จนถึงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๒ กรมการ
ทหารสื่อสารได้มอบการบังคับบัญชาให้กับกองพลทหารปืนใหญ่
ต่ อ สู้ อ า ก า ศ ย า น ต า ม ค า ส่ั ง ท บ . ที่ ๓ ๔ ๐ / ๑ ๒
ลงวันท่ี ๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๒ และได้ย้ายที่ต้ังปกติอยู่ใน
บริเวณ กองพลทหาร ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน เลขท่ี ๕๑/๗
ถนนทหาร แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ิต กรงุ เทพฯ
ต่ อ ม า ไ ด้ แ ป ร ส ภ า พ เ ป็ น ก อ ง พั น ท ห า ร สื่ อ ส า ร
กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ตามคาสั่ง ทบ.(เฉพาะ)
ท่ี ๑๔๐/๒๒ ลงวันท่ี ๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๒ และเปลี่ยนนาม
หน่วยเป็น กองพันทหารสื่อสารที่ ๑๓ ตามคาสั่ง ทบ.(เฉพาะ)
ท่ี ๖๑/๒๓ ลงวันท่ี ๒๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓ ต่อมาไดเ้ ปลย่ี นนาม
หน่วยเป็นกองพันทหารส่ือสารท่ี ๑๓ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้
อ า ก า ศ ย า น ต า ม ค า ส่ั ง ท บ . ( เ ฉ พ า ะ ) ท่ี ๕ ๙ / ๖ ๐
ลงวันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ส.๒๕๖๐ โดยมี พันโท สรวัชร์ บุษรากุล
เปน็ ผู้บังคบั กองพนั ทหารสอื่ สารกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศ
ยาน คนปจั จบุ ัน
วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๕๑ ..
เกียรตปิ ระวัตหิ นว่ ย
กองพันทหารสื่อสารที่ ๑๓ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ได้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพล
ประจาหน่วย เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๐ โดย พันโท กฤตศิลป์ บุรัมยากร ผู้บังคับกองพันทหารส่ือสารท่ี ๑๓
กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานในสมัยน้ัน เป็นผู้รับพระราชทาน จาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มหิตลาธเิ บศรรามาธิบดี จกั รีนฤบดินทรสยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ( รัชกาลที่ ๙ )
ภารกจิ หนว่ ย
ในปี พ.ศ. ๒๔๘๓ สง่ กาลังพลปฏิบตั ริ าชการสนาม กรณีพิพาทอิโดจีน – ฝร่งั เศส
.. ๑๕๒ ..วารสารทหารสอื่ สาร
ในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ส่งกาลงั พลปฏิบตั ริ าชการสงคราม มหาเอเชียบูรพา
กองพันทหารสื่อสารท่ี ๑๓ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน จัดการสื่อสารให้แก่
กองบัญชาการกองพลและหน่วยขึ้นตรงจัดบริการการภาพการส่งกาลังและการซ่อมบารุงสายส่ือสาร
แก่เครื่องส่ือสารของกองพล
วารสารทหารสอื่ สาร .. ๑๕๓ ..
ขดี ความสามารถ
การวางแผนของฝ่ายอานวยการ กากับ
ดูแลการฝึกการปฏิบัติการสื่อสาร และกิจการ
ส่อื สารอน่ื ๆ ติดต้งั ปฏบิ ัตกิ ารและดารงการสื่อสาร
ประเภทสายและวิทยุไปยังหน่วยต่างๆ ที่ปฏิบัติ
ภายใต้การบังคับบัญชาของกองบัญชาการกองพล
ปฏบิ ัตกิ ารดว้ ยวิทยุถ่ายทอดให้แก่กองพล รวมท้ัง
การเชอ่ื มต่อการส่ือสารของกองพลให้เข้ากับระบบ
โทรคมนาคมในพ้ืนท่ีตามความจาเป็น บริการ
ส่งกาลังและซ่อมบารุง ประเภทการซ่อมบารุง
ในสนามสายสื่อสารแก่เครื่องสื่อสารกองพล
บรกิ ารศนู ย์การสอื่ สารให้แก่กองบัญชาการกองพล
และบริการนาสารด้วยยานยนต์
การจัดหนว่ ย
กองพนั ทหารสือ่ สารท่ี ๑๓ กองพลทหารปืนใหญ่ตอ่ สูอ้ ากาศยาน ประกอบด้วย
วารสารทหารสอื่ สาร .. ๑๕๔ ..
การฝึกร่วมหนว่ ยทหารรกั ษาพระองค์/เหล่าทพั ประจาปี ๒๕๖๓
โดย ส.พนั .๑๓ พล.ปตอ.
การฝึก เป็นกระบวนการทางานที่มีความสาคัญเร่งด่วนสูงสุดเพ่ือเตรียมกาลังพลกองทัพบก
ให้มีความพรอ้ มทจี่ ะเขา้ ปฏบิ ตั กิ ารตอ่ ภยั คุกคามทกุ รูปแบบ ทกุ ระดบั ยา่ นความขัดแย้ง ทุกสถานการณ์
ทางยุทธวิธี ทกุ พืน้ ที่ปฏิบตั กิ าร
การฝึกร่วมหน่วยทหารรักษาพระองค์/เหล่าทัพ ประจาปี ๒๕๖๓ ภารกิจหลักของเหล่าทหาร
สอ่ื สาร คอื จัดเตรียมความพร้อมของกาลังพล และเคร่ืองมือสื่อสารให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติได้
อย่างต่อเนื่อง ต้องการสนธิระบบการติดต่อส่ือสารทางยุทธวิธีของหน่วยเข้ากับระบบการสื่อสารทาง
ยุทธศาสตร์ของ ทบ. การใช้มัชฌิมการส่ือสาร ให้ใช้การติดต่อส่ือสารของระบบโทรคมนาคมของ ทบ.
ท่ีอยู่ใกล้กับพื้นท่ีการฝึกเป็นหลัก โดยใช้ยุทโธปกรณ์ท่ีหน่วยได้รับในการเช่ือมโยงระบบการ
ติดต่อสอ่ื สาร อีกทัง้ ประสานกบั ส่วนราชการพลเรอื นในสว่ นทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การสอ่ื สารในพ้นื ที่ การรกั ษา
ความปลอดภยั ทางการสื่อสารจะต้องปฏบิ ัตโิ ดยเคร่งครดั ทีส่ ดุ
วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๕๕ ..
การดารงการตดิ ตอ่ สอื่ สารตามภารกจิ แบง่ ออกเป็น ๔ ข้นั ดังนี้
ขั้นที่ ๑ : การฝกึ แกป้ ัญหาท่ีบงั คบั การ (CPX)
ขน้ั ที่ ๒ : การฝกึ แลกเปลย่ี น (CTX)
ขัน้ ท่ี ๓ : การฝกึ ภาคสนาม (FTX)
กองพันทหารส่ือสารที่ ๑๓ กองพลทหารปนื ใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ได้ร่วมสนับสนุนภารกิจ
การฝึกร่วมหน่วยทหารรักษาพระองค์/เหล่าทัพ ประจาปี ๒๕๖๓ ให้กับ ร้อย.ปตอ., ร้อย.ตอ.
และ พัน.ทย. โดยใหก้ ารสนบั สนนุ การติดตอ่ สื่อสาร ดังน้ี
๑. จัดต้ังระบบสื่อสารใน กองอานวยการฝึก ประกอบด้วย ข่ายวิทยุ, โทรศัพท์,
VTC, ระบบศูนย์ข่าวอัตโนมัติ, ระบบรายงานสถานการณ์ และระบบ Websiteกลางเพื่อการ
สอ่ื สาร
๒. จัดเครื่องมอื ส่ือสารทางยุทธวธิ ี เสรมิ ให้หน่วยปฏบิ ัตทิ างยทุ ธวธิ ี
๓. จัดทาระบบ Live Streaming เพือ่ ถ่ายทอดภาพการปฏิบตั ิ
๔. จัดทาระบบ Cloud Media เพ่ือรวบรวมภาพและสือ่ ตา่ งๆ
วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๕๖ ..
ประวตั ศิ าสตรข์ องหนว่ ย
กองพนั ทหารสอื่ สารท่ี ๑๕ กองพลทหารราบที่ ๑๕
จากเหตุความไม่สงบในพ้นื ท่ี สามจังหวดั ชายแดนภาคใต้ ตั้งแตว่ ันท่ี ๔ มกราคม ๒๕๔๗
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการทหารบก ในขณะน้ัน ได้เสนอรัฐบาลจัดต้ังหน่วยทหาร
ขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้แปรสภาพ จากหน่วย “กองพลทหาร
ราบที่ ๑๖” เป็น “กองพลพฒั นาและพทิ กั ษท์ รพั ยากร”เมอ่ื ๑ เมษายน ๒๕๔๘ มีทีต่ ั้งช่วั คราวอยู่
ทค่ี า่ ยสมเด็จพระสุรโิ ยทยั ต.หนองแก อ.หวั หนิ จ.ประจวบครี ีขนั ธ์ โดยกองทพั บกมคี าสัง่ ให้จัดตงั้
กองร้อยวิทยุและศูนย์ข่าว กองพลพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากร ตามคาส่ังกองทัพบก(เฉพาะ)
ท่ี ๑๘/๔๙ ลงวนั ที่ ๙ เม.ย.๔๙
เมื่อวันท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๐ จึงได้แปรสภาพจากเดิม “กองพลพัฒนาและพิทักษ์
ทรัพยากร” เป็น “กองพลทหารราบที่ ๑๕” กองร้อยวิทยุและศูนย์ข่าวพลพัฒนาและพิทักษ์
ทรัพยากร จึงไดแ้ ปรสภาพเปน็ กองร้อยวทิ ยแุ ละศูนยข์ า่ ว กองพลทหารราบที่ ๑๕
วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๕๗ ..
เม่ือวันท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๑ กองทัพบกมีคาส่ัง ให้จัดตั้งหน่วยระดับกองพัน
ทหารสื่อสาร สนบั สนุนภารกจิ ของกองพลทหารราบที่๑๕ ตามคาส่ังกองทัพบก(เฉพาะ)
ที่ ๙๕/๕๐ ลง ๗ ธ.ค.๕๐ เร่ืองจัดตั้งหน่วยเพ่ิมเติมให้กับ กองพลทหารราบท่ี ๑๕
โดยกองพันทหารสื่อสารที่ ๑๕ เป็นหน่วยข้ึนตรงกับ กองพลทหารราบท่ี ๑๕ โดยใช้
อจย.๑๑-๓๕ ลง ๒๕ ก.ค.๒๗ มีคาเต็มว่า “กองพันทหารสื่อสารที่ ๑๕” คาย่อ
“ส.พัน.๑๕” สงั กดั “ส/๑๕” ประกอบดว้ ย ๓ กองรอ้ ย คือ
๑. กองบังคับการและกองร้อยกองบังคบั การ กองพันทหารส่อื สารท่ี๑๕
๒. กองรอ้ ยวทิ ยุและศูนยข์ ่าว กองพันทหารส่อื สารท่ี ๑๕
๓. กองร้อยสายและวทิ ยถุ ่ายทอด กองพันทหารสื่อสารท่ี ๑๕
วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๕๘ ..
และกองทัพบกมีคาส่ังให้ เคลื่อนย้าย หน่วยข้ึนตรง กองพลทหารราบที่ ๑๕ จากท่ีต้ัง
ชว่ั คราว ค่ายสมเดจ็ พระสรุ ิโยทยั ต.หนองแก อ.หัวหนิ จ.ประจวบครี ีขนั ธ์ เขา้ ทีต่ ้งั ปกตถิ าวรบริเวณ
ต.น้าดา อ.หนองจกิ จ.ปัตตานี จนถงึ ปัจจุบัน และเม่ือ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ได้ทรงพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตให้ใช้นามค่ายเดิมว่า “ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย” ณ ท่ีต้ังแห่งใหม่ ต.บ่อทอง
อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ทตี่ ังหนว่ ยปจั จุบนั กองพันทหารสอ่ื สารท่ี ๑๕ บา้ นห้วยน้าเยน็ ต.บอ่ ทอง อ.หนองจิก จ.ปตั ตานี
๙๔๑๗๐ โทร ๐๗๓-๔๒๔๙๕๕
วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๕๙ ..
ภารกจิ
กองพนั ทหารส่ือสารที่ ๑๕ กองพลทหารราบท่ี ๑๕ มภี ารกิจในการจัดการสอื่ สารใหแ้ ก่
กองบญั ชาการกองพลทหารราบท่ี ๑๕ รวมทั้งการส่ือสารไปยังหน่วยต่างๆ ทปี่ ฏบิ ตั ิงานภายใตก้ ารบงั คบั
บัญชาของกองบัญชาการ กองพลทหารราบท่ี ๑๕ และจัดบรกิ ารการภาพ โดยมกี ารแบ่งมอบหนงึ่ กองพัน
ทหารส่อื สารต่อหน่ึงกองพล
ขีดความสามารถ
กองพนั ทหารสอ่ื สารที่ ๑๕ กองพลทหารราบท่ี ๑๕ มขี ดี ความสามารถ ดงั น้ี
๑. การวางแผนของฝา่ ยอานวยการ กากบั ดูแลการฝึก การปฏบิ ัติการสื่อสารและกิจการสอ่ื สาร
๒. ติดตั้ง ปฏิบัติการ และดารงการสื่อสารประเภทสายและวิทยุไปยังหน่วยต่างๆ ที่ปฏิบัติงาน
ภายใต้การบังคบั บญั ชาของกองบญั ชาการกองพล
๓. ปฏิบัติการสื่อสารด้วยวิทยุถ่ายทอดให้แก่กองพล รวมท้ังการเช่ือมต่อการสื่อสารของกองพล
ใหเ้ ขา้ กบั ระบบโทรคมนาคมในพื้นท่ตี ามความจาเปน็
๔. บริการศนู ย์การส่อื สารให้แก่กองบญั ชาการกองพล และบรกิ ารนาสารด้วยยานยนต์
๕. การบรกิ ารภาพน่งิ รวมทั้งลา้ ง อัด ขยายภาพนิ่ง
๖. ทาการรบอยา่ งทหารราบเมือ่ จาเป็น
วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๖๐ ..
ประวัติ ส.พัน.๒๑ ทภ.๑
ประวัติการจัดตั้งกองพันทหารสื่อสารท่ี ๒๑ กองทัพภาคที่ ๑ ถือกาเนิดขึ้น เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๒๒
ตามคาส่ัง ทบ. (เฉพาะ)ท่ี ๑๑ /๒๒ ลง ๑๙ ม.ค.๒๒ เร่ือง การจัดตั้งกองทหารสื่อสาร กองทัพภาคท่ี ๑ เพ่ือเป็นการ
เสรมิ สรา้ งกาลังกองทัพและเพิ่มพนู ประสทิ ธภิ าพ ของกองทพั บกใหส้ งู ขน้ึ มีนามหน่วยย่อในครัง้ นัน้ วา่ กอง ส.ทภ.๑
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๒๔ กองทัพบกได้ออกคาส่ัง ทบ .(เฉพาะ)ท่ี ๑๒๐/๒๔ ลง ๑ ก.ย. ๒๔
เร่ือง การแปรสภาพกองทหารสื่อสาร กองทัพภาค เป็น “กองพันทหารสื่อสาร กองทัพภาค” หน่วยจึงถูกแปรสภาพ
จาก กอง ส.ทภ.๑ เปน็ กองพนั ทหารสอ่ื สารท่ี ๒๑ มีนามหนว่ ยโดยยอ่ ว่า ส.พัน.๒๑ เป็นหน่วยขึ้นตรงต่อ กองทัพภาค
ที่ ๑ และกระทาพิธีเปิดอาคารกองบังคับการ เม่ือวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๒๖โดยมี พล.ท.พัฒน์ อุไรเลิศ มทภ.๑
ในขณะนน้ั เป็นประธานในพธิ ี
วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๖๑ ..
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๖๐ กองทัพบกได้ออกคาสั่ง ทบ.(เฉพาะ) ท่ี ๕๙/๖๐ ลง ๒๗ ต.ค. ๖๐
เรื่อง เปลี่ยนนามหน่วยระดับกองพัน หน่วย ช. และหน่วย ส. โดยมีการปรับเปลี่ยนนามหน่วย
เป็น กองพันทหารส่ือสารที่ ๒๑ กองทัพภาคที่ ๑ มีนามหน่วยโดยย่อว่า ส.พัน.๒๑ ทภ.๑
จนถงึ ปัจจุบนั
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๖๒ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๖๓ ..
โประแกรมคลงั อัจฉรยิ ะเปน็ ดารขิ องท่าน ผูบ้ งั คบั กองพันทหารสือ่ สารที่ ๒๒ กองทัพภาคท่ี ๒
เพ่ือเปล่ียนรูปแบบการควบคุม ดูแล สิ่งอุปกรณ์ในคลังจากปกติที่เป็นการเก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆ
ในรูปแบบระบบ Manual. ให้เปลี่ยนมาเป็นระบบ Electronic. เพื่อให้สะดวกต่อการเก็บหลักฐาน
ควบคมุ บญั ชีคุม และตรวจสอบข้อมูลตา่ งๆ ผา่ นทางโปรแกรมได้
ขนั ตอนการใช้งานโปรแกรมคลงั อจั ฉรยิ ะ
๑. ในหนา้ แรกของโปรแกรมคลงั อจั ฉรยิ ะ จะมหี น้าแทบฟังกช์ ันทั้งหมด ๔ แถบฟงั ก์ชนั
ได้แก่ สถานภาพ,เบิก-ยมื ,คืน,เพมิ่ ข้อมลู
๑.๑. ฟงั ก์ชัน ‘‘ สถานภาพ ’’ ทาหนา้ ทคี่ ลา้ ยกบั เปน็ บญั ชคี ุม ทบ.400-005 สามารถใช้
ตรวจสอบสถานภาพของสงิ่ อุปกรณท์ มี่ อี ย่ใู นคลงั ทง้ั หมดไดใ้ นฟังกช์ นั นี้
วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๖๔ ..
๒. การ เบิก-ยมื ส่งิ อุปกรณ์ในคลัง ( ยกตวั อยา่ ง วทิ ยุมอื ถือ ICOM V – 80 )
- เมื่อเจ้าหน้าที่คลังส่ือสารไดร้ บั ใบเบกิ -ยืมทไี่ ดร้ ับการอนมุ ัตใิ ห้จา่ ยยมื สป. จากผบู้ งั คับ
กองพันฯ เจา้ หน้าทค่ี ลงั ฯ มหี น้าที่ปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
๒.๑ เจา้ หนา้ ที่คลังฯ นาสิ่งอุปกรณ์ท่ตี อ้ งจ่ายยืมตามใบเบิกออกมาเตรยี มการจ่ายยืม
๒.๒ เปิดโปรแกรมคลังอัจฉริยะ แลว้ เลือกแถบ เบกิ - ยืม เพื่อจ่ายยืมสิ่งอุปกรณ์
โดยการใช้เคร่ืองแสกนควิ อาร์โคด้ เพื่อคน้ หาสง่ิ อปุ กรณท์ ่จี ะจา่ ยยืม
วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๖๕ ..
๒.๓ เมอื่ สแกนคิวอารโ์ คด้ แล้ว จะพบกับข้อมลู ของสิ่งอุปกรณข์ อง สป. ทจ่ี ะจ่ายยืม ไดแ้ ก่
สถานภาพ, Serial Number, รูปภาพ
๒.๔ เมือ่ เจอ สป. แล้ว เจ้าหนา้ ที่คลังฯ กรอกขอ้ มูลรายละเอยี ดรายละเอียดการจ่ายยืม ดังภาพ
( ยศ.ชื่อ-สกลุ , สงั กัด, ท่ใี บเบิก ) เมอ่ื แล้วเสร็จ กด ยืนยนั ระบบจะทาการบนั ทึกขอ้ มลู เขา้ สูร่ ะบบ
วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๖๖ ..
๓. การตรวจสอบขอ้ มลู การจา่ ยยมื สงิ่ อุปกรณ์ ( ยกตัวอย่าง วทิ ยมุ อื ถือ ICOM V-80 )
๓.๑ เข้าไปท่ีหนา้ สถานภาพ แล้วเลือก ตวั เลอื ก เบิก-ยมื
๓.๒ เมอื่ เข้าตวั เลอื ก เบิก-ยืม แลว้ จะเจอกับสถานภาพของส่งิ อปุ กรณท์ จ่ี ่ายยมื ไป
ทงั้ หมด ( วิทยุมอื ถอื ฯ ท่จี า่ ยยืมล่าสุดจะอย่ดู ้านบนของรายการ )
วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๖๗ ..
๔. การรับคืน ส่ิงอุปกรณ์หลักจาก
เสรจ็ ภารกจิ ตา่ งๆ ( วิทยุมือถือ
ICOM V – 80 )
๔.๑ เขา้ ท่แี ถว ‘‘คืน’’ และ
นาส่ง สป. ทผ่ี ยู้ มื นามาคืน สแกน
ควิ อารโ์ คด้ เพ่อื คน้ หาวา่ ส่งิ อปุ กรณ์
ดังกล่าวไดถ้ ูกจา่ ยยืมหรอื ไม่
๔.๒ เม่ือสแกนผ่านคิวอาร์โค้ดแล้ว ข้อมูล สป.จะแสดงข้ึนมาว่า สป.ดังกล่าวถูกจ่ายยืมอยู่
ทาการเลือกไปท่ีรายการ สป. ทแ่ี สดงขน้ึ มาหลังจากสแกนคิวอาร์โค้ด จนท.คลังฯ กรอกรายละเอียด
การสง่ คนื แล้วกดยืนยนั สถานภาพของ สป. ดังกล่าว จะกลับมาคงคลัง
วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๖๘ ..
๕. การตรวจสอบข้อมลู การสง่ คนื สิ่งอปุ กรณ์ ( ยกตัวอยา่ ง วิทยุมอื ถอื ICOM V-80 )
๕.๑ เข้าไปท่ีหนา้ สถานภาพ แลว้ เลือก ตวั เลอื ก เบิก-ยืม
๕.๒ เมื่อเข้าตัวเลือก เบิก-ยืม แล้ว จะเจอกับสถานภาพของสิ่งอุปกรณ์ที่จ่ายยืมไป
ท้ังหมด ( จากข้อที่ ๓ วิทยุท่ีจ่ายยืมไปในข้อดังกล่าว ๓ รายการ เมื่อทาการรับคืนวิทยุ
จะเหลือเพยี ง ๒ รายการ )
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๖๙ ..
ธรรมะ
สร้างสขุ
ส.๑
สุขหรือทุกข์อย่ทู ี่ใจไม่ใช่หรือ ใจยดึ ถือก็เป็นทุกขไ์ ม่สุขสม
ใจไม่ถือก็เป็นสุขไม่ทุกขต์ รม จะนิยมความสุขหรอื ทกุ ขเ์ อย
ในบางครั้งบางเวลา เราอาจพบเจอความทุกข์หรือพบปัญหาและอุปสรรคในชีวิตท่ี ถาโถมเข้ามา
ในชีวิต ทาให้ใจเราอ่อนไหว อ่อนแอ ท้อแท้ แต่ถ้าหากเรามีความอดทน เข้มแข็งไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาและ
อุปสรรคก็จะสามารถเปล่ียนจากเหตุการณ์ร้ายๆ ให้กลายเป็นเรื่องดี และจะพบกับความสุขของชีวิต
ฉะนั้นเราอนุญาตให้ตัวเองท้อแท้ได้ในบางเวลาแต่อย่าท้อถอยเป็นอันขาดอย่าหมดกาลังใจหรือล้มเลิก
ความต้ังใจขอใหม้ คี วามอดทนมานะพยายามและตอ่ สู้ไปใหถ้ ึงทสี่ ดุ
“ ต้นไม้ใหญ่ทุกต้นก็เกิดมาจากต้นกล้าต้นเล็กๆ ผ่านแดด ฝน ลม หนาว
ใช้เวลาหลายศตวรรษกว่าจะใหญ่โต แผ่ก่ิงก้านสาขาสร้างร่มเงาแก่คนและสัตว์ได้อาศัย คนเรา
กเ็ ช่นกนั จงพยายามทจ่ี ะตอ่ สู้ เพ่ือความอยรู่ อดของตนเอง ครอบครวั และคนรอบขา้ งเพอ่ื เป้าหมาย
ของการดารงชวี ิตไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ”
วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๗๐ ..
ปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า
" ชีวิต เป็นตาราเล่มให ญ่ที่สุด
ห น า ที่ สุ ด มี ชี วิ ต ส้ั น ท่ี สุ ด
น่าประทับใจที่สุด ดูคล้ายจะ
อ่านง่าย แต่จริงๆ แล้ว กลับเป็น
ตาราท่ีเข้าใจยากท่ีสุดน่าประทับใจ
ท่ีสุด " ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือก
ที่จะเป็นได้ แม้จะเกิดมาบนความ
ไม่พร้อม แต่หากรู้จักใช้ชีวิตและ
มคี วามขยันหมนั่ เพียร ก็จะสามารถ
ผลักดันตนเอง ให้เดินไปในทาง
ท่ี จ ะ น า ชี วิ ต สู่ ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า
มีความสุข และประสบความสาเร็จ
ได้ "
ความแตกต่างระหว่างผู้แพ้กับผู้ชนะคือ ผู้ชนะจะใช้เวลาท่ีมีอยู่เหมือนกับว่า
มันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต โดยความไม่ประมาท ไม่ใส่ใจกับอดีตและไม่ได้มุ่งหวังกับ
เวลาในอนาคต แต่ผู้แพ้น้ันมัวแต่วนเวียนอยู่กับความเพ้อฝันเป็นอยู่อย่างประมาท
ซ้ายังมัวแต่พะว้าพะวงกับอนาคตอาลัยอาวรณ์กับอดีตโดยมิได้ลงมือทาส่ิงใด
ดงั น้ันจงอย่าเสยี เวลาแมเ้ พยี งนดิ กับ ความประมาทในชวี ติ เลย
ด่ังพุทธภาษิตที่ว่า “ใครประมาทก็ช่างเขา เราอย่าประมาท ใครจะหลับใหล
กช็ า่ งเขาเราอย่าหลับใหล จงต่นื ตัว ก้าวไปข้างหน้า ประดุจม้าฝีเท้าดีวิ่งข้ึนหน้าฝีเท้า
เลวฉันนั้น เป็นภาษิตเตือนใจมิให้ประมาทและมุ่งม่ันในการนาชีวิตของตนเอง
สู่ความสาเรจ็ ”
วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๗๑ ..
โอกาสไมม่ ีแขนไมม่ ีขา วันเวลามคี ่ามหาศาล
จะไม่กา้ วมาหาผู้หลบั ไหล อยา่ ให้ผ่านเราไปไรค้ วามหวัง
แต่โอกาสมใี ห้คนท่วั ไป รบี ทางานในหน้าที่เต็มกาลัง
เหตไุ ฉนท่านมัวรอขอโอกาส เสรมิ พลังใหส้ มบรู ณ์ทงั ใจกาย
ผู้ประสบความสาเรจ็ ในชวี ิต ยอ่ มหม่ันคิดใชเ้ วลาตามเป้าหมาย
ไมป่ ล่อยให้เวลาว่างน่าเสียดาย เพราะเรยี กคนื มาไม่ไดต้ ลอดกาล ฯ
วารสารทหารสอื่ สาร ร.ท.พงษพ์ ิพฒั น์ สังข์ทมิ อศจ.ส.๑
.. ๑๗๒ ..
ทาไม
ไม่มี
เวลา?
ส.๑ พนั .๑๐๒
ห ล า ย ค รั้ ง ท่ี ค น เ ร า มั ก เ ค ย มี ค ว า ม คิ ด ท่ี ว่ า อ ย า ก จ ะ ท า โ น้ น ท า น้ี แ ต่ ก็ จ ะ บ อ ก ว่ า ไ ม่ มี เ ว ล า
เช่น อยากเรยี นภาษาอังกฤษ แต่ "ไมม่ ีเวลา" อยากออกกาลังกาย แต่ "ไมม่ เี วลา" ฯลฯ ตรงกันข้ามก็ยังมีคน
บางคน ทางานเหมอื นกนั แต่กลับสามารถไปเรียนเพม่ิ หรอื ไปออกกาลังกายได้ เคยคดิ หรือไมว่ ่าคน ๒ กลมุ่ นี้
ทาไมถงึ แต่ตา่ งกนั คาตอบที่นา่ จะใกลเ้ คยี งทส่ี ดุ คอื ประสิทธภิ าพการทางานทแี่ ตกต่างกนั
คนกลุ่มแรก คนที่ไม่มีเวลา คือกลุ่มที่มีประสิทธิผลต่า จึงจาเป็นต้องยุ่งกับการทางาน อยู่ในสภาพ
ทีถ่ กู เวลาไล่กวดอย่เู สมอ
คนกลุ่มที่สอง คือคนที่มีประสิทธิพลดีไม่จาเป็นต้องยุ่งกับงาน จึงมีเวลาสาหรับตนเอง และยังว่าง
อีกด้วย
หากถามว่าใครจะสนุกกับการทางานมากกว่ากัน ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นคนกลุ่มที่ ๒ เพราะคน
เหล่าน้ันจะไมเ่ ครียดหรอื ถกู กดดนั โดยไมจ่ าเปน็ เป็นตวั ของตวั เอง และมเี วลาส่วนตัวเพยี งพอ จะเหน็ ได้
วา่ ประสทิ ธิพล นั้นไม่ไดเ้ ปน็ เพยี งสง่ิ จาเปน็ ตอ่ การทางานอยา่ งราบรนื่ เทา่ น้นั แต่ยงั สามารถเตมิ เตม็ ชวี ติ
ของคนท่ที าได้อีกดว้ ย
วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๗๓ ..
หากถามว่าการเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานได้ไหม คาตอบคืออาจจะทาได้ยากมาก
แตก่ อ็ าจจะทาไดง้ ่ายเช่นกนั ยกตัวอย่าง โรงงานอุตสาหกรรมผลิตของอะไรสักอย่างแบบท่ีมีสายพาน
ลาเลยี งส่วนตา่ งๆ มาแล้วมาประกอบทีละช้ินๆ อย่างเป็นข้ันตอน ระหว่างที่ประกอบน้ัน ไม่มีคนงาน
คนไหน มาคอยสงสัยเร่ืองเล็กเช่น ส่วนน้ีใส่ตรงไหน, ใช้น็อตตัวไหนไขดี ฯลฯ การประกอบน้ันเลย
ดาเนินการเป็นอัตโนมัติ ตามที่กาหนดไว้ก่อน ทุกคนท่ีทาก็ปล่อยไปตามขั้นตอน งานก็ออกมา
ตามเส้นทางสายพานจนจบขั้นตอน น่ีคือคาตอบของการเพ่ิมประสิทธิภาพการทางาน กล่าวคือ
การจะเพิ่มประสิทธิภาพการทางานน้ัน คือไม่คิดอะไรยาก เพียงแค่ทาตามท่ีเคยทาปกติ ที่เราจะ
เรียกว่า "ความเคยชิน“ น้นั เอง คนทม่ี ปี ระสิทธผิ ลดีจะสรา้ งความเคยชินที่ดี เพอ่ื ตัดเวลาคดิ และเวลา
ทางานลงใหม้ ากทสี่ ุด เพ่ือไดผ้ ลงานออกมา
ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายข้ึน ทุกวันนี้ที่เราต่ืนมาจะแปรงฟัน ไม่มีใครคิดว่า วันนี้จะแปรงฟันยังไง?
เราก็จะหยิบแปรง บีบยาสีฟันใส่ แล้วแปรงไปเลย โดยท่ีสมองเราไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับการแปรงเลย
ถ้าเราต้องมาคิดว่าจะแปรงแบบไหน ใช้ยาสีฟันเท่าไร แปรงขึ้นก่ีคร้ังแปรงลงกี่ครั้ง เราคงไม่เหลือเวลา
ทาอยา่ งอืน่ จะเหน็ ได้ว่าการทาอะไรที่มีความเคยชินกับมันแล้ว เราจะทาได้โดยไม่รู้ตัวเลย แม้แต่นักกีฬา
มาราธอน การวิ่งทุกวนั ตอนเชา้ ของพวกเขาน่าจะเรียกว่าเป็นความเคยชินมากกว่าการฝึกซ้อม เหมือนว่า
ถ้าไม่ได้ว่ิงจะรู้สึกไม่ได้เริ่มวันใหม่ ดังน้ัน การว่ิงของพวกเขาจึงไม่ใช่ส่ิงยุ่งยากหรือลาบากแต่อย่างใด
เพราะมันเป็นความเคยชินนัน้ เอง
วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๗๔ ..
ความเคยชินทาให้เราทาอะไรเป็นปกติได้โดยไม่ต้องคิดมาก ใช้จิตไร้สานึกในการทาตัวเอง
การกระทาน้ี จะทาได้โดยไม่ลาบากและรวดเร็ว มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และก็จะทาได้ต่อเน่ืองโดยจิตไร้สานึก
เพราะเป็นความเคยชิน สามารถทาต่อเนื่องได้อย่างไม่เครียดเพราะไม่ได้ลาบาก ส่งผลดีต่อสุขภาพ
แมว้ ่าความเคยชินจะสามารถทาใหเ้ ราทางานไดอ้ ย่างไมเ่ ครยี ดแล้วได้ผลออกมา เวลาทเี่ ราทางานนน้ั ไม่ได้เป็น
ตัวช้วี ดั ประสทิ ธิผลทดี่ ีเสมอไป เช่น ความคิดท่ีว่าถ้าทางานนานกว่าและ ทาโอทีมากกว่า จะมีประสิทธิภาพ
มากกว่าคนที่ทางานตามเวลาปกติ แท้จริงแล้วสิ่งที่ตัดสินคนก็คือผลลัพธ์ เวลาไม่ใช้ส่ิงที่วัดความพยายาม
ยกตัวอย่างเชน่ การตอบโจทย์ปญั หาไดส้ บิ ขอ้ นัน้ คนทใ่ี ชเ้ วลา ๑ ชว่ั โมง กบั คนที่ใชเ้ วลา ๕ ชว่ั โมง แมจ้ ะทาได้
เหมอื นกนั แตป่ ระสิทธภิ าพก็แตกตา่ งกนั อย่างเหน็ ไดช้ ดั เจน
การจะเพิม่ ประสิทธิภาพการทางานนั้น ทาได้โดยเปล่ียนความเคยชินในการทางาน ให้ความเคยชิน
เป็นโคช้ พัฒนาประสิทธภิ าพการทางาน ตอนนอ้ี ยทู่ ่ีตัวเราแลว้ ว่าจะเช่อื ฟงั โค้ชคนไหน? จะสร้างความเคยชิน
แบบไหนดี? ที่จะสามารถทาใหต้ วั เรามปี ระสิทธิภาพการทางานทีด่ ี
วารสารทหารสอื่ สาร .. ๑๗๕ ..
ส.๑
ความซือ่ ตรงต่อหน้าท่ี
ใบมดี โกน คมกริบ สักเพียงไหน
มิอาจโคน่ ไมใ้ หญ่ ล้มลงได้
ขวานแขง็ แรง ความคม มมี ากมาย
ไม่สามารถ โกนหนวดได้ เฉกเช่นกนั
ขวานกับมีดทามาจากเหล็กเหมือนกัน และต้องการจะใช้คมของมันเหมือนกัน แต่วิธีใช้หรือหน้าที่
ของมนั ไมเ่ หมอื นกนั ขวานสาหรบั ตดั ไม้ ผ่าผืน มีดโกนสาหรับโกนหนวด โกนเครา แต่ถ้าใครจะคดิ วา่ มนั เป็น
มีดเหมือนกัน กใ็ ชเ้ หมือนกันไดส้ ิ คนน้นั ก็คิดผิด ไม่เชอ่ื ลองดูก็ได้
เอาขวาน ทเ่ี ราวา่ คมแสนคมนน้ั ลองเอาโกนหนวด จะเห็นว่าไม่เป็นเรื่องเลย ไม่คมเลยสักนิดทีต้นไม้
ใหญๆ่ แล้ว ฟันคร้ังสองครัง้ ก็ขาดสะบน้ั แลว้ ทีเส้นหนวดเสน้ ผมเท่าเสน้ ดา้ ย เส้นไหม ทาไมโกนไม่เข้า
วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๗๖ ..
ลองอกี ทเี อามดี โกนท่คี มแสนคมน้นั แหละ ลองผ่าฟนื ดู กจ็ ะเห็นวา่ ไม่เป็นเร่ืองอกี เหมือนกัน
ใช้การไม่ได้เลย ไม่มีคมสักนิด ตกลงว่าท้ังขวานและ มีดโกนใช้การใช้งานอะไรไม่ได้สักอย่างเลย
นั่นแหละเพราะอะไร เพราะมีดมันไมม่ คี มรึ ? หรอื เราใชม้ ดี ไม่เป็น ใช้ไมถ่ กู วธิ ี ใชไ้ ม่ถูกหน้าทข่ี องมนั
แน่นอนทีเดยี ว น่ันไม่ใช่ความผดิ ของมดี แต่มันเป็นความผิดของคนท่ีใช้มีด...ที่มีของแล้วไม่รู้จักใช้
ให้ถกู ทาง.....
คนเรา แต่ละคนประกอบข้ึนด้วยอวัยวะส่วนต่าง ๆ มากมาย อย่างที่ทางศาสนาเรียกว่า
“อาการ ๓๒” น่ันแหละ อวัยวะแต่ละอย่างมีหน้าท่ีแต่ละอย่าง มีหน้าที่คนละอย่าง ต่างส่วนก็ต่าง
ทางานตามหน้าที่ของตน โดยไม่เก่ียงงอนกัน จะมีเวลาพักก็เฉพาะเวลานอนหลับเท่านั้น
แต่มีอวัยวะบางอย่าง ไม่มีเวลาพักผ่อนเลย ตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้าพักก็หมายความว่า พักเลยตลอด
กาล เช่น จมูก ทาหน้าที่หายใจเข้าออก หัวใจทาหน้าท่ีสูบฉีดโลหิต พวกนี้พักไม่ได้ ถ้าพักก็พักเลย
ตราบใดท่อี วัยวะเหล่านี้ยังทาหนา้ ท่ีของมันอยู่ คนเราก็ยังมีชีวิตอยู่ ยังเจริญเติบโต และมีความสุข
อยู่ แตถ่ ้าเมือ่ ใดอวยั วะเหล่านหี้ ยดุ ทางาน คนเราก็อย่ไู ม่ได้
อวยั วะตา่ ง ๆ ทาหน้าที่ของมนั ขยนั ทสี่ ดุ และซ่ือตรงต่อหนา้ ทีอ่ ยา่ งดที สี่ ุด คือ
ตา ทาหน้าท่ีดรู ปู
หู ทาหนา้ ทีฟ่ งั เสียง
จมกู ทาหนา้ ทดี่ มกล่ินและหายใจ
หวั ใจ ทาหน้าที่สบู ฉดี โลหติ ไปหล่อเล้ยี งร่างกาย เปน็ ตน้
ฯลฯ
อวัยวะทุกส่วนท่ีประกอบกันเป็นร่างกายเราน้ี
มีประโยชน์ต่อชีวิตทั้งน้ัน มากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่หน้าท่ี
ของใครของมัน ไม่มีการโอนความรับผิดชอบให้กัน เช่น
ตาทาหน้าที่ดู หูทาหน้าท่ีฟัง หากตาขี้เกียจดู หูขี้เกียจฟัง
จะเปล่ียนหน้าท่ีกันให้หูดู ตาฟัง ทาไม่ได้ เพราะมันเป็น
หน้าท่ีจาเพาะของใครของมัน และจาเพาะจริงๆ
ชนิดทาแทนกันไม่ได้เลย หากจะพูดอย่างภาษาทหารเราก็
วา่ ชกท.ของใครของมันนัน่ เอง
วารสารทหารสอื่ สาร .. ๑๗๗ ..
ความหมายของหนา้ ท่ี
หน้าท่คี อื งานทเี่ ราจะตอ้ งทาโดยเฉพาะ เกี่ยวข้องกับเรา สาคญั ทส่ี ุดสาหรบั เรา ถ้าไม่ทาแล้ว จะตอ้ ง
เกิดความเสยี หายข้นึ เรียกว่า “หน้าท่ี” แบ่งออกเป็น ๒ อยา่ งคือ
๑. หนา้ ท่ีทีเ่ กดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ
๒. หน้าทท่ี ไี่ ดร้ บั มอบหมายให้ทา
หน้าที่ท่ีเกิดเองนัน หมายความว่า เมื่อเราเกิดมาเป็นคน หน้าท่ีน้ัน ก็ได้เกิดติดตัวเราข้ึนมาด้วย
ยิ่งโตมากข้นึ หน้าที่กย็ ่งิ มีความเก่ียวขอ้ งกับเรามากขึน้ แล้วกจ็ าเปน็ อยา่ งย่งิ ท่เี ราจะต้องทาตามหน้าที่นั้นด้วย
เพราะเป็นหน้าที่แล้ว ถ้าไม่ทาก็เสียหาย เช่น พอเราเกิดมาเป็นลูก หน้าท่ีของลูกท่ีจะต้องทาต่อพ่อแม่
ก็ติดตามเรามาดว้ ย เม่ือโตแลว้ จะต้องเล้ยี งดูตอบแทนบุญคุณของพอ่ แม่ เม่อื เขา้ โรงเรยี นก็มหี น้าท่ขี องศิษย์
คบเพื่อนก็มีหน้าที่ของเพื่อน มีครอบครัวก็มีหน้าท่ีของสามีภรรยา ได้ลูกมาก็ทาหน้าที่ของพ่อแม่
ได้หลานมาก็ต้องทาหน้าที่ของปู่ย่าตายายต่อไป อย่างนี้เรียกว่า “หน้าที่เกิดเองตามธรรมชาติ หรือจะว่า
หนา้ ท่ปี ระจา กไ็ ด้”
หน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย คือหน้าที่ซ่ึงผู้อื่นมอบหมายให้เรารับทา หน้าที่ที่รับมอบหมายน้ี
เป็นไปตามห้วงระยะเวลา อาจจะเป็นระยะเวลาส้ันหรือยาวก็ได้ แล้วแต่ผู้มอบเขาจะกาหนดเอาไว้
จะเรียกว่า หน้าที่จาเพาะก็เห็นจะได้ หน้าท่ีน้ีก็มีความสาคัญและจาเป็นแก่เรา เพราะเม่ือเรารับเอาไว้แล้ว
เราจะต้องปฏิบัติหน้าท่ีนี้ตลอดเวลา เมื่อได้รับหน้าที่รักษาเวรยาม เราจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่เวรยามน้ัน
พน้ เวลาทกี่ าหนดแล้ว จึงจะพ้นความรับผิดชอบ จะเปน็ ตารวจ กานัน ผ้ใู หญ่บ้าน ฯลฯ ตลอดเป็นพ่อเป็นแม่
เปน็ สามีเปน็ ภรรยา เป็นลูกเป็นหลาน เป็นอะไรก็ต้องรับหนา้ ท่นี ้นั ไปจนกวา่ จะพน้ กาหนด
หนา้ ทเี่ ปน็ สิ่งสาคัญและมีความจาเป็นเกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวันของคนเราแต่ละคน เหมือนหน้าที่
ของรถยนต์ จะต้องวิ่งได้ ถา้ เปน็ แตเ่ พยี งรูปรา่ ง ตวั รถ มีส่วนประกอบทุกอย่าง แต่ว่งิ ไม่ได้ รถน้ันก็ขาดหน้าที่
คือวิ่งไม่ได้ แลว้ ค่าของรถก็หมด ไม่ตา่ งอะไรกับเกวยี น
ส่วนหน้าท่ีรักษาคุ้มครองประเทศชาติอย่างทหารเราน้ี เป็นหน้าที่ใหญ่และมีความสาคัญมาก
จงึ มเี กียรตมิ าก เมื่อเรารวู้ ่า หน้าทเี่ ป็นเคร่อื งทาเราใหเ้ ป็นผู้มีความสาคัญ ให้มีเกียรติ เราก็ควรจะต้องรักษา
หนา้ ที่ของเราไว้ใหด้ ี
ทุกสง่ิ อยา่ ง มคี ่า ซึ่งแตกต่าง
มดี ีบ้าง เสยี บา้ ง ในสิง่ นนั้
อยู่ทีเ่ รา ใช้ใหถ้ กู งานของมัน
คา่ เกิดพลัน เกนิ คาด คาบรรยาย
---------------------------
ร.ท.พงษพ์ ิพัฒน์ สงั ข์ทมิ อศจ.ส.๑
วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๗๘ ..
Dhamma Traveling Cornerมุมธรรมะพาเท่ยี ว
สวสั ดคี ่ะ Dhamma Traveling Corner ในวันน้ี จะพาผอู้ า่ นทกุ ท่านไปกราบหลวงปู่จามกันท่ี
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ต.คาชะอี อ.คาชะอี จ.มุกดาหาร พร้อมท้ังขอนาโอวาทธรรมของหลวงปู่จาม
มหาปุญโญ มาใหไ้ ดอ้ า่ นกันดว้ ยค่ะ
ปูชนียวัตถุท่ีสาคัญ คือ เจดีย์บู่ทองกิตติ เป็นเจดีย์ลักษณะ
หา้ ยอด ตัง้ อยบู่ นฐานกวา้ ง 13 เมตร ยาว 13 เมตร ความสูงจากพื้นถึง
ยอดเจดีย์ 45 เมตร เป็นศิลปะประยุกต์ สร้างข้ึนเมื่อปี พ.ศ. 2530
เพ่ือบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริย
สาวกหลายองค์
วารสารทหารส่อื สาร ภาพ : Sugarbrown
เร่ือง : ห้องสมุด กวก.สส.
.. ๑๘๐ ..
ขันติอด ขันตทิ น
พระธรรมเทศนาโดย...หลวงปู่จาม มหาปุญโฺ ญ
วัดป่าวเิ วกวฒั นาราม บา้ นหว้ ยทราย อ.คาชะอี จ.มุกดาหาร
... ในการท่เี ราเกิดมาเป็นมนษุ ย์ในเวลาบัดเดี๋ยวนี้
ใหใ้ ช้ขันตดิ ความอดทนใหเ้ ป็น
อย่าเปน็ คนทไี่ ม่เอาไหน ข้เี กียจขค้ี รา้ น มักงา่ ยไม่มีความอดทน
เพราะเหตุเหล่านี้พาใหเ้ ราเสยี ประโยชนท์ ฐี่ านะเปน็ มนุษยน์ ้แี ล้ว
ให้ตนเองเป็นผมู้ ีบญุ กศุ ล มธี รรมะของพระพุทธเจา้ เปน็ ผลเปน็ ประโยชน์
ให้กบั จิตให้กบั ตนของตนตลอดต่อไป
เราทุกคนได้มาพบปะพระพุทธศาสนาพทุ ธะน้แี ล้ว
ให้ไดร้ ับประโยชน์ ใหค้ วามดเี กิดข้ึนมาในตนของตน
จงมีขันติมีความสงบเสงี่ยมต้งั ใจในธรรมอยู่เสมอ
ทาความดกี ็ใหอ้ ดทน ไหว้พระสวดมนต์กใ็ หอ้ ดทน
รักษาศีลกใ็ ห้อดทน ละท้ิงความชั่วใดๆ ก็ใหใ้ ชค้ วามอดทน
สะสมบุญกุศล สะสมธรรมะ สะสมปญั ญา
คดิ อา่ นประการใดๆ ก็ใหม้ ีขันติมโี สรัจจธรรมประจาตนอย่เู สมอ
เพราะจักเป็นประโยชน์ ติดตามนาตนไปในภายภาคหนา้
เพราะจะได้เกดิ อีกตอ่ ไปในโลกน้หี ลายภพหลายชาติ ...
วารสารทหารส่อื สาร คัดมาจาก : หนงั สือ พระธรรมเทศนาของหลวงปู่จาม มหาปญุ โฺ ญ
.. ๑๘๑ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๘๒ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๘๓ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๘๕ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๘๖ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๘๘ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๘๙ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๙๐ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๙๒ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๙๓ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๙๔ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๙๖ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๙๗ ..
วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๙๙ ..