1
2
แผนการจัดการเรียนรู้
แบบมุ่งเนน้ ฐานสมรรถนะและบรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
วชิ า เคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั รหัสวชิ า ๒๐๑๐๔-๒๑๐4
ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕
หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) พุทธศักราช ๒๕๖๒
ประเภทวิชา ช่างอุตสาหกรรม
แผนกวชิ าชา่ งไฟฟ้ากำลงั สาขางานช่างไฟฟ้ากำลงั
จดั ทำโดย
นายกฤษฎา อิ่นติ๊บ
ตำแหนง่ พนักงานราชการ(ครู)
วทิ ยาลัยเทคโนโลยแี ละการจดั การปง
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
กระทรวงศึกษาธกิ าร
ก
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้วิชาเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ รหัสวิชา 20104–2104 จัดเป็นรายวิชา
ที่อยู่ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 โดยอยู่ในหมวดสมรรถนะ
วิชาชีพ กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก สำหรับจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง ผู้จัดทำ
ได้ทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชานี้ขึ้นเพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา และคำอธิบาย
รายวชิ าที่กำหนด ในหลกั สูตรของสำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
การแบ่งหน่วยการเรียนรู้จะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 9 หน่วย โดยจะอ้างอิงคำอธิบายรายวิชาเป็นหลัก
และจะสอดแทรกภาคทฤษฎีไว้ตามหน่วยการเรียนรู้ต่างๆ ตามความเหมาะสมในแต่ละหน่วยการเรียน
ของแผนการจัดการเรียนรู้นี้ ได้เรียบเรียงเอกสารหลาย ๆ เล่มรวมทั้งประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากสอน
ของผู้เรียบเรียงเอง โดยมีการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทุกหน่วยการเรียน โดยในการ
ดำเนินกิจกรรมตามแผนการเรียนรู้ฉบับนี้จะสมบูรณ์ได้ควรใช้ควบคู่กับเอกสารประกอบการเรยี นรู้ภาคปฏิบัติ
ทผี่ จู้ ดั ทำไดเ้ รยี บเรียงไว้เรยี บรอ้ ยเชน่ เดยี วกนั
แผนการเรียนรู้ฉบับนี้ ผู้จัดทำหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับได้เป็นอย่างดี ทั้งต่อครูผู้ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนและต่อตัวนักเรียน
เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมสืบไป ทั้งนี้หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำยินดีน้อมรับไว้
เพอื่ ปรบั ปรุงแกไ้ ขในคร้ังตอ่ ไป
นายกฤษฎา อิน่ ต๊ิบ
ข
สารบัญ
คำนำ
แผนการจดั การเรียนรู้
การวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรู้และสมรรถนะรายวิชา
ตารางกำหนดหน่วยการเรยี นรแู้ ละเวลาท่ใี ชใ้ นการจัดการเรยี นรู้
หน่วยที่ 1 โครงสรา้ งและสว่ นประกอบของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั
หนว่ ยที่ 2 หลักการทำงานและการเกดิ รูปคลน่ื ไซน์
หน่วยท่ี 3 การพันขดลวดอารเ์ มเจอร์
หน่วยท่ี 4 ตวั ประกอบการพันขดลวด
หน่วยที่ 5 การทำงานและแรงดันไฟฟา้ เหนยี่ วนำ
หน่วยที่ 6 คณุ ลกั ษณะของเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
หน่วยท่ี 7 การขนานเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ
หน่วยที่ 8 ประสิทธิภาพและการบำรุงรักษาเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั
หน่วยที่ 9 การพันเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับขนาดเลก็
ค
แผนการจดั การเรียนรู้
รหัสวิชา 20104-2104 วชิ า เครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ
จำนวน 2 (1-3-2) หนว่ ยกิต จำนวน 4 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
ประเภทวิชา อตุ สาหกรรม สาขาวชิ าช่างไฟฟ้ากำลงั
หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พุทธศกั ราช 2562
จดุ ประสงคร์ ายวชิ า
1. เพอื่ ใหร้ ู้ เข้าใจโครงสร้าง หลกั การทำงาน ของเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ
2. เพื่อให้มีทักษะเกี่ยวกับการตรวจสอบ ถอดประกอบ พันขดลวด บำรุงรักษา ควบคุมเครื่องกำเนิด
ไฟฟา้ กระแสสลบั
3. เพื่อให้มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการปฏิบัติงาน มีความละเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เป็นระเบียบ
สะอาด ตรงต่อเวลา มีความซอื่ สตั ยแ์ ละมคี วามรบั ผดิ ชอบ
สมรรถนะรายวชิ า
1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั โครงสรา้ งและหลักการทำงานของเคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั
2. ปฏิบัตงิ านถอดและประกอบชิ้นสว่ น และการพนั ขดลวด
3. ทดสอบและวัดคา่ แรงเคล่อื นไฟฟา้ เหน่ียวนำ ความเรว็ รอบและความถี่
4. ตรวจสอบ บำรุงรกั ษา และทดสอบการทำงานเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟ้า
คำอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ โครงสร้างและส่วนประกอบของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ
การเกิดรูปคลื่นไซน์ สมการแรงเคลื่อนไฟฟ้า ความสัมพันธ์ของความเร็วรอบ ขั้วแม่เหล็กและความถี่
การทำงานคุณลักษณะ และการบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้า การถอด ประกอบ การพันขดลวด ตรวจสอบ
และทดสอบการทำงาน
ง
การวิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้และสมรรถนะรายวิชา
รหสั วชิ า 20104-2104 วิชา กฎและมาตรฐานทางไฟฟ้า
หนว่ ยกิต (ชวั่ โมง) 1-3-2 (4) เวลาเรยี นตอ่ ภาคเรียน 72 ชั่วโมง
วเิ คราะหจ์ ากแหล่งเรยี นรู้
หนว่ ย ช่อื หน่วย จำนวน ห ัลก ูสตรรายวิชา
คาบ ตำรา/หนังสือเ ีรยน
เคร่ืองกำเนิดไฟ ้ฟากระแสส ัลบ
เค ื่รองกลไฟ ้ฟา 2
เค ื่รองกลไฟ ้ฟากระแสส ัลบ
ELECTRIC MACHINERY FUNDAMENTALS
วิศวกรรมไฟ ้ฟาเ ื้บองต้น
ู่ค ืมอการทดลองเค ืร่องกลไฟ ้ฟากระแสส ัลบ
คู่ ืมอการทดลองเค ืร่องกำเ ินดไฟ ้ฟากระแสสลับ
1 โครงสรา้ งและสว่ นประกอบของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟา้ 4 //---//--
กระแสสลับ
8 //---//--
2 หลกั การทำงานและการเกิดรปู คลืน่ ไซน์ 4 ///-////-
3 การพนั ขดลวดอาร์เมเจอร์ 4 ///-//-//
4 ตัวประกอบการพันขดลวด 4 //-/-/-/-
5 การทำงานและแรงดันไฟฟ้าเหนย่ี วนำ 8 ////-/-//
6 คุณลักษณะของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ 8 //-/-/-//
7 การขนานเครื่องกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 4 ////-/-//
8 ประสิทธภิ าพและการบำรุงรักษาเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้
24 / / / / - / - / /
กระแสสลบั 4 ---------
9 การพนั เครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับขนาดเล็ก 72
วัดผลและประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น
รวม
จ
ความสอดคลอ้ งของหน่วยกบั สมรรถนะรายวิชา
ความสอดคลอ้ งกับ
สมรรถนะรายวชิ า
หนว่ ย ชือ่ หนว่ ย คาบ แสดงความ ้รูเกี่ยว ักบโครงสร้างและหลักการทำงานของเครื่องกำเ ินด
ไฟฟ้ากระแสส ัลบ
ป ิฏบัติงานถอดและประกอบช้ินส่วน และการพันขดลวด
ทดสอบและ ัวดค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าเห ี่นยวนำ ความเร็วรอบและความ ่ีถ
ตรวจสอบ บำ ุรงรักษา และทดสอบการทำงานเคร่ืองกำเ ินดไฟฟ้า
1 โครงสรา้ งและสว่ นประกอบของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 4 //
2 หลักการทำงานและการเกิดรปู คลืน่ ไซน์ 8 /
3 การพันขดลวดอารเ์ มเจอร์ 4 //
4 ตัวประกอบการพนั ขดลวด 4 //
5 การทำงานและแรงดันไฟฟา้ เหนย่ี วนำ 4 //
6 คณุ ลกั ษณะของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 8 //
7 การขนานเครือ่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 8 / ///
8 ประสิทธภิ าพและการบำรุงรกั ษาเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 4 / ///
9 การพันเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับขนาดเล็ก 24 / ///
ฉ
ตารางกำหนดหนว่ ยการเรียนรแู้ ละเวลาที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้
หน่วยท่ี หน่วย/รายการสอน สปั ดาหท์ ี่ ชั่วโมง
1 1 3
โครงสรา้ งและสว่ นประกอบของเคร่อื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
2 1.1 หลกั การเบือ้ งต้นของเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 2 6
1.2 โครงสร้างและส่วนประกอบของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบ
3 1 3
ขว้ั แมเ่ หล็กหมุน
4 1.3 ขดลวดแดมเปอร์ 1 3
5 1.4 เอ็กไซเตอรข์ องเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 1 3
6 หลกั การทำงานและการเกดิ รปู คลืน่ ไซน์ 2 6
2.1 การเกิดแรงดนั ไฟฟ้าเหนยี่ วนำ
2.2 ทิศทางของแรงดนั ไฟฟา้ เหนย่ี วนำและกระแส
2.3 คา่ ทมี่ ีผลตอ่ แรงดันไฟฟา้ เหน่ยี วนำ
2.4 การเกดิ รูปคลื่นของแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลบั
2.5 ความสมั พนั ธต์ ่าง ๆ ของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั
2.6 การคำนวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ
การพนั ขดลวดอารเ์ มเจอร์
3.1 ความหมายของค่าตา่ ง ๆ ในการพันขดลวด
3.2 การพนั ขดลวดอารเ์ มเจอรท์ ่สี เตเตอร์
3.3 สตู รการคำนวณหาค่าตา่ ง ๆ ในการพนั ขดลวดอารเ์ มเจอร์
3.4 การคำนวณหาค่าต่าง ๆ ในการพันและผังการลงขดลวดอาร์
เมเจอร์
ตัวประกอบการพันขดลวด
4.1 ตัวประกอบพติ ช์
4.2 ตวั ประกอบการกระจาย
4.3 การคำนวณหาคา่ ตัวประกอบการพันขดลวด
การทำงานและแรงดันไฟฟา้ เหนี่ยวนำ
5.1 การทำงานของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟส
5.2 การทำงานของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส
5.3 การตอ่ ขดลวดของเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส
5.4 การคำนวณหาแรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
กระแสสลบั 3 เฟส
คณุ ลกั ษณะของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
6.1 การทำงานและคุณลักษณะเมอ่ื ไม่มโี หลด
6.2 การทำงานและคุณลักษณะเมือ่ มีโหลด
6.3 ซงิ โครนสั รีแอกแตนซแ์ ละซงิ โครนัสอมิ พีแดนซ์
6.4 วงจรสมมูลและเฟสเซอร์ไดอะแกรม
6.5 การคำนวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ
ช
ตารางกำหนดหนว่ ยการเรยี นรู้และเวลาที่ใชใ้ นการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยที่ หน่วย/รายการสอน สปั ดาหท์ ่ี ช่ัวโมง
6
7 การขนานเครอ่ื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั 2
7.1 เหตุผลในการขนานเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า 3
7.2 การตรวจสอบค่าตา่ ง ๆ ในการขนานเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า
7.3 การขนานเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟส 18
7.4 การขนานเคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส ดว้ ยหลอดไฟ
7.5 การขนานเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ด้วยซิงโครส 4
โคป 72
8 ประสิทธิภาพและการบำรงุ รกั ษาเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ 1
8.1 การสญู เสียในเครื่องกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
8.2 ประสทิ ธิภาพของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ
8.3 การคำนวณหาประสทิ ธภิ าพของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ
8.4 การบำรงุ รักษาเครือ่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
9 การพันเครื่องกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั ขนาดเลก็ 6
9.1 การบนั ทกึ ข้อมูล
9.2 การถอดประกอบและการร้ือขดลวด
9.3 การใชฉ้ นวนรองร่องทส่ี เตเตอร์
9.4 การขึ้นรูปและการลงขดลวด
9.5 การต่อวงจรขดลวด
สอบปลายภาค 18
รวม 18
หมายเหตุ แผนการจัดการเรียนรู้นี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางให้กับครูเท่านั้น กิจกรรมการเรียนการสอน
อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพจริง
ซ
การวัดผลและประเมนิ ผล
ชือ่ วชิ า เครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั รหัส 20104–2101
ระดับชน้ั ปวช.3
ท–ป–น 1-3-4 จำนวนคาบสอน 4 คาบ/สัปดาห์
10 %
1. คะแนนการวัดผล 10 %
20 %
- พทุ ธพิ สิ ัย 1) แบบฝึกหดั 40 %
20 %
2) ทดสอบหลังเรียน 100 %
3) วดั ผลสัมฤทธ์ิ (ปลายภาค)
- ทกั ษะพิสยั 1) งานท่มี อบหมาย
- จติ พิสยั
รวมทง้ั หมด
2. คะแนนการประเมินผล (อิงเกณฑ)์
80 – 100 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 4.0 หมายถงึ ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑด์ เี ย่ยี ม
75 – 79 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 3.5 หมายถึง ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑด์ มี าก
70 – 74 คะแนน ได้ผลการเรยี น 3.0 หมายถงึ ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑด์ ี
65 – 69 คะแนน ได้ผลการเรยี น 2.5 หมายถึง ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑด์ พี อใช้
60 – 64 คะแนน ได้ผลการเรยี น 2.0 หมายถงึ ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑพ์ อใช้
55 – 59 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 1.5 หมายถงึ ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑอ์ ่อน
50 – 54 คะแนน ได้ผลการเรียน 1.0 หมายถึง ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑ์ออ่ นมาก
50 คะแนน ได้ผลการเรียน 0 หมายถึง ผลการเรยี นต่ำกว่าเกณฑข์ น้ั ตำ่
ฌ
ตารางกำหนดนำ้ หนักคะแนน/ตารางวิเคราะห์หลกั สตู รรายวิชา
รหัสวชิ า 20104-2101 รายวิชาเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั หนว่ ยกิต 1-3-2 (4)
ชน้ั ปวช.3 พฤติกรรม สาขาวิชาชา่ งไฟฟ้ากำลงั
พทุ ธพิ สิ ัย
ชื่อหน่วย ความ ูร้ความจำ
ความเ ้ขาใจ
1. โครงสรา้ งและส่วนประกอบของเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ ประยุกต์-นำไปใ ้ช
กระแสสลับ วิเคราะ ์ห
2. หลักการทำงานและการเกดิ รูปคลื่นไซน์ สูงกว่า
3. การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ รวม
4. ตัวประกอบการพนั ขดลวด ัทกษะ ิพ ัสย
5. การทำงานและแรงดนั ไฟฟ้าเหนี่ยวนำ จิต ิพ ัสย
6. คณุ ลกั ษณะของเครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั
7. การขนานเคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 112- - 342
8. ประสิทธภิ าพและการบำรงุ รกั ษาเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้
กระแสสลับ 112- - 343
9. การพนั เคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั ขนาดเล็ก 122- - 543
122- - 252
รวม 122- - 442
สัดสว่ นคะแนน (ร้อยละ) 112- - 242
ลำดับความสำคญั 122- - 342
122- - 342
124- - 572
9 14 12 - - 40 40 20
40 40 20
213
1
แผนการจดั การเรียนรู้แบบเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 1
ชื่อวชิ า เครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั (20104-2104) จำนวน 4 ชว่ั โมง
ช่อื หน่วย : การพันเคร่อื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับขนาดเลก็
หัวขอ้ เรอื่ ง
1.1 หลักการเบ้อื งตน้ ของเคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
1.2 โครงสรา้ งและส่วนประกอบของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ แบบขวั้ แม่เหลก็ หมุน
1.3 ขดลวดแดมเปอร์
1.4 เอก็ ไซเตอรข์ องเคร่อื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ
สมรรถนะยอ่ ย
1. แสดงความรเู้ ก่ียวกับโครงสรา้ งและสว่ นประกอบของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ
2. ปฏบิ ัติในการถอดประกอบและวดั หาคา่ ตา่ ง ๆ ของเคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
ดา้ นความรู้
1. อธบิ ายหลกั การเบ้อื งตน้ ของเคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั ได้
2. อธบิ ายโครงสรา้ งและส่วนประกอบของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ แบบข้ัวแมเ่ หลก็ หมนุ ได้
3. อธิบายขดลวดแดมเปอร์ได้
4. อธบิ ายเอ็กไซเตอรข์ องเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั ได้
ดา้ นทกั ษะ
1. บนั ทึกขอ้ มลู บนแผ่นปา้ ยของเครื่องกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส แบบซิงโครนัสได้
2. อธบิ ายขอ้ มูลตา่ ง ๆ บนแผ่นปา้ ยของเครอื่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบซงิ โครนัสได้
3. ถอดประกอบเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส แบบซิงโครนสั ได้
4. ตรวจสอบหาขดลวดต่าง ๆ ของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส แบบซงิ โครนัสได้
ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
แสดงออกด้านความสนใจใฝร่ ู้ การตรงตอ่ เวลา ความซื่อสัตย์ สจุ รติ ความมนี ้ำใจและแบง่ บนั
ความรว่ มมือ/ยอมรับความคิดเหน็ ส่วนใหญ่
เน้ือหาสาระ
1.1 หลักการเบื้องตน้ ของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับมีชื่อเรียกว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าซิงโครนัส (Synchronous
generator) หรือมีชื่อเรียกกันโดยทั่วไปว่า อัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator) ซึ่งมีหน้าที่เปลี่ยนพลังงานกลเป็น
พลังงานไฟฟา้ โดยกำลงั ไฟฟา้ ท่ไี ดจ้ ะเปน็ ไฟฟา้ กระแสสลับ ซึง่ จะมี 2 แบบ คือ
1.1.1 แบบอาร์เมเจอร์หมุน (Rotating armature)
1.1.2 แบบข้วั แมเ่ หลก็ หมุน (Rotating field)
1.2 โครงสรา้ งและส่วนประกอบของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ แบบขว้ั แม่เหลก็ หมนุ
1.2.1 ส่วนท่อี ยกู่ บั ที่
1.2.2 สว่ นท่หี มุน
2
1.3 ขดลวดแดมเปอร์
ขดลวดแดมเปอร์ (Damper winding) หรือบางครั้งเรียกว่าชุดขดลวดหน่วง ทำมาจากแท่ง
ทองแดงและฝังไว้ที่บริเวณหน้าขั้วแม่เหล็กของโรเตอร์แบบขั้วแม่เหล็กยื่น โดยปลายทั้งสองข้างของแท่ง
ทองแดงเหล่าน้จี ะถูกลัดวงจรด้วยวงแหวนทองแดงทัง้ สองด้านคลา้ ยกบั ขดลวดกรงกระรอก ดังรปู ท่ี 1.7 หน้าที่
ของขดลวดแดมเปอร์นี้มีไว้เพื่อป้องกันการสั่นหรือการแกว่งของโรเตอร์เนื่องจากการหมุนของเครื่องกำเนิด
ไฟฟา้ ท่ไี มส่ ม่ำเสมอเนอ่ื งจากการเพ่ิมหรือลดโหลดลงในทันทีทนั ใด
1.4 เอ็กไซเตอร์ของเครอื่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ
เอก็ ไซเตอร์ (Exciter) เป็นแหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง ทำหน้าทีจ่ า่ ยไฟฟา้ กระแสไฟตรงใหก้ บั ขดลวดสนามแมเ่ หลก็ ของเคร่ือง
กำเนดิ ไฟฟา้ หลักของโรเตอร์แบบขั้วแม่เหลก็ หมนุ โดยท่วั ไปมี 2 แบบ คือ
1.4.1 แบบใช้แหล่งจา่ ยไฟฟ้ากระแสตรงจากภายนอก (External direct current source)
1.4.2 แบบใช้แหลง่ จ่ายกำลังไฟฟ้ากระแสตรงพเิ ศษ (Special direct current power source)
กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 1/18, คาบท่ี 1–4/72)
1. ครูชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดประสงค์ สมรรถนะและคำอธิบายรายวิชา การวัดผลและ
ประเมินผลการเรยี น คุณลกั ษณะนสิ ยั ทตี่ อ้ งการใหเ้ กดิ ข้ึน และข้อตกลงในการเรียน
2. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยที่ 1
3. ครูให้หนงั สือเรยี น
4. ครนู ำเขา้ สูบ่ ทเรยี น และครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียน
5. ครูสอนเนอ้ื หาสาระข้อ 1.1 – 1.4
6. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด
7. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยแบบฝกึ หดั และร่วมอภิปรายสรปุ บทเรียน
8. ให้นกั เรยี นทำตามใบงานที่ 1 ครจู ะสังเกตการทำงานกล่มุ
9. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยที่ 1
สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้
1. สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 1, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน
เรียน และหลงั เรยี น
2. แหลง่ การเรยี นรู้ หนังสอื /ตำรา วารสารเกยี่ วกบั เคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ, อินเทอรเ์ น็ต
การวัดและการประเมนิ ผล
การวดั ผล การประเมนิ ผล
(ใชเ้ ครอ่ื งมอื ) (นำผลเทียบกับเกณฑ์และแปลความหมาย)
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre–test) หนว่ ยที่ 1 (ไวเ้ ปรียบเทยี บกับคะแนนสอบหลังเรียน)
2. แบบสังเกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑ์ผ่าน 60%
3. แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 1 เกณฑผ์ า่ น 50%
4. ใบงานท่ี 1 เกณฑผ์ า่ น 60%
5. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หน่วยที่ 1 เกณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ์ ่าน 60%
3
งานที่มอบหมาย
งานทม่ี อบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ใหท้ ำแบบฝึกหดั ให้เรยี บร้อย ถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์
ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเร็จของผเู้ รียน
1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 1
2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยท่ี 1
3. ผลการทำใบงานท่ี 1
เอกสารอ้างองิ
สธุ น แกน่ ตน้ (2563). เครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ. นนทบุรี : ศูนยห์ นังสอื เมืองไทย.
4
ความสอดคลอ้ งกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำริ
3 ห่วง -เตรียมอุปกรณ์เกีย่ วกับความปลอดภัยอยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภัยในการเรยี นในรายวชิ า
2. มเี หตุผล - ปอ้ งกันอบุ ัติเหตุในงาน ได้
3. มภี มู คิ มุ้ กันในตวั ทดี่ ี
- ปฏบิ ัตติ ามกฎของโรงงานได้อยา่ งเครง่ ครัด
2 เงื่อนไข - บอกวธิ กี ารปอ้ งกันอบุ ัตเิ หตใุ นงานได้
1. เงื่อนไขความรู้ - อธบิ ายถงึ ความสำคัญของความปลอดภัยในการปฏบิ ัตงิ านได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวงั ) - มีความรบั ผิดชอบ
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์
2. เงื่อนไขคุณธรรม
- ใชอ้ ุปกรณ์ วสั ดุ ในการเรียนการสอนอย่างประหยัด คุ้มค่า
4 มิติ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรับกับการทำงานภายนอกได้
1. มติ ิดา้ นเศรษฐกิจ - ไม่ทำลายทำธรรมชาติในการเรียนในรายวชิ า
2. มิตดิ า้ นสงั คม - มคี ณุ ธรรม ความสือ่ สตั ย์ต่อวิชา ครูผูส้ อน
3. มิติดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม
4. มิติดา้ นวัฒนธรรม
5
ความสอดคลอ้ งกบั คณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของสถานศกึ ษา
............................................................................
1. ขยัน → นกั เรียนนกั ศึกษาสามารถทำงานเสร็จตรงตามเวลา
2. ประหยดั → นกั เรียนนกั ศกึ ษานำวสั ดทุ ใ่ี ช้มาปฏิบัตอิ ย่างประหยดั
3. ซ่อื สตั ย์ → นักเรยี นนักศึกษามีความสอื่ สัตยต์ ่อวิชาเรียน ต่อผู้สอน
4. มีวนิ ัย → นักเรียนนกั ศึกษามาเรยี นตรงตามเวลา
5. สุภาพ → นักเรยี นนกั ศกึ ษามีความสุภาพตอ่ ครูผสู้ อน
6. สะอาด → นักเรยี นนกั ศกึ ษาช่วยกนั รักษาความสะอาดในแผนกวชิ า
7. สามคั คี → นกั เรยี นนักศึกษามีความสามคั ครี ว่ มมือกนั ทำงานเป็นกลมุ่
8. มีนำ้ ใจ → นกั เรยี นนกั ศกึ ษามคี วามเอื้อเฟ้อื ตอ่ เพอ่ื นร่วมห้อง
6
แผนการจดั การเรียนรแู้ บบเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 2
ช่ือวิชา เครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั (20104-2104) จำนวน 8 ช่ัวโมง
ชอ่ื หนว่ ย : หลกั การทำงานและการเกดิ รูปคล่นื ไซน์
หัวข้อเร่อื ง
2.1 การเกิดแรงดนั ไฟฟ้าเหน่ียวนำ
2.2 ทิศทางของแรงดนั ไฟฟา้ เหน่ยี วนำและกระแส
2.3 คา่ ท่มี ผี ลตอ่ แรงดนั ไฟฟ้าเหนีย่ วนำ
2.4 การเกดิ รปู คล่ืนของแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลบั
2.5 ความสมั พนั ธ์ตา่ ง ๆ ของเครอื่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
2.6 การคำนวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ของเคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การทำงานและการเกิดรูปคลนื่ ไซน์
2. ตอ่ วงจรการทดลองการเกิดแรงดันไฟฟา้ เหน่ยี วนำ
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
ด้านความรู้
1. อธิบายการเกิดแรงดันไฟฟา้ เหน่ียวนำได้
2. บอกทศิ ทางของแรงดนั ไฟฟา้ เหนยี่ วนำและกระแสได้
3. อธบิ ายคา่ ที่มผี ลต่อแรงดนั ไฟฟา้ เหน่ยี วนำได้
4. อธิบายการเกดิ รปู คลนื่ ของแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลบั ได้
5. อธบิ ายความสัมพันธต์ ่าง ๆ ของเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั ได้
6. คำนวณหาค่าต่าง ๆ ของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับได้
ดา้ นทกั ษะ
1. วัดหารูปคล่ืนและเขียนรปู คลืน่ ของเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับด้วยออสซิลโลสโคปได้
2. คำนวณหาค่าความถข่ี องเคร่อื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั ได้
3. เขียนและอธิบายกราฟความสัมพันธ์ระหว่างความถี่กับความเร็วรอบของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
กระแสสลับได้
ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดนิ่งที่จะแก้ปัญหา ความซื่อสัตย์
ความร่วมมอื
เนื้อหาสาระ
2.1 การเกดิ แรงดนั ไฟฟา้ เหนย่ี วนำ
จากกฎของฟาราเดย์ เมื่อเคลื่อนที่ตัวนำตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กหรือมีการเปลี่ยนแปลงเส้นแรง
แม่เหล็กที่ตัวนำวางอยู่ ย่อมทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นบนตัวนำนั้น โดยทิศทางของแรงดันไฟฟ้า
เหนี่ยวนำจะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนที่ของตัวนำกับการวางขั้วแม่เหล็กที่แตกต่างกัน ตัวนำจะวางอยู่ระหว่าง
ขั้วแม่เหล็กเหนือ (N) กับขั้วแม่เหล็กใต้ (S) เมื่อเคลื่อนที่ตัวนำขึ้นจะตัดกับเส้นแรงแม่เหล็กทำให้เกิด
7
แรงดันไฟฟา้ เหน่ยี วนำ สมมติให้เขม็ ของกัลวานอมิเตอร์บ่ายเบนไปทางขวา และเม่ือเคลอ่ื นท่ีลงก็จะตัดกับเส้น
แรงแม่เหลก็ อกี ครัง้ หนึ่ง ทำใหเ้ กดิ แรงดันไฟฟา้ เหนีย่ วนำเช่นเดยี วกนั ทำให้เขม็ ของกัลวานอมิเตอร์บ่ายเบนไป
ทางซ้าย
2.2 ทศิ ทางของแรงดันไฟฟ้าเหน่ยี วนำและกระแส
การหาทศิ ทางของแรงดนั ไฟฟ้าเหนีย่ วนำ จะใช้กฎมือขวา โดยกางมอื ขวาออกและให้นิ้วหัวแม่มอื
ตั้งฉากกับนิ้วทั้งสี่ ถ้ากำหนดให้เส้นแรงแม่เหล็กที่พุ่งออกจากขั้วเหนือ (N) พุ่งเข้าหาอุ้งมือ และนิ้วหัวแม่มือช้ี
ทิศทางการเคล่ือนท่ีของตวั นำ ดังน้นั น้วิ ท้งั สีจ่ ะชี้ทิศทางของแรงดนั ไฟฟา้ เหนีย่ วนำ ถ้านิว้ ทง้ั สีช่ เี้ ข้าจะแทนด้วย
กระแสไหลเข้า และถา้ นว้ิ ทั้งสีช่ ีอ้ อก จะแทนด้วยกระแสไหลออก
2.3 คา่ ที่มีผลตอ่ แรงดนั ไฟฟา้ เหนีย่ วนำ
2.3.1 ความหนาแนน่ ของเส้นแรงแมเ่ หลก็ (B)
2.3.2 ความยาวของตัวนำ (l)
2.3.3 ความเรว็ ในการเคล่ือนที่ (v)
2.3.4 ตวั นำเคลือ่ นทใ่ี นแนวเฉยี ง
2.4 การเกิดรปู คลนื่ ของแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั
หากกำหนดให้ตัวนำมีการพันเพียง 1 รอบ โดยปลายตัวนำของขดลวดจะถูกต่อกับวงแหวน
สลปิ รงิ (Slip ring) ซง่ึ แยกกนั โดยอิสระและมแี ปรงถา่ น a และ b สัมผัสอยู่ที่วงแหวน เพื่อจะไดน้ ำแรงดันไฟฟ้าท่ี
เหนี่ยวนำขึ้นไปใช้งาน ดังนั้นถ้ามีตัวขับเคลื่อน (Prime mover) มาขับขดลวดตัวนำให้เคลื่อนที่ผ่านเส้นแรง
แมเ่ หล็กในทิศทางใดทศิ ทางหนึ่งก็ได้ กจ็ ะทำใหเ้ กิดแรงดันไฟฟา้ เหน่ียวนำขน้ึ ทป่ี ลายทงั้ สองของขดลวด
2.5 ความสมั พนั ธ์ตา่ ง ๆ ของเครื่องกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั
2.5.1 ความสัมพันธ์ระหวา่ งองศาทางไฟฟ้ากับองศาทางกล
2.5.2 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งความถี่ ความเร็วรอบ และจำนวนข้วั แมเ่ หลก็
2.6 การคำนวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ของเครื่องกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 2/18, คาบที่ 5–8/72)
1. ครทู บทวนเน้อื หาการสอน
2. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยท่ี 2
3. แบง่ กลมุ่ นักเรียนเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน
4. ครนู ำเข้าส่บู ทเรียน และครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรียน
5. ครูสอนเน้อื หาสาระ 2.1-2.3
6. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดเป็นกลมุ่ ขณะนักเรยี นทำแบบฝกึ หัดครจู ะสงั เกตการทำงานกลุ่ม
7. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยแบบฝกึ หดั และร่วมอภิปรายสรุปบทเรียน
8. นกั เรยี นปฏิบตั ิตามใบงานที่ 2 แม่เหลก็ ไฟฟา้ และแรงดนั ไฟฟา้ เหนี่ยวนำ
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ท่ี 3/18, คาบท่ี 9–12/72)
1. ครูทบทวนเน้ือหาการสอน
2. แบ่งกล่มุ นักเรยี นเป็นกลุม่ ๆ ละ 4-5 คน
3. ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรยี น และครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี น
4. ครสู อนเนือ้ หาสาระ 2.4-2.6
5. นักเรยี นทำแบบฝึกหัดเป็นกลมุ่ ขณะนักเรียนทำแบบฝกึ หัดครูจะสังเกตการทำงานกลมุ่
8
6. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยแบบฝกึ หดั และร่วมอภิปรายสรุปบทเรียน
7. นกั เรียนปฏบิ ตั ิตามใบงานที่ 2 (ต่อ)
8. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยท่ี 2
สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้
1. สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 2, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน
เรยี น และหลังเรียน
2. แหลง่ การเรยี นรู้ หนงั สือ วารสารเก่ียวกับเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ, อนิ เทอรเ์ น็ต
การวัดผลและประเมินผล
การวดั ผล การประเมินผล
(ใชเ้ คร่ืองมอื ) (นำผลเทียบกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย)
1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre–test) หนว่ ยท่ี 2 (ไว้เปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลงั เรยี น)
2. แบบสงั เกตการทำงานกลมุ่ และนำเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑผ์ ่าน 60%
3. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 2 เกณฑผ์ ่าน 50%
4. ใบงานที่ 2 เกณฑ์ผ่าน 60%
5. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยที่ 2 เกณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ์ า่ น 60%
งานทม่ี อบหมาย
งานท่มี อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ให้ทำแบบฝึกหัดใหเ้ รยี บร้อย ถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์
ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเรจ็ ของผ้เู รียน
1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 2
2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยที่ 2
3. ผลการปฏบิ ัตติ ามใบงานท่ี 2
เอกสารอ้างอิง
สุธน แกน่ ตน้ (2563). เครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ. นนทบรุ ี : ศูนยห์ นังสอื เมืองไทย.
9
ความสอดคลอ้ งกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำริ
3 ห่วง -เตรียมอุปกรณ์เกีย่ วกับความปลอดภัยอยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภัยในการเรยี นในรายวชิ า
2. มเี หตุผล - ปอ้ งกันอบุ ัติเหตุในงานได้
3. มภี มู คิ มุ้ กันในตวั ทดี่ ี
- ปฏบิ ัตติ ามกฎของโรงงานได้อยา่ งเครง่ ครัด
2 เงื่อนไข - บอกวธิ กี ารปอ้ งกันอบุ ัตเิ หตใุ นงานได้
1. เงื่อนไขความรู้ - อธบิ ายถงึ ความสำคัญของความปลอดภัยในการปฏบิ ัตงิ านได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวงั ) - มีความรบั ผิดชอบ
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์
2. เงื่อนไขคุณธรรม
- ใชอ้ ุปกรณ์ วสั ดุ ในการเรียนการสอนอย่างประหยัด คุ้มค่า
4 มิติ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรับกับการทำงานภายนอกได้
1. มติ ิดา้ นเศรษฐกิจ - ไม่ทำลายทำธรรมชาติในการเรียนในรายวชิ า
2. มิตดิ า้ นสงั คม - มคี ณุ ธรรม ความสือ่ สตั ยต์ อ่ วิชา ครูผูส้ อน
3. มิติดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม
4. มิติดา้ นวัฒนธรรม
10
ความสอดคล้องกบั คณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของสถานศึกษา
............................................................................
1. ขยนั → นกั เรียนนักศึกษาสามารถทำงานเสรจ็ ตรงตามเวลา
2. ประหยดั → นักเรียนนกั ศกึ ษานำวัสดทุ ีใ่ ช้มาปฏิบัตอิ ยา่ งประหยดั
3. ซอ่ื สตั ย์ → นักเรียนนกั ศกึ ษามีความส่อื สตั ยต์ ่อวิชาเรยี น ต่อผู้สอน
4. มวี นิ ยั → นกั เรยี นนักศกึ ษามาเรยี นตรงตามเวลา
5. สภุ าพ → นักเรยี นนักศกึ ษามีความสภุ าพตอ่ ครูผสู้ อน
6. สะอาด → นกั เรียนนักศกึ ษาชว่ ยกนั รักษาความสะอาดในแผนกวชิ า
7. สามคั คี → นกั เรยี นนักศกึ ษามีความสามคั คีรว่ มมือกนั ทำงานเป็นกลมุ่
8. มนี ำ้ ใจ → นกั เรียนนกั ศกึ ษามีความเอือ้ เฟ้อื ตอ่ เพ่ือนร่วมหอ้ ง
11
แผนการจดั การเรียนร้แู บบเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 3
ชือ่ วิชา เครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ (20104-2104) จำนวน 4 ชั่วโมง
ชื่อหนว่ ย : การพันขดลวดอารเ์ มเจอร์
หัวข้อเร่ือง
3.1 ความหมายของค่าต่าง ๆ ในการพันขดลวด
3.2 การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ที่สเตเตอร์
3.3 สตู รการคำนวณหาค่าต่าง ๆ ในการพนั ขดลวดอาร์เมเจอร์
3.4 การคำนวณหาค่าตา่ ง ๆ ในการพนั และผงั การลงขดลวดอารเ์ มเจอร์
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับการพันขดลวดอาร์เมเจอร์
2. ปฏิบัติการลงขดลวดแบบภาพคลี่ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เฟส และ 3 เฟส ทั้งแบบชั้นเดียวและ
สองชนั้
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
ดา้ นความรู้
1. บอกความหมายของค่าตา่ ง ๆ ในการพนั ขดลวดได้
2. อธบิ ายการพันขดลวดอารเ์ มเจอรท์ ่สี เตเตอรไ์ ด้
3. บอกสตู รการคำนวณหาคา่ ต่าง ๆ ในการพันขดลวดอารเ์ มเจอร์ได้
4. คำนวณหาค่าตา่ ง ๆ ในการพนั และผังการลงขดลวดอาร์เมเจอร์ได้
ด้านทักษะ
1. คำนวณหาค่าต่าง ๆ ในการพันขดลวดอารเ์ มเจอรข์ องเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั ได้
2. เขยี นผังการลงขดลวดแบบภาพคลแ่ี ละการตอ่ กรุ๊ปขดลวดได้
3. นำเสนอผลงานทีไ่ ด้จากการคำนวณและผงั การลงแบบภาพคล่ไี ด้
ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
แสดงออกด้านการตรงตอ่ เวลา ความสนใจใฝร่ ู้ ไมห่ ยดนงิ่ ทจี่ ะแกป้ ัญหา ความซ่ือสตั ย์ ความ
ร่วมมอื
เน้อื หาสาระ
3.1 ความหมายของคา่ ต่าง ๆ ในการพนั ขดลวด
3.1.1 พิตช์ขดลวด (Coil pitch) คือ ระยะห่างของขดลวดระหว่างคอยล์ด้านซ้ายกับคอยล์
ด้านขวาของขดลวดชุดเดยี วกัน
3.1.2 พิตช์ขั้วแม่เหล็ก (Pole pitch) คือ ระยะห่างของขั้วแม่เหล็กระหว่างจุดกึ่งกลางของ
ขว้ั แม่เหล็กเหนอื (N) กบั ขว้ั แมเ่ หลก็ ใต้ (S) ทอ่ี ยปู่ ระชิดกนั ซง่ึ มีคา่ เทา่ กับ 180 ทางไฟฟา้
3.1.3 พติ ชเ์ ตม็ (Full pitch) คอื ระยะหา่ งของขดลวดระหว่างคอยล์ด้านซา้ ยกับคอยล์ด้านขวา
ของขดลวดชดุ เดยี วกัน ซงึ่ มีระยะห่างเท่ากับพติ ชข์ ว้ั แม่เหลก็ หรอื เทา่ กับ 180 ทางไฟฟ้า
3.1.4 พิตชเ์ ศษส่วนหรือพติ ชส์ ัน้ (Fractional pitch or short pitch) คอื ระยะหา่ งของขดลวด
ระหว่างคอยล์ด้านซา้ ยกับคอยล์ดา้ นขวาของขดลวดชุดเดียวกนั ซงึ่ มรี ะยะหา่ งน้อยกวา่ พติ ช์ขวั้ แม่เหลก็ หรอื น้อย
กวา่ 180 ทางไฟฟา้
12
3.1.5 มมุ ของร่อง (Slot angle) คอื มมุ ระหวา่ งร่อง 2 ร่องทอ่ี ยปู่ ระชิดกนั กำหนดตวั อักษรกรีก
เปน็ (อา่ นวา่ เบตา) มีหน่วยเป็นองศาทางไฟฟา้
3.1.6 เลเยอร์ (Layer) คอื จำนวนชน้ั ของขดลวดใน 1 ร่องทส่ี เตเตอร์
3.2 การพันขดลวดอารเ์ มเจอรท์ ี่สเตเตอร์
3.2.1 เครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 1 เฟส
3.2.2 เครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส
3.3 สูตรการคำนวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ในการพนั ขดลวดอารเ์ มเจอร์
3.4 การคำนวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ในการพันและผงั การลงขดลวดอาร์เมเจอร์
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 4/18, คาบท่ี 13–16/72)
1. ครูทบทวนเนื้อหาการสอน
2. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยท่ี 3
3. แบง่ กลุ่มนักเรียนเปน็ กลุ่มๆ ละ 4-5 คน
4. ครูนำเขา้ ส่บู ทเรียน ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนและสอนเนือ้ หาสาระ
5. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดเป็นกลมุ่ ขณะนักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ครจู ะสงั เกตการทำงานกลมุ่
6. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยแบบฝึกหดั และร่วมอภปิ รายสรุปบทเรยี น
7. นกั เรยี นปฏบิ ัติตามใบงานที่ 3
8. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยที่ 3
ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
1. สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 3, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน
เรียน และหลงั เรียน
2. แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สอื วารสารเกีย่ วกับเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั , อินเทอร์เน็ต
www.google.com
การวดั ผลและประเมนิ ผล
การวดั ผล การประเมินผล
(ใชเ้ ครอ่ื งมือ) (นำผลเทยี บกับเกณฑ์และแปลความหมาย)
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre–test) หน่วยท่ี 3 (ไว้เปรยี บเทียบกบั คะแนนสอบหลังเรยี น)
2. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 60%
3. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 3 เกณฑ์ผ่าน 50%
4. ใบงานท่ี 3 เกณฑ์ผ่าน 60%
5. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หน่วยท่ี 3 เกณฑ์ผา่ น 50%
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑผ์ ่าน 60%
งานที่มอบหมาย
งานทีม่ อบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ใหท้ ำแบบฝึกหัดให้เรียบร้อย ถูกตอ้ ง สมบูรณ์
13
ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสำเรจ็ ของผ้เู รียน
1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 3
2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยท่ี 3
3. ผลการปฏิบัตติ ามใบงานที่ 3
เอกสารอ้างอิง
สุธน แกน่ ต้น (2563). เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ. นนทบรุ ี : ศูนยห์ นงั สอื เมอื งไทย.
14
ความสอดคลอ้ งกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำริ
3 ห่วง -เตรียมอปุ กรณเ์ กย่ี วกับความปลอดภยั อยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภยั ในการเรียนในรายวชิ า
2. มีเหตผุ ล - ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตใุ นงานได้
3. มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี
- ปฏบิ ตั ิตามกฎของโรงงานได้อย่างเครง่ ครดั
2 เงอื่ นไข - บอกวธิ กี ารป้องกนั อบุ ัติเหตใุ นงานได้
1. เง่อื นไขความรู้ - อธิบายถงึ ความสำคัญของความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั ิงานได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวงั ) - มีความรบั ผิดชอบ
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
2. เง่ือนไขคณุ ธรรม
- ใชอ้ ปุ กรณ์ วสั ดุ ในการเรียนการสอนอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
4 มิติ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรับกับการทำงานภายนอกได้
1. มิติดา้ นเศรษฐกิจ - ไมท่ ำลายทำธรรมชาติในการเรียนในรายวิชา
2. มิติดา้ นสังคม - มีคณุ ธรรม ความสื่อสตั ยต์ อ่ วชิ า ครูผูส้ อน
3. มติ ิดา้ นสิง่ แวดล้อม
4. มิตดิ า้ นวัฒนธรรม
15
ความสอดคล้องกบั คณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของสถานศึกษา
............................................................................
1. ขยนั → นกั เรียนนักศึกษาสามารถทำงานเสรจ็ ตรงตามเวลา
2. ประหยดั → นักเรียนนกั ศกึ ษานำวัสดทุ ีใ่ ช้มาปฏิบัตอิ ยา่ งประหยดั
3. ซอ่ื สตั ย์ → นักเรียนนกั ศกึ ษามีความส่อื สตั ยต์ ่อวิชาเรยี น ต่อผู้สอน
4. มวี นิ ยั → นกั เรยี นนักศกึ ษามาเรยี นตรงตามเวลา
5. สภุ าพ → นักเรยี นนักศกึ ษามีความสภุ าพตอ่ ครูผสู้ อน
6. สะอาด → นกั เรียนนักศกึ ษาชว่ ยกนั รักษาความสะอาดในแผนกวชิ า
7. สามคั คี → นกั เรยี นนักศกึ ษามีความสามคั คีรว่ มมือกนั ทำงานเป็นกลมุ่
8. มนี ำ้ ใจ → นกั เรียนนกั ศกึ ษามีความเอือ้ เฟ้อื ตอ่ เพ่ือนร่วมหอ้ ง
16
แผนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 4
ชื่อวชิ า เคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั (20104-2104) จำนวน 4 ชั่วโมง
ชือ่ หนว่ ย : ตัวประกอบการพันขดลวด
หัวข้อเรื่อง
4.1 ตัวประกอบพิตช์
4.2 ตัวประกอบการกระจาย
4.3 การคำนวณหาคา่ ตวั ประกอบการพนั ขดลวด
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับตัวประกอบการพันขดลวด
2. ปฏิบัตกิ ารหาตวั ประกอบการพันขดลวดทล่ี งในร่องสเตเตอร์ตามแนวระนาบ
จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
ด้านความรู้
1. อธิบายตวั ประกอบพติ ช์ได้
2. อธบิ ายตวั ประกอบการกระจายได้
3. คำนวณหาค่าตัวประกอบการพันขดลวดได้
ดา้ นทกั ษะ
1. คำนวณหาคา่ ต่าง ๆ ในการพนั ขดลวดอาร์เมเจอร์ของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั ได้
2. พจิ ารณาการลงขดลวดในร่องสเตเตอร์ตามแนวระนาบที่กำหนดใหไ้ ด้
3. นำเสนอผลงานทีไ่ ด้จากการคำนวณได้
ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ไม่หยดนิ่งที่จะแก้ปัญหา ความซื่อสัตย์
ความรว่ มมือ
เน้ือหาสาระ
4.1 ตวั ประกอบพติ ช์
ตัวประกอบพติ ช์ (Pitch factor) หมายถงึ ตวั ประกอบท่ีเกดิ จากการพนั ขดลวดอารเ์ มเจอร์ในร่อง
สเตเตอร์ เพ่ือเป็นตวั ประกอบท่ใี ช้คณู เข้าไปในสมการแรงดันไฟฟา้ เหนี่ยวนำ
4.1.1 ลงขดลวดแบบพติ ช์เต็ม
4.1.2 ลงขดลวดแบบพติ ชเ์ ศษสว่ น
4.2 ตัวประกอบการกระจาย
ตวั ประกอบการกระจาย (Distributed factor) หมายถงึ ตัวประกอบท่เี กิดจากการพันขดลวดอาร์
เมเจอร์ใน 1 กรุ๊ปที่ได้กระจายลงในร่องสเตเตอร์ เพื่อเป็นตัวประกอบที่ใช้คูณเข้าไปในสมการแรงดันไฟฟ้า
เหนยี่ วนำ จะกำหนดให้เปน็ ค่า Kd
4.3 การคำนวณหาคา่ ตวั ประกอบการพันขดลวด
17
กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 5/18, คาบท่ี 17–20/72)
1. ครูทบทวนเนอ้ื หาการสอน
2. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยท่ี 4
3. แบ่งกลมุ่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน
4. ครนู ำเขา้ สู่บทเรยี น ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนและสอนเน้ือหาสาระ
5. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั เป็นกลุ่ม ขณะนักเรยี นทำแบบฝึกหัดครูจะสงั เกตการทำงานกลุ่ม
6. ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยแบบฝกึ หัด และร่วมอภปิ รายสรปุ บทเรียน
7. นักเรียนปฏิบัติตามใบงานที่ 4
8. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยท่ี 4
สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้
1. สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 4, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน
เรยี น และหลังเรยี น
2. แหล่งการเรียนรู้ หนงั สอื วารสารเกยี่ วกับเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั , อนิ เทอรเ์ น็ต
การวัดผลและประเมนิ ผล การประเมนิ ผล
(นำผลเทียบกับเกณฑ์และแปลความหมาย)
การวดั ผล (ไวเ้ ปรียบเทยี บกบั คะแนนสอบหลังเรียน)
(ใช้เครอื่ งมือ) เกณฑ์ผ่าน 60%
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre–test) หน่วยท่ี 4 เกณฑ์ผา่ น 50%
2. แบบสังเกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 60%
3. แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 4 เกณฑผ์ ่าน 50%
4. ใบงานที่ 4 เกณฑ์ผ่าน 60%
5. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนว่ ยท่ี 4
6. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง
งานทีม่ อบหมาย
งานที่มอบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ใหท้ ำแบบฝึกหดั ให้เรียบรอ้ ย ถูกตอ้ ง สมบรู ณ์
ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเร็จของผเู้ รียน
1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 4
2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยที่ 4
3. ผลการทำใบงานท่ี 4
เอกสารอ้างองิ
สุธน แก่นต้น (2563). เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสกระสลับ. นนทบุรี : ศูนยห์ นงั สือเมืองไทย.
18
ความสอดคลอ้ งกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งตามแนวพระราชดำริ
3 ห่วง -เตรียมอุปกรณ์เกยี่ วกบั ความปลอดภัยอยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภัยในการเรียนในรายวิชา
2. มเี หตุผล - ปอ้ งกันอบุ ัตเิ หตุในงาน ได้
3. มีภูมิคมุ้ กนั ในตัวทด่ี ี
- ปฏบิ ตั ติ ามกฎของโรงงานไดอ้ ย่างเคร่งครดั
2 เงื่อนไข - บอกวธิ กี ารป้องกันอบุ ัตเิ หตใุ นงานได
1. เงือ่ นไขความรู้ - อธิบายถงึ ความสำคัญของความปลอดภัย ในการปฏบิ ัติงานได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวัง) - มีความรบั ผิดชอบ
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์
2. เงอ่ื นไขคุณธรรม
- ใชอ้ ุปกรณ์ วัสดุ ในการเรียนการสอนอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
4 มิติ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรับกบั การทำงานภายนอกได้
1. มิตดิ า้ นเศรษฐกจิ - ไมท่ ำลายทำธรรมชาติในการเรยี นในรายวิชา
2. มิตดิ า้ นสังคม - มีคุณธรรม ความส่ือสตั ยต์ ่อวิชา ครูผสู้ อน
3. มิติดา้ นส่ิงแวดล้อม
4. มติ ิดา้ นวฒั นธรรม
19
ความสอดคล้องกับคณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของสถานศึกษา
............................................................................
1. ขยัน → นกั เรียนนกั ศึกษาสามารถทำงานเสรจ็ ตรงตามเวลา
2. ประหยัด → นกั เรยี นนกั ศกึ ษานำวัสดทุ ่ีใชม้ าปฏบิ ัตอิ ย่างประหยัด
3. ซ่ือสัตย์ → นกั เรียนนกั ศกึ ษามคี วามส่ือสตั ยต์ อ่ วิชาเรียน ตอ่ ผู้สอน
4. มีวนิ ยั → นกั เรยี นนกั ศกึ ษามาเรยี นตรงตามเวลา
5. สุภาพ → นกั เรยี นนักศกึ ษามีความสภุ าพตอ่ ครูผูส้ อน
6. สะอาด → นกั เรียนนักศกึ ษาช่วยกนั รักษาความสะอาดในแผนกวชิ า
7. สามคั คี → นักเรยี นนกั ศึกษามีความสามคั ครี ว่ มมอื กนั ทำงานเป็นกลมุ่
8. มนี ำ้ ใจ → นักเรยี นนกั ศึกษามคี วามเออื้ เฟอ้ื ตอ่ เพ่ือนรว่ มห้อง
20
แผนการจัดการเรยี นรู้แบบเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 5
ชือ่ วชิ า เคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั (20104-2104) จำนวน 4 ชั่วโมง
ช่อื หน่วย : การทำงานและแรงดันไฟฟา้ เหนี่ยวนำ
หวั ข้อเรอ่ื ง
5.1 การทำงานของเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟส
5.2 การทำงานของเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส
5.3 การตอ่ ขดลวดของเครอื่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส
5.4 การคำนวณหาแรงดนั ไฟฟา้ เหนยี่ วนำของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การทำงานและแรงดันไฟฟา้ เหนยี่ วนำ
2. ต่อวงจรการทดลองในการทำงานเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส
จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม
ด้านความรู้
1. อธบิ ายการทำงานของเครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟสได้
2. อธบิ ายการทำงานของเคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟสได้
3. อธบิ ายการต่อขดลวดของเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟสได้
4. คำนวณหาแรงดนั ไฟฟา้ เหนี่ยวนำของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟสได้
ดา้ นทกั ษะ
1. วัดหาแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับเมื่อต่อแบบวายและแบบ
เดลตาได้
2. คำนวณหาค่าอตั ราสว่ นของแรงดนั ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า เมอื่ ต่อแบบวายและแบบเดลตาได้
3. เขยี นและอธบิ ายกราฟความสมั พนั ธ์ระหว่างแรงดันไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าท่ีขดลวดสนามแมเ่ หล็กได้
ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ความมีวนิ ยั ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความรับผดิ ชอบและความเช่อื มน่ั ในตนเอง
เนอื้ หาสาระ
5.1 การทำงานของเคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟส
ตัวนำทั้งหมดที่พันอยู่บนอาร์เมเจอร์เมื่อเคลื่อนที่ตัดผ่านเส้นแรงแม่เหล็ก จะทำให้เกิด
แรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นที่อาร์เมเจอร์ ซึ่งเป็นไปตามกฎของฟาราเดย์ที่กล่าวมาแล้วในหน่วยที่ 2 เมื่อใช้
กฎมือขวาจะเห็นว่ากลมุ่ ตวั นำทต่ี ดั ขว้ั N เปน็ กระแสไหลเขา้ และกลุม่ ตวั นำท่ตี ดั ขว้ั S เปน็ กระแสไหลออก โดย
แรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำที่เกิดขึ้นทั้งหมดบนตัวนำที่ต่ออนุกรมกัน โดยต้นและปลายมาต่อเข้ากับวงแหวน
สลปิ ริง โดยแรงดนั ไฟฟ้าเหนย่ี วนำจะได้จากวงแหวนสลปิ รงิ ผ่านแปรงถา่ นที่สมั ผัสอยู่
5.2 การทำงานของเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส
ในเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ส่วนมากแล้วขดลวดอาร์เมเจอร์จะวางอยู่กับที่และมี
ขั้วแมเ่ หล็กเคลอ่ื นท่หี มนุ ไปตดั กบั ขดลวดอาร์เมเจอรท์ ี่วางอยู่กับที่ จากรปู ที่ 5.2 (ก) จะมีขดลวดอารเ์ มเจอรอ์ ยู่
3 ชุด ชุดท่ี 1 คอื aa/ ชดุ ที่ 2 คอื bb/ และชุดท่ี 3 คือ cc/ โดยแตล่ ะชดุ วางห่างกัน 120 ทางไฟฟ้า ท่ีได้กล่าว
มาแล้วในหน่วยที่ 2 และหน่วยที่ 3 เมื่อเคลื่อนที่ขั้วแม่เหล็กไปตัดกับขดลวดทั้ง 3 ชุด ก็จะทำให้เกิด
21
แรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นที่ขดลวดทั้ง 3 ชุดเหมือนกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เฟส คือ ea, eb และ ec เพียงแต่
รปู คลน่ื ท่ีเกดิ ขึ้นของแรงดันไฟฟา้ เหนีย่ วนำจะมีมุมเฟสตา่ งกนั 120 ทางไฟฟา้
5.3 การตอ่ ขดลวดของเคร่อื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส
5.3.1 การตอ่ แบบวาย (Y)
5.3.2 การตอ่ ขดลวดแบบเดลตา ()
5.4 การคำนวณหาแรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนำของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส
กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ที่ 6/18, คาบที่ 21-24/72)
1. ครูทบทวนเน้ือหาการสอน
2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยท่ี 5
3. แบ่งกล่มุ นกั เรยี นเปน็ กลุ่มๆ ละ 4-5 คน
4. ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นและสอนเนือ้ หาสาระ
5. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดเป็นกลุ่ม ขณะนกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ครูจะสงั เกตการทำงานกลมุ่
6. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยแบบฝึกหดั และร่วมอภิปรายสรปุ บทเรียน
7. นกั เรียนปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 5
8. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 5
ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้
1. สือ่ การเรียนรู้ หนงั สือเรียน หนว่ ยที่ 5, ใบงาน, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบ
ก่อนเรยี น และหลงั เรยี น
2. แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สอื วารสารเกี่ยวกับเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั , อนิ เทอรเ์ น็ต
การวดั ผลและประเมนิ ผล การประเมินผล
(นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปลความหมาย)
การวดั ผล (ไวเ้ ปรยี บเทยี บกับคะแนนสอบหลังเรียน)
(ใชเ้ คร่อื งมอื ) เกณฑ์ผ่าน 60%
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre–test) หน่วยท่ี 5 เกณฑผ์ ่าน 50%
2. แบบสังเกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกล่มุ เกณฑ์ผ่าน 60%
3. แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 5 เกณฑ์ผา่ น 50%
4. ใบงานท่ี 5 เกณฑ์ผ่าน 60%
5. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนว่ ยท่ี 5
6. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ
งานท่มี อบหมาย
งานทม่ี อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ใหท้ ำแบบฝกึ หัดใหเ้ รียบร้อย ถกู ตอ้ ง สมบูรณ์
ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเร็จของผู้เรียน
1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 5
2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หนว่ ยท่ี 5
3. ผลการปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 5
22
เอกสารอ้างองิ
สุธน แกน่ ต้น (2563). เครอ่ื งกลไฟฟา้ กระแสตรง. นนทบรุ ี : ศนู ยห์ นงั สือเมอื งไทย.
23
ความสอดคลอ้ งกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำริ
3 ห่วง -เตรียมอปุ กรณเ์ กย่ี วกับความปลอดภยั อยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภยั ในการเรียนในรายวชิ า
2. มีเหตผุ ล - ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตใุ นงานได้
3. มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี
- ปฏบิ ตั ิตามกฎของโรงงานได้อย่างเครง่ ครดั
2 เงอื่ นไข - บอกวธิ กี ารป้องกนั อบุ ัติเหตใุ นงานได้
1. เง่อื นไขความรู้ - อธิบายถงึ ความสำคัญของความปลอดภยั ในการปฏบิ ัติงานได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวงั ) - มีความรบั ผิดชอบ
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
2. เง่ือนไขคณุ ธรรม
- ใชอ้ ปุ กรณ์ วสั ดุ ในการเรียนการสอนอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
4 มิติ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรับกับการทำงานภายนอกได้
1. มิติดา้ นเศรษฐกิจ - ไมท่ ำลายทำธรรมชาติในการเรียนในรายวิชา
2. มิติดา้ นสังคม - มีคณุ ธรรม ความสื่อสตั ยต์ อ่ วชิ า ครูผูส้ อน
3. มติ ิดา้ นสิง่ แวดล้อม
4. มิตดิ า้ นวัฒนธรรม
24
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 6
ช่อื วิชา เครอื่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ (20104-2104) จำนวน 8 ชั่วโมง
ชื่อหน่วย : คุณลักษณะของเครือ่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
หัวขอ้ เร่ือง
6.1 การทำงานและคุณลกั ษณะเมือ่ ไมม่ โี หลด
6.2 การทำงานและคุณลักษณะเม่ือมโี หลด
6.3 ซงิ โครนสั รแี อกแตนซ์และซิงโครนัสอิมพีแดนซ์
6.4 วงจรสมมูลและเฟสเซอรไ์ ดอะแกรม
6.5 การคำนวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั
สมรรถนะยอ่ ย
1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั คณุ ลักษณะของเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั
2. ต่อวงจรการทดลองในการหาคณุ ลักษณะเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม
ด้านความรู้
1. อธบิ ายการทำงานและคุณลักษณะเม่อื ไม่มโี หลดได้
2. อธิบายการทำงานและคุณลักษณะเมื่อมโี หลดได้
3. อธิบายซิงโครนสั รีแอกแตนซแ์ ละซงิ โครนัสอมิ พีแดนซไ์ ด้
4. เขียนวงจรสมมลู และเฟสเซอรไ์ ดอะแกรมได้
5. คำนวณหาคา่ ต่าง ๆ ของเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลบั ได้
ด้านทักษะ
1. วดั หาแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั เม่อื มีโหลดชนดิ ต่าง ๆ ได้
2. เขียนและอธบิ ายกราฟคณุ ลกั ษณะของเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั เมื่อมีโหลดต่าง ๆ ได้
ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ความมีวินยั ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความรบั ผดิ ชอบและความเชื่อม่ันในตนเอง
เนือ้ หาสาระ
6.1 การทำงานและคณุ ลักษณะเม่ือไมม่ ีโหลด
เคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 1 เฟส แบบขัว้ แม่เหล็กหมุน โดยเสน้ แรงแมเ่ หล็กท่ีแกนข้วั ไดจ้ าก
แหล่งจา่ ยไฟฟ้ากระแสตรงจากภายนอกมากระตนุ้ ทข่ี ดลวดสนามแม่เหล็ก เมือ่ หมนุ ข้ัวแมเ่ หลก็ จะทำใหเ้ สน้
แรงแม่เหล็กไปตัดกบั ขดลวดอาร์เมเจอรท์ ่ีวางอยกู่ ับท่ี ทำให้เกดิ แรงดันไฟฟ้าเหน่ยี วนำ (E) ขนึ้ ทอ่ี าร์เมเจอร์
และจ่ายแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลับให้กับโหลดไดโ้ ดยตรง
6.2 การทำงานและคณุ ลักษณะเมอ่ื มีโหลด
เครื่องกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับเมือ่ ไม่มีโหลด แรงดันไฟฟ้าทีข่ ั้วของเครือ่ งกำเนิดไฟฟ้าจะเท่ากบั
แรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำที่อาร์เมเจอร์ เมื่อนำโหลดมาต่อเข้ากับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะมีกระแส ไฟฟ้าท่ี
อารเ์ มเจอรอ์ อกจากเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟ้าไปยังโหลด และถ้ากระแสไฟฟา้ ท่ีอาร์เมเจอร์เปลี่ยนแปลงเพ่ิมข้ึนผลจะ
ทำให้แรงดันไฟฟ้าที่ขั้วของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงลดลง อันเนื่องจาก 3 สาเหตุ คือ แรงดันไฟฟ้าตก
25
คร่อมจากขดลวดอาร์เมเจอร์ (IaRa) แรงดันไฟฟ้าลดลงเน่ืองจากลีคเกจรีแอกแตนซ์ (IaXL) และแรงดันไฟฟ้า
ลดลงเนอ่ื งจากอารเ์ มเจอรร์ ีแอกชัน (IaXa)
6.2.1 ความต้านทานของขดลวดอาร์เมเจอร์
6.2.2 อารเ์ มเจอรล์ ีคเกจรีแอกแตนซ์
6.2.3 อาร์เมเจอร์รแี อกชนั
6.3 ซงิ โครนสั รีแอกแตนซแ์ ละซงิ โครนสั อมิ พีแดนซ์
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับถ้าถูกขับให้ความเร็วรอบคงที่เท่ากับพิกัด ซึ่งแรงดันไฟฟ้า
เหนี่ยวนำจะขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าที่ขดลวดสนามแม่เหล็กถ้าให้กระแสไฟฟ้านี้คงที่ จะทำให้เกิดแรงดันไฟฟา้
เหน่ยี วนำขึ้นมาคา่ หน่งึ เมอื่ เคร่อื งกำเนดิ ไฟฟา้ มีโหลดและสมมติให้มีคา่ ตัวประกอบกำลังลา้ หลังอยู่ค่าหนึ่ง ผล
ทำให้แรงดนั ไฟฟา้ ทข่ี ้วั ของเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟ้ามคี า่ ลดลงมี 3 สาเหตหุ ลัก คอื
1. แรงดนั ไฟฟ้าตกคร่อมเนื่องจากความตา้ นทานอารเ์ มเจอร์ (IaRa)
2. แรงดนั ไฟฟ้าลดลงเนอ่ื งจากลีคเกจรีแอกแตนซ์ (IaXL)
3. แรงดนั ไฟฟา้ ลดลงเนื่องจากอารเ์ มเจอรร์ ีแอกชัน (IaXa)
6.4 วงจรสมมลู และเฟสเซอรไ์ ดอะแกรม
6.4.1 วงจรสมมลู ของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลบั
6.4.2 เฟสเซอรไ์ ดอะแกรม
6.5 การคำนวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ี่ 7/18, คาบท่ี 25-28/72)
1. ครูทบทวนเนอื้ หาการสอน
2. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยท่ี 6
3. แบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน
4. ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นและสอนเนือ้ หาสาระ
5. นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั เปน็ กลมุ่ ขณะนกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดครจู ะสงั เกตการทำงานกลมุ่
6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยแบบฝกึ หัด และรว่ มอภปิ รายสรุปบทเรยี น
7. นกั เรยี นปฏิบัตติ ามใบงานท่ี 6
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี 8/18, คาบท่ี 29-32/72)
1. ครทู บทวนเนื้อหาการสอน
2. แบง่ กลุม่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน
3. ครูนำเขา้ สูบ่ ทเรียน ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นและสอนเน้ือหาสาระ
4. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั เป็นกลมุ่ ขณะนกั เรียนทำแบบฝึกหดั ครูจะสังเกตการทำงานกลุ่ม
5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยแบบฝกึ หัด และร่วมอภิปรายสรปุ บทเรยี น
6. นกั เรียนปฏิบัติตามใบงานท่ี 6 (ตอ่ ) และนำเสนอผลท่ไี ด้
7. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยท่ี 6
ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1. ส่อื การเรียนรู้ หนังสอื เรยี น หนว่ ยท่ี 6, ใบงาน, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบ
กอ่ นเรียน และหลงั เรียน
2. แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สอื วารสารเก่ยี วกับเครอ่ื งกลกระแสตรง, อินเทอร์เนต็ www.google.com
26
การวดั ผลและประเมนิ ผล การประเมนิ ผล
(นำผลเทียบกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย)
การวดั ผล (ไว้เปรยี บเทยี บกบั คะแนนสอบหลงั เรยี น)
(ใชเ้ คร่อื งมือ) เกณฑ์ผา่ น 60%
1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre–test) หน่วยที่ 6 เกณฑผ์ ่าน 50%
2. แบบสงั เกตการทำงานกลมุ่ และนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑ์ผ่าน 60%
3. แบบฝึกหัดหน่วยที่ 5 เกณฑ์ผ่าน 50%
4. ใบงานท่ี 6 เกณฑผ์ ่าน 60%
5. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หน่วยท่ี 6
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจรงิ
งานทม่ี อบหมาย
งานท่ีมอบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ให้ทำแบบฝึกหดั ใหเ้ รยี บร้อย ถูกตอ้ ง สมบูรณ์
ผลงาน/ชนิ้ งาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรียน
1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 6
2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยท่ี 6
3. ผลการปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 6
เอกสารอ้างองิ
สุธน แก่นต้น (2563). เคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ. นนทบุรี : ศูนยห์ นังสือเมืองไทย.
27
ความสอดคลอ้ งกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำริ
3 ห่วง -เตรียมอุปกรณ์เกยี่ วกบั ความปลอดภยั อยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภัยในการเรียนในรายวชิ า
2. มเี หตุผล - ปอ้ งกันอบุ ัตเิ หตุในงาน ได้
3. มีภูมิคมุ้ กนั ในตัวทด่ี ี
- ปฏบิ ตั ติ ามกฎของโรงงานไดอ้ ยา่ งเคร่งครดั
2 เงื่อนไข - บอกวธิ กี ารป้องกันอบุ ัตเิ หตุในงานได
1. เงือ่ นไขความรู้ - อธิบายถงึ ความสำคัญของความปลอดภัย ในการปฏบิ ัติงานได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวัง) - มีความรบั ผิดชอบ
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์
2. เงอ่ื นไขคุณธรรม
- ใชอ้ ุปกรณ์ วัสดุ ในการเรียนการสอนอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
4 มิติ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรับกบั การทำงานภายนอกได้
1. มิตดิ า้ นเศรษฐกจิ - ไมท่ ำลายทำธรรมชาติในการเรยี นในรายวิชา
2. มิตดิ า้ นสังคม - มีคุณธรรม ความส่ือสตั ยต์ อ่ วชิ า ครผู ู้สอน
3. มิติดา้ นส่ิงแวดล้อม
4. มติ ิดา้ นวฒั นธรรม
28
ความสอดคล้องกบั คณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของสถานศึกษา
............................................................................
1. ขยนั → นกั เรียนนักศึกษาสามารถทำงานเสรจ็ ตรงตามเวลา
2. ประหยดั → นักเรียนนกั ศกึ ษานำวัสดทุ ีใ่ ช้มาปฏิบัตอิ ยา่ งประหยดั
3. ซอ่ื สตั ย์ → นักเรียนนกั ศกึ ษามีความส่อื สตั ยต์ ่อวิชาเรยี น ต่อผู้สอน
4. มวี นิ ยั → นกั เรยี นนักศกึ ษามาเรยี นตรงตามเวลา
5. สภุ าพ → นักเรยี นนักศกึ ษามีความสภุ าพตอ่ ครูผสู้ อน
6. สะอาด → นกั เรียนนักศกึ ษาชว่ ยกนั รักษาความสะอาดในแผนกวชิ า
7. สามคั คี → นกั เรยี นนักศกึ ษามีความสามคั คีรว่ มมือกนั ทำงานเป็นกลมุ่
8. มนี ำ้ ใจ → นกั เรียนนกั ศกึ ษามีความเอือ้ เฟ้อื ตอ่ เพ่ือนร่วมหอ้ ง
29
แผนการจัดการเรยี นรู้แบบเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7
ช่อื วชิ า เครอื่ งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ (20104-2104) จำนวน 8 ชัว่ โมง
ชอ่ื หนว่ ย : การขนานเครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
หัวข้อเร่อื ง
7.1 เหตผุ ลในการขนานเคร่ืองกำเนิดไฟฟา้
7.2 การตรวจสอบคา่ ตา่ ง ๆ ในการขนานเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟา้
7.3 การขนานเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส
7.4 การขนานเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส ดว้ ยหลอดไฟ
7.5 การขนานเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ดว้ ยซิงโครสโคป
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความร้เู กีย่ วกบั การขนานเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ
2. ตอ่ วงจรการทดลองในการขนานเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส
จดุ ประสงคก์ ารปฏิบัติ
ดา้ นความรู้
1. บอกเหตุผลในการขนานเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ ได้
2. อธบิ ายการตรวจสอบคา่ ตา่ ง ๆ ในการขนานเครื่องกำเนดิ ไฟฟ้าได้
3. อธบิ ายการขนานเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟสได้
4. อธิบายการขนานเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ด้วยหลอดไฟได้
5. อธิบายการขนานเคร่อื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ด้วยซิงโครสโคปได้
ดา้ นทักษะ
1. ต่อวงจรการขนานเครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส แบบหลอดดบั 3 หลอดได้
2. ต่อวงจรการขนานเครอ่ื งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบหลอดดับ 1 หลอด สวา่ ง 2 หลอด
ได้
ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ความมวี นิ ยั ความรักสามคั คคี วามคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์และความพงึ พอใจในผลงานท่ีทำ
เนอ้ื หาสาระ
7.1 เหตผุ ลในการขนานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
ในระบบผลิตของโรงจักรไฟฟ้าจะไม่ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่เพียงเครื่องเดียว แต่จะใช้
เครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ จำนวนหลายเครื่องมาตอ่ ขนานกัน ทงั้ นเี้ พอื่ ช่วยในการจ่ายกำลงั ไฟฟา้ ให้กบั โหลด
7.2 การตรวจสอบคา่ ตา่ ง ๆ ในการขนานเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้
ในการขนานเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั สองเครือ่ ง ต้องคำนงึ ถงึ สง่ิ ที่สำคัญดงั น้ี
1. แรงดันไฟฟ้าที่ขั้วของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั้งสองต้องเท่ากัน โดยสังเกตจากโวลต์มิเตอร์ที่วดั
แรงดนั ไฟฟา้ ทสี่ ายของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ ทัง้ สอง
2. ความเร็วรอบของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั้งสองจะต้องทำให้ได้ความถี่เท่ากัน โดยสังเกตจาก
เครื่องวัดความถ่ี (Frequency meter) ทว่ี ัดที่สายของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้าท้ังสอง
30
3. แรงดันไฟฟ้าของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั้งสองต้องมีลำดับเฟส (Phase sequence) เหมือนกัน
และเกิดขึ้นพร้อมกัน โดยสังเกตจากหลอดซิงโครไนซ์ (Synchronizing lamp) หรือได้จากเครื่องวัดที่เรียกว่า
ซงิ โครสโคป (Synchroscope)
7.2.1 การตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า
7.2.2 การตรวจสอบความถ่ี
7.2.3 การตรวจสอบลำดบั เฟส
7.3 การขนานเครื่องกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส
7.3.1 แบบหลอดดับ 2 หลอด
7.3.2 แบบหลอดสวา่ ง 2 หลอด
7.4 การขนานเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส ดว้ ยหลอดไฟ
7.4.1 แบบหลอดดบั 1 หลอด สว่าง 2 หลอด
7.4.2 แบบหลอดดบั 3 หลอด
7.5 การขนานเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ด้วยซิงโครสโคป
ซิงโครสโคป เป็นเครื่องวดั มมุ ระหว่างรูปคล่ืนของเคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ ทั้งสองเคร่ืองที่จะขนานกัน
เขา้ ไปโดยมมุ จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามการเปล่ยี นแปลงของความถ่ี เรยี กมุมน้ีวา่ มุมท่ีคลาดเคลอื่ น (Error
angle) จากรูปที่ 7.8 แสดงรูปคลื่นแรงดันไฟฟ้าของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องที่ 1 และเครื่องที่ 2 เป็น e1 และ
e2 ตามลำดบั โดยรูปคลืน่ e2 มีความถม่ี ากกว่ารปู คล่นื e1 จะเหน็ วา่ ระยะ a เปน็ มมุ คลาดเคลอ่ื นท่ีเกิดข้ึนท่ีมีค่า
มากและมีระยะน้อยลงเร่ือย ๆ เป็นระยะ b และระยะ c โดยที่ระยะ c จะมีค่าเท่ากับศูนย์ ซึ่งที่จุดน้ีรูปคลื่นของ
เคร่ืองกำเนิดไฟฟ้าท้งั สองเคร่อื งจะเกิดขน้ึ พร้อมกันและทับกันสนิทเรยี กวา่ สภาวะซิงโครไนซ์
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี 9/18, คาบที่ 33-36/72)
1. ครทู บทวนเนื้อหาการสอน
2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยท่ี 7
3. แบ่งกลมุ่ นกั เรียนเปน็ กลุม่ ๆ ละ 4-5 คน
4. ครนู ำเข้าส่บู ทเรียน ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนและสอนเน้อื หาสาระ
5. นักเรียนทำแบบฝึกหัดเปน็ กลุ่ม ขณะนกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ครูจะสังเกตการทำงานกลมุ่
6. ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยแบบฝึกหดั และรว่ มอภปิ รายสรปุ บทเรยี น
7. นักเรียนปฏิบตั ติ ามใบงานที่ 7
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี 10/18, คาบท่ี 37-40/72)
1. ครทู บทวนเนอ้ื หาการสอน
2. แบ่งกลุ่มนกั เรยี นเป็นกล่มุ ๆ ละ 4-5 คน
3. ครูนำเขา้ สู่บทเรยี น ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนและสอนเนื้อหาสาระ
4. นักเรียนทำแบบฝกึ หัดเปน็ กลมุ่ ขณะนักเรียนทำแบบฝึกหัดครูจะสงั เกตการทำงานกล่มุ
5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยแบบฝกึ หัด และร่วมอภปิ รายสรุปบทเรียน
6. นกั เรียนปฏบิ ัตติ ามใบงานท่ี 7 (ต่อ) และนำเสนอผลทีไ่ ด้
7. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 7
31
ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1. สือ่ การเรยี นรู้ หนงั สือเรยี น หน่วยที่ 7, ใบงาน, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบ
กอ่ นเรยี น และหลงั เรยี น
2. แหล่งการเรียนรู้ หนงั สอื วารสารเกีย่ วกบั เครอื่ งกลกระแสตรง, อนิ เทอรเ์ น็ต www.google.com
การวัดผลและประเมินผล
การวดั ผล การประเมนิ ผล
(ใชเ้ คร่ืองมอื ) (นำผลเทยี บกับเกณฑ์และแปลความหมาย)
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre–test) หน่วยที่ 7 (ไวเ้ ปรียบเทียบกบั คะแนนสอบหลงั เรยี น)
2. แบบสังเกตการทำงานกลมุ่ และนำเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑ์ผา่ น 60%
3. แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 7 เกณฑ์ผ่าน 50%
4. ใบงานที่ 7 เกณฑผ์ า่ น 60%
5. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หน่วยที่ 7 เกณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจรงิ เกณฑ์ผา่ น 60%
งานท่ีมอบหมาย
งานที่มอบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ใหท้ ำแบบฝกึ หัดให้เรียบรอ้ ย ถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์
ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเรจ็ ของผเู้ รียน
1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหดั หน่วยที่ 7
2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยที่ 7
3. ผลการปฏิบตั ติ ามใบงานที่ 7
เอกสารอ้างอิง
สุธน แก่นต้น (2563). เครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ. นนทบุรี : ศนู ยห์ นังสอื เมอื งไทย.
32
ความสอดคลอ้ งกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำริ
3 ห่วง -เตรียมอปุ กรณเ์ กย่ี วกับความปลอดภยั อยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภยั ในการเรียนในรายวชิ า
2. มีเหตผุ ล - ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตใุ นงานได้
3. มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี
- ปฏบิ ตั ิตามกฎของโรงงานได้อย่างเครง่ ครดั
2 เงอื่ นไข - บอกวธิ กี ารป้องกนั อบุ ัติเหตใุ นงานได้
1. เง่อื นไขความรู้ - อธิบายถงึ ความสำคัญของความปลอดภยั ในการปฏบิ ัติงานได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวงั ) - มีความรบั ผิดชอบ
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
2. เง่ือนไขคณุ ธรรม
- ใชอ้ ปุ กรณ์ วสั ดุ ในการเรียนการสอนอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
4 มิติ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรับกับการทำงานภายนอกได้
1. มิติดา้ นเศรษฐกิจ - ไมท่ ำลายทำธรรมชาติในการเรียนในรายวิชา
2. มิติดา้ นสังคม - มีคณุ ธรรม ความสื่อสตั ยต์ อ่ วชิ า ครูผูส้ อน
3. มติ ิดา้ นสิง่ แวดล้อม
4. มิตดิ า้ นวัฒนธรรม
33
ความสอดคล้องกับคณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของสถานศึกษา
............................................................................
1. ขยัน → นกั เรียนนกั ศึกษาสามารถทำงานเสรจ็ ตรงตามเวลา
2. ประหยัด → นกั เรยี นนกั ศกึ ษานำวัสดทุ ่ีใชม้ าปฏบิ ัตอิ ย่างประหยัด
3. ซ่ือสัตย์ → นกั เรียนนกั ศกึ ษามคี วามส่ือสตั ยต์ อ่ วิชาเรียน ตอ่ ผู้สอน
4. มีวนิ ยั → นกั เรยี นนกั ศกึ ษามาเรยี นตรงตามเวลา
5. สุภาพ → นกั เรยี นนักศกึ ษามีความสภุ าพตอ่ ครูผูส้ อน
6. สะอาด → นกั เรียนนักศกึ ษาช่วยกนั รักษาความสะอาดในแผนกวชิ า
7. สามคั คี → นักเรยี นนกั ศึกษามีความสามคั ครี ว่ มมอื กนั ทำงานเป็นกลมุ่
8. มนี ำ้ ใจ → นักเรยี นนกั ศึกษามคี วามเออื้ เฟอ้ื ตอ่ เพ่ือนรว่ มห้อง
34
แผนการจัดการเรียนร้แู บบเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 8
ช่อื วิชา เครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั (20104-2104) จำนวน 4 ช่วั โมง
ชือ่ หน่วย : ประสทิ ธิภาพและการบำรุงรกั ษาเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั
หัวขอ้ เรือ่ ง
8.1 การสญู เสยี ในเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ
8.2 ประสทิ ธิภาพของเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ
8.3 การคำนวณหาประสิทธภิ าพของเครื่องกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ
8.4 การบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับประสิทธิภาพและการบำรงุ รักษาเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ
2. ตอ่ วงจรการทดลองและคำนวณหาประสทิ ธิภาพของเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
ด้านความรู้
1. อธิบายการสญู เสยี ในเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับได้
2. บอกประสทิ ธภิ าพของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับได้
3. คำนวณหาประสิทธภิ าพของเครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั ได้
4. อธิบายการบำรุงรกั ษาเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั ได้
ดา้ นทักษะ
1. วดั หาแรงดนั กระแส ความต้านทานอาร์เมเจอรข์ องเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟสได้
2. คำนวณหาค่ากำลงั ไฟฟา้ ในสว่ นต่าง ๆ และประสทิ ธิภาพของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟสได้
3. เขียนและอธิบายกราฟความสัมพันธ์ระหว่างกำลงั ไฟฟ้าเอาต์พตุ ประสทิ ธภิ าพกับกระแสท่โี หลดได้
ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ความมวี นิ ยั ความรกั สามคั คีความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์และความพงึ พอใจในผลงานท่ีทำ
เนื้อหาสาระ
8.1 การสูญเสียในเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลบั
เครอื่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั เม่ือยังไมม่ โี หลดหรอื มโี หลดก็ตาม จะมกี ารสูญเสียในเครื่องกำเนิด
ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ การสูญเสียในขดลวดทองแดง การสูญเสียในแกน
เหล็ก และการสูญเสยี ในทางกล เหมือนกบั เครือ่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง
8.1.1 การสญู เสียในขดลวดทองแดง (Copper losses)
8.1.2 การสูญเสยี ในแกนเหล็ก (Core losses)
8.1.3 การสูญเสียในทางกล (Mechanical losses)
8.2 ประสิทธภิ าพของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ
8.3 การคำนวณหาประสทิ ธิภาพของเครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ
8.4 การบำรุงรกั ษาเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ
35
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นเครื่องกลไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ผลิตกำลังไฟฟ้าโดยอาศัยพลังงานกลมา
ขับเคลื่อนดงั นัน้ เม่อื ใชง้ านไปนาน ๆ หรอื ใช้งานไมถ่ ูกต้องย่อมมกี ารชำรดุ และเกิดการเสยี หายขนึ้ ได้ ดงั นั้นจึงมี
ความจำเป็นต้องมกี ารซ่อมแซมหรอื บำรุงรกั ษาให้ใช้งานได้เพื่อให้อายุการใชง้ านของเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟ้าให้นาน
ขนึ้ และทำงานไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ทัง้ นตี้ ้องศึกษาค่มู อื การใช้งานของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ นนั้ ๆ ดว้ ย
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 11/18, คาบที่ 41–44/72)
1. ครทู บทวนเน้ือหาการสอน
2. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยที่ 8
3. แบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน
4. ครูนำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนและสอนเน้ือหาสาระ
5. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดเปน็ กลุ่ม ขณะนกั เรยี นทำแบบฝึกหัดครูจะสงั เกตการทำงานกล่มุ
6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหดั และรว่ มอภิปรายสรปุ บทเรียน
7. นกั เรียนปฏิบัตติ ามใบงานที่ 8
8. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยท่ี 8
สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1. ส่อื การเรียนรู้ หนงั สอื เรียน หนว่ ยที่ 8, ใบงาน, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบ
กอ่ นเรยี น และหลงั เรยี น
2. แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สอื วารสารเก่ียวกบั เครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั , อนิ เทอร์เน็ต
การวัดผลและประเมนิ ผล
การวดั ผล การประเมินผล
(ใช้เครื่องมอื ) (นำผลเทยี บกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย)
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre–test) หนว่ ยท่ี 8 (ไวเ้ ปรียบเทยี บกับคะแนนสอบหลังเรียน)
2. แบบสังเกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกลุม่ เกณฑผ์ า่ น 60%
3. แบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 8 เกณฑ์ผ่าน 50%
4. ใบงานที่ 8 เกณฑ์ผา่ น 60%
5. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนว่ ยที่ 8 เกณฑผ์ ่าน 50%
6. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 60%
งานทมี่ อบหมาย
งานที่มอบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ใหท้ ำแบบฝึกหดั ให้เรยี บร้อย ถูกตอ้ ง สมบูรณ์
ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเร็จของผเู้ รียน
1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 8
2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยท่ี 8
3. ผลการปฏิบตั ติ ามใบงานที่ 8
เอกสารอ้างอิง
สุธน แกน่ ต้น (2563). เครอ่ื งกลไฟฟา้ กระแสตรง. นนทบุรี : ศนู ยห์ นังสือเมืองไทย.
36
ความสอดคลอ้ งกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำริ
3 ห่วง -เตรียมอุปกรณ์เกยี่ วกบั ความปลอดภยั อยา่ งเหมาะสม
1. ความพอประมาณ - ความปลอดภัยในการเรียนในรายวชิ า
2. มเี หตุผล - ปอ้ งกันอบุ ัตเิ หตุในงาน ได้
3. มีภูมิคมุ้ กนั ในตัวทด่ี ี
- ปฏบิ ตั ติ ามกฎของโรงงานไดอ้ ยา่ งเคร่งครดั
2 เงื่อนไข - บอกวธิ กี ารป้องกันอบุ ัตเิ หตุในงานได
1. เงือ่ นไขความรู้ - อธิบายถงึ ความสำคัญของความปลอดภัย ในการปฏบิ ัติงานได้
(รอบรู้, รอบคอบ, ระมดั ระวัง) - มีความรบั ผิดชอบ
2. เงอ่ื นไขคุณธรรม - มีความคดิ สรา้ งสรรค์
4 มิติ - ใชอ้ ุปกรณ์ วัสดุ ในการเรียนการสอนอย่างประหยดั คมุ้ ค่า
1. มิตดิ า้ นเศรษฐกจิ - สามารถนำวธิ กี ารทำงานไปปรับกบั การทำงานภายนอกได้
2. มิตดิ า้ นสังคม - ไมท่ ำลายทำธรรมชาติในการเรยี นในรายวิชา
3. มิติดา้ นส่ิงแวดล้อม - มีคุณธรรม ความส่ือสตั ยต์ อ่ วชิ า ครผู ู้สอน
4. มติ ิดา้ นวฒั นธรรม
37
ความสอดคล้องกับคณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของสถานศึกษา
............................................................................
1. ขยัน → นกั เรียนนกั ศึกษาสามารถทำงานเสรจ็ ตรงตามเวลา
2. ประหยัด → นกั เรยี นนกั ศกึ ษานำวัสดทุ ่ีใชม้ าปฏบิ ัตอิ ย่างประหยัด
3. ซ่ือสัตย์ → นกั เรียนนกั ศกึ ษามคี วามส่ือสตั ยต์ อ่ วิชาเรียน ตอ่ ผู้สอน
4. มีวนิ ยั → นกั เรยี นนกั ศกึ ษามาเรยี นตรงตามเวลา
5. สุภาพ → นกั เรยี นนักศกึ ษามีความสภุ าพตอ่ ครูผูส้ อน
6. สะอาด → นกั เรียนนักศกึ ษาช่วยกนั รักษาความสะอาดในแผนกวชิ า
7. สามคั คี → นักเรยี นนกั ศึกษามีความสามคั ครี ว่ มมอื กนั ทำงานเป็นกลมุ่
8. มนี ำ้ ใจ → นักเรยี นนกั ศึกษามคี วามเออื้ เฟอ้ื ตอ่ เพ่ือนรว่ มห้อง
38
แผนการจดั การเรยี นร้แู บบเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 9
ชื่อวชิ า เคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ำกระแสสลบั (20104-2104) จำนวน 24 ช่ัวโมง
ช่อื หนว่ ย : กำรพนั เคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ำกระแสสลบั ขนำดเลก็
หวั ข้อเร่อื ง
9.1 การบันทกึ ขอ้ มลู
9.2 การถอดประกอบและการร้อื ขดลวด
9.3 การใช้ฉนวนรองร่องทีส่ เตเตอร์
9.4 การขนึ้ รปู และการลงขดลวด
9.5 การต่อวงจรขดลวด
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรู้เกย่ี วกับการพันเครือ่ งกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับขนาดเลก็
2. ปฏบิ ตั ิการพนั ขดลวดของเครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั ขนาดเลก็ พรอ้ มทจี่ ะนำไปทดสอบ
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
ด้านความรู้
1. อธิบายการบนั ทึกขอ้ มลู ได้
2. อธบิ ายการถอดประกอบและการร้ือขดลวดได้
3. อธิบายการใช้ฉนวนรองร่องท่สี เตเตอรไ์ ด้
4. อธิบายการข้ึนรูปและการลงขดลวดได้
5. อธิบายการตอ่ วงจรขดลวดได้
ด้านทักษะ
1. ศึกษาและถอดแยกช้นิ สว่ นของเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ท่ใี ช้กับรถยนต์ได้
2. บันทึกค่าต่าง ๆ ของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับก่อนการรือ้ ขดลวดได้
3. ทำฉนวนรองรอ่ งและแบบไม้เพ่อื ข้นึ รปู ขดลวดได้
4. ลงขดลวดและต่อกรปุ๊ ขดลวดได้
5. ประกอบเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟ้าที่ไดจ้ ากการพนั และสว่ นประกอบต่าง ๆ เข้าด้วยกนั ได้
ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ความมีวนิ ัย ความรักสามัคคคี วามคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรคแ์ ละความพึงพอใจในผลงานท่ีทำ
เนื้อหาสาระ
9.1 การบนั ทึกขอ้ มูล
9.2 การถอดประกอบและการรื้อขดลวด
9.3 การใช้ฉนวนรองรอ่ งทสี่ เตเตอร์
9.4 การขน้ึ รปู และการลงขดลวด
9.5 การต่อวงจรขดลวด
39
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 12/18, คาบท่ี 45–48/72)
1. ครทู บทวนเน้ือหาการสอน
2. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยที่ 9
3. แบ่งกลุ่มนกั เรยี นเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน
4. ครูนำเข้าสบู่ ทเรยี น ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นและสอนเน้ือหาสาระ
5. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั เป็นกลุ่ม ขณะนักเรียนทำแบบฝกึ หดั ครูจะสงั เกตการทำงานกลุ่ม
6. ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยแบบฝึกหดั และรว่ มอภปิ รายสรปุ บทเรียน
7. นักเรียนปฏิบัตติ ามใบงานที่ 9
8. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยท่ี 9
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 13-17/18, คาบที่ 49–68/72)
1. นักเรยี นปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 9 ต่อเน่ือง
สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
1. สอ่ื การเรยี นรู้ หนงั สอื เรยี น หนว่ ยท่ี 9, ใบงาน, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบ
ก่อนเรยี น และหลังเรยี น
2. แหล่งการเรียนรู้ หนงั สอื วารสารเก่ยี วกับเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลับ, อินเทอร์เนต็
การวัดผลและประเมินผล
การวดั ผล การประเมนิ ผล
(ใช้เครือ่ งมือ) (นำผลเทียบกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย)
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น หน่วยที่ 9 เกณฑ์ผา่ น 50% (เฉพาะหลังเรยี น)
2. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 60%
3. แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 9 เกณฑผ์ า่ น 50%
4. ใบงานที่ 9 เกณฑ์ผา่ น 60%
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 60%
งานที่มอบหมาย
ใหท้ ำแบบฝึกหดั ใหเ้ รียบร้อย ถูกต้อง สมบูรณ์
ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเรจ็ ของผเู้ รียน
ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 9, คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยท่ี 9,
ผลการปฏิบัติตามใบงานที่ 9
เอกสารอ้างองิ
สธุ น แกน่ ตน้ (2563). เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ. นนทบรุ ี : ศูนยห์ นงั สอื เมืองไทย.