วิเคราะห์หนังสือเรียนรายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

วิเคราะหห์ นงั สอื เรียนรายวชิ าภาษาไทย
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑

ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

โดย
นายกมั พล พรมมา

การวิเคราะห์หนังสอื เรยี นรายวิชาภาษาไทยนเี้ ปน็ ส่วนหนึง่ ของรายวิชา ED1033 ววิ ัฒนาการแบบเรยี นไทย
หลักสตู รศกึ ษาศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย
มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตอีสาน
ปีการศึกษาศกึ ษา ๒๕๖๕

คำนำ

การวิเคราะห์หนังเรียนรายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เล่มนี้เป็นรายงานการวิเคราะห์
หนังสือเรียนรายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ED1033 วิวัฒนาการแบบเรียนไทย โดยรายงานเล่มนี้มี
วัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกฝึกวิเคราะห์หนังสือเรยี นรายวิชาภาษาไทยกบั หลักสูตรแกนกลางข้นั
พืน้ ฐานพทุ ธศักราช ๒๕๕๑ โดยม่งุ หวังให้เกิดความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ เจตคติ และประสบการณ์เกี่ยวกับ
การจดั การเรยี นร้ใู นการประกอบวิชาชีพครู ผู้รายงานไดเ้ รยี บเรยี งผลของการทำงานเป็นทั้งหมดจำนวน ๕ บท
ได้แก่ บทที่ ๑ องค์ประกอบภายนอกของแบบเรียน, บทที่ ๒ องค์ประกอบภายในของแบบเรียน, บทที่ ๓
วิเคราะห์ความสอดคล้องของเนอ้ื หากบั หลกั สูตร (ตวั ชี้วัด), บทท่ี ๔ วเิ คราะห์ความสอดคลอ้ งกับกิจกรรมและ
การประเมินผลของ Benjamin Bloom, และ บทที่ ๕ วิเคราะห์ขอ้ ดีและข้อบกพร่องของแบบเรียน

หวงั วา่ รายงานเล่มน้ี จะเป็นประโยชนต์ ่อผู้ศกึ ษาแนวทางการเรยี นวิชาชีพครู อยา่ งไรก็ดีอาจจะมีส่วน
ทีไ่ มค่ รบสมบรู ณอ์ ยบู่ ้าง ผู้จัดทำรายงานขอนอ้ มรับคำแนะนำดว้ ยความเคารพยิง่

นายกมั พล พรมมา
ผจู้ ัดทำรายงาน

สารบญั หนา้

เรือ่ ง ก
ข
คำนำ ๒
สารบัญ ๒
บทที่ ๑ องค์ประกอบภายนอกของแบบเรยี น ๓
๓
๑.๑ ขอ้ มูลทวั่ ไปของแบบเรียน ๔
๑.๒ ปกหนงั สือ ๔
๔
๑.๒.๑ ปกหน้าด้านนอก ๖
๑.๒.๒ ปกหนา้ ดา้ นใน ๗
๑.๒.๓ ปกรอง ๗
๑.๒.๔ ใบปกรองดา้ นหนา้ ๘
๑.๒.๕ ปกรองดา้ นหลัง ๘
๑.๒.๖ ปกหลังดา้ นใน ๘
๑.๒.๗ ปกหลัง ๘
บทที่ ๒ องคป์ ระกอบภายในของแบบเรียน ๙
๒.๑ การวิเคราะห์เนอ้ื หาแบบเรยี น ๙
๒.๒ รูปแบบการจดั แบ่งเนื้อหาแบบเรยี น ๙
๒.๓ ความถูกต้องเน้ือหา ๒๙
๒.๔ ภาพประกอบ ๓๖
๒.๕ ด้านการใชภ้ าษา ๔๔
๒.๖ ความเหมาะสมตอ่ การเรยี นรู้ของผ้เู รยี นและการจดั การเรยี นรู้ของครู
บทท่ี ๓ วเิ คราะหค์ วามสอดคล้องของเนื้อหากบั หลักสูตร (ตวั ชว้ี ัด)
บทที่ ๔ วเิ คราะหค์ วามสอดคล้องกบั กจิ กรรมและการประเมินผลของ Benjamin Bloom
บทที่ ๕ วิเคราะหข์ อ้ ดแี ละข้อบกพร่องของแบบเรียน

๑

วิเคราะหห์ นังสือเรียนรายวชิ าภาษาไทย
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ “วรรณคดีลำนำ”
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

องค์ประกอบในการวิเคราะหห์ นงั สือเรียนรายวชิ าภาษาไทยประกอบไปด้วย
๑. องค์ประกอบภายนอกของแบบเรยี น ไดแ้ ก่ ข้อมลู ทั่วไปของแบบเรยี น ปกหนังสือ สนั หนงั สือ รอง
ปก ส่วนประกอบท่ีสำคัญของหนังสอื แนวทางการใช้แบบเรียน การพิมพต์ ัวอักษรและสีสนั การจัด
ระเบียบการพมิ พ์ ภาพประกอบ กระดาษและการเข้าเล่มและราคา
๒. องค์ประกอบภายในของแบบเรยี นไดแ้ ก่ การวิเคราะหเ์ นือ้ หาแบบเรียน รปู แบบการจัดแบ่งเน้ือหา
แบบเรียน ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา ภาพประกอบ การใชภ้ าษา ความยากง่ายของเนอื้ หา
๓. วิเคราะหค์ วามสอดคลอ้ งของเนือ้ หากับหลกั สูตร (ตัวชีว้ ัด)
๔. วิเคราะห์ความสอดคล้องกับกิจกรรมและการประเมินผลของ Benjamin Bloom
๕. วเิ คราะห์ขอ้ ดแี ละข้อบกพร่องของแบบเรยี น

๒

๑. องคป์ ระกอบภายนอกของหนงั สอื เรียน
๑.๑ ขอ้ มูลทั่วไปของแบบเรียน

หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต “วรรณคดีลำนำ” ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ องค์การค้าของ สกสค.
พมิ พ์ทโ่ี รงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว

ขนาดของหนงั สอื : กวา้ ง ๗.๕ น้วิ ยาว ๑๐.๒๕ นวิ้
จำนวนหน้า : จำนวนหนา้ เนอื้ หา ๗๘ หนา้
ชนดิ ของกระดาษที่ใช้ : กระดาษแขง็ อารต์ มัน

เน้อื หาใช้ : กระดาษฟอกขาว
ลักษณะการเขา้ เล่ม : ใช้วธิ กี ารเขา้ เล่มดว้ ยการเย็บเลม่ แบบสนั กาว เรียบร้อย แขง็ แรง

๓

๑.๒ ปกหนงั สือ
๑) ปกดา้ นนอก

รายวชิ า
ตรา

ชอื่

รปู ภาพ

ระดับชั้

กลมุ่

หลกั สูตร ราคา

ปกดา้ นนอกของหนังสอื เรียน วรรณคดลี ำนำ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ มกี ารพมิ พ์หลากหลายสี
จัดพมิ พด์ ว้ ยกระดาษอาร์ตมัน มีรปู ภาพเป็นภาพแมน่ กกำลังปอ้ นอาหารลูกนกอย่ใู นรังบนตน้ ไม้ รอบข้างเต็มไป
ด้วยหมบู่ ้านและปา่ ไม้ที่อุดมสมบรู ณ์

สว่ นบนของปกจะบอกข้อมูลเบ้ืองต้นของหนงั สือโดยประกอบไปดว้ ย ชือ่ หนังสือท่ีมีตัวสีขาว
ขนาดเล็กบอกรายวิชาที่เก่ยี วขอ้ งกับหนงั สือทีร่ ะบไุ ว้ว่า “หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือ
ชีวิต”และมีตัวหนังสือขนาดใหญ่บอกชื่อหนังสือลักษณะเป็นสีขาวและสีเหลืองซึ่งตัดกับสีฟ้าพื้นหลังเพื่อให้
มองเห็นชัดเจนและเป็นที่สะดุดตา โดยระบุไว้ว่า “วรรณคดีลำนำ” โดยถัดลงมาด่านล่างของหนังสือเป็นชื่อ
ระดบั ชัน้ ด้วยตวั อกั ษรสนี ้ำเงินขอบตัวอกั ษรสขี าวโดยมขี อ้ ความระบุคือ “ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่” “กลุ่มสาระการ
เรยี นรู้ภาษาไทย” “ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑” และเลข ๑ เป็นสีเหลอื ง
โดยระบุไว้ว่า “ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ” สามารถมองเห็นได้ชัดเจนและเป็นที่สะดุดตาเพราะตัดกับสีขาวพน้ื
หลังของหนังสือ

สรุปโดยรวมแล้วหน้าปกมีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีตัวหนังสือขนาดใหญ่ มี
รูปภาพทนี่ า่ สนใจส่ือถงึ หนังสือทจี่ ะเรียน และมีสีสนั ท่นี า่ เรยี นทำให้มองเหน็ ชัดเจนสามารถดงึ ดูดสำหรับผู้เรียน
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ใหส้ นใจ สำหรบั ขอ้ มลู หน้าปกเป็นขอ้ มูลทีร่ ะบุไว้อย่างครบถ้วน ไม่ขาดองค์ประกอบใด
ๆ ขนาดตวั อักษรมกี ารจัดขนาดตามความสำคญั

๒) ปกหนา้ ด้านใน เป็นหน้าว่าง ๔
๓) ปกรอง ประกอบดว้ ยขอ้ มูลคลา้ ยคลึงกับปกหน้า ดงั นี้
ตราครฑุ
รายวิชา ระดบั ชน้ั
กลุ่มสาระ
ชอ่ื หนงั สือ

หลักสูตร

รูปภาพ

สังกดั

๑. ตราครุฑ
๒. รายวิชา : หนงั สอื เรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย
๓. ชื่อหนังสอื : วรรณคดีลำนำ
๔. ระดับชนั้ : ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑
๕. กลุ่มสาระ : กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
๖. สังกดั : สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
๗. รูปภาพ
๘. หลกั สูตร : ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๕

๑. ช่อื แบบเรยี น : หนงั สือเรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย
๒. ระดบั ช้ัน : ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑
๓. กลมุ่ สาระการเรียนรู้ : ภาษาไทย
๔. หลักสูตร : ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
๕. ชื่อผู้ถอื ลขิ สิทธ์ิ : สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน
๖. ท่ีอยู่ผู้ถือลขิ สทิ ธ์ิ : กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ถนนราชดำเนนิ เขตดสุ ิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐
๗. เบอรโ์ ทรศพั ท์และโทรสารผถู้ ือลิขสทิ ธ์ิ : ๐ ๒๖๒๘ ๕๓๔๓
๘. ตัวเลขประจำหนังสอื สากล : ISBN ๙๗๘-๙๗๔-๐๐-๑๒๗๕-๗
๙. จำนวนครง้ั ที่พมิ พ์ : พมิ พค์ รง้ั ทีห่ นึง่ พ.ศ. ๒๕๕๒
๑๐.จำนวนเลม่ ที่พมิ พ์ : จำนวน ๘๐๐,๐๐๐ เล่ม
๑๑.ช่ือสำนกั พิมพ์ : องคก์ ารค้าของสกสค. โรงพมิ พ์ สกสค.ลาดพร้าว
๑๒.ทตี่ ้งั สำนักพมิ พ์ : ๒๒๔๙ ถนนลาดพร้าว แขวงทองหลาง เขตวดั ทองหลาง กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๑๐
๑๓.เบอร์โทรศัพทส์ ำนกั พมิ พ์ : ๐ ๒๕๓๘ ๓๐๓๓ , ๐ ๒๕๑๔ ๔๐๓๓
๑๔.เบอร์โทรสารสำนกั พิมพ์ : ๐ ๒๕๓๘ ๔๑๒๑
๑๕.แหลง่ ข้อมลู อเิ ล็กทรอนิกส์ : www.suksapan.or.th

๖

๕) ปกรองด้านหลงั

ประกอบด้วยรายชื่อคณะผู้จัดทำหนังสือเรียน และอีกหน้าหนึง่ เป็นใบอนญุ าตให้ใช้ส่ือการเรียน
รปู ในสถานศึกษา ซึ่งเป็นองค์ประกอบท่ีจำเป็นต้องมีสำหรับหนังสือเรยี น จึงจะสามารถนำมาใช้ในโรงเรียนได้
โดยแสดงเนือ้ หา ในใบอนญุ าตไวอ้ ย่างชัดเจน ทำใหแ้ บบเรยี นเลน่ น้ีน่าเชอ่ื ถือ

๗

๖) ปกหน้าดา้ นใน เป็นหนา้ ว่าง
๗) ปกดา้ นหลัง ใชก้ ระดาษอาร์ตมนั ชนิดเดียวกันเหมอื นกับปกด้านหน้า พิมพ์เป็นสีชมพูเต็ม
แผ่นและมรี ปู ภาพอยกู่ ่งึ กลางหน้าปก

๑. รหสั ราคา และตัวเลขแสดงจำนวนราคากำกบั : รหัสราคา ๙ ๗๘๙๗๔๐ ๐๑๒๗๕๗ และราคา ๓๑ บาท
๒. ชอื่ และทอี่ ยสู่ ำนักพิมพ์ : ศกึ ษาภัณฑ์พาณิชย์ โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว
๓. ช่ือผูพ้ ิมพแ์ ละผู้โฆษณา : นายชินภัทร ภมู ริ ัตน์
๔. ตราสำนกั พิมพ์ :
๕. ตราสำนักพมิ พ์เว็บไซตส์ ำนกั พมิ พ์ : www.suksapan.or.th

๘

๒. องค์ประกอบภายในของแบบเรียน

๒.๑. การวเิ คราะห์เน้ือหาแบบเรยี น

เนอ้ื หาแบบเรียนแบง่ เปน็ บทนำจำนวน ๑ บท และแบง่ เป็นเนอื้ หาจำนวน ๘ บท ดงั น้ี

บทที่ ๑ เจ้าเนื้อออ่ น เอย

๑) บทวเิ คราะห์
การนำสู่เขา้ บทเรยี นมีกลา่ วเป็นคำพดู ระหว่างแมแ่ ละลูกที่มีความรกั ซ่ึงกันและกนั และส่ิงทีแ่ ม่
ปฏบิ ัติต่อลกู ทกุ วัน ที่อยใู่ นเลม่ วรรณคดลี ำนำ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ ดงั นี้

ฉัน รัก แม่
แม่ รัก ฉนั
ก่อน นอน ทกุ วนั
แม่ ร้องเพลง ให้ ฟัง
จากนนั้ เป็นการเช่ือโยงเข้าสูเ่ น้ือหาโดยชี้ให้เหน็ ถงึ ความรักระหว่างแม่และลกู ผา่ นเพลงกล่อม
เด็ก ๒ เพลง คือเพลงเจ้าเนือ้ ละมนุ และเพลงเจา้ เนอื้ อ่อน
เพลงเจ้าเนอื้ ละมนุ
เจา้ เนือ้ ละมุน เอย
เก็บ ดอก พกิ ุล บ้าน เย็น
ให้ แม่ ทอง ขา้ เลน่
เน้อื เย็น แม่ คน เดยี ว เอย
เพลงเจา้ เนอ้ื ออ่ น
เจา้ เนอ้ื อ่อน เอย
ออ้ น แม่ จะ กิน นม
แม่ อุม้ เจ้า ออก ชม
กนิ นม แลว้ นอน เปล เอย
๑.๑) อ่านให้เป็นจังหวะจึงจะเห็นความไพเราะ จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก ความห่วงใย
ระหวา่ งแม่กบั ลกู ในรูปแบบเพลงกลอ่ มลูก และวธิ กี ารอ่านใหไ้ พเราะจะตอ้ งอา่ นแบบทำนองเสนาะ
๑.๒) ขอ้ คดิ ทีไ่ ด้เพลงเจ้าเนอื้ ละมุน และ เพลงเจ้าเนื้อออ่ น ความรกั ของแมท่ ี่มีต่อลูก เห็นได้
จากเมอื่ ลูกร้องจะกินนม แมก่ ็อมุ้ ออกมาจากเปลแล้วใหก้ ินนมจากอก เมื่อลกู อ่มิ แล้วกน็ ำไปนอนเปลต่อ
๑.๓) คำศพั ท์ที่ได้จากเร่ือง แม่ หมายถึง หญงิ ผใู้ ห้กำเนดิ หรือเลี้ยงดูลกู

กิน หมายถงึ เค้ียว ทำใหล้ ว่ งลำคอไปสกู่ ระเพาะ
อุ้ม หมายถึง โอบยกขึ้น ยกข้นึ ไวก้ ับตัว
นอน หมายถึง เอนตัวลงกบั พน้ื หรอื ทีใ่ ดๆ
เปล หมายถึง เครือ่ งสำหรับนอน ใช้ไกวหรือโยก

๙

๑.๔) ชวนคิด อ่าน เขียน เรียน ร้อง เล่น จะมีเนือ้ หาเกีย่ วกับกิจกรรมการเรียนรู้บุคคลสำคญั
ต่าง ๆ ท่ีอยู่รอบตัวของเรียนยังมีการส่งเสียง ทำท่า ร้อง ฯลฯ เกี่ยวกับอารมณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อผู้เรียน
ส่วนมากจะเปน็ กิจกรรมเน้นการปฏิบัติกบั เพอื่ นรว่ มช้ันเรียน

๑.๕) ด้านภาพประกอบ
๕.๑ จำนวน ๕ ภาพ
๕.๒ ขนาด กวา้ งไม่เกนิ ๗.๕ น้ิว ยาวไมเ่ กิน ๑๐.๒๕ นว้ิ
๕.๓ คำอธิบายภาพ ไม่มคี ำอธบิ าย
๕.๔ สี พิมดว้ ยสีทีห่ ลากหลาย คมชดั โดดเด่น ดงึ ดดู ความสนใจ
๕.๕ ความสอดคลอ้ งภาพกบั เนอื้ หา สอดคล้องกับบทเพลงเจา้ เน้อื ละมนุ เจา้ เนื้อออ่ น

๑๐

บทท่ี ๒ มา เลน่ กนั ไหม

๑) บทวเิ คราะห์
การนำสเู่ ขา้ บทเรียนมีรปู ภาพการละเล่นไทยคอื “มอญซ่อนผ้า” เป็นภาพทีด่ งึ ดูดใหผ้ เู้ รยี น
สนใจและสอดคลอ้ งกบั ช่อื บทเรยี นบทที่ ๒ จากนั้นเป็นการโยงเขา้ สู่บทเรยี นด้วยคำพดู เชญิ ชวนมาเล่นบทบาท
สมมติแมไ่ ก่ ลกู ไก่ โดยมดี งั น้ี

มา เล่น กนั ไหม
เลน่ เปน็ ลูกไก่
เดนิ ตาม แม่ ไป
คุ้ย เข่ยี หา กิน
เธอ เปน็ ลกู ไก่
เดิน ตาม กนั ไป
ทำมาหากนิ
จากนั้นเปน็ การเช่อื มโยงเข้าสู่เนื้อหาฝกึ อ่านคำโดยเป็นเพลงร้องเลน่ เปน็ เพลงร้องเล่น บทเพลง
“กุก๊ กุก๊ ไก่” มบี ทเพลง ดังน้ี

กุ๊ก กกุ๊ ไก่
เลย้ี ง ลกู จน ใหญ่
ไม่ มี นม ให้ ลูก กิน
ลกู ก็ รอ้ ง เจีย๊ บ เจย๊ี บ
แม่ ก็ เรยี ก ไป ทค้ยุ ดิน
ทำมาหากนิ
ตาม ประสา ไก่ เอย
จากน้ันเปน็ การโยงเขา้ สู่การอา่ นคำ เป็นพูดเชญิ ชวนการละเล่น “แม่ งู เอ๋ย ” โดยมีดงั นี้

มา เลน่ กนั ไหม
เลน่ เปน็ งู ใหญ่
กนิ นำ บอ่ ไหน
จะ พา ไป กนิ
บอ่ โศก บอ่ หิน
บอ่ ดิน บอ่ ทราย
กนิ แล้ว โยกยา้ ย
บิน ไป ก็ บิน มา

๑๑

จากน้นั เปน็ การโยงเขา้ สู่การอา่ นคำ เป็นเพลงร้องเลน่ ของการละเล่นโดยบทเพลง “แม่ งู เอ๋ย ”
แม่ งู เอ๋ย

กิน นำ้ บ่อ ไหน
กนิ น้ำ บอ่ ทราย
ย้าย ไป ก็ ย้าย มา
กิน น้ำ บอ่ โศก
โยก ไป ก็ โยก มา
กนิ น้ำ บอ่ หิน
บิน ไป ก็ บนิ มา
กนิ หัว กิน หาง
กนิ กลาง ตลอด ตัว
๑.๑) อ่านให้เป็นจังหวะจึงจะเห็นความไพเราะ จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเพลงการละเล่นของ
ไทยในสมยั กอ่ น และเป็นบทเพลงรอ้ งเลน่ การรอ้ งเพลงรอ้ งเลน่ จะร้องแบบร้อยแกว้ ต้องเข้าจังหวะโดยท่ีไม่ช้า
ไม่เรว็ เกนิ ไปถึงจะเกิดความไพเราะ
๑.๒) ข้อคิดที่ได้จากบทเพลงร้องเล่นบทเพลง “แม่ งู เอ๋ย” และ “กุ๊ก กุ๊ก ไก่” เป็นการเรียนรู้
เกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตไก่ โดยนำมาแต่งเปน็ บทเพลงใหผ้เู รยี น เรยี นรไู้ ดง้ ่ายและเขา้ ใจมากขึน้
๑.๓) คำศัพทท์ ่ไี ดจ้ ากเร่ือง ไก่ หมายถึง ช่ือสัตว์ปกี จาํ พวกนก บนิ ไดร้ ะยะสนั้ หากนิ ตามพ้ืนดิน

งู หมายถงึ ชอ่ื สตั ว์เลื้อยคลาน ตัวเรยี วยาว มเี กล็ด ไมม่ ีขา ทม่ี พี ษิ
เล้ียง หมายถึง ดแู ล เอาใจใส่ บาํ รงุ
โยกย้าย หมายถงึ สบั เปลย่ี นไปมา , ย้ายตำแหนง่
๑.๔) ชวนคิด อ่าน เขียน เรยี น รอ้ ง เลน่ เปน็ กิจกรรมเก่ยี วกับการรอ้ งเพลงรอ้ งเล่น ออกเสียง
คำและเป็นการฝกึ กล้ามเนื้อโดยผ่าการเตน้ ตามบทเพลงและการละเลน่ มีการฝึกสมาธิ อารมณ์ การเขยี น โดย
การคัดลายมือของผ้เู รยี น ส่วนมากจะเปน็ กิจกรรมเนน้ การปฏบิ ตั กิ ับเพื่อนรว่ มชัน้ เรียน
๑.๕) ดา้ นภาพประกอบ
๕.๑ จำนวน ๕ ภาพ
๕.๒ ขนาด กวา้ งไมเ่ กนิ ๗.๕ นว้ิ ยาวไมเ่ กนิ ๑๐.๒๕ น้วิ
๕.๓ คำอธิบายภาพ ไม่มคี ำอธิบาย
๕.๔ สี พมิ ดว้ ยสที ีห่ ลากหลาย คมชดั โดดเด่น ดงึ ดดู ความสนใจ
๕.๕ ความสอดคล้องภาพกบั เนื้อหา สอดคล้องกับบทเพลง“แม่ งู เอ๋ย” และ “กกุ๊ กกุ๊ ไก่”

๑๒

บทท่ี ๓ ของ เธอ ของ ฉัน

๑) บทวเิ คราะห์
การนำสู่เขา้ บทเรียนมีรูปภาพการละเล่นไทยอย่หู ลายอย่าง เปน็ ภาพทดี่ ึงดูดให้ผู้เรียนสนใจและ
สอดคล้องกับชื่อบทเรียนบทที่ ๓ จากนั้นเป็นการโยงเข้าสู่บทเรียนด้วยคำพูดการแบ่งของและการอยู่ร่วมกัน
โดยมดี งั นี้

ฉัน เปน็ เพื่อ เธอ
เธอ เปน็ เพอ่ื น ฉนั
เรา เป็น เพ่อื น กนั
คือ ฉัน กบั เธอ
เธอ มี ของเล่น
ฉัน มี ของใช้
เรา แบ่ง กนั ได้
ของ ฉัน ของ เธอ
จากนั้นเป็นการเช่ือมโยงเข้าเนือ้ หาบทเรียนโดยเปน็ บทอาขยาน (บทเลือก) “นี่ ของ ของ เธอ”
(ฉนั ท์ ขำวไิ ล) ดังนี้

น่ี ของ ของ เธอ
นั่น ของ ของ ฉัน
มนั สบั เปล่ียน กัน
ฉนั คนื ให้ เธอ

น่ี ของ ของ เธอ
ที่ ทำ ตก ไว้
ฉนั น้ี เก็บ ได้
นำ มา ให้ เธอ
จากนัน้ เปน็ การโยงเขา้ สู่การฝกึ อ่านบทอาขยานบทเลอื กทส่ี อดคลอ้ งกับเนื้อหาท้ายบทเรียน ดงั น้ี

ฉนั เปน็ เพ่อื น เธอ
เธอ เปน็ เพอื่ น ฉนั
เรา มา แบง่ ปัน
ของ ฉัน ของ เธอ
๑.๑) อา่ นให้เป็นจงั หวะจงึ จะเหน็ ความไพเราะ จะมเี น้ือหาเกี่ยวกับเพื่อนทีอ่ ยูร่ ่วมกัน โดยมีบท
อาขยาย “นี่ ของ ของ เธอ” และ เพลง ขอบใจ จะต้องอา่ นเปน็ แบบบทอาขยานร้อยกรองจงึ จะเกดิ ความไพเราะ
๑.๒) ขอ้ คดิ ทไ่ี ด้จากบทอาขยาย “นี่ ของ ของ เธอ” สอนใหผ้ ู้เรยี นนน้ั มนี ำ้ ใจ เออ้ื เฟอื้ เพ่ือแผ่
แบ่งปัน ตอ่ เพือ่ นท่ีอยู่รว่ มกนั
๑.๓) คำศพั ทท์ ่ไี ด้จากเรือ่ ง เพือ่ น หมายถงึ ผสู้ นิทสนมคนุ้ เคยกัน

แบ่งปนั หมายถึง แบง่ ใหบ้ างสว่ น

๑๓

๑.๔) ชวนคิด อ่าน เขียน เรียน ร้อง เล่น เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการฝึกวิเคราะห์ แยกแยะ
สิ่งของในชวี ติ ประจำวัน ยังมีฝึกตอบคำถามผา่ นบทอาขยายท่ีไดอ้ ่านมากิจกรรมฝึกอ่านออกร้อยกรองทำนอง
เสนาะ เพลง ขอบใจ แตง่ โดย ฉันท์ ขำวิไล ดงั นี้

ขอบใจ เธอ ให้ แก่ ฉนั
พวก เรา แบ่ง กนั
ฉัน ให้ แก่ เธอ
ของกิน ของใช้
ตา่ ง อาศยั กนั
พวก เรา แบง่ ปัน
ฉนั ฉนั เธอ เธอ
ขอบใจ เธอ ได้ ชว่ ย ฉัน
พวก เรา ชว่ ย กัน
ฉนั ได้ ช่วย เธอ
ของ หนกั ก็ เบา
เพราะ เรา ชว่ ย กนั
ด้วย ความผูกพนั
ฉนั ฉัน เธอ เธอ
๑.๕) ด้านภาพประกอบ
๕.๑ จำนวน ๕ ภาพ
๕.๒ ขนาด กวา้ งไมเ่ กิน ๗.๕ นว้ิ ยาวไมเ่ กิน ๑๐.๒๕ นิว้
๕.๓ คำอธิบายภาพ ไมม่ ีคำอธิบาย
๕.๔ สี พมิ ดว้ ยสีท่หี ลากหลาย คมชดั โดดเดน่ ดงึ ดูดความสนใจ
๕.๕ ความสอดคล้องภาพกบั เนอื้ หา สอดคลอ้ งกบั บทอาขยาน “นี่ ของ ของ เธอ”

๑๔

บทที่ ๔ ฝน ตก แดด ออก

๑) บทวเิ คราะห์
นำเขา้ ส่บู ทเรียนดว้ ยรปู ภาพนกกำลังบินเข้ารงั เพือ่ ให้ความสอดคลองกบั ชอื่ บทเรยี นบทท่ี ๔ มีสที ี่
ดงึ ดูดผเู้ รยี นใหส้ นใจและมองเห็นไดช้ ัดเจน จากนัน้ เขา้ สู่บทเรียนด้วยข้อความฝกึ อ่านคำ ดังน้ี

ฉัน ชอบ สายฝน
ร่วง หล่น จาก ฟ้า
ฉนั ชอบ แดด จ้า
ฟา้ สวย สดใส
ฝน ตก แดด ออก
นกกระจอก บนิ ไป
ฟงั เพลง กบั ฉนั ไหม
มา สิ มา ฟงั
จากนนั้ เป็นการเชอ่ื มโยงเขา้ เนอื้ หาบทเรยี นบทท่ี ๔ ชใี้ หเ้ ห็นความมนี ำ้ ใจระหว่างต้นไมก้ บั นก โดยเป็น
บทอาขยาน บทหลัก “ฝน ตก แดด ออก” (ฐะปะนีย์ นาครทรรพ) ดังน้ี

ฝน ตก แดด ออก
นกกระจอก แปลกใจ
โผผนิ บนิ ไป
ไม่ รู้ หนทาง
ไป พบ มะพร้าว
นก หนาว ครวญคราง
พ่ี มะพร้าว ใจ กว้าง
ขอ พัก สัก วัน

ฝน ตก แดด ออก
นกกระจอก พักผอ่ น
พอ หาย เหนื่อย อ่อน
บิน จร ผายผนั
ขอบใจ พี่ มะพร้าว
ถงึ คราว ชว่ ย กนั
น้ำใจ ผูกพนั
ไม่ ลืม บญุ คุณ
จากนั้นเป็นการเชื่อมโยงเข้าเนื้อหาท้ายบทเรียนบทท่ี ๔ โดยให้อ่านเป็นบทอาขยาน “ฝน ตก แดด
ออก” ช้ใี หเ้ หน็ ธรรมชาติหลังฝนตก ผ่านบทอาขยานบทเลอื ก ดังนี้

ฝน ตก แดด ออก
นกกระจอก บิน มา

๑๕

ฟ้า ใส แดด จา้
ตน้ หญา้ เอน ไหว
ร้อง รำ ทำ เพลง
คร้ืนเครง หัวใจ
เธอ ชอบ บ้าง ไหม
มา สิ มา ร้องเพลง
๑.๑) อ่านให้เป็นจังหวะจึงจะเห็นความไพเราะ จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันระหว่าง
ธรรมชาติกับนก บุญคุณของผู้ที่ช่วยเหลือ ความมีน้ำใจ ความผูกพัน และบทอาขยานจะต้องอ่านเป็นแบบบท
อาขยานรอ้ ยกรองจงึ จะเกดิ ความไพเราะ
๑.๒) ข้อคิดที่ได้จากบทอาขยาย “ฝน ตก แดด ออก” สอนให้ผู้เรียนบุญคุณกับผู้ที่มีน้ำใจ
เออ้ื เฟอ้ื เพื่อแผ่ แบ่งปัน ต่อผู้ทช่ี ว่ ยเหลือเรา
๑.๓) คำศัพทท์ ี่ได้จากเรื่อง น้ำใจ หมายถงึ ความจรงิ ใจ

ผกู พนั หมายถึง มคี วามเปน็ ห่วงกังวลเพราะรักใคร่
๑.๔) ชวนคดิ อ่าน เขียน เรียน ร้อง เล่น เป็นกจิ กรรมเก่ยี วกบั การอ่านคำ และเปน็ การเติมคำ
ใหส้ อดคล้องกัน มีกจิ กรรมเลยี นเสียงธรรมชาติผ่านการร้องเพลง “ฉัน รกั สายฝน”

ซ่า ซา่ ซู่ ซู่
ซู่ ซู่ ซา่ ซา่
ซู่ ซู่ ซู่ ซู่
เสยี ง ฝน ตก หนกั
ฉนั รัก สายฝน
๑.๕) ด้านภาพประกอบ
๕.๑ จำนวน ๕ ภาพ
๕.๒ ขนาด กว้างไม่เกนิ ๗.๕ น้วิ ยาวไม่เกนิ ๑๐.๒๕ นิ้ว
๕.๓ คำอธิบายภาพ ไม่มีคำอธบิ าย
๕.๔ สี พมิ ดว้ ยสีทห่ี ลากหลาย คมชดั โดดเด่น ดึงดดู ความสนใจ
๕.๕ ความสอดคลอ้ งภาพกับเนื้อหา สอดคลอ้ งกับบทอาขยาน “ฝน ตก แดด ออก”

๑๖

บทที่ ๕ เรา รัก เมอื ง ไทย

๑) บทวิเคราะห์

การนำสู่เข้าบทเรียนมีรูปภาพวิถีชีวิตของมนุษย์ที่อาศัยตามชนบท เป็นภาพที่ดึงดูดให้ผู้เรียน

สนใจและสอดคล้องกับชื่อบทเรียนบทที่ ๕ จากนั้นเป็นการโยงเข้าสู่บทเรียนด้วยคำพูดโน้มนา้ วใจของผู้เขียน

หนังสอื ให้คนไทยรกั ประเทศชาติและรกั ซึง่ กันและกัน มีดงั นี้

ฉนั เป็น คนไทย

เธอ เป็น คนไทย

เรา รกั กนั ไว้

คนไทย เหมอื น กัน

จะ อยู่ ภาค กลาง

ภาค เหนอื อสี าน ใต้

จะ อยู่ ภาค ไหน

เรา ก็ รกั กัน

เรา รัก ธง ไทย

รกั ประเทศไทย

เรา มี นำ้ ใจ

เอ้ือเฟอื้ ต่อ กนั

มา เถิด มา รอ้ ง

ทำ นอง ไทย ไทย

จด จำ เอา ไว้

อย่า ได้ เกลียด กนั

จากนั้นเป็นการเชื่อมโยงเขา้ เน้ือหาบทเรียนโดยเป็นการอา่ นบทอาขยานแบบร้อยกรองทำนอง

เสนาะ (บทเลอื ก) “รกั เมอื งไทย” (นภาลัย สวุ รรณธาดา) ดังน้ี

คนไทยนี้ดี เปน็ พี่เป็นน้อง

เมอื งไทยเมืองทอง เปน็ ของคนไทย

คนไทยเข้มแขง็ รว่ มแรงร่วมใจ

รกั ชาตยิ งิ่ ใหญ่ ไทยสามัคคี

ธงไทยไตรรงค์ เป็นธงสามสี

ทงั้ สามส่ิงน้ี เป็นท่บี ชู า

สแี ดงคอื ชาติ สขี าวศาสนา

น้ำเงนิ งามตา พระมหากษัตรยิ ไ์ ทย

เรารักเพื่อนบา้ น ไมร่ านรุกใคร

๑๗

เม่ือยามมีภยั รว่ มใจป้องกัน

เรารกั ทอ้ งถิ่น ทำกินแบง่ ปัน

ถ่นิ ไทยเรานัน้ ชว่ ยกันดูแล

จากนัน้ เป็นการโยงเข้าสู่การฝึกอ่านคำท่ีสอดคลอ้ งกับเน้ือหาท้ายบทเรยี น ช้ใี ห้เหน็ วา่ คนไทยน้ัน

ไม่แบ่งชนช้นั เชอื้ ชาติ ทกุ คนมแี ต่รอยยิม้ ให้ซึง่ กันและกัน ดังน้ี

ฉัน เปน็ คนไทย

เธอ เปน็ คนไทย

ย้ิมแย้ม แจ่มใส

ไม่ โกรธ ไม่ เกลยี ด กัน

ฉัน ยมิ้ ให้ เธอ

เธอ ยิม้ ให้ ฉัน

คนไทย ทั้งน้ัน

เรา รกั เมืองไทย

๑.๑) อา่ นใหเ้ ปน็ จงั หวะจึงจะเหน็ ความไพเราะ จะมเี นอ้ื หาเกี่ยวกบั ชาวไทยทอ่ี ยรู่ ่วมกนั โดยมี

บทอาขยาย “รกั เมอื งไทย” จะต้องอา่ นเป็นแบบบทอาขยานรอ้ ยกรองทำนองเสนาะจึงจะเกิดความไพเราะ

๑.๒) ข้อคิดที่ได้จากบทอาขยาย “รัก เมืองไทย” สอนให้ผู้เรียนนั้นได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน

อย่างสงบ มคี วามสขุ ไมแ่ บ่งแยกดินแดนอาณาเขตกนั

๑.๓) คำศพั ทท์ ่ีได้จากเรอ่ื ง ดูแล หมายถงึ เอาใจใส่ ปกปกั รกั ษา ปกครอง

ภยั หมายถงึ สิ่งท่นี า่ กลัว อนั ตราย

๑.๔) ชวนคิด อ่าน เขียน เรียน ร้อง เล่น เป็นกิจกรรมเกีย่ วกบั การฝึกวิเคราะห์ แยกแยะ แต่

ละภูมภิ าคของประเทศไทยวา่ อยสู่ ว่ นใด ยังมีฝึกอ่านและสนทนากบั เพอ่ื นรว่ มหอ้ งและเลา่ เร่อื งจากภาพ

๑.๕) ด้านภาพประกอบ

๕.๑ จำนวน ๖ ภาพ

๕.๒ ขนาด กวา้ งไม่เกิน ๗.๕ นิ้ว ยาวไม่เกิน ๑๐.๒๕ นิ้ว

๕.๓ คำอธิบายภาพ ไมม่ คี ำอธบิ าย

๕.๔ สี พมิ ด้วยสที ห่ี ลากหลาย คมชัด โดดเดน่ ดึงดูดความสนใจ

๕.๕ ความสอดคลอ้ งภาพกับเน้ือหา สอดคล้องกบั บทอาขยาน “รกั เมืองไทย”

๑๘

บทที่ ๖ ตง้ั ไข่ ล้ม ต้ม ไข่ กิน

๑) บทวิเคราะห์

การนำสู่เขา้ บทเรยี นมรี ูปภาพของแม่ไกท่ กี่ ำลงั กกไขท่ ีร่ งั เปน็ ภาพท่ีดึงดดู ให้ผูเ้ รียนสนใจและ

สอดคลอ้ งกบั ชอื่ บทเรยี นบทท่ี ๖ ท่ชี ื่อว่า “ตงั้ ไข่ ล้ม ตม้ ไข่ กนิ ” จากน้ันเปน็ การโยงเขา้ สู่บทเรยี นด้วยคำพูด

โนม้ น้าวใจของผูเ้ ขยี นหนงั สอื ให้ผเู้ รียนนนั้ ตงั้ ใจเรียนภาษาไทย

ก เอย๋ ก ไก่ ข ไข่ ใน เลา้

ไก่ ไข่ ของ เรา น่ารัก มาก มี

แม่ ไก่ ออกไข่ ฟอง ใหญ่ กลม รี

ข ไข่ ฟอง นี้ เรา จะ ทำ อะไร

เอา มา ตัง้ เล่น หกคะเมน กลง้ิ ไป

จะ ทำ ไป ไย หวั ร่อ ขำขัน

ต้ังใจ ขีดเขียน เล่าเรียน อา่ นคำ

เด็ก เอย จด จำ ก ข ก กา

จากนนั้ เปน็ การเชอื่ มโยงเขา้ เนอื้ หาบทเรยี นโดยเป็นการอ่านร้อยกรองทำนองเสนาะบทอาขยาน (บท

เลอื ก) “ต้งั เอ๋ย ต้ังไข”่ (สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ) ทรงนพิ นธ์ไว้ ดงั นี้

ตง้ั เอย๋ ตง้ั ไข่

จะ ต้งั ไย ไข่ กลม ก็ ล้ม ส้ิน

ถงึ วา่ ไข่ ล้ม จะ ต้ม กิน

ถ้า ตก ดิน เสยี ก็ อด หมด ฝีมอื

ตัง้ ใจ เรา นี้ จะ ดี กว่า

อุตสา่ ห์ อ่าน เขียน เรยี น หนงั สือ

ท้ัง วิชา สารพัด เพยี ร หัดปรือ

อย่า ดงึ ด้อื ตง้ั ไข่ รำ่ ไร เอย

จากน้นั เป็นการโยงเข้าสกู่ ารฝกึ อา่ นคำท่สี อดคลอ้ งกับเน้อื หาทา้ ยบทเรียน ชี้ใหเ้ ห็นวา่ การรบั ประทาน

ไข่น้นั มปี ระโยชนต์ ่อสขุ ภาพของตนเองและยังสอนให้ผอู้ ่านนนั้ ต้งั ใจเรียน ดงั นี้

ก ไก่ ข ไข่ ฟอง ใหญ่ นวล ขาว

กิน ไข่ กนิ ขา้ ว กนิ ปู กิน ปลา

กิน ผัก ผลไม้ โต ไว ทนั ตา

เล่า เรียน วิชา วนั หนา้ จะ สบาย

๑.๑) อา่ นใหเ้ ปน็ จงั หวะจึงจะเห็นความไพเราะ จะมเี นื้อหาเกยี่ วกับการเจรญิ เติบโตของมนษุ ย์ โดยมี

บทอาขยาย บทดอกสร้อย “ต้งั เอย๋ ตงั้ ไข่” จะต้องอา่ นเปน็ แบบบทอาขยานรอ้ ยกรองทำนองเสนาะจึงจะเกิด

ความไพเราะ

๑.๒) ข้อคดิ ทไ่ี ด้จากบทอาขยาย “ตัง้ เอย๋ ตง้ั ไข่” สอนให้ผู้เรยี นน้นั ได้จินตนาการไปดว้ ยกับการ

เจรญิ เติบโตของมนษุ ย์

๑๙

๑.๓) คำศพั ท์ทีไ่ ด้จากเรื่อง ดึงดื้อ หมายถงึ ดื้อไมย่ อมฟังเหตุผล
ฝีมือ หมายถึง ความเช่ยี วชาญในการใชม้ ืออย่างมศี ลิ ปะ
อุตส่าห์ หมายถึง อุตสาหะ คือ ความบากบน่ั ความขยัน ความอดทน
สารพัด หมายถึง ท้ังหมด ทงั้ ปวง
เพียร หมายถงึ บากบ่ัน

๑.๔) ชวนคิด อ่าน เขยี น เรียน ร้อง เลน่ เป็นกจิ กรรมเกยี่ วกับฝกึ อา่ นบทอาขยาน บทดอกสรอ้ ย “ต้งั
เอ๋ย ตัง้ ไข่” จากนน้ั เป็นกิจกรรมฝกึ อา่ นแลว้ ตอบคำถามในบทกร้อยกรองทหี่ นังสือกำหนดมาให้และกจิ กรรม
สดุ ท้ายเปน็ การเล่าเร่ืองจากภาพ

๑.๕) ดา้ นภาพประกอบ
๕.๑ จำนวน ๔ ภาพ
๕.๒ ขนาด กว้างไมเ่ กนิ ๗.๕ น้ิว ยาวไมเ่ กิน ๑๐.๒๕ นว้ิ
๕.๓ คำอธิบายภาพ ไมม่ ีคำอธิบาย
๕.๔ สี พิมดว้ ยสีท่หี ลากหลาย คมชดั โดดเด่น ดึงดดู ความสนใจ
๕.๕ ความสอดคล้องภาพกับเนอ้ื หา สอดคลอ้ งกบั บทอาขยาน บทดอกสร้อย “ต้ัง เอ๋ย ต้ังไข”่

๒๐

บทท่ี ๗ แมว เหมียว

๑) บทวิเคราะห์
การนำสู่เข้าบทเรียนมีรูปภาพหญิงสาวให้อาหารแมว เป็นภาพที่ดึงดูดให้ผู้เรียนสนใจและ
สอดคล้องกับช่ือบทเรียนบทท่ี ๗ จากนั้นเป็นการโยงเขา้ สู่บทเรียนด้วยคำพูดทีเ่ ล่าถึงแมวทเี ขาเล้ียงอย่ทู ี่บ้าน
ว่าเป็นอยา่ งไร ดงั น้ี

บ้าน ฉัน มี เพ่ือน
เพ่ือน ฉนั คือ แมว
ฉัน รัก เพอ่ื น ฉนั
เพราะ ฉนั รัก แมว
ฉัน รกั เพื่อน ฉัน
เพราะ ฉัน รกั แมว
มนั สง่ เสียง รอ้ ง
ทำนอง จอง แมว
ร้อง เรยี ก เหมียว เหมยี ว
ฉัน เหลยี ว หา แมว
มัน ไล่ จบั หนู
เพราะ หนู กลวั แมว
ทกุ วัน ทุกวัน
ฉนั คอย เลีย้ ง แมว
กับข้าว กับปลา
หา มา ให้ แมว
ฉัน ชอบ รอ้ งเพลง
ร้อง เพลง ของแมว

เรา อา่ น เรา เขยี น
เรา เรียน เร่ือง แมว
มา เรยี น มา รู้
ดู ตวั อยา่ ง แมว
มา เถิด มา ร้อง
ทำ นอง เพลง แมว
จากน้ันเปน็ การเชอ่ื มโยงกอ่ นเขา้ สู่เขา้ เนือ้ หาบทเรยี นโดยเปน็ บทกล่าวกอ่ นท่องบทอาขยาน ดงั นี้

เรา อา่ น เรา เขียน
เรา เรียน เร่อื ง แมว
มา เรยี น มา รู้
ดู ตัวอยา่ ง แมว

๒๑

มา เถิด มา รอ้ ง
ทำ นอง เพลง แมว
จากนน้ั เป็นการโยงเขา้ สู่เนอ้ื หาการฝึกอ่านบทอาขยานบทหลัก “แมว เอ๋ย แมว เหมยี ว”
(นายทัด เปรยี ญ) ที่สอดคล้องกับเน้ือหาอยู่ทา้ ยบทเรยี น ดังนี้

แมว เอย๋ แมว เหมียว
รปู ร่าง ประเปรียว เปน็ หนกั หนา
รอ้ งเรียก เหมยี ว เหมียว เด๋ียว ก็ มา
เคล้า แข้ง เคลา้ ขา น่าเอ็นดู
รูจ้ ัก เอา รัก เข้า ต่อตั้ง
ค่ำ ค่ำ ซ้ำ นั่ง ระวงั หนู
ควร นบั ว่า มัน กตญั ญู
พอ ดู อย่าง ไว้ ใสใ่ จ เอย
๑.๑) อา่ นให้เปน็ จังหวะจงึ จะเห็นความไพเราะ จะมเี นื้อหาเกีย่ วกบั ความกตัญญูตอ่ ผู้มีพระคุณ
ของผทู้ ี่เลีย้ งเรามา จะต้องอา่ นเปน็ แบบบทอาขยานร้อยกรองจึงจะเกดิ ความไพเราะ
๑.๒) ข้อคิดที่ได้จากบทอาขยาย “แมว เอ๋ย แมว เหมียว” สอนให้ผู้เรียนนั้นจะต้องมีความ
กตัญญกู ตเวทกี บั ผู้มีพระคณุ
๑.๓) คำศัพท์ท่ไี ด้จากเรื่อง กตัญญู หมายถงึ รู้อุปการะทท่ี ่านทำให้รู้คุณทา่ น

รคู้ ณุ หมายถึง ระลึกถงึ ความดที ่ีผอู้ ืน่ ทำให้แกต่ น
๑.๔) ชวนคิด อ่าน เขียน เรียน ร้อง เล่น เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการฝึกระบายสี สอนทำ
หน้ากากแมว ช่วยกนั คิดตอบคำถาม และแสดงท่าทางประกอบเพลงแมวเหมยี ว
๑.๕) ด้านภาพประกอบ

๕.๑ จำนวน ๕ ภาพ
๕.๒ ขนาด กวา้ งไม่เกนิ ๗.๕ น้ิว ยาวไมเ่ กิน ๑๐.๒๕ นวิ้
๕.๓ คำอธบิ ายภาพ ไมม่ คี ำอธิบาย
๕.๔ สี พมิ ดว้ ยสีท่หี ลากหลาย คมชดั โดดเดน่ ดงึ ดูดความสนใจ
๕.๕ ความสอดคล้องภาพกบั เนอื้ หา สอดคลอ้ งกับบทอาขยาน “แมว เอ๋ย แมว เหมยี ว”

๒๒

บทที่ ๘ กระตา่ ย กบั เตา่

๑) บทวิเคราะห์
การนำสู่เข้าบทเรียนมีรูปภาพบรรดาสัตวน์ านานาชนิด อาศัยอยู่ใกล้รมิ นำ้ เปน็ ภาพท่ีดึงดูดให้ผ้เู รยี น
สนใจและสอดคล้องกับช่ือบทเรยี นบทท่ี ๘ จากนน้ั เป็นการโยงเข้าสบู่ ทเรยี นด้วยการกล่าวเป็นบทนิทานอีสป
เร่ืองกระต่ายกับเตา่ ดังนี้

เดนิ
เตา่ เดิน
เต่า ขา สน้ั เดิน
เต่า ขา สัน้ เดิน ช้า
เตา่ ขา ส้ัน เดนิ ไป เดิน มา
วงิ่
กระตา่ ย วงิ่
กระตา่ ย ขา ยาว วิง่
กระต่าย ขา ยาว วิ่ง เรว็
กระตา่ ย ขา ยาว ว่งิ เร็ว มา
เตา่ เดิน ช้า
กระต่าย วิง่ เร็ว
ตวั หนึง่ วงิ่ เรว็
ตวั หน่ึง เดนิ ช้า

มา ดู สิ วา่
มนั ว่ิง เเข่ง กัน ได้ ไหม
จากนั้นเป็นการเช่ือมโยงกอ่ นเข้าส่เู ข้าเน้ือหาบทเรียนโดยเปน็ นทิ านอิสป “กระตา่ ย กับ เต่า” พระยา
เมธาธิบดี (สารท สุทธเสถียร)

กระตา่ ย ตัว หน่ึง เห็น เต่า
คลาน มา ก็ หัวร่อ เยาะ วา่ เฒ่า
ขา สัน้ เดนิ ช้า เตา่ จึง ตอบ ไป
ว่า ถึง ท่าน จะ วิ่ง เร็ว ราว กะ
ลม พดั และ ขา เรา จะ สน้ั กวา่
ขา ของ ทา่ น ก็ จริง อยู่ เเต่ เรา
อยาก จะ ลองดี เดิน เเข่ง กบั
ท่าน ทา่ น จะ ว่า กระไร
กระตา่ ย ได้ ยิน เต่า ท้า ดงั น้ัน
ก็ นึก กระหยิ่มใจ ตกลง จะ ว่งิ เเข่ง

๒๓

ดว้ ย จึง พรอ้ ม กนั ไป หา
หมาจ้ิงจอก บอก ความ ท่ี ตกลง
กัน เเล้ว ก็ ตัง้ ให้ หมาจิง้ จอก
เปน็ ผู้ เลือก ทาง ที่ จะ เเขง่ และ
ให้ เปน็ ผู้ตัดสนิ อยู่ ปลายทาง ด้วย
เมอ่ื ถงึ วนั นัด สตั ว์ ท้งั สอง
ก็ มา ต้งั ตน้ เเขง่ ใน ท่ี ที่
หมาจิง้ จอก ช้ี ให้
เตา่ เมอื่ ตั้งตน้ ออก เดนิ ก็
กม้ หน้า คลาน ลดั ตัด ตรง ไป
ทีละน้อยๆ จนถึง ทสี่ ดุ

ฝ่าย กระต่าย ถือดี ใน ฝเี ท้า
ของ ตน วา่ ว่งิ ได้ เรว็ กว่า เต่า
ก็ ชะลา่ ใจ หยด นอน เสยี ไม่
ออก ว่ิง

ครั้น ตื่น ขึน้ ตกใจ กลัว ว่า
จะไล่ เตา่ ไม่ ทนั จงึ รบี กระโจน
ไป โดย เร็ว ก็ พบ เตา่ ไป ถงึ
กอ่ น เสยี เเลว้
กระต่าย กับ เต่า เเข่ง กนั
ตัว หนึง่ เดิน ช้า
ตัว หน่ึง วงิ่ ไว
ตัว หนึ่ง ตง้ั ใจ
ตัว หน่ึง ชะลา่ ใจ
บอก ได้ ไหม
ใคร จะ ดีใจ
๑.๑) การอ่านให้รเู้ นอื้ หา จะมเี นอื้ หาเกยี่ วกบั การใช้ความพยายามและการซ่ือสตั ย์ตอ่ การแขง่ ขนั
๑.๒) ขอ้ คิดทีไ่ ด้จากนทิ านอิสป “กระตา่ ย กบั เต่า” ความพยายามอยทู่ ี่ไหน ความสำเร็จอยู่ทน่ี ่ัน
๑.๓) คำศพั ท์ทไี่ ด้จากเรื่อง ว่ิง หมายถึง การเคลื่อนทไี่ ปดา้ นหนา้
๑.๔) ชวนคดิ อา่ น เขยี น เรยี น รอ้ ง เลน่ เป็นกจิ กรรมเก่ียวกับการฝึกเล่าเร่อื งจากภาพ ฝึกตอบ
คำถามผ่านนิทานอสิ ปเรอื่ ง “กระต่าย กับ เต่า”
๑.๕) ดา้ นภาพประกอบ
๕.๑ จำนวน ๕ ภาพ
๕.๒ ขนาด กวา้ งไม่เกิน ๗.๕ นิ้ว ยาวไม่เกนิ ๑๐.๒๕ น้วิ
๕.๓ คำอธบิ ายภาพ ไมม่ ีคำอธิบาย

๒๔

๕.๔ สี พมิ ด้วยสีท่ีหลากหลาย คมชดั โดดเด่น ดงึ ดดู ความสนใจ
๕.๕ ความสอดคลอ้ งภาพกับเนื้อหา สอดคล้องกบั นิทานอสิ ปเรอื่ ง “กระต่ายกบั เต่า”

๒๕

๓. วิเคราะหค์ วามสอดคล้องของเนอ้ื หากบั หลกั สตู ร

๓.๑ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ภาษาไทย
สาระที่ ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิด เพื่อนำไปตัดสินใจ แกป้ ัญหา
ในการดำเนินชวี ติ และมีนิสัยรกั การอ่าน
สาระท่ี ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน
เรื่องราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษา
คน้ คว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณ และสร้างสรรค์
สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงละพลังของ
ภาษา ภูมิปัญญาของภาษา และรกั ษาภาษาไทย ไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทย อย่าง
เหน็ คณุ ค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ
๓.๒ ตวั ชี้วัดชน้ั ปี
สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิด เพ่อื นำไปตัดสนิ ใจ แก้ปัญหา
ในการดำเนนิ ชวี ิตและมนี ิสัยรกั การอา่ น

ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจองและขอ้ ความสัน้ ๆ
ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอกความหมายของคำและข้อความทอ่ี ่าน
ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคำถามเกีย่ วกบั เรอ่ื งท่ีอา่ น
ท ๑.๑ ป.๑/๔ เล่าเรอ่ื งย่อจากเรอ่ื งที่อา่ น
ท ๑.๑ ป.๑/๕ คาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเร่ืองทีอ่ า่ น
ท ๑.๑ ป.๑/๖ อา่ นหนังสอื ตามความสนใจอยา่ งสมำ่ เสมอและนำเสนอเร่ืองทอี่ า่ น
ท ๑.๑ ป.๑/๗ บอกความหมายเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์สำคัญที่มักพบเห็นใน
ชวี ิตประจำวนั
ท ๑.๑ ป.๑/๘ มีมารยาทในการอ่าน

๒๖

สาระท่ี ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน

เรื่องราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษา
คน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ท ๒.๑ ป.๑/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัด
ท ๒.๑ ป.๑/๒ เขียนส่ือสารด้วยคำและแตง่ ประโยคง่าย ๆ
ท ๒.๑ ป.๑/๓ มมี ารยาทในการเขียน
สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
ความร้สู ึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณ และสร้างสรรค์
ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟงั คำแนะนำคำส่งั งา่ ย ๆ และปฏบิ ัตติ าม
ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคำถามและเล่าเร่อื งที่ฟังและดูทั้งที่เป็นความรู้สกึ จากเร่ืองท่ฟี งั และดู
ท ๓.๑ ป.๑/๓ พูดแสดงเความคดิ เห็นและความรสู้ กึ จากเร่ืองทฟี่ ังและดู
ท ๓.๑ ป.๑/๔ พดู สอ่ื สารได้ตามวัตถุประสงค์
ท ๓.๑ ป.๑/๕ มีมารยาทในการฟงั ในการดู และการพดู
สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงละพลังของ
ภาษา ภูมปิ ญั ญาของภาษา และรกั ษาภาษาไทย ไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ
ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย
ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกดคำและบอกความหมายของคำ
ท ๔.๑ ป.๑/๓ เรยี บเรียงคำเปน็ ประโยคง่าย ๆ
ท ๔.๑ ป.๑/๔ ต่อคำคลอ่ งจองง่าย ๆ
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทย อย่าง
เหน็ คุณค่าและนำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ จริง
ท ๕.๑ ป.๑/๑ บอกขอ้ คิดทไ่ี ด้จากการอ่านหรือการฟงั วรรณกรรมร้อยแก้ว และร้อย
กรองสำหรบั เด็ก
ท ๕.๑ ป.๑/๒ ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่หี นดและบทร้อยกรองตามความสนใจ
๓.๓ สรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิดความรู้ความ
เข้าใจ ความร้สู ึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ข่าวสาร และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อ
การพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทงั้ การเจรจาตอ่ รองเพือ่ ขจัดและลดปญั หาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การรับหรือไม่
รับข้อมูลขา่ ววสารดว้ ยหลกั เหตุผล และความถูกต้อง ตลอดจนการเลอื กใช้วิธีการสื่อสารที่มปี ระสิทธิภาพโดย
คำนงึ ถึงผลกระทบที่มตี อ่ ตนเองและสงั คม

๒๗

๒. ความสามารถในการคิด
เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมี
วิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเก่ียวกบั
ตนเองและสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแก้ไขปัญหา
เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอปุ สรรคต่างๆ ที่เผชิญไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของ
หลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ
แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาและมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดย
คำนงึ ถงึ ผลกระทบที่เกิดขน้ึ ต่อตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม

๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆ ไปใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั การเรียนรู้ด้วยตนเอง
การเรียนรู้อย่างตอ่ เนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสรา้ งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง
บุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของ
สังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการรจู้ กั หลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงค์ท่สี ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่ืน

๕.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
ถูกต้องเหมาะสม และมคี ณุ ธรรม

๒๘

ตารางวเิ คราะหค์ วามสอดคลอ้ งของเน้ือหากบั หลักสตู ร

วิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหาของหนังสือเรียนรายวิชาภาษาไทย ชั้นประถม
พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ตวั ชว้ี ัด) วเิ คราะหต์ ามประเดน็ ดังนี้

บทท่ี สาระการเรียนรู้

บทที่ ๑ เจา้ เน้ือออ่ น ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณ

เพลงกล่อมเด็ก เจ้าเน้ือ และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าแ

ละมนุ เจ้าเน้ืออ่อน ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ

กิจกรรมกาเรียนรู้

ชวน คิด อา่ น เขียน เรยี น รอ้ ง เล่น

๑.๑ บอกให้รู้ว่าหนูรักใครแล้ว ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

ทำท่าหัวใจประกอบ เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสยั รักการอ่าน

๑.๒ เรามาลองส่งเสียงร้องลอง ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

ทำทา่ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรสู้ ึกในโอ

ๆ อยา่ งมวี จิ ารณ และสรา้ งสรรค์

๑.๓ เจา้ เนอื้ ละมุน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

และพดู แสดงความรู้ ความคิด ความรสู้ กึ ในโอ

ๆ อยา่ งมวี ิจารณ และสรา้ งสรรค์

๑.๔ ดอกไม้มีหลายชนิดมาช่วยกัน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

คิดบอกชอ่ื ดอกไม้ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ ความรสู้ ึกในโอ

ๆ อย่างมีวจิ ารณ และสร้างสรรค์

๑.๕ เรามาเลน่ เลีย้ งนอ้ งกนั ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

และพดู แสดงความรู้ ความคดิ ความรู้สึกในโอ

ๆ อย่างมีวิจารณ และสรา้ งสรรค์

๒๙

มศึกษาปีที่ ๑ “วรรณคดีลำนำ” ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั

ตัวชว้ี ัด สรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

ณ์วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๒ ท่องจำบทอาขยานตามที่ ๑. ความสามารถในการ

ละนำมา หนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ สื่อสาร

ะความคิด ท ๑ . ๑ ป . ๑ / ๗ บ อ ก ค ว า ม ห ม า ย ๔.ความสามารถในการใช้

ชีวิตและมี เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์สำคัญที่มัก ทกั ษะชีวติ

พบเหน็ ในชีวิตประจำวนั

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟังคำแนะนำคำสั่งง่าย ๆ ๔.ความสามารถในการใช้

อกาสต่าง และปฏบิ ัตติ าม ทกั ษะชวี ิต

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๓ พูดแสดงเความคิดเห็น ๒.ความสามารถในการคิด
อกาสต่าง และความรู้สกึ จากเรือ่ งทฟี่ ังและดู

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคำถามและเล่าเร่ืองที่ ๑. ความสามารถในการ

อกาสต่าง ฟังและดทู ั้งทเ่ี ป็นความรู้สกึ จากเรื่องที่ฟัง ส่อื สาร

และดู

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๔ พูดสื่อสารได้ตาม ๑.ความสามารถในการ

อกาสต่าง วัตถปุ ระสงค์ สอ่ื สาร

บทท่ี สาระการเรียนรู้

บทที่ ๒ มา เลน่ กนั ไหม ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์

เพลงร้องเล่น กุ๊ก กุ๊ก ไก่ แม่ และวรรณกรรมไทย อย่างเหน็ คุณคา่ และนำม

งู เอย๋ ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจริง

กจิ กรรมกาเรยี นรู้

ชวน คดิ อ่าน เขียน เรยี น รอ้ ง เลน่

๒.๑ มาร้องเพลงเลน่ กนั ไหม เพลง ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวิจารณญ

กุ๊ก กุ๊ก ไก่ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ ความรู้สกึ ในโอ

ๆ อย่างมีวจิ ารณ และสรา้ งสรรค์

๒.๒ มารอ้ งเลน่ แม่งูเอย๋ จาก เพลง ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละค

ร้องเลน่ เพื่อนำไปตดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการดำเนนิ ชวี

นิสยั รกั การอ่าน

๒.๓ ลุกขึ้นมาแลว้ โยกยา้ ยกันร้อง ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมวี ิจารณญ

และทำท่าใหพ้ ร้อมกนั และพดู แสดงความรู้ ความคดิ ความรู้สกึ ในโอ

ๆ อยา่ งมีวจิ ารณ และสร้างสรรค์

๒.๔ ดภู าพแลว้ อา่ นออกประโยค ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละค

เพือ่ นำไปตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนนิ ชีว

นิสัยรกั การอา่ น

๒.๕ บอกไดไ้ หม ลายมอื ใดเหมอื น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภ

ไกเ่ ข่ยี การเปลี่ยนแปลงละพลังของภาษา ภูมิปัญ

ภาษา และรกั ษาภาษาไทย ไวเ้ ป็นสมบัติของช

บทท่ี ๓ ของ เธอ ของ ฉนั ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ
และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าแล
ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจริง

๓๐

ตัวชวี้ ัด สรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๑ บอกขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการ ๑.ความสามารถในการ
มา
อา่ นหรือการฟงั วรรณกรรมรอ้ ยแก้ว และ สอ่ื สาร

ร้อยกรองสำหรบั เด็ก

ญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคำถามและ ๒. ความสามารถในการ
อกาสตา่ ง
เล่าเร่อื งที่ฟังและดทู งั้ ที่เป็นความรู้สกึ คิด
ความคดิ
วิตและมี จากเร่อื งท่ีฟงั และดู

ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียงคำ คำคล้อง ๑.ความสามารถในการ

จองและขอ้ ความส้นั ๆ สือ่ สาร

ญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟังคำแนะนำคำสงั่ ง่าย ๆ ๑.ความสามารถในการ

อกาสต่าง และปฏิบัตติ าม สอื่ สาร

ความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียงคำ คำคลอ้ ง ๑.ความสามารถในการ

วิตและมี จองและข้อความสั้น ๆ สือ่ สาร

ภาษาไทย ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและเขียนพยัญชนะ ๒. ความสามารถในการคิด
ญญาของ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย
ชาติ

ณ์วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๒ ทอ่ งจำบทอาขยาน ๔. ความสามารถในการใช้
ละนำมา ตามที่หนดและบทร้อยกรองตามความ ทักษะชวี ติ

สนใจ

บทที่ สาระการเรยี นรู้

กจิ กรรมกาเรยี นรู้

ชวน คดิ อ่าน เขยี น เรยี น ร้อง เล่น

๓.๑ ของกนิ ของเลน่ ของใช้ ของ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

ฉนั มีไว้ยนิ ดีแบ่งปัน และพูดแสดงความรู้ ความคดิ ความรู้สกึ ในโอ

ๆ อยา่ งมวี จิ ารณ และสรา้ งสรรค์

๓.๒ มาเรามารอ้ งเพลงกัน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณ

และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าแ

ประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ

๓.๓ อา่ นคดิ แลว้ ลองตอบคำถาม ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

คนมนี ้ำใจทำอย่างไรดี เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสัยรักการอา่ น

บทท่ี ๔ ฝน ตก แดด ออก ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณ

และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าแ

ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ

กิจกรรมกาเรียนรู้

ชวน คิด อา่ น เขียน เรยี น รอ้ ง เล่น

๔.๑ ฝึกอา่ น ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสยั รกั การอ่าน

๔.๒ อ่านเพม่ิ เตมิ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นสิ ยั รักการอ่าน

๓๑

ตวั ชี้วัด สรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคำถามและเลา่ เร่ืองท่ี ๑.ความสามารถในการ
อกาสต่าง ฟงั และดทู ้งั ท่ีเปน็ ความรู้สึกจากเร่ืองที่ฟัง สอ่ื สาร

และดู

ณ์วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๒ ท่องจำบทอาขยานตามท่ี ๔. ความสามารถในการใช้
ละนำมา หนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ ทักษะชวี ติ

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ๒. ความสามารถในการ

ชีวิตและมี ที่อ่าน คดิ

ณ์วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๒ ท่องจำบทอาขยาน ๑.ความสามารถในการ
ละนำมา ตามท่หี นดและบทร้อยกรองตามความ สอ่ื สาร

สนใจ

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ๑.ความสามารถในการ

ชีวิตและมี ที่อา่ น สอ่ื สาร

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี งคำ คำคลอ้ ง ๒. ความสามารถในการ

ชีวิตและมี จองและขอ้ ความสน้ั คิด

บทที่ สาระการเรยี นรู้

๔.๓ มาเลยี นเสียงฝน มาร้องเพลง ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

ดว้ ยกัน เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นสิ ยั รักการอา่ น

๔.๔ ลองเลียนเสยี งอนื่ ๆ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรสู้ กึ ในโอ

ๆ อยา่ งมีวจิ ารณ และสร้างสรรค์

บทท่ี ๕ เรา รกั เมืองไทย ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณ

และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าแล

ประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง

กจิ กรรมกาเรยี นรู้

ชวน คดิ อา่ น เขยี น เรยี น รอ้ ง เลน่

๕.๑ ฝกึ อา่ นและดแู ผนที่ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นสิ ยั รกั การอา่ น

๕.๒ ฝกึ อา่ นและสนทนา ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสัยรักการอา่ น

๕.๓ หนูเปน็ เดก็ นา่ รกั ใชไ่ หม เด็ก ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

นา่ รกั เป็นอย่างไรกนั บา้ ง และพดู แสดงความรู้ ความคิด ความรสู้ กึ ในโอ

ๆ อย่างมวี ิจารณ และสร้างสรรค์

๕.๔ ดูภาพแลว้ ชว่ ยกนั เล่าเรื่อง ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

และพดู แสดงความรู้ ความคดิ ความรู้สกึ ในโอ

ๆ อย่างมีวจิ ารณ และสรา้ งสรรค์

๓๒

ตวั ชีว้ ัด สรรถนะสำคัญของผู้เรียน

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี งคำ คำคล้อง ๑.ความสามารถในการ

ชีวิตและมี จองและขอ้ ความส้นั ๆ ส่อื สาร

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟังคำแนะนำคำสั่งง่าย ๆ ๑.ความสามารถในการ

อกาสต่าง และปฏบิ ัติตาม สอื่ สาร

ณ์วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๒ ท่องจำบทอาขยานตามที่ ๔. ความสามารถในการใช้
ละนำมา หนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ ทกั ษะชวี ติ

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ๒. ความสามารถในการคิด
ชีวิตและมี ทีอ่ ่าน

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ๒. ความสามารถในการคิด
ชีวิตและมี ทีอ่ ่าน

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๓ พูดแสดงเความคิดเห็น ๑.ความสามารถในการ

อกาสต่าง และความรู้สกึ จากเรอ่ื งท่ีฟังและดู สอื่ สาร

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๓ พูดแสดงเความคิดเห็น ๑.ความสามารถในการ

อกาสต่าง และความรสู้ ึกจากเรือ่ งทฟ่ี งั และ สื่อสาร

บทท่ี สาระการเรยี นรู้

บทที่ ๖ ตงั้ ไข่ ล้ม ต้ม ไข่ กิน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ

และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าแล

ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง

กจิ กรรมกาเรียนรู้

ชวน คิด อา่ น เขยี น เรยี น ร้อง เลน่

๖.๑ ฝึกอา่ นบทอาขยาน บท ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

ดอกสร้อย ตง้ั เอ๋ย ต้งั ไข่ เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสัยรกั การอา่ น

๖.๒ ฝกึ อ่านเรอื่ งแลว้ ตอบคำถาม ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสัยรกั การอ่าน

๖.๓ ชว่ ยกนั ตอบเรอ่ื งรูปรา่ ง ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

และพูดแสดงความรู้ ความคดิ ความรูส้ กึ ในโอ

ๆ อยา่ งมีวิจารณ และสรา้ งสรรค์

๖.๔ เลา่ เรอื่ งจากรูป ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

และพดู แสดงความรู้ ความคดิ ความรู้สึกในโอ

ๆ อย่างมีวจิ ารณ และสร้างสรรค์

๖.๕ ฝกึ คดั หดั เขยี นคำบอกรปู รา่ ง ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสา

และขนาด เรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูป

ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายง

สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว

ประสิทธภิ าพ

๓๓

ตัวช้ีวัด สรรถนะสำคัญของผู้เรียน

ณ์วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๒ ท่องจำบทอาขยานตามท่ี ๔. ความสามารถในการใช้

ละนำมา หนดและบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ ทกั ษะชวี ิต

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี งคำ คำคล้อง ๑. ความสามารถในการ

ชีวิตและมี จองและข้อความสน้ั ๆ สอ่ื สาร

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ๒. ความสามารถในการคิด
ชีวิตและมี ท่อี ่าน

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคำถามและเลา่ เร่ืองท่ี ๒. ความสามารถในการคิด

อกาสต่าง ฟังและดทู ั้งทเี่ ป็นความรู้สึกจากเรื่องที่ฟัง

และดู

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๔ พูดสื่อสารได้ตาม ๑. ความสามารถในการ

อกาสต่าง วัตถปุ ระสงค์ ส่ือสาร

าร เขียน ท ๒.๑ ป.๑/๒ เขียนสื่อสารด้วยคำและ ๕. ความสามารถในการใช้

ปแบบต่าง แต่งประโยคงา่ ย ๆ เทคโนโลยี

งานข้อมูล

ว้าอย่างมี

บทที่ สาระการเรียนรู้

บทท่ี ๗ แมว เหมยี ว ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณ

และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าแล

ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง

กิจกรรมกาเรียนรู้

ชวน คิด อ่าน เขียน เรียน ร้อง เลน่

๗.๑ วาดหนา้ แมวเหมยี วแล้วแสดง ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

ทา่ ทางประกอบ เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นสิ ยั รกั การอ่าน

๗.๒ ฝกึ อ่านบทอาขยานบท ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละค

ดอกสร้อย แมว เอ๋ย แมว เหมยี ว เพื่อนำไปตดั สินใจ แก้ปญั หาในการดำเนนิ ชีว

นิสัยรักการอา่ น

๗.๓ อา่ นเรอ่ื งต่าง ๆ เกยี่ วกับแมว ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

เพมิ่ เติม เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสยั รักการอ่าน

๗.๔ มาเรามารอ้ งเพลงกัน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสัยรกั การอ่าน

๗.๕ เพอ่ื นรกั ของนักเรยี นมีใครบ้าง ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

เล่าเร่ืองเพื่อนแลกเปลี่ยนกนั และพูดแสดงความรู้ ความคดิ ความร้สู กึ ในโอ

ๆ อยา่ งมวี ิจารณ และสรา้ งสรรค์

บทที่ ๘ กระตา่ ย กับ เต่า ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ

และวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าแล

ประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ จริง

๓๔

ตวั ชีว้ ัด สรรถนะสำคัญของผู้เรียน

ณ์วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๒ ท่องจำบทอาขยานตามที่ ๒. ความสามารถในการคิด

ละนำมา หนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ

ะความคิด ท ๑ . ๑ ป . ๑ / ๗ บ อ ก ค ว า ม ห ม า ย ๔. ความสามารถในการใช้

ชีวิตและมี เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์สำคัญที่มัก ทกั ษะชีวิต

พบเหน็ ในชีวติ ประจำวนั

ความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียงคำ คำคลอ้ ง ๑. ความสามารถในการ

วิตและมี จองและขอ้ ความสัน้ ๆ สื่อสาร

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี งคำ คำคล้อง ๑. ความสามารถในการ

ชีวิตและมี จองและขอ้ ความสนั้ ๆ สือ่ สาร

ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี งคำ คำคลอ้ ง ๑. ความสามารถในการ

ชีวิตและมี จองและข้อความสั้น ๆ สอ่ื สาร

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๓ พูดแสดงเความคิดเห็น ๑. ความสามารถในการ

อกาสต่าง และความรู้สกึ จากเร่อื งทีฟ่ งั และดู สื่อสาร

ณ์วรรณคดี ท ๕.๑ ป.๑/๑ บอกข้อคิดที่ได้จากการ ๒. ความสามารถในการคิด
ละนำมา อ่านหรอื การฟงั วรรณกรรมร้อยแก้ว และ

รอ้ ยกรองสำหรับเดก็

บทที่ สาระการเรยี นรู้

กิจกรรมกาเรยี นรู้

ชวน คิด อา่ น เขยี น เรยี น ร้อง เล่น

๘.๑ ลองเรียงรูปและเลา่ หรอื เขยี น ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจา

เร่อื งตามนิทานเรอ่ื ง กระต่ายกับ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ ความรสู้ กึ ในโอ

เต่า ๆ อย่างมีวจิ ารณ และสร้างสรรค์

๘.๒ ตอบไดไ้ หมทำไมกระตา่ ยถึง ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

แพเ้ ตา่ เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นสิ ยั รกั การอ่าน

๘.๓ แบ่งกล่มุ นักเรียนเป็นกระต่าย ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

กบั เตา่ ว่ิงแข่งกัน เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นสิ ัยรักการอ่าน

๘.๔ ใครรูช้ ่วยตอบที ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ

เพื่อนำไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินช

นิสยั รักการอ่าน

๓๕

ตัวช้ีวัด สรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

ารณญาณ ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคำถามและเลา่ เร่ืองท่ี ๒. ความสามารถในการคิด
อกาสต่าง ฟังและดูท้งั ทเ่ี ปน็ ความรู้สึกจากเร่ืองท่ีฟัง

และดู
ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ๒. ความสามารถในการคิด
ชีวิตและมี ทอี่ า่ น

ะความคิด ท ๑ . ๑ ป . ๑ / ๗ บ อ ก ค ว า ม ห ม า ย ๔. ความสามารถในการใช้
ชีวิตและมี เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์สำคัญที่มัก ทักษะชวี ติ

พบเหน็ ในชีวิตประจำวนั
ะความคิด ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ๒. ความสามารถในการคิด
ชีวิตและมี ที่อา่ น

ตารางวิเคราะหค์ วามสอดคล้องระหวา่ งกิจกรรมชวน คิด อา่ น เขียน เรียน
ตามทฤษฎกี ารเรียนรู้ของ Ben

พฤตกิ รรมด้าน
(Cognitive D
ตามทฤษฎกี ารเรยี นรขู้ อง

กิจกรรมการเรียนรู้
ความ ู้รความจำ
ความเ ้ขาใจ
การนำไปใ ้ช

บทท่ี ๑ เจ้าเนอื้ อ่อน เพลงกลอ่ มเด็ก เจา้ เน้ือละมุน เจ้าเน้ืออ่อน
ชวน คดิ อ่าน เขยี น เรยี น ร้อง เล่น

๑. บอกใหร้ ูว้ า่ หนูรักใครแลว้ ทำทา่ หวั ใจประกอบ √

๒. เรามาลองสง่ เสยี งร้อง ลอง ทำทา่ √ √
√
๓. ลองจับเนอื้ ของหนู แลว้ บอกใหร้ ูว้ ่าเป็นอย่างไร √ √
อ่อนอนุ่ ละมุนหรือไม่ แลว้ ลองเปลย่ี นไปจบั ส่ิงอน่ื ดู
๔. ดอกไม้มหี ลายชนดิ มาช่วยกันคดิ บอกชอื่
ดอกไม้ รูจ้ กั ดอกไมอ้ ะไรอกี บา้ ง ช่วยกันบอกมา

๓๖

ร้อง เล่น กบั พฤตกิ รรมดา้ นพุทธพิสัย (Cognitive Domain)
njamin Bloom

นพุทธพสิ ัย
Domain)
ง Benjamin Bloom

ผลวิเคราะห์
การ ิวเคราะ ์ห
การประเ ิมน ่คา
การส ้รางสรร ์ค

ตอ้ งมคี วามเข้าใจบคุ คลทอี่ ยใู่ กล้ชดิ ของผู้เรยี นก่อนว่า
√ มใี ครบ้างผเู้ รยี นจงึ จะสามารถบอกรกั ได้

√ เป็นการนำเอากิริยาท่าทางในชีวิตประจำวันมา
ประกอบการเรยี นรู้

√ √ เป็นการแยกแยะ วเิ คราะห์ ของวัตถใุ นชีวติ ประจำวัน
แลว้ ผเู้ รยี นสามารถบอกได้วา่ ส่ิง ๆ น้นั คืออะไร

ตอ้ งมคี วามเข้าใจ แยกแยะ และบอกชนิดของดอกไม้
ที่ผู้เรียนร้จู กั ได้

พฤตกิ รรมด้าน
(Cognitive D
ตามทฤษฎกี ารเรยี นรู้ของ

กิจกรรมการเรียนรู้ ความ ู้รความจำ
ความเข้าใจ
การนำไปใ ้ช

๕. เรามาเล่นเล้ยี งน้องกนั √√
บทท่ี ๒ มา เลน่ กัน ไหม
ชวน คดิ อ่าน เขยี น เรียน ร้อง เลน่ √√
๑. มาร้องเพลงเล่นกนั ไหม เพลง กุ๊ก กกุ๊ ไก่ √
√
๒. มาร้องเล่นแมง่ เู อย๋ จาก เพลงร้องเล่น √√

๓. ลุกข้นึ มาแล้วโยกย้ายกนั ร้องและทำท่าให้
พรอ้ มกนั

๔. ดภู าพแลว้ อา่ นออกเสยี งประโยค

๓๗

นพุทธพสิ ัย
Domain)
ง Benjamin Bloom

การ ิวเคราะ ์ห ผลวเิ คราะห์
การประเ ิมน ่คา
การส ้รางสรร ์ค

√ ผู้เรียนอ่านเนือ้ หาแลว้ สามารถนำเอาไปใชไ้ ดใ้ น
ชวี ิตประจำวันได้ รจู้ ักเพลงกล่อมเด็ก

√ ผู้เรยี นร้องเพลงกุก๊ กกุ๊ ไก่ ได้แลว้ นำมาสร้างสรรค์
แสดงทา่ ทางประกอบตามคำส่ังได้

√ ผู้เรยี นสามารถร้องเพลงแมง่ เู อ๋ยได้ แลว้ สามารถนำมา
ประยกุ ต์เปน็ การละเลน่ ได้

ผู้เรียนสามรถจดจำไดข้ า้ งซ้าย ข้างขวา แล้วแสดง
√ ตามบทเพลงโยกย้ายได้

ผ้เู รียนสามารถอ่านออกเสยี งตามประโยคได้และ
สามารถแสดงทา่ ทางตามประโยคทก่ี ำหนด

พฤติกรรมดา้ น
(Cognitive D
ตามทฤษฎกี ารเรยี นรู้ของ

กิจกรรมการเรียนรู้ ความ ู้รความจำ
ความเข้าใจ
การนำไปใ ้ช

๕. บอกได้ไหม ลายมือใดเหมือนไก่เข่ยี √

บทท่ี ๓ ของ เธอ ของ ฉนั √√
ชวน คดิ อา่ น เขยี น เรียน ร้อง เลน่ √
๑. ของกนิ ของเลน่ ของใช้ ของฉนั มไี วย้ นิ ดี √√
แบ่งปนั

๒. มาเรามารอ้ งเพลงกัน

๓. อ่านคดิ แล้วลองตอบคำถาม คนมนี ้ำใจทำ
อยา่ งไรดี
บทที่ ๔ ฝน ตก แดด ออก
ชวน คิด อา่ น เขียน เรยี น ร้อง เล่น