101
4. การร่วมหรอื แบง่ ความรับผิดชอบกบั ผู้อื่นในการจดั การความเส่ียงคือหลักการตอบสนองความเสีย่ ง
ขอ้ ใด
ก. การหลกี เลีย่ ง ข. การรว่ มจดั การ ค. การลด ง. การยอมรับ
5. ขอ้ ใดคือปัจจยั สำคญั ต่อความสำเร็จในการบรหิ ารความเส่ยี ง
ก. การสนบั สนุนจากผบู้ รหิ ารระดบั สงู ข. ความเขา้ ใจความหมายความเสย่ี งตรงกนั
ค. การตดิ ตามกระบวนการบรหิ ารความเสยี่ ง ง. ถกู ทุกข้อ
6. การรายงาน และสอบทานขน้ั ตอนตามกระบวนการบริหารความเสยี่ งหมายถึงปจั จัยใด
ก. การสนับสนนุ จากผบู้ ริหารระดับสูง ข. ความเข้าใจความหมายความเสย่ี งตรงกัน
ค. การติดตามกระบวนการบริหารความเส่ยี ง ง. ถูกทุกข้อ
7. ใครเป็นผ้มู บี ทบาทในการตดิ ตามความเสี่ยงทส่ี ำคญั ท้ังองค์กร และทำให้ม่ันใจไดว้ า่ มีแผนการ
จัดการทเี่ หมาะสม
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จดั การ
ค. ผอู้ ำนวยการฝ่าย ง. หัวหนา้ งานหรือพนักงาน
8. ใครมหี นา้ ทรี่ ะบแุ ละรายงานความเสี่ยงท่เี กยี่ วข้องกับการปฏิบัติงานต่อผู้อำนวยการฝ่าย และเข้า
รว่ มในการจัดทำแผนจดั การความเส่ยี ง และนำแผนไปปฏิบัติ
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผจู้ ดั การ
ค. ผอู้ ำนวยการฝา่ ย ง. หัวหนา้ งานหรือพนักงาน
9. การวดั ผลการบรหิ ารความเส่ียงประกอบด้วยก่รี ูปแบบ
ก. 2 รูปแบบ ข. 3 รปู แบบ ค. 4 รูปแบบ ง. 5 รูปแบบ
10.ผ้บู ริหารไดร้ ับขอ้ มลู เกย่ี วกบั ความเสีย่ งอยา่ งถกู ต้องและทนั เวลา เป็นปจั จยั สำคัญตอ่ ความสำเร็จ
ในการบรหิ ารความเส่ยี งตามข้อใด
ก. การสื่อสารอย่างมปี ระสทิ ธิผล
ข. กระบวนการในการบริหารการเปลยี่ นแปลง
ค. การวดั ผลการบรหิ ารความเสี่ยง
ง. การฝึกอบรม และกลไกดา้ นทรัพยากรบุคคล
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ซซ.
ฌฌ.
หน่วยท่ี 6 เรอ่ื ง การบริหารความเสยี่ ง
-------------------------------------------------------------------------
ญญ.
ฎฎ.
คำสง่ั จงทำเครื่องหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ถี ูกต้องท่สี ดุ
1. เหตุการณ์ที่มคี วามไม่แนน่ อน ซึ่งหากเกิดขึน้ จะมีผลกระทบในเชงิ ลบ ตอ่ การบรรลุวัตถุประสงค์
หรอื เป้าหมายขององค์กรหมายถึงข้อใด
ก. ความเสยี่ ง ข. โอกาส ค. การบริหาร ง. สารสนเทศ
2. เหตกุ ารณท์ ี่มคี วามไมแ่ นน่ อน ซ่งึ หากเกิดขึน้ จะมีผลกระทบในเชิงบวก ตอ่ วัตถุประสงค์หรอื
เปา้ หมายขององค์กร
ก. ความเสี่ยง ข. โอกาส ค. การบริหาร ง. สารสนเทศ
3. กระบวนการบรหิ ารความเส่ยี งขนั้ ตอนแรกไดแ้ ก่ข้อใด
ก. การบ่งช้เี หตกุ ารณ์ ข. การประเมินความเสยี่ ง
ค. การกำหนดวัตถุประสงค์ ง. การตอบสนองความเส่ยี ง
102
4. การรว่ มหรือแบ่งความรับผิดชอบกับผู้อ่ืนในการจดั การความเสย่ี งคอื หลักการตอบสนองความเส่ยี ง
ข้อใด
ก. การหลกี เล่ยี ง ข. การร่วมจัดการ ค. การลด ง. การยอมรับ
5. ข้อใดคือปัจจยั สำคญั ต่อความสำเรจ็ ในการบริหารความเส่ียง
ก. การสนับสนุนจากผบู้ รหิ ารระดับสงู ค. ความเข้าใจความหมายความเส่ียงตรงกัน
ข. การติดตามกระบวนการบริหารความเส่ียง ง. ถกู ทกุ ขอ้
6. การรายงาน และสอบทานขัน้ ตอนตามกระบวนการบริหารความเสยี่ งหมายถึงปัจจยั ใด
ก. การสนับสนุนจากผ้บู รหิ ารระดับสงู ค. ความเขา้ ใจความหมายความเส่ียงตรงกัน
ข. การติดตามกระบวนการบริหารความเสย่ี ง ง. ถกู ทกุ ขอ้
7. ใครเปน็ ผมู้ ีบทบาทในการตดิ ตามความเส่ียงทีส่ ำคญั ทั้งองค์กร และทำใหม้ ่ันใจไดว้ า่ มีแผนการ
จดั การทเี่ หมาะสม
ก. คณะกรรมการ ค. กรรมการผ้จู ดั การ
ข. ผูอ้ ำนวยการฝ่าย ง. หวั หน้างานหรือพนักงาน
8. ใครมีหน้าท่ีระบุและรายงานความเสีย่ งที่เกีย่ วข้องกับการปฏิบัติงานต่อผอู้ ำนวยการฝ่าย และเข้า
ร่วมในการจดั ทำแผนจดั การความเสี่ยง และนำแผนไปปฏบิ ตั ิ
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผ้จู ดั การ
ค. ผูอ้ ำนวยการฝ่าย ง. หัวหนา้ งานหรือพนกั งาน
9. การวัดผลการบรหิ ารความเส่ียงประกอบด้วยกร่ี ูปแบบ
ข. 2 รูปแบบ ข. 3 รูปแบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รปู แบบ
10.ผู้บริหารไดร้ บั ขอ้ มูลเก่ียวกับความเส่ยี งอย่างถูกต้องและทนั เวลา เป็นปัจจัยสำคัญตอ่ ความสำเร็จ
ในการบรหิ ารความเสี่ยงตามข้อใด
ก. การสอื่ สารอยา่ งมีประสทิ ธผิ ล
ข. กระบวนการในการบริหารการเปลยี่ นแปลง
ค. การวดั ผลการบริหารความเส่ียง
ง. การฝึกอบรม และกลไกด้านทรัพยากรบุคคล
แบบทดสอบหลงั เรยี น
ฏฏ.
ฐฐ.
หนว่ ยที่ 6 เร่ือง การบริหารความเส่ยี ง
-------------------------------------------------------------------------
ฑฑ.
ฒฒ.
คำสง่ั จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ท่ีถูกตอ้ งทส่ี ุด
1. ใครมีหนา้ ท่ีระบแุ ละรายงานความเสี่ยงทเี่ ก่ยี วข้องกับการปฏิบตั งิ านตอ่ ผ้อู ำนวยการฝ่าย และเข้า
ร่วมในการจัดทำแผนจดั การความเสีย่ ง และนำแผนไปปฏบิ ตั ิ
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จัดการ
ค. ผู้อำนวยการฝ่าย ง. หวั หนา้ งานหรอื พนักงาน
2. การวดั ผลการบรหิ ารความเสี่ยงประกอบดว้ ยกรี่ ปู แบบ
ก. 2 รปู แบบ ข. 3 รูปแบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รูปแบบ
3. ผูบ้ ริหารไดร้ ับข้อมูลเกีย่ วกบั ความเสี่ยงอย่างถูกต้องและทันเวลา เป็นปจั จยั สำคญั ต่อความสำเรจ็
ในการบรหิ ารความเส่ียงตามข้อใด
ก. การส่ือสารอย่างมปี ระสิทธผิ ล
103
ข. กระบวนการในการบรหิ ารการเปลีย่ นแปลง
ค. การวดั ผลการบรหิ ารความเส่ียง
ง. การฝกึ อบรม และกลไกดา้ นทรพั ยากรบุคคล
4. การร่วมหรอื แบ่งความรับผิดชอบกับผู้อื่นในการจดั การความเส่ียงคอื หลักการตอบสนองความเส่ียง
ขอ้ ใด
ก. การหลกี เลย่ี ง ข. การรว่ มจดั การ ค. การลด ง. การยอมรบั
5. ข้อใดคือปัจจยั สำคญั ต่อความสำเรจ็ ในการบรหิ ารความเสยี่ ง
ก. การสนับสนุนจากผ้บู รหิ ารระดับสงู ข. ความเขา้ ใจความหมายความเสี่ยงตรงกัน
ค. การติดตามกระบวนการบริหารความเส่ียง ง. ถกู ทกุ ข้อ
6. เหตกุ ารณท์ ่ีมคี วามไมแ่ นน่ อน ซ่งึ หากเกิดขึ้นจะมผี ลกระทบในเชิงลบ ต่อการบรรลุวัตถุประสงค์
หรอื เปา้ หมายขององคก์ รหมายถงึ ข้อใด
ก. ความเสี่ยง ข. โอกาส ค. การบรหิ าร ง. สารสนเทศ
7. เหตกุ ารณท์ ี่มคี วามไมแ่ น่นอน ซึ่งหากเกดิ ขน้ึ จะมีผลกระทบในเชิงบวก ต่อวัตถปุ ระสงค์หรือ
เปา้ หมายขององค์กร
ก. ความเส่ียง ข. โอกาส ค. การบรหิ าร ง. สารสนเทศ
8. กระบวนการบริหารความเสย่ี งข้ันตอนแรกได้แก่ขอ้ ใด
ก. การบง่ ชีเ้ หตกุ ารณ์ ข. การประเมนิ ความเส่ยี ง
ค. การกำหนดวตั ถุประสงค์ ง. การตอบสนองความเสี่ยง
9. การรายงาน และสอบทานข้นั ตอนตามกระบวนการบริหารความเส่ียงหมายถึงปจั จัยใด
ก. การสนบั สนนุ จากผู้บริหารระดับสงู ข. ความเข้าใจความหมายความเส่ยี งตรงกนั
ค. การติดตามกระบวนการบรหิ ารความเส่ียง ง. ถกู ทุกข้อ
10.ใครเปน็ ผู้มีบทบาทในการตดิ ตามความเสีย่ งท่ีสำคญั ท้ังองค์กร และทำให้มั่นใจไดว้ า่ มแี ผนการ
จดั การทเ่ี หมาะสม
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จัดการ
ค. ผ้อู ำนวยการฝ่าย ง. หวั หนา้ งานหรอื พนกั งาน
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
ณณ.
ดด.
หนว่ ยที่ 6 เรอ่ื ง การบริหารความเสีย่ ง
-------------------------------------------------------------------------
ตต.
ถถ.
คำสง่ั จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ท่ีถกู ต้องที่สุด
1. ใครมหี น้าท่รี ะบแุ ละรายงานความเสย่ี งท่ีเกย่ี วข้องกับการปฏิบตั ิงานตอ่ ผอู้ ำนวยการฝา่ ย และเขา้
ร่วมในการจดั ทำแผนจดั การความเสีย่ ง และนำแผนไปปฏบิ ตั ิ
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จดั การ
ค. ผู้อำนวยการฝ่าย ง. หัวหนา้ งานหรือพนกั งาน
2. การวัดผลการบริหารความเส่ียงประกอบดว้ ยกรี่ ูปแบบ
ก. 2 รูปแบบ ข. 3 รปู แบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รปู แบบ
3. ผู้บรหิ ารได้รับข้อมลู เกีย่ วกับความเสย่ี งอยา่ งถกู ต้องและทนั เวลา เป็นปจั จัยสำคญั ตอ่ ความสำเรจ็
ในการบรหิ ารความเสี่ยงตามขอ้ ใด
ก. การส่ือสารอยา่ งมีประสิทธผิ ล
104
ข. กระบวนการในการบริหารการเปลี่ยนแปลง
ค. การวดั ผลการบริหารความเสี่ยง
ง. การฝกึ อบรม และกลไกดา้ นทรัพยากรบุคคล
4. การรว่ มหรือแบง่ ความรับผดิ ชอบกบั ผู้อื่นในการจดั การความเสยี่ งคือหลักการตอบสนองความเส่ียง
ขอ้ ใด
ก. การหลกี เลย่ี ง ข. การร่วมจดั การ ค. การลด ง. การยอมรบั
5. ขอ้ ใดคอื ปัจจัยสำคญั ต่อความสำเร็จในการบรหิ ารความเสยี่ ง
ก. การสนับสนุนจากผ้บู ริหารระดบั สงู ข. ความเข้าใจความหมายความเสี่ยงตรงกนั
ค. การติดตามกระบวนการบริหารความเสยี่ ง ง. ถกู ทกุ ขอ้
6. เหตกุ ารณ์ท่ีมีความไม่แนน่ อน ซ่ึงหากเกดิ ข้ึนจะมผี ลกระทบในเชิงลบ ต่อการบรรลุวตั ถุประสงค์
หรือเปา้ หมายขององคก์ รหมายถึงข้อใด
ก. ความเสย่ี ง ข. โอกาส ค. การบรหิ าร ง. สารสนเทศ
7. เหตกุ ารณ์ท่ีมีความไมแ่ นน่ อน ซง่ึ หากเกิดขึ้นจะมผี ลกระทบในเชิงบวก ต่อวตั ถปุ ระสงค์หรือ
เปา้ หมายขององค์กร
ก. ความเส่ียง ข. โอกาส ค. การบริหาร ง. สารสนเทศ
8. กระบวนการบรหิ ารความเสีย่ งข้นั ตอนแรกได้แก่ข้อใด
ก. การบง่ ชเี้ หตุการณ์ ข. การประเมนิ ความเสย่ี ง
ค. การกำหนดวัตถุประสงค์ ง. การตอบสนองความเสยี่ ง
9. การรายงาน และสอบทานข้นั ตอนตามกระบวนการบริหารความเส่ยี งหมายถึงปจั จัยใด
ก. การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง ข. ความเขา้ ใจความหมายความเสย่ี งตรงกนั
ค. การติดตามกระบวนการบรหิ ารความเส่ยี ง ง. ถูกทกุ ขอ้
10.ใครเปน็ ผ้มู บี ทบาทในการตดิ ตามความเส่ียงทีส่ ำคญั ท้ังองค์กร และทำให้ม่ันใจได้วา่ มแี ผนการ
จดั การท่ีเหมาะสม
ก. คณะกรรมการ ข. กรรมการผู้จัดการ
ค. ผู้อำนวยการฝา่ ย ง. หัวหนา้ งานหรือพนกั งาน
แบบทดสอบก่อนเรียน
ทท.
ธธ.
หน่วยที่ 7 เรอื่ ง การจดั การเพอื่ ลดความขดั แย้งในองคก์ ร
-------------------------------------------------------------------------
นน.
บบ.
คำสัง่ จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทีถ่ กู ตอ้ งทีส่ ดุ
1. ในการศึกษาความขดั แย้งแบ่งแนวคิดเก่ียวกับความขัดแยง้ เป็นกีก่ ลุ่ม
ก. 2 กลุ่ม ข. 3 กลุม่ ค. 4 กลุม่ ง. 5 กลุม่
2. ความขดั แย้งระหว่างแผนก ระหว่างทมี งาน หรอื ความขัดแยง้ ระหวา่ งหน่วยงานย่อย ถือเปน็
ความขัดแย้งประเภทใด
ก. ความขดั แย้งภายในตวั บุคคล ข. ความขัดแยง้ ระหว่างบุคคล
ค. ความขดั แย้งระหวา่ งกลมุ่ ง. ถูกทุกข้อ
3. ความขัดแย้งทเี่ กิดจากเป้าหมายของหน่วยงานย่อยแตกตา่ งกนั ทำใหค้ วามสำคัญของหน่วยงาน
ย่อยไม่เทา่ กนั
105
ก. ความขดั แย้งเรอื่ งระบบการทำงาน ข. ความขัดแย้งในเรื่องการใช้ทรัพยากร
ค. ความขดั แย้งในเรอื่ งการปฏบิ ัตงิ าน ง. ถูกทกุ ข้อ
4. ข้อใดคอื ผลดีของความขัดแยง้ ทีม่ ตี อ่ องค์กร
ก. ความรว่ มมอื ระหวา่ งบคุ คล ข. เกดิ บรรยากาศทไี่ ม่ไว้วางใจกนั
ค. ภาพลกั ษณ์ขององคก์ รเสยี หาย ง. ทำใหเ้ กดิ ความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์
5. การแก้ไขความขัดแย้งทใี่ ช้อำนาจ หรอื ระเบียบข้อบังคับคือการบริหารความขัดแย้งดว้ ยวิธีใด
ก. วิธกี ารบังคับและกดดัน ข. วธิ กี ารประนปี ระนอม
ค. การแกป้ ัญหารว่ มกนั ง. ถูกทกุ ข้อ
6. ความสามารถส่งั ให้ผอู้ ืน่ กระทำตามคือทักษะทีจ่ ำเปน็ ในการบริหารความขัดแย้งดา้ นใด
ก. ทักษะการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. ทักษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทกั ษะการจดั สรรความเป็นธรรม
7. ทักษะทเ่ี ปน็ วิธีทท่ี ำให้แตล่ ะฝ่ายได้รบั สิ่งทเ่ี ขาควรจะได้
ก. ทกั ษะการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทักษะการใชอ้ ำนาจ ง. ทักษะการจัดสรรความเป็นธรรม
8. ขอ้ ใดคอื การไม่ยึดตดิ อยูก่ ับส่ิงใดส่งิ หน่งึ หรอื ความคิดใดความคดิ หน่ึง
ก. ความยดื หยุน่ ข. การเผชญิ หน้า ค. การให้ข้อมลู ง. การมองโลกในแงด่ ี
9. ขอ้ ใดคือวธิ กี ารสรา้ งความขดั แยง้
ก. เพ่มิ ความจำกดั ด้านทรัพยากร นน่ั คอื ลดทรพั ยากรในการทำงานลง
ข. ลดเวลาการทำงานลง
ค. ขยายขอบเขตอำนาจหนา้ ที่ใหซ้ ้ำซ้อนกันมากขึน้
ง. ถูกทุกข้อ
10.เมือ่ ประเดน็ ขัดแยง้ เปน็ เร่ืองไรส้ าระและมปี ัญหาอน่ื ๆ สำคัญกว่า ควรใช้พฤติกรรมใดท่ีเหมาะสม
กบั ความขัดแย้ง
ก. การเอาชนะ ข. การประนีประนอม ค. การหลกี เลี่ยง ง. การยอมให้
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
ปป.
ผผ.
หน่วยท่ี 7 เรอ่ื ง การจดั การเพ่ือลดความขดั แย้งในองคก์ ร
-------------------------------------------------------------------------
ฝฝ.
พพ.
คำสั่ง จงทำเคร่อื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ถี กู ต้องทีส่ ดุ
1. ในการศึกษาความขัดแย้งแบง่ แนวคิดเกี่ยวกับความขดั แย้งเป็นกก่ี ลุ่ม
ก. 2 กลุ่ม ข. 3 กลุ่ม ค. 4 กลมุ่ ง. 5 กล่มุ
2. ความขดั แย้งระหว่างแผนก ระหว่างทมี งาน หรอื ความขดั แยง้ ระหวา่ งหนว่ ยงานย่อย ถือเปน็
ความขัดแย้งประเภทใด
ก. ความขดั แย้งภายในตัวบคุ คล ข. ความขดั แยง้ ระหว่างบคุ คล
ง. ความขดั แย้งระหวา่ งกลุ่ม ง. ถกู ทุกข้อ
3. ความขดั แย้งทเ่ี กิดจากเปา้ หมายของหน่วยงานย่อยแตกตา่ งกัน ทำใหค้ วามสำคัญของหน่วยงาน
ยอ่ ยไม่เทา่ กนั
106
ก. ความขัดแย้งเรอ่ื งระบบการทำงาน ข. ความขดั แยง้ ในเร่อื งการใช้ทรัพยากร
ค. ความขดั แย้งในเรื่องการปฏบิ ัติงาน ง. ถกู ทุกข้อ
4. ข้อใดคอื ผลดีของความขดั แยง้ ท่มี ีตอ่ องค์กร
ก. ความร่วมมอื ระหวา่ งบคุ คล ข. เกิดบรรยากาศทไ่ี ม่ไวว้ างใจกัน
ค. ภาพลกั ษณ์ขององคก์ รเสยี หาย ง. ทำใหเ้ กดิ ความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์
5. การแก้ไขความขัดแยง้ ทใ่ี ช้อำนาจ หรอื ระเบียบข้อบงั คับคือการบรหิ ารความขัดแยง้ ด้วยวิธีใด
ก. วิธีการบงั คบั และกดดัน ข. วิธีการประนีประนอม
ค. การแก้ปัญหาร่วมกนั ง. ถกู ทกุ ข้อ
6. ความสามารถสง่ั ให้ผอู้ นื่ กระทำตามคือทักษะท่ีจำเปน็ ในการบริหารความขดั แย้งดา้ นใด
ก. ทกั ษะการวเิ คราะห์สถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทักษะการจัดสรรความเป็นธรรม
7. ทกั ษะที่เปน็ วธิ ีท่ที ำให้แต่ละฝ่ายได้รับส่ิงทเี่ ขาควรจะได้
ก. ทกั ษะการวิเคราะห์สถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทักษะการจดั สรรความเป็นธรรม
8. ข้อใดคอื การไมย่ ึดติดอยู่กบั สงิ่ ใดสง่ิ หนงึ่ หรือความคิดใดความคดิ หนึง่
ก. ความยดื หย่นุ ข. การเผชิญหนา้ ค. การให้ข้อมูล ง. การมองโลกในแง่ดี
9. ขอ้ ใดคือวธิ กี ารสรา้ งความขัดแยง้
ก. เพิม่ ความจำกัดด้านทรัพยากร นนั่ คือ ลดทรัพยากรในการทำงานลง
ข. ลดเวลาการทำงานลง
ค. ขยายขอบเขตอำนาจหน้าที่ใหซ้ ำ้ ซ้อนกนั มากขน้ึ
ง. ถูกทุกข้อ
10.เมื่อประเดน็ ขัดแย้งเปน็ เรื่องไร้สาระและมีปัญหาอนื่ ๆ สำคัญกวา่ ควรใช้พฤติกรรมใดทเี่ หมาะสม
กบั ความขัดแยง้
ก. การเอาชนะ ข. การประนีประนอม ค. การหลีกเลี่ยง ง. การยอมให้
แบบทดสอบหลงั เรยี น
ฟฟ.
ภภ.
หนว่ ยที่ 7 เรื่อง การจดั การเพื่อลดความขัดแย้งในองค์กร
-------------------------------------------------------------------------
มม.
ยย.
คำส่งั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อที่ถูกต้องทสี่ ุด
1. ความขดั แย้งทเ่ี กิดจากเปา้ หมายของหน่วยงานย่อยแตกต่างกัน ทำให้ความสำคญั ของหน่วยงาน
ย่อยไม่เท่ากัน
ก. ความขัดแย้งเร่ืองระบบการทำงาน ข. ความขดั แย้งในเร่ืองการใช้ทรัพยากร
ค. ความขัดแย้งในเร่อื งการปฏบิ ัติงาน ง. ถกู ทกุ ข้อ
2. ข้อใดคือผลดีของความขดั แย้งท่ีมีตอ่ องคก์ ร
ก. ความร่วมมือระหว่างบคุ คล ข. เกดิ บรรยากาศที่ไมไ่ ว้วางใจกนั
ค. ภาพลกั ษณ์ขององค์กรเสยี หาย ง. ทำใหเ้ กดิ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
107
3. การแก้ไขความขดั แยง้ ทใี่ ช้อำนาจ หรอื ระเบียบข้อบังคบั คือการบรหิ ารความขดั แย้งด้วยวธิ ีใด
ก. วิธกี ารบงั คบั และกดดัน ข. วิธกี ารประนีประนอม
ค. การแก้ปัญหารว่ มกนั ง. ถูกทุกข้อ
4. ความสามารถสง่ั ให้ผอู้ ่ืนกระทำตามคือทักษะทจ่ี ำเป็นในการบริหารความขัดแย้งด้านใด
ก. ทกั ษะการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. ทักษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทกั ษะการจัดสรรความเป็นธรรม
5. ข้อใดคือวธิ กี ารสร้างความขัดแย้ง
ก. เพม่ิ ความจำกัดด้านทรัพยากร นน่ั คอื ลดทรัพยากรในการทำงานลง
ข. ลดเวลาการทำงานลง
ค. ขยายขอบเขตอำนาจหน้าท่ีใหซ้ ้ำซ้อนกันมากข้นึ
ง. ถกู ทุกข้อ
6. เมอ่ื ประเดน็ ขดั แย้งเปน็ เร่ืองไร้สาระและมปี ัญหาอนื่ ๆ สำคัญกว่า ควรใช้พฤติกรรมใดทีเ่ หมาะสม
กับความขัดแย้ง
ก. การเอาชนะ ข. การประนีประนอม ค. การหลีกเลีย่ ง ง. การยอมให้
7. ทกั ษะที่เป็นวธิ ีท่ที ำให้แต่ละฝ่ายได้รบั ส่ิงทเ่ี ขาควรจะได้
ก. ทกั ษะการวิเคราะห์สถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทักษะการใชอ้ ำนาจ ง. ทกั ษะการจัดสรรความเป็นธรรม
8. ขอ้ ใดคือการไมย่ ึดติดอยกู่ บั สิ่งใดสิ่งหนง่ึ หรือความคิดใดความคดิ หนง่ึ
ก. ความยืดหยุน่ ข. การเผชิญหนา้ ค. การให้ขอ้ มูล ง. การมองโลกในแงด่ ี
9. ในการศึกษาความขัดแย้งแบ่งแนวคดิ เกยี่ วกับความขัดแย้งเปน็ ก่กี ลมุ่
ก. 2 กลุม่ ข. 3 กลุ่ม ค. 4 กลุม่ ง. 5 กล่มุ
10.ความขดั แย้งระหวา่ งแผนก ระหวา่ งทีมงาน หรือความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานย่อย ถือเป็น
ความขัดแย้งประเภทใด
ก. ความขดั แย้งภายในตัวบุคคล ข. ความขดั แยง้ ระหวา่ งบุคคล
ค. ความขดั แย้งระหว่างกลุ่ม ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
รร.
ลล.
หน่วยท่ี 7 เรอื่ ง การจัดการเพ่อื ลดความขัดแย้งในองคก์ ร
-------------------------------------------------------------------------
วว.
ศศ.
คำสัง่ จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าข้อท่ถี ูกตอ้ งทีส่ ุด
1. ความขดั แย้งทเ่ี กิดจากเป้าหมายของหน่วยงานย่อยแตกตา่ งกัน ทำให้ความสำคัญของหน่วยงาน
ยอ่ ยไม่เทา่ กนั
ก. ความขัดแย้งเร่ืองระบบการทำงาน ข. ความขัดแยง้ ในเรอ่ื งการใชท้ รพั ยากร
ค. ความขัดแย้งในเรือ่ งการปฏิบัตงิ าน ง. ถกู ทกุ ข้อ
2. ขอ้ ใดคือผลดีของความขดั แย้งที่มตี อ่ องคก์ ร
ก. ความรว่ มมอื ระหว่างบคุ คล ข. เกิดบรรยากาศทไ่ี ม่ไว้วางใจกัน
ค. ภาพลักษณ์ขององคก์ รเสยี หาย ง. ทำให้เกดิ ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
108
3. การแก้ไขความขดั แย้งทใี่ ช้อำนาจ หรอื ระเบียบข้อบงั คบั คือการบรหิ ารความขดั แยง้ ดว้ ยวธิ ีใด
ก. วธิ ีการบงั คับและกดดัน ข. วธิ ีการประนปี ระนอม
ค. การแก้ปัญหาร่วมกนั ง. ถกู ทกุ ข้อ
4. ความสามารถสง่ั ให้ผู้อื่นกระทำตามคือทักษะทจ่ี ำเปน็ ในการบริหารความขดั แย้งด้านใด
ก. ทักษะการวิเคราะหส์ ถานการณ์ ข. ทักษะการเจรจา
ค. ทกั ษะการใช้อำนาจ ง. ทักษะการจัดสรรความเป็นธรรม
5. ข้อใดคอื วิธกี ารสร้างความขดั แยง้
ก. เพมิ่ ความจำกัดด้านทรัพยากร นัน่ คอื ลดทรัพยากรในการทำงานลง
ข. ลดเวลาการทำงานลง
ค. ขยายขอบเขตอำนาจหน้าท่ีใหซ้ ำ้ ซอ้ นกันมากข้นึ
ง. ถกู ทุกข้อ
6. เม่ือประเดน็ ขัดแยง้ เป็นเร่ืองไรส้ าระและมปี ัญหาอืน่ ๆ สำคัญกวา่ ควรใช้พฤติกรรมใดทเ่ี หมาะสม
กับความขัดแยง้
ก. การเอาชนะ ข. การประนีประนอม ค. การหลีกเลีย่ ง ง. การยอมให้
7. ทกั ษะท่เี ป็นวธิ ีท่ีทำให้แตล่ ะฝ่ายได้รบั ส่งิ ที่เขาควรจะได้
ก. ทักษะการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. ทกั ษะการเจรจา
ค. ทักษะการใชอ้ ำนาจ ง. ทกั ษะการจดั สรรความเป็นธรรม
8. ข้อใดคือการไมย่ ึดติดอยกู่ บั สิง่ ใดสงิ่ หนงึ่ หรอื ความคิดใดความคดิ หน่ึง
ก. ความยืดหยนุ่ ข. การเผชญิ หน้า ค. การใหข้ ้อมูล ง. การมองโลกในแง่ดี
9. ในการศึกษาความขัดแยง้ แบง่ แนวคดิ เกย่ี วกบั ความขัดแยง้ เป็นก่กี ล่มุ
ก. 2 กลุ่ม ข. 3 กลุ่ม ค. 4 กลุ่ม ง. 5 กลุ่ม
10.ความขัดแย้งระหวา่ งแผนก ระหวา่ งทมี งาน หรอื ความขดั แย้งระหวา่ งหนว่ ยงานย่อย ถือเปน็
ความขดั แย้งประเภทใด
ก. ความขัดแย้งภายในตวั บคุ คล ข. ความขัดแย้งระหว่างบคุ คล
ค. ความขดั แย้งระหวา่ งกลุ่ม ง. ถกู ทุกข้อ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ษษ.
สส.
หนว่ ยท่ี 8 เร่อื ง การนำกิจกรรมระบบคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจัดการอาชพี
-------------------------------------------------------------------------
หห.
ฬฬ.
คำส่งั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหน้าขอ้ ทถ่ี ูกต้องทส่ี ุด
1. ดำเนนิ การแก้ไขปัญหาตามวงจร ประกอบดว้ ย การวางแผน จากน้นั ก็ลงมือปฏบิ ตั ิตามแผนทวี่ าง
ไว้ การตรวจสอบผลทีไ่ ด้จากการปฏิบตั วิ ่าตรงตามเปา้ หมายหรอื ไม่ การตดั สินใจในการแก้ปญั หา
หากประสบผลสำเร็จตามท่ีได้วางเป้าหมายไว้กจ็ ะต้องนำเข้าขนั้ ตอนต่อไปหมายถึงกิจกรรมในข้อใด
ก. PDCA ข. QCC ค. TQM ง. TQC
2. ขอ้ ใดคือเครอื่ งมือที่ใช้แสดงข้อมลู ขององค์กรหรอื หน่วยงานเพอ่ื แสดงความแตกต่างของขอ้ มลู และ
การควบคมุ ตามแผนภมู ิ
ก. แผนภูมกิ ้างปลา ข. ฮสี โตแกรม
109
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภูมิควบคุม
3. การแปลข้อมูล โดยใช้กราฟเป็นเครื่องมือ ใชใ้ นการแสดงเพื่อให้เข้าใจง่าย อาจเป็นกราฟแท่ง
กราฟเสน้ กราฟวงกลม หมายถึงข้อใด
ก. แผนภูมิกา้ งปลา ข. ฮีสโตแกรม
ค. การจำแนกข้อมลู ง. กราฟและแผนภูมิควบคุม
4. ขอ้ ใดหมายถงึ เทคนิคทเี่ นน้ การปรบั เปลี่ยนให้มเี ทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใชใ้ นกิจการ
ก. กจิ กรรมการควบคุมคณุ ภาพ ข. กจิ กรรมการปรบั รื้อ
ค. มาตรฐานระบบคุณภาพ ง. การบริหารองค์กร
5. ขอ้ ใดหมายถงึ การบนั ทึกและวเิ คราะห์วธิ กี ารทำงานท่ีทำอยู่ และหาวธิ ีหรอื เทคนิคใหม่ๆ ขนึ้ มา
นำเสนออยา่ งเป็นระบบ เพือ่ ชว่ ยให้การทำงานงา่ ยขน้ึ
ก. การทำงานเปน็ ทีม ข. การวัดปรมิ าณงาน ค. ศึกษาวิธกี ารทำงาน ง. ถกู ทกุ ข้อ
6. การทผี่ บู้ ริหารมีหนา้ ที่ที่เกีย่ วกับการแจกจ่ายข้อมลู ท่ีได้รับจากสมาชิกภายนอกองค์กรให้กับสมาชกิ
ขององค์กรหมายถงึ บทบาทตามขอ้ ใด
ก. เปน็ ผคู้ อยตดิ ตามข้อมลู ข. เปน็ ผ้ถู า่ ยทอดข้อมลู ค. เปน็ โฆษก ง. เปน็ ผู้นำ
7. การเตรียมพร้อมท่ีจะรับฟงั คำสง่ั จากผบู้ งั คับบัญชา หรอื การรบั คำแนะนำเกยี่ วกับงานในสำนักงาน
นน้ั ๆหมายถงึ คณุ สมบตั ิทดี่ ขี องพนกั งานตามขอ้ ใด
ก. บคุ ลิกในการแสดงตน ข. บคุ ลกิ ลกั ษณะของตัวบุคคล
ค. คุณลกั ษณะประจำตัวของบุคคล ง. ความสามารถในการทำงาน
8. การรจู้ ักปรบั ปรุงตวั เองและงานให้เหมาะสมถูกต้อง และดำเนนิ งานไปด้วยความเรยี บร้อย
ตลอดจนการฝึกฝนความชำนาญต่างๆหมายถงึ คุณสมบตั ิท่ีดขี องพนกั งานตามขอ้ ใด
ก. บุคลิกในการแสดงตน ข. บคุ ลกิ ลักษณะของตัวบคุ คล
ค. คณุ ลักษณะประจำตัวของบคุ คล ง. ความสามารถในการทำงาน
9. การบรหิ ารแบ่งออกเป็นกร่ี ะดับ
ก. 2 ระดับ ข. 3 ระดบั ค. 4 ระดับ ง. 5 ระดบั
10.ข้อใดไม่ใช่กระบวนการบริหารเพอื่ บรรลวุ ัตถุประสงค์ขององค์กร
ก. การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. การกำหนดกลยุทธ์ขององคก์ ร
ค. การปฏบิ ตั ติ ามกลยทุ ธ์ ง. การดำเนินการแกไ้ ข
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ออ.
ฮฮ.
หนว่ ยท่ี 8 เรอ่ื ง การนำกิจกรรมระบบคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ มาประยุกตใ์ ชใ้ นการจดั การอาชพี
-------------------------------------------------------------------------
กกก.
ขขข.
คำสงั่ จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ที่ถูกต้องที่สดุ
๑. ดำเนินการแกไ้ ขปัญหาตามวงจร ประกอบด้วย การวางแผน จากนนั้ กล็ งมือปฏิบตั ติ ามแผนท่ีวาง
ไว้ การตรวจสอบผลทไี่ ดจ้ ากการปฏบิ ัตวิ ่าตรงตามเป้าหมายหรือไม่ การตดั สนิ ใจในการแก้ปัญหา
หากประสบผลสำเร็จตามที่ได้วางเป้าหมายไว้กจ็ ะต้องนำเข้าข้นั ตอนต่อไปหมายถึงกิจกรรมในข้อใด
ก. PDCA ข. QCC ค. TQM ง. TQC
๒. ขอ้ ใดคอื เครอ่ื งมือท่ีใช้แสดงข้อมลู ขององค์กรหรือหน่วยงานเพอ่ื แสดงความแตกตา่ งของข้อมูลและ
การควบคุมตามแผนภูมิ
ก. แผนภูมิกา้ งปลา ข. ฮสี โตแกรม
110
ค. การจำแนกข้อมลู ง. กราฟและแผนภูมิควบคุม
๓. การแปลข้อมลู โดยใช้กราฟเป็นเครอ่ื งมอื ใช้ในการแสดงเพ่ือให้เขา้ ใจง่าย อาจเป็นกราฟแท่ง
กราฟเสน้ กราฟวงกลม หมายถงึ ข้อใด
ก. แผนภมู ิก้างปลา ข. ฮสี โตแกรม
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภูมิควบคมุ
๔. ข้อใดหมายถึงเทคนิคท่เี น้นการปรบั เปล่ียนให้มเี ทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใชใ้ นกจิ การ
ก. กิจกรรมการควบคุมคุณภาพ ข. กิจกรรมการปรับรือ้
ค. มาตรฐานระบบคุณภาพ ง. การบริหารองค์กร
5. ข้อใดหมายถึง การบันทึกและวเิ คราะหว์ ธิ ีการทำงานท่ีทำอยู่ และหาวิธหี รอื เทคนคิ ใหม่ๆ ขนึ้ มา
นำเสนออยา่ งเป็นระบบ เพื่อช่วยใหก้ ารทำงานงา่ ยขน้ึ
ก. การทำงานเป็นทีม ข. การวดั ปริมาณงาน ค. ศึกษาวธิ ีการทำงาน ง. ถูกทกุ ข้อ
6. การที่ผูบ้ ริหารมีหนา้ ท่ีที่เก่ยี วกบั การแจกจา่ ยข้อมลู ท่ีไดร้ ับจากสมาชิกภายนอกองค์กรให้กบั สมาชิก
ขององค์กรหมายถงึ บทบาทตามข้อใด
ก. เป็นผู้คอยตดิ ตามข้อมูล ข. เปน็ ผู้ถา่ ยทอดข้อมูล ค. เป็นโฆษก ง. เปน็ ผูน้ ำ
7. การเตรยี มพร้อมทีจ่ ะรบั ฟังคำส่ังจากผบู้ งั คับบัญชา หรอื การรบั คำแนะนำเกยี่ วกบั งานในสำนกั งาน
น้ันๆหมายถึงคุณสมบัติทีด่ ีของพนักงานตามขอ้ ใด
ข. บุคลกิ ในการแสดงตน ข. บุคลิกลกั ษณะของตวั บคุ คล
ค. คณุ ลกั ษณะประจำตวั ของบุคคล ง. ความสามารถในการทำงาน
8. การรู้จกั ปรบั ปรงุ ตัวเองและงานให้เหมาะสมถกู ต้อง และดำเนินงานไปด้วยความเรียบร้อย
ตลอดจนการฝึกฝนความชำนาญต่างๆหมายถงึ คุณสมบตั ิที่ดขี องพนักงานตามข้อใด
ข. บคุ ลกิ ในการแสดงตน ข. บุคลกิ ลกั ษณะของตวั บุคคล
ค. คณุ ลกั ษณะประจำตัวของบคุ คล ง. ความสามารถในการทำงาน
9. การบรหิ ารแบ่งออกเปน็ กร่ี ะดับ
ข. 2 ระดบั ข. 3 ระดับ ค. 4 ระดับ ง. 5 ระดบั
10.ขอ้ ใดไม่ใช่กระบวนการบริหารเพือ่ บรรลุวัตถุประสงค์ขององคก์ ร
ข. การวเิ คราะห์สถานการณ์ ข. การกำหนดกลยุทธ์ขององคก์ ร
ค. การปฏบิ ตั ิตามกลยุทธ์ ง. การดำเนนิ การแกไ้ ข
แบบทดสอบหลงั เรียน
คคค.
งงง .
หน่วยที่ 8 เรอ่ื ง การนำกิจกรรมระบบคุณภาพและเพมิ่ ผลผลิตมาประยกุ ต์ใช้ในการจดั การอาชพี
-------------------------------------------------------------------------
จจจ.
ฉฉฉ.
คำส่ัง จงทำเคร่ืองหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ขอ้ ทถี่ ูกต้องที่สดุ
1. ขอ้ ใดหมายถงึ การบนั ทึกและวิเคราะหว์ ธิ ีการทำงานทท่ี ำอยู่ และหาวิธหี รอื เทคนิคใหม่ๆ ขนึ้ มา
นำเสนออย่างเป็นระบบ เพอื่ ช่วยใหก้ ารทำงานง่ายขึ้น
ก. การทำงานเปน็ ทีม ข. การวดั ปรมิ าณงาน ค. ศึกษาวธิ ีการทำงาน ง. ถกู ทุกข้อ
2. การทีผ่ บู้ ริหารมหี น้าที่ทีเ่ กย่ี วกับการแจกจ่ายข้อมูลท่ีไดร้ ับจากสมาชิกภายนอกองค์กรให้กับสมาชกิ
ขององค์กรหมายถงึ บทบาทตามข้อใด
ก. เปน็ ผ้คู อยติดตามข้อมลู ข. เปน็ ผู้ถา่ ยทอดขอ้ มูล ค. เป็นโฆษก ง. เปน็ ผู้นำ
111
3. การเตรียมพร้อมทจ่ี ะรบั ฟังคำสั่งจากผบู้ งั คบั บัญชา หรอื การรบั คำแนะนำเกี่ยวกับงานในสำนักงาน
นน้ั ๆหมายถงึ คณุ สมบัติที่ดีของพนกั งานตามขอ้ ใด ข. บคุ ลิกลกั ษณะของตัวบคุ คล
ก. บุคลกิ ในการแสดงตน ง. ความสามารถในการทำงาน
ค. คุณลักษณะประจำตวั ของบคุ คล
4. การรจู้ ักปรับปรงุ ตัวเองและงานให้เหมาะสมถูกต้อง และดำเนนิ งานไปดว้ ยความเรียบร้อย
ตลอดจนการฝึกฝนความชำนาญต่างๆหมายถงึ คุณสมบัติท่ีดีของพนักงานตามขอ้ ใด
ก. บุคลกิ ในการแสดงตน ข. บุคลิกลักษณะของตัวบุคคล
ค. คุณลักษณะประจำตัวของบคุ คล ง. ความสามารถในการทำงาน
5. การบริหารแบ่งออกเป็นกรี่ ะดับ
ก. 2 ระดบั ข. 3 ระดบั ค. 4 ระดบั ง. 5 ระดับ
6. ขอ้ ใดไม่ใช่กระบวนการบรหิ ารเพือ่ บรรลุวัตถุประสงค์ขององคก์ ร
ก. การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. การกำหนดกลยุทธ์ขององค์กร
ค. การปฏบิ ัติตามกลยุทธ์ ง. การดำเนนิ การแก้ไข
7. ดำเนนิ การแกไ้ ขปัญหาตามวงจร ประกอบดว้ ย การวางแผน จากนั้นก็ลงมอื ปฏิบตั ติ ามแผนท่ีวาง
ไว้ การตรวจสอบผลท่ีได้จากการปฏบิ ัติว่าตรงตามเปา้ หมายหรือไม่ การตดั สินใจในการแกป้ ญั หา
หากประสบผลสำเรจ็ ตามท่ีได้วางเปา้ หมายไว้ก็จะต้องนำเข้าขน้ั ตอนต่อไปหมายถึงกจิ กรรมในข้อใด
ก. PDCA ข. QCC ค. TQM ง. TQC
8. ข้อใดหมายถงึ เทคนิคทเ่ี นน้ การปรบั เปลยี่ นใหม้ เี ทคโนโลยใี หมๆ่ เข้ามาใช้ในกจิ การ
ก. กิจกรรมการควบคุมคณุ ภาพ ข. กจิ กรรมการปรับรื้อ
ค. มาตรฐานระบบคุณภาพ ง. การบรหิ ารองค์กร
9. ขอ้ ใดคือเครอ่ื งมือท่ีใชแ้ สดงข้อมลู ขององค์กรหรอื หน่วยงานเพอื่ แสดงความแตกตา่ งของขอ้ มูลและ
การควบคมุ ตามแผนภูมิ
ก. แผนภูมกิ า้ งปลา ข. ฮีสโตแกรม
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภูมิควบคมุ
10.การแปลข้อมลู โดยใชก้ ราฟเปน็ เครอื่ งมือ ใช้ในการแสดงเพือ่ ให้เขา้ ใจง่าย อาจเป็นกราฟแท่ง
กราฟเส้น กราฟวงกลม หมายถงึ ข้อใด ข. ฮีสโตแกรม
ก. แผนภูมิกา้ งปลา
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภมู ิควบคุม
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
ชชช.
ซซซ.
หนว่ ยที่ 8 เรอ่ื ง การนำกิจกรรมระบบคณุ ภาพและเพิ่มผลผลิตมาประยุกตใ์ ช้ในการจดั การอาชีพ
-------------------------------------------------------------------------
ฌฌฌ.
ญญญ.
คำสัง่ จงทำเครอื่ งหมายกากบาท ( X ) ลงหนา้ ข้อท่ีถูกตอ้ งที่สดุ
1. ขอ้ ใดหมายถงึ การบันทึกและวเิ คราะห์วิธกี ารทำงานทที่ ำอยู่ และหาวธิ หี รือเทคนิคใหม่ๆ ข้นึ มา
นำเสนออย่างเปน็ ระบบ เพื่อช่วยใหก้ ารทำงานงา่ ยข้ึน
ก. การทำงานเปน็ ทีม ข. การวดั ปรมิ าณงาน ค. ศกึ ษาวิธกี ารทำงาน ง. ถกู ทุกข้อ
2. การทีผ่ ู้บริหารมีหนา้ ท่ีที่เกยี่ วกบั การแจกจ่ายข้อมลู ท่ีไดร้ ับจากสมาชิกภายนอกองค์กรให้กบั สมาชิก
ขององค์กรหมายถึงบทบาทตามขอ้ ใด
ก. เปน็ ผ้คู อยติดตามข้อมูล ข. เปน็ ผถู้ า่ ยทอดข้อมูล ค. เป็นโฆษก ง. เปน็ ผ้นู ำ
112
3. การเตรยี มพร้อมท่ีจะรบั ฟังคำสง่ั จากผู้บงั คบั บัญชา หรอื การรบั คำแนะนำเกีย่ วกับงานในสำนักงาน
น้นั ๆหมายถึงคณุ สมบัติทดี่ ขี องพนกั งานตามขอ้ ใด ข. บคุ ลกิ ลักษณะของตัวบุคคล
ก. บุคลิกในการแสดงตน ง. ความสามารถในการทำงาน
ค. คุณลักษณะประจำตวั ของบคุ คล
4. การรู้จกั ปรบั ปรุงตัวเองและงานใหเ้ หมาะสมถกู ต้อง และดำเนนิ งานไปดว้ ยความเรียบร้อย
ตลอดจนการฝึกฝนความชำนาญต่างๆหมายถึงคุณสมบตั ิท่ีดขี องพนกั งานตามข้อใด
ก. บุคลิกในการแสดงตน ข. บคุ ลกิ ลักษณะของตัวบุคคล
ค. คุณลกั ษณะประจำตัวของบุคคล ง. ความสามารถในการทำงาน
5. การบรหิ ารแบง่ ออกเป็นกรี่ ะดับ
ก. 2 ระดับ ข. 3 ระดบั ค. 4 ระดบั ง. 5 ระดบั
6. ข้อใดไมใ่ ช่กระบวนการบรหิ ารเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร
ก. การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ข. การกำหนดกลยุทธ์ขององค์กร
ค. การปฏิบตั ติ ามกลยทุ ธ์ ง. การดำเนินการแกไ้ ข
7. ดำเนนิ การแกไ้ ขปญั หาตามวงจร ประกอบดว้ ย การวางแผน จากนัน้ กล็ งมอื ปฏบิ ัตติ ามแผนทวี่ าง
ไว้ การตรวจสอบผลท่ีได้จากการปฏบิ ตั วิ า่ ตรงตามเป้าหมายหรือไม่ การตดั สินใจในการแก้ปญั หา
หากประสบผลสำเร็จตามท่ีได้วางเป้าหมายไวก้ จ็ ะต้องนำเข้าข้ันตอนต่อไปหมายถึงกจิ กรรมในข้อใด
ก. PDCA ข. QCC ค. TQM ง. TQC
8. ข้อใดหมายถึงเทคนิคทเ่ี น้นการปรับเปล่ยี นใหม้ เี ทคโนโลยใี หมๆ่ เข้ามาใช้ในกจิ การ
ก. กิจกรรมการควบคุมคุณภาพ ข. กจิ กรรมการปรับรื้อ
ค. มาตรฐานระบบคุณภาพ ง. การบรหิ ารองค์กร
9. ขอ้ ใดคอื เครือ่ งมือที่ใช้แสดงข้อมลู ขององค์กรหรอื หน่วยงานเพ่อื แสดงความแตกตา่ งของข้อมลู และ
การควบคมุ ตามแผนภมู ิ
ก. แผนภมู ิกา้ งปลา ข. ฮสี โตแกรม
ค. การจำแนกข้อมลู ง. กราฟและแผนภมู คิ วบคุม
10.การแปลข้อมลู โดยใช้กราฟเป็นเคร่ืองมอื ใช้ในการแสดงเพ่ือใหเ้ ข้าใจง่าย อาจเป็นกราฟแทง่
กราฟเส้น กราฟวงกลม หมายถึงข้อใด ข. ฮีสโตแกรม
ก. แผนภูมิก้างปลา
ค. การจำแนกข้อมูล ง. กราฟและแผนภมู ิควบคมุ
เอกสารอา้ งอิง(ถ้ามี) / บรรณานกุ รม (มเี ฉพาะท้ายเล่มก็ได)้
สมคดิ บางโม องค์การและการจัดการ สำนักพมิ พด์ ีการพิมพ์ กรงุ เทพฯ 2553
อารยี ์ หวงั เจริญ หลกั การจดั การ สำนกั พิมพศ์ ูนยส์ ่งเสริมวิชาการ กรงุ เทพฯ 2550
บรรจง จันทมาศ การพฒั นางานดว้ ยระบบบริหารคณุ ภาพและเพ่มิ ผลผลติ
สำนกั พมิ พ์ ส.ส.ท สมาคมส่งเสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญ่ีปนุ่ )
ทวี มณีสายและคณะ กรุงเทพฯ 2547
การพัฒนางานด้วยระบบคุณภาพและเพิ่มผลผลิต
สมชาย วณารกั ษ์ สำนกั พิมพ์ศูนยส์ ่งเสริมวิชาการ กรงุ เทพฯ 2546
การพฒั นางานด้วยระบบคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต
หรรษา เขตตบ์ รรพต สำนกั พมิ พ์เอมพันธ์ จำกัด กรุงเทพ 2549
การเพ่ิมประสทิ ธิภาพในองค์กร
พรพรรณ โสภาพล 113
ปิยดา ดลิ กปรีชากุล สำนกั พมิ พ์ บรษิ ัท ศูนยห์ นังสือ เมืองไทย จำกัด กรงุ เทพ 2554
สยาม อรณุ ศรีมรกต เทคโนโลยกี ารบริหารงานเอกสาร
สำนักพิมพ์เอมพันธ์ จำกดั กรุงเทพ 2550
การพัฒนางานด้วยระบบคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ
สำนกั พมิ พ์เอมพันธ์ จำกดั กรุงเทพ 2546
ISO 14001 : 2004 ระบบมาตรฐานการจัดการส่งิ แวดล้อม
สำนกั พิมพ์ ห้างห้นุ สว่ นจำกัด บางกอกบล๊อก กรงุ เทพ 2551