรอง เพื่อกรอง ไม้เคี่ยมและสิ่งเจือปน โดยใช้ ไฟอ่อนและใช้มอครอบลงบน กระทะเพื่อปองกันนำ้�หว�นล้น ออกนอกกระทะ 5. ตักฟองออกจ�กกระทะ แล้วเคี่ยวนำ้�หว�นจ�กให้เดือด ประม�ณ 3 - 4 ชั่วโมง โดยใช้ ไฟแรงตลอดเวล� จนนำ้�หว�น มีลักษณะเป็นสีนำ้�ต�ล เหนียวข้น หรือเหลือประม�ณ 1 ส่วน 3 ของนำ้�หว�น 6. ยกกระทะลงจ�กเต� และใช้ ไม้โซมนำ้�ต�ล ประม�ณ 30 น�ที เพื่อระบ�ยคว�มร้อนและไม่ให้ นำ้�ต�ลจับตัวเป็นก้อน 7. เมื่ออุณหภูมิเย็นลงแล้ว จึงตักนำ้�ต�ลบรรจุใส่ปีบ 0112 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


3. กระบวนการแปรรูปนํ้าตาลเกล็ด (นํ้าตาลจากชนิดผง) มีขั้นตอนก�รทำ�เช่นเดียวกับนำ้�ต�ลจ�กชนิดก้อน แต่จะเลือกทำ�กับนำ้�ต�ลที่ได้จ�กก�รป�ดครั้งแรก ของงวงจ�กแต่ละงวง เนื่องจ�กจะมีคว�มเข้มข้นของนำ้�ต�ลสูง เหม�ะสำ�หรับทำ�เป็นต�ลเกล็ดได้ดี กระบวนก�รทำ�คล้�ยกับก�รทำ�นำ้�ต�ลปีบ แตกต่�งกันที่จะต้องนำ�นำ้�ต�ลที่ได้ม�ขยี้ให้มีลักษณะเป็นผง แล้วจึงนำ�ม�ร่อนผ่�นตะแกรงให้เกิดเป็นเกล็ดที่มีคว�มสมำ่�เสมอกัน จ�กนั้นจึงนำ�ไปต�กแดดไล่คว�มชื้น จนแห้ง (ต�ร�งที่ 26) นิยมทำ�ใช้ผสมเครื่องดื่มประเภทช� ก�แฟ การเลือกงวงจาก การปาดงวงจาก การเก็บ นํ้าหวานจาก การเคี่ยว นํ้าหวานจาก 1. เลือกงวงจ�กที่สมบูรณ์ จ�กนั้นตัดแต่งกิ่งงวงให้เรียบร้อย แล้วนวดงวงโดยก�รทุบและใช้ไม้ หนีบประม�ณ 6 - 7 วัน 2. ป�ดแบบเฉียงประม�ณ 45 องศ� แล้วนำ�กระบอกไม้ไผ่ ม�รองนำ้�หว�น 3. เก็บนำ้�หว�นในช่วงเวล� ประม�ณ 6.00 น. - 9.00 น. จะได้นำ้�ต�ลจ�กที่หอมหว�นและ กรองนำ้�หว�นจ�กที่เก็บได้ 4. นำ�นำ้�หว�นจ�กที่ได้ม�เคี่ยว บนไฟอ่อน ๆ โดยเมื่อเดือด จะช้อนฟองทิ้ง จ�กนั้นเคี่ยว จนฟองตรงกล�งห�ยไป ต�ร�งที่ 26 กระบวนก�รผลิตนำ้�ต�ลผง 0113


การกรอง นํ้าตาลจาก การเคี่ยว นํ้าตาลจาก การผัด นํ้าตาลจาก การบด นํ้าตาลจาก การรอนและตาก นํ้าตาลผง 5. กรองนำ้�ต�ลที่เคี่ยวเสร็จ เก็บใส่ปีบ และใช้ในก�รทำ�นำ้�ต�ล ผงต่อไป 6. นำ�นำ้�ต�ลที่กรองได้ตั้งไฟ ป�นกล�ง เคี่ยวประม�ณ 15 น�ที จ�กนั้นปิดไฟแล้วผัดต่อจน นำ้�ต�ลเหนียวหนืด 7. นำ�นำ้�ต�ลจ�กที่หนืดได้ที่ม�ผัด ต่อในภ�ชนะจนแห้ง 8. นำ�นำ้�ต�ลจ�กที่ผัดแห้งม�บด จนนำ้�ต�ลละเอียดเป็นผงทร�ย 9. นำ�นำ้�ต�ลที่บดม�ร่อนใส่ภ�ชนะ และต�กแดด 15 น�ที 0114 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


การบรรจุ นํ้าตาลผง 10. ก�รบรรจุนำ้�ต�ลผง 4. กระบวนการแปรรูปนํ้าสมจาก (นํ้าสมสายชูหมักจากนํ้าหวานจาก) เป็นก�รนำ�นำ้�หว�นจ�กไม่ใส่เปลือกเคี่ยมม�หมักไว้ในไหประม�ณ 10 วัน (ต�ร�งที่ 27) ก็จะเกิดกรด นำ้�ส้มเพื่อนำ�ม�ใช้บริโภค เรียกว่� “นำ้�ส้มจ�ก” นำ�ม�ประกอบอ�ห�ร นำ้�ส้มจ�กห�กต้องก�รเก็บไว้ ได้น�นเป็นปีช�วบ้�นมักจะเติมเกลือและกระเทียมลงไปด้วย แต่ถ้�ไม่ใส่กระเทียมและเกลือก็จะเก็บไว้ ได้เพียง 6 เดือนเท่�นั้น การคัดเลือก ตนจาก การตัด ลูกจาก 1. ก�รคัดเลือกต้นจ�กที่จะทำ�นำ้�ส้ม จ�ก จะต้องเป็นต้นจ�กที่อุดมสมบูรณ์ ไม่มีก�รตัดยอด มีก้�นดอกที่เพิ่งออก ลูกได้ไม่น�น แล้วเริ่มโยกหรือเขย่�ก้�น ดอกจ�ก ประม�ณ 1 เดือน โยกทุกวัน จนกว่�ก้�นดอกจะอ่อนลงให้ม�กที่สุด เพื่อให้ก้�นดอกเก็บนำ้�ได้ม�กที่สุด ห�กไม่มีก�รโยกหรือเขย่�จะทำ�ให้ ก้�นจ�กแข็งและได้นำ้�ส้มน้อยหรือ อ�จจะไม่มีนำ้�ส้มออกม� 2. ก�รตัดลูกจ�ก 1 เดือนผ่�นไป ลูกจ�กโตขึ้นพอประม�ณ ก้�นดอก จ�กอ่อน หลังจ�กนั้นจะทำ�ก�รตัด ลูกจ�กออกไป ให้เหลือแค่ก้�นจ�ก อย่�งเดียว วิธีตัดก้�นดอกจะต้องตัด ให้เฉียง ตัดจ�กด้�นในออกม�ด้�นนอก เมื่อตัดเสร็จแล้ว กดก้�นดอกให้โค้งลง แล้วใช้ลวดหรือเชือกม�ผูกไว้กับไม้ ที่ปักในดินในระดับที่เหม�ะสม ต�ร�งที่ 27 กระบวนก�รผลิตนำ้�ส้มจ�ก 0115


การรอง นํ้าสมจาก การหมัก นํ้าสมจาก การบรรจุ นํ้าสมจาก ใช้เคียว (ซ�ดะ) กรีดหรือตกแต่งก้�น จ�ก 2 - 3 ครั้ง ในส่วนที่ตัดลูกออกไป กรีดบ�ง ๆ เพื่อให้นำ้�ส้มออกม�และ ไหลเร็ว ห�กกรีดหน�เกินไปจะทำ�ให้ นำ้�ส้มออกช้�และแห้งไปในที่สุด 3. ก�รรองนำ้�ส้มจ�กและก�รเก็บ นำ้�ส้มหลังจ�กมีก�รตกแต่งหรือกรีด ก้�นดอกจ�กเรียบร้อยแล้ว นำ�ขวด พล�สติกม�รองไว้ โดยผูกไว้กับก้�น ดอกจ�ก จ�กนั้นจะเก็บนำ้�ส้ม 2 ช่วง คือ ช่วงเช้�และช่วงเย็น 4. ก�รหมักเมื่อได้นำ้�ส้มจ�กแล้วจะนำ� ม�ทำ�ก�รหมัก โดยใส่ถังหรือโอ่ง ใส่ จนเต็มแล้วปิดฝ�ภ�ชนะ ก�รหมัก จะใช้ะยะเวล�ประม�ณ 40 - 45 วัน เพื่อให้แอลกอฮอล์หมดไปก่อน จึงจะ เปิดเพื่อจำ�หน่�ยได้ ห�กมีก�รดื่มใน ช่วงไม่ถึงเวล� จะทำ�ให้เกิดอ�ก�ร มึนเม�ได้ และยังขัดต่อศ�สนบัญญัติ ของศ�สน�อิสล�มได้ ในก�รหมักนั้น ห้�มมีก�รเปิด - ปิด ฝ�ภ�ชนะบ่อย ๆ เพร�ะจะทำ�ให้นำ้�ส้มเสีย หรือไม่มี คว�มเปรี้ยวทันที 5. บรรจุภัณฑ์นำ้�ส้มที่ได้จ�กก�ร หมักแล้วม�บรรจุใส่ลง ห่อหุ้ม ผลิตภัณฑ์ภ�ยในให้ปลอดภัย สะดวกต่อก�รขนส่ง เอื้ออำ�นวย ให้เกิดผลประโยชน์ในท�งก�รค้� และก�รบริโภค 0116 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ภ�พที่ 71 ก�รลงพื้นที่ทดสอบแบบสอบถ�ม ภ�พที่ 72 จัดอบรมถ่�ยทอดองค์คว�มรู้ในก�รคำ�นวณต้นทุนผลิตภัณฑ์จ�กทั้ง 4 ชนิดให้แก่เกษตรกร 2. การจัดทํา การทดสอบ และการพัฒนาแบบสอบถาม หลังจ�กก�รลงพื้นที่ศึกษ�กระบวนก�รแปรรูปผลผลิตจ�กต้นจ�กทั้ง 4 ผลิตภัณฑ์ ทำ�ให้ได้ข้อมูล เพื่อนำ�ม�ใช้ในก�รออกแบบและจัดทำ�สอบถ�มเพื่อเก็บข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนของแปรรูปผลผลิต จ�กต้นจ�กทั้ง 4 ผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งได้นำ�แบบสอบถ�มยื่นขออนุมัติจริยธรรมในมนุษย์และได้ลงพื้นที่ ทดสอบแบบสอบถ�มเพื่อนำ�ม�พัฒน�แบบสอบถ�มที่สมบูรณ์ใช้สำ�หรับเก็บข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทน ของแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�กควบคู่ก�รอบรมถ่�ยทอดองค์คว�มรู้ในก�รคำ�นวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ ดังภ�พที่ 71 3. การอบรมถายทอดองคความรูในการคํานวณตนทุนผลิตภัณฑและการเก็บรวบรวมขอมูล เมื่อได้พัฒน�แบบสอบถ�มที่สมบูรณ์แล้ว จึงได้ลงพื้นที่จัดอบรมถ่�ยทอดองค์คว�มรู้ในก�รคำ�นวณ ต้นทุนผลิตภัณฑ์จ�กทั้ง 4 ชนิดให้แก่เกษตรกรดังภ�พที่ 9 และลงพื้นที่เก็บข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทน ก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�กใน 9 หมู่บ้�นของตำ�บลขน�บน�ก ดังภ�พที่ 72 ต้นทุนค่�นำ้�หว�นจ�กดิบและต้นทุนค่�แรงง�นเป็นต้นทุนหลักในก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�ก มีสัดส่วน ต้นทุนประม�ณร้อยละ 50 - 57 และร้อยละ 25 - 30 ของต้นทุนรวมต�มลำ�ดับ ทั้งต้นทุนค่�นำ้�หว�นจ�ก ดิบและต้นทุนค่�แรงง�นต่�งเป็นต้นทุนที่ไม่เป็นเงินสด เกษตรกรไม่นำ�ต้นทุนดังกล่�วม�คิดเป็นต้นทุน ผลิตภัณฑ์จ�ก สัดส่วนโครงสร้�งต้นทุนก�รผลิตของผลิตภัณฑ์จ�กนั้นประกอบด้วยต้นทุนผันแปรเกือบ ทั้งหมดร้อยละ 99 และเป็นต้นทุนคงที่เพียงร้อยละ 1 เท่�นั้น ผลิตภัณฑ์นำ้�ผึ้งจ�กมีต้นทุนต่อหน่วย 45.10 บ�ทต่อลิตร มีกำ�ไร 14.90 บ�ทต่อลิตร ผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลปีบ มีต้นทุนต่อหน่วย 778.81 บ�ท ต่อปีบ มีกำ�ไร 221.19 บ�ทต่อปีบ ผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลผงมีต้นทุนต่อหน่วย 69.62 บ�ทต่อกิโลกรัม มีกำ�ไร 50.39 บ�ทต่อกิโลกรัม และผลิตภัณฑ์นำ้�ส้มจ�กมีต้นทุนต่อหน่วย 4.76 บ�ทต่อลิตร มีกำ�ไร 1.24 บ�ท ต่อลิตร 0117


4.2 การพัฒนาผลิตภัณฑเครื่องดื่มน้ําสมสายชูหมัก จากน้ําตาลจาก (วิไลวรรณ ไชยศร และสิริกุล เพชรหวล) ก�รศึกษ�และพัฒน�กระบวนก�รผลิตนำ้�ส้มส�ยชูหมักจ�กนำ้�ต�ลจ�ก โดยก�ร พัฒน�สูตรเครื่องดื่ม นำ้�ส้มส�ยชูหมักและศึกษ�คุณภ�พของผลิตภัณฑ์ที่ได้จ�กก�รผลิต เนื่องจ�กวัตถุดิบจ�กต้นจ�กในพื้นที่ จังหวัดนครศรีธรรมร�ช มีทั้งส่วนที่เป็นนำ้�หว�นจ�กสด และนำ้�ต�ลจ�กที่ได้จ�กก�รเคี่ยวนำ้�หว�นสด จนเข้มข้น จึงได้ทำ�ก�รศึกษ�ก�รผลิตนำ้�ส้มส�ยชูโดยใช้วัตถุดิบตั้งต้น 3 แบบ คือ นำ้�หว�นจ�กสด นำ้�ต�ลจ�ก นำ้�หว�นสดผสมนำ้�ต�ลจ�ก (1:1) พร้อมทั้งศึกษ�คว�มหว�น เริ่มต้นที่เหม�ะสมในก�รผลิต โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 12 17 และ 22 องศ�บริกซ์ ทำ�ก�รฆ่�เชื้อที่ปนเปอนด้วยก�รเติม KMS ก่อนทำ�ก�รหมัก ในขั้นตอนก�รหมักนำ้�ต�ลเป็นแอลกอฮอล์ใช้เชื้อยีสต์ Saccharomyces cerevisiae TISTR5107 และขั้นตอนก�รหมักนำ้�ส้มส�ยชูใช้เชื้อ Acetobacter aceti TISTR354 พบว่�ปริม�ณ แอลกอฮอล์ที่ได้จ�กก�รหมักอยู่ในช่วง 5 - 12% และแปรผันตรงกับ คว�มหว�นเริ่มต้นของวัตถุดิบ แต่ในขั้นตอนก�รหมักนำ้�ส้มส�ยชูพบว่�นำ้�หมักที่มีปริม�ณแอลกอฮอล์สูง (ม�กกว่� 10%) กลับให้ผล ก�รผลิตกรดตำ่� (น้อยกว่� 0.5%) ส่วนนำ้�ส้มส�ยชูที่ได้จ�กก�รหมัก วัตถุดิบเริ่มต้นที่มีคว�นหว�น 12 และ 17 องศ�บริกซ์ มีปริม�ณกรดไม่แตกต่�งกันในช่วง 4.4 - 4.5% อย่�งไรก็ต�มนำ้�ส้มส�ยชูที่ได้จ�ก ก�รหมักนำ้�หว�นสดและนำ้�หว�นสดผสมนำ้�ต�ล จ�กมีกลิ่นเปรี้ยวฉุนค่อนข้�งแรง และมีหนอนนำ้�ส้ม เกิดขึ้นระหว่�งกระบวนก�รหมัก รวมทั้งมีปัญห� ในก�รจัดเก็บนำ้�หว�นสดในระยะย�ว ดังนั้นก�รใช้ วัตถุดิบเริ่มต้นเป็นนำ้�ต�ลจ�กที่มีคว�มหว�น 12 องศ�บริกซ์ จึงเหม�ะสมที่สุดในก�รศึกษ�ครั้งนี้ โดยในขั้นก�รหมักแอลกอฮอล์ได้ปริม�ณแอลกอฮอล์คงที่ 7.5% ในระยะเวล� 9 - 12 วัน และได้ปริม�ณ กรดคงที่ 4.5% ในระยะเวล�ประม�ณ 20 วัน และพบว่�ก�รเติม Diammonium phosphate (DAP) และวิต�มินบี ไม่มีผลต่อปริม�ณแอลกอฮอล์และกรดที่ผลิตได้สำ�หรับก�รขย�ยขน�ดก�รผลิตจ�ก 1 ลิตร เป็นถังหมักขน�ด 20 ลิตร โดยมีปริม�ตรก�รหมักแอลกอฮอล์และกรด 18 และ 17 ลิตร ต�มลำ�ดับ พบว่�มีประสิทธิภ�พก�รผลิตใกล้เคียงกัน โดยส�ม�รถผลิตแอลกอฮอล์ได้ 6.8% ในระยะเวล� 8 - 10 วัน และผลิตกรด 4.33% ในเวล� 20 วัน รวมระยะเวล�ในก�รหมักประม�ณ 30 วัน ก�รเก็บรักษ� นำ้�ส้มส�ยชูที่ผลิตได้เป็นระยะเวล� 60 วัน พบว่�ไม่มีก�รเปลี่ยนแปลงของปริม�ณแอลกอฮอล์ กรด ค่�คว�มเป็นกรด-ด่�ง(pH) รวมทั้งไม่มีก�รเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ คุณลักษณะของนำ้�ส้มส�ยชูหมัก จ�กนำ้�ต�ลจ�กเป็นไปต�มเกณฑ์ม�ตรฐ�นผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) นำ้�ส้มส�ยชูหมัก คือ มีปริม�ณกรด ไม่น้อยกว่� 4% ไม่มีโลหะหนักปนเปอนยกเว้นเหล็กซึ่งมีปริม�ณไม่เกินเกณฑ์ม�ตรฐ�นที่กำ�หนด และผลิตภัณฑ์จ�กทั้ง 4 ชนิดมีคว�มคุ้มค่�ในก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื่องด้วยในปัจจุบันมีระดับ ปริม�ณก�รผลิตสูงกว่�ระดับผลผลิตคุ้มทุนและร�ค�ตล�ดของผลิตภัณฑ์จ�กทั้ง 4 ชนิด ก็มีระดับ ร�ค�ข�ยสูงกว่�ระดับร�ค�คุ้มทุน โดยเฉพ�ะผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลผงที่มีร�ค�ข�ยสูงกว่�ระดับร�ค�คุ้มทุน มีกำ�ไรสูงถึงร้อยละ 41.99 และในแต่ละรอบก�รผลิต เกษตรกรแต่ละร�ยจะต้องผลิตผลิตภัณฑ์นำ้�ผึ้งจ�ก ผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลปีบ ผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลผง และผลิตภัณฑ์นำ้�ส้มจ�กให้มีปริม�ณม�กกว่� 14.49 ลิตร 1.64 ปีบ 7.57 กิโลกรัม และ 82.38 ลิตรต�มลำ�ดับ จึงจะทำ�ให้เกิดคว�มคุ้มค่�ในก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์ จ�กที่สร้�งกำ�ไรให้แก่เกษตรกรได้ ส่วนผลิตภัณฑ์จ�กที่มีมูลค่�เพิ่มขึ้นจ�กก�รนำ�นำ้�หว�นจ�กไปแปรรูปต่อ เป็นผลิตภัณฑ์คือ ผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลผง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จ�กชนิดเดียวมีสัดส่วนร้อยละของกำ�ไรเพิ่มขึ้น ในต่�งช่วงชนิดของผลิตภัณฑ์ระหว่�งนำ้�หว�นจ�กและนำ้�ต�ลผง อีกทั้งเป็นผลิตภัณฑ์จ�กชนิดเดียว ที่มีกำ�ไรส่วนเพิ่มจ�กก�รนำ�นำ้�หว�นจ�กไปแปรรูปต่อเป็นผลิตภัณฑ์นำ้�ต�ลผง 0118 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


4.3 การมีสวนรวมในการสรางจิตสํานึกอนุรักษ ภูมิปญญาพืชจาก เพื่อสงเสริมศูนยเรียนรูระบบ นิเวศปาจากครบวงจร (รุงรวี จิตภักดี) จ�กข้อมูลก�รสำ�รวจของมห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์ ในก�รจัดทำ�แผนพัฒน�เศรษฐกิจชุมชน พบว่� ในแต่ละปีอ�ชีพก�รทำ�ไร่จ�กจะสร้�งร�ยได้ประม�ณ 12 ล้�นบ�ทแก่ชุมชน โดยมีต้นทุนในก�รผลิต เพียงประม�ณ 1 ล้�นบ�ทเท่�นั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับร�ยได้สุทธิของผู้ทำ�อ�ชีพน�ข้�วและน�กุ้งแล้ว อ�ชีพก�รทำ�ไร่จ�กถือว่�เป็นอ�ชีพที่ทำ�ร�ยได้สูงม�ก ช�วบ้�นได้สะสมภูมิปัญญ�ในก�รประกอบอ�ชีพ จ�กต้นจ�กม�อย่�งย�วน�น ไม่น้อยกว่� 200 ปีม�แล้ว คว�มรู้เกี่ยวกับก�รใช้ประโยชน์ของต้นจ�ก ได้ถ่�ยทอดต่อ ๆ กันม�หล�ยชั่วอ�ยุคน เป็นที่น่�เสียด�ยว่�ในขณะนี้กำ�ลังจะสูญห�ย โดยเฉพ�ะเย�วชน ยังได้รับข้อมูลในก�รอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ป่�จ�กยังไม่ม�ก เพื่อให้สอดคล้องกับเป�หม�ยของ โครงก�รอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องม�จ�กพระร�ชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด� สย�มบรมร�ชกุม�ร (อพ.สธ.) ระยะ 5 ปีที่หก (1 ตุล�คม พ.ศ. 2559 - 30 กันย�ยน พ.ศ. 2564) ที่มีแนวท�งก�รดำ�เนินง�น ต�มกรอบก�รดำ�เนินง�นของแผนแม่บท ภ�ยใต้กรอบก�รใช้ประโยชน์ทรัพย�กรเพื่อพัฒน�และ เพิ่มประสิทธิภ�พก�รดำ�เนินง�นศึกษ�วิจัยและประเมินศักยภ�พของทรัพย�กรในด้�นต่�ง ๆ โดยบรรลุ จุดมุ่งหม�ยต�มแนวพระร�ชดำ�ริ โดยมี กิจกรรมที่ 7 สร้�งจิตสำ�นึกในก�รอนุรักษ์ ทรัพย�กรที่มีเป�หม�ย ที่จะสร้�งจิตสำ�นึก ให้เย�วชน บุคคลทั่วไปให้เข้�ใจถึงคว�มสำ�คัญและประโยชน์ของพันธุกรรมพืช ให้รู้จักหวงแหน รู้จักก�รนำ�ไปใช้ประโยชน์อย่�งยั่งยืน ซึ่งมีคว�มสำ�คัญต่อก�รจัดก�ร ก�รอนุรักษ์และ ก�รใช้ทรัพย�กรของประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นก�รอนุรักษ์และสืบทอดทรัพย�กรด้�นวัฒนธรรมและ ภูมิปัญญ�ไม่ให้เสื่อมสล�ยไปต�มก�ลเวล� และตอบโจทย์ก�รวิจัย (อพ.สธ.) ดังนั้น ก�รสร้�งกระบวนก�ร ไม่มีหนอนนำ้�ส้ม และไม่มีก�รเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อร�และพย�ธิก�รพัฒน�สูตรก�รผลิตเครื่องดื่ม นำ้�ส้มส�ยชูหมักนำ้�ต�ลจ�ก ทำ�โดยก�รนำ�นำ้�ส้มส�ยชูที่ผลิตได้ม�ผสมนำ้�ผึ้งดอกลำ�ไย และทดสอบ ก�รยอมรับท�งประส�ทสัมผัสโดยผู้บริโภค (9 point Hendonic Scale) ได้สูตร นำ้�ส้มส�ยชูหมัก : นำ้�ผึ้ง : นำ้� อัตร�ส่วน 20 : 20 : 60 ที่มีค่�ก�รยอมรับสูงสุดในทุกคุณลักษณะ จ�กนั้นพัฒน�สูตร ผสมนำ้�ผึ้งมะน�วในอัตร�ส่วน นำ้�ส้มส�ยชูหมัก : นำ้�ผึ้งนำ้�มะน�ว : นำ้� เท่�กับ 20 : 10 : 10 : 60 ซึ่งให้ค่�ก�รยอมรับท�งประส�ทสัมผัสไม่แตกต่�งจ�กสูตรผสมนำ้�ผึ้ง ก�รศึกษ�คุณลักษณะของเครื่องดื่ม นำ้�ส้มส�ยชูหมักนำ้�ต�ลจ�กพบว่� สูตรผสมนำ้�ผึ้งมีคว�มหว�นม�กกว่� ในขณะที่สูตรนำ้�ผึ้งมะน�ว มีปริม�ณกรด และค่� pH สูงกว่�ด้วยคุณสมบัติของนำ้�มะน�ว ทั้ง 2 สูตรไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มี ก�รปนเปอนของจุลินทรีย์ ก�รเก็บรักษ�เครื่องดื่มนำ้�ส้มส�ยชูหมักที่ 40C และอุณหภูมิห้อง หลังจ�ก บรรจุขวดด้วยกระบวนก�รพล�สเจอไรซ์ ทำ�ก�รสุ่มเก็บตัวอย่�งทุก 7 วัน เป็นเวล� 90 วัน ไม่พบก�ร เปลี่ยนแปลงทั้งปริม�ณกรด แอลกอฮอล์ ค่� PH และไม่มีก�รเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ผลิตภัณฑ์นำ้�ส้ม ส�ยชูหมักที่ผลิตจ�กนำ้�ต�ลจ�กเป็นท�งเลือกหนึ่งที่ส�ม�รถเพิ่มมูลค่�ของผลผลิตจ�กต้นจ�กให้สูงขึ้นได้ เมื่อพิจ�รณ�โดยประม�ณก�รต้นทุนท�งวัตถุดิบนำ้�ต�ลจ�ก 1 ขวด ปริม�ตร 750 มิลลิลิตร ร�ค� 80 บ�ท ส�ม�รถผลิตเป็นนำ้�ส้มส�ยชูหมักเข้มข้น 4 ลิตรเปรียบเทียบกับร�ค�ข�ยของผลิตภัณฑ์นำ้�ส้มส�ยชูหมัก ที่ว�งจำ�หน่�ยต�มท้องตล�ดอยู่ในช่วงลิตรละ 227 - 475 บ�ท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ดังนั้นนำ้�ต�ลจ�กหนึ่งขวด ส�ม�รถผลิตเป็นนำ้�ส้มส�ยชูที่มีมูลค่�ในช่วง 908 - 1,900 บ�ท ซึ่งถ้�คิดคำ�นวณต้นทุนอื่น ๆ เข้�ไป ก็ยังมีกำ�ไรเกิน 200% และถ้�นำ�ไปพัฒน�จำ�หน่�ยแบบพร้อมดื่มจะส�ม�รถเพิ่มมูลค่�สูงขึ้นได้อีก 0119


มีส่วนร่วมในก�รสร้�งจิตสำ�นึกในก�รอนุรักษ์ในทุกระดับ ตั้งแต่ เย�วชน บุคคลทั่วไป ช�วไร่จ�ก และ หน่วยง�นรับผิดชอบ เพื่อสนับสนุนเสริมส่งเสริมวัฒนธรรม ภูมิปัญญ� และก�รอนุรักษ์ป่�จ�ก ภ�ยใต้ กระบวนก�รนำ�ของศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศ ป่�จ�ก ครบวงจรบ้�นบ�งตะลุมพอ ตำ�บลขน�บน�ก อำ�เภอ ป�กพนัง จังหวัดนครศรีธรรมร�ช หน่วยง�นพัฒน�ในพื้นที่ คือ ศูนย์อำ�นวยก�รและประส�นก�รพัฒน� พื้นที่ลุ่มนำ้�ป�กพนังอันเนื่องม�จ�กพระร�ชดำ�ริ โครงก�รพัฒน�พื้นที่ลุ่มนำ้�ป�กพนังอันเนื่องม�จ�ก พระร�ชดำ�ริ และทีมนักวิจัยมห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์ และหน่วยง�นปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เช่น อบต. ขน�บน�กเป็นต้น เพื่อห�รูปแบบก�รมีส่วนร่วมที่เหม�ะสม ให้หล�กหล�ยกลุ่มเป�หม�ย โดยเฉพ�ะกลุ่มเย�วชนในพื้นที่ลุ่มนำ้�ป�กพนัง ที่บรรพบุรุษได้ใช้ พืชจ�ก หล่อเลี้ยงชีวิต ลูกหล�นเสมอม� ที่จะต้องให้คว�มสำ�คัญในลำ�ดับต้น และวิจัยห�กระบวนก�รมีส่วนร่วมอย่�งยั่งยืนในก�รสืบทอดภูมิปัญญ� ท้องถิ่น วิถีวัฒนธรรม ก�รใช้ประโยชน์พืชจ�ก สู่ชนรุ่นหลังต่อไป มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์ และศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศป่�จ�กครบวงจร ร่วมกันจัดโครงก�รส่งเสริม เรียนรู้ อนุรักษ์ระบบนิเวศป่�จ�กลุ่มนำ้�ป�กพนัง ณ ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศป่�จ�กครบวงจร บ้�นบ�งตะลุมพอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมก�รถ่�ยทอดองค์คว�มรู้รูปแบบกระบวนก�รมีส่วนร่วม ในก�รสร้�งจิตสำ�นึก ก�รอนุรักษ์ป่�จ�ก ส่งเสริมบทบ�ทในก�รร่วมกันอนุรักษ์ต้นจ�กในฐ�นะพืชมหัศจรรย์ ในชุมชนของตนเอง และเพื่อรวบรวมองค์คว�มรู้และผลิตภัณฑ์ที่ได้จ�กต้นจ�ก ม�สังเคร�ะห์เป็นชุดข้อมูล สู่ก�รถ่�ยทอด โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 4 ฐ�นก�รเรียนรู้ ได้แก่ ฐานที่ 1 เรียนรูปาจาก วิทย�กรได้บอกเล่�ตั้งแต่วิธีก�รปลูกจ�ก วิธีก�รดูแลต้นจ�ก รวมไปถึงกระบวนก�รตีต�ล ป�ดต�ล เพื่อให้ได้ม�ซึ่งนำ้�หว�นจ�ก ผู้เข้�ร่วมได้ลงมือปฏิบัติในก�รตีต�ล และได้ซักถ�มประเด็นข้อสงสัยกับ วิทย�กรซึ่งเป็นผู้ประกอบอ�ชีพนำ้�ต�ลจ�กภ�ยในชุมชน ฐานที่ 2 ฐานเย็บจาก เป็นฐ�นที่ให้คว�มรู้ถึงประโยชน์ของต้นจ�กที่ส�ม�รถนำ�ม�ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ไม่ว่�จะเป็นใบจ�ก ดอกจ�ก หรือผลจ�ก ท�งวิทย�กรผู้ให้คว�มรู้ได้นำ�เสนอประโยชน์ของใบจ�กที่ส�ม�รถนำ�ม�ใช้ประโยชน์ ในก�รเย็บเป็นหลังค�ได้ และได้นำ�ใบจ�กม�ประยุกต์ในก�รทำ�ผลิตภัณฑ์จักส�น เช่นหม�จ�ก ซึ่งเป็น ภูมิปัญญ�ท้องถิ่นของตำ�บลขน�บน�กที่กำ�ลังจะสูญห�ยจ�กพื้นที่ม�ถ่�ยทอด และให้คว�มรู้กับผู้เข้�ร่วม ฐานที่ 3 การทําขนมจาก เป็นก�รนำ�เอ�ประโยชน์จ�กใบจ�กที่ส�ม�รถนำ�ม�ห่อขนมได้ และเอ�นำ้�ต�ลจ�กม�ใช้แทนนำ้�ต�ล ทร�ย ซึ่งเป็นนำ�ต�ลท�งเลือกเพื่อสุขภ�พ เนื่องจ�กนำ้�ต�ลจ�กมีผลในก�รดูดซึมเข้�สู่กระแสเลือด อย่�งช้� ๆ ในปริม�ณตำ่� ตับอ่อนไม่ต้องทำ�ง�นหนักในก�รหลั่งอินซูลินออกม�ในปริม�ณม�กอย่�งรวดเร็ว เกิดก�รตอบสนองท�งชีวเคมีของร่�งก�รที่สมดุล จึงเป็นนำ้�ต�ลท�งเลือกที่ช่วยลดคว�มเสี่ยงและ คว�มรุนแรงของโรคเบ�หว�นได้ ฐานที่ 4 นํ้าตาลเกล็ด นักเรียนผู้เข้�ร่วมได้เรียนรู้วิธีก�รแปรรูปนำ้�ต�ลเกล็ด และได้ลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งนำ้�ต�ลเกล็ดเป็นก�ร พัฒน�และเพิ่มมูลค่�ให้กับสินค้�ที่ได้พัฒน�ม�จ�กก�รทำ�นำ้�ต�ลปีบม�แปรรูปเป็นนำ้�ต�ลเกล็ด ซึ่งมีร�ค� ที่สูงกว่�ก�รผลิตนำ้�ต�ลปีบแบบปกติ นำ้�ต�ลเกล็ดเป็นนำ้�ต�ลท�งเลือกที่ช่วยลดคว�มเสี่ยงและคว�มรุนแรง ของโรคเบ�หว�นได้ และพบปริม�ณแร่ธ�ตุโพแทสเซียมม�กกว่�โซเดียม ซึ่งโพแทสเซียมเป็นแร่ธ�ตุที่ ให้คว�มเค็มโดยไม่ส่งผลเสียต่อก�รเพิ่มระดับคว�มดันโลหิต แต่มีส่วนช่วยลดระดับคว�มดันโลหิตได้ จ�กกระบวนก�รที่มีส่วนขย�ยหลอดเลือดและขับโซเดียมออกจ�กร่�งก�ย 0120 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


กิจกรรม One Day Trip ดานการมีสวนรวม ดานกระบวนการเรียนรู ดานการซื้อ-ขาย ของที่ระลึก ในก�รจัดกิจกรรมโครงก�ร ส่งเสริม เรียนรู้ อนุรักษ์ ระบบนิเวศป่�จ�กลุ่มนำ้� ป�กพนัง One Day Trip ในครั้งแรกผู้เข้�ร่วมเป็น นักเรียนชั้นประถมศึกษ� ซึ่งมีส่วนร่วมในก�รในก�ร ทำ�กิจกรรมที่ดีม�ก ไม่ว่� จะเป็นก�รบรรย�ยจ�ก วิทย�กรประจำ�ฐ�น ก�รทำ� กิจกรรม Pre-test และ Post-test ในก�รจัดกิจกรรมโครงก�ร ส่งเสริม เรียนรู้ อนุรักษ์ ระบบนิเวศป่�จ�กลุ่มนำ้� ป�กพนัง One Day Trip ในครั้งที่ 2 ผู้เข้�ร่วมเป็น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษ� ตอนต้น ซึ่งมีส่วนร่วมในก�ร ในก�รทำ�กิจกรรมค่อนข้�งดี มีคว�มสนใจในเรื่องของ ต้นจ�ก กล้�พูดคุยซักถ�ม ในข้อสงสัย เชื่อฟังและให้ คว�มร่วมมือในก�รทำ� กิจกรรมประจำ�ฐ�น และ ก�รทำ�กิจกรรม Pre-test และPost-test ในก�รจัดกิจกรรมโครงก�ร ส่งเสริม เรียนรู้ อนุรักษ์ ระบบนิเวศป่�จ�กลุ่มนำ้� ป�กพนัง One Day Trip ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 กระบวนก�รเรียนรู้ของ ผู้เข้�ร่วมซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ประถมศึกษ�มีก�รสังเกต และตั้งคำ�ถ�มในสถ�นก�รณ์ ต่�ง ๆ มีก�รเรียนรู้กันเป็น กลุ่ม แล้วจึงนำ�ไปสู่กระบวน ก�รเรียนรู้ในองค์คว�มรู้ ต่�ง ๆ กระบวนก�รเรียนรู้ของ ผู้เข้�ร่วมซึ่งเป็นชั้นมัธยม ศึกษ�ตอนต้น วัยที่จะเรียน รู้วิธีก�รทำ�ง�นร่วมกับเพื่อน ที่มีคว�มสนใจแบบเดียวกัน มีก�รทำ�ง�นกันเป็นกลุ่ม กระบวนก�รเรียนรู้ของผู้ เข้�ร่วมซึ่งเป็นนักศึกษ� และ ประช�ชนผู้สนใจที่จะเข้� ร่วมกิจกรรม ซึ่งมีคว�มพร้อม ผู้เข้�ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นช่วงวัยอ�ยุประม�ณ 9 - 12 ปี มีคว�มรู้ และ สนุกในระหว่�งก�รทำ� กิจกรรมอยู่ตลอด แต่ยัง ไม่มีก�รเลือกซื้อ หรือ อุดหนุนผลิตภัณฑ์ภ�ยใน วิส�หกิจเนื่องจ�กเป็นวัย ที่กำ�ลังศึกษ� และสินค้� อ�จจะยังไม่ตรงต�มคว�ม ต้องก�รม�กนัก รวมไปถึง ปัจจัยเรื่องทุนทรัพย์ยังไม่ เพียงพอในก�รเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์ ผู้เข้�ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นช่วงวัยอ�ยุประม�ณ 13 - 15 ปี มีคว�มรู้ คว�มเข้�ใจในตัวของ กิจกรรมบ้�ง แต่ไม่เทียบ เท่�กับกลุ่มที่ 3 ทำ�ให้ยัง ไม่ค่อยมีก�รอุดหนุนสินค้� ภ�ยในวิส�หกิจม�กนัก เพร�ะเนื่องจ�กเป็นวัยที่ กำ�ลังศึกษ� และอ�จไม่มี กำ�ลังในด้�นทุนทรัพย์ ม�กพอในก�รเลือกซื้อ บริโภคสินค้� ผู้เข้�ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นช่วงวัยระหว่�งอ�ยุ ประม�ณ 20 - 45 ปี ทำ�ให้มีคว�มรู้คว�มเข้�ใจ 0121


การสรางแอพพลิเคชั่น (application) จากขนาบนาก ในการสงเสริมและอนุรักษทรัพยากรปาจาก ในพื้นที่ตําบลขนาบนาก อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดทำ�แอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�ก เพื่อส่งเสริมและอนุรักษร์ทรัพย�กรป่�จ�ก ซึ่งในปัจจุบันสม�ร์ทโฟนเป็นปัจจัยหลักในก�รใช้ชีวิตประจำ�วัน เพร�ะคนทุกเพศทุกวัยส�ม�รถเข้�ถึง ได้ง่�ย ช่วยอำ�นวยคว�มสะดวกในก�รใช้ชีวิต เพื่อเป็นก�รใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์และ สร้�งสรรค์ ผู้จัดทำ�จึงได้คิดริเริ่มที่จะพัฒน�แอพพลิเคชั่นบนสม�ร์ทโฟน และแท็บเล็ตเพื่อเป็นช่องท�งก�รซื้อข�ย ผลิตภัณฑ์ และให้คว�มรู้ข้อมูลเกี่ยวกับป่�จ�ก ผลิตภัณฑ์ของต้นจ�ก เส้นท�งก�รท่องเที่ยว ปฎิทินป่�จ�ก รวมไปถึงข้อมูลง�นวิจัยและข้อมูลก�รสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เป็นต้น โดยรูปแบบก�รใช้ง�นแอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�กเบื้องต้น ออกแบบม�เพื่อให้คน ทุกเพศทุกวัยส�ม�รถเข้�ถึงได้ง่�ย ก�รใช้ง�นของแอพพลิเคชั่น (application) ไม่ซับซ้อนจนเกินไป มีสีสันสดใส สวยง�ม และเหม�ะกับกลุ่มคนทุกช่วงอ�ยุ ดังแสดงในภ�พที่ 73 กิจกรรม One Day Trip ดานการมีสวนรวม ดานกระบวนการเรียนรู ดานการซื้อ-ขาย ของที่ระลึก ในครั้งที่ 3 ผู้เข้�ร่วมเป็น กลุ่มประช�ชน และเป็น กลุ่มนักศึกษ�ผู้ที่สนใจเข้� ร่วมกิจกรรม ซึ่งมีส่วน ร่วมในก�รทำ�กิจกรรมดี ม�ก มีคว�มสนใจในเรื่อง ต้นจ�ก และผลิตภัณฑ์ จักส�น เช่นหม�จ�ก มี ก�รพูดคุยโต้ตอบ และ ซักถ�มประเด็นข้อสงสัย กับวิทย�กรอย่�งตรงไป ตรงม� ให้คว�มร่วมมือ กับวิทย�กรประจำ�ฐ�น ในก�รทำ�กิจกรรมต่�ง ๆ ร่วมถึงกิจกรรม Pre-test และPost-test ในก�รเรียนรู้ และมีวุฒิ ภ�วะพร้อมที่จะเรียนรู้ใน เรื่องต่�ง ๆ ซึ่งผู้เข้�ร่วม ในกลุ่มนี้มีคว�มสนใจที่จะ เข้�ร่วมกิจกรรมทำ�ให้เกิด กระบวนก�รเรียนรู้ได้ดี เกี่ยวกับกิจกรรม และมี ปัจจัยที่พร้อมในก�รจับ จ่�ยเลือกซื้อสินค้�ของ ที่ระลึกประจำ�ศูนย์ก�ร เรียนรู้ระบบนิเวศป่�จ�ก ครบวงจรซึ่งถือเป็นก�ร กระตุ้นยอดข�ย และช่วย สนับสนุนสินค้�ของท�ง วิส�หกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์ จ�กและก�รท่องเที่ยว ระบบนิเวศป่�จ�กและก�ร ท่องเที่ยวระบบนิเวศป่� จ�กครบวงจรอีกด้วย 0122 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ภ�พที่ 73 ก�รใช้แอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�กก�ร ใช้แอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�ก ซึ่งภ�ยในแอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�ก จะมีข้อมูลประกอบดังนี้ 1. ขอมูลปาจาก ผู้อ่�นจะได้รับข้อมูล คว�มรู้ในเรื่องของข้อมูลพื้นที่ตำ�บลขน�บน�ก ภูมิศ�สตร์ที่ตั้ง ลักษณะท�ง ก�ยภ�พของต้นจ�ก ที่ประกอบไปด้วย ลำ�ต้น ใบจ�ก ดอกจ�ก และผลจ�ก 2. ผลิตภัณฑปาจาก ผู้อ่�นได้รับข้อมูลที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จ�กต้นจ�ก ได้แก่ นำ้�หว�นจ�ก นำ้�ต�ลจ�กผง นำ้�ส้มจ�ก นำ้�ผึ้งจ�ก และผลิตภัณฑ์จักส�น เช่น เสวียนหม้อ โคมไฟแขวนเพด�น ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของ ส่วนประกอบต่�ง ๆ ของต้นจ�ก รวมไปถึงประโยชน์ของนำ้�ต�ลจ�ก และนำ้�ส้มจ�ก 3. เสนทางการทองเที่ยว ผู้อ่�นจะได้ศึกษ�เส้นท�งก�รท่องเที่ยวในชุมชนขน�บน�กซึ่งจะเป็นเส้นท�งท่องเที่ยวบนบก คือ เส้นท�งที่มีก�รเดินท�งท่องเที่ยวโดยใช้รถยนต์เป็นย�นพ�หนะ และเส้นท�งท่องเที่ยวท�งนำ้�ที่มีก�ร ล่องเรือชมวิถีชีวิตของชุมชนและลักษณะนิเวศของป่�จ�กในพื้นที่ชุมชนขน�บน�ก ซึ่งในแอพพลิเคชั่น (application) จะระบุแผนที่ และเส้นท�งก�รท่องเที่ยวภ�ยในตำ�บลขน�บน�ก เพื่อให้สะดวกในก�ร ค้นห�ข้อมูล 4. ปฏิทินปาจาก ผู้อ่�นจะได้รับข้อมูลของปฏิทินก�รท่องเที่ยวภ�ยในตำ�บลขน�บน�ก ซึ่งจะบอกข้อมูลพย�กรณ์อ�ก�ศ ในแต่ละเดือน ช่วงไหนที่เหม�ะสม หรือไม่เหม�ะสมในก�รม�ท่องเที่ยวภ�ยในตำ�บลขน�บน�ก 5. ขอมูลงานวิจัย ผู้อ่�นจะได้รับคว�มรู้เกี่ยวกับง�นวิจัยต่�ง ๆ ซึ่งได้รวบรวมง�นวิจัยที่เกี่ยวข้องกับต้นจ�ก เช่น ก�รศึกษ�องค์ประกอบท�งเคมีของนำ้�ต�ลจ�ก ก�รพัฒน�ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนำ้�ส้มส�ยชูหมักจ�กนำ้�ต�ลจ�ก 0123


สำ�หรับผู้ใช้ง�นในระบบปฏิบัติก�ร Android ส�ม�รถค้นห�แอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�ก ได้ท�ง Google Play Store หรือส�ม�รถ Scan QR Code เพื่อรับแอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�ก ได้ ดังภ�พที่ 75 และง�นวิจัยอื่น ๆ ซึ่งส�ม�รถห�อ่�นเพิ่มเติมได้ในแอพพลิเคชั่น (application) 6. ขอมูลติดตอ ในแอพพลิเคชั่น (application) จะมีข้อมูลติดต่อของผู้จำ�หน่�ยผลิตภัณฑ์ ซึ่งง่�ยต่อก�รติดต่อสื่อส�ร ในก�รซื้อข�ยสินค้� หรือสอบถ�มข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งในแอพพลิเคชั่น (application) ได้รวบรวมเบอร์โทรติดต่อ ID line และFacebook เอ�ไว้ เพื่อให้ผู้บริโภคส�ม�รถเข้�ถึงและทร�บข้อมูล ผลิตภัณฑ์ได้ง่�ยขึ้น 7. การซื้อขายสินคาภายในแอพพลิเคชั่น (application) ผู้ที่สนใจสินค้�ส�ม�รถเลือกซื้อ หรือเพิ่มจำ�นวนสินค้�ที่สนใจภ�ยในแอพพลิเคชั่น (application) ได้โดยเลือกกดไปที่แถบเมนูตะกร้� และส�ม�รถเลือกซื้อสินค้�ได้ต�มคว�มต้องก�รของผู้บริโภค วิธีการดาวนโหลดและติดตั้ง สำ�หรับผู้ใช้ง�นในระบบปฏิบัติก�ร IOS ส�ม�รถโหลดโปรแกรม Test Flight ใน App Store หรือ ส�ม�รถ Scan QR Code เพื่อรับแอพพลิเคชั่น (application) Test Flight และ Scan QR Code อีกครั้ง เพื่อรับแอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�ก ดังภ�พที่ 74 ภ�พที่ 74 วิธีก�รติดตั้งแอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�กสำ�หรับ IOS 0124 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ภ�พที่ 75 วิธีก�รติดตั้งแอพพลิเคชั่น (application) จ�กขน�บน�กสำ�หรับ Android 0125


4.4 ชองทางตลาดสีเขียวเพื่อรองรับผลิตภัณฑพืชจาก ในพื้นที่ลุมน้ําปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช (บุณฑรี จันทรกลับ และอรอนงค เฉียบแหลม) ชองทางตลาดปจจุบันของผลิตภัณฑพืชจากในพื้นที่ลุมนํ้าปากพนัง ต�มแผนกิจกรรมใช้เวล� 4 เดือน ปัจจุบันได้ดำ�เนินก�รแล้ว 100 % โดยได้ดำ�เนินก�รรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิและก�รสังเคร�ะห์ง�นวิจัย ก�รดำ�เนินก�รศึกษ�ช่องท�งตล�ดของจ�กในพื้นที่ตำ�บลขน�บน�ก พบว่� รูปแบบช่องท�งตล�ด จ�กก�รศึกษ�วิจัยของโครงก�รช่องท�งก�รตล�ดของผลิตภัณฑ์ทรัพย�กรจ�กในพื้นที่ ตำ�บลขน�บน�ก อำ�เภอป�กพนัง จังหวัดนครศรีธรรมร�ช (บุณฑรี จันทร์กลับและอรอนงค์ เฉียบแหลม, 2563) และ รูปแบบช่องท�งตล�ดจ�กของบ้�นตะลุมพอในปัจจุบัน (จ�กก�รสัมภ�ษณ์) ดังแสดงในภ�พที่ 76 และ 77 ดังนี้ 1. ชองทางการตลาดโดยภาพรวมของตําบลขนาบนาก อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งแบงออกเปน 15 รูปแบบดังภาพตอไปนี้ รูปแบบที่ 1 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ต�ลปีบ ข�ยสินค้�ผ่�นผู้รวบรวมนำ้�ต�ลปีบ ส่งข�ยให้ผู้ผลิตสุร�กลั่นชุมชน จ�กนั้นผู้ผลิตสุร�กลั่นชุมชนข�ยให้กับผู้บริโภค รูปแบบที่ 2 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ต�ลปีบ ข�ยสินค้�ให้กับผู้ผลิตกุ้งส้มในอำ�เภอป�กพนังที่ม�รับซื้อโดยตรง รูปแบบที่ 3 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ต�ลปีบ ข�ยสินค้�ให้กับผู้ผลิตขนมล�และผักก�ดดองเพื่อนำ�ไปดำ�เนินก�ร ผลิตเป็นสินค้�อ�ห�ร รูปแบบที่ 4 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ส้มจ�ก ข�ยสินค้�ให้ผู้ค้�ส่งนำ้�ส้มจ�ก ข�ยต่อให้ผู้ค้�ปลีกนำ้�ส้มจ�ก จ�กนั้นผู้ค้�ปลีกนำ้�ส้มจ�กข�ยต่อให้ผู้บริโภค รูปแบบที่ 5 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ส้มจ�ก ข�ยสินค้�ให้ผู้ค้�ปลีกและผู้ค้�ปลีกจะนำ�ไปข�ยต่อให้ผู้บริโภค ภ�พที่ 76 ช่องท�งก�รตล�ดโดยภ�พรวมของตำ�บลขน�บน�ก อำ�เภอท่�ศ�ล� จังหวัดนครศรีธรรมร�ช 0126 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ภ�พที่ 77 ช่องท�งก�รตล�ดของศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ตำ�บลขน�บน�ก อำ�เภอป�กพนัง จังหวัดนครศรีธรรมร�ช ในปัจจุบัน รูปแบบที่ 6 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ส้มจ�ก ข�ยสินค้�ให้ผู้บริโภคที่ม�ซื้อโดยตรง รูปแบบที่ 7 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ผึ้งจ�ก ข�ยสินค้�ให้ผู้ค้�ปลีกและผู้ค้�ปลีกจะนำ�ไปข�ยต่อให้ผู้บริโภค รูปแบบที่ 8 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ผึ้งจ�ก ข�ยสินค้�ให้ผู้บริโภคที่ม�ซื้อโดยตรง รูปแบบที่ 9 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ผึ้งจ�กชนิดผง ข�ยสินค้�ให้ผู้ค้�ปลีกและผู้ค้�ปลีกจะนำ�ไปข�ยต่อให้ผู้บริโภค รูปแบบที่ 10 เกษตรกรผู้ผลิตนำ้�ผึ้งจ�กชนิดผง ข�ยสินค้�ให้ผู้บริโภคที่ม�ซื้อโดยตรง รูปแบบที่ 11 เกษตรกรผู้ผลิตจ�กมุงหลังค� ข�ยสินค้�ให้ผู้ค้�ส่ง ข�ยต่อให้ผู้ค้�ปลีก จ�กนั้นผู้ค้�ปลีก ข�ยต่อให้ผู้บริโภค รูปแบบที่ 12 เกษตรกรผู้ผลิตจ�กมุงหลังค� ข�ยสินค้�ให้ผู้บริโภคที่ม�ซื้อโดยตรง รูปแบบที่ 13 เกษตรกรผู้ผลิตใบจ�กสำ�หรับสูบ ข�ยสินค้�ให้ผู้ค้�ส่ง ข�ยต่อให้ผู้ค้�ปลีก จ�กนั้นผู้ค้�ปลีก ข�ยต่อให้ผู้บริโภค รูปแบบที่ 14 เกษตรกรผู้ผลิตใบจ�กสำ�หรับสูบ ข�ยสินค้�ให้ผู้ค้�ปลีกและผู้ค้�ปลีกจะนำ�ไปข�ยต่อให้ ผู้บริโภค รูปแบบที่ 15 เกษตรกรผู้ผลิตใบจ�กสำ�หรับสูบ ข�ยสินค้�ให้ผู้บริโภคที่ม�ซื้อโดยตรง 2. ชองทางการตลาดของบานตะลุมพอ ตําบลขนาบนาก อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในปจจุบัน แบงออกเปน 9 รูปแบบดังภาพตอไปนี้ 0127


รูปแบบที่ 1 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ข�ยสินค้�ผ่�นท�งช่องท�งออนไลน์ เพื่อส่งต่อไปยังผู้บริโภคโดยตรง รูปแบบที่ 2 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ นำ�สินค้�ไปข�ยตล�ดนัด เพื่อข�ยไปยัง ผู้บริโภคโดยตรง รูปแบบที่ 3 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ข�ยสินค้�ไปยังผู้บริโภคโดยตรง รูปแบบที่ 4 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ข�ยสินค้�ไปยังตัวแทนจำ�หน่�ยที่เป็น สม�ชิกในกลุ่มจ�กนั้นตัวแทนจำ�หน่�ยที่เป็นสม�ชิกในกลุ่มส่งต่อไปยังผู้บริโภค รูปแบบที่ 5 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ข�ยสินค้�ไปยังตัวแทนจำ�หน่�ยที่เป็น สม�ชิกในกลุ่มจ�กนั้นตัวแทนจำ�หน่�ยที่เป็นสม�ชิกในกลุ่มจะข�ยสินค้�ผ่�นช่องท�งออนไลน์ เพื่อส่งต่อไปยังผู้บริโภค รูปแบบที่ 6 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ข�ยสินค้�ไปยังตัวแทนจำ�หน่�ยที่เป็น บุคคลทั่วไปจ�กนั้นตัวแทนจำ�หน่�ยที่เป็นบุคคลทั่วไปจะส่งต่อไปยังผู้บริโภค รูปแบบที่ 7 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ข�ยสินค้�ไปยังตัวแทนจำ�หน่�ยที่เป็น บุคคลทั่วไปจ�กนั้นตัวแทนจำ�หน่�ยที่เป็นบุคคลทั่วไปจะข�ยสินค้�ผ่�นท�งช่องท�งออนไลน์ เพื่อส่งต่อไปยังผู้บริโภค รูปแบบที่ 8 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ข�ยสินค้�ไปยังร้�นค้�ที่เป็นหุ้นส่วน จ�กนั้นร้�นค้�ที่เป็นหุ้นส่วนจะส่งต่อไปยังผู้บริโภค รูปแบบที่ 9 ศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศครบวงจรบ้�นตะลุมพอ ข�ยสินค้�ไปยังร้�นค้�ทั่วไปจ�กนั้นร้�นค้� ทั่วไปจะส่งต่อไปยังผู้บริโภค การศึกษาชองทางตลาดสีเขียวที่เหมาะสมตอผลิตภัณฑพืชจากในพื้นที่ลุมนํ้าปากพนัง ตามแผนกิจกรรม ก�รศึกษ�ช่องท�งตล�ดสีเขียวที่เหม�ะสมต่อผลิตภัณฑ์พืชจ�กในพื้นที่ลุ่มนำ้�ป�กพนัง ได้รวบรวม ข้อมูลร�ยชื่อตล�ดสีเขียวที่มีในประเทศไทย และรวบรวมร�ยละเอียดเกณฑ์ของตล�ดสีเขียว (Green Market) โดยในส่วนของพื้นที่ตล�ดนัดสีเขียวในประเทศไทย พบว่� มีกระจ�ยทุกภ�คในประเทศไทย ทั้งหมด 87 แห่ง 19 จังหวัด ดังร�ยละเอียดต่อไปนี้ 1. ภาคเหนือ มีจำ�นวนทั้งสิ้น 32 ตล�ด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ 20 ตล�ด เชียงร�ย 6 ตล�ด น่�น 1 ตล�ด และ อุตรดิตถ์ 5 ตล�ด ดังร�ยละเอียดต่อไปนี้ ภาคเหนือ ตลาด ตําบล อําเภอ ต�ร�งที่ 29 ร�ยชื่อตล�ดสีเขียวของแต่ละจังหวัดในภ�คเหนือ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นศรีล�นน� ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นทิพย์ภมร ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นชัยพฤกษ์ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นศิริวัฒน� ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นเลควิวป�ร์ค ป่�ตัน แม่เหียะ หนองหอย หนองหอย สันผีเสื้อ เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 0128 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ภาคเหนือ ตลาด ตําบล อําเภอ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นดิเออบ�น่� 1 ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นดิเออบ�น่� 2 ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นเฮือนพญ�คำ� ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นดำ�รงนิเวศน์ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นสีวลีเชิงดอย ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นสีวลีคลองชล ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นธน�รักษ์ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นพิมุกต์ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นรีเจ้นท์ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นซีรินวิลล์ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นขวัญเวียง ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นเชียงใหม่วิวสวย ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นบ้�นมั่นคงสัน ผักหว�น ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นเต็มทรัพย์ ตล�ดสีเขียว หมู่บ้�นแสนสร�ญ ก�ดฮักสุขภ�พ โฮงย�เจียงแสน โรงพย�บ�ลเชียงแสน โรงพย�บ�ลเชียงร�ยประช�นุเคร�ะห์ สวนผักของพ่อ บ้�นป�งส� ตล�ดถนนคนเดินแม่จัน ตล�ดชุมชนบ้�นเวียงคำ�ฟ� ตล�ดชุมชนบ้�นห้วยห�น ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลสมเด็จพระยุพร�ชปัว ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลตรอน ท่�ศ�ล� ท่�ศ�ล� หนองหอย ท่�ศ�ล� แม่เหียะ แม่เหียะ ดอนแก้ว หนองจอม สันทร�ยน้อย สันทร�ยน้อย ห�งดง หนองคว�ม สันผักหว�น ห�งดง หนองคว�ย เวียง รอบเวียง ป่�ตึง แม่จัน ดงมห�วัน ปอ วรนคร บ้�นแก่ง เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ แม่ริม สันทร�ย สันทร�ย สันทร�ย ห�งดง ห�งดง ห�งดง ห�งดง ห�งดง เชียงแสน เมืองเชียงร�ย แม่จัน แม่จัน เวียงเชียงรุ้ง เวียงแก่น ปัว ตรอน เชียงใหม่ เชียงร�ย น่�น อุตรดิตถ์ 0129


ภาคเหนือ ตลาด ตําบล อําเภอ ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลพิชัย ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลอุตรดิตถ์ ตล�ดประช�รัฐ ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลลับแล ในเมือง ท่�อิฐ ท่�อิฐ ชัยจุมพล พิชัย เมืองอุตรดิตถ์ เมืองอุตรดิตถ์ ลับแล เชียงใหม่ 2. ภาคอีสาน มีจำ�นวนทั้งสิ้น 8 ตล�ด ได้แก่ ชัยภูมิ 1 ตล�ด อำ�น�จเจริญ 1 ตล�ด อุบลร�ชธ�นี 6 ตล�ด 3. ภาคกลาง มีจำ�นวนทั้งสิ้น 34 ตล�ด ได้แก่ กรุงเทพฯ 14 ตล�ด ฉะเชิงเทร� 3 ตล�ด นครปฐม 1 ตล�ด นครสวรรค์ 1 ตล�ด นนทบุรี 1 ตล�ด ปทุมธ�นี 4 ตล�ด ร�ชบุรี 3 ตล�ด ลพบุรี 5 ตล�ด สระแก้ว 1 ตล�ด สระบุรี 1 ตล�ด ดังต่อไปนี้ ภาคอีสาน ตลาด ตําบล อําเภอ ต�ร�งที่ 30 ร�ยชื่อตล�ดสีเขียวของแต่ละจังหวัดในภ�คอีส�น ตล�ดนัดสีเขียว โรงพย�บ�ลคอนสวรรค์ ตล�ดนัดสีเขียว โรงพย�บ�ลปทุมร�ชวงศ� ตล�ดกินดีอินทรีย์พญ�ย�ง ตล�ดนัดสีเขียวกินสบ�ยใจ ชั้น G ห้�งสุนีย์ ตล�ดนัดสีเขียวกินสบ�ยใจ โรงพย�บ�ลมะเร็งอุบลร�ชธ�นี ตล�ดนัดสีเขียวกินสบ�ยใจ ห้วยวังนอง ตล�ดนัดสีเขียวกินสบ�ยใจ โรงพย�บ�ลว�รินชำ�ร�บ ตล�ดสร้�งสุขบ้�นคูเมือง โคกมั่งงอย น�หว้� น�เยีย ในเมือง ข�มใหญ่ ปทุม ว�รินชำ�ร�บ คูเมือง คอนสวรรค์ ปทุมร�ชวงศ� น�เยีย เมืองอุบลร�ชธ�นี เมืองอุบลร�ชธ�นี เมืองอุบลร�ชธ�นี ว�รินชำ�ร�บ ว�รินชำ�ร�บ ชัยภูมิ อำ�น�จเจริญ อุบลร�ชธ�นี 0130 จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ.


ต�ร�งที่ 31 ร�ยชื่อตล�ดสีเขียวของแต่ละจังหวัดในภ�คกล�ง ภาคกลาง ตลาด ตําบล อําเภอ ตล�ดโรงพย�บ�ลนพรัตน์ร�ชธ�นี Greenery Market @Bon Marche ตล�ดที่กระทรวงศึกษ�ธิก�ร ตล�ดสีเขียว ชุมชนวัดโพธิ์เรียง ตล�ดสีเขียว SCG Greenery Market @Siam Discovery Greenery Market Park@Siam ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลเด็ก ตล�ดปันอยู่ปันกิน Farm To You ปันอยู่ปันกิน The Basket ตะกร้�ผักจ�กสวนของคุณ ตล�ดตะลักเกี้ยะ Friendly Market ตล�ดเครือข่�ยพอเพียง ตล�ดเกษตร โรงพย�บ�ลพนมส�รค�ม ตล�ดเกษตรกร ตล�ดเกษตรกร ธกส. ตล�ดสุขใจ ตล�ดนวธรรมช�ติ City Farm Market ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลปทุมธ�นี ตล�ดสีเขียว สถ�บันมะเร็ง ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลธรรมศ�สตร์ เฉลิมพระเกียรติ ตล�ดสีเขียว โรงพย�บ�ลธรรมศ�สตร์ เฉลิมพระเกียรติ คันน�ย�ว ล�ดย�ว ดุสิต บ้�นช่�งหล่อ บ�งซื่อ ปทุมวัน ปทุมวัน ทุ่งพญ�ไท ล�ดพร้�ว ล�ดพร้�ว ล�ดพร้�ว สะพ�นสูง ตล�ดน้อย โคกแฝด ท่�ถ่�น คู้ย�ยหมี ย�ยช� ป�กนำ้�โพ ไทรม้� บ�งปรอก บึงสนั่น คลองหนึ่ง คลองหนึ่ง คันน�ย�ว จตุจักร ดุสิต บ�งกอกน้อย บ�งซื่อ ปทุมวัน ปทุมวัน ร�ชเทวี ล�ดพร้�ว ล�ดพร้�ว ล�ดพร้�ว สะพ�นสูง สัมพันธวงศ์ หนองจอก พนมส�รค�ม เมืองฉะเชิงเทร� สน�มชัยเขต ส�มพร�น เมือง เมือง เมืองปทุมธ�นี ธัญบุรี คลองหลวง คลองหลวง กรุงเทพฯ ฉะเชิงเทร� นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธ�นี 0131


จ�กก�รห�ข้อมูลเพิ่มเติม พบว่� มีกลุ่มเครือข่�ยตล�ดสีเขียว (Green Market) โดยมีสำ�นักง�นกองทุน สนับสนุนก�รสร้�งเสริมสุขภ�พ (สสส.) เป็นผู้สนับสนุน เป็นกลุ่มเครือข่�ยที่มีก�รรวบรวมผู้ผลิตที่สนใจ และเข้�ข่�ยเกณฑ์ที่ท�งกลุ่มเครือข่�ยตล�ดสีเขียวกำ�หนดไว้ โดยผู้ที่ผ่�นเกณฑ์ก�รคัดเลือกเมื่อเข้�ไป รวมกลุ่มแล้ว ท�งเครือข่�ยตล�ดสีเขียวจะมีก�รดูแล ตรวจสอบ และแนะนำ�ช่องท�งตล�ดสีเขียว ให้แก่ผู้ผลิต โดยเกณฑ์ที่กำ�หนดไว้แบ่งออกเป็นเกณฑ์ของเครือข่�ยและเกณฑ์ก�รรับรองเกษตรอินทรีย์แบบ มีส่วนร่วม (Participatory Guarantee Ststem (PGS) ซึ่งท�งกลุ่มเครือข่�ยตล�ดสีเขียวได้ยึดหลักคำ�ที่ว่� “ตล�ดสีเขียว” ไม่ใช่แค่ตล�ด แต่คือ “ชุมชน” ที่มุ่งสู่คว�มยั่งยืน คว�มหม�ยของสินค้�เกษตรอินทรีย์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับก�รทำ�กำ�ไร เพร�ะต้นทุนที่สูงกว่� ในแง่ของแรงง�น เทคนิคด้�นชีวภ�พในก�รปองกันก�รกำ�จัดศัตรูพืช ตลอดจนก�รสูญเสียผลผลิตไปเป็น จำ�นวนม�กระหว่�งก�รผลิต ย่อมเป็นปัจจัยสำ�คัญที่ทำ�ให้เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่สนใจก�รผลิตแบบอินทรีย์ ก�รคำ�นึงถึงก�รสร้�งสุขภ�วะที่ดีให้กับผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม คือส�ระสำ�คัญของระบบเกษตร อินทรีย์ อันหม�ยถึงก�รดำ�รงอยู่ร่วมกันอย่�งยั่งยืนระหว่�งคนกับธรรมช�ติ ซึ่งเรียกได้ว่�เป็น “ก�รตล�ด สีเขียว” เป็นก�รผลิตก�รค้� ที่กำ�ไรสูงสุดไม่ใช่เรื่องสำ�คัญที่สุด ก�รตล�ดสีเขียวมิได้ขึ้นอยู่กับ “กำ�ไรข�ดทุน” ห�กแต่ต้องคำ�นึงถึง “ก�รสร้�งสุขภ�วะที่ดีให้กับผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม” เป็นสำ�คัญ และภ�ยใต้ระบบก�รตล�ดสีเขียว ก�รตล�ดสีเขียวจะเกิดขึ้นและเติบโตได้ ก็ต้องมีกลุ่มผู้บริโภคที่มี จิตสำ�นึกรับผิดชอบต่อสังคมเป็นองค�พยพสำ�คัญ (ณัฏฐ์วิเศษ พึ่งละออ, ม.ป.ป.) จ�กก�รสอบถ�มและรวบรวมข้อมูลของกลุ่มเครือข่�ยตล�ดสีเขียว (Green Market) พบว่�กลุ่ม เครือข่�ยตล�ดสีเขียวมีช่องท�งตล�ดของเบื้องต้นดังนี้ ภาคกลาง ตลาด ตําบล อําเภอ ตล�ดโรงพย�บ�ลดำ�เนินสะดวก ตล�ดโรงเรียนดรุณ�ร�ชบุรีวิเทศศึกษ� ตล�ดมุมสุขภ�พ (โรงพย�บ�ลสวนผึ้ง) ตล�ดโรงพย�บ�ลโคกสำ�โรง ตล�ดโรงพย�บ�ลบ้�นหมี่ ตล�ดโรงพย�บ�ลมะเร็งลพบุรี ตล�ดโรงพย�บ�ลพระน�ร�ยณ์มห�ร�ช ตล�ดโรงพย�บ�ลหนองม่วง ตล�ดโรงพย�บ�ลยุพร�ชสระแก้ว ตล�ดโรงพย�บ�ลพระพุทธบ�ท ดำ�เนินสะดวก หน้�เมือง ท่�เคย โคกสำ�โรง โพนทอง ทะเลชุบศร เข�ส�มยอด หนองม่วง สระแก้ว ธ�รเกษม ดำ�เนินสะดวก เมืองร�ชบุรี สวนผึ้ง โคกสำ�โรง บ้�นหมี่ เมืองลพบุรี เมืองลพบุรี หนองม่วง เมืองสระแก้ว พระพุทธบ�ท ร�ชบุรี ลพบุรี สระแก้ว สระบุรี จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ. 0132


4.5 การพัฒนาศักยภาพชุมชน และเครือขายภูมิปญญา ตนจากเพื่อสรางผลิตภัณฑสรางสรรค สูตลาด เชิงพาณิชย (ผศ. ดร.รุงรวี จิตภักดี และ ดร.สุขุมาล กล่ําแสงใส) ชุมชนขน�บน�ก อำ�เภอป�กพนัง จังหวัดนครศรีธรรมร�ช เป็นชุมชนที่มีพื้นที่ปลูกพืชจ�กม�กที่สุด ของป�กพนัง (สำ�นักง�นเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมร�ช, 2559) มีเกษตรกรที่ประกอบอ�ชีพก�รทำ�ไร่ จ�กประม�ณ ร้อยละ 40 ของครัวเรือนทั้งหมด มีร�ยได้จ�กก�รทำ�นำ้�ต�ลจ�กเฉลี่ยประม�ณ 11,808 บ�ท /ครัวเรือน หรือประม�ณ 94,464 บ�ท/ครัวเรือน/ปี ซึ่งถือได้ว่�ครัวเรือนที่ประกอบอ�ชีพก�รทำ�ไร่จ�ก ได้รับผลตอบแทนท�งเศรษฐกิจสูงเมื่อเทียบกับร�ยได้เฉลี่ยของชุมชนลุ่มนำ้�ป�กพนัง และจ�กข้อมูล ก�รสำ�รวจของมห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์ ในก�รจัดทำ�แผนพัฒน�เศรษฐกิจชุมชน พบว่�ในแต่ละปีอ�ชีพ ก�รทำ�ไร่จ�กจะสร้�งร�ยได้ประม�ณ 12 ล้�นบ�ทแก่ชุมชน โดยมีต้นทุนในก�รผลิตเพียงประม�ณ 1 ล้�นบ�ทเท่�นั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับร�ยได้สุทธิของผู้ทำ�อ�ชีพน�ข้�ว และน�กุ้งแล้ว อ�ชีพก�ร ทำ�ไร่จ�กจึงถือว่�เป็นอ�ชีพที่ทำ�ร�ยได้สูงม�ก ช�วบ้�นได้สะสมภูมิปัญญ�ในก�รประกอบอ�ชีพจ�กพืชจ�กม�อย่�งย�วน�น ไม่น้อยกว่� 200 ปี คว�มรู้เกี่ยวกับก�รใช้ประโยชน์ของพืชจ�กได้ถ่�ยทอดต่อ ๆ กันม�หล�ยชั่วอ�ยุคน เป็นที่น่�เสียด�ยว่� ในขณะนี้กำ�ลังจะสูญห�ย ก�รห�หนท�งรวบรวมและรักษ�คว�มรู้เหล่�นี้ไว้ให้ได้ เพื่อใช้เป็นเอกส�ร คว�มรู้ในก�รอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ป่�จ�กอย่�งยั่งยืนตลอดไป ก�รประกอบอ�ชีพจ�กพืชจ�กในพื้นที่ลุ่มนำ้�ป�กพนังยังไม่มีก�รรวมกลุ่มผู้ประกอบอ�ชีพจ�ก อย่�งจริงจัง มีก�รทำ�แยกเป็นครัวเรือน ในระบบต่�งคนต่�งทำ�เสียส่วนใหญ่ ประจวบกับก�รค้นห�ง�นวิจัย และนโยบ�ยภ�ครัฐที่ผ่�นม�ในก�รพัฒน�ทรัพย�กรมนุษย์เพื่อพัฒน�อ�ชีพปลูกจ�กของชุมชนขน�บน�ก ยังไม่ปร�กฏ (บุณฑรี จันทร์กลับ, 2561) ภ�พที่ 78 ช่องท�งตล�ดของกลุ่มเครือข่�ยตล�ดสีเขียว ง�นวิจัยนี้จึงเล็งเห็นคว�มสำ�คัญของก�รศึกษ�เพื่อยืนยันโอก�สในก�รก้�วสู่ช่องท�งตล�ดในรูปแบบอื่น ในที่นี่หม�ยถึงตล�ดสีเขียว ที่เป็นช่องท�งก�รตล�ดที่ดีที่จะรองรับผลิตภัณฑ์จ�กป่�จ�กปลอดส�ร พร้อมกันนี้ยังให้คว�มสำ�คัญต่อแนวท�งก�รจัดก�รช่องท�งตล�ดสีเขียวที่เหม�ะสมเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์จ�ก ในรูปแบบต่�ง ๆ โดยหวังจะให้เกิดช่องท�งก�รตล�ดใหม่ หรือมีก�รยกระดับช่องท�งให้มีคว�มชัดเจน และพัฒน�อย่�งถูกทิศท�งได้ม�กยิ่งขึ้นต่อไป กลุมตลาดเขียว ผูบริโภค ผูบริโภค ตลาดสีเขียวสัญจร ชองทางออนไลน ของกลุมตลาดสีเขียว 0133


ซึ่งจ�กก�รศึกษ� พบว่� ศักยภ�พในก�รบริห�รจัดก�ร ได้มีก�รแบ่งอกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนำ้�ต�ลจ�ก กลุ่มนำ้�ส้มจ�ก และกลุ่มจักส�น แต่จ�กก�รประเมินศักยภ�พนั้นพบว่�ตัวแทนยังข�ด ก�รรวมตัวกันอย่�งเป็นท�งก�รของสม�ชิก ก�รรวมกลุ่มอ�ชีพเกี่ยวกับจ�ก พบว่�ยังไม่มีก�รรวมกลุ่ม กันม�กนัก คิดจ�กจำ�นวนที่ยังไม่มีก�รรวมกลุ่ม คิดเป็นร้อยละ 82.5 และประช�กรที่ได้มีก�รรวมกลุ่มอ�ชีพ กันนั้น คิดเป็นร้อยละ 17.5 ทั้งที่เป็นท�งก�รและไม่เป็นท�งก�ร ในกลุ่มอ�ชีพจ�กก�รทำ�จ�กที่มีม�กที่สุด คือกลุ่มอ�ชีพนำ้�ต�ลจ�ก คิดเป็นร้อยละ 60 ส่วนส�เหตุของก�รไม่เข้�ร่วมกลุ่มนั้นเนื่องจ�กข�ดคว�มเป็น ผู้นำ� คิดเป็นร้อยละ 33.28 ก�รว�งแผนเพื่อรองรับผลกระทบจ�กก�รพัฒน�อ�ชีพไร่จ�ก พบว่�มีคว�มต้องก�รให้หน่วยง�น ที่เกี่ยวข้องกับก�รพัฒน�จ�กเข้�ม�พัฒน�ด้�นก�รถ่�ยทอดข้อมูล คิดเป็นร้อยละ 51.72 แต่จ�กก�รสำ�รวจ กลุ่มตัวอย่�งช�วไร่จ�ก พบว่� ร้อยละ 77.9 ตอบว่�ไม่มีหน่วยง�นเข้�ม�สนับสนุน ในขณะที่ ร้อยละ 22.1 ตอบว่�มีหน่วยง�นเข้�ม�สนับสนุน โดยจ�กก�รรวบรวมข้อมูลท�งเอกส�รพบว่�หน่วยง�นที่เข้�ม� สนับสนุนชุมชนขน�บน�ก ได้แก่ สำ�นักง�นเกษตรอำ�เภอป�กพนัง องค์ก�รบริห�รส่วนตำ�บลขน�บน�ก มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์ มห�วิทย�ลัยสงขล�นครินทร์ วิทย�เขตห�ดใหญ่ และมห�วิทย�ลัยเทคโนโลยี ร�ชมงคลศรีวิชัย นวัตกรรมและก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์ พบว่�ยังไม่มีก�รสร้�งนวัตกรรมก�รแปรรูปผลิตภัณฑ์จ�กต้นจ�ก ม�กนัก ยังคงมีก�รใช้รูปแบบเดิมที่ใช้ม�ในอดีต ไม่ว่�จะเป็นนำ้�ต�ลจ�ก นำ้�ส้มจ�ก และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จำ�พวกจักส�น จะเห็นได้ว่�ศักยภ�พก�รผลิต แปรรูปของชุมชนขน�บน�กยังไม่มีรูปแบบที่เปลี่ยนจ�กเดิม ม�กนัก และเป็นก�รผลิตเชิงข�ยในพื้นที่ และเพื่อบริโภคอุปโภค ในครัวเรือนเท่�นั้น นวัตกรรมด้�นก�รสื่อส�ร ในชุมชนขน�บน�กมีบุคล�กร และหน่วยง�นที่สนับสนุนด้�นก�รสื่อส�ร สร้�งอัตลักษณ์เกี่ยวกับจ�กออกสู่ภ�ยนอก ผ่�นสื่อ Social Network จ�กนักข่�วท้องถิ่น และหน่วยง�น ที่เกี่ยวข้อง ต่อม�ได้มีก�รสร้�งศูนย์ก�รเรียนรู้ระบบนิเวศจ�กครบวงจรบ้�นบ�งตะลุมพอ ขึ้นและได้มีก�รประเมิน ศักยภ�พชุมชนช�วไร่จ�ก ซึ่งมีสม�ชิกจำ�นวน 24 คน และจ�กก�รจัดเวทีก�รจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติก�ร โดยให้มีก�รประเมินตนเองในเบื้องต้น ซึ่งศักยภ�พสม�ชิกโดยรวมจะมีร่�งก�ย จิตใจ และคว�มรู้ เรื่องก�รปลูกจ�ก อยู่ในระดับที่ดี แต่สม�ชิกในกลุ่มยังด้อยคว�มรู้ในด้�นเทคโนโลยี ส่วนในด้�นก�ร ประส�นง�น ก�รต้อนรับ และอ�ห�รอยู่ในระดับป�นกล�ง ปัญห�และอุปสรรคที่มีผลต่อศักยภ�พท�งอ�ชีพของช�วไร่จ�ก ปัญห�ที่พบสูงสุด คือ ปัญห�ด้�น ก�รตล�ด คิดเป็นร้อยละ 39.29 และปัญห�ที่พบน้อย คิดเป็นร้อยละ 3.57 คือด้�นก�รประช�สัมพันธ์ บรรจุภัณฑ์ และวัตถุดิบ จ�กก�รประชุมเพื่อติดต�มกลุ่มสม�ชิกศูนย์ก�รเรียนรู้ ได้มีก�รทบทวนแล้วว่� ควรมีก�รยกระดับม�ตรฐ�น และระบบก�รข�ยผลิตภัณฑ์จ�ก เริ่มจ�กก�รแบ่งบทบ�ทหน้�ที่ โดยก�รใช้ คว�มถนัดของสม�ชิกที่แตกต่�งกัน จึงจัดให้เกิดกระบวนก�ร ก�รแบ่งบทบ�ทหน้�ที่ร่วมกับภ�คีเครือข่�ย โครงก�รพัฒน�ลุ่มนำ้�ป�กพนังในพระร�ชดำ�ริ ในก�รบริห�รจัดก�รก�รผลิตและจำ�หน่�ยผลิตภัณฑ์เบื้องต้น 3 ง�น คือ ง�นจัดห�และรวบรวมผลิตภัณฑ์ ง�นจำ�หน่�ยผลิตภัณฑ์ผ่�นสื่อออนไลน์ และง�นบัญชี (เหรัญญิก) เครือข่�ยยกระดับผลิตภัณฑ์จ�ก ที่เหม�ะสมภ�ยใต้ กระบวนก�ร SCPD Integrated Model ทำ�ง�นภ�ยใต้ฐ�นเครือข่�ยหน่วยง�นในพื้นที่ (ศูนย์พัฒน�ลุ่มนำ้�) ร่วมกับ ชุมชน กลุ่มวิส�หกิจ ผู้ประกอบ ก�รในพื้นที่ และผู้ผลิต เพื่อร่วมกันพัฒน�ฐ�นผลิตให้มีม�ตรฐ�น พัฒน�ศักยภ�พเทคโนโลยี ก�รรวมกลุ่ม ให้เข้มแข็ง และส่งเสริมบทบ�ทสม�ชิกในชุมชนต�มคว�มถนัด โดยรูปแบบผลิตภัณฑ์เก่�จะเจ�ะกลุ่ม โรงแรม ศูนย์ก�รแสดงสินค้� กลุ่มผู้ประกอบก�รจำ�หน่�ยสินค้�แปรรูป และแบบออนไลน์ แต่ในรูปแบบใหม่ เป็นทั้งผู้ผลิต ผู้ข�ย เจ�ะกลุ่มชุมชน ข�ยตรง โรงง�น ออนไลน์ โรงแรมบูติค Green Hotel ผู้ประกอบก�ร จาก พืชอนุรักษ์ อพ.สธ. 0134


MICE กลุ่มลูกค้�ที่สนใจเฉพ�ะ และรวมถึงก�รนำ�ผลิตภัณฑ์เข้�สู่กลุ่มร้�นอ�ห�ร ภัตต�ค�ร และ ห้องอ�ห�รในโรงแรม นำ�ไปสู่ก�รกำ�หนดกลยุทธ์ร่วมกัน และสร้�งภ�คีในก�รผลักดันผลิตภัณฑ์พืชจ�ก สู่ตล�ดเชิงพ�ณิชย์ อันเกิดจ�กคว�มต้องก�รของชุมชน และผู้ใช้ประโยชน์ คือตล�ดเป�หม�ย อางอิง รุ่งรวี จิตภักดี. (2564). การมีส่วนร่วมในการสร้างจิตสํานึกอนุรักษ์ภูมิปัญญาพืชจาก เพื่อส่งเสริม ศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าจากครบวงจร บ้านบางตะลุมพอ ตําบลขนาบนาก อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมร�ช : โครงก�รอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องม�จ�กพระร�ชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด�ฯ สย�มบริมร�ชกุม�รี มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. วิล�วัณย์ ดึงไตรย์ภพ. (2564). การประเมินมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์จากเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาคุณภาพชีวิต ชุมชนลุ่มนํ้าปากพนัง นครศรีธรรมร�ช : โครงก�รอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องม�จ�กพระร�ชดำ�ริ สมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด�ฯ สย�มบริมร�ชกุม�รี มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. บุณฑรี จันทร์กลับ และอรอนงค์ เฉียบแหลม. (2563). โครงการช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ ทรัพยากรจากในพื้นที่ตําบลขนาบนาก อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมร�ช : มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. บุณฑรี จันทร์กลับ และอรอนงค์ เฉียบแหลม (2563) ร�ยง�นวิจัยฉบับสมบูรณ์ “ช่องท�งก�รตล�ด ของผลิตภัณฑ์ทรัพย�กรจ�กในพื้นที่ตำ�บลขน�บน�ก อำ�เภอป�กพนัง จังหวัดนครศรีธรรมร�ช”. สำ�นักง�นคณะกรรมก�รส่งเสริมวิทย�ศ�สตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.). บุณฑรี จันทร์กลับ และอรอนงค์ เฉียบแหลม. (2564). ช่องทางตลาดสีเขียวเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์พืชจาก ในพื้นที่ลุ่มนํ้าปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมร�ช : โครงก�รอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องม�จ�กพระร�ชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนร�ชสุด�ฯ สย�มบริมร�ชกุม�รี มห�วิทย�ลัยวลัยลักษณ์. 0135


บรรณานุกรม จุรีภรณ์ นวนมุสิก (2561). เอกลักษณ์เชิงสุขภาพและคุณภาพของผลิตภัณฑ์นํ้าตาลจาก: รายงาน ฉบับสมบูรณ์. สำ�นักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. เทียมใจ คมกฤส. (2542). กายวิภาคของพฤกษ์ (พิมพ์ครั้งที่ 4). สำ�นักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นพรัตน์ บำ�รุงรักษ์. (2540). การศึกษาด้านนิเวศวิทยา ประโยชน์ใช้สอย และการขยายพันธุ์ต้นจาก ในพื้นที่ลุ่มนํ้าปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. บุณฑรี จันทร์กลับ และอรอนงค์ เฉียบแหลม. (2563). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ “โครงการช่องทาง การตลาดของผลิตภัณฑ์ ทรัพยากรจากในพื้นที่ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรี ธรรมราช”. สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย. บุณฑรี จันทร์กลับ และอรอนงค์ เฉียบแหลม. (2564). ช่องทางตลาดสีเขียวเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์พืชจาก ในพื้นที่ลุ่มนํ้าปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก พระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อพ.สธ. -มวล.). ปรัชญา กฤษณะพันธ์ และรุ่งรวี จิตภักดี. (2562). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ “การต่อยอดภูมิปัญญา จากการออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริมจากต้นจาก”. สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย. ปวิธ ตันสกุล และนรินทร์ภพ ช่วยการ. (2563). แนวทางการส่งเสริมอัตลักษณ์ตำรับอาหารและคุณค่า ทางโภชนาการจากผลิตภัณฑ์แปรรูปทรัพยากรป่าจากในพื้นที่ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเพิ่มคุณค่ามูลค่าทางเศรษฐกิจ: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) สำ�นักงาน วิจัยแห่งชาติ (วช). ปรัชญา กฤษณะพันธ์. (2564). การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ชีวภาพจากองค์ประกอบของต้นจาก ที่เหลือทิ้งสู่การจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ นครศรีธรรมราช: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่อง มาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อพ.สธ.-มวล.). ปวิธ ตันสกุล และคณะ. (2563). แนวทางการส่งเสริมวัฒนธรรม ภูมิปัญญา การอนุรักษ์ และการ ประเมินมูลค่าเพิ่มของอาหารพื้นถิ่นจากผลิตภัณฑ์ต้นจากพื้นที่ลุ่มนํ้าปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อพ.สธ.-มวล.). พจมาลย์ สุรนิลพงศ์. (2563). การระบุเอกลักษณ์และการจำแนกความหลากหลายทางพันธุกรรม ของต้นจากในลุ่มนํ้าปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก พระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบริมราชกุมารี (อพ.สธ.) สำ�นักงานวิจัยแห่งชาติ (วช). รุ่งรวี จิตภักดี และปรัชญา กฤษณะพันธ์. (2560). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก “ต้นจาก” สู่การสร้างอัตลักษณ์สินค้าของที่ระลึกชุมชนขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรี ธรรมราช”.สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เชิงพื้นที่ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. รุ่งรวี จิตภักดี และคณะ. (2563). ยกระดับศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศ ป่าจาก ครบวงจรบ้านบางตะลุมพอ ตำบลขนาบนาก เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนลุ่มนํ้าปากพนัง: โครงการอนุรักษ์ พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) สำ�นักงานวิจัยแห่งชาติ (วช). 0136


รุ่งรวี จิตภักดี. (2564). การมีส่วนร่วมในการสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ภูมิปัญญาพืชจาก เพื่อส่งเสริม ศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าจากครบวงจร บ้านบางตะลุมพอ ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อพ.สธ.-มวล.). รุ่งรวี จิตภักดี และ สุขุมาล กลํ่าแสงใส. (2560). การยกระดับ และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นต้นจาก ลุ่มนํ้าปากพนัง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์สู่ตลาดเชิงพาณิช: รายงานฉบับสมบูรณ์. สำ�นักงาน คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) วิลาวัณย์ ดึงไตรย์ภพ. (2564). การประเมินมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์จากเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาคุณภาพชีวิต ชุมชนลุ่มนํ้าปากพนัง: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อพ.สธ.-มวล.). วิไลวรรณ ไชยศร (2561). การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนํ้าส้มสายชูหมักจากนํ้าตาลจาก: รายงานวิจัย ฉบับสมบูรณ์. สำ�นักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. วิยดา กวานเหียน. (2563). การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “นํ้าส้มจากผง” Development of Nypa plam vinegar powder for dietary supplement product. รายงานฉบับสมบูรณ์. สำ�นักงาน พัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) วิยดา กวานเหียน จิตรบรรจง ตั้งปอง และมรกต ชาตาธิคุณ. (2564). ศึกษาฤทธิ์ทางเวชสำอางชีวภาพของ “นํ้าส้มสายชูหมักจากนํ้าตาลจาก” เพื่อผลิตเป็นเวชสำอาง: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์ (อพ.สธ.-มวล.). สุวิตา แก้วอารีลาภ. (2565). การสร้างสรรค์เทคนิคการออกแบบลวดลายลงบนผืนผ้ามัดย้อมจากผลิตภัณฑ์ ต้นจาก เพื่อพัฒนาเป็นรูปแบบคอลเลคชั่นผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่นลุ่มนํ้าปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อพ.สธ.-มวล.). สิริโสภา จุนเด็น ตันยมน เพชรรัตน์ และปวิธ ตันสกุล. (2565). การใช้ประโยชน์ของผลจากในผลิตภัณฑ์ เยลลี่พร้อมดื่ม: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อพ.สธ.-มวล.). สำ�นักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ(สำ�นักงาน กปร.). (2563). โครงการศึกษาทดลองปลูกป่าจากเพื่อฟื้นฟูนิเวศลุ่มนํ้าปากพนัง โครงการพัฒนาพื้นที่ ลุ่มนํ้าปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ท้องที่ตำบลขนาบนากอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรี ธรรมราช. สืบค้นจาก: https://www.rdpb.go.th/TH/Projects อรอนงค์ เฉียบแหลม และอุทัย เดชยศดี. (2563). โครงการระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อการจัดการ พื้นที่ไร่จากในลุ่มนํ้าปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช. โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก พระราชดำ�ริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) สำ�นักงานวิจัยแห่งชาติ (วช). 0137


Click to View FlipBook Version