The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ ๙ ครื้นเครงเพลงพื้นบ้าน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-03-22 00:26:34

บทที่ ๙ ครื้นเครงเพลงพื้นบ้าน

บทที่ ๙ ครื้นเครงเพลงพื้นบ้าน

แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดภาษาพาที แผนท่ี ๑

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖
บทที่ ๙ ครื้นเครงเพลงพน้ื บ้าน เวลา ๘ ชั่วโมง
หัวข้อเร่ือง คําศัพท์ที่ในบทเรียน เวลา ๑ ชั่วโมง
วนั ที่ ....................................... ผู้ใช้แผน ................................

สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาํ ไปใช้

ตดั สินใจแกป้ ัญหาในการดาํ เนินชีวติ และมนี ิสัยรกั การอ่าน
๑. สาระสําคัญ

๑.๑ ความคดิ รวบยอด
การอ่าน การเขยี นและเรียนรู้คาํ คาํ ยากไดจ้ ะช่วยให้การอา่ นเร่ืองราว เน้ือหาใน

บทเรียนไดด้ ี ถอื เป็นการพฒั นาทกั ษะทางภาษาที่ผูเ้ รียนควรไดร้ ับการฝึกฝน เพ่ือพฒั นา
ทกั ษะการอา่ นคาํ คาํ ยากและใชค้ าํ ให้ถกู ตอ้ ง จะทาํ ให้การเรียนรู้ภาษาเป็นไปดว้ ยดีและ
เกิดการพฒั นาตามมา

๑.๒ สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๒. ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๖ / ๒ อธิบายความหมายของคาํ ประโยคและขอ้ ความ

ทีเ่ ป็นโวหาร

๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ นกั เรียนอา่ นคาํ ศพั ทย์ ากไดถ้ กู ตอ้ ง
๓.๒ นกั เรียนบอกความหมายของคาํ ในบทเรียนได้
๓.๓ นกั เรียนใชค้ าํ ไดถ้ กู ตอ้ งตามบริบท

๔. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่ เรียนรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๔.๔ มีวินยั
๔.๕ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

๕. สาระการเรียนรู้
๕.๑ สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๏ การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง
ประกอบดว้ ย
 ขอ้ ความที่เป็นโวหารต่างๆ
 สาํ นวนเปรียบเทียบ
๕.๒ สาระการเรียนรู้ย่อย
๏ ความหมายของคาํ
๏ การใชค้ าํ

๖. ชิ้นงาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๖.๑ การทาํ ใบงาน
๖.๒ การทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรียน
๖.๓ แบบบนั ทึกผลการประเมิน

๗. กิจกรรมการเรียนรู้
๗.๑ นกั เรียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรียน บทท่ี ๙ คร้ืนเครงเพลงพ้นื บา้ น( ทา้ ยแผน

) จาํ นวน ๒๐ ขอ้ เสร็จแลว้ ครูตรวจสอบและประกาศผลเป็นคะแนนตามจาํ นวนขอ้ ที่ทาํ
ถกู โดยทยี่ งั ไมต่ อ้ งเฉลย

๗.๓ แบง่ นกั เรียนออกเป็ นกลมุ่ กลุม่ ละ ๔ – ๕ คน จากน้นั ใหน้ กั เรียนแตล่ ะ
กลุม่ เล่นเกม “ ใครหายไปไหน” ซ่ึงวธิ ีการเล่นอยทู่ า้ ยแผน

๗.๒ ครูใชบ้ ตั รคาํ ชูใหน้ กั เรียนดูและฝึกอา่ นเพอ่ื อธิบายความหมายของคาํ วา่
“ แกเ้ คลด็ โฆษก ฉวดั เฉวียน ฉนั ทลกั ษณ์ นกั ขตั ฤกษ์ ปฏิพากย์ ปฏิภาณ พมิ าน มะ
โหด ไมโครโฟน ” ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ช่วยกนั อธิบายความหมายของคาํ เหลา่ น้ี

๗.๓ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ หารูปภาพท่ตี รงกบั คาํ และคน้ หาความหมายของคาํ
เหลา่ น้ีเป็นการบา้ น นาํ มาเฉลยกนั ในชวั่ โมงต่อไป

๗.๔ นกั เรียนทาํ ใบงานท่ี ๒ ( ทา้ ยแผน ) ชุด เขยี นความหมายของคาํ ที่
กาํ หนดให้ จากคาํ ทีก่ าํ หนดให้ จากน้นั นาํ ส่งครู ครูเฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ ง

๗.๕ นกั เรียนทาํ ใบงานท่ี ๓ ( ทา้ ยแผน ) ชุด นาํ คาํ ท่กี าํ หนดให้ ไปแตง่ ประโยค
เสร็จแลว้ อา่ นให้เพ่อื นฟังทลี ะคน ร่วมกนั เฉลยและแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง
๘. ส่ือ / แหล่งเรียนรู้ / บคุ คล

ลาํ ดบั ท่ี รายการสื่อ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งท่ไี ด้มา

๒ เกม “ ใครหายไปไหน” นกั เรียนเล่นเกม ครูจดั เตรียม
๓ ใบงาน ชุดที่ ๒ – ๓ นกั เรียนทาํ ใบงาน ครูจดั ทาํ
๔ บตั รคาํ นกั เรียนฝึกทกั ษะการอา่ น ครูจดั ทาํ
หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน นกั เรียนอา่ นเร่ือง ครูจดั ทาํ
๕ ภาษาไทย ชุดภาษาเพ่อื ชีวติ
๖ ภาษาพาที ช้นั ป.๖ สร้างกฎของการประเมนิ ครูจดั ทาํ
เกณฑก์ ารประเมิน ( Rubric ) บนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรม และ ครูจดั ทาํ
แบบประเมนิ การสังเกต บนั ทกึ ผลงานรายบคุ คล
พฤตกิ รรม และแบบ
ประเมนิ ผลงานรายบคุ คล

๙. วัดผลประเมินผล เครื่องมือทใี่ ช้ใน วิธกี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ
การประเมิน
กจิ กรรมที่ประเมนิ แบบประเมินการสงั เกต สงั เกตรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
๑. สงั เกตพฤติกรรมดา้ น พฤตกิ รรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมินผลงาน ๕ = พอใช้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ต่าํ กวา่ ๕ = ปรับปรุง
ประสงค์

๒. นกั เรียนรายงานหนา้ ช้นั แบบประเมนิ การสงั เกต สงั เกตรายกลุ่ม ๘ - ๑๐ = ดีมาก
พฤตกิ รรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมินผลงาน
๕ = พอใช้
ต่าํ กวา่ ๕ = ปรับปรุง

๓. นกั เรียนทาํ ใบงาน แบบประเมินการสงั เกต ตรวจงานรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
ชุดที่ ๑ พฤตกิ รรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมนิ ผลงาน
๕ = พอใช้
ต่าํ กวา่ ๕ = ปรับปรุง

๔. นกั เรียนทาํ ใบงาน แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
ชุดที่ ๒ พฤติกรรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมินผลงาน
๕ = พอใช้
ต่าํ กว่า ๕ = ปรับปรุง

๕. นกั เรียนทาํ แบบทดสอบ แบบประเมนิ การสงั เกต ตรวจงานรายบคุ คล ๑๗ - ๒๐ = ดีมาก
ก่อนเรียน พฤติกรรม และแบบ ๑๓ – ๑๔ = ดี
ประเมินผลงาน ๑๑ – ๑๒ = พอใช้
ต่าํ กว่า ๑๑ = ปรับปรุง

การประเมนิ ด้านทกั ษะ / กระบวนการ

ประเดน็ การประเมนิ ดี (๒) เกณฑ์การให้ระดับคะแนน
พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐)

สรุปเน้ือหาไดก้ ระชบั สรุปเน้ือหาไดก้ ระชบั สรุปเน้ือหาไดไ้ ม่
ทักษะการ สรุป ใจความครบถว้ น ใจความเกือบครบถว้ น กระชบั ใจความและไม่
เนือ้ หา สามารถสื่อใหผ้ ูอ้ ืน่ เขา้ ใจ สามารถส่ือใหผ้ อู้ นื่ ครบถว้ น สามารถส่ือ
ไดง้ า่ ย เขา้ ใจได้ ให้ผูอ้ ื่นเขา้ ใจไดน้ อ้ ย

สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพดู รายงานไดด้ ี
พูดเสียงดงั ฟังชดั ได้ พูดน้าํ เสียงชดั เจน พูดน้าํ เสียงไมช่ ดั เจน ไม่
การรายงานหน้าช้ัน สาระชดั เจน วางบคุ ลิก สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาที่ ค่อยสอดคลอ้ งกบั
ในการพดู ไดด้ ีมาก พดู วางบคุ ลกิ ในการ เน้ือหาทพ่ี ดู วางบคุ ลิก
พดู ไดด้ ี ในการพูดไม่ค่อยดี

การปฏบิ ตั งิ านตาม มที กั ษะการปฏิบตั งิ าน มกี ารปฏิบตั ิงานตาม ยงั ไม่สามารถ
ข้นั ตอน ตามข้นั ตอน ไดอ้ ยา่ ง ข้นั ตอนไดต้ ามลาํ ดบั ปฏิบตั งิ านตามข้นั ตอน
ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ได้

ความคิดสร้างสรรค์ มคี วามคดิ สร้างสรรคด์ ี พอมีความคดิ ท่ี ยงั ขาดความคิดท่ี
สร้างสรรคอ์ ยบู่ า้ ง สร้างสรรค์

ความเป็ นระเบยี บ มีทกั ษะสามารถสร้างงาน สามารถสร้างงานท่สี วน
เรียบร้อยของการทาํ ที่สวยงาม และมคี วาม งามพอใชไ้ ด้ และมี ไม่มีความสวยงาม และ
ใบงาน ประณีตดี
ความประณีตใน ไม่ประณีต
บางส่วน

การประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
เกณฑ์การให้ระดบั คะแนน
ประเด็นการประเมนิ ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐)
ซื่อสัตย์สุจริต
มีวนิ ัย ทาํ งานอยา่ ง ทาํ งานอยา่ ง ทาํ งานอยา่ ง
ใฝ่ เรียนรู้ ตรงไปตรงมา ยอมรับ ตรงไปตรงมา ไม่ ตรงไปตรงมา ไม่
อย่อู ย่างพอเพยี ง ในขอ้ ผดิ พลาดและ ยอมรบั ในขอ้ ผิดพลาด ยอมรับในขอ้ ผดิ พลาด
มจี ิตสาธารณะ บกพร่องของตนเอง และบกพร่องของตนเอง และบกพร่องของตนเอง
พอใจในส่ิงท่ตี นมี พอใจในส่ิงที่ตนมี ไม่คอ่ ยพอใจในส่ิงทต่ี น
มี

รู้จกั ควบคุมอารมณ์ รู้จกั ควบคุมอารมณ์ บา้ ง ไม่รู้จกั ควบคุมอารมณ์
ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นระเบียบ ปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นระเบยี บ ปฏิบตั ติ นอยใู่ นระเบยี บ
วินยั แต่งกายถูกตอ้ ง วนิ ยั การแตง่ กายไม่ วินยั นอ้ ย ไม่ค่อยแต่ง
ตามระเบียบของ คอ่ ยถูกตอ้ งตามระเบียบ กายถูกตอ้ งตามระเบียบ
โรงเรียนตลอดเวลา ของโรงเรียน ของโรงเรียน

มีความมานะมงุ่ มนั่ ใน มคี วามมานะม่งุ มนั่ ใน ไม่มคี วามมานะมุง่ มนั่
การทาํ งานทไี่ ดร้ บั การทาํ งานทไ่ี ดร้ ับ ในการทาํ งานท่ีไดร้ บั
มอบหมาย ศึกษา มอบหมาย ศกึ ษา มอบหมาย ไมค่ อ่ ย
คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง คน้ ควา้ ดว้ ยตนเองเป็น ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง
ทาํ งานเสร็จทนั เวลาและ บางคร้งั ทาํ งานเสร็จ ทาํ งานเสร็จไมท่ นั เวลา
ถกู ตอ้ ง ทนั เวลาเป็นบางคร้ัง
ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณก์ ารเรียน ใชว้ สั ดอุ ุปกรณก์ ารเรียน
ทีร่ าคาถูกและใชอ้ ยา่ ง ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์การเรียน ที่ราคาคอ่ นขา้ งแพงและ
คุม้ ค่าใชจ้ นหมดแลว้ ทีร่ าคาค่อนขา้ งแพงและ ใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ ใชไ้ ม่
ค่อยซ้ือใหม่ ใชอ้ ยา่ งคมุ้ ค่าใชจ้ นหมด หมดแลว้ ซ้ือใหม่

มีความเสียสละเพ่ือ มคี วามเสียสละเพ่อื ไมค่ อ่ ยเสียสละเพือ่
ส่วนรวม ไม่เอาเปรียบ ส่วนรวมเป็ นบางคร้ งั ส่วนรวม ชอบเอา
ไมเ่ ห็นแกต่ วั ช่วยเหลอื ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรียบคนอน่ื ค่อนขา้ ง
หม่คู ณะไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตวั ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไม่ค่อย
หม่คู ณะ ช่วยเหลือหมคู่ ณะ

๑๐. กจิ กรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………
…….………………………………………………………………………………………
………….…………………………………………………………………………………
๑๑. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

๑๑.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน
๑. นกั เรียนจาํ นวน.................... คน
ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คิดเป็นร้อยละ...............
ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คิดเป็นร้อยละ................

๒. นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

๓. นักเรียนมีความรู้เกิดทกั ษะ
……………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………...

๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

๕. เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ .....................................ครูผูส้ อน
(นางสุคนธา ณรงคเ์ ดชา)

วนั ……………เดือน…………………ปี ………………….

ความคิดเห็นของผู้บงั คับบญั ชา
ความคิดเหน็ หัวหน้ากลุ่มสาระ

...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ ....................................................
(นางกรรณิกา จาํ ปาเต้ยี )
หวั หนา้ กลุ่มสาระภาษาไทย

ความคดิ เห็นหวั หน้าวิชาการ
...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ...................................................
(นางสาวสุพาพร สุพงษ)์

รองผอู้ าํ นวยการโรงเรียนกลมุ่ บริหารวิชาการ

ความคดิ เหน็ ผู้อาํ นวยโรงเรียน
...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ....................................................
(ดร.พมิ พน์ ารา เสาวนิตย)์

ผอู้ าํ นวยการโรงเรียนวดั ชุมพลนิกายาราม

เกม ใครหายไปไหน

จุดมุ่งหมาย

๑. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถจดั ลาํ ดบั ของพยญั ชนะได้
๒. เพ่ือให้นกั เรียนสามารถเขียนและสะกดคาํ ตามความหมายท่ีครูบอกให้

สื่อ
กระดาษซ่ึงเขยี นพยญั ชนะไวเ้ ป็นกลุม่ โดยขาดตวั น้นั บา้ งตวั น้ีบา้ ง และมีคาํ ส่งั
ประกอบว่าให้นาํ พยญั ชนะตวั ทีห่ ายไปมาประกอบกนั เป็ นคาํ ตามความหมายท่ีรุบไุ ว้

ตัวอย่าง
๑. เธอรู้ไหมวา่ พยญั ชนะตอ่ ไปน้ีตวั ใดหายไป ขอบอกใบใ้ หว้ ่าหายไป ๓ ตวั ถา้
เธอเอามารวมกนั จะไดค้ าํ คาํ หน่ึง ซ่ึงหมายถงึ เคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นการจบั ปลา

กขฃคฆงจฉชซฌญฎฏฐฑฒณดตถทธบปผฝพฟภมยรลศ
ษ ส ห ฬ ฮ (เฉลย = อวน)

๒. เธอรู้ไหมว่าพยญั ชนะตอ่ ไปน้ีตวั ใดหายไป ขอบอกใบใ้ ห้วา่ หายไป ๒ ตวั ถา้
เธอเอามารวมกนั จะไดค้ าํ คาํ หน่ึง ซ่ึงหมายถงึ ดนตรีชนิดหน่ึง

กขฃคฅฆงฉชฌฎฏฐฑฒณดตถทธนบปผฝพฟภมยรลวศ
ษ ส ห ฬ ฮ (เฉลย = ซอ)

๓. เธอรู้ไหมวา่ พยญั ชนะตอ่ ไปน้ีตวั ใดหายไป ขอบอกใบใ้ หว้ า่ หายไป ๓ ตวั ถา้
เธอเอามารวมกนั จะไดค้ าํ คาํ หน่ึง ซ่ึงหมายถึงเคร่ืองมือในการทาํ สวน

กขฃคฅฆงฉชซฌญฎฏฐฑฒณดตถทฑธ น ปผฝพฟภมยร
ล ว ศ ษ ส ห ฬ ฮ (เฉลย = จอบ)

วธิ ีดําเนินกิจกรรม
แจกกระดาษซ่ึงเขียนหรือพมิ พล์ าํ ดบั พยญั ชนะให้กบั ผูเ้ ล่นแต่ละคนจบั เวลา
ประมาณ ๕ นาที ใหห้ าพยญั ชนะทีห่ ายไปวา่ จะประกอบเป็ นคาํ ใดบา้ ง ใครทห่ี าไดเ้ สร็จ
กอ่ นกเ็ ป็นผูช้ นะ อาจรวมคะแนนเป็นหมู่ว่าหมู่ใดมีผูท้ ่ีทาํ เสร็จมากที่สุดและเร็วท่สี ุด

ข้อเสนอแนะ

๑. การเล่นกิจกรรมน้ี ถา้ ใชผ้ เู้ ลน่ ระดบั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๒ กอ็ าจดดั แปลงใหด้ ู
ภาพสิ่งของประกอบพยญั ชนะที่หายไปก็ได้

๒. ในระดบั ช้นั ท่ีสูงข้ึน อาจดดั แปลงเพ่มิ เตมิ ตวั พยญั ชนะทหี่ ายไปใหม้ ากข้นึ
แลว้ แขง่ ขนั วา่ ใครจะประสมคาํ จากพยญั ชนะท่หี ายไปไดม้ ากกว่ากนั

๓. อาจดดั แปลงกิจกรรมน้ีไปใชก้ บั การผนั เสียงวรรณยกุ ตโ์ ดยใหน้ กั เรียนหาเสียง
ทีห่ ายไป เช่น คา (*ข่า) คา่ (*ค้า) ขา

ขา้
หมายเหตุ (*คือคาํ ทีต่ ้องการให้หา)

แบบทดสอบ บทที่ ๙ คร้ืนเครงเพลงพ้ืนบา้ น

ชีแ้ จง ให้นกั เรียนกาเครื่องหมาย  ทบั ตวั อกั ษรหนา้ ขอ้ ทถี่ กู ตอ้ ง

๑. ในสมยั โบราณคนกลุ่มใดทช่ี อบเล่นเพลงขอทาน

ก. ชาวนา ข. ชาวไร่
ค. พอ่ คา้ นายทนุ ง. หนุ่มสาว

๒. เพลงพ้นื เมอื งประเภทใดเล่นเพื่อแกเ้ คล็ดเอาโชคลาง
ก. เพลงพวงมาลยั ข. เพลงฉ่อย

ค. ลเิ ก ง. เพลงขอทาน
๓. พิกลุ และอานวลเสน่ห์ ไปร่วมกิจกรรมงานใด

ก. การเลน่ เพลงพ้นื เมือง ข. การเล่นเพลงขอทาน

ค. การเลน่ เพลงพวงมาลยั ง. การแสดงลิเกยอ้ นยคุ
๔. เพลงเรือเป็นเพลงพ้นื เมืองของภาคใด
ก. ภาคอีสาน ข. ภาคเหนือ
ค. ภาคใต้ ง. ภาคกลาง

๕. เพลงพ้นื เมอื งของภาคอีสานส่วนมากคอื เพลงใด
ก. ร็องแง็ง ข. ฟ้อนเลบ็

ค. หมอลาํ ง. เพลงอีแซว

๖. ตะโลด้ โป๊ ด เป็นเครื่องดนตรีพ้นื เมืองของทอ้ งถน่ิ ใด
ก. ภาคเหนือ ข. ภาคอสี าน

ค. ภาคใต้ ง. ภาคกลาง
๗. พณิ เป็นเคร่ืองดนตรีพ้นื เมอื งของทอ้ งถิน่ ใด
ก. ภาคเหนือ ข. ภาคอสี าน
ค. ภาคใต้ ง. ภาคกลาง

๘. โหวด เป็นเครื่องดนตรีประเภทใด
ก. ดีด ข. สี

ค. ตี ง. เป่ า

๙. ขอ้ ใดเป็นเคร่ืองดนตรีของภาคใต้ ข. ป่ี กาหลอ
ก. โปงลาง

ค. สะลอ้ ง. ซึง
๑๐. ผทู้ จี่ ะเป็นพ่อเพลงแมเ่ พลงไดใ้ นการเลน่ เพลงพวงมาลยั ตอ้ งมีคณุ สมบตั ิใด
ก. แตง่ กลอนเกง่
ข. มีปฏิภาณไหวพริบดี
ค. พดู เกง่ ง. ร้องเพลงเกง่

๑๑. กนั ตรึม เป็นเพลงพ้นื เมอื งในทอ้ งถิ่นใด ข. แถวชายแดนภาคใต้
ก. ชายแดนภาคเหนือ
ค. อีสานใต้ ง. ภาคกลาง

๑๒. เพลงพวงมาลยั เริ่มเล่นกนั คร้ังแรกในทอ้ งถ่นิ จงั หวดั ใด
ก. กาํ แพงเพชร ข. เพชรบรุ ี

ค. เพชรบรู ณ์ ง. กาฬสินธุ์
๑๓. ขอ้ ใดใชส้ าํ นวนท่ีเป็นโวหารเปรียบเทยี บ

ก. พระคุณแม่ยง่ิ ใหญ่ดจุ ขนุ เขา ข. เธอเป็นทร่ี กั ของฉนั
ค. แดเ่ ธอผูเ้ ป็นท่รี ัก ง. อยากไปหาเธอมากแตไ่ ปไมไ่ ด้
๑๔. “คณุ สมชายเป็นมือขวาของผูจ้ ดั การบริษทั น้ี” หมายความว่าอยา่ งไร
ก. สมชายเป็นคนสาํ คญั ทาํ งานแทนไดท้ กุ อยา่ ง
ข. สมชายเป็นคนเก่ง ทาํ งานไดท้ ุกอยา่ ง

ค. สมชายเป็นคนทาํ งานเร็ว ทาํ ทนั ทกุ อยา่ ง
ง. สมชายมีความสามารถมากกว่าทกุ คน

๑๕. “ งานน้ีกลว้ ยๆสาํ หรับฉนั ” หมายความว่าอยา่ งไร
ก. ฉนั ขายกลว้ ย ข. ฉนั ปลกู กลว้ ย
ค. ฉนั ทาํ งานน้ีไดง้ า่ ยมาก ง. การปลกู กลว้ ยงา่ ยมาก

จากข้อ ๑๖ – ๒๐ ให้นักเรียนนําคาํ ที่กาํ หนดให้เติมลงในเพลงพวงมาลัย

ก. พวงเจ้าเอ๋ยมะไฟ ข. หรรษา
ค. ตอบข้อสงสัย ง. “กวาง” นัง่ ไง
จ. นง่ั รถแล่นฉิว ฉ. เหลือกลางแค่วา

เออ้ ระเหยลอยลิ่ว นงั่ รถแลน่ ฉิวรบั ลมชื่นใจ
เรามาเทย่ี วกนั ……๑๖……… เล่นทายปัญหาลบั ปัญหาดีไหม
เรื่องปริศนาสารพดั ฉนั น้นั ถนดั ………๑๗………..
อะไรเอย่ ตดั หวั แลว้ ก็ตดั หาง เหลือตรงกลางแค่ “วา” เดียวไว้
ตดั หวั ตดั หาง……๑๘………… ฉนั ขอทายวา่ คอื ……๑๙………..
……………๒๐………………. คิดไดอ้ ยา่ งไรช่างเกง่ จริงเอย

เฉลยแบบทดสอบ บทที่ ๙

๑. ค ๒. ก ๓. ก ๔. ง ๕. ค
๖. ก ๗. ข ๘. ง ๙. ข ๑๐. ข
๑๑. ค ๑๒. ข ๑๓. ก ๑๔. ก ๑๕. ค
๑๖. ข ๑๗. ค ๑๘. ฉ ๑๙. ง ๒๐. ก

ใบงาน ชดุ ท่ี ๑

คําชีแ้ จง ให้นกั เรียนเขียนอธิบายความหมายของคาํ ทก่ี าํ หนดให้ตอ่ ไปน้ี

ท่ี คํา ความหมาย

๑ แกเ้ คลด็
๒ โฆษก
๓ ฉวดั เฉวียน
๔ ฉนั ทลกั ษณ์
๕ นกั ขตั ฤกษ์
๖ ปฏพิ ากย์
๗ ปฏิภาณ
๘ พมิ าน
๙ มะโหด
๑๐ ไมโครโฟน
๑๑ โวหาร
๑๒ เพลงฉ่อย
๑๓ ไฮเทค
๑๔ ไอแพด็
๑๕ ไซเบอร์

ชื่อ..............................................................เลขท่ี ..................... ช้ัน...............

ใบงาน ชดุ ที่ ๒

คาํ ชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนใชค้ าํ ทก่ี าํ หนดให้ตอ่ ไปน้ีไปแต่งประโยคให้ไดใ้ จความ

ที่ คาํ ประโยค

๑ แกเ้ คล็ด
๒ โฆษก
๓ ฉวดั เฉวยี น
๔ ฉนั ทลกั ษณ์
๕ นกั ขตั ฤกษ์
๖ ปฏพิ ากย์
๗ ปฏิภาณ
๘ พิมาน
๙ มะโหด
๑๐ ไมโครโฟน
๑๑ โวหาร
๑๒ เพลงฉ่อย
๑๓ ไฮเทค
๑๔ ไอแพด็
๑๕ ไซเบอร์

ชื่อ..............................................................เลขที่ ..................... ช้ัน...............

แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดภาษาพาที แผนท่ี ๒

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖
บทที่ ๙ ครื้นเครงเพลงพื้นบ้าน เวลา ๘ ช่ัวโมง
หวั ข้อเรื่อง การอ่านในใจ เวลา ๑ ชั่วโมง
วนั ที่ ....................................... ผู้ใช้แผน ................................

สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอื่ นาํ ไปใช้

ตดั สินใจแกป้ ัญหาในการดาํ เนินชีวิต และมีนิสัยรักการอา่ น
๑. สาระสําคัญ

๑.๑ ความคดิ รวบยอด
การอา่ นในใจคือการกวาดสายตาไปยงั ขอ้ ความจากหนงั สือ พุ่งความสนใจ

ไปยงั สาระท่ีอ่าน แลว้ เก็บใจความสาํ คญั ของเรื่องทอ่ี า่ น สามารถถา่ ยโอนสาระทอ่ี ่าน
ไปยงั ผอู้ ื่นไดด้ ว้ ยท้งั พูดและการเขยี น

๑.๒ สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

๒. ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๖ / ๔ แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากเร่ืองทอี่ า่ น

๓. จุดประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ อ่านในใจและเกบ็ ใจความสาํ คญั ของเร่ืองได้
๓.๒ ถา่ ยโอนสาระเรื่องราวทอ่ี า่ นไปยงั ผูอ้ ่ืนได้
๓.๓ นกั เรียนตอบคาํ ถามเร่ืองทอี่ า่ นได้

๔. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่ เรียนรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ

๔.๔ มวี นิ ยั
๔.๕ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

๕. สาระการเรียนรู้
๕.๑ สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๏ การอา่ นจบั ใจความจากสื่อตา่ งๆ เช่น
 เรื่องส้ัน ๆ
 สารคดี - เรื่องส้ัน
 งานเขียนประเภทโนม้ นา้ ว
๕.๒ สาระการเรียนรู้ย่อย
๏ การอา่ นในใจ
๏ การจบั ใจความสาํ คญั
๏ การตอบคาํ ถาม

๖. ชิน้ งาน / หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้
๖.๑ การทาํ ใบงาน
๖.๒ แบบบนั ทึกคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละผลงาน

๗. กจิ กรรมการเรียนรู้
๗.๑ นกั เรียนอา่ นบทร้อยกรองนาํ เรื่อง แลว้ ร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ความสาํ คญั

ของบทร้อยกรอง ครูสุ่มใหน้ กั เรียน ๒ – ๓ คน บอกความสาํ คญั ของบทร้อยกรอง
ชมเชยนกั เรียนท่ีบอกความสาํ คญั ของบทร้อยกรองไดด้ ี

๗.๒ ใหน้ กั เรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง “ การอ่านในใจ ” ( ทา้ ยแผน ) จากน้นั ครู
อธิบายเพ่มิ เติม นกั เรียนอา่ นในใจบทเรียนเร่ือง “ คร้ืนเครงเพลงพ้ืนบา้ น” ในหนงั สือเรียน
ภาษาไทย ชุด ภาษาพาที ช้นั ป.๖ หนา้ ๑๑๖ – ๑๑๙ ครูต้งั คาํ ถามใหน้ กั เรียนแข่งขนั กนั
ตอบ ดงั น้ี

 นกั เรียนคดิ ว่าเร่ืองน้ีผเู้ ขียนตอ้ งการสื่อสาระใดแกผ่ อู้ ่าน
 พิกุลและอานวลเสน่ห์ ไปร่วมกิจกรรมงานใด
 ภายในงานมกี ารแสดงอะไรบา้ ง
 เพลงพ้ืนบา้ นมลี กั ษณะแตกต่างจากเพลงทว่ั ไปอยา่ งไร
 นกั เรียนคิดว่าทกุ คนสามารถเลน่ เพลงพ้นื บา้ นไดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด

 เพลงขอทานในบทอา่ นแสดงให้เห็นวถิ ีชีวิตของคนไทยอยา่ งไรบา้ ง
 นกั เรียนจะช่วยอนุรักษเ์ พลงพ้นื บา้ นในทอ้ งถน่ิ ของนกั เรียนอยา่ งไรบา้ ง
 ผทู้ ีจ่ ะเล่นเพลงพ้ืนบา้ นไดต้ อ้ งมีคุณสมบตั ิอยา่ งไร
๗.๔ ครูเปิ ดซีดี การเล่นเพลงพ้ืนบา้ น เช่น เตน้ กาํ รําเคียว เพลงฉ่อย หมอลาํ
หรือเพลงพวงมาลยั ใหน้ กั เรียนชมแลว้ ร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ลกั ษณะการเล่น โอกาส
ทีเ่ ล่น พร้อมท้งั กาํ ชบั ให้นกั เรียนร่วมกนั อนุรกั ษเ์ พลงพ้ืนบา้ นไว้
๗.๕ นกั เรียนทาํ ใบงานท่ี ๓ ( ทา้ ยแผน ) ชุด ตอบคาํ ถาม จากน้นั นาํ ส่งครู
ครูเฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ ง
๗.๖ นกั เรียนทาํ ใบงานที่ ๔ ( ทา้ ยแผน ) ชุด เขียนแผนภาพโครงเรื่อง คร้ืนเครง
เพลงพ้ืนบา้ นเสร็จแลว้ ครูเฉลยแนวทาง นกั เรียนแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดของตนเอง
๗.๗ ครูมอบหมายให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ไปจดั ทาํ รายงานเรื่อง “ เพลงพ้นื บา้ น
ของไทย” เตรียมนาํ เสนอในสัปดาห์ต่อไป

๘. ส่ือ / แหล่งเรียนรู้ / บคุ คล

ลาํ ดับท่ี รายการส่ือ กจิ กรรมท่ใี ช้ แหล่งที่ได้มา

เทปซีดี การแสดงเพลง ครูใชป้ ระกอบคาํ อธิบาย ครูจดั เตรียม
๒ พ้ืนบา้ น
๓ ใบงาน ชุดท่ี ๓ นกั เรียนทาํ ใบงาน ครูจดั ทาํ
ใบความรู้เรื่อง เพลงพ้ืนบา้ น นกั เรียนศกึ ษาวิธีการเล่นเพลง ครูจดั ทาํ
๔ พ้ืนบา้ น
๕ ใบงาน ชุดที่ ๔ นกั เรียนทาํ ใบงาน ครูจดั ทาํ
๖ เฉลยใบงาน ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครูจดั ทาํ
๗ เกณฑก์ ารประเมนิ ( Rubric ) สร้างกฎของการประเมนิ ครูจดั ทาํ
แบบประเมนิ การสงั เกต บนั ทึกการสงั เกตพฤตกิ รรม และ ครูจดั ทาํ
พฤตกิ รรม และแบบ บนั ทึกผลงานรายบคุ คล
ประเมนิ ผลงานรายบคุ คล

๙. วดั ผลประเมนิ ผล เคร่ืองมือท่ีใช้ใน วิธกี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ
การประเมิน
กจิ กรรมที่ประเมนิ แบบประเมนิ การสงั เกต สงั เกตรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
๑. สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมนิ ผลงาน ๕ = พอใช้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ต่าํ กว่า ๕ = ปรับปรุง
ประสงค์ แบบประเมินการสังเกต
๒. นกั เรียนร่วมกิจกรรม พฤตกิ รรม และแบบ สงั เกตรายบุคคล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
ประเมินผลงาน ๖ – ๗ = ดี
๓. นกั เรียนทาํ ใบงาน ๕ = พอใช้
ชุดที่ ๓ แบบประเมนิ การสังเกต ต่าํ กว่า ๕ = ปรบั ปรุง
พฤตกิ รรม และแบบ
๓. นกั เรียนทาํ ใบงาน ประเมินผลงาน ตรวจงานรายบุคคล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
ชุดที่ ๔ ๖ – ๗ = ดี
แบบประเมนิ การสังเกต ๕ = พอใช้
พฤติกรรม และแบบ ต่าํ กวา่ ๕ = ปรบั ปรุง
ประเมนิ ผลงาน
ตรวจงานรายบุคคล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
๖ – ๗ = ดี
๕ = พอใช้
ต่าํ กว่า ๕ = ปรบั ปรุง

การประเมนิ ด้านทกั ษะ / กระบวนการ

ประเด็นการประเมนิ ดี (๒) เกณฑ์การให้ระดับคะแนน
พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐)

สรุปเน้ือหาไดก้ ระชบั สรุปเน้ือหาไดก้ ระชบั สรุปเน้ือหาไดไ้ ม่
ทักษะการ สรุป ใจความครบถว้ น ใจความเกือบครบถว้ น กระชบั ใจความและไม่
เนือ้ หา สามารถสื่อใหผ้ ูอ้ ืน่ เขา้ ใจ สามารถส่ือใหผ้ อู้ นื่ ครบถว้ น สามารถส่ือ
ไดง้ า่ ย เขา้ ใจได้ ให้ผูอ้ ื่นเขา้ ใจไดน้ อ้ ย

สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพดู รายงานไดด้ ี
พดู เสียงดงั ฟังชดั ได้ พูดน้าํ เสียงชดั เจน พูดน้าํ เสียงไมช่ ดั เจน ไม่
การรายงานหน้าช้ัน สาระชดั เจน วางบคุ ลิก สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาที่ ค่อยสอดคลอ้ งกบั
ในการพดู ไดด้ ีมาก พดู วางบคุ ลกิ ในการ เน้ือหาทพ่ี ดู วางบคุ ลิก
พดู ไดด้ ี ในการพูดไม่ค่อยดี

การปฏิบตั ิงานตาม มีทกั ษะการปฏิบตั งิ าน มกี ารปฏิบตั ิงานตาม ยงั ไม่สามารถ
ข้นั ตอน ตามข้นั ตอน ไดอ้ ยา่ ง ข้นั ตอนไดต้ ามลาํ ดบั ปฏิบตั งิ านตามข้นั ตอน
ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ได้

ความคดิ สร้างสรรค์ มคี วามคดิ สร้างสรรคด์ ี พอมีความคดิ ท่ี ยงั ขาดความคิดท่ี
สร้างสรรคอ์ ยบู่ า้ ง สร้างสรรค์

ความเป็ นระเบียบ มที กั ษะสามารถสร้างงาน สามารถสร้างงานท่สี วน
เรียบร้อยของการทาํ ท่สี วยงาม และมคี วาม งามพอใชไ้ ด้ และมี ไม่มีความสวยงาม และ
ใบงาน ประณีตดี
ความประณีตใน ไม่ประณีต
บางส่วน

การประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
เกณฑ์การให้ระดบั คะแนน
ประเด็นการประเมนิ ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐)
ซื่อสัตย์สุจริต
มีวนิ ัย ทาํ งานอยา่ ง ทาํ งานอยา่ ง ทาํ งานอยา่ ง
ใฝ่ เรียนรู้ ตรงไปตรงมา ยอมรับ ตรงไปตรงมา ไม่ ตรงไปตรงมา ไม่
อย่อู ย่างพอเพยี ง ในขอ้ ผดิ พลาดและ ยอมรบั ในขอ้ ผิดพลาด ยอมรับในขอ้ ผดิ พลาด
มจี ิตสาธารณะ บกพร่องของตนเอง และบกพร่องของตนเอง และบกพร่องของตนเอง
พอใจในส่ิงท่ตี นมี พอใจในส่ิงที่ตนมี ไม่คอ่ ยพอใจในส่ิงทต่ี น
มี

รู้จกั ควบคุมอารมณ์ รู้จกั ควบคุมอารมณ์ บา้ ง ไม่รู้จกั ควบคุมอารมณ์
ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นระเบียบ ปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นระเบยี บ ปฏิบตั ติ นอยใู่ นระเบยี บ
วินยั แต่งกายถูกตอ้ ง วนิ ยั การแต่งกายไม่ วินยั นอ้ ย ไม่ค่อยแต่ง
ตามระเบียบของ คอ่ ยถูกตอ้ งตามระเบียบ กายถูกตอ้ งตามระเบียบ
โรงเรียนตลอดเวลา ของโรงเรียน ของโรงเรียน

มีความมานะมงุ่ มนั่ ใน มคี วามมานะม่งุ มนั่ ใน ไม่มคี วามมานะมุง่ มนั่
การทาํ งานทไี่ ดร้ บั การทาํ งานท่ีไดร้ ับ ในการทาํ งานท่ีไดร้ บั
มอบหมาย ศึกษา มอบหมาย ศกึ ษา มอบหมาย ไมค่ อ่ ย
คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง คน้ ควา้ ดว้ ยตนเองเป็น ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง
ทาํ งานเสร็จทนั เวลาและ บางคร้งั ทาํ งานเสร็จ ทาํ งานเสร็จไมท่ นั เวลา
ถกู ตอ้ ง ทนั เวลาเป็นบางคร้ัง
ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณก์ ารเรียน ใชว้ สั ดอุ ุปกรณก์ ารเรียน
ทีร่ าคาถูกและใชอ้ ยา่ ง ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์การเรียน ท่รี าคาคอ่ นขา้ งแพงและ
คุม้ ค่าใชจ้ นหมดแลว้ ทีร่ าคาค่อนขา้ งแพงและ ใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ ใชไ้ ม่
ค่อยซ้ือใหม่ ใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ ใชจ้ นหมด หมดแลว้ ซ้ือใหม่

มีความเสียสละเพ่ือ มคี วามเสียสละเพ่อื ไมค่ อ่ ยเสียสละเพือ่
ส่วนรวม ไม่เอาเปรียบ ส่วนรวมเป็ นบางคร้ ัง ส่วนรวม ชอบเอา
ไมเ่ ห็นแกต่ วั ช่วยเหลอื ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรียบคนอน่ื ค่อนขา้ ง
หม่คู ณะไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตวั ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไม่ค่อย
หม่คู ณะ ช่วยเหลือหมคู่ ณะ

๑๐. กจิ กรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………
…….………………………………………………………………………………………
………….…………………………………………………………………………………
๑๑. บนั ทึกผลหลงั การสอน

๑๑.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน
๑. นกั เรียนจาํ นวน.................... คน
ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คดิ เป็นร้อยละ...............
ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คดิ เป็นร้อยละ................

๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

๓. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ
……………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………...

๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

๕. เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ .....................................ครูผูส้ อน
(นางสุคนธา ณรงคเ์ ดชา)

วนั ……………เดือน…………………ปี ………………….

ความคิดเห็นของผู้บงั คับบญั ชา
ความคิดเหน็ หัวหน้ากลุ่มสาระ

...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ ....................................................
(นางกรรณิกา จาํ ปาเต้ยี )
หวั หนา้ กลุ่มสาระภาษาไทย

ความคดิ เห็นหวั หน้าวิชาการ
...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ...................................................
(นางสาวสุพาพร สุพงษ)์

รองผอู้ าํ นวยการโรงเรียนกลมุ่ บริหารวิชาการ

ความคดิ เหน็ ผู้อาํ นวยโรงเรียน
...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ....................................................
(ดร.พมิ พน์ ารา เสาวนิตย)์

ผอู้ าํ นวยการโรงเรียนวดั ชุมพลนิกายาราม

ใบความรูเ้ ร่ือง เพลงพ้ืนบา้ น

เพลงพ้นื บา้ น เป็นท่ีนิยมร้องเล่นกนั ในยามท่เี สร็จจากงานหรือในงานประเพณีท่มี ี
คนหม่มู ากมาร่วมกนั ทาํ งาน เช่น งานเก่ียวขอ้ ง งานสงกรานต์ ฯลฯ เพอ่ื ความสนุกสนาน
ร่ืนเริง

เพลงพืน้ บ้านมีในทกุ ถิ่นทกุ ภาพ เช่น

ภาคเหนือ มี ค่าวซอ คา่ วธรรม
ภาคกลาง มี เพลงฉ่อย เพลงพวงมาลยั เพลงเกี่ยวขา้ ว เพลงอแี ซว
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ มี ลาํ แคน ลาํ เพลนิ ลเิ กโคราช
ภาคใต้ มี ลิเกฮลู ู หนงั ตะลงุ โนรา

การกาํ หนดจาํ นวนคาํ การใชค้ าํ สมั ผสั และลกั ษณะการร้องของเพลงพ้นื บา้ น จะ
ตา่ งกนั ตรงทาํ นองและการร้องรับของลูกคู่ เช่น

กลอนเพลงพวงมาลยั

เพลงมวงมาลยั จะข้นึ ตน้ เพลงในวรรคแรกว่า “เออ้ ระเหยลอย…” คาํ ท่ีตอ่
จะเป็นคาํ ใดก็ได้ เช่น เออ้ ระเหยลอยมา เออ้ ระเหยลอยไป เออ้ ระเหยลอยลอ่ ง และจบ
ดว้ ยวรรคแรกของบทสุดทา้ ยวา่ “พวงเจา้ เอ๋ย…” หรือ “เจา้ ช่อ…” คาํ ทตี่ ่อจะเป็นคาํ ท่ี
สมั ผสั กบั ทา้ ยวรรคท่สี องของบทก่อนบทสุดทา้ ย และลงทา้ ยวรรคท่ีสองของบทสุดทา้ ย
ว่า “เอย”

แผนผัง

เออ้ ระเหยลอย ๐ ๐๐๐๐๐๐
๐๐๐๐๐๐ ๐๐๐๐๐๐
๐๐๐๐๐๐ ๐๐๐๐๐๐
พวงเจา้ เอ๋ย ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ เอย

ออ้ ระเหยลอยลม ช้นั ประถมปี ท่ีหกเศร้าใจ ๑ บทกลอน
ตอ้ งจากเพือ่ นท่ีแสนรัก ยากจะหกั ความอาลยั ๑ บทกลอน
ตอ้ งจากครูบาอาจารย์ สถานศึกษาให้รา้ วฤทยั ๑ บทกลอน
จากกนั เพราะเราเรียนจบ แลว้ จะพบกนั ไดเ้ มื่อไร
บทกลอน ๑
พวงเจา้ เอ๋ยมาลยั
ตวั จากไปไกลใจไมห่ ่างเอย…(ลูกครู่ บั )

เพลงพวงมาลัยบทหน่ึงจะมคี วามยาวกคี่ าํ กลอนกไ็ ด้
๑ คาํ กลอนมี ๒ วรรค ในแตล่ ะวรรคมี ๖ คาํ ยกเวน้ วรรคแรกของบทตน้ จะมี
๕ คาํ
คาํ สัมผสั คาํ สุดทา้ ยของวรรคหนา้ สัมผสั กบั คาํ ที่ ๑ ,๒ หรือ ๓ ของวรรคหลงั
คาํ ทา้ ยของวรรคหลงั ทุกคาํ กลอนจะมเี สียงสระเดียวกนั จนจบบทเพลง
การร้องเลน่ โตต้ อบระหวา่ งชาย – หญงิ ลูกคู่จะรับคาํ กลอนแรก “เอย้ ระเหย..”
และคาํ กลอนสุดทา้ ย “พวงเจา้ เอ๋ย…” หรือ “เจา้ ช่อ…” ท้งั คาํ กลอนส่วนคาํ กลอนอื่น
ลูกคูจ่ ะรบั ๒ คาํ ทา้ ยของวรรคหลงั เท่าน้นั

ใบงาน ชดุ ท่ี ๓

คาํ ชีแ้ จง ให้นกั เรียนตอบคาํ ถามต่อไปน้ี

๑. นกั เรียนคิดวา่ เร่ืองน้ีผเู้ ขียนตอ้ งการสื่อสาระใดแกผ่ ูอ้ ่าน
๒. พิกุลและอานวลเสน่ห์ ไปร่วมกิจกรรมงานใด
๓. ภายในงานมีการแสดงอะไรบา้ ง
๔. เพลงพ้นื บา้ นมลี กั ษณะแตกต่างจากเพลงทว่ั ไปอยา่ งไร
๕. นกั เรียนคิดว่าทุกคนสามารถเล่นเพลงพ้นื บา้ นไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด
๖. เพลงขอทานในบทอ่านแสดงให้เห็นวิถชี ีวิตของคนไทยอยา่ งไรบา้ ง
๗. นกั เรียนจะช่วยอนุรักษเ์ พลงพ้นื บา้ นในทอ้ งถน่ิ ของนกั เรียนอยา่ งไรบา้ ง
๘. ผูแ้ สดงเพลงเตน้ กาํ รําเคียวประกอบไปดว้ ยผแู้ สดงใด
๙. เสียงขอทาน มีประวตั คิ วามเป็นมาอยา่ งไร
๑๐.มารยาทในการชมการแสดงเพลงพ้ืนบา้ น ควรปฏิบตั ิอยา่ งไรบา้ ง
๑๑. เพลงพ้นื บา้ นของทอ้ งถน่ิ ภาคกลางไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
๑๒. ผทู้ จ่ี ะเล่นเพลงพ้นื บา้ นไดต้ อ้ งมคี ณุ สมบตั ิอยา่ งไร

กระดาษคําตอบใบงาน ชุดที่ ๓

........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................

ช่ือ..............................................................เลขท่ี ..................... ช้ัน...............

ใบงาน ชุดท่ี ๔

คาํ ชี้แจง ให้นกั เรียนอ่านเร่ือง “ คร้ืนเครงเพลงพ้นื บา้ น” แลว้ เขียนแผนภาพ
โครงเร่ือง

ตวั ละคร…………………………………………………………………………………
สถานท…่ี ………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………….
เหตุการณท์ ี่ ๑
การกระทาํ ของตวั ละคร…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………..
ผลของการกระทาํ ………………………………..………………………………………
…………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………..
เหตุการณท์ ี่ ๒
การกระทาํ ของตวั ละคร…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………..
ผลของการกระทาํ ………………………………..………………………………………
…………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………..
ผลสุดทา้ ย……………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………..
ขอ้ คดิ จากเรื่อง…………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดภาษาพาที แผนที่ ๓

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖
บทที่ ๙ ครื้นเครงเพลงพ้ืนบ้าน เวลา ๘ ชั่วโมง
หัวข้อเรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เวลา ๑ ชั่วโมง
วันที่ ....................................... ผู้ใช้แผน ................................

สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนาํ ไปใช้

ตดั สินใจแกป้ ัญหาในการดาํ เนินชีวิต และมนี ิสัยรกั การอ่าน
๑. สาระสําคญั

๑.๑ ความคิดรวบยอด
การวิเคราะห์เร่ือง เป็นการพิจารณาเร่ืองราวตา่ ง ๆ อยา่ งละเอยี ดต้งั แต่ตน้ จนจบ

เพอ่ื แยกแยะขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เห็น มกี ารใชเ้ หตผุ ลในการแยกส่วนดี ส่วนบกพร่องของ
เรื่องน้ัน ๆ การจะยอ่ ความและวิเคราะหเ์ รื่องไดด้ ีนอกจากจะเป็นคนชอบอ่านแลว้ ยงั ตอ้ ง
หมน่ั ฝึกการยอ่ ความและวิเคราะห์เป็นประจาํ ดว้ ย ดงั น้นั จะตอ้ งเรียนรู้และนาํ ไปใชใ้ ห้
ถกู ตอ้ ง จึงจะถอื วา่ ประสบความสาํ เร็จในการเรียนภาษา

๑.๒ สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

๒. ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๖ / ๔ แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจากเรื่องท่อี า่ น

๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ นกั เรียนต้งั คาํ ถาม – ตอบคาํ ถามเรื่องท่อี า่ นได้
๓.๒ นกั เรียนแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจากเร่ืองที่อา่ นได้
๓.๓ นกั เรียนสรุปขอ้ คดิ ท่ไี ดจ้ ากการอา่ นได้

๔. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่ เรียนรู้

๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี ินยั
๔.๕ อยอู่ ยา่ งพอเพียง

๕. สาระการเรียนรู้
๕.๑ สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๏ การอา่ นจบั ใจความจากส่ือต่างๆ เช่น
- เร่ืองส้ัน ๆ
- งานเขยี นประเภทโนม้ นา้ ว
๕.๒ สาระการเรียนรู้ย่อย
๏ การคิดวเิ คราะห์
๏ การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น

๖. ชิน้ งาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๖.๑ การทาํ แบบทดสอบก่อนเรียน
๖.๒ การทาํ ใบงาน

๗. กจิ กรรมการเรียนรู้
๗.๑ ทบทวนความรู้เดิมทเ่ี รียนในชวั่ โมงท่ีแลว้ ดว้ ยการใหน้ กั เรียนนาํ เอาใบงาน

ชุดที่ ๓ – ๔ มาร่วมกนั เฉลยและตรวจสอบความถกู ตอ้ งสมบูรณ์อีกคร้ัง ร่วมกนั ชมเชย
ผูท้ ่ตี อบคาํ ถามไดด้ ี คดั เลือกผลงานการเขยี นแผนภาพโครงเรื่องทดี่ ี ๑ – ๓ อนั ดบั ไปติด
ไวท้ ่ปี ้ายนิเทศหนา้ ช้นั เรียน แลกเปลีย่ นกนั อา่ นและชื่นชมผลงาน

๗.๒ แบ่งนกั เรียนออกเป็ นกลุม่ กลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน ให้แตล่ ะกลุ่มเลอื ก
ประธานกลมุ่ รองประธานกลุม่ และเลขานุการกลุม่ ครูอธิบายบทบาทและหนา้ ท่ขี อง
สมาชิกทุกคนในกลมุ่ ให้นกั เรียนทราบ

๗.๓ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มอ่านในใจเน้ือหาบทเรียน จากหนงั สือภาษาไทย
ชุด ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ ๖ บทท่ี ๙ “ คร้ืนเครงเพลงพ้ืนบา้ น” จากหนา้ ๑๓๐
ถึงหนา้ ๑๓๕ อกี คร้ัง จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ต้งั คาํ ถามใหก้ ล่มุ อื่นตอบ กลมุ่ ละ ๒ คาํ ถาม

๗.๔ ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั หาชื่อการแสดงเพลงพ้นื บา้ นของภาคตา่ งๆ
ซ่ึงไดแ้ ก่

 การแสดงพ้ืนบา้ นของทอ้ งถน่ิ ภาคเหนือ
 การแสดงพ้นื บา้ นของทอ้ งถน่ิ ภาคกลาง
 การแสดงพ้นื บา้ นของทอ้ งถน่ิ ภาคใต้
 การแสดงพ้นื บา้ นของทอ้ งถ่นิ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มช่วยกนั เขยี นคาํ ตอบลงในแผน่ กระดาษ จากน้นั ส่งตวั แทนออกมา
อ่านคาํ ตอบที่หนา้ ช้นั เรียน ครูชมเชยกลุ่มท่ีตอบไดด้ ี
๗.๕ รวมกนั สนทนาถงึ เน้ือหาของเร่ือง “ คร้ืนเครงเพลงพ้ืนบา้ น” ครูซกั ถาม
นกั เรียนวา่ นกั เรียนไดอ้ ะไรบา้ งจากการอ่านเรื่องน้ี
๗.๖ นกั เรียนทาํ ใบงานที่ ๕ ( ทา้ ยแผน ) ชุด วเิ คราะหเ์ น้ือหาจากเรื่องทอ่ี า่ น
เสร็จแลว้ ครูเฉลยและนาํ ส่งครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง
๗.๗ นกั เรียนทาํ ใบงานที่ ๖ ( ทา้ ยแผน ) ชุด บอกสิ่งทไ่ี ดจ้ ากการอา่ นเร่ือง
“ คร้ืนเครงเพลงพ้นื บา้ น” ถา้ ไม่เสร็จไปทาํ เป็นการบา้ น

๘. ส่ือ / แหล่งเรียนรู้ / บคุ คล

ลาํ ดบั ที่ รายการส่ือ กจิ กรรมท่ีใช้ แหล่งทไี่ ด้มา

๒ รูปภาพ ครูใชป้ ระกอบคาํ อธิบาย ครูจดั เตรียม
๓ ใบงาน ชุดท่ี ๕ – ๖ นกั เรียนทาํ ใบงาน ครูจดั ทาํ
๔ แถบประโยคคาํ ถาม นกั เรียนฝึกทกั ษะการตอบคาํ ถาม ครูจดั ทาํ
หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน นกั เรียนอ่านเร่ือง ครูจดั ทาํ
๕ ภาษาไทย ชุดภาษาเพอื่ ชีวติ
๖ ภาษาพาที ช้นั ป.๖ สร้างกฎของการประเมนิ ครูจดั ทาํ
เกณฑก์ ารประเมิน ( Rubric ) บนั ทกึ การสงั เกตพฤตกิ รรม และ ครูจดั ทาํ
แบบประเมนิ การสังเกต บนั ทกึ ผลงานรายบคุ คล
พฤติกรรม และแบบ
ประเมินผลงานรายบคุ คล

๙. วัดผลประเมนิ ผล เคร่ืองมือทใ่ี ช้ใน วิธีการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ
การประเมิน
กิจกรรมท่ปี ระเมิน แบบประเมินการสังเกต สังเกตรายบุคคล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
๑. สงั เกตพฤติกรรมดา้ น พฤตกิ รรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมินผลงาน ๕ = พอใช้
คณุ ลกั ษณะอนั พึง ต่าํ กวา่ ๕ = ปรบั ปรุง
ประสงค์

๒. นกั เรียนต้งั คาํ ถาม – ตอบ แบบประเมนิ การสงั เกต สงั เกตรายกลมุ่ ๘ - ๑๐ = ดีมาก
คาํ ถาม พฤตกิ รรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมินผลงาน
๕ = พอใช้
ต่าํ กว่า ๕ = ปรับปรุง

๓. นกั เรียนทาํ ใบงาน แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบุคคล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
ชุดที่ ๕ พฤติกรรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมนิ ผลงาน
๕ = พอใช้
ต่าํ กวา่ ๕ = ปรบั ปรุง

๓. นกั เรียนทาํ ใบงาน แบบประเมินการสงั เกต ตรวจงานรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
ชุดที่ ๖ พฤตกิ รรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมนิ ผลงาน
๕ = พอใช้
ต่าํ กว่า ๕ = ปรับปรุง

การประเมนิ ด้านทกั ษะ / กระบวนการ

ประเดน็ การประเมนิ ดี (๒) เกณฑ์การให้ระดับคะแนน
พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐)

สรุปเน้ือหาไดก้ ระชบั สรุปเน้ือหาไดก้ ระชบั สรุปเน้ือหาไดไ้ ม่
ทักษะการ สรุป ใจความครบถว้ น ใจความเกือบครบถว้ น กระชบั ใจความและไม่
เนือ้ หา สามารถสื่อใหผ้ ูอ้ ืน่ เขา้ ใจ สามารถส่ือใหผ้ อู้ นื่ ครบถว้ น สามารถส่ือ
ไดง้ า่ ย เขา้ ใจได้ ให้ผูอ้ ื่นเขา้ ใจไดน้ อ้ ย

สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพดู รายงานไดด้ ี
พูดเสียงดงั ฟังชดั ได้ พูดน้าํ เสียงชดั เจน พูดน้าํ เสียงไมช่ ดั เจน ไม่
การรายงานหน้าช้ัน สาระชดั เจน วางบคุ ลิก สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาที่ ค่อยสอดคลอ้ งกบั
ในการพดู ไดด้ ีมาก พดู วางบคุ ลกิ ในการ เน้ือหาทพ่ี ดู วางบคุ ลิก
พดู ไดด้ ี ในการพูดไม่ค่อยดี

การปฏบิ ตั งิ านตาม มที กั ษะการปฏิบตั งิ าน มกี ารปฏิบตั ิงานตาม ยงั ไม่สามารถ
ข้นั ตอน ตามข้นั ตอน ไดอ้ ยา่ ง ข้นั ตอนไดต้ ามลาํ ดบั ปฏิบตั งิ านตามข้นั ตอน
ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ได้

ความคิดสร้างสรรค์ มคี วามคดิ สร้างสรรคด์ ี พอมีความคดิ ท่ี ยงั ขาดความคิดท่ี
สร้างสรรคอ์ ยบู่ า้ ง สร้างสรรค์

ความเป็ นระเบยี บ มีทกั ษะสามารถสร้างงาน สามารถสร้างงานท่สี วน
เรียบร้อยของการทาํ ที่สวยงาม และมคี วาม งามพอใชไ้ ด้ และมี ไม่มีความสวยงาม และ
ใบงาน ประณีตดี
ความประณีตใน ไม่ประณีต
บางส่วน

การประเมิน ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
เกณฑ์การให้ระดบั คะแนน
ประเด็นการประเมนิ ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐)
ซื่อสัตย์สุจริต
มีวนิ ัย ทาํ งานอยา่ ง ทาํ งานอยา่ ง ทาํ งานอยา่ ง
ใฝ่ เรียนรู้ ตรงไปตรงมา ยอมรับ ตรงไปตรงมา ไม่ ตรงไปตรงมา ไม่
อย่อู ย่างพอเพยี ง ในขอ้ ผดิ พลาดและ ยอมรบั ในขอ้ ผิดพลาด ยอมรับในขอ้ ผดิ พลาด
มจี ิตสาธารณะ บกพร่องของตนเอง และบกพร่องของตนเอง และบกพร่องของตนเอง
พอใจในส่ิงท่ตี นมี พอใจในส่ิงทีต่ นมี ไม่คอ่ ยพอใจในส่ิงทต่ี น
มี

รู้จกั ควบคุมอารมณ์ รู้จกั ควบคุมอารมณ์ บา้ ง ไม่รู้จกั ควบคุมอารมณ์
ปฏิบตั ติ นอยใู่ นระเบียบ ปฏิบตั ิตนอยใู่ นระเบยี บ ปฏิบตั ติ นอยใู่ นระเบยี บ
วินยั แต่งกายถูกตอ้ ง วินยั การแตง่ กายไม่ วินยั นอ้ ย ไม่ค่อยแต่ง
ตามระเบียบของ คอ่ ยถกู ตอ้ งตามระเบียบ กายถูกตอ้ งตามระเบียบ
โรงเรียนตลอดเวลา ของโรงเรียน ของโรงเรียน

มีความมานะมงุ่ มนั่ ใน มคี วามมานะมงุ่ มนั่ ใน ไม่มคี วามมานะมุง่ มนั่
การทาํ งานทไ่ี ดร้ บั การทาํ งานท่ีไดร้ บั ในการทาํ งานท่ีไดร้ บั
มอบหมาย ศึกษา มอบหมาย ศึกษา มอบหมาย ไมค่ อ่ ย
คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง คน้ ควา้ ดว้ ยตนเองเป็น ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง
ทาํ งานเสร็จทนั เวลาและ บางคร้งั ทาํ งานเสร็จ ทาํ งานเสร็จไมท่ นั เวลา
ถกู ตอ้ ง ทนั เวลาเป็นบางคร้ัง
ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณก์ ารเรียน ใชว้ สั ดอุ ุปกรณก์ ารเรียน
ที่ราคาถูกและใชอ้ ยา่ ง ใชว้ สั ดุอุปกรณก์ ารเรียน ที่ราคาคอ่ นขา้ งแพงและ
คุม้ ค่าใชจ้ นหมดแลว้ ท่ีราคาคอ่ นขา้ งแพงและ ใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ ใชไ้ ม่
คอ่ ยซ้ือใหม่ ใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ ใชจ้ นหมด หมดแลว้ ซ้ือใหม่

มคี วามเสียสละเพ่ือ มคี วามเสียสละเพอื่ ไมค่ อ่ ยเสียสละเพือ่
ส่วนรวม ไม่เอาเปรียบ ส่วนรวมเป็ นบางคร้ งั ส่วนรวม ชอบเอา
ไมเ่ ห็นแกต่ วั ช่วยเหลอื ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอน่ื ค่อนขา้ ง
หมูค่ ณะไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตวั ไมค่ ่อยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไม่ค่อย
หมู่คณะ ช่วยเหลือหมคู่ ณะ

๑๐. กิจกรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………
…….………………………………………………………………………………………
………….…………………………………………………………………………………
๑๑. บนั ทกึ ผลหลังการสอน

๑๑.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน
๑. นกั เรียนจาํ นวน.................... คน
ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คดิ เป็นร้อยละ...............
ไม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คดิ เป็นร้อยละ................

๒. นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

๓. นักเรียนมีความรู้เกดิ ทกั ษะ
……………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………...

๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

๕. เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ .....................................ครูผูส้ อน
(นางสุคนธา ณรงคเ์ ดชา)

วนั ……………เดือน…………………ปี ………………….

ความคิดเหน็ ของผู้บังคบั บัญชา
ความคดิ เห็นหวั หน้ากลุ่มสาระ

...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงชื่อ ....................................................
(นางกรรณิกา จาํ ปาเต้ยี )
หวั หนา้ กลุ่มสาระภาษาไทย

ความคดิ เหน็ หัวหน้าวชิ าการ
...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ...................................................
(นางสาวสุพาพร สุพงษ)์

รองผอู้ าํ นวยการโรงเรียนกลมุ่ บริหารวิชาการ

ความคดิ เหน็ ผู้อํานวยโรงเรียน
...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ....................................................
(ดร.พิมพน์ ารา เสาวนิตย)์

ผอู้ าํ นวยการโรงเรียนวดั ชุมพลนิกายาราม

ใบงาน ชุดท่ี ๕

คาํ ชี้แจง เขยี นเลา่ เหตุการณต์ ามลาํ ดบั ทีเ่ กดิ ข้นึ จากเรื่อง “ คร้ืนเครงเพลงพ้ืนบา้ น”
ดว้ ยสาํ นวนของตนเอง บอกขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ากเรื่อง และการนาํ ไปใช้
ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจาํ วนั

เหตุการณ์
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..

ข้อคิด
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..

การนําไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ในชีวติ ประจาํ วัน
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………..

ใบงาน ชดุ ที่ ๖

คําชีแ้ จง ให้นกั เรียนบอกส่ิงที่ไดจ้ ากการอา่ นเรื่อง “ คร้ืนเครงเพลงพ้ืนบา้ น” โดย
เขียนลงในแผนภาพตอ่ ไปน้ี

ส่ิงท่ีไดจ้ ากการอ่านเร่ือง “ คร้ืนเครงเพลงพ้ืนบา้ น”

ช่ือ.................................................................เลขที่ ..................... ช้ัน...............

แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดภาษาพาที แผนท่ี ๔

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖
บทที่ ๙ ครื้นเครงเพลงพน้ื บ้าน เวลา ๘ ช่ัวโมง
หวั ข้อเร่ือง การอ่านบทอ่านเสริม เวลา ๑ ชั่วโมง
วันท่ี ....................................... ผู้ใช้แผน ................................

สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่อื นาํ ไปใช้

ตดั สินใจแกป้ ัญหาในการดาํ เนินชีวิต และมีนิสยั รักการอ่าน
๑. สาระสําคญั

๑.๑ ความคิดรวบยอด
การอา่ นเสริมบทเรียนเป็นการเพม่ิ ประสบการณ์ดา้ นการอ่าน ปลูกฝังให้ผเู้ รียน
รักการอา่ นและศึกษาหาความรู้เพม่ิ เตมิ ขยายขอบเขตการเรียนรู้ใหผ้ ูเ้ รียนไดเ้ ปิ ดโลกทศั น์
ที่กวา้ งไกล รู้จกั คิดวเิ คราะห์เร่ืองท่อี ่านและนาํ มาปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ได้

๑.๒ สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๒. ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๖ / ๓ อา่ นเร่ืองส้ันๆ อยา่ งหลากหลาย โดยจบั เวลาแลว้

ถามเกี่ยวกบั เร่ืองที่อา่ น

๓. จุดประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ นกั เรียนบอกรายละเอยี ดของการแสดงเพลงพวงมาลยั ได้
๓.๒ นกั เรียนคดิ วเิ คราะหส์ รุปบทอา่ น
๓.๓ นกั เรียนต้งั คาํ ถาม – ตอบคาํ ถามเก่ียวกบั บทอ่านเสริมได้

๔. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่ เรียนรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๔.๔ มวี ินยั
๔.๕ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

๕. สาระการเรียนรู้
๕.๑ สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๏ การอา่ นจบั ใจความจากสื่อต่างๆ
๕.๒ สาระการเรียนรู้ย่อย
๏ การอ่านบทอา่ นเสริม “ เพลงพวงมาลยั ”

๖. ชิน้ งาน / หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้
๖.๑ การทาํ ใบงาน
๖.๒ แบบบนั ทกึ ผลการประเมนิ

๗. กิจกรรมการเรียนรู้
๗.๑ ทบทวนเน้ือหาท่ีเรียนในชวั่ โมงที่แลว้ ดว้ ยการให้นกั เรียนนาํ ใบงาน

ชุดท่ี ๕ – ๖ มาร่วมกนั ตรวจสอบและเฉลยอีกคร้งั
๗.๒ นกั เรียนแบ่งกลุ่มเตรียมฝึกซอ้ มการเล่นเพลงพ้นื บา้ น กลุม่ ละ ๑ อยา่ ง

ดว้ ยการจบั สลากท่ีครูทาํ ข้นึ ซ่ึงไดแ้ ก่ การเลน่ เพลงเตน้ กาํ รําเคียว การเลน่ เพลงพวงมาลยั
การเลน่ เพลงฉ่อย การเล่นเพลงแคน การเล่นเพลงอแี ซว เป็นตน้ ให้แตล่ ะไปเตรียม
ฝึกซอ้ มเพอื่ นาํ มาเลน่ ในชวั่ โมงตอ่

๗.๓ นกั เรียนอา่ นในใจบทอ่านเสริม “ เพลงพวงมาลยั ” จากน้นั นกั เรียนร่วมกนั
อภิปราย ซกั ถามเน้ือหาสาระของเพลงพวงมาลยั ครูต้งั คาํ ถามใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่
ช่วยกนั คดิ หาคาํ ตอบ ตวั อยา่ ง เช่น

 การเล่นเพลงพวงมาลยั เป็นของทอ้ งถิ่นภาคใด
 การเล่นเพลงพวงมาลยั เร่ิมตน้ ดว้ ยบทร้องใด
 ผูเ้ ลน่ เพลงพวงมาลยั ประกอบดว้ ยใครบา้ ง
 บทร้องเพลงพวงมาลยั มีรูปแบบอยา่ งไร

 ประวตั ิความเป็นมาของการเล่นเพลงพวงมาลยั เป็นมาอยา่ งไร
๗.๔ นกั เรียนทกุ คนเขียนคาํ ถามและคาํ ตอบลงในสมุด นกั เรียนและครูช่วยกนั
สรุปเน้ือหาสาระการเรียนรู้ท้งั หมดอีกคร้ังหน่ึง
๗.๕ นกั เรียนทาํ ใบงานที่ ๗ ( ทา้ ยแผน ) ชุด เขียนแผนภาพความคดิ เก่ียวกบั การ
เล่นเพลงพ้นื บา้ นของทอ้ งถน่ิ ตา่ งๆไทย จากน้นั นาํ ส่งครู ครูเฉลยและตรวจสอบความ
ถกู ตอ้ ง
๗.๖ นกั เรียนทาํ ใบงานท่ี ๘ ( ทา้ ยแผน )ชุดเขยี นอธิบายความหมายของบท
ร้อยกรอง ทกี่ าํ หนด ให้ เสร็จแลว้ นาํ ส่งครูพิจารณาถึงความสอดคลอ้ ง

๘. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ / บุคคล

ลําดับที่ รายการสื่อ กิจกรรมท่ใี ช้ แหล่งทไี่ ด้มา

๒ รูปภาพ ครูใชป้ ระกอบคาํ อธิบาย ครูจดั เตรียม
๓ ครูจดั ทาํ
๔ ใบงาน ชุดที่ ๗ – ๘ นกั เรียนทาํ ใบงาน ครูจดั ทาํ
ครูจดั ทาํ
๕ แผนภมู บิ ทร้องเพลงพวงมาลยั นกั เรียนฝึกร้องเพลงพวงมาลยั
๖ ครูจดั ทาํ
หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน นกั เรียนอ่านเรื่อง ครูจดั ทาํ
ภาษาไทย ชุดภาษาเพ่ือชีวิต
ภาษาพาที ช้นั ป.๖ สร้างกฎของการประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมนิ ( Rubric ) บนั ทึกการสังเกตพฤตกิ รรม และ
บนั ทึกผลงานรายบคุ คล
แบบประเมินการสงั เกต
พฤติกรรม และแบบ
ประเมินผลงานรายบคุ คล

๙. วดั ผลประเมนิ ผล เคร่ืองมือท่ีใช้ใน วิธกี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ
การประเมิน
กจิ กรรมที่ประเมนิ แบบประเมนิ การสงั เกต สงั เกตรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
๑. สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น พฤติกรรม และแบบ ๖ – ๗ = ดี
ประเมนิ ผลงาน ๕ = พอใช้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ต่าํ กว่า ๕ = ปรับปรุง
ประสงค์ แบบประเมินการสังเกต
๒. นกั เรียนร่วมกิจกรรม พฤตกิ รรม และแบบ สงั เกตรายกลุ่ม ๘ - ๑๐ = ดีมาก
ประเมินผลงาน ๖ – ๗ = ดี
๓. นกั เรียนทาํ ใบงาน
ชุดที่ ๗ แบบประเมนิ การสังเกต ๕ = พอใช้
พฤตกิ รรม และแบบ ต่าํ กว่า ๕ = ปรบั ปรุง
๓. นกั เรียนทาํ ใบงาน ประเมินผลงาน
ชุดที่ ๘ ตรวจงานรายบุคคล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
แบบประเมนิ การสังเกต ๖ – ๗ = ดี
พฤติกรรม และแบบ
ประเมนิ ผลงาน ๕ = พอใช้
ต่าํ กวา่ ๕ = ปรบั ปรุง

ตรวจงานรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก
๖ – ๗ = ดี

๕ = พอใช้
ต่าํ กว่า ๕ = ปรบั ปรุง

การประเมนิ ด้านทกั ษะ / กระบวนการ

ประเด็นการประเมนิ ดี (๒) เกณฑ์การให้ระดับคะแนน
พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐)

สรุปเน้ือหาไดก้ ระชบั สรุปเน้ือหาไดก้ ระชบั สรุปเน้ือหาไดไ้ ม่
ทักษะการ สรุป ใจความครบถว้ น ใจความเกือบครบถว้ น กระชบั ใจความและไม่
เนือ้ หา สามารถสื่อใหผ้ ูอ้ ืน่ เขา้ ใจ สามารถส่ือใหผ้ อู้ นื่ ครบถว้ น สามารถส่ือ
ไดง้ า่ ย เขา้ ใจได้ ให้ผูอ้ ื่นเขา้ ใจไดน้ อ้ ย

สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพดู รายงานไดด้ ี
พูดเสียงดงั ฟังชดั ได้ พูดน้าํ เสียงชดั เจน พูดน้าํ เสียงไมช่ ดั เจน ไม่
การรายงานหน้าช้ัน สาระชดั เจน วางบคุ ลิก สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาที่ ค่อยสอดคลอ้ งกบั
ในการพดู ไดด้ ีมาก พดู วางบคุ ลกิ ในการ เน้ือหาทพ่ี ดู วางบคุ ลิก
พดู ไดด้ ี ในการพูดไม่ค่อยดี

การปฏิบตั ิงานตาม มที กั ษะการปฏิบตั งิ าน มกี ารปฏิบตั ิงานตาม ยงั ไม่สามารถ
ข้นั ตอน ตามข้นั ตอน ไดอ้ ยา่ ง ข้นั ตอนไดต้ ามลาํ ดบั ปฏิบตั งิ านตามข้นั ตอน
ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ได้

ความคิดสร้างสรรค์ มคี วามคดิ สร้างสรรคด์ ี พอมีความคดิ ท่ี ยงั ขาดความคิดท่ี
สร้างสรรคอ์ ยบู่ า้ ง สร้างสรรค์

ความเป็ นระเบยี บ มีทกั ษะสามารถสร้างงาน สามารถสร้างงานท่สี วน
เรียบร้อยของการทาํ ที่สวยงาม และมคี วาม งามพอใชไ้ ด้ และมี ไม่มีความสวยงาม และ
ใบงาน ประณีตดี
ความประณีตใน ไม่ประณีต
บางส่วน

การประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เกณฑ์การให้ระดบั คะแนน
ประเด็นการประเมนิ ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐)
ซื่อสัตย์สุจริต
มีวนิ ัย ทาํ งานอยา่ ง ทาํ งานอยา่ ง ทาํ งานอยา่ ง
ใฝ่ เรียนรู้ ตรงไปตรงมา ยอมรับ ตรงไปตรงมา ไม่ ตรงไปตรงมา ไม่
อย่อู ย่างพอเพยี ง ในขอ้ ผดิ พลาดและ ยอมรบั ในขอ้ ผิดพลาด ยอมรับในขอ้ ผดิ พลาด
มจี ิตสาธารณะ บกพร่องของตนเอง และบกพร่องของตนเอง และบกพร่องของตนเอง
พอใจในส่ิงท่ตี นมี พอใจในส่ิงทีต่ นมี ไม่คอ่ ยพอใจในส่ิงทต่ี น
มี

รู้จกั ควบคุมอารมณ์ รู้จกั ควบคุมอารมณ์ บา้ ง ไม่รู้จกั ควบคมุ อารมณ์
ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นระเบียบ ปฏิบตั ิตนอยใู่ นระเบยี บ ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นระเบยี บ
วินยั แต่งกายถูกตอ้ ง วินยั การแตง่ กายไม่ วินยั นอ้ ย ไม่ค่อยแต่ง
ตามระเบียบของ คอ่ ยถกู ตอ้ งตามระเบียบ กายถูกตอ้ งตามระเบียบ
โรงเรียนตลอดเวลา ของโรงเรียน ของโรงเรียน

มีความมานะมงุ่ มนั่ ใน มคี วามมานะมงุ่ มนั่ ใน ไม่มีความมานะมุง่ มนั่
การทาํ งานทไี่ ดร้ บั การทาํ งานทไี่ ดร้ บั ในการทาํ งานท่ีไดร้ บั
มอบหมาย ศึกษา มอบหมาย ศึกษา มอบหมาย ไมค่ อ่ ย
คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง คน้ ควา้ ดว้ ยตนเองเป็น ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง
ทาํ งานเสร็จทนั เวลาและ บางคร้งั ทาํ งานเสร็จ ทาํ งานเสร็จไมท่ นั เวลา
ถกู ตอ้ ง ทนั เวลาเป็นบางคร้ัง
ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณก์ ารเรียน ใชว้ สั ดุอปุ กรณก์ ารเรียน
ทีร่ าคาถูกและใชอ้ ยา่ ง ใชว้ สั ดุอุปกรณก์ ารเรียน ที่ราคาคอ่ นขา้ งแพงและ
คุม้ ค่าใชจ้ นหมดแลว้ ท่ีราคาคอ่ นขา้ งแพงและ ใชอ้ ยา่ งคมุ้ ค่าใชไ้ ม่
ค่อยซ้ือใหม่ ใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ ใชจ้ นหมด หมดแลว้ ซ้ือใหม่

มีความเสียสละเพ่ือ มคี วามเสียสละเพอื่ ไมค่ อ่ ยเสียสละเพือ่
ส่วนรวม ไม่เอาเปรียบ ส่วนรวมเป็ นบางคร้ งั ส่วนรวม ชอบเอา
ไมเ่ ห็นแกต่ วั ช่วยเหลอื ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น ค่อนขา้ ง
หม่คู ณะไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตวั ไม่คอ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไม่ค่อย
หมู่คณะ ช่วยเหลอื หมู่คณะ

๑๐. กจิ กรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………
…….………………………………………………………………………………………
………….…………………………………………………………………………………
๑๑. บันทกึ ผลหลังการสอน

๑๑.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน
๑. นกั เรียนจาํ นวน.................... คน
ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คดิ เป็นร้อยละ...............
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คดิ เป็นร้อยละ................

๒. นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจ
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

๓. นกั เรียนมีความรู้เกิดทกั ษะ
……………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………...

๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

๕. เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ .....................................ครูผูส้ อน
(นางสุคนธา ณรงคเ์ ดชา)

วนั ……………เดือน…………………ปี ………………….

ความคิดเห็นของผู้บงั คับบญั ชา
ความคิดเหน็ หัวหน้ากลุ่มสาระ

...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ ....................................................
(นางกรรณิกา จาํ ปาเต้ยี )
หวั หนา้ กลุ่มสาระภาษาไทย

ความคดิ เห็นหวั หน้าวิชาการ
...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ...................................................
(นางสาวสุพาพร สุพงษ)์

รองผอู้ าํ นวยการโรงเรียนกลมุ่ บริหารวิชาการ

ความคดิ เหน็ ผู้อาํ นวยโรงเรียน
...............................................................................................................................................
...............................…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ....................................................
(ดร.พิมพน์ ารา เสาวนิตย)์

ผอู้ าํ นวยการโรงเรียนวดั ชุมพลนิกายาราม

ใบงาน ชุดท่ี ๗

คําชีแ้ จง ให้นกั เรียนบอกช่ือเพลงพ้นื บา้ นของทอ้ งถน่ิ ทกี่ าํ หนดให้
ในแผนภาพความคิด

ภาคเหนือ
ภาคใต้ การเล่นเพลงพ้ืนบา้ น ภาคอสี าน

ภาคกลาง

ช่ือ.................................................................เลขท่ี ..................... ช้ัน...............

ใบงาน ชุดที่ ๘

คําชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขยี นอธิบายการเล่นเพลงพ้นื บา้ นในรูปภาพน้ี

ช่ือการแสดง .......................................
ทอ้ งถ่นิ ตน้ กาํ เนิด ...............................................................................................
จดุ ประสงคใ์ นการเลน่ ........................................................................................
ผูเ้ ล่นเพลงประกอบดว้ ย .....................................................................................
...........................................................................................................................
ลกั ษณะเพลงทใ่ี ชเ้ ลน่ .......................................................................................
...........................................................................................................................
ลกั ษณะการแตง่ ตวั ของผูเ้ ลน่ ............................................................................
...........................................................................................................................
โอกาสทแ่ี สดง ...................................................................................................
ประโยชนต์ ่อสงั คม ............................................................................................
...........................................................................................................................

ช่ือ.................................................................เลขท่ี ..................... ช้ัน...............

แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดภาษาพาที แผนที่ ๕

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖
บทท่ี ๙ ครื้นเครงเพลงพ้นื บ้าน เวลา ๘ ชั่วโมง
หัวข้อเรื่อง เพลงพื้นบ้าน เวลา ๑ ช่ัวโมง
วันที่ ....................................... ผู้ใช้แผน ................................

สาระที่ ๕ วรรณคดวี รรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม

ไทยอยา่ งเห็นคุณค่าและนาํ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
๑. สาระสําคญั

๑.๑ ความคดิ รวบยอด
เพลงพ้นื บา้ น ถอื เป็นภมู ิปัญญาท่บี รรพบรุ ุษของแต่ละทอ้ งถิน่ ไดแ้ ต่งเอาไว้ มกี าร
ร้องเพลงและสืบทอดกนั มาหลายชว่ั อายคุ น จนหลายเพลงไมร่ ู้ว่าใครเป็นคนแตง่ ท้งั น้ี
เพราะไดร้ ้องต่อกนั มาเรื่อย ๆ เราควรอนุรกั ษเ์ พลงพ้นื บา้ นเอาไวใ้ ห้ดี เพ่อื เป็นการบูชา
และเห็นคา่ ของภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นของตนเอง

๑.๒ สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๒. ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๖ / ๔ เลา่ นิทานพ้นื บา้ นทอ้ งถน่ิ ตนเอง และนิทานพ้นื บา้ น

ของทอ้ งถิ่นอ่ืน

๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ นกั เรียนบอกลกั ษณะของเพลงพ้ืนบา้ นในแตล่ ะทอ้ งถ่นิ ได้
๓.๒ นกั เรียนเล่นเพลงพ้นื บา้ นได้

๔. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๔.๑ รักความเป็นไทย


Click to View FlipBook Version