ระบบสารสนเทศ
เบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล
ศนู ยบ์ รกิ ารสาธารณสขุ เทศบาลเมอื งลาพูน
นายนพดล อรณุ วรพทิ ักษ์
นกั วิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ
สารบญั หนา้
บทที่ 1 บทนา 1
1.1 ระบบสวัสดกิ ารรกั ษาพยาบาลในประเทศไทย 2
1.2 ความเปน็ มาและความสาคัญของระบบเบกิ จ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล 2
1.3 วตั ถปุ ระสงคข์ องระบบเบกิ จา่ ยตรง 2
1.4 ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั 3
1.5 ตัวชว้ี ดั โครงการ
4
บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎที ีเ่ ก่ียวข้อง 7
2.1 กฎหมายและระเบียบที่เกยี่ วข้อง 8
2.2 ตารางแสดงข้อมลู จาแนกตามสทิ ธกิ ารรกั ษาพยาบาล 9
2.3 ขน้ั ตอนการลงทะเบยี นเบกิ จ่ายตรง 10
2.4 ขนั้ ตอนการจดั การขอ้ มลู ผูร้ ับบรกิ ารรกั ษาพยาบาลเบิกจ่ายตรง (แบบเดมิ ) 11
2.5 ขั้นตอนการจัดการขอ้ มลู ผรู้ บั บริการรกั ษาพยาบาลเบิกจ่าย กรมบญั ชกี ลาง (แบบใหม)่ 12
2.6 ขน้ั ตอนการจัดการข้อมูลผรู้ ับบรกิ ารรักษาพยาบาลเบกิ จา่ ย อปท. (แบบใหม)่
2.7 ขั้นตอนการเบกิ ชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ (e-Claim) 13
13
บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนินงาน 14
3.1 ดาเนินการเตรยี มความพรอ้ มระบบเบกิ จ่ายตรง 20
- ดา้ นอุปกรณ์ ( Hardware) 21
- ดา้ นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software) 22
- ดา้ นบคุ ลากร ( Peopleware) 44
- การประชาสัมพันธ์ 49
3.2 การลงทะเบียนเบกิ จ่ายตรง (สแกนลายนว้ิ มือ) 58
3.3 การจัดทาขอ้ มลู 16 แฟม้ ข้อมูลบรกิ ารทางการแพทย์
3.4 การตรวจสอบข้อมูลบรกิ ารทางการแพทย์ E-Claim 2008 61
3.5 การสง่ ขอ้ มูลเพื่อขอเบิกชดเชยคา่ บรกิ ารทางการแพทย์ ผ่านระบบออนไลน์ 62
บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน 71
4.1 ผลการลงทะเบียนเบิกจา่ ยตรง 72
4.2 ผลการส่งขอ้ มูลเบิกชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ (e-Claim) 73
บทที่ 5 ประโยชน/์ ปัญหา/อุปสรรคและแนวทางการพฒั นา
5.1 ประโยชนข์ องโครงการเบิกจ่ายตรง
5.2 ปัญหาอปุ สรรคของโครงการเบิกจ่ายตรง
4.3 แนวทางการพัฒนา
สารบญั (ตอ่ ) หน้า
ภาคผนวก เอกสารอืน่ ท่เี กย่ี วข้อง 76
1. รูปภาพข้ันตอนการใหบ้ รกิ ารผู้ปว่ ยนอก 83
2. การดาเนินการเบิกจา่ ยชดเชยคา่ บรกิ ารทางการแพทย์ 87
3. รูปภาพการพฒั นาบุคลากร 93
4. ขั้นตอนการใช้เครื่องอ่านบตั รประชาชน EDC 94
5. เอกสารประชาสัมพันธก์ รมบญั ชกี ลาง การเบิกจ่ายตรงโดยใช้บัตรประชาชน 96
6. โครงสร้างเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรศ์ ูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมอื งลาพนู
1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ระบบสวัสดิกำรรกั ษำพยำบำลในประเทศไทย
ประเทศไทยได้มกี ารพฒั นาระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลมาอย่างต่อเนื่องตลอดมา ซ่ึงแสดงให้
เห็นได้ว่ารฐั บาลใหค้ วามสาคัญในส่วนของสุขภาพของประชาชน และเป็นการสร้างความมน่ั คงให้กับชวี ติ ของ
ประชาชนคนไทย มีกองทนุ สวัสดิการรักษาพยาบาลอยหู่ ลักๆ 4 กองทุน ประกอบไปด้วย สวัสดกิ ารด้านการ
รักษาพยาบาลระบบแรก ๆ ท่ีเร่ิมขึ้น ก็คือ (1) กองทุนระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ โดยมีการ
ประกาศใชพ้ ระราชกฤษฎีกาเงนิ สวัสดิการเก่ียวกบั การ รักษาพยาบาล พ.ศ. 2521 ต่อมาได้เปลีย่ นเปน็ พระ
ราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการ รักษาพยาบาล พ.ศ. 2523 และในปัจจุบันระบบสวัสดิการ
รกั ษาพยาบาลข้าราชการอา้ งองิ พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกีย่ วกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และ
แก้ไขเพิ่มเติม มีหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงได้แก่กรมบัญชีกลาง ทาหน้าท่ีในการควบคุมดูแลการเบิกจ่ายค่า
รักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิ ระบบสวัสดิการลาดับต่อมาก็คือ (2) กองทุนรักษาพยาบาลส่วนท้องถิ่น เป็น
ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการพนักงานส่วนท้องถ่ิน มีระเบียบการใช้สิทธิประโยชน์เก่ียวกับการ
รักษาพยาบาลของพนักงานและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยเงินสวสั ดิการเก่ียวกบั การรักษาพยาบาลของพนกั งานท้องถ่ิน พ.ศ. 2541 โดยมีสานักงานหลักประกนั
สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นหน่วยงานในการควบคมุ ดูแลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้มีสทิ ธิ ระบบ
สวัสดิการลาดับต่อมาก็คือ (3) กองทุนประกันสังคม คือ ระบบประกันสังคมซ่ึงเริ่มดาเนินการในปี พ.ศ.
2533 โดย อาศยั อานาจตามพระราชบัญญัติประกนั สังคม พ.ศ. 2533 มีวัตถปุ ระสงคใ์ นการคมุ้ ครองลูกจ้าง
ผปู้ ระกนั ตน การสรา้ งหลกั ประกันในการดารงชวี ติ ในกลุ่มของสมาชกิ ที่มรี ายได้ และจา่ ยเงินสมทบเขา้ กองทุน
ประกันสังคมเพ่ือรับผิดชอบเฉล่ียความเส่ียงท่ีอาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตรทุพพลภาพ ตาย
สงเคราะห์ ชราภาพ และการว่างงาน เพื่อใหไ้ ด้รับการรักษาพยาบาล และมีการทดแทนรายได้อย่างตอ่ เนื่อง
และกองทนุ สุดทา้ ยคือ (4) กองทนุ หลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ (บตั รทอง) เรม่ิ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 เป็น
กองทุนทีใ่ ห้การดูแลประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยมหี น่วยงานทีร่ ับผิดชอบ กค็ ือ สานักงานหลักประกัน
สุขภาพแห่งชาติ เป็นองค์กรที่จัดต้ังข้ึนตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เพื่อ
สานต่อนโยบายของรัฐบาลในการสร้างหลักประกันสุขภาพให้ครอบคลุมประชาชนคนไทยทกุ คน เพ่ือให้ทุก
คนได้รับการ บริการท่ีมีคณุ ภาพตามความจาเป็น อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ด้วยระบบบริหารจัดการและ
การจัดบริการที่มีประสิทธิภาพ โดยคานึงถึงสิทธิของประชาชนในการเลือกหน่วยบริการของตนเอง รวมถึง
การที่ผูใ้ ห้บรกิ ารมคี วามสุข และสมั พนั ธภาพทดี่ กี ับผูร้ บั บรกิ าร
2
1.2 ควำมเป็นมำและควำมสำคญั ของระบบเบกิ จำ่ ยตรงคำ่ รักษำพยำบำล
โครงการเบกิ จ่ายตรงสวัสดิการรักษาพยาบาลขา้ ราชการ ทั้งข้าราชการกรมบัญชีกลางและสิทธิ
ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน(อปท.) เป็นโครงการแบบสมัครใจ โดยท่ีผู้มีสิทธิหรือบุคคลใน
ครอบครัวไมต่ ้องการทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน หรือยุ่งยากที่จะตอ้ งเดินทางมาขอหนังสือรบั รองฯ
จากต้นสงั กัด สามารถสมัครเข้าโครงการเบิกจา่ ยตรงฯ ซงึ่ มีเจตนารมณ์เพ่ือลดภาระในการสารองเงนิ จ่ายค่า
รักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะบุคคลที่ป่วยด้วยโรคท่ีมีค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้ง
ระบบยังช่วย ลดภาระงานของกองคลังของส่วนราชการท่ีจะต้องตรวจเอกสาร หลักฐาน และเบิกจ่ายค่า
รักษาพยาบาลให้กับบุคคลในสังกัด โครงการเบิกจ่ายตรงฯ น้ัน กรมบัญชีกลางและสานักงานหลักประกัน
สขุ ภาพแห่งชาติ(สปสช.)เป็นผู้ดาเนนิ การจ่ายเงนิ คา่ รักษาพยาบาลของ ผมู้ ีสิทธิและบุคคลในครอบครัวให้กับ
สถานพยาบาลแทนส่วนราชการต่าง ๆ โดยการส่งข้อมูลผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว ข้อมูลการ
รกั ษาพยาบาล ข้อมลู การจ่ายเงิน เป็นการดาเนินการด้วยระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ท้ังสน้ิ ซ่ึงสามารถแบ่งเป็น 2
ระบบด้วยกัน คือ ระบบเบกิ จา่ ยตรงผู้ปว่ ยนอก และระบบ เบกิ จ่ายตรงผู้ปว่ ยใน ท้ังนี้ ผมู้ ีสิทธิ หรือบุคคลใน
ครอบครัวที่มีสทิ ธิซา้ ซ้อน (เช่น มีสิทธปิ ระกันสังคม สิทธิรัฐวสิ าหกิจ สทิ ธิองคก์ รอิสระ เป็นต้น) จะไม่สามารถ
เขา้ รว่ ม โครงการเบิกจา่ ยตรงฯ ได้
1.3 วัตถุประสงคข์ องระบบเบกิ จำ่ ยตรง
1.3.1 เพอ่ื ให้บรกิ ารลงทะเบียนเบิกจ่ายตรงใหแ้ ก่ผูม้ ีสิทธริ ักษาพยาบาลขา้ ราชการ
1.3.2 เพอื่ ใหบ้ รกิ ารเบิกจา่ ยตรงใหแ้ ก่สิทธริ กั ษาพยาบาลข้าราชการ ที่มารับบรกิ ารรกั ษาพยาบาล
โดยไม่ต้องทดรองจ่ายคา่ รกั ษาพยาบาล
1.3.3 เพื่อขอเบกิ ชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ (e-Claim) กบั กรมบัญชีกลางและสานักงาน
หลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ
1.4 ประโยชนท์ ี่คำดวำ่ จะได้รบั
1.4.1 ศนู ยบ์ รกิ ารฯ สามารถให้บรกิ ารลงทะเบยี นเบิกจ่ายตรงใหแ้ ก่ผมู้ สี ิทธิรักษาพยาบาลขา้ ราชการ
ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
1.4.2 ศูนยบ์ ริการฯ สามารถให้บรกิ ารเบกิ จ่ายตรงให้แก่ผ้มู สี ทิ ธิรักษาพยาบาลข้าราชการโดยไม่ต้อง
ทดรองจ่ายคา่ รักษาพยาบาล
1.4.3 ศูนยบ์ ริการฯ สามารถขอเบกิ ชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ (e-Claim) กบั กรมบญั ชีกลาง
และสานกั งานหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและครบถ้วน
3
1.5 ตวั ช้วี ัดโครงกำร
1.5.1 มรี ะบบโปรแกรมสารสนเทศในการให้บรกิ ารลงทะเบยี นเบกิ จา่ ยตรงให้แก่ผมู้ ีสิทธกิ าร
รักษาพยาบาลข้าราชการ และการลงทะเบียนมีความถูกต้องร้อยละ 100
1.5.2 มรี ะบบโปรแกรมสารสนเทศรองรับระบบเบิกจ่ายตรง ในการใหบ้ ริการแก่ผู้ทม่ี ารับบรกิ าร
รกั ษาพยาบาลสิทธขิ ้าราชการ
1.5.3 มีระบบโปรแกรมสารสนเทศในการสง่ ข้อมูลตามโครงสร้างท่กี รมบัญชีกลาง และ สปสช.
กาหนด เชื่อมโยงเพือ่ ขอเบิกชดเชยคา่ บรกิ ารทางการแพทย์ (e-Claim)
1.5.4 ศูนยบ์ รกิ ารฯสามารถเบกิ ชดเชยค่าบรกิ ารทางการแพทย์ (e-Claim) ถกู ต้องครบถ้วนร้อยละ
100
4
บทท่ี 2
เอกสำรและทฤษฎที ่ีเก่ยี วข้อง
2.1 กฎหมำยและระเบียบทเ่ี กยี่ วข้อง
2.1.1 สิทธิขำ้ รำชกำรกรมบัญชกี ลำง
พระรำชบัญญัติกำรกำหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับกำรจ่ำยเงินบำงประเภทตำมงบประมำณรำยจ่ำย
พ.ศ. 2518
พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายหลักท่ีให้อานาจกระทรวงการคลังในการกาหนด
หลักเกณฑ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการตามมาตรา 3 (6) ได้กาหนดให้การ
จา่ ยเงินงบประมาณรายจ่ายเป็นเงินสวัสดิการจากทางราชการใหต้ ราเป็นพระราชกฤษฎีกาการจา่ ยเงิน ค่า
รักษาพยาบาลน้ันเป็นสวัสดิการจากทางราชการอย่างหน่ึง จึงต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกาฉะนั้น พระ
ราชกฤษฎีกาเงินสวัสดกิ ารเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลจึงเปน็ กฎหมายซงึ่ ฝ่ายบริหารเปน็ ผู้กาหนดขึน้ โดย
อาศัยอานาจตามพระราชบญั ญตั ดิ งั กลา่ ว
พระรำชกฤษฎีกำเงินสวัสดิกำรเก่ียวกับกำรรักษำพยำบำล พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม
(ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2555
พระรำชกฤษฎกี ำฉบับน้ี ได้มีกำรยกเลิกฉบบั เดมิ รวม 8 ฉบับ โดยให้ยกเลกิ
1. พระราชกฤษฎกี าเงนิ สวัสดกิ ารเกีย่ วกับการรกั ษาพยาบาล พ.ศ. 2523
2. พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเก่ยี วกบั การรกั ษาพยาบาล (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2528
3. พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกบั การรกั ษาพยาบาล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532
4. พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดกิ ารเกย่ี วกบั การรกั ษาพยาบาล (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2533
5. พระราชกฤษฎกี าเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรกั ษาพยาบาล (ฉบบั ที่ 5) พ.ศ. 2534
6. พระราชกฤษฎกี าเงินสวสั ดกิ ารเกีย่ วกบั การรกั ษาพยาบาล (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2540
7. พระราชกฤษฎีกาเงินสวสั ดกิ ารเกย่ี วกบั การรกั ษาพยาบาล (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2541
8. พระราชกฤษฎกี าเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรกั ษาพยาบาล (ฉบับท่ี 8) พ.ศ. 2545
พระรำชกฤษฎกี ำเงินสวัสดิกำรเก่ยี วกับกำรรักษำพยำบำล (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2555
- ส่วนที่แกไ้ ข : การเขา้ รบั การรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชน (มาตรา 8 (3))
เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชกฤษฎีกำเงินสวัสดกิ ำรเก่ียวกับกำรรักษำพยำบำล
พ.ศ. 2553 คือ โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเก่ียวกับการ
รักษาพยาบาล เพอื่ ใหส้ อดคล้องกับการให้บรหิ ารทางการแพทย์และระบบประกันสขุ ภาพอื่น และเพื่อ
5
พัฒนาระบบสวสั ดิการเกย่ี วกบั การรักษาพยาบาลของรฐั โดยขยายสิทธไิ ดร้ ับเงนิ สวสั ดิการเกีย่ วกับการ
รกั ษาพยาบาลในการเขา้ รับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนให้กว้างขึ้นและกาหนดให้
การเสรมิ สรา้ งสุขภาพและการป้องกนั โรคเป็นการรกั ษาพยาบาลดว้ ย รวมทง้ั กาหนดให้มีการนาระบบ
การเบกิ จ่ายตรงมาใช้กับการเบกิ จ่ายเงินสวสั ดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล อันเป็นการลดข้ันตอน
การดาเนนิ การ เพมิ่ ประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จา่ ยของรัฐ และอานวยความสะดวกให้แก่ผมู้ ีสิทธิ
ได้รับ เงนิ สวัสดิการเก่ียวกับการรกั ษาพยาบาลมากยิ่งขน้ึ จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชกฤษฎีกาน้ี
เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชกฤษฎกี ำเงินสวัสดิกำรเกยี่ วกับกำรรักษำพยำบำล
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 คือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงสิทธิในการรับเงินสวัสดิการเก่ียวกับ
การรักษาพยาบาลสาหรบั การเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนของผู้มีสทิ ธิได้รับ
เงินสวสั ดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ท้ังประเภทผู้ปว่ ยนอกและผู้ปว่ ยใน เฉพาะกรณที ผ่ี ู้มสี ทิ ธิหรือ
บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน จึงจาเป็นต้องตรา
พระราชกฤษฎกี าน้ี
หลกั เกณฑ์กระทรวงกำรคลังว่ำด้วยวิธีกำรเบิกจำ่ ยเงินสวัสดิกำรเกีย่ วกับกำร รักษำพยำบำล
พ.ศ.2553
หลักเกณฑ์กระทรวงการคลังนี้ กาหนดข้ึนเพ่ือเป็นแนวทางในการปฏิบัติกาหนดวิธี
ปฏบิ ัตขิ องผมู้ สี ิทธิและสว่ นราชการให้ถอื ปฏบิ ัติหลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าดว้ ยวิธีการเบิกจ่ายเงิน
สวัสดิการเก่ียวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 ให้มีผลบังคับใช้ต้ังแต่วันที่ 29 กันยายน 2553
โดยให้ยกเลิกระเบยี บ 2 ฉบบั คือ
1. ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการ
รกั ษาพยาบาล พ.ศ. 2545
2. ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเก่ียวกับการ
รกั ษาพยาบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553
ในปัจจุบันสวัสดิการเก่ียวกับการรักษาพยาบาลของทางราชการ มีหลักเกณฑ์การ
จ่ายเงิน งบประมาณรายจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลที่ใช้บังคับโดยพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการ
เกี่ยวกับการ รักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และทแ่ี ก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2555 สว่ นวธิ ีการเบิก
จ่ายเงิน สวัสดิการเก่ียวกับการรักษาพยาบาล เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกระทรวงการคลัง
กาหนดตามหลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าด้วยวิธีการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเก่ียวกับการ
รักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และหนังสอื เวยี นหรือหนังสือซ้อมความเข้าใจวิธีปฏบิ ัติในการเบกิ จ่ายเงิน
คา่ รกั ษาพยาบาล
6
2.1.2 สทิ ธขิ ้ำรำชกำรองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น
พระรำชบญั ญัติ หลกั ประกันสุขภำพแหง่ ชำติ พ.ศ. ๒๕๔๕
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่มาตรา 52 ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติให้ชนชาวไทยย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการสาธารณสุขที่ได้
มาตรฐาน และผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสีย
ค่าใช้จ่ายตามท่ีกฎหมายบัญญัติ และการให้บริการสาธารณสุขของรัฐต้องเป็นไปอย่างทั่วถึงและมี
ประสิทธิภาพ โดยจะต้องส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและเอกชนมีส่วนร่วมเท่าทีจ่ ะกระทา
ได้ และมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้รัฐต้องจัดและส่งเสริมการ
สาธารณสุขให้ประชาชนได้รับบริการท่ีได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพอย่างท่ัวถึง ด้วยเหตุน้ีจึงต้อง
จัดระบบการให้บริการสาธารณสุขท่ีจาเป็นต่อสุขภาพและการดารงชีวิตให้มีการรักษาพยาบาลท่ีมี
มาตรฐาน โดยมีองค์กรกากับดูแลซึ่งจะดาเนินการโดยการมีส่วนร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาค
ประชาชน เพ่ือจัดการให้มีระบบการรักษาพยาบาลท่มี ีประสิทธิภาพท้ังประเทศ และให้ประชาชนชาว
ไทยมีสิทธไิ ด้รับการบรกิ ารสาธารณสขุ ทีม่ ีมาตรฐานดว้ ยกันทกุ คน นอกจากนี้เน่ืองจากในปัจจบุ นั ระบบ
การให้ความช่วยเหลือในดา้ นการรักษาพยาบาลไดม้ ีอยู่หลายระบบ ทาให้มกี ารเบิกจ่ายเงินซ้าซ้อนกัน
จึงสมควรนาระบบการช่วยเหลือดังกล่าวมาจัดการรวมกันเพื่อลดค่าใช้จ่าย ในภาพรวมในด้าน
สาธารณสุขมิให้เกิดการซ้าซ้อนดังกล่าว และจัดระบบใหมใ่ ห้มีประสิทธิภาพย่ิงข้ึน จึงจาเป็นต้องตรา
พระราชบญั ญตั ิน้ี
พระรำชกฤษฎีกำกำหนดให้พนักงำนหรือลูกจ้ำงขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและบุคคลใน
ครอบครัวของพนักงำนหรือลูกจ้ำงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้สิทธิรับบริกำรสำธำรณสุข
ตำมพระรำชบัญญัตหิ ลกั ประกนั สขุ ภำพแหง่ ชำติ พ.ศ. ๒๕๔๕
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับน้ี คือ โดยท่ีมาตรา ๙ วรรคสาม แห่ง
พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ บัญญัติให้การกาหนดให้บุคคลประเภทใด
หรือหนว่ ยงานใด ใชส้ ิทธิรบั บริการสาธารณสุขตามพระราชบญั ญัติน้ไี ด้เมื่อใด ให้เปน็ ไปตามที่กาหนด
โดยพระราชกฤษฎีกา ดังนัน้ เพื่อให้พนักงานหรอื ลกู จ้างขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ รวมท้ังบุคคล
ในครอบครัว ซึ่งได้แก่ บิดามารดา คู่สมรส และบุตรท่ีชอบด้วยกฎหมายของพนักงานหรอื ลูกจ้างของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ จึงจาเปน็ ต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
7
ระเบียบกระทรวงมหำดไทยว่ำด้วยเงินสวัสดิกำรรักษำพยำบำลของพนักงำนส่วนท้องถิ่น พ.ศ.
2557
ประกำศคณะกรรมกำรหลักประกันสุขภำพแห่งชำติ เร่ือง หลักเกณฑ์กำรดำเนินงำนและกำร
บรหิ ำร จัดกำรเงินค่ำใช้จ่ำยในกำรรกั ษำพยำบำล พนักงำนหรือลกู จ้ำงขององคก์ รปกครองส่วน
ท้องถิ่น และบุคคลในครอบครัว และหลักเกณฑ์ วิธีกำรและเง่ือนไขกำรรับค่ำใช้จ่ำยเพื่อบริกำร
สำธำรณสุขของหนว่ ยบรกิ ำร พ.ศ.2557
2.2 ตำรำงแสดงข้อมูลจำแนกตำมสทิ ธกิ ำรรกั ษำพยำบำล
ตำรำงแสดงจำนวนประชำกรของประเทศไทย จำแนกตำมสิทธิกำรรกั ษำพยำบำล
(ข้อมูล ณ มนี าคม 2564 )
ประเภทสิทธิ จานวน (คน) รอ้ ยละ
1. สทิ ธิหลักประกันถ้วนหน้า (บตั รทอง) 47,300,730 70.34
2. สิทธิขา้ ราชการ กรมบญั ชีกลาง 5,081,881 7.56
3. สิทธิข้าราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ (อปท.) 0.93
4. สิทธปิ ระกนั สงั คม 627,884 18.29
5. อน่ื ๆ 12,301,083 2.88
1,936,583 100.00
รวม 67,248,161
ตำรำงแสดงจำนวนประชำกร ในเขตเทศบำลเมอื งลำพนู จำแนกตำมสทิ ธกิ ำรรักษำพยำบำล
(ขอ้ มูล ณ มนี าคม 2564 )
ประเภทสิทธิ จานวน (คน) ร้อยละ
1. สิทธิหลกั ประกนั ถว้ นหนา้ (บตั รทอง) 6,189 52.14
2. สทิ ธขิ า้ ราชการ กรมบัญชกี ลาง 2,697 22.72
3. สิทธิข้าราชการสว่ นท้องถ่ิน (อปท.) 403 3.39
4. สทิ ธิประกนั สงั คม 2,582 21.75
11,871 100.00
รวม
แหลง่ ท่ีมา : จากสานกั งานหลกั ประสขุ ภาพแหง่ ชาติ
8
2.3 ข้นั ตอนกำรลงทะเบียนเบกิ จำ่ ยตรง สทิ ธิกรมบญั ชกี ลำง และ อปท.
ผู้มีสิทธิย่ืนคารอ้ ง
ขอลงทะเบยี นเบกิ จา่ ยตรง
สถานพยาบาลตรวจรายชอื่ ผมู้ ีสิทธิ
ในฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐ ของ
กรมบัญชีกลาง/สปสช.
มรี ายช่ือใน ไม่มี ผ้มู ีสิทธิติดตอ่ กับนาย
ฐานข้อมูล ทะเบียนข้าราชการท่ีสังกดั
เพือ่ ปรับปรงุ ฐานขอ้ มลู
มี
- ลงทะเบียนเข้าโครงการฯ
- สแกนลายน้วิ มอื
ระบบตรวจสอบ ไม่อนมุ ัติ จา่ ยเงนิ สด
และอนมุ ตั ิภายใน 15 วัน
อนุมตั ิ
ใชส้ ิทธิเบกิ จ่ายตรง
9
2.4 กำรจดั กำรข้อมูลผ้รู ับบรกิ ำรรักษำพยำบำลเบิกจำ่ ยตรงแบบเดมิ ท้ังสิทธิกรมบัญชีกลำง และ
อปท.
(ก่อนวนั ท่ี 4 พฤษภำคม 2561 )
ผปู้ ว่ ยเข้ารบั การรักษา
แสดงบัตรจ่ายตรง
ตรวจสอบ ไม่มสี ทิ ธิ จา่ ยเงนิ สด
สทิ ธิ
มสี ทิ ธิ
บนั ทกึ คา่ ใช้จา่ ย
ในระบบ HIS
สว่ นเกิน ไม่มี บนั ทึกคา่ ใช้จา่ ย
ในระบบ HIS
มี
ชาระคา่ ส่วนเกิน
พมิ พใ์ บเสรจ็ รบั เงนิ
รายการคา่ รกั ษา
ผ้ปู ่วย/ผ้รู ับยาแทน
ลงลายมอื ช่อื รับยา
10
2.5 กำรจัดกำรข้อมลู ผ้รู ับบริกำรรักษำพยำบำลเบิกจำ่ ยตรง กรณสี ทิ ธิขำ้ รำชกำรกรมบญั ชีกลำงแบบ
ใหม่
( ตง้ั แต่วนั ท่ี 4 พฤษภำคม 2561 เปน็ ต้นไป)
เนื่องจากกรมบัญชีกลางได้ยกเลิกการลงทะเบียนเบิกจา่ ยตรง โดยให้ผู้รับบรกิ ารใชบ้ ัตรประจาตวั
ประชาขนในการแสดงสิทธิผา่ นเครือ่ ง EDC โดยมีรหสั approval code ในการตรวจการรบั บรกิ ารใน
ระบบ KTB Corporate ของธนาคารกรุงไทย
ผู้ป่วยเขา้ รับการรักษา
แสดงบัตรประตัวประชาชน
ตรวจสอบ ไมม่ ีสทิ ธิ จ่ายเงนิ สด
สทิ ธิ
มสี ิทธิ
บันทกึ คา่ ใช้จ่าย
ในระบบ HIS
ส่วนเกนิ มี ชาระค่าส่วนเกนิ
ไมม่ ี บนั ทึกค่าใช้จ่าย
ในระบบ HIS
รดู บตั รประชาชนผ่านเครอื่ ง EDC
บนั ทกึ ยอดเงินและรหสั AP CODE
ออกใบเสรจ็ /รายละเอียดประกอบ
ผ้ปู ว่ ย/ผรู้ ับยาแทน
ลงลายมอื ชื่อ/รบั ยา
11
2.6 กำรจัดกำรขอ้ มลู ผูร้ ับบรกิ ำรรักษำพยำบำลเบกิ จำ่ ยตรง กรณสี ทิ ธขิ ำ้ รำชกำรองคก์ รปกครองส่วน
ทอ้ งถิ่นแบบใหม่ ( ตั้งแตว่ นั ท่ี 1 สิงหำคม 2561 เปน็ ต้นไป)
เนอื่ งจากสานักงานหลักประกนั สขุ ภาพ (สปสช.) ได้ยกเลกิ การลงทะเบียนเบกิ จ่ายตรง โดยให้
ผู้รับบริการแสดงบัตรประจาตัวประชาขน หรอื เอกสารทางราชการทมี่ ีเลขประตัว 13 หลกั เพอ่ื ใชใ้ นการ
ตรวจสอบสิทธิกบั ระบบฐานข้อมูลของ สปสช. ของผมู้ สี ิทธิข้าราชการองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ
ผ้ปู ่วยเข้ารบั การรักษา
แสดงเลขประตัวประชาชน 13 หลกั
ตรวจสอบ ไม่มีสทิ ธิ จา่ ยเงนิ สด
สิทธิ
มีสทิ ธิ
บนั ทึกคา่ ใช้จ่าย
ในระบบ HIS
สว่ นเกนิ มี ชาระค่าส่วนเกิน
ไม่มี บนั ทกึ ค่าใชจ้ า่ ย
ในระบบ HIS
บันทกึ ข้อมลู รายการ
คา่ ใช้จ่ายเบิกจา่ ยตรง
ออกใบเสรจ็ /รายละเอียดประกอบ
ผู้ปว่ ย/ผรู้ บั ยาแทน
ลงลายมอื ชื่อ/รับยา
12
2.7 ขั้นตอนกำรเบิกชดเชยคำ่ บริกำรทำงกำรแพทย์ (e-Claim)
จัดทำข้อมลู ผูป้ ว่ ยท่มี ำรบั บริกำร หนว่ ยบรกิ ำร
16 แฟม้ / HOSXP Export E-Claim
เพิม่ /ปรบั ปรงุ รำยกำร
นำเขำ้ ขอ้ มูลในระบบโปรแกรม Import
E-Claim2008 และตรวจสอบข้อมลู ฐำนข้อมูลระบบบัญชียำ
Drug Catalog
(ระบบ Cloud สปสช.)
ระบบ ไม่ผ่ำน
ตรวจสอบ
ผำ่ น
จดั ทำข้อมูล 16 แฟ้มตำมโครงสรำ้ ง
E-Claim เป็นไฟล์ ECD
ส่งขอ้ มลู เพื่อขอเบกิ ชดเชยคำ่ บริกำร
ทำงกำรแพทย์ ผ่ำนระบบออนไลน์
(http://eclaim.nhso.go.th)
กรมบญั ชกี ลำง/ ไมอ่ นุมัติ ตรวจสอบขอ้ มลู REP และทำกำร
สปสช. อนมุ ตั ิ อุทธรณ์ข้อมูลกำรขอเบิกจำ่ ยอกี ครงั้
อนมุ ตั ิ
จดั ทำใบขอเบิกคำ่ ใช้จำ่ ยท่ีผำ่ นกำร
อนุมตั ิ ส่งกรมบัญชกี ำร/สปสช.
กรมบัญชีกลำง/สปสช.
โอนค่ำชดเชยบริกำรทำงกำรแพทย์
13
บทท่ี 3
กำรดำเนินงำน
3.1 ดำเนนิ กำรเตรยี มควำมพร้อมระบบเบกิ จ่ำยตรง
ในการดาเนนิ งานให้บริการลงทะเบียนเบิกจ่ายตรงแก่ผู้รับบริการ ที่สิทธิการรกั ษาพยาบาล
ข้าราชการกรมบัญชีกลาง และสิทธิข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หน่วยบริการ
จาเป็นต้องเตรยี มความพร้อมหลายด้านเพ่ือให้การดาเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด เน่ืองจากระบบ
เบิกจ่ายตรงนน้ั ผไู้ ม่ตอ้ งสารองเงินจา่ ยคา่ รักษาพยาบาลไปก่อน หน่วยบริการต้องดาเนินการเบิกจ่าย
ค่ารักษาพยาลกับกรมบัญชีกลาง และสานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเอง ซ่ึงสงิ่ ท่ีสาคัญทีสุด
ในการเบกิ จ่ายคอื ข้อมูลสาหรบั การสง่ ผา่ นระบบออนไลน์เพือ่ ของเบิกชดเชยค่าบริการทางการแพทย์
ข้อมูลต้องมีความถูกต้อง ครบถ้วน โดยในการดาเนินการระบบเบิกจ่ายตรงจึงมีการเตรียมความ
พร้อมดังต่อไปนี้
3.1.1 การเตรยี มความพรอ้ มด้านอปุ กรณ์ (Hardware) ประกอบไปดว้ ย
- เคร่อื งคอมพิวเตอร์ตงั้ โต๊ะ (Computer Desktop)
มกี ารปรับปรงุ เครื่องคอมพวิ เตอรภ์ ายในศูนยบ์ รกิ ารฯ เพื่อให้สามารถรองรับระบบโปรแกรม
จ่ายตรง โดยดาเนินการจัดซ้ือครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ท่ีมีคุณสมบัติค่อนข้างสูงเพ่ือติดตั้งตามจุด
ให้บรกิ ารตา่ งๆ ดังตอ่ ไปนี้
ลำดบั จดุ บรกิ ำรท่ปี รับเปล่ียนเครอ่ื งคอม จำนวน
1 ห้องเวชระเบียน 1 เครอ่ื ง
2 ห้องกำรเงนิ และบญั ชี 1 เครื่อง
3 ห้องทนั ตกรรม 1 เคร่ือง
4 ห้องตรวจแพทย์ 1 1 เครอ่ื ง
5 หอ้ งตรวจแพทย์ 2 1 เครอ่ื ง
6 หอ้ งตรวจแพทย์ 3 1 เครื่อง
7 จุดซักประวตั ิ (โต๊ะพยำบำล) 1 เครื่อง
8 หอ้ งแพทยแ์ ผนไทย 1 เครื่อง
9 ห้องวคั ซีน 1 เครื่อง
10 ห้องสำนกั งำนธรุ กำร 1 เคร่อื ง
11 จุดบริกำรเบิกตรง 1 เครือ่ ง
รวม 11 เคร่ือง
* ระบบปฏบิ ัติการ (Operation System) ของเคร่อื งคอมพิวเตอร์ Windows 10
14
- เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server)
มกี ารจัดหาเครื่องคอมพวิ เตอรแ์ ม่ข่ายจานวน 1 เครือ่ ง เพอ่ื ใชเ้ กบ็ ฐานข้อมูล (Database)
และควบคุมบรหิ ารจัดการระบบต่างๆ โดยติดตง้ั ระบบระบบปฏบิ ตั กิ าร Linux CentOS7
- เคร่ืองสแกนลายน้ิวมอื
มีการจัดหาอปุ กรณ์เครือ่ งสแกนลายนิ้วมือ เพื่อใช้สาหรับการสแกนลายนิ้วมือผู้ลงทะเบียน
เบิกจ่ายตรง
- เคร่อื งอ่านบัตรประชาชนแบบสมารท์ การ์ด
มีการจัดการอปุ กรณ์เครอื่ งอา่ นบตั รประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด เพื่อใช้สาหรบั การอ่านบัตร
ประชาชนของเจ้าหนา้ ท่ีทใ่ี หบ้ รกิ ารลงทะเบียนเบิกจา่ ยตรง ในการยืนยนั สิทธิ
3.1.2 การเตรยี มพรอ้ มทางโปรแกรมทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั ระบบเบิกจา่ ยตรง (Software)
ระบบเบิกจา่ ยตรงค่ารกั ษาพยาบาลเปน็ การดาเนินการผ่านระบบสารสนเทศ ระบบออนไลน์
ต้องมีการใชโ้ ปรแกรมสารสนเทศที่เกี่ยวขอ้ งหลายระบบ โดยไดม้ ีการเตรียมการตดิ ต้ังโปรแกรมต่างๆ
ดงั ต่อไปน้ี
- โปรแกรม NHSO Client ใช้สาหรับลงทะเบยี นเบิกจ่ายตรงใหแ้ กผ่ ู้สทิ ธิ
15
- โปรแกรมออกบัตรเบกิ จา่ ยตรงใหแ้ กผ่ ู้ลงทะเบยี น
16
- โปรแกรมระบบบริการทางการแพทย์ HOSXP ใชใ้ นการบันทกึ การมารับบริการของผ้ปู ่วยที่
ลงทะเบียนเบกิ จา่ ยตรง
17
- โปรแกรมสง่ ออกข้อมลู การรบั บรกิ ารของผทู้ ลี่ งทะเบยี นเบกิ จา่ ยตรง (16 แฟม้ ) ตาม
โครงสรา้ งมาตรฐานท่ี สปสช. และ กรมบัญชีกลางกาหนด
18
- โปรแกรมบนั ทกึ ขอ้ มูลเพอ่ื ของเบกิ ชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ ( E-Claim 2008 )
19
- ระบบโปรแกรมสง่ ข้อมูลออนไลนเ์ พอื่ ขอเบิกชดเชยคา่ บรกิ ารทางการแพทย์ และระบบงาน
การเบกิ จ่าย การอทุ ธรณ์ต่างๆ (http://eclaim.nhso.go.th/)
20
3.1.3 การเตรียมความพรอ้ มดา้ นบุคลากร (Peopleware)
มีการดาเนินจัดอบรมเตรียมความพร้อมของบุคลากรในหน่วยบริการ โดยดาเนินโครงการ
พัฒนาองคค์ วามรู้ของบคุ ลากร อบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารเตรยี มความพรอ้ มระบบเบิกจ่ายตรงศนู ยบ์ ริการ
สาธารณสุข เทศบาลเมืองลาพูน วิทยากรจากสานักงานหลักประกันสขุ ภาพเขต 1 เชียงใหม่ จานวน
2 ท่าน คือ คุณณัฏฐธร มโนวร ตาแหน่งหัวหน้างานสารสนเทศ และคุณเทพวิจิตร ลาสุนนท์
เจา้ หน้าท่ี National Clearing เมอื่ วนั ที่ 30 พฤษภาคม 2559
21
3.1.4 การประชาสมั พนั ธ์
มกี ารประชาสัมพันธ์แจ้งให้ผมู้ สี ิทธิและผูท้ ี่เกี่ยวขอ้ งได้รบั ทราบถึงการใหบ้ ริการเบกิ จา่ ย
ตรงค่ารกั ษาพยาบาล ของศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองลาพูน เช่น การออกจดหมายเวียน
การประสัมพันธ์ผ่าน อสม. ผ่านกิจกรรมโครงการต่างๆ เช่น กิจกรรมผู้สูงอายุ กิจกรรมผู้พิการ
การประชาสมั พันธ์ผา่ นส่อื ออนไลนเ์ ชน่ Facebook Website
22
3.2 กำรลงทะเบียนเบกิ จำ่ ยตรง (สแกนลำยนว้ิ มือ)
ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองลาพูนได้เริ่มดาเนินการให้บริการลงทะเบียน
เบิกจ่ายตรงใหแ้ ก่ผู้มีสิทธขิ ้าราชการกรมบัญชีกลาง และสิทธิขา้ ราชการองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น
เม่ือวันท่ี 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นมา โดยการลงทะเบียนเบิกจ่ายตรงนั้น ต้องดาเนินการผ่าน
ระบบออนไลน์ ผ่านโปรแกรมระบบสารสนเทศ NHSO – Client โดยดาเนินการดังตอ่ ไป
กำรใช้งำนโปรแกรม NHSO – Client
1. เสียบบัตรประชาชนเจ้าหน้าท่ีผู้ใช้งานผ่านเครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ด แล้ว Login เข้าใช้งาน
โปรแกรม
โปรแกรมตรวจสอบบัตรประชาชนผ่านเครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ด หลังจากน้ันให้กรอกรหัส PIN
CODE ของบตั รประชาชนเจา้ หนา้ ที่
23
2. เมนหู ลกั
24
3. เลือกประเภทสทิ ธิ
25
4. หน้าจอลงทะเบยี นเบกิ จ่ายตรง
26
27
เม่ือทาการค้นหาขอ้ มูลสว่ นที่ 1 แล้วมีข้อมูลระบบจะแสดง Popup ถามว่าต้องการใช้สทิ ธิของใคร พร้อมทัง้ แสดง
สถานะดว้ ยว่ามีข้อมูลการลงทะเบียนกับสถานพยาบาลนหี้ รอื ยงั หากยังไม่มีกส็ ามารถเลือกรายการแล้วทาการกด
ปุ่ม “แสดงข้อมลู ตามรายการที่เลือก” หรอื ยกเลิกการค้นหาได้ แต่หากรายการนั้นมีข้อมูลการลงทะเบียนแล้วจะ
ไมส่ ามารถเลอื กได้ โดยหากเลอื กรายการทม่ี ขี อ้ มลู การลงทะเบยี นแลว้ จะแสดง Popupแจง้ ดังน้ี
28
29
30
31
32
33
5. การตรวจสอบผลการลงทะเบียนเบิกจา่ ยตรงและรายงาน
34
35
36
37
38
6. การตรวจสอบและแก้ไขขอ้ มลู การลงทะเบียนเบกิ จา่ ยตรง
39
40
7. ระบบตรวจสอบสทิ ธแิ ละการขอเลขอนมุ ัติ
41
42
43
44
3.3 กำรจัดทำขอ้ มูล 16 แฟ้มขอ้ มลู บริกำรทำงกำรแพทย์
- แฟ้มข้อมูลมาตรฐาน e-Claim เบิกจ่ายตรงเพอื่ ขอชดเชยคา่ บริการทางการแพทย์ 16 แฟ้ม
45
- กำรประมวลผลขอ้ มูล 16 แฟม้ โดยใช้โปรแกรม BMSHOSxPEClaimExport
เป็นการประมวลผลขอ้ มลู ของผู้ที่ลงทะเบียนเบิกจ่ายตรงทมี่ ารบั บริการทางการแพทย์ ในหน่วย
บรกิ ารเพ่อื จดั ทาขอ้ มูล 16 แฟ้ม สง่ ขอเบกิ ชดเชยกบั กรมบัญชกี ลาง และ สปสช.
Login เข้าใชง้ านโปรแกรม
หน้าจอหลกั ในการใชง้ าน
46
ขนั้ ตอนการสง่ ออก
เลอื ก NHSO > EClaim Export >
เลอื กประเภทสิทธใิ นการสง่ ออกขอ้ มูล
เลอื กประเภทสิทธเิ รียบรอ้ ยแลว้ ใหก้ ดปมุ่ สง่ ออกขอ้ มูล