ทำเนียบคณะนักแสดงพื้นบ้าน
จังหวัดยะลา
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
ทำเนียบคณะนักแสดงพื้นบ้าน จังหวัดยะลา
ก
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คำนำ
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา เป็นหน่วยงานผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรมมีหน้าที่ขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมในส่วนภูมิภาคมีนโยบายที่มุ่ง
เน้นด้านการสืบสานงานวัฒนธรรมของชาติ ส่งเสริมศิลปิน ปราชญ์ชาวบ้าน กระตุ้นให้นำรากวัฒนธรรมประจำถิ่นรวบรวมเป็นคลังข้อมูล
เป็นองค์ความรู้ต่อยอด เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการด้านวัฒนธรรมพื้นถิ่น ให้เป็นวัฒนธรรมสร้างสรรค์ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสืบทอดศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงการนำทุนทางวัฒนธรรม
มาสร้างอาชีพและรายได้ จึงได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและจัดทำหนังสือ “ทำเนียบคณะนักแสดงพื้นบ้าน จังหวัดยะลา” เล่มนี้ขึ้น
มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นพื้นที่ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ศิลปินพื้นบ้านให้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชน และส่งเสริมบทบาทของศิลปินพื้นบ้านให้
มีเวทีในการจัดการแสดง เป็นประโยชน์ในการติดต่อจ้างงงานคณะนักแสดงได้โดยตรง
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา ขอขอบคุณภาคีเครือข่ายศิลปินพื้นบ้านที่มีส่วนช่วยสนับสนุนในการจัดทำหนังสือทำเนียบคณะนักแสดง
พื้นบ้าน จังหวัดยะลาจนประสบผลสำเร็จ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทำเนียบคณะนักแสดงพื้นบ้านเล่มนี้ จะมีประโยชน์ต่อทุกฝ่ายเพื่อสนับสนุนให้
ทุกภาคส่วน รวมทั้งเด็กและเยาวชน ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริม ศิลปวัฒนธรรม อันจะนำไปสู่ความรัก ความภาคภูมิใจ ความหวงแหน และ
ร่วมกันสืบสานสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นสืบไป
ข
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
บทนำ
ศิลปะการแสดง หมายถึง การแสดงดนตรี รำ-เต้น และละครที่แสดงเป็นเรื่องราว ทั้งที่เป็นการแสดงตามขนบแบบแผน
มีการประยุกต์เปลี่ยนแปลง และการแสดงร่วมสมัยการแสดงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการแสดงสดต่อหน้าผู้ชม และมีจุดมุ่งหมายเพื่อ
ความงาม ความบันเทิง เป็นงานแสดงที่ก่อให้เกิดการคิด วิพากษ์ นำสู่การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสังคม
ประเภทของศิลปะการแสดง
๑. ดนตรี หมายถึง เสียงที่เกิดจากเครื่องดนตรีและการขับร้องที่ประกอบกันเป็นทำนองเพลง ทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน หรือ
เกิดอารมณ์ต่างๆ โดยมีบทบาทหน้าที่เพื่อบรรเลง ขับกล่อม ให้ความบันเทิง ประกอบพิธีกรรมและประกอบการแสดง ดนตรี แบ่ง
ออกเป็นดนตรีในการแสดงและดนตรีในพิธีกรรม
๒. นาฏศิลป์และการละคร หมายถึง การแสดงออกทางร่างกาย ท่วงท่าการเคลื่อนไหว ท่าเต้น ท่ารำ การเชิด การพากย์
การใช้เสียง การขับร้อง การใช้บท การใช้อุปกรณ์ ฯลฯ ซึ่งสื่อถึงเรื่องราว อารมณ์ ความรู้สึก อาจแสดงร่วมกับดนตรีและการขับ
ร้องหรือไม่ก็ได้ การแสดง แบ่งออกเป็น การแสดงในพิธีกรรม การแสดงที่เป็นเรื่องราวและไม่เป็นเรื่องราว
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา ก
ข
สารบัญ ๑๒
๑๓
คำนำ ๑๔
บทนำ ๑๕
๑๖
ประเภท ( มโนราห์ ) ๑๗
๑๘
ชมรมศิลปะการเเสดงมโนราห์ ๑๙
คณะรวมดาวศรีแสงธรรม ๒๐
คณะมโนราห์วัดวงกตบรรพต ๒๑
คณะมโนราห์ป้าพร
คณะมโนราห์บ้านตลาดนิคม ๒๔
คณะมโนราห์โรงเรียนบ้านด่านสันติราษฎร์ ๒๕
คณะ มะโย่ง นายสมาน โดซอนิ
คณะ มโนราห์น้องมิกซ์(ชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านศรีนคร) ๒๘
คณะ "มโนราห์ ๒ ภาษาบ้านสาเมาะ" ๒๙
มโนราห์เจริญคล่องเสรีศิลป์ ๓๐
๓๑
ประเภท(หนังตะลุง)
๓๔
คณะหนังเต็งสาคอ ตะลุงบันเทิง ๓๕
คณะหนังตะลุงเดะเลาะ ตะลุงศิลป์ ๓๖
๓๗
ประเภท(ดิเกฮูลู) ๓๘
๓๙
คณะผอ.ยูนุห์ ตูยง ๔๐
คณะบูงอรัมบัย ๔๑
คณะวงนกยุง
คณะดิเกฮูลูโรงเรียนบ้านมาลา
ประเภท(กลองยาว)
คณะกลองยาวชุมชนบ้านเขาบันนังกระแจะ
คณะชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านคอกช้าง
คณะกลองยาวชุมชนคนรักศิลป์
คณะกลองยาวร่วมใจ
คณะกลองยาวชุมชนคุปตาสา
คณะลูกทุ่งกลองยาว
คณะกลองยาวถ้ำทะลุ
คณะกลองยาวสันติภาพ หมู่๙
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา ๔๒
๔๓
คณะคณะกลองยาวชุมชนบ้านวังไทร ๔๖
คณะกลองยาวบ้านสาเมาะ ๔๗
๔๘
ประเภท(เชิดสิงโต) ๕๒
๕๓
คณะสิงโตศิษย์วัดญวนยะลา ๕๖
คณะสิงโตทองศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ยะลา ๕๗
คณะสิงโตหัวมังกร ๖๐
ประเภท(ศิลปะป้องกันตัว)
คณะซีละ นายสมาน โดซอนิ
คณะ ซีละอาจารย์ตีพะลี
ประเภท(รำ)
คณะรำเซิ้งบ้านบ่อน้ำร้อน
คณะลาหู่บ้านบ่อน้ำร้อน
ประเภท(ขับร้องอานาซีด)
Sautul Najah (เชาว์ตุลนาญาห์)
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
ประเภท ( มโนราห์ )
๑๒
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
รางวัลที่ได้รับ
๑) ถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์มโนราห์ ๓ จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ ในงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยว
จังหวัดปัตตานี
๒) โล่รางวัลรองชนะเลิศการแข่งขันมโนราห์งานสมโภชเจ้าพ่อ
หลักเมืองจังหวัดยะลา
ชมรมศิลปะการเเสดงมโนราห์
ประวัติความเป็นมา
ชมรมศิลปะการแสดงมโนราห์จังหวัดยะลาได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี
พ.ศ.๒๕๕๘ภายใต้สหพันธ์มโนราห์แห่งประเทศไทยอันประกอบไปด้วย
ชมรมมโนราห์ทั้ง15จังหวัดปักษ์ใต้ ได้แก่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพรจังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดพังงา จังหวัดพัทลุง จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง จังหวัดสตูล จังหวัดสงขลา
จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดยะลา เพื่อดูแลสนับสนุนศิลปินมโนราห์ภายในจังหวัดยะลาเพื่อติดต่อประสานงานคณะมโนราห์
โรงครูและมโนราห์ในสถานศึกษาเพื่อบริการชุมชมอีกทั้งเป็นการรักษาประเพณีวัฒนธรรมของภาคใต้ จำนวนผู้เล่น ๒๐ คนค่า
จ้างโดยประมาณมโนราห์ในพิธีกรรมโรงครูสามวันสองคืน ๕๕,๐๐๐ - ๖๐,๐๐๐ บาท การแสดงรำชุดมโนราห์ผสมท่า ๔,๐๐๐ –
๖,๐๐๐ บาท
ข้อมูลการติดต่อ
ที่อยู่ ๓๒/๓๐ ถ.ผังเมือง ๔ ซ.ปะจูรง
(รัฐบำรุง) ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ๙๕๐๐๐ เบอร์โทร ๐๘๘-๓๙๔๖๙๗๙
Facebook: ลูกไม้ปลายกิ่ง
๑๓
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะรวมดาวศรีแสงธรรม ประวัติความเป็นมา
สืบเนื่องจากบรรพบุรุษของตระกุล นับได้ว่ามีเชื้อสาย
ศิลปินพื้นบ้านด้านการรำมโนราห์ ตั้งแต่จำความได้และ
ได้รับการปลูกฝังให้ตระหนักถึงความสำคัญของศิลปะ
ภาคใต้ ที่คนรุ่นหลังต้ออนุรักษ์และสืบสานส่งต่อรุ่นสู่รุ่น
และได้ไปเรียนรู้มาเรื่อย ๆ รักในศิลปะดังกล่าวอย่างมาก
เมื่อมีประสบการณ์ทางด้านการรำมามากพอสมควรก็ได้
รับการสนับสนุนให้นำความสามารถดังกล่าวไปออแสดง
ตามสถานที่ต่างๆ ตามที่ร้องขอมาโดยเป็นที่หนึ่งในคณะ
มโนราห์รวมดาวศรีแสงธรรมซึ่งคณะดังกล่าวอยู่ในความ
ดูแลของวัดยะหาประชารามมีจำนวน ผู้เล่น ๘ คน
รางวัลที่ได้รับ
๑) เคยได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงาน
วัฒนธรรมจังหวัดยะลา
๒) เคยได้รับเกียรติบัตรจากอำเภอยะหา
๓) เคยได้รับเกียรติบัตรจากจังหวัดยะลา
ข้อมูลกา
รติดต่อ
ที่อยู่ ๒๓๒ หมู่ที่ ๒ ตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
เบอร์โทร ๐๘ ๐๒๔๖ ๖๒๙๒
๑๔
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะมโนราห์วัดวงกตบรรพต
ประวัติความเป็นมา
โนรา หรือ มโนห์รา (เขียนเป็น มโนรา หรือ มโนราห์ ก็ได้) เป็นการละเล่นพื้นเมืองที่สืบทอดกันมานาน และ
นิยมกันอย่างแพร่หลายในภาคใต้ เป็นการละเล่นที่มีทั้งการร้อง การรำ บางส่วนเล่นเป็นเรื่อง และบางโอกาส
มีบางส่วน แสดงตามคติความเชื่อที่เป็นพิธีกรรมโนรา เป็นศิลปะพื้นเมืองภาคใต้ เรียกว่า โนรา แต่ คำว่า มโนราห์
หรือ มโนห์รา นั้น เป็นคำที่เกิด ขึ้นมาเมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยการนำเอา เรื่องพระสุธน-มโนราห์ มาแสดงเป็น
ละครชาตรี จึงมีคำ เรียกว่า มโนราห์ ส่วนกำเนิดของโนรานั้น สันนิษฐานกันว่าได้รับอิทธิพลจากการ ร่ายรำของ
อินเดียโบราณก่อนสมัยศรีวิชัย
รางวัลที่ได้รับ
๑) เคยได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
๒) เคยได้รับเกียรติบัตรจากอำเภอยะหา
ข้อมูลการติดต่อ
วัดวงกตบรรพต หมู่ที่ ๒ ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
เบอร์โทร ๐๘ ๑๘๙๖ ๕๓๕๑
๑๕
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะมโนราห์ป้าพร
ประวัติความเป็นมา
ป้าพรเริ่มสนใจในศิลปะการแสดงมโนราห์เมื่ออายุประมาณ ๔๕ ปี นางหนูขาว บุญเต็ม เป็นชาวจังหวัดปัตตานี ย้ายมา
ทำสวนที่บ้านเขาน้ำตกเริ่มแรกสอนลูกหลานรำก่อนต่อไปได้ปรับปรุงเป็นการรำมโนราห์โดยใช้เวลาฝึก ๒ ปีจนชำนาญมีผู้คน
ยอมรับจึงได้ถ่ายทอดให้กับเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน รับรู้กัน ถ่ายทอดการรำมโนราห์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๐ ก็ได้เกิดวงมโนราห์คณะ
ป้าพรขึ้นในบ้านเขาน้ำตก จำนวนสมาชิกในกลุ่มเป็นลูกหลานในบ้านเขาน้ำตกที่สนใจจะเรียนมโนราห์ก็จะมีมาเป็นรุ่น ๆ จบ
รุ่นหนึ่งก็ถ่ายทอดอีกรุ่น มโนราห์คณะป้าพรเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านตำบลตลิ่งชัน ได้มีส่วนในการอนุรักษ์และสืบทอดศิลปะ
การแสดงมโนราห์ให้กับนักเรียนและเยาวชนในพื้นที่และให้ความร่วมมือแสดงในงานต่างๆ เช่นในงานทอดกฐิน และงานบวช
ในพื้นที่รวมไปถึงบ้านฉลองชัยอีกด้วย เพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมการแสดงมโนราห์อย่างดีในพื้นที่ชุมชนตำบล
ตลิ่งชัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ จนถึงปัจจุบันก็ยังมีนางรำอยู่อีก ส่วนมมากนางรำจะเป็นเด็กอายุไม่เกิน ๑๒ ปีจำนวนผู้เล่น
๗ คน
ข้อมูลการติดต่อ
บ้านเลขที่ ๑๒๒ หมู่ ๗ บ้านเขาน้ำตก ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
โทรศัพท์ ๐๙๔ - ๓๑๕๖๗๙๕
๑๖
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะมโนราห์บ้านตลาดนิคม
ประวัติความเป็นมา
นางอรทัยเป็นคนริเริ่มสนใจในศิลปะการแสดงมโนราห์เมื่อ
ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๘นางอรทัยย้ายมาจากจังหวันครศรีธรรราช
เพื่อมาสร้างบ้านทำสวนยางสวนผลไม้ที่บ้านตลาดนิคม เริ่มแรก
สอนลูกหลานรำก่อนต่อไปได้ปรับปรุงเป็นการรำมโนราห์โดยใช้
เวลาฝึก๕ปีจนชำนาญมีผู้คนยอมรับจึงได้ถ่ายทอดให้กับเด็กๆใน
หมู่บ้านรับรู้กันถ่ายทอดการรำมโนราห์จำนวนสมาชิกในกลุ่มเป็น
ลูกหลานในบ้านตลาดนิคมที่สนใจจะเรียนมโนราห์ก็จะมีมาเป็น
รุ่นๆจบรุ่นหนึ่งก็ถ่ายทอดอีกรุ่นได้มีส่วนในการอนุรักษ์และ
สืบทอดศิลปะการแสดงมโนราห์ให้กับนักเรียนและเยาวชนใน
พื้นที่และให้ความร่วมมือแสดงในงานต่างๆเช่นในงานทอดกฐิน
งานกาชาดและงานบวชในพื้นที่เพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลป
วัฒนธรรมการแสดงมโนราห์อย่างดีในพื้นที่ชุมชนตำบลตลิ่งชัน
จนถึงปัจจุบันก็ยังมีนางรำอยู่อีก ส่วนมากนางรำจะเป็นเด็กอายุ
ไม่เกิน ๑๒ ปี จำนวนผู้เล่น ๙ คน
ข้อมูลการติดต่อ
บ้านเลขที่ ๓๒๓ หมู่ ๖ บ้านตลาดนิคม
ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา
จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ ๐๙๔ - ๓๑๕๖๗๙๕
๑๗
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะมโนราห์โรงเรียนบ้านด่านสันติราษฎร์
ประวัติความเป็นมา
การแสดงโนราของโรงเรียนบ้านด่านสันติราษฎร์ เกิดขึ้นได้เพราะความร่วม
มือจากวิทยากรสอนรำโนรา คือ คุณประเจียด คำจร หรือ ป้าเจียด ท่านมีความ
สามารถในการรำโนราและว่ากลอนสดโนราห์ต่อมา ครูจุไร คุโณดม ซึ่งเป็นครูสอน
ซึ่งเป็นครูสอนนาฏศิลป์ ได้รับช่วงสอ
นต่อจากป้าเจียด หลังจากนั้น ครูวรรณา วงษ์วิรยะกิจ ได้รับสอนต่อจากครูจุไร
คุณโดมรับผิดชอบในการฝึกซ้อมนักเรียนและเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะชนถึงปัจจุบัน ซึ่งทางโรงเรียนบ้านด่านสันติราษฎร์
ได้รับงบประมาณสนับสนุนในเรื่องเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักวัฒนธรรม
จังหวัดยะลา อำเภอเบตง และองค์การบริหารส่วนตำบลตาเนาะแมเราะเรื่อยมา ซึ่งการแสดง ในแต่ละครั้งใช้วิธีการเปิด
เสียงจากแผ่นบันทึกเสียงยังมิได้ใช้เครื่องดนตรีเล่นสดในการแสดง จำนวนผู้เล่น ๕ คน
รางวัลที่ได้รับ
๑) ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประกวดการแสดงพื้นบ้านงานของดีเมืองเบตงและงานกิ่งกาชาด อำเภอเบตง วันที่ ๒ กรกฎาคม
๒๕๕๘
๒) ได้รับรางวัลชนะเลิศ งานโครงการประกวดและแข่งขันกิจกรรมต่างๆของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดวันที่
๓๐ ตุลาคม พ.ศ ๒๕๕๘
ข้อมูลการติดต่อ
14 ถนนประชาอุทิศ ซอยหลังศาลาประชาคม ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ๙๕๑๑๐ โทรศัพท์
มือถือ ๐๖๓-๑๐๒๘๙๕
E-mail [email protected]
๑๘
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะ มะโย่ง นายสมาน โดซอนิ
ประวัติความเป็นมา
การแสดงมะโย่งได้มีการสืบเชื้อสายจากย่า จนมาสู่รุ่นหลาน
โดยมีความชื่นชอบในการแสดงศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นซึ่ง
ในสมัยก่อนย่าชอบมะโย่งมากจะเชิญคณะมะโย่งให้มาแสดงที่
บ้านทุกปีละครั้งสองครั้งทำให้เกิดการซึมซับในการแสดงมะโย่ง
มาตั้งแต่เด็ก จนเข้ามหาวิทยาลัยจึงได้ศึกษาวิชาเอกศิลปะ
การแสดงที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี
อาจารย์ที่ปรึกษาให้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับมะโย่งจึงเลยได้เข้าไป
คลุกคลี เก็บวิจัยไปด้วยฝึกรำไปด้วยจนครั้งหนึ่งมีโอกาสได้ไป
แสดงต่อหน้าพระที่นั่งที่พระตำหนักทักษิราชนิเวศน์แต่ว่าถ้า
ตามปกติแล้วจะเป็นคนจัดเครื่องมากกว่าและก็เป็นล่ามภาษา
ไทยให้พวกแม่ ๆ มิฉะนั้น ไม่สามารถจัดคิวการแสดงให้ถูกต้อง
ได้ จำนวนผู้เล่น ๑๕ คน
รางวัลที่ได้รับ
รางวัลสานศิลป์ราชมงคลศรีวิชัย ประจำปี ๒๕๕๙
ผู้ทำคุณประโยชน์ทางวัฒนธรรมภาคใต้ สาขาอนุรักษ์
มรดกศิลปวัฒนธรรม
ข้อมูลการติดต่อ
๕๖ หมู่ที่ ๑ ตำบลอาช่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
โทร : ๐๘๕ ๕๘๗ ๕๓๘๗
๑๙
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะ มโนราห์น้องมิกซ์ (ชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านศรีนคร)
ประวัติความเป็นมา
เกิดจากมีเด็กๆประมาณ ๗ คน มีความสนใจจะอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมภาคใต้ คือ โนราห์ มาติดต่อให้ช่วยสอน ประกอบกับ
ผู้สอนมีความคิดที่จะอนุรักษ์ไว้อยู่เป็นทุนเดิม เพราะที่คีรีเขตมีพี่น้องจากหลากหลายจังหวัดซึ่งมีเชื้อสายโนราห์ จึงรับฝึกสอน
เด็กๆ ทั้ง รำ ขับร้องบท และบรรเลงเครื่องดนตรี ซึ่งผู้ปกครองเด็กก็ให้การสนับสนุน จนได้รับความนิยม และเชิญให้ไปแสดงใน
งานต่าง ๆ ทั้งใน และต่างจังหวัด จนกระทั่งทางวัฒนธรรมจังหวัดได้เข้ามาส่งเสริมจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ เพียงเพื่อ
เป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งการแสดงพื้นบ้านของภาคใต้ และเพื่อดึงเด็กๆ ออกมาเพื่อให้ห่างไกลจากยาเสพติด และสื่อออนไลน์ใน
ปัจจุบัน มีจำนวนผู้เล่น ๑๕ คน
ที่ตั้งหมู่ ๒๘/๒ หมู่ที่ ๒ ชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านศรีนคร
ตำบลคีรีเขต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ ๐ ๘๔๗๔ ๓๑๖๙
๒๐
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะ "มโนราห์ ๒ ภาษาบ้านสาเมาะ"
ประวัติความเป็นมา
นายประสิทธิ์ เพชรเชิงเขา ผู้ใหญ่บ้านซาเมาะ หมู่ที่ ๔ ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ผู้ที่สืบเชื้อ
สายครูหมอมโนราห์ และบุคคลในครอบครัว ได้เปิดบ้านจัดเลี้ยงอาหารแก่เครือญาติที่เป็นลูกหลานเชื้อสายมโนราห์
เดินทางมาจากหลายพื้นที่ โดยเครือญาติจะมีทั้งที่นับถือศาสนาพุทธและนับถือศาสนาอิสลามที่ต่างสืบเชื้อสายของ
บรรพบุรุษมโนราห์ มะโย่ง เดินทางมาพบกันตามวันเวลาที่ถูกกำหนดขึ้น เพื่อร่วมทำพิธีรำลึกถึงบรรพบุรุษครูหมอ
มโนราห์ขอขมาและทำบุญให้กับปู่ย่าตาทวดที่ล่วงลับไปแล้วตามความเชื่อซึ่งพิธีนี้จะจัดขึ้นทุกปีซึ่งปีนี้ทางเครือญาติได้
กำหนดจัดทำพิธีมโนราห์โรงครู
มโนราห์สองภาษาจะมีพิธีตั้งแต่การบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางการนำเครื่องเซ่นไหว้ อาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม ยกเว้น
เนื้อหมู ถวายให้กับเจ้าที่เจ้าทางและปู่ย่าตาทวด วิญญาณบรรพบุรุษและจะมีการเปิดโรงมโนราห์ในช่วงกลางคืน ซึ่ง
จะทำพิธีนำเครื่องมโนราห์ เครื่องดนตรี ปี่ กลอง ฆ้อง ฉิ่ง โหม่ง กรับ และเครื่องแต่งกาย ชฎา เข้าสู่โรงมโนราห์ พร้อม
ทั้งกล่าวบทกลอนอัญเชิญบรรพบุรุษบอกกล่าวให้รับทราบว่าลูกหลานเชื้อสายมโนราห์ได้มารวมตัวกันและทำพิธีให้กับ
บรรพบุรุษจำนวนผู้เล่น ๒๐ คน
ข้อมูลการติดต่อ
๑๑๑ หมู่ที่ ๔ ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โทร : ๐๘๑ ๓๘๘ ๕๔๑๘
๒๑
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
มโนราห์เจริญคล่องเสรีศิลป์
มโนราห์ในตำบลยุโป ต้นกำเนิดมาจากอำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา นำโดยครูช่วง แล้วนำมาสอน
ในตำบลยุโป ต่อมาก็จะเป็นรุ่นครูเจริญ และปัจจุบันก็เป็นรุ่นครูจรัส กับครูละม้าย ที่ยังเป็นผู้สอนแก่
เยาวชนและเด็กที่สนใจในการร่ำเรียนมโนราห์ นับเป็นการถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น ได้สอนเยาวชนในหมู่บ้าน และ
นักเรียนจากโรงเรียนในตัวเมือง เข้ามาร่ำเรียนและฝึกร่ำ จนประสบความสำเร็จหลายคน ได้แก่ ครูมานะ
ป.ปาน เคยเป็นคุณครูโรงเรียน อนุบาลยะลา ที่สามารถถ่ายทอดการรำมโนราห์ที่มีแบบฉบับของตำบลยุโป
ได้ และการสอนมโนราห์ในตำบลยุโปมีมาแล้ว 50 ปี ตั้งแต่รุ่นครูช่วงจนถึงรุ่นครูจรัสมีศิษย์ที่เข้ามาร่ำเรียน
ประมาณ 50 คนและศิษย์ที่อายุน้อยที่สุด อายุ 4 ขวบ
ข้อมูลการติดต่อ
ชุมชนบ้านยุโป ตำบลยุโป อำเมืองเมือง จังหวัดยะลาโทร :๐๘๗-๒๙๙-๗๐๑๕
ประเภท(หนังตะลุง)
๒๔
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะหนังเต็งสาคอ ตะลุงบันเทิง
ประวัติความเป็นมา
นายมะยาเต็ง สาเมาะ หรือหนังเต็งสาคอ คลุกคลีอยู่กับครอบครัวศิลปินพื้นบ้านมาตั้งแต่รุ่นทวด จึงซึมซับศิลปะการ
แสดงและการละเล่นต่าง ๆ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวไทย-มุสลิม เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๕ เป็นนักดนตรีหนังตะลุง
คณะอาแว สาคอ ตีโหม่ง (จานัง) และตีฉาบ (อาเนาะอาแย) และฝึกหัดแกะรูปตัวหนังตะลุ จนกระทั่ง พ.ศ.๒๕๔๐ จึงตั้ง
คณะหนังตะลุงเป็นของตัวเอง ชื่อคณะ “หนังเต็งสาคอ ตะลุงบันเทิง” รับงานแสดงทั่วราชอาณาจักร และต่างประเทศ
นอกจากนี้ นายนายมะยาเต็ง สาเมาะ ได้เปิดศูนย์การเรียนรู้ศิลปะพื้นบ้านมลายู (วายังกูเละ) ณ บ้านสาคอ เป็นแหล่งเก็บ
รวบรวมรูปตัวหนังตะลุงโบราณ เครื่องใช้ประกอบการแสดง การสาธิตการแกะตัวหนัง การผลิตเครื่องดนตรีหนังตะลุง
เปิดรับเยาวชน นักศึกษาและประชาชนผู้สนใจในศิลปะพื้นบ้านมลายู เข้ามาเรียนรู้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ปัจจุบัน
นายมะยาเต็งสาเมาะ ยังคงรับงานการแสดงหนังตะลุงอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับรับเชิญเป็นวิทยากรให้ความรู้เยาวชน
ฝึกหัดเยาวชนให้มีทักษะความรู้ด้านศิลปะการแสดงพื้นบ้านไทยมุสลิมอยู่ไม่ได้ขาดขณะเดียวกันด้วยบทบาทของความเป็น
นายหนังตะลุง ผู้ไม่หวงแหนวิชา พร้อมด้วยความวิสาหะ และตั้งใจอย่างแรงกล้าในการแสดงและสืบทอดศิลปะการแสดง
พื้นบ้านประเภทหนังตะลุง
รางวัลที่ได้รับ
๑) พ.ศ. ๒๕๕๙ รางวัล “บุคคลต้นแบบแห่งปี” โครงการสร้างฝันเพื่อสันติสุข
๒) พ.ศ.๒๕๕๙ รางวัลศิลปินดีเด่นเครือข่ายศิลปินพื้นบ้านศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.)
๓) พ.ศ. ๒๕๖๑ รางวัลวัฒนคุณาธร กระทรวงวัฒนธรรม
๔) พ.ศ.๒๕๖๑ รางวัล “ขวัญใจมหาชน” ในโครงการเผยแพร่ศิลปะการแสดงปักษ์ใต้ (หนังตะลุง)
๕) พ.ศ.๒๕๖๒ รางวัลผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมแห่งสถาบันวัฒนธรรมกัลยาณิวัฒนา
ข้อมูลการติดต่อ
๔๓/๑ หมู่ที่ ๔ ตำบลท่าสาป อำเภอเมืองยะลา จังหวัด ยะลา โทร: ๐๘ ๖๒๘๙ ๗๔๓๑
๒๕
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะหนังตะลุงเดะเลาะ ตะลุงศิลป์
ประวัติความเป็นมา รางวัลที่ได้รับ
นายดอเลาะ มะดีกา เจ้าของหนังตะลุง ๑) ครูภูมิปัญญาท้องถิ่น การแสดงหนังตะลุง ปี
“เด๊ะเล๊าะ...ตะลุงศิลป์” เล่าว่า ได้สืบทอดมาจากปู่ย่า ๒๕๕๙-๒๕๖๑
ตายาย และตนก็มีความชอบหนังตะลุงมาตั้งแต่เด็ก ๒) ศิลปินพื้นบ้านดีเด่น แขนงการแสดงหนังตะลุง
ตนก็ยังเป็นลูกศิษย์ของคณะอาจารย์เดะแม ๒ ภาษา
จึงได้ เริ่มก่อคณะขึ้นเมื่อปี พ.ศ ๒๕๒๕ และได้ทำการ
แสดงมาถึงปัจจุบันผ่านมาหลายเวทีไปทุกที่ที่มีงานซึ่ง
ทุกครั้งที่ทำการแสดงก็ได้รับความสนใจจากผู้คนใน ข้อมูลการติดต่อ
พื้นที่เป็นอย่างมากและตนไม่ห่วงเรื่องการแสดงหนัง ๔๔/๕ หมู่ที่ ๕ ตำบลท่าสาป
ตะลุงจะสูญหาย เนื่องจากมีลูกหลานที่พร้อมจะสาน อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
ต่ออยู่แล้ว โดยคณะมีจำนวนผู้เล่น ๑๐ - ๑๕ คน โทร : ๐๘๙-๕๙๘๖๔๗๒
https://www.khaosod.co.th/newspaper/newspaper-inside-pages/news_6635911
ประเภท(ดิเกฮูลู)
๒๘
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะผอ.ยูนุห์ ตูยง
ประวัติความเป็นมา
นางภานุ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ให้การสนับสนุนคณะของตน และคณะของตนก็ได้เข้าร่วม
โครงการดีเกฮูลูสันจร เพื่อสันติภาพ ของ ศอ.บต. ซี่งนายภาณุ อุทัยรัตน์ต้องการที่จะให้เยาวชนในพื้นที่มีความสามารถด้านดีเกฮูลู
เข้าร่วมคณะท่านจึงได้ตั้งชื่อคณะให้ใหม่ เป็นคณะ ผอ.ยุนุห์ ตูหยง ซึ่งในปีนั้นคณะได้เข้าร่วมประกวดการแข่งขันดีเกฮูลู ในงาน
ประกวดอาหารฮาลาล ๕ จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งคณะของตนได้รับรางวัลชนะเลิศ และในปี ๒๕๕๑ คณะได้ไปเผยแพร่การแสดงที่
ประเทศจีน หลังจากกลับมาจากประเทศจีนตนก็ทำการแสดงดีเกฮูลูมาตลอดจนถึงปัจจุบันจำนวนผู้เล่น ๑๕ คน
รางวัลที่ได้รับ
1) รางวัลชนะเลิศ การแสดงสืบสานความเป็นพลเมืองภาคใต้ ของสถาบันพระปกเกล้า โครงการประกวดศิลปินพื้นบ้านสืบสาน
ความเป็นพลเมือง ปี ๒๕๕๙
ข้อมูลการติดต่อ
๕๕ หมู่ที่ ๕ ตำบลบุดี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา โทร : ๐๘๙ ๕๙๖ ๖๕๖๖
๒๙
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะ บูงอรัมบัย
ประวัติความเป็นมา
ลิเกฮูลู หรือ ดิเกฮูลู มาจากคำว่า ลิเก หรือดิเก และฮูลู ท่านผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่าลิเกหรือ ดิเกมาจากคำว่า ซี เกร์ หมาย
ถึง การอ่านทำนองเสนาะ ส่วนคำว่าฮูลู แปลว่า ใต้หรือทิศใต้ รวมความแล้วหมายถึง การขับบทกลอนเป็นทำนอง
เสนาะจากทางใต้ ลิเกฮูลู เป็นการละเล่นพื้นบ้านแถบจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับความนิยมมากของชาวไทยมุสลิม
มักจะใช้แสดงในงานมาแกปูโละ งานสุหนัด งานเมาลิด งานฮารีรายอแล้ว คำว่า "ลิเก" หรือ ดิเกร์" เป็นศัพท์
เปอร์เซีย มีความหมาย ๒ ประการ คือ ๑. เพลงสวดสรรเสริญพระเจ้า ซึ่งเรียกการสวดดังกล่าวนี้ว่า"ดิเกร์เมาลิด"
๒. กลอนเพลงโต้ตอบ นิยมเล่นกันเป็นกลุ่มคณะ เรียกว่า "ลิเกฮูลู" บ้างก็ว่าได้รับแบบอย่างมาจากคนพื้นเมือง
เผ่าซาไก เรียกว่า มโนห์ราคนซาไกบ้างก็ว่าเอาแบบอย่างการเล่นลำตัดของไทยผสมเข้าไปด้วยจำนวนผู้เล่น ๑๕ คน
รางวัลที่ได้รับ
๑) เคยได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
๒) เคยได้รับเกียรติบัตรจากอำเภอยะหา
ติดต่อ หมู่ที่ ๑ ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลาเบอร์โทร๐๘๒ ๘๒๖ ๘๗๒๖
๓๐
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะวงนกยุง
ประวัติความเป็นมา รางวัลที่ได้รับ
ดีเกฮูลู เป็นศิลปะพื้นบ้านภาคใต้ของพี่น้องชาวไทย ๑) เคยได้รับเกียรติบัตรจาก
มุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นิยมเล่นกัน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
เป็นคณะในพื้นที่สามจังหวัดโดยวงดีเกฮูลูวงนกยุงเริ่ม ๒) เคยได้รับเกียรติบัตรจาก
ก่อตั้งตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ทางคณะได้มีแรงบันดานใจ
จากหัวหน้าทีมคือนายสะมะแอ หะมะ โดยเชิญชวน เทศบาลนครยะลา
เด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่สนใจทางด้านการแสดงดีฮูลู ๓) เคยได้รับเกียรติบัตรจาก
รวมตัวสร้างวงยกยุง จำนวน ๑๔ คน เริ่มเป็นที่รู้จัก
ของใครหลายๆคนสร้างชื่อเสียงให้แก่วงและได้รับการ สำนักงานจังหวัดยะลา
เชิญแสดงจากหน่วยงานราชการ ให้แสดง ดีเกฮูลูใน
งานต่างๆเพื่อแสดงถึงการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
ที่สวยงาม จำนวนผู้เล่น ๑๕ คน ข้อมูลการติดต่อ
ณ บ้านหัวหน้าคณะ ๒๗/๑ หมู่ที่ ๕ ตำบลละแอ
อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๒ ๘๓๐ ๔๒๔๖
๓๑
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะดิเกฮูลูโรงเรียนบ้านมาลา
ประวัติความเป็นมา
การแสดงดีเกฮูลูของโรงเรียนบ้านมาลา เป็นการใช้เวลาว่างรวมตัวกันฝึกซ้อมลิเกร์ฮูลู หรือ ดิเกฮูลู
ของเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นการละเล่นพื้นบ้านของชาวมาลายูมุสลิมภาคใต้ของไทย ในนานร่วมปีแล้ว ด้วยการ
ส่งเสริมจากผู้ปกครอง ครู ที่ต้องการให้น้องนักเรียน เยาวชนเหล่านี้ได้ใช้เวลาว่างหลังจากเลิกเรียนให้เกิด
ประโยชน์มากที่สุด พร้อมทั้งมีรายได้ ช่วยเหลือครอบครัวดีเกฮูลูเป็นการละเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถ
แสดงตามงานต่างๆได้ โดยคณะลิเกร์ฮูลู โรงเรียนบ้านมาลาไปเล่นได้โดยการแสดงแต่ละครั้งเพียงแค่ ๓,๐๐๐
บาท เท่านั้น แต่ถ้าผู้ที่ไม่มีเงิน และต้องการการแสดงลิเกฮูลูไปแสดง ก็ไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด จำนวน
ผู้เล่น ๑๕ คน
ข้อมูลการติดต่อ
โรงเรียนบ้านมาลา หมู่ที่ ๓ ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เบอร์โทรศัพท์ ๐๖๓-๖๖๓๗๐๗๘
ประเภท(กลองยาว)
๓๔
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะกลองยาวชุมชนบ้านเขาบันนังกระแจะ
รางวัลที่ได้รับ
๑) รางวัลรองชนะเลิศอับดับ ๒ ประเภทรำกลองยาวงานหลักเมือง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๕
๒) รางวัลชนะเลิศรำกลองยาว งานดาหลาประจำปี พ.ศ.๒๕๖๑
๓) รางวัลรองชนะเลิศอับดับ ๑ ประเภทรำกลองยาวงานหลักเมือง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๑
๔) รางวัลรองชนะเลิศอับดับ ๒ ประเภทรำรออแง็ง งานหลักเมือง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๑
ข้อมูลการติดต่อ
ที่ตั้ง ๑๘ หมู่ที่ ๕ ชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านเขาบันนังกระแจะ ตำบลธารโต
อำเภอธารโต จังหวัดยะลา .
ประวัติความเป็นมา
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๕ ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่มีแนวคิดว่าหมู่บ้านเรามีงานบ่อยๆ ก็น่าจะมีอะไรที่แสดงถึงความ
สนุกสนานโดยที่ทุกคนในหมู่บ้านสามารถจะร่วมด้วยได้ ประกอบกับมีกลองยาวตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ก็คิดจะฟื้นฟู
กลองยาวขึ้น ซึ่งมีผู้สามารถตีกลองยาวขึ้น ซึ่งมีผู้สามารถตีกลองยาวเป็นอยู่บ้าง และมีผู้สามารถจะสอนท่ารำ
ได้ จึงได้ฟื้นฟูการตีกลองยาวตั้งแต่นั้นมาจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในอำเภอธารโตทางวัฒนธรรมอำเภอได้
ให้การสนับสนุนกลองใหม่และชุดการแสดงกลองยาว ทางหมู่บ้านก็เลยมีกลองยาวที่มาตรฐานขึ้นมา และขณะ
เดียวกันก็มีการซ้อมนาฏศิลป์ด้วยเมื่อทางอำเภอหรือหน่วยงานในอำเภอธารโตมีงานก็จะขอการแสดงและการ
รำกลองยาวของหมู่บ้านไปแสดงอยู่บ่อยๆ เช่น งานสงกรานต์ (รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่) งานลอยกระทง งานวิชา
การของร.ร.บ้านนิคมฯธารโต ฯลฯ มีจำนวนผู้เล่น ๒๕ คน
๓๕
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านคอกช้าง
ประวัติความเป็นมา
ก่อนปีพุทธศักราช ๒๕๑๙ หลังจากการสร้างเขื่อนบางลาง ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณบ้านโตกว่า
๑๐๐ อพยพ ส่วนใหญ่อพยพมาอยู่ที่คอกช้าง ตาพะเยา วังไทรและสันติ จนเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๐ ผู้ใหญ่บ้านมีแนวคิด
อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม ด้วยหมู่บ้านมีงานบ่อยครั้ง การแสดงกลองยาวในชุมชนยังคงมีให้เห็นตามเทศกาลต่างๆใน
ชุมชนเพื่อสร้างความสนุกสนานและสร้างแรงจูงใจให้กับสมาชิกในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมสืบทอดการเล่นกลองยาว
จำนวนผู้เล่น ๒๐ คน
ข้อมูลกา
รติดต่อ
ที่ตั้งหมู่ ๗ ชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านคอกช้าง ตำบลแม่หวาด
อำเภอธารโต จังหวัดยะลา
๓๖
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะกลองยาวชุมชนคนรักศิลป์
ประวัติความเป็นมา
กลองยาวชุมชนคนรักศิลป์ได้มีการถ่ายทอด
ภูมิปัญญาให้กับสมาชิกในกลุ่มเยาวชนและประชาชนใน
ชุมชน หมู่ที่ ๒ บ้านป่าโท๊ะ ตำบลยะหา อำเภอยะหา
จังหวัดยะลา และนำกลุ่มที่ได้รับการถ่ายทอดศิลปะการ
แสดงกลองยาวออกรับงานแสดงตามงานบวชนาค
งานกฐิน งานสงกรานต์ งานลอยกระทง งานประจำปี
และงานสำคัญต่างๆ ออกรับงานและบริการชุมชนที่
ต้องการทางคณะมีความร่วมมือเป็นอย่างดี จำนวนผู้เล่น
๑๕ คน
รางวัลที่ได้รับ
๑) เคยได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด
ยะลา
๒) เคยได้รับเกียรติบัตรจากอำเภอยะหา
๓) เคยได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานจังหวัดยะลา
ข้อมูลการติดต่อ
ที่อยู่ ๒๓๒ หมู่ที่ ๒ ตำบลยะหา
อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
เบอร์โทร ๐๘๐ ๒๔๖ ๖๒๙๒
๓๗
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะกลองยาวร่วมใจ
ประวัติความเป็นมา
การละเล่นกลองยาว ของชุมชนบ้านบาละ เกิดขึ้นมาสมัย รางวัลที่ได้รับ
ใดไม่ปรากกฎแต่คงมีมาพร้อมกันกับชุมอื่นอันคู่กับวัฒนธรรม
ของผู้คนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่การละเล่นกลองยาวมีความ
สัมพันธ์กับประเพณีในทางพระพุทธศาสนานิยมสืบต่อกันมา ๑) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๒ ได้รับรางวัลชละเลิศการ
เรื่อยมาก่อนที่จะกลายมาเป็นเทศกาลของอำเภอชาวบ้านเริ่ม ประกวดแข่งขังกลองยาวในงานพหุวัฒนธรรม
ให้ความสนใจฟื้นฟู การเล่นกลองยาวมากขึ้น และได้ร่วม อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
ประกวดกับทางอำเภอเป็นประจำทุกปีเลยกลายเป็นที่รู้จัก ๒) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓ ได้แข่งขันการประกวดกลอง
ของคนในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนผู้เล่น ๔๐ คน ยาว ในงานประเพณีชักพระ จังหวัดยะลา ได้รับ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒
ที่ทำการบ้านบาละ หมู่ที่ ๑ ตำบลบาละ
อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
โทร : ๐๙๘ ๕๐๑ ๐๖๙๑
๓๘
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะกลองยาวชุมชนคุปตาสา
ประวัติความเป็นมา
เกิดจากการรวมตัวของพี่น้องในชุมชน ที่มีความรัก ความสนใจในศิลปะการรำกลองยาว และมีจิตอาสา ทาง
ชุมชนจึงได้จัดตั้งคณะกลองยาว และทำการฝึกซ้อม เพื่อหาเงินเข้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน ของชุมชนคุปตาสา
และรับงานประเพณีต่างๆ เช่น งานบวช งานทอดกฐิน งานชักพระ และงานแต่งงาน เป็นต้น กิจกรรมดังกล่าวได้
เสริมสร้างให้เกิดความรัก ความสามัคคีในชุมชน จำนวนผู้เล่น ๓๐ คน
ข้อมูลการติดต่อ
๕๘ ถนนคุปตาสา ต.สะเตง อ.เมืองจ.ยะลา เบอร์โทร ๐๙ ๙๓๕๖ ๙๓๐๗
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา ๓๙
ข้อมูลการติดต่อ
๖๑ หมู่ที่๑ ตำบลบาละ
อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
โทร:๐๘๗-๒๘๖-๔๓๖๗
คณะลูกทุ่งกลองยาว
ประวัติความเป็นมา
คณะลูกทุ่งกลองยาว เป็นการรวมตัวของคนในชุมชนบ้านบาละ ซึ่งใช้เวลาว่างตอนเย็นๆ มารวมตัวกันฝึกซ้องเป็น
ประจำทุกวัน นิยมเล่นกันในงานแห่นาค แห่พระ แห่ขันหมาก และแห่กฐิน เป็นต้น ภายหลังทางอำเภอกาบังได้มีการแข่งขัน
การประกวดกลองยาวซึ่งคณะลูกทุ่งกลองยาวได้ร่วมการแข่งขันจึงกลายเป็นที่รู้จักของคนในชุมชนและชุมชนใกล้เคียงมาก
ขึ้นอีกทั้งยังใช้เวลาว่างของคนในชุมชนให้เกิดประโยชน์ และคนในชุมชนมีรายได้เสริมจากการรำกลองยาวอีกด้วย มีจำนวน
ผู้เล่น ๔๕ คน
รางวัลที่ได้รับ
๑) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๘ ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ ๑ การแข่งขันกลองยาวงานประเพณีชักพระ
๒) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๐ ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ ๑ การประกวดกลองยาว งานถนนสายวัฒนธรรม “วิถีถิ่น วิถีไทย รวมใจชาว
นิบง”
๓) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๑ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ การประกวดศิลปะการแสดงพื้นบ้านประเภท กลองยาว
๔) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๗ ได้รับการคัดสรรเป็นรากวัฒนธรรม “ศิลปะการแสดง” ระดับอำเภอ
๕) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๘ ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดกลองยาว งาน เบิกฟ้า ของดีกาบัง อำเภอกาบัง
๖) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๙ ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดกลองยาว กิจกรรม เฉลิมสยามมกุฎราชกุมาร สานสัมพันธ์พหุวัฒนธรรม
อำเภอกาบัง
๗) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๐ ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดกลองยาว งานเทศกาลพืชผลทางการเกษตรและวัฒนธรรมอำเภอกาบัง
๘) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๑ ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดกลองยาว งานเทศกาลพืชผลทางการเกษตรและวัฒนธรรมอำเภอกาบัง
๔๐
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะกลองยาวถ้ำทะลุ
ประวัติความเป็นมา
เริ่มสนใจในศิลปะการแสดงกลองยาวเมื่ออายุประมาณ ๔๐ ปี เริ่มแรก
ที่ทำการเล่นกลองยาวเอาอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันมาตีเป็นกลอง
ก่อนต่อไปได้ปรับปรุงหาซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นก่อนมีการตั้งเป็นคณะกลอง
ยาวบ้านถ้ำทะลุโดยใช้เวลาฝึก ๔ ปีจนชำนาญ และเป็นที่ยอมรับของ
คนในพื้นที่ตำบลถ้ำทะลุคณะกลองยาวตำบลถ้ำทะลุออกทำการแสดงและ
ประกวดในงานต่างๆ ในพื้นและนอกพื้นที่ งานทอดกฐินและแสดงโชว์ใน
งานประเพณีของตำบลถ้ำทะลุ จำนวนผู้เล่นจำนวน ๑๘ คน
ข้อมูลการติดต่อ
บ้านเลขที่ ๓๔๔ หมู่ ๓ บ้านบันนังบูโบ ตำบลถ้ำทะลุ อำเภอ
บันนังสตา จังหวัดยะลา เบอรโทรศัพท์ ๐๙๔ - ๓๑๕๖๗๙๕
๔๑
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะกลองยาวสันติภาพ หมู่๙ ข้อมูลการติดต่อ
ประวัติความเป็นมา ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ ๙ ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง
จัดตั้งวงขึ้นเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๔๘ วัตถุประสงค์ในการ
จัดตั้งวงเพื่อให้เยาวชนในชุมชนมีกิจกรรมทำเพื่อหางไกลจาก จังหวัดยะลา
ยาเสพติด แต่ไม่เป็นที่สนใจของเยาวชน กลับมีผู้สูงอายุให้ โทร : ๐๘๗ ๙๖๘ ๑๓๒๐
ความสนใจ จึงได้มีการซ้อมการแสดงเรื่อยมา ทำให้เห็นว่าผู้สูง
อายุที่ร่วมวงกลองยาวมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นเป็นกิจกรรมที่
คลายเคลียดให้กับผู้สูงอายุในชุมชนด้วย ปัจจุบันสมาชิกในวง
มีจำนวน ๔๐ คน จำนวนผู้เล่น ๔๐ คน
รางวัลที่ได้รับ
๑)รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ การประกวดกลองยาว
ประเภททั่วไป งานประเพณีชักพระ ปี ๒๕๖๑
๒)รางวัลชมเชยการประกวดศิลปะการแสดงพื้นบ้าน
ประเภทกลองยาว ณ เวทีถนนสายวัฒนธรรม ปี ๒๕๖๑
๔๒
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะคณะกลองยาวชุมชนบ้านวังไทร
ประวัติความเป็นมา
ก่อนปีพุทธศักราช ๒๕๑๙ หลังจากการสร้างเขื่อนบางลาง ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณบ้านโตจำนวนกว่า ๑๐๐ คน
อพยพ ไปอยู่ที่คอกช้างตาพะเยาวังไทรและสันติ ตามเทศกาล เจ้าอาวาส จนเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๐ ผู้ใหญ่บ้านมีแนวคิดอนุรักษ์
ประเพณีวัฒนธรรมด้วยหมู่บ้านมีงานบ่อยครั้ง การแสดงกลองยาวในชุมชนยังคงมีให้เห็นตามเทศกาลต่าง ๆ ในชุมชน เพื่อสร้าง
ความสนุกสนานและสร้างแรงจูงใจให้กับสมาชิกในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมสืบทอดการเล่นกลองยาว จำนวนผู้เล่น ๒๕ คน
ข้อมูลการติดต่อ
ที่ตั้งหมู่ ๒ ชุมชนคุณธรรมบ้านวังไทร ตำบลแม่หวาด
อำเภอธารโต จังหวัดยะลา
๔๓
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะกลองยาวบ้านสาเมาะ
ประวัติความเป็นมา
นายจวง อินโท ชื่อเรียกขานเฉพาะ ลุงจวง เกิดวันที่ – พ.ย. ๒๔๘๔ อายุ ๗๓ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๗ หมู่ที่ ๔ ตำบลท่าธง อำเภอรามัน
จังหวัดยะลา หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘-๒๒๖๑-๒๕๔-๑ สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ศาสนาพุทธ ภูมิลำเนาตำบลชะแล้ อำเภอสิงหนคร
จังหวัดสงขลา จบการศึกษาประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวัดชะแล้ ตำบลชะแล้ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เมื่อเรียนจบชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๔ อายุ ๑๒ ปี ก็ได้ย้ายตามบิดามารดามาอาศัยอยู่ที่ บ้านเลขที่ ๑๗ หมู่ที่ ๔ ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
และได้มารู้จักกับลุงหนุน ไม่ทราบสกุลเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมาอาศัยอยู่ที่วัดรังสิตาวาสและได้สอนการตีกลองยาวให้ โดยมี
ท่านพระครูเพชรแก้ว เจ้าอาวาสวัดรังสิตาวาส ซึ่งมีใจรักในศิลปะพื้นบ้านคอยให้การสนับสนุนเครื่องดนตรีต่างๆ ประกอบกับท่าน
พระครูเพชรแก้วมีความเชี่ยวชาญในงานช่าง ท่านพระครูจึงทำกลองยาวขึ้นเอง ชาวบ้านในละแวกนั้นให้ความสนใจในการทำกลอง
ยาวของเจ้าวาส จากนั้นจึงได้ก่อตั้งคณะกลองยาวขึ้น โดยมีนางรำซึ่งเป็นกลุ่มสตรีในหมู่บ้านมารวมตัวกันซ้อมรำ ในการรำนำหน้า
ขบวนต่างๆ ของหมู่บ้าน เช่น ขบวนแห่นาค ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ซึ่งเป็นการรำที่สวยงามมีความพร้อมเพรียงจนเป็นชื่นชอบจาก
บุคคลภายนอก ทำให้มีการติดต่อไปรำในขบวนแห่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก จำนวนผู้เล่น ๒๕ คน
รางวัลที่ได้รับ
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ การประกวดกลองยาว งานถนนสายวัฒนธรรม""วิถีถิ่นวิถีไทย รวมใจชาว นิบง"" ประจำปี ๒๕๖๐
ข้อมูลติดต่อ
๑๑๑ หมู่ที่ ๔ ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โทร : ๐๘๑ ๓๘๘ ๕๔๑๘
ประเภท(เชิดสิงโต)
๔๖
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะสิงโตศิษย์วัดญวนยะลา
ประวัติความเป็นมา
ในวันที่ท่านมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมหายานกาญจนมาสราษฏร์
บำรุง ท่านได้อ่านหนังสือพิมพ์เล่มหนึ่ง ชื่อ Yala ToDay ได้นำเสนอข่าว
เยาวชนยกพวกตีกันจึงมีความคิดที่จะดึงเยาวชนเหล่านั้นให้หันมาใช้เวลา
ว่างให้เป็นประโยชน์และห่างไกลจากยาเสพติด
เป็นการดึงเยาวชนเข้าหาพระพุทธศาสนาและเป็นการสืบสาน
วัฒนธรรมการเชิดสิงโตให้คงอยู่ ท่านจึงได้นำเด็กที่มีความสนใจมา
ทำการฝึก ได้จัดตั้งคณะเชิดสิงโตขึ้นเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๔
ปัจจุบันคณะได้มีสมาชิกทั้งหมด ๑๕ จำนวนผู้เล่น ๑๕ คน
ข้อมูลการติดต่อ
วัดมหายานกาญจนมาสราษฏร์บำรุง ตำบลสะเง อำเภอมืองยะลา
จังหวัดยะลา
โทร : ๐๙๖-๔๑๗๔๖๕๖ , ๐๙๙-๙๑๙๖๖๕๖
๔๗
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะสิงโตทองศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ยะลา
ประวัติความเป็นมา
คณะสิงโตทองศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ยะลา (วัดเห้งเจีย) จัดตั้งเมื่อ
ประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๒ โดยแต่แรกเริ่มมีผู้มีจิตศรัทธาถวายหัวสิงโต
และอุปกรณ์มาให้ทางศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ยะลา ทางคณะกรรมการฯจึงคิด
จะสร้างคณะสิงโตขึ้น โดยรับสมัครเยาวชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ระแวก ศาล
เจ้าฯ ให้มารวมตัวกัน ซ้อมการเชิดสิงโต
โดยเบื้องต้นมีวัตถุประสงค์จะใช้แสดงในงานกิจกรรมของศาลเจ้าฯ
และเป็นศูนย์รวมให้เยาวชนสนใจร่วมกิจกรรมของสังคมในท้องถิ่น
เพื่อให้ห่างไกลจากเรื่องยาเสพติดซึ่งขณะนั้นมีระบาดมากในหมู่
เยาวชน หลังจากนั้นก็มีเยาวชนรุ่นหลังๆเข้ามาร่วมคณะสิงโตกันอย่าง
ต่อเนื่อง จนปัจจุบัน ได้มีการขยายการแสดงการเชิดสิงโตไปตามคำ
เชิญของหน่วยงานต่างๆ
ข้อมูลการติดต่อ
๓๐/๑๐ หมู่ ๔ ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ๙๕๐๐๐
โทร . ๐๗๓-๒๑๓๘๒
Line : คุณประดิษฐ์ รัตตัญญู ๐๘๙-๖๕๙๓๑๗๑
ราคาค่าจ้างโดยประมาณ ๓,๐๐๐ บาท
๔๘
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
คณะสิงโตหัวมังกร
ประวัติความเป็นมา
การเชิดสิงโตเข้ามากับชาวจีนที่เข้ามาค้าขายในแผ่นดินสยาม ในยุคพระเจ้าตากสินครับ โดยชาวจีน
ในยุคนั้นได้นำสิงโตมาเชิดแสดงต่อหน้าพระที่นั่งให้พระเจ้าตากสิน มหาราช เพราะคนจีนเขาเชื่อว่า ใครได้
ชมการเชิดสิงโตจะมีโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง เป็น สิริมงคล ก็สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
คณะสิงโต เบตง ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๑ โดยการนำของนายรุชรินทร์ ภูวพัฒน์ ซึ่งเป็นที่
เติบโตในอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส แต่ปัจุบันได้ย้ายมาอยู่ที่เบตงเพราะชอบบรรยากาศโดยรวมที่
นี่ นายรุชรินทร์ ภูวพัฒน์มีประสบการณ์คลุกคลีการเชิดสิงโตตั้งแต่จำความได้ โดยเมื่อมาอยู่เบตง ได้
รวบรวมสมาชิก จากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มาฝึกหัดแล้วเรียนรู้ ซ้อมกันเอง เมื่อได้ออกงานจึงทำให้โชคดีที่ได้
รับการสนับสนุนจากครอบครัว มงคลประจักษ์ ครอบครัวอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเบตง ดร.คุณวุฒิ มงคล
ประจักษ์ และมี เลขาฯเอ็กส์ ที่ให้การสนับสนุนเรื่อยมา จึงได้ออกงานเป็นประจำ จนเป็นที่รู้จักแก่อย่าง
แพร่หลาย เวลาออกงานไปด้วยความเต็มใจ ไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทน ส่วนใหญ่คนที่เชิญไป จะมอบเงิน
ให้เอง ถือเป็นสินน้ำใจ จึงนำมาแบ่งเป็น ๓ ส่วน ส่วนที่หนึ่งนำมาเป็นกองกลางของคณะ ส่วนที่ ๒ ก็จะ
มอบให้ผู้ที่ไปแสดงบ้าง ส่วนที่ ๓ นำไปมอบหรือบริจาคให้กับ งานการกุศลต่างๆ โดยจะมอบให้งานละ
๓๐๐ บาท ในชื่อ คณะสิงโตเบตง จำนวนผู้เล่น ๒๐ คน