โครงการสอนรายภาคเรียน
โรงเรียนเตรยี มอุดมศกึ ษาน้อมเกล้า ปทมุ ธานี
รายวชิ า เทคโนโลยี(วทิ ยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117 หนว่ ยกิต 0.5 หน่วยกติ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ครผู ู้สอน นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย การนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลสารสนเทศ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ การนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย จริยธรรม จรรยาบรรณ
และกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวัน และ
ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านต่าง ๆ
โดยอาศัยกระบวนการเรยี นรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (Problem–Based Learning) และวฏั จกั รการเรียนรู้แบบ
สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์
การแก้ปัญหา วางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงาน เพื่อให้เกิดความรู้
ความเขา้ ใจและทักษะในการวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหา จนสามารถนำเสนอแนวคิดเชงิ คำนวณมาประยุกต์ใช้ในโครงงานได้
เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปญั หาเป็นข้ันตอนและเป็น
ระบบ มที ักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมลู สว่ นตัว และการสื่อสารเบอ้ื งต้นในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิต
จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำความรูค้ วามเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และนำเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึน้ ไปใชใ้ ห้
เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการ
แก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์
มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์
รหัสตัวช้ีวัด
ว 4.2 ม.6/1 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอ และแบง่ ปันขอ้ มูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และวเิ คราะห์การ
เปล่ยี นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศทมี่ ผี ลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สงั คม และวัฒนธรรม
รวมทั้งหมด 1 ตัวชวี้ ัด
รายละเอยี ดการสอนสัปดาห์ที่ 1-20
สัปดาห์ที่ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ สาระ ใบงาน/ชิ้นงาน คะแนน
1 ว 4.2 ม.6/1 -ปฐมนเิ ทศ
- ข้อตกลงของห้องเรยี น 1.ตรวจแบบทดสอบก่อน 3 คะแนน
2-3 ว 4.2 ม.6/1 - อตั ราส่วนคะแนน
- การนำเสนอและแบง่ ปันข้อมลู เรยี น
4 ว 4.2 ม.6/1 สารสนเทศ
5 ว 4.2 ม.6/1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การใช้
6-8 ว 4.2 ม.6/1 การเขียนบลอ็ กและการอปั โหลด
วิดโี อ เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง
การใชภ้ าพอินโฟกราฟกิ ปลอดภัย
2.ตรวจใบงานท่ี 1.1.1 เรือ่ ง
การนำเสนอขอ้ มูลและการ
แบ่งปัน
3.สงั เกตพฤตกิ รรมการ
ทำงานรายบุคคล
1.ตรวจใบงานที่ 1.2.1 เรื่อง 10
การเขยี นบลอ็ กและการ คะแนน
สตรีมมงิ วีดโี อ
2.ตรวจการสรา้ งบลอ็ กบน
เวบ็ ไซต์ Wordpress.com
3.สงั เกตพฤตกิ รรมการ
ทำงานรายบคุ คล
1.ตรวจใบงานที่ 1.3.1 เร่อื ง 10
การใช้ภาพอนิ โฟกราฟกิ คะแนน
2.สังเกตพฤติกรรมการ
ทำงานรายบคุ คล
การนำเสนอและแบง่ ปันข้อมูล ตรวจใบงานท่ี 1.4.1 เรอื่ ง 3 คะแนน
อย่างปลอดภัย การนำเสนอและแบ่งปนั
ขอ้ มูลอยา่ งปลอดภยั
จริยธรรมจรรยาบรรณและ 2.สงั เกตพฤตกิ รรมการ
กฎหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทำงานรายบคุ คล
1.ตรวจใบงานท่ี 1.5.1 4 คะแนน
เร่อื ง การประยกุ ต์ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภัย
2.สงั เกตพฤตกิ รรมการ
ทำงานรายบคุ คล
3.การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระ
งาน(รวบยอด)
สปั ดาห์ที่ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ สาระ ใบงาน/ช้ินงาน คะแนน
สอบกลางภาค
9 ว 4.2 ม.6/1 4.ตรวจการตอบคำถาม 20
10 ว 4.2 ม.6/1 แบบฝึกหดั ท้ายบทSelf คะแนน
Check และ
11 ว 4.2 ม.6/1 UnitQuestion 1
12-13 ว 4.2 ม.6/1 5.ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั
14 ว 4.2 ม.6/1 พึงประสงค์
6.ตรวจแบบทดสอบหลัง
เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
อย่างปลอดภัย
การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี 1.ตรวจแบบทดสอบก่อน 5 คะแนน
สารสนเทศ เรียนหนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2
การเปลย่ี นแปลง ของ
ปญั ญาประดิษฐ์ เทคโนโลยสี ารสนเทศ
เทคโนโลยีหนุ่ ยนต์ 2.ตรวจใบงานที่ 2.1.1
เทคโนโลยคี วามเป็นจรงิ เสริม เร่อื ง การเปล่ยี นแปลงของ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
3.ประเมินการนำเสนอ
ผลงาน
4.สงั เกตพฤติกรรมการ
ทำงานรายบุคคล
1.ตรวจใบงานที่ 2.2.1 5 คะแนน
เรือ่ ง ปญั ญาประดษิ ฐ์
2.สังเกตพฤติกรรมการ
ทำงานรายบุคคล
1.ตรวจใบงานที่ 2.3.1 เรื่อง 5 คะแนน
เทคโนโลยีห่นุ ยนต์
2.การตอบคำถามในชนั้
เรยี น
3.สังเกตพฤตกิ รรมการ
ทำงานรายบุคคล
1.ตรวจใบงานท่ี 2.4.1 เร่อื ง 5 คะแนน
เทคโนโลยคี วามเป็นจริง
เสริม
สปั ดาหท์ ่ี ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ สาระ ใบงาน/ชน้ิ งาน คะแนน
2.สังเกตพฤติกรรมการ
ทำงานรายบุคคล
15-16 ว 4.2 ม.6/1 อาชพี ทางด้านเทคโนโลยี 1.ตรวจใบงานท่ี 2.5.1 เร่ือง 5 คะแนน
สารสนเทศ
อาชพี ทางด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศ
2.สังเกตพฤตกิ รรมการ
ทำงานรายบุคคล
17-19 ว 4.2 ม.6/1 ผลกระทบของเทคโนโลยี 1.ตรวจใบงานที่ 2.6.1 เรื่อง 5 คะแนน
สารสนเทศ
ผลกระทบของการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ
2.ตรวจรายงาน เรอื่ ง สาย
อาชพี ทางเทคโนโลยี
3.ประเมินการนำเสนอ
ผลงาน
4.การประเมินชิ้นงาน/ภาระ
งาน(รวบยอด)
5.สงั เกตพฤตกิ รรมการ
ทำงานรายบุคคล
6.ประเมินคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์
7.ตรวจแบบทดสอบหลงั
เรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2
การเปลย่ี นแปลง ของ
เทคโนโลยสี ารสนเทศ
20 ว 4.2 ม.6/1 สอบปลายภาค 20
คะแนน
แหลง่ เรยี นรู้เพมิ่ เติม (สถานท/ี่ เวบ็ ไซต์)
1.หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6
สือ่ การเรยี นการสอน
1. สือ่ การนำเสนอข้อมลู และความรูร้ ายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาการคำนวณ
การประเมินผล
รายวิชานี้จะประเมินผลจากกิจกรรมการเรียนการสอนที่ได้เกิดขึ้นโดยพิจารณาจากการสอบ
การทำกิจกรรมในห้องเรียน การมีส่วนร่วมในการเรียน ชิ้นงานเดี่ยวและกลุ่ม โดยมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน
แบง่ รายละเอยี ดได้ดังน้ี
อตั ราสว่ นคะแนน
คะแนนเกบ็ กอ่ นกลางภาค: สอบกลางภาค : เกบ็ หลงั กลางภาค: สอบปลายภาค = 30 : 20 : 30: 20
1. การสอบ คะแนนเต็ม 40 คะแนน
- สอบกลางภาค 20 คะแนน
- สอบปลายภาค 20 คะแนน
2. ชิน้ งาน (เด่ยี วและกลุ่ม) 30 คะแนน
- งานเดย่ี ว 10 คะแนน
- ใบงาน 10 คะแนน
- สมุด 10 คะแนน
3. รายงานการทดลอง 20 คะแนน
4. การมีสว่ นรว่ มในการเรียน 10 คะแนน
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล คะแนน ช่วง พฤตกิ รรม
สิ่งทตี่ ้องการประเมิน เตม็ คะแนน
15-30 ส่งงานตามกำหนดเวลา มคี วามเรียบรอ้ ยและสวยงาม
ชิน้ งาน 30
10-14 ไมส่ ง่ งานตามกำหนดเวลา ไม่มคี วามเรยี บร้อยหรอื ไม่
สวยงาม
0-9 ไม่สง่ งานตามกำหนดเวลา ไม่มีความเรียบรอ้ ยหรอื ไม่
สวยงาม
สิ่งทตี่ ้องการประเมนิ คะแนน ชว่ ง พฤติกรรม
เตม็ คะแนน
15-20 ส่งงานตามกำหนดเวลา มคี วามเรยี บรอ้ ยและมคี วาม
20 ตัง้ ใจ
10-14 ไม่ส่งงานตามกำหนดเวลา ไม่มคี วามตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
รายงายการทดลอง 0-9 ไม่สง่ งานตามกำหนดเวลาไมม่ ีความเรยี บร้อยและไม่
ตง้ั ใจ
การมีส่วนร่วมในการ 10 8-10 มคี วามกระตือรอื ร้นและเข้าเรียนทกุ คร้ัง
เรยี น 4-7 ไมม่ ีความกระตอื รือรน้ หรอื ขาดเรยี นบอ่ ย
1-3 ไมม่ ีความกระตือรือรน้ และขาดเรียนบอ่ ย
ลงชื่อ........................................................
(นางสาวจริ าพร เหมพุทธ)
ตำแหนง่ ครูชำนาญการ
ความเหน็ หัวหนา้ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.....................................................
(นางสาวจีราพชั ร์ แสงเทยี น)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ความเห็นของรองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ
............................................................................................................................................................................
❑ อนุญาต ลงชอื่ ...................................................
(นางสาวอภชิ านนั ท์ หมน่ั ภกั ด)ี
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
❑ ไมอ่ นุญาต เพราะ ........................................................................................................
ลงช่อื ...................................................
(นางสาวชนญั ชิดา ม่วงทอง)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นเตรยี มอุดมศึกษาน้อมเกลา้ ปทุมธานี
โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษานอ้ มเกลา้ ปทุมธานี
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระการเรียนรู้ (พน้ื ฐาน) รายวิชา เทคโนโลย(ี วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
ครผู ู้สอน นางสาวจิราพร เหมพุทธ เวลาเรยี น 2 คาบ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระสำคญั
การนำเสนอข้อมลู คอื การนำข้อเทจ็ จรงิ หรือรายละเอยี ดตา่ งๆ ของขอ้ มูลท่ีเก็บรวบรวมไวม้ าจดั ใ ห ้ เ ป็ น
ระเบียบ และสามารถอา่ นรายละเอยี ดหรือเปรยี บเทยี บข้อเทจ็ จริงของข้อมูลเหลา่ นัน้ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว
และตรงตามความต้องการของผูใ้ ช้งาน
การแบ่งปันข้อมูล คือ การนำความรู้ ข้อมูล หรือสิ่งต่างๆ ที่ได้จากประสบการณ์จริงหรือการค้นคว้ามา
บอกตอ่ ไปยังผอู้ นื่
สื่อสังคมออนไลน์ คือ รูปแบบของเว็บไซต์ในการสร้างเครือข่ายสังคมสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งใช้
สำหรบั เขียนอธิบายความสนใจ โดยเช่อื มโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผอู้ ืน่
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง
อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แก้ปัญหา ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมจี รยิ ธรรม
3. ตวั ชว้ี ัด
ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม4.
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายการนำเสนอขอ้ มูลและการแบ่งปนั ข้อมลู ได้อย่างถูกต้อง (K)
2. สามารถนำเสนอข้อมูลและแบ่งปนั ข้อมลู ในในสื่อสงั คมออนไลนไ์ ด้ (P)
3. ยกตัวอย่างนำเสนอข้อมลู และแบ่งปันข้อมลู ได้อย่างมีวิจารณญาณ (A)
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ซื่อสัตย์ สุจริต
ความสามารถในการส่ือสาร ใฝ่เรียนรู้
ความสามารถในการคิด มุง่ ม่นั ในการทำงาน
ความสามารถในการแก้ปัญหา มีจิตสาธารณะ
ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
มวี ินยั
อยอู่ ย่างพอเพยี ง
รกั ความเปน็ ไทย
7. สาระการเรยี นรู้
ด้านความรู้
อธิบายความหมายการนำเสนอข้อมูลและการแบ่งปันข้อมลู ไดอ้ ย่างถูกต้อง (K)
ทักษะกระบวนการ
สามารถนำเสนอข้อมูลและแบ่งปนั ข้อมูลในในส่อื สังคมออนไลน์ได้ (P)
ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยม
ยกตัวอย่างนำเสนอข้อมลู และแบง่ ปันข้อมลู ได้อย่างมีวิจารณญาณ (A)
8. กจิ กรรมการเรียนการสอน
ชั่วโมงที่ 1
ข้นั นำ
1.ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
เพือ่ วัดความรเู้ ดมิ ของนักเรยี นก่อนเขา้ สูก่ ิจกรรม
2.ครูถามคำถามประจำหวั ข้อว่า “การนำเสนอและแบง่ ปนั ขอ้ มลู สง่ ผลดแี ละผลเสียอยา่ งไรกบั การใชช้ วี ติ
ในปจั จบุ นั ”
(แนวตอบ : ส่งผลดใี นด้านการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ที่ถูกตอ้ ง แมน่ ยำ และการแบง่ ปันทำให้รวดเร็ว ง่ายตอ่ การ
นำไปใช้ ผลเสยี ทำใหข้ าดทกั ษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ เพราะเข้าถึงข้อมลู ไดง้ ่าย)
ขน้ั สอน
1.ครูถามคำถามกระต้นุ ความสนใจของนักเรยี นว่า “นกั เรียนคิดว่าการนำเสนอและการแบ่งปันขอ้ มลู ใน
ปจั จุบนั สว่ นใหญ่แลว้ ผ่านชอ่ งทางใดบ้าง”
(แนวตอบ : คำตอบข้นึ อยูก่ ับดลุ ยพนิ จิ ของนกั เรยี น)
2.ครูอธิบายความหมายของการนำเสนอข้อมลู และการแบ่งปันขอ้ มลู ในหนงั สือเรยี น เทคโนโลยี
(วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนา้ ที่ 3–6
3.นกั เรยี นและครูรว่ มสนทนาเกย่ี วกับสือ่ สังคมออนไลนท์ นี่ ิยมใชใ้ นปัจจุบนั
4.นักเรียนศึกษาหัวข้อประเภทของสือ่ สังคมออนไลน์ ในหนังสอื เรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6
หนา้ ที่ 7-8
5.ครูอธบิ ายเครือข่ายสงั คมออนไลน์ และขอ้ ดี ข้อเสยี ของสอ่ื สงั คมออนไลน์ ในหนงั สือเรียน เทคโนโลยี
(วิทยาการคำนวณ) ม.6 หน้าที่ 9-10
ชวั่ โมงที่ 2
ขน้ั สอน
1.ครูทบทวนความรูเ้ ดิมจากการเรยี นเม่อื ชั่วโมงทแ่ี ล้ว เรอ่ื งการนำเสนอขอ้ มูลและการแบ่งปนั ขอ้ มูล
2.ครอู ธิบายเพ่ิมเติม ปัจจัยในการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิผล ในหนังสอื เรียน เทคโนโลยี (วิทยาการ
คำนวณ) ม.6 หนา้ ท่ี 6
3.ครูแจกใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง การนำเสนอข้อมูลและการแบ่งปนั ใหก้ บั นักเรียน และชีแ้ จงการทำใบงาน
4.นักเรียนลงมอื ทำใบงานด้วยตนเอง พร้อมกับศึกษาขอ้ มลู ในหนังสอื เรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ม.6
5.ครูคอยให้คำแนะนำ สำหรับนกั เรยี นท่มี ีข้อสงสัย
ข้ันสรุป
1.ครูตรวจสอบการทำใบงานท่ี 1.1.1 เรอ่ื ง การนำเสนอข้อมลู และการแบ่งปนั
2.ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการณ์ตอบคำถาม และตรวจสอบการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการ
เรยี นรู้ท่ี 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
3.ครูและนกั เรียนร่วมกันอภิปรายและสรปุ ความรู้ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมในวนั น้ี
9. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
9.1 ส่อื การเรยี นรู้
. 1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1
เรอ่ื ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
ใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง การนำเสนอข้อมลู และการแบง่ ปนั
10. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
รายการวดั วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน
การประเมินกอ่ นเรียน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ
การใช้เทคโนโลยี กอ่ นเรยี น
สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
จุดประสงค์การเรียนรู้ ใบงานท่ี 1.1.1 ร้อยละ 60 % ผา่ นเกณฑ์
1. อธบิ ายความหมาย การตอบคำถาม เร่ือง การนำเสนอข้อมูล
การนำเสนอขอ้ มูลและ ในใบงาน
การแบ่งปันขอ้ มลู ได้ และการแบง่ ปนั
อย่างถูกต้อง (K)
ใบงานท่ี 1.1.1 ร้อยละ 60 % ผ่านเกณฑ์
2. สามารถนำเสนอข้อมูล ตรวจใบงาน เรอ่ื ง การนำเสนอข้อมูล
และแบ่งปนั ขอ้ มลู ในในสือ่ และการแบง่ ปัน ระดับคุณภาพ 2
สังคมออนไลน์ได้ (P) ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ พฤติกรรม
3. ยกตัวอย่างนำเสนอ สงั เกตพฤตกิ รรมการ
ขอ้ มูลและแบง่ ปนั ขอ้ มูลได้ ทำงานรายบุคคล
อยา่ งมวี จิ ารณญาณ (A)
11. ช้ินงาน/ภาระงาน
ใบงานที่ 1.1.1 เร่อื ง การนำเสนอขอ้ มูลและการแบ่งปนั
12. บันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ระดบั ชน้ั ที่สอน ………………………….………… ได้แก่ ....................... จำนวนนกั เรียนท้งั หมด ……….. คน
ช่องทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อน่ื ๆ ........................
1. การดำเนนิ การจดั การเรยี นรู้ ( ) เป็นไปตามแผน ( ) ไมเ่ ปน็ ไปตามแผน
2. จำนวนนกั เรยี นท่ีใช้สอน
จำนวนนกั เรียนทัง้ หมด จำนวนนักเรียนที่เข้าเรยี น หมายเหตุ
ระดบั ช้ัน
มัธยมศกึ ษาปีท่ี ......
มัธยมศึกษาปีท่ี......
3. ผลการจัดการเรียนรู้
3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.2) ความเหมาะสมของเนื้อหา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง
3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรงุ
3.4) ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใี่ ช้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง
3.5) พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของนักเรยี น ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรงุ
3.6) ผลการปฏิบัติกิจกรรม
3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรหู้ ลังการเรยี น
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่ืนๆ .................... พบวา่ มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
และมีนักเรยี นจำนวน ........... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........... ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
3.6.2) การประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
และมนี กั เรยี นจำนวน ........... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรียนรู้
3.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อ่ืนๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรียนรู้
4. ปญั หาทพ่ี บในการจดั การเรียนรู้ ( ) ไม่มี
( ) มี ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ คือ ……………………………
…………………………………………………………………………..
5. สิง่ ท่ีควรพฒั นาและแนวทางการแก้ไขในการจัดการเรียนรูค้ รัง้ ตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................
ลงชอื่ .............................................ผสู้ อน/ผ้บู นั ทกึ
( นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)
โรงเรยี นเตรียมอุดมศกึ ษานอ้ มเกล้า ปทุมธานี
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระการเรยี นรู้ (พืน้ ฐาน) รายวชิ า เทคโนโลย(ี วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่ือง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
ครูผู้สอน นางสาวจริ าพร เหมพุทธ เวลาเรียน 2 คาบ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระสำคญั
บล็อก (Blog) คือ เวบ็ ไซต์ประเภทหน่งึ ที่ผใู้ ชง้ านสามารถสร้างและเผยแพรเ่ นื้อหาตา่ ง ๆ ในโลก
อนิ เตอรเ์ น็ต โดยเน้อื หาสามารถเป็นได้ทั้งข้อความ รูปภาพ หรอื วีดีโอ ซึง่ หลังจากไดเ้ ผยแพรแ่ ลว้ ผู้ใช้งาน อื่น
สามารถแสดงความคิดเห็นกบั เน้ือหานไ้ี ด้
การสตรมี มิง (Streaming) เป็นการรับ-ส่งขอ้ มลู จากผูใ้ ห้บริการไปยังผูร้ บั อย่างต่อเน่ืองผา่ น
เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ โดยผรู้ ับจะดาวนโ์ หลดและนำข้อมลู ไปใชใ้ นลักษณะของคู่ขนาน
2. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง
อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทันและมีจริยธรรม
3. ตัวชว้ี ัด
ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม4.
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายของบล็อกประเภทต่าง ๆ ได้ (K)
2. อธิบายขน้ั ตอนการสตรมี มิงวดี ีโอบนยูทวิ บ์ได้ (K)
3. เขยี นบลอ็ กไดด้ ว้ ยตนเอง (P)
4. เล็งเหน็ ถงึ ความสำคัญของการเขียนบลอ็ กดว้ ยตนเอง (A)
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
ความสามารถในการส่อื สาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต
ใฝ่เรียนรู้
รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ม่งุ มั่นในการทำงาน
มวี ินัย มีจิตสาธารณะ
อยู่อย่างพอเพยี ง
รักความเปน็ ไทย
7. สาระการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้
อธบิ ายความหมายของบล็อกประเภทต่าง ๆ และอธิบายขน้ั ตอนการสตรีมมิงวดี โี อบนยูทวิ บ์ได้ (K)
ทักษะกระบวนการ
เขียนบล็อกได้ด้วยตนเอง (P)
ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ ม
เลง็ เห็นถึงความสำคัญของการเขยี นบล็อกดว้ ยตนเอง (A)
8. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ช่ัวโมงท่ี 1
ขัน้ นำ
1.ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อวา่ “ในปจั จุบนั มีวธิ ีการนำเสนอผลงานผา่ นเทคโนโลยีสารสนเทศรปู แบบ
ใดบ้าง”
(แนวตอบ : ผา่ นการเขยี นบล็อก ต่างๆซงึ่ มเี วบ็ บล็อกที่ใหบ้ รกิ ารมากมายในปัจจบุ นั เชน่ blogger.com,
wordpress.com , myspace.com , multiply.com)
ข้ันสอน
1.ครถู ามด้วยคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียน “นกั เรียนคดิ ว่าทำไม เราต้องใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ในการนำเสนอ
(แนวตอบ : คำตอบข้นึ อยกู่ บั ดุลยพนิ จิ ของนักเรยี น)
2.ครูอธิบายความหมายของบลอ็ กว่า “บลอ็ ก (Blog) คือ เว็บไซตป์ ระเภทหน่งึ ทีผ่ ูใ้ ชง้ านสามารถสรา้ งและ
เผยแพร่เนื้อหาต่างๆ ในโลกอินเตอร์เนต็ โดยเน้ือหาสามารถเปน็ ได้ทั้งข้อความ รูปภาพ หรือวดี ีโอ ซึ่งหลังจากได้
เผยแพรแ่ ล้วผู้ใชง้ านอ่นื สามารถแสดงความคดิ เหน็ กบั เน้ือหานี้ได้”
3.ครยู กตัวอย่าง การเขยี นบล็อกเพอ่ื หารายได้และใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ และบล็อกขา่ วสารและการ
ใชง้ านเทคโนโลยี ช่วยผูอ้ ่านรบั รู้ข้อมลู ได้รวดเร็วย่งิ ขน้ึ ในหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยท่ี
1 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย หน้าท่ี 11
4.นกั เรียนสืบคน้ ข้อมูลเกี่ยวกับบลอ็ กซอฟแวรท์ ี่นิยมในปจั จบุ นั อยา่ งเชน่ Drupall ซอฟต์แวรท์ ่ใี ชใ้ นการ
พฒั นา PHP/MySQL และผใู้ หบ้ รกิ ารบลอ็ กในปจั จบุ นั ดว้ ยตนเอง
ชั่วโมงที่ 2
ข้ันสอน
1.ครทู บทวนความรู้เดิมจากช่ัวโมงทแ่ี ล้ว
2.ครูอธบิ ายในหัวข้อ แนวคิดและวธิ ีการเขียนบทความบนบล็อก “การเขียนบล็อกในปัจจบุ นั สามารถทำ
ได้งา่ ยเพยี งแค่มีพนื้ ที่บนโลกออนไลน์ ซ่งึ ในปัจจบุ ันธรุ กิจส่วนใหญห่ ันมามองความสำคญั ของการเขยี นบล็อกเขยี น
เน้ือหา ทำให้มบี ล็อกเกดิ ขึน้ เปน็ มาก ซ่งึ การเขียนบล็อกให้มีความโดดเด่น และเปน็ ทน่ี า่ จดจำ” โดยใหน้ ักเรยี น
ศกึ ษาเอกสารประกอบในหนังสือเรยี น เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
อยา่ งปลอดภยั หนา้ ที่ 14 – 18
3.ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมเร่ือง SEO และประโยชนจ์ ากการเขียนบทความเพอ่ื ให้นักเรียนเข้าใจมากยง่ิ ข้นึ
ชั่วโมงที่ 3
ขนั้ สอน
1.นักเรยี นศึกษาวิธีการสรา้ งเวบ็ บลอ็ กในเวบ็ ไซต์ Wordpress.com ในหนงั สอื เรียน เทคโนโลยี
(วิทยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยท่ี 1 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั หน้า 19 -22
2.นกั เรยี นเขา้ ใชง้ านบล็อกโดยเวบ็ ไซต์ Wordpress.com ตามขน้ั ตอนในหนงั สือเรยี น เทคโนโลยี
(วิทยาการคำนวณ) ม.6 หน่วยท่ี 1 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั หนา้ 19 -22
3.ครอู ธบิ ายความแตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์ โดยพูดถงึ ความแตกต่างอยู่ 4 ประเดน็
- ประเด็นท่ี 1 คือ ดา้ นเน้อื หาและการใช้ภาษา
- ประเด็นที่ 2 คือ ความเป็นปจั จุบนั ของขอ้ มูล
- ประเด็นท่ี 3 คือ หนา้ ทหี่ ลกั
- ประเดน็ ที่ 4 คือ ดา้ นเทคนิค
4.นกั เรียนออกแบบเว็บบล็อกของตัวเองจากการตัวอย่างการสรา้ งที่นกั เรยี นศึกษาไปก่อนหน้านี้
ชวั่ โมงที่ 4
ขัน้ สอน
1.ครทู บทวนความรจู้ ากชัว่ โมงทแ่ี ลว้ ( แนวทาง : จากการทเ่ี ราสรา้ งบลอ็ กของตวั เองไป เราสามารถ
อปั โหลดวีดีโอของเราที่เก่ียวข้องกับบทความทเ่ี ราเขยี นขน้ึ บลอ็ กได้ ซ่ึงเราเรยี กเทคโนโลยนี ้ีวา่ “การสตรีมมงิ
(Streaming) ซ่งึ เราจะเรยี นกันในชัว่ โมงนี้ เพือ่ กระตุ้นใหผ้ ูเ้ รียนสนใจ )
2.ครอู ธิบายหัวข้อ การสตรีมมงิ (Streaming) “เป็นการรบั -สง่ ขอ้ มลู จากผู้ให้บรกิ ารไปยังผู้รับอยา่ ง
ต่อเน่อื งผา่ นเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ โดยผูร้ ับจะดาวนโ์ หลดและนำข้อมลู ไปใช้ในลักษณะของคู่ขนาน”
3. ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ การสตรีมมงิ (Streaming) จะถูกนำไปใช้ในกรณีทเ่ี ปดิ ไฟล์มลั ติมเี ดียบนเครื่อง
คอมพวิ เตอรโ์ ดยไม่ต้องมีการดาวนโ์ หลดไฟลม์ ลั ตมิ เี ดยี ทงั้ ไฟลจ์ ะใช้เวลานาน ดงั นั้น การเล่นไฟล์มัลติมเี ดีย เช่น
คลิปวีดีโอจากอินเทอร์เน็ตด้วยเทคนิคสตรีมมงิ จะทำให้สามารถแสดงผลข้อมูลไดก้ ่อนท่ีไฟล์ทงั้ หมดจะถูกสง่ ผ่าน
เข้ามายังเครื่องคอมพวิ เตอร์
4.นักเรียนดูตัวอย่างวิธีการอัปโหลดวีดโี อบนยทู ิวบ์(Youtube) ในหนังสอื เรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการ
คำนวณ) ม.6 หนว่ ยที่ 1 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย หน้าที่ 25 - 27
5.ครแู จกใบงานที่ 1.2.1 เรอื่ งการเขียนบลอ็ กและการสตรีมมิงวีดีโอ ใหน้ กั เรยี นทำ นักเรียนสามารถศึกษา
เพ่มิ เติมเพื่อให้เข้าใจเน้ือหามากยง่ิ ข้ึน
ขัน้ สรุป
1.ครูตรวจสอบการทำใบงานท่ี 1.2.1 เร่ือง การเขยี นบลอ็ กและการสตรมี มงิ วดี โี อ
2.ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการณ์ตอบคำถาม
3.ครตู รวจเช็คความเรียบรอ้ ยของการบลอ็ ก
4.ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายและสรุปความรทู้ ่ีไดร้ บั จากการทำกจิ กรรมในวันน้ี
9. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สือ่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1
เรอ่ื ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
9.2 แหล่งการเรียนรู้
ใบงานท่ี 1.2.1 เรอื่ ง การเขยี นบลอ็ กและการสตรมี มิง
เว็บไซต์ Wordpress.com
เว็บไซต์ Youtube.com
10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
รายการวัด วธิ ีการวดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1.อธบิ ายความหมายของ การตอบคำถาม ใบงานที่ 1.2.1 ร้อยละ 60 % ผ่านเกณฑ์
บลอ็ กประเภทตา่ งๆได้ (K) ในใบงาน เร่ือง การเขยี นบลอ็ ก
2.อธิบายขัน้ ตอนการ และการสตรีมมงิ วีดโี อ
สตรีมมงิ วดี ีโอบนยูทวิ บ์ได้
(K)
3.เขียนบล็อกได้ด้วย การสร้างบลอ็ ก แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2
ตนเอง (P) นำเสนอบทความ ผา่ นเกณฑ์
บนเวบ็ ไซต์
Wordpress.com
4.เลง็ เหน็ ถึงความสำคัญ สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมนิ พฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
ของการเขียนบล็อกดว้ ย ทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
ตนเอง (A)
11. ช้นิ งาน/ภาระงาน
ใบงานที่ 1.2.1 เรอ่ื ง การเขยี นบลอ็ กและการสตรมี มงิ
12. บนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ระดับชนั้ ท่ีสอน ………………………….………… ได้แก่ ....................... จำนวนนกั เรียนทงั้ หมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อืน่ ๆ ........................
1. การดำเนินการจดั การเรยี นรู้ ( ) เป็นไปตามแผน ( ) ไม่เป็นไปตามแผน
2. จำนวนนักเรยี นที่ใชส้ อน
จำนวนนักเรียนท้งั หมด จำนวนนกั เรียนทเี่ ข้าเรยี น หมายเหตุ
ระดบั ชัน้
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ......
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี......
3. ผลการจัดการเรียนรู้
3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.2) ความเหมาะสมของเน้ือหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง
3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.4) ความเหมาะสมของส่ือการสอนที่ใช้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ
3.5) พฤติกรรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.6) ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม
3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรหู้ ลังการเรยี น
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อนื่ ๆ .................... พบว่า มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้
และมนี ักเรยี นจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.2) การประเมินผลดา้ นทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมนิ ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่นื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
และมนี ักเรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
4. ปัญหาทีพ่ บในการจดั การเรยี นรู้ ( ) ไมม่ ี
( ) มี ปญั หาท่ีพบในการจดั การเรียนรู้ คอื ……………………………
…………………………………………………………………………..
5. ส่งิ ที่ควรพัฒนาและแนวทางการแก้ไขในการจดั การเรียนรู้ครัง้ ตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................
ลงชื่อ.............................................ผ้สู อน/ผู้บันทกึ
( นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมีภาพประกอบ)
ภาพกิจกรรมการจดั การเรียนรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)
โรงเรียนเตรียมอดุ มศึกษาน้อมเกล้า ปทุมธานี
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระการเรียนรู้ (พ้ืนฐาน) รายวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วชิ า ว33117
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่อื ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
ครผู ้สู อน นางสาวจิราพร เหมพุทธ เวลาเรียน 2 คาบ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระสำคัญ
อินโฟกราฟิก (infographics) หรอื อินฟอรเ์ มชนั กราฟิก (Information graphics) เปน็ การ แสดงผล
ของขอ้ มูลหรอื ความรู้ โดยภาพทผี่ ู้อ่านได้ศึกษาและเกิดความเข้าใจง่ายขึ้น งานกราฟิกประเภทนี้ นิยมใชส้ ำหรบั
ข้อมลู ท่ีมีความซับซ้อน เช่น ปา้ ย แผนท่ี งานวจิ ยั โดยอนิ โฟกราฟกิ นยี้ ังคงนิยมใชใ้ นสายงาน ดา้ นวทิ ยาการ
คอมพิวเตอร์ คณติ ศาสตร์ สถิติศาสตร์ เพื่อแสดงให้เหน็ ถงึ ข้อมลู ทีม่ ีความซับซ้อนใหง้ ่ายข้ึน
2. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง
อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แกป้ ญั หา ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม
3. ตวั ชี้วัด
ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม4.
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายหลักการออกแบบอินโฟกราฟิกได้ (K)
2. อธิบายกระบวนการในการออกแบบอินโฟกราฟิกทด่ี ีได้ (K)
3. เลือกใชเ้ ว็บไซต์สำหรบั ทำอินโฟกราฟกิ ได้อย่างมีวิจารณญาณ (P,A)
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการสอื่ สาร
ความสามารถในการคดิ
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ซ่อื สตั ย์ สุจรติ
ใฝ่เรยี นรู้
รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
มวี ินยั มีจิตสาธารณะ
อยอู่ ยา่ งพอเพียง
รกั ความเป็นไทย
7. สาระการเรียนรู้
ด้านความรู้
1. อธิบายหลักการออกแบบอินโฟกราฟิกได้ และอธบิ ายกระบวนการในการออกแบบอินโฟกราฟิกทีด่ ีได้ (K)
ทกั ษะกระบวนการ
การออกแบบอินโฟกราฟิกท่ดี ี (P)
ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม
เลือกใชเ้ วบ็ ไซต์สำหรับทำอินโฟกราฟิกได้อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
8. กิจกรรมการเรียนการสอน
ชั่วโมงที่ 1
ข้ันนำ
ข้นั ตอนท่ี 1 ขั้นรวบรวมขอ้ มูล (Gathering)
- ครูนำเข้าสบู่ ทเรียนดว้ ยการใหน้ ักเรียนเลน่ เกมตอบปัญหาเกี่ยวกบั ภาพอนิ โฟรกราฟิก
- ครถู ามคำถามเพ่ือเชือ่ มโยง/ทบทวนความรูเดิมเกีย่ วกบั ภาพอนิ โฟรกราฟกิ ตัวอยางการถามเชน
แนวการตัง้ คำถาม
1. นกั เรยี นเคยไดยินคำวา “ภาพอนิ โฟกราฟกิ ” หรอื ไม ?
2. นักเรยี นคิดว่ารูปภาพกบั ภาพอินโฟกราฟิกแตกต่างกนั อยา่ งไร ?
3. อะไรบ้างท่ีอยรู่ อบตัวเราท่ีนักเรียนคิดว่ามนั คอื ภาพอนิ โฟกราฟกิ
- ครตู ั้งคำถามสำคัญของการเรยี นในช่ัวโมงนเี้ พือ่ นำนกั เรียนเขาสูข้นั วเิ คราะหและสรปุ ความรู หรือการจดั
กระทำขอมลู วา “ภาพอินโฟกราฟิก” นกั เรียนคดิ วาหมายถึงอะไร (ครูเช่ือมโยงนำเขาสูขัน้ ที่ ๒)
ข้ันสอน
ข้ันตอนที่ 2 ขัน้ วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing)
- นกั เรียนแบงกลุม (ตามความเหมาะสม) กลุมละ ๓ - ๕ คน
- นกั เรยี นแต่ละกลุ่มทำ ผงั กางปลา เกย่ี วกับใจความสำคัญ และรายละเอียดของภาพอนิ โฟกราฟิก โดยครู
อธิบายการเขียน ผงั กางปลา ซ่งึ เป็นการเช่อื มโยงข้อมูลเกี่ยวกบั ภาพกราฟกิ โดยครผู สู้ อนเตรยี มกระดาษ ปากกา
และดนิ สอสใี นการเขยี น ผงั กางปลา ไวใ้ ห้ ซึ่งในระหว่างการทำกิจกรรมครเู ป็นผูใ้ หค้ ำปรึกษา แนะนำ ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ ง และสังเกตกระบวนการทำงานกลุ่ม
- นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอใจความสำคญั ของเรื่องในรูปแบบของ ผงั กางปลา
- นกั เรยี นคัดเลอื กตัวแทนกลมุ่ นำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น กลมุ่ ละ 3 นาที และร่วมกันแสดงความคิดเห็น
เกีย่ วกบั ผลงานของเพือ่ นในแตล่ ะกลมุ่
ช่วั โมงท่ี 2
ขั้นตอนที่ 3 ขนั้ ปฏิบตั ิและสรปุ ความร้หู ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
- ใหน้ กั เรียนเลอื กภาพอินโฟกราฟิกที่นักเรยี นชื่นชอบมา1 ภาพจากนัน้ ให้นกั เรยี นอธิบายเหตผุ ลว่าทำไมถงึ
เลอื กภาพอนิ โฟกราฟิกน้ี
- ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปเนื้อหาองคค์ วามร้เู ก่ียวกบั หลกั การออกแบบอินโฟกราฟิก ซึ่งแบง่ ออกไดเ้ ป็น
4 ดา้ น การเตรยี มขอ้ มูล การวางแผนนำเสนอข้อมลู ลงมือออกแบบ ปรบั ปรงุ ผลงานให้ดขี นึ้
ขั้นตอนที่ 4 ข้ันส่อื สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
- ครูใหน้ กั เรยี นทำการออกแบบภาพอินโฟรกราฟิกโดยมีให้นักเรยี นเลอื กหัวข้อ โควิด-19 หรือศาสตรข์ อง
พระราชาโดยครูคอยใหคำแนะนำอยางใกลชิดและคอยอำนวยความสะดวกใหกับนกั เรียน
ขั้นตอนท่ี 5 ข้ันประเมนิ เพ่ือเพ่ิมคณุ ค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
- ครูผสู้ อนและนักเรยี นร่วมกันประเมนิ ช้ินงานที่นักเรียนได้ส่งใน google classroom
- ครผู ้สู อนและนักเรียนรว่ มกนั ถอดบทเรียนจากกจิ กรรม โดยแบง่ เปน็ I learn (สิ่งท่ไี ด้เรียนรู้), I like (ส่ิงท่ี
ชอบในกจิ กรรมนี้), I wish (สงิ่ ทีค่ าดหวงั ในคาบต่อไป) และ I wonder (สง่ิ ท่สี งสัย)
9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้
9.1 สือ่ การเรยี นรู้
1.หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1
เรือ่ ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
เว็บไซตเ์ ก่ยี วกับความหมายของภาพอนิ โฟกราฟิก
10. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
รายการวดั วธิ กี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ -การตอบคำถาม - แบบทดสอบ (เกม) ร้อยละ 60 % ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินชิน้ งาน ผ่าน
1.อธิบายหลักการออกแบบ ในใบงาน - แบบประเมนิ ช้นิ งาน เกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพพอใช้
อินโฟกราฟิกได้ (K)
2. อธิบายกระบวนการใน -ประเมินช้ินงาน (ผัง (ผงั กางปลา, ภาพอินโฟ ระดบั คุณภาพ 2
การออกแบบอนิ โฟกราฟิก ผ่านเกณฑ์
ทด่ี ไี ด้ (K) กางปลา, ภาพอินโฟ กราฟิก)
3. เลอื กใช้เว็บไซตส์ ำหรบั กราฟิก)
ทำอินโฟกราฟิกได้อย่างมี
วจิ ารณญาณ(P,A) การตอบคำถาม แบบประเมนิ พฤติกรรม
ในชน้ั เรยี น และ
สงั เกตพฤตกิ รรม
การทำงานรายบคุ คล
11. ชิน้ งาน/ภาระงาน
ช้ินงาน (ผงั กางปลา, ภาพอนิ โฟกราฟกิ )
แบบบนั ทึกการสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมรายบุคคล
ครั้งที่ ………… เรือ่ ง ................................................................
รหัสวชิ า .......................... ภาคเรยี นท่ี…....ปกี ารศึกษา………… ช้ัน................ โรงเรยี น ..................................
พฤติกรรม / ระดับคะแนน
ความสนใจใน การมสี ่วนร่วม การตอบ การยอมรับฟงั ทำงานตามที่
ลำดับท่ี ชอ่ื – สกลุ การทำ ในการแสดง คำถาม ความคิดเหน็ ได้รบั รวม
กิจกรรม ความคิดเหน็ ผูอ้ ื่น มอบหมาย
321321321321321
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ คะแนนเต็ม 15 คะแนน
ระดบั 3 หมายถงึ มีพฤตกิ รรมในระดบั ดี คะแนน 13 - 15 หมายถึง ดี
ระดบั 2 หมายถึง มีพฤตกิ รรมในระดับ ปานกลาง คะแนน 9 - 12 หมายถึง ปานกลาง
ระดับ 1 หมายถงึ มพี ฤติกรรมในระดบั ปรับปรงุ คะแนน 5 - 8 หมายถงึ ปรบั ปรุง เกณฑ์
การผ่าน ร้อยละ 60 ( 9 คะแนน ) ลงชอื่ ................................................
()
ครผู สู้ อน / ผปู้ ระเมิน
แบบประเมนิ ผลงาน
ครั้งท่ี ………… เรอ่ื ง ................................................................
ชื่อสมาชิกในกล่มุ .................................................................................................................................ชั้น.....................เลขที่...............
.................................................................................................................................ชัน้ .....................เลขที.่ ..............
.................................................................................................................................ชั้น.....................เลขท่.ี ..............
.................................................................................................................................ชน้ั .....................เลขท.่ี ..............
.................................................................................................................................ชั้น.....................เลขท่.ี ..............
.................................................................................................................................ชั้น.....................เลขที่...............
รายการประเมิน ดี(3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1)
1.การคดิ วเิ คราะห์
2.การเขยี นส่ือความ
3.มคี วามคดิ สร้างสรรค์
4.ประโยชนข์ องการนำข้อมลู ไปใช้
คะแนน 12 คะแนน ได้ คะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
1.การคิดวิเคราะห์
3 คะแนน = มกี ารจับประเดน็ สำคญั ขยายความ ยกตวั อย่าง เปรยี บเทียบและสรปุ ความคิดรวบยอด'
2 คะแนน = มกี ารจบั ประเด็นสำคญั ได้ แตข่ ยายความหรอื ยกตัวอยา่ งไม่ได้
1 คะแนน = มกี ารจับประเดน็ สำคญั ไดน้ ้อย
2. การเขยี นส่อื ความ
3 คะแนน = เขียนสือ่ ความไดถ้ ูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ตรงประเดน็ และ เข้าใจงา่ ย
2 คะแนน = เขยี นสื่อความไม่ถูกต้องตามอักขรวธิ ี 2-3 แหง่ ตรงประเด็น
1 คะแนน = เขยี นสอ่ื ความไดน้ อ้ ย ไม่ตรงประเด็น
3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์
3 คะแนน = ผลงานมีรูปแบบน่าสนใจ มีความสัมพนั ธ์กับหัวขอ้ ที่กำหนค ระบายสไี ด้สวยงาม
2 คะแนน = ผลงานมคี วามสมั พันธก์ ับหัวข้อที่ทำหนด แตไ่ ม่ดึงดูคความสนใจ
1 คะแนน = ผลงานมีความสมั พนั ธก์ ับหวั ขอ้ ที่กำหนดน้อยมาก
4. ประ โยชน์ของการนำข้อมลู ไปใช้
3 คะแนน = สามารถนำไปประยกุ ตก์ ับสถานการณใ์ นชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสม
2 คะแนน = สามารถนำไปประยุกต์กบั สถานการณ์ในชีวิตประจำวันไดบ้ า้ ง
1 คะแนน = สามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ได้น้อยมาก
เกณฑ์การประเมินผล คะแนน 12-9 = ดี (3)คะแนน 8- 5 = พอใช้ (2) คะแนน 4-0 = ควรปรับปรุง (1)
ลงชอื่ ผู้ประเมนิ .....................................................
ตนเอง เพอื่ น ครู ผู้ปกครอง
12. บนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ระดับชนั้ ท่ีสอน ………………………….………… ไดแ้ ก่ ....................... จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อน่ื ๆ ........................
1. การดำเนินการจดั การเรยี นรู้ ( ) เป็นไปตามแผน ( ) ไมเ่ ป็นไปตามแผน
2. จำนวนนักเรยี นที่ใชส้ อน
ระดบั ชัน้ จำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด จำนวนนกั เรียนทเี่ ขา้ เรยี น หมายเหตุ
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ......
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี......
3. ผลการจัดการเรียนรู้
3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.2) ความเหมาะสมของเน้ือหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง
3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.4) ความเหมาะสมของส่ือการสอนทีใ่ ช้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ
3.5) พฤติกรรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.6) ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม
3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรู้หลังการเรยี น
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อนื่ ๆ .................... พบว่า มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้
และมนี ักเรยี นจำนวน ........... คน คดิ เป็นร้อยละ ........... ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.2) การประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
และมนี ักเรียนจำนวน ........... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.3) การประเมินดา้ นคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คดิ เป็นร้อยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
4. ปัญหาทีพ่ บในการจดั การเรยี นรู้ ( ) ไมม่ ี
( ) มี ปญั หาท่ีพบในการจดั การเรียนรู้ คอื ……………………………
…………………………………………………………………………..
5. ส่งิ ท่ีควรพัฒนาและแนวทางการแก้ไขในการจัดการเรียนรูค้ รง้ั ต่อไป
........................................................................................................................... ..............................................
ลงชื่อ.............................................ผู้สอน/ผบู้ นั ทึก
( นางสาวจิราพร เหมพุทธ )
ตำแหนง่ ครู
............./.................../...............
ภาพกจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ (กรณีสอน online ต้องมีภาพประกอบ)
โรงเรยี นเตรียมอดุ มศึกษานอ้ มเกลา้ ปทุมธานี
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สาระการเรียนรู้ (พืน้ ฐาน) รายวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วชิ า ว23117
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
ครผู สู้ อน นางสาวจริ าพร เหมพุทธ เวลาเรียน 3 คาบ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระสำคัญ
การคำนงึ ถงึ ความเหมาะสมในการเผยแพร่ข้อมลู คอื การคุ้มครองข้อมูลสว่ นบคุ คลในปัจจุบัน
มกี ารนำระบบสารสนเทศและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ประกอบการทำธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์อย่าง
แพร่หลาย ซึ่งอาจต้องมีการรวบรวม จดั เกบ็ ใชห้ รือเผยแพรข่ อ้ มูลส่วนบุคคลของผู้ใชบ้ ริการในรูปของ
ข้อมลู อเิ ล็กทรอนกิ ส์เพื่อเป็นการป้องกันการละเมดิ ขอ้ มลู สว่ นบคุ คล
การตรวจสอบข้อมลู ก่อนเผยแพร่ คือ การเผยแพร่งานรับข้อมลู ข่าวสารตา่ งๆ บนอนิ เทอรเ์ นต็ จึง
เปน็ ความรับผดิ ชอบของผ้บู รโิ ภคเองสว่ นหนง่ึ โดยต้องใช้วจิ ารณญาณอย่างสูงในการรบั ข่าวสาร ถึงแมว้ ่า หลาย
หนว่ ยงานท่ีรับผิดชอบโดยตรงจะออกมาแกไ้ ข ดำเนนิ การวางกฎระเบยี บต่าง ๆ ขน้ึ มา แต่ยังเปน็ เรือ่ งท่ยี ากทีจ่ ะ
ควบคุมการเผยแพร่ขอ้ มูลขา่ วสารบนอินเทอร์เน็ต
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง
อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แก้ปัญหา ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทันและมีจรยิ ธรรม
3. ตัวชว้ี ัด
ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม4.
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายความเหมาะสมในการเผยแพร่ข้อมลู และตรวจสอบขอ้ มูลได้ (K)
2. สง่ ข้อมลู ไปตรวจสอบก่อนเผยแพร่ข้อมูลได้อย่างถกู ต้องและปลอดภยั (P , A)
3. มวี ิจารณญาณในการรบั ขา่ วสารและเผยแพร่ในอนิ เทอร์เนต็ (A)
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ
ความสามารถในการสอ่ื สาร ใฝ่เรียนรู้
ความสามารถในการคิด ม่งุ ม่ันในการทำงาน
ความสามารถในการแก้ปัญหา มีจติ สาธารณะ
ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
รักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
มีวินัย
อยู่อย่างพอเพียง
รกั ความเป็นไทย
7. สาระการเรยี นรู้
ด้านความรู้
อธิบายความเหมาะสมในการเผยแพรข่ ้อมูลและตรวจสอบข้อมูลได้ (K)
ทักษะกระบวนการ
สง่ ข้อมูลไปตรวจสอบก่อนเผยแพรข่ ้อมลู ได้อย่างถกู ต้องและปลอดภัย (P)
ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม
มวี จิ ารณญาณในการรบั ข่าวสารและเผยแพร่ในอนิ เทอร์เน็ต (A)
8. กจิ กรรมการเรียนการสอน
ชวั่ โมงที่ 1
ขั้นนำ
1.ครูถามคำถามประจำหัวข้อ “การเก็บรักษาข้อมลู ให้ปลอดภัย สามารถทำได้ดว้ ยวธิ ใี ดบ้าง”
(แนวตอบ : ควรเปลีย่ นรหัสผ่านทกุ 2 เดือน เพื่อปอ้ งกันการถกู โจรกรรมข้อมูล)
ขัน้ สอน
2.ครถู าม “นักเรียนรูไ้ หมวา่ การทเี่ รากดแชรข์ ้อมลู อะไรสกั อย่างแลว้ ก่อให้เกิดความเสียหายตอ่ บคุ คลหรือ
ทรพั ยส์ ินของคนอื่น อาจถูกดำเนนิ คดที างกฎหมายได้”
(แนวตอบ : ขนึ้ อยู่กบั ดลุ ยพินิจของนักเรยี น)
3.ครูอธิบายกฎหมายท่เี กีย่ วข้องจากคำถามก่อนหน้านี้ ในหนังสือเรยี น เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.
6 หนว่ ยท่ี 1 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง หน้าที่ 34
4.ครอู ธิบายหัวข้อการคำนึงถึงความเหมาะสมในการเผยแพร่ข้อมูล โดยใหร้ ายละเอยี ด ความเปน็ สว่ นตัว
(Privacy) ยกตัวอย่างความหมายทีค่ รอบคลมุ ถึงสิทธติ า่ งๆ เช่น
- ความเป็นส่วนตัวเก่ยี วกบั ข้อมูล (Information Privacy)
- ความเป็นสว่ นตวั ในชวี ติ รา่ งกาย (Bodily Privacy)
- ความเปน็ ส่วนตวั ในการติดต่อสื่อสาร (Communication Privacy)
- ความเปน็ สว่ นตวั ในเคหสถาน (Territorial Privacy)
5.ครูอธิบายหัวขอ้ กรอบในการคุ้มครองข้อมลู สว่ นบคุ คล การเก็บรักษา และการเปิดเผย คอื กรอบในการ
คุ้มครองข้อมูลขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพฒั นา (OECD : Organisation for Economic
Co-operation and Development) ในเรอ่ื ง Guidelines Governing the Protection of Privacy and
Transborder Data Flows of Personal Data มีหลัก 8 ประการ ดงั น้ี 1.หลักขอ้ จำกดั ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู
2.หลักคุณภาพของข้อมูล 3.หลกั การกำหนดวตั ถุประสงคใ์ นการจัดเก็บ 4.หลกั ขอ้ จำกดั ในการนำไปใช้ 5.หลักการ
รกั ษาความมนั่ คงปลอดภยั ของข้อมูล 6.หลกั การเปิดเผยข้อมูล 7.หลกั การมีสว่ นรว่ มของบคุ คล 8.หลกั ความ
รับผดิ ชอบ
6.ครเู พมิ่ เติม เรอ่ื งของ OECD หรอื องค์การเพ่ือความร่วมมือทางเศราฐกิจและการพัฒนา ในหนงั สือเรยี น
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยท่ี 1 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง หน้าที่ 37
ชั่วโมงท่ี 2
ขน้ั สอน
1.ครูทบทวนความรู้ที่เรยี นในชัว่ โมงทแี่ ล้ว
2.ครูอธิบายหัวข้อแนวทางการพัฒนาคุ้มครองความเป็นส่วนตัว โดยข้อมูลมี 2 แบบ คือ ความถูกต้อง
แม่นยำของขอ้ มลู และ ความลบั ของข้อมลู
3.ครูอธิบายหัวข้อ การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น เพื่อให้
เป็นไปตามวัตถุประสงค์ทจ่ี ะเกบ็ รวบรวมข้อมูลนนั้ ไว้ รวมท้ังเพอ่ื ความพงึ พอใจในขอ้ กำหนดทางกฎหมายดา้ นบัญชี
หรือการรายงาน ซึ่งในการพิจารณาระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม สามารถพิจารณาถึง
จำนวน ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งความเสี่ยงที่อาจจะเป็นอันตรายจากการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือ
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งในบางสถานการณ์อาจจะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ระบุตัวตนเพื่อ
วัตถุประสงค์ในการวิจัย สถิติ หรือการบัญชี ซึ่งในกรณีนี้อาจจะใช้ข้อมูลนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ตวั อย่างเชน่ การเก็บข้อมูลเป็นเอกสารในแฟม้ และเก็บไฟล์งานใส่แฟลชไดรฟ์ เพือ่ ชว่ ยจดั การข้อมูลต่างๆ ให้เป็น
ระบบและเรียกใชง้ านได้งา่ ย
4.ครูใหน้ กั เรยี นออกมาวิเคราะห์บทความตวั อย่างหนงั สือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หน่วย
ที่ 1 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง หนา้ ท่ี 39
ชว่ั โมงท่ี 3
ขน้ั สอน
1.ครูถามนกั เรยี นว่าในปจั จบุ นั นี้ดขู ่างขา่ วสารตา่ งๆ ได้ช่องทางไหนบา้ ง
(แนวตอบ : ทางวทิ ยุ โทรทศั น์ เวบ็ ไซต์ บล็อก และช่องทางผา่ นโซเชียลมีเดยี ต่าง ๆ)
2.ครูถามกับนักเรียนต่อว่า ถ้าเป็นข่าวสารทางสื่อโซเชียลต่าง ๆ ควรตอบสอบข้อมูลที่ถูกต้องของเนื้อหา
อย่างไร (แนวตอบ : สอบตรวจขอ้ มลู จากแหลง่ ท่มี าของขอ้ มูลท่ีน่าเชอ่ื ถือได้ )
3.ครูอธิบายเพิ่มเติมของหัวข้อ การตรวจสอบข้อมูลก่อนเผยแพร่ ในหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการ
คำนวณ) ม.6 หน่วยท่ี 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง หนา้ ที่ หน้า 40
4.ครูยกตัวอย่างการสง่ ขอ้ มูลข่าวสารไปตรวจสอบท่ี เวบ็ ไซต์ www.sonp.or.th โดยอธิบายกระบวนการ
ทำงานของเว็บ คือ เมื่อส่งข้อมูลเข้าไปแล้ว ทางสมาคมผู้ผลิตสื่อออนไลน์จะช่วยกันตรวจสอบและเผยแพร่ข้อมูล
ข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ขั้นตอนในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร (มี
ภาพประกอบ พร้อมขั้นตอนการใช้งาน ในหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หน่วยที่ 1 การใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง หน้าท่ี 41 – 43 )
5.นักเรยี นฝึกเขา้ ไปใชง้ านเว็บไซต์ www.sonp.or.th ตามคู่มอื ท่ีครอู ธบิ ายไปกอ่ นหนา้ นี้
2.ครูแจกใบงานท่ี 1.4.1 เรอ่ื งการนำเสนอและแบ่งปันขอ้ มูลอยา่ งปลอดภัย
6.ครูแจกใบงานที่ 1.4.1 เรื่องการนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย และให้ลงมือปฏิบัติ ศึกษา
และสืบค้นข้อมูลด้วยตนเอง จากในหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หน่วยที่ 1 การใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศอยา่ ง
ขน้ั สรุป
1.ครูตรวจเช็คความเรียบรอ้ ยของใบงานท่ี 1.4.1 เรอ่ื งการนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภยั
2.ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและสรุปความรทู้ ไ่ี ดร้ บั จากการทำกจิ กรรมในวันน้ี
9. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
9.1 ส่อื การเรียนรู้
หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1
เร่ือง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
9.2 แหล่งการเรียนรู้
ใบงานท่ี 1.4.1 เรอ่ื งการนำเสนอและแบ่งปันข้อมลู อยา่ งปลอดภัย
10. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
รายการวัด วิธีการวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
รอ้ ยละ 60 % ผา่ นเกณฑ์
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ระดบั คุณภาพ 2
1.อธบิ ายความเหมาะสมใน การตอบคำถาม ใบงานท่ี 1.4.1 ผา่ นเกณฑ์
การเผยแพร่ขอ้ มูลและ ในใบงาน เรอ่ื ง การนำเสนอและ
ตรวจสอบขอ้ มลู ได้ (K) แบง่ ปันข้อมลู อย่าง
ปลอดภัย
2. สง่ ข้อมลู ไปตรวจสอบ การตอบคำถาม แบบประเมินพฤติกรรม
ก่อนเผยแพรข่ ้อมูลไดอ้ ย่าง ในช้ันเรยี น และ
ถกู ต้องและปลอดภยั (P , A) สงั เกตพฤตกิ รรมการ
3. มีวจิ ารณญาณในการรับ ทำงานรายบุคคล
ขา่ วสารและเผยแพร่ใน
อนิ เทอรเ์ นต็ (A)
11. ช้ินงาน/ภาระงาน
ใบงานที่ 1.4.1 เร่อื งการนำเสนอและแบ่งปันข้อมลู อยา่ งปลอดภยั
12. บนั ทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ระดับชัน้ ท่สี อน ………………………….………… ไดแ้ ก่ ....................... จำนวนนักเรยี นทง้ั หมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อ่ืน ๆ ........................
1. การดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ ( ) เป็นไปตามแผน ( ) ไม่เป็นไปตามแผน
2. จำนวนนกั เรียนทใี่ ช้สอน
จำนวนนักเรียนท้งั หมด จำนวนนักเรยี นที่เขา้ เรียน หมายเหตุ
ระดับชั้น
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ......
มธั ยมศกึ ษาปที ี่......
3. ผลการจดั การเรียนรู้
3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.2) ความเหมาะสมของเน้ือหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรงุ
3.3) ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.4) ความเหมาะสมของส่ือการสอนท่ใี ช้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ
3.5) พฤติกรรม/การมีส่วนร่วมของนกั เรยี น ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ
3.6) ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม
3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความร้หู ลังการเรียน
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมนิ ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่ืนๆ .................... พบวา่ มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้
และมนี กั เรยี นจำนวน ........... คน คดิ เป็นร้อยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.2) การประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมนิ ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อืน่ ๆ .................... พบว่า มี
นกั เรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
และมีนักเรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
3.6.3) การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมนิ ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบว่า มี
นกั เรยี นจำนวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
และมีนักเรยี นจำนวน ........... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
4. ปัญหาท่ีพบในการจัดการเรยี นรู้ ( ) ไม่มี
( ) มี ปัญหาท่ีพบในการจดั การเรียนรู้ คือ ……………………………
…………………………………………………………………………..
5. ส่งิ ที่ควรพัฒนาและแนวทางการแก้ไขในการจดั การเรียนรู้ครัง้ ตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................
ลงชื่อ.............................................ผ้สู อน/ผู้บันทกึ
( นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมีภาพประกอบ)
ภาพกิจกรรมการจดั การเรียนรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)
โรงเรยี นเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ปทุมธานี
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระการเรยี นรู้ (พ้นื ฐาน) รายวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
ครผู ู้สอน นางสาวจริ าพร เหมพุทธ เวลาเรียน 5 คาบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระสำคญั
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer crime) คือ การกระทำการใดๆ ท่ีเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์
อนั ทำให้เหย่ือได้รับความเสยี หายและผู้กระทำไดร้ บั ผลประโยชน์ตอบแทน
จริยธรรม คอื หลกั ศีลธรรมจรรยาท่ีกำหนดขึ้น เพ่ือใช้เป็นแนวทางปฏิบัตหิ รือควบคมุ การใช้ระบบ
คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศ ในทางปฏบิ ตั ิการระบุว่าการกระทำสิง่ ใดผิดจรยิ ธรรมน้ัน อาจ กล่าวได้ไมช่ ดั เจน
มากนกั ท้งั น้ี ย่อมขนึ้ อยู่กับวัฒนธรรมของสังคมในแตล่ ะประเทศด้วย
จรรยาบรรณ คอื ประมวลความประพฤติท่ีผูป้ ระกอบอาชีพการงานแต่ละอยา่ งกำหนดขึ้น เพ่ือรักษาและ
สง่ เสริมเกียรตคิ ุณ ช่อื เสยี ง และฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลกั ษณ์อักษรหรอื ไม่ก็ได้
กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ หรอื เรยี กกันว่า กฎหมายไอที (Information Law) มีการตรา
กฎหมายข้นึ ใช้บังคบั เก่ียวกบั การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยคณะกรรมการเทคโนโลยสี ารสนเทศ
หรือ กทสช. (NITC) ทำหนา้ ที่เป็นศนู ย์กลางและประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ
งานทม่ี ลี ิขสทิ ธ์ิ คือ งานสรา้ งสรรค์ท่ไี ด้รับความค้มุ ครองตามพระราชบญั ญัตลิ ขิ สทิ ธิ์ต้องเป็นงานในสาขา
วรรณกรรม นาฏกรรม ศลิ ปกรรม ดนตรกี รรม โสตทศั นวัสดุ ภาพยนตร์ สง่ิ บันทึกเสยี ง งานแพร่ เสยี งแพรภ่ าพ
รวมถงึ งานอน่ื ๆ
กฎหมายคุ้มครองเสรภี าพในการแสดงความคิดเหน็ การแสดงความคดิ เหน็ ใดจะต้องพงึ ระวัง
ใหก้ ารแสดงความคิกเห็นเป็นไปโดยชอบธรรมตามบทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยพ.ศ.2550
และกติการะหว่างประเทศวา่ ด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธทิ างการเมือง
บล็อก (Blog) เป็นเวบ็ ไซตป์ ระเภทหน่ึงท่ีผู้ใชง้ านสามารถสร้างและเผยแพร่เนือ้ หาตา่ ง ๆ ในโลก
อนิ เทอร์เน็ต โดยเนอ้ื หาสามารถเปน็ ได้ทั้งข้อความ รปู ภาพ หรอื วดี โี อ ซ่ึงหลังจากได้เผยแพร่แล้วใชง้ านอน่ื สามารถ
แสดงความคิดเห็นกับเน้ือหาได้ ซึ่งการเขยี นบล็อกอย่างปลอดภยั ไดน้ น้ั ต้องครอบคลุมต้ังแต่การ นำเสนอและ
แบ่งปันข้อมลู สารสานเทศ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการนำเสนอ การนำเสนอและแบ่งปนั ขอ้ มลู อย่าง
ปลอดภยั จริยธรรม จรรยาบรรณและกฎหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง
อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แก้ปัญหา ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทนั และมีจริยธรรม
3. ตัวชี้วดั
ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม4.
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายของจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ (K)
2. อธิบายการประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ได้ (K)
3. สามารถปฏิบตั ิตามกฎหมายทางเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (P)
4. มีวิจารณญาณในการแสดงความคดิ เหน็ บนส่ือสังคมออนไลน์ (A)
5. ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการพัฒนาผลงานต่อผู้พัฒนาและผ้ใู ชง้ านอย่างปลอดภัยได้
(P,A)
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร
ความสามารถในการคดิ
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ซอ่ื สัตย์ สุจริต
ใฝเ่ รยี นรู้
รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ มงุ่ มั่นในการทำงาน
มวี ินัย มีจิตสาธารณะ
อยู่อย่างพอเพียง
รักความเป็นไทย
7. สาระการเรียนรู้
ดา้ นความรู้
อธิบายความหมายของจรยิ ธรรมจรรยาบรรณ และการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยได้ (K)
ทกั ษะกระบวนการ
สามารถปฏิบัติตามกฎหมายทางเทคโนโลยีสารสนเทศได้ (P)
ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม
มวี ิจารณญาณในการแสดงความคดิ เห็นบนสอ่ื สังคมออนไลน์ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการพฒั นา
ผลงานต่อผู้พฒั นาและผใู้ ชง้ านอยา่ งปลอดภัยได้ (A)
8. กจิ กรรมการเรียนการสอน
ชวั่ โมงท่ี 1
ขนั้ นำ
1.ครูถามคำถามประจำหัวข้อ “การมีจริยธรรมในการใชง้ านเทคโนโลยี สง่ ผลอย่างไรกับการใช้ชีวิต”
(แนวตอบ : ลดการละเมิดลขิ สิทธต์ิ า่ งๆ ท่ีไม่ได้เปน็ ของตนเอง และส่งผลใหม้ ีความปลอดภยั ในการใชง้ าน
เทคโนโลยีสารสนเทศบนโซเซียลหรอื สังคมออนไลนม์ ากย่งิ ขึน้ )
ข้นั สอน
1.ครถู ามนักเรยี น “ นักเรยี นคดิ ว่า การตรวจสอบสง่ิ ของเพ่ือหาส่ิงตอ้ งหา้ มหรือส่งิ แปลกปลอมก่อนข้นึ
เคร่ืองบินทีส่ นามบนิ ถือเปน็ การกระทำผิดจริยธรรมไหม ในความคิดของนักเรียน”
(แนวตอบ : คำตอบขึ้นอยกู่ ับดุลยพนิ จิ ของนักเรยี น)
2.ครูอธิบาย หัวขอ้ อาชญากรรมทางคอมพวิ เตอร์ และยกตัวอย่าง ภาพท่ี 1.39 อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์
เกดิ ขนึ้ ไดใ้ นหลายแนวทาง ซ่งึ อยใู่ นหนังสือหนังสอื เรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หน่วยท่ี 1 การใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง หนา้ ที่ 45
3.ครูอธบิ ายหัวข้อ จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และยกตวั อยา่ งจรยิ ธรรมท่ี
เกยี่ วกับการใช้เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และสารสนเทศ 4 ประเดน็ ตวั ยอ่ PAPA ดงั น้ี
- ความเป็นส่วนตวั (Information Privacy)
- ความถูกต้อง (Information Accuracy)
- ความเปน็ เจ้าของ (Information Property)
- การเข้าถงึ ขอ้ มลู (Data Accessibility)
4.ครยู กตัวอยา่ งจรรยาบรรณของนักคอมพิวเตอร์ และอธบิ ายเพ่มิ เติมเกี่ยวกับจริยธรรมในการใช้สอ่ื สงั คม
ออนไลน์ ในหนังสอื หนังสือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หน่วยที่ 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
หนา้ ท่ี 48
5.ครูอธบิ ายคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการใช้งานอินเทอรเ์ น็ต และยกตัวอย่างสงิ่ ทผ่ี ู้ใชง้ านอินเทอร์เนต็ ควร
จะรแู้ ละยดึ ถอื ปฏิบัติ
ชั่วโมงท่ี 2
ขัน้ สอน
1.ครูอธบิ ายหวั ข้อ กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ และยกตัวอยา่ งกฎหมายมาอธิบาย 6 ฉบบั
- กฎหมายเกย่ี วกบั การธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์
- กฎหมายเกย่ี วกับลายมือชอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
- กฎหมายเกี่ยวกับการพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานสารสนเทศใหท้ ่ัวถึงและเทา่ เทียมกนั
- กฎหมายเกย่ี วกับการคมุ้ ครองข้อมลุ ส่วนบุคคล
- กฎหมายเกย่ี วกับการกระทบความผดิ เกยี่ วกับคอมพิวเตอร์
- กฎหมายเกย่ี วกบั การโอนเงินทางอเิ ล็กทรอนิกส์
2.ครยู กตวั อยา่ ง “การจดลิขสิทธใิ์ นชิน้ งานจะช่วยคุ้มครองผู้สรา้ งช้นิ งานและการจดลิขสิทธ์ิเครือ่ งกลเพอ่ื
ป้องกนั การลอกเลยี นแบบ” เพือ่ เช่ือมโยงเขา้ สู่หวั ข้อ ลขิ สิทธซิ์ อฟแวร์และกฎหมายลิขสิทธิ์ โดยเน้นโทษของการ
ละเมิดลขิ สิทธ์ิ
3.ครูอธิบายหัวขอ้ กฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
4.ครูใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรมการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั โดยใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม แล้วจดั ทำ
รายงานนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียนในหัวข้อต่างๆ ต่อไปน้ี
- ให้นำความร้ทู งั้ หมดทไ่ี ดจ้ ากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยมาสรุปและเช่ือมโยง
ความสมั พันธ์กัน แลว้ เขียนเป็นแผนภาพอินโฟกราฟิกท่ีทำให้เขา้ ใจบทเรียนได้ ลงบนกระดาษ A4 อย่างน้อย 2
หน้า
- ใหค้ น้ หาวธิ ีการตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมูลทอี่ ยูน่ อกเหนอื จากหนงั สอื เรียน หรอื แหล่ง
ตรวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมลู ทส่ี ามารถทำได้ผา่ นอินเทอร์เน็ต มาอย่างน้อยกลุม่ ละ 2 วธิ ี
ชัว่ โมงท่ี 3
ข้นั สอน
1.ครทู บทวนความรูท้ ้ังหมดในหนว่ ยท่ี 1 เร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั โดยใหน้ ักเรียน
ทำแบบฝึกหดั ทา้ ยบท Self Check และ Unit Question 1 บันทึกลงในสมุด
2.นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพือ่ วัดความรหู้ ลงั เรียนหนว่ ยท่ี 1 จบไป
ช่ัวโมงที่ 4
ข้ันสอน
1. ครูถามคำถามเพื่อทบทวนกบั นกั เรียนเรื่องการเขยี นบล็อกในการเผยแพร่ข้อมูลและการแสดงความ
คิดเห็นร่วมกนั น้ัน นักเรยี นควรคำนงึ ถึงเร่ืองใด
(แนวตอบ : การตอบข้นึ อยกู่ บั ดลุ ยพินจิ ของครู)
2. ครูอธิบายการสร้างและเผยแพร่เว็บบล็อกอย่างปลอดภัย ควรมีข้อตกลงหรือนโยบายการแสดงความ
คิดเห็นรว่ มกนั จากนั้นครยู กตัวอย่างเวบ็ บลอ็ กในหนา้ เพจท่เี ปน็ ข้อตกลงรว่ มกันเกี่ยวกับการใชง้ านเวบ็ บล็อก
3.ครูและนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายการกำหนดขอ้ ตกลงและนโยบายการใช้เวบ็ บลอ็ กรว่ มกัน
4.ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนใบงานที่ 1.5.1 เรอ่ื ง การประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
5.นกั เรียนลงมอื ทำใบงานและสบื คน้ ข้อมลู เพ่ิมเติมได้ในหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ม.6 หน่วยท่ี 1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั หรือในอนิ เทอร์เนต็ ได้
6.ครูตรวจสอบการทำใบงานท่ี 1.5.1 เร่ือง การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
ชว่ั โมงท่ี 5
ขั้นสอน
1. ครูทบทวนการเข้าบล็อกเว็บไซต์ WordPress.com และการเปลี่ยนภาพพื้นหลัง พิมพ์ข้อความและใส่
ภาพภายในบล็อก
2. จากนั้นครูให้นักเรียนเข้าบล็อกเว็บไซต์ WordPress.com และให้นักเรียนนำข้อตกลงการใช้เว็บบล็อก
ร่วมกันที่นักเรียนทำจากใบงานที่ 1.5.1 เรื่อง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ลงใน
บล็อกพรอ้ มตกแต่งบล็อกให้สวยงาม
3. ครคู อยให้คำแนะนำ สำหรับนกั เรยี นท่มี ขี ้อสงสัย
4. ครูแจกแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
ขั้นสรุป
1.ครูตรวจการทำกิจกรรมการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
2.ครตู รวจสอบการทำแบบฝึกหัดทา้ ยบท Self Check และ Unit Question 1
3.ครปู ระเมนิ ผลโดยการสังเกตการณ์ตอบคำถาม และตรวจสอบการทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการ
เรียนรู้ที่ 1 เร่ือง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
4.ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายและสรุปความรู้ที่ได้รับจากการทำกจิ กรรมในวันน้ี
5.ครูตรวจสอบการทำชนิ้ งาน และตรวจสอบการทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
6.ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรูไ้ ด้ทจ่ี ากหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภัย
9. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
9.1 สอ่ื การเรียนรู้
หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1
เร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
9.2 แหล่งการเรียนรู้
เวบ็ ไซต์ WordPrass.com
ใบงานที่ 1.5.1 เร่อื ง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
รายการวัด วธิ กี ารวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ
ประเมินตามสภาพจริง
การประเมินหลงั เรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น
ร้อยละ 60 % ผา่ นเกณฑ์
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ตรวจแบบทดสอบ แบบฝกึ หดั ท้ายบท
Self Check และ รอ้ ยละ 60 % ผา่ นเกณฑ์
เรอื่ ง การใช้เทคโนโลยี หลังเรียน Unit Question 1
ระดบั คุณภาพ 2
สารสนเทศอย่างปลอดภัย ใบงานท่ี 1.5.1 ผ่านเกณฑ์
เร่อื ง การประยกุ ต์ใช้ ระดบั คุณภาพ 2
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านเกณฑ์
อยา่ งปลอดภัย ระดับคุณภาพ 2
1.อธบิ ายความหมายของ การตอบคำถาม แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ ผ่านเกณฑ์
ภาระงาน (รวบยอด)
จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ แบบฝกึ หัด
แบบประเมนิ พฤติกรรม
ในการใชเ้ ทคโนโลยี
- แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/
สารสนเทศได(้ K) ภาระงาน (รวบยอด)
- แบบระเมินพฤติกรรม
2.อธิบายการประยุกตใ์ ช้ การตอบคำถาม
เทคโนโลยีสารสนเทศ ในใบงาน
อยา่ งปลอดภยั ได้ (K)
3.สามารถปฏบิ ัตติ าม กจิ กรรมการใช้
กฎหมายทางเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศ
สารสนเทศได้ (P) อยา่ งปลอดภยั
สงั เกตพฤตกิ รรมการ
4.มีวจิ ารณญาณในการ ทำงานรายบุคคล
แสดงความคดิ เห็นบนสือ่
สังคมออนไลน์ (A) ตรวจช้นิ งาน/
สงั เกตพฤตกิ รรมการ
5.ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี ทำงานรายบคุ คล
สารสนเทศในการพัฒนา
ผลงานตอ่ ผู้พัฒนาและ
ผใู้ ชง้ านอย่างปลอดภยั
(P,A)
11. ชิ้นงาน/ภาระงาน
ใบงานท่ี 1.5.1 เรอ่ื ง การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
12. บนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ระดับชนั้ ท่ีสอน ………………………….………… ได้แก่ ....................... จำนวนนกั เรียนทงั้ หมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อืน่ ๆ ........................
1. การดำเนินการจดั การเรยี นรู้ ( ) เป็นไปตามแผน ( ) ไม่เป็นไปตามแผน
2. จำนวนนักเรยี นที่ใชส้ อน
จำนวนนักเรียนท้งั หมด จำนวนนกั เรียนทเี่ ข้าเรยี น หมายเหตุ
ระดบั ชัน้
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ......
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี......
3. ผลการจัดการเรียนรู้
3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.2) ความเหมาะสมของเน้ือหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง
3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.4) ความเหมาะสมของส่ือการสอนที่ใช้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ
3.5) พฤติกรรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.6) ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม
3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรหู้ ลังการเรยี น
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อนื่ ๆ .................... พบว่า มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้
และมนี ักเรยี นจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.2) การประเมินผลดา้ นทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมนิ ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่นื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
และมนี ักเรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
4. ปัญหาทีพ่ บในการจดั การเรยี นรู้ ( ) ไมม่ ี
( ) มี ปญั หาท่ีพบในการจดั การเรียนรู้ คอื ……………………………
…………………………………………………………………………..
5. ส่งิ ที่ควรพัฒนาและแนวทางการแก้ไขในการจดั การเรียนรู้ครัง้ ตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................
ลงชื่อ.............................................ผ้สู อน/ผู้บันทกึ
( นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมีภาพประกอบ)
ภาพกิจกรรมการจดั การเรียนรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกลา้ ปทุมธานี
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระการเรียนรู้ (พ้นื ฐาน) รายวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)6 รหัสวิชา ว23117
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
ครผู ้สู อน นางสาวจริ าพร เหมพุทธ เวลาเรยี น 2 คาบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระสำคัญ
เทคโนโลยี (Techonology) คอื วทิ ยาการทีน่ ำความรูท้ างวทิ ยาศาสตร์มาใช้ให้เกดิ ประโยชน์ในทางปฏบิ ตั ิ
และอตุ สาหกรรม
สารสนเทศ (Information) คือ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล มาผา่ นกระบวนการเพื่อให้ได้ผลลัพธท์ ี่มีประโยชน์
ต่อการตัดสินใจ มีหนา้ ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภยั ของข่าวสารจากขอ้ มลู บนเครือข่าย และไม่กระทบต่อ
ความม่นั คงของประเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ คอื การนำความรทู้ างวิทยาศาสตร์มาประยุกต์กบั ระบบสารสนเทศ
โดยตอ้ งประยุกต์ใชต้ ง้ั แต่กระบวนการจดั เก็บข้อมลู การประมวลผลขอ้ มูลเพื่อแปลงข้อมูลเปน็ สารสนเทศ รวมถึง
การเผยแพรส่ ารสนเทศเพ่ือช่วยใหไ้ ดส้ ารสนเทศท่ีมีประสิทธิภาพ รวดเรว็ และตรงตามความต้องการ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง
อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แก้ปัญหา ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รู้เท่าทันและมจี ริยธรรม
3. ตัวชวี้ ดั
ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอ และแบง่ ปันข้อมลู อยา่ งปลอดภัย มีจรยิ ธรรม และ
วเิ คราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทมี่ ีผลต่อการดำเนนิ ชวี ิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม4.
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกความเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (K)
2. สบื คน้ การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (P)
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปญั หา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ
มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้
อยูอ่ ย่างพอเพยี ง มงุ่ มั่นในการทำงาน
รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ
7. สาระการเรียนรู้
ดา้ นความรู้
บอกความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้(K)
ทกั ษะกระบวนการ
สบื ค้นการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศได้ (P)
ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยม
มวี จิ ารณญาณในการแสดงความคิดเห็นบนสอ่ื สังคมออนไลน์ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการพฒั นา
ผลงานตอ่ ผพู้ ฒั นาและผใู้ ช้งานอย่างปลอดภัยได้ (A)
8. กจิ กรรมการเรียนการสอน
ช่ัวโมงที่ 1
ข้ันนำ
ขน้ั ตอนท่ี 1 ข้ันรวบรวมขอ้ มลู (Gathering)
ครูนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จากนั้นร่วมกัน
แลกเปลย่ี นเรียนรู้กับเพ่ือนและคุณครู (7 นาท)ี https://www.youtube.com/watch?v=eFImiJMw_uQ
ขนั้ สอน
ขน้ั ตอนที่ 2 ขั้นวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing)
ครแู ละนักเรียนวเิ คราะห์และสรปุ เกยี่ วกบั การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีในชวี ติ ประจำวัน
ข้นั ตอนท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ตั ิและสรุปความร้หู ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็น 4 กลุ่ม https://th.rakko.tools/tools/59/ (5นาที) เพื่อไปสืบค้นข้อมลู อภิปราย
และสรุปความรู้ พร้อมนำเสนอหนา้ ช้ันเรยี น โดยแตล่ ะกลุ่มไดร้ บั หัวขอ้ ดงั นี้
กลุ่มที่ 1 Digital 1.0 ยคุ อินเทอร์เน็ต
กลุม่ ท่ี 2 Digital 2.0 ยุคโซเซยี ลมีเดีย
กลุ่มที่ 3 Digital 3.0 ยุคแหง่ ขอ้ มลู และ Big Data
กลมุ่ ท่ี 4 Digital 4.0 ยุคเทคโนโลยีสมองกล
(15 นาที)
ขั้นตอนที่ 4 ขน้ั สื่อสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
นักเรยี นออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนเก่ียวกบั เร่อื งยุคของDigital ในแต่ละยคุ
ขนั้ สรุป
ขน้ั ตอนที่ 5 ข้นั ประเมนิ เพือ่ เพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
นักเรียนร่วมประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า“การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่งผล
อยา่ งไรบ้างกบั การดำรงชวี ติ ของมนษุ ย์”
9. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้
9.1 ส่ือการเรยี นรู้
หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2
เรื่อง การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
เรอื่ ง การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
10. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
รายการวดั วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ
การประเมินก่อนเรยี น
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมินพฤตกิ รรม ประเมนิ ตามสภาพจริง
การเปลย่ี นแปลง การทำงานรายบคุ คล
ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกความเปลี่ยนแปลง การตอบคำถาม ใบงานท่ี 2.1.1 รอ้ ยละ 60 % ผา่ นเกณฑ์
ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในใบงาน เรอื่ ง การเปลย่ี นแปลง
ได้ (K) ของเทคโนโลยี
สารสนเทศ
2. สบื คน้ และนำเสนองาน การนำเสนองาน แบบประเมินการ ระดบั คุณภาพ 2
การเปลีย่ นแปลงของ นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
เทคโนโลยสี ารสนเทศได้
(P)
3. ยกตัวอย่างการใช้ สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมินพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
เทคโนโลยใี นปัจจบุ นั ได้ การทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
อย่างมวี จิ ารณญาณ (A)
11. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ใบงานท่ี 2.1.1 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
12. บันทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ระดบั ช้นั ทส่ี อน ………………………….………… ไดแ้ ก่ ....................... จำนวนนักเรยี นทั้งหมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อื่น ๆ ........................
1. การดำเนินการจัดการเรียนรู้ ( ) เป็นไปตามแผน ( ) ไม่เป็นไปตามแผน
2. จำนวนนกั เรียนทใ่ี ชส้ อน
ระดบั ช้ัน จำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด จำนวนนักเรียนท่ีเข้าเรยี น หมายเหตุ
มธั ยมศึกษาปีท่ี ......
มธั ยมศึกษาปีท่ี......
3. ผลการจัดการเรียนรู้
3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง
3.2) ความเหมาะสมของเนื้อหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.3) ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.4) ความเหมาะสมของส่ือการสอนทใี่ ช้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.5) พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของนักเรยี น ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.6) ผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม
3.6.1) การประเมินผลด้านความรู้หลังการเรยี น
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อืน่ ๆ .................... พบว่า มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
และมีนักเรียนจำนวน ........... คน คิดเป็นร้อยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.2) การประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อื่นๆ .................... พบวา่ มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้
และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คดิ เป็นร้อยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.6.3) การประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมนิ ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อ่นื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
และมีนกั เรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
4. ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ ( ) ไมม่ ี
( ) มี ปญั หาที่พบในการจัดการเรยี นรู้ คอื ……………………………
…………………………………………………………………………..
5. สิ่งทค่ี วรพฒั นาและแนวทางการแก้ไขในการจดั การเรียนรู้ครั้งตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................
ลงชือ่ .............................................ผสู้ อน/ผบู้ นั ทึก
( นางสาวจริ าพร เหมพุทธ )
ตำแหน่ง ครู
โรงเรียนเตรยี มอดุ มศึกษาน้อมเกล้า ปทุมธานี
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 7
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สาระการเรียนรู้ (พ้ืนฐาน) รายวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่อื ง การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
ครูผู้สอน นางสาวจริ าพร เหมพุทธ เวลาเรยี น 2 คาบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สาระสำคัญ
ปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) เปน็ วิทยาการทใ่ี ช้เทคโนโลยี ดา้ นคอมพิวเตอร์
มาแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ท่สี ำคัญ เชน่ การใหค้ อมพิวเตอรเ์ ขา้ ใจภาษามนษุ ย์ รู้จกั การใช้เหตุผลการเรยี นร้กู ารสร้าง
หุ่นยนต์ การนำเคร่ืองจกั รหุ่นยนต์มาใชใ้ นการผลิตรถยนต์ ช่วยให้ผลติ รถยนตไ์ ด้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ
2. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง
อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แก้ปญั หา ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทันและมจี ริยธรรม
3. ตัวช้วี ัด
ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปนั ข้อมลู อยา่ งปลอดภัย มีจริยธรรม และ
วิเคราะห์การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศท่มี ีผลตอ่ การดำเนนิ ชีวติ อาชพี สงั คม และวฒั นธรรม4.
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายคำนิยามและประเภทของปัญญาประดษิ ฐ์ได้ (K)
2. ยกตัวอย่างการประยุกตใ์ ช้ปัญญาประดิษฐ์ได้อยา่ งมีวิจารณญาณ (P,A)
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคดิ
ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ซ่อื สัตย์ สุจรติ
มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้
อย่อู ยา่ งพอเพียง มุง่ ม่ันในการทำงาน
รกั ความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ
7. สาระการเรยี นรู้
ด้านความรู้
อธบิ ายคำนิยามและประเภทของปญั ญาประดิษฐ์ได้ (K)
ทกั ษะกระบวนการ
ยกตวั อย่างการประยุกต์ใชป้ ญั ญาประดษิ ฐ์ได้อย่างมวี จิ ารณญาณ (P)
ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยม
มีวิจารณญาณในการแสดงความคดิ เห็นบนส่อื สังคมออนไลน์ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการพฒั นา
ผลงานต่อผู้พัฒนาและผใู้ ชง้ านอยา่ งปลอดภัยได้ (A)
8. กจิ กรรมการเรียนการสอน
ชั่วโมงท่ี 1
ขัน้ นำ
1.ครถู ามคำถามประจำหัวข้อว่า “ในปัจจุบนั มเี ทคโนโลยีสารสนเทศอะไรบ้างทเ่ี กิดขึน้ เพ่ืออำนวยความ
สะดวกตอ่ การใชช้ วี ิตประจำวัน”
(แนวตอบ : เชน่ หนุ่ ยนตด์ ูดฝุ่น ดดู ฝุ่นอตั โนมตั ภิ ายในบ้าน ฯลฯ)
2.ครเู ล่าถงึ เทคโนโลยีในปจั จุบนั เทคโนโลยจี ะเกิดขนึ้ ในชีวติ ประจำวนั ของมนุษย์อยา่ งไม่หยุดนิง่ และ
กา้ วหน้ากวา่ เดมิ โดยจะยกตวั อยา่ ง เทคโนโลยีทีเ่ ขา้ มามีบทบาทกับมนุษย์ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial
Intelligence : AI) เทคโนโลยีหุน่ ยนต์ (Robotic Technology) เทคโนโลยีความจรงิ เสริม (Augmented Reality
: AR) ทำให้เทคโนโลยีสารสนเทศเปน็ ส่งิ จำเปน็ ทอ่ี ยูร่ อบตัวมนุษย์ ซึง่ เปน็ เร่ืองทเ่ี ราจะเรียนกนั ในช่ัวโมงต่อ ๆ ไป
ข้ันสอน
1.ครถู ามนักเรยี นว่า มใี ครรู้ไหมวา่ ปญั ญาประดิษฐม์ ีความเปน็ มาอย่างไร จนถงึ ปัจจบุ ันนี้
(แนวตอบ : คำตอบขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพินิจของครู)
2.ครอู ธบิ ายหัวข้อประวตั ิความเปน็ มาของปัญญาประดิษฐ์ และอธิบายเพิ่มในสว่ นของการกำเนิด
ปัญญาประดิษฐใ์ นหนงั สือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยที่ 2 การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี
สารสนเทศ หน้าท่ี 71
3.ครอู ธบิ ายนิยามของปัญญาประดษิ ฐ์ ประเภทของปัญญาประดษิ ฐ์ และตัวอย่างการประยกุ ตใ์ ช้
ปญั ญาประดิษฐ์ ในดา้ นตา่ งๆ ในหนงั สอื เรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยที่ 2 การเปลีย่ นแปลงของ
เทคโนโลยสี ารสนเทศ หนา้ 72 – 78
ชว่ั โมงท่ี 2
ขัน้ สอน
1.ครแู จกใบงานที่ 2.2.1 เรอื่ ง ปญั ญาประดิษฐ์
2.นกั เรยี นทำใบงาน โดยศึกษาเพ่มิ เติมจาก หนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6
หนว่ ยที่ 2 การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ขั้นสรุป
1.ครตู รวจสอบการทำใบงานท่ี 2.2.1 เร่อื ง ปัญญาประดิษฐ์
2.ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการณต์ อบคำถาม
3.ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความร้ทู ไี่ ด้รบั จากการทำกิจกรรมในวนั นี้
9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้
9.1 สอื่ การเรียนรู้
หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2
เรื่อง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
9.2 แหล่งการเรียนรู้
ใบงานที่ 2.2.1 เร่อื ง ปัญญาประดษิ ฐ์
10. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
รายการวดั วิธกี ารวัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
รอ้ ยละ 60 % ผ่านเกณฑ์
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ใบงานที่ 2.2.1
เรื่อง ปัญญาประดษิ ฐ์ ระดับคุณภาพ 2
1. อธิบายนิยามความหมาย การตอบคำถาม ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินพฤติกรรม
และประเภทของปญั ญา ในใบงาน
ประดิษฐ์ได้ (K)
2. ยกตวั อยา่ งการประยุกต์ สังเกตพฤติกรรม
ใชป้ ัญญาประดิษฐ์ได้อย่าง การทำงานรายบคุ คล
มวี จิ ารณญาณ(P,A)
11. ช้นิ งาน/ภาระงาน
ใบงานท่ี 2.2.1 เรอื่ ง ปัญญาประดิษฐ์
12. บนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ระดับชนั้ ท่ีสอน ………………………….………… ได้แก่ ....................... จำนวนนกั เรียนทงั้ หมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อืน่ ๆ ........................
1. การดำเนินการจดั การเรยี นรู้ ( ) เป็นไปตามแผน ( ) ไม่เป็นไปตามแผน
2. จำนวนนักเรยี นที่ใชส้ อน
จำนวนนักเรียนท้งั หมด จำนวนนกั เรียนทเี่ ข้าเรยี น หมายเหตุ
ระดบั ชัน้
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ......
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี......
3. ผลการจัดการเรียนรู้
3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.2) ความเหมาะสมของเน้ือหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง
3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง
3.4) ความเหมาะสมของส่ือการสอนที่ใช้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ
3.5) พฤติกรรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
3.6) ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม
3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรหู้ ลังการเรยี น
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อนื่ ๆ .................... พบว่า มี
นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้
และมนี ักเรยี นจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.2) การประเมินผลดา้ นทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมนิ ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่นื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
และมนี ักเรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี
นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
4. ปัญหาทีพ่ บในการจดั การเรยี นรู้ ( ) ไมม่ ี
( ) มี ปญั หาท่ีพบในการจดั การเรียนรู้ คอื ……………………………
…………………………………………………………………………..
5. ส่งิ ที่ควรพัฒนาและแนวทางการแก้ไขในการจดั การเรียนรู้ครัง้ ตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................
ลงชื่อ.............................................ผ้สู อน/ผู้บันทกึ
( นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมีภาพประกอบ)
ภาพกิจกรรมการจดั การเรียนรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)