BIOLOGY MATHAYOM 1
T O P I C • ความหมายของชีววิทยา •การศึกษาทางชีววิทยา •ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต • ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
ความหมาย ของชีววิทยา 1
SCIENCE
SCIENCE วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาศาสตร์กายภาพ ชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี โลก แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์
WHAT IS BIOLOGY ?
ชีววิทยา (BIOLOGY) ชีววิทยา (Biology) มาจากค าว่า “ชีว” “ชีวะ” bios ภาษากรีก แปลว่า ชีวิต, สิ่งมีชีวิต “วิทยา” logos ภาษากรีก แปลว่า ความคิด, วิชา, ศึกษา, การมีเหตุผล , การศึกษาอย่างมีเหตุผล ชีววิทยา = เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล
ชีววิทยา (BIOLOGY)
ชีววิทยา (BIOLOGY) Aristotle : นักปราชญ์ชาวกรีก • ได้รับฉายว่า บิดาแห่งชีววิทยา • มีชีวิตอยู่ราว 384-322 ปี ก่อนคริสตศักราช • เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์และนักปราชญ์ • เขาเป็นผู้เริ่มต้นศึกษาสัตว์/พืชโดยการสังเกต - แบ่งสัตว์เป็น 2 พวก (มี/ไม่มีกระดูกสันหลัง) - แบ่งพืชเป็น 3 พวก (ไม้ยืนต้น/พุ่ม/ล้มลุก)
ชีววิทยา (BIOLOGY) Jean Baptiste de Lamarck นักสัตววิทยาชาวฝรั่งเศส Ludolf Christian Treviranus นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน “ทั้งสองท่านเป็นผู้ริเริ่มในการใช้ค าว่า BIOLOGY”
ชีววิทยา (BIOLOGY) เกรกอร์ เมนเดล หลุยส์ ปาสเตอร์ เจมส์ ดี. วัตสัน อันโตนี ฟัน เลเวนฮุก
ชีววิทยา (BIOLOGY) 1. การศึกษา สิ่งมีชีวิตและกลุ่มของสิ่งมีชีวิต 2. การศึกษา จากโครงสร้างหน้าที่และการท างานของสิ่งมีชีวิต 3. การศึกษา เรื่องราวของสิ่งมีชีวิต
ชีววิทยา (BIOLOGY) 1. การศึกษาสิ่งมีชีวิตและกลุ่มของสิ่งมีชีวิต สัตววิทยา (Zoology) ศึกษาเรื่องราวของสัตว์ พฤกษศาสตร์ (botany) ศึกษาเรื่องราวของพืช จุลชีววิทยา (microbiology) การศึกษาเรื่องราวของจุลินทรีย์
ชีววิทยา (BIOLOGY) สัตววิทยา (Zoology) - สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate) - สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) - มีนวิทยา (Ichthyology) - สังขวิทยา (Malacology) - ปักษีวิทยา (Ornithology) - วิทยาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ านม (Mammalogy) - กีฏวิทยา (Entomology) - วิทยาเห็บไร (Acarology) - พยาธิวิทยา (Pathology) - ปรสิตวิทยา (Parasitology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) - สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate) - สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) - มีนวิทยา (Ichthyology) - สังขวิทยา (Malacology) - ปักษีวิทยา (Ornithology) สัตววิทยา (Zoology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) - สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate) - สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) - มีนวิทยา (Ichthyology) - สังขวิทยา (Malacology) - ปักษีวิทยา (Ornithology) สัตววิทยา (Zoology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) - สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate) - สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) - มีนวิทยา (Ichthyology) - สังขวิทยา (Malacology) - ปักษีวิทยา (Ornithology) สัตววิทยา (Zoology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) - สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate) - สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) - มีนวิทยา (Ichthyology) - สังขวิทยา (Malacology) - ปักษีวิทยา (Ornithology) สัตววิทยา (Zoology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) - สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate) - สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) - มีนวิทยา (Ichthyology) - สังขวิทยา (Malacology) - ปักษีวิทยา (Ornithology) สัตววิทยา (Zoology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) - สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate) - สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) - มีนวิทยา (Ichthyology) - สังขวิทยา (Malacology) - ปักษีวิทยา (Ornithology) - วิทยาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ านม (Mammalogy) - กีฏวิทยา (Entomology) - วิทยาเห็บไร (Acarology) - พยาธิวิทยา (Pathology) - ปรสิตวิทยา (Parasitology) สัตววิทยา (Zoology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) พฤกษศาสตร์ (Botany) - พืชชั้นต่ า (Lower plant) - พืชมีท่อล าเลียง (Vascular plant) - พืชมีดอก (Angiosperm)
ชีววิทยา (BIOLOGY) - วิทยาแบคทีเรีย (Bacteriology) - วิทยาไวรัส (Virology) - ราวิทยา (Mycology) - วิทยาสัตว์เซลล์เดียว (Protozoology) จุลชีววิทยา (Microbiology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) 2. การศึกษาจากโครงสร้างหน้าที่และการท างานของสิ่งมีชีวิต - สัณฐานวิทยา (Morphology) - กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy) - สรีรวิทยา (Physiology) - วิทยาเอนโดคริน (Endocrinology) - วิทยาเซลล์ (Cytology) - พันธุศาสตร์ (Genetics) - เนื้อเยื่อวิทยา (Histology) - วิทยาเอมบริโอ (Embryology) - นิเวศวิทยา (Ecology)
ชีววิทยา (BIOLOGY) 3. การศึกษาเรื่องราวของสิ่งมีชีวิต - อนุกรมวิธาน (Taxonomy) - วิวัฒนาการ (Evolution) - บรรพชีวินวิทยา (Paleontology)
การศึกษา ชีววิทยา 2
การศึกษาชีววิทยา กระบวนการ ความรู้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน • ข้อเท็จจริง • กฎ • ทฤษฎี • ข้อสรุป • การก าหนดปัญหา • การตั้งสมมติฐาน • การตรวจสอบสมมติฐาน • การเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล • การสรุปผลการศึกษา = วิธีการทางวิทยาศาสตร์
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ 1. การก าหนดปัญหา 2. การตั้งสมมติฐาน 3. การตรวจสอบสมมติฐาน 4. การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล 5. การสรุปผลการศึกษา
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ 1. การก าหนดปัญหา 2. การตั้งสมมติฐาน 3. การตรวจสอบสมมติฐาน 4. การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล 5. การสรุปผลการศึกษา
การก าหนดปัญหา ปัญหามาจากไหน ? ปัญหาคืออะไร ?
การก าหนดปัญหา นักเรียนคิดว่าคนเหล่านี้มีปัญหาอะไร ?
การก าหนดปัญหา นักเรียนรู้ได้อย่างไร ?
การก าหนดปัญหา การสังเกต (observation) เกิดข้อสงสัย เกิดข้อข้องใจ ปัญหา (problem)
การก าหนดปัญหา การสังเกต (observation) การใช้ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวกาย เข้าไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถุหรือเหตุการณ์ เพื่อหาข้อมูลรายละเอียดของสิ่งนั้น ๆ โดย ไม่ใส่ความคิดเห็นของผู้สังเกตลง ไปปนกับความจริงที่ได้จากการสังเกตเป็นอันขาด
การก าหนดปัญหา การสังเกต (observation) นักเรียนได้ข้อมูลใดบ้างจากการมอง ................. เปลือกมีสีเขียว ................. ผิวเปลือกขรุขระ ................. เนื้อมีรสเปรี้ยว ✓ ✓ ข้อมูลที่ได้ต้องได้จากการใช้ประสาทสัมผัส
การก าหนดปัญหา ลองท าโจทย์ในชีท
การก าหนดปัญหา นับเป็นจุดเริ่มต้นของการก าหนดปัญหาในการศึกษา Alexander Fleming (1881-1955) • สังเกตปฏิสัมพันธ์ของแบคทีเรียและเชื้อราชนิดหนึ่ง การสังเกต (observation)
การก าหนดปัญหา Alexander Fleming • พบแบคทีเรียจะไม่เจริญถ้ามีราอยู่ • จึงตั้งค าถามและศึกษา • จนรู้ว่าราจะหลั่งสารปฏิชีวนะออกมา ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรีย • น าไปสู่การสร้างยาปฏิชีวนะได้ การสังเกต (observation)
การก าหนดปัญหา การตั้งปัญหา เป็นการก าหนดสิ่งที่เราต้องการหาค าตอบ โดยปัญหาที่ดีจะต้องเป็นประโยค ค าถามที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่มีอยู่ และสามารถพิสูจน์ตรวจสอบเพื่อหาค าตอบได้
การก าหนดปัญหา การตั้งปัญหา จากการสังเกตของ Alexander Fleming นักเรียนจะตั้งปัญหาว่าอย่างไร ?
การก าหนดปัญหา ตัวอย่าง ถ้านักเรียนสองคนคั้นน้ าสับปะรดใส่ขวดซึ่งมีน้ าเชื่อมบรรจุอยู่คนละขวดแล้ว น าไปเก็บไว้ จากนั้นเมื่อน าน้ าสับปะรดที่เก็บไว้ออกมาเพื่อดื่ม พบว่า ... 1. น้ าสับปะรดขวดหนึ่งมีฟองอากาศเกิดขึ้นมากกว่าอีกขวดหนึ่ง 2. เมื่อเปิดฝาขวดและดมกลิ่น ขวดที่มีฟองอากาศมากจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ มากกว่าอีกขวดหนึ่ง จากการสังเกตได้ข้อมูลอะไรบ้าง -> นักเรียนเกิดข้อสงสัยอะไรบ้าง -> ตั้งปัญหา
การก าหนดปัญหา ตัวอย่าง จากการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม พบว่า ... ฟองอากาศที่เกิดขึ้นในขวดน้ าสับปะรดเป็น ฟองของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจากกระบวนการ สลายน้ าตาลในน้ าสับปะรดของยีสต์ นักเรียนเกิดข้อสงสัยใดอีกบ้างหลังจากมีข้อมูลเพิ่มเติม -> ตั้งปัญหา Yeast CO2
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ 1. การก าหนดปัญหา 2. การตั้งสมมติฐาน 3. การตรวจสอบสมมติฐาน 4. การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล 5. การสรุปผลการศึกษา
การตั้งสมมติฐาน การตั้งสมมติฐาน การคาดการณ์ค าตอบของปัญหาอย่างมีเหตุผล ซึ่งอาจถูกต้องหรือไม่ก็ได้ มักใช้ค าว่า ถ้า ..................................(อ้างอิงจากปัญหา)…................................... ดังนั้น .....(แนะแนวทางในการตรวจสอบสมมติฐาน)...... ปัญหา (problem) สมมติฐาน (hypothesis)
การตั้งสมมติฐาน การตั้งสมมติฐาน เหตุการณ์ : การใส่น้ าตาลในน้ าร้อนจะละลายเร็วกว่าในน้ าเย็น ปัญหา : อุณหภูมิของน้ าส่งผลต่อการละลายของน้ าตาลหรือไม่ สมมติฐาน : ถ้า... อุณหภูมิของน้ าส่งผลต่อการละลายของน้ าตาล ดังนั้น... น้ าที่มีอุณหภูมิสูงจะท าให้น้ าตาลละลายได้เร็วกว่า
การตั้งสมมติฐาน การตั้งสมมติฐาน เหตุการณ์ : น้ าแข็งปริมาณที่เท่ากัน ก้อนใหญ่ละลายช้ากว่าก้อนเล็ก ปัญหา : ..................................................................................................................................... สมมติฐาน : ถ้า............................................................................................................................... ดังนั้น......................................................................................................................... พื้นที่ผิวของน้ าแข็งมีผลต่อการละลายของน้ าแข็งหรือไม่ พื้นที่ผิวของน้ าแข็งมีผลต่อการละลายของน้ าแข็ง พื้นที่ผิวของน้ าแข็งที่มากขึ้นจะท าให้ละลายเร็วขึ้น
การตั้งสมมติฐาน ตัวอย่าง ต้นมะเขือเทศที่ปลูก ในที่ร่ม (ซ้าย) ต้นมะเขือเทศที่ปลูก กลางแจ้ง (ขวา) เหตุการณ์ : ปัญหา : ................................................................ สมมติฐาน : ........................................................
การตั้งสมมติฐาน ตัวอย่าง ปัญหา : ความเข้มแสงมีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นมะเขือเทศหรือไม่ สมมติฐาน : ถ้า............................................................................................................................................................ ดังนั้น...................................................................................................................................................... ความเข้มแสงมีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นมะเขือเทศ ต้นมะเขือเทศที่ปลูกอยู่กลางแจ้งจะเจริญเติบโตกว่าต้นที่ปลูกในที่ร่ม ต้นมะเขือเทศที่ปลูกอยู่กลางแจ้ง ต้นจะสูงกว่าต้นที่ปลูกในที่ร่ม
1. การก าหนดปัญหา 2. การตั้งสมมติฐาน 3. การตรวจสอบสมมติฐาน 4. การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล 5. การสรุปผลการศึกษา วิธีการทางวิทยาศาสตร์
การตรวจสอบสมมติฐาน การตรวจสอบสมมติฐาน ท าเพื่อตรวจสอบสมมติฐานที่คาดการณ์ไว้ว่าจริงหรือไม่ ซึ่งท าได้หลายวิธี การสังเกต การตอบ แบบสอบถาม การสัมภาษณ์ การส ารวจ การทดลอง