สพป. ปทุม ทุ ธานี เขต 1 ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น
ปฐมบทของการเดินทาง นายกัมพล เจริญรักษ์ ผู้อำ นวยการสำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 มีนาคม 2567 ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
สารบัญบั ปฐมบทของการเดินทาง สารบัญ 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 1 โรงเรียนกับการพัฒนา 6 จุดเน้น 2 การเดินทางสู่ความสำ เร็จ จุดเน้นที่ 1 การดำ เนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา 4 จุดเน้นที่ 2 การพัฒนาผู้เรียนสู่ฐานสมรรถนะด้วยการจัดการเรียนรู้ รูปแบบ Active Learning จุดเน้นที่ 3 การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการและการเรียนรู้ จุดเน้นที่ 4 การพัฒนาทักษะอาชีพ จุดเน้นที่ 5 การพัฒนาทักษะชีวิต จุดเน้นที่ 6 การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และทักษะในศตวรรษที่ 21 คณะดำ เนินงาน ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
6 จุดเน้น น้ สพป.ปทุม ทุ ธานี เขต 1 6 จุดเน้นของสำ นักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต1 เกิดจากการวิเคราะห์นโยบาย และจุดเน้น ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของ - กระทรวงศึกษาธิการ - สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน - นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) ที่มีความสอดคล้องหรือสัมพันธ์กัน และมีความเกี่ยวข้องกับการจัด การศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ และภารกิจของสำ นักงานเขตพื้นที่ การศึกษาที่จะนำ นโยบายและจุดเน้น ลงสู่การปฏิบัติในสถานศึกษาได้จริง การดำดำดำดำเนินินินิงานความปลอดภัภัภัยภั ในสถานศึศึศึกศึษา การพัพัพัฒพันาผู้ผู้ผู้เผู้รีรีรียรีนสู่สู่สู่ฐสู่ านสมรรถนะ ด้ด้ ด้ ว ด้ วยการจัจัจัดจัการเรีรีรียรีนรู้รู้รู้รูรู้รูรูปรูแบบ Active Learning การใช้ช้ ช้ เ ช้ เทคโนโลยียียีดิยีดิดิจิดิจิจิทัจิทัทัลทั เพื่พื่ พื่ อ พื่ อการบริริริหริารจัจัจัดจัการ และการเรีรีรียรีนรู้รู้รู้รู้ การพัพัพัฒพันาทัทัทักทัษะอาชีชีชีพชี การพัพัพัฒพันาทัทัทักทัษะชีชีชีวิชีวิวิตวิ การพัพัพัฒพันาคุคุคุณคุธรรม จริริริยริธรรม และทัทัทักทัษะในศตวรรษที่ที่ ที่ที่ 21 ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรีย รี นกับการพัฒนา 6 จุดเน้น การดำ เนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา จุดเน้นที่ 1 การพัฒพันาระบบและกลไกในการดูแดูลความปลอดภัยภั ให้แห้ก่ผู้ก่เผู้รียรีน ครูแรูละบุคบุลากรทางการศึกศึษาและสถานศึกศึษา จากภัยภัพิบัพิติบัแติละภัยภัคุกคุคามทุกทุรูปรูแบบ รวมถึงถึการจัดจัสภาพ แวดลอมที่เ ที่ อื้อ อื้ ต่อต่การมีสุมีขสุภาวะที่ดี ที่ ดีสามารถปรับรัตัวตัต่อต่ โรค อุบัอุติบัใติหม่แม่ละอุบัอุติบัซ้ำติซ้ำส่งส่เสริมริคุ้มคุ้ครอง ป้อป้งกันกัแก้ไก้ขช่วช่ย เหลือลืและเยียยีวยาด้าด้นความปลอดภัยภัแก่นัก่กนัเรียรีน ครูแรูละ บุคบุลากรทางการศึกศึษาและมีข้มีอข้มูลมูสารสนเทศที่เ ที่ป็นป็ระบบ สามารถแก้ไก้ขปัญปัหาและบริหริารจัดจัการความเสี่ย สี่ งได้อด้ย่าย่ง ยั่ง ยั่ ยืนยืด้วด้ยการบริหริารจัดจัการตามมาตรการ3 ป ได้แด้ก่ ป้อป้งกันกั ปลูกลูฝังฝัและปราบปราม โดยการมีส่มีวส่นร่วร่มของหน่วน่ยงาน ที่เ ที่ กี่ย กี่ วข้อข้งและภาคีเคีครือรืข่าข่ย การจัดจัการเรียรีนรู้สู่รู้สสู่ มรรถนะตามหลักลัสูตสูรแกนกลางการศึกศึษาขั้น ขั้ พื้น พื้ ฐาน พุทพุธศักศัราช2551และมาตรฐานการเรียรีนรู้แรู้ละตัวตัชี้วั ชี้ ดวัฯ (ฉบับบัปรับรัปรุงรุพ.ศ.2560) ที่เ ที่ หมาะสมกับกัความต้อต้งการและบริบริท ส่งส่เสริมริให้ผู้ห้เผู้รียรีนมีส่มีวส่นร่วร่มในชั้น ชั้ เรียรีน สร้าร้งปฏิสัฏิมสัพันพัธ์รธ์ะหว่าว่งครู ผู้สผู้อนกับกัผู้เผู้รียรีน มุ่งมุ่ ให้ผู้ห้เผู้รียรีนลงมือมืปฏิบัฏิติบัติเพื่อ พื่ พัฒพันากระบวนการ คิดคิขั้น ขั้ สูงสูและส่งส่เสริมริการเรียรีนรู้ขรู้องผู้เผู้รียรีนด้วด้ยเทคโนโลยีดิยีจิดิทัจิลทั พัฒพันาและสร้าร้งสรรค์นค์วัตวักรรมการศึกศึษาพัฒพันาการเรียรีนรู้แรู้ละ ยกระดับดัผลสัมสัฤทธิ์ก ธิ์ ารเรียรีนของผู้เผู้รียรีน ในทุกทุระดับดัชั้น ชั้ วัดวัและ ประเมินมิผลเพื่อ พื่ พัฒพันาการเรียรีนรู้ขรู้องผู้เผู้รียรีนด้วด้ยวิธีวิกธีารที่ห ที่ ลากหลาย จุดเน้นที่ 2 การพัฒนาผู้เรียนสู่ฐานสมรรถนะด้วยการจัดการเรียนรู้ รูปแบบ Active Learning จุดเน้นที่ 3 จุดเน้นที่ 4 จัดจัทำ หลักลัสูตสูรที่บู ที่ รบูณาการทักทัษะอาชีพชีและพัฒพันากระบวนการ จัดจัการเรียรีนรู้เพื่อ พื่ เตรียรีมความพร้อร้มผู้เผู้รียรีนให้มีห้คมีวามรู้และทักทัษะ พื้น พื้ ฐานในการประกอบอาชีพชีสร้าร้งเสริมริประสบการณ์อณ์าชีพชี ในรูปรูแบบต่าต่งๆรวมถึงถึการปลูกลูฝังฝัลักลัษณะนิสันิยสัในการทำ งาน การมีเมีจตคติที่ติดี ที่ ต่ดีอต่อาชีพชีสุจสุริตริมีทัมีกทัษะในการทำ งาน รักรังาน สู้งสู้าน และทำ งานจนสำ เร็จร็มีคมีวามรู้พื้รู้ น พื้ ฐานของการเป็นป็ผู้ปผู้ระกอบการ ที่ดี ที่ ดีมีแมีรงบันบัดาลใจในการค้นค้พบอาชีพชีเพื่อ พื่ พัฒพันาไปสู่กสู่ ารประกอบ อาชีพชีในอนาคตด้วด้ยการมีส่มีวส่นร่วร่มของผู้ปผู้กครองสถานประกอบ การแหล่งล่เรียรีนรู้และภูมิภูปัมิญปัญาท้อท้งถิ่น ถิ่ การพัฒนาทักษะอาชีพ การนำ เทคโนโลยีดิยีจิดิทัจิลทัการจัดจัการฐานข้อข้มูลมูและการใช้ ข้อข้มูลมูสารสนเทศในการบริหริารและการจัดจัการศึกศึษาเพื่อ พื่ เพิ่ม พิ่ ประสิทสิธิภธิาพการบริหริารสถานศึกศึษาการจัดจัทำ ระบบ ข้อข้มูลมูสารสนเทศของนักนัเรียรีนเป็นป็รายบุคบุคล มีคมีวามสะดวก รวดเร็วร็มีคมีวามน่าน่เชื่อ ชื่ ถือถืในการนำ ข้อข้มูลมูไปใช้ปช้รับรัปรุงรุและ ไปใช้ใช้ห้เห้กิดกิประโยชน์ต่น์อต่การบริหริารจัดจัการสถานศึกศึษารวมถึงถึ การพัฒพันาผู้เผู้รียรีนให้มีห้ทัมีกทัษะดิจิดิทัจิลทัและภาษาคอมพิวพิเตอร์ มีทัมีกทัษะพื้น พื้ ฐานการใช้เช้ทคโนโลยีที่ยีเ ที่ หมาะสมกับกัช่วช่งวัยวัสามารถ ใช้เช้ทคโนโลยีใยีนการรับรัรู้แรู้ละมีวิมีจวิารณญาณในการใช้สื่ช้อ สื่ เทคโนโลยี ที่เ ที่ หมาะสม การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการ และการเรียนรู้ จุดเน้นที่ 5 จุดเน้นที่ 6 การบูรบูณาการทักทัษะชีวิชีตวิในหลักลัสูตสูรสถานศึกศึษาระดับดัปฐมวัยวั และระดับดัการศึกศึษาขั้น ขั้ พื้น พื้ ฐาน ให้มีห้กมีารจัดจัการเรียรีนการสอน ทักทัษะชีวิชีตวิบูรบูณาการในกลุ่มลุ่ สาระการเรียรีนรู้ด้วด้ยกระบวนการ เรียรีนรู้ที่รู้เ ที่ น้นน้ผู้เผู้รียรีนเป็นป็สำ คัญคัหรือรืการจัดจัการเรียรีนรู้เรู้ชิงชิรุกรุ และจัดจัระบบดูแดูลช่วช่ยเหลือลืนักนัเรียรีน เพื่อ พื่ ให้ผู้ห้เผู้รียรีนเกิดกิการ เปลี่ย ลี่ นแปลงพฤติกติรรมอันอัจะนำ ไปสู่กสู่ ารมีทัมีกทัษะชีวิชีตวิและอยู่ใยู่ น สังสัคมอย่าย่งมีคมีวามสุขสุภายใต้คต้วามร่วร่มมือมืของภาคีเคีครือรืข่าข่ย พัฒพันาทักทัษะชีวิชีตวิแก่ผู้ก่เผู้รียรีน การพัฒนาทักษะชีวิต การดำ เนินนิงาน/โครงการ/กิจกิกรรม พัฒพันาผู้เผู้รียรีนให้เห้ป็นป็พลเมือมืงดี มีคุมีณคุธรรม จริยริธรรม ตามพระบรมราโชบายด้าด้นการศึกศึษาของ พระบาทสมเด็จด็พระวชิรชิเกล้าล้เจ้าจ้อยู่หัยู่ วหัรัชรักาลที่ 10และดำ เนินนิงาน/ โครงการ/กิจกิกรรมพัฒพันาผู้เผู้รียรีนให้มีห้คมีวามรู้ มีทัมีกทัษะการเรียรีนรู้และ ทักทัษะที่จำ ที่ จำเป็นป็ของโลกในศตวรรษที่ 21โดยภาคีเคีครือรืข่าข่ยการมี ส่วส่นร่วร่ม และมีผมีลการดำ เนินนิงานบรรลุตลุามเป้าป้หมายของสถานศึกศึษา การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และทักษะในศตวรรษที่ 21
การดำ เนินนิงานความปลอดภัยในสถานศึกษา การเดินทาง... สู่คสู่ วามสำ เร็จ ร็ จุดเน้น น้ ที่ 1 ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
นวัตกรรม ปัจจัยความสำ เร็จ ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 การนำ มาตรการความปลอดภัยสถานศึกษา 3 ป : ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม มาดำ เนินการโดยใช้หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับ 7 กลุ่มความร่วมมือ ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง วัด / ผู้นำ ชุมชน หน่วยงานบรรเทา สาธารณภัย ตำ รวจ หน่วยงานสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การวางแผนการทำ งานอย่างเป็นระบบ โดยการประสานความร่วมมือและนำ หลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ในการทำ งานผ่านการใช้เทคโนโลยีและ สารสนเทศ การวางแผนการทำ งานผ่านการระดมความคิด ลงมือปฏิบัติงานด้วยการระดมกำ ลัง มีการตรวจสอบ ประเมินผลผ่านการระดมติดตาม และระดมปรับปรุงเพื่อแก้ไข ผลการดำ เนินงาน โรงเรียนวัดเปรมประชากร นวัตกรรม 3 ป 7 ร่วมมือ โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ 2PTS Safety MODEL โรงเรียนชุมชนวัดบางขัน MOBILIZE MODEL การมีส่วนร่วม ผู้บริหาร คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานภายนอก มีส่วนร่วมในการดำ เนินงานในแต่ละช่วงเวลาที่เหมาะสม ตามบทบาทหน้าที่ การบริหารจัดการ การมอบหมายงานตรงตามความสามารถของแต่ละบุคคล การสร้างขวัญและกำ ลังใจ หลักความพอเพียง (3 ห่วง 2 เงื่อนไข 4 มิติ) ศักยภาพของบุคคล ความเป็นผู้นำ ความรู้ ความสามารถ ของผู้ปฏิบัติงาน ความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบในกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย ความรับผิดชอบต่อผู้อื่น ความรับผิดชอบต่อตนเอง เทคโนโลยี การใช้ Platform ด้วย Cloud Computing
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ขั้นตอนการพัฒนา - ศึกษาข้อมูล นโยบายหน่วยงานต้นสังกัด สภาพแวดล้อม และบริบทของโรงเรียน - จัดทำ แผนปฏิบัติการประจำ ปี - จัดทำ โครงการ/กิจกรรม ด้านความปลอดภัยโรงเรียน - แต่งตั้งคณะทำ งาน/ประชุมชี้แจง - จัดทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับเครือข่าย - ขับเคลื่อนการดำ เนินงานด้วยกระบวนการ ADDIE Analysis (การวิเคราะห์) Design (การออกแบบ) Development (การพัฒนา) Implementation (การนำ ไปใช้) Evaluation (การประเมินผล) - ใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศ - ยึดหลักความพอเพียง -ตรวจสอบการดำ เนินงาน โดย คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง เช่น ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถาน ศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะกรรมการสภานักเรียน - วิเคราะห์ผลสำ เร็จของการทำ กิจกรรมหรือโครงการ - ระดมสมองเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา จุดอ่อน /จุดแข็ง - รายงานผลการดำ เนินงานและนำ เสนอ - จัดทำ แผนการปรับปรุงและพัฒนาต่อยอด ขั้นตอนที่ 1 วางแผน ขั้นตอนที่ 2 ดำ เนินการ ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นปรับปรุงและพัฒนา
ผอ.พลอยนภัส ปุรณะวณิชย์ ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดเปรมประชากร ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนวัดเปรมประชากร โรงเรียนวัดเปรมประชากร ตั้งอยู่อำ เภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดใหญ่ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 จนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนตั้งอยู่ในที่ดินธรณีสงฆ์ของ วัดเปรมประชากร บริบททั่วไปมีสภาพสังคมเป็นสังคมเมือง ผู้ปกครองของนักเรียนส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง แรงบันดาลใจในการดำ เนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ผอ.พลอยนภัส ปุรณะวณิชย์ ผู้อำ นวยการโรงเรียน วัดเปรมประชากร กล่าวถึงเป้าหมายในการบริหารงาน ที่เป็นแรงบันดาลใจ มุ่งหวังให้โรงเรียนวัดเปรมประชากร เป็นโรงเรียนแห่งความปลอดภัยว่า “ลูกวัดเปรม มีสุข 4 มิติ สุขกาย สุขใจ สุขปัญญา สุขในสังคม” “ลูกวัดเปรมมีสุข 4 มิติ สุขกาย สุขใจ สุขปัญญา สุขในสังคม” เป็นเป้าหมายของโรงเรียนที่ต้องการให้ นักเรียนเกิดสุขภาวะ อีกทั้งยังตระหนักถึงความสำ คัญของนโยบาย Quick Win 7 วาระเร่งด่วน นโยบาย และจุดเน้น ประจำ ปีงบประมาณ 2566 ของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายของสำ นักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาที่มี คุณภาพสู่ความเท่าเทียมและบริหารจัดการศึกษาสู่มีประสิทธิภาพ โดยหากนักเรียนมีภูมิคุ้มกันเรื่องความ ปลอดภัย และอยู่ในโรงเรียนอย่างมีความสุขนั้น ก็จะเป็นปัจจัยสำ คัญที่ส่งผลให้ดำ เนินการเรื่องอื่น ๆ ภายในโรงเรียนประสบความสำ เร็จ และสิ่งที่มุ่งหวังเป็นสำ คัญอีกหนึ่งสิ่งก็คือ ต้องการต่อยอดการดำ เนิน งานด้านความปลอดภัยเพื่อให้โรงเรียนวัดเปรมประชากรเป็นโรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยต่อไป” “โรงเรียนวัดเปรมประชากรเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีสภาพสังคมเป็นสังคมเมือง ผู้ปกครองของนักเรียน ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง ส่งผลให้ไม่มีเวลาในการดูแล บุตรหลานได้อย่างเต็มที่ นักเรียนสามารถเข้าถึงสื่อ ที่ไม่พึงประสงค์ได้ง่าย อันจะนำ ไปสู่การเข้าถึงกลุ่มภัย ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ อีกทั้งการเผชิญกับภัยต่าง ๆ สามารถเกิดได้มากขึ้น หากนักเรียนมีภูมิคุ้มกันมากพอ จะสามารถดูแลตนเองให้เกิดความปลอดภัยได้”
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน โรงเรียนวัดเปรมประชากร มีความมุ่งมั่นพัฒนาแนวทาง ระบบ และการดำ เนินงานด้านความปลอดภัย ในสถานศึกษา โดยมุ่งเน้นสร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในการร่วมกันสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน เพื่อให้สามารถดูแลนักเรียนได้อย่างทั่วถึง มั่นคง และมีประสิทธิภาพ จึงนำ นวัตกรรม “3 ป 7 ร่วมมือ” มาขับเคลื่อนตามมาตรการความปลอดภัยสถานศึกษา ตามหลัก 3 ป และนำ มาใช้ในการ ดำ เนินการ ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม ทั้ง 4 กลุ่มภัย โดยนำ หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม ซึ่งส่งผล ให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหาร มีเครือข่ายความร่วมมือ 7 กลุ่มที่มีบทบาทชัดเจน ได้แก่ คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง วัด/ผู้นำ ชุมชน หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย ตำ รวจ หน่วยงานสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และใช้วงจรคุณภาพของเดมมิ่ง (PDCA) เป็นกระบวนการดำ เนินงาน การออกแบบนวัตกรรม “3 ป 7 ร่วมมือ” ของโรงเรียนวัดเปรมประชากร โดยใช้กระบวนการ ADDIE MODEL ซึ่งเป็นโมเดลที่พัฒนาขึ้นมาในปี ค.ศ. 1975 โดย the Centre for Educational Technology at Florida State University มีลำ ดับการพัฒนาเป็น 5 ขั้น ซึ่งประกอบด้วย การวิเคราะห์ (Analysis) การออกแบบ (Design) การพัฒนา (Development) การนำ ไปใช้ (Implementation) และการประเมินผล (Evaluation) รายละเอียดดังนี้ การวิเคราะห์ (Analysis) ศึกษา วิเคราะห์นโยบาย การดำ เนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา ความเสี่ยงในการเผชิญ 4 กลุ่มภัย การออกแบบ (Design) ออกแบบนวัตกรรม โดยใช้ มาตรการความปลอดภัยสถานศึกษา ตามหลัก 3 ป และหลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) โดยมีเครือข่ายให้ความร่วมมือที่กำ หนด 7 เครือข่าย การพัฒนา (Development) พัฒนาวิธีปฏิบัติ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย ด้วยรูปแบบ “3 ป 7 ร่วมมือ” โดยการกำ หนดกิจกรรมดำ เนินการพัฒนานักเรียน และดูแลความปลอดภัยในสถานศึกษา โดยใช้มาตรการความปลอดภัย สถานศึกษา ตามหลัก 3 ป และหลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม (Participative Management) ในการพัฒนา ผ่านกระบวนการ PLC การนำ ไปใช้ (Implementation) นำ นวัตกรรมการเสริมสร้างความปลอดภัย ใช้ในการดำ เนินงาน โครงการส่งเสริมความปลอดภัยในสถานศึกษา การประเมินผล (Evaluation) ผู้บริหารนิเทศติดตามด้วยกระบวนการ PLC เดือนละ 1 ครั้ง และประเมินผลจากรายงานกิจกรรมต่าง ๆ การสังเกต จากการเข้าร่วมกิจกรรม และความพึงพอใจของผู้ปกครอง ในการดำ เนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ จากการดำ เนินงานเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา ผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนวัดเปรมประชากร พบว่า องค์ความรู้ในการดูแลความปลอดภัยของนักเรียน ต้องเกิดจากการดำ เนินการป้องกัน ปลูกฝัง และ ปราบปราม รวมไปถึงการให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม กระบวนการทำ งานเป็นทีม และการนำ เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้บริหารจัดการด้านความปลอดภัยของนักเรียน ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการ ดำ เนินงานมากยิ่งขึ้น อันนำ ไปสู่นักเรียนสามารถดำ เนินชีวิตอยู่ในโรงเรียนได้อย่างมีความสุข ปัญหาและการแก้ไข “ปัญหาจากภาระงานที่มีเป็นจำ นวนมาก มีกิจกรรมแทรกนอกเหนือจากปฏิทินการดำ เนินงานที่กำ หนดไว้ ทำ ให้ไม่สามารถดำ เนินงานตามระยะเวลาที่กำ หนดไว้ และครูเกิดความเหนื่อยล้า จากภาระงาน แก้ปัญหา โดยการกำ หนดปฏิทินการดำ เนินงานสำ รอง ประสานขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ดำ เนินการจัดให้คุณครูได้ ร่วมกันสังเคราะห์และถอดบทเรียนที่ทำ ให้การดำ เนินงานประสบความสำ เร็จตลอดถึงปัญหา และอุปสรรค ที่เกิดขึ้นระหว่างการดำ เนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) และจัดให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างชั้นเรียน เพื่อให้เกิดวิธีการดำ เนินงานที่ดี ที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเกิดผลที่ดีกับเด็กมากที่สุด นอกจากนี้ปัญหาการใช้ Platform การเก็บ รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต้นสังกัดเกิดการสูญหาย ระบบล่ม ทำ ให้เกิดการทำ งานซ้ำ โรงเรียนแก้ปัญหา โดยนำ เทคโนโลยีการใช้งาน Google Drive ที่ทำ ให้เราสามารถนำ ไฟล์ต่าง ๆ ไปฝากไว้กับ Google ผ่านพื้นที่ เก็บข้อมูลระบบคลาวด์และการสำ รองข้อมูลไฟล์ที่มีความปลอดภัย ทำ ให้เราสามารถใช้ไฟล์เหล่านั้นที่ไหนก็ได้ และยังสามารถแบ่งปันไฟล์กับคนที่ต้องการ” มีภาระงานมาก ไม่สามารถดำ เนินงาน ตามระยะเวลาที่กำ หนด กำ หนดปฏิทินการดำ เนินงานสำ รอง ทีมงานถอดใจ เหนื่อล้ากับงานที่ทำ ใช้กระบวนการ PLC ร่วมกันสังเคราะห์และ ถอดบทเรียนงานที่สำ เร็จ ปัญหา และอุปสรรค ปัญหา การแก้ไข ถึงแม้ว่าการขับเคลื่อนการเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาของโรงเรียนวัดเปรมประชากรจะมี ผลงานเชิงประจักษ์ เป็นรูปธรรม ประสบความสำ เร็จตามเป้าหมาย ทุกภาคส่วนให้การยอมรับ ได้รับรางวัล และการยกย่องชมเชยจากหลายหน่วยงาน แต่ก็พบว่าการทำ งานไม่ได้ง่ายเลย มีปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องแก้ไข อยู่ตลอดเวลา ผอ.พลอยนภัส ปุรณะวณิชย์ ได้กล่าวว่า Platform ระบบการเก็บรวบรวมข้อมูลล่ม ข้อมูลสูญหาย ต้องทำ งานซ้ำ จัดเก็บข้อมูลใน Google Drive ปัญหา การแก้ไข
สถานศึกษามีนวัตกรรมด้านความปลอดภัย อย่างชัดเจน ส่งผลให้ได้รับรางวัล สถานศึกษาปลอดภัยจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน 6 ปีซ้อน ได้รับ รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนที่มีนวัตกรรมเสริมสร้างความปลอดภัยที่เป็นเลิศ ระดับ เขตตรวจราชการที่ 2 ได้รับการยอมรับจากสถานศึกษาอื่นๆ และคนในชุมชน ที่สำ คัญคือ ครูมีความภาคภูมิใจในการร่วมมือดำ เนินงานของตนเองจนประสบ ความสำ เร็จ รักและภูมิใจในสถานศึกษา สถานศึกษามีเครือข่ายในการเสริมสร้างความปลอดภัยอย่างยั่งยืนทั้งภายใน และ ภายนอกสถานศึกษา พร้อมช่วยกันส่งเสริมพัฒนาสถานศึกษา และชุมชนให้เกิด ความปลอดภัยอย่างยั่งยืน ผู้บริหาร ครู บุคลากร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำ เนินงานเรื่องความปลอดภัย มีความรู้ ความเข้าใจ และมีวิธีการใหม่ ๆ ในการดำ เนินงานเพิ่มขึ้น ผู้บริหาร ครู และบุคลากรมองเห็นความปลอดภัยของนักเรียนเป็นลำ ดับแรก นักเรียนมีความสุข รู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในโรงเรียน ผู้ปกครองให้ความเชื่อมั่น ไว้ใจและส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในสถานศึกษาเพิ่มขึ้น มีภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัย ครูมีแนวทางในการดำ เนินงานเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาที่เข้าใจ ตรงกันและพัฒนานวัตกรรมอยู่เสมอ ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 “เดินคนเดียวไปได้ไว แต่เดินพร้อมกันหลายๆ คนไปได้ไกล” ผอ.พลอยนภัส ปุรณะวณิชย์ ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดเปรมประชากร มีความเชื่อมั่นในความคิดนี้ ส่งผลให้ปัจจัยที่ทำ ให้การดำ เนินงาน ประสบความสำ เร็จ ได้แก่ ความตระหนักในการดำ เนินงานเรื่องความปลอดภัยพร้อมกันทั้งองค์กร ตั้งแต่ ผู้บริหาร ครู นักเรียน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน การมีส่วนร่วมในการทำ งานทั้งภายในและภายนอก โรงเรียน วัฒนธรรมองค์กรที่ดีในการร่วมมือการทำ งาน ความรับผิดชอบในการดำ เนินงาน ศักยภาพของ บุคคล และการนำ นวัตกรรมไปใช้พัฒนานักเรียน ในทุกกิจกรรม ทุกองค์ประกอบ เพื่อให้สามารถดำ เนิน การได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงจะส่งผลให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ปัจจัยความสำ เร็จ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ความภาคภูมิใจ ผอ.พลอยนภัส ปุรณะวณิชย์ และครูประจักร์ ลาขุมเหล็ก มีความเห็นตรงกันว่าความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้น เป็นดั่งคำ ขวัญที่ผู้บริหาร ครู บุคลากร นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน เข้าใจตรงกันว่า “ที่นี่วัดเปรม...โรงเรียนเปี่ยมสุข” ครูประจักร์ ลาขุมเหล็ก ครูโรงเรียนวัดเปรมประชากร ผอ.พลอยนภัส ปุรณะวณิชย์
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ ตั้งอยู่อำ เภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เปิดทำ การสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของชุมชน มีการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรปกติ (Smart Program) หลักสูตร Intensive English Program และ หลักสูตร English Program แรงบันดาลใจในการดำ เนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ผอ.กาญจนา คล้ายพุฒ ผู้อำ นวยการโรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ “โรงเรียนมีความพร้อมในเรื่องของการจัดการศึกษา อยู่แล้ว จึงมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันภายในโรงเรียนว่า ควรเน้นเรื่องของ Security ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ หน่วยงานต้นสังกัด แล้วโรงเรียนมีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในการให้ความร่วมมือกับโรงเรียนเป็น อย่างดี” โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ตระหนักถึงความสำ คัญของการพัฒนาเยาวชนให้มีคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ตามหลักสูตรสถานศึกษา ให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและและจิตใจ มีคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำ รงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ห่างไกลจากยาเสพติด สื่อลามก อนาจาร เกมออนไลน์ การพนัน และการทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนที่สังคมไม่ยอมรับ ถือเป็น กลยุทธ์ที่สำ คัญตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้สถานศึกษาทุกแห่ง ดำ เนินงานโครงการ สถานศึกษาปลอดภัย MOE Safety Center มุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็น “การศึกษา ขั้นพื้นฐานวิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” มุ่งเน้นความปลอดภัยในสถานศึกษา ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ อย่างเท่าเทียมและบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นพัฒนาระบบและกลไกในการดูแล ความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา จากภัยพิบัติและภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และ อุบัติซ้ำ ส่งเสริมความปลอดภัยสร้างความมั่นใจให้สังคม เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่นักเรียน ครู และ บุคลากรทางการศึกษาสังกัด เพื่อให้การป้องกัน ดูแล ช่วยเหลือหรือเยียวยา และแก้ไขปัญหา มีความเป็น เอกภาพ มีข้อมูลสารสนเทศที่เป็นระบบ สามารถแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างยั่งยืน ด้วยการบริหารจัดการตามมาตรการ 3 ป ได้แก่ ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม ผอ.กาญจนา คล้ายพุฒ ผู้อำ นวยการโรงเรียน ประถมศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจ ในการดำ เนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาว่า
T (Technology) ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ พัฒนานวัตกรรมเพื่อใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาความปลอดภัยในโรงเรียน คือ 2 PTS MODEL เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์สภาพปัญหาและบริบทของโรงเรียน (SWOT Analysis) มีการวางแผน การทำ งานอย่างเป็นระบบ โดยการประสานความร่วมมือและนำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในการทำ งาน ผ่านการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศ ภายใต้วงจรคุณภาพ PDCA มีรายละเอียดการดำ เนินงานดังนี้ วางแผนการทำ งานอย่างเป็นระบบ โดยการจัดทำ แผนปฏิบัติการ ประจำ ปี 2566 เพื่อกำ หนดกิจกรรมและผู้รับผิดชอบครอบคลุม 3 ป (ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม) P (Planning) P (Participation) ประสานความร่วมมือ โดยแต่งตั้งคณะดำ เนินงานปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบ งานต่าง ๆ ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง ประชุมชี้แจงรายละเอียดการดำ เนินงาน กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวทั้งผู้บริหาร ครู คณะกรรมการสภานักเรียน และร่วมกัน ศึกษานวัตกรรม 2PTS Model เพื่อนำ ไปใช้ในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศอย่างมีระบบ โดย -จัดทำ QR CORD รับแจ้งเหตุสามารถนำ ข้อมูลและรายงานผลเข้าสู่ MOE SAFETY CENTER -ประชาสัมพันธ์ทาง Facebook , Line และ สื่อ Social ต่าง ๆ -ประสานความร่วมมือภายในโรงเรียนผ่านกลุ่มไลน์โรงเรียนประถมศึกษา ธรรมศาสตร์ PTS การทำ งานโดยน้อมนำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้การทำ งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เน้นการเลือกปฏิบัติอย่าง พอประมาณ มีเหตุผล และสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ตนเองและสังคม โดยดำ เนินการด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง สร้างเครือข่ายเพื่อ ร่วมมือในกิจกรรมต่าง ๆ โดยที่รายละเอียดของวิธีการ ขั้นตอน การปฏิบัติจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละภารกิจ S (Sufficiency) นวัตกรรม 2 PTS MODEL
“ปัจจัยที่ทำ ให้การดำ เนินงานประสบความสำ เร็จ ได้แก่ ศักยภาพของผู้ทำ งาน เช่น ผู้บริหาร สามารถอ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น มีภาวะผู้นำ อยู่เคียงข้างครูเป็นที่ปรึกษา ให้คำ แนะนำ อำ นวยความสะดวกช่วยเหลือ และมีความจริงใจ ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความรับผิดชอบ จิตสำ นึกความเป็นครู และมีทักษะการแก้ปัญหา หรือแม้แต่สภานักเรียน ซึ่งในแต่ละคนต่างมีความ รับผิดชอบทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ใน 4 ฝ่ายงานการบริหารสถานศึกษาต่างมีส่วนร่วมในเรื่องของ การทำ งานด้านความปลอดภัย โดยใช้หลักความพอเพียง และใช้เทคโนโลยีช่วยในการดำ เนินงาน มีความรวดเร็ว” ให้การสนับสนุนกิจกรรมอย่างดียิ่ง มีส่วนร่วมในกิจกรรม ส่งเสริม และสนับสนุนทรัพยากรในการดำ เนินงาน “จากการดำ เนินงานเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา พบว่า ความรู้ที่นำ มาใช้ คือ การบริหารงานอย่างเป็นระบบ การแก้ปัญหาตามสถานการณ์ แล้วก็พัฒนาในจุด ที่เราจะต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ โดยน้อมนำ หลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ เริ่มศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อได้รับทราบปัญหาที่แท้จริง การระเบิด จากข้างในทุกมุมมอง ตั้งแต่มุมมองผู้บริหาร ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ให้ทุกคน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการสะท้อนปัญหาด้านความปลอดภัยแล้วนำ ไปปรับปรุงแก้ไข และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีระบบ ช่วยแก้ปัญหาในเรื่อง ของการสื่อสาร มีข้อมูลเพียงพอต่อการนำ มาวิเคราะห์ และมีสารสนเทศเพื่อใช้ใน การบริหารจัดการ ซึ่งเป็นส่วนสำ คัญในการดำ เนินงานให้เกิดความรวดเร็ว ถูกต้อง และทันต่อเหตุการณ์” หน่วยงานและ ภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดำ เนินงานด้านความปลอดภัยสถานศึกษา มีส่วนร่วม ให้การดำ เนินงานสถานศึกษาปลอดภัยประสบผลสำ เร็จตามจุดประสงค์ ผู้บริหาร ให้การสนับสนุน ส่งเสริมให้กำ ลังใจ รวมถึงด้านงบประมาณอย่างเต็มที่ สร้างความตระหนักและความเข้าใจแก่ทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ครูทุกคน ให้ความร่วมมือร่วมใจอย่างเต็มที่และเต็มใจ มุ่งมั่นตั้งใจจริง และทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ นักเรียน มีความพร้อมในร่วมกิจกรรม คิดเอง ทำ เอง แก้ปัญหาเอง ผู้ปกครอง ชุมชน ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ ปัญหาและการแก้ไข ปัจจัยความสำ เร็จ
นักเรียน มีความสุขในการเรียนรู้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นลดลง นักเรียนได้รับการส่งเสริมอย่างเต็มศักยภาพและมีจิตอาสาช่วยดูแลความปลอดภัยทั้งภายใน และภายนอกสถานศึกษาสามารถแจ้งเหตุได้อย่างเป็นระบบ ครูผู้สอน มีความสุขในการทำ งาน สามารถวางแผนการทำ งาน มีเวลา ในการจัดเตรียมข้อมูลต่างๆ จากการกำ หนดปฏิทินการดำ เนินงานอย่าง ชัดเจน และสามารถแก้ไข /ป้องกัน/เตรียมพร้อมรับ/บรรเทาสถานการณ์ ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ครูวีระพงษ์ ชูจันทร์ และ ครูคิรินทร์ พุทธานุกุล ครูโรงเรียน ประถมศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวถึงสิ่งที่้เกิดขึ้นในโรงเรียนซึ่งเป็น การเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลจากการดำ เนินงานความปลอดภัยใน สถานศึกษาในทุกด้านดังนี้ ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความภาคภูมิใจ ผู้ปกครอง รับรู้ เข้าใจและเห็นบทบาทของครู บุคลากร ที่ดูแลบุตรหลานของเขาตั้งแต่เช้าถึงเย็น เกิดการรวมกลุ่มเข้ามาช่วยครูแก้ปัญหา โรงเรียน มีการพัฒนาการดำ เนินงานด้านความปลอดภัย ในปีปัจจุบัน โรงเรียนพัฒนาระบบความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนโดยร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลผ่านบริษัทเอกชน พัฒนาระบบความปลอดภัยให้อยู่ใน เกณฑ์มาตรฐาน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น “โรงเรียนมีการวางระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทุกคนมีความรับผิดชอบ ใช้การเข้าใจ ปัญหา เข้าถึงการพัฒนา ทำ ให้การทำ งานถึงแม้หนักแต่ไม่เหนื่อยใจ สามารถสร้างห้องเรียนแห่ง ความสุข มีพื้นที่ปลอดภัย มีความไว้วางใจกันระหว่างครูกับนักเรียน ระหว่างนักเรียนกับเพื่อน และ ผลงานออกมาเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและทุกคนมีความสุข” ครูวีระพงษ์ ชูจันทร์ ครูคิรินทร์ พุทธานุกุล
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนชุมชนวัดบางขัน โรงเรียนชุมชนวัดบางขัน ตั้งอยู่อำ เภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาขนาดใหญ่ จัดการเรียนการสอน 3 ระดับ คือ ระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนอยู่ติดกับ วัดบางขัน และตลาดสด โดยบริเวณใกล้เคียงออกไปเป็นตลาดไท เป็นชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่นและมีคนหลาย เชื้อชาติอาศัยอยู่ แรงบันดาลใจในการดำ เนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ผอ.ศุภวรรณ การุญญะวีร์ ผู้อำ นวยการโรงเรียน ชุมชนวัดบางขัน กล่าวถึงการดำ เนินงานความปลอดภัย ในสถานศึกษาว่า ผอ.ศุภวรรณ การุญญะวีร์ ผู้อำ นวยการโรงเรียนชุมชนวัดบางขัน โรงเรียนชุมชนวัดบางขันได้นำ นโยบายสถานศึกษาปลอดภัยมาใช้เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ภายในสถานศึกษา ที่กำ ลังแพร่ระบาดมากอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นปัญหาในครอบครัวที่ทำ ให้เกิดความทุกข์ เกิดความวิตกกังวล และความเครียด ส่งผลให้เกิดการปรับตัวที่ไม่เหมาะสมหรืออื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ การทดลอง และต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ ตนเอง อาจพลั้งพลาดและตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดและอบายมุขในหลากหลายลักษณะ การดำ เนินงาน ไปสู่เป้าหมายหรือความสำ เร็จนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะบุคลากร ทางการศึกษาทุกคนในสถานศึกษา ซึ่งมีครู อาจารย์ เป็นหลักสำ คัญในการดำ เนินการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของนักเรียนให้เติบโตงดงามและเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของสังคม การพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความรู้ ความสามารถ และมีคุณธรรมจริยธรรม ดำ เนินวิถีชีวิตที่ เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โรงเรียนดำ เนินการโดยการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนได้รับ การเรียนรู้ การป้องกันและการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงรอบสถานศึกษาที่มี พฤติกรรมไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ร้านเกม การพนัน หนีเรียน ทะเลาะวิวาท ก่ออาชญากรรม เป็นปัญหา สังคมที่ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาไม่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งมาจากปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบจากแหล่งอบายมุขภายใต้แนวคิดนวัตกรรม “4 ระดม สร้างความ ปลอดภัยในสถานศึกษาห่างไกลยาเสพติด MOBILIZE MODEL” “โรงเรียนมีการวางแผนงานประจำ ปี โดยใช้กระบวนการ PLC ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และได้ยึดนโยบายของ หน่วยงานต้นสังกัดและบริบทของสถานศึกษา ซึ่งโรงเรียน ชุมชนวัดบางขันตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงด้านยาเสพติด จึงมีความต้องการจะช่วยเหลือนักเรียน และแก้ไขปัญหา ยาเสพติดจึงดำ เนินงานด้านความปลอดภัย อย่างเป็นระบบ”
ขั้นระดมความคิด การวางแผนการทำ งานและการศึกษาข้อมูล เพื่อใช้เป็นแนวทาง (Brainstorm) ในการดำ เนินงานตามหลัก 3 ป (ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม) ขั้นระดมกำ ลัง สังเกตและลงมือปฏิบัติแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างความมั่นใจ (Mobilize) และความเชื่อมั่นให้แก่นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ขั้นระดมติดตาม นำ เสนอผลการดำ เนินการและตรวจสอบ ประเมินผลการดำ เนินงาน (Mobilize Follow) ขั้นระดมปรับปรุง ปรับปรุงแก้ไขผลการดำ เนินงานที่ยังไม่สำ เร็จและพัฒนา (Improve Mobilization) ผลการดำ เนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน การขับเคลื่อนการการดำ เนินงานโครงการด้วยนวัตกรรม “4 ระดม สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา ห่างไกลยาเสพติด MOBILIZE MODELW” ใช้แนวคิด 4 ระดม ประกอบด้วย โรงเรียนชุมชนวัดบางขันดำ เนินงานเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาภายใต้แนวคิดนวัตกรรม “4 ระดม สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาห่างไกลยาเสพติด MOBILIZE MODEL” ซึ่งมีแนวคิดหลัก ที่สำ คัญในการออกแบบนวัตกรรม ประกอบด้วย 1) นโยบายด้านความปลอดภัยจากยาเสพติดและอบายมุข 2) ขอบข่ายความปลอดภัยของสถานศึกษาจากยาเสพติดและอบายมุข และ 3) มาตรการความปลอดภัยของ สถานศึกษาจากยาเสพติดและอบายมุข มุ่งเน้นให้เกิดความปลอดภัยต่อนักเรียน ครู และบุคลากรทางการ ศึกษาอย่างยั่งยืน โดยเน้นมาตรการที่เข้มงวดในมาตรการ ๓ ป ได้แก่ การป้องกัน การปลูกฝัง และการปราบ ปราม นวัตกรรม “4 ระดม สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาห่างไกลยาเสพติด MOBILIZE MODEL”
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ เนื่องด้วยโรงเรียนชุมชนวัดบางขันมีเป้าหมายของการดำ เนินงานสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาที่ชัดเจน คือ เพื่อต้องการลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดและอบายมุขภายในสถานศึกษา และบริเวณชุมชนโดยรอบ สถานศึกษา และเพื่อปลูกฝังจิตสำ นึก ให้มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงโทษและภัยของยาเสพติดที่จะส่ง ผลถึงร่างกายและจิตใจ จึงมีการบูรณาการความรู้ที่เกี่ยวข้องจากหลายส่วนมาใช้เพื่อให้ความรู้แก่ครูและบุคลากร ทางการศึกษา และผู้มีส่วนร่วมในดำ เนินงาน ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับการสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา ห่างไกลยาเสพติดและอบายมุข การดำ เนินงานโดยใช้หลัก 3 ป โดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมในการดำ เนินงาน โรงเรียนสีขาว กิจกรรมโรงเรียนวิถีพุทธ กิจกรรมลูกเสือต้านภัยยาเสพติด กิจกรรมระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน การส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำ การใช้สื่อและเทตโนโลยีเพื่อการสื่อสารด้านความปลอดภัยห่างไกล ยาเสพติด การประสานงานเครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ รวมถึงการส่งต่อเพื่อให้ ได้รับการช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังใช้ความรู้เกี่ยวกับการความคุ้มครองตามกฎหมายอีกด้วย ปัญหาและการแก้ไข โรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดงที่มีชุมชน โดยรอบมีความข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ทำ ให้นักเรียนเข้าถึงยาเสพติดได้ง่าย ปัญหา การแก้ไข ใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ศึกษานักเรียนรายบุคคล ดำ เนินการเยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคน ระดมความคิดจากทุกๆ มุมมองเพื่อหาทางเลือก ในการตัดสินใจ แสวงหาความคิดใหม่ๆ และใช้ ในการวางแผนแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น นักเรียนมีความอยากรู้ อยากลอง นำ ปัญหาที่ได้มาประชุมเพื่อวางแผนในการแก้ไข จนเป็นค่านิยมที่ผิดในช่วงวัย ปัจจัยความสำ เร็จ ผู้บริหารโรงเรียน สนับสนุนและให้กำ ลังใจ ครู มีส่วนร่วม ให้ความร่วมมือร่วมใจอย่างเต็มที่และเต็มใจ นักเรียน ให้ความร่วมมือ เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่โรงเรียนจัดขึ้น ผู้ปกครอง ชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนทรัพยากรในการดำ เนินงาน หน่วยงานและภาคีครือข่าย มีส่วนร่วม ส่งเสริมการดำ เนินงานอย่างต่อเนื่อง
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ความภาคภูมิใจ ผู้บริหาร ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ กับนักเรียนมากขึ้น เช่น กีฬา ดนตรี รวมถึงผู้บริหารลงมาให้ความใกล้ชิดกับนักเรียน อย่างเช่น การแต่งกายด้วยชุดการ์ตูนร่วมกับนักเรียนใน กิจกรรมวันเด็ก ครู มีจิตอาสาเพิ่มขึ้นในการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนเมื่อพบ ความเสี่ยงด้านยาเสพติด นักเรียน มีความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักมากขึ้น ที่จะห่างไกลจากยาเสพติด ผู้ปกครอง ให้ความร่วมมือ เมื่อเกิดความเสี่ยงกับบุตรหลานจะให้ ความร่วมมือและคอยประสานงานกับครูที่ปรึกษา เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที การดำ เนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่ใช่เรื่องที่จะทำ ให้สำ เร็จได้โดยง่าย ผู้บริหาร ครูและ บุคลกรทุกคนในโรงเรียนชุมชนวัดบางขันไม่อาจกล่าวได้ว่าการสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาให้ห่างไกล ยาเสพติดได้เดินทางมาถึงจุดไหนแล้ว แต่ทุกคนมีความรู้สึกคล้ายคลึงกันว่า น่าจะยังอีกไกลกว่าจะถึงปลายทาง แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากการทำ งาน มาเสริมเติมพลังให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งครูณัฏฐ์ สังข์สวัสดิ์ กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนทั้งด้านผู้บริหาร คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองว่า ครูณัฏฐ์ สังข์สวัสดิ์ ครูโรงเรียนชุมชนวัดบางขัน โรงเรียนมีการพัฒนาขึ้นในเรื่องการดำ เนินงานด้านความปลอดภัยจากเรื่องของยาเสพติดมาโดยตลอด นักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงด้านยาเสพติด ได้รับการช่วยเหลือ และได้รับการแก้ไขปัญหา จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติประจำ ในโรงเรียนได้
การพัฒ พั นาผู้เรีย รี นสู่ฐสู่ านสมรรถนะ ด้วยการจัด จั การเรีย รี นรู้รู รู้ รู ปแบบ Active Learning การเดินทาง... สู่คสู่ วามสำ เร็จ ร็ จุดเน้น น้ ที่ 2 ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
นวัตกรรม ปัจจัยความสำ เร็จ ผู้บริหารให้ความสำ คัญ เป็นผู้นำ การขับเคลื่อน ครูมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง หน่วยงานภายใน-ภายนอก ชุมชน-ผู้ปกครองมีส่วนร่วม และให้การสนับสนุน ผู้เรียน ร่วมมือ และมีส่วนร่วม ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 การพัฒนาผู้เรียน ครูและผู้บริหารไปพร้อมกัน มีการตั้งเป้าหมายและแนวทางปฏิบัติ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่บรรลุผลได้จริง มีประสิทธิภาพชัดเจนง่ายต่อการปฏิบัติ สามารถ วัดผลความสำ เร็จได้ตามระยะเวลาที่กำ หนด การดำ เนินงานตามวงจรคุณภาพ PDCA ด้วยการสร้างทีมครูด้วยกระบวนการ PLC เพื่อวางแผนการจัดการศึกษาเชิงรุก วิเคราะห์หลักสูตรเพื่อออกแบบการจัดการเรียนรู้ จัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะอย่างหลากหลาย กระตุ้นให้ครูเห็นความสำ คัญ นิเทศ กำ กับ ติดตาม ส่งเสริมสนับสนุนองค์ความรู้ สื่อ วัสดุอุปกรณ์ การสร้างนวัตกรรมของครู ใช้กระบวนการ PLC แลกเปลี่ยน เรียนรู้ สะท้อนผลร่วมกัน และสร้างเครือข่ายภายใน ภายนอกสถานศึกษา การพัฒนา 4 ขั้นตอน 1) การสร้างความตระหนักแก่ครู 2) เปลี่ยนบทบาทของครูจาก ผู้บอกความรู้เป็นผู้ชี้แนะ กระตุ้นและให้คําแนะนํากับผู้เรียนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วย ตนเอง 3) แลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้กระบวนการPLC 4) ผู้บริหารให้คําปรึกษา ติดตาม และอำ นวยความสะดวก โรงเรียนวัดเทียนถวาย SMART MODEL โรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุง DERN MODEL โรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว RCMF MODEL
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สะท้อนผล ปรับปรุงและพัฒนา ขั้นตอนการพัฒนา ผู้บริหารนิเทศ กำ กับติดตาม ให้คำ ปรึกษา แนะนำ ครูแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการ PLC วิเคราะห์ผลการดำ เนินงานเพื่อ วัดค่าความสำ เร็จตามเป้าหมาย ประชุมวางแผน แต่งตั้งคณะทำ งาน ศึกษาความต้องการ จำ เป็น ปัญหาในการจัดการเรียนการสอน กำ หนดปณิธาน ค่าเป้าหมายความสำ เร็จ วิเคราะห์ความรู้ ความถนัดของผู้เรียนเป็นรายบุคคล พัฒนาครูให้มีความรู้เรื่องการจัดการเรียนรู้ รูปแบบ Active Learning ครูออกแบบและจัดการเรียนรู้ รูปแบบ Active Learning ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
ผอ.ทวีวัฒน์ เชื้อนาค ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดเทียนถวาย กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการเลือกพัฒนาโรงเรียนตามจุดเน้น การจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active learning ในโรงเรียนว่า “เชื่อว่าจุดเน้นนี้เป็นจุดเน้นเดียวที่ยั่งยืนที่สุด นี่คือหน้าที่ หลักของโรงเรียน หน้าที่อื่นเป็นหน้าที่รอง คือถ้าถามงานของ โรงเรียนเยอะไปหมด แต่นี่คืองานหลัก งานอื่นงานรอง กระทรวง ศึกษาธิการพูดเรื่องนี้มาเป็นสิบปีแล้ว” โรงเรียนวัดเทียนถวาย ตั้งอยู่ที่อำ เภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ในที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดเทียนถวาย เป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดกลางเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีพระมหาสมเกียรติ รวิวัณโณ เจ้าอาวาสวัดเทียนถวายเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียน และมีคณะกรรมการที่ปรึกษาเป็นผู้ร่วมวางแผน การบริหาร โรงเรียนวัดเทียนถวายจัดการเรียนการสอนในแนวทางปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็น สำ คัญตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 โดยเน้นแหล่งเรียนรู้ที่สำ คัญที่สุด คือ แหล่ง เรียนรู้ที่นักเรียนสามารถปฏิบัติจริงได้ในการเรียน จากประกาศของกระทรวงศึกษาธิการที่มีนโยบายให้ยกระดับคุณภาพทางการศึกษา นโยบายของ สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และจุดเน้นของสำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ปทุมธานี เขต 1 ที่ต้องการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้ นักเรียนเกิดทักษะในศตวรรษที่ 21 ผอ.ทวีวัฒน์ จึงได้ดำ เนินการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของ โรงเรียนวัดเทียนถวายโดย กำ หนดปณิธาน (Aspiration) นั่นคือ กำ หนด SMART MODEL เพื่อพัฒนา SMART SCHOOL เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยผ่านกระบวนการนิเทศติดตามการจัดการเรียน การสอน ในช่วงเริ่มต้นครูบางส่วนในโรงเรียนไม่ยอมรับ คิดว่าเป็นเรื่องใหม่ แต่ผู้บริหารให้ความสำ คัญในการ ขับเคลื่อนและมีองค์ความรู้ในการให้คำ ปรึกษาแนะนำ กับครู จึงใช้วิธีการ “ทำ ให้ดู อยู่ให้เห็น” และกำ หนด เป้าหมายและขั้นตอนการดำ เนินการที่ชัดเจน รวมถึงให้การส่งเสริมสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้จัดการเรียนการสอน ร่วมกับกระบวนการ PLC เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครู ด้วยกัน “ทำ ให้ดู อยู่ให้เห็น” แรงบันดาลใจในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active learning โรงเรียนวัดเทียนถวาย ผอ.ทวีวัฒน์ เชื้อนาค ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดเทียนถวาย ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน 1. ประชุมวางแผนแต่งตั้งคณะทำ งานโดยคำ นึงผู้ปฏิบัติงาน โดยยึดมาตรฐานการทำ งาน ด้วยวงจรคุณภาพ PDCA 2. กำ หนดปณิธาน ค่าเป้าหมายความสำ เร็จ 3. กำ หนดนโยบายและแผนงาน เพื่อนำ ไปปรับปรุงและพัฒนางานให้สอดคล้องกับความต้องการ จากทุกฝ่ายและตามความจำ เป็นของบริบทในแต่ละพื้นที่ 4. วิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ครูผู้สอนจัดทำ ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพื่อประกอบการกำ หนดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ เชิงรุก (Active Learning ) ในการวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการออกแบบกิจกรรม ที่หลากหลาย 5. วิเคราะห์หลักสูตร ศึกษาโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา โดยวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และแนวทางของ SMART MODEL 6. จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยการบูรณาการที่สอดคล้องเหมาะสมกับ ผู้เรียน (Realistic) มาขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ 7. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สะท้อนผล ปรับปรุงและพัฒนา รูปแบบพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ”SMART MODEL” ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 สิ่งที่โรงเรียนวัดเทียนถวายมุ่งหวังและต้องการพัฒนา มาจากการระดมความคิด เพื่อหาวิธีพัฒนา การจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อต่อยอดจุดแข็งที่มีอยู่และพัฒนาการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้คุณภาพผู้เรียนดียิ่งขึ้น โดยยึดแนวทางตามนโยบายของสถานศึกษาในรูปแบบ “SMART MODEL” มีขั้นตอนการดำ เนินงานดังนี้
ผู้บริหาร มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการขับเคลื่อน การจัดการเรียนรู้รูปแบบ Active Learning ครู “Teacher as a key of success” ครูให้ความร่วมมือกับผู้บริหารในการดำ เนินงาน มีนวัตกรรมหรือ Model ที่เป็นหลักยึดเหนี่ยว ของทั้งโรงเรียนในการดำ เนินงาน มีงบประมาณที่เพียงพอ ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ผู้เรียนมีส่วนร่วมและให้ความร่วมมือ ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ “การศึกษาลงทุนมาเยอะแล้วผมกลับมาสู่พื้นฐานเลย Less is more ผมให้ปรัชญานี้กับครูทุกคนครับเคยได้ยินไหมครับ คำ นี้ TLLM:Teach Less Lear nMore นี่คือหัวใจของ Active Learning ครับ ทำ ยังไงให้ ครูมีจิตวิญญาน เริ่มตั้งแต่อนุบาลเลยนะ ขอแค่คุณมีวินัยและมี อุดมการณ์แค่นี้พอแล้ว” ปัญหาและการแก้ไข “จริง ๆ ปัญหาที่จะกล่าวถึง เป็นปัญหาของผู้บริหารนะ คุณลักษณะของผู้บริหารตาม ว10 หลัก ๆ เลย ต้องบริหารงาน วิชาการและบริหารการเปลี่ยนแปลง( Change Management) เพราะว่าเทียนถวายต้องการอย่างนั้น ปัญหาของผมคือ..... ทำ อย่างไรให้ครูปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน ซึ่งจะเกิดได้ครูต้อง ปรับวิธีคิด อันนี้ยากสุดครับ ถึงขนาดว่าต้องโต้วาทีกันในที่ ประชุม “ผอ.ทำ ให้ดูหน่อย” เขาท้าให้เราทำ ให้ดู” การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ของโรงเรียนวัดเทียนถวายในช่วงแรก เกิด การไม่เห็นด้วยของครูรุ่นใหม่ โดยการคิดว่าเป็นเรื่องใหม่ ไม่ทำ ได้ไหม และมีการท้าทาย ผอ.ให้ออกแบบ การจัดการเรียนรู้ให้ดู ผอ.ทวีวัฒน์ ใช้องค์ความรู้ที่มีในการทำ ให้ดู แนะนำ การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ให้ความสำ คัญ ทุ่มเทและให้เวลากับการให้ความรู้ ตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของครูและให้คำ แนะนำ กับ ครู จนคุณครูเข้าใจและเกิดการยอมรับ โดยมีหัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการเป็นผู้ช่วยเหลือและสนับสนุน เปิดใจคุยกับครูที่ยังไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เสวนาร่วมกับครูถึงสิ่งที่ยังไม่เข้าใจตรงกัน ทำ ความเข้าใจ และให้คำ ปรึกษาชี้แนะในลักษณะพี่ช่วยน้อง เพื่อนช่วยเพื่อน ปัจจัยความสำ เร็จ ผอ.ทวีวัฒน์ เชื้อนาค ได้ให้ปรัชญาการจัดการเรียนรู้กับคุณครู คือ Teach Less Learn More คือ การสอนให้น้อย แต่ให้นักเรียนเรียนรู้ให้มากขึ้น โดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA ในการดำ เนินงาน รวมถึง การพัฒนาองค์ความรู้และทักษะของครูเพื่อให้นำ ไปพัฒนาผู้เรียนให้เกิดผลตามค่าเป้าหมายซึ่งจะนำ ไปสู่ ผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ของสถานศึกษาต่อไป
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ครูกรณิกา คุ้นกลาง ครูโรงเรียนวัดเทียนถวาย กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากการดำ เนินการ พัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Activelearning)ในโรงเรียน วัดเทียนถวาย “เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่ตัวผู้บริหาร ครูเปลี่ยนแนวความคิดและเข้าสู่กระบวนการในการจัดการ เรียนการสอนรูปแบบ Active Learning มีการจัดทำ หรือ หาคลิปวีดิโอมาช่วยในการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะ เด็ก จากที่นั่งเรียนเฉยๆก็ลุกขึ้นมาทำ กิจกรรม เราไม่ได้ดูว่า นักเรียนต้องไปแข่งอะไรแล้วชนะแต่เราดูการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมของนักเรียนว่านักเรียนกล้าคิด กล้าแสดงออก กล้าตอบคำ ถามครูเพิ่มขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น และจากการแข่งขันภายนอกนักเรียนก็ได้รับรางวัลแม้จะไม่ ได้รางวัลที่หนึ่งแต่ก็ถือว่ามีการพัฒนาที่เพิ่มขึ้น” ความภาคภูมิใจ “นักเรียนมีการกล้าคิด กล้าแสดงออก กล้าตอบคำ ถามครูเพิ่มขึ้น” “การแข่งขันภายนอก นักเรียนก็ได้รับรางวัล แม้จะไม่ได้รางวัลที่หนึ่ง แต่ก็ถือว่ามีการพัฒนาที่เพิ่มขึ้น” หลังจากโรงเรียนวัดเทียนถวายดำ เนินการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ในโรงเรียนเพื่อตอบสนองนโยบายของสำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 และขับเคลื่อนการดำ เนินงานอย่างเป็นรูปธรรม ตามรูปแบบ SMART MODEL จนเกิดผลการ ดำ เนินงานตามปณิธานที่ตั้งไว้ สิ่งที่ผู้บริหารและครูเกิดความภาคภูมิใจมากที่สุดของผลที่เกิดขึ้น คือ เกิดการพัฒนาองค์กรเป็น SMART SCHOOL มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง ผู้บริหาร ครู ผู้เรียน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ แสดงให้เห็นถึงผลของการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ในโรงเรียน ครูกรณิกา คุ้นกลาง ครูโรงเรียนวัดเทียนถวาย ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุง โรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุง ตั้งอยู่อำ เภคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดใหญ่ เปิดทำ การสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตั้งอยู่ใกล้แหล่งชุมชน และโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากจะจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลางแล้ว ยังมีการบูรณาการการเรียนการสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessorti) ในระดับปฐมวัย และมีการจัดการเรียนการสอนห้องเรียน IEP (Intensive English Program) ระดับประถมศึกษา แรงบันดาลใจในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active learning “คุณครูของเราส่วนมากเป็นคุณครูบรรจุใหม่ โรงเรียนเราจึงเหมือนกับเป็นโรงเรียนฝึกหัดครู เราจึง ต้องการสร้างครูรุ่นใหม่ที่ใช้รูปแบบการสอนแบบ Active learning คุณครูมีความรู้อยู่แล้ว แต่ขาด ประสบการณ์ในการปฏิบัติ เราก็เลยเน้นการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Active learning เพราะ ว่าการเรียนการสอนมีหลายรูปแบบแต่โรงเรียนของเราเน้นรูปแบบ Active learning เพื่อให้นักเรียน ของเราได้ลงมือปฏิบัติ คิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำ คัญที่สุด และผลเกิดกับนักเรียนอย่าง ชัดเจน” ผอ.ดำ เนิน คำ ดา ผู้อำ นวยการโรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุง ผอ.ดำ เนิน คำ ดา ผู้อำ นวยการโรงเรียนสามัคคี ราษฎร์บำ รุง กล่าวถึงโรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุงว่า ในทุกปีจะมีครูผู้สอนย้ายกลับภูมิลำ เนาคราวละ หลายคน ในปีหนึ่ง ๆ มีการย้ายถึงสองครั้ง และจะ มีครูบรรจุใหม่แทบจะทุกปี คราวละหลายคนเช่นกัน ซึ่งครูเหล่านี้มีความรู้แต่ยังขาดประสบการณ์ในการ จัดการเรียนการสอน มีความเชื่อมั่นว่าการจัดการเรียนการสอนในรูป แบบ Active learning เป็นวิธีการที่สามารถพัฒนา นักเรียนให้เกิดทักษะในศตวรรษที่ 21 ได้ จึงต้องการ สร้างครูรุ่นใหม่ ให้สามารถจัดการเรียนการสอนด้วย รูปแบบ Active learning ด้วยวิธีการสร้างความ ตระหนักและการให้ความรู้แก่ครู คุณครูของเราส่วนมากเป็นคุณครู บรรจุใหม่ โรงเรียนเราจึงเหมือนกับ เป็นโรงเรียนฝึกหัดครู
นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active learning โรงเรียนใช้หลักการบริหารการจัดการ ศึกษาด้วยรูปแบบ DERN MODEL ภายใต้กระบวนการดำ เนินงานตามวงจรคุณภาพ PDCA เพื่อขับเคลื่อน งานให้เกิดผลลัพธ์ตามเป้าหมายความสำ เร็จ มีขั้นตอนการดำ เนินงานดังนี้ D : Design team teacher สร้างทีมครูบูรณาการจัดการเรียนรู้ 1. แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Active learning ในสถานศึกษา 2. ประชุมคณะครูเพื่อชี้แจงทำ ความเข้าใจ วางแผน สร้างความตระหนักให้คุณครูรู้ถึงผลของ การจัดการเรียนรู้รูปแบบ Active learning ส่งผลอย่างไรต่อนักเรียน โดยยึดมาตรฐานการทำ งาน ด้วยวงจรคุณภาพ PDCA 3. ศึกษาทฤษฎี จัดอบรมให้ความรู้แก่ครูผู้สอน เพื่อนำ ไปใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ E : Educate management process จัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย 4. คุณครูจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการที่หลากหลาย 5. คุณครูสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอน 100% R : Reflect นำ ความรู้ไปใช้และสะท้อนผลความคิดร่วมกัน 6. แต่งตั้งคณะกรรมการนิเทศ กำ กับ ติดตาม การจัดการเรียนการสอนของครู 7. คุณครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกิจกรรม PLC ทุกกลุ่มสาระ 8. สะท้อนผล ปรับปรุงและพัฒนา N : Network สร้างเครือข่าย 9. สร้างการมีส่วนร่วมและขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายในและภายนอก ชุมชนและผู้ปกครอง ทั้งด้านองค์ความรู้ และสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ การบริหารการจัดการศึกษาด้วยรูปแบบ DERN MODEL ภายใต้ดำ เนินงานตามวงจรคุณภาพ PDCA
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ โรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุงจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active learning โดยนำ เทคโนโลยีเข้ามา ช่วยในการจัดการเรียนการสอน และการบริหารจัดการงานต่าง ๆ ภายในโรงเรียน โดยใช้แพลทฟอร์ม “SMK CONNECT” มีการส่งเสริมให้ครูนำ เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาการจัดการเรียน การสอนฝึกครูให้ทำ คลิปการจัดการเรียนการสอนสั้น ๆ ส่งให้ ผอ.ดู เพื่อสามารถส่งให้นักเรียนนำ ไปใช้ ศึกษาด้วยตนเองและเป็นการเตรียมความพร้อมของครูสำ หรับการประเมิน PA ครูมีการศึกษาทฤษฎีการ จัดการเรียนการสอนทั้งของไทยและต่างประเทศ มีการใช้รูปแบบการสอนแบบ “ห้องเรียนกลับด้าน” โดยการใช้สื่อแบบ Micro ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการเรียนของนักเรียน “ทำ อย่างไรเราถึงจะเป็น Active learning ของจริง ไม่ใช่ ว่าแผนเป็น Active learning แต่เวลาสอนครูกลับไปใช้ แบบโบราณเหมือนเดิม ก็เลยศึกษาทฤษฎีการจัดการเรียน การสอนของต่างประเทศ เขาพัฒนาเด็กเขา แม้ว่าเด็กจะไม่ มาเจอครู ครูอยู่ที่โรงเรียนเด็กอยู่ที่บ้าน เราจะทำ ยังไงให้เกิด การเรียนรู้ร่วมที่ผู้ปกครองก็มีส่วน ครู ตัวเด็ก ทำ ยังไงให้ กระบวนการเรียนรู้เชื่อมสัมพันธ์กันทั้งหมด ก็ได้การเรียนรู้ ของห้องเรียนกลับด้าน เน้นให้ลดการจัดการเรียนการสอน ที่ครูบอกความรู้ ครูจะเป็นโค้ช เน้นมอบหมายงานให้เด็ก โดยการให้คำ ถามกระตุ้น และครูจัดทำ สื่อที่เป็นแบบ Micro learning ไปแขวนไว้ตาม Facebook" ครูธีรชัย ใจดี ครูโรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุง เจ้าของรางวัล “บริษัทสร้างการดี” ระดับเหรียญทอง ของสำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวถึงการใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยีมาช่วยจัดการเรียน การสอนรูปแบบ Active learning ว่า ปัญหาและการแก้ไข ครูมีหลากหลายกลุ่ม บางคนถนัดการใช้เทคโนโลยี บางคนไม่ถนัด งบประมาณไม่เพียงพอ ในการจัดการเรียนการสอน รูปแบบ Active Learning ให้มีคุณภาพ “Buddy Teachar” จับคู่ครูที่ถนัด การใช้เทคโนโลยีกับครูที่ไม่ถนัด การใช้เทคโนโลยี ให้ช่วยเหลือกัน ในการทำ งาน ขอความร่วมมือและสนับสนุน ทั้งด้านความรู้ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ จากบุคคลและ หน่วยงานต่างๆ จากการที่โรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุงนำ เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการเรียนการสอน และ บริหารจัดการงานต่าง ๆ ภายในโรงเรียน จึงพบปัญหาที่เกี่ยวข้องซึ่งมีแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันจน สามารถคลี่คลายและดำ เนินงานต่อไปได้ ปัญหา การแก้ไข ครูธีรชัย ใจดี ครูโรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุง
จากการดำ เนินการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) “นักเรียนมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ ดีขึ้น สามารถร่วมทำ กิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุข มีความสนใจและกระตือรือร้นอยากเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวมถึงทักษะการเรียนรู้ต่าง ๆ มีคุณภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” “ครูมีการพัฒนาตนเอง พัฒนาสื่อการสอน และการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนที่หลากหลาย ผู้บริหารมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดการศึกษามากขึ้น สามารถขยายผลต่อยอดนำ ไปพัฒนาการ บริหารจัดการศึกษาในปีการศึกษาถัดไป โรงเรียนได้รับการยอมรับจากภาคีเครือข่าย ชุมชนและผู้ปกครอง สูงขึ้น ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจในการนำ บุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียนเพิ่มมากขึ้น” ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ผู้บริหาร เป็นต้นแบบ เป็นแบบอย่างที่ดี เหมือนดังคำ กล่าวที่ว่า“ทำ ให้ดู อยู่ให้เห็น” ดูแล เอาใจใส่ ครูอย่างใกล้ชิด ช่วยเหลือ ส่งเสริมสนับสนุนการทำ งาน มีองค์ความรู้ในการให้คำ แนะนำ แก่ครู ครู มีความทุ่มเท เสียสละ รักและศรัทธาในวิชาชีพครู พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง นักเรียน ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก เครือข่าย โรงเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนทำ ให้เกิดการมีส่วนร่วม การสนับสนุนจากหน่วยงานภายในและภายนอก ชุมชนและ ผู้ปกครอง ทั้งในด้านองค์ความรู้ และสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ปัจจัยความสำ เร็จ ความภาคภูมิใจ ครูจินตหรา มีครองแบ่ง ครูโรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำ รุง “...สิ่งที่ภูมิใจมากที่สุด คือ....สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเด็ก ซึ่งเป็นประเด็นสำ คัญที่สุด” ครูจินตหรา มีครองแบ่ง ได้กล่าวถึงความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้น จากผลการพัฒนาการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning ว่า “ครูได้พัฒนาตนเอง มีความตั้งใจที่จะพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ของตนเองที่หลากหลายและดีมากขึ้น ในด้านตัวเด็กสิ่งที่ได้ คือ มีการ พัฒนาผลการเรียน พฤติกรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ควรจะ ได้รับการพัฒนา นักเรียนได้รับการพัฒนาดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน แต่สิ่งที่ ภูมิใจมากที่สุด คือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเด็ก ซึ่งเป็นประเด็นสำ คัญที่สุด”
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว โรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว ตั้งอยู่อำ เภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก เปิดทำ การสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 6 บริบททั่วไปมีลักษณะกึ่งเมืองกึ่งชนบท อยู่ใน ชุมชนที่คนในชุมชนมีส่วนร่วมทุกอย่าง ช่วยเหลือและดูแลโรงเรียนเป็นอย่างดี โรงเรียนนำ เทคโนโลยีและปราชญ์ ชาวบ้านมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยผ่านกระบวนการการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) แรงบันดาลใจในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active learning ผอ.อดิศร เจริญสุข ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการเลือกพัฒนาตามจุดเน้นการจัดการ เรียนการสอนรูปแบบ Active learning ในโรงเรียนว่า ว่าที่ร้อยตรีอดิศร เจริญสุข ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว “สืบเนื่องมาจากช่วงโควิด เด็กของเราแทบไม่ได้เรียนเลย เรียนอยู่บ้านมันไม่ได้ผลอะไรมากมาย เลยมาคิดกับคุณครูว่า การจัดการเรียนการสอนแบบนี้จะช่วยแก้ปัญหา Learning loss ของนักเรียนได้ รวมทั้ง Active learning เป็นส่วนสำ คัญ ที่ทำ ให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ดีที่สุด และยั่งยืนที่สุด สามารถหาคำ ตอบในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ และคุณครูจะเป็น คนที่ช่วยเสริมช่วยอำ นวยความสะดวกในการจัดการเรียน การสอนแต่คนที่ทำ จริง ๆ คือนักเรียน ส่งผลให้นักเรียนมีวิธี การคิดที่สูงขึ้น โดยคุณครูเป็นคนใส่กระบวนการเข้าไปและ นักเรียนเป็นคนคิด” จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อการจัดการเรียน การสอนของโรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว โดยเฉพาะผลกระทบที่ส่งตรงถึงตัวผู้เรียน จนทำ ให้เด็กเกิดภาวะ การเรียนรู้ที่ถดถอย (Learning Loss) ผู้บริหารและครูโรงเรียนวัดลาดหลุมแก้วจึงประชุมปรึกษาหาวิธีการ แก้ปัญหาโดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ซึ่งเป็นกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยมีครูเป็นผู้อำ นวยความสะดวก สร้าง แรงบันดาลใจ ให้คำ ปรึกษา ดูแล แนะนำ ทำ หน้าที่เป็นโค้ชและพี่เลี้ยง แสวงหาเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายในการสอน รวมถึงการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นนำ ปราชญ์ชาวบ้านมาให้ความรู้ ทำ ให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง มีความเข้าใจในตนเอง ใช้สติปัญญา คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ ผู้เรียนมีผลงานหรือนวัตกรรมที่บ่งบอกถึงการมีคุณลักษณะและสมรรถนะสำ คัญในศตวรรษที่ 21 มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต และทักษะวิชาชีพ
ขั้นตอนที่ 1 R : Realize คือการสร้างความตระหนักให้บุคลากรในสถานศึกษาเกี่ยวกับการจัดการเรียน การสอนแบบ Active Learning ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและมี ปฏิสัมพันธ์กัน กระบวนการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. จัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารและครู เพื่อสร้างความตระหนัก และความเข้าใจในเรื่อง การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning และสมัครใจร่วมกันดำ เนินงาน 2. ชี้แจงกระบวนการดำ เนินการการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก และให้ดำ เนินการอย่างต่อเนื่อง ให้ทุกคนรับทราบนโยบายและมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active Learning ขั้นตอนที่ 2 C : Coach การเป็นผู้ชี้แนะ โดยกระตุ้นและให้คำ แนะนำ กับบุคลากรครูในสถานศึกษา โดยใช้ ADISORN Model เข้ามาดำ เนินการนิเทศติดตามคอยชี้แนะ A – Analysis การวิเคราะห์บริบท D – Do (Agency collaboration) ลงมือปฏิบัติ I – Integration การบูรณาการ S – Skill ทักษะของผู้เรียน O – Observe การสังเกตการจัดการเรียนการสอน/นิเทศการจัดการเรียนการสอน R – Reflect สะท้อนผล N – Network มีเครือข่ายและบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมด้วยระบบคุณภาพ ขั้นตอนที่ 3 M : Mentor การเป็นพี่เลี้ยงให้กับบุคลากรครูในโรงเรียน โดยให้คำ ปรึกษาตามทักษะ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ใช้กระบวนการ ชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ในการขับเคลื่อน ดำ เนินการ แก้ไข รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพ ขั้นตอนที่ 4 F : Facilitator การเป็นผู้อำ นวยความสะดวกในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำ สื่อของ บุคลากร รวมถึงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน ให้เหมาะสมและเอื้อต่อการจัดการเรียนการสอน นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active learning โรงเรียนใช้ RCMF MODEL ในการดำ เนิน งาน 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) การสร้างความตระหนักแก่ครู 2) เปลี่ยนบทบาทของครูจากผู้บอกความรู้เป็น ผู้ชี้แนะ กระตุ้นและให้คําแนะนํากับผู้เรียนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง 3) แลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการ PLC และ 4) ผู้บริหารให้คําปรึกษา ติดตามและอำ นวยความสะดวก ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก RCMF MODEL
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ โรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว นำ ความรู้อย่างหลากหลายมาก เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาการ จัดการเรียนการสอนรูปแบบ Active learning ทั้งการพัฒนาความรู้ในการบริหารคน ใช้คนให้ตรงกับงาน สร้างความเชื่อมั่นให้ครูมั่นใจว่าตนเองทำ ได้ มีการใช้ความรู้ตามกระบวนการ STEM วิทยาการคำ นวณ ความรู้ด้านเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน การสอนในรูปแบบฐานสมรรถนะ รวมถึงใช้ปราชญ์ ชาวบ้าน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ครูกาญจนา อิ่มเสถียร ครูโรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว กล่าวถึงความรู้ที่ครูนำ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน รูปแบบ Active learning ในโรงเรียนว่า “คุณครูเราจะมานั่งคุยกันเพื่อพัฒนาตนเอง อย่างเช่น ได้สื่อตัวนี้มานะมันน่าสนใจเราลองพัฒนาดูไหม อย่างเรื่อง ของการทำ เว็บไซต์ เราก็รวมกลุ่มกันจะให้ครูคอมพิวเตอร์ มาช่วยสอนครูคนอื่นในโรงเรียนว่าสร้างเว็บไซต์ยังไงให้เด็ก ๆ เข้าไปใช้งาน เราค่อนข้างจะเน้นเรื่องการใช้เทคโนโลยี เราได้ครูคอมพิวเตอร์ที่ค่อนข้างเก่งมา ก็จะมาให้อบรมให้ กับครูในโรงเรียนในเรื่องของการทำ เว็บไซต์ การจัดทำ สื่อ ครูทุกคนจะมี Google classroom และ Padlet ให้ นักเรียนเข้าไปใช้” ครูกาญจนา อิ่มเสถียร ครูโรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว ปัญหาและการแก้ไข “...โรงเรียนเราค่อนข้างจะเน้นเรื่อง การใช้เทคโนโลยี...” ครูยังไม่เข้าใจการจัดการเรียนการสอน รูปแบบ Active learning อย่างชัดเจน จึงขาดความมั่นใจในการสอน นักเรียนยังขาดทักษะในด้านต่าง ๆ และไม่กล้าแสดงออก ถึงแม้ว่าโรงเรียนวัดลาดหลุมแก้วจะมีการพัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ ตลอดจนสนับสนุนให้ใช้ เทคโนโลยีมาใช้จัดการเรียนการสอน และใช้กระบวนการพัฒนาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องแล้วก็ตาม ก็ยังพบว่ามีปัญหาที่ต้องการการแก้ไขไปพร้อมๆกับการพัฒนา ปัญหา ผู้บริหารและหัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการให้ คำ ปรึกษาและแนะนำ ครูได้ ทำ ให้ครูมีความ เชื่อมั่นและมั่นใจในการดำ เนินการ จัดการเรียนรู้อย่างหลากหลาย จัดโครงงานรูปแบบ สะเต็มศึกษา เพื่อให้เกิดทักษะด้านต่าง ๆ กับนักเรียน นักเรียนกล้าคิด กล้าทำ กล้าสดงออกเพิ่มขึ้น การแก้ไข
จากการดำ เนินการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ปัจจุบันโรงเรียนวัดลาดหลุมแก้ว เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดด จนเป็นที่ยอมรับของสังคมและชุมชน โดยดูจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักเรียนมีการพัฒนาด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกเพิ่มขึ้น ครูและบุคลากรเกิดความตระหนักรู้ในการปรับเปลี่ยนบทบาท แสวงหาวิธีการ และกิจกรรมที่หลากหลายในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคน ทำ ให้ครูเกิดทักษะในการสอน และมีความเชี่ยวชาญในบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ เป็นการพัฒนาตน พัฒนางานและพัฒนาผู้เรียนไป พร้อมกัน โรงเรียนมีการจัดสภาพแวดล้อมที่ดี ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า มีบรรยากาศเหมาะสมกับการเรียนรู้ มีห้องปฏิบัติการครบถ้วน เป็นต้นแบบ เป็นแกนนำ ในการขับเคลื่อนการดำ เนินการให้เป็นไป ในรูปแบบเดียวกัน มีองค์ความรู้ในการให้คำ แนะนำ แก่คุณครู มีการสื่อสารที่ดี ใช้คนได้ถูกกับงาน มีทัศนคติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ ผอ.ในการพัฒนา การเรียนการสอนรูปแบบ Active learning โรงเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนเป็นอย่างมาก ทำ ให้เกิด การมีส่วนร่วมและการสนับสนุนทั้งในด้านองค์ความรู้ และสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ปัจจัยความสำ เร็จ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ความภาคภูมิใจ ผอ.อดิศร เจริญสุข ได้กล่าวถึงความภาคภูมิใจใน ความสำ เร็จของโรงเรียนว่า “สิ่งที่ภูมิใจที่สุดตอนแรกก็ คิดว่าน่าจะเป็นผู้เรียน แต่เมื่อดูโดยภาพรวมแล้วน่าจะ เป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของโรงเรียนมากกว่า คือเวลา เราออกไปไหน เราไปเจอผู้คนภายนอกเขาจะชมโรงเรีย นตลอดว่าโรงเรียนมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก โรงเรียน มีความสวยงาม เพราะเราปรับปรุงใหม่ทั้งหมด มีการใช้พื้นที่ อย่างคุ้มค่ามีแปลงเกษตรเหมือนโรงเรียนใหญ่ ๆ มีห้อง ปฏิบัติการที่ครบถ้วน ห้องเรียนของเรามีเหลือ เพียงพอ ที่จะรับเด็กได้ 300-400 คน โรงเรียนได้รับการยอมรับว่า ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกด้าน มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด “สิ่งที่ภูมิใจที่สุดตอนแรก คิดว่าน่าจะเป็นผู้เรียน เมื่อดูโดยภาพรวมแล้ว น่าจะเป็นการพัฒนา ที่ก้าวกระโดดของโรงเรียน” ผู้บริหาร ครู การสร้างเครือข่าย
การใช้เ ช้ ทคโนโลยีดิ ยี ดิจิทัจิ ทั ล เพื่อ พื่ การบริหริารจัด จั การ และการเรีย รี นรู้ การเดินทาง... สู่คสู่ วามสำ เร็จ ร็ จุดเน้น น้ ที่ 3 ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1
การบริหารจัดการการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการบริหารจัดการและ การเรียนรู้ในโรงเรียน ด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน ได้แก่ ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำ เนินการ ร่วมแก้ปัญหา ร่วมพัฒนา และร่วมรักษา กระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลง 8 ขั้นตอน ได้แก่ การสร้างความเข้าใจใน การเปลี่ยนแปลง การวางแผนการเปลี่ยนแปลง การสร้างทีมงานการเปลี่ยนแปลง การสร้างวิสัยทัศน์การเปลี่ยนแปลง การดนำ เนินงานตามการเปลี่ยนแปลง การจุดพลังชัยชนะ การสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และการสร้างความ ยั่งยืนในการเปลี่ยนแปลง โรงเรียนวัดเมตารางค์ รูปแบบการบริหารจัดการ ด้านเทคโนโลยี MATARANG 6 ร่วม โรงเรียนวัดนาวง รปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลง การจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล GB-PAN MODEL วิสัยทัศน์ และนโยบายของผู้บริหาร ความร่วมมือของครู และบุคลากร การบริหารจัดการ และสนับสนุนด้านงบประมาณ การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย การออกแบบในการจัดการเรียนการสอน ความร่วมมือของผู้เรียน นวัตกรรม ปัจจัยความสำ เร็จ ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 การบริหารจัดการด้วยวิธีการเชิงระบบและควบคุมคุณภาพด้วยวงจรคุณภาพ PDCA โดยใช้แนวคิดการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล ด้วยการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ในการบริหารงาน 4 ฝ่ายในสถานศึกษา การจัดการเรียนรู้สาระเทคโนโลยี (วิทยาการ คำ นวณ) ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลเพื่อออกแบบกิจกรรมการเรียน การสอนให้มีประสิทธิภาพ และการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย โรงเรียนคลองสอง (เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์)
ขั้นตอนการพัฒนา ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 SWOT Analysis กำ หนดนโยบาย วิสัยทัศน์ บริหารจัดการงาน 4 ฝ่าย และหลักสูตรสถานศึกษา สร้างทีม และภาคีเครือข่าย ดำ เนินงานตามแผน การนิเทศภายใน PLC/ AAR ประเมินผล 360 องศา เผยแพร่นวัตกรรม สร้างความยั่งยืน
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนคลองสอง (เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์) โรงเรียนคลองสอง(เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์) ตั้งอยู่อำ เภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงเรียนประถมศึกษา ขนาดใหญ่ เปิดการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บริเวณใกล้เคียงเป็นที่ตั้งของ วัดพระธรรมกาย ตลาดไท เป็นแหล่งชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่น หลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายอาชีพ แรงบันดาลใจในการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการบริหารจัดการและการเรียนรู้ ผอ.ไพผกา ผิวดำ ผู้อำ นวยการโรงเรียนคลองสอง (เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์) กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่จะพัฒนา โรงเรียนให้สามารถนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการ บริหารจัดการงานต่าง ๆ และพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของ ครูผู้สอนว่า “เทคโนโลยีและความเข้าใจด้านดิจิทัล เป็นสิ่งสำ คัญ ในการสนับสนุนการเรียนรู้ โรงเรียนคลองสอง (เสวต สมบูรณ์อุปถัมภ์) นำ เทคโนโลยีมา support งานทั้ง 4 ด้าน ประกอบกับครูมีความสามารถด้านเทคโนโลยี และมีภาคี เครือข่าย สวทช. สนับสนุน” ผอ.ไพผกา ผิวดำ ผู้อำ นวยการโรงเรียนคลองสอง (เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์) โรงเรียนคลองสอง(เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์) จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีการบริหารงานสถานศึกษา ตามโครงสร้างบริหารงานงานโรงเรียน 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ด้านบริหารงานวิชาการ ด้านบริหารงบประมาณ ด้านบริหารบุคคล และด้านบริหาร งานทั่วไป มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการศึกษาแต่ยังไม่ครอบคลุมทุกด้าน แต่มี งบประมาณในการสนับสนุนการจัดซื้อ จัดหา สื่อและอุปกรณ์ดิจิทัล ด้านครูผู้สอนมีความพร้อมใน การใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการจัดการเรียนรู้ อีกทั้งโรงเรียนยังมีภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้ ทางโรงเรียน เห็นความสำ คัญและตระหนักว่าทักษะความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นทักษ ะพื้นฐานด้านดิจิทัลที่จำ เป็นต่อการนำ ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถงานดิจิทัลในด้านอื่น ๆ เป็นทักษะสำ คัญที่ใช้ในการปฏิบัติงาน สื่อสาร และทำ งานร่วมกับคนอื่น ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ทำ น้อย ได้มาก” หรือ “Work less but get more” จึงได้พัฒนาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการ และการเรียนรู้ ของโรงเรียนคลองสอง (เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์) โดยใช้ GB-PAN Model เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาและการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับ
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการและการเรียนรู้ โดยใช้ GB-PAN MODEL ของโรงเรียนคลองสอง (เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์) ได้ศึกษาจากแนวคิด ทฤษฎี และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล การจัดการเรียนรู้สาระการเรียนรู้เทคโนโลยี (วิทยาการคำ นวณ) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล และภาคีเครือข่าย ทั้งนี้กระบวนการดำ เนินการใช้วิธีการเชิงระบบ (System Approach) ประกอบด้วย Input - Process - Output - Feedback และทุกขั้นตอนควบคุม คุณภาพโดยวงจรคุณภาพ PDCA มีรายละเอียดดังนี้ G = (General Administration) ด้านการบริหารงานทั่วไป นำ เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ใน การดำ เนินงานธุรการ และพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการประชาสัมพันธ์งาน เกี่ยวกับการศึกษา เพื่อให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน เข้าถึงได้ง่ายและมีความหลากหลาย น่าสนใจ B = (Budget Management) ด้านการบริหารงบประมาณ จัดทำ ระบบข้อมูลสารสนเทศ ออนไลน์ ทั้งทางด้านบัญชี การเงินและพัสดุให้เป็นปัจจุบัน เพื่อให้สามารถตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลได้ นำ มาซึ่งความโป่รงใส ในการปฏิบัติราชการ P = (Personnel Management) ด้านการบริหารบุคคล สร้างฐานข้อมูลสารสนเทศออนไลน์ รวมไปถึงพัฒนาบุคคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ A = (Academic Administration) ด้านการบริหารงานวิชาการ นำ สื่อ เทคโนโลยี สารสนเทศ มาใช้ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา และพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ N = (Network partners) ด้านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายร่วมพัฒนาการศึกษา ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รูปแบบการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการและการเรียนรู้ “GB-PAN Model”
“ภาวะผู้นำ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการปั้นแต่งความรู้เป็นนโยบาย” ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ ผอ.ไพผกา ผิวดำ กล่าวถึงความรู้ที่นำ มาใช้เพื่อดำ เนินงานพัฒนาการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการและการเรียนรู้ในโรงเรียนว่า “สถานศึกษาในยุคดิจิทัลได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม ทั้งภายในและภายนอก การพัฒนาโรงเรียนให้ทันสมัย สามารถบริหารจัดการ ได้อย่างมีคุณภาพในทุก ๆ ด้าน ต้องบูรณาการความรู้หลายส่วน ที่สำ คัญ คือ ต้องส่งเสริมให้ครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึง เทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสาร สื่อการเรียนรู้และบริการของโรงเรียนให้ได้” “..สำ หรับการบริหารงาน 4 ฝ่าย โรงเรียนนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารงานด้านวิชาการ คือ นำ สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการจัดทำ หลักสูตรสถานศึกษา ด้านการบริหารงบประมาณ คือ การจัดทำ ระบบข้อมูลสารสนเทศ ออนไลน์ทั้งทางด้านบัญชี การเงินและพัสดุ ด้านการบริหารบุคคล คือ การสร้างฐานข้อมูลสารสนเทศออนไลน์ เพื่อใช้ในการบรรจุ แต่งตั้ง และสรรหาบุคคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระบบ สามารถตรวจสอบได้ และพัฒนาความรู้ความสามารถ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการบริหาร งานทั่วไป คือ นำ เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำ เนินงานธุรการ การประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงได้ง่ายและมี ความหลากหลาย น่าสนใจ” “...ด้านการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนพัฒนาความรู้แก่ครูเกี่ยวกับการนำ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ใน ยุคดิจิทัลมาใช้ เช่น Massive Open Online Course (MOOCs) ที่ผู้เรียนได้เลือกเรียนตามความถนัดและ ความสนใจจากหลักสูตรที่หลากหลาย , Digital platform ที่ครูและนักเรียนติดต่อกันได้สะดวกขึ้นบนโลก ออนไลน์ , Mobile Learning เรียนรู้ผ่านมือถือ และแอปพลิเคชั่นช่วยสำ หรับการเรียนการสอน เช่น Plickers สำ หรับเช็คชื่อ Kahoot ให้นักเรียนตอบคำ ถาม ช่วยสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้สนุกสนาน ตื่นเต็น น่าเรียน มากขึ้น หรือการใช้ Google Classroom ที่ช่วยครูและนักเรียนได้มาก สามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา” ผอ.ไพผกา ผิวดำ ปัญหาและการแก้ไข ครูยังขาดทักษะการใช้เทคโนโลยี เพื่อการจัดการศึกษา ขอความร่วมมือเครือข่ายพัฒนา สวทช. มาจัดอบรมให้ความรู้แก่ครู และบุคลากร จัดตั้งงบประมาณด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ในแผนปฏิบัติราชการเพิ่มเติม ปัญหา การแก้ไข ระดมทรัพยากรจากเครือข่ายร่วมพัฒนา เช่น สวทช. มอบอุปกรณ์ และสื่อการสอน ปัญหา การแก้ไข เมื่อพัฒนาพร้อมกันทั้งระบบทำ ให้ วัสดุอุปกรณ์ไม่เพียงพอ งบประมาณไม่เพียงพอ
ครู ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ปัจจัยความสำ เร็จ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ผู้ทำ ให้ครูผู้สอนเกิดความตระหนัก เข้าใจเป้าหมายในการปรับเปลี่ยน และกระตุ้น ให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มีการนิเทศ กำ กับติดตามอย่างใกล้ชิด และประเมินผล พร้อมสนับสนุนและให้คำ แนะนำ ในกรณีที่มีอุปสรรค สนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดซื้อสื่อ วัสดุ และอุปกรณ์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการจัดการเรียนการสอน และ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ ศึกษานิเทศก์ประจำ โรงเรียนมีการนิเทศ กำ กับติดตาม และให้คำ แนะแก่ครู ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ ผู้บริหารสถานศึกษา เครือข่ายร่วมพัฒนา สำ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้การสนับสนุน เกิดการสื่อสารที่รวดเร็ว ทันเวลา และเข้าถึงผู้ปกครองได้รวดเร็ว ผู้บริหารและครูได้รับองค์ความรู้ใหม่ในการบริหารสถานศึกษา และการจัดการเรียนรู้ นักเรียน มีทักษะการคิด ทักษะการวางแผนการทำ งาน และ นำ เสนอผลงาน ครู เกิดความภาคภูมิใจในการจัดการเรียนรู้ และสามารถสร้างนวัตกรรมได้ ความภาคภูมิใจ “ทุกภาคส่วนร่วมคิด ร่วมทำ เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ผอ.ไพผกา ผิวดำ และครูจิราพร จำ ปาเทศ กล่าวถึงความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้น จากการดำ เนินงานในครั้งนี้ว่า ผอ. เกิดความภาคภูมิใจในการบริหารงานสถานศึกษา ครู เกิดความภาคภูมิใจในการจัดการเรียนรู้ ผู้ปกครอง ให้การยอมรับ ให้ความร่วมมือกับครู และโรงเรียน โรงเรียน ทุกภาคส่วนร่วมคิด ร่วมทำ เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงเรียนได้รับการยอมรับจากชุมชน และผู้ปกครอง ส่งบุตรหลานเข้าเรียนเพิ่มขึ้น ผอ.ไพผกา ผิวดำ ครูจิราพร จำ ปาเทศ ครูโรงเรียนคลองสอง (เสวตสมบูรณ์อุปถัมภ์)
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนวัดนาวง โรงเรียนวัดนาวง ตั้งอยู่อำ เภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาขนาดใหญ่ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีวิสัยทัศน์ “โรงเรียนวัดนาวงมุ่งสู่มาตรฐาน สากล ก้าวทันเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมดี ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษ ที่ 21 มีคุณธรรมและจิตสาธารณะ ภายใต้ การบริหารตามหลักธรรมาภิบาล” บริเวณโดยรอบโรงเรียน คือ วัดนาวง และแหล่งชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่น “โรงเรียนมีครูรุ่นใหม่เยอะ และเป็นโรงเรียนขยาย โอกาสทางการศึกษาขนาดใหญ่ ต้องหากิจกรรมให้ นักเรียนทำ ตลอดจน ผอ.มีความถนัด ชำ นาญทาง ด้านเทคโนโลยี และมีทีม IT ของโรงเรียนคอย support ระบบ” แรงบันดาลใจในการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการบริหารจัดการและการเรียนรู้ “...จากสภาพปัญญาในการจัดการเรียนการสอนและข้อมูลจากจากการศึกษารายงานการประเมินตนเอง ของสถานศึกษา (SAR) ของโรงเรียนวัดนาวง พบว่า ในด้านการจัดการเรียนการสอน สิ่งที่ควรพัฒนาคือ ครูควรจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีที่หลากหลายสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดตามหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน และฝึกให้นักเรียนได้วิเคราะห์ หาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ สื่อเทคโนโลยีให้มากขึ้น ซึ่งหมายถึงว่าการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล ยังไม่สามารถนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในด้านต่าง ๆ มากพอ เช่น การจัดการเรียนการสอน ครูต้องไม่ใช้ Power Point หรือโปรแกรมนำ เสนอ งานอื่น ๆ แทนกระดานดำ เท่านั้น แต่ครูต้องสามารถเชื่อมโยงข้อมูลความรู้จากโลกภายนอกสู่ห้องเรียน โดยผ่าน Internet ได้ด้วย ก็จะทำ ให้นักเรียนสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น ทำ อย่างไรจึงจะทำ ให้ครูสามารถ เล่นบทบาทเป็นผู้อำ นวยการเรียนรู้ได้ดี ทำ อย่างไรครูจึงจะสามารถสร้างบรรยากาศชั้นเรียนให้เป็นแบบ ชั้นเรียนดิจิทัล (Digital Classroom) ทำ อย่างไรครูจึงจะใช้นวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้และใช้เทคโนโลยี ในการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้อง ให้ผู้เรียนเป็นผู้ตั้งเป้าหมายในการเรียนรู้ของตนเอง มีการประเมินผลตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยรู้จักประยุกต์ใช้ความรู้ มีการสื่อสารและการร่วมมือโดยใช้สภาพ แวดล้อมและสื่อดิจิทัล มีความคล่องแคล่วในการศึกษาค้นคว้าผ่านสื่อดิจิทัล ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และตัดสินใจ โดยใช้สื่อดิจิทัลและแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสม และใช้เทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัยและอย่าง มีประสิทธิภาพ โรงเรียนวัดนาวงได้นำ ข้อมูล ความรู้ที่เกี่ยวข้องมาสังเคราะห์ หาความสอดคล้องและ เชื่อมโยงเพื่อกำ หนดรูปแบบ วิธีการที่นำ ไปสู่การเปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลของโรงเรียน วัดนาวง” ผอ.จิรัตน์ อยู่ยืน ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดนาวง ผอ.จิรัตน์ อยู่ยืน ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดนาวง กล่าวถึง แรงบันดาลใจในการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ พัฒนาการบริหารจัดการและการเรียนรู้ ว่า...
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน การเปลี่ยนแปลงโรงเรียนให้มีการพัฒนาวิชาชีพและความเป็นผู้นำ ในยุคดิจิทัล ครูจัดการเรียนรู้โดย ใช้นวัตกรรมและยึดผู้เรียนเป็นสำ คัญ ออกแบบและพัฒนาการเรียนรู้เป็นแบบอย่างการทำ งานและการเรียนรู้ ในยุคดิจิทัลและพลเมืองดิจิทัล และใช้สื่อดิจิทัลอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย คือจุดมุ่งหมายสำ คัญ ของการพัฒนาโรงเรียนวัดนาวง ด้วยรูปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ซึ่งมี ขั้นตอนการดำ เนินงาน 8 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นการสร้างความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลง ประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความตระหนักและสร้างความเข้าใจ อบรมเพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้ในการใช้สื่อ เครื่องมือเทคโนโลยีในการสื่อสารที่ดี ขั้นที่ 2 ขั้นการวางแผนการเปลี่ยนแปลง วิเคราะห์สภาพแวดล้อม จุดแข็ง จุดอ่อน อุปสรรคและโอกาสของสถานศึกษา กำ หนดนโยบาย จัดทำ แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา สร้างแนวทางการพัฒนา จัดทำ ข้อตกลงในการดำ เนินงาน เพื่อเปลี่ยนกรอบความคิดในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร จัดทำ หลักสูตร ออกแบบและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ขั้นที่ 3 ขั้นการสร้างทีมงานการเปลี่ยนแปลง แต่งตั้งที่ปรึกษาและคณะทำ งาน ขั้นที่ 4 ขั้นการสร้างวิสัยทัศน์การเปลี่ยนแปลง ประกาศวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย นโยบายส่งเสริมการเรียนรู้ของสถานศึกษา มาตรฐาน การจัดการเรียนรู้ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของผู้เรียนในยุคดิจิทัล ขั้นที่ 5 ขั้นการดำ เนินงานตามการเปลี่ยนแปลง ดำ เนินงานตามแผนโดยใช้ทักษะทางเทคโนโลยีและการใช้ดิจิทัลในการบริหารและการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 6 ขั้นการจุดพลังชัยชนะ มอบรางวัลเมื่องานสำ เร็จ สร้างขวัญกำ ลังใจ ขั้นที่ 7 ขั้นการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ประเมินผลการดำ เนินงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนิเทศการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 8 ขั้นการสร้างความยั่งยืนในการเปลี่ยนแปลง สรุปผลและพัฒนาการเปลี่ยนแปลงให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ รูปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลของโรงเรียนวัดนาวง
ผู้บริหาร สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการจัดการศึกษา พัฒนาไม่หยุดนิ่ง ครู มีความรู้และทักษะการใช้เทคโนโลยีในการจัดการศึกษา นักเรียน มีความสนใจในการทำ กิจกรรม เรียนรู้อย่างมีความสุข มีทักษะการใช้เทคโนโลยี และทักษะการสืบค้น ผู้ปกครอง/ชุมชน ชื่นชม ยอมรับ ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ รองฯ พิมพ์ทิพย์ ปัญญาบุญ รองผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดนาวง รองฯ พิมพ์ทิพย์ ปัญญาบุญ รองผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดนาวง กล่าวว่า การดำ เนินงานครั้งนี้ใช้ความรู้หลักที่สำ คัญ 3 ประการ คือ ปัญหาและการแก้ไข การบริหารความรู้ในยุคดิจิทัล บทบาทของบุคคลที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง หลักธรรมาภิบาล ขาดวัสดุอุปกรณ์ อุปกรณ์ที่มีชำ รุด ขัดข้อง ประสานหน่วยงานภายนอก ขอรับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ ปัญหา การแก้ไข สร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง มีการสร้าง ข้อตกลงในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ ศักยภาพครอบครัวนักเรียน สังคม Social Media ส่งผลต่อสมาธิในการเรียนของนักเรียน ปัจจัยความสำ เร็จ ความร่วมมือจากภายในโรงเรียน ความร่วมมือจากองค์กรภายนอก ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ความภาคภูมิใจ ครูอาริสา อารมณ์ชื่น ครูโรงเรียนวัดนาวง กล่าวถึงปัจจัยความสำ เร็จ การเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้นและความภาคภูมิใจในการดำ เนินงานนี้
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 โรงเรียนวัดเมตารางค์ โรงเรียนวัดเมตารางค์ ตั้งอยู่ที่อำ เภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก เปิดสอนตั้งแต่ ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชุมชนโดยรอบมีสภาพกึ่งชนบท ส่วนใหญ่ประกอบ อาชีพเกษตรกรรมและรับจ้าง ตั้งอยู่ในใกล้โรงงานไฟฟ้าเชียงรากน้อย แรงบันดาลใจในการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการบริหารจัดการและการเรียนรู้ ผอ.สตกฤช วิชิตพันธ์ ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดเมตารางค์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนา การบริหารจัดการและการเรียนรู้ในโรงเรียนขนาดเล็ก “ผมเป็นคนรักความสะดวกสบาย และจบเอกคอมพิวเตอร์ ธรรมชาติของเทคโนโลยีถูกสร้างและนำ มาใช้เพื่อตอบสนอง มนุษย์ด้านความสะดวกสบายของมนุษย์อยู่แล้ว อีกทั้งครูใน โรงเรียนขนาดเล็กภาระเยอะ ไม่ครบกลุ่มสาระการรู้และไม่ ครบชั้นเรียน ” ผอ.สตกฤช วิชิตพันธ์ ผู้อำ นวยการโรงเรียนวัดเมตารางค์ “...ในฐานะผู้บริหารโรงเรียน ผอ.สนใจที่จะพัฒนาการบริหารจัดการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ “รูปแบบการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยี METARANG 6 ร่วม”โดยนำ ทฤษฏีระบบ (Symtem Theory) ประยุกต์กับวงจรการควบคุมคุณภาพ (PDCA) ส่งเสริมให้ครูใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการจัดการเรียนรู้ ให้มีมาตรฐาน สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้ได้หลากหลาย ส่งเสริมการร่วมมือของเครือข่ายผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการวางแผนพัฒนาหลักสูตร การกำ หนดเป้าหมายร่วมกัน ให้มีความท้าทาย สามารถปฏิบัติได้จริง ร่วมกัน จัดหาหรือระดมทรัพยากรที่เป็นปัจจัยที่สำ คัญต่อการจัดการเรียนการสอน ตามหลักการ 4 M (Man, Money, Materail, Management) ความพร้อมของปัจจัยทรัพยากรก็จะส่งผลให้ครูสามารถค้นหาแนวทางการจัดการ เรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ครูสามารถนำ เทคโนโลยีมาจัดกระบวนเรียนรู้ได้หลายรูปแบบ เช่น การจัดการเรียนรู้ ทางไกลผ่านดาวเทียม (New DLTV) ซึ่งครูสามารถดาวน์โหลดเอกสารการสอน รวมทั้งวีดิโอการสอนมาใช้ได้ ทั้งระบบ Online และ Offline การใช้แพลตฟอร์มจากอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ครูสามารถใช้ เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (Experientail Learning) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project based Learning) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity based Learning) การเรียนรู้โดยใช้ ปัญหาเป็นฐาน (Problem based Learning) เป็นต้น ให้ครูมีส่วนร่วมในการร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำ เนิน การ ร่วมแก้ปัญหา ร่วมพัฒนา และร่วมรักษา เพื่อให้ระบบการบริหารจัดการของโรงเรียนมีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพ คุณภาพ และประสิทธิผลตามเป้าหมาย มีความน่าเชื่อถือต่อชุมชนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง” “...จากการศึกษารายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ของโรงเรียนวัดเมตารางค์ในปีการศึกษา ที่ผ่านมา พบว่าปัญหาสำ คัญที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการศึกษา รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คือ การขาดงบประมาณในการบริหารจัดการที่เพียงพอ ครูไม่ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ครู 1 คนรับผิดชอบ การสอนมากว่า 1 รายวิชา ทำ ให้ต้องสอนในรายวิชาที่ตนเองไม่ถนัด ครูมีภาระและงานรับผิดชอบมากเกินไป เนื่องจากครูมีจำ นวนน้อย ภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็มีมากขึ้น ครู 1 คน รับผิดชอบงานหลายฝ่าย และ รับผิดชอบหลายโครงการ จึงทำ ให้ครูไม่สามารถจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพ”
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 นวัตกรรมและขั้นตอนการดำ เนินงาน โรงเรียนวัดเมตารางค์ ออกแบบและพัฒนา“รูปแบบการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยี METARANG 6 ร่วม” โดยวิเคราะห์สภาพปัจจุบันและปัญหา (SWOT) บริบทของโรงเรียน ศึกษาทฤษฎีระบบ (System Theory) ทฤษฎีการบริหารแบบมีส่วนร่วม (Participation Theory) ทฤษฎีการเรียนรู้ และหลักการทรงงานของ ร.9 “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดยมีขั้นตอนการดำ เนินงาน 6 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นร่วมคิด (Motive Thinking) การร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อค้นหาเป้าหมายและ แรงจูงใจในการดำ เนินงานด้านการบริหารจัดเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของโรงเรียน ขั้นร่วมวางแผน (Environment Analysis) การร่วมกันวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและบริบท ของสถานศึกษาเพื่อวางแผนการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านเทคโนโลยี ขั้นร่วมดำ เนินการ (Technology Practices)การมีส่วนร่วมส่งเสริมให้ครูมีศักยภาพ ด้านการใช้เทคโนโลยี ในการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ ขั้นร่วมแก้ปัญหา (Activity & Reflect) การมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมนิเทศ ติดตาม ประเมินผล และร่วมกันวิเคราะห์สะท้อนผลถอดบทเรียน หาแนวทางแก้ปัญหาเพื่อให้บรรลุ ตามเป้าหมาย ขั้นร่วมพัฒนา (Apply & Network) การสร้างเครือข่ายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันพัฒนา ระบบบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีของโรงเรียนให้ประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล ขั้นร่วมรักษา (Good Standard) การร่วมกันรักษาระบบบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีของ โรงเรียนให้มีมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ โดยการใช้ SOP (Standard Operation Procedures) เพื่อกำ หนดมาตรฐานในการทำ งาน
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 ความรู้ที่นำ มาใช้ ปัญหาและการแก้ไข ปัจจัยความสำ เร็จ “ผมนำ เทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการในงานทั้ง 4 ฝ่าย โดยเลือกใช้แบบฟรี คือ Cloud Computing ของ Google ส่วนการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนครู ไม่ครบชั้น เราจัดการเรียนการสอนโดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ทั้งแบบเรียนสดตามตารางการจัดการเรียนการสอน Online และ Offline โดย Download VDO การจัดการเรียนการสอน เก็บใน Hard Disk External (HDD) ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีระบบ Magnetic Storage” ผอ.สตกฤช วิชิตพันธ์ กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขี้นกับการบริหารจัดการในโรงเรียนชนาดเล็ก ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา “ผมบริหารบนความขาดแคลนครับ เพราะโรงเรียนที่ผมบริหารเป็น โรงเรียนขนาดเล็ก ฉะนั้นงบประมาณก็ต้องมีจำ กัดเป็นธรรมดา สิ่งที่ผมนำ มาใช้เวลาเกิดปัญหา คือ ศาสตร์พระราชา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” การจัดวางระบบการบริหารจัดการที่มีรูปแบบชัดเจน เนื่องจากโรงเรียนเป็นสถานศึกษาขนาดเล็กมีครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนจำ นวนน้อย ต้องอาศัยการทำ งานที่มีการวางแผน การกำ หนดเป้าหมาย ที่ชัดเจน การบริหารจัดการบุคลากร การจัดการนาสู่การปฏิบัติ เป็นกระบวนการทำ งานที่ขับเคลื่อนอย่าง เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ การสื่อสารสร้างความเข้าใจอันดี ต่อความชัดเจนในการเสริมสร้างให้เกิดความร่วมมือจากบุคลากร ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในฝ่ายบริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ในรูปแบบการประชุม การรับฟังข้อเสนอ การแสดงความคิดเห็น การกำ หนดภาระหน้าที่ของแต่ละฝ่ายงานให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้เกิดแรงหนุนและพลังการทำ งาน อย่างสร้างสรรค์ต่อกัน ฝ่ายบริหารมีภาวะผู้นำ และมีทัศนคติที่ดี และมีความเข้าใจในระบบการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยี เพื่อคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนเป็นอย่างดี การมีทัศนคติหรือมุมมองเชิงบวก วัฒนธรรมองค์กรร่วมกันที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและร่วมกันกำ หนด มาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) และลงมือปฏิบัติ ความร่วมมือ ร่วมใจ ของทุกฝ่ายทำ ให้เกิดจากการร่วมมือกันทำ กิจกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยความสุข และความน่าเชื่อถือของชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ด้วยความเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีภาระงานเท่ากับโรงเรียนขนาดใหญ่ ทำ ให้การทำ งานต่าง ๆ ของโรงเรียนวัดเมตารางค์ ต้องใช้พลังมากขึ้น ใช้เวลามากขึ้น ใช้ใจมากกว่าหนึ่งใจ ใช้มือมากกว่าสองมือ สิ่งที่ช่วยให้โรงเรียนประสบความสำ เร็จได้ มี 3 คำ คือ ชัดเจน เป็นระบบ และร่วมมือ
ถอดบทเรียน 6 จุดเน้น สพป.ปทุมธานี เขต 1 “ถ้าในด้านบริหาร ผมคิดว่าต้อง 4 M บวกความร่วมมือ ซึ่งประกอบด้วย คน เงิน วัสดุ-อุปกรณ์ การบริหารจัดการ และความร่วมมือจากทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะ กองทุนการไฟฟ้าปทุมธานี เป็นความร่วมมือภายนอกที่ ได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษ” “ท่านผอ.เป็นหลักเลยครับ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนสำ เร็จยาก อีกอย่างคือความร่วมมือทั้งคนภายในโรงเรียนด้วยกันและจาก เครือข่ายภายนอก ที่สำ คัญขาดไม่ได้เลยคือ งบประมาณ และวัสดุ” ผอ.สตกฤช วิชิตพันธ์ ครูพัทธนนท์ บุญเลิศ ครูโรงเรียนวัดเมตารางค์ ผู้บริหารและครูได้รับความสะดวก และลดภาระเอกสาร ครูให้ความร่วมมือ ร่วมใจ พร้อมปรับเปลี่ยน นักเรียนเป็นคนเก่ง คนดี และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ในระดับดีมาก ชุมชน ให้ความเชื่อถือ เกิดความไว้วางใจ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ความภาคภูมิใจ ผอ.สตกฤช วิชิตพันธ์ และครูพัทธนนท์ บุญเลิศ ครูโรงเรียนวัดเมตารางค์ กล่าวถึงปัจจัยที่ช่วย สนับสนุนให้การดำ เนินการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการบริหารจัดการและการเรียนรู้ในโรงเรียน ประสบความสำ เร็จว่า