109 งความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู (๒) รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน ยนรับฟังข้อเสนอแนะของครูเกี่ยวกับ ความรู้สึกและความคิดเห็น ยนตอบคำถามสรุปบทเรียน ดังนี้ นำไปใช้ในเรื่องพูดและการแสดงความ เรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ นที่พูดได้ดี และไม่พูดจาว่าร้ายผู้อื่น หรือ นเสียหาย
110 ๘. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ๑) สื่อ PowerPoint เรื่อง การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู(๒) ๒) ใบงานที่ ๗ เรื่อง แบบร่างการพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู ๓) วีดิทัศน์เรื่อง ชานมไข่มุก เหตุผลที่ไม่ควรกินชานมไข่มุก (บ่อย ๆ) ๙. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ ๗ แบบร่างการพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกหลักการพูดแสดงความรู้ และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและ ดู - การพิจารณาการ ตอบคำถามของ นักเรียน - คำถามสำคัญ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) - พูดแสดงความรู้และความคิดเห็น จากเรื่องที่ฟังและดู - พูดแสดงความรู้และ ความคิดเห็นจากเรื่อง ที่ฟังและดู - แบบประเมิน การพูดแสดงความรู้ และความคิดเห็นจาก เรื่องที่ฟังและดู ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - มีมารยาทในการฟัง การดู และ การพูด - สังเกตมารยาทใน การฟังและการดู - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับ ผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร (๑.๑) พูดแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น โดยมีลำดับเหตุการณ์ใช้ภาษาที่ สละสลวยถูกต้อง มีมารยาท ใน การฟัง การดู และการพูด - ประเมินการพูด แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็น - แบบประเมิน สมรรถนะด้านการ คิด ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ระดับคุณภาพ “ผ่าน” คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - มีวินัย - มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรมของ นักเรียน แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ระดับคุณภาพ “ผ่าน”
111 เกณฑ์การประเมิน เรื่อง การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑. การพูดแสดง ความรู้และความ คิดเห็น - พูดแสดงความรู้ และความ คิดเห็นสัมพันธ์กับเรื่อง - พูดลำดับเหตุการณ์ - แสดงเหตุผลและยกตัว อย่างชัดเจน - ใช้ภาษาถูกต้องกาลเทศะ และเหตุการณ์ ปฏิบัติได้ ๓ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๒ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๑ ใน ๔ ข้อ ๒. การนำเสน อ ข้อมูล - ประเด็นที่นำเสนอถูกต้อง - เนื้อหามีความสมบูรณ์ - ข้อมูลเป็นข้อเท็จจริง - นำเสนอแปลกใหม่ ปฏิบัติได้ ๓ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๒ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๑ ใน ๔ ข้อ ๓. บุคลิกภาพ ลีลาในการพูด - แสดงออกอย่างเหมาะสม - ใช้น้ำเสียงตรึงความสนใจของ ผู้ฟัง - มีสมาธิ มั่นใจในการพูด - สบตากับผู้ฟังตลอดการพูด ปฏิบัติได้ ๓ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๒ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๑ ใน ๔ ข้อ 4. มารยาทใน การพูด - แนะนำตนเองก่อนพูด - มองหน้าและสบตาผู้ฟัง - พูดให้ได้ยินอย่างทั่วถึง ไม่ ตะโกน - พูดด้วยถ้อยคำสุภาพชัดเจน ปฏิบัติได้ ๓ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๒ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๑ ใน ๔ ข้อ เกณฑ์การตัดสิน คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับ พอใช้ ขึ้นไป
112 แบบประเมินการพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู คำชี้แจง ให้ครูเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับประเด็นการประเมิน ที่ ชื่อ-สกุล ประเด็นการประเมิน รวม การพูดแสดง ความรู้สึกและ ความคิดเห็น ข้อมูล การนำเสนอ บุคลิกภาพ ลีลาในการพูด มารยาท ในการพูด ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๖ เกณฑ์การตัดสิน คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับ พอใช้ ขึ้นไป
113 ๑๐. บันทึกผลหลังสอน* ผลการจัดการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................. ............. ..................................................................................................................... ......................................................... ความสำเร็จ ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ข้อจำกัดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. *หมายเหตุ : ดูแนวคำถามการบันทึกผลหลังสอนสำหรับครูในภาคผนวก ค ลงชื่อ......................................................ผู้สอน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผู้ตรวจ (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
114 การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็น เป็นการพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นต่อเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ผู้พูดจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะพูดว่าถูกต้อง หรือไม่ จากนั้นพูดให้กระจ่าง ชัดเจน โดยใช้เหตุผลประกอบหรือมีหลักฐานอ้างอิง หลักการพูดแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ๑. ศึกษาเรื่องที่จะพูดให้เข้าใจ ชัดเจน แจ่มแจ้ง ๒. กล่าวถึงข้อมูลหรือข้อเท็จจริงก่อน ๓. กล่าวความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ๔. ควรพูดในเชิงสร้างสรรค์และมีข้อเสนอแนะ ๕. ควรเขียนแบบร่างก่อนพูด และปรับปรุงสำนวนภาษาให้ดี ๖. มีมารยาทในการดู การฟัง และการพูด ข้อควรคำนึงในการพูด การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู เราควรพิจารณาให้รอบคอบก่อน พูด เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับผู้อื่น เพราะในเรื่องเดียวกัน แต่ละคนอาจมีมุมมองและ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ มารยาทในการพูดแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ๑. พูดด้วยถ้อยคำที่สุภาพ ไม่หยาบคาย ๒. พูดในเชิงสร้างสรรค์ ๓. หลีกเลี่ยงการพูดที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ใบความรู้ที่ ๗ เรื่อง การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู (๒) รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
115 คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแบบร่างการพูดแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น จากนั้นนำเสนอ หน้าชั้นเรียน แบบร่างการพูด เรื่อง ...................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชื่อ ......................................................... สกุล ............................................... ชั้น ................... เลขที่ .............. ใบงานที่ ๗ เรื่อง แบบร่างการพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู (๒) รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
115 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐานการเรียนรู้ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ป.๕/๒ ระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมที่สามารถ นำไปใช้ในชีวิตจริง ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด วรรณกรรมเป็นงานเขียนที่แต่งขึ้นจากการคิดและจินตนาการ แล้วนำมาเรียบเรียง บอกเล่าหรือ บันทึก วรรณกรรมมีความครอบคลุมถึงนิทาน ตำนาน เรื่องเล่า เรื่องสั้น นวนิยาย บทเพลง ทำให้เราเข้าใจถึง ความคิด วัฒนธรรม และความเชื่อผ่านเนื้อหาสาระและแนวความคิด มีลักษณะกระตุ้นหรือชักจูงให้ผู้อ่านเกิด ความคิดในแง่ต่าง ๆ การอ่านวรรณกรรมต้องจับประเด็นสำคัญ และคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล พิจารณาหา ความรู้ ข้อคิด หรือคติสอนใจให้ได้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ หลักการระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่าน ๓.๒ ระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่านเรื่อง กีสาโคตมีเถรี ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๔.๑ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกหลักการระบุความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่านได้ ๔.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) - ระบุความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่านได้ ๔.๓ ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - มีนิสัยรักการอ่าน ๕. สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน (KSA) ความสามารถในการสื่อสาร (๑.๑) พูดและเขียนถ่ายทอดความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่าน อย่างเป็นเหตุเป็นผล และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๖.๑ ใฝ่เรียนรู้ ๖.๒ มุ่งมั่นในการทำงาน ๗. กิจกรรมการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู สมรรถนะที่ต้องการให้เกิด กับผู้เรียน - ความสามารถใน การสื่อสาร (๑.๑) พูดและ เขียนถ่ายทอดความรู้และ ข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่าน อย่างเป็นเหตุเป็นผล และ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ด้านความรู้ - บอกหลักการระบุความรู้ และข้อคิดจากวรรณกรรมที่ อ่านได้ ด้านทักษะกระบวนการ - ระบุความรู้และข้อคิดจาก วรรณกรรมที่อ่านได้ ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม - มีนิสัยรักการอ่าน ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (๑๐ นาที) 1.ครูจัดกิจกรรม“อ่านเข้าใจได้ข้อคิด” โดยให้ นักเรียนแต่ละคนอ่านในใจนิทานเรื่อง ลา หมา จิ้งจอก กับราชสีห์ ๒. ครูและนักเรียนสนทนาสรุปการทำกิจกรรม “อ่านเข้าใจได้ข้อคิด” โดยใช้คำถามดังนี้ ครู : อ่านนิทานเรื่องนี้แล้วรู้สึกอย่างไร แนวคำตอบ : สนุก เศร้า ไม่ชอบ/ชอบ ครู : ตัวละครในเรื่องเป็นอย่างไร แนวคำตอบ : ลารักเพื่อนและซื่อ หมาจิ้งจอก รักตัวเองไม่ซื่อสัตย์ เจ้าเล่ห์ ราชสีห์ น่ากลัวลาดแกมโกง เชื่อถือไม่ได้ ครู : ได้ความรู้อะไรบ้างจากนิทานเรื่องนี้ แนวคิด : ความรู้เรื่องสัตว์ที่มีความแตกต่างกัน ครู : ได้ข้อคิดอะไรบ้างจากนิทานเรื่อง ๑. นักเข้อคิด” กับราชสีคำถาม ๒. นักกำหนดใข้อคิด” นักเรียนนักเรียน นักเรียหมาจิ้งจได้ / ราช
116 ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน เรียนร่วมทำกิจกรรม “อ่านเข้าใจได้ โดยอ่านในใจนิทานเรื่อง ลา หมาจิ้งจอก สีห์ เมื่ออ่านจบร่วมกันอภิปรายและตอบ เรียนตอบคำถามตามประเด็นที่ครู ให้เพื่อสรุปการทำกิจกรรม “อ่านเข้าใจได้ น : ตอบอย่างอิสระตามความรู้สึก น : วิเคราะห์ตัวละครอย่างอิสระ ยน : ตอบอย่างอิสระ เช่น ลาและ จอก ที่ถึงแม้จะแตกต่างกันก็เป็นเพื่อนกัน ชสีห์เป็นสัตว์กินเนื้อ - นิทานเรื่อง ลา หมาจิ้งจอก กับ ราชสีห์ การสรุป ความรู้ และข้อคิด จากเรื่องที่ อ่าน วิธีวัด ๑. สังเกต พฤติกรรม ๒. สังเกต การตอบคำถาม และการพูดแสดง ความคิดเห็นจาก เรื่องที่อ่าน เครื่องมือวัด ๑. คำถามสำคัญ ๒. แบบประเมิน การระบุความรู้ และข้อคิดจาก การอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน ครู : นักเรียนจะนำข้อคิดจากนิทานเรื่อง ไปใช้ใน เรื่องใด และใช้อย่างไรบ้าง ๓. ครูเชื่อมโยงความคิดจากการตอบคำถามของ นักเรียนเข้าสู่บทเรียนและแจ้งจุดประสงค์ การเรียนรู้ ขั้นสอน (๒๐ นาที) ๑. ครูใช้คำถามนำเข้าสู่บทเรียน ดังนี้ ครู : นักเรียนชอบอ่านหนังสือประเภทใดบ้าง ครู : ประโยชน์ของการอ่านมีอะไรบ้าง แนวคำตอบ : การอ่านมีประโยชน์ หลายเรื่องเช่น กระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มทักษะการคิด วิเคราะห์ ช่วยกระตุ้นความจำ ช่วยให้รู้สำนวน ภาษาและคำศัพท์มากขึ้น อ่านได้ความรู้ อ่านมาก ทำให้เขียนดีขึ้น ช่วยฝึกสมาธิ เพลิดเพลิน ผ่อน คลาย นักเรียนความจรินักเรียนใช้ในกาเพื่อนช่ว๓. นักเข้อสงสัย๑. นักเรีนักเรียนนักเรียนการเรียนการอ่าน
117 ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน น : การที่จะคบกับใครก็ตาม ต้องมี ริงใจให้แก่กัน ไม่หักหลังกัน น : เป็นคนที่จริงใจ ไม่คิดหักหลังเพื่อน ไป ารทำงานร่วมกันเวลามีปัญหาไม่ทอดทิ้ง วยจนเสร็จงาน เรียนทำความเข้าใจจุดประสงค์ หากมี ยให้ยกมือถามครู และเข้าสู่บทเรียน รียนตอบคำถามตามประเด็นที่ครูกำหนด น : นิทาน นิยาย สารคดี ฯลฯ น : ตอบอย่างอิสระ เช่น นำมาปรับใช้ใน นได้ หรือนำข้อคิด คำสอน ที่ได้จาก นไปปรับใช้ในชีวิตประวันได้ - สื่อ PPT เรื่อง วรรณกรรมดีมี สาระ - ใบความรู้ที่ ๗ เรื่อง การสรุป ความรู้และข้อคิด จากเรื่องที่อ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู ๒. ครูนำตัวอย่างประเภทของหนังสือ วรรณคดี และวรรณกรรมมาให้นักเรียนวิเคราะห์ แล้วให้ นักเรียนอ่านใบความรู้ที่ ๗ เรื่อง การสรุปความรู้ และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน และตั้งคำถาม ดังนี้ ครู: การสรุปความรู้จากเรื่องคืออะไร แนวคำตอบ : เป็นการสรุปความรู้ที่ปรากฏอยู่ใน เรื่องที่อ่าน โดยเขียนสรุปเป็นประโยคสั้น ๆ เพื่อ ขยายความเข้าใจให้ชัดเจนมากขึ้น ครู : การสรุปข้อคิดจากเรื่องคืออะไร แนวคำตอบ : เป็นการค้นหาข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน โดยอาจเขียนสรุปข้อคิดเป็นประโยคหรือข้อความ สั้น ๆ ครู : หลักการสรุปความรู้และข้อคิดต้องปฏิบัติ อย่างไรบ้าง แนวคำตอบ : หลักการสรุปความรู้และข้อคิด ดังนี้ ๑) อ่านเพื่อจับใจความสำคัญของเรื่อง ๒) สรุปใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า (ใช้ปากกา เน้นข้อความ หรือจดสรุปในรูปแบบของตนเอง) ๒. นักเรีวรรณคดีเรื่อง กาและตอบ
118 ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน รียนดูตัวอย่างประเภทของหนังสือ ดี และวรรณกรรมแล้วอ่านใบความรู้ที่ ๗ ารสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน บคำถาม
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู ๓) นำใจความสำคัญที่ได้มาเรียบเรียงใหม่ด้วย ภาษาของตนเอง ๔) อ่านทบทวนเพื่อหาส่วนที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม ขั้นปฏิบัติ (๑๕ นาที) ๑. ครูแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมใบงานที่ ๘ เรื่อง ระบุความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่ อ่าน โดยครูชี้แจงและให้คำแนะนำนักเรียน รายบุคคลระหว่างปฏิบัติกิจกรรม ๒. ครูประเมินการระบุความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่ อ่าน เสนอแนะผลงาน ข้อดี และข้อที่ต้องปรับปรุง แก้ไข ๑. นักเรีระบุควา๒. นักเรีการระบุระหว่างสามารถตนเองเพื
119 ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน รียนปฏิบัติกิจกรรมในใบงานที่ ๘ เรื่อง ามรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่าน รียนรับฟังข้อเสนอแนะจากครูเกี่ยวกับ บุความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน (ใน ที่ครูให้คำแนะนำโดยภาพรวม นักเรียน ถจดบันทึกคำแนะนำเป็นสำนวนภาษาของ พื่อนำไปพัฒนาให้ดีขึ้น) ใบงานที่ ๘ เรื่อง ระบุความรู้และ ข้อคิดจาก วรรณกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู ขั้นสรุป (๕ นาที) ครูถามคำถามสรุปบทเรียน ดังนี้ ครู : การอ่านเพื่อหาความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่ อ่านมีประโยชน์อย่างไร ครู : นักเรียนจะนำความรู้เรื่องการสรุปความรู้และ ข้อคิดจากเรื่องที่อ่านไปใช้ได้อย่างไรบ้าง นักเรียนนักเรียนอ่านได้คอ่านได้อนักเรียนสามารถและนำไ
120 ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน นตอบคำถามสรุปบทเรียน ดังนี้ น : สามารถเก็บรายละเอียดจากเรื่องที่ ครบถ้วน และตรงประเด็น เข้าใจเรื่องที่ อย่างรวดเร็ว น : นำไปใช้ในการอ่านเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ ถเก็บประเด็นจากเรื่องได้อย่างครบถ้วน ไปใช้ในการเรียนวิชาอื่น ๆ ได้
121 ๘. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ๑) ใบความรู้ที่ ๗ เรื่อง การสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน ๒) ใบงานที่ ๘ เรื่อง ระบุความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่าน ๓) สื่อ PowerPoint เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ ๙. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงานที่ ๘ ระบุความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่าน สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกหลักการระบุความรู้และ ข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่าน - สังเกตการตอบ คำถามของนักเรียน - คำถามสำคัญ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) - ระบุความรู้และข้อคิดจาก วรรณกรรมที่อ่าน - ตรวจใบงานที่ ๘ ระบุความรู้และข้อคิด จากวรรณกรรมที่อ่าน - แบบประเมิน การระบุความรู้และ ข้อคิดจากการอ่าน ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - มีนิสัยรักการอ่าน - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับ ผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร (๑.๑) พูดและเขียนถ่ายทอด ความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่ อ่านอย่างเป็นเหตุเป็นผล และ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน - ประเมินการระบุ ความรู้และข้อคิดจาก การอ่าน - แบบประเมิน สมรรถนะด้าน การคิด ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ระดับคุณภาพ “ผ่าน” คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรมของ นักเรียน แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ระดับคุณภาพ “ผ่าน”
122 เกณฑ์การประเมิน เรื่อง การระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่าน ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑. การสรุปความรู้ สรุปความรู้ได้ ตรงประเด็น ถูกต้องตามเนื้อหา ทั้งหมด สรุปความรู้ได้ ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ สรุปความรู้ได้ ถูกต้องเป็น เพียงบางส่วน สรุปความรู้ได้ แต่ไม่ตรงประเด็น ๒. การสรุปข้อคิด สรุปข้อคิดได้ ตรงประเด็น ถูกต้องตามเนื้อหา ทั้งหมด อธิบายข้อคิด ได้ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ อธิบายข้อคิด ได้ถูกต้องเป็น เพียงบางส่วน อธิบายข้อคิด ได้แต่ไม่ตรง ประเด็น ๓. การสรุปคุณค่า สรุปความคุณค่าได้ ตรงประเด็น ถูกต้องตามเนื้อหา ทั้งหมด สรุปคุณค่าได้ ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ สรุปคุณค่าได้ ถูกต้องเป็น เพียงบางส่วน สรุปคุณค่าได้แต่ไม่ ตรงประเด็น ๔. ความคิดสร้างสรรค์ มีความคิด สร้างสรรค์ ในการสรุปความรู้ ได้ถูกต้องทั้งหมด มีความคิด สร้างสรรค์ ในการสรุปความรู้ ได้เป็นส่วนใหญ่ มีความคิด สร้างสรรค์ ในการสรุปความรู้ ได้เพียงบางส่วน ขาดความคิด สร้างสรรค์ใน การสรุปความรู้ ๕. การนำข้อคิดไปใช้ ในชีวิตประจำวัน นำข้อคิดไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม นำข้อคิดไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน ได้อย่างถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ นำข้อคิดไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน ได้อย่างถูกต้อง เป็นเพียงบางส่วน นำข้อคิดไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน ได้น้อยมาก เกณฑ์การตัดสิน คะแนน ๑๖ - ๒๐ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ - ๑๕ หมายถึง ดี คะแนน ๖ - ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ - ๕ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับ พอใช้ขึ้นไป
123 แบบประเมินการระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่าน คำชี้แจง ให้ครูเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับประเด็นการประเมิน ที่ ชื่อ -สกุล ประเด็นการประเมิน รวม การสรุป ความรู้ การสรุป ข้อคิด การสรุป คุณค่า ความคิด สร้างสรรค์ การนำ ข้อคิดไป ใช้ในชีวิต ประจำวัน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒๐ เกณฑ์การตัดสิน คะแนน ๑๖ - ๒๐ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๑ - ๑๕ หมายถึง ดี คะแนน ๖ - ๑๐ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ - ๕ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับ พอใช้ขึ้นไป
124 ๑๐. บันทึกผลหลังสอน* ผลการจัดการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ความสำเร็จ ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ........................................................................................................... ................................................................... ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ข้อจำกัดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. *หมายเหตุ : ดูแนวคำถามการบันทึกผลหลังสอนสำหรับครูในภาคผนวก ค ลงชื่อ......................................................ผู้สอน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผู้ตรวจ (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
125 การสรุปความรู้ การสรุปความรู้ เป็นการสรุปความรู้หรือทฤษฎีที่ปรากฏอยู่ในเรื่องที่อ่าน โดยเขียนสรุป เป็นประโยคสั้น ๆ หรือข้อความสั้น ๆ เพื่อขยายความเข้าใจให้ชัดเจนมากขึ้น การสรุปข้อคิด การสรุปข้อคิด เป็นการค้นหาข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน ซึ่งข้อคิดอาจแฝงอยู่ในเนื้อเรื่อง หรือ อยู่ส่วนท้ายของเรื่องที่อ่าน โดยผู้อ่านอาจเขียนสรุปข้อคิดเป็นประโยคหรือข้อความสั้น ๆ ได้ หรือ เป็นคำคมก็ได้ การสรุปความรู้และข้อคิดมีหลักพื้นฐานการปฏิบัติ ดังนี้ ๑. อ่านรอบแรกเพื่อดูชื่อเรื่องก่อน แล้วอ่านโดยมีคำถามในใจว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไรผลเป็นอย่างไร ข้อความใดสำคัญให้ขีดเส้นใต้ไว้ ๒. อ่านอีกครั้ง โดยดูรายละเอียดของเนื้อหา เพื่อค้นหาความรู้สำคัญและข้อคิด ๓. สามารถอ่านเพิ่มได้จนกว่าจะเข้าใจเนื้อหา ๔. ให้สรุปใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้าไว้ ๕. นำใจความสำคัญที่รวบรวมไว้มาเขียนเรียบเรียงใหม่อย่างละเอียดและสละสลวย โดย ใช้สำนวนภาษาของตนเอง ๖. ทบทวนการสรุปความรู้อีกครั้ง เพื่อพิจารณาหาส่วนที่ต้องแก้ไขหรือต้องการเพิ่มเติม หลักการสรุปความจากเรื่องที่อ่าน ใบความรู้ที่ ๗ เรื่อง การสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
126 คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง กีสาโคตมีเถรี และตอบคำถามตามประเด็นที่กำหนดให้ กีสาโคตมีเถรี พระกีสาโคตรมีเถรีเดิมมีชื่อว่า กีสา เป็นธิดาของตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งในกรุงสาวัตถี นางได้แต่งงานกับบุตรชายเศรษฐีและมาอยู่ที่บ้านของตระกูลสามีต่อมานางกีสาได้ให้กำเนิดบุตรชาย น่ารักคนหนึ่ง ยังความปลาบปลื้มแก่สมาชิกในตระกูล แต่อยู่ได้ไม่นานบุตรน้อยของนางก็เสียชีวิต กะทันหัน นางร่ำไห้เสียใจแทบขาดสติไม่ยอมให้ใครเผาศพบุตรชาย เพราะคิดเข้าข้างตัวเองว่าบุตร ของตนยังไม่ตาย เพียงสลบไปเท่านั้น นางเที่ยวเสาะหาคนที่จะสามารถรักษาบุตรชายของนางให้กลับ ฟื้นคืนชีวิต จนมีผู้แนะนำให้นางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ขณะที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่เชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี นางได้กราบทูลพระพุทธองค์ รักษาบุตรน้อย แต่พระองค์กลับตรัสให้นางไปหาเมล็ดพันธุ์ผักกาดมาสักกำมือหนึ่งจากบ้านเรือนที่ไม่มี คนตาย เมื่อได้มาแล้วจึงมาทำยาให้นางกีสาอุ้มบุตรชายเที่ยวขอเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากชาวบ้านทั่วทุก ครัวเรือน แต่นางกีสาก็ไม่ได้เมล็ดผักกาดแม้แต่เมล็ดเดียว เนื่องจากครัวเรือนแต่ละครอบครัว มีคน ตายแล้วทั้งสิ้น ในที่สุดนางได้สติกลับคืนมาและคิดว่าความตายนั้นไม่ใช่เฉพาะลูกนางคนเดียว สักวันหนึ่งนาง ก็ต้องตายเหมือนกัน นางกีสาจึงเกิดปัญญาคิดได้ว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นย่อมมีแตกดับไปเป็นธรรมดา นางจึงคลายความโศกเศร้า จิตใจสดชื่นแล้วจัดการเผาศพบุตรชาย ต่อมานางได้ฟังธรรมจากพระพุทธ องค์ เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงกราบทูลขออุปสมบทเป็นภิกษุณีและได้บรรลุธรรมขั้นสูง พระพุทธเจ้ายกย่องกีสาโคตรมีเถรีว่า เป็นเลิศทางถือธุดงค์อย่างเคร่งครัดมีความเป็นอยู่เรียบง่าย นับเป็นสตรีท่านหนึ่งที่มีบทบาทอย่างดียิ่งในการจรรโลงพระพุทธศาสนา ใบงานที่ ๘ เรื่อง ระบุความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่าน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
127 ตอนที่ ๑ คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อที่ถูกต้อง ๑. ข้อใดตรงกับเนื้อเรื่อง (เลือกได้มากกว่า ๑ คำตอบ) ❑ นางกีสายอมรับความจริงไม่ได้ จึงพยายามปลอบตัวเองว่าลูกของนางแค่สลบไป ❑ มีคนรักษาลูกของนางกีสาได้ ทำให้ลูกของนางฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง ❑ มีผู้แนะนำให้นางกีสาไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อให้ช่วยรักษาลูกของนาง ❑ พระพุทธเจ้าให้นางไปหาเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากบ้านที่ไม่เคยมีคนตาย เพื่อที่จะนำมาทำยา รักษาลูกของนาง ❑ นางกีสาไม่ได้เมล็ดผักกาดมาแม้แต่เมล็ดเดียวเพราะทุกบ้านต่างก็มีคนตายแล้วทั้งสิ้น ❑ นางกีสาได้เรียนรู้และเข้าใจว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งใดมีเกิดย่อมมีแตกดับ ตอนที่ ๒ ๒. นักเรียนได้ความรู้อะไรบ้างจากการอ่านเรื่อง “กีสาโคตมีเถรี” ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๓. เรื่อง “กีสาโคตมีเถรี” ให้ข้อคิดอะไรแก่นักเรียน (แสดงความคิดเห็นโดยมีเหตุผลประกอบ) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๔. จากข้อที่ ๓ ให้นักเรียนยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่สอดคล้องและสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๕. หากบุคคลที่นักเรียนรักต้องแยกจากกัน หรือเสียชีวิตนักเรียนจะมีวิธีจัดการอารมณ์และความรู้สึก อย่างไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ชื่อ ......................................................... สกุล ............................................... ชั้น .... ............... เลขที่ ..............
128 คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง กีสาโคตมีเถรี และตอบคำถามตามประเด็นที่กำหนดให้ กีสาโคตมีเถรี พระกีสาโคตรมีเถรีเดิมมีชื่อว่า กีสา เป็นธิดาของตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งในกรุงสาวัตถี นางได้แต่งงานกับบุตรชายเศรษฐีและมาอยู่ที่บ้านของตระกูลสามี ต่อมานางกีสาได้ให้กำเนิดบุตรชาย น่ารักคนหนึ่ง ยังความปลาบปลื้มแก่สมาชิกในตระกูล แต่อยู่ได้ไม่นานบุตรน้อยของนางก็เสียชีวิต กะทันหัน นางร่ำไห้เสียใจแทบขาดสติ ไม่ยอมให้ใครเผาศพบุตรชาย เพราะคิดเข้าข้างตัวเองว่าบุตร ของตนยังไม่ตาย เพียงสลบไปเท่านั้น นางเที่ยวเสาะหาคนที่จะสามารถรักษาบุตรชายของนางให้กลับ ฟื้นคืนชีวิต จนมีผู้แนะนำให้นางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ขณะที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่เชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถีนางได้กราบทูลพระพุทธองค์ รักษาบุตรน้อย แต่พระองค์กลับตรัสให้นางไปหาเมล็ดพันธุ์ผักกาดมาสักกำมือหนึ่งจากบ้านเรือนที่ไม่มี คนตาย เมื่อได้มาแล้วจึงมาทำยาให้ นางกีสาอุ้มบุตรชายเที่ยวขอเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากชาวบ้านทั่วทุก ครัวเรือน แต่นางกีสาก็ไม่ได้เมล็ดผักกาดแม้แต่เมล็ดเดียว เนื่องจากครัวเรือนแต่ละครอบครัว มีคนตายแล้วทั้งสิ้น ในที่สุดนางได้สติกลับคืนมาและคิดว่าความตายนั้นไม่ใช่เฉพาะลูกนางคนเดียว สักวันหนึ่งนาง ก็ต้องตายเหมือนกัน นางกีสาจึงเกิดปัญญาคิดได้ว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นย่อมมีแตกดับไปเป็นธรรมดา นางจึงคลายความโศกเศร้า จิตใจสดชื่นแล้วจัดการเผาศพบุตรชาย ต่อมานางได้ฟังธรรมจากพระพุทธ องค์ เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงกราบทูลขออุปสมบทเป็นภิกษุณีและได้บรรลุธรรมขั้นสูง พระพุทธเจ้ายกย่องกีสาโคตรมีเถรีว่า เป็นเลิศทางถือธุดงค์อย่างเคร่งครัดมีความเป็นอยู่เรียบง่าย นับเป็นสตรีท่านหนึ่งที่มีบทบาทอย่างดียิ่งในการจรรโลงพระพุทธศาสนา เฉลยใบงานที่ ๘ เรื่อง ระบุความรู้และข้อคิดจากวรรณกรรมที่อ่าน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
129 ตอนที่ ๑ คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อที่ถูกต้อง ๑. ข้อใดตรงกับเนื้อเรื่อง (เลือกได้มากกว่า ๑ คำตอบ) ❑ นางกีสายอมรับความจริงไม่ได้ จึงพยายามปลอบตัวเองว่าลูกของนางแค่สลบไป ❑ มีคนรักษาลูกของนางกีสาได้ ทำให้ลูกของนางฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง ❑ มีผู้แนะนำให้นางกีสาไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อให้ช่วยรักษาลูกของนาง ❑ พระพุทธเจ้าให้นางไปหาเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากบ้านที่ไม่เคยมีคนตาย เพื่อที่จะนำมาทำยา รักษาลูกของนาง ❑ นางกีสาไม่ได้เมล็ดผักกาดมาแม้แต่เมล็ดเดียวเพราะทุกบ้านต่างก็มีคนตายแล้วทั้งสิ้น ❑ นางกีสาได้เรียนรู้และเข้าใจว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งใดมีเกิดย่อมมีแตกดับ ตอนที่ ๒ ๒. นักเรียนได้ความรู้อะไรบ้างจากการอ่านเรื่อง “กีสาโคตมีเถรี” การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาของการมีอยู่และการแตกดับไป ๓. สรุปข้อคิดและคุณค่าจากเรื่อง “กีสาโคตมีเถรี” ข้อคิดที่ได้ คือ ควรรู้จักปล่อยวางเพื่อไม่ให้ใจของเราเป็นทุกข์ การยึดติดจะสร้างความทุกข์ให้แก่ ตนเอง ทุกสิ่งเป็นเรื่องธรรมดา มีพบต้องมีจาก มีเกิดย่อมมีแตกดับ ๔. จากข้อที่ ๓ ให้นักเรียนยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่สอดคล้องและสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้ สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต การเสียใจเป็นเรื่องปกติของการจากลา อาจจะใช้ระยะเวลา หากใจปล่อยวางได้ ไม่ยึดติดก็จะทำให้เราเป็นทุกข์น้อยลงและจะผ่านมันไปได้(คำตอบอยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ๕. หากบุคคลที่นักเรียนรักต้องแยกจากกัน หรือเสียชีวิตนักเรียนจะมีวิธีจัดการอารมณ์และความรู้สึก อย่างไร หากต้องแยกกันอยู่กับคนที่รักต้องดูด้วยเหตุผลแล้วทำความเข้าใจ เช่น ต้องอยู่กับตายาย เพราะ พ่อและแม่ไปทำงานที่ต่างจังหวัด หากคนที่รักเสียเสียชีวิต ไม่ควรยึดติดและให้เวลาเป็นเครื่องมือในการทำใจ (คำตอบอยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
130 นิทานเรื่อง ลา หมาจิ้งจอก กับราชสีห์ ลากับหมาจิ้งจอกเป็นเพื่อนรักกัน พวกมันสาบานต่อกันว่า จึงจะตกทุกข์ได้ยาก อย่างไร ก็จะไม่ทิ้งกันเด็ดขาด วันหนึ่ง ลากับหมาจิ้งจอกพากันไปหากินในป่า บังเอิญไปเจอเข้ากับราชสีห์ จะหลบหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว หมาจิ้งจอกรู้ว่าตนอยู่ในอันตราย จึงรีบวิ่งไปหาราชสีห์ก่อน แล้วบอกว่าจะหาลา มาให้กินตัวหนึ่ง โดยแลกกับการไม่ทำอันตรายตัวมันเอง ราชสีห์รู้ทันหมาจิ้งจอก จึงรับปากว่า ถ้าหาลามาได้จะปล่อยหมาจิ้งจอกไป หมาจิ้งจอกจึงไปหลอกเพื่อนลาของมันให้ไปติดหล่มลึก แล้ววิ่งไปบอกราชสีห์ให้ไป กินลา แต่ราชสีห์กลับจับหมาจิ้งจอกกินเสียก่อน แล้วจึงไปกินลาต่อ ในที่สุด ทั้งลาและ หมาจิ้งจอกก็เป็นอาหารของราชสีห์ สื่อสำหรับครู นิทานเรื่อง ลา หมาจิ้งจอก กับราชสีห์ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
131 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ป.๕/๗ อ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอ และแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ป.๕/๘ มารยาทในการอ่าน ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่าน เป็นทักษะสำคัญเป็นกระบวนการที่ผู้อ่านรับรู้สารที่เป็นความรู้ ความคิด ความรู้สึก การอ่าน หนังสือที่มีคุณค่าจะทำให้เกิดความคิดเพื่อพัฒนาตนเอง รู้จักการปรับตัวในการอยู่ร่วมกันในสังคม ช่วยผ่อน คลายความเครียด และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน จนเป็นผู้มีนิสัยรักการอ่าน ๓. สาระการเรียนรู้ - การเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจ ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๔.๑ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกวิธีเลือกอ่านหนังสือได้ ๔.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) - เขียนบันทึกการอ่านได้ ๔.๓ ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ - มีนิสัยรักการอ่าน ๕. สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน (KSA) - ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู สมรรถนะที่ต้องการให้เกิด กับผู้เรียน - ด้านความรู้ - บอกวิธีเลือกอ่านหนังสือ ได้ ด้านทักษะกระบวนการ - - เขียนบันทึกการอ่านได้ ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม - นำความรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ( ๕ นาที) ๑. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ๆ ละ ๕ - ๖ คน แล้วให้ตัวแทนกลุ่มออกมาจับซองสุ่มภาพตัดต่อ ลึกลับนิทานปริศนา เพื่อช่วยกันต่อว่าเป็นนิทาน เรื่องใด จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านเนื้อ เรื่องแล้วส่งตัวแทนบอกชื่อนิทานและข้อคิดที่ได้ จากเรื่อง ๑) นกกระสากับหมาจิ้งจอก ๒) อึ่งอ่างและวัว ๓) หนูในหีบ ๔) แม่ปูกับลูกปู ๒. ครูสอบถามเกี่ยวกับการทำกิจกรรมโดยให้ นักเรียนยกมือ หรืออาสาตอบคำถาม ดังนี้ ครู : นิทานที่แต่ละกลุ่มได้รับ มีนักเรียนคนใด ไม่รู้จักบ้าง แนวคำตอบ : ตัวอย่างเรื่องแม่ปูกับลูกปู เนื่องจาก (บอกเหตุผล)นิทานเรื่องนี้ไม่ได้รับ ความนิยมแต่หากพิจารณาเนื้อหา และข้อคิดดู แล้วนับว่าเป็นนิทานที่น่าสนใจเพราะเป็นนิทานที่ อ่านแล้วได้ข้อคิดนึกภาพแม่ปูที่กำลังสอนลูกปู ๑. นักเรียลึกลับกับนเนื้อเรื่องนิบอกชื่อนิท ๒. นักเรียนักเรียน :แม่ปูกับลูก
132 ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน ยนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม “ภาพตัดต่อ นิทานมหาสนุก” โดยต่อภาพและอ่าน นิทานของกลุ่มตนเอง นักเรียนส่งตัวแทน ทาน และข้อคิดที่ได้จากเรื่องที่อ่าน ยนยกมือเพื่อตอบคำถาม ตอบอย่างอิสระ เช่น ไม่รู้จักนิทานเรื่อง กปู เนื่องจาก (บอกเหตุผล) - ภาพตัดต่อ ลึกลับกับนิทาน มหาสนุก - สื่อ PPT เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า วิธีวัด ๑. สังเกต พฤติกรรม ๒. สังเกต การตอบคำถาม และการพูดแสดง ความคิดเห็น เครื่องมือวัด ๑.คำถามสำคัญ ๒.แบบประเมิน การเขียนบันทึก การอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู ให้เดินตรง ๆ โดยที่ไม่ดูตนเองเลยว่าตนเองก็เดิน ไม่ตรงเช่นเดียวกัน ซึ่งการที่เราจะสอนหรือให้ คำชี้แนะใครก็ตามเราควรปฏิบัติตนให้เป็น แบบอย่างเสียก่อนไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีความ น่าเชื่อถือ ครู : หลังจากอ่านนิทานและได้ฟังข้อคิดจากกลุ่ม อื่น ๆ นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไร ๓. ครูเชื่อมโยงความคิดจากการตอบคำถามของ นักเรียนเข้าสู่บทเรียนและแจ้งจุดประสงค์การ เรียนรู้เกี่ยวกับการอ่านหนังสือดีมีคุณค่า ขั้นสอน (๒๐ นาที) ๑. ครูใช้คำถามนำเข้าสู่บทเรียน ดังนี้ ครู : การอ่านมีความสำคัญต่อเราอย่างไร แนวคำตอบ : มีความสำคัญต่อเรา เพราะทำให้รู้ ข่าวสาร ข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลก ครู : การอ่านมีประโยชน์ต่อเราอย่างไรบ้าง แนวคำตอบ : มีประโยชน์ทำให้เป็นคนทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ และสร้างให้เราอยากรู้อยาก เห็น เป็นคนมีความรู้ ๒. ครูให้นักเรียนจับคู่ศึกษาใบความรู้ที่ ๙ เรื่อง การอ่านหนังสือตามความสนใจ และสรุปความรู้ นักเรียน :มากมายทีศึกษาเนื้อ๑. นักเรียโดยตอบจจากความ
133 ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน ตอบอย่างอิสระ เช่น มีนิทานอีก ที่เรายังไม่ได้อ่าน เกิดความสนใจที่จะ อเรื่องมากขึ้น ยนตอบคำถามตามประเด็นที่ครูกำหนด จากความรู้เดิม ประสบการณ์เดิมหรือ คิดเห็น
แผนการจัดการเรียนรู้ที่หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู และตั้งคำถามเพื่อทบทวนและสร้างความเข้าใจ ร่วมกัน ดังนี้ ครู : การอ่านคืออะไร แนวคำตอบ : การอ่านคือการที่ผู้อ่านรับรู้ความรู้ ความคิด ความรู้สึก และความหมาย หรือสารที่ ผู้เขียนสื่อออกมาผ่านตัวอักษร เพื่อให้ผู้อ่านได้ เข้าใจ อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียน ครู : นักเรียนมีวิธีการเลือกอ่านหนังสืออย่างไร ครู : เรามีวิธีการอย่างไรที่สามารถจดจำเรื่องที่ เราได้ดี ขั้นปฏิบัติ (๒๐ นาที) ๑. ครูแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมใน ใบงานที่ ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า และเดินดู นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม หากนักเรียนสงสัยครู สามารถเดินไปอธิบายเป็นรายบุคคลได้เพื่อไม่ให้ เป็นการรบกวนสมาธินักเรียนคนอื่น ๆ ๒. ครูสุ่มนักเรียนออกมาอ่านบันทึกการอ่านของ ตนเองให้เพื่อนร่วมห้องได้ฟัง จากนั้นให้นักเรียน ๒. นักเรียหนังสือตาความเข้าใความรู้ที่ศึ นักเรียน :หนังสือที่มีงานเขียนทความแตกนักเรียน :๑. นักเรียหนังสือดีมีสอบถามไ
134 ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน ยนจับคู่ศึกษาใบความรู้ที่ ๙ การอ่าน ามความสนใจ และสรุปความรู้ตาม ใจของนักเรียน จากนั้นตอบคำถามจาก ศึกษาและความคิดเห็น เลือกอ่านตามความสนใจ เลือกอ่าน มีที่แหล่งอ้างอิง และหลีกเลี่ยงการอ่าน ที่ชี้นำไปในทางที่ไม่ดี ก่อให้เกิด กแยก เขียนบันทึกการอ่าน ยนปฏิบัติกิจกรรมในใบงานที่ ๙ เรื่อง มีคุณค่า หากเกิดข้อสงสัยสามารถยกมือ ได้ - ใบความรู้ที่ ๘ เรื่อง การอ่าน หนังสือตามความ สนใจ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่หน่วยที่ ๑ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้บทบาทครู แสดงความคิดเห็นว่าผู้อ่านสรุปใจความสำคัญได้ อย่างครบถ้วน ๓. ครูประเมินผลงานของนักเรียน และให้ เสนอแนะผลงานข้อดีและข้อที่ต้องปรับปรุง ขั้นสรุป (๕ นาที) ๑. ครูสนทนาและตั้งถามคำถามสรุปบทเรียน ครู : การอ่านหนังสือมีประโยชน์อย่างไร ครู : ในปัจจุบันนักเรียนคิดว่าการจดบันทึก มีความสำคัญ หรือไม่ อย่างไร ๒. ตัวแทนตนเองให้เ๓. นักเรียการเขียนบ๑. นักเรียนักเรียน :เพิ่มขึ้น นักเรียน :เทคโนโลยีมากมาย แวิธีที่ดีที่จะเวลาอันรวส่วนหนึ่ง เรื่องราวต
135 ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย าปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๕๐ นาที สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน /ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล (วิธีวัด/เครื่องมือวัด) บทบาทนักเรียน นนักเรียนออกมาอ่านบันทึกการอ่านของ เพื่อนร่วมห้องได้ฟัง ยนรับฟังข้อเสนอแนะของครูเกี่ยวกับ บันทึกการอ่าน ยนตอบคำถามสรุปบทเรียน ดังนี้ ได้รับความรู้จากเรื่องที่ตนเองได้ศึกษา มีความสำคัญเพราะปัจจุบันจะมี ยีเอื้ออำนวยความสะดวกในการจดจำ แต่การจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ก็เป็น ะช่วยให้เราจดจำเรื่องที่อ่านได้ภายใน วดเร็วเมื่อเราลืมเนื้อเรื่องส่วนใด เราก็สามารถอ่านและทำความเข้าใจ ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย - ใบงานที่ ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า
136 ๘. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ๑) ใบความรู้ที่ ๘ เรื่อง การอ่านหนังสือตามความสนใจ ๒) ใบงานที่ ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า ๓) สื่อ PowerPoint เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า ๔) สื่อสำหรับครู เรื่อง ภาพตัดต่อลึกลับกับนิทานมหาสนุก ๙. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ ๙ หนังสือดีมีคุณค่า สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกวิธีเลือกอ่านหนังสือ - สังเกตการตอบ คำถามของนักเรียน - คำถามสำคัญ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ระดับพอใช้ขึ้นไป ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) - เขียนบันทึกการอ่าน - ประเมินใบงานที่ ๙ หนังสือดีมีคุณค่า - แบบประเมิน การเขียนสรุปความรู้ ข้อคิดที่ได้จากการ อ่านได้ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ระดับพอใช้ขึ้นไป คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ - มีนิสัยรักการอ่าน - สังเกตพฤติกรรมของ นักเรียน - คำถามสำคัญ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ระดับพอใช้ขึ้นไป สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับ ผู้เรียน - - - - คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ สังเกตพฤติกรรมของ นักเรียน แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ระดับคุณภาพ “ผ่าน”
137 เกณฑ์การประเมิน เรื่อง การเขียนบันทึกการอ่าน ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ลายมือ - รูปแบบและขนาด ตัวอักษรสม่ำเสมอ - ระยะห่างตัวอักษร เท่ากัน - สะกดคำถูกต้องทุกคำ - เป็นระเบียบสะอาด - รูปแบบและขนาด ตัวอักษรไม่ สม่ำเสมอบางส่วน - ระยะห่าง ตัวอักษรไม่เท่ากัน บางส่วน - สะกดคำถูกต้อง มากกว่าร้อยละ ๘๐ ของคำทั้งหมด - เป็นระเบียบ สะอาดเป็นส่วน ใหญ่ - รูปแบบและขนาด ตัวอักษรไม่ สม่ำเสมอ - ระยะห่าง ตัวอักษรไม่เท่ากัน บางส่วน - สะกดคำถูกต้อง มากกว่าร้อยละ ๗๐ ของคำทั้งหมด - เป็นระเบียบ สะอาดบางส่วน - รูปแบบและ ขนาดตัวอักษรไม่ สม่ำเสมอ - ระยะห่าง ตัวอักษรไม่เท่ากัน - สะกดคำถูกต้อง มากกว่าร้อยละ ๕๐ ของคำ ทั้งหมด - ไม่เป็นระเบียบ ไม่สะอาด ๒.การเขียนบันทึก - เขียนด้วยถ้อยคำของ ตนเอง - บันทึกแหล่งที่มาของ เรื่องอย่างชัดเจน - เขียนสรุปใจความ สำคัญ - ระบุข้อคิดและ ประโยชน์จากเรื่องที่ อ่านที่นำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ปฏิบัติได้ ๓ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๒ ใน ๔ ข้อ ปฏิบัติได้ ๑ ใน ๔ ข้อ เกณฑ์การตัดสิน คะแนน ๗ - ๘ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๕ - ๖ หมายถึง ดี คะแนน ๓ - ๔ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ - ๒ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับ พอใช้ขึ้นไป
138 แบบประเมินการเขียนบันทึกการอ่าน คำชี้แจง ให้ครูเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับประเด็นการประเมิน ที่ ชื่อ-สกุล ประเด็นการประเมิน รวม ลายมือ การเขียนบันทึก ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๘ เกณฑ์การตัดสิน คะแนน ๗ - ๘ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๕ - ๖ หมายถึง ดี คะแนน ๓ - ๔ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑ - ๒ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับ พอใช้ขึ้นไป
139 ๑๐. บันทึกผลหลังสอน* ผลการจัดการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ความสำเร็จ ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ........................................................................................................... ................................................................... ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจำกัดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. *หมายเหตุ : ดูแนวคำถามการบันทึกผลหลังสอนสำหรับครูในภาคผนวก ค ลงชื่อ......................................................ผู้สอน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผู้ตรวจ (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
140 การอ่านหนังสือ หมายถึง การรับรู้ความหมายจากถ้อยคำ ที่อยู่ในสิ่งพิมพ์หรือในหนังสือ เป็นการรับรู้ว่าผู้เขียนคิดอะไร โดยเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดรวมเป็นเรื่องราวเดียวกัน หลักการเลือกอ่านหนังสือ ๑. มีสาระเรื่องราวตรงกับความสนใจ ๒. เนื้อหาถูกต้องมาจากแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ๓. หนังสือที่เขียนโดยนักเขียนที่มีคุณภาพ ๔. หนังสือที่มีเนื้อหา คุณค่า ความคิด และการนำเสนอ ๕. เนื้อหาไม่โน้มน้าวไปในทางเสื่อม หรือสร้างความแตกแยกทางสังคมและวัฒนธรรม การบันทึกความรู้ การเขียนเรื่องราวจากการอ่านหนังสือ หรือการฟัง การดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เป็นความรู้ควรจำ เพื่อเป็นการเตือนความจำหรือใช้ในการอ้างอิง หลักการบันทึกความรู้ ๑. อ่านเรื่องให้เข้าใจและจับประเด็นสำคัญของเรื่อง ๒. เขียนบันทึกโดยระบุชื่อหนังสือ ผู้แต่ง โรงพิมพ์ ปีที่พิมพ์ หรือจากการฟัง การดู ๓. เขียนบันทึกโดยใช้สำนวนภาษาของตนเอง ๔. ระบุข้อคิดและประโยชน์จากเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ใบความรู้ที่ ๘ เรื่อง การอ่านหนังสือตามความสนใจ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
141 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจ และบันทึกความรู้ที่ได้ลงในใบงาน เนื้อหาโดยสรุป ข้อคิด/ประโยชน์ที่ได้รับ ชื่อ ......................................................... สกุล ............................................... ชั้น ......... .......... เลขที่ .............. ใบงานที่ ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ แบบบันทึกการอ่าน ชื่อเรื่อง ชื่อหนังสือ ผู้แต่ง อ่านวันที่ เดือน พ.ศ.
142 คำชี้แจง ใช้สำหรับทำกิจกรรม “จิ๊กซอว์ลึกลับกับนิทานมหาสนุก” สื่อสำหรับครู เรื่อง จิ๊กซอว์ลึกลับกับนิทานมหาสนุก หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง หนังสือดีมีคุณค่า รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
143
144
145
146 นิทานเรื่อง นกกระสากับหมาจิ้งจอก วันหนึ่งหมาจิ้งจอกนึกอยากจะแกล้งนกกระสา มันจึงเชิญนกกระสามากินอาหารค่ำที่ บ้าน อาหารที่มันเตรียมไว้รับแขกก็คือซุปที่ใส่ไว้ในจานก้นตื้น แต่ปากของนกกระสายาวกว่าปาก ของหมาจิ้งจอกมันจึงไม่สามารถกินได้ จึงต้องกลับบ้านไปด้วยความหิว หลายวันต่อมานกกระสา จึงเชิญหมาจิ้งจอกมาที่บ้านบ้าง มันเตรียมอาหารใส่คนโทไว้ หมาจิ้งจอกพยายามยื่นปากลงไปกิน อาหารในคนโทแต่ก็ไม่ถึง นกกระสาจึงพูดขี้นว่า "เจ้าจะมาว่าข้าไม่ได้นะ เพราะข้าทำแบบเดียวกับ ที่เจ้าเคยทำกับข้าเท่านั้นเอง" หมาจิ้งจอกจึงต้องกลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้กินอะไรแม้แต่น้อย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นใดย่อมได้รับผลตอบแทนเช่นกัน นิทานเรื่อง อึ่งอ่างกับวัว ณ หนองน้ำริมทุ่งนา วัวตัวหนึ่งเดินมากินน้ำและเหยียบโดนลูกอึ่งอ่างตายไปหลายตัว เมื่อแม่อึ่งอ่างกลับมา ลูก ๆ ก็รีบเล่าให้แม่ฟังด้วยความตื่นกลัวว่า “แม่จ๋าเมื่อกี้มีตัวอะไรไม่รู้ สูงใหญ่ทะมึนเหยียบพวกเราตายไปตั้งหลายตัว น่ากลัวมากเลยจ๊ะ” แม่อึ่งอ่างได้ฟังก็สูดลมพองตัวให้ใหญ่ขึ้นแล้วถามด้วยความอยากรู้ว่า “ตัวใหญ่เท่านี้ ไหม”ลูกอึ่งอ่างบอกว่า “ใหญ่กว่านี้อีกจ้ะแม่” แม่อึ่งอ่างจึงพองตัวขึ้นอีก ลูก ๆ ก็ตอบว่า “ยังใหญ่ไม่ถึงครึ่งเลยแม่” แม้ว่าแม่อึ่งอ่างจะพยายามพองตัวขึ้นเท่าไร แต่ลูก ๆ ก็ยังส่ายหน้าว่ายังใหญ่ไม่ถึงครึ่ง แม่อึ่งอ่างนึกฉุนเฉียวจึงพองตัวขึ้นสุดแรงเกิดจนตัวเอง ทนไม่ไหว ท้องแตกตายที่ริมหนองน้ำแห่งนั้น นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อทำสิ่งใดควรรู้จักประมาณตนให้เหมาะสม นิทานเรื่อง หนูในหีบ หนูตัวหนึ่งใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในหีบที่เต็มไปด้วยอาหาร มันไม่เคยออกมาเห็นโลก ภายนอกเลย จนกระทั่งวันหนึ่งฝาหีบถูกเปิดออก มันจึงรีบปีนขึ้นไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ พลาดตกออกไปข้างนอกหีบ มันพยายามปีนกลับเข้าไปในหีบอยู่หลายครั้ง แต่ก็ตกลงมาทุกครั้ง จนมันหมดแรง ทันใดนั้นเองมันเหลือบไปเห็นอาหารที่มีอยู่มากมาย มันจึงพูดกับตัวเองอย่างมี ความสุขว่า “ข้าจะกลับไปอยู่ในหีบแคบ ๆ ใบนั้นทำไมนะ ในเมื่อข้างนอกออกจะกว้างใหญ่แถมยัง มีอาหารมากมายอีกด้วย” นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าปิดกั้นตัวเองให้อยู่ในโลกแคบ ๆ จงเปิดใจกว้างยอมรับ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
147 นิทานเรื่อง แม่ปูกับลูกปู เช้าวันหนึ่งแม่ปูพาลูก ๆ ออกมาเดินหาอาหารที่ชายหาด แม่ปูเห็นลูกปูเดินเฉไปเฉมา ไม่เป็นระเบียบจึงบอกลูกปูว่า “ลูก ๆ จ๋า เดินแบบนี้ไม่สวยเลยนะจ๊ะ ไหนลองเดินตรง ๆ หน่อยซิ” ลูกปูจึงพูดกับแม่ว่า “ถ้าอย่างนั้นแม่ช่วยเดินให้พวกหนูดูหน่อยสิคะ พวกหนูจะได้เดินตาม” แม่ปู จึงเดินให้ลูกดู แต่มันก็ไม่สามารถเดินให้ตรงได้เช่นเดียวกัน หลังจากวันนั้น แม่ปูจึงไม่กล้าสอนลูก ในสิ่งที่ตนทำไม่ได้อีกเลย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนจะสอนใคร ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ได้เสียก่อน นิทานเรื่อง ปูกับงู ณ ทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง งูกับปูเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ปูมี นิสัยชอบเดินไปด้านข้าง ส่วนงูชอบเลื้อยคดเคี้ยวไปมา วันหนึ่ง ปูเห็นงูเดินคดเคี้ยวไปมาน่ารำคาญ ปูจึงบอกให้งูเดินเหมือนมันแต่งูไม่ยอมทำตาม ปูโมโหมาก เมื่องูเผลอมันจึงใช้ก้ามของมันหนีบที่ คองูจนตาย เมื่อปูเห็นร่างของงูยืดตรงแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ เจ้าปูก็พูดว่า “ถ้าเจ้าเลื้อยตรง ๆ อย่างนี้เสียแต่แรก เจ้าก็คงไม่ต้องโดนลงโทษแบบนี้หรอก” นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้มีนิสัยคดโกงและไม่ซื่อตรงมักพบหายนะเข้าสักวัน นิทานเรื่อง เด็กเลี้ยงแกะ ณ หมู่บ้านชายป่า มีเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งชอบพูดโกหกเป็นประจำ วันหนึ่งเกิดนึกสนุก อยากแกล้งชาวบ้านจึงร้องตะโกนว่า “ช่วยด้วย ๆ หมาป่ามันจะมากินแกะแล้ว” ชาวบ้านต่างพา กันมาช่วย พอเด็กเลี้ยงแกะเห็นชาวบ้านวิ่งหน้าตาตื่นก็หัวเราะด้วยความชอบใจ แล้วชอบเล่นสนุก แบบนี้อีกหลายครั้ง ชาวบ้านก็พากันวิ่งหน้าตาตื่นมาช่วยเขาทุกครั้ง และพบว่าพวกเขาถูกหลอก อีกเช่นเคย จนวันหนึ่งหมาป่าก็มาจริง ๆ คราวนี้เด็กเลี้ยงแกะตะโกนให้คนมาช่วยสุดเสียง “ช่วย ด้วย ๆ หมาป่ามันจะมากินแกะแล้ว” แต่ครั้งนี้กลับไม่มีชาวบ้านออกมาช่วยเด็กเลี้ยงแกะอีกแล้ว เพราะคิดว่าเขาคงจะโกหกอีก สุดท้ายเจ้าหมาป่าจึงกินแกะของเด็กเลี้ยงแกะไปทีละตัว ๆ จนหมด นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนที่ชอบโกหก แม้พูดความจริงก็ไม่มีใครเชื่อ
148 นิทานเรื่อง ราชสีห์กับหนู ราชสีห์ตัวหนึ่งเอนกายหลับใหลอยู่ในป่าทึบ หัวอันใหญ่โตของมันวางอยู่บนหัวอุ้งเท้า หนูน้อยขี้กลัวบังเอิญวิ่งมาบนตัวของมันโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้วยความกลัวและร้อนรนที่จะรีบหนีไปให้ พ้น เจ้าหนูกลับแล่นปรูดไปบนจมูกราชสีห์ ราชสีห์งีบหลับอยู่ดีๆ ครั้นถูกรบกวนมันจึงตะปบ อุ้งเท้าอันใหญ่โตลงไปบนเจ้าสัตว์ตัวน้อยด้วยความฉุนโกรธหวังจะฆ่าหนูให้ตาย “ปล่อยข้าไปเถิด" เจ้าหนูผู้น่าสงสารขอร้อง "กรุณาปล่อยข้าไป แล้วสักวันหนึ่งข้าจะตอบ แทนเจ้าอย่างแน่นอนไ ราชสีห์รู้สึกขบขันยิ่งนักเมื่อคิดว่าเจ้าหนูจะมาช่วยอะไรมันได้ แต่มันเป็นสัตว์ที่มีเมตตาจึง ปล่อยเจ้าหนูไปในที่สุด อีกไม่กี่วันต่อมา ขณะกำลังซุ่มล่าเหยื่ออยู่ในป่า ราชสีห์ก็ติดบ่วงของนายพราน มันไม่อาจ หลุดเป็นอิสระบ่วงของนายพรานได้จึงคำรามเสียงดังก้องป่าด้วยความโกรธแค้น เจ้าหนูจำเสียงนั้น ได้จึงรีบวิ่งมาเจ้าป่ากำลังดิ้นรนอยู่ในตาข่าย มันรีบวิ่งตรงไปที่เชือกเส้นใหญ่เส้นหนึ่งซึ่งรัดราชสีห์ เอาไว้ก่อนจะกัดแทะเชือกจนขาด ในที่สุดราชสีห์ก็เป็นอิสระ “ท่านหัวเราะตอนที่ข้าบอกว่าจะตอบแทนท่าน” เจ้าหนูกล่าว “บัดนี้ท่านคงเห็นแล้วว่า แม้แต่หนูก็ช่วยราชสีห์ได้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความเมตตาไม่เคยสูญเปล่า