The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมธรรม หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร โดยกรุธรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2021-10-14 21:33:10

รวมธรรมหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร โดยกรุธรรม

รวมธรรม หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร โดยกรุธรรม

Keywords: หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร,โดยกรุธรรม

หลวงพอ่ ประสทิ ธิ์ ปญุ ญมากโร

อุบายพัฒนาจิต เพื่อเข้าส่คู วามสงบของใจ

คาํ นาํ
บทธรรมเทศานาท่ีคดั มาเหลา่ นี้ ไดถ้ อดคาํ พดู มาจากคาํ เทศนา
ตา่ งๆ ของพระอรยิ สงฆ์ ท่ไี ดเ้ ผยแพรใ่ นรูปแบบวดี โี อในเว็ปไซดย์ ทู บู
Youtube.com ซง่ึ จดุ ประสงคข์ องการรวบรวมธรรมเทศนาเลม่ นี้ เพ่อื
ตอ้ งการเป็นสว่ นรว่ มในการปกปักษร์ กั ษาคาํ สอนของครูบาอาจารย์
ใหอ้ ย่ยู ่งั ยืนนาน และเป็นการเสนอส่อื ทางเลอื กอกี อนั หนง่ึ สาํ หรบั
ศาสนกิ ชนผทู้ ่ีชอบรบั ขอ้ มลู จากการอา่ นนอกเหนือจากการรบั ฟัง
จากทางวีดโี อ
ผจู้ ดั ทาํ ตอ้ งขอขอบพระคณุ ท่านผแู้ ผยแพรส่ ่อื คาํ เทศนาตา่ งใน
เว็ปไซดย์ ทู บู ท่เี ป็นเนือ้ หาใจความของบทพมิ พอ์ นั นี้ และขอขอบคณุ
กลั ยาณมิตรทงั้ หลาย ท่ีไดส้ ละแรงมาช่วยในการตรวจทานการถอด
เทปคาํ สอนและจดั รูปเลม่ จดั พมิ พ์ เน่ืองจากวดี ีโอบางบทท่ีผจู้ ดั ทาํ
ถอดความมามีการอดั เสียงท่ไี มช่ ดั ถา้ มีขอ้ ผิดพลาดประการใด ผจู้ ดั
ตอ้ งขออภยั มา ณ ท่นี ีด้ ว้ ย ถา้ ท่านผอู้ า่ นมคี าํ แนะนาํ ประการใด
สามารถสง่ คาํ แนะนาํ มาท่ี [email protected]
ดว้ ยอานิสงสแ์ หง่ ธรรมทาน ผจู้ ดั ทาํ ขอถวายเพ่ือเป็นพทุ ธบชู า
ธรรมบชู า สงั ฆบชู า และอาจารยิ บชู าแดพ่ อ่ แม่ ครูอาจารย์ และขอให้

ทกุ ทา่ นไดโ้ ปรดรว่ มอนโุ มทนาอานสิ งสแ์ หง่ ธรรมทานนีเ้ พ่อื ประโยชน์
และความสขุ โดยถว้ นหนา้ ทกุ ท่านทกุ คนเทอญ

คณะผจู้ ดั ทาํ (ทีมงานกรุธรรม)

ประวัติของทา่ นหลวงพอ่ ประสิทธ์ิ ปุญญมากโร

หลวงพ่อประสิทธิ์ ปญุ ญมากโร เกิดท่ีบา้ นหนองบวั บาน ตาํ บลหนองบวั

บาน อาํ เภอหนองววั ซอ จงั หวดั อดุ รธานี เม่ือวนั พฤหสั บดีท่ี 5 มีนาคม พ.ศ.
2484 บดิ าช่ือ พอ่ สนธิ์ มารดาช่ือแมม่ กุ นามสกลุ สิมมะลี มพี ่นี อ้ งรว่ มบดิ า
มารดา 7 คน เป็นชาย และหญิง 4 คน

ชีวติ ในวยั เด็ก หลวงพอ่ ประสิทธิ์ เทา่ กบั เป็นลกู ชายคนโตของครอบครวั

เม่ือมีอายุ 7 ปี ไดเ้ ขา้ เรยี นหนงั สือท่ีโรงเรยี นประชาบาล บา้ นหนองบวั บาน
ตาํ บลหนองบวั บาน อาํ เภอหนองววั ซอ สอบไลไ่ ดต้ าํ แหน่งท่ี 1 หรอื ท่ี 2 เป็น
ประจาํ ทกุ ปี ตลอดจนจบชนั้ ประถมปีท่ี 4 พอจบชนั้ ประถมแลว้ ครูใหญ่ช่ือ

“ปรชี า” ใหไ้ ปเรยี นต่อท่ีโรงเรียนมธั ยมพิทยานกุ ลุ ในตวั จงั หวดั อดุ รธานี หลวง
พอ่ ไดถ้ ามบดิ าว่า “จะเรยี นดีหรอื ไม่เรยี นด”ี และเม่ือบิดาบอกวา่ “ทาํ ไรท่ าํ นา
ดีกว่า สบายใจด”ี หลวงพอ่ ฯ จงึ ตดั สินใจชว่ ยบดิ ามารดาทาํ ไรท่ าํ นา

หลวงพอ่ ประสิทธิ์ เม่ือเยาวว์ ยั จึงเป็นแรงสาํ คญั ช่วยงานบดิ า มารดา
อย่างเต็มความสามารถ ตงั้ แตย่ งั เรยี นหนงั สือชนั้ ประถม จนเชา้ ส่วู ยั หน่มุ อายุ

19 ปี จงึ เกิดความคิดอยากเขา้ วดั เน่ืองจากวดั ป่ านิโครธาราม ของหลวงป่ ู

อ่อน ญาณสริ ิ อยใู่ กลบ้ า้ น ท่านไดท้ บทวนชีวิตฆราวาส ผ่านมาไดช้ ว่ ยบิดา
มารดามา จนเป็นท่ีพอใจแลว้ ฐานะทางครอบครวั ก็พอดีๆ ไม่รวยและไม่จน
และพ่นี อ้ งตา่ งกโ็ ต พอจะชว่ ยงานของครอบครวั พ่อแมไ่ ดแ้ ลว้ หลวงพอ่ ท่าน
คดิ วา่ ไดเ้ กิดมาใชห้ นีบ้ ญุ คณุ พอ่ แม่พอท่ีไดอ้ าศยั ท่านมาเกิดในชาตินีแ้ ลว้ จงึ
คดิ มองหา เสน้ ทางจิต ท่คี ิด ไมอ่ ยากกลบั มาเกิดเป็นหนีภ้ พชาตอิ ีกตอ่ ไป โดย

เกิดศรทั ธาปัญญาในทางพระพทุ ธศาสนา คิดจะบวชไม่มีกาํ หนดตลอดชีวิต
หวงั อย่ปู ฏิบตั ิ ตนเพ่ือหลดุ พน้ ความเกิดจนถึงอมตะพระนิพพาน

ตอ่ มาครอบครวั ไดพ้ าหลวงพ่อเขา้ ไปฝากตวั กบั หลวงป่อู ่อน ญาณสริ ิ

เม่อื วนั ท่ี 10 พฤษภาคม พ.ศ.2503 เวลา 19.00 น. และไดบ้ รรพชาเป็น
สามเณร เม่ือวนั ท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ.2503 ณ วดั โพธสมภรณ์ อาํ เภอเมือง

จงั หวดั อดุ รธานี โดยมพี ระธรรมเจดีย์ (จมู พนั ธโุ ล) เป็นพระอปุ ัชฌาย์ ครนั้ เม่ือ

อายคุ รบ 20 ปี พ.ศ.2504 จงึ ไดอ้ ปุ สมบทเป็นพระภกิ ษุ ณ วดั โพธิสมภรณ์ อ.
เมอื ง จ.อดุ รธานี ในวนั ท่ี 1 มิถนุ ายน โดยมพี ระธรรมเจดีย์ (หลวงป่จู มู พนั ธโุ ล)

เป็นพระอปุ ัชฌาย์ หลวงป่อู ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูอดุ ร
คณานศุ าสน์ เป็นพระอนสุ าวนาจารย์

หลวงพ่อประสิทธิ์ ไดบ้ วชและอย่ศู ึกษาอบรมธรรมะกบั หลวงป่อู อ่ อน
ญาณสริ ิ วดั นิโครธาราม ตาํ บลหมากหญา้ อาํ เภอหนองววั ซอ จงั หวดั อดุ รธานี
ภายหลงั หลวงป่อู อ่ น มรณภาพลง ท่านไดไ้ ปปฏบิ ตั ิอย่กู บั หลวงป่ชู อบ
ฐานสโม วดั ป่ าสมั มานสุ รณ์ บา้ นโคกมน ตาํ บลผานอ้ ย อาํ เภอวงั สะพงุ จงั หวดั
เลย

จากนนั้ ไดเ้ ดินธดุ งคข์ นึ้ สภู่ าคเหนือ มาอย่ปู ฏิบตั ธิ รรมรว่ มกบั หลวงป่ ู
แหวน สจุ ิณฺโร วดั ดอยแมป่ ๋ัง อาํ เภอพรา้ ว จงั หวดั เชียงใหม่ แลว้ เดินธุดงค์
แสวงหาความวเิ วก จนกระท่งั มาพบสถานท่ปี ่ าสงบเงียบ หลงั ท่ีทาํ การ
ชลประทานแม่แตง จงึ ไดข้ ออนญุ าตจดั ตงั้ เป็นสาํ นกั สงฆ์ และยกฐานะเป็นวดั
ตามลาํ ดบั

วดั ป่าหมใู่ หม่ เป็นวดั ป่าสายธรรมยตุ ท่สี งบเงยี บ หลวงพอ่ ประสทิ ธิ์ ได้
อนรุ กั ษส์ ภาพพืน้ ท่ีป่ าเดิม พรอ้ มกบั ปลกู ป่าเสรมิ เพ่ิมตน้ ไมต้ ลอดเวลา ทาํ ให้
วดั มตี น้ ไมใ้ หญ่สมบรู ณร์ ม่ รน่ื

การท่ีวดั ป่าหมใู่ หม่มีความเป็นอย่อู ย่างพอเพียง แตล่ ะกฏิไมม่ ีการ
สะสมส่ิงของ ไม่มีเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ใดๆ เป็นวดั ปฏบิ ตั ธิ รรม จงึ เป็นวดั ป่ า
ศกั ดิส์ ิทธิ์ และมีเสน่หส์ าํ หรบั ผเู้ ขา้ ไปสมั ผสั ทงั้ นีเ้ พ่ือ มรรค ผล นพิ พาน อย่าง
แทจ้ รงิ น่นั เอง

"กรรมใหญ่ของหลวงพอ่ มนั มาถึงแลว้ กรรมหมใู่ หญ่ครงั้ นีม้ นั ระดมต่อ

แถว พากนั มาทวงคืนกบั เราทงั้ หมด ชาติสดุ ทา้ ยแลว้ อะไรๆ มนั ก็พากนั มาทวง
คนื เอาทงั้ หมด มนั เป็นกรรมในอดีตชาติของเราทงั้ หมด กรรมท่เี ราเคย
เบียดเบียนมนษุ ย์ กรรมท่ีเราเคยเบยี ดเบยี นสตั ว์ กรรมท่ีเราเคยเบียดเบียน ทบุ
ตวี วั นีม้ นั จะเขา้ มาสนองก่อนเพ่อื น กรรมนีจ้ ะเป็นตวั เปิดประตู ใหก้ รรมอ่ืนๆ
ในอดีตตามมา.." หลวงพอ่ ประสิทธิ์ ปญุ ญมากโร

(ท่ีมา : ท่องถ่ินธรรม พระกรรมฐาน , ศนู ยเ์ ผยแผธ่ รรมะออนไลนก์ ณั ฑกะ)

สารบญั

อุบายพัฒนาจติ .................................................................. 3
บญุ เกิดจากความสงบ...................................................... 21
สถานทส่ี งบมผี ลทาํ ใหใ้ จสงบได้....................................... 41
เสียงโลกกับเสียงธรรม..................................................... 57
ภูตธาตุ ภูตธรรม.............................................................. 67
ภาคผนวก (วนั คล้ายวนั เกดิ หลวงพอ่ ประสิทธิ)์ ................ 79

2

อุบายพัฒนาจติ

กจ็ ะไดเ้ ป็นเวลารอความพรอ้ มของคณะผทู้ ่ีจะมารว่ มฟังธรรมและมาปฏิบตั ิ
ธรรมรว่ มกนั จาํ นวนมาก แตเ่ วลาท่ีเรากาํ หนดก็ไดเ้ วลาถงึ แลว้ ตามท่ีเรากาํ หนดและ
ประกาศไปว่าจะใชเ้ วลาบา่ ย ๑ โมง ๑๓ นาฬกิ า เป็นเวลาฟังธรรมอบรมกรรมฐาน
ตามท่ีเราตงั้ ขอ้ ธรรมะไวว้ า่ จะใหแ้ สดงธรรมเร่อื งพฒั นาจิต

เร่อื งแสดงอบุ ายแกจ้ ิตของผปู้ ฏบิ ตั ิธรรม อนั นีค้ ือหวั ขอ้ ท่ีเรายกขึน้ แตเ่ ร่อื ง
ธรรมของพระพทุ ธเจา้ ของเรากเ็ ป็นเรอ่ื งพฒั นาจติ ใจโดยเฉพาะ คอื เป็นธรรมะท่ชี าํ ระ
จติ ใจของชาวพทุ ธบรษิ ัททงั้ หลายมา นานตงั้ ๒๕๐๐กว่าปี ตงั้ แตพ่ ระพทุ ธเจา้ ของ
เราไดป้ ฏบิ ตั ิ ไดต้ รสั รูเ้ ป็นพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ น่นั กเ็ รยี กว่าพระองคก์ พ็ ฒั นาจิตใจ
ชาํ ระจติ ใจดว้ ยอบุ ายธรรมะ ท่ีเกิดขนึ้ จากจติ ของพระองคท์ ่ีไดร้ บั ความสงบ ท่เี รา
นาํ มาฝึกสอนหรอื นาํ มา หรอื เรากาํ หนดจิตตงั้ สตไิ วอ้ ยา่ งนี้ เราตอ้ งตงั้ สจั จะ ตงั้ สติไว้
ว่า เราพยายามท่จี ะใหธ้ รรมออกกอ่ นอย่หู นา้ เรา ใหก้ ิเลสอยหู่ ลงั เรา มนั จะไดท้ นั มนั
จะไดก้ นั อย่อู ะไรอย่างนี้

อย่างเราสาํ หรบั ชาวบา้ นท่วั ๆไปก็มกี ิเลสอนั เดียวกนั หมด ไม่ตา่ งกนั น่ะทนี ี้ คือ
ตวั ท่ชี ่ือว่ากิเลสคือส่ิงเลวรา้ ยส่ิงไม่ดี สิง่ ปลอมแปลงตา่ งๆ อยา่ งท่ีทา่ นใหเ้ อาตวั ของ
เราเป็นหลกั ใหก้ าํ หนดตวั ของเราดเู ป็นหลกั เพราะเป็นท่ีอยู่ ท่ีมี ท่ีเป็นของตวั ใครตวั
มนั ทกุ คนน่นั น่ะ เราดกู ็เป็นส่ิงท่เี ราปรุงแตง่ เราเพ่ิมเตมิ เราเอามาเสริมอะไรต่างๆให้
มนั เป็นขนึ้ แตถ่ า้ ของเดิมมนั ...เราก็มีเฉพาะธรรมแต่งใหแ้ ตส่ ว่ นกิเลส ส่วนสิง่ ท่ีเรา
ปรุงแตง่ เพ่ิมมากขนึ้ น่นั น่ะ มนั เป็นส่วนเพ่ิมความยงุ่ ยากความลาํ บากใหเ้ ราอีก

เหตนุ นั้ ท่านจงึ สอนใหเ้ ราเป็นผทู้ ่ีเอาธรรมะท่ีดงั้ เดมิ คอื เอาเฉพาะท่ีกายท่ีทาํ ท่ี
มอี ยู่ เราไม่หลงสิ่งปรุงแตง่ เราไม่หลงวตั ถสุ ิง่ ภายนอกอะไรอย่างนี้ แลว้ เรากร็ ูว้ า่ คาํ

3

สอนพระพทุ ธเจา้ ทงั้ หมดนี้ ท่านก็สอนเพ่ือพฒั นาจติ เพ่ือชาํ ระจติ ใหผ้ อ่ งใสสะอาด
ทงั้ นนั้ แลว้ กเ็ พ่ือทาํ จิตใหส้ งบรม่ เย็น มีความอยเู่ ย็นเป็นสขุ ในจิตของเราผปู้ ฏิบตั ิ คือ
ไดร้ บั ผล ไดร้ บั ความสงบสขุ ท่เี ราทกุ คนม่งุ ปฏิบตั ิ ม่งุ ท่จี ะใหจ้ ิตใจเราเป็นไปในธรรม
ก็อาศยั อบุ ายทนี ี้ อาศยั การปฏบิ ตั ิตามหลกั คาํ สอนพระพทุ ธเจา้ คอื เรา…อบุ ายคอื
เป็นอบุ ายปัญญา ไม่ใชอ่ บุ ายตามสญั ญาตามท่ีเราฟังไดอ้ ย่างนี้

อยา่ งท่ีหลวงพอ่ อธิบายน่ีก็ไม่ใชป่ ัญญาคือเป็นสญั ญาอยู่ แตเ่ ราจาํ ไดแ้ ลว้
นาํ ไปปฏบิ ตั ใิ นท่ีของเราเฉพาะตวั ของเรา ในท่ีความสงบ ในท่ีเหมาะสม ทา่ นบอกว่า
น่นั คอื เป็นการท่ีจะเปลีย่ นจากสญั ญามาเป็นปัญญา คอื อาศยั ปฏิบตั ิทนี ี้ ตอ้ งเปล่ียน
จากความศกึ ษา ความทรงจาํ พระสตู รมาเป็น ป ปลา คอื ใหเ้ กิดปัญญาขึน้ จะเกิด
ปัญญาได้

ก็เราเปล่ียนจากรา่ งกายของเราน่ีแหละ คอื ใหเ้ รากาํ หนดเปล่ียนกาํ หนดรู้ ท่เี รา
วา่ รา่ งกายของเรา แตพ่ ระพทุ ธเจา้ ท่านไมไ่ ดว้ ่ารา่ งกายของเรา ท่านว่าเป็นรูปสตั ว์
เป็นรูปบคุ คลหรอื เวไนยสตั ว์ ท่านใหช้ ่ืออย่างนี้ ทนี ีถ้ า้ เราเปล่ียนตาม เราแกไ้ ขใหจ้ ติ
เราเห็นไป มนั ก็เกิดปัญญาขนึ้ หละทีนี้ มนั จะเห็นว่า เอะ๊ ตวั เราไปจาํ ไมใ่ ช่ ถา้ เราจะ
ใชป้ ัญญาสอบถามก็ได้ เราก็ถามตวั ของเรา ถามอวยั วะของเรา แขน ขา หู ตาว่ามนั
เป็นของเรามยั้ มนั จะตอบรบั เราเป็นเสยี งใหเ้ ราไดย้ ินไม่มี อนั นีก้ ค็ ือว่าธรรมะตดั สนิ
ใหเ้ รา คือสงบไม่มเี สียงตอบ ถามตา ตากไ็ ม่ตอบ ถามหู หกู ไ็ มต่ อบ ถามทกุ สว่ นใน
อวยั วะนะ่ น่นั คอื เรามีอบุ ายท่ีจะแกก้ ิเลสหละทีนี้ ท่ีจะถามกิเลส ใหก้ ิเลสเคา้ อาย เคา้
กลวั เรา ใหเ้ ขาไมม่ ารบกวนเราเพราะจิตเราเกิดปัญญา เรากนั ไวว้ ่ามนั ไม่ใช่เรา

ฉะนนั้ ถา้ คือถา้ เราปฏบิ ตั ธิ รรมเราฟังธรรมตามแนวปฏบิ ตั ิ เราไดค้ วามสงบ ได้
สมาธิธรรมเป็นขนั้ ตน้ คือเราจาํ อบุ ายครูบาอาจารยท์ ่านสอนบอ่ ยๆ ท่านพดู บอ่ ยๆ

4

คอ่ ยจาํ คอ่ ยปฏิบตั ิไป ไม่ใช่ว่าเราจาํ ในเวลาท่เี ราฟังธรรมบรรยายมากๆ เวลา
บรรยายมากๆเน่ีย มนั จาํ ยาก คอื ไม่ใช่อะไรหรอก เราจะจาํ ทกุ คาํ ทกุ บทได้ คอื สาํ หรบั
หลกั ธรรมปฏิบตั ิ ท่านไม่ตอ้ งการความยืดยาว ท่านตอ้ งการความรดั กมุ กะทดั รดั สนั้
เพ่อื จะไดจ้ าํ ไม่ยาก คือว่าเราย่นความจาํ ยน่ สญั ญามาใหส้ นั้ ๆอย่างนี้ คือใหจ้ าํ เพียง
คาํ เดยี ว ของอนั เดียว กบั ของอนั มีจาํ นวนรอ้ ยจาํ นวนพนั อย่างนีม้ นั ก็ต่างกนั อย่างนี้
มนั ก็จาํ งา่ ยดงู ่าย ไอค้ วามจาํ ของเราท่ีมากๆมนั กย็ ่งุ ยากหละทีนี้

อยา่ งท่ีเราศึกษามามาก เราเหน็ มามาก เราไดย้ ินมามากอย่างนี้ มนั ก็ไมใ่ ช่ว่า
จะมาช่วยใหก้ ารปฏบิ ตั ขิ องเราใหด้ ีใหส้ งบได้ ท่เี ราจะดีจะสงบไดก้ ็เกิดจากการ
ปฏบิ ตั ิทงั้ หมด เปลี่ยนจากการศกึ ษา เปล่ียนจากการใชส้ ญั ญาความจาํ เรามาใช้
การปฏิบตั ิเป็นหลกั นาํ คือเปลีย่ นมาปฏิบตั ิตวั ของเราทกุ ๆคน คอื เรามีเวลาท่ีจะ
ปฏบิ ตั ิ เราไดท้ กุ คน เวลาไหนกไ็ ด้ อย่ทู ่ีไหนก็ไดน้ นั้ เป็นเวลาสว่ นตวั เราก็เอาไป
ปฏบิ ตั ิ ไปเปลี่ยนใหใ้ ชอ้ บุ ายคาํ สอนพระพทุ ธเจา้ เน่ียแหละ คือซง่ึ เป็นสญั ญาไป
นาํ หนา้ ก่อน แตเ่ ราปฏิบตั ิ เราถาม เราทกั บอ่ ยๆ จิตมนั ก็จะคอ่ ยรูค้ อ่ ยต่ืนขนึ้ มา

อย่างท่ีท่านใหภ้ าวนา ใหบ้ รกิ รรมวา่ พทุ โธสนั้ ๆ แตค่ วามหมายของพทุ โธก็มี
ความหมายกวา้ ง ท่ีมีคณุ ท่ีสงู มาก ท่านบอกว่าคือพทุ โธซง่ึ เแปลเป็นภาษาไทยเคา้
เรยี กว่า ผรู้ ูธ้ รรม ผรู้ ูต้ ่นื ผรู้ ูเ้ บกิ บาน ผรู้ ูส้ งบอะไรอย่างเนีย้ ก็เป็นความหมายความ
แปลท่ีเป็นฝ่ายดี เหตนุ นั้ ถงึ เราจะนกึ คาํ เดยี ว แต่ความหมายก็มาก กวา้ ง คอื กวา้ งท่ี
จติ ของเราน่นั แหละท่รี ู้ รูก้ ารทาํ ของเรา รูก้ ารปฏบิ ตั ิธรรม คือการเร่อื งนอ้ มนาํ อารมณ์
มาใสใ่ จ เราไม่คิดส่งไปภายนอกอย่างท่เี ราเคยปลอ่ ยจิต เท่ียวไปไม่มขี อบเขตอย่าง
นนั้ เราไม่ปลอ่ ย คือเราพยายามท่ีจะกาํ หนด ท่จี ะตงั้ สตไิ วก้ บั รา่ งกาย รูส้ กึ ตวั อยู่
ตลอดอะไรอย่างนี้

5

ฉะนนั้ รา่ งกายของเราก็เป็นบา้ น เป็นสถานท่ีศกึ ษาหรอื เป็นอาคารเรยี นของ
พระพทุ ธศาสนา อย่างเราท่ีมีสถานศกึ ษา มมี หาวิทยาลยั มอี ะไรตา่ งๆเน่ีย อนั นนั้ มนั
เป็นโครงสรา้ งของสถานท่ี แตส่ ่วนการสรา้ งการศกึ ษาทางธรรมก็คอื อาศยั รา่ งกาย
คืออาคารหรอื โรงของสิง่ ก่อสรา้ งจากกรรมท่ีนาํ มาใหเ้ ราเกิดเป็นรา่ งกายน่นั มาเป็น
สถานท่ปี ฏบิ ตั ิและศกึ ษา ถา้ คนไหนเป็นนกั ศกึ ษาก็คอื ใจเป็นผอู้ ย่ศู กึ ษาในรา่ งกาย
ตงั้ ใจศกึ ษา ตงั้ ใจเขา้ มาอย่ใู นโรง คืออย่ใู นรา่ งกายตลอด กเ็ หมือนนกั ศกึ ษาท่ีตงั้ ใจ
ศกึ ษาดี ไม่หนีโรงเรยี นแลว้ กไ็ ม่ทาํ ความเสยี หายใหเ้ กิดขนึ้ ในโรงเรยี น ตงั้ ใจมาอยไู่ ม่
ขาด กเ็ หมือนกบั ว่าการปฏบิ ตั ธิ รรม ก็เป็นการท่ีเขา้ เรยี นศกึ ษาในรา่ งกายของเราแต่
ละคน แลว้ โรงเรยี นก็มีของใครของมนั หละทนี ี้ คือมีคนละโรงๆ แลว้ ก็มคี รูคนละคน
ละคน คือมีใจอย่ดู ว้ ยอาคารโรงเรยี นหลงั นี้

ท่านใหม้ าศกึ ษามาเรยี นท่นี ่ีพระพทุ ธเจา้ ของเรา เราจะกลายเป็นคนรูค้ นดีที
เนีย้ เพราะรูด้ ียงั ไง เพราะว่าโรงเรยี นหลงั นีม้ ีครูดี มผี สู้ อนดี มีผปู้ ฏบิ ตั ิดี ควบคมุ ดี ก็
มีหลกั สตปิ ัฏฐาน ๔ ท่ีท่านเอามาสอนเป็นหลกั การปฏบิ ตั ิธรรมในพทุ ธศาสนา ก็มา
เพ่อื บาํ รุงเพ่ือใชเ้ ป็นหลกั สตู รเพ่อื ใชใ้ นการศกึ ษาในโรง ในรา่ งกายอนั นี้ น่ีหละ อย่าง
ท่ีว่า กายานปุ ัสสนา ท่านก็ยกหมายรา่ งกายเป็นโรงแรก แลว้ เวทนานปุ ัสสนา คือ
เร่อื งความสขุ ความทกุ ขท์ ่เี กิดจากโรงเรยี นของเราเป็นไป หรือเราผทู้ ่อี าศยั โรงเรยี น
รบั รู้ ว่ารา่ งกายของเรา โรงเรยี นของเราทรุดโทรมยงั ไง รบั ผลกระทบแดดลมฝน
อยา่ งไร น่ีเรยี กว่าเวทนา นอกนนั้ จติ ก็คือเจา้ ของโรงเรยี นเป็นผอู้ ย่เู ป็นผดู้ แู ล น่ีท่าน
วา่ อยา่ งนี้ ท่ีส่ีก็ ธรรมานปุ ัสสนา กเ็ ป็นธรรมของพระพทุ ธเจา้ ทงั้ หมดหละทนี ี้ ใน
โรงเรยี นในรา่ งกายของเราแตล่ ะคนนะ

ดงั นนั้ เรามาเขา้ เรยี นเขา้ ลอู่ ย่างนีเ้ น่ีย ใครจะไปอย่ทู ่ไี หน สถานท่ไี ม่เก่ียวขอ้ งก็
ตอ้ งเป็นคนดี ตอ้ งเป็นผรู้ ูด้ แี ละผปู้ ฏบิ ตั ดิ ี ไม่หนี ไม่ทาํ ความเสียหาย เราจะอย่ใู นชาติ

6

ไหน ประเทศไหน ก็รกั ษาความดีไวไ้ ด้ เพราะว่าทงั้ โรง ทงั้ ครู ทงั้ การศกึ ษา การปฏิบตั ิ
กอ็ ย่ดู ว้ ยกนั ครบถว้ น คือไมบ่ กพรอ่ งทนี ี้ แลว้ ส่ิงท่ีดคี ือผลดี คอื คณุ ความดีเกิดขนึ้
บญุ ท่เี ราปรารถนาซ่งึ เป็นบารมีหลกั ธรรมของชาวพทุ ธเรา กเ็ กิดขึน้ ในสถานท่ีเรา
ปฏบิ ตั ิท่เี ราศกึ ษาน่ี หรอื วา่ มีขนึ้ เกิดขนึ้ ท่ีน่ีหมด เราไม่ตอ้ งไปหาท่อี ่ืน ไปหาวตั ถุ เอา
ไปถวายทาน หาสิ่งท่ีเป็นของมีมลู คา่ มากๆ ไมต่ อ้ ง ท่านบอกว่ามนั เกิดมบี ญุ ขึน้ ใน
การปฏิบตั ิ เกิดขนึ้ ในตวั ของเราเพราะว่าตวั ของเราทงั้ หมดน่ี มนั เป็นมรดก มนั เป็น
กองทรพั ยอ์ นั ประเสรฐิ ท่านวา่ อยา่ งนี้ ถา้ เราทาํ ใหเ้ กิด ใหม้ ี เราขดุ คน้ ขนึ้ มาได้ กไ็ ม่
อด ไม่อยาก ไม่จน ส่ิงดีๆท่ีมใี นตวั ของเราท่ีเราจะทาํ ใหเ้ ป็นคณุ ขึน้ มา อย่าง
พระพทุ ธเจา้ ของเราก็ทาํ ไดต้ รงนี้ คอื ท่ีตวั ท่ีจติ ของเราน่ีแหละ บารมีตา่ งๆเกิดขึน้ ทีนี้
ความอดุ มสมบรู ณเ์ กิดขนึ้ เราก็แกค้ วามยากจน ความเดอื ดรอ้ นไดท้ ีนี้ เพราะวา่ เรามี
พอ ไม่บกพรอ่ ง น่ีเราปฏิบตั ิ เราก็สงบขนึ้ คือเราไมห่ ิวอะไรแลว้ น่ี จิตมนั ไม่คิดไป
อยากอะไร ไม่อยากไปปรุงหาอะไร เพราะมนั มเี หมือนคนมขี องมเี งินครบอย่างเนีย้
แลว้ เราก็มีความรูค้ รบ ศกึ ษาครบจบชนั้ แลว้ จะไปเรยี นอะไรตอ่ ก็พอ ก็ปฏิบตั ิอย่าง
เดยี วหละทนี ี้

แตส่ มยั ปัจจบุ นั ท่ีเราอย่นู ่ี เรารูส้ กึ เราเจรญิ เกินคาดหมาย ถา้ เทียบครงั้ สมยั
โบราณ หรอื ครงั้ พระพทุ ธเจา้ ของเราอย่างนี้ กไ็ มไ่ ดศ้ ึกษาก็ไม่ไดใ้ ชว้ ิชาการมาก แต่
ใชก้ ารปฏิบตั ิมาก เพราะว่าการปฏิบตั มิ ากน่ีมนั มีคณุ คา่ กว่า หรอื ดีกว่าอะไรอย่างนี้
แตก่ ารท่ีเราเรียนรูม้ าก เราใชห้ ลกั วชิ าการมาก ไม่มีการปฏบิ ตั ชิ ว่ ย ผลท่ีจะเกิดจะ
ไดร้ บั มนั ไม่มี มนั ไม่สมบรู ณแ์ ตถ่ า้ เรารูน้ อ้ ย เรยี นนอ้ ย เราปฏิบตั ิมากน่นั น่ะ ถกู ตาม
หลกั คาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ เพราะเรารูน้ อ้ ยแตเ่ ราปฏิบตั ิความรูใ้ หม้ าก ใหด้ ีเพ่มิ ขนึ้
หลายเทา่ อย่างนี้ ก็มคี ณุ คา่ มากขึน้ อย่างท่ีว่าสอนใหเ้ รามีอบุ ายเฉพาะอบุ ายเดียว
เร่อื งเดียว เพ่อื แกไ้ ขกิเลสเฉพาะท่ีมนั มีในใจของเรานนั้ น่ะ มนั ก็ไม่ตอ้ งไปหาอย่างอ่นื

7

อีกมากทนี ี้ เรามีปัญญาเรากแ็ กพ้ วกกิเลส พวกสญั ญาท่ีมนั มีมนั รบกวนจิตใจเราอยู่
น่นั นะ่ ทีนีม้ นั ก็ไม่ตอ้ งถามมากหละทีนี้ มนั มีนอ้ ย ฉะนนั้ เรอ่ื งปัญญาก็เป็นสิง่ หน่งึ ท่ี
พระพทุ ธเจา้ เรานาํ มารกั ษา มาแกก้ ิเลสไดเ้ พราะปัญญา เพราะพระองคส์ รา้ งบารมี
สรา้ งปัญญามาแก่กลา้ สมบรู ณแ์ ลว้ ทีนีป้ ัญญาของทา่ นกแ็ หลมคม เรยี กว่าแข็งแรง
คือไมก่ ลวั กิเลส สามารถท่ีจะฝ่าฟันตดั กิเลสได้

แตถ่ า้ เราปัญญาเรายงั อ่อนอยู่ เราก็ไมก่ ลา้ เพราะว่ากิเลสมนั เป็นของหยาบ
ของหนาไมใ่ ชข่ องง่าย ถา้ ปัญญาของเราอ่อน เราไม่กลา้ เราก็ตดั กิเลสไมไ่ ด้ ฉะนนั้
ปัญญาจงึ มีคณุ คา่ สาํ หรบั ท่จี ะตดั กิเลสทกุ ประเภทได้ จากพระพทุ ธเจา้ ของเราก็ตดั
ดว้ ยปัญญาอย่างนี้ เพราะว่ากิเลสมนั เป็นสญั ญา สว่ นปัญญามนั เป็นตวั ตดั หรือว่า
กิเลสมนั เป็นตวั โลภ แตป่ ัญญามนั เป็นตวั ธรรมท่ีจะนาํ ไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิชาํ ระจิตใจ
พฒั นาจิตใจนะ่ กต็ อ้ งมปี ัญญา อยา่ งท่ีเราพดู กนั วา่ ท่วั ๆไป อย่างท่เี ราหรอื คนอ่ืนเห็น
กนั ท่ีทาํ อะไรบางอยา่ งท่ไี มแ่ สดงออกดา้ นปัญญาเราก็ว่า โอ้ ทาํ ไมมนั โง่ มนั ไมม่ ี
ปัญญาอย่างนี้ เราจะทกั จะดา่ กนั ขอใหม้ ีปัญญาซกั หน่อยก็จะดขี ึน้ อย่างเนีย้
เหมือนกบั วา่ เรารูว้ ่าโรคแตเ่ ราไมร่ ูย้ าอย่างนี้ แต่ถา้ เรารูว้ ่าตวั เรามเี ชือ้ โรค แตเ่ รารูย้ า
ท่จี ะรกั ษาซกั อย่าง เรากย็ งั มีทางแก้ น่ีเหมอื นกนั เรามาปฏบิ ตั ิ มาศึกษา
พระพทุ ธศาสนา เอาอบุ ายปัญญาของพระพทุ ธเจา้ มาใชพ้ ฒั นาจติ ใจของเราก็
เหมือนกนั

ถา้ เราไดป้ ัญญา เราพฒั นาใหถ้ ึงใจ เราปฏบิ ตั ใิ หไ้ ดใ้ หป้ ระจาํ อย่างเนีย้ เรากจ็ ะ
เหน็ เห็นผลเห็นความสะอาดในจิตของเราเน่ีย เห็นเคร่อื งหมาย เห็นการ
เปลี่ยนแปลง เหมือนเรากวาดพืน้ ท่ีท่ีสกปรกมากอ่ นอย่างเนีย้ พอเราเอาไมก้ วาด
กวาดไปรอยหน่งึ เรากเ็ ห็นแลว้ ว่าคือมนั สะอาดขึน้ เราเห็นรอย เรากวาดไปครงั้ เดยี ว
มนั กเ็ ป็นรอยใหเ้ ห็น แตเ่ รากวาดไปหลายๆครงั้ กวาดกวา้ งๆมนั ก็เห็นกวา้ งไปเองน่นั

8

หละทีนี้ เรากเ็ ห็นว่าน่ีคือธรรมะกเ็ ป็นเคร่ืองกวาดกิเลส เป็นเครอ่ื งขดั เกลากิเลสอย่าง
นี้ กิเลสท่ีเป็นละอองท่ีมนั เป็นผง เป็นของสกปรก ท่ีมนั มากบั ลม คือลมจิต ลม
ความคิด อารมณข์ องกิเลสท่ีมีในจิตนี้ มนั พลดั มาตกใส่ ท่านบอกว่ากิเลส ส่ิงมวั
หมอง ส่ิงสกปรก เรามนั ตอ้ งอาศยั ปัญญาน่ีแหละ เหมอื นบา้ นเราสกปรก เราก็ตอ้ ง
อาศยั ไมก้ วาด ผา้ เช็ดพืน้ ถงึ เราภาวนาทกุ วนั กเ็ พ่ือปัดกวาดจติ ใจนนั้ นะ่ ท่านจงึ ให้
ปฏบิ ตั ิเป็นนจิ เป็นกิจประจาํ วนั อย่างนี้ คือถา้ เราเวน้ ไป เราห่างไป มนั กจ็ ะสกปรก
หนาขนึ้ แลว้ ทกุ อยา่ งท่ีมีในตวั เราหรอื รอบตวั เราก็เหมอื นกนั กจ็ ะไดเ้ ห็นกบั ตาหละ
วา่ เออ ถา้ เราไม่ปฏิบตั ิน่ีก็จะมีอะไรพลดั ตกใส่ ละอองอะไรตา่ งๆ เหมอื นเราอย่ใู น
กรุงอย่างนีก้ ็ย่ิงมาก เพราะว่ามลพษิ แก๊สนา้ํ มนั มนั เยอะ แลว้ มนั ทาํ ความสะอาด
ยากดว้ ย เพราะมนั ไม่ใช่ฝ่นุ ธรรมดา อนั นีเ้ ราก็เห็น ถึงอารมณจ์ ิตท่มี นั เหนียวแน่นไป
กบั กิเลสกเ็ หมือนกนั เราก็จะใชป้ ัญญาง่ายๆไม่ได้ ปัญญาท่ไี มแ่ ขง็ แรงไมไ่ ด้ จะตอ้ ง
ใชป้ ัญญาเขม้ แข็ง จะตอ้ งฝึกตอ้ งฝนอย่างดี ชบุ อย่างดีใหม้ นั แก่กลา้ ถึงจะเขา้ ไปน่นั
ได้ ถา้ ไม่ดกี ไ็ ม่ไดล้ ะ

น่ีเรยี กว่าเราม่งุ เพ่ือขดั จิตใจเพ่อื ท่จี ะเปลี่ยนความคิดในดา้ นจิต เพ่อื อบุ าย
พฒั นาจิตใจของชาวพทุ ธเรา เราจะไดค้ ณุ พระธรรมท่ีนาํ ไปปฏบิ ตั ติ วั เรา ถึงเราไม่ได้
อยปู่ ฏิบตั อิ ยา่ งผทู้ ่เี สียสละมาบวช แตเ่ ราเป็นชาวบา้ น เราก็มีเวลาพอท่เี ราจะปฏบิ ตั ิ
ได้ เราไม่เอาไปเวลาไปทาํ กิจอย่างอ่ืน เวลาประกอบอาชีพก็มีเวลาพอ แตส่ ่วนเวลาท่ี
เราจะปฏบิ ตั ธิ รรมประจาํ ตวั ประจาํ ท่กี ็มีพอ เราก็น่าจะใชเ้ วลาปฏบิ ตั เิ ฉพาะตวั เราน่ี
แหละ เพ่ือเราจะไดก้ นั กนั กิเลส หรอื กนั เวลาท่ีเราไปทาํ เสยี หาย เขา้ มาสทู่ ่ีสใู่ จของ
เราน่นั น่ะ อย่างคนท่ีถือพทุ ธจรงิ ๆเน่ีย กเ็ ราเป็นพทุ ธท่ีถึงใจหรอื วา่ พทุ ธท่ีเขา้ ถึงหลกั
ปฏบิ ตั อิ ย่างนี้ เราก็ตอ้ งมีกิจของพทุ ธตลอด คอื รูว้ า่ เราไม่หลงไมล่ มื ตวั ไม่ขาดสติ
อย่างนี้ ก็คือหลกั ของพทุ ธ ท่านว่า อย่ทู ่ไี หน อยคู่ นเดียวอย่รู วมหม่อู ยใู่ นชมุ ชนมาก

9

นอ้ ย เรากพ็ ยายามท่จี ะกาํ หนด ไม่ใหส้ ตเิ ราสะเทือนหรอื ว่าเผลอไปกระทบคนอ่ืน
อยา่ งเนีย้ เราก็ตอ้ งเป็นเรอ่ื งของพทุ ธหละทีเนีย้ เป็นรูจ้ ากเฉพาะตวั ไม่หลงสว่ นรวม

อยา่ งท่ีเราเป็นฆราวาสเหมอื นกนั กร็ ูเ้ ร่ืองเฉพาะตวั เฉพาะครอบครวั หนา้ ท่ี
ของตวั ของครอบครวั ท่จี ะปฏิบตั ิตามแนวของพทุ ธเราอย่างนี้ ท่ีฐานะหรอื สถานท่เี รา
จะปฏบิ ตั ิได้ แตถ่ า้ จะปฏิบตั ใิ หไ้ ดส้ ะดวกหรอื เต็มท่ี มีธรรมชาติท่ีสมบรู ณม์ นั ก็ยงั
ไม่ได้ เพราะเราอยใู่ นฐานะ อย่ใู นสภาพพืน้ ท่ีท่จี ะตอ้ งปฏิบตั ิใหม้ ีพืน้ ฐานของพทุ ธ ให้
เป็นพืน้ รองรบั อยู่ คือไม่ใชว่ ่าเราเป็นพทุ ธแตช่ ่ือ เป็นพทุ ธแตท่ ่ีอารมณ์ เป็นแตเ่ พยี ง
เราสวด เราไหว้ เราสวดนนั้ ท่านบอกว่าเป็นเพียงอารมณ์ เรยี กว่าเป็นลม ยงั ไมไ่ ดเ้ ป็น
หลกั ยงั ไม่ไดเ้ ขม้ แข็ง ถา้ เราทาํ การปฏิบตั ิ เราขดั จติ ใจ เราฝึกฝนอบรมตอ่ สกู้ บั การ
ปฏิบตั อิ ยา่ งเนีย้ ไม่ทอ้ ถอยคือว่า เราหมายรา่ งกายเป็นหลกั คือตวั ของเราเป็นหลกั
อย่างเนีย้ บางทีกิเลสมนั ว่ามา เราก็ตอ้ งเอาปัญญาแก้ ไลไ่ ปอย่างเนีย้ อย่างท่ีอธิบาย
อบุ ายธรรมะเพ่ือพฒั นาจิตใจของพวกเราท่ีไมแ่ ตกตา่ งกนั คือลกั ษณะของกิเลสก็ไม่
แตกต่างกนั ลกั ษณะของธรรมของปัญญากไ็ ม่แตกตา่ งกนั ถา้ เราไปใชใ้ หถ้ กู ท่ี เอาไป
ใชใ้ หเ้ ต็มท่ีเตม็ สว่ นมนั ก็ไดผ้ ลหละทีนี้ ไดผ้ ลเหมือนกนั

ฉะนนั้ ลกั ษณะปัญญาของพระพทุ ธศาสนาเน่ียเรยี กว่าใชแ้ ก้ ใชก้ นั กิเลสไดท้ กุ
อยา่ งทกุ ดา้ น ถา้ ท่านเปรยี บเทียบ ศสั ตราหอกดาบมีดใหเ้ ราเห็น กเ็ หมอื นมดี เหมือน
ดาบมนั มหี ลายดา้ นท่ีจะทาํ ได้ อย่างมดี ปลายแหลมอย่างนี้ แลว้ ก็มีคม แลว้ ก็มีสนั
แลว้ ก็มดี า้ ม ทา่ นบอกว่า คือใชไ้ ดท้ งั้ สี่อย่าง คือดา้ มกใ็ ชต้ าํ ทา่ นบอกว่าคมกใ็ ชฟ้ ัน
สนั ก็ใชท้ บุ ปลายกใ็ ชแ้ ทง มนั ก็ใชป้ ระโยชนไ์ ดร้ อบดา้ นหละทีนี้ ถา้ เรามปี ัญญาท่เี รา
ฝึกฝน ท่ีเราสรา้ งขนึ้ มาเอง เราชบุ ขนึ้ ดว้ ยการปฏิบตั ิ ทาํ ดว้ ยบารมธี รรมท่ี
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นนาํ ท่านสอน มนั เป็นขนึ้ มาไดอ้ ยา่ งนี้ เราก็เลยไดป้ ัญญา ไดเ้ คร่อื ง
ฝ่าฟันกิเลส เคร่อื งตดั กิเลส เครอ่ื งชาํ ระกิเลสได้ ท่านบอกเป็นเคร่ืองหมายท่วี ่า จิต

10

ของเรากต็ อ้ งรูอ้ ยา่ งนี้ รูว้ ่าตอ้ งทาํ กบั ตวั เราอย่างนี้ ถา้ ไปทาํ กบั ท่ีอ่ืนมนั กไ็ มถ่ กู ทีนี้
ตอ้ งทาํ กบั รา่ งกายของเราน่นั แหละ ถา้ ไปทาํ กบั คนอ่ืนมนั ผดิ หละทีนีเ้ พราะว่ามนั
ไมใ่ ช่ของเรา ของเราก็คือรา่ งกายของเรา เราจงึ มีท่ีท่เี ราจะปฏิบตั ิธรรม ท่ีจะสรา้ ง
อบุ ายปัญญาใหเ้ กิดขนึ้ ในตวั ในใจของเราทกุ คน

แตเ่ ราไมเ่ ขา้ ใจ เราไมไ่ ดค้ ิดว่าอย่ใู นตวั ของเราอย่างนีน้ ะ บางทอี ะ้ หรอื บางคน
กต็ อ้ งนกึ ไปไกลๆถึงพระพทุ ธเจา้ โน่น ถึงคนอ่ืน ไม่ไดน้ ึกเขา้ มาหาตวั เองอย่างนี้ แต่
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอนใสค่ นท่ีเป็นชาวพทุ ธทกุ คนหละทีนี้ สอนเขา้ หาตวั หาจิต ใหเ้ อา
มาคิด มาสรา้ งปัญญาขนึ้ ใหเ้ รามากาํ หนดขึน้ ใหเ้ รามาใชป้ ัญญา ใชค้ วามสงบ ใช้
สติ สรา้ งขึน้ มาอยา่ งทกุ คนนะ่ ใหม้ นั เกิดขนึ้ แต่มนั ไม่ใช่สรา้ งงา่ ยนะ่ ทีนี้ มนั ก็จะเห็น
ความลาํ บากในการสรา้ งในการปฏบิ ตั ิน่ี ถา้ คนเราไม่ไดศ้ กึ ษาดี ไมไ่ ดร้ ูจ้ กั วธิ ีอบุ าย
แกน้ ่ะมนั สรา้ งยาก แตถ่ า้ คนไหนท่ีมีบารมี มีปัญญาพืน้ ฐานดี มนั ก็ดงู า่ ยขนึ้
เพราะว่ามนั มบี ารมรี ูท้ นี ี้ รูจ้ กั สรา้ ง รูจ้ กั แก้ รูจ้ กั ดดั แปลงอะไรอย่างนี้ เหมือนอย่างเรา
จะเป็นชา่ งจะตีมีดใชเ้ ฉพาะตวั เรา ก็ตอ้ งเป็นชา่ งจะตอ้ งมอี ปุ กรณค์ รบ แตถ่ า้ ไม่มโี รง
ไม่มเี คร่อื งอปุ กรณไ์ มม่ ีช่างในตวั ก็ทาํ ไม่ได้ น่ีพระพทุ ธเจา้ ท่านกใ็ หส้ รา้ งในตวั เราทกุ
คนน่นั แหละ อยา่ งท่ีวา่ เรามีโรงมีรูปมีอะไรครบ เรามีอาคารเรยี นในตวั ของเราทกุ คน
ผหู้ ญิงผชู้ ายอย่างเนีย้ เราไม่ตอ้ งไปเขา้ โรงเรยี น ไมต่ อ้ งไปหาสถานท่ีสิน้ เปลือง ไม่
ตอ้ งไปใชเ้ งินจา้ งครูสอน มนั ก็ตดั ปัญหา ตดั ภาระหมด

แตก่ อ่ นเน่ียอย่างสมยั ท่ีโบราณอย่างนี้ ก็ไมส่ ิน้ เปลอื ง ไมล่ าํ บากเรอ่ื งการท่จี ะ
ฝึกสอน ท่ีจะแกไ้ ขความรูส้ าํ หรบั คนในชาตเิ รา ก็สรา้ งขึน้ มาจากความรูด้ ว้ ยปัญญา
จรงิ ๆ ก็ง่ายขึน้ เพราะคนท่มี ปี ัญญา มบี ารมีเน่ีย มนั จะมองเห็นอะไรทกุ อย่างเป็นคณุ
เป็นประโยชน์ และเป็นสงิ่ ท่มี าประกอบใหใ้ ชไ้ ดอ้ ะไรอย่างเนีย้ ถา้ คนไม่มีปัญญามนั
ก็ทาํ อะไรไมไ่ ดน้ ่ะแหละ ท่านว่า ฉะนนั้ ปัญญาจงึ เป็นของมีคา่ สาํ หรบั ปฏบิ ตั ใิ นพทุ ธ

11

ศาสนา และเป็นยอดของพระพทุ ธศาสนาดว้ ย ถา้ ไม่มปี ัญญา ไม่สมบรู ณก์ ็ตดั กิเลส
ไม่ไดด้ ว้ ย น่ีเรยี กว่าสงิ่ ท่เี ราจะมาอบรมศึกษามาสรา้ งปัญญากนั มาพฒั นาจิตใจ ให้
ไดค้ วามผ่องใสความสงบอย่ทู ่นี ่ี ใหไ้ ดเ้ รามคี วามเหน็ เห็นความดที ่ีเราทาํ เราปฏิบตั ิ
ในจิตของเรานีข้ นึ้ อย่างท่ีวา่ เราเขา้ ใจหลกั ปฏบิ ตั ิหรอื เขา้ ใจอบุ ายท่ีจะมาแกจ้ ิตของ
เราแตล่ ะคนเน่ีย จะทาํ จิตของเราใหส้ งบ อาศยั อบุ ายปัญญาช่วยอย่างเนีย้ เราจะทาํ
สมาธิแบบเอาความสงบ แบบจิตรวมสภู่ วงั คอ์ ยา่ งนีม้ นั ไมไ่ ดง้ ่ายๆ เพราะว่าความ
พรอ้ ม สถานท่ี ทกุ ส่ิงทกุ อย่างมนั ยงั ไมเ่ พียงพออะไรอย่างนี้

สมาธิท่เี ราอาศยั ปฏิบตั ิ อาศยั เป็นกิจการงานประจาํ ตวั ของเราเน่ียแหละ เป็น
สิ่งจาํ เป็นทกุ คน เรากต็ อ้ งอาศยั สมาธิ ปัญญาท่ีอบรมใหเ้ ป็นสมาธิเน่ียแหละ มาใช้
เฉพาะตวั หละทีนี้ คือแบบใชอ้ บุ ายปัญญาช่วยออกหนา้ อยา่ งท่ีอธิบายใหฟ้ ัง คือไม่
เอาไวท้ างหลงั ตอ้ งเอาปัญญาออกหนา้ เวลาเราจะคดิ ครงั้ ไหนท่ีใดก็ตาม เราก็ตอ้ ง
ตงั้ ปัญญาไวใ้ หม้ องเห็นอย่ขู า้ งหนา้ เรา เรากก็ นั กิเลส กนั สญั ญาหลงๆท่ีจะมาติด
จติ ใจของเราน่นั แหละ มนั มาไมไ่ ด้ เพราะว่ามนั กนั อย่ขู า้ งหนา้ มนั ไปกอ่ นแลว้ กิเลส
ท่สี งิ่ ไม่ดีมนั อย่ขู า้ งหลงั เรา เราไม่ไดด้ ู ไม่ไดจ้ ดจาํ หละทีนี้ มนั ก็ลบเลือนไปท่านว่า มนั
ไม่ไดจ้ ะมาตดิ ใจซะแลว้ สิ่งท่ีมนั ติดท่ีมนั อย่ขู า้ งหนา้ คือตาเราเหน็ อย่างนีน้ ่ะ มนั เป็น
กิเลสขนึ้ ตรงนี้ ตาเห็น หไู ดย้ ิน สิง่ รบั รูใ้ นรา่ งกายมนั จาํ เอามนั รบั เอา มนั ก็เลยมากอง
อยใู่ นใจเราหมด เลยมาเป็นกองกิเลสหละทีนี้

ทนี ีม้ นั กองเยอะๆเน่ีย กว่าเราจะโกยออกไป กว่าเราจะแยกจะลา้ งออกไป มนั ก็
เหน่ือย เหมือนอย่างส่ิงสกปรกอยใู่ นตวั ในเสอื้ ผา้ ของเราแตล่ ะคน อยใู่ นท่ีนอน ท่ี
ทาํ งานนะ่ ถา้ เกิดเราปลอ่ ยนานๆซกั อาทิตย์ เราไม่กวาด ไม่เช็ด ปลอ่ ยไวน้ านๆก็รู้ มนั
กห็ นาขึน้ มาก เรามากวาดก็เหน่ือยมาก แลว้ กเ็ สียเวลามาก แต่ถา้ เรากวาดบอ่ ยๆเน่ีย
มนั ก็ง่ายแลว้ มนั กไ็ ม่เหน่ือย เพราะวา่ มนั ไมไ่ ดก้ องกนั ขนึ้ มนั กระจายหนีไป อนั นีก้ าร

12

ปฏิบตั ิท่านก็เพ่ือวา่ ใหเ้ ราทาํ บอ่ ยๆ ถึงทาํ นอ้ ย ก็รกั ษาได้ แต่ถา้ เราปลอ่ ยทิง้ ไม่ทาํ
นานๆ นกึ ไดค้ อ่ ยนกึ อย่างพทุ โธอย่างเนีย้ วนั หน่งึ เรานกึ ครงั้ หนง่ึ หรอื สองครงั้ มยั้ เรา
ลองนกึ ถามใจเราดอู ย่างเนีย้ บางทเี ราเป็นชาวบา้ น โอกาสท่จี ะนกึ ก็ยากมาก พอเรา
นกึ ออกหนา้ ตงั้ แต่วา่ เออ เราจะไปหา ไปเอาทรพั ย์ เอาความมี ความร่าํ รวย จะไปหา
วิธี หาอาชีพท่ีดๆี มนั กค็ ิดไปแตเ่ ร่อื งเงินน่นั แหละ มนั จะคิดนกึ ภาวนาพทุ โธมนั ไม่ใช่
ง่ายนะเน่ีย มนั เป็นวนั ๆมนั ก็นกึ ไม่ได้ มนั ก็ห่างมาก

ฉะนนั้ เราตอ้ งดวู ่าการนกึ การทาํ ของเราน่ีแหละ จิตใจของเราน่ีท่จี ะเป็นพทุ ธ
เป็นศาสนาเน่ียมนั ก็ไมใ่ ช่ง่าย จะตอ้ งอาศยั เวลา อาศยั สติ อาศยั ความท่ีเรามงุ่ ม่นั ท่ี
เราตงั้ ใจจรงิ ๆอะไรอยา่ งเนีย้ เราเห็นว่าพระพทุ ธเจา้ ทา่ นใหใ้ ชอ้ บุ ายนี้ เอาหลกั ปฏบิ ตั ิ
นีเ้ ป็นหลกั การของพระพทุ ธศาสนา เป็นมชั ฌิมาปฏปิ ทาอย่ทู ่ีความรูท้ ่ีความสงบเน่ีย
แหละ ความพอน่ีแหละ ความไม่บกพรอ่ ง ความไม่หิว เราอ่ิม เราอ่ิมอยใู่ นกายในใจน่ี
อาหารกอ็ ่ิมอยใู่ นตวั หมด เพราะว่าเราไปกินอาหาร เรากเ็ อาเนือ้ เอารูปของสตั วม์ าทาํ
กิน แตใ่ นตวั เรามนั ก็มอี าหารเต็มตวั แลว้ มนั ก็ไม่หิว ฉะนนั้ ท่านใหม้ าปฏบิ ตั ิตวั รูเ้ ร่ือง
ของตวั เองทงั้ หมดได้ ก็เป็นคนสมบรู ณไ์ ม่ยากจน เป็นคนดี ไม่ตอ้ งรบกวนคนอ่ืน ไม่
ตอ้ งไปแย่งคนอ่ืน ปลน้ คนอ่ืน เรามีครบทกุ อย่าง ฉะนนั้ บอกว่า โลกเราจะไดม้ ่งั มีอยู่
เยน็ เป็นสขุ ไม่อดไม่อยาก

อยา่ งท่ีว่าในหลวงพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ก็เคยเตือนไพรฟ่ า้ ประชา
ราษฎรม์ านาน ใหร้ ูจ้ กั ปฏิบตั สิ รา้ งครอบครวั ตวั เองแต่ละคน ใหส้ รา้ งเศรษฐกิจ
พอเพียงจะไดแ้ กไ้ ขปัญหาความยากจน ท่านก็มองเห็นอยู่ แตค่ นหลายๆคนถา้
ปฏบิ ตั ิตามหละทีนี้ มนั กจ็ ะมีผลขนึ้ มา คือมนั เกิดจากปฏิบตั อิ ย่างเดียว คือทาํ ขึน้ ถึง
มนี อ้ ย ถา้ มนั มขี นึ้ กเ็ พ่มิ ขนึ้ มากขนึ้ แลว้ เราปฏบิ ตั มิ นั กช็ ่วยประหยดั ดว้ ย อย่างปฏิบตั ิ
ธรรม กินขา้ วมอื้ เดียวหนเดียวอย่างเนีย้ มนั ก็ชว่ ยประหยดั ไดเ้ ยอะ แตช่ าวบา้ นเน่ีย

13

มนั น่ีไมก่ าํ หนดหละทีนี้ อยากเวลาไหนก็กิน บางทีกลางคืนดกึ ด่ืน หิวก็ลกุ มากิน มนั
จะชว่ ยไดไ้ ง เพราะว่ามนั มแี ตเ่ พ่ิม กเ็ รยี กว่าสง่ เสรมิ ความอยาก ปอ้ นตณั หาใหม้ นั
อว้ นอะไรอย่างนี้ มนั เป็นทางท่สี รา้ งโรค ถา้ อย่างท่ีเราจะแกโ้ รค ลดโรคใหเ้ บาบางเรา
ฝึก แลว้ มนั กด็ ใี หผ้ ลดีทีหลงั คือผลดีท่ีเราไม่ตอ้ งลาํ บากไม่ตอ้ งเปลอื งไมต่ อ้ งกงั วล
เวลา ไม่ตอ้ งห่วงวา่ กลวั จะเลยเวลาเพล เวลาท่ีเรากินไดอ้ ย่างเนีย้ มนั ก็ตดั กงั วลไป
แลว้ คอื ไม่ห่วงแลว้ แลว้ จะไปทาํ อะไรก็ไดง้ านดขี นึ้ เตม็ เวลามากขึน้ แตถ่ า้ เราห่วงแต่
ตวั แตป่ ากแตก่ ินน่ะ เราก็ทาํ อะไรไมไ่ ดเ้ ต็มท่ี เพราะว่ามนั ไปเสียเวลากบั เร่ืองท่เี ราไป
ย่งุ ไปมวั กิน มวั เพลินอะไรอยอู่ ย่างน่ี

น่ีเรยี กว่าท่านใหแ้ กไ้ ขในเรอ่ื งกิเลส ในเร่ืองตวั ของเรา ใชอ้ บุ ายปัญญา ใช้
อบุ ายธรรมะท่ีพระพทุ ธเจา้ ท่านนาํ มาปฏิบตั ิ มาไดต้ รสั รูน้ ่นั น่ะ ไดช้ าํ ระกิเลสออกไป
จากใจของพระองคจ์ รงิ ๆ ท่านก็สรา้ งเป็นตวั อยา่ งใหเ้ ราไดป้ ฏิบตั ิ เพราะเราถือพทุ ธ
เราถือตามความศรทั ธาในหลกั คาํ สอนในหลกั พระสตู รน่นั หละ แตถ่ า้ เรามาปฏบิ ตั ิ
เราไดเ้ กิดความศรทั ธาในธรรม ในพระปัญญา เรามคี วามเช่ือม่นั ทีนีเ้ ราเห็นชดั ดว้ ย
จิตเรา ว่าพระพทุ ธเจา้ ทา่ นเห็นอย่างนีจ้ รงิ ๆ แลว้ เป็นเร่อื งอย่างนีม้ าแตค่ รงั้
พระพทุ ธเจา้ ของเรา สองพนั กว่าปี นนั้ กม็ มี า น่ีเรยี กว่าพระพทุ ธเจา้ ท่านไดป้ ฏบิ ตั ิ
วดั ผลมา และท่านก็รบั รองพระพทุ ธศาสนาเรามาถงึ ทกุ วนั นีแ้ หละ คือส่วนสาํ หรบั
ทางโลกก็ช่วยใหช้ าวโลก ใหบ้ า้ นเมืองเราอยเู่ ย็นเป็นสขุ สว่ นทางศาสนากใ็ หผ้ ปู้ ฏิบตั ิ
ผเู้ สยี สละเขา้ ไปบวช ไดอ้ ยสู่ งบรม่ เย็น ไมเ่ ดือดรอ้ นกระทบกระเทอื นไปถึงกนั

แตบ่ า้ นเมืองเราทกุ วนั นีก้ ร็ ูก้ นั ท่วั ประเทศวา่ มนั มีผลกระทบ คนท่ีอยใู่ นชมุ ชน
อย่ทู ่ใี นเมืองเจริญแลว้ กระทบไปถงึ รอบนอกชนบทป่ าเขา ครูบาอาจารยอ์ ย่สู งบ
ภาวนาจะตอ้ งไปบวชไปรายงานตวั น่ีไม่ใช่ว่าไม่ใชม่ ี คือมเี ป็นประจาํ หลวงพอ่ อยู่
เชียงใหม่ไปจากกรุงเทพภาคตะวนั ออก ภาคอีสาน บอกวา่ ตายแลว้ สมยั เนีย้ ! หนี้

14

ท่วมหวั จะทาํ อยา่ งไร โห มนั ไม่ใช่เร่อื งนอ้ ยๆ คนมาไมร่ ูท้ งั้ ประเทศนะ่ อยู้ ไม่ใช่หลวง
พอ่ เป็นในหลวงเวย้ ! หลวงพ่อเป็นพระ ถา้ เป็นในหลวงจะแจกเงนิ ใหพ้ อใชท้ กุ คนแลว้
ก็หมดเร่อื ง น่ีแหละ มนั แสดงผลอยจู่ รงิ ๆน่ะ

บางคนบอกว่ามนั นอนไม่หลบั ขนาดนนั้ แลว้ โห ทกุ ขข์ นาดไหน นอนไม่
หลบั เน่ีย ทกุ ขท์ ่ีสดุ หละ ธรรมดาเคา้ มีกลางวนั กลางคืนใหน้ อนนะ่ โลก พระอาทิตย์
พระจนั ทร์ เคา้ มีไวใ้ หเ้ รานอนใหท้ าํ งาน แตเ่ ราทาํ เกินโลกเขาหละทีนี้ กลางคืนเคา้ ให้
นอนหลบั ตวั กน็ อนไม่หลบั เพราะมนั ทกุ ขม์ าก อนั นีเ้ ราจะแกไ้ ขอยา่ งไร…

ถา้ เรามาใชพ้ ระพทุ ธศาสนาของเราเน่ีย พระพทุ ธเจา้ ท่านใชม้ าถกู ตอ้ งเน่ีย เอา
มาปฏิบตั กิ นั ทีนี้ ปัญหาต่างๆเราก็ไม่ตอ้ งไปตามแกม้ นั หรอก มนั สงบลงท่ีปัญญา
หมดหละทีนี้ ตวั นนั้ น่ะ คือปัญหาทงั้ หมดน่ีรวมปัญหาทงั้ โลกน่ีนะ มนั ไม่ไดเ้ กิดมาท่ี
ไหน มนั เกิดมาจากตณั หาซ่งึ มนั มีตวั อกั ษรคลา้ ยกนั ความหมายท่ีตวั แกเ้ หมือนกนั
แตว่ ่ามนั เกิดมาจากตณั หาทงั้ หมด ถา้ ไม่มีตณั หา ปัญหามนั เกิดไม่ไดอ้ ะไรอยา่ งเนีย้
ถา้ แกต้ ณั หาแลว้ ปัญหาก็จบหมด

อย่างพระพทุ ธเจา้ พระอรยิ เจา้ คือท่านแกต้ ณั หาหมด ปัญหาไม่มี มนั เกิด
ไมไ่ ดเ้ พราะไม่มที ่ีมาเกิด เพราะมนั มเี พราะมนั มาเกิดอยู่ มนั ยงั มาเกิดคิดเร่อื งนนั้
เรอ่ื งนีน้ ่นั นะ่ ตณั หา ทีนีป้ ัญหามนั ก็ขยายไปว่า เอ๊ะ เร่อื งนีค้ อื ตณั หาเฉพาะเรอ่ื ง แลว้
กเ็ ร่อื งนีแ้ ยกออกไปเฉพาะ เหมือนก่ิงไมท้ ่ีมนั แตกออก แยกกนั กนั ขา้ งบนนะ่ มนั เยอะ
มนั มาจากรากจากตน้ เดยี วน่นั แหละ ท่านบอกว่าอย่างนีก้ ็เลยเป็นปัญหารอบดา้ น
เพราะมนั ย่ิงปล่อยใหม้ นั สรา้ งมากๆ มนั ปิดบงั มดื ทบึ หมดเลย น่ีท่านว่าเรอ่ื งตณั หาท่ี
เราตามแกไ้ ขกนั อยู่ เรามีขอ้ ขอ้ งใจกนั อย่อู ะไรอย่างนี้

15

ฉะนนั้ ถา้ เรามาปฏบิ ตั ิธรรมเขา้ มาหาหลกั ตณั หาไดอ้ ยา่ งเนีย้ เกิดความสงบ
ทาํ จิตใจสงบไดน้ ะ่ มนั ก็จบปัญหาลงท่ีใจเราหละทีนี้ มนั ไมไ่ ปหาเร่ืองแลว้ ทนี ี้
เพราะว่ามนั ไปหาแลว้ มนั กร็ ูว้ ่ามนั กลบั คืนมาขอ้ งใจเรา ใจเราก็พยายามท่จี ะไม่เกาะ
แลว้ ทีนี้ ไม่ใหม้ นั มาแลว้ เราก็ระวงั ก็มีสตจิ อ้ งอย่เู สมอ จะไม่ใหม้ นั เผลอ จะตอ้ งรีบ
ปลดทนั ที หรอื ว่าเวลาไปถกู เกาะนิดหน่อยเรากร็ ูส้ กึ เรากร็ ีบแกต้ อนท่ีมนั ไม่ติดลกึ
มนั ยงั ไมแ่ นน่ มนั ก็ง่ายขึน้

น่ีแหละเร่อื งวา่ วนั นีท้ ่ีเรากาํ หนดเวลา แลว้ ก็หวั ขอ้ ธรรมท่ีจะใหน้ าํ บรรยายเร่อื ง
อบุ ายพฒั นาจิตใจของชาวพทุ ธเรานนั้ กเ็ ป็นเรอ่ื งท่ีไดน้ าํ มาอธิบายใหพ้ วกเราไดฟ้ ัง
ไดจ้ าํ ไดเ้ ขา้ ใจเพ่ือเราจะไดค้ ดั เอาอบุ ายเฉพาะเรา ในเรอ่ื งท่จี ะใชป้ ัญญาท่ีจะมาแก้
ตวั เรา ปฏิบตั ิตวั เรา เปลย่ี นแปลงตวั เราน่นั น่ะ ใหเ้ กิดปัญญาได้ ปัญญาใหมเ่ กิดขนึ้
เราจะไดแ้ กไ้ ขปัญหามากมายท่ีเราย่งุ ยากอย่ทู กุ วนั นีน้ ะ ท่ีเราว่ากนั อย่นู ่ี ไมร่ ูว้ ่าใครก็
ใสใ่ นหลวงเต็มหมดน่นั แหละ ก็นกึ ในหลวงพระองคเ์ ดยี วน่นั แหละ ท่วั ประเทศหละ
บา้ นนอก ไม่รูจ้ ะพง่ึ ใครแลว้ เคา้ ว่าเงีย้ เคา้ บอกว่าแสดงเคร่อื งหมายรกั ในหลวง
ทงั้ หมด เพราะในหลวงมบี ญุ ท่เี ขาจะเคารพรกั เพราะอะไร เราตอ้ งคดิ วา่ จะปฏบิ ตั ิ จะ
เอาใหใ้ นหลวงไดป้ กปอ้ งคมุ้ ครองเรา เราก็ทาํ บญุ อย่างท่ีเราแสดงออกเน่ียแหละ น่นั
แหละคอื เทดิ พระเกียรติ ถวายในหลวงดว้ ยการปฏบิ ตั อิ ย่างนี้

เน่ียก็ความรูส้ กึ เรอ่ื งบญุ เป็นเร่ืองของจติ มนั ดล มนั แผไ่ ปท่วั โลกท่วั ประเทศ
หละ มนั ไปซมึ ซาบเขา้ จิตใจของผมู้ บี ญุ หละทีนี้ ก็เลยรูน้ กึ ได้ ถึงจะบา้ นเมืองมนั
เดอื ดรอ้ นมนั ไม่น่ิง แตก่ ็มบี ญุ มีผมู้ ีบญุ อะไรอยา่ งเนีย้ ท่ีจะพ่งึ พาอาศยั อยา่ งนี้ น่ีเราก็
เหมือนกนั กเ็ หมือนกบั วา่ มนั เป็นยคุ เป็นสมยั ท่จี ะคดั คนรวมคน เพราะวา่ คนเด๋ยี วนี้
เราก็เพ่ิมจาํ นวนมากขนึ้ บางทีกต็ อ้ งมีภยั มีอบุ ตั เิ หตุ ตายเป็นกลมุ่ เป็นกอ้ นอย่างนีก้ ็
แสดงใหเ้ ราเห็นอยู่ อนั นีก้ ็เป็นสง่ิ หน่งึ ท่ใี หเ้ ราไดเ้ อามาเทียบกบั พระพทุ ธศาสนาของ

16

เรา เม่อื เราไดร้ ูไ้ ดม้ ีปัญญาอย่างนี้ เราก็แกไ้ ขปัญหาท่ีเกิดขนึ้ ปัจจบุ นั คือกลบั มาหา
บญุ หาคณุ หาทาํ ความดใี หเ้ ราอย่างท่ีเราแนะนาํ มานี้ ถา้ เราปฏบิ ตั ไิ ด้ เรามีคณุ
พระพทุ ธเจา้ เต็มใจ มกี ารปฏบิ ตั ิธรรมท่มี ่นั คงทนทาน ไม่ทอดทิง้ ไม่ทอ้ ถอย ตลอดถึง
ขอ้ ปฏิบตั คิ ณุ พระสงฆเ์ ราก็รกั ษาใหค้ รบถว้ น น่ี เราพยายามท่ีจะนึกๆในใจเสมอ
แหละ เราไมต่ อ้ งไปหาสง่ิ อ่ืน ไม่ตอ้ งไปขอวตั ถสุ ิ่งคมุ้ กนั แบบนนั้ อย่างนี้ ใหม้ นั เป็น
เรอ่ื งเสียหายคณุ ความดขี องเรา น่ีเรยี กว่าตรงตอ่ พระพทุ ธเจา้

น่ีหละวนั นีไ้ ดน้ าํ ธรรมะบรรยาย ซง่ึ พวกเราท่านทงั้ หลายมาไดร้ บั ฟังกนั พรอ้ ม
หนา้ กนั ทกุ คน ซง่ึ โอกาสท่ีเราจะไดม้ า ไดเ้ ห็นไดพ้ บกนั อย่างนี้ ก็ไมใ่ ช่ของง่ายดว้ ย
เนอะ เพราะเฉพาะหลวงพอ่ เองไมใ่ ช่ว่าเป็นพระท่ีไดม้ ากรุงเทพ มาไดร้ ูเ้ ห็นกบั ใคร ก็
ดว้ ยว่าถึงคราวท่คี วามเป็นไปของในกรุงในอะไรหลายๆอย่าง ก็พิจารณาแลว้ มนั ก็ไม่
รูจ้ ะทาํ อย่างไร ก็ตอ้ งมาดวู ่า มนั เป็นอย่างไรอย่างนี้ แตถ่ ึงดอู ย่ขู า้ งนอกก็เห็นแต่มนั
ไมใ่ กล้ ถา้ มนั ดใู กลๆ้ มนั กเ็ ต็มท่ีหละทีนี้ ถา้ รูอ้ ยไู่ กลๆน่ี มนั ยงั ห่าง มนั ยงั มีธรรมสิง่ อ่ืน
แทรกซอ้ นอยู่ ถา้ มาอยกู่ บั ท่ีเน่ีย มนั เรยี กวา่ มนั เป็นของแทเ้ ลยหละทีนี้ เรยี กวา่ เตม็ ตงึ
เต็มท่ี แน่นอดึ อดั เต็มท่ีอะไรอย่างนี้ กไ็ ดย้ ินเสียงบ่น ก็มาดวู า่ มนั ก็เป็นตามท่ีคนท่ี
ไดร้ บั ผลกระทบเหมือนกนั แตว่ ่ากรรมก็บนั ดาลใหเ้ ราตอ้ งทนอย่ทู ่ีน่ี ถึงบน่ แลว้ ก็ยงั
ไม่หอบไม่หนี อะไรอยา่ งเนีย้ บางคนก็ยงั หาท่ีมาสรา้ งมาอยู่ ก็เลย เจ็ดสบิ กวา่ จงั หวดั
กเ็ ลยมาแน่นกนั อย่นู ่ี ท่ีน่ี ฉะนนั้ ถา้ เราปฏบิ ตั ิธรรม เราหาความสงบ หาท่ี
สะดวกสบายกม็ ีมากมายประเทศไทยเรา ท่ีจะอย่กู บั ธรรม อย่ปู ฏิบตั ิ อย่สู ะดวกนีก้ ็มี
เยอะ แตเ่ ราอย่นู ีก้ ็อยดู่ ว้ ยบญุ เหมือนกนั เพราะอย่ใู กลบ้ ญุ คอื อย่ใู จวงั ในหลวง คือ
อยใู่ กลต้ วั เงนิ อนั นี้ คือทางโลกกจ็ ดุ ก็มงุ่ อย่ตู รงนนั้ ดว้ ย

น่ีแหละเม่ือพวกเราท่านทงั้ หลายไดม้ ารว่ ม ไดม้ าฟัง ไดม้ า ไดอ้ บุ ายปัญญาไป
ปฏิบตั กิ น็ าํ ไปปฏบิ ตั กิ นั ไมใ่ ช่ทดลองนะ ทดลองมนั ไมไ่ ด้ มนั ตอ้ งตดั ความคิดอย่าง

17

เดียว พระพทุ ธเจา้ ทดลองมาก่อนเราแลว้ เราเน่ียใหท้ าํ ตรงเลย ถา้ ยงั ทดลองอย่มู นั ก็
ยงั ไมถ่ กู หละทีนี้ บางคนก็ เอ๊ะ ทดลองปฏบิ ตั ดิ วู ่าก็ยงั เอาความสงสยั มาว่า ไม่ได้ คอื
ว่าจะว่าเป็นยาอย่างนี้ พระพทุ ธเจา้ รบั รองมาหมดเป็นยาโดยตรงกบั โลก ไม่ตอ้ ง
ทดลองคือตอ้ งปฏิบตั ิ ถา้ เป็นของทดลองก็ยงั ไมใ่ ช่ศรทั ธาจรงิ ท่านว่า ศรทั ธาจรงิ ๆ
ตอ้ งไม่ตอ้ งทดลอง ตอ้ งทาํ ทาํ โดยเฉพาะตรงๆอย่างนีแ้ หละ น่ีเรยี กว่าเราเป็นผเู้ ช่ือ
ตรง เช่ือจรงิ เพราะวา่ เราเช่ือพระพทุ ธเจา้ จรงิ ๆวา่ ทกุ ส่ิงเน่ีย ความรูค้ วามเห็นความ
เป็นเน่ีย พระพทุ ธเจา้ ไม่มีอะไรบกพรอ่ ง แตเ่ รามคี วามบกพรอ่ งอยู่ เราก็รูว้ ่าตอ้ งรบี
ทาํ ตอ้ งตาม ตอ้ งเรง่ อะไรอย่างเนีย้

น่ีเรยี กว่าเป็นการเตือนใจ ใหเ้ รานาํ ไปปฏบิ ตั ิ เรากจ็ ะมีความสขุ ความเจริญใน
ธรรม สติปัญญาของเรากจ็ ะเจรญิ งอกงามขนึ้ บญุ ทงั้ หลายท่ีเราไดเ้ ราก็รวมพลงั กนั
ไปถวายใหใ้ นหลวงของเราดว้ ย แบ่งมาใชแ้ กต่ วั ของเราดว้ ย ไมต่ อ้ งใหใ้ นหลวงหมด
หรอก เพราะตวั ของเราน่ีอดอยากอย่นู ะ เด๋ียวยกใหใ้ นหลวงหมดตวั ของเราก็หิวกนั
หละ น่ีแหละใหต้ งั้ ใจ ใหป้ ฏบิ ตั ริ กั ษาไวอ้ ย่างนี้ เราก็เป็นชาวพทุ ธถว้ นหนา้ กนั ทนี ี้ เรา
กด็ บั ความรอ้ นความวนุ่ วายกนั ชว่ ยกนั ได้ เราก็มคี วามสงบรม่ เย็น น่ีเป็นธรรมะ
เตอื นใจของเราทกุ คน กพ็ อสมควรแก่กาลเวลา ก็ขอยตุ ิไวแ้ ตเ่ พียงเท่านี้

ท่ีมา: https://youtu.be/ZCqWQNizZyA

18

19

20

บุญเกดิ จากความสงบ

วนั นีเ้ ป็นวนั ท่พี วกเราไดก้ าํ หนดใหศ้ รทั ธาชาวตาํ บลแม่แตงของเราทงั้ แปด
หม่บู า้ นไดม้ าประชมุ พรอ้ มเพรยี งกนั ณ สถานท่ีวดั ป่าหมใู่ หมแ่ ห่งนีซ้ ่งึ เป็นนิมติ
เคร่อื งหมาย เป็นอนสุ รณข์ องพวกเราทกุ คนท่ไี ม่เคยจบั ไมเ่ คยทาํ มา แตเ่ คยมีสมยั
หลวงตามหาบวั ทา่ นเคยมาจดั โครงการชว่ ยชาติ ก็นิมนตท์ ่านมาโปรดเมตตาท่นี ่ีเม่ือ
หลายปีท่ีผ่านมา แตว่ นั นีเ้ ป็นเวลาของพวกเรากาํ หนดขึน้ แลว้ กไ็ ม่ใช่กาํ หนดขนึ้
เฉพาะสถานท่ขี องเรา คอื กาํ หนดทงั้ ประเทศใหท้ ่วั ประเทศไทยของพวกเรา เพราะ
ตอนนีป้ ระเทศชาติบา้ นเมืองเราก็รูว้ ่าข่าวกนั ดีว่าเปลี่ยนแปลง มกี ารเสื่อมโทรมอะไร
ตา่ งๆอย่างนี้ อนั นีท้ างโลก ก็อาศยั ทางศาสนาท่จี ะมาช่วยแกไ้ ขใหท้ างโลกฟื้นฟู
ขนึ้ มาได้

ยกตวั อย่างหลวงตาท่านโครงการชว่ ยชาตกิ ท็ าํ ใหบ้ า้ นเมืองไดม้ ีมรดก มี
ทองคาํ จาํ นวนหลายพนั เป็นตนั ๆ นอกนนั้ ก็มเี งินดอลลารจ์ าํ นวนมากขนึ้ มากอ็ าศยั
พระพทุ ธศาสนา ถา้ อยา่ งนนั้ เร่อื งวิกฤติท่ีผา่ นมาหลายปีถา้ หลวงตาทา่ นไมเ่ มตตาก็
คงจะย่งิ ยงุ่ ลาํ บากกวา่ นี้ ฉะนนั้ เราชาวบา้ นทกุ คนก็คอื มฐี านะมภี าวะมเี พศมีอาชีพมี
ความเป็นอย่เู หมอื นกนั หมด คือจะตอ้ งทาํ มาหากินดิน้ รนทกุ คนทกุ ครอบครวั ฉะนนั้
เร่อื งท่ีศาสนาช่วยเราไดก้ ค็ ืออะไร กค็ ือบญุ

สว่ นบญุ นีถ้ า้ พดู ถึงบญุ ท่ีเป็นสว่ นของภายในเป็นส่วนของจิตก็ไมม่ รี ูปไม่มตี วั มี
ตน คอื เป็นเร่อื งของอารมณจ์ ิตเกิดขึน้ เป็นบญุ ถา้ จะพดู เป็นเร่อื งของรูปภายนอกคอื
รา่ งกายท่เี ราเห็นกนั ก็คือเป็นสว่ นท่ีเรามองเห็นไดด้ ว้ ยตา ว่าหนา้ ตาคนนีม้ ีบญุ
รูปรา่ งลกั ษณะสมบรู ณไ์ มม่ ีโรคภยั ไขเ้ จ็บ ผวิ พรรณวรรณะกผ็ ่องใสอ่ ย่างนี้ อนั นีเ้ ราดู
กนั ไดท้ งั้ สองอย่างเร่ืองบญุ คอื ดไู ดท้ งั้ บญุ ภายในคอื บญุ ท่ีมองไมเ่ ห็นอยใู่ นจิต ถึงไม่

21

มรี ูป และบญุ ภายนอกคอื รา่ งกายของเราแตล่ ะคนน่ีแหละ เป็นตวั บญุ ท่ีมองเห็นได้
ดว้ ยตาเหมอื นกนั ถา้ รา่ งกายภายนอกไม่มีบญุ อย่างเราเห็นคนพิการอย่างนี้ เราก็จะ
เห็นกนั ทกุ คนหละในศนู ยค์ นพกิ าร กเ็ พราะอะไร เคา้ มีบาป เคา้ มีกรรม เคา้ ทาํ บาปไว้
เบอื้ งหลงั มาใหผ้ ล อย่างนีเ้ ราก็เห็น อนั นนั้ คอื เป็นเรอ่ื งบาป เร่ืองไม่มบี ญุ บญุ มีนอ้ ย
แตบ่ าปมาใหผ้ ลก่อน

ฉะนนั้ คาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ จงึ มีสิ่งท่ีจะช่วยโลกไดค้ ือบญุ ทรพั ยค์ ือบญุ
อย่างท่ีว่าหลวงตาทาํ การชว่ ยชาติอย่างเนีย้ ก็คือทรพั ยท์ ่ีไดจ้ ากญาติโยมท่วั ประเทศ
น่นั แหละท่รี ว่ มบรจิ าค อย่างวดั ป่ าหม่ใู หม่ก็รวบรวมไดเ้ ป็นจาํ นวนมากอยู่ ทา่ นกใ็ ห้
ใบอนโุ มทนาบตั รมาเป็นหลกั ฐานไว้ ก็ยงั เกบ็ รกั ษาไวอ้ ยู่ ก็เพราะว่าเราเชิดชู
พระพทุ ธศาสนาใหด้ าํ รงคงม่นั อยกู่ บั แผ่นดนิ ประเทศชาตบิ า้ นเมืองของพวกเรา ให้
สบื ทอดไปถึงลกู หลานเหลนของพวกเราในภายภาคหนา้ กอ็ าศยั บญุ อาศยั
พระพทุ ธศาสนา อาศยั ธรรมะคาํ สอนพระพทุ ธเจา้ เน่ียแหละเป็นเคร่อื งชว่ ย แตไ่ ม่ได้
ชว่ ยดว้ ยวตั ถุ ช่วยดว้ ยคาํ สอนนะ อยา่ งท่ีหลวงพ่อเทศนใ์ หต้ อนเนีย้ ถา้ เราตงั้ ใจฟัง
เราจาํ คาํ สอนได้ แลว้ เรานาํ ไปปฏิบตั ิเราไดร้ บั ผลแลว้ เราแกก้ ารปฏิบตั ิท่ีเราตดิ ขดั ให้
ถกู ตอ้ งลงได้ กเ็ ช่ือว่าเป็นผทู้ ่มี ีศรทั ธาม่นั คงในพระพทุ ธศาสนาไมเ่ ส่ือม คือการ
ทาํ บญุ ก็จะทาํ ตลอด คือไม่มีการท่ีจะทาํ ใหอ้ ารมณเ์ ครียด อารมณท์ ่เี ป็นบาปเกิดขนึ้
ในจติ

อยา่ งชีวิตประจาํ วนั ของพวกเรา ยกตวั อย่าง อยา่ งวดั ป่าหมใู่ หมข่ องเราอย่ทู ่ีน่ี
บา้ นหมใู่ หมไ่ ม่มีซกั หลงั แลว้ ศรทั ธาท่ีทาํ บญุ อปุ ถมั ภใ์ สบ่ าตรทกุ วนั ก็หมดทงั้ ตาํ บล
แม่แตงเราน่ี สบิ หม่บู า้ นน่นั หละ บางทีต๊เุ จา้ เพ่ินพระท่านเป็นพระหน่มุ แขง็ แรงท่านก็
เดินไกล ท่านกไ็ ปถงึ จนสดุ เขตตาํ บลน่นั น่ะ คือไปโปรด โปรดเร่ืองใหศ้ รทั ธาไดท้ าํ บญุ
ใหไ้ ดบ้ ญุ ไดบ้ าํ รุงพระพทุ ธศาสนาอย่างหนง่ึ ใหไ้ ดบ้ าํ รุงผลบญุ บาํ รุงตระกลู ผเู้ รา

22

ทาํ บญุ ใสบ่ าตรใหไ้ ดบ้ ญุ สืบตอ่ เน่ืองกนั ไม่ใหข้ าด ใหเ้ ป็นบญุ เป็นนิจเป็นกิจ

ประจาํ วนั อย่างนี้ อยา่ งคนโบราณท่ีทาํ กนั เพ่ินก็จะแต่งดากนั เป็นประจาํ ไม่ใหข้ าด

คอื การทาํ ไมข่ าดน่ีคือเราทาํ ไมม่ ากแตเ่ ราทาํ ไม่ขาด มนั กม็ ากขนึ้ ไปเองเรอ่ื งของบญุ

ท่านเปรยี บเหมือนกบั ว่า ฝนตกแต่ละเม็ดลงในโอง่ ใหญ่ๆ คือเรอ่ื งทาํ บญุ กเ็ หมอื นกนั
ทา่ นว่าเรามนี อ้ ย เราใสท่ ่ีเรามีตามฐานะ ท่ีเราหามาไดด้ ว้ ยความบรสิ ทุ ธิ์ เราใสเ่ ท่าไร

ก็เป็นบญุ มากเพราะวา่ เหมือนเม็ดฝนแตล่ ะเม็ดท่ตี กลงในโอง่ มนั ตกทีละเม็ดแตม่ นั

ตกตลอดทงั้ วนั ทงั้ คืนมนั ก็เต็มโอ่งใหญ่ๆได้ น่ีท่านเปรยี บเทียบภายนอกใหเ้ ราเห็น

การทาํ บญุ การทาํ บญุ ของเรามนั ก็สมบรู ณข์ นึ้

แตบ่ างคนน่ี เออ ก็คดิ ไปอย่างหน่ึง ก็คิดไมร่ ูจ้ กั ผลบญุ หรอื บางทีก็ไปทาํ ลาย
บญุ ตวั เองอยา่ งนี้ หรอื ว่าไปทวงบญุ ว่าทาํ บญุ แลว้ มนั ไม่เห็นเป็นบญุ มนั ไม่เห็นอะไร
มาช่วย อนั นนั้ ท่านบอกเป็นความคิดผิด เรอ่ื งบญุ ท่เี ราทาํ ถกู ตอ้ งน่ี ใหผ้ ลอยา่ งเดยี ว

คอื ใหค้ วามสมบรู ณ์ ใหค้ วามถกู ตอ้ ง ใหค้ วามอ่มิ ใหค้ วามเต็ม ท่านจึงเรยี กว่าบญุ
ทา่ นแปลเป็นความหมายหลายอย่าง ถา้ เรารกั ษาอารมณอ์ ย่างนนั้ ไวต้ ลอดนะ่ เราจะ
ไดร้ บั ผลบญุ เห็นบญุ ท่านยกตวั อย่างสมยั ครงั้ พระพทุ ธเจา้ ของเรานะ่ ท่ีเรยี กช่ือว่า
นายบญุ ท่ีมีในพระไตรปิฎก ท่ีเป็นชาวนาไถนาจะปลกู ขา้ วนะ่ ทาํ บญุ กบั พระอรยิ เจา้
พระสารบี ตุ ร พระอคั รสาวกของพระพทุ ธเจา้ แลว้ กบ็ ญุ ใหผ้ ลเรว็ พอไถนายงั ไม่ก่ี
ช่วั โมง กอ้ นขไี้ ถทงั้ หมดเป็นทองคาํ ทงั้ หมด ท่านกย็ กตวั อย่างมาสอนพวกพทุ ธบรษิ ัท
หรอื ศรทั ธาญาติโยมท่ีคนเกิดมาสดุ ทา้ ยภายหลงั ใหม้ ีความเช่ือในการทาํ บญุ แลว้ ก็

เคารพในบญุ ใหถ้ กู ตอ้ ง กอ้ นขีไ้ ถแผน่ ดนิ ธรรมดาน่ีกลายเป็นทองคาํ ทงั้ ท่งุ เป็น
ทองคาํ จรงิ ๆ ท่านว่าอย่างนนั้ เพราะตวั เองก็ไม่รูว้ ่าเป็นทองคาํ เขา้ ใจว่ากินขา้ วผิด
เวลาแลว้ เกิดลมหนา้ มดื ตาลาย พอไปดจู รงิ ๆมนั เป็นทองคาํ ทงั้ ท่งุ ตอ้ งไปแจง้ พระ
เจา้ ปเสนทิโกศลเพ่ือจะมาควบคมุ ทรพั ยอ์ นั จาํ นวนมาก เพราะนาท่งุ ใหญ่ๆเป็น

23

ทองคาํ หมด น่นั นะ่ ผลบญุ ท่ีออกผลในพระพทุ ธศาสนา เป็นไปตามนนั้ น่ะทีนี้ เป็น
ทองคาํ จรงิ ๆไมใ่ ช่ว่าเป็นลมตาลาย เป็นตะคริว ไม่ใช่ เพราะว่าผลท่ไี ดร้ บั จากพระ
ทา่ นไปเมตตา ท่านเป็นพระผบู้ รสิ ทุ ธิ์ ท่านมบี ญุ ท่ีจะแผ่ใหไ้ ด้ ดว้ ยความรวดเรว็ หรอื
ดว้ ยความเต็มท่ีอย่างนี้ กเ็ ห็นผลขนึ้ มาหละทนี ี้

อนั นีเ้ ป็นตวั อยา่ ง ตวั อย่างพวกเรา เราไมไ่ ดเ้ ป็น แตก่ ็เราจะเห็นผลแตล่ ะคน ถา้
เรามีศรทั ธาเคารพหรอื ตงั้ จิตไมใ่ หจ้ ิตคดิ ทางบาปหรอื วา่ คิดไปตาํ หนิบญุ ท่ีเราทาํ
หรอื ว่าไปทวงบญุ ท่เี ราทาํ ว่าทาํ ไมมนั ไม่มาชว่ ยเราอย่างนี้ มนั ไม่ใช่ บญุ เป็นของดี
ท่ีสดุ ในพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธเจา้ จะไดต้ รสั รูเ้ ป็นพระพทุ ธเจา้ ขึน้ มาก็อาศยั
บาํ เพ็ญบญุ สรา้ งบารมี ๓๐ ทศั นส์ มบรู ณม์ า จงึ ไดต้ รสั รูเ้ ป็นพระพทุ ธเจา้ แตพ่ วกเรา
ในสมยั นีเ้ รากห็ ่างไกลมาตงั้ ๒๕๕๑ ปี การทาํ บญุ กย็ งั ทาํ ความสมบรู ณใ์ หแ้ ก่เราผทู้ าํ
อยทู่ กุ คน ถึงทาํ มากทาํ นอ้ ยอย่างใสบ่ าตรพระต๊เุ จา้ อยา่ งเนีย้ ทา่ นก็รบั หมด ท่านไม่
เลอื กว่า เออ อนั นีท้ าํ นอ้ ยไม่เอา หรอื ว่าอาหารท่านก็ไม่ตาํ หนิ ท่านก็รบั แลว้ ก็ทา่ นก็
เอามาใชม้ าฉนั บริโภคใหเ้ ราไดร้ บั ผลบญุ อนั ใดเป็นส่งิ ท่เี ราปฏิบตั เิ ป็นกิจประจาํ วนั
อยทู่ กุ วนั พระทา่ นก็เดินปฏิบตั ิทกุ วนั ท่นี ่ี

เหตนุ นั้ บญุ ของอาํ เภอตาํ บลแมแ่ ตงเราจงึ ไดเ้ ป็นตาํ บลใหญ่ และก็การทาํ บญุ
ของพวกเราแตล่ ะวดั ทงั้ หมดในหม่บู า้ นเน่ีย ก็มีวดั กนั ครบหละทีนี้ มีทงั้ วดั บา้ นและ
วดั ปฏบิ ตั ิ อย่างวดั ป่าหมใู่ หม่เราเป็นวดั ปฏบิ ตั ิอะไรอย่างเนีย้ แลว้ เรากอ็ ย่กู นั มา
คนุ้ เคย อย่างสมยั หลวงพ่อครูแกว้ อย่างนี้ กบั หลวงพอ่ ก็ท่านก็นบั ถือมาก ท่ีท่านจาก
ไป ก็เคารพนบั ถือกนั น่ีเป็นเรอ่ื งท่ีว่าการทาํ บญุ ในพระพทุ ธศาสนา หรอื ว่าศาสนา
ช่วยโลกได้ อย่างตวั อยา่ งท่ีวา่ ผลบญุ ท่ีเราไดร้ บั น่นั แลว้ อีกอยา่ งหนง่ึ การปฏบิ ตั กิ บั
พระพทุ ธศาสนาเรามีครูบาอาจารยฝ์ ่ายปฏบิ ตั ไิ ดม้ าอยู่ ไดม้ าอบรมส่งั สอนเรา อนั
นนั้ ก็เป็นบญุ อีกส่วนหน่ึง ท่านเรยี กว่าเราไดย้ นิ ไดฟ้ ังคาํ สอนของท่านก็เรยี กว่า ธมั ม

24

สวนมยั คือบญุ เกิดจากการไดฟ้ ังคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ จากท่านผปู้ ฏบิ ตั ิอย่างน่ี ก็
เป็นท่ีมาของบญุ ของพวกเราทงั้ หลาย

แลว้ นอกนนั้ สถานท่ีท่ีมีความสงบสงดั มีป่าธรรมชาติท่สี มบรู ณด์ ว้ ยการท่ีรกั ษา
บาํ รุงส่งเสริมมาตลอด อย่างทกุ วนั นีเ้ ราก็จะรูข้ ่าวว่าวดั ป่ าหม่ใู หม่ เคา้ กจ็ ะรูก้ นั ไปท่วั
ประเทศไทยหละคราวนี้ ว่ามีความแตกต่างเป็นวดั ป่าท่รี กั ษาธรรมชาตไิ ดม้ ากอย่าง
นี้ อนั นีเ้ ป็นเรอ่ื งความดีท่ีอย่กู บั ท่ีท่ีพวกเราเห็นกนั ท่ีพวกเราไดเ้ ป็นเจา้ ของทกุ คน คือ
ไมใ่ ช่ประจาํ หมบู่ า้ นไหน เป็นวดั ของประเทศไทย เป็นวดั ของจงั หวดั เชียงใหม่
ภาคเหนือทงั้ หมด ท่วั ไปถงึ ภาคอีสานภาคอ่ืนดว้ ย แลว้ ก็มีญาติของหลวงพอ่ ดว้ ย
แลว้ เขาก็ขอใหไ้ ปอย่อู สี าน หลวงพอ่ ก็ยงั ไม่ไปยงั พกั อยู่ อนั นีก้ ็ถือว่าเป็นสว่ นหน่งึ ท่ี
เราไดท้ าํ บญุ ติดตอ่ เน่ืองกนั มายาวนาน แตล่ ะบา้ น ก็ไดม้ าทาํ บญุ มาถวายสงั ฆทาน
ไดม้ าดสู ถานท่ีกนั นอ้ ยคนท่ีไมไ่ ดม้ า ถา้ เปรยี บตวั อยา่ งทางฝ่ายโนน้ ฝ่ายทางตาํ บล
อินทขลิ ยงั แตกตา่ งกนั มากเลย อย่างวดั ทา่ นพระอาจารยเ์ ปลี่ยนน่ี หลวงพ่อเคยจาํ
พรรษาเม่ือ๒๕๑๐ ตอนขนึ้ มาอย่ไู ดส้ องปี กม็ ีคนใสบ่ าตรแคเ่ จ็ดคนน่ะ บา้ นปงบา้ น
ใหญ่ๆ ก็มแี ค่นนั้ นะ่ หมบู่ า้ นเคา้ เป็นตงั้ หลายรอ้ ยเกือบพนั หลงั คาม๊งั บา้ นปงบา้ น
ทางนนั้ น่ะหางดงน่ะ มีคนศรทั ธาใสบ่ าตรแคเ่ จ็ดคนประจาํ แตก่ พ็ ออ่ิมพอฉันอยู่ แต่
ว่าบา้ นเยอะแตค่ นใสน่ อ้ ย แต่ว่าทางตาํ บลแม่แตงเราน่ีทกุ หมบู่ า้ นท่ีต๊เุ จา้ พระไป
บณิ ฑบาตร ก็จะใสบ่ าตรกนั เตม็ ทกุ ๆสาย ก็ยงั ดวู ่าความแตกตา่ งกนั อาํ เภอเดียวกนั
ตา่ งตาํ บลต่างเขตกนั แค่นี้ ใกลก้ นั อย่กู ย็ งั ตา่ งเลย เพราะความศรทั ธาของผคู้ น

อนั นีเ้ ป็นส่ิงท่ีใหเ้ รามีความภาคภมู ิใจในบญุ ท่ีพวกเราไดป้ ฏบิ ตั ิกบั วดั กบั
พระพทุ ธศาสนา กเ็ ป็นการอบรมจิตใจในการทาํ บญุ ใหล้ กู ใหห้ ลานของพวกเราได้
เหน็ ไว้ คอื เป็นการสอนโดยภาคปฏบิ ตั ิ คือการสอนดว้ ยสาธิตหรอื ว่าปฏบิ ตั ใิ หเ้ ห็นว่า
การทาํ บญุ นีเ้ ป็นการท่บี าํ รุงรกั ษาเชดิ ชปู ระเทศชาติศาสนาใหด้ าํ รงอยไู่ ดต้ ลอดมาถึง

25

เก่ียวขอ้ งมาถึงในหลวงของพวกเรา ก็มีความห่วงใยและอาศยั บญุ ปกครองประเทศ
มาตลอด เราก็จะเคยไดย้ นิ ข่าวประจาํ วนั ทกุ คนน่ะ ทา้ ยท่ีสดุ ในหลวงก็ตอ้ งมีโอวาท
ใหโ้ อวาทในตอนทา้ ยทกุ ครงั้ เคา้ ก็เรอ่ื งการทาํ บญุ ยกตวั อย่างในหลวงก่อนว่าใหฝ้ ึก
ใหเ้ ตรียมตวั จากนีไ้ ปใหใ้ ชเ้ ศรษฐกิจเพียงพออยา่ งนี้ เพราะในหลวงท่านมบี ญุ มาก
มองเห็นไกล เรายงั ไม่เช่ือเพราะว่ามนั เรม่ิ มนั ยงั ไม่นาน มนั เป็นแตเ่ พียงว่ามี
ความรูส้ กึ ท่ีจะเตือน ยงั ไมถ่ ึงท่ีมนั แตถ่ า้ คนไปปฏิบตั นิ ่ีกจ็ ะถกู ตอ้ ง เพราะวา่ ตอ่ ไปใน
อนาคตก็จะเป็นอยา่ งนนั้ ปัจจบุ นั ท่เี ราเป็นอย่กู เ็ ป็นอย่างนี้ เรากบ็ น่ กนั อย่วู ่ามนั เป็น
เรอ่ื งเก่ียวกบั หลายๆอย่าง ปัจจยั ภายนอก วตั ถเุ คร่อื งอปุ โภคสถานท่ีอย่จู าํ นวน
ประชากรอย่างนี้ เรากร็ ูก้ นั ว่าต่างไปหมด มนั ก็เป็นไปตามโลกหละทีนี้

ฉะนนั้ ถา้ เราไมแ่ กไ้ ขไปตามโลก เราจะเอาแบบท่เี คยเจรญิ มา เคยเหลือลน้ มา
อยา่ งนีไ้ มไ่ ด้ เราจะตอ้ งลดลง เราจะตอ้ งปรบั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพกบั ฐานะความเป็นอยู่
หรอื ส่ิงท่เี ราไม่จาํ เป็น เราก็ตอ้ งงด อนั นีเ้ ป็นธรรมดา แตส่ าํ หรบั ชาวบา้ นเราก็
สนิ้ เปลอื งกว่าพระท่ีปฏิบตั ิอย่แู ลว้ เพราะเราตอ้ งทาํ งานใชก้ าํ ลงั กายตอ้ งเหน่ือยตอ้ ง
กินขา้ วหลายมอื้ ถา้ อย่างงนั้ มนั ก็ไมไ่ หว เพราะกาํ ลงั กายน่ีเป็นตวั ท่ีจะสรา้ งสรรค์
สรา้ งสมบตั ทิ งั้ หลายมาเป็นเคร่ืองอยกู่ นั ทกุ คน ถา้ เรามากินขา้ วมือ้ เดียวอย่างต๊อุ ย่าง
พระนีก้ ็ตอ้ งมาภาวนาอย่างนี้ เหตนุ นั้ ชาวบา้ นเราเป็นฆราวาสเราจะตอ้ งทาํ งานออก
กาํ ลงั จะตอ้ งเหน่ือย จะตอ้ งกินเพ่ือใหม้ ีการทาํ งานไดร้ บั ผลอะไร มพี ลงั รา่ งกายช่วย
ทาํ งานหารายไดเ้ ต็มท่ี คือการเลยี้ งชีวติ ดว้ ยตวั เราเอง ฉะนนั้ เม่อื เราเขา้ ใจเร่ืองนี้ เรา
ก็รูจ้ กั แกไ้ ขสว่ นเฉพาะตวั สว่ นเฉพาะครอบครวั ของใครของมนั แลว้ ก็สอนลกู สอน
หลานแตล่ ะคน

ฉะนนั้ เม่ือคนเม่ือก่อนนีไ้ ม่คอ่ ยมีโรงเรยี นอย่างสมยั นี้ ยงั ไม่เจรญิ ยงั ไม่มีครู
สอน มแี ตพ่ อ่ แมส่ อนลกู สอนหลานแตล่ ะครอบครวั กนั เอง อย่างหลวงพอ่ ก็เหมอื นกนั

26

สมยั ก่อนก็ยงั ไมไ่ ดเ้ ขา้ โรงเรยี น พ่อก็สอนท่ีบา้ นก่อนท่ีจะเขา้ โรงเรยี นอย่างเนีย้ ก็ชนั้
ประถมก็จบไปจากพ่อก่อน พอไปเขา้ โรงเรยี นกไ็ ม่ยากเพราะมนั เป็นไดห้ ลกั อกั ษร
อะไรหมดแลว้ อนั นีส้ มยั นีเ้ ราไม่ไดท้ าํ กนั เพราะเด็กก็ปลอ่ ยใหอ้ นบุ าลหรอื ใหใ้ ครคน
อ่นื ไปเลยี้ งไปสอนใหอ้ ะไรอย่างเนีย้ เม่ือไม่ก่ีวนั นีก้ ็มีคนเอาเดก็ มาฝากคนหนง่ึ อายุ
๑๑ ปี เสียมาก พอ่ เคา้ ก็ไมม่ ีทางท่ีจะชว่ ยได้ ก็เอามาฝากอย่ไู ดส้ ามสว่ี นั ก็หนี แลว้ ก็
เอาไปสง่ ท่ีลาํ พนู ไปแลว้ เคา้ บอกว่าเด็กมนั ช่วยไม่ไดแ้ ลว้ ไม่มีทาง เพราะวา่ มนั เลน่
เกมมนั ตดิ เกมแลว้ มนั ไม่เอาอะไรเลย แลว้ มนั ทาํ ตวั เหมือนผใู้ หญ่ เหมือนนกั เลง
เหมือนอะไร แค่อายุ ๑๑ ปีนะ เอาหนงั สือใหก้ ็ว่งิ หนี ไม่อ่านไม่ดู มนั กเ็ ป็นตวั อย่างให้
เราเห็น

เหตนุ นั้ เรานกึ ถงึ อดตี ท่ผี ่านมาทกุ คนกจ็ ะมีความทรงจาํ เหมือนกนั ว่ามนั เจริญ
ในทางปฏบิ ตั ิทางธรรมมาก่อน เพราะโลกเปลยี่ นแปลงมาเป็นทางวิทยาศาสตร์ ส่ิง
ใหมๆ่ ท่เี กิดขนึ้ มาหรอื วา่ การฝึกการสอนการเลีย้ งดกู ารปฏิบตั ติ อ่ ครอบครวั ก็ไม่
เหมือนเม่อื ก่อนหละทนี ี้ ก็ทาํ ใหเ้ รามีความเดอื ดรอ้ น เพราะวา่ สมยั กอ่ นท่านปฏบิ ตั ิ
กนั ถกู ตอ้ ง ทา่ นก็สมบรู ณอ์ ยเู่ ย็นเป็นสขุ เรยี กว่าไม่มีเรอ่ื งกระทบกระเทือน ไม่มกี าร
อดอยาก ไมม่ ีการถกเถียงดา่ ว่ากนั ไมม่ ีการปะทะประทว้ งกนั เม่ือกอ่ น เพราะเด๋ียวนี้
ก็เพราะว่าทกุ สิ่งทกุ อยา่ งมนั เปลย่ี นแปลงเสอ่ื มโทรมใหเ้ ราเห็นอย่างนี้ มีแตท่ าง
ศาสนาทางธรรมะเท่านนั้ แหละท่ีจะไประงบั คอื ความสงบน่นั แหละ

อยา่ งในหลวงอย่างเนีย้ คือระงบั ดว้ ยความสงบคือน่ิง ไม่ตอ้ งใชค้ าํ พดู ถา้ ใช้
คาํ พดู แลว้ ก็ไมจ่ บซกั ทหี ละทีนี้ เพราะตา่ งคนตา่ งก็มีคาํ พดู เกิดขนึ้ ผดุ ขนึ้ เหมอื นนา้ํ แร่
นา้ํ พรุ อ้ นอย่างนี้ มนั ไม่น่ิงซกั ที มนั ย่ิงรอ้ นใหญ่ อย่างนาํ้ พรุ อ้ นนา้ํ ท่ีไหนกเ็ หมอื นกนั
ถา้ เป็นนาํ้ สงบนา้ํ น่ิงๆอย่างเราเอาไวใ้ นแกว้ หรอื ในขวดอย่างเนีย้ มนั ก็สงบน่ิงหรอื อยู่

27

ในตเู้ ย็นอย่างนี้ มนั ก็จะน่งิ แลว้ มนั กจ็ ะเยน็ ฉ่าํ กินสบายใจเรา คราวนีถ้ า้ ไมอ่ าศยั
ความสงบ อาศยั พระพทุ ธศาสนาเขา้ ไประงบั มนั กย็ าก มนั กเ็ ดือดรอ้ นมนั กไ็ มน่ ่ิง

ดงั นนั้ การทาํ บญุ ดว้ ยความสงบอยา่ งท่ีใสบ่ าตรอย่างนี้ ทาํ ดว้ ยความสงบ บาง
ทกี ารใสบ่ าตรอย่างนีบ้ างคนก็ไม่คอ่ ยเขา้ ใจ เพราะคนไมไ่ ดใ้ ส่ประจาํ บา้ ง ถา้ คนใส่
ประจาํ กเ็ ขา้ ใจหละ รูจ้ กั เพราะว่าทาํ ทกุ วนั อนั นีอ้ ย่างสมยั แตก่ ่อนน่ี หลวงพ่อมาอย่กู ็
บางคนเคา้ กข็ อพร เคา้ ใสบ่ าตรแลว้ เคา้ ก็น่งั ขอพร ทีนีพ้ ระทา่ นก็เกรงใจ ท่านกม็ ี
ความรูส้ กึ เพราะว่าการบิณฑบาตรแตโ่ บราณน่ีไมไ่ ดใ้ หพ้ ร คือท่านรบั ดว้ ยความสงบ
ท่านเอาจติ เมตตาดว้ ยความสงบแลว้ ท่านก็รบั แลว้ ทา่ นกเ็ ดินไป แตท่ กุ วนั นีเ้ คา้ ก็ทาํ
กนั ท่วั ประเทศหละทีนีเ้ พราะตวั อย่างมนั กระจายท่วั ไป ทนี ีพ้ ระท่านเกรงใจไม่กลา้ จะ
พดู โยมก็บอกวา่ เออ ทางชลประทานหวั ป่าหา้ เราจะไปให้ เปล่ียนทางกนั ไปหว้ ยเฮีย้
ซะ เราจะสอนเคา้ ให้ บอกว่าทาํ ไมไมใ่ หพ้ ร ท่ีไม่ใหพ้ รเพราะว่าเอาแบบพระพทุ ธเจา้
มาใช้ ถา้ ใหพ้ รแลว้ มนั ผิดวนิ ยั ของพระขอ้ หนง่ึ วินยั พระปาติโมกขพ์ ระมีขอ้ หน่งึ ท่ีว่า
ยนื ใหพ้ รแลว้ โยมก็จะไม่ไดบ้ ญุ กเ็ ป็นบาป แทนท่ีใหพ้ รเป็นบญุ แตท่ ่านกลบั มาเป็น
บาป เพราะวา่ ผดิ พระวินยั ดงั นนั้ ท่านจงึ ใหบ้ อกว่าใหม้ ารบั พรท่ีวดั ถา้ คนไหนจะเอา
พระ หรอื คนไหนจะเอาพรวนั เกิด อย่างบางคนก็ตรงวนั เกิดตวั เองใสบ่ าตรอยา่ งนี้ ก็
ตอ้ งเอาเกา้ อีม้ าใหท้ ่านน่งั แลว้ ก็น่งั รบั พร แตถ่ า้ ว่าตเุ๊ จา้ ยืนปันพรแลว้ โยมน่งั อย่างนี้
ทา่ นบอกว่าผดิ วนิ ยั ในเสขิยวตั รขอ้ ทา้ ยๆก็เลยบอกเคา้ ใหเ้ ขาเขา้ ใจ ทีนีเ้ ขากเ็ ขา้ ใจ
กนั หมดหละทีนี้ แตว่ ดั อ่ืนเคา้ ก็ยงั ทาํ อยู่ บางทีพอมหาเปรยี ญเคา้ เรยี นสงู จบ
ประโยคสงู เคา้ ก็ไม่รูค้ วามหมายเคา้ ก็ทาํ อยู่ แตห่ ลวงพอ่ ก็ทาํ ตามหลกั พระวินยั ท่ีว่า
มนั ไม่ถกู กเ็ ลยบอกว่าตอ้ งรบั ดว้ ยความสงบน่ิง แลว้ ก็แผ่เมตตาจติ แลว้ ก็รบั ตอ่ ไป อนั
นนั้ เป็นบญุ ท่เี กิดจากการบิณฑบาตร ถงึ ไมต่ อ้ งใหพ้ รเพราะว่าทา่ นเมตตาทางจิต
แลว้ ก็ย่งิ เป็นบญุ อนั ท่ถี กู ตอ้ ง

28

เพราะฉะนนั้ คนไมเ่ ขา้ ใจก็ เออ้ บางทีไมไ่ ดบ้ ญุ เพราะตเุ๊ จา้ ปันพรให้ แคอ่ ยา่ งนี้
กเ็ ป็นขอ้ สงสยั ของคนทาํ บญุ ท่ีไมเ่ คยปฏบิ ตั ิ จะตอ้ งไดข้ อพรก่อนถึงจะไดบ้ ญุ ก็ท่ี
สาขาอ่นื กเ็ คยมี พอตอนนีส้ าขาหลวงพ่อมีถึง ๒๐กวา่ แห่ง ท่เี ขาไม่รู้ ตเุ๊ จา้ เขาก็
เกรงใจไม่กลา้ บอก เคา้ ก็ว่ากนั ฉะนนั้ เราท่ีน่ีเราเขา้ ใจกนั หมด คือท่านก็จะเดินแบบ
รบั ดว้ ยความสงบและทา่ นก็เดินตอ่ ไปแตท่ า่ นก็เมตตาใหพ้ รตามแบบของ
พระพทุ ธเจา้ อนั นีม้ นั ถกู ตอ้ งทางพระวินยั และก็ไมเ่ ป็นบาปเพราะว่าเป็นบญุ ท่ีว่าไม่
ผิดในวินยั ท่พี ระพทุ ธเจา้ บญั ญตั ไิ ว้ หรือบางทีท่านว่ายืนตอ่ ยนื กไ็ ด้ แตส่ ่วนมากโยม
เคารพพระมากก็มนั ก็ไม่กลา้ ยืน แตจ่ ะตอ้ งใหม้ ีเกา้ อนี้ ่งั ก็เลยเขา้ ใจกนั จากนนั้ มา
วนั นีก้ ็เป็นการทาํ เป็นนจิ หละทีนี้ ถงึ พระองคไ์ หนมาทา่ นก็เดนิ สบายเพราะว่าท่านให้
พรในจิตสงบไปในตวั

แลว้ พรไม่ใช่ว่าเป็นเร่อื งบญุ ถา้ พดู ถึงเร่อื งพรท่ีใหโ้ ยมเป็นประจาํ คอื เป็นธรรม
น่ีแหละ เรยี กว่าท่านถือวา่ เป็นการแสดงธรรมไง ท่ีว่าผิดวินยั กเ็ พราะว่ามนั เป็นการ
แสดงธรรม คือการใหพ้ รมนั ไมใ่ ช่ว่าเป็นการใหบ้ ญุ เป็นการแสดงธรรมให้ อย่างท่ีว่า
ใหม้ อี ายุ วรรณะ สขุ ะ พละ อย่างความหมายของพรวา่ อย่างนนั้ คือเป็นการสอนไป
ในตวั ใหเ้ ราไดร้ ูจ้ กั ว่าถา้ เราไดท้ าํ บญุ อย่างใสบ่ าตรใสป่ ัจจยั ครบทงั้ ส่ีอยา่ ง เราก็
เจรญิ ดว้ ยทรพั ยส์ ิน ดว้ ยอายวุ รรณะ ทกุ สง่ิ ทกุ อย่าง ผลบญุ ก็จะใหผ้ ลแกเ่ ราทกุ คน
ความหมายท่านมคี วามหมายอย่างนี้ จงึ ว่ามนั ไม่ใชเ่ ป็นช่ือของบญุ หรอื วา่ เป็นคาํ ว่า
บญุ เป็นคาํ สอนตา่ งหาก ท่ีท่านใหพ้ รแตล่ ะครงั้ คือสอนแบบเป็นภาษาบาลี ถา้ แปล
เป็นภาษาไทยภาษาเมอื งกเ็ รยี กว่าคอื ใหเ้ จรญิ รุง่ เรอื งหรอื ว่าใหพ้ รกนั แบบว่าขอให้
อายมุ ่นั ขวญั ยืน ใหท้ าํ มาหากินสะดวกคล่องแคล่วร่าํ รวยอย่างนี้ แตว่ ่าไมใ่ ช่บญุ เป็น
คาํ พดู

29

บญุ จรงิ ๆน่ีเกิดอยใู่ นจติ อย่ใู นเจตนาในความสงบน่นู ส่วนตน้ บญุ ตวั บญุ ท่ีมา
ของบญุ น่ะ อย่างท่ีวา่ นายบญุ ท่ีหลวงพอ่ ยกตวั อยา่ งว่ากอ้ นขีไ้ ถทงั้ ทงุ่ เป็นทองคาํ
ทงั้ หมด กเ็ ลยใหช้ ่ือว่านายบญุ มาในพระพทุ ธศาสนาในพระไตรปิฎก มาเป็นประวตั ิ
ตวั อยา่ งของชาวพทุ ธเราว่า ชาวพทุ ธไม่ไดม้ ีสมบตั ิไปแจกจ่ายใหเ้ หมอื นศาสนาอ่นื
แตท่ ่านช่วยชาติบา้ นเมอื ง ช่วยพทุ ธบรษิ ัทศรทั ธาญาติโยมผนู้ บั ถือใหไ้ ดม้ คี วามอดุ ม
สมบรู ณก์ นั ท่วั ถึงกนั ทกุ ภาคท่ถี ือพทุ ธและก็ท่วั ประเทศท่ีถือพทุ ธดว้ ย แตท่ กุ วนั นีเ้ รา
ก็รูข้ ่าวว่าพทุ ธกแ็ ผก่ ระจายไปท่วั โลก ไม่ใชเ่ ฉพาะประเทศไทยเรา หลายประเทศท่ี
เจรญิ อย่กู ็เพราะเป็นเร่อื งพทุ ธศาสนาไดช้ ่วยในสว่ นบญุ น่นั นะ่ คอื หลกั ของบญุ ท่ีเกิด
จากจิตศรทั ธาจริงๆ เพราะว่าท่ีพ่ึงภายนอกเรากพ็ อมี เพราะสว่ นบญุ ท่ีพ่งึ ท่านถือว่า
เป็นท่พี ง่ึ ภายใน ทกุ คนกอ็ ยากเป็นท่ีพ่งึ ทางใจ เพราะท่ีพ่งึ ทางใจนีเ้ ป็นท่ีพ่ึงท่ีแน่น
หนาม่นั คงและก็ย่งั ยืน ถึงเราตายจากชาตินีไ้ ปเกิดชาติหนา้ อีก กศุ ลผลบญุ ท่ีเราเก็บ
สะสมรวมไวท้ ่ใี จก็ตามสง่ ผลไปตลอดหละทีนีเ้ หมือนท่ีวา่ นาํ้ หยดลงในตมุ่ มนั หยด
ลงทีละเมด็ ห่างๆนานๆ ซกั หยดนานๆมนั กเ็ ตม็ โอ่งได้

ถงึ การทาํ บญุ ท่ีพวกเราทาํ อยกู่ บั พระพทุ ธศาสนา บญุ ท่ีเราทาํ ประจาํ คือบญุ
บณิ ฑบาตรน่ีก็ถือวา่ เป็นบญุ ท่ีหนง่ึ ของพระพทุ ธศาสนา ท่วี ่าท่ีหน่งึ เพราะอะไร
เพราะว่าเป็นกิจของพระพทุ ธเจา้ ตงั้ แตพ่ ระพทุ ธเจา้ มีพระชนมช์ ีพอยู่ กจ็ ะตอ้ งออก
บิณฑบาตร เหมือนเราท่ีเราเป็นชาวบา้ นเหมือนกนั กิจชนั้ หนง่ึ เราก็คือตอ้ งเตรยี มน่งึ
ขา้ วหงุ ขา้ วกอ่ นอย่างอ่นื ก่อไฟกอ่ น แตเ่ ด๋ียวนีม้ นั เจรญิ ก็มไี ฟฟา้ มีอะไรทาํ การ
พฒั นาไปมนั กเ็ รว็ ขนึ้ กเ็ หมอื นกนั กบั ว่าพทุ ธศาสนากบั โลกก็เลยเป็นคกู่ นั มาแลว้ ก็
ตรงกนั ดว้ ย เพราะญาติโยมจะตอ้ งเตรยี มจะตอ้ งใชเ้ วลากอ่ น ลกุ ก่อน ต่ืนก่อนกว่า
ขา้ วจะสกุ อย่างเนีย้ กลวั จะไม่ทนั ใสบ่ าตรเพราะว่าพระท่านก็ใหเ้ วลา บางคนน่ีถา้ ยงั
ไมใ่ สบ่ าตรกไ็ มย่ อมกินเพราะว่ากลวั จะไม่ไดบ้ ญุ มาก แนะ่ ! อยา่ งนี้ หรอื บางที

30

ลกู หลานอยากกินก็ไมใ่ หก้ ิน ตอ้ งใหเ้ อาไปใสบ่ าตรกอ่ นเพราะว่าเคารพในบญุ ให้
สว่ นวตั ถทุ ่เี ราทาํ นนั้ ไม่มขี องเสียเกา่ ใหเ้ ป็นของใหมข่ องดี ไม่ใหม้ รี อยเรยี กว่าคน
เมืองเรยี กวา่ ขีซ้ ากน่ะ คอื เอาของใหม่ๆ ทาํ สกุ ใหม่ๆ ทาํ ใหด้ ีดว้ ยความศรทั ธาเล่อื มใส
ดว้ ยใจท่ีหวงั ผลบญุ

อนั นนั้ กเ็ ป็นส่วนหน่งึ ท่ีจะใหเ้ ราไดพ้ ่งึ บญุ ท่วี ่า เออ ใจเราอย่ดู ว้ ยบญุ จรงิ ๆ คือ
บางครงั้ บญุ ไม่มีตวั แตก่ ย็ งั ดไู ดว้ า่ มผี ลออกมา ความแตกต่างท่ีว่าบญุ มากบญุ นอ้ ย
อยา่ งเนีย้ เรากไ็ ม่เห็นตวั มนั แต่ว่าเวลามนั ใหผ้ ลกจ็ ะเหน็ วา่ เอ้ คนนีเ้ คา้ กไ็ มไ่ ดท้ าํ
มากแตเ่ คา้ ก็มผี ลบญุ อะไรช่วยเคา้ ไดเ้ ยอะ ก็เพราะวา่ มนั เกิดจากจิต เกิดจากตวั
เจตนานนั้ มนั ใหผ้ ล มนั มากมนั นอ้ ยอยา่ งนี้ กอ็ ย่างตวั อย่างนายบญุ อยา่ งนี้ แลว้ ก็ไม่
มคี นอ่ืนท่จี ะทาํ ไดอ้ ย่างนายบญุ อีกในพระพทุ ธศาสนา ก็เป็นบคุ คลตวั อย่างคนเดียว
น่นั น่ะตลอดมา คนอ่ืนทาํ กเ็ ป็นบญุ ไปเหมือนกนั แตว่ ่ามนั ไมเ่ ท่า เพราะว่าไดม้ ากได้
นอ้ ยตา่ งกนั อย่างนนั้ เพราะว่าดว้ ยพลงั บญุ ดว้ ยคณุ ศีลธรรมบารมธี รรมของพระสารี
บตุ ร พระอคั รสาวกผทู้ ่านมีความบรสิ ทุ ธิ์ไมม่ ีกิเลส เป็นผทู้ ่มี ีจิตใจใสสะอาดบรสิ ทุ ธิ์
มบี ญุ เต็มเป่ียมเหลือลน้ แลว้ กเ็ ลยได้ เหมอื นนาํ้ ลน้ โอ่งลน้ ถงั แลว้ น่ี มนั ไมบ่ กพรอ่ ง
แลว้

ฉะนนั้ เรอ่ื งการท่เี ราไดบ้ าํ รุงพระพทุ ธศาสนา หรือการท่ีเราไดม้ าอบรมทาํ คาํ
สอนพระพทุ ธเจา้ ในทางปฏิบตั ิ เราจะไดเ้ ขา้ ใจปฏิบตั แิ กค้ วามคดิ ความเห็นผิด
บางอย่าง อย่างท่ีว่าบญุ เขา้ ตอ้ งปันพรไปทกุ คนๆอยา่ งนี้ โห กว่ามนั จะเสรจ็ น่ีมนั ก็
เสยี เวลาถา้ คนเยอะๆน่ี หลวงพอ่ เคยไปบิณฑ(บาตร)ท่ีแม่สายกบั ท่านวชิ ยั ท่านเป็น
สายทางใหพ้ รหละ ทา่ นบอกวา่ ท่านอาจารยไ์ ม่ตอ้ งใหห้ รอก ผมใหค้ นเดียว โอย แม่
สายมนั อาํ เภอใหญ่ คนใสห่ ลาย กว่าจะมาถงึ วดั มนั จะเกา้ โมงสิบโมงแลว้ มนั หลาย
คนมนั กใ็ หไ้ ปจะยืนรอกนั ไปอย่างนนั้ นะ่ น่นั หละท่านบอกว่าพระพทุ ธเจา้ ท่านไม่ได้

31

ทาํ อยา่ งนนั้ น่ี ครูบาอาจารยท์ ่ีหลวงพ่อไดบ้ วชไดฝ้ ึกน่ีท่านก็รบั ไปดว้ ยความสงบและ
มนั ก็ไมเ่ สยี เวลา ท่านกเ็ มตตาอธิษฐานจิตใหต้ ลอดหละทีนี้ เป็นบญุ กนั ไปเหมือนกนั
หมดหละทีนี้ คือไม่ตอ้ งว่าพรก็เป็นบญุ เพราะว่ามนั เกิดกอ่ นพรแลว้ บญุ นะ่ ส่วนพร
นนั้ มนั เกิดทีหลงั

ทนี ีค้ อื เป็นคนท่เี ขา้ ใจหลกั บญุ ท่เี กิดจากความสงบทีนี้ เกิดจากการท่ีไม่ใช้
ภายนอก ใชภ้ ายในเป็นหลกั และก็เป็นการท่ีฝึกอบรมจิตใหเ้ รามสี มาธิดว้ ย คือจะเป็น
พลงั ของสมาธิตอ่ ไปดว้ ยหละทนี ีเ้ พราะว่าเราฝึกไปบอ่ ยๆ ฝึกประจาํ เขา้ มนั ก็บญุ กจ็ ะ
อย่ขู า้ งใน ไม่ไหลไม่หลงออกมาขา้ งนอกหละทีนี้ มนั จะเห็นบญุ ในใจตวั ตลอด
จะตอ้ งใชค้ วามสงบ อยา่ งท่พี วกฝึกมา ฝึกปฏบิ ตั ิธรรมท่ีน่ีกเ็ หมอื นกนั ก็จะตอ้ งมาอยู่
ดว้ ยความสงบกนั ทงั้ หมด กไ็ ดค้ วามสงบจากท่ีน่ี กว่าทกุ พงท่ผี ่านมาน่ะเพราะว่า
สถานท่ีก็สงบ และก็สิ่งตา่ งๆเสยี งกระทบ บา้ นเราก็อยไู่ กลอะไรอย่างนี้ ถึงสายวดั
บา้ นหรอื ไร วดั ก็มีศรทั ธาเล่อื มใสกพ็ ดู ถึงหลวงพ่อเหมือนกนั ว่าวดั ป่าหมใู่ หมม่ นั ไม่
เหมือนท่อี ่ืน มนั เป็นป่าธรรมชาติมนั จรงิ ๆ มนั ไกลบา้ นจรงิ ๆ ท่านบอกว่าบางทีถา้ ไม่มี
ความอดทนก็อยไู่ ม่ได้ กเ็ ดินบณิ ฑบาตรกไ็ กล ท่านกเ็ คยพดู ถงึ อย่างท่านอนนั ตท์ ่ีวดั
ดอนจ่นั นี้ ท่านบอกว่ามีความศรทั ธาวดั ป่ าในเชียงใหม่ทงั้ หมดน่ี ผมศรทั ธาวดั ป่ าหมู่
ใหมแ่ ห่งเดียว เพราะวา่ ผมไปเห็นกบั ตวั และมากราบหลวงพอ่ ท่ีกฏุ ิดว้ ย เพราะวดั อ่ืน
น่ีมนั ไม่สมบรู ณเ์ ป็นป่าธรรมชาติเหมือนหม่ใู หม่ แลว้ กไ็ กลดว้ ย บิณฑบาตรถา้ ไมม่ ี
ความอดทนกส็ ไู้ มไ่ หวท่านว่าอย่างนี้ ท่านกอ็ ยากเอาลกู ศษิ ยม์ าฝึกอยแู่ ตก่ ็กลวั ว่าจะ
สไู้ มไ่ หว ท่านพดู อย่างนี้ อนั นีเ้ ป็นคาํ พดู ท่ีออกจากปากดว้ ยความท่ีเห็น ดว้ ยการท่ี
ไดม้ าเห็นแหละ อย่างครูบาเทอื งน่ีก็เคยมา ท่านก็ชมวา่ เออ้ หลวงพ่อไปเลอื กท่ีสรา้ ง
ท่ีวดั ไดด้ ี น่าอย่รู ม่ ร่ืนสงบ แตต่ อนท่านมาหลวงพอ่ กไ็ มอ่ ย่แู ตท่ ่านมาเท่ียวดู ท่านก็
รูจ้ กั เหมอื นกนั

32

ฉะนนั้ เร่อื งบญุ ท่เี กิดจากความสงบ เป็นบญุ ภายในเป็นท่ีพ่งึ ภายใน เป็นท่พี ่งึ

ทางใจของพวกเราทกุ คน เรามชี ีวิตอย่ถู า้ เรามีความสงบมีท่ีพง่ึ อย่างนีเ้ ราก็มีความท่ี

ม่นั คงแลว้ เราก็มคี วามเป็นอยทู่ ่ีดที ีนี้ ถึงภาคอ่ืนตาํ บลอ่ืนเดือดรอ้ นว่นุ วาย

ประเทศชาติว่นุ วาย แตจ่ ิตใจเราไม่ว่นุ วาย จติ ใจเราสงบ จิตใจเรามีหลกั ธรรมหลกั

ปฏิบตั อิ ย่ใู นภายในอยู่ มีท่ีพ่งึ ทางใจอยู่ เรากไ็ มเ่ ดือดรอ้ นตามเขาไปหละทีนี้

เพราะว่าท่ีเขาเดือดรอ้ นเพราะเขาไมไ่ ดอ้ บรม เขาไมไ่ ดร้ ูเ้ ร่อื งฝึกตวั ไม่รูเ้ รอ่ื งท่ีจะ

แกไ้ ขอย่างไร เขาหลงทางภายนอกอย่างนี้ หลงโลกพฒั นาใหม่ หลงวิทยาศาสตรท์ ่ี

เจรญิ เรว็ ไวเกินไปอย่างนี้ มนั แกไ้ ขไม่ทนั ฉะนนั้ เราตอ้ งยอ้ นหลงั ถงึ อดตี ท่ีเราเกิดมา

จนถึงปัจจบุ นั นี้ กจ็ ะรูไ้ ดว้ ่ามนั มีการเปล่ียนแปลงมาตลอด มนั ไม่หยดุ น่ิงหละโลกนี้

แตว่ ่ามนั เปลย่ี นแปลงแบบไมใ่ ชข่ องเก่าแลว้ มนั เปลี่ยนแปลงไปในฝ่ายความเส่ือม

ไมใ่ ช่ความเจรญิ เหมือนท่ผี ่านมาหละทีนี้ มนั เจรญิ แตส่ ่ิงหลอกลวงเท่านนั้ แหละ แต่

ว่าผลออกมามนั เป็นนความเส่อื ม คอื ใหเ้ ราเสื่อมทรพั ยส์ ิน เสื่อมการปฏิบตั ทิ ่เี ราเคย

ทาํ มาท่ีเราเคยมีท่พี ่งึ อย่างเนีย้ การทาํ งาน การเกษตร การบา้ น การเมืองอะไรก็

เปลย่ี นแปลงไป ฉะนนั้ คือมนั ทาํ ใหเ้ ราเสื่อมทรพั ยส์ ิน เสอื่ มสิ่งท่ีไม่จาํ เป็นบางอย่าง

อย่างนี้ แลว้ ก็ผิดหลกั ของคาํ โอวาทของในหลวงท่ีว่าเศรษฐกิจพอเพียงอย่างนี้ มนั ก็

ทาํ ความเดือดรอ้ นไดอ้ ยู่ เพราะว่าเรากร็ ูอ้ ยแู่ ลว้ ว่าเราเป็นญาติโยมเป็นชาวบา้ น เรา

จะตอ้ งทาํ มาหากินเอง แลว้ ก็ปกครองครอบครวั แตล่ ะคนของใครของมนั เอง ถา้ คน

ไหนไม่คดิ เอาหลกั ธรรมมาใชป้ ฏิบตั ิกจ็ ะเกิดความเดือดรอ้ น ความวิบตั ิเกิดขนึ้ คือ

เกิดบาปเกิดความไม่สงบในครอบครวั อย่างนี้ ถา้ เราเอาหลกั ปฏิบตั ธิ รรมคาํ สอน

พระพทุ ธเจา้ อย่างท่ีความสงบไปใชไ้ ดน้ ่ะ เราก็จะอยเู่ ย็นเป็นสขุ เหมือนท่ีในหลวงท่ี

ใหโ้ อวาทไปอย่างนนั้ มนั จะอยเู่ ย็นเป็นสขุ มกี ินมีใชม้ ีใกลบ้ า้ นใกลต้ วั เรามีเคร่อื งของ

ทกุ อย่างท่ีบา้ นเมืองเราดินฟา้ อากาศอาํ นวยให้ การปลกู การสรา้ งอะไรก็ง่าย มนั ไม่

33

เดอื ดรอ้ นแหง้ แลง้ เหมอื นแหง่ อ่ืน ภาคอ่ืนท่ีเคา้ เป็นอยเู่ คา้ ลาํ บากกนั มากว่าเราก็
เยอะ ก็เป็นอย่ทู ่ีตวั เราหละทีนี้

เหตนุ นั้ เราไดพ้ ระพทุ ธศาสนามาชว่ ยเรา ชว่ ยประเทศชาติบา้ นเมอื งตลอดถึง
ความเป็นอยู่ หลกั ประชาธิปไตยจะม่นั คงกอ็ าศยั พวกเราเขา้ ใจธรรมะคาํ สอน
พระพทุ ธเจา้ น่ีแหละ ไปปฏิบตั ิกนั ทีนี้ ถึงเราไปประชมุ ไปเป็นฝ่ายบรหิ ารบา้ นเมือง
อยา่ ง อบต หรอื สธ อะไรตา่ งๆ ตอ้ งเอาหลกั ศีลธรรมพระพทุ ธเจา้ ไปใช้ ถึงจะสงบ
รม่ เย็น ถึงจะอย่กู นั เป็นกล่มุ สามคั คี ทาํ งานรว่ มกนั มีผลดีตอ่ หนา้ ท่ีการงานกนั ทกุ คน
ตลอดถงึ ศรทั ธาบาํ รุงพระพทุ ธศาสนาก็ม่นั คงไปเหมอื นกนั หละทนี ี้ อย่างท่ีหลวงพ่อ
ชมว่าทงั้ แปดหมบู่ า้ นอย่างนี้ ก็ใสบ่ าตรกนั ทกุ บา้ น พระไปสายไหนกใ็ สเ่ ต็มบาตร
อย่างอยบู่ า้ นปงน่ีจนถึงปัจจบุ นั นีก้ ย็ งั ไมเ่ ปลย่ี นแปลง ก็ยงั ไม่เพ่ิม คนใหใ้ สบ่ าตรแคส่ ี่
คนเกินเจ็ดคน กบ็ างทกี พ็ รอ่ งๆหน่อยๆ แตว่ ่าดีมีพอ่ นาท่ีคนเม่ือกอ่ นเป็นคนมีฐานะ
เป็นพอ่ นาท่ีมีนามากกว่า เขาก็ใสป่ ั้นใหญ่กอ็ ่ิมอยู่ กใ็ สท่ านเทา่ ปั้นสม้ โอเน่ียแหละ
เป็นขา้ วน่งึ มนั ก็เลยอ่ิม ถา้ อย่างงนั้ มนั ไมอ่ ่ิมเหรอ ถา้ ใสอ่ ย่าง(เสยี งไมช่ ดั ) เขาหยิบใส่
เท่าหวั แม่มือน่ี เคา้ ใสค่ นละนอ้ ยๆ ฉะนนั้ สิง่ ท่ีเราไดท้ าํ บญุ ไวใ้ นทอ้ งถ่ินของพวกเราก็
บาํ รุงพนื้ ท่ีของพวกเรา บาํ รุงชีวิต บาํ รุงครอบครวั ของพวกเราแตล่ ะคน อาศยั ผลบญุ
ท่ีพวกเรามีความสามคั คแี ลว้ กท็ าํ เป็นประจาํ อยู่ ไม่ว่าบา้ นไหนท่ีไหน ท่านเดินไปท่ี
ไหนก็มคี นเตรยี มใสเ่ ตรยี มรออยา่ งนี้

อนั นีค้ ือเป็นเร่อื งพระพทุ ธศาสนาและบา้ นเมืองท่ีมีสว่ นเก่ียวขอ้ ง ท่ีมสี ่วน
คมุ้ ครองช่วยเหลอื ปกปอ้ งบาํ รุงรกั ษาไมใ่ หเ้ สอื่ มไปจากพวกเราหละทีนี้ ภาคปฏิบตั กิ ็
เหมือนกนั อยา่ งท่ีว่าหนา้ ท่ีของพลเมืองดีมศี ลี ธรรมกจ็ ะตอ้ งมีหลกั อย่างเนีย้ เม่ือก่อน
หนา้ ท่พี ลเมืองและศีลธรรมท่ีเอามาเป็นหลกั สตู รคาํ สอนของชนั้ ประถมมาก่อน กค็ ือ
มีสอนเรอ่ื งพระรตั นตรยั และก็มีสอนศีลหา้ ให้ มีหลกั ใหญ่ๆแค่นีท้ ่ีเราจะนาํ ไปปฏบิ ตั ิ

34

อยา่ งเราเป็นชาวบา้ น ถา้ เราปฏบิ ตั ใิ นหลกั นีไ้ ดอ้ ยู่ บา้ นเมืองเรากย็ งั สงบรม่ เยน็ เป็น
สขุ เพราะมีทงั้ พระพทุ ธพระธรรมพระสงฆ์ มีทงั้ ศีล ๕ ขอ้ ก็จะคมุ้ ครองเราไดท้ งั้ หมด
หละทีนี้ ถงึ เราทาํ บาปอย่แู ตก่ ็ทาํ ไดเ้ ป็นสว่ นนอ้ ย เพราะศีลธรรมคมุ้ ครองเราอยู่ เป็น
พระพทุ ธพระธรรมพระสงฆป์ กครองรกั ษาอยู่ ก็ทาํ ใหค้ นโบราณของเราก็อยเู่ ยน็ เป็น
สขุ มอี ายมุ ่นั ขวญั ยนื กนั ใหเ้ ราไดร้ ูไ้ ดเ้ ห็นกนั มาอยู่

อนั นีเ้ ป็นพืน้ ฐานของพระพทุ ธศาสนาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ทางโลก เพราะศีล ๕ น่ี
เป็นศลี สากลของโลก คือโลกท่วั ไปหรอื ว่าศลี อ่ืนนนั้ เป็นศีลท่ีปฏิบตั ทิ ่สี งู ไป ศีล ๘ ศีล
๑๐ ศีล ๒๒๗ แต่ศลี พนื้ ฐานจรงิ ๆคอื ศีล ๕ ท่านบอก ศลี ๕ ก็เท่ากบั ตวั เรา รา่ งกาย
ของเราทกุ คนคอื ท่านนบั วา่ มอี วยั วะทงั้ ๕ คือมีแขนสอง มขี าสอง มีหวั หน่งึ เกิดมาก็
มีกนั เท่ากนั เท่านีผ้ หู้ ญิงผชู้ าย ลกู ของใครกเ็ หมือนกนั และก็บอกว่าฉะนนั้ ศาสนา
เกิดขนึ้ แลว้ ศีล ๕ ไดม้ าแตเ่ กิดทกุ คนแลว้ แลว้ ใครจะปฏิบตั ริ กั ษาเอาก็ไดบ้ ญุ หมด
หละทีนี้ ศลี กไ็ มข่ าดเพราะมนั ไดม้ าครบ สองมือ สองเทา้ หวั หน่งึ อย่างนีห้ ละ เราจะ
เอาศีลไปรกั ษาไปปฏิบตั ิ เราจะเอาไปหดั ภาวนาไปปฏิบตั ธิ รรมกเ็ อาตวั นีห้ ละ เอาตวั
ศีล ๕ เน่ียหละไปเป็นหลกั อย่างนี้ ฉะนนั้ การท่ีเราเป็นฆราวาสหรอื เป็นศรทั ธา
ชาวบา้ นอย่างนี้ เรามพี นื้ ฐานศีล ๕ เป็นนิจ เราก็พน้ จากนรกหละ ไม่ตกนรกหละ
เพราะว่าอานสิ งสข์ องศีล ๕ ทา่ นกบ็ อกว่าใหไ้ ปสวรรค์ อย่างท่ที ่านใหท้ า้ ยศลี ว่า สเี ล
นะสขุ ตงิ ยนั ติ ศลี ใหผ้ ลใหค้ วามสขุ แกผ่ รู้ กั ษาผปู้ ฏิบตั ิ สเี ลนะโภคะสมั ปทา ถา้ มีศีล
แลว้ ก็มโี ภคะสมบตั ิ ไมเ่ ป็นคนทกุ ขค์ นจน ถึงคนจนมารกั ษาก็จะเกิดเป็นคนมไี ด้ สีเล
นะนพิ ตุ ิงยนั ติ คือศีลจะไดพ้ น้ ทกุ ขห์ มดกิเลสอย่างพระพทุ ธเจา้ ของพวกเรา ก็ไปจาก
ศีล ๕ เป็นพืน้ ฐาน เป็นตน้ ของศลี ทงั้ หลาย ศลี มากมายท่ีท่านบญั ญตั ใิ นพระไตรปิฎก
ถงึ สองหม่ืนกบั หน่งึ พนั ขนั ธ์ กไ็ ปจากศลี ๕ ตวั เดียวเท่านี้ คือไปจากรา่ งกายของเรา

35

คนเดียวเท่านี้ ท่จี ะนาํ ไปปฏบิ ตั ใิ หเ้ กิดผล ใหเ้ กิดความอดุ มสมบรู ณ์ ใหเ้ กิดความสงบ
รม่ เย็นทีนี้

ถา้ เรามีกนั ทงั้ หมดอย่างสมยั คนโบราณน่ีเคา้ ไม่มกี ารเดอื ดรอ้ น การประทว้ ง
การวา่ กนั การแข่งแย่งกนั ไม่ม!ี เพราะว่าศีลธรรมน่ีเสมอกนั ตา่ งคนก็ต่างรูค้ วาม
เป็นอย่คู วามตอ้ งการเหมือนกนั ไมร่ ูจ้ ะไปขดั กนั ไปดา่ กนั ไปแยง่ กนั เอาความทกุ ขม์ า
ใสต่ วั ทาํ ไม ก็ตงั้ ใจทาํ หนา้ ท่ีการงานใหเ้ ต็มท่แี ลว้ ก็ดีท่ีสดุ แลว้ มแี ตค่ วามเจริญอยา่ ง
เดยี วหละทนี ี้ แต่ปัจจบุ นั เราน่ีมนั เปลี่ยนแปลงไป เราก็แกไ้ ขยากมากหละทีนี้
เพราะว่ามนั ผิดไปแลว้ น่ี เราจะตีกลบั มาน่ีมนั ยาก แลว้ ก็คิดเร่ืองท่จี ะแกก้ ็ยาก
เพราะว่ามนั ผ่านไปผิดไปมนั เลยไปแลว้ ฉะนนั้ เราถึงคิดถงึ เรอ่ื งว่าเม่ือบา้ นเมืองจะ
เดือดรอ้ นขนาดไหน ถา้ เรายงั มศี าสนาเป็นเครอ่ื งคมุ้ ครองเคร่อื งรกั ษา ศาสนายงั ไม่
เสอื่ มหายจากเรากย็ งั ดบั ความรอ้ นได้ ยงั ระงบั ความว่นุ วายได้ คอื ระงบั เร่อื งส่ิงตา่ งๆ
ท่ีมนั เกิดขนึ้ ใหส้ งบลงได้ ดว้ ยท่ีพลงั ของบญุ ดว้ ยพลงั ของศาสนาดว้ ยความสงบของ
จติ ของชาวพทุ ธเรานะนนะ่ คือมีความเมตตา มีความสามคั คี มีความดีท่สี รา้ งมา
ยาวนานตงั้ แตเ่ กิดมาจนถึงแก่ แตล่ ะคนกม็ าก อย่างท่ีหลวงพอ่ วา่ บญุ ท่ีไม่เป็นตวั ก็
คอื เกิดท่ีมอี ย่ใู นใจแตล่ ะคน แลว้ บญุ ท่ีเป็นตวั คอื รูปรา่ งท่ีเรามองเห็นกนั ก็จะมีอย่ทู กุ
คนหละทีนี้ มีเรอ่ื งใจบญุ มรี ูปรา่ งท่ีไดม้ าจากบญุ ท่เี กิดมาจากบญุ ในเบือ้ งหลงั ท่ีได้
สรา้ งอบรมมา มาในยคุ ปัจจบุ นั เรามาเจอวิกฤตการณอ์ ะไรเกิดขนึ้ เรากจ็ ะตอ้ งพง่ึ
บญุ ท่เี รามีมา เหมือนเราหาเงินมาตงั้ แตเ่ ด็กมาจนถึงแก่ เรากจ็ ะไดใ้ ชเ้ งินท่ีเราเร่มิ
ตน้ ทนุ มาน่นั แหละ แตถ่ า้ เราไม่มีมาเลยน่ีกล็ าํ บากหละทีนี้ เราจะมาคดิ หาเอาอย่างท่ี
เราใชค้ วามคดิ อยา่ งนีม้ นั เป็นไปยาก

เหตนุ นั้ การท่ีเราไดม้ าวนั นี้ เรากเ็ ลือกสถานท่ีคือสถานท่ีวดั ป่าหมใู่ หม่ เป็น
สถานท่ีท่เี ราไม่เคยจดั และเป็นท่สี งบ และผฟู้ ังก็ไดต้ งั้ ใจฟังดว้ ยความสงบก็ไดร้ บั

36

ความรูค้ วามเขา้ ใจในการอบรมธรรมะเก่ียวกบั ความเป็นอยู่ การแกไ้ ขดา้ นจิตใจและ
ก็เป็นการท่จี ะชว่ ยเหลือใหป้ ระเทศไทยเราไดเ้ ขา้ สคู่ วามสงบ แกไ้ ขวกิ ฤตกิ ารณท์ ่มี นั
วนุ่ วายเดือดรอ้ นกนั ท่เี ฉพาะคนชมุ ชมหนาแน่น แตถ่ า้ อยา่ งวดั เรามนั ไม่มีอะไร
เดือดรอ้ นหละ แตว่ ่าชมุ ชนหนาแน่นน่ีเขาบน่ เขาทรุ นทรุ าย เขาก็ไมร่ ูจ้ ะทาํ อะไรกนั
แตก่ ็ยงั ดวี ่ามเี มตตาไมถ่ งึ ทาํ ลายชีวิตกนั ดงั นนั้ เราไดม้ าจดั ทาํ ท่ีน่ีกเ็ ป็นบญุ กศุ ลของ
พวกเราทกุ คน แลว้ ก็เป็นบญุ กศุ ลท่ีพวกเราไดอ้ ย่ไู ดท้ าํ มายาวนานถึง๒๐กว่าปีน่ะ ถา้
นบั อายทุ ่ีมาอยตู่ งั้ แตแ่ รกมาถึงวนั นีก้ ็ ๒๑ ปี บญุ กศุ ลสว่ นนีก้ ็เป็นปัจจยั เป็นท่ีพง่ึ ทาง
ใจ เป็นท่พี ่งึ ภายในของพวกเราทกุ คนท่ีไดท้ าํ กบั วดั ป่าหมใู่ หม่ ทกุ คนเป็นเจา้ ของ
แลว้ ไมใ่ ช่วา่ เป็นวดั ประจาํ หมบู่ า้ นใด วดั หม่ใู หม่ บา้ นหม่ใู หม่ก็รา้ งไปแลว้ อย่างท่ีเรา
เหน็ กเ็ ลยเป็นของทาํ บญุ แม่แตงสมบรู ณแ์ บบแบบนี้ แลว้ พวกเราไดเ้ ขา้ ใจทงั้ ธรรมะ
ทงั้ ความเป็นอยู่ สภาพของวดั การปฏิบตั ขิ องพระสงฆใ์ นวดั และศรทั ธาท่ีอปุ ถมั ภ์
บาํ รุงวดั ทกุ อย่างอย่างนีก้ ไ็ มม่ สี ่ิงท่จี ะเสียหายเดือดรอ้ นว่นุ วายเพราะหลวงพอ่ เป็น
องคด์ แู ลหมดทงั้ หมด กเ็ ลยอยใู่ นความสงบมาตลอด เรากไ็ ดบ้ ญุ จากความสงบท่เี รา
ไดท้ าํ มาทกุ บา้ นทกุ ท่ีทกุ คนน่นั แหละเป็นเจา้ ของรว่ มกนั

เม่อื เหตกุ ารบา้ นเมอื งมีอะไรมาเรากช็ ่วยแกไ้ ข ช่วยเป็นกาํ ลงั สามคั คใี นฝ่าย
สว่ นท่เี ป็นธรรม ในสว่ นท่ถี กู ตอ้ งอย่างนี้ เราก็จะไดร้ บั ผลดีอยา่ งวนั นีท้ ่ีเราไดร้ บั การ
อบรมไป เม่อื เราไดท้ าํ ได้ นาํ ไปคิด นาํ ไปพจิ ารณา นาํ ไปปฏิบตั ิเทยี บเทา่ ดู เรากจ็ ะได้
ความศรทั ธา ไดค้ วามปลมื้ ใจ ไดค้ วามรูใ้ นทางธรรมะปฏิบตั ิเขา้ เพ่ิม กจ็ ะเป็นมงคล
แก่จิตใจของพวกเราจงึ สมกบั ภาษิตท่ีอาตมายกไวน้ นั้ ว่า กตญั �กู ตเวทติ า อตั ตาหิ
อตั โนนาโถ เคา้ ว่าเรามีความดีท่ีทาํ ไว้ เรามีความกตญั �ตู อ่ ตวั เรา ตอ่ ประเทศชาติ
บา้ นเมืองแผ่นดนิ ตลอดถึงในหลวงของพวกเราอยา่ งนี้ ก็คือว่าเราเป็นคนดีทกุ คน
คนท่ีมีกตญั �กู ็เรยี กว่าเป็นเคร่ืองหมายแหง่ คนดี อตั ตาหิ อตั โน นาโถ ถา้ เราปฏบิ ตั ิ

37

ตามถกู ตอ้ งเราก็จะเป็นผมู้ ีท่พี ง่ึ ของตวั เองไมไ่ ดเ้ ดอื ดรอ้ นคนอ่ืนหละทีนี้ พ่งึ ตวั เองได้
ตลอด ไม่เดอื ดรอ้ นไม่ตอ้ งไปรบกวนคนอ่ืน ไม่ตอ้ งไปทกุ ขท์ วงคนอ่ืน ไม่ตอ้ งไปแย่ง
ในทางท่ผี ิด ท่านบอกว่าเป็นท่ีพง่ึ ตวั เอง ทาํ ท่ีพ่งึ ตวั เองได้ น่ีแหละเป็นธรรมะท่ีนาํ มา
อธิบายใหโ้ อวาทแก่พวกศรทั ธาญาติโยมทงั้ หลายกพ็ อสมควรแกเ่ วลา กข็ อยตุ ิเอวงั
ไวแ้ ตเ่ พียงเท่านี้

ท่ีมา: https://youtu.be/hRIzGdt-z58

38

39

40

สถานทส่ี งบมีผลทาํ ใหใ้ จสงบได้

ก็ไม่จาํ เป็นตอ้ งใชเ้ สียงดงั เพราะวา่ เราภาวนาฟังมนั กจ็ ะไดช้ ดั เจนขนึ้ แต่ถา้ คน
อย่ใู นท่เี สยี งรบกวนอย่างนนั้ น่ะ กอ็ าศยั ใชเ้ ครอ่ื งขยายเสียงน่ีเพราะว่าสถานท่ีมนั ไม่
สงบน่นั แหละ อย่างสมยั จาํ พรรษาอย่ภู าคกลางคนมนั เยอะ มาทาํ บญุ กนั เต็มศาลา
แลว้ ก็พดู กนั เกรยี วกราว ไมค่ อ่ ยไดฟ้ ังเสียงกนั เคา้ กเ็ ลยเอาเคร่อื งขยายเสียงมาใชใ้ ห้
มนั ดงั ทว่ มเสียงท่คี นพดู แตเ่ ราอย่ใู นท่ปี ฎบิ ตั ิในท่ภี าวนาอยา่ งนี้ เรากไ็ ม่คอ่ ยไดใ้ ช้
เสยี งดงั

เราอย่ตู ามป่า เราอย่ใู นธรรมคือป่ า ป่านนั้ คอื เป็นตน้ ธรรม สถานท่ีท่ีไหนเป็น
ป่า ท่นี ่นั กเ็ รยี กว่าธรรมไปเกิดไปเจรญิ ในท่ีน่นั แตถ่ า้ นีไ้ หนไมม่ ปี ่า กิเลสโลกมนั ก็
เจรญิ ในท่ีมนั วา่ งมนั ไมม่ ปี ่าน่นั มนั รอ้ นแลว้ มนั กไ็ มส่ งบอยา่ งนี้ ฉะนนั้ ป่าเป็นสถานท่ี
สงบสงดั เป็นท่ีปฏิบตั ธิ รรม เป็นท่ีเจรญิ พระกรรมฐาน อย่างพวกเราทกุ ท่านทกุ องคท์ ่ี
เป็นพระสงฆส์ ามเณร ท่ีเราแสวงหาภาวนาหาเท่ยี วธุดงคก์ นั ท่วั ทกุ หนทกุ แห่ง ทงั้ ใน
ท่ีราบและบนเขา เราไดข้ ่าวท่ีไหน มีป่าใหญ่ป่าลกึ กม็ ีความรูส้ กึ อยากจะไปปฏิบตั ิไป
อาศยั อย่างนี้ ตงั้ แต่สมยั พระพทุ ธเจา้ มาแลว้ แหละ ไมใ่ ชส่ มยั ของพวกเราท่ีมาเลา่ สู่
กนั ฟัง มนั มีเม่อื ครงั้ พระพทุ ธเจา้ ของเรามา ๒๐๐๐กว่าปีนะ่ ฉะนนั้ ป่าจึงเป็นธรรม
เป็นท่ีเกิด ท่อี ยู่ ท่ีเจรญิ ของธรรม อย่างท่เี ราเคยไดร้ ูป้ ระวตั ขิ องพระพทุ ธเจา้ กจ็ ะมี
เรอ่ื งเก่ียวขอ้ งกบั ป่า อย่างท่เี ราว่าประสตู เิ กิดมาก็ประสตู ิเกิดในป่าอย่างนี้ แลว้ ก็
เสด็จออกบวชแสวงหาธรรมตรสั รูก้ ็ไปอย่ใู นป่า แลว้ ตรสั รูแ้ ลว้ กย็ งั อาศยั ป่ าเป็นท่ีอยู่
เพ่อื ความผาสขุ สงบรม่ เย็น เสวยบรมสขุ อยอู่ ย่างนี้ และไดต้ รสั รูก้ ไ็ ดต้ รสั รูใ้ นป่า และ
ปรนิ พิ พานก็ปรินิพพานในป่าอย่างนี้

41

เหตนุ นั้ ความท่ีศาสนากบั ป่ามีความเป็นมาและอยไู่ ด้ ตงั้ อย่ไู ดด้ ว้ ยกนั และก็
จะเป็นไปในขา้ งหนา้ กต็ อ้ งอาศยั ป่าน่นั น่ะ เพราะป่าเป็นธรรมเป็นท่ีสงบเป็นท่ีรม่ ร่ืน
เยือกเย็นเป็นท่ีอาศยั อยเู่ พ่ือปฏบิ ตั ธิ รรม และไม่ใชแ่ ตเ่ ราดว้ ย ไมใ่ ชแ่ ตค่ นเรารา่ งกาย
คนเรา สตั วต์ า่ งๆเขากอ็ าศยั ป่าแลว้ เขาก็แสวงหาป่ าอย่างนี้ ท่ไี หนมปี ่ า เคา้ ก็ไป
อาศยั อยู่ อาศยั หลบภยั อาศยั กินอยู่ แลว้ ก็อาศยั ความสงบรม่ เย็น อาศยั ความท่ีมนั
มสี งิ่ ท่ีเป็นธรรมใหเ้ ขาอย่ไู ด้ ถา้ เกิดไม่มปี ่าอย่างนี้ อย่างสตั วป์ ่ าน่ี มนั เท่ยี วไปในท่ีโลง่
ท่ีแจง้ ชมุ ชนผคู้ น มนั ก็ไมป่ ลอดภยั ไม่รอดแลว้ เคา้ กจ็ ะลา่ จะฆ่ามนั กิน อย่างนี้ ฉะนนั้
ป่าเป็นท่ีเป็นธรรมหรอื ว่าเป็นท่อี ยขู่ องศีลธรรมดว้ ยอย่างนี้

ฉะนนั้ อย่างว่าท่นี ีเ้ น่ีย ท่เี ราอยทู่ ่ีวดั เราเน่ีย มนั เป็นท่ีสงบสงดั ปลอดจากเสียง
จากส่ิงกระทบกระเทือนภายนอก มนั เป็นท่ีท่ีจะใหเ้ ราไดร้ บั ความสงบ คือความสงบ
ท่ีไมม่ ีสิ่งกระทบรบกวนภายนอก ไม่มเี สียงท่จี ะมาทาํ ใหค้ วามสงบน่นั ว่นุ วายขนึ้ มา
เคา้ จงึ ว่าเราทาํ จิตของเรา ภาวนา ทาํ ความสงบในจติ ของเราใหเ้ กิดขึน้ มนั ก็เกิด
ความชดั เจนขึน้ อย่างท่ีว่าเราไมไ่ ดใ้ ชเ้ สียง ไมใ่ ชเ้ คร่อื งขยายอยา่ งนี้ เราใชแ้ ตเ่ สยี งพดู
เสียงลมของเราอย่างนี้ มนั กพ็ อดู พอรบั กนั ไดอ้ ย่างนี้ แต่ว่าอย่างเราอย่กู นั มากอย่าง
ท่ีเราอย่เู ด๋ียวนี้ หรอื ว่าจาํ นวนมากกว่าปกติ แลว้ ก็ห่างไกลกนั เกิน เสียงมนั สง่ ไปไมถ่ ึง
แตถ่ า้ พดู ถึงว่าเราอย่เู ฉพาะมนั ก็ใชค้ าํ พดู ใชล้ มของเราน่นั มนั กไ็ ดย้ นิ ท่วั หมดชดั เจน
หมด ฉะนนั้ การท่เี ราอยรู่ ว่ มกนั มีจาํ นวนมากอย่างนี้ คือมากคอื เรานบั จาํ นวน นบั
สว่ นบคุ คล

อยา่ งพระน่ีก็ไม่ไดเ้ รยี กบคุ คล พระท่านเรยี กว่าเป็นองคอ์ ย่างนี้ องคก์ แ็ ปลว่า
เป็นองคห์ น่งึ เป็นท่ีหน่งึ อย่างนี้ ถงึ ว่าองค์ เอก เอกะ องั คะ ก็เป็นองคห์ นง่ึ อย่างนี้ คือ
วา่ ถึงว่าเราจะอย่มู ากจาํ นวนมากอย่างนี้ ก็ใหเ้ ราทาํ ความเขา้ ใจ ทาํ ความเขา้ ใจ
เตอื นใจเราไวว้ ่าคือเรามีองคเ์ ดยี ว เราอย่อู งคเ์ ดียวอย่างนี้ ใหม้ ีความรูใ้ นใจของเรา

42

เอง ไวเ้ ป็นอารมณห์ รอื วา่ เป็นหลกั ภาวนา หรอื เป็นหลกั ธรรมประจาํ กายประจาํ ใจ
ของเราว่าคอื มอี งคเ์ ดยี ว เราจะอย่กู บั หมู่ หรอื จะไปอย่กู ค็ ือองคเ์ ดียวอย่างนี้ คอื ทาํ
ความรูค้ วามเขา้ ใจใหเ้ ป็นองคอ์ งคเ์ ดยี วอยา่ งท่ีคาํ พดู ท่ีเรยี กกนั ว่า พระเณรก่ีองค์
อยา่ งนี้ ก็พดู ถงึ ว่าพระเณรเป็นผไู้ ม่เหมือนบคุ คล หรอื ไม่เป็นฆราวาส คอื เป็นพระท่ี
บวชมามีองคศ์ ลี ท่ีไดส้ มาทานมา แลว้ ก็มีองคส์ มาธิ ท่ีพระอปุ ัชฌายท์ ่านสอน แลว้ ก็
มีองคป์ ัญญาขนึ้ มาใสใ่ จของเราตลอดถึงท่านไดม้ อบหมายผา้ กาสวพสั ตรใ์ หน้ ่ี

การท่ีไดพ้ บไดช้ ีวิตเกิดมาในศาสนา เรากเ็ กิดมาดว้ ยธรรมดว้ ยวินยั ดว้ ย
กรรมฐานท่านว่า ท่านมอบใหท้ กุ อย่างน่นั แหละ ท่ีอปุ ัชฌายม์ อบใหบ้ วชใหท้ กุ องค์
แลว้ กไ็ ดเ้ รยี กวา่ องคพ์ ระองคเ์ ณร คือเป็นองคเ์ ดยี ว ฉะนนั้ ถา้ เราปฏิบตั ิตวั ปฏบิ ตั ิตอ่
จิตเราใหไ้ ดค้ วามเขา้ ใจในปัญญาเกิดขนึ้ ในใจของเราอยา่ งนนั้ เราจะอย่ทู ่ีไหน เราจะ
ไปรว่ มในหมใู่ นคณะท่ีไหน เรากเ็ ป็นผไู้ ม่เผลอ ไม่หลง ไม่ลืม ไมป่ ระมาทน่นั หละ ก็
รูส้ กึ ความเป็นอย่อู งคเ์ ดียวของเรา คอื ไม่ไปยงุ่ เก่ียวอย่างนี้ ไม่ไปมีการกระทบองคอ์ ่ืน
รูปอ่นื เพราะวา่ เรารูว้ า่ เรามรี ูปมีตวั อย่างนี้ เป็นองคอ์ ยู่ แลว้ เราก็มจี ิตเป็นเจา้ ของ
เป็นผรู้ ู้ แลว้ ก็มไี ตรสิกขาอย่คู ือมีศลี ท่ีไดม้ าเท่ากนั แลว้ ก็มสี มาธิ คือการทาํ จิต การ
ปฏบิ ตั จิ ิตของเราใหอ้ ยใู่ นธรรม คือใหอ้ ยใู่ นความสงบอย่างนี้ หรอื วา่ มีใจท่มี ่นั คงต่อ
สตอิ ารมณก์ ารรูก้ ายรูใ้ จของตวั เอง ก็เรยี กวา่ สมาธิ คือมีความม่นั คง ไม่ทาํ ใหอ้ ารมณ์
ของจิตของเราแตกออกไปภายนอก ใหร้ วมอย่เู ป็นองคอ์ ย่างนี้ เป็นองคห์ นง่ึ อยตู่ ลอด
ฉะนนั้ ถา้ เราทาํ จิตของเราไดอ้ ย่างนี้ เราจะอย่จู ะไปอะไรทกุ อย่างน่ี เราก็เป็นผทู้ ่ีอย่ใู น
คณุ พระน่นั แหละ อย่ใู นขอ้ ปฏบิ ตั ขิ องพระ ทา่ นว่าอยา่ งนี้ จะไม่มีการกระทบไม่มี
เร่อื งเดือดรอ้ น เป็นผทู้ ่มี ีสตริ ะลกึ อย่ใู นจติ เสมอ และก็มสี มั ปชญั ญะคอื รูต้ วั อย่ตู ลอด
น่นั น่ะ รูว้ ่าเรามีองคเ์ รยี กว่าเป็นองคพ์ ระ องคผ์ รู้ ู้ องคศ์ าสนา มีอยใู่ นกายในจิตของ
เราน่นั แหละ อย่างท่ีวา่ เวลาเราอย่อู งคเ์ ดียวบา้ ง อย่จู าํ นวนมากบา้ งเราก็จะไดว้ ดั ได้

43

เทยี บดู เพ่ือเราจะไดร้ กั ษาองคพ์ ระ องคศ์ ีล องคส์ มาธิ องคป์ ัญญาของเราน่นั แหละ
ไมใ่ หม้ นั พงุ่ ไปหรอื ซ่านไป ออกไปนอกตวั เราอย่างนี้ รกั ษาความสงบ

เหตนุ นั้ ความท่ีเราเป็นพระน่ี กเ็ ป็นหน่งึ ในบรษิ ัท ๔ คอื พทุ ธบรษิ ัท ๔ ก็นบั จาก
พระน่ีแหละเป็นบรษิ ัทท่ีหนง่ึ จงึ เรียกว่าบรรพชิตเป็นผทู้ ่ีมบี ญุ ไดม้ าเกิดมาบวชใน
ศาสนานะ่ มาอบุ ตั ิขึน้ ในศาสนาดว้ ยบญุ ไม่ไดเ้ กิดเหมือนเราเกิดมาเป็นคนท่ีวา่ ไม่ได้
เกิดมาคลอดมาอย่างนนั้ เราเกิดมาดว้ ยบญุ อบุ ตั ิมาจากอปุ ัชฌายะ คือผใู้ หเ้ กิด เป็น
ผมู้ บี ญุ และเป็นผมู้ ีฌาณมคี วามรู้ มีญาณ อปุ ัชฌายะ ไม่เหมือนพ่อแมท่ ่เี กิดมาจาก
บา้ นใหเ้ รา คนละภมู ิกนั คนละชนั้ กนั ถึงว่าการไดม้ าเกิดเป็นพระน่ี ไดม้ าอปุ สมบท
อบุ ตั ิขนึ้ มาดว้ ยการปฏิบตั ิ ดว้ ยกิจของสงฆท์ ่ีท่านยกขึน้ มา ทา่ นใชส้ งั ฆกรรมทาํ
ขนึ้ มา ใชส้ ีมาใชโ้ บสถอ์ ย่างนีแ้ ลว้ กก็ ใ็ ชส้ วดญตั ติจตตุ ถกรรม ตามพระธรรมวินยั
ยกขนึ้ มาเป็นพระเป็นสงฆอ์ ย่างนี้ คือยกขนึ้ มาเป็นชนั้ สงู หละทนี ี้ ยกออกมาจาก
ฆราวาสน่นั แหละ คือวา่ มาเกิดในชาติสงู ช่ือว่าบรรชิต บรรพตกแ็ ปลว่าภเู ขา แปลว่า
ชาติท่สี งู เราตอ้ งสาํ นกึ รูส้ กึ ตวั เราอย่างนนั้ อย่างเป็นพระน่ีสงู เป็นผทู้ ่ีมีบญุ ท่ไี ดเ้ กิด
ไดย้ กขนึ้ มาไมต่ กต่าํ อย่างท่เี ราเกิดในทอ้ งในครรภม์ ารดาขนึ้ มาสงู อย่างนี้ ความท่ี
ไดม้ าสงู เพราะบญุ

แลว้ เรามาเกิดรว่ มตระกลู ของพระพทุ ธเจา้ ดว้ ยอย่างท่ีเรยี กว่าตระกลู ศากยะ
ตระกลู กษัตรยิ ท์ ่พี ระพทุ ธเจา้ ไดม้ าอบุ ตั เิ กิด แตน่ ่ีเราก็ไม่ไดเ้ กิดตามตระกลู ของ
พระพทุ ธเจา้ จรงิ ๆ แตเ่ รามาเกิดในตระกลู พระพทุ ธศาสนา ท่านจงึ บอกแลว้ ว่า สกฺย
ปตุ โต สกฺยกลุ ลา สกฺยมนุ ี คอื เราไดม้ าเกิดในเป็นบตุ รตระกลู พระพทุ ธเจา้ ในตระกลู
มนุ ีทา่ นผรู้ ู้ อย่างนีก้ ็ถือว่าไดร้ ว่ มตระกลู หละทีนี้ ตระกลู ของศากยะ ตระกลู ท่ีเกิดมา
ของพระพทุ ธศาสนาเรา เหตนุ นั้ ถา้ เราไดเ้ ขา้ ใจเร่อื งท่ีเกิดท่ีมา รูจ้ กั ท่ขี องศาสนา
อย่างนี้ เรารูส้ กึ ตวั เราขนึ้ มาอย่างนีน้ ะ เรากเ็ กิดความภาคภมู ิใจทนี ี้ เกิดความรูท้ ่ีว่าดี

44


Click to View FlipBook Version