แบบทดสอบก่อนเข้าชม
" ผ้าบาติกสืบสานวิถีเสน่ห์แดนใต้
สื่ อ วิ ถี ชี วิ ต แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ภ า ค ใ ต้ ที่ มี เ อ ก ลั ก ษ ณ์
ผสมผสานลวดลายประยุกต์ตามความต้องการของผู้สวมใส่ "
ผ้า พื้นถิ่น
ยะลาในจังหวัด
คำนำ
การเเต่งกายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เเสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย นับเป็นความ
ภาคภูมิใจของประชาชนชาวไทยทั่วทุกภูมิภาค ผ้าไทยหรือผ้าพื้นถิ่นเป็นผ้าที่ทรงคุณค่า
ทางภูมิปัญญาของชาวบ้านที่รังสรรค์คิดค้นขึ้นมาให้มีความโดนเด่นโดยสามารถสื่อถึงเรื่อง
ราว วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ด้านอาชีพ ด้านอาหารการกินเเละจุดเด่นของเเต่ละท้องถิ่นซึ่งจะ
มีความเเตกต่างไปตามวัฒนธรรม ประเพณี เเต่ละท้องถิ่นจะบ่งบอกถึงเอกลักษณ์สามารถ
เห็นได้จากลวดลายบนผืนผ้าเเต่ละผืน ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยเป็นเครื่องอำนวย
ความสะดวกมากขึ้น ผู้คนจึงเลือกสิ่งที่ทันสมัยเเละสะดวกสบายจึงทำให้ขนบธรรมเนีย
มการเเต่งกายเเฟชั่นเข้ามาเลื่อมล้ำขนบธรรมเนียมการเเต่งกายตามวัฒนธรรมไทย ดังนั้น
บุคคลรุ่นหลังต้องร่วมกันอนุรักษ์ สืบสาน ภูมิปัญญาของผ้าไทยผ้าพื้นถิ่นให้คงอยู่ไว้เป็น
มรดกของท้องถิ่น
จังหวัดยะลาเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นด้านความเป็นอยู่แบบสังคมพหุวัฒนธรรม
มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม มีปราชญ์ชาวบ้านผู้
เชี่ยวชาญหลากหลายศาสตร์ ผ้าไทยหรือผ้าพื้นถิ่นเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาที่ปราชญ์ชาวบ้าน
ที่ได้รวมกลุ่มกัน ซึ่งเเต่ละกลุ่มก็จะมีการทำผ้าที่เเตกต่างกันไปตามจินตนาการของแต่ละ
กลุ่ม ส่วนมากจะนำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาเป็นสีในการมัดย้อมผ้าเลยทำให้จังหวัดยะลามี
ความโดดเด่นเรื่องผ้าไทยผ้าพื้นถิ่น
โครงการเล่มนี้ ได้รวบรวมรายละเอียดของการดำเนินโครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
(E-books) : ผ้าพื้นถิ่นจังหวัดยะลา ซึ่งประกอบไปด้วยความเป็นมาของโครงการ
วัตถุประสงค์ วิธีการศึกษา ตลอดจนการวัดความสำเร็จของการจัดโครงการซึ่งเป็น
ประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจโครงการ
คณะผู้จัดทำโครงการ
1 มีนาคม 2565
สารบัญ หน้า
เรื่อง ๘
๒๐
๑.ผ้าสีมายา ๓๒
๒.ADEL KRAF ๔๒
๓.ศรียะลาบาติก ๕๔
๔.อาดือนันบาติก ๖๔
๕.บือแนบาติก ๗๔
๖.เก๋บาติก ๘๔
๗.ผ้าปาเต๊ะ ๙๔
๘.ธาตุดิน
๙.ยะลารวมใจ
ชื่อผลิตภัณฑ์ : สีมายา
สถานที่ผลิต : ๑๓๖ ม.๑ อ.เมือง จ.ยะลา
(อาคารโรงน้ำชุมชนตำบลหน้าถ้ำ)
ผู้ดำเนินงาน : กลุ่มสีมายา
Phone on : ๐๘๑ ๓๖๘ ๖๓๐๐
๘ Facebook : กลุ่มสีมายา หน้าถ้ำ
๙
“ผ้าสีมายา”
มาจากดินมายาจากภูเขาถ้ำ หรือภูเขากำปั่น
ในหมู่บ้านชาวบ้านเรียก ขี้มายา
นำมาทำปุ๋ยของชาวนา ใน ๓ จังหวัดภาคใต้
จากวิถีและภูมิปัญญาพื้นถิ่น
“ผ้าสีมายา” มีความเป็นมาคือ การนำเอาดินที่อยู่ภายในถ้ำภูเขากำปั่น
และภูเขาวัดถ้ำ ซึ่งเป็นดินลักษณะเฉพาะที่ชาวบ้านใช้เป็นปุ๋ยในการเพาะปลูก
ต้นไม้ โดยจะทำให้ต้นไม้นั้น มีความเจริญงอกงามที่ดีมาก แต่ในช่วงระยะหลังๆ
การนำเอาดินมายามาทำเป็นปุ๋ยได้ลดน้อยลงชาวบ้านจึงได้ช่วยกันคิดและนำเอา
ดินมายามาทำประโยชน์ให้มากกว่านี้ จึงได้แนวคิดในการนำเอาดินมายามาทำ
เป็นสีย้อมผ้า โดยเอาดินมายามาทำเป็นสี เนื่องจากเคยสังเกตพบว่า หากเสื้อ
เลอะดินมายาแล้วจะล้างออกยาก เลยมีความคิดว่าน่าจะเอามาทำสีย้อมเสื้อ
ขาวได้ เพื่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคนในพื้นที่ ซึ่งก็ได้รับ
ความร่วมมือจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ในการนำเอาดินมายาดังกล่าวไป
ตรวจสอบ พบว่า สามารถจะนำมาทำเป็นสีย้อมผ้าได้จริงๆ
ดินมายามีความพิเศษคือ เป็นดินที่ผสมกับมูล หรือขี้ค้างคาวทับถมกันมา
เป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี และมีอยู่ที่เดียวในจังหวัดยะลา คือ ที่บ้านหน้า
ถ้ำ จ.ยะลา
๑๐
๑๑
๑๒
ก ลุ่ ม ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ผ้้ า สี ม า ย า
บ้านหน้าถ้ำ อำเภอเมืองยะลา
สร้างแนวคิดใหม่ นำดินมายา
ม า ย้ อ ม สี ผ้ า เ กิ ด เ ป็ น ผ้ า สี ม า ย า
เ อ ก ลั ก ษ ณ์ เ ฉ พ า ะ ถิ่ น ผ้ า ข อ ง ค น
ยะลา และเป็นผ้าที่มีที่เดียวใน
ประเทศไทย
๑๓
สีเหลืองมาจากกการนำใบหูกวางมาเคี่ยวบนเตาไฟ
ด้วยกรรมวิธีพื้นบ้าน
สีเทามาจากฝักราชพฤกษ์มาจากกการนำฝักราชพฤกษ์
มาเคี่ยวบนเตาไฟด้วยกรรมวิธีพื้นบ้าน
๑๔
สีดินที่เป็นสีเอกลักษณ์ของทางกลุ่มคือสีที่นำ มาจากการสกัดดินจากถ้ำในตำบลหน้าถ้ำ
จังหวัดยะลากรรมวิธีในการผลิตคือการนำดิน สีมายามาแช่น้ำแล้วนำผ้าแต่ละชนิดมาแช่ไว้
สีใบบังคุดมาจากกการนำใบ มังคุดมาเคี่ยวบนเตาไฟด้วยกรรมวิธีพื้นบ้าน
๑๕
๑๖
๑๗
ภาพลงพื้นที่ ณ ผ้าสีมายา
โดยพนักงานราชการเฉพาะกิจ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
พร้อมด้วยนักศึกฝึกงานจากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
๑๘
๑๙
ชื่อผลิตภัณฑ์ : ADEL KRAF
สถานที่ผลิต : 5 ผังเมือง4 ซ.15 เทศบาลนครยะลา,
จังหวัดยะลา 95000
ผู้ดำเนินงาน : ดุลฟิรตรี เจ๊ะมะ
๒๐
๒๑
๒๒
"Adel kraf"
รื้อฟื้นผืนผ้าเปอลางี ให้กลับมามีชีวิต
ชีวาได้อีกครั้ง ความท่าทายต่อไป คือ
การพัฒนาให้ทันสมัย แต่ต้องคงไว้ด้วย
เอกลักษณ์และ ภูมิปัญญาของบรรพชน
ผ้าเปอลางี ถูกจัดให้อยู่ในหมวดของผ้ามัดย้อมชนิดหนึ่งที่ถือว่าเป็นผ้ามัดย้อมขั้นสูงด้วยเทคนิค เย็บ เนา
รูด ผูก มัด ย้อม คลายเพื่อให้ได้ผ้าที่มีสีสันและลวดลายที่สวยงาม เส้นแต่ละเส้น จุดแต่ละจุด เกิดจากการใช้
มือดันฝีเข้มขึ้นลงทีละจุด เพื่อจะรัดมัด แล้วนำไปย้อมจนเกิด ลวดลายที่มีเสน่ห์ ที่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์
เฉพาะตัวเทคนิคแบบนี้แพร่หลายไปทั่วโลกทั้ง จีน อินเดีย ญี่ปุ่น แอฟริกา รวมถึงบ้านเรา
จากการปะติดปะต่อจิ๊กซอจนครบและสามารถสร้างสรรค์ผลงานของตนเอง จนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้
แล้ว นี่จึงกลายจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Adel kraf ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ Thedeepshop ที่มีเป้าหมาย
ชัดเจน คือ ต้องการให้เทคนิคการทำฝ้ายเปอลางี เป็นที่รู้จักและแพร่หลายจนกลับมาเป็นสินค้าหัตกรรม
ประจำถิ่นอีกครั้ง
๒๓
๒๔
Adel kraf สามารถรื้อฟื้นผืนผ้า
เปอลางี ให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อีก
ครั้ง ความท่าทายต่อไป คือการ
พัฒนาให้ทันสมัย แต่ต้องคงไว้ด้วย
เอกลักษณ์และ ภูมิปัญญาของ
บรรพชน
๒๕
ผลิตภัณฑ์สินค้าจากกลุ่มผ้ามัดยอม Adel kraf
๒๖
ผลิตภัณฑ์สินค้าจากกลุ่มผ้ามัดยอม Adel kraf ๒๗
๒๘ ผลิตภัณฑ์สินค้าจากกลุ่มผ้ามัดยอม Adel kraf
ผลิตภัณฑ์สินค้าจากกลุ่มผ้ามัดยอม Adel kraf ๒๙
๓๐
ภาพลงพื้นที่ ณ Adel kraf
โดยพนักงานราชการเฉพาะกิจ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
พร้อมด้วยนักศึกฝึกงานจากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
๓๑
ชื่อผลิตภัณฑ์ : ศรียะลาบาติก
สถานที่ผลิต : ซอยสุขธร 12 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา
ผู้ดำเนินงาน : กลุ่ม ศรียะลาบาติก
Phone on : ๐๘ ๗๘๓๗ ๔๐๐๗
Facebook : Sriyalabatik
๓๒
๓๓
SriYala Batik
ฟื้นคืนตำนานงานแฮนด์เมดที่ผสมผสานความเป็นอยู่อย่างพหุวัฒนธรรม
กลุ่มผ้าศรียะลาบาติก มีนายปิยะ สุวรรณพฤกษ์ ครูช่าง
ศิลปหัตถกรรมปี 2560 เป็นผู้เริ่มก่อตั้งการทำผ้าบาติก ผ้าปะ
ลางิงเป็นผ้าในตำนาน ได้สูญหายไปร่วม 80 ปี ลักษณะของ
ผ้าปะลางิงนั้น มีลักษณะเป็นผ้านุ่ง มีการพบเห็นผ้าปะลางิง
ครั้งแรกในปี พ.ศ.2472 ในขบวนรับเสด็จ พระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยผู้ร่วมขบวนได้แต่งกายด้วยผ้าปะ
ลางิง ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่จะใช้นุ่ง ส่วนผู้
หญิงจะใช้สำหรับคลุมผม คลุมศีรษะ และปล่อยชายผ้าห้อย
ลงมาอย่าสวยงาม
จุดเด่นของผ้าปะลางิง ที่สำคัญคือ ตั้งแต่ตัวลวดลายที่อยู่บนผืนผ้า เพราะลายผ้าปะลางิง จะไม่
เหมือนลายทอผ้าจากภาคเหนือ หรือภาคอีสาน แต่ลายทอของผ้าได้ถอดแบบมาจากบล็อกแม่พิมพ์ไม้
แล้วมาเขียนกราฟ แล้วก็ทอ ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน และการทอก็มีลูกเล่นของลายเนื้อผ้ามากกว่า
ด้วย และจุดเด่นอีกอย่างก็คือ การใช้วัฒนธรรมท้องถิ่นมาเป็นตัวเล่าเรื่องผ้า เช่น ตัวลวดลายที่แกะไม้
ออกมาก็มาจากลวดลายช่องลมโบราณ ลวดลายกันสาด ลวดลายราวประตู กระเบื้องโบราณ หรือ
ลวดลายจากสถาปัตยกรรมในท้องถิ่น เช่น จากวังโบราณต่างๆ วังจะบังติกอ วังในจังหวัดปัตตานี
สมัยก่อนก็ถูกนำมาถ่ายทอดจากวัฒนธรรมต่างๆ ก็ถูกนำมาเล่าเรื่องผ่านลายผ้า เปรียบเสมือนการเอา
วัฒนธรรมต่างๆ ออกเผยแพร่ผ่านลวดลายบนเนื้อผ้า ผ้าปะลางิงจึงนับว่าเป็นผ้าพื้นเมือง หรือผ้าพื้น
ถิ่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้
๓๔
๓๕
เทคนิคในการทำผ้าผืนนี้จะเริ่มจากกระบวนการทอ
ต่อด้วยการมัดย้อมดอกลายบางๆ นำมาขึงแล้วเขียน
ทับสีที่มัดย้อม นำมาล้างสีออก ให้เหลือลายที่เขียน
ทับด้วยเทียน ตามด้วยการลงสีพื้นทับทั้งหมด เตรียม
แม่พิมพ์ไม้สำหรับการพิมพ์ (แกะเอง) ลงสีตามช่อง
ตัวลายที่พิมพ์ลงไป ในส่วนหัวผ้าจะมีการปิดเทียน
และลงสีเพิ่มเพื่อเพิ่มมิติให้กับตัวลาย หัวผ้าจะมีการ
เขียนและโชว์ลายมากกว่าตรงส่วนอื่น เมื่อลงสี
ทั้งหมดแล้ว จะรอให้ผ้าแห้งแล้วเคลือบทับด้วย
โซเดียมซิลิเกต (ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับการทำ
ผ้าบาติก) ปล่อยให้แห้ง นำไปล้าง ต้มเอาเทียนออก
"ผ้าอเนกประสงค์พิมพ์ลายบล็อกไม้" แล้วซักล้างให้สะอาด
แนวความคิดในสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ คือ
การสื่อถึงวัฒนธรรมผ้าจากภาคใต้ โดยเฉพาะ
ลวดลายที่ปรากฏบนผ้า ซึ่งเป็นลวดลายผ้าจวนตานี
โบราณ เป็นลวดลายจากการทอลูกแก้วสองชั้น
ลักษณะพิเศษของผ้าคือมีเชิงผ้า ท้องผ้า และหัวผ้า
ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของผ้าจากภาคใต้รวมถึง
เทคนิคความหลากหลายในการทำผ้าชนิดนี้ "กว่าผ้า
ปะลางิงจะเป็นที่ยอมรับและรู้จักแพร่หลาย กลายมา
เป็นแบรนด์ศรียะลาบาติกของ ชุมชน ลูกค้าต้องจอง
กันข้ามปี เป็นผลจากความร่วมมือของชาวบ้านใน
ชุมชนใกล้เคียง ไม่ว่ากลุ่ม ช่างไม้ ช่างทอผ้า ช่าง
ย้อมผ้า เป็นสังคมแบบพหุวัฒนธรรม ทำงานกันแบบ
ครอบครัว มีความ อบอุ่น เป็นสิ่งที่อยากให้ผู้เที่ยวชม
ได้เข้ามาสัมผัส แล้วจะลืมภาพลบของสามจังหวัด
๓๖ ชายแดนใต้ไป"
ผ้าทอพื้นบ้านปะลางิง
ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้านใน
3 จังหวัดชายแดนใต้
๓๘
๓๘ “บล็อกไม้ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”
“ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ๓๙
๔๐ “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”
“ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ๔๑
ชื่อผลิตภัณฑ์ : อาดือนันบาติก
สถานที่ผลิต : 26 ซอยสง่าอุทิศ
ถนนผังเมือง 5 ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
ผู้ดำเนินงาน : คุณอาดือนัน กาปา
Phone on : 081-0992164
๔๒ FACEBOOK : ADEUNAN BATIK
๔๓
"อาดือนันบาติก"
สืบเนื่องจากบรรพบุรุษที่มีภูมิปัญญาพื้นบ้าน
ที่ทำกันมาสมัยบรรพบุรุษในการทำผ้าปาเต๊ะ
ผ้าบาติกจากหลักฐานแม่พิมพ์ ลายโลหะ
กระทะต้มเทียนคูมือการผสมสีของโบราณ
อาดือนันบาติก สืบเนื่องจากบรรพบุรุษที่มีภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ทำกันมาสมัยบรรพบุรุษ
ในการทำผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติกจากหลักฐานแม่พิมพ์ ลายโลหะ กระทะต้มเทียนคูมือการผสมสี
ของโบราณซี่ งเป็นของคุณตาของอาดือนันที่ได้รับการท่ายถอดจากคุณตาอาแว หะยีอาแว
เป็นชาวปัตตานี
อาดือนันในฐานะทายาท ซึงมีความสนใจต้องการสืบทอดถูมิปัญญาของบรรพบุรุษมิ
ให้สูญหายไป และต้องการที่จะศึกษาค้นคว้าเกียวกับการทำผ้าบาติก ให้ลึกซึ้งชองงานศิลปะ
จึงสนใจเข้าศึกษาในสถาบันราชภัฎยะลาในสาขาศิลปศึกษาจนสำเร็จการศึกษานำความรู้ที่ได้
รับมาสร้างสรรค์ จากการทำผ้าปาเต๊ะ แม่พิมพ์โลหะมาเป็นบาติกลายเขียนที่มีความแปลก
แทรกงานศิลปะ ประยุกต์ลงไปในผ้้าให้มีมิติความแปลกใหม่ทั้งรูปแบ สี ลายเส้นพื้นผิวให้มี
ความประทับใจจากผู้พบเห็น รักชื่นชมหลงไหลในผ้าบาติก จนกลายเป็นผ้าบาติกลาหินแตก
ในปัจจุบัน สมามารถนำผ้าบาติกไปประยุกต์ใช้ส้อยได้หลากหลายตามความต้องการในชีวิต
ประจำวันภายใต้แบรด์ ( อาืดือนันบาติก ADEUNAN BATIK YALA)
สามารถนำผ้าบาติกที่ผลิตไปตัดเสื้อตามแฟชั่นทั้งสภาพบุรุษ และสภาพสตรี กางเกง
กระโปรง กระเป๋า ผ้าโสร่ง ฯลฯ ท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่ คุณอาดือนัน กาปา
โทร.081-0992164
๔๔
๔๕
๔๖
อาดือนันสืบจากบรรพบุรุษที่มีภูมิปัญญา
พื้นบ้านที่ทำกันมาสมัยบรรพบุรุษในการ
ทำผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติกจากหลักฐานแม่
พิมพ์ ลายโลหะ กระทะต้มเทียนคูมือการ
ผสมสีของโบราณซึ่งเป็นของคุณตาของอา
ดือนันที่ได้รับการท่ายถอดจากคุณตา
นายอาแว หะยีอาแว เป็นชาวปัตตานี
๔๗
ผ้าพันคอ บาติกลายหินอ่อนผสมผสานด้วยลายขอ ด้วยเนื้อคอตตอน
๔๘
๔๙
๕๐