280
แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 1
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 What We Wear วิชาภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน (อ31101)
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ปีการศึกษา 2565 ภาคเรยี นท่ี 1
กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ผสู้ อน นางสาวสุพวิ รรณ เนืองสา
จำนวน 1 ชวั่ โมง วันทส่ี อน.............................................
*********************************************************************************************************
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด
ต 1.2 ม. 4-6/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น
เก่ยี วกับเร่ือง ประเด็น ข่าว เหตุการณท์ ่อี า่ นและฟังอยา่ งเหมาะสม
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
เขียนบรรยายเกี่ยวกับ Type of Clothing บรรยายเปรียบเทียบถึงการแต่งตัวในอดีตและปัจจุบัน โดยใช้
คำศัพทแ์ ละโครงสรา้ ง Present/Past Simple Tense ได้ถูกต้อง
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept)
เขียนบรรยายเกี่ยวกับ Type of Clothing บรรยายเปรียบเทียบถึงการแต่งตัวในอดีตและปัจจุบัน โดยใช้
คำศัพท์เกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้า และโครงสร้าง Present/Past Simple Tense ได้ถูกต้อง ทำให้นักเรียนได้รับความรู้
ความเขา้ ใจ คำศพั ท์ โครงสรา้ งภาษาอังกฤษ ไดฝ้ กึ ภาษา ทั้งการอา่ น การฟัง การพดู และการเขยี น ฝกึ การคิดอย่างมี
วิจารณญาณ พร้อมทั้งเสริมสร้างให้มีเหตุผล และมีวิจารณญาณ เป็นการพัฒนาศักยภาพในการสื่อสารของผู้เรียนให้
บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์
4. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
K Pronunciation: casual, overalls, clothes, looked
Vocabulary: sweatshirts, casual, practical
Grammar: Present/Past Simple Tense
Function: Describing
Culture: -
P ฝึกทักษะในการบรรยายดว้ ยการพูดและเขยี นเปรียบเทียบเร่ืองการแตง่ กายหลังจากได้ฟังและอ่านวเิ คราะห์
แลว้ โดยใช้โครงสร้างของ Present/Past Simple Tense
A มีเหตผุ ลและวิจารณญาณ
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1 Warm up
281
1. ครูเปิด clip Youtube เรื่อง Inside a burning house by the Columbian ให้นักเรียนดู แล้ว Stop
ที่นาทที ่ี 4:00 https://www.youtube.com/watch?v=9LcBB77w4cI
2. ครู elicit คำอ่าน
- Can you guess what she is?
- Look at her dress. Do you think it’s heavy?
- Why does she dress like this?
- Please give me a word or words to describe her dress and her tools.
- Does she dress up like this on her ordinary day?
- What do you wear on your ordinary day?
5.2 Presentation
1. ครอู ธบิ ายใบงาน โดยให้นักเรยี นชว่ ยกันจบั คู่คำอธิบายกบั ภาพที่ใหม้ า พรอ้ มให้นกั เรียนชีใ้ หเ้ ห็นร่องรอย
ในบริบททีใ่ ชใ้ นการเลอื กจับคู่ ทำไปพร้อม ๆ กัน และเฉลยไปพรอ้ ม ๆ กัน
2. ครใู หน้ กั เรียนดภู าพใน Workbook ข้อ 1 หนา้ 46 แลว้ ช่วยกนั ทำพร้อม ๆ กันวา่ ภาพใดเป็น practical
ภาพใดเปน็ formal และภาพใดเปน็ casual clothes พรอ้ มเฉลย
3. ครใู ห้นกั เรยี นเปดิ หน้า 78 แล้ว elicit คำถาม
- What clothes do you like to wear?
(ใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เห็นกัน Brainstorm)
- Why do you like to wear that?
Let’s hear about some people’s clothing over the years and the reasons why they wear it.
4. ครูเปดิ TR: 60 ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นในใจจากหนงั สอื student book หน้า 78
5. ครู elicit คำถาม
- Do you like to wear jeans? Why? Why not?
(นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ หลากหลาย)
- In the eighteenth century, did men wear high heeled shoes and wigs? Why? Why not?
(นักเรยี นตอบตามข้อมลู ของเรื่องที่ได้ฟังและอ่านในหน้า 78)
- What’ s the most interesting things you learned from this reading?
(สุม่ ถามนักเรียนท่คี ิดว่าน่าจะมคี ำตอบ)
6. ครูเพม่ิ เติมความคิดเหน็ ของครู
7. ครูเปิด TR: 61 ให้นักเรียนฟังและออกเสยี งตาม
8. ครูให้นักเรียนเปิด Workbook หน้า 46 แล้วให้นักเรียนช่วยกันทำอักษรไขว้ (Cross Word) คำศัพท์ท่ี
กำหนดให้มา นำคำที่ไดเ้ ขยี นขน้ึ กระดาน
9. ครูถามนักเรียนว่า Which nineteenth-century fabric is now a twenty-first-century fashion
fabric?
282
10. นักเรียนช่วยกันพจิ ารณา
11. ครูคอยเสริมขอ้ มูล
5.3 Practice
1. ครอู ธบิ ายคำสงั่ แบบฝกึ หัด 5 ใน Student’s book หนา้ 80
2. นักเรียนทำแบบฝึกหัด แลว้ อาสามาเขียนคำตอบบนกระดาน
3. เพอ่ื น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจคำตอบทถ่ี กู ต้อง (ครเู พิม่ เตมิ )
4. ครอู ธบิ าย Worksheet 1.5.1 ขอ้ 3 แลว้ ใหน้ กั เรยี นเขียนสิ่งท่ีนักเรยี นชอบสวมใส่ และทำไมนักเรียนจึง
ชอบ เมอ่ื เขียนเสร็จใหน้ กั เรยี นแลกเปลยี่ นดขู องเพ่อื นทนี่ ั่งคู่กบั นักเรียน
5. ครอู ธิบายคำสงั่ แบบฝกึ หัด 4 ใน Student’s book หนา้ 80
6. นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 4 แล้วอาสามาเขียนคำตอบบนกระดาน พร้อมอธิบายถึงคำที่เป็นร่องรอยใน
บรบิ ท (Context Clues) ช่วยในการตัดสนิ ใจเลอื กคำเตมิ
7. เพ่อื น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจคำตอบทีถ่ ูกต้อง
8. ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่องความหมายของ “to place” และคำ (Prefix) “re” ที่เติมหน้าคำ เช่น return,
rebuilt, replace, reread, rewrite, refill, recover, etc.
9. ครอู ธิบายแบบฝึกหดั 3 ใน Work book หน้า 47 เปิด TR: 22 ให้นักเรยี นฟัง
10. ให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด โดยครูสุม่ ให้นกั เรียนนำคำตอบมาเขียนขึน้ บนกระดาน
11. เพ่ือน ๆ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง (ครเู พิม่ เตมิ )
12. ครูให้นักเรียนฟัง TR: 22 อกี ครง้ั แลว้ วาดรูปเสื้อผา้ จากทฟ่ี งั ลงใน Notebook
13. ครูอธิบายแบบฝึกหัดที่ 5 แล้วให้นักเรียนสำรวจเพ่ือนด้วยคำถามทีก่ ำหนดให้ 4 คน นำคำตอบมาเขียน
เติมในแบบฝึกหดั
14. ครอู ธบิ ายแบบฝกึ หดั ท่ี 6 ใน Student’s book หนา้ 80
15. ให้นักเรียนเลอื กทำกิจกรรมใดกิจกรรมเดียว
5.4 Production
1. ครูให้นักเรียนย้อนกลับไปดูภาพใน Student’s book หน้า 77-80 แล้วเลือกภาพใดภาพหนึ่งมาเขียน
บรรยายเกย่ี วกบั การแต่งกาย
2. หากยังมีเวลา ครูอธิบาย Worksheet 1.5.2 แล้วให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั เนน้ การใช้คำศัพทใ์ นบทเรียน
5.5 Wrap up
1. ให้นักเรียนแข่งกันเขียนคำศัพท์เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายบนกระดาน โดยแบ่งเป็นแถวไม่ซ้ำกัน แถวใด
เขยี นเสร็จและถูกต้องในเวลาทก่ี ำหนด เป็นแถวท่ีชนะ
2. ครูแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม เพื่อเล่นเกม โดยครูจะมีคำ 2 คำ มาให้ตัวแทนของกลุ่มหยิบ แล้วบอกว่า
เป็น casual หรือ formal พร้อมคิดคำศัพท์เกี่ยวกับการแต่งกายนั้น ๆ เช่น My word is denim. My sentence is
“I wear my denim jacket when I go to the mall.”
283
3. กลมุ่ ใดพูดถูกตอ้ งทส่ี ดุ เปน็ ผชู้ นะ
4. ให้นกั เรียนแต่ละคนสรุปผลการเรยี นรแู้ ละการตอ่ ยอดการเรียนรู้ ในแบบบันทึกการเรยี นรู้
6. การวัดและประเมินผล
สิง่ ทีต่ ้องการวัดผล วธิ ีการวดั ผล เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน
- การทำงานสำรวจ - ทำแบบสำรวจ - แบบสำรวจ - ตาราง Rubric
- การทำงานค/ู่ กลมุ่ - สังเกตการณ์ทำงานคู่/กลมุ่ - แบบสังเกต - Rating Scale ตามเกณฑ์ 1 2 3 4
- Speaking - การปฏิบตั กิ ิจกรรมการพูด - แบบบนั ทกึ คะแนน - ตาราง Rubric
- แบบฝกึ หดั - ตรวจความถกู ต้อง - แบบฝกึ หัด - ตาราง Rubric
- การเรียนรู้ - บนั ทึกการเรยี นรู้ - แบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ - นกั เรียนประเมนิ ตนเอง
7. สอ่ื การเรียนรู้
7.1 Clip จาก Youtube เร่ือง Inside a burning house by the Columbian
https://www.youtube.com/watch?v=9LcBB77w4cI
7.2 ใบงานจบั คู่รูปภาพและคำอธิบาย
7.3 Student’s book Impact 1 หนา้ 76-80
7.4 Workbook หนา้ 46-47
7.5 Audio CD TR: 60-63
7.6 Worksheet 1.5.1 – 1.5.2
8. บนั ทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้
8.1 ด้านความรู้
จำนวนนกั เรยี นท้ังหมด....................คน ผ่านเกณฑ์....................คน ไม่ผา่ นเกณฑ์....................คน
คดิ เปน็ ร้อยละ...................................... ร้อยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
8.2 ดา้ นทักษะ ผ่านเกณฑ์....................คน ไมผ่ ่านเกณฑ์....................คน
จำนวนนกั เรยี นท้งั หมด....................คน รอ้ ยละ.............................. ร้อยละ..................................
คดิ เป็นร้อยละ......................................
8.3 ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ.์ ...................คน ไมผ่ า่ นเกณฑ.์ ...................คน
จำนวนนกั เรยี นท้งั หมด....................คน รอ้ ยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
คดิ เป็นร้อยละ......................................
284
8.4 ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................................................................................... ...............
.................................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................
ลงชอื่ ...............................................ครูผู้สอน
(นางสาวสุพิวรรณ เนืองสา)
285
ใบงาน
Which word, words or sentences given below related to the given picture? Put the No. of its into
the box in each picture.
1. A geologist is a scientist who studies the solid and liquid matter that constitutes the earth as
well as the process that shape it.
2. Tights
3. Denim pants
4. Suits
5. Casual clothes
6. Formal clothes
7. Sweatshirts.
8. Shorts.
9. High heels.
10. Practical clothes
11. Sandals
12. Overalls
13. Dress up
14. Sneakers
15. A fire proximity suit (silver bunker suit or asbestos suit) is a suit designed to protect a fire fighter
from high temperatures, especially near fires of extreme temperature such as aiscraft fires.
286 C.
A. B.
D. E. F. G.
H. I.
J. K. L.
M. N. O.
287
Workbook pages 46-47
เฉลย Workbook 1 page 46
Worksheet 1.5.1
288
Worksheet 1.5.2
289
Audio CD TR: 60-63
290
แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 2
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 What We Wear วิชาภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน (อ31101)
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ปีการศกึ ษา 2565 ภาคเรียนที่ 1
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ผสู้ อน นางสาวสุพิวรรณ เนืองสา
จำนวน 1 ชว่ั โมง วันทส่ี อน.............................................
*********************************************************************************************************
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด
ต 4.1 ม. 4-6/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา
ชมุ ชน และสังคม
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
พูดสนทนาเกี่ยวกบั สถานการณท์ ีก่ ำหนดโดยใช้ใหไ้ ด้ถกู ต้องโครงสรา้ งภาษาได้ถกู ต้องเหมาะสมกบั ระดับชนั้
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept)
การพูดสนทนาเกย่ี วกับสถานการณ์ทก่ี ำหนดโดยใช้ให้ได้ถูกต้องโครงสรา้ งภาษาได้ถูกต้องเหมาะสมกบั ระดับชั้น
ทำให้นักเรียนมีความรู้ด้านคำศัพท์ ทักษะ สำนวน และโครงสร้างประโยค ได้ฝึกทักษะการฟังและอ่านหลาย ๆ ครั้ง
เพื่อให้เกิดความชำนาญในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้เรียนต่อการแสดงออกทางการสื่อสารตามบทบาทอย่าง
สมเหตุสมผล พร้อมทั้งเสริมสร้างให้มีนิสัยรักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนเพียงพออย่างจริงจัง จนนำไปสู่
ความสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
K Pronunciation: uniform, Indonesia, important, congratulation
Vocabulary: puble, primary
Grammar: Present Simple Tense + Relative Pronoun
Function: Asking + Answering
Culture: Dressing
P - ชมคลิปจาก Youtube เรื่อง “Are uniforms good or bad?” เพื่อฝึกทักษะการฟังและการวิเคราะห์
จนนำไปสกู่ ารใช้ภาษาในการแสดงความคิดเห็น
- ฝึกทกั ษะการพดู สนทนาโตต้ อบอยา่ งสุภาพและมีเหตผุ ล
A รักการเรยี นรภู้ าษาอังกฤษและฝกึ ฝนเพียงพออย่างจรงิ จัง
291
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
Warm up
1. ครนู ำเขา้ สูบ่ ทเรยี นดว้ ยคำถามเกยี่ วกบั เสื้อผา้ ทน่ี กั เรียนสวมใสอ่ ยู่
- What do you call the clothing you wear now?
2. ครูเขียนคำตอบทีถ่ ูกตอ้ งบนกระดาน School Uniforms
3. ครู elicit คำถาม
- Does anyone have any ideas about school uniforms?
4. ครูรับฟงั หลากหลายคำตอบแลว้ สรุป
- All of your answers are your own opinions.
5. ครเู ขียนคำวา่ Opinion บนกระดาน แล้วบอกนักเรียนว่า
Let’s watch and listen for other people’s opinions
6. ครูเปดิ Clip Youtube เรอื่ ง “Are uniforms good or bad?” ของ “Breanna Jenning” (2.30 นาที)
https://www.youtube.com/watch?v=YsqrC2kY9GU แลว้ สรปุ ว่า
Everyone has their own opinions. We all have opinions about things. Most people want
others to agree with their opinions. How about you?
Presentation
1. ครบู อกนักเรียนวา่ Today you’re going to hear how people talk to one another about their
opinions.
2. ครใู หน้ กั เรยี นเปิด Student’s book หนา้ 81
3. ครูเขียนคำถามบนกระดาน
- How do the speakers ask for opinions?
- What words do they use?
4. ครูบอกให้นกั เรียนพยายามหาคำตอบ 2 คำถามน้ี เม่ือครเู ปดิ TR: 64
5. เมอ่ื จบ ครสู มุ่ ขอคำท่นี ักเรียนจับความได้คนละคำหรือคนละขอ้ ความ แล้วเขียนขน้ึ กระดาน
6. ครูเขียนคำวา่ Agreeing และ Disagreeing ไว้บนกระดานดา้ นหน่งึ แล้วให้นกั เรยี นนำคำที่ครไู ด้จากการ
สมุ่ คำตอบจากนกั เรียนมาเขยี นไวร้ วมพวกดา้ นทเ่ี ปน็ Agreeing และดา้ นทเ่ี ป็น Disagreeing ใหแ้ ยกกันไว้
7. ครูเขยี น Asking for opinions ไวอ้ กี ด้านหนึ่งของกระดาน แล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกันนำคำท่ีครูได้จากการ
สุ่มคำตอบจากนักเรยี นมาเขยี นรวมพวกไว้ดา้ นน้ี
8. ครเู ขียนคำวา่ “Speaking Strategy” ไว้บนสุดของกระดาน
Asking for opinions Speaking Strategy Disagreeing
Agreeing
292
9. ครแู จกใบความรู้ Strategy in Depth แล้วอธบิ าย
10. ครูให้นักเรียนเปิด Student’s book หน้า 81 เพื่อเปรียบเทียบกับใบความรู้ที่ให้ แล้วอ่านประโยคใน
Speaking Strategy หน้า 81
11. ครูอธิบายแบบฝึกหัดข้อ 7 ใน Student’s book ให้นักเรียนเตรียมจดบันทึกจากแถบเสียงที่ครูจะเปิด
ให้ฟัง
12. ครูเปดิ TR: 65 ใหน้ ักเรียนฟงั และจดบนั ทกึ คำ วลที ่ไี ดย้ ิน
13. ให้นักเรียนแลกเปลีย่ นกันดูบนั ทึกคำที่จดได้ แล้วนำมาเขยี นเป็นประโยคตามแบบ Speaking Strategy
ในหนา้ 81 อกี ครง้ั เพื่อให้เกิดความคนุ้ เคยตอ่ คำ วลี และประโยคเหลา่ นัน้
Practice
1. ครูอธบิ ายแบบฝึกหดั ที่ 8 ใน Student’s book หนา้ 81
2. นักเรียนทำแบบฝึกหัดโดยการเขยี นวลีที่แสดงความคิดเหน็ ตามความคิดของนักเรยี น ทั้งที่เห็นด้วยและ
ไมเ่ ห็นดว้ ย (คำตอบหลากหลาย)
3. ครสู มุ่ นักเรยี นมาเขียนคำตอบบนกระดาน 2-3 คน
4. เพื่อน ๆ ชว่ ยกนั ตรวจดคู วามถกู ต้อง
5. ครใู หน้ กั เรียนเปิดหน้า 81 ใน Student’s book อธิบายการเลน่ เกมโดยให้นกั เรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
ใช้เหรียญเพื่อใหน้ ักเรยี นโยนเหรียญเลือกหวั -กอ้ ย เมื่อเลือกถูกจะได้เลือกข้อความในวงกลมเพื่อเล่นก่อน (ออกหัวจะ
ได้เดิน 1 ครงั้ ออกกอ้ ยได้เดิน 2 คร้งั ) และปฏิบัติตามข้อความคำสั่งตวั อักษรสีขาวในวงกลม ผู้ถึงเป้าหมายปลายทาง
ก่อนคือผู้ชนะ
6. ครูสุม่ นักเรยี นมาเลน่ เกมเปน็ ตัวอยา่ ง 1 คู่ พูดประโยคดงั ตัวอย่างในหน้า 81
7. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาเลน่ เกม (เปิดหนา้ 163)
8. กลุม่ ใดท่ตี วั แทนสามารถถงึ จุดปลายทางได้ก่อนอย่างถกู ต้องเปน็ ผ้ชู นะ
Production
1. ครูให้นักเรียนดูกิจกรรมที่นักเรียนทำจบไปใน Studennt’s book หน้า 163 อีกครั้ง ให้พิจารณาการ
แต่งกายของตวั ละครทั้ง 3
2. ครูให้นกั เรยี นช่วยกนั ตงั้ ชอ่ื ตวั ละครทงั้ 3 ตามเสียงส่วนใหญ่
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 3 คน สร้างบทสนทนาสั้น ๆ ของทั้ง 3 ตัวละคร เกี่ยวกับ game ที่เล่น
จบไป โดยตา่ งฝา่ ยต่างแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับเสอ้ื ผา้ ท่ีใส่ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ออกมาแสดงบทบาทสมมุติ
4. ครแู จก Worksheet 1.5.3 ใหน้ ักเรียนสร้างบทสนทนา แล้วฝึกสนทนาตามบทสนทนาน้ัน ๆ
5. ครอู ธบิ ายแบบฝึกหดั 1-2 ใน Worksheet
6. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ที่ 1 โดยจบั คกู่ นั เป็น A และ B เม่ือทำเสรจ็ แลว้ ใหฝ้ ึกสนทนากัน
7. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดที่ 2
8. ครูสุ่มเรยี กนักเรียนตอบคำถามบนกระดานท้ัง 5 ขอ้
9. เพอื่ น ช่วยกนั ตรวจและแสดงความคดิ เหน็ (ครูเพ่มิ เตมิ )
293
Wrap up
1. ครูอธิบายให้นกั เรียนฟังวา่ เกมนเี้ ปน็ เกมแลกเปล่ยี นกันแสดงความคิดเหน็
2. ให้นกั เรียนจับกล่มุ กันเป็นวงกลมสกั 3-4 วง (ขึ้นกับจำนวนนกั เรยี น)
3. นั่งลงเหมือนกับการเล่นมอญซ่อนผ้า ครูจะคัดเลือกนักเรียนมากลุ่มละ 1 คน แล้วแจกหัวข้อที่จะแสดง
ความคิดเห็นให้ นักเรียนคนนั้นต้องคิดสร้างประโยคที่จะเริ่มการสนทนา ให้เพื่อนได้แสดงความคิดเห็น เช่น หัวข้อ
เร่อื ง House Work, Fast Food, Vacation, Occupation เมือ่ คนแรกเรม่ิ การสนทนา จะเดินไปรอบวงกลมรอบนอก
พร้อมถือผ้าซ่อนไว้ด้านหลัง เพื่อนที่นั่งอยู่ต้องตั้งใจฟังประโยคที่เพื่อนเริ่มนำสนทนา เมื่อจบประโยคให้โยนผ้าไว้ลง
ด้านหน้าของเพื่อนที่ต้องการให้ตอบ แล้วถามคำถาม เช่น Do you agree or not? เพื่อนสามารถตอบแสดงความ
คิดเห็นทั้งเหน็ ดว้ ยและไม่เห็นด้วยกไ็ ด้ โดยยืนขึ้นแล้วตอบ ถ้าคำตอบนั้นเป็นภาษาที่ถูกต้อง ให้เพื่อน ๆ ในวงปรบมือ
ให้ ถา้ ผดิ ให้เพือ่ น ๆ ช่วยกันแกไ้ ข
4. คนถามลงนง่ั ทแี่ ทนคนตอบ คนตอบเดนิ วนรอบนอกวงแลว้ เร่ิมการสนทนาในหวั ข้อใหม่ที่คิดขนึ้ เอง เดิน
ไปพูดไป เพื่อนที่นั่งต้องตั้งใจฟัง เมื่อจบประโยคให้โยนผ้าไว้ด้านหน้าของเพื่อนที่ต้องการให้ตอบ แล้วถามคำถามให้
เพือ่ นคนน้นั ตอบแสดงความคดิ เห็น
5. นกั เรียนหมนุ เวยี นกนั ถาม-ตอบ (โดยไม่ซำ้ คน) จนหมดทุกคนในกลุ่ม
6. ระหวา่ งที่นักเรยี นทำกิจกรรม ครูคอยเดนิ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื และเพิ่มเตมิ
7. ให้นกั เรียนแต่ละคนสรุปผลการเรียนรู้และการต่อยอดการเรยี นรู้ ในแบบบันทึกการเรยี นรู้
6. การวดั และประเมนิ ผล
สงิ่ ท่ตี ้องการวัดผล วธิ ีการวดั ผล เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
- แบบสงั เกต - Rating Scale ตามเกณฑ์ 1 2 3 4
- การทำงานค/ู่ กล่มุ - สงั เกตการณ์ทำงานค/ู่ กลุ่ม - แบบบันทกึ คะแนน - ตาราง Rubric
- แบบฝกึ หัด - ตาราง Rubric
- Speaking - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการพดู - แบบบนั ทึกการเรียนรู้ - นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง
- แบบฝกึ หดั - ตรวจความถกู ต้อง
- การเรียนรู้ - บนั ทกึ การเรยี นรู้
7. ส่ือการเรยี นรู้
7.1 Clip จาก Youtube เรอื่ ง Are uniforms good or bad? ของ Breanna Jenning
https://www.youtube.com/watch?v=YsqrC2kY9GU
7.2 ใบความรู้
7.3 Student’s book หน้า 81, 163 และ Workbook หน้า 47
7.4 Audio CD TR: 64-65
7.5 Worksheet 1.5.3
294
8. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์....................คน ไมผ่ า่ นเกณฑ์....................คน
8.1 ดา้ นความรู้ ร้อยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด....................คน
คิดเป็นรอ้ ยละ......................................
8.2 ด้านทักษะ ผา่ นเกณฑ.์ ...................คน ไมผ่ ่านเกณฑ์....................คน
จำนวนนักเรยี นทงั้ หมด....................คน ร้อยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
คิดเป็นร้อยละ......................................
8.3 ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์....................คน ไม่ผา่ นเกณฑ.์ ...................คน
จำนวนนกั เรียนทัง้ หมด....................คน ร้อยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
คิดเปน็ ร้อยละ......................................
8.4 ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ............................................................
................................................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................ .............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................
ลงชื่อ ...............................................ครูผู้สอน
(นางสาวสุพวิ รรณ เนอื งสา)
295
Audio CD TR: 64-65
296
Worksheet 1.5.3
297
ใบความรู้
Be the Expert
298
แผนจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 What We Wear วชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน (อ31101)
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ปกี ารศึกษา 2565 ภาคเรียนที่ 1
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ผสู้ อน นางสาวสพุ วิ รรณ เนืองสา
จำนวน 1 ชัว่ โมง วันท่ีสอน.............................................
*********************************************************************************************************
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้วี ัด
ต 1.2 ม. 4-6/4 พดู และเขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเหน็
เกีย่ วกบั เรื่อง/ประเดน็ /ข่าว/เหตกุ ารณท์ ฟ่ี ังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
เขียนบรรยายเกี่ยวกบั บุคคลโดยใช้โครงสร้างประโยคตามโครงสร้าง Past Simple Tense ไดถ้ ูกต้อง
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept)
การเขียนบรรยายเกี่ยวกบั บคุ คลโดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยคตามโครงสร้าง Past Simple Tense ไดถ้ ูกตอ้ ง ทำให้
นักเรียนได้ฝึกทักษะการฟังและออกเสียงคำกริยาลงท้ายด้วย –ed ตลอดจนโครงสร้างไวยากรณ์ที่ถูกต้อง รู้จัก
วิเคราะห์อดีตและปัจจุบัน ได้ฝึกทักษะภาษาทั้งการฟัง การอ่าน เพื่อนำไปสู่ทักษะการเขียนและพูด พร้อมทั้ง
เสรมิ สรา้ งใหม้ ีเหตุผล มวี จิ ารณญาณ เปน็ การพฒั นาศักยภาพในการส่ือสารของผ้เู รยี นให้บรรลุตามวัตถุประสงค์
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
K Pronunciation: The –ed ending sound
Vocabulary: decorate, tattoo, pierce, bride, henna
Grammar: Present + Past Simple Tense
Function: Asking + Answering
P - ฝึกทกั ษะการฟังและออกเสียง –ed ทา้ ยคำกรยิ า
- ฝึกทักษะการอ่านจับใจความและหาร่องรอยในบริบท
- ฝกึ ทกั ษะการสนทนาแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็
- ฝกึ ทักษะการเขยี นย่อหนา้ สนั้ ๆ
A มเี หตุผลและวจิ ารณญาณ
299
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1 Warm up
1. ครูทบทวนเรื่อง Past Simple Tense ด้วย Clip Youtube เรื่อง “Ancient Greek Hairstyles snd
clothing” by Holary C (4.05 นาท)ี https://www.youtube.com/watch?v=eppN0Q9INk0&t=27s
2. ครบู อกนักเรยี นว่า
Watch carefull and try to (read and) remember word or words.
3. ครูเปดิ Clip Youtube ใหน้ กั เรียนดู แลว้ ขอคำทีน่ กั เรยี นเห็นและจำได้มาเขยี นบนกระดานคนละคำ
4. ครู elicit คำถาม
- What tense is used in this clip? Why?
- Show me some past form of verb you remember from the clip.
5. ครูอธิบายทบทวนการใช้ Past Simple Tense เพิ่มเติม โดยเขียนประโยคบนกระดาน ให้นักเรียน
เปรียบเทียบ Tense ทง้ั 2
- Ancient Greeks didn’t often cut their hair and grew it out very long.
- Many people nowadays are re-introducing hairstyles inspired by Greeks hairstyles to
modern day.
6. ใหน้ ักเรยี นหาร่องรอยในบรบิ ททีเ่ ปน็ ตัวกำหนด Tense โดยถามวา่
Which sentence is Present Tense? How do you know?
Which sentence is Past Tense? How do you know?
7. ครเู ขียนประโยคอีก 2 ประโยค บนกระดาน
- Over a hundred years ago, cowboys used horses and ropes in their work.
- Today, cowboys use horses and ropes in contests called rodeos.
8. ครใู หน้ กั เรียนอ่านทลี ะประโยคพรอ้ มกัน แล้วถามเชน่ เดิม
Which sentence is Present Tense? How do you know?
Which sentence is Past Tense? How do you know?
9. ครูให้นักเรยี นอาสาสมัครขีดเส้นใต้กริยาท่ีแสดง Tense และวงกลมคำที่เป็นร่องรอย (Context clues)
ให้นักเรยี นทราบว่าตอ้ งเปน็ Tense นน้ั ๆ
5.2 Presentation
1. ครเู ขยี น 2 ประโยคตอ่ ไปนี้บนกระดาน คนละด้านกบั 2 ประโยคแรก
- Cowboys used horses and ropes to control large herds of cows.
- Cowboys used horses and ropes to show off their skills.
แล้วถามนักเรียนเช่นเดิม แต่คราวนี้ไม่มีคำบอกเวลามาเป็นร่องรอยให้นักเรียนตอบคำถามได้ ถ้าไม่มี
คำตอบ คำถามวา่ How do you know? ใหค้ รูเปน็ ผ้สู รปุ เองว่าเพราะเหน็ คำกริยาเติมทา้ ยด้วย –ed
300
2. ครูบอกให้นักเรียนเปิด Student’s book หน้า 82 หัวข้อ grammar ให้นักเรียนอ่านข้อความในใจแลว้
elicit คำถาม
- What did these sentences talk about?
นกั เรียนและครชู ว่ ยกนั สรุปคำตอบท้ังหมด
3. ครใู หน้ ักเรยี นเตรยี มฟงั TR: 66 แล้วอา่ นออกเสยี งประโยค
4. ครูแจกใบความรู้ที่ 1 “Be the expert” เพื่อทบทวนเรื่อง Regular Verb ว่าคำกริยาที่มี Past form
ลงท้ายดว้ ย –ed น้ี มีหลักเกณฑก์ ารเตมิ –ed ดังในใบความรทู้ ี่ 1
5. ครอู ธิบายใบความร้ใู นส่วนทเี่ ตมิ –ed
6. ครูให้นักเรียนเปิด Student’s book หน้า 146 เพื่อสังเกตการณ์ออกเสียง ed ที่เติมท้ายคำกริยาใน
แบบฝกึ หดั ที่ 1
7. ครูเปดิ TR: 127 ให้นกั เรียนฟงั
8. ครูอธิบายคำสั่งแบบฝึกหัดที่ 2 ใน Student’s book หน้า 146 ให้นักเรียนฟัง TR: 128 แล้วออกเสียง
ตาม หลังจากนน้ั จึงนำหมายเลขมาใส่หนา้ คำทไี่ ดย้ ินวา่ ออกเสยี งตามแบบอย่างทีเ่ ท่าใดในแบบฝึกหดั ท่ี 1
9. ครูสมุ่ นักเรียนมาเขยี นคำตอบบนกระดาน
10. เพื่อน ๆ ช่วยกันตรวจความถูกตอ้ ง
11. ครอู ธิบายคำสั่งแบบฝกึ หัดท่ี 3 ใน Student’s book หนา้ 146 เรือ่ งการออกเสียง –ed ending
12. นักเรียนฟัง TR: 129 และ TR: 130 แล้วนำคำที่ได้ยินการออกเสียงมาเติมลงในช่องที่กำหนดให้ใน
แบบฝกึ หดั ใหถ้ ูกช่อง
13. เพอื่ น ๆ ชว่ ยกันตรวจดูคำตอบให้ถกู ต้อง (ครูเพ่ิมเตมิ )
14. นักเรยี นออกเสยี งคำเหลา่ นัน้ พร้อมกนั ให้ถูกต้อง
15. ครูใหน้ กั เรียนเปดิ Workbook หนา้ 48 หัวข้อ grammar
16. ใหน้ กั เรียนอา่ นแลว้ จับใจความวา่ บทความนี้บอกอะไร
17. นักเรียนสังเกตการใช้คำกริยาใน past tense เมื่อเป็นประโยคปฏิเสธและบอกเล่าว่ารูปแบบของ past
form จะไปอยูท่ ่กี ริยาช่วยคอื คำวา่ did ส่วนตัวกริยาแทจ้ ะกลบั เปน็ รปู Present form
18. ครูสรุปเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่าเมื่อเป็นประโยคคำถามหรือปฏิเสธ กริยาแท้จะต้องเปลี่ยนกลับมา
เปน็ V1
5.3 Practice
1. ครูอธิบายคำสั่งแบบฝึกหัดที่ 10 ใน Student’s book หน้า 82 บอกนักเรียนว่านักเรียนจะได้ฟังเรื่อง
เกีย่ วกบั สาวอยี ิปตใ์ นสมยั อดตี การดแู ลผมของเธอเป็นอย่างไร ระหว่างฟังให้เน้นฟงั คำกริยาและวงกลมรอบคำกริยาท่ี
ได้ยินลงในแบบฝึกหัด
2. ครูสุ่มนักเรยี นมาเขียนคำตอบทไ่ี ด้ยนิ บนกระดาน
3. เพ่อื น ๆ ชว่ ยกันตรวจความถูกต้อง
4. ครเู ปดิ เทปใหฟ้ ังอกี คร้งั เพอ่ื ตรวจความถูกต้อง
301
5. ครยู อ้ นกลบั ไปช้ีใหน้ ักเรยี นดปู ระโยคที่ครูเขียนไว้บนกระดานก่อนหนา้ นีว้ า่ ยงั จำได้หรือไม่
( Many people nowadays are re-introducing hairstyles inspired by Greeks hairstyles to
modern day) ฉะนั้น จากที่นักเรียนได้ฟังไปเมื่อครู่ ผู้หญิงในยุคนี้ทำอะไรกับผมที่เหมือนในสมัยก่อนบ้าง So,
please help me to fill this chart.
6. ครูเขยี น Chart ขึ้นบนกระดาน พรอ้ มตัวอยา่ ง 1 ประโยค เพือ่ เปน็ แนวทางให้แกน่ กั เรยี น
Past Present
1. They attached hair or wool to their 1. They use extra pieces of hair which is
hair to make it took longer. called hair extensions.
7. เพ่ือน ๆ ช่วยกนั ตรวจความถูกต้องในการใชร้ ูปประโยคของคำกริยา
8. ครอู าจเปิดเทปให้ฟังอีกคร้งั เพ่ือตรวจความถูกตอ้ ง
9. ครูอธิบายคำสง่ั แบบฝกึ หดั ที่ 11 ใน Student’s book หน้า 82
10. ให้นกั เรยี นดูโครงสรา้ งของประโยคในแบบฝึกหัดก่อนว่าหากเปน็ ประโยคคำถามหรือปฏิเสธ did มักถูก
นำมาช่วยคำกริยาที่เป็น Past Tense เพื่อแสดงความเป็นอดีต เมื่อ did ถูกนำมาใช้แสดงอดีตแล้ว ตัวกริยานั้นต้อง
กลับรปู ไปเป็น base form หรอื infinitive without to
11. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั
12. ครูสุม่ มาเขยี นคำตอบบนกระดานและอา่ นออกเสยี ง
13. เพอ่ื น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจความถกู ต้อง (ครเู พิม่ เติม)
14. ครูแจกใบความรู้ที่ 2 Be the Expert เรื่อง “Our world in Context” เพื่อให้นักเรียนมีพื้นฐาน
เก่ยี วกับประเทศ New Zealand และ Maori
15. ครูให้นักเรียนเปิดหน้า 83 ข้อ 12 ใน Student’s book ให้นักเรียนดูภาพแล้ว elicit ว่า What do
you think about the pictures?
16. ครูสรุปว่า It’s about body decoration. แล้ว elicit ต่อว่า Can we see something like this on
people’s bodies nowadays? (เปน็ นมิ ิตท่ีดีถ้ามีนกั เรียนตอบว่า tatoo)
17. ครูให้นักเรียนอ่านคำบรรยายรูปภาพทีละภาพ เริ่มจากภาพที่มีคำวา่ tattoo แล้วไปจบที่ภาพบนขวา
คำว่า decorate ให้นักเรียนช่วยกันแปลความหมายของคำศัพท์ในแต่ละคำบรรยาย โดยอาศัยร่องรอยจากบริบท
(Context Clues) และรปู ภาพ
18. ครใู หน้ ักเรียนตงั้ ใจฟัง TR: 68 และ TR: 69 แลว้ ออกเสียงตาม
19. ครูอธิบายคำสั่งแบบฝกึ หดั ท่ี 6 ใน Workbook หน้า 48
20. ใหน้ ักเรียนดภู าพหญงิ ทั้ง 2 คน ซงึ่ เปน็ ชาว Maori ของประเทศนวิ ซีแลนด์ และชาว Chin ของประเทศ
พมา่
302
21. ให้นักเรียนอ่านจับใจความในประโยคทั้ง 3 ประโยค แล้วพิจารณาดูว่าประโยคใดพูดถึงพฤติกรรมที่
เหมือนกันของหญงิ ทงั้ 2 ให้ใส่ S หน้าประโยคน้นั แตถ่ า้ ประโยคใดกล่าวถึงพฤตกิ รรมทต่ี ่างกนั ของหญิงท้ัง 2 ให้ใส่ D
หนา้ ประโยคนั้น
22. ครสู มุ่ นักเรียนอ่านประโยคคนละประโยค แล้วตอบ “S” หรือ “D”
23. เพ่อื น ๆ ช่วยกนั ตรวจความถูกต้อง (ครูเพิ่มเตมิ )
24. เม่ือเรียบรอ้ ยแลว้ ครูให้นกั เรียนเตมิ ขอ้ ความในประโยค 3 ประโยคท้ายแบบฝกึ หดั ให้สมบูรณ์ตามท่ีอ่าน
มาแลว้ ขา้ งตน้
25. ครูสุ่มนักเรียนมาเขียนคำตอบบนกระดาน
26. เพือ่ น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจความถูกตอ้ งและแกไ้ ข
27. ครอู ธิบายสรปุ เพ่มิ เตมิ
28. ครูอธิบายแบบฝึกหัดท่ี 7 ใน Workbook หนา้ 49
29. ครเู ปดิ TR: 23 ใหน้ กั เรยี นฟงั เพ่ือทำแบบฝึกหัด
30. นักเรียนอาสาสมคั รเขียนคำตอบบนกระดาน
31. เพอ่ื น ๆ ชว่ ยกันตรวจและแสดงความคิดเห็น (ครอู าจเปดิ ให้ฟังอีกรอบ เพือ่ ชว่ ยตรวจสอบความถูกตอ้ ง)
32. ครูมอบหมายแบบฝึกหัดที่ 8, 9 ใน Workbook หน้า 49 ใหน้ ักเรยี นทำเป็น Assignment
33. ครูอธิบายคำสั่งแบบฝึกหัดที่ 13 ใน Student’s book หน้า 83 ให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันอ่านและคิด
คำตอบก่อนทจ่ี ะได้ฟงั TR: 70
34. เม่ือครูเห็นวา่ นกั เรียนพอจะมีความคิดเห็นบา้ งแลว้ จึงเปดิ TR: 70 ใหน้ ักเรียนฟัง
35. นกั เรียนแตล่ ะคู่ชว่ ยกันบนั ทึกคำ ข้อความทไี่ ด้ยนิ เพ่อื นำมาเขียนคำตอบ
36. ครูสุม่ นักเรยี น 4 คู่ ออกมาเขยี นคำตอบบนกระดาน
37. เพ่อื น ๆ แสดงความคดิ เห็นกับคำตอบบนกระดานและช่วยกนั ตรวจความถูกต้อง
38. นักเรียนเจ้าของคำตอบมาแก้ไขงานใหถ้ ูกต้อง เมื่อถูกตอ้ งแล้วใหแ้ ต่ละคู่อ่านออกเสียงให้เพื่อนอ่านตาม
(ครูแก้ไขเพ่มิ เตมิ )
39. ครแู บ่งนักเรยี นออกเปน็ กล่มุ ย่อยกลุ่มละ 4-5 คน ชว่ ยกนั ระดมความคดิ เกี่ยวกบั บุคคลท่ีได้เปลี่ยนแปลง
ร่างกายตนเองเพื่อตกแต่งให้สวยงาม แล้วเขียนบรรยายการเปลี่ยนแปลงของบุคคลเหล่านั้น โดยใช้โครงสร้างของ
Past Simple Tense
40. ครเู ขียนคำถามเป็นแนวทางให้นกั เรยี นคิดบนกระดาน
- Do you have any family members who coloured their hair?
- Do you know someone who got a permanent eyebrow tatoo?
- Do you have people who got their nose pierced?
- Did anyone get their ears pierced?
41. นักเรียนระดมสมองช่วยกันคิดและเขียน โดยถาม-ตอบกันคนละคำถาม ครูสังเกตการทำงานของ
นักเรียน
303
42. นกั เรยี นช่วยกนั เขยี นบทสนทนาถาม-ตอบ เป็นงานกลมุ่ ส่งครู
5.4 Production
1. ครูใหน้ กั เรียนอ่าน Workbook หน้า 50 แบบฝึกหดั ท่ี 10 แลว้ จับใจความสำคัญ เพ่ือใช้ตอบคำถามท้าย
เรื่อง “The History of Jeans” พร้อมฟงั TR: 24
2. ครสู มุ่ นกั เรยี นเขียนคำตอบบนกระดาน
3. เพ่ือน ๆ ชว่ ยกันตรวจคำตอบทีถ่ ูกตอ้ ง (ครูอธิบายเพิม่ เติม)
4. ครมู อบหมายงานใน Workbook หนา้ 51 ขอ้ 11-13 เปน็ Assignment
5. ให้นักเรียนจับคู่กันทำค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการเปลี่ยนแปลงตกแต่งร่างกาย
ตนเองตามที่นักเรียนได้อ่านพบมา เชน่ การระบายสีร่างกาย (body painting), การใชส้ มุนไพรมาย้อมสีผม (henna),
การสัก (tattoo) หรอื การเจาะ (piercing) ตามส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
6. แลว้ นำมาเขียนเรยี บเรยี งเป็น (Paragraph) 1 ย่อหนา้ ส่งครู
7. ครอู ธิบาย Worksheet 1.5.4 แล้วมอบหมายให้ทำเปน็ Assignment
5.5 Wrap up
1. ครูบอกนักเรียนว่าเราจะเล่นเกมกัน ครูจะพูดคำศัพท์ 2 คำ เป็นคำกริยากับคำนาม และพูด Tense 1
Tense ใหน้ ักเรียนนำไปสรา้ งประโยค 1 ประโยค ใครคิดได้กอ่ น วง่ิ ไปเขยี นบนกระดาน
2. ครขู ออาสาสมคั รมาเปน็ ตวั อยา่ ง 1 คน และครูก็พูดวา่ learn, fashion, Present Tense
3. อาสาสมัครคนนนั้ กไ็ ปเขยี นประโยคบนกระดาน (ครตู ามไปช่วย)
4. ครูถามนักเรยี น
- Do you understand how to play this game?
- Are you ready?
5. ครูเริ่มเกม นักเรียนว่งิ ออกมาเขียน ครตู รวจความถกู ต้อง
6. เพ่ือน ๆ ปรบมือให้
7. ครูดำเนินเกมไปเร่ือย ๆ จนเห็นว่านกั เรียนทำได้ถูกต้องแลว้ จึงหยุด และใหท้ กุ คนปรบมือให้ความสำเร็จ
ของตนเอง
8. ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนสรปุ ผลการเรยี นรู้และการต่อยอดการเรยี นรู้ ในแบบบันทึกการเรยี นรู้
6. การวดั และประเมนิ ผล
ส่งิ ทีต่ ้องการวดั ผล วิธีการวัดผล เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
- Rating Scale ตามเกณฑ์ 1 2 3 4
- การทำงานค/ู่ กลมุ่ - สงั เกตการณ์ทำงานค/ู่ กลมุ่ - แบบสงั เกต - Writing Rubric
- ตาราง Rubric
- Writing - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเขยี น - งานเขยี นของนกั เรยี น - นักเรยี นประเมินตนเอง
- แบบฝึกหัด - ตรวจความถกู ตอ้ ง - แบบฝกึ หัด
- การเรยี นรู้ - บันทึกการเรียนรู้ - แบบบันทึกการเรียนรู้
304
7. สอ่ื การเรยี นรู้
7.1 วีดที ัศน์จาก Youtube เร่ือง “Ancient Greek Hairstyle and Clothing”
https://www.youtube.com/watch?v=eppN0Q9INk0&t=27s
7.2 Audio CD TR: 23-24, 66-70 และ 127-130
7.3 Student’s book และ Work book หนา้ 82-83, 146 และ 48-51
7.4 ใบความรู้ท่ี 1-2
7.5 Worksheet 1.5.4
8. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์....................คน ไมผ่ า่ นเกณฑ.์ ...................คน
8.1 ดา้ นความรู้ รอ้ ยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
จำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด....................คน
คิดเปน็ ร้อยละ......................................
8.2 ดา้ นทักษะ ผา่ นเกณฑ์....................คน ไมผ่ า่ นเกณฑ์....................คน
จำนวนนกั เรยี นท้ังหมด....................คน ร้อยละ.............................. ร้อยละ..................................
คิดเป็นร้อยละ......................................
8.3 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์....................คน ไม่ผา่ นเกณฑ.์ ...................คน
จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด....................คน รอ้ ยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
คิดเปน็ รอ้ ยละ......................................
8.4 ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ............................................................
....................................................................................................................................... ..................................................
.........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................
ลงชอื่ ...............................................ครผู สู้ อน
(นางสาวสพุ ิวรรณ เนอื งสา)
305
ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ท่ี 2
306
Audio CD TR: 66-70
307
Workbook pages 48-51
308
309
Worksheet 1.5.4
310
311
แผนจัดการเรียนร้ทู ่ี 4
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 What We Wear วิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (อ31101)
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศกึ ษา 2565 ภาคเรียนท่ี 1
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ผูส้ อน นางสาวสุพวิ รรณ เนืองสา
จำนวน 1 ชั่วโมง วันท่ีสอน.............................................
*********************************************************************************************************
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ม. 4-6/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตคี วาม และแสดงความคดิ เหน็ จากการฟังและ
อ่านเรือ่ งทีเ่ ปน็ สารคดแี ละบนั เทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
พดู เปรยี บเทียบให้เหตุผลเก่ยี วกบั jewelry โดยใช้โครงสรา้ ง Present + Past Simple Tense ได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสมกับระดบั ชนั้
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept)
การพูดเปรียบเทียบให้เหตุผลเกี่ยวกับ jewelry โดยใช้โครงสร้าง Present + Past Simple Tense ได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสมกับระดับชั้น ทำให้ผู้เรียนไดฝ้ ึกทักษะนั้นตั้งแต่การฟัง การฝึกออกเสียง การอ่าน การเขียน และการ
พูด พร้อมทั้งเสริมสร้างให้มีเหตุผล มีวิจารณญาณ เป็นการพัฒนาศักยภาพในการสื่อสารของผู้เรียนให้บรรลุตาม
วัตถปุ ระสงค์
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
K Pronunciation: jewelry
Vocabulary: accessories, bracelet, brooch, outfit, protection
Grammar: Past + Present Simple Tense
Function: Comparing Past + Present accessories using
Culture: Women’s accessory in Thailand
P - ฝกึ ทกั ษะการออกเสียงตามตวั Phonetic ในพจนานุกรม
- ฝึกทักษะการใชพ้ จนานุกรมหาความหมายคำศัพท์
- ฝึกทักษะในการจับใจความด้วยรอ่ งรอยในบรบิ ท
- ฝกึ ทักษะในการตอบคำถามแสดงความคิดเห็น
A มีเหตุผล มวี จิ ารณญาณ
312
5. กิจกรรมการเรียนรู้
5.1 Warm up
1. ครบู อกนกั เรยี นว่า
- Today you’re going to watch about beautiful things.
- At the end, I want you to tell me what they’re called.
2. ครเู ปิด Clip Youtube เรื่อง “Different Types of Jewel Designs” by Fashion gossip (3.47 นาท)ี
https://www.youtube.com/watch?v=l2wtW9z2Xx0
3. เม่ือ Clip จบลง ครูเขียน What are they called?
4. ครจู ะได้คำศพั ทห์ ลากหลายจากนกั เรียน
5. ครนู ำศพั ท์เหลา่ นน้ั มาเขียนขน้ึ บนกระดาน โดยใหน้ ักเรยี นช่วยกนั สะกดคำ โดยครูเปน็ ผ้อู อกเสียง
1. J _ _ _ _ _ _ _ _ Jewelries
2. A _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ Accessories
3. D _ _ _ _ _ _ r _ _ _ _ _ Diamond rings
4. N _ _ _ _ _ _ _ _ Necklaces
5. B _ _ _ _ _ _ _ Braceles
6. E _ _ r _ _ _ _ Earrings
7. B _ _ _ _ _ _ _ Brooches
6. ครูให้นักเรียนดูภาพใน Student’s book หน้า 84 ให้นักเรียนอ่านชื่อเรื่อง Jewelry talks แล้ว elicit
คำถามวา่
What do you think about this title?
Can jewelry really talk? So, what does the little mean?
7. ครใู หน้ ักเรยี นอ่านหวั ขอ้ เร่ือง “How accessories help tell our stories” แลว้ elicit คำถาม
- What is the meaning of accessory?
- There are many accessories in the picture. Can you name it? What are they?
- When you see a woman put on all of these accessories in the same time, what do you
think of? What is she?
8. ครเู ขียนสรปุ คำตอบทหี่ ลากหลายของนกั เรยี นบนกระดาน เชน่
- She’s very rich. She’s a millionaire.
- She wants to show off.
- She’s a model. She looks young.
- She’s a bride. She’s married.
- She’s a beautiful woman.
- She’s a fashionable woman.
313
9. ครสู รุป
- We have a lot of thinkings from the picture of these jewelries.
- These are how jewelry talks.
10. ครู elicit คำถามนักเรยี นตอ่ ไป
- What kind of accessories do you like to wear?
- Why? Why not? แล้วเขยี นคำตอบสน้ั ๆ บนกระดาน
5.2 Presentation
1. ครูให้นักเรียนจับคู่แสดงความคิดเห็นเพื่อตอบคำถามตามแบบฝึกหัดที่ 15 ใน Student’s book
หน้า 84
What’s the woman wearing?
Why do you think she’s wearing it?
2. ครขู ออาสาสมัคร 2-3 คู่ มาเขยี นคำตอบบนกระดาน
3. ครอู ธบิ ายคำสัง่ แบบฝกึ หัดที่ 16 ใน Student’s book หน้า 84
4. ครเู ปิด TR: 71 ให้นักเรยี นฟงั และออกเสยี งตามคำศพั ทน์ ้นั
5. ครแู จกใบความรูเ้ รอ่ื ง “Using a dictionary” แลว้ อธบิ ายใบความรู้
6. ครูให้นักเรียนใช้พจนานุกรมหาความหมายของคำศัพท์ที่นักเรียนออกเสียงไปแล้ว และให้นำตัว
Phonetic ของแต่ละคำมาเขียนขึ้นบนกระดาน ครูอธิบาย Phonetic เพิ่มเติมโดยชี้ให้เห็นการแยกพยางค์ของคำใน
การออกเสยี งและการลงเสียงหนกั ในพยางคข์ องคำทมี่ ีหลายพยางค์
7. ครูกำหนดคำขึ้นมา ให้นักเรียนแข่งกันมาเขียนตัว Phonetic จากการเปิดดูในพจนานุกรมให้ถูกต้อง
พร้อมแบง่ พยางค์ดว้ ย
8. นักเรียนคนใดเขียนแล้ว เขียนอีกไม่ได้ ผู้ที่เร็วและถูกต้องคือผู้ชนะ (ครูคิดกำหนดคำเพื่อทดสอบว่า
นกั เรียนเปดิ พจนานกุ รมค้นขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการได้ถูกต้องเป็นสว่ นใหญ่)
5.3 Practice
1. ครูถามนักเรียนว่าจากการที่นักเรียนเปิดดูคำจำกัดความของคำศัพท์จากพจนานุกรมแล้วนั้น คำว่า
accessories นอกจากจะหมายถึงสิ่งทีเ่ ราเห็นจาก Clip Youtube ก็ดี จากภาพในแบบเรียนก็ดี นักเรียนจะพบอย่าง
อื่นอกี บา้ งหรอื ไม่ ครู elicit คำถาม
Apart from, rings, necklaces, bracelets, what can accessories refer to?
2. นักเรียนตอบได้หลายอย่าง ครูเขียนคำศัพท์ที่นักเรียนตอบบนกระดาน (หากนักเรียนตอบไม่ได้ ให้
นักเรยี นคน้ หาจากพจนานุกรม) เช่น belts, scarves, sunglasses เปน็ ต้น
3. ครูบอกนักเรียนว่านักเรียนจะได้ฟัง TR: 72 พร้อมไปกับบทอ่านเรื่อง Jewelry Talks นี้ แล้วให้จับ
ใจความในเน้อื เรื่องเพื่อใหไ้ ดค้ ำตอบวา่
1. Why can jewelry talk?
314
2. Why do you wear your own jewelry?
4. เมื่อนักเรยี นฟังจบ ให้นักเรียนอาสามาตอบคำถามทัง้ 2 ปากเปล่า โดยครูช่วยสรุปความให้กระชับ แล้ว
เขยี นขน้ึ กระดาน
5. ครอู ธบิ ายคำสั่งแบบฝึกหัดท่ี 18 ใน Student’s book หน้า 85 ให้นักเรียนจบั คูก่ ันตอบ T หรือ F พร้อม
สามารถชีใ้ ห้เห็นร่องรอยในบรบิ ท (Context Clues) ทชี่ ว่ ยในการตัดสนิ ใจเลือกคำตอบดว้ ย
6. นกั เรยี นจับคู่ทำแบบฝกึ หัด
7. ครูสมุ่ เรยี กนักเรียนทีละค่มู าทำแบบฝกึ หัด T/F บนกระดาน พร้อมคำอธิบาย
8. เพื่อน ๆ ช่วยกันตรวจความถกู ต้อง (ครูเพม่ิ เติม)
5.4 Production
1. ครใู ห้นักเรยี นจับคกู่ ันคดิ คำตอบว่าจากเร่ืองทีน่ ักเรยี นอา่ นจบไป นักเรยี นชว่ ยกนั เขยี นลำดบั รายการการ
ใช้เครื่องประดับเพื่อเหตุผลต่าง ๆ ของผู้คนในอินเดีย โดยครูเป็นผู้สุ่มเรียกนักเรียนออกมาเขียนคำตอบคู่ละ 1
รายการ
2. เพ่อื น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจแกไ้ ข (ครเู พิ่มเตมิ )
3. ครใู ห้นักเรยี นจับคู่ใหม่ แลว้ ชว่ ยกนั คิดวา่ ปจั จุบนั ผ้คู นยังคงใช้เคร่ืองประดับในเหตุผลนน้ั ๆ หรือไม่ โดย
ใหใ้ ส่ “S” หน้ารายการทเ่ี ขียนไวต้ อนตน้ รายการท่ีไมม่ ี “S” แปลวา่ ปจั จุบันไม่ทำแล้ว
4. ครสู ่มุ บางคูอ่ อกไปทำแบบฝกึ หดั บนกระดาน
5. เพ่ือน ๆ ทไ่ี มไ่ ดอ้ อกไป ช่วยกันพิจารณาความถกู ต้อง (ครเู พ่ิมเติม)
6. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ 7 คน ให้ช่วยกันวิเคราะห์คำถามทั้ง 3 ใน Student’s book ข้อ 20
หนา้ 85 โดยให้นกั เรียนรู้จกั ทำงานเป็นกลุม่ แบง่ หน้าท่ีงานดังนี้ (เขียนบนกระดาน)
1. Secretary
2. Designer
3. Chairman Brain Storm
4. Writer
5-7. Presenters
7. ครูอธบิ ายหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในกล่มุ
No.1 You have to note down the important points your members said.
No.2 You have to design a piece of thing your friends choose.
No.3 You have to help your members and solve their problems.
No.4 You have to write down the conclusion of your members’ answers correctly and
neatly for handing to your teacher.
No.5 You have to present your work in front of the class in English.
5.5 Wrap Up
ให้นกั เรยี นแต่ละคนสรุปผลการเรียนรู้และการต่อยอดการเรียนรู้ ในแบบบันทึกการเรียนรู้
315
6. การวัดและประเมนิ ผล
สง่ิ ที่ต้องการวดั ผล วธิ ีการวดั ผล เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
- Rating Scale ตามเกณฑ์ 1 2 3 4
- การทำงานค/ู่ กล่มุ - สงั เกตการณ์ทำงานคู่/กล่มุ - แบบสังเกต - Writing Rubric
- ตาราง Rubric
- Writing - การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเขยี น - งานเขยี นของนักเรียน - นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง
- แบบฝกึ หดั - ตรวจความถกู ตอ้ ง - แบบฝึกหดั
- การเรียนรู้ - บนั ทกึ การเรียนรู้ - แบบบนั ทกึ การเรียนรู้
7. สอื่ การเรยี นรู้
7.1 Clip Youtube เร่อื ง “Different Types of Jewel Designs” by Fashion gossip (3.47 นาที)
https://www.youtube.com/watch?v=l2wtW9z2Xx0
7.2 Audio CD TR: 71-72
7.3 Student’s book หนา้ 84-85
7.4 พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ
8. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ผ่านเกณฑ.์ ...................คน ไมผ่ ่านเกณฑ์....................คน
8.1 ด้านความรู้ รอ้ ยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
จำนวนนกั เรียนทง้ั หมด....................คน
คดิ เปน็ ร้อยละ......................................
8.2 ด้านทกั ษะ ผา่ นเกณฑ.์ ...................คน ไม่ผา่ นเกณฑ์....................คน
จำนวนนกั เรียนทั้งหมด....................คน ร้อยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
คิดเป็นร้อยละ......................................
8.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์....................คน ไมผ่ า่ นเกณฑ.์ ...................คน
จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด....................คน ร้อยละ.............................. ร้อยละ..................................
คิดเปน็ ร้อยละ......................................
8.4 ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................ .........................................................................
............................................................................................................................. .......................................................... ..
ลงชอื่ ...............................................ครผู สู้ อน
(นางสาวสุพวิ รรณ เนืองสา)
316
ใบความรูท้ ่ี 1
Be the Expert
Audio CD TR: 71-72
317
แผนจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 What We Wear วชิ าภาษาองั กฤษพื้นฐาน (อ31101)
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2565 ภาคเรียนท่ี 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ผู้สอน นางสาวสพุ ิวรรณ เนืองสา
จำนวน 1 ชวั่ โมง วันท่สี อน.............................................
*********************************************************************************************************
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด
ต 1.1 ม. 4-6/4 จบั ใจความสำคัญ วิเคราะหค์ วาม สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเหน็ จากการฟังและ
อ่านเร่อื งที่เปน็ สารคดแี ละบันเทิงคดี พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยกตวั อย่างประกอบ
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
พูดแสดงความคิดเห็นจากการฟังและดูวีดีทัศน์เรื่องการพิจารณาเลือกใช้เครื่องแต่งกายที่สามารถป้องกันภัย
จากทท่ี ำงาน แล้วจบั ใจความสำคัญ วเิ คราะหข์ อ้ ความ โดยใช้โครงสร้างประโยคไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept)
การพูดแสดงความคิดเห็นจากการฟังและดูวีดีทัศน์เรื่องการพิจารณาเลือกใช้เครื่องแต่งกายที่สามารถป้องกัน
ภัยจากที่ทำงาน แล้วจับใจความสำคัญ วิเคราะห์ข้อความ โดยใช้โครงสร้างประโยคได้อย่างถูกต้อง ทำให้นักเรียนได้
ฝึกทักษะการฟัง สรุปใจความ ทักษะการพูดแสดงความคิดเห็นในการวิเคราะห์ข้อความ คำศัพท์ และฝึกการเขียน
พร้อมทั้งเสริมสร้างให้มีเหตุผล มีวิจารณญาณ เป็นการพัฒนาศักยภาพในการสื่อสารของผู้เรียนให้บรรลุตาม
วตั ถุประสงค์
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
K Pronunciation: environment
Vocabulary: headdress, sole, shred
Grammar: Past + Present Simple Tense
Function: -
Culture: -
P - ฝึกทกั ษะการฟงั เพอื่ จบั ใจความและคิดวิเคราะห์ Clip Youtube และวดี ีทศั น์ 5.1
- ฝึกทกั ษะการพดู แสดงความคดิ เห็นจากใบความรู้, ใบงาน และแบบฝกึ หดั
- ฝกึ ทกั ษะการเขียน-พูด จากการนำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น
A มเี หตผุ ลและวิจารณญาณ
318
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1 Warm up
1. ครบู อกนกั เรยี นว่า
- Today we’re going to watch a clip from Youtube. It’s about tourists in Dubai desert.
- Try to watch carefully in the beginning of the clip about their dressing up.
- Prepare to answer the questions I’m going to write on the board.
2. ครเู ขยี นคำถามบนกระดาน
1. Is it hot there? Why?
2. What’s the temperature about in degree Celsius (C)? Can you guess?
3. In the beginning of the clip, what are the tourists doing? Why?
3. ครูถามนักเรียนว่า Are you ready? เมื่อนักเรียนพร้อมแล้ว ครูเปิด Clip Youtube ให้นักเรียนดูเรื่อง
Dubai Desert Safari Tour Heritage 030717/phillyoneone เวลา (3.54 นาที)
https://www.youtube.com/watch?v=jdCZwOEwGE4
4. เม่ือนักเรยี นดจู บ ครู elicit คำถามดังทีเ่ ขยี นไว้บนกระดาน
5. ครสู รปุ คำตอบทีไ่ ด้จากนักเรียน
- It’s very hot there because it’s a desert.
- The temperature high is about 50C to 60C.
- So, they try to cover there heads from the sun by bandanas or big scarves and protect
their skin with long but unthickened dresses.
6. ขณะทีพ่ ดู สรปุ ครคู วรเขยี นคำศัพท์ทเ่ี ป็น key word และนักเรียนไม่ไดน้ ำมาใชเ้ ปน็ คำตอบ บนกระดาน
เชน่ cover, protect, bandanas, scarves, unthickened dress, etc.
7. ครอู ธิบายคำศัพทเ์ พม่ิ เตมิ
5.2 Presentation
1. ครูให้นักเรียนดูการแต่งกายของนักผจญเพลิงใน Student’s book หน้า 76-77 และชายผู้ทำงานใน
ทะเลทรายใน Student’s book หน้า 86-87 แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบความเหมือนและความต่างมาเติมใน
ประโยคทคี่ รูเขยี นบนกระดาน
- The similar dressing of these two men is ………………………………………..
- The different dressing of these two men is ………………………………………..
2. นกั เรยี นช่วยกนั ตอบปากเปล่าหลากหลาย
3. ครสู รปุ (เขียนบนกระดาน)
- The similar dressing is the way to protect themselves from the heat.
- The different dressing is the fabric of clothing they wear.
319
4. ครูแจกใบงานที่ 1 แล้วอธิบายทีละภาพ ให้นักเรียนเลือกสิ่งที่จะนำไปใช้หากนักเรียนต้องไปทำงานใน
เขตทะเลทราย พร้อมท้ังแสดงเหตผุ ลไปพร้อม ๆ กันทีละภาพ
5. ครเู ขยี นสรปุ บนกระดาน
- The right clothing can save your life from danger involved in the job.
6. ครูให้นกั เรียนชว่ ยกนั เดาความหมายคำทขี่ ีดเส้นใต้
7. ครชู ่วยสรุปเพม่ิ เติม
5.3 Practice
1. ครบู อกนกั เรยี นว่า
- Now, it’s time for watching a video scene 5.1
- It’s a story about a problem of an explorer named Andres Ruzo.
2. ครชู ีใ้ ห้นกั เรียนดภู าพใน Student’s book หน้า 86 แล้ว elicit คำถาม
- Can you guess what his problem is? How does he solve the problem?
3. นักเรียนตอบไดห้ ลากหลาย
4. ครสู รปุ ว่า It depends on the scene 5.1
5. ครบู อกนกั เรยี นว่า
- First, I am going to play the video without sound.
Please, pay attention and guess what happens.
- Second, you’ll hear the sound.
Listen, what they are talking about.
6. ครูอธิบายคำสั่งแบบฝึกหัดที่ 23 ใน Student’s book หน้า 86 บอกนักเรียนให้ทำแบบฝึกหัดขณะที่ดู
และฟัง Scene 5.1
7. เม่อื VDO จบลง ให้นกั เรียนอาสาเขียนคำตอบบนกระดาน
8. เพอ่ื น ๆ แสดงความคิดเห็น (ครอู าจเปดิ ให้ดูและฟังอกี ครงั้ เพื่อตรวจ)
9. ครูย้อนกลับไปคำถามที่ถามไว้ก่อนจะเปิด VDO 5.1 โดยเขยี นคำถามข้ึนกระดาน
- What is Andres Ruzo’s problem?
- How does he solve the problem?
10. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็น 4 กลุ่ม แต่ละกลมุ่ ระดมความคดิ (Brain Storm) เพอื่ เขยี นคำตอบ
11. ครเู ดินดูนักเรยี นทำงาน หากพบว่านักเรียนมปี ญั หา ครคู อยช้แี นะ
12. แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนเขยี นคำตอบบนกระดาน
13. เพอ่ื น ๆ ต่างกล่มุ ชว่ ยกันแสดงความคิดเห็น
14. ครูเปิด VDO ใหด้ เู พือ่ ตรวจความถูกตอ้ ง
15. นักเรยี นชว่ ยกันตรวจความถกู ตอ้ ง (ครเู พม่ิ เติม)
16. ครูแจกใบงานที่ 2 พรอ้ มอธิบายคำสัง่ ในใบงาน
320
17. นักเรยี นทำใบงาน
18. ครูถามคำตอบทลี ะขอ้ ถ้านักเรยี นคดิ ว่าข้อใดเปน็ สงิ่ ท่นี ักเรยี นได้ร้จู าก VDO น้ี ให้ยกมอื
19. ครูให้นักเรียนแสดงเหตุผลของตนในการเลือก “T” และไม่เลือก ทีละข้อ โดยอ้างอิงจากร่องรอยใน
บริบท (Context Clues)
20. ครูอธบิ ายเพมิ่ เติมทีละข้อ พร้อมเขียนคำท่เี ป็น Context clues บนกระดาน
21. ครอู ธิบายคำสั่งแบบฝึกหัดท่ี 24 ใน Student’s book หน้า 86
22. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ที่ 24
23. ครูสุ่มเรยี กนักเรยี นออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน
24. เพอื่ น ๆ ช่วยกนั ตรวจแกไ้ ข (ครเู พ่ิมเติม)
5.4 Production
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ช่วยกันระดมความคิดและอภิปรายกันในกลุ่ม เพื่อให้ได้คำตอบ
ตามคำถามทีค่ รเู ขียนบนกระดาน (ครเู ดนิ ใหค้ วามช่วยเหลือแตล่ ะกลมุ่ )
- Now you’re students. What clothes are you wearing? Why?
- Think of three jobs which need clothes to protect (not the job you’ve already learnt
from this unit) the workers. Why and how?
2. หากครูสงั เกตว่ายงั มีนกั เรียนที่ตอบคำถามไม่ได้ ใหค้ รเู ปดิ Scene 5.2 ให้นักเรยี นดู เพ่ือให้นักเรียนเกิด
ความคิดวเิ คราะห์ได้
3. นกั เรยี นสง่ งานในห้องเรียน
4. ครู assign งานใหน้ กั เรยี นเลือกทำ แลว้ นำมาสง่ พรอ้ มภาพประกอบจากแบบฝกึ หัดท่ี 27 ใน Student’s
book หน้า 87
5. นักเรยี นนำเสนองานของตนหน้าชั้นเรยี น
6. เพ่อื น ๆ แสดงความคดิ เหน็ (ครูเพิม่ เติม)
5.5 Wrap Up
ให้นกั เรียนแตล่ ะคนสรปุ ผลการเรยี นรู้และการต่อยอดการเรยี นรู้ ในแบบบันทกึ การเรียนรู้
6. การวัดและประเมินผล
ส่ิงทต่ี ้องการวัดผล วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน
- แบบสงั เกต - Rating Scale ตามเกณฑ์ 1 2 3 4
- การทำงานคู่/กลุม่ - สังเกตการณ์ทำงานคู/่ กลมุ่ - ผลงานของนักเรยี น - ตามข้อกำหนดแต่ละกิจกรรม
- แบบฝกึ หัด - ตาราง Rubric
- Activity - การปฏิบตั ิกจิ กรรม - แบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ - นกั เรียนประเมินตนเอง
- แบบฝึกหัด - ตรวจความถูกต้อง
- การเรียนรู้ - บนั ทกึ การเรียนรู้
321
7. ส่ือการเรียนรู้
7.1 Clip Youtube เรอ่ื ง “Dubai Dessert Safari Tour Heritage 030717/phillyoneone”
https://www.youtube.com/watch?v=jdCZwOEwGE4
7.2 ใบความรู้, ใบงานท่ี 1-2
7.3 แบบฝกึ หดั ท่ี 21-27 ใน Student’s book หน้า 86-87
7.4 วีดีทศั น์ 5.1–5.2 จากบทเรยี นหนังสือ Impact 1
322
8. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์....................คน ไมผ่ า่ นเกณฑ์....................คน
8.1 ดา้ นความรู้ ร้อยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
จำนวนนักเรียนทั้งหมด....................คน
คิดเป็นร้อยละ......................................
8.2 ด้านทกั ษะ ผา่ นเกณฑ.์ ...................คน ไม่ผ่านเกณฑ์....................คน
จำนวนนกั เรียนท้ังหมด....................คน รอ้ ยละ.............................. ร้อยละ..................................
คดิ เป็นรอ้ ยละ......................................
8.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์....................คน ไม่ผา่ นเกณฑ์....................คน
จำนวนนักเรียนทัง้ หมด....................คน รอ้ ยละ.............................. รอ้ ยละ..................................
คิดเปน็ รอ้ ยละ......................................
8.4 ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
.......................................................................................................................................................................... ...............
.................................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................
.........................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ...............................................ครูผสู้ อน
(นางสาวสุพิวรรณ เนืองสา)
ใบงานที่ 1 323
Which accessories you’ll bring to work in desert?
Eyewear
Headdress a. b.
a. b.
Sweatshirt Tent
a. b. a. b.
Shoes Water bottle
a. b. a. b.
324
ใบงานที่ 2
Put only “T” in front of the sentences this VDO teachers you
1. If I choose to be a geoscientist in my future, I should assure that sometimes I must work
in pretty extreme environment.
2. Tent can protect me from a very very windy day.
3. It’s good for me to reuse tent shreds to wear and walk around a big city as practical
headdresses.
4. Even in a desert, the wind can blow so hard and rip tent to pieces.
5. I should put on boat shoes to walk around slipping wet surfaces because their soles can
save me.
6. When I choose clothing to wear, it’s necessary to think of many reasons.
325
Video script scene 5.1
Video script scene 5.2
326
แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 6
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 What We Wear วิชาภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน (อ31101)
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ปีการศึกษา 2565 ภาคเรยี นที่ 1
กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ผู้สอน นางสาวสพุ ิวรรณ เนืองสา
จำนวน 1 ช่วั โมง วันทส่ี อน.............................................
*********************************************************************************************************
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ต 1.2 ม. 4-6/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความ
คิดเหน็ เก่ียวกบั เรือ่ ง/ประเด็น/ข่าว/เหตกุ ารณ์ทีฟ่ งั และอ่านอยา่ งเหมาะสม
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
พูดสนทนาถาม-ตอบ โดยใชโ้ ครงสรา้ งของ Past Simple Tense ไดถ้ กู ต้องและเหมาะสมกบั ระดบั ชัน้
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept)
การพูดสนทนาถาม-ตอบ โดยใช้โครงสร้างของ Past Simple Tense ได้ถูกต้องและเหมาะสมกับระดับช้ัน
ทำให้นักเรียนได้รับความรู้ ความเข้าใจ คำศพั ท์ โครงสร้างภาษาอังกฤษ ไดฝ้ กึ ภาษา ทง้ั การอา่ น การฟงั การพูด และ
การเขยี น พรอ้ มทั้งเสริมสร้างให้รกั การเรยี นรูภ้ าษาอังกฤษและฝึกผนเพียงพออย่างจริงจัง เป็นการพัฒนาศักยภาพใน
การสื่อสารของผู้เรยี นให้บรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์
4. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
K Pronunciation: plague, thought, gloves, mask, brought
Vocabulary: birdlike mask, leather coat, cane, rubber fabric, special
Grammar: Past Simple Tense
Function: Asking + Answering
Culture: Projective suit
P - ฝกึ ทักษะการฟังจาก Clip Youtube เรอ่ื ง IRREGULAR VERBS และ TR: 73
- ฝกึ ทักษะการอ่านจากแบบฝกึ หดั ที่ 28 ใน Student’s book หน้า 88
- ฝึกทักษะการผัน past form ของกริยาจากแบบฝึกหัดที่ 28 ใน Student’s book และแบบฝึกหัดที่ 14
ใน Workbook หนา้ 52
- ฝึกทักษะการพูดสนทนาและการเขียนจากแบบฝึกหัดที่ 29 หน้า 88 และกิจกรรมหน้า 173 ใน
Student’s book
A รักการเรยี นร้ภู าษาองั กฤษและฝกึ ฝนเพยี งพออย่างจรงิ จัง
327
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
5.1 Warm up
1. ครูเปิด Clip Youtube เรื่อง “80 most common IRREGULAR VERBS & music” by Mare Eder
https://www.youtube.com/watch?v=NyGAZSv9r54 ใหน้ กั เรยี นดเู ปน็ เวลา 2.58 นาที โดยไม่บอกอะไรเลย เมอื่
Clip จบ ครถู ามนักเรียนว่า
- What is this clip about? Why do you think so?
2. ครสู รปุ ว่า It’s about ………………………. แล้วออกเสยี งเพ่ือใหน้ กั เรียนสะกดคำ
I _ _ _ _ _ _ _ _ V _ _ _ _ (เขยี นบนกระดาน)
3. ครทู บทวนว่า
- Verb ending –ed in the past tense called ……………. แลว้ ออกเสียงเพ่อื ให้นกั เรียนสะกดคำ
R______ V____
4. ครูบอกนักเรียนว่า You’ve already learnt about regular verbs in past simple tense. Today
we’re going to deal with Irregular verbs in past simple tense.
5.2 Presentation
1. ครใู หน้ ักเรยี นเปิดดู grammar ใน Workbook หน้า 52
2. ครูให้นักเรียนดูกริยาในประโยค บอกนักเรียนว่ากริยาเหล่านี้เป็น Irregular Verb เมื่อใช้ในประโยค
Past Simple Tense จะตอ้ งผันรูปไป
3. ครใู หน้ ักเรียนอาสาสมัครมาเขียน Present form ของกริยาเหล่าน้ี
4. เพ่อื น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจความถกู ต้อง
5. ครอู ธิบายเพ่มิ เติมถงึ โครงสรา้ งของกริยา Past form เมอ่ื เปน็ ประโยคคำถามและปฏิเสธ
6. ครใู หน้ ักเรียนเปดิ ดู Irregular Verbs ใน Student’s book แลว้ อธบิ ายตาราง Irregular Verbs ในแถว
ที่ 1 “Infinitive” ขอ Verb to be เมื่อเป็น Present form จะมีคำว่า am, is, are เพื่อใช้กับประธานบุรุษตา่ ง ๆ ท้ัง
ที่เป็นเอกพจน์และพหูพจน์ ส่วนในแถวที่ 2 Past form ของ be จะมีคำว่า was, were เพื่อใช้กับประธานเอกพจน์
และพหูพจน์
7. ครูอธิบาย Present form ของ “do” มีคำว่า do เพื่อใช้กับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 1 ทั้งเอกพจน์และ
พหูพจน์ ส่วนคำว่า “does” นั้น ใช้กับประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 เท่านั้น เช่นเดียวกับ Present form ของ has,
have
8. ครใู หน้ ักเรยี นเปดิ Student’s book หน้า 88 แล้วดทู ่หี ัวขอ้ grammar
9. ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นจับใจความทลี ะประโยคในใจ
10. แลว้ ให้นกั เรยี นหาความหมายคำวา่ plague จากร่องรอยในบรบิ ท
11. นักเรียนบอกความหมายคำว่า plague แลพ Context clues ที่ช่วยให้นักเรียนทราบความหมาย (ครู
อธบิ ายเพมิ่ เตมิ )
328
12. ครูถามนักเรียนว่า What are the present form of the verbs in the sentences? ให้นักเรียนตอบ
พร้อมกนั ทลี ะประโยค
13. ครูอธบิ ายเพมิ่ เติม
5.3 Practice
1. ครูให้นักเรียนเตรียมตัวฟัง TR: 73 แล้วอ่านออกเสียง เมื่อฟังจบทีละประโยค เน้นการออกเสียงคำว่า
Plague, thought
2. ครถู ามคำถามเก่ยี วกบั ขอ้ ความทใี่ น grammar วา่
What did the doctor in the past time believe? Do you think so?
3. ใหน้ กั เรียนอาสาเขยี นคำตอบบนกระดาน เพื่อน ๆ ช่วยกันพิจารณา
4. ครสู รปุ และเขียนคำตอบบนกระดาน
- The doctors in the past time believe that red color would protect them from the
plague.
- I think, they might have good reason.
5. ครูอธิบายคำสั่งแบบฝึกหัดที่ 28 ใน Student’s book หน้า 88 แล้วบอกนักเรียนว่า This exercise
will show you the reasons of doctors. Read carefully while you’re doing the exercise.
6. ครบู อกนักเรยี นว่า Don’t forget to check your past form of verbs on page 148.
7. นักเรยี นทำแบบฝึกหัด โดยอาสามาเขยี นคำตอบบนกระดาน
8. เพื่อน ๆ ช่วยกนั ตรวจความถูกตอ้ ง (ครูอธิบายเพ่ิมเติม)
9. ครูเขียนคำเหล่านี้บนกระดาน birdlike mask, long leather coat, cane, rubber fabric, gloves,
boots, hood. แล้วให้นักเรียนนำคำเหล่านี้ไปเขียนไว้ข้าง ๆ สิ่งนั้นบนภาพ ระหว่างที่นักเรียนเขียน ครูวาดภาพ
เช่นเดียวกันนั้นบนกระดาน แลว้ สุม่ เรียกนกั เรียนมาเขียนคำเหล่านัน้ ข้าง ๆ ดังในภาพของนักเรยี น
10. เพ่อื น ๆ ชว่ ยกันตรวจความถูกต้องและตวั สะกด (ครูอธิบายเพมิ่ เติม)
11. หลงั จากตรวจความถูกตอ้ งแลว้ ครูกลับไปถามตามเดมิ
What did the doctor in the past time believe?
12. ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันตอบปากเปลา่ แล้วครจู งึ ช่วยเขยี นสรุปบนกระดานจากคำตอบของนักเรียน เชน่
The doctors believe that the mask, the red eye-glasses, the cane and their protective
suit can cover them from the plague which is carried through the air.
13. ครูอธบิ ายคำสั่งแบบฝกึ หดั ที่ 14 ใน Workbook หนา้ 52
14. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั โดยศกึ ษาจากตาราง Irregular Verbs ใน Student’s book หน้า 148
15. ครสู มุ่ เรียกนักเรยี นมาเขยี นคำตอบบนกระดาน พร้อมอา่ นออกเสยี งประโยคให้เพ่ือนอา่ นตามทลี ะข้อ
5.4 Produntion
329
1. ครอู ธิบายการเลน่ เกมตามคำส่ังแบบฝึกหัดที่ 29 ใน Student’s book หนา้ 88 (เกมนี้เหมอื นทนี่ ักเรียน
เคยเล่นพบั เปน็ กลีบดอกบวั แล้วบิดไปมา กลีบดอกบวั จะมคี ำเขียนไวเ้ หมอื นกนั ) แลว้ ใหน้ กั เรยี นทำกลอ่ งกระดาษ
เหมือนลูกเต๋า พรอ้ มขอ้ ความตามภาพหนา้ 173 โดยใหน้ ักเรยี นจบั คูก่ ันเลน่ เกมน้ี
2. ครูเลือกนักเรียนมา 1 คู่ มาสาธิตการเล่นเกมกล่อง Cube ในหน้า 88 ของ Student’s book เมื่อโยน
ได้ What/wear นกั เรยี นกส็ รา้ งประโยคคำถาม เช่น What did you wear to the concert? อีกฝ่ายตอ้ งตอบ เช่น I
wore a blue dress with black shoes.
3. นักเรียนสามารถเปดิ ดู Past form ของ Verbs หนา้ 148-149 หากไมแ่ นใ่ จได้
4. นกั เรยี นเร่ิมจับคู่เล่นเกม
5. ขณะท่ีนกั เรียนเลน่ เกมกัน ครเู ดนิ ดรู อบ ๆ เพ่ือใหค้ ำแนะนำ
6. เมื่อนักเรียนเล่นครบตามด้านทั้ง 6 แล้ว ครูเปลี่ยนคำชุดใหม่ ให้นักเรียนเพิ่มจะทำกล่อง Cube ใหม่
หรอื ลบเปลีย่ นคำกไ็ ด้ โดยเลือกกริยา 6 ใน 12 คำมาใช้
What/bring or give When/sleep or have
Why/get or think Where/leave or find
Who/teach or put How/feel or keep
7. ครเู ขียนตัวอย่างใหน้ ักเรยี นดู ถา้ โยนกลอ่ งได้ how/keep
A: How did you keep from laughing?
B: I kept from laughing by holding my breath.
5.5 Wrap up
1. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเปน็ 2 กลุม่ กลมุ่ A และกลุม่ B
2. ครูแจกใบคำศัพท์ให้กลุ่ม A คนละใบคำศัพท์ หรือ 2 คนต่อใบคำศัพท์เหล่านี้ ได้แก่ fashion, heels,
jeans, suit, sweatshirt, tie, uniform, fabric, tights, bride, tattoos, accessory, bracelet, necklace, outfit,
wealth
3. ครูเขยี นคำตอบต่อไปนบ้ี นกระดาน bring, feel, find, get, give, keep, leave, put
4. ครูใหน้ กั เรยี นท้งั 2 กลมุ่ นัง่ เป็นวงกลม 2 วงกลม
5. ครอู ธบิ ายการเล่นเกมนี้
- เมื่อครูเปิดเพลง ให้กลุ่ม A ส่งบัตรคำเวียนกันในวงกลม ส่วนกลุ่ม B ครูแจกลูกบอลให้ส่งเวียนในวง
กลุ่ม เม่อื เพลงหยุด บตั รคำและลกู บอลอยูท่ ีใ่ คร ให้นักเรยี นกลุ่ม A, B นั้นกา้ วออกมานอกวงกลม
- แล้วจับคกู่ ันมาสรา้ งประโยค โดยเลือกคำบนกระดานมาเปน็ กริยาในประโยค
6. ครูยกตวั อยา่ ง เช่น ถ้าเพลงหยดุ นกั เรียนกลุ่ม A คนนนั้ ไดบ้ ัตรคำคำว่า fabric ใหส้ รา้ งประโยคไปเขียน
บนกระดาน เช่น I found the best fabric for my new dress.