51
3. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1) เตรยี มตวั กอ่ นเขา้ พบลกู คา้ และเขา้ พบลูกคา้
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จุดประสงค์ทัว่ ไป
1) เขา้ พบลูกคา้ ได้
2) เตรียมตัวกอ่ นเขา้ พบลูกคา้ ได้
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1) บอกความหมายของการเขา้ พบลกู คา้ ได้
2) บอกวัตถุประสงค์ของการเข้าพบได้
3) อธิบายถึงวธิ ีการเข้าพบลูกคา้ ได้
4) อธบิ ายถึงสิง่ จำเป็นทพี่ นักงานขายต้องเตรยี มในการเขา้ พบลูกค้า
5) นำความรแู้ ละเทคนิคการเขา้ พบไปปรับใชก้ บั อาชพี ของตนได้
52
5. เน้ือหาสาระ / สาระการเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (ทฤษฎ)ี
1) บอกความหมายของการเข้าพบลกู คา้ ได้
2) บอกวัตถปุ ระสงค์ของการเขา้ พบได้
3) อธบิ ายถึงวิธกี ารเข้าพบลูกคา้ ได้
4) อธิบายถงึ ส่ิงจำเป็นท่พี นักงานขายต้องเตรียมในการเข้าพบลูกค้า
5) นำความรูแ้ ละเทคนิคการเขา้ พบไปปรบั ใช้กับอาชพี ของตนได้
หมายเหตุ รายละเอียดของเน้อื หาสาระจากภาคผนวกเอกสารประกอบการเรยี น
ดา้ นทกั ษะ (ปฏบิ ตั ิ)
1) ให้สรปุ เนอ้ื หาการเข้าพบลูกค้าเปน็ ผังมโนทัศน์ให้ถกู ต้องและสวยงาม ตามใบงานท่ี 5
2) ให้นำเนื้อหาการเข้าพบลกู คา้ ตามใบงานท่ี 6
6. กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
ขั้นสนใจปัญหา (Motivation)
1) ผู้สอนสอบถามถงึ การการเข้าพบลูกค้าเพ่ือทดสอบความรู้ของนกั ศึกษา
2) ผู้สอนนำอภิปรายถึงความสำคัญและขอบเขตของการศึกษาการเข้าพบลกู คา้
3) ผู้สอนรว่ มสนทนากับผเู้ รยี นใหผ้ ู้เรียนช่วยสรปุ เรอ่ื งการเข้าพบลกู คา้
53
ข้ันศึกษาข้อมูล (Information)
4) ผู้สอนมอบให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าจากหนังสือเรียนวิชาการขายเบื้องต้นของสำนักพิมพ์ศูนย์
ส่งเสริมอาชีวะ ในหน่วยที่ 6 ศึกษาในส่วนที่เป็นเนื้อหาความรู้ โดยผู้สอนคอยดูแลให้
คำปรึกษาและถามนำให้ผ้เู รียนช่วยกันตอบเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาตรงวัตถุประสงค์
ที่ต้องการ และเป็นการวัดผลและประเมินจากการเรียนรู้และความสนใจของผู้เรียนทั้งในด้าน
ความรูแ้ ละดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ไปด้วย
5) ผู้สอนมอบให้ผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่เรียน พร้อมร่วมสรุปกับผู้เรียนในส่วนที่ยังไม่ครบ
หรือเพ่ิมเตมิ ใหช้ ัดเจน
ขนั้ พยายาม (Application)
6) ผู้สอนมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นทำแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 6
ขั้นสำเร็จผล (Progress)
7) ผู้เรียนร่วมกับผู้สอนในการเฉลยและตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 6 ด้วยตนเอง
เพื่อทำให้ผู้เรียนทราบว่าสามารถทำแบบฝึกหัดถูก-ผิด จำนวนเท่าไร พร้อมทั้งให้ประเมิน
ตนเองดว้ ยจากแบบประเมินตนเอง จากจำนวนข้อที่ทำถูก
54
7. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้ามี)
ก่อนเรียน
ผู้เรียนศึกษาเก่ียวกับการเข้าพบลกู คา้ และใหแ้ สดงความคิดเห็นเก่ยี วกับการนำมาใช้ในการเรยี น
วิชาการขายเบื้องต้น
ขณะเรยี น
ให้ศึกษา ค้นคว้า จากสอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์การเข้าพบลกู ค้า
หลังเรยี น
มอบหมายใหผ้ ูเ้ รียนลงมอื สรปุ และรว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกับการเตรียมตัวก่อนเขา้ พบและการ
นำมาใชใ้ นการเรยี นวิชาการขายเบ้อื งตน้ และนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
55
8. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
สอ่ื ส่ิงพมิ พ์
หนงั สอื เรยี น หลกั การขาย รหสั 3200-0002 อ.ยวุ พา สารพฒั น์
สื่อโสตทศั น์
PowerPoint และสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์
หุ่นจำลองหรือของจริง
-ไมม่ -ี
แหลง่ เรยี นรู้เพิ่มเติม
1) เว็ปไซต์
2) ห้องสมดุ
งานที่มอบหมาย/กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
1) ใบงานที่ 5
2) ใบงานท่ี 6
56
9. การวัดผลประเมนิ ผล
ก่อนเรยี น
1) ทดสอบก่อนเรยี น 10 ขอ้ เพื่อนำไวเ้ ปรยี บเทียบกบั แบบทดสอบหลังเรยี นแต่ละหน่วย
ขณะเรยี น
1) จากการสงั เกต
2) ถาม-ตอบ
3) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี น
4) แบบประเมนิ ผลงาน
5) แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านกลุม่
หลงั เรียน
1) ให้ผู้เรียนสรุปการเข้าพบลูกค้าลงสมุดและนำอภิปรายร่วมกัน โดยมีผู้สอนคอยถามนำการสรุป
ให้ตรงประเด็น
10. บันทกึ หลงั การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ 57
ภาคเรยี นท.ี่ ..........1..........สัปดาหท์ ี่......6......วนั ท.่ี .....3......เดือน....สิงหาคม......พ.ศ......2563.....
นกั ศึกษา ช้ัน......ปวส.1.....สาขาวชิ า...การจัดการ....สาขางาน.....การจดั การ....กลมุ่ ..1-2...
10.1 ผลการใชแ้ ผนการสอน
- สอนเน้ือหาสมบรู ณค์ รบถว้ น
- มีการใชเ้ วลาได้เหมาะสม
- ทำกจิ กรรมในช้ันเรียนได้ครบถว้ น
10.2 ผลการเรยี นของนกั เรยี น
- นกั ศึกษาสว่ นใหญม่ ีความสนใจและต้ังใจเรียนอย่างดี
- นกั ศึกษาสามารถอธบิ ายเกย่ี วกับการเขา้ พบลกู ค้าได้
10.3 ผลการสอนของครู
- ให้ความรู้ การเข้าพบลูกค้า
- ทดสอบความรูห้ ลงั เรยี น
10.4 ปญั หา อุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ
- ไมม่ -ี
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 58
วิชา การขายเบ้ืองตน้ รหัสวิชา 30200-0002
ช่ือหน่วย การเสนอขายสินค้าและการสาธติ หนว่ ยที่ 4
เวลารวม 6 ชม.
ช่ือเรอ่ื ง การเสนอขายสินค้า
สอนครัง้ ที่ 7
1. หัวขอ้ เรอื่ ง เวลาสอน 3 ชม.
1.1 ดา้ นความรู้ (ทฤษฎี)
1) บอกความหมายของการเสนอขายสนิ ค้า
2) บอกวตั ถปุ ระสงค์ของการเสนอขายสนิ ค้าได้
3) อธิบายเทคนิคและรปู แบบของการเสนอขายสนิ คา้ ได้
4) อธิบายถึงองคป์ ระกอบของความสำคญั ในการเสนอขายสนิ ค้าได้
5) อธบิ ายถึงการสาธิตสินค้าได้
6) บอกวตั ถปุ ระสงค์ของการสาธิตสินคา้ ได้
7) อธิบายถึงองคป์ ระกอบของการสาธติ สนิ คา้ ได้
1.2 ด้านทักษะ (ปฏบิ ัติ)
1) เสนอขายและการสาธติ สนิ ค้า
1.3 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคท์ ่ตี ้องการใหเ้ กิด (ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมหลักของ
คนไทย)
1) ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมที่พึงประสงค์คือความมีมนุษย์สัมพันธ์ ความมีวินัย
ความรับผิดชอบ ความประหยดั ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญูกตเวที
2) หลงั เลิกเรียน ต้องจัดเก้าอเ้ี ขา้ ที่ให้เรียบร้อย เก็บขยะ ปิดไฟ ปดิ พดั ลม
3) การแบ่งกล่มุ การจดั เวร ตอ้ งทำดว้ ยความสมคั รใจ ตามระบอบประชาธิปไตย
4) ครูเนน้ ย้ำให้นักเรยี นตระหนักถึงโทษของยาเสพติด อนั ตราย ของยาเสพติด การพยายาม
หนีหลกี ให้ไกลจากยาเสพตดิ
2. สาระสำคัญ
การเสนอขายสินค้าเป็นขั้นตอนที่ 4 ของกระบวนการขาย ซึ่งจะให้ลูกค้าทราบถึงปัญหาของ
ตนเองว่าคืออะไร มีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ฉะนั้นพนักงานขายต้องเรียนรู้วิธีการนำเสนอที่มี
ประสิทธิภาพพร้อมทั้งมีการสาธิตสินค้าที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อถือ ความชัดเจน ความสมบูรณ์ และมี
เทคนิคการขจดั คู่แขง่ ขันทด่ี ี
3. สมรรถนะประจำหน่วย
59
1) เสนอขายและการสาธิตสินคา้
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงคท์ ว่ั ไป
1) เสนอขายและการสาธิตสนิ ค้า
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1) บอกความหมายของการเสนอขายสนิ คา้
2) บอกวัตถปุ ระสงค์ของการเสนอขายสนิ คา้ ได้
3) อธิบายเทคนิคและรปู แบบของการเสนอขายสนิ คา้ ได้
4) อธิบายถงึ องค์ประกอบของความสำคญั ในการเสนอขายสินคา้ ได้
5) อธิบายถึงการสาธติ สนิ คา้ ได้
6) บอกวัตถปุ ระสงค์ของการสาธิตสินคา้ ได้
7) อธบิ ายถึงองค์ประกอบของการสาธติ สินคา้ ได้
60
5. เน้อื หาสาระ / สาระการเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (ทฤษฎ)ี
1) บอกความหมายของการเสนอขายสนิ คา้
2) บอกวัตถุประสงค์ของการเสนอขายสินค้าได้
3) อธบิ ายเทคนิคและรปู แบบของการเสนอขายสินคา้ ได้
4) อธิบายถึงองคป์ ระกอบของความสำคญั ในการเสนอขายสนิ คา้ ได้
5) อธบิ ายถงึ การสาธิตสินค้าได้
6) บอกวัตถปุ ระสงค์ของการสาธิตสินค้าได้
7) อธบิ ายถงึ องคป์ ระกอบของการสาธิตสนิ ค้าได้
หมายเหตุ รายละเอียดของเน้ือหาสาระจากภาคผนวกเอกสารประกอบการเรียน
ดา้ นทักษะ (ปฏิบตั ิ)
3) ใหส้ รปุ เนื้อหาการเสนอขายสินค้าเป็นผังมโนทัศน์ใหถ้ ูกตอ้ งและสวยงาม ตามใบงานท่ี 7
4) ให้นำเน้อื หาการเสนอขายสินค้าตามใบงานท่ี 8
6. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
ขั้นสนใจปัญหา (Motivation)
1) ผู้สอนสอบถามถึงการเสนอขายสินคา้ เพื่อทดสอบความรขู้ องนกั ศึกษา
2) ผู้สอนนำอภปิ รายถึงความสำคญั และขอบเขตของการศึกษาการเสนอขายสินค้า
3) ผู้สอนร่วมสนทนากบั ผเู้ รยี นให้ผูเ้ รยี นชว่ ยสรุปเรอ่ื งการเสนอขายสนิ คา้
61
ข้ันศึกษาข้อมูล (Information)
4) ผู้สอนมอบให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าจากหนังสือเรียนวิชาการขายเบื้องต้นของสำนักพิมพ์ศูนย์
ส่งเสริมอาชีวะ ในหน่วยที่ 7 ศึกษาในส่วนที่เป็นเนื้อหาความรู้ โดยผู้สอนคอยดูแลให้
คำปรึกษาและถามนำให้ผ้เู รียนช่วยกันตอบเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาตรงวัตถุประสงค์
ที่ต้องการ และเป็นการวัดผลและประเมนิ จากการเรียนรู้และความสนใจของผู้เรียนทั้งในด้าน
ความรูแ้ ละดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ไปด้วย
5) ผู้สอนมอบให้ผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่เรียน พร้อมร่วมสรุปกับผู้เรียนในส่วนที่ยังไม่ครบ
หรือเพ่ิมเตมิ ใหช้ ัดเจน
ขนั้ พยายาม (Application)
6) ผู้สอนมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นทำแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 7
ขั้นสำเร็จผล (Progress)
7) ผู้เรียนร่วมกับผู้สอนในการเฉลยและตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 7 ด้วยตนเอง
เพื่อทำให้ผู้เรียนทราบว่าสามารถทำแบบฝึกหัดถูก-ผิด จำนวนเท่าไร พร้อมทั้งให้ประเมิน
ตนเองดว้ ยจากแบบประเมินตนเอง จากจำนวนข้อที่ทำถูก
62
7. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้ามี)
ก่อนเรยี น
ผ้เู รยี นศึกษาเก่ียวกับการเสนอขายสนิ ค้า และให้แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการนำมาใชใ้ นการเรยี น
วิชาการขายเบอ้ื งต้น
ขณะเรียน
ให้ศึกษา คน้ คว้า จากสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์การเสนอขายสินคา้
หลังเรยี น
มอบหมายใหผ้ ้เู รียนลงมือสรปุ และรว่ มกนั อภิปรายเกยี่ วกบั การเสนอขายสนิ ค้าและการนำมาใชใ้ น
การเรยี นวิชาการขายเบ้ืองต้นและนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
63
8. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
สอ่ื ส่ิงพมิ พ์
หนงั สอื เรยี น หลกั การขาย รหสั 3200-0002 อ.ยวุ พา สารพฒั น์
สื่อโสตทศั น์
PowerPoint และสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์
หุ่นจำลองหรือของจริง
-ไมม่ -ี
แหลง่ เรยี นรู้เพิ่มเติม
1) เว็ปไซต์
2) ห้องสมดุ
งานที่มอบหมาย/กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
1) ใบงานที่ 7
2) ใบงานท่ี 8
64
9. การวดั ผลประเมนิ ผล
กอ่ นเรียน
1) ทดสอบก่อนเรียน 10 ขอ้ เพ่ือนำไวเ้ ปรียบเทียบกบั แบบทดสอบหลังเรียนแตล่ ะหน่วย
ขณะเรยี น
1) จากการสังเกต
2) ถาม-ตอบ
3) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียน
4) แบบประเมินผลงาน
5) แบบประเมินผลการปฏิบัติงานกลมุ่
หลงั เรยี น
1) ให้ผู้เรียนสรุปการเสนอขายสินค้าลงสมุดและนำอภิปรายร่วมกัน โดยมีผู้สอนคอยถามนำการ
สรุปให้ตรงประเดน็
10. บันทกึ หลงั การใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ 65
ภาคเรยี นที.่ ..........1..........สปั ดาห์ที่......7......วนั ท.ี่ .....10......เดอื น....สิงหาคม......พ.ศ......2563.....
นกั ศึกษา ชน้ั ......ปวส.1.....สาขาวิชา...การจดั การ....สาขางาน.....การจัดการ....กลุม่ ..1-2...
10.1 ผลการใช้แผนการสอน
- สอนเนอ้ื หาสมบูรณค์ รบถ้วน
- มีการใช้เวลาไดเ้ หมาะสม
- ทำกิจกรรมในชั้นเรียนไดค้ รบถ้วน
10.2 ผลการเรยี นของนกั เรียน
- นกั ศึกษาสว่ นใหญ่มคี วามสนใจและตั้งใจเรยี นอยา่ งดี
- นักศึกษาสามารถอธิบายเกี่ยวกับการเสนอขายสนิ ค้าได้
10.3 ผลการสอนของครู
- ให้ความรู้ การเสนอขายสินคา้
- ทดสอบความรู้หลังเรยี น
10.4 ปัญหา อปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ
- ไมม่ -ี
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8 66
วิชา การขายเบื้องตน้ รหัสวิชา 30200-0002
ชอ่ื หน่วย การเสนอขายสนิ คา้ และการสาธติ หน่วยท่ี 4
เวลารวม 6 ชม.
ชื่อเรื่อง การสาธิต
สอนคร้ังท่ี 8
1. หัวขอ้ เร่อื ง เวลาสอน 3 ชม.
1.1 ดา้ นความรู้ (ทฤษฎ)ี
1) บอกความหมายของการเสนอขายสนิ ค้า
2) บอกวัตถุประสงค์ของการเสนอขายสนิ ค้าได้
3) อธบิ ายเทคนิคและรปู แบบของการเสนอขายสนิ คา้ ได้
4) อธบิ ายถงึ องคป์ ระกอบของความสำคญั ในการเสนอขายสินคา้ ได้
5) อธิบายถึงการสาธิตสนิ คา้ ได้
6) บอกวตั ถปุ ระสงค์ของการสาธิตสนิ คา้ ได้
7) อธิบายถึงองค์ประกอบของการสาธติ สินคา้ ได้
1.2 ดา้ นทักษะ (ปฏิบัติ)
1) เสนอขายและการสาธิตสินค้า
1.3 คุณลกั ษณะอันพึงประสงคท์ ี่ต้องการใหเ้ กิด (ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มหลักของ
คนไทย)
1) ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมที่พึงประสงค์คือความมีมนุษย์สัมพันธ์ ความมีวินัย
ความรบั ผดิ ชอบ ความประหยดั ความสนใจใฝ่รู้ ความรักสามคั คี ความกตญั ญูกตเวที
2) หลงั เลกิ เรยี น ต้องจดั เก้าอเี้ ขา้ ท่ีใหเ้ รยี บรอ้ ย เกบ็ ขยะ ปดิ ไฟ ปิดพัดลม
3) การแบ่งกล่มุ การจดั เวร ตอ้ งทำดว้ ยความสมัครใจ ตามระบอบประชาธปิ ไตย
4) ครูเนน้ ย้ำให้นักเรียนตระหนักถงึ โทษของยาเสพติด อันตราย ของยาเสพติด การพยายาม
หนหี ลีกให้ไกลจากยาเสพตดิ
2. สาระสำคญั
การเสนอขายสินค้าเป็นขั้นตอนที่ 4 ของกระบวนการขาย ซึ่งจะให้ลูกค้าทราบถึงปัญหาของ
ตนเองว่าคืออะไร มีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ฉะนั้นพนักงานขายต้องเรียนรู้วิธีการนำเสนอที่มี
ประสิทธิภาพพร้อมทั้งมีการสาธิตสินค้าที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อถือ ความชัดเจน ความสมบูรณ์ และมี
เทคนคิ การขจดั คแู่ ขง่ ขันที่ดี
3. สมรรถนะประจำหน่วย
67
1) เสนอขายและการสาธิตสินคา้
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จุดประสงคท์ ว่ั ไป
1) เสนอขายและการสาธิตสนิ ค้า
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1) บอกความหมายของการเสนอขายสนิ คา้
2) บอกวัตถปุ ระสงค์ของการเสนอขายสนิ คา้ ได้
3) อธิบายเทคนิคและรปู แบบของการเสนอขายสนิ คา้ ได้
4) อธิบายถงึ องค์ประกอบของความสำคญั ในการเสนอขายสินคา้ ได้
5) อธิบายถึงการสาธติ สนิ คา้ ได้
6) บอกวัตถปุ ระสงค์ของการสาธิตสินคา้ ได้
7) อธบิ ายถึงองค์ประกอบของการสาธติ สินคา้ ได้
68
5. เนอื้ หาสาระ / สาระการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (ทฤษฎ)ี
1) บอกความหมายของการเสนอขายสนิ ค้า
2) บอกวตั ถุประสงค์ของการเสนอขายสนิ ค้าได้
3) อธบิ ายเทคนิคและรปู แบบของการเสนอขายสนิ ค้าได้
4) อธิบายถงึ องค์ประกอบของความสำคญั ในการเสนอขายสินคา้ ได้
5) อธิบายถงึ การสาธติ สินค้าได้
6) บอกวตั ถุประสงค์ของการสาธิตสินค้าได้
7) อธิบายถงึ องค์ประกอบของการสาธติ สินค้าได้
หมายเหตุ รายละเอยี ดของเน้อื หาสาระจากภาคผนวกเอกสารประกอบการเรยี น
ด้านทักษะ (ปฏบิ ตั ิ)
1) ให้สรุปเนือ้ หาการสาธิตเปน็ ผังมโนทัศนใ์ ห้ถูกต้องและสวยงาม ตามใบงานท่ี 7
2) ใหน้ ำเน้ือหาการสาธิต ตามใบงานท่ี 8
6. กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
ขั้นสนใจปัญหา (Motivation)
1) ผู้สอนสอบถามถึงการเสนอขายสนิ ค้าเพื่อทดสอบความรู้ของนกั ศึกษา
2) ผู้สอนนำอภิปรายถงึ ความสำคญั และขอบเขตของการศึกษาการเสนอขายสนิ ค้า
3) ผู้สอนรว่ มสนทนากับผูเ้ รียนใหผ้ เู้ รียนช่วยสรุปเรื่องการเสนอขายสนิ ค้า
69
ข้ันศึกษาข้อมูล (Information)
4) ผู้สอนมอบให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าจากหนังสือเรียนวิชาการขายเบื้องต้นของสำนักพิมพ์ศูนย์
ส่งเสริมอาชีวะ ในหน่วยที่ 7 ศึกษาในส่วนที่เป็นเนื้อหาความรู้ โดยผู้สอนคอยดูแลให้
คำปรึกษาและถามนำให้ผ้เู รียนช่วยกันตอบเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาตรงวัตถุประสงค์
ที่ต้องการ และเป็นการวัดผลและประเมินจากการเรียนรู้และความสนใจของผู้เรียนทั้งในด้าน
ความรูแ้ ละดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ไปด้วย
5) ผู้สอนมอบให้ผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่เรียน พร้อมร่วมสรุปกับผู้เรียนในส่วนที่ยังไม่ครบ
หรือเพ่ิมเตมิ ใหช้ ัดเจน
ขนั้ พยายาม (Application)
6) ผู้สอนมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นทำแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 7
ขั้นสำเร็จผล (Progress)
7) ผู้เรียนร่วมกับผู้สอนในการเฉลยและตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 7 ด้วยตนเอง
เพื่อทำให้ผู้เรียนทราบว่าสามารถทำแบบฝึกหัดถูก-ผิด จำนวนเท่าไร พร้อมทั้งให้ประเมิน
ตนเองดว้ ยจากแบบประเมินตนเอง จากจำนวนข้อที่ทำถูก
70
7. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถา้ มี)
ก่อนเรยี น
ผเู้ รียนศกึ ษาเก่ียวกับการสาธติ และใหแ้ สดงความคดิ เห็นเก่ียวกับการนำมาใช้ในการเรียนวชิ าการ
ขายเบือ้ งต้น
ขณะเรยี น
ให้ศึกษา คน้ คว้า จากสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์การสาธิต
หลังเรยี น
มอบหมายให้ผู้เรียนลงมอื สรุปและรว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกบั การสาธติ และการนำมาใช้ในการเรียน
วิชาการขายเบอื้ งตน้ และนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
71
8. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
สอ่ื ส่ิงพมิ พ์
หนงั สอื เรยี น หลกั การขาย รหสั 3200-0002 อ.ยวุ พา สารพฒั น์
สื่อโสตทศั น์
PowerPoint และสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์
หุ่นจำลองหรือของจริง
-ไมม่ -ี
แหลง่ เรยี นรู้เพิ่มเติม
1) เว็ปไซต์
2) ห้องสมดุ
งานที่มอบหมาย/กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
1) ใบงานที่ 7
2) ใบงานท่ี 8
72
9. การวัดผลประเมนิ ผล
ก่อนเรียน
1) ทดสอบก่อนเรยี น 10 ข้อ เพื่อนำไวเ้ ปรยี บเทียบกบั แบบทดสอบหลงั เรยี นแตล่ ะหน่วย
ขณะเรยี น
1) จากการสงั เกต
2) ถาม-ตอบ
3) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียน
4) แบบประเมนิ ผลงาน
5) แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงานกลุ่ม
หลังเรียน
1) ให้ผู้เรียนสรุปการสาธิตลงสมุดและนำอภิปรายร่วมกัน โดยมีผู้สอนคอยถามนำการสรุปให้ตรง
ประเดน็
10. บนั ทึกหลงั การใช้แผนการจดั การเรียนรู้ 73
ภาคเรียนที.่ ..........1..........สปั ดาห์ท.ี่ .....8......วันท.่ี .....17......เดือน....สงิ หาคม......พ.ศ......2563.....
นักศกึ ษา ชั้น......ปวส.1.....สาขาวชิ า...การจัดการ....สาขางาน.....การจัดการ....กลุม่ ..1-2...
10.1 ผลการใชแ้ ผนการสอน
- สอนเนื้อหาสมบรู ณค์ รบถ้วน
- มกี ารใชเ้ วลาได้เหมาะสม
- ทำกิจกรรมในช้ันเรยี นไดค้ รบถว้ น
10.2 ผลการเรยี นของนักเรียน
- นักศกึ ษาส่วนใหญม่ คี วามสนใจและตง้ั ใจเรียนอยา่ งดี
- นักศกึ ษาสามารถอธบิ ายเก่ียวกบั การสาธิตได้
10.3 ผลการสอนของครู
- ใหค้ วามรู้ การสาธติ
- ทดสอบความรู้หลงั เรียน
10.4 ปญั หา อปุ สรรคและข้อเสนอแนะ
- ไมม่ -ี
74
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9 75
วิชา กฎหมายทว่ั ไปเกี่ยวกับงานอาชพี รหัสวิชา 30200-0002
ชอ่ื หน่วย การประเมนิ ผล หน่วยที่ -
เวลารวม 3 ชม.
ชื่อเรื่อง สอบกลางภาค
สอนคร้ังที่ 9
เวลาสอน 3 ชม.
สอบกลางภาค
ภาคผนวก
ผงั การสร้างแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรียน
หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชีพช้ันสงู สาขาวิชา การจัดการท่วั ไป สาขางาน การจดั การทัว่ ไป
ประจำภาคเรียนท่ี 2/2561
ตามโครงการ ยกระดับสถานศกึ ษาต้นแบบทวิภาคี 100% สู่ความเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ Thailand 4.0
76
รหัสวชิ า 30200-0002 วิชา กฎหมายทั่วไปเกย่ี วกบั งานอาชพี (3-0-3)
ระดบั พฤติกรรมพุทธพิ สิ ัย
ชือ่ หน่วย จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ความรู้ ความจำ
ความเ ้ขาใจ
นำไปใ ้ช
ิวเคราะ ์ห
ประเ ิมนค่า
สร้างสรรค์
รวม
บทที่ 1 องค์การและการจัดการ 1. จดั หาทรพั ยากรในการบริหารจดั การได้ 1 2 1 1 5
10
2. ทราบถงึ ประเภทต่าง ๆ ขององค์การ
3. ทราบถึงลกั ษณะขององค์การ
4. อธบิ ายหลกั การจดั องค์การทม่ี ี
ประสทิ ธภิ าพได้
5. อธบิ ายการกำหนดหน้าทีง่ านอยา่ ง
เหมาะสมในองค์กรได้
6. ทราบวธิ ีการแบง่ งานอยา่ งเหมาะสมใน
องคก์ ร
7. อธบิ ายโครงสรา้ งตา่ ง ๆ ขององคก์ ารได้
8. อธบิ ายการจดั แผนกงานได้
บทท่ี 2 กระบวนการจัดการและ 1. อธิบายทฤษฎกี ระบวนการจดั การได้ 2422
การวางแผนงาน 2. อธิบายถึงลักษณะผูบ้ ริหารและหน้าที่
ความรับผิดชอบได้
3. อธิบายถงึ ทกั ษะของผู้บริหารหรอื
ผ้จู ดั การควรมไี ด้
4. อธิบายการวางแผนงานในแผนกได้
5. ทราบหน้าทีข่ องผ้รู ับผดิ ชอบการวางแผน
6. อธบิ ายกระบวนการวางแผนได้
7. อธิบายประเภทของการวางแผนต่างๆได้
ภาคผนวก
ผังการสร้างแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรยี น
หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี ชั้นสงู สาขาวชิ า การจดั การทว่ั ไป สาขางาน การจดั การทว่ั ไป
ประจำภาคเรยี นที่ 2/2561
ตามโครงการ ยกระดบั สถานศกึ ษาต้นแบบทวิภาคี 100% สู่ความเป็นเลศิ ทางวชิ าการ Thailand 4.0
รหัสวิชา 30200-0002 วิชา กฎหมายท่ัวไปเกี่ยวกับงานอาชพี (3-0-3)
ระดบั พฤตกิ รรมพุทธพิ สิ ัย
ชอ่ื หน่วย จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ความ ู้ร ความจำ
ความเข้าใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเมินค่า
ส ้รางสรรค์
รวม
บทที่ 3 การเพ่มิ 1. อธิบายถึงประสิทธิภาพและ 2422 77
ประสทิ ธิภาพในองค์การ 10
ประสทิ ธิผล
สอบกลางภาค 15
บทที่ 4 การบริหารงาน ของการดำเนนิ งานได้
คณุ ภาพในองคก์ าร
2. อธิบายถึงองคป์ ระกอบของการเพ่ิม
ประสิทธิภาพ
ในองค์กรได้
3. กำหนดวธิ กี ารเพมิ่ ประสิทธิภาพใน
องค์กรได้
4. พัฒนาองค์กรไดอ้ ย่างตอ่ เนื่อง
5. พฒั นาทรพั ยากรในองค์กรได้อย่าง
ตอ่ เนื่อง
1. อธิบายถงึ การบรหิ ารงานคุณภาพได้ 3 5 4 3
2. อธบิ ายถึงสง่ิ ทเี่ กยี่ วข้องกับคณุ ภาพ
ได้
3. สร้างคณุ ภาพในกระบวนการผลติ ได้
4. ทราบถงึ ประโยชนท์ ่ีได้จากการ
บริหารงานคุณภาพ
5. ทราบถึงประวตั ิและท่ีมาของระบบ
คณุ ภาพ ISO 9000
6. ทราบถงึ ประโยชนข์ องการจดั
ทะเบยี นในระบบคุณภาพ ISO 9000
ภาคผนวก
ผงั การสรา้ งแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรียน
หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพช้ันสูง สาขาวิชา การจัดการทวั่ ไป สาขางาน การจัดการทั่วไป
ประจำภาคเรยี นท่ี 2/2561
ตามโครงการ ยกระดับสถานศกึ ษาตน้ แบบทวภิ าคี 100% สู่ความเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ Thailand 4.0
รหสั วิชา 30200-0002 วิชา กฎหมายทัว่ ไปเกีย่ วกบั งานอาชีพ (3-0-3)
ระดับพฤติกรรมพทุ ธพิ ิสัย
ชือ่ หน่วย จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ความ ้รู ความจำ
ความเข้าใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเ ิมนค่า
ส ้รางสรรค์
รวม
บทท่ี 5 การเพ่มิ ผลผลิต 1. อธบิ ายความหมายของการเพมิ่ 2 4 2 2 78
ผลผลติ ได้ 10
2. สรา้ งแนวความคิดในการเพ่มิ
ผลผลติ ได้
3. อธิบายเหตผุ ลของการเพ่ิมผลผลิต
ใหก้ ับองคก์ ารได้
4. อธิบายถงึ ประเภทของการเพมิ่
ผลผลติ ได้
5. อธบิ ายถึงการวดั การเพิ่มผลผลิตได้
6. อธบิ ายถงึ ปัจจัยทมี่ ีอทิ ธิพลต่อการ
เพมิ่ ผลผลติ ได้
7. กำหนดปจั จัยสำคญั ทจี่ ะทำให้งาน
การเพ่ิมผลผลิตประสบความสำเร็จได้
ภาคผนวก
ผังการสรา้ งแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรียน
หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ช้นั สูง สาขาวิชา การจัดการทั่วไป สาขางาน การจัดการท่วั ไป
ประจำภาคเรียนที่ 2/2561
ตามโครงการ ยกระดบั สถานศึกษาตน้ แบบทวภิ าคี 100% ส่คู วามเป็นเลศิ ทางวิชาการ Thailand 4.0
รหสั วิชา 30200-0002 วิชา กฎหมายทั่วไปเกยี่ วกบั งานอาชีพ (3-0-3)
ระดบั พฤติกรรมพุทธพิ สิ ัย
ช่ือหน่วย จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ความ ้รู ความจำ
ความเข้าใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเ ิมนค่า
ส ้รางสรรค์
รวม
บทท่ี 6 การบริหารความ 1. ทราบถงึ ความเสีย่ ง โอกาส และ 2 4 2 2 79
เสย่ี ง การบรหิ ารความเสีย่ ง 10
2. ทราบถึงเหตแุ ห่งความเสี่ยง
3. ทราบถึงประโยชน์ของการบรหิ าร
ความเสย่ี ง
4. ทราบองคป์ ระกอบของการบรหิ าร
ความเสี่ยง
5. อธบิ ายกระบวนการบรหิ ารความ
เสยี่ งได้
6. อธิบายปัจจัยสำคญั ตอ่ ความสำเรจ็
ในการบรหิ าร
ความเสี่ยง
7. ตระหนึกถงึ หนา้ ท่แี ละความ
รบั ผิดชอบในการบริหารความเส่ียงได้
8. ปฏิบัตงิ านสู่ความเป็นเลศิ ในการ
บรหิ ารความเสยี่ งได้
9. ทราบลำดับขั้นของการพัฒนาการ
บรหิ ารความเสย่ี งได้
ภาคผนวก
ผังการสรา้ งแบบทดสอบ (Test Blueprint) สำหรบั สอบปลายภาคเรียน
หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี ช้นั สูง สาขาวิชา การจดั การท่วั ไป สาขางาน การจัดการท่ัวไป
ประจำภาคเรยี นที่ 2/2561
ตามโครงการ ยกระดับสถานศกึ ษาตน้ แบบทวิภาคี 100% สคู่ วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ Thailand 4.0
รหสั วชิ า 30200-0002 วิชา กฎหมายท่ัวไปเกี่ยวกับงานอาชพี (3-0-3)
ระดบั พฤตกิ รรมพุทธิพิสัย
ช่ือหน่วย จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ความ ้รู ความจำ
ความเ ้ขาใจ
นำไปใช้
ิวเคราะ ์ห
ประเมินค่า
สร้างสรรค์
รวม
บทท่ี 7 การจดั การเพ่ือลด 1. ทราบถึงแนวความคดิ เกยี่ วกับความ 1 2 1 1 80
ความขัดแย้งในองค์กร ขดั แย้ง 5
2. ทราบถึงประเภทของความขดั แยง้ 15
ในองค์กร 80
3. อธิบายถึงศึกษาสาเหตุของความ
ขดั แย้งได้
4. อธบิ ายถึงปัจจยั ที่สง่ ผลต่อการเพิ่ม
ความขัดแย้ง
5. กำหนดวธิ ีบรหิ ารความขัดแยง้ ใน
องค์การได้
6. มที ักษะท่จี ำเปน็ ในการบริหารความ
ขัดแยง้
สอบปลายภาค
บทที่ 8 การนำกิจกรรม 1. เข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คุณภาพได้ 3 5 4 3
ระบบคุณภาพและเพิ่ม 2. เพ่ิมผลผลติ โดยการบริหารคณุ ภาพ
ผลผลิตมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ทัว่ องค์กรได้
จดั การอาชีพ 3. ทำงานเปน็ ทีมได้
4. ตดิ ตอ่ กบั บุคคลอนื่ ในองค์กรได้
5. ทราบถงึ การบรหิ ารเชงิ กลยทุ ธใ์ น
องค์กร
6. ทราบและปฏิบตั ิตนตามบทบญั ญตั ิ
ในการทำงานในองค์กร
รวม 16 30 18 16
ลำดบั ความสำคญั 3124
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หน่วยที่ 1 เรื่อง องค์การและการจดั การ
-------------------------------------------------------------------------
คำส่งั จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ที่ถูกต้องท่สี ดุ
1. ข้อใดกลา่ วถงึ องคป์ ระกอบของการจัดการไดถ้ ูกต้อง
ก. การจัดการเป็นศิลปะในการใชค้ น
ข. การจดั การต้องอาศยั ปจั จัยพื้นฐาน คือ คน เงนิ และวัสดุอปุ กรณ์
ค. การจดั การเป็นการดำเนนิ งานของกลุ่มบุคคล
ง. ถูกทกุ ขอ้
2. ทรพั ยากรทีเ่ ปน็ ปัจจัยสำคญั ของการจัดการมกี ีป่ ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
3. ขอ้ ใดคือ องค์การทเี่ กดิ ขึ้นตามธรรมชาติ โดยทกุ คนในองค์การรจู้ ักกนั มาต้ังแต่เกิด มคี วามคุ้นเคยกันดี
81
ก. องค์การแบบปฐม ข. องค์การแบบมธั ยม
ค. องคก์ ารแบบไม่เป็นทางการ ง. องค์การแบบเปน็ ทางการ
4. ระบบการบริหารแบง่ ออกเปน็ กี่ประเภทใหญ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
5. กลุ่มบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใต้การ
ประสานงาน การสั่งการ และความเปน็ ผู้นำ หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. องค์การ ก. ความมุ่งหมาย ค. การบริหารธุรกิจ ง.วิธีการทำงาน
6. กำหนดเปา้ หมายขององค์การธรุ กิจควรยึดหลักตามข้อใด
ก. ต้องม่งุ ไปทผ่ี ลลัพธท์ ีต่ อ้ งการ ข. ควรมกี ำหนดเวลาสนิ้ สดุ
ค. ให้เหมาะสมกับบคุ คลและสถานการณข์ องบริษัท ง. ถกู ทุกขอ้
7. ข้อใดคือประโยชน์ของการจัดองค์การที่มีต่อผูป้ ฏิบตั ิงาน
ก. ประหยดั ตน้ ทุน ข. การมอบอำนาจทำได้ง่าย
ค. พนกั งานรู้อำนาจหนา้ ทีข่ องตน ง. การบริหารงานงา่ ย
8. ขอ้ ใดกลา่ วผดิ สำหรบั ลักษณะสายการบังคับบัญชาท่ดี ี
ก. ใหม้ ผี ู้สง่ั งานไดห้ ลายตำแหน่งในงานเดยี วกนั เพอื่ ความปลอดภัย
ข. จำนวนระดับชน้ั แตล่ ะสายไมค่ วรให้มีจำนวนมากเกนิ ไป
ค. สายบงั คับบัญชาควรมลี กั ษณะชัดเจนวา่ ใครเป็นผู้มีอำนาจส่งั การ
ง. สายการบังคบั บัญชาไมค่ วรให้มีการก้าวก่ายกันหรือซ้อนกัน
9. ประเภทของธรุ กจิ ตามลักษณะธุรกจิ นน้ั ๆแบง่ ออกเป็นกป่ี ระเภทใหญๆ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
10. ข้อใดคอื การจดั แบง่ แผนกงานนเี้ หมาะกับธรุ กจิ ทตี่ ้องการบริการลูกคา้ ทวั่ ประเทศให้ครบพืน้ ที่
ก. การจดั แผนกงานตามแผนกผลติ ภัณฑ์ ข. การจดั แผนกงานตามประเภทลกู ค้า
ค. การจัดแผนกงานตามพื้นทภี่ มู ิศาสตร์ ง. การจัดแผนกงานตามกระบวนการผลติ
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หน่วยท่ี 1 เรื่อง องค์การและการจัดการ
-------------------------------------------------------------------------
คำสัง่ จงทำเครือ่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ที่ถกู ต้องทส่ี ุด
1. ข้อใดกลา่ วถึงองคป์ ระกอบของการจดั การไดถ้ ูกต้อง
ก. การจัดการเปน็ ศลิ ปะในการใชค้ น
ข. การจดั การต้องอาศัยปัจจยั พืน้ ฐาน คือ คน เงิน และวสั ดอุ ปุ กรณ์
ค. การจัดการเป็นการดำเนนิ งานของกลมุ่ บุคคล
ง. ถูกทุกขอ้
2. ทรัพยากรที่เป็นปจั จยั สำคัญของการจัดการมกี ปี่ ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
3. ข้อใดคือ องคก์ ารทเี่ กดิ ข้ึนตามธรรมชาติ โดยทกุ คนในองค์การรจู้ ักกันมาต้ังแต่เกิด มีความคุ้นเคยกันดี
82
ก. องคก์ ารแบบปฐม ข. องค์การแบบมธั ยม
ค. องคก์ ารแบบไม่เป็นทางการ ง. องค์การแบบเป็นทางการ
4. ระบบการบรหิ ารแบง่ ออกเปน็ ก่ปี ระเภทใหญ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
5. กลุ่มบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใต้การ
ประสานงาน การส่ังการ และความเปน็ ผ้นู ำ หมายถงึ ข้อใด
ก. องค์การ ข. ความมงุ่ หมาย ค. การบรหิ ารธุรกิจ ง. วิธกี ารทำงาน
6. กำหนดเป้าหมายขององค์การธรุ กิจควรยดึ หลักตามขอ้ ใด
ก. ต้องมงุ่ ไปท่ผี ลลัพธท์ ต่ี ้องการ ข. ควรมกี ำหนดเวลาสน้ิ สุด
ง. ใหเ้ หมาะสมกบั บุคคลและสถานการณ์ของบริษัท ง. ถกู ทุกขอ้
7. ขอ้ ใดคอื ประโยชน์ของการจัดองค์การท่มี ีต่อผู้ปฏบิ ัตงิ าน
ก. ประหยดั ตน้ ทุน ข. การมอบอำนาจทำได้งา่ ย
ง. พนกั งานรอู้ ำนาจหนา้ ที่ของตน ง. การบริหารงานงา่ ย
8. ข้อใดกล่าวผิดสำหรับลกั ษณะสายการบังคับบญั ชาทดี่ ี
ก. ใหม้ ผี ้สู ัง่ งานได้หลายตำแหนง่ ในงานเดยี วกันเพือ่ ความปลอดภยั
ข. จำนวนระดบั ชนั้ แต่ละสายไมค่ วรใหม้ จี ำนวนมากเกินไป
ค. สายบังคบั บัญชาควรมลี ักษณะชดั เจนว่าใครเปน็ ผูม้ ีอำนาจสงั่ การ
ง. สายการบงั คบั บญั ชาไม่ควรใหม้ ีการกา้ วก่ายกนั หรอื ซ้อนกนั
9. ประเภทของธรุ กิจ ตามลกั ษณะธรุ กจิ นนั้ ๆแบง่ ออกเปน็ กป่ี ระเภทใหญๆ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
10. ขอ้ ใดคอื การจัดแบง่ แผนกงานนเี้ หมาะกับธรุ กจิ ทต่ี อ้ งการบริการลูกค้าทั่วประเทศให้ครบพ้ืนท่ี
ก. การจัดแผนกงานตามแผนกผลิตภัณฑ์ ข. การจดั แผนกงานตามประเภทลกู คา้
ง. การจัดแผนกงานตามพื้นที่ภมู ิศาสตร์ ง. การจดั แผนกงานตามกระบวนการผลติ
แบบทดสอบหลงั เรียน
หน่วยท่ี 1 เรื่อง องค์การและการจัดการ
-------------------------------------------------------------------------
1.
2.
คำสงั่ จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ที่ถกู ตอ้ งทสี่ ดุ
1. ทรพั ยากรทเ่ี ปน็ ปจั จัยสำคัญของการจัดการมกี ี่ประการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
2. ระบบการบริหารแบง่ ออกเปน็ กป่ี ระเภทใหญ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
3. ขอ้ ใดคอื องคก์ ารท่ีเกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยทกุ คนในองค์การรจู้ ักกนั มาตั้งแต่เกิด มีความคุน้ เคยกนั ดี
ก. องคก์ ารแบบปฐม ข. องคก์ ารแบบมธั ยม
ค. องค์การแบบไม่เปน็ ทางการ ง. องคก์ ารแบบเปน็ ทางการ
4. ขอ้ ใดกล่าวถงึ องค์ประกอบของการจัดการได้ถูกต้อง
83
ก. การจัดการเป็นศลิ ปะในการใชค้ น
ข. การจัดการตอ้ งอาศัยปัจจัยพืน้ ฐาน คอื คน เงิน และวัสดอุ ปุ กรณ์
ค. การจดั การเป็นการดำเนินงานของกลมุ่ บคุ คล
ง. ถกู ทกุ ข้อ
5. กลุ่มบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใต้การ
ประสานงาน การสง่ั การ และความเปน็ ผูน้ ำ หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. องค์การ ข. ความมงุ่ หมาย ค. การบรหิ ารธรุ กจิ ง. วธิ กี ารทำงาน
6. กำหนดเป้าหมายขององคก์ ารธรุ กจิ ควรยดึ หลักตามขอ้ ใด
ก. ตอ้ งม่งุ ไปทผี่ ลลัพธ์ทตี่ อ้ งการ ข. ควรมกี ำหนดเวลาสน้ิ สดุ
ค. ใหเ้ หมาะสมกับบคุ คลและสถานการณข์ องบรษิ ทั ง. ถูกทกุ ขอ้
7. ขอ้ ใดคอื การจดั แบง่ แผนกงานนเี้ หมาะกบั ธรุ กจิ ท่ีต้องการบรกิ ารลูกค้าทั่วประเทศใหค้ รบพน้ื ท่ี
ก. การจดั แผนกงานตามแผนกผลิตภณั ฑ์ ข. การจดั แผนกงานตามประเภทลูกคา้
ค. การจัดแผนกงานตามพนื้ ทภี่ ูมิศาสตร์ ง. การจดั แผนกงานตามกระบวนการผลติ
8. ข้อใดคือประโยชน์ของการจัดองค์การที่มีต่อผ้ปู ฏิบตั งิ าน
ก. ประหยัดตน้ ทุน ข. การมอบอำนาจทำได้ง่าย
ค. พนักงานรอู้ ำนาจหนา้ ทขี่ องตน ง. การบริหารงานงา่ ย
9. ประเภทของธุรกิจ ตามลกั ษณะธุรกิจนนั้ ๆแบ่งออกเป็นกป่ี ระเภทใหญ่ๆ
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
10. ข้อใดกลา่ วผดิ สำหรับลักษณะสายการบงั คับบัญชาที่ดี
ก. ให้มีผู้สง่ั งานไดห้ ลายตำแหนง่ ในงานเดียวกันเพ่อื ความปลอดภยั
ข. จำนวนระดบั ชั้นแตล่ ะสายไมค่ วรให้มจี ำนวนมากเกนิ ไป
ค. สายบงั คับบญั ชาควรมีลักษณะชัดเจนวา่ ใครเปน็ ผมู้ ีอำนาจสงั่ การ
ง. สายการบงั คับบญั ชาไม่ควรให้มกี ารกา้ วกา่ ยกันหรือซ้อนกัน
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยที่ 1 เรอื่ ง องคก์ ารและการจัดการ
-------------------------------------------------------------------------
3.
4.
คำส่งั จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ท่ีถกู ตอ้ งทีส่ ดุ
1. ทรัพยากรทีเ่ ปน็ ปัจจยั สำคัญของการจดั การมีก่ปี ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
2. ระบบการบริหารแบ่งออกเป็นก่ปี ระเภทใหญ่
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
3. ขอ้ ใดคือ องค์การท่ีเกดิ ข้ึนตามธรรมชาติ โดยทุกคนในองค์การร้จู ักกันมาตั้งแต่เกิด มีความคุ้นเคยกนั ดี
ก. องค์การแบบปฐม ข. องคก์ ารแบบมัธยม
ค. องค์การแบบไม่เปน็ ทางการ ง. องค์การแบบเปน็ ทางการ
4. ขอ้ ใดกล่าวถงึ องค์ประกอบของการจดั การได้ถูกต้อง
ก. การจดั การเปน็ ศลิ ปะในการใชค้ น
84
ข. การจัดการต้องอาศัยปจั จยั พน้ื ฐาน คอื คน เงนิ และวสั ดุอปุ กรณ์
ค. การจัดการเป็นการดำเนินงานของกลุ่มบุคคล
ง. ถกู ทุกข้อ
5. กลุ่มบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใต้การ
ประสานงาน การสัง่ การ และความเปน็ ผู้นำ หมายถึงขอ้ ใด
ก. องค์การ ข. ความม่งุ หมาย ค. การบริหารธรุ กจิ ง. วิธกี ารทำงาน
6. กำหนดเป้าหมายขององค์การธรุ กิจควรยดึ หลักตามขอ้ ใด
ก. ต้องม่งุ ไปที่ผลลพั ธท์ ี่ตอ้ งการ ข. ควรมีกำหนดเวลาส้ินสุด
ค. ให้เหมาะสมกับบคุ คลและสถานการณ์ของบรษิ ัท ง. ถกู ทุกขอ้
7. ข้อใดคอื การจัดแบง่ แผนกงานนีเ้ หมาะกับธุรกจิ ท่ตี ้องการบริการลูกค้าทว่ั ประเทศใหค้ รบพ้นื ที่
ก. การจดั แผนกงานตามแผนกผลิตภัณฑ์ ข. การจดั แผนกงานตามประเภทลูกค้า
ค. การจดั แผนกงานตามพื้นทีภ่ ูมิศาสตร์ ง. การจดั แผนกงานตามกระบวนการผลิต
8. ข้อใดคือประโยชนข์ องการจดั องค์การท่ีมีต่อผปู้ ฏบิ ตั ิงาน
ก. ประหยัดตน้ ทนุ ข. การมอบอำนาจทำได้งา่ ย
ค. พนกั งานรู้อำนาจหน้าท่ขี องตน ง. การบริหารงานงา่ ย
9. ประเภทของธรุ กิจ ตามลกั ษณะธรุ กิจน้ันๆแบง่ ออกเปน็ กป่ี ระเภทใหญ่ๆ
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
10. ขอ้ ใดกล่าวผดิ สำหรบั ลักษณะสายการบงั คบั บญั ชาท่ีดี
ก. ใหม้ ผี ้สู ั่งงานได้หลายตำแหนง่ ในงานเดียวกันเพอ่ื ความปลอดภยั
ข. จำนวนระดับช้ันแต่ละสายไมค่ วรให้มีจำนวนมากเกนิ ไป
ค. สายบงั คับบัญชาควรมลี ักษณะชดั เจนวา่ ใครเป็นผู้มีอำนาจส่ังการ
ง. สายการบงั คับบญั ชาไมค่ วรใหม้ ีการกา้ วกา่ ยกนั หรือซ้อนกนั
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หน่วยที่ 2 เรอื่ ง กระบวนการจัดการและการวางแผน
-------------------------------------------------------------------------
คำส่ัง จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ท่ถี กู ตอ้ งทสี่ ุด
1. ขอ้ ใดคือการจัดโครงสร้างของหนว่ ยงานหรอื องค์การออกเปน็ หน่วยงานย่อยๆ
ก. การวางแผน (Planning) ข. การจัดหนว่ ยงาน (Organizing)
ค. การสัง่ การบงั คบั บัญชา (Commanding) ง. การประสานงาน (Coordinating)
2. ข้อใดคอื การจดั ตัวบุคคล เปน็ การบรหิ ารงานด้านบคุ ลากร
ก. Planning ข. Organizing ค. Staffing ง. Directing
3. ขอ้ ใดคือการประสานงานประสานกิจการด้านต่างๆของหน่วยงาน
ก. Directing ข. Coordinating ค. Reporting ง. Budgeting
4. วัฎจักรเดมิ่ง (Deming cycle) มีก่ีขนั้ ตอน
ก. 2 ขน้ั ตอน ข. 3 ขนั้ ตอน ค. 4 ขั้นตอน ง. 5 ขัน้ ตอน
85
5. ผบู้ รหิ ารระดบั ใดท่ีเปน็ ผู้บรหิ ารที่ “เก่งคน”
ก. ผูบ้ รหิ ารระดับสูง ข. ผู้บริหารระดบั กลาง
ค. ผู้บริหารระดบั ต้น ง. ผู้บรหิ ารระดบั ปฏบิ ัติงาน
6. ข้อใดหมายถึงความสามารถในการติดต่อกับผู้อื่น มีความชำนาญในการสร้างความสำพันธ์ที่ดี
สามารถจูงใจผอู้ ื่น สรา้ งความรู้สกึ ท่ีดี
ก. ทกั ษะดา้ นเทคนิค ข. ทักษะดา้ นมนษุ ยส์ มั พันธ์
ค. ทักษะด้านความคิด ง. ถกู ทกุ ข้อ
7. ข้อใดกลา่ วผดิ เกยี่ วกบั ลักษณะสำคัญของการวางแผน
ก. เป็นเรื่องท่เี กิดข้นึ แนน่ อนในอนาคต โดยอาศัยข้อมูลปัจจบุ นั
ข. กำหนดเปา้ หมายและวิธกี ารไปสู่เป้าหมาย
ค. เป็นเรื่องเก่ยี วขอ้ งกับการกรพละทำหรือกิจกรรม
ง. เปน็ เร่อื งของการตัดสินในของผู้บรหิ าร
8. ข้อใดคือเป้าหมายที่มีลักษณะกว้างขวางซึ่งเป็นความต้องการในอนาคต โดยได้กำหนดวิธีการไว้
เป็นการสร้างความคิดโดยการใช้คำถาม ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
บรกิ ารทีด่ ที ่ีสุด
ก. วสิ ัยทศั น์ ข. ภารกจิ ค. เป้าหมาย ง. วัตถุประสงค์
9. ข้อใดคือแผนงานย่อยที่กำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครเป็น
ผ้รู ับผดิ ชอบ
ก. วิสัยทศั น์ ข. ภารกจิ ค. โครงการ ง. นโยบาย
10.ข้อใดคือตารางประกอบวธิ ีการดำเนนิ งานโดยระบวุ า่ การดำเนนิ งานแต่ละขั้นตอนจะกระทำในวนั
เดอื น ปใี ดในรูปของ(Gantt chart)
ก. หลกั การและเหตผุ ล ข. แผนภมู ิปฏบิ ัตงิ าน ค. เปา้ หมาย ง. ความมงุ่ หมาย
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
หน่วยท่ี 2 เร่ือง กระบวนการจัดการและการวางแผน
-------------------------------------------------------------------------
คำส่งั จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ท่ีถกู ตอ้ งท่สี ุด
1. ขอ้ ใดคือการจัดโครงสรา้ งของหนว่ ยงานหรือองค์การออกเปน็ หน่วยงานย่อยๆ
ก. การวางแผน (Planning) ข. การจดั หน่วยงาน (Organizing)
ง. การสง่ั การบงั คับบัญชา (Commanding) ง. การประสานงาน (Coordinating)
2. ขอ้ ใดคอื การจัดตวั บุคคล เป็นการบริหารงานดา้ นบุคลากร
ก. Planning ข. Organizing ค. Staffing ง. Directing
3. ข้อใดคอื การประสานงานประสานกิจการด้านตา่ งๆของหนว่ ยงาน
ก. Directing ข. Coordinating ค. Reporting ง. Budgeting
4. วฎั จกั รเดมง่ิ (Deming cycle) มีกี่ขนั้ ตอน
ก. 2 ข้ันตอน ข. 3 ขน้ั ตอน ค. 4 ขัน้ ตอน ง. 5 ขน้ั ตอน
86
5. ผบู้ ริหารระดบั ใดทเ่ี ป็นผู้บริหารท่ี “เก่งคน”
ก. ผบู้ รหิ ารระดับสงู ข. ผ้บู รหิ ารระดับกลาง
ค. ผ้บู ริหารระดบั ตน้ ง. ผูบ้ รหิ ารระดบั ปฏบิ ัติงาน
6. ข้อใดหมายถึงความสามารถในการติดต่อกับผู้อื่น มีความชำนาญในการสร้างความสำพันธ์ที่ดี
สามารถจูงใจผอู้ ่ืน สรา้ งความรู้สึกทดี่ ี
ก. ทักษะด้านเทคนิค ข. ทักษะดา้ นมนุษยส์ มั พนั ธ์
ค. ทกั ษะดา้ นความคดิ ง. ถูกทกุ ข้อ
7. ขอ้ ใดกลา่ วผิดเกีย่ วกบั ลักษณะสำคัญของการวางแผน
ก. เปน็ เรอื่ งทเี่ กิดขึ้นแนน่ อนในอนาคต โดยอาศัยข้อมูลปจั จบุ นั
ข. กำหนดเปา้ หมายและวิธกี ารไปส่เู ป้าหมาย
ค. เป็นเรื่องเกีย่ วขอ้ งกับการกรพละทำหรือกจิ กรรม
ง. เปน็ เร่ืองของการตดั สนิ ในของผูบ้ รหิ าร
8. ข้อใดคือเป้าหมายที่มีลักษณะกว้างขวางซึ่งเป็นความต้องการในอนาคต โดยได้กำหนดวิธีการไว้
เป็นการสร้างความคิดโดยการใช้คำถาม ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
บรกิ ารที่ดที ส่ี ดุ
ก. วิสัยทศั น์ ข. ภารกิจ ค. เปา้ หมาย ง. วัตถปุ ระสงค์
9. ข้อใดคือแผนงานย่อยที่กำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครเป็น
ผูร้ ับผิดชอบ
ก. วิสยั ทศั น์ ข. ภารกจิ ค. โครงการ ง. นโยบาย
10.ขอ้ ใดคือตารางประกอบวธิ กี ารดำเนนิ งานโดยระบุว่าการดำเนนิ งานแต่ละขนั้ ตอนจะกระทำในวนั
เดือน ปใี ดในรูปของ(Gantt chart)
ก. หลักการและเหตุผล ข. แผนภมู ิปฏิบัติงาน ค. เปา้ หมาย ง. ความมุ่งหมาย
แบบทดสอบหลังเรยี น
หนว่ ยท่ี 2 เรอื่ ง กระบวนการจดั การและการวางแผน
-------------------------------------------------------------------------
คำส่งั จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ท่ีถูกตอ้ งท่ีสดุ
1. ขอ้ ใดคอื การประสานงานประสานกจิ การด้านต่างๆของหนว่ ยงาน
ก. Directing ข. Coordinating ค. Reporting ง. Budgeting
2. วัฎจกั รเดมง่ิ (Deming cycle) มกี ่ีข้ันตอน
ก. 2 ข้นั ตอน ข. 3 ขนั้ ตอน ค. 4 ขั้นตอน ง. 5 ขนั้ ตอน
3. ผูบ้ รหิ ารระดบั ใดท่เี ป็นผ้บู รหิ ารที่ “เก่งคน”
ก. ผบู้ ริหารระดับสูง ข. ผบู้ ริหารระดับกลาง
ค. ผู้บรหิ ารระดบั ตน้ ง. ผบู้ รหิ ารระดับปฏิบัตงิ าน
4. ขอ้ ใดคือการจัดโครงสรา้ งของหนว่ ยงานหรือองค์การออกเปน็ หน่วยงานย่อยๆ
ก. การวางแผน (Planning) ข. การจัดหนว่ ยงาน (Organizing)
87
ค. การสัง่ การบงั คับบญั ชา (Commanding) ง. การประสานงาน (Coordinating)
5. ขอ้ ใดกลา่ วผดิ เก่ยี วกับลักษณะสำคัญของการวางแผน
ก. เป็นเรอื่ งท่ีเกิดขึน้ แน่นอนในอนาคต โดยอาศยั ขอ้ มูลปัจจบุ นั
ข. กำหนดเปา้ หมายและวธิ กี ารไปสู่เปา้ หมาย
ค. เปน็ เร่ืองเกยี่ วข้องกับการกรพละทำหรือกจิ กรรม
ง. เปน็ เรือ่ งของการตดั สินในของผบู้ รหิ าร
6. ข้อใดคือแผนงานย่อยที่กำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครเป็น
ผ้รู บั ผดิ ชอบ
ก. วิสยั ทัศน์ ข. ภารกิจ ค. โครงการ ง. นโยบาย
7. ข้อใดคอื ตารางประกอบวิธีการดำเนนิ งานโดยระบุวา่ การดำเนินงานแต่ละข้นั ตอนจะกระทำในวนั
เดือน ปีใดในรูปของ(Gantt chart)
ก. หลกั การและเหตุผล ข. แผนภูมปิ ฏิบัติงาน ค. เป้าหมาย ง. ความมุ่งหมาย
8. ข้อใดคือเป้าหมายที่มีลักษณะกว้างขวางซึ่งเป็นความต้องการในอนาคต โดยได้กำหนดวิธีการไว้
เป็นการสร้างความคิดโดยการใช้คำถาม ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
บรกิ ารทดี่ ที ่สี ดุ
ก. วิสยั ทัศน์ ข. ภารกิจ ค. เปา้ หมาย ง. วตั ถปุ ระสงค์
9. ข้อใดคอื การจัดตัวบุคคล เป็นการบริหารงานดา้ นบุคลากร
ก. Planning ข. Organizing ค. Staffing ง. Directing
10.ข้อใดหมายถึงความสามารถในการติดต่อกับผู้อื่น มีความชำนาญในการสร้างความสำพันธ์ที่ดี
สามารถจงู ใจผ้อู ่นื สร้างความรูส้ ึกทดี่ ี
ก. ทักษะดา้ นเทคนคิ ข. ทักษะดา้ นมนษุ ยส์ ัมพนั ธ์
ค. ทักษะดา้ นความคดิ ง. ถกู ทกุ ข้อ
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
หน่วยที่ 2 เร่อื ง กระบวนการจัดการและการวางแผน
-------------------------------------------------------------------------
คำสั่ง จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อทีถ่ กู ต้องที่สุด
1. ข้อใดคือการประสานงานประสานกจิ การด้านต่างๆของหนว่ ยงาน
ก. Directing ข. Coordinating ค. Reporting ง. Budgeting
2. วัฎจักรเดมิ่ง (Deming cycle) มกี ขี่ น้ั ตอน
ก. 2 ขัน้ ตอน ข. 3 ข้นั ตอน ค. 4 ขน้ั ตอน ง. 5 ขน้ั ตอน
3. ผบู้ รหิ ารระดับใดทเ่ี ป็นผบู้ รหิ ารท่ี “เก่งคน”
ก. ผบู้ ริหารระดับสูง ข. ผู้บรหิ ารระดบั กลาง
ค. ผู้บรหิ ารระดับต้น ง. ผู้บรหิ ารระดบั ปฏิบัตงิ าน
4. ขอ้ ใดคอื การจดั โครงสรา้ งของหน่วยงานหรือองคก์ ารออกเปน็ หน่วยงานย่อยๆ
ก. การวางแผน (Planning) ข. การจัดหนว่ ยงาน (Organizing)
88
ง. การสั่งการบังคบั บัญชา (Commanding) ง. การประสานงาน (Coordinating)
5. ข้อใดกล่าวผิดเก่ยี วกับลักษณะสำคัญของการวางแผน
ก. เปน็ เรอ่ื งทีเ่ กิดขึน้ แน่นอนในอนาคต โดยอาศัยข้อมลู ปจั จบุ ัน
ข. กำหนดเปา้ หมายและวธิ ีการไปสู่เป้าหมาย
ค. เปน็ เรื่องเกย่ี วขอ้ งกับการกรพละทำหรือกิจกรรม
ง. เปน็ เรือ่ งของการตัดสินในของผูบ้ รหิ าร
6. ข้อใดคือแผนงานย่อยที่กำหนดรายละเอียดของการปฏิบัติว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ใครเป็น
ผรู้ บั ผิดชอบ
ก. วสิ ัยทัศน์ ข. ภารกจิ ค. โครงการ ง. นโยบาย
7. ข้อใดคอื ตารางประกอบวิธีการดำเนินงานโดยระบวุ า่ การดำเนนิ งานแต่ละข้ันตอนจะกระทำในวนั
เดอื น ปีใดในรูปของ(Gantt chart)
ก. หลกั การและเหตผุ ล ข. แผนภมู ิปฏบิ ัติงาน ค. เป้าหมาย ง. ความมุ่งหมาย
8. ข้อใดคือเป้าหมายที่มีลักษณะกว้างขวางซึ่งเป็นความต้องการในอนาคต โดยได้กำหนดวิธีการไว้
เป็นการสร้างความคิดโดยการใช้คำถาม ซึ่งมักจะเป็นคำถามที่ถามถึงสิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
บริการทด่ี ีท่สี ุด
ก. วสิ ัยทัศน์ ข. ภารกจิ ค. เปา้ หมาย ง. วตั ถปุ ระสงค์
9. ข้อใดคอื การจัดตวั บคุ คล เปน็ การบรหิ ารงานด้านบคุ ลากร
ก. Planning ข. Organizing ค. Staffing ง. Directing
10.ข้อใดหมายถึงความสามารถในการติดต่อกับผู้อื่น มีความชำนาญในการสร้างความสำพันธ์ที่ดี
สามารถจงู ใจผู้อ่นื สร้างความรสู้ ึกท่ดี ี
ก. ทกั ษะด้านเทคนคิ ข. ทักษะด้านมนุษยส์ ัมพันธ์
ค. ทกั ษะด้านความคดิ ง. ถูกทุกขอ้
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หน่วยที่ 3 เรื่อง การเพ่ิมประสทิ ธิภาพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
คำสง่ั จงทำเครือ่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อทถี่ กู ต้องท่สี ดุ
1. ความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆ อย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จตาม
เป้าหมายทีก่ ำหนดหมายถงึ ข้อใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธิภาพ ง. ประสิทธิผล
2. การทำงานให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไวเ้ ป็นความสัมพันธ์ของต้นทุนหรือทรัพยากรที่ใช้กบั
ผลทเี่ กดิ ขน้ึ หมายถึงขอ้ ใด
ก. ประหยดั ข. ประโยชน์ ค. ประสิทธภิ าพ ง. ประสทิ ธิผล
3. นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานเป็นองค์ประกอบใดในการเพ่ิม
ประสทิ ธิภาพในองค์กร
ก. ลักษณะบุคลากร ข. การบรหิ ารจดั การ ค. การพัฒนา ง. ถูกทุกข้อ
89
4. ข้อใดหมายถงึ การจัดการอย่างมีคุณภาพทผ่ี ู้บริหารมีความร้ปู ระสบการณ์ทางการบริหารอยา่ งมืออาชีพ
ก. ผลติ ภณั ฑท์ ที่ ันสมัย ข. ผลิตภณั ฑ์ท่มี คี ณุ ภาพ
ค. ใชท้ รพั ยส์ นิ อย่างคุ้มค่า ง. การจดั การอยา่ งมคี ุณภาพ
5. ข้อใดหมายถึงการปฏิบัติงานต่างๆ ในระหว่างการผลิตทีป่ ้องกนั ไม่ให้เกดิ ของเสีย ป้องกันไม่ให้การ
ทำงานผดิ ไปจากกำหนด ข. การควบคมุ คณุ ภาพ
ก. ระบบการจัดการคุณภาพโดยรวม ง. กจิ กรรม 5 ส
ค. วงจรเดมมงิ่
6. ข้อใดเป็นแนวคิดการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ทำงาน เพื่อก่อให้เกิดสภาพการ
ทำงานทดี่ ปี ลอดภัย
ก. ระบบการจดั การคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คณุ ภาพ
ค. วงจรเดมมง่ิ ง. กิจกรรม 5 ส
7. ขอ้ ใดเปน็ ระบบบรหิ ารจดั การคุณภาพสมัยใหม่
ก. ระบบการจดั การคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ค. วงจรเดมม่งิ ง. กิจกรรม 5 ส
8. หวั ใจสำคัญของระบบการจดั การส่ิงแวดล้อมมีกป่ี ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชนข์ องการพัฒนาองคก์ ร
ก. การพัฒนาองคก์ รนำมาซ่งึ การเพม่ิ ผลผลิตใหแ้ ก่องคก์ ร
ข. การปฏิบตั ิงานภายในองค์กรอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ค. ช่วยลดอัตราการว่างงาน การลาปว่ ย การลากจิ การเปลย่ี นงาน การลาออกจากงาน
ง. ลดความความสัมพนั ธท์ ดี่ ีภายในองคก์ ร
10.ขอ้ ใดคอื หลักการบริหารการใช้พลงั งานเพ่ือการประหยดั พลังงาน
ก. มีการสำรวจการใชพ้ ลงั งานอยา่ งละเอียด
ข. นำผลสำรวจมาวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบปรมิ าณ
ค. การใชเ้ ทคโนโลยปี ระหยัดพลังงาน
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หน่วยท่ี 3 เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพในองคก์ าร
-------------------------------------------------------------------------
คำสัง่ จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อทีถ่ ูกต้องทส่ี ุด
1. ความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆ อย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จตาม
เป้าหมายทีก่ ำหนดหมายถึงข้อใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธภิ าพ ง. ประสิทธิผล
2. การทำงานให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไวเ้ ป็นความสัมพันธ์ของต้นทุนหรอื ทรัพยากรท่ีใช้กบั
ผลทเ่ี กิดข้นึ หมายถงึ ข้อใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธภิ าพ ง. ประสทิ ธผิ ล
3. นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานเป็นองค์ประกอบใดในการเพ่ิม
ประสิทธิภาพในองคก์ ร
ก. ลักษณะบคุ ลากร ข. การบริหารจดั การ ค. การพัฒนา ง. ถกู ทุกข้อ
90
4. ขอ้ ใดหมายถึงการจัดการอย่างมคี ุณภาพทผ่ี ู้บริหารมีความรปู้ ระสบการณ์ทางการบริหารอยา่ งมืออาชีพ
ก. ผลติ ภัณฑท์ ที่ นั สมยั ข. ผลติ ภณั ฑ์ทมี่ คี ุณภาพ
ค. ใช้ทรพั ยส์ นิ อย่างคุ้มค่า ง. การจดั การอยา่ งมคี ณุ ภาพ
5. ข้อใดหมายถึงการปฏบิ ัติงานต่างๆ ในระหว่างการผลิตทีป่ ้องกนั ไม่ให้เกิดของเสีย ป้องกันไม่ให้การ
ทำงานผดิ ไปจากกำหนด
ก. ระบบการจัดการคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคุมคุณภาพ
ง. วงจรเดมม่ิง ง. กจิ กรรม 5 ส
6. ข้อใดเป็นแนวคิดการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ทำงาน เพื่อก่อให้เกิดสภาพการ
ทำงานทีด่ ปี ลอดภยั
ก. ระบบการจัดการคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ค. วงจรเดมม่งิ ง. กจิ กรรม 5 ส
7. ข้อใดเปน็ ระบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพสมัยใหม่
ก. ระบบการจัดการคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ค. วงจรเดมมิ่ง ง. กจิ กรรม 5 ส
8. หวั ใจสำคัญของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมมกี ่ปี ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
9. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของการพฒั นาองค์กร
ก. การพัฒนาองค์กรนำมาซ่ึงการเพ่ิมผลผลิตใหแ้ ก่องค์กร
ข. การปฏิบตั งิ านภายในองคก์ รอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ค. ช่วยลดอัตราการว่างงาน การลาป่วย การลากจิ การเปลย่ี นงาน การลาออกจากงาน
ง. ลดความความสัมพันธ์ทดี่ ีภายในองคก์ ร
10.ข้อใดคือหลกั การบริหารการใชพ้ ลงั งานเพือ่ การประหยัดพลังงาน
ก. มกี ารสำรวจการใชพ้ ลงั งานอยา่ งละเอียด
ข. นำผลสำรวจมาวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทียบปริมาณ
ค. การใช้เทคโนโลยีประหยดั พลงั งาน
ง. ถูกทกุ ข้อ
แบบทดสอบหลังเรยี น
จ.
ฉ.
หนว่ ยที่ 3 เรื่อง การเพ่ิมประสทิ ธิภาพในองคก์ าร
-------------------------------------------------------------------------
ช.
ซ.
คำสัง่ จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ท่ถี กู ต้องทส่ี ดุ
1. ขอ้ ใดคอื หลกั การบรหิ ารการใชพ้ ลงั งานเพื่อการประหยดั พลังงาน
ก. มีการสำรวจการใช้พลังงานอยา่ งละเอียด
ข. นำผลสำรวจมาวเิ คราะห์เปรยี บเทียบปรมิ าณ
ค. การใช้เทคโนโลยปี ระหยดั พลังงาน
ง. ถกู ทุกขอ้
2. ข้อใดหมายถงึ การจัดการอย่างมีคุณภาพที่ผู้บรหิ ารมีความรปู้ ระสบการณ์ทางการบริหารอยา่ งมืออาชีพ
ก. ผลติ ภณั ฑท์ ่ที นั สมัย ข. ผลติ ภณั ฑ์ท่มี ีคณุ ภาพ
ค. ใช้ทรัพย์สนิ อย่างคุ้มค่า ง. การจัดการอยา่ งมคี ุณภาพ
91
3. ข้อใดหมายถึงการปฏบิ ัติงานต่างๆ ในระหว่างการผลิตทีป่ ้องกนั ไม่ให้เกิดของเสีย ป้องกันไม่ให้การ
ทำงานผิดไปจากกำหนด
ก. ระบบการจัดการคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ค. วงจรเดมม่ิง ง. กิจกรรม 5 ส
4. ข้อใดเป็นแนวคิดการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ทำงาน เพื่อก่อให้เกิดสภาพการ
ทำงานทดี่ ปี ลอดภยั
ก. ระบบการจัดการคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คณุ ภาพ
ค. วงจรเดมมิ่ง ง. กจิ กรรม 5 ส
5. ขอ้ ใดเป็นระบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพสมยั ใหม่
ก. ระบบการจัดการคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคุมคณุ ภาพ
ค. วงจรเดมมง่ิ ง. กิจกรรม 5 ส
6. ความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆ อย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จตาม
เป้าหมายทก่ี ำหนดหมายถงึ ข้อใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธภิ าพ ง. ประสิทธิผล
7. การทำงานให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นความสัมพันธ์ของต้นทุนหรอื ทรัพยากรท่ีใช้กับ
ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ หมายถงึ ข้อใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสิทธิภาพ ง. ประสิทธผิ ล
8. นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานเป็นองค์ประกอบใดในการเพ่ิม
ประสทิ ธิภาพในองคก์ ร
ก. ลกั ษณะบคุ ลากร ข. การบริหารจดั การ ค. การพัฒนา ง. ถูกทกุ ข้อ
9. หัวใจสำคญั ของระบบการจดั การส่ิงแวดลอ้ มมกี ่ีประการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
10.ข้อใดไม่ใช่ประโยชนข์ องการพฒั นาองคก์ ร
ก. การพฒั นาองคก์ รนำมาซง่ึ การเพิ่มผลผลิตให้แกอ่ งคก์ ร
ข. การปฏบิ ตั งิ านภายในองค์กรอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ค. ช่วยลดอตั ราการว่างงาน การลาปว่ ย การลากจิ การเปลย่ี นงาน การลาออกจากงาน
ง. ลดความความสมั พันธ์ท่ีดีภายในองคก์ ร
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
ฌ.
ญ.
หนว่ ยที่ 3 เรื่อง การเพ่ิมประสทิ ธภิ าพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
ฎ.
ฏ.
คำสงั่ จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อที่ถกู ต้องที่สุด
1. ขอ้ ใดคือหลักการบรหิ ารการใช้พลังงานเพ่ือการประหยดั พลงั งาน
ก. มีการสำรวจการใชพ้ ลงั งานอยา่ งละเอียด
ข. นำผลสำรวจมาวเิ คราะห์เปรยี บเทียบปรมิ าณ
ค. การใชเ้ ทคโนโลยีประหยัดพลงั งาน
ง. ถูกทกุ ข้อ
2. ขอ้ ใดหมายถึงการจัดการอย่างมคี ุณภาพทผ่ี ู้บรหิ ารมีความรู้ประสบการณ์ทางการบรหิ ารอยา่ งมืออาชีพ
ก. ผลติ ภณั ฑท์ ีท่ นั สมัย ข. ผลิตภัณฑ์ท่ีมคี ณุ ภาพ
ค. ใชท้ รัพย์สนิ อย่างคมุ้ คา่ ง. การจดั การอยา่ งมคี ุณภาพ
92
3. ข้อใดหมายถึงการปฏบิ ัติงานต่างๆ ในระหว่างการผลิตที่ป้องกนั ไม่ให้เกิดของเสีย ป้องกันไม่ให้การ
ทำงานผิดไปจากกำหนด
ก. ระบบการจดั การคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ง. วงจรเดมม่งิ ง. กิจกรรม 5 ส
4. ข้อใดเป็นแนวคิดการจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ทำงาน เพื่อก่อให้เกิดสภาพการ
ทำงานทดี่ ปี ลอดภัย
ก. ระบบการจัดการคุณภาพโดยรวม ข. การควบคมุ คุณภาพ
ค. วงจรเดมมิง่ ง. กิจกรรม 5 ส
5. ขอ้ ใดเปน็ ระบบบริหารจัดการคณุ ภาพสมยั ใหม่
ก. ระบบการจดั การคณุ ภาพโดยรวม ข. การควบคุมคณุ ภาพ
ค. วงจรเดมมง่ิ ง. กจิ กรรม 5 ส
6. ความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆ อย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุด เพื่อให้งานสำเร็จตาม
เป้าหมายที่กำหนดหมายถึงขอ้ ใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสทิ ธภิ าพ ง. ประสิทธิผล
7. การทำงานให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไวเ้ ป็นความสัมพันธ์ของต้นทุนหรอื ทรัพยากรท่ีใช้กับ
ผลทเี่ กิดขน้ึ หมายถึงข้อใด
ก. ประหยัด ข. ประโยชน์ ค. ประสิทธภิ าพ ง. ประสิทธิผล
8. นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานเป็นองค์ประกอบใดในการเพ่ิม
ประสิทธภิ าพในองคก์ ร
ก. ลกั ษณะบคุ ลากร ข. การบริหารจัดการ ค. การพฒั นา ง. ถูกทกุ ขอ้
9. หัวใจสำคญั ของระบบการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มมีกปี่ ระการ
ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ
10.ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชนข์ องการพัฒนาองค์กร
ก. การพัฒนาองคก์ รนำมาซ่งึ การเพิ่มผลผลติ ให้แกอ่ งคก์ ร
ข. การปฏบิ ตั ิงานภายในองค์กรอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ค. ช่วยลดอัตราการว่างงาน การลาป่วย การลากจิ การเปลีย่ นงาน การลาออกจากงาน
ง. ลดความความสมั พันธท์ ี่ดีภายในองค์กร
แบบทดสอบก่อนเรยี น
ฐ.
ฑ.
หน่วยที่ 4 เร่อื ง การบริหารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
-------------------------------------------------------------------------
ฒ.
ณ.
คำสัง่ จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ถี กู ตอ้ งทีส่ ดุ
1. การปฏิบัติงานหรือการทำงานขององค์กรเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติทุกประการของผลิตภัณฑ์
ที่สามารถสนองความต้องการความพึงพอใจ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. จริยธรรมทางการบรหิ าร
ค. คณุ ภาพความคดิ ดั้งเดมิ ง. ความพึงพอใจ
2. ขอ้ ใดคือมาตรฐานของการปฏบิ ตั งิ านหรอื การประเมนิ เชิงคณุ ธรรมทีผ่ บู้ ริหารใชใ้ นองคก์ ร
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ข. จริยธรรมทางการบริหาร
ค. คณุ ภาพความคิดดง้ั เดิม ง. ความพงึ พอใจ
93
3. ข้อใดคือการดำเนินการตามระบบและวางแผนที่วางไว้เพื่อจะไห้หลักประกันว่าสินค้าหรือบริการ
เปน็ ไปตามท่ีลูกค้าตอ้ งการ
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ข. การประกนั คุณภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคุมคณุ ภาพ
4. ข้อใดคือโครงสรา้ งของการจดั การภายในองค์กร หน้าที่ความรบั ผดิ ชอบ ขั้นตอนการทำงาน วิธีการ
ทำงานและทรพั ยากรอน่ื ๆ สำหรับทำใหบ้ ริการมีคุณภาพ
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. การประกนั คณุ ภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคมุ คุณภาพ
5. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากการบริหารงานคณุ ภาพ
ก. เพิ่มขวญั และกำลงั ใจใหก้ บั พนักงาน ข. สรา้ งความม่ันใจแก่ลกู คา้
ค. เปน็ เคร่ืองมือสำหรบั ปรับปรุงกจิ กรรมในองค์กร ง. เพิ่มกระบวนการทำงานขององคก์ ร
6. ประเทศไทยประกาศใช้อนกุ รมมาตรฐาน มอก. 9000 เป็นมาตรฐานระดับชาตใิ นปีใด
ก. พ.ศ. 2535 ข. พ.ศ. 2540 ค. พ.ศ. 2545 ง. พ.ศ. 2550
7. ข้อใดคอื ประโยชน์ของระบบคุณภาพ ISO 9000ท่มี ีต่อพนักงาน
ก. การปฏบิ ัตงิ านมรี ะบบและมขี อบเขตท่ีชัดเจน ข. ทำให้ผลติ ภัณฑเ์ ปน็ ทเ่ี ช่อื ได้ ได้รับการยอมรับ
ค. ชว่ ยใหม้ ่นั ใจในการผลติ ภัณฑ์และบริการ ง. งา่ ยต่อการค้นหาองคก์ รทมี่ คี ุณภาพ
8. ข้อใดคือประโยชน์ของระบบคุณภาพ ISO 9000ทีม่ ีตอ่ องค์กร
ก. การปฏบิ ตั ิงานมรี ะบบและมขี อบเขตทช่ี ัดเจน ข. ผลิตภัณฑ์เปน็ ที่เชือ่ ถือได้ ไดร้ ับการยอมรบั
ค. ช่วยใหม้ นั่ ใจในการผลิตภัณฑแ์ ละบรกิ าร ง. งา่ ยตอ่ การค้นหาองคก์ รทีม่ คี ณุ ภาพ
9. ISO 14000 เป็นมาตรฐานระบบคณุ ภาพทเี่ กย่ี วกับเรื่องใด
ก. การตรวจสอบระบบคุณภาพ ข. ข้อกำหนดของเครอ่ื งมือวัดคุณภาพ
ค. ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม ง. การจัดทำคูม่ อื คุณภาพ
10.ขอ้ ใดคือวตั ถปุ ระสงคข์ องระบบคุณภาพ ISO 9000
ก. เพอ่ื ทำใหม้ ีระบบการบริหารที่เป็นลายๆลกั ษณ์อกั ษร และมีประสทิ ธผิ ล
ข. เพอ่ื ทำให้ลกู คา้ ม่ันใจในคณุ ภาพของสินค้าและบรกิ ารท่ไี ดร้ ับ
ค. เพ่อื สรา้ งความมนั่ ใจให้แก่ผู้บริหารว่าสามารถบรรลุความต้องการของลูกได้
ง. ถกู ทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ด.
ต.
หนว่ ยท่ี 4 เรอื่ ง การบริหารงานคุณภาพในองคก์ าร
-------------------------------------------------------------------------
ถ.
ท.
คำสง่ั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ทถี่ กู ตอ้ งทส่ี ุด
1. การปฏิบัติงานหรือการทำงานขององค์กรเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติทุกประการของผลิตภัณฑ์
ที่สามารถสนองความต้องการความพึงพอใจ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หมายถึงขอ้ ใด
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ข. จริยธรรมทางการบริหาร
ง. คณุ ภาพความคดิ ดั้งเดมิ ง. ความพงึ พอใจ
2. ข้อใดคอื มาตรฐานของการปฏิบัติงานหรือการประเมนิ เชงิ คุณธรรมท่ีผู้บริหารใช้ในองคก์ ร
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. จริยธรรมทางการบรหิ าร
ค. คณุ ภาพความคดิ ด้ังเดิม ง. ความพึงพอใจ
94
3. ข้อใดคือการดำเนินการตามระบบและวางแผนที่วางไว้เพื่อจะไห้หลักประกันว่าสินค้าหรือบริการ
เป็นไปตามที่ลูกคา้ ต้องการ
ก. การบริหารงานคุณภาพ ข. การประกันคุณภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคุมคุณภาพ
4. ข้อใดคือโครงสร้างของการจดั การภายในองค์กร หน้าที่ความรบั ผิดชอบ ขั้นตอนการทำงาน วิธีการ
ทำงานและทรัพยากรอ่นื ๆ สำหรับทำให้บรกิ ารมีคุณภาพ
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ข. การประกนั คณุ ภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคมุ คุณภาพ
5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากการบรหิ ารงานคุณภาพ
ก. เพมิ่ ขวญั และกำลังใจใหก้ ับพนักงาน ข. สร้างความมนั่ ใจแก่ลูกค้า
ง. เป็นเคร่ืองมือสำหรับปรบั ปรุงกจิ กรรมในองค์กร ง. เพิม่ กระบวนการทำงานขององคก์ ร
6. ประเทศไทยประกาศใช้อนุกรมมาตรฐาน มอก. 9000 เปน็ มาตรฐานระดบั ชาติในปีใด
ก. พ.ศ. 2535 ข. พ.ศ. 2540 ค. พ.ศ. 2545 ง. พ.ศ. 2550
7. ข้อใดคอื ประโยชน์ของระบบคุณภาพ ISO 9000ทม่ี ตี ่อพนักงาน
ก. การปฏิบัติงานมีระบบและมีขอบเขตทีช่ ัดเจน ข. ทำให้ผลิตภัณฑ์เปน็ ทเี่ ชอ่ื ได้ ได้รบั การยอมรบั
ง. ชว่ ยใหม้ ่ันใจในการผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ าร ง. ง่ายตอ่ การคน้ หาองคก์ รทีม่ คี ุณภาพ
8. ข้อใดคือประโยชน์ของระบบคณุ ภาพ ISO 9000ทม่ี ีตอ่ องค์กร
ก. การปฏิบตั งิ านมีระบบและมขี อบเขตทช่ี ัดเจน ข. ผลิตภัณฑ์เปน็ ทเี่ ช่อื ถอื ได้ ได้รบั การยอมรับ
ง. ชว่ ยใหม้ ั่นใจในการผลติ ภณั ฑแ์ ละบริการ ง. งา่ ยต่อการคน้ หาองคก์ รทีม่ คี ณุ ภาพ
9. ISO 14000 เป็นมาตรฐานระบบคณุ ภาพท่เี กย่ี วกบั เรื่องใด
ก. การตรวจสอบระบบคุณภาพ ข. ข้อกำหนดของเคร่อื งมอื วัดคณุ ภาพ
ง. ด้านสิง่ แวดลอ้ ม ง. การจัดทำคู่มอื คณุ ภาพ
10.ขอ้ ใดคือวัตถุประสงคข์ องระบบคณุ ภาพ ISO 9000
ก. เพ่อื ทำใหม้ รี ะบบการบริหารท่ีเปน็ ลายๆลกั ษณ์อักษร และมีประสทิ ธผิ ล
ข. เพอ่ื ทำใหล้ กู คา้ ม่ันใจในคณุ ภาพของสินคา้ และบริการทไ่ี ดร้ ับ
ค. เพ่อื สรา้ งความมั่นใจให้แกผ่ ูบ้ ริหารว่าสามารถบรรลคุ วามต้องการของลกู ได้
ง. ถูกทกุ ข้อ
แบบทดสอบหลงั เรยี น
ธ.
น.
หนว่ ยท่ี 4 เรื่อง การบริหารงานคุณภาพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
บ.
ป.
คำสงั่ จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทถ่ี กู ตอ้ งที่สดุ
1. ข้อใดคอื วัตถุประสงค์ของระบบคุณภาพ ISO 9000
ก. เพ่ือทำใหม้ รี ะบบการบริหารทเ่ี ป็นลายๆลักษณ์อักษร และมปี ระสทิ ธผิ ล
ข. เพือ่ ทำใหล้ ูกคา้ มน่ั ใจในคุณภาพของสนิ ค้าและบริการท่ีไดร้ ับ
ค. เพอ่ื สรา้ งความมั่นใจใหแ้ กผ่ ู้บริหารว่าสามารถบรรลคุ วามตอ้ งการของลูกได้
ง. ถกู ทุกข้อ
2. ข้อใดคือการดำเนินการตามระบบและวางแผนที่วางไว้เพื่อจะไห้หลักประกันว่าสินค้าหรือบริการ
เปน็ ไปตามท่ลี กู ค้าต้องการ
ก. การบรหิ ารงานคณุ ภาพ ข. การประกันคณุ ภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคุมคณุ ภาพ
95
3. ข้อใดคือโครงสรา้ งของการจดั การภายในองค์กร หน้าที่ความรับผดิ ชอบ ขั้นตอนการทำงาน วิธีการ
ทำงานและทรพั ยากรอนื่ ๆ สำหรับทำให้บรกิ ารมีคุณภาพ
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. การประกันคณุ ภาพ ค. ระบบคุณภาพ ง.การควบคุมคณุ ภาพ
4. ข้อใดไม่ใช่ประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากการบริหารงานคณุ ภาพ
ก. เพ่มิ ขวัญและกำลงั ใจให้กบั พนกั งาน ข. สร้างความมน่ั ใจแก่ลกู ค้า
ค. เปน็ เครือ่ งมอื สำหรับปรบั ปรงุ กจิ กรรมในองคก์ ร ง. เพ่ิมกระบวนการทำงานขององคก์ ร
5. ประเทศไทยประกาศใช้อนุกรมมาตรฐาน มอก. 9000 เปน็ มาตรฐานระดับชาติในปีใด
ก. พ.ศ. 2535 ข. พ.ศ. 2540 ค. พ.ศ. 2545 ง. พ.ศ. 2550
6. การปฏิบัติงานหรือการทำงานขององค์กรเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติทุกประการของผลิตภัณฑ์
ที่สามารถสนองความต้องการความพึงพอใจ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หมายถงึ ขอ้ ใด ข. จริยธรรมทางการบริหาร
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ง. ความพงึ พอใจ
ค. คณุ ภาพความคิดดัง้ เดิม
7. ขอ้ ใดคือมาตรฐานของการปฏบิ ตั งิ านหรือการประเมินเชิงคุณธรรมท่ผี ้บู ริหารใชใ้ นองค์กร
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ข. จรยิ ธรรมทางการบริหาร
ค. คณุ ภาพความคดิ ดงั้ เดมิ ง. ความพงึ พอใจ
8. ขอ้ ใดคือประโยชนข์ องระบบคณุ ภาพ ISO 9000ท่มี ีต่อพนักงาน
ก. การปฏบิ ัติงานมีระบบและมขี อบเขตท่ชี ดั เจน ข. ทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นทเ่ี ช่อื ได้ ได้รบั การยอมรับ
ค. ชว่ ยใหม้ ั่นใจในการผลิตภณั ฑ์และบริการ ง. งา่ ยต่อการคน้ หาองคก์ รทีม่ คี ุณภาพ
9. ข้อใดคือประโยชนข์ องระบบคณุ ภาพ ISO 9000ทมี่ ตี ่อองคก์ ร
ก. การปฏิบตั ิงานมีระบบและมีขอบเขตทช่ี ดั เจน ข. ผลิตภัณฑเ์ ป็นท่ีเช่ือถอื ได้ ได้รบั การยอมรบั
ค. ช่วยใหม้ ัน่ ใจในการผลติ ภัณฑ์และบรกิ าร ง. งา่ ยต่อการค้นหาองค์กรที่มคี ุณภาพ
10.ISO 14000 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพทเ่ี กีย่ วกับเร่อื งใด
ก. การตรวจสอบระบบคุณภาพ ข. ข้อกำหนดของเครื่องมอื วัดคุณภาพ
ค. ด้านสง่ิ แวดล้อม ง. การจัดทำคู่มือคุณภาพ
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
ผ.
ฝ.
หน่วยท่ี 4 เรอื่ ง การบริหารงานคณุ ภาพในองค์การ
-------------------------------------------------------------------------
พ.
ฟ.
คำส่ัง จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทถี่ กู ตอ้ งที่สดุ
1. ข้อใดคอื วตั ถุประสงคข์ องระบบคณุ ภาพ ISO 9000
ก. เพอื่ ทำใหม้ ีระบบการบริหารทเ่ี ปน็ ลายๆลักษณ์อกั ษร และมปี ระสิทธผิ ล
ข. เพ่ือทำใหล้ ูกค้ามัน่ ใจในคุณภาพของสนิ ค้าและบริการท่ีได้รบั
ค. เพือ่ สร้างความมนั่ ใจใหแ้ ก่ผบู้ รหิ ารว่าสามารถบรรลุความตอ้ งการของลูกได้
ง. ถกู ทกุ ข้อ
2. ข้อใดคือการดำเนินการตามระบบและวางแผนที่วางไว้เพื่อจะไห้หลักประกันว่าสินค้าหรือบริการ
เป็นไปตามทล่ี ูกค้าต้องการ
ก. การบริหารงานคุณภาพ ข. การประกันคุณภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคุมคณุ ภาพ
96
3. ข้อใดคือโครงสร้างของการจัดการภายในองค์กร หน้าที่ความรบั ผดิ ชอบ ขั้นตอนการทำงาน วิธีการ
ทำงานและทรัพยากรอนื่ ๆ สำหรบั ทำให้บรกิ ารมคี ณุ ภาพ
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ข. การประกนั คุณภาพ ค. ระบบคณุ ภาพ ง.การควบคมุ คณุ ภาพ
4. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชน์ท่ไี ดจ้ ากการบริหารงานคุณภาพ
ก. เพม่ิ ขวญั และกำลงั ใจใหก้ ับพนกั งาน ข. สรา้ งความมนั่ ใจแก่ลูกคา้
ง. เปน็ เครอ่ื งมือสำหรับปรับปรุงกจิ กรรมในองคก์ ร ง. เพมิ่ กระบวนการทำงานขององคก์ ร
5. ประเทศไทยประกาศใช้อนกุ รมมาตรฐาน มอก. 9000 เป็นมาตรฐานระดับชาติในปีใด
ก. พ.ศ. 2535 ข. พ.ศ. 2540 ค. พ.ศ. 2545 ง. พ.ศ. 2550
6. การปฏิบัติงานหรือการทำงานขององค์กรเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติทุกประการของผลิตภัณฑ์
ที่สามารถสนองความต้องการความพึงพอใจ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หมายถึงขอ้ ใด ข. จรยิ ธรรมทางการบรหิ าร
ก. การบรหิ ารงานคุณภาพ ง. ความพึงพอใจ
ง. คุณภาพความคิดดงั้ เดิม
7. ขอ้ ใดคือมาตรฐานของการปฏิบตั ิงานหรือการประเมนิ เชงิ คณุ ธรรมทผ่ี ู้บริหารใช้ในองค์กร
ก. การบริหารงานคณุ ภาพ ข. จรยิ ธรรมทางการบรหิ าร
ค. คณุ ภาพความคิดดง้ั เดมิ ง. ความพึงพอใจ
8. ขอ้ ใดคือประโยชน์ของระบบคุณภาพ ISO 9000ทมี่ ีตอ่ พนกั งาน
ก. การปฏบิ ัตงิ านมีระบบและมีขอบเขตที่ชัดเจน ข. ทำใหผ้ ลิตภัณฑเ์ ป็นท่ีเช่อื ได้ ไดร้ บั การยอมรับ
ง. ชว่ ยให้มัน่ ใจในการผลิตภณั ฑ์และบรกิ าร ง. ง่ายตอ่ การค้นหาองค์กรทมี่ คี ณุ ภาพ
9. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องระบบคุณภาพ ISO 9000ท่ีมตี อ่ องค์กร
ก. การปฏบิ ัติงานมรี ะบบและมขี อบเขตที่ชดั เจน ข. ผลิตภณั ฑ์เป็นที่เชื่อถอื ได้ ไดร้ ับการยอมรับ
ง. ช่วยให้มัน่ ใจในการผลิตภณั ฑแ์ ละบรกิ าร ง. ง่ายต่อการค้นหาองค์กรท่ีมคี ุณภาพ
10.ISO 14000 เป็นมาตรฐานระบบคณุ ภาพที่เกี่ยวกับเรอื่ งใด
ก. การตรวจสอบระบบคณุ ภาพ ข. ขอ้ กำหนดของเคร่ืองมือวัดคุณภาพ
ง. ด้านส่งิ แวดลอ้ ม ง. การจัดทำคู่มอื คณุ ภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียน
ภ.
ม.
หน่วยท่ี 5 เรือ่ ง การเพ่ิมผลผลติ
-------------------------------------------------------------------------
ย.
ร.
คำส่งั จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อท่ถี ูกต้องท่ีสดุ
1. ขอ้ ใดไม่ใช่การเพิ่มผลผลติ ตามแนวความคดิ ทางวทิ ยาศาสตร์
ก. การเพ่ิมผลผลติ โดยใชป้ จั จยั การผลิตเท่าเดมิ
ข. การเพิ่มผลผลิตเป็นเครื่องแสดงใหเ้ หน็ ถึงระดบั ความสำเรจ็
ค. การเพิ่มผลผลิตโดยใชป้ จั จัยการผลิตลดลง
ง. การรกั ษาผลผลิตเทา่ เดิมแตล่ ดปจั จยั การผลติ ลง
2. การเพ่ิมผลผลิตแบง่ ออกเป็นกป่ี ระเภท
ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 7 ประเภท ง. 9 ประเภท
3. การนำคอมพวิ เตอรม์ าใช้ในการออกแบบวางแผนและกระบวนการผลิตเปน็ เทคนิคการเพิม่ ผลผลิตแบบใด
ก. เนน้ เทคโนโลยี ข. เน้นงาน ค. เนน้ พนกั งาน 97
ง. เน้นผลติ ภณั ฑ์
4. เป็นวิธีการท่เี ปน็ ระบบในการพฒั นาดัดแปลงแบบผลติ ภัณฑ์หรือบรกิ ารเพื่อให้ไดป้ ระโยชนใ์ ชส้ อย
ไดด้ ีขึ้นโดยท่ีตน้ ทนุ การผลติ ต่ำ เปน็ เทคนิคการเพ่ิมผลผลิตแบบใด
ก. เน้นเทคโนโลยี ข. เน้นงาน ค. เน้นพนกั งาน ง. เนน้ ผลิตภัณฑ์
5. ขอ้ ใดหมายถงึ การประเมนิ ค่าของบุคคลหน่ึงบุคคลใดหรือกลมุ่ บุคคล ในการปฏิบตั งิ านเพื่อ
ประโยชน์ในการจัดอันดับในการทำงาน
ก. การวัดผล ข. การวัดงาน ค. การประเมนิ ผล ง. ถกู ทกุ ข้อ
6. ข้อใดคอื การวดั การเพ่มิ ผลผลิตโดยรวมทีจ่ ะสะท้อนภาพในระดับองคก์ ารหรอื ระดบั รวม
ก. การวัดการเพ่มิ ผลผลติ โดยรวมและบางส่วน ข. การวดั การเพิ่มผลผลิตเชิงกายภาพ
ค. การวัดการเพ่มิ ผลผลิตเชิงมูลค่า ง. การวัดการเพิม่ ผลผลิตในทางปฏบิ ัติ
7. การวัดการเพ่มิ ผลผลิตทั้งในเชิงกายภาพ เชิงข้อมลู และเชิงมูลคา่ เพ่ิมไปพรอ้ มๆ กัน
ก. การวดั การเพิ่มผลผลิตโดยรวมและบางส่วน ข. การวัดการเพม่ิ ผลผลิตเชิงกายภาพ
ง. การวัดการเพ่มิ ผลผลิตเชิงมลู ค่า ง. การวดั การเพิม่ ผลผลิตในทางปฏิบัติ
8. ปจั จัยทมี่ อี ิทธิพลต่อการเพิม่ ผลผลิตขององคก์ รทสี่ ำคญั ได้แก่ข้อใด
ก. นโยบายรฐั ข. ทรพั ยากรที่ใช้ ค. ค่านิยมทางสงั คม ง. ถกู ทุกข้อ
9. ปจั จยั สำคญั ท่ีจะทำใหง้ านการเพ่ิมผลผลิตประสบความสำเรจ็ ยกเว้นข้อใด
ก. จะต้องไดร้ บั การสนบั สนนุ จากฝา่ ยบรหิ ารระดับสงู
ข. บรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานทีด่ ี
ค. พนกั งานทุกคนทุกระดับในองคก์ รจะต้องถอื เป็นข้อตกลงรว่ มกนั
ง. ผลลัพธ์ท่ีเกิดขนึ้ จากการเพม่ิ ผลผลติ จะต้องเกิดแก่บริษัทเพียงอยา่ งเดยี ว
10.ระบบทันเวลาพอดี (Just In Time, JIT) มีองคป์ ระกอบอะไรบ้าง
ก. การขจดั ความสญู เปล่าในดา้ นตา่ งๆ เช่น ปรมิ าณการผลิตมากเกนิ ความต้องการ
ข. การควบคุมกระแสวสั ดเุ พอื่ ลดเวลาในการนำจากจดุ สงั่ ซื้อจนถงึ จดุ ท่ีวสั ดไุ ปถึงสายการผลิต
ค. การเปิดโปรงและกำจัดท่ตี ้นตอปญั หาแทนทีจ่ ะไปจดั การท่ีปลายทาง
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
ล.
ว.
หนว่ ยที่ 5 เรื่อง การเพ่ิมผลผลติ
-------------------------------------------------------------------------
ศ.
ษ.
คำส่งั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อทถ่ี กู ต้องทส่ี ุด
1. ข้อใดไม่ใช่การเพ่ิมผลผลิตตามแนวความคดิ ทางวิทยาศาสตร์
ก. การเพิ่มผลผลติ โดยใช้ปัจจัยการผลติ เทา่ เดมิ
ข. การเพมิ่ ผลผลิตเปน็ เคร่ืองแสดงให้เห็นถึงระดบั ความสำเร็จ
ค. การเพิ่มผลผลติ โดยใช้ปัจจัยการผลติ ลดลง
ง. การรกั ษาผลผลติ เทา่ เดมิ แต่ลดปัจจยั การผลิตลง
2. การเพิ่มผลผลติ แบง่ ออกเป็นก่ีประเภท
ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 7 ประเภท ง. 9 ประเภท
3. การนำคอมพวิ เตอร์มาใชใ้ นการออกแบบวางแผนและกระบวนการผลิตเป็นเทคนคิ การเพมิ่ ผลผลิตแบบใด
ก. เน้นเทคโนโลยี ข. เนน้ งาน ค. เน้นพนักงาน 98
ง. เน้นผลิตภัณฑ์
4. เป็นวธิ ีการที่เป็นระบบในการพัฒนาดดั แปลงแบบผลติ ภณั ฑ์หรือบรกิ ารเพื่อให้ไดป้ ระโยชน์ใช้สอย
ไดด้ ขี ึน้ โดยท่ตี น้ ทนุ การผลติ ต่ำ เปน็ เทคนิคการเพิม่ ผลผลิตแบบใด
ก. เน้นเทคโนโลยี ข. เน้นงาน ค. เน้นพนกั งาน ง. เนน้ ผลติ ภัณฑ์
5. ข้อใดหมายถงึ การประเมนิ ค่าของบุคคลหน่ึงบุคคลใดหรือกล่มุ บคุ คล ในการปฏบิ ตั งิ านเพ่อื
ประโยชน์ในการจดั อนั ดบั ในการทำงาน
ก. การวัดผล ข. การวดั งาน ค. การประเมินผล ง. ถกู ทุกขอ้
6. ขอ้ ใดคือการวดั การเพิ่มผลผลิตโดยรวมทจ่ี ะสะท้อนภาพในระดับองค์การหรือระดับรวม
ก. การวัดการเพม่ิ ผลผลิตโดยรวมและบางส่วน ข. การวัดการเพิ่มผลผลิตเชงิ กายภาพ
จ. การวัดการเพ่ิมผลผลติ เชงิ มลู ค่า ง. การวดั การเพิม่ ผลผลิตในทางปฏบิ ตั ิ
7. การวัดการเพม่ิ ผลผลติ ทงั้ ในเชิงกายภาพ เชงิ ขอ้ มลู และเชงิ มูลคา่ เพิ่มไปพรอ้ มๆ กนั
ก. การวดั การเพ่มิ ผลผลติ โดยรวมและบางส่วน ข. การวดั การเพมิ่ ผลผลติ เชงิ กายภาพ
ฉ. การวัดการเพมิ่ ผลผลิตเชิงมลู ค่า ง. การวัดการเพ่ิมผลผลิตในทางปฏบิ ตั ิ
8. ปัจจัยทม่ี ีอิทธิพลตอ่ การเพ่ิมผลผลติ ขององค์กรทส่ี ำคญั ได้แก่ข้อใด
ก. นโยบายรัฐ ข. ทรพั ยากรที่ใช้ ค. ค่านิยมทางสังคม ง. ถูกทุกขอ้
9. ปัจจัยสำคญั ทจ่ี ะทำให้งานการเพ่ิมผลผลติ ประสบความสำเร็จยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. จะตอ้ งไดร้ บั การสนับสนนุ จากฝ่ายบรหิ ารระดบั สูง
ข. บรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี
ค. พนกั งานทกุ คนทุกระดบั ในองคก์ รจะต้องถือเปน็ ข้อตกลงร่วมกนั
ง. ผลลัพธ์ท่เี กดิ ขึ้นจากการเพิ่มผลผลติ จะต้องเกดิ แก่บรษิ ัทเพียงอยา่ งเดียว
10.ระบบทนั เวลาพอดี (Just In Time, JIT) มอี งคป์ ระกอบอะไรบ้าง
ก. การขจัดความสูญเปลา่ ในด้านตา่ งๆ เช่น ปรมิ าณการผลิตมากเกนิ ความต้องการ
ข. การควบคุมกระแสวสั ดเุ พอ่ื ลดเวลาในการนำจากจดุ ส่งั ซือ้ จนถงึ จุดทว่ี สั ดไุ ปถงึ สายการผลติ
ค. การเปดิ โปรงและกำจดั ทตี่ น้ ตอปญั หาแทนทีจ่ ะไปจัดการที่ปลายทาง
ง. ถูกทุกข้อ
แบบทดสอบหลงั เรียน
ส.
ห.
หนว่ ยท่ี 5 เร่ือง การเพิ่มผลผลติ
-------------------------------------------------------------------------
ฬ.
อ.
คำสั่ง จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ท่ถี กู ตอ้ งทส่ี ดุ
1. การเพ่ิมผลผลิตแบ่งออกเป็นกปี่ ระเภท
ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 7 ประเภท ง. 9 ประเภท
2. การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการออกแบบวางแผนและกระบวนการผลิต เป็นเทคนิคการเพ่มิ ผลผลิต
แบบใด
ก. เน้นเทคโนโลยี ข. เนน้ งาน ค. เนน้ พนกั งาน ง. เนน้ ผลิตภณั ฑ์
3. ปัจจยั สำคัญทจ่ี ะทำให้งานการเพ่มิ ผลผลติ ประสบความสำเร็จยกเว้นข้อใด
ก. จะต้องได้รบั การสนบั สนุนจากฝา่ ยบริหารระดบั สงู
ข. บรรยากาศหรือสภาพแวดลอ้ มในการทำงานทดี่ ี
99
ค. พนกั งานทุกคนทุกระดับในองคก์ รจะต้องถือเป็นขอ้ ตกลงรว่ มกัน
ง. ผลลพั ธท์ เี่ กดิ ข้นึ จากการเพ่มิ ผลผลิตจะตอ้ งเกดิ แก่บรษิ ทั เพียงอย่างเดยี ว
4. ระบบทนั เวลาพอดี (Just In Time , JIT) มีองค์ประกอบอะไรบา้ ง
ก. การขจัดความสญู เปล่าในด้านตา่ งๆ เช่น ปรมิ าณการผลิตมากเกินความต้องการ
ข. การควบคมุ กระแสวัสดเุ พอื่ ลดเวลาในการนำจากจดุ สั่งซื้อจนถึงจดุ ที่วสั ดไุ ปถึงสายการผลิต
ค. การเปิดโปรงและกำจดั ที่ตน้ ตอปัญหาแทนทจ่ี ะไปจัดการที่ปลายทาง
ง. ถกู ทุกข้อ
5. ระบบในการพฒั นาดดั แปลงแบบผลติ ภณั ฑห์ รือบรกิ ารเพื่อใหไ้ ด้ประโยชน์ใชส้ อยไดด้ ขี ึน้ โดยท่ี
ต้นทุนการผลิตตำ่ เป็นเทคนคิ การเพิ่มผลผลติ แบบใด
ก. เน้นเทคโนโลยี ข. เนน้ งาน ค. เนน้ พนักงาน ง. เนน้ ผลิตภณั ฑ์
6. ข้อใดไม่ใช่การเพิ่มผลผลิตตามแนวความคิดทางวทิ ยาศาสตร์
ก. การเพ่ิมผลผลิตโดยใชป้ จั จัยการผลติ เท่าเดิม
ข. การเพิ่มผลผลติ เปน็ เครอื่ งแสดงให้เหน็ ถงึ ระดบั ความสำเรจ็
ค. การเพ่ิมผลผลติ โดยใชป้ ัจจยั การผลิตลดลง
ง. การรกั ษาผลผลิตเท่าเดมิ แตล่ ดปจั จยั การผลติ ลง
7. ขอ้ ใดหมายถึงการประเมนิ ค่าของบุคคลหนึง่ บุคคลใดหรือกล่มุ บุคคล ในการปฏิบัติงานเพื่อ
ประโยชน์ในการจดั อันดับในการทำงาน
ก. การวัดผล ข. การวัดงาน ค. การประเมนิ ผล ง. ถูกทุกข้อ
8. ข้อใดคือการวดั การเพม่ิ ผลผลิตโดยรวมที่จะสะท้อนภาพในระดบั องคก์ ารหรือระดับรวม
ก. การวัดการเพิม่ ผลผลิตโดยรวมและบางส่วน ข. การวดั การเพิม่ ผลผลติ เชิงกายภาพ
ค. การวดั การเพม่ิ ผลผลติ เชงิ มลู คา่ ง. การวัดการเพิม่ ผลผลติ ในทางปฏบิ ัติ
9. การวดั การเพ่มิ ผลผลติ ทัง้ ในเชิงกายภาพ เชิงขอ้ มูล และเชงิ มูลคา่ เพิ่มไปพร้อมๆ กนั
ก. การวัดการเพม่ิ ผลผลติ โดยรวมและบางส่วน ข. การวดั การเพิ่มผลผลติ เชิงกายภาพ
ง. การวัดการเพ่มิ ผลผลิตเชิงมลู คา่ ง. การวัดการเพ่มิ ผลผลิตในทางปฏบิ ัติ
10.ปัจจยั ท่ีมีอิทธพิ ลต่อการเพิ่มผลผลิตขององคก์ รท่ีสำคัญ ได้แก่ข้อใด
ก. นโยบายรัฐ ข. ทรพั ยากรที่ใช้ ค. คา่ นยิ มทางสังคม ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
ฮ.
กก.
หน่วยที่ 5 เรื่อง การเพ่ิมผลผลติ
-------------------------------------------------------------------------
ขข.
คค.
คำส่งั จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อทถี่ ูกต้องท่สี ดุ
1. การเพ่ิมผลผลติ แบง่ ออกเป็นก่ีประเภท
ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 7 ประเภท ง. 9 ประเภท
2. การนำคอมพวิ เตอรม์ าใชใ้ นการออกแบบวางแผนและกระบวนการผลิต เปน็ เทคนคิ การเพิ่มผลผลติ
แบบใด
ก. เนน้ เทคโนโลยี ข. เน้นงาน ค. เนน้ พนักงาน ง. เน้นผลิตภณั ฑ์
3. ปจั จยั สำคญั ที่จะทำใหง้ านการเพ่ิมผลผลิตประสบความสำเรจ็ ยกเว้นขอ้ ใด
ก. จะต้องได้รบั การสนบั สนุนจากฝา่ ยบริหารระดบั สงู
ข. บรรยากาศหรือสภาพแวดลอ้ มในการทำงานทดี่ ี
100
ค. พนกั งานทกุ คนทุกระดบั ในองคก์ รจะต้องถือเป็นข้อตกลงร่วมกัน
ง. ผลลัพธ์ทเี่ กดิ ขึ้นจากการเพม่ิ ผลผลติ จะต้องเกดิ แกบ่ ริษัทเพยี งอยา่ งเดียว
4. ระบบทันเวลาพอดี (Just In Time , JIT) มอี งค์ประกอบอะไรบา้ ง
ก. การขจดั ความสญู เปลา่ ในด้านต่างๆ เช่น ปริมาณการผลติ มากเกินความต้องการ
ข. การควบคมุ กระแสวัสดเุ พอ่ื ลดเวลาในการนำจากจดุ สัง่ ซื้อจนถึงจดุ ทีว่ ัสดุไปถงึ สายการผลิต
ค. การเปดิ โปรงและกำจัดท่ตี ้นตอปญั หาแทนทีจ่ ะไปจดั การที่ปลายทาง
ง. ถูกทุกข้อ
5. ระบบในการพัฒนาดดั แปลงแบบผลติ ภัณฑห์ รือบริการเพ่ือใหไ้ ดป้ ระโยชนใ์ ช้สอยได้ดขี น้ึ โดยที่
ตน้ ทนุ การผลิตตำ่ เป็นเทคนิคการเพ่ิมผลผลติ แบบใด
ก. เนน้ เทคโนโลยี ข. เนน้ งาน ค. เนน้ พนักงาน ง. เนน้ ผลติ ภัณฑ์
6. ข้อใดไม่ใช่การเพิ่มผลผลิตตามแนวความคิดทางวิทยาศาสตร์
ก. การเพิ่มผลผลติ โดยใช้ปจั จัยการผลิตเทา่ เดมิ
ข. การเพ่ิมผลผลติ เป็นเครอ่ื งแสดงให้เห็นถงึ ระดับความสำเรจ็
ค. การเพิ่มผลผลิตโดยใชป้ จั จัยการผลติ ลดลง
ง. การรักษาผลผลิตเท่าเดิมแตล่ ดปจั จัยการผลิตลง
7. ขอ้ ใดหมายถงึ การประเมนิ ค่าของบุคคลหน่ึงบุคคลใดหรือกลุม่ บคุ คล ในการปฏิบัติงานเพ่อื
ประโยชนใ์ นการจัดอันดบั ในการทำงาน
ก. การวดั ผล ข. การวัดงาน ค. การประเมินผล ง. ถกู ทุกขอ้
8. ข้อใดคอื การวัดการเพิ่มผลผลิตโดยรวมทจ่ี ะสะท้อนภาพในระดบั องค์การหรือระดบั รวม
ก. การวัดการเพ่มิ ผลผลติ โดยรวมและบางส่วน ข. การวดั การเพ่ิมผลผลิตเชิงกายภาพ
ค. การวัดการเพิ่มผลผลติ เชิงมูลค่า ง. การวัดการเพมิ่ ผลผลิตในทางปฏิบตั ิ
9. การวดั การเพ่ิมผลผลติ ทง้ั ในเชิงกายภาพ เชิงขอ้ มลู และเชิงมลู คา่ เพิ่มไปพร้อมๆ กนั
ก. การวดั การเพิ่มผลผลติ โดยรวมและบางสว่ น ข. การวัดการเพิ่มผลผลติ เชงิ กายภาพ
ค. การวดั การเพมิ่ ผลผลติ เชิงมูลค่า ง. การวดั การเพมิ่ ผลผลิตในทางปฏบิ ัติ
10.ปัจจัยทม่ี อี ิทธพิ ลต่อการเพมิ่ ผลผลติ ขององคก์ รที่สำคญั ได้แก่ข้อใด
ก. นโยบายรัฐ ข. ทรพั ยากรท่ีใช้ ค. ค่านิยมทางสังคม ง. ถูกทุกข้อ
แบบทดสอบก่อนเรียน
งง.
จจ.
หน่วยที่ 6 เร่ือง การบริหารความเสย่ี ง
-------------------------------------------------------------------------
ฉฉ.
ชช.
คำส่ัง จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ทีถ่ ูกตอ้ งทีส่ ุด
1. เหตกุ ารณท์ ่ีมีความไมแ่ นน่ อน ซึ่งหากเกิดขึ้นจะมผี ลกระทบในเชงิ ลบ ตอ่ การบรรลวุ ัตถุประสงค์
หรอื เป้าหมายขององค์กรหมายถึงข้อใด
ก. ความเส่ยี ง ข. โอกาส ค. การบรหิ าร ง. สารสนเทศ
2. เหตุการณท์ ่ีมีความไม่แน่นอน ซง่ึ หากเกดิ ขึ้นจะมผี ลกระทบในเชงิ บวก ตอ่ วตั ถปุ ระสงค์หรอื
เปา้ หมายขององค์กร
ก. ความเส่ียง ข. โอกาส ค. การบริหาร ง. สารสนเทศ
3. กระบวนการบรหิ ารความเส่ียงขน้ั ตอนแรกได้แก่ขอ้ ใด
ก. การบง่ ช้ีเหตุการณ์ ข. การประเมินความเสย่ี ง
ค. การกำหนดวตั ถปุ ระสงค์ ง. การตอบสนองความเสี่ยง