The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ว21102 แผนการจัดการเรียนรู้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 1_2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tawat.sr, 2021-08-12 10:27:16

ว21102 แผนการจัดการเรียนรู้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 1_2563

ว21102 แผนการจัดการเรียนรู้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) 1_2563

Keywords: ว21102

เกณฑ์การประเมิน

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คะแนน

32 1

1. การวเิ คราะหส์ าเหตุ อธิบายประเด็นต่อไปนี้ อธิบายประเด็นตอ่ ไปน้ี อธิบายประเด็นต่อไปนี้

หรอื ปัจจัยที่สง่ ผลต่อ 1. ลักษณะหรือการ 1. ลักษณะหรือการ 1. ล ั ก ษ ณ ะ ห ร ื อ การ

ก า ร เ ป ล ี ่ ย น แ ป ล ง ข อ ง ทำงาน ขอเทคโนโลยี ทำงาน ของเทคโนโลยี ทำงาน ของเทคโนโลยี

เทคโนโลยี 2. จ ุ ด เ ด ่ น ข อ ง 2. จ ุ ด เ ด ่ น ข อ ง 2. จดุ เดน่ ของเทคโนโลยี

1.1 การอธิบายลกั ษณะ เทคโนโลยี เทคโนโลยี 3. จ ุ ด ด ้ อ ย ข อ ง

หรือการทำงาน จุดเด่น จุด 3. จ ุ ด ด ้ อ ย ข อ ง 3. จ ุ ด ด ้ อ ย ข อ ง เทคโนโลยี ได้ถูกต้อง

ดอ้ ยของเทคโนโลยี เทคโนโลยี ได้ครบและ เทคโนโลยี ได้ถูกต้อง 2 เพยี ง 1 ประเด็น

ถูกต้องท้ัง 3 ประเด็น ประเดน็

3. การวิเคราะห์สาเหตุหรือ แจกแจงสาเหตุหรือ แจกแจงสาเหตุหรือ แจกแจงสาเหตุหรือ

ป ั จ จ ั ย ท ี ่ ส ่ ง ผ ล ต ่ อ ก า ร ปัจจัยที่ ส่งผลต่อการ ปัจจัยที่ ส่งผลต่อการ ปัจจัยที่ ส่งผลต่อการ

เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี เ ป ล ี ่ ย น แ ป ล ง ข อ ง เ ป ล ี ่ ย น แ ป ล ง ข อ ง เ ป ล ี ่ ย น แ ป ล ง ข อ ง

เทคโนโลยีได้อย่างถูก เทคโนโลยี ไม่สมเหตุ เทคโนโลยีได้น้อย ไม่

ต้องและสมเหตุสมผล สมผลในบางขอ้ สมเหตุสมผล

ใน ทุกลำดับการ

เปลย่ี นแปลง

เกณฑก์ ารตัดสินระดับคุณภาพ
คะแนน 5 - 6 คะแนน หมายถงึ ระดับคณุ ภาพ ดี
คะแนน 3 - 4 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
คะแนน 1 - 2 คะแนน หมายถึง ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในช่องท่ี

ตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลักษณะ ระดบั คะแนน

อันพงึ ประสงค์ รายการประเมนิ 32 1

ดา้ น

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความจงรักและภมู ิใจในความเปน็ ชาติ

กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา

1.3 แสดงออกถงึ ความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์

2. ซ่ือสัตย์ สุจรติ 2.1 ปฏบิ ัติตามระเบียบการสอนและไมล่ อกการบ้าน

2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จริงตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น

3. มีวินัย 3.1 เขา้ เรยี นตรงเวลา

รบั ผิดชอบ 3.2 แต่งกายเรยี บร้อยเหมาะกับกาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของห้อง

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ

4.2 มีการจดบันทึกความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ด้อย่างมีเหตุผล

5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คุณคา่

5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ

6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย

ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ

7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย

7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน

8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของ

หอ้ งเรียนและโรงเรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
กลุ่มท่ี (ชอ่ื กลุ่ม)........................................................................................................

สมาชิกในกลุ่ม 1. ............................................................................
2. ...........................................................................
3. ...........................................................................
4. ...........................................................................

คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับคะแนน
ตรงกบั ระดบั คะแนน

ลำดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
2 มคี วามกระตอื รือรน้ ในการทำงาน
3 รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย
4 มีข้ันตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5 ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเมาะสม

รวม

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

บันทึกหลังการเรียนการสอน
4. ผลการจัดการเรยี นการสอน
4.1 นกั เรยี นจำนวน...................................คน
ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร้.ู ..................คน คดิ เป็นร้อยละ......................................................
ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค.์ ..............................คน คดิ เป็นร้อยละ......................................................
ไดแ้ ก่ 1..................................................................................................................................
2..................................................................................................................................
นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นพกิ าร ไดแ้ ก่
1..................................................................................................................................
2.................................................................................................................................
4.2 นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4.3 นกั เรยี นมคี วามรเู้ กดิ ทกั ษะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4.4 นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม 12 ประการ คณุ ธรรม จริยธรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
5. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

6. เสนอแนะ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่อื ..........................................................
(นายธวัช สร้างตนเอง)
ผู้สอน

ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศึกษา/ผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นายธวัช สรา้ งตนเอง แลว้ มีความคิดเห็นดังนี้
1. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้
ครบถว้ นและถกู ตอ้ ง
ยงั ไม่ครบถว้ นหรือไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป
2. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนร้กู ับหลกั สูตรสถานศกึ ษา
สอดคล้อง
ยงั ไม่สอดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป
3. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้
เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั
ยงั เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั ควรพฒั นาปรบั ปรงุ ต่อไป
4. ส่อื การเรียนรู้
เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรียนรู้
ยงั ไมเ่ หมาะสม ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ยงั ไม่ครอบคลุมจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
6. ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ

................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ลงช่ือ.................................................................
(นางกานตน์ ารี ธรรมครบุร)ี

ตำแหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์

ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ

................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................................
(นางภัญญภา อนิ ทรปัญญา)

ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการกล่มุ การบริหารวิชาการ

กจิ กรรมท่ี 2.1 เรือ่ ง การวเิ คราะหส์ าเหตแุ ละผลการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี
จากเนื้อหาในบทเรยี นเรอ่ื งการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีเตา เครอื่ งมือเตรยี มดนิ เพื่อทำนา การถนอมอาหาร
ประเภทนมโดยใชค้ วามร้อน การขยายพนั ธุ์กล้วย ใหน้ กั เรยี นเลอื กมา 1 เรือ่ ง แล้ววเิ คราะหใ์ นประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
1. ปญั หาหรอื ความต้องการทที่ ำ ให้เกิดเทคโนโลยใี นเรอื่ งนั้น
2. การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีนนั้ เปน็ สิ่งของเครื่องใชห้ รือวิธีการ
3. สาเหตุหรือปัจจัยใดบ้างทที่ ำ ให้เกิดการเปลีย่ นแปลง และผลการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีน้ัน
4. นกั เรยี นเลือกใชเ้ ทคโนโลยใี ดท่ีเหมาะสมกับบรบิ ทของตนเอง เพราะเหตุใด

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลย.ี .......................................................................

1. ปญั หาหรอื ความต้องการคอื ...........................................................................................................................
2. การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยนี ้นั เปน็ สิ่งของเครื่องใชห้ รือวิธีการ...............................................................
3. ตารางวิเคราะหส์ าเหตุหรอื ปัจจยั ทท่ี ำให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงและผลการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยเี ตา

เทคโนโลยี สาเหตุหรือปจั จยั ท่ีทำให้เกิดการ ผลการเปลย่ี นแปลงของ

............................................ เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี เทคโนโลยี
............................................
1. ............................................... 1. ...............................................

2................................................. 2.................................................

3................................................. 3.................................................

................................................... ...................................................

4. ผเู้ รียนเลือกใชเ้ ตาแบบใดทเ่ี หมาะสมกับบริบทตนเอง เพราะเหตใุ ด

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3

กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยีรอบตัว เรื่อง ระบบทางเทคโนโลยี

รหสั วิชา ว21102 วชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1

เวลา 2 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นายธวัช สรา้ งตนเอง

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 การออกแบบและเทคโนโลยี

เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพือ่ ดำรงชวี ติ ในสังคมทีม่ ีการเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใชค้ วามรู้
และทกั ษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ น่ื ๆ เพอื่ แกป้ ัญหาหรือพัฒนางานอยา่ งมีความคดิ
สรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบ
ตอ่ ชวี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม

ตัวชว้ี ัด / ผลการเรยี นรู้

ม.1/1 อธิบายแนวคดิ หลักของเทคโนโลยใี นชีวติ ประจำวันและวเิ คราะห์สาตหุ รอื ปจั จัยทส่ี ง่ ผลตอ่ การ
เปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี

สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด

ระบบ (system) คอื กลุ่มของส่วนต่าง ๆ ต้งั แต่สองส่วนขนึ้ ไปประกอบเขา้ ดว้ ยกันและทำงานรว่ มกัน
เพ่ือใหบ้ รรลุ วตั ถุประสงคเ์ ดยี วกัน มนุษย์ประดิษฐ์หรอื สรา้ งเทคโนโลยีข้ึนมาเพอ่ื ใชใ้ นกระบวนการแก้ปญั หา
หรอื สนองความต้องการ ซึ่งเรยี กว่า ระบบทางเทคโนโลยี (technological system) ระบบทางเทคโนโลยีจะ
ประกอบไปด้วย ตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ทสี่ ัมพนั ธก์ ัน นอกจากนี้
ระบบทางเทคโนโลยอี าจมีขอ้ มลู ยอ้ นกลับ (feedback) เพอ่ื ใชป้ รบั ปรุงการทำงานไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์

สาระการเรียนรู้

1. เทคโนโลยเี ป็นส่งิ ท่มี นษุ ยส์ ร้างหรอื พัฒนาขึ้น ซ่ึงอาจเป็นไดท้ ้ังชิน้ งาน หรอื วธิ ีการ เพ่ือใชแ้ ก้ปญั หา
สนองความตอ้ งการ หรอื เพิม่ ความสามารถในการทำงานของมนุษย์

2. ระบบทางเทคโนโลยีเป็นกลุ่มของส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่สองส่วนขึ้นไป ประกอบเข้าด้วยกันและทำงาน
ร่วมกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยในการทำงานของระบบเทคโนโลยีจะประกอบไปด้วย ตัวป้อน
(input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ที่สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ระบบทางเทคโนโลยี
อาจมีข้อมูลย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งการวิเคราะห์
ระบบทางเทคโนโลยีช่วยให้เข้าใจองค์ประกอบและการทำงานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถปรับปรุง
ให้เทคโนโลยีทำงานได้ตามท่ีต้องการ

3. เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลาย
ดา้ น เชน่ ปัญหา ความตอ้ งการ ความก้าวหน้าของศาสตรต์ ่าง ๆ

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (Knowledge)

1. นกั เรยี นสามารถยกตวั อยา่ งระบบทางเทคโนโลยขี องชน้ิ งานหรอื วธิ กี ารในชวี ติ ประจำวนั

ด้านทักษะกระบวนการ (Process)

2. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะห์ระบบทางเทคโนโลยขี องชน้ิ งานหรอื วธิ ีการในชีวิตประจำวันได้
3. ประยุกต์ใช้แนวคิดระบบทางเทคโนโลยีเพอื่ การดูแลรกั ษาเทคโนโลยไี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude)

4. นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รยี นรู้

จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (เลือกเฉพาะจุดเน้นข้อที่มีในแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถเพิ่มเติม
จดุ เน้นตามนโยบายอน่ื ๆ ได)้

1. ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C
Reading (อา่ นออก)
(W) Riting (เขียนได)้
(A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and
Problem Solving)

ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)
ทักษะด้านความเข้าใจความต่างของวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)
ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)
ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information, and Media
Literacy)
ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy)
ทักษะด้านอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change)
2. ทักษะดา้ นชีวติ และอาชีพของคนในศตวรรษท่ี 21
ความยดื หย่นุ และการปรบั ตวั
การริเริ่มสรา้ งสรรค์และเปน็ ตัวของตัวเอง
ทักษะสงั คมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม
การเป็นผู้สรา้ งหรือผู้ผลิต (Productivity) และความรบั ผิดชอบเช่อื ถอื ได้ (Accountability)
ภาวะผู้นำและความรบั ผิดชอบ (Responsibility)
3. คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี 21
คุณลกั ษณะดา้ นการทำงาน ได้แก่ การปรบั ตวั ความเปน็ ผู้นำ
คุณลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ ำตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง
คณุ ลกั ษณะด้านศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ื่น ความซื่อสตั ย์ ความสำนึกพลเมือง

การบูรณาการ

โครงการสถานศึกษาพอเพียง
โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม
อาเซยี นศึกษา
คุณธรรม ค่านยิ ม 12 ประการ
อนุรักษพ์ ลังงานและสง่ิ แวดล้อม
อืน่ ๆ (ระบ)ุ .................................................

ภาระงาน/ชนิ้ งาน/รอ่ งรอย/หลกั ฐานการเรยี นรู้

ตรวจใบกิจกรรมและสงั เกตพฤติกรรม

กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้

ชวั่ โมงท่ี 1

ขน้ั นำ

1. ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายในประเด็นคำถามชวนคิดในหนังสือเรียนที่ว่า ในชีวิตประจำวัน

ผเู้ รยี นรจู้ ักระบบอะไรบา้ ง และระบบนน้ั มีการทำงานอย่างไร
แนวคำตอบ ระบบการย่อยอาหารของมนุษย์ เกิดจากการทำงานร่วมกันของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับ
การย่อยอาหาร ตั้งแต่การเคี้ยวอาหารให้มีขนาดเล็กลง กระเพาะอาหารและลำไส้มเี อนไซม์หลายชนดิ
ช่วยในการย่อยให้เป็นสารอาหารที่ร่างกายดูดซึมไปใช้เพ่ือให้ร่างกายดำรงชีวิตอยู่ ระบบการหายใจ
ของมนุษย์ เกิดจากการทำงานร่วมกันของอวัยวะหลายอย่าง โดยเราหายใจเข้าและออกทางจมูก
อากาศท่ีหายใจเข้าไปจะผ่านหลอดลมลงไปยังปอด เพื่อแลกเปลี่ยนออกซิเจนกั บแก๊ส
คารบ์ อนไดออกไซด์ ให้ออกมากบั ลมหายใจ ทำใหร้ า่ งกายดำรงชวี ติ อยู่

ระบบการทำงานของคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วยหลายส่วน ได้แก่ หนว่ ยรับขอ้ มลู เชน่ เมาส์
คีย์บอร์ด หน่วยเก็บข้อมูลหรือหน่วยความจำ หลัก เช่น แรม ฮาร์ดดิสก์ หน่วยประมวลผลข้อมูล คือ
ซีพียู และหน่วยแสดงผล เช่น หน้าจอ ซึ่งแต่ละหน่วยทำงานร่วมกันเพื่อช่วยในการทำงานของมนุษย์

ระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ประกอบด้วยหลายส่วน เช่น คอยล์เย็นอยู่ภายใน
เครื่องปรับอากาศ คอมเพรสเซอร์และคอยล์ร้อนอยู่ด้านนอกห้อง ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อปรับอุณหภูมิ
ภายในห้องใหเ้ ยน็ หรอื ร้อนตามทต่ี อ้ งการ

ขั้นสอน

2. ผู้เรียนศึกษาหัวข้อ 3.1 ระบบ ในหนังสือเรียน ซึ่งจะกล่าวถึงระบบที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และ
ระบบท่ีมนุษยส์ รา้ งขึ้น เพือ่ อำนวยความสะดวกหรือเพิ่มประสิทธภิ าพการทำงานของมนุษย์

3. ผู้สอนและผู้เรียนอภิปรายร่วมกันและสรุปว่าระบบที่พบในธรรมชาติ คือ ระบบที่ธรรมชาติสร้างข้ึน
หรือเป็นไปตามธรรมชาติ และระบบที่มนุษย์สร้างขึ้น คือ ระบบที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความ
สะดวกหรือเพิ่มประสิทธภิ าพการทำงานของมนษุ ย์

ขน้ั สรุป

4. ผู้เรียนทำใบกิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง ระบบที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและระบบที่มนุษย์สร้างขึ้น ใน
Google Classroom

ชั่วโมงท่ี 2

ขั้นนำ

1. ผูเ้ รยี นและผูส้ อนรว่ มกนั อภปิ รายคำ ถามชวนคดิ ในหนงั สอื เรยี นทวี่ า่ ระบบทางเทคโนโลยีเป็นระบบท่ี

พบในธรรมชาติ หรือระบบที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยกระตุ้นให้ผู้เรียนแต่ละคนได้แสดงความคิดท่ี
หลากหลาย
แนวคำตอบ เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างหรือพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหา ตอบสนองความต้องการ
เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการทำงานของมนษุ ย์ ดงั นนั้ ระบบทางเทคโนโลยีจึงเป็นระบบทม่ี นุษยส์ รา้ งขึน้

ขั้นสอน

2. ผู้เรียนทุกคนศึกษาเนื้อหาในหัวข้อ 3.2 ระบบทางเทคโนโลยี ในหนังสือเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปราย
เชื่อมโยงกับ เนื้อหาที่ได้ศึกษาจากหนังสือเรียน โดยผู้สอนนำ เสนอรูปตัวอย่างที่แสดงองค์ประกอบ
ของระบบทางเทคโนโลยี เช่น จักรยาน เตา แก๊ส ระบบบำบัดน้ำ เสียโดยทั่วไป ในหนังสือเรียนและ
เขยี นสรุปเปน็ แผนผงั ระบบทางเทคโนโลยีลงบน Google Classroom

3. ผู้สอนตั้งประเด็นคำถามเกี่ยวกับระบบทางเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น ระบบทางเทคโนโลยี คือ
อะไรและ ประกอบด้วยอะไรบ้าง จากนั้นให้ผู้เรียนร่วมกันยกตัวอย่างชิ้นงานที่สนใจ พร้อมระบุ
องค์ประกอบของระบบทางเทคโนโลยี โดยผู้สอนกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกการสังเกตและแยกแยะ
องคป์ ระกอบในสว่ นตา่ ง ๆ อยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน
แนวคำตอบ ระบบทางเทคโนโลยีเป็นกลุ่มของส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่สองส่วนขึ้นไปประกอบเข้าด้วยกัน
และทำงานร่วมกัน เพื่อใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ โดยในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยีประกอบดว้ ย
ตัวป้อน คือสิ่งที่เข้าสู่ระบบ ซึ่งอาจมีมากกว่า 1 อย่างก็ได้ โดยตัวป้อนจะเข้าสู่กระบวนการคือ
กิจกรรมหรือการดำเนินการที่เกิดขึ้นในระบบ เพื่อทำ ให้เกิดผลผลิตตาม วัตถุประสงค์ โดยมีข้อมูล
ยอ้ นกลบั ท่ีใช้ในการควบคุมใหร้ ะบบทำงานบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์

ข้ันสรปุ

4. ผู้เรียนทุกคนทำกิจกรรมท้ายบท ตอนที่ 1 เรื่อง ระบบทางเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน โดยพิจารณา
แยกแยะ องค์ประกอบระบบทางเทคโนโลยีของเครื่องปั่นน้ำ ผลไม้และอธิบายความสัมพันธ์การ
ทำงานร่วมกันขององค์ประกอบในระบบทางเทคโนโลยี และกิจกรรมท้ายบท ตอนที่ 2 เรื่อง การ

ประยุกต์ใช้แนวคิดระบบทางเทคโนโลยีเพื่อการดูแลรักษา โดยผู้เรียน วิเคราะห์ว่าหากผลผลิตของ
ระบบทางเทคโนโลยีเครื่องปั่นน้ำผลไม้ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ น่าจะเกิดจากสาเหตุใด
และมีแนวทางแก้ไขอย่างไร รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการดูแลรักษาเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ให้ใช้งานได้
นานและเกดิ ประสิทธภิ าพท่สี ดุ

ระบุวธิ กี ารสอนที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้

(√)ใชบ้ รรยาย ( )ใช้การสาธติ ( )ใช้การทดลอง ( )ใช้การนิรนัย

( )ใช้การอุปนยั ( )ใชก้ ารไปทัศนศึกษา ( )ใชก้ ารอภปิ รายรายกลุ่มย่อย ( )ใชก้ ารแสดงละคร

( )ใช้เกม ( )ใช้การแสดงบทบาทสมมติ (√)ใชก้ รณตี ัวอย่าง ( )ใชส้ ถานการณ์จำลอง

( )ใชศ้ ูนย์การเรียน ( )ใชบ้ ทเรยี นโปรแกรม (√)ระบเุ พิ่มเติม Google Classroom

สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี นวิชาเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.1 ของ สสวท.
2. เว็บไซต์ Pakkredlearningcyber.com
3. Application Google Classroom

การวัดและประเมินผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เคร่ืองมอื ทใี่ ชว้ ัด เกณฑ์การประเมินการผา่ น
1.น ั ก เ ร ี ย น ส า ม า ร ถ ตรวจใบกจิ กรรม
ยกตัวอย่างระบบทาง ใบกิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง คะแนน 7-10 หมายถึง ดี
เทคโนโลยีของชิ้นงานหรือ
วธิ ีการในชวี ิตประจำวัน ระบบที่เกิดขึ้นเองตาม คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้
2.นักเรียนสามารถวิเคราะห์ ตรวจใบกิจกรรม
ระบบทางเทคโนโลยีของ ธรรมชาติและระบบที่ ค ะ แ น น 1 - 3 ห ม า ย ถึ ง
ชิ้นงานหรือวิธีการใน
ชวี ติ ประจำวนั ได้ มนษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ปรบั ปรุง

กิจกรรมการวิเคราะห์ ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ

ระบบทางเทคโนโลยี พอใช้ถือวา่ ผ่าน

ของกระติกน้ำร้อน

ไฟฟ้าและการวเิ คราะห์

3.ประยุกต์ใช้แนวคิดระบบ ตรวจใบกิจกรรม ระบบทางเทคโนโลยี
ทางเทคโนโลยีเพื่อการดูแล ของเคร่อื งปัน่ นำ้ ผลไม้
รักษาเทคโนโลยีได้อย่าง ใบกิจกรรมท้ายบท
เหมาะสม ตอนที่ 1 เรื่อง ระบบ
ทางเทคโนโลยีใน
4. นักเรียนมีความใฝ่ สังเกตพฤตกิ รรม ชวี ิตประจำวนั
เรียนรู้ ใบกิจกรรมท้ายบท
ตอนที่ 2 เรื่อง
ป ร ะ ย ุ ก ต ์ ใ ช ้ แ น ว คิ ด
ระบบทางเทคโนโลยี
เพื่อการดูแลรกั ษา
แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

เกณฑ์การประเมิน

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คะแนน

3 21

1. การวิเคราะห์ระบบ แยกแยะองค์ประกอบ แยกแยะองค์ประกอบ แยกแยะองค์ประกอบ

ท าง เท ค โน โล ย ี ข อง ของระบบทางเทคโนโลยี ข อ ง ร ะ บ บ ท า ง ข อ ง ร ะ บ บ ท า ง

ชิ้นงานหรือ วิธีการใน ถกู ตอ้ งทกุ องค์ประกอบ เทคโนโลยี ถูกต้อง 2 เทคโนโลยี ถูกต้องเพียง

ชีวิตประจำ วนั องคป์ ระกอบ 1 องคป์ ระกอบ

1.1 การแยกแยะองค์

ประกอบของระบบทาง

เทคโนโลยี

1.2 การอธิบายความ อธิบายความสัมพันธ์ อธิบายความสัมพันธ์การ อธิบายการท ำ งาน

สัมพันธ์การทำ งาน การทำ งานร่วมกันของ ทำ งานร่วมกันขององค์ ร ่ ว ม ก ั น ข อ ง

ร ่ ว ม ก ั น ข อ ง องค์ประกอบระบบทาง ป ร ะ ก อ บ ร ะ บ บ ท า ง องค์ประกอบระบบทาง

องค์ประกอบระบบทาง เทคโนโลยีได้ครบและ เทคโนโลยีได้ถูกต้อง 2 เทคโนโลยีได้แต่ไม่

เทคโนโลยี ถ ู ก ต ้ อ ง ท ั ้ ง 3 องค์ประกอบ สมั พันธ์กนั

องค์ประกอบ

2. ก า ร ป ร ะ ย ุ ก ต ์ ใ ช้ ระบุสาเหตุของปัญหา ระบุสาเหตุของปัญหา ระบุสาเหตุของปัญหา

แ น ว ค ิ ด ร ะ บ บ ท า ง หรือข้อบกพร่องและ หรือ ข้อบกพร่องและ หรือข้อ บกพร่อง แต่

เทคโนโลยีเพื่อ การดูแล แนวทางการแกไ้ ขจากตัว แนวทาง การแก้ไขได้ แนวทางการ แก้ไขไม่

รกั ษาเทคโนโลยีได้ อย่าง ป้อนและกระบวนการได้ ถูกต้องชัดเจน เฉพาะ สอดคล้องกับสาเหตุ

เหมาะสม 2.1 การระบุ ถูกตอ้ งชดั เจน จ า ก ต ั ว ป ้ อ น ห รื อ ข อ ง ป ั ญ ห า ห รื อ

สาเหตุของ ปัญหาหรือ กระบวนการเพียงอย่าง ขอ้ บกพรอ่ ง

ข้อบกพร่องที่ อาจเกิด เดียว

ขึ้นกับเทคโนโลยี และ

แนวทางการแกไ้ ข

2.2 แนวทางการดูแล ระบุแนวทางการดูแล ระบุแนวทางการดูแล ระบุแนวทางการดูแล

รักษาเทคโนโลยี ร ั ก ษ าเท ค โนโล ย ี ไ ด้ รักษา เทคโนโลยีได้ รักษา เทคโนโลยีไม่

ถูกต้องชัดเจนทั้งตัวป้อน ถูกต้องชัดเจน เฉพาะตัว ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ

และกระบวนการ ป้อนหรือกระบวนการ องค์ประกอบของระบบ

เพียงอย่างเดยี ว ทางเทคโนโลยี

เกณฑ์การตัดสินระดับคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 12 คะแนน หมายถงึ ระดับคณุ ภาพ ดี
คะแนน 5 - 8 คะแนน หมายถึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
คะแนน 1 - 4 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ปรับปรงุ

** เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลสามารถปรบั เปล่ยี นไดต้ ามความเหมาะสม

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในช่องท่ี

ตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลักษณะ ระดบั คะแนน

อันพงึ ประสงค์ รายการประเมนิ 32 1

ดา้ น

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความจงรักและภมู ิใจในความเปน็ ชาติ

กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา

1.3 แสดงออกถงึ ความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์

2. ซ่ือสัตย์ สุจรติ 2.1 ปฏบิ ัติตามระเบียบการสอนและไมล่ อกการบ้าน

2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จริงตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น

3. มีวินัย 3.1 เขา้ เรยี นตรงเวลา

รบั ผิดชอบ 3.2 แต่งกายเรยี บร้อยเหมาะกับกาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของห้อง

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ

4.2 มีการจดบันทึกความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ด้อย่างมีเหตุผล

5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คุณคา่

5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ

6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย

ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ

7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย

7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน

8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของ

หอ้ งเรียนและโรงเรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง

แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
กลุ่มที่ (ชอ่ื กลมุ่ )........................................................................................................

สมาชกิ ในกลมุ่ 1. ............................................................................
2. ...........................................................................
3. ...........................................................................
4. ...........................................................................

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดับคะแนน
ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32

1 มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เหน็
2 มีความกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
3 รับผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
4 มีขัน้ ตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5 ใช้เวลาในการทำงานอย่างเมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกวา่ 8 ปรับปรงุ

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน
1. ผลการจดั การเรียนการสอน
a. นกั เรยี นจำนวน...................................คน
ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้...................คน คิดเปน็ ร้อยละ......................................................
ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์...............................คน คดิ เป็นร้อยละ......................................................
ได้แก่ 1..................................................................................................................................
2..................................................................................................................................
นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นพกิ าร ไดแ้ ก่
1..................................................................................................................................
2.................................................................................................................................
b. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
c. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กดิ ทกั ษะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
d. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม 12 ประการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
2. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
3. เสนอแนะ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..........................................................
(นายธวชั สรา้ งตนเอง)
ผสู้ อน

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นายธวชั สร้างตนเอง แลว้ มีความคดิ เหน็ ดงั น้ี
1. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้
ครบถว้ นและถูกตอ้ ง
ยังไม่ครบถว้ นหรือไม่ถูกตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
2. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรูก้ ับหลกั สูตรสถานศึกษา
สอดคล้อง
ยงั ไมส่ อดคลอ้ ง ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้
เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั
ยงั เน้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ควรพัฒนาปรับปรุงตอ่ ไป
4. สือ่ การเรียนรู้
เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรียนรู้
ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป
5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ครอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ยงั ไม่ครอบคลมุ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป
6. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ

................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ลงชือ่ .................................................................
(นางกานต์นารี ธรรมครบุร)ี

ตำแหน่ง หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

ลงช่ือ........................................................................
(นางภญั ญภา อินทรปัญญา)

ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการกลมุ่ การบรหิ ารวิชาการ

กจิ กรรมที่ 3.1 เร่อื งระบบท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาตแิ ละระบบทมี่ นษุ ย์สร้างขนึ้
คำชี้แจง เขยี นตวั อยา่ งของระบบทีเ่ กดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติและระบบทีม่ นษุ ยส์ รา้ งขึ้น

ลำดับท่ี ระบบทเี่ กิดขน้ึ เองตามธรรมชาติ ระบบที่มนุษยส์ ร้างข้นึ

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

กิจกรรมทา้ ยบทบทตอนที่ 1 เรือ่ ง ระบบทางเทคโนโลยใี นชวี ติ ประจำวัน

พจิ ารณาแยกแยะองคป์ ระกอบทางเทคโนโลยีของเคร่ืองปัน้ นำ้ ผลไม้ และอธบิ ายความสมั พันธใ์ นการทำงาน
รว่ มกนั ขององคป์ ระกอบในระบบทางเทคโนโลยี

ระบบทางเทคโนโลยีของเครอื่ งปั่นน้ำผลไม้

ตัวปอ้ น (input) กระบวนการ (process) ผลผลิต (output)

ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั (feedback) (ถา้ มี)

ความสมั พนั ธ์ในการทำงานรว่ มกันขององค์ประกอบในระบบทางเทคโนโลยี (เรมิ่ ต้งั แต่สิง่ ท่ปี อ้ นเขา้ ส่รู ะบบ
จนครบองคป์ ระกอบ)

.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

กิจกรรมท้ายบทตอนท่ี 2 เรอื่ ง ประยุกต์ใช้แนวคิดระบบทางเทคโนโลยีเพือ่ การดแู ลรักษา
นักเรียนต้องการทำน้ำผลไมป้ ่ันโดยใช้เคร่ืองป่นั แต่เมอื่ กดสวติ ซ์ส่ังใหเ้ ครอื่ งทำงานแลว้ พบว่าใบมดี
หมุนช้ามากจนไม่สามารถปั่นผลไม้ให้ละเอียดได้ตามที่ต้องการ ให้นักเรียนวิเคราะห์ปัญหาท่ี
เกิดขึ้นว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุใด และมีแนวทางการแก้ไขอย่างไร รวมทั้งเสนอแนะการดูแลรักษา
เครื่องป่นั น้ำผลไม้ ใหใ้ ชง้ านไดน้ านและเกดิ ประสิทธิภาพสงู สดุ

ระบบทางเทคโนโลยีของเครอ่ื งปน่ั น้ำผลไม้
สาเหตขุ องปญั หา
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
การแก้ไข
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
การดแู ลรักษา
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4

กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 วัสดแุ ละอุปกรณ์น่ารู้ เร่อื ง วสั ดแุ ละเคร่ืองมอื ชา่ งพนื้ ฐาน

รหสั วชิ า ว21102 วชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1

เวลา 2 ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นายธวชั สรา้ งตนเอง

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

สาระที่ 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 การออกแบบและเทคโนโลยี

เข้าใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพ่อื ดำรงชีวติ ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้
และทักษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพือ่ แกป้ ญั หาหรอื พัฒนางานอย่างมคี วามคิด
สรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบ
ตอ่ ชีวติ และส่ิงแวดล้อม

ตัวชวี้ ดั / ผลการเรยี นรู้

ม.1/5 ใชค้ วามรู้และทกั ษะเก่ียวกับวัสดอุ ปุ กรณ์ เคร่ืองมอื กลไก ไฟฟ้า หรืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เพือ่
แกป้ ัญหาได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม และปลอดภัย

สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด

การเลือกใชว้ ัสดใุ ห้เหมาะสมกับงานจะต้องใชค้ วามรู้เร่อื งสมบัติของวัสดุ และในการลงมือสร้างชิน้ งาน
ต้องเลือกใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องมืออย่างเหมาะสมกับประเภทของวัสดุ ใช้อย่างถูกต้อง และคำนึงถึงความ
ปลอดภัยในการใช้งาน

สาระการเรยี นรู้

1. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติ เพ่ือ
เลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน

2. การสร้างช้ินงานอาจใช้ความรเู้ รือ่ งกลไก ไฟฟา้ อเิ ล็กทรอนิกส์เช่น LED บัซเซอรม์ อเตอร์ วงจรไฟฟ้า
3. อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือ พัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ ให้ถูกต้อง

เหมาะสม และปลอดภัย รวมท้งั รจู้ ักเก็บรักษา

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (Knowledge)

1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายสมบตั ขิ องวสั ดแุ ละเครอ่ื งมอื ชา่ งทใ่ี ชใ้ นการสรา้ งชน้ิ งานได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)

2. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหส์ มบตั ขิ องวสั ดแุ ละเครือ่ งมอื ชา่ งทใ่ี ชใ้ นการสรา้ งชน้ิ งานได้
3. นักเรียนสามารถเลือกใช้วัสดุและเครื่องมือช่างในการสร้างชิ้นงานได้อย่างเหมาะสมกับลักษณะของ

งานและคำนึงถึงความปลอดภยั ได้

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)

4. นกั เรยี นมคี วามมงุ่ มัน่ ในการทำงาน

จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (เลือกเฉพาะจุดเน้นข้อที่มีในแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถเพิ่มเติม
จดุ เน้นตามนโยบายอื่น ๆ ได)้

1. ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรยี นรู้ 3R X 8C
Reading (อา่ นออก)
(W) Riting (เขียนได)้
(A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)
ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and
Problem Solving)
ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)
ทักษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งของวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)
ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)
ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information, and Media
Literacy)
ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy)
ทักษะดา้ นอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
ทักษะการเปลี่ยนแปลง (Change)

2. ทักษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี 21
ความยืดหยุ่นและการปรับตัว
การริเรมิ่ สรา้ งสรรค์และเปน็ ตัวของตัวเอง
ทกั ษะสงั คมและสังคมข้ามวัฒนธรรม
การเปน็ ผ้สู ร้างหรอื ผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชอื่ ถอื ได้ (Accountability)
ภาวะผนู้ ำและความรับผดิ ชอบ (Responsibility)

3. คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษที่ 21
คุณลกั ษณะดา้ นการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเปน็ ผนู้ ำ
คุณลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ ำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง
คุณลกั ษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผูอ้ นื่ ความซ่อื สตั ย์ ความสำนกึ พลเมือง

การบูรณาการ

โครงการสถานศึกษาพอเพียง
โครงการโรงเรียนคุณธรรม
อาเซยี นศกึ ษา
คุณธรรม ค่านยิ ม 12 ประการ
อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสิง่ แวดล้อม
อืน่ ๆ (ระบุ).................................................

ภาระงาน/ชิน้ งาน/รอ่ งรอย/หลักฐานการเรียนรู้

ตรวจใบกจิ กรรมและสงั เกตพฤตกิ รรม

กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้

ชว่ั โมงที่ 1

ขั้นนำ

1. ผู้เรียนสังเกตและสำรวจสิ่งของที่อยู่ในห้องเรียน เช่น ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด แก้วน้ำ สมุด โต๊ะ
เกา้ อี้ ฯลฯ และ อภปิ รายรว่ มกนั ว่าสิง่ เหลา่ นท้ี ำจากวสั ดุอะไร และร่วมกันสรปุ ประเภทของวัสดทุ ี่รู้จกั

ขัน้ สอน

2. แบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็นกลุ่มละ 8 คน จากนั้น แบ่งกลุ่มยอ่ ยในแต่ละกลุ่มเป็นกลุม่ ละ 2 คน ให้แต่ละกลุม่
ย่อยศึกษาหัวข้อ 4.1 วัสดุในชีวิตประจำ วัน โดยศึกษาสมบัติของวัสดุกลุ่มย่อยละประเภท จากนั้น
ร่วมกันอภิปรายและสรุปสมบัติของวัสดุแต่ละ ประเภทในกลุ่มใหญ่ และยกตัวอย่างสิ่งของเครื่องใช้ที่
พบไดใ้ นชวี ติ ประจำ วันทท่ี ำ จากวัสดแุ ต่ละประเภทเพ่ิมเติม

3. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มจับสลากเลือกประเภทวัสดุ ได้แก่ ไม้ โลหะ พลาสติก ยาง และสำรวจสิ่งของ
เครื่องใช้ที่ทำมาจากวัสดุ ที่กลุ่มได้รับมอบหมายบริเวณรอบนอกใกล้ห้องเรียน ภายในเวลา 10 นาที
จากนั้นสรุปลงใน Application Padlet ใน Google Classroom

ขั้นสรุป

4. ผู้เรียนทำ กจิ กรรมท่ี 4.1 เรื่อง ประเภทและสมบัตขิ องวสั ดุ โดยเลอื กสง่ิ ของเคร่ืองใช้ภายในห้องเรียน
อย่างน้อย 3 อย่าง แล้วระบุว่า สิ่งของเครื่องใช้น้ันทำ มาจากวัสดุประเภทใดบ้าง และวัสดุนั้นมสี มบัติ
อย่างไร โดยสามารถนำเสนอในรูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ ผังมโนทัศน์ ตาราง

5. ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปในประเด็นที่ว่า สิ่งของเครื่องใช้รอบตัวเราสร้างมาจากวัสดุหลากหลาย
ประเภท ซ่งึ วัสดุแตล่ ะประเภทมสี มบตั ทิ ีแ่ ตกตา่ งกัน

ชั่วโมงท่ี 2

ขั้นนำ

1. ผู้สอนให้ผู้เรียนสงั เกตและสำรวจสิ่งของที่อยใู่ นห้องเรียน เช่น โตะ๊ เก้าอ้ี นอกจากวสั ดุ ที่นำมาใช้จะมี
ความแตกต่างกันแล้ว หากมีการชำรุดเสียหาย สามารถซ่อมบำรุงได้ เครื่องมือช่างที่นำมาซ่อมบำรุงก็
มคี วามแตกต่างกันตามความเหมาะสมของสง่ิ ของที่ซ่อมบำรุงด้วย

ขน้ั สอน

2. ผู้เรียนศึกษาอุปกรณ์และเครื่องมือช่างพื้นฐานในชีวิตประจำ วัน ในหัวข้อ 4.2 เครื่องมือช่างพื้นฐาน
ในหนังสือเรียน ได้แก่ เครื่องมือสำหรับการวัด การตัด การติดยึด และการเจาะ จากนั้นผู้สอนและ
ผู้เรียนร่วมกันสรุปในประเด็นที่ว่า เครื่องมือช่างพื้นฐานมีมากมายหลายประเภท แต่ละประเภทมี
จุดประสงค์ในการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการสร้างชิ้นงาน ควรเลือกใช้เครื่องมือช่าง
พื้นฐานให้เหมาะสมกบั ประเภทของงาน ขอ้ ควรระวงั ในการใช้ และคำนงึ ถงึ ความปลอดภัย

3. ผู้เรียนวิเคราะห์เก้าอี้ในชั้นเรียน และร่วมกันอภิปรายในประเด็นต่อไปนี้ ใช้เครื่องมือช่างอะไรบ้างใน
การสรา้ งเกา้ อ้ี เคร่อื งมอื ช่างนั้นใช้งานอย่างไร เหตผุ ลทเี่ ลอื กใช้เคร่ืองมอื ชา่ งนนั้ ขอ้ ควรระวังในการใช้
เครือ่ งมือชา่ งน้นั

ข้นั สรุป

4. ผู้เรียนทำ กิจกรรมที่ 4.2 เรื่อง เรียนรู้เครื่องมือช่างพื้นฐานกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดย
วิเคราะห์ในประเด็นต่อไปน้ี เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างเหตุผลที่เลือกใช้ ลักษณะการใช้งาน ข้อควร
ระวงั ในการใช้

ระบวุ ิธกี ารสอนที่ใชใ้ นการจัดการเรียนรู้

(√)ใชบ้ รรยาย ( )ใชก้ ารสาธิต ( )ใช้การทดลอง ( )ใชก้ ารนริ นยั

( )ใช้การอุปนัย ( )ใช้การไปทศั นศึกษา ( )ใช้การอภปิ รายรายกลุม่ ย่อย ( )ใชก้ ารแสดงละคร

( )ใชเ้ กม ( )ใช้การแสดงบทบาทสมมติ (√)ใชก้ รณีตวั อย่าง ( )ใชส้ ถานการณ์จำลอง

( )ใช้ศนู ย์การเรยี น ( )ใช้บทเรียนโปรแกรม (√)ระบเุ พมิ่ เติม Google Classroom

สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรยี นวชิ าเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.1 ของ สสวท.
2. เวบ็ ไซต์ Pakkredlearningcyber.com
3. Application Google Classroom
4. Application Padlet

การวดั และประเมินผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวัด เครือ่ งมือท่ใี ชว้ ัด เกณฑก์ ารประเมินการผ่าน
1.นักเรียนสามารถอธิบาย ตรวจใบกิจกรรม กิจกรรมที่ 4.1 เรื่อง คะแนน 7-10 หมายถึง ดี
สมบัติของวัสดแุ ละเคร่อื งมือ ประเภทและสมบัติของ คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้
ช่างที่ใช้ในการสร้างชิ้นงาน วสั ดุ ค ะ แ น น 1 - 3 ห ม า ย ถึ ง
ได้ กิจกรรมที่ 4.2 เรื่อง ปรบั ปรุง
2.นักเรียนสามารถวิเคราะห์ ตรวจใบกจิ กรรม เรียนรู้เครื่องมือช่าง ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ
สมบัติของวัสดุและเคร่ืองมือ พื้นฐานกับการใช้งาน พอใช้ถือวา่ ผา่ น
ช่างที่ใช้ในการสร้างชิ้นงาน ในชีวิตประจำวนั
ได้

3.นักเรียนสามารถเลือกใช้ ตรวจใบกจิ กรรม
วัสดแุ ละเครอ่ื งมอื ช่างในการ
สร้างชิ้นงานได้อย่าง
เหมาะสมกับลักษณะของ
งานและคำนึงถึงความ
ปลอดภัยได้

4.นักเรียนมีความมุ่งมั่นใน สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
การทำงาน

เกณฑ์การประเมนิ

ประเดน็ การประเมิน ระดับคะแนน

1. การวิเคราะห์สมบตั ิ 3 21
ของวัสดแุ ละเครอื่ ง
มอื ช่างทีใ่ ชใ้ นการ จำแนกประเภท อธบิ าย จำแนกประเภท อธิบาย จำแนกประเภท อธบิ าย
สรา้ งช้นิ งาน
สมบัติของวัสดุ และ สมบัติของวัสดุ และ สมบตั ิของวัสดุ หรอื
2. การเลือกใช้วัสดุและ
เครื่องมอื ช่างในการ เครอ่ื งมอื ช่างไดถ้ ูกต้อง เครื่องมือช่างได้ถูกต้อง เครือ่ งมอื ช่างไดถ้ ูกต้อง
สรา้ งชิน้ งานได้อยา่ ง
เหมาะสมกับลักษณะ เหมาะสมกับการสร้าง แตไ่ มเ่ หมาะสมกบั การ เหมาะสมกับการสร้าง
ของงานและคำนึงถึง
ความปลอดภยั ชิน้ งาน 7-8 ข้อ สร้างชนิ้ งาน 5-6 ขอ้ ช้นิ งาน 1-4 ขอ้

ให้เหตผุ ลในการเลือกใช้ ให้เหตุผลในการเลือกใช้ ให้เหตุผลในการเลือกใช้

วัสดุและเครอ่ื งมอื ชา่ งได้ วัสดุและเครื่องมือช่าง วัสดุ หรอื เครือ่ งมือช่าง

ถกู ต้องเหมาะสมกับ แตไ่ มเ่ หมาะสมกับ ไมไ่ ด้

ลักษณะของงาน และ ลักษณะของงาน และ

ความปลอดภัย ความปลอดภัย

เกณฑ์การตดั สินระดับคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 12 คะแนน หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ ดี
คะแนน 5 - 8 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
คะแนน 1 - 4 คะแนน หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ

** เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลสามารถปรบั เปล่ยี นไดต้ ามความเหมาะสม

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในช่องท่ี

ตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลักษณะ ระดบั คะแนน

อันพงึ ประสงค์ รายการประเมนิ 32 1

ดา้ น

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความจงรักและภมู ิใจในความเปน็ ชาติ

กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา

1.3 แสดงออกถงึ ความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์

2. ซ่ือสัตย์ สุจรติ 2.1 ปฏบิ ัติตามระเบียบการสอนและไมล่ อกการบ้าน

2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จริงต่อตนเองและผอู้ ื่น

3. มีวินัย 3.1 เขา้ เรยี นตรงเวลา

รบั ผิดชอบ 3.2 แต่งกายเรยี บร้อยเหมาะกับกาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของห้อง

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ

4.2 มีการจดบันทึกความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ด้อย่างมีเหตุผล

5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คุณคา่

5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ

6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย

ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ

7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย

7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน

8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของ

หอ้ งเรียนและโรงเรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ
กล่มุ ที่ (ชื่อกลมุ่ )........................................................................................................

สมาชิกในกลมุ่ 1. ............................................................................
2. ...........................................................................
3. ...........................................................................
4. ...........................................................................

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดับคะแนน
ตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็
2 มคี วามกระตือรือรน้ ในการทำงาน
3 รบั ผิดชอบในงานทไี่ ด้รับมอบหมาย
4 มีขัน้ ตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5 ใช้เวลาในการทำงานอย่างเมาะสม

รวม

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกวา่ 8 ปรับปรงุ

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน
1. ผลการจดั การเรียนการสอน
a. นกั เรยี นจำนวน...................................คน
ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้...................คน คิดเปน็ ร้อยละ......................................................
ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์...............................คน คดิ เป็นร้อยละ......................................................
ได้แก่ 1..................................................................................................................................
2..................................................................................................................................
นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นพกิ าร ไดแ้ ก่
1..................................................................................................................................
2.................................................................................................................................
b. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
c. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กดิ ทกั ษะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
d. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม 12 ประการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
2. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
3. เสนอแนะ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..........................................................
(นายธวชั สรา้ งตนเอง)
ผสู้ อน

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ นายธวชั สร้างตนเอง แลว้ มีความคดิ เหน็ ดงั น้ี
1. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้
ครบถว้ นและถูกตอ้ ง
ยังไม่ครบถว้ นหรือไม่ถูกตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
2. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรูก้ ับหลกั สูตรสถานศึกษา
สอดคล้อง
ยงั ไมส่ อดคลอ้ ง ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้
เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั
ยงั เน้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ควรพัฒนาปรับปรุงตอ่ ไป
4. สือ่ การเรียนรู้
เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรียนรู้
ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป
5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ครอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ยงั ไม่ครอบคลมุ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป
6. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ

................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ลงชือ่ .................................................................
(นางกานต์นารี ธรรมครบุร)ี

ตำแหน่ง หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

ลงช่ือ........................................................................
(นางภญั ญภา อินทรปัญญา)

ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการกลมุ่ การบรหิ ารวิชาการ

กจิ กรรมท่ี 4.1 เร่ือง ประเภทและสมบตั ิของวัสดุ

เลอื กส่ิงของเครื่องใช้ภายในห้องเรยี น 3 อย่าง และระบวุ ่าส่งิ ของเคร่อื งใช้นน้ั ทำมาจากวสั ดปุ ระเภทใดบ้าง
และวสั ดนุ ั้นมสี มบตั อิ ยา่ งไร

กิจกรรมท่ี 4.2 เรื่อง เรยี นรูเ้ ครอื่ งมอื ช่างพื้นฐานกบั การใช้งานในชีวติ ประจำวัน

จากภาพท่ีกำหนด ควรใชเ้ ครอ่ื งมือชา่ งใดในการประกอบหรือสร้าง เพราะเหตใุ ดจึงใชเ้ ครอื่ งมือชา่ งนน้ั และมี
ลักษณะการใชง้ าน และข้อควรระวงั ในการใช้งานอยา่ งไร

โตะ๊ ไมข้ าจักรเยบ็ ผา้

เครื่องมอื ทชี่ ่างใช้ เหตผุ ลที่เลอื กใช้ ลักษณะการใช้งาน ขอ้ ควรระวงั

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 5

กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 วัสดแุ ละอุปกรณ์นา่ รู้ เรอื่ ง กลไก ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เบอ้ื งตน้

รหัสวชิ า ว21102 วชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1

เวลา 2 ช่ัวโมง ครูผสู้ อน นายธวชั สรา้ งตนเอง

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

สาระที่ 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 การออกแบบและเทคโนโลยี

เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพอื่ ดำรงชวี ติ ในสังคมทมี่ กี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้
และทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อืน่ ๆ เพอ่ื แกป้ ัญหาหรอื พฒั นางานอยา่ งมีความคิด
สรา้ งสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบ
ตอ่ ชีวิตและสิง่ แวดล้อม

ตวั ชีว้ ัด / ผลการเรยี นรู้

ม.1/5 ใชค้ วามร้แู ละทกั ษะเกีย่ วกบั วสั ดอุ ปุ กรณ์ เครือ่ งมือ กลไก ไฟฟ้า หรืออิเลก็ ทรอนิกส์ เพื่อ
แก้ปญั หาได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม และปลอดภยั

สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด

กลไก คอื สว่ นของอุปกรณ์ท่ีทำหนา้ ท่สี ่งผ่านการเคลือ่ นที่ทำใหม้ ีการเปล่ียนตำแหน่งจากต้นทางไปยัง
ปลายทางของการเคลื่อนที่หรือทำหน้าที่เปลี่ยนทิศทางความเร็ว ลักษณะการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อน
แรงใหท้ ำงานไดง้ ่ายข้ึน มีประสทิ ธิภาพมากขึ้น หรือทำงานไดต้ ามที่เราตอ้ งการ ไฟฟ้า คอื พลังงานรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเคล่ือนที่ของอิเล็กตรอนหรือโปรตอนนำมาใช้ประโยชน์โดยทำให้เปลี่ยนเป็นพลังงาน
รปู แบบอ่นื ๆ ไดเ้ ชน่ แสงสวา่ ง ความร้อน เสยี ง ตวั อยา่ ง การนำไฟฟ้ามาใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั เช่น ทำ
ให้เกดิ แสงสวา่ งดว้ ยหลอดไฟ ทำให้เกิด ความร้อนดว้ ยเตารดี หม้อหุงข้าว ทำใหเ้ กิดภาพและเสียงด้วยโทรทศั น์
สมาร์ตโฟน ทำให้เกิดการเคลือ่ นที่ เช่น การหมุนของมอเตอร์ท่ีอยู่ในพัดลมหรือเครื่องซักผา้ อิเล็กทรอนกิ ส์ คือ
การควบคุมการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าเพื่อให้ได้ปริมาณ หรือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าตามที่
ต้องการ การทำงานต่าง ๆ จะต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้านั่นเอง
อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์มีหลายชนิด ที่พบทั่วไป เช่น หลอด LED (ไดโอดเปล่งแสง) ตัวต้านทาน ความรู้

เกี่ยวกับกลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สามารถประยุกต์ใช้เพื่อการสร้าง ชิ้นงานที่ตอบสนองความต้องการ
ของเราได้

สาระการเรยี นรู้

1. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติ เพ่ือ
เลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกับลักษณะของงาน

2. การสร้างช้ินงานอาจใชค้ วามรเู้ รอ่ื งกลไก ไฟฟ้า อเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ช่น LED บัซเซอรม์ อเตอร์ วงจรไฟฟ้า
3. อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือ พัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ ให้ถูกต้อง

เหมาะสม และปลอดภัย รวมทัง้ รูจ้ ักเกบ็ รกั ษา

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (Knowledge)

1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของกลไก หรือวงจรไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนิกสเ์ บือ้ งต้นได้

ด้านทักษะกระบวนการ (Process)

2. นักเรียนสามารถออกแบบชิ้นงานโดยประยุกต์ใช้ความรู้เรื่องกลไก หรือวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
เบ้ืองต้นได้

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)

3. นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รียนรู้

จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (เลือกเฉพาะจุดเน้นข้อที่มีในแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถเพิ่มเติม
จดุ เน้นตามนโยบายอ่นื ๆ ได้)

1. ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คอื การเรยี นรู้ 3R X 8C
Reading (อ่านออก)
(W) Riting (เขียนได้)
(A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ )
ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and
Problem Solving)
ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างของวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)
ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)
ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information, and Media
Literacy)
ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy)
ทักษะด้านอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change)
2. ทักษะดา้ นชวี ิตและอาชีพของคนในศตวรรษท่ี 21
ความยืดหยุ่นและการปรบั ตัว
การริเร่ิมสร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง
ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม
การเป็นผู้สร้างหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชือ่ ถอื ได้ (Accountability)
ภาวะผนู้ ำและความรับผดิ ชอบ (Responsibility)
3. คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ 21
คุณลกั ษณะดา้ นการทำงาน ได้แก่ การปรบั ตวั ความเป็นผ้นู ำ
คุณลักษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การชน้ี ำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง
คณุ ลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ่ืน ความซือ่ สัตย์ ความสำนึกพลเมือง

การบรู ณาการ

โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง
โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม
อาเซยี นศกึ ษา
คุณธรรม ค่านยิ ม 12 ประการ
อนุรักษ์พลังงานและส่ิงแวดล้อม
อื่น ๆ (ระบุ).................................................

ภาระงาน/ช้นิ งาน/ร่องรอย/หลกั ฐานการเรียนรู้

ตรวจใบกิจกรรมและสังเกตพฤติกรรม

กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้

ช่วั โมงที่ 1

ข้ันนำ

1. ทบทวนความร้กู อ่ นเรียน โดยรว่ มอภิปรายกบั ผ้เู รยี นในประเด็นตอ่ ไปน้ี
หลักการในการเลือกใช้วัสดุประเภทต่าง ๆ และเครื่องมือช่างพื้นฐาน เพื่อสร้างชิ้นงานตามที่ตน
ตอ้ งการใหม้ ีประสิทธภิ าพนน้ั ควรคำนึงถงึ สิง่ ใด
แนวคำตอบ เลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของงาน เช่น กาวลาเท็กซ์ใช้กับกระดาษหรือผ้า กาว
ร้อนใช้กับยาง หรือพลาสติก โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ในการทำงาน และมีความรู้เกี่ยวกับการใช้
เครื่องมือเป็นอย่างดีพร้อมทั้งตรวจสอบสภาพของเครื่องมือให้อยู่ในสภาพปกติพร้อมใช้งาน และ
เตรียมความพร้อมด้านร่างกาย อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยและแต่งกายให้เหมาะสมกับงาน
เคร่ืองมอื ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การหมนุ มีอะไรบ้าง
แนวคำตอบ ไขควง สว่านมือ สว่านไฟฟ้า

ขั้นสอน

2. ผู้สอนตั้งคำถามกับผู้เรียนเกี่ยวกับความหมายของคำว่า กลไก โดยใช้คำถามนำ และบันทึกคำตอบ
ของผ้เู รยี นที่กระดาน ดังนี้
ในชีวติ ประจำวันผ้เู รยี นได้ใชส้ ิง่ อำนวยความสะดวกอะไรบา้ ง
แนวคำตอบ กรรไกรตัดกระดาษ ช้อน ตะเกียบ แปรงสีฟัน ฯลฯ
ผเู้ รียนคิดว่าสงิ่ อำนวยความสะดวกท่ียกตัวอย่างมานน้ั มกี ลไก หรอื ไม่
แนวคำตอบ มหี รอื ไมม่ เี ชน่ กรรไกรมีกลไก ชอ้ นไม่มีกลไก
ผู้เรยี นอาจเคยได้ยินหรือร้คู วามหมายของคำวา่ กลไก มาบ้าง ผู้เรียนคิดวา่ กลไกหมายถึงอะไร
แนวคำตอบ ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด ผู้สอนชมเชยผู้เรียนที่ร่วมแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าตอบถูกหรือ
ผิด

ข้นั สรุป

3. ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกัน สรุปความหมายของ กลไก โดยศึกษาเนื้อหาในย่อหน้าที่ 1 ของหัวข้อ 5.1
กลไก (mechanism) ในหนังสือเรียนประกอบ
แนวคำตอบ กลไก ในรายวิชานี้หมายถึง ส่วนของอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ส่งผ่านการเคลื่อนที่ ทำ ให้
เกิดการเปลี่ยนตำแหน่งจากต้นทางไปยังปลายทางของการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เปลี่ยนทิศทาง
ความเร็ว ลักษณะการเคลอ่ื นท่ี และยงั ชว่ ยผอ่ นแรงให้ทำงานไดง้ ่ายขึ้นหรอื มปี ระสทิ ธิภาพมากขึ้นอกี ด้วย

ชวั่ โมงท่ี 2

ข้ันนำ

1. ผู้สอนทบทวนความรู้ในหนังสือเรียนหัวข้อ 5.1 เรื่อง กลไก จากนั้นผู้สอน และผู้เรียนสรุปร่วมกัน
เกี่ยวกับหลักการทำงานของล้อและเพลา ในประเด็นต่อไปน้ี ล้อและเพลาจะหมุนไปด้วยกัน กล่าวคือ
ถ้าล้อหมุนได้ 1 รอบ เพลาก็จะหมุนได้ 1 รอบด้วยเช่นกัน หรือ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเพลาหมุนได้
1 รอบ ล้อก็จะหมุนได้ 1 รอบเช่นกัน การใช้งานล้อและเพลาทำได้ 2 ลักษณะ คือ - ออกแรงหมุนล้อ
จะทำให้เพลาหมนุ ชว่ ยผอ่ นแรง - ออกแรงหมุนเพลา จะทำให้ล้อหมุน ไม่ช่วยผอ่ นแรง

2. ผู้เรียนศึกษาคำถามชวนคิดในหนังสือเรียนและอภิปรายร่วมกันว่า นอกจากล้อและเพลาแล้วยังมี
กลไกอะไรอกี บา้ ง และพบในสง่ิ ของเครือ่ งใชใ้ ด
แนวคำตอบ รอก พบไดบ้ นยอดเสาธง งานกอ่ สร้างอาคารขนาดไมใ่ หญม่ ากทีต่ ้องลำเลียงวัสดุอปุ กรณ์
ไปยังชั้นอื่น รถเครน ฯลฯ เฟือง พบในรถยนต์รถจักรยาน หุ่นยนต์หรือรถของเล่น เครื่องเล่นดีวีดีพัด
ลม ฯลฯ คาน พบได้ท่ีกระดานโยกเด็ก เล่น คนั โยกสูบนำ้ กรรไกร คมี เสียม ฯลฯ

ขั้นสอน

3. ผู้สอนเกริ่นกับผู้เรียนว่า นอกจาก เราจะใช้กลไกมาช่วยในการทำงานของชิ้นงานแล้ว เราอาจใช้
ความรู้ด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยเช่นกัน จากนั้นผู้สอนทบทวนความรู้เรื่องการต่อวงจรไฟฟ้า
แบบอนกุ รมและวงจรไฟฟ้า แบบขนาน

4. ผู้สอนกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน โดยเปิดประเด็นคำถามว่า ไฟฟ้าคืออะไร ผู้เรียนคิดว่าไฟฟ้ามี
ความจำเป็นต่อชวี ิตประจำวันหรอื ไม่อย่างไร
แนวคำตอบ ไฟฟ้า คือ พลังงานรูปแบบหนึ่งซ่ึงเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนหรือโปรตอน
ใช้ประโยชน์โดยทำให้เปลี่ยนเป็นพลังงาน รูปแบบอื่น ๆ ได้เช่น แสงสว่าง ความร้อน เสียง ซึ่งมีความ
จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เพราะมนุษย์มีการนำไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น
ทำให้เกิดแสงสว่างจากหลอดไฟ ทำให้เกิดความร้อนจากเตารีด หม้อหุงข้าว ทำให้เกิดเสียงจาก
โทรทัศน์วิทยุทำให้เกิดการหมุน เช่น การหมุนของพัดลมหรือเครื่องซักผ้า หากไม่มีไฟฟ้าก็จะเกิด
ความลำบาก ความไม่สะดวกในการทำกิจกรรมแต่ละอย่างในชีวิตประจำวนั

5. ผูส้ อนเปดิ ประเดน็ คำถามตอ่ ไปอกี ว่า อเิ ลก็ ทรอนิกส์คืออะไร เกย่ี วข้องกับไฟฟ้าอย่างไร
แนวคำตอบ อิเล็กทรอนิกส์ คือ การควบคุมการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าเพื่อให้ได้ปริมาณหรือ
ทิศทางการเคลื่อนที่ตามที่ต้องการ โดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่น ตัวต้านทาน ไดโอด ไฟฟ้าและ
อิเลก็ ทรอนิกสเ์ ป็นสง่ิ ท่เี กย่ี วขอ้ งกัน กลา่ วคอื ภายในเครื่องใช้ไฟฟา้ จะมีอปุ กรณต์ ่าง ๆ เชื่อมตอ่ กันอยู่
มีส่วนทใ่ี ห้กระแสไฟฟา้ ผา่ น เรียกว่า วงจรไฟฟา้ ซ่ึงประกอบด้วย อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ท่ีเชื่อมตอ่ กัน

ด้วยวิธีที่แตกต่างกัน เช่น วงจรขนาน วงจรอนุกรม ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้า เช่น
ตัวต้านทาน และควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า เช่น ไดโอด ในทางกลับกันหากไม่มี
ไฟฟ้า อุปกรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ จะไม่สามารถทำงานได้
6. ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียนหัวข้อ 5.2 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น รวมถึงเกร็ดน่ารู้
เก่ียวกับ ชนดิ ของไฟฟา้ ตามแหล่งกำเนดิ ไฟฟา้
7. ผู้เรียนศึกษาตัวอย่างวงจรไฟฟ้าของไฟฉายในหนังสือเรียนว่า ภายในประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และ
แตล่ ะอย่าง ทำหน้าท่ีอย่างไร
แนวคำตอบ ถ่านไฟฉายหรือแบตเตอรี่ 2 ก้อน ทำหน้าที่กำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง โดยมีสายไฟ
หรอื โลหะ เป็นตวั เช่ือมต่ออปุ กรณต์ ่าง ๆ ในวงจร เช่น ขว้ั ของถ่านไฟฉายกับหลอดไฟ ขว้ั ของหลอดไฟ
กับขาของสวิตช์ส่วนหลอดไฟ ทำหน้าที่เปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นแสงสว่าง และสวิตช์ทำหน้าที่ตัดต่อ
วงจรไฟฟา้ เพือ่ บังคบั ใหเ้ กดิ การเคลอ่ื นที่หรอื ไมเ่ คลอ่ื นที่ของกระแสไฟฟา้ ในวงจร
8. ผู้สอนชปี้ ระเด็นวา่ ไฟฉายเป็นตัวอยา่ งของอปุ กรณท์ ใี่ ช้วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย ในชีวติ ประจำวนั เราจะพบ
การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มากมาย โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะเปลี่ยนพลังงาน
ไฟฟา้ เป็นพลงั งานรปู แบบตา่ ง ๆ เช่น แสง เสียง กล (การเคลอ่ื นท่ี) จากนัน้ ผู้เรียนศกึ ษาหัวขอ้ อุปกรณ์
ไฟฟ้าที่ทำ ให้เกิดแสงในหนังสือเรียน โดยผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าในปัจจุบันนิยม
ใช้LED ในการให้แสงสว่าง ซึ่งการใช้งาน LED จำ เป็นต้องใช้ตัวต้านทานเพื่อควบคุมปริมาณ
กระแสไฟฟ้าทีไ่ หลผา่ น LED ดว้ ยเช่นกนั

ขนั้ สรปุ

9. ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายว่า ในการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวันนั้น จำ
เป็นต้องอาศัยอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำ หน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า เป็นพลังงาน ในรูปอื่น ๆ เช่น มอเตอร์
เปน็ อุปกรณไ์ ฟฟา้ ท่ีเปลย่ี นพลงั งานไฟฟ้าเป็นการหมุน

10. ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายและสรุปเกี่ยวกับ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ในประเด็นที่ว่า ไฟฟ้า
และ อิเล็กทรอนิกส์มีความสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวกสบาย
และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมนุษย์ได้เช่น ตู้เย็น พัดลม โทรทัศน์ สว่านไฟฟ้า ฯลฯ ดังนั้น
การเรยี นรเู้ รื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ จงึ มีความสำคญั ท่ีช่วยให้การสร้างหรือพัฒนาส่ิงของเครื่องใช้
เหล่าน้ันใหม้ ีประสทิ ธภิ าพและสามารถตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการ ของมนษุ ยไ์ ดด้ ียง่ิ ขนึ้

11. ผู้เรียนทำกิจกรรมท้าทายความคิด เรื่อง ลองคิดหาทาง ใช้กลไกและไฟฟ้า โดยให้ผู้เรียนคิดว่าจะช่วย
โปลิศนำกลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มาใช้งานในแปลงผักได้อย่างไร และมีสิ่งใดบ้างที่ต้อง
ระมัดระวังหรอื ปอ้ งกนั เพื่อความปลอดภัยในการสร้าง หรือประกอบกลไกหรือระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ใน
แปลงผักของผเู้ รยี น

12. แบ่งกลุ่มผู้เรียนตามความเหมาะสม เพื่อทำกิจกรรมท้ายบท เรื่อง การประยุกต์ใช้ความรู้กลไก ไฟฟ้า
และ อิเล็กทรอนิกส์โดยให้ผู้เรียนออกแบบชิ้นงานจากอุปกรณ์ที่กำหนด พร้อมท้ังระบุส่วนประกอบ
ต่าง ๆ และตอบคำถามในใบกจิ กรรม

ระบุวิธกี ารสอนท่ีใช้ในการจดั การเรยี นรู้

(√)ใชบ้ รรยาย ( )ใชก้ ารสาธิต ( )ใชก้ ารทดลอง ( )ใชก้ ารนิรนยั

( )ใช้การอุปนัย ( )ใช้การไปทัศนศกึ ษา ( )ใชก้ ารอภปิ รายรายกลมุ่ ย่อย ( )ใช้การแสดงละคร

( )ใช้เกม ( )ใชก้ ารแสดงบทบาทสมมติ (√)ใช้กรณีตัวอย่าง ( )ใชส้ ถานการณจ์ ำลอง

( )ใชศ้ ูนย์การเรยี น ( )ใชบ้ ทเรยี นโปรแกรม (√)ระบเุ พิม่ เตมิ Google Classroom

สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้

1. หนงั สือเรียนวิชาเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.1 ของ สสวท.
2. เว็บไซต์ Pakkredlearningcyber.com
3. Application Google Classroom
4. Application Padlet

การวดั และประเมินผล

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวดั เครือ่ งมือทีใ่ ช้วดั เกณฑก์ ารประเมินการผ่าน
1. นักเรียนสามารถอธิบาย ตรวจใบกจิ กรรม
ความหมายของกลไก หรือ กิจกรรมที่ 5.1 เรื่อง คะแนน 7-10 หมายถงึ ดี
วงจรไฟฟ้าและ
อิเลก็ ทรอนกิ สเ์ บือ้ งต้นได้ กลไกล้อและเพลาหรือ คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้
2. นกั เรยี นสามารถออกแบบ ตรวจใบกิจกรรม
ช ิ ้ น ง า น โ ด ย ป ร ะ ย ุ ก ต ์ ใ ช้ อปุ กรณไ์ ฟฟ้า ค ะ แ น น 1 - 3 ห ม า ย ถึ ง
ความรู้เรื่องกลไก หรือ
วงจรไฟฟ้าและ กิจกรรมท้ายบท เรื่อง ปรบั ปรงุ
อิเล็กทรอนกิ ส์เบ้ืองตน้ ได้
การประยุกต์ใช้ความรู้ ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ
4.นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รียนรู้ สงั เกตพฤติกรรม
ก ล ไ ก ไ ฟ ฟ ้ า แ ล ะ พอใช้ถือว่าผ่าน

อเิ ล็กทรอนกิ ส์

แบบสังเกตพฤติกรรม

เกณฑก์ ารประเมิน

ประเดน็ การประเมนิ ระดับคะแนน

32 1

1. การระบุของเล่นของใช้ท่ี ระบุของเล่นของใช้ท่ี ระบุของเล่นของใช้ที่ใช้ ระบุของเล่นของใช้ที่ใช้

ใช้กลไกล้อและเพลา และ ใช้ กลไกล้อและเพลา กลไกล้อและเพลา และ กลไกล้อและเพลา และ

อปุ กรณ์ไฟฟ้าอิเลก็ ทรอนิกส์ และ อุปกรณ์ไฟฟ้า อ ุ ป ก ร ณ ์ ไ ฟ ฟ้ า อ ุ ป ก ร ณ ์ ไ ฟ ฟ้ า

อิเล็กทรอนิกส์ ได้ อิเล็กทรอนกิ ส์ ได้ถูกต้อง อ ิ เ ล ็ ก ท ร อ น ิ ก ส์ ไ ด้

ถูกตอ้ งทั้ง 4 ตัวอย่าง 3 ตวั อย่าง ถ ู ก ต ้ อ ง เ พ ี ย ง 1-2

ตัวอย่าง

2.การออกแบบชิ้นงานโดย ภ า พ ว า ด ช ิ ้ น ง า น ภาพวาดชิ้นงานสื่อสาร ภาพวาดชิ้นงานสื่อสาร

ประยุกต์ใช้ความรู้เรื่อง สื่อสารได้ ชัดเจน ได้บางส่วน ไดไ้ มช่ ัดเจน

กลไกหรือวงจรไฟฟ้าและ เข้าใจงา่ ย

อเิ ล็กทรอนิกสเ์ บอ้ื งต้น

2.1การสื่อสารโดยภาพวาด

2.2 การให้เหตุผลในการ ใ ห ้ เ ห ต ุ ผ ล ใ น ก า ร ใ ห ้ เ ห ต ุ ผ ล ใ น ก า ร ใ ห ้ เ ห ต ุ ผ ล ใ น ก า ร

ออกแบบและการเลือก ใช้ ออกแบบ ชิ้นงานได้ ออกแบบ ชิ้นงานได้ ออกแบบ ชิ้นงาน แต่ไม่

วัสดุ สมเหตุสมผลและ ส ม เ ห ต ุ ส ม ผ ล แ ต่ ระบุวัสดุที่ใช้ ในการ

เ ล ื อ ก ใ ช ้ ว ั ส ด ุ ไ ด้ เลือกใช้วัสดุไม่เหมาะสม สร้างช้นิ งานที่ ออกแบบ

ถูกต้อง เหมาะสมกับ กบั ช้ินงานท่อี อกแบบ

ชิน้ งานที่ ออกแบบ

2.3 การประยุกต์ใช้อุปกรณ์ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและ

ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ อิเล็กทรอนิกส์ได้ อิเล็กทรอนิกส์ได้ถูกต้อง อิเล็กทรอนิกส์ได้ถูกต้อง

ครบถ้วน และถูกต้อง ตามหน้าที่การใช้งาน 2 ตามหน้าที่การใช้งาน 1

ตามหน้าที่การ ใช้ อย่าง อยา่ ง

งานท้ัง 3 อยา่ ง

2.4 การประยุกต์ใช้กลไกล้อ ชิ้นงานที่ออกแบบมี ชิ้นงานที่ออกแบบมี ชิ้นงานที่ออกแบบมี

และเพลา กลไก ล้อเพลา และ ก ล ไ ก ล ้ อ เ พ ล า แ ต่ กลไก ล้อเพลา แต่ไม่

อธิบายได้ถูก ต้อง อธิบายไม่ถูก ต้องตาม อธิบายหลัก การทำงาน

ตามหลักการทำงาน หลักการทำงาน ของล้อ ของลอ้ และเพลา

ของลอ้ และเพลา และเพลา

เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดบั คุณภาพ
คะแนน 11 - 15 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ ดี
คะแนน 6 - 10 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ พอใช้
คะแนน 1 - 5 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ปรับปรุง

** เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลสามารถปรบั เปล่ยี นไดต้ ามความเหมาะสม

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในช่องท่ี

ตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลักษณะ ระดบั คะแนน

อันพงึ ประสงค์ รายการประเมนิ 32 1

ดา้ น

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความจงรักและภมู ิใจในความเปน็ ชาติ

กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา

1.3 แสดงออกถงึ ความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์

2. ซ่ือสัตย์ สุจรติ 2.1 ปฏบิ ัติตามระเบียบการสอนและไมล่ อกการบ้าน

2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จริงต่อตนเองและผอู้ ื่น

3. มีวินัย 3.1 เขา้ เรยี นตรงเวลา

รบั ผิดชอบ 3.2 แต่งกายเรยี บร้อยเหมาะกับกาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของห้อง

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ

4.2 มีการจดบันทึกความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ด้อย่างมีเหตุผล

5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คุณคา่

5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ

6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย

ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ

7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย

7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน

8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของ

หอ้ งเรียนและโรงเรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง

แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ
กลุ่มที่ (ชอ่ื กลมุ่ )........................................................................................................

สมาชกิ ในกลมุ่ 1. ............................................................................
2. ...........................................................................
3. ...........................................................................
4. ...........................................................................

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนน
ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เหน็
2 มีความกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
3 รับผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
4 มีขัน้ ตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ
5 ใช้เวลาในการทำงานอย่างเมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ำกวา่ 8 ปรับปรงุ

บนั ทกึ หลงั การเรยี นการสอน
1. ผลการจัดการเรียนการสอน
a. นกั เรยี นจำนวน...................................คน
ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู.้ ..................คน คดิ เป็นร้อยละ......................................................
ไม่ผา่ นจดุ ประสงค.์ ..............................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ......................................................
ไดแ้ ก่ 1..................................................................................................................................
2..................................................................................................................................
นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นพกิ าร ไดแ้ ก่
1..................................................................................................................................
2.................................................................................................................................
b. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
c. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กดิ ทกั ษะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
d. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม 12 ประการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
2. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
3. เสนอแนะ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ..........................................................
(นายธวชั สรา้ งตนเอง)
ผูส้ อน

ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา/ผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ อง นายธวัช สรา้ งตนเอง แล้วมีความคิดเหน็ ดงั น้ี

1. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้
ครบถว้ นและถูกตอ้ ง
ยังไม่ครบถว้ นหรอื ไมถ่ ูกตอ้ ง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป

2. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรกู้ ับหลกั สตู รสถานศึกษา
สอดคล้อง
ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป

3. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้
เน้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั
ยงั เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั ควรพฒั นาปรบั ปรุงต่อไป

4. ส่อื การเรียนรู้
เหมาะสมกบั รปู แบบการจดั การเรยี นรู้
ยงั ไมเ่ หมาะสม ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป

5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ครอบคลมุ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ยังไม่ครอบคลมุ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป

6. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ

................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ลงช่อื .................................................................
(นางกานต์นารี ธรรมครบุร)ี

ตำแหน่ง หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ

................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ........................................................................
(นางภัญญภา อินทรปัญญา)

ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการกลุม่ การบรหิ ารวิชาการ


Click to View FlipBook Version