The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วารสารทหารสื่อสาร 97 ปี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by adpire504, 2021-05-27 04:31:21

วารสารทหารสื่อสาร 97 ปี

วารสารทหารสื่อสาร 97 ปี

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๐๑ ..

ขอ้ มูลทางดา้ นเทคนิค SINCGARS รุน่ AN/VRC-91E

ตวั เครื่องรับ-ส่ง RT-1702

ย่านความถใ่ี ชง้ าน ๓๐ – ๘๗.๙๗๕ MHz. แบ่งชอ่ งได้ ๒๓๒๐ ช่อง

Modulation Type Frequency Modulation (digital or analog)

แต่ละช่องหา่ งกัน ๒๕ KHz.

จานวนชอ่ งการสอื่ สาร ๘ ชอ่ ง สาหรับโหมด single Channel

๖ FH สาหรับโหมด Frequency Hopping

GPS Option ***GPS BUILT-IN

Frequency Stability + - 2PPM

Power output ๑ มลิ ลวิ ตั ต์ ในตาแหนง่ Low ๑๐๐ มลิ ลวิ ตั ต์ ในตาแหนง่ Med

วารสารทหารส่อื สาร ๕ วตั ต์ ในตาแนง่ Hi ๕๐ วตั ต์ ในตาแน่ง Hi (ตดิ ตงั้ PA เพม่ิ เตมิ )

.. ๑๐๒ ..

Squelch ๑๕๐ Hz.

กาลังไฟใช้งาน Manpack ๑๒ - ๑๔ volt battery

Vehicle +28 Vdc per MIL-STD-1275

กนิ กระแส ๓๕๕ มิลลแิ อมป-์ ๑๕๕๔ มลิ ลแิ อมป์

Battery Type Ni-Cad, Ni-mH, Li-ion

Encryption Country unique Pavilion SINCGARS

ขนาด ๓.๔ H X ๕.๓ W X ๑๐.๑๕ D in.

นา้ หนกั ๓.๕ KG.

อณุ หภูมิใช้งาน -๕๑ C TO ๗๑ C

มาตรฐานทางทหาร MIL-STD 810 to 1M ,MIL-STD 810 (Shock and
Vibration), (Sand/Dust/Salt Fog/Rain), Humidity, EMI

ทง้ั หมดนเ้ี ป็นขอ้ มูลทไ่ี ดม้ าจากบรษิ ัท L3Harris และบางส่วนไดจ้ ากการไปสารวจจากยานพาหนะจรงิ
ทเี่ ข้าประจาการในกองทพั บกไทย สุดท้ายน้ี ผู้เขยี นหวงั เปน็ อย่างย่ิงว่าจะเป็นประโยชนแ์ กผ่ ู้สนใจยุทโธปกรณ์
ทางทหารทเี่ ขา้ ประจาการใหม่ และได้รบั ทราบขดี ความสามารถของกองทพั บกไทยอีกดว้ ย

--------------------------------------------------------------

ผ้เู ขียนบทความ ร.อ.อนรุ ักษ์ วงษ์พระจันทร์
วสว.กศ.รร.ส.สส.

วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๐๓ ..

Drone ตาทพิ ย์
ในอนาคต

โดย ส.พนั .๑๓ พล.ปตอ.

วิวัฒนาการอากาศยานไร้คนขับ (Drone) แบ่งเป็น ๒ ยุค คือยุคก่อนสงครามโลกครั้งท่ีสอง
และยคุ หลงั สงครามโลกครง้ั ท่ีสอง คาว่า “Drone” หมายถึง ยานปลอดมนุษย์โดยสาร ถูกบังคับโดย
มนษุ ยท์ างวิทยุ หรอื ระบบอตั โนมตั ิ นามาใชใ้ นภารกิจทางทหาร

ในส่วนของภารกิจทหารสมัยก่อน มีเทคโนโลยี Radar ในการตรวจจับ ในการหาข่าวต่างๆ
มีความจาเปน็ ตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งบนิ และนักบิน เมอ่ื เกิดการโจมตี หรอื เกดิ การจูโ่ จมขน้ึ จะกอ่ ให้เกดิ ความ
สูญเสยี จานวนมหาศาล จึงมีแนวความคดิ ในการสร้างเครือ่ งบนิ ที่ไมม่ คี นขับเกดิ ขน้ึ

วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๐๔ ..

ปจั จุบนั หน่วยไดร้ บั Drone ย่หี อ้
DJI รุ่น MAVIC 2 ZOOM เป็นอีกหน่ึง
ยุทโธปกรณ์ใหม่ ประกอบชุดมัลติมีเดีย
ที่ไ ด้รั บจากกร ม การ ทห าร สื่อสา ร
เพื่อนามาใช้ทางด้านพลเรือน ในการ
ถ่ายภาพรูปแบบใหม่ ที่เราเรียกว่า
การถ่ายภาพทางอากาศ หรือบางคน
อาจจะเรียกว่าเป็น UAV ซึ่งย่อมาจาก
คาว่า Unmanned Aerial Vehicle

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๐๕ ..

ชดุ วทิ ยุระบบดิจิทลั ที่เริม่ มีใช้ในกองทัพบก

รร.ส.สส.

ปัจจุบันข้อมูลสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลดิจิทัล (Digital Data) ซ่ึงเป็นปัจจัยสาคัญต่อการ
ปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ของท้ังภาครัฐและภาคเอกชน เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการ
ปฏิบตั ิงาน โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในโลกยุคไร้พรมแดน (Borderless Age) ทาใหอ้ งค์กรตา่ ง ๆ มคี วามตื่นตัวในด้าน
การพัฒนาองค์กร เพอื่ ท่ีจะก้าวใหท้ นั กบั สภาวะแวดลอ้ มของโลก ซ่ึงมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ
อยา่ งย่ิงความเจริญเตบิ โตทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ(Information Technology ; IT) ทาให้เกดิ การกระจาย
ขอ้ มูลขา่ วสารและนาไปสู่โอกาส รวมถึงความไดเ้ ปรยี บในการปฏบิ ตั งิ านในดา้ นตา่ งๆ ซง่ึ ถือเปน็ ความทา้ ทายของ
หน่วยงานทจ่ี ะตอ้ งพฒั นาตนเองใหท้ ันสมยั และก้าวทันตามเทคโนโลยที ีก่ าลงั ถาโถมเข้ามา

เมอื่ เทคโนโลยมี ีการพัฒนาข้ึน ทาให้การติดต่อส่ือสารมีการพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดย้ัง โดยสิ่งท่ีถูกพูด
ถงึ กนั ทเ่ี ราได้ยนิ บ่อยครงั้ คือ NCO (Network Centric Operation:การใช้เครอื ขา่ ยเป็นศูนย์กลาง) มีการนาเอา
ยทุ โธปกรณ์ใหม่ ๆ มาใช้ในกองทัพเพ่ือเตรียมความพร้อมสาหรับการก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัล หน่ึงในการพัฒนาที่
สาคญั คือ การเปลี่ยนแปลงของระบบวิทยุ โดยวิทยุระบบใหม่นี้มีการใช้งานในย่านความถี่ HF, VHF และ UHF
ทาใหก้ ารตดิ ต่อสอื่ สารมปี ระสิทธภิ าพมากขน้ึ ซึง่ แตกต่างจากในยุคกอ่ นเราท่ีสามารถตดิ ตอ่ ส่ือสารกันได้เพียงใน
ระบบเสียง (VOICE) เพียงอย่างเดียว แต่เม่ือมีวิวัฒนาการเพ่ิมข้ึนมาในการส่งข้อมูลหรือข้อความจากเดิมที่ใช้
เพียงระบบแอนะล็อกมาเป็นระบบดิจิทัล (คล้ายกับพัฒนาการของระบบโทรศัพท์ที่เริ่มจากยุค 2G ท่ีคุยกันได้
เพยี งอยา่ งเดียว

วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๐๖ ..

จนในปัจจุบันได้พัฒนาเป็นยุค 5G สามารถที่จะคุยกันเห็นหน้าหรือท่ีเราเรียกว่า วิดีโอคอล
โดยใช้แอปพลิเคชัน ผ่านโทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟน ,คอมพิวเตอร์พีซีหรือโน๊ตบุ๊ก)
โดยระบบวิทยุทเ่ี ปน็ ระบบดจิ ทิ ลั ทีก่ องทัพบกนามาใช้นน้ั เป็นวิทยทุ ่ีใช้ระบบ IP (Internet Protocol) ซ่งึ
สามารถเช่ือมต่อผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซ่ึงจะทาให้เราสามารถใช้งานวิทยุได้ในรูปแบบ VOICE, DATA
และ VIDEO รวมไปถึงสามารถทราบพกิ ดั ชดุ วทิ ยุว่าอย่ใู นตาแหนง่ ใด เพราะวิทยุร่นุ ใหมๆ่ น้นั ไดน้ าระบบ
GPS มาทาการติดตั้งไว้ในตัวเครื่องรับ-ส่งวิทยุ (Built in) ซ่ึงจะทาให้ผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมและสั่งการ
จาก ทก. สามารถมองเห็นภาพการปฏิบัติพร้อมทั้งได้ยินเสียงของพนักงานในขณะปฏิบัติภารกิจแบบ
REALTIME นอกจากนี้ยังเพ่ิมระยะการติดต่อส่ือสารออกไปให้ไกลย่ิงข้ึนเพราะสามารถใช้งานผ่านระบบ
อินเทอร์เน็ตไดน้ ั่นเอง

สาหรับชุด วิทยุ HF/SSB ที่มีใช้งานใน
กองทัพบกรุ่นก่อน ๆ ได้แก่ ชุดวิทยุ AN/GRC-106 ซึ่ง
ต่อมาได้มีการจัดหาทดแทนเป็นชุดวิทยุ HF-2000
และ HF-6000 ทาให้มขี ดี ความสามารถเพม่ิ ขึ้นจากเดิม
อีกมากมายเชน่ มีระบบการเข้ารหัสสญั ญาณ (Secure)
การใช้งานแบบความถ่ีก้าวกระโดด (Anti-Jamming)
การเลือกความถีแ่ บบอตั โนมัติ (Auto call) การรบั -ส่ง
คนละความถ่ี และ ระบบการเลือกเรียก(Selective
Calling) แต่ชดุ วทิ ยดุ งั กลา่ วยังเป็นวทิ ยุในระบบแอนะล็
อกอยู่ และเพื่อรองรับในการปรับปรุง/เปลี่ยนแปลง
เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบการติดต่อส่ือสารทาง
วิทยุไปสู่ระบบดิจิทัล (Digital) ด้วยขีดความสามารถ
ในการติดต่อสื่อสารระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพ
กองทัพบกจึงได้จัดหาชุดวิทยุแบบใหม่เพื่อรองรับ
เทคโนโลยเี ชน่ ท่ีกล่าวมานน้ั คอื ชดุ วทิ ยุ HF-8000

ชดุ วิทยุ HF-8000 เป็นชดุ วทิ ยใุ นยา่ นความถ่ี ๑.๕ – ๒๙.๙๙๙๙ MHz. มีจานวนช่องการสื่อสาร
๒,๘๕๐,๐๐๐ ช่อง สามารถต้ังความถี่ล่วงหน้าได้สูงสุด ๑๐๐ ช่อง มีคุณลักษณะทางเทคนิคท่ีสามารถ
ใช้งานได้แบบชุดวิทยุ HF-2000 และ ชุดวิทยุ HF-6000 แต่ส่ิงที่เพ่ิมเติมคือเป็นชุดวิทยุแบบ Multi-
adaptive IP HF Radio สาหรับเสยี งดิจิทัลและแอนะล็อกและการสือ่ สารขอ้ มลู ความเร็วสูง สามารถใช้
งานร่วมกับสายอากาศแบบ ‘NVIS’ ทั้งแบบติดต้ังประจาท่ี และติดตั้งบนรถยนต์ได้ ระยะในการ
ติดต่อส่ือสารสอื่ สารต้ังแต่ ๑๐ – ๑,๐๐๐ ก.ม.

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๐๗ ..

สาหรบั ในย่าน VHF นั้น วิทยทุ กี่ องทพั บกมมี ากอ่ น
หน้านี้ซึ่งเป็นวิทยุรุ่นเก่า คือ ชุดวิทยุAN/PRC-77 และ ชุด
วิทยุ AN/VRC-12(Series)ใช้งานในย่านความถ่ี ๓๐.๐๐ -
๗๕.๙๕ MHz. มีความห่างระหว่างช่อง ๕๐ KHz.
ปัจจุบันถูกทดแทนด้วยวิทยุในตระกูลของ CNR-900
แ ล ะ CNR-900T ซ่ึ ง มี ย่ า น ค ว า ม ถี่ ที่ เ พ่ิ ม ม า ก ขึ้ น
คือ ๓๐.๐๐๐ - ๘๗.๙๗๕ MHz. และมีความห่างระหว่าง
ช่อง ๒๕ KHz. ทาให้มีความถ่ีท่ีใช้งานได้เพิ่มมากข้ึน
แตท่ ้ังสองแบบน้ีกย็ งั ถอื ไดว้ า่ เปน็ ระบบแอนะลอ็ กอยู่

ซึง่ วิทยุทีเ่ ปน็ ระบบดจิ ทิ ลั ทก่ี องทพั บกไดจ้ ัดหามาใชง้ านทดแทนคือ CNR-9000HDR/IP RADIO โดยยงั
จะสามารถใช้งานรว่ มกับระบบวิทยุ VHF/FM แบบเดิมได้ท้ังหมด เพียงแต่ต้องมีการเลือกการใช้งานที่เป็นท้ัง
สองระบบคือแอนะล็อกและดิจิทลั หรือดิจิทลั เพยี งอยา่ งเดยี ว ซึ่งหากไม่เลือกโหมดการใช้งานให้เหมาะสมกับ
ชุดวิทยุเดิมจะทาให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับวิทยุรุ่นใหม่ได้ โดยวิทยุในตระกูล CNR นั้น เพ่ิมโหมดการใช้
งานท่มี ีความปลอดภยั มากกวา่ วิทยรุ ุ่นเกา่ ท่มี เี พยี งโหมดเสยี งกระจ่าง (CLR) คอื โหมดเขา้ รหสั (SECURE) และ
โหมดความถ่ีก้าวกระโดด (Frequency Hopping) หรือท่ีเราเรียกว่าโหมด A.J. (Anti Jamming) ซึ่งมีความ
ปลอดภัยในการติดต่อส่ือสารเป็นอย่างมาก และยังสามารถกาหนดการเลือกเรียก (SELECTIVE CALLING)
ซึ่งเป็นการเรียกเปน็ กล่มุ หรอื เรียกเฉพาะบางสถานไี ด้ แม้จะใช้งานในโหมดหรอื ช่องเดยี วกนั อีกทงั้ ยังมีกาลังส่ง
ท่เี พ่ิมขึน้ เปน็ 10 วัตต์ จากเดมิ ที่เครอื่ งรนุ่ เกา่ มีแค่ 5 วัตต์ ทาใหม้ รี ะยะในการติดต่อสื่อสารที่เพม่ิ มากขึน้ ด้วย

ในส่วนยา่ น VHF/UHF วิทยุเดิมท่ีกองทัพบกมี
ใชค้ ือ ชดุ วทิ ยุPRC-710MB โดยมยี า่ นความถ่ี ๓๐.๐๐๐
- ๕๑๒.๐๐๐ MHz. วิทยุ รุ่นนี้มีใช้ในบางหน่วยเท่านั้น
ซึ่งเดิมก่อนหน้าน้ีกองทัพบกก็ได้จัดซื้อ ชุดวิทยุ PRC-
710G มีย่านความถ่ี ๓๐.๐๐๐ - ๘๗.๙๗๕ MHz. และ
มีการแจกจ่ายไปยังหน่วยต่างๆ ตามแผนการแจกจ่าย
โดยท้ังสองชุดท่ีกล่าวมา มีการทางานคล้ายกับวิทยุ
ในตระกลู CNR ที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งเป็นชุดวิทยุระบบ
แอนะลอ็ กอยู่

ส่วนวิทยุท่ีจัดหามาใหม่คือ ชุดวิทยุ MCTR-7200 ซ่ึงเป็นชุดวิทยุระบบดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ
สามารถใชง้ านร่วมกับวทิ ยุตระกูล CNR ได้ ซ่ึงมีความสามารถในการส่งข้อมูลภาพและวีดีโอและเชื่อมต่อ
กับอินเตอร์เนตได้โดยเช่ือมต่อผ่านระบบ IP มีการติดตั้ง TRANSEC (ความปลอดภัยการส่งสัญญาณ)
บนพนื้ ฐาน AES 256 ท่ีมคี วามทนทานตอ่ การแจมม่งิ ของฝา่ ยตรงข้าม

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๐๘ ..

และยังได้จัดหา ชดุ วทิ ยุ PNR-1000 ทมี่ ยี ่านความถ่ี ๒๒๕ - ๕๑๒
MHz. มาทดแทนชุดวิทยุ PNR-500 ที่ยังเป็นระบบแอนะล็อกอยู่ ซ่ึงชุด
วิทยุในตระกูล PNR โดยส่วนมากจะเหมาะสมกับการปฏิบัติงานแบบ
‘ชุดปฏิบตั ิการ’ซึ่งมีผู้ปฏิบัติไม่มากนัก ด้วยข้อดีของชุดวิทยุนี้คือตัวเคร่ือง
วิทยุมีขนาดเล็ก น้าหนักเบา และพกพาสะดวก สิ่งท่ีชุดวิทยุ PNR-1000
ทาได้ดีกว่า ชุดวิทยุ PNR-500 คือ สามารถส่งภาพเคลื่อนไหว และ
แจ้งตาแหน่งพิกดั ของตนเองได้ โดยใช้อปุ กรณ์เสรมิ

ซึ่งชุดวิทยุPNR-500 ไม่สามารถทาได้ และยังสามารถส่ือสารได้
๒ ทางพรอ้ มกัน (Full duplex) ทาให้สามารถพูดสวนทางกันได้เหมือน
การใช้โทรศัพท์ รองรับการเช่ือมต่อกับ ระบบ C4I ระบบ intercom
ในยานพาหนะ และวทิ ยทุ างทหาร HF, VHF และ UHF ได้

และนี่ก็คือตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงระบบวิทยุของกองทัพบกจากระบบแอนะล็อก
ไปสู่ระบบดิจิทัลเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านการสื่อสารให้มีความทันสมัยทัน
ต่อการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีและตอบสนองต่อความต้องการการใช้งานท้ังของผู้ปฏิบัติ
และผู้บังคับบัญชาแต่ยังมีอีกส่ิงหน่ึงท่ีควรคานึงถึงน้ันคือ เมื่อเรามีการพัฒนาเครื่องมือ
ในการติดต่อส่ือสารแล้วนั้นส่ิงที่ต้องทาควบคู่ไปด้วยกันคือการพัฒนาคนหรือกาลังพลของกองทัพ
ให้สามารถก้าวทันเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้ มิเช่นนั้นแม้เคร่ืองมือจะมี
ประสทิ ธิภาพมากเพียงใด แต่หากผ้ใู ช้ไมพ่ ัฒนาตนเองตามการได้มาของเทคโนโลยีนนั้ กเ็ ปลา่ ประโยชน์

วสว.กศ.รร.ส.สส.

วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๐๙ ..

โปรแกรมระบบคลงั อาวุธอัจฉรยิ ะบนสมารท์ โฟน

(หน่วย ส.พนั .๖ พล.ร.๖)

ตามนโยบายของกองทัพบก ที่ให้ความสาคัญในเรื่องการรักษาความปลอดภัยอาวุธของหน่วย
ให้มีความปลอดภัยสูงสุด ครบถ้วนสมบูรณ์ ใช้การได้ และห้ามไม่ให้มีการรั่วไหลหรือสูญหายเป็นอันขาด
โดยให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามระเบียบของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์และคิดค้นนวัตกรรม
เพอื่ เพ่มิ ประสิทธิภาพในการรกั ษาความปลอดภยั ให้มากยง่ิ ขน้ึ

เทคโนโลยีในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และสามารถนามาปรับใช้กับการทางานได้ในหลายรูปแบบ
หน่วยจึงได้นาแนวคิดในการประยุกต์นวัตกรรมของหน่วยโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันนวัตกรรมของกองทัพบก มาปรับปรุงให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน
ของ หนว่ ย โดยเพม่ิ การเขียนแอพพลิเคชั่นใช้งานบนสมาร์ทโฟน android เพื่อสะดวกกับเจา้ หนา้ ทีใ่ นการใช้งาน

หลกั การพฒั นาโปรแกรม

เป็นการนาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการรักษาความปลอดภัยของอาวุธในคลังอาวุธ แบ่งเป็น
ระบบบรหิ ารจดั การอาวุธในคลัง การเบกิ อาวธุ การยมื อาวุธ การส่งซ่อมอาวธุ และการจาหนา่ ยอาวุธ โดยวิธี
นาสมารท์ โฟนสแกน QR-Code ผ่านบัตรประจาอาวุธ เพื่อเฝ้าระวังและติดตาม ป้องกันอาวุธสูญหาย และ
สามารถรายงานผลการยืมคืนผ่านระบบ Line Alert โดยใช้สัญลักษณ์บ่งช้ีสถานะอาวุธในคลัง ให้สามารถ
ตดิ ตามอาวุธในคลังไดแ้ บบ Real-time สะดวก รวดเรว็ ต่อเนอ่ื ง และมคี ณุ ภาพ เป็นนวัตกรรมป้องกันอาวุธ
สญู หาย ตามนโยบายของกองทัพบก

ฟังกช์ ัน่ การทางานของโปรแกรม

๑. รายการจานวนอาวุธในคลงั
๒. บนั ทกึ เบกิ -คืน อาวุธ ประจาวัน
๓. สถานะ เบิก-คืน อาวธุ ประจาวนั
๔. บันทึก เบกิ -คนื อาวุธ ระยะยาว
๕. รายงาน เบิก-คืน อาวธุ ระยะยาว
๖. บันทกึ การสง่ ซอ่ ม-จาหนา่ ย อาวุธ
๗. รายงานการสง่ ซอ่ ม-จาหนา่ ย อาวธุ

วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๑๑ ..

รายละเอียดโปรแกรม

(รายการจานวนอาวธุ ในคลงั )

(บันทกึ เบกิ -คนื อาวธุ ประจาวนั -ระยะยาว) .. ๑๑๒ ..

วารสารทหารสอ่ื สาร

(สถานะ เบกิ -คนื อาวุธ ประจาวัน-ระยะยาว)

(รายงาน เบิก-คืน อาวธุ ระยะยาว) และ (รายงานการส่งซ่อม-จาหน่าย)

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๑๓ ..

แบบเสนอผลงาน
งานนวัตกรรม/วจิ ัย

ส.๑ พัน.๑๐๑

ด้านการป้องกนั เฝ้าระวงั การบาดเจ็บจากความรอ้ นในการฝกึ ทหารใหม่
๑. ชือ่ ระบบปรับอุณหภมู โิ รงนอนอัตโนมัติ

และภาพนวัตกรรมสิ่งประดษิ ฐ์

๒. เจา้ ของผลงาน ร.ท. วรโชติ นาคดคุ

๓. วตั ถุประสงค/์ แนวความคิดในการพฒั นา

๓.๑ วตั ถุประสงค์

๑. เพื่อตรวจวดั อณุ หภูมิ และความชืน้ สัมพทั ธบ์ นโรงนอนแบบ Real time

๒. เพ่อื ควบคมุ อุณหภมู ิ และความชื้นสมั พัทธ์บนโรงนอน ไมใ่ ห้สงู เกนิ คา่ ทก่ี รมแพทยก์ าหนด

๓. เพื่อควบคมุ อุณหภูมคิ วามชื้นสมั พัทธ์บนโรงนอน ไม่ให้ต่าเกนิ ไปอันจะเปน็ แหล่งกอ่ โรค

๔. เพอ่ื แบง่ เบาภาระงานของนายสิบเสนารักษ์

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๑๔ ..

๓.๒ แนวความคดิ ในการพัฒนา
- โรงนอนของทหารใหม่จะต้องมีอุณหภูมิโรงนอน

ไม่เกิน ๒๗ องศาเซลเซียส และมีดัชนีความ ร้อนไม่เกิน
๓๓ องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นไปตามประกาศกรมแพทย์
ทหารบก เพื่อให้มคี วามเหมาะกับการนอน หลับพักผ่อน
ของทหารใหม่ดังน้ันการควบคุมอุณหภูมิให้ได้ตามที่กรม
แพทย์หลายหน่วยฝึกเลือกที่จะติดตั้ง พัดลมเพ่ิม เพื่อให้
อากาศถ่ายเทได้ดี และสามารถลดอุณหภูมิได้การวัด
อุณหภูมิของโรงนอนน้ัน จะวัดจานวน ๓ ครั้ง คือ
เวลา ๑๙๐๐ ๒๑๐๐ และ ๒๒๐๐ จะเห็นได้ว่าการวัดมี
การเว้นระยะเวลาค่อนข้างนาน จึงทาให้การควบคุม
อุณหภูมิทาได้ช้าและยุ่งยาก และนอกจะเฝ้าระวังไม่ให้
อุณหภูมิสูงเกินค่าที่กาหนดแล้ว ยังจะต้อง ควบคุมไม่ให้
อุณหภูมิต่าเกินไป เพราะจะทาให้เชื้อโรคสามารถ
แพรก่ ระจายได้ดี และอาจจะทาใหท้ หารใหมไ่ มส่ บายได้

- การเฝ้าระวังการบาดเจ็บจากความร้อน นอกจากจะการเฝ้าระวังสภาพอากาศในระหว่างการฝึก
แล้ว การเฝ้าระวังหรือช่วยดูแลสภาพอากาศในระหว่างการนอนหลับก็สาคัญไม่แพ้กัน เพราะทหารใหม่
จะต้องใช้ร่างกายในการฝึกตลอดท้ังวัน การนอนหลับจึงเป็นส่ิงสาคัญ เพื่อให้ร่างกายให้ฟ้ืนฟูและพัฒนา
ดังน้ัน การดูแลในเร่ืองของสภาพแวดล้อมในโรงนอน จึงเป็นสิ่งท่ีไม่ควรมองข้าม และการเปิดพัดลม
เพื่อควบคุม อุณหภูมิโรงนอนในช่วงที่มีอากาศเย็น อาจจะมีผลข้างเคียงตามมาด้วยน้ันก็คือ อุณหภูมิ
โรงนอนทตี่ า่ เกนิ ไป อาจจะเป็นตน้ เหตุของการแพรก่ ระจายของเช้ือโรค

วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๑๕ ..

๔. ประโยชนท์ ี่ได้รบั
๑. สามารถวัดอณุ หภมู แิ ละความชืน้ สัมพทั ธ์บนโรงนอนแบบ Real time ดไู ด้บนสมารท์ โฟน
๒. สามารถควบคุมอุณหภมู แิ ละความช้นื สมั พทั ธบ์ นโรงนอนไมใ่ ห้สงู เกนิ ๒๗ องศาเซลเซยี ส
๓. สามารถควบคุมอณุ หภมู คิ วามช้นื สัมพทั ธ์บนโรงนอนไม่ใหต้ ่าเกินไป อนั จะเปน็ แหล่งกอ่ โรค
๔. ชว่ ยแบ่งเบาภาระงานของนายสิบเสนารกั ษ์

๕. วิธีการใช้งาน .. ๑๑๖ ..
SONOFF TH16 เป็นอุปกรณ์

IOT (Internet Of Thing) ที่มีเซ็นเซอร์
วัดอุณหภูมแิ ละ ความชนื้ สมั พัทธ์ สามารถ
เช่ือมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย
ผ่านทาง WIFI สามารถแสดงผลอุณหภูมิ
และความช้ืนสัมพัทธ์ได้แบบ Real time
และสามารถควบคุมเคร่ืองใช้ไฟฟ้าได้โดย
ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟน โดยสามารถแชร์
ข้อมลู หรือการเขา้ ถงึ อุปกรณใ์ หก้ บั ผ้อู น่ื ได้

วารสารทหารสอื่ สาร

วธิ กี ารใช้งาน
๑. ตดิ ต้งั อุปกรณโ์ ดยนาสายไฟมาตอ่ เข้ากับกลอ่ งควบคมุ ดงั ภาพ
๒. จากน้ันนาสายไฟของอุปกรณไ์ ฟฟ้า มาตอ่ กับกล่องควบคมุ ดงั ภาพ
๓. นาเซน็ เซอรข์ องอปุ กรณ์ไปติดต้ังใน ตาแหน่งทีต่ อ้ งการวัด
๔. โหลดแอปพลิเคช่นั eWeLink แล้ว สมัครแอคเคาท์
๕. เชื่อมตอ่ มือถอื สมารโ์ ฟนผา่ น WIFI
๖. กดเลอื กเชอื่ มตอ่ อปุ กรณใ์ นแอปพลิเคช่นั
๗. กดท่ีปมุ่ บนกล่องควบคมุ คา้ งไว้จน ไฟสนี า้ เงินกระพริบ
(กดตามวงกดสแี ดง)
๘. ตงั้ ช่อื อปุ กรณก์ ลอ่ งควบคุมและกาหนดอุณภูมทิ ่จี ะใหก้ ล่องควบคมุ

สัง่ เปิดหรือปิดอปุ กรณ์เครื่องใชไ้ ฟฟา้

ภาพแอปพลิเคช่นั eWeLink .. ๑๑๗ ..
แสดงผลอณุ หภมู ิและความชื้นสมั พทั ธ์ควบคุมเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ตามเง่ือนไข

วารสารทหารสือ่ สาร

๖. งบประมาณ
๑. กล่องควบคุม SONOFF TH16 ราคา ๓๓๙ บาท
๒. เซ็นเซอร์วดั อณุ หภมู ิและความช้ืนสมั พัทธ์ Si7021
ราคา ๑๕๙ บาท
๓. สายต่อความยาวเซ็นเซอร์ ๑๕๐ บาท

๗. การนาผลงานไปใช้
นาไปติดตั้งบนโรงนอนของทหาร สามารถวัดอุณหภูมิและความช้ืนสัมพัทธ์บนโรงนอนแบบ

Real time ดไู ด้บนสมาร์ทโฟน สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์บนโรงนอนไม่ให้สูงเกิน
๒๗ องศา เซลเซียส และสามารถควบคุมอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์บนโรงนอนไม่ให้ต่าเกินไป
อันจะเป็นแหล่งกอ่ โรคได้

รางวลั ทไ่ี ด้รับ
ได้นาเสนอกรมแพทย์ทหารบก จนได้รับรางวัลชมเชย ในหัวข้อ นวัตกรรมการป้องกัน
การเจ็บป่วยจากความร้อนในการฝกึ ทหารใหม่

วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๑๘ ..

๘. เอกสารทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง : ไมม่ ี
๙. ภาพประกอบอนื่ ๆ พรอ้ มคาอธิบาย

ภาพกล่องควบคมุ SONOFF TH16 ภาพเซ็นเซอร์ Si7021

ภาพการตอ่ วงจรอปุ กรณ์กับเคร่อื งใช้ไฟฟ้า .. ๑๑๙ ..

วารสารทหารสอื่ สาร

การรกั ษาความม่นั คง
ปลอดภยั ด้านไซเบอร์
(Cyber Security)

ฝยข.ส.๑

ภยั คกุ คามความมน่ั คงปลอดภัยไซเบอร์ (CyberThreat) เป็นประเด็นปัญหาที่ทาให้ประเทศต่างๆ
ทั่วโลก เกิดการตนื่ ตัวและตระหนักถงึ ปัญหา ดังจะเหน็ ไดจ้ าก ปรากฏการณ์ที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ในโลกอาหรับ หรือท่ีรู้จักโดยทั่วไปว่าปรากฏการณ์ “Arab Spring” หรือแม้แต่กลุ่มก่อการร้าย ISIS
ซึ่งใชเ้ ครอื ข่ายสังคมออนไลน์ เช่น Twitter,Facebook ฯลฯ เป็นเคร่อื งมือสาคญั ในการปลุก ระดมมวลชน
เป็นตน้ จากรายงานของ World Economic Forum แสดงให้เห็นว่า ทั่วโลกกาลังวิตกกังวลกบั ภยั คุกคาม
ความม่ันคงปลอดภัยไซเบอร์เป็นอย่างมาก โดยภัยคุกคาม ความม่ันคงปลอดภัยไซเบอร์ถูกจัดให้อยู่ใน
อันดับท่ี ๔ ใน ๑๐ Trends ของโลก ประกอบกับผลการศึกษาของสถาบัน The Business Continuity
Institute (BCI) ซ่ึงเป็นสถาบันอันดบั หนึ่งของโลกด้านการบรหิ ารความต่อเน่อื งทางธรุ กิจ ยังแสดง ให้เห็น
ว่า Cyber Attack เปน็ ประเดน็ อนั ดบั ตน้ ๆ ทีอ่ งค์กร ให้ความสนใจมากที่สดุ

วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๒๐ ..

ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security) คอื กระบวนการหรอื การกระทาท้ังหมดท่จี าเป็น
เพ่ือทาให้ องค์กรปราศจากความเส่ียง และความเสียหายท่ีมีผลต่อ ความปลอดภัยของข้อมูลข่าวสาร
(Information) ในทุกรูป แบบ รวมถึงการระวังป้องกันต่อการอาชญากรรม การโจมตี การบ่อนทาลาย
การจารกรรม และความผิดพลาดต่าง ๆ โดยควรคานึงถึงองค์ประกอบพ้ืนฐานของความปลอดภัยของ
ขอ้ มลู หรอื CIA ๓ ประการ ได้แก่ การรกั ษาความลบั ของ ขอ้ มูล (Confidentiality) การรักษาความคงสภาพ
ของข้อมูล หรือความสมบูรณ์ของข้อมูล (Integrity) และความพร้อมใช้ งานของข้อมูล (Availability)
จงึ กลา่ วไดว้ ่าความมน่ั คงปลอดภยั ไซเบอร์ ถอื วา่ มี ความสาคญั อย่างย่งิ ในการปกป้องทรพั ยากรขององคก์ ร
ดงั นน้ั การทีจ่ ะทาใหเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศมคี วามมัน่ คงปลอดภัย จะต้องมีกระบวนการในการดาเนินการ
ซ่ึงกระบวนการเหล่าน้ัน ได้ถูกกาหนดเอาไว้เป็นมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ โดยมีองค์กร หรือสถาบันท่ีมี
ชื่อเสียงเป็นผู้กาหนดเกณฑ์และแนวทางในการ ปฏิบัติ ซึ่งองค์กรสามารถเลือกมาตรฐานที่มีความ
เหมาะสม กับหน่วยงานของตน และอาจเพิ่มเตมิ หรือยกเว้นการปฏบิ ตั ิ ในบางส่วนได้หากมีเหตุผลเพียงพอ

วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๒๑ ..

ในสว่ นของวงการทหาร นายกรฐั มนตรี/รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม ได้อนมุ ตั ิ หลกั การใหจ้ ัดตง้ั
ศูนย์ปฏิบัติการไซเบอร์กลาโหม ขึ้นโดย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ
และกองทัพอากาศ เตรยี มจัดต้ังหน่วยงานด้านไซเบอร์โดยตรง (Cyber Command) เพื่อขึ้นมารองรับการ
ปฏิบัติงานความม่ังคงปลอดภัยของประเทศ จากภัยคุกคามด้านไซเบอร์ท่ี ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของ
ชาติท้ังจากภายในและภายนอกประเทศ ครอบคลุมถึงความ ม่ันคงทางการทหาร ความสงบเรียบร้อย
ภายในประเทศ โดยศูนย์ปฏิบัติการไซเบอร์กลาโหม (Cyber Operations Center) จะเป็นแกนหลัก
ในด้านการพัฒนาบุคลากรด้านนี้ให้กับกาลังพล สังกัดกระทรวงกลาโหม โดยจะมีห้องปฏิบัติการ สาหรับ
การฝึกปฏิบัติด้านสงครามไซเบอร์ (Cyber Warfare) รวมถึงการสร้างภาคีเครือข่าย ประชาคม ท้ังภาครัฐ
และเอกชน เพ่ือ เสริมสร้างศักยภาพของประเทศด้านไซเบอร์ในการรับมือกับภัยคุกคามด้านไซเบอร์
กองทพั บก ไดม้ นี โยบายและอนุมตั ิหลกั การให้ศูนยเ์ ทคโนโลยที างทหาร ( ศทท. ) ดาเนนิ การปรับปรุงภารกิจ
และโครงสร้างการจัดหน่วย โดยเพิ่มเติมภารกิจด้านการปฏิบัติการ สงครามไซเบอร์และปรับสายการบังคับ
บัญชาจากเดิม เป็นหน่วยขึ้นตรงกรมการทหารส่ือสาร มา เป็นหน่วยข้ึนตรงกองทัพบก ( นขต.ทบ. ) เพ่ือเตรียม
รองรบั การปฏิบัติงานความมั่งคงปลอดภัย ดา้ นไซเบอร์ ที่สง่ ผลกระทบตอ่ ความมั่นคงของชาติทั้งจากภายใน
และภายนอกประเทศ โดยเฉพาะความมน่ั คงทางการทหาร และการรกั ษาความสงบเรยี บร้อยภายในประเทศ
รวมถึงการ ปฏิบัติการท่ีประสานสอดคล้องกับกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ
ต่างๆ ตลอดจนรองรับการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations ; NCO)
โดยแนวความคิดเบ้ืองต้นในการเตรียมการดาเนินการพัฒนาปรับปรุง ภารกิจ โครงสร้างการจัดหน่วย และ
การพัฒนาศักยภาพของกาลังพล ให้มีคุณวุฒิการศึกษา คุณลักษณะ ขีดความสามารถ ประสบการณ์และ
ความถนัดเฉพาะด้านที่สอดคล้องกับตาแหน่ง หน้าท่ีการงาน (put the right man to the right job)
เพ่ือให้การปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการปรับเกลี่ย โยกย้าย และการ
บรรจกุ าลงั พลด้านปฏิบัตกิ าร เป็นหลกั มากกวา่ งานทางธุรการ ในสดั สว่ นไม่นอ้ ยกวา่ ๗๐ : ๓๐ สาหรบั ในด้าน
การปรับปรุง โครงสร้างการจัดหน่วย โดยแปรสภาพ กองการสงครามสารสนเทศ เป็น กองปฏิบัติการไซเบอร์
(Cyber Operations Division)

วารสารทหารสอื่ สาร .. ๑๒๒

กองปฏิบัติการไซเบอร์ (Cyber Operations Division) ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการด้านไซเบอร์เชิงรุก
(Cyber Offensive Operations) ดาเนินการด้านการตรวจสอบสภาพแวดล้อมของภัยคุกคาม การวางแผน
ควบคุม การปฏบิ ัติและการปฏบิ ตั ิการไซเบอร์โดยจะมกี ารบรรจแุ ละพัฒนากาลังพลที่มีความรคู้ วาม เช่ียวชาญ
และได้รับการฝึกฝนด้านการปฏิบัติการไซเบอร์ปฏิบัติหน้าที่เป็นนักรบไซเบอร์ (Cyber Warriors) อยู่ในชุด
ปฏิบัติการไซเบอร์ (Cyber Operation Teams ; COT) และชุด เตรียมพร้อมเผชิญเหตุฉุกเฉินด้านไซเบอร์
(Cyber Emergency Response Teams ; CERT) เป็นหน่วยปฏิบัติการ และเตรียมจัดตั้ง กองรักษา
ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ (Cyber Security Division) ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการด้านไซเบอร์เชิงรับ
(Cyber Defensive Operations) ดาเนินการด้านระเบียบการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศการป้องกัน
เฝ้าระวังตรวจสอบช่องโหว่โดยใช้เครื่องมือระบบตรวจหาการบุกรุก (Intrution Detection System : IDS)
และระบบป้องกันการบุกรุก (Intrution Protection System : IPS) รวมถึงการกู้คืนสภาพเม่ือถูกโจมตี
(Recovery) ตลอดจนการพัฒนาโปรแกรมและเคร่ืองมือต่างๆ เพ่ือรองรับงานด้านไซเบอร์ นอกจากน้ียังได้
เตรียมการด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ด้านไซเบอร์โดยแสวง ความร่วมมือกับหน่วยงาน
ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกกองทัพ ทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนใน ด้านวิชาการ การวิจัยพัฒนา (R&D)
การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และการฝึก ปฏิบัติต่างๆ โดยเฉพาะการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุด้าน
ไซเบอร์ (Cyber Incident Action Plan Exercise) การฝึกซอ้ มแผนฉกุ เฉินด้านไซเบอร์ (Cyber Emergency
Response Exercise) การฝึกซ้อมการปฏิบัติการไซเบอร์ (Cyber Operations Exercise) และการฝึกจาลอง
สงคราม ไซเบอร์ (Cyber Warfare Simulation Exercise) เป็นต้น

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๒๓ ..

จากนโยบายและแนวความคิดในการดาเนินการของหน่วยงานด้านไซเบอร์ของ กองทัพบก
จะเห็นได้ว่า ความพรอ้ มในดา้ นการรับมอื ภยั คกุ คามด้านความมน่ั คงปลอดภัยด้าน ไซเบอร์ของชาติยังอยู่
ในข้นั ของการเตรียมการ ซึ่งจะพอมองเหน็ ถงึ ความเป็นไปไดใ้ นการ ดาเนินการไปส่ขู ั้นของการปฏบิ ัติ และ
ผลสมั ฤทธติ์ ามเจตนารมณ์ของผู้บงั คบั บัญชา ท้ังนี้ กองทัพบกจะต้องเร่งดาเนินการแปลงนโยบายไปสู่การ
ปฏบิ ัติอย่างเปน็ รปู ธรรมโดยเรว็ โดยเฉพาะ การเร่งดาเนินการด้านการปรับปรุงหรือการปฏิรูปโครงสร้าง
องค์กร (Organization Reform) การบรรจุกาลังพลที่มีความเช่ียวชาญเฉพาะด้าน (Specialist) และการ
พฒั นากาลังพล (Human Resource Development) ใหม้ ีขีดความสามารถในด้านไซเบอร์เพื่อรองรับการ
ปฏบิ ัติงานความมั่งคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ของชาติ (National Cyber Security) และการ ปฏิบัติการที่ใช้
เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations ; NCO) ของกองทัพบกในอนาคตอันใกล้น้ี
ตามที่กองทัพบกไดม้ นี โยบายประกาศให้ปี ๒๕๕๗ เป็นปีแห่ง การเตรียมความพร้อมกองทัพบกสู่อนาคต
(The Royal Thai Army’s Preparation Year Towards the Future) ซ่ึงจะตอ้ งมีการพฒั นาควบคู่กัน
ไปท้งั สองด้าน เพ่ือลดความเสี่ยง และเป็น หลักประกันความสาเรจ็ ท้งั ดา้ นการปฏิบตั ิการ และความม่นั คง
ปลอดภัยจากภยั คุกคามดา้ นไซเบอร์

แหลง่ ขอ้ มลู :

๑. บทความวิชาการ การพฒั นามาตรฐานการรักษาความมนั่ คงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber
Security) ของกระทรวงกลาโหม โดย นางสาวศิวลีย์ สิริโรจน์บริรักษ์ ผู้ช่วยนักวิจัย ศูนย์ศึกษา
ยุทธศาสตร์ สถาบันวชิ าการป้องกนั ประเทศ

๒. บทความวชิ าการ กองทพั บกกบั ความมนั่ คงปลอดภยั ด้านไซเบอร์ของชาติ (Army and
National Cyber Security) โดย พลตรีฤทธี อินทราวุธ

วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๒๔ ..

ปัญญาประดษิ ฐ์ (AI) ศทส.สส.

โลกดิจทิ ัลในยุคปจั จุบันเป็นโลก
ที่มีข้อมูลและเทคโนโลยีท่ีมีความผัน
ผวน ความไม่แน่นอน ความซับซ้อน
และความคลุมเครือตลอดเวลา หรือท่ี
เรียกกันว่า VUCA World ซ่ึงสะท้อนให้
เห็นถึงในการใช้ชีวิตท่ีต้องปรับเปลี่ยน
แ ล ะ พ ร้ อ ม ใ ห้ ทั น ต่ อ ส ถ า น ก า ร ณ์ ที่
จะเกิดขน้ึ ในโลกยุคน้ี

ในโลกยุคปัจจุบันท่ีทุก ๆ สิ่งล้วนพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและไม่หยุดย้ัง เทคโนโลยีเป็นส่ิงที่มี
บทบาทสาคญั ในการขับเคลื่อน เสริมศักยภาพทางธุรกิจและอุตสาหกรรม และสามารถส่งผลต่อการ
เจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของประเทศน้ัน ๆ ได้แก่ 5G, IOT, AI และ Blockchain
โดยการทางานร่วมกันของเทคโนโลยีเหล่าน้ีจะถูกขับเคล่ือนโดยข้อมูลที่ถูกประมวลผลด้วย
ปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence : AI)

วารสารทหารสอื่ สาร .. ๑๒๕ ..

แต่ก่อนท่ีเราจะไปทาความรู้จักกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เราคงต้องทาความรู้จักกับ
เทคโนโลยีอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับ AI กนั ก่อน

5G คือ Generation ใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่าย
ไร้สายที่จะมาแทนที่ระบบ 4G ที่เรากาลังใช้อยู่ในปัจจุบัน
ซ่ึงมันจะไม่จากัดแค่มือถือเท่าน้ัน แต่รวมถึงอุปกรณ์
ทุกชนิดท่ีเช่ือมอินเตอร์เน็ตได้ (Internet of Things หรือ
IoT) โดยมีศักยภาพเหนือกว่า 4G ในหลาย ๆ เรื่อง
ไมว่ ่าจะเป็นการตอบสนองท่ีรวดเร็วขึน้ โดยสามารถสงั่ งาน
และควบคุมสงิ่ ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่าแทบจะ
ทันที เนื่องจากมีความหน่วงที่ต่า ตอบสนองได้ไวถึง ๑
สว่ นพนั วินาที, การรองรบั การ รับ-สง่ ขอ้ มลู ได้มากกว่า 4G
ราว ๗ เทา่ หรือ ๕๐ Exabytes ต่อเดือน นอกจากน้ัน 5G
ยงั มีความเรว็ มากกวา่ 4G ถึง ๒๐ เท่า, มีความถีใ่ ห้เลือกใช้
มากกว่า โดย 5G จะสามารถใช้งานคล่ืนความถี่ได้จนถึง
30GHz และสามารถรองรับจานวนผู้ใช้งานเพิ่มข้ึน ๑๐
เท่า โดยสามารถรับคนได้ถงึ ๑ ล้านคนต่อพน้ื ที่ ๑ ตร.กม.

Internet of Things หรือ IoT คือสิ่งสาคัญที่เข้ามามีบทบาททั้งในด้านการใช้งานใน
ชีวิตประจาวันหรือในการทางาน ซึ่ง Internet of Things คือเทคโนโลยีที่ทาให้อุปกรณ์
อเิ ล็กทรอนกิ สต์ า่ ง ๆ สามารถเช่ือมโยงและรบั ส่งข้อมูลระหว่างกนั ได้อยา่ งง่ายดาย และสามารถสงั่
การเพ่ือควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น Smart
Device, Smart Home, Smart Network เป็นต้น ซ่ึงการเชื่อมโยงดังกล่าว จะสามารถเก็บและ
รวบรวมข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ โดยมีระบบคลาวด์ที่จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลผ่านออนไลน์
โดยที่เราสามารถควบคุมหรือกาหนดความเป็นส่วนตัวและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยสิ่ง
สาคัญในการทางานร่วมกับ Internet of Things คือการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ส่ิงต่าง ๆ ได้
อย่างทันท่วงที และในรูปแบบเรียลไทม์ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่หรือจัดการ
ข้อมลู ระดบั ย่อย การเชอื่ มต่อระบบอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๒๖ ..

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) คือส่ิงที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นมาจากความเข้าใจ
ธรรมชาติ โดยนาข้อมูลมาผ่านกระบวนการคิด การให้เหตุผล เพื่อสร้างสรรค์สิ่งหน่ึงส่ิงใดเพื่อนามา
ปรบั เปลีย่ น แก้ไขปัญหาของธรรมชาติตามท่ีมนุษยต์ อ้ งการ หลายคนกาหนดคานยิ ามของ ปัญญาประดิษฐ์
(Artificial Intelligence : AI) ไว้ว่า “แบบจาลองความฉลาดของมนุษย์ที่ถูกประมวลผลโดยเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ซ่ึงการประมวลผลน้ีประกอบด้วย การเรียนรู้ (learning) การให้เหตุผล (reasoning)
เพ่ือประกอบการตดั สินใจด้วยเครือ่ งคอมพวิ เตอรเ์ อง”

ปัญญาประดษิ ฐ์ในยคุ แรกเร่ิม เกิดข้ึนระหวา่ งปี ๑๙๕๐ - ๑๙๘๐ จากการที่มนุษย์ได้พัฒนาโปรแกรมท่ี
ชาญฉลาด โดยใช้กฎ (Rules) เพื่อใชใ้ นการตดั สนิ ใจตา่ ง ๆ ตอ่ มาในปี ๑๙๘๐ - ๒๐๑๐ มนุษยก์ ส็ ามารถสรา้ ง
แบบจาลอง (Model) โดยใช้การเรียนรู้ของเคร่ือง (Machine Learning) เพ่ือเรียนรู้ข้อมูลและนามาใช้งาน
ทไ่ี มซ่ ับซ้อนได้ และต้ังแตป่ ี ๒๐๑๐ จนถึงปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ได้พัฒนาข้อจากัดการเรียนรู้ของเครื่อง
ให้สามารถใช้ปริมาณข้อมูลจานวนมาก มาทาการเรียนรู้ เพ่ือนามาใช้งานที่ซับซ้อนได้

พื้นฐานของ AI คือเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบให้มีระบบทางานเหมือนกับการทางานของสมอง
มนุษย์ แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายจะเลียนแบบการทางานให้เหมือนกับสมองมนุษย์เสียทีเดียว แต่เพียง
แคม่ งุ่ หวงั ให้ AI สามารถตอบโตก้ ับผ้ใู ช้ไดโ้ ดยตรง คล้าย ๆ กับการตอบโต้กับมนุษย์ด้วยกันใหไ้ ด้มากที่สดุ

วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๒๗ ..

โดยรูปแบบการทางานของ AI เปรียบเสมือนวงกลมที่ซ้อนกันอยู่ ๔ วง มีจุดศูนย์กลางร่วมกัน, AI
คือ วงใหญ่สุดอยู่นอกสุด วงด้านในถัดมาก็คือ การเรียนรู้ของจักรกล (Machine Learning หรือ ML)
ML เป็นส่วนหน่ึงของ AI มีหนา้ ที่ในการเรยี นรู้ แต่ภายใต้การทางาน ML นั้นก็ยังต้องข้ึนอยู่กับวงกลมถัดไป
คือ การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning หรือ DL) และสุดท้ายคือวงในสุด เป็นส่วนท่ีทาหน้าที่สาคัญ
ทาให้การทางานของท้ัง ๓ วงนอกจะต้องข้ึนอยู่กับวงนี้ก็คือ โครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network หรือ
Intel) โดยรูปแบบการทางานร่วมกันในแต่ละส่วนของ AI น้ัน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความรู้สึกนึกคิดของ
มนุษย์, ส่วนที่เป็นหัวใจสาคัญคือ Neural Network หน้าที่หลักและชัดเจนคือการคิดให้ได้เช่นเดียวกับ
ความคิดของมนษุ ย์

สาหรับการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เปน็ การสร้างแบบจาลองท่ีสามารถเรียนรูจ้ าก
ขอ้ มลู ตัวอยา่ งด้วยตวั ของเคร่อื งเอง เพื่อนามาวิเคราะห์แบบอัตโนมตั ิ แบง่ ได้ ๓ กรณี คือการเรยี นรู้
โดยมผี ู้สอน (Supervised Learning) คอื การใชข้ ้อมลู ฝกึ สอน (Training Data) โดยมมี นษุ ย์เป็นผูบ้ อกผลลัพธข์ อง
การเรยี นรู้ (Label) ของขอ้ มลู ฝึกสอนให้กบั เครือ่ ง เพื่อนามาใชใ้ นงาน แยกประเภทของวตั ถุ (Classification)
หรือ งานทน่ี าขอ้ มูลทม่ี คี วามตอ่ เนื่องกนั เพ่อื ทานายในอนาคต (Regression),กรณตี ่อมาคอื การเรียนรโู้ ดย
ไมม่ ีผ้สู อน (UnsupervisedLearning) คือการใชข้ อ้ มูลฝึกสอน (TrainingData) ท่มี นษุ ย์ไมส่ ามารถรู้
โครงสร้างท่แี นช่ ดั โดยให้การเรียนร้ขู องเคร่ืองเรียนรขู้ อ้ มูลนแ้ี ลว้ จาแนกขอ้ มลู ให้ เพอื่ นามาใช้ในงาน และจดั
กลุ่มของข้อมลู (Clustering) และกรณีสุดทา้ ยคอื การเรียนร้แู บบปรบั ตวั เองไดต้ ลอดเวลา (Reinforcement
Learning) เป็นการเรียนรทู้ มี่ ปี ฏสิ ัมพนั ธก์ ันระหวา่ งผู้เรียนกบั สภาพแวดล้อม ถ้าผู้เรยี นยิง่ มปี ฏิสัมพนั ธ์มาก
ข้ึน การเรยี นรูก้ จ็ ะเพม่ิ สงู ขน้ึ ส่วนมากจะใช้ในงานพยากรณข์ อ้ มูลทอี่ ย่นู อกขอบเขต โดยงานทีน่ ยิ ม
นาปัญญาประดิษฐ์ท่ีจาลองความฉลาดของมนุษย์มาใช้งาน ถูกแบ่งออกเป็น ๓ ด้าน ดา้ นแรกคอื งานดา้ น
การสนทนา (DigitalConversation) เป็นงานด้านการสื่อสาร ท่ีใหป้ ญั ญาประดษิ ฐจ์ ดั การงานทีม่ นษุ ย์
ต้องการ มาตอ่ คืองานดา้ นการมองเหน็ (ComputerVision) เปน็ งานที่ให้ปญั ญาประดษิ ฐ์วเิ คราะห์
และเข้าใจภาพและวิดีโอเปรยี บเสมอื นการมองเหน็ เหมอื นมนุษย์ และสดุ ท้ายคอื งานดา้ นภาษาธรรมชาติ
(Natural language processing) เป็นงานทีใ่ หป้ ญั ญาประดิษฐ์ประมวลผลข้อความ เพอ่ื เขา้ ใจความหมาย

ของภาษาของมนษุ ย์

วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๒๘ ..

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเร่ิมต้นและอยู่ในข้ันท่ีหลายคน
มองวา่ เปน็ ปัญญาประดษิ ฐเ์ ชงิ แคบ หรือ Artificial Narrow Intelligence ด้วยขอ้ จากดั ทีส่ ามารถทางานได้
เพยี งหนา้ ทเี่ ดยี วในช่วงเวลานนั้ และยังไม่ตระหนักรใู้ นตนเอง แตเ่ ป้าหมายสดุ ท้ายทเ่ี หล่านักวิจัยต้องการ
ก็คือการพัฒนาระบบความนึกคิดของ Neural Network ให้ทางานได้เหมือนกับสมองมนุษย์ให้มากที่สุด
ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เน่ืองจากระบบการทางานของสมองมนุษย์ ที่สามารถทาหน้าท่ีหลายๆ
อย่างพรอ้ มกันไดอ้ ย่างงา่ ยดาย น้นั เป็นสิ่งทยี่ ากท่จี ะเลยี นแบบได้

แหลง่ อา้ งองิ

https://www.beartai.com/article/tech-article/424875

https://www.yournextu.com/th/%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%87
%E0%B8%AD%E0%B8%81/internet-of-things

https://www.uih.co.th/th/knowledge/5g

เอกสารอบรมหลักสตู ร Artificial Intelligence (GOCC Expert AI) รุ่นท่ี ๑
https://www.lib.ku.ac.th/2019/index.php/covid-19/1045-artificialintelligence
https://aiforthai.in.th

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๒๙ ..

วธิ ดี แู ลรกั ษา
เครอื่ งปรับอากาศ
เตรียมรับหนา้ ร้อน

ตอนนีเข้าสู่หน้าร้อนกันแล้วจากสภาพอากาศตอนนีแล้วแค่ก้าวขาออกจากบ้านเหงื่อก็ท่วมตัว
ราวกับพงึ่ เดินออกมาจากหอ้ งนายงั ไงยงั งนั แลว้ ลองคิดดวู า่ ถา้ ถงึ หนา้ รอ้ นจรงิ ๆ อากาศจะร้อนขนาดไหน
ดังนันแล้วเราจึงต้อง เตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพอากาศท่ีย่าแย่แบบสุดๆ โดยเริ่มจาก
เครื่องปรับอากาศซุปเปอร์ฮีโร่ท่ีจะช่วยคลายร้อนให้กับเราก่อนเลย หากใครทิงช่วงไม่ได้ล้างเป็น
เวลานานก็สมควรแกเ่ วลาแลว้

วิธีดูแลรักษาเคร่ืองปรับอากาศ รู้วิธีที่ถูกต้องหรือยัง? ถ้ายังไม่แน่ใจก็ตามไปศึกษาวิธีดูแลรักษา
เคร่อื งปรบั อากาศ พรอ้ ม ๆ กนั เลย

ในเมอื งรอ้ นอย่างประเทศไทยของเราเครื่องปรับอากาศหรือแอร์คอนดิชันเนอร์ กลายเป็นสิ่งจาเป็น
ทที่ ุกบ้านตอ้ งมีติดไว้ ยิ่งถ้าบา้ นไหนมีสมาชกิ ในบา้ นท่รี อ้ นงา่ ย เครื่องปรบั อากาศคงจะต้องทางานหนักส้รู อ้ น
กันทงั้ วันเลย ดังนนั้ สิง่ สาคัญที่ไม่ควรละเลยกค็ ือการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศเสมอ เพ่ือให้อยู่ทนอยู่นาน
ใหใ้ ช้ประโยชน์ในระยะยาว จะได้ไม่ตอ้ งเสียเงินเปล่ยี นใหมอ่ ยบู่ อ่ ย ๆ

วนั นเี ราจึงมีขอ้ มลู ดี ๆ ซ่ึงเป็นขอ้ มลู ที่จะชว่ ยดูแลรักษา
เคร่ืองปรบั อากาศ เพอื่ ยดื อายุเคร่อื งปรบั อากาศไปไดอ้ กี นาน ๆ

สว่ นเคลด็ ลับน่ารจู้ ะมอี ะไรบ้างนัน ลองไปดกู ันเลย

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๓๐ ..

เคร่ืองปรับอากาศขนาดเล็กที่ใช้กับบ้านพักอาศัยและสานักงานท่ัวไป สามารถแบ่งประเภทตาม
ลักษณะการติดตั้งได้หลายประเภท เคร่ืองปรับอากาศทุกแบบ จะสามารถแบ่งส่วนประกอบของเครื่อง
ออกเป็น ๒ ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนที่อยู่ภายในอาคาร (Indoor) เรียกว่า ชุดคอยล์เย็น หรือแฟนคอยล์ยูนิต
และส่วนที่อยู่ภายนอกอาคาร (Outdoor) เรียกว่า ชุดคอยล์ร้อน หรือคอนเดนซ่ิงยูนิต ซ่ึงการทางานของ
แต่ละส่วนก็จะมีลักษณะการทางานท่ีคล้ายชื่อ คือ ชุดคอยล์เย็นก็จะมีหน้าท่ีสร้างความเย็น ส่วนชุดคอยล์
ร้อนก็มีหน้าท่ีสร้างความร้อนออกมา และเคร่ืองปรับอากาศแต่ละชุดยังมีส่วนประกอบย่อยต่างๆ ซ่ึงแต่ละ
ส่วนประกอบของเคร่อื งต้องได้รบั การดแู ลบารุงรักษาให้ถกู ต้องและอยา่ งสมา่ เสมออีกด้วย

การดแู ลบารงุ รกั ษาเครื่องปรับอากาศจะทาใหเ้ กิดประโยชน์ได้ ๒ ทาง คอื
๑. จะทาให้เกิดการประหยัดพลังงาน ประหยัดค่ากระแสไฟฟ้า ประหยัดค่า

ซ่อมบารุง และยืดอายุการทางานของเครื่อง
๒. จะทาให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของผู้ใช้และผู้อยู่อาศัย

เนื่องจากการล้างทาความสะอาดเคร่ืองปรับอากาศอยู่เสมอ จะช่วยขจัดเอาฝุ่นละออง
เช้ือโรค เช้ือรา ที่เกาะติดอยู่กับส่วนต่าง ๆ ของเคร่ือง และที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ
ภายในห้องออกไปด้วย (ฝุ่นละอองท่ีล่องลอยอยู่ในอากาศจะถูกดักจับโดยแผงกรองฝุ่น
ท่ีเรียกว่า ฟิลเตอร์) ซึ่งฝุ่นละออง เช้ือโรค เชื้อรา เหล่าน้ี อาจเป็นสาเหตุ
ของการทาให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคลีเจียนแนร์ วัณโรค หรือโรคที่
เก่ยี วกับระบบทางเดินหายใจอน่ื ๆ

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๓๑ ..

วิธกี ารดแู ล บารงุ รักษาเคร่ืองปรับอากาศ
คอยล์เย็น หรือแฟนคอยล์ยูนิต เป็นตัวที่ติดตั้งอยู่ภายในห้องหรือภายใน

อาคาร มีส่วนประกอบย่อยทีจ่ าเปน็ ต้องดแู ลบารุงรักษาและทาความสะอาดคือ

๑. แผงกรองฝุ่น

ในเครื่องปรับอากาศทุกเครื่องจาเป็นต้องมีแผงกรองฝุ่นหรือฟิลเตอร์ เพราะฟิลเตอร์จะทาหน้าที่เป็น
ดา่ นแรกทจ่ี ะกรองอากาศโดยจะดักจบั ฝุน่ และส่ิงสกปรกอ่ืน ๆ ท่ีปนเป้ือนอยู่ในอากาศไม่ให้ผ่านเข้าไปยังตัวแผง
ขดท่อคอยล์เย็น และเป่าเข้าสู่บรรยากาศภายในห้องได้อีก ฟิลเตอร์โดยทั่วไปมีใช้กันอยู่หลายชนิด ซึ่งโดย
ส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับขนาด และรูปแบบของเครื่อง เช่น เป็นแบบใยสังเคราะห์สีขาวหรือดาลักษณะคล้าย
เส้นด้ายไนลอ่ นมขี อบเปน็ โครงพลาสตกิ หรือเป็นแบบใยสงั เคราะหส์ ีดาโครงขอบเปน็ เหล็กเสน้ ลวด หรือเป็นแบบ
เส้นใยอลูมิเนียมถัก (ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศบางรุ่น มีฟิลเตอร์กรองกล่ินและควันอยู่ด้วย) เราต้องดูแล
ทาความสะอาดฟิลเตอร์อย่เู สมอ เพ่อื ไมใ่ หฟ้ ลิ เตอรอ์ ุดตนั ไปดว้ ยฝุ่นละอองและส่งิ สกปรกตา่ งๆ เพราะถ้าฟิลเตอร์
อุดตันจะทาให้ลมไม่สามารถหมุนเวียนผ่านคอยล์เย็นได้ ซ่ึงจะทาให้เครื่องปรับอากาศไม่เย็น มีน้าแข็งเกาะท่ี
ตัวคอยลเ์ ยน็ และอาจมีนา้ หยดจากตัวเครอื่ งได้ เมอื่ นา้ แขง็ ที่เกาะอย่ลู ะลาย

โดยท่ีฟิลเตอร์มีจุดประสงค์เพื่อการกรองดักจับฝุ่นละอองและส่ิงสกปรกต่างๆ ดังนั้นฟิลเตอร์
จึงมีโอกาสอุดตันจากสิ่งเหล่าน้ีได้มาก การล้างทาความสะอาดจึงควรทาให้บ่อยครั้ง โดยดูความเหมาะสมจาก
สภาพแวดล้อมและการใช้งาน เช่น ถ้าติดต้ังเคร่ืองปรับอากาศในห้อง หรือในอาคารท่ีมีลักษณะการทางานท่ีมี
ฝุ่นละอองมาก เช่น ห้องเตรียมผา้ สาหรับใช้ในการผา่ ตดั ซ่งึ หอ้ งนี้จะมีฝุ่นใยผา้ เกิดข้ึนจานวนมาก ดังน้ันการล้าง
ฟลิ เตอรค์ วรต้องจะล้างทุกวัน หรืออย่างน้อยทีส่ ุดทกุ สปั ดาห์ สว่ นการตดิ ต้ังเคร่ืองปรบั อากาศในสถานทไี่ มค่ ่อยมี
ฝุ่นละอองมากนัก เช่น ห้องนอน ห้องพักผ่อน หรือห้องทางานทั่วไป ก็ควรทาความสะอาดฟิลเตอร์ทุกๆ
หนงึ่ เดือน หรอื สามเดอื น

วิธีการล้างฟิลเตอร์ทาได้โดยใช้น้าแรง ๆ ฉีดที่ด้านหลังของฟิลเตอร์ (ด้านที่ไม่ได้รับฝุ่น)
ให้ฝ่นุ และส่ิงสกปรกหลดุ ออก หรือถ้าฟิลเตอรเ์ ปน็ แบบเสน้ ใยอลูมิเนียมถัก แบบเส้นใยไนล่อน ก็อาจใช้แปรงที่มี
ขนน่ิม เชน่ แปรงสีฟัน หรอื แปรงทาสีชว่ ยปัดฝุ่นด้วยก็ได้

วารสารทหารสอื่ สาร .. ๑๓๒ ..

๒.แผงขดทอ่ คอยลเ์ ย็น

แผงขดท่อคอยลเ์ ยน็ คอื ตวั สร้างความเยน็ มรี ูปร่างเป็นเส้นท่อ
ขดไปมาตามความยาวของเครอื่ ง และจะมแี ผ่นครบี อลมู เิ นยี มบางๆ
ห้มุ ขดท่อเหล่านัน้ อยู่ แผงขดทอ่ จะมองเห็นได้อย่างชัดเจนเมอ่ื ถอดหนา้ กากส่งลม หรือหนา้ กากรับลมกลับ
ของเคร่ืองออก ทีแ่ ผงขดท่อน้จี ะมฝี ุน่ ผงขนาดเลก็ ทสี่ ามารถผ่านการกรองของฟลิ เตอร์เข้ามาได้ เม่ือใช้งาน
ไปนาน ๆ ฝุ่นเหล่าน้ีจะจับตัวกันหนาขึ้น และอากาศจะไม่สามารถผ่านได้ ซ่ึงจะทาให้เครื่องปรับอากาศมี
ผลเชน่ เดยี วกนั กับฟลิ เตอรต์ ัน จงึ ควรมกี ารล้างทาความสะอาดขดท่อและแผ่นอลมู เิ นียม โดยในระยะเวลา
ในการลา้ งในรอบหนงึ่ ปี ควรมีการล้าง ๑ คร้ัง

วธิ ีล้างทาความสะอาดใหใ้ ชแ้ ปรงสีฟนั หรอื แปรงทาสี ปดั เอาฝ่นุ ท่เี กาะยึดติดอยู่ให้ออกก่อนด้วย
การลากแปรงลงตามแนวลอ่ งของแผน่ ครบี อลมู เิ นยี ม แล้วจงึ ค่อยเอาน้าฉีดหรือราด เพ่ือให้ฝุ่นท่ีเหลือหลุด
ตามน้าออกมา แต่เน่อื งจากฝนุ่ ละอองทจี่ ับอยู่เป็นเวลานาน จะมีความเหนียวมาก บางครั้งอาจจาเป็นต้อง
ใช้น้ายาเคมีช่วยในการขจัดคราบสกปรกออก น้ายาเคมีที่ใช้ต้องเป็นแบบที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศ
ซ่ึงจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อคน และไม่ทาลายวัสดุท่ีเป็นส่วนประกอบของเคร่ืองปรับอากาศ เช่น
แผ่นอลูมิเนียม ท่อทองแดง หรือพลาสติก ในการเอาน้าฉีด น้ายาเคมีท่ีใช้ต้องเป็นแบบท่ีใช้กับ
เคร่อื งปรบั อากาศ หรือเวลาราด ต้องระมดั ระวังอย่าให้น้ากระเด็นเปียกอุปกรณ์ไฟฟ้าของเครื่อง และควร
ระวังไม่ใหน้ า้ ลน้ ถาดรองรับน้าของเครอ่ื ง

๓. ใบพดั ลมคอยล์เยน็

ใบพดั ลมคอยล์เยน็ หรือ โบลเวอร์ เป็นตัวขบั เคลอื่ นให้เกิดการเคล่อื นทข่ี องลม โดยได้กาลัง
มาจากมอเตอร์ไฟฟ้า ฝุ่นผงขนาดเล็กท่ีเล็ดลอดมาจากการดักจับของแผงกรองอากาศบางส่วน
จะมาจับอยู่ท่ีใบพัดลม ทาให้ร่องดักลมของใบพัดลมอุดตันไม่สามารถดักลมได้เต็มที่ การเกิด
ในลกั ษณะเชน่ น้จี ะทาให้ปรมิ าณลมเย็นทอ่ี อกไปจากคอยลเ์ ยน็ ลดลง

จึงตอ้ งเสียเวลาในการเดนิ เครือ่ งปรบั อากาศนานขน้ึ เพื่อที่จะใหไ้ ด้อุณหภูมิของห้องเท่าเดมิ
ซึง่ มีผลทาให้เสียค่าไฟฟ้าเพิม่ ขน้ึ นอกจากฝนุ่ ทเ่ี กาะตามใบพดั ลมจะทาใหพ้ ัดลมส่งลมเยน็ ออกมาได้
น้อยแล้ว อาจจะทาให้เกิดเสียงดังท่ีตัวชุดคอยล์เย็นข้ึนได้ เน่ืองจากฝุ่นที่จับอยู่จะไปเพิ่มน้าหนัก
ใหก้ ับใบพัด ทาให้ใบพัดเสยี การสมดลุ ในตวั เอง และเมือ่ มอเตอรห์ มุนจะเกดิ การส่ันสะเทือนจากแรง
เหวีย่ งและเกิดเสยี งดังขนึ้ ได้ การล้างทาความสะอาดใบพัด ควรล้างทาไปพร้อมกับการล้างทาความ
สะอาดแผงคอยลเ์ ยน็

วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๓๓ ..

๔. ถาดรองรบั นาทิงและทอ่ นาทิง

เปน็ อุปกรณ์สาหรับรองรบั น้าท่ีเกิดจากการกล่นั ตัว
เป็นหยดนา้ ของไอนา้ ในอากาศภายในห้อง น้าท่ีเกดิ ขึน้ นีจ้ ะไหล
ไปรวมกนั ท่ถี าดรองรับน้าและถูกระบายท้งิ โดยผา่ นทางท่อน้าทง้ิ
ท่ีถาดรองรบั น้าท้งิ นี้ถา้ ไมไ่ ดร้ ับการดูแลหรอื ทาความสะอาดเป็นเวลานาน
จะทาให้เกิดเมือกขาวใสคล้ายวุ้น น้าท่ีขังอยู่ในถาดรองรับน้าทิ้งเป็นเวลานานน้ี เมื่อรวมกับ
ฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ตามถาดรับ ก็อาจเป็นแหล่งอาหาร หรือเป็นแหล่งสะสม ของเชื้อโรค
เชื้อรา และทาให้เชื้อโรคเช้ือราเหล่านี้เจริญเติบโตและแพร่กระจายสู่ผู้ปฏิบัติงาน หรือผู้พักอาศัย
ภายในหอ้ งและภายในอาคารได้ การทาความสะอาดถาดน้าท้ิงโดยการใช้แปรงท่ีมีขนแข็งขัดถู หรือ
การถอดออกมาล้าง ส่วนท่อน้าทงิ้ ทาไดโ้ ดยการใชเ้ ครื่องเป่าลม เปา่ ลมเข้าไปตามท่อน้า หรือใช้น้าท่ี
มีแรงดนั เลก็ น้อยฉีดเขา้ ไปภายในท่อ (ตอ้ งแนใ่ จวา่ ในระบบท่อไม่มีรอยรั่ว)

วิธีการล้างทาความสะอาดถาดรองรับน้าและท่อน้าท้ิง ควรทาไปพร้อมกับ การทา
ความสะอาดแผงขดทอ่ คอยล์เย็นและใบพัดลม และควรตรวจดูแนวท่อน้าทิ้งด้วยว่ามีลักษณะโค้งงอ
(ตกท้องช้าง) หรือไม่ ถ้ามีต้องทาการแก้ไข เพราะท่อน้าทิ้งช่วงท่ีโค้งงอตกท้องช้าง จะเป็นแหล่งท่ี
รวมของนา้ และสิ่งสกปรก ซ่ึงจะทาให้ทอ่ นา้ ทงิ้ อดุ ตัน และจะทาให้มีน้าหยดจากบริเวณท่ีท่อตกท้อง
ชา้ งได้ เน่ืองจากไอน้าในอากาศกระทบท่อทีน่ ้าเย็นขังอยู่

๕. ตัวโครงเครื่อง หนา้ กากรบั ลม และหน้ากากจา่ ยลม
ทาความสะอาดโดยการปัดฝุ่น หรือใชผ้ า้ ชบุ น้าเชด็ ถู หรอื ถ้าสามารถถอดออกไดจ้ ะนาไปล้างนา้ กไ็ ด้

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๓๔ ..

เทคนิคการดูแลแอร์ในหนา้ ร้อน
๑. ลา้ งแอร์ แอรเ์ ป็นอุปกรณท์ ตี่ อ้ งลา้ งอยา่ งนอ้ ยๆ ๖ เดือน ๑ ครั้ง ล้างแบบฉดี ทาความสะอาด

ไม่ใช่แค่เอาฟิวเตอร์ไปเป่าฝุ่นแต่ถ้าให้แนะนาควรล้างตามการใช้งาน เช่น เป็นห้องนอนไม่ได้ใช้อะไร
มากก็ ๓ เดอื นครงั้ แตถ่ ้าเป็นร้านทาผมแบบนี้ควรจะล้างเดือนละคร้ังเพราะเศษผมมันจะไปติดในแอร์
ทาใหแ้ อร์ระบายไมไ่ ด้

๒. ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะกับห้อง การไฟฟ้าบอกเราประจาว่าแอร์ควรตั้งอุณหภูมิ ๒๕C
เพื่อประหยัดไฟ การตั้งที่ ๒๕C ท่ีการไฟฟ้าบอกก็ผ่านการวิจัยทดสอบมาหลายอย่างช่วยให้ประหยัด
ไฟฟ้าไดจ้ ริง แตป่ ระเดน็ คือ แอร์มนั ต้องพอดกี บั การใชง้ านทงั้ ขนาดห้องและปริมาณความรอ้ นในหอ้ ง

๓. ลดความรอ้ นในหอ้ งกอ่ นเปิดแอร์ การท่ีเราเราเปิดระบายลมร้อนออกไปก่อนให้อากาศเกิด
การถา่ ยเทขนึ้ เวลาเราเปิดแอร์ทีหลัง หอ้ งจะเยน็ ไดเ้ ร็วมากกวา่ และอากาศทห่ี มุนเวียนกจ็ ะสดช่นื กว่า

๔. ลดความร้อนที่จะเข้าห้องประเทศไทยร้อนขึ้นทุกวันแอร์ที่ใช้ก็บางบ้านเป็นตัวเก่า
น้ายาตัวเดมิ ซง่ึ ศักยภาพทาความ เยน็ เทยี บน้ายาใหม่ๆไมไ่ ด้ อยากใหเ้ ยน็ ด้วยแอรต์ ัวสามารถทาไดโ้ ดย

- ทาสีผนงั สะทอ้ นความรอ้ น
- ติดฟลิ ์มกระจก
- ทาระแนงบงั แดดเขา้ หอ้ ง
- ติดม่านสะท้อน UV
- ใสฉ่ นวนกันความรอ้ นใต้ฝา
- ติดสปริงเกอรฉ์ ดี นา้ ลดความรอ้ นทาได้ตงั้ หลายแบบ มที ้ังแพงไม่แพง ลองเลือกทเี่ ราสะดวกดู
๕. หาจดุ ร่วั ของอากาศและไปเดนิ นอกบ้านบ้าง บางบ้านจะร้สู กึ ว่าช่วงหน้าร้อนแอร์ไม่เย็นเลย
แต่หน้าหนาวแอร์เย็นมากกก จริงๆเป็นเพราะห้องของคุณอาจจะมีการร่ัวไหลของอากาศสูง ทาให้
อณุ หภูมิภายนอกสามารถเขา้ ออกห้องได้ง่าย

วารสารทหารสอ่ื สาร เรียบเรยี งโดย

ร.อ.สมบตั ิ ช้อนทอง วศิ วกร กซสอ.สส.

.. ๑๓๕ ..

ประวตั กิ องพนั ทหารสอื่ สารที่ ๔ กองพลทหารราบท่ี ๔
กองพนั ทหารสอ่ื สารที่ ๔ กองพลทหารราบที่ ๔

คา่ ยสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช อ.เมอื ง จว.พษิ ณโุ ลก

ประวัตคิ วามเป็นมาของหนว่ ย
กองพันทหารส่ือสารที่ ๔ นามย่อ “ส.พัน.๔” กาเนิดมาจาก กองพันทหารส่ือสารท่ี ๒ บางซ่ือ
กรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗ (อันเป็นที่ตั้งของกรมช่างอากาศในปัจจุบัน ) มีนามว่า
“กองทหารส่อื สารที่ ๔ ”

วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๓๖ ..

การจดั ตงั

๑. ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ - ๒๔๘๔ จัดต้ังหน่วยอยู่ที่ จว.นครสวรรค์ ข้ึนตรงกับมณฑลทหารบกท่ี ๔ มีนามว่า
“กองทหารสอ่ื สารท่ี ๔ ”

๒. ในปี พ.ศ.๒๔๘๔ - ๒๔๘๙ เปลี่ยนชื่อหน่วยเป็น “กองพันทหารส่ือสารท่ี ๔ ” ตั้งอยู่ที่ จว.นครสวรรค์
ขึ้นตรงกับ มณฑลทหารบกท่ี ๔

๓. ในปี พ.ศ.๒๔๘๙–๒๔๙๑ เปล่ียนชื่อหน่วยเป็น กองทหารสื่อสารมณฑลทหารบกที่ ๔ ตั้งอยู่ท่ี จว.
นครสวรรค์ ขนึ้ ตรงกับ มณฑลทหารบกท่ี ๔

๔. ในปี พ.ศ.๒๔๙๑ - ๒๔๙๗ เปล่ยี นชื่อหนว่ ยเป็น “กองทหารสอื่ สารกองพลที่ ๔ ” ตั้งอยูท่ ี่ จว.นครสวรรค์
ขน้ึ ตรงกบั กองพลที่ ๔

๕. ในปี พ.ศ.๒๔๙๗ – ๒๔๙๙ เปลี่ยนชื่อหน่วยเป็น “ กองทหารสื่อสาร กองทัพภาคที่ ๓ ” ตั้งอยู่ท่ี
อ.เมอื ง จว.พษิ ณุโลก ข้นึ ตรงกบั กองทพั ภาคท่ี ๓ ตามคาสง่ั ทบ.ท่ี ๒๙๘/๒๕๐๑๘ ลง ๒๗ พ.ย. ๒๔๙๘

๖. ในปี พ.ศ.๒๔๙๙ - ๒๕๒๑ เปล่ียนชื่อหน่วยเป็น “ กองทหารส่ือสาร กองพลที่ ๔ ” ต้ังอยู่ที่ อ.เมือง
จว.พษิ ณโุ ลก ข้ึนตรงกบั กองพลท่ี ๔ ตามคาสง่ั ทบ. ท่ี ๑๖๗/๑๓๔๔๔ ลง ๙ ก.ค.๒๔๙๙

๗. ในปี พ.ศ.๒๕๒๑ แปรสภาพเป็น “กองพนั ทหารสอื่ สารท่ี ๔ ” ตง้ั อยู่ท่ี ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
อ.เมือง จว.พิษณุโลก ข้ึนตรงกับ กองพลทหารราบที่ ๔ ตามคาสั่ง ทบ.( เฉพาะ ) ที่ ๗๓ /๒๕๒๑
ลง ๒๙ มิ.ย.๒๕๒๑ จนถึงปจั จบุ นั

วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๓๗ ..

การปฏบิ ตั งิ านทีส่ าคัญของหนว่ ย

๑. เมอื่ ๒๑ มกราคม ๒๔๘๒ ได้จดั กาลังพลออกปฏิบัติราชการสนาม ในกรณีพิพาทอินโดจีน
เรียกร้องดินแดนคืน ( อินโดจีนฝรั่งเศส ) สังกัดกองพลพายัพ ผลการปฏิบัติได้ดารงการติดต่อสื่อสารใน
เขตกองพลพายัพ ประสบความสาเร็จ

๒. เม่ือ ๑๕ ธันวาคม ๒๔๘๙ ได้จัดกาลังพลออกปฏิบัติราชการสนามในสงครามโลก คร้ังท่ี ๒
( มหาเอเชียบูรพา) ผลการปฏิบัติได้ดารงการติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจนถึงวันประกาศ
สันติภาพ

๓. เมื่อ ๒๒ ตุลาคม ๒๔๙๓ ได้จัดกาลังพล นายทหาร นายสิบ และพลทหาร ไปทาการร่วมรบกับ
สหประชาชาติ ณ ประเทศเกาหลี ในสังกัดกรมผสมที่ ๒๑ ผลการปฏิบัติได้ดารงการติดต่อส่ือสารเป็นไป
อย่างมีประสิทธภิ าพ จนกระทั่งทั้งสองฝา่ ยเซน็ สัญญาสงบศกึ

๔. เมอ่ื ๒๒ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๑๐ ไดจ้ ดั กาลังพล นายทหาร นายสบิ และพลทหาร หมุนเวียนกันไป
ปฏิบตั ิราชการสนาม ณ สาธารณรัฐเวยี ดนาม ในกองพลอาสาสมัคร ผลการปฏิบัติได้ดารงการติดต่อส่ือสาร
เป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ

วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๓๘ ..

๕. เมื่อ ๒๖ กันยายน ๒๕๑๐ ได้จดั กาลังพลหมนุ เวยี นกนั ออกปฏิบตั ิราชการสนามในการ
ปราบปรามผู้กอ่ การร้ายคอมมิวนิสต์ ในเขตกองทพั ภาคที่ ๓ ผลการปฏิบัติดารงการติดต่อสือ่ สาร
เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

๖. เม่อื ๒๗ มกราคม ๒๕๓๑ ได้จัดกาลังออกปฏบิ ตั ริ าชการในการปอ้ งกันประเทศกรณี
บา้ นร่มเกลา้ ผลการปฏบิ ัตไิ ดด้ ารงการติดตอ่ สอื่ สารเป็นไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

๗. จัดกาลังพลไปปฏิบตั งิ าน ณ กอ.รปภ.ดอยตุง อ.แมจ่ นั จว.เชยี งราย ในห้วงเวลาดังน้ี
- ตงั้ แต่ ๗ ม.ค. ๒๕๓๔ ถึง ๕ ก.ย. ๒๕๓๔
- ต้ังแต่ ๘ ก.ย. ๒๕๓๔ ถึง ๑๐ พ.ค. ๒๕๓๔
- ต้ังแต่ ๑ ต.ค. ๒๕๓๖ ถึง ๑๑ พ.ย. ๒๕๓๖

๘. เมื่อ ๑ ต.ค. ๒๕๓๖ ถึง ๓๐ ก.ย. ๒๕๔๓ ไดจ้ ดั กาลังพลออกปฏบิ ัติงาน กอ.โครงการ
พมพ.แม่ฟา้ หลวง แมจ่ นั อ.แมฟ่ า้ หลวง จว.เชยี งราย

๙. ต้งั แต่ ๑ ต.ค. ๒๕๓๘ ถงึ ปจั จบุ ัน ได้จดั กาลังพลปฏิบตั งิ านที่ หนว่ ยสือ่ สาร กกล.นเรศวร
อ.เมือง จว.เชยี งใหม่ ( ปัจจุบนั กกล.นเรศวร ตัง้ อยู่ ณ คา่ ยวชิรปราการ อ.เมอื ง จว.ตาก )

๑๐. ตั้งแต่ ๑๑ ก.ค.๒๕๔๔ ถงึ ๑๑ ก.พ.๒๕๔๕ จัดกาลงั นายทหาร นายสิบ ปฏิบตั ิราชการสนาม
กองกาลงั ๙๗๒ ไทย / ตมิ อรต์ ะวันออก ผลดั ท่ี ๔ ณ ประเทศตมิ อรต์ ะวนั ออก ร่วมกับสหประชาชาติ

๑๑. ตั้งแต่ ต.ค.๒๕๕๔ ถึง มิ.ย.๕๕ จัดกาลังพลนายสิบ และพลทหาร ปฏิบัติราชการสนาม
กองกาลังเฉพาะกิจ ๙๘๐ ไทย / ดาร์ฟูร์ ผลัดท่ี ๒ ณ ประเทศซดู าน รว่ มกบั กองกาลงั สหประชาชาตใิ นการ
รกั ษาสนั ติภาพ

วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๓๙ ..

เกียรติประวัตขิ องหนว่ ย
เม่ือ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๒๖ กองพันทหารสื่อสารท่ี ๔ ได้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพลจาก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ฯ โดยประกอบพิธตี รงึ หมดุ ณ สนามหนา้ ศาลาสหทัยสมาคมกรุงเทพฯ
และได้อัญเชิญธงชัยเฉลิมพลมาประดิษฐานประจาหน่วยกองพันทหารส่ือสารที่ ๔ จังหวัดพิษณุโลก
เมอื่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๒๖

วันสถาปนาหน่วย : วันที่ ๒๙ มถิ นุ ายน ๒๕๒๑ .. ๑๔๐ ..

วารสารทหารสื่อสาร

ภาพ : พ.ท.วิเชียร ชูปรชี า รับมอบพระราชทานธงชยั เฉลมิ พล จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั

วารสารทหารส่ือสาร .. ๑๔๑ ..

นามผ้บู ังคับบญั ชาตังแตอ่ ดีตถงึ ปัจจบุ ัน

ลาดับ ต้งั แต่ - ถึง ยศ - ชื่อ ตาแหนง่

๑ พ.ศ.๒๔๗๗ -๒๔๘๔ ร.ท.ขนุ ศรีพลานกึ ผู้บงั คับกองทหารสอ่ื สารท่ี ๔

( ศรี กัลยาณมิตร )

๒ พ.ศ.๒๔๘๔ -๒๔๘๗ พ.ต.ขุนศรีพลานึก รองผ้บู งั คบั กองพันทหารสอื่ สารที่ ๔

( ศรี กัลยาณมติ ร )

๓ พ.ศ.๒๔๘๗ - ๒๔๘๙ พ.ท.สุทธิ์ สร้างสมวงษ์ รกั ษาราชการรองผบู้ ังคบั กองพนั

ทหารส่อื สารท่ี ๔

๔ พ.ศ.๒๔๘๙ - ๒๔๙๐ พ.ท.สุทธิ์ สร้างสมวงษ์ ผบู้ งั คบั กองพันทหารสื่อสารท่ี ๔

๕ พ.ศ.๒๔๙๐ - ๒๔๙๑ ร.อ.จริ ะ เสวตนนั ท์ ผู้บงั คับกองร้อย กองทหารส่ือสารมณฑลทหารบกที่ ๔

ทาการแทนผู้บังคบั กองทหารสอื่ สารมณฑลทหารบกท่ี ๔

๖ พ.ศ.๒๔๙๑ - ๒๔๙๒ พ.ต.วเิ ชียร ฟุ้งลดั ดา ผบู้ ังคบั กองทหารสอ่ื สารกองพลที่ ๔

๗ พ.ศ.๒๔๙๒ – ๒๔๙๔ พ.ต.สธุ น สตั ตบศุ ย์ ผบู้ ังคับกองทหารสอ่ื สารกองพลท่ี ๔

๘ พ.ศ.๒๔๙๔ – ๒๔๙๔ พ.ต.เพช็ ร เสียงกอ้ ง ผบู้ ังคับกองทหารสือ่ สารกองพลที่ ๔

๙ พ.ศ.๒๔๙๔ – ๒๔๙๙ พ.ต.เพช็ ร เสยี งก้อง ผบู้ ังคบั กองทหารสือ่ สารกองทัพภาคที่ ๓

๑๐ พ.ศ.๒๔๙๙ - ๒๔๙๙ พ.ต.เพช็ ร เสียงก้อง ผู้บงั คบั ทหารสื่อสารกองทหารสือ่ สารกองพลที่ ๔

๑๑ พ.ศ.๒๔๙๙ - ๒๕๐๒ พ.ต.เฉลมิ มนี าภา ผู้บงั คับทหารสอื่ สารกองทหารสอ่ื สารกองพลท่ี ๔

๑๒ พ.ศ.๒๕๐๒ - ๒๕๐๖ พ.ต.ไพบลู ย์ ศริ สิ มั พันธ์ ผ้บู งั คับทหารสอ่ื สารกองทหารส่ือสารกองพลที่ ๔

๑๓ พ.ศ.๒๕๐๖ - ๒๕๐๘ พ.ต.ดารง จลุ าณุกะ ผบู้ ังคับทหารสอ่ื สารกองทหารสือ่ สารกองพลท่ี ๔

๑๔ พ.ศ.๒๕๐๘ - ๒๕๑๓ พ.ท.ธรี ะ เอย่ี มวัฒน์ ผบู้ ังคบั ทหารสื่อสารกองทหารสอ่ื สารกองพลที่ ๔

๑๕ พ.ศ.๒๕๑๓ - ๒๕๑๗ ร.อ.สวุ ิทย์ ศรีชญา ผู้บงั คบั ทหารสอ่ื สารกองทหารสอ่ื สารกองพลที่ ๔

๑๗ พ.ศ.๒๕๒๑ - ๒๕๒๑ พ.ต.ถวลั ย์ เกตุพันธ์ ผบู้ ังคบั ทหารสอ่ื สารกองทหารส่อื สารกองพลที่ ๔

๑๘ พ.ศ.๒๕๒๑ - ๒๕๒๔ พ.ต.ถวัลย์ เกตพุ นั ธ์ ผบู้ ังคับกองพนั ทหารสื่อสารที่ ๔

๑๙ พ.ศ.๒๕๒๔ - ๒๕๒๘ พ.ท.วเิ ชยี ร ชูปรีชา ผบู้ ังคับกองพันทหารสื่อสารท่ี ๔

๒๐ พ.ศ.๒๕๒๘- ๒๕๓๑ พ.ท.ทศพร งามอโุ ฆษ ผบู้ งั คับกองพันทหารส่ือสารที่ ๔

๒๑ พ.ศ.๒๕๓๑ - ๒๕๓๒ พ.ท.สมเชาว์ บาเหน็จพนั ธ์ ผบู้ ังคบั กองพันทหารสอ่ื สารท่ี ๔

๒๒ พ.ศ.๒๕๓๒ - ๒๕๓๕ พ.ท.ชาญชิต วิมานทิพย์ ผบู้ ังคบั กองพนั ทหารสื่อสารที่ ๔

๒๓ พ.ศ.๒๕๓๕ - ๒๕๔๔ พ.ท.โอฬาร หาญสรุ ภานนท์ ผบู้ ังคับกองพนั ทหารส่อื สารที่ ๔

๒๔ พ.ศ.๒๕๔๔ - ๒๕๔๙ พ.ท.ชาตรี บุบผา ผู้บงั คับกองพันทหารสื่อสารท่ี ๔

๒๕ พ.ศ.๒๕๔๙ – ๒๕๕๔ พ.ท.ฐานพัทย์ ฉตั รเมอื งปกั ผบู้ งั คบั กองพันทหารสอ่ื สารท่ี ๔

๒๖ พ.ศ.๒๕๕๔ – ๒๕๕๘ พ.ท.ทศพล มาพงษ์ ผู้บงั คบั กองพนั ทหารสื่อสารที่ ๔

๒๗ พ.ศ.๒๕๕๘ – ๒๕๕๙ พ.ท.วันปิย แก้วเกษ ผู้บงั คับกองพันทหารสื่อสารท่ี ๔

๒๘ พ.ศ.๒๕๕๙ – ๒๕๖๒ พ.ท.สิทธิ มณีรัตน์ ผู้บงั คับกองพนั ทหารสือ่ สารที่ ๔ กองพลทหารราบที่ ๔

๒๙ พ.ศ.๒๕๖๒ – ปจั จบุ ัน พ.ท.ธรี ะพงษ์ จิระโภคิน ผู้บังคบั กองพนั ทหารสอ่ื สารท่ี ๔ กองพลทหารราบท่ี ๔

วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๔๒ ..

ประวตั ิหนว่ ย
กองพนั ทหารสอื่ สารที่ ๙ กองพลทหารราบท่ี ๙

๑. ท่ีต้งั หน่วย : ค่ายสุรสีห์ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ๗๑๑๙๐
๒. ประวตั ิความเปน็ มาของหนว่ ย

๒.๑ กองพนั ทหารสอื่ สารท่ี ๙ กองพลทหารราบท่ี ๙ เดมิ เปน็ กองพันทหารสอ่ื สารกองพลทหาร
อาสาสมัคร เป็นหนว่ ยขนึ้ ตรง กองพลทหารอาสาสมคั ร มภี ารกจิ จัดการสื่อสารใหแ้ กส่ ่วนบญั ชาการกองพลที่
จัดตง้ั ข้ึนรวมทง้ั การสอ่ื สารไปยังหนว่ ยรองทป่ี ฏิบัตกิ ารภายใตก้ ารบังคับบญั ชาของกองบัญชาการกองพล
กองพนั ทหารส่อื สาร กองพลทหารอาสาสมคั ร ประกอบด้วยหน่วยขนึ้ ตรง ดังน้ี

๒.๑.๑ กองบังคบั การกองพัน และสว่ นแยกกองบงั คบั การ
๒.๑.๒ กองรอ้ ยปฏิบัตกิ ารสือ่ สารทางการบงั คบั บญั ชา (รอ้ ย.ปบช.)
๒.๑.๓ กองร้อยปฏิบัติการสื่อสารสว่ นหนา้ (รอ้ ย ปสน.)
๒.๑.๔ ปจั จุบนั มอี ตั รากาลังพลท้ังสน้ิ ๓๑๙ นาย ประกอบด้วย นายทหารสัญญาบัตร ๒๐ นาย,
นายทหารประทวน ๑๙๘ นาย และทหารกองประจาการ ๑๐๑ นาย รวม ๓๑๙ นาย

วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๔๓ ..

๒.๒ กองพันทหารสือ่ สาร กองพลทหารอาสาสมัคร ไดผ้ ลดั เปลยี่ นกาลงั เขา้ ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ณ สาธารณรฐั
เวียดนาม จานวน ๓ ผลัด ด้วยกนั ดังนี้
๒.๒.๑ ผลดั ท่ี ๑ : เมือ่ ๒๒ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๑
โดยมี พนั โท ดารง จลุ านกุ ะ เปน็ ผูบ้ ังคบั กองพัน
๒.๒.๒ ผลัดที่ ๒ : เมื่อ ๒๑ กรกฎาคม พทุ ธศักราช ๒๕๑๒
โดยมี พันโท สาเภา อุตตมเสถียร เปน็ ผู้บงั คบั กองพนั
๒.๒.๓ ผลัดที่ ๓ : เม่อื ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๓
โดยมี พันโท บารงุ โชติยะ เปน็ ผบู้ งั คับกองพนั

๒.๓ ใช้อตั ราการจัด และยทุ โธปกรณ์ของกองทพั บกไทย หมายเลข ๑๑ – ๓๕ ลง ๔ ธนั วาคม พทุ ธศักราช
๒๕๑๐ ซงึ่ ประกาศใชต้ ามคาสัง่ กระทรวงกลาโหม ท่ี ๑๘/๑๑ ลง ๒๙ กมุ ภาพนั ธ์ พุทธศักราช ๒๕๑๑

๒.๔ การจดั ตงั้ หนว่ ย
๒.๔.๑ กองพันทหารส่ือสารกองพลทหารอาสาสมัคร ได้แปรสภาพหน่วยเป็นกองพันทหารสื่อสาร

ก อ ง พ ล ท่ี ๙ ตั้ ง แ ต่ ๙ มิ ถุ น า ย น พุ ท ธ ศั ก ร า ช ๒ ๕ ๑ ๔ เ ม่ื อ ก า ลั ง พ ล ผ ลั ด ท่ี ๓
ได้เดนิ ทางกลบั มาประเทศไทย โดยมาตง้ั หนว่ ยที่ คา่ ยกาญจนบรุ ี ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมอื ง จังหวัดกาญจนบุรี
ต้งั แต่ ๒๔ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๔

๒ . ๔ . ๒ ก อ ง พั น ท ห า ร สื่ อ ส า ร ก อ ง พ ล ท่ี ๙ ใ ช้ น า ม ห น่ ว ย ย่ อ “พั น . ส . พ ล . ๙ ”
ได้เปล่ียนช่ือเป็นกองพันทหารสื่อสาร กองพลทหารราบที่ ๙ ตั้งแต่ ๑๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๕ ใช้นาม
หนว่ ย ย่อ “พัน.ส.พล.ร.๙” และปรับอัตราการจัด และยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกไทย หมายเลข ๑๑ - ๓๕ ลง
๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗ ได้เปล่ียนช่ือเป็นกองพันทหารส่ือสารที่ ๙ ใช้นามหน่วย ย่อ “ส.พัน.๙”
จนถงึ ปัจจบุ นั

๓. ภารกิจของหน่วย
๓.๑ จัด การ สื่อสาร ให้ แ ก่กองบัญ ชาการ กองพล ร ว มทั้งการ ส่ือสาร ไ ปยังห น่ วยต่างๆ

ที่ปฏบิ ัตกิ ารภายใตก้ ารบงั คบั บญั ชาของ กองบญั ชาการกองพล
๓.๒ จัดบรกิ าร การภาพให้กบั กองพล

วารสารทหารสื่อสาร .. ๑๔๔ ..

๔. การแบง่ มอบ : ๑ กองพนั ตอ่ ๑ กองพล
ผังการจัด
SECTION II ORGANIZATION CHART

กองพันทหารสอื่ สารกองพล
Sig. Bn Div

กองบังคับการและกองร้อยกองบังคับการ กองรอ้ ยวิทยุและศูนย์ข่าว กองร้อยสายและวิทยุถา่ ยทอด
Wire & Rad Relay Co
Hq. & Hq Co Rad & Msg Cen Co

๕. การปฏบิ ตั ิงานท่ีสาคญั ของหน่วย
๕.๑ ปฏิบัติหน้าท่ีป้องกัน และปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ในเขตพื้นท่ีกองทัพภาคท่ี ๓
รอยตอ่ ๓ จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวดั พษิ ณโุ ลก, เพชรบรู ณ์ และจงั หวดั เลย เมอื่ ปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๑๙ - ๒๕๒๒
๕.๒ ปฏิบัติราชการสนามตามแผนป้องกันประเทศในสังกัด กองพลท่ี ๙ กองทัพภาคที่ ๑
ด้านตะวันออก ในเขตพ้ืนที่กองทัพภาคท่ี ๑ จังหวัดปราจีนบุรี เม่ือปี พุทธศักราช ๒๕๒๔ - ๒๕๒๕
และปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๒๘ – ๒๕๒๙ บริเวณ บ.หนองกุง อ.วฒั นานคร จว.ปราจีนบุรี
๖. เกียรติประวัติของหน่วย : กองพันทหารส่ือสารที่ ๙ ได้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพล เมื่อ ๑๖
ธนั วาคม พุทธศกั ราช ๒๕๑๙ ตามคาสงั่ กองทัพบก (เฉพาะ) ท่ี ๑๑๓๘/๑๙ โดยมี พนั โท ภญิ โญ คงเมอื งแท้
ผู้บังคับกองพนั เป็นผู้รบั พระราชทาน
๗. วนั สถาปนาของหน่วย : กองพันทหารส่อื สารท่ี ๙ : ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๑๔

วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๔๕ ..

๘. รายนามผ้บู ังคบั บญั ชา ตงั้ แตอ่ ดตี ถึง ปจั จบุ ัน

๑. พ.ท.ดารง จุลานุกะ ๒. พ.ท.สาเภา อตุ ตมเสถยี ร ๓. พ.ท.บารุง โชตยิ ะ
ปี พ.ศ.๒๕๑๑ - ๒๕๑๒ ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ - ๒๕๑๓ ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ - ๒๕๑๕

๔. พ.ท.บนั เทิง บุญนาค ๕. พ.ท.ภิญโญ คงเมอื งแท้ ๖. พ.ท.รักสิทธ์ิ วาสิกานนท์
ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ - ๒๕๑๖
ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ - ๒๕๒๑ ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ - ๒๕๒๖

๗. พ.ท.จาลอง จณุ ณะภาค ๘. พ.ท.ธีระ บวั วริ ตั น์ ๙. พ.ท.มานะ เจรญิ วงศ์
ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ - ๒๕๒๙ ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ - ๒๕๓๒ ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ - ๒๕๓๕

๑๐. พ.ท.บรรจง มปี ่นิ ๑๑. พ.ท.ชยั สิทธิ์ ปน้ั รัตน์ ๑๒. พ.ท.สุเมธ นลิ มัย
ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ - ๒๕๓๙ ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ - ๒๕๔๓ ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ - ๒๕๔๖

วารสารทหารส่อื สาร .. ๑๔๖ ..

๑๓. พ.ท.ทรงคุน พัทศรุ ะพงษ์ ๑๔. พ.ท.นราวุฒิ ทองมว่ ง ๑๕. พ.ท.ธนกรณ์ เมตตาสัตย์
ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ – ๒๕๕๔
ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ - ๒๕๕๑ ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๙

๑๖. พ.ท.ศรณ์พชั ร์ บวั วิรตั น์ ๑๗. พ.ท.กิตนิ ันท์ รัสมี
ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ – ๖๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ - ปจั จบุ ัน

วารสารทหารสอ่ื สาร .. ๑๔๗ ..



โ ค ร ง ก า ร เ พ า ะ เ ลี้ ย ง ไ ก่ ไ ข่
เพ่ือจาหน่ายในราคาถูก ให้กับกาลัง
พลภายในหน่วย ส.พัน.๙ พล.ร.๙
ใ น ลั ก ษ ณ ะ ก า ร ร่ ว ม กั น ล ง ทุ น แ ล ะ
แบง่ ปนั ผลกาไรทจี่ าหนา่ ยไดข้ องกาลงั
พล และโครงการ ปลูกพชื ผกั สวนครัว
เพ่ือจาหน่าย และสามารถเก็บ
ไปรับประทานเองได้..

วารสารทหารสอื่ สาร .. ๑๔๙ ..

ประวตั ิ
กองพนั ทหารสือ่ สารท่ี ๑๓
กองพลทหารปนื ใหญต่ ่อสอู้ ากาศยาน

การจดั ตงั หน่วย
กองพันทหารสื่อสารที่ ๑๓ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน มีประวัติการจัดต้ังหน่วย

ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๘ มีสภาพเป็นกองร้อยทหารส่ือสาร ในอัตราของกรมป้องกันต่อสู้อากาศ
ยานตามคาส่ังกองทัพบกท่ี ๗๖๐๐/๗๘ ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๘ มีท่ีต้ังปกติอยู่บริเวณ
เดยี วกบั กองพนั ทหารสื่อสารท่ี ๑ สะพานแดง บางซอ่ื กรงุ เทพฯ โดยในครง้ั แรกทางราชการ ได้แบ่ง
กาลังพลจากโรงเรียนทหารส่ือสาร มาบรรจุ โดยมีนายร้อยโทมนัส เหมือนทองจีน รองผู้บังคับ
กองรอ้ ยทหารสอื่ สารเป็นผู้บงั คบั บัญชาหนว่ ยในขณะนั้น

การแปรสภาพและการเปลี่ยนแปลงของหนว่ ย
• พ.ศ.๒๔๘๐ แปรภาพเปน็ กองทหารส่อื สารกรมปอ้ งกนั ตอ่ สอู้ ากาศยาน
• พ.ศ.๒๔๙๑ แปรสภาพเป็นกองทหารส่อื สาร กรมต่อส้อู ากาศยาน

ฝากการบังคบั บญั ชาไว้กบั กรมการทหารสือ่ สาร
• พ.ศ.๒๔๙๕ แปรสภาพเป็นกองทหารสอ่ื สาร กองพลนอ้ ยทหารปนื ใหญ่

ต่อส้อู ากาศยาน ฝากไว้กบั กรมทหารส่ือสาร
• พ.ศ.๒๔๙๘ แปรสภาพเป็นกองทหารส่ือสาร กองพลทหารปนื ใหญ่ตอ่ สู้

อากาศยาน ฝากไว้กบั กรมการทหารสอื่ สาร

วารสารทหารสือ่ สาร .. ๑๕๐ ..


Click to View FlipBook Version