คำอธิบำยรำยวชิ ำ ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 1
รำยวชิ ำกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ดว้ ยตนเอง 1 (IS : Independent Study) IS1 ภำคเรยี นท่ี 1
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
เวลำ 2 ชว่ั โมง/สปั ดำห์ 40 ชว่ั โมง/ภำคเรียน จำนวน 1 หน่วยกติ
ศกึ ษา วิเคราะห์ กาหนดประเด็นปัญหา ตั้งสมมติฐานการศึกษาค้นคว้า การรวบรวม การบันทึก การจัด
หมวดหมู่ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ สรุปความรู้ ข้อค้นพบ และการนาเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาอย่างเป็น
ระบบ ฝึกทักษะการกาหนดประเด็นปัญหา ตั้งสมมติฐานการศึกษาค้นคว้า การรวบรวม การบันทึกการจัด
หมวดหมู่ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ สรุปความรู้ ข้อค้นพบ และการนาเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาอย่างเป็น
ระบบ ด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการคิดสังเคราะห็ กระบวนการสืบค้นรวบรวมข้อมูล
กระบวนการแก้ปัญหา และกระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกิดความรู้ ทักษะ ความเข้าใจ มีทักษะในการศึกษาค้นคว้า
แสวงหาความรู้ รวบรวม บันทึก วิเคราะห์ และสรุปความรู้ข้อค้นพบ เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษา
ค้นคว้าด้วยตนเอง
ผลกำรเรยี นรู้
1. ตงั้ ประเดน็ ปัญหา โดยเลอื กประเด็นทีส่ นใจ เรมิ่ จากตนเอง ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ประเทศได้
2. ตง้ั สมมตฐิ านประเด็นปญั หาทีต่ นเองสนใจได้
3. ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อย่างมีประสทิ ธิภาพได้
4. ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความรู้เกย่ี วกบั ประเด็นที่เลือก จากแหลง่ เรยี นรทู้ ี่หลากหลายได้
5. ตรวจสอบความนา่ เชื่อถือของแหลง่ ทมี่ าของข้อมลู ได้
6. วิเคราะห์ขอ้ ค้นพบดว้ ยวธิ กี ารทเ่ี หมาะสมได้
7. สงั เคราะห์ สรุปองค์ความรู้ดว้ ยกระบวนการกลุ่มได้
8. เสนอแนวคดิ การแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบดว้ ยองค์ความรจู้ ากการคน้ พบได้
9. เหน็ ประโยชน์และคุณค่าของการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเองได้
โครงสรำ้ งและหน่วยกำรเรียนรใู้ นรำยวิชำเพิ่มเติม
กำรศกึ ษำคน้ คว้ำดว้ ยตนเอง 1 (IS : Independent Study) IS1 ระดับชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี 1
หนว่ ย ชอื่ หน่วยกำร ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคญั เวลำ น้ำหนัก
ที่ เรยี นรู้ (ช.ม.) คะแนน
1 เริ่มต้นจากความ 1. ตั้งประเด็นปัญหา โดยเลือก - การตั้งประเด็น 4 10
5
สงสยั ประเด็นท่ีสนใจ เริ่มจากตนเอง ปัญหาและการตั้ง 20
2 20
ชุมชนทอ้ งถนิ่ ประเทศได้ คาถาม 4
4
2. ตั้งสมมติฐานประเด็นปัญหาที่ - การตง้ั สมมตฐิ าน 4
5
ตนเองสนใจได้
2 ก้ า ว ไ ป สู่ ก า ร 3. ออกแบบ วางแผน ใช้ - ก ร ะ บ ว น ก า ร
ค้นหา กระบวนการรวบรวมข้อมูลอย่าง รวบรวมข้อมูล
มปี ระสิทธภิ าพได้
4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหา - การศึกษา ค้นคว้า
ความรู้เก่ียวกับประเด็นท่ีเลือก แสวงหาความรู้จาก
จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายได้ แหล่งการเรียนรู้
5. ตรวจสอบความน่าเช่ือถือของ - ก า ร ต ร ว จ ส อ บ
แหล่งทีม่ าของขอ้ มูลได้ ความน่าเชื่อถือของ
แหลง่ ทมี่ าของขอ้ มูล
3 แสวงหาความรู้ 4. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหา - การศึกษา ค้นคว้า
ควบคกู่ ารบันทกึ ความรู้เกี่ยวกับประเด็นที่เลือก แสวงหาความรู้จาก
จากแหลง่ เรียนรู้ทห่ี ลากหลายได้ แหล่งการเรียนรู้
5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของ - ก า ร ต ร ว จ ส อ บ
แหลง่ ที่มาของขอ้ มูลได้ ความน่าเช่ือถือของ
แหล่งทีม่ าของข้อมลู
4 การจัดหมวดหมู่ 6. วิเคราะห์ข้อค้นพบด้วยวิธีการ - ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์
แ ล ะ ส รุ ป ข้ อ ท่ีเหมาะสมได้ ขอ้ มูล
ค้นพบ 7. สังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ - การสัง เคราะ ห์
ด้วยกระบวนการกลุ่มได้ ข้อมูล - การสรุป
องค์ความรู้
5 เรียนรู้การจัดการ 8. เสนอแนวคิด การแก้ปัญหา - การแสดงความคิด 5 20
ปั ญ ห า เ พ่ื อ อย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้ และการแก้ปญั หา
พั ฒ น า ก า ร จากการค้นพบได้
นาเสนอ 9. เห็นประโยชน์และคุณค่าของ - คุ ณ ค่ า ข อ ง 5
การศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเองได้ การศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเอง
6 สอบกลางภาค 1 10
7 สอบปลายภาค 1 20
รวม 40 100
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้
รำยวิชำ กำรศกึ ษำค้นควำ้ ดว้ ยตนเอง 1 IS1 ภำคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 1
หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง เรม่ิ ตน้ จำกควำมสงสัย เวลำ 10 ช่วั โมง คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง ทำไมควำมสงสยั กับควำมรู้จึงเปน็ ของค่กู นั เวลำ 2 ชัว่ โมง
1. ผลกำรเรยี นรู้
1. ต้งั ประเด็นปญั หาโดยเลอื กประเด็นที่สนใจ เร่ิมจากตนเอง ชมุ ชน ทอ้ งถ่ิน ประเทศ
2. ตง้ั สมมติฐานประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจ
2. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด
การตั้งประเดน็ ปญั หาทช่ี ัดเจน โดยเลือกประเด็นที่สนใจ เร่ิมจากตนเอง ชุมชน ท้องถิ่น ประเทศ และ
การตง้ั สมมติฐาน โดยใช้ความรูจ้ ากศาสตรต์ า่ ง ๆ อยา่ งมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การศึกษาค้นคว้าแสวงหาคาตอบ
ประสบผลสาเรจ็
3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
ควำมรู้
- อธิบายความหมายของประเดน็ ปัญหา ตั้งคาถาม และต้งั สมมตฐิ านได้
ทกั ษะกระบวนกำร
- เลือกประเดน็ ปญั หา ตง้ั คาถามการต้งั สมมตฐิ าน ตามความสนใจของตนเองได้
คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
- ใฝเ่ รียนรู้เหน็ คณุ ค่าในการเรียน มคี วามมงุ่ มน่ั ซาบซง้ึ และตระหนักในการนาไปใช้ในชีวติ ประจาวัน
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุ่งม่ันในการทางาน
6. สำระกำรเรียนรู้/เนอ้ื หำ
1. กาหนดประเด็นการเรียนรู้
2. ธรรมชาตขิ องความรู้
3. ลักษณะของความรู้
4. แหล่งเรยี นรู้
5. การต้งั วัตถุประสงคแ์ ละสมมตฐิ าน
7. สำระกำรเรียนรูท้ ้องถิน่ /เศรษฐกจิ พอเพียง/ภมู ิปญั ญำชำวบำ้ น
ข้นึ อย่กู ับประเดน็ ทน่ี กั เรยี นสนใจ
8. ทักษะกำรคิด (เลือก/ระบุตำมเนือ้ หำท่สี อนหรือทักษะกำรคดิ ท่ตี ้องกำรเน้น)
1. คิดวเิ คราะห์
2. คดิ สงั เคราะห์
3. คิดอย่างเป็นระบบ
9. กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้
ข้นั นำ
1) ให้นักเรียนดรู ปู ภาพเก่ียวกับสิง่ แวดลอ้ มตา่ ง ๆ
2) ครูสนทนากบั นักเรยี นว่าเมือ่ ดูรปู ภาพแล้วนกั เรียนสังเกตเหน็ อะไรบ้าง
3) ครูแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้
ข้นั สอน
4) แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มละ 2 - 3 คน เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการ
เรยี นการสอนตามความสมัครใจ
5) ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ สงั เกตสภาพแวดล้อมในโรงเรยี นและให้นักเรยี นชว่ ยกันตัง้ คาถามใหไ้ ดม้ ากทสี่ ุด
6) ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เขยี นแจกแจงลงในกระดาษสมดุ แลว้ นาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น
7) ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ เลอื กคาถามท่ดี ีที่สดุ เพยี งคาถามเดยี วเพ่ือจะนาไปสู่การตัง้ สมมติฐาน
8) นักเรยี นศกึ ษาใบความรเู้ รื่องตวั อย่างการตง้ั ประเด็นปัญหา ต้งั คาถามและต้งั สมมตฐิ าน
9) นักเรยี นนาปญั หาที่นกั เรียนเลือก มาเขียนการตง้ั สมมติฐาน
ข้นั สรุป
10) ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปรายเกี่ยวกับการตั้งประเด็นปัญหาและการต้ังสมมติฐาน เพ่ือนาไป
ปรับปรงุ แกไ้ ขให้สมบรู ณย์ ิ่งข้ึน
10. สื่อเอกสำร / นวัตกรรม /และแหล่งเรียนรู้
1) ใบความรู้ท่ี 2 เร่อื ง ตัวอย่างการต้ังประเด็นปัญหา ตั้งคาถาม และการตัง้ สมมติฐาน
2) สภาพแวดล้อม แหล่งเรยี นรู้ในโรงเรยี น
3) ห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมดุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้อนิ เตอรเ์ นต็
11. กำรวดั ผลประเมนิ ผล
1. วิธีวัดและประเมนิ ผล
- สังเกตพฤติกรรมรายบุคคลจากการร่วมกจิ กรรมการเรยี น
- สังเกตการณ์ร่วมมือของการร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
- ตรวจช้ินงานผลงานทนี่ กั เรียนต้ังคาถาม และการต้ังสมมติฐาน
2. เคร่ืองมือการประเมิน
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคลและรายกลมุ่
- แบบประเมนิ การให้คะแนนการตง้ั คาถาม/ การตั้งสมมตฐิ าน
- เกณฑ์การให้คะแนน
3. เกณฑ์การประเมนิ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ
21 - 30 4 หมายถงึ ดมี าก
16 - 20 3 หมายถงึ ดี
11 - 15 2 หมายถึง พอใช้
ตา่ กวา่ 10 1 หมายถึง ปรับปรงุ
บันทึกหลงั สอน
ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะหรือ แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคดิ เหน็ ผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำหรือ ผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
แบบสังเกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล
พฤติกรรม ความสนใจ มุ่งมน่ั ในการ การตอบ/ ยอมรับฟัง ทางานตามที่
321 ทางาน ซักถาม ความเห็น ได้รบั
ชือ่ - สกุล ปัญหา
321 321 ผู้อ่นื มอบหมาย
321 32 1
ลงช่อื ..................................................... ผูป้ ระเมิน
......................../.................................../................
เกณฑ์กำรประเมนิ พอใช้ = 1
คะแนนตั้งแต่ 4 - 9 = ผ่าน
8 - 9 = ดี
6 - 7 = ปานกลาง
4 - 5 = พอใช้
คะแนนต่ำกว่ำ 4 ไม่ผำ่ น
ระดบั คุณภำพ ระดบั คณุ ภาพดี = 3 ปานกลาง = 2
แบบสังเกตควำมสนใจและควำมร่วมมอื ในกิจกรรมกลมุ่
คำช้แี จง ทาเครื่องหมาย ลงในช่องระดบั คะแนนพฤติกรรมท่ีนักเรยี นปฏิบตั ดิ งั นี้
ระดบั 3 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมให้เหน็ มาก
ระดับ 2 หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เหน็ ปานกลาง
ระดบั 1 หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย
พฤติกรรม/
สนใจและให้ การ
ประ
ลาดั ความรว่ มมือ รับผดิ ชอบงานที่ มคี วามสามัคคี รวม เมนิ หมาย
บท่ี ในการดาเนิน ไดร้ ับมอบหมาย และชว่ ยเหลือกนั คะ ผล เหตุ
กจิ กรรมต่างๆ แนน
ระดับคะแนน
ช่อื -สกุล 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ผา่ น ไม่
ผา่ น
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
ลงช่ือ..................................................... ผูป้ ระเมิน
......................../.................................../................
เกณฑ์กำรประเมนิ
คะแนนตั้งแต่ 4 - 9 = ผา่ น
8 - 9 = ดี
6 - 7 = ปานกลาง
4 - 5 = พอใช้
คะแนนต่ำกว่ำ 4 ไมผ่ ่ำน
ระดับคณุ ภำพ ระดับคณุ ภาพดี = 3 ปานกลาง = 2 พอใช้ = 1
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้
รำยวชิ ำ กำรศึกษำคน้ ควำ้ ดว้ ยตนเอง 1 IS1 ภำคเรียนที่ 1 ชนั้ มัธยมศึกษำปที ี่ 1
หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง เร่ิมตน้ จำกควำมสงสยั เวลำ 10 ชั่วโมง คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง สิง่ ใดหรือคือปัญหำ เวลำ 3 ช่วั โมง
1. ผลกำรเรียนรู้
1. ตง้ั ประเดน็ ปัญหาโดยเลือกประเด็นที่สนใจ เรม่ิ จากตนเอง ชมุ ชน ทอ้ งถ่ิน ประเทศ
2. ตง้ั สมมตฐิ านประเด็นปัญหาทีต่ นเองสนใจ
2. สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด
การตั้งประเด็นปัญหาทช่ี ดั เจน โดยเลือกประเด็นท่ีสนใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชน ท้องถ่ิน ประเทศ และ
การตงั้ สมมตฐิ าน โดยใช้ความรูจ้ ากศาสตรต์ ่าง ๆ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพจะช่วยให้การศึกษาค้นคว้าแสวงหาคาตอบ
ประสบผลสาเรจ็
3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
ควำมรู้
- ที่มาของประเด็นปญั หา ต้ังคาถาม และตัง้ สมมติฐานได้
ทักษะกระบวนกำร
- แนวทางการเลือกประเด็นปัญหา ตั้งคาถามการต้ังสมมติฐาน ตามความสนใจของตนเองได้
คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้เหน็ คุณค่าในการเรียน มคี วามมุ่งมน่ั ซาบซ้ึง และตระหนักในการนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. ม่งุ มน่ั ในการทางาน
6. สำระกำรเรยี นรู้/เน้ือหำ
1. ที่มาของประเดน็ ปัญหา
2. แนวทางการเลือกประเดน็ ปัญหา
3. ลกั ษณะของประเดน็ ปัญหาท่ีดี
4. รปู แบบการเขียนประเดน็ ปัญหา
5. การเขียนที่มาและความสาคัญของประเด็นปัญหา
7. สำระกำรเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน/เศรษฐกจิ พอเพยี ง/ภมู ิปญั ญำชำวบำ้ น
ประเดน็ ท่นี ักเรยี นสนใจ เรมิ่ จากตนเอง ชมุ ชนท้องถิ่น ประเทศได้
8. ทักษะกำรคิด (เลือก/ระบุตำมเนื้อหำทสี่ อนหรอื ทักษะกำรคิดทต่ี ้องกำรเนน้ )
1. คดิ วเิ คราะห์
2. คิดสงั เคราะห์
3. คิดอยา่ งเปน็ ระบบ
9. กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้
ขัน้ นำ
1) ครูสนทนากับนกั เรยี นว่าเมื่อดรู ูปภาพแล้วนักเรียนสังเกตเห็นอะไรบา้ ง
2) ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ข้นั สอน
3) ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ สงั เกตศกึ ษาทีม่ าของประเด็นปัญหาให้ได้มากทส่ี ดุ
4) ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลอื กคาถามที่ดที สี่ ดุ เพียงคาถามเดยี วเพือ่ จะนาไปสู่การตัง้ สมมตฐิ าน
5) นักเรียนศึกษาใบความรู้เร่ือง ตัวอย่างเลือกประเด็นปัญหาอย่างไร ให้น่าสนใจ ตั้งคาถามและ
ตงั้ สมมติฐาน
6) นักเรยี นนาปัญหาทน่ี กั เรยี นเลือก มาเขยี นการตง้ั สมมตฐิ าน
ขัน้ สรุป
7) ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปรายเกี่ยวกับการตั้งประเด็นปัญหาและการตั้งสมมติฐาน เพื่อนาไป
ปรบั ปรุงแกไ้ ขใหส้ มบูรณ์ย่ิงขึ้น
10. ส่ือเอกสำร / นวัตกรรม /และแหลง่ เรยี นรู้
1) ใบความรูเ้ รอื่ ง ตัวอย่างเลือกประเดน็ ปัญหาอยา่ งไร ใหน้ า่ สนใจ ตั้งคาถาม และการต้งั สมมติฐาน
2) สภาพแวดลอ้ ม แหล่งเรียนรใู้ นโรงเรยี น
3) ห้องสมุดโรงเรยี น ห้องสมุดกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ินเตอรเ์ น็ต
11. กำรวัดผลประเมินผล
1. วิธวี ดั และประเมนิ ผล
- สังเกตพฤติกรรมรายบุคคลจากการร่วมกิจกรรมการเรยี น
- สงั เกตการณ์ร่วมมอื ของการร่วมกิจกรรมกลุ่ม
- ตรวจช้นิ งานผลงานที่นักเรยี นต้งั คาถาม และการตง้ั สมมติฐาน
2. เคร่อื งมือการประเมิน
- แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคลและรายกลุม่
- แบบประเมนิ การให้คะแนนการตั้งคาถาม/ การตั้งสมมตฐิ าน
- เกณฑ์การให้คะแนน
3. เกณฑ์การประเมิน
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ
21 - 30 4 หมายถึง ดมี าก
16 - 20 3 หมายถงึ ดี
11 - 15 2 หมายถงึ พอใช้
ต่ากวา่ 10 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ
บนั ทึกหลงั สอน
ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะหรอื แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคดิ เหน็ ผอู้ ำนวยกำรสถำนศึกษำหรือ ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
แบบสังเกตพฤติกรรมรำยบุคคล
พฤติกรรม ความสนใจ มงุ่ ม่ันในการ การตอบ/ ยอมรับฟงั ทางานตามท่ี
321 ทางาน ซกั ถาม ความเห็น ไดร้ ับ
ชอื่ - สกุล ปัญหา
321 321 ผ้อู ่ืน มอบหมาย
321 32 1
ลงช่อื ..................................................... ผปู้ ระเมนิ
......................../.................................../................
เกณฑ์กำรประเมิน พอใช้ = 1
คะแนนตั้งแต่ 4 - 9 = ผา่ น
8 - 9 = ดี
6 - 7 = ปานกลาง
4 - 5 = พอใช้
คะแนนต่ำกว่ำ 4 ไม่ผ่ำน
ระดบั คณุ ภำพ ระดับคุณภาพดี = 3 ปานกลาง = 2
แบบสงั เกตควำมสนใจและควำมรว่ มมอื ในกิจกรรมกลมุ่
คำช้แี จง ทาเครือ่ งหมาย ลงในช่องระดับคะแนนพฤติกรรมทนี่ ักเรียนปฏิบัตดิ งั นี้
ระดบั 3 หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก
ระดบั 2 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมให้เหน็ ปานกลาง
ระดับ 1 หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมให้เหน็ น้อย
พฤติกรรม/
สนใจและให้ การ
ประ
ลาดั ความรว่ มมอื รับผิดชอบงานที่ มีความสามัคคี รวม เมนิ หมาย
บท่ี ในการดาเนิน ไดร้ บั มอบหมาย และช่วยเหลือกนั คะ ผล เหตุ
กิจกรรมตา่ งๆ แนน
ระดับคะแนน
ชอื่ -สกลุ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ผ่าน ไม่
ผา่ น
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
ลงช่ือ..................................................... ผู้ประเมนิ
......................../.................................../................
เกณฑ์กำรประเมนิ
คะแนนต้ังแต่ 4 - 9 = ผ่าน
8 - 9 = ดี
6 - 7 = ปานกลาง
4 - 5 = พอใช้
คะแนนต่ำกว่ำ 4 ไมผ่ ำ่ น
ระดบั คณุ ภำพ ระดับคุณภาพดี = 3 ปานกลาง = 2 พอใช้ = 1
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
รำยวิชำ กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ด้วยตนเอง 1 IS1 ภำคเรียนที่ 1 ชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 1
หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง เรม่ิ ตน้ จำกควำมสงสยั เวลำ 10 ช่วั โมง คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง คำดเดำได้ไหมวำ่ อะไรคอื คำตอบ เวลำ 5 ชวั่ โมง
1. ผลกำรเรยี นรู้
1. ตัง้ ประเดน็ ปญั หาโดยเลือกประเด็นทสี่ นใจ เร่มิ จากตนเอง ชุมชน ทอ้ งถ่นิ ประเทศ
2. ต้งั สมมตฐิ านประเด็นปญั หาทตี่ นเองสนใจ
2. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
การตง้ั ประเด็นปัญหาทช่ี ัดเจน โดยเลือกประเด็นท่ีสนใจ เร่ิมจากตนเอง ชุมชน ท้องถ่ิน ประเทศ และ
การต้ังสมมติฐาน โดยใชค้ วามรจู้ ากศาสตรต์ ่าง ๆ อย่างมปี ระสิทธิภาพจะช่วยให้การศึกษาค้นคว้าแสวงหาคาตอบ
ประสบผลสาเรจ็
3. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
ควำมรู้
- อธิบายความหมายของประเดน็ ปญั หา ต้ังคาถาม และตงั้ สมมตฐิ านได้
ทกั ษะกระบวนกำร
- เลอื กประเด็นปญั หา ต้ังคาถามการตงั้ สมมตฐิ าน ตามความสนใจของตนเองได้
คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์
- ใฝเ่ รยี นรู้เห็นคุณคา่ ในการเรยี น มีความมุ่งมน่ั ซาบซึง้ และตระหนักในการนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน
4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. ม่งุ มั่นในการทางาน
6. สำระกำรเรยี นรู้/เนื้อหำ
1. ประเภทของสมมตฐิ าน
2. ทมี่ าของสมมติฐาน
3. แนวทางการตงั้ สมมติฐาน
4. ลกั ษณะของสมมติฐาน
7. สำระกำรเรยี นรู้ท้องถิน่ /เศรษฐกิจพอเพยี ง/ภมู ิปญั ญำชำวบ้ำน
การพสิ จู นส์ มมตฐิ านดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ ชว่ ยใหเ้ หน็ ความเป็นไปได้ของสมมติฐานต่อ ชุมชน ประเทศได้
8. ทักษะกำรคดิ (เลือก/ระบุตำมเน้ือหำท่สี อนหรือทักษะกำรคิดทต่ี อ้ งกำรเนน้ )
1. คิดวิเคราะห์
2. คดิ สังเคราะห์
3. คิดอย่างเป็นระบบ
9. กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้
ข้ันนำ
1) ครสู นทนากบั นักเรยี นเก่ียวกับการตัง้ ประเด็นปญั หา
2) วธิ ีการเขียนสมมตฐิ าน
ขัน้ สอน
3) ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มเขียนสมมตฐิ าน จากประเด็นปญั หา ทนี่ กั เรยี นชว่ ยกนั ตงั้ คาถามใหไ้ ดม้ ากที่สดุ
4) ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มเลอื กคาถามท่ีดที ีส่ ุดเพียงคาถามเดียวเพอ่ื จะนาไปสู่การต้งั สมมตฐิ าน
5) นักเรียนศึกษาใบความรเู้ รอื่ ง ต้ังคาถามและตง้ั สมมตฐิ าน
6) นักเรียนนาปัญหาทน่ี ักเรยี นเลอื ก มาเขยี นการตงั้ สมมติฐาน
ขนั้ สรุป
7) ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปรายเก่ียวกับการต้ังประเด็นปัญหาและการตั้งสมมติฐาน เพื่อนาไป
ปรบั ปรงุ แก้ไขให้สมบรู ณย์ ิ่งขน้ึ
10. สื่อเอกสำร / นวัตกรรม /และแหล่งเรยี นรู้
1) ใบความรู้เรอ่ื ง ต้ังคาถาม และการต้ังสมมติฐาน
2) สภาพแวดลอ้ ม แหลง่ เรียนรใู้ นโรงเรยี น
3) ห้องสมุดโรงเรยี น ห้องสมุดกล่มุ สาระการเรยี นรู้อนิ เตอรเ์ น็ต
11. กำรวดั ผลประเมินผล
1. วิธีวดั และประเมินผล
- สังเกตพฤติกรรมรายบุคคลจากการรว่ มกจิ กรรมการเรยี น
- สงั เกตการณร์ ว่ มมอื ของการร่วมกิจกรรมกลุ่ม
- ตรวจช้ินงานผลงานท่ีนักเรียนตงั้ คาถาม และการตง้ั สมมติฐาน
2. เครอื่ งมือการประเมนิ
- แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคลและรายกล่มุ
- แบบประเมนิ การใหค้ ะแนนการตงั้ คาถาม/ การตง้ั สมมติฐาน
- เกณฑ์การใหค้ ะแนน
3. เกณฑ์การประเมนิ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภำพ
21 - 30 4 หมายถึง ดีมาก
16 - 20 3 หมายถงึ ดี
11 - 15 2 หมายถึง พอใช้
ต่ากวา่ 10 1 หมายถงึ ปรับปรงุ
บนั ทึกหลงั สอน
ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะหรือ แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคดิ เหน็ ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำหรือ ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบุคคล
พฤติกรรม ความสนใจ มงุ่ ม่ันในการ การตอบ/ ยอมรับฟงั ทางานตามท่ี
321 ทางาน ซกั ถาม ความเห็น ไดร้ ับ
ชอื่ - สกุล ปัญหา
321 321 ผ้อู ่ืน มอบหมาย
321 32 1
ลงช่อื ..................................................... ผปู้ ระเมนิ
......................../.................................../................
เกณฑ์กำรประเมิน พอใช้ = 1
คะแนนตั้งแต่ 4 - 9 = ผา่ น
8 - 9 = ดี
6 - 7 = ปานกลาง
4 - 5 = พอใช้
คะแนนต่ำกว่ำ 4 ไม่ผ่ำน
ระดบั คณุ ภำพ ระดับคุณภาพดี = 3 ปานกลาง = 2
แบบสงั เกตควำมสนใจและควำมรว่ มมอื ในกิจกรรมกลมุ่
คำช้แี จง ทาเครือ่ งหมาย ลงในช่องระดับคะแนนพฤติกรรมทนี่ ักเรียนปฏิบัตดิ งั นี้
ระดบั 3 หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก
ระดบั 2 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมให้เหน็ ปานกลาง
ระดับ 1 หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมให้เหน็ น้อย
พฤติกรรม/
สนใจและให้ การ
ประ
ลาดั ความรว่ มมอื รับผิดชอบงานที่ มีความสามัคคี รวม เมนิ หมาย
บท่ี ในการดาเนิน ไดร้ บั มอบหมาย และช่วยเหลือกนั คะ ผล เหตุ
กิจกรรมตา่ งๆ แนน
ระดับคะแนน
ชอื่ -สกลุ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ผ่าน ไม่
ผา่ น
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
ลงช่ือ..................................................... ผู้ประเมนิ
......................../.................................../................
เกณฑ์กำรประเมนิ
คะแนนต้ังแต่ 4 - 9 = ผ่าน
8 - 9 = ดี
6 - 7 = ปานกลาง
4 - 5 = พอใช้
คะแนนต่ำกว่ำ 4 ไมผ่ ำ่ น
ระดบั คุณภำพ ระดับคณุ ภาพดี = 3 ปานกลาง = 2 พอใช้ = 1
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
รำยวชิ ำ กำรศกึ ษำค้นคว้ำดว้ ยตนเอง 1 IS1 ภำคเรียนท่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี 1
หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง ก้ำวไปส่กู ำรคน้ หำ เวลำ 10 ชัว่ โมง คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่ือง ข้อมลู กำรวำงแผน กำรรวบรวมขอ้ มูล เวลำ 2 ชว่ั โมง
1. ผลกำรเรียนรู้
ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มลู อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพได้
2. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
การออกแบบวางแผนใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลโดยใชค้ วามรู้จากศาสตรต์ ่าง ๆ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
จะช่วยให้การศกึ ษาค้นคว้าแสวงหาคาตอบประสบผลสาเร็จ
3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
ควำมรู้
- อธบิ ายการออกแบบ และวางแผนใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มูลได้
ทกั ษะกระบวนกำร
- เลอื กวธิ ีการออกแบบ และวางแผนใช้กระบวนการรวบรวมข้อมลู ตามความสนใจของตนเองได้
คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้เหน็ คุณค่าในการเรียนการออกแบบวางแผน การรวบรวมข้อมูล และ มีความมุ่งมัน่ ซาบซง้ึ
ตระหนักในการนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั
4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. ม่งุ ม่ันในการทางาน
3. มีวินัย
6. สำระกำรเรยี นรู้/เนื้อหำ
1. ความหมายและความสาคัญของขอ้ มูล ประเภท ลักษณะของข้อมูลท่ดี ี
2. ความหมาย ความสาคัญของแหลง่ ข้อมูลและประเภทของแหลง่ ข้อมูล
3. การออกแบบวางแผน การรวบรวมขอ้ มูล และตระหนกั ในการนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั
7. สำระกำรเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน/เศรษฐกิจพอเพียง/ภูมิปญั ญำชำวบำ้ น
กระบวนการรวบรวมข้อมลู เก่ียวกบั เรอื่ งท่ีนกั เรียนสนใจ
8. ทักษะกำรคดิ (เลือก/ระบุตำมเนื้อหำท่สี อนหรอื ทักษะกำรคดิ ที่ต้องกำรเนน้ )
1. คิดวเิ คราะห์
2. คดิ สงั เคราะห์
3. คิดอยา่ งเปน็ ระบบ
9. กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้
ขนั้ นำ
1) ครูทบทวนความรู้เดิมเร่ืองการตั้งประเด็นปัญหา การต้ังสมมติฐาน เพื่อเช่ือมโยงกับเน้ือหา การ
ออกแบบ การวางแผน และการใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอย่างมีประสทิ ธิภาพ
ขัน้ สอน
2) ครูต้ังคาถาม ให้กับนักเรียนว่าจะออกแบบวางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
ได้อย่างไร “ นักเรียนตอบคาถาม” ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเก่ียวกับการวางแผนใช้กระบวนการ
รวบรวมข้อมูลและแบง่ นกั เรยี นนัง่ ตามกลมุ่ เดมิ เพ่อื ฝึกวางแผนในการใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมูลเพื่อหาคาตอบ
ประเด็นปญั หาที่ตนเองสนใจและคน้ คว้าขอ้ มลู เพิ่มเตมิ จากแหล่งการเรยี นรสู้ าขาวชิ าต่าง ๆ
3) นักเรยี นศึกษาใบความร้เู รอ่ื ง ออกแบบ วางแผน และ กระบวนการรวบรวมข้อมลู
4) นักเรียนเขียนแผนผังความคิด (Mind Map ) การออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวม
ขอ้ มลู ของกลุม่ ตนเอง
5) ครูและนักเรียนร่วมตรวจสอบการออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลของแต่ละกลุ่ม
และวิพากยก์ ารออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลของแตล่ ะกลุ่ม
ข้ันสรุป
6) นักเรียน ครู ร่วมกันสรุปและนักเรียนนาแนวทางการออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวม
ขอ้ มลู มาจัดทาเป็นโครงร่างการศกึ ษาคน้ ควา้ เป็นลาดบั ตอ่ ไป
10. ส่ือเอกสำร / นวัตกรรม /และแหลง่ เรยี นรู้
1) ใบความรู้ เรือ่ ง ออกแบบ วางแผน และ กระบวนการรวบรวมข้อมูล
2) แหลง่ เรียนร้ใู นโรงเรียน
3) หอ้ งสมุดโรงเรียน ห้องสมุดกลุ่มสาระการเรยี นรู้
4) อนิ เตอรเ์ นต็
11. กำรวัดผลประเมนิ ผล
1. วธิ ีวัดและประเมนิ ผล
- สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคลจากการรว่ มกจิ กรรมการเรียน
- สงั เกตการณร์ ว่ มมอื ของการร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
- ตรวจชิน้ งานผลงานที่นักเรยี นจากการเขียนแผนผังความคิด
2. เครอ่ื งมือการประเมนิ
- แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคลและรายกลมุ่
- แบบประเมินการให้คะแนนการออกแบบ วางแผน และ กระบวนการรวบรวมข้อมลู
- เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
3. เกณฑ์การประเมนิ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภำพ
21 - 30 4 หมายถึง ดมี าก
16 - 20 3 หมายถงึ ดี
11 - 15 2 หมายถงึ พอใช้
ต่ากวา่ 10 1 หมายถงึ ปรับปรุง
บันทกึ หลงั สอน
ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะหรือ แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคิดเหน็ ผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำหรอื ผทู้ ่ีได้รับมอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
คำชีแ้ จง แบบสงั เกตควำมสนใจและควำมรว่ มมือในกิจกรรมกลุ่ม
ทาเครื่องหมาย ลงในชอ่ งระดับคะแนนพฤติกรรมทนี่ ักเรยี นปฏิบตั ดิ ังนี้
ระดับ 3 หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมให้เห็นมาก
ระดับ 2 หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมให้เห็นปานกลาง
ระดบั 1 หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมให้เหน็ น้อย
พฤติกรรม/
สนใจและให้ การ
ลาดับ ความร่วมมอื ใน รบั ผิดชอบงานที่ มคี วามสามัคคี รวม ประ หมาย
ที่ การดาเนนิ ได้รบั มอบหมาย และช่วยเหลือกนั คะ เมนิ เหตุ
ระดบั คะแนน กิจกรรมต่างๆ ผล
แนน
ช่ือ-สกลุ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ผ่าน ไม่
ผา่ น
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
ลงช่ือ..................................................... ผู้ประเมิน
......................../.................................../................
เกณฑ์กำรประเมนิ ผ่าน
คะแนนตั้งแต่ 4 - 9 = ดี
8-9 = ปานกลาง
6-7 = พอใช้
4-5 =
คะแนนต่ำกว่ำ 4 ไมผ่ ำ่ น
ระดับคุณภำพ ระดับคุณภาพดี = 3 ปานกลาง = 2 พอใช้ = 1
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้
รำยวชิ ำ กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ด้วยตนเอง 1 IS1 ภำคเรยี นท่ี 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 1
หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่ือง แสวงหำควำมรคู้ วบค่กู ำรบันทกึ เวลำ 10 ชวั่ โมง คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 5 เรือ่ ง กำรแสวงหำควำมรู้ เวลำ 4 ชว่ั โมง
1. ผลกำรเรียนรู้
ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหาความร้เู ก่ียวกับประเดน็ ที่เลอื กจากแหล่งเรียนรูท้ ่หี ลากหลาย
2. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
การศึกษา คน้ ควา้ จากแหล่งเรยี นรู้ทหี่ ลากหลายจะทาใหไ้ ด้รับข้อมลู ทีช่ ดั เจนและถูกต้องมากขนึ้ และ
น่าเชื่อถอื
3. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
ควำมรู้
- นักเรยี นอธบิ ายวิธกี ารเลอื กแหลง่ เรยี นรู้ท่ีหลากหลายได้
ทกั ษะกระบวนกำร
- นกั เรยี นสามารถเลือกใช้แหลง่ เรยี นรทู้ ่หี ลากหลายในการแสวงหาความรไู้ ด้
คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
- นกั เรยี นเห็นคุณคา่ ของแหลง่ เรียนรู้
4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. สำระกำรเรียนร้/ู เนอ้ื หำ
การสบื ค้นข้อมูลจากแหล่งเรยี นร้ทู ี่หลากหลาย
7. สำระกำรเรียนรู้ท้องถิ่น
ไม่มี
8. ทักษะกระบวนกำรคิด
1. คดิ วิเคราะห์
2. คิดสังเคราะห์
3. คิดอย่างเป็นระบบ
9. กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้
1. ครชู แ้ี จง แนะนานักเรียนในการระดมความคิดในการแสวงหาแหลง่ ข้อมลู ข้อควรระวังต่างๆ ในการ
สืบค้น
2. ครตู ้ังประเด็นคาถาม นกั เรียนมีวธิ ีการศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรูไ้ ดจ้ ากทใ่ี ดบ้าง
3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มบอกวิธีในการคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ ข้อมูลจากแหล่งเรียนร้ตู า่ งๆ
4. นักเรียนชว่ ยกันวางแผนในการสบื ค้นข้อมูล ออกแบบการเลอื กแหล่งข้อมูล โดยกาหนดเปน็ ปฏิทนิ การ
ปฏบิ ตั ิงาน
5. เตรยี มเอกสารสาคัญตา่ งๆ ท่ีจาเป็นและเกี่ยวข้องเมื่อตอ้ งมกี ารสมั ภาษณ์บุคคล เชน่ ออกแบบฟอร์ม
การสัมภาษณ์
6. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรวบรวมข้อมลู จากประเด็นที่กลุ่มสนใจในรปู แบบต่างๆ โดยสมาชิกแต่ละคนนาข้อมลู
ท่ไี ด้จากการศึกษาค้นควา้ มาแลกเปลย่ี นเรียนร้รู ว่ มกนั และสร้างองค์ความรู้
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอข้อมูลที่ไดจ้ ากการรวบรวมหน้าชัน้ เรียน
8. ครูและนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะในสว่ นที่ยงั บกพร่อง
10. ส่ือ นวัตกรรมและแหล่งเรยี นรู้
หอ้ งสมุด หนงั สอื พิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ
Internet Website
11. กำรวดั และประเมนิ ผล
1) วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วม การตอบคาถาม การแสดงความคดิ เห็น
2. ประเมินชิ้นงาน
2) เครอื่ งมือวัดและประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล/กลมุ่
2. แบบประเมนิ ช้นิ งาน
3) เกณฑ์การวัดและประเมินผล
1. นกั เรียนได้คะแนนการประเมนิ พฤตกิ รรมในระดบั พอใช้ (2) ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน
2. นกั เรียนได้คะแนนในการประเมนิ ชิ้นงานในระดบั พอใช้ (2) ข้ึนไป ถอื วา่ ผ่าน
บันทึกหลงั สอน
ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะหรือ แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคิดเหน็ ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำหรอื ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้
รำยวชิ ำ กำรศึกษำคน้ คว้ำดว้ ยตนเอง 1 IS1 ภำคเรยี นท่ี 1 ช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ 1
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง แสวงหำควำมรูค้ วบค่กู ำรบนั ทกึ เวลำ 10 ช่ัวโมง คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ่ี 6 เรอื่ ง เครื่องมอื ช่วยบนั ทึกขอ้ มลู เวลำ 4 ชั่วโมง
....................................................................................................................................................................................
1. ผลกำรเรยี นรู้
การตรวจสอบความน่าเช่ือถือของแหล่งทม่ี าของขอ้ มลู ได้
2. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด
ความถกู ตอ้ งของข้อมลู เป็นความสาคัญในการศกึ ษา จึงจาเป็นอย่างยิง่ ในการตรวจสอบอยา่ งเป็นระบบ
3. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
ด้ำนควำมรู้
นกั เรยี นสามารถอธิบายวิธกี ารตรวจสอบความน่าเชอ่ื ถือของแหลง่ ที่มาของขอ้ มลู ได้
ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร
นกั เรียนสามารถตรวจสอบความรู้ความน่าเชอื่ ถอื อย่างเป็นระบบได้
ด้ำนคุณลกั ษณะ
นักเรียนตระหนักถงึ ความสาคัญในการตรวจสอบขอ้ มลู เพ่ือใหไ้ ด้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง
4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน
6. สำระกำรเรยี นรู/้ เน้ือหำ
การตรวจสอบข้อมลู อย่างเปน็ ระบบ
7. สำระกำรเรียนรทู้ อ้ งถิน่
ไมม่ ี
8. ทักษะกระบวนกำรคิด
1. คดิ สังเคราะห์
2. คดิ อยา่ งเปน็ ระบบ
9. กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้
1. ทบทวนการรวบรวมข้อมลู จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ ท่กี ล่มุ ให้ความสนใจในประเด็นท่เี ลอื กไว้ โดยการ
ซักถามแตล่ ะกลมุ่
2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนาข้อมูลท่ีไดจ้ ากแหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆ มารวบรวมและแยกข้อมูลท่ไี ด้เป็นประเภทต่างๆ
เช่น ขอ้ มลู จากเอกสาร หนงั สือ เว็ปไซต์ การสัมภาษณ์ ฯลฯ
3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม ร่วมกนั ตรวจสอบความนา่ เชื่อถือของข้อมูลท่ีได้จากแหล่งตา่ งๆ
4. นักเรียนนาเสนอวิธกี ารตรวจสอบความนา่ เชอื่ ถอื ของข้อมูลของกล่มุ ตนเองหน้าช้นั เรยี น
5. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั วพิ ากษค์ วามน่าเชอื่ ถือของข้อมลู ทน่ี ักเรยี นนาเสนอ
6. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนาผลจากการวพิ ากษ์ไปปรับปรุง
10. ส่ือ นวตั กรรมและแหลง่ เรยี นรู้
1. หนังสอื วารสาร หนังสือพมิ พ์ นิตยสาร ฯลฯ
2. Internet Website
3. บุคคล
11. กำรวัดและประเมินผล
1) วิธกี ารวัดและประเมินผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการสนใจ การมสี ่วนร่วม การแสดงความคดิ เห็น
2. นาเสนอผลงาน
2) เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล/กล่มุ
2. แบบประเมินผลงาน/การนาเสนอ
3) เกณฑ์การวัดและประเมินผล
ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ
21 - 30 4 หมายถึง ดมี าก
16 - 20 3 หมายถึง ดี
11 - 15 2 หมายถึง พอใช้
ตา่ กว่า 10 1 หมายถึง ปรับปรุง
1. นักเรียนได้คะแนนการประเมนิ พฤติกรรมในระดับ พอใช้ (2) ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น
2. นักเรียนได้คะแนนในการประเมนิ ผลงาน/การนาเสนอในระดับ พอใช้ (2) ขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น
บนั ทึกหลงั สอน
ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะหรอื แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคดิ เหน็ ผอู้ ำนวยกำรสถำนศึกษำหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้
รำยวิชำ กำรศึกษำคน้ คว้ำดว้ ยตนเอง 1 IS1 ภำคเรียนที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 1
หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ 4 เรอ่ื งกำรจดั หมวดหมู่และสรุปข้อค้นพบ เวลำ 9 ชั่วโมง คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี 7 เรือ่ ง กำรจัดหมวดหมู่ขอ้ มลู เวลำ 4 ชว่ั โมง
....................................................................................................................................................................................
1. ผลกำรเรยี นรู้
วเิ คราะห์ข้อค้นพบดว้ ยสถติ ิที่เหมาะสม
2. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
การใช้สถิตพิ น้ื ฐานท่ีเหมาะสมถูกต้องในการวเิ คราะห์ขอ้ มูล จะทาให้ข้อมูลนน้ั มีความน่าเช่อื ถือมากขน้ึ
3. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
ดำ้ นควำมรู้
นักเรียนสามารถอธบิ ายความหมายของสถติ ิพื้นฐานในการวเิ คราะห์ข้อมูลได้
ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร
นกั เรียนสามารถเลือกใชส้ ถติ ิพ้นื ฐานในการวเิ คราะหข์ ้อมลู ได้
ด้ำนคุณลักษณะ
นกั เรียนเห็นความสาคัญของการใช้สถติ พิ นื้ ฐานในการวเิ คราะหข์ ้อมลู
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุ่งมัน่ ในการทางาน
6. สำระกำรเรียนรู/้ เนอื้ หำ
การใช้สถติ พิ ื้นฐานในการวิเคราะหข์ ้อมูล
7. สำระกำรเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น
-ไม่มี
8. ทักษะกระบวนกำรคิด
1. คดิ สังเคราะห์
2. คดิ อย่างเปน็ ระบบ
9. กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้
1. นกั เรยี นทบทวนความรูข้ องแหลง่ ทีม่ าของขอ้ มูลและการตรวจสอบข้อมลู โดยครูซักถามให้
นกั เรยี นตอบดว้ ยการส่มุ ถามเป็นรายคน
2. นกั เรียนศึกษาใบความรู้เก่ียวกับสถิตพิ นื้ ฐานทจ่ี ะนามาใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมลู เพื่อหาความน่าเช่ือถอื
3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สรปุ วธิ กี ารเลือกใชส้ ถติ ิพืน้ ฐานในการวเิ คราะหข์ ้อมลู
4. ตัวแทนแตล่ ะกลุ่ม นาเสนอวธิ กี ารเลือกใช้สถติ ิพน้ื ฐานในการวิเคราะห์ขอ้ มูลหน้าชน้ั เรียน
5. ครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องของการเลือกใช้สถิติพืน้ ฐานในการวเิ คราะหข์ ้อมูลของแต่
ละกล่มุ
6. นกั เรยี นนาผลการวเิ คราะห์และวิพากษ์ข้อมลู ไปปรบั ปรุงข้อมูลของกลมุ่
7. นักเรียนรวบรวมผลการวิเคราะหข์ ้อมูลโดยจดั ทาเป็นแฟม้ สะสมผลงาน เพ่ือนาไปสังเคราะหส์ รุปเปน็
องค์ความรู้
10. สื่อ นวัตกรรมและแหลง่ เรยี นรู้
1. ใบความรู้ เรอ่ื ง สถติ ิพน้ื ฐาน
2. Internet Website หนงั สือ หนงั สอื พิมพ์ บุคคล ฯลฯ
11. กำรวดั และประเมินผล
1) วิธีการวัดและประเมินผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการสนใจ การมีสว่ นร่วม การแสดงความคิดเหน็
2. นาเสนอผลงาน
3. ประเมินแฟ้มสะสมงาน
2) เคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล/กลมุ่
2. แบบประเมนิ ผลงาน/การนาเสนอ
3) เกณฑ์การวดั และประเมินผล
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ
21 - 30 4 หมายถึง ดีมาก
16 - 20 3 หมายถงึ ดี
11 - 15 2 หมายถงึ พอใช้
ตา่ กว่า 10 1 หมายถึง ปรับปรุง
1. นักเรียนไดค้ ะแนนการประเมินพฤติกรรมในระดับ ดี (3) ถอื วา่ ผ่าน
2. นักเรยี นไดค้ ะแนนในการประเมินผลงาน/การนาเสนอในระดับ ดี (2) ถือว่า ผา่ น
บนั ทกึ หลงั สอน
ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะหรอื แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคิดเหน็ ผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำหรอื ผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
รำยวิชำ กำรศึกษำคน้ ควำ้ ดว้ ยตนเอง 1 IS1 ภำคเรยี นท่ี 1 ชั้นมธั ยมศึกษำปีที่ 1
หน่วยกำรเรียนร้ทู ี่ 4 เร่ืองกำรจดั หมวดหมแู่ ละสรปุ ขอ้ คน้ พบ เวลำ 9 ชั่วโมง คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ 8 เรือ่ ง กำรสรปุ ข้อคน้ พบ เวลำ 5 ชว่ั โมง
....................................................................................................................................................................................
1. ผลกำรเรียนรู้
1) สังเคราะห์ สรุปองค์ความรู้ด้วยกระบวนการกล่มุ
2) เสนอแนวคิด การแก้ปัญหาอยา่ งเป็นระบบดว้ ยองค์ความรู้ ท่ีเกดิ จากการคนั พบ
2. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด
การสรุปองค์ความรู้จากเร่อื งที่สนใจด้วยการสังเคราะห์ และสรปุ ความรู้ดว้ ยกระบวนการกล่มุ
3. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
ด้ำนควำมรู้
นักเรยี นสามารถนาความรทู้ ี่สนใจมาร่วมอภปิ รายในกล่มุ ได้
ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร
นักเรยี นสามารถสังเคราะห์ความรไู้ ด้ถูกต้องและเหมาะสม
ด้ำนคณุ ลกั ษณะ
นกั เรยี นเห็นคุณค่าของการทางานในกระบวนการกลุ่ม
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) คิดสงั เคราะห์
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1) มีวนิ ยั
2) ใฝเ่ รียนรู้
3) มงุ่ ม่นั ในการทางาน
6. สำระกำรเรยี นรู้ /เนอื้ หำ
1) สรุปองค์ความรจู้ ากเร่อื งทส่ี นใจ
2) ทฤษฎีการเรยี นรู้
3) เปรยี บเทียบ / เช่อื มโยงองค์ความรู้
4) สังเคราะห์ / สรุปองค์ความรู้
7. สำระกำรเรยี นรู้ท้องถน่ิ /เศรษฐกจิ พอเพียง/ภูมิปญั ญำชำวบ้ำน
ขนึ้ อยูก่ ับความรูท้ นี่ ักเรยี นเลอื ก
8. ทักษะกระบวนกำรคิด
กระบวนการคดิ สงั เคราะห์
9. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ขั้นนำ
1) ครสู นทนากบั นกั เรียนในเร่ืองความรู้ที่นกั เรียนสนใจเลือกประเดน็ ปญั หาท่ีคน้ คว้า
2) แจ้งจดุ ประสงคท์ ่ีเรียนในช่วั โมงนี้
ข้นั สอน
3) ให้นกั เรยี นในกลุ่มรว่ มกันอภิปรายความรทู้ นี่ ักเรียนเลอื กคน้ ควา้ จากประเด็นปญั หา
4) ให้นักเรียนร่วมกันสังเคราะห์ความรู้ที่แต่ละคนในกลุ่มท่ีค้นคว้ามาสรุปเป็นองค์ความรู้ โดยครูตั้ง
คาถามว่าแตล่ ะกลมุ่ มวี ิธีการสงั เคราะห์อย่างไร
ขนั้ สรุป
5) ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรุปองค์ความรทู้ ่ไี ด้จากการคน้ ควา้
10. ส่อื นวตั กรรม และแหล่งเรียนรู้
- สื่อออนไลน์
- หนงั สอื พมิ พ์ นติ ยสารต่าง ๆ
- สอ่ื โทรทัศน์
11. กำรวัดและประเมนิ ผล
1. วิธกี ารวัดและประเมินผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ความสนใจ การรว่ มอภิปรายในกล่มุ
2. สรปุ องค์ความรทู้ ี่ได้จากการสงั เคราะหป์ ระเด็นปญั หาที่สนใจคน้ ควา้
2. เครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้
2. แบบประเมนิ ช้ินงานสรปุ องค์ความรทู้ ี่ได้จากการสงั เคราะห์ประเด็นปญั หาทีส่ นใจคน้ คว้า
3. เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภำพ
21 - 30 4 หมายถึง ดีมาก
16 - 20 3 หมายถึง ดี
11 - 15 2 หมายถึง พอใช้
ตา่ กวา่ 10 1 หมายถึง ปรับปรงุ
1. นกั เรยี นได้คะแนนการประเมนิ พฤติกรรมในระดบั ดี (3) ถอื ว่า ผ่าน
2. นกั เรยี นไดค้ ะแนนในการประเมินผลงาน/การนาเสนอในระดบั ดี (2) ถือวา่ ผา่ น
การผา่ นเกณฑ์ ไดร้ ะดบั คุณภาพตัง้ แตร่ ะดับดีข้ึนไป
บันทกึ หลงั สอน
ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะหรือ แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคดิ เหน็ ผูอ้ ำนวยกำรสถำนศึกษำหรือ ผทู้ ี่ได้รับมอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้
รำยวชิ ำ กำรศึกษำคน้ คว้ำด้วยตนเอง 1 IS1 ภำคเรียนที่ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 1
หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอื่ งเรยี นรู้กำรจัดกำรปัญหำเพือ่ พัฒนำกำรนำเสนอ คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 9 เรอ่ื ง กำรแก้ไขปญั หำ เวลำ 5 ชว่ั โมง
1. ผลกำรเรยี นรู้
เสนอแนวคิด การแก้ปญั หาอยา่ งเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการคน้ พบ
2. สำระสำคัญ /ควำมคิดรวบยอด
การนาเสนอแนวคิดในการแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบดว้ ยองค์ความรจู้ ากการค้นพบ
3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
ด้ำนควำมรู้
นักเรียนสร้างองคค์ วามร้จู ากปัญหาทสี่ นใจ
ด้ำนทักษะกระบวนกำร
นกั เรยี นสามารถนาเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ
ด้ำนคุณลักษณะ
นกั เรียนเหน็ คณุ ค่าของการทางานในกระบวนการกลุ่ม
4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) คิดสงั เคราะห์
5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1) มีวนิ ัย
2). ใฝเ่ รียนรู้
3) มุง่ มน่ั ในการทางาน
6. สำระกำรเรียนรู้ /เนือ้ หำ
1) นาเสนอแนวคิดในการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบจากองคค์ วามรู้จากการคน้ พบ
2) การนาเสนอแนวคดิ การแกป้ ญั หาอย่างเป็นระบบ จากองค์ความร้ทู ีค่ น้ พบ
3) ประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง
7. สำระกำรเรยี นร้ทู ้องถนิ่ /เศรษฐกิจพอเพยี ง/ภมู ปิ ญั ญำชำวบำ้ น
ขน้ึ อย่กู ับความรทู้ ี่นักเรียนเลือก
8. ทกั ษะกระบวนกำรคดิ
กระบวนการคิดสังเคราะห์
9. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
ขน้ั นำ
1) ครูตั้งคาถามเกี่ยวกับวิธีการท่ีนักเรียนแต่ละกลุ่มได้องค์ความรู้จากปัญหาต่างๆ ที่แต่ละกลุ่มเลือก
2) แจง้ จุดประสงค์ทเี่ รียนในชวั่ โมงนี้
ข้ันสอน
3) ให้นักเรียนในกลุ่มนาเสนอความรู้ท่ีนักเรียนเลือกค้นคว้าจากประเด็นปัญหามาสนทนากันเพ่ือหา
แนวทางในการแก้ปญั หา
4) ใหน้ ักเรียนร่วมกันสังเคราะห์วธิ ีการแก้ปัญหาต่างๆ เป็นขั้นตอนหรืออย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้
ที่นักเรยี นช่วยกนั ค้นคว้า
ข้นั สรุป
5) ครูสนทนาซกั ถามกบั นักเรียนแต่ละกล่มุ เก่ียวกบั วธิ ีการแก้ปัญหา
6) ใหน้ กั เรียนรว่ มกันสรุปและเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาของแต่ละกลมุ่
10. สอ่ื นวตั กรรม และแหล่งเรยี นรู้
- สือ่ ออนไลน์
- หนงั สอื พมิ พ์ นิตยสารต่าง ๆ
- ส่ือโทรทัศน์
11. กำรวดั และประเมนิ ผล
1. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล
1) สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ความสนใจ การร่วมอภปิ รายในกลมุ่
2) ตรวจการสรปุ แนวคดิ ในการแก้ปัญหาด้วยองค์ความรูท้ ี่ค้นพบ
2. เคร่อื งมือวดั และประเมินผล
1). แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้
2) แบบประเมินชิ้นงานสรปุ แนวคิดในการแก้ปญั หาดว้ ยองค์ความรู้ที่ค้นพบ
3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภำพ
21 - 30 4 หมายถึง ดมี าก
16 - 20 3 หมายถงึ ดี
11 - 15 2 หมายถึง พอใช้
ต่ากวา่ 10 1 หมายถงึ ปรับปรงุ
การผ่านเกณฑ์ ได้ระดบั คณุ ภาพต้ังแต่ระดับดีข้นึ ไป
บันทึกหลงั สอน
ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะหรือ แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ...................................... ผู้สอน
(.............................................................)
ควำมคิดเหน็ ผูอ้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำหรือ ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมำย
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ......................................................
(.............................................................)
…………./…………………/……………
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
รำยวิชำ กำรศึกษำค้นควำ้ ดว้ ยตนเอง 1 IS1 ภำคเรียนท่ี 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1
หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ 5 เรอ่ื งเรียนรู้กำรจดั กำรปญั หำเพ่อื พัฒนำกำรนำเสนอ คะแนน 20 คะแนน
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 10 เรอ่ื ง กำรนำเสนอและกำรแก้ปัญหำ เวลำ 5 ช่วั โมง
1. ผลกำรเรียนรู้
เห็นประโยชน์และคณุ คา่ ของการศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง
2. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด
การเหน็ ความสาคัญ ประโยชน์และเห็นคุณคา่ ของการศึกษาค้นคว้า
3. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
ด้ำนควำมรู้
นักเรยี นรู้จกั การศึกษาค้นควา้ จากแหล่งเรียนรแู้ ละสื่อต่างๆ
ดำ้ นทักษะกระบวนกำร
นกั เรยี นสรปุ ประโยชน์และคุณคา่ ของการศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเองได้
ด้ำนคุณลกั ษณะ
นักเรยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบ
4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสือ่ สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) คดิ สงั เคราะห์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1). มีวนิ ัย
2) ใฝเ่ รยี นรู้
3) มุ่งม่นั ในการทางาน
6. สำระกำรเรยี นรู้ /เนอ้ื หำ
ประโยชน์และคณุ ค่าของการศึกษาคน้ คว้าด้วยตนเอง
7. สำระกำรเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน/เศรษฐกจิ พอเพียง/ภูมิปัญญำชำวบำ้ น
ไมม่ ี
8. ทกั ษะกระบวนกำรคดิ
กระบวนการคิดสังเคราะห์
9. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
ขน้ั นำ
1) ครทู บทวน สนทนาซักถามนกั เรียนเก่ียวกับวธิ ีการได้มาของความรู้ การสรุปองค์ความรู้ การแกป้ ัญหา
2) แจง้ จุดประสงค์ทีเ่ รยี นในชั่วโมงนี้
ขนั้ สอน
3) ครูตัง้ คาถามว่า "การศึกษาค้นคว้าดว้ ยตนเองมปี ระโยชนแ์ ละมีคุณค่าอย่างไร"ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตอบ
4) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทาแผนผังความคิด (Mind Map) เก่ียวกับประโยชน์และมีคุณค่าของ
การศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง
ขั้นสรปุ
5) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงาน สรุปองค์ความรู้ แนวทางแก้ปัญหา และประโยชน์และคุณค่า
ของการศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง
6) ครู นกั เรียนร่วมกันสรปุ ประโยชน์และคุณคา่ ของการศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง
10. ส่อื นวตั กรรม และแหล่งเรยี นรู้
- สือ่ ออนไลน์
- หนังสอื พมิ พ์ นิตยสารต่าง ๆ
- ส่อื โทรทศั น์
- หอ้ งสมุด
11. กำรวดั และประเมินผล
1) วธิ ีการวดั และประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ความสนใจ การร่วมอภิปรายในกลมุ่
2. รายการการนาเสนอแนวคิดการแกป้ ัญหา
3. ตรวจแผนผงั ความคิด
2) เคร่ืองมือวดั และประเมินผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้
2. แบบประเมินชิน้ งาน
3) เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภำพ
21 - 30 4 หมายถงึ ดมี าก
16 - 20 3 หมายถึง ดี
11 - 15 2 หมายถงึ พอใช้
ต่ากว่า 10 1 หมายถึง ปรับปรุง
การผ่านเกณฑ์ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพต้งั แต่ระดับดีขึ้นไป
บันทกึ หลงั สอน
ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะหรอื แนวทางแกไ้ ข