แผนการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณ 6

โรงเรียนเตรียมอุดมศกึ ษานอ้ มเกลา้ ปทุมธานี

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8

กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาระการเรียนรู้ (พืน้ ฐาน) รายวชิ า เทคโนโลย(ี วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

ครผู ูส้ อน นางสาวจริ าพร เหมพุทธ เวลาเรยี น 4 คาบ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระสำคญั

หนุ่ ยนตห์ รอื โรบอต (Robot) คอื เครื่องจักรกลชนดิ หนึ่ง มีลักษณะโครงสรา้ งและรปู ร่างที่ แตกต่าง

กนั ซึง่ แต่ละประเภทจะมหี นา้ ทก่ี ารทำงานดา้ นต่าง ๆ ตามการควบคุมโดยตรงของมนษุ ย์ การควบคุมระบบต่าง ๆ

ในการสง่ั ระหว่างหนุ่ ยนต์และมนษุ ย์ สามารถทำไดโ้ ดยทางอ้อมและอัตโนมตั ิ

2. มาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง

อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ

แกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม

3. ตวั ช้ีวัด

ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปันขอ้ มูลอยา่ งปลอดภัย มีจริยธรรม และ

วเิ คราะหก์ ารเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศที่มีผลตอ่ การดำเนนิ ชีวติ อาชพี สังคม และวฒั นธรรม4.

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. วิเคราะห์ประเภทของเทคโนโลยีหุ่นยนตไ์ ด้ (K)

2. แยกประเภทของเทคโนโลยีห่นุ ยนตไ์ ด้ (P)

3. เห็นความสำคัญของการใชเ้ ทคโนโลยีหุน่ ยนต์ (A)

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

 ความสามารถในการสื่อสาร

 ความสามารถในการคดิ

 ความสามารถในการแก้ปัญหา

 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ซ่อื สัตย์ สุจรติ
 ใฝ่เรยี นรู้
 รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์  มงุ่ ม่ันในการทำงาน
 มวี นิ ัย  มีจติ สาธารณะ
 อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
 รกั ความเป็นไทย

7. สาระการเรียนรู้
ดา้ นความรู้
วิเคราะห์ประเภทของเทคโนโลยหี ุ่นยนต์ได้ (K)
ทักษะกระบวนการ
แยกประเภทของเทคโนโลยีหนุ่ ยนต์ได้ (P)
ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
เหน็ ความสำคัญของการใช้เทคโนโลยหี ุ่นยนต์ (A)

8. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ชั่วโมงที่ 1

ขั้นนำ
1.นำเข้าสู่ห้องเรียนออนไลน์ด้วยเกมส์วาดรูป garticphone เกี่ยวกับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันของ

นักเรียน
2.ครูถามคำถามประจำหัวข้อ “ นักเรยี นคิดวา่ การเกดิ เทคโนโลยหี ุ่นยนต์ เข้ามามบี ทบาทด้านใดบา้ งใน

ยคุ ปัจจบุ ัน” (แนวตอบ : คำตอบข้นึ อย่กู ับดุลยพนิ จิ ของครู)
ขนั้ สอน

1.ครูให้นักเรียนดูคลปิ วดิ โี อเกี่ยวกับเทคโนโลยหี นุ่ ยนต์ครอู ธิบายหัวขอ้ นยิ ามของเทคโนโลยหี นุ่ ยนต์ และ
หัวขอ้ ประเภทของห่นุ ยนต์

2.ครใู หน้ กั เรียนศึกษา นิยามของเทคโนโลยหี ่นุ ยนต์ และหวั ข้อประเภทของห่นุ ยนต์ ในหนังสอื เรียน
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยท่ี 2 การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ หนา้ ที่ 80 – 83 จากนั้น
ใหน้ กั เรียนสรุปความรู้ท่ีไดศ้ ึกษาในรปู แบบผังความคดิ และสง่ งานใน google classroom

ชัว่ โมงท่ี 2
ขน้ั สอน

1.ครูให้นกั เรยี นแบง่ กล่มุ เพ่ือศกึ ษาประเภทของเทคโนโลยี
2.นักเรียนสืบค้นข้อมูลประเภทของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ด้วยตนเองเพื่อดูว่า เทคโนโลยีหุ่นยนต์แต่ละ
ประเภท มลี กั ษณะอย่างไร โดยมกี ารแบง่ ออกเป็น 6 ประเภท
- แบ่งประเภทตามการใชง้ าน
- แบ่งประเภทตามการเคล่อื นท่ี
- แบ่งประเภทตามการควบคมุ การเคลือ่ นท่ี

- แบง่ ประเภทตามกลไกหรอื โครงสรา้ ง
- แบง่ ประเภทตามรปู ร่างและลักษณะภายนอก
- แบง่ ประเภทหุ่นยนต์เพ่อื อุตสาหกรรม
3.บนั ทึกเปน็ ความรู้ของกล่มุ และนำเสนอ
4.ใหท้ ำการเปรยี บเทยี บวเิ คราะห์ข้อมูลว่ามีอะไรที่เหมือนกันในทุกกลมุ่ และมีอะไรตา่ งไปในแตล่ ะกลุม่

ช่ัวโมงที่ 3
ขัน้ สอน

1.ครูทบทวนความรู้จากชว่ั โมงทแ่ี ล้ว เรื่อง นยิ ามและการแบ่งประเภทของเทคโลยีหุน่ ยนต์
2.ครูอธิบายเรื่องเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ แนวทางการพัฒนาหุ่นยนต์และวิทยาการพัฒนา
หุ่นยนต์ โดยหัวข้อ วิทยาการหุ่นยนต์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ส่วนการควบคุม (Manipulation) เป็น
สว่ นทศี่ ึกษาเก่ียวกับการออกแบบชน้ิ ส่วนหุ่นยนต์ สว่ นทสี่ องคอื สว่ นของการรบั รู้ (Perception) เปน็ สว่ นที่ศึกษา
เกี่ยวการรับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ (Sensor) ส่วนสุดท้าย คือ ส่วนการเข้าใจ (Cognition) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ
การนำข้อมูลที่หุ่นยนต์ได้รับจากคำสั่งของผู้ใช้มาประมวลผล โดยใช้หลักการด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และ
วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ เพื่อทำใหใ้ หห้ ่นุ ยนต์ได้ตัดสินใจใหส้ อดคล้องกับโปรแกรมทีต่ งั้ ไว้ให้กับหุ่นยนต์ แล้วส่งคำส่ัง
ไปแสดงผลทตี่ วั แสดงผลหรอื ตัวขับเคลอื่ น
3.ครูอธิบายหัวข้อวิทยาการพัฒนาหุ่นยนต์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ส่วน วิทยาการด้านปฏิสัมพันธ์
(Interaction) เป็นการสื่อสารขั้นพื้นฐานของหุ่นยนต์ วิทยาการด้านการเคลื่อนที่ (Locomotion) ให้หุ่นยนต์มี
ประสิทธภิ าพในการขับเคล่ือน วิทยาการดา้ นการนำทาง(Navigation) หุ่นยนตจ์ ำเป็นตอ้ งรู้ตำแหน่งของตนเอง ซ่ึง
จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ระบุตำแหน่งและการนำทาง วิทยาการด้านการเคลื่อนย้ายชิ้นงาน ( Manipulation)
การเคลอ่ื นไหวของแขนห่นุ ยนต์ในลักษณะต่างๆ วิทยาการด้านอจั ฉริยะ (Intelligence) การออกแบบให้หุ่นยนต์มี
ความสามารถในการจดจำและพัฒนาขอ้ มลู ท่ีมี

ชวั่ โมงท่ี 4
ขนั้ สอน

1.ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม Robotics Friend โดยให้นักเรียนแต่ละคนจับคู่กันและเขียนคำสั่งโดยใช้
ลูกศรแทนแขนกลของตนเอง เพอ่ื ให้ห่นุ ยนตว์ างแก้วตามทตี่ นเองกำหนดไว้

2.นกั เรยี นสองคน ผลดั กนั เปน็ หนุ่ ยนต์แขนกล และเป็นโปรแกรมเมอร์ คนที่เปน็ หนุ่ ยนตม์ ีหน้าท่อี า่ นโค้ดท่ี
โปรแกรมเมอร์เขียนไว้ และทำตามเท่าน้ัน โปรแกรมเมอร์มีหน้าท่ีตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการทำงาน
หากมีข้อผิดพลาดจึงแก้ไขโค้ด และสามารถทดลองใหม่ได้ นักเรียนสองคนผลัดกันเล่น และสร้างโจทย์ที่มีความ
ยากมากยง่ิ ขนึ้

3.ครแู จกใบงานที่ 2.3.1 เร่อื ง เทคโนโลยหี ุ่นยนต์ ใหก้ ับนกั เรียน
4.นักเรียนลงมือทำใบงานและสืบคน้ ข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6
หน่วยที่ 2 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ หรือในอนิ เทอรเ์ น็ตได้

5.นกั เรียนสง่ ใบงานที่ 2.3.1 เร่ือง เทคโนโลยีหนุ่ ยนต์ ให้กับครู
ขั้นสรปุ

1.ครตู รวจเชค็ ความเรียบรอ้ ยของใบงานท่ี 2.3.1 เรื่อง เทคโนโลยหี ่นุ ยนต์
2.ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้ท่ไี ด้รับจากการทำกจิ กรรมในวนั น้ี

9. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้

9.1 ส่อื การเรยี นรู้

หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2

เรอ่ื ง การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ

9.2 แหล่งการเรยี นรู้

ใบงานท่ี 2.3.1 เรือ่ ง เทคโนโลยหี ุน่ ยนต์

กิจกรรม Robotics Friend

10. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

รายการวดั วิธกี ารวัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. วิเคราะหป์ ระเภทของ การตอบคำถาม ใบงานที่ 2.3.1 ร้อยละ 60 % ผ่านเกณฑ์

เทคโนโลยีหุ่นยนตไ์ ด้ (K) ในใบงาน เร่อื ง เทคโนโลยหี ุน่ ยนต์

2. แยกประเภทของ การตอบคำถาม การสบื ค้นดว้ ยตนเอง มีความถูกต้อง 60% ขนึ้ ไป
และบนั ทึกลงในสมุด
เทคโนโลยหี ุน่ ยนต์ได้ (P) ในช้ันเรียน

3. เห็นความสำคัญของ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมินพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2

การใช้เทคโนโลยีห่นุ ยนต์ (A) การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

11. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ใบงานที่ 2.3.1 เร่ือง เทคโนโลยีหุน่ ยนต์

12. บนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

ระดบั ชั้นทีส่ อน ………………………….………… ได้แก่ ....................... จำนวนนกั เรียนท้ังหมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อ่ืน ๆ ........................

1. การดำเนินการจดั การเรียนรู้ ( ) เปน็ ไปตามแผน ( ) ไม่เปน็ ไปตามแผน
2. จำนวนนักเรียนท่ใี ช้สอน
จำนวนนักเรยี นท้ังหมด จำนวนนักเรยี นทีเ่ ข้าเรยี น หมายเหตุ
ระดับชน้ั
มธั ยมศึกษาปที ่ี ......
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี......

3. ผลการจัดการเรียนรู้

3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง

3.2) ความเหมาะสมของเนื้อหา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรงุ

3.4) ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใี่ ช้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

3.5) พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของนักเรยี น ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรงุ

3.6) ผลการปฏิบัติกิจกรรม

3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรหู้ ลังการเรยี น

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่ืนๆ .................... พบวา่ มี

นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้

และมีนักเรยี นจำนวน ........... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........... ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้

3.6.2) การประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี

นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้

และมนี กั เรยี นจำนวน ........... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรียนรู้

3.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อ่ืนๆ .................... พบวา่ มี

นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรียนรู้

4. ปญั หาทพ่ี บในการจดั การเรียนรู้ ( ) ไม่มี

( ) มี ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ คือ ……………………………

…………………………………………………………………………..

5. สิง่ ท่ีควรพฒั นาและแนวทางการแก้ไขในการจัดการเรียนรูค้ รัง้ ตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................

ลงชอื่ .............................................ผสู้ อน/ผ้บู นั ทกึ
( นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............

ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)

โรงเรียนเตรยี มอุดมศึกษานอ้ มเกลา้ ปทุมธานี

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 9

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาระการเรยี นรู้ (พ้ืนฐาน) รายวิชา เทคโนโลย(ี วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอื่ ง การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ

ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

ครูผสู้ อน นางสาวจริ าพร เหมพุทธ เวลาเรียน 2 คาบ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระสำคญั

เทคโนโลยคี วามเป็นจริงเสริม (Augmented Reality : AR) คำว่า Augmented แปลว่าเพ่มิ หรอื เติม ส่วน

Reality แปลวา่ ความจรงิ ซ่ึงเม่อื นำมารวมกัน คือ เทคโนโลยกี ารผสมผสานโลกเสมอื น (Virtual World) เพมิ่ เข้า

ไปในโลกจรงิ (Physical World) เพ่ือทำให้เกดิ การกลมกลืนการมากที่สุดจนแยกไม่ออก เทคโนโลยไี ด้ถูกพัฒนามา

ตัง้ แต่ปี ค.ศ.2004 จัดเปน็ แขนงหน่ึงของงานวิจยั ด้านวทิ ยาการคอมพิวเตอร์วา่ ดว้ ยการเพิม่ ภาพเสมือนของโมเดล

3 มิติ ทส่ี รา้ งจากคอมพวิ เตอร์ลงไปในภาพถา่ ยมาจากกล้องวดี ีโอ

2. มาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง

อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ

แก้ปญั หา ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม

3. ตวั ชีว้ ัด

ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอ และแบง่ ปันขอ้ มลู อย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ

วิเคราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศท่มี ีผลตอ่ การดำเนนิ ชวี ิต อาชีพ สงั คม และวัฒนธรรม4.

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายนยิ ามของเทคโนโลยคี วามเปน็ จริงเสรมิ ได้ (K)

2. ยกตวั อย่างเทคโนโลยคี วามเปน็ จริงเสรมิ ท่สี ามารถนำมาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ (P,A)

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

 ความสามารถในการสื่อสาร

 ความสามารถในการคดิ

 ความสามารถในการแก้ปญั หา

 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ซ่อื สตั ย์ สุจริต
 ใฝ่เรยี นรู้
 รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  มุง่ ม่นั ในการทำงาน
 มีวินัย  มีจติ สาธารณะ
 อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
 รักความเป็นไทย

7. สาระการเรียนรู้
ดา้ นความรู้
อธบิ ายนยิ ามของเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมได้ (K)
ทกั ษะกระบวนการ
ยกตัวอย่างเทคโนโลยีความเป็นจรงิ เสริมท่ีสามารถนำมาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ (P)
ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม
สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ (A)

8. กิจกรรมการเรียนการสอน
ช่ัวโมงท่ี 1

ข้ันนำ
1.ครถู ามนักเรยี นวา่ ปัจจบุ ันเรารูไ้ หมวา่ มกี ารสร้างเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ภาพการ์ตนู ในกระดาษ

สามารถเคล่ือนไหวได้ในรปู แบบของโมเดล 3 มติ ิแลว้ นะ มีใครเลยทดลองใชไ้ หม ?
2.ครเู ปิดวีดีโอเกี่ยวกับเทคโนโลยคี วามเปน็ จรงิ เสรมิ ในเว็บไซต์ Youtube ใหน้ กั เรียนดเู พื่อดึงดดู ความ

สนใจ
ข้นั สอน

1.ครถู ามคำถามวา่ “มีใครร้จู ักคำวา่ AR ทเี่ กี่ยวกับเทคโนโลยหี รอื ไม่”
(แนวตอบ : คำตอบข้ึนอย่กู ับดุลยพนิ ิจของครู)
1.ครอู ธบิ ายหัวข้อ นยิ ามของเทคโนโลยีความเป็นจริงเสรมิ กระบวนการทำงานของเทคโนโลยคี วามเป็น
จรงิ เสริม และบทบาทของเทคโนโลยีความจรงิ เสริม ในหนังสอื ในหนังสอื เรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6
หน่วยท่ี 2 การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ หน้าที่ 87-91

ชวั่ โมงท่ี 2
ขั้นสอน

1.นักเรยี นศกึ ษาเนือ้ หาเพ่ิมเติมในหนังสอื ในหนงั สือเรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยท่ี 2
การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ หน้าที่ 87-91

2.ครูแจกใบงานที่ 2.4.1 เร่อื ง เทคโนโลยีความเป็นจริงเสรมิ ให้นักเรยี น
3.นกั เรยี นลงมอื ปฏิบัติทำใบงานที่ 2.4.1 เรอ่ื ง เทคโนโลยีความเปน็ จรงิ เสริม
ขัน้ สรปุ
1.ครตู รวจเช็คความเรยี บรอ้ ยของใบงานท่ี 2.4.1 เรอื่ ง เทคโนโลยีความเปน็ จริงเสรมิ
2.ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรู้ที่ได้รบั จากการทำกจิ กรรมในวนั นี้

9. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
9.1 ส่ือการเรยี นรู้
หนังสือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2
เรอ่ื ง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
ใบงานท่ี 2.4.1 เร่ือง เทคโนโลยีความเปน็ จริงเสริม

10. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

รายการวัด วิธีการวัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
ร้อยละ 60 % ผ่านเกณฑ์
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ระดับคุณภาพ 2
1. อธิบายนิยามของ การตอบคำถาม ใบงานที่ 2.4.1 ผา่ นเกณฑ์

เทคโนโลยีความเป็นจริง ในใบงาน เร่อื ง เทคโนโลยีความ

เสรมิ ได้(K) เปน็ จริงเสรมิ

2. ยกตัวอย่างเทคโนโลยี การตอบคำถาม แบบประเมินพฤติกรรม

ความเป็นจรงิ เสรมิ ที่ ในช้นั เรียน และ

สามารถนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ น สงั เกตพฤตกิ รรม

ชีวติ ประจำวันได้ (P,A) การทำงานรายบุคคล

11. ชิน้ งาน/ภาระงาน
ใบงานท่ี 2.4.1 เรอ่ื ง เทคโนโลยีความเป็นจรงิ เสรมิ

12. บันทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

ระดับชน้ั ทส่ี อน ………………………….………… ได้แก่ ....................... จำนวนนักเรียนท้งั หมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อ่นื ๆ ........................

1. การดำเนินการจดั การเรยี นรู้ ( ) เปน็ ไปตามแผน ( ) ไม่เป็นไปตามแผน
2. จำนวนนกั เรยี นท่ใี ช้สอน
จำนวนนักเรียนทัง้ หมด จำนวนนักเรยี นทีเ่ ข้าเรยี น หมายเหตุ
ระดับชน้ั
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ......
มธั ยมศกึ ษาปีท.่ี .....

3. ผลการจัดการเรียนรู้

3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง

3.2) ความเหมาะสมของเนื้อหา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรงุ

3.4) ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใี่ ช้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

3.5) พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของนักเรยี น ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรงุ

3.6) ผลการปฏิบัติกิจกรรม

3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรหู้ ลังการเรยี น

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่ืนๆ .................... พบวา่ มี

นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้

และมีนักเรยี นจำนวน ........... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........... ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้

3.6.2) การประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี

นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้

และมนี กั เรยี นจำนวน ........... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรียนรู้

3.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อ่ืนๆ .................... พบวา่ มี

นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรียนรู้

4. ปญั หาทพ่ี บในการจดั การเรียนรู้ ( ) ไม่มี

( ) มี ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ คือ ……………………………

…………………………………………………………………………..

5. สิง่ ท่ีควรพฒั นาและแนวทางการแก้ไขในการจัดการเรียนรูค้ รัง้ ตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................

ลงชอื่ .............................................ผสู้ อน/ผ้บู นั ทกึ
( นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............

ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)

โรงเรียนเตรยี มอดุ มศึกษานอ้ มเกลา้ ปทุมธานี

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาระการเรียนรู้ (พ้ืนฐาน) รายวิชา เทคโนโลย(ี วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรื่อง การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

ครูผู้สอน นางสาวจริ าพร เหมพุทธ เวลาเรยี น 4 คาบ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระสำคัญ

อาชีพทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นสายงานท่สี ำคัญและกำลังเป็นทนี่ ยิ มในปัจจุบนั และ ยงั เป็น

อาชพี ท่ีมคี วามสำคัญในอนาคต เน่ืองจากโลกอยใู่ นยุคของเทคโนโลยสี ารสนเทศที่มกี ารเปลี่ยนแปลง และ

พฒั นาอยา่ งรวดเร็ว

2. มาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง

อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ

แกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม

3. ตัวชี้วดั

ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปันข้อมลู อย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ

วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศทม่ี ผี ลต่อการดำเนินชีวิต อาชพี สังคม และวฒั นธรรม4.

จุดประสงค์การเรียนรู้

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายเก่ยี วกับสายงานทางด้านเทคโนโลยไี ด้ (K)

2. ตระหนกั ถงึ อาชีพทเี่ กดิ ข้นึ จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (P,A)

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

 ความสามารถในการสือ่ สาร

 ความสามารถในการคิด

 ความสามารถในการแกป้ ัญหา

 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต
 ใฝเ่ รยี นรู้
 รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  มงุ่ มั่นในการทำงาน
 มวี ินยั  มีจติ สาธารณะ
 อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
 รักความเปน็ ไทย

7. สาระการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้
อธิบายเก่ียวกับสายงานทางดา้ นเทคโนโลยีได้ (K)
ทักษะกระบวนการ
ตระหนักถึงอาชีพทเี่ กดิ ขึ้นจากการเปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยี (P)
ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม
สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ (A)

8. กจิ กรรมการเรียนการสอน
ชั่วโมงที่ 1-2

ขน้ั นำ
1.เปิด VDO เกย่ี วกับอาชพี ในอนาคต ใหน้ ักเรียนดแู ละถามคำถามว่า “จาก VDO นกั เรยี นคิดวา่ ใน

อนาคตอาชพี ใดทจ่ี ะเปน็ ท่ีต้องการมากทสี่ ดุ ”
(แนวตอบ: คำตอบขน้ึ อยกู่ ับดุลยพนิ ิจของครู)
ขั้นสอน

1.ครูอธบิ ายเกีย่ วกบั อาชพี ทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ
2.ครเู รม่ิ อธิบายสายงานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และพดู ถึงตำแหน่งทเี่ ก่ยี วขอ้ งทางด้านการพฒั นา
ซอฟต์แวร์ อาทิเช่น ผู้จัดการโครงการทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ นกั วเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ
โปรแกรมเมอร์ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักทดสอบซอฟตแ์ วร์
3.ครูใหน้ ักเรยี นเปดิ ในหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยที่ 2 การเปล่ยี นแปลงของ
เทคโนโลยีสารสนเทศ หนา้ ท่ี 94 และอธิบายเพ่ิมเติมในหัวขอ้ วิทยาศาสตร์ข้อมูล
4.ครอู ธิบายถงึ หัวข้อ คือ สายงานท่เี กยี่ วข้องกบั การพฒั นาเกม และเป็นผูเ้ ชี่ยวชาญดา้ นเกมและ อี
สปอร์ต โดยสายงานประเภทน้ีมีหลากหลายอาชีพเช่น นกั พัฒนาเกม (Game Developer) นักออกแบบเกม
(Game Designer) ผู้เชี่ยวชาญด้านเกม (Gamer) นักกีฬาอสี ปอร์ต (E-Sport Athletes)
5.ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ ในเรื่องของ เกม ถงึ ในยุคของสงครามเย็นในช่วง พ.ศ.2490-2534 ได้มกี ารนำเอา
โปรแกรมจำลองเหตุการณ์มาสกู้ นั เพือ่ จำลองกระบวนการตา่ งๆ ของโลกแหง่ ความเป็นจริง ซึ่งจะสามารถทำนาย
ผลลพั ธ์ และได้ผลออกมาในระดบั หนึง่ เหมือนกับเกมแบตเทิลชปิ (Battle ship) เวอร์ชนั สงครามโลก
6.ครูอธิบายหวั ข้อ สายงานอาชพี ทางด้านมเี ดียและกราฟกิ คือ สายงานทเ่ี ก่ียวข้องกบั การออกแบบ
กราฟิกตา่ งๆ โดยสานงานประเภทนมี้ หี ลากหลายอาชพี เช่น นักออกแบบคอมพวิ เตอร์กราฟิก(Graphic
Designer) ทำงานเก่ียวกับการออกแบบปกหนังสอื ผา่ นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์กราฟิก หวั ข้อต่อไป คือ สายงาน

อาชพี ทางดา้ นสอื่ สงั คมออนไลน์ ยกตัวอยา่ ง เช่นนักสรา้ งคอนเทรนต์ (Content Writer) ซ่ึงอาชพี นี้ กำลังเปน็ ท่ี
นยิ มในปัจจบุ ัน คือ การเป็นบล็อกเกอร์ ยูทูปเบอร์ ฯลฯ หัวข้อต่อไป คือสายงานอาชีพทางด้านการตลาดและธรุ กิจ
ออนไลน์ ยกตวั อย่างเชน่ นกั การตลาดวิเคราะหแ์ ละวิจยั การตลาด

7.ครอู ธบิ ายหัวข้อสายงานอาชพี ทางด้านอืน่ ๆ เชน่ ครู อาจารย์ วิทยากรทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ
นักวิชาการคอมพิวเตอร์ และทป่ี รึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

8.ครใู หน้ กั เรยี นเลือกสายงานอาชพี ในด้านเทคโนโลยี ทต่ี นเองชอบ พร้อมบอกเหตผุ ลลงสมุด

ชั่วโมงที่ 3 – 4
ข้นั สอน

1.ครูทบทวนเนือ้ หาจากการเรยี นในชว่ั โมงท่แี ล้ว และแจกใบงานที่ 2.5.1 เร่ือง อาชพี ทางด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศ

2.นักเรียนทำใบงานที่ 2.5.1 เรื่อง อาชีพทางดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ
3.นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ออกเป็น 7 กลุ่ม

กลุ่มท่ี 1 สายงานอาชพี ทางด้านการพฒั นาซอฟตแ์ วร์
กลมุ่ ท่ี 2 สายงานอาชพี ดา้ นเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ และความปลอดภัยดา้ น
คอมพวิ เตอร์
กลมุ่ ที่ 3 สายงานอาชพี ด้านข้อมลู
กลุ่มท่ี 4 สายงานอาชีพดา้ นเกม
กลมุ่ ที่ 5 สายงานอาชีพด้านมีเดียและกราฟิก
กล่มุ ท่ี 6 สายงานอาชีพด้านส่ือสงั คมออนไลน์
กล่มุ ที่ 7 สายงานอาชีพทางด้านสื่อการตลาดและธุรกิจออนไลน์
โดยให้สมาชกิ สมัครใจ อยู่ในกลุ่มทีส่ นใจอาชพี นนั้ แต่ไมเ่ กินกลมุ่ ละ 6 คน โดยจะต้องได้ออกมาเป็น คู่มือ
สายงานอาชพี น้ันๆ (ในปลายเทอม) โดยประเดน็ ศึกษา คือ
1.ความรแู้ ละทักษะในแตล่ ะอาชพี
2.ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยีต่ออาชีพ
3.อาชีพทางเทคโนโลยสี ง่ ผลกระทบอยา่ งไรต่อสังคม
ขัน้ สรปุ
1.ครูตรวจเชค็ ความเรียบร้อยของใบงานท่ี 2.5.1 เรือ่ ง อาชีพทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ
2.ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรูท้ ่ีได้รบั จากการทำกจิ กรรมในวนั นี้

9. สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
9.1 สอ่ื การเรียนรู้
หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2
เร่อื ง การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
9.2 แหล่งการเรียนรู้
ใบงานท่ี 2.5.1 เร่อื ง อาชพี ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

10. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

รายการวดั วธิ ีการวัด เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
รอ้ ยละ 60 % ผา่ นเกณฑ์
จุดประสงค์การเรยี นรู้
ระดบั คุณภาพ 2
1.อธบิ ายเกยี่ วกบั สายงาน การตอบคำถาม ใบงานที่ 2.5.1 ผ่านเกณฑ์

ทางด้านเทคโนโลยไี ด้ (K) ในใบงาน เรอื่ ง อาชีพทางด้าน

เทคโนโลยสี ารสนเทศ

2.ตระหนกั ถึงอาชีพท่ีเกิดขน้ึ การตอบคำถาม แบบประเมินพฤตกิ รรม

จากการเปล่ยี นแปลงทาง ในชั้นเรียน และ

เทคโนโลยี (P,A) สังเกตพฤตกิ รรมการ

ทำงานรายบุคคล

11. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
ใบงานท่ี 2.5.1 เร่อื ง อาชีพทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ

12. บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ระดบั ชัน้ ที่สอน ………………………….………… ไดแ้ ก่ ....................... จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด ……….. คน
ช่องทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อ่นื ๆ ........................

1. การดำเนินการจัดการเรียนรู้ ( ) เปน็ ไปตามแผน ( ) ไมเ่ ปน็ ไปตามแผน

2. จำนวนนกั เรียนทใ่ี ชส้ อน

ระดบั ชนั้ จำนวนนักเรยี นทงั้ หมด จำนวนนักเรียนท่เี ขา้ เรียน หมายเหตุ

มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ......

มธั ยมศึกษาปที ี่......

3. ผลการจดั การเรยี นรู้

3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ

3.2) ความเหมาะสมของเนื้อหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรงุ

3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

3.4) ความเหมาะสมของส่ือการสอนทใ่ี ช้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง

3.5) พฤติกรรม/การมีสว่ นร่วมของนักเรียน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ

3.6) ผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม

3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรู้หลังการเรยี น
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อนื่ ๆ .................... พบวา่ มี
นกั เรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
และมีนกั เรียนจำนวน ........... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3.6.2) การประเมนิ ผลดา้ นทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่ืนๆ .................... พบว่า มี
นกั เรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
และมีนกั เรียนจำนวน ........... คน คิดเปน็ ร้อยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้

3.6.3) การประเมินด้านคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี
นกั เรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรียนรู้
และมนี ักเรยี นจำนวน ........... คน คิดเป็นร้อยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4. ปัญหาท่ีพบในการจัดการเรยี นรู้ ( ) ไม่มี

( ) มี ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ คอื ……………………………
…………………………………………………………………………..

5. ส่งิ ท่ีควรพฒั นาและแนวทางการแก้ไขในการจดั การเรียนรูค้ รง้ั ต่อไป
............................................................................................................................. ............................................

ลงชอ่ื .............................................ผู้สอน/ผบู้ ันทึก
( นางสาวจิราพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............

ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)
ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)

โรงเรยี นเตรยี มอุดมศกึ ษานอ้ มเกลา้ ปทุมธานี

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาระการเรียนรู้ (พนื้ ฐาน) รายวิชา เทคโนโลย(ี วิทยาการคำนวณ)6 รหสั วิชา ว23117

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ

ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

ครผู ้สู อน นางสาวจิราพร เหมพุทธ เวลาเรยี น 8 คาบ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สาระสำคัญ

ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยีในดา้ นต่างๆ คือ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นปัจจยั หน่ึงท่ีส่งผลตอ่ การ

เปลย่ี นแปลงของสงั คมอย่างรวดเร็ว ทง้ั ดา้ นการศึกษา เศรษฐกจิ สังคม การเมอื ง และวัฒนธรรม มนษุ ยจ์ ึงควร

เรยี นรเู้ ก่ยี วกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือเป็นกำลังในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศใหก้ ้าวหนา้ และมี

ประสทิ ธภิ าพย่ิงขน้ึ

ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยตี ่อการดำเนนิ ชวี ิต คือ การทีเ่ ทคโนโลยไี ด้เข้ามามบี ทบาทต่อ

การดำเนินชวี ติ ของมนุษยต์ ั้งแต่เรมิ่ ตน่ื นอนในตอนเชา้ การทำกิจกรรมสว่ นตัวทั้งทบ่ี า้ น ทท่ี ำงาน สถานศึกษา

ตลอดจนการทำธุรกรรมต่างๆ จนถงึ การเขา้ นอนในตอนกลางคืน

ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีต่ออาชีพ คอื ทุกสาขาอาชีพล้วนแล้วแต่มกี ารนำเอาเทคโนโลยี

สารสนเทศมาใช้ดว้ ยกนั ทัง้ สนิ้ เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศมกี ารพัฒนาขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง มนี วตั กรรมใหม่ ๆ

เกิดขนึ้ มาตลอดเวลา จึงทำให้เทคโนโลยสี ารสนเทศเป็นสิ่งทีข่ าดไมไ่ ด้กับการทำงานในยุคปัจจบุ ันและมี

ผลกระทบกับอาชีพต่าง ๆ

ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่อสังคม คือ โดยปกติมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสังคม

ดังนั้น เทคโนโลยีสารสนเทศจึงสามารถส่งผลกระทบต่อสังคมมนุษย์ได้เช่นกัน เช่น การบริหารจัดการ

ที่ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้งานออกมาสะดวกรวดเร็ว และมีความถูกต้องแม่นยำสูง

ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่อวัฒนธรรม คือ เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถ

ช่วยลดช่องว่างหรือข้อจำกัดทางด้านระยะทาง ทำให้มนุษย์สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้

สะดวกขึ้น ดังนั้น เทคโนโลยีสารสนเทศจึงสามารถส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมโดยเฉพาะวัฒนธรรมไทย

ได้เช่นกัน

ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีต่ออาชีพ คือ ทุกสาขาอาชีพล้วนแล้วแต่มีการนำเอาเทคโนโลยี

สารสนเทศมาใช้ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีนวัตกรรมใหม่ ๆ

เกิดขึ้นมาตลอดเวลา จึงทำให้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้กับการทำงานในยุคปัจจุบันและมี

ผลกระทบกบั อาชพี ตา่ ง ๆ

2. มาตรฐานการเรยี นรู้

สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง

อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ

แกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม

3. ตัวช้วี ดั

ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบ่งปนั ขอ้ มลู อย่างปลอดภยั มีจริยธรรม และ

วเิ คราะหก์ ารเปล่ียนแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทีม่ ผี ลต่อการดำเนินชวี ิต อาชีพ สงั คม และวฒั นธรรม4.

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

4. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. ประเมนิ ผลกระทบในการเลอื กใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่อการดำเนินชีวติ อาชีพ สังคม และ

วฒั นธรรมได้ ( K , P , A )

2.วิเคราะหผ์ ลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตอ่ อาชีพอยา่ งมีวิจารณญาณได้ (K)

3.นำเสนอผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศที่สนใจได้ (P)

4.เห็นคณุ คา่ ของเทคโนโลยตี อ่ อาชีพ(A)

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

 ความสามารถในการส่อื สาร

 ความสามารถในการคิด

 ความสามารถในการแก้ปัญหา

 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 รักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  ซอื่ สัตย์ สจุ ริต

 มวี นิ ัย  ใฝ่เรยี นรู้

 อยู่อยา่ งพอเพียง  มุง่ ม่นั ในการทำงาน

 รักความเป็นไทย  มีจิตสาธารณะ

7. สาระการเรียนรู้
ดา้ นความรู้
ประเมินผลกระทบในการเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่อการดำเนินชวี ติ อาชีพ สงั คม และวัฒนธรรมได้
ทกั ษะกระบวนการ
วเิ คราะห์ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่ออาชพี อยา่ งมวี ิจารณญาณนำเสนอผลกระทบของการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศทสี่ นใจได้
ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ ม
เห็นคุณค่าของเทคโนโลยีตอ่ อาชีพ

8. กิจกรรมการเรยี นการสอน
ชั่วโมงที่ 1

ข้นั นำ
1.ครูพูดคุยกบั นักเรยี น “นักเรยี นรูไ้ หมวา่ การที่นักเรียนเล่น Facebook แลว้ มกี ารไปแชรค์ ลิปหรือภาพท่ี

ทำใหผ้ ู้อ่ืนเกิดความเสยี หายกับผู้ทถี่ ูกแชรแ์ ลว้ คนท่ีแชรจ์ ะมคี วามผดิ เชน่ กัน ดงั น้ันการจะแชร์ภาพหรอื ขอ้ ความ
ใดๆ เราควรตรวจสอบแหลง่ ที่มาของข้อมลู ใหช้ ัดเลยวา่ มีความนา่ เชื่อถือหรือไม่และมวี จิ ารณญาณในการใช้
เทคโนโลยี ตระหนกั ถึงผลกระทบทจี่ ะเกิดขน้ึ โดยเราจะมาเรียนถึงผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศกนั
ในชัว่ โมงนี้”
ขัน้ สอน

1.ครูถามคำถามประจำหวั ข้อวา่ “การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศมขี ้อดขี ้อเสยี อยา่ งไรบ้าง
(แนวตอบ : คำตอบขนึ้ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของครู)

2.ครเู ลา่ ใหน้ ักเรยี นฟงั ปจั จบุ ันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามบี ทบาทในชีวิตประจำวนั ของมนษุ ย์อยา่ ง
เห็นไดช้ ดั เจน และเปน็ ยุคแห่งการตดิ ต่อสอื่ สาร ไร้พรมแดน มกี ารประดิษฐค์ ดิ ค้น พฒั นาสิ่งอำนายความสะดวก
อันมผี ลตอ่ การดำเนินชีวติ มนุษย์ มคี วามกา้ วหน้าทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ที่ทำให้สามารถรับรูข้ า่ วสารได้
สะดวกและรวดเรว็ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นปจั จัยหน่งึ ที่ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของสงั คมอย่างรวดเรว็ ทัง้ ดา้ น
การศึกษา เศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง และวฒั นธรรม มนุษย์จึงควรเรยี นรู้เก่ียวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ เพือ่ เป็น
กำลังในการพัฒนาเทคโนโลยสี ารสนเทศในประเทศให้กา้ วหนา้ และมปี ระสิทธภิ าพย่งิ ขนึ้

3.ครูยกตัวอยา่ ง ในปจั จุบัน โทรศัพท์มือถือสามารถเช่ือมต่อกบั แหล่งสารสนเทศตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งทัว่ ถึง
4.นกั เรยี นชว่ ยกนั ยกตัวอยา่ งเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทีเ่ ปน็ ที่นยิ มและสามารถเขา้ ถึงแหลง่ สารสนเทศ
นอกเหนือจากทีค่ รูยกตวั อยา่ งไป โดยสามารถสืบคน้ ได้จากอนิ เทอร์เนต็ ดว้ ยตนเอง

ช่วั โมงท่ี 2
ขัน้ สอน

1.ครูอธบิ ายหวั ข้อ ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศต่อการดำเนินชีวิตวา่ ผลกระทบของการใช้
เทคโนโลยตี ่อการดำเนนิ ชีวติ คือ การทีเ่ ทคโนโลยไี ดเ้ ขา้ มามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของมนุษยต์ ง้ั แตเ่ ร่ิมต่ืนนอน
ในตอนเชา้ การทำกิจกรรมส่วนตัวท้ังทีบ่ ้าน ทที่ ำงาน สถานศกึ ษา ตลอดจนการทำธุรกรรมต่างๆ จนถงึ การเข้า
นอนในตอนกลางคนื

2.ครูยกตวั อยา่ ง การพัฒนาข้อมลู ผ่านอุปกรณเ์ ทคโนโลยี ทำให้การตดิ ต่อสอ่ื สารของมนษุ ยเ์ ช่อื มโยงถงึ กนั
ได้อยา่ งไร้พรมแดน

3.ครอู ธบิ ายผลกระทบดา้ นบวก และดา้ นลบ ของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศตอ่ การดำเนินชีวิต
4.นกั เรียนศึกษาเนอ้ื หาในหนังสือเรยี น เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยท่ี 2 การเปลีย่ นแปลง
ของเทคโนโลยีสารสนเทศ หนา้ ท่ี 99 ประกอบการเรียน

ช่วั โมงที่ 3
ข้นั สอน

1.ครูอธบิ ายหัวข้อผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศต่ออาชีพ ในหนังสือเรยี น เทคโนโลยี
(วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยที่ 2 การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ หน้าที่ 100 ประกอบการเรียน

2.ครูแบง่ กลุ่มเดมิ ให้นักเรยี น ศึกษาตามอาชีพที่ได้รับ สำรวจและวเิ คราะหห์ าผลกระทบด้านบวก ดา้ นลบ
ตอ่ อาชีพท่ีได้รับมอบหมาย และใช้ในการพฒั นาคู่มือต่อไป

5.ครอู ธิบายผลกระทบดา้ นบวก และดา้ นลบ ของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศต่ออาชีพด้านเกษตรกรรม
และยกตวั อย่าง เทคโนโลยฟี าร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) เทคโนโลยฟี าร์มอจั ฉรยิ ะเปน็ แนวคิดของการทำ
เกษตรกรรมสมัยใหม่ ท่เี รยี กว่า เกษตรแมน่ ยำสูง เปน็ กลยุทธ์ในการทำการเกษตรทเี่ ป็นมิตรกบั ส่ิงแวดล้อม โย
เกษตรกรสามารถปรบั การใช้ทรพั ยากรใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพของพน้ื ที่ยอ่ ๆ รวมไปถึงการดแู ลอย่างมีประสิทธภิ าพ
และแมน่ ยำ

6.ครอู ธิบายหัวขอ้ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศต่อสังคมและวฒั นธรรม ทง้ั ด้านบวกและ
ด้านลบ หนงั สือเรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยที่ 2 การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
หน้า 104 – 105

ชัว่ โมงที่ 4
ขั้นสอน

1.ครทู บทวนเนือ้ หาชั่วโมงท่ีแลว้ และใหน้ กั เรียนชกั ถามข้อสงสัย
2.แจกใบงานที่ 2.6.1 เรอื่ ง ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
3.นักเรยี นเร่ิมทำงานกลุม่ ท่ีได้รับมอบหมายโดยให้วเิ คราะห์ อภิปราย ปรบั ปรงุ งานตัวเองภายในกลมุ่

ช่วั โมงที่ 5 - 6
ขัน้ สอน

1.ให้นกั เรียนทุกกลมุ่ ออกมานำเสนองาน สายงานอาชีพทางเทคโนโลยีที่ได้รับ และอาชพี ท่ีนักเรียนทุกคน
ในกลุ่มเลอื กและวิเคราะห์ขอ้ มูลจากชัว่ โมงทแี่ ลว้ มารวมกันและนำเสนอให้เพือ่ นๆ ฟงั

2.โดยให้นกั เรียนกลุ่มอื่นมีส่วนร่วมในการประเมิน จากการตง้ั คำถาม การนำเสนอและเสนอแนะส่ิงท่ีควร
ปรบั ปรุง

3.ปรบั ปรงุ ผลงาน
ช่วั โมงท่ี 7 - 8

ขน้ั สอน
1.จัดแสดงนิทรรศการสายงานอาชีพ ที่ได้รับมอบหมาย สาธิตอธิบายให้ผู้เข้าร่วมงานฟัง (ระดับชั้นหรือ

ระดบั โรงเรยี นก็ได้)
2.ครูแจกแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ขั้นสรุป
1.ครูตรวจสอบการทำใบงานที่ 2.6.1 เรื่อง ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่อการดำเนินชีวติ

และอาชีพ
2.ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการณต์ อบคำถาม
3.ครตู รวจรายงานสายอาชีพท่นี กั เรยี นสง่ มา
4.ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการณ์ตอบคำถาม และตรวจสอบการทำแบบทดสอบหลังเรียน

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่อื ง การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
5.ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความร้ทู ี่ได้รบั จากการทำกิจกรรมในวันน้ี

9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้

9.1 สื่อการเรยี นรู้

หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2

เร่ือง การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ

9.2 แหล่งการเรยี นรู้

ใบงานที่ 2.6.1 เร่อื ง ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศต่อการดำเนินชีวิตและอาชีพ

รายงาน เร่ือง สายอาชีพทางเทคโนโลยี

10. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการวดั วธิ ีการวดั เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. ประเมินผลกระทบในการ - การตอบคำถาม - ใบงานท่ี 2.6.1 เร่อื ง ร้อยละ 60 % ผา่ นเกณฑ์

เลือกใชเ้ ทคโนโลยี ในใบงาน ผลกระทบของการใช้ ระดับคุณภาพ 2

สารสนเทศตอ่ การดำเนนิ - สงั เกตพฤติกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านเกณฑ์

ชวี ิต อาชพี สงั คม และ การทำงานรายบคุ คล - แบบประเมิน

วฒั นธรรมได้ ( K , P , A ) พฤตกิ รรม

2.วิเคราะห์ผลกระทบของ รายงาน รายงาน มคี วามถูกตอ้ ง

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เรือ่ ง สายอาชีพ ตั้งแต่ 60% ขึ้นไป

ต่ออาชีพอยา่ งมี ทางเทคโนโลยี

วิจารณญาณได้ (K)

3.นำเสนอผลกระทบของ การนำเสนองาน แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การนำเสนองาน ผา่ นเกณฑ์

ทส่ี นใจได้ (P)

4.เหน็ คณุ คา่ ของเทคโนโลยี สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2

ต่ออาชีพ(A) การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์

11. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ใบงานที่ 2.6.1 เรอ่ื ง ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศต่อการดำเนนิ ชีวติ และอาชีพ

12. บนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ระดับชนั้ ท่ีสอน ………………………….………… ได้แก่ ....................... จำนวนนกั เรียนทงั้ หมด ……….. คน
ชอ่ งทางการสอน ( ) onsite ( ) online ( ) อืน่ ๆ ........................

1. การดำเนินการจดั การเรยี นรู้ ( ) เป็นไปตามแผน ( ) ไม่เป็นไปตามแผน
2. จำนวนนักเรยี นที่ใชส้ อน
จำนวนนักเรียนท้งั หมด จำนวนนกั เรียนทเี่ ข้าเรยี น หมายเหตุ
ระดบั ชัน้
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ......
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี......

3. ผลการจัดการเรียนรู้

3.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง

3.2) ความเหมาะสมของเน้ือหา ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรบั ปรุง

3.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรบั ปรุง

3.4) ความเหมาะสมของส่ือการสอนที่ใช้ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ตอ้ งปรับปรงุ

3.5) พฤติกรรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง

3.6) ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม

3.6.1) การประเมนิ ผลด้านความรหู้ ลังการเรยี น

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อนื่ ๆ .................... พบว่า มี

นักเรยี นจำนวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้

และมนี ักเรยี นจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้

3.6.2) การประเมินผลดา้ นทักษะกระบวนการ

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมนิ ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อ่นื ๆ .................... พบวา่ มี

นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

และมนี ักเรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้

3.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์

โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ ( ) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสงั เกต ( ) อน่ื ๆ .................... พบวา่ มี

นักเรียนจำนวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......... ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจุดประสงค์การเรยี นรู้

และมนี กั เรียนจำนวน ........... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........... ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้

4. ปัญหาทีพ่ บในการจดั การเรยี นรู้ ( ) ไมม่ ี

( ) มี ปญั หาท่ีพบในการจดั การเรียนรู้ คอื ……………………………

…………………………………………………………………………..

5. ส่งิ ที่ควรพัฒนาและแนวทางการแก้ไขในการจดั การเรียนรู้ครัง้ ตอ่ ไป
............................................................................................................................. ............................................

ลงชื่อ.............................................ผ้สู อน/ผู้บันทกึ
( นางสาวจริ าพร เหมพทุ ธ )
ตำแหน่ง ครู
............./.................../...............

ภาพกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมีภาพประกอบ)

ภาพกิจกรรมการจดั การเรียนรู้ (กรณีสอน online ตอ้ งมภี าพประกอบ)