The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรับปรุง 2560) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by การงานครูอ๋า, 2022-04-04 01:08:31

หลักสูตรสถานศึกษา ม.ต้น

หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรับปรุง 2560) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

46

ว 2.3 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8
ม.3/9 ม.3/10 ม.3/11 ม.3/12 ม.3/13 ม.3/14 ม.3/15 ม.3/16
ม.3/17 ม.3/18 ม.3/19 ม.3/20 ม.3/21 ว 3.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4
รวม 33 ตัวช้ีวัด

47

คาอธิบายรายวชิ า

รหัสวิชา 23103 รายวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
จานวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 20 ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ 1

ศึกษา วิเคราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยที่สํงผลตํอการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพันธ์ของ
เทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ เพ่ือเป็นแนวทางการแก๎ปัญหาหรือพัฒนา
งาน ระบุปญั หาหรอื ความต๎องการของชุมชนหรือท๎องถ่ินเพ่ือพัฒนางาน อาชีพ สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม
การวิเคราะห์ข๎อมูลและแนวคิดท่ีเกี่ยวข๎องกับปัญหา โดยคานึงถึงความถูกต๎องด๎านทรัพย์สินทางปัญญา
ออกแบบวิธีการแก๎ปัญหา ภายใต๎เงื่อนไขและทรัพยากรท่ีมีอยูํ นาเสนอแนวทางการแก๎ปัญหาให๎ผู๎อื่นเข๎าใจ
วางแผนดาเนินการแก๎ปัญหา ด๎วยการทดสอบ ประเมินผล ระบุข๎อบกพรํองท่ีเกิดขึ้น พร๎อมท้ังหาแนวทางการ
ปรบั ปรงุ แก๎ไข และนาเสนอผลการแก๎ปัญหา เลือกใช๎วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟูา หรืออิเล็กทรอนิกส์
เพ่อื แก๎ปญั หาได๎อยํางถูกต๎อง เหมาะสมและปลอดภัย

โดยอาศัยกระบวนการเรียนร๎ูโดยใช๎ปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning) และการเรียนร๎ู
แบบใช๎โครงงานเป็นฐาน (Project – based Learning) เน๎นให๎ผู๎เรียนได๎ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญ
สถานการณก์ ารแกป๎ ญั หาวางแผนการเรยี นรู๎ และนาเสนอผํานการทากิจกรรมโครงงาน

เพ่ือให๎ผ๎ูเรียนมีความรู๎ ความเข๎าใจ ความสัมพันธ์ของความร๎ูวิทยาศาสตร์ท่ีมีผลตํอการพัฒนา
เทคโนโลยีประเภทตําง ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยีท่ีสํงผลให๎มีการคิดค๎นความร๎ูทางวิทยาศาสตร์ที่ก๎าวหน๎า
ผลของเทคโนโลยีตํอชีวิต สังคม และส่ิงแวดล๎อม ตลอดจนนาความร๎ูความเข๎าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และ
เทคโนโลยีไปใช๎ให๎เกิดประโยชน์ตํอสังคม และการดารงชีวิต โดยต๎องคานึงถึงความ ถูกต๎องด๎านทรัพย์สินทาง
ปัญญา จนสามารถพัฒนากระบวนการคดิ และจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก๎ปัญหาและการจัดการทักษะ
ในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ เป็นผ๎ูที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม คํานิยมในการใช๎
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยํางสรา๎ งสรรค์
รหสั ตวั ช้ีวดั

ว 4.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5
รวม 5 ตวั ชี้วัด

48

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวิชา ว23104 รายวิชา วิทยาการคานวณ กลุ่มสาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3
จานวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 2

พัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับวิชาอื่นอยํางสร๎างสรรค์ รวบรวมข๎อมูล ประมวลผล
ประเมินผล นาเสนอข๎อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช๎ซอฟแวร์หรือบริการทางอินเตอร์เน็ต
วิเคราะหส์ ือ่ และใช๎เทคโนโลยีสารสนเทศอยาํ งปลอดภัย

โดยใช๎กระบวนการเรียนรู๎โดยใช๎ปัญหาเป็นฐาน เพ่ือเน๎นให๎ผ๎ูเรียนได๎ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด
เผชิญสถานการณ์ การแก๎ปัญหาวางแผนการเรียนร๎ู ตรวจสอบการเรียนรู๎และนาเสนอผํานการทากิจกรรม
โครงงาน

เพ่ือให๎เกิดการเห็นคุณคําของการนาความร๎ูไปใช๎ประโยชน์ในชีวิตประจาวันมีจิตวิทยาศาสตร์
จริยธรรมคุณธรรม มีความรับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ใช๎ลิขสิทธิ์ของผ๎ูอื่นโดยชอบ
ธรรมและคาํ นิยมในการใชว๎ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ยํางสรา๎ งสรรค์

รหัสตัวชี้วัด
ว4.2 ม.3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4

รวมท้ังหมด 4 ตวั ชีว้ ดั

49

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
กลุม่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

50

คาอธิบายรายวชิ า

ว 21281 เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร 1 กลุม่ สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1 หน่วยกติ

.......................................................................................................................................

ศึกษาหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ประกอบด๎วย หนํวยสาคัญ 5 หนํวยได๎แกํ หนํวยรับเข๎า

หนํวยประมวลผลกลาง หนํวยความจาหลกั หนํวยความจารอง และหนํวยสํงออก บทบาทของคอมพิวเตอร์ซึ่งมี

บทบาทในการชํวยอานวย ความสะดวกในการดาเนินกิจกรรมตํางๆ และตอบสนองความต๎องการเฉพาะบุคคล

และสังคมมากข้ึน ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ โดยใช๎เป็นเครื่องมือในการทางาน อภิปราย ลักษณะสาคัญของ

เทคโนโลยีสารสนเทศซ่ึง ชํวยให๎การทางานรวดเร็ว ถูกต๎องและแมํนยา ชํวยให๎การบริการกว๎างขวางข้ึน ชํวย

ดาเนินการในหนํวยงานตํางๆ ชํวยอานวยความสะดวกในชีวิตประจาวัน และผลกระทบของเทคโนโลยี

สารสนเทศ ในดา๎ นตาํ งๆ เชนํ คณุ ภาพชีวติ สังคม การเรียนการสอน

เพ่ือให๎มีความรู๎ความเข๎าใจเบื้องต๎นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ บทบาทและ

ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ตํอระบบสารสนเทศ สามารถใช๎คอมพิวเตอร์ประยุกต์ใช๎งานในด๎านตํางๆ ได๎

และมีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใช๎คอมพิวเตอร์

ผลการเรยี นรู้

1. บอกหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ได๎อยาํ งถูกตอ๎ ง

2. อธิบายบทบาทของคอมพิวเตอร์ในการชวํ ยอานวยความสะดวกในการดาเนินกจิ กรรมตํางๆ

3. อธบิ ายประโยชนข์ องคอมพิวเตอรแ์ ละใช๎เปน็ เครื่องมือในการทางานไดอ๎ ยาํ งถูกต๎องเหมาะสม

4. อภปิ ราย ลกั ษณะสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศซ่ึงชํวยให๎การทางานรวดเรว็ ถูกต๎อง

5. เขา๎ ใจความหมายของข๎อมลู และสารสนเทศรูว๎ ิธีการประมวลผลขอ๎ มลู และสามารถจัดการ

สารสนเทศได๎อยํางถูกต๎อง

6. มคี วามรูค๎ วามเข๎าใจเบื้องตน๎ เก่ยี วกับคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ

7. อธิบายบทบาทและความสาคัญของคอมพิวเตอรต์ ํอระบบสารสนเทศได๎อยาํ งถกู ต๎อง

8. สามารถใช๎คอมพิวเตอร์ประยุกตใ์ ช๎งานในดา๎ นตาํ งๆอยาํ งมีคณุ ธรรมจริยธรรม

รวมท้ังสิน้ 8 ผลการเรียนรู้

51

คาอธบิ ายรายวิชา

ว 22281 เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 2 กล่มุ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1 หนว่ ยกิต

......................................................................................................................................

ศึกษา มีความรู๎ ความเข๎าใจ กระบวนการเทคโนโลยีเก่ียวกับการออกแบบและสร๎างสิ่งของเครื่องใช๎

ตามกระบวนการเทคโนโลยี มีความคิดสร๎างสรรค์ทั้ง 4 ลักษณะในการแก๎ปัญหาหรือสนองความต๎องการ ใน

งานที่ผลิตเองการเลือกใช๎เทคโนโลยีในชีวิตอยํางสร๎างสรรค์ตํอชีวิต สังคม และสิ่งแวดล๎อม การจัดการ

เทคโนโลยีด๎วยการลดการใช๎ทรัพยากรหรือเลือกใช๎เทคโนโลยีท่ีไมํมีผลกระทบตํอสิ่งแวดล๎อม ออกแบบโดย

ถํายทอดความคิดเป็นภาพรํางสิ่งของเครื่องใช๎ หรือถํายทอดความคิดของวิธีการเป็นแบบจาลองความคิดและ

การรายงานผลเพ่ือนาเสนอวธิ ีการ

เพอื่ ให๎เกดิ ทักษะกระบวนการทางานได๎อยาํ งเหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ เกิดความสมารถในการ

คิด ความสมารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสามารถในการใช๎ทักษะชีวิต และ

ความสามารถในการใช๎เทคโนโลยไี ด๎อยํางมปี ระสทิ ธภิ าพ

เพ่อื ให๎ผเ๎ู รียนมคี ุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึกในการใช๎พลังงาน ทรัพยากร และ

สิ่งแวดล๎อม เพ่อื การดารงชวี ติ และครอบครัว

ผลการเรยี นรู้

1. ศกึ ษากระบวนการเทคโนโลยีเก่ียวกบั การออกแบบและสร๎างส่งิ ของเครื่องใชห๎ รือวธิ ีการตาม

กระบวนการเทคโนโลยีไดอ๎ ยํางถูกต๎อง

2. สร๎างส่ิงของเคร่ืองใชห๎ รอื วธิ กี ารตามกระบวนการเทคโนโลยมี ีความคิดสร๎างสรรคท์ ัง้ 4 ลักษณะ

ไดอ๎ ยํางถูกตอ๎ ง

3. แก๎ปัญหาหรือสนองความต๎องการในงานทผี่ ลิตได๎อยํางถูกต๎องเหมาะสม

4. เลือกใช๎เทคโนโลยใี นชวี ิตอยาํ งสร๎างสรรค์ตอํ ชวี ติ สงั คม และสง่ิ แวดล๎อม

5. จัดการเทคโนโลยดี ว๎ ยการลดการใช๎ทรัพยากรหรือเลือกใชเ๎ ทคโนโลยีท่ไี มมํ ผี ลกระทบตํอ

ส่งิ แวดลอ๎ ม

6. สรา๎ งสง่ิ ของเครอ่ื งใช๎หรือวิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยอี อกแบบโดยถาํ ยทอดความคดิ เปน็

ภาพรํางสง่ิ ของเครื่องใช๎

7. มีความรคู๎ วามเขา๎ ใจ ทักษะกระบวนการทางานได๎อยาํ งมีประสิทธภิ าพประสิทธผิ ล มคี ุณธรรม

และเหมาะสม

8. ความสมารถในการคิด การสื่อสาร การแก๎ปัญหา การใชท๎ ักษะชวี ติ และความสามารถในการใช๎

เทคโนโลยไี ดอ๎ ยาํ งมปี ระสิทธภิ าพ

รวมทั้งส้ิน 8 ผลการเรียนรู้

52

คาอธิบายรายวิชา

ว 23281 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร 3 กลุม่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1 หน่วยกิต

......................................................................................................................................

ศึกษา หลักการทาโครงงาน การพัฒนาโครงงาน โดยการใช๎เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช๎วิธีการเขียน

โปรแกรมภาษาข้ันพ้ืนฐาน ออกแบบโดยถํายทอดความคิดเป็นภาพฉาย เพ่ือนาไปสํูการสร๎างต๎นแบบและ

แบบจาลองของสิ่งของเคร่ืองใช๎ หรือถํายทอดความคิดของวิธีการเป็นแบบจาลองความคิดและการรายงานผล

วิธีการใช๎เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองานในรูปแบบท่ีเหมาะสมกับลักษณะงาน วิธีการใช๎คอมพิวเตอร์ชํวย

สร๎างงานตามหลักการทาโครงงาน

สร๎างส่ิงของเครื่องใช๎หรือวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยี อยํางปลอดภัย เลือกใช๎ซอฟต์แวร์ท่ี

เหมาะสมกับลักษะของงาน นาเสนองานได๎ถูกต๎องปฏิบัติงานโดยใช๎คอมพิวเตอร์ชํวยสร๎างช้ินงานตามหลักการทา

โครงงานอยํางถูกวธิ ี

เพ่ือให๎เกิดความร๎ูความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางานได๎อยํางมีประสิทธิภาพประสิทธิผล มี

คุณธรรม และเหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ เกิดความสมารถในการคิด ความสมารถในการส่ือสาร

ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสามารถในการใช๎ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช๎เทคโนโลยีได๎

อยํางมีประสทิ ธภิ าพและใช๎ทรัพยากรอยํางค๎ุมคํา

ผลการเรยี นรู้

1. อธิบายหลกั การทาโครงงานพัฒนาโครงงานโดยการใช๎เทคโนโลยีสารสนเทศได๎

2. เขยี นโปรแกรมภาษาขั้นพน้ื ฐานได๎

3. ใช๎เทคโนโลยสี ารสนเทศนาเสนองานในรูปแบบทเ่ี หมาะสมกับลกั ษณะงานได๎

4. ใช๎คอมพิวเตอร์ชวํ ยสรา๎ งงานตามหลักการทาโครงงานและใชท๎ รพั ยากรอยํางค๎ุมคํา

5. สร๎างสิง่ ของเครื่องใช๎หรือวิธกี าร ตามกระบวนการเทคโนโลยีอยาํ งปลอดภัย

6. ถํายทอดความคิดเป็นภาพฉาย เพื่อนาไปสกํู ารสร๎างต๎นแบบและแบบจาลองของส่ิงของเครื่องใชไ๎ ด๎

7. เลือกใช๎ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับลกั ษะของงาน นาเสนองานได๎ถูกต๎อง

8. ปฏิบัตงิ านโดยใช๎คอมพิวเตอร์ชํวยสรา๎ งชนิ้ งานตามหลักการทาโครงงานอยาํ งถูกวิธี

9. มคี วามรคู๎ วามเขา๎ ใจ ทักษะกระบวนการทางานได๎อยํางมปี ระสทิ ธิภาพ และมีคุณธรรม

10. มคี วามสมารถในการคดิ การสอ่ื สาร การแกป๎ ัญหา การใช๎ทกั ษะชีวิต และการใช๎เทคโนโลยไี ด๎

อยาํ งมปี ระสทิ ธิภาพ

รวมทั้งสน้ิ 10 ผลการเรยี นรู้

53

คาอธิบายรายวชิ า
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

54

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส21101 สงั คมศึกษา ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต

ศึกษา ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน๎าท่ีพลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิตในสังคมเก่ียวกับ
พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือ ความสาคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือ พุทธประวัติ
ต้ังแตํประสูตจิ นถึงบาเพ็ญทุกรกิริยาหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือ ประพฤติตนตามแบบอยํางการดาเนินชีวิต
และข๎อคิดจากประวัติพระสาวก พุทธคุณและข๎อธรรมสาคัญในกรอบอริยสัจ4 ด๎วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ
คือวิธีคิดแบบคุณคําแท๎-คุณคําเทียมและวิธีคิดแบบคุณ-โทษและทางออกหรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของ
ศาสนาที่ตนนับถือสวดมนต์ แผํเมตตา บริหารจิตและเจริญปัญญาด๎วยอานาปานสติ หรือตามแนวทางของ
ศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัติตนตํอศาสนิกชนอ่ืนในสถานการณ์ตํางๆได๎อยํางเหมาะสม เข๎าใจ ปฏิบัติตนอยําง
เหมาะสมตํอบุคคลตํางๆตามหลักศาสนาจัดพิธีกรรมและปฏิบัติตนในศาสนพิธีได๎ถูกต๎อง และ การปฏิบัติตาม
กฎหมายในการคุ๎มครองสิทธิบุคคล ความสามารถของตนเองในการทาประโยชน์ตํอสังคมและประเทศชาติ
คณุ คาํ ทางวัฒนธรรมท่ีเป็นปัจจัยในการสร๎างความสัมพันธ์ที่ดีหรืออาจนาไปสูํความเข๎าใจผิดตํอกัน แสดงออก
ถึงการเคารพสทิ ธเิ สรีภาพของตนเองและผู๎อ่ืน เข๎าใจหลักการ โครงสร๎างและสาระสาคัญของรัฐธรรมนูญแหํง
ราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน การถํวงดุลอานาจอธิปไตยในรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน
ปฏิบัติตนตามบทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบันที่เก่ียวข๎องกับตนเอง ความหมาย
และความสาคญั ของเศรษฐศาสตร์ คํานิยมและพฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคมซ่ึงสํงผลตํอเศรษฐกิจของ
ชุมชนและประเทศ ความเปน็ มา หลักการและความสาคญั ของปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งตํอสังคมไทย

โดยใชท๎ กั ษะกระบวนการทางสงั คมศาสตร์ เพ่ือฝึกทักษะอธิบาย วิเคราะห์ ตระหนัก อภิปราย ปฏิบัติ
ตน วิธคี ิดแบบโยนิโสมนสิการ การแก๎ปญั หา ระบุ และแสดงออก

เพ่อื ให๎เกดิ ความร๎ู ความเข๎าใจ ทกั ษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ได๎อยํางเหมาะสม ตระหนัก ธารง
รักษา มีคํานิยมทด่ี ีงาม ยึดม่ัน ศรัทธา และเห็นคุณคาํ เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสามารถในการใชท๎ ักษะชีวติ ได๎อยํางมีประสทิ ธภิ าพ
ตัวช้ีวัด

มาตรฐาน ส1.1 ม.11/ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8ม.1/9 ม.1/10 ม.1/11
มาตรฐาน ส1.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5
มาตรฐาน ส 2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4
มาตรฐาน ส 2.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3
รวม 24 ตัวชี้วัด

คาอธิบายรายวิชา 55

ส21103 ประวัติศาสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1
0.5 หนว่ ยกติ
กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 20 ช่ัวโมง

ศกึ ษา ประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับ ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ที่มาของศักราช
ที่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย ได๎แกํ จ.ศ. / ม.ศ. /ร.ศ./ พ.ศ. / ค.ศ. และ ฮ.ศ. วิธีการเทียบศักรา
ตาํ งๆ ความหมายและความสาคัญของประวัติศาสตร์ และวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีความ สัมพันธ์เช่ือมโยง
กัน พัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศตํางๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎
ความสาคญั ของแหลํงอารยธรรมในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต๎

โดยใช๎ทักษะกระบวนการวิเคราะห์ เทียบศักราช ใช๎วิธีการทางประวัติศาสตร์ อภิปราย ระบุเพ่ือให๎
เกิดความร๎ูความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ได๎อยํางเหมาะสม รัก ภาคภูมิใจ และธารงความ
เป็นไทย เกิดความสามารถในการคิด ความสามรถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช๎ทักษะชีวิตได๎อยํางมี
ประสทิ ธิภาพ

เพ่อื ให๎เกิดการตระหนัก ธารงรักษา มคี ํานยิ มที่ดีงาม ยึดมัน่ ศรทั ธา และเหน็ คุณคํา เกิดความสามารถ
ในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแกป๎ ญั หา ความสามารถในการใชท๎ ักษะชีวติ ได๎
อยํางมปี ระสทิ ธภิ าพ
รหัสตวั ชี้วัด

ส4.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3
ส4.2 ม.1/1 ม.1/2
รวมทั้งหมด 5 ตวั ชี้วดั

56

คาอธิบายรายวชิ า

ส21102 สงั คมศกึ ษา ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2

กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม จานวน 60 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษา ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน๎าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิตในสังคม
เศรษฐศาสตรแ์ ละภูมศิ าสตร์ เก่ยี วกบั ความหมายและความสาคัญของเศรษฐศาสตร์ความเป็นมาหลักการและ
ความสาคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตํอสังคมไทยระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลตํอการกาหนดอุปสงค์และ
อุปทาน วิเคราะห์คํานิยมและพฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคมซึ่งสํงผลตํอเศรษฐกิจของชุมชนและ
ประเทศ บทบาทหน๎าท่ีและความแตกตํางของสถาบันการเงินแตํละประเภทและธนาคารกลางลักษณะทาง
กายภาพและสังคมของประเทศไทย การแขํงขันกันทางเศรษฐกิจในประเทศ เลือกใช๎เครื่องมือทางภูมิศาสตร์
ในการสืบค๎นข๎อมูล เปรียบเทียบวัน เวลาของประเทศไทยกับทวีปตํางๆ ลักษณะทางกายภาพและสังคมของ
ประเทศไทยและทวีปเอเชียออสเตรเลียและโอเชียเนียเชื่อมโยงสาเหตุและแนวทางปูองกันภัยธรรมชาติและ
การระวังภยั ทีเ่ กิดขึ้นในประเทศไทยและทวีปเอเชียออสเตรเลียและโอเชียเนีย ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลง
ทางธรรมชาติของทวีปเอเชียออสเตรเลียและโอเชียเนีย ความรํวมมือของประเทศตํางๆที่มีผลตํอส่ิงแวดล๎อม
ทางธรรมชาติของทวีปเอเชียออสเตรเลียและโอเชียเนียสารวจ อธิบายทาเลที่ต้ังกิจกรรมทางเศรษฐกิจและ
สงั คมในทวปี เอเชยี ออสเตรเลียและโอเชียเนีย โดยใช๎แหลํงข๎อมูลท่ีหลากหลายปัจจัยทางกายภาพและสังคมท่ี
มีผลตํอการเล่ือนไหลของความคิด เทคโนโลยี สนิ ค๎า และประชากรในทวีปเอเชยี ออสเตรเลียและโอเชียเนีย

โดยใช๎ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ และ ทักษะกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพ่ือฝึกทักษะ
การอธิบาย เลือกบริโภค วิเคราะห์ ยกตัวอยําง ระบุ อภิปราย ใช๎ข๎อมูลสารสนเทศ มีสํวนรํวม ตั้งคาถามเชิง
ภูมิศาสตร์ รวบรวมขอ๎ มูล การสรุปเพ่ือตอบคาถามและการสบื คน๎ ข๎อมูลทางภูมิศาสตร์

เพ่ือให๎เกิดความรู๎ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ ได๎อยํางเหมาะสม เกิด
ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสามารถในการใช๎
ทกั ษะชวี ติ ได๎อยํางมปี ระสทิ ธิภาพ

รหสั ตัวช้ีวดั
ส3.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ส3.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4
ส5.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ส5.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4

รวมท้ังหมด 14 ตัวช้วี ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า 57

ส21104 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2
0.5 หนว่ ยกติ
กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 20 ช่วั โมง

ศกึ ษาเรอื่ งราวทางประวัติศาสตร์ เก่ียวกับ สมัยกํอนประวัติศาสตร์ในดินแดนไทย รัฐโบราณ
และรัฐไทยในดินแดนประเทศไทย การสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยและพัฒนาการด๎านการเมือง การปกครอง
เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทยและความสัมพันธ์ระหวํางประเทศของอาณาจักรสุโขทัย ตลอดจน
ปจั จัยที่นาไปสํูความเส่อื มของอาณาจกั ร

โดยใช๎ทักษะกระบวนการสบื คน๎ ขอ๎ มูล วเิ คราะห์พฒั นาการของอาณาจักรสุโขทัยในด๎านตํางๆ
อิทธิพลของวัฒนธรรม และภมู ปิ ัญญาไทยสมัยสโุ ขทัยและสังคมไทยในปัจจุบัน

เพื่อให๎เกิดความรู๎ ความเข๎าใจ ทักษะทางประวัติศาสตร์ เกิดความสามารถในการคิด
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสามารถในการใช๎ทักษะชีวิต ได๎อยํางมี
ประสทิ ธิภาพ

รหสั ตวั ช้ีวัด
ส4.3 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3

รวมท้ังหมด 3 ตัวชี้วัด

58

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส22101 สังคมศกึ ษา ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1

กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 60 ช่ัวโมง 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษา ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน๎าท่ีพลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิตในสังคม
เศรษฐศาสตร์และภูมิศาสตร์ เก่ียวกับ พุทธประวัติหรือประวัติศาสดาของศาสนาท่ีตนนับถือตามท่ีกาหนด
ความสาคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือในฐานะที่เป็นรากฐานของวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของ
ชาติการปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ การเผยแผํพระพุทธศาสนาเข๎าสํูประเทศเพ่ือนบ๎าน
ความสาคัญของพระพุทธศาสนาตํอสังคมไทยในฐานะเป็นรากฐานของวัฒนธรรม เอกลักษณ์และมรดกของ
ชาติ การพัฒนาชุมชนและการจัดระเบียบสังคม พุทธประวัติ พุทธสาวก พุทธสาวิกา ชาวพุทธตัวอยําง
ชาดก พระรัตนตรัย หลักธรรมคาสอน พระไตรปิฎก พุทธศาสนสุภาษิต การบริหารจิตและเจริญปัญญา
หน๎าที่ชาวพุทธ มารยาทชาวพุทธ ศาสนพิธีและวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา รวมท้ังศาสนาท่ีตนนับถือ
วเิ คราะหค์ วามแตกตํางของศาสนพิธี พธิ ีกรรมและแนวทางปฏิบัติของศาสนาพุทธกับศาสนาอ่ืน การปฏิบัติตน
ตามกฎหมายที่เก่ียวข๎องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชนและประเทศ การปฏิบัติตนตามสถานภาพบทบาท สิทธิ
เสรีภาพ หน๎าท่ีในฐานะพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย วิเคราะห์ความคล๎ายคลึงและความแตกตํางของ
วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมของประเทศในภูมิภาคเอเชีย เพื่อนาไปสูํความเข๎าใจอันดีระหวํางกัน
กระบวนการในการตรากฎหมาย ข๎อมูลขาํ วสารทางการเมืองการปกครองทีม่ ีผลกระทบตํอสังคมไทย

โดยใช๎กระบวนการทางสังคมศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพ่ือฝึกทักษะอธิบาย
วิเคราะห์ ประพฤตติ น นาไปพัฒนาแกไ๎ ขปญั หา และการเสนอแนวทาง

เพือ่ ให๎เกดิ ความรูค๎ วามเขา๎ ใจ ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ได๎อยํางเหมาะสม และเห็นคุณคํา
เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช๎ทักษะชีวิต ได๎อยํางมี
ประสิทธิภาพ
รหสั ตวั ช้ีวดั

ส1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8
ส1.1 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11 ส1.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5,
ส2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ส2.2 ม.2/1 ม.2/2
รวมท้ังหมด 22 ตวั ชีว้ ดั

59

คาอธิบายรายวชิ า

ส22103 ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1

กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม จานวน 20 ช่วั โมง 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับ วิธีการประเมินความนําเชื่อถือของหลักฐานทาง
ประวัติศาสตร์ในลักษณะตํางๆและตัวอยํางการประเมินความนําเช่ือถือของหลักฐานทางประวัติสาสตร์ไทยที่
อยใํู นทอ๎ งถ่ินของตนเองหรือหลักฐานสมัยอยุธยา ตัวอยํางการวิเคราะห์ข๎อมูลจากเอกสารตํางๆในสมัยอยุธยา
และธนบุรี ตัวอยํางการตีความข๎อมูลจากหลักฐานที่แสดงเหตุการณ์สาคัญในสมัยอยุธยาและธนบุรีและการ
แยกแยะระหวํางข๎อมูลกับความคิดเห็น รวมท้ังความจริงกับข๎อเท็จจริงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ความสาคญั ของการวิเคราะห์ข๎อมลู และการตีความทางประวัติศาสตรแ์ ละที่ตั้งสภาพทางภูมิศาสตร์ของภูมิภาค
ตํางๆในทวีปเอเชีย (ยกเว๎นเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎) ที่มีผลตํอการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจและการเมือง ที่ต้ัง
และความสาคัญของแหลํงอารยธรรมตะวันออกและแหลํงมรดกโลกในประเทศตํางๆในภูมิภาคเอเชียและ
อิทธิพลของอารยธรรมโบราณทม่ี ตี อํ ภูมิภาคเอเชียในปจั จบุ นั

โดยใชท๎ ักษะกระบวนการทางประวตั ิศาสตร์ ทกั ษะกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ เพ่ือฝึกทกั ษะ
วเิ คราะห์ ประเมินความนําเชื่อถือระบแุ ละตคี วามหลักฐาน

เพ่ือใหเ๎ กิดความรู๎ความเข๎าใจทักษะกระบวนการทางประวัติศาสตร์ ได๎อยาํ งเหมาะสม และเห็น
ความสาคญั เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการใชท๎ กั ษะชีวิต ได๎
อยาํ งมีประสทิ ธิภาพ

รหสั ตวั ชี้วดั
ส 4.1 ม 2/1 ม 2/2 ม 2/3
ส 4.2 ม 2/1 ม 2/2

รวม 5 ตวั ช้ีวัด

60

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส22102 สงั คมศึกษา ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2
1.0 หน่วยกิต
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 60 ชัว่ โมง

ศึกษา ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน๎าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดา เนินชีวิตในสังคม
เศรษฐศาสตร์และภมู ิศาสตร์ เกยี่ วกับ ปัจจัยการผลิตสินค๎าและบริการ และปัจจัยที่มีอิทธิพลตํอการผลิตสินค๎า
และบริการอภิปรายแนวทางการคุ๎มครองสิทธิของตนเองในฐานะผู๎บริโภคอภิปรายระบบเศรษฐกิจแบบตํางๆ
เสนอแนว ทาง การพั ฒนา การ ผลิตในท๎องถ่ิน ตามป รัชญ าของเศ ร ษฐกิจพอเพียง ระบุ แนว ทางการอนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ๎ มในทวปี ยโุ รป และแอฟริกาวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลตํอการลงทุนและการออม
การกระจายของทรัพยากรในโลกที่สํงผลตํอความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหวํางประเทศการแขํงขันทางการค๎า
ในประเทศและตํางประเทศสํงผลตํอ คุณภาพสินค๎า ปริมาณการผลิต และราคาสินค๎ายกตัวอยํางท่ีสะท๎อนให๎
เห็นการพึ่งพาอาศัยกัน และการแขํงขันกันทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย การกระจายของทรัพยากรในโลกที่
สํงผลตอํ ความสัมพันธท์ างเศรษฐกิจระหวํางประเทศ การแขํงขันการค๎าในประเทศและตํางประเทศท่ีสํงผลตํอ
คุณภาพสินค๎า ปริมาณการผลิตและราคาสินค๎า ฝึกปฏิบัติการใช๎เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวม
วิเคราะห์ และนาเสนอข๎อมูลเก่ียวกับลักษณะทางกายภาพและสังคมของทวีปยุโรปและแอฟริกา การกํอเกิด
สิ่งแวดล๎อมใหมํทางสังคม อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและทางสังคมของทวีปยุโรปและ
แอฟริกาสารวจ อภิปรายประเด็นปัญหาเก่ียวกับสิ่งแวดล๎อมท่ีเกิดข้ึนในทวีปยุโรปและแอฟริกา เหตุและ
ผลกระทบทีป่ ระเทศไทยได๎รบั จากการเปล่ียนแปลงของสง่ิ แวดล๎อมในทวปี ยุโรปและแอฟรกิ า

โดยใช๎ทักษะกระบวนการทางสงั คมศาสตร์ เพือ่ ฝึกทกั ษะวเิ คราะห์ อธิบาย เสนอแนวทาง อภิปราย ใช๎
เคร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตร์ สืบคน๎ ข๎อมลู สารวจและระบุ

เพ่ือให๎เกิดความรู๎ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ ได๎อยํางเหมาะสม เกิด
ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสามารถในการใช๎
ทักษะชวี ิต ไดอ๎ ยาํ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
รหัสตวั ช้ีวัด

ส3.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ส3.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
ส5.1 ม.2/1 ม.2/2 ส5.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
รวมท้ังหมด 14 ตัวช้วี ัด

61

คาอธิบายรายวชิ า

ส22104 ประวัติศาสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2
0.5 หน่วยกิต
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม จานวน 20 ชัว่ โมง

ศึกษาเรือ่ งราวทางประวตั ศิ าสตร์ เก่ียวกับ การใชว๎ ิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ในการศึกษาข๎อมูล
ทางประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาและธนบุรี และอิทธิพลของภูมิปัญญาดังกลําวตํอ
การพฒั นาชาติไทยในยุคตํอมาวิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา และธนบุรีในด๎านตํางๆปัจจัยท่ีสํงผล
ตํอความมัน่ คงและความเจริญรุํงเรืองของอาณาจักรอยุธยา

โดยใช๎ทักษะกระบวนการทางประวัติศาสตร์ เพื่อฝึกทักษะการใช๎วิธีการทางประวัติศาสตร์
การคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลํมุ เผชิญสถานการณ์ และการแก๎ปญั หา

เพ่อื ใหเ๎ กดิ ความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะทางประวัติศาสตร์ได๎อยํางเหมาะสม เกิดความสามารถ
ในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสามารถในการใช๎ทักษะชีวิต ได๎
อยํางมีประสทิ ธภิ าพ

รหสั ตวั ชี้วดั
ส4.3 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3

รวมทั้งหมด 3 ตวั ชวี้ ดั

62

คาอธิบายรายวชิ า

ส23101 สังคมศึกษา ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1
1.0 หนว่ ยกิต
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 60 ชวั่ โมง

ศึกษา ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน๎าท่ีพลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิตในสังคม
เศรษฐศาสตร์และภูมิศาสตร์ เก่ียวกับการเผยแพรํพระพุทธศาสนา วิเคราะห์ความสาคัญของพระพุทธศาสนา
อภิปรายความสาคัญของพระพุทธศาสนากับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศึกษาวิเคราะห์พุทธประวัติจาก
พุทธรูปปางตํางๆ วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอยํางพุทธสาวกและศาสนิกชนตัวอยําง อธิบายสังฆคุณ
และข๎อธรรมสาคัญในกรอบอริยสัจ 4 วิเคราะห์หลักธรรมและปฏิบัติตนตามหลักธรรมที่ตนนับถือ พัฒนาการ
เรียนร๎ูด๎วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ คือ วิธีคิด แบบสืบสาเหตุปัจจัย รู๎และเข๎าใจวิธีสวดมนต์ แผํเมตตา
และการบริหารจัดเพ่ือนาไปใช๎ในชีวิตประจาวัน วิเคราะห์ความแตกตําง รักการดาเนินชีวิตของศาสนิกชน
ของศาสนาอื่น อธิบายความแตกตํางของลักษณะการกระทาความผิดคดีอาญาและคดีแพํง เห็นความสาคัญ
และการมีสํวนรํวมตามหลักสิทธิมนุษยชน เห็นความสาคัญของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย เลือกรับวัฒนธรรม
สากลท่เี หมาะสม วเิ คราะห์ปจั จยั ทก่ี อํ ใหเ๎ กิดปญั หาความขัดแย๎งในสังคมเสนอแนวคิดการดารงชีวิตในสังคมให๎
มีความสุข อธิบายระบอบการปกครอง วิเคราะห์เปรียบเทียบ การปกครองของไทย กับประเทศอื่น ในระบอบ
ประชาธิปไตย บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกต้ังและตรวจสอบการใช๎อานาจของรัฐ วิเคราะห์
ปัญหาและผลกระทบทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอํ การพัฒนาประเทศ

โดยใช๎ทักษะกระบวนทางสังคมศาสตร์ เพื่อฝึกทักษะการอธิบาย วิเคราะห์ อ3ปราย สัมมนา
ประพฤตติ น วธิ ีคิดแบบโยนโิ สมนสิการ การสวดมนต์ แผํเมตตา บริหารจิตและเจริญปัญญา แสดงตน ยอมรับ
การมีสวํ นรวํ ม อนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทย เลอื กรบั เสนอแนวคดิ เปรยี บเทยี บและการเสนอแนวทางแก๎ไข

เพ่อื ให๎เกดิ ความร๎ู ความเข๎าใจ ทกั ษะกระบวนการทางสังคมสาสตร์ ได๎อยํางถูกต๎องเหมาะสม
และเห็นคุณคํา เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา
ความสามารถในการใช๎ทกั ษะชวี ิต ไดอ๎ ยาํ งมปี ระสิทธิภาพ
รหัสตัวชีว้ ัด

ส1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/9 ม.3/10 ส1.2 ม.3/1
ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ส2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ส2.2
ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4
รวมทง้ั หมด 26 ตวั ชว้ี ัด

63

คาอธบิ ายรายวิชา

ส23103 ประวัตศิ าสตร์ ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1
0.5 หนว่ ยกิต
กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม จานวน 20 ช่วั โมง

ศกึ ษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เกย่ี วกับ เรือ่ งราวเหตุการณ์สาคัญทางประวตั ิศาสตร์ไดอ๎ ยาํ งมี
เหตุผลตามวิธีการทางประวัตศิ าสตร์ใชว๎ ิธีการทางประวตั ิศาสตรก์ ารศกึ ษาเรื่องราวตํางๆที่ตนสนใจพฒั นาการ
ของไทยสมัยรตั นโกสินทรใ์ นด๎านตํางๆปัจจัยท่ีสํงผลตํอความมนั่ คงและความเจรญิ รํงุ เรอื งของไทยในสมัย
รตั นโกสินทร์ บทบาทของพระมหากษัตริยใ์ นราชวงศจ์ ักรีในการสร๎างสรรค์ความเจริญและความม่นั คงของชาติ
พัฒนาการของไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ทางดา๎ นการเมืองการปกครอง สังคม เศรษฐกจิ และความสมั พนั ธ์
ระหวาํ งประเทศตามชํวงสมยั ตํางๆ เหตกุ ารณส์ าคัญสมยั รัตนโกสินทร์ท่มี ผี ลตอํ การพัฒนาชาติไทย โดย
วิเคราะหส์ าเหตุ ปจั จยั และผลของเหตุการณ์ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมยั รตั นโกสินทร์ และอิทธิพลตํอ
การพฒั นาชาติไทย

โดยใช๎ทักษะกระบวนการทางประวตั ศิ าสตรเ์ พื่อฝึกทักษะการการวิเคราะห์ ประเมินความ
นําเชอ่ื ถอื และการตคี วามหลักฐาน

เพอื่ ให๎ผเู๎ รียนเกิดความรู๎ ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางประวตั ิศาสตร์ได๎อยํางเหมาะสม
ตระหนกั และเหน็ ความสาคัญ เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการใช๎
ทกั ษะชวี ติ ไดอ๎ ยํางมปี ระสิทธภิ าพ

รหัสตัวช้ีวัด
ส4.1 ม.3/1 ม.3/2
ส4.2 ม.3/1 ม.3/2
ส4.3 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4

รวมท้ังหมด 8 ตัวช้วี ดั

คาอธบิ ายรายวชิ า 64

ส23102 สังคมศกึ ษา ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2
1.0 หนว่ ยกิต
กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม จานวน 60 ชั่วโมง

ศึกษา ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน๎าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิตในสังค
เศรษฐศาสตร์และภูมิศาสตร์ เกี่ยวกับ ความร๎ูเบ้ืองต๎นทางเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับการผลิต การบริโภคและการ
แลกเปลย่ี น เข๎าใจบทบาทหน๎าที่ของสถาบนั การเงนิ ระบบเศรษฐกิจแบบตํางๆเศรษฐกิจพอเพียงและการมีสํวน
รํวมในกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียน วิเคราะห์แผนพัฒนาเศรษฐกิจแหํงชาติและนโยบายของรัฐบาลที่มีผลตํอ
กิจกรรมทางเศรษฐกจิ เครอื่ งมือทางภมู ศิ าสตร์รวบรวม วิเคราะห์และนาเสนอข๎อมูลลักษณะทางกายภาพและ
สังคมของทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต๎ วิเคราะห์การเกิดสิ่งแวดล๎อมใหมํทางสังคม แนวทาง การอนุรักษา
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อม สารวจ อภปิ รายประเด็นปญั หาเก่ียวกับส่ิงแวดล๎อม วิเคราะห์สาเหตุและ
ผลกระทบตอํ เนื่องจากการเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดล๎อมท่ีสํงผลตํอประเทศไทย

โดยใช๎ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ เพื่อฝึกทักษะอธิบาย วิเคราะห์ อภิปราย
ยกตวั อยาํ ง เสนอแนวทาง ใชเ๎ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ สืบคน๎ ขอ๎ มลู สารวจและระบุ

เพ่ือให๎เกิดความรู๎ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทาง สังคมศาสตร์ได๎อยํางเป็นระบบ เกิด
ความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสามารถในการใช๎
ทกั ษะชีวติ ไดอ๎ ยาํ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

รหสั ตวั ชี้วดั
ส3.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3
ส3.2 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6
ส5.1 ม.3/1 ม.3/2
ส5.2 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4

รวมทั้งหมด 15 ตวั ชวี้ ดั

65

คาอธิบายรายวิชา

ส23104 ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2
0.5 หน่วยกิต
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 20 ช่วั โมง

ศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เก่ียวกับ เรื่องราวเหตุการณ์สาคัญทางประวัติศาสตร์ได๎
อยํางมีเหตุผล โดยศึกษาบทบาทของไทยในสมัยประชาธิปไตย พัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจและการเมือง
ของภูมิภาคตํางๆ ในโลกโดยสังเขป ผลของการเปลี่ยนแปลงที่นาไปสูํความรํวมมือ และความขัดแย๎งใน
คริสตศ์ ตวรรษที่ 20 ตลอดจนความพยายามในการขจดั ปัญหาความขัดแย๎ง

โดยใชก๎ ระบวนการทางประวัตศิ าสตร์ เพ่ือฝึกทักษะวิเคราะห์ อธิบายและระบุ เพื่อให๎ผู๎เรียน
เกิดความร๎ูความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางประวัติศาสตร์ ตระหนักและเห็นความสาคัญ เกิดความสามารถ
ในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช๎ทกั ษะชวี ติ ได๎อยํางมีประสทิ ธิภาพ

เพอ่ื ให๎ผ๎เู รยี นเกิดความรู๎ ความเขา๎ ใจ ทักษะกระบวนการทางประวตั ิศาสตร์ได๎อยํางเหมาะสม
ตระหนัก และเหน็ ความสาคัญ เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช๎
ทักษะชวี ิต ได๎อยํางมีประสิทธภิ าพ

รหัสตวั ช้ีวัด
ส4.2 ม.3/1 ม.3/2
ส4.3 ม.3/1 ม.3/2

รวมท้ังหมด 4 ตัวชี้วดั

66

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
กลุ่มสาระสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

67

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส21231 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 1 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม จานวน 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกิต

มีสํวนรํวมอนุรักษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตํงกาย การมีสัมมาคารวะ
แสดงออกถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผํและเสียสละตํอสังคม เห็นคุณคําและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี
ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผ๎ูมีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร
อดทน ใฝหุ าความรู๎ ต้ังใจปฏิบตั หิ นา๎ ท่ี และยอมรบั ผลท่ีเกดิ จากการกระทาของตนเอง

โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความร๎ู กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการสร๎าง
คาํ นยิ ม และกระบวนการสรา๎ งเจตคติ

เพือ่ ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอยาํ งของความรักชาติ ยดึ มั่นในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
ประยกุ ตแ์ ละเผยแพรํพระบรมราโชวาท ในเร่ืองมเี หตุผล รอบคอบ หลกั การทรงงาน ในเร่อื งการใชธ๎ รรมชาติ
ชวํ ยธรรมชาติ การปลกู ปุาในใจคน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบัตติ นเปน็ ผูม๎ ีวินัยในตนเอง ใน
เร่ืองความซ่อื สัตยส์ ุจริต ขยนั หม่นั เพียร อดทน ใฝหุ าความร๎ู และตงั้ ใจปฏบิ ัติหน๎าท่ี
ผลการเรยี นรู้

1. มสี วํ นรํวมแนะนาผูอ๎ ืน่ ให๎อนรุ ักษแ์ ละยกยํองผ๎ูมมี ารยาทไทย
2. แสดงออกแนะนาผ๎อู ื่นและมสี ํวนรวํ มในกจิ กรรมเก่ียวกับความเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผแํ ละเสยี สละ
3. เหน็ คุณคําอนุรักษ์สืบสานและประยุกต์ขนบธรรมเนยี มประเพณีศลิ ปวฒั นธรรมภมู ปิ ัญญาไทย
4. เป็นแบบอยํางและมสี ํวนรวํ มในการจดั กจิ กรรมท่ีแสดงออกถึงความรักชาติยึดม่ันในศาสนา

และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
5. ประยุกตแ์ ละเผยแพรํพระบรมราโชวาทหลกั การทรงงานและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้

68

คาอธิบายรายวชิ า

ส21232 หนา้ ท่ีพลเมอื ง 2 ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หนว่ ยกิต

ปฏิบัติตนเป็นพลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธิปไตยในการมีสํวนรวํ มในกจิ กรรมตาํ งๆของสังคมการตัดสินใจ
โดยใชเ๎ หตุผล มีสวํ นรวํ มรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห๎องเรียนและโรงเรียนปฏิบัติตนเป็นผ๎ูมีวินัย
ในตนเองในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต อดทน ขยันหม่ันเพียร และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง
ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ ในเรื่องวิถีชีวิตวัฒนธรรม
ศาสนาสิ่งแวดล๎อม อยํูรํวมกันอยํางสันติและพ่ึงพาซ่ึงกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรมด๎วยการเคารพซึ่งกัน
และกัน ไมํแสดงกิริยาและวาจาดูหมิ่นผ๎ูอื่น ชํวยเหลือซ่ึงกันและกัน แบํงปัน มีสํวนรํวมในการแก๎ปัญหาความ
ขัดแย๎งโดยสันติวธิ ีในเรือ่ งการทะเลาะวิวาท ความคิดเห็นไมํตรงกัน ด๎วยการเจรจาไกลํเกล่ีย การเจรจาตํอรอง
การระงับความขัดแย๎ง ปฏิบัติตนเป็นผู๎มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตใฝุหาความรู๎ต้ังใจปฏิบัติ
หน๎าที่ยอมรบั ผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง

ใช๎กระบวนการกลํุม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู๎ กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการสร๎าง
คํานยิ ม และกระบวนการสรา๎ งเจตคติ

เพ่ือให๎ผูเ๎ รียนมีลักษณะท่ดี ีของคนไทย ภาคภูมใิ จในความเป็นไทยแสดงออกถึงความรักชาติยึดมั่นใน
ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง
เป็นประมขุ มสี วํ นรวํ มทางการเมืองการปกครอง อยํูรํวมกับผ๎ูอื่นอยํางสันติจัดการความขัดแย๎งโดยสันติวิธีและ
มวี ินัยในตนเอง

ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย
2. มีสํวนรวํ มในการตัดสนิ ใจตรวจสอบข๎อมลู เพื่อใช๎ประกอบการตัดสนิ ใจในกิจกรรมตาํ งๆ
3. ยอมรับความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต๎
4. มีสํวนรวํ มในการแก๎ปญั หาความขดั แย๎งโดยสนั ติวธิ ี
5. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผม๎ู วี ินยั ในตนเอง

รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้

69

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส22233 หน้าทพ่ี ลเมือง 3 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 20 ชัว่ โมง 0.5 หนว่ ยกิต

มีสํวนรํวมแนะนาผู๎อื่นให๎อนุรักษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตํงกาย
การมีสัมมาคารวะ แสดงออกและแนะนาผ๎ูอื่นให๎มีความเอื้อเฟื้อเพ่ือแผํและเสียสละตํอสังคม เห็นคุณคํา
อนุรักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผ๎ูมีวินัยใน
ตนเอง ในเร่อื งความซอื่ สตั ย์สจุ ริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝุหาความรู๎ ต้ังใจปฏิบัติหน๎าท่ี และยอมรับผลท่ีเกิด
จากการกระทาของตนเองปฏิบัติตนเป็นแบบอยํางและแนะนาผ๎ูอื่นให๎มีความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และ
เทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ประยกุ ตแ์ ละเผยแผํ พระบรมราโชวาท การมีสติความขยันอดทน หลักการทรง
งานในเรื่องภมู สิ ังคม ขาดทนุ คือกาไร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู๎ กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการสร๎าง
คาํ นิยมและกระบวนการสรา๎ งเจตคติ

เพ่ือใหผ๎ เู๎ รียนมลี กั ษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ัน
ในศาสนาและเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรง
เป็นประมุข มีสํวนรํวมทางการเมืองการปกครอง อยูํรํวมกับผู๎อ่ืนอยํางสันติ จัดการความขัดแย๎งด๎วยสันติวิธี
และมวี นิ ยั ในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
1. มสี วํ นรวํ มและแนะนาผ๎ูอ่นื ให๎อนรุ กั ษม์ ารยาทไทย
2. แสดงออกและแนะนาผอู๎ น่ื ให๎มีความเอ้ือเฟื้อเผื่อแผํ และเสียสละตํอสงั คม
3. เหน็ คณุ คาํ อนรุ ักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาไทย
4. เปน็ แบบอยาํ งและแนะนาผอ๎ู ่ืนใหม๎ คี วามรักชาติยึดมัน่ ในศาสนาและเทดิ ทูนสถาบนั

พระมหากษัตริย์
5. ประยกุ ต์และเผยแพรพํ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รวม 5 ผลการเรยี นรู้

70

คาอธิบายรายวิชา

ส22234 หน้าท่ีพลเมอื ง 4 ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม จานวน 20 ช่วั โมง 0.5 หน่วยกติ

ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเรื่องการใช๎สิทธิหน๎าที่ การใช๎เสรีภาพอยํางรับผิดชอบ
การมีสํวนรํวมในกิจกรรมการเลือกต้ัง มีสํวนรํวมรับผิดชอบในการตัดสินใจตํอกิจกรรมของห๎องเรียนและโรงเรียน
ตรวจสอบการทาหน๎าท่ีของบุคคล ปฏิบัติตนเป็นผู๎มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร
ใฝุหาความร๎ู ต้ังใจปฏิบัติหน๎าท่ีและยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเองเห็นคุณคําของการอยูํรํวมกันใน
ภูมิภาคเอเชียอยํางสันติและพ่ึงพาซ่ึงกันและกัน ทํามกลางความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคตํางๆ
ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา และส่ิงแวดล๎อม การอยูํรํวมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและพ่ึงพาซ่ึงกันและกัน
ในเรื่องการเคารพซ่ึงกันและกัน แบํงปัน มีสํวนรํวมและเสนอแนวทางการปูองกันปัญหาความขัดแย๎งในเร่ือง
ทศั นคติ ความคิด ความเชือ่ ชูส๎ าว ปฏิบตั ิตนเป็นผ๎ูมวี นิ ัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซ่ือสัตย์สุจริต อดทน ใฝุหาความร๎ู
ต้งั ใจปฏิบัตหิ น๎าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง

โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู๎ กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการสร๎างคํานิยม
และกระบวนการสร๎างเจตคติ

เพื่อให๎ผ๎ูเรียนมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นใน
ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมขุ มสี ํวนรํวมทางการเมืองการปกครอง อยํรู ํวมกับผูอ๎ ื่นอยํางสันติ และมวี ินัยในตนเอง

ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย
2. มีสวํ นรํวมและรับผิดชอบในการตดั สินใจตรวจสอบขอ๎ มลู เพ่ือใช๎ประกอบการตัดสินใจใน
กจิ กรรมตาํ งๆและรู๎ทันขําวสาร
3. เห็นคุณคาํ ของการอยูรํ วํ มกนั ในภมู ิภาคเอเชียอยํางสนั ตแิ ละพ่ึงพาซึ่งกนั และกนั
4. มีสวํ นรํวมและเสนอแนวทางการแกป๎ ญั หาความขัดแย๎งโดยสนั ติวธิ ี
5. ปฏิบตั ติ นเป็นผม๎ู ีวินยั ในตนเอง

รวมท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู้

71

คาอธิบายรายวชิ า

ส23235 หน้าทีพ่ ลเมือง 5 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1

กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 20 ช่วั โมง 0.5 หน่วยกิต

มีสํวนรํวมและแนะนาผ๎ูอ่ืนให๎อนุรักษ์มารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตํง
กาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกและแนะนาผู๎อ่ืนให๎มีความเอ้ือเฟื้อเผื่อแผํและเสียสละตํอสังคมเห็นคุณคํา
อนุรักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผ๎ูมีวินัยใน
ตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ต้ังใจปฏิบัติหน๎าท่ี และยอมรับผลท่ีเกิดจากการ
กระทาของตนเอง และปฏิบัติตนเป็นแบบอยํางและแนะนาผู๎อ่ืนให๎มีการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาติ
ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุกต์ และเผยแพรํพระบรมราโชวาทในเร่ืองความ
เสียสละความซื่อสตั ย์ หลักการทรงงาน ในเร่ืองการศึกษาข๎อมูลอยํางเป็นระบบแก๎ปัญหาที่จุดเล็ก เป็นผ๎ูมีวินัย
ในตนเอง ในเร่อื งความซ่อื สตั ยส์ จุ ริตขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝุหาความรู๎ และตั้งใจปฏิบัติหน๎าที่ ปฏิบัติตนเป็น
พลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธิปไตยในเร่อื งการติดตามขําวสารบา๎ นเมือง ความกล๎าหาญทางจริยธรรม การเป็นผ๎ูนา
และการเป็นสมาชิกท่ีดี มีสํวนรํวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจตํอกิจกรรมของห๎องเรียนและโรงเรียน
ตรวจสอบข๎อมูลเพ่ือใช๎ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมตําง ๆ และร๎ูทันขาวสาร ปฏิบัติตนเป็นผู๎มีวินัยใน
ตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต อดทนต้ังใจปฏิบัติหน๎าท่ี ใฝุหาความร๎ูและยอมรับผลที่เกิดจากการกระทา
ของตนเอง

โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความร๎ู กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการสร๎าง
คาํ นิยม และกระบวนการสรา๎ งเจตคติ

เพอื่ ใหผ๎ เู๎ รยี นมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติยึดม่ันใน
ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง
เป็นประมุข มีสํวนรํวมทางการเมืองการปกครอง อยูํรํวมกันอยํางสันติ จัดการความขัดแย๎งด๎วยสันติวิธี และมี
วินยั ในตนเอง
ผลการเรียนรู้

1. มีสํวนรวํ มและแนะนาผ๎อู ืน่ ใหอ๎ นรุ ักษแ์ ละยกยํองผ๎มู ีมารยาทไทย
2. แสดงออกและแนะนาผ๎ูอ่นื และมีสํวนรวํ มในกิจกรรมเก่ยี วกับความเอ้ือเฟ้ือเผอื่ แผํและเสยี สละ
3. เห็นคุณคาํ อนรุ กั ษแ์ ละสืบสาน และประยุกต์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย
4. เปน็ แบบอยาํ งและมีสํวนรวํ มในการจัดกจิ กรรมที่แสดงออกถึงความรักชาตยิ ึดมนั่ ในศาสนาและเทดิ ทนู
สถาบันพระมหากษัตรยิ ์
5. ประยุกตแ์ ละเผยแพรพํ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงานและหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
10. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ๎ูมวี ินยั ในตนเอง
รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชา 72

ส23236 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 6 ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 2
0.5 หนว่ ยกิต
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จานวน 20 ชั่วโมง

ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเรื่องการใช๎สิทธิและหน๎าที่การใช๎เสรีภาพอยําง
รับผิดชอบ การมีสํวนรํวมในกิจกรรมการเลือกตั้ง มีสํวนรํวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจตํอกิจกรรมของ
ห๎องเรียนและโรงเรียน ปฏิบัติตนเป็นผ๎ูมีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต อดทน ต้ังใจปฏิบัติหน๎าท่ี
ใฝุหาความรแู๎ ละยอมรบั ผลทีเ่ กิดจากการกระทาของตนเองเห็นคุณคําของการอยูํรํวมกันในภูมิภาคตําง ๆ และ
พ่ึงพาอาศยั ซ่ึงกันและกันโดยคานงึ ถึงความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภูมิภาคตําง ๆ ของโลก ในเรื่อง
วิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา ส่ิงแวดล๎อม การอยํูรํวมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและการพ่ึงพาซึ่งกันและกัน ใน
เรื่องการเคารพซึ่งกันและกัน ไมํแสดงกิริยาและวาจาดูหม่ินผ๎ูอื่น ชํวยเหลือซ่ึงกันและกัน แบํงปัน มีสํวนรํวม
และเสนอแนวทางแก๎ปญั หาความขัดแยง๎ ในเรื่องทัศนคติ ความคดิ ความเชื่อ ปฏิบัติตนเป็นผ๎ูมีวินัยในตนเองใน
เร่ืองความซือ่ สัตย์สจุ ริต อดทน ใฝหุ าความร๎ู ตั้งใจปฏบิ ัตหิ นา๎ ที่ ยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง

โดยใช๎กระบวนการกลุํม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์
กระบวนการแก๎ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู๎ กระบวนการสร๎างความตระหนัก กระบวนการสร๎าง
คาํ นยิ ม และกระบวนการสร๎างเจตคติ

เพอ่ื ให๎ผเ๎ู รยี นมลี ักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ันใน
ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง
เป็นเป็นประมขุ มสี ํวนรํวมทางการเมอื งการปกครอง อยํูรวํ มกันผ๎อู ่ืนอยํางสนั ติ จัดการความขดั แย๎งด๎วยสันติวิธี
และมีวนิ ัยในตนเอง

ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธิปไตย
2. มีสํวนรํวมรับผดิ ชอบในการตัดสินใจตรวจสอบการทาหนา๎ ท่ีของบุคคลเพื่อใช๎ตัดสนิ ใจ
3. เห็นคณุ คาํ ของการอยํูรํวมกนั ในภมู ิภาคตาํ ง ๆ ของโลก อยํางสันติและพ่งึ พาซ่ึงกนั และกัน
4. มสี วํ นรวํ มและเสนอแนวทางการแก๎ปัญหาความขัดแย๎ง
5. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู๎มีวินยั ในตนเอง

รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้

73

คาอธบิ ายรายวิชา
กลุม่ สาระภาษาต่างประเทศ

74

คาอธิบายรายวิชา

รายวชิ าภาษาอังกฤษ อ 21101 สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1

ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………

การเข๎าใจ การตีความ วิเคราะห์ หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข๎อความ ข๎อมูล ขําวสาร บทความ

สารคดี บนั เทงิ คดี จากสือ่ สิงพมิ พ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์การอธิบายและเขยี นประโยค ข๎อความให๎สัมพันธ์กับส่ือท่ีไมํใชํ

ความเรียงในรูปแบบตํางๆที่อํานรวมท้ังหมด ท้ังระบุเขียนส่ือที่ไมํใชํความเรียงในรูปแบบตํางๆให๎สัมพันธ์กับ

ประโยคและข๎อความท่ีอํานการอํานจับใจความสาคัญวิเคราะห์ความ การจากบทท่ีอําน สื่อ สิ่งพิมพ์

ภาษาอังกฤษ ท้ังท่ีเป็นความเรียงและไมํใชํความเรียง การสนทนาและเขียนโต๎ตอบข๎อมูลเก่ียวกับ ตนเองและ

เรือ่ งตาํ งๆใกลต๎ ัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ขาํ ว/ เหตกุ ารณ์ ประเด็นท่อี ยใํู นความสนใจของสังคมและสื่อสาร

อยํางตํอเน่ืองและเหมาะสมการใช๎เพ่ือการส่ือสารและศึกษาตํอรวมท้ังหมดทั้งคาสุภาษิต คาพังเพยของ

ภาษาอังกฤษและภาษาไทยเห็นประโยชน์ของการรู๎ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความร๎ูจากแหลํงข๎อมลท่ี

หลากหลายเพื่อความเพลดิ เพลนิ และขยายโลกทศั น์

โดยใช๎ทักษะ กระบวนการเรียนรู๎ทางภาษาคือทักษะการฟัง พูด อํานและเขียน เพื่อฝึกทักษะปฏิบัติ

อํานออกเสียง สนทนา แลกเปลี่ยน ใช๎คาขอร๎อง ให๎คาแนะนา พูดและเขียน บอกความเหมือนและความ

แตกตํางใช๎ภาษาค๎นคว๎า รวบรวม และสรุปข๎อมลู นาเสนอ

เพื่อให๎เกิดความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อํานและเขียน อยําง

ถูกตอ๎ งและเหมาะสม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสารความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสามารถในการใช๎ทักษะชวี ิต และ ความสามารถในการใช๎เทคโนโลยีได๎อยํางมีประสทิ ธภิ าพ

รหสั ตวั ชว้ี ดั

ต 1.1 ม 1/1 ม 1/2

ต 1.2 ม 1/1 ม 1/2 ม 1/3 ม 1/4 ม 1/5

ต 1.3 ม 1/1

ต 2.1 ม 1/1

ต 2.2 ม 1/1

ต 3.1 ม 1/1

ต 4.1 ม.1/1

รวมตวั ชว้ี ดั 12 ตวั ชี้วดั

75

คาอธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ าภาษาอังกฤษ อ 21102 สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1

ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………..

ศึกษาภาษาเพื่อการสื่อสาร ภาษาและวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุํมสาระการเรียนรู๎

อ่ืน และภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก เก่ียวกับการปฏิบัติ(2)การเลือก/การระบุประโยคและ

ข๎อความ ให๎สัมพันธ์กับส่ือท่ีไมํใชํความเรียง (non-text information)การระบุหัวข๎อเร่ือง (topic) ใจความ

สาคัญ (main idea) การพูด/การเขียน สรุปใจความสาคัญ/แกํนสาระ(theme) ท่ีได๎จากการวิเคราะห์เร่ือง/

เหตุการณ์ที่อยูํในความสนใจของสังคมการพูด/การเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมหรือเรื่องตํางๆ

ใกล๎ตัว พร๎อมท้ังให๎เหตุผลสั้นๆ ประกอบ การบรรยายเก่ียวกับเทศกาล วันสาคัญ ชีวิตความเป็นอยํู และ

ประเพณีของเจ๎าของภาษา การเข๎ารํวม/การจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ การ

เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตํางระหวํางเทศกาล งานฉลอง วันสาคัญ และชีวิตความเป็นอยูํ

ของเจ๎าของภาษากับของไทย การใช๎ภาษาตํางประเทศในการสืบค๎น/ค๎นคว๎า ความร๎ู/ข๎อมูลตํางๆ จากสื่อและ

แหลงํ การเรยี นรต๎ู ํางๆ ในการศึกษาตํอและประกอบอาชพี

โดยใชท๎ ักษะ กระบวนการเรียนรท๎ู างภาษาคอื ทักษะการฟัง พูด อํานและเขียน เพ่ือฝึกทักษะปฏิบัติ

เลือก ระบุ ตอบคาถาม พูดและเขียน สรุปใจความสาคัญ บรรยาย เข๎ารํวม/จัดกิจกรรม เปรียบเทียบความ

เหมอื นและความแตกตาํ ง ใช๎ภาษา สืบค๎น

เพื่อให๎เกิดความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อํานและเขียน อยําง

ถูกต๎องและเหมาะสม เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการสื่อสารความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสามารถในการใช๎ทกั ษะชวี ติ และ ความสามารถในการใชเ๎ ทคโนโลยีไดอ๎ ยํางมปี ระสิทธิภาพ

รหัสตัวช้ีวดั

ต 1.1 ม 1/3 ม 1/4

ต 1.3 ม 1/3 ม 1/4

ต 2.1 ม 1/3 ม 1/4

ต 2.2 ม 1/2

ต 4.2 ม.1/1

รวมตวั ช้ีวัด 9 ตวั ชว้ี ดั

76

คาอธิบายรายวชิ า

รายวิชาภาษาอังกฤษ อ 22101 สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2

ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 60 ช่วั โมง 1.5 หนว่ ยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………..

ศึกษาภาษาเพ่ือการสื่อสาร ภาษาและวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุํมสาระการเรียนร๎ู

อื่น และภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก เก่ียวกับการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร๎อง คาแนะนา และคา

ชี้แจงงํายๆอํานออกเสียงข๎อความนิทาน และบทร๎อยกรอง (poem)ส้ันๆ การสนทนา แลกเปลี่ยนข๎อมูล

เก่ียวกับตนเองกิจกรรม และสถานการณ์ตํางๆการใช๎คาขอร๎อง การให๎คาแนะนา และคาชี้แจง ตาม

สถานการณ์การพูดและการเขียนแสดงความต๎องการขอความชํวยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให๎ความ

ชํวยเหลือในสถานการณ์ตํางๆการพูดและการเขียนเพื่อขอและการให๎ข๎อมูล และการแสดงความคิดเห็น

เก่ียวกบั เรอ่ื งทฟี่ ังหรืออํานการพูดและการเขียนแสดงความร๎ูสึก และการความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเร่ือง

ตํางๆ ใกลต๎ วั กิจกรรมตํางๆ การพดู และการเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน ประสบการณ์

และส่ิงแวดล๎อม น้าเสียง และกิริยาทําทางสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ๎าของ

ภาษาการบอกความเหมือนและความแตกตํางระหวํางการออกเสียงประโยคชนิดตํางๆ การใช๎เคร่ืองหมาย

วรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสร๎างประโยคของภาษาตํางประเทศและภาษาไทย การค๎นคว๎า การ

รวบรวม และการสรุปข๎อมูล/ ข๎อเท็จจริงที่เก่ียวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนรู๎อื่นจากแหลํงเรียนรู๎และการใช๎

ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริงสถานการณจ์ าลองที่เกิดขึ้นในหอ๎ งเรยี น

โดยใชท๎ ักษะ กระบวนการเรียนรู๎ทางภาษาคอื ทักษะการฟัง พูด อํานและเขียน เพื่อฝึกทักษะปฏิบัติ

อํานออกเสียง สนทนา แลกเปลี่ยน ใช๎คาขอร๎อง ให๎คาแนะนา พูดและเขียน บอกความเหมือนและความ

แตกตํางใช๎ภาษาค๎นคว๎า รวบรวม และสรปุ ขอ๎ มูลนาเสนอ

เพ่ือให๎เกิดความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อํานและเขียน อยํางถูกต๎อง

และเหมาะสม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสารความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสามารถในการใช๎ทกั ษะชีวติ และ ความสามารถในการใช๎เทคโนโลยีไดอ๎ ยาํ งมปี ระสิทธภิ าพ

รหสั ตัวช้ีวัด

ต 1.1 ม 2/1 ม 2/2

ต 1.2 ม 2/1 ม 2/2 ม 2/3 ม 2/4 ม 2/5

ต 1.3 ม 2/1

ต 2.1 ม 2/1

ต 2.2 ม 2/1

ต 3.1 ม 2/1 ต 4.1 ม.2/1

รวมตวั ชี้วัด 12 ตวั ช้ีวดั

77

คาอธิบายรายวชิ า

รายวชิ าภาษาอังกฤษ อ 22102 สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2

ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 60 ชัว่ โมง 1.5 หน่วยกิต

………………………………………………………………………………………………………………………….

ศึกษาภาษาเพ่อื การส่ือสาร ภาษาและวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุํมสาระการเรียนรู๎

อื่น และภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก เก่ียวกับการปฏิบัติการระบุและการเขียนประโยคและ

ข๎อความ ให๎สัมพันธ์กับส่ือท่ีไมํใชํความเรียง รูปแบบ ตํางๆ ที่อํานการเลือกหัวข๎อเร่ือง ใจความสาคัญ การ

บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองที่ฟังและอําน การพูด/

การขียน สรุปใจความสาคัญ/แกํนสาระ หัวข๎อเรื่อง (topic) ท่ีได๎จากการวิเคราะห์เร่ือง/ขําว/เหตุการณ์ ท่ีอยํู

ในความสนใจของสังคม การพูด/การเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับกิจกรรมหรือเร่ืองตํางๆ ใกล๎ตัวและ

ประสบการณ์ พรอ๎ มทั้งใหเ๎ หตุผลสน้ั ๆ ประกอบ การอธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วันสาคัญ ชีวิตความเป็นอยํู และ

ประเพณีของเจ๎าของภาษา การเข๎ารํวม/การจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ การ

เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตํางระหวํางชีวิตความเป็นอยูํและวัฒนธรรมของเจ๎าของ

ภาษากับของไทย การใช๎ภาษาตํางประเทศในการสืบค๎น/ค๎นคว๎า ความรู๎/ข๎อมูลตํางๆ จากสื่อและแหลํงการ

เรียนร๎ูตํางๆ ในการศึกษาตํอและประกอบอาชีพ การเผยแพรํ/ประชาสัมพันธ์ข๎อมูลขําวสาร ของโรงเรียนเป็น

ภาษาตาํ งประเทศ

โดยใช๎ทักษะ กระบวนการเรียนร๎ูทางภาษาคือทักษะการฟัง พูด อํานและเขียน เพ่ือฝึกทักษะ

ปฏิบัติ เลือก ระบุ เลือกหัวข๎อเรื่อง ยกตัวอยําง พูดและเขียน สรุปใจความสาคัญ เข๎ารํวม/จัดกิจกรรม

เปรยี บเทียบความเหมอื นและความแตกตําง ใช๎ภาษา สืบคน๎ การเผยแพรแํ ละประชาสัมพนั ธ์

เพื่อให๎เกิดความรู๎ ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อํานและเขียน อยําง

ถูกตอ๎ งและเหมาะสม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสารความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสามารถในการใชท๎ กั ษะชีวิต และ ความสามารถในการใช๎เทคโนโลยไี ดอ๎ ยาํ งมีประสทิ ธิภาพ

รหสั ตวั ชว้ี ัด

ต 1.1 ม 2/3 ม 2/4

ต 1.3 ม 2/3 ม 2/4

ต 2.1 ม 2/3 ม 2/4

ต 2.2 ม 2/2

ต 4.2 ม.2/1

รวมตวั ชวี้ ดั 9 ตัวชีว้ ดั

78

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชาภาษาอังกฤษ อ 23101 สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3

ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต

………………………………………………………………………………………………………………………….

ศกึ ษาภาษาเพื่อการสอื่ สาร ภาษาและวัฒนธรรม ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ ับกลมุํ สาระการเรียนรู๎อื่น

และภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก เก่ียวกับการปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร๎อง คาแนะนา คาช้ีแจง

และคาอธิบายท่ีฟังและอํานการอํานออกเสียงข๎อความ ขําว โฆษณา และบทร๎อยกรองสั้นๆ(1)การสนทนา

แลกเปลี่ยนข๎อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตํางๆการใช๎คาขอร๎อง การให๎คาแนะนา และคา

ชี้แจง ตามสถานการณก์ ารพูดและการเขียนแสดงความต๎องการขอความชํวยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให๎

ความชํวยเหลือในสถานการณ์ตํางๆการพูดและการเขียนเพื่อขอและการให๎ข๎อมูล และการแสดงความคิดเห็น

เกยี่ วกบั เรื่องทฟ่ี งั หรืออํานการพูดและการเขียนแสดงความร๎ูสึก และการความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเรื่อง

ตํางๆ ใกล๎ตัว กิจกรรมตํางๆ การพูดและการเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน ประสบการณ์

และสิ่งแวดล๎อม ใกล๎ตัว การใช๎ภาษา น้าเสียง และกิริยาทําทางสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคม และ

วัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา การบอกความเหมือนและความแตกตํางระหวํางการออกเสียงประโยคชนิดตํางๆ

การใช๎เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสร๎างประโยคของภาษาตํางประเทศและภาษาไทย

การค๎นคว๎า การรวบรวม และการสรุปข๎อมูล/ ข๎อเท็จจริงที่เกี่ยวข๎องกับกลํุมสาระการเรียนร๎ูอ่ืนจากแหลํง

เรียนร๎ู การใช๎ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริงสถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ข้ึนในหอ๎ งเรยี น

โดยใช๎ทักษะ กระบวนการเรียนรู๎ทางภาษาคือทักษะการฟัง พูดอํานและเขียน เพื่อฝึกทักษะปฏิบัติ

อํานออกเสียง สนทนา แลกเปล่ียน ใช๎คาขอร๎อง ให๎คาแนะนา พูดและเขียน บอกความเหมือนและความ

แตกตาํ งใช๎ภาษา นาเสนอ ค๎นควา๎ รวบรวม และสรุปข๎อมลู

เพ่ือให๎เกิดความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อํานและเขียน อยําง

ถูกต๎องและเหมาะสม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสารความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสามารถในการใชท๎ ักษะชวี ติ และ ความสามารถในการใช๎เทคโนโลยไี ด๎อยาํ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

รหสั ตวั ช้วี ดั

ต 1.1 ม 3/1 ม 3/2

ต 1.2 ม 3/1 ม 3/2 ม 3/3 ม 3/4 ม -/5

ต 1.3 ม 3/1

ต 2.1 ม 3/1

ต 2.2 ม 3/1

ต 3.1 ม 3/1 ต 4.1 ม.3/1

รวมตวั ชวี้ ัด 12 ตัวชี้วดั

79

คาอธิบายรายวิชา

รายวชิ าภาษาอังกฤษ อ 23102 สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

ภาคเรียนที่ 2 จานวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หนว่ ยกติ

………………………………………………………………………………………………………………………….

ศกึ ษาภาษาเพอื่ การสอื่ สาร ภาษาและวฒั นธรรม ภาษากบั ความสมั พันธ์กับกลมํุ สาระการเรียนร๎ูอื่น

และภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก เก่ียวกับการปฏิบัติการระบุและการเขียนสื่อที่ไมํใชํความเรียง

รูปแบบตํางๆ ให๎สัมพันธ์กับประโยค และข๎อความท่ีฟังหรืออํานการเลือก/การระบุหัวข๎อเรื่อง ใจความสาคัญ

รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอํานจากส่ือประเภทตํางๆ พร๎อมท้ังให๎

เหตุผล การพูดและการเขียนสรุปใจความสาคัญ/แกํนสาระ หัวข๎อเรื่องท่ีได๎จากการวิเคราะห์เรื่อง/ขําว/

เหตุการณ์/สถานการณ์ที่อยูํในความสนใจของสังคม การพูด/การเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับกิจกรรม

ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร๎อมท้ังให๎เหตุผลประกอบ การอธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยูํ

ขนบธรรมเนียมและประเพณขี องเจ๎าของภาษาการเขา๎ รํวม/การจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความ

สนใจ การเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตํางระหวํางชีวิตความเป็นอยูํและวัฒนธรรมของเจ๎าของ

ภาษากับของไทย การใช๎ภาษาตํางประเทศในการสืบค๎น/ค๎นคว๎า ความรู๎/ข๎อมูลตํางๆ จากส่ือและแหลํงการ

เรียนรูต๎ าํ งๆ ในการศกึ ษาตํอและประกอบอาชีพ การเผยแพร/ํ การประชาสัมพันธ์ ข๎อมูล ขําวสารของโรงเรียน

ชุมชน และท๎องถ่ิน เป็นภาษาตาํ งประเทศ

โดยใช๎ทักษะ กระบวนการเรียนรู๎ทางภาษาคือทักษะการฟัง พูด อํานและเขียนเพื่อฝึกทักษะ

ปฏิบัติ เลือก ระบุ แสดงความคิดเห็น ยกตัวอยําง พูดและเขียน สรุปใจความสาคัญ อธิบายเข๎ารํวม/จัด

กิจกรรม เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตาํ งนาไปใช๎ใชภ๎ าษาสบื คน๎ เผยแพร/ํ ประชาสัมพนั ธ์

เพ่ือใหเ๎ กิดความรู๎ ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อํานและเขียน อยํางถูกต๎อง

และเหมาะสม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสารความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสามารถในการใชท๎ กั ษะชีวิต และ ความสามารถในการใชเ๎ ทคโนโลยีไดอ๎ ยาํ งมปี ระสิทธภิ าพ

รหสั ตวั ช้ีวดั

ต 1.1 ม 3/3 ม 3/4

ต 1.3 ม 3/3 ม 3/4

ต 2.1 ม 3/3 ม 3/4

ต 2.2 ม 3/2

ต 4.2 ม.3/1

รวมตัวชว้ี ดั 9 ตัวชี้วัด

80

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม
กลุ่มสาระภาษาตา่ งประเทศ

81

คาอธิบายรายวชิ า

รายวชิ าการสือ่ สารเพอื่ อาเซียน 1 อ 20205 สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ไม่ระบชุ ้ันปี ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 20 ช่วั โมง 0.5 หนว่ ยกติ

…………………………………………………………………………………………………………………………

เข๎าใจ การตคี วาม วเิ คราะห์ หรอื แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับข๎อความ ข๎อมูล ขําวสาร บทความ สาร

คดี บันเทิงคดี จากส่ือสิงพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ อธิบายและเขียนประโยค ข๎อความให๎สัมพันธ์กับส่ือท่ีไมํใชํความ

เรียงในรูปแบบตาํ งๆที่อาํ นรวมทั้งหมด ทงั้ ระบุเขียนส่ือที่ไมํใชํความเรียงในรูปแบบตํางๆให๎สัมพันธ์กับประโยค

และขอ๎ ความทอี่ ําน อาํ นจบั ใจความสาคัญวเิ คราะห์ความ การจากบททอี่ าํ น สื่อ สง่ิ พิมพ์ภาษาอังกฤษ ท้ังที่เป็น

ความเรียงและไมํใชํความเรียง สนทนาและเขียนโต๎ตอบข๎อมูลเก่ียวกับ ตนเองและเร่ืองตํางๆใกล๎ตัว

ประสบการณ์ สถานการณ์ ขําว/ เหตุการณ์ ประเดน็ ทอี่ ยูใํ นความสนใจของสังคมและสื่อสารอยํางตํอเนื่องและ

เหมาะสม ใช๎เพ่ือการสื่อสารและศึกษาตํอรวมทั้งหมดทั้งคาสุภาษิต คาพังเพยของภาษาอังกฤษและภาษาไทย

เห็นประโยชนข์ องการรู๎ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู๎จากแหลํงข๎อมลที่หลากหลายเพื่อความเพลิดเพลิน

และขยายโลกทัศน์

โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการจัดประสบการณ์หรือสร๎างสถานการณ์ในชีวิต

ประจา วนั ท่ีใกล๎ตวั ใหผ๎ ู๎เรียน ไดศ๎ ึกษาคน๎ คว๎าโดยการปฏบิ ตั จิ รงิ

การวดั ผลและประเมินผล ใช๎วิธีการที่หลากหลายตามสภาพจริง สอดคล๎องกับเน้ือหาสาระ ทักษะ/

กระบวนการ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ การอําน คิดวิเคราะห์และเขียนส่ือความหมาย และสมรรถนะ สาคัญ

ของผู๎เรียนที่ต๎องการวัด

ผลการเรยี นรู้

1. เข๎าใจ การตีความ วิเคราะห์ หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข๎อความ ข๎อมูล ขําวสาร บทความ สาร

คดี บนั เทงิ คดี จากส่อื สิงพิมพอ์ เิ ล็กทรอนิกส์

2. อธิบายและเขียนประโยค ข๎อความให๎สัมพันธ์กับสื่อท่ีไมํใชํความเรียงในรูปแบบตํางๆที่อํานรวมท้ัง

หมด ทั้งระบเุ ขยี นสือ่ ท่ีไมใํ ชํความเรียงในรปู แบบตํางๆให๎สมั พนั ธก์ ับประโยคและข๎อความที่อาํ น

3. อํานจับใจความสาคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความและแสดงความคิดเห็น จากการฟังและการ

อาํ นเรอื่ งทงั้ ท่เี ป็นสาระคดี และบนั เทิงคดพี รอ๎ มทัง้ ใหเ๎ หตุผลและยกตัวอยาํ งประกอบ

4. สนทนาและเขียนโต๎ตอบขอ๎ มลู เก่ยี วกับ ตนเองและเรือ่ งตาํ งๆใกล๎ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ขําว/

เหตกุ ารณ์ ประเด็นทอี่ ยํูในความสนใจของสังคมและส่ือสารอยํางตํอเน่ืองและเหมาะสม

5. ใช๎เพื่อการสื่อสารและศึกษาตํอรวมทั้งหมดทั้งคาสุภาษิต คาพังเพยของภาษาอังกฤษและภาษาไทย

เห็นประโยชน์ของการรภ๎ู าษาอังกฤษในการแสวงหาความรจ๎ู ากแหลํงข๎อมลที่หลากหลาย

รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้

82

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชาการสือ่ สารเพอื่ อาเซียน 2 อ 20206 สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

ระบชุ ้นั ปี ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หนว่ ยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………

เข๎าใจลักษณะข๎อสอบสํวนตํางๆเชํน Conversation, Error Identification, Sentence

completion on, Cloze Passage, Reading Passage บอกความหมายคาศัพท์ท่ีพบบํอยในข๎อสอบ

คาศัพท์เหมือน และตรงข๎าม รวมทั้งการเดาคาศัพท์ในบริบท (contextual clues) ใช๎ประโยชน์จากส่ือการ

เรียนทางภาษาสื่อท่ีเป็นความเรียง และไมํใชํความเรียงในรูปแบบตํางๆส่ือส่ิงพิมพ์หรือส่ืออิเล็กทรอนิกส์และ

ผลจากการฝึกทักษะตํางๆให๎ผ๎ูเรียนมีทักษะในการเขียนเพื่อการส่ือสารเข๎าใจวัฒนธรรมการใช๎ภาษาในการ

สนทนา ตามสถานการณ์ทีแ่ ตกตํางกนั การเข๎าใจ Sentence Structure และกฏไวยากรณ์ภาษา เพื่อวิเคราะห์

ข๎อสอบสํวน Error Recognition

โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการจัดประสบการณ์หรือสร๎างสถานการณ์ในชีวิต

ประจา วันทใ่ี กลต๎ ัวให๎ผูเ๎ รียน ได๎ศกึ ษาค๎นคว๎าโดยการปฏิบัตจิ ริง

การวัดผลและประเมินผล ใช๎วิธีการที่หลากหลายตามสภาพจริง สอดคล๎องกับเน้ือหาสาระ ทักษะ/

กระบวนการ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ การอําน คิดวิเคราะห์และเขียนส่ือความหมาย และสมรรถนะ สาคัญ

ของผเ๎ู รยี นท่ตี อ๎ งการวัด

ผลการเรยี นรู้

1. เข๎าใจลักษณะข๎อสอบสํวนตํางๆเชํนConversation, Error Identification, และการเขียนข๎อความ

ข๎อมูล ขําวสารการแสดความคิดการแสดงความรู๎สกึ การเปรยี บเทียบขอและให๎ขอ๎ มลู

2. บอกความหมายคาศัพท์ที่พบบํอยในข๎อสอบ คาศัพท์เหมือน และตรงข๎าม รวมท้ังการเดาคาศัพท์ใน

บรบิ ททีต่ าํ งกันและใหเ๎ หตุผลเกีย่ วกับเหตกุ ารณใ์ นอดีตปัจจุบัน และอนาคตเรือ่ งราวตํางๆท่ซี บั ซ๎อน

3. ใช๎เทคนิคการอํานในการทาข๎อสอบในแบตํางๆได๎ เชํน เทคนิคการหาความคิดหลัก (Main Idea),

หัวข๎อเร่ือง (Topic), ชื่อเรื่อง (Title), การแทนสรรพนาม (Pronoun Reference), การสรุป

(inference), ความมุงํ หมาย(Purpose)ได๎

4. ใช๎กลเม็ด (Tricks) จากการวิเคราะห์คาตอบด๎วยทฤษฎีความนําจะเป็น (Probability Theory) ใน

การเดาคาตอบไดแ๎ ละนาไปใช๎อยํางมวี ิจารณญาณของการเรียนรภู๎ าษาองั กฤษ

5. เข๎าใจวัฒนธรรมการใช๎ภาษาในการสนทนา ตามสถานการณ์ท่ีแตกตํางกันและใช๎ภาษาในการส่ือสาร

ทง้ั ในสถานศกึ ษาและชมุ ชน

6. เข๎าใจ Sentence Structure และกฏไวยากรณ์ภาษา เพอ่ื วเิ คราะห์ขอ๎ สอบสวํ น Error Recognition

รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้

83

คาอธิบายรายวชิ า

รายวิชาภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 1 อ 20203 สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

ไม่ระบุช้นั ปี ภาคเรียนที่ 1 จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ

…………………………………………………………………………………………………………………………

อํานออกเสียงบทความได๎ถูกต๎องตามหลักการอํานออกเสียงและเหมาะสมกับเน้ือหา เข๎าใจ ตีความ

วิเคราะห์ข๎อมูล ขําวสาร บทความ สารคดี บันเทิงคดีสื่อท่ีเป็นความเรียงและไมํใชํความเรียงในรูปแบบตํางๆ

จากส่ือส่ิงพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในหัวข๎อตํางๆ ท่ีเก่ียวกับตนเอง ใช๎ภาษาเพื่อแสดงความคิดเห็น แสดง

ความต๎องการของตน เสนอบริการแกํผ๎ูอื่น เจรจาตํอรอง และวางแผน ในการเรียนโดยใช๎ส่ือเทคโนโลยีที่มีอยูํ

ในแหลํงการเรียนร๎ู ท้ังในและนอกสถานที่ นาเสนอข๎อมูล ความคิดรวบยอดและความคิดเห็นเกี่ยวกับ

ประสบการณ์และเหตุการณ์ตํางๆในท๎องถิ่นด๎วยวิธีการท่ีหลากหลาย เห็นประโยชน์ของการเรียนรู๎

ภาษาตํางประเทศในการแสวงหาความร๎ู การเข๎าสูํสังคมอาชีพ อภิปรายเก่ียวกับประสบการณ์ที่ได๎รับจากการ

ใช๎ภาษาตํางประเทศในการ ค๎นคว๎าเนื้อหาสาระที่เก่ียวข๎องกับกลํุมสาระการเรียนร๎ูอื่นๆเพ่ือแสวงหาความร๎ูท่ี

หลากหลายการเขา๎ สสํู ังคมและอาชีพ

โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการจัดประสบการณ์หรือสร๎างสถานการณ์ในชีวิต

ประจา วนั ที่ใกล๎ตวั ใหผ๎ ๎เู รยี น ไดศ๎ ึกษาค๎นคว๎าโดยการปฏบิ ตั จิ รงิ

การวัดผลและประเมินผล ใช๎วิธีการที่หลากหลายตามสภาพจริง สอดคล๎องกับเนื้อหาสาระ ทักษะ/

กระบวนการ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ การอําน คิดวิเคราะห์และเขียนส่ือความหมาย และสมรรถนะ สาคัญ

ของผเ๎ู รียนทีต่ อ๎ งการวัด

ผลการเรยี นรู้

1. อาํ นออกเสียงบทความได๎ ถกู ตอ๎ งตามหลกั การอาํ นออกเสยี งและเหมาะสมกับเนื้อหาทอี่ ําน

2. เข๎าใจ ตีความ และ /หรือ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับส่ือที่เป็นความเรียงและไมํใชํความเรียงใน

รปู แบบตํางๆ ทีซ่ ับซ๎อนขน้ึ ถาํ ยโอนเปน็ ข๎อความทีใ่ ช๎ถ๎อยคาของตนเอง

3. ใช๎ภาษาเพ่ือแสดงความคิดเห็น แสดงความต๎องการของตน เสนอบริการแกํผู๎อื่น เจรจาตํอรอง และ

วางแผน ในการเรียนโดยใชส๎ ือ่ เทคโนโลยีทม่ี ีอยูํในแหลงํ การเรียนรู๎ ทัง้ ในและนอกสถานที่

4. นาเสนอ ข๎อมูล เร่ืองราว รายงานทเ่ี กยี่ วกบั ประสบการณ์หรอื เรอ่ื งทัว่ ไปงํายๆ

5. เห็นประโยชน์ของการเรียนรู๎ภาษาตํางประเทศในการแสวงหาความร๎ู การเข๎าสํูสังคมอาชีพและนา

ความรด๎ู ๎านภาษาและวัฒนธรรม ประเพณี ความเช่ือไปใช๎อยํางมวี จิ ารณญาณ

6. อภิปรายเก่ียวกับประสบการณ์ท่ีได๎รับจากการใช๎ภาษาตํางประเทศในการ ค๎นคว๎าเน้ือหาสาระที่

เก่ยี วขอ๎ งกบั กลุมํ สาระการเรียนรู๎อืน่ ๆเพื่อแสวงหาความรท๎ู ่หี ลากหลายการเข๎าสสูํ ังคมและอาชพี

รวมทง้ั หมด 6 ผลการเรยี นรู้

84

คาอธิบายรายวชิ า

รายวชิ าภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 1 อ 20204 สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ

ไมร่ ะบุชนั้ ปี ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………

อาํ นออกเสียงบทความไดถ๎ กู ต๎องตามหลักการอํานออกเสียงและเหมาะสมกับเนื้อหา เข๎าใจ ตีความ

วิเคราะห์ข๎อมูล ขําวสาร บทความ สารคดี บันเทิงคดีส่ือที่เป็นความเรียงและไมํใชํความเรียงในรูปแบบตํางๆ

จากส่ือส่ิงพิมพ์หรือส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ในหัวข๎อตํางๆ ท่ีเกี่ยวกับตนเอง ใช๎ภาษาเพ่ือแสดงความคิดเห็น แสดง

ความต๎องการของตน เสนอบริการแกํผ๎ูอื่น เจรจาตํอรอง และวางแผน ในการเรียนโดยใช๎สื่อเทคโนโลยีท่ีมีอยูํ

ในแหลํงการเรียนรู๎ ท้ังในและนอกสถานที่ นาเสนอข๎อมูล ความคิดรวบยอดและความคิดเห็นเก่ียวกับ

ประสบการณ์และเหตุการณ์ตํางๆในท๎องถ่ินด๎วยวิธีการที่หลากหลาย เห็นประโยชน์ของการเรีย นรู๎

ภาษาตํางประเทศในการแสวงหาความร๎ู การเข๎าสูํสังคมอาชีพ อภิปรายเก่ียวกับประสบการณ์ท่ีได๎รับจากการ

ใช๎ภาษาตํางประเทศในการ ค๎นคว๎าเน้ือหาสาระที่เก่ียวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนร๎ูอื่นๆเพ่ือแสวงหาความร๎ูท่ี

หลากหลายการเข๎าสูสํ งั คมและอาชพี

โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการจัดประสบการณ์หรือสร๎างสถานการณ์ในชีวิต

ประจา วันที่ใกล๎ตัวให๎ผ๎ูเรยี น ได๎ศึกษาคน๎ ควา๎ โดยการปฏิบตั ิจรงิ

การวดั ผลและประเมินผล ใช๎วิธีการที่หลากหลายตามสภาพจริง สอดคล๎องกับเนื้อหาสาระ ทักษะ/

กระบวนการ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ การอําน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความหมาย และสมรรถนะ สาคัญ

ของผูเ๎ รยี นทตี่ อ๎ งการวดั

ผลการเรียนรู้

1. เข๎าใจ ตีความ และ /หรือ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อท่ีเป็นความเรียงและไมํใชํความเรียงใน

รูปแบบตํางๆ ท่ีซับซ๎อนขน้ึ ถํายโอนเป็นข๎อความทใ่ี ช๎ถอ๎ ยคาของตนเอง

2. ใช๎ภาษาเพ่ือแสดงความคิดเห็น แสดงความต๎องการของตน เสนอบริการแกํผ๎ูอ่ืน เจรจาตํอรอง และ

วางแผน ในการเรยี นโดยใชส๎ ่ือเทคโนโลยที ีม่ ีอยใูํ นแหลงํ การเรียนรู๎ ทง้ั ในและนอกสถานท่ี

3. นาเสนอ ข๎อมลู เรอ่ื งราว รายงานทเ่ี ก่ยี วกับประสบการณ์หรอื เรือ่ งท่ัวไปงาํ ยๆ

4. เห็นประโยชน์ของการเรียนร๎ูภาษาตํางประเทศในการแสวงหาความร๎ู การเข๎าสูํสังคมอาชีพและนา

ความรดู๎ ๎านภาษาและวัฒนธรรม ประเพณี ความเชอื่ ไปใชอ๎ ยาํ งมีวิจารณญาณ

5. อภิปรายเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได๎รับจากการใช๎ภาษาตํางประเทศในการ ค๎นคว๎าเนื้อหาสาระท่ี

เก่ยี วขอ๎ งกับกลมํุ สาระการเรียนร๎ูอื่นๆเพ่ือแสวงหาความร๎ูที่หลากหลายการเข๎าสสูํ ังคมและอาชีพ

รวมท้งั หมด 5 ผลการเรียนรู้

85

คาอธบิ ายรายวิชา

รายวิชาภาษาอังกฤษ ฟัง-พูด 1 อ 20201 สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

ไมร่ ะบชุ ั้นปี ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………

รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการฟังพูด เป็นรายวิชาท่ีมํุงให๎ผู๎เรียนใช๎ภาษาในการ ฟัง พูด และทําทาง

สื่อสารตามมารยาทสังคม เข๎าใจภาษา ทําทาง น้าเสียง ความรู๎สึกของผ๎ูพูด รวมท้ังเข๎าใจคาสั่งคาขอร๎อง

คาแนะนา คาอธิบายที่พบในส่ือจริง ใช๎ภาษาอังกฤษ เพ่ือขอ และให๎ข๎อมูล เร่ืองราวตํางๆ ในชีวิตประจา วัน

และสงิ่ ท่ีตนสนใจ สร๎างองค์ความรู๎จากส่ือการเรียนทางภาษาและผลจากการฝึกทักษะตํางๆ นาเสนอเร่ืองราว

สั้นๆ หรือกิจวัตรประจาวันใช๎ภาษาการส่ือสารได๎เหมาะสมกับระดับบุคคลและวัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา

สามารถพูด ถาม ตอบ ภาษาองั กฤษในการแสวงหาความร๎ู นาความร๎ูความเข๎าใจเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรม

มาประยุกต์ในการพัฒนาตนเอง สามารถฟัง-พูดส่ือสารภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนร๎ูอื่นๆ

จาก แหลํงข๎อมูลที่หลากหลาย ใช๎ภาษาอังกฤษตามสถานการณ์ตํางๆ ภายในสถานศึกษาด๎วยวิธีการและ

รปู แบบท่ี หลากหลาย

โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในการจัดประสบการณ์หรือสร๎างสถานการณ์ในชีวิตประจา

วนั ที่ใกลต๎ วั ให๎ผูเ๎ รียน ไดศ๎ ึกษาค๎นคว๎าโดยการปฏบิ ตั ิจริง

การวัดผลและประเมินผล ใช๎วิธีการที่หลากหลายตามสภาพจริง สอดคล๎องกับเนื้อหาสาระ ทักษะ/

กระบวนการ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ การอําน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความหมาย และสมรรถนะ สาคัญ

ของผเู๎ รียนที่ต๎องการวัด

ผลการเรียนรู้

1. เขา๎ ใจภาษา ทําทาง นา้ เสยี ง ความรส๎ู ึกของผ๎พู ูด รวมทงั้ เข๎าใจคาสั่งคาขอร๎องคาแนะนาคาอธิบาย

ท่ีพบในสือ่ จรงิ

2. ใชภ๎ าษาอังกฤษ เพือ่ ขอ และให๎ข๎อมูล เรื่องราวตํางๆ ในชีวิตประจาวันและสิ่งท่ีตนสนใจสร๎างองค์

ความร๎จู ากสื่อการเรยี นทางภาษาและผลจากการฝกึ ทักษะตํางๆ

3. นาเสนอเร่อื งราวส้ันๆ หรอื กิจวัตรประจาวัน

4. ใชภ๎ าษาการสื่อสารไดเ๎ หมาะสมกับระดับบุคคลและวัฒนธรรมของเจา๎ ของภาษา

5. สามารถพดู ถาม ตอบ ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความร๎ู

6. สามารถนาความรู๎ความเขา๎ ใจเกยี่ วกบั ภาษาและวัฒนธรรมมาประยกุ ต์ในการพฒั นา ตนเอง

7. สามารถฟัง-พูดสื่อสารภาษาอังกฤษท่ีเก่ียวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนร๎ูอ่ืนๆจากแหลํงข๎อมูลที่

หลากหลาย

8. .ใชภ๎ าษาอังกฤษตามสถานการณต์ าํ งๆ ภายในสถานศกึ ษาด๎วยวิธกี ารและรปู แบบท่ีหลากหลาย

รวมท้ังหมด 8 ผลการเรียนรู้

86

คาอธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ าภาษาอังกฤษฟงั -พูด 2 อ 20202 สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

ไม่ระบุช้ันปี ภาคเรยี นที่ 2 จานวน 20 ช่วั โมง 0.5 หนว่ ยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………

รายวิชาภาษาอังกฤษเพ่ือการฟังพูด เป็นรายวิชาท่ีมุํงให๎ผ๎ูเรียนใช๎ภาษาในการ ฟัง พูด และทําทาง

ส่ือสารตามมารยาทสังคม ในการสร๎างความสัมพันธ์ระหวํางบุคคล และอํานออกเสียงคา วลี สานวนงํายๆ

ประโยคคาส่ัง คาขอร๎อง ข๎อความ ข๎อมูล บทอําน เรื่องราวส้ันๆ ท้ังท่ีเป็นความเรียงและไมํใชํความเรียง สรุป

แสดงความรู๎สึกเก่ียวกับประสบการณ์ของตนเอง ขําวสาร เหตุการณ์สาคัญตํางๆ ในชีวิตประจาวัน

ประสบการณ์สํวนตัว การศึกษา การทางาน เทคโนโลยี งานประเพณี วัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมของ

เจ๎าของภาษา เห็นคุณคําของภาษาอังกฤษ สามารถใช๎ภาษาอังกฤษ ถาม ตอบ และเป็นเคร่ืองมือแสวงหา

ความร๎เู พิ่มเติมและเช่ือมโยงกับกลมุํ สาระการเรยี นร๎ูอืน่

โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการจัดประสบการณ์หรือสร๎างสถานการณ์ในชีวิต

ประจา วนั ทใี่ กลต๎ วั ใหผ๎ เ๎ู รียน ไดศ๎ ึกษาคน๎ ควา๎ โดยการปฏิบัติจรงิ

การวัดผลและประเมินผล ใช๎วิธีการที่หลากหลายตามสภาพจริง สอดคล๎องกับเน้ือหาสาระ ทักษะ/

กระบวนการ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ การอําน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความหมาย และสมรรถนะ สาคัญ

ของผ๎ูเรยี นทตี่ ๎องการวดั

ผลการเรียนรู้

1. สามารถเข๎าใจภาษา ทําทาง น้าเสียง ความร๎ูสึกของผ๎ูพูด รวมท้ังเข๎าใจคาส่ัง คาขอร๎อง

คาแนะนาคาอธบิ ายที่พบในสื่อจรงิ

2. ใช๎ภาษาอังกฤษ เพื่อขอ และให๎ข๎อมูล เรื่องราวตํางๆ ในชีวิตประจาวันและส่ิงที่ตนสนใจสร๎าง

องคค์ วามรูจ๎ ากสื่อการเรยี นทางภาษาและผลจากการฝึกทกั ษะตาํ งๆ

3. สามารถนาเสนอเรื่องราวสั้นๆ หรือกิจวตั รประจาวนั

4. สามารถนาความรค๎ู วามเข๎าใจเกยี่ วกับภาษาและวัฒนธรรมมาประยุกตใ์ นการพัฒนาตนเอง

5. สามารถฟัง-พูด สื่อสารภาษาอังกฤษท่ีเกี่ยวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนร๎ูอ่ืนๆ จากแหลํงข๎อมูลท่ี

หลากหลาย

6. ใชภ๎ าษาองั กฤษตามสถานการณ์ตาํ งๆ ภายในสถานศกึ ษาดว๎ ยวิธีการและรูปแบบท่ีหลากหลาย

รวมทงั้ หมด 6 ผลการเรียนรู้

87

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชาภาษาจีนพื้นฐาน 1 จ 20207 สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ไมร่ ะบุชั้นปี ภาคเรียนที่ 1 จานวน 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกติ

…………………………………………………………………………………………………………………………

ศึกษาภาษาเพื่อการส่ือสาร ภาษาและวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์กับกลํุมสาระการเรียนรู๎อื่น

ภาษากบั ความสมั พันธ์กับชมุ ชนและโลก เกี่ยวกับการปฏิบัติตามคาส่ังงํายๆการระบุสัทอักษรตามระบบพินอิน

อํานออกเสยี ง และประสมเสียงคางาํ ยๆการพูดโต๎ตอบด๎วยประโยคสั้นๆ เพื่อส่ือสารระหวํางบุคคลการใช๎คาส่ัง

งาํ ยๆ และคาแนะนาการพดู แสดงความต๎องการของตนเอง ขอความชํวยเหลือ ตอบรับและปฎิเสธ การพูดเพ่ือ

ขอและให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และส่ิงใกล๎ตัวการพูดแสดงความร๎ูสึกของตนเอง เกี่ยวกับส่ิง

ตํางๆ ใกล๎ตวั การพูดให๎ขอ๎ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง เพอื่ น และเรื่องใกลต๎ ัว การบอกความเหมือน หรือความแตกตําง

ของเสียงตัวอักษร คา กลุํมคา ประโยค และข๎อความของภาษาจีนกับภาษาไทย การบอกคาศัพท์ท่ีเก่ียวข๎อง

กบั กลุมํ สาระการเรยี นรอ๎ู นื่ การฟังหรือการพูดในสถานการณ์งาํ ยๆ ทเ่ี กิดขน้ึ ในหอ๎ งเรียน

โดยใช๎ทักษะกระบวนการฟัง การพูด การอํานและการเขียน เพื่อฝึกทักษะปฏิบัติ ระบุ ตอบคาถาม

พูดโต๎ตอบ ใช๎คาสั่ง พูดแสดงความต๎องการ พูดเพ่ือขอและให๎ข๎อมูล พูดแสดงความรู๎สึก พูดให๎ข๎อมูล บอก

ความเหมอื น หรือความแตกตาํ ง บอกคาศัพท์ ฟงั หรอื พูด

เพือ่ ใหน๎ ักเรียนเกิดความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษา ฟัง พูด อําน แลละเขียน อยําง

ถูกตอ๎ ง และเหมาะสม เกิดความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสารถในการใชท๎ ักษะชวี ิต และความสามารถในการใช๎เทคโนโลยี ได๎อยาํ งมปี ระสิทธิภาพ

ผลการเรียนรู้

1. การปฏบิ ัตติ ามคาส่ังงาํ ยๆการระบุสทั อกั ษรตามระบบพินอินอํานออกเสยี งและประสมเสยี งคางาํ ยๆ

2. การพูดโต๎ตอบด๎วยประโยคสน้ั ๆ เพือ่ สือ่ สารระหวํางบุคคล

3. การใช๎คาสั่งงาํ ยๆ คาขอร๎อง คาขออนุญาต และคาแนะนา

4. การพดู แสดงความต๎องการของตนเอง ขอความชํวยเหลือ ตอบรับและปฎเิ สธ

5. การพูดเพอ่ื ขอและใหข๎ อ๎ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และส่งิ ใกล๎ตวั

6. การพูดแสดงความรูส๎ กึ ของตนเอง เกีย่ วกบั สง่ิ ตาํ งๆ ใกล๎ตัว

7. การพดู ให๎ข๎อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพอื่ น และเรอื่ งใกลต๎ วั

8. การบอกความเหมือน หรอื ความแตกตํางของเสยี งตัวอกั ษรคา ของภาษาจนี กับภาษาไทย

9. การบอกคาศัพท์ทเ่ี กยี่ วข๎องกบั กลมํุ สาระการเรยี นรู๎อนื่

10. การฟังหรอื การพดู ในสถานการณง์ าํ ยๆ ท่ีเกิดขึน้ ในหอ๎ งเรยี น

รวมทัง้ หมด 11 ผลการเรยี นรู้

88

คาอธิบายรายวิชา

รายวชิ าภาษาจนี พนื้ ฐาน 2 จ 20208 สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ไม่ระบุชัน้ ปี ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ

…………………………………………………………………………………………………………………………

ศึกษาภาษาเพ่ือการสื่อสาร ภาษาและวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์กับกลํุมสาระการเรียนร๎ูอื่น

ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก เกี่ยวกับการระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ ตรงตามความหมายของคา

กลํุมคา และประโยค จากการฟังหรือการอําน การตอบคาถามงํายๆ จากการฟัง การเขียนอักษรจีนตาม

หลักการเขียน คาศัพท์งํายๆ การพูดแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับกิจกรรม หรือเร่ืองใกล๎ตัว การพูดและ

แสดงออกอยํางสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของจีน การบอกชื่อ คาศัพท์ และความสาคัญอยําง

ส้นั ๆเกีย่ วกบั เทศกาลและวันสาคญั ของจีน การเข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของจีนท่ีเหมาะสมกับ

วัย การบอกความเหมือนหรือความแตกตํางระหวํางเทศกาล งานฉลอง และประเพณี ตามวัฒนธรรมของจีน

กับวฒั นธรรมของไทย การใช๎ภาษาจีนเพือ่ รวบรวมคาศัพท์ท่เี ก่ยี วขอ๎ งกับสง่ิ ใกล๎ตวั

โดยใช๎ทกั ษะกระบวนการฟงั การพดู การอาํ นและการเขียน เพ่ือฝึกทักษะการระบุ ตอบคาถาม เขียน

พูดแสดงความคิดเห็น พดู และแสดงออก บอกช่ือ คาศัพท์ และความสาคัญ เข๎ารํวมกิจกรรมบอกความเหมือน

หรอื ความแตกตาํ ง ใช๎ภาษา

เพ่ือให๎นักเรียนเกิดความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษา ฟัง พูด อําน แลละเขียน อยําง

ถูกต๎อง และเหมาะสม เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสารถในการใชท๎ กั ษะชีวิต และความสามารถในการใชเ๎ ทคโนโลยี ไดอ๎ ยาํ งมปี ระสทิ ธิภาพ

ผลการเรียนร็

1. การระบุภาพ สญั ลกั ษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลมุํ คา ประโยคจากการฟงั หรือการอําน

2. การตอบคาถามงาํ ยๆ จากการฟัง

3. การเขียนอกั ษรจนี ตามหลักการเขยี น คาศพั ทง์ ํายๆ

4. การพูดแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั กิจกรรม หรอื เรอ่ื งใกล๎ตัว

5. การพูดและแสดงออกอยาํ งสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของจนี

6. การบอกชอื่ คาศพั ท์ และความสาคัญอยาํ งส้นั ๆเกยี่ วกบั เทศกาลและวันสาคัญของจนี

7. การเขา๎ รํวมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของจีนทเ่ี หมาะสมกับวยั

8. การบอกความเหมือนหรอื ความแตกตาํ งระหวาํ งเทศกาล งานฉลอง และประเพณี ตามวัฒนธรรม

ของจีนกับวฒั นธรรมของไทย

9. การใช๎ภาษาจีนเพื่อรวบรวมคาศัพทท์ ี่เกย่ี วข๎องกบั สิ่งใกลต๎ ัว

รวมทัง้ หมด 9 ผลการเรยี นรู้

89

คาอธบิ ายรายวชิ า

รายวิชาภาษาจนี พืน้ ฐาน 3 จ 20209 สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ไมร่ ะบชุ ้นั ปี ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ

…………………………………………………………………………………………………………………………

ศึกษาภาษาเพ่ือการส่ือสารภาษากบั กบั ความสัมพนั ธเ์ กย่ี วกับทกั ษะการปฏิบัติตามคาส่ังคาแนะนา คา

ขอร๎อง คาชี้แจง และคาอธิบายที่ฟังและอําน การอํานออกเสียงตัวอักษร คาศัพท์ กลํุมคา ประโยค ตาม

หลักการอํานในระบบเสียงภาษาจีนกลาง การพูดหรือเขียนโต๎ตอบในการส่ือสารระหวํางบุคคล คาขอร๎อง

คาแนะนา คาช้แี จง การพูดหรอื การเขยี น ขอความชวํ ยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธในชีวิตประจาวัน การพูดหรือ

การเขยี นให๎ข๎อมูลเกีย่ วกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเรอื่ งใกล๎ตัว การพูดหรือการเขียนข๎อมูลเก่ียวกับตัวเอง

เพื่อน และเรื่องใกล๎ตัว การเขียนให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเองและกิริยาทําทางอยํางสุภาพตามวัฒนธรรมของจีน

การบอกความเหมอื น หรือความแตกตํางระหวํางการออกเสียงประโยคชนิดตาํ งๆ การใช๎เครอ่ื งหมายวรรคตอน

และการลาดับคา ตามโครงสร๎างประโยคของภาษาจีนและภาษาไทย การฟัง การพูด การอําน หรือการเขียน

ประโยคหรือบทสนทนาในสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น

โดยใช๎ทักษะการฟัง การพูด การอํานและการเขียน เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัติ อํานออกเสียง พูดหรือ

เขยี น ใช๎คาส่งั ใช๎ถอ๎ ยคา บอกความเหมือน หรอื ความแตกตาํ ง

เพ่ือให๎เกิดความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะ ฟัง พูด อําน แลละเขียน อยํางถูกต๎อง เกิดความสามารถใน

การคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา ความสารถในการใช๎ทักษะชีวิต และ

ความสามารถในการใช๎เทคโนโลยี ได๎อยาํ งมีประสทิ ธิภาพ

ผลการเรียนรู้

1. การปฏิบตั ิตามคาสัง่ คาแนะนา คาขอรอ๎ ง และคาอธิบายทฟี่ ังและอําน

2. การอํานออกเสยี งตัวอักษร คาศพั ท์ กลุมํ คา ประโยค ตามหลกั การอาํ นในระบบเสยี งภาษาจนี กลาง

3. การพดู หรือเขียนโต๎ตอบในการสอ่ื สารระหวาํ งบคุ คล

4. การใชค๎ าส่ัง คาขอรอ๎ ง คาแนะนา คาชี้แจง คาขออนุญาตทีใ่ ชใ๎ นหอ๎ งเรียนและในชวี ติ ประจาวัน

5. การพดู หรือการเขียนแสดงความต๎องการ ขอความชวํ ยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธในชวี ติ ประจาวัน

6. การพดู หรือการเขยี นเพือ่ ขอและให๎ขอ๎ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอ่ื งใกล๎ตวั

7. การพดู หรือการเขียนข๎อมูลเก่ยี วกบั ตวั เอง เพอ่ื น และเรอื่ งใกล๎ตัว

8. การเขียนให๎ขอ๎ มูลเกย่ี วกบั ตนเองแบบงํายๆ

9. การใช๎ถ๎อยคา นา้ เสยี ง และกริ ิยาทําทางอยํางสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของจนี

10.บอกความเหมอื น ความแตกตาํ งการออกเสยี งการใชเ๎ ครื่องหมายวรรคตอนภาษาจีนและภาษาไทย

รวมท้ังหมด 10 ผลการเรยี นรู้

90

คาอธิบายรายวิชา

รายวชิ าภาษาจีนพน้ื ฐาน 4 จ 20210 สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ

ไม่ระบุชัน้ ปี ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………

ศึกษาภาษาเพ่ือการส่ือสาร ภาษาวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์เกี่ยวกับการระบุภาพ หรือ

สัญลักษณ์ ของคา กลํุมคา และประโยค จากการฟัง การอําน การตอบคาถามจากการฟัง การสนทนา และ

การดภู าพประกอบ การพูด การเขียนแสดงความรส๎ู ึก ความคิดเห็น เร่ืองราวในชีวิตประจาวัน การพูดหรือการ

เขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับกิจกรรม หรือเรื่องใกล๎ตัว การบอกข๎อมูล และความสาคัญของเทศกาล วัน

สาคญั ชวี ติ ความเปน็ อยํขู องจีน การเขา๎ รวํ มกจิ กรรมทางภาษาวฒั นธรรมของจนี การเปรียบเทียบความเหมือน

หรือความแตกตํางระหวํางเทศกาล วันสาคัญ และชีวิตความเป็นอยํูของจีนกับของไทย การค๎นคว๎า รวบรวม

คาศัพท์ที่เก่ียวข๎องกับกลํุมสาระการเรียนรู๎อ่ืน จากแหลํงเรียนร๎ู การฟัง การพูด การอําน หรือการเขียน

ประโยคหรือบทสนทนาในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึน้ ในห๎องเรียนและสถานศึกษา การใช๎ภาษาจีนในการสืบค๎น และ

การรวบรวมขอ๎ มลู ตํางๆ

โดยใช๎ทักษะการฟัง การพูด การอํานและการเขียน เพื่อฝึกทักษะการระบุ ตอบคาถาม พูดหรือเขียน

บอกข๎อมูล เข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษา เปรียบเทียบความเหมือนหรือความแตกตําง ค๎นคว๎า นาเสนอ ฟัง พูด

อําน หรือเขยี น ใช๎ภาษารวบรวมขอ๎ มูล

เพ่ือให๎นักเรียนเกิดความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษา ฟัง พูด อําน แลละเขียน อยําง

ถกู ตอ๎ ง และเหมาะสม เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสารถในการใชท๎ กั ษะชีวิต และความสามารถในการใช๎เทคโนโลยี ได๎อยาํ งมีประสทิ ธภิ าพ

ผลการเรียนรู้

1. การระบภุ าพ สญั ลกั ษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลุมํ คาประโยคจากการฟงั หรือการอําน

2. การตอบคาถามจากการฟงั และอํานบทสนทนา หรอื ตอบคาถามจากการดูภาพประกอบ

3. การพดู หรือการเขียนแสดงความรูส๎ กึ ของตนเองเก่ยี วกับเร่ืองราวในชีวิตประจาวนั พรอ๎ ม

4. การพูดการเขียนแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั กจิ กรรม หรอื เร่ืองใกล๎ตวั ใหเ๎ หตุผลประกอบงาํ ยๆ

5. การบอกข๎อมูล และความสาคัญของเทศกาล วนั สาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเปน็ อยํขู องจนี

6. การเขา๎ รํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของจีน ตามความสนใจ

7. การเปรียบเทียบความเหมือนความแตกตาํ งระหวาํ งเทศกาลและชวี ติ ความเปน็ อยูํของจนี กับไทย

8.การค๎นคว๎า รวบรวมคาศัพทท์ ่เี ก่ยี วขอ๎ งกบั กลุํมสาระการเรียนร๎ูอื่น จากแหลงํ เรียนร๎ู

9.การใชภ๎ าษาจีนในการสืบค๎น และการรวบรวมข๎อมลู ตํางๆ

รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้

91

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชาภาษาจีนพ้ืนฐาน 5 จ 20211 สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ไม่ระบุชนั้ ปี ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 40 ช่ัวโมง 1.0 หน่วยกิต

…………………………………………………………………………………………………………………………

ศึกษาภาษาเพื่อการสื่อสาร ทักษะการปฏิบัติตามคาสั่ง คาแนะนา คาขอร๎อง คาชี้แจง และ

คาอธิบาย การอํานออกเสียงประโยค ข๎อความบทสนทนา นิทานงํายๆ การระบุประโยค ข๎อความ หรือการ

ตอบคาถามใหส๎ มั พนั ธก์ บั สอ่ื การสนทนา แลกเปลยี่ น การเขียนโต๎ตอบข๎อมูลเพื่อสื่อสารอยํางตํอเน่ืองเก่ียวกับ

สถานการณ์ตํางๆ ในชีวิตประจาวัน การใช๎คาขอร๎อง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายตามสถานการณ์ การ

พดู การเขียนแสดงความตอ๎ งการ การขอความชวํ ยเหลอื ในสถานการณ์ตํางๆ เก่ียวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว

และเรอ่ื งใกล๎ตวั กิจวตั รประจาวัน ประสบการณ์สิ่งแวดล๎อมใกล๎ตัว การเขียนข๎อมูลหรือภาพเก่ียวกับเรื่องใกล๎

ตวั การใชภ๎ าษา น้าเสยี ง และกิรยิ าทําทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส การบรรยายเก่ยี วกับเทศกาล วันสาคัญ

ชวี ิตความเป็นอยํู และประเพณีของจีน การบอกความเหมือนหรือความแตกตํางระหวํางการออกเสียงประโยค

ชนดิ ตาํ งๆ การใช๎เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดับคาตามโครงสรา๎ งประโยคของภาษาจนี และภาษาไทย

โดยใช๎ทกั ษะกระบวนการฟงั การพูด การอํานและการเขียน เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัติ อํานออกเสียง

ระบุ ตอบคาถาม สนทนา แลกเปลีย่ นและเขียน ใชค๎ าขอร๎อง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบาย พูดหรือเขียน

แสดงความต๎องการ พูดและเขียน ใช๎ภาษา บรรยาย บอกความเหมือนหรือความแตกตาํ ง

เพอ่ื ใหน๎ ักเรยี นเกิดความร๎ู ความเขา๎ ใจ ทักษะกระบวนการทางภาษา ฟัง พูด อําน แลละเขียน อยําง

ถูกตอ๎ ง และเหมาะสม เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสารถในการใชท๎ กั ษะชวี ติ และความสามารถในการใชเ๎ ทคโนโลยี ได๎อยาํ งมีประสิทธิภาพ

ผลการเรียนรู้

1. การปฏิบตั ติ ามคาสงั่ คาแนะนา คาขอร๎อง คาชแี้ จง และคาอธิบายท่ีฟงั และอาํ น

2. การอํานออกเสียงประโยค ขอ๎ ความบทสนทนา นทิ านงาํ ยๆ

3. การระบุประโยคและขอ๎ ความ หรือการตอบคาถามให๎สัมพันธก์ ับส่ือท่ีไมํใชคํ วามเรยี ง

4. การสนทนาเขยี นโต๎ตอบขอ๎ มลู เพ่ือสื่อสารเก่ยี วกบั ตนเองและสถานการณต์ ํางๆ ในชวี ติ ประจาวนั

5. การใชค๎ าขอรอ๎ ง คาแนะนา คาชีแ้ จง และคาอธบิ ายตามสถานการณ์

6. การพดู เขียนแสดงความตอ๎ งการ การขอและให๎ความชํวยเหลือ ในสถานการณ์ตํางๆ

7. การพดู และการเขียนเพ่อื ขอและให๎ข๎อมูลเก่ยี วกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเรือ่ งใกลต๎ ัว

8. การพูดและการเขียนขอ๎ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวัน ประสบการณส์ งิ่ แวดล๎อมใกลต๎ ัว

9. การเขยี นขอ๎ มูลเกยี่ วกับเร่ืองใกลต๎ วั การใชภ๎ าษาและกริ ยิ าทําทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส

10.การบรรยายเกีย่ วกบั เทศกาล วันสาคัญ ชีวติ ความเป็นอยูํ และประเพณีของจนี

รวมทง้ั หมด 11 ผลการเรยี นรู้

92

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชาภาษาจีนพืน้ ฐาน 6 จ 20212 สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ

ไม่ระบุช้นั ปี ภาคเรยี นที่ 2 จานวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ

…………………………………………………………………………………………………………………………

ศึกษาภาษาเพ่ือการสื่อสาร เกี่ยวกับ การจับใจความสาคัญ จากเร่ืองที่ฟังหรืออํานจากส่ือประเภท

ตาํ งๆ การพูดและการเขียนแสดงความร๎สู ึก ความคดิ เหน็ ของตนเอง เกย่ี วกับเรื่องราวใกล๎ตัวพร๎อมทั้งให๎เหตุผล

การพดู และการเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรื่องใกล๎ตัว กิจกรรม และประสบการณ์ พร๎อมให๎เหตุผลสั้นๆ

ประกอบ การเข๎ารํวมหรือจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของจีนตามความสนใจ การเปรียบเทียบและ

อธิบายความเหมือนและความแตกตํางระหวํางชีวิตความเป็นอยํูและวัฒนธรรมของจีนกับวัฒนธรรมของไทย

การค๎นคว๎า การรวบรวม และการสรุปข๎อมูลหรือข๎อเท็จจริงที่เก่ียวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนร๎ูอ่ืน จากแหลํง

เรียนร๎ู การใช๎ภาษาจีนสื่อสารในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลองท่ีเกิดขึ้นในห๎องเรียน สถานศึกษา

ชุมชน การใช๎ภาษาจีนในการสืบค๎น/ค๎นคว๎า รวบรวม นาเสนอและสรุปความร๎ูหรือข๎อมูลตํางๆ จากสื่อและ

แหลํงการเรียนรู๎ตาํ งๆ การเผยแพรหํ รือการประชาสมั พันธ์ข๎อมลู ขาํ วสารของโรงเรียนเปน็ ภาษาจนี

โดยใชท๎ ักษะกระบวนการฟงั การพูด การอํานและการเขียน เพื่อฝึกทักษาจบั ใจความสาคัญ สรุป และ

ตอบคาถาม พูดและเขียน เข๎ารํวมหรือจัดกิจกรรมทางภาษา นาไปใช๎ ค๎นคว๎า รวบรวม และสรุป นาเสนอ ใช๎

ภาษา เผยแพรหํ รือประชาสัมพันธ์

เพอ่ื ใหน๎ ักเรียนเกดิ ความรู๎ ความเข๎าใจ ทักษะกระบวนการทางภาษา ฟัง พูด อําน แลละเขียน อยําง

ถูกต๎อง และเหมาะสม เกดิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการแก๎ปัญหา

ความสารถในการใช๎ทกั ษะชวี ิต และความสามารถในการใช๎เทคโนโลยี ได๎อยํางมีประสทิ ธภิ าพ

ผลการเรียนรู้

1. การจับใจความสาคัญ และการตอบคาถามงํายๆจากเร่อื งท่ฟี ังหรอื อาํ นจากส่ือประเภทตํางๆ

2. การพูดและการเขียนแสดงความรสู๎ กึ ความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เรอ่ื งราวใกลต๎ ัวพร๎อมท้ังให๎เหตผุ ล

3. การพูดและการเขียนแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเรือ่ งใกล๎ตัวพร๎อมให๎เหตุผลส้นั ๆประกอบ

4. การเขา๎ รวํ มหรือจัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมของจีนตามความสนใจ

5. การเปรียบเทยี บอธบิ ายความเหมือนและความแตกตํางระหวาํ งวัฒนธรรมจีนกบั วัฒนธรรมไทย

6. การค๎นควา๎ สรุปข๎อมลู หรือข๎อเทจ็ จรงิ ทีเ่ กี่ยวขอ๎ งกบั กลมุํ สาระการเรียนรู๎อ่ืน จากแหลํงเรยี นร๎ู

7. การใช๎ภาษาจีนสือ่ สารในสถานการณ์จรงิ สถานการณจ์ าลองทีเ่ กดิ ขน้ึ

8.การใชภ๎ าษาจนี ในการสบื ค๎น/ค๎นควา๎ รวบรวม นาเสนอและสรปุ ความรห๎ู รือขอ๎ มูลตํางๆ

9.การเผยแพรํหรอื การประชาสัมพนั ธข์ อ๎ มูล ขาํ วสารของโรงเรียนเป็นภาษาจีน

รวมทั้งหมด 9 ผลการเรยี นรู้

93

คาอธิบายรายวิชา
กล่มุ สาระการงานอาชพี

94

คาอธบิ ายรายวชิ า

ง 21101 วชิ าการงานอาชพี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

.........................................................................................................................................

ศึกษาความหมายความสาคัญเกี่ยวกับบทบาทหน๎าที่ของสมาชิกในครอบครัว อธิบายวิธีการ ข้ันตอน

กระบวนการทางาน การจัดการงานบา๎ น งานเกษตร งานชําง งานประดิษฐ์ และแนวทางการเลือกอาชีพใน

อนาคต

โดยใช๎ทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ ขั้นตอนกระบวนการทางานเลือกใช๎ เคร่ืองมือ วัสดุ อุปกรณ์

อยํางสร๎างสรรค์ และเหมาะสมกับงาน ลงมือผลิตช้ินงานตามข้ันตอน กระบวนการทางานโดยใช๎กระบวนการ

กลุมํ นาเสนอผลงาน และแนวทางการประกอบอาชีพได๎อยาํ งสรา๎ งสรรค์

เพ่ือให๎เกิดความรู๎ ความเข๎าใจ ทักษะ เจตคติ ที่ดีตํอการประกอบอาชีพ โดยคานึงถึง ความค๎ุมคํา มี

ประสิทธิภาพ อนุรักษ์สิ่งแวดล๎อม และสังคมเห็นความสาคัญของการสร๎างอาชีพ ทางานด๎วยความเสียสละ

และการแกป๎ ัญหา อยํางมีเหตผุ ลและสร๎างสรรค์

มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด
ง 1.1 ม.1/1, ม1/2, ม1/3
ง 2.1 ม.1/1, ม1/2, ม1/3

รวมท้ังหมด 8 ตัวชีว้ ดั

95

คาอธบิ ายรายวชิ า

ง 22101 วิชาการงานอาชีพ 2 กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1 หนว่ ยกิต

.........................................................................................................................................

ศึกษาเกีย่ วกับงานชาํ งทวั่ ไป ความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั ิงานชํางทว่ั ไป ความร๎ูเบื้องต๎นเก่ียวกับ งาน

ไฟฟูางานโลหะ งานไม๎ งานปูน งานประปา งานสี เป็นต๎น ฝึกทักษะในการปฏิบัติงานงานชํางทั่วไป เลือกใช๎

วสั ดุอปุ กรณ์งานชาํ งตามมาตรฐานอยํางเหมาะสมกบั งานและมีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ เตรียม

ความพรอ๎ มเขา๎ สูอํ าชีพและมีทักษะที่จาเป็นตอํ การประประกอบอาชพี ใชเ๎ ทคโนโลยเี พ่อื พัฒนาอาชพี

ใชท๎ กั ษะการแสวงหาความรเู๎ พ่อื พฒั นาการทางาน มีความคิดสร๎างสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทางาน

ทกั ษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการจัดการ ทักษะกระบวนการแก๎ปัญหา และทักษะการทางานรํวมกัน เพื่อ

ดารงชวี ิตและครอบครวั อยํางเหมาะสม

เพ่ือให๎ผ๎ูเรียนเห็นความสาคัญและมีเจตคติท่ีดีตํอการประกอบอาชีพ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มี

ความมํุงม่ันในการทางาน ใฝุร๎ู ใฝุเรียน มีเหตุมีผล มีความเสียสละตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

สามารถอยูรํ ํวมกบั ผอู๎ นื่ ได๎อยาํ งมคี วามสขุ

รหสั ตวั ช้ีวดั
ง 1.1.ม.2/1, ง 1.1.ม.2/2, ง 1.1.ม.2/3
ง 2.1.ม.2/1, ง 2.1.ม.2/2, ง 2.1.ม.2/3

รวมทั้งหมด 6 ตวั ช้ีวัด


Click to View FlipBook Version