The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

00รายงาน PLCครูขวัญเสร็จ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chantapichaya, 2022-09-15 22:49:37

00รายงาน PLCครูขวัญเสร็จ

00รายงาน PLCครูขวัญเสร็จ

12

ใบกิจกรรมท่ี 2
ประจุไฟฟา้ และการถา่ ยโอนประจุ

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี (10 คะแนน)

1. ไฟฟา้ สถติ ท่เี ก่ียวข้องกับตวั นักเรยี น มักเกดิ ขน้ึ ในฤดใู ด
ตอบ.....................................................................................................................................................
2. ในขณะหวีผม รูส้ กึ ไดว้ า่ มีแรงดึงดูดเสน้ ผมของเราใหต้ ิดหวี แรงนัน้ คอื อะไร
ตอบ.....................................................................................................................................................
3. ไฟฟา้ สถิตจะเกดิ ขน้ึ ได้กบั วตั ถุ วตั ถุน้ันตอ้ งกระทำอยา่ งไรต่อกนั
ตอบ.....................................................................................................................................................
4. ไฟฟา้ สถติ เกดิ ขนึ้ ได้อยา่ งไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
5. จงยกตัวอย่างเหตกุ ารณท์ ท่ี ำให้เกิดไฟฟ้าสถติ
ตอบ.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

จากการทากิจกรรมท่ี 2 สามารถสรุปไดว้ า่ วตั ถุสามารถถา่ ยโอน
ประจุลบกับวัตถุอื่นได้ วัตถุทุกชนิดมีประจุไฟฟ้า เม่ือนาวัตถุ
ต่างชนิดกนั มาขดั ถกู นั จะทาใหเ้ กิดประจุไฟฟ้าท่ีสะสมบนวตั ถุ

13

ลูกโป่งดึงดดู ผมของเราได้เพราะอะไร

หวพี ลาสติกดงึ ดูดผมของเราไดเ้ พราะอะไร

นกั เรยี นชว่ ยครูตอบหน่อยสิคะว่า
- ถ้าน ำวัต ถุช นิ ด เดี ย วกั น ม าถูกั บ ผ้ าสั ก ห ล าด
เม่อื นำวัตถนุ ั้นเขา้ ใกลก้ ันจะเกิดการเปล่ยี นแปลงใด
– ถ้ าน ำวัต ถุ ต่ างช นิ ด กั น ม าถู กั บ ผ้ าสั ก ห ล าด
เมื่อนำวัตถุน้ันเข้าใกล้กันจะเกิดการเปล่ียนแปลงใด
อาศัยอยอู่ ีกบา้ ง

14

ใบกจิ กรรมท่ี 3
สงั เกตผลของแรงไฟฟ้า

อปุ กรณ์

1. กระบอกฝานูน 1 ใบ

2. ผา้ สักหลาด 1 ผืน

3. ปากกาพลาสติกแท่งกลม 2 ด้าม

4. แผ่นพลาสตกิ ใส 2 แผน่

5. แผน่ พวี ซี ี 2 แผน่

6. แผน่ เปอร์สเปกซ์ 2 แผ่น

7. ลกู โป่ง 2 ใบ

ข้ันตอน

ตอนที่ 1

1. พยากรณว์ า่ ถ้าถวู ัตถชุ นิดเดียวกัน 2 ชิ้น ด้วย ผา้ สกั หลาด แลว้ นำมาเข้าใกลก้ ัน จะเกดิ

การเปลยี่ นแปลงลักษณะใด บันทึกผล

2. นำผา้ สกั หลาดมาถปู ลายปากกาพลาสติกแทง่ กลมดา้ มท่ี 1 ประมาณ 20 คร้งั แลว้ วางบน

กระบอกฝานูน จากน้ันถปู ลายปากกาพลาสตกิ แทง่ กลมด้ามท่ี 2 ดว้ ยวิธีเดียวกัน แลว้ นำดา้ นทีถ่ เู ขา้

ใกลป้ ลายปากกาพลาสตกิ แท่งกลมดา้ มท่ี 1 ดังรปู สงั เกตและบันทึกผล

ด้านทีผ่ ่านการถู 2

1

กระบอกฝานูน

การนำปลายปากกาพลาสติกแท่งกลมดา้ นทผ่ี ่านการถมู าเขา้ ใกลก้ ัน

3. ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 แต่เปลี่ยนจากปากกาพลาสติกแท่งกลมเป็นแผ่นพลาสติกใส
แผ่นพีวีซี แผ่นเปอร์สเปกซ์ และลูกโป่ง (โดยลูกโป่งให้ใช้มือจับปากลูกโป่งและให้ลูกโป่งห้อยลง ดัง
รปู ) ด้านท่ีผ่านการถู

12

การนำลกู โปง่ ด้านท่ผี า่ นการถมู าเข้าใกล้กัน

15

ตอนที่ 2
1. พยากรณว์ ่า ถา้ ถวู ตั ถตุ า่ งชนดิ กัน 2 ชิ้น ดว้ ยผา้ สกั หลาด แล้วนำมาเขา้ ใกล้กนั จะเกดิ การ

เปลี่ยนแปลงลักษณะใด บันทึกผล
2. ถวู ตั ถุต่างชนดิ กนั 2 ชน้ิ ด้วยผา้ สักหลาด แลว้ นำมาเข้าใกลก้ ัน สงั เกตและบันทกึ ผล

บันทกึ ผล
ตอนที่ 1
การพยากรณ์

วตั ถุ ผลการสงั เกต
ปากกาพลาสตกิ แทง่ กลม
แผ่นพลาสตกิ ใส
แผ่นพวี ซี ี
แผน่ เปอร์สเปกซ์
ลกู โปง่

ตอนท่ี 2
การพยากรณ์

วัตถุ ผลการสังเกต
แผ่นเปอร์สเปกซ์–ปากกาพลาสติกแทง่ กลม
ปากกาพลาสตกิ แท่งกลม–แผน่ พลาสตกิ ใส
ลูกโป่ง–แผน่ พลาสตกิ ใส
แผน่ พลาสตกิ ใส–แผ่นพวี ซี ี
แผ่นพีวีซี–แผ่นเปอร์สเปกซ์

สรปุ

16

คำถามประกอบกจิ กรรม
1. การถูวัตถุชนดิ เดียวกนั 2 ชน้ิ ด้วยผา้ สักหลาด แลว้ นำมาเข้าใกลก้ ัน เกดิ การเปลี่ยนแปลงลักษณะใด

สังเกตจากอะไร
2. การถูวตั ถตุ า่ งชนดิ กัน 2 ชนิ้ ดว้ ยผา้ สกั หลาด แลว้ นำมาเขา้ ใกลก้ นั เกดิ การเปลยี่ นแปลงลักษณะใด

สงั เกตจากอะไร
3. วตั ถุตา่ งชนิดกันที่เกดิ แรงผลักกันคอื วตั ถุชนดิ ใด และวตั ถุตา่ งชนิดกันที่เกดิ แรงดงึ ดดู กนั คือวตั ถชุ นิดใด
4. จากกิจกรรมทงั้ 2 ตอน สามารถระบไุ ด้หรอื ไมว่ ่าเมอื่ ถูวัตถุดว้ ยผา้ สกั หลาดแล้ว วตั ถุเกดิ ประจไุ ฟฟา้

ชนดิ ใด สังเกตจากอะไร

จากการทำกิจกรรมที่ 3 สามารถสรปุ ได้ว่า เมอ่ื นำวัตถุ
ชนดิ เดยี วกนั มาถูกับวัสดุชนิดหน่ึง วตั ถุจะเกิดประจไุ ฟฟา้ ชนดิ
เดยี วกนั แต่เมือ่ นำวตั ถตุ า่ งชนดิ กนั มาถูกบั วัสดุชนดิ หนึ่ง วตั ถุ
อาจเกิดประจไุ ฟฟ้าชนดิ เดียวกันหรอื ตา่ งชนิดกัน

17

ใบความรู้ท่ี 2
ผลของแรงไฟฟา้

ตาราง วตั ถทุ เ่ี กิดประจไุ ฟฟ้าโดยการถู

วตั ถุทเ่ี กดิ ประจุไฟฟา้ โดยการถู

1. ผา้ ขนสัตว์ 7. ผ้าฝา้ ย

2. ผา้ สักหลาด 8. กระดาษ

3. เชลแลก็ 9. ผ้าแพร

4. ยางไม้ 10. อำพัน

5. คร่ัง 11. ทอ่ พวี ีซี

6. แก้วผวิ เกลยี้ ง 12. ยางแขง็

เมื่อนำวัตถุตัวอย่างในตารางไปถูกัน วัตถุที่มีลำดับน้อยกว่าจะเกิดประจุบวกและวัตถุที่มี
ลำดับมากกวา่ จะเกดิ ประจุลบ เช่น เม่ือนำผ้าสกั หลาด (ลำดับที่ 2) มาถูกับแก้วผิวเกลย้ี ง (ลำดับที่ 6)
ผ้าสักหลาดจะเกิดประจุบวกและแก้วผิวเกลี้ยงจะเกิดประจลุ บ แต่เมื่อนำผ้าแพร (ลำดับท่ี 9) มาถูกับ
แกว้ ผิวเกลี้ยง (ลำดับที่ 6) ผ้าแพรจะเกดิ ประจลุ บและแกว้ ผิวเกลย้ี งจะเกดิ ประจบุ วก

เมื่อนำวัตถุขัดถูด้วยผ้าแห้ง จะทำให้เกิดประจุไฟฟ้า โดยวัตถุชนิดเดียวกันจะมีประจุไฟฟ้า
เหมือนกัน เมอ่ื นำมาใกล้กันจะเกิดแรงผลักกนั ส่วนวัตถุตา่ งชนิดกันจะมีประจุไฟฟา้ ตา่ งกนั เมื่อนำมา
ใกล้กันจะเกดิ แรงดงึ ดูดกัน ดงั นน้ั ชนิดของประจุมผี ลตอ่ แรงไฟฟ้า

แรงไฟฟา้ เกดิ ขึ้นระหว่างวตั ถทุ ่มี ปี ระจุไฟฟา้ ซง่ึ ประจไุ ฟฟา้ มี 2 ชนิด คือ ประจไุ ฟฟา้ บวก และ
ประจุไฟฟา้ ลบ วัตถุที่มีประจุไฟฟา้ ชนิดเดยี วกนั ผลักกัน ต่างชนิดกนั ดึงดูดกัน

อำนาจไฟฟ้าท่ีเกิดจากประจุไฟฟ้าอยู่กับท่ีในวัตถุ ซ่ึงเกิดจากการขัดถูกันของวัตถุทำให้เกิด
ประจุไฟฟ้าสะสมในวัตถุ เรียกว่า ไฟฟ้าสถิต ประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกันจะส่งแรงผลักกัน ส่วนประจุ
ไฟฟ้าต่างชนิดกันจะดึงดูดกัน และตัวนำที่มีประจุไฟฟ้าจะดึงดูดอนุภาคท่ีไม่มีประจุไฟฟ้าโดยการ
เหน่ยี วนำ

18

ใบกจิ กรรมที่ 4
ผลของแรงไฟฟา้

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้

1. เม่ือนำวัตถุขัดถูด้วยผา้ แหง้ จะเกดิ สิง่ ใด
ตอบ.....................................................................................................................................................
2. ประจุไฟฟา้ ที่เกิดข้ึนมกี ีช่ นิดอะไรบา้ ง
ตอบ.....................................................................................................................................................
3. เมือ่ นำวัตถุชนดิ เดียวกัน ถดู ว้ ยผา้ ผนื เดยี วกนั ประจทุ ่ีเกิดบนวตั ถจุ ะเปน็ อยา่ งไร
ตอบ.....................................................................................................................................................
4. วตั ถทุ ี่มปี ระจไุ ฟฟ้าชนดิ เดียว และประจุไฟฟ้าต่างชนิดกัน ออกแรงกระทำตอ่ กันอย่างไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
5. วตั ถทุ ข่ี ดั ถกู นั จะเกดิ ประจไุ ฟฟา้ บรเิ วณใด
ตอบ.....................................................................................................................................................

19

นกั เรียนชว่ ยครูตอบหน่อยสิคะ่ ว่า

1.1 ส่งิ ของทนี่ กั เรยี นสงั เกตมีชื่อว่าอะไรบา้ ง
1.2 นกั เรยี นคดิ ว่าจะทำอยา่ งไรให้หลอดไฟฟา้ สวา่ ง
1.3 นักเรียนรู้จักสัญลักษณ์สำคัญของส่วนประกอบ
ของวงจรไฟฟ้าหรอื ไม่ อะไรบ้าง

ใบความรู้ที่ 3
สัญลกั ษณ์ และส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้

วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วย แหล่งกำเนิดไฟฟ้าหรือเซลล์ไฟฟ้า เช่น ถ่านไฟฉายหรือ
แบตเตอรี่ สายไฟฟ้า สวิตซ์ แอมมิเตอร์ โวลมิเตอร์ หลอดไฟ อุปกรณ์ทุกตัวจะมีสัญลักษณ์ท่ีใช้ใน
วงจรไฟฟ้า แทนตัวอุปกรณ์ โดยสัญลักษณ์จะถูกใช้ในแผนภาพในวงจรเพ่ือแสดงให้เห็นการต่อเข้า
ดว้ ยกนั ของวงจร

ตวั อยา่ ง ภาพและแผนภาพแสดงการตอ่ วงจรไฟฟ้า

ตารางแสดง สัญลักษณข์ องสว่ นประกอบต่าง ๆ ในการตอ่ วงจรไฟฟ้า

“สญั ลกั ษณ์ท่ีสาคญั ของส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า
จะถกู ใชใ้ นแผนภาพวงจรไฟฟ้า เพอ่ื แสดงใหเ้ ห็นการตอ่ เขา้
ดว้ ยกนั ของวงจร”
ส่ิงตา่ ง ๆ เหล่าน้ีเรียกวา่ สิ่งแวดล้อม

20

ใบกจิ กรรมที่ 5
สัญลักษณ์ และสว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้

คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี

1. สัญลกั ษณใ์ นวงจรไฟฟ้า มไี วเ้ พ่อื อะไร
ตอบ...................................................................................................................................

2. แหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ ในววงจร ไดแ้ กอ่ ะไร
ตอบ...................................................................................................................................

3. สญั ลกั ษณน์ ี้ในวงจรไฟฟา้ แทนอุปกรณใ์ ด
ตอบ...................................................................................................................................

4. สัญลกั ษณน์ ้ีในวงจรไฟฟา้ แทนอุปกรณ์ใด
ตอบ...................................................................................................................................

5. สญั ลักษณ์นี้ในวงจรไฟฟา้ แทนอปุ กรณใ์ ด
ตอบ...................................................................................................................................

21

นกั เรียนชว่ ยครูตอบหน่อยสิคะว่า

1.1 วงจรไฟฟ้าคืออะไร
1.2 ส่วนประกอบพ้ืนฐานของวงจรไฟฟ้ามี
อะไรบา้ ง
1.3 นักเรียนจะทำอย่างไรให้หลอดไฟฟ้าสวา่ ง

ใบกจิ กรรมที่ 6 เรือ่ ง การตอ่ วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย

วัสดุอุปกรณ์ 1 หลอด
1. หลอดไฟฟา้ 2 ชดุ
2. สายไฟฟา้ พร้อมปากจระเข้ 1 ชดุ
3. ถ่านไฟฉาย พรอ้ มกระบะถา่ น

วธิ ีทำ
1. แบง่ กลุ่ม แต่ละกลุ่มรว่ มกนั หาวธิ ีการต่อถา่ นไฟฉาย สายไฟฟา้ และหลอดไฟฟา้ ให้หลอดไฟฟา้
สวา่ งอาจใช้เทปกาวช่วยเมอ่ื ต้องการยดึ วตั ถเุ ข้าไว้ดว้ ยกันแล้วเขยี นแผนภาพแสดงการตอ่ อุปกรณ์
ดังกลา่ วท่คี ิดวา่ จะทำใหห้ ลอดไฟฟา้ สวา่ งหลายวธิ ี
2. แต่ละกลมุ่ ทดลองต่ออุปกรณ์ตามภาพทเ่ี ขยี นไวใ้ นขอ้ 1 แลว้ บันทกึ ผล
3. แต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการทดลอง

22

บนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม หลอดไฟฟ้าไมส่ ว่าง
ตาราง แผนภาพการต่อถ่านไฟฉาย สายไฟฟา้ และหลอดไฟฟา้
หลอดไฟฟ้าสว่าง

สรุปผลการทดลองไดว้ ่าอย่างไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………

23

ใบความรูท้ ่ี 4

สว่ นประกอบของวงจรไฟฟ้า

เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของเราหลายอย่าง จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อทำให้เครื่องใช้
เหลา่ นนั้ ทำงานได้ เช่น โทรศพั ทเ์ คลือ่ นที่ คอมพิวเตอร์ โทรทศั น์ การจะนำพลงั งานไฟฟ้ามาใช้งานกบั
เคร่ืองใช้ไฟฟ้านั้น จำเป็นต้องทำให้ประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่จากแหล่งกำเนิดไฟฟ้าผ่านตัวกลางไปยัง
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าต่าง ๆ

ในวงจรไฟฟ้าทั่วไปประกอบด้วย แหล่งกำเนิดไฟฟ้า หลอดไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่ืน สวิตซ์
เปิด-ปิด เครื่องใชไ้ ฟฟ้าที่เราใช้ในชวี ติ ประจำวนั ถา้ เราไม่ไดเ้ สียบปล๊ัก ไม่ไดเ้ ปดิ สวิตช์ เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
เหล่านั้นก็จะไม่ทำงาน เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้าส่งมายังเครื่องใช้ไฟฟ้า หลอดไฟฟ้าจะสว่างเม่ือมีการ
ต่อถ่านไฟฉาย สายไฟฟ้า และ หลอดไฟฟ้าเข้าด้วยกันเป็นวงจรไฟฟ้า ทำให้กระแสฟ้าไหลครบวงจร
เรียกว่า วงจรปิด ซึ่งสายไฟฟ้าทำหน้าท่ีเป็นตัวนำไฟฟ้า ถ้าสายไฟฟ้าขาดออกจากกัน จะทำให้
กระแสไฟฟา้ ไหลไมค่ รบวงจร หลอดไฟฟา้ จะดบั เรยี กว่า วงจรเปิด

วงจรปิด หมายถึง วงจรที่มีการไหลของกระแสไฟฟ้าได้ครบวงจร จากแหล่งจ่ายไฟฟ้าผ่าน
ลวดตัวนำ และเคร่ืองใช้ไฟฟ้า จนไหลกลับเข้าสู่อีกขั้วของแหล่งจ่ายไฟฟ้า ซึ่งเป็นวงจรท่ี
เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานไดต้ ามปกติ

วงจรเปิด หมายถึง วงจรไฟฟ้าท่ีขาดจากกันด้วยวิธีต่าง ๆ ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหล
ผ่านไปได้ อุปกรณแ์ ละเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ จะไม่ทำงาน เช่น การปดิ สวิตซ์ไฟทำใหไ้ ฟดับ

ภาพวงจรปิด ภาพวงจรเปดิ

24

ใบกจิ กรรมที่ 7
ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า

คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี

1. เครือ่ งใช้ไฟฟา้ ในบา้ นจะทำงานไดป้ กติ ตอ้ งมสี ิ่งใด
ตอบ.....................................................................................................................................................
2. เราจะนำพลงั งานไฟฟา้ มาใช้ได้อย่างไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

3. วงจรไฟฟ้าทว่ั ๆ ไปประกอบด้วยสิ่งใดบา้ ง
ตอบ.....................................................................................................................................................
4. วงจรปดิ มลี ักษณะอยา่ งไร
ตอบ.....................................................................................................................................................
5. วงจรเปิดมลี กั ษณะอยา่ งไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

จากการทำกิจกรรมท่ี 7 สรปุ ได้ว่าอย่างไร วงจรไฟฟา้ ประกอบดว้ ย
ถ่านไฟฉายหรอื แหล่งกำเนดิ ไฟฟ้า สายไฟฟ้า และเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าหรือหลอด
ไฟฟ้า เม่อื เชื่อมต่อท้ัง 3 ส่วนดว้ ยสายไฟฟ้า หรอื วัสดุที่นำไฟฟา้ ได้ จะทำให้
กระแสไฟฟ้าไหลครบวงจร เครือ่ งใช้ไฟฟ้าทำงาน หลอดไฟฟ้าสวา่ ง วงจรปิด
คือ วงจรไฟฟ้าทีม่ กี ระแสไฟฟา้ ไหลผ่านครบวงจร วงจรเปดิ คือ วงจรไฟฟา้ ที่
ไม่มกี ระแสไฟฟ้าไหลผ่าน กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นไม่ครบวงจร

25

นักเรียนช่วยครูตอบหน่อยสิคะว่า

1. ส่วนประกอบของไฟฉายมีอะไรบา้ ง
2. ถ้าต้องการให้ไฟฉายทำงานตอ้ งทำ
3. ถ่านไฟฉายใหพลงั งานใดแกไฟฉาย
4. ภายในไฟฉาย มวี งจรไฟฟาหรอื ไม่
5. วงจรไฟฟาประกอบด้วยสวนประกอบใดบา้ ง

กิจกรรมที่ 8 วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่ายเปน็ อย่างไร

จดุ ประสงค์
1. สังเกตและระบสุ ว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย (K)
2. นักเรยี นสามารถทดลองและอธิบายเกยี่ วกับวงจรไฟฟ้าปดิ และวงจรไฟฟ้าเปิดได้ (P)
3. นักเรยี นสามารถนำความรู้ เรื่อง การต่อวงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ (A)

อปุ กรณ์ 1 ก้อน
1. ถา่ นไฟฉาย 3 เส้น
2. สายไฟฟ้า 1 อัน
3. กระบะใสถ่ า่ นไฟฉาย 1 ชดุ
4. หลอดไฟฟา้ พรอ้ มฐานหลอดไฟฟา้ 1 อัน
5. สวิตซ์

26

ขนั้ ตอน
1. นำถ่านไฟฉาย สายไฟฟ้า และหลอดไฟฟ้ามาต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายตามรูปแบบ ดังรูป

สังเกตการสว่างของหลอดไฟฟา้ บนั ทึกผล

(1) (2) (3) (4) (5) (6)

รปู แบบการตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย

2. อภิปรายเกย่ี วกับลกั ษณะการต่ออุปกรณไ์ ฟฟ้าทีท่ ำใหห้ ลอดไฟฟา้ สวา่ งและไม่สว่าง

3. ออกแบบการตอ่ วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ยโดยเพ่มิ การใช้ฐานหลอดไฟฟา้ และกระบะถ่านไฟฉาย
ที่ทำให้หลอดไฟสว่าง และไม่สว่าง พรอ้ มวาดรูปวงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย

4. แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายและนำเสนอการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายท่ีทำให้หลอดไฟฟ้าสว่าง
และไม่สว่าง

27

บนั ทึกผลการทำกิจกรรม
ผลการสังเกต
ตาราง ๑ การทำงานของหลอดไฟฟ้าเมือ่ ต่ออปุ กรณ์ไฟฟา้ ในลักษณะต่าง ๆ

การตอ่ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ผลการสังเกต
รูปแบบที่ สวา่ ง ไมส่ ว่าง

28

ผลการอภิปราย หลอดไฟฟ้าไมส่ วา่ ง
การออกแบบการตอ่ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย

หลอดไฟฟ้าสวา่ ง

สรปุ

..........................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................

29

แบบทดสอบหลังทำกิจกรรมที่ 8

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเลอื กคำตอบทถี่ กู ต้องทสี่ ดุ เพียงขอ้ เดยี ว (5 คะแนน)

1. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า 4. ทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าเป็น
อยา่ งง่าย อยา่ งไร
ก. แอมมเิ ตอร์ ก. ออกจากขว้ั - ไปยงั ขั้ว +
ข. แหล่งพลังงานไฟฟ้า ข. ออกจากขว้ั + ไปยังขว้ั –
ค. เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ค. ออกจากข้ัว + และข้วั – สลบั กนั
ง. สายไฟ ง. ไหลไปในทิศทางเดียวกัน

2. อุปกรณ์ไฟฟา้ จะทำงานไดเ้ ม่อื วงจรไฟฟา้ 5. ของเล่นในข้อใดไม่มีส่วนประกอบของ
เปน็ แบบใด วงจรไฟฟ้า
ก. วงจรลัด ก. ตุ๊กตาลม้ ลุก
ข. วงจรสั้น ข. เครื่องบนิ บังคบั
ค. วงจรปดิ ค. หุ่นยนตเ์ ดินได้
ง. วงจรเปิด ง. ปนื เลเซอร์

3. วงจรไฟฟา้ เปิด เปน็ อย่างไร
ก. กระแสไฟฟา้ ไหลครบวงจร
ข. กระแสไฟฟา้ ไหลไม่ครบวงจร
ค. วงจรไฟฟ้าท่สี ามารถใช้งานได้
ง. วงจรไฟฟ้าท่ปี ระหยดั ไฟ

30

ใบกจิ กรรมท่ี 9
เรอื่ ง กจิ กรรมทดลองตวั นำไฟฟ้าและฉนวนไฟฟา้

วสั ดอุ ุปกรณ์

1. หลอดไฟฟ้า 1 หลอด

2. ถา่ นไฟฉายพร้อมกระบะถา่ น 1 ชดุ

3. สายไฟฟา้ พร้อมปากจระเข้ 4 ชุด

4. สวติ ช์ 1 ตัว

5. วัตถุชนดิ ตา่ ง ๆ เชน่ ลวดเสียบกระดาษ ยางลบ ไมจ้ มิ้ ฟัน เศษผา้ ช้อนโลหะ ตะปู

วิธีทำ
1. แบ่งกล่มุ แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ตอ่ วงจรไฟฟา้ ตามภาพโดยให้ปลายของปากจระเข้หนีบกบั

ลวดเสยี บกระดาษท้ัง 2 ด้าน กดสวติ ชเ์ พื่อใหว้ งจรปิด สังเกตการเปลย่ี นแปลงของหลอด

ไฟฟา้ บันทกึ ผล

2. แตล่ ะกลมุ่ ทำซาํ้ ขอ้ 1 แตเ่ ปลี่ยนจากลวดเสยี บกระดาษเป็นยางลบ ไม้จมิ้ ฟัน เศษผ้า
ชอ้ นโลหะและตะปแู ทน
3. แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง

31

บันทกึ ผลการทำกิจกรรม

ตาราง การเปล่ยี นแปลงของหลอดไฟฟ้าเมื่อต่อวัตถชุ นิดต่าง ๆ เขา้ กับวงจรไฟฟา้

ชนิดของวัตถทุ ต่ี อ่ กับวงจรไฟฟา้ การเปลยี่ นแปลงของหลอดไฟฟา้

หลอดไฟฟ้าสว่าง หลอดไฟฟา้ ไม่สวา่ ง

1. ลวดเสยี บกระดาษ

2. ยางลบ

3. ไม้จ้ิมฟัน

4. เศษผา้

5. ช้อนโลหะ

6. ตะปู

32

ใบความรู้ที่ 5
ตัวนำไฟฟา้ และฉนวนไฟฟ้า

วัสดุที่นำไฟฟ้าได้ เมื่อต่อกับวงจรไฟฟ้า จะทำให้หลอดไฟฟ้าสว่าง เรียกว่า ตัวนำไฟฟ้า
ส่วนวสั ดทุ ่ไี มน่ ำไฟฟา้ เม่อื ตอ่ กับวงจรไฟฟา้ จะทำให้หลอดไฟฟา้ ไม่สวา่ ง เรียกว่า ฉนวนไฟฟา้

ตัวนำไฟฟ้า คือ วัสดุที่ให้ประจุไฟฟ้าผ่านได้ ส่วนมากเป็นโลหะ เช่น เงิน ทองแดง
อะลูมเิ นียม

ฉนวนไฟฟา้ คอื วัสดุทไ่ี ม่ให้ประจไุ ฟฟ้าไหลผา่ น เชน่ ยาง ผา้ แก้ว พลาสตกิ

33

ใบกจิ กรรมท่ี 10
ตวั นำไฟฟา้ และฉนวนไฟฟา้

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้

1. คณุ สมบัติของตัวนำไฟฟ้า คืออะไร
ตอบ.....................................................................................................................................................
2. คุณสมบัตขิ องฉนวนไฟฟ้า คอื อะไร
ตอบ.....................................................................................................................................................
3. วสั ดใุ ดบา้ งที่เปน็ ตวั นำไฟฟา้
ตอบ.....................................................................................................................................................
4. วัสดใุ ดบา้ งท่เี ปน็ ฉนานไฟฟา้
ตอบ.....................................................................................................................................................
5. วัสดทุ ี่เปน็ ตัวนำไฟฟา้ สว่ นมากทำมาจากอะไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

34

ใบความรู้ที่ 6

แหลง่ พลงั งานไฟฟ้า

การทเ่ี คร่ืองใชไ้ ฟฟ้าจะทำงานได้ต้องมีการเสยี บปลัก๊ และเปิดสวติ ชเ์ พอื่ ให้กระแสไฟฟ้าไหลจาก
แหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้าไปยังเครอื่ งใช้ไฟฟ้า

แหล่งกำเนิดไฟฟ้ามีหลายประเภท เช่น ถ่านไฟฉาย แบตเตอร่ี และเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า
ในชีวิตประจำวัน แหล่งพลังงานไฟฟ้ามีหลายประเภท เช่น เซลล์ไฟฟ้าเคมี เครื่องกำเนิดไฟฟ้า
เซลล์สรุ ิยะ

เซลล์ไฟฟ้าเคมี เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เปล่ียนพลังงานเคมีให้เป็นพลังงานไฟฟ้า แบ่งเป็น ๒
ชนดิ ได้แก่ ถ่านไฟฉาย แบตเตอร์ร่ี

เครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้า (ไดนาโม) เป็นอปุ กรณ์ท่ีทำหน้าทีเ่ ปลีย่ นพลังงานกลใหเ้ ป็นพลงั งานไฟฟา้
เซลลส์ ุริยะ เป็นอปุ กรณท์ ีใ่ ช้สำหรบั เปล่ยี นพลงั งานแสงอาทติ ยเ์ ปน็ พลงั งานไฟฟา้

ถา่ นไฟฉาย แบตเตอรร์ ี่ ไดนาโม เซลลส์ ุรยิ ะ

35

ใบกจิ กรรมท่ี 11
แหล่งพลังงานไฟฟา้

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้

1. จากรูปแหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้ามหี ลายประเภท อะไรบา้ ง

ตอบ.....................................................................................................................................................
2. อปุ กรณใ์ ดทท่ี ำหน้าทเ่ี ปลย่ี นพลังงานเคมใี หเ้ ป็นพลังงานไฟฟา้

ตอบ.....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................

3. อปุ กรณใ์ ดทท่ี ำหน้าทเ่ี ปลี่ยนพลงั งานกลให้เป็นพลังงานไฟฟา้

ตอบ.....................................................................................................................................................
4. เซลลส์ ุรยิ ะคอื อะไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
5. เคร่อื งกำเนดิ ไฟฟ้าใด ทเ่ี ปลีย่ นพลังงานทม่ี ีในธรรมชาติ ใหเ้ ปน็ พลงั งานไฟฟา้

ตอบ.....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................

36

ใบกจิ กรรมท่ี 12
ทดลองการต่อเซลล์ไฟฟ้า

ทักษะสร้างเสรมิ ความเข้าใจที่คงทน

1. การสังเกต

2. การพยากรณ์

3. การจดั กระทำและสือ่ ความหมายขอ้ มลู

4. การตคี วามหมายขอ้ มลู และการลงขอ้ สรปุ

แหล่งการเรยี นรู้

1. ถ่านไฟฉายขนาด 1.5 โวลต์ 3 ก้อน
เส้น
2. สายไฟฟ้า 5 อัน
ชุด
3. กระบะใสถ่ า่ นไฟฉาย 3 ตวั

4. หลอดไฟฟ้าพร้อมฐานหลอดไฟฟา้ 1

5. สวติ ช์ 1

ปญั หา

กำหนดสมมตุ ิฐาน

ทดลอง
ตอนท่ี 1

1. แตล่ ะกลุ่มอภิปรายการต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายพรอ้ มสวติ ช์ โดยใชถ้ ่านไฟฉาย 2 กอ้ นวาง
เรยี งกนั ให้ได้ 3 ลกั ษณะ วาดรปู การต่อถ่านไฟฉายแต่ละลักษณะ

2. พยากรณว์ า่ การตอ่ ถา่ นไฟฉายแต่ละลกั ษณะทำให้หลอดไฟฟ้าสวา่ งหรอื ไม่ จากน้นั ทำการต่อ
วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย สงั เกตและบันทึกผล
ตอนท่ี 2

1. ใชล้ กั ษณะการต่อถา่ นไฟฉายที่ถกู ตอ้ งจากตอนที่ 1 มาออกแบบการทดลองว่า จำนวน
ถ่านไฟฉายมผี ลตอ่ ความสวา่ งของหลอดไฟฟ้าหรอื ไม่

2. ระบตุ วั แปรตน้ ตวั แปรตาม และตัวแปรควบคมุ
3. ทดลองตามขน้ั ตอนทอ่ี อกแบบไว้ สังเกตและบันทกึ ผล
รวบรวมขอ้ มลู
รวบรวมข้อมลู โดยบันทกึ การเปลี่ยนแปลงทน่ี ักเรียนสังเกตได้ลงในตารางบันทึกผล

37

บนั ทึกผล ความสวา่ งของหลอดไฟฟา้
ตอนที่ 1
การพยากรณ์ ผลการทดลอง
รูปการต่อถา่ นไฟฉาย

ตอนท่ี 2 ผลการสังเกต
ตวั แปรตน้ คือ
ตวั แปรตาม คือ
ตัวแปรควบคมุ คอื

จำนวนถา่ นไฟฉาย (ก้อน)
1
2
3

แปลความหมายข้อมูล

สรุป

38

คำถามประกอบกิจกรรม
กอ่ นการทดลอง
1. นกั เรยี นพยากรณ์วา่ การต่อถ่านไฟฉายแต่ละลกั ษณะในตอนที่ 1 ทำให้หลอดไฟฟา้ สว่างหรือไม่

2. ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุมในตอนท่ี 2 คืออะไร

ระหวา่ งการทดลอง
3. ในระหว่างการทดลองมีอปุ สรรคหรือไม่ และแกไ้ ขดว้ ยวธิ ใี ด
หลงั การทดลอง
4. การเรียงถ่านไฟฉาย 2 ก้อนในวงจรไฟฟ้ามีผลตอ่ ความสวา่ งของหลอดไฟฟ้าหรือไม่ ลกั ษณะใด
5. การเรียงถา่ นไฟฉายลกั ษณะใดเปน็ วงจรเปดิ และการเรยี งถ่านไฟฉายลกั ษณะใดเปน็ วงจรปิด

6. ผลการทดลองเปน็ ไปตามสมมตุ ิฐานหรอื ไม่ ลกั ษณะใด
7. จากกจิ กรรมสรปุ ได้วา่ อะไร

จากการทำกิจกรรมที่ 13 สามารถสรุปได้ว่า การต่อ
เซลล์ไฟฟ้าควรเรียงให้ขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้าเซลล์หนึ่งต่อกับข้ัวลบของ
เซลล์ไฟฟ้าอีกเซลล์หน่ึง และถ้าต้องการเพิ่มพลังงานไฟฟ้าให้กับ
วงจรไฟฟา้ ต้องเพิม่ จำนวนเซลล์ไฟฟ้า

39

ใบความรู้ท่ี 7
ใบความรู้เรอ่ื งการเขียนแผนภาพ
วงจรไฟฟ้า

วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วยแหล่งกำเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า
เมอื่ ตอ้ งการสื่อสารหรอื อธบิ ายการต่อวงจรไฟฟา้ เขา้ ใจตรงกนั เราใชว้ ธิ กี ารวาดภาพการต่อวงจรไฟฟ้า

การวาดภาพแสดงการต่อวงจรไฟฟ้า ดังรูปนั้นค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลามาก ดังน้ัน
นักวิทยาศาสตร์จึงได้กำหนดสัญลักษณ์ที่เป็นสากลดังตาราง แทนอุปกรณ์ ไฟฟ้าแต่ละอย่างใน
วงจรไฟฟ้า เพ่ือเป็นแบบจำลองวงจรไฟฟ้าท่ีทำให้สามารถ สื่อสารเก่ียวกับการต่อวงจรไฟฟ้าได้ง่าย
และเขา้ ใจตรงกนั

40

ใบกจิ กรรมท่ี 13
เรื่อง แผนผงั ความคดิ เกย่ี วกบั แผนภาพวงจรไฟฟ้า

คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเขียนแผนผงั ความคิดเกี่ยวกบั แผนภาพวงจรไฟ (20 คะแนน)

41

ใบกิจกรรมท่ี 14
ฝึกการเขียนแผนภาพวงจรไฟฟา้ อย่างง่าย

อปุ กรณ์ 1 ก้อน
1. ถ่านไฟฉาย 3 เส้น
2. สายไฟฟ้า 1 อนั
3. กระบะใส่ถ่านไฟฉาย 1 ตัว
4. สวิตช์ 1 ชดุ
5. หลอดไฟฟา้ พรอ้ มฐานหลอดไฟฟา้ 1 ชดุ
6. มอเตอรต์ ิดใบพดั 1 อัน
7. ออดไฟฟา้

ปญั หา

ขน้ั ตอน
1. ต่อวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ยและวาดรูปวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยท่ที ำให้หลอดไฟฟา้ สว่าง มอเตอร์

หมนุ และออดไฟฟา้ มีเสยี ง
2. แตล่ ะกล่มุ อภิปรายวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายท้ัง 3 วงจรทถ่ี ูกตอ้ ง
3. วาดแผนภาพวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยของแตล่ ะวงจร โดยใชส้ ัญลกั ษณ์แทนอปุ กรณ์

บันทกึ ผล รปู วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย แผนภาพวงจรไฟฟา้ อย่างง่าย
กจิ กรรม

การต่อหลอดไฟฟ้าให้สวา่ ง

การต่อมอเตอรใ์ ห้หมุน

การตอ่ ออดไฟฟา้ ใหม้ เี สียง

สรุป

42

คำถามประกอบกจิ กรรม
1. ขอ้ ดีของการวาดแผนภาพวงจรไฟฟา้ อยา่ งง่ายเม่อื เปรียบเทยี บกับการวาดรปู วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย

คืออะไร

2. แผนภาพวงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยมีประโยชนอ์ ยา่ งไร

3. จากกิจกรรมสรุปไดว้ า่ อะไร

43

ใบความรู้ท่ี 8
ใบความรู้เรอื่ งการตอ่ หลอดไฟฟ้า

วงจรไฟฟา้

การต่อหลอดไฟฟ้ามี 2 แบบ คือ การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม
และการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบขนาน

การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รม
คือ การต่อหลอดไฟฟ้าแบบเรียงต่อกนั โดยกระแสไฟฟ้าที่ผ่านหลอดไฟฟ้าแต่ละดวงจะมี

ปริมาณเดียวกัน เม่ือถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนึ่งออก จะทำให้หลอดไฟฟ้าที่เหลือดับทั้งหมด
เพราะทำให้วงจรไฟฟา้ ไม่ครบวงจรและไม่มีกระแสไฟฟา้ ไหลผ่าน
ประโยชน์
• การตอ่ วงจรไมย่ งุ่ ยากซับซอ้ น
• สามารถเปิดหลอดไฟฟ้าทุก ๆ ดวงในวงจรไดพ้ รอ้ มกัน

ขอ้ จำกดั
• หากหลอดไฟฟ้าดวงหนึ่งชารุดหรอื ถูกถอดออกหลอด
ไฟฟา้ ดวงที่เหลือจะดับท้ังหมด (วงจรไฟฟา้ เปดิ )

กำรประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำวัน
• ใช้กับการต่อหลอดไฟฟ้าที่ต้องการให้สว่างพร้อมกัน
เช่น โคมไฟหรือไฟประดับตามสถานที่ต่าง ๆ ไฟกะพริบ
ตามงานรื่นเริง การต่อฟิวส์ภายในบ้านหรือในอาคาร
สถานทตี่ ่าง ๆ

44

กำรตอ่ หลอดไฟฟำ้ แบบขนำน
คือ การต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละดวงคร่อมกนั ทาให้มีปริมาณกระแสไฟฟ้าแยกผ่านแต่ละ

เส้นทางตามสายไฟฟ้าท่ีผ่านหลอดไฟฟ้า แตล่ ะดวง เม่อื ถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหน่ึงออก
จะไม่มีกระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นเส้นทางนัน้ แตเ่ สน้ ทางอน่ื ยังมกี ระแสไฟฟา้
ไหลผ่านอยู่ ทาให้หลอดไฟฟา้ ทีเ่ หลือยงั คงสวา่ งอยู่

ประโยชน์

• หลอดไฟฟ้าทุกดวงสว่างเทา่ กนั
• เมอ่ื หลอดไฟฟ้าดวงหนึ่งเสีย หลอดไฟฟ้าดวงอน่ื จะยงั คง
ทางานไดต้ ามปกติ
• สามารถเปิดหรอื ปิดหลอดไฟฟา้ เฉพาะดวงทีต่ อ้ งการใช้งาน
ได้

ขอ้ จำกดั
• ตอ้ งใช้อุปกรณต์ อ่ หลอดไฟฟ้ามากกว่าแบบอนกุ รม
• วิธีการต่อหลอดไฟฟ้าซับซ้อนมากกว่าการตอ่ แบบอนกุ รม

กำรประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวัน

• การต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนานถูกนามาใช้ประโยชน์กับ
เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าภายในบ้าน โดยมีวิธีการต่อท่ซี บั ซ้อนกว่าการต่อ
แบบอนุกรม แต่มีประสิทธิภาพในการใช้งานดีกว่าเพราะหาก
เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหน่ึงมีปญั หา เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าชนิดอื่นจะยงั คง
ใช้งานได้ตามปกติ

45

ใบกจิ กรรมที่ 15
เร่ือง แผนผงั ความคดิ เกยี่ วกบั การต่อหลอดไฟฟ้า

คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเขียนแผนผงั ความคิดเกี่ยวกบั การต่อหลอดไฟฟ้า (20 คะแนน)

46

กิจกรรมท่ี 16 เร่อื ง ทดลองการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม

วสั ดุอุปกรณ์ 2 ชดุ
1. ถ่านไฟฉายพรอ้ มกระบะถ่าน 2 หลอด
2. หลอดไฟฟา้ 1 ตวั
3. สวิตช์
4. สายไฟฟา้ พร้อมปากจระเข้ 8 ชดุ

วิธีทำ
1. แบ่งกลมุ่ แต่ละกลมุ่ ร่วมกันต่อแบตเตอรกี่ ับสวิตชแ์ ละหลอดไฟฟ้า 1 หลอด ให้ครบวงจร
กดสวติ ช์

เพื่อทำให้วงจรปิด สงั เกตความสว่างของหลอดไฟฟ้า แลว้ บนั ทกึ ผล

การต่อหลอดไฟฟา้ 1 หลอด ในวงจรไฟฟา้
2. แต่ละกลุ่ม ตอ่ แบตเตอรก่ี บั สวติ ช์และหลอดไฟฟา้ 2 หลอด เรยี งตอ่ กนั ใหค้ รบวงจร
กดสวติ ชเ์ พื่อทำใหว้ งจร
ปดิ สงั เกตความสว่างของหลอดไฟฟา้ แล้วบนั ทึกผล การต่อหลอดไฟฟ้า 2 หลอด
เรยี งกันในวงจรไฟฟา้

3. แตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง

47

4. บันทึกผลการทำกจิ กรรม

ตาราง ผลการเปลีย่ นแปลงความสว่างของหลอดไฟฟ้า เมอ่ื ต่อหลอดไฟฟ้าแบบต่าง ๆ

ในวงจรไฟฟา้

การตอ่ หลอดไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้า ความสว่างของหลอดไฟฟ้า

1. การต่อหลอดไฟฟา้ 1 หลอด (สว่างมาก)

2. การต่อหลอดไฟฟ้า 2 หลอดเรยี งตอ่ กัน (หลอดไฟฟา้ แตล่ ะหลอดสว่างน้อย)

48

ใบกจิ กรรมท่ี 17
การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม

คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้

1. การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม ต้องมีหลอดไฟฟ้ากี่หลอดข้ึนไป
ตอบ.....................................................................................................................................................
2. การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รม มวี ธิ ีการอยา่ งไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
3. เมือ่ หลอดไฟฟา้ ในวงจร 1 หลอดเสีย จะเกิดเหตุการณใ์ ด
ตอบ.....................................................................................................................................................
4. การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม ทศิ ทางการไหลของกระแสไฟฟา้ เป็นอยา่ งไร
ตอบ....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
5. ความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ เป็นอย่างไร เมือ่ ตอ่ แบบอนุกรม
ตอบ.....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................

49

กจิ กรรมที่ 18 เร่ือง ทดลองการต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน

วสั ดุอปุ กรณ์

1. ถ่านไฟฉายพร้อมกระบะถ่าน 2 ชดุ

2. หลอดไฟฟา้ 2 หลอด

3. สวิตช์ 1 ตัว

4. สายไฟฟา้ พรอ้ มปากจระเข้ 8 ชดุ

วิธที ำ

1. แบง่ กล่มุ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั ต่อแบตเตอร่ีกบั สวติ ชแ์ ละหลอดไฟฟา้ 1 หลอด ให้ครบวงจร

กดสวติ ช์ เพือ่ ทำให้วงจรปดิ สังเกตความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ แลว้ บนั ทึกผล

การตอ่ หลอดไฟฟ้า 1 หลอด ในวงจรไฟฟา้

2. แตล่ ะกลมุ่ ตอ่ แบตเตอรกี่ ับสวติ ช์และหลอดไฟฟา้ 2 หลอด เรียงต่อกนั ให้ครบวงจร
กดสวิตช์เพ่ือทำให้วงจรปิด สังเกตความสว่างของหลอดไฟฟ้า แล้วบันทึกผล การต่อหลอด
ไฟฟ้า 2 หลอด เรียงกันในวงจรไฟฟา้

การตอ่ หลอดไฟฟ้า 2 หลอด เรยี งกนั ในวงจรไฟฟา้
3. แต่ละกลมุ่ ต่อแบตเตอรี่กับสวิตช์และหลอดไฟฟ้า 2หลอดโดยหลอดไฟฟ้าหลอดหน่ึงขนานกับ

หลอดไฟฟา้ ของอกี หลอดหนง่ึ ใหค้ รบวงจร กดสวิตช์เพอ่ื ทำให้วงจรปดิ สงั เกตความสวา่ งของ
หลอดไฟฟ้า แล้วบันทึกผล

50

การต่อหลอดไฟฟา้ 2 หลอด ขนานกันในวงจรไฟฟา้
3. แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง

บันทึกผลการทำกจิ กรรม
ตาราง ผลการเปลีย่ นแปลงความสว่างของหลอดไฟฟ้า เม่อื ตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบต่าง ๆ ใน

วงจรไฟฟ้า

การตอ่ หลอดไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ความสวา่ งของหลอดไฟฟ้า
1. การต่อหลอดไฟฟา้ 1 หลอด (สวา่ งมาก)

2. การตอ่ หลอดไฟฟา้ 2 หลอดเรยี งตอ่ กัน (หลอดไฟฟา้ แต่ละหลอดสว่างนอ้ ย)

3. การตอ่ หลอดไฟฟา้ 2 หลอดขนานกนั (หลอดไฟฟ้าแต่ละหลอดสวา่ งมาก โดยความ
สว่างเทา่ กับการตอ่ หลอดไฟฟา้ 1 หลอด

51

ใบกิจกรรมท่ี 19
การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบขนาน

คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้

1. การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบขนาน ตอ้ งมีหลอดไฟฟ้าก่ีหลอดขึน้ ไป
ตอบ.....................................................................................................................................................
2. การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบขนาน มีวธิ กี ารอยา่ งไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................
3. เม่อื หลอดไฟฟา้ ในวงจร 1 หลอดเสยี จะเกดิ เหตกุ ารณใ์ ด
ตอบ.....................................................................................................................................................
4. การต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนาน ทศิ ทางการไหลของกระแสไฟฟา้ เป็นอยา่ งไร
ตอบ.....................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
5. ความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ เปน็ อย่างไร เมอ่ื ตอ่ แบบขนาน
ตอบ.....................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................

52

ใบกจิ กรรมที่ 20
เรอ่ื ง แผนผังความคดิ เก่ียวกับเก่ยี วกับการใชไ้ ฟฟา้ อย่างปลอดภัย

คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นเขียนแผนผงั ความคดิ เกี่ยวกบั เกีย่ วกับการใช้ไฟฟา้ อย่างปลอดภยั (20 คะแนน)

53

แบบทดสอบหลงั เรยี น

คำสั่ง ให้นกั เรยี นกาเคร่อื งหมาย กากบาท ลงในช่อง  ของกระดาษคำตอบ
ในข้อทถี่ กู ต้องท่สี ดุ เพียงช่องเดยี ว ใช้เวลาทำ 10 นาที

1. ถา้ ขดั ถูลูกโป่งกบั หลอดพลาสตกิ ด้วยผ้าสกั หลาดจะเกิดประจุไฟฟา้ ตามขอ้ ใด
ก. ประจุไฟฟ้าเกดิ เพยี งชนดิ เดียว
ข. ประจไุ ฟฟา้ ชนดิ เดยี วกนั
ค. ประจไุ ฟฟ้าตา่ งชนดิ กนั
ง. ไมเ่ กิดประจุไฟฟา้

2. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกย่ี วกบั แรงไฟฟา้
ก. วตั ถุบางชนิดเมอ่ื นำมาขดั ถดู ้วยผา้ เปยี กแลว้ จะสามารถดงึ ดดู วตั ถชุ ้ินเล็ก ๆ เบา ๆ ได้
ข. วัตถบุ างชนดิ เมอื่ นำมาขัดถดู ้วยผ้าแห้งแลว้ จะสามารถดึงดูดวัตถชุ ้ินเล็ก ๆ เบา ๆ ได้
ค. วตั ถทุ ุกชนิดเม่อื นำมาขดั ถูด้วยผ้าเปยี กแล้ว จะสามารถดงึ ดดู วัตถุช้นิ เล็ก ๆ เบา ๆ ได้
ง. วตั ถทุ ุกชนดิ เมอ่ื นำมาขดั ถูดว้ ยผ้าแห้งแลว้ จะสามารถดงึ ดูดวตั ถุช้นิ เล็ก ๆ เบา ๆ ได้

3. ขอ้ ใดแสดงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งอุปกรณไ์ ฟฟา้ และสญั ลกั ษณแ์ ทนอปุ กรณ์ไฟฟ้าไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. หลอดไฟฟ้า
ข. แบตเตอรี่
ค. สวติ ซ์
ง. สายไฟ

4. วสั ดใุ นขอ้ ใดสามารถนำมาใช้เป็นตวั นำไฟฟ้าแทนสายไฟฟา้ ในการตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างง่ายได้
ก. ยางรัด
ข. แปรงสีฟัน
ค. ไมป้ ลายแหลม
ง. ลวดเสยี บกระดาษ

5. วตั ถุ A และวตั ถุ B มปี ระจุไฟฟา้ บวก เม่ือนำวตั ถุ A และ B เข้าใกล้กนั จะเกิดแรงในขอ้ ใด
ก. แรงสมั ผัส
ข. แรงดงึ ดดู
ค. แรงตงึ ผวิ
ง. แรงผลกั

54

6. ข้อใดไม่ใชแ่ หลง่ พลังงานไฟฟา้
ก. ถา่ นไฟฉาย
ข. เซลล์สุริยะ
ค. เสาไฟฟา้
ง. แบตเตอรี่

7. แผนภาพวงจรไฟฟ้าในขอ้ ใดทกี่ ระแสไฟฟ้าไหลครบวงจร

ก. ข.

ค. ง.
8. วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยประกอบดว้ ยสว่ นประกอบใดบ้าง

ก. สวติ ซ์ มอเตอร์ สายไฟฟา้
ข. สวิตช์ ถา่ นไฟฉาย สายไฟฟ้า
ค. ถา่ นไฟฉาย สายไฟฟ้า หลอดไฟฟา้
ง. สายไฟฟา้ สวติ ซ์ หลอดไฟฟ้า
9. จากรูป เมื่อกดสวิตซล์ งแล้วนาหลอดไฟฟา้ ออก 1 หลอด หลอดไฟฟา้ อีก 2 หลอดท่เี หลอื จะเป็น

อยา่ งไร

ก. หลอดไฟฟ้าอกี 2 หลอดจะดบั หมด

ข. หลอดไฟฟา้ อกี 2 หลอดจะยงั สวา่ ง

ค. หลอดไฟฟา้ หลอดหน่ึงดับ อกี หลอดหนง่ึ จะสวา่ ง

ง. หลอดไฟฟ้าอีก 2 หลอดจะหร่ลี งเร่อื ย ๆ จนดบั

10. วตั ถุขอ้ ใดเปน็ ฉนวนไฟฟ้า

ก. ถงุ มือยาง

ข. ลกู กุญแจ

ค. ตะปู

ง. เขม็ เยบ็ ผ้า

55

กระดาษคำตอบ
การทดสอบหลังเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 แรงไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า

ชื่อ…………………………………..…………………..ชั้น………..…เลขท…่ี …….

กระดาษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน

ข้อท่ี ก ตวั เลอื ก ง
ขค

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

รวมคะแนน

ลงช่อื …………………………………………………ผู้ตรวจ

56

แบบบนั ทกึ ผลการทดสอบก่อนและหลงั การเรียนรู้

สรุปผลการเรียนรู้ด้วยชุดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์

ผลประเมิน ก่อนเรียน หลงั เรยี น คา่ พฒั นา ระดบั คุณภาพ
คะแนนเตม็ 10 10
คะแนนทไี่ ด้

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน ระดบั คุณภาพ
9 – 10 ดเี ย่ยี ม
ดมี าก
8 ดี
7 พอใช้
5-6 ปรบั ปรุง
1-4

พอใจกบั ผลงานของตนเองไหม
จ๊ะ

57

บรรณานกุ รม

พิมพนั ธ์ เดชะคปุ ต์ และคณะ. หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 กรุงเทพฯ : สำนกั พิมพ์ บรษิ ทั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.), 2562.

ศึกษาธกิ าร, กระทรวง. สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน. ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้
แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร(์ ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560)
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ :
โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด, 2560.

https://amprohealth.com/nutrition/main-meal-5-groups/, ไฟฟา้ ,15 เมษายน 2564.
https://www.pobpad.com,ไฟฟา้ สถติ , 15 เมษายน 2564.

58

ภาคผนวก

59

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน(Pre test) เรอ่ื ง แรงไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง แรงไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้

ข้อ ขอ้
1ข 6ก
2ง 7ง
3ค 8ก
4ค 9ค
5ข 10 ข

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post test) เร่ือง แรงไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้า
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรอ่ื งแรงไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้

ข้อ ข้อ
1ค 6ค
2ข 7ก
3ข 8ค
4ง 9ข
5ง 10 ก

60

เฉลย ใบกิจกรรมท่ี 1
สงั เกตแรงไฟฟ้าจากการถู

อปุ กรณ์

1. เศษกระดาษชน้ิ เลก็ ๆ 1 กอง

2. ผ้าสกั หลาด 1 ผืน

3. ไมบ้ รรทดั พลาสตกิ 1 อัน

4. ไมบ้ รรทดั เหล็ก1 อัน

5. แผน่ พลาสติกใส 1 แผน่

6. ลูกโปง่ 1 ใบ

7. ยางลบ 1 กอ้ น

8. ดินสอไม้ 1 แท่ง

9. ปากกาพลาสตกิ แท่งกลม 1 ดา้ ม

ปญั หา

การถูวตั ถุทำใหเ้ กิดประจไุ ฟฟา้ จริงหรือไม่

ข้นั ตอน

1. นำปลายไม้บรรทดั พลาสติกเข้าใกล้เศษกระดาษ สงั เกตการเปลี่ยนแปลง บนั ทึกผล

2. นำปลายไม้บรรทดั พลาสตกิ มาถูกบั ผ้าสักหลาดประมาณ 20 ครัง้ จากนนั้ นำปลายไม้

บรรทดั พลาสตกิ เข้าใกล้เศษกระดาษ ดังรปู สังเกตการเปล่ยี นแปลง บันทกึ ผล

3. ดำเนนิ การเชน่ เดยี วกบั ขอ้ 1–2 แต่เปล่ยี นจากไมบ้ รรทัดพลาสติกเป็นวตั ถุอ่ืน

การถปู ลายไมบ้ รรทดั พลาสติกด้วยผา้ สักหลาดแลว้ นำมาเข้าใกลเ้ ศษกระดาษ

61

บนั ทกึ ผล ผลการสังเกต

วตั ถุ กอ่ นถผู ้าสักหลาด หลังถูผา้ สกั หลาด

ไมบ้ รรทดั พลาสตกิ ไมด่ งึ ดูดเศษกระดาษ ดึงดดู เศษกระดาษ
ไมบ้ รรทัดเหล็ก
แผน่ พลาสติกใส ไมด่ งึ ดดู เศษกระดาษ ไม่ดึงดูดเศษกระดาษ

ลูกโป่ง ไม่ดึงดดู เศษกระดาษ ดงึ ดูดเศษกระดาษ
ยางลบ
ดินสอไม้ ไม่ดึงดูดเศษกระดาษ ดึงดดู เศษกระดาษ
ปากกาพลาสตกิ แทง่ กลม
ไมด่ ึงดูดเศษกระดาษ ไม่ดงึ ดูดเศษกระดาษ

ไม่ดึงดดู เศษกระดาษ ไม่ดงึ ดดู เศษกระดาษ

ไม่ดงึ ดดู เศษกระดาษ ดงึ ดดู เศษกระดาษ

สรุป

วัตถบุ างชนิดเมื่อนำมาถกู บั ผ้าสกั หลาดจะทำใหเ้ กิดแรงไฟฟา้ ซ่ึงมผี ลใหด้ งึ ดดู เศษกระดาษได้

คำถามประกอบกจิ กรรม
1. เมอ่ื นำวตั ถุมาถูกบั ผา้ สกั หลาดเกิดการเปล่ยี นแปลงลักษณะใด สงั เกตจากอะไร

วตั ถุบางชนิดเมือ่ ถกู บั ผา้ สักหลาดแล้วไมเ่ กิดการเปล่ยี นแปลง สังเกตจากวตั ถุไม่ดึงดูด
เศษกระดาษ สว่ นวตั ถบุ างชนดิ เม่ือถูกับผ้าสักหลาดแล้วเกดิ การเปลย่ี นแปลง สังเกตจากวัตถดุ ึงดดู
เศษกระดาษได้
2. วตั ถชุ นิดใดเมื่อถกู บั ผ้าสกั หลาดแลว้ เกดิ การเปลย่ี นแปลง

ไมบ้ รรทดั พลาสตกิ แผ่นพลาสติกใส ลูกโปง่ และปากกาพลาสติกแท่งกลม

3. การถวู ัตถุจากขอ้ 2 กบั ผา้ สักหลาดทำใหเ้ กิดแรงไฟฟา้ ขน้ึ หรือไม่ สงั เกตจากอะไร
เกดิ แรงไฟฟ้าข้นึ สังเกตจากวัตถุดงึ ดดู เศษกระดาษได้

4. จากกิจกรรมสรุปไดว้ า่ อะไร
วตั ถบุ างชนิดเมือ่ ถูกับผ้าสกั หลาดแล้วทำให้เกดิ แรงไฟฟ้าทีส่ ามารถดงึ ดูดเศษกระดาษได้


Click to View FlipBook Version