หน้า | 100
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
อ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสือ่ สาร ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง
คำอธบิ ายรายวิชา
เข้าใจคำสั่ง คำขอร้อง รูปประโยคและโครงสร้างประโยค คำ กลุ่มคำ และประโยค วิเคราะห์และสรุป
เรื่องราว บทอา่ น บทสนทนา เร่อื งสนั้ เรอ่ื งเล่า นิทาน บทกลอนสัน้ ๆ สำนวนทีใ่ ช้ในเทศกาล การพูดและการ
เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ แสดงความต้องการ แสดงความรู้สึก
ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ขอและใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพือ่ น ครอบครัว และ
เรื่องใกล้ตัวซึ่งอยู่ในท้องถิ่นของตน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร ฝึกการใช้ภาษาเพื่อให้มีความรู้
เข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มีทักษะทางภาษา เห็นประโยชน์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และนำไปใช้ใน
ชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. วิเคราะห์เรื่องและสรปุ ความเร่อื งที่ฟงั และอ่านได้
๒. ใช้ประโยคคำสั่ง คำขอร้อง การขออนุญาต ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ตามโครงสร้าง
ประโยคได้
๓. ใช้ภาษาอังกฤษในการขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัวซึ่งอยู่ในท้องถิ่นของ
ตนได้
๔. ใชภ้ าษาอังกฤษในการพดู และเขียนโตต้ อบและส่ือสารตามสถานการณต์ ่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
๕. ใชภ้ าษาไดต้ ามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นบา้ นหนองเรือ : สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 101
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เตมิ
วชิ าการปอ้ งกันการทจุ รติ
โรงเรยี นบ้านหนองเรอื : สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หน้า | 102
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
ส๑๑๒๐๒ การป้องกนั การทุจริต ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษาฯ
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ระบบคดิ ฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การ
สอบ กจิ กรรมนกั เรียน STRONG/จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจริต ความพอเพียง ความโปรง่ ใส ตา้ นทุจริต ความ
เอื้ออาทร รู้หน้าที่ของพลเมอื งและรบั ผิดชอบต่อสังคม ความหมายบทบาทและสิทธิ การเคารพสิทธิหน้าท่ตี ่อ
ตนเองและผู้อื่น ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อตนเองกับต่อผู้อื่น) ความเป็นพลเมืองใน
การต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงาน
กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการ
เขียน เพ่ือให้มีความตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการตอ่ ตา้ นและการปอ้ งกนั การทจุ รติ
ผลการเรยี นรู้
๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวม
๒. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต
๓. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ
๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม
๕. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๖. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ
๗. ปฏิบตั ิตนเป็นผทู้ ่ี STRONG/จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต
๘. ปฏิบัตติ นตามหนา้ ที่พลเมืองและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสังคม
๙. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ ริต
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนบา้ นหนองเรอื : สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 103
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ส๑๒๒๐๒ การปอ้ งกันการทุจรติ ๒ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาฯ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความละอายและความไม่ทน
ต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การสอบ กิจกรรมนักเรียน STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ
ความพอเพียง ความโปร่งใส ต้านทจุ ริต ความเอ้อื อาทร รหู้ นา้ ทีข่ องพลเมืองและรับผิดชอบต่อสังคม เร่ืองการ
เคารพสิทธิหน้าท่ีต่อตนเองและผู้อื่น การเคารพสิทธิหน้าที่ต่อชุมชนและสังคม ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย
ความรับผิดชอบ (ต่อห้องเรียน) คุณลักษณะของพลเมืองที่ดี หน้าที่ของพลเมืองที่ดีในการต่อต้านการทุจริต
โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕
ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการเขียน เพื่อให้มีความตระหนัก
และเห็นความสำคัญของการต่อตา้ นและการป้องกันการทุจรติ
ผลการเรยี นรู้
๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวม
๒. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ
๓. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั STRONG/จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
๔. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับพลเมืองและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้
๖. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผูล้ ะอายและไม่ทนต่อการทุจรติ ทุกรปู แบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ ริต
๘. ปฏิบตั ติ นตามหน้าทพี่ ลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
๙. ตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจริต
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นบา้ นหนองเรือ : สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 104
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ส๑๓๒๐๒ การปอ้ งกนั การทุจรติ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษาฯ
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง
คำอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาเกีย่ วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชนส์ ว่ นรวม การคดิ แยกแยะ
ระบบคดิ ฐาน ๒ ระบบคดิ ฐาน ๑๐ ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม การขดั กนั ระหว่าง
ประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต การทำการบา้ น การทำเวร
การสอบ การแต่งกาย กิจกรรมสง่ เสรมิ ความถนัดและความสนใจ STRONG/จติ พอเพียงต่อต้านการทจุ รติ
ความพอเพียง ความโปร่งใส ต้านทุจริต ความเอื้ออาทร พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เร่ืองการ
เคารพสิทธิหน้าท่ีต่อตนเองและผู้อ่ืนท่ีมีต่อชุมชน เรื่องการเคารพสิทธิหน้าที่ต่อตนเองและผู้อ่ืนท่ีมีต่อ
ประเทศชาติ ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผดิ ชอบ (ต่อโรงเรียน) ความเปน็ พลเมืองในการต่อต้าน
การทุจริตโดยใชก้ ระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัตจิ รงิ การทำโครงงานกระบวนการ
เรยี นรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอ่านและการเขียน เพ่ือให้มี
ความตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและการป้องกัน การทุจริต
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม
๒. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
๓. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั STRONG/จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต
๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้
๖. ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้ละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทุกรปู แบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ท่ี STRONG/จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต
๘. ปฏิบตั ติ นตามหน้าทพี่ ลเมืองและมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม
๙. ตระหนักและเห็นความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจริต
รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นบา้ นหนองเรือ : สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หน้า | 105
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
ส๑๔๒๐๒ การปอ้ งกนั การทุจรติ ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษาฯ
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง
คำอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาเก่ียวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ ระบบ
คิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมและการทุจริต ประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์
ส่วนรวม ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต การทำการบา้ น การทำเวร การสอบ การแต่งกาย กิจกรรม
นักเรียน (ภายในโรงเรียน) การเข้าแถว STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต การดำรงชีวิตตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง ความโปร่งใส ความตื่นรู้/ความรู้ ต้านทุจริต มุ่งไปข้างหน้า ความเอื้ออาทร พลเมืองกับ
ความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่องการเคารพสิทธิหน้าที่ต่อตนเองและผู้อื่นที่มีต่อครอบครัว ระเบียบ กฎ กติกา
กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อชุมชน) ความเป็นพลเมืองในการต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด
วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การ
อภิปราย การสบื สอบ การแกป้ ญั หา ทกั ษะการอ่านและการเขยี น เพ่ือใหม้ ีความตระหนักและเห็นความสำคัญ
ของการต่อตา้ นและการป้องกันการทุจริต
ผลการเรียนรู้
๑. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวม
๒. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต
๓. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั STRONG/จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ
๔. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั พลเมืองและมีความรบั ผิดชอบต่อสงั คม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้
๖. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจรติ ทุกรปู แบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผทู้ ่ี STRONG/จติ พอเพียงต่อต้านการทุจริต
๘. ปฏบิ ัติตนตามหนา้ ทพ่ี ลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม
๙. ตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจรติ
รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรียนรู้
โรงเรยี นบา้ นหนองเรอื : สำนักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 106
คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
ส๑๕๒๐๒ การป้องกนั การทุจริต ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษาฯ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๔๐ ชั่วโมง
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความแตกตา่ งระหวา่ งจริยธรรมและการทุจริต ประโยชน์สว่ นตนและประโยชน์
สว่ นรวม การขัดกันระหวา่ งประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ผลประโยชน์ทับซอ้ น ความละอายและ
ความไม่ทนต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การสอบ การแต่งกาย กิจกรรมนักเรียน (ในห้องเรียน
โรงเรยี น ชุมชน) การเข้าแถว STRONG/จติ พอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ความพอเพยี ง ความโปรง่ ใส ความตนื่ รู้/
ความรู้ ต้านทุจริต มุ่งไปข้างหน้า ความเอื้ออาทร พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่องการเคารพสิทธิ
หน้าที่ต่อตนเองและผูอ้ ื่น ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อสังคม) ความเป็นพลเมืองในการ
ต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงาน
กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการ
เขียน เพ่อื ให้มีความตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการต่อตา้ นและการป้องกันการทจุ รติ
ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม
๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
๓. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั STRONG/จิตพอเพียงต่อตา้ นการทุจริต
๔. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๖. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นต่อการทุจริตทุกรูปแบบ
๗. ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ท่ี STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ ริต
๘. ปฏิบัตติ นตามหน้าที่พลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม
๙. ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและป้องกันการทุจริต
รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นบ้านหนองเรือ : สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หน้า | 107
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
ส๑๖๒๐๒ การปอ้ งกันการทุจริต ๖ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษาฯ
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับกรแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมและการทุจรติ ประโยชนส์ ่วนตนและประโยชน์
ส่วนรวม การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ผลประโยชน์ทับซ้อน รูปแบบของ
ผลประโยชน์ทับซ้อน ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การสอบ การ
แต่งกาย กิจกรรมนักเรียน (ในห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน สังคม) การเข้าแถว STRONG/จิตพอเพียง
ต่อต้านการทุจริต การสร้างจิตสำนึกความพอเพียงต่อต้านการทุจริต ความโปร่งใส ความตื่นรู้/ความรู้ ต้าน
ทุจริต มุ่งไปข้างหน้า ความเอื้ออาทร พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่องการเคารพสิทธิหน้าที่ต่อ
ตนเองและผู้อื่นที่มีต่อประเทศชาติ ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อประเทศชาติ) ความเป็น
พลเมืองในการต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำ
โครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและ
การเขียน เพือ่ ใหม้ ีความตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและการป้องกันการทจุ รติ
ผลการเรียนรู้
๑. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวม
๒. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต
๓. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั STRONG/จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต
๔. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับพลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้
๖. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนต่อการทจุ ริตทุกรปู แบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG/จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจริต
๘. ปฏิบตั ิตนตามหน้าที่พลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
๙. ตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ รติ
รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนบ้านหนองเรือ : สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาร้อยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 108
คำอธิบายรายวิชา
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น
โรงเรยี นบ้านหนองเรือ : สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต ๒
หน้า | 109
คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น
ก๑๑๙๐๑ กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง
คำอธบิ ายรายวิชา
บอกชื่อและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตนเองได้ถูกต้อง ระบุส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ตนเอง
พอใจพร้อมเหตุผล และรับรู้ในสว่ นของร่างกายที่เพื่อนพอใจ ดูแลรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งของตนเอง
และเพ่ือนใหป้ ลอดภัย
บอกอารมณ์และความรู้สกึ ของตนเองได้ รบั รูค้ วามแตกต่างทางดา้ นรา่ งกายของตนเองและเพื่อน ยอมรับ
ความแตกต่างทางด้านร่างกายของตนเองและเพื่อน ระบุงานและกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนที่ชอบและไม่ชอบ
รวมทัง้ การรับรู้ความชอบและไม่ชอบของเพ่อื นในช้ันเรยี น
บอกอาชีพของพ่อแม่ บอกความหมายของเคร่ืองหมาย สัญลกั ษณ์ที่แสดงถึงคุณภาพด้านการเรียนของ
ตน ดูแลตวั เองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวนั ร้จู กั สงั เกต ตงั้ คำถาม และแสวงหาคำตอบ รูเ้ ท่าทันอารมณ์ของ
ตนเอง และเป็นผู้ฟงั ท่ดี ี
ผลการเรยี นรู้
๑. เรยี กชื่อสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายไดถ้ ูกต้อง
๒. ระบุส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายท่ตี นเองพอใจพร้อมเหตุผล และรบั รู้ในส่วนของร่างกายที่เพือ่ นพอใจ
๓. ดูแลส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายทั้งของตนเองและเพื่อนให้ปลอดภัย
๔. บอกอารมณแ์ ละความรสู้ ึกของตนเองได้
๕. รับรู้ความแตกตา่ งทางดา้ นร่างกายของตนเองและเพ่ือน
๖. ยอมรับความแตกตา่ งทางดา้ นร่างกายของตนเองและเพ่ือน
๗. ระบุงานและกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนที่ชอบและไม่ชอบ รวมทั้งการรับรู้ความชอบและไม่ชอบ ของ
เพอื่ นในชน้ั เรียน
๘. บอกอาชพี ของพ่อแม่
๙. บอกความหมายของเคร่อื งหมาย สัญลกั ษณ์ที่แสดงถงึ คณุ ภาพด้านการเรยี นของตน
๑๐. ดูแลตัวเองในการปฏิบตั ิกิจวตั รประจำวนั
๑๑. รูจ้ ักสังเกต ตั้งคำถาม และแสวงหาคำตอบ
๑๒. รู้เท่าทันอารมณ์
๑๓. เป็นผฟู้ งั ทดี่ ี
รวมทั้งหมด ๑๓ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนบ้านหนองเรอื : สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 110
คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น
ก๑๒๙๐๑ กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง
คำอธิบายรายวชิ า
อธิบายหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ถูกต้อง ดูแลรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายท้ังของตนเอง
และเพอ่ื ใหป้ ลอดภัย
บอกอารมณ์ ความรู้สึกของตนและรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของครู เพื่อนในห้องเรียนและสมาชิกใน
ครอบครัว รับร้อู ารมณ์ความรู้สึกของตนเองและเพื่อน ยอมรับความแตกต่างด้านอารมณ์ จติ ใจของตนเองและ
เพ่อื น
บอกอาชีพในชุมชน บอกความหมายผลการเรียนของตน ระบุวิชาที่มีผลการเรียนอยู่ในระดับดแี ละท่ี
ต้องปรับปรุง
แสดงพฤติกรรมที่แสดงถึงความมีเมตตา แบ่งปันของกินของใช้ วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมูล
ขา่ วสารได้สมเหตสุ มผล ควบคมุ อารมณ์ของตนเองได้ และใช้ภาษาและกริ ิยาท่ีเหมาะสมในการส่ือสาร
ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายหนา้ ทข่ี องส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายได้ถูกต้อง
๒. ดูแลรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายท้งั ของตนเองและเพื่อให้ปลอดภัย
๓. บอกอารมณ์ ความรู้สึกของตนและรับรอู้ ารมณค์ วามรสู้ ึกของครู เพอื่ นในหอ้ งเรยี นและสมาชิกในครอบครัว
๔. รับรอู้ ารมณ์ความรู้สึกของตนเองและเพอ่ื น
๕. ยอมรบั ความแตกต่างดา้ นอารมณ์ จติ ใจของตนเองและเพ่ือน
๖. บอกอาชีพในชุมชน
๗. บอกความหมายผลการเรียนของตน
๘. ระบุวชิ าท่มี ผี ลการเรียนอยู่ในระดบั ดแี ละทีต่ ้องปรบั ปรงุ
๙. แสดงพฤติกรรมท่แี สดงถึงความมีเมตตา แบ่งปันของกนิ ของใช้
๑๐. วเิ คราะหค์ วามนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มูลขา่ วสารไดส้ มเหตุสมผล
๑๑. ควบคมุ อารมณ์ของตนเองได้
๑๒. ใช้ภาษาและกิรยิ าท่เี หมาะสมในการส่ือสาร
รวมทั้งหมด ๑๒ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนบ้านหนองเรอื : สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 111
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
ก๑๓๙๐๑ กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง
คำอธบิ ายรายวชิ า
บอกประโยชนข์ องสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายได้ถกู ตอ้ ง รบั รูก้ ารเปล่ยี นแปลงของรา่ งกายตามวัย ยอมรับ
การเปลยี่ นแปลงของรา่ งกายตามวัย
ระบุสาเหตุของการเกิดอารมณ์ความรู้สึกของตนเองและเพื่อน ยอมรับความแตกต่างด้านอารมณ์
จิตใจของตนเองและเพื่อน รับรู้อารมณ์ ความรู้สึกของครู เพื่อนต่างห้องเรียน และสมาชิกในครอบครัว แสดง
ความคิดและแสดงออกด้านอารมณ์ที่มีต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
คำนึงถงึ ความรู้สกึ ของผอู้ น่ื ในการสื่อสาร
ระบุความสนใจ ความถนัด ความสามารถด้านการเรียนของตนเองพร้อมเหตุผล รับรู้ความสนใจ ความ
ถนัด ความสามารถด้านการเรียนของเพื่อนพร้อมเหตุผล ยอมรับความแตกต่างด้านความสนใจ ความถนัด
ความสามารถทางการเรยี นของตนเองและเพื่อน ยอมรับความแตกต่างดา้ นบคุ ลิกภาพของตนเองและเพ่ือน
บอกอาชีพที่หลากหลาย บอกพฤติกรรมของตนเองที่ช่วยให้ผลการเรียนดี ระบุพฤติกรรมที่จะ
นำมาใช้ในการปรับตัวด้านการเรียนให้มีผลการเรียนระดับดีขึ้นไป และมีความพร้อมสำหรับการประเมิน
ระดบั ชาติ รวมทง้ั ประเมนิ สถานการณแ์ ละนำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
ผลการเรียนรู้
๑. บอกประโยชนข์ องสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายไดถ้ ูกต้อง
๒. รับรกู้ ารเปล่ียนแปลงของร่างกายตามวัย
๓. ยอมรับการเปล่ียนแปลงของร่างกายตามวัย
๔. ระบุสาเหตขุ องการเกดิ อารมณ์ความร้สู กึ ของตนเองและเพ่ือน
๕. ยอมรับความแตกตา่ งด้านอารมณ์ จิตใจของตนเองและเพ่ือน
๖. รบั รูอ้ ารมณ์ ความร้สู ึกของครู เพอ่ื นต่างห้องเรยี น และสมาชิกในครอบครวั
๗. แสดงความคิดและแสดงออกด้านอารมณท์ ่ีมีต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๘. ร้จู ักเอาใจเขามาใสใ่ จเรา
๙. คำนงึ ถงึ ความร้สู ึกของผอู้ ่นื ในการส่ือสาร
๑๐. ระบุความสนใจ ความถนัด ความสามารถด้านการเรียนของตนเองพร้อมเหตผุ ล
๑๑. รบั รคู้ วามสนใจ ความถนดั ความสามารถด้านการเรียนของเพอื่ นพร้อมเหตผุ ล
๑๒. ยอมรบั ความแตกต่างดา้ นความสนใจ ความถนดั ความสามารถทางการเรียนของตนเองและเพื่อน
๑๓. ยอมรับความแตกตา่ งดา้ นบุคลิกภาพของตนเองและเพือ่ น
๑๔. บอกอาชีพทห่ี ลากหลาย
๑๕. บอกพฤตกิ รรมของตนเองทช่ี ่วยให้ผลการเรียนดี
๑๖. ระบุพฤติกรรมที่จะนำมาใช้ในการปรับตัวด้านการเรียนให้มีผลการเรียนระดับดีขึ้นไป และมีความพร้อม
สำหรับการประเมินระดับชาติ
๑๗. ประเมินสถานการณแ์ ละนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
รวมทั้งหมด ๑๗ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนบา้ นหนองเรอื : สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต ๒
หน้า | 112
คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
ก๑๔๙๐๑ กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง
คำอธิบายรายวิชา
รบั ร้กู ารเปล่ียนแปลงของรา่ งกายตามวัย บอกความคดิ ความรูส้ กึ อารมณ์ของตนและรับรคู้ วามคดิ
ความร้สู ึก อารมณข์ องครู เพ่ือน และสมาชกิ ในครอบครัว จำแนกความคดิ ความรู้สกึ อารมณท์ ี่ดีและไมด่ ขี อง
ตนเองและผู้อ่ืน
อธิบายบุคลิกภาพของตนเองและรับรูบ้ ุคลิกภาพของเพือ่ น รับได้กับบุคลกิ ภาพของตนเอง ยอมรับใน
สิ่งที่ผู้อื่นเป็นด้านบุคลิกภาพ พอใจในสิ่งที่ดีของตนเองด้านร่างกาย ความคิด อารมณ์ และจิตใจ ชื่นชมสิ่งที่ดี
ของผอู้ นื่ ด้านรา่ งกาย ความคิด อารมณ์ และจติ ใจ ยอมรับส่ิงท่ตี นเองมีในด้านความสนใจ ความถนดั ความสามารถ
ทางการเรยี น เขา้ ใจผู้อ่ืนในด้านความสนใจ ความถนดั ความสามารถทางการเรียน
บอกลักษณะของอาชีพที่สนใจ บอกคุณลักษณะของตนเองที่สอดคล้องกับอาชีพที่สนใจ วิเคราะห์ผลการ
เรยี นของตนแตล่ ะรายวิชา และระบวุ ิธกี ารพฒั นารายวิชาท่ีผลการเรียนยังไม่เปน็ ทพ่ี อใจ
มีจินตนาการและมีความสามารถในการคิดเชื่อมโยง มีวิธีผ่อนคลายอารมณ์และความเครียดให้กับ
ตนเอง รจู้ ักแสดงความคิด ความรสู้ ึกช่ืนชมการกระทำท่ดี ีงามใหผ้ อู้ นื่ รบั รู้
มีมารยาทในการสื่อสารกับผู้อื่น ชื่นชมความสำเร็จ ความสามารถและการกระทำที่ดีงามของ
ผู้อ่ืนดว้ ยคำพูด ภาษากาย และสัญลกั ษณ์ ควบคมุ ความคิดและอารมณ์ของตนเองได้ และมวี ิธสี ร้างความม่ันคงใน
อารมณข์ องตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. รบั รู้การเปลี่ยนแปลงของรา่ งกายตามวัย
๒. บอกความคิด ความรูส้ ึก อารมณ์ของตนและรบั รู้ความคิด ความรสู้ ึก อารมณ์ของครู เพื่อน และสมาชิกใน
ครอบครวั
๓. จำแนกความคดิ ความรู้สึก อารมณ์ทด่ี แี ละไม่ดีของตนเองและผู้อนื่
๔. อธบิ ายบคุ ลิกภาพของตนเองและรบั รูบ้ ุคลิกภาพของเพือ่ น
๕. รบั ได้กบั บคุ ลิกภาพของตนเอง
๖. ยอมรับในส่งิ ที่ผู้อ่นื เป็นด้านบคุ ลิกภาพ
๗. พอใจในสิ่งทีด่ ขี องตนเองด้านรา่ งกาย ความคดิ อารมณ์ และจติ ใจ
๘. ช่นื ชมสง่ิ ทดี่ ีของผู้อืน่ ดา้ นร่างกาย ความคิด อารมณ์ และจติ ใจ
๙. ยอมรับสิ่งทีต่ นเองมีในด้านความสนใจ ความถนัด ความสามารถทางการเรียน
๑๐. เขา้ ใจผู้อน่ื ในด้านความสนใจ ความถนัด ความสามารถทางการเรียน
๑๑. บอกลกั ษณะของอาชพี ท่ีสนใจ
๑๒. บอกคุณลักษณะของตนเองท่สี อดคล้องกบั อาชพี ท่ีสนใจ
๑๓. วเิ คราะหผ์ ลการเรียนของตนแต่ละรายวิชา
โรงเรยี นบ้านหนองเรือ : สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 113
๑๔. ระบวุ ิธีการพัฒนารายวชิ าทีผ่ ลการเรียนยังไมเ่ ป็นท่ีพอใจ
๑๕. มีจินตนาการและมีความสามารถในการคดิ เชื่อมโยง
๑๖. มีวธิ ีผอ่ นคลายอารมณแ์ ละความเครยี ดให้กับตนเอง
๑๗. รู้จักแสดงความคดิ ความรสู้ ึกช่ืนชมการกระทำท่ดี งี ามให้ผ้อู นื่ รบั รู้
๑๘. มีมารยาทในการสอื่ สารกับผอู้ ่นื
๑๙. ชนื่ ชมความสำเร็จ ความสามารถและการกระทำท่ีดงี ามของผู้อ่นื ดว้ ยคำพูด ภาษากาย และสญั ลักษณ์
๒๐. ควบคุมความคดิ และอารมณ์ของตนเองได้
๒๑. มีวธิ ีสร้างความม่ันคงในอารมณ์ของตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม
รวมทั้งหมด ๒๑ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนบา้ นหนองเรือ : สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หน้า | 114
คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น
ก๑๕๙๐๑ กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๔๐ ช่วั โมง
คำอธิบายรายวชิ า
รับรกู้ ารเปลี่ยนแปลงของรา่ งกายตามวัย ระบุบุคลกิ ภาพที่ดแี ละไมด่ ขี องตนเองและรบั รู้บคุ ลิกภาพท่ีดี
และไมด่ ขี องเพ่ือน ภมู ใิ จในบุคลิกภาพดา้ นดีของตน ชืน่ ชมบคุ ลกิ ภาพด้านดีของผ้อู นื่
แสดงออกถึงความมั่นใจในสิ่งที่ดีของตนเอง ด้านร่างกาย ความคิด อารมณ์ และจิตใจ รู้เท่าทัน
ความคิดและอารมณ์ของตนเอง จดั การกับความคิดและอารมณข์ องตนเองได้อยา่ งเหมาะสม
บอกวิชาที่ตนเองถนัดอย่างมีเหตุผล รับรู้วิชาที่เพื่อนถนัดพร้อมเหตุผล ภูมิใจในคุณค่าของตนเองใน
ด้านความสนใจ ความถนัด ความสามารถทางการเรียน และอาชีพ ชื่นชมในคุณค่าของผู้อื่นในด้านความสนใจ
ความถนดั ความสามารถทางการเรยี น และอาชีพ
บอกอาชีพที่ตนสนใจ บอกคุณสมบัติของบุคคลที่ประกอบอาชีพ ศึกษาข้อมูลด้านอาชีพที่กว้างและ
ลึกซึ้งมากขึ้น รับรู้ความคิด ความรู้สึก อารมณ์ของผู้ที่ตนคบหาสมาคม วิเคราะห์ผลการเรียนของตนแต่ละ
รายวชิ าและปรับปรุงพฤตกิ รรมการเรยี นในรายวชิ าทม่ี ผี ลการเรยี นไม่เป็นทพ่ี อใจ
วพิ ากษ์ วิจารณ์ บนพน้ื ฐานของข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง การยตุ ิขอ้ ขดั แย้งในกลุ่มเพื่อนด้วยสันติวิธี
อาสาทำงานเพื่อส่วนรวมและสังคม รู้จักปฏิเสธ ต่อรอง และร้องขอความช่วยเหลือในสถานการณ์เสี่ยง
แสดงออกถึงพฤติกรรมท่ีดใี นการอยู่รว่ มกบั ผู้อน่ื ตลอดจนรับฟังและยอมรับความคดิ เหน็ ซ่ึงกันและกนั
ผลการเรียนรู้
๑. รับรูก้ ารเปลย่ี นแปลงของรา่ งกายตามวัย
๒. ระบบุ ุคลกิ ภาพทีด่ ีและไมด่ ขี องตนเองและรับรู้บคุ ลิกภาพทดี่ ีและไมด่ ีของเพื่อน
๓. ภมู ิใจในบคุ ลิกภาพดา้ นดขี องตน
๔. ชื่นชมบคุ ลิกภาพด้านดีของผอู้ ืน่
๕. แสดงออกถงึ ความม่นั ใจในสงิ่ ที่ดีของตนเอง ด้านร่างกาย ความคดิ อารมณ์ และจติ ใจ
๖. รู้เทา่ ทนั ความคดิ และอารมณ์ของตนเอง
๗. จัดการกบั ความคดิ และอารมณข์ องตนเองได้อยา่ งเหมาะสม
๘. บอกวชิ าทตี่ นเองถนดั อยา่ งมีเหตผุ ล
๙. รบั รูว้ ิชาท่ีเพ่ือนถนดั พรอ้ มเหตผุ ล
๑๐. ภูมิใจในคณุ คา่ ของตนเองในดา้ นความสนใจ ความถนดั ความสามารถทางการเรยี น และอาชพี
๑๑. ชื่นชมในคุณค่าของผู้อนื่ ในดา้ นความสนใจ ความถนัด ความสามารถทางการเรียน และอาชีพ
๑๒. บอกอาชีพทต่ี นสนใจ
๑๓. บอกคณุ สมบตั ิของบุคคลทีป่ ระกอบอาชีพ
๑๔. ศึกษาข้อมูลดา้ นอาชพี ที่กวา้ งและลึกซ้ึงมากขึน้
๑๕. รบั รู้ความคิด ความร้สู ึก อารมณข์ องผูท้ ี่ตนคบหาสมาคม
โรงเรยี นบา้ นหนองเรือ : สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 115
๑๖. วิเคราะหผ์ ลการเรียนของตนแตล่ ะรายวิชาและปรับปรุงพฤติกรรมการเรียนในรายวิชาที่มีผลการเรียน ไม่เป็น
ที่พอใจ
๑๗. วิพากษ์ วจิ ารณ์ บนพนื้ ฐานของขอ้ มูลสารสนเทศท่ีถกู ตอ้ ง
๑๘. ยุติขอ้ ขดั แยง้ ในกลุ่มเพ่ือนดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี
๑๙. อาสาทำงานเพ่อื ส่วนรวมและสังคม
๒๐. ร้จู ักปฏิเสธ ตอ่ รอง และร้องขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์เสี่ยง
๒๑. แสดงออกถึงพฤติกรรมที่ดีในการอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่น
๒๒. รบั ฟงั และยอมรับความคดิ เห็นซง่ึ กันและกัน
รวมท้ังหมด ๒๒ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนบ้านหนองเรอื : สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาร้อยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 116
คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
ก๑๖๙๐๑ กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง
คำอธิบายรายวชิ า
รบั รู้ความคดิ ความรสู้ ึก อารมณข์ องคูส่ นทนา แสดงออกถึงความมั่นใจในคุณค่าของตนเอง ดา้ นความ
สนใจ ความถนดั ความสามารถทางการเรียนและอาชีพ เชื่อมน่ั ในคุณค่าของผอู้ ่ืนดา้ นความสนใจ ความถนดั
ความสามารถทางการเรียนและอาชีพ แสดงออกถึงความมน่ั ใจในบุคลกิ ภาพดา้ นดีของตนเอง รวมทง้ั เช่อื มั่นใน
คุณค่าของผูอ้ ่นื ด้านบุคลิกภาพ
มีข้อมูลโลกกว้างทางด้านการศึกษา มีแนวทางในการเลือกศึกษาต่อ พิจารณาความเหมาะสมของ
ตนกบั อาชพี ทีส่ นใจ ระบุอาชีพท่ีตนเองสนใจ วเิ คราะหผ์ ลการเรียนของตนแต่ละรายวชิ า โดยเฉพาะวิชาท่ีต้อง
ใช้ประเมินระดับชาติ และการเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อความพร้อมในการเข้า
เรียนตอ่
ปฏิบัติตามกฎ กติกา และระเบียบของสังคม ปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน และ
ประเทศชาติ มีวิธีสร้างความม่ันคงในอารมณ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสม มีคุณธรรมที่เหมาะสมกับวัย เช่น
ซื่อสัตย์ กตัญญูกตเวที เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ มีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม สามัคคี ฯลฯ มีจิตอาสา และทำกิจกรรมท่ี
เปน็ ประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม
รจู้ กั วธิ กี ารตดั สินใจและแก้ปญั หาท่ีถูกต้อง ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมท่ีทำแล้วมีความสุข ผูอ้ น่ื ไม่เดือดร้อน ตลอด
ถึงให้ความร่วมมือและทำงานร่วมกับผอู้ ่ืนได้อย่างสร้างสรรค์
ผลการเรียนรู้
๑. รบั รู้ความคิด ความรสู้ ึก อารมณ์ของคสู่ นทนา
๒. แสดงออกถึงความมั่นใจในคุณค่าของตนเอง ด้านความสนใจ ความถนัด ความสามารถทางการเรียนและ
อาชีพ
๓. เชื่อมน่ั ในคณุ คา่ ของผู้อ่นื ด้านความสนใจ ความถนัด ความสามารถทางการเรียนและอาชพี
๔. แสดงออกถึงความม่ันใจในบคุ ลิกภาพดา้ นดขี องตนเอง
๕. เชอื่ ม่นั ในคุณคา่ ของผอู้ ื่นด้านบุคลิกภาพ
๖. มขี อ้ มูลโลกกว้างทางด้านการศึกษา
๗. มีแนวทางในการเลอื กศึกษาต่อ
๘. พิจารณาความเหมาะสมของตนกบั อาชพี ทส่ี นใจ
๙. ระบอุ าชีพที่ตนเองสนใจ
๑๐. วิเคราะห์ผลการเรียนของตนแตล่ ะรายวชิ า โดยเฉพาะวิชาที่ต้องใชป้ ระเมินระดบั ชาติ และการเรยี นต่อระดบั
มัธยมศึกษาตอนตน้
โรงเรยี นบา้ นหนองเรอื : สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หน้า | 117
๑๑. เรยี นรเู้ พ่ิมเตมิ เพ่ือความพรอ้ มในการเขา้ เรยี นต่อ
๑๒. ปฏิบตั ติ ามกฎ กตกิ า และระเบยี บของสังคม
๑๓. ปฏิบัติตนเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั โรงเรียน และประเทศชาติ
๑๔. มวี ิธีสร้างความมน่ั คงในอารมณข์ องตนเองได้อย่างเหมาะสม
๑๕. มีคุณธรรมที่เหมาะสมกับวัย เช่น ซื่อสัตย์ กตัญญูกตเวที เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ มีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม
สามัคคี ฯลฯ
๑๖. มจี ิตอาสา และทำกจิ กรรมที่เป็นประโยชนต์ ่อสว่ นรวม
๑๗. รู้จกั วธิ ีการตดั สินใจและแก้ปัญหาท่ถี ูกต้อง
๑๘. ปฏิบตั กิ ิจกรรมที่ทำแลว้ มคี วามสขุ ผ้อู น่ื ไม่เดือดรอ้ น
๑๙. ใหค้ วามร่วมมอื และทำงานรว่ มกับผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์
รวมทั้งหมด ๑๙ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนบา้ นหนองเรอื : สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาร้อยเอด็ เขต ๒
หน้า | 118
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น
ก๑๑๙๐๒ เตรยี มลกู เสอื สำรองและลูกเสือสำรอง (ดาวดวงที่ ๑) กจิ กรรมนกั เรียน
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง
คำอธบิ ายรายวิชา
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผนปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณและกฎของ
ลูกเสือสำรอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์
รว่ มกนั ศึกษาธรรมชาติในชมุ ชนดว้ ยความสนใจ ใฝร่ ู้ ตามวถิ ีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลการปฏิบตั ิกิจกรรม ปิด
ประชุมกอง ในเรื่องต่อไปนี้
๑. เตรยี มลกู เสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัตกิ ารเรมิ่ กิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนด์ฮาวล์)
การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถวเบื้องต้น คำปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของลูกเสือ
สำรอง
๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความ
ปลอดภัย บริการ ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผูกเงื่อน คำปฏิญาณและ
กฎของลูกเสือสำรองเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ สามารถปฏิบัติตามคำ
ปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์
สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ
และฝกึ ฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รกั ษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรม และความม่ันคง
ของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ผลการเรยี นรู้
๑. มนี สิ ยั ในการสังเกต จดจำ เช่ือฟังและพ่ึงพาตนเองได้
๒. มีความซ่ือสตั ย์ สุจรติ มรี ะเบียบวินยั และเห็นอกเห็นใจผู้อน่ื
๓. บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่ และความมัน่ คงของชาติ
๖. อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยกุ ต์ใช้ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
โรงเรยี นบ้านหนองเรือ : สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 119
คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
ก๑๒๙๐๒ ลูกเสือสำรอง (ดาวดวงที่ ๒) กจิ กรรมนักเรยี น
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง
คำอธิบายรายวิชา
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสอื และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ
สำรอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน
ศึกษาธรรมชาตใิ นชุมชนด้วยความสนใจ ใฝร่ ู้ ตามวิถเี ศรษฐกิจพอเพยี ง สรุปผลและปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ปิดประชุม
กอง ในเร่ืองต่อไปนี้
ลกู เสือสำรองดาวดวงท่ี ๒ นยิ ายเมาคลี ประวัตกิ ารเร่มิ กิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล)์ การทำ
ความเคารพเปน็ รายบคุ คล การจบั มอื ซ้าย ระเบยี บแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลกู เสอื สำรอง อนามัย
ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนท้องถิ่น ความปลอดภัย
บริการ การผูกเงื่อน ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงท่ี
ส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิต และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ลด
ภาวะโลกรอ้ น
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎและคติ
พจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย
และเห็นอกเหน็ ใจ รู้จักบำเพ็ญตนเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมตา่ ง
ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาตสิ ่งิ แวดล้อม ความมน่ั คงของชาติ และสามารถประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
๑. มีนิสยั ในการสังเกต จดจำ เช่อื ฟังและพ่ึงพาตนเองได้
๒. มีความซ่อื สตั ย์ สุจรติ มรี ะเบยี บวนิ ัยและเหน็ อกเห็นใจผู้อ่ืน
๓. บำเพ็ญตนเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝีมือและฝกึ ฝนการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ และความมั่นคงของชาติ
๖. อนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น และสามารถประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
โรงเรยี นบ้านหนองเรือ : สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาร้อยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 120
คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
ก๑๓๙๐๒ ลูกเสอื สำรอง (ดาวดวงที่ ๓) กิจกรรมนักเรียน
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง
คำอธิบายรายวิชา
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลกู เสอื และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ
สำรอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน
ศึกษาธรรมชาตใิ นชุมชนด้วยความสนใจ ใฝร่ ู้ ตามวิถเี ศรษฐกจิ พอเพียง สรปุ ผลและปฏิบตั ิกิจกรรม ปิดประชุม
กอง ในเร่ืองตอ่ ไปนี้
ลกู เสอื สำรองดาวดวงท่ี ๓ นยิ ายเมาคลี ประวตั ิการเริม่ กจิ การลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล)์ การทำ
ความเคารพเป็นรายบุคคล การจบั มือซ้าย ระเบยี บแถว คำปฏญิ าณ กฎ และคติพจนข์ องลกู เสือสำรอง อนามัย
ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนท้องถิ่น ความปลอดภัย
บริการ การผูกเงื่อน ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงท่ี
ส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิต และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ลด
ภาวะโลกรอ้ น
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ
พจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย
และเห็นอกเหน็ ใจ รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกิจกรรมตา่ ง
ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิ น อนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ่งิ แวดล้อม ความมัน่ คงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
๑. มีนสิ ยั ในการสังเกต จดจำ เชื่อฟงั และพ่ึงพาตนเองได้
๒. มีความซ่อื สตั ย์ สจุ ริต มรี ะเบยี บวนิ ยั และเหน็ อกเห็นใจผู้อ่ืน
๓. บำเพ็ญตนเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รักษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความม่นั คงของชาติ
๖. อนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น และสามารถประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนบา้ นหนองเรอื : สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 121
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
ก๑๔๙๐๒ ลกู เสอื สามัญ (ลกู เสือตร)ี กิจกรรมนกั เรียน
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง
คำอธบิ ายรายวิชา
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏิบตั กิ จิ กรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ
ลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์
รว่ มกัน ศกึ ษาธรรมชาติในชมุ ชนด้วยความสนใจ ใฝร่ ู้ ตามวถิ ีเศรษฐกิจพอเพียง สรปุ ผลและปฏิบตั ิกจิ กรรม ปิด
ประชมุ กอง ในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
ความรูเ้ ก่ียวกับกระบวนการลูกเสือ ประวตั ขิ องลอร์ด เบเดน โพเอลล์ (Load Baden Powell ; B.P.) พระราช
ประวัติสังเขปของพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยู่หัว วิวฒั นาการของกระบวนการลูกเสือไทยและลูกเสือ
โลก การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือไม้
พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชาลูกเสือ การรู้จัก
ดูแลตนเอง การช่วยเหลอื ผอู้ ื่น การเดินทางไปยังสถานที่ตา่ ง ๆ การทำงานอดเิ รกและเรื่องที่สนใจ
เพ่อื ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏบิ ตั ิตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือ
สามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ
ผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความ
เหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ของชาติ
และสามารถประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ผลการเรียนรู้
๑. มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพึ่งพาตนเองได้
๒. มคี วามซอ่ื สัตย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวินยั และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
๓. บำเพญ็ ตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝมี ือและฝกึ ฝนการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ และความมัน่ คงของชาติ
๖. อนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนบ้านหนองเรือ : สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 122
คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผู้เรียน
ก๑๕๙๐๒ ลกู เสอื สามัญ (ลูกเสือโท) กจิ กรรมนักเรยี น
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง
คำอธิบายรายวิชา
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏบิ ัติกิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏบิ ัติกจิ กรรมตามคำปฏญิ าณ คติพจน์ และกฎของ
ลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์
รว่ มกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝร่ ู้ ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ปดิ
ประชมุ กอง ในเรอื่ งต่อไปน้ี
ความรูเ้ กีย่ วกบั กระบวนการลูกเสือ ประวตั ขิ องลอรด์ เบเดน โพเอลล์ (Load Baden Powell ; B.P.) พระราช
ประวัติสงั เขปของพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั วิวัฒนาการของกระบวนการลูกเสือไทยและลูกเสือ
โลก การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือไม้
พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชาลูกเสือ การรู้จัก
ดแู ลตนเอง การชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื การเดนิ ทางไปยังสถานที่ตา่ ง ๆ การทำงานอดิเรกและเรอ่ื งทส่ี นใจ
เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจในกจิ กรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏบิ ัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจนข์ องลูกเสือ
สามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ
ผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความ
เหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคงของชาติ
และสามารถประยุกต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ผลการเรยี นรู้
๑. มนี ิสัยในการสงั เกต จดจำ เชือ่ ฟงั และพ่ึงพาตนเองได้
๒. มคี วามซือ่ สัตย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผู้อ่ืน
๓. บำเพ็ญตนเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝมี อื และฝึกฝนการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ และความม่นั คงของชาติ
๖. อนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี งได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
โรงเรียนบ้านหนองเรอื : สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต ๒
คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น หน้า | 123
ก๑๖๙๐๒ ลูกเสือสามัญ (ลกู เสือเอก) กิจกรรมนกั เรียน
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๔๐ ช่วั โมง
คำอธบิ ายรายวิชา
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบตั ิกิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ
ลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์
รว่ มกัน ศึกษาธรรมชาตใิ นชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวถิ เี ศรษฐกิจพอเพียง สรปุ ผลและปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ปดิ
ประชุมกอง ในเรื่องตอ่ ไปน้ี
ความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนการลูกเสือ ประวัติของลอร์ด เบเดน โพเอลล์ (Load Baden Powell ; B.P.) พระราช
ประวตั ิสังเขปของพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอย่หู วั ววิ ัฒนาการของกระบวนการลูกเสือไทยและลูกเสือ
โลก การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือไม้
พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชาลูกเสื อ การรู้จัก
ดแู ลตนเอง การช่วยเหลอื ผูอ้ ื่น การเดินทางไปยังสถานทต่ี ่าง ๆ การทำงานอดิเรกและเร่อื งท่ีสนใจ
เพือ่ ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจในกจิ กรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏบิ ัตติ ามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือ
สามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ
ผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความ
เหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคงของชาติ
และสามารถประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
๑. มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟังและพ่ึงพาตนเองได้
๒. มีความซ่ือสตั ย์ สุจริต มีระเบยี บวนิ ยั และเห็นอกเหน็ ใจผู้อ่ืน
๓. บำเพญ็ ตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ และความมั่นคงของชาติ
๖. อนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยกุ ต์ใชป้ รัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นบา้ นหนองเรอื : สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 124
คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
กิจกรรมชมุ นมุ กิจกรรมนักเรียน
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑-๖ เวลา ๓๐ ชั่วโมง
คำอธบิ ายรายวชิ า
ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการ เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการ
คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ทั้งด้านวิชาการและพื้นฐานอาชีพ ทักษะชีวิต และสังคม ตาม
ศักยภาพอย่างรอบด้าน เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความสามารถในการสื่อสาร มีทักษะการคิด แก้ปัญหา
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี พฒั นาทกั ษะในการทำงานและการอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นในสังคมได้อย่างมคี วามสุข
รักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ดำรงชีวิตอย่าง
พอเพียง มีความมุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะเพ่ือใหผ้ ู้เรียนได้ปฏบิ ัติกิจกรรมตาม
ความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์
สังเคราะห์ ใหเ้ กดิ ประสบการณ์ ท้ังทกั ษะทางวชิ าการ ทกั ษะอาชพี ทักษะชวี ติ และสงั คมตามศักยภาพ ใช้เวลา
ว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม คิดเป็น ทำได้ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ตามวิถีประชาธิปไตย และ
ประยกุ ตห์ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อยา่ งเหมาะสม
โรงเรยี นบ้านหนองเรอื : สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาร้อยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 125
กจิ กรรมชุมนุมภาษาไทย คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมชุมนมุ
ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖
หลักการและเหตผุ ล
ประเทศไทยมภี าษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ อนั เป็นเอกลกั ษณ์ทสี่ ำคญั อย่างหนึ่งของชาติ สมควรจะ
ได้รบั การทำนบุ ำรงุ สง่ เสริม และอนรุ กั ษไ์ วใ้ หย้ ง่ั ยืนตลอดไป
ทั้งนี้ในยุคปัจจุบันวิชาการและเทคโนโลยีต่างๆ ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเกิดเทคนิคใหม่ๆ ในการ
ติดต่อสอื่ สาร ทมี่ ุ่งเน้นความสะดวกรวดเร็ว ส่งผลใหภ้ าษาไทยซ่งึ เป็นส่ือกลางสำคญั ในการติดต่อและผูกพันต่อ
การดำรงชีวิตประจำวันของคนไทยได้รับผลกระทบ ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน ทำให้ภาษาไทยเกิดการ
เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง สภาพการณ์เช่นนี้หากไม่เร่งรีบหาทางแก้ไขและป้องกันเสีย
แต่เนิ่นๆ การใช้ภาษาไทยของเราก็จะยิ่งเสื่อมลง จะส่งผลเสียหายต่อเอกลกั ษณ์และคุณค่าของภาษาไทยเป็น
ทวีคูณ อ่านและเข้าใจความหมายของคำ ประโยค ข้อความและจัดทำแบบฝึกเป็นรูปเล่ม จัดทำพจนานุกรม
ฉบับจิ๋ว ศึกษา ค้นคว้าเกี่ยวกับ ข่าว บทความจากส่ิงตีพมิ พ์ประเภทต่างๆ และประดิษฐ์ที่ค่ันหนังสือประเภท
ตา่ งๆ
เพื่อให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมี
ระบบ เพื่อให้สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิ
ภายในขอบเขตของกฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์
วัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทยเพื่อให้สมาชิกเกิดความรักและสามัคคีในหมู่คณะเพื่อให้สมาชิกได้รับการ
สง่ เสรมิ การพฒั นาทางร่างกาย จติ ใจ และรจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์เพื่อให้สมาชิกรจู้ กั บำเพ็ญประโยชน์
ต่อสังคม และสร้างเสริมความมั่นคงของชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนา
ตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชวี ิตประจำวันได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการของตน
๒. อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว รอ้ ยกรองไดอ้ ย่างถูกตอ้ งตามอักขระวิธี
๓. เขยี น ไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย
๔. ใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ต่อตนเองและสว่ นรวม
๕. นักเรียนมีความตระหนักและเหน็ คณุ ค่าของภาษาไทย ในฐานะภาษาประจำชาติ
๖. นกั เรยี นสามารถเป็นตวั แทนเขา้ รว่ มแข่งขันกจิ กรรมทางคณติ ศาสตร์
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
โรงเรยี นบา้ นหนองเรอื : สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 126
กิจกรรมชุมนุมคณิตศาสตร์ คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมชุมนุม
ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖
หลกั การและเหตผุ ล
คณติ ศาสตร์เป็นวชิ าทม่ี ีความเกีย่ วขอ้ งกบั ส่ิงที่อยรู่ อบตัวและชีวติ ของเราคณิตศาสตร์สามารถอธิบาย
สิ่งตา่ งๆนานาท่ีอยรู่ อบตวั เราได้ถงึ แมว้ า่ คนส่วนใหญ่จะมองคณติ ศาสตรน์ น้ั ยากซบั ซ้อนน่าเวยี นหัว ทำใหเ้ กิด
ความเครียดและความวิตกกังวลในการเรยี น
ชมุ นมุ นีจ้ งึ จดั ขึน้ มาเพ่ือให้นกั เรียนในชมุ นุมได้มองเห็นมมุ มองอีกด้านหนึ่งของคณิตศาสตร์โดยการ
รวบรวมด้านสนกุ สนานของคณิตศาสตรต์ ลอดจนเกร็ดน่ารู้ตา่ งๆมากมายรวมถึงเกร็ดแปลกๆเกยี่ วกบั ตวั เลขที่
อาจจะทำใหน้ กั เรยี นเกิดหลงรกั ตวั เลขขึน้ มาก็ไดแ้ ละนำความรไู้ ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์โดยในหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงไปประยุกต์ในกับชวี ติ ประจำวันได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวัง
๑. เพื่อใหน้ กั เรียนมองเห็นความสำคัญของคณิตศาสตรใ์ นชวี ิตประจำวนั
๒. เพือ่ ใหน้ กั เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ มีความสุขและความสนุกสนานในการเข้าร่วมกจิ กรรมในวิชา
คณติ ศาสตร์
๓. เพอ่ื ให้นกั เรียนไดป้ ฏิบตั ิกิจกรรมตามท่ีตนเองถนัดและสนใจ
๔. เพอ่ื สง่ เสรมิ นักเรียนใหม้ ีทัศนคติทีด่ ตี ่อวิชาคณติ ศาสตร์
๕. เพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถนำความร้ไู ปปรบั ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นและไดใ้ ชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็น
ประโยชน์
๖. นักเรยี นสามารถเปน็ ตวั แทนเข้าร่วมแข่งขันกจิ กรรมทางคณติ ศาสตร์
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนบา้ นหนองเรอื : สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หน้า | 127
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมชุมนุม
กิจกรรมชุมนุมสรา้ งสรรค์ด้วยลลี ามือ ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-๖
หลกั การและเหตผุ ล
รู้จักชือ่ และบอกลักษณะของเส้นต่าง ๆ ซึ่งมาประกอบเป็นพยัญชนะ ตัวเลขและเป็นภาพตา่ งๆ
ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อส่งเสริมใหเ้ ดก็ มีพัฒนาการทางด้าน ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา
สามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
เพื่อให้สมาชิกมคี วามคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้
สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของ
กฎหมายเพอื่ ใหส้ มาชิกมีความสงบซาบซ้งึ ในคุณค่า ดำรงไวแ้ ละสง่ เสริมเอกลกั ษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ
ไทยเพื่อให้สมาชิกเกิดความรักและสามัคคีในหมู่คณะเพื่อให้สมาชิกได้รับการส่งเสริมก ารพัฒนาทางร่างกาย
จิตใจ และรู้จักใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์เพื่อให้สมาชิกรูจ้ ักบำเพญ็ ประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสรมิ ความ
ม่นั คงของชาตเิ พ่ือใหส้ มาชิกมีคุณธรรมและจรยิ ธรรม เพอื่ ให้สมาชกิ พัฒนาตนเองตามวัตถุประสงคข์ องการจัด
การศกึ ษา สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไป
ประยุกต์ใช้กับชวี ติ ประจำวันได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏิบัติกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการของตน
๒. มคี วามรู้ ความสามารถดา้ นการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะหใ์ ห้เกิดประสบการณ์ ท้งั ทางวชิ าการ
และวชิ าชีพตามศักยภาพ
๓. ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม
๔. มุ่งมัน่ ในการทำงานและทำงานรว่ มกับผู้อ่นื ได้ตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
๕. ประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ย่างเหมาะสม
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นบา้ นหนองเรือ : สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หน้า | 128
กิจกรรมชมุ นมุ คอมพิวเตอร์ คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมชุมนมุ
ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-๖
หลกั การและเหตุผล
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาไปอย่างรวดเรว็ ในหลากหลายสาขาวิชาโดยเฉพาะอย่างยิง่
การพัฒนาด้านการสื่อสารและด้านข้อมูล ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่สถานศึกษาให้ความสำคัญต่อการ
เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ เกิดความตระหนักและเท่าทันเทคโนโลยีในปัจ จุบันเพื่อ
สนับสนุนใหผ้ ู้เรยี นมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผ้เู รียนในยุคศตวรรษที่ ๒๑ ไดแ้ ก่ เป็นนกั คิดวเิ คราะห์ เป็น
นักแก้ปัญหา เป็นนักสร้างสรรค์ เป็นนักประสานความร่วมมือ รู้จักใช้ข้อมูลและข่าวสาร เป็นผู้เรียนรู้ด้วย
ตนเอง เป็นนักสื่อสาร และตระหนักรับรู้สภาวการณ์ของโลกปัจจุบันและอนาคตกิจกรรมชุมนุมคอมพิวเตอร์
จึงเป็นกิจกรรมกลุ่มเสริมทักษะด้านวิชาการ ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนานักเรียนให้
เต็มศักยภาพ เพื่อตอบสนองศักยภาพของนักเรียนได้หลากหลายวิชาสามารถตอบสนองความต้องการของ
สังคมสร้างองค์ความรู้และเพิ่มพูนทักษะคอมพิวเตอร์ให้แก่นักเรียนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มี
ประสบการณต์ รงกับสภาพแวดล้อม และเทคโนโลยีใหม่ๆ และนำมาปรับใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้อย่างเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั
๑.นักเรียนเกดิ ทักษะในการใช้เทคโนโลยีในชวี ิตประจำวัน
๒. นักเรยี นมีความรู้ทางดา้ นคอมพวิ เตอร์ นำมาใช้ในงานต่างๆ
๓. นักเรยี นพัฒนาความรคู้ วามสามารถด้านการคิด วเิ คราะห์ สังเคราะห์
๔. นกั เรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นยิ มท่ีพึงประสงค์
๕. นกั เรยี นมมี นุษยสมั พนั ธ์ในการทำกจิ กรรมร่วมกนั กบั ผู้อื่น
รวมทั้งหมด๕ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนบ้านหนองเรือ : สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาร้อยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 129
คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมชุมนุม
กจิ กรรมชุมนุมเศรษฐกจิ พอเพียง ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖
หลักการและเหตุผล
ฝึกทักษะนักเรียนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงใน ๔ หลักการ คือ ความพอประมาณ
ความมีเหตุผล และการสร้างภูมคิ ุ้มกันในตวั ที่ดี และ ๒ เงื่อนไข คือ คุณธรรมและความรู้โดยนักเรียนฝึกเรียน
เกษตรพอเพียง ได้แก่ การเพาะเห็ดนางฟ้า การเลี้ยงไก้พื้นเมือง การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ และการ
ปลกู พชื ผักสวนครัวเพ่ือสามารถนำความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันและส่งเสริมอาชีพในอนาคต
ผลการเรียนรูท้ ่คี าดหวงั
๑. เพ่ือฝึกทักษะการเรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง ได้แก่ การเพาะเหด็ นางฟ้า การเลีย้ งไก้พื้นเมือง การ
เลยี้ ง
ปลาดกุ ในบ่อซีเมนต์ และการปลูกพชื ผกั สวนครัว
๒. เพอื่ ฝึกนสิ ัยรกั การทำงาน อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๓. เพอ่ื ส่งเสรมิ และปลูกฝงั วธิ กี ารคดิ ในการปฏบิ ัติตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รวมทั้งหมด ๓ ผลการเรยี นรู้
โรงเรยี นบ้านหนองเรือ : สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หน้า | 130
กจิ กรรมชุมนมุ รักการอ่าน คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมชุมนุม
ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖
หลกั การและเหตุผล
อ่านและเข้าใจความหมายของคำ ประโยค ข้อความและจัดทำแบบฝึกเป็นรูปเล่ม จัดทำ
พจนานุกรมฉบับจิ๋ว ศึกษา ค้นคว้าเกี่ยวกับ ข่าว บทความจากสิ่งตีพิมพ์ประเภทต่างๆ และประดิษฐ์ที่คั่น
หนงั สอื ประเภทตา่ งๆ
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจและเห็นคุณค่าเก่ียวกับการจัดทำแบบฝึกเป็นรูปเล่ม จัดทำ
พจนานุกรมฉบบั จวิ๋ และประดิษฐท์ ่ีคนั่ หนังสอื ประเภทตา่ งๆ สามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้
เพื่อให้สมาชกิ มคี วามคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ รู้จักคน้ คว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ
เพื่อให้สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมขุ เพื่อให้สมาชกิ มีความรบั ผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสทิ ธิภายในขอบเขต
ของกฎหมายเพอื่ ให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณคา่ ดำรงไวแ้ ละสง่ เสรมิ เอกลกั ษณว์ ัฒนธรรมอันดีงามของ
ชาติไทยเพื่อให้สมาชิกเกิดความรักและสามัคคีในหมู่คณะเพื่อให้สมาชิกได้รับการส่งเสริมการพัฒนาทาง
ร่างกาย จิตใจ และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพื่อให้สมาชิกรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้าง
เสริมความมั่นคงของชาติเพื่อให้สมาชิกมคี ุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพฒั นาตนเองตามวตั ถุประสงค์
ของการจัดการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กบั ชีวติ ประจำวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการของตน
๒ มีความรู้ ความสามารถด้านการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะหใ์ ห้เกดิ ประสบการณ์ ท้ังทางวิชาการ
และ
วิชาชีพตามศกั ยภาพ
๓ ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม
๔ มุ่งมน่ั ในการทำงานและทำงานรว่ มกับผู้อนื่ ได้ตามวถิ ีประชาธปิ ไตย
๕ประยกุ ตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนบา้ นหนองเรอื : สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต ๒
หน้า | 131
สว่ นท่ี ๓
เกณฑ์การจบหลกัสูตร
หลักสูตรโรงเรียนบ้านหนองเรือ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดเกณฑ์สำหรับการจบการศึกษาดงั น้ี
เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศึกษา
๑. ผู้เรยี นเรียนรายวชิ าพื้นฐาน จำนวน ๘๔๐ ช่ัวโมง และรายวิชาเพ่มิ เติมจำนวน ๔๐ ชั่วโมง และ
มผี ลการประเมนิ รายวิชาพนื้ ฐานผ่านทุกรายวชิ า
๒. ผู้เรียนตอ้ งมีผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน ระดับ “ผา่ น” ข้ึนไป
๓. ผู้เรียนมผี ลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับ “ผ่าน” ขนึ้ ไป
๔. ผ้เู รยี นตอ้ งเข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนและไดร้ ับการตดั สนิ ผลการเรยี น “ผา่ น” ทุกกิจกรรม
การจดั การเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
เปน็ เป้าหมายสำหรับพัฒนาเดก็ และเยาวชน
ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้
จัดการเรียนร้โู ดยช่วยให้ผเู้ รยี นเรียนรู้ผา่ นสาระทก่ี ำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ รวมทั้งปลูกฝัง
เสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ พัฒนาทักษะตา่ งๆ อนั เป็นสมรรถนะสำคัญใหผ้ เู้ รยี นบรรลุตามเป้าหมาย
๑. หลกั การจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผูเ้ รียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้สมรรถนะสำคญั และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน โดยยึดหลกั ว่า ผู้เรียนมี
ความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึง
ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลและพฒั นาการทางสมองเน้นให้ความสำคัญทงั้ ความรู้ และคุณธรรม
๒. กระบวนการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เป็น
เครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อาทิ
กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม
กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแกป้ ัญหา กระบวนการเรียนร้จู ากประสบการณ์จรงิ กระบวนการปฏบิ ตั ิ ลง
มือทำจรงิ กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจยั กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการพัฒนา
ลักษณะนสิ ัย
กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอน จึงจำเป็นต้องศึกษาทำ
โรงเรยี นบา้ นหนองเรอื : สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 132
ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
๓. การออกแบบการจดั การเรียนรู้
ผสู้ อนตอ้ งศกึ ษาหลักสูตรสถานศกึ ษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชว้ี ดั สมรรถนะสำคัญของ
ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรยี น แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ
จัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียน
ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพและบรรลุตามเปา้ หมายทกี่ ำหนด
๔. บทบาทของผ้สู อนและผเู้ รยี น
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมี
บทบาท ดังน้ี
๔.๑ บทบาทของผสู้ อน
๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบคุ คล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ที่
ท้าทความสามารถของผู้เรียน
๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ที่เป็น
ความคดิ รวบยอด หลกั การ และความสัมพันธ์ รวมท้ังคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ
พฒั นาการทางสมอง เพื่อนำผูเ้ รียนไปสเู่ ป้าหมาย
๔) จดั บรรยากาศที่เอ้อื ต่อการเรียนรู้ และดูแลชว่ ยเหลอื ผเู้ รียนให้เกดิ การเรียนรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สือ่ ใหเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม นำภมู ิปัญญาท้องถ่ิน เทคโนโลยที ่เี หมาะสม
มาประยุกตใ์ ช้ในการจัดการเรียนการสอน
๖) ประเมินความกา้ วหน้าของผูเ้ รยี นด้วยวธิ ีการท่ีหลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาติของวชิ า
และระดบั พฒั นาการของผูเ้ รียน
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการจัดการ
เรยี นการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผู้เรยี น
๑) กำหนดเปา้ หมายวางแผนและรบั ผิดชอบการเรยี นรูข้ องตนเอง
๒)เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม คิดหา
คำตอบหรอื หาแนวทางแก้ปญั หาด้วยวธิ กี ารต่างๆ
๓) ลงมือปฏบิ ตั จิ ริง สรุปส่ิงทไ่ี ด้เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง และนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในสถานการณต์ ่างๆ
๔) มปี ฏสิ มั พนั ธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมรว่ มกับกลุ่มและครู
๕) ประเมินและพฒั นากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง
โรงเรียนบา้ นหนองเรือ : สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 133
สอ่ื การเรยี นรู้
สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพสื่อการเรียนรู้มี
หลากหลายประเภท ทงั้ สอื่ ธรรมชาติสื่อสงิ่ พิมพส์ ื่อเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรียนร้ตู ่างๆ ที่มีในท้องถิ่นการ
เลอื กใช้สื่อควรเลอื กใหม้ คี วามเหมาะสมกับระดบั พฒั นาการ และลีลาการเรียนร้ทู หี่ ลากหลายของผ้เู รียน
การจัดหาสือ่ การเรียนรู้ ผเู้ รยี นและผสู้ อนสามารถจัดทำและพัฒนาขึน้ เองหรือปรบั ปรุงเลือกใช้อย่างมี
คุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสือ่ สารให้
ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรโู้ ดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอยา่ งพอเพยี ง เพอื่ พัฒนาใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง
สถานศึกษาเขตพื้นท่ีการศกึ ษา หนว่ ยงานที่เกย่ี วข้องและผมู้ ีหนา้ ท่ีจัดการศึกษาขน้ั พื้นฐานควรดำเนนิ การดงั น้ี
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ศูนย์สื่อการเรียนรู้ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชนเพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยน
ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ระหวา่ งสถานศึกษาทอ้ งถนิ่ ชมุ ชน สังคมโลก
๒. จัดทำและจัดหาสื่อการเรยี นรูส้ ำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียนเสริมความรู้ใหผ้ ู้สอนรวมท้ัง
จัดหาสิง่ ท่ีมีอย่ใู นท้องถ่นิ มาประยกุ ตใ์ ช้เปน็ ส่อื การเรียนรู้
๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพมีความเหมาะสมมีความหลากหลาย สอดคล้องกับ
วธิ กี ารเรียนรู้ ธรรมชาติของสาระการเรยี นรู้ และความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลของผเู้ รยี น
๔. ประเมินคุณภาพของส่อื การเรยี นรทู้ ่เี ลือกใชอ้ ยา่ งเป็นระบบ
๕. ศกึ ษาค้นคว้า วจิ ยั เพอ่ื พฒั นาสื่อการเรียนรใู้ ห้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรูข้ องผู้เรียน
๖. จัดให้มีการกำกับติดตามประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้สื่อ
การเรียนร้เู ป็นระยะๆ และสมำ่ เสมอ
ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษาควรคำนึงถึง
หลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตรวัตถุประสงค์การเรียนรู้การออกแบบ
กิจกรรมการเรียนรู้ การจดั ประสบการณ์ให้ผู้เรียนเน้ือหามีความถูกต้องและทันสมยั ไมก่ ระทบความมั่นคงของ
ชาติ ไมข่ ดั ต่อศีลธรรมมีการใชภ้ าษาท่ีถูกต้องรปู แบบการนำเสนอท่เี ข้าใจงา่ ยและนา่ สนใจ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรูข้ องผู้เรยี นตอ้ งอยูบ่ นหลักการพื้นฐานสองประการคือการประเมนิ
เพอ่ื พฒั นาผู้เรียนและเพื่อตัดสนิ ผลการเรียนในการพัฒนาคุณภาพการเรยี นรู้ของผู้เรียนให้ประสบผลสำเร็จนั้น
ผเู้ รยี นจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชว้ี ัดเพื่อให้บรรลตุ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ สะทอ้ นสมรรถนะ
สำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนร้ใู น
ทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียนระดับสถานศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นโดยใชผ้ ลการประเมนิ เป็นข้อมลู และสารสนเทศที่
แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อ
การส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รยี นเกิดการพัฒนาและเรยี นรอู้ ยา่ งเตม็ ตามศกั ยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา
ระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา และระดับชาติ มีรายละเอยี ด ดังนี้
โรงเรยี นบ้านหนองเรอื : สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 134
๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้
ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย
เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้ม
สะสมงาน การใช้แบบทดสอบฯลฯโดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อน
ประเมนิ เพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณีทไ่ี ม่ผ่านตวั ชว้ี ัดใหม้ กี ารสอนซอ่ มเสรมิ
การประเมินระดับชั้นเรยี นเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนร้อู นั
เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนา
ปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใดนอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรยี นการสอนของตนด้วย ทั้งนี้
โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ดั
๒. การประเมินระดับสถานศกึ ษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดำเนินการเพื่อตัดสินผลการ
เรียนของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ว่า
ส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการ
เรียนของผ้เู รียนในสถานศึกษาเปรียบเทยี บกบั เกณฑ์ระดบั ชาติ ผลการประเมนิ ระดบั สถานศกึ ษาจะเป็นข้อมูล
และสารสนเทศเพื่อการปรับปรงุ นโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจดั การเรียนการสอน ตลอดจนเพ่ือ
การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการ
รายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ผูป้ กครองและชุมชน
๓. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษาเป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นท่ี
การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานใน
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษาตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดย
ประเมินคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา
หรือด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบ
ทบทวนข้อมลู จากการประเมินระดับสถานศึกษาในเขตพื้นทกี่ ารศึกษา
๔. การประเมินระดับชาติเป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ตาม
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐานสถานศึกษาต้องจัดใหผ้ ้เู รยี นทกุ คนทเี่ รียน ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี๓ชั้น
ประถมศึกษาปที ี่๖เข้ารับการประเมนิ ผลจากการประเมินใชเ้ ป็นข้อมลู ในการเทยี บเคียงคุณภาพการศึกษาใน
ระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุนการ
ตดั สนิ ใจในระดับนโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวน
พัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ถอื เป็นภาระความรับผดิ ชอบของสถานศึกษาทีจ่ ะต้องจัดระบบดูแลชว่ ยเหลือ ปรับปรุง
แก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่
จำแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษกลุ่ม
ผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรมกลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธ
โรงเรียน กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูล
จากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้
ผู้เรยี นได้รับการพฒั นาและประสบความสำเรจ็ ในการเรียน
โรงเรียนบา้ นหนองเรือ : สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาร้อยเอด็ เขต ๒
หน้า | 135
สถานศกึ ษาในฐานะผู้รบั ผิดชอบจัดการศึกษาจะต้องจัดทำระเบยี บว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการ
เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน เพื่อใหบ้ ุคลากรท่ีเกยี่ วข้องทุกฝ่ายถือปฏบิ ัติร่วมกนั
เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการเรียน
๑. การตดั สนิ การใหร้ ะดับและการรายงานผลการเรยี น
๑.๑ การตดั สนิ ผลการเรยี น
ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็น
หลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริม
ผูเ้ รยี นใหพ้ ัฒนาจนเตม็ ตามศกั ยภาพ
ระดบั ประถมศึกษา
(๑) ผเู้ รยี นตอ้ งมเี วลาเรียนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด
(๒) ผู้เรยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ ทุกตัวชี้วดั และผา่ นตามเกณฑท์ ่สี ถานศกึ ษากำหนด
(๓) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การตดั สนิ ผลการเรยี นทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ใน
การอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น
การพิจารณาเลือ่ นช้นั ถ้าผูเ้ รยี นมขี อ้ บกพรอ่ งเพียงเล็กนอ้ ย และสถานศกึ ษาพิจารณาเห็นว่าสามารถ
พัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผอ่ นผันให้เลื่อนช้ันได้ แต่หากผู้เรียนไม่ผ่าน
รายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้ง
คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของผู้เรียนเป็น
สำคญั
๑.๒ การใหร้ ะดบั ผลการเรยี น
ระดบั ประถมศึกษาในการตัดสินเพ่ือใหร้ ะดบั ผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถให้ระดับ
ผลการเรียนหรือระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียน เป็นระบบตัวเลข ระบบตัวอักษรระบบร้อยละ และ
ระบบทใ่ี ช้คำสำคญั สะท้อนมาตรฐาน
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นัน้ ให้ระดับผล การ
ประเมินเปน็ ดเี ยี่ยม ดี และผา่ น
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นผ่าน และ
ไม่ผ่าน
๑.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรียนเปน็ การสือ่ สารให้ผู้ปกครองและผเู้ รยี นทราบความก้าวหนา้ ในการเรียนรู้
ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ
หรืออย่างนอ้ ยภาคเรียนละ ๑ ครัง้
การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนที่สะท้อน
มาตรฐานการเรยี นรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
โรงเรียนบ้านหนองเรือ : สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หน้า | 136
๒. เกณฑ์การจบการศกึ ษา
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศึกษาเป็น ๑ระดบั คือ
ระดับประถมศึกษา
๒.๑ เกณฑ์การจบระดบั ประถมศกึ ษา
(๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนที่
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐานกำหนด
(๒) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา
กำหนด
(๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามทีส่ ถานศกึ ษากำหนด
(๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี
สถานศึกษากำหนด
(๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศกึ ษากำหนด
สำหรับการจบการศึกษาสำหรบั กล่มุ เป้าหมายเฉพาะ เชน่ การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรบั ผู้
มคี วามสามารถพเิ ศษ การศึกษาทางเลือก การศกึ ษาสำหรับผดู้ อ้ ยโอกาส การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้
คณะกรรมการของสถานศกึ ษาเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาและผ้ทู ี่เกี่ยวข้อง ดำเนนิ การวดั และประเมนิ ผล การเรียนรู้
ตามหลักเกณฑใ์ นแนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
สำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
เอกสารหลักฐานการศกึ ษา
เอกสารหลกั ฐานการศึกษาเป็นเอกสารสำคัญทบี่ นั ทึกผลการเรียน ขอ้ มลู และสารสนเทศทีเ่ ก่ยี วข้องกับ
พฒั นาการของผเู้ รียนในด้านตา่ ง ๆ แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ดงั น้ี
๑. เอกสารหลกั ฐานการศึกษาท่กี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรยี น เป็นเอกสารแสดงผลการเรยี นและรับรองผลการเรยี นของผ้เู รยี น
ตามรายวิชา ผลการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ
สถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น สถานศึกษาจะต้องบนั ทึกข้อมลู และออกเอกสารนี้ให้
ผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล เมื่อผ้เู รียนจบการศกึ ษาระดับประถมศกึ ษา (ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖)
๑.๓ แบบรายงานผสู้ ำเร็จการศกึ ษา เปน็ เอกสารอนุมตั ิการจบหลกั สูตรโดยบันทึกรายชือ่ และข้อมูล
ของผจู้ บการศกึ ษาระดับประถมศึกษา (ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖)
๒. เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทสี่ ถานศกึ ษากำหนด
เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับ
ผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรยี นประจำรายวชิ า ระเบียนสะสม ใบรับรอง
ผลการเรียน และ เอกสารอืน่ ๆ ตามวตั ถุประสงคข์ องการนำเอกสารไปใช้
โรงเรียนบา้ นหนองเรอื : สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 137
การเทียบโอนผลการเรียน
สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่างๆได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การ
เปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจาก
ต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จาก
แหลง่ การเรียนรู้อน่ื ๆ เชน่ สถานประกอบการ สถาบนั ศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชพี การจัดการศกึ ษาโดย
ครอบครวั
การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรกท่ี
สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ทั้งนี้ ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่องใน
สถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจากการเทียบโอนควรกำหนด
รายวิชา/จำนวนหน่วยกิตที่จะรบั เทียบโอนตามความเหมาะสม
การพจิ ารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนินการได้ ดงั น้ี
๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอื่นๆ ที่ให้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถของ
ผเู้ รียน
๒. พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรียนโดยการทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งภาคความรู้
และภาคปฏบิ ัติ
๓. พจิ ารณาจากความสามารถและการปฏบิ ตั ใิ นสภาพจรงิ การเทยี บโอนผลการเรยี นให้เป็นไป
ตาม ประกาศ หรือ แนวปฏบิ ัติ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
การบรหิ ารจัดการหลกั สูตร
ในระบบการศกึ ษาท่มี ีการกระจายอำนาจใหท้ ้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตร
นั้น หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น จนถึงระดับสถานศึกษา มี
บทบาทหนา้ ที่ และความรับผิดชอบในการพฒั นาสนบั สนุนส่งเสรมิ การใชแ้ ละพัฒนาหลกั สูตรใหเ้ ป็นไปอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ เพ่อื ใหก้ ารดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรยี นการสอนของสถานศึกษามี
ประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ใน
ระดบั ชาติ
ระดับท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ เป็นหน่วยงานที่มี
บทบาทในการขับเคล่ือนคณุ ภาพการจัดการศึกษา เปน็ ตวั กลางท่ีจะเช่ือมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐานที่กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำ
หลกั สตู รของสถานศึกษา สง่ เสรมิ การใชแ้ ละพฒั นาหลักสูตรในระดับสถานศกึ ษา ใหป้ ระสบความสำเร็จ โดยมี
ภารกิจสำคัญ คือ กำหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในระดับท้องถิ่นโดยพิจารณาให้
สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นประเมนิ คุณภาพการศึกษาใน
ระดับท้องถิ่น รวมทั้งเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาบุคลากร สนับสนุน
สง่ เสริมติดตามผล ประเมินผล วิเคราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผู้เรียน
สถานศกึ ษามีหน้าท่ีสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาการวางแผนและดำเนินการใช้หลักสูตร
การเพมิ่ พูนคณุ ภาพการใชห้ ลักสูตรด้วยการวิจัยและพฒั นาการปรับปรุงและพฒั นาหลักสูตรจดั ทำระเบียบการ
วัดและประเมินผลในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน และรายละเอียดที่เขตพื้นที่การศึกษา หรือหน่วยงานสังกัดอื่นๆ ในระดับท้องถิ่นได้
จดั ทำเพมิ่ เตมิ รวมท้งั สถานศกึ ษาสามารถเพิม่ เติมในสว่ นท่เี กย่ี วกบั สภาพปญั หาในชมุ ชนและสังคมภูมิปัญญา
ท้องถ่นิ และความตอ้ งการของผู้เรียน โดยทกุ ภาคส่วนเขา้ มามีส่วนร่วมในการพฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษา
โรงเรียนบ้านหนองเรอื : สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
หนา้ | 138
เอกสารอา้ งอิง
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๖๐). ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนร้แู กนกลางกลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑.
กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .
. (๒๕๕๑). หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ . กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ครุ ุ
สภาลาดพร้าว.
. (๒๕๔๔). หลักสตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๔๔ . กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ครุ ุ
สภาลาดพร้าว.
โรงเรยี นบา้ นหนองเรือ. (๒๕๕๙). หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านหนองเรอื พทุ ธศักราช
๒๕๕๙ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑. ร้อยเอ็ด : โรงเรยี น
บา้ นหนองเรือ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา ร้อยเอด็ เขต ๒.
สภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ. (๒๕๔๙). แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๐.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา. (๒๕๔๗). ข้อเสนอยทุ ธศาสตร์การปฏริ ูปการศึกษา. กรงุ เทพฯ : เซ็นจูร่ี.
สำนักนายกรฐั มนตร,ี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาต.ิ (๒๕๔๒). พระราชบัญญัติ
การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องคก์ ารรบั สง่ สนิ ค้าและพสั ดภุ ณั ฑ์ (ร.ส.พ.).
สำนกั ผตู้ รวจราชการและติดตามประเมนิ ผล. (๒๕๔๘). การตดิ ตามปัญหาอปุ สรรคการใช้หลกั สูตร
การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พ.ศ. ๒๕๔๔. บนั ทึก ท่ี ศธ ๐๒๐๗/ ๒๖๙๒ ลงวนั ที่ ๑๙ กนั ยายน ๒๕๔๘.
สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๔๖ ก.). สรปุ ผลการประชุมวิเคราะหห์ ลักสูตรการศกึ ษา
ขนั้ พน้ื ฐาน. ๒๗-๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๖ โรงแรมตรงั กรงุ เทพฯ. (เอกสารอัดสำเนา).
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๔๖ ข.). สรปุ ความเหน็ จากการประชุมเสวนาหลกั สตู ร
การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ๕ จดุ . พฤศจิกายน ๒๕๔๖ (เอกสารอัดสำเนา).
สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. (๒๕๔๘ ก). รายงานการวิจยั การใชห้ ลักสูตรการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน
ตามทศั นะของผสู้ อน. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์องค์การรับส่งสินคา้ และพัสดุภณั ฑ์ (ร.ส.พ.).
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา. (๒๕๔๘ ข.). รายงานการวิจยั โครงการวจิ ัยเชงิ ทดลองกระบวนการ
สร้างหลักสูตรสถานศกึ ษาแบบอิงมาตรฐาน. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์องค์การรบั สง่ สินคา้ และพสั ดุ
ภณั ฑ์ (ร.ส.พ.).
สุวมิ ล วอ่ งวาณชิ และ นงลักษณ์ วิรัชชยั . (๒๕๔๗). การประเมนิ ผลการปฎิรูปการเรียนรู้ ตามพระราชบญั ญัติ
การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ พหกุ รณีศึกษา. เอกสารการประชมุ ทาง
วชิ าการการวจิ ยั เก่ยี วกับการปฏริ ปู การเรียนรู้ โดยสำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
วันท่ี ๑๙- ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๗.
โรงเรยี นบา้ นหนองเรอื : สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 139
ภาคผนวก
โรงเรยี นบา้ นหนองเรือ : สำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต ๒
หน้า | 140
ภาคผนวก ก
คำสงั่ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ใหใ้ ชม้ าตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ัด กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรงุ
พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551
โรงเรียนบา้ นหนองเรอื : สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 141
คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ สพฐ. 1239 / 2560
เรื่อง ใหใ้ ช้มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ัด กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์
ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู ร
แกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551
เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม
สภาพแวดล้อม และความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีทเ่ี จรญิ ก้าวหน้าอยา่ งรวดเรว็ เปน็ การพฒั นา
และเสริมสร้างศักยภาพคนของชาติให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การยกระดับ
คณุ ภาพการศึกษาและการเรียนร้ใู ห้มคี ุณภาพและมาตรฐานระดบั สากล สอดคลอ้ งกับประเทศไทย 4.0
โลกในศตวรรษท่ี 21 และทดั เทยี มกบั นานาชาติ ผ้เู รียนมศี กั ยภาพในการแข่งขนั และดำรงชีวิตอย่างสร้างสรรค์
ในประชาคมโลก ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ฉะนน้ั อำศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และท่ี
แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบราชการ
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่ม
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวฒั นธรรม (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
ดังปรากฏแนบท้ายคาสั่งน้ี แทนมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ในหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551
เงื่อนไขและระยะเวลาการใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ ในกลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ให้เป็นไป ดงั นี้
1. ปีการศกึ ษา 2561 ใหใ้ ช้ในชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 และ 4 และชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 และ 4
2. ปีการศึกษา 2562 ให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 2 4 และ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2 4
และ 5
3. ตัง้ แตป่ กี ารศกึ ษา 2563 เป็นต้นไป ให้ใชใ้ นทกุ ชน้ั เรียน
ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีอำนาจในการยกเลิก เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่ม
สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
ส่งั ณ วันท่ี 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560
ธรี ะเกยี รติ เจรญิ เศรษฐศิลป์
(นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์)
รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
โรงเรยี นบา้ นหนองเรอื : สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
หนา้ | 142
ภาคผนวก ข
คำส่ังโรงเรียนบา้ นหนองเรือ
เรอื่ ง แตง่ ตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวชิ าการสถานศึกษาข้นั พนื้ ฐาน
โรงเรยี นบา้ นหนองเรอื : สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
คำส่ังโรงเรยี นบ้ำนหนองเรือ
ท่ี 19/๒๕๖5
เรอ่ื ง แตง่ ต้ังคณะกรรมกำรดำเนนิ งำนทบทวนหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ
……………………………………………..
ด้วยกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ในกลุม่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาส่ัง
กระทรวงศึกษาธิการท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาสั่งสานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ดั
กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคาสัง่ ให้โรงเรียนดาเนินการ
ใชห้ ลกั สตู รในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ และ ๔ ต้ังแตป่ ีการศกึ ษา ๒๕๖๑ เปน็ ต้นไป
และตามประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เร่ืองการบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ลงวันที่ ๑๑
กรกฎาคม ๒๕๖๐ ให้เปน็ หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้
เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมที กั ษะ
การเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑
ดังนั้น เพ่ือให้การดาเนินการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา โดยครอบคลุมส่วนที่เป็นหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขัน้ พื้นฐานตามทกี่ ระทรวงศกึ ษาธิการได้ประกาศใช้เพอ่ื พฒั นาผู้เรียนใหบ้ รรลถุ ึงคุณภาพมาตรฐาน
อันเป็นความคาดหวังที่กาหนดไว้ร่วมกันในการพัฒนาเยาวชนทุกคนในชาติ โรงเรียนบ้านหนองเรือ สานักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒ โดยคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการโรงเรยี น
บ้านหนองเรือ ได้ดาเนินการทบทวนหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่งโรงเรียนได้เร่ิมใช้
หลักสตู รเม่อื ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ได้มกี ารทบทวนหลักสูตรสถานศึกษาต่อเนื่องตลอดมาแลว้ นั้น
เพ่ือให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ
นาไปใช้เป็นกรอบและทิศทางการจัดการเรยี นรู้ให้สัมฤทธ์ิผลมากที่สุดต่อไปจึงแต่งต้ังคณะกรรมการดาเนนิ งาน
ทบทวนหลักสูตรสถานศกึ ษาประกอบด้วย
คณะกรรมกำรที่ปรกึ ษำ
๑. นายสาคร ศรบี ุญ ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
๒. นางสาวฐาปนี ปราบสทิ ธ์ิ ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นหนองเรอื
คณะกรรมกำรดำเนนิ งำนทบทวนหลักสตู รสถำนศึกษำ
๑. ผรู้ ับผดิ ชอบกลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย
นางกฤตยา ศรีตะวัน นางสาวพชิ ชาภา คามบศุ ย์
๒. ผู้รบั ผดิ ชอบกลมุ่ สำระกำรเรียนร้คู ณติ ศำสตร์
นางสาวพชิ ชาภา คามบุศย์ นางกฤตยา ศรตี ะวนั
๓. ผู้รบั ผิดชอบกล่มุ สำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
นางสาวพชิ ชาภา คามบศุ ย์ นางสาววนดิ า ยนิ ดีมาก นางสาวรตั ตยิ ากรณ์ พลยาง
๔. ผรู้ บั ผิดชอบกลมุ่ สำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม
นางกฤตยา ศรตี ะวนั นายทศพร สมุ่ มาตย์
๕. ผู้รบั ผดิ ชอบกลุม่ สำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ
นายวีรศกั ด์ิ ชาติท่าค้อ
๖. รบั ผิดชอบกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ
นายทศพร สมุ่ มาตย์
๗. ผรู้ ับผดิ ชอบกจิ กรรมพฒั นำผ้เู รยี น
นายทศพร ส่มุ มาตย์ นายวรี ศักดิ์ ชาติท่าค้อ
๘. ผรู้ ับผดิ ชอบกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพ
นางสาวรัตตยิ ากรณ์ พลยาง นางสาววนิดา ยินดมี าก
๙. ผู้รับผิดชอบกลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศ
นางกฤตยา ศรีตะวัน
ใหค้ ณะกรรมการทไ่ี ด้รับแต่งตัง้ ดาเนินการ ดังนี้
๑.วิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ หลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๙ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ กรอบหลักสูตรท้องถ่ิน ข้อมูลจากการวิเคราะห์ สภาพปัจจุบัน ปัญหา จุดเน้น
ความตอ้ งการของการพฒั นาการศึกษา ตลอดจนความต้องการของผู้เรยี น
๒. จัดทาหลักสูตรสถานศึกษา ซง่ึ มีองคป์ ระกอบทส่ี าคัญ ได้แก่ วิสัยทัศน์ คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา (เวลาเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน เพ่ิมเติม กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น)
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ คาอธิบายรายวิชา และ
เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา
๓. จัดทาระเบยี บการวัดผลประเมนิ ผล เพอื่ ใช้ควบคกู่ ับหลกั สูตรสถานศึกษา
๔. ดาเนินการตามแนวทางการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อนาหลักสตู รสู่การปฏบิ ตั ิ
อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
๕. ตรวจสอบองค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษาว่ามีองค์ประกอบครบถ้วนและสอดคล้องกับ
หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๖. นาผลการตรวจสอบไปปรับปรุงแกไ้ ขหลักสตู รสถานศกึ ษาใหม้ คี ุณภาพยง่ิ ข้นึ
ท้งั นตี้ ง้ั แต่ วนั ที่ ๓ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖5 เปน็ ต้นไป
ส่ัง ณ วันที่ ๓ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖5 เปน็ ต้นไป
(นางสาวฐาปนี ปราบสิทธ์ิ)
ผู้อานวยการโรงเรยี นบา้ นหนองเรอื
ภาคผนวก ค
คำสัง่ โรงเรยี นบา้ นหนองเรือ
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการคณะกรรมการดำเนินงานทบทวนหลักสูตรสถานศกึ ษา
โรงเรียนบ้านหนองเรอื : สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษารอ้ ยเอด็ เขต ๒
คำสั่งโรงเรียนบ้ำนหนองเรอื
ท่ี ๒2/2565
เร่อื ง แต่งต้ังคณะกรรมกำรบริหำรหลกั สตู รและงำนวิชำกำรสถำนศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน
*********************************
เพื่อให้การบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องกับพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด ๔ มาตรา ๒๗ ท่ีกาหนดให้สถานศึกษา
ข้ันพื้นฐานมีหน้าท่ีจัดทาสาระของหลักสูตรเพอื่ ความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองท่ีดีของชาติ การดารงชีวิต
และการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพอื่ การศึกษาต่อ ในสว่ นท่เี ก่ียวกบั สภาพของปัญหาในชมุ ชน และสังคม
ภูมิปัญญาท้องถ่ิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์เพ่ือเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครวั ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
และ สอดคล้อง กับร ะ เบียบกระ ทรว งศึกษาธิการว่ าด้ว ยคณะ กรร มกา ร บริหาร หลักสูตร และ งานวิ ชาการ
สถานศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พ.ศ. ๒๕๔๔
อาศัยอานาจตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงแต่งต้ังคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการสถานศึกษาข้ัน
พนื้ ฐาน โรงเรียนบา้ นหนองเรอื ปกี ารศึกษา 2565 ดงั นี้
๑. นางสาวฐาปนี ปราบสทิ ธ์ิ ผูอ้ านวยการโรงเรียนบา้ นหนองเรือ ประธานกรรมการ
๒. นางกฤตยา ศรีตะวนั ครู กรรมการ
๓. นายทศพร สุ่มมาตย์ ครู กรรมการ
๔. นางสาวพิชชาภา คามบศุ ย์ หวั หนา้ ฝา่ ยวิชาการ กรรมการและเลขานกุ าร
คณะกรรมกำรดำเนินกำร มหี นำ้ ทีแ่ ละดำเนนิ กำรจัดกำรตำมขน้ั ตอนทก่ี ำหนด ดงั น้ี
๑. วางแผนการดาเนินงานวชิ าการ กาหนดสาระรายละเอยี ดของหลักสูตรระดับสถานศึกษาและแนว
ทางการจัดสัดส่วนสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตรโรงเรียน
บ้านหนองเรือ พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และสภาพ
เศรษฐกจิ สงั คม ศิลปวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น
๒. จัดทาคู่มือการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กากับ ติดตาม ให้
คาปรกึ ษา เก่ียวกบั การพฒั นาหลกั สูตร การจดั กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลและการแนะแนวให้
สอดคลอ้ งและเปน็ ไปตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน
๓. ส่งเสรมิ และสนับสนุนการพฒั นาบุคลากรเก่ียวกับการพัฒนาหลักสูตร การจดั กระบวน การเรยี นรู้ การวัด
และประเมนิ ผลและการแนะแนวให้เปน็ ไปตามจุดหมายและแนวทางการดาเนนิ การของหลักสูตร
๔. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ และชุมชน เพื่อให้การใช้หลักสูตร
เปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและมีคุณภาพ
๕. ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการใช้หลักสูตรแก่นกั เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เกี่ยวข้องและนา
ข้อมูลป้อนกลบั จากฝ่ายตา่ ง ๆ มาพิจารณาเพอื่ ปรบั ปรุงและพฒั นาหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
๖. สง่ เสรมิ สนับสนนุ การวจิ ยั เกี่ยวกับการพฒั นาหลักสูตร และกระบวนการเรียนรู้
๗. ติดตามผลการเรียนของนักเรียนเป็นรายบคุ คล ระดับชั้น และช่วงช้ัน ระดับวิชา กลุ่มวิชา ในแต่
ละปีการศึกษา เพ่อื ปรบั ปรุงแกไ้ ข และพัฒนาการดาเนินงานด้านตา่ ง ๆ ของสถานศกึ ษา
๘. ตรวจสอบทบทวน ประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครู และการบริหารหลักสูตรระดับ
สถานศึกษาในรอบปีท่ีผ่านมา แล้ว ใช้ผลการประเมิน เพื่อวางแผนพัฒนาการปฏิบัติงานของครูและการ
บริหารหลักสูตรปีการศกึ ษาตอ่ ไป
๙. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบริหารหลักสูตรของสถานศึกษา โดยเน้นผลการพัฒนา
คุณภาพนักเรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน คณะกรรมการบริหารหลักสูตรระดับเห นือ
สถานศึกษา สาธารณชน และผูเ้ ก่ียวขอ้ ง
๑๐. ให้ดาเนินการประชุมคณะกรรมการอยา่ งนอ้ ยภาคเรยี นละ ๒ คร้ัง
ท้ังน้ีให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุตาม
วตั ถปุ ระสงคท์ ตี่ ง้ั ไว้ ต้ังแต่บดั นีเ้ ปน็ ตน้ ไป
สั่ง ณ วนั ท่ี 9 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565
(นางสาวฐาปนี ปราบสิทธ์ิ)
ผู้อานวยการโรงเรยี นบา้ นหนองเรอื
ภาคผนวก ง
คณะผ้จู ดั ทำ
โรงเรียนบา้ นหนองเรือ : สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษารอ้ ยเอ็ด เขต ๒
คณะผ้จู ัดทำ
ทีป่ รึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองเรอื
๑. นางสาวฐาปนี ปราบสิทธ์ิ หัวหนา้ วิชาการโรงเรียนบ้านหนองเรือ
๒. นางสาวพิขขาภา คามบุศย์
คณะผจู้ ดั ทำ ประธานกรรมการ
๑. นางสาวพชิ ชาภา คามบุศย์ กรรมการ
๒. นางกฤตยา ศรตี ะวนั เลขานกุ าร
๓. นายทศพร ส่มุ มาตย์
คณะบรรณาธกิ าร หวั หนา้ วชิ าการโรงเรียน
๑. นางสาวพิชชาภา คามบศุ ย์
ประธานกรรมการ
ผ้จู ดั พิมพ์/ออกแบบรูปเล่ม กรรมการ
๑. นางสาวพชิ ชาภา คามบุศย์ เลขานุการ
๒. นางกฤตยา ศรีตะวนั
๓. นายทศพร ส่มุ มาตย์
โรงเรียนบ้านหนองเรอื : สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาร้อยเอ็ด เขต ๒