ชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี
เแทผนคกาโรนจัดโกลารยเรยีี นรู
(วิทยาการคาํ นวณ)
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ๔
ปก ารศึกษา ๒๕๖๓
กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
นางสาวตเาํตแชหนินงี คภรู ริคมศ.ย๑
โรงเรียนวงั หนิ วทิ ยาคม
สํานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา นครศรีธรรมราช
สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
คำอธิบายรายวชิ า
รายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 20 ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคำนวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบ
การคิดเชงิ นามธรรม ตวั อยา่ งและประโยชน์ของแนวคิดเชงิ คำนวณเพ่ือแก้ปัญหาในชวี ิตประจำวัน ประยุกต์ใช้
แนวคิดเชงิ คำนวณในการออกแบบขั้นตอนวิธสี ำหรับแก้ปัญหา การแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมูล
เข้า ข้อมูลออก และเงื่อนไขของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธี การทำซ้ำ การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล
ตัวอย่างการออกแบบขั้นตอนวิธีเพื่อแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศึกษาตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยี
สารสนเทศ การกำหนดปัญหา ศกึ ษา วางแผน ดำเนนิ งาน สรุปผลและเผยแพร่ ในการพฒั นาโครงงานที่มี
การบูรณาการรว่ มกบั วชิ าอ่นื และเชอ่ื มโยงกับชวี ิตจริง
ตวั ชี้วัด
ว. 4.2 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานท่มี ี
การบูรณาการกับวชิ าอ่นื อย่างสรา้ งสรรค์ และเชอ่ื มโยงกับชีวติ จริง
รวม 1 ตวั ชว้ี ดั
โครงสรา้ งแผนก
รายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทค
หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ สี อน/วธิ ีการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้
๑. แนวคดิ เชงิ คำนวณใน
การพัฒนาโครงงาน แผนท่ี ๑แนวคิดเชงิ คำนวณ แบบสบื เสาะหาความรู้ ๕
(๕Es Instructional
Model)
แผนท่ี ๒ การพัฒนา แบบสบื เสาะหาความรู้ ๕
โครงงานด้าน (๕Es Instructional
เทคโนโลยี Model)
การจดั การเรียนรู้
คโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.๔
ทกั ษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา (ชั่วโมง)
๕Es - ทกั ษะการคดิ เชงิ คำนวณ - ตรวจผลงานการใช้แนวคิดเชงิ ๓
๓
- ทกั ษะการสื่อสาร คำนวณในการแก้ปัญหาตามท่ี
- ทักษะการทำงานร่วมกัน กำหนด
- ทักษะกระบวนการคิด - ตรวจแบบฝึกหัดท่ี ๑.๑ เรอ่ื ง
อย่างมวี ิจารณญาณ แนวคดิ เชงิ คำนวณในการ
- ทักษะการแก้ปญั หา แก้ปญั หา
- ตรวจใบงาน ๑.๑ เรอ่ื ง แนวคิด
เชิงคำนวณ
๕Es - ทักษะการคิดเชงิ คำนวณ - สังเกตการอภิปรายเก่ยี วกับ
- ทักษะการสือ่ สาร หลักการการพัฒนาโครงงาน
- ทักษะการทำงานร่วมกนั ดา้ นเทคโนโลยี
- ทักษะกระบวนการคิด - ตรวจการปฏิบัติกิจกรรม
อย่างมีวจิ ารณญาณ แนวคิด
- ทักษะการแก้ปญั หา เชิงคำนวณ
- ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก
Unit Question ๑
หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธีสอน/วิธกี ารจัด
กจิ กรรมการเรียนรู้
๒. การประยุกต์ใชแ้ นวคิด แผนที่ ๑ แบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน
เชิงคำนวณเพ่ือพฒั นา
โครงงาน กรณศี ึกษาที่ ๑ (Problem - based
โครงงานพัฒนา Learning)
เว็บไซตแ์ นะนำการ
ใชห้ ้องสมุด
แผนที่ ๒ แบบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน
กรณศี ึกษาที่ ๒ (Problem - based
โครงงานพฒั นา Learning)
โปรแกรมแจง้ เตือน
การกินยาผ่าน
สมารต์ โฟนหรอื
แท็บเล็ต
ทักษะท่ีได้ การประเมนิ เวลา (ช่ัวโมง)
- ตรวจใบงาน ๑.๒ เรอ่ื งการ
พัฒนาโครงงานดา้ นเทคโนโลยี
- ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี - ตรวจสอบผลงานการนำเสนอ ๔
๔
สารสนเทศ ปญั หาและวิธีการแกป้ ญั หา
- ทกั ษะการสังเกต ของกรณีศึกษาที่ ๑
- ทกั ษะการส่ือสาร
- ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน
- ทกั ษะการแก้ปญั หา
- ทักษะการคดิ เชิงคำนวณ
- ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี - สังเกตการอภปิ รายเกี่ยวกับ
สารสนเทศ ความรู้ทไ่ี ดจ้ ากกรณศี ึกษาที่ ๒
- ทักษะการสงั เกต - ตรวจแผนผงั ความคิดทไ่ี ด้
- ทักษะการสื่อสาร จากกรณีศึกษาที่ ๒
- ทักษะการทำงานรว่ มกนั
- ทกั ษะการแก้ปญั หา
- ทักษะการคิดเชงิ คำนวณ
หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธีสอน/วธิ กี ารจัด
แผนที่ ๓ พฒั นาโครงงาน กิจกรรมการเรียนรู้
แบบใช้โครงงานเปน็ ฐาน
(Project - based
Learning)
ทักษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา (ช่ัวโมง)
- ทักษะการสื่อสาร - สังเกตพฤติกรรมการทำ ๖
- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั โครงงานร่วมกนั ของผู้เรียน
- ทกั ษะการแก้ปัญหา - ตรวจสอบผลงานจากโครงงาน
- ทักษะการคิดเชิงคำนวณ ทผ่ี ู้เรยี นพัฒนา
- ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ
โครงสร้างรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง
ลำดบั ช่ือหน่วยการเรยี น สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
ท่ี (ช่วั โมง) คะแนน
แนวคดิ เชิงคำนวณ เป็นความสามารถใน
๑ แนวคดิ เชงิ คำนวณในการพัฒนา การแก้ไขปญั หาโดยมุง่ เนน้ การคิด ๖ ๓๐
เชิงตรรกะ หรอื เป็นการแก้ไขปัญหา
โครงงาน อยา่ งเปน็ ลำดบั ขน้ั ตอน และมีวิธีการ ๑๔ ๔๐
แก้ปญั หาอยา่ งมรี ะบบ
๒ การนำแนวคดิ เชิงคำนวณพัฒนา การพัฒนาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยี
โครงงานท่ีเกี่ยวกับชีวติ ประจำวนั เป็นการนำแนวคดิ เชิงคำนวณมา
แกป้ ัญหาต่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบ เพ่ือให้
โครงงานสำเรจ็ ลุล่วงตามเปา้ หมาย
ตัวช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง วทิ ยาศาสตร์
สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม
ชั้น ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ม.๔ ๑. ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชิงคำนวณ • การพัฒนาโครงงาน
ในการพัฒนาโครงงานที่มี • การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
การบูรณาการกับวิชาอ่ืน เช่น การจัดการพลังงาน อาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย
อย่างสรา้ งสรรค์ และเชอ่ื มโยง การทำธรุ กรรม สุขภาพและสิง่ แวดล้อม
กบั ชวี ติ จริง • ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบอัตโนมัติควบคุมการ
ปลูกพืช ระบบจัดเส้นทาง การขนส่งผลผลิต ระบบแนะนำการใช้งาน
ห้องสมุดท่ีมีการโต้ตอบกับผใู้ ช้และเชื่อมตอ่ กบั ฐานขอ้ มูล
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
เวลาเรยี น ๖ ชั่วโมง
รหัสวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ แนวคดิ เชงิ คำนวณในการพัฒนาโครงงาน
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖3 ครูผู้สอน นางสาวเตชนิ ี ภิรมย์
๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด
ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ รูเ้ ท่าทนั และมจี ริยธรรม
ว ๔.๒ ม.๔/๑ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณาการกับวิชาอื่น
อยา่ งสร้างสรรค์ และเชื่อมโยงกบั ชีวติ จรงิ
๒. สาระการเรียนรู้
๒.๑ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๑) การพฒั นาโครงงาน
๒) การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน
อาหาร การเกษตร การตลาด การคา้ ขาย การทำธุรกรรม สขุ ภาพและส่ิงแวดล้อม
๓) ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบอัตโนมัติควบคุมการปลูกพืช ระบบจัดเส้นทาง
การขนส่งผลผลิต ระบบแนะนำการใช้งานห้องสมุดที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้และเชื่อมต่อกับ
ฐานข้อมลู
๒.๒ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
-
๓. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
แนวคิดเชิงคำนวณ เป็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาโดยมุ่งเน้นการคิดเชิงตรรกะ หรือเป็นการแก้ไข
ปัญหาอยา่ งเป็นลำดบั ข้ันตอน และมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างมีระบบ
การพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี มีขั้นตอนเบือ้ งต้น ๖ ขั้นตอน ดังนี้ ๑) กำหนดปัญหา ๒) วิเคราะห์
ระบบ ๓) ออกแบบระบบ ๔) พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ๕) ติดตั้งระบบ ๖) บำรุงรักษาระบบ ซึ่งการ
พฒั นาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยจี ะตอ้ งนำแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกตใ์ ชใ้ นการทำโครงงาน
๔. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๑. มวี นิ ยั
๒. ความสามารถในการคดิ ๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
๑) ทักษะการคดิ เชิงคำนวณ
๒) ทักษะการส่ือสาร
๓) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน
๔) ทกั ษะกระบวนการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ
๕) ทักษะการแกป้ ัญหา
๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
๕. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
รายงานจากการทำกิจกรรม Com Sci Activity เร่อื ง แนวคิดเชิงคำนวณ ตามขัน้ ตอนเบ้ืองต้นของการ
พฒั นาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี
๖. การวัดและการประเมนิ ผล
รายการวัด วิธีวัด เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
- แบบประเมนิ ผลงาน/ ระดบั คุณภาพ ๒
๖.๑ การประเมินชิ้นงาน/ - ตรวจรายงานจากการ ผ่านเกณฑ์
ชน้ิ งาน
ภาระงาน (รวบยอด) ทำกิจกรรม Com Sci - ประเมินตามสภาพจรงิ
- แบบทดสอบก่อนเรียน
Activity เร่อื งแนวคิด
เชิงคำนวณ ตาม
ขน้ั ตอนเบอ้ื งต้นของ
การพัฒนาโครงงาน
ทางด้านเทคโนโลยี
๖.๒ การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ
- แบบทดสอบก่อน ก่อนเรียน
เรยี น หน่วยกา
เรียนรูท้ ี่ ๑ แนวคดิ
เชงิ คำนวณในการ
พัฒนาโครงงาน
รายการวัด วิธีวัด เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
๖.๓ การประเมนิ ระหว่าง
- ตรวจผลบันทึกการ - คำถามในข้ันกระต้นุ - ประเมินตามสภาพ
การจดั กจิ กรรม ตอบคำถาม
๑) ผลบันทกึ การตอบ ความสนใจ จรงิ
- ตรวจผลบนั ทึกการ
คำถามกระตนุ้ ใน ตอบคำถาม - คำถาม - ร้อยละ ๖๐ ผ่าน
ขนั้ กระตุ้นความ - ตรวจฟลิปชารต์ เกณฑ์
สนใจ แกป้ ญั หาโดยใช้ - แบบประเมนิ ผลงาน/
๒) ผลบนั ทึกการตอบ แนวคิดเชงิ คำนวณ ชนิ้ งาน - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่าน
คำถาม เกณฑ์
๓) ผลงานการใช้ - ตรวจใบงานที่ ๑.๑
แนวคดิ เชิง - ใบงานท่ี ๑.๑ - ร้อยละ ๖๐ ผา่ น
คำนวณในการ - ตรวจฟลิปชาร์ตการ เกณฑ์
แก้ปญั หา เขยี นแสดงวิธดี ำเนิน
๔) การนำแนวคดิ เชงิ โครงงาน - แบบประเมนิ ผลงาน/ - ระดบั คุณภาพ ๒
คำนวณไปใช้ใน - ตรวจใบงานที่ ๑.๒ ชนิ้ งาน ผ่านเกณฑ์
การแกป้ ญั หา
๕) ผลงานทีแ่ สดง - ประเมนิ การนำเสนอ - ใบงานท่ี ๑.๒ - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่าน
วิธีการดำเนนิ ผลงาน เกณฑ์
โครงงาน - สงั เกตพฤติกรรม
๖) การพฒั นา การทำงานรายบุคคล - ผลงานที่นำเสนอ - ระดบั คุณภาพ ๒
โครงงาน - สังเกตพฤติกรรม
ทางด้านเทคโนโลยี การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
๗) การนำเสนอ - สังเกตความมีวนิ ัย
ผลงาน ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มน่ั - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ ๒
๘) พฤติกรรมการ ในการทำงาน
ทำงานรายบคุ คล - ตรวจแบบทดสอบ การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
๙) พฤติกรรม หลงั เรียน
การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ ๒
๑๐) คุณลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์ การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
๖.๔ การประเมินหลังเรยี น - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ ๒
- แบบทดสอบหลงั
เรียน หน่วยการ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
เรียนรทู้ ่ี ๑
แนวคิด อนั พงึ ประสงค์
เชิงคำนวณในการ
พัฒนาโครงงาน - แบบทดสอบหลงั เรียน - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่าน
เกณฑ์
๗. กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา ๓ ช่ัวโมง
เวลา ๓ ช่ัวโมง
• แผนฯ ท่ี ๑ : แนวคิดเชิงคำนวณ รวมเวลา ๖ ชวั่ โมง
วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ ๕Es (๕Es Instructional Model)
• แผนฯ ที่ ๒ : การพฒั นาโครงงานดา้ นเทคโนโลยี
วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ ๕Es (๕Es Instructional Model)
๘. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
๘.๑ สือ่ การเรียนรู้
๑) หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.๔ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ แนวคิด
เชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงาน
๒) ใบงานท่ี ๑.๑ เรือ่ ง แนวคิดเชิงคำนวณ
๓) ใบงานท่ี ๑.๒ เร่ือง การพฒั นาโครงงานดา้ นเทคโนโลยี
๔) PowerPoint เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณ
๘.๒ แหลง่ การเรียนรู้
๑) หอ้ งเรียน
๒) หอ้ งสมดุ
๓) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
แบบทดสอภบก่อนเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
๑. ขอ้ ใดกล่าวถงึ แนวคิดเชิงคำนวณได้ไม่ถูกตอ้ ง ๖. ข้อใดไม่สอดคล้องกบั ขัน้ ตอนกำหนดปญั หา
๑. เป็นการคิดเหมอื นหุ่นยนต์ ๑. จัดทำแผนการดำเนินงาน
๒. เปน็ การแก้ปญั หาแบบมลี ำดับขนั้ ตอน ๒. การประชมุ ทมี งานผู้พฒั นา
๓. เปน็ ทักษะท่นี กั พฒั นาซอฟต์แวรต์ ้องมี ๓. วเิ คราะห์ความเปน็ ไปไดแ้ ละวางแผน
๔. มีแนวคดิ เชิงนามธรรมเปน็ หนง่ึ ในทกั ษะยอ่ ย ๔. จัดทำเอกสารการวางแผนการดำเนินงาน
๕. วิธีการแก้ปญั หาทมี่ นุษยแ์ ละคอมพิวเตอร์สามารถ ๕. ไมส่ ามารถปรบั ปรงุ แก้ไขแผนการดำเนินงานได้
๗. ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ งเก่ยี วกบั ขน้ั ตอนกับการวเิ คราะห์ระบบ
เข้าใจรว่ มกันได้ ๑. วิเคราะหค์ วามเป็นไปไดแ้ ละวางแผน
๒. การทม่ี งุ่ เน้นความสำคญั ของปัญหาโดยไมส่ นใจ ๒. ในขน้ั นไ้ี มจ่ ำเป็นต้องระบุวิธีการทำงาน
รายละเอียดทไี่ มจ่ ำเปน็ สอดคลอ้ งกับแนวคดิ ใด ๓. เป็นขั้นตอนการทำความเขา้ ใจกบั ระบบงาน
๑. แนวคิดเชงิ รูปธรรม ๒. แนวคดิ เชงิ นามธรรม
๓. แนวคดิ การแยกยอ่ ย ๔. แนวคดิ การจดจำรูปแบบ ๔. ในขั้นนี้มกี ารจดั ทำเอกสารการวิเคราะหร์ ะบบ
๕. แนวคดิ การออกแบบขั้นตอน ๕. มขี น้ั ตอนยอ่ ย ๒ ข้ันตอน คือ สัมภาษณผ์ ใู้ ชง้ าน และ
๓. การแก้ปัญหาโดยการออกแบบกระบวนการทำงาน วิเคราะห์ปญั หาและความตอ้ งการ
อย่างเปน็ ลำดับขน้ั ตอนสอดคลอ้ งกับแนวคิดใด ๘. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วัตถุประสงค์ของการสรา้ งแผนภาพกระแสข้อมลู
๑. แนวคดิ เชงิ รูปธรรม ๒. แนวคดิ เชิงนามธรรม
๓. แนวคดิ การแยกยอ่ ย ๔. แนวคดิ การจดจำรปู แบบ ๑. เปน็ ข้อตกลงร่วมกนั ระหวา่ งนกั วิเคราะหร์ ะบบและผู้ใช้งาน
๕. แนวคิดการออกแบบข้นั ตอน
๒. เปน็ แผนภาพท่ีประกอบดว้ ยกระบวนการเพยี งกระบวนการเดยี ว
๔. ขอ้ ใดไม่ใช่ทักษะยอ่ ยของแนวคดิ เชิงคำนวณ
๑. แนวคิดเชิงรูปธรรม ๒. แนวคดิ เชงิ นามธรรม ๓. เป็นแผนภาพท่ีใช้ในการพฒั นาต่อในขนั้ ตอนของการ
๓. แนวคดิ การแยกย่อย ๔. แนวคดิ การจดจำรปู แบบ
๕. แนวคดิ การออกแบบข้นั ตอน ออกแบบ
๕. ข้อใดสอดคลอ้ งกบั แนวคิดการแยกย่อย ระบบ
๑. การเขา้ ใจรปู แบบ
๒. การแยกแยะปญั หา ๔. เปน็ แผนภาพท่ใี ช้ในการอา้ งองิ หรอื เพือ่ ใช้ในการพัฒนาต่อใน
๓. การคดั เลือกวสั ดทุ ่ีนำมาใช้ทำชิ้นงาน
๔. การหาแนวคิดรวมยอดของแต่ละปญั หาย่อย อนาคต
๕. การออกแบบลำดบั ขนั้ ตอนของการแก้ปญั หา
๕. เปน็ แผนภาพทที่ ส่ี รปุ รวมขอ้ มลู ทัง้ หมดทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะห์
ในลักษณะของรปู แบบที่เป็นโครงสร้าง
๙. ขอ้ ใดไม่เกย่ี วขอ้ งกบั แผนภาพกระแสขอ้ มลู
๑. ตัวแทนข้อมลู ๒. แหลง่ จัดเกบ็ ขอ้ มลู
๓. ข้ันตอนการดำเนนิ งาน ๔. เสน้ ทางการไหลของข้อมลู
๕. หนา้ จอส่วนตดิ ตอ่ กับผ้ใู ช้งาน
๑๐. ข้อใดไมใ่ ช่ขั้นตอนเบื้องต้นของการพฒั นาโครงงานทางด้าน
เทคโนโลยี
๑. ตดิ ตั้งระบบ ๒. ออกแบบระบบ
๓. เลอื กวธิ ีทดี่ ที สี่ ดุ ๔. บำรุงรกั ษาระบบ
๕. พัฒนาระบบ และทดสอบระบบ
เฉลย 1. 1 2. 2 3. 5 4. 1 5. 2 6. 5 7. 1 8. 2 9. 5 10. 3
แบบทดสอบหลังเรยี น
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
๑. ขอ้ ใดไม่เกีย่ วข้องกับแผนภาพกระแสข้อมลู ๖. การที่ม่งุ เน้นความสำคญั ของปญั หาโดยไมส่ นใจรายละเอยี ดท่ีไม่
จำเปน็ สอดคลอ้ งกบั แนวคิดใด
๑. ตวั แทนขอ้ มลู ๑. แนวคิดเชงิ รูปธรรม ๒. แนวคดิ เชิงนามธรรม
๓. แนวคิดการแยกย่อย ๔. แนวคดิ การจดจำรูปแบบ
๒. แหลง่ จดั เกบ็ ขอ้ มูล ๕. แนวคดิ การออกแบบขนั้ ตอน
๓. ขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน ๗. การแกป้ ญั หาโดยการออกแบบกระบวนการทำงาน
อย่างเป็นลำดบั ข้นั ตอนสอดคลอ้ งกับแนวคดิ ใด
๔. เสน้ ทางการไหลของข้อมูล ๑. แนวคิดเชิงรูปธรรม ๒. แนวคิดเชิงนามธรรม
๓. แนวคิดการแยกยอ่ ย ๔. แนวคดิ การจดจำรูปแบบ
๕. หนา้ จอส่วนติดต่อกับผใู้ ชง้ าน ๕. แนวคดิ การออกแบบขน้ั ตอน
๒. ข้อใดไมใ่ ช่ขั้นตอนเบอื้ งตน้ ของการพัฒนาโครงงาน ๘. ข้อใดไม่ใช่ทักษะยอ่ ยของแนวคิดเชิงคำนวณ
๑. แนวคิดเชงิ รูปธรรม ๒. แนวคิดเชิงนามธรรม
ทางดา้ นเทคโนโลยี ๓. แนวคิดการแยกย่อย ๔. แนวคดิ การจดจำรูปแบบ
๕. แนวคิดการออกแบบขั้นตอน
๑. ติดตั้งระบบ ๒. ออกแบบระบบ
๙. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ต้องเกย่ี วกับขน้ั ตอนกับการวเิ คราะหร์ ะบบ
๓. เลอื กวธิ ที ่ดี ีทสี่ ดุ ๔. บำรุงรักษาระบบ ๑. วิเคราะหค์ วามเปน็ ไปได้และวางแผน
๕. พฒั นาระบบ และทดสอบระบบ ๒. ในขน้ั นี้ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งระบวุ ธิ ีการทำงาน
๓. เปน็ ขน้ั ตอนการทำความเข้าใจกบั ระบบงาน
๓. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั แนวคดิ การแยกยอ่ ย
๔. ในขั้นนม้ี ีการจดั ทำเอกสารการวเิ คราะหร์ ะบบ
๑. การเข้าใจรปู แบบ ๕. มขี ้นั ตอนย่อย ๒ ขั้นตอน คือ สัมภาษณ์ผู้ใช้งาน และ
วิเคราะห์
๒. การแยกแยะปัญหา
ปัญหาและความตอ้ งการ
๓. การคดั เลือกวสั ดทุ น่ี ำมาใชท้ ำชิ้นงาน ๑๐. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วัตถปุ ระสงค์ของการสรา้ งแผนภาพกระแสข้อมูล
๔. การหาแนวคดิ รวมยอดของแตล่ ะปัญหายอ่ ย ๑. เป็นขอ้ ตกลงร่วมกนั ระหวา่ งนกั วเิ คราะหร์ ะบบและผู้ใช้งาน
๒. เปน็ แผนภาพท่ีประกอบดว้ ยกระบวนการเพียงกระบวนการเดียว
๕. การออกแบบลำดบั ขัน้ ตอนของการแก้ปญั หา ๓. เปน็ แผนภาพทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาต่อในข้นั ตอนของการออกแบบ
๔. ขอ้ ใดไม่สอดคล้องกับข้นั ตอนกำหนดปัญหา ระบบ
๔. เป็นแผนภาพทใี่ ชใ้ นการอ้างอิง หรือเพ่ือใช้ในการพฒั นาตอ่ ใน
๑. จัดทำแผนการดำเนนิ งาน
อนาคต
๒. การประชุมทมี งานผพู้ ฒั นา ๕. เป็นแผนภาพทท่ี สี่ รปุ รวมขอ้ มลู ทง้ั หมดทไี่ ดจ้ ากการวิเคราะห์
๓. วเิ คราะหค์ วามเป็นไปได้และวางแผน ในลักษณะของรูปแบบที่เปน็ โครงสรา้ ง
๔. จัดทำเอกสารการวางแผนการดำเนินงาน
๕. ไม่สามารถปรบั ปรุงแกไ้ ขแผนการดำเนินงานได้
๕. ข้อใดกล่าวถงึ แนวคิดเชงิ คำนวณได้ไม่ถกู ต้อง
๑. เป็นการคิดเหมอื นห่นุ ยนต์
๒. เป็นการแก้ปญั หาแบบมีลำดับขัน้ ตอน
๓. เป็นทกั ษะท่ีนกั พัฒนาซอฟตแ์ วร์ต้องมี
๔. มีแนวคิดเชงิ นามธรรมเป็นหน่ึงในทกั ษะย่อย
๕. วิธกี ารแก้ปญั หาท่มี นุษยแ์ ละคอมพวิ เตอรส์ ามารถ
เข้าใจรว่ มกันได้
เฉลย 1. 5 2. 3 3. 2 4. 5 5. 1 6. 2 7. 5 8. 1 9. 1 10. 2
แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ที่ 1-2
แบบประเมนิ ฟลิปชาร์ต
ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง)
๓ (ดี) ๒ (พอใช้)
๑ ตรงกบั จดุ ประสงคท์ ่กี ำหนด
๒ มีความถูกตอ้ งสมบูรณ์
๓ มีความคดิ สร้างสรรค์
๔ มคี วามเป็นระเบยี บ
รวม
ลงชื่อ ............................................................. ครผู สู้ อน
( นางสาวเตชนิ ี ภริ มย์ )
เกณฑป์ ระเมนิ ผลงานฟลปิ ชารต์
ประเด็นทปี่ ระเมนิ ๔ ระดบั คะแนน ๑
๓๒
๑. ผลงานตรงกบั จุดประสงค์ ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไมส่ อดคล้อง
ที่กำหนด กับจดุ ประสงค์ กบั จุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กบั จุดประสงค์
ทกุ ประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่ บางประเดน็
๒. ผลงานมีความถูกต้องสมบูรณ์ เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้อง ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
ครบถว้ น เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่
๓. ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์ ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมคี วาม ผลงานไมแ่ สดง
ถึงความคดิ แปลกใหม่แตย่ ัง น่าสนใจ แต่ยงั ไมม่ ี แนวคดิ ใหม่
สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ป็นระบบ แนวคดิ แปลกใหม่
แปลกใหม่
และเป็นระบบ
๔. ผลงานมีความเป็นระเบยี บ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่ ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่
เป็นระเบียบ มคี วามเปน็ เปน็ ระเบยี บแตม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ
แสดงออกถึง ระเบียบแตย่ งั มี ขอ้ บกพร่อง และมีขอ้ บกพร่อง
ความประณีต ข้อบกพร่อง บางสว่ น มาก
เล็กน้อย
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
๑๔–๑๖ ดมี าก
๑๑–๑๓ ดี
๘–๑๐ พอใช้
ต่ำกวา่ ๘ ปรับปรุง
แบบประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ท่ี 2
แบบประเมนิ รายงาน
ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ๑
๔๓๒
๑ ความถกู ต้องของเน้ือหา
๒ ความสมบรู ณ์ของรปู เล่ม รวม
๓ ความตรงต่อเวลา
ลงช่ือ ................................................... ครูผสู้ อน
( นางสาวเตชนิ ี ภริ มย์ )
เกณฑ์การประเมนิ รายงาน
ประเด็นทปี่ ระเมนิ ระดบั คะแนน
1. ความถูกต้อง
๔๓๒ ๑
ของเนือ้ หา
เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
2. ความสมบูรณ์ รายงานไมถ่ กู ตอ้ ง
ของรปู เล่ม รายงานถกู ต้องครบถว้ น รายงานถกู ตอ้ ง รายงานถูกตอ้ ง เปน็ ส่วนใหญ่
3. ความตรงตอ่ เป็นสว่ นใหญ่ บางประเด็น องค์ประกอบไม่
เวลา ครบถว้ น ไมเ่ ป็น
มอี งคป์ ระกอบครบถว้ น มอี งคป์ ระกอบครบถ้วน มอี งค์ประกอบครบถว้ น ระเบยี บ และรูปเล่ม
ไมส่ วยงาม
สมบูรณ์ มคี วามเปน็ สมบรู ณ์ มีความเป็น สมบรู ณ์ แตย่ ังไมเ่ ป็น
สง่ ช้นิ งานชา้ กวา่ เวลาท่ี
ระเบียบ และรปู เล่ม ระเบยี บ แต่รูปเล่ม ระเบยี บ และรูปเล่ม กำหนด ๓ วนั ขนึ้ ไป
สวยงาม ไมส่ วยงาม ไมส่ วยงาม
ส่งชน้ิ งานภายในเวลาที่ ส่งชิ้นงานชา้ กวา่ เวลาที่ สง่ ช้ินงานช้ากว่าเวลาที่
กำหนด กำหนด ๑ วัน กำหนด ๒ วัน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
๑๑-๑๒ ดมี าก
๙-๑๐ ดี
๖-๘ พอใช้
ตำ่ กวา่ ๖ ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน ๑
๓๒
๑ ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา
๒ ความคิดสร้างสรรค์
๓ วธิ กี ารนำเสนอผลงาน
๔ การนำไปใชป้ ระโยชน์
๕ การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ................................................... ครผู ู้สอน
( นางสาวเตชนิ ี ภิรมย์ )
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ ๒ คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ให้ ๑ คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๔–๑๕ ดีมาก
๑๑–๑๓ ดี
๘–๑๐ พอใช้
ต่ำกว่า ๘ ปรบั ปรุง
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน ๑
๓๒
๑ การแสดงความคิดเห็น
๒ การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู น่ื
๓ การทำงานตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
๔ ความมนี ำ้ ใจ
๕ การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชื่อ ................................................... ครูผูส้ อน
( นางสาวเตชนิ ี ภิรมย์ )
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๔–๑๕ ดีมาก
๑๑–๑๓ ดี
๘–๑๐ พอใช้
ต่ำกว่า ๘ ปรบั ปรุง
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั ที่ ชอ่ื –สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี การมี รวม
ของนักเรียน ความ ฟังคนอื่น ตามท่ไี ดร้ บั น้ำใจ สว่ นรว่ มใน ๑๕
คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน
การ
ปรบั ปรงุ
ผลงานกลุ่ม
๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑
ลงชอ่ื ................................................... ครผู ูส้ อน
. ( นางสาวเตชินี ภริ มย์ )
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๔–๑๕ ดีมาก
๑๑–๑๓ ดี
๘–๑๐ พอใช้
ตำ่ กวา่ ๘ ปรบั ปรงุ
แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น ๓๒๑
๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
๑. รกั ชาติ ศาสน์
กษตั รยิ ์ ๑.๒ เขา้ รว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ
โรงเรียน
๒. ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ
๓. มีวินัย รับผิดชอบ ๑.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏิบัติตามหลักศาสนา
๔. ใฝ่เรียนรู้
๑.๔ เข้ารว่ มกจิ กรรมทีเ่ กี่ยวกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ตามท่โี รงเรียนจัดขึน้
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง ๒.๑ ใหข้ อ้ มลู ท่ถี กู ต้องและเปน็ จริง
๒.๒ ปฏิบตั ใิ นสิ่งทถี่ กู ต้อง
๖. มงุ่ มนั่ ในการ ๓.๑ ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
ทำงาน
มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน
๗. รักความเป็นไทย ๔.๑ ร้จู ักใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัตไิ ด้
๘. มจี ติ สาธารณะ ๔.๒ รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม
๔.๓ เชือ่ ฟังคำสง่ั สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง
๔.๔ ตงั้ ใจเรียน
๕.๑ ใชท้ รัพย์สินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
๕.๒ ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยดั และร้คู ุณคา่
๕.๓ ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงิน
๖.๑ มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย
๖.๒ มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่ือให้งานสำเรจ็
๗.๑ มจี ติ สำนกึ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย
๗.๒ เหน็ คุณค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
๘.๑ รู้จักชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
๘.๒ รจู้ ักการดูแลรกั ษาทรัพย์สมบตั ิและสิ่งแวดล้อมของหอ้ งเรียนและ
โรงเรยี น
ลงช่ือ .................................................. ครูผ้สู อน
( นางสาวเตชินี ภริ มย์ )
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอให้ ๓ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๕๑–๖๐ ดีมาก
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ ๒ คะแนน ๔๑–๕๐ ดี
๓๐–๔๐ พอใช้
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิบางครงั้ ให้ ๑ คะแนน ต่ำกวา่ ๓๐ ปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์
เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง
รหสั วิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ปีการศกึ ษา ๒๕๖3
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ แนวคดิ เชิงคำนวณในการพฒั นาโครงงาน
เรอื่ งที่ ๑ แนวคิดเชงิ คำนวณ ครูผ้สู อน นางสาวเตชนิ ี ภริ มย์
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔
๑. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด
๑.๑ ตัวชวี้ ัด
ว ๘.๒ ม.๔/๑ ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานทีม่ กี ารบูรณาการกับวิชาอื่น
อย่างสร้างสรรค์ และเชือ่ มโยงกับชวี ติ จริง
๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อธิบายเกีย่ วกับการใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาได้ (K)
๒. อภิปรายการใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาตามที่กำหนด (P)
๓. เหน็ ประโยชน์ของการใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หา (A)
๓. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ
- การพัฒนาโครงงาน พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
- การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานท่ี
เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน
อาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย การทำ
ธุรกรรม สุขภาพและสงิ่ แวดลอ้ ม
๔. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
แนวคิดเชิงคำนวณ เป็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาโดยมุ่งเน้นการคิดเชิงตรรกะ หรือเป็นการ
แก้ไขปัญหาอยา่ งเป็นลำดบั ข้ันตอน และมวี ิธีการแก้ปญั หาอยา่ งมีระบบ
๕. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๑. มีวินยั
๒. ความสามารถในการคิด ๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. มงุ่ มั่นในการทำงาน
๑) ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ
๒) ทกั ษะการสื่อสาร
๓) ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
๔) ทักษะการแกป้ ัญหา
๕) ทักษะกระบวนการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
๖. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ ๕Es (๕Es Instructional Model)
ชัว่ โมงที่ ๑
ขั้นนำ
กระตุน้ ความสนใจ (Engage)
๑. ครูการเปิดคลปิ วดิ โี อท่เี กย่ี วกับการทำเค้กใหน้ ักเรียนดูเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี น เชน่ คลิป
วิดีโอ เรอื่ ง Behind the Scenes Making a Unicorn Cake | Cupcake Jemma จาก YouTube
(https://www.youtube.com/watch?v=๔SqXUKe_MJE)
๒. ครูสนทนากับนักเรียนโดยถามนักเรียนว่า ถ้านักเรียนอยากรับประทานเค้กนักเรียนจะทำอย่างไร
โดยใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตอบคำถามอย่างอิสระ จากนั้นครแู จง้ ช่ือเร่ืองที่จะเรียนรู้และผลการเรียนรู้ให้
นักเรยี นทราบ
๓. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพ่อื วัดความรูเ้ ดมิ ของนกั เรยี นกอ่ นเข้าสกู่ ิจกรรม
๔. ครูให้นักเรียนช่วยกันสังเกตภาพในใบความรู้หน้าหน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ แนวคิดเชิงคำนวณในการ
พัฒนาโครงงาน จากน้ันครถู ามคำถามกระตุ้นนักเรยี นว่า เค้กในภาพเป็นเค้กอะไร ถ้านักเรียนอยาก
กินเค้กแบบในภาพจะต้องทำอย่างไร โดยครูให้นักเรียนอภิปรายกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน แล้วให้
นกั เรียนเขียนคำตอบของตนเองลงในกระดาษแลว้ นำมาส่งครู (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนักเรียน
โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล)
ขั้นสอน
สำรวจคน้ หา (Explore)
๑. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๔ คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้าง
เก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน แล้วให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันเล่าถึงปัญหาที่ตนเอง
เคยประสบมา พร้อมกับบอกวธิ ีแกป้ ญั หานน้ั ๆ
๒. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์วิธีการแก้ปัญหาของกลุ่มตนเองว่า มีวิธีการแก้ปัญหาท่ี
สำคญั กขี่ นั้ ตอน แลว้ นำเสนอผลการวิเคราะหโ์ ดยภาพรวมของของกลุ่มตนเองหน้าชั้นเรยี น
๓. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณ จากแหล่งการเรียนรู้ต่า ง ๆ
แล้วให้สมาชิกในแตล่ ะกลุม่ ผลดั กันอธิบายเกีย่ วกบั แนวคิดเชงิ นวณและชว่ ยกันสรุปความรู้ท่ีได้ศึกษา
มาลงในกระดาษ
๔. ครสู ุ่มตัวแทนกลุม่ ให้ออกมาอธิบายเก่ียวกับแนวคดิ เชิงคำนวณ โดยมีครูคอยตรวจสอบความถูกต้อง
และอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ในส่วนของที่ยงั มีข้อบกพรอ่ งอยู่
๕. ครูถามคำถามคำถามประจำหน่วยการเรียนรู้ การแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับ
แนวคิดเชงิ คำนวณอย่างไร โดยให้นกั เรียนชว่ ยกนั อภปิ รายเพอื่ หาคำตอบ
(แนวตอบ ในชีวิตประจำวันเราต้องพบเจอปัญหาและต้องทำการแก้ปัญหา ซึ่งการแก้ปัญหา
ต้องทำเป็นขั้นตอนซึ่งจะสอดคล้องกับแนวคิดเชิงคำนวณที่ว่า แนวคิดเชิงคำนวณะเป็นทักษะที่
มุ่งเน้นการคิดเชิงตรรกะ และเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นลำดับขัน้ ตอน โดยการเข้าใจปญั หาและ
วิธกี ารในการแก้ไขปญั หาอย่างเปน็ ระบบ )
ช่วั โมงท่ี ๒
สำรวจค้นหา (Explore) (ต่อ)
๖. ครูให้นักเรียนดู PPT เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณ หรือดูตามใบความรู้แล้วครูถามคำถามเพื่อทบทวน
ความรจู้ ากชวั่ โมงที่ผา่ นมาวา่ แนวคิดเชิงคำนวณคอื อะไรและแบ่งเปน็ ทักษะยอ่ ยได้ก่ีทกั ษะ
(แนวตอบ แนวคิดเชิงคำนวณเป็นทักษะที่มุ่งเน้นการคิดเชิงตรรกะ และเป็นการแก้ไขปัญหา
อย่างเป็นลำดับขั้นตอน โดยโดยการเข้าใจปัญหาและวิธีการในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาที่ทั้งมนุษย์และคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจร่วมกันได้ ซึ่งแบ่งเป็น
ทักษะย่อยได้ ๔ ทักษะ คือ แนวคิดการแยกย่อย แนวคิดการจดจำรูปแบบ แนวคิดเชิงนามธรรม
และแนวคดิ การออกแบบขั้นตอน)
๗. ครใู หน้ ักเรียนกลบั สกู่ ลุ่มเดมิ ท่ีไดแ้ บ่งไวใ้ นชวั่ โมงแรก แลว้ ครูตัง้ ปัญหาให้นักเรียนแก้โดยใหใ้ ช้แนวคิด
เชิงคำนวณในการแก้ปัญหา โดยปัญหามีอยู่ว่า ในช่วงวันหยุดนักเรียนได้เดินทางไปเที่ยวทะเลกับ
ครอบครัวโดยรถยนตส์ ่วนตวั ในขณะท่เี ดนิ ทางใกลถ้ ึงรถยนตเ์ สียไม่สามารถเคลื่อนท่ีได้
๘. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์หาวิธีการแก้ปัญหาตามแนวคิดเชิงคำนวณ โดยนำวิธีการ
แก้ปัญหาของกล่มุ ตนเองมาเขยี นลงในกระดาษฟลิปชารท์
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ )
๙. ครแู จง้ นกั เรยี นวา่ จะมีการนำเสนอวธิ ีการแก้ปญั หาของแตล่ ะกลุ่มหน้าชัน้ เรยี น ในชัว่ โมงถัดไป
ชัว่ โมงท่ี ๓
อธบิ ายความรู้ (Explain)
๑. ครูให้นักเรียนทุกกลุ่มนำผลงาน (ฟลิปชาร์ทที่ได้ทำไว้ในชั่วโมงที่ผ่านมา) มาติดที่ฝาผนังรอบห้อง
คอมพวิ เตอร์แลว้ ใหน้ กั เรยี นเดนิ ศกึ ษาแผนทคี่ วามคิดของกลุ่มต่างๆ ท่ีตดิ อย่รู อบห้องคอมพิวเตอร์
(หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมินช้นิ งาน)
๒. ครแู จกสตกิ เกอร์ให้นักเรยี นคนละ ๑ แผน่ แลว้ ให้นักเรยี นไปติดผลงานทต่ี นเองชอบ
๓. ครูสรุปจำนวนสติกเกอร์ของผลงานแต่ละชิ้น แล้วให้กลุ่มที่มีจำนวนสติกเกอร์มาที่สุดออกนำเสนอ
ผลงานของตนเองก่อน และเรียงลำดับการนำเสนอผลงานกลุ่มที่มีสติกเกอร์รองลงมาจนไปถึงน้อย
สดุ โดยในระหว่างท่ีแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานครูคอยเพิ่มเติมข้อมลู และให้คำแนะนำนักเรียน (หาก
ครูประเมินว่าในการสอนไม่เพียงพอ ครูอาจจะให้เพียงแค่กลุ่มที่มีจำนวนสติกเกอร์สูงสุด ๓ ลำดับ
แรก ออกมานำเสนอผลงาน)
(หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
๔. เมื่อทุกกลุ่มได้นำเสนอผลงานของตนเองแล้ว ครูชักชวนให้นักเรียนอภิปรายและสรุปร่วมกันถึง
ประโยชน์ของการใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหา
ขั้นสรุป
ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
๑. ครูใหน้ กั เรียนจบั ค่กู บั เพื่อนรว่ มช้ันเรียนแลว้ ใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question ๑
๒. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทำใบงานที่ ๑.๑ เรือ่ ง แนวคิดเชิงคำนวณ เปน็ การบ้านมาสง่ ครู
ตรวจสอบผล (Evaluate)
๑. ครถู ามนักเรยี นด้วยคำถามวา่ แนวคดิ เชิงคำนวณมีความสำคัญอยา่ งไร จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นเขยี น
คำตอบลงในกระดาษนำมาสง่ ครู
๒. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจกอ่ นเรียนของนักเรยี น
๓. ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ และจาก
การนำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน
๔. ครปู ระเมนิ ผลชิน้ งาน/ผลงานท่ีเกิดจากการผลงานการใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาในขัน้
สำรวจคน้ หา
๕. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานท่ี ๑.๑ เร่อื ง แนวคิดเชิงคำนวณ
๗. การวดั และประเมินผล
รายการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
๗.๑ การประเมนิ ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรยี น - ประเมินตามสภาพจรงิ
- แบบทดสอบก่อนเรียน กอ่ นเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
แนวคิดเชิงคำนวณใน
การพฒั นาโครงงาน
๗.๒ การประเมินระหว่าง
การจดั กจิ กรรม
๑) ผลบันทึกการตอบ - ตรวจผลบันทึกการตอบ - คำถามในขั้นกระตุ้น - ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
คำถามกระตุ้นในข้ัน คำถาม ความสนใจ
กระตุ้นความสนใจ
๒) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ น
ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล เกณฑ์
๓) ผลบันทึกการตอบ - ตรวจผลบันทึกการตอบ - คำถามในใบงาน - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
ค ำ ถ า ม ใ น ใ บ ง า น คำถาม
เรียน หนา้ ๓
รายการวัด วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
๔) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่าน
ทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม เกณฑ์
๕) ผลงานการใชแ้ นวคดิ - ตรวจฟลิปชาร์ทการ - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ - ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่าน
เกณฑ์
เชิงคำนวณในการ เขยี นถา่ ยทอดวธิ ีการ ผลงาน
- ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ น
แกป้ ญั หา แก้ปญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชิง เกณฑ์
- รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
คำนวณ
ระดับคุณภาพ ๒
๖) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการ ผ่านเกณฑ์
ผลงาน นำเสนอผลงาน
๗) การนำแนวคิดเชิง - ตรวจใบงานที่ ๑.๑ - ใบงานท่ี ๑.๑
คำนวณไปใช้ในการ
แก้ปญั หา
๘) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ
อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มน่ั คุณลกั ษณะ
ในการทำงาน อันพงึ ประสงค์
๘. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
๘.๑ สอ่ื การเรียนรู้
๑) หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาการคำนวณ ม.๔ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ แนวคิดเชงิ คำนวณใน
การพัฒนาโครงงาน
๒) ใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณ
๓) PowerPoint เรื่อง แนวคดิ เชงิ คำนวณ
๘.๒ แหลง่ การเรยี นรู้
๑) ห้องคอมพวิ เตอร์
๒) หอ้ งสมดุ
๓) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
ใบงานท่ี ๑.๑
เรือ่ ง แนวคิดเชงิ คำนวณ
คำช้แี จง : ระบุปญั หาท่ีนักเรียนพบในชีวติ ประจำวัน และเขียนอธบิ ายการนำแนวคิดเชิงคำนวณ
ไปใช้ในการแก้ปัญหานน้ั
ปญั หาที่พบ
…………………………………………………………………………………………………………………………..………………………
……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………
แนวคิดเชิงคำนวณ วธิ ีการแกป้ ัญหา
๑. แนวคิดการแยกย่อย …………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
๒. แนวคดิ การจดจำรูปแบบ …………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
๓. แนวคดิ เชิงนามธรรม …………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
๔. แนวคดิ การออกแบบขัน้ ตอน …………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
ใบงานท่ี ๑.๑
เรือ่ ง แนวคิดเชงิ คำนวณ (ตัวอย่างในการตอบ)
คำช้ีแจง : ระบปุ ัญหาท่นี กั เรียนพบในชวี ติ ประจำวนั และเขียนอธบิ ายการนำแนวคดิ เชงิ คำนวณ
ไปใช้ในการแกป้ ญั หาน้ัน
ปญั หาท่ีพบ
มีนัดพบกบั เพ่ือนหลังเลกิ เรียนทีส่ ยามสแควร์วนั ในวนั ศกุ ร์ซงึ่ เป็นวันทร่ี ถติดมากทส่ี ุดในสัปดาห์ จึงตอ้ งการ
หาวิธีเดินโรงเรียนไปสยามสแควรว์ ันให้ทันเวลานดั
แนวคิดเชิงคำนวณ วิธกี ารแกป้ ญั หา
๑. แนวคดิ การแยกย่อย
- เดนิ ทางดว้ ยรถประจำทางจะใชเ้ วลานานเพราะรถตดิ แต่จา่ ยคา่ เดินทาง
ไม่แพง
- เดินทางดว้ ยรถไฟฟ้าจะใช้เวลาน้อยกวา่ แตจ่ ่ายคา่ เดนิ ทางมากข้ึน
- เล่อื นนดั เพ่อื นไปเปน็ วันท่ีเดินทางสะดวกกวา่
๒. แนวคิดการจดจำรปู แบบ ไม่ควรเลอ่ื นนัดเพื่อนเพราะเป็นธรุ ะจำเป็น ควรหาวธิ ีเดนิ ทาง
ไปใหท้ นั เวลานัด
๓. แนวคดิ เชงิ นามธรรม ตัดสนิ ใจเดนิ ทางดว้ ยรถไฟฟ้า เพราะเลยี่ งรถติดและใช้เวลาเดนิ ทางนอ้ ย
กวา่
๔. แนวคิดการออกแบบขน้ั ตอน ๑) ออกจากโรงเรียนเร็วขึ้น
๒) นงั่ รถมอเตอร์ไซดว์ นิ ไปทีส่ ถานีรถไฟฟา้ ทใ่ี กล้โรงเรยี นท่ีสุด
๓) นง่ั รถไฟฟา้ ไปลงทสี่ ถานสี ยาม
๔) เดินไปสถานท่ีนัดหมาย
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
เวลาเรียน ๓ ชัว่ โมง
รหัสวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ปีการศกึ ษา ๒๕๖3
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ แนวคิดเชงิ คำนวณในการพฒั นาโครงงาน
เร่ืองที่ ๒ แนวคดิ เชิงคำนวณ ครผู ู้สอน นางสาวเตชนิ ี ภิรมย์
ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๔
๑. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
๑.๑ ตัวชว้ี ดั
ว ๘.๒ ม.๔/๑ ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพฒั นาโครงงานทมี่ กี ารบูรณาการกับวชิ าอน่ื
อย่างสรา้ งสรรค์ และเชอ่ื มโยงกบั ชวี ิตจริง
๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายขัน้ ตอนเบ้ืองต้นของการพัฒนาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยีได้ (K)
๒. อภิปรายการพัฒนาโครงงานด้านเทคโนโลยี (P)
๓. เห็นความสำคญั ของการประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการพฒั นาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยี (A)
๓. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่นิ
- การพัฒนาโครงงาน -
- การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานท่ี
เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน
อาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย การทำ
ธรุ กรรม สขุ ภาพและสิง่ แวดลอ้ ม
- ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบ
อัตโนมัติควบคุมการปลูกพืช ระบบจัดเส้นทาง
การขนส่งผลผลิต ระบบแนะนำการใช้งาน
ห้องสมุดที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้และเชื่อมต่อกับ
ฐานขอ้ มลู
๔. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การพฒั นาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยี มีขัน้ ตอนเบอื้ งต้น ๖ ขัน้ ตอน ดังน้ี
๑) กำหนดปญั หา
๒) วเิ คราะหร์ ะบบ
๓) ออกแบบระบบ
๔) พฒั นาระบบและทดสอบระบบ
๕) ติดตง้ั ระบบ
๖) บำรุงรักษาระบบ ซึ่งการพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีจะต้องนำแนวคิดเชิงคำนวณมา
ประยุกต์ใช้ในการทำโครงงาน
๕. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร ๑. มวี ินัย
๒. ความสามารถในการคดิ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
๑) ทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ
๒) ทกั ษะการส่ือสาร
๓) ทักษะการทำงานรว่ มกนั
๔) ทักษะการแกป้ ัญหา
๕) ทักษะกระบวนการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
๖. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ ๕Es (๕Es Instructional Model)
ชั่วโมงท่ี 1
ขั้นนำ
กระตุ้นความสนใจ (Engage)
๑. ครูสนทนากับนักเรียนโดยถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยทำโครงงานหรือไม่ แล้วนักเรียนโครงงานท่ี
นักเรียนทำมีกี่ขั้นตอน โดยให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถามอย่างอิสระ จากนั้นครูแจ้งชื่อเรื่องที่จะ
เรียนรแู้ ละผลการเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ
๒. ครเู ปิดคลปิ วิดีโอทเี่ ก่ียวกบั โครงงานเทคโนโลยใี ห้นักเรยี นดูเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น
คลิปวิดีโอ เรอ่ื ง Welcome to Project Jacquard จาก YouTube
(https://www.youtube.com/watch?v=qObSFfdfe7I)
๓. เมื่อนักเรียนดูคลิปจบแล้ว ครูถามนักเรียนว่า โครงงานในคลิปเป็นโครงงานที่เกี่ยวกับอะไร และ
นักเรียนคิดว่าโครงงานเทคโนโลยีคืออะไร โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนให้นักเรียนในชั้นเรียน
ช่วยกนั ตอบคำถามและมีการแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ รว่ มกนั
(แนวตอบ โครงงานในคลิปเป็นโครงงานที่นำเทคโนโลยีมาช่วยในการทอผ้า และโครงงาน
เทคโนโลยี คือ โครงงานที่เกี่ยวกับการนำความรู้ ทักษะ และทรัพยากรที่มีอยู่มาสร้างหรือพัฒนา
เครื่องมือ เครื่องใช้ แบบจำลองหรือวิธีการเพื่อใช้แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ โดยมีขั้นตอน
การทำงานอย่บู นพนื้ ฐานของกระบวนการเทคโนโลยี)
๔. ครูถามคำถามประจำหน่วยการเรียนรู้ เพื่อเป็นการกระตุ้นนักเรียนว่า จุดเริ่มต้นในการพัฒนา
โครงงานทางดา้ นเทคโนโลยคี ืออะไร โดยให้นกั เรยี นช่วยกนั อภิปรายเพอ่ื หาคำตอบ
(แนวตอบ จุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี คือ ความต้องการในการ
แก้ปัญหาและเพื่อให้โครงงานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายจึงมีการนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้ในการ
แกป้ ัญหาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบและเปน็ ขั้นตอน)
ขั้นสอน
สำรวจค้นหา (Explore)
๑. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน แล้วให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันเล่าถึงโครงงานที่
ตนเองเคยไดท้ ำ
๒. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ว่าขัน้ ตอนการพัฒนาโครงงานทางเทคโนโลยีที่สำคัญมีกี่ข้นั ตอน
แล้วร่วมกันลงความเห็นเพื่อเป็นมติของกลุ่มตนเองว่า ขั้นตอนการพัฒนาโครงงานทางเทคโนโลยีที่
สำคญั มกี ี่ขนั้ ตอน
๓. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเรื่อง การพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี จากแหล่งการ
เรียนรู้ต่าง ๆ แล้วให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนเบื้องต้นของการพัฒนา
โครงงานด้านเทคโนโลยีและช่วยกันสรปุ ความรูท้ ่ไี ด้ศกึ ษามาลงในกระดาษ A๔
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล)
๔. ครูสุ่มตัวแทนกลุ่มให้ออกมาอธิบายความรู้ที่กลุ่มตนเองได้ศึกษามาโดยมีครูคอยตรวจสอบความ
ถูกต้องและอธิบายเพิ่มเติมในส่วนของที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่ แล้วสอบถามนักเรียนว่าขั้นตอนการ
พฒั นาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีที่แต่ละกลุ่มได้ลงมติไว้ กับสงิ่ ท่ศี กึ ษาไว้เหมือนกันหรือไม่อย่างไร
โดยชกั ชวนใหน้ กั เรียนในชัน้ เรียนร่วมกันอภิปราย จนไดข้ ้อสรปุ ทีว่ า่ ขัน้ ตอนเบ้ืองต้นของการพัฒนา
โครงงานทางด้านเทคโนโลยีเบื้องต้น มี ๖ ขั้นตอน ได้แก่ กำหนดปัญหา วิเคราะห์ระบบ ออกแบบ
ระบบ พฒั นาระบบและทดสอบระบบ ตดิ ต้งั ระบบ และบำรงุ รักษาระบบ
๔. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำใบงานที่ ๑.๒ เรื่อง การพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี มาส่งเป็น
การบา้ น
ชว่ั โมงที่ 2
สำรวจค้นหา (Explore) (ต่อ)
๕. ครูถามคำถามเพ่อื เป็นการกระตุ้นนกั เรยี นและทบทวนความรู้จากชั่วโมงทผ่ี ่านมาดังน้ี
๑) ข้ันตอนเบ้อื งตน้ ของการพฒั นาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยมี กี ขี่ ัน้ ตอน อะไรบา้ ง
๒) การแก้ไขปญั หาโดยใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณมกี ีข่ นั้ ตอน อะไรบา้ ง
(แนวตอบ ๑) ขนั้ ตอนเบ้อื งตน้ ของการพฒั นาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีมี ๖ ขั้นตอน ได้แก่
กำหนดปัญหา วิเคราะห์ระบบ ออกแบบระบบ พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ติดตั้งระบบ และ
บำรงุ รักษาระบบ
๒) การแก้ไขปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณมี ๔ ขั้นตอน คือ แนวคิดแยกย่อย
แนวคิดการจดจำรูปแบบ แนวคิดเชิงนามธรรม และแนวคดิ การออกแบบขน้ั ตอน )
๖. ครูให้นักเรียนกลับสู่กลุ่มเดิมที่ได้แบ่งไว้ในชั่วโมงแรก แล้วครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มคิดสร้างสรรค์
โครงงานที่พัฒนาห้องสมุดของโรงเรียนให้เป็นห้องสมุดที่ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของ
นกั เรียนทง้ั โรงเรียน โดยนกั เรียนจะตอ้ งดำเนินโครงงานตามขัน้ ตอนเบื้องตน้ ของการพัฒนาโครงงาน
ทางดา้ นเทคโนโลยแี ละนำแนวคดิ เชิงคำนวณมาใชใ้ นการแกป้ ัญหา
๗. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์และสร้างสรรค์โครงงาน แล้วร่วมกันนำเขียนวิธีการดำเนิน
โครงงานของกลมุ่ ตนเองลงในกระดาษฟลิปชาร์ท
(หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ )
๘. ครูแจ้งนักเรียนวา่ จะมกี ารนำเสนอโครงงานของแตล่ ะกลมุ่ ในช่ัวโมงถัดไป
ชวั่ โมงที่ 3
อธิบายความรู้ (Explain)
๑. ครูให้นักเรียนทุกกลุ่มนำผลงาน (ฟลิปชาร์ทที่ได้ทำไว้ในชั่วโมงที่ผ่านมา) มาติดที่ฝาผนังรอบห้อง
คอมพวิ เตอร์แล้วให้นักเรยี นเดินศึกษาโครงงานของกลุ่มต่างๆ ทต่ี ิดอยรู่ อบหอ้ งคอมพวิ เตอร์
(หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบประเมินช้นิ งาน)
๒. ครูแจกกระดาษ Post it ให้นักเรียนคนละ ๑ แผ่น แล้วให้นักเรียนเขียนคำถาม สิ่งที่ต้องการรู้
คำแนะนำ หรอื คำชม ไปติดบนผลงานที่ตนเองชอบ โดยห้ามตดิ ลงบนผลงานของกลุ่มตวั เอง
๓. ครูสรุปจำนวนกระดาษ Post it ของผลงานแต่ละชิ้น แล้วให้กลุ่มที่มีจำนวนสติกเกอร์มาที่สุดออก
นำเสนอผลงานของตนเองหน้าช้นั เรยี น โดยท่ีครูเพม่ิ เตมิ ข้อมูลและให้คำแนะนำนักเรียน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
๔. เมอ่ื นกั เรียนได้นำเสนอผลงานของตนเองเสร็จแล้ว ครูคดั เลือกคำถามที่นา่ ใจจากกระดาษ Post it ที่
นักเรยี นได้ตดิ ไวบ้ นผลงานของแต่ละกลุ่ม มาอภิปรายหาคำตอบรว่ มกันกับนกั เรยี นในชัน้ เรียน
๕. ครแู ละนกั เรยี นสรปุ ร่วมกนั ถึงการใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาตามขัน้ ตอนเบื้องต้นของการ
พัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี โดยที่ครูและนักเรียนควรจะได้ข้อสรุปร่วมกันว่า การพัฒนา
โครงงานทางด้านเทคโนโลยีจำเป็นต้องใช้แนวคิดเชิงคำนวณเพ่ือแกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ
เพื่อให้โครงงานสำเร็จลุลว่ งตามเป้าหมาย
ขัน้ สรุป
ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
๑. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพ่อื วดั ความรขู้ องนักเรยี นหลังจากทำกจิ กรรม
๒. ครใู ห้นักเรยี นจับกลุ่มกับเพ่ือนรว่ มชัน้ เรียน กลมุ่ ละ ๓ คน แล้วใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ทำกิจกรรม Com
Sci Activity เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณ ตามขั้นตอนเบื้องต้นของการพัฒนาโครงงานทางด้าน
เทคโนโลยี โดยจดั ทำเป็นรายงานมาส่งครู
ตรวจสอบผล (Evaluate)
๑. ครถู ามนักเรยี นด้วยคำถามวา่ แนวคดิ เชงิ คำนวณสัมพันธก์ ับการพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี
อย่างไร จากน้ันให้นักเรียนเขียนคำตอบลงในกระดาษนำมาสง่ ครู
๒. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลังเรียน เพ่ือวัดความรู้ของนักเรียนหลังจากทำกิจกรรม
๓. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ และจาก
การนำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน
๔. ครปู ระเมินผลชนิ้ งาน/ผลงานท่ีแสดงวธิ ีการดำเนินโครงงานของกลุ่มตนเองลงในกระดาษฟลิปชาร์ท
ในขนั้ สำรวจค้นหา
๕. ครูตรวจสอบผลการทำ ใบงานท่ี ๑.๒ เรอ่ื ง การพัฒนาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยี
๖. ครูตรวจรายงานจากการทำกิจกรรม Com Sci Activity เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณ ตามขั้นตอน
เบือ้ งต้นของการพฒั นาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี
๗. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
๗.๑ การประเมนิ หลงั เรียน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบหลังเรียน - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
- แบบทดสอบหลังเรียน หลังเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
แนวคิดเชิงคำนวณในการ
พัฒนาโครงงาน
๗.๒ การประเมนิ ระหวา่ งการจัด
กจิ กรรม
๑) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน
รายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล เกณฑ์
๒) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่าน
กลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม เกณฑ์
๓) ผลงานที่แสดงวิธีการ - ตรวจฟลิปชารท์ การ - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ - ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน
ดำเนินโครงงาน เขียนแสดงวิธีดำเนนิ ผลงาน เกณฑ์
โครงงาน
๔) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการ - ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน
ผลงาน นำเสนอผลงาน เกณฑ์
๕) การพัฒนาโครงงาน - ตรวจใบงานท่ี ๑.๒ - ใบงานท่ี ๑.๒ - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
ทางดา้ นเทคโนโลยี
๖) รายงานจากการทำ - ตรวจรายงานจากการ - รายงาน - ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน
กจิ กรรม Com Sci ทำกิจกรรม Com Sci เกณฑ์
Activity เรอ่ื ง แนวคดิ Activity
เชิงคำนวณ
๘) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมวี ินยั - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ ๒
อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์
๘. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
๘.๑ สอ่ื การเรียนรู้
๑) หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาการคำนวณ ม.๔
๒) ใบงานท่ี ๑.๒ เร่อื ง การพฒั นาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยี
๘.๒ แหลง่ การเรยี นรู้
๑) หอ้ งคอมพิวเตอร์
๒) ห้องสมดุ
๓) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
ใบงานท่ี ๑.๒
เร่ือง การพฒั นาโครงงานทางด้านเทคโนโลยี
คำชแ้ี จง : นำข้นั ตอนเบื้องต้นของการพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีเติมหนา้ ประโยคท่สี มั พันธ์กนั
กำหนดปญั หา วเิ คราะห์ระบบ ออกแบบระบบ
พฒั นาระบบและทดสอบระบบ ติดต้งั ระบบ บำรุงรักษาระบบ
…………………………..๑. การเขียนชุดคำส่ังตา่ ง ๆ เพ่ือสรา้ งซอฟต์แวร์
…………………………..๒. ประชมุ ทมี งานผู้พฒั นาเพอ่ื กำหนดหน้าที่ให้แก่ทีมงาน
…………………………..๓. การปรับเปลีย่ นการทำงานบางประการใหท้ ันสมยั มากขนึ้
…………………………..๔. ขน้ั ตอนทตี่ อ้ งลงพน้ื ท่ีสัมภาษณผ์ ใู้ ช้งานเพื่อเก็บข้อมูลตา่ ง ๆ
…………………………..๕. การแกไ้ ขจุดบกพรอ่ งท่ีเกิดขนึ้ หลังจากการใชง้ านในสภาพแวดล้อมจรงิ
…………………………..๖. ข้นั ตอนการกำหนดวธิ กี ารแกป้ ญั หาต่าง ๆ จากขนั้ ตอนการวเิ คราะห์ระบบ
…………………………..๗. ขนั้ ตอนที่กำหนดขัน้ ตอนการทำงานโดยใช้แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน
…………………………..๘. ขั้นตอนการจดั ทำแผนการดำเนินงาน ซงึ่ ถือว่าเป็นผลลัพธข์ องข้ันตอนการวเิ คราะห์
ความเป็นไปได้และการวางแผน
…………………………..๙. หลงั จากการสมั ภาษณเ์ พื่อเกบ็ ข้อมูล ทมี ผู้พฒั นาควรนำข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการสัมภาษณม์ า
วิเคราะห์หาขอ้ มูล
…………………………..๑๐. การทดสอบระบบงานวา่ สามารถทำงานได้อย่างถกู ต้องและตรงตามความต้องการ
ของผใู้ ช้งาน
…………………………..๑๑. การนำซอฟต์แวรแ์ ละระบบงานใหม่ทเี่ สรจ็ สมบูรณ์มาติดต้ังในสภาพแวดล้อม
การทำงานจรงิ
…………………………..๑๒. แผนภาพกระแสข้อมลู เป็นเครื่องมือทใ่ี ช้ในการเขียนแผนภาพจำลองการทำงานขง
กระบวนการต่างๆ ในระบบ ซง่ึ นำมาใชว้ ิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงโครงสรา้ ง
…………………………..๑๓. กรณีทม่ี ีระบบงานเดิมควรใชง้ านระบบงานใหม่ควบคู่กบั ระบบงานเดิมโดยใชข้ อ้ มลู
ชดุ เดยี วกัน และเปรยี บเทียบผลลัพธว์ ่าตรงกนั หรอื ไม่
…………………………..๑๔. ทมี ผู้พัฒนาซอฟตแ์ วร์ทำการวิเคราะห์ความเปน็ ไปไดใ้ นการพฒั นาซอฟต์แวร์ว่าจะ
สามารถดำเนินการได้สำเร็จหรือไม่ ภายใต้ปัจจยั ตา่ ง ๆ
…………………………..๑๕. ขั้นตอนท่มี ีข้ันตอนย่อย ๔ ขั้นตอน คอื สัมภาษณ์ผใู้ ช้งาน วเิ คราะห์ปญั หาและ
ความต้องการ กำหนดขอบเขตของระบบงาน และวเิ คราะห์กลมุ่ กระบวนการทำงาน
ใบงานที่ ๑.๒
เรอื่ ง การพัฒนาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยี (คำตอบ)
คำช้แี จง : นำขัน้ ตอนเบือ้ งต้นของการพัฒนาโครงงานทางดา้ นเทคโนโลยีเติมหน้าประโยคทส่ี ัมพนั ธก์ ัน
กำหนดปัญหา วเิ คราะหร์ ะบบ ออกแบบระบบ
พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ติดตงั้ ระบบ บำรุงรักษาระบบ
พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ๑. การเขยี นชดุ คำสั่งต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งซอฟต์แวร์
กำหนดปญั หา ๒. ประชมุ ทมี งานผู้พฒั นาเพ่ือกำหนดหนา้ ท่ใี ห้แก่ทีมงาน
บำรงุ รกั ษาระบบ ๓. การปรับเปลย่ี นการทำงานบางประการใหท้ นั สมัยมากขึน้
วเิ คราะห์ระบบ ๔. ขน้ั ตอนท่ตี อ้ งลงพ้ืนทส่ี ัมภาษณ์ผู้ใช้งานเพ่ือเกบ็ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ
บำรงุ รกั ษาระบบ ๕. การแก้ไขจุดบกพรอ่ งท่ีเกดิ ขนึ้ หลงั จากการใชง้ านในสภาพแวดล้อมจริง
ออกแบบระบบ ๖. ขน้ั ตอนการกำหนดวธิ ีการแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ จากข้นั ตอนการวิเคราะห์ระบบ
ออกแบบระบบ ๗. ขนั้ ตอนทกี่ ำหนดขั้นตอนการทำงานโดยใช้แผนภาพแสดงลำดบั ข้ันตอนการทำงาน
กำหนดปญั หา ๘. ขั้นตอนการจดั ทำแผนการดำเนินงาน ซึ่งถือว่าเป็นผลลพั ธข์ องขั้นตอนการวิเคราะห์
ความเป็นไปไดแ้ ละการวางแผน
วิเคราะหร์ ะบบ ๙. หลังจากการสัมภาษณเ์ พือ่ เกบ็ ข้อมูล ทีมผพู้ ัฒนาควรนำข้อมลู ที่ได้จากการสัมภาษณ์มา
วิเคราะห์หาขอ้ มลู
พฒั นาระบบและทดสอบระบบ๑๐. การทดสอบระบบงานวา่ สามารถทำงานได้อยา่ งถกู ต้องและตรงตาม
ความตอ้ งการของผูใ้ ช้งาน
ตดิ ตัง้ ระบบ ๑๑. การนำซอฟต์แวรแ์ ละระบบงานใหมท่ ี่เสร็จสมบรู ณม์ าตดิ ตง้ั ในสภาพแวดลอ้ ม
การทำงานจรงิ
วเิ คราะหร์ ะบบ ๑๒. แผนภาพกระแสขอ้ มูลเป็นเครื่องมือทใ่ี ช้ในการเขยี นแผนภาพจำลองการทำงานขง
กระบวนการต่างๆ ในระบบ ซ่งึ นำมาใชว้ ิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชิงโครงสร้าง
ติดต้ังระบบ ๑๓. กรณีทีม่ รี ะบบงานเดิมควรใชง้ านระบบงานใหมค่ วบคู่กบั ระบบงานเดมิ โดยใชข้ ้อมูล
ชดุ เดยี วกนั และเปรียบเทียบผลลพั ธว์ ่าตรงกันหรือไม่
กำหนดปญั หา ๑๔. ทีมผ้พู ัฒนาซอฟต์แวร์ทำการวเิ คราะหค์ วามเปน็ ไปไดใ้ นการพัฒนาซอฟต์แวร์วา่ จะ
สามารถดำเนนิ การได้สำเร็จหรือไม่ ภายใต้ปัจจัยต่าง ๆ
วิเคราะหร์ ะบบ ๑๕. ขน้ั ตอนท่ีมีขัน้ ตอนยอ่ ย ๔ ข้นั ตอน คือ สัมภาษณผ์ ใู้ ชง้ าน วิเคราะห์ปญั หาและ
ความต้องการ กำหนดขอบเขตของระบบงาน และวิเคราะห์กลุ่มกระบวนการทำงาน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒
รหสั วชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ การประยุกต์ใช้แนวคิดเชงิ คำนวณเพอ่ื พฒั นาโครงงาน เวลาเรียน ๑๔ ชวั่ โมง
ปีการศกึ ษา ๒๕๖3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ครผู ู้สอนนางสาวเตชินี ภริ มย์
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด
ว ๔.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเป็นข้นั ตอนและเป็นระบบ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม
ว ๔.๒ ม.๔/๑ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณาการกับวิชาอ่ืน
อยา่ งสร้างสรรค์ และเชอื่ มโยงกับชวี ิตจริง
๒. สาระการเรียนรู้
๒.๑ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๑) การพฒั นาโครงงาน
๒) การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน
อาหาร การเกษตร การตลาด การคา้ ขาย การทำธุรกรรม สขุ ภาพและสิ่งแวดลอ้ ม
๓) ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบอัตโนมัติควบคุมการปลูกพืช ระบบจัดเส้นทาง
การขนส่งผลผลิต ระบบแนะนำการใช้งานห้องสมุดที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้และเชื่อมต่อกับ
ฐานข้อมูล
๒.๒ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่
-
๓. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
โครงงานเทคโนโลยี คือ โครงงานที่เกี่ยวกับการนำความรู้ ทักษะ และทรัพยากรที่มีอยู่มาสร้างหรือ
พัฒนา เครื่องมือ เครื่องใช้ แบบจำลองหรือวิธีการเพื่อใช้แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ โดยมีขั้นตอนการ
ทำงานอยบู่ นพน้ื ฐานของกระบวนการเทคโนโลยี
การประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณเพื่อพัฒนาโครงงานทำได้โดยนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้หาวิธีใน
การแก้ปัญหา เมื่อได้วิธีแก้ปัญญาแล้วจืงนำปัญหานั้นมาจัดทำเป็นโครงงานที่สามารถนำมาเชื่อมโยงกับ
ชีวิตประจำวันได้ โดยมขี ้นั ตอนการดำเนนิ โครงงานเบ้ืองตน้ ท้ังหมด ๖ ขนั้ ตอน ดงั น้ี
๑) กำหนดปญั หา ๒) วเิ คราะหร์ ะบบ ๓) ออกแบบระบบ
๔) พฒั นาระบบและทดสอบระบบ ๕) ตดิ ตัง้ ระบบ ๖) บำรงุ รักษาระบบ
๔. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๑. มีวนิ ัย
๒. ความสามารถในการคิด ๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
๑) ทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ
๒) ทักษะการสื่อสาร
๓) ทักษะการทำงานรว่ มกัน
๔) ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
๕) ทักษะการแก้ปญั หา
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
๕. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
๑) ฟลปิ ชารต์ ทแี่ สดงขนั้ ตอนการทำโครงงานของกรณศี ึกษาท่ี ๑
๒) ฟลิปชาร์ตทแ่ี สดงขั้นตอนการทำโครงงานของกรณีศกึ ษาท่ี ๒
๓) ฟลปิ ชารต์ ทแี่ สดงขั้นตอนแก้ไขปัญหาทีจ่ ะนำไปทำโครงงาน
๔) รายงานผลการทำโครงงาน
๕) ป้ายนเิ ทศน์แสดงผลการทำโครงงาน
๖. การวัดและการประเมินผล
รายการวดั วธิ ีวดั เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
๖.๑ การประเมนิ ชน้ิ งาน/ - ตรวจและประเมิน - แบบประเมนิ ผลงาน/ - ระดับคณุ ภาพ ๒
ภาระงาน (รวบยอด) ฟลิปชารต์ ชน้ิ งาน ผ่านเกณฑ์
- ระดับคณุ ภาพ ๒
- ตรวจและประเมนิ รายงาน - แบบประเมนิ รายงาน ผ่านเกณฑ์
- ระดบั คุณภาพ ๒
- ตรวจและประเมนิ - แบบประเมนิ ผลงาน/ ผา่ นเกณฑ์
ชน้ิ งาน
ป้ายนิเทศน์ - ประเมนิ ตามสภาพจริง
- แบบทดสอบก่อนเรียน
๖.๒ การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ
- แบบทดสอบก่อน ก่อนเรยี น
เรยี น หน่วยการเรียนรู้
ท่ี ๒
๖.๓ การประเมินระหวา่ ง - ใบงานที่ ๒.๑ - ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
การจดั กิจกรรม
- ตรวจใบงานท่ี ๒.๑
รายการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
๑) ผลการสำรวจ - สมดุ ประจำตัว - ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
ห้องสมดุ โรงเรียน - ใบงานที่ ๒.๒-๒.๓ ประเมินตามสภาพจริง
๒) แบบฝกึ หดั เร่ือง - ตรวจแบบฝกึ หดั - กระดาษ A๔ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
แนวคิดเชงิ คำนวณ เร่อื ง แนวคดิ เชิง - ใบงานที่ ๒.๔ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
คำนวณ จาก Com - ผลงานท่นี ำเสนอ - ระดับคุณภาพ ๒
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
Sci Project การทำงานรายบุคคล - ระดับคณุ ภาพ ๒
- แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
๓) ผลการศึกษาคน้ ควา้ - ตรวจใบงานท่ี ๒.๒-๒.๓ การทำงานกลุ่ม - ระดบั คุณภาพ ๒
- แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์
กรณศี ึกษาท่ี ๑และ คุณลักษณะ - ระดบั คุณภาพ ๒
อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
กรณศี ึกษาท่ี ๒ - แบบทดสอบหลงั เรยี น - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
๔) จดุ มงุ่ หมายในการ - ตรวจกระดาษ A๔
ทำโครงงาน ที่บันทกึ จดุ มงุ่ หมาย
ในการทำโครงงาน
๕) เค้าโครงการทำ - ตรวจใบงานที่ ๒.๔
โครงงาน เร่ือง เค้าโครงการ
ทำโครงงาน
๖) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ
ผลงาน
๗) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม
การทำงาน การทำงานรายบุคคล
รายบคุ คล
๘) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม
การทำงานกลุม่ การทำงานกลุ่ม
๙) คุณลักษณะ - สังเกตความมีวินยั
อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่
ในการทำงาน
๖.๔ การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ
- แบบทดสอบหลงั เรยี น หลงั เรยี น
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒
๗. กจิ กรรมการเรยี นรู้
• แผนฯ ท่ี ๑ : กรณีศกึ ษาที่ ๑ โครงงานพฒั นาเวบ็ ไซต์แนะนำการใช้ห้องสมดุ
วิธสี อนแบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning) เวลา ๔ ชั่วโมง
• แผนฯ ที่ ๒ : กรณีศึกษาที่ ๒ โครงงานพัฒนาโปรแกรมแจ้งเตือนการกินยาผ่านสมาร์ตโฟนหรือ
แท็บเล็ต
วธิ ีสอนแบบใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (Problem-based Learning) เวลา ๔ ชว่ั โมง
• แผนฯ ท่ี ๓ : การพัฒนาโครงงาน
วิธีสอนแบบใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning) เวลา ๖ ช่ัวโมง
รวมเวลา ๑๔ ชว่ั โมง
๘. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
๘.๑ ส่ือการเรียนรู้
๑) หนังสือเรยี น รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์พ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.๔
๒) ใบงานที่ ๒.๑ แบบบนั ทึกผลการสำรวจห้องสมุดโรงเรยี น
๓) ใบงานท่ี ๒.๒ แบบบนั ทกึ ผลการศกึ ษาคน้ คว้ากรณศี ึกษาท่ี ๑
๔) ใบงานท่ี ๒.๓ แบบบนั ทกึ ผลการศกึ ษาค้นควา้ กรณีศกึ ษาท่ี ๒
๕) ใบงานท่ี ๒.๔ เรอ่ื ง เค้าโครงโครงงาน
๖) วัสดุ-อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการทำโครงงาน
๗) วสั ดุ-อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการทำปา้ ยนเิ ทศทีใ่ ช้ในการนำเสนอโครงงาน
๘.๒ แหลง่ การเรียนรู้
๑) ห้องเรยี น
๒) ห้องสมดุ
๓) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
๑. ข้อใดไม่ใช่ทักษะท่ีเกิดจากการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ๖. โครงงานพัฒนาโปรแกรมเกม จดั เปน็ โครงงาน
๑. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ คอมพวิ เตอร์ประเภทใด
๒. ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา ๑. โครงงานพัฒนาบคุ ลากร
๓. ทักษะการสื่อสารถา่ ยทอดความคดิ ๒. โครงงานทดลองทฤษฎี
๔. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ๓. โครงงานพฒั นาเครอื่ งมือ
๕. ทกั ษะการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๔. โครงงานพฒั นาส่อื เพ่อื การศกึ ษา
๒. โครงงานคอมพวิ เตอรป์ ระเภทใดทเี่ กยี่ วข้องกับ ๕. โครงงานพฒั นาโปรแกรมประยุกต์
นักเรยี นมากทส่ี ดุ ๗. ขอ้ ใดเป็นลักษณะโครงงานท่ดี ี
๑. โครงงานทดลองทฤษฎี ๑. ไมเ่ ปน็ ไปตามขอบเขตทก่ี ำหนดไว้
๒. โครงงานประยกุ ตใ์ ชง้ าน ๒. เกดิ ผลกระทบทางลบต่อคณุ ภาพชีวิตในดา้ นตา่ งๆ
๓. โครงงานพัฒนาเคร่ืองมือ ๓. ดำเนนิ การตามแผน แต่เสรจ็ ช้ากวา่ ระยะเวลาที่กำหนด
๔. โครงงานพฒั นาส่ือเพ่ือการศึกษา ๔. นำไปเป็นแนวทางในการพฒั นาโครงงานในอนาคต
๕. โครงงานประเมนิ ความเสียหายจากแผน่ ดนิ ไหว ๕. ตอบสนองความตอ้ งการหรอื แกป้ ญั หาของโครงงาน
๓. โครงการจัดระบบจองตว๋ั รถไฟบนอินเทอรเ์ น็ต ไดอ้ ย่างครบถ้วน
จัดเปน็ โครงงานคอมพิวเตอรป์ ระเภทใด ๘. จุดมงุ่ หมายของการจดั ทำเค้าโครงของโครงงานคอื อะไร
๑. โครงงานทดลองทฤษฎี ๑. เพอ่ื ให้สามารถทดสอบและแกไ้ ขโครงงานได้
๒. โครงงานประยุกตใ์ ชง้ าน ๒. เพ่ือใช้เปน็ ตน้ แบบในการประเมนิ ผลโครงงาน
๓. โครงงานพฒั นาเครอื่ งมอื ๓. เพื่อเปน็ แนวทางในการพัฒนาโครงงานในอนาคต
๔. โครงงานพัฒนาส่ือเพอ่ื การศกึ ษา ๔. เพอื่ นำเสนอข้อมลู ตอ่ ครูทีป่ รึกษาในการขอคำแนะนำ
๕. โครงงานพัฒนาเครอ่ื งมอื เพ่ือการเกษตร ๕. เพือ่ ใช้จะไดท้ ราบงบประมาณที่ใชใ้ นการทำโครงงาน
๔. โครงงานพัฒนาเครื่องมือหมายถงึ ข้อใด ๙. ขน้ั ตอนใดเป็นข้นั ตอนสดุ ท้ายของการทำโครงงาน
๑. การใช้คอมพิวเตอร์จำลองสถานการณต์ า่ ง ๆ ๑. การลงมือทำโครงงาน
๒. การใชโ้ ปรแกรมทำนายการเกดิ แผ่นดนิ ไหว ๒. การเขยี นรายงานโครงงาน
๓. การพัฒนาฮาร์ดแวร์หรือซอฟตแ์ วรค์ อมพิวเตอร์ ๓. การนำเสนอและแสดงโครงงาน
๔. การประยุกตใ์ ช้ระบบสารสนเทศภายในโรงเรียน ๔. ใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หา
๕. การสง่ เสริมให้นกั เรียนใช้คอมพวิ เตอร์เพื่อการเรยี น ๕. การศึกษาค้นควา้ จากเอกสารและแหล่งขอ้ มลู
๕. โครงงานพฒั นาบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน จัดเป็น ๑๐. เพราะเหตใุ ดจงึ ต้องมกี ารประเมินผลโครงงาน
โครงงานคอมพวิ เตอร์ประเภทใด ๑. เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจของผทู้ ำโครงงาน
๑. โครงงานพัฒนาบคุ ลากร ๒. เพื่อให้ผู้ศึกษาได้ทราบรายละเอยี ดของโครงงาน
๒. โครงงานทดลองทฤษฎี ๓. เพ่อื วัดคณุ ภาพของโครงงานว่ามีคณุ ภาพเพยี งใด
๓. โครงงานพัฒนาเครอื่ งมือ ๔. เพื่อนำเสนอข้อเสนอแนะในการทำโครงงานต่อไป
๔. โครงงานพัฒนาสอื่ เพอื่ การศกึ ษา ๕. เพอ่ื ส่งเสรมิ ให้การทำโครงงานไดร้ บั ความนิยม
๕. โครงงานพัฒนาโปรแกรมประยกุ ต์ มากขนึ้
เฉลย 1. 5 2. 4 3. 2 4. 3 5. 4 6. 5 7. 5 8. 4 9. 3 10. 3
แบบทดสอบหลังเรยี น
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๒
คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
๑. จดุ มุ่งหมายของการจดั ทำเคา้ โครงของโครงงานคอื อะไร ๖. โครงการจดั ระบบจองต๋วั รถไฟบนอินเทอรเ์ น็ต
๑. เพื่อให้สามารถทดสอบและแกไ้ ขโครงงานได้ จัดเปน็ โครงงานคอมพิวเตอรป์ ระเภทใด
๒. เพอ่ื ใช้เป็นตน้ แบบในการประเมินผลโครงงาน ๑. โครงงานทดลองทฤษฎี
๓. เพือ่ เป็นแนวทางในการพัฒนาโครงงานในอนาคต ๒. โครงงานประยกุ ตใ์ ชง้ าน
๔. เพือ่ นำเสนอข้อมลู ต่อครทู ี่ปรกึ ษาในการขอคำแนะนำ ๓. โครงงานพฒั นาเคร่อื งมอื
๕. เพอ่ื ใชจ้ ะได้ทราบงบประมาณทใ่ี ช้ในการทำโครงงาน ๔. โครงงานพฒั นาสือ่ เพื่อการศกึ ษา
๒. โครงงานพัฒนาโปรแกรมเกม จัดเป็นโครงงาน ๕. โครงงานพฒั นาเครอ่ื งมือเพื่อการเกษตร
คอมพวิ เตอร์ประเภทใด ๗. ขอ้ ใดไม่ใช่ทกั ษะที่เกดิ จากการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
๑. โครงงานพฒั นาบุคลากร ๑. ทกั ษะการแสวงหาความรู้
๒. โครงงานทดลองทฤษฎี ๒. ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหา
๓. โครงงานพัฒนาเคร่อื งมอื ๓. ทกั ษะการสอ่ื สารถา่ ยทอดความคิด
๔. โครงงานพัฒนาสื่อเพือ่ การศกึ ษา ๔. ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
๕. โครงงานพฒั นาโปรแกรมประยุกต์ ๕. ทกั ษะการดำเนินชีวติ ตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
๓. ขั้นตอนใดเปน็ ข้ันตอนสุดท้ายของการทำโครงงาน ๘. โครงงานคอมพวิ เตอร์ประเภทใดทเี่ กี่ยวข้องกบั นกั เรียนมากทส่ี ุด
๑. การลงมือทำโครงงาน ๑. โครงงานทดลองทฤษฎี
๒. การเขียนรายงานโครงงาน ๒. โครงงานประยกุ ตใ์ ช้งาน
๓. การนำเสนอและแสดงโครงงาน ๓. โครงงานพฒั นาเคร่อื งมอื
๔. ใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ญั หา ๔. โครงงานพัฒนาสอื่ เพือ่ การศึกษา
๕. การศกึ ษาค้นคว้าจากเอกสารและแหลง่ ขอ้ มลู ๕. โครงงานประเมินความเสยี หายจากแผน่ ดินไหว
๔. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะโครงงานทีด่ ี ๙. โครงงานพฒั นาบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน จดั เปน็
๑. ไมเ่ ป็นไปตามขอบเขตทก่ี ำหนดไว้ โครงงานคอมพวิ เตอรป์ ระเภทใด
๒. เกดิ ผลกระทบทางลบต่อคณุ ภาพชวี ิตในด้านต่างๆ ๑. โครงงานพัฒนาบุคลากร
๓. ดำเนนิ การตามแผน แตเ่ สร็จช้ากวา่ ระยะเวลาท่ีกำหนด ๒. โครงงานทดลองทฤษฎี
๔. นำไปเป็นแนวทางในการพฒั นาโครงงานในอนาคต ๓. โครงงานพัฒนาเครอ่ื งมอื
๕. ตอบสนองความต้องการหรอื แกป้ ญั หาของโครงงาน ๔. โครงงานพัฒนาสอ่ื เพื่อการศกึ ษา
ไดอ้ ยา่ งครบถว้ น ๕. โครงงานพฒั นาโปรแกรมประยกุ ต์
๕. เพราะเหตุใดจงึ ตอ้ งมีการประเมินผลโครงงาน ๑๐. โครงงานพัฒนาเครื่องมือหมายถึงข้อใด
๑. เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจของผู้ทำโครงงาน ๑. การใชค้ อมพวิ เตอรจ์ ำลองสถานการณต์ า่ ง ๆ
๒. เพื่อใหผ้ ศู้ ึกษาได้ทราบรายละเอียดของโครงงาน ๒. การใชโ้ ปรแกรมทำนายการเกดิ แผน่ ดินไหว
๓. เพือ่ วดั คุณภาพของโครงงานวา่ มคี ณุ ภาพเพยี งใด ๓. การพฒั นาฮาร์ดแวร์หรอื ซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์
๔. เพือ่ นำเสนอขอ้ เสนอแนะในการทำโครงงานตอ่ ไป ๔. การประยุกตใ์ ช้ระบบสารสนเทศภายในโรงเรียน
๕. เพือ่ ส่งเสรมิ ใหก้ ารทำโครงงานไดร้ บั ความนยิ ม ๕. การส่งเสรมิ ให้นักเรียนใช้คอมพิวเตอร์เพอ่ื การเรียน
มากขน้ึ
เฉลย 1. 4 2. 5 3. 3 4. 5 5. 3 6. 2 7. 5 8. 4 9. 4 10. 3
แบบประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ท่ี ๑-๓
แบบประเมนิ ฟลิปชารต์ /ปา้ ยนิเทศ
ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ๑
๔๓๒
๑ ความสอดคล้องกับจุดประสงค์
๒ ความถูกตอ้ งของเนือ้ หา รวม
๓ ความคิดสร้างสรรค์
๔ ความตรงต่อเวลา
ลงชื่อ ................................................... ครผู ู้สอน
................./................../..................
เกณฑ์การประเมินฟลิปชาร์ต/ปา้ ยนเิ ทศ
ประเด็นทปี่ ระเมิน ๔ ระดับคะแนน ๑
๓๒
1. ความ ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานไมส่ อดคล้องกับ
สอดคล้องกับ จุดประสงคท์ กุ ประเดน็ จดุ ประสงคเ์ ปน็ สว่ น จดุ ประสงค์บางประเดน็ จดุ ประสงค์
จุดประสงค์ ใหญ่
2. ความถูกตอ้ ง เนอื้ หาสาระของผลงาน เนอ้ื หาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน เนอ้ื หาสาระของผลงาน
ของเนอ้ื หา ถกู ต้องครบถ้วน ถูกตอ้ งเปน็ ส่วนใหญ่ ถูกตอ้ งบางประเดน็ ไม่ถกู ต้องเปน็ สว่ นใหญ่
3. ความคิด ผลงานแสดงถึงความคิด ผลงานแสดงถงึ ความคิด ผลงานมีความนา่ สนใจ ผลงานไมม่ ีความ
สร้างสรรค์ นา่ สนใจ และไมแ่ สดง
สร้างสรรค์ แปลกใหม่ สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ แต่ยังไมม่ แี นวคิดแปลก ถงึ แนวคิดแปลกใหม่
4. ความตรงต่อ
เวลา และเป็นระบบ แตย่ งั ไมเ่ ปน็ ระบบ ใหม่ ส่งชนิ้ งานชา้ กว่าเวลาที่
กำหนด ๓ วันขนึ้ ไป
ส่งชิ้นงานภายในเวลาท่ี สง่ ชิ้นงานชา้ กว่าเวลาที่ ส่งชนิ้ งานช้ากว่าเวลาท่ี
กำหนด กำหนด ๑ วัน กำหนด ๒ วัน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๔-๑๖ ดมี าก
๑๑-๑๓ ดี
๘-๑๐ พอใช้
ต่ำกวา่ ๘ ปรับปรงุ
แบบประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ที่ 3
แบบประเมนิ รายงาน
ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ๔ ระดบั คะแนน ๑
รวม ๓๒
๑ ความถูกต้องของเนือ้ หา
๒ ความสมบรู ณ์ของรปู เล่ม
๓ ความตรงต่อเวลา
ลงชอ่ื ................................................... ครผู ู้สอน
................./................../..................
เกณฑ์การประเมินรายงาน
ประเด็นท่ปี ระเมนิ ระดบั คะแนน
1. ความถกู ตอ้ ง
๔ ๓๒ ๑
ของเน้ือหา เนอื้ หาสาระของ
รายงานถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ
2. ความสมบูรณ์ รายงานไมถ่ ูกตอ้ งเปน็
ของรูปเลม่ มีองค์ประกอบครบถว้ น รายงานถกู ต้องเป็นส่วน รายงานถกู ตอ้ งบาง สว่ นใหญ่
สมบรู ณ์ มคี วามเปน็
3. ความตรงต่อ ระเบยี บ และรปู เล่ม ใหญ่ ประเดน็ องคป์ ระกอบไม่
เวลา สวยงาม ครบถ้วน ไม่เปน็
ส่งช้นิ งานภายในเวลาท่ี มอี งคป์ ระกอบครบถว้ น มอี งคป์ ระกอบครบถ้วน ระเบยี บ และรูปเลม่ ไม่
กำหนด สวยงาม
สมบูรณ์ มีความเป็น สมบูรณ์ แต่ยังไมเ่ ปน็
ส่งช้นิ งานช้ากวา่ เวลาที่
ระเบยี บ แตร่ ูปเล่มไม่ ระเบียบ และรปู เล่มไม่ กำหนด ๓ วนั ข้ึนไป
สวยงาม สวยงาม
สง่ ชิ้นงานชา้ กว่าเวลาท่ี สง่ ชิน้ งานช้ากว่าเวลาที่
กำหนด ๑ วัน กำหนด ๒ วัน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๑-๑๒ ดีมาก
๙-๑๐ ดี
๖-๘ พอใช้
ตำ่ กว่า ๖ ปรับปรงุ
แบบประเมินโครงงาน แผนฯ ท่ี 3
แบบประเมนิ โครงงาน (สำหรับครู)
ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๑
๔๓๒
๑ การเขยี นโครงงาน
๒ การดำเนนิ งานตามโครงงาน
๓ การบนั ทึกขอ้ มูลและหลกั ฐานประกอบ
๔ การเขียนรายงานโครงงาน
๕ การนำเสนอโครงงาน
๖ ผลงาน
รวม
ลงชอ่ื ...................................................ครูผู้สอน
.(นางสาวเตชนิ ี ภิรมย์).
เกณฑก์ ารให้คะแนน ๔
ดมี าก = ๓
ดี = ๒
พอใช้ = ๑
ปรบั ปรงุ =
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
๒๑ - ๒๔ ดมี าก
๑๗ - ๒๐ ดี
๑๒ - ๑๖ พอใช้
ต่ำกวา่ ๑๒ ปรบั ปรุง
แบบประเมินโครงงาน (สำหรับนักเรียนหรือบุคคลอ่ืน ๆ )
คำช้แี จง : แบบประเมินโครงงานนส้ี ามารถใหท้ ุกคนมีส่วนในการประเมินโครงงาน คอื สมาชิกทกุ คนในกลมุ่ เพอ่ื น
นักเรยี นกลมุ่ อื่น อาจารย์ทีป่ รกึ ษาโครงงาน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ๑
๔๓๒
๑ การเขยี นโครงงานถูกตอ้ งชัดเจน
๒ เลอื กขอ้ มูลและแหลง่ เรยี นรไู้ ด้เหมาะสม
๓ มกี ารแบ่งหนา้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบชดั เจน
๔ มีการวางแผนอยา่ งเป็นระบบ
๕ มคี วามคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
๖ มีการดำเนินงานตามแผนและรายงานผลตามกำหนดเวลา
๗ มกี ารประเมินผลและปรับปรงุ การทำงาน
๘ การสรุปผลการดำเนนิ งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์
๙ การนำเสนอผลงานไดค้ รบถว้ น สอื่ ความหมายชดั เจน
๑๐ รูปแบบการนำเสนอผลงานของโครงงานนา่ สนใจ
รวม
ลงชือ่ ...................................................ครผู สู้ อน
.(นางสาวเตชนิ ี ภิรมย์).
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมไดต้ รงตามเป้าหมายทุกประการเป็นแบบอยา่ งได้ ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมไดต้ รงตามเปา้ หมายทกุ ประการ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมไดต้ รงตามเปา้ หมายเป็นสว่ นใหญ่ ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมไดต้ รงตามเป้าหมายเป็นบางหวั ข้อ
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๓๖ - ๔๐ ดมี าก
๒๙ - ๓๕ ดี
๒๐ - ๒๘ พอใช้
ต่ำกวา่ ๒๐ ปรบั ปรงุ
หมายเหตุ ปรบั ปรุงรายการประเมินและเกณฑ์การประเมนิ ตามความเหมาะสม
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำช้ีแจง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกบั ระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน ๑
๓๒
๑ ความถูกตอ้ งของเนื้อหา
๒ ความคดิ สร้างสรรค์
๓ วิธีการนำเสนอผลงาน
๔ การนำไปใช้ประโยชน์
๕ การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชอ่ื ................................................... ครูผสู้ อน
นางสาวเตชินี ภิรมย์
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ ๒ คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ ๑ คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๔–๑๕ ดมี าก
๑๑–๑๓ ดี
๘–๑๐ พอใช้
ตำ่ กวา่ ๘ ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำช้แี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๑
๓๒
๑ การแสดงความคิดเห็น
๒ การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผ้อู น่ื
๓ การทำงานตามหนา้ ท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
๔ ความมีน้ำใจ
๕ การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่อื ................................................... ครผู ้สู อน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ (นางสาวเตชินี ภิรมย์)
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ ๓ คะแนน
ให้ ๒ คะแนน
ให้ ๑ คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๔–๑๕ ดมี าก
๑๑–๑๓ ดี
๘–๑๐ พอใช้
ตำ่ กว่า ๘ ปรับปรงุ