83 ผลการวิจัยพบว่า 1. ชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 87.50 /86.76 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียน ภาษาจีนขั้นพื้นฐานหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนที่เรียนชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐาน มีเจตคติต่อการใช้ชุดกิจกรรม การเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในระดับมาก 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาจีน เรื่องการอ่าน ภาษาจีน มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.90 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.55 อาจเป็นเพราะว่าผู้รายงานได้ออกแบบแบบฝึกทักษะให้สอดคล้องกับความสนใจของนักเรียน โดย จัดรูปเล่มให้น่าสนใจ จัดรูปแบบการเรียนรู้ให้นักเรียนมีกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดเวลา มีการทำกิจกรรม แบบทดสอบท้ายบทเรียนระหว่างเรียน โดยผู้รายงานได้จัดทำเอกสารประกอบการเรียนอย่างเป็นระบบ และถูกต้องตามหลักวิชาการ ผู้รายงานได้ออกแบบเนื้อหาการเรียน ให้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับความสามารถของนักเรียน จึงทำให้ผลการประเมินความพึงพอใจโดยรวมในระดับมาก สอดคล้อง กับแนวคิดของ กิติมา ปรีดีดิลก (2542 : 143-161) ที่ได้รวบรวมความหมายของ ความพึงพอใจไว้ว่า คุณภาพ สภาพ หรือระดับความพึงพอใจของบุคคล ซึ่งเป็นผลมาจากความสนใจและทัศนคติของบุคคลที่ มีต่อคุณภาพและสภาพของงานนั้น ๆ และยังสอดคล้องกับงานวิจัย กนกวรรณ ทับสีรัก (2558) ได้ พัฒนาการอ่านออกเสียงภาษาจีนโดยใช้เกมประกอบแบบฝึกทักษะสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผลการพัฒนาการพัฒนาการอ่านออกเสียงภาษาจีนโดยใช้เกมประกอบแบบฝึกทักษะสำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการอ่านออก เสียงภาษาจีนโดยใช้เกมประกอบแบบฝึกทักษะสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก ( x = 4.25, S.D.= 0.54) และสอดคล้องกับการศึกษาของปริญญา ทองสอน (2553) ได้ พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4การวิจัยครั้งนี้ มี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาจีนก่อนและ หลังเรียน และศึกษาเจตคติของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียน ภาษาจีนขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 ห้อง 4/3 โรงเรียนสาธิต “ พิบูลบำเพ็ญ”มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ภาคเรียนที่ 2ปี การศึกษา 2552 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพชุดกิจกรรมคือ แบบฝึกหัดท้ายชุด กิจกรรม แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบวัดเจตคติต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้น พื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการ
84 ทดสอบค่าทีผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่เรียนชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐาน มีเจตคติต่อ การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในระดับมาก ผลจากการศึกษาครั้งนี้ ทำให้ทราบว่าแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาจีน วิชาภาษาจีน 2 เรื่องการอ่านภาษาจีน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สามารถทำให้นักเรียนที่เรียนเก่งมีส่วน ช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนอ่อนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น เป็นแนวทางในการพัฒนาการจัดการ เรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ดีขึ้นและแบบฝึกทักษะเป็นสื่อ ที่มีความน่าสนใจและมีความแปลกใหม่ แตกต่างจากการเรียนการสอนที่ผ่านมา อีกทั้งกิจกรรม การเรียนการสอนสามารถเร้าความสนใจของผู้เรียน มีความยืดหยุ่นในการเรียน ทำให้ผู้เรียนมีความ พึงพอใจในการเรียนส่งผลทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะทั่วไป 1.1 จากผลการศึกษาพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน ประกอบกับนักเรียนเห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ ดังนั้นรูปแบบ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้และแบบฝึก สามารถนำไปเป็นแบบอย่างหรือประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่น ๆ ได้ 1.2 การนำแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาจีน เรื่องการอ่านภาษาจีน สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ไปศึกษาและเรียนรู้ด้วยตนเองนั้น ผู้ใช้ควรศึกษาคู่มือการใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านภาษาจีน วิชาภาษาจีน3 เรื่องการอ่านภาษาจีน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และวิธีการใช้อย่างละเอียดโดยปฏิบัติกิจกรรมให้ครบทุกขั้นตอนจะส่งผลต่อการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น 2. ข้อเสนอแนะเพื่อการศึกษาครั้งต่อไป 2.1 ครูควรสร้างแบบฝึกทักษะในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อสร้างความสนใจ ทำให้นักเรียนเกิด ความกระตือรือร้นในการเรียนและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 2.2 ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับตัวแปรอื่น ๆ นอกจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ปฏิสัมพันธ์ ภายในกลุ่มของนักเรียนและความพึงพอใจต่อวิชาที่เรียน เช่น ความรับผิดชอบในการเรียน ความอดทน ในการเรียน แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์เป็นต้น 2.3 ควรศึกษาผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาจีน วิชาภาษาจีน3 เรื่องการอ่าน ภาษาจีน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กับแนวคิดหรือเทคนิควิธีการอื่น ๆ เช่น การจัดการ เรียนรู้แบบผสมผสาน การเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน และการเรียนรู้แบบโครงงาน ฯลฯ 2.4 ควรให้การเสริมแรงนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ดูแลเอาใจใส่นักเรียนตรวจผลงาน และแจ้งผลให้ทราบ ทำให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นและตั้งใจในการเรียนมากยิ่งขึ้น 2.5 ควรมีการศึกษาเปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบ ฝึกทักษะกับเรียนโดยใช้นวัตกรรมอื่น เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
85 บรรณานุกรม กนกวรรณ ทับสีรัก. การอ่านออกเสียงภาษาจีนโดยใช้เกมประกอบแบบฝึกทักษะสำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. NATIONAL EDUCATION CONFERENCE 1st Educational Management for Local Development towards ASEAN Community : New Direction in the 21 Century. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.2558. กิดานันท์ มลิทอง. เทคโนโลยีการศึกษาและนวัตกรรม พิมพ์ครั้งที่ 3 กรุงเทพมหานคร :อรุณการพิมพ์, 2542. กิดานันท์ มลิทอง. เทคโนโลยีร่วมสมัย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2540. กิติมา ปรีดีดิลก. ทฤษฎีการบริหารองค์การ. กรุงเทพมหานคร :โรงพิมพ์ชนะการพิมพ์, 2551. กิ่งฟ้ า สิน ธุวงษ์. การสอน เพื่ อพั ฒ น าการคิดและการเรียน รู้. ขอนแก่น : โรงพิ มพ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2552. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน,สำนักงาน. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร, 2552. เฉลิมศักดิ์ นามเชียงใต้. หลักการ ทฤษฎีและนโยบายการปฏิรูปการศึกษา, สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา, 2544. จาง หญิง หญิง (Zhang YingYing). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำภาษาไทย สำหรับ นักศึกษาจีนชั้นปีที่ 3.วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอน ภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. 2559. ไฉไล ประยูรญาติ. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ประมวลสาระ ชุดวิชาสัมมนาการประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550. ชัยยงค์ พรหมวงศ์ . แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา . เอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและ สื่อสารการศึกษา . นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช , 2545. ชัยยงค์ พรหมวงศ์. ระบบสื่อการสอน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2520. ชูศรี วงศ์รัตนะ. เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย(ฉบับปรับปรุง).กรุงเทพมหานคร : เทพเนรมิตการพิมพ์, 2550. ณรงค์ เตชะ.การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนสะกดคำที่มีตัวการันต์ สำหรับนักเรียนชาว ไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2546.
86 ณัฐพงศ์ สาวงค์ตุ้ย.“การพัฒนาแบบฝึกทักษะที่มีประสิทธิภาพ เรื่อง การสะกดค ายาก วิชาชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3.”วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการประถมศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 2542. ดวงเดือน อ่อนน่วม. การจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะการคิดรวบยอด เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการ. ภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2551. ถวัลย์ มาศจรัส. การเขียนรายงานเอกสารประกอบการสอน. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ ธารอักษร จำกัด, 2544. นันทนา โฉมฉายวงค์. การสร้างเอกสารประกอบการเรียนการสอน.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์กล้วยไม้, 2548. บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยสำหรับครู. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.2553. ประภาพรรณ เส็งวงศ์. การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการวิจัยในชั้นเรียน. กรุงเทพมหานคร : อี เค บุ๊กส์, 2549. ประภาเพ็ญ สุวรรณ. ทัศนคติการวัดการเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมอนามัย. กรุงเทพมหานคร ไทย วัฒนาพานิช. 2553. ประไพวงศ์ ศรีสังวาลย์. การพัฒนาหลักสูตรและการสอนมิติใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ โอเดียนสโตร์, 2549. ประสาท อิศรปรีดา. สารัตถะจิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : นําอักษรการพิมพ. 2552. ปริญญา ทองสอน.ชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. ภาควิชาการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 2553. ผดุง อารยะวิญญู. การศึกษาการสร้างแบบฝึกทักษะสำหรับการเรียนรู้(พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : บรรณกิจ.(2546). พวงรัตน์ทวีรัตน์. วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, 2550. พิสุทธา อารีราษฏร์. การพัฒนาซอฟแวร์ทางการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม: อภิชาต การพิมพ์. 2551. เพ็ญจันทร์ เงียบประเสริฐ. รายงานการวิจัยการศึกษาประสิทธิภาพของการปฏิบัติการบล๊อกแบบ ร่วมแรงร่วมใจที่มีต่อการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ เรื่องเลขฐานอื่น. กรุงเทพมหานคร : คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฎภูเก็ต, 2543.
87 มนต์ชัย เทียนทอง. การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมการสอน. (เอกสารประกอบการฝึกอบรม). กรุงเทพมหานคร : คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนคร เหนือ, 2550. มนต์ชัย เทียนทอง. การออกแบบและพัฒนาคอร์สแวร์สําหรับบทเรียนคอมพิวเตอร์(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. 2548. มนต์ชัย เทียนทอง. การออกแบบและพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์(พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.2545. ระบิล ภักดีผล. นวัตกรรมการเรียนการสอน. สำนักนวัตกรรมการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ขอนแก่น, 2545. ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. พิมพ์ครั้งที่5. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์, 2546. รชานนท์ สุนทรชัย และคณะ. คู่มือการจัดทำผลงานทางวิชาการ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ ประดิพัทธ์, 2549. วิชาการ,กรม. กระทรวงศึกษาธิการ. แนวทางการจัดทำเอกสารประกอบการสอน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา, 2545. ______. แนวทางการประเมินผลด้วยทางเลือกใหม่ ตามหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว, 2554. วีระ ตันตระกูล และคณะ. บันไดสู่ความก้าวหน้าของข้าราชการครู. กรุงเทพฯ: อุดมศึกษา. 2554. ศศิพิมพ์ ศรกิจ. การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะจากการเขียน แบบควบคุมไปสู่การเขียนแบบอิสระ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2551. โศภน รัตนะ. ผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องภูมิศาสตร์ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชะรัตชนูปถัมภ์ จังหวัดพัทลุง. ปริญญาการศึกษาค้นคว้าอิสระหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา หลักสูตรและการสอน). มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2556. ศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.การเรียนการสอนภาษาจีน ในประเทศไทยระดับประถม-มัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ: ศรีบูรณ์คอมพิวเตอร์การพิมพ์.2551. สมนึก ภัททิยธนี. การวัดผลการศึกษา. มหาสารคาม : ภาควิชาวิจัยและพัฒนาการศึกษา. คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2551.
88 สมบูรณ์สงวนญาติ. เทคโนโลยีทางการเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร: ภาคพัฒนา ตำราและ เอกสารทางวิชาการ, หน่วยศึกษานิเทศก์, กรมการฝึกหัดครู. 2534. สมศักดิ์ ประชุมชนะ. การสร้างเอกสารประกอบการสอน วิชา ส 031 การปกครองของไทย เรื่อง รัฐธรรมนูญไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนคลองฉนวนวิทยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาหลักสูตรและการสอน สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2542. สมหวัง พิธิยานุวัฒน์. การวัดและประเมินผลการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษา. ในสาขาวิชาศึกษาศาสตร์. ประมวลสาระชุดวิชาสัมมนาการมัธยมศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพมหานคร : สาขาวิชาศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2547. สิริอร วิชชาวุธ. จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 2552. สุจิตร ทรงคาศรี. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องการสร้าง เสริมสุขภาพและการป้องกันโรคด้วยภูมิปัญญาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพล ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญยาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา หลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. 2554. สุนันทา สุนทรประเสริฐ. การผลิตเอกสารประกอบการเรียนการสอน. พิมพ์ครั้งที่4. นครสวรรค์ : โรงพิมพ์ริมปิง, 2547. สุนันทา สุนทรประเสริฐ. (ม.ป.ป.). การผลิตเอกสารประกอบการเรียนการสอน. ชัยนาท: ชมรม พัฒนาความรู้ด้านระเบียบกฎหมาย สุรชัย บุญญานุสิทธิ์. มรรควิธีสู่ความชำนาญการและผลงานทางวิชาการ. โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต, นครราชสีมา, 2545. สุวิมล ว่องวาณิช การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน(Classroom Action Research) พิมพ์ครั้งที่ 4 กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์อักษรไทย, 2546. Cheng, C. L., & Li, Z. H. (2010). BIAO ZHUN HAN YU. Guang Dong Shi Jie Tu Shu: Development Program Science Press. Good, C. V. (1973). Dictionary of education. New York: McGraw-Hill. 107 Jiang Liping. (2008). TI YAN HAN YU. Beijing: Higher Education Pass. Johnson, D. W., & Johnson, R. T. (1991). Learning together and alone: Cooperative, competitive,and individualistic learning (3rd ed.). Boston: Allyn & Bacon.
89 Liu Yuan. (2006). TI YAN HAN YU. Beijing: Higher Education Pass. Liu Xun. (2009). XIN SHI YONG HAN YU KE BEN. Beijing: Beijing Language and Culture University Press Yang, D. (2553). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาหลักสูตรและ การสอน, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
90 ภาคผนวก
91 ภาคผนวก ก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
92 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน-หลังเรียน วิชาภาษาจีน 2 เรื่องการอ่านภาษาจีน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 ข้อ 30 คะแนน 一 y ī 、选 xuǎn 择 z é 题 t í 。 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. 妈 m ā 妈 m ā 晚 wǎn 上 shang 九 jiǔ 点 diǎn 睡 shuì 觉 jiào ,我 w ǒ (b) 晚 wǎn 上 shang 九 jiǔ 点 diǎn 睡 shuì 觉 jiào 。 a.但 dàn 是 shì b.也 y ě c.就 jiù d.也 y ě 许 x ǔ 2. 如 r ú 果 guǒ 这 zhè 个 g e 星 xīng 期 q ī 六 liù 你 n ǐ 有 yǒu 空 kòng 儿 r ,我 w ǒ 们 m e n (a) 去 q ù 看 kàn 电 diàn 影 yǐng 吧 b a ! a.就 jiù b.就 jiù 是 shì c.也 y ě d.也 y ě 许 x ǔ 3. 我 w ǒ 小 xiǎo 妹 mèi 妹 mèi 每 měi 天 tiān (a) 七 q ī 点 diǎn 半 bàn 起 q ǐ 床 chuáng 。 a.早 zǎo 上 shang b. 上 shàng 午 w ǔ c.下 xià 午 w ǔ d.晚 wǎn 上 shang 4. 泰 tài 国 guó 母 m ǔ 亲 qīn 节 jié 是 shì 几 j ǐ 月 yuè 几 j ǐ 号 hào ? (a) a.12月 yuè 8号 hào b.8月 yuè 12号 hào c.12月 yuè 5号 hào d.5月 yuè 12号 hào
93 5. 今 jīn 天 tiān 是 shì 十 shí 五 w ǔ 号 hào 星 xīng 期 q ī 二 è r 。那 n à 后 hòu 天 tiān 是 shì 几 j ǐ 号 hào 星 xīng 期 q ī 几 j ǐ 呢 n e 。(d) a.十 shí 三 sān 号 hào 星 xīng 期 q ī 天 tiān b.十 shí 四 s ì 号 hào 星 xīng 期 q ī 一 y ī c.十 shí 六 liù 号 hào 星 xīng 期 q ī 三 sān d.十 shí 七 q ī 号 hào 星 xīng 期 q ī 四 s ì 6. 三 sān 月 yuè 份 fèn 有 yǒu 多 duō 少 shǎo 天 tiān ?(d) a. 28 天 tiān b. 29 天 tiān c. 30 天 tiān d. 31 天 tiān 7. 哪 n ǎ 里 l ǐ 不 b ù 在 zài 泰 tài 国 guó 的 d e 中 zhōng 部 b ù ? (b) a.曼 màn 谷 g ǔ b.宋 sòng 卡 k ǎ 府 f ǔ c.暖 nuǎn 武 w ǔ 里 l ǐ 府 f ǔ d.信 xìn 武 w ǔ 里 l ǐ 8. 我 w ǒ 不 b ù 喜 x ǐ 欢 huan 喝 h ē (a) 。 a.可 k ě 乐 l è b.芒 máng 果 guǒ c.茶 chá 叶 y è d.冰 bīng 淇 q í 淋 lín 9. 烤 kǎo 鸭 y ā 是 shì (d) 的 d e 名 míng 菜 cài 。(d) a. 上 shàng 海 hǎi b. 昆 kūn 明 míng c.四 s ì 川 chuān d. 北 běi 京 jīng
94 10. 男 nán :您 nín 好 hǎo ,您 nín 想 xiǎng 吃 chī 什 shén 么 m e ? 女 n ǚ :我 w ǒ 要 yào 两 liǎng 个 g è 菜 cài ,还 hái 要 yào 一 y ì 些 xiē 饺 jiǎo 子 z i 。 他 t ā 们 m e n 可 k ě 能 néng 在 zài 哪 n ǎ 儿 r ?(c) a.图 t ú 书 shū 馆 guǎn b.游 yóu 泳 yǒng 馆 guǎn c.饭 fàn 馆 guǎn d.博 b ó 物 w ù 馆 guǎn 11. 泰 tài 国 guó 人 rén 用 yòng 的 d e 币 b ì 种 zhǒng 是 shì 什 shén 么 m ?(a) a.泰 tài 铢 zhū b.人 rén 民 mín 币 b ì c.韩 hán 币 b ì d.台 tái 湾 wān 币 b ì 12. 超 chāo 市 shì 里 l ǐ 一 y ì 瓶 píng 牛 niú 奶 nǎi 卖 mài 2.5元 yuán ,如 r ú 果 guǒ 要 yào 买 mǎi 4 瓶 píng 牛 niú 奶 nǎi , 一 y í 共 gòng 多 duō 少 shǎo 钱 qián ?(d) a. 2.8 元 yuán b. 5 元 yuán c. 8 元 yuán d. 10元 yuán 13. 苹 píng 果 guǒ 一 y ì 斤 jīn 三 sān 块 kuài 钱 qián ,他 t ā 给 gěi 老 lǎo 板 bǎn 十 shí 二 è r 块 kuài ,他 t ā 买 mǎi 几 j ǐ 斤 jīn 苹 píng 果 guǒ ?(c) a. 两 liǎng 斤 jīn b.三 sān 斤 jīn c.四 s ì 斤 jīn d. 五 w ǔ 斤 jīn
95 14 – 15 选 xuǎn 择 z é 正 zhèng 确 què 序 x ù 号 hào 填 tián 到 dào 图 t ú 片 piàn 后 hòu 相 xiāng 应 yìng 横 héng 线 xiàn 上 shàng 。 a.银 yín 行 háng 在 zài 商 shāng 场 chǎng 的 d e 北 běi 边 biān 。 b.银 yín 行 háng 在 zài 商 shāng 场 chǎng 的 d e 南 nán 边 bian 。 c.学 xué 校 xiào 在 zài 北 běi 革 g é 医 y ī 院 yuàn 的 d e 东 dōng 边 b i a 。 d. 学 xué 校 xiào 在 zài 银 yín 行 háng 的 d e 北 běi 边 biān 。 14. _______________(a) 15. _______________(c)
96 二 è r 、阅 yuè 读 d ú 理 l ǐ 解 jiě 玛 m ǎ 丽 l ì 的 d e 一 y ì 天 tiān 玛 m ǎ 丽 l ì 是 shì 加 jiā 拿 n á 大 d à 留 liú 学 xué 生 shēng ,现 xiàn 在 zài 在 zài 我 w ǒ 们 m e n 大 d à 学 xué 学 xué 习 x í 汉 hàn 语 y ǔ 。每 měi 天 tiān 差 chà 十 shí 分 fēn 七 q ī 点 diǎn 起 q ǐ 床 chuáng ,早 zǎo 上 shang 她 t ā 不 b ù 锻 duàn 炼 liàn 身 shēn 体 t ǐ ,也 y ě 不 b ù 吃 chī 早 zǎo 饭 fàn 。她 t ā 读 d ú 课 k è 文 wén 、记 j ì 生 shēng 词 c í 、复 f ù 习 x í 语 y ǔ 法 f ǎ 。她 t ā 七 q ī 点 diǎn 三 sān 刻 k è 去 q ù 教 jiào 室 shì ,八 b ā 点 diǎn 上 shàng 课 k è 。 上 shàng 午 w ǔ 有 yǒu 四 s ì 节 jié 课 k è 。 休 x iū 息 x ī 的 d e 时 s hí 候 hòu ,她 t ā 去 q ù 喝 h ē 一 y ī 杯 bēi 咖 k ā 啡 fēi ,吃 chī 一 y ì 点 diǎn 儿 r 东 dōng 西 x ī 。 十 shí 二 è r 点 diǎn 下 xià 课 k è 。下 xià 课 k è 以 y ǐ 后 hòu 她 t ā 去 q ù 食 shí 堂 táng 吃 chī 午 w ǔ 饭 fàn 。 中 zhōng 午 w ǔ 她 t ā 不 b ù 睡 shuì 觉 jiào , 常 cháng 常 cháng 看 kàn 书 shū 或 huò 者 zhě 跟 gēn 朋 péng 友 y o u 聊 liáo 天 tiān 儿 r 。星 xīng 期 q ī 二 è r 下 xià 午 w ǔ 有 yǒu 两 liǎng 节 jié 课 k è , 两 liǎng 点 diǎn 上 shàng 课 k è ,四 s ì 点 diǎn 下 xià 课 k è 。下 xià 午 w ǔ 没 méi 有 yǒu 课 k è 的 d e 时 shí 候 h o u ,她 t ā 常 cháng 常 cháng 去 q ù 图 t ú 书 shū 馆 guǎn 做 zuò 练 liàn 习 x í ,看 kàn书 shū , 或 h uò 者 zhě 上 shàng 网 wǎng 查 c há 资 z ī 料 liào 。 每 měi 天 tiān 四 s ì 点 diǎn 半 bàn ,她 t ā 去 q ù 跑 pǎo 步 b ù 、打 d ǎ 球 qiú ,五 w ǔ 点 diǎn 半 bàn 回 huí 宿 s ù 舍 shè ,洗 x ǐ 澡 zǎo 、洗 x ǐ 衣 y ī 服 f u 。七 q ī 点 diǎn 钟 zhōng 吃 chī 晚 wǎn 饭 fàn 。晚 wǎn 上 shang 她 t ā 看 kàn 电 diàn 视 shì 、听 tīng 音 yīn 乐 yuè 、写 xiě 汉 hàn 字 z ì 、做 zuò 练 liàn 习 x í 、预 y ù 习 x í 生 shēng 词 c í 和 h é 课 k è 文 wén , 十 shí 一 y ī 点 diǎn 睡 shuì 觉 jiào 。玛 m ǎ 丽 l ì 每 měi 天 tiān 都 dōu 很 hěn 忙 máng 。她 t ā 说 shuō ,学 xué 习 x í 汉 hàn 语 y ǔ 比 b ǐ 较 jiào 难 nán ,但 dàn 是 shì 很 hěn 有 yǒu 意 y ì 思 s i 。 16. 玛 m ǎ 丽 l ì 是 shì 哪 n ǎ 国 guó 人 rén ?(b) a. Japan b.Canada c. America d. Italy
97 17. 她 t ā 在 zài 中 zhōng 国 guó 做 zuò 什 shén 么 m e ?(a) a.读 d ú 书 shū b.去 q ù 玩 wán 儿 r c. 工 gōng 作 zuò d. 找 zhǎo 朋 péng 友 y o u 18.玛 m ǎ 丽 l ì 每 měi 天 tiān 几 j ǐ 点 diǎn 起 q ǐ 床 chuáng ?(c) a. 06:30 b. 07:45 c. 06:50 d. 07:55 19. 每 měi 天 tiān 早 zǎo 上 shang 她 t ā 没 méi 有 yǒu 做 zuò 什 shén 么 m e ?(b) a.读 d ú 课 k è 文 wén b. 锻 duàn 炼 liàn 身 shēn 体 t ǐ c.记 j ì 生 shēng 词 c í d.复 f ù 习 x í 语 y ǔ 法 f ǎ 20. 她 t ā 几 j ǐ 点 diǎn 上 shàng 课 k è ?(c) a. 07:00 b. 07:45 c. 08:00 d. 08:45 21. 中 zhōng 午 w ǔ 玛 m ǎ 丽 l ì 做 zuò 什 shén 么 m e ?(b) a.看 kàn 电 diàn 影 yǐng b.读 d ú 书 shū c. 睡 shuì 觉 jiào d.打 d ǎ 太 tài 极 j í 拳 quán
98 22.“有 yǒu意 y ì 思 s i ”这 zhè 个 g e 词 c í 是 shì 什 shén 么 m e 意 y ì 思 s i ?(a) a.好 hǎo 玩 wán b.好 hǎo 难 nán c.好 hǎo 听 tīng d. 好 hào 吃 chī 三、读 d ú 后 hòu 判 pàn 断 duàn 正 zhèng 误 w ù 。 ( 正 zhèng 确 què 填 tián a,不 b ù 正 zhèng 确 què 填 tián b) - 我 w ǒ 家 jiā 离 l í 学 xué 校 xiào 很 hěn 远 yuǎn ,我 w ǒ 家 jiā 附 f ù 近 jìn 没 méi 有 yǒu 地 d ì 铁 tiě 。 先 xiān 坐 zuò 33 路 l ù 到 dào Lan Thong,然 rán 后 hòu 换 huàn 305路 l ù 公 gōng 共 gòng 汽 q ì 车 chē 就 jiù 到 dào 北 běi 革 g é 学 xué 校 xiào 。 23) 我 w ǒ 家 jiā 离 l í 学 xué 校 xiào 不 b ù 远 yuǎn 。 ( b ) 24) 我 w ǒ 家 jiā 附 f ù 近 jìn 有 yǒu 地 d ì 铁 tiě 到 dào 学 xué 校 xiào 。 ( b ) 25) 我 w ǒ 家 jiā 附 f ù 近 jìn 有 yǒu 33路 l ù 公 gōng 共 gòng 汽 q ì 车 chē 。 ( a )
99 三 sān 、选 xuǎn 词 c í 填 tián 空 kòng 。 彼 b ǐ 得 d é : 你 n ǐ 几 j ǐ 点 diǎn (26) d ? 玛 m ǎ 丽 l ì : (27) e 十 shí 分 fēn 四 s ì 点 diǎn 。 彼 b ǐ 得 d é : 今 jīn 天 tiān 晚 wǎn 上 shang 有 yǒu 新 xīn 电 diàn 影 yǐng ,听 tīng 说 shuō 很 hěn (28) b , 你 n ǐ 想 xiǎng 不 b ù 想 xiǎng 去 q ù 看 kàn ? 玛 m ǎ 丽 l ì : 想 xiǎng 去 q ù 。 彼 b ǐ 得 d é : 那 n à 下 xià 课 k è (29) a ,我 w ǒ 们 m e n 一 y ì 起 q ǐ 去 q ù 看 kàn 电 diàn 影 yǐng 吧 b a ! 今 jīn 天 tiān 晚 wǎn 上 shang 我 w ǒ 请 qǐng 客 k è 。 玛 m ǎ 丽 l ì : (30) c ! 彼 b ǐ 得 d é : 不 b ú 客 k è 气 q i 。 a.以 y ǐ 后 hòu b.好 hǎo 看 kàn c.谢 xiè 谢 x i e d. 下 xià 课 k è e.差 chà
100 เฉลยแบบทอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน วิชาภาษาจีน3 เรื่องการอ่านภาษาจีน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. 21. 22. 23. 24. 25. 26. 27. 28. 29. 30. b a a b d d b a d c a d c a c b a c b c b a b b a d e b a c
101