The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ศรัณยู พรมใจสา, 2022-01-19 20:28:28

12.งานร้อยมาลัย

10.งานร้อยมาลัย

ครศู รณั ยู

พบุรุษของไทยเรามีชื่อเสียงในงาน ประวตั ิ

ด้านศิลปะการประดิษฐ์ อย่างมากมาย ความเปน็ มา
โ ด ย เ ฉ พ า ะ ก า ร ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ ต ก แ ต่ ง
พวงดอกไม้ ใบไม้ ผลไม้ และวัสดุอ่ืน ๆ เกย่ี วกับมาลยั
เ ป็ น ท่ี ขึ้ น ช่ื อ ม า น า น แ ต่ โ บ ร า ณ ก า ล
แต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าได้มีการเร่ิมต้น
มาแตใ่ นสมยั ใดแน่

ต่อมา

พระสนมเอก ในสมยั สุโขทัย

คือ ทา้ วศรจี ฬุ าลกั ษณ์ หรือนางนพมาศ เป็นธานี

เป็นผู้ที่มีความสามารถในงานด้านฝีมือในการประดิษฐ์ ดอกไม้สด
เป็นเลิศในสมัยนั้นตามหลักฐานที่อ้างถึงในพระ ราชนิพนธ์เรื่องพระ
ราชพิธี 12 เดือน ตอนหนึ่งที่ กล่าวถึง ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้คิด
ตกแต่งโคมลอยให้ งดงามวิจิตรกว่าโคมของพระสนมอื่นท้ังปวง
โดยการนําเอาดอกไม้ต่าง ๆ มาประดิษฐ์ตกแต่ง และยังได้เอาผลไม้
มาทําการแกะสลักตกแต่งประกอบไปด้วย แต่ก็มิได้มีการอ้างถึงว่า
ในการตกแตง่ ครั้งน้ันมกี ารร้อยมาลยั มา ประดับตกแต่งดว้ ยหรอื ไม่

หลกั ฐาน ในเดือนเมษายนมีพระราชพิธีสนามใหญ่ บรรดาเจ้าเมือง
เศรษฐี คหบดี เข้าเฝ้าถวายบังคม สมเด็จพระร่วงเจ้า
อา้ งถึง เพ่ือถวายเครื่องราชบรรณาการ พระสนมกํา นัลต่าง ๆ
ก็ร้อยกรองดอกไม้เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ใส่เม่ียงหมากถวาย
ตอนหนึ่ง ใหส้ มเด็จพระเจา้ อยู่หวั พระราชทานแกผ่ ูม้ าเฝา้

ในครั้งน้ันนางนพมาศก็ร้อยดอกไม้สีเหลืองเป็นรูปพานทองสองชั้นรองขัน
มีระย้าระบายงดงามในขั้นใส่เมี่ยงหมาก แล้วร้อยดอกไม้เป็นอาข่ายคลุมข้ึนอีกที
เป็นท่ีเจริญผาและถูกกาละเทศะอีก สมเด็จพระร่วงเจ้าจึงทรงบัญญั ติว่า
ถ้าชาวไทยทําการรบั แขกเป็นการสนามใหญ่ มีการอาวาหมงคล หรือ วิวาหมงคล

ให้รอ้ ยกรองดอกไมเ้ ป็นรูปพานขันหมาก ดงั น้ี และใหเ้ รยี กว่า พานขนั หมาก

ในสมัยรัตนโกสินทร์ทุกรัชกาล งานฝีมือ
ดา้ นการประดิษฐ์ดอกไม้ ก็เป็นท่ขี ึน้ ชอื่ ลอื ชามาก
และก็เป็นที่นิยม ประดิษฐ์ในงานต่าง ๆ
แทบทกุ งาน โดยเฉพาะงานพธิ ตี า่ ง ๆ

ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระราชนิยมการทําดอกไม้ของไทย
เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะมีงานราชพิธีใด ๆ เจ้านายฝ่ายใน
ต้องประกวดกันจัดแต่งดอกไม้มาถวายให้ทรงใช้ในงานน้ัน ๆ
พระมเหสีเทวีทุกตําหนักใฝ่พระทัยในการจัดแต่งดอกไม้
ไปตาม ๆ กัน แตล่ ะพระองคก์ ็มีช่อื เสียงในทางต่าง ๆ กัน

สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
พระพันปีหลวง

ให้ฝึกหัดอบรมข้าหลวงและครูโรงเรียนราชินีให้รู้จักกัน
ทําดอกไม้แห้งเลียนแบบดอกไม้สด ทรงส่งเสริม ฟื้นฟู
การทําดอกไมเ้ ปน็ อันมาก

ซึ่งแต่เดิมมาไทยนิยมร้อยมาลัยด้วย ดอกมะลิ
และเป็นมาลัยสีขาวกลมธรรมดาเท่านั้น และพลิกแพลงต่างกัน
ไปบ้าง กเ็ ป็นมาลัยเกลยี ว คือ มลี วดลายเป็นเกลยี วขึ้นไป

ค ง เ น่ื อ ง ม า แ ต่ ไ ม่ มี ก า ร จ ด บั น ทึ ก เ ป็ น ล า ย ลั ก ษ ณ์ อั ก ษ ร ไ ว้ นั่ น เ อ ง
จึงไม่มีหลักฐานใด ๆ ให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบค้น ต่อมาในสมัยสุโขทัยเป็น
ราชธานีแต่ครั้งสมัยพระเจ้าอรุณมหาราช คือพระร่วงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
มีพระสนมเอก คือท้าว ศรีจุฬาลักษณ์ หรือนางนพมาศ ซ่ึงเป็นผู้ที่มี
ความสามารถในงานด้านฝีมือในการประดิษฐ์ดอกไม้สดเป็นเลิศ ในสมัยนั้น
ตามหลักฐานท่ีอ้างถึงในพระราชนิพนธ์เร่ืองพระราชพิธี 12 เดือน ตอนหน่ึง
ที่กล่าวถึงท้าวศรีจุฬาลักษณ์ได้คิดตกแต่งโคมลอยให้งดงามวิจิตรกว่าโคม
ของพระสนมอื่นทั้งปวง โดยการนําเอาดอกไม้ต่าง ๆ มาประดิษฐ์ตกแต่ง
และยังได้เอาผลไม้มาทําการแกะสลักตกแต่งประกอบไปด้วย แต่ก็มิได้มีการ
อ้างถึงว่าในการตกแต่งครง้ั นั้นมีการร้อยมาลัยมาประดับตกแตง่ ด้วยหรอื ไม่

และในหลกั ฐานทอ่ี ้างถงึ ตอนหนึง่ ว่า ในเดือนเมษายนมพี ระราชพิธีสนามใหญ่
บรรดาเจ้าเมือง เศรษฐี คหบดีเข้าเฝ้าถวายบังคมสมเด็จพระร่วงเจ้าเพ่ือ
ถวายเคร่ืองราชบรรณาการ พระสนมกํานัลต่าง ๆ ก็ร้อยกรองดอกไม้เป็น
รูปสัตว์ต่าง ๆ ใส่เม่ียงหมากถวายให้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน
แก่ผู้มาเฝ้าและในคร้ังนั้นนางนพมาศก็ร้อยดอกไม้สีเหลืองเป็นรูปพานทอง
สองช้ันรองขัน มีระย้าระบายงดงามในขันใส่เม่ียงหมาก แล้วร้อยดอกไม้
เป็นตาข่ายคลุมขันอีกทีหนึ่งดูเป็นท่ีเ จริญตาและถูก กาลเทศ ะอีก
สมเดจ็ พระร่วงเจ้าจงึ ทรงบัญญัตวิ ่าถา้ ชาวไทยทําการรับแขกเป็นการสนามใหญ่
มีการอาวาห มงคล หรือวิวาหมงคลเป็นต้น ให้ร้อยกรองดอกไม้เป็นรูปพาน
ขันหมากดงั น้ี และใหเ้ รียกว่า “พานขนั หมาก”

ในสมัยรัตนโกสนิ ทรท์ กุ รัชกาล งานฝมี อื ดา้ นการประดิษฐ์ดอกไม้ก็เป็นท่ีข้ึนช่ือ
ลือชามาก และก็เป็นท่ีนิยม ประดิษฐ์ในงานต่าง ๆ แทบทุกงาน
โดยเฉพาะงานพิธีต่าง ๆ ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระราชนิยมการทําดอกไม้
ของไทยเป็นอย่างย่ิง ไม่ว่าจะมีงานพระราชพิธีใด ๆ เจ้านายฝ่ายใน
ต้องประกวดกันจัดแต่งดอกไม้มาถวายให้ทรงใช้ใน งานนั้น ๆ เสมอ
พระมเหสีเทวีทุกตําหนักใฝ่พระทัยในการจัดแต่งดอกไม้ไปตาม ๆ กัน
แต่ละพระองค์ก็มีชื่อเสียงใน ทางต่าง ๆ กัน สมเด็จพระศรีพัชรินทรา
บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ พ ร ะ พั น ปี ห ล ว ง ค รั้ ง ยั ง ดํ า ร ง พ ร ะ อิ ส ริ ย ย ศ เ ป็ น
พระบรมราชินีนาถโปรดเกล้าฯ ให้ฝึกหัดอบรมข้าหลวงและครูโรงเรียนราชินี
ใหร้ ้จู กั ทาํ ดอกไมแ้ หง้ เลยี นแบบดอกไมส้ ดด้วย

ทรงส่งเสริมฟื้นฟูการทําดอกไม้เป็นอันมาก พระองค์เองก็ทรงใช้เวลาว่าง
ประดิษฐ์ดัดแปลงการทําดอกไม้แบบเก่าให้ แปลกพิสดารออกไปอีก
มพี ระนามเลอ่ื งลือในการร้อยพวงมาลัย ซ่ึงแต่เดิมมาไทยนิยมร้อยมาลัยด้วย
ดอกมะลิ และ เป็นมาลยั สขี าวกลมธรรมดาเทา่ นนั้ และท่พี ลิกแพลงตา่ งกันไป
บา้ งกเ็ ปน็ มาลัยเกลยี ว คอื มลี วดลายเป็นเกลยี วข้นึ ไป

สมเดจ็ พระพนั ปีหลวงได้ทรงคิดร้อยมาลัยด้วยดอกไม้ต่าง ๆ และใช้ใบไม้แทรก
ทําให้มีลวดลายและสีต่าง ๆ กันอย่างงดงาม และพลิกแพลงทํารูปต่าง ๆ
กันด้วยและในงานพระศพสมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา ซึ่งเป็นพระ
มารดาของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวงและสมเด็จ
พระศรีสวรินทราบรมราช เทวีพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าพระองค์นี้
พระศพประดิษฐานอยู่ ณ วังสะพานถ่าน (คือ ท่ีตลาดบําเพ็ญบุญเวลานี้)
สมเด็จพระพันปีหลวงมีพระราชเสาวนีย์ดํารัสให้ท้าววร คณานันท์
(ม.ร.ว.ป้ัม มาลากุล) จัดทํามาลัยไปประดับ พระศพ เช่น ตกแต่งตามฉัตรรัด
พระโกษและแขวนตามประตู หน้าต่างตามประเพณีงานใหญ่ ๆ ของเจ้านาย
ตลอดงานน้ี มาลัยทีต่ กแตง่ เปล่ยี นสี เปลย่ี นรูป เปลีย่ นแบบเร่อื ย ๆ มา

จึงนบั ไดว้ า่ ตงั้ แต่บดั นนั้ การร้อยมาลยั ได้มกี ารวิวัฒนาการ กา้ วหน้ากว่าเดิมเป็น
ตน้ มาหลายแบบ และในระหวา่ งน้นั ทา่ นเจ้าคุณประยรู วงศ์ก็ได้จัดทํามาลัยครุย
ข้ึนมา ท้าว วรคณานันท์ เป็นผู้มีช่ือเสียงว่าเป็นเจ้าของมาลัยงามหลายแบบ
และความรคู้ วามชํานาญในเร่ืองร้อยมาลยั นก้ี ็ได้สืบ ต่อมาจนถึง ม.ล.ป้อง มาลา
กุล ผู้ซ่ึงมีความสามารถในเร่ืองการทําดอกไม้สด และดอกไม้แห้งเป็นอย่างยิ่ง
การนานา มาลัย หมายถึง ดอกไม้ประดิษฐ์แบบไทยลักษณะหน่ึง โดยการนํา
ดอกไม้ กลีบดอกไม้ ใบไม้ และส่วน ต่าง ๆ ของดอกไม้ท่ีร้อยได้
มาร้อยเป็นพวง มีลักษณะต่าง ๆ กันมากมายหลายแบบ ต้ังแต่แบบด่ังเดิม
จนถึงแบบสมยั ใหม่ ซงึ่ ก็ดดั แปลงมาจากแบบด่ังเดิมน่นั เอง

มาลัย

หมายถึง ดอกไม้ประดิษฐ์แบบไทย
ลั ก ษ ณ ะ ห น่ึ ง โ ด ย ก า ร นํ า ด อ ก ไ ม้
กลีบดอกไม้ ใบไม้ และส่วนต่าง ๆ
ของดอกไม้ท่ีร้อยได้ มาร้อยเป็นพวง
มีลักษณะต่าง ๆ กันมากมายหลายแบบ
ต้ังแต่แบบดั่งเดิมจนถึงแบบสมัยใหม่
ซงึ่ ก็ดดั แปลงมาจากแบบด่ังเดิม

ประเภท
ของมาลัย

แบง่ ตาม
หน้าที่ใชส้ อย

มาลัยชายเดียว

ห ม า ย ถึ ง ม า ลั ย ท่ี มี ลั ก ษ ณ ะ 01
เ ป็ น พ ว ง ก ล ม มี อุ บ ะ ห้ อ ย เ ป็ น ช า ย
เพียงพวงเดียวซ่ึงบางคนอาจ เรียกว่า
มาลัยมอื มาลัยข้อมอื หรือ มาลัยคล้องแขน
ก็ได้ ถ้าใช้ในการทูลเกล้าฯถวายก็เรียกว่า
ม า ลั ย ข้ อ พ ร ะ ก ร ม า ลั ย ช า ย เ ดี ย ว น้ี
ใ ช้ สํ า ห รั บ ค ล้ อ ง มื อ ค ล้ อ ง แ ข น
หรือบูชาพระ

ตัวอย่างมาลัยชายเดียว

02 มาลัยสองชาย

ห ม า ย ถึ ง ม า ลั ย ที่ นิ ย ม ผู ก ต่ อ
กับริบบ้ิน หรือโบว์ทั้งสองชายและมีอุบะ
ห้อยชายมาลยั ข้างละพวง มาลยั สองชายนี้
ใ ช้ สํ า ห รั บ ค ล้ อ ง ค อ บุ ค ค ล สํ า คั ญ
ในงานนั้น ๆ ใช้แขวนหน้ารถ หรือ
หัวเรือก็ได้ บางคนอาจเรียกมาลัย
ประเภทนีว้ ่า มาลัยคล้องคอ ถ้าใช้คลอ้ งคอ
เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็เรียกว่า มาลัยบ่าวสาว



มาลัยชาร่วย

มาลัยชําร่วย หมายถึง มาลัยขนาดเล็ก ๆ 03
น่ารัก กระจมิ๋ กระจิ๋ม สําหรับมอบให้บุคคล
จํานวนมาก เป็นของชําร่วยตอบแทน
การขอบคณุ ที่มารว่ มในงานนัน้ ๆ



แบ่งตาม

ลกั ษณะรปู แบบของการรอ้ ย

มาลัยซกี หรือเลย้ี ว 01

หมายถึง มาลัยที่ร้อยให้มีลักษณะ
รูปทรงตามขวางเพียงคร่ึงวงกลม
หรอื นอ้ ยกว่านน้ั



มาลยั กลม 02

หมายถึง มาลัยที่ร้อยให้มี
ลั ก ษ ณ ะ รู ป ท ร ง ต า ม ข ว า ง
เป็นวงกลม รูปทรงตามยาวตรง
และขนานกันไปตลอดเขม็



มาลัยแบน

หมายถึง มาลัยท่ีมีลักษณะรูปทรงตามขวาง 03
เป็นรูปยาวตามกลีบ ปลายกลีบของด้าน
ต ร ง ข้ า ม ย า ว ป ร ะ ม า ณ จ ด แ น ว เ ส้ น ร อ บ ว ง
แต่ปลายกลีบของด้านขวางและด้านตรงข้าม
แคบ



มาลยั รี 04

หมายถึง มาลัยท่ีร้อยให้มีลักษณะ
รูปทรงตามขวางเป็นรูปรี รูปทรง
ตามยาวตรงขึน้ ไปตลอดเข็มแคบ

มาลัยสามเหลี่ยม 05

หมายถึง มาลัยที่ร้อยให้มีลักษณะ
รูปทรงตามขวางเป็นรูปสามเหลี่ยม
ด้านเท่ารูปทรงตามยาวท้ังสามด้าน
ตรงขึ้นไปตลอดเข็ม



มาลยั ตมุ้

หมายถงึ มาลัยทีร่ อ้ ยให้มีลกั ษณะรูปทรงตามขวางเปน็
รปู วงกลมขนาดเลก็ แลว้ คอ่ ย ๆ ใหญ่ ขึ้นทีละน้อย
ชว่ งกลางป่องโค้งมนแลว้ คอ่ ย ๆ ลดให้เล็กลงทลี ะน้อย
จนมขี นาดเทา่ กบั ตอนขน้ึ ตน้ รปู ทรงตามยาว

06หวั ทา้ ยเรียวชว่ งกลางโคง้ มน



มาลัยตวั หนอน

หมายถึง มาลัยท่ีร้อยให้มีลักษณะรูปทรงตามขวาง 07
เป็นวงกลม จากเล็กและค่อย ๆ ใหญ่ ข้ึนทีละน้อย
ช่วงกลางป่องมน แล้วค่อย ๆ ลดลงจนกระท่ังเล็ก
เท่ากับตอนขึ้นต้น รูปทรงตามยาวหัวท้ายเรียว
ช่วงกลางป๋องโค้งมนคล้ายมาลัยตุ้มแต่ยาวกว่า





มาลัยสามกษัตรยิ ์

หมายถึง มาลัยท่ีร้อยด้วยดอกบานไม่รู้โรยกรอง 08
เป็นชั้น ๆ ขนาดเท่ากันทุกชั้น ร้อยคล้องต่อกัน
สามวงโดยใช้ดอกบานไม่รู้โรยสามสี คือสีแดง
ชมพู และขาว



มาลัยพวงดอกไม้

หมายถึง มาลัยท่ีร้อยด้วยดอกไม้เรียงต่อกันเป็น 09
สายยาว แล้วนํามาผูกมัดต่อกัน เป็นวง



แบง่ ตาม

ลกั ษณะโครงสรา้ ง

01 มาลัยตัวสัตว์

หมายถึง มาลัยท่ีร้อยให้เป็นรูปร่าง
ลั ก ษ ณ ะ ค ล้ า ย ตั ว สั ต ว์ เ ช่ น ห นู
กระรอก กระแต กระต่าย ชะนี ฯลฯ



02 มาลัยลูกโซ่

หมายถึง มาลัยท่ีร้อยจากมาลัยกลม
หรือมาลยั ซกี แล้วนาํ เอามาผูกคลอ้ งต่อ
กันตั้งแต่สองวง ขึ้นไปให้มีลักษณะ
เป็นหว่ ง ๆ คลอ้ งกนั คล้ายโซ่



03 มาลัยเปีย

หมายถึง มาลัยที่ร้อยจากมาลัยกลม
และมาลัยตุ้มนํามาประกอบเข้าเป็น
พวงโดยเอามา ลัยกลมผูกต่อกันเป็นวง
อยู่ตรงกลาง ส่วนบนและล่างร้อยต่อ
ดว้ ยมาลัยตุ้มด้านละ 1 ตุ้ม



04 มาลัยถักเปีย

เป็นมาลัยอีกรูปแบบหน่ึงท่ีมีวิธีการร้อยไม่ยาก

โดยใช้วิธีการ กรองดอกแต่ละช้ันให้มีขนาดเท่ากัน ร้อยใส่

ลวดขนาดเล็ก (เพื่อง่ายต่อการนํามาถักเปียประกอบเข้าตัว

มาลัย และตัวมาลัยจะอยู่เป็นทรงไมค่ ลายตัว) เมอ่ื ได้เส้น

ดอกขนาดความยาวตามต้องการจํานวน 3 เส้น จากน้ัน

นํามาถักคล้ ายเ ปี ยผมแล ะป ระก อบ เ ป็ นตัว มาลั ย



05 มาลัยเถา

หมายถึง มาลัยที่ร้อยจากมาลัยซีกแล้ว
นํามาผูกต่อกันเป็นวงกลมวงละขนาดต้ังแต่
ขนาดใหญ่ และค่อย ๆ เล็กลงตามลําดับ
โ ด ย ว า ง เ รี ย ง ซ้ อ น กั น ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น เ ถ า


Click to View FlipBook Version