The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มาฆบูชา โดยกรุธรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-07-12 21:58:25

มาฆบูชา โดยกรุธรรม

มาฆบูชา โดยกรุธรรม

Keywords: มาฆบูชา โดยกรุธรรม

คาํ นาํ
วนั มาฆบชู าถือเป็นวนั สาํ คญั วนั หนง่ึ ทางพทุ ธศาสนา ซง่ึ
เกิดขนึ้ ท่ีบรเิ วณ วดั เวฬวุ นั กลนั ทกนิวาปสถาน ณ กรุงราชคฤห์
ในวนั เพญ็ ๑๕ ค่าํ เดอื น ๓ หลงั จากองคส์ มเด็จพระสมั มาสมั
พทุ ธเจา้ ทรงตรสั รูถ้ งึ พระสมั มาสมั โพธิญาณได้ ๙ เดือน
ในวนั นนั้ พระสงฆส์ าวกจาํ นวน ๑๒๕๐ รูปไดม้ าประชมุ กนั
โดยมิไดน้ ดั หมาย และพระสงฆเ์ หลา่ นีล้ ว้ นเป็นพระอรหนั ต
สาวกผซู้ ง่ึ เป็นเอหภิ ิกขุ หรอื พระสงฆท์ ่ีพระพทุ ธเจา้ ทรง
อปุ สมบทใหโ้ ดยตรงทงั้ สนิ้ พระพทุ ธองคท์ รงไดแ้ สดงพระโอวาท
ปาฏิโมกขใ์ หแ้ ก่เหลา่ พระภกิ ษุสงฆท์ ่ีรว่ มประชมุ ในวนั นนั้ ซง่ึ ได้

เป็นหลกั คาํ สอนของพระพทุ ธศาสนาท่ียงั คงไดน้ าํ สอนสบื เน่ือง
จนถงึ ทกุ วนั นี้

ทางทีมงานกรุธรรมไดร้ วบรวมพระธรรมเทศนาจากครูบา
อาจารยท์ ่ีเก่ียวเน่ืองกบั วนั มาฆบชู าไวใ้ นหนงั สือเลม่ นี้ เพ่ือเป็น
ธรรมทานแดพ่ ทุ ธศาสนิกชนทงั้ หลายท่ีมีความสนใจและตงั้ ใจ
ศกึ ษาพระธรรมคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้

ในบทแรกทางทีมกรุธรรมไดอ้ ญั เชญิ พระธรรมเทศนาจาก
สมเดจ็ พระญาณสงั วร สกลมหาปรณิ ายก ซง่ึ ทา่ นไดท้ รงเลา่
ประวตั ขิ องวนั มาฆบชู าโดยย่อและวิธีการบชู าพระพทุ ธเจา้ ใน
วนั นี้ อนั ประกอบไปดว้ ยอามิสบชู าและปฏบิ ตั บิ ชู า

ในบทท่ีสองและสาม องคห์ ลวงตามหาบวั ญาณสมั ปันโน
และหลวงป่เู ปล่ียน ปัญญาปทีโป ไดเ้ มตตาเทศนาธรรมในเร่อื ง
โอวาทปาฏิโมกขใ์ หแ้ กห่ มพู่ ระสงฆแ์ ละฆราวาส ซง่ึ ทางทีมกรุ
ธรรมหวงั วา่ เทศนาธรรมของครูบาอาจารยจ์ ะชว่ ยให้
พทุ ธศาสนกิ ชนทงั้ หลายผสู้ นใจในธรรมะจะไดร้ บั ความกระจา่ ง
ในความหมายและนยั สาํ คญั ของพระโอวาทปาฏิโมกขน์ ี้

ทีมงานกรุธรรมขอมอบหนงั สอื ธรรมเลม่ นีเ้ ป็นธรรมทาน ซง่ึ
ทางทีมงานมคี วามมงุ่ ม่นั ตงั้ ใจใหพ้ ระพทุ ธศาสนาไดย้ ืนหยดั
ครบ๕๐๐๐ ปี ขอผลบญุ ในธรรมทานทงั้ หลายท่ีทางกรุธรรมได้
พยายามนาํ เสนอจงโปรดดลบนั ดาลใหท้ า่ นผอู้ า่ นทงั้ หลายจง
ประสบความสขุ พรอ้ มดว้ ยอายุ วรรณะ สขุ ะ พละ

ขอกราบขอบคณุ ครูบาอาจารยผ์ ทู้ �ีประสทิ ธิ�ประสาทความรู้
ทางธรรมใหผ้ จู้ ดั ทาํ โดยเฉพาะ พระจนั ทปู มญาณโสภณแหง่
วดั เทพศิรทิ ราวาส ขอขอบคณุ คณุ ลลนา จิตตศ์ รทั ธานนั ท์
สาํ หรบั ภาพประกอบหนงั สอื

ขอสงวนสทิ ธิ�หา้ มนาํ หนงั สอื ท�ีจดั ทาํ โดยกรุธรรมไปจาํ หนา่ ย
ทางการคา้ แตท่ า่ นสามารถนาํ ไปแจกจา่ ยเพ�ือเป็นธรรมทานได้
ตามความประสงค์ หากมีขอ้ ผิดพลาดประการใด ทางทีมงาน
กราบขออภยั ไว้ ณ ท�ีนีด� ว้ ย

ทีมงานกรุธรรม
www.grudhamma.com

สารบัญ ๑
๑๕
วนั มาฆบชู าและการบชู า (สมเด็จพระญาณสงั วร) ๕๑
โอวาทปาฏโิ มกข์ (หลวงตามหาบวั ) ๗๘
โอวาทปาฏโิ มกข์ (หลวงป่เู ปล่ยี น) ๗๙
โอวาทปาฏโิ มกขคาถา
คาํ แปล โอวาทปาฏิโมกขคาถา

วนั มาฆบูชาและการบชู า
สมเดจ็ พระญาณสังวร สกลมหาปริณายก

เทศนว์ ันท่ี ๗ ก.ย. ๒๕๓๐
บดั นีจ้ กั แสดงศาสนธรรม ธรรมะคือคาํ ส่งั สอนของสมเดจ็
พระบรมศาสนาเพ่ือใหส้ าํ เรจ็ ประโยชนแ์ หง่ การฟังธรรมตาม
สมควรแก่วนั ธรรมสวนะ คือวนั เป็นท่ฟี ังธรรมอนั เวยี นมาถงึ เขา้
อนง่ึ วนั ธรรมสวนะนีเ้ ป็นวนั มาฆบชู า ซง่ึ เป็นวนั บชู าสาํ คญั วนั
หนง่ึ ในพทุ ธศาสนา พทุ ธศาสนิกชนทงั้ หลายจงึ ไดพ้ ากนั มา
สมาทานศลี ฟังธรรม ทาํ การบชู าพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พรอ้ ม
ทงั้ พระธรรมและพระสงฆ์ ตงั้ แตใ่ นเวลาเชา้ กระนนั้ จงึ จะได้
แสดงเรอ่ื งวนั มาฆบชู าโดยสงั เขป แลว้ แสดงเรอ่ื งการบชู าตามท่ี
มีกาํ หนดในวดั นีส้ ืบตอ่ ไป
วนั มาฆบชู านีไ้ ดป้ รารภความประชมุ สงฆค์ รงั้ ใหญ่ท่ีบงั
เกิดขนึ้ ในสมยั ตน้ พทุ ธกาล เพราะฉะนนั้ จงึ เรยี กวา่ วนั จาตรุ งค
สนั นิบาต ท่ีแปลวา่ วนั ท่ีมีสนั นิบาตคือความประชมุ กนั อนั
ประกอบดว้ ยองค์ ๔ ประการ ก็คือ พระภกิ ษุสงฆม์ ีจาํ นวนท่ีทา่ น

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 1

กาํ หนดเอาไวว้ า่ ๑๒๕๐ รูป ซง่ึ ลว้ นเป็นพระอรหนั ตข์ ีณาสพ คือ
เป็นพระอรหนั ตผ์ สู้ ิน้ อาสวกิเลสแลว้ เป็นองคอ์ นั หนง่ึ ลว้ นเป็น
เอหภิ ิกขุ คือแตล่ ะองคเ์ ป็นภกิ ษุท่ีไดอ้ ปุ สมบทมาจากสมเด็จพระ
บรมศาสดาดว้ ยเพียงตรสั พระวาจาวา่ เอหิภกิ ขุ แปลวา่ จงเป็น
ภกิ ษุมาเถิด กส็ าํ เรจ็ เป็นภกิ ษุขนึ้ ทนั ที ดว้ ยพระพทุ ธวาจานีเ้ ป็น
องคอ์ นั หน่งึ ลว้ นมไิ ดน้ ดั หมายนิมนตอ์ าราธนา ตา่ งมากนั เฝา้
พระพทุ ธเจา้ เอง เป็นองคอ์ นั หน่งึ

และวนั นนั้ เป็นวนั จนั ทรเ์ พญ็ ท่ีดวงจนั ทรผ์ า่ นกลมุ่ ดาวฤกษ์
ช่ือวา่ มฆา ซง่ึ ใชเ้ ป็นช่ือเดอื นนนั้ วา่ มาฆะ ทางจนั ทรคติ จงึ
เรยี กวา่ มาฆมาส เดือนมาฆะ เชน่ วนั นี้ และพระพทุ ธเจา้ ก็ไดท้ รง
ทาํ วิสุทธิอุโบสถ คอื อโุ บสถท่ีบรสิ ทุ ธิ์ เพราะท่ีประชมุ ทงั้ หมด
นนั้ ลว้ นเป็นพระอรหนั ตข์ ีณาสพ เป็นผบู้ รสิ ทุ ธิ์กายวาจาจติ จาก
กิเลสและกองทกุ ขท์ งั้ สิน้ ดว้ ยกนั ทงั้ หมด ทรงแสดงโอวาทปาฏิ
โมกข์ คือพระโอวาทท่ีเป็นหลกั เป็นประธานแก่พระสงฆท์ งั้ หมด
น่นั เป็นองคอ์ นั หนง่ึ จงึ รวมเป็นองค์ ๔ ประการ ก็คอื ความ
ประชมุ ของพระสงฆห์ มใู่ หญ่ มีพระพทุ ธเจา้ เป็นประมขุ ซง่ึ มี

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 2

ลกั ษณะทงั้ ๔ ประการเหลา่ นนั้ จงึ เรยี กวา่ จาตุรงคสันนิบาต
ซง่ึ บงั เกิดขนึ้ ในวนั เพ็ญ แหง่ เดอื นมาฆะดงั กลา่ วเชน่ วนั นใี้ นสมยั
ตน้ พทุ ธกาล เพราะฉะนนั้ จงึ ถือวา่ เป็นวนั สาํ คญั วนั หนง่ึ ในพทุ ธ
ศาสนา

และนอกจากนีย้ งั มีความสาํ คญั ประการอ่นื ท่ีประกอบอยใู่ น
การประชมุ ใหญ่ครงั้ นีอ้ ีกดว้ ย คอื เป็นวนั ท่ีพระพทุ ธเจา้ และ
พระภิกษุสงฆห์ ม่ใู หญ่ซง่ึ ลว้ นเป็นพระอรหนั ต์ ประชมุ ทาํ อโุ บสถ
รว่ มกนั ซง่ึ จะเป็นครงั้ แรกหรอื ไม่ก็ไมม่ ีแสดงหลกั ฐานยืนยนั คอื
ไมม่ ีการแสดงมาแตก่ ่อนวา่ พระสงฆไ์ ดม้ ีการประชมุ กนั ทาํ
อโุ บสถในวนั พระจนั ทรเ์ พ็ญหรอื วนั พระจนั ทรด์ บั เหมือนดงั ท่ี
พระสงฆไ์ ดป้ ระชมุ กระทาํ อโุ บสถสืบมาจนถึงบดั นี้ อาจจะยงั ไม่
มีการประชมุ กนั ทาํ อโุ บสถก็ได้ ก็เพราะวา่ เม่ือพระพทุ ธเจา้ ได้
ตรสั รูแ้ ลว้ ในวนั กลางเดอื น ๖ ซง่ึ เรยี กวา่ เป็นวนั พระจนั ทรเ์ พ็ญ
เสวยดาวกลมุ่ ดาวฤกษ์ ช่ือวา่ วิสาขา ซง่ึ ตงั้ เป็นช่ือเดอื นวา่
เดอื นเวสาขะ หรอื ไทยเราเรยี กวา่ วสิ าขมาส ตรงกบั วนั เพญ็

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 3

กลางเดอื น ๖ มาถงึ วนั เพ็ญกลางเดือน ๘ พระองคก์ ็ไดท้ รง
แสดงปฐมเทศนาแกภ่ กิ ษุปัญจวคั คีย์

ตอ่ จากนนั้ กท็ รงแสดงเทศนาโปรดตอ่ ไปจนไดม้ ีผฟู้ ังซง่ึ
สาํ เรจ็ เป็นพระอรหนั ต์ พรอ้ มทงั้ พระพทุ ธเจา้ ดว้ ยก็เป็น ๖๑ รูป
จงึ ไดท้ รงมพี ระพทุ ธดาํ รสั ตรสั ส่งั ใหพ้ ระสาวกทงั้ หลายแยกยา้ ย
กนั ไป แสดงคาํ ส่งั สอนเป็นการเรม่ิ ประกาศพทุ ธศาสนา โดยให้
แตล่ ะท่านเดินทางไป ทางหน่งึ ก็เพียงรูปหนง่ึ ไมไ่ ปเป็นหมู่ แมค้ ู่
กนั เป็นสองรูป ใหไ้ ปทางละรูป ทางละองค์ เพ่ือท่ีจะไดไ้ ปแสดง
ธรรมะส่งั สอนหลายๆทาง สว่ นพระองคเ์ องก็มงุ่ เสด็จไปประกาศ
พระพทุ ธศาสนายงั แควน้ มคธ เสดจ็ มงุ่ ไปท่ีกรุงราชคฤห์

เพราะฉะนนั้ จงึ ตา่ งไดแ้ ยกยา้ ยกนั ไป ไมม่ ีโอกาสท่มี า
ประชมุ กนั อยรู่ ว่ มกนั เป็นหมู่ และในระหวา่ งท่ีเสด็จไปสกู่ รุงรา
ชคฤหน์ นั้ ก็ไดแ้ สดงธรรมะโปรดผทู้ ่ีควรโปรด ท่ีเป็นหม่ใู หญ่ก็คอื
หมชู่ ฎิล ๓ พ่นี อ้ ง ท่วี า่ มีบรวิ ารรวมกนั เป็นจาํ นวนมาก กาํ หนด
เอาไวว้ า่ หน่งึ พนั โปรดใหท้ า่ นทงั้ หมดนนั้ ไดร้ บั อปุ สมบทดว้ ยวิธี
เอหิภกิ ขอุ ปุ สมั ปทา เหมือนอยา่ งปัญจวคั คีย์

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 4

และก็เสด็จไปสกู่ รุงราชคฤห์ ก็ไดโ้ ปรดท่านพระสารบี ตุ รและ
ท่านพระโมคลั ลานะซง่ึ ทงั้ สองทา่ นตา่ งก็ไดอ้ อกไปสมคั รเป็น
ศษิ ยข์ องทา่ นคณาจารยท์ ่มี ีช่ือเสยี งทา่ นหน่งึ และก็ตอ่ มาก็ได้
เขา้ เฝา้ พระพทุ ธเจา้ พรอ้ มทงั้ บรวิ าร ขอเขา้ บวชเป็นภกิ ษุในพทุ ธ
ศาสนาทงั้ หมด ทา่ นพระโมคคลั ลานะไดส้ าํ เรจ็ เป็นพระอรหนั ต์
ก่อนทา่ นพระสารบี ตุ ร สว่ นทา่ นพระสารบี ตุ รมีแสดงวา่ ไดส้ าํ เรจ็
เป็นพระอรหนั ตใ์ นบา่ ยในวนั มาฆะปรุ ณมีนนั้ ท่ถี า้ํ สกุ รขาตา
เขาคิชกฏู

พระพทุ ธเจา้ ไดเ้ สดจ็ จากเขาคิชกฏู ในวนั นนั้ มาประทบั ท่ีพระ
เวฬวุ นั นาราม สวนไผซ่ ง่ึ เป็นสวนหลวง ซง่ึ พระเจา้ พิมพิสารได้
ถวายใหท้ รงพาํ นกั และในเวลาบา่ ยของวนั นนั้ จงึ ไดม้ ีพระสงฆ์
สาวกจาํ นวนมากเขา้ มาเขา้ เฝา้ อนั นบั ไดว้ า่ เป็นการประชมุ ครงั้
แรก จะเป็นการประชมุ ใหญ่ก็ได้ เพราะก่อนแตน่ นั้ เม่ือทา่ นเขา้
มาบวชและไดส้ าํ เรจ็ กิจในพทุ ธศาสนาแลว้ ตา่ งก็ไดแ้ ยกยา้ ยกนั
ไปประกาศพทุ ธศาสนา ตามพทุ ธฐานะท่ีตรสั ส่งั ใหอ้ อกไป
ประกาศ จงึ ไม่ไดร้ วมเป็นหมเู่ ป็นกลมุ่

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 5

แตใ่ นครงั้ นนั้ คอื ในวนั มาฆะปรุ ณมีนนั้ ทา่ นพระสารบี ตุ รเพ่งิ
สาํ เรจ็ เป็นพระอรหนั ต์ บรวิ ารทงั้ หลายก็ยงั อย่ใู นกรุงราชคฤห์
หรอื ในท่ีใกลน้ นั้ ยงั ไม่ไดแ้ ยกยา้ ยไปทงั้ หมดหรอื ไปไกล พอจะ
มาประชมุ กนั เฝา้ พระพทุ ธเจา้ ในวนั นนั้ ไดจ้ งึ ไดพ้ ากนั มา บาง
ทา่ นอาจจะเดนิ ทางมาไกลซกั หน่อยก็ได้ กอ่ นแตจ่ ะถงึ วนั มาฆะ
ปรุ ณมีนนั้ แตก่ ็มาถงึ พรอ้ มกนั ในเวลาตะวนั บา่ ยของมาฆะปรุ ณ
มีนนั้ กน็ บั วา่ เป็นการประชมุ ใหญ่จรงิ ๆครงั้ แรก ก็เป็นโอกาสท่ี
พระพทุ ธเจา้ จะไดท้ รงตงั้ ธรรมเนียมประชมุ สงฆท์ าํ อโุ บสถสงั ฆ
กรรม

แตใ่ นครงั้ แรกนนั้ พระพทุ ธเจา้ ทรงรว่ มประชมุ ดว้ ย เป็นการ
ประชมุ กนั ทาํ อโุ บสถ และธรรมเนียมในการประชมุ อโุ บสถนนั้
ตอ้ งการความบรสิ ทุ ธิ์ ก็สืบเน่ืองมาจากการประชมุ ครงั้ นนั้ ซง่ึ
พระพทุ ธเจา้ และพระสงฆส์ าวกผเู้ ขา้ ประชมุ ทงั้ หมดตา่ งก็เป็น
พระอรหนั ตข์ ีณาสพ เป็นผบู้ รสิ ทุ ธิ์แลว้ จรงิ ๆ บรสิ ทุ ธิ์อยา่ งสนิ้ เชิง
ทางกาย ทางวาจา ทางจติ ใจ ไมม่ ีกิเลสเครอ่ื งเศรา้ หมอง
เหลอื อยแู่ มแ้ ตน่ อ้ ย จงึ เป็นการประชมุ กนั ของผทู้ ่ีบรสิ ทุ ธิ์ การ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 6

ประชมุ กนั ดงั กลา่ วนีเ้ องเรยี กวา่ อโุ บสถของภิกษุสงฆ์ และเม่ือ
ประชมุ กนั แลว้ ก็ควรจะตอ้ งมีกิจท่ีพง่ึ ทาํ ไม่ใชม่ าประชมุ กนั แลว้
ก็แลว้ ไป ไมไ่ ดท้ าํ อะไร

ฉะนนั้ ในครงั้ แรกนนั้ พระพทุ ธเจา้ จงึ ไดท้ รงแสดงพระโอวาท
อนั เป็นขอ้ สาํ คญั ซง่ึ ถือวา่ เป็นหลกั พทุ ธศาสนา เรยี กวา่ เป็นการ
วางหลกั พระพทุ ธศาสนาก็ได้ และการวางหลกั พทุ ธศาสนานนั้
ก็เหน็ วา่ เพ่ือวางหลกั เพ่ือพทุ ธศาสนาจรงิ ๆ เพราะวา่ พระสงฆ์
สาวกผเู้ ขา้ ประชมุ ทงั้ หมดนนั้ ตา่ งเป็นพระอรหนั ตข์ ีณาสพคอื
เป็นผทู้ ่เี สรจ็ กจิ แลว้ จงึ ไม่ตอ้ งปฏิบตั เิ พ่ือชาํ ระกิเลสกนั อกี
เพราะสนิ้ กิเลสแลว้ ภาระกจิ ท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงมอบหมายให้
พระสงฆป์ ฏิบตั ิในครงั้ นนั้ ก็คอื ประกาศพทุ ธศาสนาตอ่ ไป คือ
เม่ือเสรจ็ กิจของตนเองแลว้ ก็บาํ เพ็ญประโยชนอ์ นั เรยี กวา่ อตั ถ
จรยิ า ประพฤติประโยชนแ์ กโ่ ลกดว้ ยการประกาศพทุ ธศาสนา
ช่วยชาวโลกตอ่ ไป

เพราะฉะนนั้ พระโอวาทท่ีแสดงนนั้ จงึ มิใชเ่ พ่ือท่ีจะส่งั สอน
พระภิกษุเหลา่ นนั้ ใหป้ ระพฤตปิ ฏิบตั ติ นเอง แตว่ า่ ทรงสอนเป็น

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 7

การทรงวางหลกั พระพทุ ธศาสนาเพ่ือใหพ้ ระสงฆท์ งั้ ปวงได้
รบั ทราบ และเม่ือออกไปส่งั สอนพทุ ธศาสนาก็จะไดส้ ่งั สอนตาม
หลกั ท่ีทรงวางไวน้ ่นั เพราะฉะนนั้ จงึ ไดเ้ รยี กวา่ โอวาทปาฏโิ มกข์
คือโอวาทท่ีเป็นปาฏโิ มกข์ คอื เป็นหลกั เป็นประธาน ทา่ นแสดง
วา่ ในวนั พระจนั ทรเ์ พญ็ พระจนั ทรด์ บั ตอ่ ๆไปจากนนั้
พระพทุ ธเจา้ ก็ทรงเขา้ รว่ มประชมุ กบั พระสงฆส์ าวกทงั้ หลาย
ทรงทาํ อโุ บสถท่ีบรสิ ทุ ธิ์ดงั กลา่ วและก็ทรงสวดพระโอวาทนีใ้ นท่ี
ประชมุ สงฆน์ นั้ เป็นโอวาทปาฏโิ มกข์ คอื เป็นปาฏโิ มกขท์ ่ีทรง
สวดทรงแสดงเป็นโอวาทอยา่ งเดียวกนั นนั้ สบื ตอ่ มา

แตอ่ าศยั ท่ีผเู้ ขา้ มาบวชเป็นภิกษุตอ่ มานนั้ ตา่ งเป็นผทู้ ่ี
ประพฤติปฏบิ ตั ิท่ีดีบา้ งท่ีย่อหยอ่ นบา้ ง เพราะวา่ ยงั ไมส่ าํ เรจ็ เป็น
พระอรหนั ตห์ รอื พระอรยิ บคุ คลเหมือนกนั ไดท้ งั้ หมด
เพราะฉะนนั้ ในการทาํ อโุ บสถในตอนหลงั เม่ือภกิ ษุมีมาก จงึ
ปรากฏมีผทู้ ่ีไม่บรสิ ทุ ธิ์เขา้ มารว่ มดว้ ย พระพทุ ธเจา้ จงึ ไดท้ รงงด
ลงทาํ อโุ บสถรว่ มกบั พระสงฆต์ งั้ แตน่ นั้ มา แลว้ ก็โปรดให้
พระสงฆ์ โดยมีภกิ ษุรูปหนง่ึ สวดสกิ ขาบทท่ีพระองคท์ รงบญั ญตั ิ

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 8

เอาไวใ้ นท่ีประชมุ สงฆน์ นั้ และสิกขาบทบญั ญตั ิท่ีสวดในท่ี
ประชมุ สงฆใ์ นวนั อโุ บสถดงั กลา่ วนนั้ ก็เรยี กวา่ สกิ ขาบทท่ีมาใน
พระปาฏิโมกข์ ซง่ึ ในบดั นีก้ ็ไดย้ ืนยนั สวดกนั มา มี๒๒๗ สกิ ขาบท
เป็นสกิ ขาบทท่ีมาในพระปาฏโิ มกข์ คือสวดเป็นปาฏิโมกข์
เรยี กวา่ เป็น วนิ ัยปาฏโิ มกขส์ ืบตอ่ มา แตแ่ มเ้ ชน่ นนั้ พระองคก์ ็
โปรดใหภ้ กิ ษุทกุ รูปท่ีจะเขา้ ทาํ อโุ บสถนนั้ แสดงอาบตั ิหรอื ทาํ
อาบตั ิท่ีบงั เกิดขนึ้ ในตนในบรสิ ทุ ธิ์เสยี ก่อนจงึ เขา้ รว่ มทาํ อโุ บสถ

เพราะฉะนนั้ บรรดาภิกษุท่ีทาํ อโุ บสถจงึ ตา่ งแสดงอาบตั ขิ อง
ตน ท่ีไดม้ ีการลว่ งละเมดิ พระพทุ ธบญั ญตั ิ ทาํ ตนใหบ้ รสิ ทุ ธิ์แลว้
ก็เขา้ ทาํ อโุ บสถสงั ฆกรรมแลว้ ฟังพระปาฏิโมกข์ และอาจจะมี
ภกิ ษุอลชั ชีท่ีไมล่ ะอายปกปิดอาบตั เิ อาไว้ พระพทุ ธเจา้ ทรงทราบ
แตเ่ ม่ือไมม่ ีพยานหลกั ฐานก็ไม่ทรงแสดงขนึ้ จงึ ไดท้ รงงดไม่ลง
อโุ บสถรว่ มกนั พระสงฆท์ ่ียงั มีปถุ ชุ นเขา้ ประชมุ หรอื อาจจะมีผู้
บรสิ ทุ ธิ์บา้ ง ไม่บรสิ ทุ ธิ์บา้ ง โปรดใหป้ ระสงคท์ าํ อโุ บสถกนั เอง
ดงั ท่ีกลา่ ว ก็เป็นธรรมเนียมสืบมาจนบดั นี้ แตถ่ งึ เชน่ นนั้ ก็ยงั
รกั ษาธรรมเนียมท่ีตอ้ งเป็นผทู้ ่ีบรสิ ทุ ธิ์จงึ เขา้ รว่ มประชมุ แลว้ ก็

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 9

ฟังวินยั ปาฏิโมกข์ เพราะฉะนนั้ เหตกุ ารณด์ งั ท่ีกลา่ วมานีจ้ งึ
นบั วา่ เป็นความสาํ คญั อีกสว่ นหน่งึ ซง่ึ บงั เกิดขนึ้ ในวนั มาฆปรุ ณ
มีครงั้ แรกนนั้ ซง่ึ เป็นวนั จาตรุ งคสนั นิบาตครงั้ แรกนนั้
เพราะฉะนนั้ จงึ ไดถ้ ือเป็นวนั บชู าสาํ คญั วนั หนง่ึ ในพทุ ธศาสนา

การบชู านนั้ ก็มีสองอย่างคอื อามสิ บูชา คอื บชู าดว้ ยอามสิ
คือดอกไม้ ธูปเทียนเป็นตน้ ปฏบิ ัตบิ ชู า บชู าดว้ ยการปฏิบตั ิ คือ
ปฏิบตั ติ ามคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้ การบชู าทงั้ สองนีเ้ ป็นขอ้
ท่ีสมควรกระทาํ อามสิ บชู านนั้ ควรกระทาํ ตามกิจในโอกาสนนั้ ๆ
ในท่ีสมควรนนั้ ๆ สว่ นการบชู าดว้ ยการปฏบิ ตั ินนั้ ควรกระทาํ
เนืองนิจ ไม่ใชเ่ ฉพาะวนั สาํ คญั ทางพทุ ธศาสนาเชน่ วนั นีเ้ ทา่ นนั้
และการบชู าดว้ ยการปฏบิ ตั นิ นั้ แสดงโดยเจาะจงในวนั มาฆะนี้ ก็
ควรปฏบิ ตั ิตามพระโอวาทปาฏิโมกขท์ ่ีไดต้ รสั สอนเอาไว้ มีคาํ
แปลวา่

ขนั ตคิ ือความทนทาน เป็นตบะอย่างย่งิ นิพพาน เป็นธรรมะ
อย่างย่ิง และพทุ ธะทงั้ หลายกลา่ วไวด้ งั นี้ บรรพชติ ไมพ่ งึ ทาํ รา้ ย
ผอู้ ่นื สมณะไมพ่ งึ เบียดเบยี นผอู้ ่ืนเพราะวา่ ผทู้ ่ีทาํ รา้ ยผอู้ ่นื หาช่ือ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 10

วา่ บรรพชิตไม่ ผทู้ ่ีเบยี ดเบียนผอู้ ่นื หาช่ือวา่ สมณะไม่ การไมท่ าํ
บาปทงั้ ปวง การทาํ กศุ ลใหถ้ งึ พรอ้ ม การทาํ จิตของตนใหผ้ ่อง
แผว้ น่ีเป็นพระพทุ ธศาสนา คาํ สอนของพระพทุ ธะทงั้ หลาย การ
ไม่วา่ รา้ ย การไม่ทาํ รา้ ย ความสาํ รวมในปาฏโิ มกข์ ความรู้
ประมาณในภตั ตาหาร ท่ีนอนท่ีน่งั อนั สงดั ความประกอบในอธิ
จิต คือจิตย่ิง นีเ้ ป็นพระพทุ ธศาสนาคอื คาํ สอนของพระพทุ ธะ
ทงั้ หลาย

นีเ้ ป็นคาํ แปลพระโอวาทปาฏโิ มกขท์ ่ีทรงแสดงในวนั นนั้ อนั
พระคนั ถรจนาจารยท์ งั้ หลายไดแ้ สดงไว้ จารกึ ไว้ เพราะฉะนนั้
เราทงั้ หลายเม่อื ระลกึ ถงึ พระพทุ ธเจา้ พรอ้ มทงั้ พระธรรม
พระสงฆ์ จงึ สมควรทาํ การบชู าในวนั มาฆบชู านี้ ดว้ ยอามสิ บชู า
และดว้ ยปฏบิ ตั ิบชู า ดว้ ยการตงั้ ใจปฏบิ ตั ิตามพระโอวาทท่ีเป็น
หลกั เป็นประธานนี้ ดว้ ยการท่ีตงั้ ใจทาํ ขนั ติ คือความอดกลนั้
ความทนทาน ตงั้ ใจม่งุ ทาํ กิเลสและกองทกุ ขใ์ หส้ นิ้ ไป อนั เรยี กวา่
นิพพาน เป็นธรรมะอนั สงู สดุ และพงึ ตงั้ ใจท่จี ะไม่ทาํ รา้ ยใคร ไม่
เบยี ดเบยี นใคร เพ่ือใหเ้ ป็นบรรพชติ เป็นสมณะ ผทู้ ่เี ป็นบรรพชติ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 11

เป็นสมณะอยดู่ ว้ ยแทก้ ็ตงั้ ใจปฏิบตั ใิ หเ้ ป็นบรรพชิตเป็นสมณะ
จรงิ ๆ ผทู้ ่ีเป็นคฤหสั ถผ์ คู้ รองเรอื น ก็ตงั้ ใจใหเ้ ป็นบรรพชติ เป็น
สมณะทางใจดว้ ยการไมท่ าํ รา้ ยใคร ไมเ่ บยี ดเบยี นใคร

สรุปเขา้ มาแลว้ ก็คอื ตงั้ ใจกาํ หนดวา่ พทุ ธศาสนานนั้ สอนให้
ไมท่ าํ บาปทงั้ ปวง ใหท้ าํ กศุ ลใหถ้ ึงพรอ้ ม และใหท้ าํ จิตของตนให้
ผ่องแผว้ ก็ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยการท่ีไม่ทาํ บาป ทาํ กศุ ล และทาํ จิตใหผ้ ่อง
แผว้ โดยอาศยั ขนั ตคิ วามอดทนในการปฏบิ ตั นิ นั้ และเม่ือ
แสดงออกโดยละเอียดอกี ซกั หน่อยแลว้ ก็คอื วา่ ไมก่ ลา่ วรา้ ยตอ่
ใคร ไม่ทาํ รา้ ยตอ่ ใคร สาํ รวมในปาฏิโมกขก์ ค็ อื วา่ ในขอ้ ปฏิบตั ิท่ี
เป็นหลกั ทงั้ หลายของกาย ของวาจา ของใจ เชน่ การปฏบิ ตั ติ าม
พระโอวาทนี้ ใหร้ ูป้ ระมาณในภตั ตาหาร ใหอ้ ย่ใู นท่ีนอนท่ีน่งั อนั
สงดั ตามสมควร คอื รูจ้ กั ท่ีจะปลกี ตนมาสทู่ ่ีสงบสงดั และก็ตงั้ ใจ
ปฏบิ ตั ิทาํ จิตใจใหไ้ ดส้ มาธิ แมเ้ ป็นขณิกสมาธิ สมาธิช่วั คราว

คอื ใหม้ ีจิตใจสงู ย่ิงกวา่ จติ ใจสามญั ธรรมดาท่ีวนุ่ วายอยดู่ ว้ ย
อารมณแ์ ละเรอ่ื งทงั้ หลาย ใหท้ าํ จิตใจใหส้ งบขนึ้ เพ่ือใหไ้ ด้
ปัญญาคอื ความรูใ้ นสจั จะท่เี ป็นตวั ปักจติ ตามท่ีพระพทุ ธเจา้

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 12

ทรงส่งั สอน ตงั้ ใจปฏิบตั ดิ งั นีก้ ็ช่ือวา่ เป็นการปฏบิ ตั ิบชู า
พระพทุ ธเจา้ อนั สมควรท่ีจะพงึ กระทาํ ในวนั มาฆบชู านี้ และผทู้ ่ี
ปฏิบตั ดิ งั นีก้ ็มีพทุ ธภาษิตแสดงไวว้ า่ ยอ่ มไดบ้ ญุ เป็นอนั มาก
ดงั ท่ีตรสั เอาไวว้ า่ เม่ือบคุ คลบชู าพระพทุ ธเจา้ หรอื พระสาวก
ทงั้ หลายซง่ึ เป็นบคุ คลผคู้ วรบชู า ผทู้ ่ีกา้ วลว่ งกิเลสอนั เป็นเหตใุ ห้
เน่ินชา้ ขา้ มความโศกและความรญั จวนครา่ํ ครวญใจไดแ้ ลว้
บญุ แหง่ บคุ คลผบู้ ชู าพระพทุ ธเจา้ หรอื พระสาวกผคู้ วรบชู า
เชน่ นนั้ เหลา่ นนั้ ผทู้ ่ีดบั กิเลสแลว้ คอื ดบั ขนั ธไ์ ปแลว้ ก็ดี เป็นผไู้ ม่
มีภยั ไม่มีเวรแตท่ ่ีไหน ใครๆไมอ่ าจเพ่ือจะนบั ไดว้ า่ บญุ นีม้ ี
ประมาณแมเ้ พียงเทา่ นีด้ งั นี้ นีค้ อื วา่ เป็นบญุ กองใหญ่ท่ีนบั ไมไ่ ด้
น่ีอรรถาธิบายดงั แสดงมาดว้ ยประการะฉะนี้

ท่ีมา: https://youtu.be/NuRWFkWj-ys

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 13

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 14

โอวาทปาฏโิ มกข์
หลวงตามหาบัว ญาณสมั ปันโน
เทศนอ์ บรมพระและฆราวาส ณ วดั ป่ าบา้ นตาด
เทศนว์ นั ท่ี ๑๙ ก.พ. ๒๕๒๔

วนั นีเ้ ป็นวนั ท่ีเราทงั้ หลายระลกึ ถงึ ความประเสรฐิ พระพทุ ธ
เจา้ เป็นผปู้ ระเสรฐิ พระธรรมเป็นธรรมชาตทิ ่ีประเสรฐิ พระสงฆ์
สาวกของพระพทุ ธเจา้ แตล่ ะองคๆ์ ซง่ึ คลา้ ยวนั เชน่ นีน้ นั้ จาํ นวน
๑,๒๕๐ องค์ ลว้ นแตเ่ ป็นองคป์ ระเสรฐิ ทงั้ สนิ้ หาท่ีตอ้ งตไิ ม่ได้ ใจ
ของเราไดท้ ่มุ เทลงไปในธรรมชาติท่ีประเสรฐิ วนั นี้ นบั วา่ เป็นสริ ิ
มงคลแก่จิตใจของเราอยา่ งยง่ิ

การทาํ ประทกั ษิณสามรอบนนั้ คอื การทาํ ความเคารพตอ่
พระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ มีองคพ์ ระประธานเป็นสกั ขี
พยาน คือองคแ์ ทนศาสดา ในครงั้ พทุ ธกาลทา่ นถือการเดินทาํ
ประทกั ษิณสามรอบเป็นการเคารพ ถือการยืนเป็นการเคารพ
เพราะฉะนนั้ เวลาพระยืนอยู่ แตพ่ วกญาติโยมน่งั อยู่ จงึ หา้ ม

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 15

ไมใ่ หแ้ สดงธรรม ถา้ ยืนตอ้ งยืนดว้ ยกนั น่งั ตอ้ งน่งั ดว้ ยกนั
เพราะฉะนนั้ การทาํ ประทกั ษิณสามรอบ บางทา่ นอาจจะไม่
เขา้ ใจ คือแสดงกิรยิ าความเคารพดว้ ยการทาํ ประทกั ษิณสาม
รอบ น่ีคอื ความเคารพ เป็นอาการแหง่ ความเคารพอาการหน่งึ
ซง่ึ แสดงในวนั เชน่ นี้ เพ่ือทา่ นทงั้ หลายไดท้ ราบเอาไว้

พระท่ีเราทงั้ หลายระลกึ ถงึ ทา่ นนี้ เป็นพระท่ีประเสรฐิ
ประเสรฐิ กวา่ ทกุ สง่ิ ทกุ อย่างในสามโลกธาตนุ ี้ ไมม่ ีส่ิงใดเสมอ
เหมือน ผทู้ ่ีกา้ วเขา้ ถงึ ธรรมอนั ประเสรฐิ จงึ เรยี กวา่ เป็นผู้
ประเสรฐิ จิตใจเป็นธรรมชาติท่ีเขา้ ถงึ ธรรมไดโ้ ดยสมบรู ณ์ ธรรม
อนั ประเสรฐิ นนั้ ยอ่ มปรากฏท่ีดวงใจ ใจกบั ธรรมเป็นอนั หนง่ึ อนั
เดยี วกนั เพราะฉะนนั้ เวลาทา่ นปรนิ พิ พานแลว้ จงึ ไมอ่ าจจะพดู
ไดว้ า่ จิตของทา่ นบรสิ ทุ ธิ์หรอื พดู ไดว้ า่ จติ เพราะผา่ นจากสมมตุ ิ
ไปแลว้

สมมตุ ิคอื ธาตขุ นั ธ์ ไดแ้ กส่ กลกาย เม่ือมีสกลกายอนั เป็น
สมมตุ ิท่ีอาศยั กนั อยกู่ บั จิตท่ีเป็นวมิ ตุ ตหิ ลดุ พน้ ไปแลว้ นนั้ จงึ
เรยี กวา่ จิตบรสิ ทุ ธิ์ หรอื เรยี กไดว้ า่ จติ บรสิ ทุ ธิ์ เรยี กทา่ นวา่ เป็น

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 16

พระอรหนั ต์ พอไดผ้ ่านจากขนั ธน์ ีไ้ ปหมดโดยสิน้ เชงิ ไมม่ ีสมมตุ ิ
ใดเขา้ เจือปนกบั จิตดวงนนั้ แลว้ จติ ดวงนนั้ เป็นธรรมทงั้ แท่ง เป็น
ธรรมทงั้ ดวง จงึ ไมเ่ รยี กวา่ จิตอกี และคาํ วา่ ปรนิ ิพพานนนั้ ก็
หมายถงึ วา่ ไอเ้ รอ่ื งสมมตุ ไิ ดด้ บั สนิทไปหมดแลว้ ไมม่ ีชิน้ ตอ่ กนั
เลย ไมเ่ หมือนทา่ นท่ียงั ครองขนั ธอ์ ยทู่ งั้ ท่ีจติ บรสิ ทุ ธิ์ ขนั ธน์ ีเ้ ป็น
ธรรมชาติท่ีสมมตุ ิ จงึ ไมเ่ รยี กวา่ บรสิ ทุ ธิ์ พอผา่ นไปแลว้ ก็เรยี กวา่
ปรนิ ิพพาน ดบั รอบหมดแลว้ พดู ง่ายๆ แตก่ อ่ นดบั เฉพาะกิเลส
ภายในใจ พอธาตขุ นั ธไ์ ดผ้ ่านออกไป สลายลงไปสสู่ ภาพเดมิ
ของตนแลว้ นนั้ เรยี กวา่ ปรนิ พิ พานคอื ดบั หมด กิเลสก็เป็นอนั วา่
ดบั ไปแลว้ ตงั้ แตข่ ณะตรสั รูแ้ ละขณะบรรลธุ รรม ถงึ ขนั้ สดุ ยอด
แห่งธรรม แลว้ วาระสดุ ทา้ ยขนั ธก์ ็เป็นอนั วา่ ดบั ผา่ นไปแลว้ จาก
จิตดวงนนั้ หมดความรบั ผิดชอบกนั

สภาพของขนั ธก์ ็มีธาตสุ ่ี ดิน นา้ํ ลม ไฟ เป็นส่งิ ท่ีมองเหน็ ได้
ชดั สลายตวั ลงไปสสู่ ภาพเดมิ ของเขา สว่ นจิตท่ีบรสิ ทุ ธิน์ นั้ ผา่ น
ออกไป ทนี ีไ้ มเ่ รยี กวา่ จิตไดอ้ กี แลว้ ธรรมชาตนิ ีแ้ ลท่ีเรยี กไมไ่ ดน้ ี้
แหละ ท่ีเราทงั้ หลายไดก้ ราบระลกึ อย่ทู กุ วนั วา่ พทุ ฺธํ สรณํ คจฺฉา

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 17

มิ คอื ธรรมชาตินี้ ธมมฺ ํ สรณํ คจฺฉามิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ นีเ้ รา
พดู ตามอาการสามอย่าง เม่ือเขา้ ถึงความบรสิ ทุ ธิ์เตม็ ท่ีแลว้
กลมกลนื เป็นอนั หน่งึ อนั เดียวกนั แลว้ ทงั้ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม
พระสงฆ์ อนั เป็นอาการเขา้ สธู่ รรมดวงเดยี ว

แตอ่ ยา่ งไรก็ตามเม่ือโลกสมมตุ ิยงั มีอยู่ ธาตขุ นั ธข์ องเรายงั มี
อยู่ ตอ้ งระลกึ ถงึ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ สงิ่ ท่ีระลกึ นนั้
แลเป็นธรรมชาติท่ีประเสรฐิ มีอยตู่ ลอดกาลเวลา ไมไ่ ดส้ ญู สิน้ ไป
ไหน วนั ท่ที ่านประทานพระโอวาทปาฏิโมกขน์ นั้ เรยี กวา่ วสิ ุทธิ
อุโบสถ คือ ประทานพระโอวาทแก่พระอรหนั ต์ ๑,๒๕๐ องคซ์ ง่ึ
เป็นผบู้ รสิ ทุ ธิ์ลว้ นๆ จงึ เรยี กวา่ วิสทุ ธิอโุ บสถ แสดงแกท่ า่ นผู้
บรสิ ทุ ธิ์ ในเนอื้ ความแหง่ พระโอวาทท่ีแสดงนนั้ ทา่ นแสดงไวว้ า่

สพพฺ ปาปสสฺ อกรณํ การไม่ทาํ ความช่วั ทงั้ ปวงหนง่ึ
กุสลสสฺ ูปสมปฺ ทา การยงั ความฉลาดใหถ้ งึ พรอ้ มหนง่ึ
สจติ ตฺ ปริโยทปนํ การทาํ จิตของตนใหผ้ อ่ งใสจนกระท่งั ถงึ
ความบรสิ ทุ ธิ์หนง่ึ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 18

เอตํ พุทธฺ าน สาสนํ นีค้ ือคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้
ทงั้ หลาย สอนเป็นแบบเดยี วกนั อยา่ งนี้

จากนนั้ ทา่ นก็บรรยายขยายความออกไปวา่
อนูปวาโท อยา่ ไปกลา่ วรา้ ยคนอ่ืน
อนูปฆาโต อย่าทาํ ความเบยี ดเบียนและทาํ ลายผอู้ ่นื
ปาฏโิ มกเฺ ข จ สวํ โร ใหส้ าํ รวมอยใู่ นหลกั พระวนิ ยั อยา่ ง
เรยี บรอ้ ยสวยงามในเพศของพระ
มตตฺ ��ฺ ุตา จ ภตตฺ สมฺ ึ ความรูจ้ กั ประมาณในการขบการ
ฉนั การใชส้ อยในทกุ ส่ิงทกุ อย่าง ไม่ใหล้ ืมเนือ้ ลืมตวั
ปนฺต�จฺ สยนาสนํ ใหม้ ีท่นี ่งั ท่ีนอนท่พี กั ผอ่ นเพ่ือการ
บาํ เพ็ญสมณธรรม เป็นท่ีสงบสงดั งบเงียบ
อธจิ ติ เฺ ต จ อาโยโค การทาํ จิตของตนใหย้ ง่ิ ขนึ้ ไปโดย
ลาํ ดบั จนกระท่งั สดุ ขีดแหง่ ความยง่ิ ถึงขนั้ แห่งความประเสรฐิ
ของจิต
เอตํ พุทธฺ าน สาสนนฺติ น่ีก็เป็นคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้
แตล่ ะพระองคๆ์ เชน่ เดียวกนั น่นั

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 19

เชน่ วา่ มตตฺ ��ฺ ุตา จ ภตตฺ สมฺ ึ ความรูจ้ กั ประมาณในการ
ขบการฉนั การใชส้ อยในทกุ สิ่งทกุ อยา่ ง ไมใ่ หล้ มื เนือ้ ลมื
ตวั ปัจจยั ทงั้ ส่ีเป็นเครอ่ื งอาศยั เป็นเคร่อื งสนบั สนนุ สาํ หรบั
นกั บวชผมู้ าบวชในศาสนา ขนั ธห์ า้ นีเ้ ป็นเหมือนโลกท่วั ๆ ไป
ออกมาแลว้ ตอ้ งมีท่ีอย่ทู ่พี กั ท่ีอาศยั มีเคร่อื งนงุ่ หม่ ใชส้ อยเป็น
ธรรมดาเชน่ เดยี วกบั โลก เป็นแตเ่ พียงวา่ ตา่ งกนั เก่ียวกบั เรอ่ื ง
เพศ เร่อื งหลกั ธรรม หลกั วินยั เทา่ นนั้ สว่ นใหญ่เหมือนกนั สว่ น
จีวร ก็หมายถงึ ผา้ นงุ่ ผา้ ห่ม สบง สงั ฆาฏิ ถา้ เป็นฆราวาสก็
เรยี กวา่ เครอ่ื งนงุ่ ห่ม เป็นพระก็เรยี กวา่ เครอ่ื งนงุ่ ห่มเหมือนกนั
แตแ่ ยกไปเป็นจีวร เป็นสบง เป็นสงั ฆาฏิ

สรุปความลงแลว้ สิ่งเหลา่ นีเ้ ป็นปัจจยั เคร่อื งอาศยั ของ
สมณะ เพ่ือบาํ เพ็ญหรอื เพ่ืออยดู่ ว้ ยความสะดวกสบาย และเพ่ือ
บาํ เพ็ญตนดว้ ยความราบร่นื ไมข่ ดั ขอ้ งย่งุ เหยิงวนุ่ วายกบั สงิ่
เหลา่ นีว้ า่ ไม่มี

บิณฑบาต ไดแ้ ก่ การขบการฉนั มตตฺ ��ฺ ุตา จ ภตตฺ สมฺ ึ
ใหร้ ูจ้ กั ประมาณในการบรโิ ภคขบฉนั น่ีอย่ใู นโอวาทปาฏิโมกข์ ท่ี

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 20

ท่านแสดงเป็นวิสทุ ธิอโุ บสถแก่พระอรหนั ต์ ๑,๒๕๐ องค์ วนั นีไ้ ด้
ยกธรรมเหลา่ นีอ้ อกมาแสดงใหท้ า่ นทงั้ หลายซง่ึ เป็นนกั บวชฟัง
ตลอดถึงประชาชนซง่ึ จะตอ้ งเป็นผมู้ ีขอบมีเขตมีความพอดิบ
พอดเี ชน่ เดียวกบั พระ ตา่ งกนั แตเ่ พียงวา่ แนวทางสงู ต่าํ หยาบ
ละเอียดเทา่ นนั้ นอกนนั้ เหมอื นๆ กนั

การนงุ่ หม่ ใชส้ อยก็ไมฟ่ ่ มุ เฟือยจนกลายเป็นความฟงุ้ เฟอ้ โก้
เก๋ เกินเหตเุ กินผล เกินเนือ้ เกินตวั ส่งิ เหลา่ นีเ้ ม่ือไมร่ ูป้ ระมาณ
ย่อมทาํ ลายตวั เองได้ ทาํ ไมถงึ วา่ มาทาํ ลายตวั เอง เพราะทกุ สง่ิ
ทกุ อยา่ งตอ้ งหามาดว้ ยทรพั ยส์ มบตั เิ งนิ ทอง ไม่ใชจ่ ะเกดิ มีขนึ้ มา
เอาเฉยๆ ตามความตอ้ งการ ตอ้ งไดแ้ ลกเปล่ยี นกนั มา เชน่ เอา
เงนิ ไปซอื้ เป็นตน้ การนงุ่ หม่ ใชส้ อยใหพ้ อเหมาะพอสมกบั ตน
ความสขุ ก็มีขนึ้

ถา้ เลยจากความพอดีแลว้ ไมว่ า่ อะไรเป็นความยงุ่ เหยงิ
วนุ่ วาย นาํ ความทกุ ขม์ าใหท้ งั้ นนั้ การขบการฉนั การรบั ประทาน
บิณฑบาต โภชเน มตตฺ ��ฺ ุตา ก็ใหร้ ูจ้ กั ประมาณในการ
บรโิ ภคการขบฉนั หรอื การรบั ประทาน เลยเหตเุ ลยผลเลยความ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 21

พอดไี ปแลว้ กท็ าํ ความสนิ้ เปลอื งและทาํ ความเสียหายแกต่ วั เอง
และกลายเป็นนิสยั ได้ เม่ืออะไรก็ตามถา้ กลายเป็นนิสยั แลว้
ยอ่ มจะแกไ้ ดย้ าก ท่านจงึ สอนใหร้ ูจ้ กั ประมาณ

เฉพาะอยา่ งยง่ิ พระเรา มตตฺ ��ฺ ุตา จ ภตตฺ สฺมึ มหี ลาย
บทหลายบาท มีหลายแหง่ หลายหนมาก ท่พี ระพทุ ธเจา้ ทรงยา้ํ
แลว้ ยาํ้ เลา่ กลวั พระจะลมื ตวั กลวั วา่ ลนิ้ จะแซงธรรม ปากทอ้ งจะ
แซงอรรถแซงธรรมไปเสีย ไปท่ีไหนก็มีแตล่ ิน้ ออกขา้ งหนา้ แซง
หนา้ ไปเสยี ทอ้ งแซงหนา้ ไปเสยี ปากแซงอรรถแซงธรรมไปเสยี
ธรรมเลยโผลข่ นึ้ ไม่ได้ เกิดขนึ้ ไมไ่ ด้ เพราะความเหน็ แกป่ ากแก่
ทอ้ งแกล่ นิ้ ท่านจงึ สอนไวอ้ ยา่ งนนั้ ธรรมเหลา่ นีไ้ มใ่ ช่เป็นธรรม
เลก็ นอ้ ย เป็นธรรมสาํ คญั มาก

การปฏิบตั ิตอ้ งไดส้ งั เกตสอดรูต้ นอย่เู สมอ ผตู้ อ้ งการความ
เจรญิ รุง่ เรอื งดว้ ยธรรม ไมต่ อ้ งการความเจรญิ ดว้ ยปัจจยั ส่ี
พระพทุ ธเจา้ ไม่ทรงสอนใหเ้ สาะแสวงหาสง่ิ เหลา่ นเี้ ลยขอบเขต
ของของสมณะ และไมใ่ หใ้ ชส้ อยหรอื ขบฉนั ใหเ้ ลยขอบเขตของ
สมณะ ท่จี ะเป็นการทาํ ลายอรรถธรรมซง่ึ ควรจะเกิดขนึ้ หรอื

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 22

เกิดขนึ้ แลว้ ใหเ้ ส่อื มสญู อนั ตรธานไป เพราะสิ่งเหลา่ นีเ้ หยียบย่าํ
ทาํ ลาย ทา่ นจงึ สอนแลว้ สอนเลา่ อยเู่ สมอ

เสนาสนะ คือท่ีอยทู่ ่ีอาศยั ทา่ นวา่ ปนฺต�จฺ สยนาสนํ ท่ี
นอนท่ีน่งั อนั สงบสงดั น่นั ฟังซิ ท่ีไหนเป็นท่ีสงดั ตงั้ แตว่ นั บวชมา
ทีแรกพระพทุ ธเจา้ ก็ไดป้ ระทานพระโอวาทใหเ้ รยี บรอ้ ยแลว้ จน
มาถงึ อปุ ัชฌายะทกุ วนั นี้ บวชกลุ บตุ รสดุ ทา้ ยภายหลงั จะตอ้ ง
บอกอนศุ าสน์ นิสสยั ๔ นีใ้ ห้ เวน้ ไมไ่ ด้ อปุ ัชฌายะองคใ์ ดเวน้
เป็นตอ้ งปลดจากความเป็นอปุ ัชฌายะทนั ที เพราะทาํ ใหข้ าดสง่ิ
สาํ คญั และจาํ เป็นแกค่ วามเป็นพระและหนา้ ท่ีของพระไป น่นั

รุกขฺ มลู เสนาสนํ นิสสฺ าย ปพพฺ ชฺชา. ตตถฺ เต ยาวชวี ํ
อุสสฺ าโห กรณีโย. บรรพชาอปุ สมบทแลว้ ใหท้ ่านทงั้ หลายไป
เท่ียวเสาะแสวงหาอย่ตู ามรุกขมลู รม่ ไม้ ชายป่า ชายเขา ตาม
ถา้ํ เงือ้ มผา ป่ารกชฏั อนั เป็นสถานท่ีสงบสงดั สะดวกสบายแก่
การบาํ เพญ็ สมณธรรม ปราศจากสง่ิ พลกุ พลา่ นกอ่ กวนตา่ งๆ จง
พยายามทาํ อย่างนีต้ ลอดชีวติ เถิด น่ีคือโอวาทอนั สาํ คญั ท่ี
อปุ ัชฌายะทกุ ๆ องคบ์ วชกลุ บตุ รสดุ ทา้ ยภายหลงั เสรจ็ แลว้ ตอ้ ง

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 23

ไดใ้ หโ้ อวาทขอ้ นี้ และงานของพระท่ีจะเป็นไปเพ่ือความวิเศษ
ศกั ดิส์ ทิ ธิ์ภายในจิตใจของตนคืออะไร ก็คอื กรรมฐาน

เวลานนั้ เป็นระยะท่ีสนั้ มาก ท่านจงึ สอนมอบงานใหเ้ พียง
สนั้ ๆ วา่ เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ เพียงเทา่ นีซ้ ะกอ่ น น่ี
หมายถงึ อะไร เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ หมายถงึ ผม ขน
เลบ็ ฟัน หนงั ใหเ้ อานีไ้ ปพจิ ารณาคล่ีคลายดตู ามหลกั ความจรงิ
ของมนั ในสถานท่ีท่ีเป็นท่ีสงดั งบเงียบอนั เป็นความสะดวกแก่
การพจิ ารณาคล่ีคลายงานเหลา่ นีใ้ หร้ ูแ้ จง้ แทงทะลไุ ปตลอดถงึ
อาการ ๓๒ ภายในรา่ งกายของตน

ทงั้ ขา้ งนอกขา้ งใน อชฌฺ ตตฺ า วา พหทิ ธฺ า วา เทียบกนั ได้
ทกุ สดั ทกุ สว่ น ดว้ ยความเป็นอนิจจฺ ํ ทกุ ฺขํ อนตตฺ า ดว้ ยความ
เป็นของปฏกิ ลู โสโครกเตม็ ไปหมดในรา่ งกายของสตั วข์ องบคุ คล
แตล่ ะสตั วแ์ ตล่ ะบคุ คลไม่มีใครย่ิงหยอ่ นกวา่ ใคร เตม็ ไปดว้ ยสิ่ง
เหลา่ นีด้ ว้ ยกนั น่ีแหละคอื งานใหท้ า่ นพจิ ารณา ทา่ นสอนอยา่ งนี้
ใหร้ ูแ้ จง้ แทงทะลุ จติ มนั เขา้ แทรกเขา้ แซงเขา้ สงิ สงิ่ ท่ีเป็นกิเลส
นนั้ นะ่ มนั เขา้ แทรก คือมนั ลบลา้ งความจรงิ ของธรรมไปโดย

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 24

ลาํ ดบั ขนึ้ ช่ือวา่ กิเลสแลว้ ตอ้ งลบลา้ งของจรงิ ทงั้ นนั้ เพราะกิเลส
เป็นตวั จอมปลอม ธรรมเป็นจอมแหง่ ความจรงิ กิเลสจงึ เท่ยี วปัก
ปันเขตแดนเอาไวห้ มด สิ่งนสี้ วย สงิ่ นนั้ งาม ส่งิ นีเ้ ป็นนิจจฺ ํ ความ
เท่ียง สง่ิ นีเ้ ป็นสขุ ํ ความสขุ ส่ิงนีเ้ ป็นอตตฺ า เป็นเราเป็นของเรา
จะเป็นจะตายอยู่ มนั ก็วา่ เป็นเราวา่ ของเราอย่ตู ลอดไป น่ีคอื
เร่อื งของกิเลสตอ้ งขดั ขวางตอ่ ธรรมอย่างนี้

ท่ีทา่ นใหพ้ จิ ารณาลงตามความจรงิ ความจรงิ เป็นอยา่ งไร
ธรรมท่านก็สอนใหเ้ ป็นอยา่ งนนั้ เช่น อนิจจฺ ํ เป็นของไม่เท่ียง
รา่ งกายเราทกุ สว่ นหาความเท่ียงแทถ้ าวรไมไ่ ด้ มีแตค่ วามแปร
สภาพอยตู่ ลอดเวลา จนถงึ วาระสดุ ทา้ ยสลายลงไปสคู่ วามจรงิ
ของตน ทกุ ขฺ ํ ก็ไดย้ ินแตท่ กุ ขข์ งั เรา เราไมเ่ คยไดข้ งั ทกุ ขเ์ อาไว้
เพราะเราไมท่ ราบความจรงิ พอทราบความจรงิ แลว้ ทกุ ขจ์ ะมา
ขงั เราไมไ่ ด้ ดงั พระพทุ ธเจา้ และสาวกทงั้ หลาย ไม่มที กุ ขต์ วั ใดท่ี
จะไปขงั จติ ขงั ใจของท่านใหเ้ ป็นนกั โทษเหมือนอยา่ งแตก่ อ่ นเลย
ท่านอยเู่ หนือทกุ ขท์ งั้ มวล

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 25

ดงั ท่ีทา่ นอาจารยม์ ่นั เคยพดู ใหฟ้ ังและไดเ้ ขียนไวใ้ นประวตั ิ
ของทา่ นวา่ พระอรหนั ตบ์ างองคท์ า่ นยืนนพิ พานบา้ ง น่งั นิพพาน
บา้ ง เดินนิพพานบา้ ง นอนนพิ พานบา้ ง ทาํ ไมทา่ นจงึ ทาํ ผดิ
แปลกจากมนษุ ยท์ ่วั ๆ ไปในโลกธาตนุ ีเ้ ลา่ ก็เพราะความรู้
ความเหน็ ความสตั ยค์ วามจรงิ ท่ีมีอย่ใู นใจของทา่ น ไม่ได้
เหมือนกบั โลกท่วั ๆ ไป เพราะฉะนนั้ ทา่ นจงึ ไมไ่ ดท้ าํ เหมือนโลก
ท่วั ๆไป ทกุ ขเวทนาในขนั ธก์ ส็ กั แตว่ า่ สมมตุ อิ นั หนง่ึ ๆ เทา่ นนั้ เชน่
รูปํ คือกองรูป น่ีกเ็ ป็นสมมตุ ิอนั หนง่ึ เวทนาสขุ ทกุ ข์ เฉยๆ น่ีก็
เป็นอาการอนั หนง่ึ ของขนั ธแ์ ตล่ ะอยา่ งๆ สิ่งเหลา่ นีเ้ ป็นเร่อื งของ
สมมตุ ิทงั้ มวล แตจ่ ิตของทา่ นหลดุ พน้ แลว้ จากสิ่งทงั้ หลาย
เหลา่ นี้ ถึงขนั้ วิมตุ ติ จติ จงึ เหนือสง่ิ เหลา่ นี้ ทกุ ขภ์ ายในรา่ งกาย
วาระสดุ ทา้ ยจะเป็นขนาดไหน ก็ไมส่ ามารถทาํ ใจของทา่ นให้
กระทบกระเทอื น ใหห้ ว่นั ใหไ้ หวเอนเอียงไปไดเ้ ลย ดว้ ยเหตนุ ี้
ท่านจงึ สามารถปรนิ ิพพานตามทา่ ท่ีตนถนดั ในวาระสดุ ทา้ ย ได้
ตามความสะดวกสบายของทา่ น โดยไมม่ ีเวทนาตวั ใดท่ีจะ

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 26

สามารถเขา้ ไปเหยียบย่าํ ทาํ ลายจิตใจของทา่ น ใหเ้ อนเอียงไปได้
เหมือนอย่างสามญั ชนท่วั ๆ ไปเลย

ดว้ ยเหตนุ ีท้ า่ นจงึ ปรนิ ิพพานไดใ้ นทา่ ตา่ งๆ ตามอธั ยาศยั
ของทา่ น ยืนนพิ พานบา้ ง เดนิ นพิ พานบา้ ง น่งั นิพพานบา้ ง นอน
นิพพานบา้ ง ดว้ ยความเป็นอสิ รเสรภี ายในจติ ใจ เพราะทา่ นไม่มี
เวทนา คาํ วา่ เวทนานีห้ มายถึงเวทนาภายในจิต เวทนาใน
รา่ งกายนนั้ มี ท่านรบั ทราบเพราะท่านรู้ ทา่ นจะไมร่ บั ทราบ
อยา่ งไร แมแ้ ตเ่ รามีกิเลสอยภู่ ายในจิตใจเรายงั รู้ เจบ็ ตรงไหนใน
สว่ นรา่ งกาย เจบ็ ทอ้ ง ปวดศรี ษะ เรายงั ทราบ ทาํ ไมท่านจะไม่
ทราบ แตค่ วามทราบของเรากบั ความทราบของทา่ นมนั ตา่ งกนั
ความทราบของเราทราบไปตามสภาพของมนั เฉยๆ ไม่ไดท้ ราบ
แบบหย่งั ทราบดว้ ยความรูจ้ รงิ เหน็ จรงิ เหมือนพระขีณาสพทา่ น
จงึ ตอ้ งยดึ ตอ้ งถือ จงึ ตอ้ งเกิดความทกุ ขภ์ ายในจิตใจมาอกี ตอ่
หนง่ึ เวลารา่ งกายไมส่ มประกอบหรอื มีความทกุ ขค์ วามลาํ บาก
ขนึ้ ในอวยั วะสว่ นใด ใจเลยกลายเป็นโรคกงั วล โรควนุ่ วาย โรค
เสียอกเสียใจขนึ้ มาได้

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 27

แตพ่ ระขีณาสพทา่ นไม่มี เพยี งแตร่ บั ทราบทกุ ขเวทนาท่ี
เกิดขนึ้ ภายในขนั ธเ์ ทา่ นนั้ ขนั ธก์ ็เป็นขนั ธ์ จิตเป็นจติ จะไปแทรก
ถึงกนั ไดอ้ ย่างไร เม่ือตา่ งอนั ตา่ งจรงิ แลว้ ไม่กระทบกนั ขนั ธแ์ สดง
ตวั จนวาระสดุ ทา้ ย คอื ทกุ ขเวทนาแสดงตวั ก็แสดงตวั อย่ใู นวง
ขนั ธน์ ี้ ไมส่ ามารถไปแสดงตวั ในวงจิตของทา่ นได้ น่ีแหละท่ี
เรยี กวา่ พระอรหนั ตท์ า่ นไม่มีเวทนา มีเวทนาอยภู่ ายในขนั ธ์
เทา่ นนั้ ไมไ่ ดม้ ีอยภู่ ายในจติ ใจของพระอรหนั ต์ เม่ือเป็นเชน่ นนั้
ท่านจะไม่ปรนิ ิพพานในทา่ ตา่ งๆไดต้ ามความตอ้ งการของทา่ น
หรอื ตามอธั ยาศยั ของท่านไดอ้ ย่างไร ผดิ กบั พวกเราอยา่ งนี้

คาํ วา่ เวทนาน่ีเป็นสมมตุ ิ จะเป็นสขุ เวทนาก็ตาม ทกุ ขเวทนา
ก็ตาม อเุ บกขาเวทนาก็ตาม จะมีไดภ้ ายในรา่ งกาย เกิดขนึ้
ภายในกาย สขุ เกิดขนึ้ ภายในกาย ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ ภายในกาย เฉยๆ
เกิดขนึ้ ภายในกายนีเ้ ทา่ นนั้ ไม่สามารถท่ีจะไปเกิดภายในจติ
ของพระอรหนั ตไ์ ดเ้ ลย เพราะจิตนนั้ เป็นวสิ ทุ ธิจติ แลว้ ทา่ นจงึ ไม่
มีเวทนาใดท่ีจะมาเสวย ไมม่ เี วทนาใดท่ีจะมาเหยียบย่าํ จติ ใจ
ของท่าน นอกจากสขุ ในหลกั ธรรมชาติ ดงั ท่ีท่านวา่ นิพพฺ านํ

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 28

ปรมํ สขุ ํ นิพพานเป็นสขุ อยา่ งย่งิ สขุ ในนิพพานหรอื สขุ ของทา่ น
ผบู้ รสิ ทุ ธิ์ จติ ท่บี รสิ ทุ ธิ์นนั้ ไมใ่ ชส่ ขุ เวทนา เป็นสขุ ของวมิ ตุ ตจิ ิต
เหนือจากสมมตุ ินีไ้ ปแลว้ อย่เู หนือสมมตุ นิ ีแ้ ลว้ สขุ นนั้ จงึ ไม่มีคาํ
วา่ อนิจฺจํ

เวทนา อนิจฺจา อยา่ งนีก้ ็ไมม่ ี สขุ ก็เป็น อนิจฺจา ทกุ ขก์ ็เป็น
อนิจฺจา อเุ บกขาเฉยๆ ก็เป็น อนิจฺจา หรอื เป็น อนิจฺจํ ถา้ เป็น
เวทนาแลว้ ตอ้ งมี อนิจฺจํ เป็นคกู่ นั เสมอไป แตส่ ขุ ของพระอรหนั ต์
สขุ ของวสิ ทุ ธิจติ นนั้ ไม่ใช่เวทนา จงึ ไมม่ ี อนิจฺจํ ทกุ ฺขํ อนตตฺ า
เขา้ ไปแทรกไดเ้ ลย น่ีผิดกบั สขุ ทงั้ หลายของโลก สขุ ทงั้ หลายใน
วงสมมตุ ิ ทา่ นจงึ เรยี ก นิพพฺ านํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นสขุ อย่าง
ย่ิง สขุ นนั้ เป็นสขุ ในหลกั ธรรมชาตขิ องความบรสิ ทุ ธิ์ เป็นสขุ
ธรรมชาติ ไมใ่ ชส่ ขุ เสกสรรปั้นยอขนึ้ มา เกิดแลว้ ตอ้ งดบั ดบั แลว้
เกิดอย่อู ย่างนนั้ น่ีแหละจิตของพระอรหนั ตม์ ีความตา่ งกนั อย่าง
น่ี เราควรทราบเอาไว้

การท่ที ราบจากการไดย้ ินไดฟ้ ังนีไ้ มไ่ ดเ้ ป็นความแนใ่ จ ยงั
ตอ้ งมีความสงสยั อยเู่ ป็นธรรมดา เพ่ือจะทราบตามหลกั ความ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 29

จรงิ ในสง่ิ ท่ีเป็นจรงิ นนั้ ตอ้ งทราบดว้ ยภาคปฏบิ ตั ิ พระพทุ ธเจา้
ไดธ้ รรมมาส่งั สอนโลกก็ไดจ้ ากภาคปฏบิ ตั ิ ไดเ้ ป็นศาสดาเอก
ของโลกขนึ้ มาก็ไดจ้ ากภาคปฏิบตั ิ คือการประพฤตปิ ฏิบตั เิ ดนิ
จงกรม น่งั สมาธิ ภาวนา ผลก็เกิดขนึ้ มาเป็นศาสดาของโลก พระ
สาวกทงั้ หลายท่านก็ประพฤตปิ ฏิบตั ิเป็นอรหนั ตข์ นึ้ มาดว้ ย
ภาคปฏิบตั ิ ไม่ไดเ้ ป็นขนึ้ มาดว้ ยภาคจดจาํ เฉยๆ

ความจาํ เป็นความจาํ ความจรงิ เป็นความจรงิ เรานาํ
ความจาํ ท่ีไดศ้ กึ ษาเลา่ เรยี นมา ไปประพฤติปฏบิ ตั ติ ามท่ีเรา
เขา้ อกเขา้ ใจจากการเรยี นนนั้ แลว้ กลายเป็นภาคปฏิบตั ขิ นึ้ มา
เม่ือปฏิบตั ติ ามท่ีเรยี นมาแลว้ ผลคือปฏเิ วธ ความรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ
ย่อมรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ไปโดยลาํ ดบั ๆ จนกระท่งั รูแ้ จง้ แทงทะลเุ ป็น
ความจรงิ ขนึ้ มาโดยลาํ ดบั ๆ จนกระท่งั เป็นความจรงิ เป็นสว่ น
ภายในจิตใจ

เม่ือเป็นเชน่ นนั้ จะไม่ถามในสิ่งท่ีกลา่ วมานี้ เชน่ พระอรหนั ต์
ท่านไม่มีเวทนาในจติ อยา่ งนี้ จะปรากฏในจติ ของเราเสียเอง จิต
ของพระพทุ ธเจา้ กบั จิตของเรานนั้ ไมม่ ีอะไรผดิ แปลกกนั เม่ือ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 30

เขา้ ถึงความจรงิ เต็มสดั เตม็ สว่ นเหมือนกนั แลว้ ไมม่ ีอะไรจะ
สงสยั กนั

ดงั ท่ีกลา่ ววา่ เวทนาของพระอรหนั ตไ์ มม่ ี เวทนาในจติ ของ
พระอรหนั ตไ์ มม่ ีอยา่ งนี้ มีไดย้ งั ไง ของเราเป็นยงั ไง เขา้ ใจทนั ที
ออ้ เป็นอยา่ งนีเ้ อง น่ีแหละท่ีวา่ ผใู้ ดเหน็ ธรรมผนู้ นั้ เหน็ เรา
ตถาคต เหน็ ความจรงิ อนั นีซ้ ง่ึ เป็นเหมือนกนั ของเราฉนั ใดของ
ทา่ นฉนั นนั้ ของทา่ นฉนั ใดของเราฉนั นนั้ นิพพานเท่ียงหรอื ไม่
เท่ียง ดจู ิตของเราก็รู้ ถามนิพพานวา่ เท่ียงไม่เท่ียงไปไหน ดจู ิต
ของเราก็รู้ ถามนิพพานวา่ เท่ียงไมเ่ ท่ียงไปไหน ดจู ติ ของเจา้ ของ
นิพพานหรอื ไม่นิพพานอยทู่ ่ีจิตนี้ น่นั เป็นช่ืออนั หน่งึ ตา่ งหาก
เม่ือตงั้ หลกั ขนึ้ มา คาํ วา่ นพิ พานนนั้ เป็นเงา คอื เป็นช่ือของ
ธรรมชาติท่ีเราทรงอยเู่ วลานี้ รูอ้ ย่เู วลานี้ ไดแ้ ก่จิตท่ีบรสิ ทุ ธิ์ น่ีคอื
ตวั ประธานแท้ ดตู วั ประธานแลว้ รูต้ วั ประธานแลว้ สงสยั เงาไป
หาอะไร น่ีแหละหลกั ความจรงิ

แลว้ ธรรมะคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้ ทกุ บททกุ บาท เป็น
มชั ฌิมาปฏปิ ทาอย่เู สมอ ตงั้ แตค่ รงั้ พทุ ธกาลมาจนกระท่งั

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 31

ปัจจบุ นั นีไ้ ม่มีการเปล่ียนแปลงไปไหน เพราะเหตใุ ด เพราะกิเลส
ทกุ ประเภทซง่ึ เกิดภายในจติ ใจหรอื มีอยภู่ ายในจิตใจของสตั ว์
โลก ไม่มีกิเลสตวั ใดจะเปล่ียนหนา้ เปล่ยี นตาไปเป็นอยา่ งอ่นื
พอท่ีจะเปล่ียนแปลงมชั ฌมิ าปฏิปทาใหเ้ ป็นอย่างอ่ืน เพ่ือใหท้ นั
กบั กิเลสประเภทนนั้ ๆ กิเลสเหลา่ นีไ้ มเ่ หนืออาํ นาจแห่งธรรม จงึ
ไมต่ อ้ งเปล่ยี นแปลงธรรมท่ีทรงสอนแลว้ นนั้ เพราะทรงไดผ้ ล
มาแลว้ จากปฏปิ ทาเหลา่ นี้ จงึ ตอ้ งนาํ ปฏปิ ทาเหลา่ นีม้ าปราบ
กิเลส

เราถา้ หากวา่ ดาํ เนินตามหลกั ธรรมท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงสอนไว้
อยา่ งนี้ ศาสนธรรมหรอื มชั ฌมิ าปฏิปทานี้ คอื ตลาดแหง่ มรรคผล
นิพพานเราเตม็ สดั เตม็ สว่ นน่นั เอง หาท่ีสงสยั ไม่ไดเ้ ลย นอกจาก
จิตใจหรอื การประพฤตปิ ฏิบตั จิ ะเป็นลมุ่ ๆ ดอนๆ สงู ๆ ต่าํ ๆ ไม่
เป็นไปตามหลกั ธรรมท่ที รงสอนเทา่ นนั้ จงึ ไม่สมหวงั ถา้ เราตงั้
จติ ตงั้ ใจปฏบิ ตั ติ ามนีแ้ ลว้ มชั ฌมิ าคือความเหมาะสม
ตลอดเวลา เม่ือการประพฤตปิ ฏบิ ตั เิ หมาะสม ผลทาํ ไมจะไม่

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 32

เหมาะสมสมดลุ ตอ้ งสมดลุ ผนู้ ีแ้ ลผทู้ ่ีจะรบั มรดกท่ีพระพทุ ธเจา้
ประทานไวแ้ ลว้

พระพทุ ธเจา้ ไม่ไดเ้ กิดขนึ้ จากไหน เกิดขนึ้ จาก
มชั ฌิมาปฏิปทานีเ้ ทา่ นนั้ พระสาวกทกุ ๆ องคอ์ ย่าวา่ แต่ ๑,๒๕๐
องคน์ ีเ้ ลย เป็นหม่ืนๆ แสนๆ ลา้ นๆ ทา่ นสาํ เรจ็ มาจากมชั ฌมิ านี้
ทงั้ นนั้ ไมม่ ที ่ีอ่ืนเป็นท่ีสาํ เรจ็ มรรคผลนิพพานได้ นอกจาก
มชั ฌมิ าเป็นทางเดนิ เป็นเคร่อื งชาํ ระซกั ฟอก เป็นเครอ่ื งหลอ่
หลอมใหจ้ ติ ดวงนนั้ บรสิ ทุ ธิ์เท่านนั้ ขอใหเ้ ป็นท่ีม่นั ใจในการ
ประพฤตปิ ฏิบตั ธิ รรม และสถานท่ีดงั กลา่ วมานีเ้ ป็นท่ีเหมาะสม
ตลอดมาเหมือนกนั ในป่าในเขาในท่ีสงดั วเิ วก การขบการฉนั ดงั
ไดก้ ลา่ วมาแตเ่ บือ้ งตน้ วา่ เป็นปัจจยั เคร่อื งอาศยั เทา่ นนั้ ไม่ใช่
เป็นส่ิงสาํ คญั อยา่ งย่ิง ดงั ท่ีเราม่งุ ม่นั อยเู่ วลานี้ สงิ่ ท่ีเรามงุ่ ม่นั คอื
ธรรม ธรรมเป็นของสาํ คญั เหลา่ นีเ้ ป็นสงิ่ ท่อี าศยั อยา่ ไดล้ ืมเนือ้
ลมื ตวั กบั ส่ิงอาศยั วา่ เป็นเนือ้ เป็นหนงั เป็นตวั ของตวั ขนึ้ มา จะ
ลมื อรรถลืมธรรม สง่ิ เหลา่ นีจ้ ะเหยยี บย่าํ ทาํ ลายจติ ใจลงไปโดย

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 33

ไม่รูส้ กึ ตวั การเหยียบย่าํ ทาํ ลายจิตใจ ก็คือการเหยียบย่าํ ธรรม
ซง่ึ จะเกิดขนึ้ ท่ใี จนนั้ แหละ ใหพ้ ากนั ระมดั ระวงั เสมอ

การประพฤติปฏิบตั ใิ หเ้ ลง็ ดจู ิตอย่าดทู ่ีอ่นื กิเลสอย่กู บั จติ
แสดงออกท่ีจติ ไม่วา่ ดี วา่ ช่วั ไม่วา่ ประเภทใด ความโลภ ความ
โกรธ ความหลง ราคะตณั หา คดิ มากคดิ นอ้ ยคดิ ขนึ้ ท่ีจิต เกิดขนึ้
ท่ีจติ เผาลนท่จี ิตไมไ่ ดเ้ ผาท่ีไหน มชั ฌมิ าปฏปิ ทามีสติปัญญา
เป็นสาํ คญั ใหส้ อดสอ่ งมองดตู ลอดระยะเวลา ซง่ึ เรามีหนา้ ท่ีอนั
เดียวเท่านี้

พระบวชมาปลอ่ ยหมดแลว้ กิจบา้ นการเรอื นอะไร อาหาร
ปัจจยั ๔ ท่ีกลา่ วมานี้ ประชาชนญาตโิ ยมมีศรทั ธาบรบิ รู ณอ์ ยู่
แลว้ อยากจะสนบั สนนุ ผตู้ งั้ ใจประพฤติปฏิบตั กิ าํ จดั กิเลส เพ่ือ
ไดบ้ ญุ ไดก้ ศุ ลกบั ท่านเหลา่ นนั้ ทา่ นเหลา่ นีม้ ีศรทั ธาเต็มภมู ิอยู่
แลว้ แมต้ นทาํ ไมไ่ ดก้ ็พอใจท่ีจะสนบั สนนุ เอา้ ปฏิบตั ลิ งไป ถา้
เป็นลกู ศษิ ยต์ ถาคตเขา้ สสู่ งครามแลว้ ไม่ตอ้ งกลวั ตาย ไมไ่ ดต้ าย
เพราะการตอ่ สกู้ บั กิเลส สว่ นมากมีแตก่ ิเลสย่าํ ยีตแี หลกใหต้ าย
ทงั้ นนั้ เราใหเ้ ห็นโทษของการย่าํ ยีตีแหลกของกิเลสจนถงึ ขนั้ ตาย

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 34

แลว้ เกิด เกิดแลว้ ตายอยนู่ ี้ ในภพนอ้ ยภพใหญ่ไม่หยดุ ไมถ่ อยมา
จนบดั นี้ ควรจะเหน็ โทษในสง่ิ เหลา่ นีม้ ากกวา่ การจะตอ่ สกู้ บั
กิเลสแลว้ เป็นทกุ ขข์ นึ้ มา กลวั ตาย กลวั ตาย ไม่ตอ้ งกลวั ขนึ้ บน
เวทีแลว้ กลวั ตายทาํ ไม ถา้ กลวั ตาย ตอ่ ยไม่ได้ เด๋ียวถกู เขาน๊อค
ทนั ที มีแตค่ วามหวงั ชนะเท่านนั้ อยเู่ ต็มหวั ใจ นกั ตอ่ สบู้ นเวทีแลว้
มีแตค่ วามหวงั ชนะ

น่ีเราขนึ้ เวทีแลว้ เพศของเราเป็นเพศนกั รบไมใ่ ช่เพศนกั หลบ
สจู้ นกระท่งั สดุ ขีดสดุ แดน ทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งเครอ่ื งสนบั สนนุ มี
พรอ้ มแลว้ อาหารปัจจยั จะกนิ ใหต้ ายก็ไดถ้ า้ เราไม่เสียดายธรรม
ถา้ เหน็ ขีด้ กี วา่ ไสก้ ็พงุ ทะลไุ มร่ ูต้ วั ลนิ้ แซงอย่เู รอ่ื ย แซงอรรถแซง
ธรรม ทอ้ งปากมนั แซงอย่เู รอ่ื ยๆ หาเวลาวา่ งไมม่ ี มีแตเ่ รอ่ื งกิเลส
ตณั หาบรรจเุ ขา้ เต็ม เต็มเทา่ ไรย่ิงบรรจเุ ขา้ ไปๆ สดุ ทา้ ยกต็ าย
เพราะอาํ นาจของกิเลส ความอยากไมม่ เี มอื งพอ ทา่ นจงึ วา่ นาํ
ธรรมมาสกดั ลดั กนั้ ไว้ โภชเน มตตฺ ��ฺ ุตา ใหร้ ูจ้ กั ประมาณ ใน
การบรโิ ภคขบฉนั

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 35

อย่าลืมเนือ้ ลมื ตวั ในปัจจยั ส่ีซง่ึ เป็นเคร่อื งอาศยั เทา่ นนั้ สง่ิ ท่ี
มงุ่ หวงั อยา่ งแรงกลา้ คอื อรรถคือธรรม ความประเสรฐิ เลศิ เลอ
อย่ทู ่ีตรงนี้ เอา สลู้ งไป จะตายดว้ ยการตอ่ สกู้ บั กิเลสก็ใหเ้ ห็นเสยี
ที ไมเ่ คยมีในศาสนาของพระพทุ ธเจา้ นี้ นกั ตอ่ สสู้ กู้ บั กิเลสจน
ตาย มกี ิเลสน่นั แหละตายเวลาตอ่ สเู้ ขา้ ไปๆ ดงั พระพทุ ธเจา้ ก็
สลบสามหนพระองคก์ ็ไมต่ าย สดุ ทา้ ยกิเลสตายไม่มีเหลอื น่นั
สาวกทงั้ หลายไดร้ บั ความทกุ ขท์ รมานเพราะการตอ่ สกู้ บั กิเลส
มามากเทา่ ไร ก็ไมไ่ ดย้ นิ วา่ ทา่ นตาย สดุ ทา้ ยกิเลสตายๆ จงึ ได้
ปรากฏเป็นผวู้ เิ ศษวโิ สขนึ้ มาเพราะการตอ่ สู้ น่ีแหละคณุ คา่ แห่ง
การตอ่ สู้ ทาํ ใหค้ นบรสิ ทุ ธิ์พทุ โธขนึ้ มาในใจทงั้ ดวง

เราเป็นลกู ศษิ ยข์ องตถาคต ตอ้ งถือเอาเย่ียงอยา่ งของ
พระพทุ ธเจา้ มาดาํ เนิน อยา่ สกั แตว่ า่ กลา่ ว พุทธฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ
ใจลอยเมฆไปไหนหรอื ลงนรกอเวจีไปไหนก็ไม่รู้ ธมมฺ ํ สรณํ คจฺ
ฉามิ วา่ แตป่ ากคิดแตใ่ จแย็บเดียว ถกู กิเลสฉดุ ลากไปตม้ ตนุ๋ ท่ี
ไหนก็ไมร่ ู้ วนั หนง่ึ ๆ หาเวลาคดิ ตามคลองอรรถคลองธรรมไมม่ ี
ดาํ เนนิ ไปนิดๆ หนอ่ ยๆ กห็ าวา่ ทกุ ขว์ า่ ลาํ บากไปเสีย ซง่ึ ลว้ นแต่

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 36

เป็นกลมายาของกิเลสมนั หลอกมนั ลวงเรา ไม่ใหเ้ ขา้ ช่องอรรถ
ช่องธรรม เพราะจะผา่ นอาํ นาจมนั ไปเสยี ได้ มนั จงึ ไม่ยอมใหไ้ ป

น่ีแหละคาํ วา่ มารๆ คอื อะไร กิเลสมารเป็นเบอรห์ นง่ึ ใน
หวั ใจของคนและสตั ว์ เฉพาะอยา่ งย่ิงในหวั ใจของเราซง่ึ เป็นนกั
ปฏิบตั ิ ใหท้ ราบวา่ มารคืออะไร ก็คือกิเลสทกุ ประเภท ไมม่ ีอะไร
ท่ีเป็นมารเทา่ กิเลส ใหเ้ หน็ ท่ตี รงนี้

แลว้ การตอ่ สกู้ บั กิเลสก็อยา่ ออมกาํ ลงั อยา่ ออมแรง เพราะ
เราไมเ่ คยเหน็ กิเลสตวั ใด ตงั้ แตป่ ระพฤติปฏิบตั ิมาอยา่ งเตม็ สติ
กาํ ลงั ความสามารถจนกระท่งั ถึงปัจจบุ นั นี้ วา่ เป็นตวั สภุ าพ
เรยี บรอ้ ยออ่ นโยน พอท่ีจะตอ่ สมู้ นั ดว้ ยความเรยี บรอ้ ยออ่ นโยน
สภุ าพ นอนทาํ ก็ได้ เดินทาํ ก็ได้ จติ เถอ่ ไปไหนมองไปไหนก็ได้ อยู่
สะดวกสบาย กินใหม้ ากนอนใหม้ ากเหมือนกบั หมตู วั หนง่ึ กิเลส
ก็ตายไปดว้ ยๆ เราไม่เคยเหน็ มีแตว่ า่ ฟัดกนั อย่างเต็มเหน่ยี ว เอา้
มนั ไมต่ าย ใหเ้ ราตาย สกู้ นั ไป

นอกจากนนั้ ยงั ทรมานทางกายอกี ดว้ ย เพราะกิเลสมนั มีทาง
กายเป็นเคร่อื งสง่ เสรมิ มนั ดว้ ย กินมากๆ เขา้ ไปรา่ งกายอว้ นพี

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 37

ดีเดน่ ขนึ้ มา กิเลสมนั ก็ตวั ดีตวั เดน่ ขนึ้ มาแลว้ เหยียบย่าํ ทาํ ลาย
จติ ใจลงไปโดยลาํ ดบั ๆ น่ี เม่อื เป็นเชน่ นนั้ ตอ้ งตดั ทอนกาํ ลงั ทาง
รา่ งกาย นอนมากมนั ทาํ ใหม้ ีกาํ ลงั มากและทาํ ใหท้ บั ถมจติ ใจ
กินมากมกี าํ ลงั มาก มนั ทบั ถมจติ ใจมาก การภาวนากา้ วไมอ่ อก
ตดั อาหารลงไป ตดั เร่อื งการหลบั การนอนลงไป ตดั ลงไปโดย
ลาํ ดบั จติ ใจจะไดภ้ าวนาดว้ ยความสะดวก ก็เป็นอยา่ งนนั้ จรงิ ๆ

เวลารา่ งกายมีกาํ ลงั นอ้ ยลงไป ลดลงไปๆ จิตใจมีกาํ ลงั กลา้
แข็งขนึ้ ทกุ ระยะ เวลาท่ีเราประกอบความเพียรอยู่ เราไดเ้ ห็นได้
ชดั เม่ือเป็นเชน่ นนั้ ถงึ จะยากลาํ บากก็ตอ้ งทนเพราะทางไปสาย
นี้ ยากก็ไป งา่ ยก็ไป ขรุ ขระก็ไป เพราะทางไปอย่นู ี้ ทางเดนิ อยนู่ ี้
ทางเดนิ เพ่ือความพน้ ทกุ ข์ ทางเดนิ เพ่ืออบุ ายวธิ ีเพ่ือฆา่ กเิ ลสอยู่
ท่ีตรงนีๆ้ ก็ตอ้ งไดท้ นทกุ ขท์ รมานตน ทาํ ไป เพราะเคยเหน็ ผล
อย่างนี้

น่ีละการประพฤติปฏิบตั จิ งึ ตอ้ งใชอ้ บุ ายหลายแงห่ ลายทาง
ไม่สกั แตว่ า่ เดนิ จงกรมแลว้ ก็เดินไปเฉยๆ ไม่ไดค้ าํ นงึ ถงึ เหตถุ ึงผล
วา่ ไดผ้ ลมากนอ้ ยเพียงไร เดนิ สกั แตเ่ ป็นกิรยิ า ใชไ้ ม่ได้ ตอ้ งเอา

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 38

ใหจ้ รงิ ใหจ้ งั สตแิ นบอย่กู บั จติ นีแ้ ลคือผรู้ กั ษาจิต สตเิ ป็นสาํ คญั
ปัญญาเป็นผใู้ ครค่ รวญเหตผุ ลดีช่วั ประการตา่ งๆ

ธรรมสองอย่างนีเ้ ป็นสาํ คญั วริ ิยะ คือความเพียร น่ีเป็น
เคร่อื งสนบั สนนุ อุตสาหะพยายาม ความอดความทน ความพอ
อกพอใจเป็นเคร่อื งสนบั สนนุ แตท่ ่ีจะจดจอ่ ตอ่ เน่ืองกนั เพ่ือ
ทาํ ลายกิเลสแลว้ สตปิ ัญญาเป็นสาํ คญั มาก เราไม่เห็นอนั ใดท่ี
จะมีคณุ คา่ ย่ิงกวา่ สติปัญญาในการปราบปรามกิเลส แมต้ งั้ แต่
ขนั้ ตน้ ๆ สตปิ ัญญาก็มีความจาํ เป็นอย่เู ชน่ นนั้ จนกระท่งั ถึงวาระ
สดุ ทา้ ย เอาลงไป คาํ วา่ วาระสดุ ทา้ ยคืออะไร ถึงขนั้ กิเลส
ละเอียด ถงึ ขนั้ ธรรมละเอยี ด สติปัญญาตอ้ งละเอยี ดไปตาม
กิเลสไมอ่ ยา่ งนนั้ ไมท่ นั กนั

ใครจะวา่ กิเลสมนั โงเ่ ม่ือไร กิเลสจอมฉลาดจงึ ไดค้ รองไตร
ภพนี้ สตั วโ์ ลกเกิดตายอยนู่ ีเ้ พราะอาํ นาจของกิเลสทงั้ นนั้ ไม่ใช่
เพราะอาํ นาจของอะไร ถา้ กิเลสไม่แหลมคมเหนือกวา่ สตั วโ์ ลก
ใครจะไปเช่ือ ใครจะไปยอมจาํ นนกบั กิเลส เพราะก็ทราบแลว้ วา่
กิเลสเป็นภยั เหตใุ ดจงึ ไมท่ ราบในขณะท่มี นั กลอ่ ม ก็เพราะ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 39

อบุ ายของเรา สติปัญญาของเราไม่ทนั มนั น่นั เอง จงึ จาํ ตอ้ งยอม
จาํ นนมนั ไปโดยไม่รูส้ กึ ตวั

น่ีเวลาสตปิ ัญญาเราผลติ ขนึ้ มาๆ ทนั กเิ ลสประเภทนีแ้ ลว้
ตอ่ ไปก็ทนั กิเลสประเภทนนั้ เหน็ โทษของกิเลสประเภทนี้ เหน็
เลห่ เ์ หล่ยี มของกิเลสประเภทนี้ แกเ้ ลห่ เ์ หล่ยี มของกิเลสนีไ้ ปได้
แลว้ แกเ้ ลห่ เ์ หล่ยี มของกิเลสประเภทนนั้ ไดโ้ ดยลาํ ดบั และฆา่ ได้
โดยลาํ ดบั ดว้ ย เร่อื ยไปๆ จนกระท่งั เอาพดู กนั ใหถ้ ึงเหตถุ งึ ผลถงึ
อรรถถงึ ธรรม ฟาดกนั ไปถงึ ขนั้ มหาสติ มหาปัญญาแลว้ เอาละ
ท่ีน่ีนา

คาํ วา่ มหาสติ มหาปัญญา หมายถงึ สตปิ ัญญาอตั โนมตั ิ
หมนุ ตวั เป็นเกลียวอยตู่ ลอดเวลา ไมม่ ีคาํ วา่ ยืน วา่ เดิน วา่ น่งั วา่
นอน เวน้ แตข่ ณะหลบั เท่านนั้ นอกนนั้ สตปิ ัญญานีจ้ ะตอ้ ง
ทาํ งานอยตู่ ลอดเวลา จนถงึ กบั ไดย้ บั ยงั้ เอาไวไ้ ม่เช่นนนั้ จะเลย
เถิด ดงั ทา่ นกลา่ วไวใ้ นธรรมสงั โยชนเ์ บือ้ งบนวา่ อุทธัจจะ
ความฟงุ้ ความฟงุ้ ซา่ นราํ คาญ อทุ ธจั จะนหี้ มายถงึ ความเพลนิ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 40

ในงานของตน ไมใ่ ช่อทุ ธจั จกกุ กจุ จะ แบบนิวรณห์ า้ ซง่ึ มีอย่ใู น
สามญั ชนท่วั ไป

อทุ ธจั จะนีเ้ ป็นสงั โยชนเ์ บือ้ งบน จะตดั ไดด้ ว้ ยอรหตั มรรค
เทา่ นนั้ ทา่ นผทู้ ่ีดาํ เนินอรหตั มรรคจะเป็นผทู้ ่ีเพลดิ เพลนิ ในธรรม
ขอ้ นี้ จงึ เรยี กวา่ อทุ ธจั จะ ความเพลนิ เกินตวั ก็ไม่ถกู นะ น่นั ถา้
จะพดู เป็นการเตอื นก็บอกวา่ ความเพลิดเพลนิ เกินไปไมถ่ กู นะ
งานแมจ้ ะไดเ้ พราะการกระทาํ ก็จรงิ แตก่ ารกระทาํ งานทงั้ หลาย
นนั้ ย่อมมีการพกั ผ่อนเป็นธรรมดา พกั ผอ่ นนอนหลบั พกั ผอ่ น
รบั ประทานอาหาร แมแ้ ตร่ ถว่ิงไปตามถนนยงั ตอ้ งเตมิ นา้ํ มนั ไม่
เติมไมไ่ ด้

ผลจะไดเ้ พราะการทาํ งานก็จรงิ แตเ่ ม่ือทาํ ไปจนหมดกาํ ลงั
แลว้ ผลของงานจะไดม้ าจากไหน น่ีสตปิ ัญญาเม่ือหมนุ ตวั เป็น
เกลียวตลอดเวลา ไมพ่ กั ผอ่ นหย่อนตวั บา้ งเลยก็เหน่ือย จติ
เหน่ือยเม่ือยลา้ จงึ ตอ้ งพกั ในวงสมาธิ ท่านบอกใหเ้ ขา้ พกั ใน
สมาธิเสีย ใหจ้ ติ มีความสงบ พอไดร้ บั ความสงบแลว้ จติ มีกาํ ลงั
ออกพิจารณา เช่นเดียวกบั คนท่ที าํ งานจนจิตเหน่ือยเม่ือยลา้

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 41

แลว้ ก็มาพกั ผอ่ นนอนหลบั มารบั ประทานอาหารให้
สะดวกสบาย ถงึ เวลาจะเสยี ไป อาหารการบรโิ ภคเหลา่ นนั้ จะ
เสยี ไปก็ตาม แตไ่ ดก้ าํ ลงั ขนึ้ มาเพ่ือการงานตอ่ ไปอกี และเพ่ือ
เพ่มิ ผลแหง่ งานขนึ้ โดยลาํ ดบั ไปอกี เพราะการพกั ผ่อนและการ
รบั ประทานนนั้

น่ีการพกั ผ่อนในสมาธิจะเสยี เวล่าํ เวลาบา้ งไม่เป็นไรเพราะ
กาํ ลงั ชารจ์ พดู ง่ายๆ ชารจ์ แบตเตอร่ที างดา้ นจิตใจ ใหจ้ ติ มี
ความสงบ ในขณะท่ีพกั ตอ้ งพกั จรงิ ๆ ไมย่ ่งุ กบั สติปัญญาใดๆ
ทงั้ สนิ้ ใหพ้ กั สงบตวั พอออกจากการพกั แลว้ จิตจะมีกาํ ลงั วงั ชา
สติปัญญาแหลมคม กิเลสตวั นนั้ แล สติปัญญาประเภทท่ีเคยแก้
กิเลสนีแ้ ล ใสเ่ ขา้ ไปขาดสะบนั้ ๆ เพราะกาํ ลงั สติปัญญามีมาก
เน่ืองจากไดพ้ กั ผอ่ นอยา่ งสะดวกสบายแลว้ น่ีวิธีการดาํ เนนิ

เม่ือถงึ ขนั้ นีแ้ ลว้ ความขีเ้ กียจขีค้ รา้ นหายหนา้ ไปหมด
นอกจากไดร้ งั้ เอาไวเ้ ทา่ นนั้ เพราะเหตไุ ร ความเหน็ โทษกถ็ งึ ใจ
นอนใจไดย้ งั ไง ความเหน็ คณุ ก็ถงึ ใจ เหน็ โทษแหง่ กิเลสทกุ
ประเภท เห็นอย่างถึงใจเหน็ อย่างซงึ้ เหน็ อยา่ งนา่ เข็ดนา่ หลาบ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 42

เห็นอย่างนา่ กลวั คนเราเม่ือกลวั แลว้ อยไู่ ดย้ งั ไง ท่ีไหนจะเอาตวั
รอดไดต้ อ้ งเผ่น ท่ีไหนเหน็ วา่ จะพน้ ภยั ตอ้ งเผ่นไปท่ีน่นั น่ีจิตเหน็
วา่ จะพน้ ภยั ดว้ ยวธิ ีไหนก็ตอ้ งโดดออก จะพน้ ภยั ดว้ ยวธิ ีตอ่ สกู้ บั
กิเลสก็ตอ่ สู้ เหมือนท่ีตอ่ สดู้ ว้ ยปัญญา

ความเหน็ คณุ แหง่ ความพน้ ทกุ ข์ เพราะธรรมอศั จรรยท์ ่ี
ปรากฏอย่ใู นใจตามลาํ ดบั ลาํ ดาแมจ้ ะไม่ถงึ ขนั้ อศั จรรยเ์ ต็มภมู กิ ็
ตาม ขนึ้ ช่ือวา่ ธรรมแลว้ ย่อมเป็นของแปลก ของอศั จรรยอ์ ยู่
ภายในจิตใจนนั้ แลว้ นนั้ แลเป็นสง่ิ ท่ีมีคณุ คา่ อย่ภู ายในใจอยู่
แลว้ และเป็นเคร่อื งสนบั สนนุ ใหม้ ีกาํ ลงั ใจเพ่ิมขนึ้ ท่ีจะประพฤติ
ปฏบิ ตั วิ า่ ใหพ้ น้ เทา่ นนั้ ไมพ่ น้ ก็ใหต้ ายเทา่ นนั้ คาํ วา่ ถอยมีไมไ่ ด้
แลว้

น่ีสติปัญญาอตั โนมตั เิ ป็นอยา่ งนนั้ ในครงั้ พทุ ธกาลทา่ นวา่
มหาสติ มหาปัญญา คือ หมนุ ตวั เป็นเกลยี วอย่ตู ลอดเวลา
อตั โนมตั ิ ไมม่ ีคาํ ท่ีวา่ บงั คบั บญั ชานอกจากรงั้ เอาไว้ เพราะจะ
เป็นอทุ ธจั จะ คอื ฟงุ้ เกนิ ไป เพลินกบั การกบั งานการพิจารณา
คน้ ควา้ จนเกนิ เนือ้ เกินตวั แลว้ ไมไ่ ดผ้ ลเทา่ ท่ีควร จงึ ตอ้ งให้

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 43

พกั ผอ่ นภายในสมาธิเสยี เม่อื มีกาํ ลงั แลว้ จงึ พจิ ารณาลงไป
จนกระท่งั ทะลปุ รุโปรง่ ไปหมด

น่ี อทุ ธจั จะ คอื ความฟ้งุ ของจิต มานะ ความถือความรูท้ ่ี
เต็มไปดว้ ยอวชิ ชาน่นั เอง จะเป็นอะไร เอาใหม้ นั ถงึ น่นั ซิ ท่ีกลา่ ว
มาทงั้ หมดนีเ้ ป็นของปลอมเม่ือไร มีอย่กู บั นกั ปฏบิ ตั ิ ฝึกใหไ้ ด้ จติ
เป็นสิ่งท่ีฝึกได้ ฝึกไม่ไดพ้ ระพทุ ธเจา้ ดไี ม่ได้ เป็นศาสดาเอกไมไ่ ด้
ลว้ นแลว้ แตฝ่ ึกมาทงั้ นนั้ จติ เป็นสมบตั ิของเรา ไม่ใชส่ มบตั ขิ อง
ใคร เราเป็นผรู้ บั ผิดชอบภายในจิตของเรา เป็นก็เรา ตายก็เรา
สขุ ก็เราทกุ ขก์ เ็ รา รบั ทงั้ นนั้ เม่ือเป็นเชน่ นนั้ เราจะปลอ่ ยใหก้ ิเลส
เหยียบย่าํ ทาํ ลายเจา้ ของอยตู่ ลอดไป สมควรแลว้ เหรอ ตอ้ งเอา
ใหจ้ รงิ ใหจ้ งั นกั ปฏิบตั ิ

อย่ามองอะไรย่งิ กวา่ ใจซง่ึ เป็นสถานท่ีเกิดเหตุ มหาเหตอุ ยทู่ ่ี
น่นั โรงผลติ งานของกิเลสประเภทตา่ งๆ อยทู่ ่ีน่นั แลว้ ใน
ขณะเดยี วกนั โรงผลติ อรรถผลิตธรรมก็อย่ทู ่ีน่นั เอา แยกแยะกนั
เขา้ ไป จติ นีเ้ ป็นตวั สาํ คญั มาก เอาใหถ้ งึ เหตถุ งึ ผล จิตนีเ้ ป็น
เหมือนนกั โทษ ธรรมเป็นเคร่อื งแกป้ ลดเปลือ้ ง กิเลสเป็นเจา้

จดั ทาํ โดยทมี งาน กรุธรรม 44

อาํ นาจบงั คบั บญั ชาจติ ใจ แกล้ งไปๆ เม่ือแกล้ งไปไดม้ ากนอ้ ยจิต
จะดดี ขนึ้ มาๆ โดยลาํ ดบั ลาํ ดา จนกระท่งั แกไ้ ดห้ มดโดยสิน้ เชิง
ไม่มีส่งิ ใดเหลอื แลว้ นนั้ แลความหมนุ ตวั เป็นเกลียว อย่ดู ว้ ย
ความพากความเพียรโดยวธิ ีการตา่ งๆนนั้ ก็เหมือนกนั กบั นกั รบ
เม่ือไดช้ ยั ชนะเต็มท่ีแลว้ การรบพงุ่ ชิงชยั ท่ีเป็นไปทงั้ วนั ทงั้ คืนนนั้
ก็ยตุ กิ นั ลง

น่ี สติปัญญากบั กิเลสเม่ือไดฟ้ าดฟันห่นั แหลกกนั ลงไป
จนกระท่งั ไมม่ ีกิเลสตวั ใดมาตอ่ กรแลว้ เรอ่ื งความหมนุ ตวิ้ ๆ อยู่
ดว้ ยสตปิ ัญญานีก้ ห็ มดหนา้ ท่ีไป เหลือแตค่ วามบรสิ ทุ ธิล์ ว้ นๆ
เอา้ อยไู่ หนอยเู่ ถอะท่ีน่ี ไมม่ กี าลไมม่ ีสถานท่ี ไมย่ ่งุ กบั อดตี วา่
เคยเป็นมาอยา่ งไร ไมย่ งุ่ กบั อนาคตวา่ จะไปเกิดเป็นอะไรตอ่ ไป
อีก ปัจจบุ นั ก็รูเ้ ทา่ ไมย่ ดึ ม่นั ถือม่นั ในความรูค้ วามเป็นของตน
ตา่ งอนั ตา่ งจรงิ ทกุ สดั ทกุ สว่ น จติ ก็จรงิ ตามจิต จรงิ ในหลกั
ธรรมชาติ จรงิ ในความประเสรฐิ ของตน เมอื งพออยทู่ ่ีน่ี พอ
หมดแลว้ ทกุ สงิ่ ทกุ อย่าง เลยคลายไปหมด ไมม่ ีส่งิ ใดเหลอื แลว้
นนั้ แลคือผลแหง่ การประพฤตปิ ฏิบตั ิ

จดั ทาํ โดยทีมงาน กรุธรรม 45


Click to View FlipBook Version