The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิทยาการคำนวณ ม.4
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by teachinee.phi, 2021-11-01 18:41:55

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาการคำนวณ ม.4

วิทยาการคำนวณ ม.4
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

คำชแี้ จง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ี

ตรงกบั ระดับคะแนน

การมี

ลำดบั ท่ี ช่ือ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี สว่ นรว่ มใน รวม
ของนักเรียน ความ ฟังคนอน่ื ตามที่ไดร้ ับ น้ำใจ การ ๑๕
คดิ เหน็ มอบหมาย คะแนน
ปรบั ปรุง
ผลงานกลุ่ม

๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑

ลงช่อื ................................................... ครผู สู้ อน
(นางสาวเตชินี ภริ มย์)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๔–๑๕ ดีมาก
๑๑–๑๓ ดี
๘–๑๐ พอใช้
ต่ำกวา่ ๘ ปรบั ปรงุ

แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดับคะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงคด์ ้าน ๓๒๑
๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
๑. รักชาติ ศาสน์
กษตั รยิ ์ ๑.๒ เขา้ รว่ มกิจกรรมท่สี รา้ งความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น

๒. ซ่ือสตั ย์ สุจรติ ๑.๓ เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
๓. มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ
๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๑.๔ เข้าร่วมกิจกรรมทเี่ กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามที่โรงเรยี นจัดขึน้
๒.๑ ให้ข้อมลู ท่ถี กู ตอ้ งและเป็นจรงิ
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง ๒.๒ ปฏิบัตใิ นส่งิ ทถ่ี กู ต้อง
๓.๑ ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครวั
๖. มุ่งมั่นในการทำงาน
๗. รกั ความเป็นไทย มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน
๘. มจี ติ สาธารณะ ๔.๑ รู้จกั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้
๔.๒ รู้จักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม
๔.๓ เช่ือฟงั คำส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง
๔.๔ ตัง้ ใจเรยี น
๕.๑ ใช้ทรพั ย์สินและสิ่งของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
๕.๒ ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรู้คณุ ค่า
๕.๓ ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน
๖.๑ มีความตง้ั ใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย
๖.๒ มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อปุ สรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็
๗.๑ มจี ิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
๘.๑ รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน
๘.๒ รจู้ ักการดแู ลรักษาทรพั ยส์ มบัตแิ ละสิ่งแวดล้อมของหอ้ งเรยี นและโรงเรียน

ลงชอ่ื .................................................. ครผู ู้สอน
( นางสาวเตชนิ ี ภริ มย์)

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ติกรรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนและสม่ำเสมอให้ ๓ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครั้งให้ ๒ คะแนน ๕๑–๖๐ ดมี าก

พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างครั้ง ให้ ๑ คะแนน ๔๑–๕๐ ดี

๓๐–๔๐ พอใช้

ตำ่ กว่า ๓๐ ปรับปรงุ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑

รหัสวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ การประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณเพ่อื พฒั นาโครงงาน เวลาเรยี น ๔ ช่ัวโมง

เรอื่ งที่ ๑ โครงงานพัฒนาsmart แนะนำการใช้ถังขยะอัจฉริยะ ปีการศกึ ษา ๒๕๖3

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ครูผสู้ อน นางสาวเตชนิ ี ภริ มย์

๑. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด

๑.๑ ตวั ชว้ี ดั
ว ๘.๒ ม.๔/๑ ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการพฒั นาโครงงานที่มีการบรู ณาการกบั วิชาอ่นื
อย่างสร้างสรรค์ และเชื่อมโยงกับชีวติ จริง

๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

๑. อธบิ ายการประยกุ ต์แนวคิดเชิงคำนวณเพ่ือใชใ้ นการแก้ปัญหาได้ (K)
๒. อธิบายขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงานในกรณศี กึ ษาที่ ๑ ได้ (K)
๓. ประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการพัฒนาโครงงานได้ (K)
๔. อภิปรายการใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาเพื่อนำไปสู่การพฒั นาโครงงานได้ (P)
๕. เหน็ ประโยชน์ของการประยุกต์ใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการพัฒนาโครงงาน (A)

๓. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ

- การพฒั นาโครงงาน พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

- การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่

เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน

อาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย การทำ

ธุรกรรม สขุ ภาพและสงิ่ แวดลอ้ ม

- ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบ

อัตโนมัติควบคุมการปลูกพืช ระบบจัดเส้นทาง

การขนส่งผลผลิต ระบบแนะนำการใช้งาน

หอ้ งสมดุ อัฉรยิ ะที่มีการโตต้ อบกบั ผู้ใชแ้ ละเชื่อมต่อ

กับฐานข้อมลู

๔. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

แนวคิดเชิงคำนวณเป็นแนวคิดที่สามารถนำมาปรับใช้กับการพัฒนาโครงงานในชีวิตประจำวัน เช่น
โครงงานพฒั นาsmart libraryแนะนำการใช้หอ้ งสมดุ อจั ฉริยะ

๕. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๑. มวี ินัย
๒. ความสามารถในการคดิ ๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มุ่งม่ันในการทำงาน
๑) ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
๒) ทักษะการสงั เกต
๓) ทกั ษะการสื่อสาร
๔) ทักษะการทำงานรว่ มกนั
๕) ทักษะการแกป้ ญั หา
๖) ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ
๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

๖. กจิ กรรมการเรยี นรู้

แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning)

ชั่วโมงที่ ๑
ขน้ั นำ

๑. ครกู ารเปิดคลิปวดิ โี อท่เี กยี่ วกับหอ้ งสมดุ อัฉริยะให้นกั เรียนดเู พอ่ื กระตุ้นความสนใจของนักเรียน เชน่
คลปิ วดิ ีโอข่าวห้องสมุดอฉั ริยะวศิ วะ จุฬาฯ ลดหนงั สือ เพิ่มพน้ื ที่เรยี นรู้
(https://www.youtube.com/watch?v=AZBgTLVZQcQ)

๒. ครูชักชวนนักเรียนสนทนาโดยถามนักเรียนว่า ห้องสมุดอัฉริยะที่นักเรียนอยากใช้บริการมีลักษณะ
อย่างไร โดยครูขอใหน้ ักเรียน ๑๐ คน ออกมาเขยี นคำตอบของตนเองบนกระดานตามความสมัครใจ

๓. ครูและนักเรียนร่วมกันพิจารณาคำตอบบนกระดานว่าเห็นด้วยหรือไม่ แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อหา
คำตอบเพม่ิ เตมิ

๔. ครูแจ้งชื่อเรื่องที่จะเรียนรู้และผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ แล้วให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อน
เรยี น เพือ่ วัดความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นกอ่ นเขา้ สกู่ จิ กรรม

ข้นั สอน

ข้ันท่ี ๑ การกำหนดปัญหา
๑. ครูถามคำถามเพื่อเป็นการกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า ห้องสมุดอัฉริยะที่ดีควรมีองค์ประกอบ
อะไรบา้ ง โดยครชู ักชวนให้นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายเพอื่ หาคำตอบ
(แนวตอบ ห้องสมุดอัฉริยะที่ดีควรมี ๓ องค์ประกอบ ดังนี้ ๑) หนังสือ หรือสื่อการเรียนรู้ท่ี
อยู่ในรูปแบบต่าง ๆ จะที่ต้องมีเนื้อหาดี มีคุณภาพ ไม่เป็นภัยต่อสังคม ๒) บรรยากาศดีเอื้อต่อการ
อ่านหนังสือ การให้บริการในห้องสมุดอัฉริยะเป็นกันเอง สะดวก สบาย ประหยัดพลังงาน และ
สะท้อนเอกลกั ษณ์ของชุมชน ๓) บรรณารกั ษม์ คี วามรู้ และมคี วามเป็นมอื อาชพี ในการปฏบิ ตั งิ าน)

๒. ครูให้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน ตามความสมัครใจ แล้วครูกำหนดสถานการณ์ขึ้นมาว่า ทาง
โรงเรียนต้องการจัดทำsmart libraryแนะนำการใช้งานห้องสมุดอัฉริยะของโรงเรียน เพื่อให้
ห้องสมุดอัฉริยะของโรงเรยี นเป็นห้องสมุดอัฉรยิ ะที่ดี มคี วามทันสมัย และสะดวกต่อการใช้งาน โดย
ครูสมมติใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ ต้องเป็นผทู้ ่ีมาจัดทำsmart libraryนี้

๓. ครูพานักเรียนไปห้องสมุดอัฉริยะของโรงเรียน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสำรวจห้องสมุดอัฉริยะ
อย่างอสิ ระ โดยแตล่ ะกลุ่มบันทกึ ผลการสำรวจลงในใบงานท่ี ๒.๑ แบบบันทกึ ผลการสำรวจห้องสมุด
อัฉริยะโรงเรียน (หากครูประเมินว่าเวลาในการจัดการเรียนการสอนไม่เพียงพอ ครูอาจให้นักเรียน
แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเพื่อระบุปัญหาที่เคยพบจากการใช้งานห้องสมุดอัฉริยะ โดยไม่ต้องพา
นักเรยี นไปสำรวจห้องสมุดอฉั ริยะ)
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล)

๔. ครูสุ่มนักเรียนบางกลุ่มให้ออกมานำเสมอผลการสำรวจของกลุ่มตนเองหน้าชั้นเรียน เมื่อนักเรียน
นำเสนอเสร็จครูชักชวนให้นักเรียนร่วมกันพูดคุยแล้วช่วยกันสรุปถึงปัญหาที่ทุกกลุ่มที่พบร่วมกัน
และปัญหาทีน่ ่าสนใจ

ขนั้ ท่ี ๒ ทำความเข้าใจกบั ปัญหา
๑. ครถู ามคำถามนกั เรยี น เพอื่ เป็นการกระตนุ้ ความคิดวา่ นกั เรยี นมวี ธิ ใี นการพัฒนาsmart libraryหอ้ ง
สมุดอัฉริยะอยา่ งไรบ้าง โดยครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ อภิปรายร่วมกนั หาคำตอบ แล้วให้ออกมาเขียน
คำตอบของกล่มุ ตนเองบนกระดาน
(แนวตอบ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู แต่แนวทางการแก้ปัญหาที่นักเรียนต้องเป็นลำดับ
ข้นั ตอนและเป็นระบบ)
๒. ครพู ิจารณาคำตอบแลว้ คดั เลือกคำตอบทนี่ ่าสนใจ แล้วครสู อบถามกลมุ่ เจา้ ของคำตอบถึงแนวคดิ
ของคำตอบ โดยครูเปดิ โอกาสให้เพอ่ื นร่วมชน้ั เรียนร่วมกันสอบถามเพ่ือให้เข้าใจแนวคิดของกลุม่ น้ัน
๓. ครูอธิบายให้นกั เรียนเข้าใจวา่ วิธกี ารแก้ปัญหามหี ลายวิธี ดงั เชน่ คำตอบทน่ี ักเรียนแตล่ ะกลุ่มตอบมี
หลายคำตอบ แต่วธิ กี ารแกป้ ัญหาทีด่ ีควรเปน็ ลำดับขน้ั ตอน และเป็นระบบ ซ่ึงวิธกี ารแกป้ ญั หาแบบ
นี้จะเป็นการนำแนวคิดเชงิ คำนวณมาใชใ้ นการแกป้ ญั หา
๔. ครูถามคำถามเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนว่า แนวคิดเชิงคำนวณคืออะไรและ
แบง่ เปน็ ทักษะยอ่ ยได้กท่ี ักษะ โดยครชู กั ชวนให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั หาคำตอบ
(แนวตอบ แนวคิดเชิงคำนวณเป็นทักษะที่มุ่งเน้นการคิดเชิงตรรกะ และเป็นการแก้ไขปัญหา
อย่างเป็นลำดับขั้นตอน โดยโดยการเข้าใจปัญหาและวิธีการในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาที่ทั้งมนุษย์และคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจร่วมกันได้ ซึ่งแบ่งเป็น
ทักษะย่อยได้ ๔ ทักษะ คือ แนวคิดการแยกย่อย แนวคิดการจดจำรูปแบบ แนวคิดเชิงนามธรรม
และแนวคดิ การออกแบบข้นั ตอน)
๕. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันศกึ ษาความต้องการของระบบเบือ้ งต้นจากเร่ือง การประยุกตแ์ นวคิด
เชงิ คำนวณเพื่อแก้ปัญหา โดยสมมุติวา่ เปน็ ความต้องการของระบบsmart libraryห้องสมุดอัฉริยะที่
ทางโรงเรยี นกำหนดมา
๖. ครูสุ่มถามนักเรียนและพูดคยุ กับนักเรยี นเกี่ยวกบั เร่ืองที่ได้ศึกษา เพื่อเป็นการตรวจสอบความเข้าใจ
โดยให้ไดข้ อ้ สรปุ วา่ ความต้องการของระบบsmart libraryห้องสมุดอฉั รยิ ะของโรงเรียน มีดังน้ี
๑) smart libraryตอ้ งเปน็ ลกั ษณะแอปพลิเคชันและรองรับการทำงานบนอุปกรณ์เคลอื่ นที่
๒) smart libraryตอ้ งแนะนำการใช้งานหอ้ งสมดุ อฉั ริยะโดยครอบคลมุ ทกุ หัวข้อ

๓) smart libraryตอ้ งจดั เกบ็ ข้อมูลในลักษณะฐานข้อมลู
๗. เมื่อนักเรียนทราบความต้องการของระบบแล้ว ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาและทำความ

เข้าใจ การนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้ในการหาวิธีการแก้ปัญหาความต้องการของระบบsmart
libraryห้องสมุดอัฉริยะของโรงเรียน โดยที่ระหว่างนักเรียนศึกษาครูควรคอยสังเกตการณ์ และให้
คำแนะนำเมื่อนักเรียนประสบปญั หา
๘. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันสรปุ เร่อื ง การนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้ในการหาวิธีการแก้ปัญหา
ความต้องการของระบบsmart libraryห้องสมุดอัฉริยะของโรงเรียน เป็นแผนที่ความคิดลงใน
กระดาษฟลิปชารต์ โดยทำเปน็ การบ้านมาส่งครู
(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ )
๙. ครมู อบหมายให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด เร่ือง แนวคิดเชิงคำนวณ จาก Com Sci Project โดยทำเปน็
การบ้านมาสง่ ครู

ชัว่ โมงที่ ๒

ข้นั ที่ ๓ ดำเนนิ การศึกษาคน้ คว้า
๑. ครูให้แต่ละกลุ่มนำแผนที่ความคิดที่ได้ทำเป็นการบ้านมาแปะที่ฝาผนังห้องเรียน โดยครูตรวจสอบ
ความถกู ต้อง แลว้ ใหน้ กั เรียนเดนิ ชมแผนทคี่ วามคดิ ของกล่มุ ต่าง ๆ รอบหอ้ งเรยี น
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบประเมินผลงาน/ช้นิ งาน)
๒. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับโครงงานทางด้านเทคโนโลยี เช่น โครงงานคอมพิวเตอร์ แล้วครู
ถามคำถามเพือ่ เป็นการกระตนุ้ ความคิด ดังนี้
๑) โครงงาน คือ อะไร
(แนวตอบ กิจกรรมที่ศึกษาและค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของ
ผู้เรียน โดยใชว้ ธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร)์
๒) ข้นั ตอนเบ้อื งต้นของการพฒั นาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีมกี ่ีข้ันตอน อะไรบา้ ง
(แนวตอบ ขั้นตอนเบื้องต้นของการพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีมี ๖ ขั้นตอน ได้แก่
กำหนดปัญหา วิเคราะห์ระบบ ออกแบบระบบ พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ติดตั้งระบบ และ
บำรุงรกั ษาระบบ)
๓. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นโครงงานทางด้านเทคโนโลยีโครงงานหนึ่ง จึง
สามารถพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ตามขั้นตอนการพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีเบื้องต้น ๖
ขนั้ ตอนได้ แล้วอธิบายเชื่อมโยงไปกบั แผนทค่ี วามคิดท่ีแปะไว้ท่ีฝาผนังห้องเรียนว่า วิธีการแก้ปัญหา
ทีไ่ ด้จากการนำแนวคิดเชิงคำนวณท่ีแสดงในแผนที่ความคิดเป็นข้ันตอนการวิเคราะห์ปัญหาเบ้ืองต้น
ที่นำไปสู่การทำโครงงาน
๔. ครูให้นักเรียนกลับเข้าสู่กลุ่มเดิมที่เคยแบ่งไว้ในชั่วโมงแรก แล้วให้นักเรียนศึกษากรณีศึกษาที่ ๑
โครงงานงานพฒั นาsmart libraryแนะนำการใชง้ านห้องสมุดอัฉริยะ โดยใหแ้ ตล่ ะกลุม่ รว่ มกันศึกษา
ขั้นที่ ๑ การกำหนดปัญหา และขั้นท่ี ๒ วิเคราะห์ระบบ สืบค้นเพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ
เพื่อเสริมความเข้าใจ แล้วให้นักเรียนแต่ละคนบันทึกลงในใบงานที่ ๒.๒ ใบบันทึกผลการศึกษา
ค้นคว้ากรณศี ึกษาที่ ๑

ขั้นท่ี ๔ สังเคราะห์ความรู้
๑. ครูให้นักเรียนแต่ละคนนำข้อมูลที่ตนเองได้บันทึกไว้ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนร่วมกันเพื่อนภายในกลุ่ม
แล้วสมาชิกทุกคนภายในกลุ่มร่วมกันสรุปเป็นข้อมูลผลการศึกษาของกลุ่ม โดยที่ครูตรวจสอบความ
ถกู ต้องของขอ้ มลู แตล่ ะกลุ่ม
๒. ครูส่มุ นกั เรยี นบางกลมุ่ ใหน้ ักเรียนออกมานำเสนอข้อมูลทกี่ ลุ่มตนเองได้ศึกษามา โดยครคู อยเพิ่มเติม
ให้สมบรู ณ์
๓. ครใู ห้นกั เรยี นพิจารณาขอ้ มูลท่ีเพ่ือนนำเสนอกบั ข้อมูลของกลุ่มตนเองว่ามีข้อมลู ใดที่แตกตา่ งกัน โดย
ครูชักชวนให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันว่า ข้อมูลใดที่สมบูรณ์กว่า เพื่อให้
นักเรียนได้มคี วามเข้าใจในขอ้ มูลได้ตรงกัน

ชว่ั โมงที่ ๓

ขั้นท่ี ๓ ดำเนนิ การศึกษาค้นควา้
๑. ครชู กั ชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับข้ันที่ ๑ และข้ันที่ ๒ ของกรณศี กึ ษาท่ี ๑ ทไ่ี ด้ศึกษาในช่ัวโมงที่ผ่าน
มาเพื่อเป็นการทบทวน
๒. ครูให้นักเรียนกลับเข้าสู่กลุ่มเดิมที่เคยแบ่งไว้ในชั่วโมงแรก แล้วให้แต่ละกลุ่มศึกษากรณีศึกษาที่ ๑
โดยให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาขั้นที่ ๓ ออกแบบระบบ ถึงขั้นที่ ๖ บำรุงรักษาระบบ สืบค้นเพิ่มเติม
จากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เพื่อเสริมความเขา้ ใจ แล้วให้นักเรยี นแต่ละคนบันทึกลงในใบงานที่ ๑.๒
ใบบนั ทกึ ผลการศึกษาคน้ ควา้ กรณีศึกษาที่ ๑

ขัน้ ท่ี ๔ สงั เคราะห์ความรู้
๑. ครูให้นักเรียนแต่ละคนนำข้อมูลที่ตนเองได้บันทึกไว้ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนร่วมกันเพื่อนภายในกลุ่ม
แล้วสมาชิกทุกคนภายในกลุม่ ร่วมกันสรุปเป็นข้อมูลผลการศึกษาของกลุ่ม โดยที่ครูตรวจสอบความ
ถกู ตอ้ งของขอ้ มูลแตล่ ะกลุ่ม
๒. ครูสุม่ นกั เรยี นบางกลุ่มใหน้ ักเรยี นออกมานำเสนอข้อมลู ที่กลุ่มตนเองไดศ้ ึกษามา โดยครคู อยเพิ่มเติม
ให้สมบรู ณ์
๓. ครใู ห้นักเรยี นพิจารณาขอ้ มลู ท่ีเพื่อนนำเสนอกับขอ้ มูลของกลุ่มตนเองว่ามีข้อมลู ใดท่แี ตกต่างกนั โดย
ครูชักชวนให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันว่า ข้อมูลใดที่สมบูรณ์กว่า เพื่อให้
นักเรียนได้มคี วามเขา้ ใจในขอ้ มูลได้ตรงกัน

ข้ันสรปุ

ขัน้ ท่ี ๕ สรุปและประเมนิ ค่าหาคำตอบ
๑. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำข้อมลู ของผลการศกึ ษากลุ่มและข้อมลู จากใบงานที่ ๑.๒ มาสรุปเป็นแผน
ทคี่ วามคิดแสดงขัน้ ตอนการทำโครงงานของกรณีศึกษาท่ี ๑ ลงในกระดาษฟลปิ ชาร์ต
(หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม)
๒. ครูแจ้งนักเรียนจะให้แต่ละกลุ่มนำเสนอแผนที่ความคิดของกลุ่มตนเองในชั่วโมงถัดไป เพื่อให้
นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรยี มการนำเสนอข้อมลู ด้วยวิธีการสอื่ สารทที่ ำใหผ้ อู้ นื่ เข้าใจง่ายและนา่ สนใจ

ช่วั โมงที่ ๔

ขั้นท่ี ๖ นำเสนอและประเมินผลงาน
๑. ครูให้แต่ละกลุ่มนำแผนที่ความคิดที่ได้ทำในชั่วโมงที่ ๓ มาแปะที่ฝาผนังห้องเรียน แล้วให้นักเรียน
เดินชมแผนที่ความคดิ ของกลมุ่ ตา่ ง ๆ รอบห้องเรียน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมินผลงาน/ชิน้ งาน)
๒. ครูจับสลากเลือกลำดับของแต่ละกลุ่มให้ออกมานำเสนอแผนที่ความคิด โดยให้นักเรียนกลุ่มที่ถูก
เลือกเป็นอันดบั แรกส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการศึกษาทลี ะกล่มุ จนครบ
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน)
๓. นักเรียนกลมุ่ อ่นื ๆ และครูร่วมกนั วพิ ากษเ์ ก่ยี วกับข้อมลู ท่ตี วั แทนนักเรียนออกมานำเสนอ จนทุกคน
มคี วามรู้ ความเข้าใจท่ถี ูกตอ้ ง และตรงกัน
๔. ครูอธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมหลังการอภิปรายของนักเรียนในส่วนที่ขาดตกบกพร่อง หรือส่วนที่เป็ น
ประเด็นสำคัญ
๕. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจก่อนเรียนของนักเรยี น
๖. ครูตรวจสอบผลการสำรวจห้องสมุดอฉั รยิ ะโรงเรียนท่ีนักเรียนได้บันทกึ ลงในใบงานท่ี ๒.๑
๗. ครตู รวจสอบผลการทำแบบฝึกหัด เรอื่ ง แนวคิดเชิงคำนวณ จาก Com Sci Project
๘. ครูตรวจสอบผลการศกึ ษาคน้ คว้ากรณีศึกษาท่ี ๑ ทีน่ กั เรยี นไดบ้ นั ทกึ ลงในใบงานท่ี ๒.๒
๙. ครูประเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจาก
การนำเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน
๑๐. ครปู ระเมนิ ผลชิ้นงาน/ผลงานท่ีเกดิ จากการทำแผนท่ีความคิดแสดงการนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้
ในการแก้ปัญหาในขั้นทำความเข้าใจกับปัญหาและแผนที่ความคดิ แสดงขั้นตอนการทำโครงงานของ
กรณศี กึ ษาที่ ๑ ในขัน้ สรปุ และประเมนิ ค่าหาคำตอบ

๗. การวดั และประเมินผล

รายการวัด วิธวี ดั เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจริง
๗.๑ การประเมนิ ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบ

- แบบทดสอบหลังเรยี น ก่อนเรยี น

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๒

๗.๒ การประเมินระหวา่ งการ

จัดกจิ กรรม

๑) ผลการสำรวจหอ้ งสมดุ - ตรวจใบงานท่ี ๒.๑ - ใบงานท่ี ๒.๑ ประเมินตามสภาพจริง

อจั ฉริยะโรงเรยี น

๒) การนำแนวคิดเชงิ - ตรวจฟลิปชาร์ตท่ี - แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ ระดับคุณภาพ ๒
ผลงาน ผ่านเกณฑ์
คำนวณมาใชใ้ นการหา แสดงการนำแนวคดิ

วธิ กี ารแกป้ ัญหา เชงิ คำนวณมาใชใ้ น

การแกป้ ญั หา

๓) แบบฝกึ หัด เร่ือง แนวคิด - ตรวจแบบฝกึ หดั - สมุดประจำตัว ร้อยละ ๖๐ ผ่าน
เกณฑ์
เชงิ คำนวณ เรอ่ื ง แนวคิดเชงิ

คำนวณ จาก Com

Sci Project

๔) ผลการศกึ ษาค้นควา้ - ตรวจใบงานท่ี ๒.๒ - ใบงานท่ี ๒.๒ ประเมินตามสภาพจรงิ

กรณศี ึกษาที่ ๑

๕) ขั้นตอนการทำโครงงาน - ตรวจฟลิปชาร์ตที่ - แบบประเมินช้ินงาน/ ระดับคุณภาพ ๒
ผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ของกรณศี ึกษาที่ ๑ แสดงขนั้ ตอนการทำ

โครงงานของ

กรณีศกึ ษาที่ ๑

๖) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - ผลงานทีน่ ำเสนอ ระดับคุณภาพ ๒
ผ่านเกณฑ์
ผลงาน
- แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ ๒
๗) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์

รายบุคคล การทำงาน

รายบคุ คล

๘) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกต ระดบั คุณภาพ ๒
กลุม่ การทำงานกลุ่ม พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
การทำงานกลุ่ม
๙) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมวี ินยั ระดับคุณภาพ ๒
อันพึงประสงค์ รบั ผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
และมุ่งมน่ั ในการ คุณลกั ษณะ
ทำงาน อนั พึงประสงค์

๘. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้

๘.๑ สอื่ การเรียนรู้
๑) หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.๔ หนว่ ยการเรยี นรู้
ที่ ๒ การประยกุ ตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณเพ่ือพัฒนาโครงงาน
๒) ใบงานท่ี ๒.๑ แบบบนั ทกึ ผลการสำรวจห้องสมดุ อัจฉริยะโรงเรยี น
๓) ใบงานที่ ๒.๒ แบบบันทกึ ผลการศึกษาค้นคว้ากรณีศกึ ษาท่ี ๑

๘.๒ แหลง่ การเรยี นรู้
๑) ห้องเรยี น
๒) หอ้ งสมดุ อจั ฉรยิ ะ
๓) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ

ใบงานที่ ๒.๑

แบบบันทกึ ผลการสำรวจห้องสมุดอจั ฉรยิ ะโรงเรียน

ชื่อ-สกุล สมาชิกในกลมุ่ ๑)……………………………………………………………………………………………………...
๒) ……………………………………………………………… ๓)…….………………………………………………………………
๔) ……………………………………………………………… ๕)…….………………………………………………………………

ส่ิงทส่ี ำรวจ ผลการสำรวจ
๑. ปญั หาทพี่ บ
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………

๒. สง่ิ ที่ควรปรับปรงุ ………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี ๒.๑

แบบบันทึกผลการสำรวจหอ้ งสมุดอจั ฉริยะโรงเรยี น (ตัวอยา่ งคำตอบ)

ชือ่ -สกุล สมาชกิ ในกลุ่ม ๑)………………………………………………………………………………………………………..
๒) ……………………………………………………………… ๓)…….………………………………………………………………
๔) ……………………………………………………………… ๕)…….………………………………………………………………

สง่ิ ท่ีสำรวจ ผลการสำรวจ
๑. ปัญหาที่พบ
- หนงั สอื เก่า มีจำนวนมาก
- คน้ หาหนงั สอื ที่ต้องการได้ยาก
- สถานทน่ี ง่ั อ่านหนงั สือไม่เพียงพอ
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………

๒. สิ่งท่ีควรปรบั ปรงุ - การจัดหมวดหมูข่ องหนังสอื …
- ระบบการใชง้ านห้องสมุดอัฉรยิ ะ เช่น มีระบบออนไลน์ หรือsmart
library
- ผู้ดแู ลห้องสมดุ อัจฉรยิ ะ
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………

(ขน้ึ อยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน)

ใบงานท่ี ๒.๒

แบบบนั ทกึ ผลการศึกษากรณศี กึ ษาที่ ๑

คำชแี้ จง : บันทึกผลทีไ่ ดจ้ ากการศึกษาและสบื คน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กรณีศึกษาท่ี ๑ โครงงานพัฒนา
smart library แนะนำการใช้หอ้ งสมดุ อจั ฉรยิ ะ

กรณศี กึ ษาท่ี ๑ โครงงานพฒั นาsmart libraryแนะนำการใช้ห้องสมุดอัจฉรยิ ะ

ขั้นที่ ๑ กำหนดปญั หา ขอ้ มูลทเ่ี กย่ี วข้อง

ประเดน็ หลัก

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ข้ันท่ี ๒ วิเคราะห์ระบบ ขอ้ มูลทีเ่ กย่ี วข้อง

ประเดน็ หลัก

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ขน้ั ท่ี ๓ ออกแบบระบบ ข้อมูลที่เกีย่ วข้อง

ประเดน็ หลกั

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ชื่อ…………………………………………………………………ช้ัน………………….เลขท…่ี ……………………

ใบงานที่ ๒.๒

แบบบนั ทึกผลการศึกษากรณีศึกษาที่ ๑

ขน้ั ที่ ๔ พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ข้อมูลที่เกยี่ วข้อง

ประเดน็ หลกั

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ข้นั ท่ี ๕ ติดตัง้ ระบบ ข้อมูลท่เี กี่ยวข้อง

ประเดน็ หลัก

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ข้ันที่ ๖ บำรุงรกั ษาระบบ ข้อมูลที่เก่ยี วข้อง

ประเด็นหลัก

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ชื่อ…………………………………………………………………ชั้น………………….เลขท…ี่ ……………………

ใบงานท่ี ๒.๒

แบบบันทกึ ผลการศึกษากรณีศึกษาที่ ๑ (ตัวอยา่ งคำตอบ)

คำชแี้ จง : บันทึกผลทไ่ี ด้จากการศกึ ษาคน้ ควา้ ข้อมลู เกี่ยวกบั กรณีศึกษาท่ี ๑ โครงงานพัฒนา
smart libraryแนะนำการใช้หอ้ งสมุดอจั ฉรยิ ะ

กรณศี ึกษาที่ ๑ โครงงานพฒั นาsmart libraryแนะนำการใช้หอ้ งสมดุ อัจฉริยะ

ขัน้ ที่ ๑ กำหนดปญั หา ขอ้ มูลทเี่ กี่ยวข้อง

ประเดน็ หลกั

- ประชุมทีมงานเพื่อกำหนดหน้าที่ ข้อตกลง และ - ความสามารถของทีมงานแตล่ ะคนในทีม เพื่อจะ

ลกั ษณะของการทำงาน . ไดร้ ะบหุ น้าทไ่ี ดต้ รงตามความถนัด .

- กำหนดแผนการดำเนนิ การ โดยมกี ารกำหนดเวลาใน - แผนภมู ิแกนต์ (Gantt chart) เป็นแผนผงั คมุ

แตล่ ะข้ันอยา่ งชัดเจน . กำหนดงาน มักใช้ในด้านการจัดการโครงการ ผงั ใน

………………………………………………………………………….. ลกั ษณะนี้จะแสดงถึงปริมาณงานและกำหนดเวลาที่

………………………………………………………………………….. จะต้องใช้ เพือ่ ทำงานนนั้ ใหล้ ลุ ว่ ง .

ข้นั ที่ ๒ วิเคราะหร์ ะบบ ขอ้ มูลทเี่ กย่ี วข้อง

ประเด็นหลัก

- สัมภาษณ์ผู้ใช้งาน โดยใช้คำถามที่ร่วมกันกำหนดเพื่อ - แผนภาพบริบท (context diagram) เป็นแผนภาพ
. กระแสข้อมูลระดับบนสุดที่แสดงภาพรวมการทำงานของ
นำไปเก็บข้อมลู
- นำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ความ ระบบทม่ี คี วามสัมพนั ธ์กับสภาพแวดล้อมภายนอกระบบ
เกี่ยวข้องเพื่อนำมาระบุเป็นความต้องการของผู้เกี่ยวข้อง - แผนภาพกระแสข้อมูล (dataflow diagram) เป็น
แผนภาพการไหลของข้อมูลซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้แสดงการ
.- กำหนดขอบเขตของระบบ โดยแสดงออกมาเป็น ไหลของข้อมูลและการประมวลผลต่าง ๆ ในระบบ ท่ี
สมั พันธก์ บั แหล่งเกบ็ ขอ้ มลู ท่ใี ช้
แผนภาพ .

ขั้นท่ี ๓ ออกแบบระบบ ขอ้ มูลท่เี กีย่ วข้อง

ประเดน็ หลัก

- กำหนดขั้นตอนการทำงานของระบบโดยใช้แผนภาพ - แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน

แสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน แผนภาพแดง (flowchart) เป็นแผนภาพที่แสดงขั้นตอนการ

ความสัมพันธ์ของขอ้ มูล และพจนานุกรมข้อมลู . กำหนดวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ จากขั้นรอนการ

- ออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน (user interface) ซ่ึง วเิ คราะหร์ ะบบ .

หมายถึงการออกแบบหนา้ smart library . ………………………………………………………………………

ใบงานที่ ๒.๒

แบบบนั ทกึ ผลการศึกษากรณศี ึกษาที่ ๑

ขนั้ ที่ ๔ พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ประเด็นหลกั

- ดำเนินการพัฒนาระบบตามการออกแบบจาก - ภาษาท่ใี ชใ้ นการพัฒนาsmart library เชน่ HTML

ขน้ั ตอนการออกแบบระบบ . PHP Java Scrip

- มีการทดสอบระบบการทำงานของsmart library - เคร่อื งมือที่ใช้ในการพัฒนาsmart library เช่น Adobe

เพ่ือยนื ยันความถูกต้องในการทำงาน . Dreamweaver .

………………………………………………………………………….. - ซอฟต์แวรท์ ใ่ี ช้ เช่น Apache MySQL .

………………………………………………………………………….. .…………………………………………………………………………..

ข้นั ท่ี ๕ ตดิ ตงั้ ระบบ ข้อมูลทเ่ี ก่ยี วข้อง

ประเด็นหลัก

- ตดิ ตงั้ ระบบหลังจากหลกั จากทดสอบระบบเรียบร้อย - เวบ็ โฮสตง้ิ (Web Hosting) คอื พืน้ ท่กี ารใชง้ าน

แล้ว โดยsmart libraryจะติดตั้งที่เว็บโฮสติงจริง อนิ เตอรเ์ น็ต .

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

ข้นั ท่ี ๖ บำรงุ รกั ษาระบบ ข้อมูลทีเ่ กีย่ วข้อง

ประเด็นหลกั

- ทีมพัฒนาทำการแก้ไข ปรับปรุง และเพิ่ม - ข้อเห็นของผใู้ ช้งานระบบ .

ประสิทธิภาพของsmart library ตามข้อคิดเห็นของ …………………………………………………………………………..

ผใู้ ช้งาน …………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

(พิจารณาตามความเหมาะสมของขอ้ มลู โดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน)

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๒

รหัสวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ การประยุกตใ์ ชแ้ นวคิดเชิงคำนวณเพ่ือพฒั นาโครงงาน เวลาเรียน ๔ ชัว่ โมง

เรอ่ื งที่ ๒ โครงงานพฒั นาโปรแกรมแจ้งเตือนการกินยาผา่ นสมาร์ตโฟนหรือแทบ็ เลต็ ปีการศกึ ษา ๒๕๖3

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ครผู ูส้ อน นางสาวเตชนิ ี ภิรมย์

๑. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด

๑.๑ ตวั ชี้วัด
ว ๔.๒ ม.๔/๑ ประยกุ ต์ใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณาการกับวิชาอื่น
อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชื่อมโยงกับชีวติ จริง

๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๑. อธบิ ายการประยุกต์แนวคดิ เชิงคำนวณเพื่อใช้ในการแก้ปญั หาได้ (K)
๒. อธบิ ายข้นั ตอนการพัฒนาโครงงานในกรณีศึกษาท่ี ๑ ได้ (K)
๓. ประยุกต์ใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการพฒั นาโครงงานได้ (K)
๔. อภปิ รายการใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาเพ่ือนำไปส่กู ารพัฒนาโครงงานได้ (P)
๕. เหน็ ประโยชน์ของการประยุกต์ใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการพัฒนาโครงงาน (A)

๓. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ

- การพัฒนาโครงงาน พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

- การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่

เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน

อาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย การทำ

ธุรกรรม สุขภาพและส่ิงแวดล้อม

- ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบ

อัตโนมัติควบคุมการปลูกพืช ระบบจัดเส้นทาง

การขนส่งผลผลิต ระบบแนะนำการใช้งาน

ห้องสมุดที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้และเชื่อมต่อกับ

ฐานขอ้ มูล

๔. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

แนวคิดเชิงคำนวณเป็นแนวคิดที่สามารถนำมาปรับใช้กับการพัฒนาโครงงานในชีวิตประจำวัน เช่น
โครงงานพัฒนาโปรแกรมแจ้งเตือนการกนิ ยาผา่ นแทบ็ เล็ต

๕. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๑. มีวินัย
๒. ความสามารถในการคดิ ๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มุ่งม่ันในการทำงาน
๑) ทกั ษะการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
๒) ทักษะการสงั เกต
๓) ทักษะการส่ือสาร
๔) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน
๕) ทกั ษะการแก้ปญั หา
๖) ทักษะการคิดเชิงคำนวณ
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

๖. กิจกรรมการเรยี นรู้

แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning)

ชั่วโมงท่ี ๑
ขนั้ นำ

๑. ครูนำยาที่มีเวลาในรับประทานต่างกันและรกั ษาอาการต่างกัน เช่น ยาแก้ปวด รับประทานครั้งละ
๑ เม็ด วันละ ๑ ครั้ง หลังอาหารเช้า ยาคลายกล้ามเนื้อ รับประทานครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๓ ครั้ง
หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น และยาแก้ไอ รับประทานครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๓ ครั้ง หลังอาหาร
เช้า-กลางวัน-เย็น เป็นต้น แจกให้นักเรียนร่วมกันพิจารณาถึงความแตกต่างของปริมาณในการ
รบั ประทานตอ่ ครั้งและจำนวนคร้งั ที่รบั ประทานในแตล่ ะวัน

๒. ครูชักชวนนักเรียนสนทนาโดยถามว่า เพราะเหตุใดยาแต่ละชนิดถึงมีความแตกต่างของปริมาณใน
การรับประทานต่อครั้งและจำนวนครั้งที่รับประทานในแต่ละวัน โดยให้นักเรียนร่วมกันแลกเปลี่ยน
ความคดิ เห็นเพอ่ื หาช่วยกันหาคำตอบอย่างอิสระ

ขนั้ สอน

ขนั้ ท่ี ๑ การกำหนดปญั หา
๑. ครถู ามคำถาม เพอื่ เปน็ การกระตนุ้ ความคดิ นักเรียนวา่ หากนกั เรียนลืมกินยา จะมีวิธใี ดเพื่อเตือนให้
นกั เรียนกนิ ยาตรงตามเวลาได้ โดยครชู กั ชวนใหน้ ักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายเพอ่ื หาคำตอบ
(แนวตอบ ตั้งเวลาปลุกเตือนจากโทรศัพท์ หรือให้เพื่อนช่วยโทรมาเตือน หรือขึ้นอยู่กับดุลย
พนิ ิจของครผู ู้สอน )
๒. ครใู หเ้ รียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๔-๕ คน ตามความสมัครใจ แลว้ สมมตสิ ถานการณ์ขึ้นมาว่า คุณครูเป็น
โรคประจำตัวท่จี ะต้องรับประทานยาเป็นประจำ จึงอยากท่จี ะมีตวั ชว่ ยท่จี ะแจ้งเตือนให้รับประทาน
ยาไดต้ รงเวลา

๓. ครูให้นักเรียนช่วยกันระดมความคิดเพื่อหาวธิ ีการแก้ไขสถานการณ์ตามความเข้าใจของนักเรียนแต่
ละกลุ่ม โดยครูให้แตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั อภปิ รายเพื่อหาข้อสรุปของกลุ่ม แลว้ ใหอ้ อกมาเขียนข้อสรุปของ
กลุ่มตนเองบนกระดาน

๔. ครูพิจารณาข้อสรุปของแต่ละกลุ่มแล้วคัดเลือกข้อสรุปที่น่าสนใจ แล้วครูสอบถามกลุ่มเจ้าของ
คำตอบถึงแนวคิดที่ใช้ในการแก้ไขสถานการณ์ โดยครูเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนร่วมกัน
สอบถามเพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจแนวคิดของกล่มุ น้นั

๕. ครรู ว่ มกนั สรุปถงึ แนวทางแก้ไขปัญหา โดยแนวทางการแก้ไขปญั หาทไ่ี ด้ควรเป็นการพฒั นาโปรแกรม
หรอื แอปพลเิ คชันแจ้งเตอื นผ่านสมาร์ตโฟนเมอื่ ถึงเวลารับประทานยา เพราะสะดวกตอ่ การใชง้ าน

ขน้ั ที่ ๒ ทำความเข้าใจกบั ปัญหา
๑. ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจว่า วิธีการแก้ปัญหามหี ลายวิธี ดังเช่น คำตอบทน่ี ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มตอบมี
หลายคำตอบ แตว่ ิธีการแกป้ ัญหาทดี่ ีควรเป็นลำดับขัน้ ตอน และเปน็ ระบบ ซ่ึงวิธีการแก้ปัญหาแบบ
นี้จะเปน็ การนำแนวคดิ เชิงคำนวณมาใชใ้ นการแก้ปญั หา
๒. ครูถามคำถามเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนว่า การแก้ไขปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิง
คำนวณมีกข่ี ั้นตอน อะไรบ้าง โดยครูชกั ชวนใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั หาคำตอบ
(แนวตอบ การแก้ไขปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณมี ๔ ขั้นตอน คือ ๑) ใช้แนวคิดแยกย่อย
แตกปัญหาใหญ่ใหเ้ ป็นปญั หาย่อย ๒) ใช้แนวคิดการจดจำรูปแบบ ดูความเหมือนความแตกต่างของ
รูปแบบการเปล่ียนแปลง ๓) ใช้แนวคิดเชิงนามธรรม มุ่งเน้นไปที่ความสำคัญของปัญหาโดยไม่สนใจ
รายละเอยี ดที่ไมจ่ ำเป็น ๔) ใช้แนวคดิ การออกแบบข้ันตอน โดยการออกแบบกระบวนการแก้ปัญหา
อยา่ งเป็นลำดบั ข้ันตอน)
๓. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำความเข้าใจความต้องการของระบบแจ้งเตือนการกินยาผ่าน
สมาร์ตโฟน เบื้องต้นจาก เรื่อง การประยุกต์แนวคิดเชิงคำนวณเพื่อแก้ปัญหาโดยถือว่าเป็นความ
ต้องการของผู้ใชง้ านระบบนี้
๔. ครูสุ่มถามนักเรียนและพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับความต้องการของระบบว่าเกี่ยวกับกับผู้ใช้งาน
อยา่ งไร และตอ้ งจดั เกบ็ ข้อมูลอย่างไร เพอ่ื เป็นการตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน
๕. เมื่อนักเรียนเข้าใจความต้องการของระบบแล้ว ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาและทำความ
เข้าใจ การนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้ในการหาวิธีการแก้ปัญหาความต้องการของระบบแจ้งเตือน
การกินยาผ่านสมาร์ตโฟน โดยที่ระหว่างนักเรียนศึกษาครูควรคอยสังเกตการณ์ และให้คำแนะนำ
เมือ่ นักเรียนประสบปญั หา
๖. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สรุป เร่ือง การนำแนวคดิ เชิงคำนวณมาใช้ในการหาวิธีการแก้ปัญหา
ความต้องการของระบบแจ้งเตือนการกินยาผ่านสมาร์ตโฟน เป็นแผนที่ความคิดลงในกระดาษฟลิป
ชารต์ โดยทำเปน็ การบ้านมาส่งครู
(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ )

ช่วั โมงที่ ๒

ข้ันท่ี ๓ ดำเนินการศกึ ษาคน้ ควา้
๑. ครูให้แต่ละกลุ่มนำแผนที่ความคิดที่ได้ทำเป็นการบ้านมาแปะที่ฝาผนังห้องเรียน โดยครูตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง แล้วให้นักเรียนเดินชมแผนทีค่ วามคดิ ของกล่มุ ต่าง ๆ รอบห้องเรียน
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ ผลงาน/ช้นิ งาน)

๒. ครูถามคำถามเพอื่ เป็นการทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนวา่ โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศแตกต่าง
จากโครงงานทวั่ ไปอยา่ งไร โดยครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันระดมความคิดเพ่ือชว่ ยกันหาคำตอบ
(แนวตอบ โครงงานเทคโนโลยสี ารสนเทศจะมีการใช้อุปกรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศใน
กระบวนการทำงานซ่ึงพฒั นาเก่ียวกบั ฮารด์แวร์และซอฟตแ์ วร์ ซ่ึงแตกตา่ งจากโครงงานท่ัวไป)

๓. ครูชักชวนพูดคุยโดยครูเปิดประเด็นว่า การแก้ปัญหาการลืมกินยาโดยใช้ระบบแจ้งเตือนการกินยา
ผ่านสมาร์ตโฟนสามารถนำมาทำเป็นโครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศได้หรือไม่ โดยครใู หน้ กั เรียนร่วม
อภิปราย โดยครูคอยชี้นำเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ว่า ปัญหานี้สามารถนำมาทำเป็นโครงงานเทคโนโลยี
สารสนเทศได เพราะมีการใช้อุปกรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการทำโครงงาน

๓. ครูอธิบายเชื่อมโยงไปกับแผนที่ความคิดที่แปะไว้ทีฝ่ าผนังห้องเรยี นวา่ วิธีการแก้ปัญหาที่ไดจ้ ากการ
นำแนวคิดเชิงคำนวณที่แสดงในแผนทคี่ วามคดิ เปน็ ขัน้ ตอนการวิเคราะห์ปัญหาเบื้องตน้ ที่นำไปสู่การ
ทำโครงงาน

๔. ครูให้นักเรียนกลับเข้าสู่กลุ่มเดิมที่เคยแบ่งไว้ในชั่วโมงแรก แล้วให้นักเรียนศึกษา กรณีศึกษาที่ ๒
โครงงานงานพัฒนาโปรแกรมแจ้งเตือนการกินยาผ่านสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต โดยให้แต่ละกลุ่ม
ร่วมกันศึกษาขั้นที่ ๑ การกำหนดปัญหา และขั้นที่ ๒ วิเคราะห์ระบบ และสืบค้นเพิ่มเติมจากแหล่ง
การเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อเสริมความเข้าใจ แล้วให้นักเรยี นแต่ละคนบันทึกลงในใบงานท่ี ๒.๓ ใบบันทกึ
ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ กรณศี กึ ษาที่ ๒

ข้ันท่ี ๔ สงั เคราะหค์ วามรู้
๑. ครูให้นักเรียนแต่ละคนนำข้อมูลที่ตนเองได้บันทึกไว้ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนร่วมกันเพื่อนภายในกลุ่ม
แล้วสมาชิกทุกคนภายในกลุม่ ร่วมกันสรุปเป็นข้อมูลผลการศึกษาของกลุ่ม โดยที่ครูตรวจสอบความ
ถูกตอ้ งของข้อมูลแตล่ ะกลุ่ม
๒. ครสู มุ่ นกั เรียนบางกลุ่มให้นักเรยี นออกมานำเสนอข้อมูลทก่ี ลุ่มตนเองได้ศึกษามา โดยครูคอยเพ่ิมเติม
ใหส้ มบรู ณ์
๓. ครูใหน้ กั เรียนพจิ ารณาขอ้ มูลท่ีเพอ่ื นนำเสนอกับขอ้ มูลของกลุ่มตนเองวา่ มีข้อมลู ใดท่ีแตกตา่ งกนั โดย
ครูชักชวนให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันว่า ข้อมูลใดที่สมบูรณ์กว่า เพื่อให้
นักเรยี นได้มคี วามเข้าใจในขอ้ มลู ได้ตรงกัน

ช่วั โมงท่ี ๓

ขั้นท่ี ๓ ดำเนนิ การศึกษาคน้ ควา้
๑. ครชู กั ชวนนักเรียนพดู คยุ เกย่ี วกับข้ันที่ ๑ และขั้นที่ ๒ ของกรณีศึกษาท่ี ๒ ทไ่ี ดศ้ กึ ษาในชั่วโมงท่ีผ่าน
มาเพอ่ื เปน็ การทบทวน
๒. ครูให้นักเรียนกลับเข้าสู่กลุ่มเดิมที่เคยแบ่งไว้ในชั่วโมงแรก แล้วให้แต่ละกลุ่มศึกษากรณีศึกษาที่ ๒
โดยให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาขั้นท่ี ๓ ออกแบบระบบ ถึงขั้นที่ ๖ บำรุงรักษาระบบ และสืบค้น
เพ่มิ เติมจากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เพือ่ เสรมิ ความเขา้ ใจ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนบันทกึ ลงในใบงาน
ท่ี ๒.๓ ใบบันทึกผลการศึกษาค้นคว้ากรณศี กึ ษาท่ี ๑

ขั้นที่ ๔ สงั เคราะห์ความรู้
๑. ครูให้นักเรียนแต่ละคนนำข้อมูลที่ตนเองได้บันทึกไว้ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนร่วมกันเพื่อนภายในกลุ่ม
แล้วสมาชิกทุกคนภายในกลุ่มร่วมกันสรุปเป็นข้อมูลผลการศึกษาของกลุ่ม โดยที่ครูตรวจสอบความ
ถกู ตอ้ งของขอ้ มูลแตล่ ะกลุ่ม

๒. ครสู ุ่มนกั เรียนบางกลมุ่ ให้นักเรียนออกมานำเสนอข้อมลู ทกี่ ลุ่มตนเองไดศ้ ึกษามา โดยครูคอยเพ่ิมเติม
ให้สมบรู ณ์

๓. ครใู ห้นกั เรยี นพจิ ารณาข้อมูลทเ่ี พ่ือนนำเสนอกับขอ้ มูลของกลุ่มตนเองวา่ มีขอ้ มูลใดที่แตกตา่ งกัน โดย
ครูชักชวนให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันว่า ข้อมูลใดที่สมบูรณ์กว่า เพื่อให้
นกั เรยี นได้มคี วามเขา้ ใจในขอ้ มูลไดต้ รงกัน

ข้ันสรปุ

ขนั้ ที่ ๕ สรุปและประเมนิ คา่ หาคำตอบ
๑. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำข้อมูลของผลการศึกษากลมุ่ และข้อมูลจากใบงานที่ ๒.๓ มาสรุปเป็นแผน
ทค่ี วามคดิ แสดงขนั้ ตอนการทำโครงงานของกรณีศึกษาที่ ๒ ลงในกระดาษฟลปิ ชารต์
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ )
๒. ครูแจ้งนักเรียนจะให้แต่ละกลุ่มนำเสนอแผนที่ความคิดของกลุ่มตนเองในชั่วโมงถัดไป เพื่อให้
นักเรียนแตล่ ะกล่มุ เตรียมการนำเสนอข้อมูลดว้ ยวธิ ีการสื่อสารทีท่ ำใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจง่ายและนา่ สนใจ

ชวั่ โมงที่ ๔

ขน้ั ที่ ๖ นำเสนอและประเมินผลงาน
๑. ครูให้แต่ละกลุ่มนำแผนที่ความคิดที่ได้ทำในชั่วโมงที่ ๓ มาแปะที่ฝาผนังห้องเรียน แล้วให้นักเรียน
เดนิ ชมแผนที่ความคิดของกลุ่มตา่ ง ๆ รอบหอ้ งเรยี น
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินผลงาน/ชน้ิ งาน)
๒. ครูจับสลากเลือกลำดับของแต่ละกลุ่มให้ออกมานำเสนอแผนที่ความคิด โดยให้นักเรียนกลุ่มที่ถูก
เลือกเปน็ อนั ดับแรกส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลการศึกษาทลี ะกลุ่มจนครบ
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน)
๓. นักเรยี นกลมุ่ อ่นื ๆ และครรู ่วมกนั วิพากษ์เกย่ี วกบั ข้อมูลท่ีตวั แทนนักเรยี นออกมานำเสนอ จนทุกคน
มคี วามรู้ ความเข้าใจทถ่ี ูกต้อง และตรงกัน
๔. ครูอธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมหลังการอภิปรายของนักเรียนในส่วนที่ขาดตกบกพร่อง หรือส่วนที่เป็น
ประเดน็ สำคัญ
๕. ครตู รวจสอบผลการศกึ ษาค้นคว้ากรณีศึกษาที่ ๒ ที่นักเรียนได้บนั ทึกลงในใบงานที่ ๒.๓
๖. ครูประเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจาก
การนำเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น
๗. ครูประเมินผลชิ้นงาน/ผลงานที่เกิดจากการทำแผนที่ความคิดแสดงการนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้
ในการแกป้ ัญหาในขั้นทำความเขา้ ใจกับปัญหาและแผนท่ีความคดิ แสดงขั้นตอนการทำโครงงานของ
กรณีศึกษาท่ี ๒ ในขั้นสรุปและประเมนิ ค่าหาคำตอบ

๗. การวดั และประเมินผล

รายการวัด วธิ วี ดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
๗.๑ การประเมินก่อนเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรียน ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
ตรวจแบบทดสอบ
- แบบทดสอบหลังเรียน กอ่ นเรยี น ระดับคุณภาพ ๒
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ ผา่ นเกณฑ์
ระบบทางเทคโนโลยี - ตรวจฟลปิ ชาร์ตที่ - แบบประเมิน
แสดงการนำแนวคดิ ชิ้นงาน/ผลงาน ประเมินตามสภาพจริง
๗.๒ การประเมนิ ระหว่างการ เชิงคำนวณมาใช้ใน ระดับคุณภาพ ๒
จัดกิจกรรม การแก้ปญั หา ผา่ นเกณฑ์
๑) การนำแนวคดิ เชงิ
คำนวณมาใช้ในการหา - ตรวจใบงานท่ี ๒.๓ - ใบงานท่ี ๒.๓ ระดบั คุณภาพ ๒
วิธกี ารแกป้ ัญหา ผ่านเกณฑ์
๒) ผลการศึกษาค้นควา้ - ตรวจฟลปิ ชารต์ ท่ี - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ ๒
กรณีศึกษาท่ี ๒ แสดงข้ันตอนการทำ ชนิ้ งาน/ผลงาน ผ่านเกณฑ์
๓) ขัน้ ตอนการทำ โครงงานของ
โครงงานของ กรณศี ึกษาที่ ๒ - ผลงานท่นี ำเสนอ ระดับคุณภาพ ๒
กรณศี ึกษาที่ ๒ - ประเมนิ การ ผา่ นเกณฑ์
นำเสนอผลงาน - แบบสังเกต ระดับคุณภาพ ๒
๔) การนำเสนอผลงาน - สงั เกตพฤตกิ รรม พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
การทำงาน การทำงาน
๕) พฤติกรรมการทำงาน รายบคุ คล รายบุคคล
รายบคุ คล - แบบสังเกต
- สงั เกตพฤตกิ รรม พฤตกิ รรม
๖) พฤติกรรมการทำงาน การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
กลุม่ - แบบประเมนิ
- สังเกตความมวี ินยั คณุ ลักษณะ
๗) คณุ ลักษณะ รับผดิ ชอบ อนั พงึ ประสงค์
อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรูแ้ ละมุง่ มน่ั
ในการทำงาน

๘. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

๘.๑ สอื่ การเรียนรู้
๑) หนังสอื เรยี น รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.๔ หน่วยการเรียนรู้
ที่ ๒ การประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชิงคำนวณเพอ่ื พัฒนาโครงงาน
๒) ใบงานท่ี ๒.๓ แบบบันทกึ ผลการศึกษาคน้ ควา้ กรณีศึกษาที่ ๒

๘.๒ แหล่งการเรยี นรู้
๑) ห้องเรยี น
๒) ห้องสมดุ
๓) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ

ใบงานที่ ๒.๓

แบบบนั ทกึ ผลการศึกษากรณศี ึกษาท่ี ๒

คำชี้แจง : บนั ทกึ ผลทีไ่ ด้จากการศึกษาและสืบคน้ ข้อมลู เกี่ยวกับกรณศี กึ ษาท่ี ๒ โครงงานพัฒนาโปรแกรม
แจง้ เตือนการกนิ ยาผา่ นแทบ็ เลต็

กรณีศกึ ษาที่ ๑ โครงงานพฒั นาโปรแกรมแจง้ เตอื นการกนิ ยาผา่ นแท็บเลต็

ขั้นที่ ๑ กำหนดปัญหา ข้อมูลท่ีเก่ยี วข้อง

ประเด็นหลกั

……………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………

……………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………..

……………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………

………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………

ขัน้ ท่ี ๒ วเิ คราะหร์ ะบบ ขอ้ มูลที่เกย่ี วข้อง

ประเดน็ หลัก

……………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………

……………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………..

……………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………

………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………

ขน้ั ที่ ๓ ออกแบบระบบ ข้อมูลที่เก่ยี วข้อง

ประเดน็ หลกั

……………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………… …………………………………………………………………………

……………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………..

……………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………

………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………

ขัน้ ท่ี ๔ พฒั นาระบบและทดสอบระบบ ขอ้ มูลทเี่ กีย่ วข้อง

ประเดน็ หลกั

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ข้ันที่ ๕ ตดิ ตัง้ ระบบ ขอ้ มูลทเ่ี กยี่ วข้อง

ประเดน็ หลกั

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ขน้ั ที่ ๖ บำรงุ รักษาระบบ ขอ้ มูลท่เี กย่ี วข้อง

ประเดน็ หลัก

………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………...

……………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………...

…………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………….

ใบงานท่ี ๒.๓

แบบบนั ทึกผลการศึกษากรณศี ึกษาท่ี ๒ (ตัวอย่างคำตอบ)

คำช้แี จง : บนั ทึกผลที่ไดจ้ ากการศกึ ษาและสบื คน้ ขอ้ มลู เกยี่ วกับกรณีศกึ ษาท่ี ๒ โครงงานพัฒนาโปรแกรม
แจง้ เตือนการกนิ ยาผ่านแท็บเลต็

กรณศี ึกษาท่ี ๑ โครงงานพฒั นาโปรแกรมแจ้งเตอื นการกินยาผ่านแทบ็ เลต็

ขัน้ ท่ี ๑ กำหนดปญั หา ข้อมูลท่เี กีย่ วข้อง

ประเดน็ หลกั

- ประชุมทีมงานเพื่อกำหนดหน้าที่ ข้อตกลง และ - ความสามารถของทีมงานแตล่ ะคนในทมี เพ่ือจะได้

ลกั ษณะของการทำงาน . ระบหุ นา้ ท่ีไดต้ รงตามความถนัด .

- กำหนดแผนการดำเนินการ โดยมีการกำหนดเวลา …………………………………………………………………………..

ในแตล่ ะขัน้ อย่างชดั เจน . …………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

ขน้ั ที่ ๒ วิเคราะห์ระบบ ข้อมูลทเี่ กยี่ วข้อง

ประเด็นหลัก

- ลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้ใช้งานโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ใช้งาน - แผนภาพบริบท (context diagram) เป็นแผนภาพกระแส
. ข้อมูลระดับบนสุดที่แสดงภาพรวมการทำงานของระบบที่มี
โปรแกรม
- นำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ความ ความสัมพันธก์ บั สภาพแวดลอ้ มภายนอกระบบ
เกี่ยวข้องเพื่อนำมาระบุเป็นความต้องการของผูเ้ กี่ยวข้อง - แผนภาพกระแสข้อมลู (dataflow diagram) เป็นแผนภาพ
การไหลของข้อมูลซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้แสดงการไหลของ
.- กำหนดขอบเขตของระบบ โดยแสดงออกมาเป็น ข้อมูลและการประมวลผลต่างๆ ในระบบ ที่สัมพันธ์กับแหลง่
เก็บข้อมูลท่ีใช้
แผนภาพ .

ขน้ั ท่ี ๓ ออกแบบระบบ ขอ้ มูลที่เกย่ี วข้อง

ประเด็นหลกั

- กำหนดขั้นตอนการทำงานของระบบโดยใชแ้ ผนภาพ - แ ผ น ภ า พ แ ส ด ง ล ำ ด ั บ ข ั้ น ตอ น ก า ร ท ำงาน

แสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน แผนภาพแสดง (flowchart) เป็นแผนภาพทีแ่ สดงขั้นตอนการกำหนด

ความสัมพันธ์ของขอ้ มูล และพจนานกุ รมข้อมูล วิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ จากขั้นรอนการวิเคราะห์

- ออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน (user interface) ซ่ึง ระบบ .

หมายถงึ การออกแบบหนา้ เว็บไซต์ . ………………………………………………………………………

ขนั้ ท่ี ๔ พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ข้อมูลที่เกย่ี วข้อง

ประเดน็ หลัก

- ทดสอบระบบโดยผ้พู ัฒนาโปรแกรม . - ผลประเมินความต้องการของผใู้ ช้งานจรงิ .

- เมื่อโปรแกรมถูกพัฒนาเสร็จ นำไปทำการทดสอบ .…………………………………………………………………………..

ภาพรวมการทำงานทงั้ หมด . .…………………………………………………………………………..

- นำไปทดสอบโดยผู้ใช้งานจริง แล้วให้ผู้ใช้งาน .…………………………………………………………………………..

ประเมนิ ผลการทำงาน เพ่ือนำขอ้ มลู กลับมาแกไ้ ข .…………………………………………………………………………..

ขัน้ ท่ี ๕ ติดต้ังระบบ ขอ้ มูลท่ีเก่ียวข้อง

ประเด็นหลกั

- ติดตั้งโปรแกรมให้กับผู้ที่ต้องการใช้โปรแกรม ซึ่งจะ - ตัวโปรแกรมทเี่ หมาะสำหรบั ระบบต่าง ๆ
ติดตั้งลงในสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต ผู้ใช้งานสามารถ …………………………………………………………………………..
ติดตั้งไดเ้ อง . …………………………………………………………………………..

- ติดตั้งโปรแกรมให้กับผู้ใกล้ชิดหรือญาติ ซึ่งติดตั้งได้เอง …………………………………………………………………………..
โดยโหลดแอปพลเิ คชันจากสโตร์ .
…………………………………………………………………………..
- ติดตั้งโปรแกรมในส่วนของเว็บเพจที่ลงเครื่องแม่ข่าย …………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………..
สำหรับการใช้งานของโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบข้อมูล

.

ข้ันที่ ๖ บำรงุ รักษาระบบ ขอ้ มูลท่เี กยี่ วข้อง

ประเด็นหลัก

- ทีมพัฒนาทำการแก้ไข ปรับปรุง และเพ่ิม - ขอ้ เห็นของผูใ้ ชง้ านระบบ .

ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ตามข้อคิดเห็นของผู้ใช้งาน …………………………………………………………………………..

โดยจะต้องปรับปรุงตัวโปรแกรมทั้ง ๓ ส่วนที่ได้ติดตั้ง …………………………………………………………………………..

ในข้ันที่ ๕ . …………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………..

(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์
เวลาเรยี น ๖ ช่ัวโมง
รหัสวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ปีการศึกษา ๒๕๖3
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ การประยกุ ตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณเพ่อื พฒั นาโครงงาน
เรื่องที่ ๓ การพฒั นาโครงงาน ครูผู้สอน นางสาวเตชนิ ี ภิรมย์
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔

๑. มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั

๑.๑ ตวั ช้ีวัด
ว ๔.๒ ม.๔/๑ ประยุกตใ์ ชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการพัฒนาโครงงานทีม่ ีการบรู ณาการกบั วิชาอนื่
อย่างสรา้ งสรรค์ และเชื่อมโยงกับชีวิตจริง

๒. จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. นำแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกตใ์ ช้พฒั นาโครงงานเทคโนโลยไี ด้ (K)
๒. สอื่ สารและนำเสนอโครงงานเทคโนโลยไี ด้อยา่ งสรา้ งสรรค์ (P)
๓. พฒั นาโครงงานเทคโนโลยตี ามขน้ั ตอนเบอื้ งตน้ ๖ ขั้นตอนได้ (A)

๓. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ

- การพัฒนาโครงงาน พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

- การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่เกี่ยวกับ

ชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการพลังงาน อาหาร การเกษตร

การตลาด การค้าขาย การทำธุรกรรม สุขภาพและ

ส่ิงแวดลอ้ ม

- ตัวอย่างโครงงานเช่นระบบดูแลสุขภาพระบบอัตโนมัติ

ควบคุมการปลูกพืช ระบบจัดเส้นทาง การขนส่งผลผลิต

ระบบแนะนำการใช้งานห้องสมุดที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้

และเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล

๔. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณเพื่อพัฒนาโครงงานทำได้โดยนำแนวคิดเชิงคำนวณมาใช้หาวิธใี นการแก้ปัญหาเม่ือ

ได้วิธีแก้ปญั ญาแลว้ จึงนำปัญหานน้ั มาจัดทำเปน็ โครงงานโดยมีขั้นตอนการดำเนนิ โครงงานเบ้ืองตน้ ท้ังหมด ๖ขน้ั ตอนดังน้ี

๑) กำหนดปญั หา ๒) วิเคราะห์ระบบ ๓) ออกแบบระบบ

๔) พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ๕) ติดตัง้ ระบบ ๖) บำรุงรกั ษาระบบ

๕. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

๑. ความสามารถในการส่อื สาร ๑. มวี นิ ัย
๒. ความสามารถในการคิด ๒. ใฝเ่ รียนรู้
๓. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
๑) ทักษะการส่ือสาร
๒) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน
๓) ทกั ษะการแก้ปัญหา
๔) ทกั ษะการคดิ เชงิ คำนวณ
๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

๖. กิจกรรมการเรียนรู้

แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : แบบใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project – based Learning)

ช่ัวโมงที่ ๑
ข้นั นำ

๑. ครูชวนนักเรียนสนทนาโดยถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยทำโครงงานเทคโนโลยีหรือไม่ โครงงานที่นักเรียน
เคยทำเป็นอยา่ งไร โดยใหน้ ักเรยี นตอบคำถามอย่างอิสระ

๒. ครเู ปิดคลปิ วดิ โี อเกี่ยวกบั โครงงานเทคโนโลยีใหน้ กั เรียนดเู พอ่ื กระตุน้ ความสนใจของนกั เรียน เช่น คลปิ
วิดีโอ เรอื่ ง Project Jacquard: Levi’s smart jacket first look จาก YouTube
(https://www.youtube.com/watch?v=OqimqT๖EP๘)

๓. เมื่อนักเรียนดูคลิปจบแล้ว ครูถามนักเรียนว่า โครงงานในคลิปเป็นโครงงานที่เกี่ยวกับอะไร โดยครูคอย
กระตุน้ ใหน้ กั เรยี นให้นักเรยี นในชนั้ เรยี นช่วยกันตอบคำถามและมกี ารแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นร่วมกัน
(แนวตอบ โครงงานในคลิปเป็นโครงงานที่นำเทคโนโลยีมาพัฒนาเสื้อให้เป็นเสื้ออัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่อ
กับสมารตโ์ ฟนได้)
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล)

๔. ครูถามคำถามเพอื่ เปน็ การทบทวนความรเู้ ดิมของนักเรียน โดยครคู อยกระตุ้นและชักชวนใหน้ ักเรียนร่วมกัน
อภปิ รายเพ่อื หาคำตอบ โดยใช้คำถามต่อไปน้ี

๑) โครงงานทางดา้ นเทคโนโลยคี อื อะไร
(แนวตอบ โครงงานเทคโนโลยี คอื โครงงานทเี่ ก่ยี วกับการนำความรู้ ทักษะ และทรพั ยากรที่มีอยู่

มาสร้างหรือพัฒนา เครื่องมือ เครื่องใช้ แบบจำลองหรือวิธีการเพื่อใช้แก้ปัญหาหรือสนองความ
ต้องการ โดยมีข้นั ตอนการทำงานอยู่บนพื้นฐานของกระบวนการเทคโนโลยี)

ขน้ั สอน

ขนั้ ที่ ๑ การค้นหาแนวคิดในการทำโครงงาน
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน อย่างอิสระ แล้วให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดช่วยกันหา
ปัญหาที่น่าสนใจตามความสนใจของนักเรียน ซึ่งปัญหาที่นักสนใจควรเป็นปัญาที่สามารถนำไป
จดั ทำเปน็ โครงงานเทคโนโลยีได้
2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ส่งตัวแทนมาเขียนปัญหาที่ได้จากการระดมความคิดบนกระดานหน้าช้ัน
เรยี น แลว้ ครูตรวจสอบปญั หาทแี่ ต่ละกลุม่ ออกมาเขยี นและให้เพ่ือนนักเรียนร่วมกันให้คำแนะนำ
3. ครูถามคำถามเพ่ือทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน โดยถามว่า การแก้ไขปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิง
คำนวณมกี ข่ี ้นั ตอน อะไรบ้าง
(แนวตอบ การแกไ้ ขปัญหาโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณมี ๔ ข้นั ตอน คอื แนวคดิ แยกย่อย แนวคิดการ
จดจำรปู แบบ แนวคดิ เชงิ นามธรรม และแนวคิดการออกแบบขั้นตอน )
4. ครใู หแ้ ต่ละกลุ่มนำแนวคดิ เชงิ คำนวณมาลำดับขัน้ ตอนในการแก้ปญั หาของกลมุ่ ตนเอง โดยใหแ้ ตล่ ะ
กลมุ่ เขียนลำดับขัน้ ตอนการแกป้ ญั หาของกลมุ่ ตนเองลงบนกระดาษฟลปิ ชาร์ต
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ )
5. ครูให้แต่ละกลุ่มนำกระดาษฟลิปชาร์ตของกลุ่มตนเองมาแปะรอบห้องเรียน แล้วให้นักเรียนเดิน
ชมฟลิปชาร์ตของเพื่อนกลุ่มอื่น โดยครูปล่อยให้นักเรียนสอบถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
อยา่ งอิสระ
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบประเมินผลงาน/ชน้ิ งาน)
6. ครูแจ้งใหน้ กั เรยี นทราบวา่ ครใู หน้ ักเรียนนำปญั หาที่แตล่ ะกลุ่มได้ลำดบั ข้ันตอนการแก้ปัญหาแล้วมา
ทำเปน็ โครงงานเทคโนโลยี

ชว่ั โมงท่ี ๒

ขนั้ สอน

ขั้นที่ ๒ การวางแผนโครงงาน
๑. ครูใหน้ กั เรยี นกลับสู่กลมุ่ เดิมตามที่ได้แบง่ ไวใ้ นชวั่ โมงแรก แลว้ ถามคำถามกระตุน้ ความคิดว่า โครงงาน

ท่ีนักเรียนคิดจะจัดทำส่งผลต่อสังคมหรือไม่ อยา่ งไร
(แนวตอบ พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน)

๒. ครูให้แต่ละกลุ่มเขียนจุดมุ่งหมายของการทำโครงงานเทคโนโลยีตามหัวข้อที่กลุ่มตนเองสนใจลงใน
กระดาษ A๔ โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนตอบคำถามว่า จัดทำโครงงานนี้เพื่ออะไร เมื่อทำแล้วจะเกิด
ประโยชน์อะไร โดยให้แต่ละกลุ่มนำเสนอจุดมุ่งหมายดังกล่าวให้ครูทราบ และครูให้คำแนะนำท่ี
เหมาะสมกับนกั เรียน

๓. ครูถามคำถามเพื่อทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนว่า ขั้นตอนเบื้องต้นของการพัฒนาโครงงานทางด้าน
เทคโนโลยีมกี ีข่ ้นั ตอน อะไรบ้าง
(แนวตอบ ขั้นตอนเบื้องต้นของการพัฒนาโครงงานทางด้านเทคโนโลยีมี ๖ ขั้นตอน ได้แก่
กำหนดปัญหา วิเคราะห์ระบบ ออกแบบระบบ พัฒนาระบบและทดสอบระบบ ติดตั้งระบบ และ
บำรงุ รักษาระบบ)

๔. ครูนำอภิปรายถึงข้นั ตอนการดำเนนิ งานวา่ นกั เรียนจะต้องเขียนโครงงานอยา่ งไร มอี งค์ประกอบ

อยา่ งไร วธิ ีการเขยี นโครงงาน เพอื่ นำเสนอขออนุมตั จิ ากอาจารยท์ ่ปี รึกษา

๕. นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนโครงงานและบันทึกเสนอโครงงานเพื่อพิจารณาความเหมาะสมเกี่ยวกับ

โครงงานตามหัวข้อในใบงานที่ ๒.๔ เรือ่ ง เคา้ โครงของโครงงาน โดยในระหว่างท่ีแต่ละกลุ่มกำลังเขียน
โครงงานครคู อยสงั เกตการณ์และให้คำแนะนำ

๖. ครูสุ่มนักเรียนบางกลุ่มที่มีโครงงานที่น่าสนใจให้ส่งตัวแทนออกมานำเสนอเค้าโครงของโครงงานที่หน้า

ช้นั เรยี น โดยครแู ละเพือ่ นนักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ และให้ข้อเสนอแนะ

๗. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำข้อเสนอแนะที่ได้ไปปรับปรงุ การวิธีการทำโครงงานของกลุ่มของตนเองให้ดี

ยง่ิ ขน้ึ
๘. ครูถามคำถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรยี นว่า เค้าโครงของโครงงานสง่ ผลดีตอ่ การจดั ทำโครงงานอยา่ งไร

(แนวตอบ ทำให้เห็นภาพรวมของการจัดทำโครงงาน)
๙. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่า ในชั่วโมงถัดไปจะเริ่มทำโครงงานตามที่นักเรียนได้ร่างไว้ โดยให้แต่ละกลุ่ม

เตรยี มอปุ กรณ์การทำโครงงานของกลุม่ ตนเองมา

ชว่ั โมงที่ ๓-๔

ขั้นสอน

ขนั้ ที่ ๓ การดำเนินโครงงาน
1. ครใู ห้แต่ละกลมุ่ ลงมอื ปฏบิ ตั ิโครงงานตามทไี่ ดว้ างเคา้ โครงไว้
2. ในระหว่างที่นกั เรยี นกำลังปฏิบัติโครงงาน ครคู อยให้คำแนะนำ และคอยเนน้ ย้ำให้นักเรยี นบนั ทึกผลการ

ปฏิบัติโครงงานอย่างเป็นระบบ และนักเรียนควรปฏิบัติตามระยะเวลาดำเนินงานตามเค้าโครงของ
โครงงานท่ีนำเสนอ หากเกิดปญั หาระหวา่ งการปฏบิ ัตโิ ครงงาน ครตู อ้ งใหค้ ำแนะนำหรอื ชว่ ยเหลอื

ขั้นสรุป

ขน้ั ท่ี ๔ การประเมนิ โครงงาน
1. ครูสุ่มเรียกนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนนักเรียน
รว่ มกนั ประเมนิ ผลงานลงในแบบประเมินโครงงานและใหข้ ้อเสนอแนะ
2. ครูแนะนำใหน้ กั เรียนนำข้อเสนอแนะไปปรบั ปรุงผลงานของตนเองเพ่ือให้ผลงานดียงิ่ ข้ึน
3. นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ นักเรียนคิดวา่ การทำโครงงานได้ประโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง

(แนวตอบ ทำให้มีทักษะในการแก้ปัญหา รู้จักวิธีแสวงหาข้อมูล ฝึกกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์มี

ความคิดสรา้ งสรรค์ ฝกึ ความเป็นประชาธปิ ไตย และมีคุณลกั ษณะในการทำงานที่ด)ี

ชว่ั โมงที่ ๕-๖

ขน้ั สรุป

ขั้นท่ี ๕ การเผยแพรโ่ ครงงาน
๑. ครูมอบหมายนักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนรายงานสรุปผลการปฏิบัติโครงงาน แล้วออกมานำเสนอ
ผลงานโครงงานที่หนา้ ชน้ั เรียน โดยใหค้ รอบคลมุ ประเด็น ดงั ตอ่ ไปนี้
๑) การเขียนโครงงาน
๒) การดำเนินงานตามโครงงาน
๓) การบันทกึ ขอ้ มลู

๔) การเขียนรายงานโครงงาน
๕) การนำเสนอโครงงาน
๒. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปถึงผลสำเร็จ และข้อบกพร่องของการทำโครงงาน เพื่อเปน็ แนวทางในการ
พฒั นาการทำงานในโอกาสตอ่ ไป
๓. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดทำป้ายนิเทศแสดงผลงานจากโครงงานของนักเรียน แล้วให้นักเรียนทุก
กลุ่มจัดแสดงปา้ ยนเิ ทศและผลงานของกล่มุ ตนเองใหเ้ พื่อนร่วมช้ันเรียนเดนิ ชมและชกั ถาม
๔. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุม่ จดั ทำปา้ ยนเิ ทศแสดงผลงานจากโครงงานของนกั เรียน แล้วให้นักเรยี นทุก

๗. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ ีวัด เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมนิ
๗.๑การประเมนิ หลังเรียน แบบทดสอบหลงั เรียน ประเมินตามสภาพ
ตรวจแบบทดสอบ จรงิ
- แบบทดสอบหลังเรยี น หลังเรียน
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ ระดบั คุณภาพ ๒
- ตรวจฟลิปชารต์ ที่ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
๗.๒ การประเมินระหวา่ งการ แสดงการนำแนวคดิ ชิน้ งาน/ผลงาน
จดั กจิ กรรม ประเมินตามสภาพ
๑) การนำแนวคดิ เชงิ เชงิ คำนวณมาใช้ใน จริง
คำนวณมาใชใ้ นการหา การแกป้ ญั หา
วิธกี ารแกป้ ญั หา ประเมินตามสภาพ
- ตรวจกระดาษ A๔ - กระดาษ A๔ จรงิ
๒) จุดมุง่ หมายในการทำ ที่บนั ทึกจดุ มงุ่ หมาย
โครงงาน ในการทำโครงงาน - ระดบั คณุ ภาพ ๒
ผ่านเกณฑ์
๓) เค้าโครงการทำ - ตรวจใบงานที่ ๒.๔ - ใบงานท่ี ๒.๔ - ระดบั คุณภาพ ๒
โครงงาน ผ่านเกณฑ์
เรื่อง เค้าโครงการ
๔) โครงงานเทคโนโลยี - ระดับคุณภาพ ๒
ทำโครงงาน ผา่ นเกณฑ์
๕) การนำเสนอผลงาน
- ประเมนิ โครงงาน - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ ๒
๖) พฤติกรรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์
รายบคุ คล เทคโนโลยี โครงงาน ระดบั คุณภาพ ๒
ผ่านเกณฑ์
๗) พฤติกรรมการ - ตรวจและประเมิน - แบบประเมิน
ทำงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ ๒
รายงานผลการทำ รายงาน ผ่านเกณฑ์
๘) คณุ ลักษณะ โครงงาน
อันพงึ ประสงค์ - ตรวจและประเมนิ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ ๒
ผา่ นเกณฑ์
ปา้ ยนเิ ทศน์ที่ใช้ใน ชน้ิ งาน/ผลงาน
การนำเสนอ
โครงงาน

- ประเมินการ - ผลงานทน่ี ำเสนอ

นำเสนอผลงาน

- สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกต

การทำงาน พฤตกิ รรมการ

รายบุคคล ทำงานรายบุคคล

- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต

การทำงานกลุ่ม พฤติกรรม
การทำงานกลุ่ม
- สงั เกตความมวี นิ ัย
รบั ผิดชอบ - แบบประเมนิ
คณุ ลกั ษณะ

ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ อนั พึงประสงค์
ในการทำงาน

๘. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้

๘.๑ สอ่ื การเรยี นรู้
๑) หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.๔ หนว่ ยการเรยี นรู้
ที่ ๒ การประยุกต์ใช้แนวคิดเชงิ คำนวณเพื่อพัฒนาโครงงาน
๒) ใบงานที่ ๒.๔ เร่อื ง เค้าโครงโครงงาน
๓) วสั ดุ-อปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการทำโครงงาน
๔) วัสดุ-อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการทำปา้ ยนเิ ทศน์ทใ่ี ช้ในการนำเสนอโครงงาน

๘.๒ แหล่งการเรียนรู้
๑) ห้องเรยี น
๒) ห้องสมดุ
๓) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ

ใบงานท่ี ๒.๔

เรอื่ ง เคา้ โครงของโครงงาน ถงั ขยะอัจฉรยิ ะ

คำชีแ้ จง ตอนที่ ๑ : ใหส้ ืบค้นตวั อย่างโครงงานถงั ขยะอัจฉรยิ ะบนอนิ ทราเนต็ และนำมาเขียนเคา้ โครงงาน
๑. ช่อื โครงงาน

ประเภทของโครงงาน
๒. ชอ่ื ผู้จัดทำ (กลุม่ 5 คน)

๓. ชื่อครูท่ีปรึกษาโครงงาน
๔. ระยะเวลาดำเนินงาน
๕. แนวคดิ ทีม่ า

๖. วัตถปุ ระสงค์

๗. หลักการทฤษฎี

๘. วธิ ีดำเนินงาน
๙. ขั้นตอนปฏบิ ตั ิ
๑๐. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั
๑๑. เอกสารอา้ งอิง

คำชแี้ จง ตอนที่ ๒ : ระบุแผนการดำเนนิ งานโครงการและใช้สัญลกั ษณ์ กำหนดระยะเวลาใน
การทำโครงงานลงในตารางแต่ละข้นั ตอน

แผนการดำเนินงานโครงการ....................................................................

ลำดับ ข้นั ตอนปฏิบตั ิ สปั ดาห์ที่
๑๒๓๔
วิเคราะหค์ วามเปน็ ไปได้ และวางแผนโครงงาน



วเิ คราะห์ระบบ


ออกแบบระบบ


พฒั นาระบบและทดสอบระบบ


ตดิ ต้ังระบบ


บำรุงรกั ษาระบบ


ใบงานที่ ๒.๔

เรอ่ื ง เคา้ โครงของโครงงาน (ขึน้ อยู่กับดุลยพนิ จิ ผสู้ อน)

คำชีแ้ จง ตอนที่ ๑ : ใหน้ ักเรียนบนั ทึกรายละเอยี ดของการทำโครงงาน
๑. ชื่อโครงงาน

ประเภทของโครงงาน
๒. ชอ่ื ผู้จดั ทำ

๓. ชื่อครูทปี่ รึกษาโครงงาน
๔. ระยะเวลาดำเนนิ งาน
๕. แนวคดิ ที่มา

๖. วตั ถปุ ระสงค์

๗. หลักการทฤษฎี

๘. วธิ ีดำเนินงาน
๙. ขั้นตอนปฏบิ ตั ิ
๑๐. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั
๑๑. เอกสารอา้ งอิง

คำชี้แจง ตอนท่ี ๒ : ระบแุ ผนการดำเนินงานโครงการ และใชส้ ัญลักษณ์ กำหนดระยะเวลา

ในการทำโครงงานลงในตารางแต่ละข้นั ตอน (ขน้ึ อยู่กบั ดุลยพินจิ ผ้สู อน)

แผนการดำเนนิ งานโครงการ....................................................................

ลำดบั ข้นั ตอนปฏบิ ัติ สปั ดาห์ที่
๑๒๓๔
วิเคราะห์ความเป็นไปได้ และวางแผนโครงงาน



วิเคราะห์ระบบ


ออกแบบระบบ


พฒั นาระบบและทดสอบระบบ


ติดตง้ั ระบบ


บำรงุ รกั ษาระบบ


โรงเรยี นวังหนิ วทิ ยาคม

สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา นครศรีธรรมราช
สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร


Click to View FlipBook Version