The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือเตรียมความพร้อมการทำข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR Usage of English Sentence completion

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Fms.lru2017, 2021-12-24 03:22:15

คู่มือเตรียมความพร้อมการทำข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR Usage of English Sentence completion

คู่มือเตรียมความพร้อมการทำข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR Usage of English Sentence completion

11. If Clause (ประโยคเงอื่ นไข) ำ ำ ำ ำ

Conditional sentences หรือ If Clause คือ ประโยคเงือ่ นไขหรือส่วนท่เี ปน็ เหตกุ ารณ์
สมมติ โดยหลกั ๆ แลว้ จะถูกแบ่งออกเปน็ รูปประโยค 3 ชนิดดว้ ยกัน ดังน้ี

11.1 Real Conditional เป็นประโยคแสดงเงอ่ื นไขทสี่ ามารถเป็นความจริงได้ หรอื แสดง
เงอื่ นไขทเ่ี ปน็ ไปได้ ในปจั จบุ นั หรอื อนาคต โครงสรา้ งรปู ประโยคกค็ อื : If + Present simple, will-future
ตัวอย่างการใช้ประโยค

- If you read, you will pass the exam. ถา้ คุณอ่านหนงั สือ คณุ กจ็ ะสอบผ่าน
- If I study hard, I will pass the test. ถ้าฉันเรยี นหนกั ฉนั กจ็ ะสอบผ่าน

(ซงึ่ เปน็ เรือ่ งทีส่ ามารถเกิดขึน้ ได้)
11.2 Unreal Condition – Present เปน็ ประโยคแสดงเงอ่ื นไขทไ่ี มส่ ามารถเปน็ ความจรงิ
หรอื เงอ่ื นไขทไ่ี มส่ ามารถเปน็ ไปได้ (อาจจะใชเ้ ปน็ การแนะน� ) โครงสรา้ งรปู ประโยคกค็ อื : If + Simple
past, would + infinitive
ตวั อย่างการใชป้ ระโยค

- If I were you, I would go to the doctor. ถ้าฉันเปน็ คณุ ฉนั จะไปหาหมอ
(ในความเปน็ จรงิ เราไมส่ ามารถเปน็ คนอน่ื ได้ ประโยคนจี้ งึ เหมอื นเปน็ การแนะน� มากกวา่ )

- If I had Malee’s phone number, I would call her. ถา้ ผมมเี บอรโ์ ทรของมาลี
ผมก็จะโทรหาเธอ (แต่ความเปน็ จรงิ แล้วตอนน้ี ผมไมม่ เี บอร์โทรของเธอ)

11.3 Unreal Condition – Past เปน็ ประโยคแสดงเงอื่ นไขในอดตี ท่ไี ม่สามารถเปน็ จรงิ
ไดเ้ ลยในปัจจบุ ัน และเงอื่ นไขน้นั ตรงขา้ มกนั กับความจรงิ ทเี่ กิดขึ้นในอดตี โครงสร้างรปู ประโยคกค็ อื
: If + Past perfect, would have + Past participle
ตวั อยา่ งการใช้ประโยค

- If it had been a home game, our team would have won the match. ถ้า
เราได้แขง่ ในบา้ นของเรา ทีมของพวกเราตอ้ งชนะแนๆ่ (แต่ความเป็นจริงทีมของพวกเราแพ้ไปแลว้ )

- If Preecha had learned more business words, he would have written
a good business report. ถ้าปรชี าเรียนรคู้ � ศัพท์ธรุ กจิ มากกว่าน้ี เขาจะเขียนรายงานธรุ กิจได้ดีขึ้น
(ตอนนเ้ี ขาเขยี นรายงานธรุ กิจไดไ้ ม่ด)ี

47คู่มอื เตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

- If Preecha had learned more business words, he would have written a good
business report. ถา้ ปรีชาเรยี นร้คู าศัพท์ธรุ กิจมากกว่านี้ เขาจะเขียนรายงานธุรกจิ ไดด้ ี

ผสลรส(ปุปทรรตุปตี่ ะาาตโ(มรยาปาครมรงาาะiงปfปโรcยรlะคaะโuโยยisfคขeคเน้ึcเงบงl่ือa(อ่ือตuนนกอsไไเนeขงขื่อนบน้เี ขไอาขกเขซเงยีงึ่ ือ่นจนะราขไขยนึ้ งตซาน้ นึง่ ดจธ้วรุะยกขคิจ้นึ าไตดวา่้้นไมด“่ดว้I)ีfย”คใ�นวขา่ ณ“ะทIf”ี่ ปรในะโขยณคหะทลกั่ี ปจะรบะอโยกคผหลทลี่ตกั าจมะมบาอก
ำ ำ
Type Usage Structure Example
(ชนดิ ) (การใช้) (โครงสร้าง) (ตวั อยา่ ง)

Zero Factual If (Present simple), If water boils, it changes to gas.
First condition Present simple)
Future If (Present simple), If the boss approves, I will take
Second possibility (will (not) + bare one-month leave.
infinitive)
Third Present unreal If (Past simple), If he were here, we wouldn’t have
situation (would (not) + bare to do it ourselves.
infinitive)
Past unreal If (had + V.3), (would If she hadn’t had an accident, she
situation (not) have + V.3) would have been able to join the
contest.
39

เทคนิคการจา : การดูโครงสร้างประโยค If-Clause – 3 แบบ (ทีม่ า: YouTube ครูดวิ )
ทอ่ ง If – Clause

V.1 , will do ถ้ามฝี ั่งซ้าย ให้เลือกฝั่งขวา
V.2 , would see ถา้ มฝี ่ังขวา ใหเ้ ลือกฝั่งซา้ ย
had V.3 , would have V.3 (โจทย์จะตดั ฝ่งั ใดฝ่ังหน่ึงทง้ิ เสมอ)

ท่อง If – Clause (If เป็น Conjunction เชื่อมประโยค 2 ประโยคหนา้ หลัง)
1. If S _________, S + _________ .

2. If S _________, S + _________ .
3. If S _________, S + _________ .

ขอ้ สังเกต: ถา้ “if” อยตู่ รงกลางให้เราดูจากขวาไปซ้าย

ตวั อยา่ งข้อสอบ

127. If the accountant makes a mistake, she ________ charge us for her work.

[A] would not [B] do not tra4in8[iCn] will not [D] has not early.
คู่มอื1เต2ร8ยี ม. คTวาhมeพรm้อมกaาnรท�wข้อoสuอบlภdาษhาอaังvกeฤษตbาoมมaาrตdรฐeาdน CtEhFRe tismenetief nhcee_c_o_m__p_l_e_t_io_nhome

[A] will leave [B] had left [C] would leave [D] has left

ตัวอย่างข้อสอบ
127. If the accountant makes a mistake, she ________ charge us for her work.
[A] would not [B] do not [C] will not [D] has not
ำ 128. The man would have boarded the train in time if he ________ home early.
[A] will leave [B] had left [C] would leave [D] has left
129. If I were a prince, I __________ a palace.
[A] would have [B] ‘ll have [C] ‘d have had [D] have
130. If they _________ next to each other on the plane, they wouldn’t have
got married.
[A] hadn’t sat [B] had sat [C] sat [D] didn’t sit
131. If I _________travelling, I’ll send you lots of postcards.
[A] ’ll go [B] went [C] go [D] ’ll
132. If I_______ my homework, my teacher ______ happy.
[A] have finished/ would be [B] finish/will be
[C] had been finished/would have been [D] finished/would have been
133. If I ____a long vacation, I_____ go to Europe.
[A] have/ - [B] had/would
[C] have/will [D] had had/ would have
134. A: Haven’t you got enough money for a holiday?
B : Oh yes. I’ve got some saved up ________- I suddenly need it.
[A] if [B] in case [C] that [D]unless
135. A : What are you going to do next year?
B : I wish I ____________ the answer to that question.
[A] knew [B] know [C] could know [D] would know
136. A : These figures are too complicated to work out in your head.
B : Yes, if ____________ we had a calculator.
[A] better [B] only [C] really [D] that

49คู่มอื เตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

12. Prepositions (ค� บพุ บท) ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำำ ำำำ ำำำ ำ

ค� บพุ บท (Prepositions) หมายถงึ ค� ที่ใช้แสดงความสมั พันธร์ ะหวา่ งค� ในประโยค มกั ใช้
น� หนา้ ค� นาม, สรรพนาม, หรอื Gerund เพอ่ื บอกถงึ เวลา, สถานท,่ี ต� แหนง่ , ทศิ ทาง, การเคลอ่ื นไหว,
ลกั ษณะ, และความสมั พนั ธต์ า่ งๆ ค� บพุ บทอาจมลี กั ษณะเปน็ ค� เดยี ว (Simple preposition), หลาย
ค� มาต่อตดิ กัน (Compound preposition), Participial preposition (ค� บุพบทที่มรี ปู เหมือนกับ
Present participle คอื Verb + ing), หรอื มหี ลายค� มารวมกนั เปน็ กลมุ่ (Phrasal preposition) กไ็ ด้

12.1 ชนดิ ของค� บพุ บท (Types of prepositions) สามารถแบง่ ได้ ดงั นี้
12.1.1 ค� บพุ บทบอกเวลา (Preposition of time) เชน่ at 5 p.m., on Monday, in January,

within 7 days, for 10 years, since 1999 ตัวอยา่ งเชน่
- Kanjana studies English on Monday. กาญจนาเรยี นภาษาอังกฤษวนั จนั ทร์
- I’ll finish my project within 1 month. ฉันจะท� โครงการเสร็จภายใน 1 เดือน

12.1.2 ค� บุพบทบอกสถานที่ ทต่ี ง้ั ทิศทาง ต� แหน่ง และการเคลื่อนไหว (Prepositions
of place/ location/ direction/ position/ movement) เช่น in the room, on the floor, at
the airport, to the cinema, from the bottom of the ocean, between you and me, near
the park, along the street ตวั อย่างเช่น

- I go to Loei Rajabhat University. ฉันไปมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เลย
- They walk along the street. เขาเหล่านน้ั เดนิ ตามถนนไปเรอ่ื ยๆ
12.1.3 ค� บพุ บทบอกลกั ษณะ (Preposition of manner) เช่น by, on, in, with, like,
as, without ตวั อย่างเชน่
- Amada spoke in a low voice. อแมนดาพูดเสียงต�่
- Andrew is the man with dark hair and sunglasses sitting under the big tree.

แอนดรวิ เป็นผชู้ ายทม่ี ผี มสดี � สวมแวน่ กนั แดดนัง่ อยู่ใต้ต้นไม้
12.1.4 ค� บพุ บทแสดงความสมั พนั ธ์ (Preposition of relationship) เชน่ for, from, of,
about, with, in ตัวอย่างเชน่

- Could you please tell us briefly about yourself?
กรุณาบอกพวกเราเกี่ยวกบั ตัวคุณแบบย่อ ๆ

- You can leave the message with a hotel receptionist.
คุณสามารถฝากข้อความไวท้ ่พี นกั งานตอ้ นรบั สว่ นหน้าของโรงแรมไดเ้ ลย

- Pracha is interested in this plan. ปรีชามีความสนใจในแผนงานน้ี
12.1.4 ค� บพุ บททมี่ ากบั กริยาและค� คณุ ศัพท์ (Prepositions attached to verbs and
adjectives) เช่น account for, consist of, derived from, relevant to….

50ค่มู ือเตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

- University students account for the vast majority of our customers. ำ ำำ ำ ำ ำ ำำ ำำ ำ ำ ำำ ำ
นกั ศึกษามหาวิทยาลยั จ� นวนมาก ส่วนใหญ่เปน็ ลูกค้าของพวกเรา

- The story derives from a very common folktale.
เรือ่ งราวมาจากนิทานพืน้ บ้านท่ัวไป

12.2 ขอ้ สงั เกตการวางต� แหน่งของค� บุพบท (Preposition) เพิ่มเติม
12.2.1 Preposition บางค� ยงั สามารถใชว้ างอยหู่ นา้ gerund (V-ing) เชน่ after finishing,

to travelling, without thinking, etc.
12.2.2 ตามปกตแิ ลว้ เราไมใ่ ช้ preposition หนา้ adverb แตบ่ างครงั้ prepositions บางค�

ก็สามารถใชว้ างไว้หน้า adverb ได้ เช่น until tomorrow, through there, at once
12.2.3 เราจะไมใ่ ช้ preposition วางไว้หนา้ that-clause เช่น
We are hoping for a win. = We are hoping (that) we will win.
(พวกเราหวังวา่ จะชนะ)
12.2.4 แตเ่ ราสามารถใช้ preposition วางไว้หนา้ wh-clause ได้ เช่น
I’d better make a shopping list of what we need.
(ฉนั ควรท� รายการซอ้ื ของทีเ่ ราจ� เปน็ จะต้องซอ้ื )

หมายเหตุ : กลุ่มค� ทนี่ � หนา้ ด้วย Preposition ตามทีไ่ ด้กลา่ วมาขา้ งตน้ มชี ือ่ เรยี กว่า Prepositional
phrase หรือ บุพบทวลี ซึง่ มันจะท� หน้าท่เี หมอื นเปน็ สว่ นขยาย (Adverbial) ที่บอกถึง เวลา, สถาน
ท่,ี ต� แหนง่ , ทิศทาง, การเคลื่อนไหว, ลักษณะ, และความสมั พันธต์ ่างๆนน่ั เอง

12.2.5 เราสามารถปรับแตง่ Preposition เพ่อื บอกรายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ ได้ เช่น
in front of me ปรบั แตง่ เพิ่มเป็น right in front of me
over the floor ปรบั แต่งเพม่ิ เป็น all over the floor

12.2.6 บางคร้งั preposition สามารถวางไวท้ า้ ยสุดของประโยคได้ เชน่
Who did you go to the party with? (Wh-question)
ใครกันทค่ี ุณไปงานปาร์ต้ีดว้ ย?

12.2.6 Prepositions บางค� สามารถเปน็ Adverbs ได้ เช่น
- Suchada waited for Piyawan outside the restaurant. (Preposition)
สุชาดารอปยิ ะวรรณอยู่ข้างนอกรา้ นอาหาร
- Piyawan went into the restaurant and Suchada waited outside. (Adverb)
ปยิ ะวรรณเข้าไปในร้านอาหารและสชุ าดารออยูข่ า้ งนอก

12.2.7 Prepositions บางค� สามารถเป็นค� เช่ือมประโยค (Conjunctions) ได้ด้วย
ตวั อย่างเช่น

51คมู่ อื เตรยี มความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ปิยะวรรณเขา้ ไปในร้านอาหารและสุชาดารออยู่ขา้ งนอก

12.2.7 Prepositions บางคาสามารถเปน็ คาเช่ือมประโยค (Conjunctions) ไดด้ ้วย ตัวอยา่ งเชน่

- เเWWรร--าาeeWWเเตตรราาmmee้้ออตตงงmmuu้้ออพพงงssuuรรพพttss้้ออรรttbb้อ้อมมbbeeมมกกeeกก่อ่อrr่่ออrreeนนeeนนaaaaกเเกขddddขาาาyyาyyรรมมมมbbbbาาาeeาถeeขถffขงึ ooอffงึ ooองrreeเงrrขeeเhhาขiehhาsieaasrrrraaiivvrrerariislvv..ea((PCsl.r.oe((npPCjouroesnnipctijtoouionsnn)ict)itoionn) )
ำ -

เทคนคิ การจา: prepositions คาบอกตาแหน่งในภาษาอังกฤษท่ีค่อนข้างยาก (ที่มา: YouTube ครดู วิ )
Over ลอยอยู่เหนือหวั (The birds fly over my house.) นกหลายตัวบนิ อย่เู หนือบา้ นของฉนั
ถา้ อยู่ข้างตวั next to, beside (He sits next to me.) เขาน่ังขา้ งๆฉนั

(I will stay beside you.) ฉนั จะอยู่ข้าง ๆคุณ
ข้างหลังน้ันคือ behind (The man stands behind you.) ผชู้ ายคนนน้ั ยนื ข้างหลังคุณ
ซอ่ นอยู่ขา้ งใต้ under, below (We walks under a bridge.) พวกเราเดนิ อยู่ใตส้ ะพาน

(The temperature is below zero.) อุณหภมู ติ อนน้ีต่ากว่า 0 องศา

เซลเซียส

ตัวอตยัว่าองยขา่ ง้อขส้ออสบอบ
111333789...111TTM[[333AAhhy798]]ee[[...oAAdocpvTMTva]]aieedchhooryrrteeiiuvvssdreeeapcprralaawiidscrrkatheyiiususdsrn__aep_g_l__a_wi___sr__ak_h___ey___usd[[_mo_BBn__u]]_ytg_r[[hbb__BBm_heee__]]_oslo_so_iubb_dmow__s_eeefe_a__lsw..omi_odhw_ueeytnrhmshehooesmuoissfe[[sawCCi.c.]]hkbb.e[[eeCCnhh]]iinnsbbddheeehhiinnisddsick.
[D] [uDn]deurnder
[D] [bDe]lobwelow

[A][bAe]sbideeside [B] [uBn]duernder [C] b[eCh]inbdehind [D] [oDv]erover
140. T1h4e0.chTehmeistchpleamcedistthpelbaocwedl__t_h_e_thbeotwwlo__te_s_t _tutbhees.two test tubes.
[A] a[mA]onagmong [B] b[eBtw] beeentween [C] in[C] in [D] th[Dro]utghrough
141.1T4h1e. dTohcetordsoact_t_o_r__stahte__ex_it_i_nthcaeseehxeithiandctoasleavheeeharalyd. to leave early.
[A][nAe]xntetoxt to [B][tBh]rotuhgrhough [C] out [C] out [D] to [D] to
142.1_4_2_.___t_h_e_s_ymthpehosnyym, npohoonneyin, nthoe oaundeieinncethspeokaeu.dience spoke.
[A][BAy] By [B] [FBo]r For [C] Durin[gC] During [D] Fro[mD] From
143.1Y4o3u. cYaonuseceaanllstehee inaflolrtmhaetioinnf_o_r_m__atthioensc_re_e_n_. _ the screen.
[A] at [B] in [C] inside [D] on
144. The audience clapped _________ the end of the show.
[A] at [B] for [C] in [D] to
145. I’ve lived here __________ last year.
[A] already [B] been [C] for [D] since

52คู่มือเตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

146. The house was burgled _________we were out. [D] while
[A] at [B] during [C] time
ำ ำ ำ ำ ำำ ำ 147. What’s the difference _________ a boat and a ship?
[A] between [B] from [C] under [D] with
148. We’re all bored _________ this game.
[A] about [B] at [C] for [D] with
149. The babysitter will stay there _________ we get home.
[A] by [B] for [C] to [D] until
150. I’m going to be late _________ the meeting.
[A] at [B] for [C] in [D] to
151. The job is similar _________ my old one.
[A] as [B] at [C] to [D] with

13. Conjunctions (ค� สนั ธาน)

ค� สนั ธาน (Conjunctions) หมายถงึ ค� เช่อื มประโยคกบั ประโยค
เทคนคิ การจ� : Conjunction 12 ตวั ในภาษาองั กฤษทค่ี อ่ นขา้ งยาก (ทม่ี า: YouTube ครดู วิ )
Conjunction หมายถงึ ค� เช่ือมประโยคกับประโยค
ตวั เชือ่ มนั้นมรี ้อยแปด
Because, since, as, now that เพราะว่า
After, before กม็ า
If แปลวา่ ถา้
เผ่ือว่า in case
Whether แปลวา่ หรือไม่
โดยมเี งอ่ื นไข คือ provided
ถ้าไม่ นนั่ คือ unless
ทอ่ งให้ ส� เร็จ in case ออกสอบ

53คูม่ อื เตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

เพลงลอยตวั เชอ่ื ม (เรยี นรูค้ � ศัพท์ว่า นอกจากนัน้ / ดงั นน้ั )
ำ ำำำำ ำวันเพ็ญ นอกจากนั้นin addition, furthermore
ถ้ายงั ไม่พอ moreover, additionally, besides
------------------------------------------------------------------------------------
ดงั ดงั นนั้ there, therefore
as a consequence
As a result, consequently
thus, hence thus, hence
thus, hence thus, hence
for this reason, accordingly
และทง้ั หมดนค้ี อื adverbs

ขอ้ สงั เกต : ตวั เชอื่ ม (Conjunctions) เหล่านจ้ี ะตอ้ งมีสอง full stops ถงึ จะเช่ือมได้ แตห่ ากพบวา่
ข้อค� ถามใดมี full stops เดียว ค� เหล่านจ้ี ะอยไู่ มไ่ ดเ้ ลย ให้ตัดทง้ิ ค� เชอื่ มเหล่านี้ออกเพ่ือหาค� ตอบ
ทีถ่ กู ท่ีสดุ
ตัวอย่างขอ้ สอบ
152. ____________ the weather is getting hotter, it is important to stay cool
and hydrated throughout the summer months.
[A] Moreover [B] Because [C] Although [D] Therefore

153. _________ all employees are required to work at the office every day,
the manager allows them to work at home for special circumstances.
[A] Although [B] Despite [C] Furthermore [D] Therefore
154. John has 3 cars. __________, he just bought another house in Florida.
[A] moreover [B] therefore [C] hence [D] as a result
155. _________John is the only one who knows the way to the conference,
he should drive the car.
[A] Unless [B] Since [C] Whether [D] In case
156. Customers are advised to call our service department_________they
want to know the order number.
[A] in case [B] because [C] before [D] unless

54คู่มือเตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

157. Employees should inform the Personnel Department _________they
ำ ำ ำ ำ ำำ ำ feel they are discriminated against.
[A] provided [B] if [C] now that [D] therefore
158. _________we have received the confirmation email, the department
can process the order.
[A] Unless [B] Now that [C] If [D] However
159. Managers answered the question______the company would give a
bonus this year.
[A] whether [B] until [C] before [D] nor
160. They put video cameras in shops _________ stop people stealing things.
[A] and [B] in case [C] but [D] in order to
161. No one was watching the television__________ I switched it off.
[A] so [B] since [C] and [D] before
162. You can’t drive a car __________ you’ve got a licence.
[A] unless [B] if [C] and [D] when
163. Our room was very small, __________ we didn’t really mind.
[A] since [B] but [C] after [D] because
164. ____ having absolutely no talent, Guy became a popular TV personality
and chat show host.
[A] in order to [B] since [C] in spite of [D] after

14. Participles (กรยิ าไม่แท)้

กรยิ าไมแ่ ท้ (Participles) หมายถงึ กริยาไมแ่ ทช้ นดิ หนงึ่ ที่มีหน้าตาเหมือนกบั ค� กริยา คือ
กรยิ าช่องท่ี 1 เตมิ -ing และกรยิ าชอ่ งท่ี 3 แตไ่ มไ่ ดท้ � หนา้ ทเี่ ปน็ กรยิ าในประโยค กลบั ถูกน� มาใชเ้ ป็น
Adjective เพื่อขยายค� นาม Participle สามารถแบ่งออกเปน็ 3 ประเภท ดังนี้

Participle คอื ค� ทีใ่ ช้เปน็ ได้ท้งั Verb และ Adjective ซง่ึ กค็ ือ Verb รปู -ing และ V.3
Participle แบง่ ไดเ้ ปน็ 3 ประเภท คอื Present participle, Past participle และ Perfect participle
โดยมรี ายละเอียดดงั น้ี

14.1 Present participle
Present participle คอื กริยา (Verb) รูป -ing ซงึ่ Verb ทอี่ ยู่ในรูปนีจ้ ะท� หนา้ ท่ี

เปน็ Adjective ด้วย ตัวอย่างประโยคเชน่

55ค่มู ือเตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

I am looking at the flying birds. ำ ำำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ
ฉันก� ลงั มองดูฝงู นกท่ีบินอยู่
(ทง้ั looking และ flying เป็น present participle แต่ looking ท� หนา้ ที่เปน็ Verb
ส่วน flying ท� หน้าทเี่ ป็น Adjective)
อย่างไรก็ตาม Verb รูป -ing สามารถท� หน้าที่เป็น noun ได้ด้วย เช่นในประโยค Eating is my
happiness. การกินคือความสุขของฉนั แตก่ ารใช้ Verb -ing เปน็ noun จะไม่นับวา่ เปน็ participle
แตจ่ ะถอื ว่าเปน็ gerund แทน
14.2 Past participle คอื กรยิ า (Verb) ชอ่ ง 3 ซง่ึ verb รปู นจ้ี ะท� หนา้ ทเี่ ปน็ adjective
ได้ด้วย ตวั อยา่ งประโยคเชน่
David is interested in robotics.
เดวดิ สนใจในหุน่ ยนต์
(ค� ว่า interested เป็น Past participle ท� หนา้ ทเ่ี ป็น Adjective)
14.3 Perfect participle คอื วลี “having + verb ช่อง 3” ตวั อยา่ งประโยคเชน่
Having heard the news, Jenny immediately called her friend and asked
him about it. เมอ่ื ได้ยนิ ขา่ ว เจนนี่กโ็ ทรหาเพ่อื นและถามเขาเกีย่ วกับเรือ่ งนั้นทนั ที
ถา้ สงั เกตดๆี เราจะเหน็ ไดว้ า่ perfect participle กค็ อื การใช้ present participle (verb -ing) รว่ มกนั
กับ past participle (verb ช่อง 3)
ขอ้ สงั เกต : ถา้ เปน็ ค� ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ความรสู้ กึ เชน่ ค� เหลา่ นี้ การใชร้ ปู -ing จะสอื่ ถงึ คณุ ลกั ษณะ ในขณะท่ี
การใช้รูปชอ่ ง 3 จะสอ่ื ถึงความรูส้ กึ เชน่
รูป -ing (present participle) ส่ือถงึ คุณลกั ษณะ--- Interesting – นา่ สนใจ
Boring – น่าเบ่อื Exciting – น่าต่นื เต้น
รปู ชอ่ ง 3 (past participle) สือ่ ถึงความรสู้ กึ ---Interested – รูส้ กึ สนใจ
Bored – รูส้ ึกเบอื่ Excited – รูส้ กึ ตืน่ เต้น
ตัวอยา่ งประโยคเชน่
- That book is interesting.

หนงั สือเล่มนัน้ นา่ สนใจ
- I am interested in that book.

ฉันรสู้ กึ สนใจหนังสือเล่มนนั้

56คู่มือเตรียมความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

เทคนคิ การจ� : Participles ในภาษาองั กฤษท่คี อ่ นขา้ งยาก (ที่มา: YouTube ครดู วิ )
Participle หมายถงึ Adjective ทส่ี รา้ งมาจาก Verbs ซึ่งมีอยู่ 2 รูป คอื

-ing = walking, running, eating, exercising
-ed (V.3)= saved, written, eaten, exercised
Participle = Adjectives มีต� แหนง่ ดงั น้ี
1.หนา้ ค� นาม
2.หลงั V.to be
3.หลงั Linking Verbs
Participles
1.วเิ คราะหโ์ จทย์ วา่ โจทย์ตอ้ งการอะไร
2. Adjective หายไป เพราะมนั อยู่หนา้ ค� นาม หรือหลัง V.to be
3. ดตู วั เลอื กว่ามแี ต่ Verbs ทั้งนั้น
4. (-ing = ท� เอง) และ (-ed = ถกู ท� )
ข้อสังเกต : หากครบ 3 กระบวนการ ให้รไู้ ว้ว่าเปน็ เรือ่ ง Participles แน่นอน
ำ ำำ ำ ำ ำ ำ
ตวั อย่างขอ้ สอบ
165. The ____________ window will sent to the repair shop next week before
we leave for Sydney.
[A] break [B] broke [C] broken [D] breaking
166. The lady in black searched for the _________ suitcase as soon as he
arrived at the airport.
[A] lose [B] lost [C] losing [D] loses
167. John Heggins will be ____as a new director who will lead the marketing team.
[A] appointment [B] appointed
[C] appointing [D] appoints
168. The _________company will be responsible for any damages during the
shipment.
[A] shipped [B] shipping [C] shipment [D] shipper
169. He was ___________when he arrived late for class.
[A] embarrasses [B] embarrassing
[C] embarrassment [D] embarrassed

57คู่มอื เตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

170. There is a new movie playing at the theater. Are you __________?
ำ ำำำ ำ ำ ำ ำ [A] interests[B] interested [C] interesting [D] interest
171. The sad news made me __________.
[A] depresses [B] depressed [C] depressing [D] depression

15. Modal Verb (กรยิ าช่วย)
กริยาชว่ ย (Modals) สามารถเรยี กได้หลายแบบไดแ้ ก่ Modal Verbs, Modal Auxiliary
Verbs, Modal Auxiliaries หมายถงึ กลมุ่ ของกริยาชว่ ยท่ีท� หน้าทแ่ี ตกตา่ งจากกริยาทว่ั ไป กล่มุ ของ
กรยิ าช่วยที่ควรรจู้ กั คือ shall, should, will, would, can, could, may, might และ must ซ่งึ
กรยิ าช่วย (Modal Verbs) กลมุ่ น้จี ะมคี วามพเิ ศษตรงทีม่ ันมคี วามหมายในตวั มนั เอง เพราะโดยปกติ
แล้วกรยิ าชว่ ยจะมีหนา้ ทเ่ี พียงท� ให้ประโยคนนั้ สมบูรณ์ด้านไวยากรณแ์ ตจ่ ะไมม่ คี วามหมาย หลกั การ
ใช้ Modal Verb หรอื กริยาชว่ ย มดี งั นี้: หลัง Modal verb ทุกตวั ต้องตาม Verb infinitive ซง่ึ ก็คอื
กรยิ า (Verb) ทเ่ี ปน็ รปู ธรรมดา ไมผ่ นั ไมเ่ ตมิ (ไมเ่ ตมิ –ing, -ed, ไมเ่ ตมิ to, หรอื ไมเ่ ตมิ s/es) กลา่ วคอื
ไมเ่ ปลย่ี นรูป เชน่
- Maetee can drive a car. เมธสี ามารถขบั รถยนตไ์ ด้ (หลงั can กรยิ าจะไมเ่ ปลย่ี นรปู )
- Jack should stop playing computer game. แจค๊ ควรหยดุ เลน่ เกมคอมพวิ เตอร์
ค� กรยิ าชว่ ย can, could, may, might, must, mustn’t, should, ought to, shall และ
will ค� กรยิ าช่วยเหล่าน้ีมีคณุ ลักษณะอ่นื ๆ เชน่ ไมม่ รี ูปแบบ Past tense และในรปู แบบ negative
หรอื ปฏิเสธนั้นสามารถท� ได้ด้วยการใส่ “not” เทา่ นั้น และในรปู แบบประโยคค� ถามสามารถท� ได้
ด้วยการใช้ข้นึ ตน้ ประโยค
15.1 โครงสรา้ งประโยคของกรยิ าชว่ ย (Modal verbs)
15.1.1 ประโยคบอกเล่าของกรยิ าช่วย (Modal verbs) กริยาช่วย + กริยาแท้
โครงสร้างในประโยค: S + Modal Verb + V. Infinitive
ตวั อยา่ งเชน่
Oliver can help you. โอลเิ วอรส์ ามารถชว่ ยคุณ
She should go to see the doctor. เธอควรไปพบแพทย์
15.1.2โครงสรา้ งประโยคปฏเิ สธของกรยิ าชว่ ย(Modalverbs)กรยิ าชว่ ย+not+กรยิ าแท้
โครงสรา้ งในประโยค: S + Modal verb + not + V.Infinitive
ตวั อย่างเช่น
Oliver cannot help you. โอลิเวอรไ์ มส่ ามารถชว่ ยคณุ
She should not go to see the doctor. เธอไม่ควรไปพบแพทย์

58คู่มอื เตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

15.1.3 โครงสร้างประโยคค� ถามของกริยาชว่ ย (Modal verbs) ำ ำ ำ ำำ ำำำ ำ ำ ำ ำำำ ำำำ ำำำ ำำ ำำ ำ
กรยิ าช่วย + ประธาน + กรยิ าแท้
โครงสร้างในประโยค: Modal verb + S + V. Infinitive
ตวั อย่างเช่น
Can Oliver help you? โอลิเวอร์สามารถช่วยคณุ ไดไ้ หม?
Should she go to see the doctor? เธอควรไปพบแพทยไ์ หม?
หมายเหตุ : นอกจาก Modal verbs ทีก่ ลา่ วมาขา้ งตน้ แล้ว ยงั มี Modal verbs ตวั อนื่ ๆ เช่น
- ought to + have + V.3 แสดงสง่ิ ท่ีควรท� ในอดีต แต่ไมไ่ ด้ท�
- would rather + have + V.3 อยากท� แตค่ วามจรงิ ไมไ่ ดก้ ระท� (อดตี )
- needn’t + have + V.3 แสดงสง่ิ ที่ท� ไปแล้วท้งั ที่ไม่จ� เปน็ ตอ้ งท� (อดตี )
- didn’t have to = didn’t need to ไมจ่ � เปน็ ตอ้ งกระท� และกไ็ มไ่ ดก้ ระท� (ในอดตี )
- needn’t have done ไม่จ� เปน็ ตอ้ งกระท� แต่ก็ท� ไปแลว้ (ในอดตี )
15.2 หนา้ ทขี่ องกริยาช่วย (Modal verbs) ที่พบบอ่ ยมดี ังนี้
15.2.1 กรยิ าชว่ ยทแี่ สดงความหมายวา่ เปน็ ไปได้ เราใชค้ � กรยิ า can, must, may เพอื่
คาดคะเนความเปน็ ไปได้ของสิ่งท่ีเกดิ ขึ้น เช่น
- Learning English can be difficult to someone.
การเรียนภาษาองั กฤษอาจเป็นเร่ืองยากส� หรบั บางคน
15.2.2 กรยิ าชว่ ยทแี่ สดงความสามารถทกั ษะ เราใชค้ � กรยิ า can and could เพอื่ พดู ถงึ
ความสามารถ can ใชเ้ มื่อพูดถงึ ความเปน็ ไปไดใ้ นปจั จุบนั และ could สามารถใช้
เมอ่ื พดู ถึงความเปน็ ไปได้ในอดตี เช่น
- Surachai can speak Chinese. สุรชัยสามารถพูดภาษาจีนได้
- Danial could speak Italian when he was 10 years old.
เดนลี สามารถพูดภาษาอิตาเลียนได้เม่อื เขาอายไุ ด้ 10 ขวบ
15.2.3 กรยิ าชว่ ยทแี่ สดงภาระหนา้ ทค่ี � แนะน� เราใชค้ � กรยิ า must, should, ought to
เพื่อแสดงความคดิ ว่าสงิ่ ทค่ี วรท� หรือควรท� เชน่
- University students must study hard. นกั ศึกษามหาวิทยาลัยจะตอ้ งเรียนหนัก
- You should visit your parents often. คุณควรไปเยีย่ มพ่อแมบ่ ่อยๆ
15.2.4 กริยาชว่ ยทแี่ สดงการอนุญาตและขออนญุ าต เราใชค้ � กริยาอาจจะสามารถ
แสดงการอนุญาตให้ท� บางอยา่ ง เช่น
- You may not use your cellphone in theater.
หา้ มคยุ โทรศพั ท์ในโรงภาพยนตร์

59ค่มู อื เตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ - Could I leave class early today?
วันนฉ้ี นั ขออนุญาตออกจากหอ้ งเรียนก่อนเวลาได้ไหม?

15.2.5 กรยิ าชว่ ยทแ่ี สดงความหมายวา่ ค� ขอค� เชญิ ทสี่ ภุ าพ เราใชค้ � กรยิ า can, could,
should, would ในการร้องขอหรือค� เชญิ ที่สภุ าพ เช่น

- Could you help me with my Math homework?
คณุ ชว่ ยฉนั เรื่องการบ้านคณิตศาสตร์ได้ไหม?

- Would you like some more rice? คุณตอ้ งการขา้ วเพม่ิ ไหม?
15.2.6 กรยิ าชว่ ยทแี่ สดงความหมายวา่ สญั ญา เราใชค้ � กรยิ าแสดงความตง้ั ใจ หรอื สญั ญา

วา่ จะท� บางส่ิง เช่น
- I will be with you right away. ฉันจะไปหาคณุ ทนั ที
15.2.7 กรยิ าชว่ ยทแ่ี สดงนสิ ัย เราใชค้ � กรยิ า will และจะพูดถึงนสิ ัยในปัจจุบนั (will)

หรอื อดีต (would) เช่น
- When I was a child, I would play outside all day.

เม่อื ตอนเดก็ ๆ ฉนั จะเล่นข้างนอกท้งั วัน
- He will always be late! เขาจะมาสายเสมอ!

เทคนิคการจ� : Helping Verbs ในภาษาอังกฤษทีค่ อ่ นข้างยาก (ที่มา: YouTube ครดู วิ )
กลอน Verb ช่วย
Do + one Do + V.1
Have + done Have + V.3
Be + ing Be + V.ing
Do = do, does, did + V.1
Have = have, has, had + V.3
Be = is, am, are, was, were, been + V.ing

ตวั อยา่ งข้อสอบ
172. The province has permitted the construction of a new underground
railway for people who are __________ to the downtown area.
[A] commute [B] commuting [C] commutes [D] commuted
173. All members have __________ to the club president about the mem-
bership after receiving their respective registration number.
[A] reporter [B] reports [C] reported [D] reporting

60คมู่ อื เตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

174. Does your company ________________ people interested in marketing
ำ pharmaceutical products?
[A] employ [B] employing [C] employe [D]employment
175. There are plenty of tomatoes in the fridge. You _______ buy any.
[A] mustn’t [B] need not [C] may not [D] should not
176. He had been working for more than 11 hours. He ________be tired
after such hard work.
[A] must [B] need [C] had better [D] mustn’t
177. _________ you like to go for a ride with us?
[A] Do [B] Should [C] Will [D] Would
178.A: _________ I show you the way?
B: Oh, thank you.
[A] Do [B] Shall [C] Will [D] Would
179. I’m quite happy to walk. You ________ drive me home.
[A] don’t [B] haven’t [C] mustn’t [D] needn’t
180. We all tried to push the van, but it ________. move.
[A] can’t [B] couldn’t [C] won’t [D] wouldn’t
181. May I sit down?
[A] asking for advice [B] asking permission
[C] making a suggestion [D] refusing permission
182. You must report to me every day.
[A] asking for advice [B] making a suggestion
[C] giving an order [D] refusing permission
183. I’m sorry. You can’t park here.
[A] making a suggestion [B] giving an order
[C] asking permission [D] refusing permission
184. What jobs should I apply for?
[A] asking for advice [B] giving an order
[C] making a suggestion [D] refusing permission
185. Would you like to spend the day with us?
[A] asking for advice [B] giving an order
[C] making a suggestion [D] inviting

61ค่มู ือเตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

186. We really should have a nice big party.
ำ ำ ำำำ ำ ำำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ [A] Inviting[B] giving an order
[C] suggestion [D] expressing a wish

16. Active and Passive voice (ประธานเป็นผกู้ ระท� และถกู กระท� )
Active voice หมายถงึ อาการกรยิ าของประโยคตามปกตแิ บบทเี่ ราคนุ้ เคย มปี ระธานของ
ประโยคเป็นผู้ท� อะไรบางอยา่ ง สว่ น Passive voice คอื อาการกริยาของประโยคท่ีประธานเปน็ ผ้ถู กู
กระท� หลกั การคือ passive voice จะเปล่ียนเอากรรมของประโยคปกติ มาเป็นประธานแลว้ เปล่ียน
รูปกรยิ าเพอ่ื บอกวา่ ประธานเปน็ ผถู้ ูกกระท� โครงสรา้ งของเช่น
Jane writes a letter. (Active sentence มี Active voice คือ writes)
เจนเขียนจดหมาย
A letter is written (by her). (Passive sentence มี Passive voice คือ is written)
จดหมายถูกเขยี น (โดยเจน)
โครงสรา้ งของ Passive voice คอื Verb to be + Past participle (V.3) แตห่ ลักการเปลีย่ น
ประโยค active ไปเปน็ Passive ยงั ตอ้ งพจิ ารณาเงอ่ื นไขตา่ งๆ และตอ้ งค� นงึ ถงึ Tense ของประโยคดว้ ย
การใช้ Passive voice มกั จะใชเ้ พอ่ื หลกี เลยี่ งการใชป้ ระโยคทม่ี ลี กั ษณะซ�้ ๆ เพอ่ื ใหป้ ระโยคสละสลวย
ไมน่ า่ เบอื่ หรอื เมอื่ ตอ้ งการเนน้ ความส� คญั ไปทกี่ ารกระท� และผถู้ กู กระท� มากกวา่ ผลู้ งมอื ท� บางครง้ั
ที่เราจะเห็นการใช้ Passive voice โดยไม่มกี ารกลา่ วถึงว่าใครเป็นคนท� แต่เราจะรไู้ ดจ้ ากเน้อื หาของ
เร่ือง หรือจากเนื้อหาของประโยคเอง อย่างไรก็ตามเรายงั สามารถใช้ passive voice เมื่อไม่รวู้ า่ ใคร
เป็นคนท� หรอื ไมจ่ � เป็นต้องรูว้ ่าใครเปน็ คนท� เช่น
- Do not park here. Your car will be towed.
ห้ามจอดรถตรงน้ี ไมอ่ ยา่ งน้นั รถของคุณจะถูกยกไป (ไมจ่ � เป็นตอ้ งรู้ว่าใครจะยกรถของคุณไป
แต่ถา้ คุณจอดรถตรงบรเิ วณทม่ี ปี า้ ยรถคุณจะถกู ยกทนั ท)ี

62ค่มู อื เตรยี มความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

เทคนคิ การจา: Active และ Passive Voice ในภาษาองั กฤษท่ีคอ่ นขา้ งยาก (ท่มี า: YouTube ครูดวิ )
Active และ Passive Voice
Active ทาเอง (ประธานทาเอง) โครงสร้าง คือ S + v + O
Passive ถูกทา (ประธานถกู ทา) โครงสรา้ ง คอื V. to be + V.3

กลอน Passive

Passive แปลว่า ถูกทา V.to be ประกอบด้วย is, am, are, was, were, be, been + V.3

Be + V.3 My cellphone was bought (by me) last week.

By ตามเสมอ (โทรศัพท์มือถอื ของฉันถกู ซื้อเมื่ออาทติ ย์ทแ่ี ลว้ )

My cellphone will be sold (by me) tomorrow.

(โทรศพั ท์มือถือของฉันจะถกู ขายพรุ่งน้ี)

ขอ้ สงั เกต: (by ……..) อาจจะมหี รอื ไมม่ กี ็ได้

ตวั อย่างขอ้ สอบ MGM
ตัวอ1ย8า่ ง7ข[.A้อT]สhbอeบuiltdower ____________ by in 1998.
[B] built [C] was building [D] was built
ำำำ 187.1T8h8e. tRoewbeerc_c_a________________b_ybyMhGMeribno1s9s98b.ecause she sold the most cars this year.
[A][Ab]uipldromote [B] built [C] was bui[lBd]inwg ill pro[mD]owteas built
[C] will be promoted [D] promoted
18 8.1R8e9b.eTcchae__N_e_w___Y_o_rbkyThiemr ebo_ss__b_ec_a_u_s_e_s_heaspolrdesthtiegimouostpcarpsethr.is year.
[A] it is considered [B] is considered
[C] which is [D] which is considered
190. In spite of popular support, the radio program______off the air very soon.
[A] had been taken [B] will be taken [C] takes [D] were taken
191. All of the sandwiches _________.
[A] a. were eaten [B] are eating [C] were eating [D] have eaten

613คู่มือเตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

17. There is and There are (การใชค้ � ทม่ี ีความหมายว่า “ม”ี ) ำำำ ำ ำ ำ ำ ำ

การใชค้ � ที่มคี วามหมายว่า “ม”ี ในภาษาองั กฤษ There is และ There are มขี นั้ ตอนการใช้
ดงั น้ี

17.1 ในประโยคบอกเล่า ถ้าพูดถึงเอกพจน์ (Singular) หรือส่ิงท่ีนับไม่ได้ (Uncountable
noun) จะใช้ There is เช่น

- There is a spider on the table. มีแมงมมุ (ตัวเดียว) บนโต๊ะ
- There is water in the glass. มนี ้� (นับไมไ่ ด้เพราะเปน็ ของเหลว) ในแกว้
17.2 ถ้าพูดถึงพหูพจน์ (Plural) หรือสงิ่ ทมี่ ีมากกว่า 1 จะใช้ There are เช่น
- There are three children in the park. มีเด็ก 3 คนในสวนสาธารณะ
- There are many students in the class. มีนกั เรยี นหลายคนในห้อง
ข้อสังเกต: การแปลโดยใช้ค� วา่ “ม”ี เพื่อใหเ้ ขา้ ใจหลกั การใช้เวลาแปลเปน็ ภาษาไทย ประโยคนี้ไมม่ ี
has/have มแี ต่ is/are แสดงความเป็นสถานะในการ ”มี”
17.3 หลักการใชป้ ระโยคบอกเล่า โดยใช้แบบตัวย่อจะพบบ่อยในเชงิ การสนทนา ดังน้ี
- There’s a good song on the radio. (รูปยอ่ ของ There is)
- There’re nine cats on the roof.

(รูปยอ่ ของ There are–ใช้ในการพูดเทา่ นั้น! ไม่นยิ มใช้ในการเขยี น)
17.4 หลกั การใชห้ ลกั การใช้ There is กบั There are ในประโยคปฏเิ สธ งา่ ยๆ แคใ่ ส่ not หลงั
is/ am เชน่

- There is not a rabbit in the store.
- There isn’t a rabbit in the store. (ย่อ is not)
- There are not rabbits in the store.
- There aren’t rabbits in the store. (ยอ่ are not)
17.5 หลกั การใช้ There is/ There are กบั any เห็น any กร็ ูล้ ะว่าพูดถึงประโยคปฏเิ สธ any
ใช้ควบคู่กับ There is/There are เม่ือจะบอกว่าไมม่ ีสง่ิ ๆนน้ั เลย เช่น
- There aren’t any trees in my street.
- There isn’t any water in the swimming pool.
17.6 หลกั การใช้หลกั การใช้ There is กบั There are ในประโยคค� ถาม เหมือนหลกั การของ
Tense ทว่ั ไป เอา is/are มาหนา้ สดุ เลย – แลว้ ตามด้วย there เชน่
- Is there a dog in the supermarket? – No, there isn’t.
- Are there any dogs in the park? – Yes, there are. (Any ใชก้ บั ปฏเิ สธ+พหพู จน)์
- Is there a security guard in the shop? – Yes, there is.
- Are there any polar bears in Antarctica? – No, there aren’t.

614คูม่ อื เตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

(Any ใช้กบั ปฏเิ สธ+พหูพจน์)
ำ ำ ำำ ำำำ ำำ ำำ ำ ำำ - Is there any ice-cream in the freezer? – Yes, there is. (Any ใชก้ บั ปฏเิ สธ+นาม
นับไมไ่ ด้)
17.7 หลักการใชป้ ระโยคค� ถาม How many กบั Are there อยากรู้จ� นวนของ ให้ขน้ึ ต้นดว้ ย
How many ต่อด้วยส่ิงที่เราอยากรู้จ� นวน + is/am + there ไปเลย! เช่น
- How many dogs are there in the park?
- How many students are there in your class?
ตวั อย่างขอ้ สอบ
192. ___________ many people standing outside the movie theater.
[A] There is [B] There are [C] There [D] Are there
193. Sorry, Dad. ___________ nothing left.
[A] There are [B] There is [C] There isn’t [D] There aren’t
194. Help yourself. __________ coffee, tea and juice to drink.
[A] There are [B] There is [C] There isn’t [D] There aren’t
195. A : Is there anything I can do to help?
B : Yes, _______ .
[A] there are [B] there is [C] Is there [D] there is not
196. _______ any English exams that we have to study for next week.
[A] There no [B] There isn’t [C] There aren’t [D] There are

18. Phrasal Verbs

Phrasal Verbs คือ กริยารูปแบบหนึ่ง ท่ีประกอบด้วยค� กริยาหลัก ท่ีมีค� อ่ืนๆ อย่าง
ค� บพุ บท (Preposition) หรือ ค� กริยาวิเศษณ์ (Adverb) หรือ ทง้ั สอง ตามหลงั เปน็ Multi word
verbs (Two-word phrasal verbs หรอื Three-word phrasal verbs) ซ่งึ เมือ่ รวมกนั แลว้ อาจมี
ความหมายเปลยี่ นไปจากเดมิ ได้ (Preposition บางค� เม่อื ใช้ตามหลงั Verb บางค� จะท� หนา้ ที่เปน็
Adverb หรืออาจเรียกตามหน้าทข่ี องมันวา่ “Adverbial particle” หรอื “Particle”
เรามักใชค้ � กรยิ า (Verbs) กับค� ต่างๆ เหลา่ น้ี in, out, on, off, up, down, away, back, by,
through, about, along, over, forward, round/around อยา่ งเช่น look out, get on, take off,
run away, etc. ค� ท่ีเปน็ Multi word verbs เหลา่ นค้ี ือ Phrasal verbs (กรยิ าวลี)

18.1 หลกั การใช้ Phrasal verbs เรามกั ใช้ in, out, on, off, up, down, etc. ดงั กลา่ ว
ข้างต้น กบั กรยิ าท่เี ปน็ การเคลื่อนไหว หรอื Verbs of movement อย่างเช่น

65คมู่ ือเตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

เรามักใช้ in, out, on, off, up, down, etc. ดงั กลา่ วข้างต้น กบั กริยาทเี่ ป็นการเคลื่อนไหว หรือ Verbs

of movement อยา่ งเชน่

Where did you get on this bus? Please drive off after your child has left the

คุณขึ้นรถบสั คันนจ้ี ากท่ีไหน? car.

โปรดขบั รถออกไปหลังจากท่ีลูกของคุณออกจากรถ

แลว้

I’ll go out and buy cookies. You must come back before nine o’clock.
ฉนั จะออกไปซื้อคุกกี้ คุณต้องกลับมาก่อนเก้าโมง

ำ ำ ำ ำ ำ ำ หเมหVม่ือeมาrาbยVยeเเรหหrวbตตมุุกร::บัวปปมรรPกะะreบัโโยยpคPคoขrsขe้าit้างpiงoบoบnนsนiแมtลมiีoV้วี nVคeeวrแbาrbลม+้วห+คมPวrPาeายrpeมขopอหsงoมiมtsาiนัoiยtยniขoังอทไnมงี่ถทเ่มือปี่ถันวล่าือยยี่ เวังปนา่ไน็ไมเปป่เPหปน็rรeลอื Ppยี่ เroปนesลไpitป่ยี oioนหsnไรiปtaอื iไloเมvปn่มeลaาrl่ยีกbvนนไeักไดปr้ดbโไดว้ มยไยดม่เพด้ารกว้ านยะเกัเพมื่โอรดายะ
PPrereppoossiittiioonn จจะะชช่ว่วยยขขยยาายยคควาวมาใมหใ้หV้eVrebrb
รTถhคisันcนaรTTีก้ rถohาiคiiลslsนังั gaจcนonaะiี้กdnพr�gังiลwstงัogoจorbะriynพregงัcaaktoudsobewrdenah.kisdhoewanlt.h to break down.
คToวาilมaเหnคเHขdนวeาอื่าwเยbมลoลrเกิ หorา้ กrแkyนบั ลeอ่ืcแะaยuคฟuลpวนs้าาeเแwมมdลกiื่อtงัhะhววiคsาลhวนทhาiนseามใaี้ gหกlitงัส้rhlวุขfลrภtioทeาพn�bใขdrหeอayส้งkเeขุ ขsภdาtoเาeสพwrือ่ dขnมa.อโyทง.เรขมาเสื่อมโทรม

He is quite selfish, and a little bit vain. He isn’t easy to get on with.
เขาค่อนขา้ งเหน็ แกต่ ัวและหยง่ิ ไมง่ ่ายทีจ่ ะผกู มติ รด้วย
How was the exam? How did you get on?
การสอบเป็นอยา่ งไรบ้าง คุณตอบไดย้ งั ไง
บางครงั้ Phrasal verb ยังตามด้วย Preposition อีกหน่งึ ค� เป็น Three-word phrasal verb เช่น
Why did you run away from a problem?
ท� ไมคุณเล่ยี งการเผชญิ กบั ปัญหา (หรอื หนีปัญหา)
Don’t walk so fast! I can’t keep up with you.
อยา่ เดนิ เร็วนักฉนั ตามเธอไม่ทัน
He look up at the ceiling.
เขาเงยหนา้ ข้นึ มองเพดาน
จากตวั อยา่ งทผี่ า่ นมาจะเหน็ วา่ เราอาจใช้ Phrasal verb โดยมกี รรม (Object) มารองรบั หรอื ไมม่ กี ไ็ ด้
18.1 Phrasal verbs แบบ Separable verbs คอื กรยิ าวลที ส่ี ามารถแยก Verb กบั Preposition
/Adverb ได้ มักจะต้องมี Object มารองรับโดยสามารถวางอยู่ในประโยคไดส้ องต� แหนง่ ในแบบใด
แบบหนงึ่ ตอ่ ไปนี้

66ค่มู ือเตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

Don’t throw away this box. หรือ Don’t throw this box away.
ำ แตถ่ า้ Object เปน็ ค� สรรพนาม (Pronoun) อยา่ งเชน่ him, her, us, them, etc. จะตอ้ งวางอยหู่ นา้
Preposition/Adverb เสมอ .
18.2 Phrasal verbs แบบ Inseparable verbs คอื กริยาวลีที่ไม่สามารถแยก Verb กบั
Preposition/Adverb ออกจากกนั ได้ ดังนนั้ ถา้ มี Object มารองรับจะตอ้ งวางไวห้ ลงั กริยาวลีเสมอ
อย่างเช่น call on, check in, check out, check out of, drop by, drop out, get along with,
look after, run into, etc. ตัวอย่างประโยคเชน่
What time did she check out of the hotel?
เธอเช็คเอา้ ทอ์ อกโรงแรมกโี่ มง
What’s all that noise? What’s goin5g8 on?
เสยี งท้ังเWหสียhมงaทtด’ง้ั sหนaมl้นัดl นtคh้นั aคอื tืออnอoะะiไsรไe?ร?เ?Wกดิ hเอaกะt’ไิดรsขอgึ้นoะ?inไgรoขn?ึน้ ?
This mTahgisamzaignazeinehheellpps smemtoeketeop ukpeweithpwuhapt’swhaiptphenwinghinatth’eswhoraldp. pening in the world.
นิตยสารนตินย้ชีสาว่รนยีช้ ใ่วหยใหฉ้ ฉ้ นั นั ตตาามทมันทส่ิงนัที่เสกิด่งิ ขทนึ้ ใ่ีเนกโลดิ กใขบึน้น้ี ในโลกใบนี้

เทคนคิ การจา: Phrasal Verbs ในภาษาอังกฤษท่ีออกสอบบ่อย (ท่ีมา: YouTube ครดู ิว)

Phrasal Verbs เปน็ กริยาที่แปลไม่ตรงตวั ต้องจา คาทอ่ี อกสอบบ่อย

Turn + preposition = Phrasal Verbs

1. เปดิ ไฟ turn on (It’s so dark in this room. Can you turn on the light?)

ห้องนีม้ ดื มากเลย คณุ เปดิ ไฟใหไ้ ด้ไหม

2. ปดิ ไฟ turn off (Please turn off the light before you leave the classroom.)

กรุณาปดิ ไฟก่อนออกจากห้องเรยี น

3. เพม่ิ เสยี ง turn up (I can’t hear the song. Could you turn up the volume?)

ฉนั ไมไ่ ดย้ นิ เสียงเพลงเลย คณุ เพม่ิ เสียงได้ไหม

4. ลดเสยี ง turn down (It’s too loud. Please turn it down.)

เสยี งมนั ดังเกนิ ไป กรรุ าลดเสียงลงหนอ่ ย

5. สง่ งาน turn in (Students must turn in the homework before Friday.)

นกั เรยี นจะตอ้ งส่งการบา้ นกอ่ นวนั ศกุ ร์

Take + preposition = Phrasal Verbs

1. สัง่ อาหารกลบั บา้ น take away (If you’re hungry, there’s a takeaway just around the corner.)

2. เครือ่ งบนิ ออก take off (Flight A254 will take off at 6:00)

3. ซื้อกจิ การ take over (SP Corporations will take over a small frm in Taiwan.)

4. เกิดขึ้น take place (It will take place in a minute.)

5. กลับคืนมา take back (Please take back my bike.)

Look + preposition = Phrasal Verbs

1. จอ้ งมอง look at (The guy is looking at you.)

2. ดูแล look after (I must look after my parents.)

3. เฝา้ รอ look forward to (She looks forward to hearing from John.)

4. ตรวจสอบ look into (I will look into the matter immediately.)

5. เคารพ look up (I like Prof. John so much and I really look up to him.)

5. ดูถูก look down on (She always looks down on him.)

กลอน เรื่อง Phrasal verbs ครดู วิ

Put on แปลว่า สวมใส่

แตถ่ า้ ดบั ไฟ น่ันคอื put out

put through ตอ่ สายให้เขา

ถ้า put me down ทาให้เราท้อแท้

67คู่มอื เตรยี มความพรอ้ มการท�ำข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ตวั อยา่ งข้อสอบ
197. You must turn ________ the light before you leave.
[A] on [B] off [C] out [D] of
ำ 198. Please take _______ your shoes.
[A] away [B] off [C] in [D] of
199. You can depend _______ me.
[A] at [B] in [C] on [D] of
200. Sam is a strong man. He will not ________ easily.
[A] give out [B] give up [C] give away [D] off
201. The employees always count ________ their supervisor for
guidance.
[A] in [B] on [C] away [D] off
202. The Tech Conference this year will be called _______
because of COVID-19.
[A] in [B] at [C] on [D] off
204. She made up her mind to buy a new car. The underlined
words mean______
[A] decided [B] making mind
[C] determined [D] changed mind
205. I’m bored! Let’s _____________ with our friends this weekend.
[A] get out [B] get away [C] get off [D]gettogether
206. Hurry! We don’t want to miss the train! Let’s ____________.
[A] get through [B] get on [C] get a break [D] get a clue
207. Staying warm and getting rest will help you ____your cold.
[A] get over [B] get started [C] get along [D] get into
208. Tommy ______________ after he told a lie.
[A] got off [B] got on
[C] got in trouble [D] got well
209. I really like my classmates. We all ___________ each other.
[A] get along with [B] get better [C] get busy [D] get down

68คู่มอื เตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

210. I have to____________ the plane in Toronto and transfer to
another plane.
ำ [A] get even [B] get on [C] get off [D] get by
211. I have finished all my exams. After all that stress I need
to___________. (relax)
[A] introvert [B] chill out [C] controvert [D] keep on
212. We can _____the situation _____in one word, chaos. (summarize).
[A] summarize___into [B] gather___in
[C] keep___crossed [D] sum___up
213. The secretary must put me _______ to the manager if I need
to talk to him.
[A] through [B] down [C] on [D] out
214. Your room is a mess. _________ all your toys and clothes
immediately.
[A] put away [B] pull off [C] play by [D] grab up
215. The English teacher said that we had to __________the essay
_______ the following day.
[A] write___down [B] hand___in
[C] keep___on [D] put___off
216. What are you doing? – I´m _______________ my contact lenses.
I was sure I had them in my bag and now I can´t find them.
[A] looking for [B] getting along
[C] handing in [D] keeping a promise
217. I´ll ______ you ______this time but don´t be late again because
you will have to go away.
[A] stay___till [B] do it
[C] take___par [D] let___in

69คมู่ ือเตรียมความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

19. Tag Questions หรือ Questions Tag (ค� ถามท้ายประโยค)
ำ ำ ำ ำ ำำำ ำำ ำ ำ ำQuestion tag เป็นโครงสร้างพิเศษในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นวลีหรือค� ถามสั้นๆท่ีใช้ต่อท้าย
ปถา้รเะทโียยบคกเับปค็น� กไาทรยกกาจ็ ระตเั้งหคม� อืถนามกทับค้าย� ปว่าระ“โใยชคไ่ หบมอ”กเ6หล1่ารหือร“ือไปมร่ใชะ่หโยรคอป”ฏเิเชสน่ ธ เป็นการถามเพื่อการยืนยัน

He is a teacher, is he? He is a teacher, isn’t he?

เขาเปน็ ครใู ช่ไหม เขาเป็นครไู มใ่ ช่หรอ

ขshอ้ osขสhอ้uงัoสlเudกังlเ,ตdกc,:ตacQ:naQunuมeมeาsาstใใtiชoชio้ค้คnn่กูกู่ TบัับTaaคคggา� สจสจระะรรเรเพปปพน็นน็ นกากมาาารมIรน,นIาy,คo� yาคuoก,� uรhกยิ,eราh,ิยตseารhต,ะeกsร,hูละiteก,b,ูลwei/teb,,dewto/h/eed,hyoat/โhvดeehยyaจหvะรโeมือดทีคยห้งัาจรรกะปูือรมิยบคีทาอ� ชกกัง้ ่วรเรยลูปิย่าเบาแชชลอน่ ่วะกยwรเปูลiเlปชา่l,แฏ่นลเิ สwะธรilปูl,
ปฏเิ สธ 19.1 หลักการตั้งประโยคคาถามการใช้ Question Tag

19.11ห9ล.1ัก.1กาเรราตจง้ั ะปตรอ้ ะงใโชย้คคอคม� มถา่ า(ม,)กคาัน่ รรใชะห้ Qว่าuงeปsรtะioโยnคหTลaักgกบั question tag เสมอ
1199.1.1.1.2เถรา้าปจระะตโยอ้ คงขใช้า้คงหอนมา้ มเปา่ ็น(ป,)รคะโ่นั ยรคะบหอวก่าเลงา่ปรตะ้อโงยใชค้ หquลeกั sกtiับonqtuaegsเtปioน็ nรปู tปaฏgเิ สเสธมอ
19.1.2 ถ–้าYปoรuะโwยilคlขh้าaงvหeนthา้ เeปeน็ xปamระโnยeคxtบwอกeeเลk,า่ wตo้อnง’ใtชy้ oquu?estion tag เป็นรปู ปฏิเสธ
– Yo–uCwhuiltlimhaavceamtheeheerxeamyesnteerxdtayw, edeidkn,’wt sohne’?t you?
11119999..111–––1..11..9934..CYC––––34..11ohhถถ––TTCSถถ..uuu44า้ ้า้า้า1hhhhCYป1tt..ปปป9w211eeeiieoh9mmร.รรร9–––––1yyutu.oะะะเเ1ะh.h.มม1taaโโ4nYTSCTโ.โwhhai4aยย.mยอืือ่่.ยhohhh4’1saadc.คคoค2teueeค.ehaavv3ทขnihhaเyyทdtขhaมเeemh้าo’่ีมhdaaมQntม่ี้าsaงื่อlhhafaาvviื่อoodหtedงu’vshาaaขeeeshtหhtneนniขvveah้าoannhaas’eeนv้างclา้แแoamvnttyestหมlehoงv้าiปปfoeodhoecrีนหeasมmeottevniลลofenronvแา้hนrีenlแomวอeเimnปvpeyaeyterปeา้ ปfeา่ ยabeeลtreeเtnex็นoeลhfgorป่าoวr“rsca7tdnปxอbhiงe่าbpatoขน็eมhma.egยรsอeet3rrอlnm“oป”ีit,ะoe่าher่ืนrl0cง7doมeงโddbhรanmht.ยอจsy”ี“n3ะovl,paทayei,hคeน่ืะelh0eesโeysdจd.h่ไีxปmatยใmsaxnมs,ะhท,pชotawvฏttvคtsใ’de่ใsde.ไี่e้.neeเิwชmwtชiปมntสotwirrd’้dadd่แ’่ใhdteeธsฏt.nttชioogeanahtปeaed’เิ ตแ่ht”nhsgyntสk’eyวลokhhปอ้ ,tt,i’ธtว,h?,=า่sniวeeงลsdhtwา่sidwใ’่าt?sตyวeichจhชt’tdihil่า?sอ้yahาidc“้aletla,q?เsarhlงe“vม(yป?v,dhแursใe(มeoyye,ี”็นชแeodheบyี”?ounndบต้?nseo?ใqบ?’’uotอ้บใ’ห?tetiหuteo?งAใ้sหA้ใseหnyชใnชnmรmosชร้ ้’tือ’tvu้vอืatteeiveo?egdrehrhdrirniocrbเecbebปoan?at?nt็นn’atntot)ooร’g)ูปกtddเdไ็บoกปดooอ็ไน็้ มดกมมราเ้าลชปู าช่า่วชบ่วย่วยอยกเลา่
19.1.4.3–QMuaersrtyiohnasttaoggขoอtงo“thheavmeutsoe”um=, จd�oเeปsน็n’ตt้อsงheใช? ้ verb to do มาชว่ ย
19.1–.5YใoนuปรoะfโtยeคnQhuaevsteiotnotaggoทtเี่oป็นthรปูeปdฏeเิ สnธtiตstอ้ ’งsใ,ชd้ รoูปnย’อ่ tเสyมoอu?
– Mar–ryWheacsatnoggoooutot wthiteh ymouu,secaunm’t,wdeo?esn’t she?
19.1.5 ใน–ปJoระeโwยคill Qcoumesetitonmtyagpaทrtีเ่ yป,็นwรoูปnป’tฏhิเสeธ? ต้องใช้ รูปยอ่ เสมอ
19.1––.6WJQoeuee–cwsatIiinolalnmgcotolaamgoteuขe,อtatงwroeIinatmh’mtyyIค?opอื uaar,trceyan, n’wt’otI (nwเน’et่อื ?งhจeา?ก am not ไม่มรี ูปย่อ)

19.1.7 Question tag ของกริยาชว่ ย can, could, may, might, will, shall, ought to, should

ค่มู ือเตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสสอาบมภาาษราถองัใกชฤก้ษตราิยมมาาชต่วรฐยาเนหCลEFา่ Rนเี้ ปน็ 70quesstieontetangcไeด้completion

– She can do it well, can’t she?

19.1.6 Question tag ของ I am คือ aren’t I (เน่ืองจาก am not ไม่มีรูปย่อ) ำ ำ ำ
– I am late, aren’t I?

19.1.7 Question tag ของกรยิ าชว่ ย can, could, may, might, will, shall, ought
to, should สามารถใชก้ ริยาชว่ ยเหล่านเ้ี ปน็ question tag ได้

– She can do it well, can’t she?
– You ought to study hard, oughtn’t you?
19.1.8 ค� ว่า “need” ตอ้ งการ และ “dare” กล้า มวี ิธีใช้ 2 แบบ คือ
19.1.8.1 ใชเ้ ปน็ กริยาแท้ tag กจ็ ะใช้ verb to do มาช่วย
– She does not need any help, does she?
– We don’t dare to tell a lie, do we?
19.1.8.2 ใชเ้ ปน็ กริยาช่วย tag จะใช้ need / dare เปน็ กริยาชว่ ยใน tag

– She needn’t come on Saturaday , need she?
– You dare not go out alone at night, dare you?
ขอ้ สังเกต : ถ้า need / dare เปน็ กรยิ าชว่ ย จะตามหลังดว้ ย V1)
แต่ ถา้ need / dare ใชเ้ ปน็ กรยิ าแท้ จะตามหลงั ดว้ ย to + V1 โดยทกี่ รยิ า need / dare
สามารถผันตามประธานได้ หรืออาจตามดว้ ย noun กไ็ ด้
19.1.9 Question tag ของ used to เคย คือ didn’t หรอื usedn’t
– She used to be a nurse, didn’t she (usedn’t she)?
19.1.10 ประธานที่ใช้ใน tag ต้องเป็น pronoun เสมอ
– Metpiya was a student at Lee High School, wasn’t she?
– Jack and John are playing soccer at school, aren’t they?
19.1.11 Tag ของ would like ตอ้ งการ ใช้ wouldn’t
– We’d like to leave now, wouldn’t we?
เทคนิคการจ� : การดโู ครงสรา้ งประโยค
ถา้ ประโยคหลกั ใช้ verb to be (is, am, are, was, were) ใหใ้ ช้ verb to be นน้ั ใน question tag
Question tag ของกริยาชว่ ย can, could, may, might, will, shall, ought to, should, V.be,
etc….
จะใชก้ ริยาช่วยเหลา่ นี้เป็น question tag ได้
ถา้ ประโยคที่มาขา้ งหนา้ เป็นประโยคบอกเลา่ ตอ้ งใช้ question tag เป็นรปู ปฏเิ สธ
ถ้าประโยคทมี่ าข้างหนา้ เป็นประโยคปฏเิ สธ ตอ้ งใช้ question tag เป็นรูปบอกเลา่

71คมู่ อื เตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ตวั อย่างข้อสอบ
218. He never came again,_____?
ำ [A] did he[B] does he
[C] didn’t he [D] doesn’t he
219. She can rarely come these days, _____?
[A] Can’t she [B] can she
[C] doesn’t she [D] does she
220. You hardly ever came late, _____?
[A] do you [B] don’t you [C] did you [D] didn’t you
221. You won’t be late, __________?
[A] will you [B] won’t you [C] do you [D] don’t you
222. You couldn’t help me, _____?
[A] could you [B] couldn’t you [C] can you [D]d.can’tyou
223. Nothing will happen, _____?
[A] will it [B] won’t you [C] are you [D] aren’t you
224. It’s your birthday today, _______?
[A] doesn’t it [B] does it [C] isn’t it [D] is it
225. You were nine yesterday, ______?
[A] didn’t you [B] did you
[C] weren’t you [D] were you
226. Mandy’s parents aren’t from this town, ______?
[A] is she [B] are they [C] isn’t she [D]aren’tthey
227. I’m not in the right classroom, ______?
[A] do I [B] don’t I [C] am I [D] ain’t I
228. You can cook, ______?
[A] don’t you [B] aren’t you [C] can’t you [D] can you
229. We don’t wear school uniform to school, ______?
[A] were we [B] weren’t we [C] do we [D] don’t we
230. A car can’t go faster than a plane, ______?
[A] does it [B] doesn’t it [C] can it [D] can’t it
231. We’ll see Eric later, ______?
[A] do we [B] don’t we [C] won’t we [D] will we

72คมู่ ือเตรียมความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

232. You like that football team, ______?
ำ ำำ ำ ำำ ำ ำำ ำำำ ำ ำำ ำ ำ ำำำ ำ [A] like you [B] didn’t you [C] don’t you [D] do you
233. Jack and Lucy live opposite the bank, ______?
[A] didn’t we [B] did we [C] do they [D]don’tthey
234. We ate some nice ice cream, ______?
[A] don’t we [B] didn’t we [C] did we [D] do we
235. He didn’t steal the money, ______?
[A] didn’t he [B] did he [C] doesn’t he [D] does he

ANSWER KEYS
(เฉลยคำ� ตอบ)

1. โครงสรา้ งประโยคพน้ื ฐานของภาษาองั กฤษ (Basic structure of English
sentences)
ตัวอย่างข้อสอบ
ขอ้ ท่ี 1 ค� ตอบทถี่ กู คือ ข้อ [A]
ค� อธิบาย ค� ถามในข้อนี้คือ “คุณเล่น_______ไหม?” ค� ตอบท่ีต้องเติมในช่องว่าง
ตอ้ งเป็นกรรม สังเกตประธานของประโยคนี้คือ ค� วา่ “you” และ “play” เปน็ กรยิ า
ทตี่ ้องการกรรม ค� ที่ตามหลงั กริยาท่ี “เลน่ ” เป็นประเภทของกฬี าว่าเล่นอะไร ดังนัน้ มี
ค� ตอบเดยี วท่เี ปน็ กีฬาคือ “ice hockey” ฮ๊อคก้นี �้ แข็ง

ข้อท่ี 2 ค� ตอบที่ถกู คอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ค� ถามในข้อนี้ คือ “_________ขอร้องให้คุณท� อะไร?” สังเกต หลังช่อง
วา่ งคอื กริยา “ask” และ “you” เปน็ กรรมดงั นั้นประโยคน้ยี ังขาดประธานทต่ี ้องเตมิ
ในช่องวา่ ง ค� ตอบทีถ่ ูกต้องคอื “she” เค้าผูห้ ญงิ / เธอ ซ่งึ เป็นสรรพนามท� หนา้ ที่เปน็
ประธานของประโยค

ข้อท่ี 3 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกตประโยคน้ใี ช้ค� ว่า “Saturdays” แปลว่า ทกุ ๆวันเสาร์ ความหมาย
ประโยค คือ “ทุกๆวนั เสาร์ ฉัน___จากเกา้ โมงเช้าถงึ หา้ โมงเยน็ ” ประโยคนบี้ อกถงึ การ
ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจ� ดงั นนั้ จะตอ้ งใช้ Present simple tense เนอื่ งจากประธานในประโยค
คือ “I” แตย่ งั ขาดกรยิ า ดังน้ันค� กรยิ าทตี่ ามหลงั “I” คอื “work” ท� งาน

73คู่มอื เตรยี มความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ขอ้ ที่ 4 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [C]
ำ ำำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำำำ ำำำ ำค� อธบิ าย ค� ถามคอื “________อาหารอติ าเลยี นไหม?” ค� ตอบเปน็ การตอบรบั วา่ ใช่
“Yes, I do.” ใหส้ งั เกตวา่ ประโยคค� ตอบ “Yes, I do.” ซึ่งค� ถามกต็ ้องถามดว้ ยค� วา่
“Do” ดังน้ัน มคี � ตอบเดียว ท่ถี กู ตอ้ งคือ “Do you like_______?”
คุณชอบ________ไหม?

ขอ้ ที่ 5 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ค� ถามคือ “________ขา่ วออกอากาศตอน 5 โมงหรอื 6 โมง ?” ให้สังเกต
วา่ ประโยคค� ถามประธาน คือ “the news” เป็นรปู เอกพจน์ มกี รรมคือ “five or
six” ดังนั้นประโยคค� ถามขาดกริยา (Verb) ซึ่งในค� ตอบตัวเลือกจะเหลืออยู่ 2 ตัว
คือ “Does” และ “Is” แต่ “Does” ใชก้ ับ “on” ไมไ่ ด้ ดงั นนั้ มคี � ตอบที่ถกู ตอ้ งคอื
“Is”ซงึ่ จะหมายความวา่ “ขา่ วออกอากาศตอน 5 โมงหรอื 6 โมง ?”

ข้อที่ 6 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ประโยคนี้มีความหมายวา่ “วชิ าคณิตศาสตร์_______วิชาทจี่ อหน์ ชอบมาก
ที่สดุ ในขณะท่ีวชิ าหนา้ ทพ่ี ลเมือง_______วชิ าท่ีแอนเดรียชอบมากทส่ี ดุ ” ประโยคท้ัง
สองขาดกริยา (Verb to be) ใหส้ ังเกตวา่ “Mathematics” และ “Civics” เปน็ ชื่อวิชา
ซ่ึงเปน็ ประธานเอกพจน์ ดังน้ัน Verb to be ทใ่ี ชต้ ้องเปน็ เอกพจน์ ค� ตอบทถี่ ูกตอ้ งคือ
“is/is” เปน็ /คอื
ข้อที่ 7 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [A]
ค� อธิบาย ประโยคนี้มีความหมายว่า “แปดดอลล่าร์__________ราคาต๋ัวหนังของ
ทุกวันนี้” ให้สังเกตว่าหากพูดถึงจ� นวนเงินในภาษาอังกฤษจัดอยู่ในค� นามท่ีนับไม่ได้
“Uncountable Noun” ซึ่งจะต้องใช้กริยาท่ีเป็นเอกพจน์ จากตัวเลือกที่เหลือเพียง
สองค� ตอบคือ “is” และ “has” เราจะไมใ่ ช้ “has” เพราะ “has” เป็นการอธิบายองค์
ประกอบของประธาน แต่ “is” เปน็ การอธบิ ายว่า ประธานคืออะไร ในทนี่ ่ปี ระธานคอื
“Eight dollars” คือ ราคาต๋ัวหนัง ดงั นัน้ ค� ตอบทีถ่ กู ท่ีสุดคอื “is” เป็น/คือ

ข้อท่ี 8 ค� ตอบทถี่ ูกคือ ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ค� ถามคือ “คณะกรรมการ __________ค� ถามเหล่าน้ีอย่างระมัดระวัง”
สังเกตโครงสรา้ งประโยคมีประธาน คอื The committee กรรม คอื these questions
และมี Adverb คือ carefully ดงั นั้น โครงสรา้ งประโยคขาดกรยิ า (Verb) ในตัวเลอื ก
พบวา่ มี Verb อยู่ 2 ตัวเลอื ก คือ debate (อภปิ ราย) ข้อ C และ D พิจารณาถึงลักษณะ

74ค่มู ือเตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ของประธาน The committee คอื คณะกรรมการ ซงึ่ ใหค้ วามหมายเปน็ กลมุ่ เดยี ว/ เปน็ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ
คณะเดียว จึงเป็นประธานเอกพจน์ ดังน้ัน ค� ตอบทถี่ ูกคือ “debates”
ขอ้ ที่ 9 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ค� ถามคอื “สมาชกิ ในคณะกรรมการ__________ชวี ติ สว่ นตวั ทแี่ ตกตา่ งกนั ”
ข้อนี้จะแตกต่างจากขอ้ 11 ตรงความหมายของประธานเปน็ ความหมายรายบคุ คล ดัง
นั้น ประธานจงึ เป็นพหพู จน์ ใชก้ ริยาพหพู จน์ ซ่ึงค� ตอบมี 2 ขอ้ คือ A และ C และเมื่อ
พจิ ารณาความหมาย ค� ตอบท่ถี ูกต้องคอื “lead” น� พา
ข้อท่ี 10 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ค� ถามคอื “นายกรฐั มนตรแี ละภรยิ า ________สอ่ื มวลชนดว้ ยความจรงิ ใจ”
ขอ้ นเ้ี หมอื นมปี ระธานของประโยคอยู่ 2 คน คอื นายกรฐั มนตรแี ละภรยิ า แตเ่ มอ่ื พจิ ารณา
ประโยค ประโยคใชค้ � วา่ The Prime Minister, together with his wife, ____ ,
together with his wife ค� วา่ his wife กลับกลายแสดงบทบาทเปน็ กรรมของ with
ดงั นัน้ his wife จงึ ไมใ่ ช่ประธานของประโยค เป็นเพยี งส่วนอธบิ ายเพิ่มเพอื่ ขยายความ
ประธานตัวข้างหน้า คือนายกรัฐมนตรีว่า นายกฯมากับภริยานะ ดังนั้น ประธานของ
ประโยคจงึ เปน็ เอกพจน์ จึงเลือกกรยิ าทเ่ี ป็นเอกพจน์ ซ่งึ มตี ัวเลอื ก 2 ข้อ คือ [A] grants
แปลว่า ยนิ ยอม หรือ [C] greets แปลว่า ทักทาย ค� ตอบคือ greets
ข้อที่ 11 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ค� ถามคือ “แผน่ ซดี ที ั้งหมดรวมท้งั แผน่ ทเ่ี ป็นรอย ________ ในกล่องนี้”
ขอ้ นเี้ ปน็ การใช้ All กบั All of วา่ จะใชก้ รยิ าเอกพจนห์ รอื พหพู จน์ เราจะใช้ All หรอื All
of กไ็ ด้ ใหค้ วามหมายเดยี วกนั แปลว่า ทงั้ หมด ใหค้ วามหมายเป็นพหพู จน์ ดงั นั้นจึงใช้
กริยาพหพู จน์ ค� ตอบคือ are=อยู่ ในความหมายน้ี
ข้อท่ี 12 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [A]
ค� อธิบาย ค� ถามคือ “ทกุ คน________ท� การบา้ นเสรจ็ แลว้ ” เปน็ การใช้ everyone
และ everybody แปลว่าทุกๆคน เป็นกลมุ่ ของ สรรพนามไมช่ ีเ้ ฉพาะ (Indefinite pro-
noun) แตม่ รี ปู แบบการใชเ้ ปน็ เอกพจน์ เมอื่ ประธานเปน็ เอกพจน์ จงึ ตอ้ งเลอื กใชก้ รยิ าท่ี
เปน็ เอกพจน์ รปู ประโยคในขอ้ นเี้ ปน็ Present perfect tense ทม่ี โี ครงสรา้ ง S + have/
has + V.3 ดังนน้ั ค� ตอบท่ีถกู คือ has

75คมู่ ือเตรยี มความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ขอ้ ที่ 13 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ค� ถามคือ “นกั เรียนแต่ละคน ________รับผิดชอบงานของแตล่ ะคน” ขอ้
นี้เปน็ การใช้ค� วา่ Each และ Each of แปลวา่ แต่ละ ให้ความหมายเปน็ เอกพจน์ จึง
ต้องตามดว้ ยกริยาที่เปน็ เอกพจน์ โครงสร้าง Each และ Each of + noun/pronoun
พหูพจน์ +Verb เอกพจน์ ค� ตอบคอื is
ำ ำำ ำำ ำ ำำำ ำำ ำ ำำำ ำ ำำำ ำ ำ ำ ำำ ำ
ข้อที่ 14 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ข้อ [D]
ค� อธิบาย ค� ถามคือ “ไม่พ่อก็พี่ชายของฉัน ________ ก� ลังขายรถ” ข้อนี้เป็นการ
ใช้ Either +Subject 1 or +Subject 2 ว่าจะใชก้ ริยาเอกพจน์หรือพหูพจนข์ น้ึ อยกู่ ับ
ประธาน (Subject) หลงั or ถา้ Subject 2 เปน็ เอกพจน์ ใชก้ รยิ าทเี่ ปน็ เอกพจน์ และถา้
Subject 2 เปน็ พหูพจน์กใ็ ห้ใชก้ ริยาเปน็ พหูพจน์ ในขอ้ น้ี หลัง “or” คือ “brothers”
เปน็ พหูพจน์ ดงั นน้ั เมอื่ ประธานเปน็ พหูพจน์กริยาก็ตอ้ งเปน็ พหูพจน์ คอื are

ขอ้ ท่ี 15 ค� ตอบที่ถกู คอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ค� ถามคอื “ไมท่ ้ังน้องสาวหรือแมข่ องฉัน ________ก� ลงั ขายบา้ น” ขอ้ นี้
เป็นการใช้ Neither +Subject 1 nor +Subject 2 ว่าจะใชก้ รยิ าเอกพจน์หรือพหพู จน์
ข้นึ อยกู่ บั ประธาน (Subject) หลัง nor ถา้ Subject 2 เปน็ เอกพจนก์ ใ็ ชก้ ริยาทเ่ี ป็น
เอกพจน์ และถ้า Subject 2 เปน็ พหพู จนก์ ใ็ หใ้ ชก้ ริยาเป็นพหูพจน์ ในข้อน้ี หลงั “nor”
คือ “mother” เปน็ เอกพจน์ ดงั นนั้ เม่ือประธานเป็นเอกพจน์กรยิ ากต็ อ้ งเปน็ เอกพจน์
คอื is

ข้อที่ 16 ค� ตอบทีถ่ กู คอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ค� ถามคือ “แมรี่กับจอห์นมักจะ________ด้วยกัน” ข้อน้ีมีประธานของ
ประโยคอยู่ 2 คน และประโยคขาดกริยา ดังนั้น เมอ่ื ประธานของประโยคเปน็ พหพู จน์
กรยิ าท่ใี ชจ้ ึงเปน็ พหพู จนต์ ามประธาน จากตัวเลือกจะมี 2 ขอ้ คอื A และ C แต่ขอ้ C
“advice” เปน็ ค� นาม แปลว่า การให้ค� แนะน� กรยิ าของ advice คอื advise play
แปลว่า เลน่ ดงั น้นั ประธานในประโยคเป็นพหูพจน์ กรยิ าท่ีตามมาคอื play

ขอ้ ที่ 17 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ค� ถามคอื “การฆา่ สตั วเ์ พอื่ เอาขน________เป็นเร่ืองท่ีถกเถียงกัน” ศัพท์ที่
นา่ สนใจในขอ้ น้ี “slaughter” เปน็ ค� นาม แปลวา่ การฆา่ “controversy” เปน็ ค� นาม
แปลว่า การถกเถียง ประธานของประโยคนีค้ อื The slaughter เป็นเอกพจน์ ดังน้ัน

76คู่มอื เตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

จึงใช้กริยาเอกพจน์ ซึ่งมี 2 ข้อ คือ A และ C จึงต้องมาพิจารณาที่ความหมาย The ำ ำ ำำ ำ ำำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำำ ำ
slaughter is caused controversy การฆ่าถกู เป็นสาเหตุของการถกเถยี ง หรอื The
slaughter has caused controversy การฆ่าเป็นเรื่องท่ีถกเถยี งกนั มาโดยตลอด จะ
พบวา่ “has” ให้ความหมายท่ถี กู ตอ้ ง
ขอ้ ท่ี 18 ค� ตอบทถี่ กู คอื ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ค� ถามคอื “นกั เรยี นและครู ________ก� ลงั ไปทศั นศกึ ษาเชน่ เดยี วกนั ” ขอ้ น้ี
เปน็ การใช้ as well as แปลวา่ เช่นเดยี วกนั และใช้ as well as ในการเช่อื มประธาน 2
คนเขา้ ดว้ ยกัน ส่วนกริยาจะใชต้ ามประธานตัวแรก ในข้อนี้ ประธานตัวแรกเป็นเอกพจน์
จึงใช้กรยิ าเอกพจน์ ดังนน้ั จงึ มตี วั เลือก 2 ตวั เลอื ก คอื ข้อ A และ C แตป่ ระโยคนไี้ ม่
บอกเวลามา ดงั น้ันจะเลอื กข้อใดก็ได้ แตค่ � ตอบที่ดีท่ีสุดควร เป็นข้อ A คือ was เพราะ
เป็นการเล่าถงึ การไปทศั นศึกษาของนกั เรยี นและครู
ข้อที่ 19 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [D]
ค� อธิบาย ค� ถามคือ “เพ่ือนร่วมห้องท้ังสองคน________ตัดสินใจที่จะพักในหอพัก”
ขอ้ น้ีประธานของประโยคคือ Both แปลว่า ทั้งสอง ส่วน roommates น้นั เปน็ กรรม
ของ preposition “of” จงึ ไม่ใชป่ ระธานของประโยค ดงั นน้ั เมื่อประธานเป็นพหพู จน์
กรยิ าจึงเปน็ พหพู จน์ ซงึ่ ในขอ้ น้มี ีตวั เลือก 2 ข้อคอื B และ D จึงตอ้ งมาพิจารณาความ
หมายของประโยค ข้อ [B] Both__are decided to live in the dorms. แปลว่า ทัง้
สองคนถกู ตัดสินให้พกั ในหอพกั และขอ้ [D] Both__have decided to live in the
dorms. ประโยคนีเ้ ป็น Present perfect tense ทมี่ ีโครงสร้าง S + have/ has + V.3
ซ่ึงแปลความหมายไดว้ า่ ทั้งสองคนตัดสินใจมาแล้วว่าจะพักในหอพกั ความหมายข้อ D
จงึ เปน็ ค� ตอบทถ่ี กู ต้อง
ข้อท่ี 20 ค� ตอบท่ถี ูกคือ ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ประโยคนม้ี คี วามหมายวา่ “ผบู้ รหิ ารงานใหม_่ _______ ความส� คญั ของการ
ตดั สนิ ใจดา้ น ธรุ กจิ และการวางแผนใหมเ่ มอื่ เดอื นทแี่ ลว้ ” สงั เกตประธานของประโยคนี้
คือ ค� ว่า “management” ต� แหน่งที่วา่ งไว้ตอ้ งเปน็ กรยิ า ประโยคเปน็ รปู อดตี เพราะ
มีค� ว่า “made” “month ago” กริยาที่ต้องเติมตรงช่องว่างก็ต้องเป็นรูปอดีตด้วย
ตวั เลอื กข้อไหนทีไ่ มใ่ ช่ กริยา (Verb) ให้ตดั ทิ้ง recognize เป็นกรยิ า แตเ่ ปน็ รูปปัจจบุ นั
recognizable เปน็ ค� คณุ ศพั ท์ (Adjective) ส่วน recognition เป็น ค� นาม(Noun)
ดงั นัน้ “recognized” ได้รบั การยอมรบั แลว้ จึงเปน็ ค� ตอบทถี่ กู ต้อง

77ค่มู อื เตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ข้อที่ 21 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ให้สังเกตประธานของประโยคนีค้ อื ค� วา่ “JJK Inc.” ต� แหนง่ ที่ว่างไวต้ อ้ ง
เปน็ กรยิ า ประโยคเปน็ รปู ปจั จบุ นั เพราะมคี � วา่ “At this moment” หมายความวา่ ใน
ขณะน/้ี ตอนนี้ ดงั นน้ั กรยิ าทต่ี อ้ งเตมิ ตรงชอ่ งวา่ งกต็ อ้ งเปน็ รปู ปจั จบุ นั ทเี่ ปน็ V.1 ตวั เลอื ก
ข้อไหนที่ไม่ใช่ Verb (กริยา) ใหต้ ดั ทิง้ advisable เปน็ ค� คุณศพั ท์ (Adjective) advice
เป็น ค� นาม (Noun) สว่ น advised เป็นกริยาแต่อย่ใู นรปู อดตี ซึง่ ในประโยคต้องเปน็ กริ
ยาทีเ่ ปน็ ปัจจุบัน ดังนัน้ ค� ตอบท่ถี กู ตอ้ งคือ “advises” แนะน�
2. Tense (กาล)
ตัวอยา่ งข้อสอบ
ขอ้ ที่ 22 ค� ตอบท่ถี ูกคือ ข้อ [D]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ีให้มองท่ีประโยคน้ีมีค� ว่า “since” ซ่ึงเป็นการบอก
ต้งั แตเ่ วลาในอดตี พบในโครงสรา้ งของ Present perfect tense (S + have/has +
V.3) ตัวเลอื กเปน็ กรยิ า (Verb) ท้งั หมด ดังนัน้ ค� ตอบทีถ่ ูกต้องคือ “has seen” ความ
หมายของประโยคน้คี อื ผบู้ รหิ ารเหน็ ราคาหุ้นปรบั ตัวสงู ขน้ึ ต้งั แตเ่ ดอื นกรกฎาคม
ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำำ ำ
ข้อท่ี 23 ค� ตอบท่ีถูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตให้มองที่ประโยคนม้ี คี � วา่ “for” ซง่ึ เป็นการบอกจ� นวนเวลา พบ
ในโครงสร้างของ Present perfect tense (S + have/has + V.3) ตวั เลือกเปน็ กรยิ า
ทั้งหมด ดังนั้นค� ตอบที่ถูกต้องคือ “has submitted” ความหมายของประโยคนี้คือ
หวั หนา้ เจา้ ทกี่ ารเงนิ ของบรษิ ทั ไดย้ น่ื คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางตอ่ แผนกบญั ชเี ปน็ เวลา 3 ปี
ขอ้ ท่ี 24 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตใหม้ องทปี่ ระโยคนม้ี คี � วา่ “since” ซง่ึ เปน็ การบอกตงั้ แตเ่ วลาในอดตี
พบในโครงสร้างของ Present perfect tense (S + have/has + V.3) ตวั เลอื กเปน็ กริ
ยาทงั้ หมด ค� ตอบท่ถี ูกต้องคือ “has been” ความหมายของประโยคน้ีคือ บรษิ ทั เปดิ
ด� เนินการมาตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2528

ข้อที่ 25 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตใหม้ องทปี่ ระโยคนมี้ คี � วา่ “since” ซงึ่ เปน็ การบอกชว่ งเวลาในอดตี
พบในโครงสรา้ งของ Present perfect tense (S + have/has + V.3) ตวั เลือกเปน็ ก
รยิ าทงั้ หมด ค� ตอบท่ถี ูกตอ้ งคอื “haven’t heard” ความหมายของประโยคนีค้ ือ เรา
ยังไม่เคยได้ยินข่าวจากพวกเขาเลยต้ังแต่คร้ังสุดท้ายที่เราส่งอีเมล์เพ่ือขอใบเสนอราคา
สนิ คา้ ของพวกเขา 78ค่มู ือเตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR
sentence completion

ข้อที่ 26 ค� ตอบทถี่ กู คอื ข้อ [C] ำ ำำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำำ ำ
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตใหม้ องทปี่ ระโยคนม้ี คี � วา่ “for” ซงึ่ เปน็ การบอกจ� นวนเวลาในอดตี
พบในโครงสร้างของ Present perfect tense (S + have/has + V.3) ประธานของ
ประโยคคือ Newton Electric เป็นเอกพจนต์ ัวเลือกเป็นกริยาท้งั หมด ค� ตอบท่ีถกู ต้อง
คือ “has produced” ความหมายของประโยคน้คี ือ
บรษิ ัทนวิ ตัน อเิ ลคทรคิ ผลิตอุปกรณอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์มาเกอื บ 20 ปแี ล้ว
ข้อที่ 27 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตใหม้ องทป่ี ระโยคนมี้ คี � วา่ “since” ซงึ่ เปน็ การบอกชว่ งเวลาในอดตี
พบในโครงสรา้ งของ Present perfect tense (S + have/has + V.3) ประธานของ
ประโยคคือ Mrs. Mishima เป็นเอกพจน์ ตวั เลอื กเปน็ Verbs ทง้ั หมด ความหมายคือ
Mrs. Mishima ไดข้ ยายฐานลกู คา้ ใหบ้ รษิ ทั เราอยา่ งมากตงั้ แตห่ ลอ่ นมารว่ มงานกบั บรษิ ทั
พวกเรา ค� ตอบทีถ่ กู ต้องคอื “has expanded”
ข้อท่ี 28 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ นเ้ี ปน็ การเลา่ เรอ่ื งในอดตี ตอนอายุ 3 ขวบวา่ สามารถอา่ นโนต้ เพลงได้ ดงั นนั้
โครงสรา้ งประโยคจึงใช้ Past tense และรูปอดีตของ can คือ could ค� ตอบท่ีถกู ต้อง
คอื “could read”
ขอ้ ที่ 29 ค� ตอบท่ีถูกคอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ขอ้ นี้เปน็ การต้ังค� ถามถามวา่ “เมือ่ วานตอนชว่ ง 6 โมงเย็นแอนกบั แมรอี่ ยู่
ที่ไหน” เม่อื เปน็ ชว่ งเวลาในอดตี เราจึงใช้ Past tense ในส่วนประโยคของ Where ….
Ann and Mary น้นั มี Ann และ Mary เปน็ ประธานของประโยคซงึ่ เปน็ พหพู จน์ ต้อง
ตามดว้ ยกริยาท่เี ปน็ พหูพจนแ์ ละอยูใ่ นรูปอดตี จงึ เลือก Verb to be “were” ค� ตอบ
ทถี่ กู ตอ้ งคอื were
ขอ้ ท่ี 30 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ประโยคนี้ ข้อสังเกต A ถามวา่ ท� ไมคุณมที า่ ทางหิว B ตอบวา่ ยังไม่ได้กนิ
อาหารเชา้ เลย (I didn’t have breakfast.) B จงึ หิว ซง่ึ จะสอดคลอ้ งกบั ค� ถาม A ค�
ตอบทีถ่ กู ตอ้ งคือ “didn’t have”

79คู่มอื เตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ข้อที่ 31 ค� ตอบท่ถี ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ข้อน้ีเป็นการเน้นว่า Subject ของประโยคก� ลังท� อะไร โดยสังเกตค� ว่า
“Look”แลว้ มเี ครื่องหมาย “!” ประโยคนมี้ ีความหมายว่า “ดู ! รถโดยสารก� ลงั มา” จงึ
ใช้ Present continuous ( S+V to be + V. ing) ประธานของประโยคคือ รถโดยสาร
“bus” มคี นั เดยี ว เปน็ เอกพจน์ ดงั นนั้ กรยิ าทใ่ี ชก้ ต็ อ้ งเปน็ เอกพจนด์ ว้ ย ค� ตอบทถี่ กู ตอ้ ง
คอื “is coming” ก� ลังมา
ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำำ ำ
ข้อท่ี 32 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อน้ีเป็นการใช้ Past continuous tense เป็นเหตุการณ์เกิดข้ึนก่อนและ
ด� เนนิ อยู่ แล้วใช้ Past simple tense อธิบายเหตุการณแ์ ทรกเข้ามา ความหมายของ
ประโยคคอื “แมข่ องฉนั _____พรม (My mother _____ the carpet)” เปน็ เหตกุ ารณ์
หลัก และ “เมื่อฉันกลับถึงบ้าน (when I got home)” เป็นเหตุการณ์แทรกเข้ามา
นอกจากนยี้ งั แสดงชว่ งเวลาวา่ เปน็ อดตี “เมอื่ วานตอนบา่ ยๆ (yesterday afternoon)”
ค� ตอบทถ่ี กู ตอ้ งจงึ เปน็ “was hoovering” ความหมายของประโยคคอื แมข่ องฉนั ก� ลงั
ดูดฝุ่นพรมอยฉู่ นั ก็มาถึงบ้านเมือ่ วานตอนบา่ ย ค� ศพั ทท์ ่นี า่ สนใจขอ้ น้ี คอื hoover (V.)
= ดูดฝนุ่ carpet (N.) = พรม

ข้อท่ี 33 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ข้อน้เี ป็นการเน้นเร่ือง กรยิ า (Verb) วา่ ก� ลงั ท� อะไร ในช่วงเวลาใดเวลาหนงึ่
ประโยคใชค้ � ว่า “right now” แสดงเวลาในปจั จบุ ัน ดงั นน้ั จึงเลือกใช้ Present con-
tinuous tense เพ่ือบอกว่า ตอนน้ี ฉันก� ลงั คุยกบั นอ้ งชายอยู่ ค� ตอบทีถ่ ูกตอ้ งคอื ’m
talking ก� ลงั คยุ

ข้อท่ี 34 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตให้มองท่ีประโยค เป็นการเลือกใช้กริยาท่ีจะใช้กับ V.ing กับ
ประโยคYou____looking in the right place. ซึ่งมีข้อท่ีถูกข้อเดียวท่ีสอดคล้องกับ
ประธานของประโยค คือ “aren’t” ความหมายของประโยคนี้คือ คุณมองไปไม่ถูก
ต� แหนง่ เธออยู่ตรงโน่น

ขอ้ ที่ 35 ค� ตอบท่ีถูกคอื ข้อ [C]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตประโยคนี้ เป็นการเลือกใช้กริยาช่วยท่ีจะใช้กับประโยคค� ถาม
Where____he live? ประธานบรุ ษุ ทสี่ าม (he) และกรยิ าของประโยค (live) ดงั นนั้ กรยิ า

80คูม่ ือเตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ชว่ ยทใี่ ชค้ อื does เปน็ Where does he live? ค� ตอบทถี่ กู ตอ้ งคอื “does” ความหมาย
ของประโยคนค้ี อื เค้าอาศัยอย่ทู ีไ่ หน?
ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ
ข้อที่ 36 ค� ตอบท่ีถกู คือ ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตประโยคน้ี เปน็ การเลอื กใชก้ รยิ าชว่ ยทจ่ี ะใชก้ บั ประโยคค� ถาม ____
you know? ประธานบรุ ษุ ทส่ี อง (You) และกรยิ าของประโยค (know) ดงั นน้ั กรยิ าชว่ ย
ทีใ่ ช้คือ do เป็น Do you know? ค� ตอบที่ถูกตอ้ งคือ “do” ความหมายของประโยค
นีค้ ือ คุณรไู้ หม?

ข้อที่ 37 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตประโยคนี้ เปน็ การเลอื กใช้กรยิ าช่วยทีจ่ ะใช้กับประโยคปฏิเสธ No,
I__ know anything___? ประธานบรุ ษุ ทหี่ นง่ึ (I) และกรยิ าของประโยค (know) ดงั นน้ั
กรยิ าชว่ ยในรปู ปฏเิ สธทใี่ ชค้ อื don’t เปน็ No, I don’t know anything_____? ค� ตอบ
ทถ่ี ูกต้องคือ “don’t” ความหมายของประโยคน้ีคอื ไม่....ฉันไม่รอู้ ะไรเลยเกย่ี วกับเขา

ขอ้ ที่ 38 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกตประโยคนี้ เป็นการเลือกใช้กริยาช่วยท่ีจะใชก้ ับ V.ing ใหส้ อดคลอ้ ง
กบั ประธาน (they) ในประโยค What _______ they talking about, I wonder? จงึ
เลือก Verb to be “are” เป็น What are they talking about? ค� ตอบทถ่ี กู ต้องคอื
“are” ความหมายของประโยคน้ีคอื ฉนั สงสยั วา่ พวกเขาก� ลังคยุ เรอื่ งอะไรกนั ?

ขอ้ ที่ 39 ค� ตอบท่ีถกู คือ ข้อ [B]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตใหม้ องที่ประโยคคือ he ___(6) ___look very interested. He’s
got a very bored expression on his face. ความหมายของประโยค ดูเหมอื นวา่ เค้า
ไมค่ อ่ ยสนใจ ใบหนา้ ของเคา้ แสดงอาการเบอ่ื หนา่ ย ดงั นนั้ จงึ เดาไดว้ า่ เขาไมส่ นใจ เขาจงึ
เบอ่ื ขอ้ นเ้ี ปน็ การเลอื กใชก้ รยิ าชว่ ยทแี่ สดงการปฏเิ สธวา่ ไมส่ นใจ ดงั นน้ั จงึ เลอื ก doesn’t
เพอื่ ให้สอดคลอ้ งกบั ความหมายประโยค ค� ตอบที่ถูกต้องคือ “doesn’t”

ข้อที่ 40 ค� ตอบท่ีถูกคือ ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตให้มองท่ปี ระโยค He___ (7)____saying anything ขอ้ นี้เป็นการ
หากรยิ าชว่ ยใหส้ อดคล้องกับประธานประโยค (he) และ V. ing ดังนนั้ จงึ เลือก isn’t
เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความหมายประโยค ค� ตอบทถ่ี กู ตอ้ งคอื “isn’t” เคา้ ไมพ่ ดู อะไรเลย

81คมู่ อื เตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ขอ้ ท่ี 41 ค� ตอบที่ถกู คอื ข้อ [C] ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ
ค� อธบิ าย ประโยคบอกวา่ “เราออกจากโรงภาพยนตรก์ ่อนท่ีหนังจะจบ” ข้อนแ้ี สดงให้
เห็นวา่ เหตกุ ารณ์ที่เลา่ มาน้ีได้ผา่ นไปแลว้ เปน็ อดีตที่จบลงไปแล้ว และมีเหตกุ ารณเ์ ดียว
จึงเลือกใช้ Past simple tense
โครงสร้างของประโยค มปี ระธาน (We)……..กรรม (the cinema) ดังนั้นประโยคขาด
กริยา (Verb) และรูปอดตี ของ leave คอื “left” ออกไป
ข้อที่ 42 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ข้อ [D]
ค� อธิบาย ประโยคนี้หมายความว่า “คุณยายของฉันตายไปเมื่อปีที่แล้ว” ตายไปแล้ว
และมเี หตกุ ารณเ์ ดยี ว จงึ เลอื กใช้ Past simple tense โครงสรา้ งของประโยค มปี ระธาน
(My grandmother) _______ ดงั นัน้ ประโยคขาดกริยา (Verb) และรูปอดีตของ die
คือ “died” ตาย/เสยี ชีวติ
ข้อที่ 43 ค� ตอบท่ีถกู คือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ประโยคในขอ้ นปี้ ระกอบดว้ ยเหตกุ ารณห์ ลกั 1 เหตกุ ารณ์ คอื ฉนั ก� ลงั เดนิ อยู่
บนถนน และมเี หตกุ ารณเ์ กดิ แทรก 2 จากเหตกุ ารณน์ ี้ คอื 1/มคี วามรสู้ กึ วา่ มอี ะไรมาชน
ที่หลงั และ 2/มีความคิดวา่ ส่ิงนัน้ คอื อะไร ถงึ แม้นจะคดิ ไม่ออก เรอ่ื งน้เี ปน็ เร่อื งในอดีต
สังเกตจากเหตกุ ารณ์เกิดแทรกประโยคสดุ ท้าย บอกวา่ what it was. ดังนน้ั จงึ เลือก
ใช้ Past continuous tense ในเหตุการณ์หลกั และเลอื กใช้ Past Simple Tense ใน
เหตกุ ารณเ์ ขา้ แทรก รูปอดตี ของ feel คือ felt = รสู้ กึ และรปู อดีตของ don’t know
คอื didn’t know = ไมร่ ู้
ขอ้ ที่ 44 ค� ตอบทถี่ กู คอื ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ นค้ี ลา้ ยกบั 46 ขอ้ ประโยคในขอ้ นป้ี ระกอบดว้ ยเหตกุ ารณห์ ลกั 1 เหตกุ ารณ์
คอื เราก� ลงั จะไปลอนดอนเมอื่ วาน และมเี หตกุ ารณเ์ กดิ แทรก 2 เหตกุ ารณ์ คอื 1/ไดย้ นิ
เสยี งระเบดิ บนถนน อ๊อกฟอร์ด และ 2/เราก็เลยขับรถกลบั บ้านโดยไมแ่ วะทีไ่ หน เรื่องน้ี
เปน็ เรอื่ งในอดีต สังเกตจากเหตกุ ารณ์หลกั บอกวา่ _____ to London yesterday ดงั
นัน้ จึงเลอื กใช้ Past continuous tense ในเหตุการณ์หลัก และเลือกใช้ Past simple
tense ในเหตกุ ารณเ์ ขา้ แทรกทงั้ สองเหตกุ ารณ์ รปู อดตี ของ hear คอื “heard” = ไดย้ นิ
และรูปอดีตของ drive คอื “drove” ขบั รถ

82คู่มอื เตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ข้อที่ 45 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [B]
ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำค� อธิบาย ข้อนีเ้ ป็นการคาดเดาผลในปจั จบุ ัน ทเี่ กดิ จากเหตกุ ารณใ์ นอดตี ทีส่ ง่ ผลมาใน
ปจั จบุ นั
The door is open (ประตถู ูกเปิด) เพราะ Someone_____the door (คงมใี ครเปิด
ประตทู งิ้ ไว้)
ดงั นั้นจงึ ใช้ Present perfect tense กบั เหตกุ ารณท์ ่ีเปน็ เหตุ Someone เปน็ ประธาน
เอกพจนข์ องประโยค ดงั นน้ั Present perfect tense ซงึ่ โครงสร้างประโยคคอื S +
have/ has + V. 3 ซง่ึ ประโยคนี้ประธานเป็นเอกพจน์ จึงต้องใช้ “has opened” เปน็
เอกพจนด์ ้วย (ขอ้ สังเกต Open แปลว่า เปดิ ออก ใชก้ ับการเปิดประตู
หนา้ ตา่ ง และสงิ่ กวา้ งๆ ส่วน Turn on แปลวา่ เปิด (ใช้กับวงจรไฟฟา้ )

ข้อท่ี 46 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ข้อน้คี ล้ายกับ ข้อ 48 เหตกุ ารณ์ท่เี ปน็ ผล ใช้ Present tense และเหตกุ ารณ์
ทีเ่ ป็นสาเหตใุ ช้ Present perfect tense ข้อนบ้ี อกวา่ I know my number now (ฉัน
รูเ้ ลขประจ� ตวั ฉันแล้ว) เปน็ ผลท่ีเกิดขึ้นในปัจจุบัน) I have learnt my number by
heart (ฉนั จ� ตวั เลขไดข้ นึ้ ใจเลย) เป็นสาเหตุ ค� ตอบท่ถี กู คือ “have learnt” ในความ
หมายนีแ้ ปลว่า ร/ู้ ทราบ/จ�

ขอ้ ที่ 47 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย เหตุการณท์ เี่ ปน็ ผล ใช้ Present tense และเหตกุ ารณท์ ่ีเป็นสาเหตใุ ช้ Pres-
ent perfect tense ข้อนบ้ี อกว่า This program must be new. (โปรแกรมตัวนต้ี อ้ ง
ใหมแ่ นๆ่ ) I’ve never seen it before (เพราะฉันไม่เคยเหน็ มากอ่ นเลย) ค� ตอบที่ถูก
คอื “never” ไมเ่ คย

ข้อที่ 48 ค� ตอบทถี่ กู คอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในขอ้ นค้ี อื “it” ในทน่ี เี้ ปน็ ค� สรรพนาม (pronoun) ใชแ้ ทน “key”
เหตุการณ์หลักคอื I was looking for something else (ฉนั ก� ลงั หาอะไรบางอยา่ ง)
เหตุการณ์ท่ีแทรกมาคือ I found it (ฉันเจอกุญแจ) ดังนั้น เหตุการณ์หลัก ใช้ Past
continuous tense เหตกุ ารณแ์ ทรกใช้ Past Simple Tense ค� ตอบทถี่ กู คอื “I was
looking” ฉนั ก� ลังมองหา

83คูม่ ือเตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ข้อท่ี 49 ค� ตอบที่ถกู คือ ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ความหมายของประโยคนี้คือ “ขอโทษด้วย ฉันไม่สามารถหยุด (รถ/ เดิน/
ฯลฯ) ตอนนไี้ ด้ ฉนั ก� ลงั จะประชมุ ส� คญั ” เหตกุ ารณห์ ลกั คอื I’m going to an import
meeting. (ฉนั ก� ลงั จะไปประชมุ ส� คญั ) จงึ ใช้ Present continuous tense เหตกุ ารณ์
แทรก I can’t stop now. (ฉนั จงึ ไมส่ ามารถหยุดตอนน้ีได)้ ใช้ Present simple tense
ค� ตอบท่ถี ูกคอื “I’m going” ฉนั ก� ลังจะไป
ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำำ ำำ ำำ ำ ำ
ข้อท่ี 50 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย จากประโยคนี้ ขอ้ สงั เกตเนอ่ื งจากเปน็ การกระท� ในอดตี จงึ เหน็ ผลในปจั จบุ นั
“it” ในทน่ี ี้เปน็ สรรพนาม (Pronoun) แทนค� ว่า “a new road” เหตกุ ารณน์ ีเ้ ป็นเรือ่ ง
ในอดีตเพราะมคี � วา่ “yesterday” แสดงท่ที า้ ยประโยคการกระท� ในอดตี คือ “They
opened it” (a new road) ผลในปัจจุบันคือ มีถนนเส้นใหม่ตรงเข้าสู่มอเตอร์เวย์
(There’s a new road to the motorway)
ผลในปจั จบุ นั ใช้ Present simple tense สว่ นการกระท� ในอดตี ใช้ Past simple tense
ค� ตอบทีถ่ ูกคอื “They opened” เคา้ เปิด___

ขอ้ ที่ 51 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย เหตกุ ารณ์หลกั คอื จะมีการแสดงการจุดพลุในวนั พรงุ่ น้ี ใช้ Present tense
เหตุการณ์ท่ีแทรกมาคือ เจเน็ทวางแผนจะไปดูงานแสดงน้ี ใช้ Present continuous
tense “it” ในทนี่ ี้ คอื “a firework display” ค� ตอบท่ีถกู คือ “going”
จะไป

ขอ้ ที่ 52 ค� ตอบที่ถกู คือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย เปน็ ประโยคการเชิญ ใช้ “Will you +Verb+ us?” ประโยคค� ถามข้างหลัง
น้นั ต้องหา กริยาช่วย (Helping verb) ทีจ่ ะสรา้ งประโยคเช้อื เชิญ ค� ตอบทถ่ี กู ตอ้ งคอื
“Will” ความหมายของประโยคนคี้ อื พวกเรานง่ั อยู่โต๊ะตรงมุมห้อง คณุ จะไปนั่งดว้ ยกัน
ไหม?

ข้อที่ 53 ค� ตอบที่ถกู คอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย A ถาม B วา่ จะรกั เกยี จไหมถา้ จะไม่ทง้ิ เอกสารของ B ท้ังหมดไวบ้ นโต๊ะ

B ตอบ A วา่ ขอโทษนะ ฉนั /ผมจะน� เอกสารทั้งหมดไปด้วยเม่อื ผมออกไป
เป็นวางแผนในปจั จบุ ันวา่ เม่อื เกดิ เหตุการณ์น้ี ฉนั จะท� แบบนน้ี ะ เหตกุ ารณเ์ กิดก่อนใช้

84คมู่ อื เตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

Present simple tense คอื when I go และเหตกุ ารณถ์ ัดมาใช้ Future tense คอื I’ll ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ
take them all with me ดังน้นั ค� ตอบทีถ่ กู คือ “I go” ฉันไป

ขอ้ ที่ 54 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ข้อ [A]
ค� อธบิ าย A พูดกบั B ว่า วนั จนั ทร์หนา้ น้ีเปน็ วันหยดุ It’s a public holiday next
Monday.

B ตอบ A ว่า ใช่ ผมรู้ (Yes, I know) แลว้ ถาม A กลับว่า A ก� ลังวางแผนจะ
ท� อะไรเปน็ พเิ ศษไหม? ก� ลงั วางแผนไวใ้ นใจนนั้ จะใช้ Present continuous tense ดงั
น้ัน โครงสร้างประโยคขนึ้ ต้นดว้ ย Verb to be เน่ืองจากคุยกนั 2 คน คือ A กบั B ดัง
นน้ั ค� สรรพนาม (pronoun) ทใ่ี ชก้ ับ A คือ “You” ซง่ึ เปน็ พหพู จน์ ดังน้ันจึงใช้กรยิ า
(Verb) ท่ีเปน็ พหพู จนจ์ งึ ใช้ Are you doing __? คุณจะท� __?
ข้อท่ี 55 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ประโยคแรกบอกวา่ มันคงจะดีกว่า ถา้ คุณไมโ่ ทรมาตอนบ่ายโมง ประโยคที่
สองบอกวา่ เรา_______กินอาหารกลางวนั กนั (We_______ (have) lunch then) ดู
เหมือนจะเป็นการบอกแผน ที่จะท� ในอนาคต ซึ่งกไ็ ม่ร้วู ่าเขาจะเชอื่ หรอื เปล่าวา่
อย่าโทรหาเราตอนบ่ายโมง จึงเปน็ แผนทไี่ ม่แนน่ อน จงึ ใช้ Future continuous tense
ขอ้ ที่ 56 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย เหตกุ ารณห์ ลกั คอื ผมก� ลงั ขบั รถ ใช้ Past continuous tense (I was going
to drive over) เหตุการณเ์ กิดแทรกขึน้ มา คอื เกดิ ผิดปกติเกี่ยวกบั รถยนต์ (รถเสยี ) ใช้
Past simple tense (but there’s something wrong with the car.
ขอ้ ที่ 57 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ประโยคเปน็ การคาดเดาสาเหตแุ ละผลลพั ธใ์ นอนาคต ความหมายประโยค คอื
ผมจะมีเวลาว่างมากข้นึ ในสัปดาหห์ น้า (I’ll have much more time next week.)
เป็นการท� นายอนาคต ใช้ Future tense สาเหตเุ พราะ ผมจะสอบเสรจ็ แล้ว (I will
have done …) ใช้ Future perfect tense ในทางกลบั กัน ถา้ เรอ่ื งจรงิ ยงั สอบไม่เสร็จ
เวลาวา่ งกจ็ ะไม่มี

85ค่มู อื เตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

3. Subject verb agreement (การใชก้ รยิ าทีส่ อดรบั กับประธาน)
ตัวอยา่ งข้อสอบ
ขอ้ ท่ี 58 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ข้อ [C]
ค� อธิบาย ข้อน้ีให้สังเกตในประโยคว่า ประธาน เป็นเอกพจน์ และถ้าสังเกตกริยา
caused เตมิ –ed และประโยคมคี � ว่า “since” จะใชใ้ นรปู Present perfect tense
ของสรา้ งของประโยคคอื S + have/has + V3 ดงั น้นั ค� ตอบคือ “has”
ข้อที่ 59 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ นใี้ หส้ งั เกตในประโยควา่ กรยิ าคอื ค� วา่ advertising เตมิ –ing ดงั นนั้ ตอ้ ง
เปน็ V.to be + V.ing ประธานของประโยคเปน็ พหพู จน์ คอื Our sponsors (ประธาน
ของประโยคจะไมอ่ ยหู่ ลงั preposition in) ซง่ึ V.to be ตอ้ งเปน็ รปู พหพู จนด์ ว้ ย ค� ตอบ
จึงเป็น “are”
ข้อท่ี 60 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ข้อนีใ้ หส้ ังเกตในประโยควา่ ประธานของประโยคคือ stores (ประธานของ
ประโยคจะไม่อยหู่ ลงั preposition in) เมอื่ ประธานของประโยคอยใู่ นรูปพหพู จน์ แต่ดู
รูป Tense แลว้ for the next 10 years เปน็ อนาคต (Future) ดงั นน้ั ค� ตอบคอื “will
be” จะเป็น
ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ
ขอ้ ท่ี 61 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ นใ้ี หส้ งั เกตในประโยควา่ ประธานของประโยคคอื The company เปน็ รปู
เอกพจนไ์ ม่เตมิ –s ดงั นั้น กรยิ าท่ีตามมาต้องเตมิ –s ค� ตอบจึงเปน็ “requires” จ� เป็น
ต้องให้
ขอ้ ที่ 62 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ข้อนี้ให้สังเกตในประโยคว่า ประธานของประโยคคือ The cars เป็นรูป
พหูพจน์เติม –s ดงั น้นั กริยาที่ตามมาต้องไม่เตมิ –s แตป่ ระโยคน้เี ป็นรูปอดตี เพราะมี
ค� ว่า “yesterday” ค� ตอบจึงเปน็ “were”

ข้อท่ี 63 ค� ตอบที่ถูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ข้อน้ีให้สังเกตในประโยคว่า ประธานของประโยคคือ Members เป็นรูป
พหูพจน์เติม –s ดังนั้น กริยาท่ีตามมาต้องไม่เติม –s ข้อสังเกตคือประโยคน้ีเป็นรูป

86คู่มอื เตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

Present perfect tense (S + have/has + V.3) เพราะ V.3 คือ ค� วา่ “seen” ค� ตอ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำำำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ
บจึงเปน็ “have”
ขอ้ ที่ 64 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ความหมายของประโยคแรก คอื ผมสามารถพดู ภาษาฮบิ บรแู ละภาษาฝรง่ั เศส
ได้ และใช้ Present simple tense ใหส้ ังเกตค� วา่ “but” แสดง 1/ ความเป็นประโยค
โครงสรา้ งขนานกบั โครงสร้างประโยคแรก หมายความว่า ถา้ ประโยคแรกเป็น Present
simple tense แล้วประโยคหลงั ก็ต้องเป็น Present simple tense ตาม และ2/แสดง
ใหเ้ หน็ วา่ ประโยคถดั มาตอ้ งมคี วามหมายตรงขา้ มกบั ประโยคแรก ดงั นนั้ Ann จงึ พดู ภาษา
ฮิบบรูและภาษาฝรง่ั เศสไม่ได้ จึงใช้ Ann doesn’t speak Hebrew and French. แต่
เขยี นโดยย่อเป็น Ann doesn’t. ค� ตอบท่ถี ูกคอื “doesn’t”
4. Nouns (ค� นาม)
ตัวอย่างขอ้ สอบ
ข้อท่ี 65 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ใหส้ งั เกตในประโยคนเ้ี ปน็ Past simple tense ความหมายคอื พวกเราทง้ั หมด
เลน่ ไพ่ (We all played cards และผมชนะ (I was the_____) หลงั the ตอ้ งการค� นาม
win (v.) = ชนะ winner (n.) = ผูช้ นะ ดังนั้น ค� ตอบท่ีถ฿กจึงเลอื กค� นามของ win
คือ “winner”
ขอ้ ที่ 66 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคน้ี เปน็ การรวมกลมุ่ กอ้ นของค� นาม (A group of noun)
ค� ที่ตอ้ งเติมในช่องวา่ งต้องเปน็ ค� นาม ซง่ึ collect เป็นกรยิ าแปลวา่ สะสม ค� ตอบท่ี
ถูกต้อง คือ “collection” การสะสม เป็นค� นามของ collect
ขอ้ ที่ 67 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ในประโยคน้คี อื a noun of noun ค� ว่า “deep” เปน็ ค� คณุ ศัพท์ (Adjec-
tive) แปลวา่ ลึก ค� นามของ deep คือ “depth” แปลว่า ความลกึ

87ค่มู อื เตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ข้อท่ี 68 ค� ตอบที่ถูกคอื ขอ้ [D] ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำำำำ ำำำำ ำำำ ำ
ค� อธบิ าย ในประโยคน้ี because of + ค� นามที่เป็นกรรมของ “of” ซึ่งค� แรก grain
เป็นค� นาม แปลวา่ เมลด็ ค� ทีส่ อง color เป็นค� นามแปลว่า สี ดงั น้นั ค� สดุ ท้ายต้อง
เปน็ ค� นามด้วย แต่ durable เปน็ ค� คณุ ศัพท์ (Adjective) ค� ตอบท่ีถกู ค� นามของ
durable คอื “durability” ความทนทาน
ข้อที่ 69 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ นใี้ หส้ งั เกตในประโยค person เปน็ ค� นามเอกพจน์ ซง่ึ จะใชก้ บั many ไมไ่ ด้
เพราะ “many” + Plural noun ดังน้นั ค� นามท่เี ป็นพหพู จน์ (Plural noun) ของ
person คอื “people”
ขอ้ ที่ 70 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ใหส้ งั เกตในประโยคนี้ ส� นวน “to be proud of” แปลว่า ภาคภูมใิ จ
The band (n.) แปลวา่ วงดนตรี หรอื สมาชิกวงดนตรี แล้วค� น้จี ะเปน็ เอกพจนห์ รือ
พหพู จน์ ใหส้ ังเกต สรรพนาม (pronoun) ทีใ่ ชแ้ ทน The band วา่ “their” แสดงว่า
The band ค� นหี้ มายถงึ สมาชกิ วงดนตรแี ตล่ ะคน จงึ มคี วามหมายเปน็ พหพู จน์ จงึ ตอ้ ง
ใช้ กรยิ า (Verb) ทเ่ี ปน็ พหพู จนค์ ือ “are”
ขอ้ ที่ 71 ค� ตอบทถี่ ูกคือ ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อนเ้ี ปน็ การพูดถึง Subject ของประโยคที่เปน็ เร่ืองความยาวนานของระยะ
เวลา ซึ่งจดั เปน็ Uncountable noun เป็นเอกพจน์ ดงั นั้นจึงใช้ Verb to be เอกพจน์
“is”
ขอ้ ที่ 72 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ นเี้ ปน็ การใหส้ งั เกต ความแตกตา่ งของค� วา่ mean กบั means ซงึ่ “mean”
ในขอ้ นี้หมายถึง ช่องทาง ดังนัน้ mean of communication แปลว่า ชอ่ งทางการ
สอ่ื สาร สว่ นค� วา่ “means” แปลวา่ วธิ ี (method) ดงั นน้ั means of communication
แปลวา่ วธิ กี ารสอื่ สาร ความหมายของประโยคนที้ เ่ี หมาะสมทสี่ ดุ คอื “E-mail is a relatively
new means of communication. E-mail” เป็นวิธกี ารสอ่ื สารแบบใหม่

88ค่มู อื เตรียมความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

5. Pronoun (ค� สรรพนาม) ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำำำ ำ ำำ ำ ำำำ ำ ำ
ตวั อยา่ งข้อสอบ
ข้อที่ 73 ค� ตอบทีถ่ กู คอื ขอ้ [D]
ค� อธบิ าย ใหส้ งั เกตประโยคนต้ี รงค� วา่ “has” ท� หน้าทเี่ ป็น Verb (กริยา) นั้นแสดงวา่
ตรงช่องว่างข้างหน้าที่หายไปต้องเป็นประธานเท่าน้ัน ดังน้ันค� ตอบทีถูกคือ “she”
ประโยคนม้ี คี วามหมายวา่ แพม จอหน์ สนั เปน็ คนท� ขนมปงั และเธอไดท้ � ธรุ กจิ มาหลาย
ปแี ลว้
ขอ้ ท่ี 74 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกตในประโยคนี้ ค� วา่ “final report” ท� หน้าทเ่ี ปน็ Noun (ค� นาม)
นัน้ แสดงวา่ ตรง
ช่องวา่ งขา้ งหนา้ ทห่ี ายไปต้องเปน็ การแสดงความเป็นเจา้ ของว่าเป็นรายงานของเคา้ ดัง
นั้นค� ตอบท่ีถกู ตอ้ งคอื “his” ความหมายของประโยคน้ีคอื “ผจู้ ดั การได้ขอให้คณุ เคล
เล่อร์ สง่ รายงานขัน้ สุดท้าย เก่ียวกับรายงานการขายของเคร่อื งซักผา้ ใหม่”
ขอ้ ท่ี 75 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคน้ี “I” เปน็ ประธานตอ้ งตามดว้ ยกรยิ า (Verb) สว่ น “me”
เปน็ กรรม ตอ้ งตามหลงั Verb สว่ น “my” ตอ้ งตามดว้ ย Noun และ “mine” ไมม่ อี ะไรตาม
หลงั โดยใหส้ งั เกตตรงค� วา่ “gave” ท� หนา้ ทเ่ี ปน็ Verb (กรยิ า) นน้ั แสดงวา่ ตรงชอ่ งวา่ ง
ขา้ งหลงั ทหี่ ายไปตอ้ งเปน็ กรรม (Object) ดงั นั้นค� ตอบคือ “me”
ขอ้ ที่ 76 ค� ตอบทถี่ ูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ในประโยคนห้ี มายความวา่ “ลกู คา้ หา้ งควรจะขอความชว่ ยเหลอื จากพนกั งาน
แทนทจี่ ะตอ้ งยกของจากชนั้ ดว้ ยตวั ลกู คา้ เอง” ใหส้ งั เกตตรงค� วา่ “by” ตอ้ งตามดว้ ยค� วา่
–self แต่เน่ืองจากมีลูกค้าหลายคนจากค� ว่า –self ต้องเป็น –selves น้ันแสดงว่า
ค� ตอบคอื “themselves”
ข้อท่ี 77 ค� ตอบท่ีถูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ประโยคนม้ี หี มายความวา่ เมอ่ื คมิ มี่ รวู้ า่ ตวั แทนของหลอ่ นคดิ เงนิ มากกวา่ ทจี่ ะ
เปน็ หลอ่ นจงึ จา้ งทนายฟอ้ งรอ้ งเขา แตใ่ หส้ งั เกตตรงค� วา่ “agent” เปน็ ค� นาม ดงั นนั้
ช่องว่างที่หายไปตอ้ งเป็นค� ตอบ “her”

89คูม่ อื เตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ข้อที่ 78 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ข้อ [B]
ค� อธิบาย Glasses ในข้อน้ีไม่ได้หมายถึง “แก้วหลายๆใบ” แต่หมายถึง “แว่นตา”
Glasses (แว่นตา)เป็นรูปพหูพจน์ เพราะแว่นตามีแว่นตาด้านซ้ายและด้านขวา ความ
หมายของประโยค คือ ฉัน/ผมหาแว่นตาไม่พบ คุณช่วยหาแว่นตาให้ด้วยค่ะ/ครับ ซ่ึง
look for แปลวา่ หา, for เปน็ preposition ตอ้ งตามดว้ ยกรรม (noun หรอื pronoun)
ดังน้นั pronoun หลัง for จึงใช้ “them”
ำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
ข้อที่ 79 ค� ตอบทถี่ ูกคอื ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ประโยค Take care, won’t you, Anna? แปลว่า ดูแลตวั เองด้วยนะ Anna
ในท่นี ้ี You กห็ มายถึง Anna เม่ือน� มาใช้ในประโยค look after….+pronoun/noun
ดงั นัน้ Pronoun ทใี่ ชแ้ ทน You คือ “yourself” ตวั คุณเอง

ข้อท่ี 80 ค� ตอบท่ีถกู คือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ประโยค A ถามว่า “Who does this CD belong to?” ใครเปน็ เจา้ ของ
แผน่ ซีดีน้?ี
B ตอบวา่ ________ I’ve just bought it. _______ ผมเพงิ่ ซอื้ แผน่ ซดี ี จรงิ ๆตอ้ งตอบ
ว่า ของผม ผมเพงิ่ ซื้อแผน่ ซดี ี ประโยควา่ ”ผมเอง” สามารถใชต้ อบยาวๆ
ว่า It’s me. หรอื It belongs to me. หรอื จะตอบสั้นๆโดยละ S + V ออก และเหลือ
แต่ Object (กรรม) อยา่ งเดียว เป็น “Me”

ขอ้ ที่ 81 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ความหมายของประโยค คือ รา้ นนีไ้ ม่ได้ขายหนงั สอื ใหม่ ขายแตห่ นังสือเกา่
pronoun ทใี่ ช้แทน books ในประโยคท่ี 2 คอื “ones” หนังสือหลายเล่ม

ข้อท่ี 82 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ความหมายของประโยค คือ ผมท� นาฬกิ าหาย แตม่ ันเป็นนาฬิการาคาถูกๆ
เทา่ นน้ั pronoun ทใี่ ช้แทน “watch” ในประโยคที่ 2 คอื one นาฬิกา (1 เรอื น)

ข้อท่ี 83 ค� ตอบทีถ่ กู คอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อนเี้ ป็นการใช้ pronoun ค� วา่ each other กับ each other’s
Each other แปลวา่ ซึ่งกันและกนั ใช้เม่ือ Subject 2 คน ท� กริยาอย่างเดียวกนั ให้กัน
และกัน Each other’s แปลวา่ ซงึ่ กันและกัน ใช้เมอ่ื Subject 2 คน ช่วยกันท� กรยิ า

90คู่มือเตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

อยา่ งเดียวกัน ใหก้ ันและกนั ความหมายในประโยคนีค้ อื เด็กสาวสองคนมักจะใส่เสือ้ ผา้
ของกนั และกนั ดงั นั้นค� ตอบที่ถูกคือ “each other’s” ของกันและกัน
ข้อท่ี 84 ค� ตอบท่ีถกู คือ ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ความหมายของประโยค I’ve got some sweets. ผมมลี กู อมมาหลายชน้ิ Would
you like __________ (a sweet)? คุณอยากชมิ สักชนิ้ ไหม ขอ้ น้เี ปน็ การใช้ pronoun
แทนค� ว่า a sweet ค� ตอบถูกคือ ค� ว่า “one” = a sweet ขนมหวาน/ ลูกอม
ำ ำ ำำำ ำ ำำ ำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำำำ ำ ำำำ ำ ำ ำ
ขอ้ ท่ี 85 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ความหมายในข้อนี้ คอื คนทั่วๆไปไมส่ ามารถท� ไข่เจยี วโดยไมท่ � ใหไ้ ขแ่ ตกได้
ขอ้ นี้โจทย์ตอ้ งการทราบว่า People in general (ประชาชนทัว่ ๆไป) จะใช้ค� สรรพนาม
(pronoun) อะไร ข้อนเี้ ปน็ การพูดลอยๆ จึงเลอื กค� สรรพนาม ค� วา่ “You” คุณ
ข้อที่ 86 ค� ตอบท่ถี ูกคือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ความหมายในข้อน้ี คอื พวกเราตบแต่งบ้านทั้งหลงั ดว้ ยตัวของพวกเราเอง จงึ
เป็นการใช้ Reflexive pronoun ว่าเรานี่ท� ด้วยตัวเราเองนะ ไม่มีใครชว่ ยเลย ดังนน้ั
สรรพนามสะทอ้ นกลบั (Reflexive pronoun) ของ We คือ “ourselves” ด้วยตัวของ
พวกเราเอง
6. Verbs (ค� กรยิ า)
ตวั อย่างข้อสอบ
ขอ้ ที่ 87 ค� ตอบท่ถี ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ หลงั ชอ่ งวา่ งมคี � วา่ “that” ดงั นนั้ ค� ตอบคอื suggest
แปลว่า แนะน� ดังนั้น ประโยคน้ีหมายความว่า ผู้อยู่อาศัยแนะน� ว่าให้พวกเราย้าย
อนุสาวรีย์ (รูปปั้น) ไปไว้ดา้ นหน้าตรงทางเขา้
ขอ้ ท่ี 88 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ ใหส้ งั เกตในประโยคน้ี หลงั ชอ่ งวา่ งมคี � วา่ “that” ดงั นนั้ ค� ตอบคอื propose
แปลว่าเสนอว่า ดังนน้ั ประโยคนห้ี มายความว่า ผูจ้ ัดการคนกอ่ น คณุ ดานา่ วิทนี่ ได้
เขยี นเสนอว่า พวกเราไมด่ � เนนิ โครงการนตี้ อ่

91คมู่ ือเตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ขอ้ ท่ี 89 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ขอ้ [D] ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำ
ค� อธบิ าย ใหส้ งั เกตในประโยคน้ี หลงั ชอ่ งวา่ งมคี � วา่ “that” ดงั นนั้ ค� ตอบคอื requires
ประโยคน้ีหมายความว่า เพ่ือที่จะได้ส่วนลดน้ี ทางโปรแกรมนี้เรียกร้องที่จะให้ผู้ซ้ืออยู่
หรือท� ธรุ กิจในตึกน้ี
7. Gerund, to infinitive and bare infinitive (กริยาท่เี ติม–ing, กริยาที่ม–ี to,
และกริยาท่ีไมม่ ี–to)
ตวั อย่างข้อสอบ
ขอ้ ท่ี 90 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ ใหส้ งั เกตในประโยคนค้ี อื “keep” เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั แรก และตวั เลอื กก็
เปน็ กรยิ าทงั้ หมด ซง่ึ ถา้ หากกรยิ าสองตวั เขยี นตดิ กนั ใหผ้ นั ตวั หลงั เปน็ –ing หรอื to infi.
(กรยิ าท่ีไม่ผนั รปู คอื V.1 แตห่ ลกั การสงั เกต “keep” ตอ้ งตามด้วย V.ing เสมอ ดังน้ัน
ค� ตอบทีถ่ กู ต้อง คือ “sending”
ขอ้ ที่ 91 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ ให้สังเกตในประโยคนค้ี อื “suggest” เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั แรก และใน
ชอ่ งวา่ เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั ทสี่ อง ซงึ่ ตวั เลอื กกเ็ ปน็ Verb ทง้ั หมด ซงึ่ ถา้ หากกรยิ าสองตวั
เขยี นติดกนั ใหผ้ ันตวั หลงั เป็น –ing หรือ to infi. (กริยาท่ีไม่ผนั รปู คือ V.1) แตห่ ลกั การ
สงั เกต “suggest” ตอ้ งตามดว้ ย V.ing เสมอ ดงั นนั้ ค� ตอบทถ่ี กู ตอ้ ง คอื “announcing”
ข้อท่ี 92 ค� ตอบทถี่ ูกคอื ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ ใหส้ งั เกตในประโยคนค้ี อื “mind” เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั แรก และตวั เลอื กก็
เปน็ กรยิ าทง้ั หมด ซง่ึ ถา้ หากกรยิ าสองตวั เขยี นตดิ กนั ใหผ้ นั ตวั หลงั เปน็ –ing หรอื to infi.
(กรยิ าที่ไม่ผันรูปคือ V.1) แตห่ ลักการสงั เกต “mind” ต้องตามด้วย V.ing เสมอ ดังน้นั
ค� ตอบที่ถูกตอ้ ง คอื “closing”
ขอ้ ท่ี 93 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ ใหส้ งั เกตในประโยคนค้ี อื “avoid” เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั แรก และตวั เลอื ก
ก็เป็นกริยาทั้งหมด ซึ่งถ้าหากกริยาสองตัวเขียนติดกันให้ผันตัวหลังเป็น –ing หรือ to
infi. (กรยิ าทไ่ี ม่ผนั รปู คือ V.1) แต่หลักการสงั เกต “avoid” ต้องตามดว้ ย V.ing เสมอ
ดังนน้ั ค� ตอบที่ถูกตอ้ ง คอื “telling”

92คู่มือเตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ข้อท่ี 94 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [B] ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
ค� อธบิ าย ข้อให้สงั เกตในประโยคน้คี ือ “enjoyed” เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั แรก และตวั
เลอื กกเ็ ป็นกริยาท้ังหมด ซงึ่ ถา้ หากกริยาสองตวั เขียนติดกนั ใหผ้ นั ตัวหลังเป็น –ing หรือ
to infi. (กริยาท่ไี ม่ผันรปู คอื V.1) แตห่ ลักการสังเกต “enjoyed” ต้องตามด้วย V.ing
เสมอ ดังนน้ั ค� ตอบที่ถกู ต้อง คือ “living”
ข้อท่ี 95 ค� ตอบท่ถี กู คือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ ใหส้ งั เกตในประโยคนค้ี อื “decided” เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั แรก และตวั เลอื ก
กเ็ ปน็ กรยิ า ทงั้ หมด ซง่ึ ถา้ หากกรยิ าสองตวั เขยี นตดิ กนั ใหผ้ นั ตวั หลงั เปน็ –ing หรอื to infi.
(กรยิ าทีไ่ มผ่ ันรปู คอื V.1) แต่หลักการสงั เกต “decided” ตอ้ งตามดว้ ย to Infi. เสมอ
ดังน้นั ค� ตอบท่ถี ูกต้อง คอื “to seek”
ขอ้ ที่ 96 ค� ตอบทถี่ กู คอื ข้อ [C]
ค� อธิบาย ข้อให้สงั เกตในประโยคน้คี ือ “required “ เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั แรก และตวั
เลอื กกเ็ ป็นกริยาทั้งหมด ซง่ึ ถา้ หากกริยาสองตัวเขียนติดกนั ให้ผนั ตัวหลงั เป็น –ing หรือ
to infi. (กรยิ าท่ีไม่ผนั รูปคอื V.1) แต่หลักการสงั เกต “required” ต้องตามด้วย to Infi.
เสมอ ดงั นน้ั ค� ตอบท่ถี ูกตอ้ ง คอื “to follow”
ขอ้ ท่ี 97 ค� ตอบท่ถี ูกคอื ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ ใหส้ งั เกตในประโยคนี้คอื “intended” เปน็ กริยา (Verb) ตวั แรก และตัว
เลอื กกเ็ ป็นกริยาทัง้ หมด ซงึ่ ถ้าหากกริยาสองตัวเขยี นตดิ กนั ใหผ้ ันตัวหลังเปน็ –ing หรือ
to infi. (กรยิ าทไี่ มผ่ นั รปู คอื V.1) แตห่ ลกั การสงั เกต “intended” ตอ้ งตามดว้ ย to Infi.
เสมอ ดงั นน้ั ค� ตอบทีถ่ ูกตอ้ ง คือ “to improve”
ข้อที่ 98 ค� ตอบท่ีถกู คอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อให้สังเกตในประโยคน้ีคือ “refused” เปน็ กริยา (Verb) ตัวแรก และตัว
เลอื กกเ็ ปน็ กรยิ าทงั้ หมด ซง่ึ ถา้ หากกรยิ าสองตวั เขยี นตดิ กนั ใหผ้ นั ตวั หลงั เปน็ –ing หรอื to
infi. (กรยิ าทไ่ี มผ่ นั รปู คอื V.1) แตห่ ลกั การสงั เกต “refused” ตอ้ งตามดว้ ย to Infi. เสมอ
ประโยคน้ีคือ บริษัทปฏิเสธที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางของฉัน ดังนั้นค� ตอบ
ทถ่ี ูกตอ้ ง คอื “to compensate”

913คมู่ อื เตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ขอ้ ที่ 99 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ข้อให้สังเกตในประโยคนค้ี อื “need” เปน็ กรยิ า (Verb) ตัวแรก และตวั เลอื ก
ก็เป็นกริยาท้ังหมด ซึ่งถ้าหากกริยาสองตัวเขียนติดกันให้ผันตัวหลังเป็น –ing หรือ to
infi. (กริยาทีไ่ ม่ผนั รูปคือ V.1) แต่หลกั การสังเกต “need” ต้องตามดว้ ย to Infi. เสมอ
ประโยคนคี้ อื พวกเราจ� เปน็ ตอ้ งลดจ� นวนกระดาษทใ่ี ชใ้ นโรงงานของพวกเรา ดงั นนั้ ค�
ตอบทถ่ี ูกต้อง คือ “to decrease”
ำำ ำ ำำ ำ ำำ ำำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำ
ข้อที่ 100 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ ใหส้ งั เกตในประโยคนค้ี อื “plans” เปน็ กรยิ า (Verb) ตวั แรก และตวั เลอื กก็
เปน็ กรยิ าทง้ั หมด ซงึ่ ถา้ หากกรยิ าสองตวั เขยี นตดิ กนั ใหผ้ นั ตวั หลงั เปน็ –ing หรอื to infi.
(กรยิ าทไี่ มผ่ นั รปู คอื V.1) แตห่ ลกั การสงั เกต “plans” ตอ้ งตามดว้ ย to Infi. เสมอ ประโยค
นี้คือ เธอวางแผนที่จะซื้อแฟลตใหม่ในปีหน้า ดังน้ันค� ตอบท่ีถูกต้อง คือ “to buy”

ขอ้ ท่ี 101 ค� ตอบท่ถี กู คอื ข้อ [D]
ค� อธิบาย ขอ้ ใหส้ ังเกตในประโยคนี้คือ “expect” เป็นกรยิ า (Verb) ตัวแรก และตวั
เลอื กก็เป็นกริยาทัง้ หมด ซงึ่ ถา้ หากกริยาสองตัวเขียนตดิ กนั ใหผ้ ันตวั หลังเป็น –ing หรือ
to infi. (กริยาท่ไี ม่ผันรปู คือ V.1) แต่หลักการสังเกต “expect” ตอ้ งตามดว้ ย to Infi.
เสมอ ประโยคนค้ี ือ “ฉันหวังว่าจะกลับมาถงึ ราว ๆเก้าโมง”นน้ั ค� ตอบทถี่ ูกต้อง คอื to
be “be”เปน็ infi. (กรยิ าทไ่ี มผ่ นั รปู คือ V.1) “to be back” หมายความวา่ “กลับมา

8. Adjective (ค� คณุ ศพั ท์)
ตวั อยา่ งข้อสอบ
ขอ้ ที่ 102 ค� ตอบทถี่ กู คือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ ใหส้ งั เกตค� วา่ “scenery” เปน็ ค� นาม ซง่ึ หนา้ ค� นาม
ต้องเปน็ adjective ถ้ามองจากตัวเลอื ก ขอ้ [A] และ [B] เปน็ กรยิ าท้ังคู่ ส่วนข้อ [D]
ลงทา้ ยดว้ ย –tion เปน็ ค� นาม ดงั นนั้ ค� ตอบทถี่ กู ตอ้ งคอื “attractive” เปน็ adjective
(ประโยคนแี้ ปลวา่ นารติ ะ เปน็ สถานทที่ อ่ งเทย่ี วทมี่ ชี อ่ื เสยี ง และมอี าหารทอี่ รอ่ ย รวมถงึ
วิวทิวทศั นท์ ่สี วยงาม

ขอ้ ที่ 103 ค� ตอบท่ีถูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ ใหส้ งั เกตค� วา่ “is” เปน็ หลกั is เปน็ Verb to be ซง่ึ ชอ่ ง
ว่างทต่ี อ้ งเตมิ ค� ตอบต้องเตมิ Adjective ถ้ามองจากตวั เลือก ข้อ [A] เป็น Verb ขอ้ [B]

914คู่มอื เตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ลงทา้ ยด้วย –ty เปน็ ค� นาม ส่วนข้อ [D] เป็น Adverbดั งนน้ั ค� ตอบท่ีถกู ตอ้ งคือ “reli- ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำำำำ ำ ำ ำำ
able” เปน็ adjective ประโยคนแี้ ปลวา่ แซลล่ี เวสตนั เปน็ คนทนี่ า่ เชอื่ ถอื ไวใ้ จได้ เพราะ
ว่าเธอท� งานเปน็ พยาบาลอยทู่ ่ศี ูนย์เด็กเลก็

ข้อที่ 104 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ ใหส้ งั เกตค� วา่ “charities” เปน็ ค� นาม ซงึ่ หนา้ ค� นาม
ตอ้ งเปน็ adjective ถ้ามองจากตวั เลือก ขอ้ [A] เป็น Adverb และ [B] เปน็ กรยิ าทั้งคู่
ส่วนข้อ [C] ลงท้ายดว้ ย –ty เปน็ ค� นาม ส่วนข้อ [D] เป็นกรยิ า ดังนั้นค� ตอบทีถ่ ูกต้อง
คอื “local” เปน็ adjective
ข้อที่ 105 ค� ตอบท่ีถูกคือ ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตในประโยคนี้ ใหส้ งั เกตค� วา่ “be” เป็นหลัก be เปน็ Verb to be
ซ่ึงช่องว่างทีต่ อ้ งเตมิ ค� ตอบ ต้องเตมิ Adjective ถ้ามองจากตัวเลอื ก ข้อ [B] และ [B]
เปน็ Verb ข้อ [D] ลงท้ายด้วย –ly เปน็ Adverb ดงั นนั้ ค� ตอบท่ถี กู ตอ้ งคอื “optimal”
เปน็ adjective
ข้อที่ 106 ค� ตอบทถี่ กู คือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ ให้สงั เกตในประโยคนี้ ให้สังเกต “become” เป็นหลกั become เป็น
Linking verb ซง่ึ ช่องว่างทีต่ ้องเตมิ ค� ตอบตอ้ งเตมิ Adjective ถ้ามองจากตัวเลอื ก ขอ้
[A] ลงทา้ ยดว้ ย –tion เป็นค� นาม และ [B] ลงทา้ ยดว้ ย –ly เปน็ Adverb สว่ นขอ้ [D]
“complete” เปน็ Verb ดังนั้นค� ตอบทีถ่ กู ตอ้ งคอื “competitive” มีการแข่งขันสงู
เปน็ adjective
9. Adverb (กริยาวิเศษณ)์
ตวั อยา่ งขอ้ สอบ
ขอ้ ที่ 107 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนใ้ี ห้มองกริยา (Verb) “sent” ข้างหลงั กรยิ า ขีดเสน้ ใต้
แสดงว่าตอ้ งหา Adverb มาขยาย Verb ดงั นน้ั ค� ตอบทีถ่ กู คือขอ้ “directly” โดยตรง

95คู่มอื เตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion

ข้อท่ี 108 ค� ตอบท่ีถกู คือ ข้อ [D] ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตในประโยคนี้ ช่องว่างที่อยดู่ า้ นหนา้ “impressive” (impressive
เป็น Adjective) ส่วนชอ่ งวา่ งจึงตอ้ งเตมิ Adverb มนั สามารถขยาย Adjective ได้ ดงั
นั้นค� ตอบที่ถกู คือข้อ “relatively” อยา่ งสัมพันธ์กนั / อยา่ งเกยี่ วเนอื่ งกนั
ข้อที่ 109 ค� ตอบท่ีถกู คือ ข้อ [B]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตในประโยคนี้ ช่องว่างทีอ่ ยดู่ ้านหนา้ “sharply” ซึง่ เปน็ Adverb
สว่ นช่องวา่ งจึงต้องเตมิ Adverb มนั สามารถขยายตัวมันเองได้ ดงั นน้ั ค� ตอบที่ถูก คือ
extremely
ข้อท่ี 110 ค� ตอบที่ถกู คอื ข้อ [C]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ีให้มองกริยา (Verb) ตัวข้างหน้า และข้างหลัง คือ
should และ check ดงั นน้ั ตรงกลางระหวา่ งกรยิ าสองตวั คอื Adverb (ค� กรยิ าวเิ ศษณ)์
ซงึ่ ค� กรยิ าวิเศษณน์ ีจ้ ะสงั เกตจากการเติม –ly ท้ายค�
ขอ้ ท่ี 111 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตในประโยคนี้ให้มองกรยิ า (Verb) ตวั ขา้ งหนา้ และข้างหลงั คอื will
และ be ดังนนั้ ตรงกลางระหวา่ งกริยาสองตัวคอื Adverb (ค� กริยาวิเศษณ์) ซง่ึ ค� กริยา
วิเศษณน์ จ้ี ะสังเกตจากการเตมิ –ly ทา้ ยค�
ขอ้ ท่ี 112 ค� ตอบท่ถี ูกคือ ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ขอ้ สงั เกตในประโยคน้ี ให้มองกรยิ า (Verb) ตวั ขา้ งหนา้ และข้างหลงั คอื are
และ placed ดงั น้ันตรงกลางระหว่างกริยาสองตัวคอื Adverb (ค� กริยาวิเศษณ)์ ซง่ึ ค�
กรยิ าวิเศษณ์น้จี ะสังเกตจากการเติม –ly ทา้ ยค�
ขอ้ ที่ 113 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคนี้ ให้มองกริยา (Verb) ตัวข้างหน้า คือ Drive (ขับ)
ประโยค ตอ้ งการ Adverb(ค� กริยาวิเศษณ์) มาขยาย Verb วา่ Drive ขบั อย่างไรจึง
ไมเ่ กดิ อุบัตเิ หตุ จงึ ใช้ค� วา่ “อย่างระมดั ระวัง” =“carefully” และเน้นย�้ adverb อกี
โดยใช้ค� ว่า “more + carefully” = “ระมัดระวังมากขึ้น”

96คู่มอื เตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion


Click to View FlipBook Version