The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by homeekjst2564, 2022-03-30 08:14:23

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ2

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ2

การวดั และประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ชนิ้ งาน วิธีการวัด เครือ่ งมอื เกณฑท์ ใี่ ช้

ความรู้ (K) ประเมินผลการตอบ แบบประเมินผล ผา่ นขนั้ ตา่ ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๖๐

๑. นักเรียนสามารถ ค าถามในชั้นเรียน งานนกั เรียน

อธิบายประเภทของ และในชิ้นงานที่ได้

งานประดิษฐ์ได้ มอบหมาย

๒. นักเรียนสามารถ

อธิบายประโยชนข์ อง

งานประดษิ ฐไ์ ด้

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วิธีการวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์ทใ่ี ช้

ทกั ษะกระบวนการ (P) -การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการตอบ คะแนนต้งั แต่ 4-9 ผา่ น

นักเรียนท าใบงานท่ี -การตอบคาถาม คาถาม

คุณครูมอบหมายให้ได้

อยา่ งถูกต้อง

ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑท์ ีใ่ ช้
นักเรียนทีไ่ ด้ระดับคุณภาพ
ดา้ นคุณลักษณะอันพึง การสงั เกตพฤติกรรม การสังเกตพฤติกรรม พอใชข้ ึ้นไป ถือว่า ผา่ น

ประสงค์ (A) รายบุคคล รายบคุ คล ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย
ละ ๖๐
นักเรียนอธิบายการ

วัดผล และประเมินผล

และเกณฑ์การผ่าน

รายวชิ านี้ได้

ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประเมินคุณลักษณะ แบบประเมนิ

ประสงคต์ ามหลกั สูตร อันพึงประสงค์ของ คณุ ลักษณะอันพงึ

แกนกลางการศึกษาข้ัน ผ้เู รียน ประสงค์

พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช

๒๕๕๑

ด้านสมรรถนะสาคญั ของ ประเมินสมรรถนะ แบบประเมิน ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย

ผู้เรียน สาคัญของผู้เรียน สมรรถนะสาคัญของ ละ ๖๐

-ความสามารถในการ ผู้เรยี น

สอื่ สาร

-ความสามารถในการคิด

-ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชวี ติ

-ความสามารถในการ

แกป้ ัญหา

-ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ ๑ ระบคุ าถาม

๑. ครูใหน้ ักเรยี นตอบคาถามว่าประเภทของงานประดิษฐ์มอี ะไรบ้าง

๒. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นคาถามว่างานประดิษฐ์มีกี่ประเภทและมี

อะไรบา้ งตามความเข้าใจเพ่อื ทดความความเข้าใจของผูเ้ รยี น

ขั้นท่ี ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครูให้นักเรียนนาคาถาม ท่คี รูได้ตงั้ คาถามไว้ มารว่ มกนั สนทนา
๒. ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษาความรู้ในเร่ืองประเภทของงานประดษิ ฐ์

ขั้นที่ ๓ สร้างความรแู้ ละสรุปความรู้
๑. ครูอธิบายความรู้ประเภทของงานประดษิ ฐว์ า่ มอี ะไรบ้าง
๒. ครูผู้สอนอธิบายคุณค่าของงานประดิษฐ์พร้อมยกตัวอย่างต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจในเรื่องงาน
ประดิษฐ์
๓. ครสู ุม่ ถามนกั เรยี นในชัน้ เรียนว่าประเภทในงานประดษิ ฐม์ ีอะไรบ้าง

ขน้ั ที่ ๔ สอ่ื สารและนาเสนอ
๑. ครูสุม่ ใหน้ ักเรียน ๒-๓ คน เพ่อื ใหอ้ อกมาพดู เรื่องประโยชนข์ องงานประดษิ ฐม์ อี ะไรบ้าง
๒. ครูอธบิ ายความรู้เพ่มิ เตมิ ในส่วนที่ถูกตอ้ ง และเปิดโอกาสให้นกั เรยี นร่วมกันสรุปเปน็ ความรู้ในเรื่อง
ประโยชน์ของงานประดษิ ฐ์มอี ะไรบา้ ง

ขน้ั ที่ ๕ ประเมินและบริการสังคม
๑. ครูประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรยี น ดว้ ยวิธีการตั้งคาถาม เพ่อื ทดสอบความรู้และความเขา้ ใจของ
นกั เรียน

๒. ครแู นะนาวธิ กี ารทางานทีจ่ าเป็นต่อการดารงชวี ิตในประจาวันของนักเรยี น เพ่ือใหน้ กั เรยี นรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรู้ให้กบั สมาชิกในครอบ
และชมุ ชนที่นักเรยี นอาศัยอยู่

สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
ส่ือวัสดอุ ุปกรณ์

๑. หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐานการงานอาชีพ ม.๑
๒. เว็บไซตก์ ารงานอาชีพต่างๆ
๓. สื่อสิง่ พิมพ์ เช่น วารสาร นิตยสาร แผ่นพับเผยแพร่ความรู้
แหลง่ เรยี นรู้
๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น

สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้

ดา้ นความรู้

กลุ่มผเู้ รียน ช่วงคะแนน
ดี ๑๐
ปานกลาง ๗
ปรับปรงุ ๕

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ช่วงคะแนน
กลุ่มผเู้ รยี น ๑๐
ดี ๗
ปานกลาง ๕
ปรบั ปรงุ

ด้านคณุ ลักษะอนั พงึ ประสงค์ ช่วงระดบั คณุ ภาพ
กลุ่มผ้เู รยี น ๓
ดี ๒
ปานกลาง ๑-๐
ปรบั ปรงุ

บนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….........

ปญั หาที่พบระหว่างหรือหลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนยุ้ )
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ หมวดวิชาการงานอาชพี
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนยุ้ )

หัวหนา้ หมวดวชิ าการงานอาชีพ

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑๕

รายวชิ าการงานอาชพี รหสั วิชา ง๒๑๑๐๒ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ภาคเรยี นท่ี ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๕ เวลา ๓ ชั่วโมง

เรอ่ื ง…งานประดษิ ฐ์ดอกกหุ ลาบจากใบเตย เวลา ๑ ชว่ั โมง

ผูส้ อน นางสาวสมุ นา ทองนุ้ย โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลัย สรุ าษฎร์ธานี

แนวคดิ สาคญั (สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด)
หลกั การและเหตผุ ล ใบเตยอยคู่ ่คู รัวไทยมานาน ทั้งกล่นิ และสีของใบเตยจงึ มาเปน็ สว่ นหนึ่งของขนม

ไทย ที่คนไทยชื่นชอบ และคุ้นเคยกันดีใบเตยนอกจากใช้ในเรื่องของอาหารได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ใบเตยยังมี
สรรพคณุ ดดู ซับกลิน่ อับได้ดี อกี ด้วย และเมอ่ื นามาพับเป็นดอกกุหลาบ จะชว่ ยเพ่ิมคุณค่าทางใจได้อีกมาก ทั้ง
หอม ทัง้ สวยสบายตาด้วย จึง นาวธิ ีการทาดอกกุหลาบใบเตย ดังน้นั การพับดอกกุหลาบจากใบเตย จะได้ดอก
กุหลาบดอกเลก็ หรอื ดอกใหญ่ ขึน้ อยูก่ บั ใบเตยทนี่ ามาพบั ด้วยถ้าใช้ใบใหญก่ ็จะได้ดอกใหญ่ ใบเล็กก็ได้ดอกเล็ก
การพับใบเตยให้ได้ดอก กุหลาบที่มีทรงสวยงาม ต้องเลือกใบเตยที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป ใบเตยสดจะฉีก
ขาดได้ง่ายในขณะพับดอก ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวให้ตัดใบเตยท้ิงไว้หนึ่งคืนจะช่วยให้การพับง่าย
ขน้ึ เม่อื เรม่ิ พบั ในส่วนของ โคนใบจะใช้เปน็ ก้านดอก ฉะนั้นถ้าต้องการดอกกุหลาบก้านยาวหรือสั้นก็ให้เหลือ
ส่วนกา้ นไวต้ ามตอ้ งการท้ังยงั สามารถเป็นแนวทางในการประกอบอาชพี และเพอ่ื เป็นการอนุรักษ์พืชท้องถ่ิน
อีกทั้งยังให้ผูเ้ รียนสามารถใช้ ทักษะการคิด วิเคราะห์ในการลงมือปฏิบัติ การประดิษฐ์ดอกกุหลาบจากใบเตย
เพื่อใช้ตกแต่งในงานต่างๆเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อ ของตกแต่ง ซึ่งในการจัดกิจกรรมที่ต้องใช้
งบประมาณมากในการตกแตง่ ทาให้ไม่สนิ้ เปลืองงบประมาณและทา ใหง้ บประมาณไมเ่ พียงพอ และเกดิ ปญั หา
ต่างๆ อีกทั้งยงั เพ่ือเพ่ิมมูลค่าของใบเตยเพอ่ื ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็น ประโยชน์

มาตรฐานการเรียนรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ

กระบวนการการแกไ้ ขปัญหา ทักษะการทางานร่วมกนั และทักษะการแสวงหาความรู้ มคี ุณธรรมและลักษณะ
นสิ ัยในการทางาน มีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งานทรัพยากร และสงิ่ แวดลอ้ มเพ่อื การดารงชีวิตในครอบครวั

ตวั ช้วี ดั (หรอื ผลการเรียนร้)ู
๑. วเิ คราะหข์ ั้นตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทางานด้วยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาการทางานอยา่ งมเี หตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้

๑. เพอ่ื ให้นกั เรียนศึกษาเกี่ยวกบั พน้ื ทอ้ งถิ่นและนามาใชใ้ ห้เกิดประโยชนท์ ส่ี ุด
๒. เพ่ือนาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการทากิจกรรมไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
๓. เสรมิ สร้างรายได้ระหวา่ งเรียนและเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ
๔. เพอ่ื ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์และเพื่อให้นกั เรียนได้รู้ค่าของทรพั ยากรพชื ท้องถ่ิน
ด้านทกั ษะ
๑. เพือ่ ให้นกั เรียนศึกษาเกย่ี วกบั พนื้ ทอ้ งถ่ินและนามาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนท์ ี่สุด
๒. เพอื่ นาความรู้ทีไ่ ด้จากการทากิจกรรมไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน
๓. เสรมิ สร้างรายได้ระหวา่ งเรียนและเปน็ แนวทางในการประกอบอาชพี
๔. เพอ่ื ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละเพ่อื ใหน้ ักเรยี นไดร้ คู้ ่าของทรพั ยากรพชื ทอ้ งถ่ิน
ด้านคุณธรรม
๑. ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ ม มคี วามคดิ สร้างสรรค์
๒. ผ้เู รียนมวี นิ ัย ใสใ่ จ และมีความรบั ผิดชอบ
๓. ผูเ้ รียนสามารถนาความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจาวัน
๔. ผเู้ รียนมีน้าใจในการช่วยเหลอื ซงึ่ กันและกัน
๕. ผู้เรยี นมคี วามซ่ือสตั ย์และตรงตอ่ เวลา

ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
 ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ๖. มุ่งมน่ั ในการทางาน
 ๒. ซอ่ื สัตย์สจุ รติ  ๗. รักความเปน็ ไทย
 ๓. มีวินยั  ๘. มจี ิตสาธารณะ
 ๔. ใฝ่เรยี นรู้

เบญจวถิ ีกาญจนา
 ๑. เทดิ ทูนสถาบนั
 ๒. กตัญญู
 ๓. บคุ ลกิ ดี
 ๔. มีวินัย
 ๕. ให้เกยี รติ

สมรรถนะทสี่ าคัญของผ้เู รียน
 ๑. ความสามารถในการส่อื สาร
 ๒. ความสามารถในการคดิ
 ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เนน้ สกู่ ารพัฒนาผเู้ รียนความสามารถและทกั ษะที่จาเป็นในการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี ๒๑ (๓Rs๘Csx2Ls)
 R๑–Reading (อ่านออก)
 R๒– (W)Riting(เขยี นได)้
 R๓ – (A)Rithmetics(คดิ เลขเป็น)
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทักษะในการแกป้ ญั หา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน
ทศั น)์
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็น
ทีมและภาวะผนู้ า)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy ( ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ก า ร ส ื่ อ สาร
สารสนเทศและร้เู ทา่ ทันส่อื )
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู)้
 C๘ – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L๑ – Learning (ทกั ษะการเรยี นร้)ู
 L๒ – Leadership (ทักษะความเปน็ ผนู้ า)

การวัดและประเมินผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ กี ารวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์ทใี่ ช้

ความรู้ (K) ประเมินผลงานจรงิ แบบประเมินผล ผ่านขัน้ ตา่ ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐

๑. นักเรียนสามารถ งานนักเรยี น

อธิบายความหมาย

ขั้นตอนปฎิบัติดอก

กุหลาบจากใบเตยได้

๒. นักเรียนสามารถ

อธบิ ายนาความรู้ที่ได้

ใ น ช ั ้ น เ ร ี ย น ไ ด ้ ใ ช้

ประโยชนไ์ ด้จริง

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วธิ ีการวัด เครือ่ งมือ เกณฑท์ ใี่ ช้

ทกั ษะกระบวนการ (P) ชน้ิ งานการปฎบิ ตั ิ แบบสังเกตการตอบ คะแนนตงั้ แต่ 4-9 ผา่ น

นักเรียนปฎิบัติผลงาน ของกหุ ลาบจาก คาถาม

ดอกกุหลาบจากใบเตย ใบเตย

ได้ถูกต้องตามแบบและ

สวยงาม

ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธกี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑท์ ีใ่ ช้

ด้านคุณลักษณะอันพึง การสังเกตพฤติกรรม การสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนที่ได้ระดับคุณภาพ

ประสงค์ (A) รายบคุ คล รายบุคคล พอใชข้ ึ้นไป ถือว่า ผา่ น

นักเรียนอธิบายการ

วัดผล และประเมินผล

และเกณฑ์การผ่านการ

เรยี นรู้ได้

ด้านคุณลักษณะอันพึง ประเมินคุณลักษณะ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย

ประสงค์ตามหลักสูตร อันพึงประสงค์ของ คุณลัก ษณะ อ ัน พึ ง ละ ๖๐

แกนกลางการศึกษาข้ัน ผู้เรียน ประสงค์

พื้นฐาน พุทธศักราช

๒๕๕๑

ด้านสมรรถนะสาคัญของ ประเมินสมรรถนะ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย

ผู้เรยี น สาคัญของผูเ้ รียน สมรรถนะสาคัญของ ละ ๖๐

-ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ผ้เู รียน

สื่อสาร

-ความสามารถในการคิด

-ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชีวติ

-ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร

แกป้ ัญหา

-ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ ระบคุ าถาม

๑. ครูใหน้ ักเรยี นยกตัวอย่างว่าใบเตยใชป้ ระดิษฐอ์ ะไรไดบ้ ้างนอกจากดอกกหุ ลาบ

ข้นั ที่ ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครูใหน้ กั เรียนนาคาถาม ท่คี รูได้ตั้งคาถามไว้ มาร่วมกนั สนทนา
๒. ครูให้นักเรียนศกึ ษาความรู้ในเร่อื งประโยชนจ์ ากใบเตย

ขั้นท่ี ๓ สร้างความรูแ้ ละสรปุ ความรู้
๑. ครูได้สอนขนั้ ตอนการปฎบิ ตั ดิ อกกหุ ลาบจากใบเตยท่ีละขนั้ ตอน
๒. ครูอธิบายขั้นตอนการปฎบิ ัติดอกกุหลาบจากใบเตยทบทวนอีกรอบเพื่อให้ผูเ้ รยี นได้ความรู้ทุกคน
๓. ครูไดบ้ อกประโยชน์ของการปฎบิ ัติดอกกหุ ลาบจากใบเตย
๔. ครูอธิบายคุณครขู องดอกกหุ ลาบจากใบเตย

ขั้นที่ ๔ ส่ือสารและนาเสนอ
๑. ครูสมุ่ ให้นักเรยี น ๒-๓ คน เพ่อื บอกประโยชนข์ องผลงานชน้ิ น้ี
๒. ครอู ธบิ ายความร้เู พิ่มเติมในสว่ นทถี่ ูกต้อง และเปิดโอกาสให้นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เป็นความรู้ในเร่ือง
ดอกกุหลาบจากใบเตย

สื่อ/แหล่งเรียนรู้
ส่อื วสั ดุอุปกรณ์

๑. หนงั สือเรียน รายวชิ าพื้นฐานการงานอาชพี ม.๑
๒. เว็บไซตก์ ารงานอาชีพตา่ งๆ
๓. ส่อื สง่ิ พิมพ์ เชน่ วารสาร นิตยสาร แผน่ พบั เผยแพรค่ วามรู้

แหลง่ เรยี นรู้
๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น

สรุปผลการจัดการเรียนรู้

ด้านความรู้

กลุ่มผูเ้ รยี น ช่วงคะแนน
ดี ๑๐
ปานกลาง ๗
ปรบั ปรงุ ๕

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน
กล่มุ ผเู้ รยี น ๑๐
ดี ๗
ปานกลาง ๕
ปรับปรุง

ด้านคุณลกั ษะอันพึงประสงค์ ช่วงระดับคณุ ภาพ
กลุ่มผเู้ รียน ๓
ดี ๒
ปานกลาง ๑-๐
ปรบั ปรุง

บนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….........

ปญั หาที่พบระหว่างหรือหลังจัดกิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนุ้ย )
ครผู ู้สอน

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ หมวดวิชาการงานอาชพี
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองนุ้ย )

หัวหน้าหมวดวชิ าการงานอาชีพ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๖

รายวชิ าการงานอาชพี รหัสวชิ า ง๒๑๑๐๒ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๑

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๖ เวลา ๓ ชัว่ โมง

เรื่อง…งานอาชีพ เวลา ๑ ชั่วโมง

ผ้สู อน นางสาวสุมนา ทองน้ยุ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สรุ าษฎร์ธานี

แนวคิดสาคญั (สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด)
การพฒั นาตนเองในงานอาชพี

อาชีพ หมายถึง การเลยี้ งชีวติ การทามาหากิน งานทท่ี าเป็นประจาเพ่ือเลี้ยงอาชพี ซ่งึ ในปัจจุบันมอี าชีพ
มากมาย เชน่ การทานา การทาสวนการทาไร่ นกั แสดง นกั ธรุ กจิ

การพัฒนาตนเอง หมายถงึ การที่บคุ คลกาหนดวัตถุประสงคห์ รอื เป้าหมายในชีวติ ของตนเองไว้ล่วงหน้า
และหาวธิ พี ฒั นาการดาเนนิ ชวี ิตใหบ้ รรลุเป้าหมายทีว่ างไว้

การพัฒนาตนเองในงานอาชีพ หมายถึง การพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเองให้ดีขึน้ ทั้งร่างกาย
จติ ใจ อารมณ์ และสังคม เพ่อื ใหค้ นเปน็ สมาชกิ ทมี่ ปี ระสิทธิภาพของสังคม และเปน็ ประโยชนต์ ่อผูอ้ น่ื ตลอดจน
เพื่อการดารงชีวิตของตนเองอย่างมคี วามสขุ
ความสาคญั ของการพฒั นาตนเองในงานอาชีพ

ความสาคญั ของงานอาชีพ คอื ทาให้เกดิ รายได้ เพ่ือนามาเลีย้ งดคู รอบครวั ตนเอง และเพื่อให้มีกาลัง
ในการจับจ่ายใช้สอยปัจจัยที่จาเป็น งานอาชีพบางอาชีพ อาจก่อให้เกิดประโยชน์และได้ช่วยเหลือผู้คนท่ี
เดือดรอ้ นใหพ้ ้นทกุ ข์ เช่น งานเพื่อสงั คมตา่ งๆคะ่

มาตรฐานการเรียนรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ

กระบวนการการแกไ้ ขปัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรมและลักษณะ
นิสยั ในการทางาน มีจติ สานกึ ในการใช้พลงั งานทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมเพ่ือการดารงชีวิตในครอบครัว

ตัวชวี้ ดั (หรือผลการเรยี นรู้)
๑. วเิ คราะห์ข้ันตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทางานดว้ ยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาการทางานอยา่ งมเี หตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้

๑. ผเู้ รียนเข้าใจความหมายของงานอาชีพ
๒. ผู้เรยี นเข้าใจความสาคัญของงานอาชพี

ด้านทักษะ
๑. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายความหมายของงานอาชพี
๒. ผู้เรยี นสามารถอธบิ ายความสาคญั ของงานอาชีพ
๓. ผเู้ รียนบอกประเภทของงานบ้านได้ถูกตอ้ ง

ดา้ นคณุ ธรรม
๑. ผู้เรยี นมีส่วนรว่ ม มคี วามคิดสรา้ งสรรค์
๒. ผู้เรยี นมวี นิ ยั ใสใ่ จ และมีความรับผิดชอบ
๓. ผเู้ รยี นสามารถนาความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจาวัน
๔. ผู้เรียนมนี า้ ใจในการชว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกัน
๕. ผู้เรยี นมีความซ่อื สัตยแ์ ละตรงต่อเวลา

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ๕. อยู่อย่างพอเพยี ง
 ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ๖. มุง่ มน่ั ในการทางาน
 ๒. ซอื่ สัตย์สุจริต  ๗. รักความเปน็ ไทย
 ๓. มวี ินยั  ๘. มจี ติ สาธารณะ
 ๔. ใฝ่เรยี นรู้

เบญจวิถีกาญจนา
 ๑. เทิดทนู สถาบัน
 ๒. กตัญญู
 ๓. บคุ ลกิ ดี
 ๔. มวี นิ ยั
 ๕. ใหเ้ กยี รติ

สมรรถนะท่ีสาคญั ของผเู้ รียน
 ๑. ความสามารถในการสื่อสาร
 ๒. ความสามารถในการคิด
 ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เนน้ สู่การพฒั นาผู้เรยี นความสามารถและทกั ษะทีจ่ าเป็นในการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Csx๒Ls)
 R๑–Reading (อา่ นออก)
 R๒– (W)Riting(เขียนได)้
 R๓ – (A)Rithmetics(คดิ เลขเป็น)
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแก้ปัญหา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน
ทศั น์)
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็น
ทีมและภาวะผู้นา)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy ( ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ก า ร ส ื่ อ สาร
สารสนเทศและรู้เทา่ ทนั ส่ือ)
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสือ่ สาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้)
 C๘ – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)
 L๑ – Learning (ทักษะการเรียนร)ู้
 L๒ – Leadership (ทักษะความเปน็ ผู้นา)

การวดั และประเมินผล

ด้านความรู้ วิธีการวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์ที่ใช้
ภาระงาน/ชิน้ งาน
ประเมินผลจากใบ แบบประเมินผล ผ่านขนั้ ตา่ ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ ๖๐
ความรู้ (K)
๑. นกั เรียนสามารถ ความรู้ งานนักเรยี น
อธบิ ายความหมาย
ของงานบ้านไดอ้ ย่าง
ถกู ต้อง

ด้านทักษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ช้ินงาน วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์ที่ใช้

ทักษะกระบวนการ (P) -การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการ คะแนนตง้ั แต่ 4-9 ผ่าน

นักเรียนทาใบงานที่ -การตอบคาถาม ตอบคาถาม

คณุ ครูมอบหมายให้

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ภาระงาน/ชิน้ งาน วิธีการวัด เครือ่ งมือ เกณฑ์ที่ใช้
การสังเกตพฤตกิ รรม
ด้านคุณลักษณะอันพึง การสงั เกต รายบคุ คล นกั เรียนท่ไี ด้ระดบั
คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป ถือ
ประสงค์ (A) พฤตกิ รรม ว่า ผา่ น

นักเรียนอธิบายการวัดผล รายบุคคล

และประเมนิ ผลและเกณฑ์

การผ่านรายการงานได้

ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประเมนิ แบบประเมิน ผ่านขนั้ ตา่ ไมน่ อ้ ยกวา่
ประสงค์ตามหลักสูตร ร้อยละ ๖๐
แกนกลางการศกึ ษาขัน้ คุณลักษณะอนั พึง คุณลกั ษณะอันพงึ
พ้นื ฐาน พุทธศักราช ผา่ นขัน้ ต่าไม่น้อยกวา่
๒๕๕๑ ประสงค์ของผูเ้ รยี น ประสงค์ ร้อยละ ๖๐
ด้านสมรรถนะสาคัญของ
ผ้เู รยี น ประเมินสมรรถนะ แบบประเมนิ
สาคัญของผเู้ รียน สมรรถนะสาคญั ของ

ผู้เรียน

-ความสามารถในการ
ส่อื สาร
-ความสามารถในการคดิ
-ความสามารถในการใช้
ทักษะชวี ิต
-ความสามารถในการ
แกป้ ัญหา
-ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๑ ระบคุ าถาม

๑. ครูสุ่มถามนักเรียนในชั้นเรียนเรื่องงานอาชีพ เพื่อทดสอบความรู้เบื้องต้นของความรู้นักเรียน
กอ่ นท่จี ะสอนและใหค้ วามรู้

ขน้ั ท่ี ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครใู หค้ วามรู้นักเรียนในชั้นเรียนเรื่องความร้เู บอ้ื งตน้ ของงานอาชพี
๒. ครใู ห้ความรู้กบั นกั เรยี นเรอื่ งงานอาชพี

ขนั้ ท่ี ๓ สรา้ งความรแู้ ละสรุปความรู้
๑. ครูและนกั เรียนร่วมกันสนทนาความร้เู กย่ี วกับความสาคญั ของงานอาชพี
๒. ครูอธบิ ายความรู้เบื้องตน้ ของงานอาชีพ

ข้นั ท่ี ๔ สอื่ สารและนาเสนอ
๑. ครนู าเสนอและถ่ายทอดความรู้ทางดา้ น Google meet
๒. ครูส่มุ ถามผู้เรียนเรอื่ งประเภทของงานอาชีพอะไรบา้ ง

ขน้ั ท่ี ๕ ประเมินและบริการสงั คม
๑. ครปู ระเมินผลการเรยี นรูข้ องนักเรียน ด้วยวธิ ีการตั้งคาถาม เพ่ือทดสอบความรแู้ ละความเขา้ ใจของ
นักเรยี น
๒. ครแู นะนาวธิ กี ารทางานท่จี าเปน็ ต่อการดารงชีวิตในประจาวนั ของนกั เรียน เพื่อให้นักเรียนรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรู้ให้กับสมาชิกในครอบ
และชุมชนทนี่ ักเรยี นอาศยั อยู่

สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
ส่ือวัสดุอุปกรณ์

๑. หนังสือเรียน รายวิชาพืน้ ฐานการงานอาชพี ม.๑
๒. เวบ็ ไซต์การงานอาชีพตา่ งๆ
๓. สอ่ื ส่ิงพมิ พ์ เชน่ วารสาร นิตยสาร แผน่ พับเผยแพรค่ วามรู้
แหลง่ เรียนรู้
๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น

สรปุ ผลการจัดการเรยี นรู้ ชว่ งคะแนน
ดา้ นความรู้ ๑๐

กลุ่มผ้เู รียน ๕
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ช่วงคะแนน
กลุม่ ผเู้ รยี น ๑๐
ดี ๗
ปานกลาง ๕
ปรบั ปรงุ

ด้านคุณลกั ษะอนั พึงประสงค์ ช่วงระดับคณุ ภาพ
กลุ่มผู้เรยี น ๓
ดี ๒
ปานกลาง ๑-๐
ปรับปรุง

บนั ทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ปัญหาทพี่ บระหว่างหรือหลังจดั กจิ กรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงชอ่ื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองน้ยุ )
ครูผู้สอน

ความคดิ เห็นของหวั หน้าหมวดวชิ าการงานอาชีพ
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนุ้ย )

หวั หน้าหมวดวชิ าการงานอาชีพ

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑๗

รายวิชาการงานอาชพี รหสั วิชา ง๒๑๑๐๒ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๖ เวลา ๓ ชัว่ โมง

เร่ือง…ความสาคัญของการประกอบอาชพี เวลา ๑ ช่ัวโมง

ผูส้ อน นางสาวสมุ นา ทองน้ยุ โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุราษฎรธ์ านี

แนวคดิ สาคัญ (สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด)
ลักษณะของงานประดิษฐ์ สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ
ความสาคัญของการประกอบอาชพี

1. ทาให้มีรายได้ประจาเลยี้ งตนเองและครอบครวั โดยซือ้ หรอื จดั หาสิง่ จาเปน็ สาหรับการดารงชีวิต
2. ทาใหม้ โี อกาศใชค้ วามรคู้ วามสามารถทมี่ อี ยู่ทางานให้เปน็ ประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาติ
3. ทาใหม้ ีโอกาศสรา้ งชือ่ เสียงให้แกต่ นเองและวงศ์ตระกูล เปน็ ทีย่ อมรับของบุคคลในสังคม
4 ทาให้มีหลักฐานมั่นคง เปน็ ท่เี คารพนบั ถือของบุคคลอนื่ ๆ
5. ทาให้รู้จักใช้เวลาว่าใหเ้ ป็นประโยชน์ จะได้ไมป่ ระพฤติตนไร้สาระ
6. ทาให้บคึ คลเกิดความภาคภมู ิใจในตนเอง ท่สี ามารถพง่ึ ตนเองได้ และยงั ทาประโยชนแ์ ก่สงั คมโดย
สว่ นร่วมด้วย
คุณธรรม จรยิ ธรรมในการทางาน
คณุ ธรรม หมายถึง สภาพคุณงานมความดแี ละความถูกต้องในการแสดงออกท้งั กาย วาจา และใจ
ของแตล่ ะบคุ คลซง่ึ ยดึ มัน่ ไวเ้ ปน็ หลักในการประพฤตปิ ฏิบตั ิจนเกดิ เป็นนิสัย
จรยิ ธรรม หมายถงึ กฎเกณฑ์ท่ีเปน็ แนวทางในการประพฤติปฏบิ ตั ิตนในสิ่งทดี่ ีงาม เหมาะสม และ
เปน็ ที่นยิ มชมชอบหรอื ยอมรบั จากสังคม เพื่อความสนั ติสุขแห่งตนเองและความสงบเรียบรอ้ ยของสังคม
จรรยาบรรณวชิ าชีพ
จรรยาบรรณเกดิ ขน้ึ เพือ่ มงุ่ ให้คนในวิชาชพี มีประสิทธภิ าพ ให้เปน็ คนดีในการบริการวิชาชีพ ให้คนใน
วชิ าชพี มเี กยี รติศกั ดิ์ศรที ม่ี กี ฎเกณฑม์ าตรฐานจรรยาบรรณ
จรรยาบรรณ มีความสาคญั และจาเป็นตอ่ ทกุ อาชีพ ทุกสถาบนั และหนว่ ยงาน เพราะเป็นท่ยี ึด
เหนย่ี วควบคุมการประพฤติ ปฏิบัตดิ ้วยความดีงาม

มาตรฐานการเรยี นรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ

กระบวนการการแก้ไขปญั หา ทกั ษะการทางานร่วมกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรมและลักษณะ
นิสัยในการทางาน มจี ติ สานกึ ในการใชพ้ ลังงานทรัพยากร และสงิ่ แวดล้อมเพื่อการดารงชีวติ ในครอบครวั

ตัวช้วี ัด(หรอื ผลการเรยี นร้)ู

๑. วเิ คราะห์ขัน้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)

๒. ใช้กระบวนการกลุม่ ในการทางานด้วยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)

๓. ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาการทางานอย่างมีเหตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้

๑. ผ้เู รยี นเข้าใจความสาคญั ของการประกอบอาชีพ

๒. ผ้เู รียนเขา้ ใจคุณธรรม จรยิ ธรรมในการทางาน

๓. ผู้เรยี นเข้าใจจรรยาบรรณวิชาชพี

ด้านทักษะ

๑. ผู้เรียนสามารถอธบิ ายความสาคัญของการประกอบอาชพี

๒. ผู้เรียนสามารถอธิบายคุณธรรม จรยิ ธรรมในการทางาน

๓. ผเู้ รียนสามารถอธิบายจรรยาบรรณวชิ าชพี

ดา้ นคณุ ธรรม

๑. ผู้เรยี นมสี ่วนรว่ ม มีความคดิ สรา้ งสรรค์

๒. ผู้เรยี นมวี ินัย ใสใ่ จ และมคี วามรับผิดชอบ

๓. ผู้เรียนสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน

๔. ผเู้ รียนมีนา้ ใจในการช่วยเหลือซงึ่ กนั และกัน

๕. ผ้เู รียนมีความซ่อื สัตยแ์ ละตรงตอ่ เวลา

ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

 ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ๕. อย่อู ย่างพอเพยี ง

 ๒. ซ่อื สัตย์สุจรติ  ๖. ม่งุ ม่ันในการทางาน

 ๓. มีวนิ ยั  ๗. รักความเป็นไทย

 ๔. ใฝเ่ รียนรู้  ๘. มจี ิตสาธารณะ

เบญจวิถีกาญจนา

 ๑. เทิดทนู สถาบัน

 ๒. กตญั ญู

 ๓. บุคลิกดี

 ๔. มวี ินยั
 ๕. ให้เกยี รติ
สมรรถนะทส่ี าคญั ของผู้เรียน
 ๑. ความสามารถในการสื่อสาร
 ๒. ความสามารถในการคดิ
 ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาผู้เรียนความสามารถและทักษะที่จาเป็นในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ (๓Rs๘Csx2Ls)
 R๑–Reading (อา่ นออก)
 R๒– (W) Riting (เขยี นได้)
 R๓ – (A) Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทักษะในการแกป้ ญั หา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน
ทศั น์)
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็น
ทมี และภาวะผนู้ า)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy ( ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ก า ร ส ื่ อ สาร
สารสนเทศและรู้เท่าทนั สือ่ )
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรียนร้)ู
 C๘ – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L๑ – Learning (ทกั ษะการเรยี นร)ู้
 L๒ – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผ้นู า)

การวดั และประเมินผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑท์ ่ีใช้

ความรู้ (K) ประเมินผลการตอบ แบบประเมินผล ผา่ นขนั้ ตา่ ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๖๐

๑. นกั เรยี นสามารถ ค าถามในชั้นเรียน งานนักเรียน

อธิบายความสาคญั และในชิ้นงานที่ได้

ของการประกอบ มอบหมาย

อาชพี

๒. นกั เรียนสามารถ

อธบิ ายคณุ ธรรม

จริยธรรมในการ

ทางาน

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วิธกี ารวัด เครื่องมอื เกณฑท์ ่ีใช้

ทักษะกระบวนการ (P) -การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการตอบ คะแนนต้งั แต่ 4-9 ผ่าน

นกั เรียนทาใบงานท่ี -การตอบคาถาม คาถาม

คณุ ครมู อบหมายให้ได้

อย่างถกู ตอ้ ง

ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธีการวดั เครือ่ งมือ เกณฑ์ทีใ่ ช้
นักเรียนที่ได้ระดับคณุ ภาพ
ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ การสังเกตพฤติกรรม การสังเกตพฤตกิ รรม พอใชข้ น้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น

ประสงค์ (A) รายบคุ คล รายบุคคล ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย
ละ ๖๐
นักเรยี นอธบิ ายการ

วัดผล และประเมินผล

และเกณฑ์การผา่ น

รายวชิ าน้ีได้

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึง ประเมินคุณลักษณะ แบบประเมนิ

ประสงค์ตามหลักสตู ร อันพึงประสงค์ของ คณุ ลักษณะอนั พงึ

แกนกลางการศกึ ษาขั้น ผู้เรยี น ประสงค์

พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช

๒๕๕๑

ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของ ประเมินสมรรถนะ แบบประเมนิ ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย
ละ ๖๐
ผู้เรียน สาคญั ของผเู้ รียน สมรรถนะสาคัญของ

-ความสามารถในการ ผู้เรยี น

สอ่ื สาร

-ความสามารถในการคดิ

-ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชวี ิต

-ความสามารถในการ

แก้ปญั หา

-ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันท่ี ๑ ระบคุ าถาม

๑. ครูใหน้ กั เรยี นตอบคาถามว่าความหมายของคาว่างานอาชพี หมายถึงอะไร (ทบทวนบทเรียน)
๒. ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นในประเดน็ คาถามวา่ ความสาคญั ของการประกอบอาชีพมะ
ไรบ้าง

ข้นั ท่ี ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครใู ห้นักเรียนนาคาถาม ท่ีครูได้ตัง้ คาถามไว้ มารว่ มกนั สนทนา
๒. ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาความรใู้ นเร่อื งความสาคัญของการประกอบอาชีพ

ขน้ั ท่ี ๓ สร้างความรู้และสรุปความรู้
๑. ครูอธบิ ายความรู้เร่ืองความสาคญั ของการประกอบอาชพี
๒. ครผู สู้ อนอธิบายคณุ คา่ คุณธรรม จรยิ ธรรมในการทางาน
๓. ครผู ็สอนอธิบายความรเู้ รื่องจรรยาบรรณวิชาชพี
๓. ครูสุ่มถามนักเรียนในช้ันเรียนว่าการประกอบอาชพี มีความสาคญั อย่างไรกบั ชวี ิตคนเรา

ขน้ั ท่ี ๔ สือ่ สารและนาเสนอ
๑. ครสู ุม่ ให้นกั เรียน ๒-๓ คน เพือ่ ให้ออกมาตามความเขา้ ใจเรอื่ งความสาคัญของการประกอบอาชีพ
๒. ครอู ธบิ ายความรู้เพิ่มเติมเรื่องงานอาชีพในส่วนท่ีถกู ต้อง และเปิดโอกาสให้นกั เรยี นรว่ มกันสรุปเป็น
ความรู้ในเร่ืองความสาคญั ของงานอาชีพวา่ มอี ะไรบ้าง

ขั้นที่ ๕ ประเมนิ และบริการสังคม
๑. ครปู ระเมนิ ผลการเรียนรู้ของนกั เรียน ดว้ ยวิธกี ารตงั้ คาถาม เพอ่ื ทดสอบความรู้และความเข้าใจของ
นกั เรยี น
๒. ครแู นะนาวิธีการทางานทจี่ าเปน็ ต่อการดารงชวี ิตในประจาวนั ของนกั เรยี น เพ่อื ให้นกั เรยี นรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรูใ้ ห้กับสมาชิกในครอบ
และชมุ ชนท่ีนักเรียนอาศยั อยู่

สื่อ/แหล่งเรียนรู้

ส่ือวสั ดอุ ุปกรณ์

๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐานการงานอาชีพ ม.๑
๒. เว็บไซต์การงานอาชพี ตา่ งๆ
๓. สอื่ สงิ่ พมิ พ์ เชน่ วารสาร นติ ยสาร แผน่ พับเผยแพรค่ วามรู้
แหลง่ เรียนรู้

๑. ห้องสมุดโรงเรียน

สรุปผลการจดั การเรียนรู้

ดา้ นความรู้

กลมุ่ ผ้เู รียน ชว่ งคะแนน

ดี ๑๐

ปานกลาง ๗

ปรับปรุง ๕

ด้านทักษะ/กระบวนการ

กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน

ดี ๑๐

ปานกลาง ๗

ปรับปรุง ๕

ด้านคณุ ลกั ษะอนั พงึ ประสงค์

กลุ่มผู้เรียน ชว่ งระดบั คณุ ภาพ

ดี ๓

ปานกลาง ๒

ปรบั ปรงุ ๑-๐

บนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ปญั หาท่พี บระหวา่ งหรือหลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนยุ้ )
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ ของหวั หน้าหมวดวชิ าการงานอาชีพ
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนยุ้ )

หัวหนา้ หมวดวชิ าการงานอาชีพ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๘

รายวชิ าการงานอาชพี รหสั วชิ า ง๒๑๑๐๒ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เวลา ๓ ชว่ั โมง

เรอื่ ง…งานประดษิ ฐ์ดอกกหุ ลาบจากใบเตย เวลา ๑ ช่วั โมง

ผ้สู อน นางสาวสุมนา ทองนยุ้ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สุราษฎรธ์ านี

แนวคดิ สาคัญ (สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด)
อาชพี ทม่ี คี วามมัน่ คงในชวี ิต

สาระสาคัญ หากเปรยี บเสาเข็มเป็นรากฐานของตึกสงู ความรู้ทไี่ ดร้ บั จากการศึกษา กค็ ือ พ้นื ฐานที่
จะนาไปใช้ในการประกอบอาชพี สร้างรายไดแ้ ละจัดหาปัจจัย 4 อนั เปน็ สงิ่ จาเปน็ ในการดารงชีวิตอยอู่ ยา่ ง
มั่นคง ในการเลือกประกอบอาชพี นัน้ ควรพจิ ารณาจากความถนดั ความสนใจ ความกา้ วหน้าในอาชีพ เปน็
อาชพี ท่สี ุจรติ ถูกต้องตามกฎหมาย และควรเป็นงานทท่ี าแล้วมีความสขุ ไดร้ บั คา่ ตอบแทนท่เี พยี งพอกับการ
ดาเนนิ ชีวิต และเล้ยี งครอบครวั ไดอ้ ย่างเพยี งพอ หากทุกคนเลือกอาชีพท่มี ความมัน่ คงต่อชีวิต สงั คมก็จะมี
ความเป็นอย่ทู ี่ดี เศรษฐกิจกจ็ ะเจริญกา้ วหน้าตามไปดว้ ย

ลกั ษณะอาชีพ
อาชีพ จาเป็ นต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะดา้ นเรียกว่า วิชาชีพ เช่น วิศวกร แพทย์ พยาบาล

ทนายความ อาชีพท่ีถูกกฎหมายและศีลธรรม เรียกว่า สัมมาชีพ เช่น คา้ ขาย ส่วนบางอาชีพท่ีผิดกฎหมาย
เรียกว่า มิจฉาชีพ เช่น โจร อาชีพอาจมีรายไดแ้ ตกตา่ งกนั ไป ลกั ษณะอาชีพท่ีเป็นลูกจา้ งจะไดค้ ่าตอบแทน
ในรูปแบบเงินเดือน อาชีพคา้ ขายหรือประกอบกิจการส่วนตวั จะไดค้ า่ ตอบแทนในรูปแบบ กาไร

มาตรฐานการเรียนรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ

กระบวนการการแก้ไขปญั หา ทกั ษะการทางานรว่ มกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรมและลักษณะ
นสิ ยั ในการทางาน มีจิตสานกึ ในการใชพ้ ลังงานทรพั ยากร และสิ่งแวดลอ้ มเพือ่ การดารงชีวติ ในครอบครวั

ตัวชวี้ ดั (หรือผลการเรยี นรู้)
๑. วิเคราะห์ขัน้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางานดว้ ยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาการทางานอยา่ งมีเหตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้

๑. ผู้เรียนเข้าใจความสาคญั อาชพี ท่มี ีความม่ันคงในชวี ิต
๒. ผเู้ รยี นเข้าใจลกั ษณะอาชีพ
๓. ผเู้ รยี นเข้าใจจรรยาบรรณวชิ าชีพ
ดา้ นทกั ษะ
๑. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายความสาคัญของการประกอบอาชพี
๒. ผเู้ รียนสามารถอธบิ ายคุณธรรม จรยิ ธรรมในการทางาน
๓. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายจรรยาบรรณวชิ าชีพ
ดา้ นคุณธรรม
๑. ผู้เรยี นมีสว่ นร่วม มคี วามคิดสร้างสรรค์
๒. ผเู้ รยี นมีวนิ ัย ใสใ่ จ และมีความรบั ผิดชอบ
๓. ผเู้ รียนสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั
๔. ผู้เรียนมีน้าใจในการช่วยเหลือซงึ่ กันและกัน
๕. ผเู้ รยี นมคี วามซอ่ื สตั ยแ์ ละตรงต่อเวลา

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์  ๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง
 ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ๖. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
 ๒. ซือ่ สตั ย์สุจรติ  ๗. รักความเปน็ ไทย
 ๓. มวี นิ ยั  ๘. มจี ติ สาธารณะ
 ๔. ใฝ่เรียนรู้

เบญจวถิ กี าญจนา
 ๑. เทดิ ทูนสถาบัน
 ๒. กตัญญู
 ๓. บคุ ลกิ ดี
 ๔. มีวนิ ยั
 ๕. ใหเ้ กยี รติ

สมรรถนะทสี่ าคัญของผ้เู รียน
 ๑. ความสามารถในการส่อื สาร
 ๒. ความสามารถในการคดิ
 ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เนน้ สกู่ ารพัฒนาผเู้ รียนความสามารถและทกั ษะที่จาเป็นในการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี ๒๑ (๓Rs๘Csx2Ls)
 R๑–Reading (อ่านออก)
 R๒– (W)Riting(เขยี นได)้
 R๓ – (A)Rithmetics(คดิ เลขเป็น)
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทักษะในการแกป้ ญั หา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน
ทศั น์)
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็น
ทีมและภาวะผนู้ า)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy ( ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ก า ร ส ื่ อ สาร
สารสนเทศและร้เู ทา่ ทันส่อื )
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู)้
 C๘ – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L๑ – Learning (ทกั ษะการเรยี นร้)ู
 L๒ – Leadership (ทักษะความเปน็ ผนู้ า)

การวัดและประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมือ เกณฑท์ ใี่ ช้

ความรู้ (K) ประเมนิ ผลงานจริง แบบประเมินผล ผา่ นขนั้ ต่าไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐

๑. นักเรียนสามารถ งานนักเรยี น

อธิบายความหมาย

งานอาชพี ได้

๒. นักเรียนสามารถ

อธิบายนาความรู้ที่ได้

ใ น ช ั ้ น เ ร ี ย น ไ ด ้ ใ ช้

ประโยชนไ์ ดจ้ ริง

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์ทใ่ี ช้

ทักษะกระบวนการ (P) แบบสังเกตการตอบ คะแนนต้งั แต่ 4-9 ผ่าน

นักเรียนอธิบายหน้าช้ัน คาถาม

เรยี นเรอ่ื งงานอาชพี

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วธิ กี ารวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์ที่ใช้

ด้านคุณลักษณะอันพึง การสงั เกตพฤติกรรม การสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนทีไ่ ด้ระดับคณุ ภาพ

ประสงค์ (A) รายบคุ คล รายบคุ คล พอใชข้ น้ึ ไป ถอื ว่า ผา่ น

นักเรียนอธิบายการ

วัดผล และประเมินผล

และเกณฑ์การผ่านการ

เรียนรู้ได้

ด้านคุณลักษณะอันพึง ประเมินคุณลักษณะ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย

ประสงค์ตามหลักสูตร อันพึงประสงค์ของ คุณลัก ษณะ อ ัน พึ ง ละ ๖๐

แกนกลางการศึกษาขั้น ผูเ้ รียน ประสงค์

พื้นฐาน พุทธศักราช

๒๕๕๑

ดา้ นสมรรถนะสาคัญของ ประเมินสมรรถนะ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย

ผ้เู รยี น สาคัญของผ้เู รียน สมรรถนะสาคัญของ ละ ๖๐

ผเู้ รยี น

-ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร
สื่อสาร
-ความสามารถในการคดิ
-ความสามารถในการใช้
ทกั ษะชวี ติ
-ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร
แกป้ ัญหา
-ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันท่ี ๑ ระบุคาถาม

๑. ครูใหน้ กั เรียนยกตัวอย่างวา่ ใบเตยใชป้ ระดิษฐ์อะไรไดบ้ า้ งนอกจากดอกกหุ ลาบ

ขน้ั ที่ ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครูใหน้ ักเรียนนาคาถาม ทค่ี รไู ดต้ ง้ั คาถามไว้ มารว่ มกนั สนทนา
๒. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาความรใู้ นเร่ืองประโยชนจ์ ากใบเตย

ข้ันท่ี ๓ สร้างความรแู้ ละสรปุ ความรู้
๑. ครูไดส้ อนข้ันตอนการปฎบิ ัติดอกกหุ ลาบจากใบเตยทีล่ ะขน้ั ตอน
๒. ครูอธิบายขั้นตอนการปฎิบัตดิ อกกุหลาบจากใบเตยทบทวนอีกรอบเพ่ือให้ผูเ้ รยี นได้ความรู้ทุกคน
๓. ครไู ดบ้ อกประโยชน์ของการปฎบิ ัตดิ อกกุหลาบจากใบเตย
๔. ครอู ธบิ ายคุณครขู องดอกกุหลาบจากใบเตย

ข้นั ท่ี ๔ สือ่ สารและนาเสนอ
๑. ครสู มุ่ ใหน้ ักเรียน ๒-๓ คน เพอื่ บอกประโยชนข์ องผลงานช้นิ นี้
๒. ครูอธบิ ายความรเู้ พม่ิ เติมในส่วนทีถ่ กู ตอ้ ง และเปดิ โอกาสให้นักเรยี นร่วมกนั สรุปเปน็ ความรู้ในเรื่อง
ดอกกหุ ลาบจากใบเตย

สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้
ส่อื วัสดุอุปกรณ์

๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพื้นฐานการงานอาชีพ ม.๑
๒. เวบ็ ไซตก์ ารงานอาชีพตา่ งๆ
๓. สอ่ื สงิ่ พมิ พ์ เช่น วารสาร นติ ยสาร แผน่ พบั เผยแพรค่ วามรู้

แหลง่ เรียนรู้ ชว่ งคะแนน
๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๑๐

สรุปผลการจดั การเรยี นรู้ ๕
ดา้ นความรู้

กลุม่ ผเู้ รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน
กลุ่มผู้เรียน ๑๐
ดี ๗
ปานกลาง ๕
ปรับปรุง

ดา้ นคณุ ลกั ษะอนั พึงประสงค์ ช่วงระดับคณุ ภาพ
กลมุ่ ผู้เรยี น ๓
ดี ๒
ปานกลาง ๑-๐
ปรับปรุง

บนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………......

ปญั หาทพ่ี บระหวา่ งหรอื หลังจดั กจิ กรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองนยุ้ )
ครูผู้สอน

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ หมวดวชิ าการงานอาชพี
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนุ้ย )

หัวหน้าหมวดวิชาการงานอาชพี

โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวิทยาลัย สุราษฎรธ์ านี
สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาสรุ าษฎร์ธานี ชมุ พร


Click to View FlipBook Version