The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

28

แผนการจดั การเรียนรู้

ชอ่ื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น รหสั วชิ า 20901 - 1002 สอนคร้งั ท่ี 3

หนว่ ยที่ 2 ชือ่ หนว่ ย การวิเคราะหง์ าน จานวน 3 ชม.

1. หวั ข้อการเรยี นรู้
1. ชนดิ ตัวแปร
2. การตั้งชอ่ื ตวั แปร
3. คาสงวน

2. สาระสาคญั
การวิเคราะห์งาน เป็นข้ันตอนที่ 1 ของวงจรการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม นับว่าเป็น

ขั้นตอนแรกที่สาคัญท่ีสุดในการเตรียมเพ่ือเขียนโปรแกรม เป็นการพิจารณาถึงผลลัพธ์ท่ีได้จาก
โปรแกรม รูปแบบของผลลัพธ์ ข้อมูลท่ีต้องจัดเตรียม วิธีการขั้นตอนการเรียงลาดับคาส่ังภายใน
โปรแกรม และรวมถึงความเปน็ ไปไดใ้ นทางเทคนิคทจ่ี ะใหค้ อมพิวเตอร์ทางานตามทกี่ าหนด
3. สมรรถนะประจาหน่วย

แสดงความรู้เกี่ยวกบั การวิเคราะห์งาน หลกั เกณฑ์ในการวิเคราะห์งาน ตวั แปร ชนิดตวั แปร
การต้งั ชื่อตวั แปร การใช้คาสงวน และวเิ คราะห์งานจากตัวอยา่ งการวิเคราะห์งานได้
4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

4.1 จุดประสงคท์ ว่ั ไป
1. กาหนดชนิดตัวแปร
2. วิเคราะห์การตัง้ ช่ือตวั แปร
3. รู้คาสงวน

4.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. กาหนดชนดิ ตัวแปรได้อยา่ งเหมาะสมกับข้อมลู การใชง้ าน
2. วิเคราะห์งานได้อย่างเปน็ ระบบ
3. บอกคาสงวนได้

5. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
ในการเรยี นการสอนของหน่วยที่ 2 คร้ังท่ี 3 (จานวน 3 ช่ัวโมง)
ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน
1. ตรวจสอบรายช่อื ของนักเรียนท่ีเขา้ เรียน
2. ครูทบทวนเนอ้ื หาเดิมเกี่ยวกบั การวเิ คราะห์งาน ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ตัวแปร

การตง้ั ชอ่ื ตวั แปรว่ามีหลักในการตง้ั ชอ่ื ตัวแปรอย่างไร
3. ครูแสดงความคิดเหน็ เพ่ิมเติม

29

ขน้ั สอน
1. ครบู รรยาย อธิบาย ยกตัวอยา่ งในแต่ละหวั ข้อการเรียน
2. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามครูผู้สอน
3. ประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คลโดยครจู ะซกั ถามในแตล่ ะคน
ข้นั สรุป
1. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สาระสาคัญ
2. เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามขอ้ สงสยั
3. มอบหมายให้ไปหดั ทาและศกึ ษาเพมิ่ เตมิ
4. ทาแบบทดสอบหลังเรยี นและเฉลยแบบทดสอบ
6. สือ่ การจดั การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บ้ืองต้น ของ บริษัท วังอกั ษร จากดั
2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้หลังเรยี น พร้อมเฉลย
3. Kahoot
4. Google Classroom
7. การวดั ผลและประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. ผูเ้ รยี นปฏิบัติภาระงานทีม่ อบหมายเสร็จทนั เวลาที่กาหนด
2. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั
พงึ ประสงค์
เคร่ืองมือวัดผล
1. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้หลงั เรยี นพรอ้ มเฉลย
2. แบบสังเกตคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและ
นักเรียนรว่ มกนั ประเมนิ
8. แหล่งการเรยี นรูเ้ พ่ิมเติม
1. ห้องสมดุ วิทยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดิน
2. อินเทอร์เน็ต

9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถ้ามี)
1. นกั เรยี นเข้าไปคน้ คว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากห้องสมุด จดั ทาเปน็ รายงานสง่ ครู
2. ทาแบบฝึกปฏิบัติและแบบประเมินผลการเรียนรู้

30

สปั ดาห์ท่.ี ................

บันทกึ หลงั การสอน

รหัสวชิ า..............................วชิ า.............................................................ระดบั ................. ชัน้ ปีที.่ ..........
แผนกวชิ า.........................................จานวนนกั เรียน............คน มาเรยี น...........คน ขาดเรยี น..........คน
มาสาย................คน ลา.............คน สอนเมอ่ื วันท.ี่ ...............เดือน..................................พ.ศ.................
หน่วยท.ี่ ..................... ชอื่ หนว่ ย.......................................................................จานวน.................ชวั่ โมง

 เนื้อหาวตั ถปุ ระสงคแ์ ละส่ือการสอน
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................ ................................
................................................................................................... .............................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

 ปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ ในระหวา่ งการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................. ...
............................................................................................................................. ...................................

 แนวทางการแกไ้ ขปญั หาของครผู ู้สอน และผลที่ได้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................ ................
................................................................................................................... .............................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชื่อ............................................ครผู ้สู อน ลงช่อื ................................................หัวหนา้ แผนก
(นางสุวมิ ล อักษรกลาง) (นางสุกญั ญา ดนัยสวัสด์ิ)

วนั ที่.......................................................... วันที.่ ..........................................................

31

ใบความรู้ / ใบเนื้อหา
หน่วยที่ 2 เรอ่ื ง การวเิ คราะห์งาน

2.4 ชนดิ ของตัวแปร

ภาษาซเี ปน็ อีกภาษาหนึ่งทม่ี ีชนิดของข้อมูลให้ใช้งานหลายอย่างดว้ ยกนั ซงึ่ ชนดิ ของข้อมูลแต่

ละอย่างมขี นาดเนื้อท่ีท่ใี ชใ้ นหน่วยความจาท่ีแตกตา่ งกนั และเนอ่ื งจากการท่ีมีขนาดท่ีแตกตา่ งกนั ไป

ดังนน้ั ในการเลือกใช้งานประเภทขอ้ มลู ก็ควรจะคานงึ ถึงความจาเป็นในการใชง้ านด้วย สาหรบั

ประเภทของข้อมลู มีดังน้คี ือ

ชนิด ขนาดความ ชว่ งของค่า การใช้งาน

กวา้ ง

Char 8 บิต ASCII character (-128 ถงึ 127) เก็บข้อมลู ชนิดอักขระ

Unsigned 8 บิต 0-255 เก็บข้อมลู อักขระแบบไม่

char คดิ เครื่องหมาย

Int 16 บิต -32768 ถึง 32767 เกบ็ ข้อมูลชนดิ จานวนเต็ม

long 32 บิต -2147483648 ถึง 2147483649 เก็บข้อมูลชนดิ จานวนเตม็

แบบยาว

Float 32 บิต 3.4E-38 ถึง 3.4E+38 หรือ เก็บข้อมลู ชนิดเลขทศนยิ ม

ทศนิยม 6

Double 64 บิต 1.7E-308 ถงึ 1.7E+308 หรอื เก็บข้อมลู ชนิดเลขทศนยิ ม

ทศนยิ ม 12

Unsigned 16 บิต 0 ถึง 65535 เกบ็ ข้อมลู ชนดิ จานวนเตม็

int ไม่คิดเครือ่ งหมาย

Unsigned 32 บิต 0 ถึง 4294967296 เก็บข้อมลู ชนิดจานวนเต็ม

long แบบยาว ไม่คดิ เครอ่ื งหมาย

การกาหนดตวั แปร ทาได้ 2 แบบ คือ
1. กาหนดไว้ นอกกลุ่มคาส่ัง หรือฟังก์ชัน เรียกตัวแปรนี้ว่า Global Variable กาหนดไว้นอก

ฟงั กช์ ัน ใช้งานไดท้ ง้ั โปรแกรม มีคา่ เริม่ ตน้ เป็น 0 ( กรณไี ม่ได้กาหนดคา่ เร่ิมต้น )
2. กาหนดไว้ ในกลุ่มคาสั่ง หรือฟังก์ชัน เรียกตัวแปรนี้ว่า Local Variable กาหนดไว้ ภายใน

ฟงั กช์ นั ใช้งานได้ภายในฟังกช์ นั นน้ั และไม่ถูกกาหนดคา่ เรม่ิ ต้นโดยอัตโนมัติ

32

2.5 การตั้งชือ่ ตวั แปร
ในการประกาศสร้างตัวแปรต้องมีการกาหนดชื่อ ซึ่งช่ือน้ันไม่ใช่ว่าจะตั้งให้สื่อความหมายถึง

ข้อมูลที่เก็บอย่างเดียว โดยไม่คานึงถึงอย่างอื่น เน่ืองจากภาษา C มีข้อกาหนดในการต้ังชื่อตัวแปร
เอาไว้ แล้วถ้าตั้งชื่อผิดหลักการเหล่าน้ี โปรแกรมจะไม่สามารถทางานได้ หลักการตั้งชื่อตัวแปรใน
ภาษา C แสดงไวด้ งั น้ี

1. ต้องขน้ึ ตน้ ดว้ ยตัวอักษร A-Z หรือ a-z หรอื เคร่ืองหมาย _(Underscore) เทา่ นนั้

2. ภายในชื่อตัวแปรสามารถใช้ตัวอักษร A-Z หรือ a-z หรือตัวเลข0-9 หรอื เคร่ืองหมาย _

3. ภายในชอื่ ห้ามเวน้ ช่องว่าง หรือใช้สญั ลกั ษณน์ อกเหนือจากขอ้ 2
4. ตัวอักษรเลขหรือใหญ่มีความหมายแตกต่างกนั

5. ห้ามตง้ั ชอ่ื ซา้ กบั คาสงวน (Reserved Word) ดงั นี้

auto default float register struct volatile break
do far return switch while case double
goto short typedef char else if signed
union const enum sizeof unsigned continue
extern long static int
void

ตัวอยา่ งการต้ังชอื่ ตัวแปรในภาษา C ทง้ั ท่ีถูกต้องและไม่ถูกตอ้ งตามหลกั การ แสดงดังนี้

bath_room ถกู ต้อง

n-sync ผดิ หลกั การ เนือ่ งจากมีเคร่ืองหมาย - ปรากฏในชือ่

108dots ผิดหลักการ เนอ่ื งจากขึน้ ตน้ ด้วยตัวเลข

Year# ผดิ หลกั การ เน่ืองจากมีเคร่อื งหมาย # อยู่ในชอ่ื

_good ถกู ต้อง

goto ผดิ หลกั การ เน่ืองจากเป็นคาสงวน

work ถูกต้อง

break ผิดหลกั การ เนอื่ งจากเปน็ คาสงวน

33

2.6 คาสงวน (Reserve Word)

คาสงวน คือ คาท่ีมีความหมายพิเศษทางไวยากรณ์ในภาษาคอมพิวเตอร์ และไม่สามารถใช้

เป็นตวั ระบุ (Identifier) ในภาษานั้นได้ คาสงวนนบั เปน็ คารหสั (Keyword) ชนิดหนึง่ คาสงวนใน

ภาษาซมี ีดงั น้ี

auto default float register struct volatile

break do for return switch while

case double goto short typedef char

else if signed union const enum

int sizeof unsigned continue extern long

static void

ตวั อย่างที่ 1 ให้รับตัวเลขใด ๆ 1 คา่ แลว้ ตรวจสอบตัวเลขทรี่ บั มาวา่ เป็นเลขคหู่ รือเลขคี่

1. สง่ิ ที่โจทยต์ ้องการ ตรวจสอบตวั เลขว่าเป็นเลขคู่หรือเลขคี่

2. รปู แบบผลลัพธ์ Input a Number : 10

Result = Even

3. ขอ้ มูลนาเข้า ตัวเลขใดๆ 1 คา่

4. ตัวแปรท่ใี ช้ x แทนค่า ตัวเลขใดๆ 1 คา่

34

แบบทดสอบหลังเรียน
วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บื้องตน้

คาสั่ง / คาช้แี จง ใหเ้ ลอื กคาตอบท่ถี กู ต้องท่ีสดุ เพยี งข้อเดยี ว
1. ขอ้ ใดคือความหมายของการวิเคราะหง์ าน

ก. การศึกษาผลลัพธ์ ชนิดตวั แปร รวมไปถงึ ขน้ั ตอนการประมวล
ข. การศกึ ษาผลลัพธ์ ขอ้ มูลนาเขา้ รวมไปถึงขั้นตอนการประมวล
ค. การศึกษาข้อมูลนาเขา้ การตง้ั ชอ่ื ตัวแปร รวมไปถึงขนั้ ตอนการประมวล
ง. การศึกษาผลลพั ธ์ ข้อมูลนาเขา้ ตวั แปร
2. ขอ้ ใดใช้อธิบายขน้ั ตอนการทางานของโปรแกรมได้
ก. ซโู ดโคด้
ข. ผงั งาน
ค. อิดิเตอร์
ง. ถกู ท้ัง ก. และ ข.
3. ข้อใดไมไ่ ด้อยใู่ นหลกั เกณฑ์ทตี่ อ้ งดาเนนิ การวิเคราะห์ปญั หา
ก. รปู แบบผลลัพธ์
ข. ข้อมลู นาเข้า
ค. ขอ้ มูลนาออก
ง. ตวั แปรทใ่ี ช้
4. ขอ้ ใดเรยี งลาดับขน้ั ตอนการวเิ คราะห์ปัญหาได้ถูกต้อง
ก. ส่งิ ที่ต้องการ รปู แบบผลลัพธ์ ข้อมูลนาเข้า ตัวแปรทใ่ี ช้ วิธกี ารประมวลผล
ข. ส่งิ ทต่ี ้องการ ข้อมูลนาเขา้ รปู แบบผลลพั ธ์ ตัวแปรทใี่ ช้ วธิ ีการประมวลผล
ค. สงิ่ ท่ตี ้องการ ตัวแปรทใ่ี ช้ วิธีการประมวลผล รูปแบบผลลพั ธ์ ขอ้ มลู นาเขา้
ง. รูปแบบผลลพั ธ์ ส่ิงที่ต้องการ ตัวแปรที่ใช้ ข้อมูลนาเข้า วธิ ีการประมวลผล
5. ข้อใดบอกความหมายของตวั แปรไดถ้ ูกต้อง
ก. ช่อื ท่ตี ้งั ข้นึ มาเพื่อเก็บค่าหรือข้อมูลไว้ในหน่วยความจาแฟลช ข้อมลู หรือคา่ ที่ถกู เก็บ
สามารถนาใชง้ านไดภ้ ายหลัง
ข. ชื่อทีต่ งั้ ขน้ึ มาเพ่ือเก็บคา่ หรือข้อมูลไวใ้ นหนว่ ยความจา ข้อมูลหรอื ค่าท่ีถูกเก็บสามารถ
นามาใช้งานไดภ้ ายหลัง
ค. ชอื่ ท่ตี ้ังขึ้นมาเพื่อเก็บค่าหรือข้อมูลไวใ้ นหน่วยความจา ขอ้ มูลหรือค่าที่ถกู เก็บไมส่ ามารถ
นามาใช้งานได้
ง. ชือ่ ท่ตี ้ังขึ้นมาเพื่อเก็บคา่ หรือข้อมลู ไวใ้ นหน่วยความจาแฟลช ขอ้ มลู หรอื คา่ ท่ีถูกเก็บไม่
สามารถนามาใช้งานไดภ้ ายหลัง

35

6. การเขยี น Flowchart มคี วามหมายตรงกบั ข้อใด
ก. การดาเนินการแกป้ ญั หาโดยคาพดู
ข. การใช้รูปภาพหรอื สญั ลักษณ์ทีใ่ ชเ้ ขียนแทนคาอธบิ าย
ค. การแสดงการทางานของคอมพิวเตอร์
ง. การเลอื กเครอ่ื งมือและออกแบบขนั้ ตอนวธิ ีการแกป้ ัญหา

7. ข้อใดไม่อยู่ในหลักการตงั้ ช่ือตวั แปร
ก. ตอ้ งข้นึ ตน้ ดว้ ยอักษร a-z,A-Z หรอื เคร่ืองหมาย _เทา่ น้ัน
ข. ตวั อักษรเลก็ และใหญ่มคี วามหมายเหมือนกนั
ค. ห้ามต้ังช่อื ซา้ กบั คาสงวน
ง. ภายในชอ่ื หา้ มเว้นชอ่ งวา่ ง

8. คาในขอ้ ใดเป็นคาสงวน
ก. break
ข. switch
ค. static
ง. ทกุ ขอ้ เป็นคาสงวน

9. ข้อใดตั้งชื่อตัวแปรผดิ
ก. _good
ข. num1
ค. room
ง. 108dots

10. ขอ้ ใดคือการจาลองขัน้ ตอนวิธีการแก้ปัญหาในรปู ของคาบรรยาย
ก. Psuedocode
ข. Flowchart
ค. Algorithm
ง. Refinement

36

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบ้ืองต้น

คาส่ัง / คาช้ีแจง ให้เลอื กคาตอบทถ่ี กู ต้องที่สุดเพียงข้อเดยี ว
1. ข้อใดคือความหมายของการวิเคราะหง์ าน

ข. การศกึ ษาผลลัพธ์ ขอ้ มลู นาเขา้ รวมไปถึงขั้นตอนการประมวล
2. ขอ้ ใดใช้อธบิ ายขั้นตอนการทางานของโปรแกรมได้

ง. ถกู ท้ัง ก. และ ข.
3. ขอ้ ใดไมไ่ ด้อยูใ่ นหลักเกณฑ์ท่ีตอ้ งดาเนินการวิเคราะหป์ ัญหา

ค. ข้อมลู นาออก
4. ขอ้ ใดเรียงลาดบั ขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหาได้ถูกตอ้ ง

ก. ส่งิ ทต่ี ้องการ รปู แบบผลลพั ธ์ ขอ้ มูลนาเขา้ ตวั แปรท่ใี ช้ วธิ กี ารประมวลผล
5. ข้อใดบอกความหมายของตัวแปรไดถ้ ูกตอ้ ง

ข. ชอื่ ทตี่ ้ังขนึ้ มาเพื่อเก็บคา่ หรือข้อมูลไวใ้ นหนว่ ยความจา ข้อมลู หรอื คา่ ที่ถูกเก็บสามารถ
นามาใชง้ านได้ภายหลงั
6. การเขยี น Flowchart มีความหมายตรงกบั ข้อใด

ข. การใช้รูปภาพหรือสญั ลักษณท์ ี่ใชเ้ ขียนแทนคาอธบิ าย
7. ข้อใดไม่อย่ใู นหลกั การตงั้ ชื่อตัวแปร

ข. ตวั อักษรเลก็ และใหญ่มีความหมายเหมือนกนั
8. คาในข้อใดเปน็ คาสงวน

ง. ทกุ ขอ้ เปน็ คาสงวน
9. ข้อใดตัง้ ช่ือตวั แปรผดิ

ง. 108dots
10. ข้อใดคอื การจาลองขนั้ ตอนวธิ กี ารแก้ปัญหาในรปู ของคาบรรยาย

ค. Algorithm

37

ใบงานฝกึ ปฏบิ ตั ิ
เร่อื ง การวิเคราะหง์ าน

คาส่งั /คาชีแ้ จง
1. ครใู ห้นกั เรียนเขียนวเิ คราห์งานของโปรแกรมตามที่กาหนดให้

1.1 โปรแกรมบวกเลข 2 จานวน
1.2 โปรแกรมหาคา่ เฉล่ยี ของตวั เลข 3 จานวน
2. นกั เรยี นเขียนวเิ คราะหล์ งในสมดุ และสง่ ให้ครูตรวจเพอ่ื บันทกึ คะแนน

38

แบบฝึกหดั ทา้ ยบท
เรอื่ ง การวิเคราะห์งาน

คาส่งั /คาชแ้ี จง จงอธบิ าย
1. จากคาสงวนตอ่ ไปนี้ จงแยกแยะวา่ คาใดคือคาสงวนและคาใดไม่ใชค้ าสงวน

1.1 float 1.6 case

1.2 go_to 1.7 RETURN

1.3 auto 1.8 main

1.4 work 1.9 ConsT

1.5 LonG 1.10 computer

2. จากโจทย์ต่อไปน้ี ควรกาหนดตัวแปรชนิดใด

2.1 เกบ็ ข้อมลู คะแนนนกั ศกึ ษา

2.2 เกบ็ ข้อมลู อักขระ 1 ตัวอักษร

2.3 เกบ็ ข้อมลู ภาษีมูลค่าเพิ่ม

2.4 เกบ็ ข้อมลู ชือ่ พนกั งาน

2.5 เกบ็ ข้อมลู เงนิ เดือนพนักงาน

3. จากตัวแปรต่อไปน้ี ต้งั ชือ่ ตัวแปรถกู ต้องตามกฎการตัง้ ช่ือตัวแปรหรือไม่ อธิบายเหตุผล กรณตี ้งั ช่อื

ผิดกฎการตง้ั ช่อื ตวั แปร

3.1 Nick_name 3.6 what

3.2 _B1 3.7 LonG

3.3 5name 3.8 #salary

3.4 c ount 3.9 ISBN

3.5 value 3.10 super8Film

39

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 3
รหสั วิชา 20901 - 1002 ชอื่ วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบ้อื งตน้
ชอ่ื หน่วย การเขียนผังงานและรหัสเทียม จานวน 3 ช่วั โมง
รายการหัวข้อการเรยี นรู้
1. ผังงาน
2. สัญลักษณ์ผังงานการเขียนโปรแกรม

หัวข้อการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารสอนหรอื จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม

1. ผังงาน 1. บอกความหมายของผงั งานได้

2. สัญลักษณ์ผงั งานการเขียนโปรแกรม 2. บอกสัญลกั ษณ์ผงั งานการเขยี นโปรแกรมได้

3. หลกั การเขยี นผงั งานโปรแกรม 3. อธิบายหลกั การเขียนผังงานโปรแกรม

4. รหัสเทยี ม 4. บอกความหมายของรหสั เทยี มได้

วิธกี ารสอน : วธิ ีสอนแบบศึกษาดว้ ยตนเอง (Self-Study Method)

สื่อการสอน :

1. หนังสอื เรยี นวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บ้ืองต้น ของ บริษัท วังอักษร จากดั

2. แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท

3. ใบงานปฏบิ ัติ

4. Kahoot

5. Google Classroom

การประเมิน :

1. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ีช่องปรับปรุง

2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้กอ่ นเรยี นไมม่ เี กณฑผ์ ่าน เก็บคะแนนไวเ้ ปรยี บเทยี บกับคะแนนท่ี

ได้จากการทดสอบหลงั เรยี น

3. แบบสังเกตคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึน้ อยกู่ ับ

การประเมินตามสภาพจริง

40

แผนการจัดการเรยี นรู้

ช่อื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บือ้ งตน้ รหสั วิชา 20901 - 1002 สอนครงั้ ท่ี 4

หน่วยท่ี 3 ช่ือหน่วย การเขียนผังงานและรหสั เทยี ม จานวน 3 ชม.

1. หวั ขอ้ การเรยี นรู้

1. ผังงาน

2. สัญลกั ษณผ์ ังงานการเขยี นโปรแกรม

2. สาระสาคญั
การเขียนผังงานของโปรแกรม เป็นการจัดเรียงลาดับการทางานของโปรแกรม เพ่ือทาให้

สามารถตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของลาดับการทางานก่อนเริ่มเขียนโปรแกรมจริง แบ่ง
ประเภทของผังงานได้ 2 ประเภท คือ ผังงานระบบ และผังงานโปรแกรม การเขียนรหัสเทียม หรือ
การเขียนซูโดโค้ด (pseudo code) เป็นการกาหนดรายละเอียดปลีกย่อยในการเขียนโปรแกรม อาทิ
การประกาศ และกาหนดชนิดตัวแปรท่ีใช้ ซึ่งมีการเขียนหลายรูปแบบตามความเหมาะสมต่อการใช้
งาน

3. สมรรถนะประจาหน่วย
แสดงความรู้เกยี่ วกบั ผังงาน สญั ลกั ษณ์ผงั งานการเขียนโปรแกรม หลักการเขียนผังงาน

โปรแกรม รหัสเทียม การเขียนรหัสเทยี มในรปู แบบตา่ ง ๆ

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
4.1 จุดประสงคท์ วั่ ไป
1. รู้ผังงาน
2. รู้สญั ลักษณ์ผงั งานการเขยี นโปรแกรม
4.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. บอกความหมายของผงั งานได้
2. บอกสญั ลักษณผ์ ังงานการเขยี นโปรแกรมได้

5. กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้
ในการเรียนการสอนของหน่วยที่ 3 ครง้ั ท่ี 4 (จานวน 3 ชั่วโมง)
ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน
1. ตรวจสอบรายชือ่ ของนักเรียนที่เข้าเรยี น
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับผงั งาน
3. ครแู สดงความคิดเหน็ เพ่ิมเตมิ

41

ข้นั สอน
1. ครูบรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่างในแตล่ ะหวั ข้อการเรียน
2. เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามครูผสู้ อน
3. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยครจู ะซักถามในแต่ละคน
ขั้นสรุป
1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปสาระสาคญั
2. เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซักถามข้อสงสยั
3. มอบหมายให้ไปหัดทาและศกึ ษาเพ่มิ เตมิ
4. ทาแบบทดสอบหลังเรยี นและเฉลยแบบทดสอบ

6. ส่ือการจดั การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บื้องต้น ของ บรษิ ัท วังอักษร จากัด
2. แบบฝึกหดั ทา้ ยบท
3. แบบฝึกปฏิบัติ
4. Kahoot
5. Google Classroom

7. การวัดผลและประเมินผล
วธิ ีวดั ผล
1. ผู้เรยี นปฏบิ ตั ภิ าระงานทีม่ อบหมายเสร็จทันเวลาที่กาหนด
2. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั

พงึ ประสงค์
เครื่องมือวัดผล
1. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ หลังเรียนประเภทเขียนบรรยาย
2. แบบสังเกตคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและ

นักเรยี นร่วมกันประเมิน
8. แหล่งการเรียนรเู้ พ่มิ เติม

1. หอ้ งสมดุ วทิ ยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดิน
2. อินเทอร์เน็ต
9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
1. นกั เรยี นเข้าไปคน้ ควา้ ข้อมูลเพม่ิ เตมิ จากหอ้ งสมุด จดั ทาเป็นรายงานส่งครู
2. ทาแบบฝึกปฏิบัติและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

42

สัปดาหท์ ่.ี ................

บนั ทึกหลงั การสอน

รหสั วิชา.......................วชิ า........................................................................ระดับ............ ชนั้ ปที ่.ี ..........
แผนกวิชา................................................................จานวนนกั เรยี น..............คน มาเรียน.................คน
ขาดเรยี น.........คน มาสาย.........คน ลา.........คน สอนเมือ่ วนั ท.ี่ ........เดอื น......................พ.ศ................
หน่วยท่ี................ ช่ือหน่วย..............................................................................จานวน................ชัว่ โมง

 เน้อื หาวัตถุประสงค์และสอื่ การสอน
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................. ...............................
.................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

 ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ในระหว่างการเรียนการสอน
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................ ........
........................................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

 แนวทางการแกไ้ ขปญั หาของครผู สู้ อน และผลที่ได้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................. ...
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงชื่อ............................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ................................................หวั หน้าแผนก
(นางสุวมิ ล อักษรกลาง) (นางสุกญั ญา ดนยั สวัสด์ิ)
วนั ท่.ี ...............................................................
วนั ท่.ี ...........................................................

43

ใบความรู้ / ใบเน้ือหา
หนว่ ยท่ี 3 เรอ่ื ง ผังงานและรหสั เทยี ม

3.1 ผงั งาน (Flowchart)

ผงั งาน (Flowchart) เป็นผงั งานรูปภาพทใี่ ช้แสดงแนวคิด หรอื ขน้ั ตอนการทางานของ

โปรแกรม และเปน็ เครอ่ื งมือท่ีช่วยให้มองเหน็ ภาพรวมของโปรแกรมที่ทาใหเ้ ราเขียนโปรแกรมได้งา่ ย

ย่ิงข้ึน เน่อื งจากเราสามารถมองเห็นแนวคิด และทิศทางการทางานของโปรแกรมนน้ั เอง แบง่ ออกเปน็

3 ประเภท ได้แก่

ประเภทท่ี 1 ผังงานระบบ (System flowchart) เปน็ ผังงานที่ใชส้ าหรับแสดงข้ันตอนใน

การทางานทัง้ หมด ในผงั งานนจี้ ะเห็นระบบงานภายในของระบบหนึง่ ๆ ที่เก่ียวขอ้ งกับงานทัง้ หมด ทง้ั

เคร่อื งจักร โปรแกรม บคุ ลากร ผงั งานประเภทนใ้ี ชส้ าหรบั ผูบ้ รหิ าร ผูว้ ิเคราะหร์ ะบบ ผู้เขยี นโปรแกรม

ซ่ึงจะทาใหท้ ราบถงึ ความสมั พันธค์ รา่ วๆ ของระบบงานทั้งหมด แต่ผังงานระบบประเภทน้ีนาไปใช้

เขียนโปรแกรมไม่ได้

ประเภทที่ 2 ผังงานโปรแกรมโมดูล (Modular Program flowchart) เป็นผังงานทจ่ี ัดทา

ขึ้นเพื่อแบ่งระบบงานออกเป็นสว่ นตา่ งๆ เพ่ือให้งา่ ยต่อความเขา้ ใจแตล่ ะส่วนของระบบมากขึ้น แต่ผัง

งานประเภทน้จี ะแสดงเพยี งส่วนหนึ่งวา่ มขี ้นั ตอนและวิธีการทางานอยา่ งไร แต่ไม่มีรายละเอยี ดย่อย

จึงไมส่ ามารถนาไปเขยี นโปรแกรมได้

ประเภทท่ี 3 ผงั งานการเขยี นโปรแกรม (Programming flowchart)

นิยมเรยี กส้นั ๆ วา่ Flowchart เป็นผังงานท่แี สดงลาดับข้นั ตอนการทางานอย่างละเอยี ดใน

โมดลู นนั้ ๆ โดยดงึ เอาแตล่ ะจุดของผังงานโปรแกรมโมดูลมาเขียนเปน็ ผังงานการเขียนโปรแกรม ผัง

งานน้ีจะแสดงรายละเอียดขั้นตอนแตล่ ะขัน้ ตอนอย่างชดั เจน

3.2 สญั ลกั ษณ์ผังงานการเขยี นโปรแกรม

ตารางท่ี 3.1 สญั ลักษณผ์ ังงาน

สญั ลกั ษณ์ ความหมาย ตัวอยา่ ง

การกาหนดจุดเร่ิมต้นการทางานและแสดง START
จดุ สน้ิ สุดของการทางานในโปรแกรมหลกั (Main

START / STOP Program) หรอื ในโปรแกรมย่อย STOP
(END) (Subprogram/Procedure/Function)

ENTER / RETURN

44

การแสดงรายละเอยี ดการทางานโดยส่งิ ทใ่ี ชเ้ ก็บ Total = 0
คา่ ข้อมลู ของการทางาน คือ ตวั แปรที่ใช้ใน Total = Total + (b*c)
โปรแกรม (จะต้องกาหนดข้นึ มาเอง) โดยท่ีตัว
PROCESS แปรน้ีจะแสดงความสัมพนั ธ์ของการทางานด้วย
เครอ่ื งหมายการประมวลผลทางคณติ ศาสตร์

สญั ลกั ษณ์ ความหมาย ตวั อยา่ ง
DECISON การแสดงรายละเอียดการเปรียบเทยี บเงอ่ื นไข
INPUT/OUTPUT ต่างๆ ตามเครื่องหมายทางคณติ ศาสตรแ์ ละ (a-b)>(b+c)
ความสัมพนั ธ์ทางตรรกศาสตร์ ไดแ้ ก่ =, <>,
!=,<, >, >=, <=, AND, OR StdRec
การรบั ค่าข้อมลู หรืออา่ นขอ้ มูลเขา้ มาโดยไม่ระบุ ‘Total=’,Total
อุปกรณร์ ับขอ้ มลู (Input) หรอื แสดงผลลัพธ์
(Output) โดยไมก่ าหนดอุปกรณก์ ารแสดงผล

การแสดงรายละเอยี ดขอ้ มูล หรอื แสดงผลลัพธ์
ของการประมวลไปท่จี อภาพ (Monitor)

MONITOR

การแสดงรายละเอยี ดข้อมูล หรอื แสดงผลลพั ธ์ ‘Total=’,Total
ของการประมวลผลไปที่เครื่องพิมพ์ (Printer)

PRINTER การกาหนดจดุ อ้างอิงในการเชื่อมต่อใน 1
หน้ากระดาษเดียวกันของการเขียนผงั งาน 1
IN-PAGE โครงสร้าง (Structured Flowchart)
CONNECTOR
การกาหนดจดุ อา้ งองิ ในการเช่ือมต่อระหว่าง
BETWEEN-PAGE หน้ากระดาษของการเขยี นผงั งานโครงสร้าง
CONNECTOR (Structured Flowchart)

45

การแสดงทิศทางความสมั พันธข์ องการทางานใน
ระบบงานหรือในโปรแกรมท่ไี ด้ออกแบบไว้

FLOWLINE

แบบฝกึ ปฏบิ ัติ
เรอื่ ง ผังงานและรหสั เทียม

คาสัง่ /คาช้แี จง
1. ให้นกั เรียนเขียนผังงานของโปรแกรมดงั ต่อไปนี้

1.1 โปรแกรมบวกเลข 2 จานวน
1.2 โปรแกรมหาค่าเฉลี่ยของตัวเลข 3 จานวน
2. นักเรียนเขยี นวเิ คราะห์ลงในสมดุ และสง่ ให้ครูตรวจเพือ่ บันทกึ คะแนน

46

แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท
เรอ่ื ง การวเิ คราะห์งาน

คาส่งั /คาชี้แจง จงอธิบาย
1. การเขยี นรหัสเทียมมีหลักการเขยี นอยา่ งไร อธบิ ายพอสังเขป
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................. ...
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
2. สัญลกั ษณผ์ ังงานแต่ละรูป มีหนา้ ทีอ่ ยา่ งไร
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................. ...
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
3. การเขียนผังงานโปรแกรมมหี ลกั การเขยี นอยา่ งไร อธิบายเปน็ ขอ้ ๆ
............................................................................................................................... .................................
.................................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................... .
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................

47

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
รหัสวชิ า 20901 - 1002 ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
เบื้องต้น
ช่ือหน่วย การเขียนผังงานและรหัสเทียม จานวน 3 ชั่วโมง
รายการหวั ข้อการเรยี นรู้
1. หลักการเขยี นผังงานโปรแกรม
2. การเขยี นผงั งานท่ีดี

หวั ข้อการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารสอนหรอื จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม

1. หลักการเขียนผังงานโปรแกรม 1. อธบิ ายหลักการเขยี นผังงานโปรแกรมได้

2. การเขียนผงั งานที่ดี 2. อธบิ ายการเขียนผงั งานที่ดีได้

วธิ กี ารสอน : บรรยายและสาธติ

ส่อื การสอน :

1. หนงั สอื เรียนวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์เบื้องตน้ ของ บริษัท วงั อกั ษร จากัด

2. ใบงานปฏบิ ตั ิ

3. Kahoot

4. Google Classroom

การประเมนิ :

1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล ตอ้ งไม่มีช่องปรบั ปรงุ

2. แบบประเมินผลการเรยี นรูก้ ่อนเรยี นไม่มีเกณฑ์ผ่าน เก็บคะแนนไวเ้ ปรียบเทียบกับคะแนนที่

ได้จากการทดสอบหลังเรยี น

3. แบบสังเกตคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กับ

การประเมินตามสภาพจรงิ

48

แผนการจัดการเรียนรู้

ช่ือวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บอื้ งต้น รหสั วชิ า 20901 - 1002 สอนครัง้ ท่ี 5

หนว่ ยท่ี 3 ชอ่ื หนว่ ย การเขียนผงั งานและรหสั เทยี ม จานวน 3 ชม.

1. หวั ข้อการเรยี นรู้

1. หลักการเขยี นผงั งานโปรแกรม

2. การเขียนผงั งานที่ดี

2. สาระสาคญั
การเขียนผังงานของโปรแกรม เป็นการจัดเรียงลาดับการทางานของโปรแกรม เพ่ือทาให้

สามารถตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของลาดับการทางานก่อนเร่ิมเขียนโปรแกรมจริง แบ่ง
ประเภทของผังงานได้ 2 ประเภท คือ ผังงานระบบ และผังงานโปรแกรม การเขียนรหัสเทียม หรือ
การเขียนซูโดโค้ด (pseudo code) เป็นการกาหนดรายละเอียดปลีกย่อยในการเขียนโปรแกรม อาทิ
การประกาศ และกาหนดชนิดตัวแปรที่ใช้ ซ่ึงมีการเขียนหลายรูปแบบตามความเหมาะสมต่อการใช้
งาน

3. สมรรถนะประจาหน่วย
แสดงความร้เู กยี่ วกบั ผงั งาน สญั ลกั ษณ์ผังงานการเขียนโปรแกรม หลักการเขยี นผงั งาน

โปรแกรม รหัสเทยี ม การเขียนรหัสเทยี มในรูปแบบตา่ ง ๆ

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 จุดประสงคท์ ั่วไป
1. หลกั การเขียนผังงานโปรแกรม

2. การเขยี นผังงานที่ดี

4.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. อธบิ ายหลักการเขยี นผงั งานโปรแกรมได้
2. อธบิ ายการเขยี นผังงานท่ีดีได้

5. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
ในการเรยี นการสอนของหน่วยที่ 3 ครั้งท่ี 5 (จานวน 3 ช่ัวโมง)
ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ตรวจสอบรายช่ือของนักเรียนท่เี ข้าเรยี น
2. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สนทนาและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับการเขียนผังงานทดี่ ีควรมี

ลกั ษณะอยา่ งไร

49

3. ครแู สดงความคิดเหน็ เพิ่มเติม
ขน้ั สอน
1. ครูบรรยาย อธบิ าย ยกตัวอย่างในแต่ละหวั ข้อการเรียน
2. เปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามครูผู้สอน
3. ประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคลโดยครูจะซกั ถามในแตล่ ะคน
ขั้นสรุป
1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสาระสาคัญ
2. เปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามขอ้ สงสยั
3. มอบหมายงานให้ไปหดั ทาและศึกษาเพมิ่ เติม

6. สือ่ การจัดการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บ้ืองต้น ของ บริษัท วังอกั ษร จากดั

2. แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ

3. Kahoot

4. Google Classroom
7. การวดั ผลและประเมินผล

วธิ วี ัดผล
1. ผู้เรียนปฏิบตั ิภาระงานทมี่ อบหมายเสรจ็ ทนั เวลาที่กาหนด
2. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั
พงึ ประสงค์
เครอ่ื งมือวดั ผล
1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หลงั เรยี น
2. แบบสงั เกตคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและ
นักเรยี นร่วมกันประเมนิ
8. แหลง่ การเรยี นรู้เพ่ิมเติม
1. ห้องสมุดวิทยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดนิ
2. อนิ เทอร์เนต็
9. กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
1. นกั เรยี นเข้าไปค้นควา้ ข้อมูลเพ่มิ เตมิ จากห้องสมุด จดั ทาเปน็ รายงานสง่ ครู
2. ทาแบบฝึกปฏบิ ัติและแบบประเมินผลการเรียนรู้

50

สัปดาห์ที.่ ................

บนั ทึกหลงั การสอน

รหสั วชิ า.......................วชิ า........................................................................ระดับ............ ชน้ั ปที ี.่ ..........
แผนกวชิ า................................................................จานวนนกั เรยี น..............คน มาเรยี น.................คน
ขาดเรยี น.........คน มาสาย.........คน ลา.........คน สอนเม่อื วันท.่ี ........เดอื น......................พ.ศ................
หนว่ ยที่................ ชอ่ื หน่วย..............................................................................จานวน................ชัว่ โมง

 เนอื้ หาวตั ถุประสงคแ์ ละสอ่ื การสอน
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................. ...............................
.................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

 ปญั หาทเี่ กิดขน้ึ ในระหว่างการเรียนการสอน
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................ ........
........................................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

 แนวทางการแก้ไขปญั หาของครูผู้สอน และผลที่ได้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน ลงชื่อ................................................หัวหนา้ แผนก
(นางสวุ ิมล อักษรกลาง) (นางสุกญั ญา ดนัยสวสั ด์ิ)

วันท.ี่ ........................................................... วันที่................................................................

51

ใบความรู้ / ใบเน้ือหา
หน่วยท่ี 3 เรื่อง ผังงานและรหสั เทียม

3.3 หลักการเขยี นผงั งานโปรแกรม
ผังงานโปรแกรมจะแสดงใหเ้ ห็นข้ันตอนการทางานของโปรแกรมทเี่ ป็นข้นั ตอนตา่ งๆ อย่าง

ละเอียดเพื่อใหเ้ ขียนผังงานโปรแกรมได้อยา่ งถกู ตอ้ ง จะมหี ลักการเขยี น ดังนี้
3.3.1 เขียนผงั งานจากดา้ นบนลงด้านล่าง
3.3.2 ใชส้ ัญลกั ษณ์ใหต้ รงกบั ความหมายของผงั งาน
3.3.3 ใช้ flowline ในการแสดงทิศทางการทางานของผงั งาน
3.3.4 เขยี นคาอธบิ ายสน้ั ๆ แตเ่ ขา้ ใจงา่ ย
3.3.5 หลีกเลี่ยงการเขียนโยงเสน้ ตัดกนั เพราะจะทาให้สับสน ควรใชจ้ ดุ เชือ่ มแทนการเขียน

หนา้ เดยี วกนั
3.3.6 ควรเขยี นผังงานใหจ้ บภายในหนา้ เดยี วกัน แต่หากเขียนผังงานไมจ่ บภายในหนา้ เดียว

ควรใชจ้ ุดเชื่อม Off-page connection
3.4 ข้ันตอนการเขียนผังงาน

3.4.1 การกาหนดค่าเร่ิมตน้ เปน็ การกากหนดคา่ เร่ิมต้นให้กับตัวแปรต่างๆ ทจี่ าเป็นบางตวั
เช่น ตวั แปรทใี่ ช้ในการนับ

3.4.2 การรับข้อมลู เขา้ เปน็ การรบั จากแหลง่ ข้อมูลมาเก็บไว้ในตวั แปร เพื่อเตรยี มรอ
ประมวลผล

3.4.3 การประมวลผล เป็นการประมวลผลตามทไ่ี ด้กาหนดไว้
3.4.4 การแสดงผลลัพธ์ เปน็ การแสดงข้อมูลทีผ่ า่ นการประมวลผลหรือคานวณแล้วเป็น
ผลลพั ธ์ทต่ี อ้ งการแสดงค่าจากตัวแปรต่างๆ
3.5 การเขียนผังงานท่ีดี
3.5.1 ใชส้ ัญลักษณต์ ามทีก่ าหนดไว้
3.5.2 ใช้ลกู ศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลจากบนลงลา่ งหรอื ซ้ายไปขวา
3.5.3 คาอธบิ ายในภาพควรสั้นกะทัดรัดเขา้ ใจง่าย
3.5.4 ทุกแผนภาพต้องมลี ูกศรแสดงทศิ ทางเขา้ - ออก
3.5.5 ไมค่ วรโยงเสน้ เช่ือมผังงานท่อี ยู่ไกลมาก ๆ ควรใช้สญั ลักษณ์จุดเช่ือมต่อแทน
3.5.6 ผงั งานควรมกี ารทดสอบความถูกต้องของการทางานกอ่ นนาไปเขียนโปรแกรม

52

ใบงานปฏบิ ตั ิ
วชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บื้องต้น เรื่อง การเขยี นผังงานและรหัสเทยี ม

คาส่ัง / คาชแ้ี จง
1. จากโจทยต์ ่อไปน้ี จะมีวธิ กี ารออกแบบการวิเคราะหป์ ญั หาทางคอมพิวเตอร์อย่างไร ให้ออกแบบ
การวิเคราะห์ทง้ั 5 ขน้ั ตอน

1.1 คานวณหาผลบวกของเลขคูท่ ม่ี ีคา่ อยู่ระหว่างเลข 1-500
1.2 คานวณหาค่าเฉลยี่ ผลรวมของตวั เลขท่ีอยู่ระหวา่ ง 100-300

53

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยท่ี 3
รหสั วิชา 20901 - 1002 ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบอื้ งต้น
ชอ่ื หน่วย การเขียนผังงานและรหัสเทียม จานวน 3 ชว่ั โมง
รายการหัวข้อการเรียนรู้
1. รหสั เทยี ม

หวั ข้อการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การสอนหรือจุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. รหัสเทียม 1. เขยี นรหัสเทียมได้

วิธกี ารสอน : บรรยายและสาธติ
สื่อการสอน :

1. หนังสือเรยี นวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ของ บริษัท วังอกั ษร จากดั
2. แบบทดสอบหลังเรียนพรอ้ มเฉลย
3. ใบงานปฏิบัติ
4. Kahoot
5. Google Classroom
การประเมิน :
1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล ตอ้ งไม่มีช่องปรบั ปรงุ
2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรูก้ ่อนเรียนไม่มเี กณฑผ์ ่าน เกบ็ คะแนนไวเ้ ปรียบเทียบกับคะแนนที่
ได้จากการทดสอบหลงั เรียน
3. แบบสังเกตคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ ับ
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

54

แผนการจดั การเรยี นรู้

ชอื่ วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บือ้ งต้น รหัสวชิ า 20901 - 1002 สอนครั้งที่ 6

หน่วยที่ 3 ช่ือหนว่ ย การเขยี นผังงานและรหสั เทียม จานวน 3 ชม.

1. หวั ข้อการเรียนรู้

1. รหสั เทยี ม

2. สาระสาคญั
การเขียนผังงานของโปรแกรม เป็นการจัดเรียงลาดับการทางานของโปรแกรม เพ่ือทาให้

สามารถตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของลาดับการทางานก่อนเริ่มเขียนโปรแกรมจริง แบ่ง
ประเภทของผังงานได้ 2 ประเภท คือ ผังงานระบบ และผังงานโปรแกรม การเขียนรหัสเทียม หรือ
การเขียนซูโดโค้ด (pseudo code) เป็นการกาหนดรายละเอียดปลีกย่อยในการเขียนโปรแกรม อาทิ
การประกาศ และกาหนดชนิดตัวแปรท่ีใช้ ซึ่งมีการเขียนหลายรูปแบบตามความเหมาะสมต่อการใช้
งาน

3. สมรรถนะประจาหน่วย
แสดงความรเู้ กย่ี วกับผังงาน สญั ลักษณผ์ งั งานการเขียนโปรแกรม หลกั การเขยี นผังงาน

โปรแกรม รหัสเทยี ม การเขียนรหสั เทยี มในรปู แบบตา่ ง ๆ

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
4.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. ปฏบิ ตั กิ ารเก่ียวกับรหัสเทียม

4.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. เขียนรหัสเทียมได้

5. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
ในการเรยี นการสอนของหน่วยท่ี 3 ครงั้ ท่ี 6 (จานวน 3 ชั่วโมง)
ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ตรวจสอบรายชอื่ ของนักเรียนทีเ่ ขา้ เรียน
2. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสนทนา ทบทวนความรูเ้ ดิมและแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั การ

เขยี นรหัสเทียมคืออะไรและมีหลักการเขียนอย่างไร
3. ครแู สดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ขัน้ สอน
1. ครูบรรยาย อธิบาย ยกตวั อยา่ งในแตล่ ะหัวข้อการเรียน
2. เปิดโอกาสให้นกั เรยี นซักถามครผู สู้ อน

55

3. ประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คลโดยครูจะซกั ถามในแตล่ ะคน
ข้นั สรปุ
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปสาระสาคัญ
2. เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามข้อสงสัย
3. มอบหมายให้ไปหดั ทาและศกึ ษาเพม่ิ เติม
4. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี นและเฉลยแบบทดสอบ

6. สือ่ การจดั การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บื้องต้น ของ บรษิ ัท วังอกั ษร จากดั

2. แบบทดสอบหลังเรยี นพร้อมเฉลย

3. แบบฝกึ ปฏิบตั ิ

4. Kahoot

5. Google Classroom
7. การวดั ผลและประเมนิ ผล

วธิ วี ดั ผล
1. ผเู้ รียนปฏิบัตภิ าระงานทมี่ อบหมายเสร็จทันเวลาท่ีกาหนด
2. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั
พึงประสงค์
เคร่ืองมือวดั ผล
1. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ หลงั เรียน
2. แบบสังเกตคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและ
นักเรยี นร่วมกันประเมนิ
8. แหลง่ การเรียนร้เู พ่ิมเติม
1. ห้องสมดุ วิทยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดิน
2. อินเทอร์เน็ต
9. กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
1. ทาแบบฝึกปฏิบัติและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

56

สปั ดาห์ที.่ ................

บนั ทึกหลงั การสอน

รหสั วชิ า.......................วชิ า........................................................................ระดับ............ ชน้ั ปที ี.่ ..........
แผนกวชิ า................................................................จานวนนกั เรียน..............คน มาเรยี น.................คน
ขาดเรยี น.........คน มาสาย.........คน ลา.........คน สอนเม่อื วันที.่ ........เดอื น......................พ.ศ................
หนว่ ยที่................ ชอ่ื หน่วย..............................................................................จานวน................ชัว่ โมง

 เนอื้ หาวตั ถปุ ระสงคแ์ ละสอ่ื การสอน
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................. ...............................
.................................................................................................... ............................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

 ปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ ในระหว่างการเรียนการสอน
............................................................................................................................. ...................................
........................................................................................................................................................ ........
........................................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

 แนวทางการแก้ไขปญั หาของครูผู้สอน และผลที่ได้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ............................................ครผู สู้ อน ลงชื่อ................................................หัวหนา้ แผนก
(นางสวุ มิ ล อกั ษรกลาง) (นางสุกัญญา ดนัยสวสั ด์)ิ

วันท.ี่ ........................................................... วันที่................................................................

57

ใบความรู้ / ใบเน้อื หา
หนว่ ยท่ี 3 เรื่อง ผังงานและรหัสเทียม

3.6 รหสั เทียม
เป็นคาสั่งท่จี าลองความคิดเป็นลาดบั ขั้นตอนโดยใช้สญั ลกั ษณ์เป็น ประโยคภาษาองั กฤษ

ซ่ึงซูโดโค้ดไม่ใช่ภาษาโปรแกรมทางคอมพวิ เตอรจ์ ึงไม่ สามารถนาไปประมวลผลได้ คือ ไม่สามารถส่ัง
ให้คอมพิวเตอรท์ างานตามคาสัง่ แต่เปน็ การเขียนจาลองคาสั่งจรงิ แบบย่อ ๆ ตามอัลกอริทึมของ
โปรแกรมระบบ เพอ่ื นาไปพฒั นาเป็นการเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ได้

รหสั เทยี ม (Pseudocode) คือ การเขยี นโปรแกรมในรูปแบบภาษาองั กฤษทีม่ ีขน้ั ตอนและ
รปู แบบแนน่ อนกะทัดรัด และมองดูคล้ายภาษาระดับสงู ที่ใช้กบั เคร่ืองคอมพวิ เตอรซ์ ่ึงไมเ่ จาะจงภาษา
ใดภาษาหนึ่ง
ตัวอยา่ งการเขยี นรหสั เทียม Pseudo Code

Algorithm Problem_1
Variables : mLoop, Sum, testScore, average
Begin

Input mLoop
Sum = 0
For I = 1 to mLoop

Input testScore
Sum = Sum + testScore
Next
average = Sum / mLoop
Print average
End Problem_1

58

ใบงานปฏบิ ัติ
วชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์เบื้องต้น เรือ่ ง การเขยี นผงั งานและรหสั เทยี ม

คาส่งั / คาชี้แจง
1. ให้นกั เรยี นเขียนรหัสเทียมของโปรแกรมต่อไปนี้

1.1 โปรแกรมคานวณผลการเรียนของนักศึกษา 20 คน รายวชิ าการเขยี นโปรแกรมเบื้องตน้
โดยแบ่งคะแนนเปน็ คะแนนงานทม่ี อบหมาย 20 คะแนน คะแนนสอบกลางภาค 20 คะแนน คะแนน
สอบปลายภาค 60 คะแนน แสดงผลลพั ธแ์ ละใหน้ ับจานวนเกรดของนกั ศกึ ษาว่ามเี กรด P กี่คนและ
เกรด F กคี่ น มีเกณฑ์การตดั เกรดดังน้ี

- คะแนนตั้งแต่ 60 คะแนนข้ึนไปให้เกรด P
- คะแนนน้อยกว่า 60 ใหเ้ กรด F
1.2 โปรแกรมส่วนลดของรา้ นราชพฤกษ์มินิมาร์ท จากการซื้อสนิ ค้าของลกู คา้ จานวน 50 คน
พร้อมทงั้ แสดงยอดขายรวมสทุ ธิ โดยมสี ่วนลดใหล้ ูกค้าดังนี้
- ไมม่ บี ัตร ไม่ได้สว่ นลด
- บัตร Club card รับส่วนลด 3% จากยอดซื้อ
- บตั ร Visa card รับส่วนลด 5% จากยอดซือ้
- บัตร Gold Platinum card รับส่วนลด 8% จากยอดซื้อ

59

แบบทดสอบหลังเรียน
วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องตน้

คาส่งั / คาช้ีแจง ใหเ้ ลือกคาตอบทถ่ี กู ต้องทส่ี ุดเพียงข้อเดียว

1. สัญลักษณน์ ม้ี คี วามหมายว่าอย่างไร

ก. การเร่ิมตน้ ข. การรบั - สง่ ข้อมูล
ค. การตดั สินใจ ง. การประมวลผล

2. สญั ลกั ษณ์น้มี ีความหมายวา่ อย่างไร

ก. การเร่ิมต้น ข. การรับ - สง่ ขอ้ มูล
ค. การตดั สนิ ใจ ง. การประมวลผล

3. สัญลกั ษณ์ใดคือการเริม่ ต้นโปรแกรม

ก. ข.

ค. ง.

4. คาส่ัง if , if..else, switch อย่ใู นลักษณะโครงสร้างใด

ก. โครงสร้างแบบลาดับ ข. โครงสร้างแบบทางเลือก

ค. โครงสรา้ งแบบเงื่อนไข ง. โครงสรา้ งแบบทาซ้า

5. จากรปู คือลักษณะโครงสรา้ งใด

ก. โครงสร้างแบบลาดับ ข. โครงสร้างแบบทางเลือก
ค. โครงสรา้ งแบบเง่ือนไข ง. โครงสร้างแบบทาซ้า

60

6. ข้อใดคือข้อแตกต่างระหว่างซูโดโคด้ กบั ผังงาน

ก. ซโู ดโคด้ กับผังงานเปน็ แผนภาพโปรแกรม

ข. ซโู ดโค้ดกบั ผงั งานเป็นคาอธบิ ายข้ันตอนการทางาน

ค. ซโู ดโคด้ เป็นคาอธบิ ายข้นั ตอนการทางาน แต่ผงั งานเป็นแผนภาพของโปรแกรม

ง. ซโู ดโค้ดเปน็ แผนภาพของโปรแกรม แต่ผงั งานเป็นคาอธิบายข้ันตอนการทางาน

7. ผังงานแบง่ ได้กี่ประเภท อะไรบ้าง

ก. 2 ประเภท ผังงานระบบ ผังงานโปรแกรม

ข. 2 ประเภท ผงั งานโมดูล ผงั งานการเขียนโปรแกรม

ค. 3 ประเภท ผังงานระบบ ผังงานโมดูล ผงั งานการเขียนโปรแกรม

ง. 3 ประเภท ผงั งานโมดูล ผังงานการเขียนโปรแกรม ผังงานแสดงผล

8. ขอ้ ใดต่อไปน้ีคือคาสงั่ ท่ตี ้องใชห้ ยดุ การทาซา้ และออกจากลูปของโปรแกรม

ก. continue ข. break ค. while ง. for

9. การเขียนผงั งานท่ีดีตรงกบั ข้อใด

ก. งานท่ีไม่มีความซับซ้อน

ข. งานทม่ี คี วามซบั ซ้อน

ค. งานท่มี คี วามยากง่ายปะปนกนั

ง. ผดิ ทกุ ข้อ

10. รหสั เทียม(Pseudo code) ขอ้ ใดอธบิ ายถูกต้อง

ก. อธบิ ายข้ันตอนการทางานดว้ ยสญั ลักษณ์

ข. อธบิ ายขั้นตอนการทางานด้วยภาษาองั กฤษ

ค. อธิบายขนั้ ตอนการทางานด้วยคาบรรยาย

ง. ถกู ทุกขอ้

61

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
วชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บื้องต้น
คาสั่ง / คาช้แี จง ใหเ้ ลือกคาตอบท่ีถูกต้องทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียว

1. สัญลักษณน์ ้มี ีความหมายว่าอยา่ งไร

ข. การรบั - สง่ ขอ้ มลู

2. สญั ลกั ษณ์นม้ี คี วามหมายว่าอย่างไร
ค. การตดั สนิ ใจ

3. สัญลักษณใ์ ดคอื การเร่มิ ต้นโปรแกรม

ก.

4. คาส่งั if , if..else, switch อยใู่ นลักษณะโครงสร้างใด
ข. โครงสรา้ งแบบทางเลือก

5. จากรูปคอื ลักษณะโครงสรา้ งใด

ง. โครงสร้างแบบทาซา้
6. ขอ้ ใดคือข้อแตกตา่ งระหวา่ งซูโดโค้ดกับผังงาน

ค. ซูโดโคด้ เปน็ คาอธบิ ายข้นั ตอนการทางาน แต่ผงั งานเปน็ แผนภาพของโปรแกรม
7. ผังงานแบ่งได้ก่ีประเภท อะไรบา้ ง

ค. 3 ประเภท ผังงานระบบ ผังงานโมดลู ผงั งานการเขยี นโปรแกรม
8. ขอ้ ใดต่อไปนี้คอื คาสง่ั ที่ต้องใช้หยดุ การทาซา้ และออกจากลปู ของโปรแกรม

ข. break
9. การเขยี นผังงานที่ดตี รงกับขอ้ ใด

ค. งานท่มี คี วามยากง่ายปะปนกัน
10. รหสั เทียม(Pseudo code) ขอ้ ใดอธิบายถูกต้อง

ข. อธบิ ายขน้ั ตอนการทางานด้วยภาษาองั กฤษ

62

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 4
รหสั วิชา 20901 - 1002 ชื่อวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บ้อื งตน้
ช่อื หน่วย ขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา (Algorithm) จานวน 3 ช่วั โมง
รายการหัวข้อการเรยี นรู้
1. ความหมายของอัลกอริทึม
2. รูปแบบการเขยี นอลั กอริทึม

หัวข้อการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารสอนหรือจุดประสงค์เชิง
พฤตกิ รรม
1. ความหมายของอลั กอริทมึ
2. รูปแบบการเขยี นอลั กอรทิ ึม 1. บอกความหมายของอลั กอริทึมได้
2. บอกรปู แบบการเขยี นอลั กอรทิ มึ ได้

วิธกี ารสอน : บรรยายและสาธติ

สอื่ การสอน :
1. หนังสอื เรยี นวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บ้ืองตน้ ของ บรษิ ัท วงั อกั ษร จากดั
2. แบบฝกึ หัดท้ายบท
3. ใบงานปฏบิ ตั ิ
4. Google Classroom

การประเมิน :
1. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง
2. แบบประเมินผลการเรยี นร้กู อ่ นเรยี นไมม่ เี กณฑผ์ า่ น เกบ็ คะแนนไว้เปรยี บเทยี บกับคะแนนที่ ได้จาก

การทดสอบหลงั เรียน
3. แบบสังเกตคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กบั การ

ประเมนิ ตามสภาพจริง

63

แผนการจัดการเรียนรู้
ชอ่ื วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบ้ืองตน้ รหัสวชิ า 20901 - 1002 สอนครั้งที่ 7
หนว่ ยท่ี 4 ชอ่ื หนว่ ย ขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา (Algorithm) จานวน 3 ชม.

1. หัวข้อการเรยี นรู้
1. ความหมายของอัลกอริทมึ
2. รปู แบบการเขยี นอลั กอริทึม

2. สาระสาคัญ
การเขียนอัลกอริทึมโปรแกรม เป็นการแสดงลาดับการทางานตามคุณสมบัติด้านการประมวลผล

ของคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาที่เหมาะสม เพ่ือส่ังให้คอมพิวเตอร์ทางานตามอัลกอริทึมท่ีกาหนดไว้ และทาให้
เราตรวจสอบความถกู ต้องได้ครบถว้ นขึน้ ซง่ึ คอมพิวเตอร์ที่วา่ นีจ้ ะตอ้ งมคี ณุ สมบัตพิ ้นื ฐานของกลไกทางาน

3. สมรรถนะประจาหนว่ ย
แสดงความรเู้ กยี่ วกับความหมายของอลั กอริทึม รปู แบบการเขยี นอลั กอริทึม รวมทัง้ เทคนิคการ

เขยี นอลั กอรทิ ึมได้

4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 จดุ ประสงค์ท่ัวไป
1. ความหมายของอลั กอริทมึ
2. รปู แบบการเขยี นอัลกอรทิ ึม
3. เทคนิคการเขียนอลั กอริทึม
4.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. บอกความหมายของอลั กอริทึมได้
2. บอกรปู แบบการเขยี นอัลกอรทิ ึมได้
3. เขียนอลั กอริทมึ ได้

5. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
ในการเรยี นการสอนของหน่วยท่ี 4 คร้งั ท่ี 7 (จานวน 3 ชั่วโมง)
ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น

64

1. ตรวจสอบรายชอื่ ของนักเรียนท่เี ขา้ เรียน
2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการเขียนอัลกอริทึมว่าอัลกอรทิ มึ
คอื อะไร มรี ปู แบบการเขยี นอย่างไร
3. ครูแสดงความคิดเหน็ เพ่ิมเติม
ขั้นสอน
1. ครบู รรยาย อธบิ าย ยกตัวอย่างในแตล่ ะหัวข้อการเรยี น
2. เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซักถามครูผสู้ อน
3. ประเมินพฤติกรรมรายบคุ คลโดยครูจะซักถามในแตล่ ะคน
ขัน้ สรุป
1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ สาระสาคญั
2. เปดิ โอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัย
3. มอบหมายให้ทาแบบฝึกหัดท้ายบบทและศึกษาเพม่ิ เติม
6. สื่อการจัดการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บื้องต้น ของ บรษิ ัท วังอักษร จากดั
2. แบบฝกึ หัดท้ายบท
3. ใบงานปฏิบตั ิ
4. Google Classroom
7. การวัดผลและประเมินผล
วธิ วี ดั ผล
1. ผเู้ รียนปฏบิ ตั ิภาระงานทมี่ อบหมายเสร็จทันเวลาท่ีกาหนด
2. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์
เคร่ืองมือวดั ผล
1. ใบงานปฏิบตั ิ
2. แบบสังเกตคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยครแู ละนักเรียน
รว่ มกนั ประเมนิ

8. แหล่งการเรยี นรเู้ พ่ิมเติม
1. หอ้ งสมดุ วิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดนิ
2. อนิ เทอรเ์ นต็

9. กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้ามี)

65

สัปดาหท์ .ี่ ................

บันทึกหลงั การสอน

รหัสวิชา..............................วชิ า......................................................................ระดบั ................. ชน้ั ปที ่.ี ..........
แผนกวชิ า.......................................................จานวนนกั เรยี น......................คน มาเรียน...........................คน
ขาดเรยี น..............คน มาสาย................คน ลา.............คน สอนเมื่อวนั ที่..........เดือน......................พ.ศ.........
หนว่ ยที.่ ..................... ช่ือหนว่ ย................................................................................จานวน.................ชวั่ โมง

 เนอื้ หาวตั ถปุ ระสงคแ์ ละสอ่ื การสอน
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. .....................................

 ปญั หาท่ีเกดิ ขนึ้ ในระหวา่ งการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ............................................
....................................................................................... ..................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
.................................................................................................................................. .......................................
............................................................................................ .............................................................................

 แนวทางการแก้ไขปัญหาของครูผ้สู อน และผลท่ีได้
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
......................................................... .......................................................................................................... ......

ลงชอื่ ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ................................................หวั หน้าแผนก
(นางสวุ มิ ล อักษรกลาง) (นางสุกัญญา ดนัยสวัสด)ิ์

วนั ที่.......................................................... วนั ที.่ .........................................................

66

ใบความรู้ / ใบเนื้อหา
หนว่ ยท่ี 4 เร่อื ง ขน้ั ตอนการแกไ้ ขปัญหา (Algorithm)

4.1 ความหมายของอัลกอริทมึ
อัลกอริทึม (Algorithm) หมายถึง วิธีการท่ีแบ่งออกเป็นเป็นขั้นตอนย่อย ๆ ที่มีการทางานท่ี

แน่นอนหรือการอธิบายลาดับขั้นตอนการทางานในลักษณะของข้อความต้ังแต่ต้นจนจบ ว่ามีข้ันตอนการ
ทางานอย่างไรบ้าง ซึ่งเมื่อทราบข้ันตอนการทางานท่ีแน่นอนแล้วก็จานาอัลกอริทึมที่ได้นั้นมาวาดเป็น
Flowchart จากนั้นจงึ แปลง Flowchart เป็นภาษาระดับสงู ท่ีคอมพิวเตอรเ์ ข้าใจ

อัลกอริทึม (Algorithm ) เป็นส่วนหน่ึงในขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เกิดจาก
แนวคิดอย่างเป็นระบบเพื่อนาไปสู่ผลลัพธ์ท่ีต้องการ และเพอื่ ให้คอมพิวเตอร์ทางานตามความต้องการหรือ
แก้ปัญหาใด ๆ ประกอบด้วยชุดของการทางานที่ชัดเจน ดังน้ันหากออกแบบอัลกอริทึมได้ดีเม่ือนาไปเขียน
โปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอรใ์ ด ๆ กจ็ ะได้ผลลัพธ์ตามความต้องการ

4.2 รูปแบบการเขียนอลั กอรทิ มึ

ลาดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา (Algorithm Development) สามารถเขียนลาดับขั้นตอนการ
ทางานได้ 2 แบบ คอื การอธิบายข้ันตอนการทางานอย่างคร่าว ๆ และการอธิบายข้ันตอนการทางานอย่าง
ละเอยี ด

4.2.1 การอธิบายข้ันตอนการทางานอย่างคร่าวๆ (Decomposition) คือ การเขียนขั้นตอนการ
ทางานท้ังหมดโดยไม่ละเอียดมากนัก และข้ันตอนการทางานเป็นข้อๆ เข้าใจง่าย โดยเร่มิ ตั้งแต่ข้นั ตอนแรก
จนถึงข้ันตอนสุดท้ายท่ีจะส่งให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทาการแก้ปัญหา เช่น การคานวณหาอัตราผ่อนชาระค่า
งวดรถจกั รยานยนต์รายเดือน สามารถเรียบเรยี งเป็นการทางานเป็นข้อๆ ดงั น้ี

4.2.1.1 เร่ิมตน้
4.2.1.2 รบั ค่าของราคารถจักรยานยนต์
4.2.1.3 รบั ค่าของอตั ราดอกเบยี้ รายปี
4.2.1.4 รบั คา่ ของจานวนเดือนทต่ี ้องการผอ่ นชาระ
4.2.1.5 คานวณหาค่าของจานวนเงินทตี่ อ้ งชาระรายเดือน
4.2.1.6 แสดงค่าของจานวนเงนิ ท่ผี อ่ นชาระรายเดอื น
4.2.1.7 จบการทางาน
4.2.2 การอธิบายข้นั ตอนการทางานอย่างละเอียด (Refinement) คอื การนาข้นั ตอนการทางาน
อยา่ งครา่ วๆ มาพิจารณาเพ่ิมเติมขอ้ มลู บางอยา่ งทีย่ ังไมเ่ รียบรอ้ ย แต่ละขนั้ ตอนทีอ่ ธิบายในส่วนของการ
อธิบายข้นั ตอนการทางานอย่างครา่ วๆ น้ัน อาจมีความละเอียดไม่เพียงพอทจ่ี ะนาไปส่ังงานใหเ้ ครือ่ ง

67

คอมพิวเตอร์ทางานอาจต้องเขยี นขยายความใหม้ คี วามละเอียดยง่ิ ขึน้ และสมบูรณ์มากขึ้น หรอื แบง่ การ
ทางานออกเปน็ ข้อย่อยเพิม่ เติม เชน่ การคานวณหาอตั ราผ่อนชาระค่างวดรถจกั รยานยนต์รายเดือนท่ีแสดง
ไวเ้ ป็นแบบครา่ วๆ ดงั น้ันจงึ ต้องทาการอธบิ ายเพิม่ เติมในส่วนของข้นั ตอนในการคานวณหาค่าของจานวน
เงินท่ตี ้องชาระรายเดือน โดยวธิ กี ารคานวณนัน้ ได้ทาในส่วนของการทดลองแกป้ ญั หาดว้ ยตนเอง (Hand
Example) ดงั น้ี

4.2.2.1 เรมิ่ ต้น
4.2.2.2 รับคา่ ของราคารถจักรยานยนต์
4.2.2.3 รบั คา่ อัตราดอกเบีย้ รายปี
4.2.2.4 รับคา่ ของจานวนเดอื นทต่ี อ้ งการผอ่ นชาระ
4.2.2.5 คานวณหาค่าของจานวนเงนิ ท่ีตอ้ งชาระรายเดือน

- ชาระ 24 เดอื น อัตราดอกเบ้ีย 3% ต่อปี
- ชาระ 36 เดอื น อตั ราดอกเบีย้ 3.5% ตอ่ ปี
- ชาระ 48 เดอื น อตั ราดอกเบี้ย 5% ต่อปี

68

ใบงานฝกึ ปฏิบตั ิ
เรอ่ื ง ขนั้ ตอนการแกไ้ ขปญั หา (Algorithm)

คาส่ัง/คาช้แี จง
1. ครใู ห้นักเรียนเขยี นอลั กอริทึมของโปรแกรมตามท่ีกาหนดให้

1.1 โปรแกรมบวกเลข 2 จานวน
1.2 โปรแกรมหาคา่ เฉลยี่ ของตวั เลข 3 จานวน
2. นกั เรียนเขยี นวเิ คราะหล์ งในสมุดและส่งให้ครตู รวจเพือ่ บันทกึ คะแนน

69

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
รหัสวชิ า 20901 - 1002 ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบ้อื งต้น
ชอ่ื หน่วย ข้นั ตอนการแก้ปัญหา (Algorithm) จานวน 3 ช่ัวโมง
รายการหัวข้อการเรยี นรู้
1. เทคนคิ การเขยี นอัลกอริทึม

หวั ข้อการเรยี นรู้ จุดประสงค์การสอนหรือจุดประสงค์เชิง
1. เทคนิคการเขียนอลั กอริทมึ พฤติกรรม

1. เขยี นอลั กอริทมึ ได้

วธิ กี ารสอน : บรรยายและสาธติ
สื่อการสอน :

1. หนังสือเรียนวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บื้องตน้ ของ บรษิ ัท วังอักษร จากัด
2. ใบงานปฏบิ ัติ
3. Google Classroom

การประเมนิ :
1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรงุ
2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ก่อนเรียนไม่มเี กณฑผ์ ่าน เกบ็ คะแนนไว้เปรยี บเทียบกับคะแนนที่ ไดจ้ าก

การทดสอบหลังเรียน
3. แบบสังเกตคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ้ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

70

แผนการจดั การเรยี นรู้
ช่อื วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบอ้ื งตน้ รหสั วิชา 20901 - 1002 สอนคร้งั ท่ี 8
หน่วยท่ี 4 ช่ือหนว่ ย ขน้ั ตอนการแก้ปัญหา (Algorithm) จานวน 3 ชม.

1. หวั ข้อการเรียนรู้
1. เทคนิคการเขียนอลั กอริทึม

2. สาระสาคญั
การเขียนอัลกอริทึมโปรแกรม เป็นการแสดงลาดับการทางานตามคุณสมบัติด้านการประมวลผล

ของคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาที่เหมาะสม เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทางานตามอัลกอริทึมท่ีกาหนดไว้ และทาให้
เราตรวจสอบความถกู ต้องไดค้ รบถว้ นข้นึ ซึ่งคอมพวิ เตอรท์ ี่ว่านจี้ ะตอ้ งมคี ุณสมบัติพ้ืนฐานของกลไกทางาน

3. สมรรถนะประจาหน่วย
แสดงความรู้เก่ียวกับความหมายของอลั กอรทิ มึ รูปแบบการเขยี นอลั กอริทึม รวมท้ังเทคนิคการ

เขียนอัลกอริทึมได้

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
4.1 จดุ ประสงคท์ ัว่ ไป
1. เทคนิคการเขียนอัลกอริทมึ
4.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. เขียนอัลกอริทึมได้

5. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
ในการเรยี นการสอนของหน่วยท่ี 4 คร้ังที่ 8 (จานวน 3 ชั่วโมง)
ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
1. ตรวจสอบรายชอ่ื ของนักเรียนที่เขา้ เรยี น
2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สนทนา ทบทวนเนื้อหาความรเู้ ดิมที่เรียนผ่านมาและแสดงความคิดเหน็

เก่ยี วกับการเขยี นอลั กอริทึมว่ามเี ทคนิคในการเขียนอย่างไร
3. ครูแสดงความคิดเห็นเพิ่มเตมิ
ขน้ั สอน
1. ครบู รรยาย อธิบาย ยกตวั อยา่ งในแตล่ ะหัวข้อการเรยี น
2. เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนซักถามครูผู้สอน

71

3. ประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคลโดยครจู ะซักถามในแตล่ ะคน
ขั้นสรุป
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สาระสาคญั
2. เปดิ โอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัย
3. มอบหมายให้ทาแบบฝึกหัดท้ายบบทและศึกษาเพิ่มเติม
4. ทาแบบทดสอบหลงั เรียนและเฉลยแบบทดสอบ

6. สื่อการจัดการเรียนรู้
1. หนังสือเรียนวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์เบ้ืองต้น ของ บริษัท วังอักษร จากดั
2. ใบงานปฏบิ ัติ
3. Google Classroom

7. การวัดผลและประเมินผล
วธิ ีวดั ผล
1. ผเู้ รยี นปฏิบตั ภิ าระงานที่มอบหมายเสร็จทันเวลาท่ีกาหนด
2. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง

ประสงค์
เครือ่ งมือวัดผล
1. ใบงานปฏิบตั ิ
2. แบบสังเกตคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครแู ละนกั เรียน

ร่วมกนั ประเมิน

8. แหลง่ การเรยี นรู้เพ่มิ เติม
1. หอ้ งสมุดวิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดนิ
2. อนิ เทอรเ์ นต็

9. กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
-

72

สัปดาหท์ .ี่ ................

บนั ทกึ หลงั การสอน

รหสั วิชา..............................วชิ า......................................................................ระดับ................. ชน้ั ปที .ี่ ..........
แผนกวชิ า.......................................................จานวนนกั เรยี น......................คน มาเรยี น...........................คน
ขาดเรยี น..............คน มาสาย................คน ลา.............คน สอนเมื่อวันท.ี่ .........เดือน......................พ.ศ.........
หน่วยท่ี...................... ชือ่ หนว่ ย................................................................................จานวน.................ชวั่ โมง

 เนื้อหาวัตถปุ ระสงคแ์ ละสอื่ การสอน
..................................................................................................................................................................... ....
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
..................................................................................................................................................................

 ปญั หาท่เี กดิ ขนึ้ ในระหวา่ งการเรียนการสอน
....................................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. ............................................
.................................................................................................................................................. .......................
............................................................................................................ .............................................................
............................................................................................................................. ............................................
....................................................................................................................................................... ............

 แนวทางการแกไ้ ขปัญหาของครูผ้สู อน และผลท่ีได้
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ......................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงชือ่ ................................................หัวหน้าแผนก
(นางสุวมิ ล อกั ษรกลาง) (นางสกุ ญั ญา ดนัยสวัสด)์ิ

วนั ท่.ี ......................................................... วนั ท.่ี .........................................................

73

ใบความรู้ / ใบเนือ้ หา
หนว่ ยที่ 4 เร่อื ง ขัน้ ตอนการแก้ไขปัญหา (Algorithm)

4.3 เทคนคิ การเขียนอัลกอริทมึ

อลั กอริทึม เป็นข้ันตอนการบรรยายลาดับขั้นตอนการแก้ปัญหาระบบงานเป็นรายขอ้ เพ่อื แสดงให้
เห็นถึงขั้นตอนการทางานท่ีชัดเจน และเพื่อใช้ในการทดสอบการทางานของอัลกอริทึม ก่อนศึกษาวิธีการ
ขียนอัลกอริทึม ควรมีความเข้าใจและคานึงถึงคุณสมบัติพ้ืนฐานของระบบคอมพิวเตอร์ก่อน เพื่อนาไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นข้ันตอนการเขยี นอลั กอริทึมได้อยา่ งถูกต้องต่อไป

คุณสมบตั ิการทางานระดับพืน้ ฐานของคอมพิวเตอร์ มีดังนี้

4.3.1 คณุ สมบตั ิด้านหน่วยความจา

การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต้องเกี่ยวข้องกับการใช้งานพื้นท่ีในหน่วยความจาของระบบ
คอมพิวเตอร์ ในภาษาคอมพิวเตอร์ใหแ้ ทนสญั ลกั ษณ์กาหนดพื้นที่หน่วยความจา ด้วยการกาหนดช่อื เป็นตัว
แปรใชง้ าน เพื่อใช้งานอ้างอิงถงึ ข้อมูลในหนว่ ยความจา เชน่

i = 1 หมายถึง กาหนดค่า 1 เก็บไวใ้ นตัวแปร i

sum = score1+score2 หมายถึง เอาคา่ score1+score2 แลว้ เก็บค่าผลลพั ธ์

ท่ไี ด้ไว้ท่ีตวั แปร sum

total=bonus+salary หมายถงึ เอาค่าในตัวแปร salary ไปบวกเข้ากับค่าใน

ตัวแปร bonus ผลลัพธท์ ี่ได้จะเก็บท่ีtotal

4.3.2 คุณสมบตั ดิ า้ นการคานวณ

คณุ สมบตั ิด้านการคานวณในระบบคอมพิวเตอร์ระดับพ้ืนฐาน คือ สามารถดาเนินการบวก ลบ คูณ
หาร แต่ลักษณะการพิจารณาเลือกประมวลผลงานคานวณของคอมพิวเตอร์นั้น มีความแตกต่างจากระบบ
การคานวณท่ัว ๆ ไป คือ คอมพิวเตอร์คานวณโดยพิจารณาลาดับความสาคัญของสัญลักษณ์เครื่องหมาย
การคานวณท่ีปรากฏในนิพจน์การคานวณน้ัน ๆ เป็นสาคัญ สัญลักษณ์ที่ใช้ในการคานวณและลาดับการ
ทางานของการคานวณ ดงั ตารางท่ี 4.1

74

เครอ่ื งหมาย ความหมาย ลาดับการคานวณ

( ) วงเล็บ 1

^ ยกกาลัง 2

* คณู 3

/ หาร 4

+ บวก 5

- ลบ 6

** หากมีวงเลบ็ จะคานวณในวงเล็บกอ่ น หากลาดบั ความสาคัญเทา่ กันจะเร่ิมทาฝง่ั ซา้ ยไปขวา

4.3.3 คุณสมบตั ิดา้ นการเปรยี บเทียบเชงิ ตรรกะ

ความสามารถในการประมวลผลเชิงเปรยี บเทียบ เป็นคุณสมบัติพื้นฐานอยา่ งหนึ่งของคอมพวิ เตอร์
โดยใช้หลกั การทางานของพชี คณติ พิจารณาเง่ือนไขท่ีใช้นิพจน์แบบบูลนี ประกอบการเขียนคาส่งั เพ่ือ
กาหนดทางเลือกการทางาน สาหรับหาข้อสรปุ ของเงื่อนไขเปน็ จริงให้ดาเนินการคาสงั่ ใด และเง่อื นไขเป็น
เทจ็ ให้ดาเนนิ การคาสั่งใด

ตัวดาเนินการ ความหมาย
< น้อยกวา่
> มากกวา่
<= น้อยกว่า หรอื เท่ากบั
>= มากกวา่ หรือ เทา่ กบั
= เท่ากบั
<> ไมเ่ ท่ากบั

4.3.4 คณุ สมบตั ิดา้ นการแสดงผลค่าข้อมลู

การอ่านค่าข้อมูลจากพน้ื ทีห่ น่วยความจาทเ่ี ขยี นคาส่ังแล้วนาไปเกบ็ ไว้ หรือจากการคานวณท่ตี อ้ งมี
การนาคา่ ไปเกบ็ ไว้ เพ่ือนามาแสดงผลลัพธใ์ นรปู แบบและในตาแหน่งงานที่ตอ้ งการ

4.3.5 คุณสมบตั กิ ารจดั การทางาน

คอมพิวเตอร์จะทางานทีละคาส่ัง ตามลาดบั จากบนลงล่าง หากเปรยี บเทียบใน 1 บรรทดั คือ 1
คาส่ัง คอมพวิ เตอรจ์ ะทางานตามคาสัง่ ท่ีอยบู่ รรทัดบนสุดก่อนแล้วจงึ ทางานตามคาสั่งท่อี ยูใ่ นลาดับตอ่ มา
จนถงึ คาส่ังในบรรทดั สุดท้าย

75

4. สรปุ
อลั กอริทึม (Algorithm) หมายถงึ วธิ กี ารท่ไี ด้แบ่งออกเปน็ ข้นั ตอนย่อย ๆ ที่มีการทางานทแ่ี นน่ อน

หรือการอธิบายลาดบั ขน้ั ตอนการทางานในลกั ษณะของข้อความตัง้ แต่ตน้ จนจบ ลาดบั ขั้นตอนการ
แกป้ ัญหา สามารถเขียนลาดับขั้นตอนการทางานอยา่ งละเอียด เทคนคิ การเขียนอลั กอรทิ ึม เป็นข้นั ตอนการ
บรรยายลาดบั ขัน้ ตอนการแก้ปญั หาระบบงานเป็นรายข้อ เพอ่ื แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการทางานที่ชัดเจน
และเพื่อใชใ้ นการทดสอบการทางานของอลั กอรทิ มึ ดว้ ย ก่อนศกึ ษาวิธกี ารเขียนอลั กอริทึมควรมีความเข้าใจ
และคานึงคุณสมบัติพนื้ ฐานของระบบคอมพิวเตอร์

76

ใบงานฝกึ ปฏบิ ตั ิ
เร่ือง ขั้นตอนการแกไ้ ขปญั หา (Algorithm)

คาสัง่ /คาชแ้ี จง
1. จงเขยี นอลั กอริทมึ ในการคานวณตัดเกรดนักเรียนวชิ าการเขียนโปรแกรมภาษาซี โดยมีการรบั ข้อมูล
ดงั น้ี ชอื่ นามสกลุ คะแนนเกบ็ (40) คะแนนปลายภาค (60) ให้หาคะแนนรวมและทาการตัดเกรดโดยมี
เกณฑ์การตดั เกรด ดังน้ี

- คะแนน ต้งั แต่ 60 คะแนนข้ึนไป ให้เกรด P
- คะแนน น้อยกว่า 60 ให้เกรด F
2. เขียนอลั กอรทิ มึ โปรแกรมการรบั ประทานยาโดยมีเงื่อนไขดงั น้ี
- อายุน้อยกว่า 1 ปี ไม่ต้องทานยา
- อายุ 1-3 ปี ทานยา 1 ช้อนชา
- อายุ 5-10 ปี ทานยา 2 ชอ้ นชา
- อายุมากกว่า 10 ปี ทานยา 3 ชอ้ นชา

77

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5

รหัสวิชา 20901 - 1002 ช่ือวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบ้ืองตน้

ชอื่ หน่วย โครงสรา้ งภาษาคอมพิวเตอร์ จานวน 3 ช่ัวโมง

รายการหวั ข้อการเรียนรู้
1. ประวตั ขิ องภาษาซี
2. โครงสร้างภาษาซี

หัวข้อการเรยี นรู้ จุดประสงค์การสอนหรอื จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม

1. ประวตั ิของภาษาซี 1. อธิบายประวัติของภาษาซีได้
2. โครงสร้างภาษาซี 2. จาแนกโครงสรา้ งภาษาซีได้

วธิ กี ารสอน : บรรยายและสาธติ

สอ่ื การสอน :
1. หนงั สอื เรียนวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บื้องต้น ของ บริษัท วงั อกั ษร จากัด
2. แบบฝกึ หดั ท้ายบท
3. ใบงานปฏบิ ตั ิ
4. Google Classroom

การประเมิน :
1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล ต้องไม่มีช่องปรบั ปรุง
2. แบบประเมินผลการเรียนร้กู ่อนเรยี นไม่มเี กณฑ์ผา่ น เก็บคะแนนไว้เปรยี บเทียบกบั คะแนนท่ี

ไดจ้ ากการทดสอบหลังเรยี น
3. แบบสงั เกตคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้นึ อย่กู ับการ

ประเมินตามสภาพจริง


Click to View FlipBook Version