1.กระโดนน้ำ(จิกน้ำ)
ื
ชอวิทยำศำสตร์ : Barringtonia acutangula (L.) Gaertn.
่
ื
ชอวงศ์ : Lecythidaceae
่
ชอสำมัญ : Indian oak, Chee
่
ื
ชอพื้นเมอง : กระโดนทุ่ง กระโดนน ้ำ จิกน ้ำ ตอง
ื
่
ื
ลักษณะทั่วไป
ุ
ู
็
ไม้ยืนต้นขนำดกลำง ทรงพุ่มแผ่กว้ำงปลำยกิ่งมักจะล่ลง ใบเดี่ยวออกสลับเปนกกล่มอย่ใกล้ปลำย
ู
ู
ู
กิ่ง ใบรปรี รปหอก หรือรปไข่ ปลำยใบมน ทู่ เว้ำเล็กน้อยหรือเปนกิ่งเล็กๆ ขอบใบหยิกโคนใบ
ู
็
แหลม ดอกชอออกยำวห้อยย้อยลงจำกล ำต้น สีแดงสดหรือแดงเรื่อๆ มีกลินหอมอ่อน โคนกลีบเลียงเชื่อมติดกัน เกสรตัวผ้มีจ ำนวนมำก เกสรตัวผ้ ู
่
่
ู
้
่
่
่
รวงง่ำย เมล็ดเปนรปไข่ผิวเปนรอง ผล เปนรปสีเหลียมมีสันเหลียม
็
่
็
ู
ู
็
่
ประโยชน์ :
ยอดอ่อนและดอกอ่อน ทำนเปนผักสด
็
็
รำก ใช้เปนยำระบำย
่
เปลือก ใช้ชะล้ำงบำดแผลและเบือปลำ
ใบ แก้ท้องรวง
่
็
เมล็ด เปนยำขับลมแก้ร้อนใน
่
ทีมำ: www.rtc.ac.th
2.เครือหมำน้อย
่
ื
ชอสมุนไพร เครือหมำน้อย
กรุงเขมำ (กลำง นครศรีธรรมรำช) หมอน้อย (อุบลรำชธำนี)ก้นปด (ตะวันตกเฉยงใต้) ขงเขมำ พระพำย (ภำคกลำง)
ิ
ี
ื
่
่
ชออืนๆ
เปล้ำเลือด (แม่ฮองสอน) สีฟัน (เพชรบุรี)
่
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์ Cissampelos pareira L. var. hirsuta (Buch. ex DC.) Forman.
ื
่
ชอพ้อง Cissampelos poilanei
ื
ชอวงศ์ Menispermaceae
่
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์
ุ่
้
ไม้เถำเลื้อย เนือไม้แข็ง มีขนนมสั้นปกคลุมหนำแนนตำมเถำ กิ่ง ชอดอก และใบ ไม่มีมือเกำะ มีรำก
่
่
่
ู
็
ู
สะสมอำหำรใต้ดิน ใบเปนใบเดี่ยว มีหลำยรป เชน รปหัวใจ รปกลม รปไต หรือรปไข่กว้ำง ก้นใบปด ออกแบบสลับ
ู
ิ
ู
ู
กว้ำง 4.5-12 เซนติเมตร ยำว 4.5-11 เซนติเมตร ปลำยใบส่วนมำกมนหรือเรียวแหลม โคนใบกลมตัด หรือเปนรป
็
ู
ุ่
ุ่
้
หัวใจ ขอบใบเรียบ เนือบำงคล้ำยกระดำษ มีขนนมสั้นกระจำย ทั้งหลังใบ และท้องใบ ใบเมือยังอ่อนจะมีขนอ่อนนม
่
่
ปกคลุมอย่ทั้งสองด้ำน และตำมขอบใบ แตจะรวงไปเมือใบแก เส้นใบออกจำกโคนใบรปฝำมือ ก้ำนใบยำว 2-9
ู
่
่
่
ู
่
เซนติเมตร ขนนมสั้น หรือเกือบเกลียง ติดทีโคนใบห่ำงจำกขอบใบขึนมำ 1-18 มิลลิเมตร ปลำยใบแหลมหรือเปนติ่ง
่
็
้
ุ่
้
่
หนำม ดอกออกเปนชอกระจุกสีขำว ขนำดเล็กประมำณ 0.2-0.5 มิลลิเมตร ดอก
็
่
่
่
ู
่
่
แยกเพศ และอย่ตำงต้นกัน เรียงแบบชอเชิงหลั่น มีขนำดเล็ก แตละชอกระจุกมีก้ำนชอดอกยำว 2-4
่
ู
เซนติเมตร มีขนนมสั้น ออกกระจุกเดียวๆหรือ 2-3 กระจุกในหนึงชอ ชอดอกเพศผ้ ออกตำมง่ำมใบ ก้ำนชอ
่
่
ุ่
่
่
ู
ู
กระจุกแตกแขนง ยืดยำว ประกอบด้วยกระจุกดอกอย่ตำมง่ำมใบประดับ ใบประดับรปกลม และขยำยใหญ ่
้
ู
ู
ขึน ดอกเพศผ้ สีเขียวหรือสีเหลือง มีก้ำนดอกย่อยยำว 1-2 มิลลิเมตร กลีบเลียงมี 4 กลีบ รปไข่กลับ ยำว
้
ู
็
1.25-1.5 มิลลิเมตร ด้ำนนอกมีขนยำวห่ำง กลีบดอกเชื่อมติดกันเปนรปถ้วย ยำวประมำณ
ู
0.5 มิลลิเมตร ด้ำนนอกมีขนประปรำย เกสรเพศผ้เชื่อมติดกัน อับเรณยำว 0.75
ู
มิลลิเมตร ชอดอกเพศเมีย เปนชอคล้ำยชอกระจุกแยกแขนง ทรงแคบ ยำวถึง 18
่
็
่
่
่
็
เซนติเมตร ประกอบด้วยชอดอกทีเปนกระจุกตดแบบคล้ำยเปนชอกระจะ แตละกระจุกอย ู ่
่
่
่
ิ
็
่
้
ู
่
ในง่ำมของใบประดับ ใบประดับรปกลม เมือขยำยใหญขึนยำวถึง 1.5 เซนติเมตร มีขน
ุ่
้
ประปรำยหรือขนยำวนม ดอกเพศเมีย มีก้ำนดอกย่อยยำว 1-1.5 มิลลิเมตร กลีบเลียงมี
1 กลีบ รปไข่กลับกว้ำง ยำว 1.5 มิลลิเมตร กลีบดอกมี 1 กลีบ รปไข่กลับกว้ำง ยำว 0.75
ู
ู
มิลลิเมตร โคนสอบแคบไม่มีเกสรเพศผ้ปลอม เกสรเพศเมียมี 1 อัน ขนำดประมำณ 0.5 มิลลิเมตร มีขนยำวห่ำง ก้ำนเกสรเพศเมียเกลียง
ู
้
ยอดเกสรเพศเมียแยกเปน 3 พู กำงออก ผลสด มีก้ำนอวบใหญ ขนำดประมำณ 1 เซนติเมตร สีส้ม ผลทรงกลมรีอย่ตรงปลำย เมือสุกสี
่
ู
็
่
น ้ำตำลแดง เมล็ดโค้งงอรปพระจันทร์ครึ่งซีก ผิวขรุขระ มีรอยแผลเปนของก้ำนเกสรเพศเมียติดอย่ด้ำนข้ำง มีขนสั้นนม ผนังผลชั้นในรปไข่
ุ่
ู
ู
ู
็
กลับ ยำว 5 มิลลิเมตร ด้ำนบนมีสันขวำง 9-11 สัน เรียงเปน 2 แถว ชัดเจน ขยำยพันธ์โดยกำรใช้เมล็ดหรือเหง้ำ พบในปำดิบ ปำผลัดใบ และ
่
่
็
ุ
่
่
็
ื
ปำไผ ตำมริมแม่น ้ำล ำธำร ออกดอกชวงเดือนมีนำคมถึงธันวำคม เถำและใบคั้นเอำน้ำเมอผสมกับเครืองปรุงอำหำร จะมลักษณะเปนวุ้น
่
่
ี
่
รับประทำนเปนอำหำร
็
ทีมำ: เครือหมำน้อย - ฐำนข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศำสตร์ ม.อุบล : phargarden.com
่
3.ผักติ้ว
ื
้
ื
ิ
่
ชอพื้นเมอง ผักตว
ชอวิทยำศำสตร์ Cratoxylum formosum (Jack) Dyer
่
ื
ชอวงศ์ ACACTHACEAE
ื
่
่
ประโยชน์ ชวยบ ำรุงโลหิต ฟอกโลหิต (ยอด,ใบอ่อน,ดอก,เถำ) เปลือกต้นน ำมำต้มกับน ้ำกินแก้ธำตุพิกำร ช่วยแก้ประดง
็
่
้
่
ู
ผักตวเปนผักทีมีวิตำมินเอสง จึงมีสรรพคุณช่วยปองกันไม่ให้เด็กเปนตำบอดกลำงคืน และโรคตำไก ช่วยขับลม
้
็
ิ
รำกและใบ ใช้ต้มกับน ้ำกินเปนยำแก้อำกำรปวดท้อง ช่วยแก้อำกำรปวดตำมข้อ แก้ไขข้อพิกำร ต้นและยำงจำก
็
เปลือกต้น ใช้ทำแก้อำกำรคัน
ิ
้
ที่มำ: ผักตว :www.nwk.ac.th
่
4.หมอน
ื
่
ชอ: หม่อน
ี
ชออืน(ของพืชที่ให้เครื่องยำ): มอน (ตะวันออกเฉยงเหนือ)
่
ื
่
่
ชอวิทยำศำสตร์: Morus alba L.
ื
ื
ชอวงศ์: Moraceae
่
้
ุ
็
ู
ู
ลักษณะภำยนอกของเครื่องยำ:ใบ รปไข่ หรือรปไข่กว้ำง ขอบเรียบหรือหยักเว้ำเปนพู ขึนกับพันธ์ กว้ำง
8-14 เซนติเมตร ยำว 12-16 เซนติเมตร ผิวใบสำกคำย ปลำยเรียวแหลมยำว ฐำนใบกลม หรือรปหัวใจ หรือ
ู
็
คอนข้ำงตัด ใบอ่อนขอบจักเปนพูสองข้ำงไม่เท่ำกัน ขอบพูจักเปนซีฟัน เส้นใบมี 3 เส้น ออกจำกโคนยำวไปถึง
่
่
็
ู่
กลำงใบ และเส้นใบออกจำกเส้นกลำงใบ 4 ค เส้นรำงแหเห็นชัดด้ำนล่ำง ใบสีเขียวเข้ม ผิวใบสำกคำย ใบ มีรส
่
่
จืดเย็น ฝำดและขมเล็กน้อย มีกลินอ่อนๆ
ลักษณะทำงกำยภำพและเคมีที่ดี:ปริมำณควำมชืนไม่เกิน 11% w/w ปริมำณสิงแปลกปลอมไม่เกิน 2% w/w
้
่
ปริมำณเถ้ำรวมไม่เกิน 11% w/w ปริมำณเถ้ำทีไม่ละลำยในกรด ไม่เกิน 5% w/w
่
ปริมำณสำรสกัดเอทำนอล ไม่น้อยกว่ำ 4% w/w สำรสกัดน ้ำ ไม่น้อยกว่ำ 17% w/w
็
่
สรรพคุณ: ใช้ ใบ รสจืดเย็น เปนยำขับเหงือ แก้ไข้ แก้ตัวร้อน แก้ร้อนในกระหำยน ้ำ ท ำยำ
้
่
้
ต้มใช้อมแก้เจ็บคอ และท ำให้เนือเยื่อชุมชืน แก้ไอ ระงับประสำท
่
หรือต้มเอำน ้ำล้ำงตำ แก้ตำแดง แฉะ ฝำฟำง ใบแก ตำกแห้งมวนสบเหมือนบุหรี่ แก้ริดสีดวงจมูก
ู
้
้
ใบ แก้ไอ ระงับประสำท หรือต้มเอำน ้ำล้ำงตำ แก้ตำแดง แฉะฝำฟำง ใบ ใช้ท ำชำมีฤทธ์ต้ำนอนมูล
ุ
ิ
อิสระ ใบ น ้ำต้มและยำชง มีฤทธ์เปนยำชะล้ำง ใช้ล้ำงตำแก้ตำอักเสบ ใบอังไฟและทำด้วยน ้ำมัน
็
ิ
่
มะพร้ำวใช้วำงบนแผล หรือต ำใช้ทำแก้แมลงกัด เปนยำขับเหงือ แก้ไอ ยำหล่อลืนภำยนอก น ้ำต้มใบ
็
่
ใช้กลั้วคอแก้เจ็บคอ ใช้ล้ำงตำ แก้อำกำรติดเชือ ผสมกับหอมหัวใหญเปนยำพอก รักษำแผลจำกกำร
้
่
็
นอนกดทับ ในจีน: ใช้ เปลือกรำก กิ่งอ่อน ใบ ผล เปนยำบ ำรุง แก้โรคเกี่ยวกับทรวงอก ขับปัสสำวะ
็
็
แก้ไอ หืด วัณโรคปอด กำรสะสมน ้ำในรำงกำยผิดปกติ โรคปวดข้อ เปลือกต้น เปนยำถ่ำย และยำขับพยำธิ
่
ุ
องค์ประกอบทำงเคมี: ใบ มี สำรกล่มฟลำโวนอยด์ ได้แก rutin, quercetin, quercitrin, moracetin, morin, albafuran C,
่
ุ
aromadendrin, astragalin, chalcomoracin, kaempferol, kuwanol, kuwanon สำรกล่มอัลคำลอยด์ ได้แก fagomine, nojirimycin,
่
calystegin B-2, 1-deoxy ribitol, zeatin riboside สำรกล่มคูมำริน ได้แก bergapten, marmesin, scopoletin, umbelliferone สำรกล่มลิ
ุ
่
ุ
กแนน ได้แก broussonin A, broussonin B
่
ิ
กำรศึกษำทำงเภสัชวิทยำ: ลดน ้ำตำลในเลือด ขับปัสสำวะ ลดควำมดันโลหิต บ ำรุงผิว ก ำจัดหอยทำก ฤทธ์ควบคุมภำวะเลือดมีน ้ำตำล
มำกเกินหลังอำหำร
ค้นหำข้อมูลพืชที่ให้เครื่องยำ : www.phargarden.com ตัวอย่ำงพรรณไม้แห้ง : www.thaiherbarium.com
5.ย่ำนำง
ชอสมุนไพร: ย่ำนำง
ื
่
ื
ชออืนๆ: จ้อยนำง (เชียงใหม่) เถำวัลย์เขียว (กลำง) ยำดนำง วันยอ
่
่
(สุรำษฎร์ธำนี) เถำร้อยปลำ ปูเจ้ำเขำเขียว เถำย่ำนำง ย่ำนำงขำว ย่ำน
่
นำง หญ้ำภคินี
ชอวิทยำศำสตร์: Tiliacora triandra (Colebr.) Diels
่
ื
ื
่
ชอวงศ์: Menispermaceae
้
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ไม้เถำเลือย เถำกลมขนำดเล็ก มีเนือไม้ เลือยพันตำมต้นไม้ หรือ
้
้
็
่
กิ่งไม้ เถำมีสีเขียว ยำว 10-15 เมตร เถำอ่อนสีเขียว เมือเถำแกจะมีสีคล ้ำ แตกเปนแนวถี เถำ
่
่
่
อ่อนมีขนนมสีเทำ มีเหง้ำใต้ดิน กิ่งก้ำนมีรอยแผลเปนรปจำนทีก้ำนใบหลุดไป มีขนประปรำย
ู
็
ุ่
็
หรือเกลียง ใบเดียว หนำ สีเขียวเข้มเปนมัน เรียงแบบสลับ รปไข่ ยำวประมำณ 6-12
ู
่
้
เซนติเมตร กว้ำงประมำณ 4-6 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ ปลำยใบแหลม ฐำนใบมน ผิวใบเปน
็
้
คลืนเล็กน้อย ก้ำนใบยำวประมำณ 1.5 เซนติเมตร ผิวใบเรียบมัน ไม่มีหใบ เนือใบคล้ำย
่
ู
่
ู
่
กระดำษ แตแข็ง เหนียว มีเส้นใบกึ่งออกจำกโคนใบรปฝำมือ 3-5 เส้น และมีเส้นแขนงใบ 2-6
ู่
้
ค เส้นเหล่ำนีจะไปเชื่อมกันทีขอบใบ เส้นกลำงใบด้ำนล่ำงจะย่นละเอียดใกล้ๆโคน ขนเกลียง
่
้
่
็
ก้ำนใบผิวย่นละเอียด ดอกออกเปนชอเล็กๆ แบบแยกแขนงตำมข้อและซอกใบ มีดอก 1-3
ดอก สีเหลือง ก้ำนชอดอกยำวประมำณ 0.5 เซนติเมตร แยกเปนชอดอกเพศผ้และชอดอกเพศ
่
็
่
่
ู
้
ู
่
เมีย ดอกเพศผ้สีเหลือง กลีบเลียงมี 6-12 กลีบ กลีบวงนอกสุดมีขนำดเล็กทีสุด กลีบวงในมี
ขนำดใหญกว่ำและเรียงซ้อนกัน รปรีกว้ำง ยำว 2 มิลลิเมตร คอนข้ำงเกลียง กลีบดอกมี 3 หรือ
้
่
่
ู
้
ู
้
ู
้
็
6 กลีบ สอบแคบ ปลำยเว้ำตืน ยำว 1 มิลลิเมตร เกลียง เกสรเพศผ้มี 3 อัน เปนรปกระบอง ยำว 1.5-2 มิลลิเมตร ดอกเพศเมีย กลีบเลียงวงในรป
ู
กลม ยำว 2 มิลลิเมตร ด้ำนนอกมีขนประปรำย กลีบดอกมี 6 กลีบ รปรีแกมขอบขนำน ยำว 1 มิลลิเมตร เกสรเพศเมียมี 8-9 อัน แตละอันยำวไม่
่
ู
็
ถึง 1 มิลลิเมตร ติดอย่บนก้ำนชูสั้นๆ ยอดเกสรเพศเมียไม่มีก้ำน ผลเปนผลกล่ม ผลกลมรปไข่กลับ กว้ำง 6-7 มิลลิเมตร ยำว 7-10 มิลลิเมตร ผิว
ู
ุ
ู
่
็
็
เกลียง มีเมล็ดแข็ง ผลสีเขียว ฉ ่ำน ้ำ ออกเปนพวง ตำมข้อและซอกใบ ติดบนก้ำนยำว 3-4 มิลลิเมตร เมือสุกจะเปลียนเปนสีส้มและแดงสด เมล็ด
้
่
่
่
่
่
็
่
ู
่
รปเกือกม้ำ ผนังผลชั้นในมีสันไม่เปนระเบียบ พบตำมปำเต็งรัง ปำดิบใกล้ทะเล ตำมริมน ้ำในปำละเมำะ พบมำกในทีรกร้ำง ไร สวน ออกดอกชวง
เดือนมีนำคมถึงเมษำยน
สรรพคุณ : ต ำรำยำไทย ใช้ รำก รสจืด รสจืดขม ใช้ในต ำรับยำแก้ไข้เบญจโลกวิเชียร (ประกอบด้วยรำกย่ำนำง รวมกับรำกเท้ำยำยม่อม
่
่
รำกมะเดื่อชุมพร รำกคนทำ รำกชิงชี อย่ำงละเท่ำๆกัน) แก้ไข้ (ใช้รำกแห้งครั้งละ 1 ก ำมือ หรือประมำณ 15 กรัม ต้มกับน ้ำดื่มกอนอำหำรเช้ำ
่
ู
กลำงวัน เย็น) แก้พิษเมำเบือ กระทุ้งพิษไข้ แก้เมำสุรำ ถอนพิษผิดส ำแดง น ำมำต้มกินเปนยำแก้อีสุกอีใส ตุมผืน แก้ไข้ ขับพิษตำงๆ แก้ท้องผก
่
่
็
่
้
ู
ปรุงยำแก้ไข้รำกสำด ไข้กลับ ไข้หัว ไข้พิษ ไข้สันนิบำต ไข้ปำเรืองรัง ไข้ทับระด บ ำรุงหัวใจ บ ำรุงธำตุ แก้พิษภำยในให้ตกสิน แก้โรคหัวใจบวม แก้
่
้
ก ำเดำ แก้ลม แก้ไข้จับสั่น แก้เมำสุรำ รำกผสมกับรำกหมำน้อย ต้มกินแก้ไข้มำลำเรีย ล ำต้น รสจืดขม ถอนพิษผิดส ำแดง รักษำพิษไข้ แก้ไข้ตัวร้อน
แก้ไข้พิษ
ที่มำ: ย่ำนำง - ฐำนข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศำสตร์ ม.อุบล : phargarden.com
ุ
6.ขนน(หมักมี)
่
่
ชอ:ขนน
ื
ุ
ุ
่
ุ
ชอพื้นเมอง:ขะหนน , ขะเนอ , ปะหนอง , มะหนน , หมักหมี , จ้ำง , นำกง
ื
่
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์:Artocarpus heterophyllus Lam.
่
ื
ชอวงศ์: MORACEAE
่
ื
ชอสำมัญ:MORACEAE
่
ื
สรรพคุณ:มีสำรอำหำรทีมีประโยชน์ตอรำงกำยมำกมำย อำทิ วิตำมินเอ วิตำมินซี ไทอำมีน ไนอำซิน แคลเซียม
่
่
่
่
็
้
ู
โพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี โซเดียม และมีวิตำมินบีรวมซึงเปนแรธำตุทีมีอย่ในผลไม้ไม่กี่ชนิด นอกจำกนีก็มี
่
่
ส่วนประกอบของไฟโตนิวเทรียนต์ซึงมีควำมสำมำรถในกำรตอต้ำนมะเร็งและชวยลด
่
่
่
่
ควำมดันโลหิต แถมยังมีเกลือแร ไฟเบอร์ และโปรตีนสง แต่มีไขมันและคอเลสเตอรอล
ู
่
้
่
น้อย พลังงำนต ่ำ และมีคุณสมบัติชวยต้ำนเชือแบคทีเรียและไวรัสทีท ำลำยภูมิคุ้มกันให้
อ่อนแอ
ลักษณะ: ต้นขนน เปนไม้ยืนต้นขนำดใหญสงประมำณ 15-30 เมตร กิ่งและ
่
็
ุ
ู
ล ำต้นเมือมีแผลจะมีน ้ำยำงสีขำวข้นไหลออกมำ ลักษณะของใบขนน เปนใบเดี่ยวเรียง
่
็
ุ
ู
สลับ แผ่นใบเปนรปรี ปลำยใบทู่ถึงแหลม โคนใบมน ใบหนำ ผิวด้ำนบนของใบจะมีสี
็
เขียวเข้มเปนมัน ส่วนผิวใบด้ำนล่ำงจะสำกมือ ใบขนนกว้ำงประมำณ 5-8 เซนติเมตร
ุ
็
่
่
ุ
ู
ยำวประมำณ 10-15 เซนติเมตร ดอกขนน ออกเปนชอเชิงสดแยกเพศอยรวมกัน เปน
็
็
ชอสีเขียว อัดกันแนนและอย่บนต้นเดียวกัน โดยดอกเพศผ้จะออกตำมปลำยกิ่งหรือ
่
ู
ู
่
่
่
ซอกใบ ซึงเรำจะเรียกว่ำ “ส่ำ” ส่วนดอกเพศเมียจะออกตำมกิ่งใหญและล ำต้น เมือติด
่
็
่
็
่
ผลดอกทั้งชอจะเจริญรวมกันเปนผลรวมมีขนำดใหญ โดย 1 ดอกจะกลำยเปน 1 ยวง
่
็
่
ุ
ผลขนน หรือ ลกขนน ลักษณะภำยนอกจะคล้ำย ๆ จ ำปำดะ (ซึงเปนวงศ์เดียวกัน)
ุ
ู
ุ
ู
โดยลักษณะของลกขนน ในผลดิบเปลือกมีสีขำว หนำมทู่ ถ้ำกรีดจะมียำงเหนียว ถ้ำ
้
่
้
แกเปลือกจะมีสีน ้ำตำลอ่อนอมเหลืองและหนำมจะปำนขึน
ด้วย ภำยในผลของขนนจะมีซังขนนหุ้มยวงสีเหลองไว้ โดยเมล็ดจะอย่ในยวง โดยดอกขนนจะออกดอกปละ 2 ครั้ง คือ
ุ
ุ
ี
ู
ุ
ในชวงเมษำยน-พฤษภำคม และในช่วงธันวำคม-มกรำคม
่
้
้
ประโยชน์ ใบอ่อน ผล รับประทำน เนือไม้ใช้ท ำพืนเรือนและสิงกอสร้ำง รำกแก้โรคผิวหนัง แก้ท้องเสีย
่
่
็
ุ
็
่
เปลือกต้นเปนยำแก้ท้องเสีย แกนสมำนแผล บ ำรุงก ำลัง บ ำรุงเลือด ผลสกเปนยำระบำย เมล็ดบ ำรุงน ้ำนมในสตรีหลัง
่
็
คลอด รำกและแกนใช้เปนสีย้อมให้ สีเลืองถึงเหลืองอมน ้ำตำล
ที่มำ: ข้อมูลพรรณไม้ (hsw.ac.th)
ื
7.มะเขอพวง
ื
่
ชอ: มะเขือพวง
่
่
ชออืน: มะเขือละคร หมำกแค้ง มะแคว้งกลัว มะแคว้งกลำ มะแว้ง
ื
ู
ู
มะแว้งช้ำง รับจงกลมปอลอ ปอลือ เขือข้อย เขือพวง ลกแว้ง แว้งช้ำง เขือ
ู
เทศ ตะโกงลำโน จะเคำะคะ หมำกแข้ง
่
่
ชอวิทยำศำสตร์: Solanum torvum Sw.
ื
วงศ์: SOLANACEAE
ชอสำมัญ: Plate brush egg plant
่
ื
แหล่งที่พบ: พบทั่วไปของทุกภำค
ประเภทไม้: ไม้พุ่ม
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ต้น เปนไม้พุ่มเล็กสงประมำณ 2 เมตร ล ำต้นตั้งตรงมีขนนมขึน
็
ุ่
้
ู
้
ปกคลุม ล ำต้นและใบมีหนำมสั้นเล็กๆ ห่ำงขึนทั่วไป แตกกิ่งก้ำนสำขำมำก
็
ู
้
ใบ เปนรปรี ปลำยใบแหลม ริมใบหยักเว้ำตืนใบยำว 10-20 ซม. บนแผ่นใบมีขนสั้นๆ ปก
คลุม
็
ดอก ดอกออกเปนกระจุกหรือเปนพวงสีขำว ออกตำมง่ำมใบและปลำยกิ่ง ดอกสีขำวมีกลีบ
็
เลียงและกลีบดอกอย่ำงละ 5 กลีบ กลีบดอกสีขำวโคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเปนหลอด กลำง
็
้
ดอกมีเกสรตัวผ้และตัวเมียติดอย่กับหลอดของกลีบดอก หรือเปนดอกสมบูรณ์เพศ
ู
ู
็
่
็
่
้
ผล รปรำงกลมเล็กเปนพวงผิวเรียบ เส้นผ่ำศนย์กลำงประมำณ 1 ซม. ผลอ่อนสีเขียว ขั้วผลมีกลีบเลียงติดอย่ ผลแกสีเขียวเข้ม ภำยในมีเมล็ด
ู
ู
ู
เล็กๆ จ ำนวนมำก เมล็ดมีลักษณะกลมแบนสีขำวเมือแกเปนสีน ้ำตำล
่
่
็
ส่วนที่ใช้บริโภค: ผลอ่อน
ู
กำรขยำยพันธุ์: เมล็ด ขุดต้นทีงอกตำมรำกปลก
่
สภำพแวดล้อมที่เหมำะสม: เจริญเติบโตทั่วไปกลำงแจ้ง หรือทีรมร ำไร
่
่
ฤดกำลที่ใช้ประโยชน์: ตลอดทั้งป ี
ู
่
็
่
็
กำรปรุงอำหำร: ผลอ่อน รับประทำนเปนผักสดหรือลวก-ต้ม ให้สุกเปนผักรวมกับน ้ำพริก น ำไปประกอบอำหำร เชน แกงเขียวหวำน แกงเผ็ด
น ้ำพริกกะป ิ
ลักษณะพิเศษ: มะเขือพวง รสขืน แก้ไอ ขับเสมหะ
่
ทีมำ: ชื่อ มะเขือพวง (lpru.ac.th)
่
8.หอม
็
หอมแดง (ชื่อวิทยำศำสตร์: Allium ascalonicum) เปนพืชในวงศ์พลับพลึง
(Amaryllidaceae) โดยยึดเอำ French grey challot หรือ griselle เปนหอมที ่
็
ู
แท้จริง จัดอย่ในสปชีย์นี มีกำรเพำะปลกในเอเชียกลำงและเอเชียตะวันตกเฉยงใต้
ี
ู
ี
้
ส่วนควำมหลำกหลำยอื่นทีมีคือ Allium cepa var. aggregatum (หอมแบ่ง:
่
่
multiplier onions) หรือทีร้จักกันในชื่อ A. ascalonicum
ู
ี
เปนพืชเศรษฐกิจส ำคัญ ของประเทศในแถบ เอเชียตะวันออกเฉยงใต้ ประเทศไทย
็
่
ส่งออกหอมแดง ไปยังประเทศมำเลเซียเปนจ ำนวนมำก กำรซือขำยสวนใหญเปน
้
่
็
็
็
หัวๆ ชั่งขำยเปนกิโลกรัม และมัดขำยเปนก ำๆ แตก็ขำยตำมน ้ำหนัก เชนเดียวกัน[1]
่
็
่
่
่
ี
ในประเทศไทยปลกกันมำกทำงภำคตะวันออกเฉยงเหนือและภำคเหนือ แตหอมแดงทีมีชื่อเสียงว่ำเปนหอมแดงคุณภำพดีได้แกหอมแดงจำกจังหวัด
่
ู
็
ศรีสะเกษ
่
ลักษณะส ำคัญ: พืชทีมีล ำต้นสั้นและฝังอย่ใต้ดิน ขนำดสงประมำณ 30 เซนติเมตร กำบใบพองออกเพือสะสมอำหำร ดอกลักษณะเปนชอคล้ำยรม
็
ู
่
ู
่
่
ประกอบด้วยดอกย่อยจ ำนวนมำก กลีบดอกสีขำวอมม่วงมีกลีบดอก 6 กลีบ ออกดอกในชวงฤดร้อน
ู
่
่
สรรพคุณ: หัวหอม มีรสฉุน ชวยขับลม แก้ท้องอืด ชวยย่อยและเจริญอำหำร แก้บวมน ้ำ แก้อำกำรอักเสบตำง ๆ แก้บวมน ้ำ ขับพยำธิ ช่วยให้
่
่
็
้
่
รำงกำยอบอุ่น เมล็ด แก้อำเจียนเปนเลือด แก้กินเนือสัตว์เปนพิษ รำงกำยซุบผอม(ใช้เมล็ดแห้ง 5-10 กรัมต้มน ้ำดื่ม) ต ำรำยำไทยใช้หัวหอมแดง
็
่
็
ผสมรวมกับเหง้ำเปรำะหอมสุมหัวเด็ก แก้หวัดคัดจมูก และกินเปนยำขับลม หอมแดงมีสำรเคอร์ซิติน และสำรฟลำโวนอยด์ (quercetin และ
้
้
็
flavonoid glycosides) อำจปองกันโรคมะเร็งได้ นอกจำกนี หอมแดงยังมีคุณสมบัติ เปนยำรักษำโรค ใช้ลดไข้และรักษำแผลได้ โดยเอำหัว
่
็
หอมแดงมำซอยเปนแว่นๆ ผสมกับน ้ำมันมะพร้ำวและเกลือ ต้มให้เดือด แล้วน ำมำพอกแผล นอกจำกนั้นหอมแดง ยังชวยลดระดับน ้ำตำลในเลือด
และยับยั้งเส้นเลือดอุดตัน ด้วยกำรบริโภคสด หรือประกอบอำหำร หรือบริโภคชนิดผง
็
สรรพคุณทำงยำ: ฟลำโวนอยด์ในหอมแดง มีฤทธ์เปนสำรต้ำนอนมูลอิสระ กำรบริโภคหอมแดงเปนประจ ำจึงสำมำรถลดระดับคอเลสเตอรอล และ
็
ิ
ุ
้
ู
ชวยให้กำรไหลเวียนของเลือดดีขึน ลดไขมันในเส้นเลือดทีเปนสำเหตุของโรคควำมดันโลหิตสงและโรคหัวใจ สำมำรถปองกันกำรติดเชือ และชวย
่
้
่
้
่
็
่
บรรเทำอำกำรไข้หวัดได้ ท ำให้เจริญอำหำร และช่วยย่อยอำหำร ทั้งนี ฟลำโวนอยด์ปริมำณสงมำกๆ นอกจำกจะชวยลดควำมเสียงของโรคหัวใจแล้ว
ู
้
่
่
ยังลดควำมเสียงตอโรคมะเร็งได้ด้วย
่
็
็
กำรใช้ประโยชน์: คนไทยนิยมน ำหอมแดง มำเปนส่วนประกอบเครื่องแกงเผ็ด เปน
็
ส่วนประกอบของไข่เจียวหมูสับ ซุปหำงวัว รับประทำนสดโดยฝำนเปนแว่นบำงๆ รับประทำน
รวมกับแหนมสด เมียงค ำ ปลำเค็มทอดบีบมะนำว หอมแดงซอย กับพริกขีหนสวนหั่นฝอย เปน
่
่
็
้
ู
ิ
ส่วนประกอบของน ้ำพริกกะป หอมแดงเผำต ำผสมกับน ้ำพริกปลำร้ำ และเปนส่วนประกอบของ
็
หลนทุกอย่ำง เปนส่วนประกอบของขนมหวำน เชน หอมแดงซอยเจียว ใส่ในข้ำวเหนียวหน้ำ
็
่
ปลำแห้ง ขนมหม้อแกงถั่ว และไข่ลกเขย ( อำหำรคำวหวำน ) ฯลฯ
ู
ที่มำ: หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชำติ กรกฎำคม 2539, หน้ำ 105
9.ว่ำนหำงจระเข้
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์: Aloe vera (L.) Burm.f.
ื
ชอพ้อง:Aloe barbadensis Mill.
่
ชอวงศ์: ASPHODELACEAE
ื
่
ชอสำมัญ:Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados
ื
่
ื
ชื่ออื่นๆ: ภำคเหนอ ว่ำนไฟไหม้
ภำคกลำง ว่ำนหำงจระเข้, หำงตะเข้
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ไม้ล้มลุก อำยุหลำยป สงประมำณ 0.5 – 1 เมตร
ี
ู
็
้
ล ำต้นเปนข้อปล้องสั้น เนืออ่อน อวบน ้ำ
็
ใบ เปนใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนำและรปรำงยำว โคนใบใหญ ่
ู
่
ปลำยใบแหลม ริมใบหยักและมีหนำม ขอบใบเปนหนำมแหลมห่ำงกัน แผ่นใบสีเขียวใสและมีรอยกระสีขำว ใบจะอุ้มน ้ำได้ดี ภำยในมีวุ้นและเมือก
็
่
ใสสีเขียวอ่อนๆ ดอก ออกดอกเปนชอกระจำยทีปลำยยอด ก้ำนชอดอกยำวมำกชูตั้งตรง ดอกเปนหลอดปลำยแยกสีส้มแดงอมเหลืองเล็กน้อย
็
็
่
่
บำนจำกข้ำงล่ำงขืนข้ำงบน คล้ำยดอกซ่อนกลินตูมๆ โคนเชื่อมติดกันเปนหลอด ปลำยแยกเปน 6 แฉก เรียงเปน 2 ชั้น รปแตร ผล เปนผลแห้ง
็
็
ู
่
็
้
็
ู
รปกระสวย
ิ
ี
ประโยชน์ทำงยำ:ใบ รสเย็น โขลกผสมสุรำพอกฝ วุ้นจำกใบล้ำงด้วยน ้ำสะอำดทำหรือฝำนบำงๆ ปดหรือทำแผลไฟไหม้ น ้ำร้อนลวก ดับพิษร้อน ทำ
ู
้
่
่
ผิวปองกันและรักษำอำกำรไหม้จำกแสงแดด วุ้นรับประทำนแก้โรคกระเพำะ บ ำรุงรำงกำย แก้ร้อนใน ดดพิษร้อนภำยในรำงกำย
ทั้งต้น รสเย็นเอียน ดองสุรำดื่มขับน ้ำคำวปลำ รำก รสขมขืน รับประทำนถ่ำยโรคหนองใน แก้มุตกิด ช ้ำรั่ว ยำงในใบ เปนยำระบำย
็
่
็
้
น ้ำวุ้นจำกใบ ล้ำงด้วยน ้ำสะอำด ฝำนบำงๆ รักษำแผลสดภำยนอก น ้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ท ำให้แผลเปนจำงลง ดับพิษร้อน ทำผิวปองกันและรักษำ
้
อำกำรไหม้จำกแสงแดด ทำผิวรักษำสิวฝำ และขจัดรอยแผลเปน เนือวุ้น เหน็บทวำร รักษำริดสีดวงทวำร เหง้ำต้มรับประทำนแก้หนองใน โรค
้
็
มุตกิด
ที่มำ: ข้อมูลสมุนไพร (su.ac.th)
10.สะระแหน
่
ื
่
ื
ชอพื้นเมอง: สะระแหน ่
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์: Mentha × villosa Huds.
่
ื
ชอวงศ์: ACACTHACEAE
ื
่
ชอสำมัญ: Kitchen Mint, Marsh Mint
ประโยชน์: ช่วยให้ผิวชุมชืนด้วยกำรน ำใบสะระแหนมำบดแล้วน ำมำทำผิว
้
่
่
สะระแหนช่วยก ำจัดอนมูลอิสระออกจำกรำงกำย ใช้เปนยำเย็น ดับร้อน
่
่
็
ุ
่
่
่
และขับเหงือในรำงกำย ชวยบ ำรุงและรักษำสำยตำ ชวยลดรอยคล ้ำใต้ตำ
่
่
ด้วยกำรน ำใบสะระแหนมำบดให้ละเอียดโดยเติมน ้ำระหว่ำงบดด้วย
้
เล็กน้อย แล้วใส่น ้ำผึงตำมลงไปคลุกเคล้ำให้เข้ำกัน แล้วน ำมำทำใต้ตำทิง ไว้
้
ที่มำ: nwk.ac.th ่ ่
ประมำณ 15 นำทีแล้วล้ำงออก ชวยบรรเทำอำกำรเครียด ชวยรักษำอำกำรปวดศีรษะ ไมเกรน
ึ
11.ข้นฉ ่ำย(ตั้งฉำย)
่
ชอวิทยำศำสตร์ : Apium graveolens L.
่
ื
วงศ์ : UMBELLIFERAE
่
ื
่
่
ชออืน : Celery ผักข้ำวปน ฮั่งขึง
ื
้
ู
ขึนฉำยจัดเปนพืชล้มลุก สงประมำณ 40-60 เซนติเมตร ล ำต้นอ่อนนิ่ม ใบ
่
็
็
เปนใบประกอบแบบขนนก ออกตรงข้ำมกัน ใบสีเหลืองอมเขียว ขอบใบหยัก
่
ลักษณะดอกเปนชอดอกแบบซีรมมีสีขำว
่
่
็
็
ขึนฉำยเปนผักและสมุนไพรทีมีกลินหอมเฉพำะตัว สำมำรถน ำมำปรุงเปนอำหำร
่
่
่
้
็
็
รับประทำนเปนผักสด และน ำไปท ำเปนน ้ำสมุนไพร น ้ำมันหอมระเหยในล ำต้น
็
่
่
และใบมีฤทธ์ชวยขับลมในกระเพำะอำหำร ท ำให้หำยจุกเสียดแนนท้อง ชวย
่
ิ
ู
่
เพิมควำมแข็งแรงให้กระดกและฟัน ชวยในกำรรักษำโรคควำมดันเลือดสง
่
ู
ส่วนรำกช่วยในกำรรักษำอำกำรปวดตำมข้อ
12.พริกช้ฟำ
้
ี
ชอวิทยำศำสตร์ : Capsicum annuum Linn. Var acuminatum Fingerh.
่
ื
ชอวงศ์ : Solanaceae
่
ื
่
ื
ชอสำมัญ : Cayenne pepper, chili spur pepper, long fed pepper, spur
pepper
่
ชอพื้นเมอง : พริกชีฟำ พริกเดือยไก พริกบำงช้ำง พริกหนม (ภำคเหนือ) พริก
ื
ุ่
้
้
่
ื
้
ู
มัน (กรุงเทพฯ) พริกแล้ง (เชียงใหม่) พริกซ่อม พริกขีหน พริกนก พริกแด้
้
้
(เหนือ) พริกขีนก ดีปลีขีนก (ใต้) ดีปลี (ปัตตำนี) ปะแกว (นครรำชสีมำ)
หมักเพ็ด พริกแกว (อีสำน) พริกยักษ์ - พริกหวำน พริกฝรั่ง พริกหลวง พริกแม้ว
พริกกะเหรี่ยง พริกหัวเรือ พริกห้วยสีทน พริกสันปำตอง พริกภูเรือ พริกจีน พริกเจแปน พริกต้ม และพริกแจว เปนต้น
็
่
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ต้น : ไม้ล้มลุก สง 0.5-1.5 เมตร ใบ : ใบเดี่ยวออกตรงกันข้ำมหรือออกสลับ รปใบหอก กว้ำง 1-4 เซนติเมตร
ู
ู
ยำว 2-8 เซนติเมตร ดอก : สีขำว ออกเดี่ยวตำมซอกใบและปลำยกิ่ง โคนกลีบดอกเชื่อมกัน ปลำยแยกเปน 5 แฉก ดอกห้อยลง เมือบำน
่
็
ู
เส้นผ่ำศนย์กลำง 1-1.5 เซนติเมตร เกสรตัวผ้ 5 อัน ผล : ผลรปทรงกระบอกยำว ปลำยเรียวแหลม มักโค้งงอ ยำว 6-9 เซนติเมตร ผิวเปนมันสี
ู
ู
็
เขียว เมือสุกเปลียนเปนสีเหลืองหรือสีแดง มีเมล็ดแบนสีนวลจ ำนวนมำก
่
็
่
่
ู
ี
้
่
้
้
สรรพคุณ: สำรแคปไซซิน ( capsaicin) ในพริกชีฟำท ำให้เจริญำอำหำร ชวยท ำให้ระบบย่อยอำหำรดีขึน แก้หวัด ขับลม ชวยสบฉดโลหิต ช่วย
้
ปองกันกำรเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ บ ำรุงธำตุ น ำมำดองสุรำหรือบดผสมวำสลิน ใช้ทำถูนวด ทำแก้เคล็ดขัดยอก แก้ปวดตำมข้อฟกช ้ำด ำเขียว
่
่
้
่
่
ู
ชวยให้กำรไหลเวียนของโลหิตดีขึน และยังมีวิตำมินเอสงซึงเปนสำรทีชวยต้ำนอนมูลอิสระอันกอให้เกิดโรคมะเร็ง ต้น ช่วยขับปัสสำวะ แก้ปวดเมือย
็
ุ
่
่
ที่มำ:http://www.thaichef.in.th/mobile/article_herbdetail.php?aid=1
ตำมรำงกำย
่
13.กระเพรำ
ชอวิทยำศำสตร์ : Ocimum sanctum L.
่
ื
ื
ชอพ้อง : Ocimum tenuiflorum L.
่
ื
ชอสำมัญ : Holy basil, Sacred Basil
่
วงศ์ : Lamiaceae (Labiatae)
่
ื
ชออืน : กะเพรำขน กะเพรำขำว กะเพรำ (ภำคกลำง) กอมก้อ กอมก้อดง (เชียงใหม่) อีตูไทย
่
่
(ภำคอีสำน)
่
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ไม้พุ่ม สง 30-60 ซม. โคนต้นคอนข้ำงแข็ง กะเพรำแดงล ำต้นสี
ู
แดงอมเขียว ส่วนกะเพรำขำวล ำต้นสีเขียวอมขำว ยอดอ่อนมีขนสีขำว ใบ เปนใบเดี่ยว ออกตรงข้ำมกัน รปรี กว้ำง 1-3 ซม. ยำว 2.5-5 ซม. ปลำย
็
ู
ใบมนหรือแหลม โคนใบแหลม ขอบใบจักเปนฟันเลือย แผ่นใบสีเขียว มีขนสีขำว ดอก ออกเปนชอที ่
็
่
็
่
ปลำยยอด ดอกสีขำวแกมม่วงแดงมีจ ำนวนมำก กลีบเลียงโคนเชื่อมติดกัน ปลำยเรียวแหลม ด้ำนนอกมี
้
ขน กลีบดอกแบ่งเปน 2 ปำก ปำกบนมี 4 แฉก ปำกล่ำงมี 1 แฉก ปำกล่ำงยำวกว่ำปำกบน มีขน
็
่
ู
็
ประปรำย เกสรเพศผ้มี 4 อัน ผล เปนผลแห้ง เมือแตกออกจะมีเมล็ด สีด ำ รปไข่
ู
่
ส่วนทีใช้ : ใบ และยอดกะเพรำแดง ทั้งสดและแห้ง ทั้งต้น
สรรพคุณ :แก้อำกำรคลืนไส้ อำเจียน (เกิดจำกธำตุไม่ปกติ) ใช้แก้อำกำรท้องอืดเฟอ แนจุกเสียดและ
่
่
้
ปวดท้อง แก้ไอและขับเหงือ ขับพยำธิ
่
้
็
้
ขับน ้ำนมในสตรีหลังคลอด ลดไข้ เปนยำอำยุวัฒนะ เปนยำรักษำหูด กลำกเกลือน ต้ำนเชือรำ เปนยำ
็
็
็
่
สมุนไพร ใช้ไล่ หรือฆำยุง เปนสมุนไพร ไล่แมลงวันทอง
สำรเคม : ในใบพบ Apigenin, Ocimol, Linalool , Essential Oil, Chavibetal
ี
14.มะเขอมวง
่
ื
มะเขือม่วง ชื่อวิทยำศำสตร์ Solanum melongena L. จัดอย่ในวงศ์มะเขือ (SOLANACEAE)
ู
สมุนไพรมะเขือม่วง มีชื่อท้องถินอื่น ๆ ว่ำ มะเขือกะโกแพง, มะเขือจำน, มะเขือจำวมะพร้ำว, มะเขือห ำ
่
ม้ำ, มะแขว้งคม เปนต้น
็
่
ลักษณะของมะเขือม่วง: ต้นมะเขือม่วง จัดเปนพืชล้มลุกหรือไม้พุ่มทีมีควำมสงประมำณ 1-1.5 เมตร
ู
็
่
ู
ุ่
ล ำต้นมีขนนมปกคลุมอย่ทั่วไปและอำจมีหนำมเล็ก ๆ แตไม่มำกนัก สำมำรถออกดอกและผลได้ตลอด
ี
ุ
ทั้งป ขยำยพันธ์ด้วยเมล็ด
็
ู
่
็
้
็
ใบมะเขือม่วง ใบเปนใบเดี่ยวขนำดใหญ ออกสลับข้ำงกัน ลักษณะของใบเปนรปคอนข้ำงกลม ปลำยใบแหลม โคนใบเบียว ส่วนขอบใบหยักหรือเปน
่
็
ู
คลืน ท้องใบมีขนหนำสีเทำ ดอกมะเขือม่วง ออกดอกเดี่ยวหรือออกเปนช่อตำมซอกใบ ดอกเปนดอกแบบสมบูรณ์เพศ มีขนำดเส้นผ่ำนศนย์กลำง
็
่
ู
็
ประมำณ 2-3 เซนติเมตร ดอกมีกลีบสีเขียวเลียงหนำแข็งประมำณ 4-5 แฉก โคนเชื่อมติดกันเปนรป
้
็
็
ู
็
กรวย ปลำยแยกเปนกลีบดอก 5 กลีบ กลีบดอกเปนสีม่วง มีลักษณะเปนรปดำว และดอกจะบำน
ประมำณ 2-3 วัน ผลมะเขือม่วง ผลมีลักษณะกลมรียำวทรงหยดน ้ำ ผิวผลเรียบเปนสีม่วง ขนำดของ
็
ุ
ผลขึนอย่กับสำยพันธ์ ลักษณะของผลอำจจะกลมเปนรปไข่หรือกลมยำว โดยมีขนำดยำวตั้งแต 4-30
ู
็
่
ู
้
เซนติเมตร สีผลอำจจะมีสีเดียวหรือหลำยสี โดยอำจจะมีสีขำว เหลือง เขียว แดงม่วง หรือด ำ ส่วน
ภำยในผลจะมีเมล็ดจ ำนวนมำก เมล็ดมีขนำดเล็กและเปนสีน ้ำตำล
็
่
็
้
หมำยเหตุ : มะเขือโดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเปน 2 ชนิด ได้แก มะเขือม่วงเล็ก (ผลทรงยำวปอม มี
ุ่
็
้
ควำมยำวประมำณ 4 นิว ผลเปนสีม่วงอ่อนปนลำยเขียวขำว เนือในนม กินดิบมีรสขมเล็กน้อย เมือ
้
่
้
สุกจะมีรสหวำน นิยมน ำมำกินเปนผักสดหรือผักต้มแนมกับน ้ำพริกและเครื่องจิมตำง ๆ หรือน ำมำ
็
่
่
่
ี
้
หั่นเฉยงเปนแผ่นบำง ๆ แล้วชุบแปงทอด) และ มะเขือม่วงใหญ (เปนมะเขือน ำเข้ำ เนือในแนนและ
้
็
็
ละเอียดกว่ำมะเขือม่วงเล็ก ไม่มีเมล็ด และแทบไม่มีรสชำติ คนไทยนิยมกันน้อย โดยส่วนใหญจะ
่
้
น ำมำท ำอำหำรประเภทผักหรือหั่นชุบแปงทอด)
็
็
สรรพคุณของมะเขือม่วง:ดอกสดหรือดอกแห้ง น ำมำเผำให้เปนเถ้ำ แล้วบดให้ละเอียด ใช้เปนยำแก้
็
่
็
ปวดฟัน (ดอก) ผลแห้งมีสรรพคุณเปนยำขับเสมหะ (ผลแห้ง) ล ำต้นหรือรำกใช้ต้มกินเปนยำแก้บิด หรือจะน ำใบแห้งมำปนให้เปนผงใช้เปนยำแก้
็
็
่
โรคบิดก็ได้เชนกัน (ล ำต้น, รำก, ใบแห้ง) ชวยแก้อำกำรตกเลือดในล ำไส้ (ผลแห้ง) ใบแห้งใช้เปนยำแก้ปัสสำวะขัด (ใบแห้ง) ชวยรักษำโรคหนองใน
่
็
่
้
่
็
ี
(ใบแห้ง) ผลสดใช้เปนยำพอกบริเวณทีเปนแผลอักเสบ ฝหนอง หรือโรคผิวหนังเรือรังและผดผื่นคัน (ผลสด) ล ำต้นหรือรำกน ำมำคั้นเอำน ้ำใช้ล้ำง
็
่
ื
็
แผลเท้ำเปอย (ล ำต้น, รำก) ผลแห้งใช้ท ำเปนยำเม็ดแก้ปวด (ผลแห้ง)
ทีมำ: https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1702&code_db=610010&code_type=01
่
15.ทับทิม
ชอวิทยำศำสตร์ : Punica granatum L.
่
ื
ื
่
ชอสำมัญ : Pomegranate , Punica apple
วงศ์ : Punicaceae
ื
่
่
่
่
่
ชออืน : พิลำ (หนองคำย) พิลำขำว มะกองแก้ว (นำน) มะเก๊ำะ (เหนือ) หมำกจัง (แม่ฮองสอน)
็
่
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ไม้ยืนต้น หรือพรรณไม้พุม ขนำดเล็ก ลักษณะผิวเปลือกล ำต้นเปนสีเทำ
ส่วนทีเปนกิ่งหรือยอดอ่อนจะเปนเหลียม หรือ มีหนำมแหลมยำวขึน ใบ ใบมีลักษณะเปนรปยำวรี
้
่
ู
็
็
็
่
โคนใบมน แคบ ส่วนปลำยใบเรียวแหลมสั้น ผิวหลังใบ เกลียงเปนมัน ใต้ท้องใบจะเห็นเส้นใบได้ชัด
้
็
ขนำดของใบกว้ำงประมำณ 1 - 1.8 ซม. ยำว ประมำณ 2.5 - 6 ซม. ดอก ดอกออกเปนชอ หรือ
็
่
อำจจะเปน ดอกเดียว ในบริเวณปลำยยอด หรือง่ำมกิ่ง ลักษณะของดอกมีเปน สีส้ม สีขำว หรือสีแดง
็
็
่
ดอกหนึงมีกลีบดอกประมำณ 6 กลีบ ปลำยกลีบ ดอกจะแยกออกจำกกัน ตรงกลำงดอกมีเกสร ตัว
ู
่
ู
เมีย และตัวผ้ซึงมีอับเรณเปนสีเหลือง ขนำดของดอกบำนเต็มทีมีเส้นผ้ำศนย์กลำงประมำณ 2 - 3
็
ู
่
่
่
็
ู
่
ซม. ผลมีลักษณะเปนรปคอนข้ำง กลม ผิวเปลือกนอกหนำเกลียง ผลเมื่อแกหรือ สุกเต็มทีมีสีเหลืองปนแดง และลักษณะของผล จะแตก หรืออ้ำง
้
ู
็
่
็
ออก ข้ำงในผลก็จะมีเมล็ดเปน จ ำนวนมำก เปนรปเหลียม มีสีชมพูสด ดอก ดอกออกเปนชอ หรืออำจจะเปน ดอกเดียว ในบริเวณปลำยยอด หรือ
็
่
็
่
ง่ำมกิ่ง ลักษณะของดอกมีเปน สีส้ม สีขำว หรือสีแดง ดอกหนึงมีกลีบดอกประมำณ 6 กลีบ ปลำยกลีบ ดอกจะแยกออกจำกกัน ตรงกลำงดอกมี
็
่
ู
็
ู
่
เกสร ตัวเมีย และตัวผ้ซึงมีอับเรณเปนสีเหลือง ขนำดของดอกบำนเต็มทีมีเส้นผ้ำ
่
ศนย์กลำงประมำณ 2 - 3 ซม. ผลมีลักษณะเปนรปคอนข้ำง กลม ผิวเปลือกนอกหนำ
็
ู
ู
เกลียง ผลเมือแกหรือ สุกเต็มทีมีสีเหลืองปนแดง และลักษณะของผล จะแตก หรือ
้
่
่
่
ู
็
่
็
อ้ำงออก ข้ำงในผลก็จะมีเมล็ดเปน จ ำนวนมำก เปนรปเหลียม มีสีชมพูสด
่
ส่วนทีใช้ : ใบ ดอก เปลือกผลแห้ง เปลือกต้นและเปลือกรำก เมล็ด
สรรพคุณ : ใบ - อมกลั้วคอ ท ำยำล้ำงตำ ดอก - ใช้ห้ำมเลือด เปลือกและผลแห้ง
่
็
- เปนยำแก้ท้องรวง ท้องเดิน แก้บิด
ิ
ิ
- แก้โรคลักกะปดลักกะเปด
เปลือกต้นและเปลือกรำก
็
- ใช้เปนยำขับพยำธิตัวตืด , พยำธิตัวกลม
ิ
ิ
เมล็ด - แก้โรคลักกะปดลักกะเปด
่
ทีมำ: สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด (rspg.or.th)
16.ส้มโอ
ชอวิทยำศำสตร์ : Citrus maxima (Burm.f.) Merr.
ื
่
่
ื
ชอวงศ์ : Rutaceae
ื
ชอสำมัญ : Pummelo
่
่
่
ู
ชออืนๆ : โกร้ยตะลอง (เขมร), มะขุน มะโอ (ภำคเหนือ), ลีมำบำลี (มลำย-ยะลำ), สังอู (กะเหรี่ยง-แม่ฮองสอน), ส้มโอ (ทั่วไป)
ื
่
ถิ่นก ำเนด : หมู่เกำะมลำย อินเดีย จีน และไทย
ู
ิ
กำรขยำยพันธุ์ : เพำะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตำ ทำบกิ่ง
่
็
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ไม้ยืนต้นขนำดกลำงคอนข้ำงใหญ แตกกงก้ำนมำกเปนพุ่ม กิ่งอ่อนปกคลุมด้วยขนสั้นๆมีหนำมรปรำงยำวขนำด 1-5
ิ่
่
ู
่
็
ซม. ใบ รปไข่ยำว ส่วนของแผ่นใบมองเห็นเปนรอยเว้ำ แยกเปน 2 ส่วนอย่ำงชัดเจนขนำด
ู
็
แผ่นใบส่วนบนกว้ำงประมำณ 2-7 ซม. ยำวประมำณ 10-12 ซม. แผ่นใบส่วนล่ำงมีลักษณะปก
ี
ู
็
มีขนำดเล็กกว่ำส่วนบน ดโดยรวมเปนรปคล้ำยหัวใจ ใต้ใบมีขนอ่อนนมปกคลุมอย่ ดอกเปน
็
ู
ู
ุ่
้
่
็
็
่
ดอกเดี่ยว แตอำจพบออกเปนชอตำมมุมใบหรือปลำยยอด เปนดอกสมบูรณ์เพศ กลีบเลียงสี
ู
ุ
ุ
็
เขียว 5 กลีบ กลีบดอกสีขำวขุ่น 5 กลีบ เกสรตัวผ้เชื่อมติดกันเปนกล่มประมำณ 4-5 กล่ม อับ
่
่
ละอองเกสรสีเหลือง เกสรตัวเมียมีรังไข่ทีแบ่งเปน 11-16 ชองผลชนิด berry ขนำดปำนกก
็
่
่
้
่
่
ลำงถึงใหญ มีรปรำงหลำยแบบ เชน ทรงกลม ทรงแปน หรือผลยำวมีจุกคล้ำยผลสำลี ผลอ่อน
ู
สีเขียว ผลแกสีเขียวอ่อน หรืออมเหลือง เปลือกชั้นนอกมีลักษณะเหนียว มีตอมน ้ำมัน(oil
่
่
gland) กระจำยทั่วไปตำมผิวของผล เปลือกชั้นกลำง สีขำวหรือสีชมพู มีลักษณะอ่อนนม หนำ
ุ่
ประมำณ1 - 2.3 ซม. เปลือกผลชั้นในบำงส่วนเจริญเปนถุงน ้ำหวำน (juice sac) เปนส่วนที ่
็
็
้
้
รับประทำนได้ มีสีขำว ครีม ชมพู หรืvแดง รสชำติเปรียว หรือเปรียวอมหวำน จนถึงหวำนสนิท
ุ
บำงพันธ์อำจมีรสขมปนบ้ำง
ประโยชน์ :
1. ทำงอำหำร บริโภคเนือผลสดเปนผลไม้ เปลือกชั้นกลำงน ำมำเชื่อมเปนของหวำน หรือน ำมำกวนปรุงรสเปนส้มโอสำมรสได้
้
็
็
็
2. ทำงสมุนไพร ใบ แก้ท้องอืดแนน ต ำพอกศีรษะแก้ปวดหัว ดอก ขับลม ขับเสมหะ
่
่
่
ผล ชวยขับเสมหะแนนท้อง จุกเสียด ไส้เลือน ต้มน ้ำอำบแก้คัน เมล็ด แก้ปวดท้อง รำก
แก้หวัด แก้ไอ ปวดกระเพำะอำหำร
ที่มำ: ส้มโอ (nakhonpathom.go.th)
17.หวำย
Family : Arecaceae (Palmae)
Subfamily : Lipidocaryoideae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: พืชในสกุลหวำยทุกชนิดมีลักษณะล ำต้นปนปำย มีทั้งล ำต้น
่
ี
่
่
เดี่ยวหรือเปนกอ ซึงหวำยต้นเดี่ยวเมือตัดล ำต้นแล้งจะไม่แตกต้น
็
่
ใหม่ ส่วนหวำยกอสำมำรถทยอยตัดได้ และมีกำรแตกต้นใหม่ทีตำ
่
ใกล้ซอกใบบริเวณโคนต้น ข้อที 2-3 หวำยบำงชนิด เชน Calamus
่
็
่
่
trachycoleus หนอทีแตกใหม่จะพัฒนำเปนไหลยำวได้มำกกว่ำ 3 เมตร
1. รำกหวำยมีระบบรำกแขนง และรำกฝอย ทีแตกรำกแขนงออกในแนวรำบ และแนวดิ่ง แตมักเจริญเปนรำกแขนงในแนวรำบ
่
่
็
่
่
ใกล้ผิวดิน และสำนกันแนน อำจแพรไกลได้ถึง 5-8 เมตร รอบล ำต้น
ู
่
2. ล ำต้นหวำยมีลักษณะกลม แตบำงชนิดมีรปทรงสำมเหลียม ขนำดล ำต้นเล็กจนถึงใหญ ขนำดตั้งแต 15 มิลลิเมตร จนถึง 10 เซนติเมตร ถูก
่
่
่
ห่อหุ้มด้วยกำบใบหรือกำบห้มล ำ ล ำต้นสงได้มำกกว่ำ 2 เมตร บริเวณโคนต้นใหญ และเรียวเล็กลงเรื่อยๆจนถึงปลำย ล ำต้นเปนปล้อง มีข้อ ต้น
ู
ุ
่
็
็
อ่อนมีสีขำวครีม ใช้น ำประกอบอำหำร มีรสฝำด และขมเล็กน้อย เมือแกจะเปลียนเปนสีเขียว และมีเส้นใยเหนียวแข็ง บำงชนิดมีมือเกำะ แทงออก
่
่
่
บริเวณส่วนข้อของล ำต้น ส่วนยอดอ่อนนิยมน ำมำปรุงเปนอำหำรได้เช่นกัน
็
3. ใบหวำยประกอบด้วย 3 ส่วน คือ กำบใบ (leaf sheath) ก้ำนใบ (rachis) และใบ (leaflet) แทงออกบริเวณ
• กำบใบหรือกำบห้มล ำ จะแทงออกบริเวณข้อ ห้มสลับทับเหลียมกันตลอดล ำต้นตอนบน เมือแกจะหลุดรวงทิงรอยแผลตำมข้อ กำบห้มล ำนีจะเปน
็
้
่
่
่
ุ
้
่
ุ
ุ
่
่
่
็
ุ
่
ส่วนโคนของใบ และเปนส่วนทีมีหนำมเกิดในลักษณะแตกตำงกันตำมพันธ์ ทั้งขนำด สี และกำรเรียงตัว ซึงช่วยในกำรจ ำแนกชนิดหวำยได้ แตหวำย
บำงชนิดอำจไม่มีหนำมบริเวณกำบใบ สวนบริเวณด้ำนในบริเวณตอนบนของโคนกำบใบจะมีเยื่อบำงๆทีเรียกว่ำ ocrea ซึงจะผุกรอนเมือใบแก และ
่
่
่
่
่
่
่
รวง บำงชนิดจะมี ocrea ทีเด่นชัดจำกกำรพองโตออกมำให้เห็น
่
• ก้ำนใบ ลักษณะก้ำนใบ และหนำมทีเกิดจะแตกตำงกันตำมพันธ์แตละชนิด บำงชนิดบริเวณกำบห้มล ำบริเวณด้ำนล่ำงของโคนกำบใบทีเปน ocrea
่
ุ
่
็
่
ุ
่
จะพองโตเปนสันนน เรียกว่ำ เข่ำ (knee) ทีเชื่อว่ำท ำหน้ำทีจัดเรียงตัวใบหวำยจำกแนวดิ่งมำส่แนวรำบ
็
ู
่
่
ู
4.ผลหวำยมีลักษณะเปนเกล็ดเรียงซ้อนกันในทิศปลำยผลมำฐำนผล แตผลหวำยบำงชนิดจะมีลักษณะเกร็ดแบบหนำมคล้ำยผลระก ำ สีของเปลือก
่
็
่
็
่
่
่
ผลมีหลำยสีตำมชนิดหวำย ผลอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน และเขียวเข้มเมือแก และเมือสุกจะเปลียนเปนได้หลำยสี เชน สีเหลือง สีแดง และสีขำว
้
่
แตกตำงกันตำมสำยพันธ์ เมือสุกจัดจะมีสีคล ้ำด ำ ขนำดผลมีตั้งแตเท่ำเมล็ดข้ำวโพดจนถึงเท่ำลกพุดทรำหรือเท่ำหัวแม่มือ และเปลือกผลเมือสุก
่
ู
ุ
่
่
้
ุ
็
สำมำรถรับประทำนได้ เนือมีรสหวำน ส่วนด้ำนในเปนเมล็ด อำจมีเมล็ดเดียวหรือบำงพันธ์มีได้ 2-3 เมล็ด/ผล ลักษณะเมล็ดคอนข้ำงกลม และ
่
แบนรี
ู
่
่
็
้
ประโยชน์: ยอดอ่อน ดอกอ่อน หนออ่อน น ำมำปรุงอำหำรได้หลำยเมน อำทิ แกงอ่อม แกงหวำย แกงจืด รวมถึงลวกเปนผักจิมน ้ำพริก เชน หวำย
็
โคก หวำยดง หวำยหำงหน หวำยนั่ง หวำยขม เปนต้น
ู
ทีมำ: หวาย และประโยชน์จากหวาย | พืชเกษตร.คอม (puechkaset.com)
่
18.ล ำไย
่
ื
่
ื
ชอสำมัญ หรือชอพื้นเมอง : ล ำไย (longan)
ื
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์ : Dimocarpus longan Lour.
วงศ์ : Sapindaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
่
ล ำต้น ล ำไยเปนไม้ยืนต้นทรงพุมแผกว้ำง มีตั้งแตขนำดกลำงจนถึงขนำดใหญ ต้นที่ปลกจ ำกเมล็ดมีล ำต้นสงตรง
่
ู
็
่
ู
่
ู
่
่
เมือปลกจำกกิ่งตอนมีทรงพุ่มแผกว้ำง เมือเจริญเติบโตเต็มสง 10-
่
ู
12 เมตร เปลือกล ำ สีน ้ำตำลหรือสีเทำปนน ้ำตำล แตกเปนสะเก็ด
็
และร่องขรุขระ กิ่งกลมและเนือไม้มักเปรำะท ำให้กิ่งหักง่ำย
้
่
็
ใบ ใบล ำไยเปนใบรวม ทีมีใบย่อยอย่บนก้ำนใบรวมกัน จ ำนวน 3-
่
ู
5 ค ก้ำนใบรวมยำวประมำณ 20-30 เซนติเมตร ใบย่อยจัดเรียง
ู่
ตัวในลักษณะตรงข้ำมหรือแบบสลับกัน ก้ำนใบย่อยยำว 4-6
ู
่
เซนติเมตร ใบย่อยเปนรปรีหรือรปหอก ใบกว้ำง 3-6 เซนติเมตรและยำว 10-15 เซนติเมตร ขอบใบเรียบไม่มีหยักและไม่ม้วน ใบเรียบหรือเปนคลืน
ู
็
็
้
็
เล็กน้อย ปลำยใบมักแหลมและฐำนใบคอนข้ำงปำน ด้ำนหลังใบมีสีเขียวเข้มเปนมันมำกกว่ำด้ำนท้องใบ เส้นแขนงแตกจำกเส้นกลำงใบ
่
่
่
่
ชอดอก ล ำไยออกดอกทีปลำยยอดทีเจริญเติบโตเต็มทีแล้ว โดยเปลียนจำกตำใบเปนตำดอก แตบำงครั้งชอดอกก็อำจเกิดจำกตำด้ำนข้ำงของกิ่งก็ได้
่
่
่
็
่
่
้
ุ
่
ตั้งแตเริ่มเห็นชอดอกด้วยตำเปล่ำจนก้ำนชอดอกพัฒนำจนยำวเต็มที่ใช้เวลำประมำณ 45-50 วัน ขึนกับพันธ์และสภำพแวดล้อม ชอดอกของล ำไย
่
่
็
เปนแบบ compound dichasia ทีจัดเรียงดอกแบบ panicle กล่ำวคือ แตกก้ำนดอกแขนงออกไปจำกก้ำนที่หนึงและแตละก้ำนย่อยนั้นแตกแขนง
่
่
่
่
่
ตออีกครั้ง ชอดอกยำว 15 – 50 เซนติเมตร ในแตละชอดอกมีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกไม่สมบูรณ์เพศ แตละชอดอกมีดอกประมำณ 3,000
่
่
่
่
้
ุ
ดอกขึนกับพันธ์และสภำพแวดล้อม
้
ู
ดอก ดอกมีสีครีมและเส้นผ่ำศนย์กลำง 6-8 มิลลิเมตร ก้ำนดอกยำว 1-2 มิลลิเมตร กลีบดอกมี 5 กลีบ บำงเรียวเล็ก สีขำวหม่นและเรียงตัวเยือง
่
่
่
กัน กลีบรองดอกมี 5 กลีบเชนกัน สีเขียวปนน ้ำตำล หนำและแข็ง ขนำดกว้ำงกว่ำกลีบดอก 3-5 เท่ำ ทีฐำนของกลีบรองดอกมีตอมน ้ำหวำน
่
็
่
่
ู
ผล ผลล ำไยเปนผลเดี่ยว ผลล ำไยมีรปรำงคอนข้ำงกลมหรือกลมแปน ขนำดของผลแตกตำงกัน เปลือกผลเจริญมำจำกผนังรังไข่และเริ่มพัฒนำไป
้
่
่
่
พร้อมๆกับเมล็ด ตอมำเมล็ดหยุดกำรพัฒนำแตเปลือกผลยังมีกำรพัฒนำตอตอจนเก็บเกี่ยวผลได้ เปลือกผลสีเหลืองปนน ้ำตำลหรือน ้ำตำลแดง แต ่
่
บำงพันธ์เชน เบียวเขียว อำจมีสีเขียวปน เปลือกผลอำจเปนตุมหรือคอนข้ำงเรียบ เนือของล ำไย (aril) พัฒนำมำจำกเนือเยือรอบๆ ก้ำนของเมล็ด
่
้
ุ
่
้
่
่
้
็
(funiculus) ขึนมำโอบจนรอบเมล็ด เนือล ำไยสีขำวขุ่นหรือสีชมพูเรื่อๆแตกตำงกันตำมพันธ์ ุ
้
้
่
ู
เมล็ด ลักษณะกลมหรือกลมแบน เปลือกเมล็ดสีน ้ำต ำลเข้มหรือสีด ำ เปนมัน ส่วนที่ติดกับขั้วเมล็ดมีวงกลมสีขำว ท ำให้ดคล้ำยกับลกนัยน์ตำและ
ู
็
เปนทีมำของค ำว่ำ ตำมังกร ขนำดเมล็ดตำงกันตำมพันธ์ ุ
่
็
่
ี
้
ประโยชน์ : เมล็ดแก้บำดแผลมีเลือดออก ห้ำมเลือด แก้ปวด สมำนแผล แก้แผลมีหนอง และแก้กลำกเกลือน ใบแก้ไข้หวัด แก้มำลำเรีย แก้ฝหัว
ู
ขำด แก้ริดสีดวงทวำร ดอกแก้โรคเกี่ยวกับหนองทั้งหลำย รำกใช้แก้เสมหะและลม ถ่ำยโลหิตออกทำงทวำรหนัก แก้ระดขำวมำกผิดปกติ ขับพยำธ ิ
เส้นด้ำย เปลือกต้นแก้เสมหะ ขับลมในล ำไส้ แก้จุกเสียด สมำนแผล แก้น ้ำลำยเหนียว
ที่มำ : https://www.doa.go.th/share/docs/longgan/botanycultivarlonggan.pdf
https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/407/%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A2/
19.แคขำว
ชอสำมัญ หรือชอพื้นเมอง : แคขำว, แคดอกขำว ดอกแคบ้ำน,
่
ื
ื
ื
่
ต้นแค หรือแค
ชอวิทยำศำสตร์ : Sesbania grandiflora (L.) Pers.
่
ื
วงศ์ : FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ส ำหรับต้นแคดอกขำวนั้นเปนไม้ยืนต้นทีแตกกิ่งก้ำนมำกโดยไม่เปนระเบียบ
็
็
่
้
็
ู
ซึ่งมีควำมสงของล ำต้นประมำณ 3 – 10 เมตร โดยเปลือกต้นมีสีน ้ำตำลอมเทำ เปนไม้เนืออ่อน เปลือก
ู
็
้
้
หนำและขรุขระ สำมำรถขึนได้ดีในเขตร้อนชืน โตเร็ว และสำมำรถปลกได้ทุกที่ ส่วนใบเปนใบแบบขนน
กออกเรียงสลับกัน ใบย่อยเล็กรปขอบขนำน ขอบเรียบ ปลำยมนกว้ำง มีสีเขียว และดอกแคจะคล้ำย
ู
็
่
่
็
ดอกถั่ว โดยออกเปนชอตำมซอกใบ มีกลินหอมสีขำว และผลจะเปนฝักกลมๆ ยำวๆ เมื่อแกฝักจะแตก
่
ออกเปน 2 ซีก น ำมำรับประทำนได้ ส่วนเมล็ดมีเยอะสีน ้ำตำล
็
ประโยชน์ :
่
่
ู
่
ใบ – ชวยในกำรแก้ไข้หวัดและถอนพิษไข้ แก้ไข้เปลียนฤด ตลอดจนชวยดับพิษ และถอนพิษ
ให้รสจืดมัน
่
่
ดอก – ชวยแก้อำกำรไข้เปลียนฤด ให้รสหวำนเย็น
ู
่
่
เปลือกต้น – ชวยในกำรคุมธำตุ แก้บิดมูกเลือด ตลอดจนชวยชะล้ำงบำดแผล และช่วยในกำรสมำนแผลทั้งภำยในและภำยนอก ให้รส
ฝำด
ที่มำ : https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1481&code_db=610010&code_type=01
20.พริกไทย
่
ื
ื
ชอสำมัญ หรือชอพื้นเมอง : พริกไทย
่
ื
ื
ชอวิทยำศำสตร์ : Piper nigrum L.
่
วงศ์ : PIPERACEAE
้
ู
็
่
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ต้นพริกไทยเปนต้นไม้ที่มีอำยุยืน จัดอยในประเภทไม้เลือย สง ู
ประมำณ 5 เมตร ลักษณะของล ำต้นจะเปนข้อ ๆ ลักษณะของใบพริกไทยจะมีสีเขียวสด ใบ
็
่
ใหญคล้ำยใบโพ สวนลักษณะของดอกพริกไทยจะมีขนำดเล็ก จะออกชอตรงข้อของล ำต้น มี
่
่
็
ู
่
่
ลักษณะเปนพวง ซึงจะมีเมล็ดกลม ๆ ติดกันอยเปนพวง มีถินก ำเนิดในประเทศอินเดีย
่
็
บริเวณเทือกเขำทำงภำคตะวันออกเฉยงใต้ ส ำหรับบ้ำนเรำพริกไทยถือเปนพืชเศรษฐกิจที ่
ี
็
ส ำคัญชนิดหนึง โดยนิยมปลกพริกไทยกันมำกในจังหวัดจันทบุรี ตรำด และระยอง
ู
่
่
ี
่
ประโยชน์ : เมล็ดพริกไทยมีสำรฟนอลิกและสำรพิเพอรีน ซึ่งชวยตอต้ำนอนมูลอิสระ เมล็ด
ุ
็
พริกไทยมีสำรพิเพอรีน (Piperine) ซึ่งเปนสำรอัลคำลอยด์ที่มีสวนชวยรักษำและปองกันกำร
่
่
้
่
ู
่
้
่
่
ู
่
เกิดโรคอัลไซเมอร์ในผ้สงอำยุได้ ชวยปองกันและตอต้ำนสำรกอมะเร็ง ชวยเรงกำรท ำงำนของ
่
ิ
้
ตับให้ท ำลำยสำรพิษได้มำกขึน เมล็ดพริกไทยมีฤทธ์ในกำรชวยกระตุ้นประสำท ชวยแก้โรค
่
้
ู
ู
่
่
ลมบ้ำหมูหรือลมชักได้ บ ำรุงธำตุในรำงกำย ท ำให้เจริญอำหำร ท ำให้ลินของผ้สงอำยุรับรสได้ดียิงขึน บรรเทำอำกำรนอนไม่หลับ ชวยเพิมควำม
่
้
่
อบอุนให้กับรำงกำยและเสริมภูมิต้ำนทำนไปด้วยในตัว แก้ตำแดงเนืองจำกควำมดันโลหิตสง ชวยระงับอำเจียน แก้อำกำรปวดฟัน ด้วยกำรใช้
่
่
ู
่
่
่
็
็
้
ิ
้
่
พริกไทย พริกหำง น ำมำบดเปนผงผสมยำขีผึง แล้วปั้นเปนก้อนเล็ก ๆ น ำมำใช้อุดฟันตรงบริเวณทีปวด ขับเสมหะ เปดคอให้โล่งขึน ชวยแก้เสมหะ
้
่
่
ในทรวงอก แก้ลมพรรดึก ชวยบรรเทำอำกำรและแก้อำกำรไอ หอบหืด สะอึก ช่วยแก้อติสำรหรืออำกำรลงแดง ชวยแก้อำกำรวิงเวียนศีรษะ ชวยแก้
่
่
้
หวัดและลดไข้ ชวยแก้ไข้เรือรัง ด้วยกำรใช้พริกไทยด ำ ใบบัวบกแห้ง ใบกะเพรำแห้ง อย่ำงละเท่ำ ๆ กัน น ำมำบดเปนผง ปั้นเปนเม็ดเล็ก ๆ กินครั้ง
็
็
่
่
่
ละ 1 เม็ด เช้ำและเย็น ชวยเพิ่มกำรไหลเวียนของโลหิต ชวยเพิ่มกำรสบฉดโลหิตเข้ำใจ พริกไทยด ำสำมำรถชวยละลำยลิมเลือดและลดกำรจับตัว
ี
่
ู
็
เปนก้อนได้ ชวยกระตุ้นกำรขับเหงือออกจำกรำงกำย เมือเหงือระเหยออกจำกผิวแล้ว จะชวยท ำให้รำงกำยร้สึกเย็นสบำยมำกยิ่งขึน พริกไทยด ำชวย
ู
่
่
่
่
้
่
่
่
่
่
่
่
รักษำโรคกระเพำะและล ำไส้ ชวยแก้อำกำรปวดมวนท้อง ชวยรักษำอำกำรท้องรวงอย่ำงรุนแรงและท้องเดินหลำย ๆ ครั้ง ชวยลดกำรเกิดก๊ำซใน
่
่
้
่
่
่
ระบบทำงเดินอำหำร จึงชวยแก้อำกำรจุกเสียด แนนท้อง ท้องอืดท้องเฟอ ชวยแก้ลมอัมพฤกษ์ ขับลมในกระเพำะ ชวยกระตุ้นกำรไหลของน ้ำลำย
และน ้ำย่อยในกระเพำะ ชวยในกำรย่อยอำหำร แก้อำกำรอำหำรไม่ย่อย ชวยย่อยสำรพิษตกค้ำงที่ไม่สำมำรถย่อยได้ ชวยท ำให้ระบบกำรย่อยอำหำร
่
่
่
่
้
้
็
ู
่
่
่
ท ำงำนได้ดีขึน ชวยบรรเทำหรือผ่อนคลำยอำกำรไม่สบำยจำกอำหำรเปนพิษจำกอำหำรทะเลและเนือสัตว์ตำง ๆ ชวยขับปัสสำวะ ชวยแก้ระดขำว ชวย
่
ู
่
่
่
่
็
แก้อำกำรอักเสบและโรคอื่น ๆ แก้ตะขำบกัด ด้วยกำรใช้ผงพริกไทยโรยบริเวณแผลทีถูกกัด ชวยรักษำอำกำรเมือยขบ เปนเหน็บชำง่ำยในชวงฤดฝน
หรือฤดหนำว โดยใช้พริกไทย น ้ำกะทิ และไข่ไก ตีให้เข้ำกันแล้วตุ๋นจนสก และน ำพริกไทยขำวเข้ำเครื่องยำกับเปลือกไข่ไก น ำไปผิงไฟให้เหลือง
่
ุ
่
ู
็
่
แล้วน ำมำบดเปนผงผสมกับน ้ำต้มสุก และยังชวยรักษำอำกำรชักจำกกำรขำดแคลเซียมได้อีกด้วย
ที่มำ : https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1742&code_db=610010&code_type=01
ู
21.ชรส
ผักไชยำหรือคะน้ำเม็กซิโก (Chaya)
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์: Cnidoscolus chayamansa McVaugh
ื
่
ชอท้องถิ่น: ผักไชย ผักชำยำ ผักโขมต้น ต้นผงชูรส ต้นมะละกอกินใบ หรือคะน้ำเม็กซิโก
วงศ์: EUPHORBIACEAE
่
็
ู
ี
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: เปนไม้พุม อำยุหลำยป ล ำต้นมีลักษณะอวบน ้ำ มีควำมสงของ
ล ำต้นประมำณ 2-6 ม. เปลือกล ำต้นเปนสีน ้ำตำลมีน ้ำยำงสีขำวอย่ภำยใน ลักษณะของใบ
ู
็
้
ิ
็
็
คล้ำยกับใบเมเปล ขอบใบแยกออกเปน 3-4 แฉก ดอกมีสีขำว ออกดอกเปนชอบริเวณ
่
่
่
็
ปลำยกิ่ง ในแตละชอประกอบไปด้วยดอกย่อยจ ำนวนมำก โดยทั่วไปมักตัดแตงเปนทรงพุ่ม
่
่
่
่
ให้มีควำมสงประมำณ 2 ม. เพือให้สะดวกตอกำรเก็บเกี่ยวคุณคำทำงโภชนำกำร คะน้ำ
ู
ู
เม็กซิโกเปนผักทีมีคุณคำทำงอำหำรสง ใบคะน้ำเม็กซิโก 100 ก. ประกอบด้วย น ้ำ 85.3%,
่
็
่
่
คำร์โบไฮเดรตรวม 4.2%, โปรตีน 5.7%, ไขมัน 0.4%, ใยอำหำร 1.9% มีแร่ธำตุตำงๆ เชน
่
แคลเซียม 199.4 มก., โพแทสเซียม 217.2 มก., ฟอสฟอรัส 39.0 มก., เหล็ก 11.4 มก. มี
้
วิตำมิน เช่น วิตำมินซี 164.7 มก. และวิตำมินเอ 0.085 มก. นอกจำกนียังมีกำรรำยงำนว่ำ
็
คะน้ำเม็กซิโกเปนผักทีมีคุณคำทำงอำหำรสงกว่ำผักใบเขียวอื่นๆ 2-3 เท่ำ
่
ู
่
ที่มำ: ผักไชยา – สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (adeq.or.th)
22.ตะไคร้
ชอสำมัญ : Lemon grass, Oil grass
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์ : Cymbopogon citratus
่
ื
่
ื
ชอวงศ์ : GRAMINEAE หรือ POACEAE
ื
ื
ชอพื้นเมอง : จะไคร (ภำคเหนือ), ไคร (ภำคใต้), คำหอม (แม่ฮองสอน), เชิด
่
่
่
เกรย, เหลอะเกรย (เขมร-สรินทร์), ห่อวอตะโป (กะเหรี่ยง-แม่ฮองสอน)
ุ
่
ู
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ตะไคร้เปนพืชสมุนไพร ประเภทพืชล้มลุก ตระกล
็
หญ้ำ ทีเจริญเติบโตง่ำย นิยมน ำมำประกอบอำหำร มีถินก ำเนิด ในประเทศไทย
่
่
็
อินโดนีเซีย พม่ำ ศรีลังกำ อินเดีย และโซนทวีปอเมริกำใต้ ต้นจะมีลักษณะเปน
พุ่มโดยรวมสงประมำณ 4-6 ฟุต ในไทยเองบำงครั้งพบตะไคร้สงเปนเมตร แตล ำต้นทีแท้จริงสง 5-6 เซนติเมตร เท่ำนั้น
่
่
ู
ู
ู
็
ตะไคร้บริเวณโคนจะออกสีขำวนวล เรียกว่ำ “หัว” ส่วนใบเปนใบเดี่ยว ลักษณะเรียวยำว ปลำยใบแคบแหลม และมีขนหนำม เส้นใบ
็
็
ขนำนกับก้ำนใบ แตกออกเปนกอ ยำว 30-60 เซนติเมตร กว้ำงประมำณ 1-2 เซนติเมตร ผิวใบด้ำนบนระคำยมือเล็กน้อย ส่วนด้ำนล่ำงและบริเวณ
็
่
ขอบใบจะเรียบ ตัวใบจะอุดมไปด้วยน ้ำมันหอมระเหย และโดยรวมตะไคร้ยังมีวิตำมิน และแร่ธำตุทีเปนประโยชน์ อำทิ ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก
็
วิตำมินเอ เปนต้น
่
่
คนทั่วไปมักคิดว่ำตะไคร้มีแค 1 – 2 สำยพันธ์ คือ ตะไคร้ธรรมดำทีไว้ประกอบอำหำร และตะไคร้หอมเท่ำนั้น แตแท้จริงแล้ว ตะไคร้มี
่
่
ถึง 6 สำยพันธ์ ได้แก ตะไคร้กอ ตะไคร้หอม ตะไคร้ต้น ตะไคร้น ้ำ ตะไคร้หำงสิงห์ ตะไคร้หำงนำค
สรรพคุณ:นอกจำกใช้ส่วนของเหง้ำและล ำต้นแก ในกำรประกอบอำหำร เชน ต้มย ำ และอำหำรไทยหลำยชนิด เพือให้กลินหอม และเพิมสรรพคุณ
่
่
่
่
่
็
ทำงยำ ยังสำมำรถจ ำแนกสรรพคุณเปนส่วนๆ ได้อีกดังนี ้
่
่
่
ใช้ทั้งต้น : บ ำรุงสมอง ชวยให้สมำธิดี แก้ปวดท้อง ขับปัสสำวะ รักษำหืด ถ้ำใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่นจะชวย บ ำรุงธำตุ เจริญอำหำร และขับเหงือ
่
็
็
้
หัว : เปนยำรักษำเกลือน แก้ท้องอืดท้องเฟอ แก้ปัสสำวะพิกำร แก้นิ่ว บ ำรุงไฟธำตุ แก้อำกำรขัดเบำ ถ้ำใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะเปนยำแก้
้
ู
อำเจียน แก้ทรำง ยำนอนหลับลดควำมดันสง แก้ลมอัมพำต แก้กษัยเส้น และแก้ลมใบ ใบสด ๆ จะชวยลดควำมดันโลหิตสง แก้ไข้
ู
่
็
รำก : ใช้เปนยำแก้ท้องเสียและปวดท้อง
่
ู
ใบ : ชวยรักษำอำกำรไข้ และควำมดันโลหิตสง
ต้น : โดยทั่วไปใช้แก้อำกำรเบืออำหำร และขับลม เปนยำบ ำรุงธำตุไฟ แก้โรคนิ่ว และโรคทำงเดินปัสสำวะ ซึงถ้ำเอำผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะแก้
่
่
็
โรคหนองใน และดับกลินคำว แตถ้ำใช้ต้นสดๆ น ำมำโขลกคั้นเอำน ้ำดื่มแก้อำกำรเมำของผ้เมำมำกๆ จะชวยให้สรำงเร็ว
ู
่
่
่
่
่
่
้
่
น ้ำมัน : มีฤทธ์ในกำรต้ำนเชือรำ มีสวนชวยปองกันมะเร็งล ำไส้ใหญ ลดกำรบีบตัวของล ำไส้ ใช้ทำบรรเทำอำกำรปวด และยังใช้กลินไล่สุนัขและแมว
้
่
ิ
ได้อีกด้วยที่มำ: http://www.thaichef.in.th/mobile/article_herbdetail.php?aid=7
23.ผักเม็ก
่
ื
ชอสมุนไพร: เม็ก
ชออืนๆ: ไคร้เม็ด (เชียงใหม่ ภำคกลำง) เม็ก (ตะวันออก ตะวันออกเฉยงเหนือ) เสม็ดแดง เสม็ดชุน เสม็ด (สกลนคร สตูล) เสม็ดขำว
่
ี
ื
่
เสม็ดเขำ (ตรำด) เม็ดชุน(นครศรีธรรมรำช) ขะเม็ก
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์: Syzygium gratum (Wight) S.N.Mitra var. gratum
ื
่
ชอวงศ์: Myrtaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ไม้ต้น สงได้ถึง 20 เมตร กิ่งเปนสันสีเหลียม ล ำต้นสีน ้ำตำลแดง เปลือกบำง ซ้อนกันหลำยๆชั้น แตกกิ่ง
ู
่
็
่
ก้ำนมำก ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ำม รปไข่ รปรีถึงรปใบหอก หรือรปไข่ กว้ำง2.5-4 เซนติเมตร ยำว 6-8 เซนติเมตร ปลำยใบแหลม โคนใบแหลมหรือ
ู
ู
ู
ู
่
มน ขอบใบเรียบ ใบแกผิวด้ำนบนเกลียงมันวำว ใบอ่อนสีน ้ำตำลปนชมพู ผิวใบด้ำนล่ำงเกลียง มีจุดโปรงแสงหนำแนน ดอกชอ แบบชอแยกแขนง
่
้
่
่
่
้
ู
้
ยำว 1.5-3 เซนติเมตร ออกทีซอกใบและปลำยยอด ดอกย่อยสีขำว ไม่มีก้ำนดอก ฐำนดอกรปถ้วย ทรงรปกรวยแกมทรงกระบอก กลีบเลียง 5
่
ู
ู
ู
่
กลีบ รปสำมเหลียม กลีบดอก 5 กลีบ แยกกัน สีขำว รปเกือบกลม สีเหลืองอ่อน เกสรเพศผ้จ ำนวนมำก เกสรเพศเมียมีรังไข่ขนละเอียด อย่ใต้วง
ู
ู
กลีบ ผลสด ทรงกลม สีขำว ฐำนผลนนออกมำและบุ๋ม กระจำยพันธ์แถบปำผลัดใบ และริมล ำธำร ออกดอกช่วงเดือน เมษำยน ถึงพฤษภำคม ยอด
่
ุ
ู
อ่อนรับประทำนเปนผักได้
็
ที่มำ: http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=98
24.มะละกอ
ชอวิทยำศำสตร์ : Carica papaya L.
่
ื
ื
่
ชอวงศ์ : CARICACEAE
ชอท้องถิ่น : มะก้วยเทศ (ภำคเหนือ) หมักหุ่ง (ลำว,
่
ื
นครรำชสีมำ,เลย) ลอกอ (ภำคใต้) กล้วยลำ (ยะลำ)
แตงต้น (สตูล)
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ล ำต้น ไม้ล้มลุก ล ำต้นสง ู
ประมำณ 3-6 เซนติเมตร เส้นรอบวง 18-20
เซนติเมตร ล ำต้นสีน ้ำตำลออกขำว ผิวล ำต้นเรียบ
ใบ ใบเดี่ยว กำรเรียงตัวของเส้นใบรำงแหแบบ
่
่
ู
้
่
ู
นิวมือ ใบรปฝำมือ ปลำยใบแหลม โคนใบรปเงียงใบ
้
้
หอก ขอบใบแฉกแบบนิวมือ เนือใบคล้ำยกระดำษ ใบ
้
เรียงแบบเรียงตรงข้ำมสลับตั้งฉำก ด้ำนบนแผ่นใบเกลียง ใบด้ำนบนสีเขียวเข้ม ท้องใบสีเขียว ใบ
่
อ่อนสีเขียวอ่อน ใบแกสีเขียวเหลือง ใบกว้ำงประมำณ 25-60 เซนติเมตร ยำวประมำณ 36-72 เซนติเมตร
่
ู
ู
่
ู
ดอก ดอกชอกระจุก ดอกเพศผ้และเพศเมียอย่ตำงต้นกัน ดอกเพศผ้ กลีบดอกในตำ
ู
ดอกเรียงเวียน ดอกสมมำตรตำมรัศมี วงกลีบดอกเชื่อมติดกันรปดอกเข็ม กลีบดอกสีขำว กลีบ
้
ู
ดอก 5 กลีบ กลีบเลียง 5 กลีบ เกสรตัวผ้ 5 อัน ดอกเพศเมีย กลีบดอกในตำดอกเรียงเวียน
ดอกสมมำตรตำมรัศมี กลีบดอกแยกจำกกัน กลีบดอกสีขำวเหลือง กลีบดอก 5 กลีบ กลีบ
้
เลียง 5 กลีบ เกสรตัวเมีย 5 อัน
้
่
ผล ผลสด ผลมีเนือหลำยเมล็ด ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีส้มเหลือง ผลแกสีส้ม
ู
ุ
เมล็ด เมล็ดมีจ ำนวนมำก รปไข่ สีน ้ำตำล ผิวขรุขระ มีถุงเมือกหุ้มกำรขยำยพันธ์โดย กำรเพำะเมล็ด
็
กำรใช้ประโยชน์: รำกขับปัสสำวะ, ผลสุกเปนยำแก้โรคเลือดออกตำมไรฟัน และเปนยำระบำย
็
ที่มำ: http://srdi.yru.ac.th/bcqy/page/207/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD.html
25.แก้วมังกร
ชอทำงวิทยำศำสตร์: Hylocereus undatus
ื
่
่
็
ุ
แก้วมังกร เปนผลไม้ทีน ำพันธ์มำจำกประเทศเวียดนำม คนเวียดนำมเรียกว่ำ ธำนห์ลอง กัมพูชำเรียกว่ำ สกรำเนียะ มี
่
ชื่อสำมัญว่ำ Dragon fruit ชื่อวิทยำศำสตร์ว่ำ Hylocereus undatus (Haw) Britt. & Rose. ถินก ำเนินของแก้ว
มังกรอย่ในทวีปอเมิรกำกลำง แถบหมู่เกำะเวสต์อินดีส โคลอมเบีย กัวเตมำลำ และเวเนซเอล่ำ สันนิษฐำนว่ำแก้วมังกร
ู
ู
เข้ำมำในเอเชียโดยบำทหลวงชำวฝรั่งเศสทีน ำพืชพันธ์ นีมำจำกอเมริกำรกลำงมำปลกในเวียดนำมเปนระยะเวำลำไม่
็
่
ุ
้
ู
ู
่
ู
่
็
น้อยกว่ำหนึงศตวรรษ ทีเวียดนำมปลกันมำกจนชำวเวียดนำมถือว่ำเปนผลไม้ท้องถิน มีกำรปลกเปนไม้ผลหลังบ้ำน
่
็
และปลกเปนสวนขนำดเล็ก ขนำดใหญ ตำมสภำพดินทีมีอย บริเวณทีปลูกกันมำกคือ แถบชำยฝั่งทะเลตะวันออกจำก
่
ู
ู
่
็
่
ู
ู
เมืองนำตรังทำงเหนือลงไปทำงใต้ถึงนครโฮจิมินห์ ส่วนในเมืองไทยนั้น มีผ้น ำแก้วมังกรเข้ำมำปลกเปนเวลำนำน
็
็
่
่
มำกกว่ำกึ่งศตวรรำแล้ว แตไม่เปนทีร้จักเมือรำว พ.ศ. 2534 เพิงมีกำรน ำต้นพันธ์ดีจำกประเทศเวียดนำมเข้ำมำปลก
ุ
ู
่
ู
่
่
็
เพือเปนผลไม้เศรษฐกิจ
ู
่
ู
็
็
แก้วมังกรเปนไม้ในตระกลกระบองเพชร ล ำต้นเปนแฉก 3 แฉก คล้ำยครับมังกร มีหนำมเปนกระจุกอย่ทีตำ 4-5 หนำม ล ำต้นเดียว แผ่
็
่
ู
็
ก้ำนออกไปรอบ ๆ ต้องมีค้ำงคอยพยุง ดอกสีขำว เปนรปทรงกรวยขนำดใหญ มีกลีบยำวเรียวทับซ้อนกัน บำนในเวลำกลำงคือ จึงมีชื่อเรียกว่ำ
็
ู
่
ู
moonflower หรือ lady ot the night หรือ queen of the night ผลแก้วมังกรเมือดิบผิวเปลือกเปนสีเขยว รปทรงกลมรี ขนำดเส้นผ่ำศนย์กลำง
่
ู
้
้
ผล 6-10 ซม. มีกลีบเลียงติดอย่ตำมเปลือกผล เมือสุกผิวเปลือกเปลียนเปนสีแดงอมชมพู เนือในมีทั้งสีแดงและสีขำวขุ่น มีเมล็ดเล็ก ๆ สีด ำคล้ำย
่
่
เมล็ดแมงลักกระจำยทั่วทั้งผล ปลกได้ทุกภำคทั่วประเทศ แต่แหล่งทีมีกำรปลกมำกอย่ทีจังหวัดจันทบุรี ชลบุรี กำญจนบุรี สระบุรีและ
่
ู
ู
ู
สมุทรสงครำม แก้วมังกรมีหลำยพันธ์ด้วยกัน ดังนี ้
ุ
o แก้วมังกรพันธ์เนือขำวเปลือกแดง ผลทรงกลมรีผิวเปลือกสีชมพูสด มีกลีบสีเขียวตำมผิวเปลือก เนือสีขำวมีเมล็ดสีด ำแทรกอย่ในเนือ
ู
ุ
้
้
้
่
รสชำติหวำนนิด ๆ อมเปรียวหนอย ๆ บำงผลก็หวำนจัด แล้วแตลก
้
่
ู
่
็
ุ
้
้
o แก้วมังกรพันธ์เนือขำวเปลือกเหลือง ผลเปนรปไข่ ขนำดเล็กกว่ำทุกพันธ์ เปลือกหนำสีเหลือง เนือสีขำว เมล็ดสีด ำมีขนำดใหญและ
ุ
ู
ุ
ปริมำณน้อยกว่ำพันธ์อื่น ๆ รสชำติหวำน
ุ
o แก้วมังกรพันธ์เนือแดงเปลือกแดง เปนพันธ์ทีผสมขึนมำใหม่จำกไต้หวัน ผลเปนทรงกลม เปลือกสีแดงจัด ผลขนำดเล็กกว่ำพันธ์เนือ
่
้
็
้
ุ
ุ
็
้
ู
ุ
้
ขำวเปลือกแดง เนือสีแดงจัด มีเมล็ดสีด ำขนำดเล็กกระจำยอย่ทั่ว รสชำติหวำนกว่ำพันธ์เนือขำวเปลือกแดง
้
็
แก้วมังกรในประเทศไทยมีผลดกชวงเดือนมีนำคมถึงพฤษศจิกำยน แตก็มีผลประปรำยตลอดทั้งป มักกินเปนผลไม้สด หรือกินรวมกับ
่
ี
่
็
้
็
้
ผลไม้อื่นเปนฟรุตสลัด หรือน ำไปปั่นเปนน ้ำแก้วมังกร เพรำะเนือเยอะฉ ่ำน ้ำ รสหวำนอ่อนๆ อมเปรียวนิดๆ ส่วนแก้วมังกรแดงรสจะหวำนจัดกว่ำ
เล็กน้อย
คุณค่ำทำงโภชนำกำรและสรรพคุณ:แก้วมังกร มีสำรอำหำรหลำยชนิด เชน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม วิตำมินซี
่
้
ู
และมีเส้นใย มีสรรพคุณช่วยลดโคเลสเตอรอล ปองกันกำรอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ลดควำมดันโลหิต ควบคุมน ้ำหนัก แก้ท้องผก ปองกัน
้
่
่
้
่
มะเร็งส ำไส้ใหญและชวยท ำให้ผิวชุมชืน
ที่มำ: Untitled Document (ku.ac.th)
26.มะพร้ำว
ื
่
ชอท้องถิ่น: หมำกอุ๋น หมำกอูน คอส่ำ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ดุง (ชอง-จันทบุรี) โพล
(กะเหรี่ยง-กำญจนบุรี) ย่อ (มลำย-ภำคใต้) โดง (สุรินทร์)
ู
ชอวิทยำศำสตร์: Cocos nucifera Linn.
่
ื
วงศ์: PALMAE
ื
ชอสำมัญ: Coconut
่
ู
็
็
ลักษณะ: เปนไม้ตระกูลปำล์ม ล ำต้นสงเปนปล้อง ใบแตกออกที่ยอดเปนทำงยำวและมีใบย่อยแตกออกสองข้ำง ใบเล็กยำวเชนเดียวกันกับต้นตำล
็
่
่
ื
่
่
็
ี
ี
็
็
ดอกสีขำวนวลเปนพวง เปนฝอยเล็กๆ เหมอนจั่นหมำก เรียกวำจั่นมะพร้ำว ผลออกเปนทะลำย ผลอ่อนจะมสีขำว พอผลโตขึ้นก็เริมมสีเขียว เมือ
่
็
ผลแกเปลือกนอกจะเปนสีเทำหรือสีน้ำตำล
กำรขยำยพันธุ์: ใช้ผลแก่เพำะเปนต้นอ่อนสงประมำณ 0.5-1 เมตร จึงนำไปปลกในหลุมทเตรียมไว้ มะพร้ำวเปนไม้ปลกง่ำย ขึ้นได้ในดนธรรมดำ
็
็
ิ
ู
่
ู
ี
ู
ู
มีอย่ทุกภำคของประเทศไทย
ื
็
ี
่
ส่วนที่ใช้เปนยำ: เปลือกต้น รำก น้ำหวำนทได้จำกชอดอก ผลอ่อน น้ำมะพร้ำวอ่อน เน้อมะพร้ำว น้ำมันมะพร้ำว น้ำมันทได้จำกกำรเผำกะลำ สำร
่
ี
่
สีน้ำตำลใต้ใบ เปลือกหุ้มรำกมะพร้ำว
ี
สำรเคมีและสำรอำหำรที่ส ำคัญ น้ำมันทได้จำกกำรเผำกะลำ มสำรจ ำพวกฟนอลอยจ ำนวนมำก
ี
ู
่
ี
่
ที่มำ: https://www.tungsong.com/samunpai/drug/47_Coconut/coconut.htm
27.มะนำว
่
ชอวิทยำศำสตร์ : Citrus aurantifolia (Christm.) Swingle
ื
ื
ชอสำมัญ : Common lime
่
วงศ์ : Rutaceae
ื
ชออืน : ส้มมะนำว มะลิว (ภำคเหนือ)
่
่
ู
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ไม้พุ่ม สง 2-4 เมตร กิ่งอ่อนมีหนำมแหลม
็
เปลือกต้นเรียบ สีน ้ำตำลปนเทำ ใบ เปนใบประกอบ ออกเรียงสลับ มีใบย่อย
ใบเดียว รปไข่หรือรปรียำว กว้ำง 3-5 ซม. ยำว4-8 ซม. ปลำยใบแหลม โคนใบ
ู
ู
็
ู
่
่
ี
มนมีปกแคบๆ ขอบใบหยัก แผ่นใบมีตอมน ้ำมันกระจำยอย่ตำมผิวใบ ดอก ออกเปนชอสั้น 5-7 ดอก หรือออกดอกเดี่ยวตำมซอกใบ ทีปลำยกิ่ง
่
้
ดอกสีขำว กลีบดอกมี 4-5 กลีบ หลุดรวงง่ำย ผล รปทรงกลม ผิวเรียบเกลียง ผลอ่อนสีเขียวเข้ม พอแกเปนสีเหลือง ข้ำงในแบ่งเปนห้องแบบรัศมี
็
็
่
่
ู
มีรสเปรียว เมล็ดกลมรี สีขำว มี 10-15 เมล็ด
้
ส่วนที่ใช้ : น ้ำมันจำกผิวของผลสด น ้ำคั้นจำกผลมะนำว
่
้
สรรพคุณ : น ้ำมันจำกผิวมะนำว ใช้เปนยำขับลม แก้ท้องอืดเฟอ แนนจุกเสียด แตงกลิน น ้ำคั้นจำกผลมะนำว รักษำอำกำรเจ็บคอ แก้ไอ ขับเสมหะ
่
่
็
ิ
และรักษำโรคลักปดลักเปดซึงเกิดจำกกำรขำดวิตำมินซี
่
ิ
วิธีและปริมำณที่ใช้ :
1. ใช้ผิวมะนำวแห้ง 10-15 กรัม ต้มน ้ำรับประทำน
2. ใช้น ้ำมะนำว 1 ถ้วยชำ ผสมน ้ำตำลทรำย 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือเล็กน้อย ชงน ้ำอุ่นจิบบ่อยๆ
สำรเคมี : ผิวมะนำวมี น ้ำมันหอมระเหย ประกอบด้วย d-limonene, linalool, terpineol และ flavonoids
ที่มำ: http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_15_3.htm
28.สับปะรด
ชอวิทยำศำสตร์ : Ananas comosus (L.) Merr.
ชอสำมัญ : Pineapple
ื
่
ื
่
วงศ์ : Bromeliaceae
่
่
ื
ชออืน : แนะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮองสอน) ขนนทอง ยำนัด ย่ำนนัด (ใต้) บ่อนัด (เชียงใหม่) เนะซะ (กะเหรี่ยงตำก) ม้ำเนือ (เขมร) มะขะนัด มะนัด
่
ุ
่
่
(เหนือ) หมำกเก็ง (เงียว-แม่ฮองสอน) สับปะรด (กรุงเทพฯ) ลิงทอง (เพชรบูรณ์)
้
ู
็
่
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ไม้ล้มลุกอำยุหลสบปร สง 90-100 ซม. ล ำต้นใต้ดิน ปล้องสั้น ไม่แตกกิ่งก้ำนมีแตกำบใบห่อหุ้มล ำต้น ใบ เปนใบเดี่ยว
็
่
ออกเรียงเวียนถี ไม่มีก้ำนใบ ใบเรียวยำว โคนใบเปนกำบห้มล ำต้น ปลำยแหลม ขอบใบมีหนำม แผ่นใบสีเขียวเข้มและเปนทำงสีแดง ด้ำนล่ำงมีนวล
ุ
็
่
้
็
่
่
แปงสีขำว ดอก ออกเปนชอทีปลำยยอด ดอกเรียงอัดกันแนนรอบแกนชอดอก ก้ำนชอใหญแข็งแรง กลีบดอก 3 กลีบ ด้ำนบนสีชมพูอมม่วง
่
่
่
่
ด้ำนล่ำงสีขำว เกสรเพศผ้ 6 อัน เรียบกัน 2 ชั้น ผล เปนผลรวมรปรี โคนกว้ำง ปลำยสอบ มีใบสั้นเปนกระจุกทีปลำยผล เรียกว่ำตะเกียง ผลสุกสี
็
็
ู
ู
เหลืองสดและฉ ่ำน ้ำ
่
ส่วนทีใช้ : รำก หนำม ใบสด ผลดิบ ผลสุก ไส้กลำงสับปะรด เปลือก จุก แขนง ยอดอ่อนสับปะรด
สรรพคุณ :รำก - แก้นิ่ว ขับปัสสำวะ แก้กระษัย ท ำให้ไตมีสุขภำพดี แก้หนองใน แก้มุตกิดระดูขำว แก้ขัดข้อ
หนำม - แก้พิษฝตำงๆ แก้ไข้ ลดควำมร้อน ไข้พำ ไข้กำฬ
่
ี
ใบสด - เปนยำถ่ำย ฆำพยำธิในท้อง ยำขับปัสสำวะ แก้กระษัย
็
่
่
ผลดิบ - ใช้ห้ำมโลหิต แก้โรคทำงเดินปัสสำวะ ฆำพยำธิ และขับระด ู
่
่
ผลสุก - ขับปัสสำวะ ขับเหงือ และบ ำรุงก ำลัง ชวยย่อยอำหำร แก้หนองใน มุตกิด กัดเสมหะ
ในล ำคอ
ไส้กลำงสับปะรด - แก้ขัดเบำ
ุ
เปลือก - ขับปัสสำวะ แก้กระษัย ท ำให้ไตมีสขภำพดี
จุก - ขับปัสสำวะ แก้นิ่ว แก้หนองใน มุตกิดระดขำว
ู
่
แขนง - แก้โรคนิว
ยอดอ่อนสับปะรด - แก้นิ่ว
วิธีและปริมำณทีใช้ : แก้อำกำรขัดเบำ ชวยขับปัสสำวะ ใช้เหง้ำสดหรือแห้งวันละ 1 กอบมือ (สดหนัก 200-250 กรัม แห้งหนัก 90-100 กรัม) ต้ม
่
่
กับน ้ำดื่ม ครั้งละ 1 ถ้วยชำ (75 มิลลิลิตร) วันละ 3 ครั้ง กอนอำหำร
่
่
่
่
่
็
คุณคำด้ำนอำหำร : สับปะรด รับประทำนเปนผลไม้ มีแร่ธำตุและวิตำมินทีเปนประโยชน์ตอรำงกำย
็
สำรเคมี :เหง้ำ มี Protein
ล ำต้น มี Bromelain, Peroxidase, Amylase, Proteinase
ใบ มี Hemicellulose, Bromelain, Campestanol
ผล มี Acetaldehyde, Ethyl acetate, Acetone
น ้ำมันหอมระเหย มี Isobutanol
ที่มำ: http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_12_5.htm
29.ชะมวง
ื
่
ชอสมุนไพร: ชะมวง
่
ื
่
ชออืนๆ: หมำกโมง (อุดรธำนี), กะมวง (ใต้), ส้มมวง (นครศรีธรรมรำช) ส้มโมง
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์: Garcinia cowa Roxb. ex Choisy
ชอพ้อง: Cambogia crassifolia Blanco, Garcinia cornea Roxb. ex Sm., G.
ื
่
roxburghii Wight, G. wallichii Choisy, Oxycarpus gangetica
ชอวงศ์Clusiaceae
ื
่
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ไม้ยืนต้น ขนำดเล็กถึงกลำง สง 15-30 เมตร ไม่ผลัดใบ
ู
็
ู
็
ู
ทรงพุ่มเปนรปกรวยคว ่ำทรงสง เปลือกสีน ้ำตำลปนเทำ แตกเปนสะเก็ด มีน ้ำยำงสี
ู
เหลือง ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ำมสลับตั้งฉำก รปวงรีแกมใบหอกหรือรปขอบขนำน กว้ำง 2-
ู
้
3.5 เซนติเมตร ยำว 7-15 เซนติเมตร ปลำยใบปำนหรือแหลมเล็กน้อย ฐำนใบสอบ
้
แหลม ขอบใบเรียบ เนือใบหนำและแข็งเปรำะ ก้ำนใบสีแดงยำว 0.5-1 เซนติเมตร ผิว
ใบเปนมัน ใบอ่อนสีเขียวอ่อนหรือ
็
เขียวอมม่วงแดง ใบแกสีเขียวเข้ม
่
บริเวณปลำยกิ่งมักแตกเปน 1-3
็
่
ยอด เส้นใบไม่ชัด แตด้ำนหลังของ
ู
ู
็
ใบเห็นเส้นกลำง ดอกแยกเพศ อย่คนละต้น ดอกตัวผ้ออกตำมกิ่งเปนกระจุก ดอกย่อย 3-8
ู
ู
ู
็
่
ดอก เกสรตัวผ้มีจ ำนวนมำกเรียงกันเปนรปสีเหลียม กลีบดอกสีเหลือง 4 กลีบ รปรี แข็งหนำ มี
่
่
ู
็
ู
ู
กลินหอม กลีบเลียง 4 กลีบ รปรีแกมรปขอบขนำน ปลำยกลีบกลม เส้นผ่ำนศนย์กลำงดอก 2-2.5 เซนติเมตร ดอกตัวเมียเปนดอกเดี่ยว ดอกมี
้
็
ขนำดใหญกว่ำเล็กน้อย มีปลำยเกสรเปน 4-8 เหลียม เกสรเพศเมียออกปลำยกิ่ง เกสรเพศผ้เทียมเรียงอย่รอบๆรังไข่ ก้ำนเกสรติดกันเปนกล่มๆ
็
ุ
ู
ู
่
่
ปลำยก้ำนมีตอม 1 ตอม ผลสด รปกลมแปน ผิวเรียบ ขนำด 2.5-6 เซนติเมตร เมือสุกสีเหลืองแกมส้มหม่น มีรองตืนๆ 5-8 รอง ด้ำนบนปลำยบ๋ม
้
่
่
่
่
ุ
่
้
ู
และมีชั้นกลีบเลียง 4-8 แฉกติดอย่ เนือหนำ สีเหลือง มีรสฝำด มีเมล็ดขนำดใหญ 4-6 เมล็ด
้
ู
้
่
็
รปรี หนำ เรียงตัวกันเปนวงรอบผล พบทั่วไปในปำชืนระดับต ่ำ มีควำมทนตอควำมแห้งแล้งได้
่
้
่
ู
่
่
ู
ดีกว่ำพืชชนิดอื่นๆในจีนัสเดียวกัน พบตำมปำทีระดับควำมสง 600 เมตร จำกระดับน ้ำทะเล
ออกดอกรำวเดือนกุมภำพันธ์ถึงเมษำยน ติดผลรำวเดือนพฤษภำคมถึงมิถุนำยน ใบมีรสเปรียว
้
็
น ำมำใส่แกง ปรุงอำหำร หรือกินเปนผักสด ผลเมือสุกรับประทำนได้ มีรสเปรียว แตมียำงมำกท ำ
้
่
่
ให้ติดฟัน
ที่มำ: http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=219
30.ผักกำดเขียวปลี
ื
ชอวิทยำศำสตร์ : Brassica juncea(L.) Czern.
่
วงศ์: CRUCIFERAE, BRASSICACEAE
็
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: เปนพืชปเดียว และสองปไม่มีเนือไม้ ล ำ
้
ี
ี
ต้นตั้งตรง สง 30-60 เซนติเมตร ไม่มีกำรแตกกิ่งก้ำนสำขำ ล ำต้น
ู
คอนข้ำงเรียบ มีนวลจับ ระบบรำกเปนแบบรำกแก้ว ใบมีรปรำงและ
่
ู
่
็
่
ขนำดแตกตำงกันไป ขอบใบเรียบหรือหยักเว้ำแบบขนนก มีก้ำนใบ
ใบสีเขียวอ่อนจนถึงสีเขียวเข้ม อำจมีขนหรือไม่มีขน มีกำรห่อของปลี
ุ
่
้
หรือไม่มีขึนกับพันธ์ ชอดอกแบบชอเชิงหลั่น ดอกย่อยบำนจำก
่
่
้
ด้ำนล่ำงขึนไปยังด้ำนบน มีดอกย่อยจ ำนวนมำก ชอดอกยำวได้ถึง
็
60 เซนติเมตร ดอกเปนดอกสมบูรณ์เพศ ก้ำนดอกย่อยยำว 5-12
ู
มิลลิเมตร กลีบเลียงมี 4 กลีบ รปขอบขนำน ยำว 4-6 มิลลิเมตร สีเขียว กลีบดอกสีเหลืองสดมี 4 กลีบ มีลักษณะโค้ง รปไข่กลับ ยำว 6-10
ู
้
่
มิลลิเมตร มีเกสรเพศผ้ 6 อัน ยำวสีอันสั้นสองอัน เกสรเพศเมียมีลักษณะกลม ผลแตกแบบผักกำด ยำว 25-75 มิลลิเมตร กว้ำง 2-3.5 มิลลิเมตร
ู
ผลยำวตรง มีลักษณะพองและมีรอยคอด ปลำยสอบเรียวหรืออำจเปนจะงอยรปกรวย ผลแตกเมือแกจัด มี 10-20 เมล็ด เมล็ดกลมสีน ้ำตำลจนถึง
ู
็
่
่
สีเทำด ำ เส้นผ่ำศนย์กลำง 1-1.5 มิลลิเมตร มีรอยรำงแหละเอียดบนเปลือกเมล็ด
ู
่
่
คุณค่ำทำงโภชนำกำร: ส่วนทีรับประทำนได้หนัก 100 กรัม ประกอบด้วยน ้ำ 92 กรัม โปรตีน 2.4 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม คำร์โบไฮเดรต 4 กรัม
แคลเซียม 160 มิลลิกรัม เหล็ก 2.7 มิลลิกรัม วิตำมินเอ 1.8 มิลลิกรัม วิตำมินซี 73 มิลลิกรัม เมล็ดหนักประมำณ 2 กรัมตอ 1,000 เมล็ด
่
31.มะยม
ื
่
่
ชออืนๆ: หมักยม หมำกยม ยม
ชอสำมัญ: Star gooseberry
่
ื
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์:Phyllanthus acidus Skeels.
วงศ์:EUPHOBIACEAE
ถิ่นก ำเนด: เขตร้อนของทวีปแอฟริกำ
ิ
่
ลักษณะทั่วไป:ไม้พุ่มโปรงขนำดกลำง เจริญเติบโตช้ำ
ู
ฤดกำรออกดอก:ต้นฤดฝน (ปลำย เม.ย. – พ.ค.)
ู
กำรขยำยพันธ์:กำรตอน เปนวิธีกำรทีเหมำะสมทีสุด จำกกำรทดลองตอนต้นขนำด
็
่
่
ุ
ู
ี
ใหญอำยุประมำณ 10 ปยังสำมำรถออกรำกได้ และออกดอก ติดผลได้ในปแรกหลังกำรปลกกิ่ง
่
ี
ตอน
่
กำรเพำะเมล็ด เปนวิธีกำรทีท ำได้ง่ำย แตต้องใช้เวลำในกำรให้ผลผลิตยำวนำนกว่ำกำรตอน
่
็
่
็
ุ
ข้อดีของพันธ์ไม้:เปนผลไม้ทีสำมำรถใช้ประโยชน์ได้หลำยทำง เชน กำรรับประทำนผลสด ผลแห้ง
่
่
กำรแชอิ่ม
็
ุ
่
้
่
ู
ข้อแนะน ำ:มะยมเปนพันธ์ไม้ทีมีใบร่วงมำก ในพืนทีทีต้องกำรควำมสะอำดมำกจึงไม่ควรปลก
่
ข้อมูลอื่นๆ:รำก รสจืด แก้โรคผิวหนัง ผดผื่นคัน ช่วยซับน ้ำเหลืองให้แห้ง ประดง ดับพิษเสมหะ
เปลือกต้น รสจืด สรรพคุณแก้ไข้ทับระด ระดทับไข้ และแก้เม็ดผดผื่นคัน
ู
ู
็
ื
่
ใบ รสจืดมัน ปรุงเปนส่วนประของยำเขียว สรรพคุณแก้ไข้ ดับพิษไข้ บ ำรุงประสำท ต้มรวมกับใบหมำกผ้หมำกเมียและใบมะเฟองอำบแก้คัน ไข้หัด
ู
เหือด และสุกใส
ดอก ดอกสดใช้ต้มกรองเอำน ้ำแก้โรคในตำ ช ำระล้ำงในตำ
ผล รสเปรียวสุขุม กัดเสมหะ แก้ไอ บ ำรุงโลหิต และระบำยท้อง
้
กำรท ำมะยมเชื่อม ดที http://www.eto.ku.ac.th/neweto/e-book/other/t_food.pdf
่
ู
ู
็
่
มีควำมเชื่อว่ำ มะยมเปนต้นไม้ทีควรปลกไว้ทำงทิศตะวันตก (ประจิม) เพือปองกันควำมถ่อย และผีร้ำยมิ
้
่
็
ู
ู
็
ให้มำกล ้ำกรำย ในบำงต ำรำก็ว่ำ เปนต้นไม้ทีมีชื่อเปนมงคลนำม ปลกแล้วผ้คนจะได้นิยมเหมือนมีนะ
่
เมตตำ มหำนิยม
ที่มำ:1.http://www.panmai.com/Direction/Tree_W_2.shtml
2.http://www.eto.ku.ac.th/neweto/e-book/other/t_food.pdf
3.http://ginglew.blogspot.com/2007/11/blog-post.html
รวบรวมโดย:นพพล เกตุประสำท
หนวยอนรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศนย์ปฏิบัติกำรวิจัยและเรือนปลกพืชทดลอง
ู
ู
ุ
่
คณะเกษตร ก ำแพงแสน มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ วิทยำเขตก ำแพงแสน จ.นครปฐม
่
32. มะมวงหำว
ชอไทย: มะม่วงหำวมะนำวโห่
ื
่
ื
่
ชอท้องถิ่น: หนำมขีแฮด หนำมแดง มะนำวไม่ร้โห่ มะนำวโห่
ู
้
ชอสำมัญ: Bengal-currants, Carandas-plum, Karanda
่
ื
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์ : Carissa carandas L.
ชอวงศ์ : APOCYNACEAE
่
ื
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์:
ู
้
ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่มรอเลือยหรือไม้ยืนต้นขนำดเล็ก สงได้ถึง 5 เมตร ทุกส่วนมีน ้ำยำง
ขำว ตำมกิ่งก้ำนมีหนำม
ู
ลักษณะใบ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ำม รปไข่กลับ กว้ำง 1.5-4 เซนติเมตร ยำว 3-7 เซนติเมตร ปลำยมนหรือเว้ำเข้ำเล็กน้อย โคนกลม ผิวใบสีเขียวเข้ม
็
เปนมัน
่
็
้
่
็
ลักษณะดอก ออกดอกเปนชอ ตำมปลำยกิ่ง ชอดอกยำว 3.5-5.5 เซนติเมตร ดอกสีขำว กลีบเลียง 5 กลีบ มีขน กลีบดอกโคนกลีบเชื่อมติดกันเปน
หลอดยำวสีชมพูแกมแดง ปลำยแยก 5 แฉก ดอกมีกลินหอมอ่อน ๆ ออกดอกเกือบตลอดทั้งป ี
่
ลักษณะผล ผลเดี่ยว ออกรวมกันเปนชอ รปกลมรี มนรี หรือรปไข่ ผลอ่อนมีสีขำวอมชมพู ผลดิบมีน ้ำยำงมำก ผลจะคอย ๆ เข้มขึนเปนสีแดง
ู
่
้
็
็
่
ู
กระทั่งสุกจึงกลำยเปนสีด ำ
็
ระยะกำรออกดอกติดผล: -
เขตกำรกระจำยพันธุ์: พบในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย มำเลเซีย ศรีลังกำ พม่ำ จีน และไทย
่
กำรใช้ประโยชน์: ผลสุกสำมำรถรับประทำนได้ มีสำรตอต้ำนอนมูลอิสระ และน ำมำใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วนของต้น
ุ
แหล่งข้อมูล: ข้อมูลพันธ์ไม้ – ระบบฐำนข้อมูลเกษตรดิจิตัล
ุ
33.หอมหัวใหญ่
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์ : Allium cepa L.
วงศ์ : Alliaceae
ชอสำมัญ : Onion
ื
่
่
ชออืน : หอมฝรั่ง หอมหัวใหญ ่
่
ื
ลักษณะ : ไม้ล้มลุกอำยุหลำยป มีหัวใต้ดินคล้ำยหัวหอม
ี
ู
่
รปรียำว ใบเกร็ดทีหุ้มหัวใต้ดิน สีม่วงแแดง ใบ เดี่ยว
ออกเปนกระจุก 3-4 ใบ รปดำบ กว้ำง 2-4 ซม. ยำว 20-
็
ู
40 ซม. เส้นใบขนำน จีบตำมยำวคล้ำยพัด ดอก ชอ แทง
่
จำกล ำต้นใต้ดิน กลีบดอกสีขำว
ผล แห้ง แตกได้
่
่
ู
ประโยชน์ : หัวหอมใหญ มีวิตำมินซีสง มีน ้ำมันหอมระเหย น ้ำคั้นจำกหัว ชวยลดโคเลสเตอรอล ลดควำมดันโลหิต ลดน ้ำตำลในเลือด
่
ทีมำ: http://www.rspg.or.th/plants_data/use/spicies11-4.htm
34.ผักกำดกวำงตุ้งฮ่องเต้
ชอสำมัญ: False pakchoi, Mock pakchoi (USA), Flowering white
ื
่
cabbage (UK), Pakchoi (FR)
ชอวิทยำศำสตร์: Brassica rapa L. (Brassica pekinensis var. laxa Tsen &
่
ื
ู
S.H.Lee) จัดอย่ในวงศ์ผักกำด (BRASSICACEAE หรือ CRUCIFERAE)
ผักกวำงต้ง มีชื่อเรียกอื่นว่ำ ผักกำดเขียวกวำงต้ง (ทั่วไป), ผักกำดฮองเต้,
ุ
ุ
่
ผักกวำงต้งฮองเต้, กวำงต้งไต้หวัน, ผักกำดสำยซิม (ภำคใต้), ปำกโชย (ภำษำ
ุ
่
ุ
็
ไต้หวัน) เปนต้น
็
็
่
กวำงต้ง เปนผักทีนิยมน ำมำประกอบอำหำร ไม่ว่ำจะผัดหรือต้มเปนแกงจืด
ุ
ู
ให้รสชำติหวำนกรอบ โดยเฉพำะเมนบะหมีหมูแดงหรือเกี๊ยวก็จะมีผักชนิดนีแซม
้
่
ู
้
อย่เสมอ โดยสำมำรถรับประทำนได้ทั้งล ำต้น ใบ และดอก ขึนอย่กับควำม
ู
่
ู
่
ต้องกำรของผ้บริโภค แตจะนิยมน ำมำปรุงให้สุกกอนน ำมำรับประทำน (ตำม
ธรรมชำติแล้วผักกวำงต้งจะมีเส้นใยเหนียว ๆ เคียวยำกสักหนอย)
้
่
ุ
่
ผักกำดกวำงตุ้ง จะมีสำรบำงชนิดเมือถูกควำมร้อนแล้วจะกลำยเปนสำรตัว
็
ู
ใหม่ ซึงได้แกสำรไทโอไซยำเนต (thiocyanate) เมือได้รับสำรนีเข้ำส่รำงกำยใน
่
่
้
่
่
ปริมำณมำกอำจท ำให้เกิดอำกำรท้องเสีย ควำมดันเลือดต ่ำ รำงกำยอ่อนเพลีย แต ่
่
่
สำรชนิดนีจะสลำยไปกับไอน ้ำเมือเรำเปดฝำทิงไว้ แตถ้ำน ำมำรับประทำนสด ๆ ก็ปลอดภัยเชนกัน แตจะมีกลินเขียวบ้ำงเล็กน้อย
่
่
ิ
่
่
้
้
ู
่
่
่
้
่
ู
จุดเด่นของผักชนิดนีจะอย่ทีคุณคำทำงทำงโภชนำกำร โดยอุดมไปด้วยแคลเซียม วิตำมินเอ และวิตำมินซีในปริมำณทีสงมำก ซึงก็มี
ิ
่
ประโยชน์มำก ๆ เลยทีเดียว โดยกำรถนอมวิตำมินในผักชนิดนีก็ท ำได้ง่ำย ๆ ด้วยกำรใส่ไว้ในถุงพลำสติก ปดให้แนนแล้วน ำไปแชไว้ในชองเก็บผัก
่
้
่
ุ
ู
่
ิ
ในตู้เย็น และกำรน ำผักกวำงต้งไปประกอบอำหำรก็ไม่ควรตั้งไฟนำนจนเกนไป เพรำะควำมร้อนจะไปท ำลำยวิตำมินทีอย่ในผักกวำงต้งอย่ำงวิตำมินซี
ุ
่
และเบตำแคโรทีน (แตส ำหรับเบตำแคโรทีนนั้นจะทนควำมร้อนได้ดีกว่ำวิตำมินซี)
ู
็
ุ
่
้
กวำงต้ง เปนหนึงในผักทีมักตรวจพบสำรเคมีหรือยำฆำแมลงอย่บ่อย ๆ กำรเลือกซือ
่
่
้
ผักกำดเขียวกวำงต้ง ผ้บริโภคควรระมัดระวังในเรื่องของกำรเลือกซือให้มำก และท ำควำม
ู
ุ
่
สะอำดผักกอนกำรน ำมำปรุงเปนอำหำร ไม่ว่ำจะด้วยวิธีกำรแชน ้ำส้มสำยชู แชในน ้ำเกลือ หรือ
่
็
่
ผักชนิดนีได้เชนกัน ่ ่
่
จะล้ำงด้วยน ้ำทีไหลจำกก๊อกน ้ำนำนอย่ำงน้อย 2 นำที ก็จะชวยลดปริมำณสำรพิษทีตกค้ำงใน
่
้
ุ
ที่มำ: ผักกวำงต้ง (kpru.ac.th)
่
35.ปำช้ำเหงำ
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์: Vernonia amygdalina
่
ื
ชอวงศ์ : ASTERACEAE
ื
่
ชอสำมัญ : bitter leaves
ชออืน : ปำช้ำเหงำ หนำนเฝยเฉำ หนำนเฟยซ่ ปำเฮวหมอง
่
ู
่
่
่
่
่
ื
ส่วนทีใช้ ใบสด
่
สรรพคุณใบ มีสำรกล่ม flovonoids, steroid glucosides,
ุ
่
ิ
steroid, saponin ทีมีฤทธ์ต้ำนอนมูลอิสระ ต้ำนเซลล์มะเร็ง ยับยัง ้
ุ
เชือจุลินทรีย์ ระงับควำมเจ็บปวด ลดระดับน ้ำตำลในเลือด คั้นน ้ำ
้
จำกใบสดรักษำอำกำรเบำหวำน ชุมคอ ต้ำนมำลำเรีย แก้กำรปวด
่
เมือย ยำระบำย
่
่
่
คั้นน ้ำจำกใบสด รักษำอำกำรเบำหวำน ชุมคอ ต้ำนมำลำเรีย แก้กำรปวดเมือย ยำระบำย
ิ
่
องค์ประกอบทำงเคมีสำรกล่ม flovonoids, steroid glucosides, steroid, saponin ทีมีฤทธ์ต้ำนอนมูลอิสระ ต้ำนเซลล์มะเร็ง
ุ
ุ
ฤทธ์ทำงเภสัชวิทยำ ฤทธ์ต้ำนมะเร็งและควำมเปนพิษ ตอเซลล์พบฤทธ์ยับยังกำรเตบโตของเซลล์มะเร็งตำงๆ เชน MCF-7 (เซลล์มะเร็งเต้ำนม) ของ
่
่
้
่
็
ิ
ิ
ิ
ิ
สำรสกัดน ้ำ สำรสกัดปโตรเลียมอีเธอร์และเอทธิลอะซีเตทมีผลตอเซลล์มะเร็งตับ (HepG2) และมะเร็งกระเพำะปัสสำวะ (ECV-304) สำรสกัด
ิ
่
คลอโรฟอร์มและสำรสกัดเมทธำนอลมีผลตอ เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขำว (THP-1)
่
ที่มำ: ภญ.ผศ.ดร.ศรีสมพร ปรีเปรม ,กำรศึกษำด้ำนเภสัชเวทของหนำนเฉำเหว่ย (คณะเภสัชศำสตร์ มหำวิทยำลัยขอนแกน)
่
36.กระเทียมต้น
ื
ื
ชอพื้นเมอง : กระเทียมต้น (ภำคกลำง), กระเทียมใต้ (เชียงใหม่), ซึง ปักทำง เสิง ฮวงซำง (จีน)
่
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์ : Allium porrum L.
ื
่
ชอวงศ์ : LILIACEAE (ALLIACEAE)
ื
ชอสำมัญ : Leek
่
ู
ี
่
ลักษณะ : ไม้ล้มลุกสองป สง 0.4-1 ม. มีกลินอ่อนกว่ำ
่
กระเทียม มีเหง้ำขนำดเล็ก ไม่แบ่งเปนหลำยกลีบเชน
็
กระเทียม ใบเดี่ยว ขึนมำจำกดิน เรียงซ้อนสลับ แบนเปน
็
้
แถบแคบ โคนใบแผ่เปนแผ่นและเชือมติดกันเปนวงรอบใบ
็
็
่
็
่
ทีอ่อนกว่ำและก้ำนชอดอกท ำให้เกิดเปนล ำต้นเทียม ส่วนที ่
่
็
่
่
ู
หุ้มหัวอย่จะมีสีขำวหรือขำวอมเขียว ชอดอกเปนแบบชอซี ่
่
่
รมแนน ขนำดใหญ กลม มีดอกเล็กๆ จ ำนวนมำก
่
่
็
ู
่
่
็
ประมำณ 50 ดอก ไม่มีตะเกียง มีใบประดับ 1 ใบ เปนจะงอยยำวแหลมหุ้มชอดอกขณะทียังตูมอย่ ก้ำนชอดอกเปนก้ำนโดด เรียบ รปทรงกระบอก
ู
ู
็
ตัน ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบรวม 6 กลีบ สีชมพู เกสรเพศผ้ 6 อัน ผลเล็กเปนกระเปำะสั้นๆ มี 3 พู เมล็ดเล็ก สีด ำ
ประโยชน์ : ใช้เปนอำหำร โดยใช้ส่วนของล ำต้นเทียมปรุงเปนอำหำรได้หลำยอย่ำง ใช้ปรุงรสและแตงกลินอำหำร ในประเทศแถบอำกำศหนำวใช้เปน
็
่
่
็
็
เครื่องเทศ เปนยำฆำเชือในล ำไส้ ขับเสมหะ ขับปัสสำวะ บ ำบัดโรคไขข้ออักเสบ โรคตับ และใช้เปนยำพอก
่
้
็
็
37.ผักชหอม
ี
ชอสำมัญ : Coriander
ื
่
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์ : Coriandrum sativum L.
่
ื
ชอวงศ์ : APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE
ชื่อพืนเมือง : ผักหอม (นครพนม), ย ำแย้ (กระบี), ผักหอมปอม ผักหอมผอม (ภำคเหนือ), ผักหอมน้อย (ภำคตะวันออกเฉยงเหนือ)
้
่
้
ี
ู
่
ู
็
ใบ : ใบของผักชีนั้นมีลักษณะคล้ำยทรงกลม แตมีรอยขอบหยักอย่โดยรอบท ำให้ดเหมือนพัด มีกลินหอมเปนเอกลักษณ์ ส่วนใบอ่อน จะมีลักษณะ
่
คล้ำยกับขนนก
ต้น : ล ำต้นของผักชีนั้น ก็เปนอีกส่วนทีมีกลินหอมไม่แพ้กัน โดยลักษณะโดดเด่นของล ำต้นผักชี คือ มักจะเปนก้ำนเล็กๆยำวๆ และคอนข้ำงอ่อน
็
็
่
่
่
่
เหมำะแกกำรน ำมำรับประทำน
ู
่
่
่
่
็
ู
ดอก : ลักษณะเด่นของพืชตระกลผักชีนั้นอย่ทีดอก โดย ดอกของผักชีมักจะมีลักษณะเปนชอมีซีรม ดอกของผักชีนั้นมีทั้งแบบสีขำว และสีม่วงแดง
อ่อนๆ
่
ี
่
็
อำยุไข : ผักชีเปนพืชล้มลุก ทีมีอำยคอนข้ำงสั้น โดยจะมีช่วงของกำรเจริญเติบโตเพียงแค 1 ปเท่ำนั้น
ุ
่
ิ
่
็
ถิ่นก ำเนด : ผักชีเปนพืชทีพบเห็นได้มำกในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เปนพืชทีมีควำมทนทำนตอสภำพอำกำศ และแพรพันธ์ได้เร็ว ทีนำสนใจคือ ผักชี
่
่
่
็
่
่
สำมำรถเจริญเติบโตได้ดีทีสุด ในชวงทีอำกำศหนำว และส ำหรับประเทศไทย แหล่งปลกใหญๆ จะอย่ในจังหวัดแถบภำคกลำงของประเทศ เช่น
ู
ู
่
่
่
่
รำชบุรี กรุงเทพ และนครปฐม
ที่มำ: https://www.allkaset.com/
38.แมงลัก
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์ : Ocimum africanum Lour
วงศ์: LAMIACEAE หรือ LABIATAE
่
ื
ี
็
่
่
ชอท้องถิ่นอืน: ก้อมก้อข้ำว (ภำคเหนือ), มังลัก อีตู (ภำคตะวันออกเฉยงเหนือ) เปน
ต้น
ู
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ไม้ล้มลุกอำยุสั้นฤดเดียว ล ำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้ำนมำก
่
่
่
็
มีกลินหอมเฉพำะตัว สง 0.3-1 เมตร ล ำต้นและกิ่งก้ำนเปนสีเหลียม สีเขียวแกม
ู
ู
เหลือง เมือยังอ่อนอย่มีขนสีขำวหนำแนน ใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้ำม เปนรปหอกถึง
่
่
็
ู
่
ู
วงรี กว้ำง 1-2.5 เซนติเมตร ยำว 2.5-5 เซนติเมตร โคนใบรปลิม ปลำยใบแหลม
็
่
่
็
่
ขอบใบเรียบ ผิวใบเรียบ มีตอมมันทั่วไป ก้ำนใบยำวได้ถึง 2.5 เซนติเมตร ดอกเปนชอยำวได้ถึง 15 เซนติเมตร ประกอบด้วยชอดอกย่อยออกเปน
ู
้
กระจุกๆ ละ 3 ดอก ข้อละ 2 กระจุก ใบประดับรปวงรีแกมใบหอก ยำว 2-3 มิลลิเมตร มีขน ก้ำนดอกย่อยยำวได้ถึง 4 มิลลิเมตร กลีบเลียงเชื่อม
ู
ติดกันปลำยแยกเปน 2 พู กลีบดอกสีขำว เชื่อมติดกันเปนหลอด ปลำยแยกเปน 2 ปำก ยำว 4-6 มิลลิเมตร มีเกสรตัวผ้ 4 อัน ยำว 2 อัน สั้น 2
็
็
็
้
ู
ู
็
อัน เกสรตัวเมียมีไข่ 4 อัน รังไข่เว้ำเปน 4 พู ผลแห้งประกอบด้วยผลย่อย 4 ผล มีกลีบเลียงหุ้มอย่ ผลย่อยทรงรปไข่ สีด ำ กว้ำง 1 มิลลิเมตร ยำว
1.25 มิลลิเมตร
คุณคำทำงโภชนำกำรคุณคำทำงโภชนำกำรของใบแมงลัก ขนำด 100 กรัม พบว่ำให้พลังงำน 32 แคลอรี มีสำรอำหำรส ำคัญ ประกอบด้วย
่
่
แคลเซียม 350 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 86 มิลลิกรัม ธำตุเหล็ก 4.9 มิลลิกรัม วิตำมินเอ 10,666 มิลลิกรัม ไทอำมีน 0.30 มิลลิกรัม ไรโบฟลำวิน
0.14 มิลลิกรัม ไนอำซิน 1.0 มิลลิกรัม วิตำมินซี 78 มิลลิกรัม กำกใยอำหำร 2.6 กรัม คำร์โบไฮเดรต 11.1 กรัม ไขมัน 0.8 กรัม และ โปรตีน 2.9
กรัม
คุณค่ำทำงโภชนำกำรของเม็ดแมงลัก: ขนำด 100 กรัม พบว่ำให้พลังงำน 420 กิโลแคลอรี่ มีสำรอำหำรส ำคัญ ประกอบด้วย คำร์โบไฮเดรต 54
กรัม โปรตีน 15 กรัม ไขมัน 16 กรัม กำกใยอำหำร 54 กรัม
ที่มำ: https://adeq.or.th/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81/
39.ตะขบ(ตะกบ)
ชื่อสำมัญ: Calabura, Jam tree, Jamaican cherry, Malayan Cherry
ู
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Muntingia calabura L. ปัจจุบันจัดอย่ในวงศ์ MUNTINGIACEAE
่
่
่
่
สมุนไพรตะขบ มีชื่อท้องถินอื่น ๆ ว่ำ ครบฝรั่ง (สุรำษฎร์ธำนี), หม่ำกตะโกเสะ (กะเหรี่ยงแดง), ตำกบ (ม้ง), เพียนหม่ำย (เมียน), ตะขบฝรั่ง (ไทย)
็
เปนต้น
ลักษณะของตะขบ: ต้นตะขบ จัดเปนไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนำดเล็ก มีควำมสงได้ประมำณ 5-7 เมตร และอำจสงได้ถึง 10 เมตร แตกกิ่งก้ำนแผ ่
ู
ู
็
้
้
ุ
้
็
่
ุ่
ขนำนกับพืนดิน เปลือกล ำต้นเรียบเปนสีเทำ ตำมกิ่งอ่อนมีขนนมขึนปกคลม ตะขับหรือตะขบฝรั่งนีมีถินก ำเนิดในอเมริกำกลำงและอเมริกำใต้ พบ
ปลกเปนไม้ประดับหรือไม้ผลทั่วไปในเขตร้อน ในประเทศพบปลกเปนไม้ประดับหรือไม้ผล และมักพบขึนเปนวัชพืชตำมทีรกร้ำงว่ำงเปล่ำตำมปำ ่
็
้
่
ู
็
ู
็
ุ
้
โปรงทั่วไป หรือมักขึนเองตำมธรรมชำติทีนกและสัตว์ขนำดเล็กถ่ำยมูลเมล็ดตะขบทิงไว้ สำมำรถขยำยพันธ์ได้เองโดยวิธีกำรเพำะเมล็ด ออกดอก
้
่
่
และติดผลได้ตลอดทั้งป ี
็
็
ใบตะขบ ใบเปนใบเดี่ยว ออกเรียงสลับแบบทแยงกัน ลักษณะของใบเปนรปไข่แกมขอบขนำน ปลำยใบเรียวแหลม โคนใบมนหรือข้ำงหนึง ่
ู
มนส่วนอีกข้ำงหนึงแหลม ส่วนขอบใบจักเปนซีฟันเล็ก ๆ ใบมีขนำดกว้ำงประมำณ 1.5-3.5 เซนติเมตร และยำวประมำณ 4.5-9 เซนติเมตร หลังใบ
่
่
็
ู
็
ู
ุ่
็
ด้ำนบนเปนสีเขียว ส่วนท้องใบด้ำนล่ำงเปนสีนวล หลังใบและท้องใบมีขนนมจับดจะร้สึกเหนียวมือเล็กน้อย เส้นแขนงใบมี 3-5 เส้น ก้ำนใบยำว
ประมำณ 0.2-0.6 เซนติเมตร และมีขน โคนก้ำนเปนปม ๆ
็
็
็
ู่
็
ดอกตะขบ ออกเปนดอกเดี่ยวหรือออกเปนค โดยจะออกบริเวณเหนือซอกใบ ดอกเปนสีขำว เมือดอกบำนจะมีขนำดเส้นผ่ำนศนย์กลำง
ู
่
็
้
ประมำณ 2 เซนติเมตร กลีบดอกย่นเปนสีขำวมี 5 กลีบ ลักษณะของกลีบดอกเปนรปไข่กลับปอม ๆ ปลำยกลีบมน มีขนำดกว้ำงประมำณ 9
ู
็
มิลลิเมตร และยำวประมำณ 11 มิลลิเมตร ส่วนกลีบเลียงมี 5 กลีบ ไม่ติดกัน เปนสีเขียว ลักษณะเปนรปหอก ปลำยกลีบแหลมเปนหำงยำว โคน
ู
็
็
้
็
กลีบตัด กลีบด้ำนนอกมีขนขึนปกคลุม ส่วนด้ำนในเกลียง กลีบเลียงมีขนำดกว้ำงประมำณ 3 มิลลิเมตร
้
้
้
ู
และยำวประมำณ 10-12 มิลลิเมตร ดอกมีเกสรเพศผ้จ ำนวนมำก ก้ำนเกสรยำวประมำณ 5-6.5
่
่
่
มิลลิเมตร เกลียง ส่วนก้ำนเกสรเพศเมียสั้น ภำยในมี 5-6 ชอง แตละชองจะมีไข่อ่อนจ ำนวนมำก ก้ำน
้
ดอกยำวประมำณ 1.5-1.6 เซนติเมตร มีขน
ผลตะขบ หรือ ลกตะขบ ผลเปนผลสด ลักษณะของผลเปนรปทรงกลม มีขนำดเส้นผ่ำนศนย์กลำง
ู
ู
ู
็
็
่
็
็
ประมำณ 0.75-1.5 เซนติเมตร เปลือกผลบำง ผลอ่อนเปนสีเขียว เมือสุกแล้วจะเปลียนเปนสีแดง ผลมีรสหวำน ภำยในมีเมล็ดแบนขนำดเล็ก
่
จ ำนวนมำก
่
่
็
้
ประโยชน์ของตะขบ 1. ผลสุกมีรสหวำนและมีกลินหอม ใช้รับประทำนได้ เปนผลไม้พืนบ้ำนทีชื่นชอบของเด็ก ๆ
่
2. ตะขบเปนผลไม้ทีอุดมไปด้วยพลังงำน เส้นใยอำหำร แคลเซียม โพแทสเซียม และโซเดียม จำกกำรวิจัยพบว่ำตะขบสำมำรถชวยดูดซับ
็
่
่
คอเลสเตอรอล ลดควำมเสียงมะเร็งล ำไส้ และเส้นเลือดในสมองแตกได้ (ตะขบ 100 กรัม จะให้พลังงำน 97 กิโลแคลอรี, แคลเซียม 51.7 มิลลิกรัม
, โพแทสเซียม 773 มิลลิกรัม, โซเดียม 12.8 มิลลิกรัม) (นพ.สมยศ ดีรัศมี)
็
็
3. ผลตะขบเปนอำหำรของนกและสัตว์หลำยชนิด ถ้ำปลกไว้ริมฝั่งแม่น ้ำ เมือผลรวงลงก็จะเปนอำหำรของปลำด้วยเชนกัน
ู
่
่
่
ู
็
ู
่
4. ผลตะขบฝรั่งเปนทีนิยมรับประทำนมำกในเม็กซิโก ผลสำมำรถน ำไปแปรรปเปนแยมหรือไวน์ได้ และน ำใบไปแปรรปเปนชำ
็
็
็
้
5. เนือไม้ตะขบเปนไม้เนืออ่อน สำมำรถน ำมำใช้ในงำนชำงไม้ได้ ส่วนเปลือกใช้เปนแหล่งของเส้นใย
็
่
้
ที่มำ: https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1625&code_db=610010&code_type=01
40.ผักบุ้ง
ชอวิทยำศำสตร์: Ipomoea aquatica Forsk. Var. reptan
วงศ์ : Convolvulaceae
ื
่
ชอท้องถิ่น: ผักทอดยอด
่
ื
็
็
ุ
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : ผักบ้งจีน เปนพืชผักใบเขียว เปนพืชผัก
่
่
็
ุ
สมุนไพร เปนพืชทีอย่ในวงศ์ผักบ้ง น ำเข้ำมำจำกตำงประเทศ เปนไม้ล้มลุก
็
ู
ล ำต้นมีลักษณะกลมๆ จะกลวงมีสีเขียวอมขำว ใบมีสีเขียว ดอกมีสีขำว ล ำ
ต้นจะมีข้อปล้อง มียำงน้อยกว่ำผักบ้งไทย ล ำต้นทีอย่บนบกจะตั้งตรง มี
ุ
่
ู
้
ควำมสงประมำณ 30-35 ซม. หำกสงมำกกว่ำนีล ำต้นจะโน้มลงพร้อมเลือยบนพืน ผักบ้งจีนจะนิยมปลกบนดิน จะเจริญงอกงำมดีกว่ำในน ้ำ และจะ
้
ู
ู
ู
ุ
้
ู
ุ
ได้รับอำหำรจำกในดินได้ดีกว่ำ ได้รับควำมนิยมในกำรรับประทำน และนิยมปลกขำยมำกกว่ำผักบ้งไทย
ุ
่
ุ
่
คุณค่ำทำงโภชนำกำร : คุณคำทำงโภชนำกำรของผักบ้งตอ 100 กรัม พลังงำน 19 กิโลแคลอรี คำร์โบไฮเดรต 3.14 กรัมประโยชน์ของผักบ้งเส้นใย
2.1 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม โปรตีน 2.6 กรัม วิตำมินเอ 315 ไมโครกรัม 39% วิตำมินบี 1 0.03 มิลลิกรัม 3% วิตำมินบี 2 0.1 มิลลิกรัม 8% วิตำมิน
บี 3 0.9 มิลลิกรัม 6% วิตำมินบี 5 0.141 มิลลิกรัม 3% วิตำมินบี 6 0.096 มิลลิกรัม 7% วิตำมินบี 9 57 ไมโครกรัม 14% วิตำมินซี 55 มิลลิกรัม
66% ธำตุแคลเซียม 77 มิลลิกรัม 8% ธำตุเหล็ก 1.67 มิลลิกรัม 13% ธำตุแมกนีเซียม 71 มิลลิกรัม 20% ธำตุแมงกำนีส 0.16 มิลลิกรัม 8% ธำตุ
ฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม 6% ธำตุโพแทสเซียม 312 มิลลิกรัม 7% ธำตุโซเดียม 113 มิลลิกรัม 8% ธำตุสังกะสี 0.18 มิลลิกรัม 2% ร้อยละของ
่
ู
่
่
ปริมำณแนะน ำทีรำงกำยต้องกำรในแตละวันส ำหรับผ้ใหญ (ข้อมูลจำก : USDA Nutrient database)
่
ที่มำ: https://adeq.or.th/%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87/
41.ผักไหม
วงศ์: CONVOLVULACEAE
ื
ชอวิทยำศำสตร์: Cuscuta chinensis Lamk.
่
ชอสำมัญ: Dodder
ื
่
่
ื
ื
ื
่
ชอพื้นเมองหรือชออืนๆ: เครือขำค ำ (เหนือ) ผักไหม (อุดรฯ) และฝอย
่
ไหม (โครำช)
่
ู
็
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ : เปนต้นไม้ทีเกำะอำศัยอย่ ล ำต้นกลม เปน
็
เถำเลือยยำว และอ่อนนม เปนสีเหลืองทอง แตกกิ่งก้ำนมำก ใบมี
้
ุ่
็
ู
่
ลักษณะเปนเกล็ดรปสำมเหลียมเล็ก ๆ ออกจำกล ำต้น โดยออกเรียง
็
สลับ ใบเปนสีเหลืองเหมือนสีของล ำต้น ดอก มีขนำดเล็กมำก บำงครั้ง
็
่
็
็
มองด้วยตำเปล่ำแทบไม่เห็น ออกเปนชอสีขำว มีดอกย่อยจ ำนวนมำก ลักษณะดอกโคนเชื่อมกันเปนหลอดสั้น ปลำยแยกเปนกลีบดอก 5 กลีบ
็
ู
ปลำยกลีบรปกลมมน ผล รปกลม ขนำดเล็ก ดอกออกตลอดป ี
ู
็
ประโยชน์ด้ำนอำหำร รับประทำนเปนผักสด หรือลวกจิมน ้ำพริก มีรสจืด
้
็
็
สรรพคุณทำงยำ : ล ำต้น ใช้ล ำต้นแห้งประมำณ 10-15 กรัม น ำมำต้มน ้ำกินเปนยำแก้บิด อำเจียนเปนเลือด อุจจำระเปนเลือด ตกเลือด ไอเปน
็
็
เลือด เลือดก ำเดำไหล แก้โรคดีซ่ำน และแก้พิษ หรือใช้ภำยนอก โดยกำรน ำเอำล ำต้นมำต ำให้ละเอียดคั้นเอำน ้ำทำ หรือพอก บริเวณทีเปนฝำ ผด
็
้
่
้
ผื่นคัน แผลเรือรัง และใช้ห้ำมเลือด เปนต้น
็
็
็
่
็
เมล็ด ใช้เมล็ดทีแห้งประมำณ 10-15 กรัม น ำมำต้มน ้ำกิน หรือน ำมำบดให้ละเอียดท ำเปนยำเม็ด หรือท ำเปนยำผง ใช้เปนยำบ ำรุงก ำลัง บ ำรุงตับไต
็
่
่
แก้ปวดเมือยตำมอวัยวะ ท ำให้ตำสว่ำง แก้กระหำย และน ้ำกำมเคลือน เปนต้น
ที่มำ : http://rspg.svc.ac.th/Wiki/index.php
42.โทงเทง(ต้องแล่ง)
ชอวิทยำศำสตร์ :Physalis angulata Linn.
่
ื
ื
่
ชอเรียกอืน :ต้อมต๊อก ปำตอมต๊อก ตะเงหลั่งเช้ำ ปุงปง
่
ิ
ื
ชอวงศ์ :SOLANACEAE
่
ู
ลักษณะ :ไม้ล้มลุก สง 30-50 ซม. กิ่งอ่อนสีเขียว มีสันเปนเหลียม
็
่
้
ตืนๆ ใบเปนใบเดี่ยว รปไข่ถึงรปรี กว้ำง 2-4 ซม. ยำว 3-6 ซม. โคน
ู
ู
็
ใบมน ปลำยใบแหลมหรือเปนติ่ง ขอบใบเรียบหรือจักเล็กน้อย ดอก
็
่
็
สีเหลืองอ่อน ตรงกลำงสีน ้ำตำลแกมเหลือง ออกเปนชอสั้นตำมซอก
็
ใบ ดอกบำนขนำด 4-6 มม. กลีบดอกเชื่อมติดกัน ปลำยแยกเปน 5
ู
็
แฉก เกสรผ้ 5 อัน ผลเปนผลสุดรปกลม ผิวเรียบมัน ขนำด 12 มม.
ู
ู
มีกลีบรองดอกแผ่ขยำยหุ้มผล ลักษณะเปนแผ่นบำงเชื่อมกันเปนมุมตำมกลีบ เมล็ดจ ำนวนมำกรปกลมแบน ขนำด 2 มม.
็
็
่
่
้
ุ
กำรกระจำยพันธ์ :พบในจีน ไต้หวัน ประเทศไทยพบทำงภำคเหนือ บริเวณปำเปดและทีชุมชืนทั่วไป ทีระดับควำมสงไม่เกิน 1,000 ม. ออกดอกและ
ิ
่
ู
่
ติดผลชวงเดือนพฤษภำคม-สิงหำคม
่
ประโยชน์ :ผลสุกรับประทำนได้ มีรสหวำนเอียน
ที่มำ :หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศำสตร์สมเด็จพระนำงเจ้ำสิริกต์ เล่ม 5
ิ
ิ
ี
43.มะระข้นก
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์: Momordica charantia L.
่
ชอวงศ์: CUCURBITACEAE
ื
ชอสำมัญ: Balsam pear, Bitter cucumber, Leprosy gourd
ื
่
ื
่
่
ชออืนๆ: ภำคเหนือ - มะห่อย, มะไห ่
กะเหรี่ยง-แม่ฮองสอน- สุพะซ, สุพะเด
่
ู
ู
ทั่วไป- มะระ ภำคกลำง, ภำคใต้- มะร้อยร สงขลำ- ผักเหย นครศรีธรรมรำช - ผักไห
้
้
้
็
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์: ไม้เถำล้มลุก เปนเถำเลือยหรือทอดเลือยไปตำมพืนดิน เถำหรือล ำต้นเปนเส้นเล็กๆ ยำวได้ถึง 5 เมตร มีขนนมๆ ขึน
ุ่
้
็
้
้
็
ประปรำย เปนไม้เนืออ่อน มีสัน 5 เหลียมเรียบหรือมีขน และมีรองตืนๆ ตำมแนวยำว มีมือเกำะส ำหรับยึด แบบเดี่ยว เถำหรือล ำต้นอ่อนสีเขียว
่
่
ู
ใบ เดี่ยวเรียงสลับแผ่นใบกว้ำงรปไข่ถึงรปไตหรือคล้ำยทรงกลม เรียบมีขนนมเล็กน้อย โดยเฉพำะทีเส้นใบทั้ง 2 ด้ำน โคนใบเว้ำรปหัวใจ ใบหยักลึก
ู
ุ่
่
ู
ู
่
็
ู
ู
่
่
รปมือ 5-9 หยัก แตละหยักรปไข่กลับรปไข่เรียวยำวหรือรปเหลียมข้ำวแหลมตัดแคบไปหำโคนปลำยแหลมมีติ่งขอบใบเว้ำเปนคลืนซีฟัน 5-7 หยัก
ู
่
่
็
็
่
็
่
่
หรือเปนคลืนเล็กๆ ก้ำนใบยำว 1-7 ซม. ดอก ออกดอกเปนดอกเดี่ยวหรือเปนชอ ตำมบริเวณซอกใบและปลำยยอด ชอหนึงมี 5 – 8 ดอก ดอก
ู
้
เพศผ้และดอกเพศเมียอย่คนละดอก กลีบบำงกลีบช ้ำง่ำย กลีบเลียงมี 5 กลีบ รปไข่ปลำแหลมสีเขียวอ่อนแยกใกล้ฐำน ปลำยกลีบสั้น กลีบดอกสี
ู
ู
ู
เหลืองรประฆังมี 5 แฉก ผิวขรุขระมำก ห้อยลงรปไข่กว้ำงสอบเรียวลงเปนจงอย มีเส้นใบแถวไม่เรียบตำมยำว 8-9 แถว ระหว่ำงแถวมีตุ้มเล็กๆ
ู
็
ขนำดไม่เท่ำกันมำกมำย โคนเชื่อมติดกันเปนหลอดสั้น ปลำยกลีบดอกอำจจะมนหรือเว้ำเข้ำเล็กน้อย ผล เปนผลเดี่ยว ลักษณะผลปอมเล็กรป
็
ู
้
็
่
่
ู
็
กระสวยหรือรปรี ผิวภำยนอกผลขรุขระเปนคลืนทั่วทั้งผล โคนและปลำยแหลม ผลอ่อนสีเขียวสด เมือสุกจะสีส้มหรือสีเหลืองอมแดงและผลนั้นก็
่
ุ
็
ู
ู่
่
้
จะแตกทีปลำยแยกออกเปน 3 ส่วน เมล็ด ลักษณะรปกลม แบน สีขำวหรือน ้ำตำลรปคขนำน มีเนือสีแดงห้ม ผิวมีลวดลำยขอบเปนรอง เมล็ดสุกจะ
็
ู
มีสีแดงสด
ประโยชน์ทำงยำ: ใบรสขม คั้นเอำน ้ำดื่มแก้ท่อน ้ำดีอักเสบ ชวยให้เจริญอำหำร แก้ไข้ แก้ตัวร้อน ดับพิษร้อน แก้ตับม้ำมพิกำร แก้ปำกเปอย
ื
่
่
ใบสดรสขมลวกหรือต้มกินเปนยำฟอกโลหิต ยำระบำย ยำถ่ำยพยำธิเข็มหมุด เจริญอำหำร หรือใช้ใบแห้งน ำมำบด ให้ละเอียดผสมน ้ำกินเปนยำขับ
็
็
็
็
็
พยำธิ ขับลม และบ ำรุงธำตุ เปนต้น ใบและผลสดรสขม ต ำให้ละเอียด คั้นเอำน ้ำกินเปนยำแก้จุกเสียดแนนท้อง ขับลม เจริญอำหำร บ ำรุงธำตุ เปน
่
ยำชวยถ่ำยพยำธิ แก้ท่อน ้ำดีอักเสบ ดอก รสขมร้อน ชงน ้ำดื่มแก้หอบหืด แก้พิษ แก้บิด ผลผลดิบ รสขมจัด รับประทำนบ ำรุงน ้ำดี ท ำให้เจริญ
่
อำหำร บ ำรุงรำงกำย แก้ตับม้ำมอักเสบ ขับพยำธิ แก้เจ็บปวดอักเสบจำกพิษตำงๆ เปนยำระบำยอ่อนๆ คั้นเอำน ้ำอมแก้ปำกเปอย, หั่นตำกแห้งชงกับ
็
่
่
ื
่
่
น ้ำดื่ม แก้เบำหวำน ผลสด รสขมจัด ผลอ่อนมีวิตำมินซีสงมำก น ำมำต้มหรือประกอบอำหำร ต้มน ้ำดืมแก้ไข้ ลดกำรเกิดต้อกระจก มีคุณคำในกำร
่
ู
็
้
่
็
ชวยบ ำบัดโรคเบำหวำน บ ำรุงธำตุ แก้ปำกเปนฝำเปนขุย บ ำรุงน ้ำดี เจริญอำหำร บ ำรุงโลหิตระด แก้ตับม้ำมอักเสบ ขับพยำธิ แก้ลมเข้ำข้อ เปนยำ
ู
็
่
ี
็
ระบำยอ่อนๆ หรือใช้ผลแห้งบดให้ละเอียด โรยบริเวณทีเปนแผล ทำแก้คัน แก้พิษฝ แก้บวม ต้ำนเชือไวรัสและมะเร็ง
้
่
ผลสุก เปนพิษมี saponin มำกท ำให้ท้องรวงและอำเจียน หิต โรคผิวหนัง เมล็ด รสขม แก้พิษ เปนยำกระตุ้นควำมร้สึกทำงเพศ เพิมพูนลมปรำณ
็
่
็
ู
บ ำรุงธำตุ บ ำรุงก ำลัง ขับพยำธิตัวกลม รำก รสขม ใช้ปรุงเปนยำบ ำรุง ฝำดสมำน แก้ริดสีดวงทวำร เปนยำธำต แก้ไข้ แก้พิษร้อน แก้บิด ถ่ำยอุดจำ
ุ
็
็
ระเปนเลือด แก้ริดสีดวงทวำร แผลฝบวมอักเสบ ปวดฟันทีเกิดจำกลมร้อน สมำนแผล คุมธำตุ บ ำรุงธำตุ
็
่
ี
เถำ บ ำรุงน ้ำดี ยำระบำยอ่อนๆ ดับพิษดีและโลหิต แก้ไขเพือดีพิกำร แก้พิษทั้งปวง เจริญอำหำร แก้โรคลมเข้ำข้อ เท้ำบวม แก้ปวดตำมข้อนิวมือและ
้
่
้
ี
นิวเท้ำ แก้โรคม้ำม แก้โรคตับ ขับพยำธิในท้อง แก้พิษน ้ำดีพิกำร กัดเสมหะ แก้บิด แก้ฝอักเสบ แก้ปวดฟัน แก้ไข้
ใบและรำก รสขม แก้โรคเบำหวำน ที่มำ: http://pharmacy.su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=182
44.มันส ำปะหลัง
ชอวิทยำศำสตร์ : Manihot esculenta (L. )
ื
่
่
ื
ชอวงศ์ : EUPHORBIACEAE
ื
่
ชอสำมัญ : Cassava, Yuca, Mandioa, Manioc, Tapioca
่
่
่
ื
ชออืน ๆ : (ภำคเหนือ) ต้ำวน้อย,ต้ำวบำน , (ภำคกลำง) มันส ำโรง , มันส ำปะหลัง (ภำคใต้) มันต้น,มันไม้ ,(พังงำ) มันหิว
่
่
็
่
็
็
ลักษณะล ำต้น : มีลักษณะเปนข้อๆ ซึงเปนรอยทีก้ำนใบรวงหลุดไป สีของล ำต้นส่วนยอดจะเปนสีเขียวส่วนทำงด้ำนล่ำงอำจมีสีน ้ำตำล หรือสีม่วง
้
ู
แดงขึนอย่กับพันธ์ ุ
็
ช
ุ
่
ลักษณะใบ : เปนใบเดี่ยว ใบแยกเปนแฉกคล้ำยใบปำล์มมีสีเขียว ก้ำนใบอำจมีสีเขียว หรือสีแดง บำงพันธ์ใบจะมีสีเหลือง หรือขำว หรือใบด่ำง ทีใ ้
็
็
เปน
ลักษณะดอก : มันส ำปะหลังมีดอกตัวผ้และดอกตัวเมียอย่ในชอดอกเดียวกัน ดอกตัวผ้จะอย่ทำงส่วนปลำยของชอดอกมีขนำดเล็กกว่ำดอกตัวเมีย
่
่
ู
ู
ู
ู
มีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีเหลืองหรือมีลำยแดง
ผล : ต้นหนึงจะมีเหง้ำแยกออกเปนจ ำนวนมำก บำงครั้งค้นหนึงมีประมำณ 10
็
่
่
ที่มำ: https://www.dnp.go.th
กำรขยำยพันธุ์: เพำะเมล็ดและปักช ำ
45.มะหวดขำ
่
ชอสมุนไพร: มะหวด
่
ื
ชออืนๆ: สีหวด (นครรำชสีมำ) ก ำซ ำ กะซ ่ำ มะหวด
่
ื
่
(ภำคกลำง) ชันร มะหวดบำท มะหวดลิง (ภำค
ู
ตะวันออกเฉยงใต้) ก ำจ ำ (ภำคใต้) ซ ำ (ทั่วไป) น ำซ ำ
ี
่
มะจ ำ (ภำคใต้) มะหวดปำ หวดคำ (ภำค
ี
ตะวันออกเฉยงเหนือ) สีฮอกน้อย หวดลำว
่
(ภำคเหนือ) หวดฆำ (อุดรธำนี)
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์: Lepisanthes rubiginosa
(Roxb.) Leenh.
ชื่อพ้อง: Sapindus rubiginosus
ชื่อวงศ์: SAPINDACEAE
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์:
็
ู
่
่
ไม้พุ่มผลัดใบ หรือไม้ยืนต้นขนำดเล็ก สงได้ถึง 15 เมตร เปลือกต้นสีน ้ำตำล แตกเปนรองตำมยำว กิ่งก้ำนมีขนละเอียด เมือยังอ่อนอย ่ ู
ู่
็
ู
็
่
ู
มีขนสั้นๆ กิ่งแขนงรปทรงกระบอกเปนรอง ทรงพุ่มกลมหรือรปไข่ ใบเปนใบประกอบแบบนนกปลำยค เรียงเวียนสลับ แกนกลำงใบประกอบยำว
ู่
ุ่
10-30 เซนติเมตร ใบย่อย มี 3-6 ค รปไข่ถึงรปไข่กลับ กว้ำง 2-11 เซนติเมตร ยำว 3-30 เซนติเมตร ปลำยใบแหลม โคนใบสอบ ผิวใบมีขนนมปก
ู
ู
่
่
็
คลุมทั้งสองด้ำน แผ่นใบบำงแตคอนข้ำงเหนียว และย่นเปนลอน สีเขียวเข้ม ผิวใบด้ำนล่ำงสีอ่อนกว่ำ ใบอ่อนสีน ้ำตำลอมเขียว ดอก สีขำวถึงสี
เหลืองอ่อนๆ ออกเปนชอแบบชอแยกแขนงตั้ง จำกปลำยยอดหรือซอกใบใกล้ปลำยยอด ยำวถึง 50 เซนติเมตร ดอกย่อยขนำดเล็ก สีขำว มีกลิน
่
็
่
่
หอมอ่อนๆ แยกเพศ เส้นผ่ำศนย์กลำงดอก 0.8-1 เซนติเมตร กลีบดอกสีขำว กลีบดอก 4-5 กลีบ เกลียงหรือมีขนนม โคนกลีบแคบ มีขนและมี
ู
้
ุ่
ู
้
่
ู
เกล็ดเล็กๆ 1 เกล็ด ทีมีสันนน 2 สัน เกสรเพศผ้ 8 อัน ก้ำนเกสรมีขนสีน ้ำตำลอ่อน ก้ำนเกสรตัวเมียยำว ไม่มีขน กลีบเลียง 5 กลีบ รปครึ่งวงกลม
ู
ู
้
กลีบนอก 2 กลีบ เล็กกว่ำกลีบใน มีขนด้ำนนอก ผลสดแบบมีเนือ รปรีเว้ำเปนพู ผิวเกลียง กว้ำง 0.5-1 เซนติเมตร ยำว 1.5-2 เซนติเมตร ผลอ่อน
้
็
ู
็
่
็
้
้
สีเขียว แล้วเปลียนเปนสีเหลืองแดงจนแกจัดสีม่วงด ำ มี 2 พู ผิวเกลียง เปลือกและเนือบำง เมล็ดสีน ้ำตำลด ำ เปนมัน มี 1 เมล็ด รปทรงรีแกมขอบ
่
ขนำน พบตำมปำเต็งรัง และปำดิบแล้ง ทีควำมสงตั้งแตระดับทะเลปำนกลำงถึง 300-1,200 เมตร ออกดอกรำวเดือนกุมภำพันธ์ถึงมีนำคม ติดผล
่
ู
่
่
่
รำวเดือนเมษำยนถึงพฤษภำคม
ที่มำ: http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=266
46.กระถิน
ื
่
ชอพื้นเมอง : กระถิน กระถินไทย กระถินบ้ำน (ภำคกลำง), กะเส็ดโคก กะเส็ดบก (รำชบุรี), ตอเบำ
ื
สะตอเทศ สะตอเบำ (ภำคใต้), ผักก้ำนถิน (เชียงใหม่), ผักหนองบก (ภำคเหนือ)
ชอวิทยำศำสตร์ : Leucaena leucocephala (Lamk.) de Wit
ื
่
ชอวงศ์ : LEGUMINOSAE-MIMOSOIDEAE
ื
่
่
ื
ชอสำมัญ : White Popinac, Lead Tree
่
ลักษณะ : ไม้พุ่มถึงไม้ต้นขนำดเล็ก ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงสลับ ดอกชอแบบชอกระจุก
่
่
แนน ออกตำมง่ำมใบ 1-3 ชอ ฝักแบน ปลำยแหลม โคนสอบ ฝักแกแตกตำมยำวมีเมล็ด 15-30 เมล็ด
่
่
สีน ้ำตำลเปนมัน รปไข่แบนกว้ำง
็
ู
็
๋
่
็
ประโยชน์ : ใบหมักเปนปุย ใบ ยอด ฝัก และเมล็ดอ่อนใช้เปนอำหำรของวัว ควำย แพะ แกะ ไก ฯลฯ
่
็
ยอดอ่อนและฝักอ่อนใช้กินเปนผักได้ เมล็ดน ำมำท ำเปนเครื่องประดับหลำยชนิด เชน สำยสร้อย เข็ม
็
ุ
กลัด เข็มขัด ฯลฯ เปลือกให้เส้นใยสั้นใช้ท ำกระดำษได้ แต่คุณภำพไม่ดี พันธ์ทีปรับปรุงใหม่เรียกว่ำ
่
่
ู
ู
ุ
่
กระถินยักษ์ มีล ำต้นสงกว่ำพันธ์เดิม ปลกเพือกันลมและบังแดดให้แกพืชทีปลก เชน ชำ กำแฟ และใช้
ู
่
่
ท ำฟน
ื
โทษ : สัตว์กระเพำะเดียวทีกินใบกระถินในปริมำณสงจะท ำให้ขนรวง เปนหมัน เนืองจำกมีสำรพวก
ู
่
่
่
็
่
็
่
่
้
leucenine ซึงเปนพิษ แตไม่มีรำยงำนของกำรเปนพิษเนืองจำกกำรกินกระถินเกิดขึนในคน มีรำยงำนว่ำ
็
้
่
กระถินเปนพืชทีดดธำตุซีลีเนียมจำกดินมำสะสมไว้ได้มำก จึงท ำให้เกิดพิษเนืองจำกธำตุนีได้อีก
็
ู
่
ที่มำ:http ://www.rspg.or.th/plants_data/plantdat/mimosoid/lleuco_1.htm
47.ชะอม(ผักขำ)
ื
่
ชอวิทยำศำสตร์ :Acacia pennata (L.) Willd. ssp. insuavis (Lace) I.C.
Nielsen
่
่
ื
ชอเรียกอืน :ผักหละ ผักหำ
ชอวงศ์ :Fabaceae
่
ื
่
ลักษณะ :ไม้พุม หรือไม้ยืนต้นขนำดเล็ก สงได้ถึง ๕ ม. ล ำต้นและกิ่งก้ำน มีหนำม
ู
ุ
แหลมปกคลุม ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบอ่อนมีกลินฉน เฉพำะตัว ดอก
่
็
่
่
็
ออกเปนชอทีปลำยยอด มีดอกย่อยสีเหลืองอ่อนๆ จ ำนวนมำก ผลเปนฝักแบน ออก
ดอกชวงเดือนเมษำยน – กรกฎำคม ขยำยพันธ์โดยกำรปักช ำต้นและกิ่ง
ุ
่
็
ประโยชน์ :ยอดอ่อนรับประทำนสด หรือใช้เปนผักประกอบอำหำรไทย พืนเมืองนำนำ
้
ชนิด
ที่มำ :หนังสือ ๘๙ พรรณพืชวิถีพอเพียง
่
ว
48.สตรอ ์เบอรี
การจัดล าดับชั้นทางพฤกษศาสตร์:
อันดับ: Rosales
วงศ์: ROSACEAE
วงศ์ย่อย: ROSOIDEAE
เผ่า: Potentilleae
เผ่าย่อย: Fragariinae
สกุล: Fragaria
ชื่อวิทยาศาสตร์:Fragaria x ananassa Duchesne
่
ลักษณะทั่วไป :สตรอว์เบอร์รีเปนพืชทีเจริญเติบโตคลุมไปบนผิวหน้าดินตื้นๆ แตกไหลเจริญเปนต้นใหม่แผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ หาก
็
็
หน้าดินมีอินทรียวัตถุสูง มีความชุ่มชื้นมากแต่ไม่แฉะ พืชจะเจริญเติบโตได้ดีมาก ควรได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน อากาศแบบอบอุ่น
่
ี
ื
่
่
่
ี
ไม่ชอบอากาศร้อนมากๆ พันธุ์สตรอว์เบอร์รีทปลูกอยูในประเทศไทยส่วนใหญพัฒนาโดยการคัดเลือกพันธุ์ พ้นททดลองคัดพันธุ์มัก
เปนพ้นททางภาคเหนือของประเทศไทย และพื้นทบนภูเขาทีมีความสูงจากระดับน ้าทะเลมากๆ ต้นไหนทีมีการเจริญเติบโตให้ผล
็
่
่
ื
่
ี
ี
่
็
่
่
ผลิตได้ดี จะถูกคัดเลือกและเพืมจ านวนต้นกระจายปลูกเพือเปนพืชเศรษฐกิจ
49.กะเพรำแดง
่
ื
ชอเครื่องยำ: กะเพรำแดง
่
ู
่
ื
ชออืน(ของพืชที่ให้เครื่องยำ): กอมก้อ กอมก้อดง (เชียงใหม่) กะเพรำ กะเพรำขน กะเพรำขำว กะเพรำแดง (ภำคกลำง) ห่อกวอซ ห่อตูปล ู
่
่
(กะเหรี่ยง แม่ฮองสอน) อิมคิมหล ำ (ฉำน แม่ฮองสอน) อีตูไทย (ภำคตะวันออกเฉยงเหนือ)
ี
่
่
่
ื
ชอวิทยำศำสตร์: Ocimum tenuiflorum L.
ื
่
ชอพ้อง : Geniosporum tenuiflorum (L.) Merr., Lumnitzera tenuiflora (L.) Spreng., Moschosma tenuiflorum (L.) Heynh.,
Ocimum anisodorum F.Muell., Ocimum caryophyllinum F.Muell., Ocimum hirsutum Benth., Ocimum inodorum Burm.f.,
Ocimum monachorum L.,,Ocimum sanctum L., Ocimum scutellarioides Willd. ex Benth., Ocimum subserratum B.Heyne ex
Hook.f., Ocimum tomentosum Lam., Plectranthus monachorum
่
ชอวงศ์: LABIATAE
ื
้
ลักษณะภำยนอกของเครื่องยำ: ใบและล ำต้นมีสีเขียวอมม่วงแดง ใบทั้งสองด้ำนมีขนมำกโดยเฉพำะส่วนยอด เนือใบบำง ใบรปรำงรีหรือรีขอบ
่
ู
่
่
ขนำน กว้ำง 1-2.5 เซนติเมตร ยำว 2-4.5 เซนติเมตร ปลำยใบและโคนใบอำจแหลมหรือมน ขอบใบคอนข้ำงหยัก ใบและยอดรสเผ็ดร้อน มีกลิน
หอม
ที่มำ: http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=9