101
ขน้ั ศึกษาขอ้ มลู (Information)
4) ผู้สอนมอบให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าจากหนังสือเรียนวิชากฎหมายทั่วไปเกี่ยวกับงานอาชีพ
ของสำนกั พิมพ์จิตรวัฒน์ ในหนว่ ยที่ 5 ศึกษาในส่วนท่เี ปน็ เนอ้ื หาความรู้ โดยผู้สอนคอยดแู ลให้
คำปรกึ ษาและถามนำให้ผเู้ รยี นช่วยกันตอบเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาตรงวัตถุประสงค์
ที่ต้องการ และเป็นการวัดผลและประเมินจากการเรียนรู้และความสนใจของผู้เรยี นทั้งในด้าน
ความรู้และด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ไปดว้ ย
5) ผู้สอนมอบให้ผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่เรียน พร้อมร่วมสรุปกับผู้เรียนในส่วนที่ยังไม่ครบ
หรือเพ่ิมเติมให้ชัดเจน
ข้ันพยายาม (Application)
6) ผสู้ อนมอบหมายให้ผเู้ รียนทำแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 5
ข้นั สำเรจ็ ผล (Progress)
7) ผู้เรียนร่วมกับผู้สอนในการเฉลยและตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 5 ด้วยตนเอง
เพื่อทำให้ผู้เรียนทราบว่าสามารถทำแบบฝึกหัดถูก-ผิด จำนวนเท่าไร พร้อมทั้งให้ประเมิน
ตนเองดว้ ยจากแบบประเมนิ ตนเอง จากจำนวนขอ้ ทท่ี ำถูก
102
7. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถา้ มี)
ก่อนเรยี น
ผเู้ รยี นศึกษาเกย่ี วกับกฎหมายลขิ สิทธิ์และให้แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับการนำมาใช้ในการเรยี นวชิ า
กฎหมายท่ัวไปเก่ียวกบั งานอาชพี
ขณะเรียน
ใหศ้ ึกษา ค้นควา้ จากส่อื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ กฎหมายลิขสิทธ์ิ
หลังเรยี น
มอบหมายใหผ้ ู้เรยี นลงมือสรปุ และรว่ มกนั อภปิ รายเกีย่ วกับกฎหมายลขิ สิทธ์ิและการนำมาใช้ในการ
เรียนวิชากฎหมายทว่ั ไปเก่ยี วกบั งานอาชพี และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
103
8. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้
สอ่ื ส่ิงพมิ พ์
หนังสือเรยี น กฎหมายท่ัวไปเกี่ยวกับงานอาชพี รหสั 30001-1051 อ.ทวี บวั ทอง
สอ่ื โสตทัศน์
PowerPoint และสอื่ อิเล็กทรอนิกส์
ห่นุ จำลองหรือของจรงิ
-ไม่ม-ี
แหลง่ เรียนรู้เพิ่มเติม
1) เว็ปไซต์
2) ห้องสมุด
งานที่มอบหมาย/กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
1) ใบงานท่ี 9
2) ใบงานท่ี 10
104
9. การวัดผลประเมินผล
ก่อนเรยี น
1) ทดสอบก่อนเรียน 10 ข้อ เพื่อนำไว้เปรยี บเทียบกบั แบบทดสอบหลังเรยี นแต่ละหนว่ ย
ขณะเรียน
1) จากการสังเกต
2) ถาม-ตอบ
3) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียน
4) แบบประเมนิ ผลงาน
5) แบบประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านกลุ่ม
หลังเรียน
1) ให้ผู้เรยี นสรุปกฎหมายลขิ สิทธิ์ ลงสมุดและนำอภปิ รายร่วมกัน โดยมีผู้สอนคอยถามนำการสรุป
ให้ตรงประเด็น
10. บันทึกหลังการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ 105
ภาคเรยี นท่ี...........1..........สปั ดาหท์ ่.ี .....13......วนั ท.ี่ ....21.......เดอื น....กันยายน......พ.ศ......2563.....
นกั ศึกษา ช้ัน......ปวส.1.....สาขาวิชา...เทคนคิ การผลิต....สาขางาน.....เทคนิคการผลติ ....กล่มุ ..1-2...
10.1 ผลการใชแ้ ผนการสอน
- สอนเนื้อหาสมบูรณ์ครบถ้วน
- มกี ารใช้เวลาได้เหมาะสม
- ทำกิจกรรมในช้ันเรยี นไดค้ รบถว้ น
10.2 ผลการเรียนของนักเรยี น
- นกั ศึกษาสว่ นใหญ่มีความสนใจและต้ังใจเรียนอย่างดี
- นกั ศึกษาสามารถอธิบายเก่ยี วกับกฎหมายเก่ยี วกับส่ิงแวดล้อมได้
10.3 ผลการสอนของครู
- ใหค้ วามรู้ หลักกฎหมายทว่ั ไปเกี่ยวกบั กฎหมายเกี่ยวกบั ความปลอดภยั
- ทดสอบความรหู้ ลังเรยี น
10.4 ปญั หา อปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ
- มีนักศึกษาบางคนท่ีขาดวนิ ยั ในการเรียน และการปฏิบัตติ น พดู คุย หยอกลอ้ กนั ในชั้นเรยี น
สร้างความรำคาญให้แก่เพื่อนร่วมชนั้ เรียน
106
ภาคผนวก
ผงั การสร้างแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรียน
หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้ันสูง สาขาวชิ า การจัดการทั่วไป สาขางาน การจัดการทั่วไป
ประจำภาคเรียนท่ี 2/2561
ตามโครงการ ยกระดับสถานศกึ ษาต้นแบบทวิภาคี 100% สูค่ วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ Thailand 4.0
รหสั วชิ า 30001-1051 วิชา กฎหมายทวั่ ไปเกย่ี วกบั งานอาชีพ (3-0-3)
ระดบั พฤตกิ รรมพทุ ธพิ ิสัย
ช่ือหน่วย จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ความ ้รู ความจำ
ความเ ้ขาใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเมินค่า
สร้างสรรค์
รวม
บทท่ี 1 องค์การและการจดั การ 1. จัดหาทรัพยากรในการบรหิ ารจดั การได้ 1 2 1 1 5
2. ทราบถึงประเภทต่าง ๆ ขององคก์ าร
3. ทราบถึงลักษณะขององคก์ าร
4. อธิบายหลักการจดั องคก์ ารท่ีมี
ประสิทธภิ าพได้
5. อธิบายการกำหนดหนา้ ทีง่ านอย่าง 107
เหมาะสมในองค์กรได้ 10
6. ทราบวิธีการแบง่ งานอยา่ งเหมาะสมใน
องคก์ ร
7. อธบิ ายโครงสรา้ งต่าง ๆ ขององค์การได้
8. อธบิ ายการจดั แผนกงานได้
บทท่ี 2 กระบวนการจัดการและ 1. อธิบายทฤษฎีกระบวนการจดั การได้ 2422
การวางแผนงาน 2. อธบิ ายถงึ ลกั ษณะผ้บู รหิ ารและหนา้ ท่ี
ความรับผดิ ชอบได้
3. อธบิ ายถงึ ทกั ษะของผูบ้ รหิ ารหรอื
ผจู้ ัดการควรมไี ด้
4. อธิบายการวางแผนงานในแผนกได้
5. ทราบหนา้ ที่ของผ้รู ับผดิ ชอบการวางแผน
6. อธบิ ายกระบวนการวางแผนได้
7. อธิบายประเภทของการวางแผนต่างๆได้
ภาคผนวก
ผงั การสรา้ งแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรียน
หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชน้ั สงู สาขาวิชา การจัดการทัว่ ไป สาขางาน การจัดการทัว่ ไป
ประจำภาคเรียนท่ี 2/2561
ตามโครงการ ยกระดบั สถานศึกษาตน้ แบบทวิภาคี 100% สู่ความเป็นเลศิ ทางวิชาการ Thailand 4.0
รหัสวชิ า 30001-1051 วิชา กฎหมายท่วั ไปเก่ียวกับงานอาชพี (3-0-3)
ระดับพฤติกรรมพุทธพิ ิสัย
ชือ่ หน่วย จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ความ ้รู ความจำ
ความเข้าใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเ ิมนค่า
สร้างสรรค์
รวม
บทที่ 3 การเพิ่ม 1. อธบิ ายถงึ ประสิทธิภาพและ 2422 108
ประสทิ ธิภาพในองค์การ 10
ประสทิ ธผิ ล
สอบกลางภาค 15
บทที่ 4 การบริหารงาน ของการดำเนนิ งานได้
คณุ ภาพในองคก์ าร
2. อธิบายถงึ องคป์ ระกอบของการเพิ่ม
ประสิทธิภาพ
ในองค์กรได้
3. กำหนดวิธกี ารเพิ่มประสิทธิภาพใน
องค์กรได้
4. พัฒนาองค์กรไดอ้ ย่างต่อเนื่อง
5. พัฒนาทรัพยากรในองค์กรได้อยา่ ง
ต่อเนอื่ ง
1. อธบิ ายถงึ การบรหิ ารงานคุณภาพได้ 3 5 4 3
2. อธิบายถึงส่ิงที่เกย่ี วขอ้ งกบั คุณภาพ
ได้
3. สร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตได้
4. ทราบถึงประโยชน์ที่ไดจ้ ากการ
บรหิ ารงานคณุ ภาพ
5. ทราบถึงประวัตแิ ละที่มาของระบบ
คณุ ภาพ ISO 9000
6. ทราบถึงประโยชนข์ องการจดั
ทะเบียนในระบบคุณภาพ ISO 9000
ภาคผนวก
ผงั การสร้างแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรยี น
หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู สาขาวชิ า การจัดการทัว่ ไป สาขางาน การจดั การทั่วไป
ประจำภาคเรียนท่ี 2/2561
ตามโครงการ ยกระดับสถานศกึ ษาตน้ แบบทวิภาคี 100% สู่ความเป็นเลศิ ทางวชิ าการ Thailand 4.0
รหัสวิชา 30001-1051 วชิ า กฎหมายทว่ั ไปเกยี่ วกบั งานอาชพี (3-0-3)
ระดับพฤตกิ รรมพุทธพิ สิ ัย
ชอื่ หน่วย จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ความ ้รู ความจำ
ความเข้าใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเ ิมนค่า
ส ้รางสรรค์
รวม
บทท่ี 5 การเพ่ิมผลผลิต 1. อธบิ ายความหมายของการเพ่มิ 2 4 2 2 109
ผลผลติ ได้ 10
2. สรา้ งแนวความคดิ ในการเพม่ิ
ผลผลิตได้
3. อธบิ ายเหตผุ ลของการเพ่ิมผลผลิต
ใหก้ ับองค์การได้
4. อธิบายถึงประเภทของการเพม่ิ
ผลผลิตได้
5. อธิบายถึงการวัดการเพิ่มผลผลติ ได้
6. อธบิ ายถงึ ปจั จัยทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ การ
เพ่มิ ผลผลติ ได้
7. กำหนดปัจจัยสำคัญที่จะทำให้งาน
การเพิ่มผลผลติ ประสบความสำเรจ็ ได้
ภาคผนวก
ผงั การสร้างแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรียน
หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชนั้ สงู สาขาวชิ า การจัดการท่ัวไป สาขางาน การจัดการท่วั ไป
ประจำภาคเรยี นท่ี 2/2561
ตามโครงการ ยกระดับสถานศึกษาตน้ แบบทวิภาคี 100% สคู่ วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ Thailand 4.0
รหัสวิชา 30001-1051 วชิ า กฎหมายทว่ั ไปเก่ียวกับงานอาชพี (3-0-3)
ระดับพฤติกรรมพุทธิพิสัย
ช่อื หน่วย จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ความ ้รู ความจำ
ความเข้าใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเ ิมนค่า
ส ้รางสรรค์
รวม
บทท่ี 6 การบริหารความ 1. ทราบถงึ ความเสย่ี ง โอกาส และ 2 4 2 2 110
เสี่ยง การบรหิ ารความเสีย่ ง 10
2. ทราบถึงเหตแุ หง่ ความเสย่ี ง
3. ทราบถงึ ประโยชนข์ องการบรหิ าร
ความเสีย่ ง
4. ทราบองค์ประกอบของการบรหิ าร
ความเสยี่ ง
5. อธบิ ายกระบวนการบริหารความ
เสยี่ งได้
6. อธิบายปจั จัยสำคัญต่อความสำเร็จ
ในการบรหิ าร
ความเสี่ยง
7. ตระหนกึ ถึงหนา้ ที่และความ
รบั ผดิ ชอบในการบรหิ ารความเสย่ี งได้
8. ปฏิบัติงานสู่ความเป็นเลศิ ในการ
บรหิ ารความเส่ียงได้
9. ทราบลำดับขัน้ ของการพฒั นาการ
บรหิ ารความเสีย่ งได้
ภาคผนวก
ผงั การสรา้ งแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรียน
หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชนั้ สงู สาขาวิชา การจัดการทว่ั ไป สาขางาน การจดั การทัว่ ไป
ประจำภาคเรยี นที่ 2/2561
ตามโครงการ ยกระดับสถานศกึ ษาตน้ แบบทวิภาคี 100% สคู่ วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ Thailand 4.0
รหัสวชิ า 30001-1051 วชิ า กฎหมายทวั่ ไปเกี่ยวกบั งานอาชีพ (3-0-3)
ระดบั พฤตกิ รรมพทุ ธิพสิ ัย
ช่ือหน่วย จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ความ ้รู ความจำ
ความเ ้ขาใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเมินค่า
สร้างสรรค์
รวม
บทที่ 7 การจดั การเพื่อลด 1. ทราบถงึ แนวความคดิ เกี่ยวกบั ความ 1 2 1 1 111
ความขดั แย้งในองค์กร ขดั แยง้ 5
2. ทราบถึงประเภทของความขดั แยง้ 15
ในองค์กร 80
3. อธบิ ายถงึ ศึกษาสาเหตุของความ
ขัดแยง้ ได้
4. อธบิ ายถงึ ปัจจยั ทีส่ ง่ ผลตอ่ การเพิ่ม
ความขดั แย้ง
5. กำหนดวิธีบรหิ ารความขัดแยง้ ใน
องค์การได้
6. มที ักษะทจี่ ำเปน็ ในการบริหารความ
ขัดแยง้
สอบปลายภาค
บทที่ 8 การนำกิจกรรม 1. เขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มคุณภาพได้ 3 5 4 3
ระบบคณุ ภาพและเพ่ิม 2. เพิม่ ผลผลติ โดยการบรหิ ารคุณภาพ
ผลผลิตมาประยุกต์ใช้ในการ ทัว่ องค์กรได้
จดั การอาชีพ 3. ทำงานเป็นทีมได้
4. ติดตอ่ กบั บุคคลอื่นในองคก์ รได้
5. ทราบถงึ การบรหิ ารเชิงกลยุทธใ์ น
องค์กร
6. ทราบและปฏบิ ตั ติ นตามบทบัญญัติ
ในการทำงานในองค์กร
รวม 16 30 18 16
ลำดบั ความสำคญั 3124
แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยท่ี 1 เรอื่ ง องค์การและการจดั การ
-------------------------------------------------------------------------
คำสัง่ จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อที่ถกู ต้องท่ีสดุ
1. ขอ้ ใดกล่าวถงึ องคป์ ระกอบของการจดั การไดถ้ ูกต้อง
ก. การจัดการเปน็ ศลิ ปะในการใช้คน
ข. การจดั การต้องอาศยั ปจั จยั พื้นฐาน คือ คน เงิน และวสั ดอุ ุปกรณ์
ค. การจดั การเป็นการดำเนนิ งานของกลุ่มบคุ คล
ง. ถกู ทุกขอ้
2. ทรพั ยากรทเ่ี ปน็ ปจั จัยสำคญั ของการจัดการมกี ป่ี ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
3. ข้อใดคือ องค์การท่เี กิดข้ึนตามธรรมชาติ โดยทุกคนในองค์การรู้จักกนั มาต้ังแต่เกิด มีความค้นุ เคยกนั ดี
112
ก. องคก์ ารแบบปฐม ข. องค์การแบบมัธยม
ค. องค์การแบบไม่เปน็ ทางการ ง. องค์การแบบเป็นทางการ
4. ระบบการบริหารแบ่งออกเป็นกี่ประเภทใหญ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
5. กลุ่มบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใต้การ
ประสานงาน การส่ังการ และความเป็นผูน้ ำ หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. องค์การ ก. ความมุ่งหมาย ค. การบรหิ ารธรุ กจิ ง.วิธีการทำงาน
6. กำหนดเปา้ หมายขององค์การธรุ กิจควรยึดหลักตามขอ้ ใด
ก. ต้องมงุ่ ไปทีผ่ ลลัพธท์ ี่ต้องการ ข. ควรมกี ำหนดเวลาสนิ้ สดุ
ค. ใหเ้ หมาะสมกบั บคุ คลและสถานการณ์ของบรษิ ัท ง. ถูกทุกข้อ
7. ข้อใดคอื ประโยชน์ของการจดั องค์การทม่ี ีตอ่ ผ้ปู ฏิบัตงิ าน
ก. ประหยัดตน้ ทุน ข. การมอบอำนาจทำได้ง่าย
ค. พนักงานรอู้ ำนาจหนา้ ทีข่ องตน ง. การบรหิ ารงานง่าย
8. ข้อใดกล่าวผิดสำหรับลักษณะสายการบังคบั บัญชาที่ดี
ก. ใหม้ ีผู้สง่ั งานได้หลายตำแหนง่ ในงานเดยี วกนั เพอ่ื ความปลอดภยั
ข. จำนวนระดบั ชัน้ แต่ละสายไมค่ วรให้มจี ำนวนมากเกนิ ไป
ค. สายบงั คับบัญชาควรมีลักษณะชัดเจนว่าใครเปน็ ผมู้ อี ำนาจสัง่ การ
ง. สายการบังคบั บญั ชาไมค่ วรใหม้ ีการกา้ วกา่ ยกันหรือซ้อนกัน
9. ประเภทของธรุ กิจ ตามลักษณะธรุ กจิ นั้นๆแบ่งออกเป็นกปี่ ระเภทใหญๆ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
10. ขอ้ ใดคือการจัดแบ่งแผนกงานน้ีเหมาะกับธรุ กจิ ทตี่ ้องการบริการลกู คา้ ทวั่ ประเทศใหค้ รบพน้ื ที่
ก. การจัดแผนกงานตามแผนกผลิตภัณฑ์ ข. การจัดแผนกงานตามประเภทลกู ค้า
ค. การจัดแผนกงานตามพื้นทีภ่ ูมศิ าสตร์ ง. การจดั แผนกงานตามกระบวนการผลติ
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
หน่วยที่ 1 เรื่อง องค์การและการจัดการ
-------------------------------------------------------------------------
คำส่งั จงทำเครือ่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อทถ่ี ูกต้องทสี่ ุด
1. ขอ้ ใดกลา่ วถึงองค์ประกอบของการจดั การไดถ้ ูกต้อง
ก. การจดั การเป็นศิลปะในการใช้คน
ข. การจดั การต้องอาศยั ปจั จยั พน้ื ฐาน คอื คน เงนิ และวัสดุอุปกรณ์
ค. การจดั การเป็นการดำเนนิ งานของกลมุ่ บคุ คล
ง. ถูกทกุ ข้อ
2. ทรพั ยากรท่เี ปน็ ปัจจัยสำคัญของการจดั การมกี ีป่ ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
3. ขอ้ ใดคอื องค์การทเี่ กิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยทุกคนในองค์การรู้จักกนั มาต้ังแต่เกิด มคี วามคุ้นเคยกันดี
113
ก. องค์การแบบปฐม ข. องค์การแบบมธั ยม
ค. องค์การแบบไม่เปน็ ทางการ ง. องค์การแบบเปน็ ทางการ
4. ระบบการบรหิ ารแบ่งออกเปน็ กปี่ ระเภทใหญ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
5. กลุ่มบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใต้การ
ประสานงาน การสงั่ การ และความเปน็ ผนู้ ำ หมายถึงขอ้ ใด
ก. องค์การ ข. ความมงุ่ หมาย ค. การบริหารธรุ กจิ ง. วธิ ีการทำงาน
6. กำหนดเป้าหมายขององค์การธรุ กิจควรยึดหลกั ตามขอ้ ใด
ก. ตอ้ งมุง่ ไปทีผ่ ลลพั ธ์ท่ีต้องการ ข. ควรมกี ำหนดเวลาส้ินสดุ
ง. ให้เหมาะสมกับบคุ คลและสถานการณ์ของบรษิ ทั ง. ถูกทกุ ขอ้
7. ข้อใดคือประโยชน์ของการจัดองค์การทมี่ ีตอ่ ผ้ปู ฏบิ ตั งิ าน
ก. ประหยัดตน้ ทุน ข. การมอบอำนาจทำได้ง่าย
ง. พนกั งานรูอ้ ำนาจหนา้ ทข่ี องตน ง. การบรหิ ารงานงา่ ย
8. ข้อใดกล่าวผิดสำหรับลกั ษณะสายการบงั คบั บญั ชาท่ีดี
ก. ใหม้ ีผ้สู ่ังงานได้หลายตำแหน่งในงานเดียวกนั เพ่ือความปลอดภัย
ข. จำนวนระดับชั้นแตล่ ะสายไมค่ วรให้มจี ำนวนมากเกนิ ไป
ค. สายบังคับบัญชาควรมีลักษณะชัดเจนว่าใครเปน็ ผูม้ ีอำนาจสั่งการ
ง. สายการบังคบั บัญชาไมค่ วรให้มีการกา้ วกา่ ยกนั หรอื ซ้อนกนั
9. ประเภทของธุรกจิ ตามลักษณะธุรกจิ นน้ั ๆแบง่ ออกเป็นกปี่ ระเภทใหญ่ๆ
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
10. ขอ้ ใดคอื การจัดแบ่งแผนกงานน้ีเหมาะกบั ธรุ กิจท่ตี ้องการบริการลูกค้าท่วั ประเทศให้ครบพืน้ ที่
ก. การจัดแผนกงานตามแผนกผลติ ภณั ฑ์ ข. การจดั แผนกงานตามประเภทลูกค้า
ง. การจัดแผนกงานตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ ง. การจัดแผนกงานตามกระบวนการผลิต
แบบทดสอบหลังเรยี น
หนว่ ยท่ี 1 เรื่อง องคก์ ารและการจดั การ
-------------------------------------------------------------------------
1.
2.
คำสัง่ จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อที่ถกู ตอ้ งทีส่ ดุ
1. ทรพั ยากรทเ่ี ป็นปจั จัยสำคัญของการจดั การมีก่ปี ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
2. ระบบการบริหารแบง่ ออกเป็นกปี่ ระเภทใหญ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
3. ขอ้ ใดคือ องค์การท่เี กิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยทกุ คนในองค์การร้จู ักกนั มาต้ังแต่เกิด มคี วามคุ้นเคยกันดี
ก. องคก์ ารแบบปฐม ข. องคก์ ารแบบมธั ยม
ค. องคก์ ารแบบไม่เป็นทางการ ง. องคก์ ารแบบเปน็ ทางการ
4. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ องค์ประกอบของการจดั การได้ถูกต้อง
114
ก. การจัดการเปน็ ศิลปะในการใช้คน
ข. การจัดการตอ้ งอาศัยปัจจยั พื้นฐาน คือ คน เงนิ และวสั ดอุ ุปกรณ์
ค. การจัดการเป็นการดำเนินงานของกลุ่มบคุ คล
ง. ถูกทกุ ข้อ
5. กลุ่มบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใต้การ
ประสานงาน การสง่ั การ และความเป็นผนู้ ำ หมายถึงข้อใด
ก. องค์การ ข. ความมุ่งหมาย ค. การบริหารธุรกจิ ง. วิธกี ารทำงาน
6. กำหนดเปา้ หมายขององคก์ ารธุรกจิ ควรยดึ หลกั ตามข้อใด
ก. ตอ้ งมงุ่ ไปท่ีผลลพั ธ์ทต่ี อ้ งการ ข. ควรมีกำหนดเวลาสน้ิ สดุ
ค. ใหเ้ หมาะสมกับบุคคลและสถานการณ์ของบรษิ ทั ง. ถกู ทุกขอ้
7. ข้อใดคอื การจดั แบง่ แผนกงานนีเ้ หมาะกับธุรกจิ ที่ต้องการบรกิ ารลูกค้าท่ัวประเทศให้ครบพืน้ ท่ี
ก. การจดั แผนกงานตามแผนกผลิตภณั ฑ์ ข. การจดั แผนกงานตามประเภทลูกคา้
ค. การจดั แผนกงานตามพนื้ ท่ภี ูมศิ าสตร์ ง. การจดั แผนกงานตามกระบวนการผลติ
8. ข้อใดคือประโยชน์ของการจัดองค์การท่ีมีตอ่ ผ้ปู ฏิบตั งิ าน
ก. ประหยดั ตน้ ทนุ ข. การมอบอำนาจทำได้ง่าย
ค. พนักงานรู้อำนาจหนา้ ทีข่ องตน ง. การบริหารงานงา่ ย
9. ประเภทของธุรกจิ ตามลกั ษณะธรุ กิจนั้นๆแบ่งออกเปน็ กปี่ ระเภทใหญๆ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
10. ข้อใดกล่าวผิดสำหรับลักษณะสายการบังคับบัญชาที่ดี
ก. ให้มีผสู้ ั่งงานไดห้ ลายตำแหน่งในงานเดยี วกนั เพ่ือความปลอดภัย
ข. จำนวนระดบั ช้ันแต่ละสายไมค่ วรให้มีจำนวนมากเกนิ ไป
ค. สายบงั คบั บญั ชาควรมลี กั ษณะชัดเจนว่าใครเปน็ ผมู้ อี ำนาจสง่ั การ
ง. สายการบงั คับบัญชาไม่ควรใหม้ กี ารกา้ วก่ายกนั หรือซ้อนกนั
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
หน่วยท่ี 1 เรอ่ื ง องคก์ ารและการจัดการ
-------------------------------------------------------------------------
3.
4.
คำสง่ั จงทำเครือ่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ท่ถี กู ตอ้ งท่สี ุด
1. ทรพั ยากรท่เี ป็นปัจจัยสำคัญของการจดั การมีกี่ประการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
2. ระบบการบริหารแบง่ ออกเปน็ ก่ปี ระเภทใหญ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
3. ขอ้ ใดคือ องคก์ ารท่ีเกดิ ขึ้นตามธรรมชาติ โดยทกุ คนในองค์การร้จู ักกนั มาต้ังแต่เกิด มีความคุ้นเคยกันดี
ก. องค์การแบบปฐม ข. องคก์ ารแบบมัธยม
ค. องค์การแบบไม่เปน็ ทางการ ง. องค์การแบบเป็นทางการ
4. ขอ้ ใดกลา่ วถึงองค์ประกอบของการจัดการได้ถูกต้อง
ก. การจัดการเป็นศลิ ปะในการใชค้ น
115
ข. การจัดการตอ้ งอาศัยปัจจยั พื้นฐาน คอื คน เงิน และวัสดุอุปกรณ์
ค. การจัดการเปน็ การดำเนนิ งานของกลมุ่ บุคคล
ง. ถูกทกุ ข้อ
5. กลุ่มบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใต้การ
ประสานงาน การสงั่ การ และความเป็นผู้นำ หมายถึงข้อใด
ก. องค์การ ข. ความม่งุ หมาย ค. การบรหิ ารธุรกจิ ง. วิธกี ารทำงาน
6. กำหนดเปา้ หมายขององคก์ ารธุรกจิ ควรยึดหลักตามขอ้ ใด
ก. ต้องมุ่งไปทผ่ี ลลัพธท์ ต่ี อ้ งการ ข. ควรมีกำหนดเวลาสน้ิ สดุ
ค. ใหเ้ หมาะสมกับบุคคลและสถานการณข์ องบริษัท ง. ถกู ทกุ ข้อ
7. ข้อใดคอื การจดั แบ่งแผนกงานนเ้ี หมาะกับธุรกจิ ทีต่ ้องการบริการลูกคา้ ทวั่ ประเทศใหค้ รบพน้ื ท่ี
ก. การจัดแผนกงานตามแผนกผลิตภณั ฑ์ ข. การจดั แผนกงานตามประเภทลกู คา้
ค. การจัดแผนกงานตามพน้ื ทภี่ ูมศิ าสตร์ ง. การจัดแผนกงานตามกระบวนการผลติ
8. ข้อใดคอื ประโยชน์ของการจดั องค์การที่มีตอ่ ผู้ปฏบิ ตั ิงาน
ก. ประหยัดตน้ ทนุ ข. การมอบอำนาจทำได้งา่ ย
ค. พนักงานร้อู ำนาจหน้าท่ีของตน ง. การบรหิ ารงานงา่ ย
9. ประเภทของธุรกจิ ตามลักษณะธรุ กิจน้ันๆแบง่ ออกเป็นกปี่ ระเภทใหญๆ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
10. ขอ้ ใดกล่าวผดิ สำหรบั ลักษณะสายการบงั คับบัญชาที่ดี
ก. ให้มผี สู้ ง่ั งานไดห้ ลายตำแหนง่ ในงานเดียวกันเพอ่ื ความปลอดภัย
ข. จำนวนระดบั ชัน้ แต่ละสายไมค่ วรใหม้ ีจำนวนมากเกินไป
ค. สายบงั คบั บัญชาควรมลี ักษณะชดั เจนวา่ ใครเป็นผ้มู ีอำนาจสั่งการ
ง. สายการบงั คบั บัญชาไม่ควรให้มีการกา้ วก่ายกนั หรือซ้อนกนั
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หนว่ ยที่ 2 เรอ่ื ง กระบวนการจดั การและการวางแผน
-------------------------------------------------------------------------
คำส่ัง จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อที่ถกู ตอ้ งทีส่ ุด
1. ขอ้ ใดคอื การจัดโครงสรา้ งของหน่วยงานหรอื องคก์ ารออกเปน็ หน่วยงานย่อยๆ
ก. การวางแผน (Planning) ข. การจัดหนว่ ยงาน (Organizing)
ค. การสงั่ การบังคับบัญชา (Commanding) ง. การประสานงาน (Coordinating)
2. ข้อใดคือการจัดตัวบคุ คล เป็นการบรหิ ารงานดา้ นบุคลากร
ก. Planning ข. Organizing ค. Staffing ง. Directing
3. ขอ้ ใดคือการประสานงานประสานกจิ การด้านต่างๆของหน่วยงาน
ก. Directing ข. Coordinating ค. Reporting ง. Budgeting
4. วัฎจกั รเดมิ่ง (Deming cycle) มีกี่ขนั้ ตอน
ก. 2 ขัน้ ตอน ข. 3 ข้ันตอน ค. 4 ขั้นตอน ง. 5 ขัน้ ตอน
116
5. ผู้บรหิ ารระดบั ใดที่เปน็ ผบู้ ริหารท่ี “เก่งคน”
ก. ผู้บรหิ ารระดับสงู ข. ผูบ้ ริหารระดบั กลาง
ค. ผู้บริหารระดับต้น ง. ผูบ้ รหิ ารระดับปฏบิ ตั งิ าน
6. ข้อใดหมายถึงความสามารถในการติดต่อกับผู้อื่น มีความชำนาญในการสร้างความสำพันธ์ที่ดี
สามารถจงู ใจผู้อื่น สร้างความร้สู ึกท่ดี ี
ก. ทักษะด้านเทคนิค ข. ทักษะด้านมนุษย์สมั พนั ธ์
ค. ทกั ษะด้านความคดิ ง. ถกู ทุกข้อ
7. ขอ้ ใดกลา่ วผดิ เกย่ี วกับลกั ษณะสำคัญของการวางแผน
ก. เปน็ เร่อื งทเ่ี กิดข้นึ แนน่ อนในอนาคต โดยอาศัยขอ้ มูลปจั จบุ นั
ข. กำหนดเปา้ หมายและวธิ กี ารไปส่เู ปา้ หมาย
ค. เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการกรพละทำหรือกิจกรรม
ง. เป็นเรอ่ื งของการตัดสนิ ในของผู้บรหิ าร
8. ข้อใดคือเป้าหมายที่มีลักษณะกว้างขวางซึ่งเป็นความต้องการในอนาคต โดยได้กำหนดวิธีการไว้
เป็นการสร้างความคิดโดยการใช้คำถาม ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
บรกิ ารทด่ี ีทสี่ ุด
ก. วิสัยทัศน์ ข. ภารกิจ ค. เป้าหมาย ง. วตั ถปุ ระสงค์
9. ข้อใดคือแผนงานย่อยที่กำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครเป็น
ผู้รับผิดชอบ
ก. วิสยั ทศั น์ ข. ภารกจิ ค. โครงการ ง. นโยบาย
10.ข้อใดคอื ตารางประกอบวิธกี ารดำเนนิ งานโดยระบวุ า่ การดำเนนิ งานแตล่ ะข้นั ตอนจะกระทำในวัน
เดอื น ปใี ดในรปู ของ(Gantt chart)
ก. หลักการและเหตผุ ล ข. แผนภูมิปฏบิ ัตงิ าน ค. เปา้ หมาย ง. ความมงุ่ หมาย
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
หน่วยที่ 2 เรือ่ ง กระบวนการจัดการและการวางแผน
-------------------------------------------------------------------------
คำสั่ง จงทำเครือ่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อทีถ่ ูกตอ้ งทสี่ ดุ
1. ขอ้ ใดคอื การจดั โครงสร้างของหน่วยงานหรือองคก์ ารออกเป็นหน่วยงานย่อยๆ
ก. การวางแผน (Planning) ข. การจัดหนว่ ยงาน (Organizing)
ง. การส่ังการบงั คบั บญั ชา (Commanding) ง. การประสานงาน (Coordinating)
2. ขอ้ ใดคือการจดั ตวั บคุ คล เปน็ การบรหิ ารงานด้านบคุ ลากร
ก. Planning ข. Organizing ค. Staffing ง. Directing
3. ขอ้ ใดคอื การประสานงานประสานกจิ การด้านตา่ งๆของหน่วยงาน
ก. Directing ข. Coordinating ค. Reporting ง. Budgeting
4. วัฎจักรเดมิง่ (Deming cycle) มีก่ีขั้นตอน
ก. 2 ข้ันตอน ข. 3 ขั้นตอน ค. 4 ข้ันตอน ง. 5 ข้ันตอน
117
5. ผู้บรหิ ารระดบั ใดทเี่ ป็นผูบ้ รหิ ารท่ี “เกง่ คน”
ก. ผู้บรหิ ารระดบั สงู ข. ผู้บรหิ ารระดบั กลาง
ค. ผูบ้ ริหารระดับตน้ ง. ผู้บริหารระดับปฏิบตั ิงาน
6. ข้อใดหมายถึงความสามารถในการติดต่อกับผู้อื่น มีความชำนาญในการสร้างความสำพันธ์ที่ดี
สามารถจงู ใจผู้อนื่ สร้างความรสู้ ึกทด่ี ี
ก. ทกั ษะดา้ นเทคนคิ ข. ทกั ษะด้านมนษุ ยส์ ัมพันธ์
ค. ทกั ษะด้านความคดิ ง. ถูกทกุ ขอ้
7. ข้อใดกลา่ วผดิ เกย่ี วกับลักษณะสำคัญของการวางแผน
ก. เป็นเร่อื งทีเ่ กดิ ขึ้นแน่นอนในอนาคต โดยอาศยั ข้อมูลปจั จบุ นั
ข. กำหนดเป้าหมายและวธิ ีการไปสูเ่ ป้าหมาย
ค. เปน็ เรอื่ งเก่ียวขอ้ งกับการกรพละทำหรือกิจกรรม
ง. เปน็ เรือ่ งของการตัดสินในของผบู้ ริหาร
8. ข้อใดคือเป้าหมายที่มีลักษณะกว้างขวางซึ่งเป็นความต้องการในอนาคต โดยได้กำหนดวิธีการไว้
เป็นการสร้างความคิดโดยการใช้คำถาม ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
บริการทด่ี ที ส่ี ุด
ก. วสิ ยั ทศั น์ ข. ภารกจิ ค. เปา้ หมาย ง. วตั ถปุ ระสงค์
9. ข้อใดคือแผนงานย่อยที่กำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครเป็น
ผรู้ บั ผดิ ชอบ
ก. วสิ ัยทัศน์ ข. ภารกจิ ค. โครงการ ง. นโยบาย
10.ข้อใดคือตารางประกอบวิธกี ารดำเนนิ งานโดยระบุว่าการดำเนินงานแต่ละข้ันตอนจะกระทำในวนั
เดือน ปีใดในรูปของ(Gantt chart)
ก. หลักการและเหตุผล ข. แผนภมู ปิ ฏบิ ตั งิ าน ค. เป้าหมาย ง. ความมุ่งหมาย
แบบทดสอบหลงั เรยี น
หน่วยท่ี 2 เรอ่ื ง กระบวนการจัดการและการวางแผน
-------------------------------------------------------------------------
คำส่ัง จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อที่ถูกต้องทส่ี ดุ
1. ขอ้ ใดคอื การประสานงานประสานกจิ การด้านตา่ งๆของหนว่ ยงาน
ก. Directing ข. Coordinating ค. Reporting ง. Budgeting
2. วัฎจกั รเดมิ่ง (Deming cycle) มกี ขี่ นั้ ตอน
ก. 2 ขั้นตอน ข. 3 ขั้นตอน ค. 4 ข้นั ตอน ง. 5 ขัน้ ตอน
3. ผู้บริหารระดับใดท่เี ปน็ ผู้บริหารท่ี “เกง่ คน”
ก. ผู้บริหารระดบั สงู ข. ผบู้ รหิ ารระดับกลาง
ค. ผบู้ รหิ ารระดับต้น ง. ผ้บู รหิ ารระดบั ปฏิบตั งิ าน
4. ขอ้ ใดคือการจดั โครงสรา้ งของหนว่ ยงานหรือองคก์ ารออกเป็นหนว่ ยงานย่อยๆ
ก. การวางแผน (Planning) ข. การจัดหน่วยงาน (Organizing)
118
ค. การสั่งการบงั คับบญั ชา (Commanding) ง. การประสานงาน (Coordinating)
5. ข้อใดกลา่ วผดิ เก่ยี วกบั ลกั ษณะสำคัญของการวางแผน
ก. เป็นเรื่องที่เกิดขึน้ แน่นอนในอนาคต โดยอาศัยข้อมลู ปัจจุบัน
ข. กำหนดเปา้ หมายและวิธีการไปสเู่ ปา้ หมาย
ค. เปน็ เรื่องเก่ยี วข้องกบั การกรพละทำหรือกจิ กรรม
ง. เป็นเรื่องของการตัดสินในของผ้บู รหิ าร
6. ข้อใดคือแผนงานย่อยที่กำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครเป็น
ผู้รบั ผดิ ชอบ
ก. วสิ ัยทศั น์ ข. ภารกจิ ค. โครงการ ง. นโยบาย
7. ขอ้ ใดคือตารางประกอบวธิ กี ารดำเนนิ งานโดยระบวุ ่าการดำเนนิ งานแต่ละข้นั ตอนจะกระทำในวัน
เดอื น ปใี ดในรูปของ(Gantt chart)
ก. หลกั การและเหตุผล ข. แผนภมู ปิ ฏิบัติงาน ค. เป้าหมาย ง. ความมงุ่ หมาย
8. ข้อใดคือเป้าหมายที่มีลักษณะกว้างขวางซึ่งเป็นความต้องการในอนาคต โดยได้กำหนดวิธีการไว้
เป็นการสร้างความคิดโดยการใช้คำถาม ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
บริการที่ดที ส่ี ดุ
ก. วสิ ัยทศั น์ ข. ภารกจิ ค. เป้าหมาย ง. วัตถปุ ระสงค์
9. ข้อใดคือการจดั ตัวบุคคล เปน็ การบริหารงานดา้ นบุคลากร
ก. Planning ข. Organizing ค. Staffing ง. Directing
10.ข้อใดหมายถึงความสามารถในการติดต่อกับผู้อื่น มีความชำนาญในการสร้างความสำพันธ์ที่ดี
สามารถจงู ใจผู้อ่นื สร้างความร้สู กึ ท่ีดี
ก. ทักษะด้านเทคนคิ ข. ทกั ษะดา้ นมนษุ ย์สมั พนั ธ์
ค. ทักษะดา้ นความคดิ ง. ถูกทกุ ขอ้
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
หนว่ ยที่ 2 เรอ่ื ง กระบวนการจัดการและการวางแผน
-------------------------------------------------------------------------
คำส่งั จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทถ่ี กู ต้องทสี่ ดุ
1. ขอ้ ใดคอื การประสานงานประสานกิจการด้านต่างๆของหนว่ ยงาน
ก. Directing ข. Coordinating ค. Reporting ง. Budgeting
2. วัฎจักรเดม่งิ (Deming cycle) มกี ข่ี ้นั ตอน
ก. 2 ขัน้ ตอน ข. 3 ขัน้ ตอน ค. 4 ขัน้ ตอน ง. 5 ข้ันตอน
3. ผู้บรหิ ารระดบั ใดทเ่ี ป็นผบู้ รหิ ารที่ “เกง่ คน”
ก. ผบู้ รหิ ารระดบั สูง ข. ผบู้ ริหารระดบั กลาง
ค. ผบู้ รหิ ารระดบั ต้น ง. ผบู้ รหิ ารระดับปฏบิ ัตงิ าน
4. ข้อใดคอื การจดั โครงสรา้ งของหนว่ ยงานหรือองคก์ ารออกเปน็ หน่วยงานย่อยๆ
ก. การวางแผน (Planning) ข. การจดั หน่วยงาน (Organizing)
119
ง. การส่ังการบังคบั บญั ชา (Commanding) ง. การประสานงาน (Coordinating)
5. ขอ้ ใดกลา่ วผิดเก่ยี วกบั ลกั ษณะสำคัญของการวางแผน
ก. เป็นเรอ่ื งทเ่ี กดิ ข้ึนแน่นอนในอนาคต โดยอาศัยขอ้ มูลปจั จบุ นั
ข. กำหนดเปา้ หมายและวิธกี ารไปสูเ่ ป้าหมาย
ค. เปน็ เร่ืองเก่ียวข้องกบั การกรพละทำหรือกจิ กรรม
ง. เป็นเรอื่ งของการตัดสนิ ในของผู้บรหิ าร
6. ข้อใดคือแผนงานย่อยที่กำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครเป็น
ผ้รู บั ผดิ ชอบ
ก. วสิ ัยทศั น์ ข. ภารกิจ ค. โครงการ ง. นโยบาย
7. ขอ้ ใดคือตารางประกอบวิธีการดำเนนิ งานโดยระบวุ ่าการดำเนินงานแต่ละข้นั ตอนจะกระทำในวนั
เดอื น ปใี ดในรปู ของ(Gantt chart)
ก. หลักการและเหตุผล ข. แผนภูมิปฏิบตั ิงาน ค. เปา้ หมาย ง. ความมุ่งหมาย
8. ข้อใดคือเป้าหมายที่มีลักษณะกว้างขวางซึ่งเป็นความต้องการในอนาคต โดยได้กำหนดวิธีการไว้
เป็นการสร้างความคิดโดยการใช้คำถาม ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
บรกิ ารทด่ี ีทสี่ ุด
ก. วิสยั ทศั น์ ข. ภารกิจ ค. เป้าหมาย ง. วตั ถุประสงค์
9. ขอ้ ใดคือการจดั ตัวบุคคล เป็นการบรหิ ารงานด้านบคุ ลากร
ก. Planning ข. Organizing ค. Staffing ง. Directing
10.ข้อใดหมายถึงความสามารถในการติดต่อกับผู้อื่น มีความชำนาญในการสร้างความสำพันธ์ที่ดี
สามารถจงู ใจผู้อน่ื สรา้ งความรู้สกึ ทด่ี ี
ก. ทกั ษะด้านเทคนคิ ข. ทกั ษะดา้ นมนุษย์สมั พันธ์
ค. ทักษะดา้ นความคิด ง. ถูกทกุ ข้อ
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หน่วยท่ี 3 เรอ่ื ง การเพิ่มประสทิ ธิภาพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
คำสั่ง จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อทถ่ี กู ตอ้ งที่สดุ
1. ความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆ อย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จตาม
เป้าหมายท่กี ำหนดหมายถึงขอ้ ใด
ก. ประหยดั ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธภิ าพ ง. ประสิทธผิ ล
2. การทำงานให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นความสัมพันธ์ของต้นทนุ หรือทรัพยากรท่ีใช้กบั
ผลทเี่ กิดขึน้ หมายถึงข้อใด
ก. ประหยดั ข. ประโยชน์ ค. ประสิทธภิ าพ ง. ประสิทธิผล
3. นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานเป็นองค์ประกอบใดในการเพ่ิม
ประสทิ ธภิ าพในองค์กร
ก. ลักษณะบคุ ลากร ข. การบริหารจดั การ ค. การพัฒนา ง. ถกู ทกุ ข้อ
120
4. ข้อใดหมายถึงการจัดการอย่างมีคุณภาพท่ีผู้บริหารมีความรูป้ ระสบการณ์ทางการบริหารอย่างมืออาชีพ
ก. ผลติ ภัณฑ์ที่ทันสมยั ข. ผลิตภัณฑท์ มี่ คี ุณภาพ
ค. ใชท้ รพั ย์สนิ อยา่ งคมุ้ คา่ ง. การจดั การอยา่ งมคี ณุ ภาพ
5. ข้อใดหมายถึงการปฏบิ ัติงานต่างๆ ในระหว่างการผลิตทีป่ ้องกนั ไม่ให้เกดิ ของเสีย ป้องกันไม่ให้การ
ทำงานผดิ ไปจากกำหนด ข. การควบคุมคุณภาพ
ก. ระบบการจดั การคุณภาพโดยรวม ง. กิจกรรม 5 ส
ค. วงจรเดมม่งิ
6. ข้อใดเป็นแนวคิดการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ทำงาน เพื่อก่อให้เกิดสภาพการ
ทำงานทด่ี ปี ลอดภัย
ก. ระบบการจดั การคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คณุ ภาพ
ค. วงจรเดมมิ่ง ง. กจิ กรรม 5 ส
7. ข้อใดเปน็ ระบบบรหิ ารจัดการคณุ ภาพสมัยใหม่
ก. ระบบการจัดการคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคุมคุณภาพ
ค. วงจรเดมม่งิ ง. กจิ กรรม 5 ส
8. หวั ใจสำคญั ของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมมีกีป่ ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
9. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชนข์ องการพัฒนาองคก์ ร
ก. การพัฒนาองคก์ รนำมาซงึ่ การเพิม่ ผลผลิตใหแ้ ก่องค์กร
ข. การปฏบิ ตั ิงานภายในองค์กรอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ค. ช่วยลดอัตราการวา่ งงาน การลาปว่ ย การลากจิ การเปล่ียนงาน การลาออกจากงาน
ง. ลดความความสมั พันธ์ทดี่ ีภายในองคก์ ร
10.ขอ้ ใดคือหลักการบริหารการใชพ้ ลังงานเพ่ือการประหยดั พลงั งาน
ก. มีการสำรวจการใชพ้ ลงั งานอย่างละเอยี ด
ข. นำผลสำรวจมาวิเคราะห์เปรียบเทยี บปริมาณ
ค. การใช้เทคโนโลยปี ระหยัดพลงั งาน
ง. ถูกทกุ ข้อ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยที่ 3 เรื่อง การเพ่ิมประสิทธิภาพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
คำสง่ั จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทถ่ี กู ตอ้ งทส่ี ุด
1. ความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆ อย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จตาม
เป้าหมายทีก่ ำหนดหมายถึงขอ้ ใด
ก. ประหยดั ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธภิ าพ ง. ประสิทธผิ ล
2. การทำงานให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไวเ้ ป็นความสัมพันธ์ของต้นทนุ หรือทรัพยากรท่ีใช้กบั
ผลท่เี กดิ ข้ึนหมายถึงข้อใด
ก. ประหยดั ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธภิ าพ ง. ประสทิ ธผิ ล
3. นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานเป็นองค์ประกอบใดในการเพ่ิม
ประสิทธภิ าพในองค์กร
ก. ลกั ษณะบคุ ลากร ข. การบรหิ ารจัดการ ค. การพัฒนา ง. ถกู ทกุ ข้อ
121
4. ขอ้ ใดหมายถึงการจัดการอย่างมีคุณภาพทผ่ี ู้บรหิ ารมีความรปู้ ระสบการณ์ทางการบริหารอยา่ งมืออาชีพ
ก. ผลิตภณั ฑ์ที่ทนั สมยั ข. ผลิตภัณฑท์ มี่ ีคณุ ภาพ
ค. ใช้ทรัพย์สินอยา่ งค้มุ ค่า ง. การจัดการอยา่ งมคี ุณภาพ
5. ข้อใดหมายถึงการปฏบิ ัติงานต่างๆ ในระหว่างการผลิตทีป่ ้องกนั ไม่ให้เกิดของเสีย ป้องกันไม่ให้การ
ทำงานผดิ ไปจากกำหนด
ก. ระบบการจดั การคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคุมคณุ ภาพ
ง. วงจรเดมมิ่ง ง. กจิ กรรม 5 ส
6. ข้อใดเป็นแนวคิดการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ทำงาน เพื่อก่อให้เกิดสภาพการ
ทำงานทดี่ ีปลอดภยั
ก. ระบบการจัดการคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคุมคุณภาพ
ค. วงจรเดมมง่ิ ง. กจิ กรรม 5 ส
7. ข้อใดเปน็ ระบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพสมัยใหม่
ก. ระบบการจัดการคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ค. วงจรเดมมิ่ง ง. กจิ กรรม 5 ส
8. หวั ใจสำคัญของระบบการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มมกี ี่ประการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
9. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชนข์ องการพัฒนาองค์กร
ก. การพัฒนาองคก์ รนำมาซง่ึ การเพ่ิมผลผลิตใหแ้ ก่องค์กร
ข. การปฏบิ ัติงานภายในองคก์ รอยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ค. ชว่ ยลดอัตราการว่างงาน การลาป่วย การลากิจ การเปลี่ยนงาน การลาออกจากงาน
ง. ลดความความสมั พันธ์ท่ีดีภายในองคก์ ร
10.ขอ้ ใดคือหลกั การบริหารการใชพ้ ลังงานเพือ่ การประหยดั พลงั งาน
ก. มีการสำรวจการใชพ้ ลังงานอยา่ งละเอียด
ข. นำผลสำรวจมาวิเคราะห์เปรียบเทียบปรมิ าณ
ค. การใชเ้ ทคโนโลยีประหยดั พลงั งาน
ง. ถกู ทกุ ข้อ
แบบทดสอบหลังเรียน
จ.
ฉ.
หน่วยที่ 3 เรือ่ ง การเพิ่มประสทิ ธภิ าพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
ช.
ซ.
คำสง่ั จงทำเครือ่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ทถี่ กู ต้องที่สดุ
1. ขอ้ ใดคอื หลกั การบรหิ ารการใชพ้ ลังงานเพื่อการประหยดั พลงั งาน
ก. มีการสำรวจการใช้พลังงานอย่างละเอยี ด
ข. นำผลสำรวจมาวเิ คราะห์เปรียบเทยี บปริมาณ
ค. การใช้เทคโนโลยปี ระหยดั พลงั งาน
ง. ถูกทกุ ข้อ
2. ขอ้ ใดหมายถึงการจัดการอย่างมีคุณภาพท่ีผู้บริหารมีความรูป้ ระสบการณ์ทางการบริหารอย่างมืออาชีพ
ก. ผลติ ภัณฑ์ท่ีทันสมยั ข. ผลิตภณั ฑท์ ่ีมคี ณุ ภาพ
ค. ใชท้ รัพย์สินอย่างคุ้มคา่ ง. การจดั การอย่างมีคุณภาพ
122
3. ข้อใดหมายถึงการปฏบิ ัติงานต่างๆ ในระหว่างการผลิตที่ป้องกันไม่ให้เกดิ ของเสีย ป้องกันไม่ให้การ
ทำงานผิดไปจากกำหนด
ก. ระบบการจดั การคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ค. วงจรเดมมิง่ ง. กจิ กรรม 5 ส
4. ข้อใดเป็นแนวคิดการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ทำงาน เพื่อก่อให้เกิดสภาพการ
ทำงานที่ดีปลอดภัย
ก. ระบบการจัดการคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คณุ ภาพ
ค. วงจรเดมม่ิง ง. กิจกรรม 5 ส
5. ข้อใดเป็นระบบบรหิ ารจัดการคณุ ภาพสมยั ใหม่
ก. ระบบการจัดการคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคุมคุณภาพ
ค. วงจรเดมมิง่ ง. กจิ กรรม 5 ส
6. ความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆ อย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จตาม
เป้าหมายที่กำหนดหมายถงึ ข้อใด
ก. ประหยดั ข. ประโยชน์ ค. ประสิทธิภาพ ง. ประสทิ ธิผล
7. การทำงานให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นความสัมพันธ์ของต้นทุนหรือทรัพยากรท่ีใช้กับ
ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ หมายถึงข้อใด
ก. ประหยดั ข. ประโยชน์ ค. ประสิทธิภาพ ง. ประสิทธผิ ล
8. นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานเป็นองค์ประกอบใดในการเพ่ิม
ประสทิ ธภิ าพในองคก์ ร
ก. ลักษณะบุคลากร ข. การบริหารจดั การ ค. การพัฒนา ง. ถกู ทกุ ข้อ
9. หวั ใจสำคญั ของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมมกี ป่ี ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
10.ข้อใดไม่ใช่ประโยชนข์ องการพัฒนาองค์กร
ก. การพฒั นาองคก์ รนำมาซึ่งการเพ่ิมผลผลิตให้แก่องคก์ ร
ข. การปฏบิ ัติงานภายในองคก์ รอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ค. ช่วยลดอตั ราการว่างงาน การลาป่วย การลากจิ การเปลย่ี นงาน การลาออกจากงาน
ง. ลดความความสัมพันธท์ ีด่ ีภายในองคก์ ร
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
ฌ.
ญ.
หนว่ ยที่ 3 เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
ฎ.
ฏ.
คำส่ัง จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ท่ีถกู ต้องที่สุด
1. ข้อใดคือหลกั การบริหารการใช้พลงั งานเพื่อการประหยัดพลังงาน
ก. มีการสำรวจการใช้พลังงานอยา่ งละเอียด
ข. นำผลสำรวจมาวเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบปรมิ าณ
ค. การใชเ้ ทคโนโลยปี ระหยดั พลงั งาน
ง. ถกู ทุกขอ้
2. ข้อใดหมายถงึ การจัดการอย่างมีคุณภาพทผ่ี ู้บรหิ ารมีความรู้ประสบการณ์ทางการบริหารอยา่ งมืออาชีพ
ก. ผลติ ภณั ฑ์ท่ีทันสมัย ข. ผลิตภณั ฑ์ท่ีมีคุณภาพ
ค. ใชท้ รัพยส์ ินอยา่ งคมุ้ คา่ ง. การจัดการอย่างมคี ณุ ภาพ
123
3. ข้อใดหมายถึงการปฏบิ ัติงานต่างๆ ในระหว่างการผลิตที่ป้องกนั ไม่ให้เกดิ ของเสีย ป้องกันไม่ให้การ
ทำงานผิดไปจากกำหนด
ก. ระบบการจดั การคุณภาพโดยรวม ข. การควบคุมคุณภาพ
ง. วงจรเดมม่งิ ง. กิจกรรม 5 ส
4. ข้อใดเป็นแนวคิดการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ทำงาน เพื่อก่อให้เกิดสภาพการ
ทำงานทดี่ ีปลอดภยั
ก. ระบบการจดั การคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคุมคุณภาพ
ค. วงจรเดมมิง่ ง. กจิ กรรม 5 ส
5. ข้อใดเป็นระบบบรหิ ารจัดการคณุ ภาพสมัยใหม่
ก. ระบบการจดั การคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ค. วงจรเดมมง่ิ ง. กิจกรรม 5 ส
6. ความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆ อย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จตาม
เป้าหมายท่ีกำหนดหมายถงึ ขอ้ ใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธภิ าพ ง. ประสทิ ธผิ ล
7. การทำงานให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไวเ้ ป็นความสัมพันธ์ของต้นทนุ หรอื ทรัพยากรท่ีใช้กับ
ผลทีเ่ กดิ ขึน้ หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสิทธภิ าพ ง. ประสิทธผิ ล
8. นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานเป็นองค์ประกอบใดในการเพิ่ม
ประสทิ ธภิ าพในองคก์ ร
ก. ลกั ษณะบุคลากร ข. การบริหารจัดการ ค. การพฒั นา ง. ถูกทุกข้อ
9. หวั ใจสำคญั ของระบบการจดั การสง่ิ แวดล้อมมกี ่ปี ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
10.ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการพัฒนาองค์กร
ก. การพฒั นาองคก์ รนำมาซง่ึ การเพม่ิ ผลผลติ ให้แก่องค์กร
ข. การปฏิบัตงิ านภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
ค. ชว่ ยลดอัตราการวา่ งงาน การลาปว่ ย การลากจิ การเปลยี่ นงาน การลาออกจากงาน
ง. ลดความความสมั พันธ์ทด่ี ีภายในองค์กร
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
ฐ.
ฑ.
หนว่ ยท่ี 4 เรือ่ ง การบริหารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
-------------------------------------------------------------------------
ฒ.
ณ.
คำสง่ั จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ท่ีถกู ตอ้ งทสี่ ุด
1. การปฏิบัติงานหรือการทำงานขององค์กรเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติทุกประการของผลิตภัณฑ์
ที่สามารถสนองความต้องการความพึงพอใจ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หมายถงึ ข้อใด
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ข. จริยธรรมทางการบรหิ าร
ค. คณุ ภาพความคิดดงั้ เดมิ ง. ความพึงพอใจ
2. ขอ้ ใดคอื มาตรฐานของการปฏบิ ัตงิ านหรือการประเมินเชิงคณุ ธรรมทผี่ ูบ้ รหิ ารใชใ้ นองค์กร
ก. การบริหารงานคุณภาพ ข. จริยธรรมทางการบรหิ าร
ค. คณุ ภาพความคดิ ด้ังเดิม ง. ความพึงพอใจ
124
3. ข้อใดคือการดำเนินการตามระบบและวางแผนที่วางไว้เพื่อจะไห้หลักประกันว่าสินค้าหรือบริการ
เปน็ ไปตามทลี่ ูกคา้ ตอ้ งการ
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ข. การประกันคุณภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคุมคุณภาพ
4. ข้อใดคือโครงสรา้ งของการจดั การภายในองค์กร หน้าที่ความรบั ผดิ ชอบ ขั้นตอนการทำงาน วิธีการ
ทำงานและทรพั ยากรอ่ืนๆ สำหรบั ทำใหบ้ รกิ ารมีคณุ ภาพ
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. การประกันคณุ ภาพ ค. ระบบคุณภาพ ง.การควบคมุ คุณภาพ
5. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากการบรหิ ารงานคณุ ภาพ
ก. เพ่มิ ขวัญและกำลังใจใหก้ บั พนกั งาน ข. สร้างความมนั่ ใจแก่ลูกคา้
ค. เปน็ เครอื่ งมอื สำหรบั ปรบั ปรงุ กิจกรรมในองคก์ ร ง. เพ่มิ กระบวนการทำงานขององคก์ ร
6. ประเทศไทยประกาศใช้อนกุ รมมาตรฐาน มอก. 9000 เป็นมาตรฐานระดับชาติในปีใด
ก. พ.ศ. 2535 ข. พ.ศ. 2540 ค. พ.ศ. 2545 ง. พ.ศ. 2550
7. ขอ้ ใดคอื ประโยชน์ของระบบคณุ ภาพ ISO 9000ทมี่ ีต่อพนกั งาน
ก. การปฏบิ ัติงานมรี ะบบและมขี อบเขตทีช่ ัดเจน ข. ทำใหผ้ ลติ ภัณฑ์เป็นทเ่ี ชื่อได้ ไดร้ ับการยอมรับ
ค. ชว่ ยใหม้ ั่นใจในการผลติ ภณั ฑ์และบริการ ง. ง่ายต่อการค้นหาองค์กรทมี่ คี ณุ ภาพ
8. ข้อใดคอื ประโยชน์ของระบบคุณภาพ ISO 9000ท่ีมีต่อองคก์ ร
ก. การปฏิบัตงิ านมีระบบและมีขอบเขตทชี่ ัดเจน ข. ผลิตภณั ฑเ์ ปน็ ที่เชือ่ ถอื ได้ ไดร้ ับการยอมรับ
ค. ชว่ ยให้ม่นั ใจในการผลติ ภณั ฑ์และบรกิ าร ง. ง่ายต่อการค้นหาองคก์ รทม่ี ีคณุ ภาพ
9. ISO 14000 เป็นมาตรฐานระบบคณุ ภาพทีเ่ ก่ียวกบั เรื่องใด
ก. การตรวจสอบระบบคณุ ภาพ ข. ข้อกำหนดของเคร่ืองมอื วัดคุณภาพ
ค. ดา้ นสง่ิ แวดล้อม ง. การจัดทำคูม่ อื คณุ ภาพ
10.ขอ้ ใดคือวัตถุประสงค์ของระบบคุณภาพ ISO 9000
ก. เพือ่ ทำให้มรี ะบบการบรหิ ารทีเ่ ป็นลายๆลักษณ์อกั ษร และมปี ระสทิ ธิผล
ข. เพื่อทำให้ลกู คา้ มั่นใจในคณุ ภาพของสนิ ค้าและบริการทไี่ ด้รับ
ค. เพือ่ สร้างความมัน่ ใจใหแ้ กผ่ บู้ รหิ ารว่าสามารถบรรลุความตอ้ งการของลูกได้
ง. ถกู ทกุ ข้อ
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ด.
ต.
หนว่ ยที่ 4 เรอ่ื ง การบริหารงานคุณภาพในองคก์ าร
-------------------------------------------------------------------------
ถ.
ท.
คำส่ัง จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ที่ถูกตอ้ งท่ีสดุ
1. การปฏิบัติงานหรือการทำงานขององค์กรเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติทุกประการของผลิตภัณฑ์
ที่สามารถสนองความต้องการความพึงพอใจ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หมายถึงข้อใด
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. จรยิ ธรรมทางการบรหิ าร
ง. คุณภาพความคดิ ดั้งเดิม ง. ความพึงพอใจ
2. ข้อใดคือมาตรฐานของการปฏิบตั งิ านหรอื การประเมินเชิงคณุ ธรรมท่ีผู้บริหารใชใ้ นองค์กร
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ข. จริยธรรมทางการบรหิ าร
ค. คณุ ภาพความคิดด้งั เดมิ ง. ความพงึ พอใจ
125
3. ข้อใดคือการดำเนินการตามระบบและวางแผนที่วางไว้เพื่อจะไห้หลักประกันว่าสินค้าหรือบริการ
เป็นไปตามทีล่ ูกค้าต้องการ
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ข. การประกนั คุณภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคุมคณุ ภาพ
4. ข้อใดคือโครงสรา้ งของการจดั การภายในองค์กร หน้าที่ความรับผิดชอบ ขั้นตอนการทำงาน วิธีการ
ทำงานและทรพั ยากรอ่ืนๆ สำหรบั ทำใหบ้ ริการมีคุณภาพ
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ข. การประกนั คุณภาพ ค. ระบบคุณภาพ ง.การควบคมุ คณุ ภาพ
5. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากการบริหารงานคณุ ภาพ
ก. เพม่ิ ขวญั และกำลังใจใหก้ บั พนกั งาน ข. สร้างความมัน่ ใจแก่ลูกค้า
ง. เป็นเครอ่ื งมอื สำหรบั ปรับปรุงกจิ กรรมในองค์กร ง. เพมิ่ กระบวนการทำงานขององค์กร
6. ประเทศไทยประกาศใช้อนุกรมมาตรฐาน มอก. 9000 เปน็ มาตรฐานระดับชาติในปีใด
ก. พ.ศ. 2535 ข. พ.ศ. 2540 ค. พ.ศ. 2545 ง. พ.ศ. 2550
7. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องระบบคุณภาพ ISO 9000ท่มี ตี อ่ พนกั งาน
ก. การปฏบิ ัตงิ านมีระบบและมีขอบเขตท่ีชดั เจน ข. ทำใหผ้ ลิตภณั ฑเ์ ปน็ ทเี่ ชื่อได้ ไดร้ บั การยอมรับ
ง. ช่วยให้ม่ันใจในการผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ ง. ง่ายตอ่ การคน้ หาองค์กรที่มคี ณุ ภาพ
8. ขอ้ ใดคือประโยชนข์ องระบบคณุ ภาพ ISO 9000ทมี่ ีต่อองค์กร
ก. การปฏิบตั งิ านมรี ะบบและมีขอบเขตท่ชี ัดเจน ข. ผลิตภัณฑ์เป็นท่ีเช่อื ถอื ได้ ไดร้ บั การยอมรับ
ง. ชว่ ยใหม้ น่ั ใจในการผลิตภณั ฑแ์ ละบรกิ าร ง. ง่ายตอ่ การคน้ หาองคก์ รที่มีคุณภาพ
9. ISO 14000 เป็นมาตรฐานระบบคณุ ภาพทีเ่ ก่ยี วกบั เรอื่ งใด
ก. การตรวจสอบระบบคุณภาพ ข. ขอ้ กำหนดของเครอื่ งมือวดั คุณภาพ
ง. ด้านส่งิ แวดลอ้ ม ง. การจดั ทำคมู่ ือคุณภาพ
10.ข้อใดคอื วตั ถปุ ระสงคข์ องระบบคณุ ภาพ ISO 9000
ก. เพ่อื ทำให้มรี ะบบการบรหิ ารทเ่ี ป็นลายๆลกั ษณ์อกั ษร และมีประสิทธผิ ล
ข. เพื่อทำให้ลกู คา้ ม่นั ใจในคณุ ภาพของสินค้าและบริการท่ีได้รับ
ค. เพอ่ื สร้างความมั่นใจใหแ้ ก่ผ้บู รหิ ารว่าสามารถบรรลคุ วามตอ้ งการของลูกได้
ง. ถกู ทกุ ขอ้
แบบทดสอบหลังเรียน
ธ.
น.
หน่วยที่ 4 เรือ่ ง การบริหารงานคุณภาพในองคก์ าร
-------------------------------------------------------------------------
บ.
ป.
คำสง่ั จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทถี่ กู ต้องท่ีสดุ
1. ข้อใดคือวตั ถปุ ระสงค์ของระบบคุณภาพ ISO 9000
ก. เพ่ือทำใหม้ รี ะบบการบริหารทีเ่ ป็นลายๆลักษณ์อักษร และมีประสิทธผิ ล
ข. เพ่ือทำให้ลูกค้ามนั่ ใจในคุณภาพของสินคา้ และบริการท่ไี ดร้ ับ
ค. เพื่อสรา้ งความมน่ั ใจใหแ้ กผ่ ู้บริหารวา่ สามารถบรรลคุ วามตอ้ งการของลูกได้
ง. ถูกทกุ ข้อ
2. ข้อใดคือการดำเนินการตามระบบและวางแผนที่วางไว้เพื่อจะไห้หลักประกันว่าสินค้าหรือบริการ
เป็นไปตามทล่ี ูกคา้ ตอ้ งการ
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ข. การประกนั คุณภาพ ค. ระบบคุณภาพ ง.การควบคมุ คุณภาพ
126
3. ข้อใดคือโครงสร้างของการจัดการภายในองค์กร หน้าที่ความรับผดิ ชอบ ขั้นตอนการทำงาน วิธีการ
ทำงานและทรพั ยากรอนื่ ๆ สำหรบั ทำให้บริการมีคุณภาพ
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. การประกนั คุณภาพ ค. ระบบคุณภาพ ง.การควบคุมคณุ ภาพ
4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชนท์ ่ีได้จากการบริหารงานคุณภาพ
ก. เพมิ่ ขวญั และกำลงั ใจใหก้ ับพนกั งาน ข. สรา้ งความมนั่ ใจแก่ลูกคา้
ค. เป็นเครอื่ งมือสำหรับปรับปรงุ กจิ กรรมในองค์กร ง. เพมิ่ กระบวนการทำงานขององค์กร
5. ประเทศไทยประกาศใช้อนกุ รมมาตรฐาน มอก. 9000 เป็นมาตรฐานระดบั ชาติในปใี ด
ก. พ.ศ. 2535 ข. พ.ศ. 2540 ค. พ.ศ. 2545 ง. พ.ศ. 2550
6. การปฏิบัติงานหรือการทำงานขององค์กรเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติทุกประการของผลิตภัณฑ์
ที่สามารถสนองความต้องการความพึงพอใจ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หมายถึงขอ้ ใด ข. จรยิ ธรรมทางการบริหาร
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ง. ความพึงพอใจ
ค. คณุ ภาพความคิดดง้ั เดมิ
7. ขอ้ ใดคอื มาตรฐานของการปฏบิ ตั ิงานหรือการประเมนิ เชิงคุณธรรมทีผ่ ู้บริหารใช้ในองคก์ ร
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ข. จรยิ ธรรมทางการบริหาร
ค. คณุ ภาพความคดิ ดัง้ เดิม ง. ความพงึ พอใจ
8. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องระบบคุณภาพ ISO 9000ทม่ี ตี อ่ พนกั งาน
ก. การปฏบิ ตั ิงานมรี ะบบและมขี อบเขตท่ชี ดั เจน ข. ทำใหผ้ ลิตภณั ฑ์เป็นที่เช่อื ได้ ได้รับการยอมรบั
ค. ช่วยให้มั่นใจในการผลิตภัณฑแ์ ละบรกิ าร ง. ง่ายต่อการคน้ หาองค์กรที่มคี ุณภาพ
9. ข้อใดคอื ประโยชน์ของระบบคุณภาพ ISO 9000ท่มี ีต่อองคก์ ร
ก. การปฏิบัตงิ านมีระบบและมขี อบเขตทีช่ ัดเจน ข. ผลิตภัณฑเ์ ปน็ ทเี่ ชอ่ื ถือได้ ไดร้ ับการยอมรบั
ค. ชว่ ยให้มัน่ ใจในการผลติ ภณั ฑ์และบริการ ง. ง่ายตอ่ การคน้ หาองค์กรท่ีมีคุณภาพ
10.ISO 14000 เป็นมาตรฐานระบบคณุ ภาพทีเ่ กี่ยวกับเรอื่ งใด
ก. การตรวจสอบระบบคุณภาพ ข. ข้อกำหนดของเคร่ืองมอื วดั คุณภาพ
ค. ดา้ นสง่ิ แวดล้อม ง. การจัดทำคมู่ ือคุณภาพ
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
ผ.
ฝ.
หนว่ ยท่ี 4 เรื่อง การบริหารงานคุณภาพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
พ.
ฟ.
คำสั่ง จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ีถูกต้องที่สุด
1. ข้อใดคือวตั ถุประสงคข์ องระบบคณุ ภาพ ISO 9000
ก. เพอ่ื ทำใหม้ ีระบบการบรหิ ารทเี่ ปน็ ลายๆลักษณ์อกั ษร และมีประสทิ ธผิ ล
ข. เพื่อทำใหล้ กู คา้ มัน่ ใจในคณุ ภาพของสนิ ค้าและบริการทไ่ี ด้รบั
ค. เพอ่ื สรา้ งความมั่นใจใหแ้ ก่ผ้บู ริหารวา่ สามารถบรรลคุ วามตอ้ งการของลูกได้
ง. ถกู ทุกขอ้
2. ข้อใดคือการดำเนินการตามระบบและวางแผนที่วางไว้เพื่อจะไห้หลักประกันว่าสินค้าหรือบริการ
เปน็ ไปตามท่ลี กู ค้าต้องการ
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. การประกนั คณุ ภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคมุ คณุ ภาพ
127
3. ข้อใดคือโครงสรา้ งของการจดั การภายในองค์กร หน้าที่ความรับผดิ ชอบ ขั้นตอนการทำงาน วิธีการ
ทำงานและทรพั ยากรอ่ืนๆ สำหรบั ทำใหบ้ รกิ ารมคี ณุ ภาพ
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ข. การประกันคุณภาพ ค. ระบบคุณภาพ ง.การควบคุมคณุ ภาพ
4. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ที่ไดจ้ ากการบริหารงานคณุ ภาพ
ก. เพมิ่ ขวญั และกำลังใจให้กับพนักงาน ข. สร้างความมน่ั ใจแก่ลกู ค้า
ง. เปน็ เครอื่ งมือสำหรบั ปรับปรงุ กิจกรรมในองค์กร ง. เพ่ิมกระบวนการทำงานขององคก์ ร
5. ประเทศไทยประกาศใช้อนกุ รมมาตรฐาน มอก. 9000 เป็นมาตรฐานระดบั ชาติในปีใด
ก. พ.ศ. 2535 ข. พ.ศ. 2540 ค. พ.ศ. 2545 ง. พ.ศ. 2550
6. การปฏิบัติงานหรือการทำงานขององค์กรเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติทุกประการของผลิตภัณฑ์
ที่สามารถสนองความต้องการความพึงพอใจ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หมายถึงข้อใด ข. จรยิ ธรรมทางการบรหิ าร
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ง. ความพงึ พอใจ
ง. คณุ ภาพความคดิ ด้งั เดิม
7. ขอ้ ใดคือมาตรฐานของการปฏิบตั งิ านหรือการประเมนิ เชงิ คุณธรรมทีผ่ ้บู รหิ ารใชใ้ นองค์กร
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ข. จรยิ ธรรมทางการบริหาร
ค. คณุ ภาพความคดิ ดง้ั เดมิ ง. ความพึงพอใจ
8. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องระบบคณุ ภาพ ISO 9000ท่ีมตี อ่ พนกั งาน
ก. การปฏบิ ตั ิงานมีระบบและมขี อบเขตทีช่ ดั เจน ข. ทำให้ผลิตภัณฑเ์ ปน็ ท่ีเชอื่ ได้ ไดร้ ับการยอมรับ
ง. ช่วยให้มน่ั ใจในการผลติ ภณั ฑ์และบริการ ง. งา่ ยต่อการค้นหาองคก์ รทมี่ คี ุณภาพ
9. ข้อใดคอื ประโยชน์ของระบบคุณภาพ ISO 9000ทม่ี ตี ่อองค์กร
ก. การปฏบิ ตั งิ านมีระบบและมขี อบเขตท่ีชัดเจน ข. ผลิตภัณฑ์เปน็ ที่เช่ือถอื ได้ ได้รบั การยอมรับ
ง. ช่วยให้มน่ั ใจในการผลติ ภณั ฑ์และบรกิ าร ง. งา่ ยต่อการคน้ หาองค์กรทมี่ คี ุณภาพ
10.ISO 14000 เป็นมาตรฐานระบบคณุ ภาพท่เี กี่ยวกับเรือ่ งใด
ก. การตรวจสอบระบบคณุ ภาพ ข. ขอ้ กำหนดของเครอื่ งมอื วดั คุณภาพ
ง. ด้านสิ่งแวดลอ้ ม ง. การจัดทำคู่มอื คณุ ภาพ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ภ.
ม.
หนว่ ยที่ 5 เรอ่ื ง การเพ่ิมผลผลิต
-------------------------------------------------------------------------
ย.
ร.
คำสั่ง จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ีถกู ตอ้ งทีส่ ุด
1. ขอ้ ใดไม่ใช่การเพ่ิมผลผลติ ตามแนวความคิดทางวทิ ยาศาสตร์
ก. การเพิ่มผลผลติ โดยใช้ปจั จัยการผลติ เท่าเดมิ
ข. การเพ่ิมผลผลิตเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงระดบั ความสำเรจ็
ค. การเพ่ิมผลผลิตโดยใช้ปัจจัยการผลิตลดลง
ง. การรักษาผลผลิตเทา่ เดิมแต่ลดปัจจยั การผลิตลง
2. การเพ่ิมผลผลติ แบง่ ออกเปน็ ก่ปี ระเภท
ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 7 ประเภท ง. 9 ประเภท
3. การนำคอมพิวเตอรม์ าใช้ในการออกแบบวางแผนและกระบวนการผลิตเป็นเทคนิคการเพมิ่ ผลผลิตแบบใด
ก. เน้นเทคโนโลยี ข. เนน้ งาน ค. เน้นพนักงาน 128
ง. เนน้ ผลิตภณั ฑ์
4. เปน็ วิธีการท่ีเปน็ ระบบในการพฒั นาดัดแปลงแบบผลติ ภณั ฑห์ รือบริการเพ่ือให้ได้ประโยชนใ์ ชส้ อย
ได้ดขี ึ้นโดยทตี่ น้ ทนุ การผลิตต่ำ เป็นเทคนิคการเพม่ิ ผลผลิตแบบใด
ก. เน้นเทคโนโลยี ข. เน้นงาน ค. เน้นพนกั งาน ง. เนน้ ผลิตภัณฑ์
5. ขอ้ ใดหมายถงึ การประเมนิ ค่าของบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือกล่มุ บุคคล ในการปฏิบตั ิงานเพ่อื
ประโยชนใ์ นการจดั อันดบั ในการทำงาน
ก. การวัดผล ข. การวัดงาน ค. การประเมินผล ง. ถกู ทุกขอ้
6. ข้อใดคอื การวดั การเพม่ิ ผลผลิตโดยรวมทีจ่ ะสะท้อนภาพในระดับองคก์ ารหรอื ระดบั รวม
ก. การวดั การเพิ่มผลผลิตโดยรวมและบางสว่ น ข. การวดั การเพิ่มผลผลิตเชงิ กายภาพ
ค. การวัดการเพมิ่ ผลผลิตเชงิ มลู ค่า ง. การวัดการเพม่ิ ผลผลติ ในทางปฏิบตั ิ
7. การวัดการเพ่มิ ผลผลิตท้งั ในเชงิ กายภาพ เชิงข้อมูล และเชงิ มูลค่าเพิ่มไปพรอ้ มๆ กนั
ก. การวดั การเพ่มิ ผลผลิตโดยรวมและบางสว่ น ข. การวัดการเพิ่มผลผลติ เชิงกายภาพ
ง. การวดั การเพมิ่ ผลผลิตเชงิ มลู คา่ ง. การวดั การเพ่มิ ผลผลติ ในทางปฏบิ ตั ิ
8. ปจั จยั ทม่ี ีอิทธพิ ลต่อการเพม่ิ ผลผลติ ขององคก์ รที่สำคัญ ได้แก่ข้อใด
ก. นโยบายรฐั ข. ทรัพยากรท่ีใช้ ค. ค่านยิ มทางสงั คม ง. ถกู ทกุ ข้อ
9. ปจั จัยสำคญั ท่จี ะทำให้งานการเพ่มิ ผลผลิตประสบความสำเรจ็ ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. จะต้องได้รับการสนบั สนุนจากฝ่ายบริหารระดบั สูง
ข. บรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี
ค. พนักงานทุกคนทกุ ระดบั ในองค์กรจะต้องถือเป็นข้อตกลงร่วมกัน
ง. ผลลพั ธ์ทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการเพ่ิมผลผลติ จะต้องเกดิ แก่บรษิ ัทเพียงอยา่ งเดยี ว
10.ระบบทนั เวลาพอดี (Just In Time, JIT) มอี งค์ประกอบอะไรบ้าง
ก. การขจดั ความสญู เปล่าในดา้ นตา่ งๆ เช่น ปริมาณการผลิตมากเกินความต้องการ
ข. การควบคุมกระแสวสั ดเุ พือ่ ลดเวลาในการนำจากจุดสงั่ ซือ้ จนถงึ จดุ ทวี่ สั ดไุ ปถงึ สายการผลิต
ค. การเปิดโปรงและกำจดั ที่ตน้ ตอปัญหาแทนที่จะไปจัดการที่ปลายทาง
ง. ถกู ทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
ล.
ว.
หนว่ ยที่ 5 เรือ่ ง การเพิ่มผลผลติ
-------------------------------------------------------------------------
ศ.
ษ.
คำส่งั จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ท่ีถูกต้องทส่ี ดุ
1. ขอ้ ใดไม่ใช่การเพ่ิมผลผลติ ตามแนวความคิดทางวทิ ยาศาสตร์
ก. การเพิ่มผลผลติ โดยใชป้ จั จัยการผลติ เทา่ เดมิ
ข. การเพิ่มผลผลติ เปน็ เครือ่ งแสดงใหเ้ หน็ ถึงระดับความสำเร็จ
ค. การเพิ่มผลผลติ โดยใช้ปจั จัยการผลติ ลดลง
ง. การรกั ษาผลผลติ เทา่ เดิมแตล่ ดปัจจัยการผลติ ลง
2. การเพิ่มผลผลติ แบง่ ออกเป็นกี่ประเภท
ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 7 ประเภท ง. 9 ประเภท
3. การนำคอมพวิ เตอรม์ าใช้ในการออกแบบวางแผนและกระบวนการผลติ เปน็ เทคนิคการเพิ่มผลผลติ แบบใด
ก. เนน้ เทคโนโลยี ข. เน้นงาน ค. เนน้ พนักงาน 129
ง. เน้นผลติ ภณั ฑ์
4. เปน็ วธิ ีการที่เป็นระบบในการพัฒนาดัดแปลงแบบผลติ ภัณฑห์ รือบริการเพื่อให้ได้ประโยชน์ใชส้ อย
ได้ดขี นึ้ โดยท่ตี น้ ทนุ การผลิตต่ำ เป็นเทคนิคการเพ่มิ ผลผลติ แบบใด
ก. เน้นเทคโนโลยี ข. เน้นงาน ค. เน้นพนักงาน ง. เนน้ ผลติ ภณั ฑ์
5. ข้อใดหมายถึงการประเมนิ ค่าของบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือกล่มุ บุคคล ในการปฏิบตั งิ านเพอ่ื
ประโยชน์ในการจดั อันดบั ในการทำงาน
ก. การวดั ผล ข. การวัดงาน ค. การประเมนิ ผล ง. ถกู ทกุ ขอ้
6. ขอ้ ใดคือการวดั การเพ่ิมผลผลิตโดยรวมที่จะสะท้อนภาพในระดับองค์การหรือระดบั รวม
ก. การวดั การเพมิ่ ผลผลิตโดยรวมและบางส่วน ข. การวดั การเพม่ิ ผลผลิตเชิงกายภาพ
จ. การวดั การเพิม่ ผลผลิตเชิงมลู ค่า ง. การวดั การเพ่ิมผลผลิตในทางปฏบิ ัติ
7. การวดั การเพิ่มผลผลติ ทั้งในเชงิ กายภาพ เชิงข้อมลู และเชงิ มูลคา่ เพิ่มไปพรอ้ มๆ กัน
ก. การวดั การเพมิ่ ผลผลติ โดยรวมและบางสว่ น ข. การวัดการเพิม่ ผลผลิตเชิงกายภาพ
ฉ. การวดั การเพมิ่ ผลผลิตเชงิ มูลคา่ ง. การวดั การเพ่ิมผลผลิตในทางปฏบิ ตั ิ
8. ปัจจยั ท่ีมอี ิทธิพลตอ่ การเพ่ิมผลผลิตขององค์กรทส่ี ำคญั ได้แก่ข้อใด
ก. นโยบายรฐั ข. ทรัพยากรท่ีใช้ ค. ค่านิยมทางสังคม ง. ถกู ทกุ ข้อ
9. ปจั จยั สำคัญที่จะทำให้งานการเพม่ิ ผลผลติ ประสบความสำเร็จยกเวน้ ข้อใด
ก. จะต้องไดร้ บั การสนบั สนนุ จากฝ่ายบรหิ ารระดบั สงู
ข. บรรยากาศหรือสภาพแวดลอ้ มในการทำงานท่ีดี
ค. พนกั งานทกุ คนทกุ ระดบั ในองคก์ รจะต้องถือเปน็ ขอ้ ตกลงรว่ มกนั
ง. ผลลัพธ์ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการเพม่ิ ผลผลติ จะต้องเกดิ แก่บรษิ ัทเพยี งอยา่ งเดียว
10.ระบบทันเวลาพอดี (Just In Time, JIT) มีองคป์ ระกอบอะไรบ้าง
ก. การขจดั ความสญู เปล่าในดา้ นต่างๆ เช่น ปริมาณการผลิตมากเกนิ ความต้องการ
ข. การควบคุมกระแสวสั ดุเพือ่ ลดเวลาในการนำจากจดุ ส่ังซ้อื จนถงึ จุดทวี่ ัสดไุ ปถงึ สายการผลิต
ค. การเปิดโปรงและกำจัดที่ตน้ ตอปญั หาแทนทจี่ ะไปจัดการที่ปลายทาง
ง. ถกู ทกุ ข้อ
แบบทดสอบหลงั เรียน
ส.
ห.
หน่วยที่ 5 เรือ่ ง การเพ่ิมผลผลิต
-------------------------------------------------------------------------
ฬ.
อ.
คำส่งั จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อท่ีถูกต้องทส่ี ดุ
1. การเพิ่มผลผลิตแบง่ ออกเป็นกีป่ ระเภท
ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 7 ประเภท ง. 9 ประเภท
2. การนำคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นการออกแบบวางแผนและกระบวนการผลิต เป็นเทคนคิ การเพิ่มผลผลิต
แบบใด
ก. เนน้ เทคโนโลยี ข. เน้นงาน ค. เนน้ พนกั งาน ง. เนน้ ผลติ ภณั ฑ์
3. ปจั จยั สำคัญทีจ่ ะทำใหง้ านการเพิ่มผลผลิตประสบความสำเร็จยกเว้นขอ้ ใด
ก. จะตอ้ งได้รับการสนบั สนนุ จากฝา่ ยบริหารระดับสูง
ข. บรรยากาศหรือสภาพแวดลอ้ มในการทำงานท่ดี ี
130
ค. พนักงานทุกคนทุกระดบั ในองคก์ รจะต้องถอื เป็นข้อตกลงร่วมกนั
ง. ผลลัพธท์ ี่เกิดข้นึ จากการเพิม่ ผลผลิตจะตอ้ งเกิดแก่บรษิ ทั เพียงอยา่ งเดียว
4. ระบบทันเวลาพอดี (Just In Time , JIT) มอี งค์ประกอบอะไรบ้าง
ก. การขจดั ความสญู เปลา่ ในดา้ นต่างๆ เชน่ ปริมาณการผลิตมากเกนิ ความต้องการ
ข. การควบคุมกระแสวัสดเุ พ่ือลดเวลาในการนำจากจุดสั่งซื้อจนถงึ จดุ ที่วสั ดุไปถึงสายการผลิต
ค. การเปดิ โปรงและกำจัดท่ตี น้ ตอปัญหาแทนทจี่ ะไปจดั การท่ีปลายทาง
ง. ถกู ทุกข้อ
5. ระบบในการพฒั นาดัดแปลงแบบผลติ ภัณฑห์ รือบริการเพ่ือให้ได้ประโยชนใ์ ชส้ อยไดด้ ีขึ้น โดยท่ี
ต้นทนุ การผลิตต่ำ เปน็ เทคนคิ การเพ่ิมผลผลติ แบบใด
ก. เนน้ เทคโนโลยี ข. เนน้ งาน ค. เน้นพนักงาน ง. เนน้ ผลติ ภัณฑ์
6. ข้อใดไม่ใช่การเพ่ิมผลผลติ ตามแนวความคดิ ทางวิทยาศาสตร์
ก. การเพิ่มผลผลติ โดยใชป้ ัจจยั การผลิตเทา่ เดิม
ข. การเพิ่มผลผลิตเปน็ เครือ่ งแสดงให้เหน็ ถึงระดบั ความสำเร็จ
ค. การเพิ่มผลผลติ โดยใชป้ ัจจัยการผลติ ลดลง
ง. การรักษาผลผลิตเท่าเดมิ แตล่ ดปัจจยั การผลติ ลง
7. ขอ้ ใดหมายถึงการประเมนิ ค่าของบุคคลหนง่ึ บุคคลใดหรือกลมุ่ บุคคล ในการปฏิบตั งิ านเพื่อ
ประโยชนใ์ นการจดั อนั ดับในการทำงาน
ก. การวดั ผล ข. การวดั งาน ค. การประเมินผล ง. ถกู ทกุ ข้อ
8. ข้อใดคอื การวัดการเพ่มิ ผลผลิตโดยรวมท่จี ะสะท้อนภาพในระดับองค์การหรอื ระดับรวม
ก. การวดั การเพม่ิ ผลผลิตโดยรวมและบางสว่ น ข. การวัดการเพ่ิมผลผลิตเชงิ กายภาพ
ค. การวัดการเพม่ิ ผลผลติ เชงิ มลู ค่า ง. การวดั การเพ่ิมผลผลติ ในทางปฏิบตั ิ
9. การวัดการเพม่ิ ผลผลิตทัง้ ในเชิงกายภาพ เชิงขอ้ มลู และเชิงมลู คา่ เพิ่มไปพร้อมๆ กนั
ก. การวัดการเพ่ิมผลผลิตโดยรวมและบางสว่ น ข. การวดั การเพิม่ ผลผลติ เชิงกายภาพ
ง. การวัดการเพิ่มผลผลติ เชงิ มูลค่า ง. การวัดการเพิ่มผลผลติ ในทางปฏิบตั ิ
10.ปัจจยั ทมี่ อี ิทธิพลต่อการเพมิ่ ผลผลิตขององค์กรท่สี ำคัญ ได้แก่ข้อใด
ก. นโยบายรฐั ข. ทรัพยากรที่ใช้ ค. ค่านยิ มทางสังคม ง. ถกู ทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
ฮ.
กก.
หน่วยที่ 5 เรอื่ ง การเพิ่มผลผลิต
-------------------------------------------------------------------------
ขข.
คค.
คำสัง่ จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทถี่ ูกต้องท่ีสดุ
1. การเพ่ิมผลผลิตแบ่งออกเป็นกปี่ ระเภท
ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 7 ประเภท ง. 9 ประเภท
2. การนำคอมพวิ เตอร์มาใชใ้ นการออกแบบวางแผนและกระบวนการผลิต เปน็ เทคนิคการเพ่ิมผลผลติ
แบบใด
ก. เนน้ เทคโนโลยี ข. เนน้ งาน ค. เนน้ พนักงาน ง. เนน้ ผลิตภณั ฑ์
3. ปัจจยั สำคัญที่จะทำใหง้ านการเพ่ิมผลผลติ ประสบความสำเรจ็ ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. จะตอ้ งไดร้ ับการสนบั สนุนจากฝ่ายบรหิ ารระดบั สงู
ข. บรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานทด่ี ี
131
ค. พนกั งานทกุ คนทุกระดบั ในองคก์ รจะต้องถือเป็นข้อตกลงร่วมกัน
ง. ผลลัพธ์ทเี่ กดิ ขึ้นจากการเพม่ิ ผลผลติ จะต้องเกดิ แกบ่ ริษัทเพยี งอยา่ งเดียว
4. ระบบทันเวลาพอดี (Just In Time , JIT) มอี งค์ประกอบอะไรบา้ ง
ก. การขจดั ความสญู เปลา่ ในด้านต่างๆ เช่น ปริมาณการผลติ มากเกินความต้องการ
ข. การควบคมุ กระแสวัสดเุ พอ่ื ลดเวลาในการนำจากจดุ สัง่ ซื้อจนถึงจดุ ทีว่ ัสดุไปถงึ สายการผลิต
ค. การเปดิ โปรงและกำจัดท่ตี ้นตอปญั หาแทนทีจ่ ะไปจดั การที่ปลายทาง
ง. ถูกทุกข้อ
5. ระบบในการพัฒนาดดั แปลงแบบผลติ ภัณฑห์ รือบริการเพ่ือใหไ้ ดป้ ระโยชนใ์ ช้สอยได้ดขี น้ึ โดยที่
ตน้ ทนุ การผลิตตำ่ เป็นเทคนิคการเพ่ิมผลผลติ แบบใด
ก. เนน้ เทคโนโลยี ข. เนน้ งาน ค. เนน้ พนักงาน ง. เนน้ ผลติ ภัณฑ์
6. ข้อใดไม่ใช่การเพิ่มผลผลิตตามแนวความคิดทางวิทยาศาสตร์
ก. การเพิ่มผลผลติ โดยใช้ปจั จัยการผลิตเทา่ เดมิ
ข. การเพ่ิมผลผลติ เป็นเครอ่ื งแสดงให้เห็นถงึ ระดับความสำเรจ็
ค. การเพิ่มผลผลิตโดยใชป้ จั จัยการผลติ ลดลง
ง. การรักษาผลผลิตเท่าเดิมแตล่ ดปจั จัยการผลิตลง
7. ขอ้ ใดหมายถงึ การประเมนิ ค่าของบุคคลหน่ึงบุคคลใดหรือกลุม่ บคุ คล ในการปฏิบัติงานเพ่อื
ประโยชนใ์ นการจัดอันดบั ในการทำงาน
ก. การวดั ผล ข. การวัดงาน ค. การประเมินผล ง. ถกู ทุกขอ้
8. ข้อใดคอื การวัดการเพิ่มผลผลิตโดยรวมทจ่ี ะสะท้อนภาพในระดบั องค์การหรือระดบั รวม
ก. การวัดการเพ่มิ ผลผลติ โดยรวมและบางส่วน ข. การวดั การเพ่ิมผลผลิตเชิงกายภาพ
ค. การวัดการเพิ่มผลผลติ เชิงมูลค่า ง. การวัดการเพมิ่ ผลผลิตในทางปฏิบตั ิ
9. การวดั การเพ่ิมผลผลติ ทง้ั ในเชิงกายภาพ เชิงขอ้ มลู และเชิงมลู คา่ เพิ่มไปพร้อมๆ กนั
ก. การวดั การเพิ่มผลผลติ โดยรวมและบางสว่ น ข. การวัดการเพิ่มผลผลติ เชงิ กายภาพ
ค. การวดั การเพมิ่ ผลผลติ เชิงมูลค่า ง. การวดั การเพมิ่ ผลผลิตในทางปฏบิ ัติ
10.ปัจจัยทม่ี อี ิทธพิ ลต่อการเพมิ่ ผลผลติ ขององคก์ รที่สำคญั ได้แก่ข้อใด
ก. นโยบายรัฐ ข. ทรพั ยากรท่ีใช้ ค. ค่านิยมทางสังคม ง. ถูกทุกข้อ
แบบทดสอบก่อนเรียน
งง.
จจ.
หน่วยที่ 6 เร่ือง การบริหารความเสย่ี ง
-------------------------------------------------------------------------
ฉฉ.
ชช.
คำส่ัง จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ทีถ่ ูกตอ้ งทีส่ ุด
1. เหตกุ ารณท์ ่ีมีความไมแ่ นน่ อน ซึ่งหากเกิดขึ้นจะมผี ลกระทบในเชงิ ลบ ตอ่ การบรรลวุ ัตถุประสงค์
หรอื เป้าหมายขององค์กรหมายถึงข้อใด
ก. ความเส่ยี ง ข. โอกาส ค. การบรหิ าร ง. สารสนเทศ
2. เหตุการณท์ ่ีมีความไม่แน่นอน ซง่ึ หากเกดิ ขึ้นจะมผี ลกระทบในเชงิ บวก ตอ่ วตั ถปุ ระสงค์หรอื
เปา้ หมายขององค์กร
ก. ความเส่ียง ข. โอกาส ค. การบริหาร ง. สารสนเทศ
3. กระบวนการบรหิ ารความเส่ียงขน้ั ตอนแรกได้แก่ขอ้ ใด
ก. การบง่ ช้ีเหตุการณ์ ข. การประเมินความเสย่ี ง
ค. การกำหนดวตั ถปุ ระสงค์ ง. การตอบสนองความเสี่ยง
132
4. การร่วมหรอื แบง่ ความรับผิดชอบกบั ผู้อื่นในการจดั การความเส่ียงคือหลักการตอบสนองความเสีย่ ง
ขอ้ ใด
ก. การหลกี เลีย่ ง ข. การรว่ มจดั การ ค. การลด ง. การยอมรับ
5. ขอ้ ใดคือปัจจยั สำคญั ต่อความสำเร็จในการบรหิ ารความเส่ยี ง
ก. การสนบั สนุนจากผบู้ รหิ ารระดบั สงู ข. ความเขา้ ใจความหมายความเสย่ี งตรงกนั
ค. การตดิ ตามกระบวนการบรหิ ารความเสยี่ ง ง. ถกู ทุกข้อ
6. การรายงาน และสอบทานขน้ั ตอนตามกระบวนการบริหารความเสยี่ งหมายถึงปจั จัยใด
ก. การสนับสนนุ จากผบู้ ริหารระดับสูง ข. ความเข้าใจความหมายความเสย่ี งตรงกัน
ค. การติดตามกระบวนการบริหารความเส่ยี ง ง. ถูกทุกข้อ
7. ใครเป็นผ้มู บี ทบาทในการตดิ ตามความเสี่ยงทส่ี ำคญั ท้ังองค์กร และทำให้ม่ันใจไดว้ า่ มีแผนการ
จัดการทเี่ หมาะสม
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จดั การ
ค. ผอู้ ำนวยการฝ่าย ง. หัวหนา้ งานหรือพนักงาน
8. ใครมหี นา้ ทรี่ ะบแุ ละรายงานความเสี่ยงท่เี กยี่ วข้องกับการปฏิบัติงานต่อผู้อำนวยการฝ่าย และเข้า
รว่ มในการจัดทำแผนจดั การความเส่ยี ง และนำแผนไปปฏิบัติ
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผจู้ ดั การ
ค. ผอู้ ำนวยการฝา่ ย ง. หัวหนา้ งานหรือพนักงาน
9. การวดั ผลการบรหิ ารความเส่ียงประกอบด้วยก่รี ูปแบบ
ก. 2 รูปแบบ ข. 3 รปู แบบ ค. 4 รูปแบบ ง. 5 รูปแบบ
10.ผ้บู ริหารไดร้ ับขอ้ มลู เกย่ี วกบั ความเสีย่ งอยา่ งถกู ต้องและทนั เวลา เป็นปจั จยั สำคัญตอ่ ความสำเร็จ
ในการบรหิ ารความเส่ยี งตามข้อใด
ก. การสื่อสารอย่างมปี ระสทิ ธิผล
ข. กระบวนการในการบริหารการเปลยี่ นแปลง
ค. การวดั ผลการบรหิ ารความเสี่ยง
ง. การฝึกอบรม และกลไกดา้ นทรัพยากรบุคคล
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ซซ.
ฌฌ.
หน่วยท่ี 6 เรอ่ื ง การบริหารความเสยี่ ง
-------------------------------------------------------------------------
ญญ.
ฎฎ.
คำสง่ั จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ถี ูกต้องท่สี ดุ
1. เหตุการณ์ที่มคี วามไม่แนน่ อน ซึ่งหากเกิดขึน้ จะมีผลกระทบในเชงิ ลบ ตอ่ การบรรลุวัตถุประสงค์
หรอื เป้าหมายขององค์กรหมายถึงข้อใด
ก. ความเสยี่ ง ข. โอกาส ค. การบริหาร ง. สารสนเทศ
2. เหตกุ ารณท์ ี่มคี วามไมแ่ นน่ อน ซ่งึ หากเกิดขึน้ จะมีผลกระทบในเชิงบวก ตอ่ วัตถุประสงค์หรอื
เปา้ หมายขององค์กร
ก. ความเสี่ยง ข. โอกาส ค. การบริหาร ง. สารสนเทศ
3. กระบวนการบรหิ ารความเส่ยี งขนั้ ตอนแรกไดแ้ ก่ข้อใด
ก. การบ่งช้เี หตกุ ารณ์ ข. การประเมินความเสยี่ ง
ค. การกำหนดวัตถุประสงค์ ง. การตอบสนองความเส่ยี ง
133
4. การรว่ มหรือแบ่งความรับผิดชอบกับผู้อ่ืนในการจดั การความเสย่ี งคอื หลักการตอบสนองความเส่ยี ง
ข้อใด
ก. การหลกี เล่ยี ง ข. การร่วมจัดการ ค. การลด ง. การยอมรับ
5. ข้อใดคือปัจจยั สำคญั ต่อความสำเรจ็ ในการบริหารความเส่ียง
ก. การสนับสนุนจากผบู้ รหิ ารระดับสงู ค. ความเข้าใจความหมายความเส่ียงตรงกัน
ข. การติดตามกระบวนการบริหารความเส่ียง ง. ถกู ทกุ ขอ้
6. การรายงาน และสอบทานขัน้ ตอนตามกระบวนการบริหารความเสยี่ งหมายถึงปัจจยั ใด
ก. การสนับสนุนจากผ้บู รหิ ารระดับสงู ค. ความเขา้ ใจความหมายความเส่ียงตรงกัน
ข. การติดตามกระบวนการบริหารความเสย่ี ง ง. ถกู ทกุ ขอ้
7. ใครเปน็ ผมู้ ีบทบาทในการตดิ ตามความเส่ียงทีส่ ำคญั ทั้งองค์กร และทำใหม้ ่ันใจไดว้ า่ มีแผนการ
จดั การทเี่ หมาะสม
ก. คณะกรรมการ ค. กรรมการผ้จู ดั การ
ข. ผูอ้ ำนวยการฝ่าย ง. หวั หน้างานหรือพนักงาน
8. ใครมีหน้าท่ีระบุและรายงานความเสีย่ งที่เกีย่ วข้องกับการปฏิบัติงานต่อผอู้ ำนวยการฝ่าย และเข้า
ร่วมในการจดั ทำแผนจดั การความเสี่ยง และนำแผนไปปฏบิ ตั ิ
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผ้จู ดั การ
ค. ผูอ้ ำนวยการฝ่าย ง. หัวหนา้ งานหรือพนกั งาน
9. การวัดผลการบรหิ ารความเส่ียงประกอบด้วยกร่ี ูปแบบ
ข. 2 รูปแบบ ข. 3 รูปแบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รปู แบบ
10.ผู้บริหารไดร้ บั ขอ้ มูลเก่ียวกับความเส่ยี งอย่างถูกต้องและทนั เวลา เป็นปัจจัยสำคัญตอ่ ความสำเร็จ
ในการบรหิ ารความเสี่ยงตามข้อใด
ก. การสอื่ สารอยา่ งมีประสทิ ธผิ ล
ข. กระบวนการในการบริหารการเปลยี่ นแปลง
ค. การวดั ผลการบริหารความเส่ียง
ง. การฝึกอบรม และกลไกด้านทรัพยากรบุคคล
แบบทดสอบหลงั เรยี น
ฏฏ.
ฐฐ.
หนว่ ยที่ 6 เร่ือง การบริหารความเส่ยี ง
-------------------------------------------------------------------------
ฑฑ.
ฒฒ.
คำสง่ั จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ท่ีถูกตอ้ งทส่ี ุด
1. ใครมีหนา้ ท่ีระบแุ ละรายงานความเสี่ยงทเี่ ก่ยี วข้องกับการปฏิบตั งิ านตอ่ ผ้อู ำนวยการฝ่าย และเข้า
ร่วมในการจัดทำแผนจดั การความเสีย่ ง และนำแผนไปปฏบิ ตั ิ
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จัดการ
ค. ผู้อำนวยการฝ่าย ง. หวั หนา้ งานหรอื พนักงาน
2. การวดั ผลการบรหิ ารความเสี่ยงประกอบดว้ ยกรี่ ปู แบบ
ก. 2 รปู แบบ ข. 3 รูปแบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รูปแบบ
3. ผูบ้ ริหารไดร้ ับข้อมูลเกีย่ วกบั ความเสี่ยงอย่างถูกต้องและทันเวลา เป็นปจั จยั สำคญั ต่อความสำเรจ็
ในการบรหิ ารความเส่ียงตามข้อใด
ก. การส่ือสารอย่างมปี ระสิทธผิ ล
134
ข. กระบวนการในการบรหิ ารการเปลีย่ นแปลง
ค. การวดั ผลการบรหิ ารความเส่ียง
ง. การฝกึ อบรม และกลไกดา้ นทรพั ยากรบุคคล
4. การร่วมหรอื แบ่งความรับผิดชอบกับผู้อื่นในการจดั การความเส่ียงคอื หลักการตอบสนองความเส่ียง
ขอ้ ใด
ก. การหลกี เลย่ี ง ข. การรว่ มจดั การ ค. การลด ง. การยอมรบั
5. ข้อใดคือปัจจยั สำคญั ต่อความสำเรจ็ ในการบรหิ ารความเสยี่ ง
ก. การสนับสนุนจากผ้บู รหิ ารระดับสงู ข. ความเขา้ ใจความหมายความเสี่ยงตรงกัน
ค. การติดตามกระบวนการบริหารความเส่ียง ง. ถกู ทกุ ข้อ
6. เหตกุ ารณท์ ่ีมคี วามไมแ่ นน่ อน ซ่งึ หากเกิดขึ้นจะมผี ลกระทบในเชิงลบ ต่อการบรรลุวัตถุประสงค์
หรอื เปา้ หมายขององคก์ รหมายถงึ ข้อใด
ก. ความเสี่ยง ข. โอกาส ค. การบรหิ าร ง. สารสนเทศ
7. เหตกุ ารณท์ ี่มคี วามไมแ่ น่นอน ซึ่งหากเกดิ ขน้ึ จะมีผลกระทบในเชิงบวก ต่อวัตถปุ ระสงค์หรือ
เปา้ หมายขององค์กร
ก. ความเส่ียง ข. โอกาส ค. การบรหิ าร ง. สารสนเทศ
8. กระบวนการบริหารความเสย่ี งข้ันตอนแรกได้แก่ขอ้ ใด
ก. การบง่ ชีเ้ หตกุ ารณ์ ข. การประเมนิ ความเส่ยี ง
ค. การกำหนดวตั ถุประสงค์ ง. การตอบสนองความเสี่ยง
9. การรายงาน และสอบทานข้นั ตอนตามกระบวนการบริหารความเส่ียงหมายถึงปจั จัยใด
ก. การสนบั สนนุ จากผู้บริหารระดับสงู ข. ความเข้าใจความหมายความเส่ยี งตรงกนั
ค. การติดตามกระบวนการบรหิ ารความเส่ียง ง. ถกู ทุกข้อ
10.ใครเปน็ ผู้มีบทบาทในการตดิ ตามความเสีย่ งท่ีสำคญั ท้ังองค์กร และทำให้มั่นใจไดว้ า่ มแี ผนการ
จดั การทเ่ี หมาะสม
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จัดการ
ค. ผ้อู ำนวยการฝ่าย ง. หวั หนา้ งานหรอื พนกั งาน
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
ณณ.
ดด.
หนว่ ยที่ 6 เรอ่ื ง การบริหารความเสีย่ ง
-------------------------------------------------------------------------
ตต.
ถถ.
คำสง่ั จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ท่ีถกู ต้องที่สุด
1. ใครมหี น้าท่รี ะบแุ ละรายงานความเสย่ี งท่ีเกย่ี วข้องกับการปฏิบตั ิงานตอ่ ผอู้ ำนวยการฝา่ ย และเขา้
ร่วมในการจดั ทำแผนจดั การความเสีย่ ง และนำแผนไปปฏบิ ตั ิ
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จดั การ
ค. ผู้อำนวยการฝ่าย ง. หัวหนา้ งานหรือพนกั งาน
2. การวัดผลการบริหารความเส่ียงประกอบดว้ ยกรี่ ูปแบบ
ก. 2 รูปแบบ ข. 3 รปู แบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รปู แบบ
3. ผู้บรหิ ารได้รับข้อมลู เกีย่ วกับความเสย่ี งอยา่ งถกู ต้องและทนั เวลา เป็นปจั จัยสำคญั ตอ่ ความสำเรจ็
ในการบรหิ ารความเสี่ยงตามขอ้ ใด
ก. การส่ือสารอยา่ งมีประสิทธผิ ล
135
ข. กระบวนการในการบริหารการเปลี่ยนแปลง
ค. การวดั ผลการบริหารความเสี่ยง
ง. การฝกึ อบรม และกลไกดา้ นทรัพยากรบุคคล
4. การรว่ มหรือแบง่ ความรับผดิ ชอบกบั ผู้อื่นในการจดั การความเสยี่ งคือหลักการตอบสนองความเส่ียง
ขอ้ ใด
ก. การหลกี เลย่ี ง ข. การร่วมจดั การ ค. การลด ง. การยอมรบั
5. ขอ้ ใดคอื ปัจจัยสำคญั ต่อความสำเร็จในการบรหิ ารความเสยี่ ง
ก. การสนับสนุนจากผ้บู ริหารระดบั สงู ข. ความเข้าใจความหมายความเสี่ยงตรงกนั
ค. การติดตามกระบวนการบริหารความเสยี่ ง ง. ถกู ทกุ ขอ้
6. เหตกุ ารณ์ท่ีมีความไม่แนน่ อน ซ่ึงหากเกดิ ข้ึนจะมผี ลกระทบในเชิงลบ ต่อการบรรลุวตั ถุประสงค์
หรือเปา้ หมายขององคก์ รหมายถึงข้อใด
ก. ความเสย่ี ง ข. โอกาส ค. การบรหิ าร ง. สารสนเทศ
7. เหตกุ ารณ์ท่ีมีความไมแ่ นน่ อน ซง่ึ หากเกิดขึ้นจะมผี ลกระทบในเชิงบวก ต่อวตั ถปุ ระสงค์หรือ
เปา้ หมายขององค์กร
ก. ความเส่ียง ข. โอกาส ค. การบริหาร ง. สารสนเทศ
8. กระบวนการบรหิ ารความเสีย่ งข้นั ตอนแรกได้แก่ข้อใด
ก. การบง่ ชเี้ หตุการณ์ ข. การประเมนิ ความเสย่ี ง
ค. การกำหนดวัตถุประสงค์ ง. การตอบสนองความเสยี่ ง
9. การรายงาน และสอบทานข้นั ตอนตามกระบวนการบริหารความเส่ยี งหมายถึงปจั จัยใด
ก. การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง ข. ความเขา้ ใจความหมายความเสย่ี งตรงกนั
ค. การติดตามกระบวนการบรหิ ารความเส่ยี ง ง. ถูกทกุ ขอ้
10.ใครเปน็ ผ้มู บี ทบาทในการตดิ ตามความเส่ียงทีส่ ำคญั ท้ังองค์กร และทำให้ม่ันใจได้วา่ มแี ผนการ
จดั การท่ีเหมาะสม
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จัดการ
ค. ผู้อำนวยการฝา่ ย ง. หัวหนา้ งานหรือพนกั งาน
แบบทดสอบก่อนเรียน
ทท.
ธธ.
หน่วยที่ 7 เรอื่ ง การจดั การเพอื่ ลดความขดั แย้งในองคก์ ร
-------------------------------------------------------------------------
นน.
บบ.
คำสัง่ จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทีถ่ กู ตอ้ งทีส่ ดุ
1. ในการศึกษาความขดั แย้งแบ่งแนวคิดเก่ียวกับความขัดแยง้ เป็นกีก่ ลุ่ม
ก. 2 กลุ่ม ข. 3 กลุม่ ค. 4 กลุม่ ง. 5 กลุม่
2. ความขดั แย้งระหว่างแผนก ระหว่างทมี งาน หรอื ความขัดแยง้ ระหวา่ งหน่วยงานย่อย ถือเปน็
ความขัดแย้งประเภทใด
ก. ความขดั แย้งภายในตวั บุคคล ข. ความขัดแยง้ ระหว่างบุคคล
ค. ความขดั แย้งระหวา่ งกลมุ่ ง. ถูกทุกข้อ
3. ความขัดแย้งทเี่ กิดจากเป้าหมายของหน่วยงานย่อยแตกตา่ งกนั ทำใหค้ วามสำคัญของหน่วยงาน
ย่อยไม่เทา่ กนั
136
ก. ความขดั แย้งเรอื่ งระบบการทำงาน ข. ความขัดแย้งในเรื่องการใช้ทรัพยากร
ค. ความขดั แย้งในเรอื่ งการปฏบิ ัตงิ าน ง. ถูกทกุ ข้อ
4. ข้อใดคอื ผลดีของความขัดแยง้ ทีม่ ตี อ่ องค์กร
ก. ความรว่ มมอื ระหวา่ งบคุ คล ข. เกดิ บรรยากาศทไี่ ม่ไว้วางใจกนั
ค. ภาพลกั ษณ์ขององคก์ รเสยี หาย ง. ทำใหเ้ กดิ ความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์
5. การแก้ไขความขัดแย้งทใี่ ช้อำนาจ หรอื ระเบียบข้อบังคับคือการบริหารความขัดแย้งดว้ ยวิธีใด
ก. วิธกี ารบังคับและกดดัน ข. วธิ กี ารประนปี ระนอม
ค. การแกป้ ัญหารว่ มกนั ง. ถูกทกุ ข้อ
6. ความสามารถส่งั ให้ผอู้ ืน่ กระทำตามคือทักษะทีจ่ ำเปน็ ในการบริหารความขัดแย้งดา้ นใด
ก. ทักษะการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. ทักษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทกั ษะการจดั สรรความเป็นธรรม
7. ทักษะทเ่ี ปน็ วิธีทท่ี ำให้แตล่ ะฝ่ายได้รบั สิ่งทเ่ี ขาควรจะได้
ก. ทกั ษะการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทักษะการใชอ้ ำนาจ ง. ทักษะการจัดสรรความเป็นธรรม
8. ขอ้ ใดคอื การไม่ยึดตดิ อยูก่ ับส่ิงใดส่งิ หน่งึ หรอื ความคิดใดความคดิ หน่ึง
ก. ความยดื หยุน่ ข. การเผชญิ หน้า ค. การให้ข้อมลู ง. การมองโลกในแงด่ ี
9. ขอ้ ใดคือวธิ กี ารสรา้ งความขดั แยง้
ก. เพ่มิ ความจำกดั ด้านทรัพยากร นน่ั คอื ลดทรพั ยากรในการทำงานลง
ข. ลดเวลาการทำงานลง
ค. ขยายขอบเขตอำนาจหนา้ ที่ใหซ้ ้ำซ้อนกันมากขึน้
ง. ถูกทุกข้อ
10.เมือ่ ประเดน็ ขัดแยง้ เปน็ เร่ืองไรส้ าระและมปี ัญหาอน่ื ๆ สำคัญกว่า ควรใช้พฤติกรรมใดท่ีเหมาะสม
กบั ความขัดแย้ง
ก. การเอาชนะ ข. การประนีประนอม ค. การหลกี เลี่ยง ง. การยอมให้
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
ปป.
ผผ.
หน่วยท่ี 7 เรอ่ื ง การจดั การเพ่ือลดความขดั แย้งในองคก์ ร
-------------------------------------------------------------------------
ฝฝ.
พพ.
คำสั่ง จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ถี กู ต้องทีส่ ดุ
1. ในการศึกษาความขัดแย้งแบง่ แนวคิดเกี่ยวกับความขดั แย้งเป็นกก่ี ลุ่ม
ก. 2 กลุ่ม ข. 3 กลุ่ม ค. 4 กลมุ่ ง. 5 กล่มุ
2. ความขดั แย้งระหว่างแผนก ระหว่างทมี งาน หรอื ความขดั แยง้ ระหวา่ งหนว่ ยงานย่อย ถือเปน็
ความขัดแย้งประเภทใด
ก. ความขดั แย้งภายในตัวบคุ คล ข. ความขดั แยง้ ระหว่างบคุ คล
ง. ความขดั แย้งระหวา่ งกลุ่ม ง. ถกู ทุกข้อ
3. ความขดั แย้งทเ่ี กิดจากเปา้ หมายของหน่วยงานย่อยแตกตา่ งกัน ทำใหค้ วามสำคัญของหน่วยงาน
ยอ่ ยไม่เทา่ กนั
137
ก. ความขัดแย้งเรอ่ื งระบบการทำงาน ข. ความขดั แยง้ ในเร่อื งการใช้ทรัพยากร
ค. ความขดั แย้งในเรื่องการปฏบิ ัติงาน ง. ถกู ทุกข้อ
4. ข้อใดคอื ผลดีของความขดั แยง้ ท่มี ีตอ่ องค์กร
ก. ความร่วมมอื ระหวา่ งบคุ คล ข. เกิดบรรยากาศทไ่ี ม่ไวว้ างใจกัน
ค. ภาพลกั ษณ์ขององคก์ รเสยี หาย ง. ทำใหเ้ กดิ ความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์
5. การแก้ไขความขัดแยง้ ทใ่ี ช้อำนาจ หรอื ระเบียบข้อบงั คับคือการบรหิ ารความขัดแยง้ ด้วยวิธีใด
ก. วิธีการบงั คบั และกดดัน ข. วิธีการประนีประนอม
ค. การแก้ปัญหาร่วมกนั ง. ถกู ทกุ ข้อ
6. ความสามารถสง่ั ให้ผอู้ นื่ กระทำตามคือทักษะท่ีจำเปน็ ในการบริหารความขดั แย้งดา้ นใด
ก. ทกั ษะการวเิ คราะห์สถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทักษะการจัดสรรความเป็นธรรม
7. ทกั ษะที่เปน็ วธิ ีท่ที ำให้แต่ละฝ่ายได้รับส่ิงทเี่ ขาควรจะได้
ก. ทกั ษะการวิเคราะห์สถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทักษะการจดั สรรความเป็นธรรม
8. ข้อใดคอื การไมย่ ึดติดอยู่กบั สงิ่ ใดสง่ิ หนงึ่ หรือความคิดใดความคดิ หนึง่
ก. ความยดื หย่นุ ข. การเผชิญหนา้ ค. การให้ข้อมูล ง. การมองโลกในแง่ดี
9. ขอ้ ใดคือวธิ กี ารสรา้ งความขัดแยง้
ก. เพิม่ ความจำกัดด้านทรัพยากร นนั่ คือ ลดทรัพยากรในการทำงานลง
ข. ลดเวลาการทำงานลง
ค. ขยายขอบเขตอำนาจหน้าที่ใหซ้ ำ้ ซ้อนกนั มากขน้ึ
ง. ถูกทุกข้อ
10.เมื่อประเดน็ ขัดแย้งเปน็ เรื่องไร้สาระและมีปัญหาอนื่ ๆ สำคัญกวา่ ควรใช้พฤติกรรมใดทเี่ หมาะสม
กบั ความขัดแยง้
ก. การเอาชนะ ข. การประนีประนอม ค. การหลีกเลี่ยง ง. การยอมให้
แบบทดสอบหลงั เรยี น
ฟฟ.
ภภ.
หนว่ ยที่ 7 เรื่อง การจดั การเพื่อลดความขัดแย้งในองค์กร
-------------------------------------------------------------------------
มม.
ยย.
คำส่งั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อที่ถูกต้องทสี่ ุด
1. ความขดั แย้งทเ่ี กิดจากเปา้ หมายของหน่วยงานย่อยแตกต่างกัน ทำให้ความสำคญั ของหน่วยงาน
ย่อยไม่เท่ากัน
ก. ความขัดแย้งเร่ืองระบบการทำงาน ข. ความขดั แย้งในเร่ืองการใช้ทรัพยากร
ค. ความขัดแย้งในเร่อื งการปฏบิ ัติงาน ง. ถกู ทกุ ข้อ
2. ข้อใดคือผลดีของความขดั แย้งท่ีมีตอ่ องคก์ ร
ก. ความร่วมมือระหว่างบคุ คล ข. เกดิ บรรยากาศที่ไมไ่ ว้วางใจกนั
ค. ภาพลกั ษณ์ขององค์กรเสยี หาย ง. ทำใหเ้ กดิ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
138
3. การแก้ไขความขดั แยง้ ทใี่ ช้อำนาจ หรอื ระเบียบข้อบังคบั คือการบรหิ ารความขดั แย้งด้วยวธิ ีใด
ก. วิธกี ารบงั คบั และกดดัน ข. วิธกี ารประนีประนอม
ค. การแก้ปัญหารว่ มกนั ง. ถูกทุกข้อ
4. ความสามารถสง่ั ให้ผอู้ ่ืนกระทำตามคือทักษะทจ่ี ำเป็นในการบริหารความขัดแย้งด้านใด
ก. ทกั ษะการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. ทักษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทกั ษะการจัดสรรความเป็นธรรม
5. ข้อใดคือวธิ กี ารสร้างความขัดแย้ง
ก. เพม่ิ ความจำกัดด้านทรัพยากร นน่ั คอื ลดทรัพยากรในการทำงานลง
ข. ลดเวลาการทำงานลง
ค. ขยายขอบเขตอำนาจหน้าท่ีใหซ้ ้ำซ้อนกันมากข้นึ
ง. ถกู ทุกข้อ
6. เมอ่ื ประเดน็ ขดั แย้งเปน็ เร่ืองไร้สาระและมปี ัญหาอนื่ ๆ สำคัญกว่า ควรใช้พฤติกรรมใดทีเ่ หมาะสม
กับความขัดแย้ง
ก. การเอาชนะ ข. การประนีประนอม ค. การหลีกเลีย่ ง ง. การยอมให้
7. ทกั ษะที่เป็นวธิ ีท่ที ำให้แต่ละฝ่ายได้รบั ส่ิงทเ่ี ขาควรจะได้
ก. ทกั ษะการวิเคราะห์สถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทักษะการใชอ้ ำนาจ ง. ทกั ษะการจัดสรรความเป็นธรรม
8. ขอ้ ใดคือการไมย่ ึดติดอยกู่ บั สิ่งใดสิ่งหนง่ึ หรือความคิดใดความคดิ หนง่ึ
ก. ความยืดหยุน่ ข. การเผชิญหนา้ ค. การให้ขอ้ มูล ง. การมองโลกในแงด่ ี
9. ในการศึกษาความขัดแย้งแบ่งแนวคดิ เกยี่ วกับความขัดแย้งเปน็ ก่กี ลมุ่
ก. 2 กลุม่ ข. 3 กลุ่ม ค. 4 กลุม่ ง. 5 กล่มุ
10.ความขดั แย้งระหวา่ งแผนก ระหวา่ งทีมงาน หรือความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานย่อย ถือเป็น
ความขัดแย้งประเภทใด
ก. ความขดั แย้งภายในตัวบุคคล ข. ความขดั แยง้ ระหวา่ งบุคคล
ค. ความขดั แย้งระหว่างกลุ่ม ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
รร.
ลล.
หน่วยท่ี 7 เรอื่ ง การจัดการเพ่อื ลดความขัดแย้งในองคก์ ร
-------------------------------------------------------------------------
วว.
ศศ.
คำสัง่ จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ถี ูกตอ้ งทีส่ ุด
1. ความขดั แย้งทเ่ี กิดจากเป้าหมายของหน่วยงานย่อยแตกตา่ งกัน ทำให้ความสำคัญของหน่วยงาน
ยอ่ ยไม่เทา่ กนั
ก. ความขัดแย้งเร่ืองระบบการทำงาน ข. ความขัดแยง้ ในเรอ่ื งการใชท้ รพั ยากร
ค. ความขัดแย้งในเรือ่ งการปฏิบัตงิ าน ง. ถกู ทกุ ข้อ
2. ขอ้ ใดคือผลดีของความขดั แย้งที่มตี อ่ องคก์ ร
ก. ความรว่ มมอื ระหว่างบคุ คล ข. เกิดบรรยากาศทไ่ี ม่ไว้วางใจกัน
ค. ภาพลักษณ์ขององคก์ รเสยี หาย ง. ทำให้เกดิ ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
139
3. การแก้ไขความขดั แย้งทใี่ ช้อำนาจ หรอื ระเบียบข้อบงั คบั คือการบรหิ ารความขดั แยง้ ดว้ ยวธิ ีใด
ก. วธิ ีการบงั คับและกดดัน ข. วธิ ีการประนปี ระนอม
ค. การแก้ปัญหาร่วมกนั ง. ถกู ทกุ ข้อ
4. ความสามารถสง่ั ให้ผู้อื่นกระทำตามคือทักษะทจ่ี ำเปน็ ในการบริหารความขดั แย้งด้านใด
ก. ทักษะการวิเคราะหส์ ถานการณ์ ข. ทักษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทักษะการจัดสรรความเป็นธรรม
5. ข้อใดคอื วิธกี ารสร้างความขดั แยง้
ก. เพมิ่ ความจำกัดด้านทรัพยากร นัน่ คอื ลดทรัพยากรในการทำงานลง
ข. ลดเวลาการทำงานลง
ค. ขยายขอบเขตอำนาจหน้าท่ีใหซ้ ำ้ ซอ้ นกันมากข้นึ
ง. ถกู ทุกข้อ
6. เม่ือประเดน็ ขัดแยง้ เป็นเร่ืองไรส้ าระและมปี ัญหาอืน่ ๆ สำคัญกวา่ ควรใช้พฤติกรรมใดทเ่ี หมาะสม
กับความขัดแยง้
ก. การเอาชนะ ข. การประนีประนอม ค. การหลีกเลีย่ ง ง. การยอมให้
7. ทกั ษะท่เี ป็นวธิ ีท่ีทำให้แตล่ ะฝ่ายได้รบั ส่งิ ที่เขาควรจะได้
ก. ทักษะการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทักษะการใชอ้ ำนาจ ง. ทกั ษะการจดั สรรความเป็นธรรม
8. ข้อใดคือการไมย่ ึดติดอยกู่ บั สิง่ ใดสงิ่ หนงึ่ หรอื ความคิดใดความคดิ หน่ึง
ก. ความยืดหยนุ่ ข. การเผชญิ หน้า ค. การใหข้ ้อมูล ง. การมองโลกในแง่ดี
9. ในการศึกษาความขัดแยง้ แบง่ แนวคดิ เกย่ี วกบั ความขัดแยง้ เป็นก่กี ล่มุ
ก. 2 กลุ่ม ข. 3 กลุ่ม ค. 4 กลุ่ม ง. 5 กลุ่ม
10.ความขัดแย้งระหวา่ งแผนก ระหวา่ งทมี งาน หรอื ความขดั แย้งระหวา่ งหนว่ ยงานย่อย ถือเปน็
ความขดั แย้งประเภทใด
ก. ความขัดแย้งภายในตวั บคุ คล ข. ความขัดแย้งระหว่างบคุ คล
ค. ความขดั แย้งระหวา่ งกลุ่ม ง. ถกู ทุกข้อ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ษษ.
สส.
หนว่ ยท่ี 8 เร่อื ง การนำกิจกรรมระบบคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจัดการอาชพี
-------------------------------------------------------------------------
หห.
ฬฬ.
คำส่งั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทถ่ี ูกต้องทส่ี ุด
1. ดำเนนิ การแก้ไขปัญหาตามวงจร ประกอบดว้ ย การวางแผน จากน้นั ก็ลงมือปฏบิ ตั ิตามแผนทวี่ าง
ไว้ การตรวจสอบผลทีไ่ ด้จากการปฏิบตั วิ ่าตรงตามเปา้ หมายหรอื ไม่ การตดั สินใจในการแก้ปญั หา
หากประสบผลสำเร็จตามท่ีได้วางเป้าหมายไว้กจ็ ะต้องนำเข้าขนั้ ตอนต่อไปหมายถึงกิจกรรมในข้อใด
ก. PDCA ข. QCC ค. TQM ง. TQC
2. ขอ้ ใดคือเครอื่ งมือที่ใช้แสดงข้อมลู ขององค์กรหรอื หน่วยงานเพอ่ื แสดงความแตกต่างของขอ้ มลู และ
การควบคมุ ตามแผนภมู ิ
ก. แผนภูมกิ ้างปลา ข. ฮสี โตแกรม
140
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภูมิควบคุม
3. การแปลข้อมูล โดยใช้กราฟเป็นเครื่องมือ ใชใ้ นการแสดงเพื่อให้เข้าใจง่าย อาจเป็นกราฟแท่ง
กราฟเสน้ กราฟวงกลม หมายถึงข้อใด
ก. แผนภูมิกา้ งปลา ข. ฮีสโตแกรม
ค. การจำแนกข้อมลู ง. กราฟและแผนภูมิควบคุม
4. ขอ้ ใดหมายถงึ เทคนิคทเี่ นน้ การปรบั เปลี่ยนให้มเี ทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใชใ้ นกิจการ
ก. กจิ กรรมการควบคุมคณุ ภาพ ข. กจิ กรรมการปรบั รื้อ
ค. มาตรฐานระบบคุณภาพ ง. การบริหารองค์กร
5. ขอ้ ใดหมายถงึ การบนั ทึกและวเิ คราะห์วธิ กี ารทำงานท่ีทำอยู่ และหาวธิ ีหรอื เทคนิคใหม่ๆ ขนึ้ มา
นำเสนออยา่ งเป็นระบบ เพือ่ ชว่ ยให้การทำงานงา่ ยขน้ึ
ก. การทำงานเปน็ ทีม ข. การวัดปรมิ าณงาน ค. ศึกษาวิธกี ารทำงาน ง. ถกู ทกุ ข้อ
6. การทผี่ บู้ ริหารมีหนา้ ที่ที่เกีย่ วกับการแจกจ่ายข้อมลู ท่ีได้รับจากสมาชิกภายนอกองค์กรให้กับสมาชกิ
ขององค์กรหมายถงึ บทบาทตามขอ้ ใด
ก. เปน็ ผคู้ อยตดิ ตามข้อมลู ข. เปน็ ผ้ถู า่ ยทอดข้อมลู ค. เปน็ โฆษก ง. เปน็ ผู้นำ
7. การเตรียมพร้อมท่ีจะรับฟงั คำสง่ั จากผบู้ งั คับบัญชา หรอื การรบั คำแนะนำเกยี่ วกับงานในสำนักงาน
นน้ั ๆหมายถงึ คณุ สมบตั ิทดี่ ขี องพนกั งานตามขอ้ ใด
ก. บคุ ลิกในการแสดงตน ข. บคุ ลกิ ลกั ษณะของตัวบุคคล
ค. คุณลกั ษณะประจำตัวของบุคคล ง. ความสามารถในการทำงาน
8. การรจู้ ักปรบั ปรุงตวั เองและงานให้เหมาะสมถูกต้อง และดำเนนิ งานไปด้วยความเรยี บร้อย
ตลอดจนการฝึกฝนความชำนาญต่างๆหมายถงึ คุณสมบตั ิท่ีดขี องพนกั งานตามขอ้ ใด
ก. บุคลิกในการแสดงตน ข. บคุ ลกิ ลักษณะของตัวบคุ คล
ค. คณุ ลักษณะประจำตัวของบคุ คล ง. ความสามารถในการทำงาน
9. การบรหิ ารแบ่งออกเป็นกร่ี ะดับ
ก. 2 ระดับ ข. 3 ระดบั ค. 4 ระดับ ง. 5 ระดบั
10.ข้อใดไม่ใช่กระบวนการบริหารเพอื่ บรรลวุ ัตถุประสงค์ขององค์กร
ก. การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. การกำหนดกลยุทธ์ขององคก์ ร
ค. การปฏบิ ตั ติ ามกลยทุ ธ์ ง. การดำเนินการแกไ้ ข
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ออ.
ฮฮ.
หนว่ ยท่ี 8 เรอ่ื ง การนำกิจกรรมระบบคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ มาประยุกตใ์ ชใ้ นการจดั การอาชพี
-------------------------------------------------------------------------
กกก.
ขขข.
คำสงั่ จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ที่ถูกต้องที่สดุ
๑. ดำเนินการแกไ้ ขปัญหาตามวงจร ประกอบด้วย การวางแผน จากนนั้ กล็ งมือปฏิบตั ติ ามแผนท่ีวาง
ไว้ การตรวจสอบผลทไี่ ดจ้ ากการปฏบิ ัตวิ ่าตรงตามเป้าหมายหรือไม่ การตดั สนิ ใจในการแก้ปัญหา
หากประสบผลสำเร็จตามที่ได้วางเป้าหมายไว้กจ็ ะต้องนำเข้าข้นั ตอนต่อไปหมายถึงกิจกรรมในข้อใด
ก. PDCA ข. QCC ค. TQM ง. TQC
๒. ขอ้ ใดคอื เครอ่ื งมือท่ีใช้แสดงข้อมลู ขององค์กรหรือหน่วยงานเพอ่ื แสดงความแตกตา่ งของข้อมูลและ
การควบคุมตามแผนภูมิ
ก. แผนภูมิกา้ งปลา ข. ฮสี โตแกรม
141
ค. การจำแนกข้อมลู ง. กราฟและแผนภูมิควบคุม
๓. การแปลข้อมลู โดยใช้กราฟเป็นเครอ่ื งมอื ใช้ในการแสดงเพ่ือให้เขา้ ใจง่าย อาจเป็นกราฟแท่ง
กราฟเสน้ กราฟวงกลม หมายถงึ ข้อใด
ก. แผนภมู ิก้างปลา ข. ฮสี โตแกรม
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภูมิควบคมุ
๔. ข้อใดหมายถึงเทคนิคท่เี น้นการปรบั เปล่ียนให้มเี ทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใชใ้ นกจิ การ
ก. กิจกรรมการควบคุมคุณภาพ ข. กิจกรรมการปรับรือ้
ค. มาตรฐานระบบคุณภาพ ง. การบริหารองค์กร
5. ข้อใดหมายถึง การบันทึกและวเิ คราะหว์ ธิ ีการทำงานท่ีทำอยู่ และหาวิธหี รอื เทคนคิ ใหม่ๆ ขนึ้ มา
นำเสนออยา่ งเป็นระบบ เพื่อช่วยใหก้ ารทำงานงา่ ยขน้ึ
ก. การทำงานเป็นทีม ข. การวดั ปริมาณงาน ค. ศึกษาวธิ ีการทำงาน ง. ถูกทกุ ข้อ
6. การที่ผูบ้ ริหารมีหนา้ ท่ีที่เก่ยี วกบั การแจกจา่ ยข้อมลู ท่ีไดร้ ับจากสมาชิกภายนอกองค์กรให้กบั สมาชิก
ขององค์กรหมายถงึ บทบาทตามข้อใด
ก. เป็นผู้คอยตดิ ตามข้อมูล ข. เปน็ ผู้ถา่ ยทอดข้อมูล ค. เป็นโฆษก ง. เปน็ ผูน้ ำ
7. การเตรยี มพร้อมทีจ่ ะรบั ฟังคำส่ังจากผบู้ งั คับบัญชา หรอื การรบั คำแนะนำเกยี่ วกบั งานในสำนกั งาน
น้ันๆหมายถึงคุณสมบัติทีด่ ีของพนักงานตามขอ้ ใด
ข. บุคลกิ ในการแสดงตน ข. บุคลิกลกั ษณะของตวั บคุ คล
ค. คณุ ลกั ษณะประจำตวั ของบุคคล ง. ความสามารถในการทำงาน
8. การรู้จกั ปรบั ปรงุ ตัวเองและงานให้เหมาะสมถกู ต้อง และดำเนินงานไปด้วยความเรียบร้อย
ตลอดจนการฝึกฝนความชำนาญต่างๆหมายถงึ คุณสมบตั ิที่ดขี องพนักงานตามข้อใด
ข. บคุ ลกิ ในการแสดงตน ข. บุคลกิ ลกั ษณะของตวั บุคคล
ค. คณุ ลกั ษณะประจำตัวของบคุ คล ง. ความสามารถในการทำงาน
9. การบรหิ ารแบ่งออกเปน็ กร่ี ะดับ
ข. 2 ระดบั ข. 3 ระดับ ค. 4 ระดับ ง. 5 ระดบั
10.ขอ้ ใดไม่ใช่กระบวนการบริหารเพือ่ บรรลุวัตถุประสงค์ขององคก์ ร
ข. การวเิ คราะห์สถานการณ์ ข. การกำหนดกลยุทธ์ขององคก์ ร
ค. การปฏบิ ตั ิตามกลยุทธ์ ง. การดำเนนิ การแกไ้ ข
แบบทดสอบหลงั เรียน
คคค.
งงง .
หน่วยที่ 8 เรอ่ื ง การนำกิจกรรมระบบคุณภาพและเพมิ่ ผลผลิตมาประยกุ ต์ใช้ในการจดั การอาชพี
-------------------------------------------------------------------------
จจจ.
ฉฉฉ.
คำส่ัง จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ทถี่ ูกต้องที่สดุ
1. ขอ้ ใดหมายถงึ การบนั ทึกและวิเคราะหว์ ธิ ีการทำงานทท่ี ำอยู่ และหาวิธหี รอื เทคนิคใหม่ๆ ขนึ้ มา
นำเสนออย่างเป็นระบบ เพอื่ ช่วยใหก้ ารทำงานง่ายขึ้น
ก. การทำงานเปน็ ทีม ข. การวดั ปรมิ าณงาน ค. ศึกษาวธิ ีการทำงาน ง. ถกู ทุกข้อ
2. การทีผ่ บู้ ริหารมหี น้าที่ทีเ่ กย่ี วกับการแจกจ่ายข้อมูลท่ีไดร้ ับจากสมาชิกภายนอกองค์กรให้กับสมาชกิ
ขององค์กรหมายถงึ บทบาทตามข้อใด
ก. เปน็ ผ้คู อยติดตามข้อมลู ข. เปน็ ผู้ถา่ ยทอดขอ้ มูล ค. เป็นโฆษก ง. เปน็ ผู้นำ
142
3. การเตรียมพร้อมทจ่ี ะรบั ฟังคำสั่งจากผบู้ งั คบั บัญชา หรอื การรบั คำแนะนำเกี่ยวกับงานในสำนักงาน
นน้ั ๆหมายถงึ คณุ สมบัติที่ดีของพนกั งานตามขอ้ ใด ข. บคุ ลิกลกั ษณะของตัวบคุ คล
ก. บุคลกิ ในการแสดงตน ง. ความสามารถในการทำงาน
ค. คุณลักษณะประจำตวั ของบคุ คล
4. การรจู้ ักปรับปรงุ ตัวเองและงานให้เหมาะสมถูกต้อง และดำเนนิ งานไปดว้ ยความเรียบร้อย
ตลอดจนการฝึกฝนความชำนาญต่างๆหมายถงึ คุณสมบัติท่ีดีของพนักงานตามขอ้ ใด
ก. บุคลกิ ในการแสดงตน ข. บุคลิกลักษณะของตัวบุคคล
ค. คุณลักษณะประจำตัวของบคุ คล ง. ความสามารถในการทำงาน
5. การบริหารแบ่งออกเป็นกรี่ ะดับ
ก. 2 ระดบั ข. 3 ระดบั ค. 4 ระดบั ง. 5 ระดับ
6. ขอ้ ใดไม่ใช่กระบวนการบรหิ ารเพือ่ บรรลุวัตถุประสงค์ขององคก์ ร
ก. การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. การกำหนดกลยุทธ์ขององค์กร
ค. การปฏบิ ัติตามกลยุทธ์ ง. การดำเนนิ การแก้ไข
7. ดำเนนิ การแกไ้ ขปัญหาตามวงจร ประกอบดว้ ย การวางแผน จากนั้นก็ลงมอื ปฏิบตั ติ ามแผนท่ีวาง
ไว้ การตรวจสอบผลท่ีได้จากการปฏบิ ัติว่าตรงตามเปา้ หมายหรือไม่ การตดั สินใจในการแกป้ ญั หา
หากประสบผลสำเรจ็ ตามท่ีได้วางเปา้ หมายไว้ก็จะต้องนำเข้าขน้ั ตอนต่อไปหมายถึงกจิ กรรมในข้อใด
ก. PDCA ข. QCC ค. TQM ง. TQC
8. ข้อใดหมายถงึ เทคนิคทเ่ี นน้ การปรบั เปลยี่ นใหม้ เี ทคโนโลยใี หมๆ่ เข้ามาใช้ในกจิ การ
ก. กิจกรรมการควบคุมคณุ ภาพ ข. กจิ กรรมการปรับรื้อ
ค. มาตรฐานระบบคุณภาพ ง. การบรหิ ารองค์กร
9. ขอ้ ใดคือเครอ่ื งมือท่ีใชแ้ สดงข้อมลู ขององค์กรหรอื หน่วยงานเพอื่ แสดงความแตกตา่ งของขอ้ มูลและ
การควบคมุ ตามแผนภูมิ
ก. แผนภูมกิ า้ งปลา ข. ฮีสโตแกรม
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภูมิควบคมุ
10.การแปลข้อมลู โดยใชก้ ราฟเปน็ เครอื่ งมือ ใช้ในการแสดงเพือ่ ให้เขา้ ใจง่าย อาจเป็นกราฟแท่ง
กราฟเส้น กราฟวงกลม หมายถงึ ข้อใด ข. ฮีสโตแกรม
ก. แผนภูมิกา้ งปลา
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภมู ิควบคุม
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
ชชช.
ซซซ.
หนว่ ยที่ 8 เรอ่ื ง การนำกิจกรรมระบบคณุ ภาพและเพิ่มผลผลิตมาประยุกตใ์ ช้ในการจดั การอาชีพ
-------------------------------------------------------------------------
ฌฌฌ.
ญญญ.
คำสัง่ จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อท่ีถูกตอ้ งที่สดุ
1. ขอ้ ใดหมายถงึ การบันทึกและวเิ คราะห์วิธกี ารทำงานทที่ ำอยู่ และหาวธิ หี รือเทคนิคใหม่ๆ ข้นึ มา
นำเสนออย่างเปน็ ระบบ เพื่อช่วยใหก้ ารทำงานงา่ ยข้ึน
ก. การทำงานเปน็ ทีม ข. การวดั ปรมิ าณงาน ค. ศกึ ษาวิธกี ารทำงาน ง. ถกู ทุกข้อ
2. การทีผ่ ู้บริหารมีหนา้ ท่ีที่เกยี่ วกบั การแจกจ่ายข้อมลู ท่ีไดร้ ับจากสมาชิกภายนอกองค์กรให้กบั สมาชิก
ขององค์กรหมายถึงบทบาทตามขอ้ ใด
ก. เปน็ ผ้คู อยติดตามข้อมูล ข. เปน็ ผถู้ า่ ยทอดข้อมูล ค. เป็นโฆษก ง. เปน็ ผ้นู ำ
143
3. การเตรยี มพร้อมท่ีจะรบั ฟังคำสง่ั จากผู้บงั คบั บัญชา หรอื การรบั คำแนะนำเกีย่ วกับงานในสำนักงาน
น้นั ๆหมายถึงคณุ สมบัติทดี่ ขี องพนกั งานตามขอ้ ใด ข. บคุ ลกิ ลักษณะของตัวบุคคล
ก. บุคลิกในการแสดงตน ง. ความสามารถในการทำงาน
ค. คุณลักษณะประจำตวั ของบคุ คล
4. การรู้จกั ปรบั ปรุงตัวเองและงานใหเ้ หมาะสมถกู ต้อง และดำเนนิ งานไปดว้ ยความเรียบร้อย
ตลอดจนการฝึกฝนความชำนาญต่างๆหมายถึงคุณสมบตั ิท่ีดขี องพนกั งานตามข้อใด
ก. บุคลิกในการแสดงตน ข. บคุ ลกิ ลักษณะของตัวบุคคล
ค. คุณลกั ษณะประจำตัวของบุคคล ง. ความสามารถในการทำงาน
5. การบรหิ ารแบง่ ออกเป็นกรี่ ะดับ
ก. 2 ระดับ ข. 3 ระดบั ค. 4 ระดบั ง. 5 ระดบั
6. ข้อใดไมใ่ ช่กระบวนการบรหิ ารเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร
ก. การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. การกำหนดกลยุทธ์ขององค์กร
ค. การปฏิบตั ติ ามกลยทุ ธ์ ง. การดำเนินการแกไ้ ข
7. ดำเนนิ การแกไ้ ขปญั หาตามวงจร ประกอบดว้ ย การวางแผน จากนัน้ กล็ งมอื ปฏบิ ัตติ ามแผนทวี่ าง
ไว้ การตรวจสอบผลท่ีได้จากการปฏบิ ตั วิ า่ ตรงตามเป้าหมายหรือไม่ การตดั สินใจในการแก้ปญั หา
หากประสบผลสำเร็จตามท่ีได้วางเป้าหมายไวก้ จ็ ะต้องนำเข้าข้ันตอนต่อไปหมายถึงกจิ กรรมในข้อใด
ก. PDCA ข. QCC ค. TQM ง. TQC
8. ข้อใดหมายถึงเทคนิคทเ่ี น้นการปรับเปล่ยี นใหม้ เี ทคโนโลยใี หมๆ่ เข้ามาใช้ในกจิ การ
ก. กิจกรรมการควบคุมคุณภาพ ข. กจิ กรรมการปรับรื้อ
ค. มาตรฐานระบบคุณภาพ ง. การบรหิ ารองค์กร
9. ขอ้ ใดคอื เครือ่ งมือที่ใช้แสดงข้อมลู ขององค์กรหรอื หน่วยงานเพ่อื แสดงความแตกตา่ งของข้อมลู และ
การควบคมุ ตามแผนภมู ิ
ก. แผนภมู ิกา้ งปลา ข. ฮสี โตแกรม
ค. การจำแนกข้อมลู ง. กราฟและแผนภมู คิ วบคุม
10.การแปลข้อมลู โดยใช้กราฟเป็นเคร่ืองมอื ใช้ในการแสดงเพ่ือใหเ้ ข้าใจง่าย อาจเป็นกราฟแทง่
กราฟเส้น กราฟวงกลม หมายถึงข้อใด ข. ฮีสโตแกรม
ก. แผนภูมิก้างปลา
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภมู ิควบคมุ
เอกสารอา้ งอิง(ถ้ามี) / บรรณานกุ รม (มเี ฉพาะท้ายเล่มก็ได)้
สมคดิ บางโม องค์การและการจัดการ สำนักพมิ พด์ ีการพิมพ์ กรงุ เทพฯ 2553
อารยี ์ หวงั เจริญ หลกั การจดั การ สำนกั พิมพศ์ ูนยส์ ่งเสริมวิชาการ กรงุ เทพฯ 2550
บรรจง จันทมาศ การพฒั นางานดว้ ยระบบบริหารคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลติ
สำนกั พมิ พ์ ส.ส.ท สมาคมส่งเสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญ่ีปนุ่ )
ทวี มณีสายและคณะ กรุงเทพฯ 2547
การพัฒนางานด้วยระบบคุณภาพและเพิ่มผลผลิต
สมชาย วณารกั ษ์ สำนกั พิมพ์ศูนยส์ ่งเสริมวิชาการ กรงุ เทพฯ 2546
การพฒั นางานด้วยระบบคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต
หรรษา เขตตบ์ รรพต สำนกั พมิ พ์เอมพันธ์ จำกัด กรุงเทพ 2549
การเพ่ิมประสทิ ธิภาพในองค์กร
พรพรรณ โสภาพล 144
ปิยดา ดลิ กปรีชากุล สำนกั พมิ พ์ บรษิ ัท ศูนยห์ นังสือ เมืองไทย จำกัด กรงุ เทพ 2554
สยาม อรณุ ศรีมรกต เทคโนโลยกี ารบริหารงานเอกสาร
สำนักพิมพ์เอมพันธ์ จำกดั กรุงเทพ 2550
การพัฒนางานด้วยระบบคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ
สำนกั พมิ พ์เอมพันธ์ จำกดั กรุงเทพ 2546
ISO 14001 : 2004 ระบบมาตรฐานการจัดการส่งิ แวดล้อม
สำนกั พิมพ์ ห้างห้นุ สว่ นจำกัด บางกอกบล๊อก กรงุ เทพ 2551