The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

128

ใบงานฝกึ ปฏบิ ตั ิ
เร่ือง การใช้ประบวนการเขียนโปรแกรมคาสงั่ การคานวณ เงื่อนไขกรณีและการทาซ้า

คาส่ัง/คาชแี้ จง
1. ให้นกั เรียนเขียนโปรแกรมต่อไปน้โี ดยใช้ for

1.1 เขยี นโปรแกรมทาซา้ เพือ่ แสดงผลลพั ธด์ งั ตอ่ ไปน้ี
0
01
012
0123
01234
012345

1.2 เขียนโปรแกรมทาซา้ เพ่ือแสดงสูตรคณู จาก แม่ 2 ถึงแม่ 5 ออกทางจอภาพ ดังผลลัพธต์ อ่ ไปน้ี
2x1=2
2x2=4
2x3=6
2x4=8
2x5=10
2x6=12
2x7=14
2x8=16
2x9=18
2x10=20
2x11=22
2x12=24

129

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 6
รหัสวชิ า 20901 - 1002 ชอ่ื วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บ้อื งต้น
ช่ือหน่วย การใช้ประบวนการเขยี นโปรแกรมคาสงั่ การคานวณ เงือ่ นไขกรณี
และการทาซ้า จานวน 3 ชว่ั โมง
รายการหัวข้อการเรยี นรู้
1. โครงสรา้ งทาซา้ while

หัวข้อการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารสอนหรอื จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. โครงสร้างทาซา้ 1. เขียนโปรแกรมด้วยโครงสรา้ งทาซา้ ได้

วิธกี ารสอน : บรรยายและสาธติ

สอ่ื การสอน :
1. หนังสอื เรยี นวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์เบ้ืองตน้ ของ บรษิ ัท วงั อกั ษร จากัด
2. หนังสอื พน้ื ฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ของบริษัทซเี อ็ดยเู คชั่น จากัด(มหาชน)
3. ใบงานปฏบิ ัติ
4. Google Classroom

การประเมิน :
1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล ต้องไม่มชี ่องปรับปรงุ
2. แบบสังเกตคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

130

แผนการจดั การเรยี นรู้
ชื่อวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องตน้ รหสั วิชา 20901 - 1002 สอนครั้งท่ี 14
หนว่ ยที่ 6 ชอื่ หน่วย การใช้ประบวนการเขียนโปรแกรมคาสัง่ เงอื่ นไขกรณีและการทาซา้ จานวน 3 ชม.

1. หวั ขอ้ การเรยี นรู้
1. โครงสรา้ งทาซา้

2. สาระสาคัญ
ขั้นตอนการเขียนโปรแกรมต้องเริ่มต้นจากการรับข้อมูล การคานวณ เงื่อนไขต่างๆ และการทาซ้า

วิธีการประมวลผลเพื่อให้ได้มาซ่ึงผลลัพธ์ที่ต้องการ การเขียนนิพจน์และตัวดาเนินการจึงเป็นส่ิงสาคัญท่ี
จะต้องเรียนรู้ เพื่อให้ทราบถึงวิธีการที่จะเขียนวิธีการเขียนคานวณในรูปแบบที่ถูกต้องตามรูปแบบของ
ภาษาซี ตัวดาเนินการในภาษาซีมีหลายแบบ ได้แก่ ตัวดาเนินการทางคณิตศาสตร์ ตัวดาเนินการเพ่ิมและ
ลดค่า ตัวดาเนินการเปรียบเทียบ และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มักจะต้องมีคาสั่งให้โปรแกรมเลือก
ทาอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ ซ่ึงจะต้องนาคาส่ังในการเลือกทามาใช้ การทางานย่อมมีการเลือกการทางาน
หลายทาง

3. สมรรถนะประจาหนว่ ย
แสดงความรู้เกีย่ วกับการเขียนโปรแกรมแสดงข้อความด้วยคาสั่ง cout การเขียนโปรแกรมรับ

ข้อมูลด้วยคาสง่ั cin นพิ จน์ ตัวดาเนินการ การเขียนโปรแกรมโดยใช้คาสัง่ เงอ่ื นไขเพ่ือเปรียบเทียบเงอื่ นไข
และการเขยี นโปรแกรมโดยใช้โครงสรา้ งการทาซ้าได้

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
4.1 จดุ ประสงค์ท่วั ไป
1. โครงสร้างทาซา้
4.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. เขยี นโปรแกรมดว้ ยโครงสร้างทาซ้าได้

5. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
ในการเรียนการสอนของหน่วยท่ี 6 ครั้งที่ 14 (จานวน 3 ช่วั โมง)
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน
1. ตรวจสอบรายชื่อของนักเรียนทเ่ี ข้าเรยี น
2. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนา ทบทวนเนือ้ หาเดิมทีเ่ คยเรียนผา่ นมาแล้วและแสดงความคิดเหน็

เก่ียวกบั การเขยี นโปรแกรมคาสั่งการทาซา้ โดยใช้ while

131

3. ครูแสดงความคิดเหน็ เพ่ิมเติม
ขัน้ สอน
1. ครูบรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่างในแตล่ ะหัวข้อการเรียน
2. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามครูผู้สอน
3. ประเมินพฤติกรรมรายบคุ คลโดยครูจะซกั ถามในแตล่ ะคน
ข้นั สรปุ
1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปสาระสาคญั
2. เปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสยั
3. มอบหมายให้ไปหดั ทาและศึกษาเพิ่มเติม

6. สอ่ื การจดั การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บื้องต้น ของ บริษัท วังอกั ษร จากดั
2. หนังสอื พืน้ ฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ของบริษัทซเี อ็ดยูเคช่นั จากดั (มหาชน)
3. แบบฝกึ หดั ท้ายบท
4. ส่ือ power point

7. การวดั ผลและประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. ผ้เู รยี นปฏบิ ตั ภิ าระงานท่มี อบหมายเสร็จทันเวลาท่ีกาหนด
2. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึง

ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หลังเรียนประเภทเขียนบรรยาย
2. แบบสังเกตคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

ร่วมกันประเมนิ

8. แหล่งการเรียนรู้เพมิ่ เติม
1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดนิ
2. อินเทอรเ์ นต็

9. กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้ามี)
1. นกั เรียนเขา้ ไปค้นควา้ ข้อมูลเพิม่ เตมิ จากห้องสมุด
2. ทาแบบฝึกปฏิบตั ิและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

132

สัปดาห์ท.่ี ................

บันทึกหลงั การสอน

รหัสวิชา..............................วชิ า......................................................................ระดบั ................. ชัน้ ปที ่ี...........
แผนกวชิ า.......................................................จานวนนักเรยี น......................คน มาเรียน...........................คน
ขาดเรียน..............คน มาสาย................คน ลา.............คน สอนเม่ือวันที่..........เดอื น......................พ.ศ.........
หน่วยท.ี่ ..................... ช่ือหนว่ ย................................................................................จานวน.................ช่ัวโมง

 เนอื้ หาวตั ถุประสงคแ์ ละสื่อการสอน
.................................................................................................................................................... ....................
............................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................................................ ............
....................................................................................................................... .................................................
............................................................................................................................. ...........................................
.................................................................................................................................................................... ....

 ปญั หาที่เกิดขนึ้ ในระหว่างการเรียนการสอน
...................................................................................... ..................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ..........................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................... .............................

 แนวทางการแกไ้ ขปัญหาของครผู ้สู อน และผลที่ได้
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผ้สู อน ลงชือ่ ................................................หวั หน้าแผนก
(นางสุวมิ ล อกั ษรกลาง) (นางสุกญั ญา ดนัยสวสั ด์ิ)
วันท.ี่ .........................................................
วันท่ี......................................................

133

ใบความรู้ / ใบเน้อื หา
หนว่ ยที่ 6 เรื่อง การใช้ประบวนการเขียนโปรแกรมคาสั่งเงื่อนไขกรณีและการทาซา้

6.1 โครงสร้างการทาซ้าโดยคาสั่ง while
เปน็ โครงสรา้ งการทางานทใี่ ช้สาหรับควบคมุ ทิศทางการทางานของโปรแกรมแบบวนรอบโดยคาสั่ง
while จะเริ่มต้นการทางานจากการตรวจสอบเงอ่ื นไข ถ้าเงื่อนไขเปน็ จรงิ จึงจะทางานตามคาสง่ั ของ while
เมื่อทางานเสรจ็ ก็จะวนกลับมาตรวจสอบเงือ่ นไขใหม่ ไปเร่ือย ๆ จนกว่าเงื่อนไขจะเปน็ เทจ็ จงึ จะหยุดการ
ทางานของลูป

รปู แบบ :
while (expression)
{
statement;
}

โดยที่ : expression หมายถงึ นิพจน์ท่นี ามาใช้ตรวจสอบเง่อื นไข
statement หมายถงึ ประโยคคาส่งั ทีง่ านซ้า

ลกั ษณะการทางานของลูป while
1. ชดุ คาส่ังภายในลูป while จะทางานเมือ่ เปน็ จริง (True)
2. การออกจากลปู เม่ือคาส่งั เง่อื นไขเปน็ เทจ็ (false)
3. เงอ่ื นไขหรอื นิพจน์ทนี่ ามาตรวจสอบ สามารถใช้ตวั ดาเนนิ การเปรียบเทยี บ หรือ

ตาดาเนนิ การทางตรรกะได้ เชน่
while (i = 10)
while (i >=10 && j <= 15)
while (j > 10 && (b < 15 || C < 20))

134

ตัวอย่างโปรแกรม :

135

ใบงานฝกึ ปฏิบตั ิ
เร่อื ง การใช้ประบวนการเขียนโปรแกรมคาสงั่ การคานวณ เงื่อนไขกรณแี ละการทาซ้า

คาสงั่ /คาช้แี จง

1. จากโจทยต์ อ่ ไปน้ี จะเขียนโปรแกรมทาซา้ โดยคาสง่ั while ได้อย่างไร

1.1 เขยี นโปรแกรมทาซ้าเพอ่ื รับตัวเลข 10 จานวน แลว้ คานวณหาค่าเฉลีย่ หาคา่ มากทส่ี ุด ค่านอ้ ย

ท่ีสุด แสดงออกมาทางจอภาพ

1.2 เขียนโปรแกรมทาซ้าเพ่อื รับค่ายอดเงินต้น (capital) อัตราดอกเบย้ี (rate) และจานวนปีท่ีฝาก

เงิน (year) แล้วคานวณหาดอกเบย้ี ทีจ่ ะไดร้ บั จากธนาคาร โดยมสี ตู รคานวณดังน้ี

ดอกเบี้ย (interest) = capital * rate / 100

เงนิ ต้น (capital) += interest

ตัวอย่างอินพตุ

Capital : 15000

Interest : 4

Year : 3

ตัวอยา่ งเอาตพ์ ุต

Year Interest Sum

1 600.00 15600.00

2 624.00 16224.00

3 648.96 16872.96

136

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
รหัสวิชา 20901 - 1002 ชือ่ วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น
ชอื่ หน่วย การใช้ประบวนการเขยี นโปรแกรมคาสง่ั การคานวณ เง่ือนไขกรณี
และการทาซา้ จานวน 3 ชัว่ โมง
รายการหัวข้อการเรียนรู้
1. โครงสรา้ งทาซา้ do…while

หัวข้อการเรียนรู้ จุดประสงค์การสอนหรือจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. โครงสรา้ งทาซ้า 1. เขยี นโปรแกรมด้วยโครงสร้างทาซ้าได้

วิธีการสอน : บรรยายและสาธิต

ส่อื การสอน :
1. หนงั สือเรยี นวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องตน้ ของ บริษัท วงั อกั ษร จากดั
2. หนงั สือ พ้นื ฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ของบรษิ ัทซเี อ็ดยูเคชนั่ จากดั (มหาชน)
3. ใบงานปฏบิ ัติ
4. Google Classroom

การประเมิน :
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบุคคล ตอ้ งไม่มีช่องปรบั ปรงุ
2. แบบประเมินผลการเรียนร้กู ่อนเรยี นไมม่ ีเกณฑผ์ า่ น เก็บคะแนนไว้เปรยี บเทียบกับคะแนนท่ี ได้

จากการทดสอบหลังเรยี น
3. แบบสังเกตคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่กับการ

ประเมนิ ตามสภาพจริง

137

แผนการจัดการเรียนรู้
ชื่อวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบือ้ งต้น รหัสวชิ า 20901 - 1002 สอนคร้ังท่ี 15
หน่วยที่ 6 ชื่อหน่วย การใชป้ ระบวนการเขียนโปรแกรมคาสัง่ เงอ่ื นไขกรณแี ละการทาซ้า จานวน 3 ชม.

1. หวั ขอ้ การเรียนรู้
1. โครงสรา้ งทาซ้า do…while

2. สาระสาคัญ
ขั้นตอนการเขียนโปรแกรมต้องเริ่มต้นจากการรับข้อมูล การคานวณ เงื่อนไขต่างๆ และการทาซ้า

วิธีการประมวลผลเพื่อให้ได้มาซ่ึงผลลัพธ์ท่ีต้องการ การเขียนนิพจน์และตัวดาเนินการจึงเป็นสิ่งสาคัญที่
จะต้องเรียนรู้ เพื่อให้ทราบถึงวิธีการที่จะเขียนวิธีการเขียนคานวณในรูปแบบท่ีถูกต้องตามรูปแบบของ
ภาษาซี ตัวดาเนินการในภาษาซีมีหลายแบบ ได้แก่ ตัวดาเนินการทางคณิตศาสตร์ ตัวดาเนินการเพ่ิมและ
ลดค่า ตัวดาเนินการเปรียบเทียบ และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มักจะต้องมีคาส่ังให้โปรแกรมเลือก
ทาอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ ซ่ึงจะต้องนาคาส่ังในการเลือกทามาใช้ การทางานย่อมมีการเลือกการทางาน
หลายทาง

3. สมรรถนะประจาหนว่ ย
แสดงความร้เู กยี่ วกบั การเขยี นโปรแกรมแสดงข้อความดว้ ยคาสั่ง cout การเขยี นโปรแกรมรับ

ข้อมูลด้วยคาส่ัง cin นิพจน์ ตัวดาเนนิ การ การเขยี นโปรแกรมโดยใช้คาส่ังเงอื่ นไขเพื่อเปรียบเทียบเงอ่ื นไข
และการเขียนโปรแกรมโดยใช้โครงสร้างการทาซ้าได้

4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1. โครงสรา้ งทาซ้า do…while
4.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. เขียนโปรแกรมด้วยโครงสร้างทาซา้ ได้ do…while

5. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
ในการเรยี นการสอนของหน่วยท่ี 6 คร้ังท่ี 15 (จานวน 3 ช่วั โมง)
ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ตรวจสอบรายชื่อของนักเรียนทีเ่ ข้าเรยี น
2. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนา ทบทวนเนอ้ื หาวชิ าที่เรียนผ่านมาแลว้ และแสดงความคดิ เหน็

เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมคาส่ังการทาซา้ โดยใช้ do…while
3. ครูแสดงความคิดเหน็ เพิ่มเติม

138

ข้นั สอน
1. ครบู รรยาย อธบิ าย ยกตัวอยา่ งในแตล่ ะหวั ข้อการเรียน
2. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามครผู ู้สอน
3. ประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคลโดยครจู ะซกั ถามในแต่ละคน
ข้นั สรปุ
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สาระสาคญั
2. เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามข้อสงสัย
3. มอบหมายให้ไปหดั ทาและศึกษาเพมิ่ เติม

6. ส่อื การจัดการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บื้องต้น ของ บริษัท วังอกั ษร จากัด
2. หนงั สอื พนื้ ฐานการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ของบริษทั ซเี อ็ดยเู คชั่น จากัด(มหาชน)
3. ใบงานปฏิบตั ิ
4. Google classroom

7. การวดั ผลและประเมินผล
วธิ ีวดั ผล
1. ผู้เรียนปฏบิ ัตภิ าระงานทม่ี อบหมายเสรจ็ ทันเวลาท่ีกาหนด
2. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึง

ประสงค์
เครอื่ งมอื วดั ผล
1. ใบงานปฏบิ ตั ิ
2. แบบสงั เกตคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี น

ร่วมกันประเมนิ

8. แหลง่ การเรยี นรเู้ พ่ิมเติม
1. ห้องสมุดวทิ ยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดิน
2. อนิ เทอรเ์ น็ต

9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
-

139

สัปดาห์ท่.ี ................

บันทกึ หลงั การสอน

รหสั วิชา..............................วชิ า......................................................................ระดับ................. ชน้ั ปีที.่ ..........
แผนกวชิ า.......................................................จานวนนกั เรยี น......................คน มาเรยี น...........................คน
ขาดเรียน..............คน มาสาย................คน ลา.............คน สอนเม่ือวนั ที่..........เดอื น......................พ.ศ.........
หนว่ ยท่ี...................... ช่อื หนว่ ย................................................................................จานวน.................ชั่วโมง

 เน้ือหาวัตถุประสงค์และส่อื การสอน
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................

 ปญั หาทีเ่ กิดขนึ้ ในระหว่างการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................................
..................................................................................................................................................................... ...
............................................................................................................................. ...........................................
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................

 แนวทางการแกไ้ ขปัญหาของครผู สู้ อน และผลท่ีได้
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................ ................................
................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
................................................................................................................................................ ........................
........................................................................................................... .............................................................

ลงชอื่ ............................................ครผู สู้ อน ลงชื่อ................................................หัวหนา้ แผนก
(นางสวุ มิ ล อักษรกลาง) (นางสกุ ญั ญา ดนัยสวัสด์)ิ

วนั ท่ี.......................................................... วนั ที.่ .....................................................

140
ใบความรู้ / ใบเนื้อหา
หนว่ ยท่ี 6 เร่อื ง การใชป้ ระบวนการเขียนโปรแกรมคาสั่งเงอ่ื นไขกรณแี ละการทาซ้า
6.1 โครงสรา้ งการทาซา้ โดยคาส่ัง do…while
เปน็ โครงสร้างการทางานท่ใี ช้สาหรับควบคุมทิศทางการทางานของโปรแกรมแบบวนรอบโดยคาสง่ั
do…while จะคลา้ ยกบั คาสัง่ while แตจ่ ะแตกต่างกันตรงที่ do…while จะทางานตามคาสั่งของ do กอ่ น
หนงึ่ รอบแลว้ จงึ ตรวจสอบเงื่อนไขที่ while ถา้ เงื่อนไขเปน็ จริงจงึ จะกลบั ไปทางานตามคาส่งั ของ do อีกคร้งั
ไปเรือ่ ย ๆ จนกวา่ เง่อื นไขจะเปน็ เทจ็ จงึ จะหยุดการทางานของลปู

รปู แบบ :
do
{
statement;
} while ( condition);

โดยที่ :
condition หมายถงึ เงื่อนไขที่กาหนดใหต้ รวจสอบหลงั ทางานภายในลูปทกุ ครง้ั
statement หมายถงึ ชุดคาสงั่ ท่ีทางานก่อนตรวจสอบเงื่อนไข
ตัวอยา่ งโปรแกรม :

141

142

ใบงานฝึกปฏบิ ตั ิ
เรอ่ื ง การใชป้ ระบวนการเขียนโปรแกรมคาสง่ั การคานวณ เงอื่ นไขกรณีและการทาซ้า

คาสัง่ /คาช้แี จง
1. จากโจทยต์ อ่ ไปนี้ จะเขยี นโปรแกรมทาซา้ โดยคาสง่ั do…while ได้อยา่ งไร

1.1 เขยี นโปรแกรมทาซา้ เพอื่ รบั ตัวเลขจานวนเต็มจนกวา่ ผู้ใช้จะป้อนเป็นเลข -999 หาผลรวม
ตวั เลขทป่ี อ้ นเข้าไปทัง้ หมดมาแสดงผลลัพธ์

143

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 7
รหสั วชิ า 20901 - 1002 ช่อื วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บือ้ งต้น
ชื่อหน่วย การออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อประยกุ ตใ์ ช้ในงานธรุ กิจ
จานวน 6 ชวั่ โมง
รายการหัวข้อการเรยี นรู้
1. การออกแบบและการพฒั นาโปรแกรม
2. โปรแกรมประยุกตใ์ นงานธุรกิจ

หวั ข้อการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารสอนหรอื จดุ ประสงค์เชิง
พฤติกรรม
1. การออกแบบและการพฒั นาโปรแกรม
2. โปรแกรมประยกุ ต์ในงานธุรกจิ 1. การออกแบบและการพัฒนาโปรแกรม
2. โปรแกรมประยกุ ตใ์ นงานธุรกิจ

วธิ กี ารสอน : วิธสี อนแบบศึกษาดว้ ยตนเอง (Self-Study Method)
ส่ือการสอน :

1. หนังสือเรยี นวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์เบ้ืองต้น ของ บรษิ ัท วงั อักษร จากดั
2. หนงั สือ พืน้ ฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ของบรษิ ทั ซีเอด็ ยเู คชัน่ จากัด(มหาชน)
3. แบบฝกึ หัดท้ายบท
4. สือ่ power point

การประเมนิ :
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรงุ
2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ก่อนเรียนไมม่ ีเกณฑ์ผา่ น เกบ็ คะแนนไวเ้ ปรียบเทยี บกบั คะแนนที่ ไดจ้ าก

การทดสอบหลงั เรียน
3. แบบสังเกตคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้ึนอยูก่ ับการ

ประเมินตามสภาพจริง

144

แผนการจัดการเรียนรู้

ช่ือวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ บ้ืองต้น รหสั วิชา 20901 - 1002 สอนครงั้ ท่ี 1
หน่วยที่ 7 ช่ือหน่วย การออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายเพือ่ ประยุกตใ์ ชใ้ นงานธรุ กิจ จานวน
9 ชม.

1. หัวขอ้ การเรียนรู้
1. การออกแบบและการพฒั นาโปรแกรม
2. โปรแกรมประยุกต์ในงานธุรกิจ

2. สาระสาคญั
การเขียนโปรแกรมเพื่อนามาประยุกต์ใช้ในงานธุรกิจ เป็นโปรแกรมท่ีใช้กับงานด้านต่างๆ ตาม

ความต้องการของผู้ใช้ ท่ีสามารถนามาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาโปรแกรมใช้งานทางด้าน
ตา่ ง ๆ ออกจาหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกวา้ งขวางและแพร่หลาย โปรแกรมท่พี ัฒนาข้นึ ใช้
งานเฉพาะด้าน ซ่ึงภาษาท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรมแตกต่างตามความถนัดของผู้เขียน หรือตามความ
ต้องการของผู้ใช้ เช่น โปรแกรมการคานวณตัดเกรดนักศึกษา โปรแกรมการขายของในร้านสะดวกซ้ือ
โปรแกรมการเช่า - คนื รา้ นหนงั สอื เปน็ ต้น

3. สมรรถนะประจาหนว่ ย
แสดงความรู้เกย่ี วกับการออกแบบและการพัฒนาโปรแกรม นาความรู้ไปประยกุ ต์ใช้เพ่ือเขียน

โปรแกรมประยุกตใ์ ช้ในงานธุรกิจได้

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4.1 จุดประสงค์ท่วั ไป
1. การออกแบบและการพฒั นาโปรแกรม
2. โปรแกรมประยกุ ต์ในงานธุรกิจ
4.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. การออกแบบและการพัฒนาโปรแกรม
2. โปรแกรมประยกุ ตใ์ นงานธุรกิจ

5. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
ในการเรียนการสอนของหน่วยท่ี 7 คร้ังที่ 16 - 18 (จานวน 6 ช่ัวโมง)
ขั้นนาเข้าส่บู ทเรยี น
1. ตรวจสอบรายชือ่ ของนักเรียนทเ่ี ข้าเรียน
2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั การออกแบบและเขียนโปรแกรม

อย่างง่ายเพ่ือประยุกต์ใช้ในงานธุรกจิ วา่ ควรมีหลกั การเขยี นโปรแกรมอย่างไร
3. ครแู สดงความคิดเหน็ เพิ่มเตมิ

145

ขัน้ สอน
1. ครูบรรยาย อธิบาย ยกตวั อยา่ งในแต่ละหัวข้อการเรียน
2. เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนซักถามครผู ้สู อน
3. ประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคลโดยครจู ะซักถามในแตล่ ะคน
ข้นั สรปุ
1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สาระสาคัญ
2. เปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสยั
3. มอบหมายให้ไปหัดทาและศกึ ษาเพิม่ เตมิ
4. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี นและเฉลยแบบทดสอบ

6. สอ่ื การจัดการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์เบื้องต้น ของ บริษัท วงั อักษร จากดั
2. หนังสอื พื้นฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ของบริษทั ซีเอ็ดยเู คช่นั จากดั (มหาชน)
3. แบบฝกึ หดั ท้ายบท
4. ส่ือ power point

7. การวดั ผลและประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. ผูเ้ รียนปฏบิ ตั ภิ าระงานท่มี อบหมายเสรจ็ ทนั เวลาท่ีกาหนด
2. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึง

ประสงค์
เครอ่ื งมือวดั ผล
1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หลังเรยี นประเภทเขียนบรรยาย
2. แบบสังเกตคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนกั เรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ

8. แหลง่ การเรยี นรเู้ พิ่มเติม
1. ห้องสมดุ วทิ ยาลยั การอาชีพสวา่ งแดนดนิ
2. อินเทอร์เน็ต

9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
1. นกั เรียนเขา้ ไปค้นควา้ ข้อมูลเพิม่ เตมิ จากหอ้ งสมุด จัดทาเปน็ รายงานส่งครู
2. ทาแบบฝึกปฏบิ ตั ิและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

146

สปั ดาหท์ ี่.................

บันทึกหลงั การสอน

รหัสวชิ า..............................วชิ า......................................................................ระดบั ................. ช้นั ปที ่.ี ..........
แผนกวชิ า.......................................................จานวนนกั เรยี น......................คน มาเรยี น...........................คน
ขาดเรียน..............คน มาสาย................คน ลา.............คน สอนเมื่อวนั ท.่ี .........เดือน......................พ.ศ.........
หนว่ ยที่...................... ชื่อหนว่ ย................................................................................จานวน.................ชั่วโมง

 เนอ้ื หาวตั ถุประสงค์และสอื่ การสอน
............................................................................................................................. ............................................
....................................................................................... ..................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
.................................................................................................................................. .......................................
............................................................................................ .............................................................................
............................................................................................................................. ............................................
....................................................................................................................................... ...........................

 ปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ ในระหว่างการเรยี นการสอน
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ............................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ......................................

 แนวทางการแก้ไขปัญหาของครผู ้สู อน และผลที่ได้
............................................................................................................................................................... ..........
......................................................................................................................... ................................................
............................................................................................................................. ............................................
.................................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. ............................................
............................................................................................................................. ......................................

ลงชื่อ............................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ................................................หวั หน้าแผนก
(นางสวุ มิ ล อกั ษรกลาง) (นางสุกัญญา ดนยั สวัสดิ)์
วันท่ี..........................................................
วนั ท่ี......................................................

147

ใบความรู้ / ใบเนอ้ื หา
หนว่ ยที่ 7 เรอ่ื ง การออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยเพ่ือประยุกต์ใชใ้ นงานธรุ กิจ

1. การออกแบบและการพัฒนาโปรแกรม

การเขยี นโปรแกรม (Computer Programming) หมายถงึ การสร้างชุดคาสงั่ เพื่อให้คอมพวิ เตอร์
ใช้เป็นขน้ั ตอนวิธี (Algorithm) ในการทางานสาหรบั การประมวลผลขอ้ มลู ซ่ึงเป็นการหาคาตอบของปญั หา
ท่แี ก้ได้ด้วยหลกั การทางคณติ ศาสตร์ การเขียนโปรแกรมโดยทว่ั ไปจะประกอบด้วยการทางานทคี่ วบคุมสว่ น
ตา่ ง ๆ ของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ได้แก่

1. สว่ นรบั ขอ้ มลู เข้า (Input) เช่น การรบั ค่าจากคียบ์ อรด์ , การรบั คาสั่งจากเมาส์ เป็นต้น
2. ส่วนจัดเกบ็ ขอ้ มูล (Memory) เช่น การจัดเก็บข้อมลู ในตัวแปร, การเขยี น / อา่ นไฟล์ เป็นต้น
3. สว่ นประมวลผล (Process) เช่น การคดิ คานวณ, การเปรยี บเทยี บคา่ เป็นตน้
4. ส่วนแสดงผล (Output) เชน่ การแสดงผลออกจอภาพ, การพมิ พเ์ อกสารทางเคร่ืองพิมพ์ เปน็
ตน้
หวั ใจสาคญั ของการเขียนโปรแกรม คือ การจัดเก็บคา่ ต่าง ๆ ในโครงสรา้ งข้อมูลที่เหมาะสมและ
การจดั ลาดับการทางานของโปรแกรมดว้ ยขั้นตอนวิธีท่ถี ูกต้อง
ข้นั ตอนการออกแบบ
การออกแบบและพฒั นาโปรแกรม (Program Design and Development) เป็นกระบวนการ
ทางานของนักพัฒนาโปรแกรม โดยในการสร้างโปรแกรมแต่ละระบบนั้น จะมีขั้นตอนการออกแบบและ
พฒั นาโปรแกรมแบบพื้นฐาน ดงั น้ี
1. วิเคราะห์โจทย์ปัญหา เป็นการรวบรวมความต้องการของผูใ้ ช้โปรแกรม โดยพจิ ารณากาหนด
ขอ้ มูลเขา้ ผลลพั ธท์ ่ีได้และคิดวธิ ีการหาคาตอบ
2. ออกแบบโปรแกรม เปน็ การถ่ายทอดขัน้ ตอนวธิ จี ากแนวความคดิ ลงสูเ่ อกสาร อาจเลือกใช้
รปู แบบการเขียนอยา่ งใดอย่างหนง่ึ ไดแ้ ก่

2.1 คาส่งั เทยี ม (Pseudo code) เป็นคาสั้น ๆ ที่มีความหมายชดั เจนเพื่อบอกถงึ ลาดับ
ข้ันตอนการทางานของโปรแกรม

2.2 ภาษา UML (Unified Modeling Language) เปน็ เครื่องมือท่ีเหมาะกับการออกแบบ
โปรแกรมเชิงวตั ถุ

2.3 นอกจากน้ียังมีการเขียนแผนผงั การไหลของข้อมูล (Data Flow Line) สาหรบั แสดง
ถึงความเก่ียวขอ้ งกนั ระหว่างบุคคล การกระทาและข้อมูล

2.4 แตส่ าหรบั ผูเ้ รมิ่ ตน้ ควรออกแบบโปรแกรมโดยใชผ้ งั งาน (Flowchart) เพอ่ื ฝึกฝนวิธี
คิดที่เป็นขน้ั เปน็ ตอน

148

3. เขยี นโปรแกรม เป็นการเลือกภาษาคอมพวิ เตอร์แล้วนามาเขยี นเป็นชดุ คาสัง่ ตามขนั้ ตอนการ
ทางานท่ีไดอ้ อกแบบไว้

4. ทดสอบและแก้ไขโปรแกรม โดยนาโปรแกรมไปทดลองใชก้ บั ตัวอย่างข้อมูลเข้าหลายๆชุด หรอื
ผู้ใชห้ ลายๆ คน ไดท้ ดสอบใชง้ านเมือ่ พบข้อบกพร่องก็นามาแกไ้ ข

5. จดั ทาเอกสารคู่มือ มี 3 ประเภท คือ
5.1 คู่มอื การพฒั นาโปรแกรม (Developing Manual) เป็นเอกสารทปี่ ระกอบดว้ ยการ

วิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หา การออกแบบโปรแกรม คาสัง่ ในการเขยี นโปรแกรม วิธกี ารทดสอบและแก้ไข
โปรแกรม

5.2 ค่มู อื การตดิ ต้งั โปรแกรม (Installation Manual) เปน็ เอกสารท่รี ะบุถึงความจาเปน็
พื้นฐานทางฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ ขัน้ ตอนการตดิ ตงั้ รวมทัง้ วิธีการปรับแต่งก่อนการใชง้ านโปรแกรม

5.3 คู่มือการใช้งานโปรแกรม (User Manual) เปน็ เอกสารท่อี ธิบายเมนูการทางาน
หนา้ จอของการป้อนข้อมูล และการดผู ลลัพธส์ าหรบั ผใู้ ช้โปรแกรม
2. โปรแกรมประยุกต์ในงานธุรกจิ

การเขยี นโปรแกรมประยุกตใ์ ชง้ านมักจะเนน้ การใชง้ านทั่วไป แต่อาจจะนามาประยกุ ตโ์ ดยตรงกบั
งานทางธุรกจิ ได้เฉพาะงานบางประเภทเทา่ นน้ั เชน่ การคานวณการขายสนิ ค้าในหา้ งสรรพสนิ คา้ มีการออก
ใบเสร็จรับเงนิ การจัดทารายงานข้อมลู สินค้าคงคลงั การเก็บข้อมูลพนักงาน ดงั นั้นจงึ ต้องมกี ารพฒั นา
โปรแกรมทีใ่ ชง้ านเฉพาะสาหรับงานแต่ละประเภทให้ตรงกับความต้องการของผูใ้ ชแ้ ตล่ ะสว่ นงาน

3. ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมเพอ่ื ประยุกตใ์ นงานธรุ กจิ

ตวั อย่างที่ 7.1 การคานวณภาษเี บือ้ งต้น

จงเขยี นโปรแกรมเพ่ือคานวณภาษีเงนิ ไดส้ ว่ นบคุ คลโดยมขี ัน้ ตอนการคานวณอัตราภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา

เม่อื ได้ยอดเงินสทิ ธิแลว้ นาไปคานวณภาษีตามอตั ราภาษีดังนี้

รายไดส้ ิทธิ จานวนเงนิ อตั ราภาษี จานวนเงินภาษี

แบบเก่า แบบใหม่ แบบเก่า แบบใหม่ ลดลง

0-150,000 150,000 ยกเวน้ ยกเวน้ 0 0 0

150,001-300,000 150,000 10% 5% 15,000 7,500 7,500

300,001-500,000 200,000 10% 10% 20,000 20,000 0

500,001-750,000 250,000 20% 15% 50,000 37,500 12,500

750,001-1,000,000 250,000 20% 20% 50,000 50,000 0

1,000,001-2,000,000 1,000,000 30% 25% 300,000 250,000 50,000

2,000,001-4,000,000 2,000,000 30% 30% 600,000 600,000 0

มากกว่า 4,000,000 - 37% 35% ลดลงตามเงนิ ได้สุทธิ

149

1. สิ่งทโ่ี จทยต์ อ้ งการ การคานวณภาษีเงินไดส้ ว่ นบุคคล
2. รปู แบบผลลัพธ์

โปรแกรมการคานวณภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดา
**********************************************************
เงนิ ได้สทุ ธิ : …………………………………………………………………....
**********************************************************
จานวนเงินภาษีทีต่ ้องจ่าย : ………………………………………………..

3. ขอ้ มลู นาเข้า เงินไดส้ ทุ ธิ อัตราภาษี
4. ตัวแปรที่ใช้ income แทนค่า เงินไดส้ ุทธิ

tax แทนคา่ ภาษี
5. ผังงาน

6. ตวั โปรแกรม

#include <stdio.h>
#include <conio.h>
main()
{
int income;

printf(“Enter your income: ”);
scanf(“%d”,&income);
if(income>4000000)
{

printf(“You have to pay tax : %d”,income*35/100);
}
else if(income>2000001&&income<=4000000)
{

printf(“You have to pay tax : %d”,income*30/100);
}
else if(income>1000001&&income<=2000000)
{

150

printf(“You have to pay tax : %d”,income*25/100);
}
else if(income>750001&&income<=1000000)
{

printf(“You have to pay tax : %d”,income*20/100);
}
else if(income>500001&&income<=750000)
{

printf(“You have to pay tax : %d”,income*15/100);
}
else if(income>300001&&income<=500000)
{

printf(“You have to pay tax : %d”,income*10/100);
}
else if(income>150001&&income<=300000)
{

printf(“You have to pay tax : %d”,income*5/100);
}
else if(income>0&&income<=150000)
{

printf(“You have to pay tax : %d”,income*0/100);
}
else
{

printf(“Try again!!!”);
}
getch();
}
************************************************************************************************
********

151

แบบทดสอบหลังเรียน
วชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ บื้องต้น เร่อื ง การออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย

คาช้แี จง เลอื กคาตอบท่ีถกู ที่สดุ เพียงข้อเดียว
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

152

แบบฝึกหดั ทา้ ยบท
คาชแี้ จง / คาสั่ง จงอธบิ าย
1. จงเขียนโปรแกรมเพอื่ แปลงคา่ ขององศาฟาเรนไฮต์ (F) ใหเ้ ป็นองศาเซลเซียส (C) ตามสตู ร C = (F-
32)/1.8 โดยรบั คา่ องศาฟาเรนไฮต์โดยมตี วั อยา่ งการแสดงผลลัพธด์ ังนี้

-----------------------------------------------------------------
Program Calculate Fahrenheit
-----------------------------------------------------------------
Enter Fahrenheit = 80
convert to Celsius = 26.67
-----------------------------------------------------------------

2. จงเขียนโปรแกรมเพ่ือคานวณและแสดงคา่ คะแนนเฉล่ยี ของคะแนนสอบนิสิต โดยข้อมลู ที่โปรแกรม
จะต้องอ่านเขา้ มา ไดแ้ ก่ ชอื่ นักศกึ ษา และคะแนนสอบท้ัง 3 วิชา ดังตวั อยา่ งผลลัพธด์ งั นี้

-----------------------------------------------------------------
Program Calculate Score
-----------------------------------------------------------------
Name : Siriporn
Score1 : 40
Score2 : 60
Score3 : 80
Sum Score : 180
Average : 60

3. การคานวณหารายไดพ้ นักงานบริษัทราชพฤกษก์ ารพิมพ์มกี ารมอบโบนสั ประจาปีให้พนักงานโดยใช้

เกณฑ์จากยอดขายของพนักงานแตล่ ะคน จงออกแบบผังงานและเขียนโปรแกรมในการคานวณหารายได้

ของพนักงานตามเงื่อนไขที่กาหนดดงั น้ี

1. รบั ข้อมลู ช่อื (name) , เงินเดือน (salary), ยอดขาย(sale)

2. คานวณหาโบนสั โดยมีเงือ่ นไขดงั นี้

- ยอดขาย ต่ากว่า 30000 บาท โบนสั 5% ของยอดขาย

- ยอดขาย 30000-50000 บาท โบนัส 7% ของยอดขาย

- ยอดขาย 50000 บาทข้นึ ไป โบนัส 10% ของยอดขาย

153

3. คานวณหารายไดร้ วม (Total)
4. คานวณหาภาษี ณ ทจ่ี ่าย (tax) 5% จากรายไดร้ วม
5. คานวณหารายได้สุทธิ (net)
ตัวอย่างผลลัพธ์
------------------------------------------------------

Program Compute Net
------------------------------------------------------

Name : Siriporn
Salary : 25,000.00
Sale : 30,000.00
Bonus = 2,100.00
Tax = 1,355.00
Net = 25,745.00
-----------------------------------------------------


Click to View FlipBook Version