มงคลแห่งชีวติ
ชาวชลประทานน้ำ� อูน
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร
เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปประทบั แรม ณ เรือนรบั รอง โครงการชลประทานน�ำ้ อนู อำ� เภอพงั โคน จงั หวัดสกลนคร
เมอ่ื วนั ท่ี ๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
2
พระสบมาเทดส็จมพเรดะจ็ นพารงะเจปา้ รสมิรินิกทติ ริ์ มพหราะภบูมรมพิ รลาอชดินลุ ีนยาเถดใชนรบชัรกมานลาทถี่บ๙พิตร
เสด็จพระราชด�ำเนนิ ไปประทบั แรม ณ เรือนรบั รอง โครงการชลประทานน้ำ� อนู อำ� เภอพงั โคน จงั หวัดสกลนคร
เมือ่ วนั ที่ ๙ พฤศจิกายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕ การนี้ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี
และสมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าจฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกาุ รี โดยเสดจ็
3
ประมวลพระฉายาลกั ษณข์ องสมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี
เมอ่ื ครง้ั เสดจ็ ฯ ไปประทบั แรม ณ เรือนรับรอง โครงการชลประทานน้ำ� อนู อำ� เภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
4
5
สกมรมเดหจ็ ลพวรงะนเรจา้าธพวิ น่ี าาสงรเาธชอนเจคา้รฟิน้าทกรลั ์ ยาณิวัฒนา
เสดจ็ ไปทรงปฏิบตั พิ ระกรณยี กิจและประทับแรม ณ เรือนรบั รอง โครงการชลประทานน้�ำอนู อ�ำเภอพังโคน
จงั หวดั สกลนคร ระหว่างวนั ท่ี ๔-๑๑ กมุ ภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๗
6
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี
เสด็จฯ ไปทรงปฏบิ ัตพิ ระราชกรณยี กจิ และประทับแรม ณ เรือนรับรอง โครงการชลประทานน้ำ� อนู อำ� เภอพงั โคน
จงั หวดั สกลนคร เม่ือพทุ ธศักราช ๒๕๒๘ และพทุ ธศกั ราช ๒๕๔๗
7
สารจากอธิบดีกรมชลประทาน
โครงการชลประทานนำ�้ อนู มเี ขอื่ นเกบ็ กกั นำ้� ขนาดใหญ่
เข่ือนนำ�้ อนู เปน็ องค์ประกอบหลกั เรม่ิ กอ่ สรา้ ง พ.ศ. ๒๕๑๐
และเริ่มการเก็บกักน�้ำเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ ต่อมาเมื่อได้ก่อสร้าง
ระบบสง่ นำ้� แลว้ เสร็จ จึงได้มอบภารกจิ ในการบรหิ ารจัดการน�้ำ
ให้กับโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน้�ำอูนรับไปด�ำเนินการ
ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ และนบั จากวนั นน้ั จวบจนถงึ วนั นเ้ี ปน็ ระยะเวลา
ยาวนานถงึ ๕๐ ปี ทว่ี ถิ ชี วี ติ ของเกษตรกรในพน้ื ที่ ๒๑๐,๘๗๕ ไร่
เปลยี่ นแปลงพนื้ ทท่ี เ่ี คยแหง้ แลง้ กนั ดารกลบั มสี ภาพความอดุ ม
สมบูรณ์ ด้วยน้�ำชลประทานท่ีได้รับจากเขื่อนน้�ำอูน เป็นหลัก
ประกันม่ันคง ภาครฐั โดยหน่วยงานราชการต่างๆ ท่เี กี่ยวข้อง
จงึ ได้บรู ณาการรว่ มกนั สง่ เสรมิ ให้มกี ารพัฒนาอาชีพเกษตรกร
สู่การพัฒนาปฏิรูปแบบธุรกิจ การเกษตรระหว่างภาคเอกชน
และเกษตรกร ท่ีส�ำคัญมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจการเกษตร
ส่งผลสู่ความเป็นเกษตรกรก้าวหน้า และเป็นแบบอย่าง
แก่เกษตรกรในพ้ืนที่อื่นๆ ก่อเกิดผลสัมฤทธิ์ ในเรื่องของอาชีพ
และรายได้แก่เกษตรกรทกุ ครัวเรอื น ในการทจ่ี ะมีคณุ ภาพชวี ิต
ที่ดีทดั เทียมกัน
ส�ำหรับกรมชลประทานแล้ว เข่ือนน้�ำอูนเป็นมากกว่า ความภาคภูมิใจสูงสุดของผู้ที่ได้ปฏิบัติงานท่ี
ภารกจิ รบั ผดิ ชอบทเี่ จา้ หนา้ ทผี่ ไู้ ดร้ บั มอบหมายจะตอ้ งดำ� เนนิ การ เขอ่ื นนำ�้ อนู ในหว้ งเวลาทผ่ี า่ นมา กบั การทม่ี โี อกาสไดร้ บั เสดจ็
ตามแผนงานพัฒนาแหล่งน�้ำที่ก�ำหนด ทุกคนมีความมุ่งมั่น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถ
ต้ังใจที่จะพัฒนาแผ่นดินอีสานให้เขียวขจี เพ่ือลบล้างค�ำที่ว่า บพติ ร สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถในรัชกาลที่
อสี านเมอื่ หมดฝนกห็ มดนำ�้ ดงั นนั้ ดว้ ยสรรพกำ� ลงั สรรพความ ๙ เม่อื ครั้งทเี่ สด็จฯ ไปประทับที่ เขื่อนนำ้� อนู เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๑๕
รคู้ วามสามารถและพลงั สามคั คหี ลอ่ หลอมดว้ ยการไดร้ ว่ มทกุ ข์ และพ.ศ. ๒๕๑๘ เพื่อพระราชทานขวัญและก�ำลังใจให้กับ
ร่วมสุข ฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคนานัปการร่วมกันจนก่อเกิด เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงาน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้า
เขื่อนน้�ำอูน อ่างเก็บน้�ำขนาดใหญ่ ยังประโยชน์มหาศาลเพื่อ ลน้ กระหมอ่ มหาทส่ี ดุ มไิ ด้รวมทงั้ ไดถ้ วายการตอ้ นรบั พระบรมวงศ์
อปุ โภคบรโิ ภคเกษตรกรรม ประมง แหลง่ ทอ่ งเท่ยี ว เปน็ อาทิ ทีเ่ สด็จไปประทับ ณ เขือ่ นน�ำ้ อูน อันถือเปน็ สิริมงคลแหง่ ชีวิต
ตลอดระยะเวลา ๕๐ ปี การชลประทานเพอื่ การเกษตร ที่จักตราตรึงอยู่ในหัวใจ และความทรงจ�ำของทุกคนท่ีได้รับ
ของ เข่อื นนำ�้ อูน ภายใต้โครงการส่งนำ�้ และบ�ำรงุ รกั ษานำ้� อูน โอกาสเช่นนน้ั ตลอดไป
ได้มีพัฒนาการก้าวหน้าตามล�ำดับ ท้ังการปรับปรุงและเพิ่ม ในวาระพเิ ศษที่ เขอื่ นนำ้� อนู มอี ายุครบ ๕๐ ปี ใน พ.ศ.
ประสิทธิภาพการใช้น้�ำ ให้เกิดประสิทธิผลสมตามเจตนารมณ์ ๒๕๖๐กรมชลประทานไดจ้ ดั ทำ� หนงั สอื ทรี่ ะลกึ ๕๐ปเี ขอ่ื นนำ�้ อนู
ท้ังมีความพยายามท่ีจะด�ำเนินการให้เต็มศักยภาพของลุ่มน�้ำ เพื่อบันทึกภาพแห่งความทรงจ�ำและถ่ายทอดเรื่องราว
แห่งนี้ กรมชลประทานจึงได้ระดมนักวิชาการจากสถาบัน ประสบการณ์ต่างๆ ในการท�ำงาน ให้กับคนรุ่นหลัง ได้ศึกษา
การศึกษา เพื่อศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงโครงการ วิธีการและแนวทางการท�ำงานของเจ้าหน้าท่ีกรมชลประทาน
ส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน�้ำอูนร่วมกับกลุ่มผู้ใช้น�้ำ โดยการศึกษา ผทู้ เ่ี คยปฏบิ ตั งิ านทเ่ี ขอ่ื นแหง่ น้ี พรอ้ มกบั บนั ทกึ ความทรงจำ� ของ
ได้ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน ทั้งดา้ นวิศวกรรม การบรหิ ารจัดการ เกษตรกรในพื้นที่ โครงการที่ได้ปรับปรุงแนวทางการท�ำ
เศรษฐกจิ สงั คม การมสี ว่ นรว่ ม และสง่ิ แวดลอ้ ม ตลอดจนสภาพ เกษตรกรรม ซึ่งได้รับน�้ำชลประทานอย่างเพียงพอและทั่วถึง
การใช้ท่ีดินในปัจจุบันและอนาคต ตามนโยบายของกระทรวง ตามตอ้ งการ ทำ� ใหม้ เี สถยี รภาพ ความมน่ั คงในงานและรายได้
เกษตรและสหกรณ์ท่ีให้ประยุกต์ใช้ Agri Map รวมท้ังระบบ สำ� หรบั ตนเองและครอบครวั สง่ ผลสคู่ วามมน่ั คงของสงั คมและ
การเกษตรและแผนการปลูกพืชท่ีเหมาะสม การจัดตั้งกลุ่ม ประเทศชาตใิ นท่สี ุด
ผู้ใช้น้�ำ และรูปแบบองค์กรบริหารจัดการน�้ำชลประทานท่ี
สอดคล้องกนั อกี ดว้ ย (นายสมเกยี รติ ประจำ� วงษ)์
อธิบดีกรมชลประทาน
สารบญั
๑๑
๒๑
๗๕
ตำ� นานหนองหารหลวง นอกจากการเกิดภาวะฝนแล้ง
ติดต่อกันแล้วตามต�ำนานเมืองหนองหาร
นำ้� ทว่ ม ฝนแลง้ และอทิ ธิฤทธ์ิพญานาค ยังได้กล่าวถึงการเกิดน�้ำท่วมหนักในพ้ืนที่
บริเวณน้ีดว้ ย โดยตำ� นานเล่าว่านครเอกชะที
บริเวณที่ตั้งจังหวัดสกลนครในปัจจุบันน้ันในครั้งอดีตมี ตามีพระยาขอมเป็นกษัตริย์ มีพระธิดา
การตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนมายาวนานนับพันปี มีสภาวะฝนแล้ง โฉมงาม อนั เปน็ ทร่ี กั ใครข่ องพระบดิ าเปน็ อยา่ ง
ข้าวยากหมากแพงเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง นับตั้งแต่คร้ังที่ขอม ยง่ิ นามวา่ นางไอค่ ำ� ตอ่ มาในงานประเพณบี ญุ
ยงั เรอื งอำ� นาจอยใู่ นดนิ แดนแถบภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของ บงั้ ไฟบชู าพญาแถน พระยาขอมได้ประกาศ
ประเทศไทยในปัจจุบัน ในคร้ังนั้นเรียกว่า “เมืองหนองหาร บอกไปยงั เจา้ ชายตามหวั เมอื งตา่ งๆ ใหจ้ ดั ทำ�
หลวง” ตามต�ำนานได้กล่าวถึงขุนขอมราชบุตรเจ้าเมืองอินทร บ้ังไฟมาจดุ แขง่ ขนั กนั ผชู้ นะจะไดอ้ ภเิ ษกกบั
ปฐั นคร อพยพผคู้ นเขา้ มาตงั้ ถน่ิ ฐานในพนื้ ทบี่ รเิ วณรมิ หนองหาร พระธดิ าไอค่ ำ�
หลวง ต่อมาในสมัยพระยาสุวรรณภิงคาระได้เกิดฝนแล้ง เมืองใหญ่น้อยต่างก็ส่งบ้ังไฟเข้า
ขา้ วยากหมากแพงถงึ ๗ ปี ราษฎรไมส่ ามารถทำ� นาได้ เกดิ ความ ประกวดประขนั กนั ไมว่ า่ จะเปน็ เมอื งฟา้ แดด
อดอยากเพราะขาดแคลนขา้ วปลาอาหาร จำ� ตอ้ งอพยพโยกยา้ ย สงยาง เมืองเชียงเหียน เชียงทอง แม้กระทง่ั
ผู้คนกลับไปยังเมืองเขมร หนองหารจึงกลายเป็นเมืองร้างอยู่ ทา้ วพงั คพี ญานาคแหง่ เมอื งบาดาลกป็ ลอมตวั
ระยะหนง่ึ จนเมอื่ อทิ ธพิ ลขอมเสอื่ มลง และเมอื งหนองหารหลวง เปน็ กระรอกเผอื กเพอ่ื มายลโฉมนางไอค่ ำ� ดว้ ย
ตกไปอยใู่ นความปกครองของอาณาจกั รลา้ นชา้ ง เรยี กชอ่ื เมอื ง นางไอ่ค�ำเห็นกระรอกเผือกมีความประสงค์จะได้มาเลี้ยงไว้ดู
วา่ “เมอื งเชียงใหม่หนองหาร” เล่น แต่จับอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะจับได้จึงให้นายพรานยิง
กระรอกใหต้ าย กอ่ นตายทา้ วพงั คไี ดอ้ ธษิ ฐานวา่ “ขอใหเ้ นอ้ื ของ
ขา้ ไดแ้ ปดพนั เกวยี น คนทงั้ เมอื งอยา่ ไดก้ นิ หมดเกลย้ี ง” จากนนั้
ร่างของกระรอกเผือกก็ใหญ่ข้ึน ชาวเมืองเห็นเป็นอัศจรรย์จึง
จดั แจงแลเ่ นอื้ กระรอกเผอื กแบง่ กนั กนิ ดว้ ยเขา้ ใจวา่ เปน็ อาหาร
ทพิ ย ์ เวน้ แตพ่ วกแมม่ า่ ยทช่ี าวเมอื งรงั เกยี จจงึ ไมไ่ ดแ้ บง่ เนอ้ื ให้
เม่ือพญานาคแห่งเมืองบาดาลรู้ข่าวท้าวพังคี
ถูกมนุษย์ฆ่าตายแล้วแล่เน้ือกินจึงพากันโกรธแค้น ต่างทยาน
ข้ึนสู่โลกมนุษย์แล้วดลบันดาลให้เกิดพายุฝนกระหน่�ำลงมา
อย่างหนกั ถลม่ เมอื งชะทีตาจมลงใต้สายน�้ำ เหลอื เพียงทีด่ อน
ซง่ึ เปน็ ที่อยู่ของพวกแมม่ ่ายทีไ่ มไ่ ด้กินเนอ้ื กระรอกเผอื ก ผนื น�้ำ
อันกว้างใหญ่ท่ีเคยเป็นเมืองชะทีตาต่อมาได้กลายเป็น
หนองหารหลวงดังปรากฏอยู่ในปัจจุบนั
14
15
ถึงแม้เรื่องเล่าปะร�ำปะรานี้จะเต็มไปด้วยอิทธิฤทธิ์ ในชว่ งเวลานจ้ี ะเกดิ นำ�้ ทว่ มบอ่ ยครง้ั ในเดอื นสงิ หาคมและเดอื น
ปาฏิหาริย์แต่ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพดินฟ้าอากาศของ กันยายน ระดับน้�ำจะลดน้อยลงต้ังแต่เดือนมกราคมไปจนถึง
บริเวณเมืองสกลนครว่าต้องประสบภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น เดือนพฤษภาคม ในระหว่างน้ีต้นน�้ำของล�ำน�้ำหลายสาขา
ฝนแลง้ หรอื นำ้� ทว่ มอยา่ งหนกั จนเปน็ ทจี่ ดจำ� ของผคู้ นและไดร้ บั จะแห้งเหือด ปริมาณน�้ำต�่ำสุดจะเกิดในระยะปลายเดือน
การบันทึกไว้ในลักษณะต�ำนานที่เล่าสืบกันมาจนถึงปัจจุบัน มีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม
หากพจิ ารณาถงึ ลกั ษณะทางกายภาพของจงั หวดั สกลนครแลว้ แหล่งน�้ำส�ำคัญคือล�ำน้�ำอูน ซ่ึงเป็นล�ำน�้ำสาขาหน่ึง
ก็จะท�ำให้เห็นถึงปรากฏการณ์ท่ีบอกเล่าไว้ในต�ำนานได้เป็น ของแมน่ �้ำสงคราม มคี วามยาว ๒๙๕ กโิ ลเมตร มตี ้นน้ำ� เกิดมา
อย่างดี จากเทอื กเขาภูพานในเขตอำ� เภอกุดบาก จงั หวดั สกลนคร ไหล
ข้ึนไปทางเหนือ ผ่านภูมิประเทศที่มีความชันและเป็นป่าจนถึง
นำ�้ อูน ลำ� นำ�้ แหง่ ชวี ติ ชาวสกลนคร บ้านหนองบัว อ�ำเภอพังโคน จากน้ันจะเริ่มไหลออกที่ราบ
บรเิ วณโครงการผา่ นทตี่ ง้ั อำ� เภอพรรณานคิ ม ไปบรรจบกบั หว้ ย
จังหวัดสกลนครต้ังอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ปลาหางซ่ึงเป็นสาขาหนง่ึ ของลำ� นำ้� อูนท่บี ้านสวา่ ง แล้วไหลลง
ของที่ราบสูงโคราช อยู่สูงกว่าระดับน�้ำทะเล ๑๗๒ เมตร สแู่ มน่ ำ�้ สงครามท่อี ำ� เภอศรสี งคราม จังหวดั นครพนม
ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปทางตอนใต้ของจังหวัดติดกับ นอกจากล�ำน�้ำอูนซึ่งถือเป็นล�ำน้�ำส�ำคัญแล้ว ยังมี
เทอื กเขาภพู านซง่ึ เปน็ แนวขวางทางทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื และ ล�ำห้วยเล็กๆ อีกหลายสายท่ีมีต้นน�้ำอยู่ทางตอนใต้บริเวณ
ตะวันออกเฉียงใต้ ทางตอนใตข้ องจังหวดั เปน็ บรเิ วณที่มคี วาม เทอื กเขาภพู าน ลำ� หว้ ยเหลา่ นไ้ี ดแ้ ก่ หว้ ยกดุ ขน้ี าค หว้ ยยาง หว้ ย
สูงมากท่ีสุดและจะลาดลงไปทางตอนเหนือ แม่น้�ำและล�ำธาร หาน ห้วยไผ่ ห้วยตะลุง ห้วยทราย หว้ ยหนองซิน ฯลฯ ล�ำห้วย
หลายสายเกดิ จากเทอื กเขาภพู าน พนื้ ทต่ี อนกลางเปน็ ทรี่ าบตำ่� เหล่านี้มักจะมีน้�ำไหลเป็นครั้งคราวโดยเฉพาะเมื่อเกิดฝนตก
เหมาะแกก่ ารทำ� นา โดยเฉพาะในทอ้ งท่ีอำ� เภอเมอื งสกลนคร หรืออาจมีน้�ำไหลเฉพาะในช่วงฤดูฝน คร้ันหมดฤดูฝนปริมาณ
พ้ืนที่ลุ่มน�้ำในจังหวัดสกลนครเป็นส่วนหนึ่งของ นำ�้ ทไ่ี หลอยใู่ นลำ� นำ�้ จะคอ่ ยลดลงจนไมม่ นี ำ้� ไหลเลย ระยะเวลา
ลุ่มน�้ำโขง ล�ำน้�ำสาขาส�ำคัญในจังหวัดเป็นต้นน�้ำ โดยท่ัวไป การไหลของน้ำ� ประมาณ ๔-๖ เดือน คือในช่วงเดือนกรกฎาคม
ไหลไปทางทิศตะวันออกผ่านจังหวัดนครพนมลงสู่แม่น�้ำโขง ถงึ เดอื นสงิ หาคม หรอื ในชว่ งเดอื นมถิ นุ ายนถงึ เดอื นพฤศจกิ ายน
ระดบั นำ้� ขน้ึ สงู จากกลางเดอื นมถิ นุ ายนไปจนถงึ เดอื นกนั ยายน
16
วถิ ีชาวอสิ าน เกษตรกรรมเพ่ือยังชีพ จำ� เปน็ ตอ้ งหารายไดเ้ พม่ิ เกษตรกรจะประกอบอาชพี อนื่ เปน็ การ
หารายได้เพ่ิม เช่น การเป็นช่างไม้ เป็นแรงงานรับจ้างในภาค
ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร การเกษตร ค้าขาย ขายสินค้าหัตถกรรม ขายของป่า จับปลา
มีลักษณะเป็นการประกอบการขนาดเล็กและเป็นการผลิต ขายถา่ น เปน็ ตน้ สภาพความเปน็ อยโู่ ดยทว่ั ไป นอกจากทำ� การ
เพ่ือยังชีพ ขนาดของพ้ืนท่ีท่ีท�ำการเพาะปลูกประมาณ ๑๘ ไร่ เกษตรซึ่งมีข้อจ�ำกัดทางกายภาพ ได้แก่ คุณภาพดิน ปัญหา
ต่อครัวเรือน การท�ำไร่ท�ำนาบริเวณนี้แต่เดิมข้ึนอยู่กับความ เรอ่ื งนำ�้ และการลงทนุ ทางการผลติ แลว้ เกษตรกรยงั ตอ้ งพงึ่ พา
ไมแ่ นน่ อนของสภาพดนิ ฟ้าอากาศ ลกั ษณะทางกายภาพ และ รายไดจ้ ากการขายแรงงานรบั จ้างท่วั ไปอกี ด้วย
สภาวะทางเศรษฐกิจของเกษตรกรโดยมีข้าวเป็นพืชหลัก
ประมาณกวา่ รอ้ ยละ ๙๘ ของพนื้ ทท่ี ท่ี ำ� การเพาะปลกู การปลกู
ข้าวจะเร่ิมในเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฎาคม และจะ
เกบ็ เกยี่ วในเดอื นพฤศจกิ ายนหรอื เดอื นธนั วาคม พนั ธข์ุ า้ วทปี่ ลกู
สว่ นใหญเ่ ปน็ ขา้ วเหนยี ว ซง่ึ แบง่ ออกเปน็ ๒ ชนดิ คอื ขา้ วเหนยี ว
พันธุ์พ้ืนเมืองและข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง ส่วนข้าวเจ้าน้ัน
มปี ลูกกนั น้อยมาก เกษตรกรประมาณร้อยละ ๕ ของครวั เรือน
มกั จะปลกู พชื ไร่ อนั ไดแ้ ก่ ถวั่ ลสิ ง ปอ มนั สำ� ปะหลงั ฝา้ ย เปน็ ตน้
จากการส�ำรวจพันธุ์ข้าวท่ีใช้ใน พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นพันธุ์ข้าว
พน้ื เมอื ง ไดแ้ กพ่ นั ธข์ุ า้ วเจา้ ขาว ขา้ วเจา้ แดง ขต้ี มใหญ่ ขตี้ มขาว
ส่วนพืชไร่ เกษตรกรจะปลูกปอ อ้อย งา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
เป็นสว่ นใหญ่
นอกจากขา้ วแลว้ พชื ประเภทผกั ถอื ไดว้ า่ เปน็ พชื ทม่ี คี วาม
ส�ำคัญตอ่ การบริโภคและการจำ� หน่าย พื้นทีท่ ี่ใชป้ ลกู เปน็ พื้นที่
ขนาดเลก็ ภายในบรเิ วณบา้ น เปน็ เนนิ ดนิ ซง่ึ ดนิ บรเิ วณนม้ี คี วาม
อุดมสมบูรณ์ ระบายน้�ำได้ดี ผักท่ีนิยมปลูกได้แก่ แตงกวา
กะหล่�ำปลี ผักกาดหอม พริก และข้าวโพดหวาน พืชประเภท
ผลไม้และไม้ยืนต้นน้ันมีกระจายอยู่ท่ัวไป มักจะอยู่ตามท่ีสูง
เปน็ บรเิ วณทไี่ มม่ กี ารชลประทาน จะไดร้ บั ปยุ๋ บา้ งเพยี งเลก็ นอ้ ย
ผลผลิตทีไ่ ดจ้ งึ ตำ่� ได้แก่ มะม่วง มะละกอ กล้วย มะพรา้ ว นุ่น
นอกจากปลกู พชื แลว้ เกษตรกรยงั มกี ารเลย้ี งสตั ว์ ซงึ่ โดย
ท่วั ไปเลี้ยงเพอ่ื การใช้งานและการบรโิ ภค การเลยี้ งเพ่ือขายน้นั
มีบ้างแต่ไม่ถือว่าเป็นรายได้หลัก เพราะจ�ำนวนสัตว์ที่เลี้ยง
ต่อครัวเรือนมีไม่มากนัก นอกจากรายได้ทางการเกษตรแล้ว
ในระยะเวลาที่เกษตรกรไม่ได้ท�ำการเพาะปลูกหรือมีความ
17
ชลประทานเพ่ือชวี ิตทีย่ ่ังยืน และอยใู่ นระหวา่ งการดำ� เนนิ การกอ่ สรา้ งมอี ยู่ ๕ เขอ่ื น คอื เขอื่ น
ล�ำปาว (ลุ่มน้�ำชี จังหวัดกาฬสินธุ์) เขื่อนน�้ำพอง (จังหวัด
จากสภาพการดังกล่าวการจัดสร้างระบบชลประทาน ขอนแก่น–จังหวัดมหาสารคาม) เขื่อนล�ำพระเพลิง (จังหวัด
เป็นโครงสร้างการบริการขั้นพ้ืนฐานทางการผลิต เนื่องจาก นครราชสมี า) เข่ือนลำ� ตะคอง (จังหวัดนครราชสีมา) และเขือ่ น
ลักษณะการผลิตในประเทศไทยข้ึนอยู่กับความไม่แน่นอน น�ำ้ อนู (จังหวัดสกลนคร)
ของสภาพทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในเรอื่ งของนำ้� ซง่ึ เน่ืองจากท่ีตั้งของโครงการชลประทานน้�ำอูนมีลักษณะ
ต้องข้ึนอยู่กับสภาพลมฟ้าอากาศ ถ้าปีใดเกิดความแห้งแล้ง ภมู ปิ ระเทศเปน็ แอง่ เมอื่ เกดิ ฝนตกหนกั กจ็ ะกลายเปน็ แอง่ รบั นำ�้
ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลก็จะท�ำให้เกิดความเสียหาย ถงึ แมว้ า่ จะมีปรมิ าณนำ�้ ฝนอยใู่ นเกณฑท์ ด่ี ี แต่ลกั ษณะของดนิ
การชลประทานจึงเป็นเครื่องมือส�ำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ีได้ บริเวณน้ีไม่สามารถท่ีจะเก็บกักน้�ำเอาไว้ใช้ประโยชน์ได้ ทั้งน้ี
ช่วยให้เกษตรกรเกิดความม่ันใจว่าจะได้ผลผลิตจากการเพาะ เพราะดินส่วนใหญ่เป็นดินปนทราย ซึ่งเป็นดินท่ีมีโครงสร้าง
ปลูกอยา่ งเตม็ ท่ี และยงั เปน็ การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขนึ้ ดว้ ย ไม่แน่นนัก เม่ือมีฝนตกท�ำให้เกิดการกัดกร่อนบนผิวดินหรือ
จากรายงานของส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ หน้าดิน บริเวณท่ีว่างเปล่าจะมีการชะล้างมาก นอกจากนั้น
เศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ใน พ.ศ. ๒๕๒๑ ภาคตะวันออก น�้ำที่ซึมในดินยังชะล้างพาเอาอาหารและสิ่งท่ีเป็นประโยชน์
เฉียงเหนือเกษตรกรมีรายได้ต่อครัวเรือนต�่ำท่ีสุดคือประมาณ ต่อพืชออกไปด้วย ท�ำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังมี
๖,๖๖๑ บาทต่อครัวเรือน ในขณะท่ีรายได้เฉลี่ยของประเทศ ปัญหาเร่ืองความเค็มของดิน ซึ่งจะเห็นได้ชัดในฤดูแล้ง จะมี
ประมาณ ๑๐,๙๐๓ บาทตอ่ ครวั เรอื น (พ.ศ. ๒๕๑๘) สาเหตหุ นง่ึ คราบเกลือเกิดบนผิวดินอยู่ทั่วไป ส่วนการท่ีจะอาศัยล�ำน้�ำ
ของความยากจนเนื่องมาจากการผลิตทางด้านการเกษตร ธรรมชาตชิ ว่ ยระบายนำ�้ ในฤดฝู นและนำ� นำ้� มาใชเ้ พอ่ื การเกษตร
มขี อ้ จำ� กดั ทางกายภาพ ไดแ้ ก่ ความอดุ มสมบรู ณข์ องดนิ ความ ในฤดูแล้งนั้นไม่สามารถจะท�ำได้ ถึงแม้ว่าจะมีล�ำน�้ำอูนและ
แหง้ แล้งและน้�ำท่วม โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในเร่ืองของนำ้� แมน่ ำ้� ห้วยต่างๆ ก็ตาม แต่ก็มีปริมาณน�้ำไม่เพียงพอที่จะใช้ในการ
สายส�ำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออันประกอบไปด้วย เพาะปลูกเพราะปริมาณน�้ำมีน้อยในฤดูแล้ง จนไม่สามารถน�ำ
แมน่ ำ�้ ชี แมน่ ำ�้ มลู และแมน่ ำ้� สงครามจะมปี รมิ าณนำ้� มากในชว่ ง มาใชไ้ ด้ สว่ นลำ� ห้วยต่างๆ บางสายก็จะมนี �้ำไหลเฉพาะในช่วง
เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมเท่าน้ัน ในช่วงเวลาดังกล่าว ฤดฝู นเท่าน้นั
ถึงแม้ประมาณน�้ำจะมากแต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ในการ จากลกั ษณะขอ้ จำ� กดั ทางกายภาพในดา้ นตา่ งๆ จงึ ทำ� ให้
เพาะปลูกมากเท่าที่ควร เพราะถ้าปีใดมีพายุไต้ฝุ่นเข้ามา พนื้ ทบ่ี รเิ วณโครงการชว่ งกอ่ นทจี่ ะมโี ครงการชลประทานประสบ
การไหลของน้�ำในแม่น้�ำเหล่านี้จะรวดเร็วจนท�ำให้เกิดน�้ำท่วม ความเดือนร้อนจากน�้ำท่วม ความแห้งแล้งและความอุดม
เมอื่ ถงึ ฤดแู ลง้ ปรมิ าณนำ้� ในแมน่ ำ้� กจ็ ะลดลงมากจนไมส่ ามารถ สมบูรณ์ของดิน เกิดความเสียหายในด้านการผลิตทาง
นำ� มาใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตรและการบรโิ ภคในครวั เรอื นได้ เกษตรกรรม ซงึ่ เปน็ อาชีพหลักของประชาชนในพ้นื ที่
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการวางโครงการ
ชลประทานในภูมิภาคน้ีอันประกอบด้วยเขื่อนอเนกประสงค์
และอา่ งเกบ็ นำ�้ เขอ่ื นทส่ี ำ� คญั ทไี่ ดด้ ำ� เนนิ การเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้
18
ลำหวยปลาหาง
ลำน้ำอูน
อา งเก็บนำ้
น้ำอนู
หนองหาร
ลำ� น้ำ� อูน เป็นสาขาหนึง่ ของแมน่ �้ำสงครามมีความยาว ๒๙๕ กิโลเมตร ต้นนำ�้ กำ� เนิดจากเทอื กเขาภพู าน ซ่งึ อยใู่ นเขตอำ� เภอกดุ บาก
จังหวัดสกลนคร ไหลผา่ นอำ� เภอพังโคนและอ�ำเภอพรรณานิคม แลว้ ไหลลงสแู่ มน่ ำ้� สงครามในเขตอ�ำเภอศรีสงคราม จงั หวัดนครพนม
19
๕๐ ปแี ห่งความร่วมแรงร่วมใจ
พลิกพน้ื ผนื ดนิ อุดม
โครงการส่งน�้ำและบ�ำรุงรักษาน้�ำอูนจังหวัดสกลนคร
เป็นโครงการชลประทานขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในจ�ำนวน
หลายโครงการของการพัฒนาแหล่งน้�ำในภาคตะวันออก
เฉียงเหนือของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ท่ีมีการวางแผนก่อสร้างไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ เพื่อท�ำหน้าที่
เก็บกักน้�ำและแพร่กระจายน�้ำให้แก่พื้นท่ีเพาะปลูก เป็นการ
แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้�ำในช่วงขาดฝนและในฤดูแล้ง
รวมทั้งบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน�้ำห้วยปลาหางกับพ้ืนที่ตอนล่าง
ของลมุ่ นำ�้ สงคราม
พื้นที่โครงการต้ังอยู่ไม่ไกลจากพระต�ำหนักภูพาน
ราชนิเวศน์ อันเป็นที่ประทับทรงงานของพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จ
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนีโปรดท่ีจะเสด็จพระราชด�ำเนิน
พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ไปประทับแรม ณ ที่โครงการ
แห่งน้ี ยังความปลื้มปีติเป็นขวัญและก�ำลังใจและเป็นมงคล
สงู สุดของชีวิตบรรดาชาวชลประทานที่ไดม้ ีโอกาสรบั เสด็จ
22
นอกจากน้ีจังหวัดสกลนครยังเป็นท่ีตั้งของโครงการ เป็นเวลาถึง ๕๐ ปี ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนี้ได้เป็นท่ี
ศูนย์ศกึ ษาการพฒั นาภพู าน อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ แหลง่ ประจักษ์ชัดถึงความเป็นน�้ำหนึ่งใจเดียวร่วมมือร่วมใจกัน
เรยี นรขู้ องเกษตรกรในพนื้ ท่ี ในการนำ� ความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ ระหว่างกรมชลประทาน หน่วยงานที่เก่ียวข้องท้ังภาครัฐและ
กับการท�ำเกษตรกรรมในพน้ื ท่ขี องตน ทม่ี ีความพร้อมในปจั จยั เอกชน ตลอดจนประชาชนในพน้ื ที่ ในการทจี่ ะบรหิ ารจดั การนำ�้
ส�ำคัญในการผลิต นั่นคือน้�ำท่ีได้รับการจัดสรรจาก อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เปรยี บไดก้ บั ความตง้ั ใจรว่ มกนั ทจ่ี ะบรรจง
กรมชลประทาน กอ่ ใหเ้ กิดความมน่ั คงในชวี ิต และนบั ต้งั แต่ที่ วาดอนาคตไปด้วยกันเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรน้�ำบนผืน
ได้เริ่มการกอ่ สร้างโครงการในพ.ศ. ๒๕๑๐ จวบจนถึงปจั จุบนั แผ่นดินทเี่ คยแห้งแลง้ ให้กลับอดุ มสมบรู ณเ์ ฉกเช่นในปจั จบุ นั
23
โครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน้�ำอูน
เพม่ิ พูนน�ำ้ หล่อเล้ียงชีวิต
โครงการสง่ นำ้� และบำ� รงุ รกั ษานำ้� อนู เปน็ โครงการพฒั นา การส�ำรวจตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๗ มีพื้นท่ีท้ังโครงการประมาณ
แหล่งน�้ำประเภทเข่ือนเก็บกักน�้ำขนาดใหญ่ สร้างปิดก้ันล�ำน้�ำ ๒๐๓,๐๐๐ ไร่ (๓๒๔.๘ ตารางกโิ ลเมตร) ในเขตอ�ำเภอพงั โคน
อนู ทบ่ี า้ นหนองบวั ตำ� บลแร่ อำ� เภอพงั โคน จงั หวดั สกลนคร ทาง อำ� เภอพรรณานคิ ม และอำ� เภอเมอื งสกลนคร มพี นื้ ทช่ี ลประทาน
ทิศตะวันตกของเมืองสกลนคร ห่างจากอ�ำเภอเมืองเป็นระยะ ในระยะเร่ิมแรก ๑๘๕,๘๐๐ ไร่
ทางประมาณ ๕๗ กโิ ลเมตร ประกอบดว้ ยงานระบบส่งน้ำ� งาน ทิศเหนอื จดอำ� เภอวานรนวิ าส จงั หวัดสกลนคร บริเวณ
ระบบระบายน�ำ้ และงานจดั รปู ท่ดี นิ เป็นโครงการท่เี ร่มิ ด�ำเนนิ ห้วยปลาหางซึ่งล�ำห้วยปลาหางนี้จะไหลไปทางทิศตะวันออก
24
และบรรจบล�ำน้�ำอูน ซ่ึงไหลผ่านบริเวณตอนกลางของพ้ืนท่ี โครงการส่งน�้ำและรักษาน้�ำอูนจะท�ำให้เกษตรกรเกิด
โครงการ ความมน่ั คงทางเศรษฐกจิ และสงั คม เพมิ่ ผลผลติ ทางการเกษตร
ทิศตะวันตกติดต่อกับอ�ำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ใหส้ งู ขนึ้ ในโครงการมสี ง่ิ กอ่ สรา้ งทส่ี ำ� คญั ๒ สว่ น คอื เขอื่ นและ
ขอบเขตขนานไปกับทางหลวงแผ่นดินสายบึงกาฬ-พังโคน- ระบบส่งน�้ำโดยมีการด�ำเนินกิจกรรมประเภทต่างๆ ครบวงจร
วารชิ ภมู ิ จดคลองสง่ นำ้� ฝง่ั ซา้ ยหมายเลข IL-IL เรอื่ ยลงไปถงึ เขอ่ื น แบ่งระยะเวลาในการดำ� เนนิ กจิ กรรม ดังนี้
ทิศตะวันออกติดต่อกับอ�ำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ระยะที่ ๑ การก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้�ำน�้ำอูน (พ.ศ.
บริเวณหนองหาร ๒๕๑๐-๒๕๑๖)
ทิศใต้ ติดต่อกับอ�ำเภอนิคมน้�ำอูน จังหวัดสกลนคร ระยะที่๒ การกอ่ สรา้ งงานระบบสง่ นำ�้ งานระบบระบายนำ�้
ขนานไปกบั คลองสง่ น้�ำสายใหญ่ฝง่ั ขวาไปจนจดหนองหาร และงานจัดรปู ทดี่ ิน (พ.ศ. ๒๕๑๕-๒๕๒๘)
พื้นที่เขตการปกครองในเขตโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุง ระยะที่ ๓ การด�ำเนินงานโครงการพัฒนาชนบทแบบ
รักษาน้�ำอูนครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของอ�ำเภอพังโคน อ�ำเภอ ผสมผสานในบรเิ วณโครงการชลประทานน้ำ� อูน (พ.ศ. ๒๕๒๑-
พรรณานิคม และอ�ำเภอเมืองสกลนคร มีต�ำบลท่ีอยู่ในเขต ๒๕๒๘)
โครงการรวมทั้งส้ิน ๑๘ ต�ำบล ๑๗๑ หมู่บ้าน ต�ำบลเหล่าน้ี ระยะท่ี ๔ การด�ำเนินงานโครงการพัฒนาเกษตร
บางต�ำบลมีพ้ืนท่ีอยู่ในเขตโครงการท้ังหมดและบางต�ำบล อุตสาหกรรมในบริเวณโครงการชลประทานน�้ำอูน (พ.ศ.
อยู่ในเขตโครงการเพียงบางส่วน พ้ืนท่ีในบริเวณนี้มีลักษณะ ๒๕๓๐-๒๕๓๔)
เป็นที่ราบผืนใหญ่เป็นเสมือนแอ่งของล�ำน้�ำอูน ซึ่งเป็นล�ำน้�ำ โครงการส่งน้�ำและรักษาน�้ำอูนมีท่ีต้ังหัวงานอยู่ที่บ้าน
สายส�ำคญั ท�ำให้เกิดนำ�้ ท่วมในช่วงทฝี่ นตกหนัก ส่งผลเสียตอ่ หนองบวั ตำ� บลแร่ อำ� เภอพงั โคน จงั หวดั สกลนคร ตำ� แหนง่ ทต่ี งั้
ขา้ วทป่ี ลกู ไว้ และเมอ่ื ฝนทิ้งชว่ งเป็นเวลานานนำ�้ จะไมเ่ พยี งพอ เข่ือนอยู่ทีเ่ ส้นรงุ้ ๑๗ ๑๘ ๓๑ เหนือ และเส้นแวงท่ี ๑๐๓ ๔๔
สำ� หรับการเพาะปลูก ดว้ ยเหตุน้ีโครงการส่งนำ้� และบ�ำรงุ รักษา ๔๘ ตะวันออก ท่ีพิกัด 48 QUE 668-141 ระวางหมายเลข
น�้ำอูนจึงมีวัตถุประสงค์หลักคือ จัดหาน้�ำให้พอเพียงกับพ้ืนที่ 4743IV อยู่ห่างจากอ�ำเภอพังโคน ๑๒ กิโลเมตร และหา่ งจาก
ทำ� การเกษตร และปอ้ งกนั ความเสยี หายจากนำ้� ทว่ ม โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ ๖๘๐ กิโลเมตร ทางเข้าเขื่อนน�้ำอูนจะแยกจาก
ในพนื้ ท่ที �ำการเกษตร ทางหลวงสายพงั โคน-วารชิ ภมู ทิ ก่ี โิ ลเมตร ๔.๙๔๘ ไปตามถนน
ลาดยางประมาณ ๖ กิโลเมตร
ก่อนท่ีจะมาเป็นโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน�้ำอูน
การด�ำเนินงานในระยะแรกที่เริ่มตั้งแต่การก่อสร้างตัวเข่ือน
น้�ำอูนน้ัน ไม่เพียงต้องฟันฝ่าปัญหาความยากล�ำบากในด้าน
การก่อสร้าง การที่พ้ืนท่ีตั้งโครงการอยู่ในเขตพื้นท่ีสีแดง
อันเป็นพื้นท่ีที่ยังมีการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
อยู่เสมอๆ ความปลอดภัยในชีวิตของข้าราชการและลูกจ้าง
มีความเส่ียงสูง คงไม่มีผู้ใดท่ีจะบรรยายได้ถึงความรู้สึก
ท่ยี ากลำ� บากในการปฏิบัตงิ านในสมัยน้นั ได้ดีไปกวา่ นายช่าง
ผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน�้ำอูน
ในขณะน้ัน นายรุง่ เรอื ง จุลชาต
25
บันทึกความทรงจำ�
นายรุ่งเรือง จลุ ชาต
นายชา่ งผู้ควบคุมงานก่อสรา้ งโครงการสง่ น้ำ� และบำ�รงุ รกั ษานำ้� อนู
(อธบิ ดีกรมชลประทาน คนที่ ๒๓)
ฝ่าฟนั ดว้ ยความม่งุ มัน่
ผมไปอยู่โครงการน้�ำอูนต้ังแต่เริ่ม
บุกเบิกเลย ตอนนั้นถนนเข้าโครงการ
ยังไม่มี ไม่มีถนน ไม่มีรถยนต์ ชาวบ้าน
ยังไม่เคยเห็นรถยนต์เลย โครงการน้�ำอูน
เป็นหน่ึงในโครงการพัฒนาลุ่มน้�ำโขง
มีความจ�ำเป็นต้องท�ำ ก็ได้เงินช่วยเหลือ
จากยูเสด (United States Agency
for International Develop-
ment-USAID) ก็ไดเ้ ริ่มโครงการศึกษา
มากอ่ นปี๒๕๐๘-๒๕๐๙เรมิ่ อยา่ งจรงิ จงั
ปลายปี ๒๕๐๙ โดยมอบหมายให้ผมไปดูแลรับผิดชอบการก่อสร้าง ผมใช้เวลาตัดสินใจ ๒ เดือน เดือนมกราคม ๒๕๑๐ เราก็เข้า
พื้นท่ีไปเร่ิมด�ำเนินการตัดถนน ปลูกอาคารบ้านพัก ขณะนั้นล�ำบากมาก พื้นที่อยู่ในเขต ผกค. (ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์) ที่ตั้งเขื่อน
กนิ พื้นทีข่ องอำ� เภอวาริชภูมิ อ�ำเภอกุดบาก ที่ตั้งอยใู่ นอ�ำเภอพรรณานิคม ซึ่งเปน็ พ้ืนท่สี ีแดง มกี ารตอ่ ตา้ นอยา่ งคอ่ นขา้ งรนุ แรง ผกค.
ออกขา่ วทางวทิ ยปุ กั ก่งิ เป็นภาษาไทย กถ็ ูกต้านมาตลอด
เมื่อเข้าไปใหม่ๆ เป็นเร่ืองยากมากเพราะประชาชนไม่รู้จักโครงการแบบนี้ ไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร อิทธิพลของ ผกค.
ไปเร็วกว่าทางการจะไปถึง จะพูดยังไงเขาก็ไม่ฟัง ผมก็มาคิดวางแผนว่าต้องหาบุคลากรของเราเองในกรมชลประทานที่จะไปช่วย
ด�ำเนินการ เพราะถ้าหากได้บุคลากรท่ีความคิดเห็นไม่ตรงกันคงจะท�ำงานล�ำบากมาก ก็เรียนท่านหม่อมหลวงเชิงชาญ ก�ำภู อธิบดี
ขณะน้ันว่าเมื่อมอบให้ผมไปอยู่ที่นั่นก็ขอความกรุณาให้ผมได้พิจารณาเลือกคนท่ีจะไปท�ำงานด้วย ท่านก็อนุญาต นโยบายของกรม
ขณะนน้ั คอื นายชา่ งทจี่ บจากโรงเรยี นชลประทานจะตอ้ งเขา้ ไปทำ� งานในกรมไปเรยี นรงู้ านทกี่ องออกแบบอยา่ งนอ้ ย๑ปีเพอ่ื เรยี นรงู้ าน
พืน้ ฐาน แต่ผมขอยกเวน้ วา่ ใหเ้ อาคนท่ีจบแลว้ ไปท่นี �ำ้ อนู เลย ไปเรียนรูฝ้ กึ งานทน่ี น่ั กไ็ ดม้ า ๕-๖ คน เปน็ คนหนมุ่ ไฟแรงท่ีพรอ้ มจะลยุ
ด้วยกนั กร็ ่วมงานกนั อยา่ งใกลช้ ดิ มีความคลอ่ งตวั สูง เรามที ่ีพักและสิง่ อำ� นวยความสะดวกใหค้ รบครัน
เหตผุ ลทขี่ อคนเพงิ่ จบไปทนี่ ำ�้ อนู เลยกเ็ นอ่ื งจากไดไ้ ปสงั เกตโครงการอน่ื ๆของกรมผมเองกไ็ มม่ ปี ระสบการณใ์ นการควบคมุ
การกอ่ สรา้ งพอไดร้ บั มอบหมายกไ็ ปศกึ ษาจากทอี่ นื่ เหน็ วา่ โครงการอน่ื นน้ั บคุ ลากรทไ่ี ปทำ� งานคอ่ นขา้ งอยใู่ นวยั ทม่ี คี รอบครวั แลว้ ก็
อาจจะไม่สามารถทมุ่ เทเต็มท่ี ก็เลยตอ้ งขอคนท่ีมคี วามตั้งใจ เตม็ ใจไปด้วยกนั และงานทนี่ ัน่ กต็ ้องการเรย่ี วแรงของคนหนมุ่ ดว้ ย
ตอนไปเริ่มงานทุกคนก็กลัวหมด ผมยังเคยเรียนถามท่านอธิบดีว่าผมท�ำผิดอะไรถึงส่งผมไปไกลขนาดน้ัน ท่านก็บอกว่า
26
มันเปน็ โครงการเงนิ กู้นะ ทา่ นอยากไดค้ นหนุ่ม คนท่ีมีความรู้ สามารถประสานกับตา่ งชาตไิ ดบ้ ้าง ผมเองจบจาก Seato Graduate
School of Engineering รุ่น ๑ ปจั จบุ ันคอื AIT ก็ถอื วา่ มีคณุ สมบัตเิ หมาะสม พอมีคำ� สั่งแต่งตง้ั พๆ่ี นอ้ งๆ กถ็ ามไถก่ ันดว้ ยความ
เปน็ ห่วงว่าเราจะไปอยูใ่ นพนื้ ท่ีอันตราย
วางแผนด้วยความรอบคอบ
ผมกม็ าคดิ วา่ ถา้ เราไมไ่ ปแลว้ เราจะทำ� อะไรทเ่ี ปน็ การชว่ ย
บ้านเมืองบ้าง ก็ตัดสินใจชัดเจนว่าไป โดยขอนาย ๑. ขอเลือก
นายช่างหนุ่มที่คัดเลือกเองไปท�ำงานด้วยกัน งานก็ไปด้วยดี
ทีเดียว ได้รับการสนับสนุนให้ความร่วมมือจากกองทัพ
ภาคที่๒ส่วนหนา้ ซ่งึ ไปกอ่ ตัง้ สว่ นหน้าท่ีสกลนครทางกองทพั ก็
มีภารกิจท่ีต้องไปแยกมวลชนออกจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายอยู่แล้ว
ก็ทำ� งานอยา่ งใกลช้ ดิ กบั กอรมน. สว่ นหนา้ ของกองทัพภาคท่ี ๒
ซึ่งดูแล ๑๖ จังหวัด ผมมาทราบทีหลังว่าทหารเขาก็มาน่ังดูเราว่า
เราทำ� งานจรงิ ไหมตอนนน้ั ผมเพง่ิ อายุ๒๙-๓๐เขากย็ งั ไมม่ คี วาม
เชอื่ ถอื ในตวั บคุ คลตอ่ มาพอเหน็ วา่ เราเอาจรงิ เอาจงั เขากส็ นบั สนนุ เตม็ ที่ผมสามารถใชเ้ ฮลคิ อปเตอรเ์ หมอื นแทก็ ซไี่ ดเ้ ลยคอื ใชบ้ นิ
ตรวจงานในสถานท่กี ่อสร้างได้ ขณะนั้น พลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ ทา่ นเปน็ แม่ทพั ภาค กม็ ีการส่งกำ� ลังมาชว่ ยค้มุ กัน น่ันกท็ ำ� ให้เรา
ทำ� งานร่วมกนั อยา่ งมีความสุข และบุญกศุ ลอะไรกไ็ มท่ ราบ ปี ๒๕๑๒ สมเดจ็ ย่าเสด็จฯ มาประทับทสี่ กลนครเปน็ คร้ังแรก โดยประทับ
ท่ีประมงหนองหาร แล้วปี ๒๕๑๔ ได้เสด็จฯ มาประทับท่ีโครงการน้�ำอูนเราปีเว้นปีเป็นอย่างน้อย ในระหว่างท่ีพระองค์ท่านเสด็จฯ
ทกุ ปีผวู้ า่ ราชการ๑๖จงั หวดั กจ็ ะมารว่ มรบั เสดจ็ ฯทโ่ี ครงการนำ้� อนู เพราะฉะนน้ั ความรว่ มมอื ทกุ ภาคสว่ นจงึ ดมี าก โครงการเปน็ ทรี่ จู้ กั
และได้รับความร่วมมืออย่างดี คนรู้จักโครงการมากขึ้น การประชาสัมพันธ์โครงการแทบจะไม่ต้องท�ำเพราะสื่อก็ท�ำข่าวออกไป งานน้ี
เราได้กรป.กลางขณะนนั้ ตงั้ สถานวี ทิ ยุ๙๐๙เปน็ วทิ ยกุ ระบอกเสยี งของรฐั ทส่ี กลนครเรากไ็ ดใ้ ชส้ อื่ วทิ ยใุ นการแจง้ ขา่ วการปฏบิ ตั งิ าน
และการประชาสมั พนั ธท์ ้งั หลาย ซง่ึ ได้ผลมาก
อันที่ ๒. มันจ�ำเป็นอย่างมากที่เราต้องมีเกราะป้องกันตัวเราเอง เราไม่สามารถรอก�ำลังสนับสนุนจากต�ำรวจทหารได้เต็มท่ี
และทันเหตุการณ์ ผมก็เลยมีความคิดว่าต้องสร้างก�ำลังของเราเองจ�ำนวนหนึ่งและผมก็ขอให้ทางกองทัพคัดทหารซึ่งเป็นคนท้องถิ่น
ท่ีปลดเกษียณปลดประจ�ำการแล้ว ให้เข้ามาเป็นยามเป็นคนรถของเรา โดยเรารับเข้ามาเป็นลูกจ้างในโครงการแต่ต้องตกลงท�ำความ
เข้าใจไปในทางเดียวกนั ก่อน และมขี อ้ แม้ว่า ๑. ต้องมีเคร่ืองแบบติดตัวมา ๒. สามารถมีอาวธุ ติดตวั มา และมหี วั หนา้ ชุดมาด้วย กไ็ ด้
รับความส�ำเร็จโดยเราไม่ต้องท�ำอะไรมากมาย ทหารเหล่าน้ี กลางวันท�ำหน้าท่ีรักษาความปลอดภัย หรือเป็นคนงานพร้อมกับช่วยฝึก
คนของเราในเรอ่ื งการตอ่ สู้การใชอ้ าวธุ ปนื เพราะอยใู่ นพนื้ ทอ่ี นั ตรายในชว่ งเวลางานเขากท็ ำ� หนา้ ทรี่ กั ษาความปลอดภยั ลาดตระเวน
เลิกงานก็ลงพื้นท่ีหาข่าวและพูดคุยท�ำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพราะฉะน้ันหูตาของเราก็กว้างพอท่ีจะแก้ไขป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ
และสร้างความเขา้ ใจกับภายนอก
27
๓. เร่ืองประชาชน เราก็มาดูว่าจะท�ำอย่างไรถึงจะเข้ากับประชาชน กับ
ผู้ใหญ่หรือผู้น�ำในหมู่บ้านนั้นให้ได้ ก็ท�ำโดยไปนมัสการพระอาจารย์ท่ีชาวบ้าน
ใหค้ วามนบั ถอื ไปกราบพระอาจารยฝ์ น้ั อาจาโรพระอาจารยว์ นั อตุ ตฺ โมไปกราบ
ไปท�ำบุญ และกราบเรียนเล่าให้ท่านทราบถึงโครงการให้ท่านเข้าใจ ท่านก็เป็น
กระบอกเสยี งใหเ้ ราอยา่ งดี นำ� ไปถา่ ยทอดอธบิ ายกบั ชาวบา้ นอกี ตอ่ หนงึ่ ชว่ ยเรา
ไดม้ าก
เหลา่ นก้ี ค็ อื สง่ิ ทผ่ี มแกไ้ ขภาพโดยรวมเปน็ ปจั จยั ทที่ ำ� ใหโ้ ครงการสำ� เรจ็
คอื เรอื่ งวชิ าการนนั้ เราไมห่ ว่ งแลว้ ทห่ี ว่ งคอื เรอ่ื งการจดั การมวลชนซงึ่ ลำ� บากมาก
และท่ีหนักสุดคือการเป็นผู้น�ำ ถ้างานไหนขาดผู้น�ำที่จะน�ำพาโครงการให้ไป
ดว้ ยดีนมี่ นั ยากมาก มันสอนกนั ไม่ไดด้ ้วย ถ้าจติ ใจเราไม่สกู้ ็ล�ำบาก ผมโชคดีท่ี
ผมได้นายช่างหนุ่มๆ ไฟแรงเข้ามาเป็นทีมงานและไม่ออกนอกแถว เราก็ท�ำงาน
ด้วยกันอยา่ งมีความสุข
ส�ำเร็จไดด้ ว้ ยพระบารมี
เหตุอีกอันหนึ่งท่ีเราได้รับความร่วมมือและความเชื่อถือคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จฯ มาเป็น
ครงั้ แรกทโ่ี ครงการน�ำ้ อูนเมื่อพ.ศ.๒๕๑๔ก่อนทีส่ มเด็จย่าจะมาประทบั โดยเสดจ็ ฯมาเสวยพระกระยาหารกลางวนั ท่โี ครงการนำ�้ อูน
ซง่ึ ชว่ งนนั้ จะเสดจ็ ฯไปถวายกฐนิ ตน้ ทส่ี กลนครทา่ นคงเปน็ หว่ งสมเดจ็ ยา่ กไ็ ปทอดพระเนตรกอ่ นวา่ สถานทเี่ ปน็ อยา่ งไรเรยี บรอ้ ยไหม
ถือว่าท่านทรงไว้วางใจกรมชลและโครงการ โดยขณะน้ันหม่อมหลวงปิลันธน์ มาลากุล รองอธิบดีกรมชลประทานเป็นผู้ประสานงาน
และเป็นผู้แทนกรมชลประทานในการรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่าเมื่อคราวเสด็จโครงการชลประทานต่างๆ
ท่านก็คอยดแู ลใกลช้ ิดและใหค้ ำ� ปรกึ ษาเราตลอดจากนัน้ สมเด็จยา่ กเ็ สดจ็ มาประทบั ทน่ี ำ�้ อูนเปน็ ประจำ� จนถึงปี๒๕๒๔ทรงเปน็ ห่วง
เปน็ ใย เอ็นดพู วกเราอย่างมาก
เหตุการณ์ประทบั ใจผมคือ ในปี ๒๕๑๖ ผกค. ได้เข้ามาเผานคิ มสร้างตนเองนำ�้ อูน ซ่งึ เปน็ พน้ื ท่ที ่ีเราอพยพคนจากพ้นื ที่ท่ใี ช้
ก่อสรา้ งโครงการขน้ึ ไปอย่เู หนืออ่างดูแลโดยกรมประชาสงเคราะห์สาเหตุการเผาก็เหมือนวา่ เราไปสรา้ งความเดือดร้อนให้ประชาชน
สงิ่ สำ� คญั คอื ปญั หาในการชดเชยคา่ ทดี่ นิ ซงึ่ สว่ นใหญเ่ ปน็ ทปี่ า่ มปี ระมาณ๑๒หมบู่ า้ นและมวี ดั บา้ งดว้ ยเหตผุ ลนน้ั เขากค็ ดั คา้ นในการ
ท่ีเราจะย้ายคนไป ปี ๒๕๑๖ เรามีแผนที่จะเก็บกักน�้ำ เพราะการก่อสร้างใกล้จะเสร็จ ต้องอพยพคนให้หมด ผกค. ก็พยายามต้าน
ขดั ขวางมาโดยตลอดแต่ก็ไมส่ ำ� เร็จ จนสุดทา้ ยก็ใชว้ ิธีรนุ แรงเหมือนเป็นไมต้ าย ไม่ใหอ้ พยพได้
ตอนนน้ั กเ็ ปน็ ปญั หาคอ่ นขา้ งใหญแ่ ละทำ� ใหก้ ารยา้ ยตอ้ งลา่ ชา้ ออกไปกรมประชาสงเคราะหก์ บั ทางจงั หวดั อยสู่ งั กดั มหาดไทย
ด้วยกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดซ่ึงเป็นแม่งานในเร่ืองนี้ก็มีความเห็นโน้มเอียงไปทางว่าเรามาท�ำความเดือดร้อนให้กับประชาชน
จึงมีความเห็นคัดค้านอยู่ในใจที่จะไม่เอาโครงการนี้ พูดง่ายๆ คือมีความเห็นโน้มเอียงไปกับ ผกค. เขาไม่เห็นด้วยที่เราจะเก็บน้�ำ
28
อกี เรอื่ งหนง่ึ คอื การจา่ ยคา่ ทดี่ นิ ดเู หมอื นจะยงั ไมเ่ รยี บรอ้ ยผมยดึ หลกั ตามกฎหมายคอื จา่ ยคา่ ชดเชยใหก้ บั เจา้ ของทด่ี นิ ทม่ี กี รรมสทิ ธ์ิ
เท่าน้ัน และเราจ่ายไปหมดแล้ว แต่ราษฎรที่รุกป่า คือตอนเราถางป่า ชาวบ้านก็ไม่โมเมว่าเป็นเจ้าของท่ีดินน้ัน ให้ไปตรวจสอบก็โล่ง
ไปแล้ว ผู้ว่าหรือใครก็ตามที่ไปตรวจสอบทีหลังก็พบว่าที่โล่งแล้ว ชาวบ้านก็ปลูกต้นนั่นต้นน่ีและเรียกค่าชดเชย แต่ผมไม่ยอม
จา่ ยเฉพาะผมู้ เี อกสารสทิ ธ์ิเพราะถา้ ผดิ พลาดไปนผี่ มตอ้ งรบั ผดิ ชอบโดยผมไดข้ อผเู้ ชยี่ วชาญภาพถา่ ยทางอากาศจากกรมปา่ ไมไ้ ปให้
ความชดั เจนดว้ ยภาพถา่ ยทางอากาศแยกแยะออกมาชดั เจนเลยวา่ ปา่ มเี ทา่ ไรบา้ นมเี ทา่ ไรกไ็ ดข้ อ้ มลู ชดั เจนเรากน็ ำ� เสนอกบั ทางจงั หวดั
รายท่มี เี อกสารสทิ ธน์ิ ้นั เราจ่ายครบแลว้ ๑๐๐เปอร์เซ็นต์เมือ่ มีการเผานคิ มกว็ ุน่ วายมากเราไมส่ ามารถเข้าดำ� เนนิ การได้ตอ่ เลยแตเ่ รา
ป้องกันตัวเพ่ิมขึ้นอีกโดยมีกำ� ลังทหารเสริมเข้ามารอบตัวเราอย่างเงียบๆ โดยเราประสานกับกองทัพภาคที่ ๒ ซึ่งมีหน่วยรบพิเศษอยู่
เขาออกลาดตระเวนรอบๆโครงการเราและมวี นั หยดุ พกั ผอ่ นผมกข็ อชดุ นม้ี าทำ� งานใหเ้ ราคอื มาพกั ผอ่ นทเ่ี รามอี าวธุ ครบมอื มอี ปุ กรณ์
สอื่ สารแตใ่ หท้ ำ� งานมวลชนดว้ ยคอื ไมแ่ ตง่ เครอ่ื งแบบทหารใหม้ ากนิ อยกู่ บั เรามคี นดแู ลการกนิ อยเู่ รยี บรอ้ ยกลางวนั พวกนจ้ี ะเขา้ ปา่
ไปคลกุ คลกี บั ราษฎรขณะเดยี วกนั เรากฝ็ กึ คนของเราใหม้ จี ติ ใจเขม้ แขง็ สามารถตอ่ สไู้ ด้ใหม้ อี าวธุ ประจำ� ตวั เปน็ ลกู ซองบา้ งอะไรบา้ ง
ทั้งทเ่ี ราหาใหแ้ ละเขาหามาเอง แล้วเราจดั การอบรม ซง่ึ ก็เปน็ ไปด้วยดี แต่พวกเรากเ็ หน่อื ยกันมาก งานก็เรง่ หยุดไม่ได้ นำ�้ กก็ ำ� ลังจะมา
คนกย็ ังยา้ ยไปไมห่ มด แล้วจะท�ำยังไง
สร้างความเข้าใจเพ่ือกา้ วไปด้วยกัน
เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ทางกรมชลประทานก็มีความห่วงใย มีวันหนึ่งผมเชิญท่านอธิบดีแสวง พูลสุข ไปร่วม
งานสวดศพของผู้ปกครองนิคม และวันนั้นจึงได้มีโอกาสใกล้ชิดท่านและได้เล่าเร่ืองงานว่าอะไรมันเป็นอะไร จนงานสวดจบผมจึง
สามารถเปิดใจกับท่านได้ เร่ืองงานว่าเป็นอย่างไร หนักหนาสาหัสอย่างไร ทั้งเร่ืองดีเร่ืองร้ายก็เล่า ท่านเองก็อยู่งานสนามมาตลอด
ท่านก็เข้าใจ วันหน่ึงทางกรมก็เรียกประชุมก่อนที่เราจะไปเข้าร่วมช้ีแจงกับกรมประชาสงเคราะห์และกระทรวงมหาดไทยว่าจะตัดสินใจ
อยา่ งไรเกย่ี วกบั โครงการจะทำ� อยา่ งไรตอ่ ทางกรมเรากต็ อ้ งคยุ กนั กอ่ นทา่ นอธบิ ดแี สวงใหเ้ รานง่ั ประชมุ กนั สกั พกั ทา่ นกเ็ ขา้ มาในหอ้ ง
ประชมุ และบอก“เอาละขอบใจทกุ คนนะใหค้ วามหว่ งใยไอร้ งุ่ มนั แตค่ นทจี่ ะรเู้ รอ่ื งทส่ี ดุ กน็ ายรงุ่ เรอื งนน่ั แหละเพราะฉะนน้ั กใ็ หร้ งุ่ เรอื ง
ไปเปน็ ตวั แทนของกรมไปคุยเอง เราก็เพ่ิงอายุ ๓๐ ตน้ ๆ ตอ้ งไปชแ้ี จงกับระดบั ปลดั กระทรวง ตอนน้ันก็คดิ ไปเร่ือยวา่ เราจะท�ำยังไงดี
ผมกใ็ ชไ้ มต้ ายวา่ ถา้ เราถอยกเ็ ทา่ กบั แพ้ทเี่ ราลงุ ทนุ มากส็ ญู เปลา่ แลว้ ถา้ จะกลบั มาทำ� ใหม้ นั เกดิ อกี กค็ งไมไ่ ดอ้ กี แลว้ รถทจี่ ะผา่ นโครงการ
เข้าไปยังหมู่บ้านอื่นก็ไม่กล้าไป จะหาคนมาก่อสร้างก็ไม่ได้ เพราะงานน้ันไม่ใช่งานรับเหมา แต่เป็นงานท�ำเอง เงินลงทุนน้ันเป็นเงินกู้
เราก็ชี้แจงไปโดยมีฝ่ายทหารให้การสนับสนุน ผมก็เสนอไปว่า ถ้าเป็นเร่ืองท่ีดิน ทางจังหวัดเห็นว่าควรเป็นอย่างไรก็ต้องแก้ระเบียบ
แก้อะไร ดูว่าอ�ำนาจจังหวัดแก้ไขได้ไหม ถ้าได้ก็แก้มา พร้อมงบประมาณ ตั้งกรรมการตรวจสอบ จะต้องจ่ายให้ราษฎรรายไหนเท่าไร
ทางมหาดไทยหมดหนทางจะคา้ นกต็ อ้ งรบั กใ็ หท้ างมหาดไทยทำ� เรอื่ งอนมุ ตั มิ าสว่ นเรากไ็ ปตง้ั งบประมาณให้แตก่ ไ็ มใ่ ชจ่ า่ ยหมดตอ้ ง
ดเู อกสารกนั กจ็ บไปดว้ ยดีชว่ งนน้ั เหนอื่ ยมาก หนว่ ยความมนั่ คงหนว่ ยสบื ราชการลบั กม็ ามะรมุ มะตมุ้ เราเรอื่ งนายรงุ่ เรอื งเรอื่ งนำ�้ อนู
ไปสร้างความเดือดร้อน ก็หาทางสืบเสาะที่จะเอาผิดผมให้ได้ ถึงขนาดที่ฝ่ายความม่ันคงมากระซิบว่าท่ีดูมาคนที่ท�ำเร่ืองไม่ใช่ผม
กลายเปน็ ฝา่ ยอืน่ ไปก็ถอื ว่าสนุกมากแต่ก็ต้องระวงั ตัวท�ำงานแบบทุ่มสดุ ตัวเอาตวั เขา้ เสยี่ งเรื่องยากท่ีสุดกเ็ ร่ืองความเป็นผูน้ �ำนัน่ ล่ะ
29
พระราชทานขวัญและก�ำลังใจเปน็ มงคลแกช่ ีวิต
ปี ๒๕๑๔-๒๕๑๕ สมเด็จย่าเสดจ็ ฯ ก็ตรสั ถามวา่ เม่ือไรจะเก็บน้�ำได้ ผมกราบบังคมทลู วา่ ปลายปี ๒๕๑๖ หลังฤดูฝน คาด
ว่าจะสามารถเก็บน้�ำได้ ปรากฏว่าไม่สามารถด�ำเนินการได้ ในช่วงปี ๒๕๑๖-๒๕๑๗ ท่านเสด็จฯ กลับจากสวิสและได้เสด็จฯ มาท่ี
โครงการ รับส่ังว่า “นายรุ่งเรืองโกหกฉันน่ี” ตอนนั้นท่านแม่ทัพและใครต่อใครหลายคนก็รับเสด็จฯด้วย ผมคลานเข้าไปกราบท่านก็
รบั ส่ัง “รู้แลว้ ๆ” ผู้ใหญค่ นอ่ืนก็ตกอกตกใจกนั ใหญ่ เราเองก็ยมิ้ แบบใจตุ๊มๆ ต่อมๆ วา่ โดนทา่ นเล่นงานแน่ แตท่ า่ นกไ็ ม่รบั ส่ังอะไรตอ่
ทรงเขา้ พระทัยในเหตกุ ารณ์ แล้วในระหวา่ งที่ทา่ นประทับในโครงการ ปี ๒๕๑๖ มันสว่างไสวไปหมดเพราะท�ำงานท้งั ๒๔ ช่ัวโมง เรอื น
รบั รองทสี่ รา้ งไวอ้ ยสู่ งู สามารถมองเหน็ ภายในโครงการไดร้ อบทป่ี ระทบั กอ็ ยตู่ รงนนั้ เครอ่ื งจกั รทำ� งานเสยี งดงั ทง้ั คนื มผี ใู้ หญบ่ างทา่ น
มาถามว่าจะหยุดได้ไหม ท่านประทับอยู่ ท่านจะได้บรรทมอย่างเงียบสงบ รุ่งข้ึนผมก็ไปกราบบังคมทูลว่า จ�ำเป็นต้องขอพระราชทาน
อนุญาตท�ำงานกลางคนื เสียงดงั ทา่ นกร็ บั สัง่ “เอาเลยๆ” ผู้ใหญ่ทา่ นนนั้ กเ็ ดินหนีไปเลย
คืนวันหนึ่งเคร่ืองจักรจะหยุดระยะหน่ึงเพื่อเปลี่ยนกะ สมเด็จย่าก็มีรับส่ังถามว่ามันเป็นอะไร ทรงเป็นห่วง ผมก็กราบทูล
ความจรงิ ไป ผมกเ็ ลา่ เรอ่ื งนใ้ี หน้ อ้ งๆ ฟงั เปน็ กำ� ลงั ใจวา่ พระองคท์ า่ นทรงหว่ งใยพวกเรา รวมไปถงึ ทหารทมี่ าถวายอารกั ขา เพราะสมยั นนั้
ตอนกลางคืนท่ีน่ันหนาวมาก ปีที่หนาวสุดคือ ๒ องศา เครื่องแบบทหารก็มีแค่ชุดน้ัน ไม่ได้มีอุปกรณ์อะไร สมเด็จย่าพระราชทาน
ค�ำแนะน�ำให้เอากระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ในเส้ือทั้งข้างหน้าและข้างหลัง มันช่วยให้อุ่นได้จริงๆ นี่เป็นสิ่งเล็กน้อยท่ีไม่มีใครคาดคิด
แตพ่ ระองค์ทา่ นนึกถึง ทำ� ใหเ้ รามีกำ� ลงั ใจข้ึน
อยา่ งทที่ ราบวา่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั รชั กาลท่ี๙ทรงสนพระทยั เร่ืองแหล่งน�ำ้ พระองคท์ ่านเสด็จฯมาทน่ี ้ำ� อูนครง้ั แรก
เมอื่ พ.ศ. ๒๕๑๔ อีกครงั้ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘ หลังจากเร่ิมเก็บกกั นำ�้ แล้ว มาประทับแรม ๒ คนื และทรงลอยกระทงด้วย ปนี ้ันทา่ นเสด็จ
มาพระราชทานกฐินตน้ ท่วี ดั ป่าอุดมสมพรแลว้ กลบั มาประทับทรงงานทน่ี �ำ้ อนู ตัวผมไม่ไดอ้ ยู่รับเสด็จฯเพราะขณะนั้นไปบวชเป็นพระ
จำ� พรรษาอยทู่ วี่ ดั ปา่ ปนี น้ั โครงการนำ�้ อนู รบั มอบหมายจากหมอ่ มหลวงปลิ นั ธน์มาลากลุ ใหจ้ ดั หาแหลง่ นำ�้ ใหก้ บั โครงการพระตำ� หนกั
ตอนนนั้ เปน็ พระกย็ งั ต้องถอื วิทยุสอ่ื สาร แหล่งนำ้� นน้ั ใชเ้ วลาสรา้ ง ๘ เดือนกเ็ กบ็ กักนำ�้ ได้
๑๔ ปีท่ีอยู่ท่ีน่ัน ผมและทีมก็ท�ำงานด้วยกันจนจบโครงการ กับนายช่างหนุ่มๆ ที่ไปเราก็เปิดโอกาสให้เขาคิด ให้เขาเสนอ
พวกนจ้ี บปรญิ ญาทง้ั นน้ั เราไมไ่ ดท้ ำ� งานแบบรบั คำ� สงั่ อยา่ งเดยี วแลว้ ปฏบิ ตั ิเขาคดิ อะไรใหเ้ สนอมาแตเ่ รามใี นใจอยแู่ ลว้ วา่ แนวจะเปน็
แบบนี้เพยี งแตไ่ มม่ นั่ ใจกช็ วนกนั คดิ ถา้ เขาเอาดว้ ยทกุ คนมนั กไ็ ปดว้ ยดีมนั คอื การมสี ว่ นรว่ มถา้ เราไมส่ อนใหเ้ ขาใชค้ วามคดิ กจ็ ะเปน็
ไดแ้ คโ่ ฟร์แมน โชคดีทีไ่ ดค้ นดีๆ ไปท�ำงาน จงึ จะเหน็ ไดว้ ่าคนทนี่ ำ้� อนู รักกัน มกี ารจดั งานเล้ียงกนั จนมาถึงตอนนี้
ผมโชคดที ไ่ี ดค้ นรว่ มงานดแี ละมเี พอ่ื นพนี่ อ้ งในกรมสนบั สนนุ เวลาตอ้ งการอะไรเอย่ ปากขอไปทางโครงการอน่ื จากโครงการ
แม่กลอง ท่ีคุณจริย์ ตุลยานนท์ ดูแล อ้าปากร้องขอไปก็ไม่มีใครขัดข้องเลยท่ีจะเอาเครื่องไม้เครื่องมือ เอาคนหรืออะไรต่ออะไร
มาทำ� งานเรื่องแบบนม้ี ันไม่ไดเ้ กิดกับทกุ คนนะครับถือวา่ ทุกคนเอน็ ดูเพราะผมไมเ่ คยใชอ้ �ำนาจเวลาเข้าไปขอความชว่ ยเหลือเรากไ็ ป
อยา่ งน้องอย่างนุ่ง ไปขอรอ้ งเขากช็ ่วยอยา่ งดี
30
31
บนั ทกึ ความทรงจำ�
นายชัยพร เชนวริ ตั นพธิ
สามคั คคี อื พลัง
ผมเป็น ๑ ใน ๕ ของนักเรียนชลประทานที่ไปท�ำงานท่ีน�้ำอูน
ไปเมื่อต้นปี ๒๕๑๑ ส�ำหรับนิคมน�้ำอูนซ่ึงเป็นพื้นท่ีสีแดงน้ัน เรามีหน้าที่
ไปทำ� ระบบสง่ นำ้� ใหเ้ ขาดว้ ย ปที ผี่ มไปเขาเพง่ิ เปดิ โรงเรยี นมธั ยมนคิ มนำ�้ อนู
เป็นปีแรก ถนนหนทางยังล�ำบากมาก เวลาเช้าอาจารย์ไปถึงโรงเรียนช้า
ผมก็จะแอบไปสอนหนังสือเด็ก ตอนนั้นเรามีก�ำลังทหารคุ้มกัน ตกเย็นก็
สอนเด็กเล่นวอลเลย์บอล เตะบอลม่ัง เอาเด็กมาอยู่กับเรา ผู้ก่อการร้าย
ก็เป็นพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นแหละ น่ีเป็นนโยบายอย่างหน่ึง เวลาเราออก
ไปไหนก็พาเด็กไปด้วยบางทกี ต็ ระเวนไปแข่งฟุตบอลโรงเรยี นใกลเ้ คยี งก็มีสว่ นที่ชว่ ยดงึ มวลชนคอื ได้กศุ ลทสี่ อนเดก็ และไดค้ วาม
ปลอดภยั ของเราดว้ ย ถึงเราจะมีกำ� ลังคุ้มกัน แตก่ ารเอาคนเป็นร้ัวดที สี่ ดุ ลกู เขามาอยกู่ ับเรา มาเลน่ กีฬาเด็กกม็ ีความสขุ อยู่ในแคมป์
กค็ งไม่มีใครมาท�ำอะไรเรา ใครจะท�ำอะไรท่ีไหนเรากท็ ราบ นี่กเ็ ป็นส่วนหนึ่งในงานด้านมวลชนท่ีสำ� คญั
ความประทับใจในการท�ำงานท่ีนั่นก็คือ เรื่องความความสามัคคี ซึ่งมีมาหลายส่วน ๑. คือการท่ีผู้บังคับบัญชาปกครอง
โดยให้เรามีสิทธ์ิมีเสียงร่วมวางแผน และเนื่องจากงานน้ีเป็นงานที่กรมชลท�ำเอง ทุกคนทุกฝ่ายต้องการเคร่ืองจักรเคร่ืองมือ เวลาท่ี
ต้องใช้ก็เวลาเดียวกัน นายก็ให้มาประชุมร่วมกัน มาจัดสรรกัน มาร่วมคิด โดยมีนายเป็นพ่ีเล้ียง มาคิดหาทางออกร่วมกัน บริหาร
จัดสรรเครื่องมือที่จ�ำกัดเพ่ือให้งานมันเสร็จพร้อมกัน เรียกว่าเป็นประชาธิปไตยมาก ๒. สถานการณ์รอบข้างมันบังคับ อยู่ในพื้นที่
ตรงนั้นถ้าไม่รักกันก็อยู่ล�ำบาก ๓. พวกเรา ๕ คน
ที่ไปท�ำงานก็เป็นนักเรียนชลประทานรุ่น ๑๙
รนุ่ เดยี วกนั จงึ มคี วามสนทิ สนมอยแู่ ลว้ นายกบั นาย
ก็เป็นเพื่อนกัน ลูกน้องกับลูกน้องก็สนิทกัน ซึ่งมี
ส่วนให้รักกัน อาจจะมีแย่งเครื่องไม้เคร่ืองมือ
แตไ่ ม่มแี ย่งรถ เพราะตอนนัน้ ถนนก็ไมค่ อ่ ยมใี ห้ขับ
คุณอยากขับรถก็ตัดถนนไปเอง ส่ิงท่ีอยากเห็นคือ
อยากให้ลูกน้องต้ังใจท�ำงาน แย่งเคร่ืองมือท�ำงาน
เหมือนสมยั พวกเราบ้าง
32
บนั ทึกความทรงจำ�
ประทวน อารรี อบ
โครงการน�ำ้ อนู เมอ่ื วันวาน
ขา้ พเจา้ ยา้ ยจากโครงการฝายทา่ ลาดอำ� เภอพนมสารคามจงั หวดั ฉะเชงิ เทรามาปฏบิ ตั งิ านทโี่ ครงการนำ�้ อนู ชว่ งปลายปี๒๕๑๕
ขา้ พเจา้ มีความรู้สกึ วา่ มีความตื่นเต้นความประทับใจและภูมใิ จดใี จคละกนั ไปตามเรอ่ื งเล่าต่อไปน้ีในโครงการน้ำ� อนู มกี ารป้องกนั
ในโครงการมรี ถจป๊ิ ตดิ ปนื กลวงิ่ ตรวจตลอดคนื ยามหรอื เรยี กวา่ ผรู้ กั ษาความปลอดภยั คาดวา่ มากกวา่ ๕๐คนเรยี กมาเขา้ ศนู ยอ์ บรม
เรยี นยทุ ธวธิ ตี า่ งๆคณุ กมลพรหสั รงั ค์(รองอธบิ ดตี ำ� แหนง่ สดุ ทา้ ย)ไปอบรมเรอื่ งวตั ถรุ ะเบดิ ๓วนั ทกี่ องทพั ภาคขา้ พเจา้ กไ็ ดไ้ ปดว้ ย
ส่วนหน่วยงานนอกท่กี �ำลงั ปฏบิ ตั ิงานป้องกนั ระวังเตม็ ท่ี แม้แต่คนขับรถแทรกเตอรย์ งั สะพายปืนยิงเรว็
ความประทับใจข้อแรกคือ การวางรูปแบบโครงการเปรียบสมัยน้ีคล้าย “เมืองทอง” ต่างกันตรงท่ีเรามีห้องพัก จุดรวมใหญ่
ถงึ ๖๐แถวหนงึ่ แถวมี๑๒ครอบครวั สว่ นบา้ นพกั ยามขา้ ราชการและของหวั หนา้ งานกอ็ ยรู่ อบในโครงการมนี ำ้� ประปาฟรีมสี นามกฬี า
ใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ที่หน้าโครงการมีสถานีต�ำรวจ ห่างไปอีกเล็กน้อยโครงการได้สร้างห้องแถวเป็นตลาด ให้ชาวเขื่อนไปใช้บริการ
ตรงสนามเทนนสิ ปจั จบุ นั นี้เดมิ เปน็ ตกึ เกบ็ วตั ถรุ ะเบดิ ปลามโี รงพยาบาลตง้ั อยแู่ ถวตน้ จามจรุ ี(ทจ่ี อดรถปจั จบุ นั )มนี ายแพทยอ์ ำ� นวย
ทองเจรญิ และภรรยา(พยาบาลอาชพี )ประจำ� หนว่ ยเทสต(์ test)ดนิ และหนว่ ยเจาะหนิ อยใู่ ตต้ น้ จามจรุ รี มิ สนามฟตุ บอลดนิ ทจ่ี ะมา
ท�ำเขื่อนต้องไปขุดมา test และต้องต้ังช่ือแหล่งท่ีมาเป็น zone-A, zone-B … รถท่ีจะไปเอาดินต้องตามค�ำสั่งนายช่างผู้ควบคุม
วา่ จะให้ไปเอา zone ไหน
ภูมิใจ เพราะข้าพเจ้าได้รับมอบให้ไป
ควบคุมเครื่องผสมคอนกรีตอัตโนมัติ
ซ่ึงต้ังอยู่ที่บ้านหนองเบ็ญ สะดวกแก่การที่
รับหิน-ทรายด้วย และใกล้ปั๊มน�้ำ กม. ๑๖
(ตอน ๓ ปัจจุบัน) ซ่งึ ลาดคลอง LMC ยงั
ขาดช่วงอยู่ ส่วนอาคารส�ำคัญต่างๆ เช่น
อาคารท้ิงน้�ำท่ีอยู่ใกล้หัวงานและอ่ืนๆ อีก
จนจบงานก็ถอนใจหายเหนอ่ื ย
33
อาคารระบายน้ำ� ล้นของเขื่อนน�้ำอูน
โครงสรา้ งพนื้ ฐานเพอื่ ความยง่ั ยนื อาคารระบายน�ำ้ ล้น
เขื่อนน�้ำอูนเป็นเข่ือนเก็บกักน้�ำขนาดใหญ่ มีความจุ เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ตงั้ อยูป่ ระมาณกง่ึ กลาง
๕๒๐ ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร เปน็ เข่ือนดินสูง ๒๙.๕๐ เมตร ระดบั ด้านฝั่งซ้ายของตัวเข่ือนมีลักษณะเป็น แบบ Morning Glory
สนั เขอ่ื นเหนอื ระดบั นำ้� ทะเลปานกลาง ๑๙๐ เมตร ยาว ๓,๓๐๐ and Over Flow Spillway ท�ำหน้าท่ีระบายน้�ำออกจาก
เมตร สันเขอ่ื นกว้าง ๘.๐๐ เมตร เปน็ เขือ่ นอเนกประสงคแ์ บบ อา่ งเกบ็ นำ้� เมอ่ื ระดบั นำ้� เกนิ ระดบั เกบ็ กกั ท่ี +๑๘๕.๐๐ ม.(รทก.)
SIFD ใช้เพื่อการเก็บกักน้�ำ (S=Storage) ทดและส่งน้�ำ (I=
Irrigation) บรรเทาอุทกภยั (F=Flood Control) และเพ่อื การ โดยสามารถระบายน�้ำไดส้ ูงสุด ๓๕๐ ลกู บาศกเ์ มตรต่อวินาท ี
ระบายน�้ำ (D=Drainage) สร้างกั้นล�ำน�้ำอูนที่บ้านหนองบัว อาคารระบายน�้ำล้นฉกุ เฉนิ
อ�ำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร มีพื้นท่ีรับน้�ำฝนเหนือเขื่อน
๑,๑๐๐ ตารางกิโลเมตร โดยรับน�้ำจากต้นน้�ำเทือกเขาภูพาน ต้ังอยู่ทางฝั่งขวาของตัวเขื่อน มีลักษณะเป็นฝาย
มีพ้ืนท่ีน้�ำท่วม ๕๓,๘๐๐ ไร่ เป็นที่ท�ำมาหากินของราษฎร ท�ำหน้าท่ีระบายน้�ำออกจากอ่างเก็บน�้ำเมื่อมีน้�ำหลากอย่าง
๒๐,๐๐๐ ไร่ ฉบั พลนั ลงสอู่ า่ งเกบ็ นำ�้ มากเกนิ ความจทุ ก่ี ำ� หนดไว้ โดยสามารถ
ระบายน�้ำไดส้ ูงสดุ ๑,๕๓๖ ลกู บาศกเ์ มตรต่อวนิ าที
34
ประตปู ากคลองสง่ นำ้� สายใหญฝ่ ั่งขวา ระบบสง่ น้ำ�
เป็นท่อคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ระบบส่งน้�ำของโครงการประกอบด้วย
๒.๔๐ เมตร ยาว ๔๘.๔๐ เมตร ตงั้ อยู่ทางฝั่งขวาของตัวเขือ่ น คลองส่งน้�ำสายใหญ่ ๒ สาย คือ
ส่งน้�ำเข้าคลองส่งน้�ำสายใหญ่ฝั่งขวาด้วยอัตราสูงสุด ๒๑.๘๐
ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามารถส่งน้�ำให้พื้นที่ชลประทาน ๑. คลองส่งน้�ำสายใหญฝ่ ่ังขวายาว ๔๕.๗๐ กโิ ลเมตร
ประมาณ ๑๓๙,๖๐๓ ไร ่ ๒. คลองสง่ น้ำ� สายใหญฝ่ ง่ั ซ้ายยาย ๒๘.๐๔ กิโลเมตร
ประตูปากคลองส่งน้�ำสายใหญ่ฝัง่ ซ้าย คลองซอยและคลองแยกซอยจำ� นวน ๘๔ สาย
เป็นท่อคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง รวมความยาว ๒๕๐.๕๑๕ กิโลเมตร ส่งน�้ำให้กับพ้ืนท่ี
๑.๕๐ เมตร ยาว ๕๐.๘๐ เมตร ตัง้ อยทู่ างฝ่ังซา้ ยของตวั เข่อื น ชลประทาน ๑๙๔,๐๙๓ ไร่
ส่งน้�ำเข้าสู่คลองส่งน�้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายด้วยอัตราสูงสุด ๙.๑๐
ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามารถส่งน�้ำให้กับพื้นท่ีชลประทาน สถานีสูบน้�ำด้วยไฟฟ้านิคมน�้ำอูน ประกอบ
จำ� นวน ๕๔,๔๙๐ ไร ่
ดว้ ยคลองสง่ นำ้� จำ� นวน ๑๓ สาย ความยาว ๒๗.๒๙๑ กโิ ลเมตร
สามารถสง่ นำ้� ชว่ ยพืน้ ทีช่ ลประทานอกี ๑๖,๗๘๒ ไร่
ถนนเลียบคลองชลประทาน เป็นถนนที่สร้าง
ขนึ้ สองฝง่ั คลองชลประทานสายใหญ่ คลองซอย และคลองแยก
ซอย มีความกวา้ งตง้ั แต่ ๔-๘ เมตร ผวิ การจราจรลูกรงั และผวิ
จราจรลาดด้วยยางแอสฟัสด์ รวมความยาวประมาณ
๓๕๑.๕๔๖ กโิ ลเมตร ใชป้ ระโยชนใ์ นการตดิ ตอ่ ระหวา่ งหมบู่ า้ น
และการขนสง่ ผลผลติ ไปสตู่ ลาด ถนนเลยี บคลองชลประทานน้ี
จดั อยูใ่ นประเภท Access Road หรือถนนเช่อื มหมู่บ้าน
35
36
แผนทีแ่ สดงถนน
โครงการส่งน้�ำและบำ� รุงรกั ษา
นำ�้ อนู
37
บันทึกความทรงจำ�
นายปราโมทย์ ไมก้ ลัด
ผู้ออกแบบสงิ่ กอ่ สรา้ งในโครงการสง่ น้�ำและบำ�รงุ รกั ษานำ้� อูน
อธิบดกี รมชลประทาน คนที่ ๒๔
ยดึ ม่ันในหลกั การ
หลงั จากผมเรยี นจบมาจากต่างประเทศเม่ือปลายปี๒๕๑๐บรรจุเปน็
ลูกจ้าง ต้นปี ๒๕๑๑ บรรจุเป็นข้าราชการท่ีกองออกแบบ ผู้บังคับบัญชา
ก็มอบหมายให้ไปอยู่ส่วนออกแบบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้�ำอูนก็อยู่
ในน้ัน ขณะนั้นก�ำลังคนน้อย ก็เลยได้มาอยู่หน่วยออกแบบซึ่งอยู่ในสังกัด
กองวชิ าการมหี ลายงานเขา้ มาพรอ้ มกนั เรากม็ าจบั งานเขอื่ น กอ่ นเรมิ่ โครงการ
มีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (feasibility study) เอาไว้ก่อน
แล้ว เป็นเอกสาร ๑ เล่ม เป็นเค้าโครงของโครงการ โดยไม่ทราบว่าใครท�ำ
แต่ก็ใช้เป็นแนวในการด�ำเนินการ ระบบส่งน�้ำก็ไม่มีอะไร ตอนน้ันเป็นที่
ว่างเปล่า วิศวกรออกแบบก็มาวางแนวคลองส่งน�้ำ ส�ำรวจกันเพราะพื้นท่ี
กวา้ งขวางเกือบ ๒๐๐,๐๐๐ ไร่
ตอนนนั้ จบมาใหม่ๆประสบการณก์ ็ยงั ไมม่ แี ตไ่ ดม้ าจับงานใหญโ่ ตก็มาคดิ วางแผนว่าจะทำ� ยงั ไงโดยได ้ feasibilitystudy
ที่เป็นภาษาอังกฤษก็เอามาทบทวน ปรับเปล่ียนให้เข้ากับสถานท่ีจริง พอลงไปแล้วก็พบว่าการออกแบบเบ้ืองต้นตาม feasibility
study น้ันยังไม่ละเอียดพอ ก็ต้องออกแบบใหม่ ออกแบบรายละเอียดให้ชัดเจน การที่เรายังไม่มีประสบการณ์ท�ำโครงการขนาด
ใหญ่ก็ต้องอาศัยความรทู้ ีเ่ รยี นมา ท�ำให้ถูกต้องตามหลกั วิชาการเป็นหลัก กอ่ นจะตัดสนิ ใจอยา่ งละเอียดรอบคอบและชดั เจน ขณะ
ท�ำโครงการน้�ำอูนก็มีงานออกแบบและการแก้ปัญหาโครงการอ่ืนด้วย น่ันช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ท�ำงานให้เรา เรียนมาทางด้านชล
ศาสตร์ วศิ วกรรมงานดนิ กเ็ ลยไม่มปี ญั หา
เดิมใน feasibility study กำ� หนดพื้นทร่ี บั น้�ำชลประทานไว้กว่า ๒๐๐,๐๐๐ ไร่ แตพ่ อส�ำรวจจรงิ สภาพดนิ บางที่ไมเ่ หมาะ
กบั ระบบส่งน�ำ้ เพราะดินไม่ดี ส่งน�ำ้ ไปก็ปลกู อะไรไมไ่ ดผ้ ล จงึ ต้องตัดบางพื้นทีอ่ อก และเหลอื ประมาณ ๑๘๘,๐๐๐ ไร่ ก�ำหนดพ้ืนที่
ฝั่งซ้ายฝั่งขวา ก�ำหนดชลภาระ แต่พ้ืนท่ีก็ไม่ได้ท�ำเกษตรพร้อมกัน เราก็เอาตัวเลขมาค�ำนวณเพ่ือก�ำหนดขนาดอาคาร ประตูระบายน้�ำ
เพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนค์ รบถว้ นทงั้ การระบายนำ้� พรอ่ งนำ�้ เขอื่ นนำ�้ อนู ใชง้ บประมาณราว ๒,๐๐๐ลา้ นบาทถอื วา่ ราคาถกู มากการออกแบบ
ระบบส่งน้�ำท�ำไว้อย่างละเอียด มีคูคลองพรุนไปหมด ผู้ท�ำการส่งน�้ำต้องบริหารจัดการให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแต่ละสาย
คลอง พ้นื ท่สี งู ก็ต้องมกี ารสบู น�ำ้ ขน้ึ ไป เพอ่ื ใหไ้ ดต้ ามเป้าหมายทมี่ ี
38
คดิ อยา่ งรอบคอบ เพือ่ ความย่งั ยนื
งานน้ีกรมชลประทานท�ำเองหมด ตั้งแต่วางโครงการ ส�ำรวจ ออกแบบ วางระบบวางแบบส่งน�้ำ การก่อสร้างทุกอย่างเปิดฉาก
พรอ้ มกนั หมดโดยตอนนนั้ ไดเ้ งนิ กจู้ ากธนาคารเพอ่ื การพฒั นาเอเชยี (AsianDevelopmentBank-ADB)เพอ่ื มาจดั ซอ้ื เครอ่ื งจกั ร
ใชใ้ นโครงการธนาคารกก็ ำ� หนดวา่ ตอ้ งวา่ จา้ งทป่ี รกึ ษาชาวตา่ งประเทศมาคอยดแู ลแตว่ ศิ วกรไทยออกแบบเองผมเปน็ วศิ วกรออกแบบ
ตัวอาคารระบายน�้ำล้นก็มาคิดกันว่าจะออกแบบอย่างไร เพราะมีหลายรูปแบบ ถ้าเราเอาไปไว้ท่ีปลายเขื่อนจะท�ำคนเดือดร้อนมาก
แล้วในการสร้างเขื่อนก็ใช้เวลาหลายปี ต้องมีช่องทางผันน�้ำ ก็เลยสร้างอาคารระบายน้�ำล้นเป็นท่อมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๖ เมตร ใช้ใน
การผันน�้ำระหว่างการก่อสร้างด้วย แล้วค่อยๆ ต่อปล่องข้ึนมาเรื่อยๆ ส่วนฐานรากท่ีวางช่องทางผันน้�ำน้ีก็มีความเหมาะสม ใช้น้�ำหนัก
ของตัวปล่องเป็นตัวกดทับไม่ให้ลอย ท่ีออกแบบเป็นดอกผักบุ้งเหนือสันเขื่อน ๒.๖๐ เมตร สามารถระบายน้�ำผ่านอุโมงค์ได้ ๓๕๐
ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซงึ่ เพยี งพอกับปรมิ าณน้�ำ การออกแบบแบบนี้จะชว่ ยอุ้มนำ�้ ไว้ไมใ่ หไ้ หลพรวดไปแตจ่ ะคอ่ ยๆ ปล่อยไป ช่วย
บรรเทาอุทกภยั เปน็ อยา่ งดี ซ่งึ นี่เป็นเปา้ หมายหน่งึ ถา้ ระดบั นำ้� สงู เกนิ ครบี ก็มี emergency spillway ชว่ ยระบายอกี ทางหน่ึง สว่ นตัว
ครบี ทอ่ี ยรู่ อบปากอาคารนน้ั เปน็ ตวั ชว่ ยกนั การเกดิ นำ้� วนซงึ่ ทำ� ใหป้ ลอ่ งสน่ั อนั ตรายครบี จะตดั การวนของนำ้� ลดแรงสน่ั ตวั อาคารทอ่
และอาคารปลอ่ งใช้เหลก็ ไม่มาก ตัวปลอ่ งด้านในเปน็ ทรงกลม ดา้ นนอกเปน็ เหล่ียมเพือ่ ให้สรา้ งงา่ ย เหลก็ ท่เี สริมคอนกรตี ใช้เหล็ก
รบั อุณหภูมิ แต่ไม่ต้องใช้มากเพราะไมไ่ ด้รับแรงอะไร และไดร้ บั แรงดนั จากน้ำ� ท่อี ยรู่ อบๆ อยู่แลว้
ตอนลงไปดพู นื้ ทค่ี ร้งั แรก ก็มงี านสองพวกคืองานเขอื่ นดินและงานสง่ น�ำ้ ก็มาดวู ่างานอะไรจะต้องเริ่มก่อน แตก่ ็เรมิ่ พรอ้ มกนั
เพียงแต่การสร้างเข่ือนอยู่กับที่ ต้องให้มีความชัดเจน จึงเร่งงานเข่ือนดินก่อน ฐานรากของเข่ือนเป็นดินดานแข็ง ขุดเจาะดูแล้วพบว่า
ตลอดแนวนน้ั ฐานรากลกึ ลงไป๔-๕เมตรเปน็ ดนิ ดานแขง็ ดา้ นดนิ กม็ ดี นิ ปนทรายบา้ งขดุ เจาะวางฐานลงไปไมล่ กึ แตต่ อ้ งมกี ารคำ� นวณ
อยา่ งละเอียดเพอ่ื ให้ม่ันใจว่าไม่ทรดุ อยา่ งไมม่ เี หตผุ ล ออกแบบเผื่อสันเข่ือนยุบไว้ ๑ เมตร สรา้ งเผือ่ ให้เป็นถนนสญั จรของประชาชน
ด้วย ตัวอาคารไม่ได้อยู่กลางล�ำห้วย คุณภาพดินดี พ้ืนท่ีเก็บน้�ำกว้างใหญ่พอสมควร มีโอกาสเกิดคลื่นได้ ด้านหน้าของเขื่อนจึงเป็น
หินทิ้ง ส่วนด้านหลังก็ปลูกหญ้า รูปทรงของเขื่อนที่คดโค้งไปมาก็เพื่อประหยัดวัสดุในการน�ำไปถมเป็นตัวเข่ือน แนวท่ีเราก�ำหนดไว้
ตรงไหนโคกมีเนินก็ลากไปตามน้ันเพราะมีฐานเดิมอยู่แล้ว ประหยัดวัสดุ เวลา
และคา่ แรง
การทำ� งานก็ประสานกนั ดกี ับฝา่ ยกอ่ สร้าง ซง่ึ อธิบดีรุง่ เรืองเป็น ช.ก.ส.
อยู่ ช่วยกันเร่งงานแต่ต้องมีความละเอียด ถูกต้อง ต้องเก็บข้อมูลจ�ำนวนมาก
เพ่ือผลิตออกมาเป็นแบบด้วยความมั่นใจ การวางอาคารส่งน�้ำ บานเปิดปิด
ระหว่างการท�ำงานทุกข้ันทุกตอนผมก็ไปท่ีโครงการตลอด เพื่อปรึกษาหารือกัน
ผู้ออกแบบกับผู้ก่อสร้างประสานกันเป็นอย่างดี ต้องใกล้ชิด กลมเกลียว และ
ชดั เจน เพราะเป็นโครงการทก่ี รมทำ� เอง
39
โครงข่ายของสายน้�ำ ระบบสง่ นำ�้ เพอื่ สง่ นำ�้ ใหพ้ น้ื ทเี่ พาะปลกู ในอำ� เภอพงั โคน
เพ่ือผนื ดินสมบูรณ์ อ�ำเภอพรรณานิคม และอ�ำเภอเมืองสกลนครทางฝั่งขวาของ
นำ�้ อนู ไปจดหนองหาร ๑๓๙,๖๐๓ ไร่ และฝง่ั ซา้ ยจดหว้ ยปลาหาง
ส่วนท่ีส�ำคัญในโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน้�ำอูน ๕๔,๔๙๐ ไร่ รวม ๑๙๔,๐๙๓ ไร่ มคี ลองสง่ นำ้� สายใหญ่ ๒ สาย
ส่วนหนึ่งคือโครงข่ายคลองส่งน�้ำเข้าไปในพ้ืนที่ของเกษตรกร คลองสง่ นำ้� สายใหญฝ่ งั่ ขวายาว ๔๕.๗๐ กิโลเมตร ปริมาณนำ�้
โดยแบง่ ออกเปน็ ๒ สายหลกั จากตวั เขอ่ื นยาวไปตามขอบพน้ื ท่ี ในคลองเตม็ ท่ี ๒๑.๘๐ ลกู บาศกเ์ มตรตอ่ วนิ าที พน้ื ทช่ี ลประทาน
โครงการ ระบบโครงข่ายคลองนี้มีประตูระบายน�้ำ โรงสูบน�้ำ ๑๓๙,๖๐๓ ไร่ คลองสง่ นำ�้ สายใหญฝ่ ง่ั ซา้ ยยาว ๒๘.๐๔ กโิ ลเมตร
ไฟฟ้า คลองส่งน�้ำ คลองซอย และคลองแยกซอยจ�ำนวนมาก ปริมาณน�้ำในคลองเต็มที่ ๙.๑๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พ้นื ที่
เพอื่ ทำ� หนา้ ทส่ี ง่ นำ้� ไปใหพ้ น้ื ทที่ ำ� การเกษตรกรรม เมอ่ื สรา้ งเขอ่ื น ชลประทาน๕๔,๔๙๐ไร่มคี ลองซอยและแยกซอยทงั้ สนิ้ ๙๗สาย
เสร็จใน พ.ศ. ๒๕๑๖ และเริ่มเกบ็ กกั นำ้� ในปเี ดยี วกนั น้ี เก็บกัก ยาว ๒๗๗.๘๐๖ กโิ ลเมตร คลองท้ังหมดดาดดว้ ยคอนกรีตเพอื่
น�้ำได้ ๕๒๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ในพ.ศ. ๒๕๑๘ การก่อสร้าง ให้การส่งน้�ำมีประสิทธิภาพ ตามคลองสายต่างๆ มีอาคาร
ระบบชลประทานบางส่วน ได้แก่ คลองส่งน�้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ควบคมุ การสง่ นำ้� ประมาณ ๑,๙๓๒ แหง่ นอกจากนย้ี งั มคี สู ง่ นำ้�
และคลองซอยไดด้ ำ� เนนิ การเสรจ็ เรยี บรอ้ ย สามารถสง่ นำ้� ใหก้ บั เพ่ือส่งน�้ำให้ได้ทั่วถึงทุกแปลงเพาะปลูกมีถนนบนคันคลอง
พื้นที่ในเขตต�ำบลแร่และต�ำบลไฮหย่อง อ�ำเภอพังโคน เป็น เพือ่ ความสะดวกในการขนสง่ ผลิตผล
จำ� นวน ๒๐,๐๐๐ ไร่ ใน พ.ศ. ๒๕๒๓ สามารถสง่ นำ้� ใหก้ บั ตำ� บล
ตา่ งๆ ได้ ๑๓๘,๘๐๘.๗ ไร่ คิดเป็นพื้นทีร่ ้อยละ ๘๙.๓๘ ของ
พ้นื ท่ีชลประทาน รวม ๑๐ ตำ� บล
40
ระบบระบายน�ำ้
ระบบระบายน้ำ� ประกอบดว้ ยคลองระบายนำ้� ท่ีก่อสรา้ ง
ขน้ึ เพือ่ ระบายนำ้� สว่ นทเี่ หลอื ใช้หรอื เกินความต้องการออกจาก
พ้ืนที่เพาะปลูกในบริเวณพื้นท่ีส่งน�้ำของโครงการจ�ำนวน ๓๘
สาย รวมความยาว ๒๖๖.๐๔๓ กโิ ลเมตร และอาคารประกอบ
ตา่ งๆ ในคลองระบายน�้ำประมาณ ๖๔ แห่ง
ผลจากการขยายพื้นที่ปลูกข้าวประกอบกับการมี
ระบบชลประทานทำ� ใหผ้ ลผลติ เฉลยี่ ตอ่ ไรส่ งู ขน้ึ ใน พ.ศ. ๒๕๒๓
ผลผลิตขา้ วเพิ่มขนึ้ จาก พ.ศ. ๒๕๑๕ ประมาณรอ้ ยละ ๑๓๖.๙
และมูลค่าการผลิตเพิ่มข้ึนประมาณร้อยละ ๒๒๖ แต่อย่างไร
ก็ตาม ตัวเลขที่เพ่ิมขึ้นนี้ยังต�่ำกว่าเป้าหมายท่ีตั้งไว้ และ
เกษตรกรไมไ่ ด้รบั กำ� ไรจากการผลติ ซง่ึ มีสาเหตุมาจากดินขาด
ความอุดมสมบูรณ์ และการกระจายน้�ำไปสู่พื้นที่เพาะปลูก
ยังไม่ท่ัวถงึ ต้นทุนการผลติ สูง ราคาผลผลติ ตำ่� ตลอดจนตลาด
ในการรับซ้ือผลผลิตไม่กว้างขวาง เกษตรกรบางรายยังมี
ทศั นคตกิ ารปลกู พืชแบบเก่าอยู่ การสนับสนุนของทางราชการ
ท�ำได้ในวงจำ� กดั
ระบบส่งน�ำ้
ระบบสง่ นำ�้ ของโครงการฯ ประกอบดว้ ย คลองสง่ นำ้� สาย
ใหญ่ ๒ สาย คือ คลองส่งน�้ำสายใหญ่ฝั่งขวายาว ๔๕.๗๐
กโิ ลเมตร และคลองสง่ นำ้� สายใหญฝ่ ง่ั ซา้ ยยาว ๒๘.๐๔ กโิ ลเมตร
คลองซอยและคลองแยกซอยจ�ำนวน ๘๔ สาย รวมความยาว
๒๕๐.๕๑๕ กิโลเมตร รวมความยาวของคลองส่งน้�ำทั้งสิ้น
๓๒๔.๒๕๕ กโิ ลเมตร มอี าคารประกอบในคลองสง่ นำ้� ประมาณ
๑,๙๓๒ แหง่ พรอ้ มดว้ ยโรงสบู นำ้� ไฟฟา้ ทง้ั สน้ิ ๔ แหง่ และระบบ
ส่งน�้ำที่นิคมน�้ำอูน ซ่ึงประกอบด้วยคลองส่งน้�ำ ๑๓ สาย ยาว
๒๗.๒๙๑ กิโลเมตร มอี าคารประกอบในคลองส่งน้ำ� ประมาณ
๒๑๑ แห่ง ส่งน้�ำด้วยเคร่ืองสูบน้�ำไฟฟ้าจ�ำนวน ๔ เคร่ือง
สามารถสง่ น�้ำช่วยเหลือพ้ืนท่เี พาะปลกู ประมาณ ๑๖,๗๘๒ ไร่
41
42
แผนทแ่ี สดงคลองสง่ น้ำ� โครงการ
ส่งน�้ำและบำ� รุงรกั ษา
นำ้� อนู
43
การบริหารจัดการชลประทาน
ในดา้ นการสง่ นำ�้ และบำ� รุงรักษา
การบรหิ ารจดั การชลประทานในดา้ นการสง่ นำ�้ และบำ� รงุ
รักษาให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการชลประทาน
โดยเกษตรกรมสี ว่ นรว่ ม อนั เปน็ การกระจายอำ� นาจไปสทู่ อ้ งถนิ่
และการพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ในเขตชลประทานให้มีการ
ผลิตสินค้าทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ ในปัจจุบันมีกลุ่ม
ผ้ใู ช้นำ้� (พืน้ ฐาน) ๘๐๗ กลมุ่ กล่มุ บรหิ ารการใช้น้ำ� ชลประทาน
๒๙ กล่มุ สหกรณ์ผู้ใชน้ ้�ำชลประทาน ๒ กลุ่ม และอาสาสมคั ร
ชลประทาน ท�ำหน้าที่ประสานงานกับกลุ่มผู้ใช้น้�ำชลประทาน
และชว่ ยเจา้ หน้าที่ของโครงการฯ เก็บขอ้ มลู การจดั สรรน�ำ้ และ
บ�ำรงุ รักษาประจ�ำฤดกู าลเพาะปลูก
44
การจัดรปู ทีด่ ิน พืน้ ฐานต่างๆ ได้แก่ ถนน คนั -คนู ำ้� และอืน่ ๆ ประมาณรอ้ ยละ
๗ พ้ืนท่ีทดลองที่ ๑ นี้ท�ำการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยใน พ.ศ.
เพอ่ื เปน็ การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของระบบการชลประทาน ๒๕๑๙
เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการผลิตของเกษตรกรในพื้นท่ี ทาง พ้ืนท่ีทดลองท่ี ๓ อยู่ในเขตบ้านเปื่อยและบ้านวังยาง
โครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน้�ำอูนจึงได้มีการจัดระบบ ตำ� บลวงั ยาง อำ� เภอพรรณานคิ ม วธิ กี ารจดั รปู ทด่ี นิ ยงั คงใชแ้ บบ
การชลประทานในระดบั ไรน่ า โดยแบง่ พนื้ ทช่ี ลประทานออกเปน็ Chao Phaya Model มพี ื้นทป่ี ระมาณ ๓,๐๐๐ ไร่ ด�ำเนนิ การ
๓ เขต คือ เขตจัดรปู ที่ดนิ เขตงานคนั -คนู ำ�้ ก่อสร้างในช่วง พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๓
เขตจดั รปู ทดี่ นิ คอื เขตพฒั นาทด่ี นิ ในไรน่ าของเกษตรกร พนื้ ทที่ ดลองที่ ๒ เนอ่ื งจากวธิ กี ารจดั รปู ทด่ี นิ แบบ Chao
ให้ได้รับการชลประทานทั่วถึงทุกแปลง และปรับปรุงพื้นท่ี Phaya Model ซง่ึ ไดท้ ดลองจดั ทำ� ในพนื้ ทท่ี ดลองที่ ๑ และพนื้ ที่
เพาะปลูกให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด โดยจัดรูปร่างหรือโยกย้าย ทดลองที่ ๓ นน้ั พบวา่ มคี วามไมเ่ หมาะสมกบั สภาพพน้ื ทใี่ นเขต
แปลงดินให้สะดวกต่อการเพาะปลูก มีการจัดสร้างส่ิงอ�ำนวย โครงการสง่ นำ�้ และบำ� รงุ รกั ษานำ้� อนู เปน็ อยา่ งมาก เนอ่ื งจากวธิ ี
ความสะดวกตา่ งๆ เชน่ คสู ง่ นำ้� ครู ะบายนำ�้ ทางลำ� เลยี ง อาคาร การก่อสร้างจะต้องมีการปรับหน้าดินใหม่หมด ซ่ึงในเขต
ชลประทานในคสู ง่ นำ�้ ตลอดจนปรบั ระดบั พนื้ ทเ่ี ทา่ ทจ่ี ำ� เปน็ เพอื่ โครงการท่ี ๑ การปรบั หน้าดนิ ท�ำใหค้ วามอดุ มสมบูรณ์ของดิน
ให้ทุกแปลงได้รับความสะดวกในเรื่องน�้ำ ในระยะเริ่มต้นการ ทีม่ ีอยู่นอ้ ยลดลงไปอีก ทำ� ให้ผลการปลกู พืชของเกษตรกรไม่ดี
ดำ� เนนิ งานในเขตจดั รปู ทด่ี นิ ยงั เปน็ แบบพน้ื ทท่ี ดลองเพอื่ ทดลอง เทา่ ทค่ี วร ตอ้ งลงทนุ ในดา้ นปจั จยั การผลติ มากขน้ึ ดงั นนั้ สำ� หรบั
ระบบการพฒั นาการชลประทานในระดบั ไรน่ า การปรบั รปู ทดี่ นิ พ้ืนที่ทดลองที่ ๒ จึงได้มีการปรับปรุงวิธีการจัดรูปท่ีดินเพื่อให้
เพอื่ การพฒั นาการเกษตร พน้ื ทท่ี ดลองนม้ี อี ยดู่ ว้ ยกนั ๓ พนื้ ทคี่ อื เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและความเหมาะสมของดิน
พ้นื ทที่ ดลองท่ี ๑ อย่ทู ่บี ้านแร่ ต�ำบลแร่ อำ� เภอพงั โคน มี ในเขตโครงการโดยไม่ปรับหน้าดิน ไม่มีการจัดรูปแปลงใหม่
พนื้ ที่ประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่ การจัดรูปท่ีดินเปน็ แบบ Chao Pha- หรือเปล่ียนลักษณะรูปแปลงน้อยที่สุด มีถนนและคัน-คูน�้ำ
ya Land Levelling Model วิธีการดงั กล่าวจะมีการปรับระดับ การจดั รปู ทดี่ นิ แบบนใ้ี ชช้ อื่ วา่ Lam Nam Oon Model อยทู่ บี่ า้ น
พื้นที่ (Land Levelling) ให้เสมอกัน มีการจัดรูปแปลงใหม่ โพนบก ต�ำบลขมิ้น อ�ำเภอเมืองสกลนคร มีพ้ืนท่ีประมาณ
(Land Re-shaping) การจัดระบบการสง่ น้�ำให้พ้ืนท่ีมคี ัน-คูนำ้� ๒,๐๐๐ ไร่
ทุกแปลง เกษตรกรจะต้องเสียพื้นที่เพ่ือการก่อสร้างโครงสร้าง
45
หลักการส่งน�้ำในเขตจัดรูปที่ดินเป็นการส่งน�้ำแบบ
หมุนเวียนในคูน้�ำ ก�ำหนดให้ผู้ใช้น�้ำไม่ได้ใช้น้�ำชลประทาน
พรอ้ มกนั ทง้ั แฉกสง่ นำ�้ แตเ่ จา้ หนา้ ทชี่ ลประทานจะเปน็ ผกู้ ำ� หนด
จ�ำนวนน้�ำชลประทานและจัดระยะเวลาส่งน้�ำ โดยแบ่งเนื้อท่ี
รบั นำ�้ ในแฉกสง่ นำ้� ออกเปน็ เนอ้ื ทห่ี มนุ เวยี นยอ่ ยแลว้ กำ� หนดชว่ ง
ระยะเวลารอบเวรการส่งน้�ำตามความเหมาะสม โดยการสง่ น�ำ้
ให้พอเพียงกับความต้องการของพืช กล่าวคือ จะด�ำเนินการ
สง่ นำ้� คร้งั หนง่ึ ๆ ให้พอเหมาะทจ่ี ะขงั ไวใ้ นแปลงเพาะปลูก เช่น
การท�ำนา เป็นต้น จนเพียงพอกบั ความต้องการช่วงระยะเวลา
หนง่ึ เมื่อปรมิ าณน�้ำหรือความช้ืนในดินถูกใช้ไปจนเหลอื อยใู่ น
จ�ำนวนท่กี �ำหนดจึงพจิ ารณาส่งน�้ำใหส้ ำ� หรบั ครงั้ ตอ่ ไปอกี
การสง่ นำ�้ วธิ นี ี้ ทำ� ใหผ้ ใู้ ชน้ ำ�้ เกดิ ความมน่ั ใจในการใชน้ ำ้�
ชลประทาน เพราะจะไดร้ บั นำ้� ชลประทานเมอื่ ใด จำ� นวนเทา่ ใด
เป็นระยะเวลานานเท่าใด และเม่ือใดจะได้รับน�้ำส�ำหรับ
46
การส่งน้�ำคร้ังต่อๆ ไป สามารถทราบได้แน่ชัดและแน่นอน น�้ำท่ีต้องการและไม่เป็นไปตามก�ำหนดเวลา ปัญหาและ
อีกประการหน่ึงท�ำให้สามารถขจัดปัญหาการแก่งแย่งน้�ำ อปุ สรรคทเี่ กดิ ขนึ้ เนอื่ งจากผใู้ ชน้ ำ้� ชลประทานกลนั่ แกลง้ กนั เอง
ระหว่างเกษตรกรอันท�ำให้เกิดผลดีในด้านสังคมและความ และขาดความสามัคคี
สามคั คใี นหมู่คณะ ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ มกี ารใช้ที่ดินเพ่อื การปลกู ขา้ วเพมิ่ ขนึ้
เขตคัน-คูน�้ำ เป็นเขตชลประทานท่ีคลองซอยเล็กหรือ จาก พ.ศ. ๒๕๑๕ ประมาณรอ้ ยละ ๒๑ การชลประทานมสี ว่ น
เหมืองไส้ไก่ที่ต่อจากท่อส่งน้�ำเข้านา เป็นแนวไปตามแปลง ท�ำให้เกิดการขยายพ้ืนท่ีเพาะปลูก ในเขตพื้นที่โครงการยังมี
เพาะปลูกทจ่ี ะต้องสง่ น�้ำเข้าไปให้ไดท้ ว่ั ถึงตลอดแปลง โครงการปรบั ปรงุ พนื้ ทโ่ี ดยการจดั รปู ทด่ี นิ การสรา้ งคนั คนู ำ�้ เพอื่
หลักการและวิธีการส่งน้�ำในเขตคัน-คูน้�ำ เช่นเดียวกับ เพ่ิมประสิทธิภาพของระบบการชลประทานในการระบายน้�ำ
ในเขตจัดรูปท่ีดินทุกประการ แต่ผู้ใช้น้�ำชลประทานบางราย ไปส่พู นื้ ท่ีเพาะปลกู ไดอ้ ย่างทัว่ ถึง
อาจจะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร เนื่องจากแนวคูส่งน้�ำ ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ เกษตรกรในเขตจัดรูปท่ีดินมีรายได้
จะลัดเลาะความสูงต�่ำของพื้นท่ีตามแนวแปลงกรรมสิทธ์ิเดิม เฉลย่ี ทเ่ี ปน็ เงนิ สดจากการปลกู พชื เพม่ิ ขน้ึ จาก พ.ศ. ๒๕๑๘ ทง้ั นี้
โดยด�ำเนินการตามพระราชบัญญัติคันและคูน้�ำ พ.ศ. ๒๕๐๕ เนื่องจากเกษตรกรในเขตจัดรูปท่ีดินให้ความส�ำคัญต่อการ
จงึ ทำ� ใหก้ ารอำ� นวยความสะดวกเรอ่ื งนำ้� ไมด่ พี อ เพราะเจา้ ของ ปลูกพชื
ที่ดินบางรายไม่ยินยอมให้ด�ำเนินการสร้างคันและคูน�้ำผ่าน โครงการส่งน�้ำและบ�ำรุงรักษาน�้ำอูนสามารถส่งน�้ำให้
แปลงเพาะปลกู อนั ทำ� ใหแ้ ปลงเพาะปลกู บางเจา้ ของทดี่ นิ ไมไ่ ด้ พื้นที่เพาะปลูกในเขตโครงการได้ประมาณ ๑๘๕,๘๐๐ ไร่
รบั นำ�้ โดยตรงจากคสู ง่ นำ�้ จำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั นำ้� โดยผา่ นแปลงอน่ื ต่อมาได้ด�ำเนินงานพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมโดยร่วมมือกับ
หรือโดยวธิ ีอน่ื ใด ท้ังนี้แล้วแต่สภาพภมู ปิ ระเทศ เกษตรกรในเขตโครงการในด้านต่างๆ เพ่ือพัฒนาอาชีพของ
การส่งน้�ำวิธีน้ีท�ำให้ผู้ใช้น�้ำเกิดความม่ันใจในการใช้น�้ำ เกษตรกรโดยมุ่งในด้านการพัฒนารูปแบบธุรกิจการเกษตร
ชลประทานร้อยละ ๖๐ ของจ�ำนวนเจา้ ของท่ีดิน ในแต่ละแฉก ระหว่างภาคเอกชนและเกษตรกรในการใช้น้�ำชลประทาน
ส่งน�้ำส่วนที่เหลืออีกร้อยละ ๔๐ นั้น ได้รับน้�ำน้อยกว่าจ�ำนวน ให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพิ่มข้ึน ทั้งน้ีเพ่ือยกมาตรฐาน
การครองชีพของราษฎรให้ดีข้ึน ปัจจุบันเกษตรกรในเขต
โครงการนับได้ว่าเป็นเกษตรกรก้าวหน้าและเป็นตัวอย่าง
แก่เกษตรกรในทอ้ งถิน่ อน่ื
47
โครงการพัฒนาชนบท การดำ� เนนิ งานของโครงการแบง่ ออกเปน็ ๒ ฝา่ ย คอื การ
แบบผสมผสาน ดำ� เนนิ งานระดบั นโยบาย ประกอบดว้ ยคณะกรรมการ ๓ ระดบั
คือ คณะกรรมการพัฒนาการเกษตรชลประทาน คณะ
โครงการพัฒนาชนบทแบบผสมผสานบริเวณโครงการ อนุกรรมการประสานงานระดับชาติ และคณะอนุกรรมการ
ส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน�้ำอูน เกิดข้ึนใน พ.ศ. ๒๕๒๑ โดยมี ประสานงานระดับจังหวัด ในอีกด้านหนึ่งการด�ำเนินงาน
วัตถุประสงค์เพ่ือเพ่ิมผลผลิตทางการเกษตรในเขตโครงการ ในสนาม มีผู้อ�ำนวยการสนามซ่ึงแต่งตั้งจากกรมชลประทาน
ยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในเขตโครงการให้สูงขึ้น เป็นผู้ควบคุมและประสานงานร่วมกับหัวหน้าคณะของ
โดยการปรับปรุงและขยายบริการในด้านการรักษาพยาบาล ส่วนราชการต่างๆ ทเ่ี กีย่ วข้อง ๘ หน่วย ไดแ้ ก่ กรมชลประทาน
การวางแผนครอบครัว การศึกษา และการโภชนาการ เพื่อให้ กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการ
เกษตรกรมสี ว่ นรว่ มกบั กจิ การของรฐั และของชมุ ชนเพมิ่ มากขน้ึ เกษตร กรมการศึกษานอกโรงเรียน กรมประมง กรมอนามัย
เพิ่มสมรรถภาพของเจ้าหน้าที่ในการประสานงานต่างๆ ของ และกรมปศุสตั ว์
โครงการในลักษณะผสมผสานอันเป็นการเช่ือมโยงแผนการ
ชลประทานไปส่กู ารใช้น้ำ� ในระดบั ไร่นา
48
การด�ำเนินงานในเขตพ้ืนที่โครงการก่อสร้างและบ�ำรุง
รักษาน�้ำอนู ในระยะเรม่ิ แรก (พ.ศ. ๒๕๑๘-๒๕๒๐) การพฒั นา
พ้ืนที่เป็นเพียงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อแก้ปัญหาการ
ขาดแคลนน้�ำและน้ำ� ท่วมของเกษตรกร รวมท้ังพฒั นาเสน้ ทาง
คมนาคมเพอ่ื ความสะดวกในการขนส่งผลผลิต ตอ่ มาใน พ.ศ.
๒๕๒๑ ได้มีการจัดตั้งโครงการพัฒนาชนบทแบบผสมผสาน
บริเวณโครงการชลประทานน�้ำอูนข้ึนเพื่อให้การพัฒนาพ้ืนท่ี
ปฏิบัติพร้อมกันไปทุกด้าน ได้แก่ ส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริม
การศกึ ษา สง่ เสรมิ อาชีพนอกภาคเกษตรกรรม สุขภาพอนามยั
การพัฒนาระบบชลประทานที่ได้ด�ำเนินการมาก่อนได้รวม
เขา้ ในโครงการพฒั นาชนบทแบบผสมผสานดว้ ย
การใช้ที่ดินในเขตโครงการชลประทานน้�ำอูนท่ีได้รับ
น้�ำชลประทานใน พ.ศ. ๒๕๑๙ เกษตรกรยังใช้พ้ืนที่ปลูกข้าว
เป็นหลัก และใช้พื้นท่ีปลูกพืชไร่เป็นจ�ำนวนน้อย มีการขยาย
พน้ื ทป่ี ลกู ขา้ วในบรเิ วณทเี่ ปน็ ปา่ ในบางตำ� บล การเปลย่ี นแปลง
การใช้ที่ดินในเขตโครงการชลประทานน�้ำอูนในช่วง พ.ศ.
๒๕๑๕-๒๕๑๙ เกษตรกรมีความต้องการพ้ืนท่ีเพื่อใช้ใน
การเกษตรกรรมมากขึ้น ได้มีการขยายพื้นที่ปลูกข้าวเข้าไป
ในบริเวณที่เป็นป่า ในช่วง พ.ศ. ๒๕๑๕ – ๒๕๒๓ นับต้ังแต่
ก่อนที่โครงการจะแล้วเสร็จ เกษตรกรมีความต้องการขยาย
ขนาดพ้นื ทปี่ ลูกขา้ วสงู มาก
ระยะเวลา ๘ ป ี ในช่วง พ.ศ. ๒๕๑๕-๒๕๒๓ ผลผลติ
ทางการเกษตรเพ่ิมข้ึนจาก พ.ศ. ๒๕๑๕ อตั ราการเพิม่ ของเขต
ที่ได้รับการชลประทานประมาณร้อยละ ๑๓๖.๖๓ เกือบทุก
ต�ำบลจ�ำนวนผลผลิตข้าวใน พ.ศ. ๒๕๒๓ เพิ่มมากขึ้นกว่า
รอ้ ยละ ๑๐๐ เม่อื เทยี บกบั ใน พ.ศ. ๒๕๑๕ เกษตรกรสามารถ
เพ่ิมปริมาณการผลิตได้สูงจนท�ำให้มูลค่าผลผลิตสูงขึ้นกว่า
รอ้ ยละ ๒๒๖.๓ ผลจากการทเ่ี กษตรกรสามารถผลติ ขา้ วไดม้ าก
ข้ึนย่อมมีผลต่อสภาพความเป็นอยู่ของเกษตรกรในทาง
เศรษฐกิจไม่มากก็น้อย แสดงให้เห็นว่านับแต่มีโครงการ
ชลประทานแนวโนม้ การผลติ เพมิ่ สงู ขนึ้ ซงึ่ ถา้ มกี ารชลประทาน
เต็มพ้ืนท่ีและมีการปรบปรุงเทคนิคในการผลิตแล้ว ผลผลิต
ในเขตโครงการฯ จะมปี รมิ าณเพิ่มมากขึ้น
49
บนั ทกึ ความทรงจำ�
ดร.สมเกียรติ ประจำ�วงษ์
อธิบดีกรมชลประทานคนท่ี ๓๒
วิศวกรทางดา้ นสง่ น้ำ� และบำ�รุงรักษาโครงการสง่ น�้ำและบำ�รุงรักษาน้�ำอนู
เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์แหง่ ยคุ เพื่อการชลประทาน
ผมบรรจุครงั้ แรกเมื่อปลายปี ๒๕๒๔ เลขตำ� แหน่งอยทู่ ี่นำ้� อูนแตต่ อ้ ง
ไปรายงานตัวท่ีอุบล ตอนนั้นน้�ำอูนขึ้นกับอุบล ตอนหลังจึงมาสังกัดอุดร
เรมิ่ ท�ำงานเต็มตวั กต็ ้นปี๒๕๒๕ยาวมาประมาณ๒-๓ปีขณะนัน้ การกอ่ สรา้ ง
สว่ นใหญ่ การสรา้ งอ่างเสร็จแลว้ เหลอื แตง่ านจดั รูปท่ดี ิน งานระบบ แล้วก็มี
งานด้านการต้ังกลุ่มผู้ใช้น�้ำ การจัดสรรน�้ำ และการฝึกอบรมให้ความรู้
แกช่ าวบา้ นซึ่งเปน็ เร่ืองใหม่
สมัยนั้นมีผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาท�ำการประเมินความส�ำเร็จของ
โครงการน้�ำอูนด้วยว่าคุ้มค่าไหม ทางยูเสดได้ว่าจ้างบริษัทต่างประเทศและของไทยมาร่วมประเมิน ช่วงนั้นเป็นช่วงรอยต่อของการ
กอ่ สรา้ งและการสง่ นำ�้ และบำ� รงุ รกั ษาการกอ่ สรา้ งคลองสง่ นำ้� คลองระบายนำ้� กท็ ำ� ไปการออกแบบกท็ ำ� ในพน้ื ท่ีทำ� ควบคกู่ นั ไปกบั การ
จดั รปู ที่ดิน โครงการน้ำ� อูนเปน็ โครงการแรกๆ ที่มีการวางระบบการส่งน้�ำ ซึง่ ตอนน้ันดงั มาก เพราะวา่ มกี ารตรวจวัดน้ำ� ผมบรรจุใหมๆ่
มฝี รง่ั มาชว่ ยวางแผนการสง่ นำ้� วา่ จะสง่ นำ�้ แบบไหนสง่ เมอ่ื ไรเรยี กวา่ เปน็ ทแี่ รกๆทเี่ อาเทคโนโลยใี หมๆ่ มาใช้เนอ่ื งจากเปน็ งานใหมแ่ ละ
เป็นโครงการแรกๆ ที่เอาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการบริหารจัดการ เราพยายามเอาเทคโนโลยีเข้าไปใช้ มีการวัดปริมาณน้�ำ ทดสอบ
ทางด้านชลศาสตร์ สัมประสิทธิ์การออกแบบ พวกคลองส่งน�้ำหรืออาคารบังคับน้�ำต่างๆ มีการทดสอบอัตราการรั่วซึม งานเหล่านี้
ทำ� ควบคไู่ ปกบั งานวิจยั
บรู ณาการเพื่อความม่ันคง
โชคดีท่ีโครงการตอนนั้นเป็นลักษณะโครงการแบบผสมผสาน คล้ายๆ ประชารัฐสมัยน้ี มีบริษัทเข้ามาวางแผนการตลาด
ทำ� เรอ่ื งการผลติ เมลด็ พนั ธ์ุวางแผนการปลกู พชื ทำ� contractfarmingกบั ชาวบา้ นซงึ่ การตลาดตอนนนั้ ดมี ากๆโดยบรษิ ทั มาลงทนุ
มาให้ความรู้เรื่องการผลิตพืชที่เป็นความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง เร่ิมมีการก่อต้ังโรงงานใหม่ๆ เข้ามา เป็นการท�ำงานร่วมกัน
ของหน่วยงานในกระทรวงเกษตร มีกรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน และหน่วยงานอื่น มีกรมพัฒนาชุมชนซ่ึงเข้ามาดูมาช่วยชาวบ้าน
ตอนนั้นเรียกวา่ ศูนย์ฝึกอบรมบา้ นฝงั่ แดง ฝกึ อบรมให้มคี วามร้เู ร่ืองการส่งน�้ำ มีคลองส่งนำ้� จำ� ลอง การจ�ำลองสถานการณ์ ฝกึ อบรม
หลายอยา่ งทง้ั ดา้ นการเกษตรและการสง่ นำ�้ มกี ารตงั้ กลมุ่ ผใู้ ชน้ ำ้� เยอะมากเพราะฉะนน้ั จะรเู้ ลยวา่ พน้ื ทน่ี น้ั มใี ครรบั นำ้� เมอื่ ไรมกี ารสอน
การอบรมกัน เปน็ โครงการแรกๆ ที่ท�ำใหภ้ าคอีสานมีความคุน้ เคยกบั ระบบสง่ น�ำ้
50