The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรียบเรียงข้อมูลโดย ครูชัธวัช มาอินทร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by taninfin, 2021-07-24 13:24:20

อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง

เรียบเรียงข้อมูลโดย ครูชัธวัช มาอินทร์

Keywords: .lj

พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั

พระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
พระองค์ที่ ๔ มพี ระนามเดมิ ว่า ฉิม

(สมเดจ็ พระเจา้ ลูกยาเธอ เจา้ ฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร)

พระราชลญั จกรประจาพระองค์

รูปครุฑยดุ นาค เน่ืองจาก พระนามเดิมวา่ “ฉิม” ไปพอ้ งกบั คาวา่ ฉิมพลี ซ่ึงเป็นที่อยขู่ องพญาครุฑ

พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั

พระราชสมภพวนั ท่ี ๒๔ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ ณ อมั พวา สมุทรสงคราม
ครองราชย์ ๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๓๕๒ ( ๔๒ พรรษา)
สวรรคต ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๖๗ ( ๕๗ ปี)

ยคุ ทองของวรรณคดี

พระราชนิพนธ์ เรื่อง รามเกียรต์ิ อุณรุท และอเิ หนา (เป็ นยอดบทละครรา)
บทพากย์โขน ชุดนางลอย ชุดนาคบาศ และชุดพรหมาสตร์
ละครนอก ไกรทอง สงั ขท์ อง ไชยเชษฐ์ หลวชิ ยั คาวี มณีพิชยั สังขศ์ ิลป์ ชยั

แต่งเป็ นกลอนบทละคร ซ่ึงมีลกั ษณะบงั คบั เหมือนกลอนสี่สุภาพ

คำนำ

เม่ือน้ัน ใช้ขนึ้ ต้นกบั ตวั ละครที่สาคญั  “เมื่อน้ัน”
เช่นตัวเอกหรือกษตั ริย์  “บัดน้ัน”
 “มาจะกล่าวบทไป”
เม่ือนั้น ระตูหมนั หยาเรืองศรี
รับสารมาจากเสนี แล้วคลอ่ี อกอ่านทันใด

บดั น้ัน ใช้ขนึ้ ต้นกบั ตัวละครที่เป็ นตัวรอง

เช่นเสนา อามาตย์ หรือตัวละครธรรมดา

บัดนั้น ดะหมงั ผ้มู ยี ศถา
นับนิว้ บงั คมคัลวันทา ทูลถวายสาราพระภมู ี

มาจะกล่าวบทไป ใชข้ ้ึนตน้ เพ่ือเริ่มกลอนใหม่











เจ้ำฟ้ำหญงิ กณุ ฑล พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เจ้าฟ้าหญงิ มงกฎุ
ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา

(อิเหนาใหญ่) ขา้ หลวงชาวมลายเู ล่าถวายโดยนพเคา้ เรอ่ื งมาจาก (อิเหนาเลก็ )
นิทานพื้นเมอื งชวา หรอื นทิ านปนั หยี

พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช (ร.๑) ทรงนาเค้าโครงเรื่องเดมิ มาแตง่ เป็นดาหลัง

พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหล้านภาลยั (ร.๒) พระราชนพิ นธข์ ึ้นใหมท่ ง้ั หมดนามาเลน่ เปน็ ละคร



ความสาคญั ของวรรณคดี

ความเปน็ มาของอเิ หนา นางกานัลชาวปตั ตานเี ล่าให้ เจา้ ฟ้าทงั้ สองพระองคต์ ่างกท็ รงนพิ นธ์
พระราชธดิ าสองพระองค์ เปน็ บทละคร กลายเป็น 2 สานวนท่มี ัก
เดิมเปน็ นทิ านท่ีได้รับความนยิ ม ในสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั บรมโกศฟงั เรยี กกันวา่ อเิ หนาเล็ก กับอเิ หนาใหญ่
จากชาวชวา มชี อ่ื เรียกขานว่า
นิทานปนั หยี แตง่ เพื่อยกยอ่ ง

กษัตรยิ ไ์ อรลังคะ

พระบาทสมเด็จ พระบาทสมเด็จ สมัยกรงุ ธนบุรี เจ้าพระยาพระคลงั (หน) สมเด็จพระเจา้ อยู่หัว
พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช นาอเิ หนาเลก็ มาแต่งเป็น อเิ หนาคาฉันท์ บรมโกศโปรดเกล้าฯ
พระราชนิพนธบ์ ทละคร เพราะตน้ ฉบบั บางสว่ นหายไปชว่ งเสียกรงุ ฯ ให้นามาเล่นเป็นละครใน
เรอ่ื งอิเหนาขน้ึ ใหม่ท้งั หมด พระราชนพิ นธซ์ อ่ มแซม
เฉพาะตอนทข่ี าดหาย

เคยได้ยินประโยคที่วา่

"ว่าแต่เขาอเิ หนาเปน็ เองไหม“

นักเรียนคิดว่านา่ จะมาจากทอี่ เิ หนาเปน็ อยา่ งไร

อิเหนา ตอนศึกกะหมงั กหุ นงิ : พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั

????????????????????????????????????????????????????????????????

บุษบาจะงามสักเพยี งไร จงตอ้ งใจระตูทุกบุรี
หลงรักรูปนางแต่อยา่ งน้นั จะพากนั มามว้ ยไม่พอที
แมน้ งามเหมือนจินตะหราวาตี ถึงจะเสียชีวกี ค็ วรนกั

!!!!!!!อิเหนาจึงคิดแยง่ ชิงนางมาจากจรกาเช่นเดียวกนั



ตวั ละคร

ตวั ละคร

(เกร็ดเล็กเกรด็ น้อยเกย่ี วกบั
พวกศัพท์ในเร่ือง)...

ระตู ตนุ าหงัน

อิเหนา ตอนศกึ กะหมังกหุ นงิ : พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั

นักเรยี นคดิ วา่ ระตู ตุนาหงนั แปลวา่ อะไร

ตวั ละคร

ตวั ละคร

เผ่าพงศ์วงศ์อสญั แดหวา ตัวละครอน่ื ๆ ในตอน ศึกกะหมงั กหุ นงิ

บิดา โอรส

ทา้ วกเุ รปัน ท้าวดาหา ท้าวกาหลงั ท้าวสงิ หัดสา่ หรี

ประไหมสหุ รี ท้าวกะหมังกุหนงิ วหิ ยาสะกา สังคามาระตา
บิดา ธิดา
ประไหมสุหรี ลิกู ประไหมสหุ รี ประไหมสหุ รี ลกิ ู

อิเหนา วยิ ะดา กะหรดั ตะปาตี บุษบา สยี ะตรา สะการะหนึ่งหรดั บุษบารากา สหุ รานากง ระตหู มนั หยา จินตะหราวาตี ระตจู รกา



อเิ หนา บษุ บา

โอรสของทา้ วกเุ รปนั และประไหม ธิดาของท้าวดาหา และประไหม
สหุ รีนหิ ลาอระตา แห่งกรุงกเุ รปนั สุหรดี าหราวตี แห่งกรุงดาหา

รูปงามมเี สน่ห์ เจรจาอ่อนหวาน งามเลิศกวา่ นางใดในชวา
นสิ ัยเจา้ ชู้ เช่ียวชาญการใช้กรชิ มกี ิรยิ ามารยาทเรยี บรอ้ ย
และกระบี่ คารมคมคาย เฉลยี วฉลาดทันคน
ใจกว้าง และมเี หตุผล
เป็นคู่ตนุ าหงันกับบษุ บา
แตป่ ฏิเสธการอภเิ ษก เพราะหลง เปน็ ค่ตู ุนาหงนั กับอเิ หนา เพราะ
นางจนิ ตะหราวาตี พระบดิ าหมนั้ หมายไวต้ ้งั แต่เด็ก

ออกรบในศกึ กะหมงั กุหนงิ เปน็ ลูกที่ดีอยูใ่ นโอวาท
เพอ่ื ปกป้องบุษบาจากการลกั พา ของพระบดิ า พระมารดา
ตวั

ทา้ วกะหมังกหุ นิง วิหยาสะกา

ผู้ครองเมืองกะหมงั กหุ นิง โอรสของท้าวกะหมังกุหนงิ ซึง่ เกดิ
มีโอรสช่อื วหิ ยาสะกา จากประไหมสหุ รี

รกั ลูกมาก เม่อื ทราบวา่ วหิ ยาสะกา เป็นหนุ่มรปู งาม ผวิ พรรณผุดผอ่ ง
หลงบุษบา กแ็ ตง่ ทตู ไปส่ขู อให้ มฝี ีมอื ในการใช้ทวน

มุ่งมัน่ เดด็ เด่ยี ว เมอ่ื ถกู ทา้ วดาหา มีจติ ใจออ่ นไหว เพียงแคเ่ หน็ รปู วาด
ปฏเิ สธ ไม่ยกบษุ บาให้ กย็ กทัพไป ของบษุ บา ก็ทาใหว้ หิ ยาสะกาคล่ังไคล้
ตกี รงุ ดาหาเพอ่ื แย่งมา ใครทดั ทาน ใหลหลงจนกินไมไ่ ด้นอนไม่หลบั
ก็ไมย่ อม

สงั คามาระตา จนิ ตะหราวาตี ระตหู มนั หยา

น้องชายของมาหยารศั มี ธิดาของระตูหมนั หยา โอรสทา้ วมังกัน
รูปโฉมงดงาม ภายหลังได้ครอง
เปน็ หนุ่มรปู งาม เปน็ ภรรยาของอเิ หนา เมืองหมันหยา
มีความเฉลียวฉลาด รอบคอบ แม้จะมคี วามเจา้ แง่แสนงอน เปน็ บดิ าของจนิ ตะหรา
แกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ เก่ง แตก่ เ็ ป็นคนมีเหตุผล มจี ติ ใจออ่ นแอ
กลา้ หาญ และซื่อสัตย์ ไม่มคี วามเปน็ นกั สู้

ชานาญในการใช้ทวนเป็นอาวุธ

เปน็ คคู่ ิดคู่ปรึกษาของอเิ หนา
รวมถึงศึกกะหมงั กหุ นิง

ทา้ วดาหา ท้าวกเุ รปนั ระตูจรกา

กษัตรยิ ์ผู้ครองกรุงดาหา เป็นกษตั รยิ ค์ รอง เป็นเจา้ เมืองจรกา
มีประไหมสุหรีชือ่ ดาหราวตี เมืองกุเรปัน
มโี อรสและธิดาคอื บษุ บา มโี อรสและธิดากบั รูปรา่ งหนา้ ตาขี้ริ้วขเ้ี หร่
กับสียะตรา ประไหมสุหรี คอื ผมหยกิ ผวิ คลา้ ขรขุ ระ
อเิ หนา
รกั ษาสัจจะ และรอบคอบ และวยิ ะดา อยากมชี ายาสวย
ปฏเิ สธทา้ วกะหมังกุหนงิ ท่มี า เป็นผสู้ ง่ สาร จึงให้ชา่ งเขียนแอบไป
สขู่ อบษุ บาให้วิหยาสะกา ใหอ้ ิเหนายกทัพ วาดภาพสาวงาม
เพราะยกบษุ บาให้ ไปช่วยในศึก ตามท่ตี า่ งๆ และ
จรกาแลว้ จนเกิดเป็นศึก กะหมังกุหนิง เป็นผ้สู ู่ขอบษุ บามา
กะหมังกุหนงิ แต่ก็ส่งสาร เปน็ พระชายา
ขอความช่วยเหลือจากพ่ีชาย

(เกร็ดเล็กเกรด็ น้อยเกี่ยวกับพวกศพั ท์ในเรื่อง)...

ระตูจรกาส่ขู อบษุ บาแล้วท้าวดาหาจะยกบษุ บาให้ไหม

อิเหนา ตอนศึกกะหมงั กหุ นิง : พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลัย

นักเรยี นคดิ วา่ ระตูจรกาสู่ขอบุษบาแล้วท้าวดาหาจะยกบษุ บาให้ไหม

นกั เรยี นคิดวา่
อเิ หนาจะมารบชว่ ยทา้ วดาหาหรือไม่
ใครคิดวา่ ช่วยเพราะอะไร....................
หรือไมช่ ่วยเพราะอะไร.....................

อเิ หนา ตอน ศึกกะหมังกุหนงิ

 ทา้ วกเุ รปัน ทา้ วดาหา จดั การหม้นั ระหวา่ งอิเหนากบั บุษบา
 เมื่ออิเหนาอาย๑ุ ๕ ปี ไดเ้ ดินทางไปงานศพอยั กีท่ีเมือง หมันหยา

 จนไดพ้ บกบั นางจนิ ตหรา และไดน้ างจินตหราเป็นชายา

อเิ หนาไม่ยอมกลบั ไปแต่งงานกบั บุษบา !!!!!!!!

 เทา้ ดาหาโกรธมาก ประกาศวา่ ใครกต็ ามทม่ี าขอบุษบากจ็ ะยกให้ !!!!!!!!!
 จรกาอยากไดพ้ ระชายาจึงใหช้ ่างวาดภาพพระธิดาเมืองต่างๆ
เกดิ ความพอใจบุษบาจึงใหท้ า้ วล่าส่า (พ่ชี าย) ไปสู่ขอ

 ทา้ วดาหายกบุษบาใหจ้ รกา พร้อมประกาศใหจ้ ดั งานแต่งภายใน ๓ เดือน

 องค์ปะตาระกาหลา เทวดาและอยั กา(ป่ ูของอิเหนา) ดลบนั ดาลใหภ้ าพนางบุษบา

ไปตกอยู่ ณ กลางป่ า วหิ ยาสะกา โอรสของท้าวกะหมงั กหุ นิง

เดินตามกวางป่ าและไดเ้ ห็นภาพนางบุษบา

แลว้ เกิดพอใจ ถา้ ไม่ไดน้ างมาเป็นชายา

จะฆ่าตวั ตาย!!!!!

ท้าวกะหมงั กหุ นิงสงสารลูกจงึ ส่งทูตไปสู่ขอบุษบา

 แต่ทา้ วดาหาปฏิเสธ

 ทา้ วกะหมงั กหุ นิงจึงยกทพั ไปตเี มืองดาหา โดยใหพ้ ระอนุชาท้งั สองยกทพั มาช่วย

 ทา้ วกะหมงั กุหนิงให้ วิหยาสะกา เป็น ทพั หนา้ พระอนุชาท้งั สองเป็นทพั หลงั
 ฝ่ ายทา้ วดาหาไดข้ อความช่วยเหลือไปยงั

ทา้ วกเุ รปัน ทา้ วกาหลงั และทา้ วสิงหดั ส่าหรี (วงศอ์ สญั แดหวา)

ศึกกะหมงั กหุ นงิ

จอมทพั จอมทพั

เมอื งกะหมังกหุ นงิ ทา้ วกะหมังกหุ นิง อเิ หนา เมอื งดาหา
ทพั หนา้ ทัพหน้า เมืองหมันหยา

เมืองปาหยัง วหิ ยาสะกา สงั คามาระตา เมอื งกุเรปนั
เมืองปะหมนั ทัพหลัง ทัพหลัง

และหวั เมืองอ่ืนๆ ระตปู าหยงั กะหรัดตะปาตี เมืองกาหลัง
ระตปู ระหมนั สหุ รานากง เมอื งสงิ หห์ ัดสา่ หรี

ระเดน่ ดาหยน

 ทา้ วกเุ รปัน ส่งราชสาร๒ฉบบั ไปเมืองหมนั หยา
ฉบบั หน่ึงให้ อเิ หนา ยกทพั มาช่วยทา้ วดาหาทาศึก

อีกฉบบั ส่ง ไปใหร้ ะตูหมนั หยา โดยตาหนินางจินตหราวา่ เป็นตน้ เหตุ
ท่ีทาใหเ้ กิดศึกคร้ังน้ี

โอ้ว่าเจ้าดวงยหิ วาพ่ี
ปานนีจ้ ะคร่าครวญหวนหา
ใครจะปลอบโฉมงามสามสุดา
แต่พอพาใจเศร้าบรรเทาคลาย

สงสารนา้ คาทีพ่ ร่าส่ัง
คดิ ถึงความหลงั แล้วใจหาย
ครวญพลางกาสรดระทดกาย
แล้วคดิ อ้ายพวกไพร่พลมนตรี

!!!! เมื่อทัพที่ช่วยเมืองดาหารบมาครบ อเิ หนาให้จดั กระบวนทัพ
เพื่อรบกบั ท้าวกะหมังกหุ นิง
ตาราพชิ ัยสงคราม

กำรจัดทพั ของอเิ หนำ แบบครุฑนำม

การจัดทัพของท้าวกะหมงั กหุ นิง แบบนาคนาม



สงั คามาระตาเป็นคูต่ ่อสู้กบั วหิ ยาสะกา

สงั คามาระตา วหิ ยาสะกา
ฝ่ ายวหิ ยาสะกา เป็นฝ่ ายเพล่ียงพล้าถูก สงั คามาระตาสงั หาร ตาย

ท้าวกะหมังกหุ นิงเห็นโอรสถูกสังหารกโ็ กรธ ขบั ม้าไล่ล่า สังคามาระตา

อเิ หนาจงึ เข้าสกดั
อิเหนา ในทสี่ ุดอเิ หนาจงึ ใช้ กริช สังหารท้าวกะหมงั กหุ นิง ทา้ วกะหมงั กหุ นิง

ทพั ฝ่ ายท้าวกะหมังกหุ นิงเป็ นฝ่ ายพ่ายแพ้ไป

หนุ่มนอ้ ยโสภาน่าเสียดาย ควรจะนบั วา่ ชายโฉมยง

ทนตแ์ ดงดงั แสงทบั ทิม เพริศพริ้มเพรารับกบั ขนง

เกษาปลายงอนงามทรง เอวองคส์ ารพดั ไม่ขดั ตา

แกมระน้ นว้ีหา่ เรรมะือต่บือูจิดรทากมา้งั ิพสศิ วอาสงฝ่ ายเผจชงนามิญพเนิหหามศือดนนว้ ว้ยาหิโกอยารนั สสะากาน้ี

จะมิไดร้ ้อนรนดว้ ยปนศกั ด์ิ น่ารักรูปทรงส่งศรี

วิหยาสะกา



ท้าวกเุ รปัน เป็ นคนถอื ยศศักดิ์ ไม่ไว้หน้าใคร ไม่เกรงใจใคร
เป็ นคนเข้มแขง็ และเดด็ ขาด รักเกยี รติรักวงศ์ตระกลู

อเิ หนา เป็นคนรอบคอบ มองการณ์ไกล ไม่ประมาท เป็นคนด้ือดึง
เอาแต่ใจตนเอง เป็นคนมีความรับผดิ ชอบ รักชื่อเสียงวงศต์ ระกูล
เป็นคนรู้กาลเทศะ รู้สานึกผดิ เป็นคนเคารพยาเกรงบิดา เจา้ ชู้
เป็นคนท่ีมีอารมณ์ละเอียดออ่ น เขา้ ใจและห่วงความรู้สึกของผอู้ ่ืน

ท้าวดาหา เป็ นผู้รักษาคาสัตย์ มีขตั ตยิ มานะ เข้มแขง็
เดด็ เดย่ี ว และมีความรอบคอบในการศึก

บุษบา

กิริยามารยาทเรียบร้อย คารมคมคาย เฉลียวฉลาดทนั คน
ใจกวา้ ง มีเหตุผล และเป็นลูกที่ดีอยใู่ นโอวาทของบิดามารดา

จนิ ตะหรา

เป็นคนแสนงอนใจนอ้ ย ช่างพดู จาตดั พอ้ ต่อวา่ ประชดประชนั ตามประสาหญิง
มีคารมคมคายสามารถใชค้ าพดู ไดล้ ึกซ้ึงกินใจ เป็นคนมีเหตุผล

ไม่ด้ือดึงไม่งอนจนเกินงาม เป็นคนท่ีมีความรู้สึกไว รับรู้ไว

ท้าวกะหมงั กหุ นิง

เป็นคนรักลกู ยิ่งชีวิต ยอมทาทุกอย่างเพื่อลกู แม้ตนจะต้องตายกย็ อม คาดการณ์ผิด
กล้าหาญในการรบ เป็นคนตัดสินใจเดด็ ขาด เดด็ เด่ยี ว เป็นคนประมาท

วหิ ยาสะกา

เป็นคนเอาแต่ใจตนเอง เป็นคนอ่อนไหว
ขาดสติ เป็นคนที่รักศักด์ิศรี

การศกึ คร้งั นี้เกดิ จากเหตใุ ด


Click to View FlipBook Version