ข้อท่ี 114 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ความหมายข้อนี้บอกว่า ถึงแมน้ มาร์ตี้เปน็ นกั แม่นปืนท่ีเก่งมากๆ แต่ มารต์ กี้ ็
ยงิ เปา้ หมายพลาดซ้� ๆ Repeat (Verb) = ซ�้ Repeated เปน็ Adjective = ซ�้ สว่ น
repeatedly เปน็ Adverb = อยา่ งซ้� ๆ ดังน้นั จึงใช้ repeatedly เปน็ Adverb ขยาย
Verb (missed)
ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำ
ขอ้ ที่ 115 ค� ตอบที่ถกู คอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ในขอ้ น้ี เปน็ การใช้ Adjective ขยาย Subject ของประโยค The young
ใช้เป็น Subject ไม่ได้ เพราะ Young เป็น Adjective ไม่ใช่ค� นาม สว่ นข้อ [C] หมาย
ถงึ ชายหนุม่ ทวั่ ไป และ [D] เป็นเพื่อนเก่าทวั่ ไป ไมเ่ จาะจง แต่ “The young man”
ใชเ้ ป็น Subject ของประโยคได้ โดยมีค� วา่ young มาขยาย man และเจาะจงว่าเปน็
ผูช้ ายหน่มุ ทมี่ ผี มสดี � คนนั้นเปน็ แฟนของน้องสาวฉัน ค� ตอบคอื “The young man”
ข้อที่ 116 ค� ตอบที่ถูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ นแ้ี ปลความหมายไดว้ า่ “ผมดใี จทแ่ี ผนงานส� เรจ็ เปน็ อยา่ งด”ี ขอ้ นเี้ ปน็ การ
เลอื กใช้ Adverb ค� วา่ ”อยา่ งดี” คือ ค� ไหน ขอ้ [A] “good” เป็น Adjective จงึ ใชไ้ ม่
ได้ ส่วนขอ้ [B] “goodly” เป็น Adverb ดเู หมือนใช้ได้ แต่เปน็ ค� ทยี่ กเลกิ การใชไ้ ปนาน
แลว้ ปัจจุบันไมใ่ ช้ ส่วนข้อ [D] “best” แปลวา่ ดีท่ีสุดต้องมี the น� หนา้ และเปน็ การ
เปรยี บเทยี บขนั้ สุด ดงั น้ันค� ตอบที่ถกู คือ “well” ดี เป็น Adverb
10. Comparison with adjectives and adverbs (การเปรยี บเทียบข้นั กวา่ )
ตวั อยา่ งข้อสอบ
ขอ้ ที่ 117 ค� ตอบทถี่ ูกคือ ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตในประโยคน้ี คือในประโยคนีม้ ีค� ว่า “than” ดังน้ัน ตอ้ งเป็นการ
เปรยี บเทยี บขน้ั กวา่ ตอ้ งเตมิ –er หรอื more เนอ่ื งจาก “popular” มมี ากกวา่ 1 พยางค์
ดังนั้นข้อท่ถี ูกทส่ี ุด คือ more popular แปลวา่ เปน็ ท่นี ิยมมากกวา่
ขอ้ ท่ี 118 ค� ตอบทถี่ ูกคอื ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ข้อสงั เกตในประโยคนี้ คือ ในประโยคมีค� ว่า “the” อยู่ข้างหน้า ดังนนั้ ต้อง
เป็นการเปรยี บเทียบข้นั สงู สดุ ต้องเตมิ –est หรอื most เน่ืองจาก “successful” มี
มากกวา่ 1 พยางค์ ดงั นน้ั ขอ้ ท่ีถกู ทส่ี ดุ คอื most successful แปลว่า ทอม ไรอนั เป็น
นกั ธรุ กจิ ทป่ี ระสบความส� เรจ็ ทส่ี ุดเทา่ ทฉ่ี ันเคยร้จู กั ในชีวติ
97คู่มือเตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ขอ้ ที่ 119 ค� ตอบที่ถกู คอื ข้อ [B] ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำำ ำ ำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตในประโยคน้ี คือ ในประโยคไมม่ ีค� วา่ “the” อย่ขู า้ งหนา้ และไม่
ค� ว่า”than” ดังนั้นจงึ เปน็ การเปรยี บเทยี บในขัน้ ปกติ จึงใช้ as + adjective + as เป็น
as tall as แปลว่า สูงพอๆกบั คาร์ร่าหรอื เปลา่ ?
ข้อที่ 120 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคน้ี คอื การถามวา่ ” Where is __________ chemist’s,
please?” คอื รา้ นขายยา________อยทู่ ไ่ี หน? โดยทว่ั ไปจะเปน็ การถามระยะทาง ใกล/้
ไกล ขอ้ นน้ี า่ จะถามว่า “รา้ นขายยาท่ีใกลท้ ีส่ ดุ อยทู่ ี่ไหน” ดงั น้นั “ใกลท้ ส่ี ุด”คอื “the
nearest” ดังนนั้ ค� ตอบที่ถกู ตอ้ ง คือ the nearest
ข้อท่ี 121 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตในประโยคน้ี คือ “Now” คือ ตอนน้/ี ขณะนี้ และความหมายของ
ประโยค ” Now I understand English __________.” คอื “ตอนนี้ ผมมคี วามเขา้ ใจภาษา
องั กฤษ_____” แสดงวา่ ตอ้ งมกี ารเปรยี บเทยี บ”ความเขา้ ใจในภาษาองั กฤษ”ถงึ ในอดตี
ดงั นนั้ เปน็ การเปรยี บเทยี บสองเหตกุ ารณเ์ ดยี วกนั ในเวลาทแ่ี ตกตา่ งกนั จงึ เปน็ การเปรยี บ
เทียบในน้ันสูงขึ้น คิดในทางบวกว่า”ความเข้าใจภาษาอังกฤษคงจะดีขึ้น” จึงใช้ค� ว่า
“better” หรอื ถ้าจะย�้ ว่าเขา้ ใจขน้ึ มากเลย จะใชค้ � วา่ ”much better” ดงั นั้นค� ตอบ
ทีถ่ ูกต้อง คอื “much better”
ข้อที่ 122 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตในประโยคน้ี คือ ในประโยคมคี � ว่า “the” อยูข่ า้ งหน้า ดังนน้ั ตอ้ ง
เปน็ การเปรยี บเทยี บขน้ั สงู สดุ ตอ้ งเตมิ –est หรอื most เนอ่ื งจาก “funny” เปน็ ภาษาพดู
มาจากค� วา่ “fun”เปน็ พยางค์ส้นั ๆ จึงถือว่า”funny ”เปน็ ค� พยางคส์ น้ั ๆไปด้วย จงึ ใช้
“funniest” ดงั น้ันขอ้ ทีถ่ กู ทส่ี ุด คอื funniest แปลวา่ นนั่ เป็นภาพยนตร์ท่สี นกุ ทส่ี ดุ ท่ี
ผมเคยดูมา
ขอ้ ท่ี 123 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ี คือ ความหมายของประโยค” Have you read her
_________book? แปลวา่ คณุ อา่ นหนงั สอื _____ของผหู้ ญงิ คนนน้ั หรอื ยงั และค� ตอบ
มีค� วา่ “recent” แปลว่า เรว็ ๆนี้/ลา่ สดุ เมอ่ื ใชใ้ นประโยคจะแปลความหมาย คือ คณุ
98ค่มู อื เตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
อา่ นหนงั สอื เลม่ ลา่ สดุ ของผหู้ ญงิ คนนน้ั หรอื ยงั ค� วา่ ”ลา่ สดุ ” ในภาษาองั กฤษ คอื “mostำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ
recent” ดงั นน้ั ข้อทถ่ี ูกท่สี ดุ คือ “most recent”
ขอ้ ที่ 124 ค� ตอบท่ีถูกคือ ข้อ [C]
ค� อธิบาย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ คอื ในประโยคมีค� วา่ “the” อยขู่ ้างหน้า ดังนั้นต้อง
เปน็ การเปรยี บเทยี บขน้ั สงู สดุ ตอ้ งเตมิ –est หรอื most เนอื่ งจาก “helpful” มมี ากกวา่
1 พยางค์ ดงั นนั้ ข้อทถ่ี ูกที่สุด คอื most helpful แปลว่า นัน่ เปน็ ความคิดท่ีดีทสี่ ุดเท่าที่
มี ดงั น้นั ขอ้ ท่ีถกู ท่ีสุด คือ ‘most helpful”
ขอ้ ท่ี 125 ค� ตอบท่ีถกู คอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตในประโยคนี้ คอื ในประโยคมีค� วา่ “the” อย่ขู ้างหนา้ ดงั นัน้ ตอ้ ง
เปน็ การเปรยี บเทยี บขน้ั สงู สดุ ตอ้ งเตมิ –est หรอื most เนอ่ื งจาก “modern” มมี ากกวา่ 1
พยางค์ ดงั นน้ั ขอ้ ทถี่ กู ทสี่ ดุ คอื most modern แปลวา่ โรงงานใชข้ บวนการผลติ ทท่ี นั สมยั
ท่ีสุด
ข้อท่ี 126 ค� ตอบที่ถูกคอื ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ข้อสงั เกตในประโยคนี้ คอื ในประโยคมคี � ว่า “the” อยขู่ ้างหนา้ ดงั น้ันตอ้ ง
เปน็ การเปรยี บเทยี บข้นั สูงสุด ตอ้ งเตมิ –est หรอื most เนื่องจาก “sad” มี 1 พยางค์
ดงั นนั้ ขอ้ ทถี่ กู ทส่ี ดุ คอื “saddest” เศร้าท่ีสุด/แย่ทสี่ ดุ ประโยคนม้ี คี วามหมาย มันเปน็
วนั ทแี่ ย่ที่สุดในชวี ติ ฉนั
11. If Clause (ประโยคเง่อื นไข)
ตัวอยา่ งขอ้ สอบ
ข้อท่ี 127 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนค้ี อื ความหมายของประโยคเปน็ Future possible ซงึ่
ใชโ้ ครงสรา้ ง If + Present simple tense, Future simple tense ในประโยคมีค� ว่า
“makes” เป็นกริยาชอ่ งที่ 1 ดังนน้ั ต้องหาค� ตอบในชอ่ งว่างท่เี ป็น will + V.1 ดังนนั้
ค� ตอบที่ถูกต้อง คือ will not
ขอ้ ท่ี 128 ค� ตอบทีถ่ กู คอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ี ความหมายของประโยคเป็น Past unreal ซึ่งใช้
99คู่มอื เตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
โครงสร้าง If + Past perfect tense, would + have+ V.3 คือในประโยคมคี � ว่า ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
“would have boarded” เปน็ would have V.3 ดงั นัน้ ต้องหาค� ตอบในชอ่ งว่างที่
เป็น had + V.3 ดงั นั้นค� ตอบท่ถี ูกตอ้ ง คือ had left
ขอ้ ท่ี 129 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สังเกตในประโยคน้ี ความหมายของประโยคเป็น Present unreal ซ่ึงใช้
โครงสรา้ ง If + Past simple tense, would + V.1 คอื ในประโยคมคี � ว่า “If I were
a prince” เปน็ Present unreal ดังนั้นต้องหาค� ตอบในชอ่ งว่างทีเ่ ปน็ would + V.1
ดงั นน้ั ค� ตอบท่ีถกู ต้อง คือ would have
ข้อท่ี 130 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตในประโยคนี้ คอื ในประโยคมีค� ว่า “they wouldn’t have got
married” เป็น Past unreal Tense ใน If เปน็ Past perfect tense, ดงั นนั้ ตอ้ งหาค�
ตอบในชอ่ งวา่ งทเ่ี ปน็ had + V.3 ดงั นนั้ ค� ตอบทถ่ี กู ตอ้ ง คอื hadn’t sat หรอื had sat
จงึ ให้ดคู วามหมายของประโยค” If they had sat/hadn’t sat next to each other
on the plane, they wouldn’t have got married.” หมายความว่า “ถ้าพวกเขา
น่งั /ไม่ได้นง่ั ตดิ กนั บนเครอ่ื งบิน พวกเขาคงไม่ไดแ้ ต่งงานกัน” ดงั นน้ั เลอื กความหมายที่
เปน็ ไปได้มากทีส่ ดุ ใน Past unreal คอื เพราะเขาไม่ไดน้ ่งั ติดกัน (hadn’t had) เขาจึง
ไม่ไดแ้ ตง่ งานกนั ดงั น้นั ค� ตอบท่ีถกู ต้อง คอื hadn’t had
ข้อท่ี 131 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [C]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตในประโยคน้ี ในประโยคที่ 2 ใช้ I’ll send you____. เปน็ will +
V.1 ซึ่งเปน็ Present real condition จึงใช้ If + Present simple tense, will-future.
ดงั นั้นค� ตอบทถ่ี ูกต้อง คือ “go”
ขอ้ ท่ี 132 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ี เป็นความหมายของประโยค” If I_______ my
homework, my teacher ______ happy. ความหมาย คือ”ถ้าผมท� การบา้ นเสร็จ/
ไม่เสร็จของผม ครขู องผมจะมคี วามสุข” ดังนั้น ค� ตอบทนี่ า่ จะเป็นจริง คือ ”ผมท� การ
บา้ นเสรจ็ ครูจะมคี วามสขุ ” จึงเป็น Present real condition ใช้ If +Present simple
tense, will-future tense ดังนน้ั ค� ตอบทถี่ ูกต้อง คือ finish / will go
100คู่มือเตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ข้อท่ี 133 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ขอ้ [B] ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ
ค� อธิบาย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ คือ ความหมายของประโยค “If I ____a long vaca-
tion, I_____ go to Europe.” คอื “ถ้าผม_____มเี วลาพกั รอ้ นนานๆ ผม______ไป
ยุโรป” เป็นการสมมุติที่ในปัจจุบันท่ีไม่เป็นจริง เป็น Present unreal ดังนั้นจึงใช้
โครงสร้าง If+ Past simple tense, would + V.1 คือ “If I had a long vacation, I
would go to Europe.”ตอ้ งหาค� ตอบในชอ่ งวา่ งทเี่ ป็น would + V.1 ดงั นั้น ค� ตอบ
ท่ีถูกต้อง คอื had/would
ข้อท่ี 134 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคนี้ เป็นการอธิบายเหตุผลว่า ท� อย่างน้ี (Sentence
1) เพราะ อะไร (Sentence 2) ความหมายในประโยค “I’ve got some saved up
________- I suddenly need it” คอื “ผมเกบ็ เงนิ ไวก้ อ้ นหนง่ึ มาโดนตลอด______ผม
ต้องการใชเ้ งนิ ทันที ” ความหมายในช่องวา่ งทีน่ ่าจะเป็น คอื เผ่อื ว่า จึงใช้ in case (เผอื่
ว่า/เพื่อกรณที ี่) ค� ตอบท่ถี กู ตอ้ ง คือ in case
ข้อท่ี 135 ค� ตอบที่ถูกคอื ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคนี้ คือ A การต้ังค� ถาม “What are you going to do
next year?” คอื ถาม B วา่ คณุ จะท� อะไรในปีหนา้ แล้ว B ก็ตอบแผนของตวั เองในปี
หน้า แตป่ ระโยคที่ B ตอบไปน้นั ใช”้ wish” แสดงความปรารถนาในปัจจบุ ันขณะทตี่ อบ
ค� ถามวา่ “ผมก็อยากจะรู้ค� ตอบของค� ถามน้ีเหมอื นกนั ” เปน็ Present unreal จงึ
ใช้ Subject + wish + Subject + Past simple tense ค� ตอบที่ถกู ต้อง คือ knew
ขอ้ ที่ 136 ค� ตอบท่ถี ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ขอ้ สงั เกตในประโยคน้ี คือ ความหมายของ A ” These figures are too
complicated to work out in your head” คอื ตัวเลขเหล่านย้ี ่งุ ยากซบั ซอ้ นเกินกว่า
ทคี่ ณุ จะคิดได้ แลว้ B ตอบคลอ้ ยตามว่า “Yes, if ____________ we had a calcu-
lator.” นา่ จะแปลว่า “ครบั ถ้าเรามเี ครือ่ งคิดเลขสกั เครอ่ื ง” ข้อน้ี เป็นการแสดงความ
ปรารถนาว่า อยากได้เครือ่ งคิดเลข เป็นการใช้ if only แทนค� วา่ wish และเป็นการ
แสดงความปรารถนาในปจั จบุ ันทีไ่ ม่เป็นจริง (Present unreal) จงึ ใชโ้ ครงสร้าง if only
+ Past simple tense ค� ตอบข้อนี้ คือ only
101คู่มอื เตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
12. Prepositions (ค� บุพบท) ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ
ตวั อย่างขอ้ สอบ
ข้อที่ 137 ค� ตอบทถี่ ูกคอื ข้อ [C]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตในประโยคนี้ เนอื่ งจากค� ตอบในข้ออื่นๆ ไม่ถกู ต้อง over เหนอื /
below ใต/้ under ใต้ แตข่ อ้ C “behind” แปลวา่ ดา้ นหลัง ดังนน้ั ประโยคนีห้ มายถงึ
รถถกู จอดไวท้ ด่ี า้ นหลงั บ้านพวกเรา
ข้อท่ี 138 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สังเกตในประโยคนี้ เน่ืองจากค� ตอบในข้ออ่นื ๆ ไม่ถูกตอ้ ง beside ขา้ งๆ/
behind ด้านหลงั / below ใต้ แตข่ อ้ A ค� วา่ “over” เหนือ ดงั นน้ั ประโยคนีห้ มายถึง
รปู ภาพถกู แขวนไวเ้ หนอื โซฟา
ขอ้ ท่ี 139 ค� ตอบทถี่ กู คอื ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ี เนื่องจากค� ตอบในข้ออ่ืนๆ ไม่ถูกต้อง under ใต้/
behind ดา้ นหลงั / over ลอยอยูเ่ หนือ แตข่ ้อ A ค� ว่า “beside” (อยู่ขา้ งๆ) ดังนน้ั
ประโยคนีห้ มายถึง แปลว่า คณุ พอ่ ของฉนั มักจะอย่ขู ้างๆคณุ แม่เม่อื คณุ แม่ปว่ ยเสมอ ค�
ตอบทีถ่ ูกคอื A
ขอ้ ท่ี 140 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกตในประโยคนี้ คอื ความหมายของ“placed the bowl_____the
two tubes.” คือ วางถ้วย ____ หลอดสองหลอด ตอ้ งใชค้ � ว่า “ระหวา่ ง” among =
ท่ามกลาง (ใชก้ บั สงิ่ มากกว่า 2 สงิ่ ขึน้ ไป) between = ระหวา่ ง in = ใน through =
ผ่าน ค� ตอบท่ถี ูกตอ้ งคอื between
ขอ้ ท่ี 141 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ี คือ ความหมายของ “The doctor sat_____the
exit in case he had to leave early.” คือ คุณหมอนงั่ ___ทางออก ในกรณคี ณุ หมอ
ต้องออกไปก่อน ตอ้ งใช้ค� ว่า “ใกล้ /ถัดไป” next to = ถดั ไป through = ผ่าน out
= ออก to = ถึง ค� ตอบที่ถูกต้องคอื next to
102คู่มือเตรยี มความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ข้อท่ี 142 ค� ตอบที่ถกู คอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สังเกตในประโยคน้ี คอื ความหมายของ “_____the symphony, no
one in the audience spoke.” คอื ____การแสดงซิมโฟนี ไม่มใี ครในกลุ่มผ้ชู มพูด
ต้องใชค้ � ว่า “ในระหวา่ ง” by = โดย for = ส� หรับ during = ในระหว่าง from = จาก
ค� ตอบที่ถกู ต้องคอื during
ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ
ขอ้ ท่ี 143 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ คอื ความหมายของ “You can see all the informa-
tion _____ the screen.” คือ คณุ สามารถเหน็ ขอ้ มูลทงั้ หมด___หนา้ จอ ต้องใช้ค� ว่า
“บน” at = ที่ in = ใน inside = ภายใน on = บน ค� ตอบท่ีถูกตอ้ งคอื on
ข้อท่ี 144 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ี คือ ความหมายของ “The audience clapped
_________ the end of the show.” คือ ผชู้ มปรบมือ___ในตอนทา้ ยของการแสดง
ตอ้ งใช้ค� วา่ “บน” at = ที่ for =ส� หรบั in = ใน to = ถงึ ค� ตอบท่ถี ูกต้องคอื at เพอ่ื
แสดงชว่ งเวลาทปี่ รบมอื ให้การแสดง
ข้อท่ี 145 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สังเกตในประโยคนี้ คอื การใช้ Present perfect tense และแสดงช่วง
เวลาในท้ายประโยค ความหมายของ “I’ve lived here __________ last year.” คอื
ผมอาศัยอยูท่ ่ีน_ี่ ___ปีที่ผา่ นมา ตอ้ งใช้ค� วา่ “ตง้ั แต่” already = เรียบร้อย been =
อยู่ for = ส� หรบั since = ตง้ั แต่ ค� ตอบทีถ่ ูกต้องคือ since
ข้อท่ี 146 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคนี้ คือ ความหมายของ “The house was burgled
_________we were out.” คือ บา้ นถกู ยอ่ งเบา____เราออกไปขา้ งนอก ตอ้ งใชค้ � ว่า
“ในขณะท่ี” at = ท่ี during = ในระหว่าง time = เวลา while = ในขณะที่ ค� ตอบ
ทถ่ี กู ต้องคอื while
ขอ้ ท่ี 147 ค� ตอบท่ถี ูกคอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ี คือ ความหมายของ “What’s the difference
_________ a boat and a ship.” คอื อะไรคอื ความแตกต่าง____เรอื ล� เลก็ และเรือ
103คู่มอื เตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ล� ใหญ่ ตอ้ งใชค้ � ว่า “ระหวา่ ง” between = ระหวา่ ง from = จาก under = ใต้ with ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำำ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ
= ด้วย ค� ตอบทถี่ กู ต้องคือ between
ขอ้ ท่ี 148 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตในประโยคน้ี คอื ความหมายของ “We’re all bored _________
this game.” คอื พวกเราทกุ คนเบอื่ หนา่ ย___เกมนี้ ตอ้ งใชค้ � วา่ “เบอื่ หนา่ ยกบั ”= Verb
to be bored + with ค� ตอบท่ีถกู ต้องคอื with
ขอ้ ท่ี 149 ค� ตอบท่ีถูกคือ ข้อ [D]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคน้ี คือ ความหมายของ “The babysitter will stay
there _________ we get home.” คอื พ่เี ล้ยี งเด็กจะอย่ทู น่ี ั่น____เรากลับถึงบ้าน
ตอ้ งใชค้ � วา่ “จนกระทง่ั ” by = โดย for = ส� หรบั to = ถงึ until = จนกระทง่ั ค� ตอบ
ทีถ่ กู ต้องคือ until
ขอ้ ท่ี 150 ค� ตอบที่ถกู คือ ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคนี้ คือ ความหมายของ “I’m going to be late
_________ the meeting.” คือ ผมจะไปสาย___การประชมุ ตอ้ งใช้ค� ว่า “ส� หรบั ”
at = ที่ for = ส� หรับ in = ใน to = ถงึ ค� ตอบท่ถี ูกต้องคอื for
ขอ้ ท่ี 151 ค� ตอบทถี่ ูกคือ ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ คอื ความหมายของ “The job is similar _________
my old one.” คือ งานนี้คล้าย___กับงานเก่าของผม ข้อนี้เป็นการใช้ความหมาย
“เหมอื นกนั /คล้ายคลึงกนั ”ต้องใช้ค� วา่ Noun+ Verb to be + Similar to+ Noun
ค� ตอบทีถ่ กู ตอ้ งคอื to
104ค่มู ือเตรยี มความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
13. Conjunctions (ค� สันธาน)
ตัวอยา่ งข้อสอบ
ข้อท่ี 152 ค� ตอบท่ีถูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ ใหส้ งั เกตวา่ ประโยคนมี้ ี Full stop เดยี ว ดงั นนั้ ค� เชอื่ ม
ทส่ี ามารถตดั ออกไดค้ ือ ขอ้ A และ D เพราะ ค� เช่ือมสองค� น้ีตอ้ งอยูใ่ นประโยคทม่ี สี อง
Full stops สว่ นค� วา่ although (แมว้ า่ ) ดงั นน้ั ค� ตอบทถ่ี กู ในขอ้ นคี้ อื ค� วา่ “Because”
เพราะว่า อากาศมันร้อนข้ึน มันจึงเป็นส่ิงส� คัญที่เราจะต้องท� ตัวให้เย็นและดื่มน�้
ควบคุมอุณหภูมิรา่ งกาย ในชว่ งซัมเมอร์น้ี
ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำำ ำำ ำำ ำ ำำำ ำำำ ำำ ำำ ำ ำ
ขอ้ ท่ี 153 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ข้อสงั เกตในประโยคน้ี คอื มี Full stop เดยี ว ดงั นั้น ค� เชือ่ มทีส่ ามารถตดั
ออกได้คือ ข้อ C และ D เพราะ ค� เช่อื มสองค� นต้ี อ้ งอยใู่ นประโยคท่มี สี อง Full stops
สว่ นค� วา่ although และ Despite แปลว่า “แม้วา่ ” แต่ค� ว่า Although จะต้องตาม
ด้วย S + V สว่ น Despite จะตามดว้ ยค� นาม (Noun) ดังนัน้ ค� ตอบทีถ่ กู ในขอ้ น้คี ือ ค�
วา่ “Although” แม้ว่าบริษัทต้องการให้พนักงานมาท� งานทบ่ี ริษัททุกวนั ผจู้ ัดการก็ยงั
อนญุ าตให้พนักงานสามารถท� งานที่บ้านได้ในโอกาสพเิ ศษ
ขอ้ ท่ี 154 ค� ตอบที่ถกู คอื ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนี้ เนอ่ื งจากประโยคมคี วามหมายวา่ จอหน์ มรี ถยนต์ 3 คน
นอกจากนัน้ เขาเพงิ่ ซอื้ บ้านอกี หลังหนงึ่ ในฟอรดิ า ดงั นัน้ ค� ตอบทถี่ กู คอื “moreover”
ซึ่งมคี วามหมายว่า นอกจากน้นั สว่ นความหมายของตวั เลอื กทีเ่ หลือจะมคี วามหมายวา่
ดงั น้นั ซงึ่ ผิด
ข้อท่ี 155 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตในประโยคนี้ เนื่องจาก Since มีความหมายแปลว่า “เพราะว่า”
ความหมายของประโยคนคี้ อื เพราะวา่ จอหน์ เป็นคนเดยี วทรี่ ้ทู างท่จี ะไปสถานท่ปี ระชุม
เคา้ ควรขับรถ
ขอ้ ท่ี 156 ค� ตอบท่ีถกู คือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตในประโยคนม้ี คี วามหมายวา่ ลกู คา้ ไดร้ บั การแนะน� ใหโ้ ทรหาแผนก
บรกิ ารลกู ค้า เผ่อื ว่า (ในกรณีที)่ ลกู คา้ ตอ้ งการทราบเบอร์ ดงั น้นั ค� วา่ “in case” มี
ความหมายวา่ เผอื่ วา่ (ในกรณีท)่ี ซ่งึ เป็นค� ตอบทถ่ี กู
105คมู่ ือเตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ข้อท่ี 157 ค� ตอบทถี่ กู คอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตความหมายของประโยคนคี้ อื พนกั งานควรแจง้ แผนกบคุ คล ถา้ พวกเขา
รสู้ กึ วา่ ถกู กลน่ั แกล้ง
ำ ำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ
ขอ้ ท่ี 158 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ความหมายของประโยคนคี้ อื ตอ้ งเตมิ ค� วา่ “Now that” ซง่ึ แปลวา่
“เพราะวา่ ” พวกเราไดร้ บั จดหมายอเิ ลคทรอนกิ สย์ นื ยนั แผนกสามารถด� เนนิ การตอ่ ตาม
การสง่ั ซ้อื
ขอ้ ท่ี 159 ค� ตอบทถี่ กู คอื ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ความหมายของประโยคนี้คอื ผจู้ ัดการตอบค� ถามท่วี า่ ____บรษิ ัท
จะใหโ้ บนสั ใหป้ นี ห้ี รอื ไม่ ค� ตอบคอื whether “แปลวา่ หรอื ไม”่ whether มนั จะมาคกู่ บั
question นัน่ ก็คือ ค� ถามทีว่ า่ บริษัทจะมี โบนัสใหห้ รือไม่
ข้อท่ี 160 ค� ตอบท่ีถกู คือ ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ความหมายของประโยคนี้คอื เขาติดตงั้ กลอ้ งวิดโี อในร้าน______
หยุดคนขโมยของ ค� ตอบในช่องว่างเปน็ ค� เช่อื มเพือ่ แสดงเหตผุ ล and =และ ใชไ้ ม่ได้
เพราะไมใ่ ช่ค� เชอื่ มเพอื่ แสดงเหตผุ ล in case =เผอื่ วา่ ใช้ไม่ไดเ้ พราะประโยคหลงั ขาด
Subject---> but แต่ ใช้ไมไ่ ด้เช่นกนั เพราะประโยคหลังขาด Subject ค� ตอบทถี่ กู ต้อง
คอื in order to
ขอ้ ท่ี 161 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกต ความหมายของประโยคน้ีคือ ไม่มีใครดูโทรทัศน์____ผมจึงปิด
โทรทศั น์ ค� ตอบในชอ่ งว่างเปน็ ค� เช่อื มเพือ่ แสดงเหตุผล since = ตั้งแต่ ใช้ไมไ่ ดเ้ พราะ
since ไม่ใชก้ ับ Past continuous tense /and และ เพราะ and เป็นโครงสร้างขนาน
ดงั นนั้ Tense ประโยคแรกกบั Tense ประโยคหลงั ตอ้ งเหมอื นกนั /before กอ่ น ใชไ้ มไ่ ด้
เพราะไม่ได้แสดงเหตุผล แต่แปลว่า “ไมม่ ีใครดโู ทรทศั นก์ อ่ นผมปดิ โทรทศั น”์ so ดงั นน้ั
เป็นการแสดงเหตุผล ค� ตอบทถี่ กู ตอ้ งคือ so
ขอ้ ท่ี 162 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกต ความหมายของประโยคน้ีคือ คุณไม่สามารถขับรถยนต์____คุณ
ไดร้ ับใบขับข่ี ค� ในชอ่ งว่างไมส่ ามารถใช้ค� วา่ “if” ถา้ ได้ เพราะความหมายใชไ้ มไ่ ด้ จึง
106คู่มอื เตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ตอ้ งใชค้ � วา่ “unless” มคี วามหมายวา่ if not คอื คณุ ไมส่ ามารถขบั รถยนต์ ถา้ คณุ ไมม่ ี ำ ำำ ำำ ำ ำ ำำำำ ำำ ำำำ ำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ
ใบขบั ขี่ ค� ตอบทีถ่ ูกตอ้ งคือ unless
ขอ้ ท่ี 163 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ความหมายของประโยคนค้ี อื “หอ้ งของเราเลก็ มากๆ___เรากไ็ มไ่ ด้
รงั เกยี จ” ค� ตอบในชอ่ งวา่ งตอ้ งเปน็ ค� เชอ่ื มทแี่ สดงความขดั แยง้ กนั ของประโยคแรกและ
ประโยคหลงั Since = เพราะวา่ / after = ภายหลงั / because = เพราะวา่ ใชใ้ นประโยค
ไมไ่ ด้ เพราะตอ้ งใชก้ บั ประโยคทแี่ สดงเหตผุ ลกนั ทง้ั ประโยคแรกและประโยคหลงั but =
แต่ แสดงความขดั แยง้ กนั ของประโยคแรกและประโยคหลงั ค� ตอบทถี่ กู ตอ้ ง คอื but แต่
ขอ้ ท่ี 164 ค� ตอบทถี่ ูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ข้อสังเกต หลังช่องว่างใช้ V. ing แสดงวา่ ค� ข้างหนา้ ตอ้ งมี Preposition จึง
เลือก in spite of “ทง้ั ๆที่ หรอื ______ไม่มพี รสวรรคเ์ ลย ผูช้ ายคนน้กี ลายเปน็ คนทม่ี ี
บุคลิกท่ีโดดเด่นทางทีวีและพิธีกรรายการพูดคุย” ประโยคแรกมีความหมายขัดแย้งกับ
ประโยคหลงั in order to =เพอ่ื วา่ /since =เพราะวา่ /after = ภายหลงั ใช้ไมไ่ ด้ เพราะ
เปน็ ค� เชอื่ มประโยคทแ่ี สดงความสอดคลอ้ งของประโยค 2 ประโยค in spite of = ทงั้ ๆท่ี
เปน็ ค� เช่อื มประโยคทข่ี ัดแยง้ กนั ค� ตอบทีถ่ กู คอื in spite of
14. Participles (กริยาไม่แท)้
ตวั อย่างขอ้ สอบ
ข้อท่ี 165 ค� ตอบที่ถูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนค้ี อื “The” ตอ้ งตามดว้ ยค� นาม แตค่ � นามคอื “win-
dow” ทอี่ ยหู่ ลงั ชอ่ งวา่ ง แปลวา่ Adjective หายไป เนอ่ื งจากตวั เลอื กเปน็ Verbs ทงั้ หมด
ตรงช่องว่างกค็ วรเป็น Participle จากหลักการให้มอง คอื –ing = ท� เอง/ -ed= ถกู ท�
ดวู า่ “window” น้ี มนั ท� เอง หรอื มนั ถกู ท� ขอ้ ทถ่ี กู คอื -ed= ถกู ท� เพราะมนั ท� ตวั เอง
ไมไ่ ด้ ดงั น้นั ค� ตอบ คือ broken.
ข้อท่ี 166 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนคี้ อื ค� ตอบทถี่ กู คอื [B] ในประโยคนี้ The ตอ้ งตามดว้ ย
ค� นาม แตค่ � นามคอื “suitcase” ทอี่ ยหู่ ลงั ชอ่ งวา่ ง แปลวา่ Adjective หายไป เนอ่ื งจาก
ตัวเลือกเป็น Verbs ทั้งหมด ตรงช่องว่างก็ควรเป็น Participle จากหลักการให้มอง
107คมู่ อื เตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
คอื –ing = ท� เอง/ -ed= ถกู ท� ดวู ่า “suitcase” น้ี มันท� เอง หรอื มันถูกท� ขอ้ ท่ถี กู ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำำ ำ ำำำ ำ ำำ ำำ ำำ ำ ำำำ ำำำำ
คอื -ed= ถูกท� เพราะมนั ท� ตัวเองไมไ่ ด้ ดงั นั้นค� ตอบ คอื lost.
ขอ้ ท่ี 167 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สังเกตของประโยคน้คี ือ ค� ตอบที่ถกู คอื [B] ในประโยคนใ้ี หส้ งั เกต “be”
หากเปน็ Verb to be + ing แต่บางทกี ็ + V.3 เน่อื งจากตวั เลอื กเป็น Verbs ท้ังหมด
ตรงชอ่ งว่างก็ควรเปน็ Participle จากหลกั การใหม้ อง คือ –ing = ท� เอง/ -ed= ถูกท�
แสดงว่า “appoint” แปลวา่ แต่งตัง้ จากประโยค John แต่งตง้ั ตัวเอง หรือถกู แต่งตงั้
ค� ตอบคอื John ตอ้ งถกู แตง่ ตงั้ ซึ่งค� ตอบ คอื appointed.
ข้อท่ี 168 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตของประโยคน้ีคือ “The” ต้องตามด้วยค� นาม แต่ค� นามคือ
“company” ทอ่ี ยหู่ ลงั ชอ่ งวา่ ง แปลวา่ Adjective หายไป เนอื่ งจากตวั เลอื กเปน็ Verbs
ทง้ั หมด ตรงชอ่ งวา่ งกค็ วรเปน็ Participle จากหลกั การใหม้ อง คอื –ing = ท� เอง/ -ed=
ถกู ท� ดวู ่า “company” นี้ มันท� เอง หรือมนั ถกู ท� ขอ้ ทถี่ กู คอื –ing = ท� เอง เพราะ
บริษัทส่งเอง ดงั นนั้ ค� ตอบ คอื shipping.
ข้อท่ี 169 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนค้ี อื He was ___________ when he arrived late
for class. ความหมายของประโยค คอื เขา____เม่ือเขามาเรียนสาย ในช่องวา่ งควรใส่
ค� วา่ “รูส้ กึ เขินอาย”เพราะประโยคในขอ้ นแ้ี สดงให้เหน็ วา่ เขารสู้ ึกด้วยตัวเขาเอง จงึ ใช้
V. to be + embarrassed. ดงั นั้น ค� ตอบ คอื embarrassed ร้สู กึ เขินอาย
ขอ้ ท่ี 170 ค� ตอบที่ถูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนค้ี อื There is a new movie playing at the theater.
Are you __________? ความหมายของประโยค คือ มีภาพยนตร์เร่ืองใหมก่ � ลงั ฉาย
ในโรงภาพยนตร์ คณุ _____ในชอ่ งว่างควรใส่ค� วา่ ”รู้สกึ สนใจ”เพราะประโยคในข้อน้ี
แสดงใหเ้ หน็ วา่ เขารสู้ กึ สนใจดว้ ยตวั เขาเอง จงึ ใช้ V to be + interested. ดงั นน้ั ค� ตอบ
คอื interested ร้สู กึ สนใจ
108คู่มอื เตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ขอ้ ท่ี 171 ค� ตอบท่ีถูกคอื ขอ้ [B] ำ ำำำำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำำ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ
ค� อธิบาย ข้อสังเกตของประโยคน้ีคือ The sad news made me __________
ความหมายของประโยค คือ มีข่าวเศร้า ท� ให้ผม _____ในช่องว่างควรใส่ค� ว่า”รู้สึก
หดห”ู่ เพราะประโยคในข้อนแี้ สดงใหเ้ หน็ วา่ เขารู้สกึ หดหดู่ ้วยตัวเขาเอง จงึ ใช้ V to be
+ depressed. ดังนน้ั ค� ตอบ คือ depressed รู้สกึ หดหู่
15. Modal Verb (กรยิ าช่วย)
ตัวอย่างขอ้ สอบ
ขอ้ ท่ี 172 ค� ตอบท่ีถูกคือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนค้ี อื “commute” แปลวา่ “เดนิ ทาง” ใหส้ งั เกตดา้ นหนา้
ชอ่ งวา่ งค� ตอบมีค� ว่า “are” ซ่งึ เป็น V. to be ดงั น้ันค� ตอบคอื commuting.
ข้อท่ี 173 ค� ตอบท่ีถกู คือ ข้อ [C]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตของประโยคนี้คือ “report” แปลว่า “รายงาน” ให้สงั เกตดา้ นหน้า
ช่องวา่ งนัน้ มคี � ว่า “have” ซง่ึ ต้องตามด้วย V.3 ดังน้นั ค� ตอบคอื reported.
ข้อท่ี 174 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกตของประโยคนเี้ ปน็ ประโยคค� ถาม เหน็ ค� วา่ “Does” ตน้ ประโยค
การผนั Verb ตอ้ งให้ถกู ต้อง ดังนัน้ ค� ตอบคอื employ จ้าง
ขอ้ ท่ี 175 ค� ตอบทถ่ี ูกคือ ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ ประโยคแรก There are plenty of tomatoes
in the fridge ความหมาย คือ มีมะเขือเทศเป็นจ� นวนมากในตู้เยน็ ประโยคหลงั You
_______ buy any. ความหมายท่ีควรจะเป็น คือ คณุ ไมค่ วรซอ้ื มาอกี mustn’t = ตอ้ ง
ไม่/need not = ไม่จ� เปน็ / may not = อาจจะไม่ (ซึง่ จริงๆแล้วจะซื้อมาเพ่มิ อกี
กไ็ ม่มีใครว่าอะไร) ดังน้นั ควรจะแนะน� วา่ ไมค่ วรซอื้ ค� ตอบท่ถี ูกต้องคือ should not
ขอ้ ท่ี 176 ค� ตอบทถี่ ูกคอื ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตของประโยคน้ี คือ ความหมายของประโยคแรก เขาท� งานติดต่อ
กนั มากกวา่ 11 ชว่ั โมง ความหมายประโยคท่ี 2 คือ เขา_____รู้สกึ เหน่อื ยภายหลงั จาก
ท� งานหนกั ขนาดนนั้ ค� ในชอ่ งวา่ งตอ้ งใชค้ � วา่ “ตอ้ ง”เพราะท� งานมากกวา่ 11 ชว่ั โมง
109คมู่ ือเตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
need = จ� เปน็ / had better = ควรจะ___ดกี วา่ /mustn’t = ตอ้ งไม่ ไม่ใช่ค� ตอบ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำำำ ำ ำ ำำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ
ค� ตอบท่ีถกู ต้อง คือ must
ข้อท่ี 177 ค� ตอบท่ีถูกคือ ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกตของประโยคนี้ ความหมายของประโยคคือ คณุ _____ไปขี่มอเตอร์
ไซดก์ บั เราไหม? เปน็ ประโยคเชญิ ชวน ค� ในชอ่ งวา่ ง ควรเปน็ การชกั ชวน สว่ น Do เปน็ ก
ริยาชว่ ย เพือ่ ให้ตอบ Yes/No Shall/Should ใช้เสนอค� แนะน� would เปน็ การเชญิ
อย่างสุภาพ ค� ตอบทถี่ กู ตอ้ ง คือ Would
ข้อท่ี 178 ค� ตอบท่ีถกู คอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สังเกตของประโยคน้ี ความหมายของประโยคแรก A บอกวา่ _____ผม
บอกทศิ ทางใหค้ ณุ B ตอบวา่ โอข้ อบคณุ ครบั ดงั นนั้ ค� ในชอ่ งควรเปน็ “ค� ขออนญุ าต”
Do เปน็ กริยาช่วย เพือ่ ใหต้ อบ Yes/No ค� ตอบท่ถี กู ต้อง will เป็นการแสดงความตั้งใจ
would เป็นการขอร้องอย่างสุภาพ Shall เปน็ การเสนอค� แนะน� ค� ตอบทถี่ กู ตอ้ ง คือ
shall
ขอ้ ท่ี 179 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ขอ้ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี คอื ความหมายของประโยค ผมมคี วามสขุ มากทไ่ี ดเ้ ดนิ
คุณ___ขับรถไปส่งผมท่ีบ้าน ค� ในช่องว่างน่าจะใช้ค� ว่า “ไม่จ� เป็น” เพราะชอบเดิน
don’t = อย่าท� /haven’t = ยงั ไม่ได้ /mustn’t = ตอ้ งไม่ / needn’t = ไม่จ� เป็น
ค� ตอบทีถ่ ูกตอ้ ง คือ needn’t
ขอ้ ท่ี 180 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ คือความหมายของประโยค เราทกุ คนพยายามท่จี ะ
ผลักรถตู้ แตม่ นั ________ เคลือ่ นไหว เพราะใชค้ � วา่ but ในประโยคที่ 2 แสดงว่า
ประโยคแรกและประโยคทสี่ องขดั แยง้ กนั ค� ในชอ่ งวา่ งนา่ จะใชค้ � วา่ “ไม”่ can’t = ไม่
สามารถ ในกบั เหตกุ ารณป์ จั จบุ นั /couldn’t = ไมส่ ามารถ ในกบั เหตกุ ารณอ์ ดตี /won’t
= ไม่ ในกบั เหตกุ ารณป์ จั จบุ นั / wouldn’t = ไม่ ใชก้ บั ประโยคขอรอ้ งแบบสภุ าพ ค� ตอบ
ที่ถกู ตอ้ ง คอื couldn’t
110คมู่ อื เตรยี มความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ขอ้ ท่ี 181 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [B] ำ ำำำ ำำ ำำ ำ ำำ ำำำ ำำำำ ำำ ำ ำำ ำำำ ำำ ำ ำ ำำ ำำำ ำำำ ำ ำ ำ ำำำ ำำ ำ
ค� อธิบาย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี ขึ้นต้นประโยคดว้ ยค� วา่ May ใชใ้ นการขออนุญาต
Asking for advice = การขอค� ปรึกษา /making a suggestion = การใหค้ � แนะน�
/refusing permission = การปฏเิ สธค� ขออนุญาต/ asking permission = การขอ
อนญุ าต ค� ตอบท่ีถกู ต้อง คอื asking permission
ขอ้ ท่ี 182 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี ประโยคใชค้ � วา่ must แปลวา่ ตอ้ ง เปน็ ประโยคค� สงั่
Asking for advice = การขอค� ปรกึ ษา /making a suggestion = การใหค้ � แนะน� /
refusing permission = การปฏเิ สธค� ขออนญุ าต/ giving an order = การออกค� สง่ั
ค� ตอบทีถ่ ูกต้องคือ giving an order
ข้อท่ี 183 ค� ตอบท่ีถูกคอื ข้อ [D]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตของประโยคนี้ ประโยคใชค้ � วา่ I’m sorry. You can’t park here.
แปลว่า “ขออภัย” คุณจอดรถที่นี่ไม่ได้ เป็นประโยคปฏิเสธการอนุญาต making a
suggestion = การให้ค� แนะน� /refusing permission = การปฏิเสธค� ขออนุญาต/
giving an order = การออกค� สง่ั / asking permission=การขออนญุ าต ค� ตอบท่ถี ูก
ต้อง คอื refusing permission
ขอ้ ที่ 184 ค� ตอบที่ถกู คือ ขอ้ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี ประโยคใชค้ � วา่ What jobs should I apply for แปล
วา่ ผมควรสมคั รต� แหนง่ อะไร เปน็ ประโยคขอค� แนะน� Asking for advice =การขอค�
ปรกึ ษา /giving an order=การออกค� สงั่ / making a suggestion=การใหค้ � แนะน� /
refusing permission=การปฏเิ สธค� ขออนญุ าต ค� ตอบทถี่ กู ตอ้ ง คอื Asking for advice
ขอ้ ท่ี 185 ค� ตอบท่ีถูกคือ ขอ้ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี ประโยคใชค้ � วา่ Would you like เปน็ ประโยคเชญิ ชวน
Asking for advice = การขอค� ปรกึ ษา /giving an order = การออกค� สั่ง/ making
a suggestion = การใหค้ � แนะน� /inviting = การเชิญ ค� ตอบที่ถูกต้อง คอื inviting
111คูม่ อื เตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ข้อท่ี 186 ค� ตอบท่ีถกู คือ ขอ้ [D] ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำำ ำำ ำ ำำ ำ
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตของประโยคน้ี ประโยคใช้ค� ว่า should have แปลว่า ควรมี เป็น
ประโยคแสดงความปรารถนา Inviting = การเชิญ /giving an order = การออกค�
ส่งั / suggestion = การแนะน� /expressing a wish = แสดงความปรารถนา ค� ตอบ
ท่ถี ูกต้อง คือ expressing a wish
16. Active and Passive voice (ประธานเปน็ ผูก้ ระท� และผ้ถู ูกกระท� )
ตวั อยา่ งขอ้ สอบ
ข้อท่ี 187 ค� ตอบท่ีถูกคอื ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี “The tower” เปน็ ค� นาม ประโยคนส้ี งั เกตท่ี “by”
มนั เปน็ ตวั ชวี้ า่ ประโยคนเ้ี ปน็ ประโยค Passive Voice จงึ ตอ้ งหา V. to be + V.3 (V. to be
จะผันตามเวลาหรือเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้น) ถ้าแปลความหมายจากประโยค ตึกนี้ถูกสร้าง
ในปี ค.ศ. 1998 โดยบริษทั เอม็ จเี อ็มดังน้นั ค� ตอบคอื was built.
ขอ้ ท่ี 188 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ข้อ [C]
ค� อธบิ ายขอ้ สงั เกตของประโยคนี้“Rebecca”เปน็ ค� นามประโยคนสี้ งั เกตที่“by”มนั เปน็
ตวั ช้ีว่าประโยคน้ีเป็น ประโยค Passive voice จึงต้องหา V. to be + V.3 (V. to be
จะผันตามเวลาหรือเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขนึ้ ) ถ้าแปลความหมายจากประโยค รีเบกก้าจะถูก
เล่ือนต� แหน่งโดยเจ้านายเพราะว่าหล่อนท� การขายรถยนต์ได้จ� นวนมากที่สุดในปีนี้
ดงั นน้ั ค� ตอบคอื will be promoted.
ข้อท่ี 189 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตของประโยคนี้ ความหมายของประโยค เดอะนิวยอรค์ ทาม______
เป็นหนงั สือพมิ พ์อันทรงเกยี รติที่มีช่ือเสียง การท่จี ะไดร้ บั เกยี รติ ในการยกระดบั ความ
มชี ่ือเสยี งนัน้ Subject ไมส่ ามารถพิจารณาเองได้ ตอ้ งถูกพจิ ารณา ดังนัน้ ในชอ่ งว่าง
Verb ทใี่ ชต้ อ้ งมคี วามหมายในเชงิ Passive voice คอื Subject + V. to be +V.3 ค� ตอบ
ในรูป Passive voice มี 2 ตัวเลอื ก คอื ข้อ B และ C แต่เนื่องจากข้อน้ีเปน็ ประโยคส้นั ๆ
ไมซ่ บั ซอ้ นอะไร จงึ ไมต่ อ้ งการ which เขา้ มาขยายความหมายประโยค ดงั นนั้ ค� ตอบคอื
is considered.
112ค่มู ือเตรยี มความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ข้อท่ี 190 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ข้อ [B] ำ ำำ ำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ
ค� อธิบาย ข้อสังเกตของประโยคน้ี ความหมายของประโยค ถึงแม้จะได้รับความนิยม
รายการวทิ ย_ุ ______ถอดการออกอากาศในเร็วๆนี้ Subject ไมส่ ามารถถอดการออก
อากาศเองได้ ตอ้ งถกู ถอดการออกอากาศ ดงั นนั้ ในชอ่ งวา่ ง Verb ทใี่ ชต้ อ้ งมคี วามหมาย
ในเชงิ Passive voice ขอ้ สงั เกตตอ่ มา คอื very soon แสดงวา่ เปน็ เหตกุ ารณท์ จี่ ะเกดิ ขน้ึ
ในอนาคต จึงใช้รปู แบบ Future คอื Subject + will + V. to be + V.3 ค� ตอบในรูป
Passive voice คือ will be taken
ขอ้ ท่ี 191 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ข้อ [A]
ค� อธบิ ายขอ้ สงั เกตของประโยคน้ีการทปี่ ระโยคขน้ึ ตน้ ดว้ ยSubject“Allofsandwiches”
เป็นพหพู จน์ ดงั น้นั ใน Verb พหพู จน์ดว้ ย และเน่อื งจาก Subject เองเปน็ ของกนิ จึงไม่
สามารถท� Action อะไรเองได้ ตอ้ งถกู กระท� ดงั นนั้ ในชอ่ งวา่ ง Verb ทใ่ี ชต้ อ้ งมคี วามหมาย
ในเชงิ Passive voice คือ Subject + V. to be + V.3 ข้อนมี้ คี � ตอบเดยี วที่ถูกตอ้ งคอื
were eaten.
17. There is and There are (การใช้ค� ท่ีมีความหมายว่า “ม”ี )
ตัวอย่างขอ้ สอบ
ขอ้ ท่ี 192 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกตของประโยคน้ี หลังช่องวา่ งเปน็ many people เป็นนามพหพู จน์
ค� ตอบท่ถี ูกต้องคอื There are
ขอ้ ท่ี 193 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตของประโยคนี้ หลังช่องว่างเปน็ nothing เปน็ นามเอกพจน์ค� ตอบ
ทถี่ ูกต้องคอื There is
ขอ้ ท่ี 194 ค� ตอบทีถ่ กู คอื ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ หลงั ชอ่ งวา่ งเปน็ กลมุ่ ของเครอื่ งดม่ื กาแฟ น�้ ชา และ
น�้ ผลไม้ ซงึ่ จดั อยใู่ นประเภทนามนบั ไมไ่ ด้ (Uncountable noun) เปน็ เอกพจนค์ � ตอบ
ท่ีถูกตอ้ งคอื There is
113คู่มอื เตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ขอ้ ท่ี 195 ค� ตอบทถี่ กู คอื ข้อ [B] ำ ำ ำำ ำำ ำ ำ ำำ ำำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำำำ ำ
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ ประโยคค� ถามขนึ้ ตน้ ดว้ ย Is there ดงั นน้ั ค� ตอบจงึ
ต้องตอบด้วThere is ค� ตอบท่ถี กู ต้องคอื there is
ขอ้ ท่ี 196 ค� ตอบที่ถูกคือ ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี การใชค้ � วา่ any แสดงวา่ ประโยคนต้ี อ้ งเปน็ ประโยค
ปฏเิ สธและหลงั ชอ่ งว่างเปน็ “any” English exams เปน็ นามพหพู จน์ จงึ ใช้ There
aren’t ค� ตอบท่ถี กู ตอ้ งคอื There aren’t
18. Phrasal Verbs
ตวั อย่างข้อสอบ
ข้อท่ี 197 ค� ตอบท่ถี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตของประโยคน้ี “turn” เม่ือมาค่กู ับค� ว่า on, off, out, in ความ
หมายแตกต่างกนั ค� วา่ “turn on” เปิด / “turn off” ปิด / “turn out” ปรากฏวา่
ซง่ึ ความหมายของประโยคนีค้ ือ คณุ จะตอ้ งปดิ ไฟก่อนออกจากห้อง ดงั นนั้ ค� ตอบท่ีถกู
คือ off
ขอ้ ท่ี 198 ค� ตอบที่ถกู คอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกตของประโยคนีค้ อื ค� ว่า “take” เม่ือมาคู่กับค� วา่ away, off, in
ความหมายแตกตา่ งกัน ค� ว่า “take away” น� กลับบา้ น / “take off” ถอด/“take
in” รบั เขา้ มา ซ่งึ ความหมายของประโยคนค้ี ือ กรุณาถอดรอ้ งเทา้ ของคุณ ดังน้นั ค� ตอบ
ทีถ่ กู คือ off
ข้อท่ี 199 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [C]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตของประโยคนีค้ อื ค� วา่ “depend” หรอื “count” แปลว่า พ่ึงพา
อาศยั เม่อื มาคู่กับค� ว่า at, in, on ความหมายแตกตา่ งกนั ค� วา่ “depend at” พงึ่ พา
อาศยั ท่ี / “depend in” พ่ึงพาอาศัยใน / “depend on” พง่ึ พาอาศยั ซ่งึ ความหมาย
ของประโยคน้คี อื คุณสามารถพ่งึ พาอาศัยฉนั ได้ ดงั นัน้ ค� ตอบท่ีถกู คือ on
114คู่มือเตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ข้อท่ี 200 ค� ตอบทีถ่ กู คือ ข้อ [B] ำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำำำ ำำำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำ
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกตของประโยคนี้คือ ค� วา่ “give” แปลวา่ ให้ แต่เมือ่ มาคูก่ ับค� ว่า
out, up, away ความหมายแตกต่างกัน ค� ว่า “give out” แจกฟรี / “give up” ยอม
แพ้/ “give away” แจก ซง่ึ ความหมายของประโยคน้คี อื อยา่ ยอมแพ้ ดงั น้นั ค� ตอบท่ี
ถกู คอื give up
ขอ้ ที่ 201 ค� ตอบทถ่ี ูกคอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี มคี วามหมายวา่ “ลกู จา้ งมกั จะ ____ หวั หนา้ งานในการ
ชแี้ นะ” ค� ตอบขอ้ นมี้ คี วามหมายเดยี วกนั กบั ค� วา่ “depend on” แปลวา่ พงึ่ พาอาศยั
ดังน้ันค� ตอบทถี่ กู คอื “on”
ข้อท่ี 202 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [D]
ค� อธิบาย ข้อสังเกต ประโยคน้ีมีความหมายว่า “การประชุมเทคโนโลยีปีน้ีจะต้องถูก
ยกเลกิ เนอื่ งจากเกดิ การระบาดของ COVID-19” ค� ตอบขอ้ น้มี คี วามหมายเดียวกันกับ
ค� วา่ “cancel” แปลว่า ยกเลิก ดังนน้ั ค� ตอบทีถ่ ูกคอื “off”
ขอ้ ท่ี 203 ค� ตอบทีถ่ ูกคือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ประโยคนม้ี คี วามหมายวา่ “รอ้ งเพลงตอ่ ไปเรอ่ื ยๆ ผมก� ลงั ฟงั ” ค�
ตอบขอ้ น้ี มคี วามหมายเดยี วกนั กบั ค� วา่ “Keep on” แปลวา่ หมน่ั , ท� ตอ่ ไป ดงั นนั้ ค� ตอบ
ท่ีถูกคือ “go on”
ขอ้ ท่ี 204 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ประโยคน้ีมีความหมายว่า “เธอ__ซอื้ รถยนต์คันใหม่” และดูจาก
ทศิ ทางของค� ตอบออกมา ตดั สนิ ใจ ค� ตอบขอ้ นมี้ คี วามหมายเดยี วกนั กบั ค� วา่ “made
up her mind” แปลว่า ตดั สินใจ ดงั น้นั ค� ตอบทถ่ี กู คอื “decided”
ขอ้ ท่ี 205 ค� ตอบท่ถี กู คือ ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ข้อสงั เกต ประโยคนี้มีความหมายวา่ “ตอนนผี้ มเบอื่ ไป_____กบั เพอ่ื นๆเรา
สุดสปั ดาห์น้กี ัน” ในชอ่ งวา่ งเหมือนจะหาอะไรท� รว่ มกนั กบั เพือ่ นๆ ดจู ากค� ตอบ get
into = ออกไป get away = หนีไป get off = ลง get together= รวมกนั /พบปะกัน
ดงั นนั้ ค� ตอบทถี่ ูกคอื “get together”
115คู่มอื เตรียมความพรอ้ มการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ข้อท่ี 206 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกต ประโยคนมี้ ีความหมายวา่ “รีบๆหน่อย พวกเราไม่ต้องการ
พลาดรถไฟนะ !___กันเถอะ” ค� ตอบขอ้ นม้ี ี get through = ผ่าน get on = ขน้ึ get
a break = พัก get a clue = บอก ความหมายเดยี วกนั กับค� วา่ “cancel” แปลว่า
ยกเลิก ดงั นัน้ ค� ตอบที่ถกู คือ “get on”
ำำ ำำ ำำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
ข้อท่ี 207 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกต ประโยคนม้ี คี วามหมายว่า “การอยใู่ นท่อี ุน่ ๆและการพักผ่อน
จะชว่ ยคุณ_______ความเยน็ ” ค� ตอบค� ตอบขอ้ น้มี ี get over = เอาชนะ/ท� ให้ดีขึน้
get started = เรมิ่ get a long = เขา้ กนั ได้ get into = ตดิ อยา่ งงอมแงม ดงั นนั้ ค� ตอบ
ที่ถกู คือ “get over”
ขอ้ ที่ 208 ค� ตอบทีถ่ ูกคือ ข้อ [C]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกต ประโยคน้มี คี วามหมายว่า “ทอมม_ี่ ______หลงั จากทีเ่ ขาเลา่
เรอื่ งโกหก” ค� ตอบค� ตอบ ขอ้ นม้ี ี got off = ลง got on = ขน้ึ got in trouble = มปี ญั หา
got well = ดขี ้ึน ค� ตอบท่ีถูกคอื “get in trouble”
ขอ้ ท่ี 209 ค� ตอบที่ถูกคอื ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกต ประโยคน้ีมีความหมายว่า “ผมชอบเพ่ือนร่วมห้องผมจริงๆ
เรา_______ทกุ เรอื่ ง” ค� ตอบขอ้ นี้มี get along with = เข้ากันได้ get better = ดีขึ้น
get busy = ย่งุ got down = ลง ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ” get along with”
ข้อท่ี 210 ค� ตอบท่ีถูกคือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ประโยคนมี้ คี วามหมายวา่ “ฉนั ตอ้ ง_______เครอ่ื งบนิ ในโตรอนโต
และเปลย่ี นเคร่ืองบนิ อกี ล� หนง่ึ ” ค� ตอบค� ตอบ ข้อน้มี ี get even = ไดร้ บั เสมอ get
on=ขึน้ get off= ลง get by= รับโดย ค� ตอบท่ีถูกคอื “get off”
ขอ้ ท่ี 211 ค� ตอบทถี่ กู คือ ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ขอ้ สงั เกต ประโยคน้ีมีความหมายว่า “ผมสอบเสรจ็ แล้ว เครียดแลว้ ผม
ตอ้ งการ_______(พกั ผ่อน) ” ค� ตอบค� ตอบขอ้ น้ีมี introvert = เก็บตัว chill out =
ผ่อนคลาย สบายๆ controvert = โต้เถยี ง keep on = ท� ตอ่ ไปเรื่อยๆ ค� ตอบทถ่ี กู
คอื “chill out”
116คู่มือเตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ขอ้ ท่ี 212 ค� ตอบทถี่ กู คอื ขอ้ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ประโยคนมี้ คี วามหมายวา่ “เราสามารถ_______สถานการณ_์ ___
ในค� เดยี ว, วนุ่ วาย” ค� ตอบค� ตอบขอ้ นี้มี summarize__into = สรุป__เขา้ ไปขา้ งใน
gather__in = รวบรวม__ใน keep__crossed = ภาวนา sum __up = สรปุ ผล ค� ตอบ
ท่ีถกู คอื ”sum___up”
ำำ ำำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำำำ ำ ำ
ขอ้ ที่ 213 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ขอ้ สังเกต ประโยคนี้ความหมายวา่ “เลขาจะตอ้ ง___ผ้จู ัดการ ถ้าฉนั ตอ้ งการ
คยุ กบั เขา”ตอบค� ตอบขอ้ นตี้ วั เลอื กมี put through = ตอ่ สาย/ โอนสาย put down =
ท� ใหท้ อ้ แท้ put on = สวมใส่ put out = ดบั ไฟ ดงั น้นั ข้อที่ถกู ตอ้ ง คอื put through
ขอ้ ท่ี 214 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ข้อสังเกต ประโยคนี้มคี วามหมายวา่ “ห้องคุณรกมาก_______ของเลน่ และ
เส้อื ผา้ ทนั ที” ค� ตอบค� ตอบขอ้ นีม้ ี put away = เอาออกไป pull off = ดงึ ออก play
by = เล่นโดย grab up = หยบิ ขนึ้ มา ค� ตอบทถี่ ูกคือ “put away”
ข้อท่ี 215 ค� ตอบท่ถี กู คอื ขอ้ [B]
ค� อธิบาย ข้อสังเกต ประโยคน้ีมีความหมายว่า “ครูภาษาอังกฤษบอกว่าเราต้อง___
บทความ__ ในวันพรุ่งน้ี” ค� ตอบค� ตอบข้อนี้มี write___down=บันทึก/จดลงไป
hand___in = ส่งรายงานการบ้าน keep___on = ท� ตอ่ ไป put___off = เลอื่ นออก
ค� ตอบท่ถี ูกคอื “hand___in”
ข้อท่ี 216 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ข้อสงั เกต ประโยคนม้ี คี วามหมายวา่ “คณุ ก� ลงั ท� อะไร? ผมก� ลัง_______
เลนสส์ ายตาของผม ผมคอ่ นขา้ งแนใ่ จวา่ ผมเกบ็ ลงในถงุ แลว้ แตผ่ มหามนั ไมเ่ จอ” ค� ตอบ
ค� ตอบข้อนีม้ ี looking for = ค้นหา getting along = เข้ากนั ได้ handing in = ส่ง
keeping a promise = รักษาสัญญา ค� ตอบท่ถี ูกคือ “looking for”
ขอ้ ท่ี 217 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [D]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกต ประโยคนมี้ คี วามหมายวา่ “ผมจะ___คณุ ___เวลาน้ี แตอ่ ยา่ สายอกี นะ
เพราะคุณต้องออกจากห้องไป” ค� ตอบค� ตอบข้อน้ีมี stay___till=อยู่__จนกระทั่ง
do it= ท� take___part = มสี ว่ นร่วม let in = อนุญาต/ปล่อยใหเ้ ข้ามา ไป ค� ตอบที่
ถูกคอื “let in”
117คู่มอื เตรยี มความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR
sentence completion
19. Tag Questions หรอื Questions Tag (ค� ถามทา้ ยประโยค)
ตวั อย่างข้อสอบ
ขอ้ ท่ี 218 ค� ตอบที่ถกู คอื ข้อ [A]
ค� อธิบาย ข้อสงั เกตของประโยคนี้ Tense ท่ีใชเ้ ป็น Past simple tense ใช้ Subject
เปน็ he และใช้ Adverb เปน็ never แปลว่า ไม่เคย ความหมายของประโยค จึงเปน็
Negative ความหมาย คือ “เขาไมเ่ คยมาอีกครงั้ ___? ดงั น้นั Tag ขา้ งหลังจะตอบเป็น
Positive และใช้ Verb to do ในรปู อดีต เป็น did ดงั นน้ั Tag ด้านท้ายประโยค จงึ เปน็
did he?
ำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
ข้อท่ี 219 ค� ตอบท่ีถกู คอื ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ Tense ทใี่ ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เปน็ she และใช้ adverb เปน็ rarely แปลวา่ นานๆครง้ั ความหมายของประโยค จงึ เปน็
Negative ความหมาย คอื “ชว่ งน้ีคุณ ผ้หู ญิงไมค่ ่อยมา____? ดังนนั้ Tag ข้างหลังจะ
ตอบเปน็ Positive และใช้ can เปน็ Helping verb ดังน้ัน Tag ด้านท้ายประโยคจึง
เป็น can she?
ขอ้ ที่ 220 ค� ตอบทีถ่ ูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ Tense ทใ่ี ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เปน็ You และใช้ Adverb เปน็ hardly แปลวา่ แทบจะไม่ ความหมายของประโยค จงึ เปน็
Negative ความหมาย คอื “คณุ แทบจะไมเ่ คยมาสาย,___? ดงั นนั้ Tag ขา้ งหลงั จะตอบเปน็
Positive และใช้ Verb to do ในรปู อดีต ดงั น้ัน Tag ดา้ นทา้ ยประโยคจงึ เปน็ did you?
ขอ้ ท่ี 221 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ Tense ทใี่ ชเ้ ปน็ Future simple tense ใช้ Subject
เปน็ You และใช้ Helping verb เปน็ won’t แปลว่า จะไม่ ความหมายของประโยค
จึงเป็น Negative ความหมาย คอื “คณุ จะไมม่ าสาย,_______? ดังนัน้ Tag ข้างหลังจะ
ตอบเปน็ Positive ดงั นั้น Tag ดา้ นทา้ ย ประโยคจึงเปน็ will you?
ข้อท่ี 222 ค� ตอบท่ีถกู คอื ขอ้ [A]
ค� อธิบาย ข้อสังเกตของประโยคนี้ Tense ท่ใี ช้เป็น Past simple tense ใช้ Subject
เป็น you และใช้ Helping verb เปน็ couldn’t แปลว่า ไมส่ ามารถ ความหมายของ
ประโยค จงึ เปน็ Negative ความหมาย คอื “คณุ คงไมส่ ามารถชว่ ยผมได,้ ______? ดงั นน้ั
118คู่มือเตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
Tag ข้างหลงั จะตอบเป็น Positive ดังน้ัน Tag ดา้ นท้ายประโยคจึงเปน็ could you?
ขอ้ ท่ี 223 ค� ตอบที่ถูกคอื ข้อ [A]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ Tense ทใ่ี ชเ้ ปน็ Future simple tense ใช้ Subject
เปน็ Nothing มีความหมายปฏเิ สธ “ไม่มีอะไร” จึงใช้ Pronoun แทนเปน็ it และใช้
Helping verb เป็น will แปลว่า “จะ” ความหมายจึงเปน็ Negative ความหมายของ
ประโยค คือ “ไมม่ อี ะไรเกดิ ขึน้ , __? ดังนน้ั Tag ขา้ งหลังตอบเปน็ Positive และใช้ will
เปน็ Helping verb ดงั นัน้ Tag ดา้ นท้ายประโยคจึงเป็น will it?
ำำำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
ขอ้ ท่ี 224 ค� ตอบทถี่ ูกคอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี Tense ทใี่ ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เปน็ it และใช้ Verb to be เป็น กรยิ าแท้ ความหมายของประโยค จึงเปน็ Positive
ความหมาย คือ “มันเปน็ วนั ครบรอบวนั เกดิ ของคุณ___ วนั น?้ี ดังนน้ั Tag ข้างหลงั จะ
ตอบเปน็ Negative และใช้ Verb to be เป็น Question tag ได้เลยจึงเป็น isn’t it?
ข้อท่ี 225 ค� ตอบท่ีถกู คอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ข้อสงั เกตของประโยคน้ี Tense ทใ่ี ชเ้ ปน็ Past simple tense ใช้ Subject
เปน็ you และใช้ Verb to be เปน็ กริยาแท้ ความหมายของประโยค จงึ เป็น Positive
ความหมาย คือ “คุณอายุได้ 9 ขวบ,__? ดงั น้นั Tag ข้างหลงั จะตอบเป็น Negative
และใช้ Verb to be เป็น Question tag ไดเ้ ลย ค� ตอบทถ่ี กู จึงเปน็ weren’t you?
ข้อท่ี 226 ค� ตอบที่ถกู คือ ข้อ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี Tense ทใ่ี ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เปน็ Mandy’s parents จึงใช้ Pronoun “they” และใช้ Verb to be เปน็ aren’t
แปลวา่ ไมไ่ ดอ้ ยู่ ความหมายของประโยค จงึ เปน็ Negative ความหมาย คอื “ผปู้ กครอง
ของแมนดไี้ ม่ได้มาจากเมืองนี้____?” ดังน้ัน Tag ข้างหลังจะตอบเปน็ Positive และใช้
Verb to be เปน็ Question tag ดังนน้ั Tag ดา้ นท้ายประโยคจงึ เปน็ aren’t they?
ข้อท่ี 227 ค� ตอบท่ถี ูกคือ ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ Tense ทใ่ี ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เปน็ I และใช้ Verb to be เป็น am not แปลวา่ ไมไ่ ด้อยู่ ความหมายของประโยค จงึ
เปน็ Negative ความหมายคอื “ฉนั ไมไ่ ดเ้ รยี นอยใู่ นหอ้ งน…้ี ..? (ฉนั เขา้ หอ้ งเรยี นผดิ หอ้ ง)
119คมู่ อื เตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ดังนน้ั Tag ขา้ งหลงั จะตอบเป็น Positive และใช้ Verb to be “am” question tag
ดงั นัน้ Tag ดา้ นท้ายประโยคจึงเปน็ am I?
ขอ้ ท่ี 228 ค� ตอบที่ถูกคือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี Tense ทใ่ี ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เป็น you และใช้ Helping verb เปน็ can แปลว่า สามารถ ความหมายของประโยค จงึ
เป็น Positive ความหมาย คอื “คณุ สามารถท� อาหาร…..? ดังนนั้ Tag ขา้ งหลงั จะตอบ
เปน็ Negative และใช้ can’t ซงึ่ เปน็ กรยิ าชว่ ย เปน็ Question tag ดงั นนั้ Tag ดา้ นทา้ ย
ประโยคจงึ เป็น can’t you?
ำำำำำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
ขอ้ ท่ี 229 ค� ตอบทถี่ กู คอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ Tense ทใี่ ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เปน็ we และใช้ Helping verb เปน็ don’t แปลวา่ ไม่ ความหมายของประโยคจงึ เปน็
Negative ความหมาย คอื “เราไมไ่ ดใ้ สช่ ดุ นักเรียนไปโรงเรียน…..? ดงั นัน้ Tag ข้างหลัง
จะตอบเป็น Positive ดงั นัน้ Tag ดา้ นท้ายประโยคจงึ เปน็ do we?
ข้อที่ 230 ค� ตอบทถ่ี กู คอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ข้อสงั เกตของประโยคนี้ Tense ท่ีใช้เป็น Present simple tense ใช้ Sub-
ject เป็น a car จึงใช้ Pronoun แทนเป็น it และใช้ Helping verb เปน็ can’t แปล
ว่า ไมส่ ามารถ ความหมายของประโยค จึงเป็น Negative ความหมาย คือ “รถยนต์ไม่
สามารถไปเร็วกวา่ เคร่อื งบิน…..? ดงั นั้น Tag ข้างหลงั จะตอบเปน็ Positive ดังนน้ั Tag
ดา้ นทา้ ยประโยคจึงเป็น can it?
ข้อที่ 231 ค� ตอบที่ถกู คอื ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ Tense ทใ่ี ชเ้ ปน็ Future simple tense ใช้ Subject
เป็น we และใช้ Helping verb เป็น will แปลว่า จะ ความหมายของประโยค จงึ เปน็
Positive ความหมาย คอื “เราจะพบกบั อิริคภายหลงั …..? ดงั นั้น Tag ขา้ งหลงั จะตอบ
เปน็ Negative ดงั น้ัน Tag ดา้ นท้ายประโยคจงึ เป็น won’t we?
ขอ้ ท่ี 232 ค� ตอบทถี่ ูกคือ ขอ้ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคน้ี Tense ทใี่ ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เปน็ you และใชก้ รยิ าแทเ้ ปน็ like แปลวา่ ชอบ ความหมายของประโยค จงึ เปน็ Positive
1120คมู่ ือเตรยี มความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ำ ำำ ำ ำ ำ ำความหมาย คอื “คุณชอบทีมฟตุ บอลทมี นนั้ …..? ดงั นน้ั Tag ขา้ งหลังจะตอบเปน็ Neg-
ative Tag ดา้ นท้ายประโยคจงึ เปน็ don’t you?
ขอ้ ท่ี 233 ค� ตอบทีถ่ กู คอื ข้อ [C]
ค� อธบิ าย ขอ้ สงั เกตของประโยคนี้ Tense ทใี่ ชเ้ ปน็ Present simple tense ใช้ Subject
เป็น Jack และ Lucy ใช้ Pronoun เป็น they และใช้ Adverb เป็น opposite แปลวา่
ฝั่งตรงกนั ขา้ ม ความหมายของประโยคเป็น Negative ความหมาย คือ “แจค๊ และลซู ่ี
อาศยั อยฝู่ ง่ั ตรงกนั ขา้ มกบั ธนาคาร___? ดงั นน้ั Tag ขา้ งหลงั จะตอบเปน็ Positive ดงั นน้ั
Tag ด้านทา้ ยประโยคจงึ เปน็ do they?
ขอ้ ท่ี 234 ค� ตอบท่ถี ูกคอื ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ข้อสงั เกตของประโยคน้ี Tense ท่ใี ชเ้ ป็น Past simple tense ใช้ Subject
เปน็ we และใช้ Verb เป็น ate ซึง่ เป็นรปู อดีตของ eat แปลวา่ กิน ความหมายของ
ประโยค จึงเป็น Positive ความหมาย คอื “เรากิน ไอศกรีมอรอ่ ยๆ____? ดังน้นั Tag
ขา้ งหลงั จะตอบเป็น Negative ดงั นัน้ Tag ดา้ นทา้ ยประโยคจึงเปน็ didn’t we?
ข้อท่ี 235 ค� ตอบทถ่ี กู คือ ขอ้ [B]
ค� อธบิ าย ขอ้ สังเกตของประโยคน้ี Tense ที่ใชเ้ ป็น Past simple tense ใช้ Subject
เป็น he และใช้ Helping verb เป็น didn’t แปลว่า ไม่ ความหมายของประโยค
จงึ เปน็ Negative ความหมาย คอื “เขาไมไ่ ดข้ โมยเงนิ ___? ดงั นน้ั Tag ขา้ งหลงั จะตอบเปน็
Positive ดงั นนั้ Tag ด้านท้ายประโยคจงึ เปน็ did he?
121คมู่ อื เตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
บรรณานุกรม ำ ำำ ำำ ำ ำ ำ ำ
โครงสรา้ งประโยคภาษาองั กฤษ ประกอบไปดว้ ยอะไรบา้ งนะ… มาดกู นั ดกี วา่ . สบื คน้ 7 สงิ หาคม 2564,
จาก shorturl.asia/vcGQo
ค� คณุ ศพั ทข์ น้ั ปกติ กวา่ ทสี่ ดุ – Comparative/ Superlative Adjective. สบื คน้ 15 สงิ หาคม 2564,
จาก shorturl.asia/EAriB
ท� ความรจู้ ักกบั CEFR. สบื ค้น 7 สงิ หาคม 2564, จาก https: //www.efset.org>cefr
ตารางเปรยี บเทยี บคะแนน. สืบค้น 7 สงิ หาคม 2564, จาก https: //www.efset.org/th/English-
score/
ประธาน กรยิ า กรรม คอื อะไร ในภาษาองั กฤษ และตวั ไหนคอื ประธานกันแน่ ดูตรงไหน. สบื คน้
7 สงิ หาคม 2564, จาก shorturl.asia/vywUp
ประไพ ภงู าม (2557). ค� ศัพทเ์ ตรียมสอบ TOEIC Vocabulary. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั ซีเอด็ ยเู คชั่น.
เปลย่ี นเอกพจนเ์ ปน็ พหูพจนโ์ ดยการเตมิ s การเปลยี่ นรปู ที่ง่ายสดุ ๆ. สืบคน้ 7 สิงหาคม 2564, จาก
shorturl.asia/BypfV
รอบรรู้ กั เรยี น (2019). Phrasal verbs คอื อะไร สรปุ หลกั การใช้ phrasal verbs. สบื คน้ 24 สงิ หาคม
2564, จาก shorturl.asia/erNTy
ศริ พิ ร โตพงึ่ พงษเ์ ชงิ และสชุ าดา โตพงึ่ พงษ.์ (2553). คมู่ อื ภาษาองั กฤษพชิ ติ ไวยากรณ์ ฉบบั เรยี นรดู้ ว้ ย
ตนเอง. กรงุ เทพฯ: บุค๊ สท์ ยู ู.
สรปุ การใช้ Participle พร้อมตัวอย่าง. สืบค้น 7 สงิ หาคม 2564, จาก shorturl.asia/XJE2h
_____ . Verb (ค� กริยา) คืออะไร มีกป่ี ระเภท ตัวอย่าง. สบื ค้น 7 สงิ หาคม 2564, จาก
shorturl.asia/2Zj8m
เอกพจน์ และพหูพจน์คืออะไร (Singular and Plural) มอี ะไรบา้ งมาดูกนั ณ บัดนาว. สบื คน้
7 สงิ หาคม 2064, จาก shorturl.asia/NoGCp
Adjective คืออะไร รวมค� คุณศัพท์ภาษาองั กฤษที่ใช้บอ่ ยมี 120 ค� พร้อมค� อา่ นค� แปล. สืบคน้
15 สงิ หาคม 2564, จาก shorturl.asia/61Ml0
ARIT PKRU. (2020). ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอบวดั ระดับ CEFR. สืบค้น 25 สงิ หาคม 2564, จาก
https://www.youtube.com/watch?v=bdHY_BgFaaE&t=3985s
ATASEM. (2016). Oxford English Testing - Oxford Online Placement Test Overview.
20 สงิ หาคม 2564, ค้นคว้าจาก https://www.youtube.com/watch?v=
RWCo6tMb834&t=146s
Campus-Star (2020). 7 หลกั การใช้ Adverb ฉบับเข้าใจงา่ ย พร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ. สืบค้น
15 สิงหาคม 2564, จาก shorturl.asia/PHuTN
122คู่มือเตรียมความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาองั กฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
Coe N., Harrison M., and Patterson K. (2019). Oxford Practice Grammar Basic Tests. ำ ำ ำ
August 7, 2021, Retrieved from shorturl.asia/0MPhm
EngBreaking (2021). 50++ โครงสรา้ งประโยคภาษาองั กฤษรแู้ ลว้ รอดเเน.่ สบื คน้ 7 สงิ หาคม 2564,
จาก shorturl.asia/H06hc
EnglishLanguageCenter (2009). Comparisons with adjectives and adverbs.
August 7, 2021, Retrieved from shorturl.asia/67R5M
Engnow (2020). หลกั การใช้ There is กบั There are. สบื คน้ 24 สงิ หาคม 2564, ค้นควา้ จาก
shorturl.asia/QZPen
Gerunds and Infinitives with Verbs Part 2. สบื คน้ 15 สงิ หาคม 2564, จาก shorturl.asia/zyITG
Grammar Learn. (2012). Adjectives Order (วธิ เี รียงล� ดบั adjectives ทซ่ี อ้ นกนั หลายตัว).
สืบค้น 15 สิงหาคม 2564, จาก shorturl.asia/tAMgK
John Eastwood. (2019). Oxford Practice Grammar Intermediate Tests, August 7, 2021,
Retrieved from shorturl.asia/KHMtE
__________ . (2002). Oxford Practice Grammar with answers- E-LEARNING. Retrieved
August 7, 2021, from shorturl.asia/YtbjO
Meawdemy. (2020). สรปุ การใช้ question tag ฉบับเขา้ ใจงา่ ย. สบื คน้ 4 กนั ยายน 2564, จาก
shorturl.asia/kbdh0
________. (2020). Participle คืออะไร อธบิ ายแบบงา่ ยๆ. สบื คน้ 4 กันยายน 2564, จาก
fromshorturl.asia/8tl7g
MyEnglishPages.com (2021). Grammar Exercise - Modals. สืบค้น 18 สงิ หาคม 2564, จาก
shorturl.asia/MLDsq
Noun คอื อะไร อธบิ ายค� นามภาษาองั กฤษอยา่ งละเอยี ด กระจา่ งแจง้ . สบื คน้ 7 สงิ หาคม 2564, จาก
shorturl.asia/of6hQ
Subject Verb Agreement คอื อะไร สงั เกตยงั ไง มาดบู ทสรปุ เขา้ ใจงา่ ยๆกนั นะ. สบื คน้ 10 สงิ หาคม
2564, จาก shorturl.asia/9fZnw
True ปลกู ปญั ญา (2021). Grammar: 5 โครงสรา้ งประโยคพนื้ ฐานในภาษาองั กฤษ (English basic
sentence structures). สบื ค้น 7 สงิ หาคม 2564, จาก shorturl.asia/xgcrs
Wikipedia (2021). English phrasal verbs. สบื คน้ 24 สิงหาคม 2564, จาก shorturl.asia/uI1Ev
Word Order คืออะไร. สบื ค้น 7 สิงหาคม 2564, จาก shorturl.asia/2WAQ8
YouTube ครูดิว
ติว TOEIC: กลอน 10 กริยา + to เสมอ ไม่ดถู อื วา่ พลาดมาก!! สบื ค้น 7 สงิ หาคม 2564 จาก
YouTube
123คมู่ ือเตรยี มความพรอ้ มการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
ตวิ TOEIC: เทคนคิ ตอบ โจทย์ Comparison มาเปน็ เพลง จ� ไดง้ ่าย. สบื คน้ 7 สงิ หาคม 2564 จาก ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
YouTube.
ตวิ TOEIC: เทคนคิ ลัด!! วธิ ดี ูประโยคแบบ (โคตรแม่น). สบื คน้ 7 สงิ หาคม 2564 จาก
YouTube ครดู วิ .
ตวิ TOEIC: ศัพท์ TOEIC กล่มุ PUT (Phrasal Verbs) จ� ง่ายกาไดเ้ ลย!. สืบค้น 24 สงิ หาคม 2564
จาก YouTube.
ตวิ TOEIC: สรปุ เทคนคิ แกรมมา่ Participle คืออะไร. สืบค้น 4 กนั ยายน 2564 จาก
YouTube.
ตวิ TOEIC: Adverbs ในขอ้ สอบ TOEIC ต� แหนง่ น้อี อกบ่อยมาก!. สืบคน้ 15 สิงหาคม 2564 จาก
YouTube.
ตวิ TOEIC: Gerund นา่ รู้ ดูไว้เพม่ิ ความมั่นใจกอ่ นสอบ TOEIC. สบื คน้ 15 สิงหาคม 2564 จาก
YouTube.
ตวิ TOEIC: Grammar : เทคนคิ จ� Conjunctions 12 ตวั ออกสอบบอ่ ย!. สบื คน้ 15 สงิ หาคม 2564
จาก YouTube.
ตวิ TOEIC Grammar: ต� แหน่งการใช้ Adjective. สืบคน้ 15 สงิ หาคม 2564 จาก YouTube.
ตวิ TOEIC: Grammar Subject-Verb คอื อะไร? จ� ไดอ้ ยา่ งไรไมใ่ หล้ มื . สบื คน้ 10 สงิ หาคม 2564 จาก
YouTube.
ตวิ TOEIC: Present Tenses มีโครงสร้างยงั ไง? จ� ง่ายๆ กบั ครดู วิ . สบื ค้น 7 สงิ หาคม 2564 จาก
YouTube ครดู วิ .
ติว TOEIC: Pronoun คอื อะไร? เทคนิคการใชโ้ ดยครูดิว. สบื คน้ 11 สิงหาคม 2564 จาก
YouTube.
ติว TOEIC: Verb การใช้ Passive ใชย้ งั งัย ไมย่ ากอยา่ งท่ีคดิ . สบื คน้ 4 กนั ยายน 2564 จาก
YouTube.
.ติว TOEIC: Verb ช่วยจ� Do/ Have/ Be ต้องตามด้วยอะไรนา้ !? Do one have done. สบื ค้น
4 กนั ยายน 2564 จาก YouTube.
124คู่มือเตรียมความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion
คณะผ้จู ดั ท�
คูม่ ือเตรียมความพร้อมการท� ข้อสอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR
ภายใต้โครงการแผนงานยทุ ธศาสตรเ์ สริมสร้างพลังทางสงั คม : โครงการยทุ ธศาสตรม์ หาวิทยาลยั
ราชภฏั เพอ่ื การพัฒนาท้องถิน่ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเลย ประจ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564
ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ ำ
คณะกรรมการอ� นวยการ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ
1. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารยเ์ หมวดี กายใหญ่
2. ผชู้ ่วยศาสตราจารยอ์ � ภาภัทร์ วสนั ต์สกลุ รองคณบดีฝ่ายบรหิ ารและศลิ ปวฒั นธรรม
3. อาจารยเ์ กศนี จึงวฒั นตระกูล รองคณบดฝี า่ ยพฒั นานกั ศกึ ษาและประกนั คณุ ภาพ
4. ดร.ศศิธร กกฝ้าย รองคณบดีฝ่ายวชิ าการและวจิ ยั
5. นางชยตุ รา ชัยสทิ ธ์ิ หวั หน้าส� นักงานคณบดี
6. ดร.เมทยา อิ่มเอิบ ประธานสาขาวชิ าการจดั การ
7. อาจารย์เพลินพศิ โพธว์ิ นั ประธานสาขาวชิ าการบญั ชี
8. อาจารย์ณิชณนั ท์ จงใจสทิ ธ์ิ ประธานสาขาวชิ าคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ ดิจิทัล
9. อาจารย์จริ าวดี ก� ยาน ประธานสาขาวิชาการเงิน
10. อาจารยส์ กุลไทย ป้อมมะรงั ประธานสาขาวชิ าการจดั การธรุ กจิ การคา้ สมยั ใหม่
11. อาจารย์ณปาล อุทยารตั น์ ประธานสาขาวิชาการจัดการโลจสิ ติกส์
และซพั พลายเชน
12. อาจารยญ์ านินท์ ทองมาก ประธานสาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์
13. อาจารยอ์ ญั ญาภัสสร ชลพัชรส์ ทิ ธิกลุ ประธานสาขาวิชานิเทศศาสตรด์ ิจิทลั
14. อาจารย์อรจิต ชชั วาลย์ ประธานสาขาวชิ าการตลาดดจิ ทิ ัล
15. ดร.วรากรณ์ ใจนอ้ ย ประธานสาขาวชิ าการทอ่ งเทย่ี วและการโรงแรม
คณะกรรมการผ้ทู รงคุณวุฒิ
1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรจี ติ รา นวรตั นาภรณ์ คณะมนุษยศาสตรและสงั คมศาสตร์
2. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พงษเ์ ทพ บุญเรอื ง คณะมนุษยศาสตรและสงั คมศาสตร์
3. ดร.วไิ ล ผิวมา คณะมนษุ ยศาสตรและสงั คมศาสตร์
4. อาจารยณ์ ศิริ ศิรพิ รมิ า คณะมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร์
คณะกรรมการรวบรวมข้อมลู และออกแบบกราฟฟกิ
1. ดร.ศศธิ ร กกฝ้าย รองคณบดฝี า่ ยวชิ าการและวิจยั
2. นายประสิทธ์ฏิ ิชัย ชัยยนั ต์ นกั วิชาการโสตทัศนศึกษา
3. นางสาวเบญญทิพย์ มุลาลนิ น์ ผูป้ ฏบิ ตั งิ านบรหิ าร
125คู่มือเตรียมความพร้อมการท� ขอ้ สอบภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR sentence completion