The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง รหัสวิชา 20104–2002 จัดเป็นรายวิชาที่อยู่ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 โดยอยู่ในหมวดสมรรถนะวิชาชีพ
สำหรับจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง ผู้จัดทำได้ทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชานี้ขึ้น
เพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์รายวิชามาตรฐานรายวิชา และคำอธิบายรายวิชาที่กำหนด ในหลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
การแบ่งหน่วยการเรียนรู้จะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 14 หน่วย โดยจะอ้างอิงคำอธิบายรายวิชาเป็นหลัก
และจะสอดแทรกภาคทฤษฎีไว้ตามหน่วยการเรียนรู้ต่างๆ ตามความเหมาะสมในแต่ละหน่วยการเรียน
ของแผนการจัดการเรียนรู้นี้ ได้เรียบเรียงเอกสารหลาย ๆ เล่มรวมทั้งประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากสอนของผู้เรียบเรียงเอง โดยมีการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทุกหน่วยการเรียน โดยในการดำเนินกิจกรรมตามแผนการเรียนรู้ฉบับนี้จะสมบูรณ์ได้ควรใช้ควบคู่กับเอกสารประกอบการเรียนรู้ภาคปฏิบัติที่ผู้จัดทำได้เรียบเรียงไว้เรียบร้อยเช่นเดียวกัน
แผนการเรียนรู้ฉบับนี้ ผู้จัดทำหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรงได้เป็นอย่างดี ทั้งต่อครูผู้ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนและต่อตัวนักเรียน เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมสืบไป ทั้งนี้หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำยินดีน้อมรับไว้เพื่อปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kritsada.int, 2022-04-30 05:52:33

แผนการจัดการเรียนรู้ (20104-2002) วิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง รหัสวิชา 20104–2002 จัดเป็นรายวิชาที่อยู่ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 โดยอยู่ในหมวดสมรรถนะวิชาชีพ
สำหรับจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง ผู้จัดทำได้ทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชานี้ขึ้น
เพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์รายวิชามาตรฐานรายวิชา และคำอธิบายรายวิชาที่กำหนด ในหลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
การแบ่งหน่วยการเรียนรู้จะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 14 หน่วย โดยจะอ้างอิงคำอธิบายรายวิชาเป็นหลัก
และจะสอดแทรกภาคทฤษฎีไว้ตามหน่วยการเรียนรู้ต่างๆ ตามความเหมาะสมในแต่ละหน่วยการเรียน
ของแผนการจัดการเรียนรู้นี้ ได้เรียบเรียงเอกสารหลาย ๆ เล่มรวมทั้งประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากสอนของผู้เรียบเรียงเอง โดยมีการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทุกหน่วยการเรียน โดยในการดำเนินกิจกรรมตามแผนการเรียนรู้ฉบับนี้จะสมบูรณ์ได้ควรใช้ควบคู่กับเอกสารประกอบการเรียนรู้ภาคปฏิบัติที่ผู้จัดทำได้เรียบเรียงไว้เรียบร้อยเช่นเดียวกัน
แผนการเรียนรู้ฉบับนี้ ผู้จัดทำหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรงได้เป็นอย่างดี ทั้งต่อครูผู้ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนและต่อตัวนักเรียน เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมสืบไป ทั้งนี้หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำยินดีน้อมรับไว้เพื่อปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป

136

4. คำนวณค่ากระแสไฟฟ้าที่แท้จริงของวงจร โดยพิจารณาทิศทางของกระแสไฟฟ้าที่ไดจ้ ากรูปที่ 14.2

และจากรูป ดังนี้

I1 = I1/ − I1//
I2 = I2/ − I2//
I3 = I3/ + I3//

การพิจารณากระแสไฟฟา้ ท่แี ท้จรงิ และทศิ ทางของกระแสไฟฟา้

1. ถ้ากระแสไฟฟ้าไปในทิศทางเดียวกันให้นำมาบวกกัน โดยทิศทางของกระแสไฟฟ้าท่ีแท้จริงไป

ทศิ ทางเดียวกันของกระแสไฟฟา้ ทงั้ สอง

2. ถ้ากระแสไฟฟ้าไปในทิศทางตรงข้ามกันใหน้ ำมาลบกัน โดยให้กระแสไฟฟ้าที่มีค่ามากกวา่ เป็นตัว

ตั้งแล้วลบด้วยค่ากระแสไฟฟ้าท่ีน้อยกว่า โดยทิศทางของกระแสไฟฟ้าท่ีแท้จริงจะไปตามทิศทางของ

กระแสไฟฟา้ ท่มี คี า่ มากกว่า

14.3 การคำนวณหาค่าตา่ ง ๆ โดยใช้ทฤษฎีการวางซ้อน

ตวั อยา่ ง วงจรไฟฟ้าดงั รปู จงหาคา่ ของกระแสท่ไี หลผ่าน R2 และ R3

R1 = 10  R3 = 6 

E = 29 V I1 I3 I4 R4 = 2  I= 2A
I2 R2 = 5 

รูป วงจรของตัวอยา่ ง
วิธที ำ หาค่าตา่ ง ๆ ของวงจรตามลำดบั ขัน้ ตอนดงั น้ี

1. เลอื กพจิ ารณาแหล่งจ่ายแรงดัน E โดยปลดแหล่งจา่ ยกระแส I ออก แลว้ เปดิ วงจรตรงท่ปี ลดออก

R1 = 10  R3 = 6 

E = 29 V I1/ I 2/ I 3/ I 4/ R4 = 2 

R2 = 5 

รูป ทศิ ทางการไหลของกระแสไฟฟ้าเมื่อพจิ ารณาแหล่งจ่ายแรงดนั E
2. จากรูป หาค่าความต้านทานรวม RT/ โดยนำ R4 มาอนุกรมกับ R3 ก่อน เม่ือไดค้ ่าแล้วนำมาขนานกบั R2
เมอื่ ได้ค่าแลว้ จงึ นำไปอนุกรมกบั R2 จากน้นั หาค่ากระแสไฟฟ้า I1/ ,I2/ ,I3/ และ I4/ ตามลำดบั
(R 3 +R ) R2
จะได้ R T/ = {(R 3 +R 4 )// R2 }+R1 = { (R 3 +R 4 ) +R2 } + R1
แทนคา่ = 5 4
(2 6 ) +5
{ (2  + 6 )  } + 10  = 3.077  + 10 
 + 

137

R T/ = 13.077 
I1/ E
ดังน้นั = R T/29 V = 2.218 A
แทนค่า I1/ = 13.077 

ทำการแบ่งกระแส I1/ เปน็ I2/ กบั I3/ (I3/ = I4/ ) โดยวธิ กี ารแบง่ กระแสไฟฟ้า ได้ดังน้ี
I1/R 2
จะได้ I3/ = R22.2+1R8 3A+R54 = 0.853 A
แทนคา่ I3/ = 5+6+2

หาคา่ I 2/ ไดจ้ าก I2/ = I1/ − I3/

แทนค่า I2/ = 2.218 A − 0.853 A = 1.365 A

3.เลือกพิจารณาแหลง่ จ่ายกระแส I โดยปลดแหลง่ จา่ ยแรงดนั E1 ออก แล้วลดั วงจรตรงทป่ี ลดออกดงั รปู

R1 = 10  R3 = 6 

I1// I2// I3// I4// R4 = 2  I= 2A I 3// I 4// R4 = 2  I= 2A
R T//1 = 9.333 
R2 = 5 

รูป ทศิ ทางการไหลของกระแสไฟฟา้ เม่อื พิจารณาแหล่งจ่ายกระแส I
4. จาก หาคา่ ความต้านทานรวม R T//1โดยนำ R1 มาขนานกบั R3 ก่อน เม่ือได้ค่าแลว้ นำมาอนกุ รมกบั R3
หาคา่ R T//1ดังนี้

จะได้ R T//1 = (R 1 //R 2 ) +R 3 = ( R1 R2 ) + R3
แทนคา่ R T//1 = + 6 R1 +R2
(1100 5
  5  )
 + 

= 9.333 
ทำการแบ่งกระแส I เปน็ I3// กับ I4// โดยวิธกี ารแบง่ กระแสไฟฟา้ ได้ดงั นี้
IR 4
จะได้ I3// = R R
แทนค่า I3// = T21 + 42
 
A
9.333  + 2 

= 0.353 A
I4// = I − I3//
หาคา่ I4// ได้จาก

แทนค่า I4// = 2 A − 0.353 A

138

= 1.647 A
ทำการแบง่ กระแส I3// เปน็ I1// กับ I2// โดยวิธกี ารแบง่ กระแสไฟฟา้ ได้ดงั นี้
I2// R 1
จะได้ I2// = R0.135+3RA210 
แทนคา่ I2// =
10  + 5 

= 0.253 A

5. คำนวณค่ากระแสไฟฟ้าที่แท้จริงของวงจร โดยพิจารณาทศิ ทางของกระแสไฟฟา้ ท่ีไดจ้ ากรปู โดย
กระแสท่ไี หลผ่าน R2 คือ I2 และกระแสทีไ่ หลผา่ น R3 คอื I3

จะได้ I2 = I2/ + I2// (เพราะมีทิศทางเดยี วกนั ให้นำมาบวกกนั )

แทนคา่ = 1.365 A + 0.235 A

และจะได้ I2 = 1.6 A
I3 = I3/ − I3// (เพราะมที ิศทางตรงข้ามกนั ใหน้ ำมาลบกนั )

= 0.853 A − 0.353 A

I3 = 0.5 A

กระแสไฟฟา้ ท่ีไหลผ่าน R2 = I2 มคี ่าเทา่ กับ 1.6 A ตอบ

กระแสไฟฟา้ ท่ีไหลผา่ น R3 = I3 มคี ่าเท่ากับ 0.5 A ตอบ

139

กิจกรรมการเรียนการสอน

ขั้นตอนการสอน ขน้ั ตอนการเรยี น เครื่องมือ/การวัดผล

(กจิ กรรมของครู) (กิจกรรมผเู้ รยี น) ประเมินผล

1.ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรียน

1.1 ครูบอกจดุ ประสงค์ของการเรยี นใน 1.1 นกั เรยี นรบั ฟงั จดุ ประสงคข์ องการเรยี น 1. คำถามประจำหน่วย

หน่วยเรยี นนี้ ในหนว่ ยเรียนน้ี 2. แบบทดสอบก่อน

1.2 ครูสอบถามความสำคัญของทฤษฎี 1.2 นักเรียนบอกความสำคญั ของทฤษฎี เรียนหน่วยท่ี 14

การวางซ้อน การวางซอ้ น

1.3 ครแู จกแบบทดสอบก่อนเรยี น 1.3 นักเรยี นทำทดสอบกอ่ นเรยี น

2. ขนั้ สอนทฤษฎี

2.1 ครอู ธบิ ายเร่ืองทฤษฎีการวางซอ้ น 2.1 รบั ฟังคำบรรยายและตอบคำถามจาก 1. power point หนว่ ยที่

โดยใชส้ ือ่ ประกอบ ครู 14

2.2 ซกั ถามปัญหาเกย่ี วกบั ทฤษฎีการวาง 2.2 ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น 2. คำถามหน่วยท่ี 14

ซ้อน

3. ขนั้ สรุป

3.1 ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปและครู 3.1 นกั เรยี นช่วยครูสรุปและตอบคำถาม 1. ใบสรปุ หนว่ ยท่ี 14

ซกั ถามปญั หาข้อสงสยั 3.2 จดบททกึ ย่อ

4. ข้นั สอนปฏบิ ัติ

4.1 แบ่งนักเรียนเป็นกล่มุ ๆ ละ 2 คน 4.1 แบง่ กล่มุ เปน็ กลุ่ม ๆ ละ 2 คน 1.ใบตรวจการปฏิบัตงิ าน

4.2 ใหน้ กั ศกึ ษาปฏิบตั งิ านใบงานท่ี 14 4.2 นักศึกษาปฏบิ ัติงานตามใบงานท่ี 14 ตามใบงานท่ี 14

4.3 ควบคมุ การปฏบิ ัตงิ าน 4.3 ปฏิบัตงิ านตามใบงาน

4.4 ตรวจผลงานของนักศึกษา 4.4 ส่งผลงานการปฏิบตั ิ

5. ข้นั การประเมนิ ผล

5.1 ครูแจกใบประเมนิ ผลหลังเรยี น 5.1 รบั ใบประเมนิ ผลหลังเรียนหนว่ ยที่ 14 1. แบบทดสอบหลงั เรยี น

5.2 ดูแลนกั เรยี นไม่ใหท้ ุจริต 5.2 ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 14 จำนวน 15

5.3 เมอื่ ครบเวลาทกี่ ำหนดรบั แบบทดสอบ 5.3 เม่ือครบเวลาทกี่ ำหนดสง่ แบบทดสอบ ข้อ

คนื คนื

6. ข้ันมอบหมายงาน

6.1 มอบหมายใหน้ กั เรยี นไปคน้ ควา้ 6.1 รับมอบหมายงาน 1. ใบมอบงานหน่วยท่ี

เพม่ิ เติมเก่ยี วกบั ทฤษฎกี ารวางซ้อน แลว้ 14

ทำรายงานสง่ สปั ดาหต์ อ่ ไป

7. ข้นั ตรวจสอบความเรียบรอ้ ย

7.1 ตรวจความเรยี บรอ้ ยของชดุ ฝกึ และ 7.1 ช่วยกนั จัดเกบ็ ชุดฝึกและทำความ 1.ใบตรวจสอบความ

ความเรียบร้อยของหอ้ งเรยี นหอ้ งปฏบิ ตั ิงาน สะอาดหอ้ งเรยี นห้องปฏบิ ัติงานให้ เรียบร้อย

เรียบรอ้ ย

140

งานทีม่ อบหมาย

- นักศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยที่ 14
- ใหน้ ักศึกษาอภิปรายเก่ยี วกบั ทฤษฎกี ารวางซอ้ น
- ให้นักเรียนไปคน้ คว้าเพมิ่ เตมิ ของทฤษฎีการวางซ้อนที่ใช้งานจริง แลว้ ทำรายงานส่งในสปั ดาหต์ อ่ ไป

สื่อการเรียนการสอน

1. หนังสอื เรยี น วงจรไฟฟ้ากระแสตรง
2. Power point เรอื่ ง ทฤษฎีการวางซอ้ น
3. ของจรงิ ตามรายละเอียดในใบงานที่ 14
4. ใบมอบหมายงานที่ 14

การวดั ผลการเรียน

ทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test) โดยใชข้ อ้ สอบหนว่ ยท่ี 14 จำนวน 15 ข้อ
ถาม – ตอบปัญหา ความสนใจ ความตงั้ ใจ และการอภิปราย
ทดสอบหลังเรียน (Post-test) โดยใชข้ อ้ สอบหน่วยที่ 14 จำนวน 15 ข้อ

การประเมินผล
1. การประเมนิ ผลโดยใช้แบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นหน่วยที่ 14 จำนวน 15 ขอ้ (แบบเลือกตอบ)
2. สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในการเรยี น
3. สังเกตจากการตอบคำถาม / การอภิปราย

เอกสารอ้างองิ
สธุ น แก่นตน้ . (2563). วงจรไฟฟ้ากระแสตรง. นนทบรุ ี : ศนู ยห์ นังสือเมอื งไทย จำกัด.

141

ความสอดคล้องกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำริ

3 หว่ ง -เตรียมอปุ กรณเ์ กีย่ วกับความปลอดภยั อยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภัยในการเรยี นในรายวชิ า
2. มีเหตุผล - ป้องกันอบุ ัตเิ หตุในงาน ได้
3. มีภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
- ปฏบิ ตั ติ ามกฎของโรงงานไดอ้ ย่างเคร่งครดั
2 เงื่อนไข - บอกวธิ กี ารป้องกันอุบตั เิ หตใุ นงานได
1. เงื่อนไขความรู้ - อธิบายถึงความสำคญั ของความปลอดภยั ในการปฏบิ ัติงานได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวงั ) - มีความรับผิดชอบ
- มีความคดิ สร้างสรรค์
2. เงอ่ื นไขคุณธรรม
- ใชอ้ ปุ กรณ์ วัสดุ ในการเรียนการสอนอยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า
4 มติ ิ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรบั กับการทำงานภายนอกได้
1. มิติดา้ นเศรษฐกจิ - ไมท่ ำลายทำธรรมชาตใิ นการเรียนในรายวิชา
2. มติ ิดา้ นสังคม - มีคุณธรรม ความส่ือสตั ยต์ อ่ วชิ า ครผู สู้ อน
3. มิติดา้ นสง่ิ แวดล้อม
4. มติ ิดา้ นวัฒนธรรม

142

ความสอดคลอ้ งกบั คณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของสถานศกึ ษา

............................................................................

1. ขยนั → นกั เรียนนักศึกษาสามารถทำงานเสร็จตรงตามเวลา
2. ประหยัด → นักเรียนนักศกึ ษานำวสั ดทุ ีใ่ ชม้ าปฏิบตั อิ ยา่ งประหยัด
3. ซือ่ สตั ย์ → นกั เรยี นนักศกึ ษามคี วามส่ือสตั ยต์ อ่ วชิ าเรียน ตอ่ ผู้สอน
4. มีวนิ ัย → นักเรยี นนักศึกษามาเรียนตรงตามเวลา
5. สุภาพ → นักเรียนนักศึกษามีความสภุ าพต่อครูผู้สอน
6. สะอาด → นกั เรยี นนกั ศกึ ษาชว่ ยกันรักษาความสะอาดในแผนกวชิ า
7. สามคั คี → นักเรยี นนกั ศึกษามคี วามสามคั ครี ว่ มมอื กันทำงานเป็นกลมุ่
8. มนี ำ้ ใจ → นักเรยี นนักศกึ ษามคี วามเออื้ เฟ้ือต่อเพอ่ื นร่วมห้อง

143


Click to View FlipBook Version