4.12 Coffee Server/ Coffee Pot
ใช้สาหรบั การเสิร์ฟกาแฟให้กับแขก
อาจมีท้ังขนาดเล็กสาหรับแขก 1 คน หรือ
กาใหญ่สาหรับพนักงานในบริการให้กับแขก
วัสดุท่ีใช้อาจเป็นเหล็กปลอดสนิม เงิน หรือ
กระเบ้ือง
4.13 Tea Server/ Tea Pot
ท า จ า ก วั ส ดุ ไ ด้ ห ล า ย อ ย่ า ง เ ช่ น เ ดี ย ว กั บ
Coffee Server แตจ่ ะมขี นาดเล็กกวา่ ในการบริการให้แขกมักจะ
ใช้ใส่น้าร้อน และนาไปต้ังให้แขกท่ีโต๊ะทางขวามือ โดยท่ีถุงชา
อาจจะวางในแก้วหรือห้อยไว้ท่ีกาชาอีกฝั่งหน่ึงก็ได้ เพื่อให้แขก
ปรงุ ชาเองตามความต้องการ หากชาที่แขกส่ังเป็นใบชาอาจใช้กาที่มี
ตะแกรงเป็นรูๆ บริเวณปากหรืออาจใช้ท่ีกรองใบชาที่มีลักษณะ
เป็นตะแกรงวางทับบนถ้วยชา เพ่ือป้องกันมิให้ชาตกลงไป
ในถว้ ยชาขณะรนิ ได้
4.14 Milk Pitcher
สาหรบั ใสน่ มหรือครมี วางใหแ้ ขกบนโตะ๊
4.15 Ice Bucket
สาหรับแช่ไวน์ขาวและสปาร์กลิ้งไวน์ท่ีต้องด่ืมเย็น
โดยจะใสน่ า้ แขง็ และน้าลงในถงั
การนามาบริการให้แขกอาจจะนา Ice Bucket
วางบนขาตั้ง (Stand) และยกมาใกล้โต๊ะแขก หากไม่มีขาต้ัง
อาจวางบนจานรองที่มีกระดาษฉลุปู และนามาวางบนโต๊ะแขก
หรอื โตะ๊ เลก็ ข้างโตะ๊ แขกกไ็ ด้
4.16 Wine Basket/ Wine Cradle
สาหรับการบริการไวน์แดงท่ีมีอายุ
การเก็บบ่มนาน ทาให้มีตะกอนอยู่บริเวณ
ก้นขวดมาก การนาออกมาบริการจะต้องเป็นไป
ในลักษณะแนวนอนเช่นเดียวกับตอนเก็บ
เพื่อไม่ให้ตะกอนฟุ้งกระจายขึ้นมา ดังนั้นในการ
เสริ ฟ์ จึงต้องเสริ ์ฟทงั้ ตะกรา้
5
อปุ กรณ์ในการรบั ประทานอาหารของแขก
อปุ กรณใ์ นการรบั ประทานอาหารของแขก
5(Cutlery for the Guests)
พนักงานท่ีทาหน้าที่บริการจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ
เก่ียวกับอุปกรณ์ในการบริการอาหาร และเครื่องดื่มให้กับแขก
รวมท้ังอุปกรณ์ท่ีแขกต้องใช้ ในการรับประทานอาหาร
ในสมัยก่อนผู้ที่ทาหน้าท่ีพนักงานบริการดูเหมือนจะไม่ต้อง
มีความรู้ในเรอ่ื งเครื่องดืม่ มากนักเนื่องจากอุปกรณ์ที่แขกใช้ในการ
รับประทานอาหารคือ
เครื่องมือ มีดและส้อมเพิ่งจะมีการใช้ในศตวรรษท่ี 15
แ ล ะ จ า กั ด ก า ร ใ ช้ อ ยู่ แ ต่ เ ฉ พ า ะ ใ น ห มู่ ช น ชั้ น สู ง
ราวศตวรรษที่ 16 ความนยิ มในการใชอ้ ปุ กรณ์เร่ิมมีมากข้ึน
แต่ก็ยังมีบางคนที่คิดว่า เป็นเรื่องท่ีดูน่าขบขัน โดยเฉพาะ
คนทเี่ ชื่อมัน่ ว่ามอื ของคนคอื อุปกรณ์ทีด่ ที ่สี ดุ
5.1 อุปกรณเ์ ครอ่ื งเงิน
(silver ware or cutlery)
แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ เคร่ืองมือ
ในการรับประทานอาหาร ในอดีตนิยมทาด้วยโลหะเงิน
อี ก ทั้ ง เ ป็ น ส่ิ ง ที่ ส า ม า ร ถ ใ ช้ บ อ ก ฐ า น ะ ท า ง สั ง ค ม
แ ต่ ใ น ปั จ จุ บั น ส่ ว น ใ ห ญ่ เ ป็ น โ ล ห ะ ผ ส ม ส แ ต น เ ล ส
ราคาถกู ดแู ลรักษาไดง้ ่าย แบ่งออกเปน็ 3 กลุ่ม
ช้อน (spoon)
ใช้กับอาหารและเครื่องด่ืม มีหลายชนิด แต่บนโต๊ะอาหาร
มาตรฐานจะต้องมี คือ
ชอ้ นซปุ (Soup spoon)
ใช้สาหรับรับประทานซุปที่ เสิร์ฟมาในถ้วยซุป หรือสาหรับ
รับประทานอาหารเส้นโดยใช้คู่ กับส้อมเนื้อหรือส้อมอาหาร เย็นใช้ตักซอส
หรอื เสิรฟ์ ขนม ปงั ก็ได้
ช้อนหวาน (Dessert Spoon)
ใชส้ าหรบั รบั ประทานของหวานตา่ ง ๆ
ช้อนไอศกรมี ซนั เดย์ (Sundae or Iced – tea Spoon)
ใชส้ าหรับรับประทาน ไอศกรีมซันเดย์ หรือกาแฟ โกโก้
ชา โอวัลตนิ เยน็ ทเ่ี สิร์ฟ ในแก้วทรงสูง
ชอ้ นชา-กาแฟ (Tea or Coffee spoon)
ใช้สาหรับคนหรือชงกาแฟ ชา ช็อกโกแลต โกโก้ร้อน
หรือ รับประทานคือกเทลกุ้ง ค็อกเทลผลไม้ และ
ไอศกรมี
สอ้ ม (fork)
ส่วน ใ หญ่ใ ช้ เป็น อุ ป ก ร ณ์ช่ วยใ น ก าร รั บ ป ระทาน อ าหาร
จัดวางไว้ด้านซ้ายของจานอาหาร และโดยมารยาท ควรถือด้วย
มือซ้าย เวลารบั ประทานอาหาร สอ้ มมาตรฐาน คอื
สอ้ มอาหารหลกั หรอื สอ้ มเนื้อ (Dinnerfork or Large Fork )
ใช้สาหรับรับประทาน หรือส้อมอาหารเย็น อาหารหลัก
ผกั ทต่ี ้มหรือนง่ึ แล้ว และอาหารเสน้ ใชค้ ูก่ บั มดี เน้อื หรอื มีดเยน็
สอ้ มปลา (Fish fork)
ใชส้ าหรบั รบั ประทานปลา ใช้คู่กบั มดี ปลา หรืออาหารทะเล
ส้อมสลัด (Salad fork)
ใช้รับประทานอาหารเรียก น้าย่อย ของหวาน เนยแข็ง สลัด ปลา
รมควัน หอย คอ็ กเทลและเคก้ หรอื อาหารเส้น
สอ้ มเคก้ (Cake fork)
ใชส้ าหรับรับประทานเคก้ พายและอาหารหรือขนม ที่ทาจากแป้ง
สอ้ มจิ้มหอย (Snail fork)
ใช้สาหรับรับประทานอาหารประเภทหอย
มีด (knife)
เป็นอุปกรณ์หลักในการรับประทานอาหาร จัดไว้ขวามือ
และโดยมารยาทควรถือดว้ ยมอื ขวา มดี มาตรฐาน คอื
อาหารหลัก หรอื มดี เนือ้ หรือ มดี อาหารเยน็
(Dinner knifeor Meat Knife)
ใช้สาหรบั รบั ประทาน อาหารหลกั
มีดเล็ก มีดปลา มดี เนย
(Small Knife) (Butter Knife)
(Fish Knife)
ใช้สาหรับรับประทานอาหารเช้า ใช้สาหรับทาเนยหรือแยม
อ า ห า ร เ รี ย ก น้ า ย่ อ ย ส ลั ด ใ ช้ ส า ห รั บ รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร
ของหวาน ผลไม้และเนยแขง็ พวกปลา หรืออาหารทะเล
6 อุปกรณเ์ ครือ่ งแก้ว
(Glassware)
อปุ กรณเ์ คร่อื งแกว้
6 (Glassware)
แกว้ ทีใ่ ชใ้ นหอ้ งอาหารเกือบทุกห้องภายในโรงแรม มักจะเป็นแก้วก้าน
(stem glass) เนื่องจากมีความสวยงามและมีรูปแบบท่ีเหมาะสาหรับ
การรักษาคุณลักษณะของเคร่อื งดื่มทง้ั ในเรือ่ งขงกลนิ่ และรสชาติ แต่อย่างไร
ก็ตามแก้วก้านอาจมีรูปทรงหรือ ขนาดที่แตกต่างกันออกไปมากมาย
และเครือ่ งดมื่ บางประเภทก็ไมน่ ยิ มเสริ ฟ์ ในแก้วกา้ น
ดังน้ัน ความรอบรู้ของพนักงานเก่ียวกับแก้วแต่ละ
ประเภทท่ีใช้ในห้องอาหารจึงมีความสาคัญ เพราะการใช้
แก้วผิดประเภทจะมีผลทาให้การด่ืมเคร่ืองดื่มของแขก
ไม่ได้รสชาติท่ีถูกต้อง และคุณลักษณะของเครื่องดื่ม
เช่น ความหอม ความเย็นหรือฟองอากาศจะสูญเสียไป
รว มไปถึงควา มรู้สึ กของ แขกต่ อ กา รปฏิบัติงา น
ของพนกั งานดว้ ย
ประเภทของแกว้
แกว้ ท่ีใส่เครื่องดืม่ จะมสี ว่ นประกอบ 3 ส่วน
ตัวแกว้ (Bowl)
กา้ นแกว้ (Stem)
ฐานแก้ว (Base of Foot)
แต่แกว้ ทุกใบไม่จาเปน็ ต้องมสี ว่ นประกอบครบทั้ง 3 สว่ น
6.1 แกว้ Tumbler
เป็นแก้วประเภทที่มีส่วนประกอบเพียงส่วนเดียวคือ
ตัวแก้วเหมาะสาหรับใส่เครื่องด่ืมท่ีมีปริมาณแอลกอฮอล์สูง
หรือใส่เหล้า โดยไม่มีส่วนผสมอ่ืนนอกเหนือจากน้าแข็ง
ขนาดและรูปรา่ งอาจมีแตกตา่ งกนั ออกไป
6.1.1 Jigger หรือ Short Glass
เปน็ แก้วสาหรับใช้ในการตวงเหล้า
6.1.2 Old Fashioned หรือ Rock Glass
เ ป็ น แ ก้ ว ส า ห รั บ ใ ส่ เ ห ล้ า ค็ อ ก เ ท ล ที่ ชื่ อ ว่ า
Old Fashioned ซึ่งมีส่วนผสมของ Bourbon Whisky,
Syrup และ Angostura Bitter หรือสาหรับการด่ืม
เหลา้ ประเภทใสน่ ้าแขง็ ทเ่ี รยี กวา่ On the Rock
6.1.3 Highball Glass
เปน็ แกว้ สาหรบั ใส่เครอ่ื งดม่ื ผสมจากเหลา้ และโซดา
6.1.4 Colins Glass
เป็นแก้วสาหรับใส่คอกเทล ชื่อ Collins ท่ีมีบรั่นดีเป็นเหล้าหลัก
ผสมกบั นา้ มะนาวและนา้ เชือ่ ม
6.1.5 Cooler Glass
เป็น แก้วสาหรับ ใ ส่คอ กเทลที่มี ส่วน ผส ม
ของนา้ ผลไม้และ Grenadine (หัวเชอื้ ทับทิมรสหวาน)
6.1.6 Zombie
เป็นแก้วสาหรับคอกเทลช่ือ Zombie ซึ่งมีส่วนผสม
ของเหลา้ รัมและนา้ ผลไม้ประเภทน้าสม้ นา้ มะนาว
6.1.7 Pilsner
เป็นแก้วสาหรับใส่ Lager Beer ท่ีมีสีค่อนข้างใส
และรสชาตอิ อ่ น
6.2 แกว้ Footed Ware
หมาย ถึงแ ก้ วท่ีมี ส่วน ป ร ะก อ บ 2 ส่วน คือ ตั วแ ก้ ว
กับฐานแก้วท่ีเห็น ได้ชัดเจน ส่วนก้านแก้วยังคงมีอยู่แต่สั้นมาก
จนแทบมองไม่เห็น รูปแบบของตัวแก้วและฐานมีหลากหลายแล้วแต่
การออกแบบของสถานประกอบการน้ัน ๆ
6.3 แก้ว Stemware
คือแก้วท่ีมีส่วนประกอบครบท้ัง 3 ส่วนชัดเจน
ขนาดและรูปร่าง อาจแตกต่างกันออกไป แก้วในกลุ่มนี้
เ ห ม า ะ ส า ห รั บ ก า ร เ สิ ร์ ฟ เ ค ร่ื อ ง ด่ื ม ป ร ะ เ ภ ท ไ ว น์
แต่ข้อเสยี คือแตกงา่ ย
6.3.1 Cocktail Glass
เปน็ แกว้ ใส่เหล้าผสมประเภท Pink Lady หรอื White Lady
6.3.2 Sour Glass
เป็นแก้วสาหรับใส่เหล้าค็อกเทลช่ือ Whisky Sour
หรอื Brandy Sour ซ่ึงใช้วิสก้หี รอื บรนั่ ดเี ป็นเหลา้ หลกั ผสม
กบั มะนาว น้าเชอ่ื มและเหล้า Bitter
6.3.3 Margarita Glass
เป็นแก้วสาหรับใส่เหล้าค็อกเทลชื่อ Margarita ซึ่งมีเหล้าหลักคือ
Tequila ผสมกบั นา้ มะนาว และนา้ เชอื่ ม
6.3.4 Flute Champagne
เปน็ แกว้ สาหรับใส่เครอ่ื งด่ืมประเภทแชมเปญ
6.3.5 Champagne Saucer
เป็นแก้วสาหรับใส่เคร่ืองดื่มประเภทแชมเปญ แต่ปัจจุบันไม่ได้
รบั ความนยิ มเพราะรปู ทรงของแกว้ ไมส่ ามารถเกบ็ ฟองอากาศได้
6.3.6 AI-Purposed Wine Glass
เปน็ แก้วสาหรับใสไ่ วน์ประเภทตา่ ง ๆ
6.3.7 Liqueur หรือ Cordial Glass
แก้วสาหรับใส่เหล้าหลังอาหารซึ่งมักจะเป็น
เหล้าหวานทที่ าจากผลไม้
นอกจากตัวอย่างแก้วท่ียกมาแล้วยังมีแก้วอีกมากมายหลาย
ประเภทในรูปแบบและขนาดต่าง ๆ กัน ซ่ึงในการทางานพนักงานที่มี
หน้าที่รับผิดชอบจะต้องเรียนรู้และจดจาให้ได้ว่า แก้วประเภทไหนใช้กับ
เคร่ืองดื่มอะไร โดยท่ัวไปแล้วชื่อเรียกแก้วจะมาจากช่ือเคร่ืองดื่มที่ใส่ลงใน
แก้วน้ัน รวมไปถึงการพิจารณาถึงขนาดของแก้วด้วย เช่น แก้ว Highball
จะมีความจุ 8 - 10 ออนซ์ ส่วนแก้วColins ความจุ 10 –12 ออนซ์
การทราบความจุหรือขนาดของแก้วสาหรับเคร่ืองดื่มนั้น ๆ จะช่วยให้
พ นั ก ง า น ส า ม า ร ถ ค า น ว ณ ป ริ ม า ณ น้ า แ ข็ ง แ ล ะ ส่ ว น ผ ส ม ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง
ทาให้ได้รสชาตทิ ี่ พอดคี อื ไม่เขม้ ขน้ หรือออ่ นเกินไป
ในสถานบริการอาหารและเครื่องดมื่ แตล่ ะแหง่ อาจไม่จาเป็นต้องมี
แก้วทุกประเภทตามท่ียกตัวอย่างมา โดยอาจมีการใช้แก้วประเภทเดียวกัน
กับเครื่องด่ืมหลายชนิดก็ได้ แต่ข้อที่ควรคานึงถึงก็คือ แก้วท่ีนามาใช้จะต้อง
รักษาคุณสมบัติของเครื่องด่ืมน้ันได้ เช่น แชมเปญ เป็นเคร่ืองด่ืมที่มี
ฟองอากาศ ควรใช้แก้วทรงสูงปากงุ้ม เพื่อช่วยรักษาฟองอากาศ
ไม่ให้จางหายไปเร็ว หรือบร่ันดี ย่ิงร้อนยิ่งหอม ควรใช้แก้วก้านส้ันเพื่อให้
ความร้อนจากมือผ่านสู่ตัวแก้ว ปากแก้วควรซุ้มเพ่ือให้ผู้ดื่มสามารถดมกลิ่น
หอมของเหล้าท่ีฟุ้งกะจายขึ้นในขณะหมุนเหล้าในแก้ว ตัวแก้วควรมีเน้ือท่ี
กว้างพอสาหรบั การหมุนวนของเหลา้
ด้วยเหตุที่การดื่มไวน์ให้ได้อรรถรสครบถ้วน ผู้ด่ืมจะต้องสัมผัส
ด้วยตา จากสีของไวน์ ทางจมูกจากกลิ่นหอม และทางล้ินจากรสชาติ
การเลือกใช้แก้วในลักษณะและรูปร่างท่ีเหมาะสมจะ ทาให้ผู้ดื่มได้รับสัมผัส
ท้ัง 3 อย่างจากการดื่มไวน์ ดังนั้นแก้วท่ีนามาใช้ควรมีลักษณะบาง
เพื่อให้ริมฝีปากและเพดานสัมผัสกับรสชาติของไวน์อย่างเต็มท่ี สีของแก้ว
ควรเปน็ สใี ส ยกเว้นแก้วไวน์ขาวของประเทศเยอรมนี หรอื ไวนจ์ ากประเทศอ่ืน
ท่มี คี ณุ ลักษณะเดียวกนั ทจ่ี ะใชแ้ กว้ มสี ี บรเิ วณก้านและฐานแก้ว
แก้วรปู แบบอนื่ ๆ ท่พี บเหน็ ทว่ั ไป ไดแ้ ก่
Water Goblet Red wine glass White wine glass
แก้วใส่น้า มักมีขนาดใหญ่กว่า แกว้ ใสไ่ วนแ์ ดงซ่ึงมลี กั ษณะ ลกั ษณะเชน่ เดียวกับแก้วไวน์
แก้วก้านใบอ่นื ๆ
เป็นแกว้ กา้ นทรงทวิ ลปิ ปากง้มุ แดง แตม่ ขี นาดเล็กกว่า
Bordeaux glass Champagne glass of Large Snifter
แ ก้ ว ก้ า น ทิ ว ลิ ป ข น า ด ใ ห ญ่ Sparkling wine glass แก้วทรงบอลลูนขนาดใหญ่ตัว
สาหรับไวน์ท่ีผลิตจากแคว้น แก้วก้านต่างรูปแบบสาหรับ แก้วยาว สาหรับใส่คอนยักหรือ
บ อ ร์ โ ด ซ์ ( Bordeaux) เ ค ร่ื อ ง ด่ื ม ท่ี มี ฟ อ ง ป ร ะ เ ภ ท บร่ันดีที่มีอายุการเก็บบ่มในถัง
ประเทศ ฝร่งั เศส แชมเปญหรือสปาร์กล้ิงไวน์ ไมโ้ อ๊กเปน็ เวลานาน
Cocktail glass Rock glass
แ ก้ ว ป า ก บ า น ข น า ด เ ล็ ก แก้วทร งกร ะบอ ก ไ ม่ มีก้าน
สาหรับ เคร่ืองดื่มประเภท ใ ช้ ส า ห รั บ เ ค รื่ อ ง ด่ื ม ป ร ะ เ ภ ท
คอ็ กเทล เหล้า กลั่นท่ีเสิร์ฟพร้อมน้าแข็ง
เท่าน้ัน
Aperitif glass
แก้วทรงสูง ไม่มีก้านสาหรับ
เครื่องดื่มประเภท Tall drink
แ ล ะ เ ห ล้ า ก่ อ น อ า ห า ร
(Aperitif)
Trish-coffee glass Liqueur glass
แก้วทรงทิวลิปสาหรับไอริช ส า ห รั บ เ ห ล้ า ห ว า น ห ลั ง
คอฟฟ่ี (กาแฟผสมเหล้า ไอริช อาหาร ซ่ึงโดยท่ัวไปจะมี
วิสกี้ และวิปครีม) เน้ือหนา ความเข้มข้น นิยมใช้แก้ว
ทนไฟ ขนาดเล็ก
Worthington glass
ใชใ้ สเ่ คร่ืองดื่มประเภท ค็อกเทล
เชน่ pimms, coolers
และ long drinks
Martini cocktail glass Carafe
สาหรบั ใสเ่ หล้ามาตนิ ่ที ่ีมรี สหวานน้อย หวาน ข ว ด แ บ่ ง ไ ว น์ ห รื อ ข ว ด ส า ห รั บ
ปานกลาง และหวานมาก (dry, medium ใ ส่ ส่ ว น ผ ส ม เ ห ล้ า ( Mixer)
and sweet martinis) รวมทง้ั ค็อกเทลชื่อ
Manhattan เชน่ นา้ อัดลม น้าผลไม้
Sundae glass
แก้วเนอื้ หนา ก้านส้ันสาหรับ ใสข่ อง
หวานและไอศครมี
Decanter Worthington glass Martini cocktail glass
ขวดใสไ่ วนแ์ ดงทเี่ ทออก ใช้ใส่เคร่ืองด่ืมประเภท ค๊อกเทล สาหรับใส่เหล้ามาติน่ีท่ีมีรสหวานน้อย
เช่น pimms, coolers หวานปานกลาง และหวานมาก (dry,
จากขวดเนอ่ื งจากมตี ะกอนมาก และ long drinks medium and sweet martinis)
รวมทั้ง คอ็ กเทลชื่อ Manhattan
Short beer glass Martini cocktail glass
สาหรับใสเ่ หล้ามาตินี่ที่มีรสหวาน
แก้วสาหรับใส่เบียร์รูปแบบต่าง ๆ นอ้ ย หวานปานกลาง และหวาน
แล้วแต่ห้องอาหาร จัดเตรียมไว้ Worthington glass มาก (dry, medium and
บริการแขกอาจมีเพียงแบบใดแบบ ใช้ใส่เคร่ืองด่ืมประเภท ค๊อก sweet martinis) รวมท้ัง
เทล เชน่ pimms, coolers คอ็ กเทลช่อื Manhattan
หนงึ่ หรือ มากกวา่ นน้ั ก็ได้
และ long drinks
อปุ กรณ์ประจาโต๊ะอาหาร
7 (Table equipment)
อุ ป ก ร ณ์ ที่ พ นั ก ง า น จ ะ ต้ อ ง จั ด ว า ง บ น โ ต๊ ะ อ า ห า ร
เปน็ ประจา ได้แก่
กระปกุ เกลือ กระปุกพริกไทย ที่เขี่ยบหุ ร่ี (ashtray)
(salt and pepper shaker)
จั ด ว า ง ใ น ส่ ว น ท่ี แ ข ก ส า ม า ร ถ สู บ บุ ห ร่ี ไ ด้
ห รื อ ใ น บ า ง ห้ อ ง อ า ห า ร อ า จ ซ่ึงมปี ้ายประกาศบอกว่า Smoking Area
ใ ช้ เ ก ลื อ เ ม็ ด ห รื อ พ ริ ก ไ ท ย เ ม็ ด ใ ส่ ใ น หรอื มีแผ่นภาพอนั แสดงว่าสูบบุหรี่ได้ต้ังไว้
อุปกรณ์ท่ีมีเคร่ืองบดอยู่ภายในเรียกว่า บนโต๊ะ ปกตจิ ะจดั วาง 1 อันตอ่ แขก 2 คน
Salt mil หรือ Pepper Mil
ทใี่ ส่ไม้จิม้ ฟนั (Toothpick holders)
เครอื่ งพวง หม าย เ ลข โต๊ ะ ( Table number) ส าห รั บ
ห้องอาหารหรู หรือห้องอาหารภายในโรงแรม
อันประกอบด้วย มัสตาร์ด มักไม่นิยมวางเบอร์โต๊ะ เพราะจะถูกมองว่า
(Mustard) แบบอังกฤษและฝรง่ั เศส พนกั งานไม่มีความสามารถ
พรอ้ มชอ้ นตัก
แจกนั ดอกไม้ (Flower vase)
8
อปุ กรณใ์ นการบริการเครอ่ื งด่มื
(Beverage equipment)
อุปกรณใ์ นการเปดิ ขวดและเปดิ ไวน์
(Bottle opener and corkscrews)
เหล็กไขจุก สกรูปีก
(Waiters friend หรอื corkscrew) (Wing screw)
เป็นอุปกรณ์ประจาตัวพนักงานสาหรับ เป็นอุปกรณ์สาหรับเปิดขวด ไวน์
ก า ร บ ริ ก า ร เ ปิ ด ข ว ด ไ ว น์ แ ต่ จ ะ มี ข น า ด ใ ห ญ่
ให้กับแขก โดย จะมีส่วน ปร ะก อ บ ไ ม่ เ ห ม า ะ ส า ห รั บ พ นั ก ง า น
3 ส่วนคอื มืด สกรู และทง่ี ัด พกตดิ ตวั และไมม่ สี ว่ นมีด
สกรรู ปู ตวั T
(T-shape screw)
เ ป็ น อุ ป ก ร ณ์ ใ น ก า ร เ ปิ ด ข ว ด ไ ว น์
ที่ไม่เหมาะสม เน่ืองจากไม่มีท้ังส่วนที่เป็น
มดี และสว่ นที่งดจุกคอร์ก ทาให้พนักงานไม่
สามารถควบคุม ได้ในขณะดึงจุกคอร์กขึ้นมา
สกรเู กลียวคู่ ทาใหเ้ กดิ เสยี งดัง
(Double action screw)
ใช้ประโยชน์ได้ดีสาหรับ การเปิดขวดไวน์ท่ีจุก
คอร์กเก่า แต่ไม่สะดวกสาหรับ พนักงานท่ีจะ
นาใสก่ ระเป๋า ไม่มีสว่ นทเ่ี ปน็ มีดเช่นกัน
เครื่องสกดั ไมก้ ๊อกหัก
(Broken cork extractor)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ดึงจุกคอร์ก ที่แตกหรือหักออก
จากขวด โดยจะกดสว่ นแหลมที่เปน็ ลวดลงไปในขวด
จนส่วนที่เป็นปลายงุ้ม (claw) ลงไป อยู่ใต้จุก
คอร์กที่หัก หลังจากน้ันจะดึงวงแหวนที่ทาด้วย
โลหะหรอื พลาสติกขนึ้ มาจน ชิดด้ามเพื่อให้ลวดท่ีกด
ลงไป ขยายออก ค่อย ๆ ดึงด้ามจับขึ้น โดยส่วนท่ี
เปน็ ปลายง้มุ จะเกย่ี วจกุ คอร์กทแี่ ตกหักตดิ ขึน้ มา
อปุ กรณ์ในการผสมเครื่องด่มื (Mixing
equipment)
มดี ห่นั ผลไมแ้ ละกระดาน เครื่องคน้ั น้าผลไม้
(Fruit knife and board) (Fruit Squeezer)
เป็นมีดที่ทาด้วยเหล็กปลอดสนิมขนาดเล็ก สาหรบั คนผลไมเ้ พือ่ ให้ไดน้ า้
สาหรับใช้ปอกผลไม้ประเภทส้ม มะนาวและ
ผลไม้อื่น ๆ เพ่ือใช้เตรียม เคร่ืองดื่ม หาก
ตอ้ งการหัน่ ผลไมเ้ ป็นชิน้ ๆ ใชเ้ ขยี งเป็นทร่ี อง
เครื่องผสม แกว้ ผสม
(Shaker) (Mixing glass)
เป็นอปุ กรณ์ท่ีใช้ในการผสมเครื่องด่ืม ประเภท สาหรับการผสมเครอ่ื งดื่มประเภท
เขย่า (Shake) จะมีส่วนประกอบ 3 ส่วนคือ Mixed drink โดยใช้การคน (stir) ควรล้าง
ฝาปดิ ท่กี รอง และตัวกระบอก ใหส้ ะอาดกอ่ นใช้ทกุ ครั้ง
ช้อนบาร์ กระชอน
(Muddler and bar spoon) (strainer)
เปน็ อุปกรณ์ที่ใช้ในการคนเครื่องดื่ม ประเภท Long ใช้คู่กับ Mixing glass สาหรับเครื่องดื่ม
mixed drink มักทาจาก พลาสติก ส่วน bar ประเภท Mixed drink และ Cocktail
spoon มกั ทาจาก เหล็กปลอดสนิม ใช้คู่กับ Mixing ปกติจะทาจากเหล็กปลอดสนิมโดยมีวง ลวด
glass บริเวณด้ามจับส่วนบนควรมีปลายแบนเพื่อ ลอ้ มรอบบรเิ วณดา้ นนอกของขอบ เพื่อช่วยให้
ช่วยในการบดส่วนผสม เช่น น้าตาล ก่อนท่ีจะใส่ใน ปิดปาก Mixing glass ได้แน่นขณะริน
เคร่ืองดืม่ ผสมทีม่ ชี ่ือว่าold-fashioned เครอ่ื งดมื่