2.2 ผลการออกแบบตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการตลาดเชิงสร้างสรรค์
ผลิตภัณฑ์ผ้าทอบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา โดยการจัดประชุมระดมความคิดสร้างสรรค์ในการ
ออกแบบตราสินค้าและ บรรจุภัณฑ์เพ่ือสง่ เสริมการตลาดเชิงสร้างสรรค์ โดยการสัมภาษณ์/สอบถาม
ร่วมคิด ร่วมทำ ในวันท่ี 28-29 ธนั วาคม 2563 ณ วิทยาลัยชุมชนสงขลา ไดผ้ ลดังน้ี
ตารางท่ี 4.20 การออกการแบบบรรจุภัณฑ์และตราสินค้าในโครงการการสร้างสรรคส์ ีย้อมธรรมชาติ
และพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ผ้าทอยกดอก ชมุ ชนบ้านลอ่ งมดุ จังหวดั สงขลา
รปู การประชมุ เชิงปฏิบัติการ ผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู จากการสรา้ งสรรค์สยี ้อม
ธรรมชาติผ้าทอบ้านลอ่ งมุด
101
แผน่ งานสร้างสรรค์ (MOODBOARD) บรรจภุ ัณฑแ์ ละตราสินค้าชมุ ชนมีส่วนร่วมในการ
ท่ชี มุ ชนร่วมกนั สร้างสรรค์ คัดเลอื กผลงาน
บรรจภุ ัณฑ์ทีไ่ ด้รับการพัฒนา ตราสินค้าได้รับการพฒั นา
เกิดการที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าบ้านล่องมุด
ต้ังอยู่ในพื้นที่สวนยางพารา และใช้เวลาว่าง
หลังจากการประกอบอาชีพ หลักคือทำสวน
ยางพาราเพอื่ มาทอผา้ เป็นรายได้เสริม
102
2.3 ผลการประเมินผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมชุมชน แนวทางการส่งเสริมการตลาดเชิง
สร้างสรรค์นวัตกรรมการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชน
บา้ นล่องมุด จังหวัดสงขลาประกอบดว้ ย
รายงานการประเมินผลติ ภณั ฑ์นวัตกรรมชมุ ชน แนวทางการส่งเสริมการตลาดเชิงสร้างสรรค์
เพื่อพัฒนานวัตกรรมต้นแบบสกู่ ารขับเคลอื่ นเศรษฐกิจชุมชนบนฐานทุนทรัพยากร
ตอนท่ี 1 ระดับความคิดเหน็ เก่ยี วกับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมชมุ ชน
การวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นเก่ียวกับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมชุมชน ประกอบด้วยประเด็น
ทั้งหมด 10 ประเด็น ดังตาราง 4.21
ตารางท่ี 4.21 ระดับความคิดเห็นเก่ยี วกบั ผลติ ภัณฑ์นวัตกรรมชมุ ชน (n = 14)
รายการประเมนิ มาก ระดับความคิดเหน็ (คน) น้อย คา่ เฉลย่ี แปลผล
มาก ปาน นอ้ ย ที่สดุ
ท่ีสดุ
กลาง - ปานกลาง
1. ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ มี ค ว าม แ ป ล ก ให ม่ - 3 10 1 3.14
นา่ สนใจ 1 11 - - 3.36 ปานกลาง
2. ผลิตภัณ ฑ์มีกระบวนการผลิตที่ 2
เหมาะสม
3. คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ในการ 2 1 11 - - 3.36 ปานกลาง
ใช้งาน
4. ผลติ ภณั ฑ์ตรงกลุม่ เป้าหมาย - 2 12 - - 3.14 ปานกลาง
- 6 5 3 - 3.21 ปานกลาง
5. ตราสัญลักษณ์ มีความเหมาะสมกับ
ผลิตภัณฑ์ และส่ือถึงบริบทของชุมชน - 6 7 1 - 3.36 ปานกลาง
เปน็ อย่างดี
6. บรรจุภัณฑ์มีความเหมาะสมกับ
ผลติ ภัณฑ์ และสะดวกต่อการขนส่ง
7. การนำเสนอเร่ืองราวมีความน่าสนใจ 2 4 5 3 - 3.36 ปานกลาง
และเหมาะสม
8. รูปแบบการขายและช่องททาง - 5 8 1 - 3.29 ปานกลาง
การตลาดมคี วามเหมาะสม
- 2.93 ปานกลาง
9. ราคามีความเหมาะสม -455 - 3.14 ปานกลาง
10. ความคุ้มคา่ ของผลิตภณั ฑ์ -482 3.23 ปานกลาง
4.29 25.71 58.57 11.43
รวม (คิดเปน็ ร้อยละ)
103
จากตารางที่ 4.21 พบว่า ระดับความคิดเห็นเก่ียวกับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมชุมชน ในภาพรวม
อยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 58.57 รองลงมาอยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 25.71 ระดับ
น้อย ร้อยละ 11.43 และระดับมากที่สุด รอ้ ยละ 4.29 ตามลำดับ ผลการประเมนิ โดยเฉลี่ยอยใู่ นระดับ
ปานกลาง ( x = 3.23) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์มีความแปลกใหม่ นา่ สนใจ ใน
ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นรอ้ ยละ 71.43 ( x = 3.14) ด้านผลิตภัณฑ์มีกระบวนการผลิตที่
เหมาะสม ในภาพรวมอย่ใู นระดับปานกลาง คดิ เป็นรอ้ ยละ 78.57 ( x = 3.36) ด้านคุณประโยชน์ของ
ผลิตภัณฑ์ในการใช้งาน ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 78.57 ( x = 3.36) ด้าน
ผลิตภัณฑ์ตรงกลุ่มเป้าหมาย ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 85.71 ( x = 3.14)
ด้านตราสัญลักษณ์ มีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และสือ่ ถึงบริบทของชุมชนเป็นอย่างดี ในภาพรวม
อยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 42.86 ( x = 3.21) ด้านบรรจุภัณฑ์มีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์
และสะดวกต่อการขนส่ง ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 50 ( x = 3.36) ด้าน
การนำเสนอเรื่องราวมีความน่าสนใจ และเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ
35.71 ( x = 3.36) ด้านรูปแบบการขายและช่องททางการตลาดมีความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ใน
ระดับปานกลาง คดิ เป็นรอ้ ยละ 57.14 ( x = 3.29) ด้านราคามคี วามเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับ
ปานกลางและระดับน้อย คิดเป็นร้อยละ 35.71 ( x = 2.93) ด้านความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ ใน
ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นรอ้ ยละ 57.14 ( x = 3.14)
ตอนท่ี 2 แนวทางการพฒั นา
- จากที่เห็นส่วนใหญ่ ทำสินค้าออกมาโดยยังไม่ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย และศึกษา
กลมุ่ เป้าหมาย ดงั นนั้ จึงต้องศกึ ษาให้แนช่ ดั จะเปน็ ประโยชน์
- สินค้าชุมชนในประเทศไทยมีเยอะมาก จึงต้องสร้างจุดแตกต่างและ นำไปให้ถึง
กล่มุ เป้าหมาย จึงจะอยู่ไดร้ ะยะยาว
- ราคาสูงสำหรบั สนิ คา้ หมวดเครอ่ื งนุ่งหม่
- ปัจจุบันมีการใช้ผ้าขาวม้าน้อย แนวทาง คือ พัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้ผ้าขาวม้านี้ ย่ิง
ผา้ ขาวม้านีม้ ีลายและสีท่ีโดดเดน่ นา่ จะไปประยุกตใ์ ชก้ ับผลิตภัณฑ์ตวั อื่นๆไดด้ ี
- การสอ่ื สารแบรนด์ที่ชัดเจน ต่อผูบ้ รโิ ภค /กระบวนการมีส่วนรว่ มของการพฒั นาโดย
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่ีทำงานวิจัยเพม่ิ มูลค่าให้ผลติ ภัณฑ์ และสร้างความหลากหลายให้กับ
ผลติ ภณั ฑ์ โดยใช้การศกึ ษความตอ้ งการของตลาดเปน็ ตวั ชนี้ ำ
- เชื่อมโยง วว. วช. และ สวทช. ทำงานวิจัยที่เก่ียวข้องกับทรัพยากรที่มี สร้างสรรค์
นวตั กรรมเพือ่ เพิ่มมลู ค่าตอ่ วัตถดุ บิ ในท้องถิน่ ทต่ี อบสนองต่อตลาด
ตอนท่ี 3 ผลการถ่ายทอดนวตั กรรมการสรา้ งสรรค์สยี ้อมธรรมชาติและการพัฒนา
ผลติ ภณั ฑ์ผา้ ทอยกดอกของชมุ ชนบา้ นล่องมดุ จงั หวดั สงขลา
ผลการถ่ายทอดนวัตกรรมการสร้างสรรค์สียอ้ มธรรมชาตแิ ละการพฒั นาผลติ ภัณฑ์ผา้ ทอย
กดอกของชมุ ชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา ดังน้ี
3.1 ผลการถ่ายทอดนวัตกรรมการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ผา้ ทอ ยกดอกชมุ ชนบ้านล่องมดุ จงั หวัดสงขลา
104
3.1.1 ผลการประเมินการถ่ายทอดนวตั กรรม ด้านความรู้ความเขา้ ใจ การนำไป
ปฏบิ ตั ิ การนำไปใช้ประโยชน์ แล ะการบริหารโครงการ
3.1.2 ผลการประเมินตนเองในการถ่ายทอดความรู้ของนวตั กร
3.1.3 ผลการจดั ระดบั นวตั กร
3.2 ผลการสร้าง Platform การสร้างนวัตกรชาวบ้าน และ การสร้าง Learning
Platform นวัตกรรมการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชน
บา้ นลอ่ งมุด จังหวดั สงขลา
3.2.1 ผลการสร้าง Platform การสรา้ งนวัตกรชาวบ้าน
3.2.2 ผลการสรา้ ง Learning Platform
สำหรับตอนท่ี 3 ผลการถ่ายทอดนวัตกรรมการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการ
พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา มีรายละเอียดของผลการ
วิเคราะห์ข้อมูลดังต่อไปน้ี
3.1 ผลการถ่ายทอดนวัตกรรมการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนา
ผลติ ภณั ฑ์ผ้าทอยกดอกของชมุ ชนบา้ นล่องมดุ จงั หวัดสงขลา ดังนี้
3.1.1 ผลการประเมนิ การถ่ายทอดนวตั กรรม ด้านความรู้ความเขา้ ใจ การ
นำไปปฏิบัติ การนำไปใชป้ ระโยชน์ และการบริหารโครงการ ประกอบด้วย
ตอนที่ 1 ข้อมูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
ผลการประเมินข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 50 คน ประกอบด้วย เพศ อายุ
อาชพี รายได้ตอ่ เดือน และบทบาทในชุมชน ดงั ตารางท่ี 4.22
ตารางที่ 4.22 จำนวนและรอ้ ยละของขอ้ มูลทวั่ ไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม (n = 50)
ปัจจัยส่วนบุคคล จำนวน (คน) รอ้ ยละ
เพศ 15 30.00
ชาย 35 70.00
หญงิ
1 2.00
อายุ 28 56.00
ตำ่ กว่า 20 ปี 13 26.00
20 - 29 ปี 5 10.00
30 - 39 ปี 0 0.00
40 - 49 ปี 3 6.00
50 - 59 ปี
มากกว่า 60 ปี 10 20.00
2 4.00
อาชีพ 1 2.00
นักเรยี น/นกั ศึกษา 15 30.00
ธรุ กิจส่วนตวั
พนกั งานของรัฐ/รัฐวิสาหกจิ
ลูกจา้ ง
105
ปจั จัยส่วนบุคคล จำนวน (คน) ร้อยละ
22 44.00
เกษตรกร
31 62.00
รายได้ต่อเดอื น 19 38.00
นอ้ ยกว่า 10,000 บาท
10,000 – 30,000 บาท 36 72.00
1 2.00
บทบาทในชมุ ชน 3 6.00
สมาชกิ ในชมุ ชน 4 8.00
ผนู้ ำกล่มุ /องคก์ ร 6 12.00
อสม.
กลุม่ แม่บา้ น
อ่นื ๆ
จากตาราง 1 พบว่า ผลการประเมนิ ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศชาย คิดเป็น
ร้อยละ 30 เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 70 อายุส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 20-29 ปี คิดเป็นร้อยละ 56
รองลงมาอายุระหว่าง 30-39 ปี คิดเป็นร้อยละ 26 อายุระหว่าง 40-49 ปี คิดเป็นร้อยละ 10 อายุ
มากกว่า 60 ปี คิดเป็นร้อยละ 6 และต่ำกว่า 20 ปี คิดเป็นร้อยละ 2 ตามลำดับ ส่วนใหญ่ประกอบ
อาชีพเกษตรกร คิดเป็นร้อยละ 44 รองลงมาเป็นลูกจ้าง คิดเป็นร้อยละ 30 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
คิดเปน็ ร้อยละ 20 ธุรกิจส่วนตัว คิดเปน็ ร้อยละ 4 และพนักงานของรฐั /รัฐวิสาหกิจ คดิ เป็นร้อยละ
2 ตามลำดับ รายได้ต่อเดือนส่วนใหญ่น้อยกวา่ 10,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 62 รองลงมาอยู่ระหว่าง
10,000 – 30,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 38 ตามลำดับ และบทบาทในชุมชนส่วนใหญ่เป็นสมาชิกใน
ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 72 รองลงมาเป็นบทบาทอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 12 กลุ่มแม่บ้าน คิดเป็นร้อยละ
8 อสม. คดิ เปน็ รอ้ ยละ 6 และเป็นผ้นู ำกลุม่ /องค์กร คดิ เปน็ ร้อยละ 2 ตามลำดับ
ตอนท่ี 2 ระดับความคิดเหน็ เก่ียวกบั การถา่ ยทอดความรู้ของนวัตกร
การวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการถ่ายทอดความรู้ของนวัตกร ประกอบด้วย ด้าน
ความรู้ความเข้าใจ ด้านการปฏิบัติ ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ ด้านการบริหารโครงการ ดังตารางท่ี
4.23
ตารางที่ 4.23 ระดบั ความคิดเหน็ เกี่ยวกับการถ่ายทอดความรู้ของนวัตกร
รายการประเมิน ระดบั ความคิดเห็น (คน) S.D. ระดบั
X ความ
มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย
ที่สุด กลาง ทส่ี ดุ คดิ เหน็
ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 15 27 8 4.14 0.64 มาก
20 22 8
1. ความรู้ ความเข้าใจ เรอื่ งทุนทรัพยากรที่มี 12 32 6 4.24 0.72 มาก
อย่กู บั โอกาสของสนิ คา้
4.18 0.59 มาก
2. ความรู้ ความ เข้าใจ เร่ืองการสร้าง
นวตั กรรมตอบโจทยล์ กู คา้
3. ความรู้ ความเข้าใจ เร่ืองการสร้างแบน
106
รายการประเมนิ ระดบั ความคิดเห็น (คน) S.D. ระดบั
X ความ
มาก มาก ปาน น้อย น้อย
ทีส่ ุด กลาง ทสี่ ุด คดิ เหน็
สนิ ค้าบรรจุภัณฑ์ 3.96 0.60 มาก
4. ความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการตลาด 7 32 11 4.24 0.66 มาก
ออนไลน์ 4.00 0.67 มาก
5. ความรู้ ความเข้าใจ เร่ืองการคิดราคา 17 29 4 4.13 0.65 มาก
ตน้ ทนุ 3.94 0.89 มาก
6. ความเข้าใจ เรื่องควรมสำคัญของการ 11 28 11 4.48 0.65 มาก
จัดทำแผนเข้าสู่ภาครฐั 4.21 0.77 มาก
รวม (คดิ เป็นรอ้ ยละ) 27.33 56.67 16.00 4.16 0.62 มาก
ดา้ นการปฏบิ ัติ 4.30 0.58 มาก
7. ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องข้ันตอนการทำ 14 23 9 4 4.30 0.65 มาก
ผลิตภัณฑ์ ก่อน การถา่ ยทอด 4.25 0.62 มาก
8. ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องข้ันตอนการทำ 27 18 5 4.18 0.60 มาก
4.44 0.58 มาก
ผลติ ภัณฑ์ หลงั การถ่ายทอด 4.34 0.69 มาก
รวม (คดิ เป็นร้อยละ) 41.00 41.00 14.00 4.00 4.40 0.61 มาก
ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ 4.30 0.61 มาก
9. สามารถนำสิง่ ที่ได้รับการถ่ายทอดไปใช้ใน 13 33 4 4.33 0.62 มาก
4.23 0.65 มาก
การสร้างรายได้ใหก้ บั ตนเองได้
10. สามารถนำส่ิงที่ได้รับการถ่ายทอดไป 18 29 3
ปรับใชใ้ นอาชีพตนเองได้
11. สามารถนำสิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดไป 20 25 5
เผยแพร/่ ถ่ายทอดต่อได้
รวม (คิดเปน็ รอ้ ยละ) 34.00 58.00 8.00
ดา้ นการบริหารโครงการ
12. ความเหมาะสมของเนอ้ื หา 14 31 5
13. สถานท่ีมคี วามเหมาะสม 24 24 2
14. ความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องมือ ใน 22 24 3 1
การถ่ายทอด
15. ระยะเวลาในการถ่ายทอดมีความ 23 24 3
เหมาะสม
16. รูปรวมในการจัดทำโครงการถ่ายทอด 19 27 4
ความรู้
รวม (คดิ เป็นรอ้ ยละ) 40.80 52.00 6.80 0.40
รวมการถ่ายทอดความร้ขู องนวัตกร 35.78 51.92 11.20 1.10
จากตารางท่ี 4.23 พบว่า ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการถ่ายทอดความรู้ของนวัตกร ใน
ภาพรวมอยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 51.92 รองลงมาอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 35.78
ระดับปานกลาง ร้อยละ 11.20 และระดับน้อย ร้อยละ 1.10 ตามลำดับ ผลการประเมินโดยเฉล่ียอยู่
ในระดับมาก ( x = 4.23) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความรู้ความเข้าใจ ในภาพรวมอยู่ใน
107
ระดับมาก คิดเปน็ รอ้ ยละ 56.67 รองลงมาอยูใ่ นระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 27.33 และระดับปาน
กลาง ร้อยละ 16.00 ตามลำดบั ผลการประเมินโดยเฉล่ียอยู่ในระดับมาก ( x = 4.13) ดา้ นการปฏิบัติ
ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดและระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 41.00 รองลงมาอยู่ในระดับปานกลาง
คิดเป็นร้อยละ 14.00 และระดับน้อย ร้อยละ 4.00 ตามลำดับ ผลการประเมินโดยเฉล่ียอยู่ในระดับ
มาก ( x = 4.21) ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 58.00
รองลงมาอยู่ในระดับมาก คดิ เป็นร้อยละ 34.00 และระดับปานกลาง ร้อยละ 8.00 ตามลำดับ ผลการ
ประเมินโดยเฉลี่ยอยูใ่ นระดับมาก ( x = 4.25) ด้านการบริหารโรงการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก คิด
เป็นร้อยละ 52.00 รองลงมาอยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 40.80 ระดับปานกลาง ร้อยละ 6.80
และระดับนอ้ ย ร้อยละ 0.40 ตามลำดับ ผลการประเมินโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x = 4.33)
ตอนท่ี 3 ข้อดี ขอ้ บกพรอ่ ง ขอ้ เสนอแนะ
3.1 ข้อดี มีดงั ตอ่ ไปนี้
- ได้นำขยะมาใช้ประโยชน์ เพอื่ เพ่ิมมูลค่า
- เหน็ ถงึ ประโยชนข์ องวสั ดธุ รรมชาตริ อบๆตัว
- เหน็ ถงึ ประโยชน์ของธรรมชาติ
- เกิดความสามคั คใี นกลมุ่
3.2 ขอ้ บกพรอ่ ง มดี งั ตอ่ ไปนี้
- ใช้เวลานาน
- เคร่อื งมอื ยงั ไม่พร้อม
3.3 ขอ้ เสนอแนะ มีดังตอ่ ไปนี้
- เพม่ิ เตมิ ในส่วนของความรูใ้ ห้มากกวา่ น้ี
3.1.2 ผลการประเมนิ ตนเองในการถ่ายทอดความรู้ของนวัตกร ประกอบด้วย
ตารางท่ี 4.24 แสดงผลการประเมนิ ตนเองในการถ่ายทอดความรขู้ องนวตั กร
รายการ คนที่ 1 คนท่ี 2
เพศ หญิง หญิง
อายุ 40-49 ปี 40-49 ปี
อาชีพ เกษตรกร เกษตรกร
รายไดต้ อ่ เดอื น 10,000-30,000 นอ้ ยกว่า 10,000
ผู้นำกลุม่ ผูน้ ำกลมุ่
บทบาทในชมุ ชน
1. การถ่ายทอด เรื่องทนุ 3 3
ทรพั ยากรทม่ี ีอยู่กับโอกาสของ 4
สินคา้ 4
2. การถ่ายทอด เรือ่ งการสรา้ ง
นวตั กรรมตอบโจทยล์ กู คา้
108
รายการ คนที่ 1 คนท่ี 2
3
3. การถา่ ยทอด เร่อื งการสร้าง 3
4
แบรนด์สนิ ค้าและ บรรจภุ ณั ฑ์ 3 3
4. การถา่ ยทอด เรื่องการตลาด 5
5
ออนไลน์ 3
30
5. การถา่ ยทอด เรือ่ งการคิด 4 3.75
มาก
ราคาตน้ ทนุ
6. การถ่ายทอด เร่ือง 3
ความสำคญั ของการจัดทำแผน
เข้าสภู่ าครัฐ
7. การถา่ ยทอดข้ันตอนในการ 4
ผลติ ชนิ้ งาน
8. ขณะท่ีถ่ายทอดได้ให้ผู้เข้ารับ 5
การถา่ ยทอดมีสว่ นร่วมในการ
ปฏิบตั ิ
รวมคะแนน 29
ค่าเฉลีย่ 3.64
ระดบั มาก
ตารางที่ 4.25 ตารางข้อเสนอแนะ
ส่วนทีพ่ งึ พอใจ มคี วามภาคภมู ใิ จทีส่ ามารถ ในส่วนของผู้เข้าร่วมอบรมให้
สว่ นที่ตอ้ งพฒั นาหรือปรับปรุง ถ่ายทอดความรใู้ ห้กบั ชุมชและ ความร่วมมือในการปฏิบัตแิ ละมี
เพมิ่ เติม
สามารถได้สีย้อมธรรมชาติ ความสนใจ ร่วมถึงมีขอ้ ซักถาม
ข้อจำกัด/อุปสรรค
ตามทีต่ ้องการ และสามารถตอบคำถามได้
อยากหาความรู้เพ่ิมเติม มสี ีย้อม ในส่วนขององค์ความรู้และ
ธรรมชาติทต่ี อ้ งการ เช่น สมี ว่ ง เน้ือหาที่จะถ่ายทอดให้กับผู้ร่วม
ท่ีเปน็ สีอตั ลกั ษณ์กลุ่ม ยงั ไม่ กิจกรรมจะต้องใหม้ ีเนื้อหาท่ี
สามารถทำได้ แนน่ มากขนึ้ และต้องมคี วามรู้
หลาย ๆ ดา้ น
วตั ถุดบิ ทน่ี ำมาย้อมต้องเลือกใช้ เนอื่ งจากการวตั ถุดบิ ทจ่ี ะใช้ใน
ตามฤดูกาล การปฏบิ ัตเิ ป็นสิ่งที่ต้องทำตาม
ฤดกู าล ในส่วนของวตั ถดุ ิบบาง
ชนดิ หากต้องการจะใช้ยอ้ มสีให้
ได้ตลอดทงั้ ปี จะเปน็ อุปสรรค
109
3.1.3 ผลการจดั ระดบั นวัตกร ประกอบดว้ ย
ตารางท่ี 4.26 แสดงการจัดระดบั นวตั กร
1. 2. การ 3. การ 4. การ 5. การ คะแนน คิดเป็น ระดับ
การศึกษา พฒั นา บริหาร ถ่ายทอด จัดทำ รวม ร้อยละ
รายการ ศักยภาพ นวัตกรรม จดั การ องค์ แผนให้
ชุมชน อาชีพ ความรู้ เขา้ สู่
จาก ภาครัฐ
นวตั กรรม
นวตั กรคนท่ี 1 3 3 2 2 1 11 73.33 มาก
นวตั กรคนท่ี 2 3 3 2 2 3 13 86.67 มากที่สุด
โดยรวม 3 3 2 2 3 13 86.67 มากทสี่ ุด
จากตารางที่ 28 พบว่า การจัดระดับนวัตกร จำนวน 2 คน ที่เข้าโครงการวิจัยการ
สร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา โดยภาพรวม
นวัตกร อยู่ในระดับมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 86.67 เม่ือพิจารณาเป็นรายบุคคล นวัตกรคนท่ี 2 มี
ระดับสูงท่ีสุด อยู่ในระดับมากท่ีสดุ คิดเป็นร้อยละ 86.67 และนวัตกรคนท่ี 1 มีระดับอยู่ในระดับมาก
คิดเป็นร้อยละ 73.33
แสดงได้ว่านวัตกรท้ัง 2 คน เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในชุมชนท่ีสามารถนำความรู้
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มาใช้เป็นเคร่ืองมือในการสร้างสรรค์และออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาใน
ชุมชน สร้างระบบความคิดและพ้ืนที่การเรียนรู้ในชมุ ชน สว่ นประเด็นที่ยังไม่สามารถได้ดำเนนิ การได้ก็
คือ ประเด็นท่ี 5. การจัดทำแผนเข้าสู่ภาครัฐ ได้คะแนนการประเมินอยู่ในระดับ 1 คะแนนทุกคน
สร้างมูลค่าเศรษฐกิจฐานราก และมูลค่าสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มข้ึนร้อยละ5 หรือยกระดับรายได้
และคณุ ภาพชวี ิต
นวตั กร คนที่ 1 มผี ลการประเมนิ ดังน้ี
3.1) การประเมินการถ่ายทอดนวัตกรรม ด้าน ความรู้ความเข้าใจ การนำไป
ปฏิบัติ การนำไปใช้ประโยชน์ และการบริหารโครงการ (วันท่ี4- 5 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564) ได้
คา่ เฉล่ีย 4.23 อย่ใู นระดับมาก
3.2) การประเมินตนเองในการถ่ายทอดความรู้ของนวัตกร (วนั ที่ 4 - 5 เดือน
สิงหาคม พ.ศ. 2564) ได้คา่ เฉลี่ย 3.64 อยู่ระดบั มาก
จากการประเมิน นวัตกร คนท่ี 1 จะเห็นว่า ผลการประเมิน การถ่ายทอด
นวัตกรรม ด้าน ความรู้ความเข้าใจ การนำไปปฏิบัติ การนำไปใช้ประโยชน์ และการบริหารโครงการ
ได้ค่าเฉล่ีย 4.23 การประเมินตนเองในการถ่ายทอดความรู้ของนวัตกร ได้ค่าเฉลี่ย 3.64 .และจาก
การสัมภาษณ์นวัตกร นวัตกรได้กล่าวว่า “ ตนเองสามารถ่ายทอดความรู้ในการพัฒนาสีย้อมและการ
เพ่ิมมูลค่าผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้ รวมถึงสามารถสร้างสรรค์สีย้อมและทดลองการใช้วัสดุอื่นๆมา
สร้างสรรค์สีย้อม นอกจากนี้ยังได้รับการประสานงานจากกลุ่มทอผ้าอ่ืนๆ ท่ีเห็นความสามารถในการ
ยอ้ มสีธรรมชาติได้รับการติดต่อให้ไปถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ดังกล่าวอีกดว้ ย” และจากบันทึกการสังเกต
110
ของนักวิจัยทั้ง 3 ท่าน ตามเกณฑ์การวิเคราะห์นวัตกรรม พบว่า นวัตกรสามารถเข้าใจบริบทของ
ชุมชน บอกจุดแข็งจุดอ่อนของชุมชนได้ สามารถพัฒนานวัตกรรมโดยการเลือกวัสดุต่างๆเพ่ือนำมา
ทดลอง และมีการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ท่ีมาจากกระบวนการพัฒนานวัตกรรม ทำให้มีรายได้
เพม่ิ ขึ้นจากเดิม พบว่ารายเดือนจากการทอผ้าจากสธี รรมชาตมิ ีการสัง่ ซื้อเป็นจำนวนมาก รวมถึงการที่
นวัตกรมีการทอลายผ้าใหม่โดยใช้เส้นด้ายสีธรรมชาติทำให้มีรายได้จากการทอผ้าเพ่ิมขึ้น เม่ือทำการ
วิเคราะห์ตามเกณฑ์การวิเคราะห์นวัตรชุมชน และการให้คะแนนระดับคุณภาพของนวัตกร ได้
คะแนน 11 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 73.33 อยู่ในระดับมาก ผู้วิจัยจึงมีความเห็นว่า นวัตกร คนท่ี 1
อย่ใู นระดับ 4 (การถ่ายทอดองค์ความรูไ้ ด้)
นวตั กร คนที่ 2 มีผลการประเมินดังน้ี
3.1) การประเมินการถา่ ยทอดนวตั กรรม ดา้ น ความรู้ความเข้าใจ การนำไป
ปฏิบัติ การนำไปใช้ประโยชน์ และการบรหิ ารโครงการ (วนั ท่ี 4- 5 เดอื นสิงหาคม พ.ศ.2564) ได้
ค่าเฉล่ีย 4.23 อยู่ในระดบั มาก
3.2) การประเมนิ ตนเองในการถ่ายทอดความรขู้ องนวตั กร (วนั ที่ 4-5เดือน
สงิ หาคม พ.ศ2564) ได้ค่าเฉล่ีย 3.75 ระดับมาก
จากการประเมิน นวัตกร คนท่ี 2 จะเห็นว่า ผลการประเมิน การถ่ายทอด
นวัตกรรม ด้าน ความรู้ความเข้าใจ การนำไปปฏิบัติ การนำไปใช้ประโยชน์ และการบริหารโครงการ
ได้ค่าเฉล่ีย 4.23 การประเมินตนเองในการถ่ายทอดความรู้ของนวัตกร ได้ค่าเฉล่ีย 3.75 .และจาก
การสัมภาษณ์นวัตกร นวัตกรได้กล่าวว่า “เน่ืองจากตนเองมีบทบาทการเป็นประธานกลุ่มจึงมีความ
เป็นผู้นำ จึงมีการวางแผนในการบริหารจัดการในกลุ่ม และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอยู่เสมอ
รวมถึงถ่ายทอดความรู้ให้กับสมาชิกท้ังภายในและภายนอกชุมชน รวมถึงการประสานงานกับ
หน่วยงานอื่นๆในพ้ืนท่ี ในเร่ืองของการของบประมาณเพ่ือพัฒนากลุ่ม โดยจัดทำแผนร่วมกับ
หน่วยงานราชการ เช่น วิทยาลัยชุมชน พัฒนาชุมชน และ เทศบาลตำบลลำไพล” และจากบันทึก
การสังเกตของนักวิจยั ทั้ง 3 ท่าน ตามเกณฑ์การวเิ คราะหน์ วัตกรรม พบวา่ นวัตกรสามารเขา้ ใจบริบท
ของชุมชน บอกจุดแข็งจุดอ่อนของชุมชนได้ สามารถพัฒนานวัตกรรมโดยการเลือกวัสดุต่างๆเพื่อ
นำมาทดลอง และมีการสร้างมูลค่าเพ่ิมจากผลิตภัณฑ์ท่ีมาจากกระบวนการพัฒนานวัตกรรม ทำให้มี
รายได้เพิ่มข้ึนจากเดิม พบว่ารายเดือนจากการทอผ้าจากสีธรรมชาติมีการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก
ประกอบกับนวัตกรมีบทบาทหน้าที่เป็นประธานกลุ่ม จึงมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานอ่ืนๆ ท้ัง ใน
ส่วนของการให้ข้อมูลในการขอจัดสรรงบประมาณในการพัฒนากลมุ่ ซ่ึงทำให้ไดร้ ับงบประมาณในการ
พฒั นากลุ่ม ในเร่ืองของการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ หรือองค์ความรูต้ ่างๆ ทำให้เปน็ ประโยชน์สำหรับสมาชิก
ในกลุ่ม เม่ือทำการวิเคราะห์ตามเกณฑ์การวิเคราะห์นวัตรชุมชน และการให้คะแนนระดับคุณภาพ
ของนวัตกร ได้คะแนน 13 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 86.67 อยู่ในระดับมากที่สุด ผู้วิจัยจึงมีความเห็น
วา่ นวัตกร คนที่ 2 อย่ใู นระดบั 5 (การจัดทำแผนเข้าสู่ภาครฐั )
3.2 ผลการสร้าง Platform การสร้างนวัตกรชาวบ้าน และ การสร้าง Learning Platform
นวัตกรรมการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอก ชุมชนบ้านล่องมุด
อำเภอเทพา จงั หวดั สงขลา ดังนี้
111
3.2.1 ผลการสร้าง Platform การสรา้ งนวตั กรชาวบ้าน
การสรา้ ง Platform การสรา้ งนวัตกรชาวบ้าน มแี นวทางการดำเนินงาน ดงั น้ี
1.การค้นหานวัตกรชุมชนโดยการ สังเกตทักษะการปฏิบัติงาน การสื่อสาร และการมี
ปฏิสมั พนั ธ์
2.การพัฒนาความรู้และให้การสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ สร้างโอกาสในการเป็น
วิทยากร การถา่ ยทอดเทคโนโลยี โดยมีวิทยาลัยชุมชนสงขลาเป็นพ่เี ล้ยี งในการทำงาน
3. สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม โดยมีการแลกเปล่ียนประสบการณ์ การรับฟัง CO-
CREATION ร่วมคิด รว่ มออกแบบ รว่ มทำ
3.2.2 ผลการสรา้ ง Learning Platform
รูปที่ 4.26 การสร้าง learning Platform นวตั กรชมุ ชน
3.2.2 ผลการสรา้ ง Learning Platform
การสร้าง Learning Platform เป็นการนำแนวคิดการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการพัฒนา
และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ในชุมชน โดยใช้ทุนทรัพยากรในพื้นท่ี ได้มีการกำหนด แผนการ
ดำเนินงานดังนี้
1. การคน้ หาโจทย์และความต้องการในชุมชน
2. การใช้องคค์ วามรู้/เทคโนโลยีเพอ่ื พัฒนา
3. ทำการยกระดบั และเพ่ิมมูลค่า
4. สรา้ งเวทีแลกเปล่ียนเรยี นรู้
5. มีการถา่ ยทอดเทคโนโลยี
112
รูปที่ 4.27 การสร้าง Learning Platform การสรา้ งสรรค์สียอ้ มธรรมชาตแิ ละการพัฒนาผลิตภณั ฑ์
ผ้าทอยกดอกของชมุ ชนบา้ นล่องมดุ จังหวดั สงขลา
ตอนท่ี 4 ผลการสรา้ งการมีส่วนร่วมของประชาชนในการนำนวัตกรรมการสร้างสรรค์
สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา ไปสู่
แผนพัฒนาตำบล/อำเภอ/จังหวัดผลการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการนำนวัตกรรมการ
สร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัด
สงขลา ไปส่แู ผนพฒั นาตำบล/อำเภอ/จงั หวัด ดงั นี้
4.1 กระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการนำนวัตกรรมการ
สร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัด
สงขลา ไปสแู่ ผนพฒั นาตำบล/อำเภอ/จงั หวัด
4.2 ผลของกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการนำนวัตกรรมการ
สร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัด
สงขลา ไปสแู่ ผนพัฒนาตำบล/อำเภอ/จังหวดั
สำหรับตอนที่ 4 ผลการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการนำนวัตกรรมการ
สร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัด
สงขลา ไปสแู่ ผนพฒั นาตำบล/อำเภอ/จังหวดั มรี ายละเอียดของผลการวเิ คราะห์ข้อมูลดงั ต่อไปน้ี
4.1 กระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการนำนวัตกรรมการ
สร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัด
สงขลา ไปสแู่ ผนพฒั นาตำบล/อำเภอ/จังหวัด (รูปการจัดเวทปี ระชาคม)
113
รปู ท่ี 4.28 การจดั ทำเวทีประชาคม
ผรู้ ับผิดชอบโครงการพร้อมคณะทำงานได้วางแผนประสานงานร่วมกับทางหน่วยงานในพ้ืนท่ี
ได้แก่ เจ้าหนา้ ที่ผู้รบั ผิดชอบพื้นท่ีในตำบลลำไพล อำเภอเทพาและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลลำไพล ได้
มีการกำหนดวันท่ี 16 กุมภาพันธ์ 2564 ในการทำประชาคมหมู่บ้านเพ่ือจัดทำแผนพัฒนาในหมู่ที่ 8
บ้านปริก ท่ีเป็นพื้นที่เป้าหมายของโครงการงานวิจัยในคร้ังน้ี โดยทางผู้รับผิดชอบโครงการได้ทำการ
เสนอเรื่องการยกระดับผ้าทอในชุมชนบ้านลอ่ งมุดเพ่ือเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนซึง่ ได้นำเสนอให้เห็นว่าทาง
114
ผู้รับผิดโครงการได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ผ้าทอบ้านล่องมุดโดยการเพ่ิมมูลค่าในการย้อมสี
ธรรมชาตโิ ดยใชว้ สั ดใุ นพนื้ ถ่นิ เพ่ือทำการย้อมและเพ่มิ รปู แบบผลติ ภณั ฑผ์ ้าทอท่มี อี ยเู่ ดิมให้มีมูลคา่ เพ่ิม
มากขนึ้ โดยกจิ กรรมดังกล่าวมผี ู้เขา้ ร่วมจำนวน 30 คน
นอกจากน้ี ทางเทศบาลตำบลลำไพลได้มีการพัฒนากลุ่มทอผ้าบ้านปริก (ล่องมุด) โดยได้
บรรจุลงในแผนพัฒนาท้องถ่ิน (พ.ศ.2561 - 2565) ของเทศบาลตำบลลำไพล ในยุทธศาสตร์การ
พัฒนาของเทศบาลตำบลลำไพล : ยุทธศาสตร์ท่ี 3 การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ : แผนงาน สร้างความ
เข้มแข็งชุมชน และชุมชนทอผ้าบ้านล่องมุดยังได้รับการเสนอโครงการภายใต้แผนงานท่ีมี
วัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสงั คม ตามบัญชีทา้ ยพรก.เงินกู้เพ่ือแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟืน้ ฟู
เศรษฐกิจและสังคมท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
พ.ศ. 2563 ผา่ นทางจังหวัดสงขลาในการยื่นเสนอของบประมาณดังกลา่ ว
4.2 ผลของกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการนำนวัตกรรมการ
สร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัด
สงขลา ไปสแู่ ผนพฒั นาตำบล/อำเภอ/จงั หวดั ดังตารางท่ี 4.27
ตารางที่ 4.27 แสดงกระบวนการมสี ่วนร่วมของชุมชนกับหน่วยงานอ่ืนๆ
เป้าหมาย/ วิธีการดำเนินการ (ระบุ หมายเหตุ
ระยะเวลา (หนว่ ย
ลำดบั ชื่อโครงการ งบประมาณ ดำเนินการ รายละเอยี ด/ √) ดำเนนิ งาน)
ที่ ปีงบประมาณ
2564 วิธดี ำเนนิ การ ทำ ทำ หน่วยงาน
ปีงบประมาณ เอง รว่ ม อืน่ ทำให้
2564
1 ยกระดับสินค้า 300,000 บาท ส่งเสริมการ √ วทิ ยาลัย
และของที่ระลึก ปีงบประมาณ
จ า ก ผ้ า ท อ สู่ 2564 ยกระดบั ชมุ ชนสงขลา
ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ งบประมาณ
OTOP จากเทศบาล สินคา้ และ
ตำบลลำไพล
2 พั ฒ น า 250,000 บาท ของทรี่ ะลกึ
ผลิตภณั ฑ์ผ้าทอ ปงี บประมาณ
จ า ก เ ส้ น ใ ย 2563 จากผา้ ทอ
ก ล้ ว ย ย้ อ ม สี งบประมาณ
ธรรมชาติ เพือ่ พัฒนา √ วทิ ยาลัย
3 อุ ด ห นุ น ก า ร 300,000 บาท ผลติ ภัณฑผ์ ้า ชุมชนสงขลา
ดำเนินงานของ
ก ลุ่ ม อ า ชี พ ทอจากเส้น
วิสาหกิจชุมชน
กลุ่มทอผ้า บ้าน ใยกลว้ ยย้อม
ปริก หมู่ที่ 8
สีธรรมชาติ
4 การสรา้ งสรรค์ 301,000 บาท
ลวดลายผา้ ทอ เ พื่ อ √ เทศบาล
บนฐาน
ส นั บ ส นุ น ตำบลลำไพล
ก าร
ด ำเนิ น งาน
ข อ ง ก ลุ่ ม ใ ห้
เขม้ แข็งขน้ึ
พฒั นาลาย √ มหาวิทยาลยั
ผา้ ทอบนฐาน เทคโนโลยี
อัตลักณ์ ราชมงคลศรี
115
เป้าหมาย/ วิธีการดำเนนิ การ (ระบุ หมายเหตุ
ระยะเวลา (หน่วย
ลำดับ ชื่อโครงการ งบประมาณ ดำเนินการ รายละเอียด/ √) ดำเนนิ งาน)
ที่
วธิ ดี ำเนินการ ทำ ทำ หน่วยงาน
เอง ร่วม อน่ื ทำให้
อัตลักษณ์ จากทนุ วิจัยวช. ทอ้ งถ่ิน วิชยั
ท้องถนิ่ บ้านลอ่ ง
มดุ ตำบลลำ
ไพล อำเภอ
เทพา จงั หวัด
สงขลา
การจดั ทำแผนธรุ กจิ โครงการสร้างสรรคส์ ยี ้อมธรรมชาติและพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ผ้าทอของชมุ ชนบ้าน
ลอ่ งมดุ จังหวดั สงขลา มรี ายละเอียดดังน้ี
สว่ นท่ี 1 การวเิ คราะห์ข้อมลู วิเคราะหส์ รปู แวดล้อมทางธรุ กจิ (SWOT Analysis)
1.1 สรปู แวดลอ้ มภายใน
1.1.1 ) จดุ แขง็ ( Strength ): ปจั จัยภายในองค์กรทท่ี ำให้กิจการมีความได้เปรยี บคู่แข่ง
1. บคุ ลากรมีทักษะ ความสามารถการทอผา้ และการออกแบบลายผ้าโดยเฉพาะ
2. ผลิตภัณฑ์มีเอกลักษณ์ดา้ นสี 3 สี
3. ผลิตภัณฑ์มลี ายดอกปริก เปน็ ลายผ้าประจำกลมุ่
4. บคุ ลกรมีทกั ษะ ดา้ นทำกี่ และเครื่องมือการทอผา้ ด้วยตนเอง
5. สินคา้ ไดม้ าตรฐาน OTOP 4 ดาว และ มผช.
6. ใชว้ ตั ถุดิบ (ใยจากต้นจง) จากชุมชนเอง
1.1.2 ) จดุ อ่อน Weakness): ปัจจัยภายในองคก์ รทที่ ำใหก้ ิจการเสยี เปรียบคู่แขง่ ขนั
1. ขาดการจดั การ และโครงสร้างองค์กรท่ีเปน็ ระบบ
2. ขาดการจัดการระบบบญั ชี
3. ขาดเงนิ ทุนหมนุ เวียน
4. ทกั ษะการทอผ้าของสมาชิกในกลุ่มยังไม่คงที่
5. ขาดทักษะการออกแบบที่ทนั สมัย
6. ช่องทางการจัดจำหน่ายน้อย
7. แบรนด์ยงั ไมเ่ ป็นทีร่ จู้ ัก
8. ขาดการบรหิ ารจดั การหน้าเพจ เวบ็ ไซต์
1.2 สรปู แวดลอ้ มภายนอก
1.1.1) โอกาส (Opportunity ) : ( เป็นปัจจยั ภายนอกที่จะส่งเสรมิ หรอื สนับสนุนให้กจิ การ
เติบโตได้ใน อนาคต)
1. หนว่ ยงานภาครัฐเขา้ มาสนบั สนุนสนิ ค้าจากชุมชน
2. หน่วยงานภาครัฐและเอกชนสนบั สนุนองคค์ วามรู้ให้แกส่ มาชิก
3. เทศกาล ประเพณี และวัฒนธรรมประจำท้องถน่ิ นยิ มใชผ้ ้าทอ
116
4. กระแสผบู้ รโิ ภคทม่ี ีความนิยมรักษโ์ ลกเพิม่ มากขน้ึ
5. มเี ครือข่ายทางธุรกจิ
1.2.2) อปุ สรรค (Threat) : (เป็นปจั จยั ภายนอกทีจ่ ะทำให้กิจการไม่รุ่งเรือง เติบโตชา้ เปน็
อุปสรรคตอ่ การ ดำเนินธรุ กิจ)
1. มคี แู่ ขง่ มาก
2. ภาวะเศรษฐกจิ
3. ความไม่สงบ 3 จังหวดั
4. โรคระบาด
5. ไม่มอี ำนาจการต่อรองการซอ้ื วัตถดุ ิบ
แผนการดำเนนิ งานด้านการตลาด (Marketing Plan)
1 .การกำหนดตำแหน่งผลติ ภณั ฑ์
การกําหนดตําแหนง่ ผลติ ภณั ฑ์
ราคา
New
คณุ ภาพ
2. ผลิตภัณฑ์
2.1 ผ้าทอมือ บา้ นลอ่ งมุด เส้นใยย้อมสีธรรมชาติ
คณุ สมบตั ิ : รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม สีโทนธรรมชาติ นมุ่ ซบั นำ้ ดี สีไมต่ ก คงทนไมข่ าดงา่ ย
2.2 ผ้าทอมือ บา้ นลอ่ งมุด เส้นใยสังเคราะห์
คุณสมบัติ : มีความมันวาว สีสนั สดใส นุม่ ซบั น้ำดี สีไมต่ ก คงทนไมข่ าดง่าย
3. ระบกุ ลุ่มเป้าหมายหลกั /กล่มุ เป้าหมายรอง พรอ้ มระบุเหตผุ ล
3.1 กลุ่มเปา้ หมายหลกั ได้แก่ กลุม่ คนทำงานอายุระหว่าง 25-50 ปี รายได้ 20,000 บาท
117
ขนึ้ ไป นยิ มใชส้ ินค้ากล่มุ รกั ษ์โลก
ผา้ ทอ อายปุ ระมาณ 30-60 ปี วัยทำงาน เปน็ ผู้ประกอบอาชพี รบั ราชการ เพ่ือตดั เย็บเป็นชดุ
ทีมในหนว่ ยงาน
กระเป๋า: ผู้หญิง รายได้ 20,000 บาทขึ้นไป นิยมใช้สนิ ค้ารักษโ์ ลก
พวงกุญแจ วัยร่นุ ชาย-หญงิ
3.2 กลุ่มเป้าหมายรอง
ไดแ้ ก่ นักท่องเทีย่ ว (ซ้อื เป็นของฝาก)
4. คูแ่ ขง่ ขนั (ระบุช่อื คู่แข่งขัน ข้อได้เปรียบ และข้อเสียเปรยี บของกิจการทีมตี ่อคแู่ ข่งขัน)
4.1) คู่แข่งทส่ี ำคัญและมีผลต่อกิจการ จำนวน 5 ราย
4.1.1) คแู่ ขง่ ขนั ทางตรง ได้แก่ ผา้ ทอเกาะยอ ราชวตั ิ กระแสสินธุ์ ร่มไทร
4.1.2) คแู่ ขง่ ทางอ้อม ไดแ้ ก่ ผา้ ปาเต๊ะ ผ้าบาติก
4.2) การเปรยี บเทียบกบั คแู่ ขง่ ขนั เทียบกับเกาะยอ
ตารางที่ 4.28 เปรียบเทียบกับคแู่ ข่งขัน
คณุ สมบตั ิของ เปรยี บเทยี บกบั คแู่ ขง่ ขนั หมายเหตุ
สินคา้ / บริการ / อาชีพ ดีกวา่ ใกล้เคยี ง ดอ้ ยกวา่ แพงกว่า
ท่ตี ้ังหายากกว่า
1. ราคา
2. ทำเลท่ีต้งั กับกลุ่มลูกค้า เพิง่ เกิดข้นึ ไม่
3. ลักษณะสินคา้ /บรกิ าร/อาชพี นาน
(รปู ร่างบรรจุภณั ฑ์)
4. คุณภาพสินคา้ / บริการ / อาชีพ
5. ช่ือเสียงของสินค้า / บรกิ าร
6. ยอดขายสินคา้ / บรกิ าร / อาชพี
4.2.1.ตลาดของสินค้า / บริการ
ตลาดทอ้ งถนิ่ /ในจังหวัด
ตลาดต่างจงั หวดั
ตลาดออนไลน์
4.2.2.ลักษณะของผ้ซู ือ้
มผี ู้ซอ้ื เฉพาะกลมุ่ / ตลาดแคบ
5. การส่งเสรมิ การตลาด (เช่นโฆษณา ประชาสมั พันธ์ การลด การแลก แจก แถม เป็นต้น)
ไม่มี
6. การกำหนดราคาขาย
6.1) ราคาสินค้า / บริการ กำหนดจาก
ต้นทนุ สินคา้ /บริการ
เปรียบเทียบราคากับคแู่ ขง่
118
6.2) ราคาขาย ผ้าผนื ราคาเท่าไหร่ ผลติ ภณั ฑ์ราคาเท่าไหร่
ผ้าผืนทอยกดอก หน้ากว้าง 90 เซนติเมตร มีความยาวชนิ้ ละ 2 เมตร ราคา 350 บาท
ผา้ ผืนลายผา้ ขาวม้าหน้ากวา้ ง 90 เซนติเมตร มีความยาวช้ินละ 2 เมตร ราคา 250 บาท
ผ้าคลุมไหล่ลายผ้าขาวมา้ ขนาด 60 เซนติเมตร ยาว 170 เซนตเิ มตร ราคาชิน้ ละ 180 บาท
7.ช่องทางการจดั จำหน่าย
ขายตรง ขายปลีก
ขายออนไลน์ (กำลงั ดำเนินการ)
รปู ท่ี 4.29 การวเิ คราะห์แผนจำลองธุรกิจของกลุ่มทอผ้าบา้ นล่องมุด
ตอนที่ 5 ผลการศึกษาการเปล่ียนแปลงด้านรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพ
ชีวิต ของชุมชนบา้ นลอ่ งมดุ จงั หวดั สงขลา
ผลการศึกษาการเปลี่ยนแปลงด้านรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพชีวิต ของ
ชุมชนบา้ นล่องมดุ จงั หวัดสงขลา ดังน้ี
5.1 ผลการพัฒนาชุมชนนวัตกรรมเพ่ือการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Platform การสร้าง
ชมุ ชนนวัตกรรม)
5.2 ผลการเปล่ียนแปลงด้านรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพชีวิต ของชุมชน
สำหรับตอนที่ 5 ผลการศึกษาการเปล่ียนแปลงด้านรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และ
คุณภาพชวี ิต ของชมุ ชนบา้ นล่องมุด จังหวดั สงขลา มรี ายละเอียดของผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู ดงั ตอ่ ไปน้ี
5.1 ผลการพัฒนาชุมชนนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Platform การสร้าง
ชุมชนนวัตกรรม)
1. ชุมชนนวัตกรรม คือ กล่มุ คนในชุมชนทรี่ ่วมกันพัฒนาการสร้างสรรคส์ ีย้อมธรรมชาติ และ
พัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ้าทอยกดอกชุมชนบ้านล่องมุดจังหวัดสงขลา เพื่อสร้างรายได้ให้คนในชุมชน และ
พฒั นาผลิตภัณฑใ์ ห้หลากหลาย
119
2. นวัตกรรม ท่ีเกิดขึ้นจาการดำเนินงานกิจกรรมโครงการ คือ การใช้เทคนิคการย้อมสี
ธรรมชาติโดยใช้วัสดุธรรมชาติในพื้นถ่นิ เช่น เปลือกยางพารา เปลือกสะตอ ฯลฯ ท่ีเป็นพืชในพื้นถิน่ เพื่อ
เป็นการสร้างมูลเพิ่มของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสรา้ งเอกลักษณ์ของกลุ่มทอผ้าบ้านล่องมุด ทำให้เกิดการ
พัฒนาผลิตภัณฑ์จากการใช้กระบวนการดังกล่าว ทำให้ชุมชนได้รับการพัฒนาทั้งตัวผลิตภัณฑ์และตัว
บุคคลในชมุ ชน รวมถึงทำใหเ้ กิดการสรา้ งพ้ืนท่สี ำหรบั เป็นแหล่งเรยี นรู้ให้กับคนในชุมชน
3. ปจั จยั แห่งความสำเรจ็ (Key success factor ; KSFs) ท่ที ำใหเ้ กดิ ชมุ ชนนวัตกรรม
3.1 ประธานกลุ่มมีความเป็นผู้นำในการท่ีจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และส่งเสริมให้สมาชิกใน
กลุ่มมีบทบาทในการพัฒนากลุ่มทอผา้
3.2 สมาชิกในชุมชนให้ความสนใจและความสำคัญในการเรียนรู้เพ่ือท่ีจะพัฒนาผลิตภัณฑ์
ในกลุ่ม 3.3 หนว่ ยงานตา่ งๆท่ีเกีย่ วข้องเห็นความสำคัญและส่งเสริมกลุ่มทอผ้า
4. นวตั กรรม/เทคโนโลยี ทนี่ ำไปใชเ้ พอ่ื การพฒั นาชุมชนนวัตกรรม
4.1 กระบวนการย้อมสีเส้นด้ายจากธรรมชาติโดยใช้วัดสุในพ้ืนถ่ิน ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์
ที่มาจากการย้อมสีธรรมชาติ ทำให้ชุมชนมีผลิตภัณฑ์ท่ีหลากหลายสำหรับการจำหน่ายสินค้า และเป็น
สรา้ งมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
4.2 การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากจากการย้อมสีธรรมชาติ เพ่ือมูลค่าผ้าทอ ทำให้ผลิตภัณฑ์มี
มลู ค่าเพม่ิ ขนึ้ จากเดิม
4.3 การเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ โดยการเปิดเพจผ่านทางเฟสบุค กลุ่มทอผ้าบ้าน
ล่องมุดเพือ่ เปน็ การเพ่ิมช่องทางการจำหน่ายและเป็นการประชาสัมพันธใ์ หเ้ ป็นทีร่ ู้จัก
5. บุคคลแห่งความสำเร็จ (Key success Person ; KSPs) ท่ีทำให้เกิดชุมชนนวัตกรรม
ประกอบด้วย
5.1 ประธานกลุ่ม ประชาสัมพันธ์ผลงานกลุ่มต่อหน่วยงานภาครัฐ และ ภาคประชาสังคม
และทำให้กลุ่มเป็นพื้นทส่ี ำหรับการเรียนรู้ของคนในชุมชน รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆใน
พื้นท่ี ในเรื่องของการของบประมาณเพ่ือพัฒนากลุ่ม โดยจัดทำแผนร่วมกับหน่วยงานราชการ เช่น
วทิ ยาลยั ชมุ ชน พัฒนาชมุ ชน และ เทศบาลตำบลลำไพล”
5.2 ทีมนวัตกรในชุมชนเป็นแกนนำในการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาสินค้า
ต้นแบบให้ชุมชน ขยายผลองค์ความรู้ในการย้อมสีธรรมชาติและนำเสนอผลิตภัณฑ์ชุมชนต่อหน่วยงาน
ภาครัฐและเอกชน
5.3 ทีมคณะนักวิจัยจากวิทยาลัยชุมชนสงขลาและวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ จัดกระบวนการให้
เกดิ มสี ว่ นร่วมและตอ่ ยอดในการขยายผลการพฒั นาอาชีพของชมุ ชน
6. นวัตกรชาวบ้านในชมุ ชนนวัตกรรม
6.1 วิธกี ารคัดเลือก ประกอบด้วย 1) สังเกตทักษะการปฏิบัติงาน 2) การส่ือสาร3) การ
มปี ฏิสัมพนั ธ์
6.2 วิธีการพัฒนา ประกอบด้วย 1) สนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ 2) สร้างโอกาสในการ
เปน็ วทิ ยากร 3) การถา่ ยทอดเทคโนโลยี
6.3 คุณลักษณะหลังการพัฒนา ประกอบด้วย มีทักษะในการนำเสนอและการติดต่อ
ประสานงานดขี ้นึ มอี งคค์ วามร้ใู นการถ่ายทอด
6.4 บทบาทหน้าที่ในชุมชน ประธานกลุ่ม และเป็นสมาชิกที่ในกลุ่มที่มีการยอมรับจาก
120
คนในชุมชน รวมถงึ การเป็นผู้นำทางธรรมชาติ
7. กระบวนการเรยี นรู้ทีเ่ กดิ ข้ึนในชุมชนเกิด
7.1 การวิเคราะห์บรบิ ทของชุมชนของตนเอง ลงพื้นท่ีศึกษาข้อมูลการดำเนินงานของกลุ่ม
ทอผ้า จัดกจิ กรรมระดมสมอง เสวนากลุ่ม
7.2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี/ นวัตกรรม เรียนรู้โดยการทดลอง และการลงมือปฏิบัติ
ใช้ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีพ้ืนบ้าน (กระบวนการย้อมสีธรรมชาติ) โดยการเรียนรู้จาก
ผูเ้ ชี่ยวชาญท่ีมปี ระสบการณด์ ้านการย้อมสธี รรมชาติ ทตี่ อบสนองความต้องการผู้บรโิ ภค
7.3 การพัฒนานวัตกรชาวบ้าน สร้างโอกาสในการเป็นวิทยากร การถ่ายทอดองค์ความรู้
ในการสร้างสรรค์สียอ้ มธรรมชาติและการพฒั นาผลติ ภัณฑจ์ ากสยี ้อมธรรมชาติ
8. ตัวช้ีวดั เชงิ ปริมาณ และเชิงคุณภาพของความเป็นชุมชนนวัตกรรม
8.1 ตัวช้ีวัดเชิงปริมาณ ผลิตภัณฑ์จากการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติของกลุ่มทอผ้าบ้าน
ล่องมุด จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย 1) ผ้าขาวม้าย้อมสีธรรมชาติ 2) ผ้าทอยกดอกลายขอที่ได้จากการ
ย้อมสีธรรมชาติ 3) ผ้าคลุมไหล่ย้อมสีธรรมชาติ 4) เส้ือมัดย้อมจากยอ้ มสีธรรมชาติ 5) ผลิตภัณฑ์ที่ได้จาก
การแปรรูปผ้าทอย้อมสีธรรมชาติ เช่น กระเป๋า พวงกุญแจ เนคไท เป็นต้น และสีที่ได้จากย้อมจากวัสดุ
ธรรมชาติ ได้แก่ สีจากเปลือกยางพารา สีจากผลหมากสด สีจากใบทั่ง สีจากใบกำชำ สีจากเปลือกมังคุด
สีจากใบหูกวาง และสีจากเปลือกสะตอ นอกจากจากนี้ทางกลุ่มสามารถนำเอาวัสดุธรรมชาติมาทดลอง
ย้อมเองได้เพื่อสรา้ งสรรคส์ ีย้อมที่ต้องการได้
8.2 ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ จากการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์
นวตั กร ถ่ายองค์ ความรแู้ ละมีทักษะในกระบวนการยอ้ มสีธรรมชาติ และการพฒั นากลุ่มให้มีความยั่งยืน
นอกจากนี้กลมุ่ ทอผา้ ยังเป็นพืน้ ทสี่ ำหรับแหล่งเรยี นรู้ในการทอผา้ และย้อมผ้าสธี รรมชาติ
9. แนวทางในอนาคตเพ่ื อการเป็ นชุมช นนวัตกรรมท่ีย่ังยืน ชุมชนนวัตกรรม
“การสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัด
สงขลา” ที่ย่ังยืน 1) ส่งเสรมิ การตลาด และ รา้ นออนไลน์ 2) พัฒนาออกแบบผลติ ภัณฑใ์ หม่ 3) การนำไป
ถา่ ยทอดให้กบั เยาวชนในชุมชน เพื่อสรา้ งรายได้ 4) การสร้างเครอื ข่ายผูผ้ ลติ และผู้บริโภค
10. วิธีการทำงานกับหน่วยงานในพื้นท่ี และพื้นท่ีเป้าหมาย ประกอบด้วย 1) การสร้าง
ความน่าเช่ือถือ ประสานความร่วมมือด้วยความจริงใจการทำงานร่วมกับชุมชน โดยการลงพื้นที่เพ่ือไป
พบกลุ่ม ทำให้กลุ่มมีความม่ันใจในการให้ความร่วมมือในการทำงาน 2) จัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยการ
ให้ความรู้และทักษะในการฝึกปฏิบัติจริง และเปิดโอกาสให้ทางกลุ่มได้มีการเสนอแนะในการทำงาน เม่ือ
มีข้อสงสัย หรือข้อซักถาม ทางทีมวิจัยจะเป็นพี่เล้ียงในการให้ข้อมูล รวมถึงการสนับสนุนให้กับกลุ่มทุก
ด้าน 3) ติดตามประสานงานอย่างต่อเนื่อง ตามแผนงานที่ได้ร่วมว่างแผนร่วมกัน ยืดหยุ่น ร่วมแก้ไข
ปัญหา 4) ช่วยประชาสมั พันธก์ ิจกรรมหลายช่องทาง
รปู แบบ Learning / Innovation Platform ทลี่ งชมุ ชน
กระบวนการมีส่วนร่วม โดยมีการแลกเปล่ียนประสบการณ์ การรับฟัง CO-CREATION
รว่ มคดิ ร่วมออกแบบ ร่วมทำ
ผลการเปล่ยี นแปลงด้านรายได้ เศรษฐกจิ ฐานราก และคุณภาพชีวิต ของชุมชนบ้านล่องมุด
จังหวดั สงขลา (ขอ้ มูลการวิเคราะห์ กอ่ น-หลงั )
121
ตารางท่ี 4.29 แสดงการเปล่ียนแปลงด้านรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพชีวิต ของชุมชน
บา้ นลอ่ งมดุ จงั หวัดสงขลา
ขอ้ ความสุข ระดับความสุขก่อนเขา้ ระดับความสุขหลงั เขา้ ผลตา่ ง
รว่ มโครง รว่ มโครง
1) มาตรฐานในการดำรงชีวิต 0.42
x S.D. ระดบั x S.D. ระดับ
ทา่ นมีความพอใจในปจั จัยส่ีทไี่ ดร้ บั เชน่ อาหาร ท่ีอยู่ 3.83 0.55 มาก 4.25 0.67 มาก 0.50
4.10 0.64 มาก 4.60 0.60 มาก 0.35
1 อาศยั เครือ่ งนุง่ ห่ม ยารักษาโรค ที่เพยี งพอในการ
3.85 0.67 มาก 4.20 0.77 มาก 0.60
ดำรงชวี ิต 3.70 0.73 มาก 0.20
4.30 0.66 มาก 0.43
2 ทา่ นได้รับการบริการดา้ นสาธารณปู โภค เชน่ ไฟฟ้า 3.70 0.80 มาก
ประปา โทรศัพท์ ฯลฯ ท่ีเพียงพอ 3.85 0.60 มาก 3.90 0.64 มาก 0.05
4.15 0.67 มาก
ทา่ น มีความพอใจทนุ ทางสังคมทีต่ นเองมีอย่ใู นด้าน 4.28 0.56 มาก 0.53
3.62 0.82 มาก 0.75
3 ทรัพย์สนิ รายไดพ้ เิ ศษและสิง่ อำนวยความสะดวกตา่ ง 4.20 0.41 มาก 0.35
3.70 0.80 มาก 0.32
ๆ 3.95 0.68 มาก 0.20
3.82 0.51 มาก 0.40
4 ท่านมคี วามพอใจในสุขรูปกายและสุขรูปจติ 3.90 0.55 มาก 0.25
ทตี่ นเองเป็นอยใู่ นปจั จบุ ัน 3.60 0.59 มาก
3.80 0.76 มาก 0.40
2) สขุ รูป คือการมีสขุ รูปดแี ละมคี วามสขุ ทั้งทางดา้ นรา่ งกาย
4.00 0.79 มาก 0.42
จิตใจ และจิตวิญญาณ
3.82 0.55 มาก
ท่านมีความสุขจากการทม่ี สี ขุ รปู อนามัยทดี่ ี คือ ความ
5 เปน็ อยู่สะอาด บ่ รโิ ภคอาหารปลอดภยั จากสารพิษและ
ใช้ชวี ติ ปราศจากพษิ อนั ตราย (ไมด่ ื่มเหล้า สูบบหุ รี่ รวม
ไปถึงคนในครอบครัว)
ท่านมคี วามสุขในการดูแลสขุ รูปอนามัย มีการออกกำลงั 4.15 0.49 มาก
6 กายอยา่ งสม่ำเสมอ และไดร้ ับสารอาหารทม่ี ีคณุ คา่ ต่อ
รา่ งกายเป็นอย่างดี
7 ท่านมีความสุข รา่ เรงิ แจม่ ใส ไมโ่ กรธโมโหงา่ ย หงุดหงดิ 4.45 0.69 มาก
และวิตกกงั วล
8 ท่านมสี ุขรูปจติ ท่ดี ี ยึดม่ันในคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 4.30 0.66 มาก
4.14 0.58 มาก
3) การศกึ ษา 4.10 0.55 มาก
4.00 0.46 มาก
9 ท่านรูส้ ึกพึงพอใจกับระดับความรทู้ ่ีท่านมีอยู่
10 ทา่ นสนใจขา่ วสารบ้านเมืองภายใน จังหวัดและข่าวสาร
ทวั่ ไป ทำให้ท่านมีความสขุ กบั การได้รับขา่ วสารน้ัน ๆ
ความรูจ้ ากการศกึ ษาและการพัฒนา ตนเองในการรบั รู้ 4.05 0.83 มาก
11 ข่าวสารขอ้ มลู ในชวี ติ ประจำ ทำให้ท่านสามารถ
นําไปใช้ในชีวิตประจำวันของทา่ นได้ อยา่ งมีความสุข
การไดร้ บั โอกาสและการส่งเสรมิ ความรู้ เพื่อการ 4.40 0.50 มาก
12 ประกอบอาชีพ และการดำเนินกจิ กรรมร่วมกับชมุ ชน
สงั คมจากโครงการของวิทยาลยั ชมุ ชน ทำใหท้ ่านมี
ความสขุ
4) ความหลากหลายทางระบบนเิ วศ และความยดื หยนุ่ ในการ 4.24 0.45 มาก
122
ขอ้ ความสุข ระดบั ความสุขกอ่ นเข้า ระดบั ความสุขหลังเข้า ผลต่าง
ร่วมโครง ร่วมโครง 0.25
0.20
x S.D. ระดบั x S.D. ระดบั 0.65
0.55
ปรบั ตวั
ชมุ ชนของท่านมสี รูปแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสม เชน่ ไม่มีนำ้ 3.85 0.87 มาก 4.10 0.45 มาก
13 เน่า ไม่มเี สยี งดัง ขยะไมม่ กี ล่ินเหมน็ ไม่มีโจรผรู้ ้าย เปน็
ต้น
14 ชุมชนของท่าน มที รัพยากรธรรมชาติทีอ่ ดุ มสมบรู ณ์ 3.90 0.91 มาก 4.10 0.45 มาก
เช่น ปา่ ชมุ ชน แหล่งน้ำ สตั ว์นำ้ เป็นต้น 3.90 0.64 มาก 4.55 0.51 มาก
3.65 0.93 มาก 4.20 0.41 มาก
15 ชุมชนของท่านมกี ารสร้างจติ สำนกึ ดูแล รักษา
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม
ชมุ ชนของทา่ นมีกระบวนการเรยี นรพู้ ัฒนาและจดั การ
การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และ
16 สิ่งแวดล้อมเพ่ือใหเ้ กิดรายไดอ้ ย่างยัง่ ยืน (เช่น หมบู่ า้ น
ทอ่ งเท่ียว หตั ถกรรม เชงิ เกษตร อนรุ ักษ์ แปรรปู
ผลติ ภณั ฑ์ การทำปุ๋ยหมกั การทำนำ้ สม้ ควันไม้ ฯลฯ )
5) ความเขม้ แข็งและความหลากหลายทางวัฒนธรรม 3.77 0.53 มาก 4.14 0.51 มาก 0.37
3.80 0.61 มาก 4.10 0.55 มาก 0.30
17 ชุมชนของทา่ นมกี ารสง่ เสรมิ และจดั กจิ กรรมด้าน
ศาสนา ศิลปะ และ วฒั นธรรมเปน็ ประจำ สม่ำเสมอ 3.95 0.60 มาก 4.00 0.32 มาก 0.05
ท่านรว่ มกจิ กรรมกบั คนในชมุ ชนเกี่ยวกับศาสนา 3.80 0.89 มาก 4.45 0.69 มาก 0.65
3.50 0.68 มาก 4.00 0.46 มาก 0.50
18 ประเพณี และวฒั นธรรม เชน่ วันขึ้นปใี หม่ วนั สำคัญ 4.02 0.57 มาก 4.31 0.50 มาก 0.29
4.30 0.73 มาก 4.35 0.49 มาก 0.05
ทางศาสนา ฯลฯ อย่างสม่ำเสมอ 3.75 0.55 มาก 4.20 0.41
มาก 0.45
19 ครอบครวั มกี ารอบรมบตุ รหลานโดยใช้วิถีชีวติ แบบไทย 3.90 0.71 มาก 4.45 0.69 0.55
4.15 0.74 มาก 4.20 0.41 มาก
20 คนในชมุ ชนของทา่ นมีความสัมพนั ธท์ ่ีดตี ่อกนั มาก 0.05
3.31 0.57 ปานกลาง 4.09 0.56
6) การใช้เวลาและสร้างสมดุล 3.05 0.94 ปานกลาง 4.10 0.55 มาก 0.78
มาก 1.05
21 ท่านมีความสุขเมอื่ ครอบครวั มีเวลาอยพู่ ร้อมกัน 3.25 0.96 ปานกลาง 4.00 0.46
มาก 0.75
22 ชุมชนของทา่ นเล้ยี งดผู ้สู ูงอายุใหส้ ามารถดำรงชีวิตได้ 3.35 0.74 ปานกลาง 4.05 0.83
อย่าง มีความสุข มาก 0.70
3.69 0.68 มาก 4.20 0.41
23 ท่านมีการปรับตัวให้ใชช้ ีวิต อยู่ในสงั คมไดอ้ ย่างปกตสิ ุข มาก 0.51
ท่านไดป้ ฏิบตั ิตนโดยยดึ ม่นั ในหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ
24 พอเพียง คือความพอประมาณ ความมีเหตุผล มี
ภมู ิคมุ้ กัน และเงอื่ นไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรมอยา่ ง
สม่ำเสมอ
7) ธรรมาภิบาล
25 คณะกรรมการชมุ ชนของท่านมีความโปร่งใสในการ
ทำงานและ ตรวจสอบได้
26 ประชาชนในชุมชนของท่านไม่ซือ้ สทิ ธ์ิ ขายเสยี งในการ
ใชส้ ิทธเิ ลือกตัง้
27 ชมุ ชนของทา่ นมีคณะกรรมการและวิธกี ารในการ
จัดการกับ ปัญหา ความขัดแยง้ ในชุมชนอยา่ งเหมาะสม
28 ท่านไดร้ บั ความเป็นธรรมเม่อื ไดต้ ดิ ต่อกับหน่วยงานของ
รฐั ในชมุ ชน
123
ข้อ ความสุข ระดับความสุขกอ่ นเขา้ ระดบั ความสุขหลังเขา้ ผลต่าง
ร่วมโครง รว่ มโครง
8) ความเขม้ แขง็ ของชุมชน 0.73
x S.D. ระดบั x S.D. ระดับ 0.55
29 ครอบครัวของทา่ นมคี วามมัน่ คงในอาชพี และมีรายไดท้ ่ี 3.40 0.41 ปานกลาง 4.13 0.52 มาก 0.65
เพยี งพอ 3.55 0.51 มาก 4.10 0.55 มาก 1.10
0.60
30 ชมุ ชนของท่านมกี ารกระจายรายไดใ้ นกลุ่มต่าง ๆ อย่าง 3.30 0.80 ปานกลาง 3.95 0.39 มาก
เป็นธรรม 0.14
3.35 0.74 ปานกลาง 4.45 0.69 มาก 0.05
31 ชุมชนของทา่ นมีกิจกรรมสร้างความม่นั คงเศรษฐกจิ 0.40
อยา่ ง ตอ่ เน่อื ง เชน่ การพัฒนาผลติ ภัณฑ์ เป็นตน้ 3.40 0.68 ปานกลาง 4.00 0.46 ปานกลาง 0.05
0.05
ทา่ นได้มสี ่วนช่วยเหลอื ในการฟืน้ ฟูเศรษฐกจิ ของชมุ ชน 4.07 0.68 มาก 0.44
4.15 0.87 มาก
32 ด้วยการประหยดั พลังงาน และ ชว่ ยเหลือพัฒนา 3.80 0.69 มาก
เศรษฐกิจของชุมชน 4.05 0.75 มาก
9) ความเปน็ อยทู่ ดี่ ใี นเชงิ จิตวิทยา 4.30 0.73 มาก 4.21 0.52 มาก
4.20 0.41 มาก
33 ในครอบครวั ของท่านมคี วามรกั ความผกู พนั ต่อกนั 3.76 0.38 มาก 4.20 0.41 มาก
34 ทา่ นมีความพอใจในความสมั พนั ธ์กบั ผ้อู ื่น เช่น
ครอบครัว เพ่อื นบา้ น ฯลฯ
35 ท่านมคี วามมนั คงปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพยส์ นิ เมื่อ 4.10 0.79 มาก
อาศัยอยใู่ นชุมชนน้ี
36 ท่านไดป้ ฏิบตั ิตนโดยยดึ ม่ันในหลักพงึ่ พาตนเอง 4.35 0.49 มาก
เกื้อหนุนจนุ เจือ
โดยรวม 4.20 0.54 มาก
จากตารางท่ี 4.29 พบว่า การเปลี่ยนแปลงดา้ นรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพชีวิต
ของชมุ ชนบ้านลอ่ งมดุ จงั หวัดสงขลา คุณภาพชวี ติ ของประชากรชุมชนนวัตกรรมหลงั เข้าร่วมโครงการ
มีระดับความสุขอยู่ในระดับมาก ( x = 4.20, S.D. = 0.54) คิดเป็นร้อยละ 84 สูงกว่าก่อนเข้าร่วม
โครงการมีระดับความสุขอยูใ่ นระดับปานกลาง ( x = 3.76 , S.D. = 0.38) คิดเป็นร้อยละ 75.20 มี
ค่าผลตา่ งความสุขเพิม่ ขึ้นคิดเปน็ รอ้ ยละ 8.80
จากการดำเนนิ งานกิจกรรมโครงการการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาตแิ ละการพัฒนาผลิตภัณฑ์
ผ้าทอของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา กับนวัตกรจำนวน 2 คน และประชากรในชุมชนที่มีความ
เก่ียวข้องกับนวัตกร โดยกำหนดให้ผู้ท่ีเก่ียวข้องในการดำเนินการกิจกรรมการสร้างสรรค์สีย้อม
ธรรมชาติและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอ เป็นสมาชิกในกลุ่มทอผ้า รวมเป็นจำนวน 20 คน ในช่วง
ระยะเวลาดำเนินกิจกรรมโครงการทำให้ชุมชนได้มีการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์จากการสร้าง
นวัตกรรมดังกล่าว มีผลิตภัณฑ์เพ่ิมข้ึน เป็นเส้ือมัดย้อมจากสีธรรมชาติ และมีการกำหนดราคา
ผลติ ภัณฑ์เพิ่มข้ึนมากวา่ รอ้ ยละ 10 จากการใช้เส้นด้ายย้อมสีธรรมชาติ ดงั ตารางที่ 4.30
124
ตารางท่ี 4.30 เปรียบเทียบราคาผลติ ภัณฑ์หลงั มีการสร้างนวตั กรรมชมุ ชน
ผลิตภัณฑ์ ขนาด ราคา การเพ่มิ ข้ึนของราคา
เส้นใยสังเคราะห์ สียอ้ มธรรมชาติ
ผ้าขาวมา้ 2 เมตร ร้อยละ 100
ผา้ ยกดอก (ลายการะเกด) 1 หลา 250 500 รอ้ ยละ 100
ผ้ า ย ก ด อ ก ล า ย 1 หลา 300 600 ร้อยละ 40
พระราชทาน (ลายขอ) 500 700
และนอกจากน้ี จากการสัมภาษณ์พบว่ารายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมีรายได้
เพิ่มข้ึนจากเดิม เน่ืองจากการผลิตภณั ฑ์ของกลุ่มเป็นการผลิตจากการสั่งทำ และประกอบกับกลุ่มได้มี
ผลิตภัณฑ์ท่ีเกิดจากงานวิจัยมีการนำเส้นด้ายย้อมสีธรรมชาติมาเป็นเส้นยืนในการทอ ทำให้เกิดความ
สวยงานเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ความสนใจในผ้าสีย้อมธรรมชาติ เพราะเน่ืองจากผลิตภัณฑ์
เดิมของกลุ่มเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าทอที่ได้จากเส้นใยสังเคราะห์ ดังนั้นจากการที่ประธานกลุ่ม ได้ให้ข้อมูล
ทางด้านรายไดว้ ่า ในปี พ.ศ.2563 ท่ียังไม่ได้ดำเนนิ กิจกรรมภายใต้โครงการวิจยั กลุ่มทอผ้าบ้านลอ่ งมุด
มีรายได้หลังจากหักต้นทุนจำนวน 65,843 บาท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน กรกฎาคม 2563) และเมื่อ
ดำเนนิ การโครงการวิจยั การสรา้ งนวัตกรรมการสรา้ งสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑผ์ ้า
ทอยกดอก ต้ังแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงปัจจุบัน รายได้หลังจากหักต้นทุนจำนวน 96,565 บาท
(ขอ้ มูล ณ สิ้นเดือน กรกฎาคม 2564) รายได้ของกลุ่มเพิ่มขึ้นคิดเป็น ร้อยละ 31.81 และผลิตภณั ฑผ์ ้า
ทอของกลุ่มทอผ้าบ้านล่องมุดได้รับความสนใจจากสมาชิกชุมชน หน่วยงานในชุมชน และหน่วยงาน
จากภายนอก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เส้นด้ายที่มาจากการย้อมสีธรรมชาติได้รับการสั่งซ้ือสินค้าใน
จำนวนที่เพ่ิมข้ึนจะเห็นได้จากสินค้าท่ีสั่งจากหน่วยงานในจังหวัดและกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด โดยทาง
กลุ่มได้มีการทำประชาสัมพันธ์เรื่องเส้นด้ายที่เกิดจากการย้อมสีธรรมชาติด้วยวัสดุในพ้ืนถ่ินผ่านทาง
ส่ือออนไลน์ โดยมีการจัดต้ังหน้ารา้ นออนไลน์ทางเฟสบุ๊ค ชื่อว่า กลุ่มทอผ้าบ้านล่องมุด และการออก
สนิ คา้ จำหนา่ ยตามงานต่างๆ เปน็ ตน้
125
บทท่ี 5
สรปุ ผลการวจิ ัย
ตามที่ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการวิจัยการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติ และพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอก ชุมชนบ้านล่องมุดจังหวัดสงขลา ประกอบไปด้วย วัตถุประสงค์หลักและ
วัตถุประสงค์รอง กล่าวคอื
วัตถุประสงค์หลัก คณะผู้วิจัยกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานวิจัยเพ่ือสร้างสรรค์สีย้อม
ธรรมชาติ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอก ชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา ด้วยการสำรวจพืช
พื้นถิน่ ในพื้นทช่ี ุมชนทีส่ ามารถนำมาเป็นวัตถุดบิ ให้สตี ้ังต้นสำหรบั ยอ้ มสีธรรมชาติ พบว่าในพืน้ ท่ีชมุ ชน
บา้ นล่องมุดมีพืชพื้นถิ่นหลากหลายชนิด แต่ทางกลุ่มได้คัดเลอื กเอาวัตถุดิบท่ีเหลือใช้ และเป็นวัตถุดิบ
ท่ีมิได้ใช้ประโยชน์มากนัก อีกท้ังพบเจอได้ทั่วไปบริเวณพ้ืนที่ชุมชน นำมาสร้างมูลค่าเพิ่มร่วมกับภูมิ
ปัญญาการย้อม สกัดเอาสีด้วยวิธีการต้มในอุณภูมิไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียสในระยะเวลา 1
ชั่วโมง จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ผลหมากสด เปลือกต้นยางพารา ใบทัง ใบกำชำ และใบหูกวาง
สำหรับการย้อมสเี ส้นฝา้ ย จากนัน้ นำเส้นฝา้ ยท่ีผ่านการย้อมตามเวลาพกั ในหม้อต้มเดอื ดใหน้ ้ำสแี ทรก
ซมึ เข้าไปในเสน้ ฝ้าย หมุนสลบั อย่างตอ่ เนอ่ื ง 15 นาที ต่อคร้ัง รวมจำนวน 4 คร้ัง เพอ่ื ให้นำ้ สแี ทรกซึม
อย่างท่ัวถึง บิดพอหมาด และใช้สารกระตุ้นสีจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ สารส้ม โคลน เฟอรัสซัลเฟต
(สนิมเหล็ก) น้ำขเ้ี ถ้า และน้ำปูนใส และพกั ในถุงพลาสตกิ ใสจำนวน 1 คืน กอ่ นล้างออกดว้ ยการไหล
ผ่านของนำ้ รว่ มกบั น้ำยาล้างจานยี่หอ้ ซนั ไลด์ พบว่า ปรากฎสที ไี่ ด้จากการยอ้ ม ดังนี้
สจี ากผลหมากสดให้สนี ้ำตาลอมสม้ สีผลหมากสดผสมสารสม้ ให้สีนำ้ ตาลเข้ม สีผลหมากสด
ผสมโคลนให้สีเทาเข้ม สีผลหมากสดผสมเฟอรัสซัลเฟต (สนิมเหล็ก)ให้สีเทา สีผลหมากสดผสมน้ำ
ขเ้ี ถ้าใหส้ ีน้ำตาลอ่อน และสีผลหมากสดผสมนำ้ ปนู ใสใหส้ นี ้ำตาลออ่ น
สีจากเปลือกต้นยางพาราให้สีน้ำตาลแดง สีเปลือกต้นยางพาราผสมสารส้มให้สีครีม สี
เปลือกตน้ ยางพาราผสมน้ำขีเ้ ถ้าใหส้ นี ำ้ ตาลอ่อน สีเปลอื กตน้ ยางพาราผสมเฟอรสั ซัลเฟต (สนิมเหลก็ )
ให้สีเทาเข้ม สีเปลือกต้นยางพาราผสมโคลนให้สีเทา และสีเปลือกต้นยางพาราผสมน้ำปูนใสให้สี
น้ำตาล
สีจากใบทังใหส้ ีเหลอื ง สีใบทังผสมสารส้มให้สขี าวนวล สีใบทังผสมน้ำขี้เถา้ ให้สีเน้ือ สีใบทัง
ผสมเฟอรัสซัลเฟต (สนิมเหล็ก)ให้สีเทา สีใบทังผสมโคลนให้สีน้ำตาล และสีใบทังผสมน้ำปูนใสให้สี
นำ้ ตาล
สีจากใบกำชำให้สีน้ำตาลอ่อน สีใบกำชำผสมสารส้มให้สีเนื้อออ่ น สีใบกำชำผสมน้ำขี้เถ้าให้
สีน้ำตาล สีใบกำชำผสมเฟอรัสซัลเฟต (สนิมเหล็ก)ให้สีเทาอ่อน สีใบกำชำผสมโคลนให้สีเทาอ่อน
และสใี บกำชำผสมนำ้ ปูนใสให้สีสม้ อฐิ
สีจากใบหูกวางให้สีเหลือง สีใบหูกวางผสมสารส้มให้สีเหลืองอ่อน สีใบหูกวางผสมน้ำข้ีเถ้า
ใหส้ ีเหลืองเข้ม สใี บหกู วางผสมเฟอรัสซัลเฟต (สนิมเหลก็ )ให้สีเขียวเข้ม สีใบหกู วางผสมโคลนให้สีเทา
และสีใบหูกวางผสมน้ำปูนในให้สีเหลือง จากนั้นนำฝ้ายที่ผ่านการย้อมสีต่างๆผ่ึงในท่ีร่มให้แห้งแล้ว
นำไปขึน้ กที่ อผา้ เพ่อื ดำเนนิ การผลติ ผา้ ทอยกดอก ตามท่ลี ูกคา้ ตอ้ งการ
การดำเนนิ งานวิจยั ในส่วนของวตั ถปุ ระสงคร์ อง สามารถสรุปผลได้ดงั น้ี
ผลการเสริมสร้างสมรรถนะนวัตกรชุมชน ในการเสริมสร้างขีดความสามารถของชุมชน
สำหรับการบริหารจัดการตนเองของชุมชนอย่างยั่งยืนบนฐานทุนทรัพยากร ผ่านกิจกรรมการประชุม
126
เชิงปฏิบัติการมีการวัดความรู้ก่อนและหลังการประชมุ พบว่าผู้เข้ารับการประชุมมีความรู้ในการเป็นน
วัตกรชุมชนเพ่ิมมากกว่าก่อนการอบรม มีสมรรถนะนักนวัตกรชุมชน ทั้งทางด้านทักษะนวัตกรรม
ชุมชน และเจตคติตอ่ นวัตกรรม ผลการประเมนิ พบวา่ ผู้เข้ารับการประชมุ มที ักษะและเจตคติของ
การเปน็ นกั นวตั กรชุมชนเพมิ่ ขน้ึ
ผลการประเมินด้านการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวันและบัญชีต้นทุนอาชีพ
นวัตกรชุมชนความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำบัญชีรายรับ
รายจ่ายประจำวัน และบัญชีต้นทุนอาชพี ผูเ้ ข้ารับการประชุมเชิงปฏิบัตกิ ารฯ มคี วามรใู้ นการเปน็ นวัต
กรชุมชนในการจัดทำบัญชรี ายรับรายจา่ ยประจำวันและบญั ชตี ้นทุนเพม่ิ ขึ้นมากกว่าก่อนการอบรม
ผลการพัฒนานวัตกรรมสีย้อมธรรมชาติและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกดอกชุมชนบ้าน
ล่องมุด จังหวดั สงขลา ปรากฎสที ่ีได้จากการย้อมจากวสั ดุเหลือใช้ และพชื ในพ้ืนถน่ิ ดงั นี้
สีจากผลหมากสดให้สีน้ำตาลอมส้ม สีผลหมากสดผสมสารส้มให้สีน้ำตาลเข้ม สีผล
หมากสดผสมโคลนให้สีเทาเข้ม สีผลหมากสดผสมเฟอรัสซัลเฟต (สนิมเหล็ก)ให้สีเทา สีผลหมากสด
ผสมน้ำข้ีเถ้าให้สนี ้ำตาลออ่ น และสีผลหมากสดผสมนำ้ ปนู ใสให้สนี ้ำตาลออ่ น
สีจากเปลือกต้นยางพาราให้สีน้ำตาลแดง สีเปลือกต้นยางพาราผสมสารส้มให้สีครีม
สีเปลือกต้นยางพาราผสมน้ำข้ีเถ้าให้สีน้ำตาลอ่อน สีเปลือกต้นยางพาราผสมเฟอรัสซัลเฟต (สนิม
เหลก็ ) ให้สีเทาเข้ม สีเปลือกตน้ ยางพาราผสมโคลนให้สีเทา และสีเปลือกต้นยางพาราผสมนำ้ ปูนใสให้
สีนำ้ ตาล
สีจากใบทังให้สีเหลือง สีใบทังผสมสารส้มให้สีขาวนวล สีใบทังผสมน้ำข้ีเถ้าให้สีเน้ือ
สใี บทังผสมเฟอรัสซลั เฟต (สนิมเหลก็ )ให้สีเทา สีใบทังผสมโคลนให้สีน้ำตาล และสใี บทังผสมนำ้ ปูนใส
ใหส้ ีนำ้ ตาล
สีจากใบกำชำให้สีน้ำตาลอ่อน สีใบกำชำผสมสารส้มให้สีเน้ืออ่อน สีใบกำชำผสมน้ำ
ขเ้ี ถ้าให้สีน้ำตาล สีใบกำชำผสมเฟอรัสซลั เฟต (สนิมเหล็ก)ให้สีเทาอ่อน สีใบกำชำผสมโคลนให้สีเทา
ออ่ น และสีใบกำชำผสมนำ้ ปูนใสใหส้ ีส้มอิฐ
สีจากใบหูกวางให้สีเหลือง สีใบหูกวางผสมสารส้มให้สีเหลืองอ่อน สีใบหูกวางผสมน้ำ
ขี้เถ้าให้สีเหลืองเข้ม สีใบหูกวางผสมเฟอรสั ซลั เฟต (สนิมเหล็ก)ให้สีเขยี วเข้ม สีใบหูกวางผสมโคลนให้
สเี ทา และสใี บหูกวางผสมน้ำปนู ในให้สเี หลือง
ท้ังน้ีได้นำเส้นฝ้ายท่ีผ่านการย้อมสีจากวัสดุเหลือใช้และวัตถุดิบจากธรรมชาติทอเป็นผ้า
ผนื และแปรรปู เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมชุมชนจำนวน 3 ช้นิ ได้แก่ เสื้อมัดย้อมจากสีธรรมชาติ กระเป๋า
ผ้าและพวงกุญแจผ้า มีผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ นักการตลาด และนักวิชาการจำนวน 6 คน
มีผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์มีความแปลก
ใหม่ น่าสนใจ ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ด้านผลิตภัณฑ์มีกระบวนการผลิตที่เหมาะสม ใน
ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ด้านคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ในการใช้งาน ในภาพรวมอยู่ในระดับ
ปานกลาง ด้านผลิตภัณฑ์ตรงกลุ่มเป้าหมาย ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ด้านตราสัญลักษณ์ มี
ความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และส่ือถึงบริบทของชุมชนเป็นอยา่ งดี ในภาพรวมอยู่ในระดบั มาก ด้าน
บรรจุภณั ฑ์มคี วามเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และสะดวกต่อการขนส่ง ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง
ด้านการนำเสนอเรื่องราวมีความน่าสนใจ และเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ด้าน
รปู แบบการขายและช่องทางการตลาดมีความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ดา้ นราคามี
ความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางและระดับน้อย ด้านความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ ใน
127
ภาพรวมอยู่ในระดบั ปานกลาง ทง้ั นไ้ี ด้ขอ้ เสนอแนะที่เปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนา ดงั น้ี
ต้องศึกษาและกำหนดกลุ่มเปา้ หมายทใี่ ช้ประโยชน์จากผลติ ภณั ฑ์นวตั กรรมชุมชน ยังไม่
มีความแตกต่างระหว่างสินค้านวัตกรรมชุมชน ด้านราคาบางผลิตภัณฑ์มีราคาสูง การแปรรูปจาก
ผ้าขาวม้าที่ยังปรากฎผลิตภัณฑ์แปรรูปจำนวนน้อย การสื่อสารแบรนด์ท่ีชัดเจน ต่อผู้บริโภค/
กระบวนการมีส่วนร่วมของการพัฒนา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำงานวิจัยเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์
และสร้างความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ โดยใช้การศึกษความต้องการของตลาดเป็นตัวชี้นำ ทั้งน้ี
ยังสามารถเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและการวิจัยร่วมอ่ืนๆภายในประเทศ เช่น
วว. วช. และ สวทช. ทำงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับทรัพยากรท่ีมี สร้างสรรค์ นวัตกรรมเพื่อเพ่ิมมูลค่าต่อ
วัตถุดบิ ในท้องถิ่น ทีต่ อบสนองต่อตลาด
ผลการออกแบบตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์เพ่ือส่งเสริมการตลาดเชิงสร้างสรรค์ ใน
รูปแบบตราสินค้าด้วยกระบวนการมสี ว่ นรว่ มภายใต้ช่ือตราสนิ ค้า “ใต้ร่มยาง” สะท้อนท่ีมาของโรงทอ
ผ้าในสวนยางพารา มีใบยางและลูกยางอยู่ในรูปลักษณ์ของตราสินคา้ อีกท้ังยงั กำหนดสีของตราสินค้า
จากสีลูกยางพาราและใบยางพาราท่ีสะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นชาวสวนยางพาราท่ีว่างเว้นจากการ
กรีดยางในภาคเกษตกรรมซ่ึงเป็นอาชีพหลักในช่วงเช้า แล้วรวมตัวกันทอผ้าเพ่ือหารายได้เสริมในช่วง
บา่ ยของแต่ละวนั หรอื ช่วงเวลาที่ฝนตกแลว้ ไม่สามารถกรีดยางได้ การปฏิบัติงานในหนา้ ท่ีช่างทอผ้า
จึงเกดิ ขึ้นภายในโรงทอท่อี าศัยรม่ ยางพาราในพ้ืนทไ่ี ม่ถงึ 1 ไร่
ผลการถา่ ยทอดนวัตกรรมสีย้อมธรรมชาติและพัฒนาผลติ ภณั ฑผ์ า้ ทอยกดอกชุมชน
บ้าน ลอ่ งมดุ จังหวัดสงขลา ด้วยแบบสอบถามความคิดเห็น ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการ
ถา่ ยทอดความร้ขู องนวัตกร ในภาพรวมอยูใ่ นระดบั มาก ดา้ นการปฏิบัติ ในภาพรวมอยูใ่ นระดบั มาก
ท่สี ดุ ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ ในภาพรวมอยใู่ นระดบั มาก ด้านการบรหิ ารโครงการ ในภาพรวมอยู่
ในระดบั มาก และมขี อ้ คิดเหน็ ทเี่ ปน็ ประโยชนต์ ่อการถ่ายทอด คอื ไดน้ ำขยะมาใชป้ ระโยชน์ เพอื่ เพ่ิม
มลู คา่ เหน็ ถงึ ประโยชน์ของวัสดธุ รรมชาตริ อบๆตวั เห็นถงึ ประโยชนข์ องธรรมชาติ เกดิ ความสามัคคี
ในกลุ่ม ขอ้ บกพร่องมีดังตอ่ ไปนี้ ใช้เวลานาน เครอื่ งมอื ยงั ไม่พร้อม และมีขอ้ เสนอแนะในการถ่าย
ทอดนวัตกรรมสยี อ้ มธรรมชาตขิ องนวัตกร คืออยากให้เพิ่มเตมิ ในสว่ นของความรู้ใหม้ ากกวา่ นี้
ผลการจัดระดับนวัตกร ระดับนวัตกร จำนวน 2 คน ที่เข้าโครงการวจิ ัยการสร้างสรรค์
สีย้อมธรรมชาติและผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา โดยภาพรวมนวัตกร อยู่ใน
ระดับมากที่สุด แนวัตกรคนที่ 1 มีระดับอยู่ในระดับมาก นวัตกรคนท่ี 2 อยู่ในระดับมากท่ีสุด
หมายความว่า นวตั กรทั้ง 2 คน เป็นผู้นำการเปล่ียนแปลงในชุมชนท่ีสามารถนำความรู้ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี มาใช้เป็นเคร่ืองมือในการสร้างสรรค์และออกแบบเพ่ือแก้ไขปัญหาในชุมชน สร้าง
ระบบความคดิ และพื้นท่กี ารเรียนรู้ในชมุ ชน ส่วนประเดน็ ท่ียังไมส่ ามารถได้ดำเนนิ การได้ก็คือ ประเด็น
ที่ 5. การจัดทำแผนเข้าสู่ภาครัฐ ได้คะแนนการประเมินอยู่ในระดับ 1 คะแนนทุกคน สร้างมูลค่า
เศรษฐกิจฐานราก และมูลค่าสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้นร้อยละ5 หรือยกระดบั รายได้และคุณภาพ
ชวี ติ
ผลการสร้าง Platform นวัตกรชาวบ้าน การสร้าง Learning Platform เป็นการนำ
แนวคิดการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการพัฒนาและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ในชุมชน โดยใช้ทุน
ทรัพยากรในพื้นที่ ได้มีการกำหนด แผนการดำเนินงานดังนี้ ค้นหาโจทย์และความต้องการในชุมชน
ใช้องค์ความรู้/เทคโนโลยีเพ่ือพัฒนา ทำการยกระดับและเพ่ิมมูลค่า สร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
มีการถา่ ยทอดเทคโนโลยี
128
ผลการสรา้ งการมสี ่วนร่วมของประชาชนในการนำนวตั กรรมสยี อ้ มธรรมชาติและ
พฒั นาผลิตภัณฑ์ผา้ ทอยกดอกชมุ ชนบา้ นลอ่ งมดุ จังหวัดสงขลาไปสู่แผนพฒั นาตำบล/อำเภอ/
จังหวัด บรรจลุ งในแผนพฒั นาทอ้ งถ่นิ (พ.ศ.2561 - 2565) ของเทศบาลตำบลลำไพลในยุทธศาสตร์
การพัฒนาของเทศบาลตำบลลำไพล : ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ : แผนงาน สร้าง
ความเข้มแข็งชุมชน ภายใต้แผนงานท่ีมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ตามบัญชีท้าย
พรก.เงินกู้เพ่ือแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
การระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563 ผ่านทางจังหวัดสงขลาในการย่ืนเสนอขอ
งบประมาณดังกล่าว มีกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนจากงานวิจัย มีการบูรณาการ
ร่วมระหว่างหน่วยงานในพื้นท่ีผ่านรปู แบบพันธกิจท่ีเป็นหน้าที่ของหน่วยงานน้ันๆ เพื่อวัตถุประสงค์ท่ี
แตกต่างกัน เช่นการส่งอเสริมการยกระดับสินค้าและของที่ระลึกจากผ้าทอ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้า
ทอใยกล้วยย้อมสีธรรมชาติ การพัฒนากลไกการดำเนินงานของกลุ่มใหเ้ ข้มแข็งข้ึน และการพัฒนาอัต
ลักษณล์ ายผ้าบนฐานวถิ ีวัฒนธรรมทอ้ งถิน่
ผลการศึกษาการเปล่ียนแปลงด้านรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และคณุ ภาพชวี ิต ของ
ชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมีรายได้เพ่ิมขึ้นจาก
เดิม ผลิตจากการส่ังทำ และประกอบกับกลุ่มได้มีผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากงานวิจัยมีการนำเส้นด้ายย้อมสี
ธรรมชาติมาเป็นเส้นยืนในการทอ ทำให้เกิดความสวยงานเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้บริโภคท่ีความ
สนใจในผ้าสีย้อมธรรมชาติ ข้อมูลด้านรายได้ของกลุ่มเพิ่มขึ้นคิดเป็น ร้อยละ 31.81 เพียงแค่
ระยะเวลา 11 เดือน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เส้นด้ายท่ีมาจากการย้อมสีธรรมชาติได้รับการส่ังซื้อสินค้า
ในจำนวนที่เพ่ิมข้ึนจะเห็นได้จากสินค้าที่สั่งจากหน่วยงานในจังหวัดและกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ทาง
กลุ่มได้มีการทำประชาสัมพันธ์ เรื่องเส้นด้ายที่เกิดจากการย้อมสีธรรมชาติด้วยวัสดุในพื้นถิ่นผ่านทาง
ส่ือออนไลน์ จัดตั้งหน้าร้านออนไลน์ทางเฟสบุ๊ค ชื่อว่า กลุ่มทอผ้าบ้านล่องมุด และการออกสินค้า
จำหน่ายตามงานต่างๆ เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจฐานรากและคุณภาพชีวิตของชุมชน
บ้านล่องมุด พบว่าหลังเข้าร่วมโครงการมีระดับความสุขอยู่ในระดับมาก ท่ีโดดเด่นและเห็นได้ชัดเจน
ความสุขที่เป็นมาตรฐานในการดำรงชีวิต ท่ีมีอยู่ด้วยก็สามารถดำเนินชีวิตด้วยความอยู่รอดด้วยปัจจัย
4 ด้านสุขรูปท่ีดีและมีความสุขท้ังร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ไม่โกรธ ร่าเริงแจ่มใส่ และไม่
หงุดหงิดวิตกกังวลง่าย การศึกษา พบว่าการได้รับโอกาสและส่งเสริมความรู้ เพื่อประกอบอาชีพ
ดำเนินกิจกรรมร่วมกับชุมชน สังคม ความหลากหลายทางระบบนิเวศ และความยืดหยุ่นในการ
ปรับตัว พบว่า ชุมชนมีการสร้างจิตสำนึก หวงแหน รักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น ด้าน
ความเข้มแข็งและความหลากหลายทางวัฒนธรรม พบว่าชุมชนอบรมบุตรหลานให้มีวิถีชีวิตแบบไทย
เห็นความสำคัญของการดำรงชีวิตแบบไทยมากขึ้น การใช้เวลาและสร้างสมดุลเพ่ือปรับตัวให้ใช้ชีวิต
อยใู่ นสังคมได้อย่างปกติสุข และดา้ นธรรมาภิบาลไดร้ บั ความเป็นธรรม เม่ือตดิ ต่อกับหนว่ ยงานของรัฐ
ในชุมชนมากขึ้น ด้วยความเป็นเครือข่ายรูปแบบชุมชนกับหน่วยงานต่างๆมากขึ้น และด้านความ
เข้มแข็งชุมชน มีกิจกรรมสร้างความมั่นคงเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ืองเพราะได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์
และด้านความเป็นอยู่ในเชิงจิตวิทยา จะพบว่าสามารถปฏิบัติบัติตนยึดม่ันในหลักพ่ึงพาตนเอง
เกื้อหนุนจุนเจือกนั
129
อภิปรายผล
จากการวิจัยมคี วามม่งุ หมายหลกั เพ่ือการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาตแิ ละการพฒั นาผลิตภณั ฑ์
ผ้าทอยกดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา ผู้วิจัยนำเสนอผลตามวัตถุประสงค์ ซ่ึงได้นำเอา
กระบวนการย้อมสีจากวัสดุธรรมชาติในพ้ืนถิ่น มาช่วยเป็นสารตั้งต้นในการให้สีสำหรับย้อมพบว่าใน
พื้นที่บ้านล่องมุดซ่ึงเป็นพ้ืนที่ชุมชนนวัตกรรม มีพืชท่ีให้สีหลากหลายชนิดด้วยกัน แต่ทางนวัตกร
ชุมชนคัดเลือกเอาพืชท่ีไม่ได้ใช้ประโยชน์มากนักแต่มีปริมาณเพียงพอต่อการนำมาสกัดสีย้อม และ
วัสดุเหลือใช้ในพื้นถ่ิน ได้แก่ ผลหมากสด เปลือกต้นยางพารา ใบทัง ใบกำชำ ใบหูกวาง ที่สกัดสี
จากวัตถุดิบตั้งต้นน้ันมีสีแตกต่างกันออกไป และเม่ือนำไปผสมกับสารช่วยติดสีไม่ว่าจะเป็นสารส้ม
ข้เี ถ้า สนิมเหล็ก โคลน และน้ำปูนก็จะได้สที ี่เหมอื นและต่างออกจากสีวัตถุดิบเดิม ซึ่งช่วยสร้างตัวตน
ของชุมชนผ่านผลิตภัณฑ์สีย้อมได้ สอดคล้องกับงานวิจัยของ ไพศาล คงคาฉุยฉาย และคณะ (2543 :
บทคัดย่อ) ที่พัฒนาเทคนิคการย้อมไหมด้วยสีธรรมชาติจากครามและคร่ัง งานวิจัยของน่ิมนวล
จันทรุญ (2560 : บทคัดย่อ) คราม: สีย้อมธรรมชาติ จุรีรัตน์ บัวแก้ว และคณะ (2553 : บทคัดย่อ)
โครงการย้อมสีธรรมชาติกับวัตถุดิบท่ีใช้ทำผ้าจวนตานีโครงการวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาชนิด
วัสดุให้สีจากธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถ่ินเพื่อใช้ประโยชน์ในการย้อมเส้นฝ้าย ศึกษาเทคนิคและวิธีย้อม
เส้นด้ายเพ่ือเป็นวัตถุดิบสำหรับทำผ้าจวนตานีย้อมสีรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น สำหรับวิธีการวิจัยใช้
การทดลองสกัดสีจากพืชท่ีมีอยู่ในท้องถ่ิน จำนวน 12 ชนิด และทดลองย้อมเส้นด้ายฝ้าย งานพระ
สมคิดจารณรมโม และคณะ (2545 : บทคัดย่อ) กระบวนการพัฒนาผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ กลุ่มสตรี
ผ้าย้อมสีธรรมชาติบ้านโปงคำ ตำบลดู่พงษ์ อำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน งานวิจัยของสิริพรรณ เพชร
ประกอบ (2556) ได้ทำการย้อมสีธรรมชาติจากดินลูกรัง และงานวิจัยข งอนงคพรรณ และคณะ
(2555) การย้อมสีเขียวจากเปลือกต้นเพกาล้วนมีกระบวนการสกัดสีสำหรับย้อมเส้นฝ้ายและผ้าที่
เหมือนกับงานวิจัยการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอดอกของชุมชนบ้าน
ลอ่ งมดุ จงั หวดั สงขลา
การเสริมสร้างสมรรถนะนวัตกรชุมชน ในการเสริมสร้างขีดความสามารถของชุมชนใน
การบริหารจัดการตนเองอย่างย่ังยืน บนฐานทุนทรัพยากร ด้วยรูปแบบการอบรมเชิงปฏิบัติการการ
ทำบัญชีครัวเรือน และการบริหารจัดการกลุ่มให้อยู่รอดท่ีมีสมรรถนะของนวัตกรท่ีเพิ่มข้ึนในขณะที่
ร่วมกจิ กรรมของการวจิ ยั
การสร้างการมีส่วนรว่ มของประชาชนในการนำนวัตกรรมการสรา้ งสรรคส์ ีย้อมธรรมชาติ
และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอดอกของชุมชนบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลาไปสู่แผนพัฒนาตำบล/
อำเภอ/จังหวัด ผ่านการประชาคมและแสดงจุดยืนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของท้องถ่ินไปสู่การสร้าง
รายไดอ้ ย่างต่อเน่ืองในชมุ ชน ด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานระดบั ทอ้ งถน่ิ
การศึกษาการเปลี่ยนแปลงด้านรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพชีวิต ของชุมชน
บา้ นล่องมุด จังหวดั สงขลา จากการศึกษาการเปลย่ี นแปลง รายได้ของกล่มุ ทอผา้ บ้านลอ่ งมุดมีเพ่ิมข้ึน
และลดรายจ่ายในการซื้อใยสังเคราะห์ท่ีมีความสะดวกสบายในกระบวนการจัดหา แต่ไม่มี
ลักษณะเฉพาะจากกลุ่ม อีกทั้งผสมสีจากสีสังเคราะห์ซ่ึงถ้าผู้สวมใส่เสื้อผ้าจากกลุ่มทอผ้าบ้านล่องมุด
จากการทอด้วยใยสังเคราะห์มีอาการแพ้สีเคมีอาจจะมีผลต่อสุขรูป และเกิดผลเสียต่อการจำหน่าย
ด้านเศรษฐกิจฐานรากและคุณภาพชีวิตมีความเปล่ียนแปลงในทางท่ีดีขึ้น เกิดความสามัคคีและเห็น
ประโยชนจ์ ากการร่วมดำเนนิ นวัตกรรมจากงานวิจยั
130
ข้อเสนอแนะ
นวัตกรรมระดับชุมชนด้านการย้อมสีธรรมชาติจากวัสดุในท้องถิ่น ควรเป็นวัสดุตั้งต้น หาได้
ง่ายตามฤดูกาลในแต่ละภูมิภาค หากมีโอกาสในการดำเนินกิจกรรมย้อมสีจากวัสดุพื้นถ่นิ อีกเสนอให้
จัดการย้อมด้วยวัตถุดิบเป็นของเหลือใช้ตามฤดูกาล โดยเฉพาะผลไม้พ้ืนถิ่น เช่น เปลือกทุเรียน
เปลือกมังคุด เปลือกเงาะ นอกจากน้ีในการเพ่ิมมูลค่าเส้นใยจากสีย้อมธรรมชาติเป็นผลิตภัณฑ์
น่าจะอาศัยผลการวิจัยที่ศึกษาความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละช่วงวัย เพื่อสนองตอบต่อความต้องการ
ไดต้ รงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ผลงานมคี ุณคา่ และสรา้ งมูลคา่ เพ่มิ ได้
131
บรรณานุกรม
กรรณิกา ชมด.ี (2544). การมสี ่วนรว่ มของประชาชนท่ีมผี ลต่อการพฒั นาเศรษฐกจิ : ศึกษาเฉพาะ
กรณโี ครงการสารภี ตำบลท่าช้าง อำเภอวารินชำราบ จังหวดั อุบลราชธานี. วิทยานพิ นธ์
ศิลปศาสตรมหาบณั ฑติ . กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์.
เกษหทัย สิงหอินทร์. (2555). การพัฒนาผลติ ภัณฑ์ผ้าทอพื้นบ้านภาคใต้เพื่อเคหะสิ่งทอ : กรณีศึกษา
ผ้าทอนาหม่ืนศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง. วารสารวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . 11, 114-130.
จุรีรัตน์ บัวแก้ว และคณะ. (2553). ผ้ากับวิถีชีวิตชาวไทยมุสลิม ในห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ
ประเทศไทย. ปัตตานี: มหาวิทยาลยั สงขลานครคินทร.์
ชาย โพธิสิตา. (2548). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ;สถาบันวิจัยประชากรและสังคม;
พมิ พ์ครัง้ ที่ 3. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั มหิดล.
ณัฐพล ขันธไชย. (2549). ปัจจัยท่ีมีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในงานสาธารณะสุขมูลฐาน.
วารสารเกษมบณั ฑติ . 6(69), 31-21.
ทวีทอง หงส์วิวฒั น.์ (2527). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนา. กรงุ เทพ: มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล.
นิม่ นวล จนั ทรุญ. (2563). โครงการการพัฒนาระบบฐานข้อมลู ผ้าทอจังหวัดมหาสารคาม
และแพลตฟอร์มดิจิทัลเพ่ือส่งเสริมการตลาดในรูปแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Online).
http://www.web.msu.ac.th/ssystem/msunews/fileup/20201007040529.pdf.
เข้าถึงเมื่อ 23 มิถุนายน 2563.
บัญชร แก้วส่อง. (2531). รูปแบบทางสังคม-จิตวิทยาสำหรับการอธิบายการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนในกระบวนการพัฒนา. ปริญญานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหาร
การศึกษา. บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ.
ประสิทธิ์ ลีระพันธ์. (2544). ปรับฐานการวิจัย แนวคิดและกระบวนการปฏิบัติการ (Online).
http://203.157.168.42/bspp/uploads/download/20170809014418528.pdf.
เขา้ ถงึ เมอ่ื 23 มิถุนายน 2563.
พระปลัดสุระ ญาณธโร (จันทึก) และอรพิน ปิยะสกุลเกียรติ. (2561) บทบาทของสภาองค์กรชุมชน
ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในพ้ืนท่ีจังหวัดสุรินทร์. เอกสารรายงานการวิจัย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยา
เขตสุรินทร์.
พระสมคิดจารณมโม และคณะ. (2545). กระบวนการพฒั นาผา้ ฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ กลุ่มสตรีทอผ้า
ย้อมสีธรรมชาติบา้ นโปง่ คำ อำเภอสนั ตสิ ุข จังหวัดนา่ น. เอกสารรายงานการวจิ ัย
สำนักงานคณะกรรมการสง่ เสริมวิทยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม.
พันธ์ทิพย์ รามสูตร. (2540). การวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม.กรุงเทพ: สถาบันพัฒนากร
สาธารณสุขอาเซียน มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล.
ไพศาล คงคาฉยุ ฉาย, อรุณศิริ ชิตางกูร และ เฉลียว หมัดอิว๊ . (2543). การพัฒนาเทคนิคการย้อมไหม
ด้ ว ย สี ธ ร ร ม ช า ติ จ า ก ค ร า ม แ ล ะ ค ร่ัง . ก รุงเท พ ฯ : ภ าค วิ ช าวิ ศ ว ก รร ม เค มี
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.
132
รุทร์ กล่อมชุ่ม และสุนทร โครตบรรเทา. (2527). รายงานการวิจัยเร่ือง ปัจจัยที่กระตุ้นให้
ประชาชนเข้าร่วมโครงการพัฒนาชุมชนในเขตชนบทยากจน: ศึกษาเฉพาะกรณีหมู่บ้าน
พัฒนาดีเด่นของจังหวัดอุตรดิตถ์. พิษณุโลก: ฝ่ายกิจการพลเรือน กองอำนวยการรักษา
ความมน่ั คงภายใน ภาค 3 จงั หวัดพิษณโุ ลก.
วรณ์ ดอนชัย. (2548). องค์ความร้เู รื่องการย้อมสธี รรมชาติ. เชียงใหม่: มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่.
วิษณุ หยกจินดา. (2557). การมสี ว่ นร่วมของประชาชนในการพฒั นาชมุ ชนหมบู่ า้ นทุ่งกร่าง ตำบล
ทับไทร อำเภอโปง่ นำ้ ร้อน. จันทรบรุ ี: มหาวทิ ยาลัยบูรพา.
สนธยา พลศร.ี (2533). ทฤษฎแี ละหลกั การพฒั นาชุมชน. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
สายัญ พันธส์ มบรู ณ์ และคณะ. (2554). การพัฒนากระบวนการย้อมสีธรรมชาตเิ พื่อยกระดับคณุ ค่า
ของผ้าทอบา้ นโพนแพง ตำบลดินจี่ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสนิ ธุ์. เอกสารรายงานการ
วิจยั สำนักงานณะกรรมการสง่ เสริมวิทยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม
สิริพรรณ เพชรประกอบ. (2556). รายงานวิจัยการย้อมสีเส้นด้ายฝ้ายด้วยสีย้อมธรรมชาติจากดิน
ลกู รงั . สงขลา: วิทยาลัยชมุ ชนสงขลา.
สิรสิ นิ ชุมรมุ . (2554). การศึกษาประสิทธภิ าพในการยอ้ มของผงสีสกัดจากผลติ ภัณฑ์จากเมล็ด
มะขามบนผา้ ไหมและผ้าฝ้าย.กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สุภางค์ จันทวานชิ . (2542). การวิเคราะห์ขอ้ มูลในการวจิ ัยเชงิ คุณภาพ. กรุงเทพ: โรงพิมพ์
จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั .
สุภาพร วีระปรียากูล. (2551). รูปแบบการทำผ้าย้อมโคลนท่ีส่งผลต่อความเข้มแข็งของชุมชน
ท้องถ่ินและการพ่ึงตนตนเอง : กรณีศึกษาผ้าย้อมโคลนและย้อมสีธรรมชาติ อำเภอหนองบัว
จังหวดั ชยั ภูม.ิ เอกสารอัดสำเนา.สงขลา: มหาวทิ ยาลัยทกั ษิณ.
อนงคพรรณ หัตถมาศ และสุวภางค ศรีเทพ. (2555). รายงานวิจัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฝ้าย
ยอ้ มสมี ะขามหวาน. เพชรบรู ณ์: มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์.
อภญิ ญา จงพฒั นากรและคณะ. (2562). ภูมิปญั ญาการย้อมสีดา้ ยดว้ ยวสั ดุธรรมชาติ อำเภอบ้านไร่
จังหวดั อทุ ัยธานี. อุทยั ทาน:ี วทิ ยาลยั ชุมชนอุท้ยธานี.
133
ภาคผนวก
134
ภาพกจิ กรรมอบรมนวัตกรชุมชน
135
ภาพกิจกรรมอบรมบญั ชคี รวั เรอื น
136
ภาพกิจกรรมการพัฒนานวัตกรรมการสร้างสรรค์สยี อ้ มธรรมชาติ
137
ผลงานจากการสรา้ งสรรคส์ ยี ้อมธรรมชาติ
138
ผลงานจากการสรา้ งสรรคส์ ยี ้อมธรรมชาติ
.
139
กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่ไี ดจ้ ากการสรา้ งสรรคส์ ยี อ้ มธรรมชาติ
140
ผลิตภัณฑ์ท่ไี ด้รบั การพฒั นา
141
กิจกรรมออกแบบตราสนิ คา้ และพฒั นาบรรจุภณั ฑ์
142
กิจกรรมเวทปี ระชาคม
143
กจิ กรรมถา่ ยทอดนวตั กรรม
144
กจิ กรรมทดสอบตลาดและนำเสนอผลงาน
145
กิจกรรมสมั ภาษณ์นวัตกรเพอ่ื ยกระดับคุณภาพชวี ิตท่ดี ีข้ึนในชมุ ชน
146
แบบสรปุ ปดิ โครงการ
โครงการ/ชดุ โครงการ:การสรา้ งสรรคส์ ยี อ้ มธรรมชาติ และพัฒนาผลติ ภณั ฑผ์ า้ ทอยกดอกชมุ ชนบ้านลอ่ งมุดจังหวดั สงขลา
หวั หน้าโครงการ นางสาวศุภมาส อยอู่ รยิ ะ
โทรศัพท์ 081-8976990 อีเมล [email protected] งบประมาณ 210,000 บาท ระยะเวลาดำเนนิ การ 1 ปี
แพลตฟอรม์ ตามยุทธศาสตร์ ววน.: 4.การวจิ ัยและสรา้ งนวตั กรรมเพ่ือการพฒั นาเชิงพนื้ ทแ่ี ละลดความเหล่อื มลำ้
โปรแกรมตามยทุ ธศาสตร์ ววน.: P13 นวัตกรรมสำหรับเศรษฐกจิ ฐานรากและชุมชนนวตั กรรม
แผนงานหลกั : ................................................................................................................................................................................
แผนงานย่อย: ................................................................................................................................................................................
พื้นที่ทำวิจัย: อำเภอเทพา จงั หวดั สงขลา
พื้นทก่ี ารใชป้ ระโยชน:์ กลมุ่ ทอผา้ ชมุ ชนบ้านลอ่ งมดุ ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จงั หวัดสงขลา
บทสรปุ ผบู้ ริหารโดยย่อ
การวิจัยการพัฒนานวัตกรรมชุมชนเพ่ือยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าชุมชน และเศรษฐกิจฐานราก บนฐานทุนทรัพยากร ในพ้ืนที่
จังหวัดสงขลามีวัตถุประสงค์ เพ่ือเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้กระบวนการวิจัยแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action
Research , PAR) โดยกล่มุ ทอผา้ บา้ นล่องมดุ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เขา้ มามีส่วนรว่ มทกุ ขั้นตอนในการดำเนนิ งาน โดยมี
วัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนานวัตกรรมชุมชนที่เสริมสร้างขีดความสามารถของชุมชนในการเรียนรู้และใช้นวัตกรรมชุมชน ยกระดับ
ผลติ ภณั ฑ์ผ้าชมุ ชน และเศรษฐกจิ ฐานราก บนฐานทุนทรัพยากร มขี น้ั ตอนในการดำเนนิ งาน ดงั น้ี
ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาบริบทและศักยภาพของผ้าชุมชน โดยการสัมภาษณ์กลุ่มย่อย (focus group) เพ่ือรวบรวมข้อมูลและ
สรุปวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน เพ่ือนำไปสู่การสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและ ความต้องการด้านการออกแบบและพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ผา้ ชมุ ชน ข้อมูลรายไดแ้ ละอาชพี ชมุ ชน และศึกษาทศิ ทางการตลาด แนวทางการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์
ขั้นตอนที่ 2 วิเคราะห์นวัตกรรม ออกแบบ และพัฒนาการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติและการออแบบผลิตภัณฑ์ผ้าทอยกด
อก เพื่อสรุปวิเคราะห์นวตั กรรม การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบผ้าชมุ ชน เน้นด้านประโยชน์ใช้สอย และกำหนด
รูปแบบผลิตภัณฑ์ ประเมินความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากผ้าชุมชน โดยผู้เช่ียวชาญด้านการออกแบบ ผู้บริโภค
และผู้มสี ่วนเกยี่ วข้อง
ขั้นตอนที่ 3 การจัดทำผลิตภัณฑ์และจำหน่ายผ้าชุมชน ตามรูปแบบที่กำหนดและกำหนดขั้นตอนออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้า
ตน้ แบบ ทดลองการตลาด ประเมนิ รายได้และสรปุ และถอดบทเรียนองค์ความรเู้ พอ่ื พัฒนาเป็นชุมชนปฏิบัตกิ ารเรยี นรู้
ผลทีค่ าดวา่ จะได้รบั
6. มีชุมชนนวตั กรรม ได้แก่ ชมุ ชนบา้ นลอ่ งมดุ หมู่ 8 ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
7. มนี วตั กรรรมชุมชน ได้แก่ การพัฒนาสีย้อมธรรมชาตแิ ละพัฒนาผลติ ภัณฑ์ผ้าทอยกดอกชมุ ชน
8. มีนกั วจิ ยั /นวตั กรชาวบ้านตามนวตั กรรมชุมชน
9. สามารถยกระดับรายได้และคณุ ภาพชีวติ ชุมชน
10. สามารถสร้างมูลค่าของผลติ ภณั ฑช์ ุมชนเพ่มิ ข้ึนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 10
จากผลการดำเนินงานช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือชุมชนน้องใหม่ในแวดวงพัสตราภรณ์ของบ้านล่องมุด อำเภอ
เทพา จังหวัดสงขลา ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากบนฐานทุนทรัพยากร รังสรรสีย้อมจากธรรมชาติจากพืชพื้นถ่ินให้ผืนผ้ามีสีสัน
งดงาม ผู้สวมใส่ปลอดภัยจากสารเคมีกลับสู่วิถีชีวิตของบรรพบุรุษของไทย อีกท้ังนำของดรี ะดับชุมชนสตู่ ลาดเพ่ือเพ่ิมช่องทาง
ในการจัดจำหน่าย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ถึงแม้ฝีมือการทอผา้ ยังเทียบกับชุมชนอื่นๆที่มีชื่อเสียงไม่ได้ แต่ในอนาคตทักษะ
การทอ เทคนคิ การกระทบก่ี และทกั ษะอ่นื ๆจะสรา้ งความชำนาญให้เกดิ ขึ้นกบั สมาชิกกลุม่ ได้แนน่ อน
วัตถุประสงค์ของโครงการวัตถุประสงค์หลัก เพ่ือสร้างสรรคส์ ีย้อมธรรมชาติและพฒั นาผลติ ภัณฑ์ผ้าทอยกดอกชมุ ชนบ้านล่อง
มดุ จงั หวัดสงขลา
วตั ถุประสงค์รอง ดงั น้ี
1. เพ่ือการเสริมสร้างสมรรถนะนวัตกรชุมชน ในการเสริมสร้างขีดความสามารถของชุมชนในการบริหารจัดการตนเองอย่าง
147
ยั่งยืน บนฐานทนุ ทรพั ยากร
2. เพ่ือการพฒั นานวัตกรรมสยี อ้ มธรรมชาติและพัฒนาผลติ ภณั ฑผ์ ้าทอยกดอกชุมชนบา้ นลอ่ งมดุ จงั หวดั สงขลา
3. เพอ่ื การถ่ายทอดนวัตกรรมสยี อ้ มธรรมชาติและพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ผ้าทอยกดอกชมุ ชนบ้านลอ่ งมดุ จังหวดั สงขลา
4. เพื่อการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการนำนวตั กรรมสีย้อมธรรมชาติและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผา้ ทอยกดอกชุมชนบ้าน
ล่องมุดจงั หวัดสงขลาไปส่แู ผนพฒั นาตำบล/อำเภอ/จงั หวัด
5. เพือ่ การศึกษาการเปล่ียนแปลงดา้ นรายได้ เศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพชีวิต ของชมุ ชนบ้านล่องมดุ จังหวัดสงขลา
ผลผลิตทีเ่ กดิ ขนึ้ จรงิ (output):
1. ข้อมูลเก่ยี วกับความตอ้ งการของชุมชน
2. ขอ้ มูลเกี่ยวกบั บรบิ ทและศักยภาพของชมุ ชน
3. กระบวนการเรยี นรรู้ ่วมกันใน การสร้างสรรค์สยี อ้ มธรรมชาติและการพฒั นาผลติ ภัณฑผ์ ้า ทอยกดอก
4. ช่องทางการตลาดเพ่ือขยาย ผลผลติ ภณั ฑผ์ ้าทอบ้านลอ่ งมดุ
5. การเพิม่ มลู คา่ ผลติ ภัณฑผ์ ้าทอ ชมุ ชนบ้านล่องมดุ
6. ผลิตภัณฑผ์ ้าทอท่ีหลากหลาย
ผลลพั ธ์ท่เี กดิ ข้ึนจรงิ (outcome):
1.ไดค้ วามต้องการของชุมชนท่จี ะนำไปสู่นวตั กรรมการสรา้ งสรรค์สยี อ้ มธรรมชาตแิ ละผลิตภัณฑผ์ า้ ทอยกดอก.
2.ไดน้ วตั กรรมของชมุ ชนในการสรา้ งสรรคส์ ีย้อม ธรรมชาตแิ ละการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ผ้าทอยกดอก
3.รายได้ท่เี พ่ิมขึน้ ของกล่มุ ทอผา้
ผลกระทบที่เกดิ ขึ้นจริง (impact): (ตอ้ งระบุ)
• ผลกระทบทางเศรษฐกิจ (ROI)
ทำให้ชุมชนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนานวัตกรรมเร่ืองการสร้างสรรค์สีย้อมธรรมชาติ รายได้จากการจำหน่าย
ผลติ ภัณฑ์ของกลมุ่ มีรายได้เพ่ิมขึ้นจากเดิม โดยผลจากการวิจยั ทำใหท้ างกลมุ่ ไดม้ ีผลติ ภัณฑ์ที่นำเส้นดา้ ยยอ้ มสีธรรมชาตมิ าเป็น
เส้นยืนในการทอ ทำให้เกิดความสวยงานเป็นท่ีต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ความสนใจในผ้าสีย้อมธรรมชาติ ข้อมูลด้านรายได้
ของกลุ่มเพิ่มขึ้นคดิ เป็น รอ้ ยละ 31.81 เพียงแค่ระยะเวลา 11 เดือน โดยเฉพาะผลติ ภัณฑ์เส้นดา้ ยที่มาจากการย้อมสีธรรมชาติ
ได้รบั การส่งั ซอื้ สนิ คา้ ในจำนวนท่ีเพมิ่ ขน้ึ จะเหน็ ไดจ้ ากสินค้าทส่ี ่ังจากหน่วยงานในจังหวดั และกลมุ่ ลูกค้าต่างจงั หวัด ทางกลุ่มได้มี
การทำประชาสัมพันธ์เรือ่ งเสน้ ด้ายที่เกดิ จากการย้อมสีธรรมชาติด้วยวัสดุในพ้นื ถิ่นผา่ นทางส่ือออนไลน์ จดั ต้ังหน้าร้านออนไลน์
ทางเฟสบคุ๊ ชื่อว่า กลุ่มทอผา้ บา้ นล่องมุด และการออกสินค้าจำหน่ายตามงานตา่ งๆ เปน็ ต้น
• ผลกระทบทางสงั คม (SROI)
ทำให้ชุมชนไดร้ ับการพฒั นาทัง้ ในเรือ่ งของนวัตกรรมทสี่ ามารถสร้างขึ้นเองและพัฒนาตัวบคุ คล รวมถึงการถ่ายทอด
และขยายผลไปยงั กลมุ่ อ่ืนๆ และยงั เป็นแหล่งเรยี นรใู้ นพืน้ ทใี่ หก้ ับคนในชุมชน และไดผ้ ลติ ภณั ฑท์ ่มี มี ลู คา่ เพิ่มข้นึ จากเดิม
• จำนวนผไู้ ด้รับผลกระทบ
สมาชกิ กลมุ่ ทอผา้ บ้านลอ่ งมุด
การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
ด้านนโยบาย วิทยาลัยชุมชนสงขลา และหนว่ ยงานในพื้นท่ีอำเภอเทพา เทศบาลตำบลลำไพล พฒั นาชุมชนอำเภอเทพา ไดม้ ี
การบรรจุในแผนพฒั นาเพ่ือสง่ เสรมิ และพัฒนากลุ่มทอผา้ บา้ นล่องมดุ โดยการสนับสนุนงบประมาณกลุ่มทอผ้าบ้านล่องมดุ ใน
การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ และเปน็ สนิ คา้ ประจำตำบลลำไพล รวมถึงการสนบั สนนุ เรอ่ื งการประชาสมั พันธใ์ หเ้ ปน็ ทร่ี ู้จกั มากขึน้
ดา้ นสังคม ชมุ ชนบ้านลอ่ งมุด ตำบลลำไพล ได้นำไปใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานวิจยั เปน็ พนื้ ทแี่ หลง่ เรียนรู้สำหรบั ชุมชน
อ่นื ๆ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑท์ ่ไี ดม้ ลู คา่ เพิ่มจากการพฒั นานวัตกรรม และสง่ เสรมิ ใหบ้ ุคลากรในกลุ่มไดม้ กี ารเรยี นร้แู ละ
พัฒนาองคค์ วามรู้ เพือ่ ไปถา่ ยทอดไปยงั สมาชกิ ในชุมชนและนอกชุมชน
พนื้ ที่ท่ีนำไปใชป้ ระโยชน์ พนื้ ทช่ี ุมชนบ้านล่องมดุ ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวดั สงขลา (กลมุ่ ทอผา้ บ้านลอ่ งมดุ )
ดา้ นเศรษฐกิจ สมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านล่องมุด มีรายไดเ้ พ่ิมขนึ้ ข้อมลู ด้านรายได้ของกลุ่มเพิ่มขึ้นคดิ เปน็ ร้อยละ 31.81 เพียงแค่
ระยะเวลา 11 เดือน โดยเฉพาะผลติ ภัณฑเ์ สน้ ดา้ ยท่ีมาจากการย้อมสธี รรมชาติไดร้ บั การสง่ั ซ้ือสินค้าในจำนวนทเ่ี พ่ิมขน้ึ จะเหน็ ได้
จากสนิ คา้ ท่สี ั่งจากหน่วยงานในจงั หวัดและกลมุ่ ลูกค้าตา่ งจงั หวัด ทางกลุ่มได้มกี ารทำประชาสัมพนั ธเ์ รือ่ งเส้นด้ายทเ่ี กิดจากการ
148
ยอ้ มสธี รรมชาติด้วยวสั ดใุ นพืน้ ถิ่นผ่านทางส่อื ออนไลน์ จดั ตง้ั หน้ารา้ นออนไลนท์ างเฟสบุ๊ค ชอื่ ว่า กลมุ่ ทอผา้ บ้านล่องมุด และการ
ออกสนิ ค้าจำหนา่ ยตามงานต่างๆ เป็นตน้
พ้ืนทีท่ นี่ ำไปใชป้ ระโยชน์ พ้ืนท่ชี ุมชนบ้านล่องมดุ ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวดั สงขลา (กลุ่มทอผา้ บา้ นลอ่ งมดุ )
ด้านวชิ าการ วทิ ยาลยั ชุมชนสงขลา สถาบันวทิ ยาลยั ชมุ ชน และมหาวิทยาลัยในพนื้ ที่จังหวดั สงขลา อาทิ มหาวิทยาลยั ทักษณิ
มหาวิทยาลยั หาดใหญ่ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั สงขลา จากการดำเนนิ งานวิจยั ของวิทยาลยั ชุมชนสงขลา ทำให้ชมุ ชนมีองคค์ วามรู้
ท่สี ามารถถ่ายทอดและสามารถนำไปต่อยอด รว่ มดำเนนิ การกับมหาวิทยาลัยในพนื้ ท่ีเพือ่ พฒั นาพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ และพัฒนา
โจทย์วจิ ยั ต่อไป
การเผยแพร/่ ประชาสัมพนั ธ์: ไดม้ กี ารเผยแพรผ่ ่านชอ่ งทางเฟสบุคของกลมุ่ ทอผา้ บ้านล่องมดุ และทางวิทยาลัยชุมชนสงขลา
ไดท้ ำการประชาสัมพนั ธผ์ า่ นช่องทางตา่ งๆ ทงั้ ออนไลน์และออฟไลน์
TRL/SRL ระดบั
..............................................................................................................................................................................................
หมายเหต:ุ ความยาวของเน้อื หา 2-3 หน้า และขอให้แนบรูปภาพประกอบ 3-5 รูป
ผลผลติ ทเ่ี กดิ จากงานวิจัย
149
เปน็ พื้นทแ่ี หลง่ เรียนรู้ในชุมชน
ผลติ ภณั ฑไ์ ดร้ ับการประชาสัมพันธ์และมีการส่ังการผลิตในการทอยอ้ มสธี รรมชาติ
150