The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือที่ระลึก 50 ปี เขื่อนน้ำอูน กึ่งศตวรรษแห่งความภาคภูมิ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

50 ปี เขื่อนน้ำอูน กึ่งศตวรรษแห่งความภาคภูมิ

หนังสือที่ระลึก 50 ปี เขื่อนน้ำอูน กึ่งศตวรรษแห่งความภาคภูมิ

Keywords: เขื่อนน้ำอูน,หนังสือที่ระลึก

จุดเด่นของโครงการน�้ำอนู คือ ๑. มีการทำ� งานทีผ่ สมผสานระหวา่ งสว่ นราชการในลักษณะการบรู ณาการ ๒. เปน็ คร้งั แรกที่เรา
ใช้ระบบประชารัฐ คือมีบริษัทเข้ามาแนะน�ำชาวบ้านเร่ืองการท�ำตลาด ให้เรียนรู้เร่ืองการท�ำบัญชีค่าใช้จ่าย เกษตรกรก็มีความสุข
๓. เข้าใจว่าเป็นที่แรกท่ีเอาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยวางแผนการจัดสรรน�้ำ เนื่องจากโครงการน้ีเป็นโครงการเงินกู้ของยูเสด เขาก็
เลยว่าจา้ งบรษิ ทั เข้ามาดดู ้วยมมี หาวทิ ยาลัยยทู าห์ และบรษิ ัทอื่นๆเขา้ มาดู มาชว่ ยวางแผนเร่ืองการส่งน้ำ� การตลาดเขาเกง่ มกี ารคยุ กับ
ชาวบา้ นท�ำให้ชาวบา้ นเขา้ ใจจะมีการวางแผนรว่ มกันสปั ดาห์ละคร้ังมีออฟฟิศกม็ าคุยกนั ว่ามแี ผนขยายการประมงจะท�ำตรงไหนบ้าง
จะปลูกพืชอะไรก็แนะน�ำ ฝึกอบรมให้ มีศูนย์ฝึกอบรม ๒ แห่ง ที่ศูนย์ฝึกอบรมบ้านฝั่งแดง อยู่นอกโครงการ ส่วนใหญ่ด�ำเนินการ
โดยกรมพฒั นาชมุ ชนโดยยเู สดใหก้ ารสนบั สนนุ สมยั นน้ั กม็ ปี ราชญช์ าวบา้ นมกี ารเรยี นรทู้ ำ� ไรน่ าสวนผสมปลกู พชื เลย้ี งสตั ว์ทำ� ปลา
เปน็ ตัวอยา่ งให้ชาวบา้ นอกี แห่งอย่ใู นโครงการน�ำ้ อนู รองรับไดป้ ระมาณ๕๐-๖๐คนมีทกี่ นิ ทีพ่ ักให้พอฝกึ อบรมหรอื ระหว่างการตั้ง
กลมุ่ ผใู้ ชน้ �ำ้ เราก็จะชักชวนให้เกษตรกรมาชว่ ยกนั ขดุ ลอกคูส่งน้�ำ เรากเ็ อารถออกไปประชาสมั พนั ธ์ เข้าไปเชิญชวนชาวบา้ นมารว่ มกนั
ออกแรง ชาวบา้ นกม็ าลงแขกกนั ซึ่งเปน็ เร่อื งที่ดีมาก สมัยน้หี าได้ยาก

วิชาการตามหลักวชิ า

จุดเด่นอีกอย่างก็คือเรื่องวิธีการท�ำงานซึ่งเป็นการบูรณาการงาน บูรณาการคน วางแผนงานร่วมกัน มีออฟฟิศส่วนกลาง
อยใู่ นเขอื่ น มีที่ปรึกษามาทำ� งานร่วมกันหมด ส่วนงานสง่ น�ำ้ กจ็ ะมีออฟฟิศใกลเ้ คียงกนั
ทางด้านวชิ าการทำ� กนั อย่างจรงิ จังมาก เป็นตวั อยา่ งดา้ นวชิ าการอย่างแทจ้ รงิ มกี ารวัดปรมิ าณนำ�้ ทผ่ี า่ นแต่ละชว่ งเพื่อวางแผน
การส่งน�้ำ มีการวัดผลตามหลักวิชาการ มีการสร้างเคร่ืองมือในการบริหารจัดการน�้ำ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยท่ีมีการขุดคลอง
ดาดคอนกรีตแลว้ ทำ� ระดบั นำ้� ชดั เจน มีการเดินตรวจระดบั น้�ำวนั ละ ๓ คร้งั เพราะกลวั ว่าการจ่ายน�ำ้ จะไมค่ งที่ ข้ึนๆ ลงๆ อาจจะเพราะ
ชาวบ้านไม่เข้าใจ เพราะเรามีการสร้างประตูกลางคลอง ก็อาจจะมีการลักลอบปิดประตูเพื่อหาปลาในคลองเยอะมาก ตอนนั้นระบบ
เปิดปิดใช้พวงมาลัยที่หมุนด้วยมือ ตอนกลางคืนก็จะตรวจยากมาก โดยเฉพาะในคืนฝนตก ถ้ามีคนแอบไปปิดประตูเพื่อจับปลา
อาจจะท�ำใหน้ �ำ้ ทว่ มได้ เคยมีครงั้ หนึง่ ท่ีมีคนปิดบานแลว้ นำ�้ ล้นคนั ต้องซอ่ มใชเ้ งนิ หลายลา้ นบาท
สิ่งส�ำคัญอีกอย่างคือ โครงการน�้ำอูนเป็นที่รับเสด็จสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งเป็นท่ีเชิดหน้าชูตากรมชล
อยา่ งยง่ิ
มีการท�ำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์กที่ดีมากๆ ระหว่างทีมส่งน�้ำและก่อสร้าง และหน่วยงานอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้อง บูรณาการกันระหว่าง
หลายหน่วยงาน โดยใชว้ ิทยุสื่อสารในการตดิ ต่อระหว่างหน่วยงาน ถอื ไดว้ ่าช่วยให้การท�ำงานสะดวกสบาย
ทุกคนท�ำงานดว้ ยความเสยี สละจรงิ ๆ ท�ำงานกัน ๒๔ ช่วั โมงเพราะเป็นช่วงการสง่ น�้ำใหม่ๆ เราก็กงั วลว่าจะสง่ น�้ำแคไ่ หนจึงจะ
ไปถงึ ปลายคลองคลองฝ่ังซ้ายยาว๒๐กว่ากโิ ลเมตรฝงั่ ขวายาว๔๐-๕๐กโิ ลเมตรตอ้ งทดลองกันวา่ ส่งน้�ำนานแคไ่ หนตอ้ งเปิดนำ้�
เท่าไร ยิ่งมีฝนก็ท�ำให้ระดับน้�ำหวือหวาๆ ต้องคอยดูกันตลอดเวลา มีการทดสอบหลายคร้ังจนแน่ใจแล้วก็ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ
ต่อไป ท่นี �้ำอูนนีใ้ ชเ้ ปน็ ท่ฝี ึกอบรมให้เจา้ หน้าทโ่ี ครงการส่งน้�ำอืน่ ๆ ในภาคอสิ านด้วย

51

งานคอื ชวี ติ

ผมอยู่ที่น่ันประมาณ ๓-๔ ปีแล้วไปเรียนต่อ การท�ำงานท่ีน่ัน
เน่ืองจากมีการใช้คอมพิวเตอร์เป็นยุคแรกๆ เป็นเร่ืองใหม่ ฝร่ังเอา
คอมพวิ เตอรม์ าใช้ดว้ ยความสนบั สนนุ ของผบู้ งั คบั บญั ชากเ็ ลยใหม้ าเรยี น
คอมพิวเตอร์เพิ่มเติมในกรุงเทพฯ มาวันศุกร์เย็น กลับวันอาทิตย์เย็น
ไปถึงเช้าวันจันทร์ก็ท�ำงาน เรียนอยู่ประมาณ ๓ เดือน ตอนนั้นยังไม่จบ
ปริญญาตรี กรมมีโควตาให้ศึกษาปริญญาตรีปีละ ๗ คน แต่ตอนนั้นงาน
ทีท่ ำ� มีภารกจิ เยอะ ท�ำงานแทบจะ ๒๔ ชั่วโมง และเราก็สนุกกับงาน ต้องวัดน้ำ� กนั ทุกคลอง คลองยาวทัง้ หมด ๓๐๐-๔๐๐ กโิ ลกเ็ ดนิ ดู
กันท่ัว ไปไหนก็สบายๆ ตอนนั้นผู้ใหญ่มีนโยบายห้ามนอนพักท่ีโครงการ แต่ให้ไปพักตามตอนส่งน�้ำคือส่วนที่รับผิดชอบพื้นท่ีรับนำ้�
เปน็ ช่วงๆ เชน่ ฝ่งั ขวามี ๓ ตอน ฝงั่ ซา้ ย ๒ ตอน ต้องไปตรวจดนู �้ำ เวลากนิ อาหารกไ็ ปกนิ กบั ชาวบ้านชว่ งนนั้ ท�ำงานกนั ใกล้ชิดกัน
จุดหันเหคือ เรามีการตั้งออฟฟิศในสนามทั้งหมด ๗ ตอน ตอนที่ ๗ คืออยู่ในนิคมสร้างตนเอง ใครก็ไม่อยากไปเพราะ
ไกลมาก ต้องเดินทางอ้อมไปเยอะ ไปล�ำบาก เป็นพ้ืนที่ท่ีเราอพยพประชาชนท่ีเดิมอาศัยอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง ก็ไปท�ำระบบส่งน้�ำให้
มีสถานีสูบน�้ำ ส่วนข้างล่างก็ใช้ระบบส่งน�้ำธรรมดา เราส่งน้�ำจากอ�ำเภอพังโคนไปจนถึงอ�ำเภอเมือง ไปถึงนิคมสร้างตนเองน้�ำอูน
รวมท้ังพื้นท่ขี องมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตรด์ ้วย
การจ่ายน�้ำก็ใช้เทคนคิ วา่ ให้มนี ้ำ� นอนคลองไว้ ตอนหน้าฝนไมม่ ีปญั หา เราไมป่ ลอ่ ยนำ�้ แต่ถา้ ฝนน้อยหรือหน้าแลง้ เมอ่ื หยุด
การสง่ น�ำ้ เราจะขงั น้ำ� ใหน้ อนคลองไว้ พอมนี ำ�้ นอนคลอง เวลาส่งน้�ำใช้เวลาไม่นานนกั กไ็ ปถึงปลายคลอง ถา้ ปล่อยแหง้ กว่าน�ำ้ จะข้นึ
ถงึ ระดบั ทีต่ ้องการมนั กช็ า้ สมยั ก่อน ๓-๔ วันถงึ ปลายคลอง เด๋ียวน้วี นั เดียวกถ็ ึงแลว้ ชาวบ้านกม็ ีความคนุ้ เคยมากกบั ระบบน้ี
การออกแบบเข่ือนนี้เราเอามาจากอเมริกา โดยท่านปราโมทย์ ไม้กลัด เป็นคนออกแบบ ตอนนี้ก็มีการศึกษาเพื่อจะปรับปรุง
ให้เปน็ รูปแบบใหมต่ อ่ ไป
เหตุการณ์ประทับใจคือได้รับเสด็จเกือบทุกวัน พอตอนกลางคืนเราก็ไปตรวจน้�ำเป็นกิจวัตร พอฝนตกเราไม่อยากรบกวน
พนกั งานส่งนำ�้ กไ็ ปตรวจเองเพราะตอ้ งรายงานเป็นเวลา ๗ โมงเช้า ต้องรายงาน เท่ยี งตอ้ งรายงาน เรากเ็ อาตวั เลขมาเทียบดู เมื่อกอ่ น
พนกั งานส่งน้ำ� เราจะให้จกั รยานยนตว์ ิบากไวค้ ันนงึ ไว้คอยไปตรวจน�้ำ ผมกม็ ีคันหนง่ึ แตถ่ า้ กลางคืนก็เอารถยนต์ไป มีคืนหนง่ึ ไปกนั
๓ คน มีผมและน้องบรรจุใหม่อีก ๒ คน ไปจดบันทึกระดับน้�ำว่าน�้ำขึ้นกี่เซน เปิดบานก่ีเซนโดยอาศัยไฟหน้ารถส่อง ระยะทางท่ีวิ่งไป
ประมาณ๕๐กโิ ลเมตรขากลบั มาได้ประมาณ๔-๕กิโลยางรว่ั ตอนน้ันวิทยุใช้ไม่ได้เป็นเวลาดกึ แลว้ ด้วยเท่ียงคนื ตี๑ถ้ารออยู่กค็ ง
ต้องรอจนเช้า เราก็เลยให้น้อง ๒ คนอยู่เฝ้ารถ ส่วนตัวเราก็วิ่งไปท่ีโครงการ จิตใจก็ไม่ค่อยดีหรอก มาถึงป้อมยามก็วิทยุให้พ่ี
ในโครงการเอารถมารบั เปน็ อะไรทสี่ าหัสสากรรจ์มาก จะว่าสนุกมันก็ไมส่ นุกนะ แตก่ ม็ นั ดี
อกี เรอื่ งคอื ตอนนนั้ ผมรบั มอบหมายใหไ้ ปดตู อน๖ซง่ึ ไกล๔๐-๕๐กโิ ลรถรากไ็ มม่ ีผมกข็ ร่ี ถมอเตอรไ์ ซคว์ บิ ากมนี อ้ งฝกึ งาน
จากวทิ ยาลยั ชลประทานซอ้ นไปดว้ ยกไ็ ปเกดิ อบุ ตั เิ หตตุ อนแซงรถยนตค์ นั นงึ เกดิ ตกไหลท่ างโชคดที ไ่ี หลท่ างไมส่ งู มากตกลงไปใน

52

ปลักควาย ไหปลารา้ หกั คนมาชว่ ยกเ็ อาข้นึ รถสกายแล็ป ไปพรรณนานคิ มทีห่ ่างไป ๕-๑๐ โล ตอ้ งเขา้ เฝอื ก ๒-๓ วนั ผมกไ็ ม่ไหว ไปท่ี
อุดร ต้องผ่าตัด ตอนนั้นเป็นเทศกาลสงกรานต์พอดี ต้องโกหกแม่ว่าไม่เป็นไร ปกติจะกลับบ้านก็ไม่ได้กลับ แต่แม่อาจจะมีสัมผัส
พเิ ศษเลยมาหาทโ่ี ครงการ เจอเราก�ำลังเจ็บป่วยพอดี

ความคิดรเิ ร่ิม วางแผนงาน เขา้ ถึงพน้ื ท่ี คอื ปัจจยั แหง่ ความส�ำเรจ็

ส่ิงที่ได้ประโยชน์จากการท�ำงานตรงน้ันคือท�ำให้เราได้ลงพื้นท่ี ติดดิน เราเป็นลูกชาวนาอยู่แล้ว ไถนาก็เป็น แต่เราก็อยาก
เรียนต่อฝรัง่ ท่ีท�ำงานเขากช็ ว่ ยขอทุนจากยูเสดเลยได้ได้ทุนเดือนละ๓,๐๐๐บาทเงนิ เดอื นอตั ราบรรจใุ หมน่ ่าจะได้๒,๗๐๐บาทกด็ ี
เราได้ ๒ ทาง ไดเ้ รยี นเปน็ กรณพี เิ ศษ เรียนแบบเต็มเวลาทีม่ หาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ ใหม่ๆ ตอนใกลจ้ บเพอ่ื นชวนไปสอบปรญิ ญา
โทท่ี AIT ก็ได้เรียน รุ่นนั้นมีคนไทย ๕ คน เรยี น ๒๐ เดือน พอจบแลว้ กก็ ลบั ไปทำ� งานทอ่ี ุบลฯ ทำ� ได้ไม่ถึงปี ประมาณปี ๒๕๓๐ ฝรง่ั ท่ี
เคยไปท�ำงานที่น้�ำอูนก็เขียนโครงการประเมินน้�ำอูนใหม่ เป็นการกลับมาวัดผลอีกครั้งว่าโครงการน�้ำอูนท่ีธนาคารโลกให้เงินกู้มามัน
เวิร์กหรือไม่เวิร์กกันแน่ ก็เขียนมาว่าต้องการส่งคนไปอบรม ๑ ทุน และเรียนปริญญาเอกอีก ๑ ทุน ท้ายสุดผมก็ได้รับคัดเลือกได้ทุน
เรยี นจนถึงปริญญาเอกทอ่ี เมริกาโดยมเี ง่ือนไขว่าจบแลว้ ตอ้ งกลบั ไปเก็บข้อมลู ท่ีนำ้� อนู อีก๑ปีเพื่อไปเขยี นวทิ ยานิพนธ์หลงั จากเรียน
จบกเ็ ขา้ กรมมารายงานตวั กบั ท่านชชู าติ แลว้ กไ็ ม่ไดไ้ ปทำ� งานโครงการท่อี นื่ อกี
ตอนทำ� งานทนี่ นั่ เราทำ� งานกบั ฝรั่งอเมรกิ นั เขาเปดิ โอกาสให้เราท�ำงานเตม็ ท่ีอยากใชว้ ิธีการอยา่ งไรกท็ ำ� ไปใหค้ วามสนับสนนุ
ท้งั เร่ืองรถเรือ่ งอปุ กรณ์ตอนนั้นอบรมZoneManคือคนทีด่ แู ลรบั ผดิ ชอบแต่ละพ้ืนท่ีผมก็อบรมเองช่วยกนั ทำ� เราร้สู กึ กระหายทีจ่ ะ
ได้แสดงความสามารถ ซ่ึงก็ได้ผลดีเพราะเราท�ำงานด้วยใจรัก ประกอบกับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่และผู้เช่ียวชาญจากต่างประเทศ
เขาให้เกียรติเราเป็นหนึ่งในทีมงาน ในโครงการน้ันถือได้ว่าเราเดินมาแล้วทุกจุด เรียกได้ว่าทุกท่ีท่ีมีจุดวัดระดับน้�ำเราไปท�ำมาหมด
เข้าถึงพ้ืนที่ ไปดูกลุ่มผู้ใช้น้�ำว่าตรงน้ันตรงนี้ขุดลอกหรือยัง ก็มีการกินดื่มด้วยกัน มีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้าน เป็นการฝึกต่อสู้ ฝึกใช้
ความรู้ทางวิชาการทีน่ ่นั การทำ� งานสง่ นำ�้ ตอ้ งมคี วามคิดริเริ่ม ต้องวางแผน ต้องเกบ็ ข้อมูลตลอดเวลา

ความภมู ใิ จในงาน

โครงการน�้ำอูนถือว่าเป็นการท่ีประสบความส�ำเร็จด้านการเข้าถึงมวลชนมากที่สุด เราไปท่ีไหนก็ได้รับการยอมรับ เพราะเรา
ส่งน้ำ� เปน็ ผใู้ ห้ เวลาไปทำ� งานเรากม็ คี วามสุข ไปไหนกินไหนกไ็ ด้ เราฝึกอบรมเราก็ร้จู กั ชาวไรช่ าวนาเยอะ เวลาขอความรว่ มมือใหช้ ่วย
ขุดลอกก็ท�ำได้ง่าย งานสนุก เราไปท�ำงานก็เอาข้าวไปด้วย ไปกินกับชาวบ้าน
การทำ� งานทน่ี ำ้� อนู ชว่ งแรกอาจจะรสู้ กึ วา่ ถกู สง่ ไปทำ� งานไกลเดนิ ทางลำ� บากมาก
แต่เม่ือไปถึงที่นั่นแล้ว พ่ีๆ ดูแลดี ส่วนการท�ำงานก็ได้รับโอกาสให้แสดง
ความคิดเห็นเต็มท่ี อาจจะเพราะงานบ�ำรุงรักษามีคนท�ำงานน้อยด้วย ส่วนมาก
จะไปในสายงานก่อสร้าง เราได้เข้าร่วมประชุม ได้ชี้แจงอะไรเต็มที่ การท�ำงาน
ในบรรยากาศแบบนน้ั มสี ่วนสร้างความเปน็ ผนู้ �ำให้กับคนทำ� งาน

53

การปลกู พชื ฤดูแล้ง

การปลูกพืชฤดูแล้งถือเป็นนวัตกรรมที่มาควบคู่กับการ
ชลประทาน เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการผลิตของ
เกษตรกรจากการปลูกพืชโดยใช้นำ�้ ฝน ซึ่งสามารถท�ำได้เพียง
ปลี ะครง้ั มาเปน็ การปลกู พชื ปลี ะ ๒-๓ ครงั้ โดยใชน้ ำ�้ ชลประทาน
การปลูกพืชฤดูแล้งเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรรู้จักปลูกพืช
เศรษฐกิจท่ีใช้เวลาในการปลูกส้ันและให้รายได้ดี เช่น ถ่ัวลิสง
ฟักทอง แตงโม และข้าว ท�ำให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จาก
ทรพั ยากรทม่ี อี ยใู่ นครวั เรอื นอนั ไดแ้ กท่ ด่ี นิ แรงงาน และนำ�้ จาก
โครงการชลประทานอย่างเตม็ ท่ี
การส่งเสริมการปลูกพืชฤดูแล้งให้แก่เกษตรกรในเขต
โครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน้�ำอูนได้เร่ิมมาตั้งแต่ พ.ศ.

54

๒๕๑๘ โดยมีการขยายพื้นที่ชลประทานและพ้ืนที่ กข.๗ พันธข์ุ า้ วเหนียว คือพนั ธ์ุ กข.๒ กข.๖ และ บอี าร์ ๑๐๓๐-
เป้าหมายในการเพาะปลูกเพิ่มข้ึนทุกปี โดยพื้นที่ชลประทาน ๒๘-๑๕ เกษตรกรในเขตโครงการสว่ นใหญป่ ลกู ขา้ วเหนยี วเพอื่
เพม่ิ จาก ๓๐,๐๐๐ ไร่ ใน พ.ศ. ๒๕๒๐-๒๕๒๑ เปน็ ๕๐,๐๐๐ การบรโิ ภคในครอบครวั ทง้ั นเี้ ปน็ ผลมาจากเนอื้ ทถี่ อื ครองจำ� กดั
ไร่ใน พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๒๔ และพื้นท่ีเป้าหมายในการปลูก ผลผลิตต�่ำ และมีประเพณีปลูกข้าวเผ่ือแผ่ญาติ การปลูกข้าว
เพ่มิ จาก ๙,๐๐๐ ไร่ ใน พ.ศ. ๒๕๑๘ เปน็ ๒๖,๘๕๐ ไร่ ใน พ.ศ. เป็นอุตสาหกรรมน้ันยังไม่มีมากนัก พันธุ์ข้าวที่รัฐบาลส่งเสริม
๒๕๒๓ และ พ.ศ. ๒๕๒๔ เกษตรกรนยิ มปลกู ขา้ วเหนยี วพนั ธ์ุ กข.๖ มาก เพราะมรี สอรอ่ ย
แตเ่ ดมิ พชื ทน่ี ยิ มปลกู สว่ นใหญเ่ ปน็ ไมย้ นื ตน้ เชน่ มะมว่ ง และเป็นที่ต้องการของคนท่ัวไป ท�ำใหก้ ารปลกู ขา้ วช่วงฤดแู ลง้
มะพร้าว หรือไม้ล้มลุก เช่น กล้วย ไม่มีการปลูกพืชเศรษฐกิจ เกษตรกรใชพ้ น้ื ท่ีปลูกขา้ วเหนยี วมากกว่าข้าวเจา้
คร้ันเมื่อมีโครงการ เกษตรกรจึงพากันปลูกพืชฤดูแล้งเพื่อ ส�ำหรับพันธุ์ถ่ัวลิสงนั้น พันธุ์ที่ส่งเสริมให้ปลูกกันมาก
เพมิ่ พนู รายไดโ้ ดยนยิ มปลกู ขา้ ว ถวั่ ลสิ ง นอกจากนน้ั ยงั มพี ชื ผกั ได้แก่ พันธุ์ไทนาน ๙ ซ่ึงเป็นพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นท่ีในเขต
ต่างๆ เช่น หอม กระเทียม ถว่ั ฝกั ยาว หรือพชื ไร่ เช่น ฟกั ทอง โครงการฯ มากท่ีสุด นอกจากถ่ัวลิสงแล้วพืชผักต่างๆ ท่ีทาง
แตงโม เป็นต้น พันธุ์ข้าวท่ีปลูกในช่วงฤดูแล้งมีท้ังข้าวเจ้า โครงการฯ ท�ำการสง่ เสริมใหเ้ กษตรกรปลูกมีถ่วั เขียว ถวั่ เหลือง
และข้าวเหนียว ซึ่งเป็นพนั ธุร์ ัฐบาล พนั ธข์ุ ้าวเจ้าท่ปี ลกู คอื พนั ธุ์ พริกขหี้ นู หอมแดง และกระเทียม

55

ปันส่วนน�ำ้ อยา่ งเทา่ เทียม นายอทุ ัย จนั ใด

การใช้น�้ำชลประทาน จากระบบการปลูกพืชที่ใช้ ประธานกลุ่มบริหารการใช้น้�ำชลประทานเกษตรสมบูรณ์
บ้านนาจอมศรี อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดสกลนคร
แหล่งน�้ำธรรมชาติมาเป็นระบบการปลูกพืชโดยใช้ระบบการ เป็นชาวนาจอมศรีมาแต่ก�ำเนิด เป็นอาสาชลประทาน
ชลประทานท�ำให้เกษตรกรต้องเปล่ียนแปลงพฤติกรรมท้ังด้าน และรับเลือกเป็นประธาน ๒ วาระ ดูแล ๑๗ สายคลองซึ่งอยู่
การผลิตและการใช้น�้ำ จากการใช้แบบไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์ ปลายสุดของคลองส่งน้�ำ ออกจากเขื่อนมาประมาณ ๕๐
มาเป็นการใช้ที่เป็นระบบมีแบบแผนความสัมพันธ์ระหว่าง กโิ ลเมตร มาถงึ เราเปน็ จดุ สดุ ทา้ ย ถา้ ปไี หนนำ้� นอ้ ยกจ็ ะมาไมถ่ งึ
เกษตรกรด้วยกัน จึงได้มีการจัดต้ังกลุ่มผู้ใช้น้�ำ ในระยะแรก เรา ปญั หากเ็ กดิ ขน้ึ จงึ มาประชมุ ปรกึ ษาหารอื กบั คณะกรรมการ
มี ๑๑ กลมุ่ คดิ เปน็ พ้ืนท่ี ๓,๐๐๐ ไร่ ในจุดของผมมีอาสาชลประทาน ๓ คน ค่าตอบแทนเดือนละ
วธิ กี ารจดั ตง้ั กลมุ่ ผใู้ ชน้ ำ้� ทางโครงการจะนดั ประชมุ กลมุ่ ๑,๒๐๐ บาท รับผิดชอบคนละ ๑,๐๐๐ กวา่ ไร่ มหี น้าทตี่ ดิ ตาม
เกษตรกรท่ีอยู่ในโครงการท่ีก�ำหนดไว้ประมาณ ๒๐-๓๐ คน คคู ลองทไี่ หนนำ้� ไปไมถ่ งึ หรอื มปี ญั หา เคยมปี ญั หาถงึ ขน้ั ถอื จอบ
เพื่อช้ีแจงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกลุ่มและสอบถามความ ถือพร้ามาหาผม ท�ำไงถึงจะได้น�้ำ เราก็ค่อยๆ ตะล่อม คุยกัน
สมัครใจของเกษตรกรในการเป็นสมาชิกกลุ่ม ต่อจากนั้นก็จะ มดี มื่ นดิ หนอ่ ยจนใจเยน็ ทำ� ความเขา้ ใจ คอ่ ยๆ อธบิ ายแลว้ กก็ ลบั
ทำ� การคดั เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ โดยเกษตรกรจะเสนอชอื่ บคุ คลทตี่ น เปน็ ปกติ เวลามขี ดุ ลอกคคู ลองกอ็ าสามาชว่ ยกบั คนอน่ื เรากไ็ ป
เหน็ ชอบแลว้ ลงคะแนนเสยี ง เมอ่ื เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ ไดเ้ รยี บรอ้ ย ตดิ ตามดไู ปลงพนื้ ที่ แมจ้ ะเสยี เวลาบา้ งแตก่ ไ็ ดไ้ ปพบปะพดู คยุ
แล้ว เจ้าหน้าท่ีจะชี้แจงกฎระเบียบและวิธีการด�ำเนินงานของ กับเพื่อนเกษตรกรผู้ใช้น�้ำ กลุ่มของเรามีกฎระเบียบ เป็นสาย
กลุ่มและให้สมาชิกกลุ่มก�ำหนดอัตราค่าปรับ ถ้าสมาชิกคนใด น�ำร่อง เราจัดเก็บค่าบ�ำรุงคลองส่งน�้ำไร่ละ ๑๐ บาท/ปี นาปี
คนหน่ึงไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบท่ีก�ำหนดไว้ เช่น ในกรณี ๕ บาท นาปรัง ๕ บาท เงินกองทุนนี้เราท�ำบัญชีไว้ เงินเก็บ
สมาชกิ คนใดใชน้ ำ้� เกนิ ระยะเวลาทก่ี ำ� หนด ทำ� ใหส้ มาชกิ คนอน่ื ตอนน้ปี ระมาณ ๑๐,๐๐๐ บาท
ต้องได้รับความเดือดร้อน จะต้องเสียค่าปรับครั้งละ ๕๐ บาท แต่ละปีเงินน้ีบางครั้งก็เอาไปซ่อมคลองซ่อมคูเล็กๆ
อตั ราคา่ ปรบั ของกลมุ่ ผใู้ ชน้ ำ้� แตล่ ะกลมุ่ แตล่ ะพนื้ ทจี่ ะไมเ่ ทา่ กนั นอ้ ยๆ โดยไม่ตอ้ งรองบประมาณจากราชการ กติกาคือ ใครมา
ทั้งน้ีขึ้นอยู่กับความเห็นและการตกลงของสมาชิกกลุ่มน้ันๆ ช่วยขุดลอกคูคลองเราจะให้วันละ ๓๐๐ บาทพอได้เป็นค่า
(ข้อมูลจากการตั้งกลุ่มผู้ใช้น้�ำในเขตจัดรูปที่ดิน บ้านเปือย นำ�้ มัน ปีไหนนำ้� แล้ง ไมม่ ีน�ำ้ จากชลประทานมาให้ เราก็งดเก็บ
ต�ำบลวังยาง อำ� เภอพรรณานคิ ม เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓) เงิน ปีน้ีน�้ำท่วมก็งดเก็บเช่นกัน แต่ก็จะคุยกัน โดยการประชุม
ใหญ่ปีละ ๒ ครั้ง คือหลังจากไปประชุมคณะกรรมการ JMC
56 (Joint Management Committee for Irrigation) แล้วกจ็ ะเชญิ
เกษตรกรจาก ๔ หมบู่ า้ นหรอื ผแู้ ทนมารว่ มพดู คยุ ขยายผลจาก
ทปี่ ระชมุ JMC เรากพ็ ยายามบริหารจดั การน�ำ้ ใหท้ วั่ ถงึ
ที่ผ่านมากลุ่มเราก็ไปร่วมประกวดสถาบันเกษตรกร
ดีเด่น ได้รางวัลประเภทผู้ใช้น�้ำชลประทานดีเด่นกับกระทรวง
เกษตรด้วย ได้เงินรางวัล ๑ แสนบาท และได้รับพระราชทาน
โล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลเมื่อปี ๒๕๕๙ เป็นความ
ภาคภูมิใจมาก ก่อนจะรู้ผลก็ต่ืนเต้นมาก เราได้ประสบการณ์
จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมนี้

พอมีเข่อื น มคี ลองมาเร่อื งนำ้� ทว่ มกห็ ายไป ความดีของ
เขอ่ื นนะ่ ทำ� ใหไ้ มม่ ที ่วม ไม่มแี ล้ง น�ำ้ ทว่ มเขอ่ื นกก็ กั ไว้ อีกอยา่ ง
หนง่ึ คอื นำ�้ มามนั แบง่ กนั ไปเปน็ สาย ไมไ่ ดม้ ามากๆ ทเี ดยี ว ทำ� ให้
เบาลง ก็เลยไม่มีปัญหาในการเพาะปลูก แต่ถ้าแล้งมาก น้�ำ
เขอ่ื นหมดกม็ ปี ญั หาเหมอื นกนั ปนี นี้ ำ้� เยอะเกนิ ไป ผมกเ็ สยี หาย
แม่บา้ นกินข้าวไมล่ ง ๓ วนั ลกู สาวตอ้ งมาปลอบมาวา่ เรายงั มี
ทดี่ ินอยู่

นายบญุ พรอ้ ม คำ� ลือฤทธ์ิ นายอาคม ไชยมงคล

ประธานกลมุ่ บรหิ ารการใชน้ ำ้� ชลประทานเกษตร ผอู้ �ำนวยการโครงการส่งน�ำ้ และบำ� รงุ รกั ษาน�ำ้ อูน
เจริญพัฒนา ปีหน่ึงๆ ผลผลิตในเขตส่งน�้ำเราไม่ต่�ำกว่า ๑,๔๐๐-
ในกลมุ่ ของเราจะมกี ารประชมุ ทกุ ปี ปลี ะ ๒ ครงั้ หนา้ ฝน ๑,๕๐๐ ล้านบาทนะ เราทำ� รายงานสง่ คณะกรรมการ JMC วา่
กบั หนา้ แลง้ ใครมปี ญั หาอะไรกม็ าบอกกนั มาคยุ กนั ในทปี่ ระชมุ แต่ละปีเราปลูกอะไรเท่าไร ได้ผลผลิตเท่าไร คณะกรรมการมี
พี่เลี้ยงกม็ เี จ้าหน้าทีท่ ชี่ ่วยแนะนำ� การบริหารนำ้� ของเราไมค่ ่อย สว่ นรว่ มตดั สนิ ใจในการใชน้ ำ�้ ผมมแี ผนการสง่ นำ้� โดยเรามคี ณะ
มีปัญหา เพราะน�้ำของเราปล่อยมาจากท่ีสูงลงท่ีต�่ำ ไม่ต้องมี กรรมการจัดการชลประทานหรือ JMC เป็นผู้ก�ำหนดข้อตกลง
คา่ ใชจ้ ่ายในการสูบน�ำ้ มีปญั หาเจา้ หนา้ ที่ก็ใหค้ ำ� แนะนำ� เราก็ ว่าจะเรมิ่ ส่งนำ้� วันไหน ประมาณเท่าไร มพี นื้ ท่ีปลูกอะไรได้บ้าง
ท�ำตาม กลุ่มเราไม่มีปัญหาเพราะจัดแจงตกลงกันเรียบร้อย ตกลงกนั ในทป่ี ระชมุ เลย เราไมไ่ ดท้ ำ� งานแบบไปสง่ั ใหเ้ กษตรกร
จะปลอ่ ยน�้ำวนั ไหน จุดไหนรบั จุดไหนตอ้ งงด ในกลมุ่ นี้มี ๒๗ ท�ำตามเรา แตใ่ ห้เป็นความตอ้ งการจริงๆ ตอนนี้ก็มีการศกึ ษา
สายคู จะตอ้ งตกลงกบั หวั หนา้ คซู ง่ึ มาเปน็ ตวั แทนประชมุ ในกลมุ่ ปรับปรุงโครงการฯ น้�ำอูนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน�้ำและ
แล้วไปบริหารสายคูของตัวเอง จากคลองใหญ่ไปถึงคู ถ้ามี เพ่ิมพื้นที่ชลประทานอีกดว้ ย
ปัญหาคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ก็จะไปช่วยดู ไปให้ค�ำ
ปรึกษา ถ้าไม่ตกลงกันก่อนก็ไม่ได้ เพราะคนใกล้น�้ำได้เปรียบ 57
คนอยู่ที่สูงก็ไม่ได้ เราจึงต้องช่วยกัน พอปล่อยน�้ำมาก็ต้องไป
คอยดูวา่ น�้ำมนั ไปถึงไหน คูขาดหรือตนื้ เขินไหม
ในกล่มุ เราจะเก็บเงนิ แปลงละ ๒๐ บาทต่อปี ทแี รกเพ่อื
ทดลองการส่งน้�ำจะมีปัญหาต้องใช้จ่ายไหม เก็บไปเก็บมาก็
เยอะ ได้เปน็ แสน เราก็บอกสมาชิกวา่ เกบ็ ไว้ในยามฉกุ เฉนิ เช่น
คขู าด คลองขาด ก็เอาเงนิ นไ้ี ปซ่อม บางคนกน็ �้ำเข้าพืน้ ท่ีไมไ่ ด้
ต้องใชร้ ถขุด กใ็ ชเ้ งนิ ก้อนนี้ แต่ไมม่ าก บางทกี ใ็ ช้ลอกคลอง แต่
ถา้ ปญั หาใหญก่ จ็ ะหากรมชล กลมุ่ เราอยกู่ นั สบายๆ ไมม่ ปี ญั หา
เร่ืองการแย่งน�้ำ ไม่ล�ำบาก เวลาประชุม JMC ก็จะมีหนังสือ
เชญิ ใครมปี ญั หากต็ อ้ งมาบอกกนั กอ่ นเราไปรว่ มประชมุ ในการ
ประชุม JMC ทุกคร้ังกจ็ ะมีคำ� สั่งให้ขุดลอกคลองในพ้นื ท่เี รา

น้�ำอูนร�ำลกึ หลายเร่ืองราวก็เป็นต้นแบบให้หลายๆ โครงการ
ของกรมชลประทานจึงท�ำให้ผมเริ่มมีความประทับใจ
โครงการส่งน�้ำและบ�ำรุงรักษาน้�ำอูน จังหวัดสกลนคร ภมู ิใจทีพ่ ๆ่ี นอ้ งๆ และเจ้าหนา้ ที่ทุกระดับปฏบิ ตั งิ านไดด้ ี
เป็นโครงการที่มีคุณค่าแห่งความภาคภูมิใจและความทรงจ�ำ มชี อื่ เสยี งเปน็ ทปี่ ระจกั ษ์ เมอ่ื ไดท้ ำ� งานกไ็ ดร้ บั ความรว่ มมอื
ทั้งในด้านระยะเวลาการด�ำเนินงาน อุปสรรคในการก่อสร้าง จากผรู้ ว่ มงานเปน็ อย่างดี แมแ้ ตผ่ ูท้ เี่ กษยี ณไปแล้วกย็ งั คง
ทงั้ สภาพพนื้ ทแ่ี ละเหตกุ ารณค์ วามไมส่ งบในพน้ื ที่ ณ ทโ่ี ครงการ แวะเวยี นมาเยยี่ มเยอื นนอ้ งๆ เลา่ เรอื่ งราวตา่ งๆ ใหไ้ ดฟ้ งั
แหง่ นเี้ ปน็ ทท่ี หี่ ลายทา่ นไดเ้ รม่ิ งานชลประทาน ตา่ งมคี วามรสู้ กึ ได้เรียนรู้ โดยเฉพาะชาวน�้ำอูนผูกพันกันเป็นครอบครัว
ผูกพันกับโครงการเป็นอย่างมาก ความผูกพันน้ีเกิดจากการที่ ใหญ่ ไปมาหาสกู่ นั ตดิ ตอ่ กนั สมำ่� เสมอ มกี ารจดั งานนำ�้ อนู
ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุขฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่างๆ มาด้วยกัน รำ� ลกึ เปน็ ประจำ� จัดมาแล้วมากกวา่ ๑๗ ครงั้ แล้ว ผมมา
ความเห็นอกเห็นใจเอ้ืออาทรต่อกันจึงเหนียวแน่นมากกว่า อยู่ได้ไม่นาน คิดว่าคงเป็นได้แค่ลูกจ้างของคนน้�ำอูน
เพียงเฉพาะในด้านหน้าที่การงาน ดังที่นายอาคม ไชยมงคล เท่าน้ันจึงตั้งมั่นต้ังใจไว้ว่าจะท�ำงานให้ส�ำเร็จลุล่วงไปได้
ผู้อ�ำนวยการโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน้�ำอูน จังหวัด ด้วยดี จะพัฒนาและสรา้ งชื่อเสยี งเฉกเช่นอดีตที่ท�ำไว้...”
สกลนครไดก้ ลา่ วไว้วา่ นายจรญู พจนส์ นุ ทร อดตี ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั อทุ กวทิ ยา
“...เมอ่ื ผมไดร้ บั คำ� สง่ั ใหย้ า้ ยมาทำ� หนา้ ทผี่ อู้ ำ� นวยการ และบรหิ ารน�้ำ อดตี ผ้อู �ำนวยการส�ำนกั ชลประทานที่ ๑๔ อดีต
โครงการส่งน�้ำและบ�ำรุงรักษาน�้ำอูน จังหวัดสกลนคร นายช่างหัวหน้าโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษาน�้ำอูน ได้ย้อน
ตงั้ แตว่ นั ที่ ๑๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๘ หรอื ปงี บประมาณ ร�ำลึกถงึ การท�ำงานในอดีตไว้อยา่ งนา่ สนใจว่า
๒๕๕๙ ผมมคี วามรสู้ กึ วา่ ตนเองเครยี ด วติ กกงั วลมาก อาจ
จะเปน็ เพราะวา่ ยงั ไมเ่ คยปฏบิ ตั งิ านดา้ นบรหิ ารจดั การนำ�้ “ไปท�ำงานท่ีโครงการเขื่อนน�้ำอูนเมื่อวันท่ี ๒
โครงการขนาดใหญ่แบบน้ีมาก่อน ย่ิงได้สืบหาข้อมูล พฤศจกิ ายน ๒๕๒๐ ขณะนน้ั ตวั อาคารอา่ งเกบ็ นำ้� สรา้ งเสรจ็
ก่อนมาท�ำงานพบว่าโครงการฯ น้�ำอูนมีประวัติศาสตร์ และเก็บกักน้�ำแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร
หลายดา้ น ทง้ั ดา้ นการกอ่ สรา้ ง การจดั รปู ทด่ี นิ การจดั สรรนำ้� ประกอบและระบบสง่ นำ�้ โดยไปทำ� งานเปน็ วศิ กรดา้ นการ
การเกษตรอุตสาหกรรม สง่ นำ้� และบำ� รงุ รกั ษา โครงการนำ้� อนู เปน็ โครงการตน้ แบบ
ท่ีได้รับการยอมรับจากกรมชลประทานและหน่วยงาน
ทั้งในและต่างประเทศ ในความสมบูรณ์แบบท้ังเรื่อง
การก่อสร้างตัวเขื่อน การส่งน�้ำและบ�ำรุงรักษา และการ
บริหารจัดการน้�ำ โดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือ
AIT จะน�ำนักศกึ ษาไปศกึ ษาดงู านอยา่ งต่อเนื่อง

58

หลงั จากงานดา้ นสง่ นำ�้ ทนี่ ำ้� อนู แลว้ กย็ า้ ยไปทำ� งาน นายเฉลียว ม่วงทอง อดีตลูกจ้างประจ�ำ ต�ำแหน่งช่าง
ที่โครงการห้วยหลวง และชลประทานอ�ำนาจเจริญ ก่อน กอ่ สรา้ ง เปน็ อกี ผหู้ นงึ่ ทมี่ คี วามผกู พนั กบั โครงการเปน็ อยา่ งมาก
ย้ายกลับมาเป็นนายช่างหัวหน้าโครงการส่งน�้ำและบ�ำรุง
รักษาน้�ำอูน รวมเวลาที่ท�ำงานอยู่ในโครงการน�้ำอูนถึง “... ความประทับที่ท�ำงานกับน�้ำอูนส่วนใหญ่เป็นเร่ือง
๑๘ ปี จงึ มคี วามผกู พนั มาก และไมเ่ คยขาดการเขา้ รว่ มงาน ผบู้ ังคบั บัญชา อย่างเช่นนายรุ่งเรือง จุลชาต ซ่งึ ถอื วา่ กรม
น้�ำอนู รำ� ลกึ เลย คดั เลอื กมาไดถ้ กู เพราะทา่ นมจี ติ วทิ ยาสงู ชว่ งนน้ั อายทุ า่ น
ความประทับใจทม่ี ตี อ่ โครงการน�้ำอนู คือ มเี พอื่ น ก็ไม่มาก ไม่ถึง ๔๐ ก็มาเป็นหัวหน้าโครงการน้�ำอูน ท่าน
รว่ มงานอยดู่ ว้ ยกนั อยา่ งอบอนุ่ และผกู พนั มคี วามเขา้ ใจกนั ปกครองผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาดี ทกุ คนรกั ทา่ น ไมถ่ อื เนอื้ ถอื ตวั
ท�ำให้การบริหารจัดการน�้ำเป็นไปด้วยดี มีประสิทธิภาพ ส่วนผู้บังคับบัญชารองๆ ลงมาก็ถือว่าเป็นกันเองมาก
เปน็ โครงการทส่ี รา้ งผบู้ รหิ าร โดยมอี ธบิ ดถี งึ ๓ ทา่ น คนแรก ถงึ ไดอ้ ยกู่ นั มาได้ ถา้ ไมป่ รองดองกนั คงอยยู่ าก อนั ตรายจะ
คือนายรุ่งเรือง จุลชาตผู้ควบคุมการก่อสร้าง คนที่ ๒ เกิดข้ึน เพราะถ้ามีจุดอ่อนตรงส่วนราชการไหน ฝ่าย
คือ นายปราโมทย์ ไม้กลัด ผู้ออกแบบ และคนที่ ๓ คือ ตรงข้ามจะแทรกเข้ามาทันที พวกนั้นเขามีจิตวิทยาสูง
ดร. สมเกยี รติ ประจำ� วงษ์ ซง่ึ เคยทำ� งานดา้ นการสง่ นำ�้ และ เข้าใจพูดโน้มน้าวให้คนหลงผิดไปทางเขาได้ตลอดเวลา
บ�ำรุงรักษามาด้วยกัน น�้ำอูนจึงเป็นเสมือนสถาบันที่ คนเป็นผ้นู ำ� โครงการจงึ สำ� คัญ
สอนงานคนหลายรนุ่ คนทผ่ี า่ นงานมาแลว้ ก็มักจะประสบ สมัยน้ันน้�ำอูนมีคนท�ำงานเยอะ สนุกสนานมาก
ความส�ำเร็จในหนา้ ที่การงาน มีแข่งกีฬาเชื่อมความสามัคคี มีกิจกรรมตามฤดูกาลเพื่อ
นับต้ังแต่ท่ีไปท�ำงานโครงการเขื่อนน�้ำอูน การ ความรักใคร่กลมเกลียว ฝ่ายสนามก็มีหลายฝ่ายทั้งฝ่าย
ทำ� งานเราพฒั นาอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ผมอยากให้ เครื่องจักรกลหนัก ฝ่ายโยธา ผมอยู่ในฝ่ายก่อสร้าง
นอ้ งๆ ไดเ้ หน็ ภาพวา่ พๆ่ี ไดท้ ำ� งานดา้ นการสง่ นำ้� และบำ� รงุ รับผิดชอบสร้างอาคารใหญ่โดยมีอาคารระบายน้�ำล้น
รกั ษากนั อยา่ งไรในอดตี และนา่ จะชว่ ยกนั จรรโลงเอาไวใ้ ห้ Spillway เปน็ หลัก
ดยี ง่ิ ๆ ขนึ้ ในอนาคต การำื� งานสง่ นำ้� เราทำ� งานกนั โดยไมม่ ี เขื่อนน้�ำอูนน่ีมีความผูกพันกันเหนียวแน่น มีงาน
วนั หยุดเนอ่ื งจากพืชไม่รจู้ ักวันหยดุ ” เล้ียงสังสรรค์ เลี้ยงรุ่นกันมาต่อเนื่อง ไม่ค่อยได้ยินว่า
โครงการไหนมีแบบนี้ ทีน่ ี่จดั กันมาจะ ๒๐ ครง้ั แล้ว นี่เปน็
เพราะความเหนียวแน่นของผู้ใต้บังคับบัญชาท่ีมีต่อ
เจา้ นาย จัดเม่อื ไร พรรคพวกยา้ ยไปอยู่ทีไ่ หนกม็ ากัน”

59

การส่งเสรมิ เกษตรกรรม ๔๐,๐๐๐ ไร่ จ�ำนวนหมู่บ้านทั้งหมดที่อยู่ในเขตโครงการนี้
ในพน้ื ทโ่ี ครงการ ประมาณ ๖๕ หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเขตอ�ำเภอพังโคน
๑๑ หมู่บ้าน อำ� เภอพรรณานิคม ๓๙ หมบู่ า้ น และอ�ำเภอเมือง
การพัฒนาการเกษตรในเขตโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุง สกลนครอกี ๑๖ หมบู่ า้ น จำ� นวนครวั เรอื นเกษตรทง้ั หมดในเขต
โครงการ ประมาณ ๘,๓๔๑ ครวั เรอื นหรอื ประมาณ ๖๕,๕๔๖ คน
รักษาน�้ำอูนนั้น ตลอดช่วงระยะเวลากว่า ๔๐ ปี นับต้ังแต่เร่ิม ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๒๓ มีโครงการสร้างศูนย์ฝึกอบรม
สง่ นำ�้ ใหก้ บั เกษตรกรในพนื้ ทม่ี คี วามเปลย่ี นแปลงมาโดยตลอด เกษตรกรเกย่ี วกบั การชลประทาน การปลกู พชื เลย้ี งสตั ว์ ทบ่ี า้ น
โดยในระยะแรกเกษตรกรยงั คงนยิ มปลกู ขา้ วเปน็ หลกั เนอ่ื งจาก ฝั่งแดง ต�ำบลไฮหย่อง อ�ำเภอพังโคน สามารถเริ่มด�ำเนินการ
มคี วามคนุ้ เคยกบั การปลกู ขา้ วมายาวนาน ในเวลาตอ่ มาเมอื่ ได้ ฝกึ อบรมเกษตรกรไดใ้ น พ.ศ. ๒๕๒๕ ขนั้ แรกจดั ทำ� แปลงสาธติ
รบั การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ จากภาครฐั ประกอบกบั การเผยแพร่ แบบ Intensive ในท่ีดินของเกษตรกร ๑,๐๐๐ ไร่ เพื่อให้
องค์ความรู้เกี่ยวกับการเกษตรของศูนย์ศึกษาการพัฒนา เกษตรกรได้เรียนรถู้ งึ ประโยชน์ของการจดั รปู ทดี่ นิ การปลกู พชื
ภพู าน อนั เนื่องมาจากพระราชด�ำริ ท�ำให้เกษตรกรน�ำความรทู้ ี่ ๒ คร้ังในรอบปีและการปรับปรุงเทคนิคการผลิตข้าว ในระยะ
ได้รับเข้าไปปรับใช้ในการท�ำเกษตรกรรมของตน และประสบ ๒ ปแี รก จะเป็นการเตรียมงาน เชน่ การสำ� รวจแปลงกรรมสทิ ธ์ิ
ความสำ� เรจ็ เปน็ อยา่ งมาก และการทำ� ขอ้ ตกลงตา่ งๆ กบั เกษตรกร และในระยะปที ่ี ๓ เปน็
โครงการสง่ นำ้� และบำ� รงุ รกั ษานำ้� อนู เรม่ิ โครงการพฒั นา ปีทพี่ รอ้ มจะทำ� การสาธติ และจะทำ� การขยายเนือ้ ทกี่ ารพฒั นา
ทางการเกษตร โดยใช้เทคโนโลยสี มัยใหม่สนบั สนนุ การด�ำเนนิ ฟาร์มแบบ Intensive เป็น ๖๑,๔๐๐ ไร่ ในปีที่ ๔ และปีที่ ๖
งานทั้งทางด้านการชลประทาน ได้แก่ การพัฒนาพื้นที่ ส่วนเน้ือท่ีอีกประมาณ ๑๒๔,๓๐๐ ไร่ จะท�ำการพัฒนาฟาร์ม
ชลประทาน การจัดระบบส่งน้ำ� การบ�ำรงุ รักษาและการพฒั นา แบบ Extensive ซ่งึ ตอ้ งใชเ้ วลากวา่ ๖ ปี ขน้ึ ไปในการสร้างคนั
ทางการเกษตร โดยการปรับปรุงพันธุ์พืชเพ่ือเพ่ิมผลผลิต การ และคูน้�ำตลอดจนการปรับปรุงท่ีดินบางแห่งและการส่งเสริม
จัดระบบการปลูกพืชในที่นา การศึกษาปรับปรุงความอุดม การเกษตร
สมบูรณ์ของดิน การขยายพันธุ์พืช การฝึกอบรมและถ่ายทอด จากการทร่ี ะบบชลประทานและการขยายพน้ื ทป่ี ลกู ขา้ ว
เทคโนโลยีทางการเกษตร อีกทั้งการเปิดโอกาสให้เกษตรกร ท�ำให้เกิดการเปล่ียนแปลงในด้านปริมาณการผลิตอย่างมาก
ในท้องถ่นิ ไดม้ ีโอกาสแสดงความคิดเห็น ความต้องการ และมี จากการเก็บรวบรวมข้อมูลผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ใน พ.ศ. ๒๕๑๘
ส่วนร่วมในการตัดสินใจในโครงการที่จะด�ำเนินงานเป็นสิ่งท่ี พบว่าผลผลิตข้าวเฉลี่ยต่อไร่เพ่ิมข้ึนจาก ๒๐๐ กิโลกรัมต่อไร่
จำ� เป็นอย่างยงิ่ เพราะมผี ลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ตอ่ เกษตรกรโดยตรง เป็น ๓๐๐ กิโลกรัมต่อไร่ และเนื่องจากในเขตพ้ืนที่โครงการฯ
การพัฒนาการเกษตรในเขตโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุง ได้มีการจัดระบบส่งน้�ำออกเป็น ๓ แบบ ในเขตจัดรูปที่ดิน
รักษาน�้ำอูน แบ่งออกเป็น ๒ พ้ืนที่ คือพ้ืนท่ีบริเวณเหนือเข่ือน เขตคันคูน้�ำและไม่มีคันคูน�้ำ ท�ำให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่มีความ
นำ�้ อนู เปน็ เขตนคิ มสรา้ งตนเองลำ� นำ้� อนู ซงึ่ อยใู่ นความรบั ผดิ ชอบ แตกต่างกันอีกด้วย แสดงให้เห็นว่าระบบการส่งน้�ำและการ
ของกรมประชาสงเคราะห์ และพ้ืนท่ีบริเวณตอนล่างของเขื่อน พฒั นาพ้ืนทมี่ ีผลตอ่ การเพ่มิ ผลผลติ อยา่ งมาก
แห่งนี้ ซึ่งเป็นพื้นท่ีท่ีกองเศรษฐกิจการเกษตรได้ท�ำการศึกษา นายเฉลียว ม่วงทอง อดีตลูกจ้างประจ�ำ ต�ำแหน่งช่าง
ภาวะเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกร กอ่ สรา้ ง โครงการสง่ นำ้� และบำ� รงุ รกั ษานำ้� อนู ไดก้ ลา่ วถงึ ความ
พ้ืนที่บริเวณตอนล่างของเข่ือนน�้ำอูนครอบคลุมเน้ือที่ท่ี เปล่ียนแปลงของการท�ำเกษตรกรรมของเกษตรกรในพื้นท่ี
จะไดร้ บั นำ�้ ชลประทานในการปลกู พชื ในฤดูฝน ๑๘๕,๗๐๐ ไร่ โครงการไวว้ า่
และเนื้อท่ีที่เหมาะสมในการปลูกพืชในฤดูแล้งอีกประมาณ

60

“...มาท�ำงานท่ีน่ีต้ังแต่แรกสร้างโครงการจนมาถึง
ตอนน้ีเปล่ียนแปลงไปเยอะ โดยเฉพาะด้านการเกษตร
ชาวไรช่ าวนา จากท�ำนาปลี ะครง้ั กเ็ ปน็ ๒ ครั้ง นอกจากวา่
ราคาพืชผลจะไม่เอื้ออ�ำนวยตามภาวะเศรษฐกิจของโลก
ของประเทศจึงจะเปลี่ยนไปท�ำอยา่ งอื่น พวกพืชไร่ อาศัย
น�ำ้ ท่มี ันขังอย่ใู นท้องท่ี ปลกู ผักปลูกถัว่ เพอื่ ยงั ชีพหรอื เอา
ไปขาย พอมนี ำ้� แลว้ ชาวบา้ นกอ็ าจจะเปลย่ี นมาเลย้ี งปลา
มาเพาะลูกปลาขาย ได้ผลตอบแทนมากกวา่ เลีย้ งปลา
เอาเนื้อไปขาย ชาวบ้านก็มาซ้ือไปเล้ียงไว้ในหัวไร่
ปลายนาเขาน่ันล่ะ เลี้ยงไว้กินม่ัง ส่งตลาดไปขาย
หรือไปแลกเป็นอาหารเป็นผักอย่างอื่นที่ตัวเอง
ไมม่ ี ถ้ามีน�ำ้ แล้วมันจะไปยากอะไร ทำ� ให้มันดี
ให้เกิดประโยชน์ เพราะน้�ำมีคุณค่ามหาศาล
เลยนะกับชีวิตคน ในหลวงท่านถึงเน้นเร่ือง
นำ้� มาก และท�ำโครงการศูนย์ศึกษาฯ เพื่อให้
ชาวบา้ นไปเรียนรู้ ทา่ นทรงคิดการณ์ไกล...”
ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ
ถือได้ว่าเป็น “แหล่งน�้ำ” ท่ีให้โอกาสเกษตรกรผู้มีความสนใจ
ทจี่ ะพฒั นาการทำ� เกษตรกรรมของตนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่
ขึ้น เป็นแหล่งรวมความรู้เกี่ยวกับการเกษตรกรรมท่ีครบวงจร
และได้สร้างความบันดาลใจให้
เกษตรกรในพื้นที่น�ำความรู้ที่ได้ไป
ปรับใช้ให้เหมาะสมกับการท�ำ
เ ก ษ ต ร ก ร ร ม ข อ ง ต น ไ ด ้ อ ย ่ า ง มี
ประสทิ ธภิ าพ

เอกสารสรุปผลการด�ำเนินงานพัฒนา
เกษตรอุตสาหกรรมในบริเวณโครงการ
ชลประทานนำ�้ อูน จังหวดั สกลนคร จดั ท�ำ
โดย นายวิชัย สงวนไพบูลย์ ผู้จัดการ
โครงการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมใน
บริเวณดครงการชลประทานนำ้� อนู

61

62

ศูนย์ศึกษาการพฒั นาภูพาน พึ่งตนเองได้ต่อไป และได้ให้ราษฎรน�ำไปปฏิบัติในพ้ืนที่ของ
อนั เนอื่ งมาจากพระราชด�ำริ ตนเอง ไดพ้ ระราชทานพระราชดำ� ริ ใหก้ รมชลประทานพจิ ารณา
วางโครงการก่อสร้างอ่างเก็บนำ้� ตาดไฮใหญ่ ที่พิกัด 48 QUD
ศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ 961-909 แผนทม่ี าตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ ระวาง 5843 III เพือ่
จัดหาน้�ำสนับสนุนศูนย์ฯ พ้ืนท่ีโครงการประมาณ ๑,๘๐๐ ไร่
ตั้งอยู่ท่ีบ้านนานกเค้า ต�ำบลห้วยยาง อ�ำเภอเมือง จังหวัด ให้สามารถสง่ น้ำ� ใช้ท�ำการศึกษาและทดลองไดต้ ลอดทัง้ ปี
สกลนคร มีพ้ืนท่ีโครงการฯ ประมาณ ๒,๑๐๐ ไร่ และมีเขต ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๖ พระบาทสมเด็จ
ปริมณฑลเพ่ือการพัฒนาป่าไม้ประมาณ ๑๑,๐๐๐ ไร่ ได้เร่ิม พระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทอดพระเนตรสภาพ
ดำ� เนนิ การมาตงั้ แตป่ งี บประมาณ ๒๕๒๗ โดยมกี รมชลประทาน พ้ืนท่ีบริเวณบ้านนานกเค้า และได้ทรงเข้าไปถึงพ้ืนท่ีบริเวณท่ี
เป็นหน่วยงานหลักและมีหน่วยราชการท่ีเก่ียวข้องทุกๆ ส่วน จะก่อสรา้ งอา่ งเกบ็ นำ�้ ตาดไฮใหญ่ ไดพ้ ระราชทานพระราชด�ำริ
เข้าร่วมด�ำเนินการโดยมุ่งเน้นท่ีจะให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ใหพ้ จิ ารณานำ� นำ�้ จากอา่ งเกบ็ นำ้� ตาดไฮใหญม่ าสนบั สนนุ พนื้ ท่ี
ภพู านฯ เป็นศนู ย์กลางในการศกึ ษา ทดลองการเกษตรในดา้ น เกษตรกรบริเวณบ้านนานกเค้า และทรงคัดเลือกพื้นที่จัดต้ัง
ต่างๆ ตลอดจนการอบรมและเผยแพร่ไปสู่ข้าราชการ และ ศูนย์ฯ ณ บริเวณบ้านนานกเค้า ต�ำบลห้วยยาง อ�ำเภอเมือง
เกษตรกรในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ จังหวัดสกลนคร ด้วยพระองค์เอง เพื่อเป็นพ้ืนที่ตัวแทนของ
ยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน�้ำล�ำธาร ภมู ภิ าคทง้ั หมด ดว้ ยพนื้ ทน่ี ม้ี ลี กั ษณะสภาพธรรมชาตแิ วดลอ้ ม
และพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นหมู่บ้านตัวอย่างในรูปแบบหมู่บ้าน และวงจรชีวภาพท่ีคล้ายคลึงกับภูมิภาคโดยท่ัวไปของภาค
สหกรณ์ต่อไป อิสาน ดังน้ัน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจาก
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาแห่งน้ีเกิดจากพระราชด�ำริของ พระราชดำ� ริ จงึ ถอื กำ� เนดิ ขน้ึ เพอ่ื เปน็ แบบจำ� ลองของภาคตะวนั
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ ออกเฉียงเหนือและเป็นพื้นที่ส่วนย่อท่ีสอดคล้องกับการแก้
บพติ ร ไดพ้ ระราชทานขอ้ มลู เกย่ี วกบั ปญั หาของดนิ บรเิ วณศนู ย์ ปญั หา และศกึ ษาวธิ กี ารพฒั นาของภมู ภิ าคนไ้ี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ว่า
“...เปน็ ดนิ ทราย ดนิ เค็ม ขาดนำ้� ...” ต่อมาเม่อื วันท่ี
๒๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๒๕ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้
หมอ่ มเจา้ จกั รพนั ธ์ เพ็ญศิริจักรพนั ธ์ องคมนตรี และนายสุนทร
เรอื งเลก็ อธบิ ดกี รมชลประทาน พรอ้ มดว้ ยนายเลก็ จนิ ดาสงวน
เขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ณ กรมราชองครกั ษ์ สวนจติ รลดา
ได้พระราชทานพระราชด�ำริเก่ียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนา
ภพู านฯ เปน็ ครงั้ แรก โดยทรงใหพ้ จิ ารณาวางโครงการจดั หานำ�้
สนบั สนนุ โครงการศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านตามพระราชดำ� ริ
จงั หวดั สกลนครโดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ศกึ ษาทดลองงานพฒั นา
แบบเบด็ เสรจ็ อนั ไดแ้ ก่ การพฒั นาปา่ ไม้ การเกษตรตา่ งๆ ตาม
ความเหมาะสม รวมทงั้ การดำ� เนนิ งานดา้ นเกษตรอตุ สาหกรรม
ส�ำหรับเป็นตัวอย่าง อันจะน�ำไปสู่ความสามารถในการ

63

บนั ทึกความทรงจำ�

นายบรรจง ตะนงั สงู เนนิ

อดตี ผอู้ ำ�นวยการศูนยศ์ กึ ษาการพฒั นาภูพาน อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ�ริ
และอดีตหัวหนา้ ฝ่ายส่งน้�ำและบำ�รงุ รกั ษา

ถวายงานด้วยความภักดี

พ.ศ.๒๕๑๘ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยเู่ สดจ็ ฯไปประทบั ทโ่ี ครงการ
น�้ำอูน ตอนนั้นพระต�ำหนักภูพานก�ำลังก่อสร้าง ผมได้รับแต่งตั้งเป็น
นายช่างใหญ่ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ และได้ปฏิบัติงานถวายต้ังแต่น้ันมาจน
เกษียณในปี ๒๕๔๐ ก่อนเกษียณ ๕ ปีท่านไม่ได้เสด็จด้วยทรงพระประชวร
ผมรับเสด็จท่านตั้งแต่วันท่ี ๖-๓๐ พฤศจิกายน ทุกปี นาน ๑๑ ปีติดต่อกัน
แต่ละปจี ะไดร้ ับงานพระราชด�ำรอิ ย่างน้อย ๑๕ โครงการ ส่วนสมเด็จพระศรี
นครนิ ทราบรมราชชนนนี นั้ ผมไดร้ บั เสดจ็ ฯทโี่ ครงการนำ้� อนู ๖ครง้ั แตล่ ะครง้ั
ประทับอยู่นานเป็นเดือน เวลาสมเด็จพระนางเจ้าเสด็จฯ ไปปฏิบัติพระราช
กรณียกิจท่ีจังหวัดสกลนครก็จะเสด็จฯ ไปเฝ้าสมเด็จสมเด็จพระศรี
นครินทราบรมราชชนนี ๓-๔ ครั้ง ผมก็ไดร้ บั เสด็จดว้ ย
ในส่วนของโครงการพระราชด�ำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเล่นกับกรมชลประทานท่านสนุกท่ีสุดในโครงการ
พระราชดำ� ริโดยเฉพาะงานจัดหาน�้ำใหก้ ับคนทไ่ี ม่เคยมนี ้�ำจะโปรดทส่ี ุดตอนนัน้ ผมตดิ งานอยู่ทภี่ ูหางก้งุ บนภพู านรบั ส่งั ถงึ ผมว่า“เขา
ไมเ่ ป็นไรหรอกเพราะเขาไมใ่ ชเ่ ป็นคนถือปืนเดี๋ยวเขากล็ งมา”ผมข้นึ ไปรับชา่ งส�ำรวจที่ถูกผกค.จับตัวไว้ก่อนไปก็ส่งสายไปก่อนแจ้ง
วา่ จะมารบั ตัวเจ้าหน้าที่ เขากบ็ อกเอาคนไปได้แตเ่ คร่อื งมือเอาไปไมไ่ ด้ แล้วเขากร็ ะเบดิ กล้องส�ำรวจท้งิ ผมถ่ายรูปไปกราบบังคมทูลก็
รับส่ังว่า “เห็นไหมล่ะ เขาไปท�ำน�้ำให้พวกที่อยู่ในป่าได้ปลูกข้าว ได้กิน เขาไม่เป็นไร ต่อไปนี้งานเกี่ยวข้องการเมืองที่คนเข้าป่าเข้ารก
ไมม่ แี ลว้ นะคนอยขู่ า้ งบนกค็ นของเราขา้ งลา่ งกค็ นของเราเรากท็ ำ� งานของเราตอ่ ไป”ผมกท็ ำ� แบบนนั้ ไมเ่ คยกลวั ตง้ั แต่๒๕๑๘-๒๕๔๐
บางปีเสด็จสกลนครถึง ๓ ครั้ง เวลารับเสด็จบางทีก็รับในป่า
ในโครงการท่ีผมเปิดงานอยู่ จู่ๆ ท่านก็เสด็จฯ ทรงขับรถมารถต�ำรวจ
วงิ่ ตามหลงั คนงานกว็ งิ่ มาบอกวา่ มรี ถเขา้ มาเยอะแยะวง่ิ ไปดนู งั่ ยกมอื ไหว้
กนั เปน็ แถวเสดจ็ ฯไปเยย่ี มทไ่ี ซตง์ านกอ่ สรา้ งบอ่ ยบางทพี วกทหารทำ� งาน
กนั อยบู่ นเขา มีพระราชประสงค์จะเสดจ็ ทหารกก็ ราบบังคมทูลวา่ เสดจ็ ฯ
ไม่ได้ ไม่งั้นจะต้องเพ่ิมก�ำลังอารักขาอีกเยอะ ตรัสถามกลับมาว่า “แล้ว
ข้างบนไม่ใช่พ้ืนท่ีประเทศไทยเหรอ คนท่ีอยู่ข้างบนก็คนไทยนะ ข้ึนไป
ไมไ่ ดก้ ร็ ออย่ทู ีน่ ”ี่ พวกเด็กก็ว่ิงกนั วนุ่ เลย ตามเสดจ็ ฯ

64

พระราชกระแส น้�ำอนู ยิง่ ใหญ่

ส�ำหรับโครงการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า “โครงการเข่ือนน้�ำอูนเป็นโครงการที่จะต้องเดินไปด้วยความย่ิงใหญ่
ฉะนน้ั สว่ นทเี่ ขาเดนิ อยา่ ไปขดั ขวางเขาใหเ้ ขาเดนิ ไปคนของเราทอี่ ยใู่ นปา่ ไมม่ จี ะกนิ นต่ี อ้ งชว่ ยเขาใหไ้ ดร้ ะดบั หนงึ่ เสยี กอ่ น”ทา่ นไมห่ ว่ ง
โครงการนำ้� อูนเลย โครงการนีเ้ ป็นโครงการขนาดใหญ่ ความจกู ว่า ๕๐๐ ล้านลกู บาศกเ์ มตร เทา่ ที่ผมดูมาหลายโครงการ เขือ่ นน�้ำอนู
เป็นโครงการเดียวท่ีก่อสร้างได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ตัวเข่ือนมีความแข็งแรงเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ตัวอาคารครบเกือบ ๑๐๐
เปอร์เซ็นต์ อาคารในคลองยาว๒๓กโิ ลมตรมีอาคารเล็กอาคารนอ้ ยเปน็ พันแหง่ มกี ีค่ นที่จะไปนบั วา่ มันครบหรอื ขาดตรงไหนตอน
ทผ่ี มไปทำ� สามารถทำ� งานสง่ นำ�้ ไดใ้ กลเ้ คยี งเปา้ หมายผมไปศกึ ษามาและพยายามใหใ้ กลเ้ คยี งทส่ี ดุ นา่ เสยี ดายทผ่ี มยา้ ยออกมากอ่ น

เคร่งครดั ทฤษฎี แต่เปลยี่ นแปลงตามความเหมาะสม

ต้องวา่ ในเร่ืองทฤษฎใี ห้ค่อนข้างจดั การจดั สรรน�้ำคือการปลอ่ ยนำ้� ออกจากอ่างเกบ็ น�้ำ วิง่ คลองสายใหญ่ กระจายน้ำ� ไปตาม
คลองสายย่อย สายแยก สายซอยตา่ งๆ ใหไ้ ดเ้ ทา่ กับปรมิ าณน้�ำทีพ่ ชื และพื้นทต่ี อ้ งการ พืชท่ตี อ้ งการหมายถงึ พืชทก่ี ำ� ลงั ปักดำ� พชื ที่
ก�ำลังโต พนื้ ทีท่ ี่ตอ้ งการคือพน้ื ทีท่ ี่ก�ำลงั เตรยี มแปลง ก�ำลงั จะต้องการใช้น�ำ้ พวกน้ีจะต้องมหี น่วยระวงั อยู่ทุกหนว่ ยทุกตอน อยา่ งนำ้�
ตอนกม็ ีแบง่ เป็น๗ตอนแบง่ พ้นื ที่กนั รบั ผิดชอบมี SpecificAssignmentTeamม ี Zonemanคอยดูแต่ละพื้นที่พอเร่มิ ฤดกู าร
สง่ นำ�้ เขากก็ ำ� หนดขน้ึ มาวา่ ฝง่ั ขวาจะเรม่ิ สง่ นำ้� ตงั้ แตว่ นั ทเ่ี ทา่ นน้ั เทา่ นเ้ี ปน็ ตน้ ไปโครงการอนมุ ตั กิ แ็ จง้ ไปใหส้ ง่ ขอ้ มลู การสง่ นำ�้ ภายในวนั
ทเ่ี ท่าน้ันเทา่ นี้ เอามาลงคอมพิวเตอร์กป็ ระมวลผลออกมาเป็นความตอ้ งการของแตล่ ะตอน เช่น ตอน ๔ มเี ตรยี มแปลงเท่าน้ี ตกกล้า
เท่านี้ ด�ำนาเท่าน้ี ทุกตอนต้องท�ำเหมือนกัน ลักษณะการใช้พื้นท่ีต่างกัน ความต้องการน้�ำก็ต่างกัน เราก็จะเอาตัวเลขที่ได้มารวมกันท่ี
ศูนย์ แล้วแจง้ ปลายทางวา่ นำ้� จะไปถึงพ้นื ทเี่ ขาวันไหน เวลาไหน ปริมาณเทา่ ไร น่ีคอื การจัดการน้�ำด้วยเครื่อง พูดเหมือนงา่ ย แต่การท�ำ
นน่ั นา่ ดูสมัยแรกนนั้ โครงการน�ำ้ อูนเปน็ เปน็ โครงการแรกท่นี �ำคอมพวิ เตอร์มาใช้มฝี รัง่ มาช่วยสอนแล้วเราก็ส่งคนไปเรยี นเพราะเปน็
เรือ่ งใหม่ แล้วเรากร็ บั ปากเขาว่าต้องทำ� ให้ไดโ้ ดยเฉพาะคณุ รุ่งเรอื งทีบ่ อกว่าอยากเห็น
การจดั การจะตอ้ งทำ� แบบนไี้ ปตลอดแตก่ จ็ ะตอ้ งมกี ารเปลยี่ นแปลงอยเู่ รอ่ื ยๆจะตอ้ งมหี นว่ ยเคลอื่ นทเ่ี รว็ ซงึ่ มเี จา้ หนา้ ทพี่ รอ้ ม
เคร่ืองมือการวัดน้�ำ เคร่ืองมือการเปิดปิดประตูน�้ำ และวัดปริมาณ พอส่งนำ�้ ครบตามท่ีจัดสรรแล้วก็จะแจ้งพ้ืนท่ี แล้วปิดนำ้� ไปส่งให้
พ้ืนท่ีถัดไป ตัวเลขการจัดการน้�ำเหล่าน้ีจะเปลี่ยนแปลงทุกๆ ๒๔ ชั่วโมง คิดดูว่ามันวุ่นขนาดไหน เราท�ำแบบน้ีตั้งแต่ปีแรก ท�ำให้ค่า
efficiency ของโครงการสูงถึง ๑๕ เปอร์เซ็นต์ เขาหัวเราะกันใหญ่ ว่าขนาดบริษัทฝร่ังยังไม่ได้ ท�ำไปท�ำมาค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็น ๒๕
เปอร์เซน็ ต์ ถือว่าไม่ธรรมดามบี ริษทั มาลงทุนทำ� การเกษตรมากมาย
การเปลยี่ นแปลงมนั มสี องอยา่ งกอ่ นผมไปการสง่ นำ�้ ของโครงการนำ้� อนู เปน็ การสง่ นำ�้ แบบเปดิ จากHeadRugulatorไปเขา้
คลองซอยคลองแยก ใครได้เท่าไรแล้วพอก็หยุด ส่วนเกินก็ระบายท้ิง แต่ก็มีบางพื้นท่ีท่ีส่งไม่ถึงและอยู่ระหว่างการแก้ไข เกษตรกร
ในพนื้ ทรี่ บั นำ�้ จากชลประทานมคี วามสขุ มาก แตอ่ กี ฝง่ั ของคลองละ่ กเ็ ลยตอ้ งจดั กนั ใหม่ ตอ้ งจดั สรรนำ้� ใหก้ บั เกษตรกรทเ่ี ขาเสยี สละท่ี
มาสรา้ งเขอื่ นสรา้ งคลองสง่ นำ้� เชน่ นคิ มนำ�้ อนู เราสญั ญากบั เขาวา่ เขาเคยทำ� นาไดเ้ ทา่ ไรเราใหพ้ นื้ ทท่ี ำ� กนิ ๒เทา่ เลยแลว้ พนื้ ทที่ เ่ี ขาขน้ึ ไป
แต่กอ่ นราคา ๒ หมื่นบาท พอไปอยปู่ แี รกราคาปรบั เป็น ๕ แสน และเดย๋ี วนี้ก็ประมาณ ๕ ล้าน และเปลี่ยนมอื ไปเยอะแล้ว

65

ความเปล่ยี นแปลงของ โดดเด่น สร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ไม่เพียง
การทำ� เกษตรกรรมในรอบ ๕๐ ปี เทา่ นนั้ ยงั ไดถ้ า่ ยทอดองคค์ วามรจู้ ากการทต่ี นไดน้ ำ� มาประยกุ ต์
ใชจ้ นประสบผลสำ� เรจ็ ถา่ ยทอดใหก้ บั เกษตรกรรายอนื่ ๆ จนอาจ
ในปจั จบุ นั เกษตรกรในเขตพน้ื ทโ่ี ครงการสง่ นำ้� และบำ� รงุ จะถือได้ว่าเป็นสาขาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอย่างไม่เป็น
รักษาน�้ำอูน มีการท�ำการเกษตรที่หลากหลายและมีความ ทางการกระจายไปในทั่วพื้นท่ีโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุงรักษา

แผนผงั แสดงพืน้ ท่เี พาะปลกู ของเกษตกรท่ีสัมภาษณ์

นายธวชั ชัย เหลาพรม

นายบำ� เพ็ญ จันทะวงศ์

นายสวาท ทองสะอาด กรองแกว้ เกิดศริ ิ

นายบญุ พร้อม คำ� ลอื ฤทธิ์
ไปพน้ื ทเ่ี กษตรกร
พิกดั Lat : 17.225830
Long : 103.443355
66

น้�ำอูน สร้างความภาคภูมิใจให้กับเกษตรกรในพ้ืนท่ี และน�ำ โครงการสง่ นำ้� และบำ� รงุ รกั ษานำ�้ อนู กรมชลประทาน ทไ่ี ดท้ มุ่ เท
ชอ่ื เสยี งมาสจู่ งั หวดั สกลนครไดอ้ ยา่ งสมภาคภมู ิ และนเี่ ปน็ เพยี ง ใส่ใจดูแลเกษตรกรและท�ำงานตามหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย
บางส่วนของเกษตรกรที่ประสบความส�ำเร็จในการท�ำ อย่างเต็มความสามารถ
เกษตรกรรมซ่ึงถือได้ว่าเป็นความภูมิใจของเจ้าหน้าที่ประจ�ำ

นางวารี ไชตะมาตย์

นายถาวร ชมุ ปญั ญา

นางพรพศิ ทองก้อน

นางบงั อร ไชยเสนา

67

นายบำ� เพ็ญ จนั ทะวงศ์

ประธานกลุ่มบริหารการใช้น้�ำชลประทานรวมมิตรเกษตร
พฒั นาและอาสาชลประทาน

ก่อนกับหลังสร้างเข่ือนต่างกันเยอะ สมัยเป็นเด็กจ�ำได้ รบั ทแ่ี น่นอน ๒. การปลอ่ ยน้ำ� มเี วลาแนน่ อน กอ่ นเปิดน�ำ้ เราก็
ว่ามีทัง้ น้�ำแล้งน้ำ� ทว่ ม หน้าแล้งกแ็ ลง้ ไปหมดจะเกบ็ เกี่ยวข้าวก็ ประชุมกนั ก่อน มาวางแผนว่าจะใหแ้ ปลงไหนก่อน ในหมบู่ ้าน
เฉาตายหมด สมัยนน้ั จ�ำได้วา่ ปี ๒๕๑๑-๒๕๑๒ เขาเอาเครอื่ ง น่ีมีรถไถสีส้มเกือบร้อยคัน รถเกี่ยวข้าว เครื่องมือมีพร้อม การ
สบู นำ้� จากลำ� นำ้� อนู กไ็ ดใ้ ชเ้ พยี งบางสว่ น ไมพ่ อหรอก ทนี พ้ี อมา เก่ียวข้าวของต�ำบลช้างมิ่ง อ�ำเภอพรรณานิคมเราก็เด่นกว่า
สรา้ งเขอื่ นบางบา้ นเขากไ็ มใ่ หค้ ลองผา่ น กลวั เสยี ทนี่ า เพราะไม่ ที่อ่ืน ได้รับโล่พระราชทานมาหลายครั้งในฐานะผู้ผลิตเมล็ด
เคยมวี ่ามีการเอาน้�ำมาให้ ไม่รูว้ า่ ประโยชน์ว่าจะเกิดขนึ้ หรอื ไม่ พันธุข์ ้าวดีเดน่ จงั หวัดสกลนคร
เม่ือท�ำแล้วบางคนกอ็ ยากใหม้ าแค่นาตัวเอง ไมต่ ้องไปผา่ นนา ท�ำนาสบายครับเดี๋ยวนี้ ส่วนมากทางบ้านผมไม่ได้
คนอนื่ แลว้ บางคนคลองไมผ่ า่ นกม็ าขโมยเอานำ�้ ไปเลย ผมกท็ ำ� ขายข้าวให้ตลาด แต่จะขายให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสกลนคร
นาตงั้ แตเ่ ดก็ พอมนี ำ้� กไ็ ดท้ ำ� นาปรงั เรอ่ื งแยง่ นำ�้ กม็ วี วิ าทกนั บา้ ง อย่างเดียว แล้วก็เหลือไว้กิน อย่างผมมีที่ ๑๐ ไร่ก็จะท�ำนา
เพราะพอมนี ำ้� กไ็ ดผ้ ลประโยชน์ ทำ� นากไ็ ด้ ทำ� อะไรกไ็ ด้ ทนี ใ้ี ครๆ ท้งั หมด ขายให้ศูนยเ์ มล็ดพันธ์ุแล้วก็ซ้อื ข้าวตลาดมากนิ
กอ็ ยากได้คลอง ขา้ วหลกั ๆ ทปี่ ลกู ทน่ี คี่ อื ขา้ วขาวดอกมะลิ ๑๐๕ ขา้ วนาปี
ตอนเริ่มทดลองจ่ายน�้ำก็ปล่อยน�้ำมาเรื่อยๆ ตาม จะขายให้กบั ศนู ยเ์ หลือไว้กนิ แคร่ ะหว่างนาปไี ปจนถงึ เก็บเก่ียว
ธรรมชาตไิ มม่ กี ำ� หนดรอบเวร ทขี่ องเราอยใู่ นกลมุ่ จดั รปู ประเภท นาปรงั สว่ นนาปรังก็จะเกบ็ ไว้กินจนถงึ นาปี ท�ำนาแตล่ ะปีเราก็
ที่ ๒ คือเอาคลองมาให้ แต่ไม่ได้จัดรูปท่ีดิน เพียงแต่ส่งน�้ำมา ตอ้ งวางแผน ทราบลว่ งหนา้ เลยว่าจะมรี ายไดเ้ ทา่ ไร
ท่ีต่�ำที่สงู ก็ว่ากนั ไป ชาวนาก็ชว่ ยเหลอื ตวั เองแต่กม็ ชี ลประทาน
มาชว่ ย เพราะเกษตรกรไมร่ กู้ ฎระเบียบ ต้องอาศัยเจา้ หน้าที่มา
จดั กฎระเบยี บให้ กเ็ ลยพากนั ตงั้ กตกิ าตา่ งๆ ตง้ั กลมุ่ บรหิ ารการ
ใชน้ ำ�้ ขนึ้ มาแลว้ กม็ แี ยกไปอกี กลมุ่ หนงึ่ สว่ นของกลมุ่ นเี้ ราไมไ่ ด้
เรียกเก็บอะไร ไม่ได้เรียกค่าบ�ำรุง เป็นแต่ช่วยเหลือกันเฉยๆ
นอกจากมสี มาชกิ บรจิ าคมาให้ เราตง้ั กลมุ่ มาเพอ่ื ชว่ ยกนั ใหเ้ รา
ไดร้ บั นำ้� ด้วยความสะดวกขึ้น จากแตก่ อ่ นไมร่ เู้ ร่ืองเลย เขาเปดิ
นำ้� ใหก้ เ็ อา เขาปดิ กแ็ ลว้ ไป แตท่ กุ วนั นเี้ ราชว่ ยกนั บรหิ ารจดั การ
โดยเจ้าหนา้ ทมี่ ีกรมชลประทานเป็นพี่เล้ียง
เราเป็นนาทลี่ ุ่ม ทำ� นาเหมือนกัน พอนำ้� มาก็ไปหมด ถ้า
จะเปลี่ยนเป็นท�ำสวนก็ต้องมาตกลงกันใหม่ กลุ่มเราท�ำนากัน
ปีละ ๒ ครง้ั ผลประโยชนจ์ ากเขื่อนน้�ำอนู นี่มหาศาลเลย พอมี
น้ำ� มาวถิ ีชวี ิตเปลี่ยนไปเลย จากที่ทำ� นาสะเปะสะปะ พันธข์ุ ้าว
กเ็ อามาจากไหนไมร่ ู้ ๑. เดย๋ี วนม้ี เี มลด็ พนั ธข์ุ า้ วจากศนู ย์ มเี วลา

68

นายบุญพรอ้ ม คำ� ลือฤทธิ์ เรยี นรเู้ พมิ่ เตมิ ศกึ ษางานจากคนอน่ื เครอื่ งมอื กท็ ำ� เองเพราะเรา
เคยท�ำงานด้านช่างมาก่อน
ประธานกลมุ่ บรหิ ารการใชน้ ำ้� ชลประทาน การส่งน้�ำก็มาเป็นรอบตามท่ีเราตกลงกัน หน้าฝนก็ไม่
เกษตรเจริญพัฒนา ต้องส่ง การบริหารน้�ำส่วนของผมคือขุดบ่อแล้วท�ำร่องกลาง
ผมอายุ ๖๑ ปี เป็นชาวต�ำบลไฮหย่อง อ�ำเภอพังโคน เอาไว้เพอ่ื ถ่ายน�้ำจากบ่อหนง่ึ ไปอกี บ่อ มีท่พี ักน�ำ้ และเราจะไม่
จังหวัดสกลนคร เกิดและเติบโตที่น่ี ตอนเด็กๆ สภาพที่ดิน ทงิ้ นำ�้ แตใ่ ชห้ มนุ เวยี นไป นำ้� เราไมเ่ คยเสยี เพราะการทำ� ลกู ปลา
แถวน้ีมีขี้เกลือขึ้นเป็นหย่อมๆ ตามทุ่งนา ดินเค็ม แล้วท�ำนา ไม่เหมือนการเลี้ยงปลาใหญ่ เราใช้อาหารน้อย สูบน้�ำบ่อย
ไมค่ อ่ ยไดผ้ ล พน้ื ทม่ี รดกมอี ยู่ ๒๐ ไร่ ทำ� นาแตล่ ะปจี ะได้ ๑๓๐- แคเ่ ดอื นเดยี วกส็ บู นำ�้ ไมม่ โี อกาสเสยี รวมทง้ั ดนิ ดว้ ย นอกจากนี้
๑๔๐ ถงั นอ้ ยมาก ขา้ วส่วนใหญ่ตาย ที่ไดก้ ็ไมง่ าม ต้นไมป้ ลกู ยังหมุนเวียนพันธุ์ปลาไปเรื่อยๆ ลดปัญหาเรื่องโรค ถ้าใครมี
ก็ไม่ค่อยขึ้น ไม่เขียวอย่างที่เห็นทุกวันน้ี แห้งแล้งมาก ท�ำนา ปัญหาเร่ืองบ่อปลาให้ช่วย ผมก็ไปช่วยดูให้ ให้ค�ำแนะน�ำเพ่ือ
ไมค่ อ่ ยพอกินกต็ ้องหาอย่างอื่นมาเสริม มันล�ำบากมาก แก้ไขปัญหาตามประสบการณ์ที่เราท�ำแล้วได้ผลท้ังเรื่องการ
อยู่มาประมาณปี ๒๕๒๕ ก็คิดอยากท�ำเศรษฐกิจ ใชน้ ำ�้ การเพาะพันธป์ุ ลา การเลี้ยงปลา
พอเพยี งจงึ มาขอแบ่งมรดก ได้มา ๒.๕ ไร่ ซงึ่ มาแบ่งเปน็ ท�ำนา ตอนนี้นอกจากท�ำพันธุ์ปลาแล้วก็ยังรับเชิญไปเป็น
๑ ไร่ ทเ่ี หลอื ทำ� บ่อปลา ปลกู ผกั เลี้ยงสตั ว์ บังเอญิ ทเ่ี ราอยู่ติด วทิ ยากรให้ความรแู้ กค่ นท่สี นใจ เชญิ ไปฟรกี ็รับ เพราะนำ�้ อนู นี่
ถนน คนกอ็ ยากเห็นว่าเราทำ� อะไร เข้ามาเห็นปูเห็นปลา พืชผัก มีบุญคุณกับผมมาก เพราะผมใช้น�้ำมาก รายได้จากการ
นา่ กนิ นา่ อยู่ ตอนนนั้ คนสนใจ แตพ่ นั ธป์ุ ลาเราตอ้ งไปซอื้ ไกลถงึ ประกอบอาชพี กพ็ อสมควร จงึ ยนิ ดใี หค้ วามรกู้ บั คนอน่ื เมอ่ื กอ่ น
หนองคาย จากนน้ั คนมาถามหาลกู ปลา พอดมี อี บรมเพาะพนั ธ์ุ เราก็ไมม่ ีอะไร ท่ีได้มที กุ วันนีก้ เ็ พราะมีนำ้� มาใหท้ ำ�
ปลาที่บา้ นฝงั่ แดงจงึ สมัครเขา้ ไป ไดค้ วามรมู้ าฝึกท�ำเองไดบ้ า้ ง ก็ไม่มีอะไร ทุกอย่างปกติตามสภาพน้�ำ เราก็รู้กัน
เสยี บ้าง ปีสองปกี ท็ ำ� ได้ แต่พื้นที่นอ้ ย ไม่พอขายสกั ที เจา้ หนา้ ทจ่ี ะใหข้ อ้ มลู ตลอด เชน่ ปนี นี้ ำ้� นอ้ ย มกี เ่ี ปอรเ์ ซน็ ต์ เราก็
ภูมิใจที่เราท�ำได้และเป็นแหล่งดูงานด้วย ดีใจท่ีได้เป็น รบั รแู้ ละทำ� ใจ มนี อ้ ยกต็ อ้ งใชน้ อ้ ย ถา้ แจง้ วา่ นำ้� มาก เรากใ็ ชม้ าก
แหลง่ เผยแพรค่ วามรูก้ ับกับผทู้ ่ีสนใจทำ� ประมง ได้รางวลั ได้รับ ท่ีเป็นตอนน้ีก็ดีอยู่แล้ว หรือทางชลประทานจะมีอะไรท่ีดีกว่า
พระราชทานปรญิ ญาเพราะมคี นเหน็ วา่ เราทำ� ได้ ทำ� เองทง้ั หมด เรากไ็ มร่ นู้ ะ แตข่ อใหด้ อี ยา่ งนต้ี ลอดไป ทอี่ ยกู่ นั มาทงั้ เจา้ หนา้ ท่ี
ปลาชนดิ ไหนทมี่ คี นสนใจกจ็ บั มาทำ� หาสตู รฮอรโ์ มน ศกึ ษาเอง รนุ่ เกา่ รนุ่ ใหมก่ ถ็ อื วา่ ดที กุ คน ตดิ ตอ่ กนั ใกลช้ ดิ มธี รุ ะกโ็ ทรตดิ ตอ่
กันตลอด
69

นางบงั อร ไชยเสนา ตง้ั แตเ่ ราเขา้ มาอยทู่ บี่ า้ นนอ้ ยจอมศรแี ลว้ แตเ่ ราทำ� ไมถ่ กู วธิ ี คดิ
ไม่ออก ปลูกอะไรก็ปลูกอย่างเดียวเต็มพ้ืนที่ ปลูกพริก ๑๐ ไร่
เกษตรผสมผสาน บ้านนอ้ ยจอมศรี ต�ำบลฮางโฮง ดาวเรือง ๑๐ ไร่ กเ็ ลยไมไ่ ดผ้ ล
อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดสกลนคร ปี ๕๕-๕๖ แผนเราหนกั แน่นข้ึนจากที่ทำ� มาได้ผล เราก็
มั่นใจมากข้ึน ปีน้ันได้ผลผลิตเกือบล้านบาท ก็เลยมาซ้ือที่ดิน
เราทำ� เกษตรอยา่ งเดยี วกข็ าดทนุ ถกู กดราคา ปี ๒๕๕๒ เป็นของตนเอง ๕ ไร่ท�ำเกษตรผสมผสาน ตอนนี้เรารู้จักการ
คุยกับสามีว่าเราท�ำเกษตรมาต้ังแต่ ๒๕๓๗-๒๕๕๒ ล้มเหลว วางแผน การจัดการ การตลาด ไม่ล้มเหลวแล้ว ทแี่ ปลงนีไ้ ดน้ ้�ำ
มาตลอด หนส้ี นิ ทก่ี ู้ ธกส.กพ็ งุ่ ขนึ้ เรอื่ ยๆ ทง้ั ๆ ทเ่ี ราปลกู ของแพง จากชลประทาน โชคดีที่ได้เกิดในจังหวัดสกลนครและ
ทำ� ไมไมอ่ อกผลผลิตในหน้าทร่ี าคาแพง ชลประทานมีน�้ำให้ใช้ตลอดท้ังปี ได้เจ้าหน้าท่ีชลประทานมา
ปี ๒๕๕๓ ได้ไปอบรมท่ีศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน ช่วยดูแล รวมทั้งศูนย์ฯ ภูพานจึงได้พลิกชีวิตข้ึนมาจนมีวันนี้
อันเนอื่ งมาจากระราชดำ� ริ เจ้าหนา้ ที่บอกวา่ ท�ำเกษตรเชิงเดย่ี ว ไดก้ ินอม่ิ นอนอนุ่ ไดไ้ ปศูนย์เรยี นรู้ ได้แลกเปลีย่ นเรียนรูก้ ับคน
เลยโดนกดราคา เราก็จุกในหัวใจเลยวา่ มนิ ่าล่ะ ปลูก ๓ แปลง ท่ีสนใจ ภูมิใจมาก ไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้แล้ว ได้อยู่กัน
ได้ ๓,๐๐๐ บาท ปลกู ๑๐ ไร่ ได้ ๒,๐๐๐ บาท ของเหลอื เยอะแยะ พร้อมหน้าครอบครัวและมีความสุขที่ท�ำวันนี้ได้เพราะได้น้�ำ
เตม็ ไปหมดแตข่ ายไมไ่ ด้ มเี นอื้ ทเ่ี ชา่ ๑๐ ไร่ คา่ เชา่ ปลี ะ ๑๕,๐๐๐ ท�ำการเกษตรจะขาดนำ้� ไมไ่ ด้ บางคนอยู่ไกล อยากทำ� แต่ไม่มี
บาท ทำ� เสรจ็ จา่ ยคา่ เชา่ เหลอื เงนิ กลบั มา ๑,๐๐๐ บาท กม็ าคดิ น้�ำกย็ าก
ทำ� ไมไมจ่ ัดสรรเน้ือท่ี ๑๐ ไร่ น้ันทำ� เกษตรผสมผสาน กเ็ ร่ิมมา
ทำ� ปี ๒๕๕๓ ต่อเนือ่ ง ๒๕๕๔ หลังจากอบรมมาก็รว่ มวางแผน นายถาวร ชมุ ปญั ญา
กับกรมชลประทาน ผลผลิตออกมาขายได้หมดไม่เหลือแม้แต่
น้อย รายไดป้ ีนั้น ๗๐๐,๐๐๐ บาท ฟน้ื ตวั เลย ปลดหนไ้ี ด้ กเ็ รม่ิ เกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านดงมะไฟ ต�ำบลขม้ิน อ�ำเภอเมือง
มาซอ้ื รถไถซอ้ื จกั รยานยนตไ์ วใ้ ช้ ทดี่ นิ กย็ งั เชา่ อยู่ จังหวัดสกลนคร
จากการอบรมเราได้แนวคิดว่าการเกษตรผสมผสาน อาชีพเดิมท�ำนา สมัยก่อนจ�ำได้ตอนเด็กๆ ที่ยังไม่มีน้�ำ
นล่ี ะ่ ทชี่ ว่ ยเราปลดหนไ้ี ด้ เปน็ อาชพี ทมี่ นั่ คงและยง่ั ยนื ถงึ แมป้ นี ี้ มา ทน่ี าทใ่ี หเ้ ขาเชา่ มนั แลง้ มาก ผมทำ� นากบั พอ่ ขา้ วแหง้ ยนื ตน้
จะน�้ำท่วม แต่ใช้เวลาไม่นานก็ฟื้นตัว เรามีน้�ำจากชลประทาน ตาย ตอ้ งซอ้ื ขา้ วจากตลาดมากนิ แตม่ ชี ลประทานมาแลว้ สบาย
ทง้ั ปี สามารถท�ำไดต้ ลอด เจา้ หนา้ ทีด่ ูแลอยา่ งดี ทงั้ ชาวบ้านก็ ใครจะคดิ ทำ� เกษตรแบบไหนกท็ ำ� เอา นำ�้ นะ่ มแี นแ่ ลว้ ผมไปเหน็
ช่วยกันบริหารจัดการ มีปัญหาก็ช่วยกันแก้ไข ความจริงมีน้�ำ ทอ่ี น่ื ทเี่ ขาปลอ่ ยนำ้� ทงิ้ แลว้ เสยี ดาย ของผมเกบ็ หมด นำ้� ทปี่ ลอ่ ย
70

จากแปลงตะไคร้ก็เอามาใส่ร่องเล้ียงปลา ถ้าฝนตกสัปดาห์ละ นายสวาท ทองสะอาด
๑-๒ คร้ังผมสบายเลย
บา้ นผมอยใู่ นแนวสง่ น้�ำพอดี พอน้�ำส่งมาผมกค็ ิดมาทำ� เกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านอุ่มเหม้า ต�ำบลไฮหย่อง อ�ำเภอ
สวน ทนี่ ากย็ งั มแี ปลงหนง่ึ สวนนเ้ี รมิ่ ทำ� ตงั้ แตป่ ี ๒๕๔๐ กท็ ำ� มา พังโคน จงั หวดั สกลนคร
เร่ือยๆ เรียนจบป.๖ ก็ท�ำงานที่อุดรอยู่สิบกว่าปี แล้วตอนหลัง
มาเห็นเขาท�ำเศรษฐกจิ พอเพียงกอ็ ยากทำ� บ้าง เตรียมที่ทางไว้ บ้านเดิมผมอยู่หมู่บ้านฝั่งแดงแต่รุ่นพ่อแม่ได้พามา
แตย่ งั ทำ� งานเปน็ ชา่ งพน่ สีรถยนตอ์ ยทู่ ่อี ุดร จับจองท่ีนีไ่ ว้ จงึ ยา้ ยมาอยู่หมูบ่ ้านนี้ เมอื่ ก่อนเป็นป่า ไม่ได้เป็น
ปลูกตะไคร้ไร่นึงได้ ๒๔,๐๐๐-๒๕,๐๐๐ บาท ลงทุนก็ ถนนสะดวกอยา่ งน ้ี ย้ายเข้ามาก็ท�ำนา ก็ท�ำนาเรอ่ื ยมา ตอ่ มา
ไม่มาก เต็มท่ีไม่ถึง ๔,๐๐๐ บาท แต่ถ้าท�ำข้าวได้ไร่ละกี่บาท ทางการมาชวนไปท�ำเกษตรทฤษฎีใหม่จึงสนใจสมัครเข้าไป
ของเราท�ำอินทรีย์ทั้งหมด แรกเริ่มที่ผมเตรียมดินด้วยการจ้าง เรียนรู้เพิ่มเติมจากที่เราท�ำอยู่แล้วให้กว้างขวางข้ึน ประมาณ
รถไปขนนำ�้ ขหี้ มมู าเททง้ิ ใสด่ นิ ปลอ่ ยใหแ้ หง้ แลว้ ไถยกรอ่ ง หลงั ๑ ปีแล้ว ได้ไปเรียนรู้หลักการแม้บางอย่างเราจะท�ำตามไม่ได้
จากน้นั กป็ ลูกเลย ๖-๗ เดือนกเ็ กบ็ ปนี งึ ท�ำได้ ๒ รอบ เทคนิคน้ี แต่เอามาปรับใช้กับพื้นที่เราได้ นอกจากน้ันก็หาความรู้จาก
ไดจ้ ากการไปดูงานซง่ึ บางทีก่ อ็ าจจะไม่เขา้ กับเรา ก็เอามาปรับ แหล่งอ่ืนๆ จากส่ือสังคมออนไลน์บ้าง ได้รู้จักเคร่ืองมือใหม่ๆ
มาคิดเอง ทแ่ี ปลงเล็กๆ ปลูกตะไคร้ได้ต้งั ๘,๐๐๐ บาท ถา้ ปลูก โครงการนี้ก็ช่วยให้เปิดหูเปิดตาเพราะท�ำเกษตรจะอยู่กับที่
ผกั หวานป่ากต็ ้องใชข้ ี้หมแู ห้ง ทีไ่ ปดูมานัน้ ของเขาทม่ี นั น้ำ� แหง้ ไมไ่ ด้ ตอ้ งปรบั เปลย่ี นตอ้ งพฒั นาไปตามโลกเพอ่ื จะไดเ้ ลย้ี งปาก
ขาดนำ้� แตข่ องเรามนี ำ้� ถา้ จะใหผ้ ลดเี วลาเกบ็ เกยี่ วกเ็ กบ็ ใหห้ มด เลยี้ งทอ้ ง รายจา่ ยในครวั เรอื นตอ้ งมี แลว้ ลกู กเ็ รยี นดี จงึ เปน็ การ
แลว้ ปลูกใหม่ ปกั ท่เี ดมิ กไ็ ด้ ถา้ ต้นติดแลว้ กด็ วู ่าใบยงั เขียวไหม บังคบั ให้พอ่ แมต่ อ้ งขยนั พยายามหาเงนิ เพ่อื ส่งลกู เรยี น
ถ้ายังเขยี วก็ไม่ต้องเตมิ ปุย๋ จากเมื่อกอ่ นท่ปี ลูกแล้วเก็บไมห่ มด ตง้ั แตม่ นี ำ้� มาเรากป็ ลกู ขา้ วสลบั กบั ขา้ วโพด แรกๆ ไดร้ บั
พอปลูกไปเร่ือยมันไม่งาม เลยเปล่ียนวิธีใช้ปลูกใหม่เลย แล้ว การสง่ เสริมให้ปลกู ถัว่ ลิสง แรกๆ ผลผลติ ดี แต่หลังจาก ๑๐ ปี
เรากบ็ อกคนอนื่ ดว้ ย แตพ่ น้ื ทไี่ มเ่ หมอื นกนั ตอ้ งดใู หเ้ หมาะกบั ท่ี ไปกม็ ปี ญั หาแมลง ตอ่ มากม็ บี รษิ ทั มาสง่ เสรมิ ใหป้ ลกู มะเขอื เทศ
ปลูกตะไครใ้ ชน้ ้ำ� น้อยกว่าท�ำนาหลายเท่า ลงทุนน้อย งานน้อย แต่ก็มีปัญหา จากที่ก�ำหนดให้เกษตรกรปลูกคนละ ๕ ไร่ แต่
กวา่ ขายได้เยอะกว่า ศตั รูพชื ก็ไม่มี ท่ีนาทีม่ ีก็ให้เขาเชา่ แลว้ เรา เมล็ดพันธม์ุ มี ากกลายเปน็ ๑๐ ไร่ ในท่ีสดุ ก็ลน้ ตลาด ผมท�ำได้
แบ่งข้าวมากินในอตั รา ๒:๑ คนเช่าเอาไป ๒ สว่ น เจ้าของนา ๒ ปีก็เลกิ มาท�ำข้าวโพด
แบ่งมา ๑ สว่ น
สว่ นผกั หวานป่าเก็บตอนเชา้ ตอนสายๆ หรอื เทยี่ งกไ็ ป 71
สง่ ที่ตลาดดงมะไฟ กิโลละ ๔๐๐ บาท ตะไคร้สง่ ร้านพริกแกง
๓๕๐-๔๐๐ กิโล บางทีไม่พอขาย ต้องวิ่งไปซ้ือจากท่ีอ่ืนมาส่ง
ให้ครบตามที่สั่ง ย่งิ ชว่ งนำ้� ลดบางทสี ่งถงึ ๕๐๐ กโิ ล ครงึ่ คนั รถ
บางทีก็ส่งให้ร้านปลาเผา ร้านเม่ียงนาคูด้วย (เมี่ยงตะไคร้
ต้นต�ำรับอยู่อ�ำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์) ท่ีอ่ืนเวลาหน้าแล้ง
ปลกู ตะไคร้ไม่ได้ แตท่ เ่ี ราปลูกไดต้ ลอดปี น่ีพยามยามของเช่า
ท่แี ปลงขา้ งๆ มาปลกู ตะไคร้เพมิ่ แตเ่ ขายงั ไมใ่ ห้เช่าเพราะกลวั
ไม่มีท่ีท�ำนา ท่ีท�ำได้แบบนี้เพราะเราได้น้�ำจากเข่ือนท้ังปี ที่อื่น
อาจจะไม่ไดแ้ บบน้ี

ตอนนนี้ อกจากทำ� นาแลว้ กม็ บี อ่ เลยี้ งปลา ปลกู ขา้ วโพด กรองแกว้ เกดิ ศิริ
เก็บฝักสดต้มไปขายเองท่ีตลาดพังโคนซึ่งครอบครัวเรามีแผง
ขายของทเี่ ชา่ ไว้ ของกห็ มนุ เวยี นไปแลว้ แตเ่ กบ็ เกย่ี วอะไรวนั ไหน ผู้จัดการเขต บริษทั อดมั เอน็ เตอรไ์ พรเซส จ�ำกัด
ท�ำรายได้มากกว่าเก็บฝักขายให้แม่ค้า วันไหนขายที่ตลาดได้ บรษิ ัทสัญชาติไทย ท�ำธรุ กิจด้านยาสูบและเมล็ดพันธุ์
น้อยก็เดินขายไปเรื่อยๆ รายได้หลักของเกษตรกรมาจากการ น้�ำอูนมีความส�ำคัญในแหล่งท่ีลุ่ม เพราะเน้นเรื่องการ
ขายขา้ วและขายพชื ไร่ รายไดพ้ อกนิ ในครอบครวั การเพาะปลกู ทำ� นาขา้ ว เมลด็ พนั ธข์ุ องเราใชพ้ นื้ ทเ่ี พยี งสว่ นหนง่ึ แตม่ ลู คา่ จาก
ของเราก็ขึ้นกับฤดูกาลด้วย อย่างปีน้ีฝนเยอะ น้�ำมากไป การใชพ้ น้ื ทนี่ ั้นสงู มาก จากเดิมไมม่ ีอะไร เอางานพวกนี้เข้ามา
พวกเกษตรกรกบั พชื ผกั บางอยา่ งไมช่ อบ แตพ่ วกปลาชอบและ ชาวบา้ นกก็ นิ ดอี ยดู่ มี ากขนึ้ ธรุ กจิ หลกั ทสี่ กลนครคอื การทำ� เมลด็
ขยายพันธุ์ได้ดี พืชพันธุ์ที่แจกตอนไปร่วมอบรมส่วนท่ีเราปลูก พนั ธแ์ุ บบ F1 hybrid seed เรารบั ออร์เดอรเ์ ขา้ มาตามที่ลกู คา้
ไดด้ กี ม็ ีขอเพมิ่ พอเสร็จจากข้าวก็ลงขา้ วโพด ในพนื้ ทีน่ ีเ้ ราปลูก ต้องการจ้าง มีการประกันราคา เราส่งเมล็ดให้กับผู้จ้างก็จบ
หลายยา่ ง มีหมอ่ น มะพรา้ ว มะนาว มะกรูด ผกั หวาน หนา้ ท่ี พชื ท่ที �ำกม็ ีพวกมะเขอื เทศ พริกหวาน พรกิ เผด็ สควอช
บ่อท่ีเล้ียงปลานี้เราได้มาตอนท่ีสร้างคลองส่งน�้ำ โดย เมล่อน แตงกวา ผู้จ้างส่วนใหญ่มาจากโซนยุโรปเกือบ ๑๐๐
ชลประทานขุดดินจากพื้นที่เราไปท�ำคันคลอง เราก็ได้บ่อมา เปอรเ์ ซน็ ต์ เราเปน็ ผผู้ ลติ ในระดบั เกรด A แตไ่ มไ่ ดเ้ ปน็ ผจู้ ำ� หนา่ ย
เป็นการตอบแทน เลี้ยงปลานิลกับปลาตะเพียน เสร็จจากเก็บ ธรุ กจิ ดา้ นเมลด็ พนั ธข์ุ องบรษิ ทั เขา้ มาทำ� ในสกลนครนาน
ขา้ วโพดตม้ ขายหมดในเดอื นกุมภากม็ าจบั ปลาขายเป็นรายได้ เกอื บ ๔๐ ปแี ลว้ มหี ลายพน้ื ท่ี แหลง่ นำ้� บางสว่ นเราไมไ่ ดใ้ ชจ้ าก
เสริม มีรายได้หมุนเวียนตลอด หน้าน�้ำเราเอาข่ายไปลงท่ี ชลประทานทั้งหมด แต่ใชน้ ำ�้ สระ นำ้� คลอง น�้ำในลำ� หว้ ย บาง
หนองน้�ำได้ปลาซิวมาหมกไว้ขาย คือท�ำยังไงก็ได้ให้มีของ จดุ ทนี่ ำ้� ชลประทานไปไมถ่ งึ หรอื พน้ื ทส่ี งู ไมเ่ หมาะกบั การรบั นำ�้
ไปขาย มีรายได้เข้ามาเงินท่ีขายข้าวโพดได้ก็ต้องเก็บส�ำรองไว้ ชลประทาน บางทีเกษตรก็มีแหล่งน้�ำในที่ตัวเอง บางแห่งก็ใช้
ใช้จ่ายหน้าฝนท่ีผลผลิตออกน้อย ช่วงหน้าฝนจนถึงปีใหม่ น้�ำบาดาล เรียกว่าผสมสานกัน แล้วแต่ความสะดวกของ
ผักสลัดขายไดร้ าคาดี ผกั ทปี่ ลกู ขายเราใช้เคมีแต่ก็ตอ้ งมีความ เกษตรกรและความเหมาะสมของพ้นื ท่ี
รับผิดชอบ ปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำการใช้ ระวังให้ปลอดภัย
ถา้ เรากนิ เองได้ เรากเ็ อาไปขายได้
ถ้าไม่มีเข่ือนน้�ำอูน ชีวิตเกษตรคงไม่มาถึงป่านน้ี พื้นท่ี
คงแห้งแล้ง พูดตรงๆ คือฐานะเราคงไม่ดีเท่าตอนน้ี สมัยปู่ย่า
พ่อแม่มาจบั จองทดี่ นิ แบ่งที่ให้ลกู หลานแล้วเหลอื คนละ ๔ ไร่
ถ้าไมไ่ ดน้ ำ้� จากเขอื่ นน�ำ้ อูนรบั รองวา่ ชวี ติ ไม่ดีขึ้น มนี ำ้� คลองมา
เรากท็ ำ� นาไดเ้ ตม็ ที่ ไมต่ อ้ งยากจนเหมอื นแตก่ อ่ น เรยี กวา่ เปลยี่ น
ชวี ติ เลย เพราะโครงการนท้ี ำ� ใหไ้ มต่ อ้ งไปทำ� งานทอ่ี นื่ ไดม้ อี าชพี
อยทู่ บี่ า้ น จากทน่ี ามรดก ๔ ไรเ่ ดมิ พอไดน้ ำ�้ มาทำ� เกษตรไดผ้ ลดี
โดยไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการกบั ศนู ยเ์ มลด็ พนั ธพ์ุ ชื ไดเ้ งนิ จากตรงนน้ั
เราก็ซื้อที่เพิ่มจนมีเท่าปัจจุบัน ถ้าพ้ืนท่ีไม่พอเราก็ไปขอเช่า
คนอนื่ ทำ� เพมิ่ ไดเ้ งนิ เพม่ิ ขนึ้ แตเ่ ราตอ้ งวางแผน ลงมอื ปลกู กอ่ น
คนอ่ืนเพ่ือจะเกบ็ เกีย่ วและขายได้ก่อน

72

ใชพ้ น้ื ทไ่ี มเ่ ยอะ ไมเ่ หมอื นกบั งานดา้ น processing ทส่ี ง่ บาท กลับมาท�ำสวนเราก็ยังไดเ้ งินกอ้ น
ผลผลติ เขา้ โรงงานเปน็ ผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ เพราะเปน็ งานทล่ี ะเอยี ด ก่อนหน้านี้ท่ีบริเวณนี้เป็นนาข้าว แล้วมีบริษัทเข้ามา
มากๆ อย่างปลูกมะเขือเทศ ถ้าส่งเข้าโรงงานผลิตซอสต้องใช้ ส่งเสริมท�ำเกษตรก่ึงอินทรีย์ คือใช้สารเคมีแต่ลดความเข้มข้น
พน้ื ทหี่ ลายรอ้ ยไร่ แตร่ ะดบั เมลด็ พนั ธใ์ุ ชน้ อ้ ยกวา่ ชาวไร่ ๑ คนใช้ ลงมา โดยจัดหาสถานท่ีแล้วให้เราเข้ามาท�ำ อ�ำนวยความ
พื้นท่ีอย่างมาก ๓ งาน (๓๐๐ ตารางวา) เพราะเขาต้องดูแล สะดวกใหเ้ กษตรกร เรากล็ งแรง มกี ารท�ำสัญญารบั ซือ้ เปน็ รอบ
อยา่ งดี เราเขา้ ไปแนะนำ� ตง้ั แตแ่ รก มเี จา้ หนา้ ทเ่ี ทคนคิ เขา้ ไปให้ การเกบ็ เกย่ี ว (crop) พอผลิตออกมาและไดม้ าตรฐานบริษัทก็
ความรู้ ไปฝกึ สอนวธิ กี าร ในสกลนครเรามเี กษตรกรทร่ี ว่ มงานกนั รับซื้อ ทำ� ใหเ้ กษตรกรมีความม่นั คงทางการเงิน
ประมาณ ๔๐๐ กวา่ ราย กระจายในหลายๆ อำ� เภอ ก่อนมาท�ำเมล็ดพันธุ์ก็ท�ำนา และมีบริษัทมาส่งเสริม
เมื่อเราเข้ามาร่วมในชุมชนเลยต้องช่วยสร้าง ปลกู พชื สวน ขายผลสด แตอ่ นั นน้ั รายไดไ้ มแ่ นน่ อน บางทสี นิ คา้
จิตส�ำนึกที่ดี เวลาท�ำงานร่วมกับชาวไร่จะแทรกเรื่องคุณธรรม เราออกมามากๆ รถไม่มารับ เครอื่ งบรรจุไมม่ าก็เนา่ เสียหาย ปี
เร่ืองการช่วยเหลือสังคมในหมู่บ้าน เราอาจจะมีโครงการ ที่แล้วผลิตพริกหวานได้ ๒๐ กว่ากิโล กิโลละ ๘,๐๐๐ บาท
ปลูกป่าชุมชน ให้ความรู้เร่ืองการจัดการขยะ สารเคมี เพ่ือให้ หักต้นทุนแล้วยังมีเงินเหลือ ๑๐๔,๐๐๐ บาท ในพื้นท่ีไม่ถึงไร่
พนื้ ทใี่ นชมุ ชนไมเ่ สยี หายจากการใหค้ นนอกเขา้ มาใชพ้ นื้ ที่ สงิ่ นี้ ในหมู่บ้านมีคนท�ำรายได้แตะหลักล้านอยู่ ๒ คนจากการปลูก
ต้องสร้างต้ังแต่เด็กๆ ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องยาเสพติด ท�ำให้ พริกหวาน แต่เขามพี ื้นท่เี ยอะกวา่ ปกตบิ ริษัทจะใหเ้ ร่มิ ตน้ ทำ� ที่
เกดิ อาชญากรรม ขโมยกระทง่ั อปุ กรณใ์ นระบบชลประทาน ตอ้ ง ๓,๐๐๐ ต้น แตค่ นที่ได้หลกั ล้าน เขาปลกู ได้ ๕,๐๐๐ ตน้
ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เรามีความรู้สึกที่ดีกับเขื่อนน�้ำอูน ช่วง
น้�ำท่วมเราก็ไปช่วยประชาชน และขึ้นไปช่วยเก็บขยะบริเวณ 73
เข่ือนที่ประชาชนไปเที่ยวชมน้�ำล้นแล้วทิ้งขยะไว้ เหล่าน้ีคือ
จิตส�ำนกึ ที่เราอยากให้ทกุ คนไดเ้ ห็นคุณค่า ช่วยกนั ท�ำให้สังคม
ดีข้ึน แล้วเราก็มาเล่าให้ชาวบ้านฟัง เพ่ือให้เกิดความรักและ
หวงแหนในแหล่งน้�ำท่ีพวกเขาใช้เลี้ยงชีพ แต่อาจจะถูกท�ำให้
สกปรกจากคนอ่ืนท่ีเป็นคนสกลนครเองหรือที่มาจากถ่ินอ่ืน
กต็ าม มาเทยี่ วแลว้ ท้ิงขยะไว้ พวกเราต้องชว่ ยกนั ดแู ล

นายธวชั ชยั เหลาพรม

ประธานกลุ่มบริหารการใช้น�้ำชลประทานสหพัฒนาการ
เกษตร กลุม่ เกษตรกา้ วหนา้ เกษตรกรผู้ปลูกพชื
เพื่อเอาเมล็ดพันธ์ุ บ้านนาถอ่ น ตำ� บลต้นผง้ึ
อำ� เภอพังโคน จงั หวัดสกลนคร
ตอนท่ีเขามาสรา้ งคลองน่าจะเรียนอยู่ ป.๓ พอจบ ป. ๖
กเ็ รมิ่ มกี ารสง่ นำ้� พออายไุ ด้ ๑๖ กเ็ รมิ่ ทำ� งานเมลด็ พนั ธก์ุ บั บรษิ ทั
เพราะได้อยู่กับบ้าน ได้อยู่กับพ่อแม่ ก่อนหน้าน้ันไปท�ำงาน
รบั จา้ งทก่ี รงุ เทพฯ ไดเ้ งนิ เดอื นละ ๖๐๐ บาท อยทู่ ง้ั ปไี ดม้ า ๙๐๐

แปลงนีม้ พี ื้นที่ท้ังหมด ๑๕ ไร่ ปลกู แตงกวา มะเขือเทศ แหง้ ๆ ก็ปลกู อะไรไดห้ ลายอยา่ ง เราก็ซมึ ซับมาตัง้ แต่เดก็ ๆ มัน
พรกิ หวาน ทงั้ หมดนค้ี อื เกบ็ เกยี่ วเปน็ เมลด็ พนั ธแ์ุ ลว้ บรษิ ทั จะสง่ กไ็ ดผ้ ล แตป่ ลกู ขา้ วโพดฝกั ออ่ นเราตอ้ งเอาไปขายทต่ี ลาด ไมม่ ี
ใหล้ ูกคา้ ต่างประเทศ แตล่ ะครอปใชเ้ วลาประมาณ ๙๐ วัน พอ รถไป มาปลูกอ้อยก็ไม่มีอุปกรณ์ ตอนได้คลองมาเร่ิมท�ำนา
เริ่มคร้ังใหม่ก็จะมีเมล็ดพันธุ์จากต่างประเทศส่งมาให้ปลูก แต่ ๒ ครงั้ และปลกู พชื สวนครวั แตน่ าของเราปลกู สะเปะสะปะ ขา้ ว
โดยเฉลยี่ แล้ว ๑๐๐ ตน้ จะไดเ้ มลด็ พันธุ์ ๑ กโิ ลกรมั ในโรงเรือน ชนดิ นนั้ บา้ ง นบ้ี า้ ง ไมม่ จี ดุ หมาย เอาไปขายราคากไ็ มค่ อ่ ยดี ๑๒
หลังหนึ่งประมาณ ๓,๐๐๐ ต้น เมล็ดพันธ์ุท่ีราคาแพงที่สุดคือ กิโลได้ ๔๐-๖๐ บาท ก็เลยคิดว่าปลูกข้าวสายพันธุ์นี้ไม่คุ้มค่า
พริกหวาน ถ้าผลผลิตได้ตามสเปกท่ีบริษัทก�ำหนดจะได้ราคา อาจารยก์ แ็ นะนำ� มาวา่ มขี า้ วไรซเ์ บอรี่ ขา้ วมนั ปู ขา้ วหอมนลิ ซง่ึ
๘,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ กว่าบาท แล้วแต่สายพันธุ์ เทียบกับท�ำนา เป็นสายพันธุ์พิเศษ เราต้องดูแลอย่างดี แต่ก็ได้ราคาดีด้วย
แบบสมยั กอ่ น อนั นด้ี กี วา่ ตรงนใ้ี ชพ้ น้ื ทไ่ี มถ่ งึ ไร่ ถา้ เปน็ แตงกวา เกษตรกรก็หันมาปลูกมากขึ้น ราคาขายดี เราก็รับซื้อจาก
ใช้เวลา ๙๐ วัน กม็ รี ายได้ประมาณ ๕๐,๐๐๐-๖๐,๐๐๐ บาท เกษตรกรแลว้ ไปขายต่อ
แตถ่ า้ ทำ� นานา่ จะไดไ้ มเ่ กนิ ๓๐๐ กโิ ลกรมั ขา้ วเปลอื ก พอสแี ลว้ เมอ่ื กอ่ นนป้ี ลกู ขา้ วเหนยี ว แลว้ ปี ๒๕๔๘ เรม่ิ ทำ� ขา้ วฮาง
จะเหลอื ไมเ่ ทา่ ไร จนรวมกลุ่มกันจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเม่ือปี ๒๕๕๒
สิ้นการเก็บเกี่ยวท้ังหมดก็ประมาณเดือนมีนาคม แล้วเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องเรามาเรียนรู้เก่ียวกับการเกษตร
หลังจากน้ันก็ไปท�ำงานดนตรี ใน ๑ ปีท�ำเมล็ดพันธุ์ ๑ ครอป อินทรีย์ การท่ีเร่ิมมาท�ำอินทรีย์เนื่องจากปี ๒๕๔๘ ราคาข้าว
ทเ่ี หลอื กท็ ำ� พชื สวน เชน่ ปลกู แตงกวา ปลกู มะเขอื เทศแบบทข่ี าย ตกตำ่� และมกี ารปลกู ขา้ วกนั มาก กม็ าคดิ วา่ จะทำ� อยา่ งไรใหข้ า้ ว
ผลสด เอาไปสง่ ขายทีต่ ลาดแบบท่รี ้านส้มต�ำใช้ ของเรามีมูลคา่ สูงข้นึ พอดีตอนนั้นข้าวงอกมีชื่อเสียง สว่ นข้าว
สงิ่ ทป่ี ระทบั ใจมากในโครงการเขอื่ นนำ�้ อนู คอื เราไมต่ อ้ ง ฮางนเี้ ปน็ ภมู ปิ ญั ญาของชาวบา้ น เรากเ็ อามารวมกบั การทำ� ขา้ ว
ไปดน้ิ รนหางาน มงี านในพนื้ ท่ี เป็นเจา้ ของกจิ การ เป็นนายของ งอกแลว้ ลองผลิตข้นึ มาให้ลูกคา้ ลองชมิ ลูกคา้ ตดิ ใจสงั่ ซ้ือ เรา
ตัวเอง พอถึงฤดูกาลก็สามารถต้ังเป้าหมายเองได้ว่าปีนี้เราจะ กร็ สู้ กึ วา่ ขายไดด้ จี งึ ชกั ชวนคนอนื่ ๆ ในชมุ ชนมาทำ� ดว้ ยกนั เพราะ
ทำ� กกี่ โิ ล ราคารอู้ ยแู่ ลว้ อยากจะไดเ้ งนิ เทา่ ไร ขนึ้ อยกู่ บั วา่ เราจะ นาแถวน้ีมีน�้ำคลองผ่าน เราท�ำนาสะดวก ส่วนกรรมวิธีท�ำก็มี
ดูแลเขาไหวไหม ผรู้ ู้ มอี าจารยจ์ ากวิทยาลัยเทคนิคมาช่วยใหค้ �ำแนะนำ�
ความแตกต่างของข้าวฮางกับข้าวกล้องงอกคือ เพาะ
นางพรพิศ ทองก้อน งอกจากตวั ท่ีเป็นข้าวกลอ้ ง ซ่งึ ตวั นั้นเครอ่ื งมอื ของกลมุ่ เราไม่มี
แต่ข้าวฮางนั้นเพาะจากข้าวเปลือกซึ่งเป็นภูมิปัญญารุ่นพ่อ
ประธานกลุ่มรฐั วิสาหกจิ ชุมชน ข้าวฮางงอก
บา้ นนอ้ ยจอมศรี ตำ� บลฮางโฮง อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สกลนคร

พี่เป็นคนในพ้ืนที่ แต่ก่อนท่ียังไม่มีคลองชลประทาน
แถวนแ้ี หง้ แลง้ ดนิ เปน็ ดนิ ทราย ตอนนม้ี คี ลองเสน้ นต้ี ดั ผา่ น เกดิ
ความอุดมสมบูรณ์ข้ึน ได้ท�ำไร่ท�ำนา เทียบกับตอนไม่มีคลอง
ส่ิงท่ีเปลี่ยนไปคือ ค้าขายได้ ท�ำนาได้ การคมนาคมก็ดี จาก
เกษตรกรที่รอแต่น้�ำฝน เดี๋ยวน้ีมีน�้ำคลองมาช่วย เราสามารถ
ทำ� นาได้ปีละ ๒-๓ หน ตามความขยันของเกษตรกร
พอมีคลองชลประทานมาจากที่ปลูกข้าวอย่างเดียวพ่อ
ก็พาปลูกอ้อย ข้าวโพดฝักอ่อน ยาสูบ มนั ส�ำปะหลัง จากพืน้ ท่ี
74

รนุ่ แม่ สมยั นนั้ อดอยาก เอาขา้ วทอี่ อ่ นมาทำ� ขา้ วฮางคอื เอาขา้ ว เราด้วย แต่ตอนน้ีดีใจท่ีได้เสียสละพื้นท่ีท�ำคลอง แม้จะเหลือ
เปลือกมาล้างท�ำความสะอาดแล้วแช่ เพาะงอกแล้วเอามาน่ึง พนื้ ทน่ี ดิ หนอ่ ยใหเ้ ราทำ� กนิ แตก่ ค็ มุ้ คา่ เพราะเราไดร้ บั ประโยชน์
ให้สุกแล้วเอาไปตาก จากน้ันจึงเอาไปสีแล้วตากซ้�ำ ท�ำความ มากท้ังนาท่ีดอนและท่ลี ุ่ม ได้อยู่กนั สบาย มที ่นี าแค่ ๒ ไร่ก็พอ
สะอาดก่อนบรรจุถุง การท�ำข้าวฮางเป็นหนึ่งในวิธีการถนอม กินแล้ว ถ้าขาดเข่ือนน้�ำอูนแล้วจะรู้สึก คงจะไม่ได้ท�ำนาปรัง
อาหาร สามารถเก็บข้าวได้นานเป็นปี แม่เล่าให้ฟังว่าสมัย แบบทุกวันน้ี ปัจจุบันเราได้ผลประโยชน์มาก ท�ำนากันปีละ
สงครามนน้ั ขา้ วฮางไมต่ อ้ งหงุ กไ็ ด้ เพยี งแตแ่ ชน่ ำ�้ กเ็ อามากนิ ได้ ๒ ครั้ง ๓ คร้ัง ลกู เต้าก็ไดเ้ รยี นหนังสือ ตอนน้ีมีพื้นท่ี ๓ ไร่ ท�ำนา
เพราะน่ึงสุกมาแล้ว ปกติข้าวสารที่สีแล้วจะเก็บได้ประมาณ ระยะสั้น หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วก็ลงครามในแปลงเดียวกัน
๓ เดือน แต่เป็นข้าวฮางเก็บได้นานกว่า ข้อดีของข้าวฮางคือ ปลกู ขา้ วไดเ้ งิน ๑๐,๐๐๐ บาท แต่ปลกู ครามได้ ๒๐,๐๐๐ บาท
๑. เราเพาะเป็นข้าวงอกแลว้ ในขา้ วมสี ารกาบา ๒. มไี ฟเบอร์ ปลูกครั้งหน่ึงเก็บเกี่ยวได้ ๒ ครง้ั หรอื ถา้ น้ำ� ดีๆ กไ็ ดถ้ งึ ๓ ครั้ง
มาก สารอาหาร วติ ามนิ ครบถว้ น เรารกั ษาคณุ ภาพไดส้ มำ่� เสมอ ตัดคร้ังแรกได้เน้ือคราม ๑๐๐ กิโล พอได้น�้ำมาต้นครามก็
จึงขายได้อย่างต่อเนื่อง เรามีทุกอย่างครบแล้วท้ังดินและน�้ำ แตกแขนงมาอีกให้เราตัดซ�้ำ คร้ังท่ี ๒ ได้เพิ่มเป็น ๑๕๐ กิโล
ทเี่ หลือก็เป็นใจ แค่ ๓๐ วัน ปลูกไร่เดียวก็ได้ ๒๐๐ กิโลแล้ว
ผลผลติ ทเ่ี ก็บมาไมไ่ ด้ขาย แตเ่ อามาใช้ย้อมผ้าฝ้ายขาย
เอง บางครั้งก็รับซอื้ จากเกษตรกรสมาชกิ คนอ่นื ดว้ ย งานทอผ้า
ฝ้ายย้อมครามกลายเป็นอาชีพเสริมให้กลุ่มแม่บ้านของเรา
มรี ายได้ นอกจากยอ้ มฝา้ ยทอมือแล้วเย็บเปน็ เสื้อผ้า ผ้าพันคอ
กระเปา๋ จำ� หนา่ ยใหผ้ สู้ นใจแลว้ ยงั เปดิ รบั ยอ้ มผา้ ใหค้ นขา้ งนอก
เข้ามาใช้บริการด้วย โดยคิดค่าย้อมเส้ือตัวละ ๑๐๐ บาท
บางคนท่มี าย้อมบ่อยๆ เรากส็ อนวิธีย้อม เขาก็ดดั แปลงลายได้
ตามที่ตอ้ งการ ไดเ้ พิม่ มูลคา่ ขนึ้ อีก

นางวารี ไชตะมาตย์

ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรรมโนนเรือสามัคคี ต�ำบล
นาหัวบอ่ อ�ำเภอพรรณานคิ ม จังหวดั สกลนคร
หลังได้น�้ำจากเขื่อนมีประโยชน์มาก ปลูกผักก็ได้กิน
ได้ขาย เม่ือก่อนก็ท�ำนาและปลูกแตง แต่สุขภาพแย่เพราะใช้
เคมเี ยอะ ระยะหลงั จงึ มาทำ� ครามซง่ึ ไมต่ อ้ งใชเ้ คมี ใสป่ ยุ๋ คอกก็
งอกงามดี ผลผลติ ขายไดร้ าคากโิ ลละ ๑๒๐ บาทเปน็ มาตรฐาน
ราคาดกี ว่าขา้ ว ยง่ิ หน้าแล้งราคาเพม่ิ ขึ้นถึง ๑๕๐ บาท
ตอนท�ำเข่ือน ถ้าคลองผ่านพื้นที่ใครบางคนก็โวยวาย
ตัวฉันเองก็ร้องไห้เพราะช่างเขามาวัดท่ี คลองต้องผ่านที่ดิน

75





โครงการสง่ นำ�้ และบำ� รงุ รกั ษานำ�้ อนู เปน็ โครงการทมี่ มี า เพ่ือเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและเพิ่ม
นานกว่า ๕๐ ปี ถึงแม้ในปจั จบุ นั จะเห็นผลสำ� เรจ็ ของโครงการ ประสิทธิภาพการใช้น้�ำได้อย่างเต็มศักยภาพของลุ่มน้�ำ
อยา่ งเปน็ รปู ธรรมในหลายๆ ดา้ น หากแตใ่ นอนาคตปญั หาการ กรมชลประทานได้ระดมนักวิชาการจากสถาบันการศึกษา
ขาดแคลนน้�ำอาจจะเกิดขึ้นได้ เน่ืองจากมีแนวโน้มการใช้น้�ำ ศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงโครงการส่งน้�ำและบ�ำรุง
ที่เพิ่มสูงข้ึนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการขยายพื้นท่ีการ รักษาน�้ำอูนร่วมกับกลุ่มผู้ใช้น�้ำ ซ่ึงการศึกษาครอบคลุมใน
ส่งน้�ำเพ่ือสนับสนุนงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทุกๆดา้ นทั้งดา้ นวิศวกรรม การบริหารจดั การ เศรษฐกิจ สังคม
วิทยาเขตสกลนคร และพื้นท่ีข้างเคียง รวมทั้งยังมีการ การมีส่วนร่วม และส่ิงแวดล้อม ตลอดจนสภาพการใช้ท่ีดิน
เปลยี่ นแปลงสภาพการใชน้ ำ�้ ในพน้ื ทโี่ ครงการ ทำ� ใหก้ ารบรหิ าร ในปัจจุบันและอนาคต ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและ
จดั การนำ�้ ทำ� ไดไ้ มเ่ ตม็ ประสทิ ธภิ าพ ในขณะทรี่ ะบบชลประทาน สหกรณ์ ทใี่ หป้ ระยกุ ตใ์ ช้ Agri Map รวมทงั้ ระบบการเกษตรและ
และอาคารก่อสรา้ งมาเปน็ เวลานาน มีการสญู เสียน้�ำมาก เชน่ แผนการปลกู พชื ทเ่ี หมาะสม การจดั ตงั้ กลมุ่ ผใู้ ชน้ ำ�้ และรปู แบบ
การรั่วซึม ส่งน�้ำไม่ถึงปลายคลอง ท�ำให้น้�ำเร่ิมไม่เพียงพอกับ องคก์ รบรหิ ารจดั การนำ้� ชลประทานทเี่ หมาะสม เพม่ิ ปรมิ าณการ
ความต้องการ นอกจากนีย้ งั มีปญั หาในการส่งน้�ำในพื้นท่ีสงู ซึ่ง เก็บกักเป็นกว่า ๖๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร และขยายพ้ืนที่
ต้องใช้สถานีสูบน้�ำจากคลองส่งน�้ำสายใหญ่อีกทอดหน่ึง รวม ชลประทานเพ่ิมข้ึนเป็น ๒๑๐,๐๐๐ ไร่ พรอ้ มพฒั นาระบบการ
ถงึ ปัญหาดินเคม็ ในบางจดุ อีกดว้ ย บริหารจัดการน้�ำและปรับเปลี่ยนการปลูกพืชใหม่ให้เหมาะสม
นอกจากน้ีกรมชลประทานและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง รองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ม่ันใจว่าจะช่วย
รวมถึงกลุ่มผู้ใช้น�้ำยังได้ร่วมบูรณาการตามนโยบายประชารัฐ สรา้ งความมน่ั คงในเรอื่ งนำ�้ และความมน่ั คงในอาชพี การเกษตร
ของรัฐบาล ในการจัดระบบการปลูกพืชใหม่ให้เหมาะสมกับ ได้อยา่ งยงั่ ยนื
สภาพดนิ นำ้� อากาศ และสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของตลาด กรมชลประทานได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เพ่ือให้มีการใช้น�้ำอย่างมีประสิทธิภาพสร้างความมั่นคงให้กับ และมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ดำ� เนนิ โครงการศกึ ษาความเหมาะสม
เกษตรกรอย่างย่งั ยืน

78

การปรบั ปรงุ โครงการสง่ นำ�้ และบำ� รงุ รกั ษานำ�้ อนู จงั หวดั สกลนคร ส�ำหรับระบบส่งน้�ำเดิมน้ัน ทั้งคลองส่งน�้ำสายใหญ่
เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้�ำ และเพ่ิมปริมาณ คลองซอย และคลองแยก ในพน้ื ทบี่ างสว่ นสบู นำ้� ดว้ ยไฟฟา้ เพอ่ื
น�้ำต้นทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งลดภาวการณ์ สง่ นำ้� เขา้ พนื้ ทก่ี ารเกษตร ทำ� ใหม้ คี า่ ใชจ้ า่ ยในสว่ นของคา่ ไฟฟา้
เสย่ี งตอ่ การขาดแคลนนำ้� และอทุ กภยั ในพน้ื ทโ่ี ครงการตลอดจน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นระบบท่อส่งน้�ำด้วยแรงโน้มถ่วง
พน้ื ทใี่ กลเ้ คยี ง ซง่ึ เปน็ ไปตามแผนยทุ ธศาสตรก์ ารบรหิ ารจดั การ เพราะจะช่วยประหยัดทั้งค่าไฟฟ้า ลดการสูญเสียน้�ำ ท�ำให้
ทรพั ยากรนำ้� ของคณะกรรมการกำ� หนดนโยบายและการบรหิ าร สามารถสง่ นำ้� ไปถงึ พนื้ ทป่ี ลายคลองไดอ้ ยา่ งทว่ั ถงึ เปน็ การเพมิ่
จัดการทรัพยากรน�้ำ ในเรื่องการสร้างความม่ันคงของน�้ำภาค ประสทิ ธิภาพการใชน้ ้�ำให้เกดิ ประโยชน์สูงสุด เมือ่ การปรับปรุง
การผลิต (เกษตรและอุตสาหกรรม) โดยการเพ่มิ ประสิทธิภาพ โครงการสง่ นำ�้ และบำ� รงุ รกั ษานำ�้ อนู แลว้ เสรจ็ จะสามารถขยาย
โครงการแหลง่ น�ำ้ และระบบชลประทานเดิม พื้นท่ีชลประทาน สร้างความมั่นคงในเร่ืองน้�ำได้เพิ่มจากเดิม
ผลการศกึ ษาดงั กลา่ วทำ� ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ วา่ จะตอ้ งมกี ารปรบั คอื ๑๘๕,๘๐๐ ไร่ เป็นมากกวา่ ๒๑๐,๐๐๐ ไร่
แนวทางการบรหิ ารจดั การนำ้� ใหม่ ลดการระบายนำ้� เขอ่ื นนำ้� อนู กรมชลประทานเชอื่ มนั่ วา่ ในอกี ๕๐ ปี ขา้ งหนา้ โครงการ
ในช่วงฤดฝู น เพอ่ื เก็บน�้ำต้นทุนไว้ใหไ้ ดม้ ากที่สดุ โดยใช้น้ำ� จาก สง่ นำ�้ และบำ� รงุ รกั ษานำ�้ อนู จะเปน็ ปจั จยั ทางดา้ นโครงสรา้ งหลกั
ล�ำน้�ำธรรมชาติที่มีอยู่ในลุ่มน้�ำแต่ยังไม่ได้มีการน�ำมาใช้ ที่สนับสนุนและส่งเสริมการท�ำเกษตรกรรมในพื้นท่ีโครงการ
ประโยชน์ ดว้ ยการสรา้ งประตรู ะบายนำ้� เพอื่ ควบคมุ ปรมิ าณนำ�้ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน เพ่ือส่งเสริมให้เกษรตรกรในพ้ืนท่ี
นอกจากนี้ยังจะผันน�้ำจากลุ่มน�้ำสาขาอื่นๆ มาเก็บกักไว้ใน โครงการคดิ คน้ สร้างสรรค์การเกษตรในแนวทางใหมๆ่ ทัง้ เพอ่ื
เข่ือนน้�ำอูน ซึ่งจะท�ำให้ได้ปริมาณน�้ำอีกประมาณ ๑๐ ล้าน พัฒนาตนเอง และเป็นต้นแบบให้กับการท�ำเกษตรกรรม
ลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งเสริมสันฝายของเข่ือนน้�ำอูนสูงขึ้นอีก อย่างย่ังยืนสบื ไป
๑ เมตร จะทำ� ใหเ้ พม่ิ ปรมิ าณการเกบ็ กกั นำ้� อกี ๘๔ ลา้ นลกู บาศก์
เมตร รวมเปน็ ๖๐๔ ลา้ นลกู บาศก์เมตร

79

ทำ� เนียบผู้บรหิ าร

นายช่างหวั หน้าโครงการก่อสรา้ งชลประทานน้ำ� อูน

ชื่อ-สกลุ ระยะเวลาด�ำรงตำ� แหนง่

๑. นายรุง่ เรือง จุลชาต ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ ถงึ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓

๒. นายวชิ ัย สงวนไพบูลย ์ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ถึง ๓๐ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๓๔

นายช่างหวั หน้าโครงการส่งนำ้� และบ�ำรุงรักษาน�ำ้ อูน

ชอื่ -สกลุ ระยะเวลาด�ำรงตำ� แหนง่

๑. นายแต่ง ด�ำรงบุล ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ ถงึ ๑๕ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๒๕

๒. นายบรรจง ตะนงั สูงเนนิ ๑๕ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ถงึ ๒๘ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๗

๓. นายสมชาติ ปยิ ะบวร ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึง ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๗

๔. นายจรญู พจนส์ ุนทร (รก.) ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึง ๒๐ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๓๘

๕. นายนภดล วงศ์สายชล ๒๐ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๓๘ ถงึ ๑๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๓๙

๖. นายวฒั นา ณ นคร (รก.) ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ถึง ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๐

๗. นายจรูญ พจน์สนุ ทร ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ถงึ ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๓

๘. นายวิศกั ด์ิ แมน้ ทอง (รก.) ๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ถึง ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๔

๙. นายวศิ ักด์ิ แม้นทอง ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๔ ถึง ๒ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖

ผอู้ ำ� นวยการโครงการส่งน�้ำและบำ� รงุ รักษาน้ำ� อูน

ชอื่ -สกลุ ระยะเวลาด�ำรงต�ำแหนง่

๑. นายวิศักดิ์ แม้นทอง ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖ ถงึ ๒๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๑

๒. นายเสน่ห์ แกว้ บุญเรอื ง ๒๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ถงึ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕

๓. นายชนะไชย วัฒนา (รก.) ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึง ๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๕

๔. นายกาญจน์ หมวกกุล ๘ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถงึ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘

๕. นายอาคม ไชยมงคล ๒๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถงึ ปจั จบุ ัน

80

คณะผูจ้ ัดท�ำหนังสือ
50 ปี เขือ่ นนำ�้ อนู กึ่งศตวรรษแหง่ ความภาคภูมิ

ทป่ี รกึ ษา อธบิ ดีกรมชลประทาน
รองอธบิ ดฝี ่ายบำ� รงุ รกั ษา
นายสมเกยี รติ ประจำ� วงษ์ รองอธิบดีฝา่ ยบริหาร
นายทองเปลว กองจนั ทร์ ผ้อู ำ� นวยการสำ� นักงานชลประทานที่ 5
นายทวศี กั ดิ์ ธนะเดโชพล
นายชูชาติ รกั จติ ร

คณะผู้จดั ทำ� ผ้อู �ำนวยการโครงการส่งนำ�้ และบำ� รงุ รกั ษาน้�ำอนู
นายอาคม ไชยมงคล หวั หน้าฝ่ายวิศวกรรม โครงการส่งน้�ำและบำ� รงุ รกั ษานำ้� อนู
นายวรวิทย์ สภุ าอว้ น ท่ปี รกึ ษาโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ
นางอรทยั วฒั นชัย (ดา้ นประชาสมั พันธ์)
ผู้อำ� นวยการสว่ นประชาสมั พันธแ์ ละเผยแพร่
นางณภัทร เวียงคำ� มา สำ� นักงานเลขานุการกรม
หวั หน้าฝ่ายเผยแพร่ สว่ นประชาสัมพนั ธ์และเผยแพร่
นางสาวกนกนุช นวกลุ จิตมน่ั สำ� นักงานเลขานุการกรม
นักประชาสัมพนั ธ์ ส่วนประชาสัมพันธแ์ ละเผยแพร่
นางสาวกนกวรรณ ชูประเสริฐ ส�ำนักงานเลขานุการกรม
นกั ประชาสัมพันธ์ สว่ นประชาสัมพนั ธแ์ ละเผยแพร่
นางสาวจริ ะประภา นมิ านะ ส�ำนกั งานเลขานกุ ารกรม
นักประชาสัมพนั ธ์ สว่ นประชาสัมพนั ธ์และเผยแพร่
นางสาวพณิ ชลี เปรมบุตร สำ� นกั งานเลขานุการกรม


ขอขอบคุณ อธบิ ดกี รมชลประทานคนที่ ๒๓
อธิบดกี รมชลประทานคนที่ ๒๔
นายรงุ่ เรือง จุลชาต อดีตผ้อู ำ� นวยการศนู ย์ศึกษาการพฒั นาภพู าน
นายปราโมทย์ ไม้กลดั อนั เน่อื งมาจากพระราชด�ำริ
นายบรรจง ตะนังสูงเนนิ อดีตทปี่ รึกษาส�ำนกั บรหิ ารจัดการน้�ำและอทุ กวิทยา
อดีตผู้อ�ำนวยการโครงการพฒั นาลมุ่ น้�ำก�่ำ อันเน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ
นายจรญู พจนส์ ุนทร อดตี ลกู จ้างประจ�ำตำ� แหนง่ ช่างก่อสรา้ ง โครงการกอ่ สร้างน้ำ� อูน
นายชัยพร เชนวริ ตั นพธิ อดตี ลูกจ้างประจ�ำโครงการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมผสมผสาน
นายเฉลียว ม่วงทอง
นายประทวน อารรี อบ

ประธานกลมุ่ ผ้ใู ช้นำ้� เกษตรกรผไู้ ด้รับประโยชน์ในพ้นื ท่ี 81
เจ้าหนา้ ท่ีผเู้ ก่ยี วขอ้ งทกุ ท่านในการสนบั สนนุ ข้อมูลและน�ำลงพนื้ ที่

บรรณานกุ รม

กรองแกว้ เกิดศิริ. ผจู้ ดั การเขต บริษัท อดมั เอน็ เตอร์ไพรเซส จำ� กดั . สมั ภาษณ์, ๑๕ กนั ยายน ๒๕๖๐.
จรูญ พจน์สนุ ทร. อดีตที่ปรึกษาส�ำนักบริหารจัดการน้�ำและอทุ กวทิ ยา. สัมภาษณ์, ๒ ตลุ าคม ๒๕๖๐.
ชยั พร. วศิ วกรโครงการส่งนำ�้ และบ�ำรุงรักษานำ้� อูน. สัมภาษณ์, ๑๙ กันยายน ๒๕๖๐.
เฉลยี ว ม่วงทอง. ลูกจา้ งประจำ� โครงการส่งนำ�้ และบำ� รุงรักษาน�้ำอนู กรมชลประทาน. สัมภาษณ์, ๑๕ กันยายน ๒๕๖๐.
ถาวร ชมุ ปัญญา. เกษตรกรในพ้ืนทโ่ี ครงการสง่ น�้ำและบ�ำรงุ รกั ษานำ�้ อนู . สัมภาษณ,์ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๐.
ธวชั ชยั เหลาพรม. เกษตรกรในพื้นทีโ่ ครงการส่งน้�ำและบำ� รงุ รักษาน�้ำอนู . สัมภาษณ์, ๑๔ กนั ยายน ๒๕๖๐.
บุญพรอ้ ม ค�ำลือฤทธ.์ิ เกษตรกรในพื้นทีโ่ ครงการสง่ น้ำ� และบ�ำรุงรักษานำ้� อนู . สัมภาษณ,์ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๐.
บรรจง ตะนงั สงู เนนิ . หวั หน้าฝา่ ยส่งนำ้� และบำ� รงุ รักษา โครงการสง่ น�้ำและบ�ำรงุ รกั ษานำ�้ อนู กรมชลประทาน.
สมั ภาษณ,์ ๒๑ กนั ยายน ๒๕๖๐.
บงั อร ไชยเสนา. เกษตรกรในพ้นื ทโ่ี ครงการสง่ นำ้� และบ�ำรุงรักษาน้ำ� อูน. สมั ภาษณ์, ๑๔ กนั ยายน ๒๕๖๐.
บ�ำเพญ็ จนั ทะวงศ.์ ประธานกลุ่มบริหารการใช้น�ำ้ ชลประทานรวมมติ รเกษตรพฒั นา โครงการส่งน�้ำและบำ� รงุ รกั ษาน�ำ้ อนู .
สัมภาษณ,์ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๐.

82

ปราโมทย์ ไม้กลดั . อธบิ ดีกรมชลประทานคนที่ ๒๓. สัมภาษณ,์ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๐.
ฝ่ายเศรษฐกิจการจัดไร่นาและธุรกิจการเกษตร ส�ำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. รายงานการศึกษา
ประสทิ ธภิ าพและองคป์ ระกอบของฟารม์ ในเขตโครงการชลประทาน ลำ� นำ�้ อนู จงั หวดั สกลนคร ปกี ารเพาะปลกู ๒๕๑๘-๑๙.
(เอกสารอัดส�ำเนา) พ.ศ. ๒๕๒๐.
พรพิศ ทองก้อน. ประธานกล่มุ วิสาหกิจชมุ ชนข้าวฮางงอกบา้ นน้อยจอมศรี. สมั ภาษณ์, ๑๔ กนั ยายน ๒๕๖๐.
รงุ่ เรอื ง จุลชาต. อธบิ ดกี รมชลประทานคนที่ ๒๓. สมั ภาษณ์, ๑๙ กันยายน ๒๕๖๐.
วารี ไชตะมาตย์. ประธานกลุม่ แม่บา้ นเกษตรกรรมโนนเรือสามคั คี (กลมุ่ แมบ่ ้านผา้ ยอ้ มคราม). สมั ภาษณ์, ๑๕ กันยายน ๒๕๖๐.
สวาท ทองสะอาด. เกษตรกรในพื้นทีโ่ ครงการส่งน�ำ้ และบำ� รงุ รักษาน้ำ� อูน. สมั ภาษณ์, ๑๕ กนั ยายน ๒๕๖๐.
สทุ ธจิ ติ ต์ จินตยานนท์. การศึกษาผลกระทบโครงการชลประทานนำ�้ อูน จงั หวดั สกลนคร. วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาการผังเมอื ง
มหาบณั ฑิต ภาควชิ าผงั เมอื ง จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๒๕.
อุทัย จนั ใด. เกษตรกรในพนื้ ท่ีโครงการส่งน้�ำและบำ� รุงรักษาน้ำ� อูน. สัมภาษณ์, ๒๕๖๐. สัมภาษณ์, ๑๔ กันยายน ๒๕๖๐.
อาคม ไชยมงคล. ผูอ้ ำ� นวยการโครงการสง่ น้ำ� และบำ� รุงรกั ษาน�ำ้ อนู กรมชลประทาน. สมั ภาษณ์, ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๐.

83

เจา้ ของ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๘๑๑ ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ติ กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐
www.rid.go.th และ www.kromchol.com
ISBN .................................................
ปที พ่ี มิ พ ์ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐
จำ� นวนพมิ พ ์ ๒,๐๐๐ เลม่

ดำ� เนนิ การผลติ สว่ นประชาสมั พนั ธแ์ ละเผยแพร่
สำ� นกั งานเลขานกุ ารกรม
โทรศพั ท์ ๐ ๒๒๔๓ ๖๙๗๔ โทรสาร ๐ ๒๒๔๓ ๖๙๒๖

พมิ พท์ ี่ บรษิ ทั พมิ พด์ ี จำ� กดั
๓๐/๒ หมู่ ๑ ถนนเจษฎาวถิ ี
ตำ� บลโคกขาม อำ� เภอเมอื งสมทุ รสาคร
จงั หวดั สมทุ รสาคร ๗๔๐๐๐
โทรศพั ท์ ๐ ๒๔๐๑ ๙๔๐๑
โทรสาร ๐ ๒๔๐๑ ๙๔๑๗
www.pimdee.co.th


Click to View FlipBook Version